หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 1 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ค ำน ำ หลักสูตรชั้นเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ พุทธศักราช 2565 จัดท้าขึ้นเพื่อให้โรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ ซึ่งจัดการศึกษาระดับปฐมวัย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยปรับปรุงให้ เหมาะสมกับเด็กและสภาพท้องถิ่น เพื่อที่ก้าหนดเป้าหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เป็นคนดี มีวินัย ส้านึกความเป็นไทย และมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศไทยในอนาคต อย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานตามจุดหมายหลักสูตร การศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 2 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 โรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ สังกัดส้านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต ๒ ขอขอบคุณ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ร่วมทั้งคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนา หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย โรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ พุทธศักราช 2565 ให้มีความเหมาะสมต่อการน้าไปใช้จัด การศึกษาระดับปฐมวัยของโรงเรียนต่อไป คณะผู้จัดท้า
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 3 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 สำรบัญ หน้า ค้าน้า สารบัญ ส่วนที่ 1 ความน้า ปรัชญาการศึกษาปฐมวัย วิสัยทัศน์ ภารกิจหรือพันธกิจ เป้าหมาย จุดหมาย ส่วนที่ 2 มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ส่วนที่ 3 สาระการเรียนรู้รายปี ส่วนที่ 4 ก้าหนดการสอนรายภาคเรียน ส่วนที่ 5 โครงสร้างการจัดประสบการณ์ หน่วยการจัดประสบการณ์ ส่วนที่ 6 แผนกิจกรรมรายหน่วย/สัปดาห์ ส่วนที่ 7 แผนการจัดประสบการณ์ ส่วนที่ 8 บันทึกหลังการสอน แบบสังเกตพฤติกรรมท้ายหน่วย แบบประเมินพัฒนาการ ส่วนที่ 9 ภาคผนวก
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 4 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ส่วนที่ 1 ควำมน ำ ปรัชญำ วิสัยทัศน์ ภำรกิจ พันธกิจ เป้ำหมำย จุดหมำย
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 5 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ควำมน ำ สภาพการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบกับ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ รวมทั้งกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี(พ.ศ. ๒๕๖๐- ๒๕๗๙) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๖๑) แผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๖๔) น้าไปสู่การก้าหนดทักษะส้าคัญส้าหรับ เด็กในศตวรรษที่ ๒๑ ที่มีความส้าคัญในการก้าหนดเป้าหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีความสอดคล้องและทัน ต่อการเปลี่ยนแปลงทุกด้าน กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายให้มีการพัฒนาการศึกษาปฐมวัยอย่างจริงจังและต่อเนื่องโดยได้แต่งตั้ง คณะท้างานพิจารณาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เป็นหลักสูตรสถานศึกษา สถาบันพัฒนาเด็กปฐมวัย และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง น้าไปใช้เป็นกรอบและทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ตามจุดหมายหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่ก้าหนดเป้าหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มี พัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติในอนาคต
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 6 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ปรัชญำกำรศึกษำปฐมวัย การศึกษาปฐมวัยเป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง ๖ ปี บริบูรณ์ อย่างเป็นองค์รวมบนพื้นฐานการ อบรมเลี้ยงดู และส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการตามวัยของเด็กแต่ละคนให้เต็ม ตามศักยภาพภายใต้บริบทสังคมและวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ ด้วยความรัก ความเอื้ออาทร และความเข้าใจของ ทุกคน เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เกิดคุณค่าต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ วิสัยทัศน์ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยมุ่งพัฒนาเด็กทุกคนให้ได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ สติปัญญาอย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีความสุขและเหมาะสมตามวัย มี ทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นคนดี มีวินัย และส้านึกความเป็นไทย โดย ความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา พ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็ก หลักกำร เด็กทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับการอบรมเลี้ยงดูและส่งเสริมพัฒนาการตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ตลอดจน ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างเหมาะสม ด้วยปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง เด็กกับพ่อแม่ เด็กกับผู้สอน เด็ก กับผู้เลี้ยงดูหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการอบรมเลี้ยงดู การพัฒนา และให้การศึกษาแก่เด็กปฐมวัยเพื่อให้เด็กมีโอกาส พัฒนาตนเองตามล้าดับขั้นของพัฒนาการทุกด้าน อย่างเป็นองค์รวม มีคุณภาพ และเต็มตามศักยภาพโดยมี หลักการดังนี้ ๑. ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการที่ครอบคลุมเด็กปฐมวัยทุกคน ๒. ยึดหลักการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาที่เน้นเด็กเป็นส้าคัญ โดยค้านึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล และวิถีชีวิตของเด็กตามบริบทของชุมชน สังคม และวัฒนธรรมไทย ๓. ยึดพัฒนาการและการพัฒนาเด็กโดยองค์รวมผ่านการเล่นอย่างมีความหมายและมีกิจกรรมที่ หลากหลาย ได้ลงมือกระท้าในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับวัย และมีการพักผ่อนที่เพียงพอ ๔. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กมีทักษะชีวิต และสามารถปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง เป็นคนดี มีวินัย และมีความสุข ๕. สร้างความรู้ ความเข้าใจและประสานความร่วมมือในการพัฒนาเด็กระหว่างสถานศึกษากับพ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 7 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 แนวคิดกำรจัดกำรศึกษำปฐมวัย หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ พัฒนาขึ้นบนแนวคิดหลักส้าคัญเกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก ปฐมวัย โดยถือว่าการเล่นของเด็กเป็นหัวใจส้าคัญของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ภายใต้การจัด สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการท้างานของสมอง ผ่านสื่อที่ต้องเอื้อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่นประสาทสัมผัสทั้งห้า โดยครูจ้าเป็นต้องเข้าใจและยอมรับว่าสังคมและวัฒนธรรมที่แวดล้อมตัวเด็กมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้และการพัฒนา ศักยภาพและพัฒนาการของเด็กแต่ละคน ทั้งนี้ หลักสูตรฉบับนี้ มีแนวคิดในการจัดการศึกษาปฐมวัย ดังนี้ ๑. แนวคิดเกี่ยวกับพัฒนำกำรเด็ก พัฒนาการของมนุษย์เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ในตัวมนุษย์เริ่มตั้งแต่ปฏิสนธิไปจนตลอดชีวิต พัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะมีล้าดับขั้นตอนลักษณะเดียวกัน แต่ อัตราและระยะเวลาในการผ่านขั้นตอนต่าง ๆ อาจแตกต่างกันได้ขั้นตอนแรกๆจะเป็นพื้นฐานส้าหรับพัฒนาการขั้น ต่อไป พัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา แต่ละส่วนส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน เมื่อด้าน หนึ่งก้าวหน้าอีกด้านหนึ่งจะก้าวหน้าตามด้วยในท้านองเดียวกันถ้าด้านหนึ่งด้านใดผิดปกติจะท้าให้ด้านอื่น ๆ ผิดปกติตามด้วย แนวคิดเกี่ยวกับทฤษฎีพัฒนาการด้านร่างกายอธิบายว่าการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กมี ลักษณะต่อเนื่องเป็นล้าดับชั้น เด็กจะพัฒนาถึงขั้นใดจะต้องเกิดวุฒิภาวะของความสามารถด้านนั้นก่อน ส้าหรับ ทฤษฎี ด้านอารมณ์ จิตใจ และสังคมอธิบายว่า การอบรมเลี้ยงดูในวัยเด็กส่งผลต่อบุคลิกภาพของเด็ก เมื่อเติบโต เป็นผู้ใหญ่ ความรักและความอบอุ่นเป็นพื้นฐานของความเชื่อมั่นในตนเอง เด็กที่ได้รับความรักและความอบอุ่นจะ มีความไว้วางใจในผู้อื่น เห็นคุณค่าของตนเอง จะมีความเชื่อมั่นในความสามารถของตน ท้างานร่วมกับผู้อื่นได้ดี ซึ่ง เป็นพื้นฐานส้าคัญของความเป็นประชาธิปไตยและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และทฤษฎีพัฒนาการด้านสติปัญญา อธิบายว่า เด็กเกิดมาพร้อมวุฒิภาวะซึ่งจะพัฒนาขึ้นตามอายุ ประสบการณ์ รวมทั้งค่านิยมทางสังคมและ สิ่งแวดล้อมที่เด็กได้รับ ๒. แนวคิดเกี่ยวกับกำรเล่นของเด็ก การเล่นเป็นหัวใจส้าคัญของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การเล่น อย่างมีจุดมุ่งหมายเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานที่ถือเป็นองค์ประกอบส้าคัญในกระบวนการเรียนรู้ของเด็ก ขณะที่เด็กเล่นจะเกิดการเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันด้วย