วรรณคดสี ำหรับงานนาฏยศลิ ป์
เรอื่ ง พกิ ลุ ทอง
นายสาว สาวติ รี คงสวา่ ง
6181163027
รายงานน้เี ป็นส่วนหน่ึงของการศกึ ษาหลกั สตู รครุศาสตรบัณฑติ
สาขาวิชานาฏยศิลป์ศึกษา คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั บา้ นสมเดจ็ เจ้าพระยา
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2563
คำนำ
นิทานไทยจำนวนมากเกิดข้นึ จากจินตนาการของผ้แู ตง่ จึงมเี รือ่ งราวเกยี่ วกบั อภนิ ิหารปรากฏอยู่แทบทุก
เร่อื งโดยไม่คำนึงถงึ หลักความจริงมากนกั อกี ท้ังมตี ้นกำเนิดมาจากวรรณกรรมมุขปาฐะซ่งึ ไมท่ ราบผู้เล่าตน้ เรื่องที่
แน่นอน จงึ ไมส่ ามารถทราบไดว้ ่า ต้นกำเนดิ ของเร่ืองนี้ มาจากผใู้ ด นทิ านไทยเหลา่ นีน้ อกจากจะถ่ายทอดเร่ืองราว
ความสนุกสนานตามท้องเรื่องแลว้ ยังสะทอ้ นสภาพแวดลอ้ มความเป็นอยู่ของสงั คมไทยในอดตี ได้เปน็ อยา่ งดี
บทละครนอก เร่ืองพิกุลทอง เป็นนทิ านไทยเร่ืองหนีง่ ซงึ่ ไม่ปรากฏหลกั ฐานเกยี่ วกบั ผู้แตง่ แตป่ รากฏว่า
นทิ านเรือ่ งนี้ ปรากฏวา่ อยูใ่ นชว่ งสมัยอยุธยา จากสำนวนที่ติดปากคนไทยวา่ “กลัวดอกพิกุลจะร่วง” คงเปน็ ที่
นิยมมากในอดีต กระทั่งเอกลักษณ์ของตวั ละครเอกในเร่ืองกลายเปน็ สำนวนตดิ ปากคนไทยมาจนถงึ ทกุ วนั น้ี
ผูศ้ กึ ษาไดพ้ ิจราแล้ววา่ วรรณกรรมเรือ่ ง พกิ ลุ ทอง ไดม้ ปี ระโยชน์กับผอู้ ่าน ที่กำลังหาข้อมูลเร่ืองนอี้ ยู่ หาก
มีขอ้ แนะนำหรือข้อผดิ พลาดประการใด ผู้จัดทำขอนอ้ มรับไวแ้ ละขออภยั มา ณ ท่นี ้ดี ้วย
ผูจ้ ัดทำ
สาวติ รี คงสวา่ ง
สารบญั หนา้
เร่ือง ๑
คำนำ ๒
สารบญั ๒
ประวัติความเป็นมาของวรรณคดีเร่ือง พิกุลทอง ๕
ประวตั ผิ แู้ ตง่ ๑๒๘
เนื้อเรอื่ งย่อ ๑๒๘
บทประพนั ธ์ ๑๒๙
สัญลักษณ์ บอกบทชม ๑๓๐
ตัวละคร ๑๓๑
วเิ คราะหต์ วั ละคร
เอกสารอ้างองิ
ประวัตินักศึกษา
1
1.ความเปน็ มาของวรรณคดเี รื่อง
บทละครนอก เรื่องพิกุลทอง เปน็ นิทานไทยเรื่องหนง่ี ซงึ่ ไมป่ รากฏหลักฐานเกี่ยวกับผแู้ ต่ง แตเ่ มอ่ื พิจารณา
จากสำนวนที่ตดิ ปากคนไทยว่า “กลัวดอกพกิ ุลจะรว่ ง” อาจสันนิษฐานได้วา่ นิทานไทยเรื่อง พิกุลทอง คงเปน็ ท่ีนยิ ม
มากในอดีต กระทั่งเอกลกั ษณ์ของตัวละครเอกในเร่ืองกลายเป็นสำนวนตดิ ปากคนไทยมาจนถงึ ทกุ วันนี้
กรมศลิ ปากรพจิ ารณาแลว้ เห็นว่า บทละครนอก เรื่องพิกลุ ทอง เป็นประโยชนต์ อ่ การศึกษาเร่อื งราว
คา่ นยิ มทางสงั คม อีกท้งั ประเพณแี ละความเชื่อของสงั คมไทยในอดีต จึงไดม้ อบให้ นางสาวธิดาเพ็ญ เขม็ สว่าง นัก
ภาษาโบราณ ๗ ว. กลุ่มภาษาและวรรณกรรม สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ เป็นผ้ตู รวจสอบชำระจาก
ต้นฉบับหนงั สือสมุดไทย ซ่ึงเก็บรักษาไว้ท่กี ล่มุ หนังสือตวั เขียนและจารกึ สำนักหอสมดุ แห่งชาติ โดยปรับอักขรวิธี
บางสว่ นใหเ้ ปน็ อกั ขรวิธตี ามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ท้ังน้ีได้จดั ทำคำอธบิ ายศัพทท์ ้ายเล่มเพ่ีอสะดวกใน
การศกึ ษาค้นคว้าด้วยกรมศลิ ปากรหวังเปน็ อย่างยิ่งวา่ บทละครนอก เรือ่ งพิกุลทอง จะอำนวยประโยชนใ์ ห้แก่
นักเรียน นกั ศึกษา และผู้ท่สี นใจศกึ ษาวรรณกรรมไทยโดยทั่วกนั (วชิรณาญ,31 ตลุ าคม 2551 )
เรอื่ งนางพิกุลทอง นเี้ ปน็ ละครนอก หนึ่งใน 14 เรอ่ื ง ทีน่ ิยมนำมาเลน่ กันมากเร่ืองหน่ึงตั้งแตค่ รงั้ สมัย
อยุธยา ปัจจุบนั ยังพบวา่ มีต้นฉบบั หนังสอื ตวั เขียนที่เหลอื รอดจากการถูกพมา่ ทำลายคราวเสียกรงุ เก็บรักษาไวอ้ ยู่ท่ี
หอสมุดแหง่ ชาติ เป็นสมุดขอ่ ยสีขาว ตัวหมึกดำ ลายมอื กึ่งบรรจงแกมหวดั ตวั อักษรไม่สมำ่ เสมอและมบี ันทกึ ว่า
หมกู่ ลอนบทละคร ช่ือ พิกลุ ทอง เล่ม 1 (สำนวนเก่า) เลขท่ี 20 ตูท้ ่ี 114 ชั้น 2/1 มัด 39 ประวตั ิ สมบัติเดิมของหอ
พระสมดุ วชริ ญาณ ซึ่งมเี น้ือความเริม่ ตั้งแตน่ างพิกุลทองสรงนำ้ จนจบตอนท้ายคือปราบนางยักษ์กาขาวและยงั
ไมไ่ ด้รบั ตรวจสอบชำระฉบบั ท่ีเหลอื อืน่ ๆ หรือตีพมิ พ์จากกรมศลิ ปากร สว่ นเรือ่ งนางพิกุลทองต่อจากสำนวนเดิมท่ี
เป็นการผจญภยั ยืดยาวถึงรนุ่ ลกู น้นั มาจากกลอนอา่ นสำนวนของ นายบศุ ย์ รจนา จัดพิมพ์โดยโรงพมิ พว์ ดั เกาะราว
ปี พ.ศ. 2433 ตรงกับสมยั รัชกาลท่ี 5 ซ่งึ นายบุศย์ผ้นู ไ้ี ด้นำนทิ านไทยคร้ังกรุงเกา่ มาแต่งสำนวนใหม่เปน็ "กลอน
อ่าน" หรอื กลอนสวด อยหู่ ลายเรอ่ื ง เชน่ แก้วหนา้ มา้ , จนั ทโครพ, สวุ รรณหงส์ เป็นตน้
อย่างไรก็ตามเมื่อสังเกตตามเน้อื เร่ือง สำนวนกลอนค่อนข้างจะรวบรัดและไมส่ ละสลวยเทา่ ใดนกั เพราะผู้
แตง่ คงมีจดุ ประสงคเ์ พียงไว้สำหรับเลน่ ละครเทา่ น้ัน ( จากวิกิพีเดยี สารานุกรมเสรี )
สรปุ ถงึ ความสำคัญของเรอื่ งว่ามคี วามสำคัญอยา่ งไรที่ศกึ ษาเรือ่ งน้แี ละกล่าวถึงประโยชนห์ รือความสำคัญ
2
จากวรรณกรรมเรื่องพกิ ุลทอง ที่ได้ยบิ ยกเร่ืองน้ี มาศกึ ษา เพราะ เป็นเน้ือหาทีห่ นาติดตามและ คนส่วนมาก ก็ไม่ได้
เอามาทำต่อหรือศึกษา วรรณกรรมเรอ่ื งพิกลุ ทอง นกั ศึกษาจากสถาบนั ตา่ งไ ก็ถอื ว่าน้อยมากทจี่ ะเอาวรรณกรรม
เรื่องพิกลุ ทอง มาทำเพราะ เน้อื หามีน้องมา้ ย และไม่มปี ระวัตคิ วามเป็นมาของผแู้ ต่ง จากวรรณกรรมเร่ืองนีค้ นท่ไี ด้
อา่ น ก็มีความรู้ และแง่คิดต่างๆ ทจ่ี ากจากเร่ืองนี้ และลกั ษณะนิสัยต่อละคร ก็ส่ือใหเ้ หน็ และสะท้อนถึงสงั คมใน
ปจั จุบนั และความรัก ความคู่เบา เชอื่ คนงา่ ย และการที่เชื่อสง่ิ ทตี่ าเห็นแต่อาจจะไม่ได้เปน็ อยา่ งท่ีคดิ
2.ประวตั ิผู้แตง่
ไมป่ รากฏ ผูแ้ ตง่
3.เนื้อเรอื่ งย่อ
กลา่ วถึงทา้ วสนั นรุ าชและนางพิกุลจนั ทราครองราชสมบตั ิในเมืองสนั นุราช ทั้งสองพระองค์มีพระธดิ าผู้สริ ิ
โฉมงดงามชอื่ ว่าพกิ ลุ ทอง พิกุลทองผมมีกลิน่ หอม และมีดอกพิกุลทองรว่ งออกจากปากทุกครั้งท่เี จรจา อยู่มาวัน
หนง่ี พิกลุ ทองไปเลน่ น้ํากบั นางกำนลั ที่ทา่ นํ้าริมฉนวน ขณะนน้ั มพี ญาแร้งซ่ึงเป็นใหญใ่ นเขานนิ ทกาลา บินหา
อาหารผ่านมาพบสุนขั เน่าลอยอยู่จึงโผลงจกิ กิน พิกุลทองเหน็ พญาแร้งจิกกนิ สุนขั เน่า เกิดความคลน่ื เหยี นอาเจยี น
ด่าทอพญาแร้งต่างๆ นาๆ พญาแรง้ เคยี ดแคน้ คิดจองเวรจึงแปลงกายเป็นชายหนุม่ รปู งามทอ่ งเท่ียวไปในเมอื ง
ระหวา่ งทางพบกระท่อมสองตายายจงึ ทำทีว่าเปน็ กำพร้าพลดั บ้านเมอื งมาขออาศัยอยดู่ ้วย สองตายายไม่รเู้ ล่หก์ ล
ของพญาแร้งก็อปุ การะไว้หวังจะฝากผีฝากไขย้ ามชรา
อยมู่ าวนั หนี่ง พญาแรง้ ออกอุบายเขา้ ปา่ เพ่ือเก็บผักมาขาย เมื่อไปถงึ กลางปา่ ก็เนรมิตเงนิ ทองเต็มกระเชา้
หาบกลับมาใหต้ ายาย อา้ งว่าพบทรัพย์สมบัติฝงั ไว้ท่ีกลางป่า แต่นัน้ มาสองตายายจงึ มฐี านะรำ่ รวยข้ึนหลายวนั
ต่อมา พญาแรง้ อ้อนวอนให้ตายายไปสู่ขอพิกุลทอง ท้าวสนั นุราชโกรธทีท่ งั้ สองอาจเอ้ือม คิดจะลงโทษให้สาสม จงึ
สง่ั ใหท้ ำสะพานทองจากบ้านมาถึงพระราชวงั ภายในสามวัน ถ้าทำไม่ไดจ้ ะประหารชีวิตเสีย คืนน้ันพญาแรง้ บนิ
กลบั ไปเรยี กบริวารท่เี ขานินทกาลา ให้แปลงกายเป็นมนุษย์มาชว่ ยสรา้ งสะพานทองไปจนถงึ พระราชวัง ท้าวสันนุ
ราชเหน็ ดงั นนั้ ก็เขา้ ใจว่าพญาแรง้ เป็นผมู้ บี ญุ บารมี จงึ ใหอ้ ภิเษกสมรสกับพกิ ุลทองอยใู่ นเมืองสนั นุราช
เวลาลว่ งไปหา้ ปี พญาแรง้ ออกอุบายพาพิกุลทองลงสำเภาจะไปเย่ยี มบดิ ามารดาที่บ้านเมืองของตน เม่ือสำเภาแลน่
มาถึงหาดแกว้ พยัคฆี พญาแร้งบินไปเรยี กบริวารท่ีเขานนิ ทกาลาใหม้ ากนิ คนบนเรือ ขณะน้นั แม่ย่านางผรู้ กั ษาเรอื
สำเภาไดเ้ นรมติ แยกเสากระโดงเรือให้เป็นท่ีซอ่ นตวั พิกลุ ทอง และบอกนางว่าจะไดพ้ บคู่ครอง ซึง่ จะเปน็ ผู้ช่วยเหลอื
