The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวอลเลย์บอล ม.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ศรัณย์ ไชยทองศรี, 2022-07-07 08:33:47

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวอลเลย์บอล ม.2

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวอลเลย์บอล ม.2

แผนการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 (วิชาพลศึกษา) พ22102

ปีการศกึ ษา 2565

โดย
นายศรัณย์ ไชยทองศรี

ตาแหนง่ ครู คศ.1

โรงเรียนนาแกพิทยาคม
สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษานครพนม

กระทรวงศึกษาธิการ

โครงสร้างการสอน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2
กล่มุ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รหสั วิชา พ 22102
จานวนเวลา 20 ชวั่ โมง
รายวิชา พลศึกษา
จานวน 0.5 หนว่ ยกิต

สัปดาห์ ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ สาระสาคญั / เวลา
ความคิดรวบยอด (ชวั่ โมง)
ท่ี มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด ปฐมนิเทศ/ทำข้อตกลงรว่ มกนั
1
1 ความรู้เก่ียวกับกฬี าวอลเลย์บอล ประวตั คิ วามเปน็ มากฬี าวอลเลยบ์ อล 1
1
พ 3.1 2/4 รว่ มกจิ กรรมนนั ทนาการอย่างน้อย 1 การบรหิ ารรา่ งกายและการเสรมิ สร้าง
สมรรถภาพ 1
กิจกรรม และนาความรแู้ ละหลกั การทไ่ี ด้ไปปรบั ใช้ใน
การสร้างความคุ้นเคยกับลกู 1
ชวี ติ ประจาวัน วอลเลย์บอล
3
2 ความรเู้ ก่ียวกับกีฬาวอลเลยบ์ อล การยืนเตรยี มพร้อมและการเคลอ่ื นที่

พ 3.1 2/4 ร่วมกิจกรรมนันทนาการอยา่ งนอ้ ย 1 การเล่นลูกบอลดว้ ยมอื ล่าง
แบบท่ี 1 (การอันเดอร)์
กิจกรรม และนาความรู้และหลกั การที่ได้ไปปรบั ใช้ใน

ชีวิตประจาวัน

3 ทกั ษะการเลน่ วอลเลยบ์ อล

พ 3.1 ม2/4 ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย ๑

กิจกรรม และนาความรู้และหลักการท่ีไดไ้ ปปรบั ใช้ใน

ชีวิตประจาวันอย่างเป็นระบบ

พ 3.2 ม2/3 มีวินัย ปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา

4 ทกั ษะการเล่นวอลเลย์บอล

พ3.1 ม2/3 ประสทิ ธภิ าพของรปู แบบการเคลื่อนไหวที่

สง่ ผลต่อการเล่นกฬี าและกจิ กรรมในชวี ิตประจาวัน

ม2/4 ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ งน้อย 1 กจิ กรรม

และนาความรู้และหลักการทไ่ี ดไ้ ปปรับใช้ใน

ชวี ติ ประจาวันอยา่ งเปน็ ระบบ

พ 3.2 ม2/3 มีวนิ ยั ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกา

5 ทกั ษะการเลน่ วอลเลย์บอล

พ3.1 ม2/3 ประสทิ ธภิ าพของรปู แบบการเคลอื่ นไหวท่ี

ส่งผลต่อการเล่นกฬี าและกิจกรรมในชีวติ ประจาวนั

ม2/4 รว่ มกจิ กรรมนนั ทนาการอยา่ งน้อย 1 กจิ กรรม

และนาความรูแ้ ละหลกั การทไ่ี ด้ไปปรับใชใ้ น

ชีวิตประจาวนั อยา่ งเป็นระบบ

พ 3.2 ม2/3 มวี ินัย ปฏิบตั ติ ามกฎ กตกิ า

6-8 ทักษะการเลน่ วอลเลย์บอล

พ 3.1 ม2/4 รว่ มกิจกรรมนนั ทนาการอย่างนอ้ ย 1

กิจกรรม และนาความรแู้ ละหลกั การทไ่ี ดไ้ ปปรับใช้ใน

ชวี ติ ประจาวันอยา่ งเป็นระบบ

พ 3.2 ม2/3 มวี ินยั ปฏบิ ัตติ ามกฎ กตกิ า

9-10 ทกั ษะการเล่นวอลเลยบ์ อล การเลน่ ลูกบอลด้วยมือลา่ ง 2
2
พ 3.1 ม2/4 ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการอย่างน้อย 1 แบบท่ี 2 (การอนั เดอร์) 3
2
กิจกรรม และนาความรแู้ ละหลักการที่ไดไ้ ปปรบั ใชใ้ น 1
2
ชวี ติ ประจาวนั อยา่ งเปน็ ระบบ

พ 3.2 ม2/3 มวี นิ ยั ปฏิบัติตามกฎ กติกา

11-12 ทักษะการเลน่ วอลเลยบ์ อล การเล่นลกู บอลด้วยมอื ล่างแบบท่ี 3

พ 3.1 ม2/4 ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการอย่างนอ้ ย 1 ( โตค้ ู่ )

กจิ กรรม และนาความรู้และหลกั การที่ไดไ้ ปปรบั ใชใ้ น

ชีวติ ประจาวันอย่างเปน็ ระบบ

พ 3.2 ม2/3 มวี ินยั ปฏิบัตติ ามกฎ กตกิ า

13-15 ทกั ษะการเลน่ วอลเลย์บอล การเลน่ ลกู บอลดว้ ยมือบน แบบที่ 3

พ 3.1 ม2/4 ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ งน้อย 1

กจิ กรรม และนาความรูแ้ ละหลักการที่ได้ไปปรับใช้ใน

ชวี ติ ประจาวนั อยา่ งเปน็ ระบบ

พ 3.2 ม2/3 มีวินยั ปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า

16-17 ทกั ษะการเลน่ วอลเลยบ์ อล การเล่นลกู บอลดว้ ยมอื บน แบบที่ 2

พ 3.1 ม2/4 รว่ มกจิ กรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย 1

กิจกรรม และนาความรแู้ ละหลักการทไ่ี ด้ไปปรับใชใ้ น

ชีวติ ประจาวนั อยา่ งเปน็ ระบบ

พ 3.2 ม2/3 มวี ินัย ปฏิบัติตามกฎ กตกิ า

18 ทักษะการเลน่ วอลเลย์บอล การเลน่ ลกู บอลดว้ ยมือลา่ ง ข้ามตาขา่ ย

พ 3.1 ม2/4 รว่ มกจิ กรรมนนั ทนาการอยา่ งน้อย 1 (การเสริ ฟ์ )

กจิ กรรม และนาความรู้และหลักการทไ่ี ดไ้ ปปรบั ใชใ้ น

ชวี ิตประจาวันอย่างเป็นระบบ

พ 3.2 ม2/3 มีวินยั ปฏิบตั ติ ามกฎ กตกิ า

19-20 การเคลอื่ นไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กฬี าไทย การแขง่ ขันวอลเลย์บอลเปน็ ชุด

และกีฬาสากล และการทดสอบหลงั เรยี น

พ 3.1 ม2/4 รว่ มกิจกรรมนนั ทนาการอย่างนอ้ ย 1

กิจกรรม และนาความรแู้ ละหลกั การทไ่ี ดไ้ ปปรบั ใช้ใน

ชีวติ ประจาวนั อย่างเปน็ ระบบ

พ 3.2 ม2/3 มวี ินยั ปฏิบัติตามกฎ กติกา

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา พลศึกษา (วอลเลย์บอล) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 ความรู้เกย่ี วกบั กีฬาวอลเลยบ์ อล จานวน 1 ชั่วโมง

เรอื่ ง ประวตั คิ วามเป็นมากฬี าวอลเลยบ์ อล เวลา 1 ชัว่ โมง

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า
มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอ

มวี นิ ัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี าใจนกั กีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และช่ืนชมใน

สนุ ทรยี ภาพของการกีฬา

ตัวชี้วัด
พ 3.1 2/4 ร่วมกิจกรรมนันทนาการอย่างน้อย 1 กิจกรรม และนาความรู้และหลักการท่ีได้ไป

ปรบั ใช้ในชวี ิตประจาวนั

สาระสาคญั
กฬี าวอลเลยบ์ อลเปน็ กีฬาที่ดัดแปลงมาจากกฬี า 3 ชนิด คอื เทนนสิ เบสบอล และแฮนด์บอล เข้า

ด้วยกันทาใหผ้ เู้ ลน่ ต้องมีการเคลื่อนท่ีทีต่ อ้ งอาศัยความสมั พนั ธข์ องระบบประสาทและระบบกล้ามเนือ
ทาให้ผูเ้ ล่นมสี มรรถภาพทางกายทีด่ ีวอลเลย์บอลเปน็ กีฬาประเภททมี ที่ชว่ ยเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่
คณะและฝกึ ความเปน็ ผนู้ าผู้ตามที่ดีสามารถเลน่ ด้วยความสขุ สนกุ สนานเกิดประโยชนต์ ่อตนเองและสังคม

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายประวตั คิ วามเปน็ มาของกฬี าวอลเลย์บอลในประเทศไทยได้
2. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายประวัตคิ วามเปน็ มาของกฬี าวอลเลย์บอลในต่างประเทศได้

3. นกั เรยี นมีทกั ษะเบืองตน้ ในการเล่นวอลเลย์บอล
4. นักเรยี นมที ัศนคตทิ ีด่ ีตอ่ การเล่นวอลเลยบ์ อล

คุณลกั ษณะ
ความมวี นิ ยั

สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

สาระการเรยี นรู้
1. ประวัตขิ องกีฬาวอลเลยบ์ อลในประเทศไทย

2. ประวัติกฬี าวอลเลยบ์ อลในตา่ งประเทศ
กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียน ( 15 นาที )
- ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้และการวัดผล ประเมินผล ให้นักเรียนทราบ ครูแจกใบความรู้เร่ือง
ประวัติความเป็นมากีฬาวอลเลย์บอล สนทนาและซักถามกับนักเรียน เก่ียวกับประสบการณ์ด้านกีฬา

ฟตุ บอลใหน้ ักเรยี นแสดงความคิดเห็น พรอ้ มทังใหเ้ หตผุ ล
- ครูอธบิ ายประวัติความเป็นมาของกฬี าวอลเลย์บอลให้นกั เรียนฟงั พร้อมกับซักถาม

ขนั้ สอน ( 10 นาที )
- แบ่งนักเรียนออกเป็น 6 กลุ่มกลุ่มละเท่าๆกัน ให้แต่ละกลุ่มไปศึกษาเกี่ยวกับประวัติความ

เป็นมาของกีฬาวอลเลย์บอลภายในห้องสมุดแล้วเขียนสรุปลงในกระดาษโดยหาจากส่ือเช่น หนังสือ
ประกอบการเรียน ใบความรู้ หรอื ทาง internet พร้อมตกแต่งให้สวยงาม

- ให้แต่ล่ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอผลงาน
- ใหน้ ักเรยี นดูสือ่ การเล่นลูกวอลเลยบ์ อลทาง อนิ เตอร์เนต็
- ให้นกั เรยี นลงสนาม ทดลองสมั ผัสลูกวอลเลยบ์ อล และฝกึ การ under บอล

ขนั้ สรุป ( 5 นาที )
- ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภิปราย ซัก – ถาม แสดงความคิดเห็นและสรุปความรู้ ความเข้าใจ

เกี่ยวกับประวตั คิ วามเป็นมากฬี าวอลเลยบ์ อล

การวดั และการประเมินผล
ด้านความรู้
- การตอบคาถาม
- การซัก – ถาม
ด้านทกั ษะ
- ความคล่องแคลว่ ความกระตือรอื รน้ ในการทางานท่ีได้รับมอบหมาย
- ทักษะความคล่องตัวในการ under ลกู บอล

สอ่ื การสอน
ส่อื และอุปกรณ์ / แหล่งการเรียนรู้

1. INTERNET
2. หนังสอื ประกอบการเรยี นวิชาวอลเลยบ์ อล
3. ห้องสมดุ

เครือ่ งมอื การประเมนิ ผล
- แบบประเมินพฤติกรรม

บันทึกผลหลังสอน

ผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปัญหา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

(ลงช่อื )………………………………….……ผ้สู อน
(นายศรัณย์ ไชยทองศรี)
ครู

ขอ้ เสนอแนะ,ความคดิ เห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระฯ
..........................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ...........................................................
(นำยจรัญ อนิ ติยะ)

วนั ท่ี............/....................../...............

