The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือ การประยุกต์ทฤษฎีใหม่ สู่โคก หนอง นาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมการพัฒนาชุมชน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นาย อิศรา วิชาชัย, 2023-04-26 07:45:57

หนังสือ การประยุกต์ทฤษฎีใหม่ สู่โคก หนอง นาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมการพัฒนาชุมชน

หนังสือ การประยุกต์ทฤษฎีใหม่ สู่โคก หนอง นาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมการพัฒนาชุมชน

๔.๓.๒ ตัวแปรส�ำคัญ ๕ ประการ ไฟ (ทิศทางของแสง) ส�ำรวจทิศเหนือ ใต้ตะวันออก ตะวันตก และทิศทางการขึ้นของ ดวงอาทิตย์ ลม การออกแบบบ้านให้มีทิศทางของช่องลมสอดรับกับลมที่พัดมาในแต่ละฤดูกาลจะช่วยลด การใช้พลังงานในบ้านและเพื่อให้บ้านเย็นอยู่สบาย โดยตามหลักปกติลมฝนจะพัดมาทางทิศตะวันตก เฉียงใต้และลมหนาวหรือลมข้าวเบาจะพัดมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ควรวางต�ำแหน่งอาคาร บ้านเรือน ลานตากข้าว และลานนวดข้าว ไม่ให้ขวางทิศทางลมหนาว ดิน วางแผนการขุดหนองน�้ำและการปรับปรุงสภาพดินให้เหมาะสม โดยน�ำดินที่ขุดหนอง มาท�ำโคก ให้โคกอยู่ทางทิศตะวันตก เมื่อต้นไม้สูงใหญ่จะช่วยบังแดดและให้ร่มเงา น�้ำ ขุดหนองน�้ำ โดยดูทางไหลของน�้ำเข้าและออกจากพื้นที่วางต�ำแหน่งหนองน�้ำในทิศที่ให้ ลมร้อนพัดผ่าน จะท�ำให้บ้านร่มเย็น ขุดหนองให้มีขอบคดโค้งเพื่อเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก และท�ำตะพักให้ แผนผังการเรียนรู้ศูนย์เรียนรู้ สัมมาชีพชุมชน ต�ำบลคลองหก อ�ำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี (นายอดุลย์วิเชียรชัย) 97


ลดหลั่นตามระดับความสูงโดยชั้นแรกควรมีความสูงเท่ากับระดับของ แสงแดดที่ส่องลงไปถึง ปลูกไม้น�้ำหรือพืชน�้ำเพื่อให้ปลาสามารถวางไข่ อนุบาลสัตว์น�้ำได้และเป็นที่อยู่อาศัย คน ออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการ ฐานะ และก�ำลัง ของเจ้าของที่ดิน และต้องผ่านการฝึกอบรมให้มีความรู้ลึกซึ้งถึงวิธีการ ต่างๆ นอกจากความรู้แล้วยังต้องฝึกเรื่องความเพียร ความอ่อนน้อม ถ่อมตน อย่างไรก็ตาม “โคก หนอง นา”อาจต้องปรับใช้ให้เหมาะสม กับสภาพพื้นที่ ในกรณีที่พื้นที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง หรือภูเขา การสร้างหลุมขนมครกจะถูกน�ำไปใช้ในกรณีที่ต้องการฟื้นฟู พื้นที่เขาที่เป็นลักษณะเขาหัวโล้น สภาพพื้นที่ป่าบนภูเขาที่ถูกรุกล�้ำ ท�ำลาย แห้งแล้ง ขาดความอุดมสมบูรณ์ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และเป็นเหตุให้เกิดภัยธรรมชาติต่างๆ อาทิน�้ำหลาก ดินถล่ม ภัยแล้ง รวมไปถึงไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ จ�ำเป็นต้อง มีการฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่เสื่อมสภาพให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ การน�ำ “โคก หนอง นา” มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ ในลักษณะนี้ต้องท�ำให้สอดคล้องกับภูมิสังคม เพราะภูเขามีลักษณะ เป็นโคกตามธรรมชาติจึงไม่จ�ำเป็นต้องสร้างโคก เน้นการปลูกป่า ๓ อย่าง ประโยชน์๔ อย่าง เพื่อสร้างสมดุล ให้แก ่ระบบนิเวศ แต ่เนื่องจากพื้นที่ขาดความชุ ่มชื้น จึงต้องเพิ่ม ความชุ่มชื้นโดยการสูบน�้ำจากร่องเขามาที่บ่อเก็บน�้ำและกระจายผ่าน คลองไส้ไก่ให้ทั่วพื้นที่ หนอง เกิดจากการกั้นฝายในร่องเขา เพื่อเก็บน�้ำไว้สร้างบ่อ เก็บน�้ำไว้บนพื้นที่สูง โดยสูบน�้ำจากฝายขึ้นมาเก็บในบ่อเก็บน�้ำ ด้วย พลังงานทดแทน และปล่อยน�้ำผ่านคลองไส้ไก่ซึ่งขุดไล่ตามระดับชั้น ความสูงของพื้นที่ เพื่อกระจายความชุ่มชื้น ปลูกแฝกเพื่อป้องกันการ พังทลายของดิน นา ท�ำนาในรูปแบบขั้นบันได ยกหัวคันนาให้สูงและกว้างเพื่อ กักเก็บน�้ำฝนในท้องนา และปลูกแฝก ท�ำนาน�้ำลึก เป็นนาอินทรีย์ โดยการใช้น�้ำควบคุมวัชพืชและเร่งผลผลิต หากเป็นพื้นที่ชุ่มน�้ำแบบ ภาคใต้ก็จะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไปในรายละเอียด สวนกล้วยและความหลากหลายของพืชพันธุ์ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติอ�ำเภอรัตนบุรีจังหวัดสุรินทร์ (พระอาจารย์สังคม ธนปัญโญ) 98


