139
140
141 ใบงานการเสริมทักษะทางภาษาเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ชื่อ .................................................................... ชั้น .....................เลขที่ ................... ตอนที่ 1 การเปรียบเทียบทางตรง (การคิดคล่อง) 1. ให้นักเรียนจดบันทึกคำ 2 คำที่ต้องการเปรียบเทียบกันมาประมาณ 5 คู่ พร้อมทั้งบอกประเด็น ความเหมือนของคำแต่ละคู่ ตัวอย่าง พัดลม เครื่องปรับอากาศ มีความเหมือนกันคือ เป็นเครื่องให้ความเย็น 1) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 2) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 3) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 4) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 5) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... ตอนที่ 2 การเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของ (การคิดยืดหยุ่น) 2. ให้นักเรียนเปรียบเทียบตนเองกับสิ่งของ แล้วอธิบายออกมำเป็นถ้อยคำที่หลากหลายสื่อถึงอารมณ์ ความรู้สึกตามสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วจดบันทึกไว้ เช่น 1) หากนักเรียนเป็นเครื่องปรับอากาศที่ต้องทำงานทั้งวัน นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… 2) หากนักเรียนเป็นรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้รับการดูแลสภาพรถ และใช้งานอย่างไม่เหมาะสม นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอนที่ 3 การสร้างคำคู่ขัดแย้ง (การคิดริเริ่ม) 3. ให้นักเรียนนำคำที่ได้จากขั้นตอนการเปรียบเทียบทางตรงและการเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของที่มี ความหมายขัดแย้งกันมาสร้างเป็นกลุ่มคำใหม่ประมาณ 5 กลุ่มคำ เช่น สูญเสียสร้างความสบาย หมายถึง การที่ทุกคนใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อสร้างความเย็น ความสบาย ทำให้ต้องสูญเสียพลังงาน 1) .......................................................... หมายถึง .................................................................... 2) ......................................................... หมายถึง ................................................................... 3) ......................................................... หมายถึง .................................................................. 4) ......................................................... หมายถึง ................................................................... 5) ......................................................... หมายถึง ...................................................................
142 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสามพร้าววิทยา หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำขวัญโน้มจิต โน้มคิดคำคม เวลา 9 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ย่อยเรื่อง การเขียนสารคดี เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้สอน นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน วันที่สอน 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความย่อความและเขียนเรื่องราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ 1.2 ตัวชี้วัด ท 2.1 ม 3/2 เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคำได้ถูกต้องตามระดับภาษา ท 2.1 ม 3/10 มีมารยาทในการเขียน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนบอกความหมายและหลักการเขียนสารคดีได้ถูกต้อง (K) 2.2 นักเรียนสามารถเขียนสารคดีได้ (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม (A) 3. สาระสำคัญ สารคดีเป็นเครื่องมือในการสื่อความรู้ความเข้าใจในหลายลักษณะ ทั้งในหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์และภาพยนตร์ เนื้อหาสาระส่วนใหญ่มุ่งให้ความรู้กระตุ้นสำนึกต่อสังคมมากกว่าจะ เสนอเพื่อความเพลิดเพลินเพียงอย่างเดียว เนื้อหาสาระดังกล่าวมีความครอบคลุมในด้านต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นชีวิต สังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม สิ่งแวดลอ้มและธรรมชาติตลอดจนเทคโนโลยีและวิทยาการ ใหม่ ๆ ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 ความหมายของการเขียนสารคดี 4.2 ลักษณะของการเขียนสารคดี 4.3 ประเภทเขียนสารคดี 4.3 แนวทางการเขียนสารคดี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 มีวินัย
