17. ผูเ้ รยี นมีคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ตามหลกั สูตรแกนกลางขั้นพื้นฐานไดแ้ ก่ มีสขุ ภาพกาย
และสุขภาพจิตทดี่ ี มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยมท่ีพงึ ประสงค์ตามแนวปรชั ญาพระราชทานเศรษฐกิจ
พอเพยี ง มีความใฝ่รแู้ ละเรยี นรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่องและมคี วามสามารถคดิ เปน็ ทาเป็นในระดบั ดมี าก โดยมีการ
พฒั นาใหบ้ รรลุตามปรัชญา วิสัยทศั น์ และพันธกจิ ของการจัดตง้ั สถานศึกษาและการพัฒนาตามจุดเน้นและ
จุดเด่นที่ส่งผลสะท้อนเปน็ เอกลกั ษณข์ องสถานศึกษาทีช่ ดั เจนมาก
18. สถานศกึ ษามกี ารจดั ระบบการบริหารจดั การที่มีประสทิ ธิภาพสามารถสง่ เสรมิ พฒั นา
สถานศึกษาเพ่อื ยกระดับมาตรฐานรักษามาตรฐานและพัฒนาสู่ความเปน็ เลิศทส่ี อดคล้องกบั แนวทางการ
ปฏิรูปการศกึ ษาสว่ นของการพฒั นาตามแนวปรชั ญาพระราชทานเศรษฐกิจพอเพยี งใหแ้ ก่นกั เรยี นไดอ้ ย่างมี
ประสิทธิภาพ
19. มีการกาหนดวิสยั ทศั น์ เป้าหมาย นโยบายและยุทธศาสตรโ์ ดยใหท้ ุกคนมีส่วนรว่ ม มี
โครงสร้างการบริหารงานชดั เจนและยืนหยนุ่ ได้ มีการกระจายงานตามอานาจหนา้ ทขี่ องโครงสรา้ ง
20. โรงเรียนมีสภาพแวดลอ้ มท่ีเหมาะสมตอ่ การจัดการเรยี นรู้ มแี หลง่ เรียนรู้ทีห่ ลากหลาย
บริเวณโรงเรียนโดยรอบสะอาด รม่ ร่นื สวยงาม
5. จดุ ควรพัฒนำ
1. นักเรียนโดยสว่ นใหญ่มีฐานะยากจน มาจากครอบครวั เกษตรกร ทาใหต้ อ้ งใชเ้ วลาสว่ น
หนึง่ ในการช่วยเหลอื ผู้ปกครองในการทางาน ทาให้นักเรียนไมไ่ ด้ทบทวนบทเรียนเมื่อกลับบ้าน
2. สภาพการรับรแู้ ละเรยี นรขู้ องผเู้ รียนเป็นไปได้ช้า เนื่องจากพนื้ ฐานดา้ นวิชาการเปน็ ไปตาม
สภาพสังคมและสงิ่ แวดล้อมซงึ่ เป็นสังคมชนบทและผู้ปกครองโดยสว่ นใหญ่ประกอบอาชพี เกษตรกร
3. เครอื่ งมือและอปุ กรณก์ ารเรยี นการสอนดา้ นการงานอาชีพ และเทคโนโลยี ยังไม่เพยี งพอ
เช่น เครือ่ งคอมพิวเตอร์ หอ้ งปฏิบัตกิ ารท่ีขาดงบประมาณในการซอ่ มบารุง
4. ครูมงี านอืน่ ๆนอกเหนอื จากการเรยี นการสอนมากเกนิ ไป
5. ระบบอนิ เตอร์เนต็ มีไม่เพยี งพอ ไมเ่ สถยี รและและความเรว็ อินเตอร์เน็ตชา้ มาก ทาให้
การจดั การเรียนการสอนไม่ราบร่ืน
6.หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารต่างๆขาดการซอ่ มบารงุ จัดไมเ่ ป็นระบบ ใชง้ านไม่คมุ้ ค่า บางงานหรอื บาง
กิจกรรมมอี ุปกรณ์ไม่เพียงพอ
6. แนวทำงกำรพฒั นำ
1. มีทนุ การศึกษาใหก้ บั นักเรียนท่เี รยี นดี และมีฐานะยากจนใหไ้ ดร้ ับการชว่ ยเหลอื
2. จดั ระบบนเิ ทศ กากับตดิ ตามงาน เปน็ ระยะอย่างต่อเนือ่ งและเปน็ ปัจจุบัน
3. จดั การประเมินผลการปฏิบัติงานเพ่ือทบทวนและหาแนวทางเพอื่ พัฒนาอย่างตอ่ เนื่อง
และยง่ั ยนื
4. สง่ เสรมิ ให้ครไู ด้มโี อกาสแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ร่วมคิด รว่ มพัฒนากระบวนการจดั การเรียน
การสอน
5. โรงเรยี นสง่ เสรมิ ด้านงบประมาณในการจดั ทาเอกสารและสื่อการเรียนการสอน
ทห่ี ลากหลายในทางสร้างสรรค์
6.การสร้างทมี งานในการบริหารจัดการโรงเรยี น ใหเ้ ป็นไปตามความสมคั รใจ ความสนใจ
ตรงกับความสามารถเปิดโอกาสให้บุคคลทกุ ฝ่ายมีส่วนรว่ ม ในการร่วมคิด รว่ มวางแผนและร่วมปฏบิ ัตงิ าน
ให้เป็นไปตามระบบ ทันตามกาหนดเวลา
7. ขอความร่วมมอื กบั ผู้ปกครองและชุมชนเพอ่ื ร่วม จัดทาหลักสูตรและร่วมวัดประเมินผล
พัฒนาการของนักเรยี น
8.จัดจา้ งบุคลากรเฉพาะงานเพม่ิ เพอ่ื ลดภาระงานทน่ี อกเหนือจากงานสอนของครู
มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรของผู้บรหิ ำรสถำนศกึ ษำ
ระดับคุณภำพ : ดเี ยยี่ ม
1. กระบวนกำรพฒั นำ
โรงเรยี นหว้ ยราชพทิ ยาคมได้ดาเนินการวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาผลการดาเนนิ งานและการ
จัดการศกึ ษาในปกี ารศึกษาที่ผา่ นมา โดยการศกึ ษาข้อมลู ยอ้ นหลงั อยา่ งน้อย 3 ปีการศกึ ษา ศกึ ษาบริบท
รอบด้านของโรงเรยี น ศกึ ษาจากข้อมลู สารสนเทศจากผลการนิเทศ ตดิ ตาม ประเมินการจดั การศึกษาตาม
นโยบายการปฏิรปู การศึกษา และจัดประชุมระดมความคดิ เห็น จากบุคลากรในสถานศกึ ษา คณะกรรมการ
เพื่อวางแผนรว่ มกันกาหนดเปา้ หมาย วสิ ยั ทศั น์ กาหนดพนั ธกจิ กลยุทธ์ และปรับแผนการดาเนินงานในการ
จัดการศึกษาของสถานศึกษาเพื่อพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี นอยตู่ ลอดเวลา มกี ารปรับแผนพัฒนาคุณภาพจัด
การศึกษา แผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี ใหส้ อดคลอ้ งกับสภาพปัญหา ความตอ้ งการพัฒนา และนโยบายการ
ปฏิรูปการศึกษา พร้อมทงั้ จัดหาทรัพยากร จัดสรรงบประมาณ มอบหมายงานใหผ้ ูร้ ับผิดชอบ ดาเนนิ การ
พฒั นาตามแผนงานเพื่อใหบ้ รรลุเปา้ หมายทก่ี าหนดไว้ มกี ารดาเนินการนิเทศ กากับ ติดตาม ประเมนิ ผลการ
ดาเนินงาน และสรุปผลการดาเนินงาน
2. ผลกำรดำเนินงำน
2.1 โรงเรียนห้วยราชพิทยาคมได้มีการกาหนดเปา้ หมาย วสิ ยั ทศั นแ์ ละพนั ธกิจ
สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความตอ้ งการพัฒนาของสถานศึกษา นโยบายการปฏริ ปู การศึกษา ความ
ต้องการของชมุ ชน ท้องถิ่น และสอดคลอ้ งกับแนวทางการปฏิรปู ตามแผนการศกึ ษาชาติ ดงั นี้
1. วสิ ยั ทศั น์ ( Vision ) ของโรงเรยี น
โรงเรยี นหว้ ยราชพิทยาคม มุ่งสรา้ งเยาวชนให้เปน็ บุคคลแหง่ คุณธรรม คุณภาพและคณุ คา่ รกั
และภาคภมู ใิ จในท้องถ่นิ รว่ มอนรุ กั ษ์สืบสานวฒั นธรรม รักธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม รักการเรยี นรูต้ ลอด
ชีวิต มคี วามรู้อันเป็นสากล บนพื้นฐานของความเปน็ ไทย รว่ มสรา้ งชมุ ชนเขม้ แขง็ ตามปรชั ญาพระราชทาน
เศรษฐกิจพอเพียง นาสู่ การสรา้ งชาตไิ ทยใหเ้ จริญรงุ่ เรอื งสบื ไป
2. พันธกิจ ( Mission )
2.1 พัฒนาระบบการบริหารจดั การใหเ้ กดิ ผลสัมฤทธอ์ิ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ในดา้ นบุคลากร
งบประมาณการจัดการ
2.2 พัฒนาครูให้ไดต้ ามเกณฑ์มาตรฐานวชิ าชีพ
2.3 พัฒนาผู้เรยี นให้ไดค้ ุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการศกึ ษาชาติ มคี วามเปน็ ไทย
กา้ วทนั เทคโนโลยี มคี วามเปน็ สากล
2.4 พัฒนาแหล่งเรยี นรภู้ ายในโรงเรยี นให้มคี ุณภาพ เหมาะสมสอดคลอ้ งกับพระราชบัญญตั ิ
การศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542
2.5 ประสานงานกับชุมชนให้มีส่วนรว่ มในการพัฒนาโรงเรียนและชุมชนอย่างต่อเนือ่ ง
และยง่ั ยืน
3. เปำ้ ประสงค์ ( Goal )
ผูเ้ รียนไดร้ บั การพฒั นาอย่างสมดลุ ทางด้านร่างกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ สงั คม มคี ณุ ธรรม
จรยิ ธรรม เปน็ บคุ คลแห่งการเรยี นรู้ และมที กั ษะพื้นฐานทีเ่ พยี งพอตอ่ การดารงตนอยู่ในสงั คมได้อยา่ งเป็น
สขุ ทกุ สถานการณ์ โรงเรียนมรี ะบบการบรหิ ารและจัดการที่มีประสทิ ธภิ าพ มีบรรยากาศที่เออื้ ต่อการ
เรยี นรู้ ชุมชนให้ การสนับสนุนทรพั ยากร ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ภมู ปิ ัญญาไทย ก้าวทันเทคโนโลยี มีความ
เปน็ สากล เพ่อื ให้เปน็ ชมุ ชนเข้มแขง็ และยง่ั ยนื
4. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
2. ซอ่ื สตั ย์สุจริต
3. มีวนิ ัย
4.ใฝ่เรยี นรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มุ่งม่นั ในการทางาน
7. รกั ความเป็นไทย
8. มจี ิตสาธารณะ
5. กลยทุ ธ์หลกั 5 ด้ำน
1. สรา้ งพลงั ขับเคล่อื นให้โรงเรยี นมีระบบบรหิ ารจัดการโรงเรยี นทีด่ ี คล่องตวั มี
ประสทิ ธิภาพ ส่งผลใหน้ กั เรียนพฒั นาศกั ยภาพ มีคณุ ภาพเปน็ ท่ยี อมรับของสังคม
2. พัฒนาหลักสูตรและกระบวนการจดั การเรียนรเู้ ชิงบรู ณาการ ให้ผ้เู รียนได้พัฒนาความรู้
ความสามารถ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละทักษะการดารงชีวติ ไดต้ ามศักยภาพ
3. สรา้ งเสรมิ ศกั ยภาพบุคคลทกุ ระดบั ให้เป็นมอื อาชพี มที กั ษะในการปฏบิ ัติงาน สามารถ
จัดกระบวนการเรยี นรแู้ ละพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษา
4. เพิ่มสมรรถนะของโรงเรยี น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพ่ือจดั
กระบวนการเรยี นร้แู ละบริหารจดั การให้เกดิ ประโยชน์สูงสุด
5. ระดมสรรพกาลัง ภาคีเครอื ข่ายอุปถัมภท์ ่ีเขม้ แข็งอันเกิดจากพลังการมีสว่ นร่วมของ
ชมุ ชน องค์กร ประชาสงั คม ในรูปแบบของอปุ ถมั ภ์และผ้รู ว่ มคดิ รว่ มปฏบิ ัติ รว่ มพฒั นา
2.2 แผนพัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษา แผนปฏิบัติการประจาปี สอดคล้องกับการพฒั นา
ผู้เรยี นทกุ กลุ่มเป้าหมาย มกี ารพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาใหม้ ีความรคู้ วามเชย่ี วชาญ ตาม
มาตรฐานตาแหน่ง ข้อมูลสารสนเทศมีความถกู ตอ้ ง ครบถ้วน ทนั สมยั นาไปประยุกต์ใช้ได้ ดาเนนิ การ
อย่างเป็นระบบ และมีกจิ กรรม จัดสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสงั คมท่กี ระตุน้ ผเู้ รียนใหใ้ ฝ่เรียนรู้
ตลอดจนมีการปรบั แผนพัฒนาคณุ ภาพการจัดการศกึ ษา แผนปฏบิ ัตกิ ารประจาปี ใหส้ อดคล้องกับสภาพ
ปัญหา ความต้องการพัฒนา และนโยบายการปฏิรปู การศึกษาโดยผูม้ ีส่วนได้เสยี มีสว่ นรว่ มในการพัฒนา
และร่วมรับผิดชอบ
ซง่ึ การกาหนดและวางแผนการปฏิบตั กิ ารประจาปี จะทาใหส้ ามารถควบคมุ ตัวแปรที่ท่มี ผี ลทา
ให้การพัฒนางานเป็นไปดว้ ยความถกู ต้องเรียบร้อย และสาเร็จตามวัตถปุ ระสงคท์ ว่ี างไว้ ตลอดจนสามารถ
กาหนดเปา้ หมายหรอื คาดหมายความสาเร็จของงานไดง้ า่ ย เปน็ เครอ่ื งมอื ท่ีใช้ในการบริหารจดั การ
ระบบงานได้ดี มกี ารควบคุมการปฏิบตั งิ าน ความถูกตอ้ งโปร่งใสในการดาเนนิ กจิ กรรมทเ่ี หน็ เปน็ รปู ธรรม
สง่ ผลให้เกดิ ประโยชน์กบั โรงเรียนหว้ ยราชพิทยาคมอย่างเต็มตามศักยภาพ โดยในปกี ารศึกษา 2562
โรงเรยี นห้วยราชพิทยาคม ได้ดาเนนิ กิจกรรมหรือโครงการตามแผนปฏิบัติการประจาปีทุกแผนหรือทุก
โครงการ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100
2.3 สถานศกึ ษามีการนเิ ทศ กากบั ตดิ ตาม และประเมินผลการบริหารและการจดั การศึกษา
ท่เี หมาะสม เป็นระบบและตอ่ เนื่อง เปดิ โอกาสให้ผเู้ กยี่ วขอ้ งมีส่วนรว่ มในการจัดการศกึ ษา
2.4 สถานศกึ ษามีรูปแบบการบริหารและการจัดการเชงิ ระบบ โดยทกุ ฝ่ายมีส่วนร่วม ยึดหลกั
