การส้นิ สดุ ของการหม้ัน
1. การบอกเลิกสัญญาหมั้น เมอื่ มีการหม้ันแลว ถาตอมาชายหรอื หญงิ คหู มนั้ ประพฤติตนไมเหมาะสมใน
การเปนคูหม้ัน เชน ประพฤติช่ัวอยางรายแรง อีกฝายบอกเลิกสัญญาและเรียกคาทดแทนไดเหมือนผิด
สัญญาหม้ัน (มาตรา 1444) เปนตน หรอื มีเหตุสําคัญเกิดแกคูหม้ัน (มาตรา 1443) ทําใหอีกผายหน่ึงไม
สมควรสมรสดวย คูหม้ันอีกฝายหน่ึงอาจบอกเบิกสัญญาหม้ันได ซ่ึงคูหม้ันท่ีมีสิทธิบอกเลิกสัญญาหม้ัน
นน้ั ยอ มไมถ อื วา เปนฝายผิดสญั ญาหมัน้ คูหมั้นฝา ยที่ถกู ถอนหม้ันจะเรยี กคา ทดแทนไมได
2. กรณที คี่ หู มัน้ ฝา ยใดฝา ยหนึง่ ตายกอนสมรส
3. กรณมี กี ารบอกลา งสัญญาหม้นั ทเ่ี ปนโมฆยี ะ
4. กรณีทีม่ ีการสมรส
5. การสิ้นสดุ โดยความยินยอมของทง้ั ชายและหญงิ
สินสอด
สินสอด คือ ทรัพยสินซ่ึงฝายชายใหแกบิดามารดา ผูรับบุตรบุญธรรม หรือผูปกครองฝาย
หญิง แลวแตกรณี เพื่อตอบแทนการทหี่ ญิงยอมสมรส ถา ไมมีการสมรสโดยมีเหตุสําคัญอนั เกิดแกหญิง
หรือโดยมีพฤติการณซ่ึงฝายหญิงตองรับผิดชอบ ทําใหฝายชายไมสมควรหรือไมอาจสมรสกับหญิงน้ัน
ฝา ยชายเรยี กสนิ สอดคนื ได
สินสอดถือเปนสัญญาอยางหน่ึง เรียกวา “สัญญาสินสอด” ซ่ึงจะตองไดมีการตกลงกันกอน
จดทะเบียนสมรสวาจะใหอะไรเปนสินสอด การสงมอบสินสอดจะตกลงใหกอนหรือหลังสมรสแลวก็ได
สวนของหม้ันตองสงมอบกอนจึงจะเกิดสัญญาหม้ัน ฉะน้ันชายหญิงไปจดทะเบียนสมรสกัน แตไมไดสง
มอบสนิ สอด ก็ถือวาการสมรสน้ันเกดิ ข้นึ สมบูรณแ ลว
กฎหมายไมไ ดบังคับวา จะสมรสไดตองมีสนิ สอด แตเ มื่อเกดิ สญั ญาสินสอดแลว ฝา ยชายไมน ํา
สนิ สอดมาใหตามสัญญา ฝายหญิงสามารถฟองรองเรียกสนิ สอดจากฝา ยชายได
ขอ ควรพจิ ารณา
1. กรณีเรยี กคาทดแทนตาม มาตรา 1445 –1446 มีอายุความ 5 ป นับแตว ันที่รูถงึ การกระทํา กรณีอื่น
สิทธิเรยี กคาทดแทน มีอายคุ วาม 6 เดือน
2. สิทธเิ รยี กรอ งของหม้ันหรือสินสอด มอี ายุความ 10 ป
[96]
การสมรส
การสมรสท่ีชอบดวยกฎหมาย ในทางกฎหมาย แบบของการสมรสท่ีถือวาชอบดวยกฎหมาย คือ การ
จดทะเบียนสมรสตอนายทะเบียน เทาน้ัน ไมไดอยูท่ีการอยูกินกันฉันสามีภริยาเฉย ๆ ไมไดถือท่ีพิธีการ
แตง งานใหญโต
เงื่อนไขของการสมรส
1. เงื่อนไขของอายุ การสมรสจะทําไดตอเมอื่ ชายและหญิงมอี ายุครบ 17 ปบ รบิ รู ณแลว
2. เง่ือนไขของความสามารถ กลาวคือ ถาคูสมรสยังคงเปนผูเยาวอยู จะสมรสไดตองขอความยินยอม
จากบุคคลท่มี ีอํานาจใหค วามยนิ ยอม ไดแ ก บดิ า มารดา ผรู บั บุตรบุญธรรม หรือผูปกครองแลวแตกรณี
3. ในกรณีท่ีมีเหตุอันสมควร แมจะมีอายุยงั ไมครบ 17 ปบริบูรณ ศาลอาจอนุญาตใหทําการสมรสกอน
นั้นได เชน กรณีที่หญิงน้ันไดต้ังครรภแลว โดยที่อายุยังไมครบ 17 ปบริบูรณ ก็สามารถรองขอตอศาล
เพอื่ อนญุ าตใหทําการสมรสได และเม่ือศาลอนุญาตใหสมรสไดแลว กฎหมายถือวาผูเยาวนน้ั เปนผูบรรลุ
นติ ภิ าวะแลว ดวยการสมรส
เง่ือนไขของการสมรสทท่ี ําใหการสมรสตกเปน โมฆะ
1. การสมรสกับบคุ คลวกิ ลจรติ หรือบุคคลซ่ึงศาลสั่งใหเ ปน คนไรค วามสามารถ การสมรสนนั้ ตกเปนโมฆะ
2. การสมรสระหวา งชายหญงิ ซ่งึ เปน ญาติสืบสายโลหติ โดยตรงข้นึ ไปหรือลงมาก็ดี เปนพน่ี องรวมบดิ า
มารดา หรือรว มแตบิดา หรือมารดากด็ ี การสมรสน้นั ตกเปนโมฆะ
3. ชายหรือหญิงจะทําการสมรสในขณะที่ตนมีคสู มรสอยูไมได กลาวคือ ถา มีคูสมรสทช่ี อบดว ยกฎหมาย
อยแู ลว ไปจดทะเบยี นสมรสกับใครอีก เรยี กวา “การสมรสซอ น” ซึ่งตกเปน โมฆะ
4. การสมรสจะทําไดตอเมื่อชายหญิงยินยอมเปน สามีภริยากัน และตองแสดงการยินยอมนัน้ ใหปรากฏ
โดยเปด เผยตอ หนา นายทะเบียน การสมรสโดยไมย นิ ยอมเปน โมฆะ
เงือ่ นไขของการสมรสท่ที ําใหการสมรสตกเปน โมฆียะ
1. การสมรสท่ีชายและหญงิ มอี ายุไมค รบ 17 ปบ รบิ รู ณ
2. การทีผ่ ูเยาวสมรสโดยไมไ ดรับความยินยอมจากผูแทนโดยชอบธรรม ผใู ชอํานาจปกครอง
3. การสมรสโดยสาํ คญั ผิดในตวั คูสมรส ตอ งยื่นคํารองตอศาลเพกิ ถอนภายใน 90 วันนบั แตว นั สมรส
4. การสมรสโดยถกู กลฉอฉล ตองยน่ื คํารองตอศาลเพิกถอนภายใน 90 วนั นับแตว นั ทร่ี ูหรอื ควรจะรถู ึง
กลฉอฉล หรือภายใน 1 ป นบั แตว นั สมรส
5. การสมรสโดยถูกขมขู ตอ งยน่ื คํารอ งตอศาลเพิกถอนภายใน 1 ป วันนบั ที่พน จากการขมขู
กรณีท่สี มรสกันไมได
กลาวคือ ผูรับบุตรบุญธรรมกับบุตรบุญธรรมน้ัน กฎหมายกําหนดวาจะสมรสกันไมได แต
ไมไดเขียนวาใหตกเปนโมฆะหรือโมฆียะ เพราะฉะน้ันถาผูรับบุตรบุญธรรมสมรสกับบุตรบุญธรรม ผล
ในทางกฎหมายก็ตองสมบูรณ เปนคูสมรสที่ชอบดวยกฎหมาย แตทําใหการรับบุตรบุญธรรมเปนอัน
ส้นิ สุดลง และสถานภาพความเปนผรู ับบตุ รบุญธรรมยอ มถกู ยกเลกิ ไป
อีกกรณีหนึ่ง คือ หญงิ หมายจะทําการสมรสใหมไ ดต อ งใหเ วลาผานไปแลว 310 วันนับแตการ
สมรสส้ินสุดลง เชน สามีตาย แตถาฝาฝนการสมรสก็ยังสมบูรณ เพียงแตบุตรท่ีเกิดมาภายใน 310 วัน
นน้ั ใหถ ือเปน บตุ รที่ชอบดว ยกฎหมายของชายผูเ ปน สามคี นใหม
[97]
ความสมั พันธระหวางสามภี ริยา
ทรพั ยส นิ ระหวา งสามภี ริยา
ในเรื่องเกี่ยวกับทรัพยสินระหวางสามีภริยาน้ัน ถาคูสมรสไดตกลงกันไวอยางไรเก่ียวกับ
ทรพั ยส นิ โดยทําเปนสัญญากอ นสมรสหรอื สัญญาระหวางสมรส กฎหมายกใ็ หเปนไปตามเจตนารมณข อง
คูสมรสน้ัน แตถาคูสมรสมิไดทําสัญญากันไว ก็ตองเปนไปตามกฎหมาย วาดวย เร่ืองทรัพยสินระหวาง
สามีภริยา
กฎหมายไดแบง ทรัพยสนิ ระหวางสามภี ริยาออกเปน 2 ประเภท คอื ( มาตรา 1470 )
1. สินสวนตัว ( มาตรา 1471 ) คือ ทรัพยสินท่ีเปนกรรมสิทธ์ิของสามีหรือภริยาฝายใดฝายหน่ึง
โดยเฉพาะ สนิ สว นตัวมีอยู 4 ประเภท ดังตอไปนี้
1) ทรพั ยสนิ ที่ฝายใดฝายหนง่ึ มีอยูแลวกอนสมรส
2) ทรัพยสนิ ทเี่ ปน เครื่องใชสอยสวนตวั เครือ่ งแตงกาย หรอื เครอื่ งประดับการตามสมควร
แกฐานะ หรือเครื่องมือเคร่ืองใชที่จาํ เปน ในการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพของคสู มรสฝายใดฝายหนง่ึ
3) ทรัพยส นิ ท่ีฝายใดฝา ยหนง่ึ ไดมาระหวางสมรส โดยการรับมรดกหรือโดยการใหโดยเสนห า
4) ของหมั้นเปน กรรมสทิ ธขิ์ องหญงิ ตัง้ แตทําการหม้ันกบั ชาย จึงเปน สนิ สวนตัวของหญิง
ขอสงั เกต
1) สนิ สวนตัวน้ัน ถาไดนาํ ไปแลกเปลี่ยนเปน ทรัพยส นิ อ่นื หรือนําไปซื้อทรัพยส ินอื่นมาก็ดี
หรือขายเปน เงนิ กด็ ี ทรัพยส ินอ่ืนหรอื เงินทไ่ี ดมานั้นยังคงเปนสนิ สว นตวั
2) การจดั การสินสว นตวั น้ี สนิ สว นตัวของคสู มรสฝา ยใด คูส มรสฝา ยนน้ั ก็เปน ผูจัดการไป
2. สินสมรส ( มาตรา 1474 ) คอื ทรพั ยสินท่เี ปนกรรมสิทธิ์รวมกันของสามแี ละภรยิ าทง้ั สองฝา ย
สินสมรสมีอยู 3 ประเภทดังตอไปนี้
1) ทรัพยสินท่ีคสู มรสไดมาในระหวา งสมรส เชน เงนิ เดอื น โบนัส เปน ตน
2) ทรัพยสนิ ท่ีคสู มรสฝา ยใดฝายหนง่ึ ไดมาในระหวา งสมรสโดยพินยั กรรมหรือโดยการใหเ ปน
หนงั สอื เมื่อพินัยกรรมหรอื หนังสือยกใหร ะบวุ า เปน สนิ สมรส
3) ทรัพยสนิ ทเี่ ปน ดอกผลของสินสวนตัว เชน กอ นจดทะเบียนสมรสมแี มห มตู ัวหน่งึ ซง่ึ เปน
สนิ สวนตัว ตอ มาเม่อื แตงงานแลวแมห มจู ึงไดคลอดลูกหมูออกมา 4 ตวั ถอื วาลูกหมเู ปนดอกผลของสนิ
สวนตวั จึงเปนสินสมรส เปนตน
[98]
ขอสังเกต
1) ในกรณที ่ีมขี อ สงสยั วาทรพั ยส ินหนง่ึ เปนสนิ สมรสหรือไม ใหสันนิษฐานไวกอนวา เปน สินสมรส
2) ในการจัดการสินสมรสน้ัน ถาเปนสามีภริยาท่ีสมรสกันกอนวันท่ี 27 กันยายน พ.ศ. 2533 ตองจัด
การรวมกัน ถามีฝา ยใดฝายหนึ่งฝาฝน อีกฝายหนึ่งกฟ็ องใหศาลเพิกถอนได แตถา สมรสกัน หลังวนั ท่ี 27
กันยายน พ.ศ. 2533 โดยหลักตางฝายตางจัดการไดโดยลําพัง มีเพียงบางกรณีท่ี ตองจัดการรวมกัน
หรอื ขอความยนิ ยอมจากอีกฝาย หนึ่ง เชน
(1) ขาย แลกเปล่ียน ขายฝาก ใหเชาซ้ือ จํานองปลดจํานองหรือโอนสิทธิจํานองซ่ึง
อสังหาริมทรัพยหรอื สังหารมิ ทรพั ยท่ีจาํ นองได
(2) กอต้ัง หรือ กระทําใหสุดส้ินลง ท้ังหมด หรือ บางสวน ซ่ึง ภาระจํายอมสิทธิอาศัย สิทธิ
เหนือพืน้ ดิน สทิ ธเิ กบ็ กิน หรือ ภาระตดิ พนั ในอสังหารมิ ทรัพย
(3) ใหเ ชา อสังหารมิ ทรัพยเ กิน 3 ป
(4) ใหกยู มื เงนิ
(5) ใหโดยเสนหา เวนแต การให ท่ีพอควรแก ฐานานุรูป ของครอบครัว เพ่ือ การกุศล เพ่ือ
การสังคม หรอื ตามหนา ทีธ่ รรมจรรยา
(6) ประนปี ระนอมยอมความ
(7) มอบขอพพิ าท ใหอนุญาโตตุลาการวนิ จิ ฉัย
(8) นําทรัพยสิน ไปเปนประกัน หรือ หลักประกัน ตอ เจาพนักงาน หรือ ศาล การจัดการ
สินสมรส นอกจาก กรณีที่บัญญัติไว สามีหรอื ภริยา จัดการได โดยมิตอ ง ไดรบั ความยนิ ยอม จากอีกฝาย
หนงึ่
3) ชายและหญิงท่ีอยกู ินดว ยกันโดยไมจดทะเบียนสมรส ทรัพยส ินท่ที ํามาหาไดรว มกนั ใหแ บง
คนละครึง่ สว นทรัพยสนิ ทตี่ า งฝา ยตา งไดม าไมว า กอนหรอื หลงั การสมรสก็ใหเ ปนของฝายนน้ั
4) สวนสนิ สมรสตองแบงครึ่งเสมอ
หนี้ของสามีภริยา
หน้ีของสามีภรยิ ามี 2 ประเภทคือ
1. หนี้สวนตัว คือ หน้ีท่ีสามีหรอื ภรยิ าตองรบั ผิดตอเจา หน้เี พยี งลําพังคนเดียว และการชาํ ระหน้ีสวนตัว
ของฝายใด ตองใชสินสวนตัวของฝายน้ันชําระหน้ีกอน ถา ไมพ อจึงใหชําระดวยสินสมรสซ่ึงเปนสว นของ
ฝายนน้ั
2. หน้ีรว ม คอื หนที้ สี่ ามหี รือภรยิ าตองรับผิดชอบตอเจา หน้ีรวมกัน ไดแ ก
1) หน้ีเกี่ยวแกการจัดการบานเรือนและจัดหาสง่ิ จําเปนสาํ หรบั ครอบครวั การอุปการะเลย้ี งดู
ตลอดถงึ การรักษาพยาบาลบคุ คลในครอบครัว และการศกึ ษาของบุตรตามสมควรแกอตั ภาพ
2) หนี้เกี่ยวขอ งกับสินสมรส
3) หน้ที ่ีเกิดขนึ้ เนื่องจากการงานซ่ึงสามีหรอื ภรยิ าทําดว ยกัน
[99]
4) หน้ีที่สามีหรือภริยากอขึ้นเพื่อประโยชนตนฝายเดียว แตอีกฝายหนึ่งไดใหสัตยาบัน ถา
เปนหน้ีรวม เจาหน้ีบังคับเอาไดกับสินสมรสและสินสวนตัวของท้ัง 2 ฝาย ไมคํานึงวาอันไหนกอนหลัง
เม่ือสามีภรรยาเปนลูกหน้ีรวมกันใหชําระจากสินสมรสและสินสวนตัวของท้ังสองฝาย ซ่ึงเจาหน้ีมีสิทธิ
เรียกชําระหน้ีจากสินสวนตัวของฝายใดฝายหน่ึงจนครบจํานวนหน้ี โดยไมจําตองเรียกเอาจากสินสมรส
ได หรอื จะเรียกชาํ ระหนเี้ อาจากสินสมรสกอนเมอ่ื ไมพอจงึ เอาจากสนิ สว นตวั ของท้ังสองฝายได
การสิน้ สุดของการสมรส
การสมรสสิ้นสดุ ลงไดดว ยเหตุอยางหนง่ึ อยา งใด ดังตอไปน้ี
1. โดยการตายของคสู มรส
2. โดยการหยา มี 2 แบบ ไดแก
1) การหยา โดยความยนิ ยามของคสู มรสทั้งสองฝา ย โดยทําเปนหนังสือและมพี ยานลงลาย
มอื ชอื่ อยางนอย 2 คน และจดทะเบยี นการหยา น้นั ดวย
2) การหยา โดยคําพิพากษาของศาล (ฟอ งหยา )
3. ศาลไดพิพากษาใหเ พิกถอนการสมรส ในกรณีการสมรสน้นั ตกเปน โมฆะหรือโมฆยี ะ ซึ่งผูมีสวนได
เสยี รองขอตอ ศาลใหเพกิ ถอนการสมรสนน้ั
เหตุหยา คือ เหตทุ ่ีทําใหคูสมรสฝายใดฝา ยหนึง่ ฟองตอ ศาล เพื่อใหศาลมีคําพิพากษาใหคูสมรสหยา กัน
และทําใหการสมรสสน้ิ สดุ ลง มดี ังตอ ไปน้ี (มาตรา 1516)
(1) สามีหรอื ภริยา อุปการะเลี้ยงดหู รือยกยองผูอน่ื ฉันภริยาหรอื สามี เปนชูหรือมชี ู หรอื รวมประเวณี
กับผอู ืน่ เปน อาจิณ อกี ฝา ยหน่ึงฟอ งหยาได
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชวั่ ไมวาความประพฤตชิ วั่ น้นั จะเปนความผดิ อาญาหรือไม ถาเปนเหตุให
อกี ฝายหนึ่ง
(ก) ไดร ับความอบั อายขายหนาอยางรา ยแรง
(ข) ไดร บั ความดูถกู เกลียดชัง เพราะเหตุท่คี งเปนสามีหรอื ภริยาของฝา ยทีป่ ระพฤตชิ ่วั อยู
ตอไป หรือ
(ค) ไดร ับความเสียหาย หรอื เดือนรอ นเกนิ ควร ในเม่ือเอา สภาพ ฐานะ และ ความเปนอยู
รว มกนั ฉันสามีภริยา มาคํานึงประกอบ อีกฝา ยหนึ่งนนั้ ฟองหยาได
(3) สามีหรอื ภริยา ทํารา ย หรือ ทรมานรางกายหรือจิตใจ หรอื หมิ่นประมาท หรือ เหยยี ดหยาม อกี
ฝา ยหน่งึ หรอื บพุ การีของอีกฝายหน่ึง ทงั้ น้ี ถา เปนการรา ยแรง อกี ฝายหน่งึ นัน้ ฟองหยาได
(4) สามีหรือภริยา จงใจละท้งิ รางอกี ฝา ยหนง่ึ ไปเกนิ หนึง่ ป อกี ฝา ยหนึง่ นั้นฟอ งหยาได
(4/1) สามีหรือภริยา ตองคําพิพากษา ถึงท่ีสุด ใหจําคุก และ ไดถูกจําคุกเกิน หน่ึงป ใน
ความผิด ท่ีอีกฝายหน่ึง มิไดมีสวน กอใหเกิด การกระทําความผิด หรือ ยินยอม หรือ รูเห็นเปนใจ ใน
การกระทําความผิดนั้นดวย และ การเปนสามีภริยากันตอไป จะเปนเหตุให อีกฝายหนึ่ง ไดรับความ
เสยี หาย หรือ เดอื ดรอ นเกนิ ควร อกี ฝายหนึ่งน้ัน ฟองหยาได
(4/2) สามีและภริยา สมัครใจแยกกันอยูเพราะเหตุท่ีไมอาจอยูรวมกันฉันสามีภริยา ไดโดย
ปกตสิ ุข ตลอดมาเกินสามป หรอื แยกกนั อยูตามคําสง่ั ของศาล เปน เวลาเกิน สามป ฝา ยใดฝายหน่ึงฟอง
หยา ได
[100]
(5) สามีหรือภริยา ถูกศาลส่ังใหเปน คนสาบสูญ หรือ ไปจาก ภูมิลําเนา หรือ ถ่ินท่ีอยู เปนเวลาเกิน
สามป โดยไมมีใครทราบแนว า เปนตายรายดอี ยา งไร อีกฝายหน่ึง ฟอ งหยาได
(6) สามีหรือภริยา ไมให ความชวยเหลืออุปการะเลี้ยงดู อีกฝายหน่ึง ตามสมควร หรือ ทําการเปน
ปฏิปกษ ตอการท่ีเปนสามีหรือภริยากันอยางรายแรง ทั้งนี้ ถาการกระทํานั้น ถึงขนาดท่ีอีกฝายหน่ึง
เดือดรอนเกินควร ในเมื่อเอา สภาพ ฐานะ และ ความเปนอยูร วมกันฉนั สามีภริยามาคํานึงประกอบ อีก
ฝา ยหนงึ่ น้นั ฟอ งหยา ได
(7) สามีหรือภริยา วิกลจริต ตลอดมาเกินสามป และความวิกลจริตน้ันมีลักษณะยากจะหายได กับท้ัง
ความวิกลจรติ ถงึ ขนาดท่ีจะทนอยูรวมกันฉนั สามีภริยาตอไปไมได อกี ฝายหน่งึ ฟองหยาได
(8) สามีหรอื ภรยิ า ผดิ ทณั ฑบ นท่ที ําใหไ วเปนหนงั สอื ในเรือ่ งความประพฤติ อกี ฝา ยหนง่ึ ฟอ งหยา ได
(9) สามีหรือภริยา เปนโรคติดตอ อยางรายแรง อันอาจเปนภัย แกอีกฝายหนึ่ง และ โรคมีลักษณะ
เร้อื รงั ไมมที างท่ีจะหายได อีกฝายหนงึ่ นั้น ฟอ งหยา ได
(10) สามีหรือภริยา มีสภาพแหงกาย ทําให สามีหรือภริยาน้ัน ไมอาจรวมประเวณี ไดตลอดกาล อีก
ฝา ยหนึ่ง ฟองหยา ได
ความสมั พันธระหวา งบดิ า มารดากับบุตร
หนา ทข่ี องบดิ ามารดา มีดังตอไปน้ี
1. อุปการะเลย้ี งดบู ุตรผเู ยาว
2. ใหก ารศกึ ษาตามสมควรแกบตุ รในระหวางที่เปน ผเู ยาว
3. จัดการทรัพยสินของบตุ รผูเยาวดว ยความระมดั ระวัง
ฉะน้ันถา บุตรบรรลุนติ ิภาวะแลวบิดามารดาก็ไมม ีหนาทีอปุ การะเลย้ี งดูหรือใหก ารศึกษา เวน
แต บุตรท่ีเปนผูทุพพลภาพและหาเล้ียงตนเองไมได เชน บุตรพิการ ตาบอด แมจะบรรลุนิติภาวะแลว
บิดามารดาก็ยงั มีหนา ทีอ่ ปุ การะเลี้ยงดู
สทิ ธิของบดิ ามารดา มดี ังตอ ไปน้ี เชน
1. กาํ หนดทอี่ ยูใหบ ุตร
2. ทําโทษบตุ รตามสมควรเพื่อวา กลา วสง่ั สอน
3. ใหบ ุตรทําการงานตามสมควรแกค วามสามารถและฐานานุรปู
4. เรยี กบุตรคนื จากบุคคลอน่ื ซ่ึงกกั ขงั บตุ รไวโ ดยไมชอบดว ยกฎหมาย
5. เปนผูใ หค วามยนิ ยอมแกบุตรผูเ ยาวใ นการทํานติ ิกรรม
6. ใชอ ํานาจปกครองบตุ ร
หนา ที่ของบตุ ร มดี ังตอ ไปน้ี
1. อุปการะเลีย้ งดูบิดามารดา
2. อยใู ตอํานาจปกครองของบิดามารดา
สทิ ธขิ องบตุ ร มีดังตอ ไปนี้
1. ใชช่ือสกุลของบิดาหรอื มารดา
2. ไดรบั อุปการะเลย้ี งดจู ากบิดามารดาตามสมควร
[101]
ขอ สังเกต
บตุ รหลานจะฟองบดิ ามารดาหรือบุพการขี องตนท้ังทางคดีแพงและคดีอาญาไมได เรยี กวา
“คดีอทุ ลุม” แตถา ตองการจะฟองก็ได โดยใหผ มู สี ว นไดเ สียรอ งขอตอ ศาล (ฟอ งคดแี ทน) หรอื จะรอง
ขอใหเ จาพนกั งาน อยั การนําคดขี ึ้นสูศ าลแทนก็ได
บตุ รนอกกฎหมาย
บุตรนอกกฎหมาย เปนบุตรท่ีเกิดจากชายหญิงท่ีไมไดสมรสกันโดยชอบดวยกฎหมาย (ไมได
จดทะเบยี นสมรสกัน) ซึ่งกฎหมายจะรับรองเพียงใหบ ุตรเปนบุตรชอบดวยกฎหมายของมารดาเทานั้น มี
สิทธิหนาท่ีตาง ๆ ตอกันตามกฎหมาย แตตัวชายจะเปนบิดาท่ีไมชอบดวยกฎหมายของบุตร และบุตร
น้ันก็เปนบุตรท่ีไมชอบดวยกฎหมายของบิดา ซ่ึงยอมไมมีความสัมพันธใด ๆ ตอกันตามกฎหมาย แตถา
ไดมีการเล้ียงดูกันจริง ๆ เชน บิดาอุปการะเล้ียงดู พาไปโรงเรียน ใหบุตรใชนามสกุลของตน ไปแจงเกิด
ให แนะนําคนอนื่ วา เปน บตุ รของตน เปน ตน พฤตกิ ารณตาง ๆ เหลา นีถ้ อื วา เปนบุตรนอกกฎหมายท่ีบดิ า
