การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบซินเนกติกส์ วิชาภาษาไทย เรื่องก

ภาคผนวก ก รายนามผู้เชี่ยวชาญในการตรวจเครื่องมือวิจัย

90 รายนามผู้เชี่ยวชาญในการตรวจเครื่องมือวิจัย ด้านการสอนภาษาไทย ชื่อ – นามสกุล นางเรียม ผ่องญาติ ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนสามพร้าววิทยา ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ด้านการสอนภาษาไทย ชื่อ – นามสกุล นางปราณี กองเกิด ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนสามพร้าววิทยา ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ด้านการวัดและการประเมินผล ชื่อ – นามสกุล นางสาวพรพิมล นามพรมมา ตำแหน่ง ครู โรงเรียนสามพร้าววิทยา ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ภาคผนวก ข หนังสือแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญ

92 ที่ อว 0622.02/ว 379 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 26 พฤศจิกายน 2565 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์บุคลากรเป็นผู้เชี่ยวชาญ เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนสามพร้าววิทยา ด้วย นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้จัดทำวิจัยเรื่องการพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดย รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบซินเนกติกส์ วิชาภาษาไทย เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ สำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสามพร้าววิทยา มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา ศึกษาและ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องการเขียนสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสามพร้าววิทยา โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบซินเนกติกส์ ในการนี้ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี พิจารณาแล้วเห็นว่าบุคลากรใน สังกัด ของท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ด้านการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแผนการจัดการเรียนรู้จึงขอเรียนเชิญเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบเครื่องมือการวิจัยในครั้งนี้ คือ 1. นางเรียม ผ่องญาติ ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 2. นางปราณี กองเกิด ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 3. นางสาวพรพิมล นามพรมมา ตำแหน่ง ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากท่านด้วยดี เช่นเคย และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ ขอแสดงความนับถือ (ดร.ปุณรัตน์ พิพิธกุล) คณบดีคณะครุศาสตร์ คณะครุศาสตร์ โทร 0–4224-4985 โทรสาร 0-4234-1741

ภาคผนวก ค ข้อมูลแสดงความสอดคล้องของเครื่องมือ

94 ตารางที่ 8 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องขององค์ประกอบและความเหมาะสมของ แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบซินเนกติกส์ ที่ได้จาก การประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ซึ่งมีผลการประเมินดัง ตารางต่อไปนี้ ลำดับ ที่ รายการประเมินของแผนการจัดการเรียนรู้ ผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ IOC ท่านที่ 1 ท่านที่ 2 ท่านที่ 3 1 ด้านสาระสำคัญ 1.1 สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัด และ สาระการเรียนรู้แกนกลางในหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 +1 +1 +1 1 1.2 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 1.3 มีความถูกต้อง ชัดเจน เข้าใจง่าย +1 +1 +1 1 2 ด้านจุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และ สาระการเรียนรู้แกนกลางในหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 +1 +1 +1 1 2.2 ครอบคลุมพฤติกรรมการเรียนรู้ด้านความรู้ (K) ด้านทักษะกระบวนการ (P) และด้านคุณลักษณะที่ พึงประสงค์ (A) +1 0 +1 0.66 3 ด้านสาระการเรียนรู้ 3.1 สอดคล้องกับแบบฝึกทักษะการเขียนเชิง สร้างสรรค์ +1 +1 +1 1 3.2 เหมาะสมกับวัยและระดับชั้นของผู้เรียน +1 +1 +1 1 4 ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ส่งเสริมการพัฒนาความสามารถในการเขียน เชิงสร้างสรรค์ +1 +1 +1 1 4.2 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบซินเนกติกส์เพื่อ พัฒนาต่อความสามารถในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มี 6 ขั้นตอน ดังนี้ +1 +1 +1 1

95 ลำดับ ที่ รายการประเมินของแผนการจัดการเรียนรู้ ผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ IOC ท่านที่ 1 ท่านที่ 2 ท่านที่ 3 4.2.1 ขั้นนำ +1 +1 +1 1 4.2.2 ขั้นการสร้างอุปมาแบบตรงหรือเปรียบเทียบ แบบตรง +1 +1 +1 1 4.2.3 ขั้นการสร้างอุปมาบุคคลหรือเปรียบเทียบ บุคคลกับสิ่งของ 0 +1 +1 0.66 4.2.4 ขั้นการสร้างอุปมาคำคู่ขัดแย้ง +1 +1 +1 1 4.2.5 ขั้นการอธิบายความหมายของคำคู่ขัดแย้ง +1 +1 +1 1 4.2.6 ขั้นการนำความคิดใหม่มาสร้างสรรค์งาน +1 +1 +1 1 5 ด้านสื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 5.1 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมการ เรียนรู้ +1 +1 +1 1 6 ด้านการวัดผลและประเมินผล 6.1 มีการวัดและประเมินผลตรงตามเนื้อหาและ จุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 6.2 กำหนดเกณฑ์การประเมินชัดเจนเข้าใจง่าย +1 +1 +1 1 ค่าเฉลี่ย 0.94 0.94 1 0.98

96 ตารางที่ 9 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องขององค์ประกอบและความเหมาะสม ของแบบทดสอบวัดวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ซึ่งมีผลการประเมินดังตารางต่อไปนี้ ลำดับ ที่ รายการประเมินของวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ IOC ท่านที่ 1 ท่านที่ 2 ท่านที่ 3 1 ด้านความรู้ความจำ 1. ความรู้ในเนื้อเรื่อง +1 +1 +1 1 2. ความรู้ในวิธีการ +1 +1 +1 1 3. ความรู้เกี่ยวกับความจำรวบยอด +1 0 +1 0.66 2 ด้านความเข้าใจ 1. การแปลความ +1 +1 +1 1 2. การตีความ +1 +1 +1 1 3. การขยายความ 0 +1 +1 0.66 3 ด้านการวิเคราะห์ 1.การวิเคราะห์ความสำคัญ +1 +1 +1 1 2.การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ +1 +1 +1 1 3. การวิเคราะห์หลักการ +1 +1 +1 1 ค่าเฉลี่ย 0.89 0.89 1 0.92

97 ตารางที่ 10 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องขององค์ประกอบและความเหมาะสม ของแบบทดสอบวัดความสามารถการเขียนเชิงสร้างสรรค์กิจกรรมที่ 1 เขียนคำขวัญ โดย ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ซึ่งมีผลการประเมินดังตารางต่อไปนี้ ลำดับ ที่ รายการประเมิน ผลการประเมินของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC ท่านที่ 1 ท่านที่ 2 ท่านที่ 3 ด้านคำแนะนำในการใช้แบบทดสอบ 1 คำชี้แจงมีความเหมาะสม ชัดเจน สื่อความ เข้าใจง่าย +1 +1 +1 1 แบบทดสอบ 2 ความเหมาะสมของเวลากับการทำ แบบทดสอบ +1 +1 +1 1 3 รูปแบบของแบบทดสอบมีความเหมาะสม กับเนื้อหา +1 +1 +1 1 4 แบบทดสอบมีความสอดคล้องกับผลการ เรียนรู้ที่คาดหวัง +1 +1 +1 1 ด้านการวัดและประเมินผล 5 เกณฑ์การประเมินการเขียนสร้างสรรค์มี ความเหมาะสม +1 +1 +1 1 ค่าเฉลี่ย 1 1 1 1