ข้อเสนอแนะ ความคดิ เห็นของรองผู้อานวยการฝา่ ยวิชาการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.....................................................
(นำยจิรวัฒน์ ปญั ญำรมย์)

วันที่............/......................../...............

ขอ้ เสนอแนะ ความคดิ เห็นของผอู้ านวยการโรงเรียน
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

ลงช่อื ........................................................
(นำยปรำโมทย์ เทพกูล)

วนั ที่............/........................./..................

แบบทดสอบก่อนเรยี น
เร่อื ง กฬี า( วอลเลยบ์ อล )

คาชี้แจง ให้นกั เรียนเขยี นเครือ่ งหมาย X ทบั ตวั อักษรข้อทีถ่ ูกทสี่ ุด

1. กฬี าวอลเลย์บอลใช้ผเู้ ลน่ ฝา่ ยละกี่คน

ก. 4 คน ข. 6 คน

ค. 5 คน ง. 7 คน

2 ผเู้ ลน่ สารองควรปฏบิ ัติตนอยา่ งไร

ก. น่ังอยู่ที่ทีก่ าหนดให้ ข. ยืนบอกผ้เู ล่นขา้ งสนาม

ค. เดนิ สารวจรอบ ๆ สนาม ง. ตงั วงกลมซ้อมด้านหลงั สนาม

3. ผ้ทู ่ีเสิรฟ์ ลกู ควรยืนเสริ ฟ์ อยูต่ รงตาแหน่งใด

ก. หลังเสน้ รกุ ข. หลังเส้นข้างขวา

ค. หลงั เสน้ ข้างซ้าย ง. หลังเส้นดา้ นหลงั

4. ส่งิ ใดท่จี ะทาให้ลูกเปลีย่ นทิศทางได้

ก. มือ ข. เขา่ ตึก

ค. การย่อเข่า ง. การกระโดด

5. ลกู บอลท่ีใช้เสิรฟ์ ลกู มือลา่ งจะอยรู่ ะดบั ใด

ก. อก ข. เอว

ค. เขา่ ง. ท่ีใดกไ็ ด้

6. ในการแข่งขนั ควรเสิร์ฟลูกใหไ้ ปในตาแหนง่ ใด

ก. จุดออ่ น ข. เส้นข้างขา

ค. เส้นขา้ งซา้ ย ง. เสน้ ข้างหลงั

7. การสง่ ลกู จะต้องกระทาภายในเวลาเท่าไร

ก. 5 วนิ าที ข. ๘ วินาที

ค. 25 วินาที ง. 30 วินาที

8. ส่วนใดจะโดดลูกเม่ือเสิร์ฟลูกมือลา่ ง

ก. สันมอื ข. หน้ามอื

ค. หลงั มือ ง. ดา้ นที่อยทู่ างนิวก้อย

9. นกั เรียนควรจะปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร จึงจะสามารถรบั ลกู จากการสง่ ได้ทนั

ก. เคลื่อนเข้าไปหาลูก ข. ยอ่ เข่าเตรียมสปรงิ ตัว

ค. หันตวั ไปในทิศทางที่ลูกมา ง. พยายามใช้สายตามองลูกมาจากทศิ ใด

10. ถา้ คนถนัดมอื ขวาเท้าจะอยูใ่ นลกั ษณะใดในการเสริ ์ฟลูกมือล่าง

ก. เท้าซา้ ยก้าวออกไปขา้ งหน้า ข. เท้าขวากา้ วออกไปขา้ งหนา้

ค.เทา้ เสมอแยกห่างจากกนั ง. เทา้ เสมอและชิดกนั

11. กา้ วเท้าไปขา้ งหน้าแลว้ ก้าวเท้าหลังตามไปชิดเทา้ หน้า จังหวะเดยี วกัน เรยี กว่าอะไร

ก. การสืบกา้ วเทา้ ข. การก้าวสืบเท้า

ค. การสบื เทา้ ตามจงั หวะ ง. การเคลือ่ นท่ีสืบตามจังหวะ

12 ขอ้ ใดเป็นการบงั คบั ลกู บอลให้ลอยอยู่ในอากาศ โดยใช้กาลังแขน

ก. การตงั ลกู ข. การโต้ลกู มอื ลา่ ง

ค. การเลน่ ลกู มือล่าง ง. การรับและสง่ ลูกมอื ล่าง

13. การประสานมอื จะต้องวางมือในลกั ษณะใด

ก. คว่ามือซอ้ นกัน ข. หงายมือซ้อนกนั

ค. ตะแคงมือให้ฝ่ามือเข้าหาตวั ง. ตะแคงมือให้ฝ่ามอื ออกนอกตวั

14. การส่งลกู เรม่ิ เล่นเกม ไม่ควร ใช้ส่วนใดส่งลูกบอล

ก. อุ้งมือ ข. ขอ้ มอื

ค. สนั มอื ง. กาหมัด

15. การรบั ส่งลูกไปมาหลาย ๆ ครงั เรียกว่าอะไร

ก. การตีลูก ข. การโต้ลกู

ค. การตังลูก ง. การตบลกู

16. ขอ้ ใดเป็นการแตะชูลกู สองมอื บนให้ลอยในอากาศระหวา่ งคนสองคน

ก. การตงั ลูก ข. การเลยี งลกู

ค. การรับส่งลูก ง. การเลน่ ลูกข้ามตาข่าย

17. ผูเ้ ลน่ กฬี าวอลเลยบ์ อลแดนหลังมีกีค่ น

ก. 2 คน ข. 3 คน

ค. 6 คน ง. 11 คน

18. การโตล้ ูกไม่ข้ามตาข่าย ผู้อื่นในทมี จะชว่ ยโตต้ ่อไปไดค้ นละกี่ครงั

ก. 1 ครัง ข. 2 ครงั

ค. 3 ครัง ง. 1 หรือ 2 หรอื 3 ครงั

19. ฝ่ายสง่ ลูกบอลจะไดค้ ะแนนเม่ือใด

ก. ฝ่ายตรงข้ามโต้ไม่ได้ ข. ฝา่ ยตรงขา้ มรับลูกได้

ค. ฝ่ายตรงข้ามออกนอกเขต ง. ฝ่ายตรงขา้ มเลน่ ผดิ กตกิ า

20. การแขง่ ขนั วอลเลยบ์ อล ฝา่ ยชนะต้องได้กค่ี ะแนนกอ่ น

ก. 10 คะแนน ข. 15 คะแนน

ค. 20 คะแนน ง. 25 คะแนน

ประเดน็ นา้ หนัก/ 4 ระดับคุณภาพ 1
การ คะแนน 32

ประเมิน 30 มีการอธบิ าย การ มีการอธิบาย การ มีการอธบิ าย การ ไมม่ กี ารซักถาม
ดา้ น
ความรู้ ซกั ถาม การตอบ ซกั ถาม การตอบ ซักถาม การตอบ และตอบคาถาม

ดา้ นเจต คาถาม ได้ครบตาม คาถาม ตาม คาถาม ไดบ้ างขอ้ ไม่ได้
คติ
หวั ขอ้ ทก่ี าหนด หวั ข้อท่ีกาหนด
ด้าน
ทกั ษะ 30 มีนาใจในการเล่นและ มีนาใจในการเล่น มีนาใจในการเล่น ไม่มนี าใจในการเลน่

มคี วามสนกุ สนาน มี และมคี วาม น้อย และมคี วาม

การให้ความชว่ ยเหลือ สนกุ สนาน สนกุ สนาน

กนั และ

40 มคี วามกระตอื รอื รน้ ใน มคี วาม ขาดความ ขาดความ

การทางานที่ได้รบั กระตือรือร้นใน กระตือรอื ร้นใน กระตอื รือร้นในการ

มอบหมาย และขยนั การทางานที่ การทางานทไี่ ด้รบั ทางานทไ่ี ดร้ บั

ฝึกซอ้ ม ไดร้ ับมอบหมาย มอบหมาย และ มอบหมาย และขาด

บา้ งและขยัน ขยนั ฝึกซ้อม ความขยนั ฝึกซ้อม

ฝึกซอ้ ม

เกณฑ์การประเมนิ 4 ผลการประเมิน ดีมาก
ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 ผลการประเมิน ดี
ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ผลการประเมิน พอใช้
ไดร้ ะดับคุณภาพ
ไดร้ ะดบั คุณภาพ 1 ผลการประเมิน ปรับปรงุ

เกณฑ์การผา่ น ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 4 (ผา่ น)
ไดค้ ะแนน 80-100 ได้ระดับคณุ ภาพ 3 (ผา่ น)
ได้คะแนะ 70-79
ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 (ผา่ น)
ได้คะแนน 50-69 ไดร้ ะดับคุณภาพ 1 (ปรบั ปรงุ )
ได้คะแนน 0-49

แบบบันทกึ คะแนนการประเมินแตล่ ะดา้ น
กลุม่ สาระการเรียนรูส้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา รายวิชาพลศกึ ษา ชนั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2

แผนการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื งประวัตวิ อลเล่ย์บอล
**********************************

เลขที่ ช่ือ – สกลุ ด้านความรู้ ด้านเจตคติ ดา้ นทกั ษะ รวม

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
14
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32

รายละเอยี ดเกณฑ์การใหค้ ะแนน

ตอบถกู ขอ้ ละ 1 คะแนน
ตอบผดิ ขอ้ ละ 0 คะแนน
เกณฑ์การประเมิน
ผ่านเกณฑ์การประเมินไดค้ ะแนน 24 คะแนน รอ้ ยละ 80 ขนึ ไป

ใบความรทู้ ่ี 1 เรอ่ื งประวัตกิ ฬี าวอลเลย์บอล

ประวตั ิกฬี าวอลเลย์บอลนอกประเทศ
กีฬาวอลเลย์บอลเร่ิมขึนเม่ือปี ๒๔๓๘ โดยนายวิลเลียม จี มอร์แกน (William G. Morgan)

ผู้อานวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคมY.M.C.A.(Young Men's Christian Association) เมืองฮอลโยค
(Holyoke) มลรัฐแมสซาซูเซตส์ (Massachusetts) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้คิดเกมการเล่นขึน
เนือ่ งจากในฤดหู นาวหมิ ะตกลงมา คนทั่วไปไม่สามารถเล่นกีฬากลางแจง้ ได้ เขาไดพ้ ยายาม คิดและดัดแปลง
กจิ กรรมต่าง ๆ เพ่ือใชเ้ ปน็ กจิ กรรมนนั ทนาการผ่อนคลายความตงึ เครยี ดใหเ้ หมาะสมกับฤดูกาล ขณะที่เขาดู
การแข่งขนั เทนนิส เขาไดเ้ กิดแนวความคิดที่จะนาลักษณะและวิธกี าร เลน่ ของกฬี าเทนนสิ มาดัดแปลงใช้เล่น
จึงใช้ตาข่ายเทนนิสซึ่งระหว่างเสาโรงยิมเนเซียม สูงจากพืนประมาณ ๖ ฟุต ๖ นิว และใช้ยางในของลูก
บาสเกตบอลสูบลมให้แน่น แล้วใช้มือและแขนตีโต้ ข้ามตาข่ายกันไปมา แต่เนื่องจากยางใน ของลูก
บาสเกตบอลเบาเกินไปทาให้ลูกบอลเคล่ือนท่ีช้าและทิศทางที่เคลื่อนไปไม่แน่นอน จึงเปล่ียนมาใช้ลูก
บาสเกตบอล แตล่ กู บาสเกตบอลใหญ่ หนกั และแขง็ เกินไปทาใหม้ อื ของผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ ในที่สุดเขาจึงให้
บริษัท A.G. Spalding and Brother Company ผลิตลูกบอลท่ีหุ้มด้วยหนังและบุด้วย ยาง มีเส้นรอบวง
๒๕-๒๗ นิว มีนาหนัก ๙-๑๒ ปอนด์ หลังจากทดลองเล่นแล้ว เขาจึงตังชื่อเกมการเล่นนีว่า "มินโตเนต"
(Mintonette)