ไดรับรองแลว บุตรยอมมีสิทธิอยูประการเดียวคือ มีสิทธิไดรับมรดกของบิดา ตามกฎหมายมรดก สวน
บดิ าไมม ีสิทธิรับมรดกของบุตร เพราะยังเปนบดิ าทไี่ มช อบดว ยกฎหมายของบุตรอยู
แตอ ยางไรกต็ ามบตุ รนอกกฎหมายจะเปน บุตรชอบดว ยกฎหมายของบิดาไดต อเม่ือ
1. บิดาและมารดาไดจ ดทะเบียนสมรสกันในภายหลงั ใหถ ือวาเปนบุตรชอบดว ยกฎหมายนบั แตเกิด
2. บิดาไดจดทะเบียนรับรองวาเปนบุตร ซึ่งจะทําไดตอเม่ือไดรับความยินยอมจากเด็กและมารดาของ
เด็ก แตในกรณีท่ีเด็กอยูในภาวะทไ่ี รเ ดียงสา มารดาใหค วามยินยอมแทนไดเลย แตถาเดก็ และมารดาเด็ก
คัดคาน ชายนัน้ ตอ งรองขอใหศ าลพพิ ากษาวาเด็กนนั้ เปนบตุ รโดยชอบดว ยกฎหมาย
3. ศาลพิพากษาวาเปน บุตร
การรบั บตุ รบญุ ธรรม
บุตรบุญธรรม คือ บตุ รซงึ่ เกดิ จากบิดามารดาแตอยูใตอํานาจปกครองของบคุ คลอน่ื ท่ีมใิ ช
บิดามารดาผูใหก ําเนดิ ซ่งึ กฎหมายใหกาํ หนดคณุ สมบตั ิและเงอ่ื นไขการรบั บุตรบุญธรรมไวห ลาย
ประการ ดังน้ี
คณุ สมบัติของผูรบั บุตรบญุ ธรรมและบุตรบุญธรรม
ผรู ับบตุ รบญุ ธรรมนนั้ จะตอ งมีอายไุ มต่ํากวา 25 ป และตองมอี ายุแกกวาบุตรบุญธรรมอยาง
นอ ย 15 ป สว นบุตรบญุ ธรรมนั้นกฎหมายไมไดจ าํ กัดอายุไว
หลักเกณฑและเงอื่ นไขการรับบตุ รบุญธรรม
1. ถาผรู ับบุตรบุญธรรมมีคสู มรส จะตอ งไดรับความยินยอมจากคูสมรสกอ น
2. ถา บุตรบญุ ธรรมเปน ผูเยาว จะตอ งไดร บั ความยินยอมจากบดิ ามารดาของเด็กกอน
3. ถาบุตรบุญธรรมเปนผูเยาวที่มีอายุต้ังแต 15 ปข้ึนไป แตไมครบ 20 ปบริบูรณ จะตองไดรับความ
ยินยอมจากตวั ผูเยาวดว ย
4. ถา บุตรบญุ ธรรมมคี ูส มรส จะตอ งไดร ับความยนิ ยอมจากคสู มรสของบุตรบุญธรรมดวย
5. ผูเยาวท่ีเปนบุตรบุญธรรมของบคุ คลใดอยูจะเปนบุตรบุญธรรมของบุคคลอน่ื อีกในขณะเดยี วกันไมได
เวน แต เปนบุตรบุญธรรมของคูส มรสของผูร ับบตุ รบญุ ธรรม
[102]
ผลทางกฎหมายในการรบั บุตรบญุ ธรรม
การรับบุตรบุญธรรมจะสมบูรณตอเม่ือไดจดทะเบียนตามกฎหมาย และบุตรบุญธรรมยอมมี
ฐานะอยางเดียวกับบุตรชอบดวยกฎหมายของผูรับบุตรบุญธรรมน้ัน เชน ไดรับการอุปการะเล้ียงดู มี
สทิ ธิไดรับการศึกษา สิทธิใชนามสกุล มีสิทธไิ ดรบั มรดกของผูรับบุตรบุญธรรม เปนตน นอกจากน้ีแมจะ
ไปเปนบุตรบุญธรรมของผูอ่ืน แตไมสูญสิทธิและหนาท่ีในครอบครัวท่ีไดกําเนิดมา เชน บิดามารดาผูให
กําเนิดถึงแกค วามตายกม็ ีสทิ ธิรบั มรดกในฐานะทายาทโดยธรรม
แตอํานาจปกครองจะอยูท่ีผูรับบุตรบุญธรรม บิดามารดาผูใหกําเนิดจะหมดอํานาจปกครอง
นับแตเ วลาทเ่ี ดก็ ไปเปน บุตรบุญธรรม
อนึ่งผรู ับบุตรบุญธรรมไมมสี ิทธิรบั มรดกของบุตรบุญธรรมในฐานะทายาทโดยธรรม
การเลกิ รับบตุ รบุญธรรม ทําได 3 กรณีคือ
1. บุตรบญุ ธรรมกบั ผรู ับบตุ รบญุ ธรรมตกลงเลกิ กนั เองโดยทางทะเบยี น
2. ผูรบั บตุ รบญุ ธรรมสมรสกับบุตรบญุ ธรรม ความเปนบตุ รบุญธรรมยกเลกิ ทนั ที แตการสมรสมีผล
สมบรู ณ
3. การเลิกรบั บตุ รบุญธรรมโดยคําพิพากษา
กฎหมายลักษณะมรดก
มรดก ไดแก ทรัพยสินทุกชนิด ตลอดท้ังสิทธิ หนาท่ี และความรับผิดตางๆ ของเจามรดก
เวนแตตามกฎหมายหรอื โดยสภาพแลว เปน การเฉพาะตัวของผตู ายโดยแท เชน กอนตายไปหมั้นผูห ญิง
ไว พอเจา มรดกตายทายาทจะไปแตง งานแทนไมไ ด หรือสญั ญาเชา ทรพั ยเ ปน สทิ ธิเฉพาะตวั เปน ตน
นอกจากน้ีจะเปนทรัพยมรดกจะตองไดความวาเจามรดกมีกรรมสิทธ์ิหรือมีสิทธิอยูกอนตาย
แตถาจะไดมาตอเมื่อเจามรดกตายก็ไมใชมรดก เชน เงินฌาปนกิจศพ เปนตน และเจามรดกยังมิได
จําหนา ยจายโอนโดยสมบูรณต ามกฎหมายไปแลว
ขอ สงั เกต
1) เจา มรดกตองเปนบุคคลธรรมดาเทานัน้
2) สิทธิและหนา ที่ของเจา มรดกที่ตกทอดเปนมรดก เชน สิทธทิ างสัญญากูยืม การซ้ือขาย จํานา จาํ นอง
ละเมดิ เชา ซ้ือ สทิ ธเิ รยี กคาชดเชย
3) สิทธิและหนาท่ีของเจา มรดกทไี่ มตกทอดเปน มรดก เชน สิทธอิ าศยั สิทธเิ กบ็ กิน ภารติดพนั ใน
อสังหารมิ ทรัพย สทิ ธกิ ารจดั การมรดก การฟอ งคดีอาญา การเชา ทรพั ยธรรมดา
การตกทอดแหงทรัพยมรดก
เมอื่ เจามรดกตายหรอื ถูกศาลส่งั ใหเปนคนสาบสญู มรดกของบุคลนั้นตกทอดแกทายาทโดย
ทันทีเปนไปโดยผลของกฎหมาย โดยไมตองแสดงเจตนาสนองรับ หรือไมจําเปนตองทําพิธีโอนทาง
ทะเบียนกอ นทายาทยอ มเขา ไปใชส ิทธิในฐานะเปนผรู ับมรดกไดทันที
มรดกยอมตกทอดแกทายาทท้ังหมด ท้ังทรัพยสิน สิทธิ หนาท่ีและความรับผิดตางๆ แต
ทายาทไมจําเปน ตองรับผดิ ชอบเกนิ กวาทรพั ยมรดกที่ตกทอดไดแกต น
[103]
ทายาทหรือผูมีสิทธริ ับมรดก แบงออกเปน 2 ประเภท คือ
1. ทายาทหรือผูมีสิทธิตามกฎหมาย เรียกวา “ทายาทโดยธรรม” จะมีสิทธิไดรับมรดกในกรณีท่ีเจา
มรดกไมทําพินัยกรรมไว หรือทําพินัยกรรมไวแตไมมีผลบังคับ หรือพินัยกรรมจําหนายทรัพย หรือมีผล
บังคับไดเ พียงบางสวน สว นทเี หลือตกแกท ายาทโดยธรรม ซ่งึ มอี ยู 2 ประเภท คือ
1) ทายาทโดยธรรมทเี่ ปน ญาติ กฎหมายกําหนดไวม ี 6 ลําดบั ดงั ตอไปน้ี
(1) ผูสืบสนั ดาน ไดแก บตุ รท่ีชอบดวยกฎหมาย บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแลว บตุ ร
บุญธรรม เปน ตน
(2) บิดามารดา
(3) พ่นี องรวมบิดามารดาเดยี วกัน
(4) พนี่ องรว มบดิ าหรือมารดาเดยี วกนั
(5) ปู ยา ตา ยาย
(6) ลงุ ปา นา อา
** ขอสงั เกต นติ ิบคุ คลไมสามารถเปน ทายาทโดยธรรมได **
ทายาทโดยธรรมท่ีเปน ญาติ มีเฉพาะในลาํ ดบั ท่ี (1) ถึง (6) เทา นั้น ฉะน้ันแมจ ะเปนญาติแต
ไมไ ดอ ยใู น 6 ลาํ ดบั น้ีกไ็ มใชท ายาทโดยธรรม เชน ทวด ลกู เขย ลูกสะใภ เปนตน
ตัวอยาง เจามรดกไมมีทายาทโดยธรรมอ่ืนเลย แตมีทวดคนเดียว มรดกยอมตกแกแผนดิน ทายาทโดย
ธรรมท่ีเปน ญาติ ตามปกตจิ ะมีสทิ ธิไดรับมรดกกอ นหลังเรียงตามลาํ ดบั โดยท่ีถาทายาทในลําดบั ท่ีสูงกวา
ยังมีชีวิตอยู หรือมีผูรับมรดกแทนท่ียังไมขาดสาย ทายาทที่อยูในลําดับถัดลงไปไมมีสิทธ์ิในทรัพยมรดก
ของผูตายเลย (ถูกตัดสิทธ)ิ เชน ถา ทายาทโดยธรรมในลําดับที่ 1 คือ ผูสืบสนั ดานยังมีชีวิตอยู ทายาทใน
ลาํ ดบั ที่ (3), (4) (5), (6) จะถกู ตดั สิทธิ
2) ทายาทโดยธรรมท่ีเปนคูสมรส คูสมรสเปนทายาทโดยธรรมท่ีพิเศษ กลาวคือแมวาจะมี
ทายาทโดยธรรมในลําดับท่ี (1) – (6) อยู คูสมรสก็มีสิทธิไดรับมรดกเสมอ จะไมถูกตัดสิทธิในการรับ
มรดกเลย แตการแบงสัดสวนมรดกจะไดไ มเทา กนั เชน เจามรดกมผี ูสืบสนั ดาน บิดามารดา และคูสมรส
ตองแบงมรดกเปน 4 สวน ไดรับเทา ๆ กัน หรือถาไมมีทายาทโดยธรรมท่ีเปนญาติเลย ถามีคูสมรสก็
ไดรบั มรดกไปทง้ั หมด และคูส มรสทมี่ สี ิทธิไดรบั มรดก จะตอ งเปน คูสมรสที่ชอบดว ยกฎหมายเทาน้นั
ขอสังเกต คูสมรสจะไดรบั มรดกในฐานะทายาทช้ันบตุ ร และในกรณ…ี
1) ทายาทลาํ ดบั 1 ไมมี แตมีทายาทลาํ ดับ 2 หรือ 3 คสู มรสไดรับมรดกครงึ่ หน่ึง
2) ทายาทลาํ ดบั 1-2-3 ไมมี แตมที ายาทลําดบั 4 , 5 หรือ 6 คูสมรสไดร บั มรดกสองในสาม
3) ไมมที ายาทลําดบั ใดเลย คูสมรสไดร บั มรดกท้ังหมด
2. ทายาทซงึ่ มีสิทธติ ามพินัยกรรม เรียกวา “ผรู ับพินยั กรรม” กฎหมายไมไดก ําหนดวา จะตองเปนใคร
แตมีเงอ่ื นไขทส่ี าํ คญั คือ ทายาทผูรับพินยั กรรมตองเปนบคุ คลตามกฎหมายเทานนั้ ซึ่งกม็ ี 2 ประเภท คือ
บุคคลธรรมดากับนิติบุคคล ฉะน้ันเจามรดกอาจจะทําพินัยกรรมยกมรดกใหแกบุคคลอื่น ซึ่งไมมีสาย
สมั พนั ธเ ปน เครือญาตกิ นั เลยกไ็ ด
[104]
พินัยกรรม
พนิ ัยกรรม เปน การแสดงเจตนากําหนดการเผ่ือตายในเร่ืองทรัพยสินของตนเองหรอื ในการตางๆ อันจะ
ใหเกิดเปนผลบังคับไดตามกฎหมายเม่ือคนตาย พินัยกรรมเปนนิติกรรมฝายเดียวโดยเครงครัด
พินัยกรรมจะมีผลใชบังคับไดตอเม่ือผูทําพินัยกรรมถึงแกความตายแลว และพินัยกรรมจะสมบูรณตอง
ทําถกู ตอ งตามท่ีกฎหมายกําหนดไว
เง่อื นไขของพินยั กรรม
1. พินยั กรรมซ่ึงบุคคลท่ีมอี ายุยงั ไมค รบ 15 ปบ รบิ รู ณทําข้ึนนัน้ เปน โมฆะ
2. พนิ ัยกรรมซ่ึงบคุ คลผูถูกศาลส่ังใหเ ปนคนไรความสามารถทําข้ึนนัน้ เปน โมฆะ
3. พินัยกรรมซ่ึงบุคคลที่ถกู อา งวา เปนคนวิกลจริต แตศาลยังไมไ ดส่งั ใหเปน คนไรความสามารถทําขึ้นน้ัน
จะเปน อนั เสยี เปลา ก็ตอเม่อื พิสูจนไ ดวาในเวลาท่ีทําพนิ ยั กรรมนน้ั ผูทําวิกลจรติ อยู
4. คนเสมอื นไรความสามารถทําพินยั กรรมยอมสมบรู ณ (ไมตอ งขอความยนิ ยอมจากผพู ทิ ักษ)
5. สามีหรือภริยาไมมีอํานาจทําพินัยกรรมยกสินสมรสท่ีเกนิ กวาสว นของตนใหแกบุคคลใดได สวนที่เกิน
จะตกเปนโมฆะ แตบังคับไดใ นสวนของตน
6. ผูเขียนหรือพยานในพินัยกรรม รวมท้ังคูสมรสของผูเขียนหรือพยานในพินัยกรรมดวยจะเปนผูรับ
ทรพั ยต ามพนิ ัยกรรมไมไ ด (ไมมีสทิ ธิไดร ับมรดก)
7. พินัยกรรมจะตองทําใหถูกตองตามแบบใดแบบหน่ึงท่ีกฎหมายกําหนดไว ซ่ึงมี 5 แบบ ไดแก
พินัยกรรมแบบธรรมดา แบบเขียนเองท้ังฉบับ แบบเอกสารฝายการเมือง แบบเอกสารลับ แบบทํา
ดวยวาจา
8. ผูจัดการมรดก คือบุคคลท่ีเปนผูจัดการเกี่ยวกับทรัพยมรดก โดยจะรวบรวมทรัพยมรดกเรียกรอง
หนี้สินจากลูกหนี้เขามารวมไวในกองมรดก และชาระหนี้แกเ จาหน้กี องมรดกแลว จึงแบงทรัพยมรดกแก
ทายาทตามสทิ ธขิ องแตละตน
การสญู เสียสทิ ธริ บั มรดก
ทายาทโดยธรรมและทายาทโดยพนิ ยั กรรม อาจสญู เสยี สิทธใิ นการรับมรดกไดดวยเหตุอยา ง
ใดอยางหน่งึ ดงั ตอไปนี้
1. ถูกตัดมิใหรับมรดก เปนกรณีท่ีเจามรดกมีความประสงคจะไมใหทายาทของตนคนใดไดรับมรดก
โดยการแสดงเจตนาชัดแจงในพินัยกรรม หรอื โดยทําเปนหนังสือมอบไวแกพนักงานเจาหนาท่ี หรือเม่ือ
เจามรดกทําพนิ ยั กรรมจาํ หนายทรัพยมรดกเสียท้งั หมดแลว กใ็ หถ อื วาบรรดาทายาทโดยธรรมผทู ี่มไิ ดร ับ
ประโยชนจากพินัยกรรมเปนผูถูกตัดมิใหรับมรดกเชนกัน ผูสืบสันดานของผูถูกตัดไมสามารถเขารับ
มรดกแทนทไ่ี ด
[105]
การแสดงเจตนาตัดมใิ หรับมรดก เจา มรดกจะถอนเสียเม่ือไหรก็ได แตถา หากแสดงเจตนาตัด
มใิ หรบั มรดกโดยพินัยกรรม จะถอนไดก ็แตโดยพนิ ยั กรรมเทานั้น
2. ถูกกําจัดมิใหรบั มรดก เปน กรณที ่ีกฎหมายบัญญัติใหทายาทโดยธรรม หรือโดยพนิ ัยกรรมหมดความ
เปนทายาทซ่ึงมีสิทธิในการรับมรดก ท้ังน้ีเพราะทายาทดังกลาวไดยักยายปดบังทรัพยมรดก หรือเปนผู
ประพฤตติ นไมเหมาะสม เชน เจตนาฆา ผมู สี ิทธริ บั มรดกกอนตน ปลอมพนิ ัยกรรม เปนตน
1) กรณีทายาทยกั ยายหรือปดบังทรัพยมรดก ถายักยายหรือปดบังทรัพยมรดกเทากับสวน
ท่ีตนไดรับหรือเกินกวา ทายาทผูน้ันจะไมไดรับมรดกเลย แตถายักยายหรือปดบังทรัพยมรดกนอยกวา
สวนท่ีตนไดรับ ทายาทผูน้ันตองถูกกําจัดไมใหไดรับมรดกเฉพาะสวนท่ีไดยักยอกหรือปดบังไว แต
ผสู ืบสนั ดานสามารถรับมรดกแทนทไ่ี ด
2) กรณที ายาทประพฤตติ นไมเหมาะสม จะถูกกําจัดมิใหไดรบั มรดกในทรัพยทงั้ หมดในสว น
ของ ตน แตผสู ืบสนั ดานสามารถรับมรดกแทนที่ได
การประพฤติตนไมเหมาะสม ไดแ ก…
(1) ตองคําพิพากษาถึงท่ีสุดวาเจตนากระทําหรือพยายามใหเจามรดกหรือผูมีสิทธิไดรับ
มรดก กอนตนถงึ แกความตายโดยมชิ อบดว ยกฎหมาย
(2) ผูท่ีฟองเจามรดกวากระทําผิดซ่ึงมีโทษถึงประหารชีวิต แตภายหลังศาลพิพากษาถึง
ทีส่ ดุ วาเปน การฟอ งเทจ็ หรือทําพยานเทจ็
(3) ผูท่ีรูวาเจามรดกถูกฆาโดยเจตนา แตมิไดนําความน้ันข้ึนรองเรียนเพ่ือเปนทางที่จะนํา
ตวั ผูกระทําผิดมาลงโทษ เวนแตบุคคลนั้นอายุยังไมค รบ 16 ป หรอื เปนคนวกิ ลจริต หรอื ผูที่ฆาเจามรดก
น้ันเปนสามี ภรยิ า บพุ การี หรอื ผูสืบสนั ดานของผนู ้ันโดยตรง
(4) ผูท ี่ฉอฉลหรือขมขูใหเ จา มรดกทําพนิ ยั กรรม เพกิ ถอนพนิ ยั กรรมหรอื เปลย่ี นแปลงพนิ ัย
กรรม ไมว าทงั้ หมดหรอื แตบ างสวนซ่งึ เก่ียวกับทรัพยมรดก
(5) ผทู ป่ี ลอม ทําลาย หรอื ปดบงั พินัยกรรมแตบางสวนหรือทง้ั หมด
** อยา งไรกต็ าม เจา มรดกอาจถอนขอกาํ จัดน้นั ได โดยทําเปน ลายลกั ษณอ ักษร **
3. การสละมรดก คือการท่ีทายาทโดยธรรม หรอื ทายาทโดยพินยั กรรม ไดแสดงเจตนาท่ีจะไมร ับทรัพย
มรดกสวนท่ีตกทอดไดแกตน โดยการสละมรดกน้ันจะกระทําไดตอเม่ือเจามรดกตายแลว และการสละ
มรดกน้ันตองแสดงเจตนาชัดแจงเปนหนังสือมอบไวแกพนักงานเจาหนาท่ี หรือทําเปนสัญญา
ประนปี ระนอมยอมความกไ็ ด อกี ท้ังเมือ่ ทายาทสละมรดกแลว ยอ มจะถอนไมได
การสละมรดกตองเปนการสละมรดกท้ังหมดท่ีไดรับ จะสละบางสวนหรือสละโดยมีเงื่อนไข
เงื่อนเวลาไมไ ด (มาตรา 1615)
ขอ สงั เกต
1) มรดกทต่ี กทอดแกแ ผน ดิน เจาหนจี้ ะฟอง “ แผน ดนิ ” ใหช ําระหน้ไี มไ ด เพราะไมใชท ายาท
เจา หน้ีตอ งรอ งขอใหศาลตง้ั บุคคลเปน ผูจดั การมรดก แลว ฟองให ผูจดั การมรดกชาํ ระหน้แี กต นได
2) มรดกตกทอดแกแ ผน ดนิ ใหห นวยงานดแู ล คือ
-กรณีเปนวัตถุโบราณ --------> กรมศิลปากร
-ที่ดิน --------> กรมท่ดี นิ
-ทรัพยสินอ่ืน --------> กระทรวงการคลัง
3) การฟอ งคดีมรดก 1 ป นับแตเ จามรดกตาย
[106]
เร่ือง เอกเทศสญั ญาทีค่ วรรู
1. สญั ญายืม
สาระสาํ คญั
หลักทั่วไปของสญั ญายืม
1. เปน สญั ญาทีส่ มบูรณตอเมื่อสงมอบทรัพยสนิ ทีใ่ หยมื
2. สัญญายืมเปนสัญญาไมตางตอบแทน ซึง่ ลกู หน้หี รือผยู มื ฝายเดียวตองคนื ใชใหแก
ผูใหยมื
สัญญายืมใชคงรูป
ลกั ษณะสําคัญ
1. เปนสญั ญาไมมีคา ตอบแทน กลาวคอื ผูย ืมไดประโยชนจ ากการใชส อย ทรพั ยส นิ ท่ี
ยมื โดยไมต องเสียคาตอบแทน และผใู หย ืมไมไดรบั ประโยชนใดๆ เปน การตอบแทนเลย
2. เปนสญั ญาทีไ่ มไดโ อนกรรมสิทธ์ิ แตเ ปนการสงมอบเพือ่ ใหผ ยู มื ครอบครองและใช
ประโยชนจ ากทรพั ยส นิ น้ันเทานนั้
3. วตั ถุแหงสัญญาคือทรัพยส นิ เวลาคนื ทรพั ยจึงตองคนื ทรัพยสนิ อนั ท่ียืมไปน้ัน
ความระงับแหงสัญญายืมใชคงรูป
1. ถากําหนดระยะเวลายมื ไว สัญญายอมระงบั เมอื่ สิ้นกําหนดระยะเวลาตามสัญญา
2. กรณที ่สี ญั ญาไมไดก ําหนดระยะเวลายืมไว ผูใ หย ืมมสี ิทธิเรยี กคืนเมื่อใดกไ็ ด
3. สัญญาจะระงบั ไปเมื่อผยู มื ตาย
4. เมอ่ื ผใู หยมื บอกเลิกสัญญา ในกรณีทผ่ี ูยืมผิดสัญญา เชน เอาทรัพยส ินที่ยืมใหผ ูอื่นใช
ใชทรพั ยสนิ ผดิ วัตถปุ ระสงค เปนตน
สัญญายืมใชสิน้ เปลือง
ลักษณะสาํ คญั
1. สญั ญายืมใชส้ินเปลืองจะเปนสัญญามีคาตอบแทนหรอื ไมกไ็ ด
2. เปน สัญญาทม่ี กี ารโอนกรรมสิทธิ
3. วัตถุแหง สัญญา คือ ทรัพยสนิ ชนดิ ใชไปสิ้นไป เมื่อเวลาคืนทรพั ยสิน ตองเปน
ประเภท ชนดิ และปริมาณเชนเดยี วกันแทน
4. ถา ไมไดก าํ หนดระยะเวลาในการคนื ตองบอกกลาวลวงหนา
5. สัญญาไมร ะงบั เม่ือฝา ยใดฝายหนงึ่ ตาย
สญั ญากยู ืม
1. การกยู มื เงนิ เปน จํานวนเกินกวา 2,000 บาท ตองทําหลักฐานเปน หนังสือ ลงลายมือ
ชอ่ื ผูยืมเปน สาํ คญั มิฉะนน้ั จะฟองรองบังคับกนั ไมได
2. ดอกเบย้ี เงินกู ตอ งไมเกินรอยละ 15 ตอป เวนแต เปน การกยู ืมเงินจากบรษิ ัทเงินทุน
หรอื ธนาคาร
3. กรณีเรยี กดอกเบ้ียเงนิ กูเกินอตั ราท่ีกฎหมายกาํ หนด จะมีผลทําให ขอตกลงเร่ือง
ดอกเบี้ยเปน โมฆะ ผูกูไ มตอ งเสยี ดอกเบ้ยี แตเ งนิ ตนยงั คงตองชําระอยู
4. อายคุ วามในการฟองรองเรียกเงินตามสัญญากู ภายใน 10 ปน ับแตว นั ท่ีถึงกําหนด
ชําระเงินคนื
[107]
เรอ่ื ง สาระสําคญั
2. การคาํ้ ประกนั 1. เปน สัญญาอปุ กรณต อ งมหี นปี้ ระธาน
ดว ยบุคคล 2. สัญญาไมม ีแบบ แตต องมหี ลกั ฐานเปน หนงั สือลงลายมือช่ือผูค ํา้ ประกนั มฉิ ะนน้ั จะ
ฟอ งผูค้าํ ประกนั ไมไ ด
3. เปนสัญญาท่ีบุคคลภายนอกทเ่ี ปน ผูค้าํ ประกนั ผูกพันตนตอเจา หนี้เพ่ือชาํ ระหน้ี
เม่ือลกู หนี้ไมช ําระหน้นี น้ั
4. การพน ความรับผิดของผคู ํ้าประกนั
1) เจาหนผ้ี อ นเวลาใหแ กล ูกหน้ี
2) เม่อื หนขี้ องลูกหน้ีถึงกําหนดชําระแลว ผคู ํ้าประกนั นําเงนิ ไปชาํ ระหน้ี แตเ จา
หน้ไี มยอมรบั
3) เม่ือหนปี้ ระธานระงับ
5. สิทธิของผูคาํ้ ประกนั
1) มีสิทธเิ กีย่ งใหเจา หน้ีไปเรยี กรอ งจากลูกหนีก้ อนได
2) ผคู ้าํ ประกันรับชวงสิทธิเปน เจา หนแี้ ทน
3. การจํานอง 1. เปน สญั ญาอปุ กรณตองมีหน้ีประธาน
2. สญั ญาจํานองตองทําตามแบบ ฝา ฝนเปนโมฆะ
3. เปนการเอาทรัพยม าประกันเงนิ กู ทรพั ยน้ันอาจเปนของบุคคลภายนอกก็ได