143 5.2 ใฝ่เรียนรู้ 5.3 มุ่งมั่นในการทำงาน 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7.1 ใบงานเรื่องการเขียนสารคดี 7.2 ใบงานเรื่องการเขียนสารคดีท่องเที่ยว 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ (กระบวนการเรียนรู้แบบซินเนกติกส์) 8.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 8.1.1 นักเรียนสังเกตแถบประโยคที่ครูนำมา เช่น สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สุนัข เป็นสัตว์ที่น่ารัก ร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าประโยคข้างต้น เป็นข้อคิดเห็นหรือข้อเท็จจริง จากนั้น ครูนำเข้าบทเรียน การเขียนบันเทิงคดีที่เป็นงานที่ให้ความรู้หรือข้อเท็จจริง 8.1.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับการเขียนสารคดี ได้แก่ความหมายของ การเขียนสารคดี ลักษณะของการเขียนสารคดี องค์ประกอบการเขียนสารคดี แนวทางการเขียน บันเทิงคดี พร้อมกับรับใบงานเรื่องการเขียนบันเทิงคดี 8.1.3 นักเรียนสนทนาเกี่ยวกับหัวข้อ “การท่องเที่ยว” โดยศึกษาจากสื่อต่าง ๆ แล้ว ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับข้อมูลพร้อมกับจดบันทึกข้อมูลไว้จากนั้นนักเรียนรับกระดาษแล้วเขียน ข้อความในเชิงการเขียนสารคดีเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยให้ร่างองค์ประกอบมาอย่างคร่าว ๆ ก่อน 8.2 ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นที่ 2 ขั้นการสร้างอุปมาแบบตรงหรือเปรียบเทียบแบบตรง 8.2.1 นักเรียนร่วมกันระดมความคิดในเชิงการเปรียบเทียบเพื่อค้นหาคำมาใช้ในการ เขียนสารคดีเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ให้จดบันทึกคำ 2 คำที่ต้องการเปรียบเทียบ พร้อมทั้งบอก ความเหมือนของคำแต่ละคู่ เช่น 1) ทะเล – ภูเขา มีความเหมือนกันคือ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ 2) วัด – พิพิธภัณฑ์ มีความเหมือนกันคือ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ ด้านวัฒนธรรม ขั้นที่ 3 ขั้นการสร้างอุปมาบุคคลหรือเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของ 8.2.2 นักเรียนเปรียบเทียบตนเองกับสิ่งของ แล้วอธิบายออกมาเป็นถ้อยคำที่ หลากหลาย สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกตามสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วจดบันทึกไว้ เช่น
144 1) หากนักเรียนเป็นภูเขาที่โดนบุกรุก ตัดไม้ทำลายป่า นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร 2) หากนักเรียนเป็นวัดที่มีแต่พระสงฆ์ที่ทำแต่สิ่งไม่ดี นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ขั้นที่ 4 ขั้นการสร้างอุปมาคำคู่ขัดแย้ง 8.2.3 นักเรียนนำคำที่ได้จากขั้นตอนการเปรียบเทียบทางตรงและการเปรียบเทียบ บุคคลกับสิ่งของที่มีความหมายขัดแย้งกันมาสร้างเป็นกลุ่มคำใหม่ แล้วอธิบายความหมายของคำคู่ ขัดแย้งที่นักเรียนสร้างขึ้น โดยอาจมีคำเชื่อมระหว่างคำได้ เช่น สวยงามแสนเจ็บปวด เสื่อมศรัทธา ขั้นที่ 5 ขั้นการอธิบายความหมายของคำคู่ขัดแย้ง 8.2.4 นักเรียนร่วมกันอธิบายความหมายของคำคู่ขัดแย้งที่ได้ เช่น 1) สวยงามแสนเจ็บปวด หมายถึง ภูเขาที่ถูกบุกรุก ตัดไม้ทำลายป่าเพื่อทำเป็น สถานที่ท่องเที่ยวแสนสวยงาม 2) เสื่อมศรัทธา หมายถึง วัดที่เต็มไปด้วยความศรัทธาแต่ต้องมาเสื่อมเสียเพราะ คนที่คิดไม่ดี ขั้นที่ 6 ขั้นการนำความคิดใหม่มาสร้างสรรค์งาน 8.2.5 นักเรียนนำงานที่ทำไว้เดิมในขั้นที่ 1 ออกมาทบทวนใหม่ และนำความคิดที่ ได้มาใหม่จากกิจกรรมขั้นที่ 5 มาใช้เขียนสารคดี ทำให้งานของตนมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น 8.3 ขั้นสรุปบทเรียน นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนเรื่องการเขียนสารคดี ครูคัดเลือกผลงานที่ ครบองค์ประกอบและมีความคิดสร้างสรรค์ ให้นักเรียนออกแบบให้สวยงามแล้ว นำไปเผยแพร่ บนแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตต่าง ๆ 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 9.1.1 หนังสือเรียนวิชาภาษาไทย 9.1.2 สื่อ Power Point 9.1.3 แถบประโยค 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 9.2.1 อินเทอร์เน็ต 9.2.2 ห้องสมุด
145 10. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนบอกความหมายและ หลักการเขียนสารคดีได้ถูกต้อง (K) ให้นักเรียน ทำใบงาน แบบให้คะแนน Rubric Score ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อ นักเรียนตอบคำถามตรงประเด็น ถูกต้องร้อยละ 70 ขึ้นไป 2. นักเรียนสามารถเขียนสารคดีได้ อย่างสร้างสรรค์ (P) ให้นักเรียน ทำใบงาน แบบประเมิน การเขียนสารคดี ผ่านเกณฑ์การประเมินรายบุคคล เมื่อนักเรียนได้คะแนนร้อยละ 70 หรือระดับดีขึ้นไป 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้นใน การทำกิจกรรม (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมิน รายบุคคล เมื่อคะแนนอยู่ใน ระดับดีขึ้นไป
