The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ottohihi0987, 2023-12-20 15:21:20

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6

คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ 283 จากคำ ถามข้างต้น เพราะเหตุใดอุณหภูมิของน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรบริเวณชายฝั่งด้านตะวัน ออกและบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกจึงเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ แนวคำ ตอบ เพราะผิวหน้ามหาสมุทรแปซิฟิกถูกพัดไปสะสมยังชายฝั่งด้านตะวันตกของ มหาสมุทรแปซิฟิกได้น้อยลง น้ำ ชั้นล่างบริเวณชายฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกจึงยกตัว ขึ้นมาแทนที่น้ำ ด้านบนได้น้อยลงเช่นกัน ส่งผลให้น้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรบริเวณชายฝั่งด้านตะวัน ออกมีอุณหภูมิต่ำ กว่าปกติ ส่วนน้ำ ผิวหน้าบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ 7. ให้นักเรียนศึกษารูป 8.24 และสืบค้นข้อมูลในหนังสือเรียนหน้า 213 เพื่อศึกษาปรากฏการณ์ ลาณีญา แล้วร่วมกันอภิปรายโดยใช้คำ ถามต่อไปนี้ เมื่อลมค้ามีกำ ลังแรงกว่าปกติ จะส่งผลต่ออุณหภูมิของน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรบริเวณชายฝั่งด้าน ตะวันออกและบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกหรือไม่ อย่างไร แนวคำ ตอบ ส่งผล คือ น้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ส่วนบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกมีอุณหภูมิต่ำ กว่าปกติ จากคำ ถามข้างต้น เพราะเหตุใดอุณหภูมิของน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรบริเวณชายฝั่งด้านตะวัน ออกและบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกจึงเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ แนวคำ ตอบ เพราะผิวหน้ามหาสมุทรแปซิฟิกถูกพัดไปสะสมยังชายฝั่งด้านตะวันตกของ มหาสมุทรแปซิฟิกได้มากขึ้น น้ำ ชั้นล่างบริเวณชายฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกจึงยกตัว ขึ้นมาแทนที่น้ำ ด้านบนได้มากขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้น้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรบริเวณชายฝั่งด้านตะวัน ออกมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ส่วนน้ำ ผิวหน้าบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกมีอุณหภูมิต่ำ กว่าปกติ 8. ครูตรวจสอบความเข้าใจนักเรียนเกี่ยวกับปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา โดยใช้คำ ถามใน หนังสือเรียนหน้า 213 ดังนี้ ในช่วงที่ลมค้าอ่อนกำ ลังลง อุณหภูมิน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณใกล้ประเทศไทยจะมี การเปลี่ยนแปลงอย่างไร แนวคำ ตอบ อุณหภูมิน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรลดต่ำ ลงกว่าปกติ 9. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายตามความคิดของตนเองเพื่อนำ เข้าสู่กิจกรรม 8.4 ว่า “ปรากฏการณ์ เอลนีโญและลานีญาส่งผลต่อลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม อย่างไรบ้าง” จากนั้นแบ่ง กลุ่มนักเรียน แล้วให้ปฏิบัติกิจกรรม 8.4 ดังนี้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


284 บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ จุดประสงค์กิจกรรม สืบค้นข้อมูล และอธิบายผลของปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาที่มีต่อสภาพ ลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อมจากข้อมูลที่กำ หนด เวลา 1 ชั่วโมง วัสดุ-อุปกรณ์ 1. เอกสารข้อมูลตัวอย่างเหตุการณ์ผลกระทบจากเอลนีโญ ณ ประเทศต่าง ๆ 2. เอกสารข้อมูลตัวอย่างเหตุการณ์ผลกระทบจากลานีญา ณ ประเด็นต่าง ๆ 3. แผนที่โลก 4. สีเมจิก การเตรียมตัวล่วงหน้า ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญามา ล่วงหน้า ข้อเสนอแนะสำ หรับครู 1. ครูอาจแนะนำ ให้นักเรียนบันทึกผลการวิเคราะห์ข้อมูลลงบนแผนที่โดยใช้สัญลักษณ์หรือ สี แทนผลกระทบที่เกิดขึ้นในบริเวณต่าง ๆ บนโลก 2. ครูอาจไม่ระบุชื่อภาพว่าเป็นผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญหรือลานีญา แล้วให้ นักเรียนวิเคราะห์และเชื่อมโยงกับความรู้ที่ได้อภิปรายในข้อ 6 และ 7 ว่าผลกระทบที่ศึกษานั้น เกิดจากปรากฎการณ์ใด เพราะเหตุใดจึงคิดเช่นนั้น กิจกรรม 8.4 ผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ 285 วิธีการทำ กิจกรรม 1. ศึกษาข้อมูลตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับผลกระทบของปรากฏการณ์ เอลนีโญและลานีญาที่มีต่อลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม จากเอกสารที่ กำ หนด 2. ระบุบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญและลานีญารวมทั้งตัวอย่างผลก ระทบลงบนแผนที่โลก 3. วิเคราะห์และเปรียบเทียบผลกระทบที่เกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา 4. นำ เสนอและอภิปรายผลการทำ กิจกรรม ตัวอย่างผลการทำ กิจกรรม ตัวอย่างการวิเคราะห์และเปรียบเทียบผลกระทบที่เกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญและ ลานีญา พายุหมุนเขตรอน จำนวนเพิ่มขึ้น ผลกระทบจากลานีญา อุณหภูมิสูงกวาปกติ อุณหภูมิต่ำกวาปกติ แหงแลงหรือฝนนอยกวาปกติ ฝนมากหรือน้ำทวม ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น ผลผลิตทางการเกษตรลดลง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


286 บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ สรุปผลการทำ กิจกรรม ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกเกิด ความแห้งแล้งมากขึ้น และพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนที่ไปทางเหนือมากขึ้น ในขณะที่ชายฝั่ง ด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นจนทำ ให้มีโอกาสเกิดน้ำ ท่วม และดินถล่มมากขึ้น และพายุหมุนเขตร้อนมีจำ นวนเพิ่มมากขึ้น ส่วนในพื้นที่ที่ห่างไกลออก ไปอาจมีอุณหภูมิสูงหรือต่ำ กว่าปกติ เกิดความแห้งแล้งหรือมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ผลผลิต ทางการเกษตรเพิ่มขึ้น และในมหาสมุทรแอตแลนติกมีจำ นวนพายุหมุนเขตร้อนลดลง ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ลานีญา ชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกมีปริมาณ ฝนมากขึ้นจนทำ ให้มีโอกาสเกิดน้ำ ท่วมและดินถล่มมากขึ้น ในขณะที่ชายฝั่งด้านตะวัน ออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเกิดความแห้งแล้งมากขึ้น ส่วนในพื้นที่ที่ห่างไกลออกไปอาจ มีอุณหภูมิต่ำ กว่าปกติ เกิดความแห้งแล้งหรือมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ผลผลิตทางการเกษตร ลดลง และในมหาสมุทรแอตแลนติกมีจำ นวนพายุหมุนเขตร้อนเพิ่มขึ้น คำ ถามท้ายกิจกรรม ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ พื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออกและตะวันตกของ มหาสมุทรแปซิฟิกได้รับผลกระทบอะไรบ้าง แนวคำตอบ พื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเกิดฝนตกน้อยลง ทำ ให้มีความแห้งแล้งมากขึ้น ในขณะที่ชายฝั่งด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก มีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นจนทำ ให้มีโอกาสเกิดน้ำ ท่วมและดินถล่มมากขึ้น และ ชาวประมงในบริเวณนั้นจับปลาได้น้อยลง ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ลานีญา พื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออกและตะวันตกของ มหาสมุทรแปซิฟิกได้รับผลกระทบอะไรบ้าง แนวคำตอบ ชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกมีปริมาณฝนมากขึ้นจนทำ ให้ มีโอกาสเกิดน้ำ ท่วมและดินถล่มมากขึ้น ในขณะที่ชายฝั่งด้านตะวันออกของมหาสมุทร แปซิฟิกเกิดความแห้งแล้งมากขึ้น ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาส่งผลกระทบต่อพื้นที่อื่น ๆ หรือไม่ อย่างไร แนวคำตอบ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่อื่น ๆ ด้วย โดยอาจเกิดความแห้งแล้งหรือมีปริมาณ ฝนเพิ่มขึ้น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ 287 10. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำ เสนอผลการทำ กิจกรรม และร่วมกันอภิปรายผลการทำ กิจกรรมพร้อม ตอบคำ ถามท้ายกิจกรรม โดยมีแนวทางการอภิปรายและแนวทางการตอบคำ ถามดังด้านบน 12. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา โดยใช้คำ ถามในหนังสือเรียนหน้า 215 และ 216 ดังนี้ ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ชายฝั่งด้านตะวันออกและชายฝั่งด้านตะวันตกของ มหาสมุทรแปซิฟิกได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง เพราะเหตุใด แนวคำ ตอบ พื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกเกิดความแห้งแล้งมากขึ้น พื้นที่ ชายฝั่งด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกมีโอกาสเกิดน้ำ ท่วมและดินถล่มมากขึ้น เนื่องจาก น้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติจึงทำ ให้น้ำ ระเหยเข้าสู่บรรยากาศได้มากขึ้น และ ชาวประมงจับปลาได้น้อยลง เนื่องจากช่วงเกิดเอลนีโญ ลมค้ามีกำ ลังอ่อนกว่าปกติทำ ให้น้ำ ผิว หน้ามหาสมุทรถูกพัดออกไปได้น้อยกว่าปกติ น้ำ ชั้นล่างที่มีสารอาหารสูงจึงยกตัวขึ้นมาแทนที่ น้ำ ผิวหน้าได้น้อย ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ลานีญา ชายฝั่งด้านตะวันออกและชายฝั่งด้านตะวันตกของ มหาสมุทรแปซิฟิกได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง เพราะเหตุใด แนวคำ ตอบ พื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกมีโอกาสเกิดน้ำ ท่วมและดินถล่ม มากขึ้น เนื่องจากพื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันตกมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติจึงทำ ให้เกิดเมฆและมีปริมาณ ฝนตกเพิ่มมากขึ้น ส่วนชายฝั่งด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเกิดความแห้งแล้งมากขึ้น เนื่องจากน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรมีอุณหภูมิต่ำ กว่าปกติ จึงทำ ให้มีปริมาณฝนลดลง 13.ครูอภิปรายกับนักเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบจากปรากฏการเอลนีโญและลานีญาที่มีต่อ ประเทศไทย โดยใช้คำ ถามชวนคิดในหนังสือเรียนหน้า 216 ดังนี้ ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาก่อให้เกิดผลกระทบได้อย่างไร แนวคำ ตอบ ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาก่อให้เกิดผลกระทบได้เนื่องจากอุณหภูมิ น้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ โดยถ้าน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงกว่า ปกติจะทำ ให้น้ำ ระเหยเข้าสู่บรรยากาศได้มากขึ้นส่งผลให้เกิดฝนตกมากขึ้น แต่ถ้าน้ำ ผิวหน้า มหาสมุทรมีอุณหภูมิต่ำ กว่าปกติจะทำ ให้น้ำ ระเหยเข้าสู่บรรยากาศได้น้อยลงส่งผลให้เกิด ฝนตกน้อยลง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