4. ทรัพยท ี่จํานองได คอื อสงั หารมิ ทรัพย และสงั หาริมทรัพยพเิ ศษทีจ่ ดทะเบยี นไวแลว
5. ทรพั ยทใ่ี ชจํานองไมไ ดโอนกรรมสิทธิไปยงั ผรู ับจํานองผูจ ํานองยังใชป ระโยชนแ ละ
ครอบครองทรัพยน้ันได
6. ทรัพยท ตี่ ดิ จํานองไมต ดั สทิ ธิใหผจู าํ นองนาํ ทรัพยท ่ีติดจาํ นองไปขาย หรอื ไปจาํ นอง
ในรายอนื่ ไดอ ีก
7. เมอื่ ผูจ ํานองไมสามารถไถถ อนทรพั ยท่จี ํานองได ผูรับจํานองตองนําทรัพยอ อกขาย
ทอดตลาด ถามเี งินเหลือตองคืนใหผ จู ํานองถาเงินขาดไมม ีสิทธเิ รียกจากผูจาํ นอง
[108]
เรอ่ื ง สาระสาํ คัญ
4. การจาํ นาํ 1. เปนการเอาสังหาริมทรพั ยมาประกันเงินกู
2. เปนสญั ญาอุปกรณต องมหี นปี้ ระธาน
3. ผจู าํ นาํ ตองเปนเจา ของกรรมสทิ ธิในทรัพย ดังนัน้ ทรัพยที่ถกู ยักยอกมาหรอื ถกู ลัก
ทรัพยมาแลวเอาไปจาํ นํา เจาของทีแ่ ทจ ริงยอมมีอํานาจติดตามเอาคืนไดโ ดยมติ อง
เสยี คา ไถ
4. มกี ารสง มอบทรัพยท่ีจํานํา ถาไมมกี ารสงมอบสัญญาจํานําไมเ กดิ
5. ทรพั ยท ี่ใชจาํ นําได คือ สังหาริมทรัพย
6. การบงั คับจํานาํ เม่อื ลกู หน้ีไมช าํ ระหนี้ คือ…
1) เอาทรัพยออกขายทอดตลาด
2) ยดึ ทรพั ยท ่ีจํานาใหต กเปนของผูรบั จาํ นาํ
7. ทรพั ยทีจ่ าํ นาํ ไมโอนกรรมสิทธไิ ปยังผูร บั จาํ นาํ แตเ ปน การโอนการครอบครอง
5. การขายฝาก 1. เปนสัญญาซอ้ื ขายชนิดหนงึ่
2. ทรพั ยทน่ี ํามาขายฝากได คือ ท้ังสังหาริมทรพั ย และอสังหาริมทรพั ย
3. กรรมสทิ ธิในทรพั ยสินโอนไปยงั ผซู อ้ื ฝาก
4. ผูข ายฝากมสี ิทธิไถถอนทรัพยค นื ไดภายในกาํ หนดตามสัญญา
5. กาํ หนดเวลาไถถอนทรัพยทขี่ ายฝากคืน อาจจะมีการขยายเวลาได
1) อสงั หาริมทรัพย ไมเ กิน 10 ป
2) สงั หาริมทรพั ย ไมเ กนิ 3 ป
3) กรณีที่กําหนดไวต ํา่ กวาเกณฑก็เปน ไปตามสัญญาถา เกินใหล ดลงมาตามเกณฑ
4) การไถทรัพยสนิ ซงึ่ ขายฝากตอสาํ นักงานวางทรัพยได
6. การคดิ ดอกเบยี้ ไมเ กนิ รอ ยละ 15
[109]
เรื่อง สาระสาํ คัญ
6. การซื้อขาย 1. เปนสัญญาตา งตอบแทน
2. สญั ญาเกดิ ข้นึ เมอื่ มีคําเสนอและคําสนองตรงกนั มีการโอนกรรมสทิ ธแิ ลว ยกเวน
ตอ ไปน้ีทก่ี รรมสิทธิยังไมโอน
1) การซ้ือขายเสร็จเดด็ ขาดโดยมีเงอ่ื นไขหรอื เงอ่ื นเวลาที่ตกลงกัน
2) สญั ญาซือ้ ขายทรพั ยทย่ี งั ไมเ ปน ทรัพยเ ฉพาะสงิ่
3) เปนทรพั ยเ ฉพาะส่ิงแลวแตย งั ไมรรู าคาที่คํานวณได หรือยังไมไ ดต กลงราคา
3. การซ้ือขายอสังหาริมทรพั ยตองทําเปน หนงั สือและจดทะเบยี นตอพนักงานเจา
หนา ท่ี จงึ จะมีผลสมบูรณตามกฎหมาย กรณีสัญญาจะซื้อจะขายถา ไมมหี ลักฐาน
อยา งใดอยางหนึ่งดังตอไปนจ้ี ะฟองบงั คับไมไ ด
1) ทําเปนหนังสอื ลงลายมือชือ่ ผูรบั ผิด
2) ไดมีการวางมัดจําบางสวน
3) ไดมกี ารชาํ ระหนบี้ างสวน
4. การซื้อขายสงั หาริมทรัพยพเิ ศษ ก็มลี กั ษณะเดียวกันกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย
5. สังหาริมทรพั ยอ่ืนอาจจะทําเปนหนงั สือหรือไมกไ็ ด แตไ มต องจดทะเบียน การ
โอนทรพั ยท่ีซอ้ื ขายใชก ารสงมอบ
1) กรณสี งมอบทรัพยต ามสัญญานอ ยกวา ทีต่ กลง ผซู ื้ออาจไมรับทรัพยท ส่ี งมอบ
น้นั เลย หรอื รบั ทรัพยน้ันไวแ ลวชาํ ระเงินตามสวน
2) กรณีสง มอบทรัพยตามสัญญามากกวา ที่ตกลง ผซู อ้ื อาจไมร ับทรัพยท ีส่ ง มอบ
น้นั เลย หรอื รับทรพั ยนัน้ ไวแ ลว ชําระเงินตามสว น หรอื รบั ไวตามจํานวนไม
รบั สว นเกนิ
6. ผูไ มมีกรรมสิทธใิ นทรพั ยอาจทาํ สัญญาซื้อขายได คือ
1) เจาของอสงั หารมิ ทรัพยถกู บุคคลอน่ื ครอบครองปรปกษ แตบ คุ คลน้ันยังมิได
ฟอ งศาลใหศ าลพิพากษาสัง่ โอนกรรมสทิ ธใิ นทดี่ นิ ใหตน เมอ่ื เจาของเอา
อสงั หารมิ ทรัพยไ ปขาย ผูซือ้ ซื้อไปโดยสุจริตและเสยี คาตอบแทน ผูซ้ือได
กรรมสทิ ธิโดยสมบรู ณ
2) กรณีทบ่ี คุ คลหลายคนแยงเอาสงั หารมิ ทรพั ย ผูท่ีไดครอบครองทรัพยจะได
กรรมสิทธ์ิ
3) การซอื้ ขายทรัพยจ ากการขายทอดตลาดโดยคําสัง่ ศาล
4) การซ้ือขายทรัพยโดยสุจริตจากการขายทอดตลาดธรรมดาหรือตาม
ทอ งตลาดปกติ เจา ของทรัพยทแ่ี ทจ รงิ ตองใชราคา
5) การแสดงเจตนาลวง แตผซู อื้ สจุ ริตยอมไดกรรมสทิ ธิ
[110]
เร่อื ง สาระสําคัญ
7. การเชา ทรพั ย 1. เปนสัญญาตางตอบแทน
2. สัญญาเชาทรพั ย ไมมแี บบ เพยี งตกลงกนั ดวยวาจาก็ใชไดแลว
8. การเชา ซ้อื 3. ทรพั ยทีน่ ํามาใหเ ชา ได คือ ทง้ั สังหาริมทรัพยแ ละอสังหารมิ ทรัพย
4. หลักฐานการเชาอสังหารมิ ทรัพย ตองทําเปนหนงั สือลงลายมอื ช่ือผเู ชา และผใู หเ ชา
กรณีท่ีไมม หี ลักฐานเปน หนังสือ สญั ญาเชา อสงั หาริมทรพั ยกส็ มบรู ณแตจ ะฟองรอง
กนั มไิ ด
5. การเชาอสงั หารมิ ทรัพยตองไมเกิน 30 ป หรือตลอดอายุผใู หเ ชา หรอื ผูเ ชา
6. การเชาอสงั หาริมทรัพยเกินกวา 3 ป ตอ งทําเปน หนังสอื และจดทะเบยี นการเชา
ตอ พนักงานเจาหนาที่
7. ขอสงั เกต กรณีการเชา อสงั หารมิ ทรพั ยเ กนิ 3 ป การจดทะเบยี นตองกระทําภายใน
3 ป โดยไมจาํ เปน ตองจดทะเบยี นทันทีทท่ี ําสัญญาเชาและคสู ัญญาฟองศาลบงั คับ
ใหอีกฝา ยหน่ึงจดทะเบียนการเชาได
8. การสิ้นสุดสัญญาเชา
1) กาํ หนดเวลาการเชา สิน้ สดุ ลง
2) ทรพั ยส นิ ท่ีใหเชาสูญหายหรือสลายไป
3) ผูเชาถงึ แกความตาย
4) ถาสัญญาเชา ไมไดกําหนดเวลาตองบอกเลกิ สญั ญาเชา ลว งหนา 1 เดอื น
5) ผเู ชา ผดิ นดั ไมช ําระคา เชา ผใู หเ ชา บอกเลกิ สญั ญาได
1. เปน สัญญาทเ่ี จาของทรัพยสินเอาทรัพยสินของตนออกใหผ อู ื่นเชา เพอื่ ใชส อย
หรือเพ่ือใหไ ดร ับประโยชน และใหคํามั่นวาจะขายทรัพยนั้น
2. สญั ญาเชา ซื้อไมใ ชส ัญญาซื้อขายผอนสง
3. แบบของสญั ญาเชาซื้อ จะตองทําเปน หนังสอื ลงลายมือชอ่ื ท้งั สองฝาย ถา ทําดวย
วาจาจะตกเปนโมฆะ
4. ผูเชา ซื้อผิดนดั ไมชําระเงิน 2 คราวตดิ กนั หรอื กระทําผิดในสาระสาํ คญั เจา ของ
ทรัพยส นิ ทใ่ี หเ ชา ซ้ือ มีสทิ ธิบอกเลิกสัญญาเมื่อใดกไ็ ด
5. เมื่อผูท ี่เปนเจา ของทรพั ยบอกเลิกสญั ญา เงินทผ่ี ูเ ชา ซื้อจายไปกอนหนานั้นจะ
ไมไ ดรบั คืน
6. ผูเชาซอื้ จะบอกเลกิ สัญญาเม่ือใดกไ็ ดดว ยการสง มอบทรัพยแ ละตอ งใชร าคาถา
ทรัพยเส่ือมราคา
[111]
เรอ่ื ง สาระสําคัญ
9. การให 1. เปน สัญญา 2 ฝา ย ฝา ยหนงึ่ คือ ผใู ห อีกฝายหนึง่ คือผรู ับ โดยผูใหต อ งโอนทรัพยสนิ
10. จางแรงงาน ของตนโดยเสนห าใหแกผรู บั
2. สัญญาใหไ มใ ชส ัญญาตางตอบแทน ผรู บั ไมตองเสยี คาตอบแทน หรือไมต องทํา
ประโยชนใด ๆ ใหกบั ผใู ห
3. ผใู หต องแสดงเจตนาใหและผรู บั ตอ งแสดงเจตนารับ
4. ผใู หตอ งโอนทรัพยสินใหแกผูรับ หากผใู หไมมีกรรมสิทธิ์ ผูรับกไ็ มไ ดร บั กรรมสทิ ธ์ิ
เชนเดียวกนั ตามหลักผูรบั โอนไมม สี ิทธิด์ ีกวา ผูโอน
5. การใหยอ มสมบูรณเ มื่อสงมอบทรัพยที่ให จะเปน การแสดงออกดวยการกระทําหรือ
ดว ยวาจา และไมว าโดยตรงหรอื โดยปริยายกย็ อมใชไ ด
ตัวอยาง นายเดช ยกรถยนตใ หแกน ายเดน บตุ รชายของตน โดยการ สง มอบกญุ แจ
รถยนตใหและนายเดน แสดงเจตนารบั เอง สญั ญาก็สมบรู ณแลว ถือวา เปน การสงมอบ
การใหโ ดยปรยิ าย
6. การใหอ สงั หารมิ ทรพั ย หรือสงั หารมิ ทรัพยช นิดพเิ ศษการใหทรพั ยดังกลา วจะสมบูรณ
ไดน ั้นกต็ องมีการทําเปน หนังสือ และจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนา ที่ จึงจะสมบูรณ
ยกเวน การยกใหเ ปนสาธารณสมบตั ขิ องแผน ดิน
7. การสง มอบทรพั ยท ี่ให จะทําในเวลาแสดงเจตนาใหห รือใหภ ายหลงั ก็ได ถาสง มอบ
ภายหลงั การแสดงเจตนายกให จะตอ งสง มอบเสยี กอ นที่ผูใ หต ายหรือถอนการแสดง
เจตนายกใหน้นั
8. การใหอนั มภี าระติดพนั ผรู บั เอาทรัพยส นิ ทม่ี ีภาระตดิ พันยอมรบั เอาไปทั้งสิทธิใน
ทรัพยสนิ และหนา ทีท่ ่จี ะตอ งปลดเปลอ้ื งภาระติดพนั เพยี งเทา ราคาทรัพยส นิ เทาน้นั
1) ผรู บั ทําผดิ เงือ่ นไขของสัญญาให
2) ผรู บั ประพฤติเนรคุณ
1. ตองมีการตกลงเปนนายจางและลกู จางกัน ซึ่งจะมีผลทําใหน ายจางมีอํานาจบงั คับ
บัญชาลูกจา งได การเปนลูกจางทําใหไมมีอํานาจครอบครอบทรพั ย แตเปน การ
ครอบครองแทนนายจา งเทา น้ัน
2. เปน สญั ญาตา งตอบแทน ถาไมมีการจายคา จาง ก็ไมใชสัญญาจา งแรงงาน
3. นายจา งจะโอนสทิ ธขิ องตนใหแ กบคุ คลภายนอกไดกต็ อ เมือ่ ลกู จา งยินยอมพรอมใจ
ดว ย ทํานองเดยี วกนั ลกู จา งจะใหบ ุคคลภายนอกทํางานแทนตนไมไดถ า นายจา งไม
ยนิ ยอม
4. สัญญาจา งแรงงาน ไมม แี บบ เพียงตกลงกันดวยวาจาก็ใชไดแลว
5. ลกู จา งหรือนายจาง ไมท ําตามหนาที่ของตน อกี ฝา ยสามารถบอกเลกิ สัญญาได
6. การระงบั แหงสัญญาจางแรงงาน
1) เมอ่ื ครบกาํ หนดในสัญญาจา ง หรือมีการบอกเลิกสัญญา
2) คูสัญญาฝายใดฝา ยหนง่ึ ถึงแกความตาย
3) การเลกิ สญั ญาตามกฎหมาย
4) การทํางานของลูกจางตกเปน พน วสิ ัย
7. อายุความฟองรองคดี 10 ป
[112]
เรอื่ ง สาระสาํ คัญ
11. จางทําของ 1. เปน สญั ญาตา งตอบแทน สินจางอาจเปน เงนิ ตราหรอื ทรัพยสนิ อยางอื่นก็ได ตามแต
จะตกลงกัน
2. เปน สญั ญาทม่ี ุงถึงผลสําเรจ็ ของงาน ผลคอื ........
1) นายจา ง จึงไมตองรบั ผดิ รวมกับลกู จาง
2) ผูรบั จางมีอิสระในการทํางาน
3. สญั ญาจางทําของไมมีแบบ
4. หนา ที่และความรบั ผดิ ของผรู บั จา ง
1) ตอ งทํางานใหสําเรจ็ ตามสญั ญา
2) ตอ งจัดหาเครื่องมือตา ง ๆ สาหรับใชใ นการทํางานเอง
3) ตองรบั ผดิ ชอบในความลา ชาของงานทที่ ํา เวน แตค วามลาชาน้นั เกิด
จากนายจาง
4) ตอ งยอมใหผ ูว าจา ง หรอื ตวั แทนตรวจตราการทํางาน
5. ความระงบั แหงสญั ญาจางทําของ
1) เม่อื ผรู ับจางทํางานเสร็จ แลวสงมอบใหแกผ วู าจา ง
2) เมื่อมีการบอกเลิกสญั ญา
3) เมื่อผรู บั จางตายหรือตกเปน ผูไ มสามารถทําการงานน้ันได แตผูวา จา ง
ตองใชส นิ จา งตามสว นของการงานทที่ ําไปแลว
6. อายคุ วามฟอ งรองคดภี ายใน 1 ป สําหรบั การฟอ งรอ งเพ่ือใหผ รู ับจา งรบั ผิดในความ
ชํารดุ บกพรอง
ขอแตกตางระหวางสัญญาจางแรงงานและสัญญาจางทําของ
1. สญั ญาจา งทําของมุงถึงผลสําเร็จของงาน สว นจางแรงงาน ลูกจางตอ งทํางานภายใต
การบังคบั บัญชาของนายจา ง
2. กรณจี า งแรงงาน สินจางคํานวณเอาตามระยะเวลาท่ีทํางาน แตจ า งทําของคํานวณ
เอาตามผลของงานท่ีได
3. กรณจี างแรงงาน นายจา งตองรวมรบั ผิดกบั ลูกจางในผลแหง ละเมดิ ท่ลี กู จางได
กระทําไปในทางการท่ีจา ง แตผวู า จา งทําของไมตอ งรบั ผดิ รวมกบั ผูรบั จาง
[113]
แบบฝก หดั ท่ี 8
คําสัง่ ใหนกั เรียนตอบคําถามใหไ ดใจความสมบูรณ
1. การอดุ ชอ งวา งของกฎหมาย ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ยม าตรา 4 ไดกําหนดลําดับไวหาก
ไมมีกฎหมายลายลกั ษณอกั ษรใชบ งั คบั แลว จะตอ งนําหลักเกณฑ ……………………………………. มาใชบ งั คบั
2. คาํ วา “สิทธิ” คอื …………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
3. ผูทรงสิทธิ คือ ………………………………………………………………………………………….. หรอื ทีเ่ รียกวา
“ผูท รงสทิ ธิ” ซ่งึ มไี ดท้ังบุคคลธรรมดาและ นติ ิบุคคล
4.วัตถุแหง หน้ี วตั ถคุ อื สง่ิ ของวัตถุแหง หนจี้ งึ หมายถงึ ส่งิ ของท่ีเปนหน้ี เชน กรรมสทิ ธใ์ิ นทรัพยสิน
สงิ่ ของท่เี ปน วตั ถแุ หงหน้กี ็คอื ทรพั ยส นิ สิทธิในชวี ิตรา งกาย ส่งิ ทเี่ ปนวตั ถแุ หงหน้ีก็คอื ตัวบคุ คล
5. หลกั เกณฑของการใชสิทธิคือ ตอ งใชโดย………………………………………………………………………….
6. นาย ก ทําสัญญากเู งินนาย ข 10,000 บาท แตเน่อื งจากนาย ก ไมร ูหนังสือจงึ ไดล งลายพิมพน ้ิวมอื
แทนการลงลายมือมือช่อื โดยมนี ายนดิ อายุ 16 ป และ นางสาวนอ ย อายุ 16 ป ลงลายมอื ชือ่ เปน พยาน
รบั รองการพิมพล ายนิ้วมอื ของนาย ก สัญญากูฉ บบั น้ี
คําตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………
7. หลกั ในการตคี วามเอกสารคอื ตคี วามใหเปนคณุ แกค ูกรณีทซ่ี ึง่ จะเปนผตู องเสียในมูลหน้ี
8. ในสัญญากูยมื ฉบับหน่งึ กาํ หนดวา จะตอ งเสียดอกเบย้ี ในเงนิ กยู ืมนนั้ แตคสู ญั ญามไิ ดกําหนดอตั รา
ดอกเบ้ียไว ในกรณีเชนนีล้ กู หน้ีจะตองเสียดอกเบย้ี ในอตั รา
คาํ ตอบ …………………………………………………………………………………………………………….…………
9. สทิ ธทิ ่เี กีย่ วกับสถานะของบุคคล เปนสิทธิตามกฎหมายมหาชน
10. บทกฎหมายท่ีใชโดยวิธีเทียบเคียงไมไ ดค อื ………………………………………………………………….
11. ………………………………………..ในทางกฎหมาย หมายถงึ คน (บคุ คลธรรมดา) และรวมถงึ นติ ิ
บุคคล (บุคคลท่กี ฎหมายสมมตขิ ึน้ ) ดวย
12. ………………………………………………..……. หมายถงึ บุคคลผูไดร บั ประโยชนหรือเสียประโยชน
เก่ยี วขอ งกบั ทรัพยส ินของผูไ มอยู เชน คสู มรส ทายาท เจา หน้ี หนุ สว น เปน ตน
13. ……………………………………………………… หมายถึงคนปกตทิ ่วั ไป จะประพฤตปิ ฏิบัตเิ ชน ไร
14. บุคคลธรรมดาตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย ไดแก ………………………………………………
15. การเรม่ิ สภาพบคุ คล และสน้ิ สภาพบคุ คล หมายถงึ ……………………………………………………………
16. สภาพบุคคลเร่มิ เมือ่ …………………………………………………………………………………………………….
17. กาย เกดิ ระหวา งป 2482 แตเปนการพนวสิ ัยจะหย่งั รูวันเกดิ ของ กาย ได ดงั นน้ั กฎหมายใหถือวา
วนั เกดิ ของ กาย คือ …………………………………………………………………………………………………………….
15. ยกตัวอยางกรณีเหตุแหงการสิ้นสภาพบุคคล …………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
16. คนสาบสูญ ไมใ ชบคุ คลตามกฎหมาย (เพราะเมือ่ ศาลสั่งใหเปน คนสาบสญู ถอื วา…………..ไปแลว)
[114]
17. บคุ คลทีศ่ าลสั่งใหเ ปนคนสาบสูญแลว ถอื วาตายเมือ่ ครบกาํ หนด 2 ป ในกรณีพเิ ศษ เชน
ระยะเวลาตามวรรคหนง่ึ ใหล ดลงเหลอื 2 ป
(1) ………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….….
(2) ……………………………………………………………………………………………………………………..
18. บคุ คลทอี่ าจถูกศาลสัง่ ใหเปนคนสาบสญู ในกรณพี เิ ศษคือ หายไปจากทอี่ ยู ไมรูวาเปนหรือตายครบ
……………. ป
19. ระยะเวลาแหงการเปนคนสาบสูญในกรณีธรรมดาเริ่มนับ เมื่อ……………………………………………..
20. ผูมีสิทธิขอรองใหศาลสั่งเปนบุคคลสาบสูญ คือ ............................................. (และผูมีสวนไดเสีย
ไดแก ภริยา บุตร สามี)
21. นติ บิ ุคคลมีลกั ษณะสําคัญดังตอไปนี้คือ เปน บุคคลตามกฎหมายมีสทิ ธแิ ละหนาท่ี
22. นางแดงคลอดบุตรออกมา หายใจเพียง 1 ครั้ง ยงั ไมไดต ดั สายสะดือ นายดํา สามีนางแดงไมพอใจ
จึงบบี คอบุตรน้ันตาย นายดาํ มคี วามผิดฐาน
คําตอบ .................................................................................................................................
23. ทารกในครรภมารดา แมไมมีสภาพบุคคล ก็สามารถมีสิทธิตางๆ ได ถาปรากฏวา เกิดมารอดอยู
ภายในระยะเวลา .......................... วัน นับจากบิดาตาย
24. กรณีตอไปน้ี อาจรองขอถอนคาํ สงั่ แสดงสาบสูญไดค ือ พสิ จู นไดว าคนสาบสญู ตายต้ังแตวันแรกที่
หายไปจากท่อี ยู คนสาบสูญยังมชี วี ติ อยูห รอื ตายในเวลาอืน่ ที่ผิดไปจากเวลาที่กฎหมายสันนษิ ฐานไว
ศาลตองถอนคําสัง่ แสดงสาบสญู
25. ก ไดบานมาหลังหนึ่งโดยทางมารดาของ ข ผูสาบสูญ ตอมา ก ขายบายดังกลาวให ค ในราคา
100,000 บาท โดยสจุ รติ แลว ก นําเงนิ นั้นไปซื้อรถยนตมาใชสอย 1 คัน หาก ข ยังมีชวี ติ อยู และ
กลับมา ก จะตองคนื ทรัพยส ินแก ข โดย
คําตอบ ...................................................................................................................................
26. ผเู ยาวบ รรลนุ ติ ภิ าวะ เม่ือ …………………………………………………………………………………………….
27. ผเู ยาวอ ายุ 14 ป ทําพินัยกรรมจะมีผล…………………………………………………………………………….
28. ก ผูเ ยาว ขายทดี่ ินโดยมี บิดามารดาลงช่อื เปนพยานในสญั ญาซอ้ื ขายจะมีผลคอื
คําตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………..
29. ผวู ิกลจริต ท่ีอาจถกู ศาลส่ังใหเปน ………………………………………………………………………………..
