The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมคุตบะฮ์ (วันศุกร์)
โดย นายไพโรจน์ มินเด็น
ปี 2021

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by minden family, 2021-07-11 21:33:54

รวมคุตบะฮ์ (วันศุกร์)

รวมคุตบะฮ์ (วันศุกร์)
โดย นายไพโรจน์ มินเด็น
ปี 2021

Keywords: คุตบะฮ์,วันศุกร์,นายไพโรจน์,มินเด็น,นายไพโรจน์ มินเด็น,ไพโรจน์,ไพโรจน์ มินเด็น

51


เร;ือง ฮกิ มะฮ์และความสาํ คัญของการประกอบพธิ ีฮัจญ์

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ﻟَﮫ‬ ‫َاھَﻟﺎﻠﱠِد ُﮭ ﱠَمي‬ ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫َﺻ ًل َﻋﻠ َﻰ ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲُ َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬
‫ أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌدُه‬٠ ‫َو َﻋﻠَﻰ آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬

‫ ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم‬،‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْو ًﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬
‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣ ْن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬

،‫ُ ۗ◌ ﻓَﺎﺗﱠ ِﺑﻌُوا ِﻣﻠﱠﺔَ ِإ ْﺑ َرا ِھﯾ َم َﺣ ِﻧﯾﻔًﺎ َو َﻣﺎ َﻛﺎ َن ِﻣ َن ا ْﻟ ُﻣ ْﺷ ِر ِﻛﯾ َن‬6‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ﻗُ ْل َﺻدَ َق ا ﱠ‬
‫ ِﻓﯾ ِﮫ آﯾَﺎ ٌت ﺑَ ِﯾّﻧَﺎ ٌت َﻣﻘَﺎ ُم‬،‫ِإ ﱠن أَ ﱠو َل ﺑَ ْﯾ ٍت ُو ِﺿ َﻊ ِﻟﻠﻧﱠﺎ ِس ﻟَﻠﱠ ِذي ِﺑﺑَ ﱠﻛﺔَ ُﻣﺑَﺎ َر ًﻛﺎ َوھُدًى ِﻟ ْﻠﻌَﺎﻟَ ِﻣﯾ َن‬

◌ۚ ‫ َﻋﻠَﻰ اﻟﻧﱠﺎ ِس ِﺣ ﱡﺞ ا ْﻟﺑَ ْﯾ ِت َﻣ ِن ا ْﺳﺗَ َطﺎ َع ِإﻟَ ْﯾ ِﮫ َﺳ ِﺑﯾ ًﻼ‬٠6ِ ‫دَ َﺧَﻏﻠَِﻧﮫُ ﱞﻲ َﻛﺎ َﻋ َنِنآاِﻣْﻟﻧًﻌَﺎﺎﻟَ ۗ ِﻣ◌ﯾ َوَنِ ﱠ‬6َ ‫ِإَ ْوﺑ ََﻣراْن ِھﯾَﻛ َمﻔَ َرۖ◌ﻓَﺈَِو ﱠَنﻣ اْن ﱠ‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน อลั ฮมั ดลุ ิลB ลา ขอชโุ กรต่อพระองค์ทEีพระองค์ทรงโปรด

ให้พวกเราได้มีโอกาสได้มาอยู่ร่วมกันท่ามกลางสิEงต่างๆ ทEีเกิดขึนB ในโลกนี Bวนั นีเB ป็นวนั ทEี bW

เดือนซุ้ลฮิจญะฮ์เป็นเดือนทีEมีความสําคญั อีกเดือนหนEึงซEึงเดือนซุ้ลฮิจญะฮ์ คือ หนEึงในเดือน
ต้องห้ามคําวา่ ‫ أَ ْﺷ ُﮭ ُر اﻟ ُﺣ ُر ْم‬คือ เดือนต้องห้ามทงัB V ซงEึ มี b เดือนอย่ตู ิดตอ่ กนั หนงEึ เดือนแยก

ตา่ งหากคือเดือนร่อญบั ทงัB สามเดือนทEีติดกนั คือ เดือนซ้ลุ เกาะอฺดะหฺ เดือนซ้ลุ ฮิจญะฮ์คือเดือน

นี B เดือนมุฮัรรอมคือเดือนถัดไป เดือนต้องห้ามทังB V นีไB ม่ใช่ต้องห้ามทําความดี แต่เป็นการ

ต้องห้ามในการทําสงคราม การฆ่า การทําสEิงไม่ดีหรือชวัE ร้าย แต่สEิงทีEดีสามารถทําได้ทงัB หมด

มสุ ลิมอาจเข้าใจผิดว่าเดือนนีหB ้ามทําความดี แต่ทEีจริงแล้วคือเดือนทีEต้องทําความดีต่างหาก

เดือนนีคB ือเดือนซ้ลุ ฮิจญะฮ์ซงึE ความหมายของมนั คือการทําฮจั ญ์ การทําฮจั ญ์นนัB เรEิมตงัB แตเ่ ดือน

ซุ้ลเกาะดะฮ์แล้วซึEงถือว่าเป็นช่วงเทศกาลฮัจญ์ เพราะฉะนันB คุตบะฮ์ในวนั นีขB ้าพเจ้าใคร่ขอ

นําเสนอเรEืองความสําคัญของการทําฮัจญ์ ฮิกมะฮฺของการทําฮัจญ์ ผลบุญของการทําฮัจญ์

รวมถงึ อิบาดะฮฺของคนทEีไมไ่ ด้ไปทําฮจั ญ์ซงึE เราควรจะทําอยา่ งไรในเดือนซ้ลุ ฮิจญะฮ์นี B

52


พEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ขอให้พวกท่านเกรงกลวั ต่ออลั อฮให้มากๆ เดือนนีเBป็นเดือน
ทEีมีความสําคญั มาก สว่ นหนEึงจากความสําคญั คือเดือนนีเBป็นช่วงของการทําฮจั ญ์จะเห็นได้ชดั
ว่า การประกอบพิธีฮัจญ์เป็นรู่ก่นหนึEงในรู่ก่นอิสลามและเป็นรู่ก่นสุดท้ายทEีมีความสําคญั ไม่
น้อยไปกวา่ รู่ก่นอEืนๆ เลย รู่ก่นคือองค์ประกอบสําคญั ของศาสนาอิสลามหรือสงEิ ทีEเราจําเป็นต้อง
ทํา แต่รู่ก่นนีอB าจมีความแตกต่างจากรู่ก่นอEืนๆ เพราะรู่ก่นนีมB ีความสําคัญ จากอายะฮ์
อลั กรุ อานทีEอลั ลอฮฺได้ตรัสไว้ในซเู ราะฮ์อาละอิมรอน อายะฮ์ทีE gˆ วา่

◌ۚ ‫ َﻋﻠَﻰ اﻟﻧﱠﺎ ِس ِﺣ ﱡﺞ ا ْﻟﺑَ ْﯾ ِت َﻣ ِن ا ْﺳﺗَ َطﺎ َع ِإﻟَ ْﯾ ِﮫ َﺳ ِﺑﯾ ًﻼ‬6ِ ‫َو ِ ﱠ‬
‫ َﻏ ِﻧ ﱞﻲ َﻋ ِن ا ْﻟﻌَﺎﻟَ ِﻣﯾ َن‬6َ ‫َو َﻣ ْن َﻛﻔَ َر ﻓَﺈِ ﱠن ا ﱠ‬

ความว่า “ ณ แด่อัลลอฮฺนันB คือหน้าทEีของบรรดามนุษย์ทังB หลายทีEจะต้องไปทําฮัจญ์
สําหรับบุคคลทีEมีความสามารถ และผู้ใดทีEปฏิเสธ แท้จริงพระองค์ทรงรEํารวย (ไม่พึEงพา) จาก
โลกใบนี B”

จากอายะฮ์นีชB ีใB ห้เห็นถึงความสําคัญของการทําฮัจญ์ ในหนังสือบางเล่มแปลว่า
เป็นสิทธิของอลั ลอฮฺทEีจะให้มนุษย์ไปทําฮจั ญ์ทีEบยั ตุ้ลลอฮ และในบางเล่มแปลว่า เป็นหน้าทEี
ของบ่าว แต่ไม่ว่าความหมายจะเป็นอย่างไร การทําฮัจญ์ก็คือรู่ก่นหนึEงของรู่ก่นอิสลาม
เป็นอิบาดะฮฺทีEยิEงใหญ่เพราะฮจั ญ์ได้รวมการกระทําไว้หลายๆ อย่างและมีช่วงเวลากระทําทีE
เจาะจง ไม่ได้ทําเพียงวนั เดียว อีกทงัB ต้องมีการเสียสละทงัB ร่างกาย ทรัพย์สินและเวลา ต้องมี
ความพร้อมทางด้านการเงิน ไม่กู้หนียB ืมสิน สขุ ภาพร่างกายต้องพร้อม แข็งแรงไม่มีอายุมาก
จนเกินไป และรวมถึงการสละเวลาในการทํางาน เนEืองจากต้องใช้เวลาประกอบพิธีกรรมหลาย
วนั ฉะนนัB การทําฮจั ญ์คืออิบาดะฮฺทีEยEิงใหญ่ทีEยากจะตดั สินใจ บางคนมีความพร้อมทกุ อย่าง
ทงัB เงินทอง ร่างกาย และเวลา แต่ไม่ไปเพราะต้องการไปทีEอืEนก่อนหรืออยากทําอย่างอEืนก่อน
อนั ทEีจริงแล้วสงEิ นีเBป็นสงEิ ทีEไมค่ วรมองข้ามไปเพราะการทําฮจั ญ์เป็นเรEืองทีEใหญ่กวา่ ทกุ สงEิ ถ้าใคร
มีความพร้ อมคุณจําเป็ นต้ องไปเพราะการทําฮัจญ์ เป็ นการตอบรับคําเชิญจากพระผ้ ูเป็ นเจ้ า
คนทีEไปทําฮจั ญ์จะตอบรับคําเชิญของอลั ลอฮฺด้วยกบั ถ้อยคําวา่

،َ‫ ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬،‫ ﻟَﺑﱠ ْﯾ َك ﻻَ َﺷ ِرﯾ َك ﻟَ َك ﻟَﺑﱠ ْﯾ َك‬،‫ﻟَﺑﱠ ْﯾ َك اﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم ﻟَﺑﱠ ْﯾ َك‬

53


‫ ﻻَ َﺷ ِرﯾ َك ﻟَك‬،‫ ﻟَ َك َوا ْﻟ ُﻣ ْﻠ َك‬،َ‫َواﻟ ِﻧّ ْﻌ َﻣﺔ‬

ฉะนันB คนทีEไปทําฮัจญ์คือ ดุยูฟุรรอฮ์มาน แปลว่า แขกของอัลลอฮฺ บางคนบอกเป็น
อาคนั ตกุ ะซงEึ ได้รับคําเชิญจากพระเจ้าในแตล่ ะปีเพEือไปทําฮจั ญ์ เพราะฉะนนัB คนทีEมีโอกาสได้ไป
ทํา สมควรทีEจะไปทําอย่างยิEง ไม่ควรทEีจะละเลยเป็นอนั ขาด เพราะเมEือปล่อยเวลาผ่านพ้นไป
ก็จะยEิงไม่มีความพร้อมในแง่ของสขุ ภาพและเวลา และในตอนท้ายของอายะฮ์ทEีบอกว่า ผู้ใด
ปฏิเสธ แท้จริงพระองค์ทรงรํEารวย (ไม่พึEงพา) จากโลกใบนี Bหากอ่านโดยไม่ไตร่ตรองอาจคิดว่า
ไม่มีอะไร แต่ลองคิดพิจารณาดูว่าทEีพระองค์บอกว่า แท้จริงพระองค์ทรงรEํารวย (ไม่พEึงพา)
ความหมายคือเรายงั ต้องพงEึ พาพระองค์ตลอดไปเพราะฉะนนัB เราไม่ควรปฏิเสธ เราควรจะตอบ
รับคําเชิญ สิEงนีคB ือสEิงทEีเราต้องยําB เตือนกนั ถึงคนทีEมีความสามารถจะต้องไม่มองว่าเรืEองในโลก
ดนุ ยาสาํ คญั กวา่

พีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่าน ฮิกมะฮฺในการทําฮจั ญ์ได้มีนกั วิชาการอธิบายกนั เยอะมาก
แต่จะขอสรุปเพียง b - V ประการเท่านนัB ประการแรก คือ การรวมตวั รวมพลงั ของมสุ ลิมซงึE ใน
• ปีจะมี • ครังB ไม่สามารถทําได้มากกว่า • ครังB ใน • ปี ไม่สามารถทําทีEอืEนได้นอกจากทEี
มักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอB าระเบีย เป็นการรวมตัวกันเพEือสันติไม่มีการทะเลาะกัน และเพืEอ
ประกอบอิบาดะฮฺ ไม่ใช่เรืEองทางการเมือง ไม่ใช่เรEืองค้าขายหรือเรืEองอืEนใด สิEงนีเB ป็นสิEงทEี
ชีใB ห้เห็นถึงพลงั ของพEีน้องมสุ ลิมหรือสายเชือกแห่งอลั อิสลามซงึE ศาสนาอืEนๆ ไม่สามารถรวมตวั
กัน เฉกเช่นการทําฮจั ญ์นีไB ด้ ประการทEีสอง คือ การแสดงสญั ลกั ษณ์ของความเป็นเอกภาพ
เสมอภาค และภารดรภาพของมุสลิม เราจะเห็นว่าเป้าหมายของทุกคนคือการทําอิบาดะฮฺ
ต่ออลั ลอฮฺ การละหมาดของคน T ล้านคนในทEีเดียวกันเป็นเรืEองยาก หากคณุ ไปละหมาดวนั
ศกุ ร์ล่าช้าคณุ อาจจะหาทีEยืนละหมาดไม่ได้ เพราะทกุ คนทEีไปทําฮจั ญ์ล้วนมีเป้าหมายเดียวกนั
คือการทําอิบาดะฮฺให้ดีทEีสดุ นีEคือความเป็นเอกภาพ แม้วา่ จะมีความแตกตา่ งกนั เพียงเล็กน้อย
ของท่วงท่าในการทําอิบาดะฮฺก็ตาม แต่มีเป้าหมายเดียวกัน มีพระเจ้าองค์เดียวกัน มีการ
ต้อวาฟ สะแอ ขว้างเสาหิน ครองเอียะหฺรอม วกุ ฟู เหมือนกนั นอกจากนียB งั มีความเสมอภาคไม่
ว่าจะเป็นใคร เป็นรัฐมนตรี เป็นหมอ หรือเป็นคนทําความสะอาด คณุ ต้องทําร่วมกนั หมด และ
ทEีว่ามีความภารดรภาพเพราะมีการแบ่งปันกนั มีการเอือB เฟื อB เผEือแผ่กนั ในการใช้สถานทEีทEีมีอยู่