ปี พ.ศ ๒๔๓๙ มีการประชุมสัมมนาผู้นาทางพลศึกษาท่ีวิทยาลัยสปริงฟิลด์ (Spring-field
College) นายวิลเลียม จี มอร์แกน ได้สาธิตวิธีการเล่นต่อหน้าที่ประชุมหลังจากท่ีประชุมได้ชมการสาธิต
ศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด ( Alfred T. Helstead) ได้เสนอแนะให้มอร์แกนเปลี่ยนจากมินโตเนต
(Mintonette) เปน็ "วอลเลย์บอล" (Volleyball) โดยใหค้ วามเหน็ วา่ เปน็ วธิ กี ารเลน่ โต้ลูกบอลให้ลอยข้ามตา
ข่ายไปมาในอากาศ โดยผู้เล่นพยายามไม่ให้ลูกบอล ตกพืนต่อมากีฬาวอลเลย์บอลได้แพร่หลายและเป็นที่
นิยมเลน่ กนั ในหมูป่ ระชาชนชาวอเมริกนั เปน็ อย่างมาก เพราะเปน็ เกมทเ่ี ล่นง่าย สามารถเลน่ ได้ตามชายทุ่ง
ชายหาด และตามคา่ ยพักแรมทัว่ ไป

ปี พ.ศ ๒๔๗๑ ดอกเตอร์ จอร์จ เจ ฟิเชอร์ ( Dr.George J.Fisher )
ได้ปรบั ปรงุ และเปลี่ยนแปลงกติกา การเล่นวอลเลย์บอล เพื่อใชใ้ นการแข่งขัน
กีฬาวอลเลยบ์ อล ในระดับชาติ ซง่ึ บุคคลผนู้ เี ป็นผ้มู บี ทบาทอย่างมาก ในการเผยแพร่
กฬี าวอลเลยบ์ อลจนได้รับสมญานามว่า บิดาแห่งกฬี าวอลเลย์บอล

ประวตั กิ ฬี าวอลเลยบ์ อลในประเทศ
กีฬาวอลเลย์บอลได้แพรเ่ ขา้ มาในประเทศไทยตงั แต่เม่อื ใด ไม่มีหลักฐานแน่ชัดแต่สันนิษฐานว่าชาว

ไทย บางกลมุ่ ได้เริ่มเล่นและแขง่ ขันกฬี าวอลเลยบ์ อลมาตังแตห่ ลงั สมยั สงครามโลกครังที่ ๒ เปน็ ตน้ มา
ปี พ.ศ.๒๔๗๗ กรมพลศึกษาได้จดั ให้มกี ารแขง่ ขันกีฬาประจาปี และบรรจุ

กีฬาวอลเลยบ์ อลหญิงเข้าไว้ ในรายการแขง่ ขนั เปน็ ครังแรก โดยใชก้ ติกาการเล่นระบบ ๙ คน และตังแต่นัน
กีฬาวอลเลยบ์ อลก็พฒั นาขนึ โดยตลอด

ปี พ.ศ ๒๕๐๐ ประเทศไทยไดจ้ ดั ตังสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลขึน โดยมี พลเอกสุรจิตร จารุเศรณี
เปน็ นายกสมาคมคนแรก เมือ่ วันท่ี ๑ พฤศจิกายน ๒๕๐๐ และได้รับชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "สมาคม
วอลเลยบ์ อลสมัครเล่นแหง่ ประเทศไทย" (Amature Volleyball Association of Thailand)

ปัจจบุ ันกีฬาวอลเลย์บอลได้นิยมเล่นกนั อย่าง แพร่หลายทังในโรงเรียน วทิ ยาลัย มหาวิทยาลัย และ
ตามหน่วยงานต่าง ๆ นอกจากนียังมีการจัดการแข่งขัน มากมายหลายรายการ เป็นประจาทุกปี โดยการ
ดาเนินงานของ สมาคมวอลเลย์บอล สมัครเล่นแห่งประเทศไทยและ หน่วยงานอ่ืน ๆ ทังภาครัฐและ
ภาคเอกชน ท่ีใหก้ ารสนบั สนุนเปน็ อยา่ งดี

สนามแข่งขนั
- จะตอ้ งเปน็ พืนไม้หรอื พนื ปูนท่มี ีลกั ษณะเรียบไมม่ สี ง่ิ กีดขวาง
- เปน็ รปู ส่ีเหล่ยี มผืนผ้ากว้าง 9เมตรยาว 12เมตรความสงู จากพนื ประมาณ7เมตรมบี รเิ วณโดยรอบห่างจาก

สนามประมาณ 3 เมตร
- แตห่ ากเปน็ สนามมาตรฐานในระดบั นานาชาติ กาหนดให้รอบสนามห่างจากสนามประมาณ 5 เมตร
ด้านหลังห่าง 8เมตรและมีความสงู 12.5เมตร
- เส้นรอบสนาม(Boundarylines)ทกุ เส้นจะตอ้ งกว้าง5เซนตเิ มตรเปน็ สอี ่อนตดั กับพืนสนามมองเห็นไดช้ ดั เจน
- เสน้ แบ่งเขตแดน(Centerline)ทอ่ี ย่ตู รงกลางสนามจะตอ้ งอยใู่ ต้ตาข่าย หรือตรงกบั เสาตาขา่ ยพอดี
ตาขา่ ย
- จะต้องมคี วามสูงจากพนื 2.43 เมตร กวา้ ง 1 เมตร ยาว 9.5 - 10 เมตร
- ตารางในตาขา่ ยกวา้ ง 10 เซนติเมตร ผตู้ ิดไวก้ ับเสากลางสนาม
- ตาข่ายสาหรบั ทมี หญงิ สูง 2.24 เมตร
ลูกวอลเลย์บอล
- เปน็ ทรงกลมมีเส้นรอบวงประมาณ 65-67 เซนตเิ มตร นาหนกั 260-280 กรมั
- ทาจากหนงั สงั เคราะหท์ ีย่ ดื หยุ่นได้
- ซ่งึ ในการแขง่ ขนั ระดบั โลกจะใชล้ ูกบอล 3 ลกู ต่อการแขง่ ขนั เพือ่ ความต่อเนอ่ื ง

หากบอลออก นอกสนาม
ประโยชนข์ องการเล่นกฬี าวอลเลย์บอล

วอลเลย์บอลเปน็ กีฬาทที่ าใหผ้ ู้เล่นเกิดประโยชนด์ ังนี
๑) วอลเลย์บอลเปน็ กฬี าประเภททมี ชว่ ยสร้างใหเ้ กดิ ความสามัคครี ะหวา่ งหมคู่ ณะ และ
รกั ใคร่ปรองดองเป็นอันหนงึ่ อนั เดยี วกัน
๒) วอลเลย์บอลเปน็ กีฬาที่เล่นได้โดยไมจ่ ากัดเวลา ถา้ หากผู้เลน่ รู้จกั การใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็
ประโยชน์ ซง่ึ อาจจะเล่นตอนเช้า สาย บา่ ย เยน็ หรือแม้แตใ่ นเวลากลางคืนกไ็ ด้ถ้ามีแสงสว่างเพยี งพอ และ
เล่นไดท้ งั ในท่ีร่มหรือกลางแจง้
๓) วอลเลยบ์ อลเปน็ กีฬาที่ช่วยส่งเสรมิ บุคลกิ ภาพของผเู้ ลน่ อยา่ งหน่งึ เพราะผู้เลน่ จะต้องถูกฝกึ ให้
มีระเบยี บ มวี ินยั มีเหตมุ ผี ล รู้จักการเป็นผูน้ าผู้ตาม และมีความรับผดิ ชอบในหน้าทข่ี องตน ซึ่งสง่ิ เหลา่ นีจะ
เป็นการปลกู ฝงั นิสัยอนั มีผลทจี่ ะนามาใช้ในชีวติ ประจาวันด้วย
๔) วอลเลย์บอลเปน็ กฬี าท่ีมีกฎกติกา ผู้เล่นต้องเคารพและปฏบิ ัตติ ามกฎกตกิ าการเลน่ ดังนันการ
เลน่ วอลเลย์บอลย่อมช่วยสอนใหผ้ ู้เลน่ รจู้ กั ความยุตธิ รรม มคี วามอดทน อดกลนั รูจ้ ักเคารพสิทธขิ องผอู้ นื่
๕) วอลเลยบ์ อลเปน็ กีฬาประเภทหนงึ่ ทีช่ ่วยเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางด้านร่างกายใหม้ คี วาม
สมบูรณ์ แขง็ แรง เม่ือร่างกายได้ออกกาลงั กายแล้วยงั ชว่ ยใหร้ ะบบตา่ งๆ ภายในร่างกายได้ทางานประสาน
สัมพนั ธก์ ันเป็นอยา่ งดแี ละมีประสิทธภิ าพมากยิง่ ขนึ เม่อื รา่ งกายแข็งแรงก็จะช่วยเพ่ิมความสามารถของ
รา่ งกายใหม้ คี วามต้านทานไดด้ ดี ว้ ย
๖) กฬี าวอลเลยบ์ อลเหมือนกบั กฬี าประเภทอน่ื ๆ ที่สร้างความมีนาใจนักกฬี า เออื เฟื้อเผ่อื แผ่ การ
รู้จกั แพ้ ชนะและอภัย นอกจากนียงั เป็นเครื่องมือในการเปน็ สือ่ กลางก่อให้เกิดความสนิทสนมคนุ้ เคยและมี
สมั พนั ธ์ไมตรีอนั ดีต่อกัน

มารยาทของผ้เู ล่นกีฬาวอลเลย์บอลทด่ี ี
๑) แตง่ กายด้วยชุดที่เหมาะสมกับการเล่นวอลเลยบ์ อล ในการแข่งขนั นนั ผู้เล่นต้องแต่ง

กายตามกติกา แต่ในการเลน่ ทว่ั ไปเพอ่ื ความสนุกสนานหรอื เพือ่ ออกกาลังกายควรจะแตง่ กายให้เหมาะสม
บางคนสวมรองเทา้ แตะหรือแตง่ ชุดไปเที่ยวลงเลน่ เปน็ ต้น ซ่งึ อาจทาให้เกดิ การบาดเจบ็ ระหวา่ งการเลน่ ได้

๒) ไมแ่ สดงกิรยิ าเสียดสีล้อเลยี น หรือกล่าวถอ้ ยคาท่ีไมส่ ุภาพต่อผู้เลน่ ฝ่ายเดียวกันหรือ
ฝา่ ยตรงขา้ ม หรือผู้ชม

๓) มีความสภุ าพเรียบร้อย แสดงความเปน็ มติ รและให้เกยี รตแิ กผ่ เู้ ลน่ ฝา่ ยตรงขา้ มก่อนและ
หลังการแข่งขนั เสร็จสินลงควรจับมอื ผเู้ ล่นของทีมตรงข้ามไม่ว่าทีมจะแพห้ รอื ชนะก็ตาม

๔) ไมโ่ ต้เถยี งหรอื แสดงกิรยิ าอาการทไ่ี มเ่ หมาะสมแกผ่ ตู้ ดั สนิ ในการตดั สนิ และปฏบิ ัตติ าม
ระเบียบกติกาการเล่นอย่างเคร่งครัด

๕) มีใจคอหนักแนน่ อดทน อดกลนั และสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ ถึงแม้ว่าผู้
เลน่ ฝา่ ยเดยี วกันผดิ พลาดก็ไม่ควรแสดงอาการไมพ่ อใจ

มารยาทของผู้ชมกีฬาวอลเลย์บอลท่ดี ี
๑) แสดงความยินดดี ว้ ยการปรบมอื ใหแ้ ก่ผ้เู ลน่ ที่เล่นดี และไมก่ ล่าวถ้อยคาหรือ
แสดงกิรยิ าเยาะเย้ยถากถางผู้เล่นที่เล่นผดิ พลาด
๒) ไม่เชียร์ในสงิ่ ที่เปน็ การเสยี ดสีในทางไมด่ ีตอ่ ทีมใดทมี หนึ่ง
๓) ไมก่ ระทาตัวเป็นผู้ตดั สินเสยี เอง เชน่ การตะโกนด่าว่าผูต้ ดั สนิ เป็นตน้
๔) ไมก่ ระทาสง่ิ ใด ๆ ทที่ าให้ผู้ตัดสินหรือเจ้าหนา้ ทอี่ ่ืน ๆ ปฏบิ ตั ิงานไม่สะดวก

ใบงานที่ ๑.๑
เร่อื ง ความรู้ทว่ั ไปเกีย่ วกบั กฬี าวอลเลยบ์ อล

คาชแี จง จงเติมข้อความให้สมบรู ณ์
๑. ผคู้ ิดคน้ กีฬาวอลเลย์บอลคือใคร ..............................................................................................