พากลบั ไปยังบ้านเมอื งอย่างปลอดภยั พกิ ุลทองเขยี นเรอ่ื งราวของตนเองลงผอบอธิษฐานลอยนำ้ ไป
3
กล่าวถึงพระพิไชยมงกุฎ โอรสของทา้ วสงั ขศ์ ิลป์ไชยกับนางสุพรรณแห่งเมืองพระมงกฎุ พบผอบผมหอม
ลอยนำ้ มา จงึ ลาบิดามารดาออกตามหาเจา้ ของผอบ ขณะเดนิ ทางนางยักษ์กาขาวเหน็ เข้ากม็ ใี จพิศวาสใคร่จะได้
พระพไิ ชยมงกุฎเป็นสามี เนรมติ บา้ นเมืองขึ้นท่รี ิมแมน่ ำ้ แปลงกายเป็นสาวงามหลอกให้พระพิไชยมงกุฎหลงเชื่อวา่
คือพกิ ุลทอง
หลายวันตอ่ มา พระพิไชยมงกุฎรูค้ วามจรงิ วา่ เป็นนางยกั ษ์กาขาวแปลงกายมาจงึ เป่ามนต์สะกดไวแ้ ลว้ แล่นเรือ
สำเภาออกตามหาพกิ ุลทอง กระทงั่ ล่วงเขา้ เขตแดนของพญาแร้งเห็นสำเภาจอดอย่หู ลายลำ ภายในมกี องกระดูก
เรยี งรายตรงกบั เน้ือความทเ่ี ขียนไว้ในผอบ จงึ เที่ยวค้นหาจนพบพิกลุ ทอง ได้ต่อสแู้ ละฆา่ พญาแรง้ ตายแล้วพาพิกุล
ทองไปยังเมืองพระมงกฎุ สว่ นนางยักษ์กาขาวเมื่อคลายจากมนตส์ ะกดแล้วก็ออกตดิ ตามพระพิไชยมงกฎุ รอเวลาที่
จะปลอมตวั เขา้ ไปในเมือง
กาลเวลาผา่ นไปเนนิ่ นานหลายปี พิกลุ ทองมีโอรสกบั พระพิไชยมงกฎุ สองคนชอ่ื เจา้ รัก และเจ้ายม วนั หนึ่ง
พกิ ลุ ทองและพระพิไชยมงกฎุ พาท้ังสองไปเทยี่ วชมดอกไม้ในปา่ นางยักษ์กาขาวรู้ดังน้ันจึงเนรมิตบวั ดอกใหญแ่ ละ
ซ่อนตวั อย่ใู ต้น้ำ พิกลุ ทองหลงใหลในความงามของดอกบวั จงึ เอ้อื มมือไปเด็ด นางยักษก์ าขาวฉุดพิกุลทองลงไปใต้
น้ำ ตดี ้วยกระบองแลว้ สาปให้เปน็ ชะนี สว่ นตนเองกแ็ ปลงกายเป็นพิกลุ ทอง ร้องเรียกให้พระพิไชยมงกฎุ ชว่ ยข้ึน
จากน้ำ พระพิไชยมงกุฎโกรธท่ีเจ้ารักบอกวา่ พิกลุ ทองไมใ่ ช่แม่ และแมท่ ่แี ทจ้ รงิ เป็นชะนีจึงขับไล่เจา้ รักเจา้ ยมและ
ทิ้งไว้ในป่า เจา้ รักพาเจ้ายมตามชะนีได้และอาศยั เกบ็ ดอกพิกลุ ทองท่รี ว่ งหลน่ จากปากนางชะนีนำไปแลกซ้ือขา้ ว
ปลาอาหาร
ฝา่ ยแม่ครวั ออกจากวงั ไปจ่ายตลาด พบเจ้ารักเจ้ายมจึงนำความไปแจง้ แกน่ างสุพรรณ นางสุพรรณให้พา
เจา้ รกั เจา้ ยมเข้าไปในวังเพื่อสอบถามต้นสายปลายเหตุ และบอกพระพิไชยมงกุฎว่านางยักษ์กาขาวแปลงกายเปน็
พิกุลทอง พระพไิ ชยมงกุฎใหเ้ จา้ รักเจ้ายมพาไปซุม่ ดชู ะนีในป่าแลว้ ให้เจ้ารกั เจ้ายมถามชะนีถงึ วิธแี กค้ ำสาปของนาง
ยกั ษ์กาขาว
เมอื่ รู้วิธีแก้คำสาปแล้ว พระพิไชยมงกุฎส่งั เสนาเรง่ ทำจ่ันดกั ชะนี โดยใชเ้ จ้ารักเจา้ ยมเปน็ เหยอ่ื ล่อกระทั่ง
ชะนีหลงกลติดอยู่ในจ่นั จึงทำอุบายใหเ้ สนาไปเชิญนางยักษ์กาขาวมาเทยี่ วชมสวน เมอื่ สบโอกาสก็ให้ทหารเข้าฟาด
ฟนั จนตาย แล้วนำเลอื ดนางยักษ์กาขาวไปราดท่ีรา่ งชะนี พิกลุ ทองก็คืนร่างเป็นมนุษย์ดังเดมิ
หลายปีผ่านไป พิกลุ ทองและพระพิไชยมงกฎุ พาเจ้ารกั เจ้ายมออกเดนิ ทางไปเยีย่ มทา้ วสันนรุ าชกับนาง
พิกลุ จันทราท่ีเมืองสันนุราช ระหวา่ งทางนางยกั ษ์กาสุวรรณนอ้ งสาวของนางยักษ์กาขาวเหน็ สำเภาของพระพไิ ชย
มงกุฎแลน่ ผา่ นก็คิดจะแก้แค้นแทนพี่จึงใชก้ ระบองตสี ำเภาแตก พิกลุ ทองและพระพไิ ชยมงกฎุ พลัดพรากจากกนั
4
พระสมุทรเมตตาพกิ ลุ ทองเนรมติ ขอนไม้ใหพ้ ิกลุ ทองเกาะเข้าฝัง่ พิกุลทองใช้ผ้าสไบทำธงอธิษฐานไว้แล้วเดนิ ทางเขา้
เขตเมืองยักษ์ชื่อว่า เมืองเวฬุจกั ร
คนื หนีง่ ท้าววริ ุฬจักรมนี มิ ติ ฝัน โหรทำนายวา่ จะได้หญงิ สาวผหู้ นงี่ มาไว้ในครอบครอง ทำให้ท้าววิรุฬจกั ร
ใฝฝ่ ันหลงรอคอยวันจะพบนาง วันหนีง่ ทหารยกั ษ์ไปลา่ สัตวใ์ นป่า เหน็ พิกุลทองหลับอย่ใู ต้ต้นไทรจึงจับตัวไปถวาย
ทา้ ววริ ุฬจกั รแคน้ ท่ีพิกลุ ทองไมย่ ินยอมรว่ มอภริ มยก์ ็ลงโทษใหไ้ ปทำงานในโรงครัว
ฝา่ ยพระพไิ ชยมงกุฎเม่ือขึน้ ฝ่ังพรัอมเจา้ รักเจา้ ยมแลว้ ออกเดินทางรอ่ นเร่ไป จนมาพบธงซึ่งพกิ ุลทองทำไว้
เป็นเครื่องหมาย และได้พบนางนกสาลิกาทำรงั อย่บู นต้นไทร บอกขา่ วว่าพิกลุ ทองเดินผา่ นมาเม่อื เจ็ดวันทแี่ ลว้
พระพิไชยมงกุฎกต็ ดิ ตามไปตามทางที่นางนกสาลิกาบอก ระหว่างทางไดพ้ บพระดาบส และทำนายว่าจะต้องสู้รบ
กับยกั ษ์และจะได้คคู่ รอง พระดาบสมอบแหวนวิเศษให้พระพไิ ชยมงกุฎ และบอกให้เดินทางไปตามทศิ บูรพา ไม่
นานท้งั สามคนก็เข้าเขตเมืองเวฬจุ กั ร
กล่าวถึงนางอรุณวดีธดิ าของท้าววริ ุฬจกั รเท่ยี วชมบุปผาในอุทยาน ขณะนน้ั พระพิไชยมงกุฎและเจ้ารกั เจ้า
ยมแอบซุ่มดูอยู่ใชแ้ หวนวิเศษแปลงกายเปน็ นกสาลกิ าสามตัวพร่ำพลอดเจรจาเป็นที่ถกู ใจนางอรุณวดี แล้วทำทีให้
คล้องจบั ตวั ไดโ้ ดยง่าย นางอรุณวดนี ำนกสาลิกาท้ังสามตัวเขา้ ไปเล้ียงในวัง เมอ่ื เขา้ ไปอยู่ในวังแล้วพระพไิ ชยมงกฎุ ก็
คืนรปู เป็นมนุษย์ ได้นางอรณุ วดเี ป็นชายา กระทงั่ เกดิ การสรู้ บกับทา้ ววิรฬุ จกั ร ทา้ ววริ ฬุ จักรพลาดพลั้งถูกศร
สิ้นชวี ติ พระพิไชยมงกฎุ อธษิ ฐานแผลงศรไปขอให้พระวษิ ณกุ รรมลงมาเนรมิตเมรุทองปลงศพทา้ ววริ ุฬจักร พระพิ
ไชยมงกฎุ กบั เจ้ารักเจา้ ยมพำนักอยใู่ นเมืองเวฬุจักร และยงั ไมค่ ลายโศกเศรา้ เพราะความคดิ ถึงพกิ ลุ ทอง
ฝ่ายพกิ ุลทองรู้ขา่ ววา่ ท้าววิรฬุ จกั รถูกมนุษย์สามคนฆ่าตายใหส้ งั หรณใ์ จวา่ มนษุ ย์ท้ังสามน่าจะเปน็ พระพิ
ไชยมงกุฎและเจ้ารักเจ้ายมจึงออกอบุ ายอาสาเปน็ ผ้ทู ำอาหารคาวหวาน และแอบใส่ดอกพิกุลทองลงไป ในทส่ี ุด
พิกลุ ทองไดพ้ บพระพิไชยมงกุฎเจา้ รกั เจา้ ยม และตา่ งเศร้าโศกเสยี ใจจนสิ้นสติ
เม่ือทั้งส่คี นฟ้ืนคืนสตแิ ลว้ พระพิไชยมงกุฎให้นางอรุณวดที ำความรู้จกั กับพิกุลทอง นางอรณุ วดีโกรธแค้นที่
พระพิไชยมงกุฎยกย่องพกิ ุลทอง ใสค่ วามพิกุลทองว่าเคยเป็นเมยี พ่อแต่ทำตวั ไม่ดีถูกขบั ไลไ่ ปทำงานในโรงครัว พิกลุ
ทองพสิ ูจน์ตัวเองด้วยการลยุ ไฟ แตด่ ้วยความดีของพิกลุ ทองเหล่าเทวดาต่างโปรยปรายดอกไม้ทิพลงมาดับกองไฟ
ในทันที พระพิไชยมงกฎุ ทราบความจริงจงึ ลงโทษนางอรณุ วดที ใ่ี ส่รา้ ยพิกลุ ทอง นางอรุณวดเี สยี ใจผูกคอตายแตน่ าง
กำนัลชว่ ยไว้ไดท้ นั มารดาของนางอรณุ วดีเกล้ียกล่อมให้นางยอมอ่อนน้อมต่อพกิ ลุ ทอง ส่วนพิกุลทองไม่ถือสาหา
ความกับเรื่องราวทผี่ า่ นมา แต่น้ันมาทง้ั หมดจึงอย่ดู ว้ ยกนั อย่างเปน็ สุข (วชิรญาณ )
5
4.บทประพันธ์
บทที่ 1
๏ เมื่อนน้ั นวลนางพกิ ุลทองกลั ยา
เปน็ บตุ รทา้ วสันนรุ าชา โสภากำดัดกระษัตรีย์
อนั องคพ์ ระราชมารดา ช่อื พิกุลจันทรามารศรี
ครองสนั นุราชธานี จำเรญิ ศรเี ลศิ ลาํ้ อำไพ
เกศานางหอมขจรกลิน่ รวยรนิ ไมม่ ีทีเ่ ปรยี บได้
จะแย้มโอษฐ์เจรจาออกเมื่อใด พิกลุ ทองก็ไหลจากโอษฐม์ า
เม่ือเหตุจะถงึ นางทรามวัย ใหเ้ ดอื ดร้อนในใจเปน็ นักหนา
จะใครไ่ ปสรงพระคงคา ยงั ท่ีท่าทอ้ งฉนวนใน ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ คิดแลว้ เท่านน้ั มิทันช้า เรียกกนั ทลมิ าพเ่ี ล้ยี งใหญ่
ตวั น้องนไี้ ม่สบายใจ จะใครไ่ ปสรงพระคงคา
พ่ีไปส่ังกำนลั นารี นักเทศขนั ทีทง้ั ซา้ ยขวา
จะขนึ้ ไปทลู ลาพระบิดา แลว้ จงึ จะพากันคลาไคล ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ บัดนนั้ นางกันทลมิ าพเี่ ลย้ี งใหญ่
รบั ส่งั โฉมงามทรามวัย บดั ใจกล็ ลี ามา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ จงึ สั่งขอเฝ้าเจา้ กรม นกั สนมกำนัลถ้วนหน้า
ว่านางจะไปสรงพระคงคา ใหเ้ ตรยี มวอรจนาคลาไคล ฯ
6
ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ
๏ ครน้ั สัง่ สำเร็จเสร็จแล้ว คลาดแคล้วกลบั มาหาช้าไม่
กราบทลู โฉมงามทรามวัย ข้าไปสงั่ เสร็จสำเร็จแลว้ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมื่อน้นั โฉมนางพิกลุ ทองผอ่ งแผ้ว