54


อย่างจํากดั นีEคือการช่วยเหลือซงึE กนั และกนั และเป็นการพิสจู น์ความเป็นพีEเป็นน้องกนั ได้อย่าง
ดีด้วย ประการทีEสาม ของฮิกมะฮ์ในการทําฮจั ญ์คือ เปรียบเสมือนการศกึ ษาหรือการเจริญรอย
ตามท่านศาสดาอิบรอฮีม ศาสดาอิสมาอีล และพระนางฮาญัร เพEือได้สัมผัสร่องรอยการ
เสียสละของบุคคลทังB สามผ่านทางแบบฉบบั อนั ดีงามของท่านศาสดามูฮมั หมดั (ซ็อลลลั ลอ
ฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) ฉะนันB เป็นเรEืองทีEจําเป็นสําหรับเราทีEต้องศึกษาประวัติศาสตร์ก่อนทีEจะ
เดินทางไป เพEือความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงพิธีกรรมทีEจะต้องทํา รวมทังB แบบฉบับของท่าน
ศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั )ด้วย ตวั อย่างเช่น การไปทEีมีนาในวนั ตรั วียะฮ์
ของสายซุนนะฮ์และการค้างคืนทีEมุซดาลีฟะฮฺ นีEคือสEิงทีEเราควรคํานึงว่าเราไปทําฮัจญ์เพืEอ
จําลองเหตกุ ารณ์ในอดีตเพEือสมั ผสั ร่องรอยความเสียสละของบคุ คลทงัB b คนผา่ นแบบฉบบั ของ
ศาสดามูฮัมหมัด(ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ประการทEีสEี นักวิชาการได้อธิบายว่าการทํา
ฮจั ญ์เปรียบเสมือนถนนทีEไปส่อู าคีเราะหฺ บางท่านบอกว่าการทําฮจั ญ์เปรียบเสมือนการตาย
การทีEเราเดินทางไปทําฮจั ญ์เปรียบเสมือนวิญญาณเราได้ออกจากร่างไปแล้วเพืEอเดินทางไปสู่
โลกอาลมั บรั ซคั การอาบนําB สนุ ตั ก่อนครองเอียะหฺรอมเปรียบเสมือนการอาบนําB มยั ยิต การแตง่
ชุดครองเอียะหฺรอมปรียบเสมือนการกะฝEัน การเดินทางไปมซุ ดาลีฟะฮฺเปรียบเสมือนการฟื นB
จากหลมุ ฝังศพและเดินไปยงั ท่งุ มะชรั การวกุ ฟู เปรียบเสมือนการรวมตวั กนั ทีEท่งุ มะชรั นEีคือการ
เปรียบเทียบของนกั วิชาการทEีแสดงให้เห็นถึงความสําคญั หรือฮิกมะหฺในการทําฮจั ญ์ทีEเป็นการ
เสียสละทรัพย์สนิ ร่างกาย และเวลาเพEือทําอิบาดะฮฺและหาผลานิสงส์จากพระผ้เู ป็นเจ้า เพราะ
เหตนุ ี Bการทําฮจั ญ์จงึ มีความสําคญั และเป็นอิบาดะฮฺทีEยEิงใหญ่มาก คนทEีได้มีโอกาสไปแล้วจะมี
ความประทบั ใจ ตราตรึงใจไมม่ ีวนั ลมื

สว่ นภาคผลของการทําฮจั ญ์มีฮะดีษรับรองไว้อยา่ งมากมาย สว่ นหนงEึ คือ

،‫ ﻣ ْن ﺣ ﱠﺞ ﻓَﻠَم ﯾ ْرﻓُ ْث‬:‫ ﷺ ﯾَﻘو ُل‬6ِ ‫ َﺳ ِﻣ ْﻌ ُت رﺳُو َل ا ﱠ‬:‫ﻋن أﺑﻲ ھرﯾرة ﻗﺎ َل‬

‫ ر َﺟﻊ َﻛﯾَو ِم وﻟَدﺗْﮫُ أُ ﱡﻣﮫ‬،‫َوﻟَم ﯾ ْﻔﺳُ ْق‬

ความวา่ “ จากทา่ นอะบีฮรุ อยเราะกลา่ ววา่ ฉนั เคยได้ยินทา่ นร่อซ้ลู (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ
ว่าสลั ลมั ) ได้กล่าวว่า ผ้ใู ดก็ตามทีEได้ไปทําฮจั ญ์โดยทีEพวกเขาไม่ได้พดู จาหยาบคายและไม่ได้

55


ทําความชวEั ช้าลามก เขาจะกลบั มาเสมือนกับวนั ทีEเขาคลอดมาจากครรภ์ของมารดาของเขา
(ไมม่ ีบาป)” รายงานโดย บคุ คอรีและมสุ ลมิ

และอีกฮะดีษหนงึE ความวา่

،‫ ﷺ ﻗَﺎ َل ا ْﻟﻌُ ْﻣ َرةُ ِإﻟَﻰ ا ْﻟﻌُ ْﻣ َر ِة َﻛﻔﱠﺎ َرةٌ ِﻟ َﻣﺎ ﺑَ ْﯾﻧَ ُﮭ َﻣﺎ‬6ِ ‫أَ ﱠن َرﺳُو َل ا ﱠ‬: َ‫َﻋ ْن أَ ِﺑﻲ ھُ َر ْﯾ َرة‬

َ‫َوا ْﻟ َﺣ ﱡﺞ ا ْﻟ َﻣ ْﺑ ُرو ُر ﻟَ ْﯾ َس ﻟَﮫُ َﺟ َزا ٌء ِإ ﱠﻻ ا ْﻟ َﺟﻧﱠﺔ‬

ความวา่ “ จากทา่ นอบีฮรุ อยเราะ (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ แท้จริงทา่ นร่อซ้ลู (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะ
ลัยฮิว่าสัลลัม) ได้กล่าวว่า จากอุมเราะฮ์หนEึงถึงอุมเราะฮ์หนึEงคือการอภัยโทษในช่วงเวลา
ระหวา่ งนนัB และฮจั ญ์ทีEถกู ตอบรับนนัB ไมม่ ีสงEิ ใดทีEเป็นรางวลั เว้นแตส่ รวงสวรรค์”

นีEคือความสําคัญของการทําฮัจญ์ และเป็ นเป้าหมายของมุสลิมทุกคนทEีมีความ
ปรารถนาอย่างแรงกล้าทีEจะเดินทางไปเพราะเป็นอิบาดะฮฺทEียEิงใหญ่ ปัจจบุ นั เป็นเรืEองยากทีEจะ
ไปทําฮจั ญ์เนืEองด้วยสถานการณ์ตา่ งๆ และปัญหาทีEมากขนึ B ทกุ ปี สงEิ เหลา่ นีคB ือ การทดสอบ

พEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ นครับ สําหรับคนทีEไมไ่ ด้ทําฮจั ญ์สามารถทําอิบาดะฮฺทีEยEิงใหญ่
ในเดือนทีEสาํ คญั เดือนนีไB ด้ จากอลั กรุ อานซเู ราะฮ์อลั -ฟัจรฺ ความวา่

‫ َواﻟ ﱠﺷ ْﻔ ِﻊ َوا ْﻟ َوﺗْ ِر‬، ‫ َوﻟَﯾَﺎ ٍل َﻋ ْﺷ ٍر‬،‫َوا ْﻟﻔَ ْﺟ ِر‬
ความวา่ “ขอสาบานตอ่ ยามรุ่งอรุณและคืนทงัB สบิ รวมทงัB สงEิ ทีEเป็นคแู่ ละสงิE ทEีเป็นคีE”

ตฟั ซีรของท่านอิบนอุ บั บาส ท่านมญุ าฮิด รวมทงัB นกั อรรถาธิบายอลั กรุ อานในยคุ สะลฟั
และค่อลฟั ได้อธิบายว่า คEําคืนทังB สิบในอายะฮ์กุรอานนี B คือ สิบวนั แรกของเดือนซุ้ลฮิจญะฮ์
ถงึ แม้วา่ จะใช้คําวา่ คืนก็ตาม อยา่ งไรก็ดี มีอลุ ามะอฺขดั แย้งกนั วา่ อาจจะเป็นคืนในสบิ วนั สดุ ท้าย
ของเดือนรอมฎอน ซงึE ทงัB สองฝ่ายตา่ งก็มีหลกั ฐานทEีเชEือถือได้ หลกั ฐานของท่านอิบนอุ บั บาสได้
อ้างหลักฐานจากฮะดีษซอเฮียะฮ์ทEีรายงานโดยอิหม่ามบุคอรีย์ได้บอกว่า อะม้าลซอและฮ์
ทีEอลั ลอฮฺทรงโปรดปรานมากทEีสดุ คือการงานทEีทําในวนั ทงัB สิบนี Bมีซ่อฮาบะฮ์ถามว่า พระองค์
ทรงโปรดปรานมากกว่าการญิฮาดในหนทางของอลั ลอฮฺอีกหรือ ท่านศาสดา (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะ
ลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ตอบว่า ใช่ โปรดปรานยEิงกว่าการญิฮาดในหนทางของอลั ลอฮฺเว้นแต่ชายคน

56


หนึEงทEีญิฮาดทงัB ชีวิตและทรัพย์สินของเขาโดยทีEเขาไม่ได้นําทงัB สองอย่างกลบั มาเลย หมายถึง
การตายชะฮีด การญิฮาดเชน่ นีจB งึ จะเหนือกวา่ อะม้าลในสบิ วนั นี B

นEีคือตวั อย่างของบทบญั ญัติทEีพูดถึงภาคผลของการทําความดีในสิบวนั แรกของเดือน
ซุ้ลฮิจญะฮ์ซงEึ เป็นอิบาดะฮฺทEีไม่เจาะจง ตวั อย่างเช่น ละหมาดสนุ ตั อา่ นกรุ อาน ซิกรุ้ลลอฮ ทําดี
ต่อพ่อแม่ เยีEยมเยียนญาติพEีน้อง แต่อิบาดะฮฺทีEเจาะจงก็มี เช่น จากฮะดีษซอเฮียะฮ์ทีEรายงาน
โดยอิหม่ามมสุ ลิม ท่านร่อซู้ล (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้กล่าวว่า “ภาคผลของการถือ
ศีลอดในวนั อารอฟะหฺคือวนั ทีE g เดือนซุ้ลฮิจญะฮ์ เขาจะได้รับการอภยั โทษในบาปกรรมถึง T ปี
คือ • ปีทEีผ่านไปแล้วกับ • ปีในอนาคต” ซEึงการถือศีลอดในวนั ทีE g ของ เดือนซุ้ลฮิจญะฮ์นี B
ถือได้ว่ามีผลบุญมากกว่าการถือศีลอดในวนั อาชูรออฺทีEจะได้รับการอภยั โทษเพียงปีทีEผ่านมา
เทา่ นนัB

สดุ ท้ายนี Bขอเตือนพวกเราทกุ คนให้มีเหนียตตงัB ใจทEีจะเดินทางเพืEอไปประกอบพิธีฮจั ญ์
ให้ได้ครังB หนEึงในชีวิต รวมทงัB ขอให้มีการเตรียมตวั ก่อนทีEจะเดินทางไปให้พร้อมตามเนือB หาของ
คุตบะฮ์ทีEได้กล่าวมาแล้วด้วย สําหรับคนทีEยงั ไม่มีโอกาสเดินทางก็ขอให้ตงัB ใจปฏิบตั ิอะม้าล
อิบาดะฮฺในเดือนนีกB นั อย่างเต็มความสามารถ อินชาอลั ลอฮฺ และขอดอุ าอฺจากเอกองค์อลั ลอฮฺ
(ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) ให้ข้าพเจ้าและพีEน้องผ้ศู รัทธาทกุ ท่านได้รับฮิดายะฮ์ทีEถกู ต้องและขอให้
พวกเราได้รับความสขุ ทงัB โลกนีแB ละโลกหน้าและให้พ้นจากไฟนรก อามีน

‫ اﻟﻌَ ِظ ْﯾ َم ِﻟﻲ َوﻟَﻛُ ْم َو ِﻟ َﺳﺎ ِﺋ ِر اﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ِﻣ ْﯾ َن‬6َ ‫أَﻗُو ُل ﻗُو ِﻟﻲ َھذَا َوا ْﺳﺗَ ْﻐﻔَ ُر ا ﱠ‬
‫ﻓَﺎ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُر ْوهُ ِإﻧﱠﮫُ ھُ َو ا ْﻟﻐَﻔُ ْو ُر اﻟ ﱠر ِﺣﻲ‬