146 11. บันทึกผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 11.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.2 ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... (นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน) วันที่.........เดือน..................พ.ศ.............
147 11.4 ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... (นางสาวพรพิมล นามพรมมา ) วันที่.........เดือน..................พ.ศ............. 11.5 ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... ( ) ………………………………………………………… วันที่.........เดือน..................พ.ศ...........
148 เกณฑ์การประเมินการเขียนสารคดี ประเด็นการ ประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน 3 2 1 เนื้อหาสาระ ถูกต้องชัดเจนน่าสนใจ มาก ถูกต้องชัดเจนน่าสนใจ พอใช้ ไม่ชัดเจนและน่าสนใจ การใช้ภาษา ใช้ภาษาถ้อยคำได้ ถูกต้องตามหลัก วิชาการ ใช้ภาษาถ้อยคำได้ ถูกต้องแต่ไม่เป็นไป ตามหลักวิชาการ ใช้ภาษาถ้อยคำบกพร่องอยู่ บ้าง อักขรวิธี ถูกต้องตามอักขรวิธี ทุกคำ ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี 1-2 คำ ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี 3 คำ ขึ้นไป ความคิด สร้างสรรค์ มีความคิดสร้างสรรค์ใน การอ่านที่แปลกใหม่ไม่ เหมือนใคร มีความคิดสร้างสรรค์ ในการอ่านแตกต่าง จากคนทั่วไป มีการปรับปรุงการอ่านจาก การอ่านทั่วไป และสร้างสรรค์ เพิ่มเติมให้ดีขึ้นเล็กน้อย ความสะอาด เรียบร้อย สะอาดไม่มีรอยขูด ขีด ฆ่า และรอบคอบ สะอาดไม่มีรอยขีดฆ่า มีรอยลบ 1-2 แห่ง สะอาดไม่มีรอยขีดฆ่า มีรอยมากกว่า 2 แห่ง
150
151 ใบงานการเสริมทักษะทางภาษาเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ชื่อ ............................................................................................. ชั้น ..................... .. เลขที่ ................. ตอนที่ 1 การเปรียบเทียบทางตรง (การคิดคล่อง) 1. ให้นักเรียนจดบันทึกคำ 2 คำที่ต้องการเปรียบเทียบกันมาประมาณ 5 คู่ พร้อมทั้งบอกประเด็น ความเหมือนของคำแต่ละคู่ ตัวอย่าง ทะเล – ภูเขา มีความเหมือนกันคือ เป็นสถานที่ท่องเที่ยงเชิงธรรมชาติ 1) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 2) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 3) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 4) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 5) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... ตอนที่ 2 การเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของ (การคิดยืดหยุ่น) 2. ให้นักเรียนเปรียบเทียบตนเองกับสิ่งของ แล้วอธิบายออกมำเป็นถ้อยคำที่หลากหลายสื่อถึงอารมณ์ ความรู้สึกตามสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วจดบันทึกไว้ เช่น 1) หากนักเรียนเป็นภูเขาที่โดนบุกรุก ตัดไม้ทำลายป่า นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… 2) หากนักเรียนเป็นวัดที่มีแต่พระสงฆ์ที่ทำแต่สิ่งไม่ดี นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอนที่ 3 การสร้างคำคู่ขัดแย้ง (การคิดริเริ่ม) 3. ให้นักเรียนนำคำที่ได้จากขั้นตอนการเปรียบเทียบทางตรงและการเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของที่มี ความหมายขัดแย้งกันมาสร้างเป็นกลุ่มคำใหม่ประมาณ 5 กลุ่มคำ เช่น สวยงามแสนเจ็บปวด หมายถึง ภูเขาที่ถูกบุกรุก ตัดไม่ทำลายป่าเพื่อทำเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวแสนสวยงาม 1) .......................................................... หมายถึง ............................................................... 2) ......................................................... หมายถึง ................................................................ 3) ......................................................... หมายถึง ............................................................... 4) ......................................................... หมายถึง ................................................................ 5) ......................................................... หมายถึง ..............................................................