๒. กีฬาวอลเลยบ์ อลกาเนิดขึนครังแรกทีป่ ระเทศใด ....................................................................

๓. กฬี าวอลเลยบ์ อลเกดิ ขึนในครังแรกตังชือ่ ว่าอะไร....................................................................

๔. การเล่นวอลเลย์บอลครงั แรกได้รวบรวมการเลน่ ของเกมกีฬาอะไรเข้าด้วยกัน..........................
..................................................................................................................................................

๕. จดุ ม่งุ หมายที่สาคัญ ท่ี มอรแ์ กน วางไว้คืออะไร.........................................................................

๖. ลกู วอลเลยบ์ อลแต่เดมิ ที่ มอร์แกน คิดขนึ ใชล้ ูกอะไร................................................................

๗. ผู้ท่ีไดร้ บั ช่ือว่า เปน็ บดิ าแห่งวอลเลยบ์ อลคอื ใคร.....................................................................

๘. ประเทศแรกท่ีเล่นกีฬาวอลเลยบ์ อลในทวีปเอเชยี คอื ประเทศใด.............................................

๙. กฬี าวอลเลยบ์ อลเขา้ มาในประเทศไทยตอนเริ่มแรกนยิ มเลน่ ข้างละกีค่ น...............................

๑๐. สมาคมวอลเลย์บอลสมัครเลน่ แห่งประเทศไทยตังขึนเม่ือปี พ.ศ. ใด.........................................

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
จานวน 1 ชั่วโมง
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา วิชา พลศึกษา เวลา 1 ช่ัวโมง
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 ทกั ษะการเลน่ วอลเลย์บอล
เรือ่ งที่ 1 การบรหิ ารรา่ งกายและการเสรมิ สร้างสมรรถภาพ

มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า
มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอ

มีวินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีนาใจนกั กีฬา มีจิตวญิ ญาณในการแข่งขัน และช่ืนชมใน
สนุ ทรียภาพของการกีฬา

ตัวชว้ี ัด
พ 3.1 ม2/4 ร่วมกจิ กรรมนันทนาการอยา่ งน้อย ๑ กิจกรรม และนาความรแู้ ละหลักการทไี่ ด้ไป

ปรับใช้ในชีวิตประจาวันอย่างเปน็ ระบบ
พ 3.2 ม2/3 มวี นิ ยั ปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกา

สาระสาคัญ
ผู้มีสมรรถภาพทางกายท่ีดีมักเป็นผู้มีจิตใจร่าเริงแจ่มใสด้วยดงั นันการบริหารรา่ งกายและการ

เสริมสรา้ ง สมรรถภาพทางกายจะทาให้ร่างกายมีประสทิ ธิภาพในการเล่นกีฬา และปฏิบัตหิ น้าที่ การงาน
ต่าง ๆ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ตลอดจนเม่อื ร่างกายได้ออกกาลังกายแลว้ ยงั ช่วยใหร้ ะบบต่าง ๆ มีการประสาน
สมั พนั ธ์เปน็ อย่างดี ทางานอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ นับว่าเปน็ การลดภาวะการเจบ็ ป่วย ของประชากรไดเ้ ป็น
อย่างดี

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นมีความรู้ มคี วามเขา้ ใจ ในเร่ืองการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายเป็นอย่างดี
2. นักเรียนสามารถแสดงหรือสาธติ ทา่ กายบรหิ าร เพื่อการเสรมิ สรา้ ง สมรรถภาพทางกาย ได้

ถกู ตอ้ งอย่างน้อย 5 ทา่
3. นักเรียนสามารถอธบิ ายวิธกี ารเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายได้ถูกตอ้ ง

สาระการเรยี นรู้
1. การเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย
2. ท่าการบริหารร่างกาย

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นา / ขั้นเตรียม ( 5 นาที )
1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และการวัดผล ประเมินผล ให้นักเรียนทราบ ให้นักเรียนเข้าแถว

ตอนแบ่งเป็น 5 กลุ่มๆ ละเท่าๆกัน สารวจ รายชื่อ ความสะอาด สุขภาพและเครื่องแต่งกายสุขภาพของ
นกั เรยี นทกุ คนในกลุม่ เพ่ือเตรียมความพรอ้ ม และความปลอดภยั

2. ครูแจกใบความรู้เรื่องการบริหารรา่ งกายและการเสริมสร้างสมรรถภาพ สนทนาและซักถามกับ
นกั เรียน

ขน้ั สอน ( 15 นาที )
1. ครอู ธิบายพรอ้ มกับสาธิตและเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการสาธิต ขันตอนวิธีการ การ
บรหิ ารรา่ งกายและการเสรมิ สร้างสมรรถภาพโดยการการบริหารรา่ งกายตามทา่ ต่างๆดังตอ่ ไปนี
- ทา่ ว่ิงเหยาะ ๆรอบสนาม(เสรมิ ความแข็งแรงและ ความอดทนทว่ั ไป)
- ก้ม - เงยศรี ษะ(บรหิ ารคอ)
- ท่าหมนุ แขนไปดา้ นหนา้ และหลังเปน็ วงกลม (บริหารขอ้ ต่อหวั ไหล่)
- ทา่ ดึงเข่าทีละขา้ งเขา้ ชดิ อก (บริหารข้อเข่า และขา)
- ท่ากม้ ตวั แตะพนื ขาเหยยี ดตงึ (ความออ่ นตวั )
- ท่ามอื ประสานทา้ ยทอยบิดตัว สลับซ้าย ขวา (บรหิ ารเอว และลาตวั )
- ทา่ มอื ประสานท้ายทอยบิดตัว สลับซ้าย ขวา (บรหิ ารเอว และลาตวั )
- ท่าน่งั ขาเหยียดตรงแยกขาทงั 2 ออกกม้ ตวั และบดิ ลาตวั ใช้ปลายนิวมือขวาแตะปลายเท้าซ้ายทา
สลบั ซ้าย และขวา
- ท่าบดิ ขาไขว้ขา้ มมาแตะปลายนวิ มอื (บริหารขอ้ สะโพกและโคนขา)
- ท่านั่งเหยยี ดปลายเท้า ก้มลาตัวไปขา้ งหน้าใชม้ อื จับขอ้ เทา้ (ความออ่ นตวั )
- ท่ายืนหนั หน้าหากนั ใชม้ ือจับไหลซ่งึ กนั และกนั กดลาตัวของเพ่อื นให้ลงตา่ (บริหารลาตัว)
- แขนเหยียดตึงเหนอื ศีรษะพรอ้ มกับเอยี งลาตัวดา้ นขา้ งซ้ายและขวา

ขัน้ ฝกึ ( 15 นาที )
1. ใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ แยกฝึกปฏบิ ัตทิ ักษะการ บรหิ ารรา่ งกาย
2. ใหส้ มาชิกภายในกลมุ่ ปฏบิ ตั นิ าเพอ่ื นในกลุ่มคนละ 2 ท่า โดยครูผู้สอนคอยให้การดูแล

ช่วยเหลือ แนะนา อธบิ าย พรอ้ มสาธติ รว่ มกับนกั เรยี น เพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจดีย่ิงขึน และสามารถ
นาไปปฏบิ ตั ิ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

ขนั้ ใช้ ( 15 นาที )
1. ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ปรึกษากนั ในกลุม่
2. ให้ตัวแทนกลุ่มออกมานาสาธิตปฏิบัติการอบอุ่นร่างกายโดยการยืดเหยียดกล้ามเนือ

กลุม่ ละ 3 ท่า พรอ้ มกบั อธบิ ายขณะทาการสาธิต
3. ขณะที่นักเรียนทาการแข่งขันครูต้องคอยให้การดูแลช่วยเหลือแนะนา และปรับปรุง

แกไ้ ข ให้ถูกตอ้ ง
ข้ันสรุป (5 นาท)ี

1. นักเรียนและครูผู้สอนร่วมกันอภิปราย ซัก – ถาม แสดงความคิดเห็นและสรุปความรู้
ความเข้าใจเกีย่ วกบั การบรหิ ารร่างกายและการเสรมิ สร้างสมรรถภาพ

2. ครูสารวจความเรียบร้อยของนักเรียน ให้นักเรียนทาความสะอาดร่างกายเพ่ือพร้อมท่ี
จะไปเรียนในวิชาตอ่ ไป

การวัดและการประเมนิ ผล
ด้านความรู้
- การตอบคาถาม
- ซัก - ถาม
ดา้ นทักษะ
- การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการบรหิ ารร่างกาย

เกณฑก์ ารวัด การบรหิ ารร่างกาย 5432
รายการ คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน

การสาธติ ทา่ การการบรหิ ารร่างกาย
การอธบิ ายขณะสาธิต
ความเปน็ ผูน้ า

รวมคะแนน

เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการประเมนิ
คะแนนรวม ระดับคณุ ภาพ ไม่ผ่าน
ควรปรับปรุง
0 - 2 ปรับปรุง ผา่ น
4 – 10 พอใช้
10 – 15 ดี

สอ่ื และอุปกรณ์ / แหลง่ การเรียนรู้
1. ใบความรูท้ ่ี 1 เรือ่ งการเสริมสรา้ งสมรรถภาพ
2. ใบความร้ทู ี่ 2 เร่ืองการทา่ การบริหารร่างกาย
3. สนามโรงเรยี นบา้ นเวียงฝาง
4. นกหวีด

เครื่องมอื การประเมนิ ผล
- เกณฑ์การวัด การบริหารรา่ งกาย
- แบบประเมินพฤติกรรม

บนั ทกึ ผลหลังสอน

ผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หา/อุปสรรค

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

(ลงช่อื )………………………………….……ผู้สอน
(นายศรัณย์ ไชยทองศรี)
ครู

ขอ้ เสนอแนะ,ความคิดเหน็ ของหวั หน้ากลุ่มสาระฯ
..........................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ...........................................................
(นำยจรัญ อนิ ตยิ ะ)

วันท.่ี .........../....................../...............

ขอ้ เสนอแนะ ความคิดเหน็ ของรองผอู้ านวยการฝา่ ยวิชาการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

ลงช่อื .....................................................
(นำยจิรวัฒน์ ปญั ญำรมย์)

วนั ที.่ .........../......................../...............

ข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นของผูอ้ านวยการโรงเรยี น
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................
(นำยปรำโมทย์ เทพกลู )

วนั ท่.ี .........../........................./..................