57


เร;ือง ความมหศั จรรย์ของสมองมนุษย์

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫َﺻ ًل‬ ‫اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم‬ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
‫ﺑَ ْﻌدُه‬ ‫ أَ ﱠﻣﺎ‬٠‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬

‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬
‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬

‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสุข ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อัลลอฮฺ (ซบ ) จงประสบแด่

พEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทEีทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอย่จู นถึงวนั ศกุ ร์

ข้าพเจ้าขอเตือนตวั เองและพวกท่านให้เกรงกลวั และยําเกรงต่ออลั ลอฮฺให้มากๆ เพราะแท้จริง

พระองค์ทรงรุนแรงยิEงในการลงโทษ

พEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ถึงแม้ว่าโลกดนุ ยาไม่อาจเปรียบเทียบได้กบั โลกอาคีเราะฮ์
ก็ตาม แต่ทว่าการใช้ชีวิตในโลกดนุ ยานีกB ็มีความสําคญั ต่อมอุ ฺมินไม่น้อย ทงัB นีเBพราะโลกดนุ ยา
เป็นโลกทEีเราถกู ทดสอบและเป็นโลกทEีเราเพาะปลกู โดยทีEจะเก็บเกEียวในโลกอาคีเราะฮ์ ดงั นนัB
หากการใช้ชีวิตอย่ใู นโลกดนุ ยาของเราไม่ประสบความสําเร็จไม่ได้อย่บู นหนทางทEีถกู ต้องหรือ
ถกู ดนุ ยาหลอกหรือเป็นโรคหลงดนุ ยา เราในฐานะมอุ ฺมินก็อาจจะเสียหายในโลกอาคีเราะฮ์ได้
ด้วยเหตุนี BโลกดุนยาจึงมีความสําคัญในการเพาะปลูกเพEือเตรียมเสบียงไปสู่โลกอาคีเราะฮ์
ทงัB นี Bโดยอลั ลอฮฺได้ทรงประทานคมั ภีร์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยEิงคมั ภีร์อลั กรุ อานมาเป็นทางนํา
และเป็นค่มู ือให้ใช้ในโลกนี Bเราได้มีโอกาสได้ใช้บทบญั ญัติของพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานในการ
ดําเนินชีวิตจริง นอกจากนนัB พระองค์ได้สง่ ศาสนทตู มาให้เราซงึE เป็นแบบอย่างในการปฏิบตั ิจริง
ไม่ใช่เป็นบทสวดทีEอ่านโดยไม่รู้ความหมายแต่อย่างใด เพราะฉะนนัB สEิงเหล่านีเB ป็นความโปรด
ปรานของอลั ลอฮฺทEีได้ประทานให้พวกเราเพราะพระองค์ไม่ต้องการให้เราหลงทางในโลกนี Bและ
ทEีสําคญั พระองค์ได้ประทานสมองและสติสมั ปชญั ญะให้มนษุ ย์มีความคิดซงึE สามารถไตร่ตรอง

58


และพิจารณาสEิงต่างๆ ได้และเป็นสิEงมีชีวิตทEีมีเหตมุ ีผล สิEงเหล่านีจB ึงทําให้มนษุ ย์สามารถดํารง
อยดู่ ้วยกบั ความดีในโลกนีไB ด้และไมถ่ กู ดนุ ยาหลอก

พีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่าน ข้าพเจ้าได้มีโอกาสอ่านและศึกษาหนังสือเล่มหนEึงชืEอว่า
The Unchallengeable Miracles of the Quran ซึEงแต่งโดย Yusuf Hajj Ahmad เขาได้เขียน
เรEืองหนงึE ทEีสาํ คญั โดยได้ยกพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานในซเู ราะฮ์ยาซีน อายะฮ์ทEี ‡ˆ-‡˜ ได้ระบวุ า่

‫َوﻟَ ْو ﻧَ َﺷﺎ ُء ﻟَ َﻣ َﺳ ْﺧﻧَﺎھُ ْم َﻋﻠَ ٰﻰ َﻣ َﻛﺎﻧَ ِﺗ ِﮭ ْم ﻓَ َﻣﺎ ا ْﺳﺗَ َطﺎﻋُوا ُﻣ ِﺿﯾ‹ﺎ َو َﻻ ﯾَ ْر ِﺟﻌُو َن‬

ความวา่ “และหากวา่ เรา (อลั ลอฮฺ) ประสงค์ทEีจะทําให้ (สาป) อยกู่ บั ทEีทีEของเขา พวกเขา
เหลา่ นนัB ก็ไมส่ ามารถทEีจะเดนิ ไปข้างหน้าและถอยหลงั กลบั หรือย้อนกลบั ได้”

ผ้เู ขียนหนงั สือเลม่ นีไB ด้อธิบายวา่ จากอายะฮ์อลั กรุ อานนีเBป็นการบรรยายภาพให้เห็นถงึ
การตดั สินคดีในวนั อาคีเราะฮ์ พวกกาเฟรทีEปฏิเสธศรัทธา พระองค์จะทรงประทานให้เขาอย่กู บั
ทEีซงEึ ไม่สามารถเดินไปข้างหน้าและถอยหลงั ได้ถ้าพระองค์ทรงประสงค์ และผ้เู ขียนหนงั สือได้
ตงัB คําถามว่า ทําไมเราถึงมาทํางานและกลบั บ้านได้อย่างถกู ต้องในโลกดนุ ยานี Bและอีกอายะฮ์
หนงEึ ได้กลา่ ววา่

‫َو َﻣن ﻧﱡﻌَ ِّﻣ ْرهُ ﻧُﻧَ ِّﻛ ْﺳﮫُ ِﻓﻲ ا ْﻟ َﺧ ْﻠ ِق ۖ◌ أَﻓَ َﻼ ﯾَ ْﻌ ِﻘﻠُو َن‬

ความวา่ “ และผ้ใู ดทีEอลั ลอฮฺทําให้เขามีชีวิตยืนยาว อลั ลอฮฺจะทําให้เขากลบั ไปสสู่ ภาพ
แรกเกิด สเู จ้าไมไ่ ด้ใช้สตปิ ัญญาใคร่ครวญดอกหรือ”

อายะฮ์นีมB ีคําถามว่า แลวั อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ได้ทรงทําให้คนทEีมีอายุยืน
กลบั ไปเป็นเด็กแรกเกิดในลกั ษณะเช่นไร ทงัB สองคําถามมีคําตอบอนั เดียว คืออลั ลอฮฺ (ซุบฮา
น่าฮวู ่าตะอาลา) ได้ทรงให้มนษุ ย์นนัB ได้มีความทรงจําในสมอง มนษุ ย์จึงสามารถทําสิEงใดๆ ได้
โดยอาศยั ความจําในสมองนีEเอง ความทรงจําจึงมีความสําคญั ต่อมนษุ ย์มาก ในความเป็นจริง
สมองของมนษุ ย์มีความชาญฉลาดซงEึ ไม่มีคอมพิวเตอร์ใดในโลกนีมB าเทียบเท่ากบั สมองมนษุ ย์
ได้ คอมพิวเตอร์ยEิงมีประสิทธิภาพมากเพียงใด ยEิงชีใB ห้เห็นถึงความยEิงใหญ่ของผู้สร้ างมาก
เท่านันB เพราะฉะนันB มนุษย์ทีEสร้ างคอมพิวเตอร์ย่อมมีความชาญฉลาดกว่าคอมพิวเตอร์
ความจําของคอมพิวเตอร์ถูกออกแบบโดยลอกเลียนมาจากสมองมนุษย์ทุกอย่าง ในสมอง

59


มนษุ ย์มีความจําทีEเป็นระบบ โดยแบง่ ออกเป็น T ระบบคือ short term memory กบั long term
memory หมายถึง ความจําระยะสนัB กบั ความจําระยะยาว ความจําระยะสนัB ในสมองมนษุ ย์จะ
จําหลงั จากเหตุการณ์นันB เกิดขึนB ไม่นาน ส่วนความจําระยะยาวจะมีการบันทึกโดยอัตโนมัติ
ซงึE คอมพิวเตอร์ก็เลียนแบบโดยทีEเราเรียกวา่ Ram (random access memory) คือทีEเก็บข้อมลู
ชEัวคราวทEีมาประมวลผล เวลาเราซือB คอมพิวเตอร์เราจะบอกว่าหา Ram สูงๆ หา memory,
hard disk ดีๆ แต่สEิงทEีเก็บในสมองเราไม่ได้เก็บเป็นส่วนหรือเป็น segment แบบคอมพิวเตอร์
แต่สมองเก็บข้อมูลในรูปของรหัสแม็กกิงB เป็ นสิEงทีEเวลาเอามาใช้สามารถดึงเอามาใช้ได้
นอกจากนี Bสมองของมนษุ ย์มีความแตกตา่ งและเหนือกวา่ คอมพิวเตอร์ตรงทีEการเก็บข้อมลู หรือ
ความจําลงในสมองนนัB เป็นเรืEองอตั โนมตั โิ ดยมี T เงEือนไขคือ

• - ความชอบของมนษุ ย์ซงEึ จะทําให้มีการเก็บข้อมลู นนัB ลงไปใน long term memory

T – ความเกEียวพนั กบั ข้อมลู เดมิ ทีEอยใู่ นสมอง ถ้าไมเ่ กEียวพนั มนั ก็จะไมเ่ ก็บ
เพราะฉะนนัB มนั จะดกู ่อนว่าเกEียวข้องหรือเกีEยวพนั กนั หรือไม่ ด้วยเหตนุ ี Bมนั จึงเก็บแบบ
อตั โนมัติ สEิงเหล่านีเB ป็นสEิงทีEสําคญั มีข้อมูลอีกอนั หนึEงทEีนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า ในชEัวชีวิต
หนงึE ของมนษุ ย์ สมองจะประมวลไปด้วยความจําอนั มหาศาลและค้นพบอีกวา่ คนทีEมีอายุ ‡W ปี
เขามีความจําในสิEงตา่ งๆ เฉลีEยแล้วประมาน ‡ หมEืนล้านเรEือง เช่น สี ใบหน้า แผนทEี ทีEอยู่ ชEือคน
หมายเลขโทรศพั ท์ และเวลาเห็นสามารถจําแนกและวิเคราะห์ได้อีกด้วย ถ้าจะรวบรวมเป็น
หนังสือก็จะได้เป็นจํานวนถึงหนEึงพนั เล่ม เพราะฉะนันB สEิงทีEท่านจําจะมีทงัB สิEงทEีดีและสิEงทEีไม่ดี
สิEงทีEไร้สาระและสิEงทีEไม่ไร้สาระ ด้วยเหตนุ ี Bเราในฐานะมอุ ฺมินจะต้องตระหนกั ในสEิงทEีพระองค์
ทรงสร้ างและควรใช้ให้เป็นประโยชน์มากทEีสุด ช่างน่าเสียดายทีEพวกเราจํานวนไม่น้อยทีEใช้
สมองในเรEืองทEีไร้สาระ โดยเฉพาะปัจจบุ นั มีวีดีโอ ภาพยนตร์ เพลงแทบจะแทรกอยใู่ นทกุ วงการ
เด็กๆ สามารถจําเพลง จํานักร้ อง จําดาราได้ และยEิงตอนนีมB ี YouTube อินเตอร์เน็ต
Facebook สEิงต่างๆ เหล่านีลB ้วนแล้วแต่เป็นข้อมลู ทEีเราเก็บไว้ในสมองเราทงัB สินB ทงัB ทีEรู้ตวั และ
ไม่รู้ตวั ขึนB อยู่กับความชอบและความเกEียวพนั กับข้อมลู เดิม นีEเป็นสิEงทEีเราไม่รู้ แต่ถ้าเราสนใจ
เรEืองต่างๆ มนั จะบนั ทกึ ไว้เลย ด้วยเหตนุ ี BการมีสมองจึงมีทงัB คณุ และโทษ เราเองในฐานะทEีเป็น
มสุ ลมิ คงต้องพิจารณาวา่ เราได้ใช้สมองในชีวติ ประจําวนั อยา่ งไรบ้าง

60


ข้าพเจ้าขอยกตวั อยา่ งคนทีEฝึกเป็นฮาฟิ ส จะมีข้อห้ามไม่ให้ดภู าพยนตร์เพราะมนั กินเนือB ทEี
ในสมองมหาศาล คนทEีเป็นหมอบอกว่า การรับรู้ทางสมองทีEผ่านทางสายตาใช้นิวโรไฟเบอร์
(Nerve fiber) ประมาณหนึEงล้านเซลล์ ในขณะทEีการได้ยินทางหใู ช้นิวโรไฟเบอร์ (Nerve fiber)
เพียงแคส่ ามหมEืนเซลล์ เพราะฉะนนัB การดโู ดยใช้สายตานนัB ใช้พืนB ทีEในสมองมากกวา่ การฟังโดย
ใช้หู มุสลิมจึงควรระวังในการดูสEิงต่างๆ เพราะมันอาจจะทําให้เสียพืนB ทีEในสมองในเรืEองทีE
ไร้สาระได้ รวมทงัB อาจจะเป็นสาเหตหุ นึEงทEีทําให้เรามีนิสยั ชอบดตู ลอดไปด้วย จะสงั เกตได้จาก
การดภู าพยนตร์หรือละครในช่วงแรกจะไม่ค่อยติด แต่เมEือดไู ปซกั ระยะจะเรEิมติด เพราะว่ามนั
ได้นําข้อมลู ไปเก็บไว้ใน memory ซึEงมีผลทําให้เกิดเป็นข้อมลู พืนB ฐานทEีแสดงว่าเราชอบ เวลา
เราเห็นดาราคนนีอB ีกครังB เราก็จะรู้สึกอยากดูอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึนB กับเขา เราเกิดความรู้สึก
อยากจะติดตามโดยทEีเราไม่รู้ตวั ซึEงเป็นการทํางานแบบอตั โนมตั ิของสมอง เพราะฉะนนัB เราใน
ฐานะผ้ศู รัทธาเราเป็นอยา่ งนีหB รือไม่ เราต้องพิจารณาและสาํ รวจตวั เองด้วย