30. ……………………………………………………………………. กฎหมายบัญญตั ิใหตอ งอยูใ นความอนบุ าล
31. คนวกิ ลจริตที่ศาลยงั ไมไดสงั่ ใหเปนคนไรค วามสามารถทํานติ ิกรรม มีผลสมบรู ณ แตอาจเปน
โมฆียะ ถา………………………………………………………………………………………………………………………….
32. นิติกรรมท่ีผูเยาวส ามารถทําไดโดยไมตองรบั คาํ ยินยอมจากผแู ทนโดยชอบธรรมกอน คือ………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
33. บคุ คลผูมสี ทิ ธิรอ งขอใหศาลส่ังใหบคุ คลใดๆตกเปนเสมือนคนไรค วามสามารถ คือ …………………….
34. กจิ การท่ีคนเสมอื นไรความสามารถทําไดเองโดยไมต อ งไดร บั ความยินยอมจากผูพทิ ักษคอื ………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
35. เหตสุ ิน้ สดุ แหง การเปน คนเสมอื นไรค วามสามารถ คอื ………………………………………………………..
[115]
36. นิตบิ ุคคลมีสทิ ธหิ นา ที่ เหมอื นบคุ คลธรรมดา เวนแตส ิทธิหนา ท่บี างประการถูกจาํ กัดโดยกฎหมาย
และวัตถุประสงคข องนิติบุคคลน้นั เอง และโดยหลักธรรมชาติ
37. นิตบิ คุ คลมขี น้ึ ไดโดย อาศยั อํานาจตามกฎหมาย........................................................................
38. นิติบุคคลไดแก .........................................................................................................................
......................................................................................................................................................
39. ภูมลิ าํ เนานติ ิบุคคลไดแ ก (ก) ถ่นิ ที่ตงั้ สาํ นักงาน (ข) ถิ่นท่เี ลอื กเอาเปน ภมู ลิ ําเนาเฉพาะการตาม
ขอ บังคับ (ค) ถิ่นทตี่ ั้งสํานักงานสาขา
40. ............................................................................ คือ ผูที่มีอํานาจหนาที่จัดการแทนนิติบุคคล
41. นิติบคุ คลสามารถมีสิทธิ และหนาทีเ่ กีย่ วกบั มรดกคือ เปนผจู ัดการมรดกได
42. ถาผูจัดการนติ บิ ุคคลทาํ การตามหนาท่ี แตเกิดความเสียหายแกบุคคลภายนอก ผลคือ ...............
.....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
43. นิติบุคคลไดแก .......................................................................................................................
...................................................................................................................................................
44. ถาประโยชนไดเสยี ของนติ บิ ุคคลขดั กับประโยชนไ ดเ สยี ของผูแทนนิตบิ ุคคล ผลคอื ผูแทนนติ ิบุคคล
น้นั จะเปนผูแทนในการนน้ั ไมได
45. นิตบิ ุคคลกอ ตั้งโดย ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย (ข) นติ ิบุคคลสามารถกอ ตั้งไดโ ดยกฎหมาย
อ่นื
46. ผจู ดั การทาํ นอกขอบวัตถุประสงคข องนิติบคุ คลทาํ ใหเกดิ ความเสยี หายแกบ คุ คลภายนอก
ผรู บั ผดิ ชอบคือ …………………………………………………………………………………………………………………..
47. การเลิกนิติบุคคล ไดแก ………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
48. ลกั ษณะของสมาคม คือ ……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………….
49. ส่ิงที่ตอ งมีในขอ บังคบั สมาคมคอื (1) ช่ือสมาคม (2) วัตถุประสงคข องสมาคม (3) ที่ตง้ั สํานักงาน
ใหญ และที่ต้งั สาํ นักงานสาขาทง้ั ปวง (4) วิธีรับสมาชิก และการขาดจากสมาชิกภาพ (5) อตั ราคา
บํารุง (6) ขอกําหนดเกี่ยวกับคณะกรรมการของสมาคม ไดแกจํานวนกรรมการ การตั้งกรรมการ
วาระการดํารงตําแหนงของกรรมการ การพนจากตําแหนงของกรรมการและการประชุมของ
คณะกรรมการ (7) ขอกําหนดเกี่ยวกับการจัดการสมาคม การบัญชีและทรัพยสินของสมาคม (8)
ขอกําหนดเกี่ยวกับการประชุมใหญ
50. หนว ยงานท่มี อี ํานาจออกกฎกระทรวงควบคุมสมาคมคือ ……………………………………………………
51. ในการขอจดทะเบียนสมาคม ………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
52. ขอกําหนดเกี่ยวกับกรรมการสมาคมคือ (ก) กรรมการสมาคมเปนผูแทนของสมาคม
(ข) คณะกรรมการดําเนินการเปนผูดําเนินการสมาคม (ค) จํานวนกรรมการขนึ้ อยูก ับขอ บงั คบั สมาคม
53. เก่ยี วกบั จาํ นวนสมาชิกของสมาคม ……………………………………………………………………………….
54. สทิ ธแิ ละหนา ท่ขี องสมาชกิ คือ ………………………………………………………………………………………
[116]
55. การประชุมใหญสมาคม มี 2 ประเภท ………………………………………………………………………………
56. สิทธิและหนาทขี่ องสมาชกิ มีดังตอ ไปน้ี (ก) เปนผูก อตัง้ สมาคม (ข) ตรวจตรากิจการของสมาคม
(ค) ตรวจตรากิจการทรัพยสินของสมาคม (ง) ....................................................................................
57. การเลิกสมาคม (ก) มีเหตตุ ามขอกาํ หนดในขอ บงั คบั (ข) เมื่อสมาคมลมละลาย (ค) เม่อื ครบ
ระยะเวลาที่กําหนดไว (ง) ..................................................................................................................
58. คณะกรรมการมูลนธิ ติ อง ประกอบดว ยบคุ คลอยา งนอย…………………………………………….....คน
59. บคุ คลทส่ี ามารถรอ งขอตอศาลใหม คี ําสั่งถอดถอนกรรมการไดคือ (1) นายทะเบยี น (2) พนักงาน
อัยการ (3) ..........................................................................................................................................
60. เม่อื เลกิ มลู นิธแิ ลวตอ งปฏิบัตดิ ังนี้ (1) ตอ งชําระบญั ชี (2) โอนทรัพยส นิ ใหม ลู นธิ อิ ่ืนตามที่ขอ บังคับ
มูลนิธิกาํ หนดไว (3) ใหทรพั ยสนิ โอนแกบ คุ คลอนื่ ที่มวี ัตถุประสงคใ กลชิดกับวัตถุประสงคนั้น (4)
....................................................................................................................................................
61. อาํ นาจของรัฐเกยี่ วกับมูลนธิ ิ คอื (1) ออกกฎหมายบังคับ (2) ควบคุมดูแลมูลนิธิ (3)
..........................................................................................................................................................
62. นติ กิ รรม หมายความวา การใดๆ อนั ทําลงโดยชอบดว ยกฎหมายและดวยใจสมัคร มุง โดยตรงตอ
การผูกนิติสัมพนั ธขึน้ ระหวา งบุคคล เพ่อื จะกอ เปลยี่ นแปลง โอน สงวน หรอื ระงบั ซ่งึ สทิ ธิ
จากบทบัญญัติของมาตรานี้ อาจบอกลักษณะของนิติกรรมไดเปน 5 ประการดวยกันคือ
(1) ......................................................................................................................................
(2) ......................................................................................................................................
(3) ......................................................................................................................................
(4) ......................................................................................................................................
(5) ......................................................................................................................................
63. นติ ิเหตุ คือเหตกุ ารณใดๆ ที่ทําใหเกิดความเคลือ่ นไหวในสิทธิตามกฎหมาย ประเภทของนติ เิ หตุ
มี 2 ประเภทคอื
(1) นิติเหตุที่เกิดจาก...............................................................................
(2) นิติเหตุที่เกิดจาก...............................................................................
� การกระทําของบุคคลที่ชอบดวยกฎหมาย
เชน ..................................................................................................
� การกระทําที่มิชอบดวยกฎหมาย
เชน .................................................................................................
64. นติ กิ รรมแบงออกเปน 5 ประเภท คอื
(1) นิติกรรมฝายเดียว และนิติกรรมหลายฝาย
– นิติกรรมฝายเดยี ว เชน ......................................................................................................
...........................................................................................................................................
- สว นนติ ิกรรมหลายฝาย อาจเรยี กเปน นิตกิ รรมสองฝา ย นติ กิ รรมประเภทนค้ี อื ...................นน่ั เอง
(2) นิติกรรมมีผลเมอ่ื ผูทํายงั มีชีวติ อยกู บั นิติกรรมมผี ลเมื่อผทู าํ ตายแลว
(3) นติ ิกรรมมีคาตางตอบแทนกับนติ ิกรรมไมมคี าตา งตอบแทน
– นติ ิกรรมทม่ี ีคาตางตอบแทน เชน …………………………………………………………………………….
[117]
--สว นนิติกรรมไมมคี า ตางตอบแทน เชน ……………………………………………………………….………
………………………………………………………………………………………………………………………..……
(4) นติ ิกรรมมเี ง่อื นไข เง่อื นเวลา กบั นติ ิกรรมไมม ีเงอ่ื นไขเงื่อนเวลา
(5) นติ ิกรรมที่จะตองทาํ ตามแบบจงึ จะสมบูรณก ับนิตกิ รรมซ่งึ สมบรู ณโ ดยการแสดงเจตนา
65. ในกรณีที่ไมมีกฎหมายลายลักษณอักษรมาปรับแกคดี ศาลตอง วินิจฉัย....................................
66. นิติกรรมซึ่งทําไมถูกแบบ มีผลให.............................................................................................
67. พินัยกรรม ถือเปนนิติกรรม..........................................................................................................
68. การทําเปนหนังสือระหวางกัน นิติกรรมประเภท .....................................................................
69. ผเู ยาวบรรลุนิติภาวะ เปนนิตเิ หตุ/เปน นิตกิ รรม
70. การแสดงเจตนาโดยวิปริตที่ทําใหนิติกรรมตกเปนโมฆะไดแก ...................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………
71. ในกรณีบุคคลสองฝาย ทาํ นิตกิ รรมขึ้นเพอ่ื ปกปด นิติกรรมอกี อันหนง่ึ เรยี กวา …………………….….
72. การทีเ่ จาหน้ีขวู าถาลูกหนไ้ี มช ําระหนี้ ตนจะตอ งฟอ งศาลใหล ูกหนต้ี กเปน บคุ คลลม ละลาย ลูกหนี้
เกิดความกลวั จึงไดช ําระหน้ีไป การชําระหน้ใี นกรณีนี้จะมีผล
คําตอบ …………………………………………………………………………………………………………………
73. นิตกิ รรมทม่ี กี ารจงู ใจใหคกู รณอี ีกฝายหนง่ึ ยอมรบั เองซ่ึงขอกําหนดหนักยิ่งกวา ท่เี ขาจะยอมรับโดย
ปกติจะมีผล
คําตอบ ………………………………………………………………………………………………………………….
74. การพมิ พลายมือช่ือในสญั ญาใหเ ชา ท่ีดินโดยคดิ วาเปนสัญญาจางวาความ สญั ญานมี้ ผี ล
คําตอบ …………………………………………………………………………………………………………………
75. ในกรณที ่บี ุคคลสําคัญผิดในคุณสมบตั ขิ องบุคคลหรอื ทรัพยซ ึง่ ตามปกติ ถือเปนสาระสาํ คัญไมอาจ
ยกความสําคญั ผิดน้ันมาเปน ประโยชนแกต นได คือ
คําตอบ …………………………………………………………………………………………………………………..…
76. การแสดงเจตนาโดยบุคคลอื่นใชอุบายหลอกลวงใหเขาใจผิด ในทางกฎหมายเรียกวา ………………
77. เจตนาซอ นเรน คอื ………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………..…
78. การแสดงเจตนาลวงโดยสมรูกับคูกรณี จะยกเปน ขอ ตอสบู ุคคลภายนอกไมไ ด
79. ........................................................................... เปนความหมายของการกระทําที่ตกเปน
โมฆะ
80. ...................................................................... เปนผูที่สามารถกลาวอางความเปนโมฆะกรรม
ได
81. การเรียกคืนทรัพยเนื่องจากโมฆียะกรรม เรียกไดเปน ...............................................................
82. ผเู ยาวอ ายุ ……………………………………………………………………ป ทําพินัยกรรมจะตกเปนโมฆะ
83. ก ตกลงกับ ข วาให ข ไปดักทํารายรางกาย ค โดยใหคาจาง 10,000 บาท ขอตกลงนี้ในทาง
กฎหมาย
คําตอบ …………………………………………………………………………………………………………………..
84. โมฆียกรรมที่ถูกบอกลางแลวมีผล เปน………………………………………………………..มาแตเ ร่ิมแรก
85. การบอกลางโมฆียกรรมจะตองกระทํา โดยการ………………………………….ตอคูกรณีอกี ฝายหนึง่
86. ผูเ ยาวทาํ นติ ิกรรมโดยไมไ ดร บั ความยินยอมจากผูแทนโดยชอบธรรม เปน เหตใุ หตกเปน…………
87. ………………………………………………………………………………………. มีสิทธิบอกลางโมฆียะกรรม
[118]
88. การบอกลา งโมฆียกรรมจะตองทําภายใน ระยะเวลา ……. ป นับแตเวลาที่ไดเกิดโมฆยี กรรมน้นั
89. …………………………. คอื ขอ ความใดอันบังคบั ไวใหนติ ิกรรมเปนผลหรือส้นิ ผลตอ เม่อื มี
เหตกุ ารณอ นั ใดอนั ไมแ นน อนวา จะเกดิ ขน้ึ หรอื ไมเ กดิ ขน้ึ ในอนาคต
90. เง่ือนไขมี …………………….. ประเภท คอื เงือ่ นไขบงั คับกอ นและเงอื่ นไขบังคบั หลัง
91. ลักษณะของเงอ่ื นไขเปน ขอกาํ หนด (ก) ซงึ่ บุคคลแสดงเจตนากันไว (ข) เก่ียวกบั ความเปนผล
หรือสิ้นผลของนติ ิกรรม (ค) เกยี่ วกบั ความสิ้นผลของนิตกิ รรม (ง) …………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
92. ก ตกลงกับ ข วาถารองเพลงประกวดไดรางวัลที่ 1 จะรับจางรองเพลงในรานอาหารของ ข
ขอตกลงนีเ้ ปนนติ ิกรรมที่มี เงอ่ื นไข…………………………………………………
93. ก ตกลงกับ ข เชาบานโดยกําหนดในสัญญาวาถา ก ถูกยายกลับมาอยูกรุงเทพฯ เมื่อใดให
สญั ญาเชา ระงับ ขอตกลงน้ีเปนนิติกรรมท่มี ี เง่อื นไข……………………………………….
94. เงอ่ื นเวลามี 2 ประเภทคอื เงอ่ื นเวลา………………………และเงอ่ื นเวลา……………………………………
95. ก ทาํ สญั ญาเชา บา น ข เปน เวลา 3 ป โดยกําหนดชาํ ระคา เชา ในวนั ท่ี 1 ของทกุ เดอื นจนกวา จะ
ครบ ดังน้ี ก จะเรียกให ข ชําระคา เชากอ นวันที่ 1 ของทกุ เดอื น ไดหรือไม เพราะ
คําตอบ .............................................................................................................................
96. เงื่อนเวลานั้น ใหสันนิษฐานไวกอนวา กําหนดไวเพื่อประโยชนแกฝาย.....................................
97. ระยะเวลาที่กําหนดเปนนาที ตองนับ....................................................................................
98. ระยะเวลาทต่ี อ งนบั ในทันทีคือ ระยะเวลาที่กําหนดเปน..........................หรือ........................
99. ระยะเวลาทก่ี าํ หนดเปนวนั วนั แรกจะไมน บั
100. กําหนดระยะเวลาที่ไมนับวันแรกเขาในระยะเวลา คือ .............................................................
.................................................................................................................................................
101. ระยะเวลาที่กฎหมายกําหนดใหใชสิทธิเรียกรองในศาลเรียกวา ………………………………………….
102. สิทธิเรียกรอ งท่ีมิไดฟองคดีบังคับภายในระยะเวลาที่กฎหมายกําหนด จะมีผลทําให ……………
103. สิทธิเรยี กรอ งที่ตอ งมกี ารทวงถามกอน อายุความเรม่ิ นบั ขณะท…่ี ………………………………………
104. อายคุ วามเร่ิมนับตงั้ แต ขณะท่ี……………………………………………………………………………………….
105. วันที่ 5 มกราคม 2559 ก ทําสญั ญากเู งนิ ข เปน เงนิ 200,000 บาท ไมมีกําหนดชําระคืน
อายคุ วามสทิ ธิเรยี กรอ งของ ข เรมิ่ นบั
คําตอบ ........................................................
106. ก ทาํ สญั ญากเู งนิ ข จาํ นวน 200,000 บาท เมอื่ วันท่ี 10 มกราคม 2559 กําหนดใชคืนใน 1
เดอื น อายุความสทิ ธเิ รียกรอ งของ ข เริม่ นบั
คําตอบ ......................................................
107. การทลี่ ูกหนท้ี ําหนงั สอื รบั สภาพหนใี้ หเจาหนี้ จะมีผลตออายคุ วามในหน้ีรายนน้ั คอื
คําตอบ ....................................................
108. การที่เจา หน้ีฟองคดีตอ ศาลเพ่ือบงั คบั ตามสทิ ธเิ รยี กรอง จะมผี ลตออายุความของสิทธิ
เรยี กรอ งนี้ คือ คําตอบ ....................................................
109. กรณีอายุความครบกําหนดในวันหยุดราชการจะมีผลคือ .......................................................
110. กรณีอายุความครบกําหนดในระหวางมีเหตุสุดวิสัย จะมีผลคือ ..............................................
111. หน้ที ่ีขาดอายคุ วามจะมผี ลตอ ลกู หนี้คือ ................................................................................
[119]
112. ศาลจะอางอายุความเปนเหตุผลในการยกฟองโจทก ไดในกรณี .............................................
113. สทิ ธเิ รียกรองซ่งึ กฎหมายมไิ ดกาํ หนดอายคุ วามไวโดยเฉพาะ กฎหมายใหมีอายุความ ...........ป
114. สิทธิเรียกรองเงินคาภาษีอากรของรัฐ มีอายุความ .............ป
115. มหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชนเรียกคาธรรมเนียมการศึกษาจากนักศึกษา จะตองฟองภายใน
กําหนดอายุความ ............ป
116. ขาราชการหรือลูกจางบริษทั เอกชนฟองเรียกเงนิ เดอื นคางจา ยตองฟอ งภายในกาํ หนดอายุ
ความ ............ ป
117. กฎหมายวาดวยสัญญาเปนสวนหนึ่งของกฎหมาย ในสาขา..........................................
118. ความหมายของสัญญา คือ .........................................................................................
119. ....................... เปนความหมายของการแสดงเจตนาที่มีขอความชัดเจนพอที่จะถือวาเปน
ความผูกพัน ถาหากอกี ฝายหนงึ่ ตอบตกลงตามทมี่ ผี เู สนอไดแ สดงเจตนาไป
120. ผลตามกฎหมายของกรณีคําสนองที่ไมต รงกับคําเสนอ ............................................................
121. หลักเสรีภาพในการทําสัญญา หมายความวา ..........................................................................
.................................................................................................................................................
122. การโฆษณาขายสินคาทางหนังสือพิมพมีผลในทางกฎหมาย ไมมีผลในทางกฎหมาย เพราะ
เปน.....................................................................................................................................................
123. คําเสนอที่ทําตอบุคคลเฉพาะของมีผลเมื่อ ..............................................................................
124. .................................... เปนความหมายของการแสดงเจตนาตอบตกลงเขาทาํ สญั ญา
กับผูแสดงเจตนาอีกฝายหนึ่ง
125. ............................................. เปนกรณีที่คําสนองไมตรงกับคําเสนอ
126. ลักษณะของคํามั่นจะใหรางวัล เปนนิติกรรม............................ที่ผูใหคํามั่นแสดงเจตนา
ประกาศตอบคุ คลทั่วไป
127. เมอ่ื คาํ สนองตอบขอความถกู ตอ งตรงกบั คําเสนอและไดก ระทาํ ภายในระยะเวลายอ ม เกดิ
...................................... ในกฎหมาย
128. เมอ่ื คาํ สนองตอบขอความถกู ตอ งตรงกบั คําเสนอและไดก ระทาํ ภายในระยะเวลายอ มเกดิ ผล
เกิด .........................................
129. โทรศพั ททางไกลจากกรุงเทพฯ ทําคําเสนอขายบานใหบคุ คลทอ่ี ยูเ ชียงใหม ถอื วา
เปน………………
………………………………………………………………….
130. รถประจาํ ทางวิ่งรบั สง คนโดยสาร ถอื เปนคาํ ……………………….....................................………….
131. สญั ญามคี วามเก่ยี วขอ งกบั นติ ิกรรมคอื ………………………………………………………………………….
132. ลักษณะของคําม่ันจะใหรางวลั เปนนิติกรรม…………………………………..ท่ีผูใ หคํามั่นแสดงเจตนา
ประกาศตอ บคุ คลทว่ั ไป
133. หลักในการตีความสญั ญาคอื ……………………………………………………………………………………..
134. ปกติประเพณีหมายถึง ………………………………………………………………………………………………
135. สญั ญาทเี่ ปนการกอ หน้รี ะหวางคสู ัญญาท้ัง 2 ฝาย โดยตองกระทําตอบแทนซึง่ กนั และกัน คือ
........................................................................
136. สัญญาที่เปนสัญญาตางตอบแทนไดแก ...............................................................
137. สัญญาที่เปนสัญญาไมมีคาตอบแทน ไดแก .........................................................
[120]
138. สัญญาที่เปนสัญญาอุปกรณไดแก .................................................................................
139. สัญญาที่เปนสัญญาเพื่อประโยชนของบุคคลภายนอกคือ ...............................................
140. สัญญาที่เปนสัญญาไมมีชื่อไดแก .................................................................................
141. คําเสนอตอ บคุ คลผูอยูเฉพาะหนา เชน .................................................................................
...............................................................................................................................................
142. คําเสนอที่ทําตอบคุ คลเฉพาะหนามีผลเมื่อ ...............................................................................
143. คาํ เสนอที่ทําตอ บุคคลอยหู างโดยระยะทางมีผลเมื่อ ..............................นน้ั ไดส งไปถงึ ผูรับแลว
144. หลักในการตีความสัญญา คือ ................................................................................................
145. ระหวา งบคุ คล ……………………………………… ทห่ี ลกั กฎหมายวา ดวยสัญญากอความผกู พนั ดว ย
146. สัญญาอาจมีผลในลักษณะซ่งึ ใหประโยชนแก …………………………………………………………ได
147. ลักษณะของสัญญาเพื่อประโยชนบุคคลภายนอก คือ .............................................................
…………………………………………………………………………….
148. นาย ก จางนาย ข ใหข นสงไมสักไปตา งประเทศตอมากอนที่จะถงึ กําหนดสงไมสกั รฐั บาลได
ออกกฎหมายหามสงไมสักออกนอกประเทศ สญั ญาระหวา งนาย ก และนาย ข จะมผี ลคือ
คําตอบ …………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
149. …………………………. คอื ส่ิงท่คี ูสญั ญาฝา ยหนึง่ มอบไวใหแกค สู ัญญาอีกฝายหนง่ึ ในขณะทํา
สญั ญาเพอ่ื เปน ประกันการปฏิบัติตามสัญญา
150. เงนิ หรือทรัพยส ินอยางอ่ืน ซง่ึ คูสัญญาฝายหนงึ่ ใหแกคสู ัญญาอีกฝายหน่ึง จะใชใ หเ มอื่ ตนไม
ชาํ ระหน้หี รอื ชําระหนไี้ มถูกตองครบถวน คือ ……………………………….
151. ถามีการเลิกสัญญาเพราะความผิดของฝายรับมัดจํากฎหมายกําหนดให ……………………………
……………………………………………
152. …………….. เปนเงินหรอื ทรพั ยสินอยา งอืน่
153. ผลในทางกฎหมายหากคูสญั ญาไดต กลงในเรื่องเบ้ียปรบั ไวสูงเกินสว น ……………………………….
…………………………………………………………………………………………….
154. ในกรณที ลี่ ูกหนพ้ี ิสูจนไดวา………………………………………………. ลกู หนี้มิตองถูกริบเบี้ยปรับ
155. ถาเจาหนยี้ อมรบั ชาํ ระหน้ีแลว จะเรยี กเอาเบีย้ ปรับไดอ ีก ถาไดบ อกสงวนสิทธไิ วเชน นั้นในเวลา
ชาํ ระหน้ี
156. กรณีหากมีการเลิกสัญญาเพราะความผิดของฝายที่รับมัดจํา ...................................................
157. สิทธิการบอกเลิกสัญญาที่เกิดจากบทบัญญัติของกฎหมายคือ .................................................
158. การบอกเลิกสัญญายอมกอใหเกิดผลทําให .............................................................................
.............................................................................................................................................................
159. ก ทําสัญญาเชาบา น ข โดยมขี อ กาํ หนดวา ก ตอ งไมเอาบานนัน้ ใหผอู น่ื เชาชวง หาก ข ฝาฝน
มสี ทิ ธิบอกเลกิ สญั ญาได ดงั น้ีสิทธิบอกเลกิ สญั ญาเกิดจาก
คําตอบ ...................................................................
160. ผลเมื่อไดมีการบอกเลิกสัญญาไปแลว คือ ..............................................................................
161. ก ข และ ค ทําสัญญาเชาหอ งของ แดง จากผูใ หเ ชา คนละฉบบั โดยแตละคนเชา เชาแตล ะหอ ง
ตอ มา ก แตผ เู ดยี ว ฝา ฝนขอกาํ หนดในสัญญาเอาหองแดงสว นของตนไปใหเชาชว ง ผูใหเ ชา บอกเลิก
สญั ญา ได คําตอบ ....................................................................................
[121]
162. ก ข และ ค เปนเจา หน้ีรว ม ประสงคจะบอกเลกิ สัญญากบั ลูกหนรี้ วม คือ จ และ ฉ
คําตอบ ...................................................................................................................................
163. ก ขายแหวนทองปลอมให ข ข รับซ้อื โดยเขา ใจวาเปน แหวนทองคาํ ตอมา ค มาซื้อจาก ข ไปอีก
2 วนั ตอ มา ค มาตอวา ข วา ขายแหวนปลอมให ค เหตกุ ารณดงั น้ี
คําตอบ ………………………………………………………………………………………………………….........
………………………………………………………………………………………………………………………………………..
164. การบอกเลิกสัญญามีผลเหมือนกับ ……………………………………………….