99


โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-๑๙ ๕


102


๖. โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-๑๙ ด้วยพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงมีต่อพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงได้พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้น�ำที่ดินในโครงการฟาร์มตัวอย่าง จ�ำนวน ๓๐ ฟาร์ม จากจ�ำนวน ๖๑ ฟาร์มทั่วประเทศ ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้แหล่งสร้างอาหารที่ปลอดภัย สร้างรายได้และสร้างอาชีพอย่างยั่งยืนให้กับราษฎร ผ่านการสนับสนุนจ้างงาน ราษฎรที่ได้รับผลกระทบให้กลับมามีรายได้อีกครั้ง ควบคู ่กับการได้เรียนรู้ ทฤษฎีใหม่โดยมีหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นพื้นฐาน เพื่อให้พึ่งตนเอง และสามารถอยู่อาศัยในบ้านเกิดได้อย่างมีความสุข ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ศูนย์อ�ำนวยการใหญ่จิตอาสา พระราชทาน ร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหมกองบัญชาการกองทัพไทยกองทัพบกกองทัพเรือกองทัพอากาศ ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง และภาคีเครือข่าย ด�ำเนินงานภายใต้“โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-๑๙” ภาพหน้าซ้ายบน-ล่าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงเยี่ยม โครงการหลวงหนองหอย กับทรงเยี่ยมราษฎร บ้านหนองหอย ต�ำบลแม่แรม อ�ำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงเปิดโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจ พอเพียงและฟาร์มตัวอย่าง ตามพระราชด�ำริณ บ้านรอตันบาตูต�ำบลกะลุวอ อ�ำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ 103


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารีกรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีไปทรงเยี่ยมราษฎร และทอดพระเนตรโครงการธนาคารอาหารชุมชน ตามพระราชด�ำริบ้านนาป่าแปก หมู่ที่๔ ต�ำบลหมอกจ�ำแป่อ�ำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน 104


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงเยี่ยม ราษฎรและทอดพระเนตรกิจกรรมของศูนย์บริการและพัฒนาเกษตรที่สูงปางตองตามพระราชด�ำริต�ำบลหมอกจ�ำแป่ อ�ำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์๒๕๔๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงไปทอดพระเนตร หนองบัว (อ่างเก็บน�้ำใกล้บ้าน) เกี่ยวกับการศึกษาอนุรักษ์และขยายพันธุ์บัว ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจาก พระราชด�ำริต�ำบลกะลุวอเหนือ อ�ำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ 105


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงไปยังบริเวณโรงเรียนร่มเกล้าณ ศูนย์บริการและ พัฒนาที่สูงปางตองตามพระราชด�ำริต�ำบลหมอกจ�ำแป่ อ�ำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ 106