ธรรมาภบิ าล และแนวคดิ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยมุ่งพฒั นาผู้เรียนตามแนวทางปฏิรปู
การศกึ ษา
การบรหิ ารจัดการโรงเรยี นหว้ ยราชพิทยาคม ตามโครงการ “หนึง่ อาเภอหน่งึ โรงเรียนในฝัน” เพอ่ื ให้
การจดั ทาแผนการดาเนินงาน ไปสู่การปฏบิ ัติงานบรรลวุ ัตถุประสงคต์ ามกลยุทธ์ทก่ี าหนด จาเป็นตอ้ ง มีระบบ
และกระบวนการบริหารจดั การโรงเรยี นใหม้ ีประสิทธภิ าพ คล่องตวั เอื้อประโยชน์สูงสุด ในการทางานร่วมกนั
โดยโรงเรยี นห้วยราชพทิ ยาคม แบง่ การบรหิ ารออกเปน็ 4 ฝา่ ย ได้แก่
1) ฝ่ายบริหารทั่วไป
2) ฝา่ ยบรหิ ารงบประมาณ
3) ฝา่ ยบริหารงานบคุ คล
4) ฝา่ ยบริหารวชิ าการ
ในแต่ละฝา่ ยจะมีรองผอู้ านวยการสถานศกึ ษา 1 คน ดูแลประสานงานในฝ่ายของตน
มคี ณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน ผู้ปกครองนกั เรียนเครือข่ายทกุ ระดบั ชั้นเปน็ ผ้ใู ห้คาปรึกษา และ
แนะนาในสงิ่ ท่ตี อ้ งพัฒนา ปรับปรงุ นอกจากนีย้ ังมคี ณะกรรมการนักเรียน บุคลากรในสถานศึกษารว่ ม
ดาเนนิ งาน กาหนดแผนงาน แก้ไขปัญหาและอุปสรรค ตดิ ตามการดาเนินงานภายในโรงเรยี น
นอกจากน้ี โรงเรียนห้วยราชพทิ ยาคมไดย้ ึดแนวทางที่ใชใ้ นการบรหิ ารและจดั การ คือ การมี
สว่ นร่วมและจติ สานกึ ในหนา้ ที่ และความรับผิดชอบตอ่ ภาระหนา้ ท่ี ทไี่ ด้รับมอบหมาย มีความรับผิดชอบท่ี
ตรวจสอบได้ (Accountability) เพอ่ื ให้งานบรรลเุ ปา้ หมายดังน้ี
1. เกดิ ประโยชน์สงู สุดต่อผรู้ ับบรกิ าร
2. เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจองคก์ ร
3. มีประสทิ ธิภาพและคมุ้ ค่า
4. ไมม่ ขี ัน้ ตอนการทางานท่ีซับซอ้ น
5. มีการปรบั เปลีย่ นระบบทกุ ระบบให้ทนั ต่อเหตกุ ารณ์
6. มีการประเมินผลและตรวจสอบอย่างสมา่ เสมอ
การบรหิ ารจดั การ (Good Government) ซึง่ จะนาสโู่ รงเรียนธรรมาภิบาล หรอื “โรงเรียนในฝนั ”
ท่ีคาดหวงั ไดใ้ นที่สดุ
หลักกำรและทฤษฎที ีใ่ ช้ในกำรบรหิ ำรจัดกำรคอื
1. วงจรคุณภาพของ ดร.เดมมิ่ง (P D C A )
2. การบรหิ ารแบบมสี ว่ นรว่ ม (Paticipation Management )
3. การบริหารทม่ี ุง่ ผลสมั ฤทธ์ิ ๖ (Result Based Management RBM )
4. การบริหารแบบมุง่ วัตถุประสงค์ (Management By Objective MBO)
5. การบริหารโดยฐานโรงเรยี น (School Based Management SBM )
6. การบริหารงานโดยใช้หลกั POSDCoRB
7. การบรหิ ารงานตามสถานการณ์
8. การบริหารงานโดยใชห้ ลักไตรลกั ษณ์ คือ
ศีล หนทางแหง่ ความสะอาด
สมาธิ หนทางแหง่ ความสงบ
ปัญญา หนทางแห่งความสวา่ ง
9. การบรหิ ารโดยพฒั นาทว่ั ทั้งองคก์ ร ( Whole School Appoach )
โดยจะนาหลกั การของทุกทฤษฏมี าผสมผสานกนั แบบบูรณาการใหเ้ หมาะสมและยืดหยุน่
ตามความเหมาะสม การทางานแบบมีส่วนร่วม โดยร่วมคดิ รว่ มวางแผน ร่วมปฏิบตั ิของบุคลากรทกุ ระดับ
(Paticipation ) บริหารงานตามวงจรคณุ ภาพ แบบ P D C A ( Plan Do Check Action ) ของ ดร.
เดมมงิ่ ในทกุ กิจกรรมมกี ารดาเนนิ งาน คอื การสรา้ งความตระหนัก และจติ สานกึ ท่ีดีตอ่ การพัฒนา
สถานศึกษาให้กับบุคลากรทุกคน
10. การบริหารงานตามหลัก HRP
2.5 สถานศกึ ษามีการระดมทรัพยากรเพ่ือการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาจากเครอื ข่ายอุปถัมภ์
ส่งผลให้สถานศึกษามสี ่ือ และแหลง่ เรยี นรู้ที่มีคุณภาพ โดยโรงเรยี นหว้ ยราชพิทยาคมมุ่งพัฒนาตัวผเู้ รียน
โดยใช้ สอ่ื นวัตกรรม เทคโนโลยี และกระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ เพ่ือให้ผู้เรยี นไดพ้ ฒั นาเต็มตาม
ศกั ยภาพ มีความรู้ ค่คู ุณธรรม พึ่งพาตนเองได้ สร้างสรรคส์ ังคมใหเ้ ป็นสังคมแห่งความเอ้อื อาทร สมานฉนั ท์
รักธรรมชาติ รักประชาธปิ ไตย รกั อาชพี สุจริต เป็นบคุ คลแห่งการเรียนรู้ มีระเบยี บวนิ ัย มคี วามคิดริเรมิ่
สร้างสรรค์ กล้าแสดงออก มีความเช่อื ม่นั ในตนเอง มสี ขุ ภาพ กาย จิต ดี ก้าวทันเทคโนโลยีท้งั นเ้ี พื่อให้
ผู้เรยี นมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาชาติ ตลอดจนพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาใหไ้ ดร้ ับ
โอกาสการพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่อื ง เพ่ือใหน้ าความร้ทู ไี ดม้ าพัฒนานกั เรียนตอ่ ไป
2.6 การพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ให้ได้รบั การอบรมสมั มา พัฒนาองคค์ วามรูใ้ ห้
เพ่ือนามาใชใ้ นการพัฒนาการเรยี นการสอนและงานที่ได้รบั มอบหมาย โดยในปกี ารศกึ ษา 2561 มีจานวน
ครูที่ได้รบั การอบรมสัมมนาพัฒนาองคค์ วามรู้ จานวน 20 ชั่วโมงต่อปี คดิ เปน็ ร้อยละ 100
2.7 การจัดหาทรพั ยากรและระดมทรัพยากรมาใช้ในการบริหารจัดการโรงเรยี นให้สามารถ
ดาเนนิ กจิ กรรมเปน็ ไปตามแผนท่ีวางไวแ้ ละเกดิ ประสทิ ธิภาพสูงสดุ
2.8 การนเิ ทศ กากับ ติดตาม และประเมินผล คณะครแู ละบุคลากรทางการศึกษาไดร้ ับ
การตดิ ตามและนิเทศการศึกษา ทุกคนทุกภาคเรียน จากผูอ้ านวยการโรงเรียน รองผ้อู านวยการโรงเรยี น
หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ คดิ เป็นรอ้ ยละ 100
สรปุ มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการของผู้บริหารสถานศกึ ษา โรงเรียน
และชุมชนร่วมกัน พฒั นาระบบการบริหารจดั การศกึ ษาของโรงเรยี นใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพอยา่ งตอ่ เนอื่ งและ
ยง่ั ยนื ชมุ ชนเกิดความศรัทธารว่ มคิด ร่วมปฏิบัติ ร่วมพัฒนา รว่ มแก้ปญั หา เพอื่ นาพาโรงเรียนเข้าสู่ระบบ
การประกันคณุ ภาพ โรงเรียนและชมุ ชนรว่ มมอื กนั สรา้ งสรรคพ์ ฒั นาให้ชุมชนเป็นชุมชนทีม่ ีคุณภาพ ชมุ ชน
แหง่ การเรยี นรู้และภมู ปิ ญั ญา ปลอดส่ิงเสพตดิ และอบายมุข ชุมชนทมี่ คี วามเอือ้ อาทร สมานฉันท์ และ
สนั ติสุข
3. ปัจจัยทีส่ ่งผลต่อควำมสำเร็จ
1. ผู้บรหิ าร ครู ผู้ปกครอง นกั เรียน ชมุ ชน ท้งั ภาครัฐและเอกชน รว่ มมือกัน ปฏิบตั ติ น
ตามบทบาทหน้าท่ีดว้ ยความจรงิ ใจ มุ่งม่นั อดทน เสียสละและมคี วามสามคั คกี ลมเกลียวกนั
2. ครูมีความร้คู วามสามารถ มวี ิญญาณของความเป็นครู มปี ัจจัยสง่ เสริมและสนบั สนนุ การ
จัดหาหรือการผลติ สือ่ เคร่ืองมอื ท่ีเหมาะสมต่อการจดั การเรยี นการสอนตามธรรมชาตแิ ต่ละวชิ า
3. ครูสามารถพัฒนาตนเองโดยเรียนในระดบั ปริญญามหาบณั ฑติ เพม่ิ จานวนมากข้นึ และได้
นาความรู้มาพฒั นางานจากวทิ ยฐานะชานาญการเปน็ วทิ ยฐานะชานาญการพิเศษ
4. เครอื ข่าย แหลง่ เรยี นร้ทู ง้ั ในและนอกโรงเรียนเออื้ ตอ่ การจดั การเรยี นรู้
5. ชมุ ชนทงั้ ภาครฐั และเอกชน ร่วมดูแล ส่งเสรมิ สนบั สนนุ เหน็ คุณคา่ การศึกษา
รว่ มดาเนินการกบั สถานศกึ ษา สร้างคนใหเ้ ป็นมนุษยท์ ่ีสมบรู ณ์ ช่วยตนเองและบคุ คลอื่นได้
4. จุดเด่น
โรงเรยี นมกี ารบรหิ ารและการจัดการอยา่ งเป็นระบบ โรงเรยี นไดใ้ ช้เทคนคิ การประชุมท่ี
หลากหลายวิธี เช่น การประชมุ แบบมีสว่ นรว่ ม การประชุมระดมสมอง การประชมุ กลมุ่ เพอื่ ใหท้ ุกฝ่ายมี
สว่ นร่วมในการกาหนดวิสัยทศั น์ พนั ธกิจ เปา้ หมาย ท่ีชัดเจน มกี ารปรับแผนพฒั นาคณุ ภาพการจัด
การศึกษา แผนปฏบิ ัติการประจาปี ท่สี อดคล้องกบั ผลการจัดการศกึ ษา สภาพปญั หา ความตอ้ งการพฒั นา
และนโยบายการปฏิรูปการศึกษา ทมี่ งุ่ เน้นการพฒั นาให้ผ้เู รยี นมคี ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรตู้ าม
หลักสูตรสถานศึกษา ครูผสู้ อนสามารถจดั การเรียนรู้ได้อยา่ งมคี ณุ ภาพ มีการดาเนนิ การนเิ ทศ กากับ
ตดิ ตาม ประเมินผล การดาเนนิ งาน และจดั ทารายงานผลการจัดการศกึ ษา และโรงเรยี นได้ใช้กระบวนวิจัย
ในการรวบรวมข้อมูล เพื่อใชเ้ ปน็ ฐานในการวางแผนพัฒนาคณุ ภาพสถานศึกษา
5. จุดควรพฒั นำ
1. เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองไดม้ ีส่วนร่วมในการเสนอความคดิ เห็นในการจดั การศึกษา
2. สร้างเครอื ข่ายความรว่ มมือของผมู้ ีส่วนเก่ยี วขอ้ งในการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี นให้มี
ความเข้มแขง็ มสี ว่ นร่วมรับผิดชอบตอ่ ผลการจัดการศึกษา และการขบั เคลือ่ นคุณภาพการจัดการศึกษา
3. โครงกำรแตล่ ะโครงกำรควรมงี บประมำณ วัสดุอุปกรณ์ที่เพียงพอต่อกล่มุ เปำ้ หมำย
6. แนวทำงกำรพฒั นำ
1. จัดกจิ กรรมร่วมกับภาคีเครอื ข่าย โดยเชิญคณะกรรมการสถานศกึ ษา ผปู้ กครอง
นักเรยี น ศษิ ย์เกา่ ไดเ้ ข้ารว่ มอย่างน้อยภาคเรยี นละ 2 ครง้ั เพ่อื สรปุ ผลการดาเนินการของโรงเรยี นในชว่ ง
ระยะเวลาทีผ่ า่ นมา
2. ส่งบคุ ลากรเขา้ รว่ มประชมุ อบรม สมั มนา เพื่อเพมิ่ พูนความร้แู ละศักยภาพในดา้ นการ
บริหารองค์กร ปลี ะ 2 ครัง้
3. ระดมทรพั ยากร เพ่อื ใหเ้ พียงพอตอ่ การบริหารจดั การแตล่ ะโครงการและเกิดประโยชน์
สงู สุดต่อกลมุ่ เป้าหมาย
มำตรฐำนท่ี 3 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนที่เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั
ระดับคณุ ภำพ : ดเี ยี่ยม
1. กระบวนกำรพัฒนำ
โรงเรยี นหว้ ยราชพทิ ยาคม ดาเนินการส่งเสรมิ ให้ครจู ดั การเรียนการสอนที่เน้นผเู้ รียน
เป็นสาคัญโดยการดาเนินงาน/กจิ กรรมอยา่ งหลากหลาย ไดแ้ ก่ งานหลักสูตรมีการประชมุ ปฏิบตั ิการ
ปรบั ปรงุ หลกั สูตรสถานศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาสปู่ ระชาคมอาเซียนและมาตรฐานสากล มกี ารบรู ณาการการ
จดั การเรยี นการสอน 8 กลมุ่ สาระ จัดทาหนว่ ยบูรณาการอาเซยี น ส่งเสรมิ ให้ครใู ชห้ ลักเศรษฐกิจพอเพยี ง
สอดแทรกลงในแผนการจัดการเรยี นรู้ทกุ ลุ่มสาระการเรียนรู้ ปรบั โครงสร้างรายวชิ า หนว่ ยการเรียนรู้
เพือ่ ให้สอดคล้องกบั ริบทของโรงเรียนและความต้องการของผ้เู รยี น จดั กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
ปรบั สดั ส่วนคะแนนแต่ละหนว่ ยการเรยี นรูใ้ ห้สอดคล้องกบั การวัดและประเมินผล กาหนดคุณลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์ทส่ี อดคล้องกบั หนว่ ยการเรยี นรู้ สนับสนุนใหค้ รูจดั การเรยี นการสอนทส่ี ร้างโอกาสให้
นักเรยี นทุกคนมสี ว่ นร่วม ไดล้ งมอื ปฏิบัติจรงิ จนสามารถสรุปความร้ไู ด้ด้วยตนเอง จัดการเรียนการสอน
ท่ีเนน้ ทกั ษะการคิด เช่น จัดการเรียนรู้ดว้ ยโครงงาน ครูมีการมอบหมายหน้าท่ีใหน้ ักเรียนจดั ป้ายนิเทศ
และบรรยากาศตามสถานท่ี ตา่ ง ๆ ท้ังภายในห้องเรียนและนอกห้องเรยี น ครูใช้สอ่ื การเรียนการสอน