จากการเล่นเด็กจะมีโอกาสเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ได้ใช้ประสาทสัมผัสและการรับรู้ผ่อนคลายอารมณ์ และแสดงออกของตนเอง เรียนรู้ความรู้สึกของผู้อื่น เด็กจะรู้สึก สนุกสนาน เพลิดเพลิน ได้สังเกต มีโอกาสท้าการทดลอง คิดสร้างสรรค์ คิดแก้ปัญหาและค้นพบด้วยตนเอง การ เล่นช่วยให้เด็กเรียนรู้สิ่งแวดล้อม และช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา ดังนั้นเด็กควรมีโอกาสเล่น ปฏิสัมพันธ์กับบุคคล สิ่งแวดล้อมรอบตัว และเลือกกิจกรรมการเล่นด้วยตนเอง ๓. แนวคิดเกี่ยวกับกำรท ำงำนของสมอง สมองเป็นอวัยวะที่มีความส้าคัญที่สุดในร่างกายของคนเรา เพราะการที่มนุษย์สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้นั้นต้องอาศัยสมองและระบบประสาทเป็นพื้นฐานการรับรู้ รับ ความรู้สึกจากประสาทสัมผัสทั้งห้า การเชื่อมโยงต่อกันของเซลล์สมองส่วนมากเกิดขึ้นก่อนอายุ ๕ ปี และ ปฏิสัมพันธ์แรกเริ่มระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ มีผลโดยตรงต่อการสร้างเซลล์สมองและจุดเชื่อมต่อ โดยในช่วง ๓ ปีแรก ของชีวิต สมองเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมาก มีการสร้างเซลล์สมองและจุดเชื่อมต่อขึ้นมามากมาย มีการสร้างไขมัน หรือมันสมองหุ้มล้อมรอบเส้นใยสมองด้วย พอเด็กอายุ ๓ ปี สมองจะมีขนาดประมาณ ๘๐ % ของสมองผู้ใหญ่ มี เซลล์สมองนับหมื่นล้านเซลล์ เซลล์สมองและจุดเชื่อมต่อเหล่านี้ยิ่งได้รับการกระตุ้นมากเท่าใด การเชื่อมต่อกัน ระหว่างเซลล์สมองยิ่งมีมากขึ้นและความสามารถทางการคิดยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากเด็กขาดการกระตุ้นหรือ
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 8 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ส่งเสริมจากสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เซลล์สมองและจุดเชื่อมต่อที่สร้างขึ้นมาก็จะหายไป เด็กที่ได้รับความเครียดอยู่ ตลอดเวลาจะท้าให้ขาดความสามารถที่จะเรียนรู้ อย่างไรก็ตาม ส่วนต่าง ๆ ของสมองเจริญเติบโตและเริ่มมี ความสามารถในการท้าหน้าที่ในช่วงเวลาต่างกัน จึงอธิบายได้ว่าการเรียนรู้ทักษะบางอย่างจะเกิดขึ้นได้ดีที่สุด เฉพาะในช่วงเวลาหนึ่งที่เรียกว่า”หน้าต่างของโอกาสการเรียนรู้” ซึ่งเป็นช่วงที่พ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูและครูสามารถช่วย ให้เด็กเรียนรู้และพัฒนาสิ่งนั้น ๆ ได้ดีที่สุด เมื่อพ้นช่วงนี้ไปแล้วโอกาสนั้นจะฝึกยากหรือเด็กอาจท้าไม่ได้เลย เช่น การเชื่อมโยงวงจรประสาทของการมองเห็นและรับรู้ภาพจะต้องได้รับการกระตุ้นท้างานตั้งแต่ ๓ หรือ ๔ เดือนแรก ของชีวิตจึงจะมีพัฒนาการตามปกติ ช่วงเวลาของการเรียนภาษาคือ อายุ ๓ – ๕ ปีแรกของชีวิต เด็กจะพูดได้ชัด คล่องและถูกต้อง โดยการพัฒนาจากการพูดเป็นค้า ๆ มาเป็นประโยคและเล่าเรื่องได้ เป็นต้น ๔. แนวคิดเกี่ยวกับสื่อกำรเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ท้าให้เด็กเกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ที่วางไว้ ท้าให้สิ่ง ที่เป็นนามธรรมเข้าใจยากกลายเป็นรูปธรรมที่เด็กเข้าใจและเรียนรู้ได้ง่าย รวดเร็ว เพลิดเพลิน เกิดการเรียนรู้และ ค้นพบด้วยตนเอง การใช้สื่อการเรียนรู้ต้องปลอดภัยต่อตัวเด็กและเหมาะสมกับวัย วุฒิภาวะ ความแตกต่างระหว่าง บุคคล ความสนใจ และความต้องการของเด็กที่หลากหลาย สื่อประกอบการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยควร มีสื่อทั้งที่เป็นประเภท ๒ มิติและ/หรือ ๓ มิติ ที่เป็นสื่อของจริง สื่อธรรมชาติ สื่อที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก สื่อสะท้อง วัฒนธรรม สื่อภูมิปัญญาท้องถิ่น สื่อเพื่อพัฒนาเด็กในด้านต่างๆให้ครบทุกด้าน ทั้งนี้ สื่อต้องเอื้อให้เด็กเรียนรู้ผ่าน ประสาทสัมผัสทั้งห้าโดยการจัดการใช้สื่อส้าหรับเด็กปฐมวัยต้องเริ่มต้นจากสื่อของจริง ของจ้าลอง ภาพถ่าย ภาพ โครงร่างและสัญลักษณ์ตามล้าดับ ๕. แนวคิดเกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรม เด็กเมื่อเกิดมาจะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งไม่ เพียงแต่จะได้รับอิทธิพลจากการปฏิบัติแบบดั้งเดิมตามประเพณี มรดก และความรู้ของบรรพบุรุษ แต่ยังได้รับ อิทธิพลจากประสบการณ์ ค่านิยมและความเชื่อของบุคคลในครอบครัว และชุมชนของแต่ละที่ด้วย บริบทของ สังคมและวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่หรือแวดล้อมตัวเด็กท้าให้เด็กแต่ละคนแตกต่างกันไป ครูจ้าเป็นต้องเข้าใจและ ยอมรับว่าสังคมและวัฒนธรรมที่แวดล้อมตัวเด็ก มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ การพัฒนาศักยภาพและพัฒนาการของ เด็กแต่ละคน ครูควรต้องเรียนรู้บริบททางสังคมและวัฒนธรรมของเด็กที่ตนรับผิดชอบ เพื่อช่วยให้เด็กได้รับการ พัฒนา เกิดการเรียนรู้และอยู่ในกลุ่มคนที่มาจากพื้นฐานเหมือนหรือต่างจากตนได้อย่างราบรานมีความสุข เป็นการ เตรียมเด็กไปสู้สังคมในอนาคตกับการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การท้างานร่วมกับผู้อื่นที่มีความหลากหลายทางความคิด ความเชื่อและวัฒนธรรมเช่น ความคล้ายคลึงและความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเรื่อง ศาสนา ประเทศ พม่า ลาว กัมพูชาก็จะคล้ายคลึงกับคนไทยในการท้าบุญตักบาตร การสวดมนต์ไหว้พระ การให้ ความเคารพพระสงฆ์ การท้าบุญเลี้ยงพระ การเวียนเทียนเนื่องในวันส้าคัญทางศาสนา ประเพณีเข้าพรรษา ส้าหรับ ประเทศมาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามจึงมีวัฒนธรรมแบบอิสลาม ประเทศ ฟิลิปปินส์ได้รับอิทธิพลจากคริสต์ศาสนา ประเทศสิงคโปร์และเวียดนามนับถือหลายศาสนา โดยนับถือลัทธิธรรม เนียมแบบจีนเป็นหลัก เป็นต้น
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 9 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ปรัชญำกำรศึกษำปฐมวัยโรงเรียน โรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบจัดการพัฒนาเด็กอายุ ๓ – ๖ ปีบนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและส่งเสริม กระบวนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการพัฒนาการทางสมองของเด็กแต่ละคนให้เต็มตามศักยภาพ ผ่านการเล่น การ ช่วยเหลือตนเอง มีทักษะในการด้ารงชีวิตประจ้าวันตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยความรัก ความ เข้าใจของทุกคน เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิต และพัฒนาเด็กมีพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา วิสัยทัศน์ภำรกิจหรือพันธกิจ เป้ำหมำย วิสัยทัศน์ ภายในปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ โรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ มุ่งเน้นพัฒนาเด็กอายุ ๓-๖ ปีให้มีพัฒนาการ ทางด้านร่างกาย อารมณ์ - จิตใจ สังคม และสติปัญญาเหมาะสมกับวัย เน้นให้เด็กเรียนรู้ผ่านการเล่น และการลง มือปฏิบัติ เพื่อให้เด็กมีทักษะการช่วยเหลือตนเอง มีมารยาทที่ดีตามวัฒนธรรมไทย ด้ารงชีวิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง และปลูกฝังให้เด็กมีนิสัยการประหยัดอดออม โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ชุมชนและทุก ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ภำรกิจ หรือ พันธกิจ 1. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่มุ่งเน้นพัฒนาการเด็กปฐมวัยทั้ง ๔ ด้าน อย่างสมดุลและเต็มศักยภาพ 2. พัฒนาครูและบุคลากรด้านการจัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการเล่นที่มีจุดหมายอย่างต่อเนื่อง 3. ส่งเสริมสนับสนุนการจัดสภาพแวดล้อม สื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ในการพัฒนาเด็กปฐมวัย 4. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายซึ่งสอดคล้องกับพัฒนาการทางสมองของเด็ก โดยน้าหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงและแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาใช้เสริมสร้างพัฒนาการและการเรียนรู้ของ เด็ก 5. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชนในการพัฒนาเด็กปฐมวัย
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 10 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 เป้ำหมำย 1. เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญาเป็นองค์รวม อย่างสมดุลและมีความสุข 2. ครูปฐมวัยทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถจัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการ เล่นโดยใช้กระบวนการวางแผน การปฏิบัติ และการทบทวน 3. มีสภาพแวดล้อม สื่อ เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยอย่าง เพียงพอ 4. มีเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียนระดับปฐมวัยจ้านวน 28 คน และชุมชนให้ความร่วมมือในการ พัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัย ด้วยวิธีการที่หลากหลายและมีความต่อเนื่องในทิศทางเดียวกับ สถานศึกษา จุดหมำย หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนชุมชนบ้านน้้าดิบ มุ่งให้เด็กมีพัฒนาการตามวัยเต็มตามศักยภาพและมี ความพร้อม ในการเรียนรู้ต่อไป จึงก้าหนดจุดมุ่งหมายเมื่อเด็กจบการศึกษาระดับปฐมวัย ดังนี้ ๑. ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย แข็งแรง และมีสุขนิสัยที่ดี ๒. สุขภาพจิตดี มีสุนทรียภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม และจิตใจที่ดีงาม ๓. มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัย และอยู่ร่วมกับ ผู้อื่นอย่างมีความสุข ๔. มีทักษะการคิด การใช้ภาษาสื่อสาร และการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวัย
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 11 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ส่วนที่ 2 มำตรฐำนคุณลักษณะที่พึงประสงค์
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 12 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 มำตรฐำนคุณลักษณะที่พึงประสงค์ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช ๒๕๖๐ ก้าหนดมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ จ้านวน ๑๒ มาตรฐาน ประกอบด้วย ๑. พัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย ประกอบด้วย ๒ มาตรฐาน คือ มำตรฐำนที่ ๑ ร่ำงกำยเจริญเติบโตตำมวัยและมีสุขนิสัยที่ดี ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๑ น้้าหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๒ มีสุขภาพอนามัย สุขนิสัยที่ดี ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๓ รักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น มำตรฐำนที่ ๒ กล้ำมเนื้อใหญ่และกล้ำมเนื้อเล็กแข็งแรง ใช้ได้อย่ำงคล่องแคล่ว และประสำน สัมพันธ์กัน ตัวบ่งชี้ที่ ๒.๑ เคลื่อนไหวร่างกายอย่างคล่องแคล่ว ประสานสัมพันธ์และทรงตัวได้ ตัวบ่งชี้ที่ ๒.๒ ใช้มือ - ตา ประสานสัมพันธ์กัน ๒. พัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย ๒ มาตรฐาน คือ มำตรฐำนที่ ๓ มีสุขภำพจิตดีและมีควำมสุข ตัวบ่งชี้ที่ ๓.๑ แสดงออกทางอารมณ์ได้อย่างมีความสุข ตัวบ่งชี้ที่ ๓.๒ มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น มำตรฐำนที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทำงศิลปะ ดนตรี และกำรเคลื่อนไหว ตัวบ่งชี้ที่ ๔.๑ สนใจ มีความสุข และแสดงออกผ่านงานศิลปะ ดนตรี และ การเคลื่อนไหว มำตรฐำนที่ ๕ มีคุณธรรม จริยธรรม และจิตใจที่ดีงำม ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๑ ซื่อสัตย์ สุจริต ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๒ มีความเมตตากรุณา มีน้้าใจและช่วยเหลือแบ่งปัน ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๓ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๔ มีความรับผิดชอบ ๓. พัฒนำกำรด้ำนสังคม ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน คือ มำตรฐำนที่ ๖ มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๑ ช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจ้าวัน ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๒ มีวินัยในตนเอง ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๓ ประหยัดและพอเพียง มำตรฐำนที่ ๗ รักธรรมชำติ สิ่งแวดล้อม และควำมเป็นไทย (อัตลักษณ์โรงเรียนชุมชนบ้ำนน้ ำดิบ คนดี มีอำชีพ )
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 13 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ตัวบ่งชี้ที่ ๗.๑ ดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวบ่งชี้ที่ ๗.๒ มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย และรักความเป็นไทย มำตรฐำนที่ ๘ อยู่ ร่วมกับผู้อื่นได้อย่ ำ งมีคว ำมสุขแล ะปฏิบัติตนเป็นสม ำชิกที่ดีของ สังคมในระบอบประชำธิปไตย อันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๑ ยอมรับความเหมือนและความแตกต่างระหว่างบุคคล ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๒ มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๓ ปฏิบัติตนเบื้องต้นในการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ๔. พัฒนำกำรด้ำนสติปัญญำ ประกอบด้วย ๔ มาตรฐาน คือ มำตรฐำนที่ ๙ ใช้ภำษำสื่อสำรได้อย่ำงเหมำะสม ตัวบ่งชี้ที่ ๙.๑ สนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจ ตัวบ่งชี้ที่ ๙.๒ อ่าน เขียนภาพ และสัญลักษณ์ มำตรฐำนที่ ๑๐ มีควำมสำมำรถในกำรคิดที่เป็นพื้นฐำนในกำรเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๑ มีความสามารถในการคิดรวบยอด ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๒ มีความสามารถในการคิดเชิงเหตุผล ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๓ มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและตัดสินใจ มำตรฐำนที่ ๑๑ มีจินตนำกำรและควำมคิดสร้ำงสรรค์ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๑.๑ ท้างานศิลปะตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๑.๒ แสดงท่าทาง / เคลื่อนไหวตามจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ มำตรฐำนที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อกำรเรียนรู้ และมีควำมสำมำรถในกำรแสวงหำควำมรู้ได้เหมำะสม กับวัย ตัวบ่งชี้ที่ ๑๒.๑ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๒.๒ มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ ตัวบ่งชี้ ตัวบ่งชี้ เป็นเป้าหมายในการพัฒนาเด็กที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ สภำพที่พึงประสงค์ สภาพที่พึงประสงค์เป็นพฤติกรรมหรือความสามารถตามวัยที่คาดหวังให้เด็กเกิดบนพื้นฐานพัฒนาการ ตามวัยหรือความสามารถตามธรรมชาติในแต่ละระดับอายุ เพื่อน้าไปใช้ในการก้าหนดสาระการเรียนรู้ในการจัด ประสบการณ์ และประเมินพัฒนาการเด็ก โดยมีรายละเอียด ของมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ และ สภาพที่พึงประสงค์ ดังนี้
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 14 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ๑. พัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย มำตรฐำนที่ ๑ ร่ำงกำยเจริญเติบโตตำมวัยเด็กมีสุขนิสัยที่ดี ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๑ มีน้ ำหนักและส่วนสูงตำมเกณฑ์ สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -น้้าหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ของ กรมอนามัย -น้้าหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ของ กรมอนามัย -น้้าหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ของ กรมอนามัย ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๒ มีสุขภำพอนำมัย สุขนิสัยที่ดี สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -ยอมรับประทานอาหารที่มี ประโยชน์และดื่มน้้าที่สะอาดเมื่อมี ผู้ชี้แนะ -รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้้าสะอาดด้วยตนเอง -รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ได้ หลายชนิดและดื่มน้้าสะอาดได้ด้วย ตนเอง -ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และหลังจากใช้ห้องน้้าห้องส้วมเมื่อ มีผู้ชี้แนะ -ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และหลังจากใช้ห้องน้้าห้องส้วม ด้วยตนเอง -ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และหลังจากใช้ห้องน้้าห้องส้วม ด้วยตนเอง -นอนพักผ่อนเป็นเวลา -นอนพักผ่อนเป็นเวลา -นอนพักผ่อนเป็นเวลา -ออกก้าลังกายเป็นเวลา -ออกก้าลังกายเป็นเวลา -ออกก้าลังกายเป็นเวลา ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๓ รักษำควำมปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -เล่นและท้ากิจกรรมอย่างปลอดภัย เมื่อมีผู้ชี้แนะ -เล่นและท้ากิจกรรมอย่างปลอดภัย ด้วยตนเอง -เล่นและท้ากิจกรรมและปฏิบัติต่อ ผู้อื่นอย่างปลอดภัย
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 15 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 มำตรฐำนที่ ๒ กล้ำมเนื้อใหญ่และกล้ำมเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่ำงคล่องแคล่วและประสำน สัมพันธ์กัน ตัวบ่งชี้ที่ ๒.๑ เคลื่อนไหวร่ำงกำยอย่ำงคล่องแคล่วประสำนสัมพันธ์และทรงตัวได้ สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -เดินตามแนวที่ก้าหนดได้ -เดินต่อเท้าไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง ได้โดยไม่ต้องกางแขน -เดินต่อเท้าถอยหลังเป็นเส้นตรงได้โดย ไม่ต้องกางเกง -กระโดดสองขา ขึ้นลงอยู่กับที่ได้ -กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้โดยไม่ เสียการทรงตัว -กระโดดขาเดียว ไปข้างหน้าได้อย่าง ต่อเนื่องโดยไม่เสียการทรงตัว -วิ่งแล้วหยุดได้ -วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ -วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่าง คล่องแคล่ว -รับลูกบอลโดยใช้มือและล้าตัวช่วย -รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสองข้าง -รับลูกบอลที่กระดอนขึ้นจากพื้นได้ ตัวบ่งชี้ที่ ๒.๓ ใช้มือ-ตำประสำนสัมพันธ์กัน สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -ใช้กรรไกรตัดกระดาขาดจากกันได้ โดยใช้มือเดียว -ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนว เส้นตรงได้ -ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้นโค้ง ได้ -เขียนรูปวงกลมตามแบบได้ -เขียนรูปสี่เหลี่ยมตามแบบได้อย่าง มีมุมชัดเจน -เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้อย่างมี มุมชัดเจน -ร้อยวัสดุที่มีรูขนาดเส้นผ่าน ศูนย์กลาง ๑ ซม.ได้ -ร้อยวัสดุที่มีรูจนาดเส้นผ่านศูนย์ ๐.๕ ซม.ได้ -ร้อยวัสดุที่มีรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๐.๒๕ ซม.ได้ ๒.พัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จิตใจ มำตรฐำนที่ ๓ มีสุขภำพจิตดีและมีควำมสุข ตัวบ่งชี้ที่ ๓.๑ แสดงออกทำงอำรมณ์อย่ำงเหมำะสม สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้ เหมาะสมกับบางสถานการณ์ -แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้ตาม สถานการณ์ -แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้สอดคล้อง กับสถานการณ์อย่างเหมาะสม ตัวบ่งชี้ที่ ๓.