288 บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ เพราะเหตุใด ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ลานีญา ประเทศไทยจึงมีฝนตกมากกว่าปกติและ อุณหภูมิอากาศต่ำ กว่าปกติ แนวคำ ตอบ เนื่องจากน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ อากาศเหนือผิวน้ำ บริเวณนี้จึงมีอุณหภูมิสูงขึ้น ส่งผลให้ความกดอากาศ มีค่าต่ำ กว่าปกติ ทำ ให้ความกดอากาศบริเวณตอนบนของประเทศจีนและความกดอากาศเหนือ มหาสมุทรมีค่าแตกต่างกันมากขึ้น อากาศจึงสามารถเคลื่อนที่จากทางตอนบนของประเทศ จีนมายังมหาสมุทรได้มากขึ้นส่งผลให้ประเทศไทยมีอุณหภูมิลดต่ำ ลงกว่าปกติ นอกจากนี้ อากาศเย็นที่เคลื่อนผ่านมายังบริเวณประเทศไทยซึ่งมีความชื้นสูงยังส่งผลให้เกิดฝนตกมากขึ้น 14. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปผลการหมุนเวียนของอากาศและน้ำ ผิวหน้าในมหาสมุทร โดยมีแนวทางการสรุปดังนี้ แนวทางการสรุป การหมุนเวียนของอากาศและการหมุนเวียนของน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรมีความ สัมพันธ์กัน หากการหมุนเวียนของอากาศและน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรเกิดความแปรปรวนจะส่งผลต่อ ลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม เช่น เอลนีโญและลานีญา แนวทางการวัดและประเมินผล KPA แนวทางการวัดและประเมินผล K: ผลของการหมุนเวียนของอากาศและ น้ำ ผิวหน้าในมหาสมุทรที่มีต่อลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม 1. การตอบคำ ถามตรวจสอบความเข้าใจ 2. การตอบคำ ถาม และการนำ เสนอผล การอภิปราย 3. แบบฝึกหัด P: 1. การจัดกระทำ และสื่อความหมายข้อมูล 2. ความร่วมมือ การทำ งานเป็นทีมและภาวะ ผู้นำ 1. ผลงานการแสดงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จากปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีลงใน แผนที่โลก 2. มีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ อภิปราย และลงข้อสรุปเกี่ยวกับผลกระทบจาก ปรากฏการณ์เอลนีโญและลาณีญา A : การยอมรับความเห็นต่าง การรับฟังความเห็นของผู้อื่นในการ ร่วมอภิปราย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ 289 แบบฝึกหัดท้ายบท 1. ระบุปัจจัยหลักที่ทำ ให้ประเทศไทยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าบริเวณขั้วโลก พร้อมทั้งให้ เหตุผลประกอบ แนวคำ�ตอบ 1) ตำ แหน่งละติจูด ประเทศไทยอยู่ในตำ แหน่งที่รับพลังงานจากรังสีในแนวเฉียง น้อยกว่าบริเวณขั้วโลกทำ ให้ความเข้มของรังสีสูงกว่า 2) อัตราส่วนรังสีสะท้อนของพื้นผิวโลก บริเวณประเทศไทยน้อยกว่าบริเวณขั้วโลก ทำ ให้รับรังสีได้มากกว่า 2. ที่ละติจูดเดียวกัน ในบริเวณที่เป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีการปล่อยฝุ่นควันเป็น จำ นวนมาก เมื่อเทียบกับบริเวณป่าไม้ที่มีอากาศปลอดโปร่ง บริเวณใดจะได้รับปริมาณพลังงาน จากรังสีดวงอาทิตย์น้อยกว่ากัน เพราะเหตุใด แนวคำ�ตอบ บริเวณที่เป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมได้รับปริมาณพลังงานจากรังสีดวงอาทิตย์ น้อยกว่า เพราะละอองลอยจากโรงงานอุตสาหกรรมจะดูดกลืน สะท้อน และกระเจิงรังสี ดวงอาทิตย์ ทำ ให้รังสีดวงอาทิตย์ที่ตกกระทบพื้นผิวโลกมีความเข้มน้อยลง 3. เมื่อเปรียบเทียบบริเวณขั้วโลกและป่าดิบชื้น บริเวณใดมีอัตราส่วนรังสีสะท้อนมากกว่ากัน และส่งผลต่ออุณหภูมิอากาศบริเวณนั้นอย่างไร แนวคำ�ตอบ บริเวณขั้วโลกมีอัตราส่วนรังสีสะท้อนมากกว่าบริเวณป่าดิบชื้น ส่งผลให้อุณหภูมิ อากาศบริเวณขั้วโลกต่ำ กว่าบริเวณป่าดิบชื้น 4. พิจารณาแผนภาพแสดงบริเวณเส้นความกดอากาศเท่า (isobar) ก และ ข ซึ่งอยู่ใน เขตซีกโลกเหนือ และเส้นความกดอากาศเท่า ค และ ง ซึ่งอยู่ในเขตซีกโลกใต้ หมายเหตุ เส้นความกดอากาศเท่าคือ เส้นที่ลากผ่านบริเวณที่มีความกดอากาศเท่ากัน ณ บริเวณต่าง ๆ พร้อมทั้ง มีการระบุค่าความกดอากาศของเส้นนั้น ๆ ในหน่วยเฮกโตปาสกาล (hPa) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


290 บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ ให้นักเรียนพิจารณาทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศต่อไปนี้ว่าถูกหรือผิดโดยวงกลม เลือกพร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ ถูก / ผิด เพราะเหตุใด อากาศจะต้องมีทิศทางการเคลื่อนที่ จากบริเวณที่มีความกดอากาศสูง กว่าไปยังบริเวณที่มีความกดอากาศ ต่ำ กว่า ถูก / ผิด เพราะเหตุใด อากาศจะต้องมีทิศทางการเคลื่อนที่ จากบริเวณที่มีความกดอากาศสูง กว่าไปยังบริเวณที่มีความกดอากาศ ต่ำ กว่า ถูก / ผิด เพราะเหตุใด อากาศมีทิศทางทางการเคลื่อนที่จาก บริเวณที่มีความกดอากาศสูงกว่าไป ยังบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ กว่า และอากาศบนซีกโลกเหนือมีทิศทาง การเคลื่อนที่เบนออกไปทางขวา ถูก / ผิด เพราะเหตุใด อากาศบนซีกโลกใต้จะต้องมีทิศทาง การเคลื่อนที่เบนออกไปทางซ้าย 4.1 4.2 4.3 4.5 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ 291 5. จากแบบจำ ลองการหมุนเวียนอากาศตามเขตละติจูดให้นักเรียนตอบคำ ถามต่อไปนี้ 5.1 เหตุใดอากาศจึงยกตัวขึ้นบริเวณศูนย์สูตร และบริเวณละติจูดที่ 60 องศา แนวคำ�ตอบ ที่บริเวณศูนย์สูตรมีความเข้มรังสีมากทำ ให้อากาศมีอุณหภูมิสูง ประกอบกับลมค้า จากซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้พัดเข้าหากันทำ ให้อากาศยกตัวขึ้นอย่างรุนแรง และที่บริเวณ ละติจูดที่ 60 องศา อากาศที่อุ่นกว่าจากละติจูดที่ 30 องศา เคลื่อนที่มาปะทะกับอากาศเย็นจาก ขั้วโลก ทำ ให้อากาศยกตัวขึ้น 5.2 เหตุใดอากาศจึงจมตัวลงบริเวณละติจูดที่ 30 องศา และบริเวณขั้วโลก แนวคำ�ตอบ ที่บริเวณละติจูดที่ 30 องศา อากาศที่ยกตัวและเคลื่อนที่มาจากศูนย์สูตรจะมีอุณหภูมิ ต่ำ ลง ทำ ให้มีความหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น จึงจมตัวลงบริเวณละติจูดที่ 30 องศา และที่บริเวณ ขั้วโลกเป็นบริเวณที่มีความเข้มรังสีดวงอาทิตย์น้อย อากาศจึงมีอุณหภูมิต่ำ และความกดอากาศสูง ทำ ให้อากาศจมตัวได้ดี 5.3 ทิศทางของลมพื้นผิวบริเวณละติจูด 0 ถึง 30 องศาเหนือแตกต่างจากทิศทางของลม บริเวณ ละติจูด 0 ถึง 30 องศาใต้อย่างไร เพราะเหตุใด แนวคำ�ตอบ ลมพื้นผิวบริเวณละติจูด 0 ถึง 30 องศาเหนือ มีทิศทางเบนออกไปทางขวา ส่วนลมพื้นผิวบริเวณละติจูด 0 ถึง 30 องศาใต้ มีทิศทางเบนออกไปทางซ้าย เนื่องจากอิทธิพล จากแรงคอริออลิสที่แตกต่างกันระหว่างซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