ทา่ นพีEน้องผ้ศู รัทธาครับ ทEีข้าพเจ้าพดู เรืEองนีขB ้าพเจ้าต้องการจะโยงให้เห็นวา่ การทีEเราใช้
ประโยชน์จากสมองมีผลกระทบตอ่ การดําเนินชีวิตในโลกนีเBพราะวา่ มนั ทําให้เราเกิดความชอบ
ยกตวั อย่างเช่น คนเล่นไพ่ เล่นการพนนั ดEืมสรุ า เทีEยวกลางคืน ตอนแรกเขาอาจจะรู้สึกอาย
หรือเขิน แต่พอทําต่อเนืEองเรEือยๆ เขาจะเคยชินและจะมีความรู้สกึ ว่าไม่เป็นไรเพราะว่าข้อมลู ทEี
เขารับในสมองมนั เป็นสEิงทEีเขาชอบและมนั ลงไปใน long term memory ของเขาซEึงเก็บไว้เป็น
ข้อมลู พืนB ฐาน เมืEอเขาเจอสิEงใหม่ๆ เขาก็จะรู้สึกว่าชอบและชีวิตเขาก็อยู่กับสEิงนีทB งัB หมด คนทีE
เล่นไพ่ก็ได้กบั คนทีEเล่นไพ่และชีวิตของเขาทงัB ชีวิตก็เกEียวข้องกบั เรEืองนีทB งัB หมด นEีคือสิEงทEีมนษุ ย์
เลือกดําเนินชีวิตของเขาเอง ความชอบมันเกิดขากข้อมูลพืนB ฐาน ด้วยเหตุนี B เราจึงต้องมา
ทบทวนว่าเราใช้ชีวิตของเราอย่างไรบ้าง ตาของเราดูอะไร หูของเราฟังอะไร ลินB ของเราทEีพูด
มือและเท้าของเราถูกใช้เพEือประโยชน์อะไร สิEงเหล่านีมB ันถูก memoryไว้ในความทรงจําทEีอยู่
ระยะยาวซEึงแก้ ไขได้ยากเพราะต้องเปลEียนแปลงด้วยกับความชอบและการกระทําซําB ๆ
ด้วยเหตนุ ี Bในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อาน ซเู ราะฮ์อาละอิมรอม อายะฮ์ทEี 31 ได้กลา่ ววา่

‫ُ َﻏﻔُو ٌر ﱠر ِﺣﯾ ٌم‬6‫ُ َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َوا ﱠ‬6‫ ﻓَﺎﺗﱠ ِﺑﻌُو ِﻧﻲ ﯾُ ْﺣ ِﺑ ْﺑﻛُ ُم ا ﱠ‬6َ ‫ﻗُ ْل ِإن ﻛُﻧﺗُ ْم ﺗُ ِﺣﺑﱡو َن ا ﱠ‬
ความว่า “ จงกล่าวเถิดมฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ว่าถ้าหากพวกท่าน

รักอลั ลอฮฺ ก็จงปฏิบตั ิตามฉนั (ศาสดามฮู มั หมดั ) อลั ลอฮฺจะทรงรักพวกทา่ น และอลั ลอฮฺจะทรง
อภยั โทษให้กบั บาปของพวกทา่ น แท้จริงอลั ลอฮฺนนัB คือผ้ทู รงอภยั โทษยEิง ผ้ทู รงเมตตาปราณียิEง”

61


อายะฮ์ดงั กล่าวชีใB ห้เห็นว่าถ้าเรารักอลั ลอฮฺก็จงปฏิบตั ิตามนบีและการปฏิบตั ิตามนบี
ชีใB ห้เห็นถึงการรักอลั ลอฮฺเช่นเดียวกัน แล้วปฏิบตั ิตามท่านนบีได้อะไร คําตอบคือ ได้ข้อมลู ทีE
เกEียวกบั นบีทงัB หมด การทีEเราจะปฏิบตั ิตามท่านนบีได้นนัB เราต้องศกึ ษาเราต้องมีความรู้เราถึง
จะปฏิบัติตามท่านได้ เพราะฉะนันB เมEือเราศึกษามันทําให้ข้อมูลเข้าไปในสมองเราทําให้เรา
จดจํา พอเราปฏิบตั ิตามก็เท่ากบั เราฝึก เราเอาข้อมลู ทEีรับรู้ลงไปใน memory ทEีเป็น long term
memory ซEึงมนั จะเป็นกรอบในการคิดของเรา ในการปฏิบตั ิตวั ของเราต่อไป ยกตวั อย่างเช่น
รู่ก่นอิสลามไมว่ า่ จะเป็นการละหมาดหรือเรืEองตา่ งๆ มนั จะเป็นเหมือนกรอบให้กบั เรา กรอบของ
เราในหนึEงวนั คือ การละหมาด 5 เวลา ถ้าเราทํา 5 เวลาครบ เราจะได้ภาคผลทีEเป็นคนดีและ
ยับยังB การกระทําความชEัวได้ ถ้าเราไม่มีกรอบนีใB นสมอง เราไม่ทําเป็นกิจวัติ มันก็จะไม่มี
ความรู้สกึ ว่าชอบ และการละหมาดนนัB ต้องตรงเวลาด้วยเพราะการละหมาดตรงเวลาก็เหมือน
การกินยาเหมือนทีEหมอสEังซEึงเราต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น กินหลังอาหาร ก่อนอาหาร
ให้กินมือB ละเม็ด ห้ามกินมือB ละหลายๆ เม็ด เพราะฉะนนัB การละหมาดก็เช่นเดียวกนั เพืEอจะได้
รักษาโรคอีหม่านอ่อนและเพืEอให้ถกู บนั ทึกใน memory ให้เป็นความชอบในสมอง ละหมาด 5
เวลาคือ กิจวตั ิประจําวนั ละหมาดวนั ศกุ ร์คือ กิจวตั ิประจําสปั ดาห์ ประจําปีคือ การถือศีลอด
และในชีวิตหนEึงคือ การทําฮจั ญ์ นีEคือ กรอบทEีมสุ ลิมจะต้องปฏิบตั ิ แล้วมนั จะส่งผลทําให้เป็น
กรอบในการดําเนินชีวิตต่อไป นอกจากนันB จะต้องยึดแบบฉบบั ของท่านศาสดาเป็นแนวทาง
ด้วย เพราะหากทําตามนบีก็ย่อมได้อรรถรสในการใช้ชีวิตของท่าน มีอายะฮ์กุรอานมากมาย
ทEีพดู ถงึ การปฏิบตั ติ ามนบี ในซเู ราะฮ์อลั ฮชั ร์ได้ระบวุ า่

‫َوﻣﺎ آﺗﺎﻛُ ُم اﻟ ﱠرﺳُو ُل ﻓَ ُﺧذُوهُ َوﻣﺎ ﻧَﮭﺎﻛُ ْم َﻋ ْﻧﮫُ ﻓَﺎ ْﻧﺗَ ُﮭوا‬
ความวา่ “และสงEิ ใดก็ตามทีEทา่ นร่อซ้ลู ได้นํามาให้พวกทา่ น ดงั นนัB พวกทา่ นจงยดึ ไว้หรือ
ปฏิบตั ติ ามและสงิE ใดทีEทา่ นห้ามไว้ ดงั นนัB พวกทา่ นจงหลกี หา่ ง”
นอกจากนี Bยงั มีฮะดีษอีกมากมายทีEกลา่ วถงึ เรEืองนี BฮะดีษทีEรายงานโดยอิหมา่ มบคุ อรีย์
ได้บอกวา่

‫َﺻﻠﱡوا َﻛ َﻣﺎ َرأَ ْﯾﺗُ ُﻣو ِﻧﻲ أُ َﺻ ِﻠّﻲ‬
ความวา่ “พวกทา่ นจงละหมาดเสมือนกบั ทีEเหน็ ฉนั ละหมาด”
ในความเป็นจริงเราไม่เคยเห็นทา่ นนบีละหมาด แตเ่ ราอา่ นเนือB หาจากฮะดีษจงึ สามารถ
รับรู้ได้ว่าท่านนบีละหมาดอย่างไร เราจึงละหมาดตามท่าน มนั เป็นกรอบเป็นข้อมลู พืนB ฐานให้
เรา การทําฮจั ญ์ก็มีแบบฉบบั เชน่ เดียวกนั เป็นฮะดีษทีEรายงานโดยอิหมา่ มมสุ ลมิ ได้ระบวุ า่

62


‫ُﺧذُ ْوا َﻋ ِﻧّ ْﻲ َﻣﻧَﺎ ِﺳ ِﻛﻛُ ْم‬
ความวา่ “จงยดึ การทําฮจั ญ์ของทา่ นจากฉนั ”
หมายความวา่ ให้ยดึ ตามนบีทา่ นทําอยา่ งไรให้เราก็ทําอยา่ งนนัB นอกจากนนัB ในพระมหาคมั ภีร์
อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อลั อะฮ์ซาบ อายะฮ์ทEี T• ได้ระบวุ า่

ٌ‫ أُ ْﺳ َوةٌ َﺣ َﺳﻧَﺔ‬6ِ ‫ﻟَﻘَ ْد َﻛﺎ َن ﻟَﻛُ ْم ِﻓﻲ َرﺳُو ِل ا ﱠ‬

ความวา่ “แท้จริงมีแบบฉบบั ทีEดีงามจากร่อซ้ลู ของอลั ลอฮฺสาํ หรับพวกทา่ น”
นอกจากอลั กรุ อานและฮะดีษแล้วยงั มีคําพดู ของสะลฟั ทEีระบอุ ยใู่ นหนงั สอื ญามีอ้ลุ อลุ มู วลั ฮิกมั
คือ ทา่ นอิบนมุ สั อ๊ดู (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ทา่ นได้บอกวา่

ٌ‫َﻻ ﯾَ ْﻧﻔَ ُﻊ ﻗَ ْو ٌل ِا ﱠﻻ ِﺑﻌَ َﻣ ٍل َو َﻻ ﯾَ ْﻧﻔَ ُﻊ ﻗَ ْو ٌل َو َﻋ َﻣ ٌل ِا ﱠﻻ ِﺑ ِﻧﯾﱠ ٍﺔ َو َﻻ ﯾَ ْﻧﻔَ ُﻊ ﻗَ ْو ٌل َو َﻋ َﻣ ٌل َو َﻻ ﻧَﯾﱠﺔ‬
ُ‫ِا ﱠﻻ ِﺑ َﻣﺎ َواﻓَ َق اﻟ ﱡﺳﻧﱠﺔ‬

ความวา่ “คําพดู หนงึE คําพดู ใดจะไมม่ ีประโยชน์ถ้าหากไมม่ ีการกระทํา และคําพดู ใดและ
การกระทําใดจะไม่มีประโยชน์ถ้าหากไม่มีเหนียต และคําพดู ใดและการกระทําใดและเหนียต
ใดจะไมม่ ีประโยชน์หากไมส่ อดคล้องกบั แบบฉบบั ของทา่ นร่อซ้ลู ”

นอกจากนีแB ล้ว การทEีเราทํากรอบต่างๆ มันทําให้เรามีวิธีคิดแบบอิสลาม ทุกวนั นีเB รา
ได้รับรู้ระบอบการปกครองต่างๆ เข้ามาในสมอง ซึEงทําให้มีปัญหาขัดแย้งกับหลักการของ
อิสลามเพราะวิธีคิดต่างกนั เพราะฉะนนัB นอกจากเราจะต้องทําการศึกษาและศรัทธาในกรอบ
ของอิสลามแล้วยงั ต้องปฏิบตั ิตามด้วยจึงจะเป็นผลทําให้เราคิดแบบเดียวกนั สิEงต่างๆ เหล่านี B
คือ สงิE ทีEทําให้เราใช้ชีวิตในโลกดนุ ยาได้อยา่ งถกู ต้องและไมถ่ กู ดนุ ยาหลอกลวง

สดุ ท้ายนี Bขอให้เราทุกคนมีอีหม่านมากขึนB มีความยําเกรงมากขึนB และให้ทุกคนได้รับ
การอภยั โทษ อามีน

63


เร;ือง มหศั จรรย์ของนําR ซัมซัม

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫َﺻ ًل‬ ‫اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم‬ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
‫ﺑَ ْﻌدُه‬ ‫ أَ ﱠﻣﺎ‬. ‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬

‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬ ‫اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬ ‫ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ‬ ُ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲ‬
‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬ ‫ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم‬ ‫أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم‬ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم‬
‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ(ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแดพ่ ีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ น

ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทีEทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยจู่ นถงึ วนั ศกุ ร์ ทา่ นพEีน้องผ้ศู รัทธาทEี
รักทุกท่าน ท่านทังB หลายจงเกรงกลวั ต่ออัลลอฮฺ แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงลงโทษทEีรุนแรงยEิง
ขอให้พEีน้องทกุ ทา่ นจงปฏิบตั ติ ามทีEพระองค์ทรงสงัE ใช้และหา่ งไกลจากสงิE ทีEพระองค์ทรงห้าม