98 ตารางที่ 11 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องขององค์ประกอบและความเหมาะสม ของแบบทดสอบวัดความสามารถการเขียนเชิงสร้างสรรค์กิจกรรมที่ 2 เขียนโฆษณา โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน ซึ่งมีผลการประเมินดังตารางต่อไปนี้ ลำดับ ที่ รายการประเมิน ผลการประเมินของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC ท่านที่ 1 ท่านที่ 2 ท่านที่ 3 ด้านคำแนะนำในการใช้แบบทดสอบ 1 คำชี้แจงมีความเหมาะสม ชัดเจน สื่อความ เข้าใจง่าย +1 +1 +1 1 แบบทดสอบ 2 ความเหมาะสมของเวลากับการทำ แบบทดสอบ +1 +1 +1 1 3 รูปแบบของแบบทดสอบมีความเหมาะสม กับเนื้อหา +1 +1 +1 1 4 แบบทดสอบมีความสอดคล้องกับผลการ เรียนรู้ที่คาดหวัง +1 +1 +1 1 ด้านการวัดและประเมินผล 5 เกณฑ์การประเมินการเขียนสร้างสรรค์มี ความเหมาะสม +1 +1 +1 1 ค่าเฉลี่ย 1 1 1 1

99 ตารางที่ 12 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องขององค์ประกอบและความเหมาะสม ของแบบทดสอบวัดความสามารถการเขียนเชิงสร้างสรรค์กิจกรรมที่ 3 เขียนเรียงความ โดย ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ซึ่งมีผลการประเมินดังตารางต่อไปนี้ ลำดับ ที่ รายการประเมิน ผลการประเมินของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC ท่านที่ 1 ท่านที่ 2 ท่านที่ 3 ด้านคำแนะนำในการใช้แบบทดสอบ 1 คำชี้แจงมีความเหมาะสม ชัดเจน สื่อความ เข้าใจง่าย +1 +1 +1 1 แบบทดสอบ 2 ความเหมาะสมของเวลากับการทำ แบบทดสอบ +1 +1 +1 1 3 รูปแบบของแบบทดสอบมีความเหมาะสม กับเนื้อหา +1 +1 +1 1 4 แบบทดสอบมีความสอดคล้องกับผลการ เรียนรู้ที่คาดหวัง +1 +1 +1 1 ด้านการวัดและประเมินผล 5 เกณฑ์การประเมินการเขียนสร้างสรรค์มี ความเหมาะสม +1 +1 +1 1 ค่าเฉลี่ย 1 1 1 1

100 ตารางที่ 13 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องขององค์ประกอบและความเหมาะสม ของ แบบทดสอบวัดความสามารถการเขียนเชิงสร้างสรรค์กิจกรรมที่ 4 เขียนบันเทิงคดีโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน ซึ่งมีผลการประเมินดังตารางต่อไปนี้ ลำดับ ที่ รายการประเมิน ผลการประเมินของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC ท่านที่ 1 ท่านที่ 2 ท่านที่ 3 ด้านคำแนะนำในการใช้แบบทดสอบ 1 คำชี้แจงมีความเหมาะสม ชัดเจน สื่อความ เข้าใจง่าย +1 +1 +1 1 แบบทดสอบ 2 ความเหมาะสมของเวลากับการทำ แบบทดสอบ +1 +1 +1 1 3 รูปแบบของแบบทดสอบมีความเหมาะสม กับเนื้อหา +1 +1 +1 1 4 แบบทดสอบมีความสอดคล้องกับผลการ เรียนรู้ที่คาดหวัง +1 +1 +1 1 ด้านการวัดและประเมินผล 5 เกณฑ์การประเมินการเขียนสร้างสรรค์มี ความเหมาะสม +1 +1 +1 1 ค่าเฉลี่ย 1 1 1 1

101 ตารางที่ 14 แสดงค่าดัชนีความสอดคล้องขององค์ประกอบและความเหมาะสม ของ แบบทดสอบวัดความสามารถการเขียนเชิงสร้างสรรค์กิจกรรมที่ 5 เขียนสารคดีโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน ซึ่งมีผลการประเมินดังตารางต่อไปนี้ ลำดับ ที่ รายการประเมิน ผลการประเมินของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC ท่านที่ 1 ท่านที่ 2 ท่านที่ 3 ด้านคำแนะนำในการใช้แบบทดสอบ 1 คำชี้แจงมีความเหมาะสม ชัดเจน สื่อความ เข้าใจง่าย +1 +1 +1 1 แบบทดสอบ 2 ความเหมาะสมของเวลากับการทำ แบบทดสอบ +1 +1 +1 1 3 รูปแบบของแบบทดสอบมีความเหมาะสม กับเนื้อหา +1 +1 +1 1 4 แบบทดสอบมีความสอดคล้องกับผลการ เรียนรู้ที่คาดหวัง +1 +1 +1 1 ด้านการวัดและประเมินผล 5 เกณฑ์การประเมินการเขียนสร้างสรรค์มี ความเหมาะสม +1 +1 +1 1 ค่าเฉลี่ย 1 1 1 1

ภาคผนวก ง แผนการจัดการเรียนรู้

103 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสามพร้าววิทยา หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 คำขวัญโน้มจิต โน้มคิดคำคม เวลา 9 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ย่อยเรื่อง การเขียนคำขวัญ เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้สอน นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน วันที่สอน 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความย่อความและเขียนเรื่องราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ 1.2 ตัวชี้วัด ท 2.1 ม 3/2 เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคำได้ถูกต้องตามระดับภาษา ท 2.1 ม 3/10 มีมารยาทในการเขียน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนบอกความหมายและหลักการเขียนคำขวัญได้ถูกต้อง (K) 2.2 นักเรียนสามารถเขียนคำขวัญสร้างสรรค์ตามหัวข้อที่กำหนดได้ (P) 2.3 นักเรียนเห็นประโยชน์ของการเขียนคำขวัญได้ (A) 3. สาระสำคัญ การเขียนคำขวัญเป็นงานเขียนที่เชิญชวน โน้มน้าวใจผู้ฟังและผู้อ่านให้ตระหนักและคล้อย ตามในสถานการณ์แตกต่างกันไป จึงต้องใช้ความสามารถในแง่ของการใช้ถ้อยคำที่กระชับ รัดกุมและ มีความหมายโดดเด่น แปลกใหม่ และต้องคล้องจองเพื่อให้จดจำได้ง่าย 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 ความหมายของคำขวัญ 4.2 หลักการใช้ภาษาในการเขียนคำขวัญ 4.3 ลักษณะของคำขวัญที่ดี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 มีวินัย 5.2 ใฝ่เรียนรู้ 5.3 มุ่งมั่นในการทำงาน