292 บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 6. ให้นักเรียนเติมลักษณะภูมิอากาศและลมประจำ เขตละติจูดลงในช่องว่างให้สอดคล้องกับ การหมุนเวียนของอากาศในแต่ละแถบละติจูด ก. ลมตะวันออก ข. ลมตะวันตก ค. ภูมิอากาศตั้งแต่แบบแห้งแล้งจนถึงภูมิอากาศแบบอบอุ่น ง. ภูมิอากาศตั้งแต่แบบร้อนชื้นจนถึงภูมิอากาศแบบแห้งแล้ง จ. ภูมิอากาศตั้งแต่ภูมิอากาศอบอุ่นจนถึงภูมิอากาศหนาว การหมุนเวียนของอากาศ ในแต่ละแถบละติจูด ภูมิอากาศและลมประจำ�เขตละติจูด การหมุนเวียนอากาศแถบเขตร้อน ลมตะวันออก ภูมิอากาศตั้งแต่แบบร้อนชื้น จนถึงภูมิอากาศแบบแห้งแล้ง การหมุนเวียนอากาศแถบขั้วโลก ลมตะวันตก ภูมิอากาศตั้งแต่ภูมิอากาศ อบอุ่นจนถึงภูมิอากาศหนาว การหมุนเวียนอากาศ แถบละติจูดกลาง ลมตะวันออก ภูมิอากาศตั้งแต่แบบแห้งแล้ง จนถึงภูมิอากาศแบบอบอุ่น 7. ระบุลักษณะลมฟ้าอากาศที่พบบริเวณรอยต่อของเขตละติจูด พร้อมอธิบายการเกิด บริเวณรอยต่อ ลักษณะลมฟ้าอากาศ การเกิด ละติจูด 60 องศา เหนือและใต้ เกิดเมฆและหยาดน้ำ ฟ้า ป ริ ม า ณ ม า ก ทำ ใ ห้ อากาศอบอุ่นและชื้น ตลอดปี ก า ร ห มุ น อ า ก า ศ ใ น แ ถ บ ละติจูดกลางมาปะทะกับ อากาศเย็นจากการหมุนเวียน อากาศแถบขั้วโลกแล้วยก ตัวขึ้น ละติจูด 30 องศา เหนือและใต้ แห้งแล้ง มีหยาดน้ำฟ้าน้อย เกิดการจมตัวของอากาศที่ เคลื่อนที่มาจากแถบศูนย์สูตร เส้นศูนย์สูตร มีเมฆมาก เกิดฝนฟ้า คะนองและฝนชุกตลอด ปี ล ม ค้ า จ า ก ซี ก โ ล ก เ ห นื อ และซีกโลกใต้พัดเข้าหากัน บริเวณศูนย์สูตร ทำ ให้อากาศ ยกตัวอย่างรุนแรง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ 293 8. ปัจจัยหลักที่ทำ ให้น้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรเกิดการไหลเวียนคืออะไร แนวคำ ตอบ ลม แรงคอริออลิส และขอบทวีป 9. บริเวณที่มีกระแสน้ำ อุ่นไหลผ่าน จะมีลมฟ้าอากาศเป็นอย่างไร เพราะเหตุใด แนวคำตอบ อากาศมีอุณหภูมิและความชื้นสูงทำ ให้มีโอกาสเกิดฝนตกได้มาก เพราะกระแส น้ำ อุ่นถ่ายโอนความร้อนเข้าสู่อากาศบริเวณนั้นทำ ให้อากาศมีอุณหภูมิสูงขึ้น ประกอบกับน้ำ สามารถระเหยเข้าสู่บรรยากาศได้มากจึงมีความชื้นสูงและมีโอกาสเกิดฝนตกมาก 10. ใช้แผนที่โลกที่กำ หนดให้ประกอบการตอบคำ ถามต่อไปนี้ 10.1 กระแสน้ำ ผิวหน้าบริเวณหมายเลข 1 มีทิศทางการไหลอย่างไร เพราะเหตุใด แนวคำ ตอบ ไหลไปทางทิศตะวันออกตามทิศทางของลมตะวันตก 10.2 กระแสน ้ำ A และกระแสน้ำ B กระแสน้ำ ใดเป็นกระแสน้ำ อุ่นและกระแสน้ำ ใดเป็น กระแสน้ำ เย็น เพราะเหตุใด แนวคำ ตอบ กระแสน้ำ A เป็นกระแสน้ำ อุ่น เพราะไหลยังบริเวณละติจูดที่สูงกว่าทำ ให้ น้ำ ในกระแสน้ำ มีอุณหภูมิสูงกว่าน้ำ โดยรอบ ส่วนกระแสน้ำ B เป็นกระแสน้ำ เย็น เพราะ ไหลยังบริเวณละติจูดที่ต่ำ กว่าทำ ให้น้ำ ในกระแสน้ำ มีอุณหภูมิต่ำ กว่าน้ำ โดยรอบ 10.3 กระแสน้ำ A และ B มีชื่อว่าอะไร แนวคำ ตอบ กระแสน้ำ A ชื่อว่า กระแสน้ำ อุ่นกัลฟตรีม กระแสน้ำ B ชื่อว่า กระแสน้ำ เย็นเปรู สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


294 บทที่ 8 |ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 11.3 อุณหภูมิน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรบริเวณ มหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางเป็น อย่างไรเมื่อเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ก. สูงขึ้น ข. ไม่เปลี่ยนแปลง ค. ลดลง 11.4 อุณหภูมิน้ำ ผิวหน้ามหาสมุทรบริเวณ มหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางเป็น อย่างไรเมื่อเกิดปรากฏการณ์ลานีญา ก. สูงขึ้น ข. ไม่เปลี่ยนแปลง ค. ลดลง 11.5 ปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรงส่งผลให้ เกิดความผิดปกติแบบใดในประเทศไทย ก. ฝนตกหนัก ข. ไม่เปลี่ยนแปลง ค. ฝนแล้ง 11.6 ปรากฏการณ์ลานีญารุนแรงส่งผลให้ เกิดความผิดปกติแบบใดในประเทศไทย ก. ฝนตกหนัก ข. ไม่เปลี่ยนแปลง ค. ฝนแล้ง 11. วงกลมตัวอักษรหน้าคำ ตอบที่ถูกต้องจากตัวเลือกกำ หนดให้ ข้อ ข้อความ ตัวเลือก 11.1 ข ณ ะ เ กิ ด ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ เ อ ล นี โ ญ น้ำ อุ่นที่ไหลจากชายฝั่งด้านตะวันออก ไปยังชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทร แปซิฟิกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก. ไหลไปทางตะวันตกมากขึ้น ข. ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ค. ไหลไปทางตะวันตกน้อยลง 11.2 ข ณ ะ เ กิ ด ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ ล า นี ญ า น้ำ อุ่นที่ไหลจากชายฝั่งด้านตะวันออก ไปยังชายฝั่งด้านตะวันตกของมหาสมุทร แปซิฟิก เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก. ไหลไปทางตะวันตกมากขึ้น ข. ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ค. ไหลไปทางตะวันตกน้อยลง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 295 (ก) (ข) อธิบายปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก พร้อมทั้งนำ เสนอแนวปฏิบัติเพื่อ ลดกิจกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก ตัวชี้วัด 9 บทที่ | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ipst.me/8859 ที่มารูป ก และ ข NASA/William O. Field สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


296 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ การวิเคราะห์ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด อธิบายปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก พร้อมทั้งนำ เสนอแนวปฏิบัติเพื่อ ลดกิจกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายกระบวนการสมดุลพลังงานของโลก 2. วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกับปัจจัยที่เกี่ยวข้อง 3. อธิบายผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม 4. ออกแบบและนำ เสนอแนวปฏิบัติเพื่อลดปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก และ แนวทางการรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ 1. การตีความหมายและ ลงข้อสรุป ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1. การสร้างสรรค์และนวัตกรรม 2. ความร่วมมือ การทำ งานเป็น ทีมและภาวะผู้นำ 3. ความร่วมมือ การทำ งานเป็น ทีมและภาวะผู้นำ จิตวิทยาศาสตร์ 1. ความใจกว้าง 2. คุณธรรมและ จริยธรรมที่เกี่ยวข้อง กับวิทยาศาสตร์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 297 ลำ ดับแนวความคิดต่อเนื่อง โลกมีกระบวนการที่ทำ ให้เกิดความสมดุลพลังงาน ส่งผลให้โลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศในแต่ละปี ค่อนข้างคงที่ ซึ่งมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องคือ บรรยากาศ เมฆ และพื้นผิวโลก การเปลี่ยนแปลงปริมาณขององค์ประกอบในบรรยากาศ เช่น แก๊สเรือนกระจก ละอองลอย รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวโลก ล้วนส่งผลต่อสมดุลพลังงานของโลกและทำ ให้เกิด การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมในหลาย ๆ ด้าน ดังนั้นการลดปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและการวางแผนรับมือต่อ ผลกระทบที่เกิดขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนและทุกองค์กรทั้งในระดับชาติและระดับโลก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


298 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ สาระสำ คัญ โลกมีกระบวนการสมดุลพลังงาน ที่ควบคุมให้พลังงานเฉลี่ยที่โลกได้รับเท่ากับพลังงานเฉลี่ยที่โลก ปล่อยกลับสู่อวกาศ ส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยของพื้นผิวโลกในแต่ละปีค่อนข้างคงที่ มีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง คือ บรรยากาศ เมฆ และพื้นผิวโลก หากปัจจัยดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อสมดุลพลังงาน ของโลกทำ ให้ภูมิอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมในหลาย ๆ ด้าน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะร่วมมือกันลดปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และวางแผนรับมือต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เวลาที่ใช้ บทเรียนนี้ควรใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง 9.1 สมดุลพลังงานของโลกกับอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศ 1 ชั่วโมง 9.2 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 2 ชั่วโมง 9.3 ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 2 ชั่วโมง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 299 9.1 สมดุลพลังงานของโลกกับอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศ จุดประสงค์การเรียนรู้ อธิบายกระบวนสมดุลพลังงานของโลก สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2. สสวท. Learning space https://www.scimath.org แนวการจัดการเรียนรู้ 1. ครูนำ เข้าสู่บทเรียน โดยให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ การรับพลังงานจากดวงอาทิตย์และอุณหภูมิของอากาศ โดยใช้คำ ถามต่อไปนี้ เพราะเหตุใดโลกของเราจึงมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ซึ่งต่างจากดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ แนวคำ ตอบ โลกของเรามีมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เพราะมีอุณหภูมิเหมาะสมกับการดำ รงชีวิต เนื่องจากโลกมีบรรยากาศที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิของอากาศในเวลากลางวันไม่ร้อนเกินไปและ กลางคืนไม่หนาวจนเกินไป และโลกยังมีน้ำ ที่ใช้ในการดำ รงชีวิต เมื่อดวงอาทิตย์แผ่รังสีมาถึงชั้นบรรยากาศของโลก โลกจะรับและเก็บพลังงานจากดวงอาทิตย์ ไว้ทั้งหมดหรือไม่ เพราะเหตุใด แนวคำ ตอบ ไม่ทั้งหมด เพราะโลกมีกระบวนการปลดปล่อยพลังงานที่โลกได้รับกลับสู่ บรรยากาศด้วย ถ้าโลกรับและเก็บไว้ทั้งหมดอุณหภูมิของโลกของสูงขึ้นตลอดเวลาจนสิ่งมีชีวิต ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ 2. ครูเตรียมรูป 9.1, 9.2 และ 9.3 ตามหนังสือเรียนหน้า 226, 227 และ 228 ตามลำ ดับ โดย ดาวน์โหลดจาก QR code ประจำ บทในคู่มือครู แล้วให้นักเรียนศึกษากระบวนการรับและ ปล่อยพลังงานออกสู่อวกาศโดยปัจจัยต่าง ๆ จากรูปข้างต้น แล้วตอบคำ ถามต่อไปนี้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