ภาคผนวก จ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
1. ข้อใดกล่าวถึงการเขียนเชิงสร้างสรรค์ได้ถูกต้อง ก. การเขียนเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ข. การเขียนที่ให้แง่คิดแก่ผู้อ่าน แทรกอุทาหรณ์สอนใจ ค. การเขียนเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ต่าง ๆ ง. การเขียนที่แสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึก ที่ให้ความเพลิดเพลินมีความไพเราะของ ภาษา 2. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของคำขวัญ ก. ถ้อยคำสั้น ๆ กระชับ ข. ถ้อยคำทันสมัยอยู่ในความนิยม ค. สัมผัสคล้องจอง ง. มีความหมายลึกซึ้ง ให้ข้อคิด คำสอน 3. กลวิธีการเขียนคำขวัญในข้อใด ใช้ทั้งการเล่นคำ และการเล่นสัมผัส ก. เมาไม่ขับ เร็วแล้วจับ ขับไม่โทร ข. ผลิตพืชปลอดภัย นำไทยสู่ครัวโลก ค. ช่วยราษฎร์ เสริมรัฐ ยืนหยัด ยุติธรรม ง. พลังมวลชน พลังแผ่นดิน ขจัดสิ้นยาเสพติด 4. คำขวัญในข้อใดโน้มน้าวใจให้จำและปฏิบัติตาม ก. ภูมิใจไทยทำ ดีใจไทยใช้ ข. ขับเร็วชิดขวา ขับช้าชิดซ้าย ค. ตำรวจอยู่ไหน ประชาชนอุ่นใจ ง. ทิ้งขยะไม่เลือกที่ หมดราศีไปทั้งเมือง 5. ข้อใดเป็นหลักการเขียนโฆษณา ก. คำนึงถึงผลกำไร โน้มน้าวผู้อ่านให้มากที่สุด ข. ใช้ประโยคกำกวม ชวนติดตาม ชวนตีความ ค. เปรียบเทียบกับสินค้าอื่นเพื่อให้เห็นข้อดี ง. เขียนตามความเป็นจริง 6. “ต้ม ผัด แกง ทอด หอมอร่อยในพริบตา คู่ครัวรสดี” ส่วนใดปรากฏเด่นชัดที่สุดในข้อความโฆษณา ก. ใช้คำขัดแย้งกัน ข. ใช้การท้าทาย ค. ให้คำแนะนำ ง. บอกประโยชน์ของสินค้า 7. โฆษณาข้อใดใช้วิธีการโน้มน้าวใจด้วยการท้าทาย ก. นิยมไทย เงินตราไม่รั่วไหล ชาติไทยไม่เสียดุล ข. จานไหน...จานไหน...ก็อร่อย ต้องน้ำปลาตราปลาทะเล ค. ชุดนักเรียนตรามิตรแท้สำหรับนักเรียนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ง. เพียงปลายสัมผัส ความคมชัด...ก็ปรากฏ ต้องโทรทัศน์ตราชัดเจน แบบทดสอบเรื่อง การเขียนเชิงสร้างสรรค์ คำชี้แจง ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาททับตัวเลขหน้าคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว
154 8. ข้อใดเป็นคำขวัญในการโฆษณาที่จำยาก ก. หนึ่งในใจคุณ ข. นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ค. พูดแล้วหอม ง. คู่กายของทุกระดับนักดนตรี 9. ข้อใดคือส่วนประกอบของการเขียนเรียงความเรียงตามลำดับ ก. คำนำ เนื้อเรื่อง สรุป ข. เนื้อเรื่อง คำนำ สรุป ค. หัวข้อ โครงเรื่อง เนื้อเรื่อง ง. หัวข้อ เนื้อเรื่อง สรุป 10. เหตุใดจึงควรวางโครงเรื่องก่อนเขียนเรียงความ ก. เพื่อจะทำให้ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจ ข. เพื่อจะได้ใช้ภาษาได้เหมาะสมถูกต้อง ค. เพื่อบรรยายเรื่องราวต่าง ๆ ให้ครบ 