๒ มีควำมรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 16 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -กล้าพูดกล้าแสดงออก -กล้าพูดกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม บางสถานการณ์ -กล้าพูดกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมตาม สถานการณ์ -แสดงความพอใจในผลงานตนเอง -แสดงความพอใจในผลงานและ ความสามารถของตนเอง -แสดงความพอใจในผลงานและ ความสามารถของตนเองและผู้อื่น มำตรฐำนที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทำงศิลปะ ดนตรี และกำรเคลื่อนไหว ตัวบ่งชี้ที่ ๔.๑ สนใจและมีควำมสุขและแสดงออกผ่ำนงำนศิลปะ ดนตรีและกำรเคลื่อนไหว สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -สนใจและมีความสุขและแสดงออกผ่าน งานศิลปะ -สนใจและมีความสุขและแสดงออก ผ่านงานศิลปะ -สนใจและมีความสุขและแสดงออก ผ่านงานศิลปะ -สนใจ มีความสุขและแสดงออกผ่าน เสียงเพลง ดนตรี -สนใจ มีความสุขและแสดงออกผ่าน เสียงเพลง ดนตรี -สนใจ มีความสุขและแสดงออกผ่าน เสียงเพลง ดนตรี -สนใจ มีความสุขและแสดงท่าทาง/ เคลื่อนไหวประกอบเพลง จังหวะและ ดนตรี -สนใจ มีความสุขและแสดงท่าทาง/ เคลื่อนไหวประกอบเพลง จังหวะ และ ดนตรี -สนใจ มีความสุขและแสดงท่าทาง/ เคลื่อนไหวประกอบเพลง จังหวะและ ดนตรี มำตรฐำนที่ ๕ มีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจที่ดีงำม ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๑ ซื่อสัตย์ สุจริต สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -บอกหรือชี้ได้ว่าสิ่งใดเป็นของตนเองและ สิ่งใดเป็นของผู้อื่น - ขออนุญาตหรือรอคอยเมื่อต้องการ สิ่งของของผู้อื่นเมื่อมีผู้ชี้แนะ - ขออนุญาตหรือรอคอยเมื่อต้องการ สิ่งของของผู้อื่นด้วยตนเอง ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๒มีควำมเมตตำ กรุณำ มีน้ ำใจและช่วยเหลือแบ่งปัน
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 17 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตาสัตว์ เลี้ยง -แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตา สัตว์เลี้ยง -แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตาสัตว์ เลี้ยง -แบ่งปันสิ่งของให้ผู้อื่นได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ -ช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่นได้เมื่อมีผู้ ชี้แนะ -ช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่นได้ด้วย ตนเอง ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๓ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -แสดงสีหน้าหรือท่าทางรับรู้ความรู้สึก ผู้อื่น -แสดงสีหน้าหรือท่าทางรับรู้ ความรู้สึกผู้อื่น -แสดงสีหน้าหรือท่าทางรับรู้ความรู้สึก ผู้อื่นอย่างสอดคล้องกบสถานการณ์ ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๔มีควำมรับผิดชอบ สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -ท้างานที่ได้รับมอบหมายจนส้าเร็จเมื่อมี ผู้ช่วยเหลือ -ท้างานที่ได้รับมอบหมายจนส้าเร็จ เมื่อมีผู้ชี้แนะ -ท้างานที่ได้รับมอบหมายจนส้าเร็จ ด้วยตนเอง ๓.พัฒนำกำรด้ำนสังคม มำตรฐำนที่ ๖ มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๑ ช่วยเหลือตนเองในกำรปฏิบัติกิจวัตรประจ ำวัน สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี - แต่งตัวโดยมีผู้ช่วยเหลือ - แต่งตัวด้วยตนเอง - แต่งตัวด้วยตนเองได้อย่าง คล่องแคล่ว - รับประทานอาหารด้วยตนเอง -รับประทานอาหารด้วยตนเอง - รับประทานอาหารด้วยตนเองอย่าง ถูกวิธี -ใช้ห้องน้้าห้องส้วมโดยมีผู้ช่วยเหลือ -ใช้ห้องน้้าห้องส้วมด้วยตนเอง -ใช้และท้าความสะอาดหลังใช้ห้องน้้า ห้องส้วมด้วยตนเอง ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๒ มีวินัยในตนอง
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 18 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -เก็บของเล่นของใช้เข้าที่เมื่อมีผู้ชี้แนะ -เก็บของเล่นของใช้เข้าที่ด้วยตนเอง -เก็บของเล่นของใช้เข้าที่อย่าง เรียบร้อยด้วยตนเอง -เข้าแถวตาล้าดับก่อนหลังได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ -เข้าแถวตาล้าดับก่อนหลังได้ด้วย ตนเอง -เข้าแถวตาล้าดับก่อนหลังได้ด้วย ตนเอง ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๓ ประหยัดและพอเพียง สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัดและ พอเพียงเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัด และพอเพียงเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัดและ พอเพียงด้วยตนเอง มำตรฐำนที่ ๗ รักธรรมชำติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และควำมเป็นไทย ตัวบ่งชี้ที่ ๗.๑ ดูแลรักษำธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมเมื่อมีผู้ชี้แนะ -มีส่วนร่วมในการดูแลรักษา ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อมีผู้ ชี้แนะ -มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมด้วยตนเอง -ทิ้งขยะได้ถูกที่ -ทิ้งขยะได้ถูกที่ -ทิ้งขยะได้ถูกที่ ตัวบ่งชี้ที่ ๗.๒ มีมำรยำทตำมวัฒนธรรมไทยและรักควำมเป็นไทย สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ เมื่อมีผู้ ชี้แนะ -ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ด้วย ตนเอง -ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ ตาม กาลเทศะ -กล่าวค้าขอบคุณและขอโทษเมื่อมีผู้ชี้แนะ -กล่าวค้าขอบคุณและขอโทษด้วย ตนเอง -กล่าวค้าขอบคุณและขอโทษด้วยตนเอง -หยุดเมื่อได้ยินเพลงชาติไทยและเพลง สรรเสริญพระบารมี -หยุดเมื่อได้ยินเพลงชาติไทยและ เพลงสรรเสริญพระบารมี -ยืนตรงและร่วมร้องเพลงชาติไทยและ เพลงสรรเสริญพระมารมี มำตรฐำนที่ ๘ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่ำงมีควำมสุขและปฏิบัติตนเป็นสมำชิกที่ดีของสังคมใน
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 19 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๑ ยอมรับควำมเหมือนและควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -เล่นและท้ากิจกรรมร่วมกับเด็กที่แตกต่าง ไปจากตน -เล่นและท้ากิจกรรมร่วมกับกลุ่มเด็ก ที่แตกต่างไปจากตน -เล่นและท้ากิจกรรมร่วมกับเด็กที่ แตกต่างไปจากตน ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๒ มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -เล่นร่วมกับเพื่อน -เล่นหรือท้างานร่วมกับเพื่อนเป็น กลุ่ม -เล่นหรือท้างานร่วมกับเพื่อนอย่างมี เป้าหมาย -ยิ้มหรือทักทายผู้ใหญ่และบุคคลที่คุ้นเคย เมื่อมีผู้ชี้แนะ -ยิ้มหรือทักทายหรือพูดคุยกับผู้ใหญ่ และบุคคลที่คุ้นเคยได้ด้วยตนเอง -ยิ้มหรือทักทายหรือพูดคุยกับผู้ใหญ่และ บุคคลที่คุ้นเคยได้เหมาะสมกับ สถานการณ์ ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๓ ปฏิบัติตนเบื้องต้นในกำรเป็นสมำชิกที่ดีของสังคม สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -ปฏิบัติตามข้อตกลงเมื่อมีผู้ชี้แนะ -มีส่วนร่วมสร้างข้อตกลงและปฏิบัติ ตามข้อตกลงเมื่อมีผู้ชี้แนะ -มีส่วนร่วมสร้างข้อตกลงและปฏิบัติตาม ข้อตกลงด้วยตนเอง -ปฏิบัติตนเป็นผู้น้าและผู้ตามเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ปฏิบัติตนเป็นผู้น้าและผู้ตามที่ดีได้ ด้วยตนเอง -ปฏิบัติตนเป็นผู้น้าและผู้ตามได้ เหมาะสมกับสถานการณ์ -ยอมรับการประนีประนอมแก้ไขปัญหา เมื่อมีผู้ชี้แนะ -ประนีประนอมแก้ไขปัญหาโดย ปราศจากการใช้ความรุนแรงเมื่อมีผู้ ชี้แนะ -ประนีประนอมแก้ไขปัญหาโดย ปราศจากการใช้ความรุนแรงด้วยตนเอง ๔. พัฒนำกำรด้ำนสติปัญญำ มำตรฐำนที่ ๙ ใช้ภำษำสื่อสำรได้เหมำะสมกับวัย
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 20 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ตัวบ่งชี้ที่ ๙.๑ สนทนำโต้ตอบและเล่ำเรื่องให้ผู้อื่นเข้ำใจ สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและโต้ตอบเกี่ยวกับเรื่อง ที่ฟัง -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและสนทนาโต้ตอบ สอดคล้องกับเรื่องที่ฟัง -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและสนทนาโต้ตอบ อย่างต่อเนื่องเชื่อมโยงกับเรื่องที่ฟัง -เล่า เรื่องด้วยประโยคสั้นๆ -เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง -เล่าเป็นเรื่องราวต่อเนื่องได้ ตัวบ่งชี้ที่ ๙.๒ อ่ำน เขียนภำพ และสัญลักษณ์ได้ สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -อ่านภาพ และพูดข้อความด้วยภาษา ของตน -อ่านภาพ สัญลักษณ์ ค้า พร้อมทั้งชี้ หรือกวาดตามองข้อความตาม บรรทัด -อ่านภาพ สัญลักษณ์ ค้า ด้วยการชี้ หรือกวาดตามองจุดเริ่มต้นและจุดจบ ของข้อความ -เขียนขีด เขี่ย อย่างมีทิศทาง -เขียนคล้ายตัวอักษร -เขียนชื่อของตนเอง ตามแบบ เขียนข้อความด้วยวิธีที่คิดขึ้นเอง มำตรฐำนที่ ๑๐ มีควำมสำมำรถในกำรคิดที่เป็นพื้นฐำนในกำรเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๑ มีควำมสำมำรถในกำรคิดรวบยอด สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -บอกลักษณะของสิ่งของต่างๆจากการ สังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัส -บอกลักษณะและส่วนประกอบของ สิ่งของต่างๆจากการสังเกตโดยใช้ ประสาทสัมผัส -บอกลักษณะ ส่วนประกอบ การ เปลี่ยนแปลง หรือความสัมพันธ์ของ สิ่งของต่างๆจากการสังเกตโดยใช้ ประสาทสัมผัส -จับคู่หรือเปรียบเทียบสิ่งต่างๆโดยใช้ ลักษณะหรือหน้าที่การงานเพียงลักษณะ เดียว -จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่าง หรือความเหมือนของสิ่งต่างๆโดยใช้ ลักษณะที่สังเกตพบเพียงลักษณะ เดียว -จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่าง หรือความเหมือนของสิ่งต่างๆโดยใช้ ลักษณะที่สังเกตพบสองลักษณะขึ้นไป -คัดแยกสิ่งต่างๆตามลักษณะหรือหน้าที่ การใช้งาน -จ้าแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่างๆโดยใช้ อย่างน้อยหนึ่งลักษณะเป็นเกณฑ์ -จ้าแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่างๆโดยใช้ตั้งแต่ สองลักษณะขึ้นไปเป็นเกณฑ์ -เรียงล้าดับสิ่งของหรือเหตุการณ์อย่าง น้อย ๓ ล้าดับ -เรียงล้าดับสิ่งของหรือเหตุการณ์ อย่างน้อย ๔ ล้าดับ -เรียงล้าดับสิ่งของหรือเหตุการณ์อย่าง น้อย ๕ ล้าดับ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๒ มีควำมสำมำรถในกำรคิดเชิงเหตุผล สภำพที่พึงประสงค์