300 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ เมื่อดวงอาทิตย์แผ่รังสีมาสู่ชั้นบรรยากาศโลก รังสีดวงอาทิตย์ผ่านมายังพื้นผิวโลกทั้งหมด หรือไม่ เพราะเหตุใด แนวคำ ตอบ ไม่ทั้งหมด เพราะบรรยากาศ เมฆ และพื้นผิวโลกจะสะท้อนรังสีบางส่วนออกสู่ อวกาศ ถ้าพลังงานที่โลกได้รับทั้งหมดคิดเป็น 100 หน่วย ปริมาณพลังงานที่ออกสู่อวกาศประมาณ กี่หน่วย และคงเหลืออยู่ภายในโลกประมาณกี่หน่วยและอยู่ที่ใดบ้าง แนวคำ ตอบ พลังงานที่ออกสู่อวกาศ 29 หน่วย และคงเหลืออยู่ภายในโลกประมาณ 71 หน่วย โดยคงอยู่ในบรรยากาศ เมฆ และพื้นผิวโลก พื้นผิวโลกปลดปล่อยพลังงานที่ดูดกลืนไว้ผ่านกระบวนการใดบ้าง แนวคำ ตอบ การแผ่รังสี การพาความร้อน การระเหยของน้ำ พื้นผิวโลกแผ่รังสีความร้อนที่ดูดกลืนไว้ออกสู่อวกาศทั้งหมดหรือไม่ อย่างไร แนวคำ ตอบ ไม่ทั้งหมด โดยพื้นผิวโลกแผ่รังสีความร้อนออกสู่อวกาศโดยตรง 12 หน่วย ส่วนรังสีความร้อนที่เหลือจะถูกดูดกลืนโดยไว้โดยแก๊สเรือนกระจกและแผ่รังสีกลับมายัง พื้นผิวโลกอีกครั้ง นอกจากพลังงานที่พื้นผิวโลกปลดปล่อยโดยตรงออกสู่อวกาศ โลกยังปลดปล่อยพลังงานออก สู่อวกาศด้วยปัจจัยอื่นอีกหรือไม่ เป็นปัจจัยใดบ้างและปริมาณเท่าใด แนวคำ ตอบ ปล่อยสู่อวกาศโดยบรรยากาศและเมฆ รวมเป็น 59 หน่วย เมื่อพิจารณาในภาพรวมทั้งกระบวนการสมดุลพลังงานแล้ว ปริมาณพลังงานเฉลี่ยที่โลกได้รับ และพลังงานเฉลี่ยที่ปล่อยออกสู่อวกาศเท่ากันหรือไม่ อย่างไร แนวคำ ตอบ เท่ากัน โดยโลกได้รับพลังงานเฉลี่ยรวม 100 หน่วย และปล่อยออกสู่อวกาศโดย เฉลี่ย 100 หน่วย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 301 3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเชื่อมโยงจากแผนภาพ 9.1 9.2 และ 9.3 โดยมีแนวทางการสรุปดังนี้ แนวทางการสรุป • ถ้าพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่เข้ามาสู่ชั้นบรรยากาศโลกในเวลา 1 ปี โดยเฉลี่ย คิดเป็น 100 หน่วย โลกจะค่อย ๆ ปล่อยพลังงานกลับสู่อวกาศในปริมาณที่เท่ากันโดยผ่านกระบวนการสะท้อน การแผ่รังสี การพาความร้อน การนำ ความร้อน และการระเหยของน้ำ ทำ ให้เกิดสมดุลพลังงาน บนโลก • กระบวนการสมดุลพลังงานทำ ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศในแต่ละปีค่อนข้างคงที่เป็นระยะ เวลานาน 4. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมว่า กระบวนการสมดุลพลังงานนี้เกิดขึ้นทุกบริเวณบนโลกถึงแม้ว่าแต่ละบริเวณ จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยแตกต่างกันเนื่องจากปัจจัยหลายประการดังที่ได้ศึกษาในบทที่ 8 เมื่อพิจารณา อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศเหนือพื้นผิวโลกแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 15 องศาเซลเซียส ซึ่งได้จาก การวัดอุณหภูมิอากาศเหนือพื้นผิวโลก 5 เมตร ของบริเวณต่าง ๆ ทั่วโลก แล้วนำ มาหาค่าเฉลี่ยอยู่ ที่ประมาณ 15 องศาเซลเซียส ซึ่งถ้าเป็นดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยแตกต่างจากนี้ 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change) นั้น พิจารณาจาก การเปลี่ยนแปลงค่าเฉลี่ยของลมฟ้าอากาศ เช่น อุณหภูมิของอากาศ ความกดอากาศ ความชื้น ปริมาณหยาดน้ำ ฟ้า ในภูมิภาคหนึ่ง ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายทศวรรษหรือนานกว่านั้น โดยตัวบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่สำ คัญ คือ อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศ 6. ให้นักเรียนสังเกตข้อมูลอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศจากรูป 9.4 ในหนังสือเรียนหน้า 229 ที่แสดง ให้เห็นว่าโดยปกติแล้วอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศมีการเปลี่ยนแปลงน้อยจนเกือบคงที่ แล้วร่วมกัน อภิปรายโดยใช้คำ ถามต่อไปนี้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


302 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ ในช่วงก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศในแต่ละปีมีแนวโน้มอย่างไรและ คงอยู่เป็นระยะเวลาประมาณเท่าใด แนวคำ ตอบ มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงน้อยจนเกือบคงที่ ในช่วงระยะเวลาประมาณ 900 ปี ในช่วงหลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศในแต่ละปีมีแนวโน้มอย่างไร แนวคำ ตอบ มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้น 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าโดยปกติแล้ว อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศมีการเปลี่ยนแปลงทั้งเพิ่มขึ้นและ ลดลงแต่แตกต่างกันน้อยมากโดยมีแนวโน้มค่อนข้างคงที่เป็นระยะเวลานาน ถ้าไม่มีปัจจัยใดมา กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสามารถอธิบายกระบวนการที่โลกใช้ในการควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ย ของอากาศได้ดังข้อ 2 8. ครูอาจนำ กราฟ แสดงอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศโลกในช่วงเวลาธรณีกาลเมื่อเปรียบเทียบกับค่า อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศ ในช่วงปี 2503-2533 โดยดาวน์โหลดได้จากเวปไซต์ https://commons. wikimedia.org/wiki/File:All_palaeotemps.png โดยกราฟแสดงให้เห็นว่า โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมาตั้งแต่ในอดีต โดยในบาง ช่วงเวลาอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศมีทั้งต่ำ กว่าและสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศในช่วงปี 2503-2533 ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาอุณหภูมิอากาศของโลกในอดีตได้จากหลักฐานทางธรณีวิทยาและจำ ลอง ข้อมูลอุณหภูมิอากาศไปถึงช่วงเวลาธรณีกาล สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 303 แนวทางการวัดและประเมินผล KPA แนวทางการวัดและประเมินผล K: กระบวนการสมดุลพลังงาน การสรุปกระบวนการสมดุลพลังงานจาก การอภิปรายและการตอบคำ ถาม P: การตีความหมายและ ลงข้อสรุป การวิเคราะห์รูป 9.1-9.3 และการตอบ คำ ถาม A : ความใจกว้าง การร่วมอภิปรายและการตอบคำ ถาม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


304 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 9.2 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ จุดประสงค์การเรียนรู้ วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกับปัจจัยที่เกี่ยวข้อง สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2. สสวท. Learning space https://www.scimath.org แนวการจัดการเรียนรู้ 1. ครูนำ เข้าสู่บทเรียน โดยให้นักเรียนทบทวนความรู้เรื่องสมดุลพลังงานเพื่อเชื่อมโยงสู่เรื่อง การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ โดยใช้คำ ถามดังตัวอย่างต่อไปนี้ ถ้าช่วงเวลาหนึ่ง พลังงานเฉลี่ยที่โลกได้รับไม่สมดุลกับพลังงานเฉลี่ยที่โลกปล่อยกลับสู่อวกาศ จะส่งผลต่ออุณหภูมิเฉลี่ยของโลกหรือไม่ อย่างไร แนวคำ ตอบ ส่งผล โดยถ้าพลังงานเฉลี่ยโลกปล่อยกลับสู่อวกาศน้อยกว่าที่โลกได้รับจะส่งผลต่อ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น ในทางกลับกันถ้าพลังงานเฉลี่ยโลกปล่อยกลับสู่อวกาศมากกว่าที่ โลกได้รับจะส่งผลต่ออุณหภูมิเฉลี่ยของโลกลดลง ปัจจัยใดบ้างที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (ตอบตามความคิดของตนเอง) แนวคำ ตอบ บรรยากาศ เมฆ และพื้นผิวโลก 2. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรม 9.1 ตามหนังสือเรียนหน้า 230 เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และตอบคำ ถามท้ายกิจกรรม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 305 จุดประสงค์กิจกรรม 1. วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์กับอุณหภูมิ เฉลี่ยของอากาศในช่วงเวลาต่าง ๆ จากกราฟที่กำ หนดให้ 2. วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดภูเขาไฟระเบิดกับอุณหภูมิเฉลี่ย ของอากาศในช่วงเวลาต่าง ๆ จากกราฟที่กำ หนดให้ 3. สรุปปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เวลา 1 ชั่วโมง วัสดุ-อุปกรณ์ 1. กราฟความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์กับ ผลต่างจากค่าปกติของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศ 2. กราฟแสดงผลต่างจากค่าปกติของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศ ในช่วงที่มีภูเขาไฟระเบิด ข้อเสนอแนะสำ หรับครู ครูสามารถดาวน์โหลดแบบบันทึกกิจกรรมได้จาก QR code ของบทในคู่มือครู เพื่อให้ นักเรียนได้บันทึกผลการวิเคราะห์และตอบคำ ถาม กิจกรรม 9.1 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก วิธีการทำ กิจกรรม 1. วิเคราะห์และสรุปแนวโน้มความสัมพันธ์การเปลี่ยนแปลงปริมาณแก๊สคาร์บอน ไดออกไซด์กับอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศ ในช่วงปี พ.ศ. 2507 - 2551 จากรูป 1 2. วิเคราะห์และสรุปความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดภูเขาไฟระเบิดแต่ละครั้งกับอุณหภูมิ เฉลี่ยของอากาศ ในช่วงปี พ.ศ. 2423-2543 จากรูป 2 3. นำ เสนอผลการทำ กิจกรรม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


306 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ รูป 1 กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์กับผลต่างจากค่า ปกติของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศ (กำ หนดให้ 0 เป็นค่าปกติเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบ ซึ่งมาจากค่าอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศ ในปี พ.ศ. 2494-2523) รูป 2 แสดงผลต่างจากค่าปกติของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศในช่วงที่มีภูเขาไฟระเบิด (กำ หนดให้ 0 เป็นค่าปกติ ซึ่งมาจากค่าอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศ ในช่วงปี พ.ศ. 2413-2442) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 307 สรุปผลการทำ กิจกรรม อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศมีการเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์กับปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออก ไซต์และการระเบิดของภูเขาไฟ โดยปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับ อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศที่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อภูเขาไฟขนาดใหญ่ระเบิดส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ย ของอากาศลดลงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง คำ ถามท้ายกิจกรรม 1. ปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มีความสัมพันธ์กับอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศหรือไม่ อย่างไร แนวคำ ตอบ มีความสัมพันธ์กัน โดยปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นสัมพันธ์ กับอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศที่เพิ่มขึ้น 2. การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศเกิดขึ้นทันทีที่ภูเขาไฟระเบิดหรือไม่ อย่างไร แนวคำ ตอบ ทำ ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศลดลง และส่งผลทันที โดยอุณหภูมิจะ ลดลงอย่างรวดเร็วหลังภูเขาไฟระเบิด 3. สิ่งที่ออกมาพร้อมภูเขาไฟระเบิดส่งผลต่ออุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศหรือไม่ อย่างไร และส่งผลทันทีหรือไม่ อย่างไร แนวคำ ตอบ เถ้าภูเขาไฟ และแก๊สต่าง ๆ ที่ออกมาพร้อมกับการปะทุของภูเขาไฟ เกิดเป็นละอองลอยสะท้อนรังสีจากดวงอาทิตย์ออกสู่อวกาศ ส่งผลทำ ให้อุณหภูมิเฉลี่ย ของอากาศลดลงทันที 4. ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก อย่างไร แนวคำ ตอบ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ในทิศทางที่เพิ่มขึ้น คือ ส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนการระเบิดของภูเขาไฟส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในทิศทางที่ลดลง คือ ส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศมีแนวโน้มลดลง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