การด�ำเนินงานแบ่งเป็น ๓ ระยะ คือ ระยะที่ ๑ วางแผน ออกแบบปรับปรุงพื้นที่ เพื่อให้ราษฎรที่จ้างงานได้รับองค์ความรู้ การจัดการพื้นที่ตามแนวทางทฤษฎีใหม่ใช้เวลา๒เดือนคือพฤษภาคม - มิถุนายน ระยะที่ ๒ เสริมสร้างพืชผลและการเรียนรู้ที่จ�ำเป็น รวมถึง การแบ่งผลผลิตที่เหลือในฟาร์มให้คนในชุมชนที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าร่วม ใช้เวลา๒เดือนคือ กรกฎาคม -สิงหาคม และระยะที่๓เรียนรู้การขาย ผลผลิตที่เหลือจากการให้และแปรรูป ใช้เวลา ๑ เดือน คือ กันยายน โดยมีการจ้างแรงงานรวมประมาณ๑,๑๐๐ คน ค่าจ้าง ๓๐๐ บาทต่อวัน ท�ำงานวันจันทร์-วันเสาร์ ส�ำหรับภาคกลางได้ฟาร์มตัวอย่างฯสีบัวทองอ�ำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทองเป็นฟาร์มน�ำร่องแบ่งพื้นที่๑๕ไร่จากจ�ำนวน๗๒๐ ไร่ มาด�ำเนินการตามโครงการนี้ถึงแม้จังหวัดอ่างทองจะไม่พบผู้ติดเชื้อ โควิด ๑๙ แต่มีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อยู่จ�ำนวนหนึ่ง มีราษฎรให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมหลายร้อยคน จึงได้คัดเลือกด้วย การสัมภาษณ์รับคนที่ได้รับผลกระทบจริงๆ เช่น คนหนุ่มสาวโรงงาน ที่ตกงาน หรือพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายไม่ได้นับเป็นกลุ่มแรกที่คัดเลือก เข้ามาจ�ำนวน ๕๐ คน มีนายบุญล้อม เต้าแก้ว ครูกสิกรรมธรรมชาติ ช่วยออกแบบการเรียนรู้ให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วม ผู้เข้าโครงการ จะได้เรียนรู้ทฤษฎีต่างๆ ได้คิดและลงมือท�ำในฐานะเจ้าของแปลงไม่ใช่ ลูกจ้างด้วยตระหนักว่าเราไม่อาจจ้างพวกเขาไปได้ตลอดชีวิตจึงเสมือน จ้างมาเรียนมากกว่าท�ำงาน นางประยูร โพธิ์ทองค�ำ อายุ ๕๓ ปีชาวบ้านสีเย็น กล่าวว่า การได้เข้าร่วมโครงการท�ำให้เข้าใจการท�ำเกษตรกรรมได้อย่างลึกซึ้ง และรู้สึกมหัศจรรย์ในการปลูกพืชอินทรีย์ด้วยกระบวนการชีวภาพ นางสายหยุด ชื่นกลิ่น อายุ ๕๑ ปีชาวบ้านรวมใจ เผยว่า จะน�ำเอาความรู้ที่ได้ไปใช้กับที่ดินของตนจ�ำนวน ๓ ไร่ ส่วนนางจ�ำ แรง ชื่นเอี่ยม อายุ๔๑ ปีชาวบ้านปันสุข ได้แสดงความรู้สึกส�ำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และกล่าวว่าตนเองจะน�ำเอาความรู้ เรื่องทฤษฎีใหม่ที่ได้จากโครงการไปเผยแพร่ต่อให้คนในชุมชนของตน จึงกล่าวได้ว่าพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ได้ท�ำให้ผู้ที่เข้าร่วม โครงการได้กลับมามีความสุขอีกครั้งและสามารถพึ่งตนเองได้ไม่ต้อง เดือดร้อน โดยมีแหล่งอาหารเป็นของตัวเองและสามารถแบ่งปันความ รู้และผลผลิตให้กลับสู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืนแม้จะต้องเผชิญสถานการณ์ วิกฤตต่างๆ 107


โครงการพระราชทาน โคก หนอง นา แห่งน�้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์


110


โคก หนอง นา แห่ งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ ตามโบราณราชประเพณีเมื่อมีพระราชพิธีส�ำคัญของพระมหากษัตริย์เช่น พระราชพิธี เถลิงศกมหาสงกรานต์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาจะทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีทรงบําเพ็ญพระราชกุศล และในห้วงที่สุดแห ่งพระราชพิธี จะมีการพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช ๒๕๖๓ ทรงพระราชด�ำริเห็นว่าเป็น อภิลักขิตกาลส�ำคัญ เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมควรพระราชทาน อภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดีอันจะเป็น คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชกฤษฎีกาพระราชทาน อภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๖๓ พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์จ�ำนวน ๓๙,๐๘๑ คน ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู ่หัวทรงมีพระปริวิตกต ่อนักโทษที่ได้รับพระราชทาน อภัยโทษ เมื่อจะต้องออกไปสู่สังคมภายนอก จะหาลู่ทางในการด�ำรงชีวิตได้ยากล�ำบากกว่าบุคคลทั่วไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการฝึกโครงการพระราชทาน โคก หนอง นาแห่งน�้ำใจ และความหวัง ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ท�ำนาเพื่อสร้างต้นแบบ ทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยสามารถด�ำเนินการได้ในทุกเรื่องและมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐาน ความคิดการฝึกวินัย การลงมือปฏิบัติตลอดจนการแก้ปัญหาในสถานการณ์จริงเพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถ พึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนเมื่อพ้นโทษออกไปภายนอก 111


นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพร้อมด้วย เจ้าคุณพระสินีนาฏพิลาสกัลยาณีเยี่ยมชมพื้นที่การจัดการฝึกอบรมและโคกหนองนาในบริเวณเรือนจ�ำ โดยในวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เสด็จพระราชด�ำเนินตรวจเยี่ยมและให้ก�ำลังใจเจ้าหน้าที่ ครูพาท�ำและผู้ต้องขัง ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง และในวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่เรือนจ�ำกลาง คลองเปรม ผลแห่งความส�ำเร็จและความร่วมมือร่วมใจของทุกคนทุกฝ่ายที่มาจากน�้ำพระราชหฤทัยและ ยังได้ทรงติดตามการด�ำเนินงานด้วยพระองค์เอง ยังความปลื้มปิติและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ หาอย่างที่สุดมิได้ซึ่งจะเป็นก�ำลังใจให้ทุกคนมุ่งมั่นที่จะสานต่อความหวังต่อไป ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทาน โครงการพระราชทาน โคก หนอง นาแห่งน�้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์โดยการประยุกต์ทฤษฎีใหม่ แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ท�ำนา เป็นการสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก สามารถด�ำเนินการได้ในทุกเงื่อนไขของพื้นที่ในระหว่างด�ำเนินการจะมุ่งเน้น การปรับเปลี่ยนพื้นฐาน แนวความคิด ฝึกวินัย ลงมือปฎิบัติแก้ปัญหาจริง เพื่อให้กับผู้เข้ารับการอบรมสามารถพึ่งพาตนเอง ให้ด�ำรงชีวิตได้อย่างพออยู่พอกิน สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้เมื่อออกไป ภายนอกและช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อน 112


113


114


115


116


ดอกผลแห่งความส�ำเร็จนี้ มีจุดเริ่มต้นโดยเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณีได้รับและ น้อมน�ำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสานต่อพระราชปณิธานด้วยการลงมือท�ำ โคก หนอง นา แห่งน�้ำใจและความหวัง โดยเริ่มทดลองท�ำที่ทัณฑสถานหญิงกลางเป็นแห่งแรก เพื่อท�ำให้เห็นว่า แม้ในบริเวณที่มีพื้นที่เล็กๆ ก็สามารถท�ำได้เพื่อเป็นแนวทางให้ที่อื่นๆ น�ำไปปฎิบัติ ด้วยตัวเองต่อไป อีกทั้งยังเป็นแนวพระบรมราโชบายที่ทรงห่วงใยในเรื่องการเตรียมความพร้อม ก่อนปล่อย เพื่อเสริมความเชื่อมั่น เพิ่มพูนทักษะและความรู้ที่ถูกต้องเป็นทั้งองค์ความรู้และภูมิคุ้มกัน ที่ผู้ต้องขังจะน�ำไปใช้ได้ในชีวิตประจ�ำวันหลังพ้นโทษต่อไป ด้วยทรงน้อมน�ำหลักแนวพระราชด�ำริ ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สู่การปฏิบัติเพื่อความสุขของทุกคนทุกฝ่ายร่วมกัน โคก หนอง นา คือ การประยุกต์ทฤษฎีใหม่กว่า ๑๕ ทฤษฎีมาลงสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ซึ่งใช้ได้ในพื้นที่ขนาดเล็ก เพื่อเป้าหมายของความสุข ความสบายใจ ที่ได้ร่วมกันสร้างพื้นที่เล็กๆ ให้ กลายเป็นพื้นที่แหล่งอาหาร พื้นที่ท�ำงาน ร่วมแรง ร่วมใจ พื้นที่แห่งความสามัคคี วันนี้มีผู้ต้องขัง ๓๙,๐๘๑ คน จากเรือนจ�ำ ๑๓๗ แห่ง ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๖๓ และผ่านการอบรมโครงการ โคก หนอง นา แห่งน�้ำใจและความหวัง พร้อมที่สืบสาน พระราชปณิธาน ด�ำรงชีวิตอย่างพออยู่พอกิน ประกอบอาชีพสุจริต กลับสู่สังคมอย่างมีคุณภาพ 117


118


จากผลการด�ำเนินงานที่ผ่านมา ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถพึ่งพาตนเองตามแนวทาง เศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชน ท�ำประโยชน์เพื่อส่วนรวมได้ อันเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษาและต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และช่วยกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ได้น้อมน�ำแนวพระราชด�ำริโคก หนอง นา แห่งน�้ำใจและความหวัง เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาปล ่อยนักโทษทุกคน และในการนี้ กรมราชทัณฑ์ได้ลงนามข้อตกลง ความร่วมมือกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อที่จะช่วยเหลือผู้พ้นโทษและผ่านการอบรมจากโครงการ โคก หนอง นา แห่งน�้ำใจและความหวัง โดยในเบื้องต้นนั้น ได้อนุมัติเงินกู้ของปีงบประมาณ ๒๕๖๓ ให้ผู้พ้นโทษซึ่งมีที่ดินเป็นของตนเอง จ�ำนวน ๑๕ ราย เข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา แห่งน�้ำใจและความหวัง และมีผู้พันโทษที่ผ่านการฝึกอบรมสมัครเข้ารับ การจ้างงานเป็นนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) จ�ำนวน ๕๐ ราย ต่อมาในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ กรมการพัฒนาชุมชน ได้จ้างเหมาผู้พ้นโทษ ซึ่งผ่านการฝึกอบรมจากโครงการโคก หนอง นาแห่งน�้ำใจ และความหวังจ�ำนวน ๑๕ราย ให้เป็นนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ(นพต.) ประจ�ำศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน ๗ แห่ง และศูนย์ขยายผล ๓ แห่ง 119