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 21 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -ระบุผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือการ กระท้าเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ระบุสาเหตุหรือผลที่เกิดขึ้นใน เหตุการณ์หรือ การกระท้าเมื่อมีผู้ ชี้แนะ -อธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผลที่เกิดขึ้น ในเหตุการณ์หรือการกระท้าด้วยตนเอง -คาดเดา หรือ คาดคะเนสิ่งที่อาจเกิดขึ้น -คาดเดา หรือคาดคะเนสิ่งที่อาจจะ เกิดขึ้น หรือมีส่วนร่วมในการลง ความเห็นจากข้อมูล -คาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น และมีส่วน ร่วมในการลงความเห็นจากข้อมูลอย่างมี เหตุผล ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๓ มีควำมสำมำรถในกำรคิดแก้ปัญหำและตัดสินใจ สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆ -ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆและเริ่มเรียนรู้ ผลที่เกิดขึ้น -ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆและยอมรับผลที่ เกิดขึ้น -แก้ปัญหาโดยลองผิดลองถูก -ระบุปัญหา และแก้ปัญหาโดยลอง ผิดลองถูก -ระบุปัญหาสร้างทางเลือกและเลือกวิธี แก้ปัญหา มำตรฐำนที่ ๑๑ มีจินตนำกำรและควำมคิดสร้ำงสรรค์ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๑.๑ เล่น/ท ำงำนศิลปะตำมจินตนำกำรและควำมคิดสร้ำงสรรค์ สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของตนเอง -สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของตนเองโดยมีการดัดแปลง และแปลกใหม่จากเดิมหรือมี รายละเอียดเพิ่มขึ้น -สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของตนเองโดยมีการดัดแปลง และแปลกใหม่จากเดิมและ มีรายละเอียดเพิ่มขึ้น ตัวบ่งชี้ที่ ๑๑.๒ แสดงท่ำทำง/เคลื่อนไหวตำมจินตนำกำรอย่ำงสร้ำงสรรค์ สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของตนเอง -เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสาร ความคิด ความรู้สึกของตนเอง อย่างหลากหลายหรือแปลกใหม่ -เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของตนเอง อย่างหลากหลายและแปลกใหม่ มำตรฐำนที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อกำรเรียนรู้ และมีควำมสำมำรถในกำรแสวงหำควำมรู้ ได้เหมำะสมกับวัย
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 22 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ตัวบ่งชี้ที่ ๑๒.๑ มีเจตคติที่ดีต่อกำรเรียนรู้ สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -สนใจฟังหรืออ่านหนังสือด้วยตนเอง -สนใจซักถามเกี่ยวกับสัญลักษณ์หรือ ตัวหนังสือที่พบเห็น -หยิบหนังสือมาอ่านและเขียนสื่อความคิด ด้วยตนเองเป็นประจ้าอย่างต่อเนื่อง -กระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม -กระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม -กระตือรือร้นในการร่วมกิจกรรมตั้งแต่ต้น จนจบ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๒.๒ มีควำมสำมำรถในกำรแสวงหำควำมรู้ สภำพที่พึงประสงค์ อำยุ ๓-๔ ปี อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี -ค้นหาค้าตอบของข้อสงสัยต่างๆ ตาม วิธีการที่มีผู้ชี้แนะ -ค้นหาค้าตอบของข้อสงสัยต่างๆ ตาม วิธีการของตนเอง -ค้นหาค้าตอบของข้อสงสัยต่างๆ ตาม วิธีการที่หลากหลายด้วยตนเอง -เชื่อมโยงค้าถา “อะไร” ในการค้นหา ค้าตอบ -ใช้ประโยคค้าถามว่า “ที่ไหน” “ท้าไม” ในการค้นหาค้าตอบ -ใช้ประโยคค้าถามว่า “เมื่อไร” อย่างไร” ในการค้นหาค้าตอบ
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 23 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ส่วนที่ 3 สำระกำรเรียนรู้รำยปี
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 24 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 สำระกำรเรียนรู้รำยปี สาระการเรียนรู้ เป็นสื่อกลางในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กทุก ด้าน ให้เป็นไปตามจุดหมายของหลักสูตรที่ก้าหนด ประกอบด้วย ประสบการณ์ส้าคัญ และสาระที่ควรเรียนรู้ ดังนี้ ๑. ประสบกำรณ์ส ำคัญ ประสบการณ์ส้าคัญเป็นแนวทางส้าหรับผู้สอนน้าไปใช้ใน การออกแบบ การจัดประสบการณ์ให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้ ลงมือปฏิบัติ และได้รับการส่งเสริมพัฒนา การครอบคลุมทุกด้าน ดังนี้ ๑.๑ ประสบกำรณ์ส ำคัญที่ส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาส พัฒนาการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก และการประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อและระบบประสาท ในการ ท้ากิจวัตรประจ้าวันหรือท้ากิจกรรมต่าง ๆ และสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสดูแลสุขภาพและสุขอนามัย สุขนิสัย และ การรักษาความปลอดภัย ดังนี้ ด้ำนร่ำงกำย ประสบกำรณ์ส ำคัญ ๑.๑.๑ กำรใช้กล้ำมเนื้อใหญ่ (๑) การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ (๒) การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ (๓) การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์ (๔) การเคลื่อนไหวที่ใช้การประสานสัมพันธ์ของการใช้ กล้ามเนื้อใหญ่ในการขว้าง การจับ การโยน การเตะ (๕) การเล่นเครื่องเล่นสนามอย่างอิสระ ๑.๑.๒ กำรใช้กล้ำมเนื้อเล็ก (๑) การเล่นเครื่องเล่นสัมผัสและการสร้างจากแท่งไม้ บล็อก (๒) การเขียนภาพและการเล่นกับสี (๓) การปั้น (๔) การประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ด้วย เศษวัสดุ (๕) การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉีก การตัด การปะ และ การร้อยวัสดุ ๑.๑.๓ กำรรักษำสุขภำพ อนำมัยส่วนตน (๑) การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย สุขนิสัยที่ดีในกิจวัตรประจ้าวัน ๑.๑.๔ กำรรักษำควำม ปลอดภัย (๑) การปฏิบัติตนให้ปลอดภัยในกิจวัตรประจ้าวัน (๒) การฟังนิทาน เรื่องราว เหตุการณ์ เกี่ยวกับการป้องกัน และรักษาความปลอดภัย (๓) การเล่นเครื่องเล่นอย่างปลอดภัย (๔) การเล่นบทบาทสมมติเหตุการณ์ต่าง ๆ ๑.๑.๕ กำรตระหนักรู้เกี่ยวกับ (๑) การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเองไปในทิศทาง ระดับ และพื้นที่
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 25 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ร่ำงกำยตนเอง (๒) การเคลื่อนไหวข้ามสิ่งกีดขวาง ๑.๒ ประสบกำรณ์ส ำคัญที่ส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จิตใจ เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้ แสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกของตนเองที่เหมาะสมกับวัย ตระหนักถึงลักษณะพิเศษเฉพาะที่เป็นอัตลักษณ์ ความเป็นตัวของตัวเอง มีความสุข ร่าเริงแจ่มใส การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ได้พัฒนาคุณธรรมจริยธรรม สุนทรียภาพ ความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และความเชื่อมั่นในตนเองขณะปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้ ด้ำนอำรมณ์ ประสบกำรณ์ส ำคัญ ๑.๒.๑ สุนทรียภำพ ดนตรี (๑) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ เสียงดนตรี (๒) การเล่นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ (๓) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (๔) การเล่นบทบาทสมมติ (๕) การท้ากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ (๖) การสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม ๑.๒.๒ กำรเล่น (๑) การเล่นอิสระ (๒) การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่ (๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์ (๔) การเล่นนอกห้องเรียน ๑.๒.๓ คุณธรรม จริยธรรม (๑) การปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่นับถือ (๒) การฟังนิทานเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม (๓) การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงจริยธรรม ๑.๒.๔ กำรแสดงออกทำง อำรมณ์ (๑) การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น (๒) การเล่นบทบาทสมมติ (๓) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (๔) การร้องเพลง (๕) การท้างานศิลปะ ๑.๒.๕ กำรมีอัตลักษณ์เฉพำะ ตนและเชื่อว่ำตนเอง มีควำมสำมำรถ (๑) การปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ตามความสามารถของตนเอง ๑.๒.๖ กำรเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (๑) การแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นมีความสุข เห็นใจเมื่อผู้อื่นเศร้า หรือเสียใจและการช่วยเหลือปลอบโยนเมื่อผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 26 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ๑.๓ ประสบกำรณ์ส ำคัญที่ส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนสังคม เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาส ปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รอบตัวจากการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านการเรียนรู้ทางสังคม เช่น การเล่น การท้างานกับผู้อื่น การปฏิบัติกิจวัตรประจ้าวัน การแก้ปัญหาข้อขัดแย้งต่าง ๆ ด้ำนสังคม ประสบกำรณ์ส ำคัญ ๑.๓.๑ กำรปฏิบัติกิจวัตร ประจ ำวัน (๑) การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจ้าวัน (๒) การปฏิบัติตนตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๑.๓.๒ กำรดูแลรักษำ ธรรมชำติและ สิ่งแวดล้อม (๑) การมีส่วนร่วมรับผิดชอบดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและ ภายนอกห้องเรียน (๒) การใช้วัสดุและสิ่งของเครื่องใช้อย่างคุ้มค่า (๓) การท้างานศิลปะที่น้าวัสดุหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้แล้ว มาใช้ซ้้า หรือแปรรูปแล้วน้ากลับมาใช้ใหม่ (๔) การเพาะปลูกและดูแลต้นไม้ (๕) การเลี้ยงสัตว์ (๖) การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมในชีวิตประจ้าวัน ๑.๓.๓ กำรปฏิบัติตำม วัฒนธรรมท้องถิ่น และควำมเป็นไทย (๑) การเล่นบทบาทสมมติการปฏิบัติตนในความเป็นคนไทย (๒) การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อาศัยและประเพณีไทย (๓) การประกอบอาหารไทย (๔) การศึกษานอกสถานที่ (๕) การละเล่นพื้นบ้านของไทย ๑.๓.๔ กำรมีปฏิสัมพันธ์ มีวินัย มีส่วนร่วม และบทบำทสมำชิก ของสังคม (๑) การร่วมก้าหนดข้อตกลงของห้องเรียน (๒) การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของห้องเรียน (๓) การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ (๔) การดูแลห้องเรียนร่วมกัน (๕) การร่วมกิจกรรมวันส้าคัญ ๑.๓.๕ กำรเล่นและท ำงำน แบบร่วมมือร่วมใจ (๑) การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (๒) การเล่นและท้างานร่วมกับผู้อื่น (๓) การท้าศิลปะแบบร่วมมือ ๑.๓.๖ กำรแก้ปัญหำ ควำมขัดแย้ง (๑) การมีส่วนร่วมในการเลือกวิธีการแก้ปัญหา (๒) การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ๑.๓.๗ กำรยอมรับในควำม เหมือนและควำม (๑) การเล่นหรือท้ากิจกรรมร่วมกับกลุ่มเพื่อน
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 27 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 แตกต่ำงระหว่ำง บุคคล ๑.๔ ประสบการณ์ส้าคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้รับรู้และ เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม บุคคลและสื่อต่าง ๆ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่ หลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กพัฒนาการใช้ภาษา จินตนาการความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การคิดเชิง เหตุผล และการคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวและมีความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานของ การเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นต่อไป กำรพัฒนำด้ำน ประสบกำรณ์ส ำคัญ ๑.๔.๑ มีเจตคติทีดีต่อ กำรเรียนรู้ (๑) การฟังเสียงต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อม (๒) การฟังและปฏิบัติตามค้าแนะน้า (๓) การฟังเพลง นิทาน ค้าคล้องจอง บทร้อยกรองหรือเรื่องราว ต่าง ๆ (๔) การพูดแสดงความคิด ความรู้สึก และความต้องการ (๕) การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง หรือพูดเล่า เรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง (๖) การพูดอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ ของสิ่งต่าง ๆ (๗) การพูดอย่างสร้างสรรค์ในการเล่น และการกระท้าต่าง ๆ (๘) การรอจังหวะที่เหมาะสมในการพูด (๙) การพูดเรียงล้าดับค้าเพื่อใช้ในการสื่อสาร (๑๐) การอ่านหนังสือภาพ นิทาน หลากหลายประเภท/รูปแบบ (๑๑) การอ่านอย่างอิสระตามล้าพัง การอ่านร่วมกัน การอ่านโดย มีผู้ชี้แนะ (๑๒) การเห็นแบบอย่างของการอ่านที่ถูกต้อง (๑๓) การสังเกตทิศทางการอ่านตัวอักษร ค้า และข้อความ (๑๔) การอ่านและชี้ข้อความ โดยกวาดสายตาตามบรรทัดจาก ซ้ายไปขวา และจากบนลงล่าง (๑๕) การสังเกตตัวอักษรในชื่อของตน หรือค้าคุ้นเคย
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 28 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 (๑๖) การสังเกตตัวอักษรที่ประกอบเป็นค้าผ่านการอ่านหรือ เขียนของผู้ใหญ่ (๑๗) การคาดเดาค้า วลี หรือประโยค ที่มีโครงสร้างซ้้า ๆ กัน จากนิทาน เพลง ค้าคล้องจอง (๑๘) การเล่นเกมภาษา (๑๙) การเห็นแบบอย่างของการเขียนที่ถูกต้อง (๒๐) การเขียนร่วมกันตามโอกาส และการเขียนอิสระ (๒๑) การเขียนค้าที่มีความหมายกับตัวเด็ก/ค้าคุ้นเคย (๒๒) การคิดสะกดค้าและเขียนเพื่อสื่อความหมายด้วยตนเอง อย่างอิสระ ๑.๔.๒ กำรคิดรวบยอด กำรคิดเชิงเหตุผล กำรตัดสินใจและ แก้ปัญหำ (๑) การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลง และ ความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ โดยใช้ประสาทสัมผัสอย่าง เหมาะสม (๒) การสังเกตสิ่งต่าง ๆ และสถานที่จากมุมมองที่ต่างกัน (๓) การบอกและแสดงต้าแหน่ง ทิศทาง และระยะทางของสิ่ง ต่าง ๆ ด้วยการกระท้า ภาพวาด ภาพถ่าย และรูปภาพ (๔) การเล่นกับสื่อต่าง ๆ ที่เป็นทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกระบอก กรวย (๕) การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการจ้าแนกสิ่งต่าง ๆ ตาม ลักษณะและรูปร่าง รูปทรง (๖) การต่อของชิ้นเล็กเติมในชิ้นใหญ่ให้สมบูรณ์ และการแยก ชิ้นส่วน (๗) การท้าซ้้า การต่อเติม และการสร้างแบบรูป (๘) การนับและแสดงจ้านวนของสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจ้าวัน (๙) การเปรียบเทียบและเรียงล้าดับจ้านวนของสิ่งต่าง ๆ (๑๐) การรวมและการแยกสิ่งต่าง ๆ (๑๑) การบอกและแสดงอันดับที่ของสิ่งต่าง ๆ (๑๒) การชั่ง ตวง วัดสิ่งต่าง ๆ โดยใช้เครื่องมือและหน่วยที่ไม่ใช่ หน่วยมาตรฐาน (๑๓) การจับคู่ การเปรียบเทียบ และการเรียงล้าดับ สิ่งต่าง ๆ ตามลักษณะความยาว/ความสูง น้้าหนัก ปริมาตร (๑๔) การบอกและเรียงล้าดับกิจกรรมหรือเหตุการณ์ตาม ช่วงเวลา (๑๕) การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กับเหตุการณ์ในชีวิตประจ้าวัน
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 29 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 (๑๖) การอธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ หรือการกระท้า (๑๗) การคาดเดาหรือการคาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างมี เหตุผล (๑๘) การมีส่วนร่วมในการลงความเห็นจากข้อมูลอย่างมีเหตุผล (๑๙) การตัดสินใจและมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ปัญหา ๑.๔.๓ จินตนำกำรและ ควำมคิดสร้ำงสรรค์ (๑) การรับรู้ และแสดงความคิดความรู้สึกผ่านสื่อ วัสดุ ของเล่น และชิ้นงาน (๒) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านภาษา ท่าทาง การ เคลื่อนไหว และศิลปะ (๓) การสร้างสรรค์ชิ้นงานโดยใช้รูปร่างรูปทรงจากวัสดุที่ หลากหลาย ๑.๔.๔ เจตคติที่ดีต่อกำร เรียนรู้และกำร แสวงหำควำมรู้ (๑) การส้ารวจสิ่งต่าง ๆ และแหล่งเรียนรู้รอบตัว (๒) การตั้งค้าถามในเรื่องที่สนใจ (๓) การสืบเสาะหาความรู้เพื่อค้นหาค้าตอบของข้อสงสัยต่าง ๆ (๔) การมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูลและน้าเสนอข้อมูลจาก การสืบเสาะหาความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ และแผนภูมิอย่างง่าย
หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 30 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สงักดัสา นักงานเขตพืน้ที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ๒.สำระที่ควรเรียนรู้ สาระที่ควรเรียนรู้ เป็นเรื่องราวรอบตัวเด็กที่น้ามาเป็นสื่อกลางในการจัดกิจกรรมให้เด็กเกิดแนวคิด หลังจากน้าสาระที่ควรรู้นั้น ๆ มาจัดประสบการณ์ให้เด็ก เพื่อให้บรรลุจุดหมายที่ก้าหนดไว้ ทั้งนี้ ไม่เน้นการท่องจ้า เนื้อหา ผู้สอนสามารถก้าหนดรายละเอียดขึ้นเองให้สอดคล้องกับวัย ความต้องการ และความสนใจของเด็ก โดยให้ เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ส้าคัญ ทั้งนี้ อาจยืดหยุ่นเนื้อหาได้ โดยค้านึงถึงประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมในชีวิต จริงของเด็ก ดังนี้ ๒.๑ เรื่องรำวที่เกี่ยวกับตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้ชื่อ นามสกุล รูปร่างหน้าตา อวัยวะต่าง ๆ วิธีระวัง รักษาร่างกายให้สะอาดและมีสุขภาพอนามัยที่ดี การรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ การระมัดระวังความ ปลอดภัยของตนเองจากผู้อื่นและภัยใกล้ตัว รวมทั้งการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างปลอดภัย การรู้จักประวัติความเป็นมา ของตนเองและครอบครัว การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน การเคารพสิทธิของตนเองและ ผู้อื่น การรู้จักแสดงความคิดเห็นของตนเองและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การก้ากับตนเอง การเล่นและท้าสิ่ง ต่าง ๆ ด้วยตนเองตามล้าพังหรือกับผู้อื่น การตระหนักรู้เกี่ยวกับตนเอง ความภาคภูมิใจในตนเอง การสะท้อนการ รับรู้อารมณ์และความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น การแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกอย่างเหมาะสม การแสดง มารยาทที่ดี การมีคุณธรรมจริยธรรม ๒.