104 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน ใบงานเรื่องการเขียนสร้างสรรค์ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้(กระบวนการเรียนรู้แบบซินเนกติกส์) 8.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นที่ 1 ขั้นนำ 8.1.1 นักเรียนสังเกตคำและอ่านแถบประโยคที่ครูนำมา โดยจะเป็นคำขวัญที่ นักเรียนคุ้นเคย เช่น “ขับรถถูกกฎ ช่วยลดอุบัติเหตุ” “อยู่ห่างไว้ ไม่แพร่เชื้อ เพื่อทุกคน” โดยครูถาม คำถามว่าประโยคที่ครูนำมาข้างต้นคืออะไร จากนั้นครูนำเข้าบทเรียนเรื่องการเขียนคำขวัญ 8.1.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับการเขียนคำขวัญ ได้แก่ความหมายของคำขวัญ หลักการเขียนคำขวัญ ลักษณะของการเขียนคำขวัญที่ดีพร้อมกับรับใบงานเรื่องหลักการเขียนคำขวัญ 8.1.3 นักเรียนสนทนาเกี่ยวกับหัวข้อ “การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ” โดยศึกษา จากสื่อต่าง ๆ แล้วร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ พร้อมกับจดบันทึกข้อมูลไว้ 8.1.4 นักเรียนรับกระดาษเพื่อเขียนคำขวัญ โดยให้เขียนคำขวัญในหัวข้อ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคร่าว ๆ ตามความคิดของตนเอง 8.2 ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นที่ 2 ขั้นการสร้างอุปมาแบบตรงหรือเปรียบเทียบแบบตรง 8.2.1 นักเรียนร่วมกันระดมความคิดในเชิงการเปรียบเทียบ เพื่อค้นหาคำมาใช้ใน การแต่ง คำขวัญที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน และการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้จดบันทึกคำ 2 คำที่ต้องการเปรียบเทียบ พร้อมทั้งบอก ความเหมือนของคำแต่ละคู่ เช่น 1) ต้นไม้ – ปลา มีความเหมือนกันคือ มีชีวิต ขยายพันธุ์ได้ ขาดน้ำไม่ได้ 2) บ้าน – โซฟา มีความเหมือนกันคือ ข้าวของเครื่องใช้ มนุษย์สร้างขึ้น ขั้นที่ 3 ขั้นการสร้างอุปมาบุคคลหรือเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของ 8.2.2 นักเรียนเปรียบเทียบตนเองกับสิ่งของ แล้วอธิบายออกมาเป็นถ้อยคำที่ หลากหลาย สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกตามสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วจดบันทึกไว้ เช่น 1) หากนักเรียนเป็นต้นไม้ที่ถูกตัดไปสร้างสิ่งของเครื่องใช้ นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร 2) หากนักเรียนเป็นทะเลเต็มไปด้วยขยะ นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร

105 ขั้นที่ 4 ขั้นการสร้างอุปมาคำคู่ขัดแย้ง 8.2.3 นักเรียนนำคำที่ได้จากขั้นตอนการเปรียบเทียบทางตรงและ การ เปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของที่มีความหมายขัดแย้งกันมาสร้างเป็นกลุ่มคำใหม่ แล้วอธิบายความหมาย ของคำคู่ขัดแย้งที่นักเรียนสร้างขึ้น โดยอาจมีคำเชื่อมระหว่างคำได้ เช่น สวยอันตราย ความสุขไร้ความ สงบ ขั้นที่ 5 ขั้นการอธิบายความหมายของคำคู่ขัดแย้ง 8.2.4 นักเรียนร่วมกันอธิบายความหมายของคำคู่ขัดแย้งที่ได้ เช่น 1) สวยอันตราย หมายถึง โลกที่สวยงาม แต่เต็มไปด้วยมลพิษ 2) ความสุขไร้ความสงบ หมายถึง การมีความสุข บนชีวิตเมืองกรุงที่ไม่สงบ ขั้นที่ 6 ขั้นการนำความคิดใหม่มาสร้างสรรค์งาน 8.2.5 นักเรียนนำงานที่ทำไว้เดิมในขั้นที่ 1 ออกมาทบทวนใหม่ และนำความคิดที่ ได้มาใหม่จากกิจกรรมขั้นที่ 5 มาใช้ในงานของตน ทำให้งานของตนมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น 8.3 ขั้นสรุปบทเรียน นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนเรื่องการเขียนคำขวัญ พร้อมทั้งนำผลงานที่ได้ไป ประชาสัมพันธ์ถึงแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น นำไปติดไว้ที่ป้ายนิเทศทุกห้องเรียน 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 9.1.1 หนังสือเรียนวิชาภาษาไทย 9.1.2 สื่อ Power Point 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 9.2.1 อินเทอร์เน็ต 9.2.2 ห้องสมุด

106 10. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนบอกความหมายและ หลักการเขียนคำขวัญได้ถูกต้อง (K) ให้นักเรียน ทำใบงาน แบบให้คะแนน Rubric Score ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อ นักเรียนตอบคำถามตรงประเด็น ถูกต้องร้อยละ 70 ขึ้นไป 2. นักเรียนสามารถเขียนคำขวัญ สร้างสรรค์ตามหัวข้อที่กำหนดได้ (P) ให้นักเรียน ทำใบงาน แบบประเมิน การเขียนคำขวัญ ผ่านเกณฑ์การประเมินรายบุคคล เมื่อนักเรียนได้คะแนนร้อยละ 70 หรือระดับดีขึ้นไป 3. นักเรียนเห็นประโยชน์ของการ เขียนคำขวัญได้ (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมิน รายบุคคล เมื่อคะแนนอยู่ใน ระดับดีขึ้นไป

107 11. บันทึกผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 11.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.2 ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... (นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน) วันที่.........เดือน..................พ.ศ.............

108 เกณฑ์การประเมินการเขียนคำขวัญ ประเด็นการ ประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน 3 2 1 เนื้อหาสาระ ถูกต้องชัดเจนน่าสนใจ มาก ถูกต้องชัดเจนน่าสนใจ พอใช้ ไม่ชัดเจนและน่าสนใจ การใช้ภาษา ใช้ภาษาถ้อยคำได้ ถูกต้องตามหลัก วิชาการ ใช้ภาษาถ้อยคำได้ ถูกต้องแต่ไม่เป็นไป ตามหลักวิชาการ ใช้ภาษาถ้อยคำบกพร่องอยู่ บ้าง อักขรวิธี ถูกต้องตามอักขรวิธี ทุกคำ ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี 1-2 คำ ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี 3 คำ ขึ้นไป ความคิด สร้างสรรค์ มีความคิดสร้างสรรค์ใน การอ่านที่แปลกใหม่ไม่ เหมือนใคร มีความคิดสร้างสรรค์ ในการอ่านแตกต่าง จากคนทั่วไป มีการปรับปรุงการอ่านจาก การอ่านทั่วไป และสร้างสรรค์ เพิ่มเติมให้ดีขึ้นเล็กน้อย ความสะอาด เรียบร้อย สะอาดไม่มีรอยขูด ขีด ฆ่า และรอบคอบ สะอาดไม่มีรอยขีดฆ่า มีรอยลบ 1-2 แห่ง สะอาดไม่มีรอยขีดฆ่า มีรอยมากกว่า 2 แห่ง