ผลสัมฤทธิ์ของการท�ำงาน อย่างต่อเนื่อง : สู้ไม่ถอย ไม่มีท้อ ๗


122


ผลสัมฤทธิของการทำ ์ งาน อย่ างตอเนื่อง : ่สู ้ ไมถอย ไม ่ มีท่อ ้ ๕.๑ ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จังหวัด นครนายก ตั้งอยู่บ้านท่าด่าน ต�ำบลหินตั้ง อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครนายก มีเนื้อที่ ๑๔ ไร่ ๒ งาน ๑๘ ตารางวา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีรับสั่งให้ซื้อ เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ ทรงมีพระราชด�ำริในขณะนั้นว่าอยากมีที่ดิน แถวนี้เพราะถึงแม้ว่าจะไม่เจริญก็ตาม แต่เนื่องจาก บริเวณนี้เต็มไปด้วยน�้ำตกและป่าเขาใหญ่ในอนาคตจะ ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ถนนหนทางร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ท ตลอดจนสนามกอล์ฟจะเข้ามาในพื้นที่ เมื่อเจริญขึ้นนักท่องเที่ยวจะเข้ามากันจ�ำนวนมาก อาจ จะส่งผลกระทบต่อสภาพธรรมชาติที่เป็นอยู่ จึงอยาก มีที่ดินแถวนี้สักผืนหนึ่ง เพื่อใช้เป็นศูนย์แสดงแนว พระราชด�ำริของพระองค์เกี่ยวกับธรรมชาติเพื่อที่ นักท่องเที่ยวจะได้เกิดส�ำนึกรักธรรมชาติเมื่อได้เข้ามา ที่ศูนย์แห่งนี้ ที่ดินแปลงนี้เดิมเป็นทุ ่งนาร้าง ครั้นถึง พ.ศ.๒๕๔๕ อาจารย์สุเมธ ตันติเวชกุลร่วมกับสมาคม นักเรียนเก ่าโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยอาสาที่จะมา พัฒนาที่ดินแปลงนี้โดยขออนุญาตต่อมูลนิธิชัยพัฒนา โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีได้พระราชทาน ชื่อโครงการว่า “ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ” เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ สวนป่า ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติจังหวัดนครนายก 123


อาจารย์ปัญญา ปุลิเวคินทร์ผู้อ�ำนวยการศูนย์ฯ เล่าว่าเดิมที่ดินแปลงนี้เป็นที่นาร้าง อยู่ใน สภาพดินเสียและแห้งแล้งกันดาร เมื่อแรกมาเริ่มงานยังไม่มีถนน ต้องเดินเท้าเข้ามา ในขณะนั้นก�ำลัง มีก่อสร้างเขื่อนขุนด่านปราการชลจึงได้ขอหินที่ขุดจากการท�ำเขื่อนและจะต้องทิ้งมาพูนเป็นโคก และ เดินตามหลักทฤษฎีใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มที่จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างเมื่อปีที่๖ ต่อจากนั้น ก็ราบรื่น มาโดยตลอด ปัจจุบันมีคนช ่วยงานอยู ่ ๗ คน นับว ่าศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติค ่อยข้างสมบูรณ์ สามารถด�ำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้ ศูนย์ฯ เปิดให้คนเข้ามาศึกษาแนวพระราชด�ำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแบบง่ายๆ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น ๒ ส่วน คือ 124


ส่วนที่หนึ่ง ในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ระบบแสง สีเสียง ซึ่งบรรจุไว้ด้วย เนื้อหาเป็นวีดิทัศน์ความรู้เรื่องดิน น�้ำ ป่า คน เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงและ ฝนหลวง ส่วนที่สองเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต จัดพื้นที่ออกเป็นภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ได้ออกแบบพื้นที่ตามหลักทฤษฎี ใหม่ของรัชกาลที่๙ บวกกับภูมิปัญญาไทย ซึ่งสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะ สมกับสภาพภูมิศาสตร์และสังคมศาสตร์ของแต่ละพื้นที่ ภาพบนหน้าซ้าย - ขวา อาจารย์ปัญญา ปุลิเวคินทร์ ผู้อ�ำนวยการศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จังหวัดนครนายก ภาพล่างหน้าซ้าย - ขวา กิจกรรมศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จังหวัดนครนายก 125


126


กิจกรรมและฐานการเรียนรู้ทฤษฎีใหม่ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติจังหวัดนครนายก 127