308 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 5. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำ เสนอผลการทำ กิจกรรม และร่วมกันอภิปรายผลการทำ กิจกรรม พร้อมตอบคำ ถามท้ายกิจกรรม โดยมีแนวทางการอภิปรายและแนวทางการตอบคำ ถาม ดังแสดงด้านบน 6. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกับปัจจัยที่ เกี่ยวข้องโดยเชื่อมโยงความรู้จากผลการทำ กิจกรรม โดยใช้คำ ถามดังตัวอย่างต่อไปนี้ 1) แก๊สเรือนกระจก แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มีสมบัติอย่างไร และส่งผลต่ออุณหภูมิของอากาศอย่างไร แนวคำ ตอบ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มีสมบัติเป็นแก๊สเรือนกระจก สามารถดูดกลืน รังสีอินฟราเรดหรือรังสีความร้อนที่แผ่มาจากพื้นผิวโลกและแผ่รังสีความร้อนกลับ สู่พื้นผิวโลก หากมีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่เหมาะสมจะทำ ให้อากาศมี อุณหภูมิที่เหมาะสม นอกจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ยังมีแก๊สเรือนกระจกอื่น ๆ อีกหรือไม่ให้ยกตัวอย่าง แนวคำ ตอบ มี เช่น มีเทน ไนตรัสออกไซด์ ไอน้ำ โอโซน ในบรรยากาศมีแก๊สเรือนกระจกเป็นองค์ประกอบในสัดส่วนเป็นอย่างไร แนวคำ ตอบ มีสัดส่วนน้อยมาก ไม่ถึงร้อยละ 1 ถ้าในบรรยากาศมีปริมาณแก๊สเรือนกระจกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลต่ออุณหภูมิ เฉลี่ยของโลกหรือไม่ อย่างไร เพราะเหตุใด แนวคำตอบ หากในบรรยากาศมีปริมาณแก๊สเรือนกระจกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่ง ผลให้โลกค่อย ๆ มีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะแก๊สเรือนกระจกดูดกลืนรังสี ความร้อนและแผ่รังสีกลับมาสู่ผิวโลกมากขึ้น ทำ ให้โลกสะสมความร้อนมากขึ้น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 309 ถ้าพิจารณาค่าศักยภาพในการทำ ให้เกิดภาวะโลกร้อนหรือ GWP ของแก๊ส ก มีค่า มากกว่าแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ จะหมายความว่าอย่างไร แนวคำตอบ ในระยะเวลา 100 ปี ถ้าในบรรยากาศมีแก๊ส ก ในปริมาณเท่ากับ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สดังกล่าวจะสามารถดูดกลืนพลังงานความร้อนที่แผ่จาก พื้นผิวโลกได้มากกว่าแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สเรือนกระจกมีที่มาจากแหล่งใดบ้าง แนวคำ ตอบ มีแหล่งที่มาจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น กระบวนการอุตสาหกรรม การเกษตร การคมนาคมขนส่ง การผลิตกระแสไฟฟ้า ของเสียจากบ้านเรือน และมี แหล่งที่มาจากธรรมชาติ เช่น การย่อยสลายอินทรีย์สาร ภูเขาไฟระเบิด การหายใจ ของสิ่งมีชีวิต การปลดปล่อยแก๊สจากมหาสมุทร 2) ละอองลอย การเกิดภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่ในแต่ละครั้งจะปลดปล่อยสิ่งใดออกมาบ้าง แนวคำ ตอบ ลาวา เถ้าภูเขาไฟ แก๊สต่าง ๆ ไอน้ำ เมื่อภูเขาไฟระเบิดจะส่งผลต่ออุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศอย่างไร แนวคำ ตอบ อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศลดลง สิ่งที่ออกมาพร้อมกับการปะทุของภูเขาไฟและส่งผลต่ออุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศคือ อะไร แนวคำ ตอบ ละอองลอย แก๊สเรือนกระจก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


310 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ จากนั้นครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเถ้าภูเขาไฟว่า เถ้าภูเขาไฟนั้นมีอนุภาคหลายขนาด โดยเถ้าที่มีอนุภาคขนาดใหญ่จะตกลงมาสู่พื้นโลกอย่างรวดเร็ว ส่วนเถ้าที่มีอนุภาคขนาดเล็ก บางส่วนค้างอยู่ในบรรยากาศ และเป็นแกนกลางในการควบแน่นของไอน้ำ เกิดเป็นเมฆใน ชั้นโทรโพสเฟียร์และตกลงมาพร้อมกับฝนภายในเวลาไม่นาน นอกจากนี้การระเบิดของภูเขาไฟ ยังปลดปล่อยแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์จำ นวนมาก ซึ่งสามารถลอยขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศ สเตรโตสเฟียร์และเมื่อรวมตัวกับไอน้ำ จะเกิดเป็นละอองลอยของกรดซัลฟิวริก ปกคลุม ท้องฟ้าเป็นบริเวณกว้างและคงอยู่ในชั้นบรรยากาศนั้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งละอองลอย เหล่านี้สามารถสะท้อนและกระเจิงแสงทำ ให้รังสีดวงอาทิตย์ผ่านลงมาสู่พื้นผิวโลกได้น้อยลง ส่งผลให้อุณหภูมิลดลงประมาณ 1-3 ปี หลังจากเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ 3) ค่าอัตราส่วนรังสีสะท้อนของพื้นผิวโลก ค่าอัตราส่วนรังสีสะท้อนของพื้นผิวโลกในแต่ละบริเวณแตกต่างกันได้ เนื่องจากอะไร แนวคำ ตอบ ลักษณะพื้นผิวโลกที่รังสีดวงอาทิตย์ตกกระทบ เช่น ธารน้ำ แข็ง พื้นน้ำ พื้นดิน ป่าไม้ เมือง ทะเลทราย สาเหตุใดบ้างที่ทำ ให้ค่าอัตราส่วนรังสีสะท้อนของพื้นผิวโลกเปลี่ยนแปลง แนวคำตอบ การเปลี่ยนแปลงลักษณะของพื้นผิวโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ สีเขียว การขยายตัวของเขตเมือง การลดลงของพืดน้ำ แข็ง การเปลี่ยนแปลงค่าอัตราส่วนรังสีสะท้อนของพื้นผิวโลก ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ อย่างไร แนวคำตอบ ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยถ้าค่าอัตราส่วนรังสีสะท้อนของ พื้นผิวโลกลดลง แสดงว่าพื้นผิวโลกบริเวณนั้นสะท้อนรังสีดวงอาทิตย์กลับสู่อวกาศได้ น้อยลง ทำ ให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ทำ ให้โลกมีพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันถ้าค่าอัตราส่วนรังสีสะท้อนของพื้นผิวโลกเพิ่มขึ้น แสดงว่าพื้นผิวโลก บริเวณนั้นสะท้อนรังสีดวงอาทิตย์กลับสู่อวกาศได้มากขึ้น ทำ ให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ในทิศทางที่ทำ ให้โลกมีพลังงานหมุนเวียนลดลง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 311 แนวทางการวัดและประเมินผล KPA แนวทางการวัดและประเมินผล K: ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 1. ผลการปฏิบัติกิจกรรม 9.1 และการตอบ คำ ถามท้ายกิจกรรม 2. การสรุปองค์ความรู้จากการอภิปราย 3. แบบฝึกหัดท้ายบท P: การตีความหมายและ ลงข้อสรุป การวิเคราะห์กราฟในกิจกรรม 9.1 และ การตอบคำ ถามท้ายกิจกรรม A : ความใจกว้าง การรับฟังความเห็นของผู้อื่นในการร่วม อภิปราย 7. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปองค์ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศ โดยมีแนวทางการสรุปดังนี้ แนวคำตอบ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศนั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยที่เกี่ยวข้อง กับกระบวนการสมดุลพลังงานของโลก ทั้งแก๊สเรือนกระจก ละอองลอย ค่าอัตราส่วน รังสีสะท้อนของพื้นผิวโลก ซึ่งแต่ละปัจจัยส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในทิศทาง แตกต่างกัน เช่น ส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศสูงขึ้นหรือลดลง 8. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงลักษณะการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ซึ่ง เป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ซึ่งนักเรียนสามารถ ศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากเอกสารความรู้เรื่องวัฏจักรมิลานโควิช โดยดาวน์โหลดจาก QR code ของบทในหนังสือเรียน และสรุปได้ดังแนวทางการอธิบายต่อไปนี้ แนวคำ ตอบ การเปลี่ยนแปลงลักษณะการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงความรีของวงโคจรโลกรอบดวงอาทิตย์ การเปลี่ยนแปลงมุมเอียงของ แกนหมุนโลก การหมุนควงของแกนหมุนโลก ทำ ให้ความเข้มแสงจากดวงอาทิตย์ที่ พื้นผิวโลกได้รับในแต่ละช่วงเวลามีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลงสลับกันเป็นวัฏจักร แต่ใช้เวลานาน ตั้งแต่หลายหมื่นปีจนถึงแสนปี เรียกว่า วัฏจักรมิลานโควิช สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


312 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 9.3 ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและแนวทางการรับมือ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. รวบรวมข้อมูลและอธิบายผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม 2. ออกแบบและนำ เสนอแนวปฏิบัติเพื่อลดปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก และ แนวทางการรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2. สสวท. Learning space https://www.scimath.org แนวการจัดการเรียนรู้ 1. ครูนำ เข้าสู่บทเรียน โดยให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับข่าว บทความ หรือประสบการณ์ ที่เคยรับรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก 2. จากนั้นแบ่งกลุ่มนักเรียน แล้วให้ปฏิบัติกิจกรรม 9.2 ตามหนังสือเรียนหน้า 238 เพื่อศึกษา ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและการรับมือ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 313 จุดประสงค์กิจกรรม 1. รวบรวมข้อมูล และอธิบายผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม 2. ออกแบบและนำ เสนอแนวปฏิบัติเพื่อลดปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และแนวทางการรับมือต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น สื่อและแหล่งเรียนรู้ เอกสารวิชาการ เช่น 1. สำ นักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2561). ความรู้พื้นฐานด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศและการปรับตัวของชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เดือนตุลาคม. 2. สำ นักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2558). แผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2558-2593. 3. วิกานดา วรรณวิเศษ. (2553). การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกับผลกระทบต่อ ประเทศไทย. ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์วุฒิสภา, ปีที่ 5 (ฉบับที่ 17), หน้า 1-17. 4. กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2559). การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลกระทบต่อสุขภาพ และการเตรียมการด้าน สาธารณสุข สำ หรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: โครงการ ผลิตสื่อ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น). 5. พรพรรณ สอนเชื้อ. (2560). การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกับโรคติดเชื้อ. ธรรมศาสตร์ เวชสาร, ปีที่ 17 (ฉบับที่ 3), หน้า 440 - 445. กิจกรรม 9.2 ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและการรับมือ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