นวัตกรรม เทคโนโลยี และภูมิปญั ญาทอ้ งถิ่นใหส้ อดคล้องกบั บรบิ ทในแต่ละรายวชิ า สนับสนุนให้ครูไดจ้ ัด
กจิ กรรมเพอื่ พฒั นาตนเองให้มีความรคู้ วามสามารถเพื่อใช้ในกจิ กรรมการเรียนการสอนและเกดิ ความ
สามัคคีในหมคู่ ณะ นอกจากนยี้ งั สนับสนุนใหค้ รูไดเ้ ปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เขา้ รว่ มพัฒนาความรู้
ความสามารถ และทักษะทางวิชาการในเวทีและโอกาสต่างๆ ที่ทางหนว่ ยงานภาครฐั และเอกชนจัดขนึ้ เพื่อ
เสรมิ สรา้ งประสบการณ์ตรงใหก้ บั ผเู้ รยี น ครใู หข้ วัญและกาลังในในการปฏิบัตกิ จิ กรรมของนกั เรยี นเพ่อื
สรา้ งแรงจูงในในการมงุ่ ความสาเร็จทางทางการเรียนและการปฏบิ ตั ติ นทีด่ ีในสงั คม
2. ผลกำรดำเนินงำน
โรงเรยี นหว้ ยราชพิทยาคม ได้มนี โยบายให้ครดู าเนินการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน
โดยเน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั โดยมผี ลการดาเนนิ งาน ดงั นี้
1. ครูมีการวิเคราะหห์ ลกั สตู รสถานศึกษา ปรบั หลกั สูตรให้ทนั สมัยและสอดคลอ้ งกับบรบิ ท
และความตอ้ งการของผเู้ รยี น จากนั้นดาเนินการจดั ทาแผนการจดั การเรยี นรทู้ ุกคน คิดเป็นร้อยละ 100
เพอื่ ใช้เป็นแนวทางในการจดั การเรียนการสอน
2. มีการจดั แผนการเรียนตามความสนใจของนกั เรยี น เพ่ือใหน้ กั เรยี นไดเ้ ลอื กเรียนในส่ิงที่
สนใจและถนัด ตรงความสามารถและนาไปต่อยอดเพื่อประกอบอาชีพในอนาคต ตลอดจนมีการแนะ
แนวทางการศกึ ษาต่อลาจดั หาชอ่ งทางให้กบั นกั เรียนทมี่ ีฐานะยากจนได้เรยี นต่อและทางานไปดว้ ย อาทิ
โครงการ 3 มอ เป็นต้น
3. มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนที่หลากหลาย เน้นการใช้เทคโนโลยแี ละสรา้ งนวตั กรรม
ใหมๆ่ ใหน้ ักเรยี นไดเ้ รียนรู้ เช่น การใชโ้ ปรแกร GSP ในรายวชิ าคณิตศาสตร์ การใช้โปรแกรม Kahoot ใน
รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ การใชน้ วตั กรรมของของการ KKU Smart Learnning ของมหาวิทยาลยั ขอนแก่น
ในรายวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละภาษาองั กฤษ มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนในช่ัวโมงลด
เวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้ และช่วั โมงชมุ นุม โดยกิจกรรมทเ่ี ปิดสอน เปน็ กิจกรรมทนี่ ักเรียนทม่ี ีความสนใจ
เหมือนกัน และรวมกลุ่มกนั เพ่อื ให้ครเู ปดิ สอนในหลักสตู รน้ัน เชน่ สิง่ ประดิษฐว์ ิทยาศาสตร์
การทาอาหาร งานประดษิ ฐ์จากวัสดุเหลอื ใช้ การออกแบบสื่อและการสรา้ งสือ่ กจิ กรรมทางวิชาการ
กจิ กรรมเกีย่ วกับงานเกษตรและงานช่าง เปน็ ตน้
4. ครใู หค้ วามรกั และความในใจดแู ลนกั เรยี นท่สี อนและนักเรียนในทปี่ รกึ ษาชัน้ ครูออกเยย่ี ม
บา้ นนกั เรยี น คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 เพือ่ พบปะผู้ปกครอง และศึกษาข้อมูลพืน้ ฐานของนกั เรียน ทกุ คน
ไม่วา่ จะเป็นสภาพบ้านพกั อาศัย การเดินทาง สภาพความเป็นอย่ขู องนกั เรยี น เพ่อื ใช้ประกอบการดูแล
ชว่ ยเหลอื นักเรียนในกรณที มี่ ปี ญั หาเกิดข้นึ ตอ่ ไป
5. ครไู ด้วเิ คราะห์ผ้เู รียนเป็นรายบุคคล คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 เพอ่ื ศกึ ษาข้อมูลของนักเรียน
แตล่ ะคน หาจุดเด่น จุดท่ีตอ้ งปรับปรุงแกไ้ ขท้งั ผลการเรยี นและพฤติกรรมท่สี อ่ แววว่าจะมคี วามเสียงทจ่ี ะทา
ให้นักเรียนเรียนไมจ่ บ ศกึ ษาความสนใจของผู้เรยี นในด้วนตา่ งๆ หรือข้อมูลด้านความต้องการใหโ้ รงเรียน
ชว่ ยเหลืออะไรบ้าง ตลอดจนครูไดด้ าเนินการหาวิธีการแก้ปัญหาของนักเรียนในทปี่ รึกษาช้นั ทกุ คน
ตลอดระยะเวลาท่นี กั เรยี นศึกษาอยู่ในโรงเรยี นแห่งนี้
6. มกี ารประชมุ ผ้ปู กครองทุกภาคเรียน ภาคเรียนละ 1 ครง้ั เพื่อแจง้ ผลการเรยี น ปัญหา
และอปุ สรรคของนกั เรียนทเ่ี กิดข้นึ ขณะเรียนอยู่ในโรงเรียนแหง่ นี้ ซ่งึ แสดงถงึ การเอาใจใสแ่ ละรว่ ม
แก้ปัญหาร่วมกนั ระหวา่ งผปู้ กครองกับโรงเรยี น
7. นักเรียนได้รบั การส่งเสริมและสนับสนนุ ใหม้ ีโอกาสในการเข้ารว่ มการแข่งขันความรู้
ความสามารถและทกั ษะทางวิชาการ ศิลปะ ดนตรี กฬี าและสนั ทนาการ จนได้รบั รางวลั ท้ังในระดับเขต
พื้นที่การศึกษา ระดบั ภาค และระดบั ประเทศในหลายรายการ ดงั ข้อมูลเบื้องต้นในมาตรฐานที่ 1 ด้าน
คุณภาพผู้เรียน
8. นักเรยี นไดร้ บั การส่งเสรมิ และสนับสนนุ ให้รกั และภูมิใจในความเปน็ ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
รักในวฒั นธรรมประเพณอี ันดีงามของชุมชน เชน่ จดั กิจกรรมบรู ณาการมหกรรรมวา่ วอีสาน เข้าร่วม
ประกวดเทศกาล Buriram Songkran Canival ในนามของอาเภอห้วยราช และได้รับรางวลั ชนะเลิศ 2 ปี
ซ้อน (ปี 2560 และปี 2561) ไดร้ บั เงนิ รางวัล 100,000 บาท กิจกรรมลอยกระทง กิจกรรมแห่เทียน
เข้าพรรษากิจกรรมวันแมแ่ หง่ ชาติ กจิ กรรมทาบุญตกั บาตรวันพ่อแหง่ ชาติ เปน็ ต้น
9. โรงเรียนไดเ้ ขา้ รว่ มโครงการต่างๆ มากมายทจี่ ะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การจดั กิจกรรม
การเรียนการสอนทเี่ นน้ นักเรียนเปน็ สาคญั โดยการส่งครแู ละบุคลากรทางการศึกษา และนกั เรยี นเขา้ รว่ ม
ประชมุ อบรม สัมมนา และนามาใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอนให้กับนักเรียน ดังนี้
1. โรงเรยี นเพ่ือพฒั นาคณุ ภาพชีวติ และสงั คม
2. โครงการร่งุ อรุณ
3. โครงการโรงเรยี นสขี าว
4. โครงการการศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม
5. โครงการเกษตรเพ่อื ชวี ิต
6. โครงการ ๑ อาเภอ ๑ โรงเรียนในฝนั
7. โครงการโรงเรียนวิถีธรรม วถิ ีพุทธชัน้ นา
8. โครงการ TO BE NUMBER ONE
9. โครงการโรงเรยี นสง่ เสรมิ สขุ ภาพ
10. โครงการสรา้ งสรรค์สง่ิ แวดลอ้ มไทย
11. โครงการน้าใสทว่ั ไทย ดุจน้าพระทยั พระราชนิ ี
12. โครงการเกษตรทฤษฎใี หม่
ตามมาตรฐาน สสวท. 13. โครงการสวนสวยโรงเรียนงาม
14. โครงการประมงเพ่ืออาหารกลางวัน
15. โครงการโรงเรียนอปุ ถัมภ์ ในกระทรวงยุตธิ รรม
16. โครงการโรงเรยี นสุจริต
17. โครงการ KKU Smart Learning
18. โครงการโรงเรยี นคุณภาพวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี
19. No Child Left Behind
20. โครงการความร่วมมอื ใน (NCLB) การจัดการเรยี นการสอนในสถานศกึ ษา
แสดงใหเ้ หน็ วา่ โรงเรยี นห้วยราชพิทยาคม ไดเ้ ลง็ เห็นถงึ ความสาคญั ท่ีจะพัฒนาผู้เรียนให้เป็น
ผทู้ ่มี ีความรอบรู้ ทนั โลกทนั เหตุการณ์และมีคุณธรรมจรยิ ธรรมอันดงี าม
10. เปิดโอกาสให้นกั เรียนทกุ คนได้เข้ามามีสว่ นรว่ มในการบริหารจดั การโรงเรยี น ผา่ น
คณะกรรมการสภานักเรยี น ซึง่ ไดจ้ ากการเลอื กตงั้ โดยนักเรยี นทกุ คน แสดงใหเ้ ห็นวา่ โรงเรียนได้ให้
ความสาคัญกบั นักเรยี นทุกคนและรบั ฟังความคิดเหน็ ของนักเรยี น เพือ่ นามาหลอมรวมกบั นโยบายของ
โรงเรยี นในการพัฒนาโรงเรียนตอ่ ไป
11. นักเรียนได้รับการตรวจสุขภาพเบ้ืองต้นทุกคน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 แสดงใหเ้ ห็นถงึ ความ
เอาใจใส่ของครแู ละผู้บรหิ ารในการดแู ลนักเรียนทุกคนเป็นอยา่ งดี ทัง้ ทางดา้ นร่างกาย สังคม อารมณ์
และสติปญั ญา
12. นกั เรยี นทกุ คนไดร้ ับปจั จัยพนื้ ฐาน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 อาทิ สมุด สมุดบนั ทกึ
รกั การอ่าน สมุดบนั ทึกความดี หนงั สอื เรยี น เส้ือพละ และทุนการศึกษาปัจจยั พื้นฐาน สาหรับ
นกั เรยี นทม่ี ีฐานะยากจน เป็นตน้
บทสรปุ มาตรฐานท่ี 3 ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทีเ่ น้นผเู้ รียนเป็นสาคญั พบวา่
โรงเรยี นหว้ ยราชพิทยาคม สง่ สง่ เสริมครูและบุคลากรให้เกิดการพฒั นาด้านการจัดการเรียนการสอน และ
วชิ าชีพครู โดยใชส้ ื่อเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับสถานการณแ์ ละทอ้ งถ่ิน เพือ่ ให้ครมู กี ารพฒั นาการจัดการ
เรยี นการสอนให้เป็นไปตามพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2552 ได้อย่างเตม็ ศักยภาพเขา้ สู่
เกณฑม์ าตรฐานวิชาชพี ครู และมุง่ พฒั นาตวั ผูเ้ รยี นโดยใช้ ส่ือ นวตั กรรม เทคโนโลยี และกระบวนการ
จดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ เพื่อให้ผ้เู รียนไดพ้ ฒั นาเต็มตามศักยภาพ มีความรู้ คู่คุณธรรม
พึ่งพาตนเองได้ สร้างสรรค์สังคมใหเ้ ปน็ สงั คมแห่งความเอือ้ อาทร สมานฉนั ท์ รักธรรมชาติ รกั ประชาธิปไตย
รักอาชพี สจุ ริต เปน็ บุคคลแห่งการเรยี นรู้ มีระเบยี บ
3. ปัจจยั ที่สง่ ผลต่อควำมสำเร็จ
1. ผูบ้ รหิ าร ครู ผู้ปกครอง นกั เรียน ชุมชน ทั้งภาครฐั และเอกชน ร่วมมือกนั ปฏบิ ัติตน
ตามบทบาทหนา้ ทดี่ ว้ ยความจริงใจ มงุ่ มัน่ อดทน เสยี สละและมีความสามคั คกี ลมเกลยี วกนั
2. ครมู คี วามรู้ความสามารถ มีวิญญาณของความเป็นครู มีปัจจัยสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การ
จดั หาหรือการผลิตส่อื เครอ่ื งมือทเ่ี หมาะสมต่อการจดั การเรยี นการสอนตามธรรมชาตแิ ต่ละวิชา
3. ครสู ามารถพฒั นาตนเองโดยเรียนในระดบั ปรญิ ญามหาบัณฑิตเพิม่ จานวนมากขน้ึ และได้
นาความรมู้ าพฒั นางานจากวทิ ยฐานะชานาญการเปน็ วทิ ยฐานะชานาญการพเิ ศษ
4. เครอื ข่าย แหล่งเรยี นรทู้ ้งั ในและนอกโรงเรียนเออ้ื ตอ่ การจัดการเรียนรู้
5. ชมุ ชนทั้งภาครัฐและเอกชน รว่ มดูแล ส่งเสรมิ สนบั สนนุ เหน็ คณุ คา่ การศึกษา
รว่ มดาเนนิ การกบั สถานศกึ ษา สรา้ งคนให้เปน็ มนุษย์ที่สมบูรณ์ ชว่ ยตนเองและบุคคลอนื่ ได้
4. จดุ เด่น
ครมู ีความตัง้ ใจ มุ่งมน่ั ในการพัฒนาการสอน โดยจัดกิจกรรมใหน้ กั เรยี นได้เรียนรู้ โดย
คานึงถึงความสนใจ ความถนดั และใหค้ วามสาคัญกับนกั เรียนเปน็ สาคญั นกั เรียนได้คิดวเิ คราะห์
ได้ปฏบิ ตั ิจริง มีการให้วธิ ีการและแหล่งเรียนรูท้ ่ีหลากหลาย ใหน้ ักเรยี นแสวงหาความรจู้ ากสื่อเทคโนโลยี
ดว้ ยตนเองอยา่ งต่อเนอ่ื ง นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในการจัดบรรยากาศสภาพแวดลอ้ มท่เี อ้ือตอ่ การ
5. จดุ ควรพฒั นำ
ครใู นระดบั ชั้นเดยี วกันท้ัง 8 กล่มุ สาระและกิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น ควรมกี ารบรู ณาการใน
การจัดการเรียนการสอนให้มากยง่ิ ขึน้ โดยไมเ่ พิ่มภาระงานใหน้ กั เรียนมากเกนิ ไป