109

110

111 ใบงานการเสริมทักษะทางภาษาเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ชื่อ ..................................................................................... ชั้น .................... เลขที่ ...... ............. ตอนที่ 1 การเปรียบเทียบทางตรง (การคิดคล่อง) 1. ให้นักเรียนจดบันทึกคำ 2 คำที่ต้องการเปรียบเทียบกันมาประมาณ 5 คู่ พร้อมทั้งบอกประเด็น ความเหมือนของคำแต่ละคู่ ตัวอย่าง ต้นไม้ –ปลา มีความเหมือนกันคือ มีชีวิต ขยายพันธุ์ได้ ขาดน้ำไม่ได้ 1) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 2) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 3) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 4) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 5) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... ตอนที่ 2 การเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของ (การคิดยืดหยุ่น) 2. ให้นักเรียนเปรียบเทียบตนเองกับสิ่งของ แล้วอธิบายออกมำเป็นถ้อยคำที่หลากหลายสื่อถึงอารมณ์ ความรู้สึกตามสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วจดบันทึกไว้ เช่น 1) หากนักเรียนเป็นต้นไม้ที่ถูกตัดไปสร้างบ้าน นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… 2) หากนักเรียนเป็นทะเลเต็มไปด้วยขยะ นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………… ตอนที่ 3 การสร้างคำคู่ขัดแย้ง (การคิดริเริ่ม) 3. ให้นักเรียนนำคำที่ได้จากขั้นตอนการเปรียบเทียบทางตรงและการเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของที่มี ความหมายขัดแย้งกันมาสร้างเป็นกลุ่มคำใหม่ประมาณ 5 กลุ่มคำ เช่น สวยอันตราย หมายถึง โลกที่สวยงาม แต่เต็มไปด้วยมลพิษ 1) .......................................................... หมายถึง ................................................................. 2) ......................................................... หมายถึง .................................................................. 3) ......................................................... หมายถึง .................................................................. 4) ......................................................... หมายถึง .................................................................. 5) ......................................................... หมายถึง ..................................................................

112 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสามพร้าววิทยา หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 คำขวัญโน้มจิต โน้มคิดคำคม เวลา 9 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ย่อยเรื่อง การเขียนโฆษณา เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้สอน นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน วันที่สอน 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความย่อความและเขียนเรื่องราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ 1.2 ตัวชี้วัด ท 2.1 ม 3/2 เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคำได้ถูกต้องตามระดับภาษา ท 2.1 ม 3/10 มีมารยาทในการเขียน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนบอกความหมายและหลักการเขียนโฆษณาได้ถูกต้อง (K) 2.2 นักเรียนสามารถเขียนโฆษณาสร้างสรรค์ตามหัวข้อที่กำหนดได้ (P) 2.3 นักเรียนเห็นประโยชน์ของการเขียนโฆษณาได้ (A 3. สาระสำคัญ การโฆษณาเป็นการให้ข้อมูล ข่าวสาร เป็นการสื่อสารจูงใจผ่านสื่อโฆษณาประเภทต่าง ๆ เพื่อจูงใจหรือโน้มน้าวใจให้กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายมีพฤติกรรมคล้อยตามเนื้อหาสารที่โฆษณาอัน เอื้ออำนวยให้มีการซื้อหรือใช้สินค้าและบริการ ตลอดจนชักนำให้ปฏิบัติตามแนวความคิดต่าง ๆ 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 ความหมายของการโฆษณา 4.2 หลักการใช้ภาษาในการเขียนโฆษณา 4.3 แนวทางการเขียนโฆษณา 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 มีวินัย 5.2 ใฝ่เรียนรู้ 5.3 มุ่งมั่นในการทำงาน

113 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7.1 ใบงานเรื่องการเขียนโฆษณา 7.2 ใบงานเรื่องการเขียนโฆษณาสินค้าใช้ในชีวิตประจำวันให้แปลกใหม่ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้(กระบวนการเรียนรู้แบบซินเนกติกส์) 8.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นที่ 1 ขั้นนำ 8.1.1 นักเรียนสังเกตภาพโฆษณาที่ครูนำมา โดยครูถามคำถามว่าภาพที่ครูนำมา ข้างต้นคืออะไร จากนั้นครูนำเข้าบทเรียนเรื่องการเขียนโฆษณา 8.1.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับการเขียนโฆษณา ได้แก่ความหมายของ การเขียนโฆษณา หลักการเขียนโฆษณา แนวทางการเขียนโฆษณา พร้อมกับรับใบงานเรื่องการเขียน โฆษณา 8.1.3 นักเรียนสนทนาเกี่ยวกับหัวข้อ “สินค้าและถ้อยคำที่ใช้ในการโฆษณา” โดย ศึกษาจากสื่อต่าง ๆ แล้วร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับข้อมูลพร้อมกับจดบันทึกข้อมูลไว้จากนั้นนักเรียน รับกระดาษเพื่อเขียนโฆษณา โดยให้คิดค้นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้แปลกใหม่ เพื่อเป็นกระตุ้นให้ นักเรียนได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ครูซักถามถึงสินค้าที่นักเรียนคิดค้นขึ้น 8.2 ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นที่ 2 ขั้นการสร้างอุปมาแบบตรงหรือเปรียบเทียบแบบตรง 8.2.1 นักเรียนร่วมกันระดมความคิดในเชิงการเปรียบเทียบเพื่อค้นหาคำมาใช้ใน การ แต่งโฆษณาที่เกี่ยวกับข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันให้จดบันทึกคำ 2 คำที่ต้องการเปรียบเทียบ พร้อมทั้งบอกความเหมือนของคำแต่ละคู่ เช่น 1) ครีมทาผิว –รองเท้า มีความเหมือนกันคือ ปกป้องผิวหนัง ปกปิดผิวหนังมีหลาย เฉดสี 2) โทรทัศน์– กระเป๋า มีความเหมือนกันคือ รูปทรงสี่เหลี่ยม