314 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ เวลา 1 ชั่วโมง การเตรียมตัวล่วงหน้า 1. เตรียมสำ เนาเอกสารข้อ 1 – 3 จำ นวน 7 ชุด เพื่อแจกให้กับทุกกลุ่ม 2. เตรียมสำ เนาเอกสารข้อ 1 – 3 จำ นวน 7 ชุด เพื่อแจกให้เฉพาะกับทุกกลุ่มที่ได้หัวข้อ ผลกระทบต่อสุขภาพ 3. เตรียมกระดาษแผ่นใหญ่และปากกาสีต่าง ๆ จำ นวนเท่ากับกลุ่ม 4. เตรียมกระดาษกาวสำ หรับติดผลงานเพื่อนำ เสนอ ข้อเสนอแนะสำ หรับครู ใช้วิธี expert group ในการทำ กิจกรรม เพื่อบริหารจัดการเวลาและฝึกให้นักเรียนมีทักษะ ในการรวบรวมข้อมูลและสรุป โดยปฏิบัติดังนี้ 1. แบ่งกลุ่มและจำ นวนนักเรียนให้เท่ากับจำ นวนหัวข้อผลกระทบ เช่น จากตัวอย่างในข้อ 1 ให้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน 2. จากนั้นแบ่งหน้าที่ให้กับสมาชิกทุกคนตามหัวข้อผลกระทบ ดังนั้นสมาชิกแต่ละคน มีหน้าที่ศึกษา 1 หัวข้อ 3. ให้สมาชิกของแต่ละกลุ่มในข้อ 1 กระจายเข้ากลุ่มใหม่ตามหัวข้อผลกระทบที่กำ หนด ดังนั้นสมาชิกทุกคนในกลุ่มใหม่จะศึกษาในหัวข้อย่อยเดียวกัน 4. ให้สมาชิกในกลุ่มใหม่ร่วมกันศึกษาและสรุปความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากการ เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและการรับมือในหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย ภายในเวลาที่กำ หนด 5. จากนั้น สมาชิกในกลุ่มใหม่กลับเข้ากลุ่มที่แบ่งไว้เดิมในข้อ 1 เพื่อนำ ข้อมูลที่ได้ไปศึกษา มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมกันสรุปองค์ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศและการรับมือ 6. ออกแบบการนำ เสนอผลงาน และนำ ผลงานของกลุ่มตนเองไปติดไว้ที่ผนังห้อง 7. ให้แต่ละกลุ่มเวียนชมผลงานของเพื่อน ๆ ทีกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 3 นาที โดยรอฟัง สัญญาณจากครู และหากมีข้อเสนอแนะใด ๆ ให้เขียนใส่กระดาษติดที่ผลงานของกลุ่ม นั้น ๆ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 315 วิธีการทำ กิจกรรม 1. ศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในด้านต่าง ๆ ดังตัวอย่างด้านล่าง จากเอกสารที่กำ หนด หรือแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง - ผลกระทบต่อการเกษตร - ผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ - ผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำ และพื้นที่ชายฝั่ง - ผลกระทบต่อสุขภาพ - ผลกระทบต่อด้านพลังงาน - ผลกระทบต่อระบบคมนาคม 2. อภิปรายและอธิบายผลกระทบด้านต่าง ๆ ที่สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 3. ศึกษาแผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ.2558 – 2593 เรื่องการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและการลดแก๊สเรือนกระจก จากนั้นออกแบบแนวทางปฏิบัติของนักเรียนเพื่อลดปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศ และแนวทางการรับมือต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น 4. นำ เสนอผลการทำ กิจกรรม เพื่อร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในชั้นเรียน ผลการทำ กิจกรรม ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 1. ผลกระทบต่อการเกษตร เช่น 1.1 ภูมิภาคในเขตร้อนมีผลผลิตทางการเกษตรลดต่ำ ลง เนื่องจากอุณหภูมิของอากาศที่ สูงส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชบางชนิด ส่งเสริมการระบาดของแมลงหรือวัชพืช การเกิดไฟป่า สภาพดินเสื่อมโทรม ปริมาณน้ำ ไม่เพียงพอเนื่องจากความแห้งแล้ง 1.2 ผลกระทบต่อการเลี้ยงปศุสัตว์ ทำ ให้สัตว์เจ็บป่วยและตาย ปริมาณน้ำ นมลดลง เนื่องจากแหล่งอาหารลดลง การแพร่กระจายของเชื้อโรค คลื่นความร้อน 2. ผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ เช่น แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ ต่าง ๆ รวมถึงวงจรชีวิต มีรูปแบบที่เปลี่ยนไป เนื่องจากอากาศร้อน ฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ระดับน้ำ ทะเลเพิ่มสูงขึ้น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


316 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 3. ผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำ และพื้นที่ชายฝั่ง 3.1. น้ำ ท่วมชายฝั่งเนื่องจากระดับน้ำ ทะเลที่เพิ่มสูง 3.2. สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมบริเวณชายฝั่งถูกทำ ลายเนื่องจากพายุซัดฝั่ง 3.3. สัตว์ทะเลอพยพย้ายถิ่น เนื่องจากน้ำ ทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้น 4. ผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น เจ็บป่วยเนื่องจากคลื่นความร้อน ภัยพิบัติที่รุนแรง การแพร่ กระจายของเชื้อโรค 5. ผลกระทบต่อด้านพลังงาน 5.1 ความต้องการใช้ไฟฟ้าและพลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิสูง 5.2 โรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งอาจได้รับความเสียหาย เนื่องจากน้ำ ทะเลท่วมถึง เกิดพายุ น้ำ ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอ 6. ผลกระทบต่อระบบคมนาคม เช่น ถนนชำ รุด การเดินทางรถไฟหยุดชะงัก เที่ยวบินไม่แน่นอน เนื่องจากอุณหภูมิสูงทำ ให้ผิวถนนหรือรางรถไฟเกิดการขยายตัว ฝนตกหนักทำ ให้น้ำ ท่วม ดินทรุด ดินถล่ม แนวทางการลดปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ช่วยกันลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกโดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำ วัน เช่น 1. เปลี่ยนจากการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาใช้รถขนส่งสาธารณะ 2. ลดการใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 3. เปลี่ยนมาใช้พลังงานชีวภาพ 4. ใช้น้ำ ประปาอย่างประหยัด 5. ลดปริมาณขยะภายในครัวเรือน 6. ปลูกต้นไม้ 7. ลดการเผาป่า หญ้า และต้นไม้ เพื่อกำ จัดวัชพืช 8. ใช้ปุ๋ยหมักจากธรรมชาติแทนปุ๋ยเคมี สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 317 แนวทางการรับมือต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นที่นักเรียนสามารถมีส่วนร่วมได้ 1. การปรับตัวต่อสถานการณ์น้ำ อุทกภัย และภัยแล้ง เช่น เร่งฟื้นฟูป่าต้นน้ำ พัฒนา แหล่งชะลอน้ำ และปรับปรุงสภาพลำ น้ำ เพื่อเตรียมตัวรับมือกับอุทกภัย 2. การปรับตัวต่อสถานการณ์การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร เช่น ฟื้นฟูและ ปรับปรุงคุณภาพดิน พัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างเครือข่ายในการผลิตและจำ หน่ายสินค้าในชุมชนเพื่อสร้างอำ นาจต่อรอง ทำ การประมงที่คำ นึงถึงความสมดุลของทรัพยากรและระบบนิเวศ 3. การปรับตัวด้านสาธารณสุข ศึกษาข่าวสารและข้อมูลทางด้านสาธารณสุข หาแนวทาง ป้องกันการเกิดและแพร่กระจายของพาหะนำ โรค ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำ เสมอ 4. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศที่ เสื่อมโทรม ปลูกป่า ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เฝ้าระวังไฟป่า เพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน ฟื้นฟูพื้นที่ ชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะ สรุปผลการทำ กิจกรรม การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศทำ ให้สภาพลมฟ้าอากาศเกิด ความแปรปรวนหรือมีความ รุนแรงมากขึ้น เช่น อุณหภูมิที่ร้อนหรือหนาวผิดปกติ ความแปรปรวนของฤดูกาล ซึ่งส่งผล กระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมในหลาย ๆ ด้าน เช่น ความหลากหลายทางชีวภาพและ ระบบนิเวศ สุขภาพของมนุษย์ ทรัพยากรน้ำ พื้นที่ชายฝั่ง โดยมนุษย์สามารถมีส่วนช่วยลด การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้โดยการลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกเข้าสู่บรรยากาศที่เกิด จากการดำ รงชีวิตในด้านต่าง ๆ และควรวางแผนรับมือหรือปรับตัวเพื่อให้สามารถดำ รงชีวิตอยู่ ได้อย่างปลอดภัยจากผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คำ ถามท้ายกิจกรรม นักเรียนจะปรับพฤติกรรมของตนเองในเรื่องใดบ้างเพื่อช่วยลดปัจจัยที่ส่งผลต่อ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และมีส่วนช่วยได้อย่างไร แนวคำตอบ ตอบตามความคิดของนักเรียนเอง โดยมีแนวคำ ตอบดังตัวอย่าง ผลการทำ กิจกรรม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


318 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำ เสนอผลการทำ กิจกรรม และร่วมกันอภิปรายผลการทำ กิจกรรม พร้อมตอบคำ ถามท้ายกิจกรรม โดยมีแนวทางการอภิปรายและแนวทางการตอบคำ ถาม ดังแสดงด้านบน 4. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปองค์ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศและแนวทางการรับมือหรือปรับตัว โดยมีแนวทางการสรุปตามการสรุปผล การทำ กิจกรรม 5. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเรื่องนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของประเทศไทย โดยสรุปดังนี้ แนวทางการสรุป คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) มีข้อตกลงร่วมกัน เรียกว่า ข้อตกลงปารีส (Paris agreement) ได้กำ หนดกฏกติการะหว่างประเทศให้มีการจำ กัดการเพิ่มอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ ให้เกิน 2 องศาเซลเซียสจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิก และได้จัดทำ แผนเพื่อรองรับข้อตกลงดังกล่าว เรียกว่า แผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2558-2593 โดยกำ หนด เป้าหมายที่จะลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ 20–25 ภายใน พ.ศ. 2573 และมี แนวทางและมาตรการรองรับ 8 ด้าน ได้แก่ การผลิตไฟฟ้า การคมนาคมขนส่ง การใช้พลังงาน ภายในอาคาร ภาคอุตสาหกรรม ภาคของเสีย ภาคการเกษตร ภาคป่าไม้ การจัดการเมือง นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้จัดทำ แผนการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ซึ่งได้สรุปไว้ดังนี้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 319 6. ครูอาจมอบหมายงานที่สามารถบูรณาการร่วมกับวิชาอื่น ๆ โดยให้นักเรียนร่วมกันวางแผน ออกแบบ และนำ เสนอแนวปฏิบัติที่เหมาะสมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และจัดทำ โครงการ เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักถึงการกระทำ ของมนุษย์ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