6. แนวทางการพฒั นา
ครใู นแต่ละระดับช้นั เดียวกนั ควรมีการประชมุ PLC เก่ียวกบั การจดั การเรียนการสอนแบบ
บูรณาการร่วมกันให้มากย่ิงขึน้ เพอ่ื ให้การมอบหมายงานให้นักเรยี นเปน็ ไปในทศิ ทางเดยี วกันและสามารถ
นาช้นิ งานมาประเมนิ ร่วมกันได้
สรปุ ผลกำรประเมินในภำพรวม
จากผลการดาเนนิ งาน โครงการ และกจิ กรรมตา่ งๆ ส่งผลให้โรงเรยี นห้วยราชพิทยาคม
จดั การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาประสบผลสาเร็จตามที่ต้งั เป้าหมายไวใ้ นแตล่ ะมาตรฐาน จากผลการ
ประเมินสรปุ วา่ มาตรฐานที่ 1 ดา้ นคุณภาพผูเ้ รยี น ผลการประเมินตนเองอยู่ในระดับดีเยย่ี ม มาตรฐาน
ท่ี 2 ด้านกระบวนการบรหิ ารและการจดั การ ผลการประเมนิ ตนเองอย่ใู นระดับ ดีเยยี่ ม และมาตรฐานที่
3 ดา้ นกระบวนการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้นผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ ผลการประเมนิ ตนเองอยใู่ นระดับ ดเี ย่ยี ม
สรปุ ผลการประเมนิ ตนเองในภาพรวมทง้ั 3 มาตรฐาน โดยยึดตามคา่ ฐานนิยม พบวา่ อยูใ่ นระดบั ดเี ย่ียม
ทง้ั น้ี สถานศึกษามกี ารจัดกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผ้เู รียนอย่างหลากหลายท่เี ปน็ ไปตามปัญหา
และความตอ้ งการพัฒนาตามสภาพของผ้เู รยี น สอดคลอ้ งกบั จดุ เนน้ ของสถานศึกษาและสภาพ
ของชมุ ชนทอ้ งถิ่น จนมีผลการพัฒนาคุณภาพของผเู้ รยี นอยู่ในระดับดีเยย่ี ม พัฒนาการของคา่ เฉลี่ย
ผลการทดสอบระดับชาติสงู ข้ึน ผู้เรยี นมคี วามสามารถในการอา่ นและเขยี น การสอ่ื สารท้งั ภาษาไทย
และภาษาองั กฤษ ความสามารถในการคิดคานวณ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารได้ดี
และมคี วามประพฤตดิ า้ นคุณธรรมจรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะตามที่สถานศกึ ษากาหนดปรากฏ
อย่างชัดเจน ดงั ทปี่ รากฏผลประเมนิ ในมาตรฐานท่ี 1 ในด้านกระบวนการบริหารจดั การของผบู้ รหิ าร
สถานศึกษามีผลประเมินในรายมาตรฐานอยใู่ นระดับดีเยี่ยม สถานศกึ ษา มีการวางแผนออกแบบกิจกรรม
และดาเนนิ งานตามแผนท่ีเกดิ จากการมีสว่ นรว่ มใช้ผลการประเมิน/การดาเนนิ งานทผี่ า่ นมาเป็นฐานในการ
พฒั นา และสอดคล้องกับเป้าหมายการพฒั นา ตรวจสอบผลการดาเนนิ งาน และการปรบั ปรุงแกไ้ ขงาน
ใหด้ ีขึน้ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ครจู ัดกระบวนการเรียนการสอนท่ีเน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ มีผลประเมินอยูใ่ นระดับ
ดีเยย่ี ม วเิ คราะห์ ออกแบบและจัดการเรียนรทู้ ีเ่ ป็นไปตามความตอ้ งการของหลกั สูตร และบริบท
สถานศกึ ษา พฒั นากิจกรรมการเรยี นรู้ ใช้สอื่ การเรยี นรู้ ติดตาม ตรวจสอบและชว่ ยเหลือนักเรียนเพือ่
พัฒนาและแก้ปญั หารายบุคคล และการประเมินผลจากสภาพจริงในทุกขัน้ ตอน สถานศึกษาดาเนนิ งานตาม
ระบบการประกนั คณุ ภาพภายในอยา่ งเป็นขนั้ ตอน จนเกดิ คุณภาพ ประสิทธภิ าพและประสทิ ธิผลจนมีผล
ประเมนิ อยูใ่ นระดับดีเยย่ี ม โดยสถานศึกษาให้ความสาคัญกบั ผเู้ กีย่ วข้องทกุ ฝา่ ย เพ่อื เกดิ ความรว่ มมือ
ในการวางระบบ และดาเนินงานประกนั คุณภาพภายในของสถานศกึ ษาเป็นอยา่ งดี และผูม้ สี ่วนเกี่ยวข้อง
มคี วามม่ันใจต่อระบบการบริหารและการจดั การของสถานศกึ ษาในระดบั สงู
สว่ นท่ี 3
สรปุ ผล แนวทำงกำรพฒั นำ และควำมตอ้ งกำรกำรช่วยเหลอื
1. สรุปผลกำรประเมนิ ตนเอง
สรุปผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษาอยู่ในระดบั 5 ดเี ย่ียม จากผลการดาเนินงาน
โครงการ และกจิ กรรมต่างๆ สง่ ผลให้สถานศกึ ษาจัดการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาประสบผลสาเร็จตามท่ี
ตัง้ เป้าหมายไว้ในแตล่ ะมาตรฐาน จากผลการประเมินสรุปว่าไดร้ ะดับดีเยย่ี ม ทงั้ นี้ เพราะมาตรฐานที่ 1 ผล
การจัดการศกึ ษา อย่ใู นระดบั ดีเย่ียม มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจดั การศึกษา อยใู่ น
ระดับดเี ยยี่ ม มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ อยใู่ นระดับดีเยีย่ ม
ท้งั นี้ สถานศกึ ษามีการจัดกจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนอย่างหลากหลายที่เปน็ ไปตาม
ปัญหาและความต้องการพัฒนาตามสภาพของผู้เรียน สอดคล้องกบั จุดเน้นของสถานศกึ ษาและสภาพของ
ชมุ ชนท้องถ่ิน จนมผี ลการพฒั นาคุณภาพของผ้เู รียนอยใู่ นระดับดีเยยี่ ม พัฒนาการของค่าเฉลยี่ ผลการ
ทดสอบระดับชาติสูงขึน้ ผเู้ รียนมีความสามารถในการอา่ นและเขยี น การสื่อสารท้ังภาษาไทยและ
ภาษาองั กฤษ ความสามารถในการคดิ คานวณ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารได้ดี และมี
ความประพฤตดิ า้ นคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะตามทสี่ ถานศกึ ษากาหนดปรากฏอย่าง
ชดั เจน ดังท่ปี รากฏผลประเมินในมาตรฐานท่ี 1 ในด้านกระบวนการบริหารจัดการของผู้บรหิ าร
สถานศกึ ษามีผลประเมนิ ในรายมาตรฐานอยูใ่ นระดับดีเยี่ยม สถานศึกษามีการวางแผนออกแบบกจิ กรรม
และดาเนินงานตามแผนทเี่ กิดจากการมีสว่ นร่วมใช้ผลการประเมิน/การดาเนนิ งานที่ผ่านมาเป็นฐานในการ
พฒั นา และสอดคล้องกบั เป้าหมายการพฒั นา ตรวจสอบผลการดาเนนิ งาน และการปรับปรงุ
แกไ้ ขงานใหด้ ีข้นึ อย่างตอ่ เน่อื ง ครจู ดั กระบวนการเรียนการสอนท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคัญ มีผลประเมนิ อยู่ใน
ระดบั ดเี ย่ียม วิเคราะห์ ออกแบบและจดั การเรียนรูท้ เ่ี ปน็ ไปตามความตอ้ งการของหลักสตู ร และบริบท
สถานศกึ ษา พฒั นากิจกรรมการเรียนรู้ ใช้ส่ือการเรียนรู้ ติดตาม ตรวจสอบและชว่ ยเหลอื นกั เรียนเพอ่ื
พฒั นาและแก้ปญั หารายบุคคล และการประเมินผลจากสภาพจรงิ ในทุกขั้นตอน สถานศึกษาดาเนนิ งาน
ตามระบบการประกันคณุ ภาพภายในอยา่ งเปน็ ขั้นตอน จนเกิดคณุ ภาพ ประสทิ ธิภาพและประสิทธผิ ลจนมี
ผลประเมินอยใู่ นระดบั ดีเยย่ี ม โดยสถานศึกษาให้ความสาคญั กบั ผเู้ กย่ี วขอ้ งทกุ ฝ่าย เพอ่ื เกดิ ความร่วมมือ
ในการวางระบบและดาเนินงานประกันคณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษาเป็นอยา่ งดี และผ้มู สี ว่ นเก่ยี วข้องมี
ความมน่ั ใจตอ่ ระบบการบริหารและการจดั การของสถานศึกษาในระดับสูง
ผลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา ถอื เป็นขอ้ มูลสารสนเทศสาคัญที่สถานศกึ ษาจะต้อง
นาไปวเิ คราะห์ สงั เคราะหเ์ พอื่ สรุปนาไปสกู่ ารเชอื่ มโยงหรือสะท้อนภาพความสาเร็จกับแผนพัฒนาการจดั
การศกึ ษาของสถานศกึ ษา (3-5 ปี) และนาไปใชใ้ นการวางแผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา
ดงั น้นั จากผลการดาเนินงานของสถานศกึ ษา สามารถสรุปผลการประเมนิ ในภาพรวมของจุดเดน่ จุดควร
พฒั นาของแต่ละมาตรฐาน พร้อมท้ังแนวทางการพฒั นาในอนาคตและความตอ้ งการการช่วยเหลอื ไดด้ ังน้ี
ตำรำง แสดงผลกำรเปรียบเทยี บจุดเดน่ และจดุ ท่คี วรพัฒนำของโรงเรียนห้วยรำชพทิ ยำคม
จดุ เดน่ จดุ ควรพัฒนำ
● ดำ้ นคุณภำพผ้เู รียน ● ด้ำนคณุ ภำพผ้เู รยี น
1) ผู้เรียนมผี ลสัมฤทธิท์ างการเรียนสงู ขึน้ มีผลการ 1) นักเรียนโดยสว่ นใหญม่ ีฐานะยากจน มา
ประเมนิ ระดับชาติสูงข้ึนและนกั เรยี นกล้าแสดงออก ร่าเริง จากครอบครัวเกษตรกร ทาให้ตอ้ งใช้เวลา
แจ่มใส สุขภาพกายแข็งแรง และเปน็ ผ้มู คี ุณธรรมตามที่ สว่ นหนง่ึ ในการชว่ ยเหลอื ผปู้ กครองในการ
สถานศกึ ษากาหนด ทางาน ทาใหน้ กั เรยี นไม่ไดท้ บทวนบทเรียน
2) ผเู้ รยี นมีสขุ ภาพรา่ งกายแขง็ แรงมสี มรรถภาพทางกาย เมือ่ กลบั บ้าน
และนา้ หนกั สว่ นสงู ตามเกณฑ์ มรี ะเบยี บวนิ ัยจนเปน็ 2) สภาพการรับรูแ้ ละเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น
เอกลกั ษณข์ องสถานศึกษา เป็นท่ยี อมรับของชมุ ชน เป็นไปไดช้ ้า เน่ืองจากพน้ื ฐานดา้ นวชิ าการ
โดยรอบในเรื่องความมวี ินัย เคารพกฎกตกิ า ระเบียบของ เป็นไปตามสภาพสงั คมและสิ่งแวดลอ้ มซงึ่
สงั คม เช่น การเขา้ ควิ ขนึ้ รถโดยสารสาธารณะ เปน็ ต้น เปน็ สงั คมชนบทและผู้ปกครองโดยสว่ นใหญ่
● ด้ำนกระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร ประกอบอาชพี เกษตรกร
1) ผูบ้ ริหารมีความตง้ั ใจ มีความมุง่ ม่นั มีหลักการบรหิ าร 3) เครอ่ื งมือและอุปกรณ์การเรียนการสอน
และมีวิสยั ทัศนท์ ่ีดีในการบริหารงาน สามารถเป็น ดา้ นการงานอาชีพ และเทคโนโลยี ยงั ไม่
แบบอยา่ งทีด่ ีใน การทางาน และคณะกรรมการ เพยี งพอ เชน่ เครอื่ งคอมพิวเตอร์
สถานศึกษามีความต้ังใจ และมีความพร้อมในการปฏิบตั ิ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารทขี่ าดงบประมาณในการซ่อม
หนา้ ท่ีตามบทบาท บารุง
2) โรงเรยี นมกี ารบรหิ ารและการจัดการอย่างเปน็ ระบบ ● ดำ้ นกระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร
โรงเรยี นไดใ้ ช้เทคนิคการประชุมท่ีหลากหลายวธิ ี เช่น 1) ควรเปิดโอกาสให้ผ้ปู กครองไดม้ ีส่วนรว่ ม
การประชุมแบบมสี ว่ นรว่ ม การประชุมระดมสมอง
ในการเสนอความคดิ เห็นในการจดั
การประชุมกล่มุ เพอ่ื ให้ทกุ ฝ่ายมสี ว่ นรว่ มในการกาหนด การศกึ ษาเพื่อพฒั นาผู้เรียนมากขึ้น
วสิ ัยทศั น์ พันธกจิ เป้าหมายที่ชดั เจน มกี ารปรบั
2) ควรสรา้ งเครอื ข่ายความรว่ มมอื กบั ผ้มู ี
แผนพัฒนา สว่ นเกีย่ วข้องในการจัดการศกึ ษาของ
คณุ ภาพการจดั การศกึ ษาแผนปฏบิ ัติการประจาปีที่ โรงเรียนใหม้ คี วามเขม้ แขง็ มสี ว่ นร่วม
สอดคล้องกับผลการจัดการศึกษา สภาพปญั หา ความ
รบั ผิดชอบต่อผลการจดั การศึกษา และการ
ตอ้ งการพัฒนา และนโยบาย การปฏิรูปการศึกษา ที่ ขบั เคลือ่ นคุณภาพการจัดการศกึ ษา
มงุ่ เนน้ การพฒั นาให้ผู้เรียนมีคุณภาพ ตามมาตรฐาน
● ด้ำนกระบวนกำรเรียนกำรสอนทีเ่ นน้
หลกั สูตรของสถานศึกษา ครูผูส้ อนสามารถ จัดการ ผ้เู รียนเปน็ สำคญั
เรียนรไู้ ดอ้ ย่างมคี ุณภาพ มกี ารดาเนินการนเิ ทศ กากบั 1) ครคู วรจัดกิจกรรมเน้นให้ผ้เู รียนไดม้ ี
ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการดาเนนิ งาน และจัดทารายงานผล
ความ สามารถในการคิดวิเคราะห์ คิด
การจดั การศึกษา และโรงเรียนไดใ้ ช้กระบวนวจิ ยั ในการ สังเคราะห์ และใชแ้ หล่งเรยี นรใู้ นการพัฒนา
รวบรวมขอ้ มูลมาใชเ้ ป็นฐานในการวางแผนพัฒนา
ตนเอง
คุณภาพสถานศกึ ษา 2) ครูควรจัดกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียนใน
● ด้ำนกระบวนกำรเรียนกำรสอนทเ่ี นน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคัญ ระดบั ชัน้ ม.1 – ม.6 ใหม้ ีพฤติกรรมทัศนคติ
1) ครูพัฒนาตนเองอยเู่ สมอ มีความต้งั ใจมุ่งมน่ั ในการ
ทีด่ ีตอ่ ความ เปน็ ไทยไมห่ ลงใหลกับค่านยิ ม
ปฏบิ ัติหน้าทอ่ี ยา่ งเตม็ เวลาและความสามารถ ต่างชาติ จนเกดิ การลอกเลยี นแบบให้ลืม
จดุ เด่น จุดควรพัฒนำ
2) ครจู ัดกิจกรรมให้นักเรยี นแสวงหาความรจู้ ากส่ือ วัฒนธรรมอนั ดีงาม ของไทย
เทคโนโลยีดว้ ยตนเองอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ) ครูควรจดั การเรยี นการสอนดว้ ยวธิ กี ารที่
3) ครใู ห้นักเรียนมสี ่วนรว่ มในการจัดบรรยากาศ หลากหลาย สอดคล้องกบั มาตรฐานการ
สภาพแวดล้อมทเ่ี ออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ เรียนรู้ ตวั ชวี้ ดั ตามหลักสูตรการศึกษาข้ัน
4) ครจู ัดกิจกรรมให้นักเรยี นเรยี นรจู้ ากการคดิ ไดป้ ฏบิ ัติ พื้นฐาน และฝึกให้นกั เรยี นไดค้ ดิ วิเคราะห์
จริงด้วยวธิ กี ารและแหล่งเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย หาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรู้ ส่อื เทคโนโลยใี ห้
5) ผลงานวจิ ัยในช้ันเรียนของครูทุกคนได้รับการตรวจ มากขน้ึ และพัฒนาส่อื แหล่งเรียนรู้
ประเมินและคาแนะนาจากคณะกรรมการวิจยั จัดเตรียมห้องปฏบิ ตั กิ ารให้อยใู่ นสภาพดี
และพร้อมใช้
4) ครูควรนาภูมปิ ญั ญาท้องถิ่นใหเ้ ขา้ มามี
สว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมให้นักเรียนได้
เรียนรู้
5) ครคู วรใหข้ อ้ มูลย้อนกลบั แกน่ กั เรยี น
ทนั ทีเพือ่ นักเรียนนาไปใช้พัฒนาตนเอง
2. แนวทำงกำรพฒั นำในอนำคต
1. การจัดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่เน้นการพฒั นาผู้เรียนเป็นรายบคุ คลให้ชัดเจนขึน้
2. การส่งเสริมให้ครเู ห็นความสาคัญของการจัดการเรยี นรูโ้ ดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั การจดั ทา
การวจิ ยั ในช้นั เรยี นเพ่ือพัฒนาผู้เรียนใหส้ ามารถเรยี นรู้ได้เตม็ ศักยภาพ
3. การพัฒนาบุคลากรโดยส่งเขา้ รับการอบรม แลกเปล่ยี นเรียนรใู้ นงานที่ได้รบั มอบหมาย
ตดิ ตามผลการนาไปใช้และผลทเี่ กิดกบั ผู้เรยี นอยา่ งตอ่ เนื่อง
4. การพฒั นาสถานศึกษาใหเ้ ป็นสงั คมแห่งการเรียนรู้ของชมุ ชน
3. ควำมต้องกำรและกำรชว่ ยเหลอื
1. การพฒั นาครผู สู้ อนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ทีส่ อดคลอ้ งกบั การพัฒนาผเู้ รยี นใน
ศตวรรษท่ี 21
2. การสรา้ งขอ้ สอบท่ีสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นร้ตู ามแนวทางของการประเมนิ O-NET
และ PISA
3. การจดั สรรครูผู้สอนใหต้ รงตามวิชาเอกที่โรงเรียนมคี วามตอ้ งการและจาเปน็
สว่ นท่ี 4
ผลงำนท่เี ปน็ เลิศ (Best Practic)
นวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน
แบบออนไซต์ (ON-SITE) 100 เปอรเ์ ซ็นต์
ในสถานการณโ์ รคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
บทที่ 1
ที่มาและความสาคญั
1.1 สภาพทั่วไป / ความเปน็ มา
สถานศึกษากับสถานการณ์โรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) สถานศกึ ษาเปน็ สถานท่ีท่ี
มีนกั เรยี นอยู่รวมกนั จาํ นวนมาก มักจะมีความเส่ยี งสูงหากมีระบบการจัดการท่ไี มด่ ี อาจจะมีการแพรร่ ะบาด
ของเช้อื COVID-19 ได้ในกลมุ่ เด็ก เน่ืองจากพบว่าการตดิ เชือ้ COVID-19 สว่ นใหญจ่ ะไมค่ อ่ ยมอี าการหรือ
มอี าการแสดงค่อนข้างนอ้ ย ความรุนแรงจะน้อยมาก แต่เด็กนกั เรียนจะเอาเช้อื กลับบ้าน อาจทาํ ให้การแพร่
ระบาดเกิดขน้ึ ได้อย่างรวดเรว็ (Super spread) ไปยังบคุ คลในบ้าน หากมกี ารระบาดในกลมุ่ เด็กขึน้ จะมี
ผลกระทบในสงั คมหรือผใู้ กล้ชิด เชน่ ครู พอ่ แม่ ผู้สงู อายุทต่ี ิดเชอื้ จากเด็ก ดงั นั้น หากมกี ารเปิดเรยี น มี
โอกาสสงู ที่จะเกดิ การติดเช้อื ในกลุ่มเดก็ เพิม่ มากขึ้น ซ่งึ เด็กเป็นกลุม่ ทตี่ ้องได้รบั การดูแลและระมดั ระวังใน
การกระจายเชอื้ เป็นอย่างมาก มาตรการในการเปิดเทอม จงึ มีความสาํ คัญมากในการควบคุมการระบาดการ
วางแผนเปิดเทอมจึงต้องมั่นใจว่าสามารถควบคุมไมใ่ หเ้ กดิ การระบาดของโรคในเดก็ นกั เรียนได้
1.2 วัตถุประสงค์
1. เพ่ือสร้างนวัตกรรมการสอนในชว่ งสถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)
2. เพ่อื ใหส้ ถานศึกษาจัดทาํ แนวทางในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ชว่ งสถานการณแ์ พรร่ ะบาดของ
โรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่สอดคล้องกบั บรบิ ทของสถานศกึ ษา
3. เพ่ือม่งุ ให้ผเู้ รยี นไดร้ บั การเรียนรู้อยา่ งตอ่ เนื่อง (ON SIDE )ภายใต้สถานการณแ์ พรร่ ะบาดของ
โรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
1.3 เป้าหมาย
3.1 เชงิ ปรมิ าณ โรงเรียนห้วยราชพิทยาคม มีนวตั กรรมการสอนในสถานการณ์การระบาดของโรค
ติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019
3.2 เชิงคุณภาพ โรงเรยี นห้วยราชพิทยาคม มกี ารจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 ด้วยนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนแบบออนไซต์ (ON-SITE) 100
เปอร์เซน็ ต์
1.4 ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะได้รับ
1. สถานศึกษามีแนวทางการจดั การเรยี นรใู้ นชว่ งสถานการณแ์ พรร่ ะบาดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019
ท่ีประสบผลสําเร็จสามารถเป็นแนวทางทด่ี ไี ด้
2. นักเรียนร้อยละ 100 สามารถจดั การเรยี นรใู้ นช่วงสถานการณแ์ พร่ระบาดเช้ือไวรสั โคโรนา
2019 เป็นไปตามตวั ชีว้ ัดความสาํ เร็จระดบั สถานศกึ ษา
บทท่ี 2
เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง
ในการสร้างนวัตกรรมคร้ังนม้ี ีเอกสารทเ่ี ก่ียวข้องดังน้ี
2.1 หลกั การ HRP MODEL
2.2 วงจรคุณภาพ PDCA
2.3 วามหมายการสอนแบบ ON SIDE
2.4 งานวิจยั ทีเ่ กี่ยวข้อง
2.1 หลักการ HRP MODEL
H คือ Help การให้ความช่วยเหลอื ให้คาํ ปรกึ ษา
R คือ Represent การเปน็ ต้นแบบที่ดใี ห้สามารถเป็นตวั อยา่ งท่ีถกู ต้องในการทํางาน
P คือ Paticipate การสง่ เสริมใหไ้ ด้รับความร่วมมอื ในการพัฒนาและเข้าร่วมการแขง่ ขนั
ตา่ งๆ
H คือ Help การให้ความช่วยเหลือให้คําปรึกษา ทั้งความรู้ เทคนิคและการนิเทศติดตาม 3
ดา้ น
1. ด้านบุคลากร มีการดาํ เนนิ การตามหลกั PDCA ดังนี้
1.1 ผบู้ ริหาร คณะครู และบุคลากร ประชุมวางแผนตามนโยบายสพฐ. (P)
1.2 ครูทุกคนปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีในการจัดการเรียนการสอนตามคาํ ส่ังสอน (D)
1.3 ฝา่ ยบริหารออกนิเทศติดตามผลการปฏบิ ัติงาน (C)
1.4 รวบรวมขอ้ มลู หาจุดบกพรอ่ งเพ่ือแก้ไขและพฒั นาใหม้ คี ุณภาพ (A)
2. ดา้ นผเู้ รยี นและผู้ปกครอง มกี ารดําเนนิ การตามหลัก PDCA ดงั น้ี
2.1 วางแผนเตรียมความพร้อมด้านอุปกรณก์ ารเรียน ตารางเรียนของตนเอง (P)
2.2 เรยี นรู้ดว้ ยตนเอง รบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง (D)
2.3 ทาํ งาน เชน่ ใบงาน แบบฝกึ หัด ตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย (C)
2.4 รับการประเมนิ ผลจากครู พร้อมแกไ้ ขในเนอ้ื หาทไ่ี มเ่ ขา้ ใจ โดยไดร้ ับความรว่ มมือจาก
ผูป้ กครองในการชว่ ยกาํ กบั ติดตาม (A)
3. ดา้ นงบประมาณ มกี ารดําเนนิ การตามหลัก PDCA ดงั นี้
3.1 มีการประชมุ วางแผนในการใชง้ บประมาณ (P)
3.2 การเบิกจ่ายเงนิ ตามโครงการ(D)
3.3 ประเมินความคุ้มคา่ ในการดําเนินงานตามโครงการ (C)
3.4 จัดสรรงบประมาณเพ่ิม/ลดตามความเหมาะสมและจําเป็น (A)
R คอื Represent การเปน็ ต้นแบบท่ดี ใี หส้ ามารถเปน็ ตวั อยา่ งทถ่ี ูกตอ้ งในการทํางาน 2 ดา้ นดังนี้
1. ดา้ นบคุ ลากร มกี ารดําเนนิ การตามหลัก PDCA ดงั นี้
1.1 วางแผน นโยบายปอ้ งกนั 6 มาตรการ และการจัดการเรียนการสอน On site 100
%
1.2 ครูผู้สอนปฏิบัติการสอนตามช่ัวโมงที่สอนในแต่ละวิชานักเรียนน่ังประจําห้องเรียน
โดยคาํ นงึ ถงึ ความปลอดภยั ตามมาตรการ ท้งั 6 มาตรการ (D)
1.3 ฝา่ ยบรหิ ารออกนิเทศติดตามผลการปฏิบัติการสอนของครูผ้สู อนในแต่ละรายวิชาแต่
ละชน้ั เรียน (C)
1.4 นําผลสรุปที่ได้จากการนิเทศชั้นเรียน และผลตอบรับของนักเรียนและผู้ปกครองมา
ปรับและแกไ้ ขตอ่ ไป (A)
2. ด้านกระบวนการ (Process) มีการดาํ เนนิ การตามหลกั PDCA ดงั นี้
2.1 นกั เรยี นเตรยี มความพร้อมเพื่อเรียน และใช้ชีวติ แบบ New normal (P)
2.2 เข้าสอนตามตารางและทาํ กิจกรรมบนความปลอดภยั (D)
2.3 นิเทศติดตามการสนองนโยบายและจุดเน้น (C)
2.4 สอบถาม สะท้อนความพึงพอใจของนกั เรยี น (A)
P คอื Paticipate การสง่ เสริมให้ได้รบั ความรว่ มมอื ในการพัฒนาและเข้ารว่ มการแข่งขันต่างๆ
1. ดา้ นบุคลากร/นกั เรียน มีการดําเนนิ การตามหลกั PDCA ดงั น้ี
1.1 วางแผนอัตรากําลัง กําหนดหน้าที่และบทบาทของครู นักเรียนว่าต้องปฏบิ ัตอิ ย่างไร
(P)
1.2 ลงมอื ปฏิบตั ิตามแผนปฏบิ ัตกิ าร (D)
1.3 ประเมนิ การให้ความร่วมมือ สาํ รวจความพึงพอใจ (C)
1.4 นาํ ผลการสํารวจความพงึ พอใจในการจดั การเรียนการสอน หาจดุ บกพร่องเพอ่ื แกไ้ ข
(A)
2. หน่วยงานภาครฐั มกี ารดําเนนิ การตามหลัก PDCA ดงั นี้
2.1 ประสานงานขอความร่วมมอื หนว่ ยงาน สาธารณสขุ ตาํ รวจ ชุมชน (P)
2.2 หน่วยสาธารณสุขให้ความร่วมมือในการจัดชุดตรวจ สนับสนุนการตรวจสุขภาพ
เจ้าหนา้ ท่ีตาํ รวจ ใหค้ วามรว่ มมอื ในการจดั ระเบียบ ลดความแออดั (D)
2.3 ประเมินการให้ความรว่ มมือ สาํ รวจความพึงพอใจ ตอ่ การปฏิบตั ิงาน (C)
2.4 นาํ ผลการสาํ รวจความพงึ พอใจในการปฏบิ ัติงานของเจา้ หนา้ ท่ีภาครัฐ หาจุดบกพรอ่ ง
เพอ่ื แก้ไขปรบั ปรงุ
2.2 วงจรคณุ ภาพ PDCA
2.2.1 Plan (P)
เรมิ่ ตน้ ที่ Plan คือข้ันตอนการวางแผนก่อนท่ีเริมปฎบิ ัติงานจรงิ กําหนดลําดับความสาํ คญั ของ
งาน และครอบคลมุ ถึงการกาํ หนดหวั ขอ้ วัตถปุ ระสงค์ที่ชัดเจนท่ตี ้องการลงมอื ปฎิบัติ ปรบั ปรุงเปลยี่ นแปลง
หรอื พัฒนาส่ิงใหมๆ่ โดยในข้ันตอนน้พี นักงานทุกคนในองคก์ รตอ้ งรบั ทราบและเป็นท่เี ข้าใจตรงกัน เพราะ
ถือว่าเปน็ องคป์ ระกอบท่ีมีความสําคัญทีจ่ ะสง่ ผลช่วยใหก้ ารทํางานในข้ันตอนถัดไปเป็นไปดว้ ยความราบร่ืน