165. การบอกเลิกสัญญาจะตองกระทํา ……………………………………… จึงจะมีผลเปนการบอกเลิกสัญญา
166. สิทธิการบอกเลิกสัญญา ……………………………………………………. เกิดจากบทบัญญัติของกฎหมาย
167. หนี้คือบุคคลสทิ ธิหรือสิทธเิ รยี กรอ งอนั เปนความเกี่ยวพันทางกฎหมายระหวา งบุคคล 2 ฝายคือ
………………………………………………………………………………
168. บอ เกิดแหงหนมี้ ี 2 ประการคือ ……………………………………………………..
169. วัตถแุ หง หน้ีคือ …………………………………………………………………………..
170. วัตถุแหงหน้มี ี 3 อยา งคอื
……………………………………………………………………………………………………
171. เมอ่ื เกดิ หน้ขี น้ึ เจา หน้ีเรยี กใหล ูกหนีช้ ําระหน้ไี ด โดยส้ินเชงิ มขี อ ยกเวนคอื ………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
172. ทรพั ยอันเปน วตั ถแุ หงหนี้ คอื
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
173. วตั ถแุ หงหนี้มหี ลายอยาง ผูเลือก ไดแก (ก) ลกู หนี้ (ข) เจา หนี้ (ค) …………………………….…………
174. การเลอื กวัตถุแหงหน้ีนัน้ ตองทํา …………………………………………..
175. วตั ถุแหง หนม้ี ีหลายอยาง หากตกเปน พนวิสยั บางอยางผมู สี ทิ ธเิ ลือก ………………………………………
176. เมื่อผมู สี ทิ ธเิ ลอื กไดเลอื กวตั ถแุ หง หนี้เปน อยา งใดแลว …………………………………………………………
177. กฎหมายกาํ หนดหลกั เกณฑทวั่ ไปในเรือ่ งเวลาจะพงึ ชําระหนี้ของลูกหน้ไี วคอื
(ก) .......................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
(ข) ถามีพฤตกิ ารณพ อจะอนุมานไดวา หน้ีถึงกําหนดเม่อื ใด กําหนดเวลาชําระหนี้จะตอ งเปนไป
ตามที่พึงอนุมานไดนั้น
(ค) ถาเวลาอนั พึงชําระหนีม้ ไิ ดกําหนดไวต ามวันแหงปฏิทิน เจา หนย้ี อ มเรยี กใหล กู หนี้ชําระหน้ี
ไดโ ดยพลนั และลูกหน้ียอ มชาํ ระหนใ้ี หแ กเ จา หนไี้ ดโดยพลนั ดจุ กนั
178. แดงกเู งนิ ขาวไป 10,000 บาท เมื่อวนั ท่ี 1 มกราคม 2560 กาํ หนดใชเ งินกูค ืนภายใน 1 ป ขาวจะ
เรียกใหแดงชาํ ระเงนิ คืนไดเ ม่อื ใดและแดงจะชําระเงนิ คนื ใหข าวไดเ ม่ือใด
คําตอบ ..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
179. นาง ก ขอยมื สรอยคอมุกจาก นาง ข เพอ่ื ใสไ ปงานเลี้ยงสง ผูวาราชการจงั หวัด ในวันที่ 10
กรกฎาคม เม่ือพนกําหนดงานเลี้ยงสงแลว นาง ข ทวงสรอยคอมกุ โดยใหน าง ก คืนสรอยไขม ุกแกน าง
ข ภายในวนั ท่ี 20 กรกฎาคม ครบกาํ หนด นาง ก กย็ ังไมค ืนสรอยไขม กุ ใหนาง ข ดังนัน้ นาง ก ผดิ นัดไม
ชําระหนเ้ี มอื่ ใด
คําตอบ ..............................................................................................................................
[122]
180. ก ขบั รถยนตชน ข โดยประมาทเปน เหตใุ ห ข ไดร ับบาดเจ็บสาหัสเมือ่ วันท่ี 5 เมษายน 2560
ข จะฟอ งเรยี กคาสนิ ไหมทดแทนจาก ก ไดตัง้ แตเ มอ่ื ใด
คําตอบ ................................................................................................................................
181. นายสวสั ด์ิขอยืมชามสงั คโลกจากนายกติ ิ เพ่ือไปโชวในงานแสดงสนิ คา กําหนดสง คนื ในวนั ท่ี 11
ธนั วาคม 2560 ครบกําหนดนายสวสั ดผ์ิ ดิ นัดไมส งคนื ตอ มาอีก 10 วัน นายสวัสดท์ิ ําชามสงั คโลกแตก
ดงั นี้ นายสวัสดิ์จะตอ งเสียดอกเบี้ยอตั ราเทาไร
คําตอบ ..............................................................................................................................
182. นายมากูเงินนายมีไป 50,000 บาท กําหนดใชค ืนในวนั ท่ี 5 ธนั วาคม 2560 ยกตัวอยางกรณี
ตอ ไปนี้ท่ถี อื วา เจาหนี้ตกเปน ผผู ิดนัดคือ
คําตอบ ....................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
183. ก ทําสัญญาขายขาวแกนาย ข จํานวน 1,000 กระสอบ ราคากระสอบละ 500 บาท ตอมา ก ไม
สามารถสงมอบขาวสารตามสัญญาแก ข เพราะภายหลังทําสัญญาแลว ราคาขาวสารแพงขึ้นถึง
กระสอบละ 2,000 บาท ดงั น้ี ก จะตองรบั ผิดตอ ข หรอื ไม
คําตอบ ....................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
184. ก ซื้อน้ําตาลจาก ข 2 กระสอบ ถึงกําหนดสงมอบ ข นําขาวสาร 2 กระสอบไปสงที่บานของ ก
แต ก ไมอยู ค. ภรรยาของ ก อยูบาน รับขาวสาร 2 กระสอบไว ตอมา ก กลับมาบาน ค บอก ก วา ข
เปนคนนําขาวสาร 2 กระสอบมาสง ให ก ไมว า อะไร ให ค ใชข า วสารดงั กลาวหุงรบั ประทานไดดังนี้ ก
จะเรยี กให ข สงมอบน้ําตาล 2 กระสอบใหแกตนอกี ไดห รอื ไม
คําตอบ ...................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
185. ถาการชําระหน้ีกลายเปนพน วิสัยเพราะพฤติการณอ ันใดอนั หน่งึ ซ่ึงเกิดข้ึนภายหลังทไี่ ดก อหนีจ้ ะ
ถอื ไดเสมอไปหรอื ไมว าลูกหนี้เปนอนั หลดุ พน จากการชาํ ระหนนี้ น้ั
คําตอบ ....................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
186. ก จา ง ข ใหวาดภาพตัว ก เพราะ ข เปนชางวาดฝม ือดีและมชี อื่ เสยี ง ทาํ สญั ญาจางเสร็จแลว ยงั
ไมทันวาดภาพให ก ข ไดขับรถยนตไปชนกับรถยนตของผูอื่นโดยประมาท เปนเหตุใหรถยนตของ ข
คว่ํา ข ไดร บั บาดเจ็บสาหสั ตองตดั แขนขวาทิง้ ซง่ึ เปนแขนท่ี ข จะตอ งใชว าดภาพ ข จึงกลายเปน คนที่
ไมสามารถจะชาํ ระหนี้คือวาดภาพให ก ได ดงั นี้ ข จะตองรับผดิ ชอบตอ ก หรอื ไม
คําตอบ ..................................................................................................................................
187. สี รับจางทําโอง มงั กรให สา 100 ใบ ทาํ เสร็จแลว สี ไดว า จางให สอน ขนโอง มังกรไปให สา โดย
รถยนต ระหวางขับรถยนตบ รรทกุ โองมังกรไปสงให สา น้นั สอน ไดข บั รถยนตออกนอกเสนทางไปบา น
สา เพอื่ ไปเยย่ี ม สอ เพอ่ื นของตนกอ นที่จะเอาโอง ไปสง สา ระหวา งทางไปบาน สอ สอน ขับรถยนต
บรรทุกโองมงั กรโดยประมาทชนกบั รถยนตค นั อน่ื เปนเหตใุ หรถยนตของ สอน ควาํ่ โอง ที่บรรทุกในรถ
แตกเสยี หายหมด ดงั น้ี สี จะตอ งรบั ผดิ ชอบตอ สา เพราะสอนไมมีโอง มังกรไปสง ให สา หรือไม
คําตอบ ....................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
[123]
188. ก ทําสัญญาขายขาวสารให ข 500 กระสอบ ก. ใชให ค. ขนขาวรายนีไ้ ปสง มอบใหแ ก ข. แต ค.
ไดน ําขาวรายนไี้ ปขายให ง. แลว นาํ เงนิ ไปใชเปนประโยชนสวนตนเสยี ดงั น้ี ก. จะตองรับผดิ ตอ ข.
หรอื ไม
คําตอบ ....................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
189. แดงวา จางขาวใหวาดภาพของตน แตข าวไดว า จา งเขียวใหว าดภาพของแดงอีกตอหน่งึ และขาว
ไดวาดภาพของแดงมาสง มอบใหแดงตามกําหนดเวลาทต่ี กลงกนั ไวแ ดงไมยอมรบั ภาพวาดดงั กลาว
เชนนี้แดงหรือขาวเปนผผู ดิ สัญญา
คําตอบ ...................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
190. ยกตัวอยางกรณีใดจะถือวาเปนการบังคับชําระหนี้โดยเฉพาะเจาะจง เชน ................................
...........................................................................................................................................................
191. ก. ปลกู บานลํ้ารกุ เขา ไปในทด่ี ินของ ข. ข. บอกให ก. รอื้ ถอนบานออกไป ก. ไมยอมทาํ ดังนี้ ข.
จะฟองขอใหศ าลบงั คับอยางไร
คําตอบ ................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
192. แดงทําสัญญาขายทีด่ ินใหข าว แดงผิดสัญญาไมยอมขายทีด่ ินให ขาวจะฟองขอใหศ าลบังคบั
อยางไร จงึ จะไดกรรมสิทธิ์ในทด่ี นิ ท่ีซ้ือ
คําตอบ ................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
193. กลว ย เชา อาคารจาก ไข เดอื นละ 10,000 บาท ครบกําหนดสัญญาเชา ไข ไมตองการให กลวย
เชาอีก และไดบอกให กลวย ออกจากอาคารที่เชา โดยบอกวา จะเอาอาคารให เคม็ เชาตอ เม่อื ครบ
สญั ญาเชา กลว ย ไมยอมออกจากอาคารท่ีเชา เปนเหตใุ ห ไข เอาอาคารทเ่ี ชา ไปใหใ ห เคม็ เชาไมได
ท้งั น้ี เคม็ ทําสญั ญาเชา อาคารจาก ไข เดอื นละ 20,000 บาท และไดเงินกินเปลาจาก เค็ม อีก
100,000 บาท ดังนี้ ไข จะเรียกคาเสียหายจาก กลว ย เดอื นละ 20,000 บาท ในระหวางผิดนัดและ
เรยี กเงนิ 100,000 บาท ทคี่ วรไดจาก เค็ม เอาจาก กลวย ไดห รอื ไม
คําตอบ ..............................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
194. เกง ทาํ สญั ญาซื้อแรด บี ุกจาก กลา โดยระบุในสญั ญาวา เพือ่ นาํ ไปขายตอ ใหแกโรงถลุงแร ตอมา
กลา ผดิ สญั ญาไมมแี รดีบุกขายใหแก เกง เกง จึงไมม แี รด บี ุกไปขายใหแ กโ รงถลุงแรตามสญั ญาเปนเหตุ
ให เกง ขาดกําไรที่จะไดจากการขายแรดีบุกเปนเงิน 50,000 บาท เงนิ จาํ นวนน้ี เกง จะฟองรอ งเอา
จาก กลา ไดหรือไม
คําตอบ ................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
[124]
195. มาทาํ สญั ญาซอ้ื มะพราวจากสวนของนายมน่ั เพอ่ื นาํ ไปขายในตลาดเมอื งจํานวน 1,000 ลูก ถึง
กาํ หนดสง มอบ ม่นั เกบ็ มะพราวขายใหแ กมาไดเ พียง 500 ลกู แลว นําไปสงมอบใหแกม า แตม าไมย อม
เพราะสงมอบใหไมครบ 1,000 ลูกตามสัญญา หากมั่นสงมอบใหครบ 1,000 ลูกตามสัญญา มาจะขาย
ในตลาดในเมืองไดกําไรลูกละ 1 บาท เปนเงินกําไรทม่ี าควรไดท ้งั สน้ิ 1,000 บาท มาจะฟองเรยี กคา
ขาดกําไรดงั กลาวจากมนั่ ไดห รอื ไมเพยี งใด
คําตอบ ................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
196. ก. ทําสญั ญาซอื้ ไมม ะคา โมงจาก ข. โดยตกลงให ข. สงไมไ ปให ก. เมอ่ื ถงึ กําหนด ข. ไดใ ห ค.
ลูกจางขับรถยนตบรรทุกไมไปสงให ก. ระหวางทาง ค. ขับรถยนตโดยประมาทไปชนกับรถของคนอื่น
เปน เหตใุ หไฟไหมร ถยนตแ ละไมที่บรรทกุ มาในรถเสยี หายทั้งหมด ดงั นี้ ข. จะตอ งรับผดิ ตอ ก. หรือไม
คําตอบ ................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
197. ดําทาํ สัญญาซือ้ นาํ้ มนั เบนซินจากขาวจํานวน 5,000 ลิตร ถึงกําหนดสง มอบ ขาวจา งเขียวขน
นาํ้ มนั ไปสงดําโดยทางรถยนต แตแทนท่เี ขยี วจะขนนา้ํ มนั ไปสง ใหดํา เขียวกับนํานา้ํ มันไปขายแลวนํา
เงินท่ไี ดไปใชเปน ประโยชนสวนตัวเสียดงั น้ี ขาวจะตอ งรับผิดใชร าคานาํ้ มันใหด าํ หรือไม
คําตอบ ................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
198. โตะขายเคร่ืองเรอื นของตนใหแกต ู โดยชําระราคากันเรียบรอยแลว และตกลงกนั วาโตะ จะเอา
เครือ่ งเรือนไปสงใหท่บี านของตใู นเยน็ วนั เดียวกนั เมื่อตกู ลบั บานแลว โตะ ไดวา จางตง่ั ใหเ อาเครอื่ งเรือน
ไปสงใหตโู ดยมีขอ ตกลงวาตง่ั จะตองนาํ เครอ่ื งเรือนไปสงใหต ูถึงบานของตใู หเรยี บรอ ย ถาหากตูไมไ ดรับ
เคร่อื งเรอื นหรอื เครอื่ งเรือนชํารุดเสยี หายตงั่ จะตอ งรับผดิ ชอบตอตูแตเพยี งผเู ดยี วโดยโตะ จะไม
รับผิดชอบดว ยตกลงกันเสรจ็ แลว ตั่งไดเอาเครอ่ื งเรือนบรรทุกรถยนตข องตนเพอ่ื นาํ ไปสง แตใ น
ระหวา งทาง ตั่งกลับนาํ เอาเครื่องเรือนไปขายใหเ ตยี ง ตเู ลยไมไ ดรับเคร่ืองเรอื นตามสัญญาดงั น้โี ตะ
จะตอ งรับผดิ ชอบตอตใู นการที่ตูไมไดรับเครือ่ งเรอื นหรือไม
คําตอบ ................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
199. หลกั ทั่วไปของการบงั คับชําระหน้โี ดยเฉพาะเจาะจงคือ …………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………...
200. ก. ซอื้ ท่ีดนิ มโี ฉนดแปลงหน่ึงจาก ข. ชําระเงนิ กนั เรียบรอ ยแลว แต ข. ไมย อมไปจดทะเบยี นโอน
กรรมสิทธ์ทิ ด่ี ินให ก. ดงั นี้ ก. จะฟอ งรองบังคบั อยา งไร ก. จงึ จะไดก รรมสทิ ธใ์ิ นท่ดี นิ
คําตอบ ................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
201. ก. ทําสัญญาซื้อขายท่ีของ ข. เพ่อื ปลูกบานอยอู าศัยโดยมขี อ ตกลงวา ข. ให ก. ใชถนนสว น
บุคคลของ ข. ท่ผี านท่ดี นิ ของ ก. เพือ่ ออกสูถนนใหญได ตอมา ก. กบั ข. มีเรอื่ งไมถ กู กัน ข. จึงทาํ
ประตูปดกนั้ ถนนไมใ ห ก. ใชเ ปน ทางเดินออกไปสูถนนใหญได ดังนี้ ก. จะดําเนินการอยางไรเพอ่ื ใหรือ้
ถอนประตูออกไปจากถนนเสีย
คําตอบ ................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
[125]
202. กรณีท่ีหนี้มวี ัตถุแหงหน้ีเปนสงมอบทรัพยสนิ ลูกหนผ้ี ิดนัดไมช าํ ระหน้ี เจา หน้มี สี ิทธิที่จะบังคบั
ชําระหนค้ี ือ
......................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
203. มีหลกั เกณฑอ ะไรบา งทจ่ี ะเรียกรอ งคาสนิ ไหมทดแทนจากลกู หนไ้ี ด
คําตอบ ................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
204. มี วาจาง มา ใหสรางบานให มาสรางบานไมเสร็จตามกําหนดเวลาที่ตกลง มีไมสามารถเอาบาน
ไปให มา เชาตามสัญญาทม่ี กี ับมาทํากนั ไวเ ปนเหตใุ ห มี ตองถูกปรบั เปน เงนิ 10,000 บาท และขาด
ประโยชนไมไดคา เชาบานจาก มา เดือนละ 5,000 บาท เปนเวลา 4 เดอื นเปน เงนิ 20,000 บาท ดังน้ี
มี จะฟองเรยี กคาปรับทเ่ี สียไปและขาดประโยชนทคี่ วรจะไดจาก มา ไดห รอื ไม
คําตอบ ................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
205. มาตรา 214 บญั ญัติวา เจาหนา ท่มี ีสิทธิทีจ่ ะใหชําระหนขี้ องตนจากทรพั ยส ินของลูกหน้ีจนส้ินเชงิ
นน้ั ทา นเขา ใจวาอยางไร
คําตอบ ................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
206. .................................คือ การเอาทรัพยสินอันหนึ่ง เขาแทนที่ทรัพยสินอีกอันหนึ่ง ในฐานะและนิติ
นัยอยา งเดียวกนั กับทรพั ยสนิ อนั กอ น
207. กรณีทเี่ จาหนี้จะใชสิทธิเรียกรอ งแทนลูกหนี้ คอื
(ก) ....................................................................................................................................................
(ข) ลูกหน้ขี ัดขนื หรือเพกิ เฉยไมใ ชส ทิ ธเิ รียกรอ งของตน
(ค) สิทธิเรยี กรอ งของลกู หนท้ี ี่เจาหนี้จะเขา ใชแ ทนได ตองไมใชส ทิ ธิทีเ่ ปน การสว นตวั ของลูกหนี้โดยแท
208. ผลของการเพิกถอนการฉอฉล ยอมไดเปนประโยชนแก.................................................................
209. วิธีการที่เจาหนี้ใชสิทธิเรียกรองของลูกหนี้ คือ ..............................................................................
............................................................................................................................................................
210. .............................................. คือ สิทธิทั้งหลายที่เจาหนี้เดิมมีอยูในมูลหนี้ ตกมาเปนของผูรับ
ชว งสทิ ธิ โดยอํานาจของกฎหมาย
211. กรณีใดบางซึง่ เจาหน้ีจะใชวิธกี ารเพิกถอนการฉอ ฉลเสียกไ็ ด
คําตอบ ..................................................................................................................................
212. การเพิกถอนการฉอฉลมีกําหนดอายุความดังนี้
(ก) ตองฟองภายใน .............. ปนับแตเวลาที่บุคคลภายนอกไดรถู ึงสาเหตทุ ่ีเจาหนีจ้ ะรองขอใหเพกิ
ถอนได แตตองไมเกิน ...................... ป นับแตไดทํานิติกรรมนั้น
(ข) ตองฟองภายใน ............................... ป นับแตไดทํานิติกรรมนั้น
213. …………………………………………คือ การซึง่ บคุ คลเขาเปนเจาหนี้แทนเจา หนีเ้ ดิมโดยเขามาเปน
เจา หนี้คนใหมหนเี้ ดมิ ยงั คงมอี ยู
214. บรุ มิ สทิ ธิแบงออกเปน 2 ประเภทคือ ............................................................................................
215. บุรมิ สิทธิสามญั ไดแ ก (1) คา ใชจ ายเพื่อประโยชนอ นั รวมกัน (2) คาปลงศพ (3) คาภาษีอากร (4)
คาจา งเสมยี น คนใช และคนงาน (5) ...................................................................................................
[126]
216. .................คือ สิทธิท่จี ะบงั คับชําระหนจ้ี ากทรัพยท ่อี ยภู ายใตบ ังคับบรุ ิมสิทธนิ ัน้ กอ นเจาหนีร้ ายอ่นื
217. ..................................... คือ สิทธิของเจาหนี้ที่จะครอบครองทรัพยสินของลูกหนี้โดยที่ทรัพยสิน
นนั้ เปน มูลฐานใหเกิดหน้ีอันทตี่ นเปน เจา หนี้ โดยมสี ทิ ธิครอบครองทรัพยสนิ นน้ั ไวจ นกวา จะไดรบั ชําระ
หนีเ้ สรจ็ สน้ิ
218. ก. นําปากกาและนาฬิกามาให ข. ซอม กําหนดวาจะชําระเงินคาซอมปากกาและนาฬิกาในวัน
เดียวกัน แต ก. มารับปากกาไปกอน พอถึงวันนัดชําระเงินคาซอมปากกาและนาฬิกา ก. ชําระเพียงคา
ซอ มนาฬกิ า กรณดี งั น้ี ข. มีสิทธิยึดหนว ง หรือไม
คําตอบ ................................................................................................................................
219. สิทธยิ ึดหนว งระงับลงเม่อื
(ก) หนี้เดมิ ระงบั ไป
(ข) ......................................................................................................................................................
(ค) เจาหน้ีมไิ ดครอบครองทรัพยส ินหรือเจา หน้ที าํ ผิดหนาทข่ี องตนในการดแู ลรักษาทรัพยท ่ียดึ หนว งไว
220. สทิ ธยิ ดึ หนว งมผี ลใหอ ายคุ วาม ไมส ะดดุ หยุดลง แตแมหนจ้ี ะขาดอายุความผทู รงสิทธิยดึ หนว งก็
ยงั บังคับชําระหนไี้ ด แตห ามคดิ ดอกเบย้ี ทค่ี า งเกินกวา ……....…… ป
221. บุริมสิทธิพิเศษไดแก บุริมสิทธิพิเศษเหนือสังหาริมทรัพยและ........................................................
222. บุริมสิทธิในมูลซื้อขายสังหาริมทรัพยหมายถึง ..............................................................................
..............................................................................................................................................................
223. บุริมสิทธิพิเศษเหนือสังหาริมทรัพยไดแก ......................................................................................
224. บุริมสิทธิพิเศษเหนืออสังหาริมทรัพยไดแก ....................................................................................
..............................................................................................................................................................
225. บุริมสทิ ธิพิเศษเหนืออสังหารมิ ทรพั ย ไดแ ก …………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
226. เมอ่ื มบี รุ ิมสิทธิสามัญหลายรายแยง กนั เรียงลําดับไดด ังนค้ี ือ …………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
227. ถา บุรมิ สทิ ธิสามัญแยงกับบุริมสิทธิพิเศษ กฎหมายบัญญตั วิ า ใหบ ุริมสทิ ธิพิเศษมาเปน ลําดบั กอ น
เวนแต.......................................................อันเปนบุริมสิทธิสามัญไดรับยกเวนใหมากอนบุริมสิทธิพิเศษ
228. เจาหน้บี รุ ิมสทิ ธิสามญั จะบงั คบั ชาํ ระหนี้จากทรัพยสินของลูกหนี้ไดโดย ........................................
.............................................................................................................................................................
229. บุรมิ สิทธิพิเศษเหนือสังหาริมทรัพย ระงับสิ้นไปเมื่อ ......................................................................
..............................................................................................................................................................
230. ผูรับจํานําสังหาริมทรัพยกับผูมีบุริมสิทธิพิเศษเหนือสังหาริมทรัพยนั้น ............................มีสิทธิ
ดีกวา
231. หนี้อนั จะแบงกันชาํ ระมิไดน ้ันเกิดขึ้นไดจาก
(ก) สภาพแหงทรพั ยอ ันเปนวัตถแุ หง การชําระหนี้
(ข) โดยผลของกฎหมาย
(ค) ............................................................
[127]
232. ก. ข. และ ค. เปนลูกหนี้รวมกันกูเงิน ง. ไป 3,000 บาท ตอมา ก. ลม ละลายไมมีทรัพยส ินอะไรท่ี
จะชําระหนใี้ ห ง. ได และ ข. ไดชาํ ระเงนิ 3,000 บาทใหแ ก ง. ไปแลว ดังน้ี ข. จะเรยี กเงินจาก ก. และ
ค. ไดห รอื ไม
คําตอบ ................................................................................................................................
233. ก. ข. ค. เปนลูกหนรี้ วมกนั กูเ งนิ ง. ไป 6,000 บาท มีขอตกลงระหวาง ก. ข. และ ค. วา ให ก.
รับผิดชอบ 1,000 บาท ข. รับผิดชอบ 2,000 บาท และ ค. รับผิดชอบ 3,000 บาท ดังนี้ ง. จะ
เรียกรอ ง ก. ข. หรือ ค. ชําระหน้ีใหแกตนไดเ พียงใด
คําตอบ ................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
234. นายถวิลกับนายณรงค รับจางสรางบานใหนายวิชัย ตอมานายถวิลไดขับรถบรรทุกไมเพื่อจะ
นําไปสรางบานไปชนกับรถยนตบุคคลอื่นโดยประมาท ไฟไหมรถและไมที่บรรทุกมาทั้งหมด เชนนี้ นาย
ถวิล นายณรงคหรอื นายวชิ ยั จะตองรับผดิ ชอบท่ีไมเ สียหายไปดงั กลาวหรือไม
คําตอบ ................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
235. นายขาว นายเขยี วและนายขม ทาํ สญั ญากเู งนิ นายขามไป 9,000 บาท ตอมาปรากฏวานายขาว
เปน ผเู ยาว และนายขาวไดบ อกลา งสญั ญากแู ลว เชน น้ี นายขาว นายเขยี ว และนายขม จะตอ งรับผดิ
ชําระหนี้ตามสญั ญากูหรอื ไมเ พียงใด
คําตอบ ................................................................................................................................