128


การห่มดิน ในการเสด็จฯเยี่ยมเพื่อทรงงานในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีรับสั่งถึงวิธีการอนุรักษ์ดินในพื้นที่โครงการโดยไม่ไถหน้าดิน ก่อนการปลูกพืช ดังนี้ ในแต่ละพื้นที่ซึ่งมักจะเปิดหน้าดิน (ปอกเปลือก) ดิน แล้วท�ำการเกษตร ซึ่งยังถือว่าเป็นวิธีการผิดธรรมชาติจะเกิดปัญหาในอนาคต ให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนา ห้วยทรายฯ ท�ำการเกษตรอย่างไม่ท�ำลายธรรมชาติ เช่น การไม่ไถพรวนเปิดหน้าดิน (ปอกเปลือก) เปลือยดิน เป็นต้น โดยให้ทุกโครงการในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ ท�ำเป็นตัวอย่าง แล้วหาทางแนะน�ำให้ราษฎรท�ำต่อไป ดังนั้น จึงมีการห่มดินในรูปแบบต่างๆ ตามหลักทฤษฎีใหม่ ควรห่มดินให้หนาประมาณ ๕๐ เซนติเมตร และเว้นระยะห่างจากโคนต้นไม้เพราะการห่มดินชิดต้นไม้เกินไปจะท�ำให้หนอนเจาะต้นไม้ได้วัสดุที่ใช้ในการ ห่มดินเป็นวัสดุอะไรก็ได้ที่มีอยู่ท้องถิ่น เช่น ภาคเหนือเป็นซังข้าวโพด ภาคใต้เป็นกากกาแฟ ใบปาล์ม ภาคกลาง เป็นฟางข้าว ซึ่งวัตถุดิบในแต่ละภาคแตกต่างกันไปตามภูมิสังคมของแต่ละพื้นที่ ประโยชนของการห์ ่ มดิน ๑. เป็นที่อยู ่อาศัยของจุลินทรีย์ เนื่องจาก ปลายรากพืชเป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ซึ่งมีหน้าที่ในการ ย่อยอาหารให้เป็นของเหลวแล้วป้อนสู่ระบบรากพืช จุลินทรีย์จะแบ่งเป็น ๒ กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ ราและ แบคทีเรีย เมื่อดินมีความร้อนชื้น จะเป็นที่อยู่อาศัย ของจุลินทรีย์ ๒. เก็บความชื้นและป้องกันการระเหยของน�้ำ ในดิน ยิ่งห่มหนา แสงแดดเข้ามาไม่ถึง จะยิ่งท�ำให้ดิน มีความชื้นตลอดเวลาและในขณะเดียวกันก็จะป้องกัน การระเหยของน�้ำในดินได้ด้วย ๓. เมื่อสิ่งที่ห่มดินเน่าเปื่อยจะกลายเป็นอาหาร ของสัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณหน้าดิน ซึ่งนอกจากจะช่วย พรวนดินแล้ว มูลของสัตว์เหล่านี้ยังเป็นปุ๋ยให้แก่พืช เช่น ไส้เดือน แมลงแกลบ กิ้งกือ เป็นต้น ๔. เมื่อวัสดุที่ห่มย่อยสลายจะกลายเป็นฮิวมัส ซึ่งเป็นปุ๋ยชั้นดีให้กับต้นไม้ ประโยชนของจุลินทรีย ์ ์ ๑. ตรึงไนโตรเจนในอากาศ ซึ่งในอากาศมี ไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบอยู่ประมาณ ๗๘% หรือ คิดเป็นประมาณ ๓ ใน ๔ ของอากาศทั้งหมด ซึ่งเป็น ธาตุอาหารที่เป็นส่วนส�ำคัญในการสร้างการเจริญเติบโต ของพืช ๒. ช่วยย่อยสลายเศษซากพืช ซากสัตว์ ๓. ช่วยย่อยแร่ธาตุจากหิน ลูกรัง ทราย เช่น เหล็ก สังกะสีแมงกานีสแคลเซียม ฟอสฟอรัสเป็นต้น ซึ่งจะกลายเป็นธาตุอาหารของพืชต่อไป ๔. ช่วยสร้างฮอร์โมนให้พืช เช่น ไซโตไคนิน จิบเบอริลินออกซินเป็นต้นซึ่งช่วยเร่งการเจริญเติบโต ของพืช ๕. สร้างสารป้องกันโรคพืช เพราะราและ แบคทีเรียกลุ่มนี้เป็นราขาว ถ้าสภาพดินเป็นกลาง จุลินทรีย์จะเจริญเติบโตได้ดีท�ำให้ราด�ำที่มีกลิ่นและ เป็นโทษกับระบบรากพืชเข้ามาในพื้นที่ไม่ได้ 129


คลองไส้ไก่และหลุมขนมครก ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ อ�ำเภอรัตนบุรีจังหวัดสุรินทร์ 130