ได้ฟังพเี่ ลีย้ งว่าพรอ้ มแลว้ นางแก้วประดบั กายา
สรอ้ ยตาบประดับทบั ทรวงทรง สอดพระธำมรงคท์ งั้ ซา้ ยขวา
ผดั พักตร์นวลละอองดังทองทา กรดี กนั เกศาบรรจงไร
นางทรงประดบั สรรพเสร็จ เสด็จจากปรางค์ทองผ่องใส
พรอ้ มด้วยสาวสรรกำนลั ใน เสดจ็ ไปเฝา้ องคพ์ ระบิดา ฯ
ฯ ๖ คำ เพลงชา้ ฯ
๏ มาถึงจงึ ตงั้ บังคม ดว้ ยมโนภิรมย์หรรษา
ทลู แถลงแจง้ กิจพระบดิ า ลกู จะลาไปเล่นนทั ี ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมือ่ น้นั ทา้ วสันนุราชเรืองศรี
ไดฟ้ งั ลูกรกั ทลู คดี จะไปเลน่ นทั สี ำราญใจ
จงึ มีพระราชบัญชา แกพ่ ระลูกยาพสิ มัย
จะไปเล่นคงคาชลาลยั ตามแต่น้ำใจพระลูกยา
ไปเล่นอย่าใหเ้ ยน็ นัก ลกู รกั จงฟังบิดาวา่
เยน็ ร้อนอ่อนแสงพระสรุ ยิ า จงเร่งกลบั มาเขา้ วงั ใน
แล้วกำชับพเี่ ล้ียงซา้ ยขวา ใหร้ ะวังลูกยากจู งได้
7
อยา่ ใหม้ เี หตเุ ภทภยั จะบั่นเกล้ามึงให้มรณา ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ เมอื่ น้ัน โฉมนางพิกลุ ทองเรง่ หรรษา
คร้ันแลว้ ถวายบงั คมลา พี่เล้ียงซา้ ยขวาหอ้ มลอ้ มไป ฯ
ฯ ๒ คำ เชดิ ฯ
๏ มาถึง จงึ หยดุ วอทองผอ่ งใส
กับพเ่ี ล้ยี งทาสมี ีอ่ ึงไป ก็ครรไลไปสรงพระคงคา ฯ
ฯ ๒ คำ เสมอ ฯ
๏ นางเสดจ็ ลงสรงสนาน ช่นื บานพระทัยหรรษา
หวั ระรกิ หยิกหยอกกนั ไปมา บา้ งวา่ ยบา้ งคว้าหากนั
บา้ งเลน่ ปะเปิงจํา้ จ้ี ยนิ ดีปริดีเปรมเกษมสนั ต์
บ้างโผบา้ งคว้าหาเพ่ือนกัน ยื้อยดุ ฉดุ พนั กันไปมา
ลางนางบา้ งเล่นชิงชว่ ง จับกนั เหนีย่ วหน่วงแลว้ ยือ้ ครา่
บา้ งขบั ลำร้องอยไู่ ปมา เล่นนาํ้ ในมหานัที ฯ
ฯ ๖ คำ ยานี ฯ
๏ มาจะกลา่ วบทไป ถึงพญาแรง้ ราชปักษี
อยู่สถานเขานลิ ครี ี มีอิทธิฤทธมี หมึ า
เปน็ ใหญก่ ว่าแรง้ ท้งั หลาย หยาบคายรา้ ยกาจริษยา
ใจจติ คดิ ถวิลจนิ ดา ให้อยากซากศพทีเ่ คยกิน
คดิ แล้วเท่านัน้ มทิ นั ชา้ ปกั ษาบินผาดโผผิน
ออกจากสถานเขานิล ปกั ษนิ บนิ เตรเ่ ร่มา ฯ
8
ฯ ๖ คำ เชิด ฯ
๏ มาถงึ ยังฝ่งั พระสมุทรฉานฉ่า
เห็นสุนขั เน่านน้ั ลอยมา สมดังปรารถนาท่ีคดิ ไว้
จึงโผลงจับจิกกิน ปกั ษินลอยตามแม่น้ำไหล
ชลธารพ์ าล่องลอยไป ยังทฉี่ นวนในมไิ ดช้ า้ ฯ
ฯ ๔ คำ โล้ ฯ
๏ เมอ่ื นั้น นางพิกลุ ทองเสน่หา
เลน่ นาํ้ อยู่กับหมูท่ าสา กลั ยาผนั แปรแลไป
เหน็ พญาแรง้ กินสุนขั เนา่ เจา้ คดิ เกลยี ดชงั ไม่ทนได้
อาเจียนเหยี นรากเปน็ พ้นใจ ทรามวัยเจา้ ถ่มเขฬะลง
อ้ายแร้งอบุ าทว์ชาตชิ ้า กนิ หมาลอยมาท่ีกสู รง
ขัดใจเจ้าถ่มซ้ำลง โฉมยงเมินเสียไม่แลดู ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมือ่ นั้น พญาแร้งได้ยนิ ประจกั ษ์หู
ขัดแคน้ ขนึ้ มาตง้ั ตาดู หญงิ นส้ี รู่ ู้เปน็ เหลอื ใจ
พญาแรง้ จึงร้องตอบมา วา่ เหวยเจรจาหยาบใหญ่
เป็นลกู ท้าวพญาสามานย์ใจ ดา่ กูทำไมออี ัปรยี ์
อาหารกเู คยรบั ประทานกนิ ดหู มนิ่ ถ่มรดอบี ัดสี
ชวี ติ มงึ จะไปเทา่ ไรมี พาทีกับหนา้ ไมส่ มกนั ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ ฟังปักษี เทวีขัดแคน้ แสนศลั ย์
9
นางจึงรอ้ งตอบไปดว้ ยพลัน ขาตมิ งึ อย่างนน้ั จึงสมใจ
กนิ ของโสโครกท้ังตาปี กูเหมน็ ซากผีกดู า่ ให้
ลอยมาท่าฉนวนของกไู ย อ้ายแรง้ จงั ไรอา้ ยหยู าน ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อน้นั พญาแร้งโกรธใจด่ังไฟผลาญ
กร้วิ โกรธพิโรธดงั ไฟกาล อีสามานยด์ ่ากูจะยอ่ ยยบั
กูจะกนิ ต้นลน้ิ มงึ ให้ได้ ถา้ มไิ ด้กไู มน่ อนตาหลบั
จะผกู เวรผลาญมึงใหย้ อ่ ยยบั จะจกิ สรรพมงึ กินเสยี ทงั้ เป็น ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ ฟงั พาที เทวเี จ้าแค้นเปน็ แสนเขญ็
อ้ายตายหา่ อยา่ พกั มาจองเวร แต่บาทากจู ะเห็นกไ็ มม่ ี
กชี่ าตทิ ีม่ งึ จะกินกู ทดุ อา้ ยสู่รอู้ า้ ยบดั สี
นางเสดจ็ ข้นึ จากนัที ใหท้ าสีด่าใหแ้ ลว้ ไคลคลา ฯ
ฯ ๔ คำ เพลง ฯ
๏ เมื่อน้นั จงึ พญาแรง้ ราชรษิ ยา
ขัดแคน้ สดุ แสนทโ่ี กรธา จินดาหมายม่งุ อยู่ในใจ
อันหญงิ คนนีจ้ ะยอ่ ยยบั จะฉีกสรรพกินเนอ้ื มนั ใหไ้ ด้
จะคดิ อา่ นผกู เวรเอามนั ไซร้ ใหไ้ ด้สมจติ กจู นิ ดา
ความแค้นกูแสนสดุ คดิ ไมส่ มจิตกูไมก่ ลับไปจอมผา
คดิ แล้วขน้ึ จากคงคา ปักษาจำแลงแปลงกาย ฯ
ฯ ๖ คำ คุกพาทย์ ฯ
10
ชมตลาด
๏ เป็นมนษุ ย์หนุ่มนอ้ ยโสภา พักตราแช่มชอ้ ยเฉิดฉาย
ทรงโฉมประโลมเลศิ ชาย ผันผายมาตามมรคา
เทยี่ วชมตึกร้านบ้านช่องนนั้ เจ้าสุบรรณเท่ยี วเสาะแสวงหา
ทกุ บา้ นร้านตลาดทกุ แหง่ มา ไม่สมจติ จินดาอารมณ์ใน
จะคิดอ่านประการใดหนอ แต่พอจะอาศัยได้
ลดเลี้ยวตามมรคาไป แตใ่ นขอบเขตพระพารา ฯ
ฯ ๖ คำ ฉยุ ฉาย ฯ
๏ มาเห็น ทับน้อยตายายที่ชายปา่
มาณพทำกลมารยา เดนิ ตรงเขา้ หาโศกาลัย ฯ
ฯ ๒ คำ โอด ฯ
๏ บดั นั้น สองเฒา่ ยายตาคดิ สงสยั
จงึ มวี าจาถามไป เหตุผลอยา่ งไรอยา่ พลางกัน
รู้จกั เราหรอื จงึ โศกา หรือว่าแคน้ เคืองสง่ิ ไรน่นั
มาทำทอดสนทิ ติดพนั โศกศลั ยด์ ว้ ยสิ่งอนั ใด ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เม่อื น้ัน มาณพคิดอา่ นแก้ไข
บอกวา่ แม่ขา้ มว้ ยบรรลยั ยงั แตพ่ ่อไซร้เลย้ี งกันมา
พอ่ มเี มียน้อยกห็ ลงไป ตีดา่ ขา้ กระไรเปน็ นกั หนา I
ขา้ เทยี่ วสัญจรซอ่ นมา เห็นสองยายตากด็ ีใจ
โปรดหัวเอ็นดูชว่ ยเล้ยี งขา้ นํา้ ท่าฟืนผักจะหาให้
11
ตกนักงานขา้ อยา่ ร้อนใจ วา่ พลางทางไห้โศกา ฯ
ฯ ๖ คำ โอด ฯ
๏ เมื่อนัน้ สองเฒ่าดีใจเป็นนักหนา
อยู่ด้วยกนั เถดิ นะหลานอา ตาจะเลี้ยงเจ้าไวเ้ ป็นไรมี
ญาติวงศ์พงศากห็ าไม่ เลยี้ งไวจ้ ะได้ฝากผี
พากันมาอุ้มดว้ ยยนิ ดี สองศรภี ิรมยป์ รดี า ฯ
ฯ ๔ คำ เจรจา ฯ
๏ เมื่อนั้น จึงเจา้ สบุ รรณปักษา
อยู่เยน็ เป็นสุขหลายวันมา จงึ ว่าแก่ยายตาจะลาไป
วา่ แลว้ ก็จัดหาบคอน บทจรจะเข้าป่าใหญ่
จะไปเก็บฟืนผกั ทัง้ น้นั ไซร้ จะได้มาซ้อื ขายเล้ียงกนั
จบั ขอกระเช้าขน้ึ ใสบ่ ่า ออกจากเคหากผ็ ายผัน
คร้ันมาถงึ ปา่ พนาวัน เจ้าสบุ รรณนิมติ ให้โอฬาร์
นิมติ เป็นเงนิ ทองใส่กระเช้า จัดแจงหาบเขา้ มาใสบ่ า่
ทำเดนิ โซเซเก้กงั มา รบี รัดลลี าเข้ามาพลัน ฯ
ฯ ๘ คำ เชดิ ฯ
๏ เมอ่ื น้นั สองเฒา่ ดีใจตวั สนั่
ว่ิงออกไปรับดว้ ยฉับพลนั เห็นเงนิ ทองน้ันก็ดีใจ
สองเฒา่ จึงมีวาจา ถามว่าได้มาแต่ไหน
หลานข้าอตสา่ ห์เป็นเหลือใจ เอามาแต่ไหนนะพ่ออา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
12
๏ เม่ือน้นั มาณพแต่งกลทำหรรษา
เปน็ บญุ ของขา้ พ้นปัญญา ขุดมันนัน้ ขา้ พบต่มุ ทอง
ปากตุ่มน้ันเรียงเคียงกันไป อา้ ยตมุ่ หนงี่ ใส่ลว้ นข้าวของ
ขา้ เลอื กเอาแตเ่ งนิ ทอง อ้ายของส่ีตุ่มไม่เอามา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมอ่ื น้ัน สองเฒา่ ดใี จหวั เราะรา่
ซอ้ื จา่ ยหวั กินใหน้ ักหนา ไมก่ ลวั จนแล้ววา่ ในครานี้ ฯ
ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ
๏ เม่ือน้นั จงึ เจา้ สุบรรณปักษี
โปรดให้ตายายได้มง่ั มี สขุ เกษมเปรมปรดี ์ิหลายวนั มา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ วันหนึง่ จงึ เจ้าสบุ รรณปักษา
เขา้ หาทั้งสองยายตา ทำออ้ นวอนว่าให้อ่อนใจ
ครนั้ แล้วจงึ มีวาจา ทกุ วันรักข้าฤๅหาไม่
แม้นรักขา้ จริงดังน้นั ไซร้ ยายตาข้าไหวไ้ ดเ้ มตตา
ข้านมี้ จี ติ คิดรักใคร่ ล่มุ หลงปลงใจใฝ่หา
ขา้ พอใจลูกสาวเจ้าพารา ช่อื ว่าโฉมนางพกิ ุลทอง
ขา้ คิดจำนงจงรัก อกั อ่วนป่วนนักใหข้ นุ่ หมอง
แมน้ มิไดส้ มอารมณ์ปอง ขา้ จะครองตวั ไปไยมี
แม้นวา่ ตายายมติ ามใจ ก็จะม้วยบรรลยั ไปเป็นผี
13