ใบความรู้ท่ี 1 เรือ่ งการสริมสร้างสมรรถภาพ

การเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย
สมรรถภาพทางกาย หมายถึง ความสามารถของร่างกายในการประกอบกิจกรรมหรือการทางาน

อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ อย่างมีประสทิ ธิภาพ การออกกาลังกาย และการบริหารร่างกายสามารถกระทาได้หลายวิธี
เช่น การว่ิง การเล่นกีฬา ฯลฯ การออกกาลังกาย และการบริหารร่างกายทาให้เกิดความแข็งแรง ความ
วอ่ งไว ความอดทน ความเรว็ ฯลฯ ทงั นีทาใหร้ ะบบการทางานของร่างกายถูก กระตุ้นใหพ้ ฒั นาขนึ
สมรรถภาพต่าง ๆ มีดงั ตอ่ ไปนี

1. ความแขง็ แรง คอื ความแข็งแรงของกล้ามเนือในการหดตัว การทางานและสามารถเคล่ือนไหว
ไดม้ ากทีส่ ุด เช่น ยุบข้อ , ลกุ น่ัง, วิดพนื , ยกดัมเบลล์

2. ความเร็ว คือ ความสามารถในการเคล่ือนไหวอยา่ งรวดเรว็ โดยใชเ้ วลานอ้ ยถึงจดุ หมายก่อน เช่น
วงิ่ ซกิ แซกหลบหลีกส่ิงกีดขวาง , คลานไปหน้า-หลังอย่างรวดเร็ว ก้าวไป10 ก้าวแล้วหมุนตัวกลับหลัง , วิ่ง
มาอย่างรวดเรว็ และกระโดดข้ามสิง่ กดี ขวางว่ิงดว้ ยความเรว็ เต็มที่ในระยะทาง 50-100เมตร

3. กาลัง คือ ความสามารถในการทางานของกล้ามเนือในการหดตัวอย่างฉับพลันเพื่อทางานได้
อย่างรวดเร็ว เช่นยืนกระโดดไกล , ไต่เชือก , วิ่งกระโดดข้าม ขว้างลูกบอลให้ไกลท่ีสุด , กระโดดแตะที่สูง
หรือผนงั หอ้ ง

4. ความอดทน คือ ความสามารถท่ีจะออกแรงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน โดยร่างกายสามารถ
ปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเคลือ่ นไหว หรือใช้สมองและประสาท หรอื ปฏิบัตงิ านอ่ืนๆ ซาในการเข้าร่วมกิจกรรมพล
ศึกษา หรือเล่นกีฬาในอิริยาบถต่างๆ เช่นเดินทางไกล , ว่ิงระยะทางอย่างน้อย 1,500 เมตร , กระโดด
เชือกติดตอ่ กันอย่างนอ้ ย ๕นาที ,วิง่ อยู่กบั ทต่ี ิดต่อกนั อย่างน้อย 5 นาที

5. ความอ่อนตัว คือ ความสามารถในการเคล่ือนไหวได้ง่ายและสะดวก โดยข้อต่อ ต่าง ๆ และ
กลา้ มเนือไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ เช่นยืนกระโดดหมุนตัวกลับลงสู่พืนด้วย ปลายเท้าทังสอง , ยืนเขย่งด้วย
ปลายเทา้ ยกแขนเสมอไหล่ , ยืนเท้าเดียวกางแขน กม้ ตัวไปหนา้ ยกเท้าอีกข้างหน่ึงขึนไปด้านหลัง ขนานกับ
พนื , เดินบนไม้กระดานแผน่ เดียว วางหนงั สือบนศรี ษะไมใ่ ห้หนังสอื ตก

6. ความคล่องตัว คือ ความสามารถในการเคล่ือนที่จากจุดหน่ึงไปยังอีกจุดหนึ่ง โดยอาศัย ความ
คลอ่ งแคล่ววอ่ งไว เช่นว่ิงกลับตวั , ว่ิงกลบั ตวั ตามกาหนดเวลา , กระโดดสงู ๕ ครัง

ใบความรู้ที่ 2 เรอ่ื งการท่าการบริหารรา่ งกาย
ในการออกกาลงั กายหรอื เลน่ กีฬา ถ้าจะให้ได้ผลดี ผู้เล่นจาเป็นจะต้องรู้จักการบริหารร่างกายก่อน
และหลังการออกกาลังกาย หรือเล่นกีฬา เพ่ือเป็นการกระตุ้นให้กล้ามเนือ เอ็น และข้อต่อของร่างกาย
เตรียมพร้อมที่จะออกกาลังกาย เพิ่มจากสภาวะปกติ เพ่ือป้องกันการบาดเจ็บ อันอาจจะเกิดขึนในขณะที่
กล้ามเนอื เอ็น และขอ้ ต่อยึด หรือหดตัวอย่างรวดเร็วการบริหารร่างกายในแต่ละครัง ควรประกอบไปด้วย
การบริหารสว่ นตา่ ง ๆ ดังต่อไปนี
- รา่ งกายสว่ นบน ได้แก่ คอ แขน ไหล่ และหลงั สว่ นบน
- รา่ งกายส่วนกลางหรอื ลาตวั ได้แก่ ท้อง หลังและสะโพก
- รา่ งกายส่วนล่าง ไดแ้ ก่ ขา และเทา้

แบบฝกึ เรอื่ งท่าการบริหารรา่ งกาย
- ท่าว่งิ เหยาะ ๆรอบสนาม(เสรมิ ความแข็งแรงและ ความอดทนทว่ั ไป)
- กม้ - เงยศีรษะ(บริหารคอ)
- ทา่ หมนุ แขนไปด้านหนา้ และหลังเปน็ วงกลม (บริหารข้อตอ่ หัวไหล)่
- ท่าดึงเขา่ ทลี ะขา้ งเขา้ ชดิ อก (บรหิ ารขอ้ เขา่ และขา)
- ทา่ กม้ ตัวแตะพนื ขาเหยียดตงึ (ความออ่ นตวั )
- ทา่ มอื ประสานท้ายทอยบดิ ตวั สลบั ซ้าย ขวา (บริหารเอว และลาตัว)
- ท่ามอื ประสานท้ายทอยบดิ ตัว สลบั ซา้ ย ขวา (บริหารเอว และลาตวั )
- ทา่ นั่งขาเหยียดตรงแยกขาทัง 2 ออกก้มตัวและบดิ ลาตวั ใชป้ ลายนิวมือขวาแตะปลายเท้าซ้ายทา
สลบั ซา้ ย และขวา
- ทา่ บดิ ขาไขว้ขา้ มมาแตะปลายนวิ มือ (บรหิ ารขอ้ สะโพกและโคนขา)
- ท่าน่งั เหยยี ดปลายเท้า กม้ ลาตวั ไปข้างหน้าใช้มอื จบั ขอ้ เท้า (ความออ่ นตวั )
- ท่ายนื หนั หน้าหากนั ใช้มอื จับไหลซึ่งกนั และกนั กดลาตวั ของเพื่อนให้ลงต่า (บรหิ ารลาตวั )
- แขนเหยยี ดตึงเหนอื ศีรษะพรอ้ มกับเอียงลาตัวดา้ นขา้ งซ้ายและขวา

แบบฝกึ ท่าการบรหิ ารรา่ งกาย
ท่าที่ ๑ วิ่งเหยาะ ๆ รอบสนาม (เสรมิ ความแขง็ แรงและความอดทนทัว่ ไป)
ท่าที่ ๒ กระโดดปรบมือเหนอื ศรี ษะ (สรา้ งความแขง็ แรง และความอดทนท่วั ไป)

ทา่ ที่ ๓ กม้ – เงยศรี ษะ (บริหารคอ)

ทา่ ท่ี ๔ หมุนแขนไปด้านหน้า และหลงั เป็นวงกลม (บรหิ ารข้อตอ่ หัวไหล่)

ทา่ ท่ี ๕ ดงึ เขา่ ทีละขา้ งเข้าชิดอก (บริหารข้อเขา่ และขา)
ทา่ ท่ี ๖ ก้มตัวแตะพืนขาเหยียดตึง (ความอ่อนตวั )

ท่าท่ี ๗ มือประสานท้ายทอยบดิ ตวั (บริหารเอว และลาตัว)
ท่าที่ ๘ นอนหงายยกศีรษะขนึ มาดูปลายเทา้ (บริหารคอ)
ทา่ ที่ ๙ วดิ พืน (สรา้ งความแข็งแรงให้ข้อมอื แขน และไหล่)
ท่าท่ี ๑๐ นอนคว่า ยกลาตวั ท่อนบนและขาพน้ จากพนื (บรหิ ารหลัง)
ท่าท่ี ๑๑ นง่ั ยองๆมือประสานท้ายทอยกระโดดสลับปลายเท้าซ้ายขวา

ท่าท่ี ๑๒ นัง่ ขาเหยียดตรงแยกขาทงั ๒ ออก ก้มตวั และบดิ ลาตวั ใชป้ ลายนิวมือ
ขวาแตะปลายเท้าซ้าย ทาสลบั ซา้ ย และขวา

ท่าท่ี ๑๓ ลุกน่งั เขา่ งอ 45 องศา (บริหารกล้ามเนือทอ้ ง)

ทา่ ที่ ๑๔ ลกุ นั่งขาราบ ศอกแตะเขา่ (บรหิ ารกล้ามเนอื ท้อง)

ท่าที่๑๕ ยืนยอ่ บนปลายเทา้ เหยยี ดแขนทงั สองไปข้างหน้า
(บรหิ ารขอ้ เทา้ และฝึกการทรงตวั )

ทา่ ที่ ๑๖ บิดขาไขวข้ า้ มมาแตะปลายนิวมือ (บริหารข้อสะโพกและโคนขา)

ท่าที่ ๑๗ นอนตะแคงขา้ ง ยกขาขึนลงทีละข้าง (บริหารสะโพกและโคนขา)
ท่าท่ี ๑๘ นอนหงายยกขาขึนลงทีละข้าง (บรหิ ารโคนขา)

ท่าที่ ๑๙ นอนหงายราบกบั พนื แขนเหยียดเหนือศีรษะ ยกลาตัวและเทา้ ขนึ
เหวี่ยงแขน และเทา้ แตะกนั (กล้ามเนอื ทอ้ ง)

ทา่ ท่ี ๒๐ ควา่ ตวั มือเทา้ พืน แขนตงึ ขาเหยยี ดตรง ดึงเทา้ ทงั สอง
เข้ามาชิดลาตวั แลว้ เหยียดขาทงั สองออกไปใหม่ ทาสลบั กัน

ท่าที่ ๒๑ น่ังเหยียดปลายเท้า กม้ ลาตัวไปข้างหน้าใช้มอื จบั ขอ้ เทา้ (ความอ่อนตวั )

ท่าที่ ๒๒ ยืนหันหนา้ หากัน ใชม้ อื จบั ไหล่ซ่งึ กันและกัน กดลาตวั ของเพ่อื นให้
ลงต่า (บริหารลาตวั )

ท่าท่ี ๒๓ จบั คู่หันหลังชนกัน จับข้อมอื เพอ่ื นให้นอนราบทบั หลัง
กม้ ตวั ใหม้ าก (ความออ่ นตวั )

ท่าท่ี ๒๔ จับคเู่ พือ่ นยืนข้างเขา้ หากัน ใหย้ กแขนทอ่ี ยูด่ า้ นนอกขนึ เหนือศรี ษะ แขน
ด้านในจับมอื กันไว้ และออกแรงดึงจากแขนท่อี ยู่เหนือศรี ษะ (บรหิ ารไหล่)

ทา่ ท่ี ๒๕ จบั คู่ยืนหันหน้าเขา้ หากัน ต่างคนต่างยกเทา้ ซ้ายใหเ้ พ่อื นจับท่ีข้อเทา้ โดย
ทังคสู่ ปริงดว้ ยปลายเทา้ ขวาพร้อม ๆ กัน (กาลังขา)

ท่าท่ี ๒๖ บริหารข้อมอื และข้อเท้า

ทา่ ที่ ๒๗ แขนเหยียดตงึ เหนือศรี ษะพรอ้ มกับเอยี งลาตัวด้านขา้ งซ้ายและขวา
ท่าที่ ๒๘ ยืนไขวข้ ากม้ แตะ

ท่าท่ี ๒๙ กระโดดตบใต้ขา สลับซ้ายขวา

แบบประเมินพฤติกรรม
นักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ปีการศึกษา 256๕ โรงเรยี นนาแกพทิ ยาคม

ตารางการประเมนิ พฤติกรรม

รายการ 5 4 3 2
คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน
ด้านความรู้
- การอธิบาย การซักถาม การตอบคาถาม
ดา้ นเจตคติ
- ความมนี าใจ ความสนกุ สนาน ความชว่ ยเหลอื สามัคคี
ด้านทกั ษะ
- การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม การเคลอ่ื นไหว