พีEน้องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่าน เดือนชะอ์บานเป็นเดือนทEีมีความสําคัญมากเนEืองจากมี
ฮะดีษจากท่านหญิงอาอีชะฮ์ (ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา) ได้กล่าวว่า ฉันไม่เคยเห็นท่านศาสดา
มฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้ถือศีลอดเตม็ เดือนในเดือนใด ยกเว้นเดือนรอมฎอน
และฉนั ก็ไมเ่ คยเห็นทา่ นถือศีลอดอยา่ งมากมายในเดือนในเลยนอกจากเดือนชะอ์บาน รายงาน
โดย บคุ อรีย์ – มสุ ลมิ

จากฮะดีษนีชB ีใB ห้เห็นว่าเดือนชะอฺบานเป็นเดือนทEีมีความสําคญั ยEิงเพราะท่านศาสดา
(ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้ถือศีลอดอย่างมาก นอกจากนีชB าวสะลฟั ได้พดู เกีEยวกบั เดือน
นีวB ่า เดือนชะอฺบานเป็นเดือนแห่งนักอ่านอลั กุรอานโดยทEีพวกเขาจะหยุดการค้าขายและเรEิม
อ่านอัลกุรอานกัน ท่านอบูบักรอัลบัลคีได้กล่าวว่า เดือนรอยับเป็นเดือนแห่งการเพาะปลูก
เดือนชะอฺบานเป็นเดือนแห่งการรดนําB และเดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการเก็บเกEียว คําพูด

64


ของท่านมีความหมายหรือนัยยะทีEสําคัญว่าจะต้ องเตรียมตัวเข้าสู่รอมฎอนโดยเฉพาะ
ชาวสะลฟั พวกเขาจะเตรียมตวั ตงัB แต่เดือนรอยบั ซงEึ ถือว่าเป็นเดือนแห่งการเพาะปลกู โดยเรEิมทEี
จะหาเมล็ดพนั ธ์ หาคณุ งามความดีทEีจะเตรียมตวั เข้าส่รู อมฎอนและเดือนชะอฺบานเป็นเดือน
แห่งการรดนําB คือการวอร์มอพั หรือวอร์มเครืEองก่อนทEีจะเข้าสรู่ อมฎอน และย้อนมาดพู วกเราว่า
เรามีการบวชสุนัตกันบ้างหรือไม่... สําหรับอิบาดะฮฺอEืนทEีเราสามารถทําได้ มีฮะดีษหนึEงทีE
รายงานโดยท่านมอุ าซ(ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ได้กล่าวว่า ในช่วงกลางเดือนของเดือนชะอฺบานหรือ
นิซฟูชะอฺบาน พระองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) จะทรงทอดพระเนตรลงมาทีEบ่าวของ
พระองค์ แล้วพระองค์จะทรงอภยั โทษให้กบั ทุกคนยกเว้นคนทีEตงัB ชีริกหรือตงัB ภาคีกบั พระองค์
และคนทีEกริวB โกรธกบั พีEน้องของเขา ฮะดีษนีชB ดั เจนว่าอลั ลอฮฺได้ให้ความสําคญั กบั กลางเดือน
ชะอฺบานเป็นอย่างยEิง เพราะฉะนันB ให้เราลองนึกดูว่า เราโกรธเคืองพEีน้องของเราอยู่หรือไม่
ให้เราขอมาอฟั ซงEึ กนั และกนั แตอ่ ย่างไรก็ตาม ในคEําคืนนิซฟชู ะอฺบานไม่ปรากฎหลกั ฐานทEีจะมี
พิธีกรรม มีการอ่านซูเราะฮ์ทEีชัดเจน ขอดุอาอฺทEีชัดเจน และไม่มีอุลามะฮ์บอกว่ามีหลักฐาน
ทีEแน่ชัดในพิธีกรรมเฉพาะหรืออิบาดะฮฺเฉพาะเหล่านี BเพราะฉะนันB เราสามารถขอดุอาอฺหรือ
ทําอิบาดะฮฺอะไรก็ได้ทEีไมใ่ ชอ่ ิบาดะฮฺเฉพาะทEีทําเหมือนกนั ทกุ ๆ ปี

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่าน เมืEอเดือนรอมฎอนจะเข้ามาถึงเรา เราสํารวจตัวเอง
หรือไม่ว่าเราพร้อมทEีจะเข้าสรู่ อมฎอนซงึE เป็นเดือนทีEมีการทดสอบอย่างยิEงใหญ่ เราพร้อมขนาด
ไหน เราดีใจหรือเสียใจเมEือเดือนรอมฎอนเข้ามา บางคนบอกว่าดีใจบางคนบอกว่าไม่แน่ใจ
ถ้าเราไม่ดีใจหรือเฉยๆ ถ้าเดือนรอมฎอนมา เราก็จะบวชเหมือนกบั ภาระทีEหนกั องึ B เราคิดอย่าง
นนัB หรือ เราไมต่ งัB ตาคอยรอมฎอนทีEจะเข้ามาหรือ?

ปัจจบุ นั พEีน้องคนไทยพวกเขามีการตงัB ตาคอยแตไ่ มใ่ ชเ่ รEืองศาสนาคือการทีEจะถงึ วนั ศกุ ร์
รอคอยทีEจะได้หยุดเสาร์อาทิตย์ เมืEอไหร่จะได้ดูละคร ซีรีย์ และยEิงกว่านันB มีการนําชEือของตวั
ละครไปตงัB ชืEอลกู ล่าสดุ ทีEกระทรวงมหาดไทยบอกว่ามีคนนําชEือในละครไทยไปตงัB ชืEอเป็นพนั ๆ
คน นEีคือปรากฎการของคนไทย สEิงเหล่านีเB ป็นสEิงทEีชีใB ห้เห็นว่า เราในฐานะมสุ ลิมเราจะต้องมี
ความหวงั หรือตงัB ใจทีEจะทําความดีในเดือนรอมฎอนทEีจะมาถึงเรา เราเตรียมความพร้อมหรือ
วอร์มอพั ในเดือนชะอ์บานคือการถือศีลอดสนุ ตั เราอ่านกรุ อาน และให้เราตงัB เหนียตในการทํา

65


อิบาดะฮฺกบั เดือนรอมฎอนทEีจะมาถึง ชีวิตนีเBป็นเพียงการทดสอบ เราเปรียบเสมือนคนเดินทาง
ทีEจะต้องสะสมสะเบียงเพEือไปอยใู่ นโลกอาคีเราะฮ์เทา่ นนัB ไม่จําเป็นต้องทําสEิงทEีเป็นถาวรในโลก
นีมB ากนกั

เมEือพูดถึงเรืEองการเดินทางเราสามารถไปยุโรป ญีEป่ ุน เกาหลี แต่ในอิสลามได้มีการ
กําชบั ให้เดินทางไปยงั สถานทEี b แห่ง มีฮะดีษทีEรายงานโดยท่านอบูฮุรอยเราะฮ์(ร่อฎิยลั ลอฮุ
อนั ฮ)ุ ได้เลา่ วา่ ทา่ นร่อซ้ลู (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั )ได้กลา่ ววา่

‫ َوا ْﻟ َﻣ ْﺳ ِﺟ ِد اَ ْﻷَ ْﻗ َﺻﻰ‬,‫ َو َﻣ ْﺳ ِﺟ ِدي َھذَا‬,‫ اَ ْﻟ َﻣ ْﺳ ِﺟ ِد اَ ْﻟ َﺣ َرا ِم‬:َ‫َﻻ ﺗُ َﺷدﱡ اَﻟ ِّر َﺣﺎ ُل ِإ ﱠﻻ ِإﻟَﻰ ﺛَ َﻼﺛَ ِﺔ َﻣ َﺳﺎ ِﺟد‬

ความว่า “ไม่มีการกําชบั ให้พวกเราเดินทางไปยงั เมืองใดเมืองหนึEงเว้นแต่ b มสั ยิด คือ
มสั ยิดฮารอมและมสั ยิดนะบะวีและมสั ยิดอกั ซอ”

และมีอีกฮะดีษหนEึงความว่า มี V เมืองทEีเป็นเมืองแห่งสวรรค์ คือ เมืองมักกะฮ์ เมือง
มะดีนะฮ์ เมืองดามสั กสั เมืองเยรูซาเลม็

ข้าพเจ้าจะเล่าเหตกุ ารณ์หนึEงทEีเคยไปทําอมุ เราะฮ์และได้ไปเยEียมเยียนทEีมสั ยิดอกั ซอ
และมีหลายๆ สิEงทีEได้ประสบมาแล้วรู้สึกประทับใจ โดยมีทังB เรืEองดีและเรืEองไม่ดี กลุ่มของ
ข้าพเจ้าถูกกักตวั ทEีด่านระหว่างประเทศจอร์แดนกับอิสราเอลเป็นเวลานานถึง b ชวัE โมง ส่วน
ใหญ่เขาจะกกั พวกวยั รุ่นว่ามาทําอะไร ทงัB ๆ ทEีเรามีวีซ่าชดั เจนแต่ก็ถกู กกั ซEึงทําให้เราเข้าไปได้
อยา่ งยากลําบาก แตใ่ นทEีสดุ เขาก็ปลอ่ ย ในระหวา่ งรอคอยคนทีEถกู กกั ก็ได้เห็นการละหมาดของ
ชาวปาเลสไตน์ซEึงเป็นลูกจ้างของพวกอิสราเอล พอถึงเวลาชาวปาเลสไตน์ก็จะละหมาดบน
ฟุตบาทเพราะไม่มีห้ องละหมาดแต่พวกอิสราเอลจะไม่อยากให้ ละหมาดบนฟุตบาทเพราะ
เกะกะขวางทาง ไมเ่ รียบร้อย โดยการไลห่ รือเอาปืนขแู่ ตพ่ วกปาเลสไตน์ก็จะไมส่ นใจ ก็เป็นภาพ
ตราตรึงใจทEีชาวปาเลสไตน์ละหมาดแล้วมีปืนจ่ออยู่ ครันB เมEือได้เข้าสเู่ มืองเยรูซาเล็มผลปรากฎ
ว่าเขาก็ไม่ได้กีดกันคนต่างชาติ และข้าพเจ้าก็ได้มีโอกาสละหมาดทีEมัสยิดอักซอ และได้มี
โอกาสไปทีEเบตเลเฮ็มซงึE เป็นเมืองของบ้านพอ่ ค้าเนือB และได้ไปสถานทEีทEีทําการประหารพระเยซู
ซEึงทEีนันB ชาวคริสและชาวมุสิลมก็อยู่ร่วมกันอย่างสนั ติเหมือนกับบ้านเราทีEชาวพุทธและชาว

66


มุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างสนั ติ นีEคือประสบการณ์ในบ้านเมืองทEีท่านนบีท(ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิ
วา่ สลั ลมั ) ได้สง่ เสริมให้มสุ ลมิ เดนิ ทางไปเยีEยมเยียน

พีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ หลงั จากทีEเราได้ทําการต้อวาฟแล้ว เราจะดืEมนําB ซําซํา
และมีดอุ าอฺให้อ่าน ท่านรู้หรือไม่ว่าการดEืมนําB ซําซํามีความสําคญั ขนาดไหน และเป็นพิธีกรรม
ในการอา่ น โดยอา่ นวา่

‫اﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم ِإ ِﻧّﻲ أَ ْﺳﺄَﻟُ َك ِﻋ ْﻠ ًﻣﺎ ﻧَﺎ ِﻓﻌًﺎ َو ِر ْزﻗًﺎ َوا ِﺳﻌًﺎ َو ِﺷﻔَﺎ ًء ِﻣ ْن ﻛُ ِّل دَا ٍء‬

ความว่า “โอ้อัลลอฮฺขอพระองค์ทรงโปรดประทานความรู้ทEียังประโยชน์และริสกีทEี
กว้างขวางและโปรดประทานยาทEีรักษาทกุ โรค”

เมืEอได้ศึกษาเรEืองการรักษาตามแบบฉบบั อิสลามพบว่าอิสลามเน้นเรืEองป้องกนั ไม่ใช่
เน้นเรEืองการรักษาเพราะทุกอย่างทEีกําหนดเป็นอิบาดะฮฺและทุกอย่างทีEเราปฏิบัตินันB คือการ
บําบดั โรคทงัB หมดไม่ว่าจะเป็นโรคทางกายหรือโรคทางใจหรือโรคทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นการ
ห้ามในเรืEองการกินของบางอย่าง เช่น สุกร เลือด เหล้า สEิงทีEอนุญาตให้กินก็ล้วนเป็นสิEงทีEดี
การรับประทานอินทผลมั ก่อนการละศีลอด การดEืมนําB ซําซํา การอาบนําB ละหมาด การอาบนําB
วนั ศุกร์ การละหมาด ล้วนเป็นสEิงทEีเป็นประโยชน์กับมนุษย์ทงัB หมด ไม่ได้ทําให้เป็นประโยชน์
ตอ่ อลั ลอฮฺแตอ่ ยา่ งใด เพียงแตม่ นษุ ย์ไมร่ ู้