114 ขั้นที่ 3 ขั้นการสร้างอุปมาบุคคลหรือเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของ 8.2.2 นักเรียนเปรียบเทียบตนเองกับสิ่งของ แล้วอธิบายออกมาเป็นถ้อยคำที่ หลากหลาย สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกตามสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วจดบันทึกไว้ เช่น 2) หากนักเรียนเป็นกระเป๋าที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์ นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร 2) หากนักเรียนเป็นรองเท้าที่เกิดจากการนำมาใช้ใหม่ นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ขั้นที่ 4 ขั้นการสร้างอุปมาคำคู่ขัดแย้ง 8.2.3 นักเรียนนำคำที่ได้จากขั้นตอนการเปรียบเทียบทางตรงและ การ เปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของที่มีความหมายขัดแย้งกันมาสร้างเป็นกลุ่มคำใหม่ แล้วอธิบายความหมาย ของคำคู่ขัดแย้งที่นักเรียนสร้างขึ้น โดยอาจมีคำเชื่อมระหว่างคำได้ เช่น ไร้ค่าสร้างประโยชน์ สวยงาม แสนโศกเศร้า ขั้นที่ 5 ขั้นการอธิบายความหมายของคำคู่ขัดแย้ง 8.2.4 นักเรียนร่วมกันอธิบายความหมายของคำคู่ขัดแย้งที่ได้ เช่น 1) ไร้ค่าสร้างประโยชน์ หมายถึง สิ่งของที่เหลือใช้หรือถูกนำมาใช้ใหม่ก็ สามารถสร้างรายได้หรือสร้างประโยชน์ต่อเราได้ 2) สวยงามแสนโศกเศร้า หมายถึง กระเป๋าหนังที่สวยงามบางครั้งก็ต้อง แลกด้วยหนังจระเข้ หรือสัตว์อื่น ๆ ขั้นที่ 6 ขั้นการนำความคิดใหม่มาสร้างสรรค์งาน 8.2.5 นักเรียนนำงานการเขียนโฆษณาโดยให้คิดค้นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้ แปลกใหม่ที่ทำไว้เดิมในขั้นที่ 1 ออกมาทบทวนใหม่ และนำความคิดที่ได้มาใหม่จากกิจกรรมขั้นที่ 5 มาใช้ในงานของตน ทำให้งานของตนมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น 8.3 ขั้นสรุปบทเรียน นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนเรื่องการเขียนโฆษณา ครูคัดเลือกผลงาน การออกแบบโฆษณาสินค้า 10 ผลงานที่มีองค์ประกอบครบถ้วนตามหลักการเขียนโฆษณา จากนั้นให้ ร่วมกันคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุดจำนวน 5 ผลงานแล้วนำไปติดไว้ที่ป้ายนิเทศทุกห้องเรียน 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 9.1.1 หนังสือเรียนวิชาภาษาไทย 9.1.2 สื่อ Power Point 9.1.3 ภาพสื่อโฆษณา 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 9.2.1 อินเทอร์เน็ต 9.2.2 ห้องสมุด

115 10. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนบอกความหมายและ หลักการเขียนโฆษณาได้ถูกต้อง (K) ให้นักเรียน ทำใบงาน แบบให้คะแนน Rubric Score ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อ นักเรียนตอบคำถามตรงประเด็น ถูกต้องร้อยละ 70 ขึ้นไป 2. นักเรียนสามารถเขียนโฆษณา สร้างสรรค์ตามหัวข้อที่กำหนดได้ (P) ให้นักเรียน ทำใบงาน แบบประเมิน การเขียนโฆษณา ผ่านเกณฑ์การประเมินรายบุคคล เมื่อนักเรียนได้คะแนนร้อยละ 70 หรือระดับดีขึ้นไป 3. นักเรียนเห็นประโยชน์ของการ เขียนโฆษณา ได้ (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมิน รายบุคคล เมื่อคะแนนอยู่ใน ระดับดีขึ้นไป

116 11. บันทึกผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 11.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.2 ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... (นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน) วันที่.........เดือน..................พ.ศ.............

117 11.4 ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... (นางสาวพรพิมล นามพรมมา ) วันที่.........เดือน..................พ.ศ............. 11.5 ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... ( ) ………………………………………………………… วันที่.........เดือน..................พ.ศ...........

118 เกณฑ์การประเมินการเขียนโฆษณา ประเด็นการ ประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน 3 2 1 เนื้อหาสาระ ถูกต้องชัดเจนน่าสนใจ มาก ถูกต้องชัดเจนน่าสนใจ พอใช้ ไม่ชัดเจนและน่าสนใจ การใช้ภาษา ใช้ภาษาถ้อยคำได้ ถูกต้องตามหลัก วิชาการ ใช้ภาษาถ้อยคำได้ ถูกต้องแต่ไม่เป็นไป ตามหลักวิชาการ ใช้ภาษาถ้อยคำบกพร่องอยู่ บ้าง อักขรวิธี ถูกต้องตามอักขรวิธี ทุกคำ ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี 1-2 คำ ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี 3 คำ ขึ้นไป ความคิด สร้างสรรค์ มีความคิดสร้างสรรค์ใน การอ่านที่แปลกใหม่ไม่ เหมือนใคร มีความคิดสร้างสรรค์ ในการอ่านแตกต่าง จากคนทั่วไป มีการปรับปรุงการอ่านจาก การอ่านทั่วไป และสร้างสรรค์ เพิ่มเติมให้ดีขึ้นเล็กน้อย ความสะอาด เรียบร้อย สะอาดไม่มีรอยขูด ขีด ฆ่า และรอบคอบ สะอาดไม่มีรอยขีดฆ่า มีรอยลบ 1-2 แห่ง สะอาดไม่มีรอยขีดฆ่า มีรอยมากกว่า 2 แห่ง

119

120

121 ใบงานการเสริมทักษะทางภาษาเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ชื่อ ............................................................................................. ชั้น ..................... .. เลขที่ ................ ตอนที่ 1 การเปรียบเทียบทางตรง (การคิดคล่อง) 1. ให้นักเรียนจดบันทึกคำ 2 คำที่ต้องการเปรียบเทียบกันมาประมาณ 5 คู่ พร้อมทั้งบอกประเด็น ความเหมือนของคำแต่ละคู่ ตัวอย่าง ครีมทาผิว –รองเท้า มีความเหมือนกันคือ ปกป้องผิวหนัง ปกปิดผิวหนังมีหลายเฉดสี 1) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 2) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 3) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 4) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 5) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... ตอนที่ 2 การเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของ (การคิดยืดหยุ่น) 2. ให้นักเรียนเปรียบเทียบตนเองกับสิ่งของ แล้วอธิบายออกมำเป็นถ้อยคำที่หลากหลายสื่อถึงอารมณ์ ความรู้สึกตามสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วจดบันทึกไว้ เช่น 1) หากนักเรียนเป็นกระเป๋าที่ตั้งอยู่ในตู้โชว์ นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… 2) หากนักเรียนเป็นรองเท้าที่เกิดจากการนำมาใช้ใหม่ นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอนที่ 3 การสร้างคำคู่ขัดแย้ง (การคิดริเริ่ม) 3. ให้นักเรียนนำคำที่ได้จากขั้นตอนการเปรียบเทียบทางตรงและการเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของที่มี ความหมายขัดแย้งกันมาสร้างเป็นกลุ่มคำใหม่ประมาณ 5 กลุ่มคำ เช่น ไร้ค่าสร้างประโยชน์ หมายถึง สิ่งของที่เหลือใช้หรือถูกนำมาใช้ใหม่ก็สามารถสร้างรายได้ หรือสร้างประโยชน์ต่อเราได้ 1) .......................................................... หมายถึง ............................................................... 2) ......................................................... หมายถึง ................................................................ 3) ......................................................... หมายถึง ................................................................. 4) ......................................................... หมายถึง .................................................................. 5) ......................................................... หมายถึง ..................................................................