รวมคะแนน

เกณฑ์การประเมนิ ผลการประเมนิ
ไมผ่ ่าน
คะแนนรวม ระดับคุณภาพ
0 - 2 ปรับปรงุ ควรปรับปรุง
4 – 10 พอใช้ ผา่ น
10 – 15 ดี

ลงช่ือ ………………………………..
(…………………………………..)
ผูป้ ระเมิน

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2
จานวน 1 ช่วั โมง
กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศึกษาและพลศกึ ษา วชิ า พลศกึ ษา เวลา 1 ชว่ั โมง
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ทกั ษะการเลน่ วอลเลย์บอล
เรอ่ื งที่ 2 การสรา้ งความคนุ้ เคยกับลูกวอลเลย์บอล

มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลอื่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า
มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอ

มีวินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี าใจนักกีฬา มีจติ วญิ ญาณในการแข่งขัน และชื่นชมใน
สุนทรยี ภาพของการกีฬา

ตัวชี้วัด
พ3.1 ม2/3 ประสิทธิภาพของรูปแบบการเคล่ือนไหวที่ส่งผลต่อการเล่นกีฬาและกิจกรรมใน

ชีวิตประจาวัน
ม2/4 รว่ มกิจกรรมนันทนาการอย่างนอ้ ย 1 กจิ กรรม และนาความรแู้ ละหลักการที่ไดไ้ ป

ปรบั ใช้ในชีวิตประจาวันอยา่ งเป็นระบบ
พ 3.2 ม2/3 มวี ินัย ปฏบิ ัติตามกฎ กตกิ า

สาระสาคัญ
การสรา้ งความคุ้นเคยกับลูกวอลเลย์บอล จะก่อให้เกิดการประสานสัมพันธ์ระหว่างประสาทตากับ

ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทาให้ทราบถึงลักษณะการยืดหยุ่น นาหนักของลูกบอลเพื่อเป็นพืนฐานในการฝึก
ทักษะต่าง ๆ ให้ง่ายขึน ตลอดจนสามารถใช้มือและแขน บังคับลูกวอลเลย์บอลไปในทิศทางท่ีต้องการและ
สามารถนาไปใช้ในการออกกาลงั กายในชีวติ ประจาวนั ได้

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. สามารถอธบิ ายวธิ ีการสร้างความคนุ้ เคยกบั ลกู วอลเลย์บอลได้อยา่ งนอ้ ย 5 ทักษะขนึ ไป
2. สามารถสาธติ การสร้างความคุน้ เคยกับลูกวอลเลยบ์ อลได้อยา่ งสัมพันธ์กนั และปลอดภัย

สาระการเรยี นรู้
1. การสร้างความคุ้นเคยกับลกู วอลเลย์บอลด้วยการโยน ขว้าง ท่มุ กลงิ ตี และเลยี ง
2. การสรา้ งความคุน้ เคยกับลูกวอลเลย์บอลดว้ ยการส่ง และการรับ

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ นา / ข้นั เตรยี ม ( 5 นาที )
1.ใครแู จ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และการวดั ผล ประเมินผล ให้นักเรยี นทราบ
2. ใหน้ ักเรียนเขา้ แถวตอนแบ่งเป็น 5 กลมุ่ ๆ ละเท่าๆกัน สารวจ รายชือ่ ความสะอาด สุขภาพและ

เครือ่ งแต่งกายสขุ ภาพของนักเรียนทุกคนในกลุม่ เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ ม และความปลอดภยั
3. ครแู จกใบความรเู้ ร่ืองการสรา้ งความคุน้ เคยกบั ลูกวอลเลย์บอล สนทนาและซกั ถามกับนกั เรียน

ขนั้ สอน ( 10 นาที )
1. ครูอธิบายพร้อมกับสาธิตและเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการสาธิต วิธีการสร้าง

ความคนุ้ เคยกบั ลูกวอลเลยบ์ อล
2. ใหน้ กั เรียนทากายบริหารอบอนุ่ รา่ งกายเพือ่ เตรียมความพร้อมในการทากิจกรรม

ใหน้ กั เรยี นปฏิบตั กิ ายบรหิ ารดังนี
- ยืดแขนไปด้านหน้าหักข้อมือขึนแล้วใช้มืออีกข้างดึงปลายนิวเข้าหาตัวทิงไว้ประมาณ

10 วินาทีทาสลับซา้ ยขวา
- ยกแขนขึนแล้วพับไปด้านหลังใช้มืออีกข้างจับตรงข้อศอกแล้วดึงทิงไว้ประมาณ 10

วนิ าทที าสลบั ซา้ ยขวา
- หมนุ แขนทังสองขา้ งไปขา้ ง 10 ครัง ไปข้างหลงั 10 ครงั

- กางแขนออกแลว้ บดิ ลาตัวไปทางซา้ ยและขวาสลับกนั 10 ครงั
- ยนื แยกเทา้ กม้ แตะสลับ 20 ครงั
- ยืนตรงเทา้ ชดิ กนั เขา่ ตงึ แลว้ ก้มลงเอาปลายนิวมอื แตะปลายเทา้ ทงิ ไวป้ ระมาณ 10 วนิ าที
- หมุนข้อมอื และข้อเท้าพร้อมกัน 20 ครังสลับกนั

ขัน้ ฝึก ( 20 นาที )
1. ให้นักเรียนจับคู่ ลูกวอลเลย์บอลคู่ละ 1 ลกู
2. แยกฝกึ ปฏิบตั ทิ กั ษะการสร้างความค้นุ เคยกับลกู วอลเลยบ์ อล โดยครูผู้สอนคอยให้การดูแล

ช่วยเหลือ แนะนา อธบิ าย พรอ้ มสาธิตรว่ มกบั นกั เรียน เพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจดีย่ิงขึน และสามารถ
นาไปปฏบิ ัติ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
ขันตอนวธิ ีการฝึกสรา้ งความคนุ้ เคยมีดงั นี

- เลียงลูกบอลลงพืนติดต่อกัน
- กลิงบอลบนพนื เปน็ วงกลมรอบขาทังสองของตนเอง
- ฝกึ การรับ-ส่งลูกบอลเป็นวงกลมรอบเอวตนเอง
- นง่ั โยนและรับลกู บอลข้าม ศีรษะทางดา้ นข้างจากซา้ ยไปขวาสลบั กัน
- การกลิงลกู บอลลอดใต้ขาเปน็ เลขแปดรอบตนเอง
- ถอื ลูกบอลไว้ขา้ งหลงั กม้ ตวั ไปข้างหน้าพรอ้ มกับ เหว่ยี งแขนขึนให้ลูกบอลลอยพุ่งไปข้างหน้าแล้ว
วงิ่ ตามไปเก็บลกู บอล
- ยนื ใช้ขอ้ เทา้ หนีบลกู บอลแล้วกระโดดไปขา้ งหนา้
- ฝึกการรับ-ส่งลกู บอลเป็นวงกลมรอบเขา่ ตนเอง
- หนั หลงั รับ-สง่ บอลแบบลอดใตข้ า สลับสง่ ข้ามศีรษะตนเอง ให้คู่
- ทมุ่ บอลกระดอนพนื ๑ ครังให้คู่ทาสลบั กนั ไปมา
หันหลงั สง่ ลูกบอลด้านข้างลาตัวใหค้ สู่ ลบั ซ้ายและขวา
- รับส่งลกู บอลใตข้ าไปด้านหลงั ใหผ้ ู้เล่นในกลุ่ม คนสดุ ทา้ ยวิง่ ขึนมาหัวแถวเป็นการแข่งขันระหว่าง
กล่มุ
- ผู้เล่นยืนเป็นวงกลม คนที่ 1 ส่งลูกบอลด้านข้างลาตัวไปให้ผู้เล่นคนที่ 2 คนที่ 2 ส่ง ลูกบอล
ด้านขา้ งลาตวั ใหผ้ ูเ้ ลน่ คนที่ 3 ทาเชน่ นจี นถงึ ผเู้ ลน่ คนสุดทา้ ย การส่งให้สง่ แบบมอื ต่อมอื หา้ มโยนให้กัน
ข้นั ใช้ ( 15 นาที )

1. ให้นักเรียนแต่ละคู่ออกมาปฏิบัติ สาธิตพร้อมกับอธิบายการสร้างความคุ้นเคยกับลูก
วอลเลย์บอล คู่ละ 2 ท่า

2. ขณะท่ีนกั เรียนปฏบิ ัติ สาธติ ครูตอ้ งคอยใหค้ าปรึกษาคาแนะนา

ขัน้ สรุป ( 5 นาที )
1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายสรปุ เกีย่ วกับการสรา้ งความค้นุ เคยกับลูกวอลเลย์บอล

และเปดิ โอกาสให้นักเรยี นไดซ้ ักถาม
2. ครูกลา่ วชมเชยนกั เรยี นทกุ คนท่ตี ังใจเรียนและปฏบิ ตั ิโดยสอดแทรกในเร่ืองของ

คณุ ธรรม ความมรี ะเบยี บวนิ ัย ความมนี าใจนักกฬี า
3. ครูมอบหมายแบง่ หน้าท่ีให้นกั เรยี นเกบ็ อปุ กรณใ์ ห้เรยี บรอ้ ยและทาความสะอาดตรวจสอบ

เครอื่ งแตง่ กาย

การวดั และการประเมินผล
ดา้ นความรู้
- การตอบคาถาม
ดา้ นทักษะ
- การปฏิบัติทกั ษะการสร้างความค้นุ เคยกบั ลูกบอล 5 ทกั ษะ

บนั ทกึ ผลหลงั สอน

ผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หา/อปุ สรรค

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

(ลงช่อื )………………………………….……ผู้สอน
(นายศรัณย์ ไชยทองศรี)
ครู

ข้อเสนอแนะ,ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระฯ
..........................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ...........................................................
(นำยจรัญ อินตยิ ะ)

วนั ท.่ี .........../....................../...............

ข้อเสนอแนะ ความคดิ เห็นของรองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.....................................................
(นำยจิรวฒั น์ ปญั ญำรมย์)

วันท่.ี .........../......................../...............

ขอ้ เสนอแนะ ความคิดเหน็ ของผอู้ านวยการโรงเรียน
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................
(นำยปรำโมทย์ เทพกลู )

วันที.่ .........../........................./..................