ถา้ ว่าเมตตาปรานี โปรดเกศเี ถิดจงเร่งไป ฯ
ฯ ๑๐ คำ เจรจา ฯ
๏ ฟังหลานวา่ ยายตาลูบอกอยู่ไลไ่ ล่
ทอ่ี ่ืนมติ รึกมิพอใจ จำเพาะให้ไปขอเจ้าพารา
จะไปพดู กบั ทา่ นประการใด อพี ่อข้าไหวแ้ กอ่ กขา้
ตาว่ากเู ห็นกเ็ วทนา มาเราไปวา่ ดตู ามที ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ วา่ แลว้ ก็ชวนกันอาบนาํ้ ชำระกายาใหผ้ ่องศรี
ตาเฒา่ น่งุ ปมู อยา่ งดี ยายเอย๋ กูนม้ี างามครัน
ฝ่ายยายนุ่งผ้าตารางไหม ใส่แหวนนพรตั นเ์ ฉดิ ฉนั
หม่ ผา้ ขาวผุดดอกเหมอื นกัน ไม้เทา้ คนละอันก็เขา้ มา ฯ
ฯ ๔ คำ เชิด ฯ
๏ มาถึง ยงั ทว่ี งั ในมิไดช้ ้า
สองเฒ่างกงนั รนั เขา้ มา เขาหัวเราะร่าไม่ขามใคร
ครน้ั ถึงก็ชวนกนั กราบลง พระผทู้ รงพิภพเป็นใหญ่
ค่อยหมอบยอบตวั กลัวภัย จะตรสั ปราศรัยอย่างไรมา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมอื่ นั้น ทา่ นท้าวสนั นรุ าชรงุ่ ฟ้า
เสด็จออกพระโรงเวลา เสนาพรัง่ พรอ้ มมนตรี
อกี ทง้ั หมูม่ ขุ อำมาตย์ หมอบกลาดประณตบทศรี
เหลือบเหน็ สองเฒา่ เฝ้าผดิ ที น่าจะมีธุระประการใด
14
จึงเออ้ื นโอษฐโ์ องการประภาษ พจนารถวาจาปราศรยั
ว่าแก่สองเฒา่ เขา้ มาไย ทุกข์ร้อนเปน็ ไฉนจงบอกมา ฯ
ฯ ๖ คำ เจรจา
๏ บัดนั้น สองเฒ่าก้มเกลา้ เหนอื เกศา
กราบทลู แถลงแจง้ กิจจา ชีวาอยู่ใตฝ้ ่าธุลี
จะฆา่ ก็ตายขายก็ขาด ดว้ ยราชกุมารผู้หลานน่ี
จะเปน็ เกอื กทองรองธุลี จะขอพระบุตรีศรีโสภา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมือ่ นั้น ท้าวสันนุราชนาถา
ได้ฟังเคืองขัดพระอัชฌา อันชวี าของมึงจะบรรลยั
อาจเอ้อื มมาขอพระบตุ รี หลานมบี ุญญาเปน็ ไฉน
จะฆ่าเสยี บัดน้กี ็จะได้ กูจะงดอดไวก้ อ่ นเถดิ รา
ซึ่งตัววา่ กล่าวมาทั้งนี้ พระบตุ รีก็จะใหเ้ หมอื นมึงว่า
จงเร่งทำตะพานทองมา แต่เคหาของมึงจนถึงวงั
แตใ่ นสามวนั ถ้ามไิ ด้ ก็จะมว้ ยบรรลยั อาสญั [๓]
มึงเร่งไปคดิ อ่านกนั ตรัสแล้วทรงธรรม์เขา้ วังใน ฯ
ฯ ๘ คำ เสมอ ฯ
๏ บัดน้ัน สองเฒ่าความกลวั จะตกั ษยั
ชวนกันออกมาจากวังใน เดินฉนวนออกไปไมต่ รงทาง ฯ
ฯ ๒ คำ เชิด ฯ
15
๏ มาถงึ เคหาบัดใจ ทง้ิ ไม้เท้าลงไวต้ ้ำผาง
ชกั ผา้ คลุมหัวลงนอนคราง จะบอกกล่าวอยา่ งไรก็ไม่มี
โอต้ วั เราเอย๋ จะบรรลยั แม่นแท้แนใ่ จจะเป็นผี
สองเฒา่ กอดคอกันโศกี ตายจรงิ ครัง้ นน้ี ะอกอา ฯ
ฯ ๔ คำ โอด ฯ
๏ เมอื่ น้ัน เจา้ สุบรรณเห็นย้มิ อยูในหน้า
จงึ เดินเขา้ ไปหายายตา ชกั ผา้ คลมุ หวั ด้วยเหตุไร
ไปกนิ ขา้ วนํ้าชำปลา มานอนโศการ่ำร้องไห้
เจา้ พาราตรสั วา่ ประการใด สองเฒ่าข้าไหวจ้ งบอกมา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น สองเฒา่ โกรธใจเป็นนกั หนา
สนัดใจอยู่แล้วอย่าเจรจา ครงั้ นจ้ี ะพากันบรรลยั
เจา้ พาราตรัสคาดโทษมา สามวนั ท่านจะฆ่าใหต้ ักษยั
ใหเ้ รง่ ทำตะหานทองไป แต่เรอื นเราไซร้ให้ถงึ วงั
เอง็ ไมเ่ จยี มตัวกลวั ภยั จะพากนั บรรลัยเพราะโอหัง
ลกู ชาวกรงุ ศรีไมอ่ นิ ัง แกล้งชงั ฆา่ เราใหบ้ ร
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ ฟงั วาจา มาณพย้ิมย่องผอ่ งใส
เพยี งนย้ี ายตาอย่าร้อนใจ ไปอาบนํ้ากินข้าวใหส้ ำราญ ฯ
ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ
๏ อยมู่ าปจั ฉมิ ราตรี สำแดงฤทธดี ้วยใจหาญ
16
กลบั เป็นปกั ษมี ทิ ันนาน ไปสถานเขานิลกาฬา ฯ
ฯ ๒ คำ เชดิ ฯ
๏ จงึ ชาวบริวารทัง้ น้ัน บรรดาที่อยใู่ นจอมผา
ชวนกนั โผผนิ บินมา ยงั ท่เี คหาฉบั พลัน ฯ
ฯ ๒ คำ เชดิ ฯ
๏ มาถงึ จงึ พญาแรง้ ฤทธเ์ิ ลศิ เฉดิ ฉนั
นิมิตกายบรวิ ารทง้ั นนั้ ฉับพลันให้เปน็ มนุษยไ์ ป
เคหาของยายกับตาน้ัน เปน็ ปราสาทสุวรรณอนั สุกใส
จัดกนั เป็นนายทวารไชย เอกิ เกริกทั้งในพระพารา ฯ
ฯ ๔ คำ เจรจา ฯ
๏ จัดสรรกนั ทำตะพานทอง กกุ อ่ งใหญย่ าวเปน็ นักหนา
ลว้ นทองพิจติ รรจนา เขา้ มาจนถึงทวารวัง
มีทง้ั ราชวัติฉัตรแกว้ เลศิ แล้วเรียงรายอยูส่ ะพร่ัง
ใหป้ ระโคมฆ้องกลองแตรสังข์ ดุริยางค์ดนตรเี ปน็ โกลา ฯ
ฯ ๔ คำ สาธุการ ฯ
๏ เมื่อนนั้ ทา้ วสันนุราชรงุ่ ฟา้
รุ่งสางสวา่ งพระสุรยิ า เผยแกลออกมาสรงพกั ตร์พลัน
เหลอื บแลไปเห็นตะพานทอง กุกอ่ งเรยี งรายอยเู่ ฉดิ ฉนั
แสงทองระยบั สลับกัน เรียกมเหสีพลนั ใหแ้ ลดู
อันหลานของยายกบั ตา ชะรอยวาสนามนั เคยคู่
บุญหนักศกั ด์ใิ หญ่เป็นพน้ รู้ ควรกูจะใหพ้ ระธิดา ฯ
17
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ คดิ แลว้ พระแก้วผนิ พกั ตร์มาปรกึ ษา
เราจำจะแต่งการวิวาห์ หรอื วา่ จะเห็นประการใด ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมอ่ื นั้น นางพกิ ุลจนั ทรศ์ รใี ส
กราบทูลผวั รักไปทันใด ควรทจี่ ะให้บุตรเี รา
เขามีบญุ หนักศักด์ิใหญ่ อันใครนอกนีจ้ ะถงึ เล่า
เขาได้แตง่ มาถึงวังเรา จะนงิ่ เสยี เลา่ เหน็ ไม่ดี ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ ฟงั เมียรัก ทรงศักด์ิช่ืนชมเกษมศรี
ทรงเครื่องเรอื งรัตนร์ จู ี จรลอี อกทอ้ งพระโรงพลนั ฯ
ฯ ๒ คำ เสมอ ฯ
๏ ตรสั ส่ังมหาเสนา เรง่ เรว็ อย่าช้าจงผายผัน
ไปบอกเจา้ ขรัวตาเฒ่านั้น เร่งแตง่ หลานขวญั น้ันเข้ามา
วา่ ฤกษ์จะไดเ้ พลาใด อนั ในพระนครนี้คอยท่า
ซึ่งจะตบแต่งการววิ าห์ ใหท้ ันฤกษ์เวลาในวนั นี้ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ บดั นั้น อำมาตย์รับสง่ั ใส่เกศี
บังคมกม้ กราบลงสามที เสนีกว็ ิ่งวางไป ฯ
ฯ ๒ คำ เชิด ฯ
18
๏ มาถงึ เจา้ ขรวั ยายตา เสนาก็กม้ กราบไหว้
รบั ส่งั ใหแ้ ตง่ หลานเขา้ ไป อันในพระนครน้นั พรอ้ มแล้ว ฯ
ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ
๏ เมื่อนัน้ เจา้ ขรัวตายายก็ผอ่ งแผว้
ไดฟ้ ังเสนามาบอกแลว้ คลาดแคลว้ มาแต่งพระนดั ดา
ใหท้ รงเครื่องนิมติ อันเพราเพริศ ล้าํ เลศิ ไมม่ ีในใตฟ้ า้
ประดบั ประดาองค์อลงการ์ รจนาดงั เทพตรงึ ษไ์ ตร
เพื่อนบ่าวเชญิ เครื่องเป็นขนดั เบยี ดเสยี ดเยยี ดยัดตามไสว
เป่าสังขท์ ั้งแตรเซ็งแซ่ไป มโหรีขับไม้โหก่ ราวมา ฯ
ฯ ๖ คำ มโหรี ฯ
๏ ขึ้นน่งั บนแท่นราชาภิเษก ภายใต้เศวตฉตั รซา้ ยขวา
พราหมณ์รดน้ําสังข์ตามวิวาห์ เษกใหส้ องราเขา้ ครองกนั
ให้ต้ังบายศรที องบายศรีแก้ว เสร็จแล้วเวียนเทยี นทำขวญั
ครบเจด็ รอบแล้วโบกควัน โหส่ นั่นครัน่ ครน้ื ทง้ั เวียงไชย ฯ
ฯ ๔ คำ มโหรี เจรจา ฯ
๏ เมือ่ นั้น เจ้าสุบรรณปรดี ์เิ ปรมแจ่มใส
ถวายบังคมลาทั้งสองไท ลงไปส่ปู รางคร์ จนา ฯ
ฯ ๒ คำ เพลง ฯ
๏ มาถงึ จึงนั่งบนแท่นอันเลขา
19
พอเย็นคำ่ ยำ่ ฆอ้ งเวลา เข้าทีไ่ สยาภิรมยใ์ น ฯ
ฯ ๒ คำ เสมอ ฯ
๏ เมือ่ นน้ั องคพ์ ระชนนศี รีใส
จึงสั่งนางเถา้ แก่ขา้ งใน ให้แตง่ บุตรศี รโี สภา
ใหโ้ ฉมยงทรงเคร่ืองเสรจ็ สรรพ เถา้ แก่จบั กรทั้งซา้ ยขวา
บ้างเขา้ พยุงพระองค์มา นางทรงโศกามใิ ครไ่ ป ฯ
ฯ ๔ คำ เพลง ฯ
๏ ถงึ ปรางคท์ องเขา้ ไปในที่ เทวีรดู ม่านสองไข
เถ้าแกอ่ ชั ฌาก็คลาไคล ออกไปจากปรางคร์ จนา ฯ
ฯ ๒ คำ โอ้โลม ฯ
๏ เมื่อนั้น จึงเจ้าสบุ รรณปักษา
ลบู โลมรบั ขวัญกัลยา คดิ ถวิลจนิ ดาขา้ งในใจ
ขอเชญิ นมิ่ นวลยวนสวาดิ เข้าทไี่ สยาสนพ์ ิสมัย
เจา้ จะอายเหนยี มแกเ่ รียมไย พ่ีจะช่วยกล่อมใหเ้ จา้ นิทรา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อน้ัน พกิ ุลทองอายจิตคดิ นกั หนา
ด้วยมใิ ช่คูน่ างกลั ยา เพราะเกรงบิดากจ็ ำใจ
นางกม้ พกั ตร์อยู่ไมพ่ าที จะจงรกั ภักดีกห็ าไม่
มริ ู้ทีจ่ ะตอบประการใด ชลนัยนค์ ลอครองนยั นา ฯ
ฯ ๔ คำ โลม ฯ
๏ เมือ่ น้ัน เจ้าสุบรรณป่ันป่วนเสนห่ า
20
จงึ มีสนุ ทรวาจา เจ้าก้มหนา้ เสียไยไมพ่ าที