122 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสามพร้าววิทยา หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 คำขวัญโน้มจิต โน้มคิดคำคม เวลา 9 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ย่อยเรื่อง การเขียนเรียงความ เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้สอน นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน วันที่สอน 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความย่อความและเขียนเรื่องราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ 1.2 ตัวชี้วัด ท 2.1 ม 3/2 เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคำได้ถูกต้องตามระดับภาษา ท 2.1 ม 3/10 มีมารยาทในการเขียน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนบอกความหมายและหลักการเขียนเรียงความได้ถูกต้อง (K) 2.2 นักเรียนสามารถเขียนเรียงความสร้างสรรค์ตามหัวข้อที่กำหนดได้ (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม (A) 3. สาระสำคัญ การเขียนเรียงความเป็นการเรียงร้อยถ้อยคำจากเรื่องที่ต้องการนำเสนอด้วยสำนวนภาษา ที่สละสลวยโดยมีส่วนประกอบสำคัญคือคำนำเนื้อเรื่องและสรุปต้องมีความกลมกลืนและสอดคล้อง และน่าประทับใจ 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 ความหมายของการเขียนเรียงความ 4.2 องค์ประกอบของการเขียนเรียงความ 4.3 หลักการเขียนเรียงความ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 มีวินัย 5.2 ใฝ่เรียนรู้ 5.3 มุ่งมั่นในการทำงาน

123 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7.1 ใบงานเรื่องการเขียนเรียงความ 7.2 ใบงานการเขียนเรียงความเกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้(กระบวนการเรียนรู้แบบซินเนกติกส์) 8.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นที่ 1 ขั้นนำ 8.1.1 นักเรียนสังเกตแจกันใส่ดอกกุหลาบที่ครูนำมาวางไว้หน้าห้อง โดยครูถาม คำถามว่า เมื่อนักเรียนเห็นแจกันกุหลาบ นักเรียนมีความรู้สึกหรือนึกถึงอะไร ครูสรุปผลการตอบ คำถามของนักเรียนในประเด็นที่ตกต่าง เช่น 1) แจกันใส่ดอกกุหลาบสีชมพู ให้ความรู้สึกถึงความรักของหนุ่มสาว 2) แจกันใส่ดอกกุหลาบสีชมพู ให้ความรู้สึก มีความสุข จากนั้นครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า สิ่งที่นักเรียนได้ตอบไปนั้นถือว่า เป็นกระบวนการคิด และสามารถนำมาจัดระบบ เรียบเรียง แล้วสามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นเข้าใจความรู้สึกของตนเองสู่ผู้อื่น ได้ โดยเฉพาะการใช้กระบวนการคิดในการเขียนเรียงความ 8.1.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับการเขียนเรียงความ ได้แก่ความหมายของ การ เขียนเรียงความ องค์ประกอบการเขียนเรียงความ หลักการเขียนเรียงความ พร้อมกับรับใบงานเรื่อง การเขียนเรียงความ 8.1.3 นักเรียนสนทนาเกี่ยวกับหัวข้อ “พลังงานที่สำคัญในโลก” โดยศึกษาจากสื่อ ต่าง ๆ แล้วร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับข้อมูลพร้อมกับจดบันทึกข้อมูลไว้จากนั้นนักเรียนรับกระดาษ แล้ววาดภาพที่เกี่ยวข้องกับ“การประหยัดพลังงาน” โดยให้ร่างองค์ประกอบมาอย่างคร่าว ๆ ก่อน 8.2 ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นที่ 2 ขั้นการสร้างอุปมาแบบตรงหรือเปรียบเทียบแบบตรง 8.2.1 นักเรียนร่วมกันระดมความคิดในเชิงการเปรียบเทียบเพื่อค้นหาคำมาใช้ในการ เขียนเรียงความที่เกี่ยวกับการประหยัดพลังงานในชีวิตประจำวัน ให้จดบันทึกคำ 2 คำที่ต้องการ เปรียบเทียบ พร้อมทั้งบอกความเหมือนของคำแต่ละคู่ เช่น 1) พัดลม – เครื่องปรับอากาศ มีความเหมือนกันคือ เป็นเครื่องให้ความเย็น 2) รถจักรยาน – รถจักรยานยนต์ มีความเหมือนกันคือ เป็นพาหนะที่ใช้ใน การเดินทาง

124 ขั้นที่ 3 ขั้นการสร้างอุปมาบุคคลหรือเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของ 8.2.2 นักเรียนเปรียบเทียบตนเองกับสิ่งของ แล้วอธิบายออกมาเป็นถ้อยคำที่ หลากหลาย สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกตามสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วจดบันทึกไว้ เช่น 1) หากนักเรียนเป็นเครื่องปรับอากาศที่ต้องทำงานทั้งวัน นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร 2) หากนักเรียนเป็นรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้รับการดูแลสภาพรถ และใช้งานอย่าง ไม่เหมาะสม นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ขั้นที่ 4 ขั้นการสร้างอุปมาคำคู่ขัดแย้ง 8.2.3 นักเรียนนำคำที่ได้จากขั้นตอนการเปรียบเทียบทางตรงและการเปรียบเทียบ บุคคลกับสิ่งของที่มีความหมายขัดแย้งกันมาสร้างเป็นกลุ่มคำใหม่ แล้วอธิบายความหมายของคำคู่ ขัดแย้งที่นักเรียนสร้างขึ้น โดยอาจมีคำเชื่อมระหว่างคำได้ เช่น สูญเสียสร้างความสบาย รู้จักแต่ไม่รู้ค่า ขั้นที่ 5 ขั้นการอธิบายความหมายของคำคู่ขัดแย้ง 8.2.4 นักเรียนร่วมกันอธิบายความหมายของคำคู่ขัดแย้งที่ได้ เช่น 1) สูญเสียสร้างความสบาย หมายถึง การที่ทุกคนใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อ สร้างความเย็น ความสบาย ทำให้ต้องสูญเสียพลังงาน 2) รู้จักแต่ไม่รู้ค่า หมายถึง หลายคนที่รู้จักกับรถจักรยาน แต่ไม่รู้เลยว่ามีค่า ช่วยลดการใช้พลังงาน พร้อมช่วยให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง ขั้นที่ 6 ขั้นการนำความคิดใหม่มาสร้างสรรค์งาน 8.2.5 นักเรียนนำงานการวาดภาพที่ทำไว้เดิมในขั้นที่ 1 ออกมาทบทวนใหม่ และ นำความคิดที่ได้มาใหม่จากกิจกรรมขั้นที่ 5 มาใช้เขียนเรียงความ ทำให้งานของตนมีความคิด สร้างสรรค์มากขึ้น 8.3 ขั้นสรุปบทเรียน นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนเรื่องการเขียนเรียงความ ครูคัดเลือกผลงาน การออกแบบโฆษณาสินค้า 10 ผลงานที่มีองค์ประกอบครบถ้วนตามหลักการ แล้วนำไปจัดป้ายนิเทศ ออนไลน์ บนแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตต่าง ๆ 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 9.1.1 หนังสือเรียนวิชาภาษาไทย 9.1.2 สื่อ Power Point 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 9.2.1 อินเทอร์เน็ต 9.2.2 ห้องสมุด

125 10. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนบอกความหมายและ หลักการเขียนเรียงความได้ถูกต้อง (K) ให้นักเรียน ทำใบงาน แบบให้คะแนน Rubric Score ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อ นักเรียนตอบคำถามตรงประเด็น ถูกต้องร้อยละ 70 ขึ้นไป 2. นักเรียนสามารถเขียนเรียงความ สร้างสรรค์ตามหัวข้อที่กำหนดได้ (P) ให้นักเรียน ทำใบงาน แบบประเมิน การเขียนเรียงความ ผ่านเกณฑ์การประเมินรายบุคคล เมื่อนักเรียนได้คะแนนร้อยละ 70 หรือระดับดีขึ้นไป 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้นใน การทำกิจกรรม (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมิน รายบุคคล เมื่อคะแนนอยู่ใน ระดับดีขึ้นไป

126 11. บันทึกผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 11.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.2 ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... (นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน) วันที่.........เดือน..................พ.ศ.............