๒ เรื่องรำวเกี่ยวกับบุคคลและสถำนที่แวดล้อมเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน และบุคคลต่าง ๆ ที่เด็กต้องเกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจ้าวัน สถานที่ ส้าคัญ วันส้าคัญ อาชีพของคนในชุมชน ศาสนา แหล่งวัฒนธรรมในชุมชน สัญลักษณ์ส้าคัญของชาติไทยและการ ปฏิบัติตามวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเป็นไทย หรือแหล่งเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นอื่น ๆ ๒.๓ ธรรมชำติรอบตัว เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับชื่อ ลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงและ ความสัมพันธ์ของมนุษย์ สัตว์ พืช ตลอดจนการรู้จักเกี่ยวกับดิน น้้า ท้องฟ้า สภาพอากาศ ภัยธรรมชาติ แรงและ พลังงานในชีวิตประจ้าวันที่แวดล้อมเด็ก รวมทั้งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการรักษาสาธารณสมบัติ ๒.๔ สิ่งต่ำง ๆ รอบตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมายใน ชีวิตประจ้าวัน ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการใช้หนังสือและตัวหนังสือ รู้จักชื่อ ลักษณะ สี ผิวสัมผัส ขนาด รูปร่าง รูปทรง ปริมาตร น้้าหนัก จ้านวน ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงและความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เวลา เงิน ประโยชน์ การใช้งาน และการเลือกใช้สิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะ การคมนาคม เทคโนโลยีและการสื่อสารต่าง ๆ ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจ้าวันอย่างประหยัด ปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อม
ตำรำงวิเครำะห์สำ๑.พัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย มำตรฐำนที่ ๑ ร่ำงกำยเจริญเติบโตตำมวัยเด็กมีสุขนิสัยที่ดี มารฐานตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรียนรู้ อายุ ๓-๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี สาระที่ควรรู้ อายุ ๓-๔ ปี พัฒนาการด้านร่างกาย มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๑ มีน้้าหนักและ ส่วนสูงตาม เกณฑ์ ๑.๑.๑ น้้าหนัก และส่วนสูงตาม เกณฑ์ของกรม อนามัย ๑.๑.๑ น้้าหนัก และส่วนสูงตาม เกณฑ์ของกรม อนามัย ๑.๑.๑ น้้าหนัก และส่วนสูงตาม เกณฑ์ของกรม อนามัย ๑. การดูแล สุขภาพอนามัย ที่ดี ๒.การชั่ง น้้าหนักวัด ส่วนสูง ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๒ มีสุขภาพ อนามัยสุขนิสัย ที่ดี ๑.๒.๑ ยอม รับประทาน อาหารที่มี ประโยชน์และ ดื่มน้้าสะอาด เมื่อมีผู้ชี้แนะ ๑.๒.๑ รับประทาน อาหารที่มี ประโยชน์และ ดื่มน้้าสะอาดได้ ด้วยตนเอง ๑.๒.๑ รับประทาน อาหารที่มี ประโยชน์ได้ หลายชนิดและ ดื่มน้้าสะอาดได้ ด้วยตนเอง ๑. ความส้าคัญ และความ จ้าเป็นของ อาหาร ๒. อาหารที่มี ประโยชน์ ๓. สุขนิสันใน การบริโภค อาหารและน้้า
๓๑ หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่เขต 2 ระกำรเรียนรู้รำยปี หน่วยการจัด ประสบการณ์ส้าคัญ ประสบการณ์ อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี ๑. การดูแล สุขภาพอนามัย ที่ดี ๒.การชั่ง น้้าหนักวัด ส่วนสูง ๑. การดูแล สุขภาพอนามัย ที่ดี ๒.การชั่ง น้้าหนักวัด ส่วนสูง ๑.๑.๓(๑).การปฏิบัติตนตาม สุขอนามัย สุขนิสัยที่ดีในกิจวัตร ประจ้าวัน อาหารดีมี ประโยชน์ ข้าว หนูท้าได้ ๑. ความส้าคัญ และความ จ้าเป็นของ อาหาร ๒. อาหารหลัก ๕ หมู่ ๓. สุขนิสันใน การบริโภค อาหารและน้้า ๑. ความส้าคัญ และความ จ้าเป็นของ อาหาร ๒. อาหารหลัก ๕ หมู่ ๓. สุขนิสันใน การบริโภค อาหารและน้้า ๑.๑.๑(๑) การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ ๑.๑.๑(๒) การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ ที่ ๑.๑.๑(๓) การเคลื่อนไหวพร้อม วัสดุ ๑.๑.๓(๑) การปฏิบัติตนตาม สุขอนามัย สุขนิสัยที่ดีในกิจวัตร ประจ้าวัน ๑.๑.๑(๔) การเคลื่อนไหวที่ใช้การ ประสานสัมพันธ์ของการใช้ ปฐมนิเทศ ครอบครัวมีสุข ปลอดภัยไว้ก่อน ตัวเรา หนูท้าได้ ข้าว อาหารดีมี ประโยชน์ ฝน
๔. ชื่อและ หน้าที่อวัยวะ ของร่างกาย ๕. สุขบัญญัติ ๖.การล้างมือให้ ถูกวิธี๗ ขั้นตอน ๗. การดูแล สุขอนามัย มารฐานตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรียนรู้ อายุ ๓-๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี สาระที่ควรรู้ อายุ ๓-๔ ปี พัฒนาการด้านร่างกาย มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี ๑.๒.๒ ล้างมือ ก่อนรับประทาน อาหารและ หลังจากใช้ ห้องน้้าห้องส้วม เมื่อมีผู้ใหญ่ ชี้แนะ ๑.๒.๒ ล้างมือ ก่อนรับประทาน อาหารและ หลังจากใช้ ห้องน้้าห้องส้วม ด้วยตนเอง ๑.๒.๒ ล้างมือ ก่อนรับประทาน อาหารและ หลังจากใช้ ห้องน้้าห้องส้วม ด้วยตนเอง ๘. การดูแล ตนเองให้ ปลอดภัยจาก การอันตรายใน การเล่น ๙ สิ่งที่อาจเกิด อันตรายกับเด็ก
๓๒ หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่เขต 2 ๔. ชื่อและ หน้าที่อวัยวะ ของร่างกาย ๕. สุขบัญญัติ ๖.การล้างมือให้ ถูกวิธี๗ ขั้นตอน ๗. การดูแล สุขอนามัย ๔. ชื่อและ หน้าที่อวัยวะ ของร่างกาย ๕. สุขบัญญัติ ๖.การล้างมือให้ ถูกวิธี๗ ขั้นตอน ๗. การดูแล สุขอนามัย กล้ามเนื้อมัดใหญ่ในการการขว้าง การจับ การโยน การเตะ ๑.๑.๑(๕) การเล่นเครื่องเล่น สนามอย่างอิสระ ๑.๑.๔(๑) การปฏิบัติตนตาม กิจวัตรประจ้าวัน หน่วยการจัด ประสบการณ์ส้าคัญ ประสบการณ์ อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี ๘. การดูแล ตนเองให้ ปลอดภัยจาก การอันตรายใน การเล่น ๙ สิ่งที่อาจเกิด อันตรายกับเด็ก ๑๐ การปฏิบัติ ตนเมื่อเกิด อุบัติเหตุ เจ็บป่วย พลัด ๘. การดูแล ตนเองให้ ปลอดภัยจาก การอันตรายใน การเล่น ๙ สิ่งที่อาจเกิด อันตรายกับเด็ก ๑๐ การปฏิบัติ ตนเมื่อเกิด อุบัติเหตุ เจ็บป่วย พลัด ๑.๑.๔(๒) การฟังนิทาน เรื่องราว เหตุการณ์เกี่ยวกับการป้องกันและ รักษาความปลอดภัย ๑.๑.๔(๓) การเล่นเครื่องเล่นอย่าง ปลอดภัย ๑.๑.๕(๑) การเคลื่อนไหวเพื่อ ควบคุมตนเองไปในทิศทาง ระดับ และพื้นที่ ๑.๑.๕(๒) การเคลื่อนไหวข้ามสิ่ง กีดขวาง ปฐมนิเทศ โรงเรียน ตัวเรา หนูท้าได้ ครอบครัว อาหารดีมี ประโยชน์ ข้าว ปลอดภัยไว้ก่อน ของเล่นของใช้ รู้รอบปลอดภัย
๑.๑.๓ นอน พักผ่อนเป็น เวลา ๑.๑.๓ นอน พักผ่อนเป็น เวลา ๑.๑.๓ นอน พักผ่อนเป็น เวลา ๑.๒.๔ ออก ก้าลังกายเป็น เวลา ๑.๒.๔ ออก ก้าลังกายเป็น เวลา ๑.๒.๔ ออก ก้าลังกายเป็น เวลา
๓๓ หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่เขต 2 หลงหรือพบคน แปลกหน้า หลงหรือพบคน แปลกหน้า ๑.๓.๑(๑) การช่วยเหลือตนเองใน กิจวัตรประจ้าวัน ๑.๑.๓(๓) การประกอบอาหาร ไทย ๑.๔.๑(๓) การฟังเพลง นิทาน ค้า คล้องจอง บทร้อยกรองหรือ เรื่องราวต่างๆ ๑.๔.๑(๑๐) การอ่านหนังสือภาพ นิทาน หลากหลายประเภท/ รูปแบบ
มารฐานตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรียนรู้ อายุ ๓-๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี สาระที่ควรรู้ อายุ ๓-๔ ปี พัฒนาการด้านร่างกาย มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๓ รักษาความ ปลอดภัยของ ตนเองและผู้อื่น ๑.๓.๑ เล่นและ ท้ากิจกรรม อย่างปลอดภัย เมื่อมีผู้ชี้แนะ ๑.๓.๑ การเล่น ท้ากิจกรรม อย่างปลอดภัย ด้วยตนเอง ๑.๓.๑ การเล่น ท้ากิจกรรม อย่างปลอดภัย ด้วยตนเอง ๑. การเล่น กลางแจ้ง ๒. การเล่นกม การละเล่นต่างๆ ๓. การดูแล ตนเองให้ ปลอดภัยจาก อันตรายในการ เล่น
๓๔ หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่เขต 2 หน่วยการจัด ประสบการณ์ส้าคัญ ประสบการณ์ อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี ๑. การเล่น กลางแจ้ง ๒. การเล่นกม การละเล่นต่างๆ ๓. การดูแล ตนเองให้ ปลอดภัยจาก อันตรายในการ เล่น ๔. การปฏิบัติ ตนเมื่อเกิด อุบัติเหตุ เจ็บป่วย พลัด หลงหรือพบคน แปลกหน้า ๑. การเล่น กลางแจ้ง ๒. การเล่นกม การละเล่นต่างๆ ๓. การดูแล ตนเองให้ ปลอดภัยจาก อันตรายในการ เล่น ๔. การปฏิบัติ ตนเมื่อเกิด อุบัติเหตุ เจ็บป่วย พลัด หลงหรือพบคน แปลกหน้า ๑.๑.๑(๕) การเล่นครื่องเล่นสนาม อย่างอิสระ ๑.๑.๔(๑) การปฏิบัติตนให้ ปลอดภัยในกิจวัตรประจ้าวัน ๑.๑.๔(๒) การฟังนิทานเรื่องราว เหตุการณ์เกี่ยวกับการป้องกันและ รักษาความปลอดภัย ๑.๑.๔(๓) การเล่นเครื่องเล่น อย่างปลอดภัย ๑.๑.๔(๔) การเล่นบทบาทสมมุติ เหตุการณ์ต่างๆ ๑.๓.๔(๑) การร่วมก้าหนด ข้อตกลงของห้องเรียน ๑.๓.๔(๒) การปฏิบัติตนเป็น สมาชิกที่ดีของห้องเรียน ปฐมนิเทศ โรงเรียนของเรา ตัวเรา หนูท้าได้ ฝน ปลอดภัยไว้ก่อน รักเมืองไทย ของเล่นของใช้ ชุมชนของเรา หิน ดิน ทราย การคมนาคม รู้รอบปลอดภัย แรงและ พลังงาน รักการอ่าน
มารฐานตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรียนรู้อายุ ๓-๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี สาระที่ควรรู้ อายุ ๓-๔ ปี พัฒนาการด้านร่างกาย มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรง ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และประสานสตบช.๒.๑ เคลื่อนไหว ร่างกายอย่าง คล่องแคล่ว สัมพันธ์และทรง ตัวได้ ๒.๑.๑ เดินลง บันไดตามแนวที่ ก้าหนดได้ ๒.๑.๑ เดินต่อ เท้าไปข้างหน้า เป็นเส้นตรง โดยไม่ต้อง กางเขน ๒.๑.๑ เดินต่อ เท้าไปข้างหน้า เป็นเส้นตรง โดยไม่ต้อง กางเขน ๑. การเดินช้า เดินเร็ว ๒. การเดินทรงตัว ๓. ทิศ/ ข้างหน้า/ข้าง หลัง/ข้างๆ ๔. สูง ต่้า ๕. กระโดดขา เดียว ๖. การวิ่ง ๗. ระยะและ ทิศทาง ๘. การับลูกบอล