และถกู ต้องตรงวตั ถุประสงค์ท่ีตงั้ ไว้ นอกจากนีก้ ารวางแผนสามารถชว่ ยให้เราคาดการณ์สิง่ ท่ีจะเกิดข้ึนใน
อนาคต และช่วยลดและปอ้ งการสูญเสยี ทางธรุ กจิ ท้ังด้านบุคลากร เงนิ ทุน และ เวลาไดอ้ กี ดว้ ย
2.2.2 Do (D)
หลงั จากทเ่ี ราวางแผน (Plan) กําหนดวัตถุประสงคอ์ ย่างรอบคอบแล้ว ในขั้นตอนถัดไปนนั่ กค็ ือการ
ลงมือทาํ หรือการปฏบิ ตั ติ ามขัน้ ตอนตามแผนงานท่ีไดก้ าํ หนดไวอ้ ยา่ งเป็นระบบและให้มคี วามตอ่ เนื่องเพื่อ
ผลลพั ธ์ที่ดีที่สดุ โดยในขั้นตอนการปฎบิ ัตนิ ีเ้ ราควรศึกษาถึงวิธกี ารที่เหมาะสมท่ีสุดสําหรบั การทาํ งานนน้ั ๆ
ด้วย เพ่ือให้เกิดประสิทธภิ าพ และ ผลลพั ธ์ทดี่ ที ่ีสุด รวมถึงในระหวา่ งการปฎบิ ัติงานเราควรเก็บขอ้ มูลท่ี
สําคญั หรือ ขอ้ ผิดพลาดต่าง ๆ ของงานเอาไวเ้ พอื่ ประโยชน์ในการทาํ งานข้ันตอนต่อไป
2.2.3 Check (C)
คือขัน้ ตอนการตรวจสอบว่าหลงั จากนาํ แผนทวี่ างไวไ้ ปปฎบิ ัตจิ รงิ (Do) แลว้ เราสามารถบรรลุ
วัตถุประสงคห์ รอื มาตรฐานที่เราไดก้ าํ หนดไว้หรือไม่ ท้ังนีส้ งิ่ ทค่ี วรคํานงึ ถึงก็คือ เราต้องร้วู ่าจะตอ้ งตรวจสอบ
อะไรบา้ งและจาํ นวนบ่อยครั้งแค่ไหน การตรวจสอบการทาํ งานควรจะมกี ารจดบนั ทกึ ในรูปแบบตา่ งๆ ไว้
เชน่ สมดุ บันทึกการตรวจ เอกสารการตรวจสอบ คอมพวิ เตอร์ เปน็ ต้น เพ่อื ใหง้ ่ายในการปรบั ปรงุ และแกไ้ ข
ในการทาํ งานครั้งต่อไปเพอ่ื ให้ข้อมูลทไ่ี ด้จากการตรวจสอบเป็นประโยชนส์ าํ หรับข้ันตอนถดั ไปนั่นก็คือการ
ดาํ เนินการการปรับปรุงแกไ้ ข (Action)
2.2.4 Action (A)
สดุ ทา้ ยคอื Action คือกระบวนการปรบั ปรงุ แกไ้ ขส่วนท่ีมีปญั หา โดยขน้ั ตอนน้เี ปน็ การนําเอา
ผลลพั ธท์ ่ไี ด้จากขน้ั ตอนการตรวจสอบ (Check) มาวเิ คราะห์และตรวจสอบสาเหตุความผดิ พลาดท่ีเกดิ
ข้ึนมาประเมนิ เพือ่ พัฒนาแผนและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิด เพ่ือป้องกันไมใ่ หป้ ัญหาเดมิ เกดิ ขึน้ อกี
ในระยะยาว ถงึ แมว้ า่ จะไม่มีขอ้ บกพร่องจากกระบวนการทาํ งานทผี่ า่ นมา แต่เราก็ควรจะมวี ิธใี นการพัฒนา
ปรับปรุงการทาํ งานของตนเองอยู่เสมอ เพื่อใหก้ ารดาํ เนนิ งานคร้ังต่อไปมีประสทิ ธิภาพทีด่ ีกว่าเดมิ
ในองคก์ รหรอื บรษิ ัท ญีป่ นุ่ ก็จะมวี งจรพฒั นาคณุ ภาพที่คล้ายคลงึ กบั PDCA ท่ีรู้จกั กันกอ็ ยา่ งเชน่
“Kaizen” ทเี่ ป็นการระบุว่ามีจดุ ไหนหรอื ส่วนไหนของการดําเนินการทีค่ วรปรับปรงุ และมีวธิ ีการปรบั ปรุงที่
มคี วามเหมาะสมอย่างไรบ้าง ใหร้ อบหน้าสามารถทาํ งานไดด้ ขี ้ึนกว่าเดิม เป็นตน้
การทํางานของ PDCA
โดยทห่ี ลงั จากเสรจ็ กระบวนการการปรบั ปรงุ แก้ไข (Action) แลว้ วงจรบริหารคณุ ภาพก็จะวนเขา้ สู่
กระบวนการวางแผน (Plan) เพือ่ เร่มิ วางแผนใหม่อีกคร้ังนงึ สําหรบั การปฎิบตั กิ ารในคร้ังต่อไป ซ่งึ วงจร
บริหารงานคุณภาพ PDCA จะสามารถวนอย่างน้ไี ปไดเ้ รือ่ ย ๆ โดยไมม่ ที ี่ส้ินสดุ เพื่อเป็นการป้องกนั ปัญหาที่
จะเกดิ และเป็นการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนือ่ ง สําหรับบทความต่อไปเราจะนําเสนอในส่วนของ ประโยชน์
ของ PDCAทส่ี ง่ ผลตอ่ การดําเนินงานขององคก์ ร
2.3 การสอนแบบ ONSIDE
สาํ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน (สพฐ.) ชี้แจงครูทว่ั ประเทศถงึ การเตรยี มความพรอ้ ม
สาํ หรบั กรณีที่จะต้องเรียนผา่ นออนไลนไ์ ปเมื่อเร็ว ๆน้ี โด “นายสนทิ แยม้ เกสร” รองเลขาธกิ าร
คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน (กพฐ.) ระบวุ ่า ทางสพฐ.ไดก้ าํ หนดรูปแบบการเรียนการสอนสาํ หรบั ปี
การศึกษาใหม่ 2563 น้ีว่า กพฐ.ไดก้ ําหนด 3 แนวทางท่แี ตล่ ะโรงเรยี นสามารถเลอื กดาํ เนินการได้ คือ
เปิดทาํ การสอนได้ตามปกติ แต่จะต้องดําเนินการขออนญุ าตศูนยบ์ รหิ ารสถานการณแ์ พรร่ ะบาด
ของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโนนา 2019 หรอื ศบค. จังหวัดเปน็ ผเู้ ห็นชอบ
เรยี นทางไกลเตม็ รปู แบบเรียนแบบผสมผสานนอกจากน้โี รงรยี นแตล่ ะแห่ง สามารถออกแบบการ
เรยี นการสอนตามความพรอ้ มท่ีมอี ยู่ ตามบริบทของแตล่ ะพื้นท่ี แตเ่ นน้ ตรงที่ “ส่วนกลางทาํ หน้าท่ีสนบั สนุน
การจดั การเรยี นการสอนเท่านนั้ ” และยงั ตอ้ งมกี ารประเมินผลระดับชาตติ ามปกติ
เรียนออนไลน์: วธิ ีดชู อ่ ง DLTV ผ่านเว็บไซต์-ดยู อ้ นหลังสรุปตารางเรียนออนไลน์ ช่อง DLTV ชนั้
ป.1-6 / อ.1-3 และมัธยมโดยเปา้ หมายของกีเ่ รยี นผา่ นทางไกลของสพฐ.นัน้ “ต้องการให้นกั เรยี นไดเ้ รยี นรู้
ตามหลกั สตู ร” สาํ หรบั การดาํ เนินงานการเรียนผ่านการศกึ ษาทางไกล (DLTV) สาํ หรบั นักเรยี นท่เี รียนทีบ่ า้ น
แตล่ ะโรงเรยี นจะต้องทําความเข้าใจกบั ผู้ปกครองถึงรูปแบบดังกล่าวดว้ ยทง้ั นี้ สพฐ. ยังระบุอีกวา่ ในระบบ
ประถมศึกษาจะมีการสอนเพยี ง 5 กลุม่ สาระทป่ี ระกอบด้วย ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
ภาษาองั กฤษ และบูรณาการ
สาํ หรบั จุดประสงคข์ องการใชร้ ปู แบบการเรยี นออนไลน์นนั้ เพื่อใหน้ กั เรียนได้เรียนร้แู ละพฒั นา
ความรู้ ความสามารถตามหลักสตู รในชว่ งปิดการเรียนการสอนภายใต้คอนเซป็ ต์ทวี่ ่า “โรงเรยี นหยุดได้ แต่
การเรียนรู้ หยดุ ไมไ่ ด้”
2.4 งานวจิ ยั ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง
สํานักงานรบั รองมาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา, 2550, หน้า 34 รายงานประเมิน
คุณภาพการศึกษา (สมศ.) พบวา่ การบรหิ ารงานวิชาการตามเกณฑม์ าตรฐานโรงเรียนโดยภาพรวมของ
ประเทศ มีโรงเรยี นทม่ี ีคณุ ภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐานเปน็ ส่วนนอ้ ยเม่อื เปรียบเทียบกบั งานดา้ นอื่นๆ ซึ่งงาน
ดา้ นวิชาการได้กาํ หนดไว้ในเกณฑ์มาตรฐานดา้ นผู้เรยี นเปน็ สว่ นใหญ่ พบวา่ ผู้เรยี นส่วนใหญย่ ังขาด
ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์และการศึกษาหาความรู้ดว้ ยตนเอง เป็นสง่ิ สะทอ้ นให้เห็นถึงสภาพปญั หา
ในด้านการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน
กระทรวงศึกษาธิการ, 2540, หน้า 13 จากท่ีกล่าวมาขา้ งตน้ นัน้ การพฒั นาองคก์ รให้มี
คณุ ภาพ บุคลากรทกุ คนตอ้ งพฒั นาและปรับปรงุ งานอย่างตอ่ เน่ือง หรือเรียกอกี นัยหน่งึ วา่ การบรหิ ารระบบ
คุณภาพ ซ่งึ ได้รบั แนวคิดและหลกั การของการพัฒนาองคก์ ร (Organization Development) สําหรับ
แนวคิดเกย่ี วกบั การบรหิ ารคณุ ภาพท่ไี ดร้ บั การยอมรบั ของหนว่ ยงานทว่ั ๆไป ไดแ้ ก่ การใชว้ งจรเดมมิง่
ซึ่งแบง่ ขน้ั ตอนการทํางานออกเป็น 4 ขั้นตอนหลกั ไดแ้ ก่ ข้นั ตอนที่ 1 การวางแผน (Plan: P) ขน้ั ตอนท่ี
2 การปฏบิ ัติตามแผน (Do: D) ข้ันตอนท่ี 3 การตรวจสอบผลการปฏิบตั ิงาน (Check: C) ขน้ั ตอนท่ี
4 การแกป้ ญั หา (Action: A)
สุวมิ ล ว่องวานิช (2544, บทคัดย่อ) วิฑรู ย์ สมิ ะโชคดี, 2541, บทนําไดว้ ิจัยและพัฒนาระบบ
การประเมนิ ภายใน การใชว้ งจรเดมมง่ิ เพอื่ ประโยชนใ์ นการแก้ปญั หางานและเพอื่ การปรับปรงุ งานให้ดีข้นึ )
เช่นเดียวกบั ผลการศกึ ษาของ ของสถานศึกษา ซ่ึงมโี รงเรยี นนาํ ร่อง 60 โรงเรยี น พบวา่ ด้านสภาพ
ความพรอ้ มของสถานศกึ ษาในการประเมินผลภายในสถานศกึ ษา โดยส่วนใหญ่ขาดการมสี ่วนร่วมและไมไ่ ด้
นาํ ผลไปใช้ในการวางแผนบรหิ ารหรือปรับปรุงการจดั การศึกษาตามหลกั การ นอกจากน้นั ยังพบว่า ครู
ส่วนมากมีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับการประเมินนอ้ ย เชน่ การแปลความหมาย การสรา้ งเครอ่ื งมือ การ
รวบรวมขอ้ มูล การวิเคราะหข์ อ้ มลู การวิจัย ความสามารถในการใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีในการ
สื่อสาร เป็นต้น ในขณะท่ีผบู้ ริหารสถานศึกษาหลายคนประสบปญั หาในการดาํ เนนิ งานภายในสถานศกึ ษา
เช่น ผบู้ รหิ ารสถานศึกษาไม่จัดระบบหรอื แบบแผนในการปฏิบัตงิ าน ขาดมนษุ ยสัมพันธ์อันดี ขาดการ
พฒั นาตนเองในด้านความรวู้ ชิ าการใหมๆ่ เป็นตน้ ซง่ึ การบริหารงานจะประสบความสําเร็จหรอื ลม้ เหลวใน
การบริหารงานนนั้ ข้นึ อยกู่ บั “คณุ ลักษณะของผู้บรหิ าร” เป็นประการสาํ คัญ
ชนินทร์ แสงแก้ว (2546, บทคัดยอ่ ) ท่ีไดศ้ กึ ษาเร่ือง การบริหารงานตามมาตรฐานโรงเรยี น สังกัด
สาํ นกั งานคณะกรรมการการประถมศึกษาแหง่ ชาติ พุทธศักราช 2541 ดว้ ยวัฏจักรคณุ ภาพของเดมมงิ่
โรงเรียนสงั กดั สํานักงานการประถมศึกษาจงั หวดั กาญจนบรุ ีพบวา่ ระดับการบริหารงานตามมาตรฐาน
โรงเรียนดว้ ยวัฏจักรคณุ ภาพของเดมม่ิง ท้ังในภาพรวมและจาํ แนกแต่ละขนาดอยู่ในระดับมาก ซง่ึ สอดคล้อง
กบั งานวจิ ยั ของ
จตพุ ร เถาว์หิรญั (2548, บทคัดยอ่ ) ทีไ่ ดศ้ ึกษาเร่ือง สภาพและปัญหาการบริหารงานแนะแนว
โดยใชว้ งจรเดมมิ่งของสถานศกึ ษา สงั กัดสํานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาลพบรุ ี เขต 1 พบว่า สภาพการ
บรหิ ารงานแนะแนว ภาพรวมแตล่ ะข้นั ตอนและแตล่ ะบรกิ ารมีระดบั การปฏิบัติมากและปัญหาการ
บริหารงานแนะแนว ในภาพรวมของปัญหาโดยใช้วงจรเดมมิ่ง ปัญหาแต่ละดา้ นและปัญหาในแตล่ ะ
บริการมปี ญั หาอยู่ในระดับนอ้ ย จากแนวคดิ การใช้วงจรเดมม่ิงและผลการวิจยั พบวา่ วงจรเดมม่ิงนั้นเป็น
กระบวนการในการบรหิ ารงานวิชาการ ในสถานศึกษาให้มีคุณภาพและประสทิ ธภิ าพมากย่งิ ข้นึ
วรี ยา คําแหง(2552, บทคัดย่อ) ทไ่ี ดศ้ กึ ษาสภาพและปัญหาการบรหิ ารกิจกรรมลูกเสือและ
เนตรนารี ตามวงจรเดมม่ิงในสถานศึกษา สังกัดสาํ นักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาลพบุรี พบวา่ สภาพการบริหาร
กิจกรรมลูกเสือและเนตรนารี ตามวงจรเดมมิ่งในสถานศึกษา สังกัดสาํ นกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาลพบุรใี น
ภาพรวมอยู่ในระดับมากเมอ่ื พิจารณาเป็นรายด้านและปญั หาการบรหิ ารกจิ กรรมลูกเสือ และเนตรนารี
ตามวงจรเดมม่ิงในสถานศึกษา สังกดั สํานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาลพบุรีในภาพรวมทกุ รายด้านอย่ใู นระดับ
ปานกลาง
จากขอ้ มลู ดังกล่าวขา้ งตน้ จะเห็นได้วา่ การจดั การศึกษาหรอื บรหิ ารงานวิชาการของสถานศกึ ษานั้น
ผู้บรหิ ารโรงเรยี นตอ้ งปฏบิ ตั งิ านเพอ่ื พัฒนาคุณภาพทางการศกึ ษาใหเ้ ปน็ ระบบพรอ้ มทง้ั กระตนุ้ ให้ครพู ัฒนา
คุณภาพการปฏบิ ัติงานสอนใหม้ ปี ระสิทธภิ าพหากผบู้ ริหารโรงเรยี นขาดการใชว้ งจรเดมมง่ิ ในการบรหิ ารงาน