127 11.4 ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... (นางสาวพรพิมล นามพรมมา ) วันที่.........เดือน..................พ.ศ............. 11.5 ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... ( ) ………………………………………………………… วันที่.........เดือน..................พ.ศ...........

128 เกณฑ์การประเมินการเขียนเรียงความ ประเด็นการ ประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน 3 2 1 เนื้อหาสาระ ถูกต้องชัดเจนน่าสนใจ มาก ถูกต้องชัดเจนน่าสนใจ พอใช้ ไม่ชัดเจนและน่าสนใจ การใช้ภาษา ใช้ภาษาถ้อยคำได้ ถูกต้องตามหลัก วิชาการ ใช้ภาษาถ้อยคำได้ ถูกต้องแต่ไม่เป็นไป ตามหลักวิชาการ ใช้ภาษาถ้อยคำบกพร่องอยู่ บ้าง อักขรวิธี ถูกต้องตามอักขรวิธี ทุกคำ ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี 1-2 คำ ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี 3 คำ ขึ้นไป ความคิด สร้างสรรค์ มีความคิดสร้างสรรค์ใน การอ่านที่แปลกใหม่ไม่ เหมือนใคร มีความคิดสร้างสรรค์ ในการอ่านแตกต่าง จากคนทั่วไป มีการปรับปรุงการอ่านจาก การอ่านทั่วไป และสร้างสรรค์ เพิ่มเติมให้ดีขึ้นเล็กน้อย ความสะอาด เรียบร้อย สะอาดไม่มีรอยขูด ขีด ฆ่า และรอบคอบ สะอาดไม่มีรอยขีดฆ่า มีรอยลบ 1-2 แห่ง สะอาดไม่มีรอยขีดฆ่า มีรอยมากกว่า 2 แห่ง

129

130

131 ใบงานการเสริมทักษะทางภาษาเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ชื่อ ............................................................................................. ชั้น ..................... .. เลขที่ ................. ตอนที่ 1 การเปรียบเทียบทางตรง (การคิดคล่อง) 1. ให้นักเรียนจดบันทึกคำ 2 คำที่ต้องการเปรียบเทียบกันมาประมาณ 5 คู่ พร้อมทั้งบอกประเด็น ความเหมือนของคำแต่ละคู่ ตัวอย่าง พัดลม เครื่องปรับอากาศ มีความเหมือนกันคือ เป็นเครื่องให้ความเย็น 1) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 2) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 3) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 4) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... 5) ..................................... มีความเหมือนกันคือ .................................................................... ตอนที่ 2 การเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของ (การคิดยืดหยุ่น) 2. ให้นักเรียนเปรียบเทียบตนเองกับสิ่งของ แล้วอธิบายออกมำเป็นถ้อยคำที่หลากหลายสื่อถึงอารมณ์ ความรู้สึกตามสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วจดบันทึกไว้ เช่น 1) หากนักเรียนเป็นเครื่องปรับอากาศที่ต้องทำงานทั้งวัน นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… 2) หากนักเรียนเป็นรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้รับการดูแลสภาพรถ และใช้งานอย่างไม่เหมาะสม นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอนที่ 3 การสร้างคำคู่ขัดแย้ง (การคิดริเริ่ม) 3. ให้นักเรียนนำคำที่ได้จากขั้นตอนการเปรียบเทียบทางตรงและการเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของที่มี ความหมายขัดแย้งกันมาสร้างเป็นกลุ่มคำใหม่ประมาณ 5 กลุ่มคำ เช่น สูญเสียสร้างความสบาย หมายถึง การที่ทุกคนใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อสร้างความเย็น ความสบาย ทำให้ต้องสูญเสียพลังงาน 1) .......................................................... หมายถึง ...................................................... ............ 2) ......................................................... หมายถึง .................................................................. 3) ......................................................... หมายถึง ................................................................... 4) ......................................................... หมายถึง ................................................................... 5) ......................................................... หมายถึง ...................................................................

132 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสามพร้าววิทยา หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำขวัญโน้มจิต โน้มคิดคำคม เวลา 9 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ย่อยเรื่อง การเขียนบันเทิงคดี เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้สอน นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน วันที่สอน 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความย่อความและเขียนเรื่องราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ 1.2 ตัวชี้วัด ท 2.1 ม 3/2 เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคำได้ถูกต้องตามระดับภาษา ท 2.1 ม 3/10 มีมารยาทในการเขียน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนบอกความหมายและหลักการเขียนบันเทิงคดีได้ถูกต้อง (K) 2.2 นักเรียนสามารถเขียนบันเทิงคดีได้อย่างสร้างสรรค์ (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม (A) 3. สาระสำคัญ การเขียนบันเทิงคดีนั้น ผู้เขียนจะต้องมีจินตนาการ มีความสามารถคิดเรื่องที่สนุกน่าสนใจ มีศิลปะในการใช้ภาษา มีประสบการณ์ มีความเข้าใจชีวิต มีความรู้รอบตัวในศาสตร์ต่างๆ อย่างดี จึงจะเขียนบันเทิงคดีได้น่าอ่านและมีสารประโยชน์ 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 ความหมายของการเขียนบันเทิงคดี 4.2 องค์ประกอบของการเขียนบันเทิงคดี 4.3 แนวทางการเขียนบันเทิงคดี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 มีวินัย 5.2 ใฝ่เรียนรู้ 5.3 มุ่งมั่นในการทำงาน