๓๕ หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่เขต 2 รู้ หน่วยการจัด ประสบการณ์ส้าคัญ ประสบการณ์ อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี สัมพันธ์กัน ล ๑. การเดินช้า เดินเร็ว ๒. การเดินทรง ตัว ๓. ทิศ/ ข้างหน้า/ข้าง หลัง/ข้างๆ ๔. สูง ต่้า ๕. กระโดดขา เดียว ๖. การวิ่งก้าว กระโดด ๗. การวิ่ง ๘. ระยะและ ทิศทาง ๙. การับลูกบอล ๑. การเดินช้า เดินเร็ว ๒. การเดินทรง ตัว ๓. ทิศ/ ข้างหน้า/ข้าง หลัง/ข้างๆ ๔. สูง ต่้า ๕. กระโดดขา เดียว ๖. การวิ่งก้าว กระโดด ๗. การวิ่ง ๘. ระยะและ ทิศทาง ๙. การับลูกบอล กระดอนลงพื้น ๑.๑.๑(๑) การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ ๑.๑.๑(๒) การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ ๑.๑.๑(๓) การเคลื่อนไหวพร้อม วัสดุอุปกรณ์ ๑.๑.๑(๑) การเคลื่อนไหวที่ใช้การ ประสานสัมพันธ์ของการใช้ กล้ามเนื้อมัดใหญ่ในการขว้าง การ จับ การโยน การเตะ ๑.๑.๑(๕) การเล่นเครื่องเล่น สนามอย่างอิสระ ๑.๑.๕(๒) การเคลื่อนไหวข้ามสิ่ง กีดขวาง ปลอดภัยไว้ก่อน วันเฉลิมพระชน พรรษา (๒๘ กรกฎาคม) วันแม่ รักเมืองไทย ต้นไม้ที่รัก หิน ดิน ทราย ลอยกระทง ขนาด รูปร่าง รูปทรง กลางวัน กลางคืน
มารฐานตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรียนรู้ อายุ ๓-๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี สาระที่ควรรู้ อายุ ๓-๔ ปี อพัฒนาการด้านร่างกาย มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรง ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และประสานสัมพั๒.๑.๒ กระโดด สองขาขึ้นลงอยู่ กับที่ได้ ๒.๑.๒ กระโดด ขาเดียวอยู่กับที่ ได้โดยไม่เสีย การทรงตัว ๒.๑.๒ กระโดด ขาเดียวไป ข้างหน้าได้อย่าง ต่อเนื่องโดยไม่ เสียการทรงตัว ๒.๑.๓วิ่งแล้ว หยุดได้ ๒.๑.๓วิ่งหลบ หลีกสิ่งขีดขวาง ได้ ๒.๑.๓วิ่งหลบ หลีกสิ่งขีดขวาง ได้อย่าง คล่องแคล่ว ๒.๑.๔ รับลูก บอลโดยใช้มือ และล้าตัวช่วย ๒.๑.๔ รับลูก บอลโดยใช้มือ ทั้งสองข้าง ๒.๑.๔ รับลูก บอลที่กระดอน ขึ้นจากพื้นได้
๓๖ หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่เขต 2 หน่วยการจัด ประสบการณ์ส้าคัญ ประสบการณ์ อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี พันธ์กัน วันขึ้นปีใหม่ วันเด็กวันครู แรงและ พลังงาน เสียงรอบตัว ฤดูร้อน
มารฐานตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓-๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี สาระที่ควรรู้ อายุ ๓-๔ ปี พัฒนาการด้านร่างกาย มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรง ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และประสานสัมตบช.๒.๒ ใช้ มือ-ตา ประสาน สัมพันธ์กัน ๒.๒.๑ ใช้ กรรไกรตัด กระดาษขาด จากกันโดยใช้ มือเดียว ๒.๒.๑ ใช้ กรรไกรตัด กระดาษตาม แนวเส้นตรงได้ ๒.๒.๑ ใช้ กรรไกรตัด กระดาษตาม แนวเส้นโค้งได้ ๑. การจับ กรรไกร ๒. การใช้ กรรไกร ๓. การตัด กระดาษตาม แนวเส้น
๓๗ หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่เขต 2 สาระการเรียนรู้ หน่วยการจัด ประสบการณ์ส้าคัญ ประสบการณ์ อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี มพันธ์กัน ๑. การจับ กรรไกร ๒. การใช้ กรรไกร ๓. การตัด กระดาษตาม แนวเส้น ๑. การจับ กรรไกร ๒. การใช้ กรรไกร ๓. การตัด กระดาษตาม แนวเส้น ๑.๑.๒.(๕) การหยิบจับ การใช้ กรรไกร การฉีก การตัด การปะ และการร้อยวัสดุ โรงเรียนของเรา ตัวเรา ครอบครัวมีสุข อาหารดีมีประ โยขน์ ฝน ข้าว
๔. การตัดภาพ ๕. การจับสีที่ ถูกต้อง ๖.การจับดินสอ ที่ถูกต้อง ๗. รูปทรง เรขาคณิต๒ มิติ และ ๓ มิติ ๘. วิธีการร้อย เชือก ๙. แบบรูป ๑๐. รูปทรง เรขาคณิต ๒ มิติ และ ๓ มิติ ๒.พัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จิตใจ มำตรฐำนที่ ๓ มีสุขภำพจิตดีและมีควำมสุข มาตรฐาน/ตัว บ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรียนรู้ อายุ ๓-๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี สาระที่ควรเรียนรู้ อายุ ๓-๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อปี
๓๘ หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่เขต 2 ๔. การตัดภาพ ๕. การจับสีที่ ถูกต้อง ๖.การจับดินสอ ที่ถูกต้อง ๗. รูปทรง เรขาคณิต๒ มิติ และ ๓ มิติ ๘. วิธีการร้อย เชือก ๙. แบบรูป ๑๐. รูปทรง เรขาคณิต ๒ มิติ และ ๓ มิติ ๔. การตัดภาพ ๕. การจับสีที่ ถูกต้อง ๖.การจับดินสอ ที่ถูกต้อง ๗. รูปทรง เรขาคณิต๒ มิติ และ ๓ มิติ ๘. วิธีการร้อย เชือก ๙. แบบรูป ๑๐. รูปทรง เรขาคณิต ๒ มิติ และ ๓ มิติ ปลอดภัยไว้ก่อน ของเล่นของใช้ ชุมชน ต้นไม้ที่รัก สัตว์น่ารัก ลอยกระทง กลางวัน กลางคืน เศรษฐกิจ พอเพียง รูปร่างรูปทรง โลกสวยด้วยสี หน่วยการจัด ประสบการณ์ส้าคัญ ประสบการณ์ อายุ ๕-๖ ปี
พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข ตัวบ่งชี้ที่ ๓.๑ แสดงออกทาง อารมณ์อย่าง เหมาะสม ๓.๑.๑ แสดง อารมณ์ ความรู้สึก ได้ เหมาะสม กับบาง สถานการณ์ ๓.๑.๑ แสดง อารมณ์ ความรู้สึกได้ ตาม สถานการณ์ ๓.๑.๑ แสดง อารมณ์ ความรู้สึก ได้ สอดคล้อง กับ สถานการณ์ อย่าง เหมาะสม ๑.การ แสดง ความรู้สึก และ อารมณ์ ของตน ๑.การ แสดง ความรู้สึก และ อารมณ์ ของตน ๑แคแอข
๓๙ หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่เขต 2 ๑.การ แสดง ความรู้สึก และ อารมณ์ ของตน ๑.๒.๑(๑) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดง ปฏิกิริยาโต้ตอบเสียงดนตรี ๑.๒.๑(๒) การเล่นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ ๑.๒.๑(๓) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี ๑.๒.๑(๔) การเล่นบทบาทสมมติ ๑.๒.๑(๕) การท้ากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ ๑.๒.๑(๖) การสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม ๑.๒.๒(๑) การเล่นอิสระ ๑.๒.๒(๒) การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ ๑.๒.๒(๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์/มุมเล่นต่างๆ ๑.๒.๒(๔) การเล่นนอกห้องเรียน ๑.๒.๔(๑) การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น ๑.๒.๔(๒) การเล่นบทบาทสมมติ ๑.๒.๔(๓) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี ๑.๒.๔(๔) การร้องเพลง ๑.๒.๔(๕) การท้างานศิลปะ ๑.๒.๕(๑) การปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ตามความสามารถ ของตนเอง ๑.๒.๕(๒) การแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นมีความสุข เห็นใจ เมื่อผู้อื่นเศร้าหรือเสียใจและการช่วยเหลือปลอบโยนเมื่อ ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ -ปฐมนิเทศ -โรงเรียนของ เรา -ตัวเรา -ครอบครัวมีสุข -ของเล่นของใช้ -หิน ดิน ทราย -สัตว์น่ารัก -การคมนาคม -ลอยกระทง -ค่านิยมไทย -วันชาติ -เทคโนโลยีและ การสื่อสาร -สนุกกับตัวเลข -โลกสวยด้วย สีสัน -เสียงรอบตัว -ฤดูหนาว
มาตรฐาน/ตัว บ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรียนรู้ อายุ ๓-๔ ปี อายุ ๔-๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี สาระที่ควรเรียนรู้ อายุ ๓-๔ ปี อายุ ๔-๕พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข ตัวบ่งชี้ที่ ๓.๒ มีความรู้สึกที่ดี ต่อตนเองและ ผู้อื่น ๓.๒.๑ กล้าพูด กล้า แสดงออก ๓.๒.๑ กล้า พูดกล้า แสดงออก อย่าง เหมาะสมบาง สถานการณ์ ๓.๑.๑กล้า พูดกล้า แสดงออก อย่าง เหมาะสม ตาม สถานการณ์ ๑.การพูด/ เล่าอธิบายใน สถานการณ์ ต่าง ๆ ๒.การ แสดงออกใน กิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ ๓.มารยาทใน การพูด ๔.มารยาทใน การเล่น ๕.การเห็น คุณค่าของ ตนเอง ๖. ความสามารถ ของตนเอง ๗.การเข้าใจ ความรู้สึก ของผู้อื่น ๑.การพูเรื่องอธิบสถานกาๆ ๒.การ แสดงออกิจกรรมเรียนรู้ต่า๓.มารยาการพูด ๔.มารยาการเล่น ๕.การเห็คุณค่าขอตนเอง ๖. ความสาของตนเ๗.การเข้ความรู้สึผู้อื่น
๔๐ หลักสูตรชั้นเรียนระดับชั้นอนุบาลปี ที่ 3 โรงเรียนชุมชนบา้นน ้าดิบ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่เขต 2 หน่วยการจัด ประสบการณ์ ประสบการณ์ส้าคัญ ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี ด/เล่า บายใน ารณ์ต่าง อกใน มการ าง ๆ าทใน าทใน ห็น อง ามารถ อง ข้าใจ สึกของ ๑.การพูด/เล่าเรื่อง อธิบายใน สถานการณ์ต่าง ๆ ๒.การแสดงออกใน กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ ๓.มารยาทในการ พูด ๔.มารยาทในการ เล่น ๕.การเห็นคุณค่า ของตนเองและ ผู้อื่น ๖.ความสามารถ ของตนเอง ๗.การเข้าใจ ความรู้สึกของผู้อื่น ๘.วิธีการแสดง ความยินดี ๙.วิธีการ ปลอบโยน ๑.๒.๑(๑) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ เสียงดนตรี ๑.๒.๑(๒) การเล่นเครื่องดนตรีประกอบ จังหวะ ๑.๒.๑(๓) การเคลื่อนไหวตาม เสียงเพลง/ดนตรี ๑.๒.๑(๔) การเล่นบทบาทสมมติ ๑.๒.๑(๕) การท้ากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ ๑.๒.๑(๖) การสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม ๑.๒.๒(๑) การเล่นอิสระ ๑.๒.๒(๒) การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ ๑.๒.๒(๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์/ มุมเล่นต่าง ๆ ๑.๒.๒(๔) การเล่นนอกห้องเรียน ๑.๒.๓(๒) การฟังนิทานเกี่ยวกับ คุณธรรม จริยธรรม ๑.๒.๔(๑) การสะท้อนความรู้สึกของ ตนเองและผู้อื่น ๑.๒.๔(๒) การเล่นบทบาทสมมติ -หนูท้าได้ -ครอบครัวมี สุข -วันเฉลิมพระ ชนมพรรษา (๒๘ ก.ค.) -วันแม่ -รักเมืองไทย -ชุมชน -การ คมนาคม -วันลอย กระทง -ค่านิยมไทย -วันชาติ -วันขึ้นปีใหม่ -วันเด็กวันครู -ฤดูร้อน