ฤๅเจา้ มปิ ลงลงใจ ขัดเคืองสิง่ ใดนะโฉมศรี
วา่ พลางอิงแอบแนบยวนยี จะบดิ ผันหันหนไี มฟ่ งั แลว้
เหมอื นราหจู ู่จับเอาจนั ทร์ได้ รจู้ ักหรอื ไมน่ างนอ้ งแกว้
อยใู่ นใจมอื ของพแี่ ลว้ จะคล่คี ลายแกว้ อยา่ สงกา
แต่สัมผัสเย้ายวนเชยชม มไิ ดร้ ่วมภริ มยเ์ สนห่ า
จนลว่ งเข้าสองยามเวลา เทวดาดลจติ ให้หลับไป ฯ
ฯ ๘ คำ กล่อม ฯ
๏ ในเม่อื เพลาราตรีน้นั จอมขวญั มทิ นั จะหลบั ไหล
ให้เหมน็ กล่ินแรง้ เป็นเหลือใจ ที่ไหนจงึ เหม็นขจรมา
ความเหมน็ เช่นน้มี ทิ นได้ เหมอื นแร้งจังไรตายหา่
เหมอื นเม่ือกูสรงคงคา ฤๅวา่ มาจับอยแู่ หง่ ไร ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมอื่ นนั้ เจา้ สบุ รรณแตง่ กลแกไ้ ข
ลกุ ขน้ึ ทำเหมน็ ดว้ ยทรามวัย เหน็ หลากแก่ใจใชพ่ อดี
แตก่ ่อนบรุ าณท่านกลา่ วไว้ สตั วส์ ิง่ ใดใดเป็นซากผี
อย่าถม่ น้ำลายคายรดนนั้ ไมด่ ี หญงิ น้นั อปั รียจ์ ะบรรลยั
ชะรอยเจ้าไดด้ ่าทอมนั กลิน่ นั้นติดตามสำแดงให้
พใ่ี หร้ อ้ นรนเป็นพน้ ใจ ลกุ ไปชำระกายา
เอาเครอ่ื งพระสุคนธม์ าลบู ไล้ หวังจะใหก้ ลบกลิน่ ของปักษา
มิใหร้ กู้ ลมารยา แลว้ กลบั เขา้ มาประทมไป ฯ
21
ฯ ๘ คำ ฯ
ตระ
๏ รุ่งแจ้ง เจ้าสุบรรณกล่าวแกลง้ แถลงไข
ตวั พ่นี ไ้ี ม่สบายใจ พี่ไซร้จากมาไดห้ า้ ปี
คิดถงึ บติ เุ รศพระมารดา แก่เฒ่าชราไมร่ ู้ท่ี
เดิมพ่อี ยคู่ รองพระบรุ ี พนี่ ้เี ท่ียวไล่มฤคา
พลัดหมู่ไพร่พลด้นั ดน้ ไพร พ่ีไซรเ้ ท่ียวเสาะแสวงหา
จงึ มาอาศยั ยายกบั ตา จนมาสมสดู่ ้วยเทวี
พี่จำจะพาเอาเจา้ ไป เย่ียมเยยี นทา้ วไทยังกรงุ ศรี
จงึ ชวนองคอ์ รเทวี จรลีขึ้นเฝ้าพระบิดา ฯ
ฯ ๘ คำ เพลง ฯ
๏ มาถงึ จงึ ตงั้ บังคมเหนอื เกศา
ทูลแถลงแจง้ กจิ พระบดิ า ลูกจะขอกราบลาพระพนั ปี
ไปเยยี่ มบิตเุ รศมารดา จะโศกาเศร้าสร้อยหมองศรี
แตล่ กู พลดั พรากจากบุรี หลายปมี าแล้วไมแ่ จ้งใจ
อันตวั ของลกู พระบิดา จะเปน็ ลูกยายตากห็ าไม่
เทยี่ วไลเ่ น้อื หลงพลดนั้ ด้นไพร จึงมาอาศยั ยายกบั ตา
จนเปน็ เกอื กทองรองธลุ ี ลูกนที้ ุกขร์ อ้ นเป็นนักหนา
ลูกจะขอพาองคพ์ ระธดิ า ไปด้วยลกู ยาในครานี้ ฯ
ฯ ๘ คำ เจรจา ฯ
๏ เมือ่ นั้น ทา่ นท้าวสนั นุราชเรืองศรี
22
ท้งั องคส์ มเดจ็ พระชนนี ไดแ้ จ้งคดีที่ทลู มา
สำคัญวา่ จริงทกุ ส่งิ ไป จงึ ปราศรัยดว้ ยความเสนห่ า
เจ้าจะไปเย่ียมเยียนพระพารา จะหาเมยี ไปด้วยก็ตามใจ
พอ่ จะจัดแจงเภตรา ไปส่งลูกยาอย่าหมน่ ไหม้
วา่ แลว้ ก็สั่งเสนาใน ให้เรง่ ไปทำเภตรา
ใหพ้ รอ้ มท้ังเครือ่ งบรรณาการ ต้นหนคนงานถ้วนหน้า
เร่งรัดตำรวจตรวจตรา เราจะให้ลูกยาไปเมอื งไกล ฯ
ฯ ๘ คำ เจรจา ฯ
๏ บัดนั้น เสนารบั สัง่ บงั คมไหว้
ออกมาฉบั พลนั ทนั ใด บตั รหมายไปทกุ พนักงาน ฯ
ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ
๏ เร่งรัดกนั ทำสำเภาพลนั ตรวจตราว่ากันเปน็ อลหม่าน
ทำสมอช่อใบให้ทันงาน ขนเคร่อื งบรรณาการบรรทุกพลัน
เสร็จแล้วกเ็ อามาทอดท่า มหาเสนากผ็ ายผนั
กราบทลู พระองค์ทรงธรรม์ สำเภานน้ั เสรจ็ แล้วพระภมู ี ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมือ่ นน้ั ทา้ วสนั นรุ าชเรืองศรี
ตรสั ส่งั เขยขวัญทนั ที ให้จดั แจงแต่งที่จะไคลคลา
พ่อขอฝากองคอ์ ัคเรศ คอื ดงั่ ดวงเนตรทงั้ ซ้ายขวา
เจ้าผดิ พลัง้ สงิ่ ไรจงเมตตา เจา้ อยา่ สลัดตดั รอน
เจ้าพกิ ุลทองของบดิ า ลกู ยาจงจำคำพ่อสอน
23
ตัวเจ้าจะไปต่างนคร บังอรฝากตัวท่านจงดี ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนนั้ พกิ ุลทองกราบพลางเร่งหมองศรี
วงิ่ เขา้ กราบองค์พระชนนี หนักใจลกู นพี้ น้ ปัญญา
ครน้ั จะมไิ ปกไ็ มไ่ ด้ เกรงเดชท้าวไทเป็นนักหนา
ชลเนตรฟมู ฟองนองตา โศกาสะอืน้ รำ่ ไร ฯ
ฯ ๔ คำ โอด ฯ
๏ เมื่อน้ัน องค์พระชนนเี ป็นใหญ่
สวมสอดกอดลกู สายใจ เจา้ อย่ารำ่ ไรจะเป็นลาง
มใิ ช่ไปแลว้ ไมก่ ลบั มา ลูกยาหกั ใจเจ้าไว้บา้ ง
ฝา่ ยผัวของเจ้าเขาจะระคาง ฟงั คำแมบ่ า้ งอยา่ โศกี ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมอ่ื น้นั จึงเจา้ สบุ รรณปักษี
ครนั้ ได้พไิ ชยฤกษ์ดี กราบลาชนนีพระบิดา
จัดแจงแต่งองค์เสรจ็ แล้ว จึงชวนนอ้ งแก้วเสนห่ า
พร้อมทัง้ สาวสรรกลั ยา ยาตราลงสู่สำเภาพลนั ฯ
ฯ ๔ คำ ทยอย เสมอ ฯ
๏ บดั น้นั ตน้ หนคนงานแขง็ ขัน
เห็นท้าวลงสู่เภตราพลนั ชวนกันโหร่ ้องเอาไชย
ถอนสมอม้าล่อตีระงม ยิงปนื ระดมหวัน่ ไหว
เคล่ือนสำเภาพลนั ทนั ใด ชักใบแล่นเร่ือยเฉือ่ ยมา ฯ
24
ฯ ๔ คำ โล้ เชดิ ฯ
๏ แลน่ ไปได้หลายวันวาร ล่วงแดนหิมพานต์ปักษา
เปน็ ทา่ หาดริมฝัง่ ชลธาร์ ชื่อวา่ หาดแก้วพยคั ฆี
เจา้ สุบรรณจึงวา่ ไปทันใด ให้ทอดสมอลดใบลงที่นี่
ท่าเราเคยจอดอยทู่ กุ ที ที่นยี่ งั ไกลพระนคร
จงึ บอกแกน่ างกลั ยา พ่จี ำจะลาเจา้ ไปกอ่ น
บอกข่าวบติ เุ รศมารดร ว่าพี่พาดวงสมรมาสำเภา
แม้นท้าวรขู้ า่ วจะดใี จ จะเอาม้ารถคชไกรมารับเจา้
คร้ันส่ังโฉมยงนงเยาว์ ข้ึนจากสำเภาระเหจ็ มา ฯ
ฯ ๘ คำ เพลง ฯ
๏ แต่พอเล้ียวลบั คนพลนั เจา้ สบุ รรณก็กลายเปน็ ปกั ษา
สำแดงแผลงอิทธิฤทธา ไปเขานิลกาฬาทันใด ฯ
ฯ ๒ คำ เชดิ ฯ
๏ คร้นั ถึงจงึ ปา่ วบรวิ าร กรกู นั ออกมาไม่ช้าได้
จึงส่งั ไปพลันทนั ใด สำเภากไู วท้ ่ีเคยกนิ
แต่บรรดาสาวสรรทั้งนน้ั สูชักชวนกนั กินให้สนิ้
เหลอื แต่เจ้ามนั กจู ะกนิ ตน้ ลนิ้ ของมันอร่อยดี ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ บดั นน้ั ฝงู แรง้ ราชปกั ษี
ไดฟ้ งั นายสงั่ กย็ ินดี มิชา้ ก็ชวนกันบนิ ไป ฯ
ฯ ๒ คำ เชดิ ฯ
25
๏ มาจะกล่าวบทไป ยา่ นางรักษาสำเภาใหญ่
มจี ิตเมตตานางทรามวยั สำแดงใหเ้ ห็นกายา ฯ
ฯ ๒ คำ เพลง เจรจา ฯ
๏ จึงบอกกับนางโฉมศรี บัดนผ้ี วั เจ้าคอื ปักษา
มันจะแกล้งฆ่าเจา้ ใหม้ รณา อย่าชา้ มาหนไี ปเรว็ พลัน
จงึ นิมิตแยกเสากระโดงกลาง ให้โฉมนวลนางขมีขมนั
ในนน้ั ดงั วิมานเทวญั ให้นางจอมขวัญอยสู่ ำราญ ฯ
ฯ ๔ คำ เชิด ฯ
๏ เมือ่ นนั้ พญาแร้งฤทธิไกรใจหาญ
เหลือบแลเห็นพวกบรวิ าร กนิ เป็นอาหารเสียหมดแลว้
เขา้ ไปทีท่ ้ายเภตรา คน้ หาจะกินอียอดแกว้
ดดู ูม๋ ันไปข้างไหนแลว้ คลาดแคล้วหนีกไู ปแหง่ ไร
ฤๅอา้ ยบรวิ ารมันกนิ เสยี ส่ังแล้วกนิ เมยี กเู สยี ได้
ทมุ่ เถยี งโทษกันสนัน่ ไป ไม่ได้เห็นแล้วก็จรลี ฯ
ฯ ๖ คำ เชิดโอด ฯ
๏ เมอ่ื นัน้ นางพิกุลทองโฉมศรี
อยูม่ าได้เจ็ดราตรี โศกีเศร้าสร้อยละห้อยใจ
โอ้อนิจจาในคราน้ี น่าทจี่ ะมว้ ยตักษยั
ใครเลยจะนำเอาข่าวไป ใหถ้ ึงบิตเุ รศชนนี
ว่าลกู น้อยนเี้ ป็นกำพรา้ พ่างเพยี งชวี าจะเป็นผี
จะอาสญั บรรลัยอยใู่ นนี้ มไิ ด้พบชนนกี บั บดิ า
26
วา่ พลางนวลนางเจา้ ไห้รำ่ นำ้ เนตรซมึ ซาบลงอาบหนา้
ตีอกฟกชา้ํ รำ่ โศกา ไฉยาพา่ งเพยี งจะขาดใจ ฯ
ฯ ๘ คำ โอด ฯ
๏ เมื่อน้นั ยา่ นางรู้แจ้งอชั ฌาศยั
ปลอบนางพลางเช็ดชลนัยน์ เจ้าอยา่ ร่ำไรเจา้ แมอ่ า
เจ้าออกไปสระสรงให้ผอ่ งแผ้ว มันไม่มาแล้วฟงั แมว่ ่า
เจ้าจะพบคูค่ รองของกลั ยา จะกลับคนื พาราอยา่ ร้อนใจ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เม่ือนั้น โฉมพิกุลทองยังหมองไหม้
ฟงั แมย่ า่ นางคอ่ ยสวา่ งใจ ลุกออกไปจากหอ้ งทวารา ฯ
ฯ ๒ คำ เพลง ฯ
๏ มาเห็นซากศพทวี่ อดวาย กระดกู กองก่ายอย่นู ักหนา
สังเวชพระทยั นางไฉยา ชลนาคลอเนตรอย่ฟู มู ฟอง
มาน่ังบนั ไดที่เคยสรง โฉมยงเปล่าใจใหเ้ ศร้าหมอง
โอก้ รรมอะไรมาให้น้อง จองเวรแต่หลงั ติดตามมา
รำ่ พลางนวลนางเจา้ สระสรง บรรจงสางเกล้าเกศา
แต่ผมเส้นหนงึ่ ติดหัตถม์ า กลั ยาหลากแหลกแปลกใจ
ดีร้ายจะมคี คู่ รอง ตดิ ตามหาน้องมาจงได้