133 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7.1 ใบงานเรื่องการเขียนบันเทิงคดี 7.2 ใบงานเรื่องการเขียนบันเทิงคดีตามความคิดสร้างสรรค์ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ (กระบวนการเรียนรู้แบบซินเนกติกส์) 8.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นที่ 1 ขั้นนำ 8.1.1 นักเรียนสังเกตภาพที่ครูนำมา เช่น นิทาน เรื่องสั้น นวนิยาย ร่วมแสดง ความความคิดเห็นในประเด็นดังต่อไปนี้ 1) นักเรียนเคยอ่านหนังสือเหล่านี้หรือไม่ / เคยอ่านหนังสือประเภทไหนบ้าง 2) หนังสือนั้น มีลักษณะเป็นอย่างไร (เช่น นิทาน ให้ความบันเทิง มีรูปภาพ ประกอบ นวนิยาย ให้ความบันเทิงและไม่มีรูปภาพประกอบ ฯลฯ) จากนั้นครูนำเข้าบทเรียน การเขียนบันเทิงคดี 8.1.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับการเขียนบันเทิงคดี ได้แก่ความหมายของ การเขียนบันเทิงคดี องค์ประกอบการเขียนบันเทิงคดี แนวทางการเขียนบันเทิงคดี พร้อมกับรับใบงาน เรื่องการเขียนบันเทิงคดี 8.1.3 นักเรียนสนทนาเกี่ยวกับหัวข้อ “สัตว์โลกน่ารู้” โดยศึกษาจากสื่อต่าง ๆ แล้ว ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับข้อมูลพร้อมกับจดบันทึกข้อมูลไว้ จากนั้นนักเรียนรับกระดาษ แล้ววาดภาพที่ เกี่ยวข้องกับ“สัตว์ที่นักเรียนชอบ” โดยให้ร่างองค์ประกอบมาอย่างคร่าว ๆ ก่อน 8.2 ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นที่ 2 ขั้นการสร้างอุปมาแบบตรงหรือเปรียบเทียบแบบตรง 8.2.1 นักเรียนร่วมกันระดมความคิดในเชิงการเปรียบเทียบเพื่อค้นหาคำมาใช้ในการ เขียนบันเทิงคดีที่เกี่ยวกับสัตว์โลก ให้จดบันทึกคำ 2 คำที่ต้องการเปรียบเทียบ พร้อมทั้งบอกความ เหมือนของคำแต่ละคู่ เช่น 1) ช้าง – อูฐ มีความเหมือนกันคือ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และเป็นสัตว์กินพืช 2) สิงโต – แมว มีความเหมือนกันคือ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อยู่ในวงศ์เดียวกัน ขั้นที่ 3 ขั้นการสร้างอุปมาบุคคลหรือเปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของ 8.2.2 นักเรียนเปรียบเทียบตนเองกับสิ่งของ แล้วอธิบายออกมาเป็นถ้อยคำที่ หลากหลาย สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกตามสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วจดบันทึกไว้ เช่น

134 1) หากนักเรียนเป็นช้างที่ถูกนำมาหากินอยู่ในเมือง นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร 2) หากนักเรียนเป็นเสือที่ถูกนำมาเลี้ยงไว้ในกรง นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร ขั้นที่ 4 ขั้นการสร้างอุปมาคำคู่ขัดแย้ง 8.2.3 นักเรียนนำคำที่ได้จากขั้นตอนการเปรียบเทียบทางตรงและ การ เปรียบเทียบบุคคลกับสิ่งของที่มีความหมายขัดแย้งกันมาสร้างเป็นกลุ่มคำใหม่ แล้วอธิบายความหมาย ของคำคู่ขัดแย้งที่นักเรียนสร้างขึ้น โดยอาจมีคำเชื่อมระหว่างคำได้ เช่น ความสุขบน ความทุกข์ ความสดใสที่น่าสงสาร ขั้นที่ 5 ขั้นการอธิบายความหมายของคำคู่ขัดแย้ง 8.2.4 นักเรียนร่วมกันอธิบายความหมายของคำคู่ขัดแย้งที่ได้ เช่น 1) ความสุขบนความทุกข์ หมายถึง การที่นำเสือมาขังในกรงเพื่อสร้างความสุข ให้แก่ผู้คน แต่เสือตัวนั้นคงจะเต็มไปด้วยความทุกข์ 2) ความสดใสที่น่าสงสาร หมายถึง ช้างที่เราเห็นว่าดูสดใส แต่แท้จริงแล้วเต็ม ไปด้วยความสงสาร ขั้นที่ 6 ขั้นการนำความคิดใหม่มาสร้างสรรค์งาน 8.2.5 นักเรียนนำงานการวาดภาพที่ทำไว้เดิมในขั้นที่ 1 ออกมาทบทวนใหม่ และ นำความคิดที่ได้มาใหม่จากกิจกรรมขั้นที่ 5 มาใช้เขียนเรียงความ ทำให้งานของตนมีความคิด สร้างสรรค์มากขึ้น 8.3 ขั้นสรุปบทเรียน นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียนเรื่องการเขียนบันเทิงคดี ครูคัดเลือกผลงานที่ ครบองค์ประกอบและมีความคิดสร้างสรรค์ แล้วนำไปจัดป้ายนิเทศออนไลน์บนแพลตฟอร์ม อินเตอร์เน็ตต่าง 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 9.1.1 หนังสือเรียนวิชาภาษาไทย 9.1.2 สื่อ Power Point 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 9.2.1 อินเทอร์เน็ต 9.2.2 ห้องสมุด

135 10. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือการวัด เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนบอกความหมายและ หลักการเขียนบันเทิงคดีได้ถูกต้อง (K) ให้นักเรียน ทำใบงาน แบบให้คะแนน Rubric Score ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อ นักเรียนตอบคำถามตรงประเด็น ถูกต้องร้อยละ 70 ขึ้นไป 2. นักเรียนสามารถเขียนบันเทิงคดี ได้อย่างสร้างสรรค์ (P) ให้นักเรียน ทำใบงาน แบบประเมิน การเขียนบันเทิงคดี ผ่านเกณฑ์การประเมินรายบุคคล เมื่อนักเรียนได้คะแนนร้อยละ 70 หรือระดับดีขึ้นไป 3. นักเรียนเมีความกระตือรือร้นใน การทำกิจกรรม (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมิน รายบุคคล เมื่อคะแนนอยู่ใน ระดับดีขึ้นไป

136 11. บันทึกผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 11.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.2 ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... (นางสาวเกศราภรณ์ ป่าโพธิ์ชัน) วันที่.........เดือน..................พ.ศ.............

137 11.4 ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... (นางสาวพรพิมล นามพรมมา ) วันที่.........เดือน..................พ.ศ............. 11.5 ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...................................................... ( ) ………………………………………………………… วันที่.........เดือน..................พ.ศ...........

138 เกณฑ์การประเมินการเขียนบันเทิงคดี ประเด็นการ ประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน 3 2 1 เนื้อหาสาระ ถูกต้องชัดเจนน่าสนใจ มาก ถูกต้องชัดเจนน่าสนใจ พอใช้ ไม่ชัดเจนและน่าสนใจ การใช้ภาษา ใช้ภาษาถ้อยคำได้ ถูกต้องตามหลัก วิชาการ ใช้ภาษาถ้อยคำได้ ถูกต้องแต่ไม่เป็นไป ตามหลักวิชาการ ใช้ภาษาถ้อยคำบกพร่องอยู่ บ้าง อักขรวิธี ถูกต้องตามอักขรวิธี ทุกคำ ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี 1-2 คำ ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี 3 คำ ขึ้นไป ความคิด สร้างสรรค์ มีความคิดสร้างสรรค์ใน การอ่านที่แปลกใหม่ไม่ เหมือนใคร มีความคิดสร้างสรรค์ ในการอ่านแตกต่าง จากคนทั่วไป มีการปรับปรุงการอ่านจาก การอ่านทั่วไป และสร้างสรรค์ เพิ่มเติมให้ดีขึ้นเล็กน้อย ความสะอาด เรียบร้อย สะอาดไม่มีรอยขูด ขีด ฆ่า และรอบคอบ สะอาดไม่มีรอยขีดฆ่า มีรอยลบ 1-2 แห่ง สะอาดไม่มีรอยขีดฆ่า มีรอยมากกว่า 2 แห่ง