320 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ แนวทางการวัดและประเมินผล KPA แนวทางการวัดและประเมินผล K: ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และแนวทางการรับมือหรือการปรับตัวจาก ผลกระทบที่เกิดขึ้น 1. ผลงานของการปฏิบัติกิจกรรม 9.2 และ การตอบคำ ถามท้ายกิจกรรม 2. การสรุปองค์ความรู้จากการอภิปราย 3. แบบฝึกหัดท้ายบท P: 1. การสร้างสรรค์และนวัตกรรม 2. การจัดกระทำ และสื่อความหมายข้อมูล 3. ความร่วมมือ การทำ งานเป็นทีมและภาวะ ผู้นำ 1. การออกแบบแนวทางการรณรงค์ เพื่อลดกิจกรรมของมนุษย์ที่มีผลต่อ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก 2. การแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบใน การทำ งานกลุ่ม A : 1. ความใจกว้าง 2. คุณธรรมและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ 1. การร่วมอภิปรายและการตอบคำ ถาม 2. การนำ เสนอแนวทางเพื่อลดการ เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 321 1. ให้นักเรียนพิจารณาข้อความต่อไปนี้แล้วทำ เครื่องหมาย ( ) หน้าข้อความที่ถูกต้อง และ ใส่เครื่องหมาย ( ) หน้าข้อความที่ผิด แบบฝึกหัดท้ายบท เครื่องหมาย ข้อความ 1. เมื่อดวงอาทิตย์แผ่รังสีมาสู่โลก จะมีเพียงชั้นบรรยากาศที่สะท้อน รังสีกลับออกสู่อวกาศ 2. ในเวลากลางวัน บรรยากาศ เมฆ และพื้นผิวโลกจะสะท้อนรังสี ดวงอาทิตย์บางส่วนกลับสู่อวกาศ 3.    ปริมาณพลังงานความร้อนที่พื้นผิวโลกดูดกลืนไว้จะถูกปล่อยเข้าสู่ บรรยากาศทั้งหมด 4. พลังงานความร้อนส่วนหนึ่งที่พื้นผิวโลกดูดกลืนไว้ทำ ให้น้ำ ระเหย กลายเป็นไอไปอยู่ในบรรยากาศและทำ ให้อากาศเกิดการยกตัว 5. การที่บรรยากาศแผ่รังสีส่วนหนึ่งที่ดูดกลืนไว้กลับมายังผิวโลกทำ ให้ อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศในเวลากลางคืนไม่ลดต่ำ ลงมากเกินไป 6. พลังงานที่บรรยากาศ เมฆ และพื้นผิวโลกดูดกลืนไว้ ท้ายที่สุดจะ ถูกปลดปล่อยออกสู่อวกาศในปริมาณที่เท่ากัน 7. พลังงานเฉลี่ยที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์เท่ากับพลังงานเฉลี่ยที่โลก ปล่อยกลับสู่อวกาศ 8. พลังงานเฉลี่ยที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์เท่ากับพลังงานเฉลี่ยที่โลก ปล่อยกลับสู่อวกาศ 9. กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการปลดปล่อยพลังงานของโลก ได้แก่ การสะท้อน การแผ่รังสี การพาความร้อน และการเปลี่ยนสถานะ ของน้ำ 10. การที่โลกปลดปล่อยพลังงานกลับสู่อวกาศเท่ากับพลังงานที่โลก ได้รับจากดวงอาทิตย์ ทำ ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกค่อนข้างคงที่ เป็นระยะเวลานาน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


322 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 2. ทำ เครื่องหมาย ( ) เพื่อระบุผลที่มีต่ออุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศให้อดคล้องกับปัจจัยที่ กำ หนด และระบุเหตุผลประกอบ ปัจจัย ผลต่ออุณหภูมิ เฉลี่ยของอากาศ เหตุผล เพิ่มขึ้น ลดลง การเพิ่มขึ้นของปริมาณแก๊ส เรือนกระจก สามารถดูดกลืนพลังงานและ แผ่รังสีอินฟราเรดกลับมายัง พื้นผิวโลกได้มากขึ้น อัตราส่วนการสะท้อนสูงขึ้น สามารถสะท้อนรังสีดวง อาทิตย์ได้มากขึ้น การเพิ่มขึ้นของละอองลอย เกิดการกระเจิง ดูดกลืน และ สะท้อนรังสีดวงอาทิตย์ได้ มากขึ้น 3. ยกตัวอย่างกิจกรรมมนุษย์และเหตุการณ์ธรรมชาติที่ทำ ให้ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงไป ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลง กิจกรรมมนุษย์ เหตุการณ์ธรรมชาติ แก๊สเรือนกระจก กระบวนการอุตสาหกรรม การเกษตร การคมนาคม ขนส่ง การผลิตกระแสไฟฟ้า ของเสียจากบ้านเรือน การย่อยสลายอินทรีย์สาร ภูเขาไฟระเบิดการหายใจของ สิ่งมีชีวิตการปลดปล่อยแก๊ส จากมหาสมุทร อัตราส่วนการสะท้อนของพื้น ผิวโลก การสร้างชุมชนเมือง การตัดไม้ทำ ลายป่า การหลอมเหลวของน้ำ แข็ง ขั้วโลก ไฟป่า ละอองลอย กระบวนการอุตสาหกรรม การเกษตร การคมนาคมขนส่ง ภูเขาไฟระเบิด สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 323 4. เมื่อ 225 ล้านปีก่อน โลกมีแผ่นทวีปขนาดใหญ่เพียงแผ่นเดียวเรียกว่าพันเจีย ต่อมาทวีป เหล่านี้เคลื่อนตัวออกจากกันจนมีลักษณะเช่นในปัจจุบัน   นักเรียนคิดว่าภูมิอากาศของแต่ละ ทวีปเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เพราะเหตุใด แนวคำตอบ ภูมิอากาศของแต่ละทวีปในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต เนื่องจาก เมื่อ 225 ล้านปีก่อน ที่พื้นทวีปอยู่ติดกันเป็นแผ่นดินเดียว เรียกว่า พันเจีย เป็นมหาทวีป คลุมพื้นที่จากซีกโลกเหนือถึงซีกโลกใต้ และมีมหาสมุทรพันทาลัสซาล้อมรอบ ต่อมา แผ่นทวีปได้เคลื่อนตัวออกจากกันจนมีลักษณะดังเช่นปัจจุบัน ทำ ให้ทวีปไม่ได้อยู่ใน ตำ แหน่งละติจูดเดิม แต่ละทวีปจึงได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์แตกต่างกัน จึงส่งผลให้อยู่ ในเขตภูมิอากาศที่แตกต่างไปจากปัจจุบัน นอกจากนี้ตำ แหน่งที่เปลี่ยนไปยังส่งผลให้มี สิ่งปกคลุมพื้นที่แตกต่างกัน จากภาพพบว่าในแต่ละละติจูดมีสัดส่วนของพื้นทวีปและ พื้นน้ำ แตกต่างจากปัจจุบัน ซึ่งพื้นทวีปซึ่งประกอบด้วยป่าไม้ ดิน และทะเลทราย จึงสะท้อนรังสีได้ดีกว่าพื้นน้ำ ส่งผลต่อค่าอัตราส่วนรังสีสะท้อนของพื้นผิว ทำ ให้ภูมิอากาศ ในอดีตแตกต่างจากปัจจุบัน (คำ อธิบายเพิ่มเติม) ในอดีตแผ่นดินทั้งหมดอยู่ติดกันและมีมหาสมุทรเพียงมหาสมุทร เดียวล้อมรอบอยู่ ทำ ให้การหมุนเวียนของกระแสน้ำ ในมหาสมุทรแตกต่างจากปัจจุบัน ส่งผลต่อสภาพอากาศในช่วงเวลานั้น เช่น เกิดพายุรุนแรงส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


324 บทที่ 9 | การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 5. เลือกตัวอย่างผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ใส่ลงในตารางให้สอดคล้องกับข้อมูลที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ชัดเจนมากที่สุด ผลกระทบ 1) โรคระบาด 2) ขาดน้ำ อุปโภคบริโภค 3) พืชและสัตว์ในพื้นที่นั้นอาจสูญพันธุ์ 4) ชายฝั่งถูกน้ำ ท่วมและกัดเซาะ ข้อมูลที่แสดงถึง การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม แนวทางการรับมือ อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศและ ความชื้นสูงขึ้น โรคระบาด - ทำ ลายแหล่งเพาะพันธุ์ของ พาหนะนำ โรค - ตรวจสอบสุขภาพอย่าง สม่ำ เสมอ - ออกกำ ลังกายและรับประทาน อาหารที่มีประโยชน์ การเปลี่ยนแปลง เขตภูมิอากาศโลก พืชและสัตว์ในพื้นที่นั้น อาจสูญพันธุ์ ปรับปรุงพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ให้ เหมาะสมกับภูมิอากาศที่เกิดขึ้น การเพิ่มระดับน้ำ ทะเล ชายฝั่งถูกน้ำ ท่วมและ กัดเซาะ - ฟื้นฟูพื้นที่ชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะ - สร้างที่อยู่อาศัยให้ไกลจากพื้นที่ เสี่ยง การลดลงของปริมาณน้ำ ฝน ขาดน้ำ อุปโภคบริโภค - ใช้น้ำ อย่างประหยัด - ปลูกป่า สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ 325 บทที่ | ipst.me/8860 แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศที่สำ คัญจากแผนที่อากาศ และนำ ข้อมูลสารสนเทศ ต่าง ๆ มาวางแผนการดำ เนินชีวิตให้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ ตัวชี้วัด 10 ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


326 บทที่ 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ การวิเคราะห์ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศที่สำ คัญจากแผนที่อากาศ และนำ ข้อมูลสารสนเทศ ต่าง ๆ มาวางแผนการดำ เนินชีวิตให้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศศ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. วิเคราะห์และแปลความหมายสัญลักษณ์แสดงสภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้างบนแผนที่อากาศ ผิวพื้นและระบุสภาพลมฟ้าอากาศ 2. อธิบายแปลความหมายจากภาพถ่ายดาวเทียม 3. วิเคราะห์และอธิบายแปลความหมายจากข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ 4. นำ ข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ และพยากรณ์อากาศมาวางแผนการดำ เนินชีวิตและประกอบอาชีพ ให้ สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ 1. การตีความหมายข้อมูล และลงข้อสรุป ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1. การคิดอย่างมีวิจารณญาณ 2. ความร่วมมือ การทำ งานเป็น ทีมและภาวะผู้นำ จิตวิทยาศาสตร์ การยอมรับความเห็นต่าง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ 327 ลำ ดับแนวความคิดต่อเนื่อง ข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศที่นำ ไปใช้ในการพยากรณ์อากาศมาจากสถานีตรวจอากาศผิวพื้น ซึ่งกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั่วโลก เมื่อนำ ข้อมูลจากสถานีตรวจอากาศผิวพื้นแต่ละแห่งมาวิเคราะห์ร่วมกัน จะทำ ให้ทราบลักษณะลมฟ้าอากาศในบริเวณกว้าง การใช้แผนที่อากาศผิวพื้นร่วมกับสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยาอื่น ๆ ช่วยให้ทราบ สภาพลมฟ้าอากาศในบริเวณกว้างได้ดีขึ้นและสามารถพยากรณ์อากาศได้แม่นยำ ขึ้น ภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาเป็นสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยาที่นำ มาใช้ประโยชน์ใน การติดตามการเคลื่อนตัวของพายุหมุนเขตร้อน ระบุชนิดและปริมาณเมฆปกคลุมในพื้นต่าง ๆ ข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศเป็นสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยา ที่ช่วยให้ทราบความแรงและทิศทางการเคลื่อนตัวของกลุ่มฝน การใช้สารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยาหลายชนิดประกอบกันจะช่วยให้คาดการณ์ สภาพลมฟ้าอากาศซึ่งสามารถนำ มาเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนการดำ เนินงาน การประกอบอาชีพ การเตรียมรับมือและลดผลกระทบต่าง ๆ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