เจ้าใส่ผอบลงทันใด จารึกไปในฝาผอบพลนั
ถ้าผู้ใดเคยคไู่ ด้ผอบ พบแล้วจงเร่งผายผัน
ช้านักจกั ไม่เห็นกัน เรานั้นเปล่ยี วองคอ์ ยเู่ อกา
27
เขยี นแจง้ ถว้ นถ่ใี นฝาผอบ จบแลว้ เจา้ ทนู เหนอื เกศา
เจา้ เสีย่ งด้วยพลันมิทันชา้ แม้นบุญของขา้ ไมบ่ รรลยั
ขอใหผ้ อบใบน้ี ลอยรไี่ ปเหนอื ทะเลใหญ่
เทพเจ้าเมืองบนเขา้ ดลใจ ใหเ้ หน็ ประจกั ษก์ บั นัยนา
พิษฐานแล้ววางลงทันที ลอยรด่ี ั่งใจเจา้ ปรารถนา
นางจงึ ยกมือขน้ึ วนั ทา ดสู ดุ สายตาแลว้ คลาไคล ฯ
ฯ ๑๖ คำ เชิด เพลง ฯ
บทที่ 2
๏ มาจะกล่าวบทไป พระพิไชยมงกุฎ[๑]ฤทธไิ กร
เปน็ บตุ รท้าวสังขศ์ ลิ ป์ไชย พระมารดานนั้ ไซร้ช่อื สุพรรณ
พระชันษาเจ้าไดส้ ิบเจด็ ปี ลกั ขณาราศเี ฉดิ ฉัน
งามละมอ่ มพร้อมสิน้ ทุกสิ่งอัน สารพันเป็นทีจ่ ำเริญตา
คิดจะใคร่ไปสรงชลธี ยงั ทีฉ่ นวนน้ำประจำท่า
ดว้ ยบุญเคยสมอบรมมา กับโฉมกัลยาวลิ าวณั ย์
จงึ สงั่ พเ่ี ล้ียงไปทันที ให้ผกู พาชตี ัวขยัน
สงั่ เสนาในใหพ้ ร้อมกนั เรานัน้ จะไปสรงพระคงคา ฯ
ฯ ๘ คำ เจรจา ฯ
๏ สั่งพลางเสดจ็ บทบาท จากราชนิเวศน์เลขา
พระเสดจ็ ขนึ้ ทรงอาชา พีเ่ ลยี้ งเสนากต็ ามไป ฯ
ฯ ๒ คำ กราวนอก ฯ
๏ มาถึงประทบั ทา่ ฉนวนน้นั ไม่ทนั ทจ่ี ะผลดั พระภษู า[๒]
28
จึงเหน็ ผอบนั้นลอยมา วนอยูต่ รงท่าฉนวนใน
หลากด้วยผอบใบน้ี น่าจะมีเหตุผลเป็นไฉน
ฤๅจะเป็นขา้ ศึกประการใด จะมาลองฤทธไิ กรฤๅไรนา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ วา่ แล้ว พระแก้วหยบิ สงั ข์มิไดช้ ้า
แล้วเสี่ยงสังข์ขว้างลงในคงคา ดว้ ยศักดานภุ าพเกรยี งไกร
อนั ว่าสงั ขท์ องอนั ฤทธี ลอยรเ่ี ขา้ มาหาช้าไม่
ชอ้ นได้ผอบพลนั ทันใด มาถวายทา้ วไทผทู้ รงธรรม์ ฯ
ฯ ๔ คำ เชดิ ฯ
๏ พระรับเอาผอบมาเปิดดู เห็นเส้นผมอย่ใู นผอบน้นั
งามสดศรใี สใครจะทัน กลิ่นน้นั หอมฟุ้งขจรมา
พระพนิ จิ พศิ ดเู รง่ อาวรณ์ เหน็ ตัวอกั ษรอนั เลขา
พระอ่านดูพลนั มทิ นั ชา้ ใครได้ผอบขา้ เร่งตามไป
อยู่ในเภตราผู้เดยี วน้ี ปักษีมันกนิ เสยี ม้วยไหม้
แมน้ เปน็ คู่ครองของน้องไซร้ ทา้ วไทจงเรง่ ตดิ ตามมา ฯ
ฯ ๖ คำ รา่ ย ฯ
๏ พระกป็ ดิ ผอบเสยี ทันใด คลง่ั คลมุ้ พระทัยใฝ่ฝันหา
ดังเจ้าผมหอมตดิ ตามมา พระราชาเคลม้ิ หลงงงงวยไป
พระทรงถือผอบเสด็จมา จะร้สู กึ กายากห็ าไม่
พระเสด็จเข้ายงั วังใน โยธาไสวห้อมลอ้ มมา ฯ
ฯ ๔ คำ เชิด ฯ
29
๏ พระเสดจ็ ขน้ึ สู่ปราสาท ลลี าศเขา้ ปรางคอ์ ันเลขา
เอนองคล์ งกับแทน่ ไสยา เปิดฝาผอบขึน้ เชยชม
อันมนุษยใ์ นตำ่ ใต้ฟา้ ไมป่ รากฏรจนาเทา่ กลิน่ ผม
โอ้กลน่ิ น้เี อยไดเ้ ชยชม จะภริ มยส์ มสวาดไิ ม่คลาดน้อง
เมอ่ื ไรเลยจะได้สมอารมณห์ มาย จะไดว้ ายทกุ ขท์ นท่หี มน่ หมอง
จะเปลีย่ วเปล่าอยู่กระไรในสัดจอง พระกอดผอบทองแล้วหลับไป ฯ
ฯ ๖ คำ ตระ ฯ
๏ รงุ่ แจง้ พระอุทัยไขแสงสุรยิ ์ใส
พระตน่ื จากบรรทมภิรมยใ์ น เสด็จไปขึน้ เฝา้ พระบิดา ฯ
ฯ ๒ คำ เสมอ ฯ
๏ คร้ันถึงจงึ ทูลแถลงเหตุ แก่พระบติ ุเรศนาถา
ว่าลูกไปสรงพระคงคา ได้ผอบลอยมาแต่นัที
ในผอบมีผมเส้นหนงึ่ ไซร้ หอมระร่ืนชน่ื ใจลกู พ้นที่
คลง่ั คลุม้ กลุ้มใจใชพ่ อดี โปรดเกศเี ถดิ พระบติ ุรงค์
แมน้ ลกู มไิ ดด้ ังใจคดิ เห็นชวี ิตลูกนีจ้ ะผุยผง
จะขอลาไปตามนางโฉมยง พระบติ รุ งคจ์ งโปรดปรานี ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมอ่ื น้ัน องค์พระบิตเุ รศเรอื งศรี
ฟงั พระลกู ยาพาที ภมู ตี รึตรึกนกึ ใน
เห็นว่าจะเปน็ คเู่ คยสังวาส ดว้ ยพระราชโอรสศรใี ส
ตรัสปลอบลูกรกั อยา่ ร้อนใจ พอ่ จะใหแ้ ตง่ สำเภาพลัน
30
ตรสั แล้วทรงธรรม์ส่ังเสนา อยา่ ชา้ จงเร่งผายผนั
หมายบอกวางเวรเกณฑก์ นั ในวนั พรุง่ น้ีอย่าไดช้ ้า
เร่งใหไ้ ปทำสำเภาทอง อันงามเรอื งรองเลขา
บาหลีท่ที า้ ยเภตรา ประดบั แก้วจินดาใหเ้ รอื งไร
ปากปลาราโททา้ ยสัดจอง ฉลฉุ ลักลายทองผอ่ งใส
จัดแจงนายชา่ งทั้งน้ันไป ให้แล้วแต่ในบัดนี้ ฯ
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ บดั นนั้ เสนารบั ส่ังใส่เกศี
ออกไปสง่ั กนั ทนั ที เรง่ รัดตามมพี ระบญั ชา ฯ
ฯ ๒ คำ เจรจา สาธกุ าร ฯ
๏ ครน้ั ทำสำเรจ็ เสรจ็ แลว้ เสนาคลาดแคล้วเขา้ มาหา
กม้ เกล้ากราบทูลพระราชา เภตราเสร็จแล้วพระภมู ี ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เม่อื นน้ั พระพิไชยมงกฎุ เรอื งศรี
ครัน้ ได้พไิ ชยฤกษ์ดี ภูมีกราบลาพระบดิ า
ทง้ั พระมารดาของภูเบศ จบบาทเหนอื เกศเกศา
พระเสด็จลีลาศยาตรา ออกมาจดั แจงแต่งองค์
ทรงเครอ่ื งประดับสำหรบั กระษัตรยิ ์ พิพัฒน์ไพบูลยส์ ูงสง่
ทรงพระขรรค์ศรสทิ ธิฤ์ ทธิรงค์ เสด็จลงสสู่ ำเภาทอง ฯ
ฯ ๖ คำ เสมอ ฯ
๏ บดั นนั้ ต้นหนคนงานท้งั ผอง
31
เหน็ พระเสด็จลงสำเภาทอง ไดฤ้ กษโ์ หร่ ้องให้ชักใบ
บ้างถอนสมอบ้างยงิ ปืน ครกึ ครืน้ สนน่ั หวนั่ ไหว
เป่าสงั ข์กระทัง่ แตรเซ็งแซ่ไป บดั ใจเคล่อื นสำเภาทองมา ฯ
ฯ ๔ คำ โล้ ลำ ฯ
๏ พระมงกุฎจงึ โบกธงสะบัด พระพายก็พดั มานักหนา
หวั หกยกทา้ ยอยไู่ ปมา เภตราแลน่ เร่อื ยเฉือ่ ยไป
พระชมแตพ่ รรณฝงู ปลา โลมาพ่นนาํ้ อยูไ่ สว
ปลาวาฬวา่ ยเรยี งเคียงกันไป ฉลามโลดไลเ่ คลา้ คลึงกัน
ปลาทกุ ังวา่ ยเรยี งเคียงคู่ แมงดาราหผู าดผัน
กะโหเ้ หรามหี ลายพรรณ ทรงธรรมด์ ูเลน่ จำเริญตา ฯ
ฯ ๖ คำ เชิด ฯ
๏ มาจะกล่าวบทไป ถึงนางกาขาวยกั ษา
อยแู่ ดนพระสมุทรคงคา เป็นทาสาของท้าวเวสสวุ ณั
ต้องสาปลงมาอยชู่ ้านาน รกั ษาชลธารกระแสสรรพ์
ทำอิทธฤิ ทธ์ิไกรใจฉกรรจ์ บัดนั้นก็ผุดข้นึ ทันที ฯ
ฯ ๔ คำ กราวนอก ฯ
๏ เห็นสำเภาทองของมนษุ ย์ ของพระมงกุฎเรอื งศรี
แลลอดสอดดูตามวารี เหน็ พระภูมงี ามโสภา
ยกั ษีมีใจสวาดินกั จะใคร่ไดร้ ว่ มรักเสน่หา
จึงนิมิตบา้ นเมอื งให้โอฬาร์ ท่รี มิ คงคาชลาลัย
ยักษนี ฤิ มติ ตนพลนั ใหเ้ ปน็ สาวสรรแจ่มใส
32
ทรงโฉมประโลมละลานใจ ชายใดไดเ้ ห็นเป็นขวญั ตา ฯ
ฯ ๖ คำ ตระ ชมตลาด ฯ
๏ นงุ่ ผา้ พืน้ แดงแยง่ ทอง ห่มสไบกรองอันเลขา
ทองกรอร่ามงามโสภา ใส่แหวนซ้ายขวาเหน็ นา่ ชม
เจา้ ทอดแขนกรดี เลบ็ เกบ็ มาลา ทำจรติ กริ ยิ าก็งามสม
สะบดั ผ้าหม่ เล่นใหเ้ หน็ นม หวังจะใหช้ ายชมจำเรญิ ตา
ครั้นเห็นเภตราเขา้ มาใกล้ ทำเดนิ ออกไปถวายหนา้
ทำเดนิ ผาดนาดนวยรวยมา ทำเป็นตากผา้ ดว้ ยราวทอง ฯ
ฯ ๖ คำ ฉยุ ฉาย ฯ
๏ เมื่อนน้ั พระมงกฎุ ฤทธไิ กรไม่มีสอง
สถิตยงั ทา้ ยสำเภาทอง ทอดพระเนตรตามช่องบาหลี
เห็นเป็นบา้ นเมอื งอนั โอฬาร์ นางหนง่ึ ลกั ขณาแจ่มศรี
ตรัสส่งั เสนาไปทนั ที ภูมีให้ทอดสมอลง
พระเสดจ็ ขน้ึ จากเภตรา ลีลาดั่งพญาราชหงส์
พระดำเนินเขา้ ไปให้ใกล้องค์ โฉมยงจึงมีพระวาจา ฯ
ฯ ๖ คำ เพลง ฯ
๏ น้องเจา้ พ่ี มารศรผี ูย้ อดเสน่หา
บ้านเมืองประเสรฐิ โอฬาร์ ไพร่ฟา้ ผคู้ นจงึ ไมม่ ี ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมือ่ น้ัน นางยกั ษ์ทำจรติ บดิ ผนั หนี
นางจึงทำตอบไปทนั ที พระพันปปี ระสงค์สง่ิ อันไร
33
ขา้ นเี้ ปน็ คนกำพรา้ อยู่ หารทู้ ี่จะบอกออกมาได้
ขอเชญิ พระองค์เร่งถอยไป อยา่ กันน้องไว้จะไคลคลา
วา่ พลางทางทำบทจร ทอดกรกรดี กรายทง้ั ซ้ายขวา
ดูเอาอาจอุกรกุ เขา้ มา ทำยดุ ฉุดครา่ น่าอายใจ ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ น้องรกั จำนงลักษณ์จักดว่ นไปไหน
จะถามความสักหนอ่ ยจึงคอ่ ยไป มีธุระโตใหญ่มาติดตาม
เจา้ รู้จักผมหอมบา้ งฤๅไม่ จงบอกพี่ไปอย่าเกรงขาม
พ่ขี ส่ี ำเภามาติดตาม โฉมงามนแ้ี ลว้ กระมังนา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ ฟงั ถาม นางแกลง้ แต่งความหรรษา
ถามถึงผมหอมนา่ เวทนา ข้าเจา้ น้ีแหละขาจะทำไม