ตัวอย่างท)ี * จากคนทEีดEืมนําB ซําซําคือ ดร. ฟารุก อันตัร เขาเป็นก้อนนิEวขนาดใหญ่
ในกระเพาะปัสสาวะซึEงหมอวินิจฉัยว่าไม่สามารถรักษาได้เพราะไม่สามารถใช้อัลตร้ าโซนิค
ในการทําลายก้อนนEิวนนัB ได้จะทําได้ด้วยกบั การผา่ ตดั เทา่ นนัB และเขาลงั เลทีEจะผา่ ผลสรุปวา่ เขา
ไปทําอมุ เราะฮ์ได้ทําการต้อวาฟ สะแอ ได้จบู หินดําและได้ดืEมนําB ซําซํา และหลงั จากนนัB เขาได้
พกั ทEีทีEพกั เขารู้สกึ เสียวทีEกระเพาะปัสสาวะของเขาและได้เข้าห้องนําB และได้ฉEีออกมาผลปรากฏ
วา่ นิEวได้ออกมาด้วย และนEีคือความยิEงใหญ่ของอลั ลอฮฺทEีรักษาโรคได้โดยไมต่ ้องผา่ ตดั

ตัวอย่างท)ี + เป็นหญิงสาวชาวโมร็อคโคชืEอว่า ลยั ลา อลั ฮิเลา เธอเป็นมะเร็งทEีเต้านม
ซงEึ แพทย์ได้ลงความเห็นว่าเธอเป็นมะเร็งในระยะทEีแพร่ไปทวัE ทรวงอกแล้วและเหมือนจะรักษา
ไมไ่ ด้แล้ว สามีจงึ แนะนําให้ไปทําอมุ เราะฮ์ และเธอไมไ่ ด้ทําสงEิ ใดเลย เธออยทู่ Eีฮารอมอยา่ งเดียว

67


และขอดอุ าอฺ ละหมาด อ่านอลั กรุ อาน ซิกรุ้ลลอฮ กินนําB ซําซํา ทกุ วนั เธอจะกินขนมปังหนึEงชินB
และไข่หนEึงฟอง เธอทําอย่างนีไB ด้ V – U วนั และได้รู้สึกว่าตวั เองมีความผิดปกติทางร่างกาย
เธอพบว่ารอยชําB ทEีเคยมีได้หายไป และเมEือเสร็จสินB การทําอุมเราะฮ์เธอได้เดินทางไปยังกรุง
ปารีสเพืEอให้หมอตรวจเช็ค ผลปรากฎว่าตวั เธอไม่มีเซลล์มะเร็งหลงเหลืออยู่เลย นEีก็คือความ
ยิEงใหญ่ของอลั ลอฮฺทีEทรงรักษาบา่ วของพระองค์เนEืองด้วยบา่ วของพระองค์ได้มีความศรัทธาตอ่
พระองค์อยา่ งแนว่ แน่

สEิงเหล่านีเB ป็ นอุทาหรณ์ให้ เราได้เห็นเป็ นตัวอย่างให้ พวกเราได้เกิดความยําเกรง
ต่ออลั ลอฮฺเพราะแท้จริงสิEงทEีได้วะฮีย์มายงั ท่านศาสดา (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) นนัB เป็น
สจั จธรรมและท่านศาสดาก็ไม่ได้กล่าวสEิงใดยกเว้นเป็นสจั ธรรมเท่านนัB สดุ ท้ายนีขB อดอุ าอฺจาก
เอกองค์อลั ลอฮฺ(ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ให้ข้าพเจ้าและพีEน้องผู้ศรัทธาทุกท่านได้รับฮิดายะฮ์
ทEีถกู ต้องและขอให้พวกเราได้รับความสขุ ทงัB โลกนีแB ละโลกหน้าและให้พ้นจากไฟนรก อามีน

68


เร;ือง ประชาชาตอิ สิ ลามยุคสุดท้าย

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫُ اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم َﺻ ًل‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
‫ أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌدُه‬٠ ‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬

‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬٠‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬
‫اﺎﻟ َو َﱠﺷفَْﯾر َﻣ َﺳُطﻘَﺎﺎوﻟََِمنﮫُاَرﻟﻓَ ِﺑّﻘَﱠرِﮫْد ِﺟَﻓَوﯾﺎﻧَم َ َزﮭ ﻓَﻓَﻰْﺄَواﱠﻣﻟًﺎزﻧﱠاْﻔ َﻣ َﻋَنس ِظﯾَطَﻋ ًﻣﻐَِﺎنﻰ‬6َ‫ﻣمﻊِِْﻣنا َنﱠَﺧ‬Dَِ‫ذُِﻧُز َﻲو َﻋاﺑَﺎْﻟ َﺻﻛَُﻣْدَمﺄْت َ َوۗق◌أَىَﻋُوﷲُ َوﻣَاوذﻟُأَنﻌَِﺑﱠﻣﯾﺎُﺎ ِظِطْﯾ‬٠‫اﯾَﻓَُ ْﻟوﻘَآ َﮭْدﺛََْﺻ َوِﻠﻗَرﺎ ْاﺢىَْﻟلﻟَ َﺣﻓَﻛُﺈﯾِ ْمﺎﷲُ ﱠةنَأَﺗَاا ْْﻌﻟَﻋﻟﺎَدﱡﻣﻟََﺟْﻧﺎﻧﱠﯾَﻟَﻰﺎﺔَﻛُ ِﻓْﻓَمﺈِِھ َﻲ ﱠونَﻲﯾَااﺳُْﻐْﻟْﻟِْﻔوََﻣﺟْ َرﺄْرِ َﺣﻟَِةوﯾﻛُاَمﻟْىمﻧﱠﺎِھ‬

ขอความสขุ ความสนั ติความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทีEทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถงึ วนั ศกุ ร์

ท่านพEีน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ วนั นีเB ป็นสปั ดาห์สุดท้ายของเดือนชะอฺบานซึEงมี
ภารกิจอนั ยEิงใหญ่และสําคญั ยEิงของมวลมนษุ ยชาติ ทEีคนทงัB โลกต้องปฏิบตั ิกนั และเป็นภารกิจ
ประจําปีซงEึ จะมีปีละหนึEงครังB นนEั คือ การถือศีลอดตลอดทงัB เดือนซงึE เป็นภารกิจทEีมีการทดสอบ
อนั ยิEงใหญ่และมีการตอบแทนทEีมหาศาล ด้วยเหตุนีเB ราจึงต้องมีการเตรียมตวั ข้าพเจ้าขอตงัB
คําถามวา่ ก่อนทEีนกั กีฬาจะทําการแข่งขนั เขาจะต้องเตรียมตวั และฝึกซ้อมกนั ขนาดไหน บางคน
ฝึกซ้อมเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปีเพราะการแข่งไม่ได้จดั บ่อย และก่อนแข่งเขาก็ต้องมี
การวอร์มอฟั ร่างกายทงัB นีเBพืEอให้ร่างกายพร้อมอยตู่ ลอดเวลามิเช่นนนัB ก็อาจจะทําผลงานได้ไมด่ ี
ด้วยเหตนุ ี BภารกิจทีEยิEงใหญ่ในเดือนหน้าเป็นภารกิจทEีเราต้องถกู ทดสอบและเราต้องอดทนทงัB
กายวาจาและจิตใจ ทังB นีเB ราจึงต้องมีการวอร์มอัฟร่างกาย ในยุคสมัยสะลฟั บรรดาสะลฟั ได้
ปฏิบตั ิตามแนวทางของท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) เนEืองจากมีฮะดีษ
ทEีรายงานว่าท่านศาสดาถือศีลอดสนุ ตั มากเป็นพิเศษในเดือนชะอฺบานเพราะฉะนนัB ก็เป็นสนุ ตั

69


ให้เราถือศีลอดสนุ ัตยกเว้นช่วงท้ายๆ ของเดือนทีEมีการสงสยั ในเรืEองการดูเดือน เพราะฉะนันB
ชาวสะลฟั จะทําการถือศีลอดวอร์มอฟั ร่างกายตงัB แต่เดือนรอยบั ซงึE เป็นเดือนแห่งการเพาะปลกู
และเดือนชะอฺบานเป็นเดือนแห่งการรดนําB และเดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการเก็บเกีEยว ถาม
ว่าเราได้เพาะปลกู หรือไม่ เราได้รดนําB หรือไม่ หรือเราจะเก็บเกEียวเลยเมEือรอมฎอนเข้ามาเราก็
บวชเลย นEีคือการไม่ได้เตรียมตวั ตามแบบฉบบั ของท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ
วา่ สลั ลมั )

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ การทEีเราได้ปฎิบตั ิอะม้าลอิบาดะฮฺทงัB หลายมนั มี
ความโปรดปรานอย่างมากมาย ถามว่าทําไมอลั ลอฮฺต้องกําหนดให้เราต้องถือศีลอดในเดือน
รอมฎอนของทกุ ๆ ปี การถือศีลอดไม่ได้เป็นประโยชน์ตอ่ สEิงอEืนใดเลยนอกจากตวั ของมนษุ ย์เอง
สEิงทEีอัลลอฮฺได้กําหนดไว้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นภารกิจประจําวันคือละหมาด ภารกิจประจํา
อาทิตย์คือละหมาดวนั ศกุ ร์ ภารกิจประจําปีคือการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ล้วนแล้วแต่เป็น
ประโยชน์ต่อมนุษย์ทังB สินB เพียงแต่เราไม่รู้ประโยชน์ของมัน และทุกอย่างแม้แต่บททดสอบ
ทEีเกิดขึนB ในทุกวันนีลB ้วนแล้วแต่เป็ นเจตจํานงของพระองค์ทีEทรงอนุมัติให้ มาทดสอบเรา
บททดสอบคือเครืEองช่วยทEีทําให้เรากลับมาสู่แนวทางทีEเทEียงแท้ คือ การกลับมาหาอัลลอฮฺ
(ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) คราใดก็ตามทีEเราเหินห่างจากแนวทางของอลั อิสลามแล้ว บททดสอบ
จะเกิดขึนB เพืEอดึงเราให้ กลับมาสู่แนวทางทEีถูกต้ องและใกล้ ชิดต่อพระองค์มากยิEงขึนB
เพราะฉะนันB บททดสอบจึงเป็นสิEงทEีสําคญั ยEิงสําหรับพวกเรา เราคงไม่ปล่อยผ่านบททดสอบ
ทEีเกิดขึนB กับพวกเราโดยไม่รู้สึกอะไร และเหตุการณ์ทEีเกิดขึนB ล้วนแล้วแต่เป็นบททดสอบทีEจะ
พิสจู น์วา่ ใครจะปฏิบตั อิ ะม้าลอิบาดะฮฺทีEดีกวา่ กนั นนEั เอง

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ นอกจากเราจะปฏิบตั ิอะม้าลอิบาดะฮฺของเราไม่วา่
จะเป็นการละหมาดหรือการถือศีลอด นอกจากเราจะได้กับตัวเองแล้วเรายังได้ใกล้ชิดกับ
พระองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) มากขึนB โดยเฉพาะอย่างยEิงคือการละหมาดและการทEี
เราปฎิบตั ิตามแบบฉบบั ของท่านร่อซู้ล (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ยEิงทําให้เรารู้สกึ ว่าท่าน
อยู่ใกล้กับเรามาก พวกเราเป็นประชาชาติทEีห่างจากท่านถึง •VWW ปี เราไม่เคยเห็นหน้าท่าน
เราไม่เคยได้ยินคําพดู ท่าน แต่เราปฏิบตั ิตามท่าน มีเพียงบรรดาซ่อฮาบะฮ์เท่านนัB ทีEได้เห็นและ

70


ได้พดู คยุ กบั ท่าน เราได้แต่ปฏิบตั ิตามคําพดู การปฏิบตั ิและการยอมรับของท่านผ่านอลุ ามะอ์
หรือนกั วิชาการทีEได้ส่งทอดความรู้ต่างๆ มาถึงเรา และเราก็ปฏิบตั ิกนั ทวEั โลก เพราะฉะนนัB การ
ปฏิบตั ิต่างๆ ทEีอลั ลอฮฺได้ทรงกําหนดขนึ B มนั ทําให้เราได้ประโยชน์และได้ใกล้ชิดกบั พระองค์และ
การเห็นภาพของท่านร่อซู้ล (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ทEีเป็นต้นแบบและแบบฉบบั ทีEดีงาม
ของเรา

ท่านพEีน้องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ เมืEอพูดถึงเรEืองท่านศาสดา (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิ
วา่ สลั ลมั ) เป็นแบบฉบบั ของเราแล้ว เราในฐานะอมุ มะฮ์ของทา่ นซงึE อลั ลอฮฺได้ทรงตรัสยกยอ่ งไว้
ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อลั อนั บยิ าอฺ อายะฮ์ทEี gT ได้ระบวุ า่

‫ِإ ﱠن ٰ َھ ِذ ِه أُ ﱠﻣﺗُﻛُ ْم أُ ﱠﻣﺔً َوا ِﺣدَةً َوأَﻧَﺎ َرﺑﱡﻛُ ْم ﻓَﺎ ْﻋﺑُدُو ِن‬

ความว่า “แท้จริงประชาชาติของพวกท่านนีเB ป็นประชาชาติเดียวกันและข้า (อลั ลอฮฺ)
เป็นผ้อู ภิบาลของพวกทา่ น จงอิบาดะฮฺตอ่ ข้า”

และอีกอายะฮ์หนงึE ทีEมีสาํ นวนคล้ายกนั

‫َو ِإ ﱠن ٰ َھ ِذ ِه أُ ﱠﻣﺗُﻛُ ْم أُ ﱠﻣﺔً َوا ِﺣدَةً َوأَﻧَﺎ َرﺑﱡﻛُ ْم ﻓَﺎﺗﱠﻘُو ِن‬