3 ย่อหน้า ง. เพื่อวางขอบเขตและลำดับเรื่องให้สอดคล้องกัน 11. การเขียนเรียงความในส่วนสรุป ควรเลี่ยงสิ่งใด ก. เขียนเชิญชวน ข. เขียนเปิดประเด็นใหม่ ค. เขียนแนะนำผู้เขียน ง. เขียนสั้น ๆ 12. ข้อใดวางโครงเรื่องได้สอดคล้องกับหัวข้อเรียงความ ก. หัวข้อ ครู…แม่คนที่สอง – แม่ของฉัน, ครูของฉัน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับแม่ ข. หัวข้อ ของเล่นของเด็กไทย – ความสำคัญของของเล่น, วิวัฒนาการของ ของเล่นเด็กไทย, ประโยชน์จากของเล่นเด็ก ค. หัวข้อ โลกแห่งการสื่อสารไร้พรมแดน – วิวัฒนาการของโลก การแบ่งพรมแดนในโลก, การใช้โทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสาร ง. หัวข้อ สำนวนไทยใช้ให้เป็น – ตัวอย่างสำนวนเกี่ยวกับอาหาร, เกี่ยวกับอาชีพ, เกี่ยวกับ การแต่งงาน 13. ข้อใดคือลักษณะงานเขียนประเภทบันเทิงคดี ก. มุ่งให้ความรู้สอดแทรกความบันเทิงให้แก่ผู้อ่าน ข. มุ่งให้ข้อคิดคติ เตือนใจให้แก่ผู้อ่าน ค. มุ่งให้ความบันเทิงและมีการใช้ถ้อยคำเหมาะกับเนื้อเรื่อง ง. มุ่งเน้นการเลือกสรรถ้อยคำให้สละสลวยเพื่อสร้างบรรยากาศ 14. องค์ประกอบพื้นฐานสำคัญของการเขียนบันเทิงคดีคือข้อใด ก. มีการลำดับเรื่องโดยเล่าย้อนหลังเพื่อให้เรื่อง ชวนติดตาม ข. เวลาและสถานที่ควรสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องเพื่อความสมจริง ค. ชื่อเรื่องและเนื้อเรื่องไม่จำเป็นต้องสัมพันธ์กัน
155 ง. ภาษาเป็นเพียงบทสนทนาที่สมมติขึ้นเท่านั้น 15. งานเขียนข้อใดไม่ใช่บันเทิงคดี ก. อนุทิน ข. นิทาน ค. บทเพลง ง. หัสนิยาย 16. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับสารคดีและบันเทิงคดี ก. บันเทิงคดี คือ เรื่องที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ข. บันเทิงคดี คือ เรื่องที่มุ่งให้ความบันเทิง ค. สารคดีและบันเทิงคดีเป็นส่วนหนึ่งของวรรณกรรม ง. สารคดี คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น 17. สารคดีเป็นงานเขียนที่มีจุดมุ่งหมายอย่างไร ก. ให้ความรู้ ข้อคิด ข้อเท็จจริง คติ ข้อแนะนำ ข. ให้ความรู้เรื่องราวที่เป็นสาระ ค. ให้ความรู้และสร้างจินตนาการ ง. ให้ความรู้บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริงที่เกิดเรื่องขึ้น 18. “เป็นการตั้งกรอบความคิดในการเขียนสารคดีว่าจะบรรจุเนื้อหาอะไรให้ผู้อ่านได้บ้าง” ข้อความนี้ เป็นหลักการเขียนสารคดีข้อใด ก. การเลือกเรื่อง ข. การวางโครงเรื่อง ค. การรวบรวมข้อมูล ง. การตั้งจุดมุ่งหมายในการเขียน 19. ข้อใดแสดงให้เห็นมารยาทในการเขียนสารคดี ก. เขียนให้ถูกต้องตามอักขรวิธี ข. คัดลอกงานเขียนของผู้อื่น ค. เขียนข้อความหรืองานเขียนที่เกิดจากจินตนาการตนเอง ง. เขียนสิ่งที่ให้ความเพลิดเพลิน 20. งานเขียนอย่างสร้างสรรค์มีลักษณะคล้ายบทความแต่ไม่ใช่บทความ คือข้อใด (การเข้าใจ) ก. สารคดี ข. วรรณคดี ค. บันเทิงคดี ง. บทความ