บอกแลว้ ทำชะม้ายชายหนี ทำทจี ะใหส้ งสยั
เลี้ยวลอดหลกี เข้าทวารไชย หวงั จะให้พระองคเ์ จา้ ตามมา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้น พระพไิ ชยมงกุฎเรง่ หรรษา
ไมร่ ูเ้ ลห่ ์กลมารยา พระเดนิ ตามเขา้ มาถงึ หอ้ งใน
เห็นนางน่ังอยู่บนแท่นทอง พระเจ้าคอ่ ยยอ่ งเข้านั่งใกล้
จึงถามนวลนางทรามวัย เหตไุ รมาอยแู่ ต่ผู้เดยี ว
อตสา่ หต์ ิดตามเจา้ งามมา ฝา่ ข้ามคงคาแมน่ ้ําเขียว
มาพบโฉมงามทรามเปลย่ี ว เหลียวพกั ตรส์ กั หน่อยจะขอลา ฯ
34
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ ดเู อา อาจอกุ รกุ เขา้ มาหา
จนกระทัง่ ถงึ ในที่ไสยา เนอ้ื ความจะวา่ ต่อกัน
มิหนำซ้ำยึดสไบหม่ เลียมลองตอ้ งนมเป็นขอ้ ขนั
มาทำขม่ เหงไมเ่ กรงกัน ทำเล่นเช่นนนั้ ไมใ่ ห้ไป ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เหนือเกลา้ ทน่ี ้ตี ้องเกาะกมุ ไว้
จะปรับไหมมากนอ้ ยสกั เท่าใด เปน็ ไรเปน็ กันในวันนี้
วา่ พลางยอกรเกี่ยวกระหวัด รงึ รัดลูบโลมนางโฉมศรี
กามาเดอื ดดิ้นท้ังอินทรีย์ สองศรสี สู่ มภิรมยใ์ น ฯ
ฯ ๔ คำ โลม ตระ ฯ
๏ เมอ่ื นนั้ พระพไิ ชยมงกฎุ ฤทธิไกร
สมส่อู ยดู่ ว้ ยอรไท ไดห้ ลายราตรีนานมา
เกศาท่ีหอมขจรกลิ่น กห็ ายไปหมดส้ินเร่งกังขา
เปดิ ผอบดผู มที่เอามา กลน่ิ ฟุ้งโอฬาร์ขจรใจ
ทัง้ กลนิ่ ก็ผดิ กันนกั หนา หรอื จะเปน็ ยักษาเร่งสงสยั
พระเจา้ เปา่ มนต์สะกดไว้ เสดจ็ ไปสำเภาใช้ใบมา ฯ
ฯ ๖ คำ เชิด ฯ
๏ แลน่ มา ถึงแดนปักษาท่ีหาดใหญ่
เหน็ สำเภาหา้ รอ้ ยเรยี งกันไป ประหลาดใจไม่เหน็ หมูโ่ ยธา
สั่งให้ทอดสมอลงทันที ที่นช้ี อบกลเป็นนกั หนา
35
เหมอื นคำที่ลอยผอบมา สง่ั ทหารโยธาไปทันใด
ให้เทีย่ วคน้ ดูทุกเภตรา ใหร้ ้กู จิ จาเป็นไฉน
เหตไุ รจึงเงียบสงัดไป ถามไถ่ใหแ้ จง้ กิจจา ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ บัดนั้น อำมาตยร์ ับส่งั ใสเ่ กศา
เรง่ รัดทหารโยธา เทยี่ วค้นเภตราทันใด ฯ
ฯ ๒ คำ เชดิ ฯ
๏ เหน็ แตก่ ระดกู กองก่าย มากมายกว่าหมื่นอสงไขย
จะเป็นโจรปล้นก็ผดิ ไป เหตุไรขา้ วของเต็มเภตรา
ผดิ แล้วชาวเราอย่าไวใ้ จ ดีร้ายบรรลัยดว้ ยยกั ษา
ชวนกนั มาทลู พระราชา เห็นผิดนักหนาพระภูวไนย
เห็นแต่กระดกู นั้นเกล่อื นกล่น จะเหลอื สกั คนก็หาไม่
สิง่ ของทลี่ ำสำเภาไซร้ เต็มอดั ยัดไปทกุ เภตรา
ขอทราบพระองคผ์ ทู้ รงไชย แม่นแทแ้ นใ่ จเปน็ ยักษา
สำเภาหา้ รอ้ ยยงั มรณา เรานอ้ ยตัวนกั หนาพระพันปี ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ เมื่อนนั้ พระมงกฎุ ยิ้มแยม้ แจม่ ศรี
จะกลวั มนั ไยกับไพรี จะตอ่ ฤทธไี ม่ขามใจ
มนั มาสักเท่าไรเราจะสู้ หาไดร้ อ้ นถึงหมู่โยธาไม่
สงบอยูด่ ทู ปี ระการใด จะรูแ้ จ้งใจในท่วงที ฯ
ฯ ๔ คำ เจรจา ฯ
36
๏ เมอ่ื น้นั นวลนางพกิ ลุ ทองโฉมศรี
อยใู่ นหอ้ งทพิ รจู ี เทวีตัง้ คอยทกุ เวลา
ไดย้ ินสำเนยี งเสียงร้ีพล นิฤมลยินดเี ปน็ นกั หนา
มาจอดทอดอยู่รมิ เภตรา จะว่าตา่ งภาษาก็ผิดไป
ฤๅจะเปน็ ทไ่ี ดผ้ อบทอง จะมาปกเกล้าน้องฤๅไฉน
จะเป็นเสยี งจนี จามก็ผดิ ไป น่าจะเป็นพวกไทยเภตรา
ออกมาเยี่ยมตามชอ่ งมองดู จะร้แู หง่ อย่างไรจะไปหา
อดสูดูร้ายพน้ ปัญญา เปน็ หญงิ แบกหน้าไปหาชาย
เกดิ มายงั ไมเ่ คยแกต่ ัวเลย เอย๋ คิดมาน่าใจหาย
ครัน้ จะนิ่งอยกู่ ็สู้ตาย โฉมฉายหักใจแล้วไคลคลา ฯ
ฯ ๑๐ คำ เพลง โอ้ ฯ
๏ กราบลงท่ตี รงหน้าฉาน เยาวมาลยค์ ลอเนตรทง้ั ซ้ายขวา
ซบพักตร์ลงทรงโศกา พกิ ุลทองตกมาเรี่ยรายไป ฯ
ฯ ๒ คำ โอด ฯ
๏ เมอื่ นน้ั พระพไิ ชยมงกฎุ เรง่ ผอ่ งใส
กลิน่ ผมหอมฟุง้ จรุงใจ ท้าวไทเพง่ พศิ วนดิ า
ยกเตา้ พระสุคนธม์ าลบู พักตร์ นงลกั ษณค์ ลายแสนเสน่หา
เห็นนางได้สมประดมี า พระปราศรัยแกว้ ตายาใจ
เกิดเหตไุ ฉนนอ้ งเจ้าพี่ พวกพลทงั้ น้ีมว้ ยตักษยั
พากันมาแต่เมอื งใด เหตกุ ารณ์เป็นไฉนเจ้าพอ่ี า ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
37
๏ เมอื่ นัน้ โฉมนางพกิ ลุ ทองไมก่ งั ขา
เดมิ ทีแรง้ ยักษศ์ กั ดา ไปอย่กู ับยายตาถงึ กรุงไกร
แกล้งทำตะพานทองไปขอขา้ พระบิดาไม่รจู้ ึงยกให้
มันบอกว่าเป็นบุตรเจ้ากรงุ ไกร พรัดพลไปในพนาลี
พระบดิ าจงึ แต่งสำเภาให้ มาจอดไว้มันกนิ เสยี เปน็ ผี
ตัวขา้ ยา่ นางช่วยปรานี ชวี จี ึงไดร้ อดมรณา
โปรดเกลา้ เกศาพาไปสง่ ถึงองค์พระผู้เกิดเกศา
แมน้ ไปถึงกรุงพระพารา จะปรารถนาส่งิ ใดไม่คิดตัว ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ เม่ือนนั้ พระมงกฎุ ได้ฟังกย็ ้ิมหัว
วาจาเสงย่ี มเจยี มตวั ความคิดเจ้าชวั่ ไปเมอ่ื ไร
พีเ่ พียรพยายามมาตามนอ้ ง เพราะไดผ้ อบทองผ่องใส
ถึงเงินทองกองโกยสกั เทา่ ไร พพ่ี อหาได้เปน็ ไรมี
อันตามดอกฟ้าหายอดยาก สดุ แสนลำบากนะโฉมศรี
ถงึ เพชรมรกตทอี่ ย่างดี ทีม่ ีราคาคา่ ควรเมอื ง
พ่ีมาตามแกว้ วิเชยี รได้ ดงั ฤๅจะให้พป่ี ลดเปล้ือง
พี่จะพาเจา้ ไปเป็นศรเี มือง ใหร้ งุ่ เรืองเฟอื่ งฟุ้งในนคั รา
วา่ พลางเล้าโลมโฉมสวาดิ แอบอิงพงิ พาดเสนห่ า
ถอยหนพี ไี่ ยนะแกว้ ตา ฤๅวา่ กัลยาไมป่ รานี ฯ
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ โปรดเกลา้ พระเจ้าจงโปรดเกศี
38
พระองคจ์ งไดป้ รานี ใชท่ ีจ่ ะพ้นไปเมื่อไร
ขอพระองค์จงฆ่าอา้ ยปักษา ใหม้ ้วยมรณาเสียให้ได้
เสร็จแล้วข้าน้อยจะยอมไป ท้าวไทจงทรงพระเมตตา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เจ้าพ่ี บัดนอี้ ยไู่ หนอ้ายปักษา
สักเวลาไรมันจะมา แกว้ ตาจงบอกให้แจ้งใจ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ พระภมู ี วันนี้มนั จะมาหาช้าไม่
เจด็ วนั มาเยยี่ มทกุ คราวไป เคยได้กินคนอย่อู ตั รา ฯ
ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ
๏ เมือ่ น้นั พญาแรง้ ราชปกั ษา
ครั้นถว้ นเจ็ดวันก็ไคลคลา จงึ พาบริวารบนิ ไป
ออกจากเขานิลกาฬา บดบงั สรุ ยิ าแสงใส
สรุ เสียงครืนครั่นสน่นั ไป มืดคลมุ้ กลมุ้ ในธรณี ฯ
ฯ ๔ คำ แผละ ฯ
๏ มาถงึ หาดทรายท่เี คยกิน ปกั ษินรอ้ งก้องเสยี งศรี
สำเภาทองของใครลำน้ี คนมมี ากนอ้ ยสกั เท่าไร ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เม่อื นน้ั พระมงกฎุ ยิ้มแย้มแจ่มใส
ยืนหวั สำเภาแล้วตอบไป ถามเราว่าไรอ้ายใจพาล
อนั แรง้ อน่ื ไซร้ไม่เหมือนมงึ ถงึ ตายจึงกนิ เปน็ อาหาร
39
มึงแร้งตายห่าอ้ายสาธารณ์ สามานย์กินคนเสียท้ังเปน็
มงึ เคยไปลวงมากนิ ได้ บัดเดยี๋ วนี้ไซร้จะได้เห็น
มึงจะบรรลัยไมท่ ันเย็น หัวมงึ จะกระเด็นจากกายา ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมอ่ื น้ัน พญาแร้งเคืองขัดเปน็ นักหนา
โผผินบนิ ลงไปด้วยฤทธา กบั หมู่ปกั ษาเขา้ โจมตี
พระมงกุฎรับหวดดว้ ยพระขรรค์ หัวขาดสะบน้ั ลงกับท่ี
ตายกลาดดาษไปในชลธี ดว้ ยฤทธ์จิ กั รอี นั เกรยี งไกร ฯ
ฯ ๔ คำ เชดิ ฯ
๏ เม่อื นั้น พระมงกฎุ ฤทธ์ลิ ํา้ สรุ ิย์ใส
ครน้ั ฆา่ พญาแรง้ บรรลยั ให้เกณฑค์ นลงใสเ่ ภตรา
สำเภาห้าร้อยกช็ ักใบ เคล่อื นคลาออกไปจากทา่
แลน่ ตามสำเภาทองมา ด้วยเดชบุญญาพระภูมี ฯ
ฯ ๔ คำ เชิด ฯ
๏ มาถงึ ยั งเมอื งพระมงกุฎกรุงศรี
สำเภาทองทอดทา่ ทันที พาโฉมเทวขี ้นึ เฝ้าพลัน ฯ
ฯ ๒ คำ เพลง ฯ
๏ มาถึงจึงตง้ั บงั คมบาท บิตรุ าชมารดาเกษมสันต์
โฉมนางพิกุลทองดวงจนั ทร์ ถวายอัญชุลภี ูวไนย ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ฝา่ ยโฉมสุพรรณมารดา สวมกอดลกู ยาพสิ มัย
40
บดิ ามารดาปรารมภ์ใจ อาลัยไปถึงพระลกู ยา
แลว้ ตรัสชมโฉมศรีสะใภ้ สมกันกระไรเป็นนกั หนา
พ่อจะใหห้ าฤกษ์เวลา ทำขวญั ลูกยาทั้งสองไท