328 บทที่ 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ สาระสำ คัญ แผนที่อากาศผิวพื้นเป็นสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยาที่แสดงข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศ ณ บริเวณหนึ่งในรูปของสัญลักษณ์ เช่น บริเวณความกดอากาศสูง หย่อมความกดอากาศต่ำ พายุหมุนเขตร้อน ร่องความกดอากาศต่ำ การแปลความหมายสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนแผนที่อากาศผิวพื้นร่วมกับภาพถ่ายดาวเทียม อุตุนิยมวิทยา และข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ จะช่วยให้สามารถคาดการณ์สภาพลมฟ้าอากาศใน ช่วงเวลาต่าง ๆ ได้แม่นยำ ขึ้น และใช้วางแผนการดำ เนินชีวิตให้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ เช่น การเลือกช่วงเวลาในการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับฤดูกาล การเตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศ แปรปรวน เวลาที่ใช้ บทเรียนนี้ควรใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง 1. ข้อมูลและสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยา 4 ชั่วโมง 2. การใช้ประโยชน์จากข้อมูลสารสนเทศ 2 ชั่วโมง ความรู้ก่อนเรียน องค์ประกอบลมฟ้าอากาศ การหมุนเวียนอากาศบนโลก การเกิดเมฆ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น ความเข้าใจคลาดเคลื่อน ความเข้าใจที่ถูกต้อง สัญลักษณ์บนแผนที่อากาศผิวพื้น H หมายถึง อากาศร้อน (Hot) และ L หมายถึง อากาศเย็น (Cool) สัญลักษณ์บนแผนที่อากาศผิวพื้น H หมายถึง บริเวณความกดอากาศสูง และ L หมายถึง หย่อมความกดอากาศต่ำ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ 329 10.1 ข้อมูลและสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยา จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. วิเคราะห์และแปลความหมายสัญลักษณ์แสดงสภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้าง บนแผนที่อากาศ ผิวพื้นและระบุสภาพลมฟ้าอากาศ 2. อธิบายการแปลความหมายจากภาพถ่ายดาวเทียม 3. วิเคราะห์และแปลความหมายจากข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตรโลกและอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2. กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th แนวการจัดการเรียนรู้ 1. ครูนำ เข้าสู่บทเรียนร่วมอภิปรายกับนักเรียนเกี่ยวกับสภาพลมฟ้าอากาศที่มีผลต่อมนุษย์และ สิ่งแวดล้อม เช่น พายุหมุนเขตร้อนที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่ง พายุฝนฟ้าคะนองที่มักเกิด ขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยใช้รูปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงประกอบ 2. ครูให้นักเรียนสังเกตรูปนำ บทในหนังสือเรียนหน้า 247 จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายโดย ใช้คำ ถาม ดังต่อไปนี้ จากรูป แสดงปรากฏการณ์ใด แนวคำ ตอบ พายุฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก ลมพัดแรง สภาพลมฟ้าอากาศดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่าง แนวคำ ตอบ อาจเกิดอันตรายจากฟ้าผ่า และเศษวัสดุหรือสิ่งของปลิว ลมกระโชกแรงอาจทำ ให้ บ้านเรือนเสียหาย หากมีฝนตกหนักอาจเกิดน้ำ ท่วม ถนนถูกตัดขาด หมายเหตุ คำ ตอบข้อนี้อาจมีได้หลากหลายขึ้นอยู่กับความรู้และประสบการณ์ของนักเรียน นักเรียนสามารถทราบสภาพลมฟ้าอากาศดังกล่าวล่วงหน้าได้หรือไม่ ทราบได้อย่างไร แนวคำ ตอบ สามารถทราบล่วงหน้าได้ โดยการติดตามพยากรณ์อากาศ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


330 บทที่ 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 3. ครูให้นักเรียนสังเกตรูป 10.1 และสืบค้นข้อมูลการพยากรณ์อากาศและการตรวจวัดองค์ประกอบ ลมฟ้าอากาศจากหนังสือเรียนหน้า 248 จากนั้นอภิปรายร่วมกันโดยใช้ตัวอย่างคำ ถามดังนี้ ปัจจุบันการพยากรณ์อากาศใช้ข้อมูลการตรวจวัดองค์ประกอบลมฟ้าอากาศจากแหล่งใดบ้าง แนวคำ�ตอบ สถานีตรวจอากาศผิวพื้น สถานีตรวจอากาศชั้นบน สถานีตรวจอากาศบนเรือ ทุ่นลอย ในมหาสมุทร สถานีเรดาร์ตรวจอากาศ อุปกรณ์ตรวจวัดบนเครื่องบิน ดาวเทียม จากรูป 10.1 ระบุแหล่งตรวจวัดองค์ประกอบลมฟ้าอากาศได้อย่างไรบ้าง แนวคำ�ตอบ สามารถระบุแหล่งตรวจวัดองค์ประกอบลมฟ้าอากาศได้ดังรูป จำ นวนข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศมีผลต่อความแม่นยำ ในการพยากรณ์อากาศหรือไม่ อย่างไร แนวคำ�ตอบ จำ นวนข้อมูลลมฟ้าอากาศมีผลต่อความแม่นยำ ในการพยากรณ์อากาศ ดดยข้อมูลองค์ ประกอบลมฟ้าอากาศที่มีจำ นวนมากทำ ให้การพยากรณ์อากาศมีความแม่นยำ มากขึ้นเพราะเหตุใด จึงต้องตรวจวัดข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศด้วยวิธีที่หลากหลาย แนวคำ�ตอบ เพื่อให้ครอบคลุมข้อมูลทั่วทุกบริเวณบนโลก ข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศที่ตรวจวัดได้ สามารถนำ ไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง แนวคำ�ตอบ นำ ไปใช้คาดการณ์สภาพลมฟ้าอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ บทที่ 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ 331ดาวเทียมดาวเทียมดาวเทียม อุปกรณตรวจวัด บนเครื่องบินอุปกรณตรวจวัด บนเครื่องบินอุปกรณตรวจวัด บนเครื่องบินอุปกรณตรวจวัด บนเครื่องบิน สถานีตรวจอากาศชั้นบน สถานีตรวจอากาศผิวพื้นสถานีเรดารตรวจอากาศ(สถานีรับสัญญาณดาวเทียม)อุปกรณตรวจวัด บนเครื่องบิน สถานีตรวจอากาศผิวพื้น (สถานีอัตโนมัติ)สถานีตรวจอากาศบนเรือ ทุนลอยในมหาสมุทรทุนลอยในมหาสมุทร(บอลลูนตรวจอากาศ) (บอลลูนตรวจอากาศ) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


332 บทที่ 10 | ข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยากับการใช้ประโยชน์ คู่มือครู วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 4. ครูสรุปและให้ความรู้เพิ่มเติมว่า “นักอุตุนิยมวิทยาจะนำ ข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศที่ได้ จากการตรวจวัดจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ มาแสดงผลอยู่ในรูปของสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยา เช่น แผนที่อากาศชนิดต่าง ๆ ข้อมูลดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา ข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ” 5. ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแผนที่อากาศผิวพื้นจากหนังสือเรียนหน้า 249 - 250 จากนั้นร่วมกันอภิปรายโดยมีแนวทางดังตัวอย่าง แนวทางการอภิปราย แผนที่อากาศผิวพื้นแสดงข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศจากสถานี ตรวจอากาศผิวพื้น ข้อมูลบนแผนที่อากาศผิวพื้นจะแสดงด้วยสัญลักษณ์ที่บอกองค์ประกอบลมฟ้า อากาศต่าง ๆ (ดังรูป 10.2 ในหนังสือเรียนหน้า 249) เช่น อุณหภูมิอากาศ อุณหภูมิจุดน้ำ ค้าง ทิศทาง และอัตราเร็วลม สัดส่วนเมฆในท้องฟ้า ความกดอากาศ โดยข้อมูลต่าง ๆ จะปรากฏ ณ ตำ แหน่ง เดิมเสมอ ยกเว้นสัญลักษณ์แสดงทิศทางลมที่จะเปลี่ยนตำ แหน่งตามทิศทางลมในขณะตรวจวัด ใน สัญลักษณ์แสดงข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศอาจแสดงข้อมูลไม่ครบถ้วน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพ ลมฟ้าอากาศที่ตรวจวัดได้ จากนั้นจะนำ ข้อมูลจากสถานีตรวจอากาศผิวพื้น ณ ตำ แหน่งต่าง ๆ มา วิเคราะห์เป็นสภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้างและถูกแสดงด้วยสัญลักษณ์อีกรูปแบบหนึ่งบนแผนที่ อากาศผิวพื้น 6. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจวัดและรายงานค่าความกดอากาศ ดังนี้ สถานีตรวจอากาศผิวพื้นแต่ละแห่งตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูงแตกต่างกัน ซึ่งเป็นปัจจัย หนึ่งที่ส่งผลให้ความกดอากาศที่ตรวจวัดได้จากแต่ละสถานีมีค่าแตกต่างกัน ดังนั้นนักอุตุนิยมวิทยาจึง ใช้ระดับน้ำ ทะเลเป็นจุดอ้างอิงความสูง และคำ นวณความกดอากาศที่ตรวจวัดได้จากทุกสถานีเป็นความ กดอากาศที่ระดับน้ำ ทะเล เมื่อนำ ค่าความกดอากาศดังกล่าวมาสร้างเป็นเส้นความกดอากาศเท่า ก็จะ ช่วยให้ทราบการเคลื่อนที่ของอากาศเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการพยากรณ์อากาศ 7. ครูนำ ตัวอย่างแผนที่อากาศผิวพื้นให้นักเรียนสังเกตและใช้ตัวอย่างคำ ถามดังนี้ “สัญลักษณ์ ต่าง ๆ ที่ปรากฏบนแผนที่อากาศผิวพื้นมีความหมายอย่างไรและระบุลมฟ้าอากาศอย่างไร” จากนั้นครู ให้นักเรียนหาคำ ตอบจากกิจกรรม 10.1 สัญลักษณ์แสดงสภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้าง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version