ความวา่ “และแท้จริงประชาชาตขิ องพวกทา่ นนีเBป็นประชาชาตเิ ดียวกนั และข้า (อลั ลอฮฺ)
เป็นผ้อู ภิบาลของพวกทา่ น จงยําเกรงตอ่ ข้า”

ความหมายของทงัB T อายะฮ์นีชB ีใB ห้เห็นถึงความผูกพนั ระหว่างมอุ ฺมินด้วยกันในฐานะ
ทีEเป็ นประชาชาติเดียวกัน แม้ ว่าจะมีบางทัศนะทีEเห็นแตกต่างกัน แต่อย่างน้ อยทEีสุด
ท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ท่านเป็นศาสดาองค์สดุ ท้าย เพราะฉะนนัB
พวกเราจึงเป็นประชาชาติของท่าน มนั คือประชาชาติเดียวกนั ทงัB หมดทีEทําตามแบบฉบบั ของ
ท่าน ร่อซู้ล (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) โดยไม่ต้องสงสัย นอกจากนี B ในพระมหาคัมภีร์
อลั กรุ อานยงั กลา่ วถงึ เรEืองประชาชาตอิ ีกในซเู ราะฮ์อลั บากอเราะฮ์ อายะฮ์ทEี •Vb ได้ระบวุ า่

‫َو َﻛ ٰذَ ِﻟ َك َﺟﻌَ ْﻠﻧَﺎﻛُ ْم أُ ﱠﻣﺔً َو َﺳ ًطﺎ ِﻟّﺗَﻛُوﻧُوا ﺷُ َﮭدَا َء َﻋﻠَﻰ اﻟﻧﱠﺎ ِس َوﯾَﻛُو َن اﻟ ﱠرﺳُو ُل َﻋﻠَ ْﯾﻛُ ْم َﺷ ِﮭﯾدًا‬

71


ความวา่ “และในทํานองเดียวกนั (นําทางพวกเราสทู่ างทEีเทีEยงตรง) เรา (อลั ลอฮฺ) ได้ทําให้
พวกเจ้านนัB เป็นประชาชาติสายกลางเพืEอทEีจะเป็นสกั ขีพยานแก่บรรดามนษุ ยชาติทงัB หลายและ
ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) คือ ร่อซ้ลู ซงึE เป็นสกั ขีพยานให้กบั พวกเรา”

จากอายะฮ์นีชB ีใB ห้เห็นถึงความสําคญั หรือความพิเศษของประชาชาติของท่านศาสดา
มูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) ว่าเป็ นประชาชาติทีEดีงาม เป็ นประชาชาติทEี
ถกู คดั เลือก เป็นประชาชาติทEีดีเลิศ เป็นประชาชาติทEีมีความสมดลุ ไม่ว่าจะเป็นเรืEองอะกีดะฮ์
เรืEองชะรีอะฮ์หรือเรEืองอคั ลาก เช่น การศรัทธาว่าอลั ลอฮฺเป็นพระเจ้าองค์เดียวซงEึ มีความสมดลุ
เนEืองจากมีหลายประชาชาติทEีเชEือว่าอัลลอฮฺมีหลายองค์ เช่น สมัยกรีกหรือโรมัน
บางประชาชาติก็สดุ โต่ง หรือบางประชาชาติก็หย่อนยานจนไม่เชืEอว่ามีพระเจ้า เพราะฉะนันB
การเชืEอวา่ มีพระเจ้าองค์เดียวก็คือความสมดลุ หรือความเทีEยงตรงทEีอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะอา
ลา) ได้ทรงกําหนดไว้ นอกจากนีเBรืEองชะรีอะฮ์ เรืEองการปฏิบตั ิตนหรือเรEืองศาสนาก็ล้วนแล้วแต่
มีความสมดลุ ตวั อย่างเช่นการใช้ชีวิตอย่ใู นโลกนีหB รือโลกหน้า เราไม่ได้ม่งุ เน้นวา่ เป็นโลกนีหB รือ
โลกหน้า แต่เรามีความสมดุลทังB T โลกว่าเราต้องใช้ชีวิตด้วยการทําดีทังB โลกนีแB ละโลกหน้า
แตถ่ ้าเมEือเทียบกนั แล้วโลกหน้าจะต้องสาํ คญั ยEิง ซงึE ในซเู ราะฮ์อนั นาซอิ าต ได้กลา่ วไว้วา่

‫ﻓَﺄَ ﱠﻣﺎ َﻣن َطﻐَﻰ َوآﺛَ َر ا ْﻟ َﺣﯾﺎةَ اﻟدﱡ ْﻧﯾَﺎ ﻓَﺈِ ﱠن ا ْﻟ َﺟ ِﺣﯾ َم ِھ َﻲ ا ْﻟ َﻣﺄْ َوى َوأَ ﱠﻣﺎ َﻣ ْن َﺧﺎ َف َﻣﻘَﺎ َم َر ِﺑّ ِﮫ‬
‫َوﻧَ َﮭﻰ اﻟﻧﱠ ْﻔ َس َﻋ ِن ا ْﻟ َﮭ َوى ﻓَﺈِ ﱠن ا ْﻟ َﺟﻧﱠﺔَ ِھ َﻲ ا ْﻟ َﻣﺄْ َوى‬

ความว่า “ดงั นนัB ส่วนผ้ทู ีEได้ละเมิดและเห็นความสําคญั ของชีวิตในโลกนีมB ากกว่า ดงั นนัB
ไฟนรกทEีลกุ โชติช่วงนนัB จะเป็นทEีพํานกั ของพวกเขา และสว่ นบรรดาผ้ซู งึE มีความเกรงกลวั ตอ่ การ
ยืนต่อหน้าพระองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ในวนั ตดั สินและเขาหกั ห้ามใจจากอารมณ์
ใฝ่ ตํEา กิเลส ความต้องการต่ออารมณ์ใคร่ ดงั นันB แท้จริงสรวงสวรรค์จะเป็นทEีพํานักของพวก
เขา”

เพราะฉะนันB จะเห็นได้ว่า มุอฺมินทEีดี คือ คนทีEให้ความสําคัญทังB สองโลก แต่ทว่าโลก
อาคีเราะฮ์นนัB สําคญั ยิEง โลกดนุ ยานีไB มใ่ ช่โลกแหง่ การตอบแทน แตเ่ ป็นโลกของการทดสอบ โลก
อาคีเราะฮ์ต่างหากคือโลกแห่งการตอบแทน เราอย่าลืมตรงนีเB พราะเราต้องใช้ชีวิตอย่ใู นโลกนี B

72


เราเข้าใจว่าความสขุ ในโลกนีคB ือของจริง แต่ว่ามนั ไม่จีรัง นกั วิชาการได้เปรียบเทียบโลกดนุ ยา
เหมือนกบั นําB เค็ม กลา่ วคือ ยิEงกินยEิงกระหาย นEีแหละ่ คือความสขุ ในโลกนี Bมีคนมากมายในโลก
ดนุ ยานีทB Eีไมร่ ู้จกั พอทงัB ตําแหน่ง ทงัB ทรัพย์สนิ ทงัB ชืEอเสียงเกียรติยศ เพราะฉะนนัB จงึ ขอตกั เตือนให้
พีEน้องได้ตระหนกั ข้อความคดิ ในเรืEองนีใB ห้มาก

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ อลั กุรอานอีกอายะฮ์หนEึงทEีได้กล่าวถึงประชาชาติ
ของศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ในซูเราะฮ์อาละอิมรอน อายะฮ์ทEี ••W
ได้ระบวุ า่

6ِ ‫ﻛُﻧﺗُ ْم َﺧ ْﯾ َر أُ ﱠﻣ ٍﺔ أُ ْﺧ ِر َﺟ ْت ِﻟﻠﻧﱠﺎ ِس ﺗَﺄْ ُﻣ ُرو َن ِﺑﺎ ْﻟ َﻣ ْﻌ ُرو ِف َوﺗَ ْﻧ َﮭ ْو َن َﻋ ِن ا ْﻟ ُﻣﻧ َﻛ ِر َوﺗُ ْؤ ِﻣﻧُو َن ِﺑﺎ ﱠ‬

ความว่า “พวกท่านคือประชาชาติทEีดีทีEสดุ ทEีได้อบุ ตั ิขึนB ท่ามกลางมนษุ ยชาติโดยทีEพวก
ทา่ นใช้ให้ปฏิบตั สิ งEิ ทEีเป็นความดีและห้ามกนั ในสงEิ ทEีเป็นความชวEั และศรัทธาตอ่ อลั ลอฮฺ”

อายะฮ์นีชB ีใB ห้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างประชาชาติอืEนๆ ทังB นี B เนืEองจากศาสดา
มูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) นอกจากจะเป็นมหาบุรุษผู้ทรงอิทธิพลมากทEีสุด
ในโลกเพราะมีคนปฏิบตั ิตามเป็นพนั ล้านคนแล้ว ประชาชาติของท่านย่อมเป็นประชาชาติทีEดี
เลิศทีEสดุ อีกด้วย และอลั ลอฮฺได้ทรงตรัสรับรองไว้ในอลั กรุ อาน ทงัB นีเBพราะวา่ เป็นประชาชาติทEีมี
การตกั เตือนกนั โดยเฉพาะอย่างยEิงการตกั เตือนในเรืEองการใช้ให้กระทําความดีซงึE เราทําได้อยู่
แล้ว แตท่ Eีสําคญั คือการตกั เตือนกนั หรือหกั ห้ามกนั ไมใ่ ห้ทําความชวEั อนั นีตB ้องใช้ความกล้าหาญ
เมืEอเราเจอคนทEีกระทําความชEัวอยู่ตรงหน้า เรากล้าทEีจะไปตักเตือนเขาหรือไม่ ซึEงมันยาก
มากกวา่ การใช้ให้คนทําความดี นกั วิชาการได้ยกฮะดีษมาอธิบายอายะฮ์อลั กรุ อานนีเBป็นฮะดีษ
ทEีรายงานโดย ทา่ นอะบีซะอ«ีดอลั คดุ รีEย์ (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ได้ระบวุ า่

‫َﻣ ْن َرأَى ِﻣ ْﻧﻛُ ْم ُﻣ ْﻧ َﻛ ًرا ﻓَ ْﻠﯾُﻐَ ِﯾّ ْرهُ ِﺑﯾَ ِد ِه ﻓَﺈِ ْن ﻟَ ْم ﯾَ ْﺳﺗَ ِط ْﻊ ﻓَ ِﺑ ِﻠ َﺳﺎ ِﻧ ِﮫ ﻓَﺈِ ْن ﻟَ ْم ﯾَ ْﺳﺗَ ِط ْﻊ ﻓَ ِﺑﻘَ ْﻠ ِﺑ ِﮫ‬
‫َوذَ ِﻟ َك أَ ْﺿﻌَ ُف ا ِﻹﯾ َﻣﺎ ِن‬

ความว่า “ผู้ใดก็ตามทีEได้พบเห็นความชัEว ท่านจงเปลEียนแปลงมันด้วยมือของท่าน
ถ้าหากท่านทําไม่ได้ ดังนันB จงเปลEียนแปลงด้วยกับลินB ของท่าน ถ้าหากท่านทําไม่ได้ ดังนันB
จงใช้หวั ใจ (ขอดอุ าอฺหรือสงบนิEง) นนEั แหละ่ คือขนัB ออ่ นสดุ ของการศรัทธา”

73


นัยยะตรงนีสB ําคญั มากเพราะไม่มีศาสนาใดบอกให้ห้ามกันหรือยบั ยงัB กันด้วยมือ คือ
ให้ลงมือทําเมืEอเหน็ ความชวEั เมืEอเหน็ คนกินเหล้า เมEือเหน็ คนเลน่ การพนนั ตรงนีเBป็นสงEิ ทEีสาํ คญั
ยEิง และทีEสําคัญเราต้องตักเตือนกันโดยใช้วิธีการตามทีEมีหลกั ฐานจากอัลกุรอานหรือฮะดีษ
เทา่ นนัB เชน่ ในซเู ราะฮ์อนั นะหฺล์ อายะฮ์ทีE •TU ได้ระบวุ า่

◌ۖ ‫ا ْدعُ ِإﻟَ ٰﻰ َﺳ ِﺑﯾ ِل َر ِﺑّ َك ِﺑﺎ ْﻟ ِﺣ ْﻛ َﻣ ِﺔ َوا ْﻟ َﻣ ْو ِﻋ َظ ِﺔ ا ْﻟ َﺣ َﺳﻧَ ِﺔ‬
‫َو َﺟﺎ ِد ْﻟ ُﮭم ِﺑﺎﻟﱠ ِﺗﻲ ِھ َﻲ أَ ْﺣ َﺳ ُن‬

ความว่า “จงเรียกร้ องไปสู่หนทางของพระผู้อภิบาลของท่านด้วยกับฮิกมะฮ์หรือ
วิทยปัญญาและข้อตกั เตือนทีEดีงาม และโต้แย้งด้วยสงEิ ซงึE ทีEดีทีEสดุ ”

มีคําถามว่าทําไมการตักเตือนจึงต้องใช้ฮิกมะฮ์เพราะว่ามนุษย์เป็นสตั ว์ทEีมีความคิด
มีเหตุผล เพราะฉะนันB จึงต้องใช้เหตุผลมากมายในการตกั เตือน รวมทังB การขอดุอาอฺคือสEิงทEี
สําคัญทEีสุด สิEงเหล่านีชB ีใB ห้ เห็นถึงการเป็ นประชาชาติทีEดีเลิศของท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ซงึE ก็คือพวกเรานนEั เอง