วชิ าการซ่งึ เป็นกระบวนการสําคัญในการบริหาร กจ็ ะเป็นปัญหาท่สี าํ คัญยิง่ สาํ หรบั การจัดการเรยี นการสอน
และการพัฒนาคณุ ภาพงานวิชาการของสถานศกึ ษา ดังนัน้ ผวู้ จิ ัยจึงมี ความสนใจทีจ่ ะศึกษาการใชว้ งจร
เดมมง่ิ ในการบรหิ ารงานวชิ าการของโรงเรียนมัธยมศึกษา สงั กดั สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษามัธยมศึกษา
เขต 42 เพ่อื เป็นข้อมลู ให้ผู้บรหิ ารสถานศึกษา สถานศกึ ษาและหนว่ ยงานที่เกี่ยวข้องจะได้นําไปใช้เป็น
แนวทางในการแกไ้ ขและปรบั ปรงุ พฒั นาการบรหิ ารงานวิชาการใหม้ ปี ระสิทธิภาพมากยง่ิ ขึ้น
บทที่ 3
กระบวนการหรอื ข้ันตอนการดาเนินงาน
3.1 การออกแบบผลงาน / นวตั กรรม
กระบวนการสรา้ งรปู แบบการบริหาร แบบ H.R.P. MODEL ของโรงเรยี นห้วยราชพทิ ยาคมมีวิธีการ
ดาํ เนนิ งานดังต่อไปน้ี
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โรงเรียนหว้ ย
ราชพิทยาคม สงั กัดสํานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ได้นาํ ข้อกําหนดนโยบาย แนวปฏบิ ตั ิ
ในการจัดการเรียนการสอนสอนแบบออนไซต์ (ON-SITE) 100 เปอรเ์ ซน็ ต์ ในสถานการณแ์ พรร่ ะบาดของ
โรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีการประชมุ ปรึกษาหารอื รว่ มกันระหวา่ งคณะครู
คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พ้นื ฐานและผ้ปู กครอง จึงไดก้ ําหนดเป็นหลักการในการจดั การเรียนการสอน
สอนแบบออนไซต์ (ON-SITE) 100 เปอรเ์ ซ็นต์ ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา
2019 (COVID-19) ระหวา่ งวนั ที่ 18 พฤษภาคม ถึง 30 มิถนุ ายน 2563 รวมทั้งส้นิ 6 สปั ดาห์
ภายใต้ชอื่ วา่ “หลกั การ H.R.P.MODEL ด้วยวงจรการบริหารงานคณุ ภาพ (PDCA)” โดยมีรายละเอียดดงั น้ี
ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาสภาพปจั จุบนั และปญั หาและปัจจยั ท่ีสง่ ผลตอ่ การสร้างรูปแบบบริหาร
แบบ H.R.P. MODL ประกอบดว้ ย
ศกึ ษาเอกสาร ทฤษฎี แนวคดิ หลักการและงานวิจยั ทเี่ ก่ียวข้องรูปแบบการบริหาร
สถานศกึ ษา แบบ H.R.P. MODEL โดยการวเิ คราะห์ สังเคราะหเ์ นื้อหา หลกั การ แนวคดิ เพ่ือกาํ หนด
กรอบรปู แบบดังน้ี
กระบวนการดาเนนิ งานของ H.R.P. MODEL ดว้ ยวงจรการบรหิ ารงานคณุ ภาพ
(PDCA) ของโรงเรยี นห้วยราชพทิ ยาคม
หลักการ H.R.P.MODEL
H คอื Help การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ให้คําปรึกษา
R คือ Represent การเปน็ ตน้ แบบท่ีดีใหส้ ามารถเปน็ ตัวอย่างท่ถี ูกต้องในการทํางาน
P คอื Paticipate การสง่ เสริมใหไ้ ด้รับความร่วมมอื ในการพฒั นาและเขา้ ร่วมการแขง่ ขัน
ตา่ งๆ
H คือ Help การให้ความชว่ ยเหลอื ให้คําปรึกษา ทั้งความรู้ เทคนิคและการนิเทศตดิ ตาม
3 ด้าน
ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารปู แบบ
การยกร่างรูปแบบ ดําเนินการโดยรวบรวมข้อมูลและกาํ หนดรปู แบบการบริหารสถานศึกษา แบบ
H.R.P. MODEL เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนห้วยราชพทิ ยาคม อําเภอห้วยราช จังหวัด
บุรรี มั ย์ โดยการประชมุ กลุม่ ผใู้ หข้ อ้ มูลหลัก
1. ดา้ นบคุ ลากร มกี ารดาเนินการตามหลกั PDCA ดงั น้ี
1.1 ผบู้ รหิ าร คณะครู และบุคลากร ประชุมวางแผนตามนโยบายสพฐ. (P)
1.2 ครทู ุกคนปฏบิ ัติหน้าทีใ่ นการจัดการเรียนการสอนตามคาํ สง่ั สอน (D)
1.3 ฝา่ ยบริหารออกนิเทศตดิ ตามผลการปฏบิ ตั งิ าน (C)
1.4 รวบรวมข้อมูลหาจุดบกพรอ่ งเพ่อื แกไ้ ขและพัฒนาให้มคี ณุ ภาพ (A)
2. ด้านผเู้ รียนและผู้ปกครอง มกี ารดาเนนิ การตามหลัก PDCA ดงั น้ี
2.1 วางแผนเตรยี มความพร้อมด้านอปุ กรณ์การเรียน ตารางเรยี นของตนเอง (P)
2.2 เรียนร้ดู ้วยตนเอง รบั ผดิ ชอบต่อตนเอง (D)
2.3 ทาํ งาน เช่น ใบงาน แบบฝึกหัด ตามท่ไี ดร้ ับมอบหมาย (C)
2.4 รบั การประเมินผลจากครู พร้อมแกไ้ ขในเน้ือหาท่ไี ม่เขา้ ใจ โดยไดร้ ับความร่วมมือจาก
ผปู้ กครองในการชว่ ยกาํ กบั ติดตาม (A)
3. ดา้ นงบประมาณ มกี ารดาเนินการตามหลัก PDCA ดังน้ี
3.1 มีการประชุมวางแผนในการใชง้ บประมาณ (P)
3.2 การเบิกจ่ายเงนิ ตามโครงการ(D)
3.3 ประเมินความคุ้มค่าในการดาํ เนนิ งานตามโครงการ (C)
3.4 จัดสรรงบประมาณเพ่มิ /ลดตามความเหมาะสมและจําเปน็ (A)
R คือ Represent การเปน็ ตน้ แบบทีด่ ีให้สามารถเป็นตัวอยา่ งทถ่ี กู ตอ้ งในการทํางาน 2 ดา้ นดังนี้
1. ด้านบคุ ลากร มีการดาเนนิ การตามหลกั PDCA ดังนี้
1.1 วางแผน นโยบายป้องกัน 6 มาตรการ และการจดั การเรียนการสอน On site
100 %
1.2 ครูผู้สอนปฏิบัติการสอนตามช่ัวโมงที่สอนในแต่ละวิชานักเรียนนั่งประจําห้องเรียน
โดยคํานึงถึงความปลอดภยั ตามมาตรการ ทัง้ 6 มาตรการ (D)
1.3 ฝา่ ยบรหิ ารออกนิเทศติดตามผลการปฏิบัติการสอนของครูผูส้ อนในแต่ละรายวิชาแต่
ละชั้นเรียน (C)
1.4 นําผลสรุปท่ีได้จากการนิเทศช้ันเรียน และผลตอบรับของนักเรียนและผู้ปกครองมา
ปรับและแกไ้ ขตอ่ ไป (A)
2. ด้านกระบวนการ (Process) มกี ารดาเนินการตามหลัก PDCA ดังน้ี
2.1 นักเรียนเตรยี มความพร้อมเพื่อเรยี น และใชช้ ีวติ แบบ New normal (P)
2.2 เขา้ สอนตามตารางและทํากิจกรรมบนความปลอดภัย (D)
2.3 นิเทศติดตามการสนองนโยบายและจดุ เนน้ (C)
2.4 สอบถาม สะทอ้ นความพงึ พอใจของนกั เรียน (A)
P คือ Paticipate การส่งเสรมิ ให้ได้รับความร่วมมอื ในการพัฒนาและเข้ารว่ มการแขง่ ขนั ต่างๆ 2
ดา้ น
1. ด้านบุคลากร/นกั เรียน มกี ารดาเนนิ การตามหลัก PDCA ดงั นี้
1.1 วางแผนอัตรากาํ ลัง กําหนดหน้าท่ีและบทบาทของครู นักเรียนว่าต้องปฏบิ ัติอย่างไร
(P)
1.2 ลงมือปฏิบตั ติ ามแผนปฏบิ ตั กิ าร (D)
1.3 ประเมนิ การใหค้ วามร่วมมอื สาํ รวจความพึงพอใจ (C)
1.4 นําผลการสาํ รวจความพงึ พอใจในการจดั การเรียนการสอน หาจดุ บกพร่องเพื่อแก้ไข
(A)
2. หน่วยงานภาครฐั มีการดาเนินการตามหลัก PDCA ดังนี้
2.1 ประสานงานขอความร่วมมอื หน่วยงาน สาธารณสุข ตาํ รวจ ชมุ ชน (P)
2.2 หน่วยสาธารณสุขให้ความร่วมมือในการจัดชุดตรวจ สนับสนุนการตรวจสุขภาพ
ตาํ รวจให้ความรว่ มมอื ในการจัดระเบยี บ ลดความแออดั (D)
2.3 ประเมนิ การให้ความร่วมมือ สาํ รวจความพึงพอใจ ตอ่ การปฏิบตั งิ าน (C)
2.4 นําผลการสํารวจความพงึ พอใจในการปฏบิ ตั ิงานของเจา้ หน้าที่ภาครัฐ หาจดุ บกพรอ่ ง
เพ่ือแกไ้ ขปรับปรุง
ขน้ั ตอนท่ี 3 การแกไ้ ข ปรบั ปรงุ และพฒั นาเปน็ รูปแบบฉบับสมบรู ณด์ งั ภาพท่ี 1 และนาํ รูปแบบ
ไปใช้
รปู แบบการบรหิ างานแบบ HRP MODEL
P ประชุมครแู ละบคุ ลากรเพือ่ วางแผน
บุคลากร D บคุ ลากรลงมอื ทางานตามแผน
C นเิ ทศตดิ ตาม บคุ คลากร
H นักเรียน /ผปู้ กครอง A หาจดุ บกพรอ่ งเพ่ือแกไ้ ข
(HELP) งบประมาณ
ช่วยเหลอื P นกั เรยี นเตรียมความพรอ้ มเพือ่ เรยี น
และใชช้ วี ิตแบบNew normal
D ผปู กครองรับผดิ ชอบ นักเรียน
ดาเนินการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง
C นกั เรยี นดาเนินกจิ กรรมตามที่
ได้รับมอบหมาย
A ผู้ปกครองสะทอ้ ผลการดาเนินงาน
ของโรงเรียนมายังผบู้ ริหาร
P เขยี นโครงการ วางแผนการใช้
งบประมาณ
D ดาเนินการจัดซ้ือตามแผน
C ตรวจสอบหาสาเหตุ ประเมนิ ความคุ้มค่า
ของเงนิ ที่ใช้
A นาเสนอจุดบกพรอ่ ง เพิม่ ลด งบประมาณ
ตามความจาเปน็
รูปแบบการบริหางานแบบ HRP MODEL
บุคลากร P วางแผน นโยบายปอ้ งกัน 6
มาตรการ และการจดั การเรยี นการ
สอน On site 100 %
D ลงมือสอนโดยคานึงถงึ ความ
ปลอดภัย ตามมาตรการ
ทัง้ 6 มาตรการ
C นเิ ทศติดตาม บุคคลากร
R A หาจดุ บกพร่องเพ่ือแกไ้ ข
(Represent)
การเป็นตน้ แบบ P นักเรยี นเตรยี มความ
พร้อมเพือ่ เรยี น และใช้
กระบวนการ ชีวติ แบบNew normal
D เขา้ สอนตามตาราง
และทากิจกรรมบนความ
ปลอดภยั
C นเิ ทศติดตามการสนอง
นโยบายและจุดเน้น
A สอบถาม สะท้อนความ
พึงพอใจของนกั เรยี น
รูปแบบการบรหิ างานแบบ HRP MODEL
P วางแผนอัตรากาลงั
กาหนดหนา้ ที่และบทบาท
ของครู นักเรียนว่าตอ้ ง
ปฏิบตั อิ ยา่ งไร
บุคลากร/นักรียน D ลงมอื ปฏิบตั ติ าม
แผนปฏบิ ัติการ
p
(Paticipate) C ประเมนิ การใหค้ วาม
การมีสว่ นร่วม รว่ มมอื สารวจความพึง
พอใจ
A นาผลการสารวจความพึง
พอใจในการจดั การเรยี น
การสอน หาจดุ บกพร่อง
เพอ่ื แกไ้ ข
P ประสานงานขอความ
รว่ มมอื หน่วยงาน
สาธารณสขุ ตารวจ ชุมชน
หนว่ ยงานภาครฐั D หน่วยสาธารณสขุ ใหค้ วามร่วมมือใน
การจดั ชดุ ตรวจ สนับสนุนการตรวจ
สขุ ภาพตารวจ ใหค้ วามรว่ มมือในการจัด
ระเบยี บ ลดความแออัด
C ประเมนิ การให้ความร่วมมือ สารวจ
ความพึงพอใจ ตอ่ การปฏิบัตงิ าน
A นาผลการสารวจความพึงพอใจในการ
ปฏบิ ตั งิ านของเจ้าหนา้ ทภี่ าครฐั หา
จุดบกพรอ่ งเพอ่ื แกไ้ ข
บทท่ี 4
ผลการดาเนนิ การ
4.1 การนเิ ทศกากบั ติดตามเพ่ือความสาเรจ็
1. สถานศึกษารายงานแนวทางการจดั การเรยี นรู้ของผ้เู รียนในสถานการณแ์ พรร่ ะบาดเชอ้ื ไวรัสโค
โรนา 2019 (COVID-19) ต่อสํานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 32
2. สาํ นักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 32 นเิ ทศติดตามให้คาํ แนะนํา สนับสนุน
ชว่ ยเหลือ ในการดาํ เนนิ การจดั การเรยี นรโู้ ดยใชเ้ ครอื่ งมือการนเิ ทศตามความเหมาะสม
3. สถานศกึ ษารายงานผลการดาํ เนนิ งานตอ่ สาํ นกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 32
สปั ดาห์ละ 1 ครง้ั
4. สาํ นักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 32 รวบรวม สรปุ ผลการดําเนินงานการจดั การ
เรียนรูข้ องสถานศึกษาในสงั กัด ชว่ งสถานการณ์แพร่ระบาดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปยัง
สาํ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน
4.2 ผลท่เี กดิ จากการนานวตั กรรมไปใช้
4.2.1 ผลทีเ่ กิดตามวตั ถปุ ระสงค์
1. โรงเรียนห้วยราชพิทยาคมสามารถจัดการเรียนการสอนแบบออนไซต์ (ON-SITE) ใน
สถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยใชร้ ปู แบบ H.R.P. MODEL
ดว้ ยวงจรการบรหิ ารงานคุณภาพ (PDCA) ได้ 100 เปอรเ์ ซ็นต์ตามมาตรการความปลอดภัย 6 มาตรการ
2. โรงเรียนได้นํานวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนแบบออนไซต์ (ON-SITE) 100
เปอร์เซ็นต์
ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยใช้รูปแบบ H.R.P.