156 1. ข้อใดกล่าวถึงการเขียนเชิงสร้างสรรค์ได้ถูกต้อง (การจำ) ก. เขียนเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ข. เขียนที่ให้แง่คิดแก่ผู้อ่านแทรกอุทาหรณ์สอนใจ ค. เขียนเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงเกิดขึ้นในเหตุการณ์ต่างๆ ง. เขียนที่แสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึก ที่ให้ความเพลิดเพลินมีความไพเราะของภาษา 2. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของคำขวัญ (การจำ) ก. ถ้อยคำสั้น ๆ กระชับ ข. ถ้อยคำทันสมัยอยู่ในความนิยม ค. สัมผัสคล้องจอง ง. มีความหมายลึกซึ้ง ให้ข้อคิด คำสอน 3. กลวิธีการเขียนคำขวัญในข้อใด ใช้ทั้งการเล่นคำ และการเล่นสัมผัส (การวิเคราะห์) ก. เมาไม่ขับ เร็วแล้วจับ ขับไม่โทร ข. ผลิตพืชปลอดภัย นำไทยสู่ครัวโลก ค. ช่วยราษฎร์ เสริมรัฐ ยืนหยัด ยุติธรรม ง. พลังมวลชน พลังแผ่นดิน ขจัดสิ้นยำเสพติด 4. คำขวัญในข้อใดโน้มน้าวใจให้ผู้ฟังจำและปฏิบัติตาม (การวิเคราะห์) ก. ภูมิใจไทยทำ ดีใจไทยใช้ ข. ขับเร็วชิดขวา ขับช้าชิดซ้าย ค. ตำรวจอยู่ไหน ประชาชนอุ่นใจ ง. ทิ้งขยะไม่เลือกที่ หมดราศีไปทั้งเมือง 5. ข้อใดเป็นหลักการเขียนโฆษณา (การเข้าใจ) ก. คำนึงถึงผลกำไร โน้มน้าวผู้อ่านให้มากที่สุด ข. ใช้ประโยคกำกวม ชวนติดตาม ชวนตีความ ค. เปรียบเทียบกับสินค้าอื่นเพื่อให้เห็นข้อดี ง. เขียนตามความเป็นจริง 6. ส่วนใดปรากฏเด่นชัดที่สุดในข้อความโฆษณาต่อไปนี้ “ต้ม ผัด แกง ทอด หอมอร่อยในพริบตา คู่ ครัวรสดี” (การวิเคราะห์) ก. ใช้คำขัดแย้งกัน ข. ใช้การท้าทาย ค. ให้คำแนะนำ ง. บอกประโยชน์ของสินค้า เฉลยแบบทดสอบเรื่อง การเขียนเชิงสร้างสรรค์ คำชี้แจง ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาททับตัวเลขหน้าคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว
157 7. โฆษณาข้อใดใช้วิธีการโน้มน้าวใจด้วยการท้าทาย (การเข้าใจ) ก. นิยมไทย เงินตราไม่รั่วไหล ชาติไทยไม่เสียดุล ข. จานไหน...จานไหน...ก็อร่อย ต้องน้ำปลาตราปลาทะเล ค. ชุดนักเรียนตรามิตรแท้สำหรับนักเรียนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ง. เพียงปลายสัมผัส ความคมชัด...ก็ปรากฏ ต้องโทรทัศน์ตราชัดเจน 8. ข้อใดเป็นคำขวัญในการโฆษณาที่จำยาก (การเข้าใจ) ก. หนึ่งในใจคุณ ข. นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ค. พูดแล้วหอม ง. คู่กายของทุกระดับนักดนตรี 9. ข้อใดคือส่วนประกอบของการเขียนเรียงความเรียงตามลำดับ (การจำ) ก. คำนำ เนื้อเรื่อง สรุป ข. เนื้อเรื่อง คำนำ สรุป ค. หัวข้อ โครงเรื่อง เนื้อเรื่อง ง. หัวข้อ เนื้อเรื่อง สรุป 10. เหตุใดจึงควรมีการวางโครงเรื่องก่อนเขียนเรียงความ (การเข้าใจ) ก. เพื่อจะทำให้ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจ ข. เพื่อจะได้ใช้ภาษาได้เหมาะสมถูกต้อง ค. เพื่อบรรยายเรื่องราวต่าง ๆ ให้ครบ 3 ย่อหน้า ง. เพื่อวางขอบเขตและเรียงลำดับเรื่องให้สอดคล้องกัน 11. การเขียนเรียงความเชิงสร้างสรรค์ ในส่วนที่เป็นตอนสรุป ควรหลีกเลี่ยงสิ่งใด (การเข้าใจ) ก. การเขียนเชิญชวน ข. การเขียนเปิดประเด็นใหม่ ค. การเขียนแนะนำผู้เขียน ง. การเขียนสั้น ๆ 12. ข้อใดเป็นการวางโครงเรื่องที่สอดคล้องกับหัวข้อเรียงความ (การวิเคราะห์) ก. หัวข้อ ครู … แม่คนที่สอง – แม่ของฉัน, ครูของฉัน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับแม่ ข. หัวข้อ ของเล่นของเด็กไทย – ความสำคัญของของเล่น, วิวัฒนาการของ ของเล่นเด็กไทย, ประโยชน์จากของเล่นเด็ก ค. หัวข้อ โลกแห่งการสื่อสารไร้พรมแดน – วิวัฒนาการของโลก การแบ่งพรมแดนในโลก, การใช้โทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสาร ง. หัวข้อ สำนวนไทยใช้ให้เป็น – ตัวอย่างสำนวนเกี่ยวกับอาหาร, ตัวอย่างสำนวนเกี่ยวกับ อาชีพ, ตัวอย่างสำนวนเกี่ยวกับการแต่งงาน 13. งานเขียนประเภทบันเทิงคดีควรมีลักษณะตรงกับข้อใด (การจำ) ก. งานเขียนที่มุ่งให้ความรู้โดยสอดแทรกความบันเทิงให้แก่ผู้อ่าน ข. งานเขียนที่มุ่งส่งเสริมสติปัญญาและข้อคิดคติ เตือนใจให้แก่ผู้อ่าน ค. งานเขียนที่มุ่งให้ความบันเทิงและมีการใช้ถ้อยคำ เหมาะกับเนื้อเรื่อง
158 ง. งานเขียนที่มุ่งเน้นการเลือกสรรถ้อยคำให้สละสลวยเพื่อสร้างบรรยากาศ 14. การเขียนบันเทิงคดีควรมีองค์ประกอบพื้นฐานสำคัญในเรื่องใด (การเข้าใจ) ก. มีการลำดับเรื่องโดยการเล่าย้อนหลังเพื่อให้เรื่อง ชวนติดตาม ข. เวลาและสถานที่ควรสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องเพื่อความสมจริง ค. ชื่อเรื่องและเนื้อเรื่องไม่จำเป็นต้องสัมพันธ์กัน ง. ภาษาเป็นเพียงบทสนทนาที่สมมติขึ้นเท่านั้น 15. งานเขียนข้อใดไม่ใช่บันเทิงคดี(การเข้าใจ) ก. อนุทิน ข. นิทาน ค. บทเพลง ง. หัสนิยาย 16. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับสารคดีและบันเทิงคดี(การจำ) ก. บันเทิงคดี คือ เรื่องที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ข. บันเทิงคดี คือ เรื่องที่มุ่งให้ความบันเทิง ค. สารคดีและบันเทิงคดีเป็นส่วนหนึ่งของวรรณกรรม ง. สารคดี คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น 17. สารคดีเป็นงานเขียนที่มีจุดมุ่งหมายอย่างไร (การจำ) ก. ให้ความรู้ ข้อคิด ข้อเท็จจริง คติ ข้อแนะนำ ข. ให้ความรู้เรื่องราวที่เป็นสาระ ค. ให้ความรู้และสร้างจินตนาการ ง. ให้ความรู้บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริงที่เกิดเรื่องขึ้น 