236. นายมา นายแมว นายหมู เปนลูกหน้ีรว มกนั กเู งนิ นายเมน ไป 60,000 บาท ตอมานายเมนปลดหนี้
ใหแกนายมา 20,000 บาท เชน น้ี นายเมน จะเรยี กใหน ายมา นายแมว นายหมชู ําระหน้ใี หแกตนไดมาก
นอยเพียงใด
คําตอบ ................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
237. นายชอบ นายชัย ทําสัญญารับจางสรางเรือยนตใหแกนายชิต ตอมานายชอบตาย นายชัยจะตอง
รับผิดสรางเรือใหนายชิตตอไปหรือไม เพราะเหตุใด
คําตอบ ................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
238. ก. ข. ค. เปนเจา หนีร้ ว มกนั ให ง. กเู งินไป 9,000 บาท โดยไมม ีกําหนดเวลาชาํ ระ ตอ มา ง. ไดนาํ
เงิน 9,000 บาท ไปชําระใหแก ก. แต ก. ไมยอมรับชําระ อางวากําลังจะเดินทางไปตางจังหวัดไมอยาก
เอาเงนิ ไปจาํ นวนมาก ๆ ตดิ ตัวไป เชน น้ี ก. ข. ค. ตกเปน ผูผดิ นดั หรอื ไม เพราะเหตใุ ด
คําตอบ …………………………………………………………………………………………………………………..
239. ก. ข. ค. กูเงิน ง. จ. ฉ. ไป 9,000 บาท กําหนดชําระคืนในวันที่ 10 มกราคม 2560 ถึงกําหนด
ชําระ ก. ข. ค. ไมชําระหนี้ ง. จ. ฉ. จะเรียกให ก. ข. ค. ชําระหนี้อยางไรจึงจะชอบดวยกฎหมาย
คําตอบ ................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
240. ก. ข. ค. ซื้อมา 1 ตัว จาก ง. ถงึ กาํ หนดสงมอบมาให ดังนี้ ก. ข. ค. จะมีสทิ ธเิ รยี กให ง. สง มอบ
มา ใหไ ดห รอื ไมเพราะเหตใุ ด
คําตอบ ................................................................................................................................
[128]
241. นายเขยี ว นายเหลอื ง กเู งนิ นายขาวไป 5,000 บาท โดยมีขอตกลงระหวางนายเขยี ว นายเหลอื ง
วา นายเขยี วจะรบั ผดิ ชอบ 2,000 บาท สวนนายเหลืองจะรับผิดชอบ 3,000 บาท ตอมาหน้ีถึงกาํ หนด
ชาํ ระ นายเขยี วนายเหลอื งไมช าํ ระหน้ี นายขาวจะเรยี กใหนายเขยี วและนายเหลอื งชาํ ระหนใ้ี หแ กต นได
หรือไมเพียงใด คําตอบ
................................................................................................................................
242. ก. ข. ค. เปน เจา ของรถยนต ไดขายรถยนตใ หแ ก ง. ในราคา 50,000 บาท ง.ชําระเงนิ แลว แต ก.
ข. ค. ไมย อมรับมอบรถยนต ให ง. เชนน้ี ง. จะดาํ เนนิ การอยา งไรจึงจะไดรับมอบรถยนตมาโดยชอบ
ดว ยกฎหมาย
คําตอบ ................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
243. ลูกหนร้ี วมมีคณุ ลักษณะสาํ คัญอยางไร
คําตอบ ................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
244. ก. ข. ค. ไดวาจางให ง. ไปฆา จ. ในราคาคาจาง 12,000 บาท โดยทําเปน หนังสอื สัญญากวู า ก.
ข. ค. ไดรวมกันกูเ งิน ง. ไป 12,000 บาท เมื่อ ง. ฆา จ. ตายแลว ก. ข. ค. ไมยอมชําระเงินคาจาง ง.
จงึ ไดน ําสญั ญาเงนิ กูดงั กลาวมาฟอ งศาลเรียกเงนิ ตามสัญญาเงนิ กู 12,000 บาท ดังนี้ ก. ข. ค. จะตอง
รับผิดเงินตามสญั ญาเงนิ กูห รือไมเพยี งใด
คําตอบ ................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
245. ก. ข. ค. เปนเจา หน้รี วมกันให ง. กเู งินไป 15,000 บาท โดยลกั ษณะท่ใี ห ง. ชําระหน้ีทัง้ หมด
ใหแกผูใดกไ็ ด เม่อื หนีถ้ ึงกําหนดชําระ ง. นําเงิน 15,000 บาทไปชําระหนใี้ หแก ก. คนเดียว โดย ข. ก็รู
แต ค. ไมรู แต ก. ไมยอมรับชําระหน้ีโดยไมม มี ลู ท่อี า งกฎหมายได เชน น้ี ก. ข. ค. ผูใดตกเปนผูผิดนดั
เพราะเหตใุ ด
คําตอบ ................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
246. นายดํา นายแดง นายดี รว มกันวาจางนายดื่มใหส รางเรือยนตใ ห 1 ลํา ในราคา 100,000 บาท
นายด่ืมสรางเรอื ใหแลวเสรจ็ แตนายดํานายแดง นายดไี มยอมชาํ ระคา จางใหแ กนายด่ืมตามสัญญา
สทิ ธเิ รยี กรอ งเงนิ เชนนมี้ อี ายคุ วาม 2 ป ตอมาอีก 3 เดือน จะขาดอายุความ นายดําชําระเงนิ คา จา ง
30,000 บาท และหลังขาดอายุความแลว 3 เดือน แดงชําระเงินใหด่มื อกี 20,000 บาท จากนั้นก็ไมมี
ผูใดชาํ ระเงินใหแ กน ายดื่มอีก นายดม่ื จงึ ฟอ งเรียกเงนิ สวนทีเ่ หลือ 50,000 บาท จากนายดํา นายแดง
และนายดีหลงั จากคดีขาดอายคุ วามแลว 6 เดือน ท้ังสามคนไดอา งอายุความขึน้ ตอ สวู า คดีขาดอายุ
ความแลว นายดื่มจะเรยี กเงิน 50,000 บาท จากลูกหนที้ ้งั สามคนไมไ ด ขอตอสูของนายดํา นายแดง
และนายดี จะรบั ฟง ไดหรอื ไม เพราะเหตใุ ด
คําตอบ ....................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
[129]
247. นายเอ นายบี และนายซี ไดร ว มกนั กเู งนิ ของนายดไี ป 9,000 บาท โดยยอมเปนลูกหน้รี วมกัน
ตอ มาปรากฏวาในขณะทาํ สัญญา นายเอเปน ผเู ยาว นายบถี กู นายซ่ี ขม ขใู หท าํ สญั ญาเพอ่ื ชว ยนายซี
แตนายบีไมกลวั คําขูและไดทาํ สัญญาเพอื่ ชวยนายซี ภายหลังทําสัญญากูแลว นายเอ นายบี ไดบอก
ลางสัญญากโู ดยอางวาเปน ผูเยาวแ ละถูกขมขูตามลาํ ดบั เชนน้ีนายเอ นายบี นายซี จะตองรับผิดตอ
นายดี
หรือไมเพยี งใด
คําตอบ .................................................................................................................................
248. นายวนิ จิ นายวชิ ติ นายวริ ชั เปน เจา หนข้ี องนายวนิ ยั เปน เงนิ 60,000 บาท ตอมาปรากฏวานาย
วนิ จิ ตาย กอนตายนายวินจิ ไดทาํ พินัยกรรมยกทรพั ยม รดกของตนทง้ั หมดรวมทั้งหนเ้ี งนิ รายนด้ี ว ยใหแก
นายวินัย เชน นี้ นายวชิ ิตและนายวิรัชจะมสี ิทธเิ รียกใหน ายวินัยชาํ ระเงนิ ใหแกต นไดเพยี งใดหรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
249. การวางทรัพย ณ สํานักงานวางทรัพยไดใน กรณี คําตอบ ............................................................
.........................................................................................................................................................
250. ก. ข. ค. เปนเจาหนี้รวมของ ง. เปนเงิน 15,000 บาท ตอมา ก. ไดปลดหนใ้ี หแ ก ง. จํานวน
5,000 บาท ดงั นี้ ก. ข. ค. มีสิทธิที่จะเรียกให ง. ชําระไดเพยี งใดหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
251. การโอนสิทธิเรียกรอง คือ.............................................................................................................
............................................................................................................................................................
252. การโอนสิทธเิ รียกรอ งอันจะพึงชําระแกเ จาหนีโ้ ดยเฉพาะเจาะจงจะ ตอ งทาํ เปน
..............................
253. การโอนสิทธิเรียกรองในหนี้อันพึงชําระตามเขาสั่ง ตองทําโดย.......................................................
...........................................................................................................................................................
254. สิทธิเรียกรองดังตอไปนี้ โอนกันไมไ ด คอื
(ก) สทิ ธิเรยี กรอ งซ่ึงสภาพแหงหนไ้ี มเปดชอ ง
(ข) ……………………………………………………………………………………………………………………………………
(ค) สิทธิเรยี กรองซง่ึ ศาลยดึ ไมได
255. การโอนสทิ ธเิ รยี กรองโดยไมบอกกลาวลูกหนี้ หรือลกู หนไ้ี มย ินยอมดว ยมผี ลทาํ ให ……………………
……………………………………………………………..
256. ก. เปนเจาหนเ้ี งินกู ข. อยู 30,000 บาท แตวาหนนี้ น้ั ขาดอายคุ วามแลว ตอ มา ก. ไดโ อนสิทธิ
เรียกรอ งในหน้นี ี้ให ค. โดย ข. ก็ใหค วามยินยอมโดยไมอดิ เอื้อน ค. จะเรียกให ข. ชําระหนเี้ งินจํานวน
30,000 บาท แกตน ไดห รอื่ ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
257. สิทธิเรียกรองท่โี อนกนั ไดคือ …………………………………………………………………………………………….
258. ก. กูเงิน ข. ไป 5,000 บาท และตกลงกันวา ข. จะไมโ อนสิทธเิ รียกรองไปยงั ผูอนื่ ตอมา ข. โอน
สทิ ธิเรียกรอ งในหนีร้ ายน้ใี ห ค. บุคคลภายนอกผสู จุ ริตซึ่งเปนการฝาฝน ขอ ตกลง ดงั น้ี ก. จะปฏิเสธไม
ยอมชําระหนแ้ี ก ค. ไดหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
259. การโอนสิทธิเรียกรองเปนการเปลี่ยนตัวเจาหนี้ แต… …………………………………………………………….
260. ขาวเปน หนเ้ี งนิ กูเขยี วอยู 20,000 บาท หนร้ี ายน้ีอาจระงับหรอื ส้ินสุดลงไดใ นกรณีใดตอ ไปนี้
คําตอบ .................................................................................................................................
[130]
261. ในกรณตี อไปน้ี บุคคลผูมีอาํ นาจชาํ ระหนี้ไดโดยชอบดวยกฎหมาย แมทัง้ เจา หนแ้ี ละลูกหน้ีจะไม
ยินยอมดวยคอื
คําตอบ .................................................................................................................................
262. ดําเปนหน้ีแดงในมูลหนี้ 2 รายคอื เปนหน้เี งนิ กู 800 ลา นบาท โดยไมม ีกาํ หนดชาํ ระ และเปน หนี้
คาเชาบานอีก 8,000 บาท ถึงกําหนดชําระในวันที่ 31 มีนาคม 2560 ในวนั ที่ 5 เมษายน 2560 ดาํ นํา
เงนิ 8,000 บาท มาชาํ ระใหแกแดงโดยไมไดบ อกวา จะชําระรายใดกอน เชนนีจ้ ะตองจดั สรรเงนิ จาํ นวน
8,000 บาทนี้ ชําระใหแกแดงอยางไรจึงจะเปนการชอบดวยกฎหมาย
คําตอบ .................................................................................................................................
263. กรณีตอ ไปน้ี เปนการขอปฏบิ ัติการชาํ ระหน้โี ดยชอบ ซึง่ จะมีผลทาํ ใหล กู หน้ไี มตองรับผิดชอบใน
ความเสียหายทเ่ี กิดขึน้ เพราะเหตุทไ่ี มม ีการชาํ ระหนี้
คําตอบ .................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
264. การหักกลบลบหนี้จะกระทํามิได ถา
(ก) ………………………………………………………………………………………………………..
(ข) หนี้ที่จะขอใหมีการหักกลบลบกบั หนี้อีกรายหนงึ่ นัน้ เปนหน้ลี ะเมิด
(ค) สภาพแหง หนี้ไมเปดชอ งใหหกั กลบลบหนีไ้ ด
265. การหกั กลบลบหนม้ี ผี ลตงั้ แต ………………………………………………………………………………………….
266. ……………………………….. คอื เปนสญั ญาระหวา งคูกรณีทเี่ ก่ียวขอ งเปลี่ยนสงิ่ ซ่งึ เปนสาระสําคญั
แหงหนี้ เพ่ือเลกิ หรือระงับหน้ีเดมิ แลวกอหนี้ใหมข้ึนมาแทน
267. การเปล่ยี นสิ่งซ่ึงเปนสาระสําคญั แหง หน้ีในการแปลงหนีใ้ หมเชน ……………………………………………
268. การที่หนเี้ กลอ่ื นกลนื กนั ยกตวั อยางเชน ………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
269. การทห่ี น้เี กล่ือนกลืนกันมีผลทาํ ให ……………………………………………………………………………………..
270. ในกรณตี อไปน้ีบคุ คลจะยกขอ อางวาหนี้เกลอื่ นกลนื กันไมไ ด คอื ……………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
271. ก. ใชไมตี ข. โดยไมต องการให ข. ถึงตาย แต ข. บาดเจบ็ และถงึ แกค วามตายในเวลาตอมา ดังนี้
ก. กระทาํ ตอ ข. โดยจงใจหรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
272. แดงกับดําเปน เพือ่ นกนั แดงยอมใหดําชกตอยท่ีหนา ดาํ กช็ กตอย แดงไดร ับบาดเจ็บเล็กนอ ย ดังนี้
แดงจะเรยี กคา เสียหายจากดาํ ไดหรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
273. ก. บุกรุกเขา ไปในตกึ แถวที่ ข. เชาจาก ค. แตไมม ีสิ่งของอืน่ ใดของ ข. เสียหาย ดังนี้ ข. จะไดรับ
ความเสียหายหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
274. ก. ขุดหลุมในถนนสาธารณะซงึ่ เปนทางเขา บานของ ข. ข. จึงเอารถเขา บา นไมไ ด ดงั น้ี ข. ไดร ับ
ความเสยี หายหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
[131]
275. ส. ขับรถชน น. ส. หนีไป สวน น. บาดเจ็บและสลบอยูริมถนน คนรายฉวยโอกาสขโมยนาฬิกา
ขอมือของ น. ไป ดังน้ี ส. ตองรบั ผิดตอ น. ในการที่นาฬิกาถูกคนรายรักไปหรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
276. จ. ยืมรถของ ส. ไปใช แลวถูก บ. ลักไป ดังนี้ จ. ไดรับความเสียหายหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
277. ความเสียหายตอ ไปนท้ี ่ีคาํ นวณเปน ตัวเงินไมไ ดเชน ………………………………………………………………
278. ด. กับ ส. เจาพนักงานที่ดินสนทนากนั ตอ หนา อ. ด. ถาม ส. วา “นายรับสินบนจากผูขายเทาไร
แลว” ซงึ่ ส. ไมเ คยรับสนิ บนจากผูข ายและ ด. ก็รู ดงั นีถ้ ือวา ด. กลาวหมน่ิ ประมาท ส. หรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
279. ในคดีอาญาเรื่องหน่ึง ศาลพิพากษายกฟอ งโดยฟงขอเท็จจริงวาจําเลยมไิ ดมเี จตนาเอารถยนต
ของโจทยไ ป โจทยจะฟอ งทางแพงเรียกคนื รถจากจําเลยไดห รอื ไม
คําตอบ ………………………………………………………………………………………………………………….
280. จันทร กับ อังคาร เกิดทะเลาะววิ าทกนั จันทร ใชมีดแทง องั คาร บาดเจ็บลมลง ศุกร เห็นเขา กใ็ ช
ปนยิง องั คาร อังคาร ถึงแกความตาย ดงั นี้ จันทร กับ ศุกร รว มกันกระทําละเมิดตอ องั คาร หรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
281. ผูตองรับผิดตองมิไดกระทําละเมิด แตบุคคลอื่นตองกระทําละเมิด ถือวาเปน ................................
...........................................................................................................................................................
282. นายแสงสง ปนใหล กู จา งยิงคนรายทเ่ี ขา มาขโมยสินคาในโกดงั ของนายแสง ดังนี้ เปน ความผิด
ของนายแสงนายจา งในการกระทําของบคุ คลอืน่ หรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
283. ส. เปนลกู จางของ จ. มีหนา ท่ซี อมรถทล่ี ูกคา มาจา ง จ. ซอ ม โดยประมาทเลนิ เลอ ขณะทําการ
ซอ มตามหนา ท่ี ส. ทําใหรถลูกคาเสียหาย ดังนี้ จ. ตอ งรับผดิ ตอลูกคาดว ยหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
284. ม. ลกู จาง ว. มีหนาทเ่ี ตมิ นํ้ามนั ใสรถใหล ูกคาที่ปม ว. ออกระเบยี บเปน คําส่งั ไวว า หามมิใหลูกจาง
สูบบหุ ร่ีขณะทาํ งาน โดยประมาทเลินเลอ ม. สูบบหุ รี่ทาํ ใหเกิดไฟลุกไหมร ถลูกคาเสียหายดงั น้ี ว. ตอง
รบั ผิดตอลูกคา ดว ยหรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
285. ความรับผิดของผวู า จางทาํ ของเปนความรับผดิ ในการกระทาํ ของบุคคลอื่นหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
286. ส. จาง น. ทําถนนเขาบานของ ส. ปรากฏวา น. ทําถนนรุกล้ําเขาไปในที่ดินของ ถ. โดยประมาท
เลนิ เลอ ซึง่ ส. ไมท ราบวา เปนท่ดี ินของ ก. ดังนี้ ส. ตองรับผิดตอ การกระทําของ น. หรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
287. เด็กไรเดยี งสาตอ งรับผิดในความเสยี หายทตี่ นกอ ขึ้นหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
288. ม. สงระเบิดขวดให อ. บตุ รชายผูเยาวซ่ึงอยใู นความดแู ลของตนโดยรูว า อ. อาจนําไปกอความ
เสียหายแกบ ุคคลอ่นื ได อ. นําระเบิดขวดไปขวางปาใสบา น ส. เสยี หาย ดงั น้ี ม. ตองรับผิดตอ ส.
หรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
[132]
289. เกีย่ วกบั ความรับผิดในการกระทาํ ของตนเอง ผูเยาวหรือบคุ คลวิกลจรติ กระทําละเมิด จะตองมี
การกระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเลอหรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
290. น้ํา เปนบุตรผูเยาวของ สาย และ มัว สาย และ มัว แยกกันอยู โดย สาย รับราชการอยูที่
เชยี งใหม มัว อยทู ่กี รงุ เทพฯ ระหวางที่อยใู นความดแู ลของ มวั นํา้ ทําราย ฟา โดยละเมิด ดงั นี้ สาย
จะตอ งรับผดิ ดวยหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
291. จ. คุนเคยกบั สนุ ัขของ ล. ไดสอนใหส นุ ขั ขโมยปลาสดของแมค า ในตลาด สุนัขทําตามที่ จ. สอน
ดังน้ี จ. หรือ ล. ตองรับผดิ ตอแมค า ปลา
คําตอบ .................................................................................................................................
292. ว. ยืมลงิ จาก ด. เพอื่ ใหขึ้นมะพรา ว ระหวา งท่อี ยใู นการเลี้ยงดูรักษาของ ว. ซ่งึ พักผอ นนอนหลบั
อยู ลิงเขาไปขโมยมะพรา วจากสวนของ ม. ดงั น้ี ว. ตอ งรบั ผดิ ตอ ม. หรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
293. เดก็ ชายนดิ ซง่ึ เปน เดก็ ซุกซนเอากอ นหนิ ขวา งหยอกสุนขั ของนายดเี ลน ดว ยความสนกุ สนานสนุ ขั
ว่งิ หนเี ขาไปในสวนไมดอกของนายมาเสียหาย โดยทเ่ี ดก็ ชายนิดไมร สู าํ นกึ วาสนุ ัขจะวงิ่ เขาไปในสวนไม
ดอกนน้ั และไมป ระมาทเลินเลอ ดงั น้ี นายดตี อ งรับผดิ ตอนายมาหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
294. คาํ วา “โดยละเมดิ ” ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา 433 วรรค 2 หมายความวา
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
295. กระเบือ้ งหลงั คาบาน ส. แผนหนง่ึ เผยออก จะหลุดตกลงมาอยูแลว จ. มาเยีย่ ม ส. ทีบ่ า น เหน็ ม.
ทอดกลวยแขกอยูขางลางรมิ ซอยขางบา น จึงใชไมเขย่ี กระเบื้องใหหลุดตกลงมาถูก ม. บาดเจ็บ ดงั นี้ จ.
ตอ งรับผดิ ตอ ม. หรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
296. ปา ยโฆษณาตั้งอยูบนดาดฟาตึกอยางไมแนน หนา ถูกพายทุ ม่ี ีไดตามธรรมดาพัดพงั ลงถูกบคุ คล
ขา งรางเสียหาย ดังนี้ ผูค รอบครองปายตองรับผดิ หรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
297. ล. มาเยยี่ ม อ. ทบี่ านพักซง่ึ อ. เปน เจาของและอยอู าศยั เมื่อ ล.กินกลวยหอมแลว จงึ ขวาง
เปลอื กออกไปทางหนา ตาง บังเอิญเปลือกกลว ยไปถูก ป. ขณะนั่งเลน อยทู สี่ นามขางบาน โดยท่ี ล. ไม
ทันเหน็ มากอน อ. ตอ งรับผิดตอ ป. หรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
298. ศ. เชารถยนตนงั่ มาจากบุคคลอน่ื แลวให ม. ลูกจา งขับไป ธุระโดย ศ. นง่ั ไปดวย ขณะที่ ม. ขบั
รถลุยน้ําไปอยางชาๆ ดวยความระมัดระวัง น้ํากระเซนไปถูก ท. ที่ยืนรอรถประจําทางอยูริมถนนเปยก
โชก โดยที่ ม. คนขับ และ ศ. เองกม็ องไมเ หน็ ดังน้ี ศ. ตองรบั ผิดตอ ท. หรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
299. ท. เกดิ ทะเลาะววิ าทกับ ม. จงึ ควา ระเบดิ ขวดทอ่ี ยใู นครอบครองของ ช. ขวา งไปที่ ม. บาดเจบ็
ดังนี้ ท. หรือ ช. ตองรับผิดตอ ม.
คําตอบ .................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
[133]
300. นายสายซ่งึ เปน เจาของบา นและครอบครองแกสบรรจอุ ยูในถงั และใชหุงตมในครัว ขณะท่ีนาง
สายนอนหลับ ถงั แกสระเบดิ ไฟไหมร กุ ลามไปยงั บา นของนางสดุ ท่อี ยใู กลเ คยี งกันเสยี หาย ดงั น้ี นาง
สายตอ งรบั ผิดตอนางสดุ หรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
301. ส. บุกรุกเขาไปทําการคาในตึกแถวของ อ. ไดชดใชคาเสียหายฐานละเมิดให อ. แลว อ. ไมยอม
ให ส. อยูตอ ไป ดังน้ี ส. ตอ งออกจากตึกแถวหรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
302. จาํ เลยขบั รถยนตน่งั ชนรถบรรทุกของโจทกที่จอดอยูเสียหายโดยละเมดิ โจทกจึงเอารถบรรทุก
ออกใหเ ชา ไมไ ด ดงั นี้ โจทกจ ะเรยี กคาเสียหายในการท่ีโจทกข าดรายไดท ่เี ปนคาเชาจากจาํ เลย ได
หรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
303. โจทกดาจาํ เลยดว ยถอ ยคําหยาบคายเพราะพาดพิงไปถึงบิดามารดาของจําเลย จําเลยจึงชกตอย
โจทกบาด เจบ็ ดังน้ีศาลจะลดคาเสียหายลง ไดหรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
304. ผูเยาวซ ึ่งเปนบุตรนอกกฎหมายของบิดา จะมีสิทธิเรียกคาเสียหายเพราะขาดไรอุปการะตาม
กฎหมายจากผูทําละเมิดใหบิดาตายหรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
305. ส. เปนขาราชการของมหาวิทยาลัย ถูก ป. ขับรถชนโดยละเมิดไดรับบาดเจ็บตองเสียคาใชจายใน
การรักษาพยาบาล ส. ไดเบิกคารักษาพยาบาลจากทางราชการไปแลวตามสิทธิ ดังนี้ ส. จะมีสิทธิเรียก
คารักษาพยาบาลจาก ป. ไดหรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
306. โจทกถ กู จําเลยขบั เรือยนตชนโดยประมาทเลนิ เลอ ทําใหตอ งตัดขาไปขา งหน่งึ ตอ งทพุ พลภาพ
พกิ ารตลอดชีวติ ไดรับคา รักษาพยาบาลไปจากจําเลยแลว ดังน้ี โจทกก ็จะเรยี กคาเสยี หายในการที่ตอง
เสยี ขาไป ไดห รอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………...……
307. จาํ เลยลักรถยนตข องโจทกไ ป โจทกจ ึงฟองเรียกรถคืน ดงั น้ีคดีของโจทกม อี ายคุ วามหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
308. เม่ือวันท่ี 1 ตุลาคม 2560 รถของ ช. ถูก ส. ขับรถชนโดยประมาทเลินเลอ และ ช. ก็รูวาถูกชน
และรูตวั ส. ในวนั นัน้ พอวนั ที่ 5 ตลุ าคม 2560 ช. ก็เอารถไปจา งซอม พอซอมเสรจ็ วันท่ี 10 ตุลาคม
2560 ก. ก็จา ยคา ซอมไปในวันที่ 10 ตุลาคม นั้น ดังน้ี ตองฟอ งเรียกคาเสียหายเม่อื ไหร
คําตอบ .................................................................................................................................
309. รอ ยตาํ รวจเอกกิจไมถ กู กบั นายนติ ิ จงึ ส่งั ใหส ิบตํารวจตรีโกยผอู ยูใตบงั คบั บญั ชาไปจับกมุ นายนติ ิ
ในขอหาวานายนติ ิมขี องผิดกฎหมายไวในครอบครอง ซง่ึ ไมเปน ความจรงิ สิบตาํ รวจตรีโกยก็ไมทราบ
วา รอยตาํ รวจเอกกิจส่ังโดยมิชอบ จงึ ไปจับกมุ ตามคาํ สั่ง ดังน้ี สบิ ตาํ รวจตรีโกยตองรับผิดตอ นายนติ ิ
หรือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
310. แมวของนายจเู ขามาขโมยกินลกู ไกของนายดีในบรเิ วณบานหลายครัง้ แลว ครง้ั สุดทา ยนายดเี ห็น
เขา จงึ จบั แมวไวไ ด นางจูขอแมวคืน นายดไี มย อมคนื ให ดงั นีน้ ายดีกระทําละเมดิ ตอ นางจูหรอื ไม
คําตอบ .................................................................................................................................