131


๕.๒ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ อ�ำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ (พระอาจารย์สังคม ธนปัญโญ) มีเนื้อที่ทั้งหมด ๒๕ ไร่ ได้ลงมือท�ำการเกษตรแบบทฤษฎีใหม่ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ จ�ำนวน ๑๒ ไร่ โดยมีนางบุสดีขุนศิริน้องสาวของ พระอาจารย์สังคมเป็นผู้ดูแลแบ่งเป็นหนองน�้ำและคลองต่างๆ จ�ำนวน ๖ ไร่ พื้นนา ๓ ไร่ ที่เหลือจึงเป็นโคก ปลูกป่า และบ้านอาศัย โดยยืนอยู่บน หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นตอนแรก คือ การขุดหนองน�้ำ ซึ่งต้องลึกมากกว่าปกติเนื่องจาก พื้นดินทางภาคอีสานเป็นดินปนทราย ท�ำให้การกักเก็บน�้ำตลอดทั้งปี ในระดับความลึก ๓ - ๔ เมตร เป็นไปไม่ได้ส�ำหรับพื้นที่ของศูนย์กสิกรรม ธรรมชาติอ�ำเภอรัตนบุรีนี้ต้องขุดหนองน�้ำลึกถึง ๖ เมตร แต่ก็ได้ประโยชน์ คือได้น�ำดินที่ขุดไปพูนเป็นโคกได้ขนาดใหญ่และได้ท�ำนา ปลูกพืชบนคันนา ขุดคลองไส้ไก่และหลุมขนมครกคดเคี้ยวไปมาเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้มาก ที่สุด จนถึง พ.ศ. ๒๕๖๒ จึงได้ขยายการท�ำโคก หนอง นา ไปอีก ๑๓ ไร่ คลองไส้ไก่และหลุมขนมครก ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ อ�ำเภอรัตนบุรีจังหวัดสุรินทร์ (พระอาจารย์สังคม ธนปัญโญ) 132


กล้วย - พี่เลี้ยงไม้ใหญ่ การปลูกไม้ใหญ่ให้ได้อยู่รอด ไม่ต้องพึ่งเทวดาฟ้าดิน แต่อาศัยพึ่งต้นกล้วย วิธีการคือ ปลูกไม้ยืนต้น เช่น ยางนา มะฮอกกานีประดู่สัก สะเดา ตะเคียน ขี้เหล็ก ฯลฯ รอบตันกล้วยทั้งสี่มุม ต้นกล้วยจะน�ำพาความชุ่มชื้นมาสู่ต้นไม้ น้อยเหล่านั้นโดยแทบจะไม่ต้องรดน�้ำเลย ผ่านไป ๒ - ๓ ปีไม้น้อยสามารถ ยืนต้นเองได้ก็ค่อยเอากล้วยออก ท�ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทั่วทั้งบริเวณ ท�ำให้ พื้นดินทั้งแปลงเกิดความชุ่มชื้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน กล้วย พี่เลี้ยงไม้ใหญ่ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติอ�ำเภอรัตนบุรีจังหวัดสุรินทร์(พระอาจารย์สังคม ธนปัญโญ) 133


กิจกรรมและฐานการเรียนรู้ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติอ�ำเภอรัตนบุรีจังหวัดสุรินทร์ (พระอาจารย์สังคม ธนปัญโญ) 134


พ ร ะ อ า จ า ร ย์ สั ง คมเป็น อ ดีต ช ่ า งภ าพ หนังสือพิมพ์ เป็นนักจัดรายการวิทยุทั้งในและต ่าง ประเทศ มีประสบการณ์เรียนและท�ำงานในต่างประเทศ ๑๐ ปีและก่อนอุปสมบทได้เป็นหนึ่งในช่างภาพเฉพาะ กิจของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช เมื่อครั้งด�ำรง ต�ำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการรัฐเทกซัส เมื่อบวชแล้วได้เน้นงานอบรมธรรมะแก่เยาวชน แต ่พระอาจารย์สังคมเล ่าว ่าท�ำไปช ่วงหนึ่งก็เห็นว ่า ยังไม่ครอบคลุมถึงครอบครัวและชุมชน จึงได้คิดหา วิธีใหม่ๆ จนได้มาศึกษาแนวพระราชด�ำริของในหลวง รัชกาลที่ ๙ เรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ ทฤษฎีใหม่ ท่านจึงเริ่มเข้าใจ “ตั้งแต่นั้นอาตมาได้เริ่มเก็บข้อมูลของชาวบ้าน และชุมชนจนรู้ว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นทุกข์เพราะ มีหนี้สินติดตัว จึงได้ไปติดต่อกับเครือข่ายเศรษฐกิจ พอเพียง กระทั่งมีโครงการต่างๆ ได้พยายามติดต่อเข้า มาช่วยชาวบ้าน เช่น โครงการมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ โครงการไบโอดีเซล โครงการชีววิถีของการไฟฟ้า ฝ ่ายผลิตฯ โครงการสร้างฝายแฝกตามโครงการ พระราชด�ำริเป็นต้น ท�ำให้ชาวบ้านเริ่มมีความหวัง ในชีวิต” ท ่านพยายามขยายแนวพระราชด�ำริเรื่อง ดังกล่าวผ่านการท�ำงานอย่างเอาจริงเอาจังโดยการประสาน กับศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จังหวัดชลบุรี ของอาจารย์ยักษ์(นายวิวัตน์ศัลยก�ำธร) อย่างใกล้ชิด หากมีผู้ที่สนใจในเรื่องแบบนี้ ท ่านก็จะส ่งให้เข้ารับ การอบรมดูงานที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ(มาบเอื้อง) เช่น กรณีของโคก หนอง นา ดารา ซึ่งท ่านได้ แนะน�ำให้นางสาวเขมนิจ จามิกรณ์(แพนเค้ก) และ นายพิษณุนิ่มสกุล(บอย) เข้ามาซื้อที่ดินที่อ�ำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์คนละ ๓ ไร่เศษ และให้ท�ำเป็นแปลงนา โคก หนอง นา ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๙ 135