เกณฑก์ ารวัด

รายการ 5432
การรับ-ส่งลกู บอลเป็นวงกลมรอบเอวตนเอง คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน

นั่งโยนและรับลกู บอลขา้ ม ศรี ษะทางดา้ นขา้ งจาก
ซ้ายไปขวาสลับกนั

การกลงิ ลกู บอลลอดใต้ขาเป็นเลขแปดรอบตนเอง

การรับ-ส่งลูกบอลเปน็ วงกลมรอบเขา่ ตนเอง
ยนื ใช้ขอ้ เท้าหนบี ลูกบอลแลว้ กระโดดไปขา้ งหน้า

คะแนนรวม ระดบั คุณภาพ ผลการประเมิน

0 - 2 ปรับปรงุ ไม่ผา่ น

4 – 10 พอใช้ ควรปรบั ปรงุ

10 – 15 ดี ผา่ น

15 – 20 ดีมาก ผา่ น

- การแนะนาผูอ้ ืน่ ใหป้ ฏบิ ตั ิตามได้

ส่ือและอปุ กรณ์ / แหลง่ การเรียนรู้

1. ลกู วอลเลย์บอล จานวน 15 ลูก
2. สนามกีฬาวอลเลย์บอล

3. ใบความรทู้ ี่ 1 เร่ืองการสรา้ งความคุ้นเคยกับลกู วอลเลย์บอล
4. หนังสือประกอบการเรียนวชิ าวอลเลยบ์ อล
5. หอ้ งสมุดโรงเรยี น

6. INTERNET
7. นกหวีด

เครือ่ งมอื การประเมนิ ผล
1. เกณฑ์การวัดการสรา้ งความคุ้นเคย

2. แบบประเมนิ การสงั เกต การปฏิบตั ิการสรา้ งความคุ้นเคย
3. แบบประเมนิ พฤตกิ รรม

ใบความรู้ที่ 1 เร่อื งการสรา้ งความคุน้ เคยกบั ลูกวอลเลย์บอล

1. เลียงลกู บอลลงพนื ติดตอ่ กนั
2. กลงิ บอลบนพืนเป็นวงกลมรอบขาทังสองของตนเอง
3. ฝึกการรับ-ส่งลูกบอลเปน็ วงกลมรอบเอวตนเอง
4. นั่งโยนและรับลกู บอลขา้ ม ศรี ษะทางด้านขา้ งจากซา้ ยไปขวาสลบั กัน
5. การกลิงลกู บอลลอดใต้ขาเปน็ เลขแปดรอบตนเอง
6. ถอื ลกู บอลไว้ขา้ งหลังก้มตวั ไปข้างหน้าพร้อมกบั เหวี่ยงแขนขึนใหล้ ูกบอลลอยพงุ่ ไปข้างหน้าแล้ววิ่ง
ตามไปเก็บลูกบอล
7. ยนื ใช้ข้อเท้าหนีบลูกบอลแลว้ กระโดดไปข้างหน้า
8. ฝกึ การรบั -ส่งลูกบอลเปน็ วงกลมรอบเข่าตนเอง
9. หันหลงั รบั -ส่งบอลแบบลอดใตข้ า สลับสง่ ข้ามศรี ษะตนเอง ให้คู่
10. ทมุ่ บอลกระดอนพนื ๑ ครงั ใหค้ ู่ทาสลับกนั ไปมา
11. หนั หลังส่งลูกบอลดา้ นขา้ งลาตัวใหค้ ู่สลับซ้ายและขวา
12. รบั ส่งลูกบอลใตข้ าไปด้านหลงั ให้ผูเ้ ลน่ ในกลุ่ม คนสุดท้ายว่งิ ขนึ มาหัวแถวเป็นการแขง่ ขันระหวา่ ง

กลุ่ม
13. ผู้เลน่ ยนื เปน็ วงกลม คนที่ 1 ส่งลูกบอลดา้ นข้างลาตวั ไปให้ผ้เู ลน่ คนที่ 2 คนท่ี 2 ส่ง ลกู บอล
ด้านขา้ งลาตวั ใหผ้ ู้เล่นคนที่ 3 ทาเชน่ นีจนถึงผูเ้ ล่นคนสดุ ท้าย การสง่ ใหส้ ่งแบบมือตอ่ มือ หา้ มโยนให้

เรื่องท่าการสรา้ งความคุ้นเคยกับลกู วอลเลยบ์ อล

๑. เล้ยี งลกู บอลลงพ้นื ตดิ ตอ่ กนั

๒. กล้งิ บอลบนพ้ืนเป็นวงกลมรอบขาทง้ั
สองของตนเอง

๓. ฝกึ การรับ-สง่ ลกู บอลเปน็ วงกลมรอบ
เอวตนเอง

๔. น่ังโยนและรับลูกบอลข้ามศีรษะทาง
ด้านขา้ งจากซา้ ยไปขวา สลบั กนั

๕. การกล้ิงลูกบอลลอดใต้ขาเป็นเลขแปด
รอบตนเอง

๖. ถอื ลูกบอลไว้ข้างหลัง กม้ ตวั ไปขา้ ง
หนา้ พร้อมกับเหวีย่ งแขนขึ้นให้ลกู บอล
ลอยพ่งุ ไปข้างหน้า แลว้ ว่งิ ตามไปเกบ็
ลกู บอล

๗. ยืน ใชข้ อ้ เทา้ หนีบลูกบอลแล้วกระโดด
ไปขา้ งหน้า

๘. โยนลูกบอลข้นึ เหนือศีรษะ เตะเท้าข้าง
หนึง่ ไปขา้ งหน้าพรอ้ มกับตบมือ
ระหวา่ งขาท้งั สอง แลว้ รบั ลูกบอลไว้

๙. ยนื ใช้เขา่ หนีบลูกบอลแลว้ กระโดด
ไปขา้ งหนา้

๑๐ น่งั ส่งลูกบอลใหก้ ระดอนกบั กาแพง
เม่อื ลูกบอลกระดอนกลบั มากร็ ับไว้
ทาตดิ ตอ่ กนั โดยไม่ให้ลกู ตกพื้น

๑๑. เดาะลูกบอลด้วยแขนเพียงขา้ งเดียว
ตดิ ต่อกนั สลบั ซ้ายขวา

๑๒. ฝกึ การรบั -ส่งลูกบอลเป็นวงกลมรอบ
เข่าตนเอง

๑๓. น่งั โยน – รบั ลูกบอลขึ้นเหนือศรี ษะ
ตนเอง ทาติดตอ่ กัน

๑๔. ผ้เู ลน่ สองคนยืนหา่ งกนั พอประมาณ
หันหน้าเข้าหากนั แต่ละคนถือลูกบอล
ไวข้ ้างหลงั ก้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกบั

เหว่ยี งแขนขน้ึ ให้ลูกบอลลอยพงุ่ ไปยัง
คู่ของตนทเ่ี ตรียมคอยรบั ลูกบอลอยู่

๑๕. หันหลัง รบั -ส่งบอลแบบลอดใต้ขา
สลบั ส่งข้ามศรี ษะตนเอง ให้คู่

๑๖ ทมุ่ บอลกระดอนพ้ืน ๑ คร้ังให้คู่ทา
สลับกันไปมา

๑๗. หันหลังส่งลกู บอลด้านข้างลาตวั ให้คู่
สลบั ซ้ายและขวา

๑๘. หันหนา้ เข้าหากันขาเหยียดตรง
รบั -สง่ ลูกบอลใหค้ สู่ ลับไปมา

๑๙. ใช้ขาหนบี ลูกบอลส่งใหค้ ู่

๒๐. กลงิ ลกู บอลบนพืนลอดใตข้ าไปด้าน
หลังให้คู่ ค่ไู ดบ้ อลแลว้ วิ่งไปข้างหน้า
และทาในลกั ษณะเดียวกัน

แบบฝึกปฏิบัติท่ี ๓.๑
เร่ืองเกมแขง่ ขนั สร้างความคุ้นเคยกับลกู วอลเลยบ์ อล

๑) เกมสง่ บอลลอดใตข้ าไปด้านหลัง

คนท่ี ๑ หัวแถว ส่งลูกบอลใต้ขาไปด้านหลงั ใหผ้ ู้เล่นคนท่ี ๒ คนท่ี ๒ ส่งลูกบอลใต้ขาไปด้านหลังให้ผู้
เลน่ คนท่ี ๓ ทาเช่นนจี นถึงผเู้ ล่นคนสุดท้ายให้วิ่งขึนมาหัวแถว การส่งให้ส่งแบบมือต่อมือ และไม่ให้ลูกบอล
ถกู พนื ดังรปู ท่ี ๑.๑ – ๑.๓

รปู ท่ี ๑.๑ รปู ท่ี ๑.๒ รปู ที่ ๑.๓

๒) เกมสง่ บอลลอดใตข้ าสลบั เหนือศีรษะ

คนที่ ๑ สง่ ลูกบอลลอดใต้ขาไปดา้ นหลงั ใหค้ นท่ี ๒ คนที่ ๒ รับลูกบอลแลว้ ส่งข้ามศรี ษะ
ตนเองไปดา้ นหลงั ให้คนตอ่ ไป คนต่อไปก็สง่ ลอดใตข้ าอีก สลับกันอยา่ งนีจนครบทุกคน
ดงั รูปที่ ๒.๑ – ๒.๓

รูปที่ ๒.๑ รปู ที่ ๒.๒ รปู ท่ี ๒.๓

๓) เกมส่งบอลด้านขา้ งลาตัว

ผู้เล่นยนื เป็นวงกลม คนท่ี ๑ ส่งลูกบอลด้านข้างลาตัวไปให้ผู้เล่นคนที่ ๒ คนที่ ๒ ส่งลูกบอล
ดา้ นขา้ งลาตัวใหผ้ ้เู ลน่ คนท่ี ๓ ทาเชน่ น้จี นถงึ ผเู้ ลน่ คนสดุ ทา้ ย การสง่ ให้ส่งแบบมือต่อมือ ห้ามโยนให้กัน
ดังรปู ท่ี ๓.๑ – ๓.๓

รปู ที่ ๓.๑ รปู ท่ี ๓.๒ รปู ที่ ๓.๓

ตารางการประเมิน แบบประเมนิ การสังเกต การสรา้ งความคุ้นเคย
รายการ นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ปีการศกึ ษา 256๕
การสง่ บอล
ดมี าก ( 5 คะแนน ) ดี ( 4 คะแนน ) พอใช้ ( 3 คะแนน ) ปรบั ปรงุ ( 2 คะแนน )

การรับบอล

การโยนลกู

ลกั ษณะการยืน

การเคลือ่ นท่ี

ปญั หาทพ่ี บขณะประเมนิ กิจกรรม คือ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………

…………………………………………………………………...…………………………………………………………………………………
………………………...……………………………………………………………………………………………………………………..…...

วิธีการแก้ไข
………………………………………………………………………………………………….………………………………………

…………………………………………………………………...…………………………………………………………………………………
………………………...…………………………………………………………………………………………………………………………...

แบบประเมนิ พฤตกิ รรม
นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ปกี ารศึกษา 256๕

ตารางการประเมินพฤตกิ รรม 5432
คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน
รายการ

ด้านความรู้
- การอธิบาย การซักถาม การตอบคาถาม
ด้านเจตคติ
- ความมีนาใจนักกีฬา ความสนุกสนาน
ด้านทักษะ
- การสาธติ ทักษะการเคลื่อนไหว การฝึกปฏบิ ัติ

รวมคะแนน

เกณฑ์การประเมนิ ผลการประเมิน
คะแนนรวม ระดบั คณุ ภาพ
ไม่ผา่ น
0 - 2 ปรบั ปรงุ ควรปรับปรุง
4 – 10 พอใช้ ผ่าน
10 – 15 ดี

ลงชื่อ ………………………………..
(…………………………………..)
ผูป้ ระเมิน

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 4 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2
จานวน 1 ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาและพลศกึ ษา วิชา พลศึกษา เวลา 1 ชว่ั โมง
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 ทกั ษะการเลน่ วอลเลยบ์ อล
เรื่องท่ี 3 การยนื เตรยี มพร้อมและการเคลื่อนท่ี

มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลอื่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอ

มวี ินยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี าใจนกั กีฬา มีจติ วิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมใน
สนุ ทรียภาพของการกฬี า

ตวั ช้ีวัด
พ 3.1 ม2/1 นาผลการปฏบิ ัติเกยี่ วกบั ทักษะกลไกและทกั ษะการเคลอ่ื นไหวในการเล่นกีฬาไปใช้

ให้เกดิ ประโยชน์
ม2/3 ประสิทธภิ าพของรูปแบบการเคลอื่ นไหวที่ส่งผลต่อการเล่นกฬี าและกจิ กรรมใน

ชวี ิตประจาวนั
พ 3.2 ม2/3 มวี นิ ยั ปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกา

สาระสาคัญ
การยนื เตรยี มพร้อมและการเคล่อื นทเี่ ปน็ พืนฐานที่สาคัญในการเลน่ วอลเลยบ์ อลผู้เลน่ ที่ฝึกฝนจนเกดิ

ความชานาญจะสามารถทราบวถิ ีทิศทางและความเรว็ ของลูกบอลได้อีกทังกอ่ ใหเ้ กดิ ความคลอ่ งแคลว่ วอ่ งไว
การตัดสนิ ใจ ความเชอ่ื มั่นในตนเอง ตลอดจนช่วยเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายทางจติ และนาไปใช้ในการ
ออกกาลงั กายในชวี ติ ประจาวันได้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรยี นสามารถอธิบายการยืนเตรยี มพร้อมในการเลน่ วอลเลยบ์ อลไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
2. นักเรยี นสามารถแสดงท่าการยนื เตรียมพร้อมในการเล่นวอลเลยบ์ อลได้
3. นักเรียนสามารถอธิบายการเคล่อื นทแ่ี บบตา่ งๆได้
4. นักเรียนสามารถแสดงทา่ การเคลื่อนทแ่ี บบตา่ งๆได้