ลกู รักเจา้ ไปเหนื่อยมา เชิญไปปรางค์ปราสุกใส
พ่อจะจัดใหห้ าฤกษไ์ ชย ทจ่ี ะได้สมโภชพระลูกยา ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เม่อื นัน้ พระพิไชยมงกฎุ เร่งหรรษา
ชวนโฉมพกิ ลุ ทองกัลยา บงั คมลามายงั ปรางคท์ อง ฯ
ฯ ๒ คำ เสมอ ฯ
๏ สมสนิทพสิ มยั ในไสยาสน์ มไิ ดค้ ลาดชื่นชมภิรมยส์ อง
คลึงเคลา้ เย้ายวนนวลละออง ในแท่นทองเปน็ สขุ ทุกนริ ันดร์ ฯ
ฯ ๒ คำ โลม ตระ ฯ
บทท่ี 3
๏ มาจะกล่าวบทไป ถงึ อสรุ ีกาขาวสาวสรร
ครน้ั คลายเวทมนตร์ของทรงธรรม์ นางก็ฟื้นตนื่ พลนั จากนิทรา
เหลยี วไปไม่เห็นพระภมู ี ยกั ษีโศกเศร้าถวิลหา
ทงิ้ เมียเสยี ได้ไม่เมตตา ฤๅว่าเสดจ็ ไปแหง่ ใด
นางยกั ษล์ งไปดเู ภตรา ท้งั สำเภาทอดท่าหาเห็นไม่
ใหร้ อ้ นรนกระวนกระวายใจ จะตามไปให้ถงึ พระบุรี ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
41
๏ คิดแลว้ ฉวยจบั กระบองแก้วของยกั ษี
สำแดงแผลงอทิ ธฤิ ทธี อสรุ เี ร่งตามไปพลนั ฯ
ฯ ๒ คำ กราวใน ฯ
๏ ตามไป ล่วงแดนกรุงไกรเขตขัณฑ์
เยน็ รอนอ่อนแสงสุริยนั ถงึ ขอบขณั ฑ์พระมงกฎุ กรงุ ไกร
จะลอบเข้าไปในพารา ขอบขัณฑเสมาไม่เขา้ ได้
จะคอยอยู่ให้พบพระภูวไนย จึงจะปลอมเข้าไปในบรุ ี ฯ
ฯ ๔ คำ ตระ ฯ
๏ เม่ือนนั้ นวลนางพิกุลทองโฉมศรี
สมสู่อยูด่ ้วยพระภมู ี เป็นขา้ หลายปนี านมา
มบี ตุ รคนหนึง่ ช่ือเจา้ รกั งามสุดทรงศกั ดเ์ิ สนห่ า
เย็นเช้าขนึ้ เฝา้ พระบิดา พระชนั ษาเจ้าไดเ้ จ็ดปี
ยังอยู่ในครรภน์ างกัลยา ถ้วนทศมาสานางโฉมศรี
เจบ็ ครรภป์ ระชวรพระนาภี เทวจี ะคลอดพระลูกยา
เถ้าแก่ชาวแม่พระกำนลั หอ้ มลอ้ มแจ่มจนั ทร์อยพู่ รอ้ มหนา้
บ้างขน้ึ ไปทลู พระบดิ า บอกว่าประชวรพระนาภี ฯ
ฯ ๘ คำ เชิด ฯ
๏ ขอเชญิ สมเดจ็ พระมารดา ทั้งพระอยั กาเรืองศรี
เชิญเสด็จลงไปในบดั น้ี เทวจี ะคลอดพระบตุ รา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมอื่ นั้น พระบติ ุรงคต์ กใจเปน็ นกั หนา
42
ทงั้ องค์สุพรรณผมู้ ารดา ก็เสดจ็ ลลี าทันใด ฯ
ฯ ๒ คำ เชดิ ฯ
๏ คร้ันถงึ เฝ้าประคองพระลูกยา เจา้ อย่าโศกากนั แสงไห้
แมอ่ ยา่ ท้อแท้จงแข็งใจ มใิ ช่จะเปน็ อะไรมี
ใหห้ มอตำแยเข้าแปรผัน ลบู ท้องตอ้ งครรภ์นางโฉมศรี
ครัน้ ได้ฤกษ์งามยามดี เทวีก็ประสตู ิพระลกู ยา ฯ
ฯ ๔ คำ มโหรี ฯ
๏ เป็นชายโสภาแนง่ นอ้ ย ทรงโฉมแชม่ ช้อยเสนห่ า
รปู ทรงเหมอื นองคพ์ ระบิดา พระเจ้ายา่ เขา้ รบั ใส่พานทอง
ใหจ้ ดั นางนมพีเ่ ลี้ยง ถนอมพรอ้ มเพรียงอยทู่ ั้งผอง
ถวายนามตามวงศ์กนั พนี่ ้อง ท่สี องชอ่ื พระยมกมุ าร
สำเรจ็ เสร็จพลนั ทนั ใด ตา่ งองค์ต่างไปราชฐาน
รักษาเลยี้ งดูพระกมุ าร อยู่จำเนยี รกาลนานมา ฯ
ฯ ๖ คำ เชิด ฯ
๏ เมอ่ื นัน้ นางพิกลุ ทองเสนห่ า
เมื่อจะพรากพรัดพระภสั ดา เวราแต่หลงั มาตามทัน
จะใครไ่ ปเล่นท่งุ ป่า ชมดอกบษุ บากระเษมสนั ต์
โฉมนางจงึ ทูลพระทรงธรรม์ เมยี ขวัญน้ีไม่สบายใจ
ขอเชญิ สมเด็จพระภูบาล ไปเล่นทงุ่ ชลธารใหแ้ จม่ ใส
ชมบษุ ย์บวั บานตระการใจ กับกุมารชาญชัยให้เปรมปรา ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
43
๏ เมอื่ นั้น พระมงกุฎฟังน้องเสนห่ า
เจา้ ไมส่ ำราญวิญญาณ์ ตัวพีจ่ ะพาคลาไคล
ว่าแล้วพระเสด็จออกมา ตรสั ส่งั เสนาน้อยใหญ่
เตรียมเรอื พระทนี่ ่ังจงเร็วไว เราจะไปประพาสชลธี
ขา้ งน้าํ ข้างในจะไปมงั่ จัดแจงเรือดัง้ หลังคาศรี
สง่ั เสร็จแลว้ พลันทันที ภมู เี สดจ็ เขา้ มา
ทรงเครอื่ งประดับเสรจ็ แล้ว ชวนโฉมน้องแกว้ เสน่หา
กบั องคล์ กู รกั ท้ังสองรา นักสนมซ้ายขวากต็ ามไป[๑] ฯ
ฯ ๘ คำ เสมอ ฯ
๏ ฝีพายโยนยาวมี่ฉาวมา กระทุ้งเสาโหล่ นั่ สนั่นไหว
ลดั ท่งุ มาตามชลาลัย เรอื ดั้งตั้งไลพ่ ายสุ่มมา ฯ
ฯ ๒ คำ ชมตลาด ฯ
๏ เข้าทงุ่ ชมบษุ ยบ์ วั บัน บัวเผอื่ นบัวผนั สนั ตะวา
สัตตบษุ ย์บวั ขาวแยม้ ผกา ตมู บานระย้าระยับไป
ดอกอบุ ลจงกลนี สารพันจะมีอยูไ่ สว
บัวหลวงผุดสะพร่ังบังใบ ดอกฝกั รายไปในนทั ี
ฝ่ายฝงู นางในดใี จนกั ชิงกันเดด็ หักอย่อู งึ ม่ี
บัวขมสนั ตะวาในนัที ทใ่ี กลว้ ารีเก็บเอามา
บา้ งถอนสาหร่ายสายโตนดลงิ โลดใจ นางในชื่นชมหรรษา
โฉมพิกุลทองก็เปรมปรา สาวสรรกัลยาก็ยินดี ฯ
ฯ ๘ คำ ร่าย ฯ
44
๏ เม่ือนั้น กาขาวอสุรยี กั ษา
ร้ขู ่าวว่าองคพ์ ระภูมี พาองค์มเหสีเสดจ็ มา
นางยกั ษ์ชืน่ ชมภริ มยใ์ จ เหน็ จะไดด้ ังความปรารถนา
ออกจากสมุ ทมุ พมุ่ ปา่ เล็ดลอดสอดมาในนัที ฯ
ฯ ๔ คำ ตระ ร่าย ฯ
๏ คร้ันมาถงึ ใกล้ แอบไมเ้ หน็ องคพ์ ระโฉมศรี
พศิ ดูทั้งองคน์ างเทวี อสรุ พี ิศดไู มว่ างตา
จึงนิมิตดอกบัวอนั ใหญย่ ิ่ง งามพรง้ิ วไิ ลอันเลขา
ซ่อนตัวอยูใ่ นพระคงคา ผดุ เคยี งนาวาฝีพายไป ฯ
ฯ ๔ คำ ตระ รา่ ย ฯ
๏ เมือ่ น้ัน นางพิกุลทองผอ่ งใส
เมอ่ื กรรมจะถงึ นางทรามวยั เดินไปทร่ี มิ พนาลี
เห็นดอกบวั บานตระการใจ ไม่ร้วู ่ากลของยักษี
จึงย่นื หตั ถไ์ ปเด็ดเอาทันที อสรุ ีกฉ็ ดุ ลงในคงคา
ตีแลว้ สาปด้วยเวทของยักษี ให้มึงเปน็ ชะนีไปอยู่ปา่
ต่อได้เลือดกมู าทา กายาจึงจะคืนสมประดี
นิมติ ตัวใหมเ่ หมือนนางกลั ยา แลว้ ผุดขึ้นนาวารอ้ งองึ ม่ี
จงช่วยเมยี ด้วยพระพันปี แตง่ กิรยิ าพาทีใหเ้ ชือ่ ใจ
พระมงกุฎชว่ ยฉดุ ข้ึนนาวา จะรกู้ ลมารยากห็ าไม่
สำคญั วา่ องค์นางทรามวยั ตระหนกตกใจไม่เป็นสมประดี ฯ
ฯ ๑๐ คำ รา่ ย ฯ
45
๏ เมื่อน้นั โฉมนางพกิ ลุ ทองเรง่ หมองศรี
ครนั้ ต้องเวทอสุรี กลายเปน็ ชะนีทนั ใด
ข้นึ เลียบอยรู่ มิ ฝัง่ พระคงคา ติดตามลกู ยาพิสมยั
ความแสนพศิ วาสจะขาดใจ ชลเนตรลามไหลตามเรือมา ฯ
ฯ ๔ คำ โอด ร่าย ฯ
๏ เมือ่ น้ัน นวลนางอสรุ กี ห็ รรษา
ทำรบั พระกมุ ารน้อยมา เสวยนมมารดาพ่อยาใจ
เจ้าพิศดูนมพระมารดา เหมน็ สาบยกั ษาไมก่ ินได้
ร้องไหก้ ันแสงดน้ิ รนไป โผมาหาองคพ์ ระพีย่ า ฯ
ฯ ๔ คำ รา่ ย ฯ
๏ เมอ่ื นั้น เจา้ รกั ขัดใจเป็นนักหนา
เข้าชิงเอาองค์พระนอ้ งมา นี่เป็นมารดาขา้ เม่อื ไร
ปลอบน้องน่งิ เถิดอยา่ โศกา ชลนาแถวถั่งหลง่ั ไหล
ฟงั พ่ีเถดิ นอ้ งอย่าร้องไป กรรมเราชอื่ ไรไดท้ ำมา
นางยักษเ์ จ้าทำเป็นขัดใจ มิให้ภูวไนยเจา้ กงั ขา
วา่ ดูเอาเถดิ พระราชา ไม่เสวยนมขา้ แลว้ โศกี ฯ
ฯ ๖ คำ รา่ ย ฯ
๏ เมอื่ นน้ั พระมงกฎุ โกรธลูกทงั้ สองศรี
สำคัญว่าองค์นางเทวี ภมู ีกริ้วโกรธพโิ รธใจ
เปน็ ไรเจา้ รกั ชิงนอ้ งยม มิใหเ้ สวยนมนีว้ ่าไร
46
มึงว่าแม่มงึ อยู่ทีไ่ หน ลูกอบุ าทวจ์ ังไรขายบาทา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมอ่ื น้ัน เจ้ารกั กราบทูลพระบิดา
นางนมี้ ิใชเ่ ปน็ แมข่ า้ นอ้ งยาผิดกล่ินสะอน้ื อ้อน
ผดิ เนอื้ ผดิ นมพระมารดร เจา้ ยมจงึ ออ้ นถวลิ หา[๓]
ขา้ เหน็ มใิ ช่พระมารดา บดิ าจงทราบในพระทัย
เหลือบเห็นชนนีเลยี บริมน้ำ เรียกพลางทางรำ่ สะอ้นื ไห้
โน่นแน่มารดาของขา้ ไซร้ ตามรอ้ งไห้มารมิ คงคา
แมเ่ จา้ ประคณุ ของลูกแก้ว ใ จลกู จะขาดแล้วไมเ่ ห็นหนา้
มารับลกู ดว้ ยพระมารดา น้องข้าอยากนมเป็นเหลอื ใจ ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ ฟงั ลกู ว่า พระราชาเคืองขดั อชั ฌาสัย
นอ่ี บี ัดสชี ะนไี พร ไปเรยี กวา่ เปน็ พระมารดา
พระองคก์ ริว้ โกรธพโิ รธใจ ลกู ชัว่ จังไรขายหน้า
ใหฝ้ ีพายวาดเรอื จงเร็วรา ส่งอา้ ยสองราใหส้ าใจ
ครน้ั เรือประทับกบั หน้าท่า ขับลกู สองราไมช่ า้ ได้
เป็นกรรมของนางได้สร้างไว้ กม็ ิได้พินิจพิศดู
ขบั ลกู เสียแลว้ ออกเรอื ไป ท้าวไทอัปยศอดสู
กระทบื เรือพระที่น่งั ไมย่ ัง้ ดู โฉมตรเู รง่ ฝีพายเข้าวงั ใน ฯ
ฯ ๘ คำ เชิด โอ้ ฯ
๏ เม่ือน้นั เจา้ รักอมุ้ น้องเดินร้องไห้