[134]
311. จดั การงานนอกส่งั และลาภมคิ วรไดเปน ……………………………..............................................………
312. การที่บุคคลใดเขาทํากิจการแทนผูอื่นโดยเขามิไดว าขานวานใชใหกระทําเรียกวา ……………………
313. หนา ท่ีของผจู ดั การงานของผูจัดการคือ
(ก) …………………………………………………………………………………………………………………………………..
(ข) ตามความประสงคอันแทจรงิ ของตวั การ
(ค) ตามทีจ่ ะพึงสันนษิ ฐานไดวา เปน ความประสงคของตัวการ
314. ผลของการจัดการไมถ กู ตอ งตามหนา ท่ีของผจู ัดการคือ ผจู ัดการตอ ง …………………………………..
315. ในกรณที ่ผี ูจัดการ จดั การงานนอกสัง่ โดยไมสมประโยชนของตัวการ แตถาตัวการเห็นชอบดว ย
กับกิจการนั้น ………………………………………………………………………………………………………………………..
316. การที่บุคคลใดไดม าซ่ึงทรพั ยสิ่งใดของบุคคลอ่ืน โดยไมม ีมลู อันจะอา งกฎหมายไดและการได
ทรัพยน ัน้ มาทาํ ใหบคุ คลอ่ืนเสียเปรยี บเปน
………………………………………………………………………………………..…….
317. การชําระหนี้ซึ่งเกิดจากโมฆกรรม สามารถเรียกคืนทรัพยฐาน…………………………………………………
318. ถา การคืนทรัพยต กเปน พนวิสัยและบคุ คลไดรบั ทรพั ยสนิ ไวโดยสจุ รติ บคุ คลน้ัน ตองคนื …………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
319. ก. ทําสัญญาให ข. เชาบานมีกําหนด 3 ป โดยกาํ หนดใหช าํ ระคา เชาในวันที่ 1 ของแตล ะเดอื น
ตอมาเม่ือวนั ท่ี 25 ข. นาํ เงนิ คา เชาบา นของเดือนตอ ไปมาชาํ ระแก ก. ตอมาในวันที่ 27 ของเดอื น
เดียวกนั น้นั ข. ตอ งการเงนิ จึงมาขอคืนคาเชา บานที่ชําระแก ก. คนื โดยอา งวายังไมถ ึงกําหนดชําระคา
เชา บา นเชนน้ี ไดห รือไม
คําตอบ .................................................................................................................................
320. อายลุ าภมิควรไดคือ ……………………………………………………………………………………….....…………
…………………………………………………………………………………………………………………............…
321. ความแตกตางระหวางความหมายของคาํ วา “ทรัพย” และ “ทรพั ยสนิ ” คอื ……………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..
322. สิ่งท่เี ปนทรัพยสิน แตไ มเปน ทรพั ยไดแก ………………………… และ …………………………………..
323. ทรัพยส ินท่ีจัดวา เปนอสงั หาริมทรัพยไดแ ก ………………………………. และ …………………….……
324. ทรัพยส นิ ตอ ไปนีเ้ ปน สงั หาริมทรพั ยไ ดแก …………………………………………. ……………….………
325. ทรัพยส นิ นอกพาณิชยไดแ ก …………………………………………………………………………………..…..
326. ทรัพยข องรถยนตท ไ่ี มเปน สว นควบกบั รถยนตไดแ ก ……………………………………………..…………
(กนั ชน ไฟทา ย กระจกมองขาง เคร่อื งยนต จดั เปน สวนควบของรถยนต)
327. ส่ิงปลูกสรางทที่ ําขึ้นทีไ่ มต กเปน สวนควบกับทีด่ ินไดแ ก ……………………………………………………
(สะพาน เรือนครวั ที่ปลูกแยกจากตวั บาน รั้วบา น ยุงขา ว จะตกเปน สวนควบกับท่ีดนิ )
328. ทรัพยท่ใี ชป ระจําอยูในบา นท่ีจดั เปน อุปกรณของบา นไดแ ก ……………………………………………..
(หนา ตาง ฝากน้ั หอ ง พัดลม และหลงั คาโรงครวั ไมใชอุปกรณข องบา น)
329. ทรัพยท่ีจดั วา เปนดอกผลธรรมดาคอื ……………………………………………………………………………
330. ทรพั ยสินที่ถือวา เปนดอกผลนติ นิ ัยคือ คาเชานาทจ่ี า ยเปน ขา วเปลอื ก ………………………………
.......................................................................................................................................................
331. สิทธิของบุคคลที่มีเหนือทรัพยสินเรียกวา ...................................................................
332. สทิ ธิที่มีวัตถุแหงสิทธิเปนทรัพยสินเรียกวา ................................................................
333. สิทธิสัมพันธเปนสิทธิที่นักกฎหมายใชเรียกสิทธิ .........................................................
[135]
334. นักกฎหมายเยอรมันเรียกบุคคลสิทธวิ า ....................................................................
335. สิ่งของ ไมใชวัตถุแหงหนี้ วัตถุแหงหนี้ ไดแก (........................................................................)
336. การไดท รัพยส ิทธทิ ีไ่ มต องจดทะเบียนไดแก ...........................................................
337. จา งแรงงานทท่ี าํ ขนึ้ บนอสงั หารมิ ทรพั ย เปน บรุ ิมสิทธิพิเศษเหนืออสังหารมิ ทรัพยใชห รือไม. .....
338. คาแรงงานเพื่อกสิกรรม เปน บรุ มิ สทิ ธพิ ิเศษเหนือสงั หาริมทรพั ย ใชหรอื ไม. .........
339. คา ปลงศพ เปนบุริมสิทธิสามัญ ใชหรือไม..........
340. คา จางเสมียนทํางานในบริษัทมบี ุรมิ สทิ ธิ ทยี่ งั คา งจายถอยหลัง 4 เดือนไมเกิน ................ บาท
341. บรุ ิมสทิ ธคิ าอปุ โภคประจําวนั มี คางชาํ ระอยถู อยหลงั ไป ...............เดอื น
342. บรุ ิมสทิ ธิในผูพกั อาศัยในโรงแรมมีเหนือ ..................................................................................
343. การกอตั้งทรัพยสิทธิทําไดโดย อาศัยอํานาจของ......................................................................
344. เชาซอื้ บาน ถอื เปน ทรพั ยสิทธิ ใชห รือไม.......... (ภาระจํายอม สิทธิอาศัย สิทธิเก็บกิน ถือเปน
ทรัพยส ิทธ)ิ
345. สิทธิเกบ็ กนิ มไี ดใ น …………………………………………………..............................…………….
346. สิทธิบัตร เปนทรัพยสินประเภทกรรมสิทธิ์ ใชหรือไม..................................................
347. ทรัพยสิทธิประเภทตัดทอนกรรมสิทธิ์ ไดแก ...............................................................
348. ทรัพยสิทธิในทรัพยสินของผูอื่นคือ ............................................................................
349. สงั หารมิ ทรพั ยที่ไมต อ งจดทะเบียนการไดมาคือ ..................................... (เรือกําปน เรือนแพ
สตั วพ าหนะ ตอ งจดทะเบยี น)
350. สัตวเล้ยี งของ ก. ถกู ขโมยบอยๆ ก. จงึ นํามาฆาเปนอาหารกนิ เสยี ทง้ั หมด เชน น้ี เปน สิทธิตาม
สิทธิ............................ ของเจาของทรัพย
351. แดนกรรมสิทธิ์มีไดเฉพาะกับทรัพยสินประเภท ..............................................................
352. บทบัญญตั เิ ร่อื งเหตเุ ดอื ดรอนรําคาญ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1337 นั้นมุงคุมครอง ..............
...................................................................................................................................
353. ผูกอเหตุเดือดรอนรําคาญ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1337 นั้นจะเปน .............................................
354. เจา ของรวมคนหนง่ึ จะอา งภาระจาํ ยอมโดยอายคุ วามขน้ึ ยนั เจา ของรวมคนอน่ื ไดหรือไม
.............เพราะ.....................................................................................................................................
355. เจาของรวมคนหนึ่งๆ จะทําการเพื่อรักษาทรัพยสิน .................................................................
356. ก. กับ ข. เปน เจา ของรถยนตคันหน่งึ รวมกนั โดย ก. ถอื กรรมสทิ ธ์ิ 2 สวน และ ข. ถือ
กรรมสิทธ์ิ 1 สวน ทัง้ สองตกลงผลดั กนั ใชต ามความจําเปนในระหวา งที่ ก. นาํ รถไปใช 1 เดอื น ตอ ง
จายคาน้าํ มันไป 3,000 บาท เชนนี้ ก. จะเรียกให ข. ชวยจายคานา้ํ มนั นัน้ ไดห รือไม
......................................................................................................................................
357. สทิ ธเิ รยี กใหแบงทรพั ยสินอนั เปนกรรมสทิ ธ์ิรวมนนั้ จะตัดโดยนติ กิ รรม ไดคราวละไมเ กนิ ……ป
358. การแบงทรัพยสนิ อนั เปนกรรมสิทธ์ิรวม โดยการตกลงกนั เองน้นั จะตอ งใชคะแนนเสยี งของ
……………………………………………………………………………..................................................……………
359. ถา เจาของรวมตอ งรับผิดรว มกนั ตอ บคุ คลภายนอกในหนอ้ี นั เกย่ี วกบั ทรพั ยสนิ รวม ในเวลาแบง
การจะเรยี กใหเ อาทรพั ยสนิ รวมนน้ั ชาํ ระหนเ้ี สยี กอ น ……………………………………………………………….
……………………………………………………………………….................................................................……..
360. ลกั ษณะของกรรมสทิ ธิ์ เปนสิทธทิ ่…ี ………………………………………………………………………………..
361. ก. ใหสทิ ธิอาศยั แก ข. ในโรงเรอื นของตนเอง เชนน้ี เปนสิทธติ ามสิทธ…ิ ……………………………
ของเจา ของทรัพยส นิ
[136]
362. แดนกรรมสิทธ์คิ รอบคลุมพืน้ ทบี่ รเิ วณ …………………………………………………………………………….
363. เจา ของรวมคนใดจะอา งอายคุ วามครอบครองปรปกษขึ้นยันเจาของรวมคนอืน่ ไมได ……………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
364. ในเรื่องการจัดการตามธรรมดา เจาของรวมคนหนึ่งๆ
……………………………………………………………………………………………………………………......………
365. ก. กับ ข. เปนเจาของบานหลังหนึ่งรวมกัน โดย ก. ถือกรรมสิทธิ์ 1 สวน และ ข. ถือกรรมสิทธิ์
2 สวน ก. ตกลงให ข. ครอบครองบา นน้นั แตฝายเดียว ตอ มา ข. ไดจา ยคาซอ มบานไป 30,000 บาท
เชนนี้ ข. จะเรียกให ก. ชว ยจายคา ซอมดังกลา ว ไดห รือไม จํานวนเทาไหร
............................................................................................................................................
366. ถึงแมว าวัตถุประสงคท เ่ี ปน เจาของรวมกนั น้ัน มีลักษณะเปนการถาวร เจาของรวมคนหนึง่ ๆ
จะเรียกใหแบงทรพั ยสินนั้น ไดหรอื ไม ........................................................................................
367. การแบงทรัพยสินอันเปนกรรมสิทธิ์รวม โดยการตกลงกันนั้น จะตองเปนไปตามสัดสวนการถือ
กรรมสิทธิ์หรือไม คําตอบ ....................................................................................................
368. เจา ของรวมตองรับผิดชอบตามสวนของตน ในทรัพยส นิ ซ่งึ เจา ของรวมคนอ่นื ๆไดรับไปในการ
แบงเชนเดียวกับ ใคร คําตอบ ....................................................................................................
369. บุคคลใดสรางโรงเรือนในท่ดี ินของบุคคลอืน่ โดยสจุ ริต กฎหมายบญั ญตั ใิ หผูใ ดเปน เจาของ
โรงเรือน คําตอบ ...................................................
370. บุคคลใดสรางโรงเรอื นในที่ดินของผอู ื่นโดยสุจรติ กฎหมายบญั ญตั ิใหเ จาของที่ดินเปนเจาของ
โรงเรอื นแตจะตองชดใชใหแกเจาของโรงเรือน ........................................................................
.................................................................................................................................................
371. กรณใี ดกฎหมายบญั ญตั ใิ หจ ดทะเบยี นสทิ ธเิ ปน ภาระจํายอมได
คําตอบ ................................................................................................................................
372. การจดทะเบียนภาระจํายอมในกรณีสรางโรงเรือนรุกล้ําเขาไปในทดี่ ินของผอู ื่นโดยสุจรติ นน้ั
กฎหมายบัญญัติใหเจาของที่ดินจะเรียกใหเพิกถอนไดในกรณี ....................................................
373. กรณีผูเปน เจาของทดี่ นิ โดยมเี งื่อนไข สรางโรงเรือนในท่ีดินน้นั และภายหลังทดี่ ินตกเปนของ
บคุ คลอ่ืนตามเงื่อนไข กฎหมายใหนําบทบัญญัติในเรื่องใดมาใชบังคับ คําตอบ .....................................
374. กรณีผเู ปนเจาของทดี่ ินโดยมีเงอ่ื นไข สรางโรงเรอื นในที่ดนิ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1313 นั้น ขอ
ที่เปนเงื่อนไขดังกลาวคือ...................................................................................................................
375. กรณีสังหาริมทรัพยมารวมเขากันจนเปนสวนควบโดยไมมีทรัพยประธาน ตาม ป.พ.พ. มาตรา
1316 วรรคแรกนั้น ใครเปนเจาของทรัพยที่รวมเขาดวยกัน คําตอบ ..........................................
................................................................................
376. บุคคลใดใชสัมภาระของบุคคลอืน่ ทาํ สง่ิ ใดขึ้นใหมต าม ป.พ.พ. มาตรา 1317 วรรคแรกนั้น ใคร
เปนเจาของสัมภาระ คําตอบ .........................................
377. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1318 บุคคลอาจไดมาซึ่งกรรมสทิ ธิ์แหงสงั หารมิ ทรพั ยไ มม ีเจา ของโดยวธิ ี
ใด คําตอบ ................................................................
378. สตั วป าท่ีคนจับไดน้ัน ถามนั กลบั คืนอิสระและเจา ของไมติดตาม ภายในเวลา
………………….……. กฎหมายบัญญัติใหเ ปน สตั วปาไมม เี จา ของ
379. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1323 (3) บุคคลเก็บไดซึง่ ทรัพยสนิ หาย ตอ งสง มอบทรัพยน ั้นแก
พนกั งานเจาหนท้ี ่ี ภายในเวลาภายใน ………………… วัน
[137]
380. กรณีบุคคลหลายคนเรยี กเอาสังหารมิ ทรพั ยเดียวกันโดยอาศัยหลกั กรรมสทิ ธ์ิตา งกัน ในการ
วนิ จิ ฉยั วา ใครจะมีสทิ ธดิ กี วากนั นน้ั กฎหมายยดึ หลัก …………………………………………………………………
381. สิทธขิ องบคุ คลผไู ดม าซงึ่ ทรพั ยสินโดยมคี า ตอบแทนและโดยสจุ ริตนน้ั ไมเ สียไป แมวา ผโู อนให
จะไดทรัพย สินนั้นมาโดยนิติกรรมที่มีลักษณะ (โมฆียะ /โมฆะกรรม) ................................................
382. กรณีอสังหาริมทรัพยมารวมเขากันจนเปนสวนควบโดยมีทรัพยประธานตาม ป.พ.พ. มาตรา
1316 วรรคสองนั้น ใครเปนเจาของทรัพยที่รวมเขาดวยกัน คําตอบ .................................................
383. บุคคลใดใชสัมภาระของบุคคลอื่นทาํ สง่ิ ใดข้ึนใหมกฎหมายใหผูทําเปน เจา ของทรัพยท ่ีทาํ ขนึ้ ใน
กรณี ............................................................................................................................................
384. สงั หารมิ ทรพั ยอาจมสี ภาพเปนทรัพยไ มมเี จาของไดต าม ป.พ.พ. มาตรา 1319 หากเจาของได
กระทําการ เลิกการครอบครองโดย......................................................................................
385. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1320 วรรค สาม สัตวปาซง่ึ เลี้ยงเชื่องแลว จะกลายเปน สัตวไมม เี จาของ
หาก ....................................................................
386. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1323 (2) บุคคลเก็บไดซ่งึ ทรัพยสนิ หายตองแจงแกผ มู ีสทิ ธิจะรับ
ทรพั ยส นิ นน้ั ภายในเวลา .................................................
387. กรณบี คุ คลหลายคนเรยี กเอาสงั หาริมทรัพยเ ดยี วกันโดยอาศัยหลักกรรมสทิ ธ์ิตา งกันนน้ั ไมใช
บังคับกับกรณี .............................................
388. ผซู ือ้ ทรัพยส ินจากการขายทอดตลาดในทองตลาดหรือจากพอคาซ่งึ ขายของชนิดนน้ั ศาลฎีกา
ไดตคี วาม “ผูซื้อ” ใหห มายความรวมถงึ “...................................” ดวย
389. บุคคลสิทธิ เปนสิทธิที่เกี่ยวกับทรัพยสิน ใชหรือไม ...............................................................
390. การใชสิทธซิ ่งึ มแี ตจ ะใหเกดิ เสยี หายแกบ คุ คลอื่นนั้น ประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย
บัญญัติวาเปนการกระทําที่ .................................................
391. การนํางานอนั มลี ิขสทิ ธข์ิ องผอู ่ืนไปจดั พิมพเผยแพรโดยไมไ ดรบั อนญุ าตเปนการกระทําที่ ........
..........................................................................................
392. ขอ จาํ กดั สิทธแิ หงเจาของอสังหารมิ ทรพั ยซ ง่ึ กฎหมายกําหนดไวน ัน้ จะถอนหรอื แกใ หหยอนลง
ไดโดยทําเปน..............................และ........................................................กับพนักงานเจาหนาที่
393. เอกและโทเปนเจา ของท่ดี นิ ติดตอกัน เอกไดถมทดี่ นิ ของตนใหส ูงขน้ึ เพ่อื ไมใหนาํ้ ทว มทดี่ ินของ
ตนเม่ือฝนตกน้ําจึงไหลจากท่ีดินของเอกลงสทู ่ดี นิ ของโท โทจึงทาํ คันดนิ กัน้ ไวไ มใ หน้ําไหลทว มทีด่ นิ ของ
ตนเอกอา งวาโทไมม สี ิทธิทําเชน น้นั เพราะโทเปนเจาของที่ดินตาํ่ จึงตองรับนํา้ ซ่งึ ไหลจากทด่ี ินสงู ตาม
กฎหมายกรณีนี้โทตองเปดทางระบายน้ําใหเอกตามขออางดังกลาวหรือไม เพราะเหตุใด คําตอบ
..............................................................................
394. ถาเอกตองการขุดรองเพอื่ วางทอ ระบายน้าํ ลกึ หนึ่งเมตร เอกตอ งขดุ หางจากแนวเขตท่ีดินอยาง
นอย ...................................เซนตริเมตร
395. หนึ่งและสองเจาของทด่ี ินตดิ ตอกันไดร วมกนั ขุดคูเปน แนวเขตท่ดี ิน ถาหนง่ึ ตอ งการถมคเู พราะ
เกรงวาจะเปน อนั ตรายแกบตุ รของตน หนงึ่ มีสิทธทิ าํ ไดหรือไม คําตอบ ...............................................
...............................................................................................
396. เจาของที่ดินจะตดั รากไม ก่งิ ไม ซึง่ รุกลํ้าเขา มาจากท่ดี ินติดตอกันและเอาไวเสียเลยไดหรือไม
คําตอบ .............................................................................................................................
397. เทพไดแบงแยกที่ดินแปลงหนึ่งของตน ซึง่ อยตู ิดกบั ทางสาธารณะออกเปน 10 แปลง ท่ีใหท ด่ี นิ
แปลงท่ีแบง แยกแปลงหนึง่ ท่ี หนู เปน ผูซ ้อื ไมม ที างออกสทู างสาธารณะได เพราะถูกที่ดินแปลงอ่ืนอีก 9
[138]
แปลงที่เกิดจากการแบงที่ดนิ ปดลอม หนจู ะขอใหเ จาของทด่ี ินแปลงทแี่ บงแยกแปลงใดแปลงหนึ่ง
เปด ทางจําเปนใหไ ดหรอื ไม อยางไร และตอ งเสยี คาทดแทนหรือไม
คําตอบ .......................................................................................................................................
398. แคบเปน เจาของทีด่ นิ แปลงใหญแ ปลงหนง่ึ โดยไมไ ดกัน้ ร้วั และไมไ ดท าํ ประโยชนแตอ ยา งใด
ฉวยจะพาฝงู ววั ของตนเขาไปเล้ยี งกนิ หญากนิ นํ้าในที่ดนิ ของแคบไดห รอื ไม
คําตอบ ……………………………………………………………………................................................................….
399. บคุ คลสทิ ธิ ไมใชส ทิ ธิเก่ียวกบั สภาพบคุ คล ใชหรือไม …………………………………………………..…
400. ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา 5 บญั ญตั ิหลักทั่วไปในการใชส ทิ ธิ และในการชําระ
หนไี้ วใหกระทําโดย……………………………………
401. การผลิตไขเ ค็มทีจ่ ังหวดั เชียงใหมโดยใชช ือ่ วา “ไขเ คม็ ไชยา” ในขณะทีย่ ังไมม ีกฎหมาย
ทรัพยสนิ ทางปญ ญาเกย่ี วกับส่งิ บงช้ีทางภูมิศาสตร เปน การกระทําท่ี มีสิทธ.ิ ..........................................
402. ขอจาํ กัดสิทธแิ หงเจาของอสังหาริมทรัพยซ่งึ กาํ หนดไวเ พื่อสาธารณะประโยชนน้นั จะถอนหรือ
แกไขใหหยอนลงไดหรือไม คาํ ตอบ .......................................................................................
403. เสรีเจาของที่ดินตํา่ ไดทําคนั ดินปดกั้นมิใหน ้าํ ซงึ่ ไหลตามธรรมดาจากทด่ี ินของอํานาจซง่ึ อยูส ูง
กวา ลงสทู ่ีดนิ ของตน จนทําใหน ํ้าทว มที่ดินของอาํ นาจ กรณีน้เี สรีมีสทิ ธิกระทาํ ดังกลา วไดหรอื ไม
คําตอบ .............................................................................................................................
404. ย้มิ ตอ งการขดุ หลุมสวมลึก 2.20 เมตร ยิ้มตองขุดหางจากแนวเขตที่ กวา .................... เมตร
405. กบและเขยี ดเปนเจา ของรัว้ ตนไมท ้งั สองขางรว มกัน กบจะตัดร้ัวตน ไมน นั้ โดยเขียดไมอนญุ าต
ไดหรือไม คําตอบ ....................................................................................................................
............................................................................................................................................
406. ฟา และดินเปนเจา ของท่ดี ินติดกัน ตางก็ปลูกมะมว งในท่ดี นิ ของตน แตก ิง่ ตน มะมว งของฟา รุก
ล้าํ เขาไปในท่ีดินของดนิ เกือบทุกตน ทาํ ใหผลมะมวงหลน ลงในทด่ี นิ ของดนิ จาํ นวนมาก ผลมะมว งที่
หลนนั้นเปนของใคร คําตอบ ................................................................................................
407. นอ ยสรางบานพักอาศัยบนท่ีดินตาบอด ซง่ึ ไมมที างออกสูท างสาธารณะซง่ึ เปน ทีด่ ินทนี่ อยเชา
จากนิด นอยจะขอผานทดี่ ินแปลงท่ลี อมอยูไปสูทางสาธารณะไดห รือไม
คําตอบ .............................................................................................................................
408. ยอดจะเขาไปในทีด่ ินของยงิ่ ซง่ึ เปน ทป่ี าเพื่อเก็บผลไมป า และเห็ดท่ขี ้ึนโดยธรรมชาตไิ ดห รือไม
คําตอบ ............................................................................................................................
409. สิทธิที่ไมใชลักษณะของสิทธิครอบครองไดแก ....................................................................
410. สิทธิครอบครองที่เกี่ยวของกับความสมบูรณของนิติกรรมไดแก ...........................................
411. การเปลี่ยนลักษณะแหงการยึดถือ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1381 นนั้ กําหนดใหทําไดโ ดยวิธี
...................................................................................................................................................
412. การฟองคดเี พ่อื เอาคืนซ่ึงการครอบครองน้ัน ตอ งฟอ งภายในระยะเวลา 1 ป นับแตถูกแยงการ
ครอบครอง
413. ในเรื่องการสละเจตนาครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1377 นั้น ............................................
414. ป.พ.พ. มาตรา 1370 ใหสนั นษิ ฐานไวก อนวา ผูค รอบครองไดค รอบครอง
.................................. และ ..................................................................................................................
415. ถาผูครอบครองถูกรบกวนการครอบครองทรัพยสินโดยมิชอบ ผูครอบครองมีสิทธิจะใหปลด
เปลอื้ งการรบกวนนั้นได และถา เปน ท่นี าวติ กวาจะยงั มีการรบกวนอีก ผูครอบครองมสี ิทธิ ขอตอ
.....................................ใหสั่งหาม
[139]
416. ถา ผูรับโอนยึดถือทรัพยน ้นั อยแู ลว การโอนไปซง่ึ การครอบครองจะตอ งกระทาํ เพียงแสดง
............................................................................................................................................................
417. การครอบครองปรปกษจะกระทําไดกับทรัพยสินประเภท ทรัพยสินที่มี...........................เทานั้น
418. การครอบครองปรปกษแพที่อยูอาศัยของผอู ื่นโดยสาํ คญั ผิดวา เปนของตนเอง ตอ งครอบครอง
มาเปนเวลา นาน .......... ป จึงจะไดกรรมสิทธิ์
419. สิทธิครอบครองที่เกี่ยวของกับหลักฐานแหงสัญญา ไดแก สัญญาจะซื้อจะขาย.........................
420. การบอกกลาวเปลี่ยนเปนลักษณะแหงการยึดถือตาม ป.พ.พ. มาตรา 1381 นน้ั ตอ งกระทาํ
โดยวิธี .................................................หรือ...........................................................................................
421. กรณีท่มี ีนติ ิสมั พนั ธตอกันมากอน การบอกกลาวเปลี่ยน..................................แหงการยึดถือ
เปนการแยงการครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1375 แลว
422. การละทง้ิ ทรัพยสินเพราะเหตุใดบาง ยังไมถ อื วาเปน การสละเจตนาครอบครอง .......................
.............................................................................................................................................................