สาระการเรยี นรู้
1. การยนื เตรยี มพร้อมในการเลน่ วอลเลย์บอล
2. การเคล่อื นที่แบบสไลดไ์ ปดา้ นหนา้ ด้านซ้าย และดา้ นหลงั

กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นา / ขน้ั เตรียม ( 5 นาที )
1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรแู้ ละการวดั ผล ประเมินผล ใหน้ กั เรียนทราบ
2. ให้นักเรียนเขา้ แถวตอนแบ่งเปน็ 5 กลุม่ ๆ ละเท่าๆกนั สารวจ รายช่อื ความสะอาด สุขภาพ

และเคร่ืองแต่งกายสขุ ภาพของนกั เรียนทกุ คนในกลุ่มเพอ่ื เตรยี มความพรอ้ ม และความปลอดภยั
3. ครแู จกใบความร้เู รอื่ งการยืนเตรียมพรอ้ มและการเคลอ่ื นท่ี สนทนาและซักถามกบั นกั เรียน

ขัน้ สอน ( 10 นาที )
1. ครูอธิบายพร้อมกับสาธิตและเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการสาธิต การยืน

เตรียมพรอ้ มและการเคล่ือนท่ี
2. ใหน้ ักเรียนทากายบริหารอบอนุ่ ร่างกายเพ่ือเตรยี มความพร้อมในการทากิจกรรม

ให้นกั เรยี นปฏบิ ัตกิ ายบรหิ ารดังนี
- ยืดแขนไปด้านหน้าหักข้อมือขึนแล้วใช้มืออีกข้างดึงปลายนิวเข้าหาตัวทิงไว้ประมาณ

10 วินาทที าสลับซ้ายขวา
- ยกแขนขึนแล้วพับไปด้านหลังใช้มืออีกข้างจับตรงข้อศอกแล้วดึงทิงไว้ประมาณ 10

วนิ าทที าสลบั ซา้ ยขวา
- หมุนแขนทังสองขา้ งไปขา้ ง 10 ครงั ไปขา้ งหลัง 10 ครงั

- กางแขนออกแลว้ บดิ ลาตวั ไปทางซา้ ยและขวาสลบั กัน 10 ครงั
- ยืนแยกเทา้ กม้ แตะสลบั 20 ครงั
- ยนื ตรงเทา้ ชดิ กันเข่าตึงแล้วก้มลงเอาปลายนวิ มือแตะปลายเทา้ ทงิ ไว้ประมาณ 10 วนิ าที
- หมนุ ข้อมือและข้อเทา้ พรอ้ มกนั 20 ครังสลับกนั

ข้นั ฝึก ( 20 นาที )
1. ให้นกั เรยี นเข้าแถวกลมุ่ เดิมแล้วขยายแถวหา่ งกนั หนึ่งชว่ งแขน
2. แยกฝึกปฏิบัติทักษะการยืนเตรียมพร้อมและการเคล่ือนที่ โดยครูผู้สอนคอยให้การดูแล
ช่วยเหลือ แนะนา อธิบาย พร้อมสาธิตรว่ มกบั นกั เรยี น เพ่ือให้นักเรียนเกิดความเข้าใจดีย่ิงขึน และสามารถ
นาไปปฏบิ ัติ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง

ขันตอนวธิ กี ารฝกึ การยืนเตรียมพรอ้ มและการเคล่อื นที่ มีดงั นี
- การยีนเตรยี มพร้อม

1. ยืนเทา้ ทงั สองขนานกัน หรอื เทา้ ใดเท้าหน่ึงอยู่ข้างหน้าหา่ งกนั ประมาณ ๑ ช่วงไหล่
2. ย่อเขา่ ลงให้หัวเข่าเลยปลายเท้าเลก็ นอ้ ย กม้ ลาตัวให้หวั ไหลอ่ ยใู่ นแนวระดบั ของเขา่
3. ยกส้นเท้าขึนเลก็ น้อย นาหนักตัวอยทู่ ี่ปลายเท้าทงั สองข้าง ตรงบรเิ วณโคนหวั แม่เท้า ใต้ฝา่ เท้า
4. งอข้อศอก ยกมอื ทังสองขึนเหนือหัวเขา่ ตามองทล่ี กู บอล

- การเคล่ือนที่เลน่ วอลเลย์บอล
(การเคลื่อนทีโ่ ดยการว่งิ )
1. ก้าวเทา้ ทงั สองข้าง อยา่ งรวดเร็ว สลบั กันบนพนื ไปในทิศทางทตี่ อ้ งการ
2. การเคล่ือนไหวแบบวิ่ง เหมาะสาหรับการเคลื่อนทีไ่ ปเล่นลกู บอลที่ลอยมาตก
3. ห่างตวั ของผู้เล่นทางด้านหน้า และด้านหลัง
(การเคลอื่ นที่แบบสไลด์)
1. ก้าวเท้าขา้ งใดข้างหนึ่งเปน็ เทา้ นา
2. ลากเท้าอกี ขา้ งหนง่ึ ท่ีเปน็ เท้า ตามเข้ามาชิดเท้าขา้ งแรก
3. จงั หวะท่ีเท้าตามเข้าชิดเท้านาให้ดดี เทา้ นาออกไปดา้ นข้าง
4. การเคลอ่ื นไหวแบบสไลดอ์ าจ เรยี กสนั ๆ ว่า “ ก้าวชดิ กา้ วชดิ “
5. เคลอื่ นไหวแบบสไลด์นี เหมาะสาหรับการเคล่ือนที่ ไปเลน่ ลกู บอลทลี่ อยมาตก ใกลต้ วั ของผู้เลน่

ทงั ทางซ้ายขวา - หน้า – หลัง

ข้นั ใช้ ( 15 นาที )

1.ให้นกั เรียนแต่ละแถวสง่ ตวั แทนออกมาสาธติ พร้อมกับบรรยายการยืนเตรียมพร้อมและการ
เคล่อื นที่
2. ขณะที่นกั เรยี นปฏบิ ตั ิ สาธิตครูตอ้ งคอยให้คาปรึกษาคาแนะนาอธิบาย

ขนั้ สรุป ( 5 นาที )

1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ เกี่ยวกับการยนื เตรยี มพรอ้ มและการเคล่ือนที่
และเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นได้ซักถาม

2. ครูกลา่ วชมเชยนกั เรยี นทุกคนทตี่ งั ใจเรียนและปฏบิ ตั ิโดยสอดแทรกในเรือ่ งของ

คุณธรรม ความมีระเบียบวินัย ความมนี าใจนกั กีฬา
3. ครูมอบหมายแบ่งหน้าท่ีให้นกั เรียนเก็บอุปกรณ์ใหเ้ รยี บรอ้ ยและทาความสะอาดตรวจสอบ

เครือ่ งแตง่ กาย
การวัดและการประเมนิ ผล

ด้านความรู้

- การตอบคาถาม
ดา้ นทักษะ

- การปฏบิ ัตทิ ักษะการยนื เตรียมพร้อมและการเคลื่อนที่

เกณฑ์การวัด

รายการ 5432
คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน

ลกั ษณะการยนื ขณะเตรียมพร้อม
การเคลื่อนทโ่ี ดยการวงิ่

การเคลื่อนทีแ่ บบสไลด์
การกา้ วเทา้
จงั หวะการยอ่

คะแนนรวม ระดับคณุ ภาพ ผลการประเมิน
0 - 2 ปรับปรงุ ไมผ่ ่าน
4 – 10 พอใช้ ควรปรับปรุง
10 – 15 ดี ผ่าน
15 – 20 ดมี าก ผา่ น

- การแนะนาผู้อืน่ ใหป้ ฏบิ ัติตามได้
สือ่ และอปุ กรณ์ / แหล่งการเรยี นรู้

1. หนังสอื ประกอบการเรยี นการสอนวชิ าวอลเลยบ์ อล
2. สนามกฬี าวอลเลย์บอล
3. ใบความรทู้ ่ี 1 เรอ่ื งการยนื เตรียมพร้อมและการเคล่ือนท่ี
4. หอ้ งสมุดโรงเรียน
5. INTERNET
6. นกหวีด

เคร่ืองมือการประเมนิ ผล
1. เกณฑก์ ารวัดทักษะการยืนเตรยี มพรอ้ มและการเคล่ือนที่
2. แบบประเมินการสังเกต
3. แบบประเมนิ พฤตกิ รรม

บันทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปัญหา/อุปสรรค

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

(ลงช่ือ)………………………………….……ผ้สู อน
(นายศรัณย์ ไชยทองศรี)
ครู

ข้อเสนอแนะ,ความคดิ เห็นของหวั หนา้ กลุม่ สาระฯ
..........................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ...........................................................
(นำยจรัญ อินตยิ ะ)

วันที่............/....................../...............

ข้อเสนอแนะ ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.....................................................
(นำยจริ วฒั น์ ปัญญำรมย์)

วนั ที่............/......................../...............

ข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นของผ้อู านวยการโรงเรยี น
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

ลงชื่อ........................................................
(นำยปรำโมทย์ เทพกลู )

วนั ที่............/........................./..................

ใบความรทู้ ี่ 1 เรอื่ งการยนื เตรียมพรอ้ มและการเคลื่อนท่ี
ทา่ การยนี เตรียมพร้อม

1. ยืนเทา้ ทงั สองขนานกนั หรือเท้าใดเท้าหนึ่งอยูข่ า้ งหน้าห่างกัน ประมาณ ๑ ชว่ งไหล่
2. ยอ่ เขา่ ลงให้หวั เข่าเลยปลายเทา้ เล็กน้อย ก้มลาตัวใหห้ วั ไหลอ่ ย่ใู นแนวระดบั ของเขา่

1. ยกสน้ เท้าขนึ เลก็ น้อย นาหนกั ตวั อยทู่ ่ีปลายเท้าทังสองข้าง ตรงบรเิ วณโคนหัวแมเ่ ท้า ใต้ฝา่ เทา้
2. งอข้อศอก ยกมอื ทังสองขึนเหนือหัวเข่า ตามองทีล่ ูกบอล

การเคล่ือนทเ่ี ลน่ วอลเลยบ์ อล
การเคล่ือนที่โดยการว่งิ

1. กา้ วเทา้ ทงั สองข้าง อย่างรวดเร็ว สลับกนั บนพืนไปในทิศทางทต่ี อ้ งการ
2. การเคล่อื นไหวแบบว่งิ เหมาะสาหรับการเคลื่อนทไี่ ปเลน่ ลกู บอลท่ีลอยมาตก
3. ห่างตวั ของผเู้ ลน่ ทางดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั

ด้านข้างซา้ ย - ขวา การเคลื่อนทแี่ บบสไลด์ ด้านหนา้ - หลัง

1. ก้าวเท้าข้างใดขา้ งหน่งึ เปน็ เท้านา
2. ลากเท้าอกี ข้างหนึง่ ทเ่ี ป็นเทา้
ตามเข้ามาชดิ เทา้ ข้างแรก
3. จงั หวะท่เี ทา้ ตามเข้าชิดเทา้ นาให้
ดีดเทา้ นาออกไปดา้ นข้าง ดังรปู ท่ี
๒.๒ ก หรอื ดา้ นหนา้ ดงั รปู ท่ี ๒.๒ ข
อีก ให้ทาในลกั ษณะตอ่ เนอ่ื ง
4. การเคล่ือนไหวแบบสไลดอ์ าจ
เรยี กสันๆ ว่า “ กา้ วชดิ กา้ วชดิ “
5. การเคลอ่ื นไหวแบบสไลด์นี
เหมาะสาหรบั การเคลื่อนที่ ไปเลน่ ลกู
บอลที่ลอยมาตก ใกล้ตวั ของผเู้ ลน่ ทัง
ทางซ้ายขวา - หน้า - หลงั

รปู ท่ี ๒.๒ ก รปู ท่ี ๒.๒ ข


Click to View FlipBook Version