MODEL
ด้วยวงจรการบรหิ ารงานคุณภาพ (PDCA) ท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพ สําหรบั ใชพ้ ัฒนาคุณภาพการศกึ ษาของโรงเรียน
ห้วยราชพิทยาคม
4.2.2 ผลที่เกิดกับครูผูส้ อน
ครูผู้สอนสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในช้ันเรียนกับนักเรียนทุกๆคนได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยใช้มาตรการความ
ปลอดภยั
6 มาตรการ
4.2.3 ผลทีเ่ กดิ กับนักเรยี น
นักเรียนได้น่ังเรียนประจําช้ันเรียนกับครูผู้สอนในแต่ละรายวิชา ถ้ามีข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจ
สามารถซกั ถามโต้ตอบกับครูผู้สอนได้ทนั ทีทําใหน้ กั เรียนเกิดความสนุกสนานในการเรียน และมคี วามพร้อม
ทจี่ ะเรียนร้อู ย่างเต็มที่ เขา้ ใจและสนใจในเนอื้ หาทเ่ี รยี นมากยิง่ ขนึ้
4.2.4 ผลทเี่ กดิ กบั ผูป้ กครอง
ผู้ปกครองสามารถไปประกอบอาชีพและทํางานประจําได้ตามปกติ ลดค่าใช้จ่ายในการจัดหา
อุปกรณ์เพื่อนํามาให้บุตรหลานใช้ในการเรียนในระบบออนไลน์ ลดภาระในการท่ีผู้ปกครองต้องมาสอน
หนังสอื ใหก้ ับบตุ รหลานซึง่ นกั เรยี นบางคนไม่ได้อยกู่ ับพอ่ แม่ อาศยั อย่กู บั ตายายอาจมปี ญั หาในเรื่องการต้อง
มาสอนหนงั สือหรือการทาํ งานตามใบงานตา่ งๆ ตามมา
บทที่ 5
สรปุ ผลการดาเนนิ งาน อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลการดาเนนิ งาน
การจดั การเรียนการสอนแบบออนไซต์ (ON-SITE) 100 เปอร์เซน็ ตใ์ นสถานการณ์โรค
ตดิ เช้ือไวรัส
โคโรนา 2019 (COVID-19) ผลการดําเนนิ งานพบวา่
1. ครูผู้สอนเตรียมการเรยี นการสอนพรอ้ มและสามารถสอนได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพในชั้นเรียน
2. นักเรียนมีความพรอ้ มในการเรียน และเรยี นรไู้ ด้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพจากครโู ดยตรง
3. ผู้ปกครอง/ชมุ ชนลดภาระค่าใช้จ่าย และมีเวลาไปประกอบอาชพี หรอื ทาํ งานประจําได้
ตามปกติ
5.2 ขอ้ เสนอแนะ
1. โรงเรียนเพิม่ งบประมาณค่าใช้จ่ายในสถานการณโ์ รคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-
19)
มากขึ้น เพอื่ รองรบั ตามมาตรการความปลอดภัย 6 มาตรการในการจัดการเรียนการสอน
แบบออนไซต์ (ON-SITE)
100 เปอรเ์ ซ็นต์
2. ครูผูส้ อนมชี ัว่ โมงสอนเพ่มิ มากขึน้ เน่ืองจากการแยกห้องเรียนจากหอ้ งเรียนละ 40 คน
เปน็ หอ้ งเรียนละ 20 – 25 คน จาํ นวนห้องเพม่ิ จํานวนช่ัวโมงสอนเพม่ิ ตามมาตรการความ
ปลอดภัย 6 มาตรการและสนองนโยบายสพฐ.
3. นักเรยี นต้องมีวนิ ยั ในการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แขง็ แรงและทําความสะอาดรา่ งกาย
ของ
ตนเองอย่างตลอดเวลา
4. ผปู้ กครองตอ้ งดูแลตวั เองและบตุ รหลานไม่ให้ไปในพ้ืนทีเ่ สยี่ งถ้ามีอาการท่ีสงสยั หรือไปใน
พนื้ ที่
เสย่ี งต้องกกั ตวั และแจง้ หนว่ ยงานทร่ี บั ผิดชอบตรวจรกั ษาตามลําดับต่อไป
การจัดการเรยี นการสอนแบบออนไซต์ (ON-SITE) 100 เปอร์เซน็ ต์
ดว้ ยหลักการ HRP.MODEL
P : การวางแผน
โรงเรยี นห้วยราชพิทยาคม นาโดยผูอ้ านวยการสรรพสริ ิ เชาวช์ ยั พฒั น์ และคณะจดั เตรยี มแผน
และประชมุ ครู เพอ่ื วาง มาตรการในการเปดิ เรียน โดยเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สงิ่ สาคัญท่ีสุด
ซ่งึ นานโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธกิ าร ออกค่มู อื การปฏบิ ตั ิสาหรบั
สถานศึกษา
ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควดิ -19
โดย 6 มาตรการหลกั ในการป้องกนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ -19
ในโรงเรียนห้วยราชพทิ ยาคมประกอบดว้ ย
1. มาตรการคดั กรองวดั ไข้และอาการเส่ียงกอ่ นเขา้ สถานศกึ ษา
2. มาตรการสวมหน้ากากผา้ หนา้ กากอนามยั หรือเฟสชิวตลอดเวลา
3. มาตรการจดั จดุ ล้างมอื หรอื เจลแอลกอฮอลท์ ุกจดุ อย่างเพยี งพอ และตรวจคัดกรอง
สขุ ภาพเดก็ อยา่ งสมา่ เสมอ
4. มาตรการการเขา้ ร่วมกจิ กรรมตา่ งๆของโรงเรยี นจะกาหนดตาแหนง่ โดยการเวน้
ระยะห่าง 1-2 เมตร และสวมใส่หนา้ กากอนามยั ทุกกิจกรรม
5. มาตรการการจดั ชัน้ เรยี นหอ้ งเรยี นละ 20-25 คน และนกั เรยี นนงั่ ประจาห้องเรียน
6. มาตรการการสลบั เวลาพกั รบั ประทานอาหาร
มำตรกำรท่ี 1 มำตรกำรคดั กรองวัดไขแ้ ละอำกำรเสี่ยงก่อนเขำ้ สถำนศึกษำ
ผทู้ ี่เขามาในสถานศกึ ษาทกุ คน ตองไดร้ ับการคดั กรอง วดั อุณหภูมริ า่ งกาย
มำตรกำรที่ 1 มำตรกำรคัดกรองวดั ไขแ้ ละอำกำรเส่ียงกอ่ นสถำนศกึ ษำ
ตลอดเวลาทอี่ ยใู นสถานศกึ ษา
ผทู้ เี่ ขามาในสถานศกึ ษาทกุ คน ตองไรบั การคดั กรอง วดั อณุ หภมู ริ งกาย
มำตรกำรที่ 1 มำตรกำรคดั กรองวดั ไข้และอำกำรเสย่ี งกอ่ นสถำนศกึ ษำ
สงั เกตนกั เรียนหากพบ อาการปว่ ย หากมอี าการไข ไอ มีนา้ มกู เจบ็ คอ หายใจลาบาก
เหนอ่ื ยหอบ ไมไ่ ดกลนิ่ ไรรู ส ใหแยกกลมุ่ หยุดเรยี น และรบี ไปพบแพทยทนั ที
ตรวจสอบ กากบั ตดิ ตามการมาเรียนของนกั เรยี นขาดเรยี น ถูกกกั ตัว
หรอื อยูในกลมุ เสยี่ งตอการตดิ โรคโควดิ 19 และรายงานตอผู้บรหิ าร
มำตรกำรท่ี 2 มำตรกำรกำรสวมหน้ำกำกอนำมยั หน้ำกำกผ้ำตลอดเวลำ
โรงเรยี นหว้ ยราชพทิ ยาคม สวมหนา้ กากอนามยั 100 เปอร์เซน็ ต์ ทง้ั บคุ ลากร นกั เรยี นและ
บคุ คลภายนอกทเี่ ขา้ มาภายในสถานศกึ ษา
มำตรกำรที่ 3 มำตรกำรจดั จดุ ลำ้ งมือหรือเจลแอลกอฮอล์ทุกจุดอย่ำงเพยี งพอ
และตรวจคดั กรองสขุ ภำพเด็กอย่ำงสมำ่ เสมอ
จดั จดุ ล้ำงมอื หรอื เจลแอลกอฮอล์ทกุ จุดอย่ำงเพียงพอ เช่น ประตูทำงเข้ำ-ออก ท่ีลงเวลำปฏบิ ตั งิ ำน
ลำงมอื บอ่ ย ๆ ด้วยสบูแ่ ละนำ้ หรอื ใชเจลแอลกอฮอล์ทำควำมสะอำดมือ
มำตรกำรท่ี 3 มำตรกำรจดั จุดล้ำงมอื หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกจดุ อยำ่ งเพียงพอ
และตรวจคัดกรองสุขภำพเดก็ อย่ำงสมำ่ เสมอ
ตรวจคดั กรองสุขภำพเด็กอยำ่ งสมำ่ เสมอและใช้เจลแอลกอฮอล์ทำควำมสะอำดมอื
มำตรกำรท่ี 4 มำตรกำรกำรเข้ำรว่ มกิจกรรมต่ำงๆของโรงเรยี นจะกำหนดตำแหน่งโดยกำร
เวน้ ระยะห่ำง 1-2 เมตร และสวมใส่หนำ้ กำกอนำมยั ทุกกิจกรรม
กำรเขำ้ ร่วมกิจกรรมต่ำงๆของโรงเรยี นจะกำหนดตำแหนง่ โดยกำรเวน้ ระยะหำ่ ง 1-2 เมตร
และสวมใส่หน้ำกำกอนำมัยทุกกจิ กรรม
มำตรกำรที่ 5 มำตรกำรกำรจัดช้ันเรยี นห้องเรยี นละ 20-25 คนและนกั เรยี นนัง่ ประจำ
หอ้ งเรียน
ครูผูส้ อนในแตล่ ะรำยวิชำเข้ำสอนตำมช้นั เรยี นในแต่ละชว่ั โมงนักเรียนนงั่ เรยี นประจำใน
หอ้ งเรยี น
มำตรกำรท่ี 5 มำตรกำรกำรจัดชั้นเรยี นห้องเรียนละ 20-25 คนและนักเรยี นนัง่ ประจำ
หอ้ งเรยี น
ครูผสู้ อนในแตล่ ะรำยวชิ ำเขำ้ สอนตำมช้นั เรยี นและมีกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนแบบ
ออนไซต์ 100 เปอร์เซน็ ต์
มำตรกำรท่ี 6 มำตรกำรกำรสลบั เวลำพกั รับประทำนอำหำร
กำรสลับเวลำพักรับประทำนอำหำรและเว้นระยะหำ่ งในกำรคิวซ้อื อำหำร
มำตรกำรท่ี 6 มำตรกำรกำรสลบั เวลำพักรับประทำนอำหำร
กำรเว้นระยะห่ำงในกำรนั่งรบั ประทำนอำหำร
มำตรกำรที่ 6 มำตรกำรกำรสลบั เวลำพกั รับประทำนอำหำร
กำรได้รบั ควำมรว่ มมอื จำกหนว่ ยงำนภำครฐั ในกำรจัดชดุ ตรวจ สนบั สนุนกำรตรวจสุขภำพ
ตำรวจ ให้ควำมร่วมมือในกำรจัดระเบียบ ลดควำมแออัด
มำตรกำรท่ี 6 มำตรกำรกำรสลบั เวลำพักรบั ประทำนอำหำร
เตรยี มอปุ กรท์ ำควำมสะอำดอย่ำงเพยี งพอได้แก นำ้ ยำทำควำมสะอำดหรอื น้ำยำฟอกขำว
อปุ กรณ์กำรตวง ถงุ ขยะ ถังน้ำไม้ถพู น้ื ผำเชด็ ทำควำมสะอำด อปุ กร์ปองกนั อนั ตรำยสวนบุคคล
ที่เหมำะสมกบั กำรปฏิบัตงิ ำน อำทิ ถุงมือ หนำกำกผำเสื้อผำทจี่ ะนำมำเปล่ยี นหลงั ทำควำมสะอำด
บรรณำนกุ รม
ดวงดาว สนธกิ ุล. กำรประกันคุณภำพภำยในของสถำนศึกษำขน้ั พ้ืนฐำน สงั กัดสำนักงำนเขตพ้ืนท่ี
กำรศกึ ษำนรำธวิ ำส เขต 11. วิทยานพิ นธศ์ ึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าบริหาร
การศึกษา มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช, มปป.
นา้ ออ้ ย เดชจยุ้ . กำรประเมินสภำพกำรดำเนินกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศกึ ษำของโรงเรียนขยำย
โอกำสทำงกำรศึกษำอำเภอสำมพรำนสังกดั สำนกั งำนเขตพ้นื ที่กำรศึกษำนครปฐมเขต 2.
วทิ ยานพิ นธว์ ิทยาศาสตรมหาบณั ฑิตสาขาวชิ าวิทยาการการประเมิน มหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ท
รวิโรฒ, 2551.
สานกั งานทดสอบทางการศึกษา. “ชุดฝกึ อบรมกำรประกนั คุณภำพกำรศึกษำภำยในสถำนศึกษำระดบั
กำรศกึ ษำขั้นพ้นื ฐำนและปฐมวยั ” กำรจัดทำรำยงำนกำรศกึ ษำประจำปขี องสถำนศึกษำ.
กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์องค์การรบั ส่งสินคา้ และพสั ดภุ ัณฑ์ (ร.ส.พ.), 2546.
สานักทดสอบทางการศกึ ษา. “แนวทำงกำรรำยงำนคณุ ภำพกำรศึกษำประจำปีของสถำนศึกษำ โครงกำร
ประกนั คณุ ภำพกำรศกึ ษำ ลำดับที่ 6” กำรประกันคณุ ภำพกำรศกึ ษำภำยในสถำนศกึ ษำ
ระดับกำรศึกษำขนั้ พ้นื ฐำน. พมิ พ์ครง้ั ที่ 3. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พค์ รุ ุสภาลาดพร้าว, 2545.
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน. แนวทำงกำรเขียนรำยงำนกำรพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ
ประจำปีของสถำนศกึ ษำ. กรุงเทพฯ: ชุมนมุ เกษตรสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด,
2549.
สานักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. รำยงำนวจิ ยั ปฏิบตั ิกำรเพื่อพัฒนำระบบประกัน
คณุ ภำพในสถำนศึกษำ. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์องคก์ ารรบั สง่ สนิ คา้ และพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.),
2545.
อภิรดี หนองสิมมา. กำรประเมนิ ภำยในของสถำนศึกษำขัน้ พืน้ ฐำน. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต
สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่. 2547.
ภำคผนวก
QR-code ภาพถ่าย เอกสาร หลกั ฐาน รองรอยการปฏบิ ตั งิ าน
R-code ภาพถา่ ย เอกสาร หลกั ฐาน รองรอยประกอบการปฏบิ ตั งิ าน