423. กรณีครอบครองทรัพยสนิ เดยี วกันสองคราว กฎหมายใหสันนิษฐานไวก อ นวาบุคคลนั้นได
ครอบครองติดตอกันตลอดเวลานั้น คราวแรกกับคราวหลังจะหางกัน..................................................
.....................................................ในกรณีนี้
424. พฤติกรรมที่ถือวาเปนการรบกวนการครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1374ไดแก (1) เขา ทาํ
ร้ัวในท่คี รอบครองของผอู ืน่ (2) ............................................................................................................
(3) จอดแพอยใู นลาํ คลองบังหนาทดี่ ินของผูอนื่ (4) ..............................................................................
425. ถา จะสงมอบทรพั ยสินคนื แกบคุ คลผมู ีสทิ ธเิ อาคืนนัน้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1376 ใหนํา
บทบัญญัติในเรื่อง ................................. มาใชบังคับโดยอนุโลม
426. ท่ดี นิ มี น.ส. 3 จะครอบครองปรปกษไดหรือไม เพราะเหตุใด
คําตอบ ................................................................................................................................................
427. กรณีถูกแยงครอบครองสังหาริมทรพั ย และยื่นฟองตอ ศาลภายใน 1 ป แตกวา จะไดกลับคนื มา
จริงก็เวลาเลยไป 2 ป เศษ แลว เชน นจ้ี ะถอื วา การครอบครองสะดุดหยดุ ลงหรือไม เพราะเหตุใด
คําตอบ ..............................................................................
428. ทรพั ยสนิ ทจ่ี ะตกอยูภ ายใตภาระจาํ ยอมไดจ ะตองเปน ทรพั ยสนิ ประเภท ...................................
429. การใชสิทธิโดยการขออาศัยอาจเปนเหตุใหไดมาซง่ึ ภาระจํายอมโดยอายคุ วาม ไมได เพราะ
.........………………………………………………………………………………
430. ในเรื่องภาระจํายอมและทางจําเปน อาจไดส ทิ ธิทงั้ ภาระจํายอมและทางจาํ เปนในเสนทาง
เดยี วกนั ได
431. ปกเสาเดินสายไฟในทางภาระจํายอมเดิม เปนการทําใหเกิดภาระเพิ่มขึ้นแก… ……………………..
432. ภาระจาํ ยอมในประเทศไทยคดีท่ขี ึน้ สศู าลสว นใหญเปน เรอ่ื งเกยี่ วกับ
………………………………...................................................................................................................…..
433. กรณีเจาของสามยทรัพยตอ งเสยี คา ใชจ า ยของตนเองในการซอ มแซมท่ีไดทําไปแลว หาก
เจาของภารยทรัพยไดรับประโยชนดวย …………………………………………………………………………………..
………………………………………….
434. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1392 เจาของทรัพยอาจเรียกใหยายภาระจํายอมไปยังสวนอื่นไดในกรณี
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..
435. ถาภารยทรัพยสลายไปทั้งหมด ภาระจํายอมจะมีผล ……………………………………………………
436. ถามีการแบงแยกภารยทรัพย …………………………………………………………..……………………….
[140]
437. ภาระจาํ ยอมนน้ั ถาไมไ ดใ ชไ ปภายในระยะเวลาเทา ใดยอ มส้ินไป คาํ ตอบ …………………….…..
438. ทรพั ยสินทีเ่ ปน สามยทรัพยไดจ ะตอ งเปนทรัพยสิน เฉพาะ…………………………………………….
439. การไดภาระจํายอมโดยผลของกฎหมายแลว ตอมาอาจไดภาระจํายอมโดยอายุความอีกในกรณี
เดียวกัน ได หากไดใ ชสทิ ธิโดย……………………………………………………………………………….
440. เรื่องเกี่ยวกับภาระจํายอมและทางจําเปน ภาระจํายอมไมจํากัดประเภทสิทธิ แตทางจําเปน
จํากัดเฉพาะกรณ…ี ………………………………….
441. ทําทางภาระจํายอมเดิมจากโรยกรวดเปนเทคอนกรีต ไมเปนการทําใหเกิดภาระเพิ่มขึ้นแก
ภารยทรัพย
442. ภาระจาํ ยอมเปน ทรัพยสทิ ธชิ นดิ ………………………………………………………………………………….
443. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1391 เจาของสามยทรพั ยมีสทิ ธทิ าํ การทกุ อยางอนั จําเปนเพอ่ื รักษาและ
ใชภาระจาํ ยอม แตจะกอ ใหเ กิดความเสียหายแกภ ารยทรพั ย ……………………………………………….
444. ถาภาระจํายอมแตะตอ งเพียงสว นหน่งึ แหง ภารยทรัพยน ัน้ อาจเรียกใหยา ยไปยังสว นอ่นื ก็ได
แตตอ งแสดงไดว าการยายนนั้ ………………………………………………………………………………………..
445. กรณีถา มีความเปนไปมีทางใหกลบั ใชภาระจาํ ยอมได ภาระจาํ ยอมนน้ั อาจกลับมขี นึ้ อกี ไดน้ัน
เปนกรณี ………………………………………………………………………………………………………………………
446. ภาระจํายอมที่ไดจดทะเบียนไวแลว ถาภารยทรัพยและสามยทรพั ยต กเปน ของเจาของคน
เดยี วกนั ………………………………………………………………………………………………………………………..……..
447. กรณีไมไดใชภาระจํายอมเปนเวลา 10 ป ………………………………………………………………………
448. บุคคลอาจไดม าซง่ึ ทรพั ยสิทธิตางๆ ไดโ ดยทาง นิติกรรม และ ………………………………………….
449. บุคคลอาจไดมาซ่ึงทรัพยสทิ ธิตางๆ เชน สิทธิอาศัย สิทธิเหนือพน้ื ดนิ สทิ ธเิ ก็บกิน และภาระ
ตดิ พนั ในอสังหาริมทรัพยโ ดยทาง นติ ิกรรม และ …………………………………….
450. ทรัพยสทิ ธิทเ่ี ปนทรัพยสิทธทิ ่ีจํากัดตดั ทอนอํานาจของกรรมสิทธิ์ไดม ากทีส่ ดุ คือ …………………
451. สิทธิอาศัย คือ สิทธิท่กี อ ใหเ กิดผลตอ ผูท รงสิทธิมสี ิทธิอยูอาศยั ในโรงเรอื นของผอู น่ื ………………
……………………………………………………………………………………………
452. ดําใหแ ดงอาศัยอยใู นบานของตนโดยทาํ หนงั สือระหวา งกัน ตอมาดาํ ขายท่ีดนิ นน้ั ใหขาว ขาว
จึงฟอ งขับไลแ ดง ดงั นนั้ แดงจะมสี ิทธิอาศัยอยูในบา นน้นั หรอื ไม คําตอบ ……………………………….
……………………………………………………………………………………………
453. สิทธเิ หนอื พื้นดนิ คือสทิ ธิที่กอใหเกิดผลตอ ผทู รงสทิ ธิมีสิทธิเปน เจา ของโรงเรือน ส่ิงปลูกสราง
หรือ………………………………………………………………………………………………………………………..
454. ขาวใหเขียวปลกู บานอยใู นทด่ี ินของตนโดยทําสญั ญากนั เอง ตอมาขาวขายท่ีดินนน้ั ใหเขม ไป
ดงั นร้ี ะหวางเขียวกับเขมใครจะมีสทิ ธใิ นบา นดีกวากนั คาํ ตอบ ……………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………….
455. สทิ ธเิ ก็บกนิ คอื สทิ ธทิ ี่กอ ใหเ กิดผลอยา งไรตอผูท รงสิทธเิ ก็บกนิ คาํ ตอบ ………………………………
…………………………………………………………………………………………
456. น้าํ เงินใหม ว งมีสิทธเิ กบ็ กินในทสี่ วนของตน ตอ มามว งโอนการใหส ทิ ธิเก็บกินในท่ีดนิ น้ันใหฟา
ถาฟาตดั ตนไมในสวนไปทาํ ฟน ขายหมด ดงั นนั้ นา้ํ เงนิ จะเรียกใหใครรับผิดชอบ คาํ ตอบ …………………..
……………………………………………………………………………………….
457. ภาระตดิ พันในอสงั หาริมทรัพยคอื ทรัพยส ิทธิที่กอ ใหเกิดผลอยา งไรตอผรู ับประโยชน
คําตอบ .................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
[141]
458. เหลอื งใหแ ดงเขา ทาํ นาในทด่ี นิ ของตนเฉพาะฤดูกาลทํานา ตอ มาแดงใหด ําเขา ไปทํานาในที่นา
นน้ั แทนตน ดงั น้ัน ถาดําทําใหท ่นี าน้ันเสยี หาย เหลืองจะเรียกใหใครรับผิดตามบทบัญญัติในเรื่อง
ทรัพยสนิ ไดบ า ง คาํ ตอบ ……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………...............................................................….
459. ขาวใหเขียวมีสทิ ธอิ าศยั ในบา นของตนโดยทําพินัยกรรมไว เมอ่ื ขาวตาย เขียวไดใ หเชา บา น
หลงั นน้ั ไป และเหลอื งไดเ ขาครอบครองท่ดี ินทมี่ ีบานนน้ั จนไดส ิทธิ เขยี วจะยังมสี ิทธอิ าศยั ในบานหลัง
นนั้ หรือไม คาํ ตอบ ………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………......................................................................………..
460. เขียวใหข าวปลกู บานอยูในทดี่ ินของตนโดยทาํ เปนหนงั สอื ระหวา งกนั ตอ มาเขยี วขายทด่ี นิ นน้ั
ใหเ ขมไปดงั นร้ี ะหวา งขาวกบั เขม ใครจะมสี ิทธิในบา นดีกวา กัน
คําตอบ .................................................................................................................................
.............................................................................................................................................
461. ป.พ.พ. มาตรา 1299 บัญญัติถึงเรื่องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยในประเด็น ...............................
462. คําวาไมบริบูรณ ตามมาตรา 1299 วรรคแรก มีความหมาย ...................................................
463. หากเปนกรณีการไดมาซึ่งอสังหาริมทรัพยโดยทางนิติกรรมตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรค
แรกโดยไมจดทะเบียนและฝายลกู หนี้ไมยินยอมโอนทรัพยใหท ัง้ ฝา ยเจา หน้ีประสงคใหโ อน ดังน้ี ฝาย
เจาหนี้ มีสิทธิฟองบังคับให...................................................................................................
464. ที่ดินประเภท น.ส. 3 ข เม่ือมีการโอนที่ดินตองจดทะเบียนนิติกรรมการโอนกบั เจา หนา ท่ีคอื
นายอําเภอหรือผูทําการแทน
465. การไดมาซึ่งอสังหาริมทรัพยตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรค 2 เม่ือไดจ ดทะเบยี นแลว
...........................................................................................
466. ผลการไดมาซง่ึ อสังหารมิ ทรัพยโ ดยทางอนื่ นอกจากนติ ิกรรมโดยไมจดทะเบยี นคือ
.................................................................................................
467. การไดอสังหาริมทรัพยมาโดยทางรับมรดกในฐานะผูรับพินัยกรรม ศาลฎีกาเคยวินิจฉยั วา เปน
การไดมาโดยวิธีการ ...................................................
468. นาย ก. ยอมใหน าย ข. ทาํ ทางเดินทางเทาในทดี่ ินของตน แตไมไดจ ดทะเบียน มีผลทาง
กฎหมายคือ ....................................................................
469. นาย ก. เปน เจา ของท่ีดินมโี ฉนด และนาย ข. เขา ครอบครองทาํ ประโยชน แตไมไ ดจดทะเบยี น
ตอ พนกั งานเจา หนา ท่ี จนระยะเวลาลว งเลยมา 11 ป ดังนี้มีผลทางกฎหมายคือ ..............................
.........................................................................
470. นาย ก. ไดที่ดินของนาย ข. เปนทางภาระจํายอมโดยทางนิติกรรม จะตองบังคับตาม ป.พ.พ.
มาตรา 1299 วรรคแรกเพราะ ตองบังคับตาม เพราะ..............................................................เกี่ยวกับ
อสงั หารมิ ทรัพยประเภทหนง่ึ
471. การไดรับทรัพยสิทธิเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยมา แตเปนประเภทรอนกรรมสิทธิ์ กฎหมาย
กําหนดไวอยางไรจึงจะทําใหการไดมานั้นสมบูรณ คําตอบ
……………………………………………………………….………………………………………………..
472. การไดมาซ่งึ ท่ดี ินท่มี ีแตใ บตราจองตองจดทะเบยี นท่ี …………………………………………………………
จงึ จะถูกตองตามกฎหมาย
[142]
473. ขอท่ีศาลฎกี าเหน็ วาไมเ ปน การไดม าซ่งึ อสังหารมิ ทรัพยโดยทางนิติกรรมตาม ป.พ.พ. มาตรา
1299 วรรคแรก คือ ไดมาโดย…………………………………….............................................…….
474. การไดรับที่ดินมาเพราะคําพิพากษาของศาลที่คูความสามารถตกลงประนีประนอมยอมความ
กนั ได เปน การไดมาซ่งึ อสงั หารมิ ทรพั ยห รือทรัพยส ิทธิเกย่ี วกบั อสังหาริมทรพั ยโดย…………….....……
……………………………………………………………………….
475. ผูไ ดอสงั หารมิ ทรัพยห รอื ทรพั ยสิทธิเกี่ยวกบั อสังหาริมทรัพยตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรค
2 จะใชสทิ ธิ ………………………………… ไมไ ด
476. “ยกข้นึ ตอ สบู ุคคลภายนอกไมได” หมายความวา …………………………………………………………….
477. “………………………………….” คอื “บุคคลภายนอก” ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรคสอง
478. ผทู อ่ี ยใู นการอนั จะใหจ ดทะเบียนสทิ ธไิ ดก อ นทจ่ี ะขอใหเ พกิ ถอนการจดทะเบยี นตาม ป.พ.พ.
มาตรา 1300 คือ เจาของรวมผูค รอบครองเปน สวนของตนมาเกนิ …………… ปแลว
479. ทดี่ ินหมายความถึง ………………………………………………………………………………………………….
480. ที่ดินรกรางวางเปลาหมายถึง ……………………………………………………………………………….……
481. ที่ปาธรรมดาเปนที่ดินประเภท ………………………………………………………………………………….
482. ทป่ี าสงวนเปน ท่ดี นิ ประเภท ……………………………………………………………………………………..
483. ท่เี ล้ยี งสตั วสาธารณะทไี่ มมีราษฎรคนใดใชเปน ที่เล้ยี งสัตวอ ีกตอไปแลว อาจจะถอนสภาพให
เปน ที่รกรางวางเปลาไดโดยวิธีการ …………………………………………………
484. ที่ชายตลง่ิ ซง่ึ ตอ จากทดี่ นิ เอกชนทตี่ ้ืนเขินจนเปน ท่ีงอกริมตล่ิงแลว
…………………………………………………………………………………………………………………………………..
485. ………………………………………………คือ ที่ดินทต่ี กเปน สมบตั ิของวัดเปนที่ทําประโยชนของวดั นั้น
486. ผูดแู ลรักษาที่เล้ยี งสตั วสาธารณะคือ …………………………………………………………
487. ผดู แู ลท่ีดินท่ตี ง้ั กระทรวง ทบวง กรม ในรัฐบาลคือ ……………………………………..
488. ทีท่ รพั ยสนิ เปน ทรพั ยส นิ ประเภท …………………………………………………………….
489. ท่ีดนิ เกาะชางมสี ภาพเปน ……………………………………………………………………..
490. ท่ีดินรกรางวางเปลานั้น ……………………………… มีหนาท่ีดูแลรักษาที่รกรา งวา งเปลาตาม
กฎหมาย
491. ……………………………………………. เปนท่ดี ินของรัฐประเภทพลเมอื งใชรว มกนั
492. ท่ดี นิ ท่ีต้งั ของมหาวิทยาลยั ของรัฐ เปน ทด่ี นิ ที.่ .................................................
493. ที่ดินประเภทที่สามารถออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงได ไดแก .........................................
494. บุคคลผูที่มีอํานาจออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงไดแก ......................................................
495. การโอนที่ดินของวัดในพุทธศาสนาอาจทําไดโดย ...................................................................
496. จังหวัดที่มีที่ดินอยูในเขตของมิชซังหนองแสง คือ ..................................................................
497. จังหวดั ท่มี มี ัสยิดมากที่สุดในประเทศไทยไดแก .....................................................................
498. ที่ดินมีกรรมสิทธิ์หมายถึงที่ดินประเภท ................................................................................
499. การครอบครองปรปกษที่บานหรือที่สวนตามกฎหมายเบ็ดเสร็จบทที่ 42 ตอ งใชเ วลาคนอบ
ครองนาน ............. ป
500. ที่บานที่สวนตามกฎหมายเบ็ดเสร็จบทที่ 42 ตองเปน บานหรอื ที่ทาํ เปน สวน ตองทํามากอ น
หนาการประกาศใช ......................................................................................... (พ.ศ. 2475)
[143]
501. ทด่ี นิ มี ส.ค. 1 น.ส. 3 น.ส. 3 ก. ถือวาเปน ……………………………………………………………….
502. ทด่ี ินมี น.ส. 3 จะตอ งทอดท้งิ ที่ดนิ ของตนเองเปนเวลา ……….. ป ท่ดี นิ จงึ จะตกเปน ของรัฐ
ประเภททด่ี ินรกรางวา งเปลาอกี คร้งั หนึ่ง
503. การเวนคืนที่ดินโดยสมัครใจตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 5 และการเวนคนื โดยถูกบังคบั
ตาม พ.ร.บ. เวนคนื อสังหาริมทรัพย 2530 มีขอแตกตางในประเด็น .....................................................
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
504. ท่สี วนท่ีทํากินเมื่อป พ.ศ. 2480 จะเสยี สิทธิในที่ดินโดยถกู คนอื่นแยงเปน ระยะเวลา ..............ป
505. การแยง การครอบครองท่ดี ินทมี่ ี น.ส. 3 ก. ตองใชเวลา ................. ป จึงจะไดสิทธิในที่ดิน
506. ผบู ุกรกุ ท่ดี นิ ของรฐั โดยพลการหลังประมวลกฎหมายท่ดี ินประกาศใชแ ลว เมอื่ ไดรับโฉนดท่ดี ิน
มาแลว กฎหมายกําหนดวาภายในระยะเวลา ....................ป นับแตไดรับโฉนดจะโอนที่ดินใหบุคคลอื่น
ไมไ ด เวนแตจ ะเขา ขอ ยกเวน
507. คนตา งดาวซ่งึ มีสทิ ธไิ ดทดี่ นิ ในประเทศไทยนนั้ เมื่อไดท ดี่ นิ มาเพอ่ื จะใชเปนท่อี ยูอาศยั กฎหมาย
กาํ หนดใหไดจํานวน ........... ไร
508. คนตางดาวทต่ี องการถอื ทีด่ ินในประเทศไทยเพื่อใชในการอตุ สาหกรรมน้นั กฎหมายทดี่ ิน
กาํ หนดจํานวนสงู สุดในการถือครองทีด่ นิ เพื่อทํากจิ กรรมชนดิ นไี้ ว จํานวน ............... ไร
509. คนตางดาวจะถอื ครองที่ดินในประเทศไทยไดน นั้ จะตอ งไดรับอนญุ าตถือครองท่ีดนิ จาก
................................................................................................................................................
510. คนตางดาวจะไดม าซ่ึงท่ดี ินในประเทศไทย
………………………………………………………………………..……………………………………………………………………
……………………………………………………….........................................................................................…….
511. บริษทั จาํ กัดทจ่ี ดทะเบียนในประเทศไทย ถา มีคนตางดาวถือหนุ ในบริษทั นั้นเกินกวา รอ ยละ
……….. ของทนุ จดทะเบยี น มผี ลทําใหบ ริษทั นนั้ ถอื ท่ีดินในประเทศไทยไดเ สมือนกบั คนตางดาว
512. การท่ีเอกชนอทุ ศิ ทดี่ ินของตนใหเปน ทางสาธารณะจะทําไดโดย …………………………………………
513. ท่ดี นิ ท่มี โี ฉนดท่ดี นิ ถา เจา ของท่ดี นิ ทอดทงิ้ ทด่ี ินเกิน 10 ป ตดิ ตอกัน ที่ดินนน้ั จะตกเปน ของรัฐ
ตอ เม่ืออธิบดีกรมทีด่ นิ ยื่นเรอ่ื งราวการทอดท้งิ ทดี่ นิ ตอศาล และศาลไดพิจารณาแลว กส็ ่ังเพกิ ถอน
หนังสอื สาํ คญั ในทดี่ นิ ประเภท ………………………………….. ถือวาเปนหนังสอื สาํ คญั แสดงกรรมสิทธิใ์ น
ทด่ี นิ
514. หนงั สอื สําคญั แสดงกรรมสิทธิ์ในท่ีดนิ ฉบับแรกที่เกดิ ขึน้ ในประเทศไทยคือ
…………………………........................................................................................................................…….
515. หนงั สือสาํ คญั ในท่ีดิน ท่ถี อื วา เปน หนังสือสําคญั แสดงกรรมสิทธิ์ฉบับแรกทอี่ อกแทนโฉนดแผน
ทใ่ี นทอ งทที่ ีม่ โี ฉนดแผนทีท่ ีย่ งั รังวัดไปไมถึง คือ ………………………………………………………..
516. จังหวัด...................................................... เปนจังหวัดที่ไมมีการออกโฉนดตราจอง
517. โฉนดทด่ี นิ แปลงใด ท่มี ีการลงชื่อเจา พนักงานที่ดนิ แตผเู ดยี วในโฉนดคือ ..................................
518. การออกโฉนดที่ดนิ ในปจจุบันมี 2 รปู แบบ คือการออกโฉนดท่ดี ินทง้ั ตําบลตาม ป.ท่ดี ิน มาตรา
58 และ……………………………………………………………………………………………………มาตรา 59
519. การโอนที่ดนิ ทม่ี ี ส.ค. 1 จะทําไดโดย …………………………………………………………………………….
จึงจะถูกตองตามกฎหมาย
520. ทดี่ นิ ทไี่ ดรบั อนญุ าตใหจบั จองเปนใบเหยยี บยาํ่ เมื่อ พ.ศ. 2495 เปน ทด่ี นิ ประเภททตี่ องทําการ
แจงการครอบครองตามแบบ ………………….. ตอ พนกั งานเจาหนา ท่ี
[144]
521. การโอนทีด่ ินท่มี ใี บจอง (น.ส. 2) จะตอ งขอ ………….…… เสยี กอนจงึ จะนาํ ทีด่ ินแปลงทมี่ ใี บ
จองเดมิ นไ้ี ปทาํ การโอนจดทะเบยี นตอ พนักงานเจา หนาท่ี จึงจะถกู ตองตามกฎหมายที่ดิน
522. แบบฟอรม ของใบไตส วนคอื ……………………...........................................……
523. แบบฟอรม ใบจองคือ ……………………………..............................................……
524. ทด่ี ินท่ถี อื วา เปนท่ีดินตกคางการแจง การครอบครอง (ตกคา งการแจง ส.ค. 1) คอื ทด่ี นิ ทม่ี ีผูบุก
รุกโดยพลการเมื่อ พ.ศ. 2495 แลว ไมยอมแจง ……………
525. ผูตกคางการแจงการครอบครอง (ตกคางการแจง ส.ค. 1) จะตองทาํ เพ่ือจะไดรับโฉนดท่ีดนิ
ทงั้ ตําบลเมอ่ื ทอ งท่ที ตี่ นอยู ทางราชการไดประกาศวา จะเตรียมดําเนนิ การออกโฉนดทง้ั ตําบล คอื
................................................................................................................................................
526. ถามกี ารออกโฉนดท่ดี นิ คลาดเคลอื่ นหรือไมช อบดวยกฎหมาย ผมู ีอํานาจเพิกถอนหรือแกไ ขคือ
.................................................................................................................................................
527. ในกฎหมายทีด่ นิ ในปจ จบุ ัน พนักงานเจา หนาท่ผี ูม อี ํานาจลงชื่อในโฉนดทีด่ ิน คือ ....................
528. เกย่ี วกบั การออกเอกสารสทิ ธิในทด่ี นิ ใบจองมกี ารออกได 2 วิธีคือ
.............................................................................................................................. (มาตรา 30) และ
.................................................................................................. (มาตรา 33)
529. พนกั งานเจาหนา ที่ ทีก่ ฎหมายทดี่ ินกําหนดใหเ ปน ผูทาํ การจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรม
เกย่ี วกบั อสงั หาริม ทรัพย คือ ....................................................................................................
530. ตามกฎหมายทดี่ ินปจ จุบนั นายอาํ เภอทอ งท่ียังเปนผูมีหนา ที่จดทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรม
เกี่ยวกับอสังหาริม ทรัพย อยู คือ ...............................................................................................
.................................................................................................................................................
531. ท่ดี ินที่มีหนังสอื รบั รองการทาํ ประโยชน กฎหมายท่ดี นิ บงั คับไวว า การโอนทด่ี ินชนิดนี้ตอ งทํา
เปน.................................................................................... จะโอนโดยสงมอบการครองครองไมได
532. การจดทะเบยี นมรดกในทด่ี นิ พนกั งานเจาหนา ทต่ี อ งประกาศใหผูมีสวนไดส วนเสยี คดั คาน
ภายในเวลา ..............วัน
533. การจดทะเบียนทตี่ องมีการประกาศใหค นมาคดั คานกอนการจดทะเบียนคอื ............................
534. การจดทะเบียนซอ้ื ขายท่ดี ินพรอมบานในทดี่ ินมีโฉนดทด่ี นิ ไมตองมปี ระกาศใหคนมาคัดคา น
กอน..................................................
535. การซื้อขายที่ดินมีโฉนดที่ดินเพียงครึ่งแปลง จะตองมีการ.............................กอนการจด
ทะเบยี น
536. การจดทะเบียนทด่ี นิ ตา งทอ งท่ี จะทําไดโดยอาศัยหลักเกณฑ
..............................................................................................................................................................
537. การซ้อื ท่ีดินมีโฉนดทอี่ ยูทจ่ี งั หวัดเชยี งใหม คกู รณอี าจ จะยืนคําขอไดจาก
.........................................................................................................................
538. การจดทะเบยี นตา งทองที่จะกระทําไมได ถา
...............................................................................................................................กอนการจดทะเบียน
539. การไดมาซึ่งการครอบครองปรปกษในที่ดิน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 นน้ั
..............................................................................................................................................................
540. การทผ่ี มู ีสว นไดสวนเสยี ขออายัดทีด่ ินน้ัน ถาพนักงานเจาหนาทส่ี อบสวนแลว เหน็ สมควร
เชอ่ื ถอื ไดก ใ็ หร ับอายดั ไวไ ดมกี ําหนด ............ วนั นับแตวันทส่ี ่ังรับอายัด
[145]