136


137


138


๕.๓ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ต�ำบลหนองโน อ�ำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี “มีน�้ำไม่มีหนี้มีที่ไม่มีจน” เป็นค�ำพูดของอาจารย์บุญลือเต้าแก้ว ผู้น�ำของ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง หรือปราชญ์ชาวบ้านที่ทางรัฐเรียกขานและได้ พึ่งพิงอาศัยในการเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ทุกคนที่สนใจจะต้องมาผ่านการอบรม อาจารย์บุญลือพัฒนาชีวิตจากจากชาวนาที่ท�ำนามาตลอดชีวิต และมีหนี้สิน พอกพูนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องตั้งค�ำถามกับตนเองว่า แล้วจะมีทางรอด ทางออก แบบไหน กระทั่งได้ไปศึกษาดูงานที่ศูนย์สาธิตการด�ำเนินเกษตรทฤษฎีใหม่ วัดมงคลชัยพัฒนา อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสระบุรีเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ จึง ได้น�ำมาปฏิบัติทดลองใช้ในที่นาของตนเอง จ�ำนวน ๒๐ ไร่ และก็เริ่มเห็นผลใน พ.ศ. ๒๕๓๘ ผลผลิตทางการเกษตรตามหลักทฤษฎีใหม่เริ่มให้ผลตอบแทนเป็นมูลค่า ทางเศรษฐกิจ จนถึง พ.ศ. ๒๕๕๒ จึงได้รับการยอมรับและยกย่องจากทางราชการ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) ให้เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ของจังหวัดสระบุรี ภาพหน้าซ้ายบน ฐานเรียนรู้การผลิตน�้ำหมักสมุนไพร ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ พอเพียง ต�ำบลหนองโน อ�ำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ภาพหน้าซ้ายล่าง ฐานเรียนรู้การผลิตปุ๋ยหมัก ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ พอเพียง ต�ำบลหนองโน อ�ำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ภาพหน้าขวา แปลงปอเทือง ในศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ พอเพียง ต�ำบลหนองโน อ�ำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี 139


ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ต� ำบลหนองโน อ� ำเภอเมือง จังหวัดสระบุรีได้น�ำเสนอหลักการและหลักสูตร การศึกษาเรียนรู้เป็น ๓ ฐานการเรียนรู้ดังนี้ ฐานที่หนึ่ง -ลดรายจ่าย ๑. ผลิตจุลินทรีย์ ๒. ท� ำปุ๋ยหมัก ๓. สมุนไพรป้องกันโรคและแมลง ๔. ผลิตปุ๋ยจากน�้ ำนมที่เสีย ฐานที่สอง - เพิ่มรายได้ ๑. ได้เงินภายใน ๓ วัน - ถั่วงอก ๒. ได้เงินภายใน ๘ วัน - เห็ดฟางในตะกร้า ๓. ได้เงินภายใน ๑๕ วัน - ผักบุ้ง ๔. ได้เงินภายใน ๓๐ - ๖๐ วัน - ข้าวโพด กะเพรา มะเขือ กล้วย ฯลฯ ฐานที่สาม - เพิ่มความรู้ ๑. ปศุสัตว์ - ไก่ เป็ด หมู ๒. ประมง - กบ ปลานิล 140


บรรยากาศและฐานการเรียนรู้ในศูนย์การเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียง ต�ำบลหนองโน อ�ำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี 141


ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงแห่งนี้สืบสานและต่อยอดโดยบุตรชายที่ชื่อนายบุญล้อมซึ่งท�ำงาน เอกชนมาเป็นเวลากว่าสิบปีพร้อมทั้งหนี้สินกว่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท นายบุญล้อมได้กลับมาเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อจากบิดา นายบุญล้อมได้ไปศึกษาและอบรมต่อขยาย ความคิดที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ(มาบเอื้อง) จังหวัดชลบุรีเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๖ และได้น�ำมาปรับปรุง การท�ำงาน จนบัดนี้ได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน ทั้งราชการและเอกชน ให้เป็นผู้ทรงความรู้ ทางด้านเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ภาพหน้าขวา โคก หนอง นา ของนายภูริทัตและนางธณภร เพ็งจิตร์ ซึ่งนายบุญล้อม เต้าแก้ว ได้เข้าไปช่วยให้ค�ำปรึกษา นายบุญล้อม เต้าแก้ว สืบสานและต ่อยอดจากอาจารย์บุญลือ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ต�ำบลหนองโน อ�ำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี 142


143


คลองไส้ไก่ของนายภูริทัตและนางธณภร เพ็งจิตร์ 144


145


146


Click to View FlipBook Version