18. “เป็นการตั้งกรอบความคิดในการเขียนสารคดีว่าจะบรรจุเนื้อหาอะไรให้ผู้อ่านได้บ้าง” ข้อความนี้ เป็นหลักการเขียนสารคดีข้อใด (การจำ) ก. การเลือกเรื่อง ข. การวางโครงเรื่อง ค. การรวบรวมข้อมูล ง. การตั้งจุดมุ่งหมายในการเขียน 19. ข้อใดแสดงให้เห็นมารยาทในการเขียนสารคดีที่ดี(การเข้าใจ) ก. เขียนให้ถูกต้องตามอักขรวิธี ข. คัดลอกงานเขียนของผู้อื่น ค. เขียนข้อความหรืองานเขียนที่เกิดจากจินตนาการตนเอง ง. เขียนสิ่งที่ให้ความเพลิดเพลิน 20. งานเขียนอย่างสร้างสรรค์มีลักษณะคล้ายบทความแต่ไม่ใช่บทความ คือข้อใด (การเข้าใจ) ก. สารคดี ข. วรรณคดี ค. บันเทิงคดี ง. บทความ
ภาคผนวก ฉ ภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
160 ภาพที่ 1 นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ภาพที่ 2 กลุ่มตัวอย่างทำใบงานการเสริมสร้างทักษะภาษาเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ใน ขั้นตอน ๒ ของกระบวนการ
161 ภาพที่ 3 กลุ่มตัวอย่างทำใบกิจกรรมการเขียนคำขวัญ ภาพที่ 4 กลุ่มตัวอย่างนำเสนอใบกิจกรรมการเขียนคำขวัญ
162 ภาพที่ 5 กลุ่มตัวอย่างนำเสนอใบกิจกรรมการเขียนโฆษณา ภาพที่ 6 นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน
ภาคผนวก ช ผลงานนักเรียน
164 ภาพที่ 7 แบบทดสอบก่อนเรียน ภาพที่ 8 ผลงานนักเรียน ใบงานการเขียนคำขวัญ
165 ภาพที่ 11 ผลงานนักเรียน ใบงานการเขียนโฆษณา ภาพที่ 14 ผลงานนักเรียน ใบงานการเขียนบันเทิงคดี
ภาคผนวก ซ ประวัติผู้วิจัย
167 ประวัติผู้วิจัย ชื่อนักศึกษา นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน ภูมิลำเนาเดิม บ้านเลขที่ 18 หมู่ 3 ตำบล หนองแปน อำเภอ มัญจาคิรี จังหวัด ขอนแก่น รหัสไปรษณีย์40160 โทรศัพท์ 0910755934 สถานที่พักอาศัย บ้าน √ หอพัก บ้านเลขที่ 151/3 ซอยเทพบุรี 1 ตำบล หมากแข้ง อำเภอ เมือง จังหวัด อุดรธานี รหัสไปรษณีย์41000 ความสามารถพิเศษ ใช้งานโปรแกรม Microsorf Word ได้ ใช้งานโปรแกรม Microsorf Powerpoint ,Canvaได้ ใช้งานโปรแกรมตัดต่อวิดีโอได้หลากหลาย ประวัติการศึกษา: พ.ศ. 2554 ระดับประถมศึกษา โรงเรียนบ้านหนองหัวช้างดอนพันชาด จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. 2557 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนบ้านหนองหัวช้างดอนพันชาด จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. 2560 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนมัญจาศึกษา จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. 2564 กำลังศึกษา ระดับปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี E-mail: [email protected] สถานที่ฝึกปฏิบัติการสอน โรงเรียนอุดรธรรมานุสรณ์ ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 41000