สดุ ท้ายขอเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ได้ทรงประทานฮิดายะฮ์ให้กบั พวก
เราให้ พวกเรามีความเข้ าใจในศาสนาของพระองค์และได้ มีชีวิตอยู่จนถึงเดือนรอมฎอนทEีจะ
มาถงึ นีดB ้วย อามีน

74


เร;ือง สังคมมุสลมิ เป็ นสังคมอุดมปัญญา

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫َﺻ ًل‬ ‫ اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم‬٠ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫َو ْﺣدُه‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
‫ﺑَ ْﻌدُه‬ ‫ أَ ﱠﻣﺎ‬٠‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬ ‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬
‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬٠ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬
٠ ‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬
‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทีEทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถึงวันศุกร์นีอB ีกครังB ข้าพเจ้าขอเตือนตัวเองและพวกท่านทังB หลายให้มีความยําเกรงต่อ

อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) ด้วยกบั การปฏิบตั ใิ นสงิE ทีEพระองค์ทรงสงEั ใช้และออกหา่ งจากสงEิ

ทีEพระองค์ทรงสงEั ห้าม การกระทําทงัB สองสงิE นีคB รบถ้วนยอ่ มถือได้วา่ เป็นผ้ทู Eียําเกรงแล้ว

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ เราได้ผ่านพ้นภารกิจทEียEิงใหญ่มาแล้วคือการถือ
ศีลอดในเดือนรอมฎอน เราได้มีการกล่าวตกั บีร อลั ลอฮุอกั บรั ได้กล่าวร้องหรือสดดุ ีถึงความ
ยEิงใหญ่ของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ทEีทําให้พวกได้เรามีโอกาสชนะต่อการล่อลวงของ
ชัยฏอน และได้มีโอกาสชนะอารมณ์ใฝ่ ตEําหรือนัฟซูของเราเป็นเวลาถึง • เดือนเต็ม ทังB นี B
เพราะว่าเรามีเครEืองมือสําคัญ มีอาวุธทีEทรงพลานุภาพก็คือ การถือศีลอดทําให้เราสามารถ
เอาชนะนฟั ซูและชยั ฏอนได้ทงัB หมด และเราก็ได้มีโอกาสประกาศความเกรียงไกรของอลั ลอฮฺ
(ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) อย่างพร้อมเพรียงกนั ทวัE โลก อนั นีเBป็นสEิงทEีสําคญั ทEีชีใB ห้เห็นจดุ หนงEึ ทEีวา่
อมุ มะฮ์อิสลามียะฮ์มีความยEิงใหญ่ มีความเหมือนกนั มีความเป็นเอกภาพ มีความเสมอภาค
มีความเป็นสากลทวัE โลก และแสดงพลงั การตกั บีรทวัE ทกุ หนทกุ แห่งตามเวลาของแตล่ ะประเทศ
ทEีโลกได้หมนุ ไป นEีคือสงEิ ทEียEิงใหญ่มากทีEได้ผา่ นพ้นมาแล้ว แตห่ ลงั จากนีชB ว่ งเวลาดีๆ มนั มกั จะมี
น้อยและใช้เวลานานกว่าจะหวนกลบั มาและบางทีพวกเราอาจจะไม่มีชีวิตอยู่ถึงช่วงเวลาดีๆ

75


เช่นนีอB ีก เพราะฉะนนัB เราจึงต้องขอดอุ าอฺให้พวกเรามีอีหม่านตลอดทงัB •• เดือนและได้พบกบั
เดือนรอมฎอนในปีถดั ไปเพEือทีEจะทําอะม้าลอิบาดะฮฺทEีประเสริฐยิEงอย่างเต็มทีEอีก และหลงั จาก
นีเBราไมม่ ีเครEืองมือชว่ ย เราไมม่ ีอาวธุ ทEีทรงพลานภุ าพตามทีEได้กลา่ วมาแล้ว ตอนนีเBราต้องส้แู ละ
ต้องทําสงครามกบั นฟั ซูของเรา รวมทงัB มีชยั ฏอนมายแุ หย่เราตลอดเวลา เพราะฉะนนัB เราต้อง
เอาสEิงทีEได้ จากรอมฎอนทีEเราได้ ฝึ กฝนเหมือนเราได้ ผ่านโปรแกรมการเทรนนEิง เราได้
ใบประกาศนียบตั รแล้ว ตอนนีเBรามีความรู้เราจะต้องเอาความรู้นนัB มาใช้ในชีวิตจริงทงัB •• เดือน
ได้ขนาดไหน สิEงนีเB ป็นข้อทดสอบของเราทีEเราต้องตระหนักและต้องพยายามเพืEอทEีจะเอามา
ปฏิบตั ิให้สมั ฤทธ›ิผล ไมใ่ ชเ่ ราตอ่ ส้กู บั อารมณ์หรือนฟั ซขู องเราได้เฉพาะเดือนรอมฎอน เราไมส่ บู
บหุ รีE เราไม่ได้ทําความชวัE แต่เดือนอEืนเราก็ทําเหมือนเดิม อย่างนีถB ือว่าเราไม่ได้รับความสําเร็จ
เดือนรอมฎอนไมไ่ ด้ฝึกฝนเราให้ส้ไู ด้จริงๆ ตรงนีอB ยากให้พวกเราได้คิดทบทวนตวั เองวา่ มีสงEิ ใดทีE
เราต้องพัฒนาและเอารอมฎอนมาใช้เป็นเครEืองมือ เราต้องพยายามประคับประคองตัวเอง
เพราะการใช้ชีวิตอยู่ในยุคนีคB ือยุคอาคิรซะมานหรือยุคสุดท้ายทEีมีสEิงล่อตาล่อใจหรือสิEง
หลอกลวงมากมาย สงEิ หนงEึ ทีEอยากจะฝากคือการทีEเราจะต้องนําสงิE ทีEดีๆหรือบรรยากาศในเดือน
รอมฎอนทีEเราทําไว้นํามาปฏิบัติในเดือนอEืนด้วย ยกตัวอย่างเช่น การตรงต่อเวลาในเดือน
รอมฎอน เราแก้ศีลอดตรงเวลามาก และละหมาดมกั ริบตรงเวลา เรากินอาหารซูโฮรและเราได้
ละหมาดซุบฮิตรงเวลา ถามว่าหลงั จากเดือนรอมฎอนหมดไปเราจะละหมาดมักริบตรงเวลา
หรือไม่ ละหมาดซุบฮิตรงเวลาหรือไม่ ถ้ายงั ไม่ตรงเราต้องพยายามฝึกตวั เราให้เหมือนกบั เดือน
รอมฎอนทีEได้ ฝึกฝนมา • เดือนเต็ม การปฏิบัติตามซุนนะฮ์ของท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ก็เป็นสEิงหนEึงทEีจะทําให้เราสามารถรักษาสEิงทีEดีๆ หรือแนวทางทEี
ดีๆ ทีEท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้นํามาเผยแพร่ เราต้องมีการทํา
อย่างต่อเนEืองและมัEนคง ไม่ใช่ทําเป็นช่วงๆ ต้องทําน้อยแต่ทําอย่างต่อเนEือง นีEคือสิEงทีEท่าน
ศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) รักเป็นอย่างยิEง เราทุกคนปฏิญาณว่าท่าน
ศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) เป็นศาสนทตู ของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอา
ลา) ถามว่าเราจะต้องปฏิญาณตนเพืEออะไร เพEือให้พบว่าเป็นมุสลิม เราปฏิญาณตนว่าท่าน
เป็นศาสนทตู และนําสงิE ดีๆ มาเผยแพร่กบั เรา ถ้าเราไมป่ ฏิบตั ิตามทา่ นแล้วเราจะปฏิญาณตน

76


เพืEออะไร เรายอมรับวา่ ทา่ นเป็นศาสนทตู ซงึE นําสารจากอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) มาบอก
เราและทําเป็นแบบอย่างทีEดีให้เรา นีEคือเหตผุ ลง่ายๆ หรือตรรกะง่ายๆ ว่าทําไมต้องเราทําตาม
ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) มีนักวิชาการบางคนบอกว่าสEิงทEีท่าน
ศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ไม่ทําก็ใช่ว่าเราจะทําไม่ได้ ส่วนสิEงทEีท่านนบี
ทําก็หมายความวา่ จะทําก็ได้หรือไม่ทําก็ได้ ซงึE เป็นความเข้าใจทEีคลาดเคลืEอน ข้าพเจ้าอยากจะ
ฝากข้อคิดว่าเมEือเราปฏิญาณตนว่าท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม)
เป็นศาสนทตู ท่านเป็นแบบฉบบั ของเราและนําความเมตตามาสมู่ นษุ ยชาติ ถ้าเรายดึ ท่านและ
ทําตามแบบฉบบั ของทา่ น สงิE นีจB ะเป็นสงิE ทEีประกนั เราในการได้รับความสําเร็จในโลกหน้า และทีE
สําคญั เมืEอเรามีความรักตอ่ อลั ลอฮฺและมีความรักตอ่ ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ
วา่ สลั ลมั ) เราก็ต้องปฏิบตั ติ ามคําสอนของทา่ นด้วย

ُ6‫ ﻓَﺎﺗﱠ ِﺑﻌُو ِﻧﻲ ﯾُ ْﺣ ِﺑ ْﺑﻛُ ُم ا ﱠ‬6َ ‫ِإ ْن ﻛُ ْﻧﺗُ ْم ﺗُ ِﺣﺑﱡو َن ا ﱠ‬

ความวา่ “หากพวกทา่ นรักอลั ลอฮฺ ก็จงปฏิบตั ติ ามฉนั ”

นีEคือสิEงทีEบ่งชีถB ึงความรักทEีมีต่ออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) และรักต่อท่านศาสดา
มฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) และการทEีเรารักบุคคลใดในวนั กิยามะฮ์เราจะได้อยู่
ร่วมหรือใกล้ชิดกบั คนนนัB มีฮะดีษทEีบนั ทกึ โดยอิหมา่ มตริ มีซีได้เลา่ วา่

‫اَ ْﻟ َﻣ ْر ُء َﻣ َﻊ َﻣ ْن أَ َﺣ ﱡب ﯾَ ْو َم ا ْﻟ ِﻘﯾَﺎ َﻣ ِﺔ‬

ความวา่ “คนแตล่ ะคนจะอยพู่ ร้อมกบั ผ้ทู Eีเขารักในวนั กิยามะฮ์”

จากคําสอนของฮะดีษนีชB ีใB ห้เห็นว่า ในโลกนีถB ้าหากเรารักใคร เราชอบใคร เราเดินตาม
แบบฉบบั ของใคร ในวนั กิยามะฮ์เราจะได้อย่รู ่วมกบั คนๆ นนัB ในวนั กิยามะฮ์ด้วย เพราะฉะนนัB
ท่านต้องคิดเองว่าท่านรักใคร ท่านรักท่านบาบอคนใด ท่านรักโต๊ะครูคนใด นกั วิชาการคนใด
ทา่ นทําตามโมเดลหรือไอดอลของคนใด ในวนั กิยามะฮ์ทา่ นก็จะอยกู่ บั คนทีEทา่ นเลยี นแบบนนัB

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ สิEงหนEึงทีEอยากจะบอกคือการรวมตวั ของพวกเรา
นEันเป็นสิEงทEีสําคญั มาก ถ้ามสุ ลิมไม่รวมตวั กันหรืออยู่เป็นญ่ามาอะฮ์เราจะขาดพลงั และไม่มี
บ่ารอกตั เวลาเราต้องเดินทางไกล ศาสนาบอกว่าต้องแต่งตงัB คนหนึEงเป็นผ้นู ํา ทกุ เวลาทEีจะทํา

77


การละหมาดเราก็ละหมาดร่วมกนั เป็นญ่ามาอะฮ์ เวลารวมตวั กนั จะทําให้เกิดพลงั และทําให้เรา
ไม่ออกห่างกนั และมีการตกั เตือนกนั ให้กระทําความดีและยบั ยงัB ในการทําความชวัE มีการเรียน
การสอนกนั และการรวมตวั กนั เป็นสิEงบ่งบอกวา่ เราเป็นกลมุ่ ก้อนเดียวกนั เป็นเหมือนกบั ทหาร
ทีEถกู จดั ให้อย่ใู นหมวดหม่เู ดียวกนั ซึEงในเรEืองนีมB ีฮะดีษทEีบนั ทึกโดยอิหม่ามบุคอรีย์และมสุ ลิม
รายงานโดยอบฮู รุ อยเราะฮ์ (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ได้รายงานวา่

‫اﻟﻧﱠﺎ ُس َﻣﻌَﺎ ِدن َﻛ َﻣﻌَﺎ ِدن اﻟذﱠ َھب َواﻟ ِﻔ ﱠﺿﺔ ِﺧﯾَﺎ ُرھُم ِﻓﻲ اﻟ َﺟﺎ ِھ ِﻠﯾﱠﺔ ِﺧﯾَﺎ ُرھُم ِﻓﻲ ا ِﻹ ْﺳﻼَم‬

‫ وﻣﺎ ﺗﻧﺎ َﻛ َر ﻣﻧﮭﺎ اﺧﺗﻠَ َف‬، ‫ِإذَا ﻓَﻘُ ُﮭوا واﻷروا ُح ﺟﻧودٌ ُﻣ َﺟﻧﱠدَةٌ ﻓﻣﺎ ﺗﻌﺎ َر َف ﻣﻧﮭﺎ اﺋﺗﻠَ َف‬

ความว่า “มนษุ ย์เปรียบเสมือนแร่ธาตุ เช่นทองคําและเงิน ผ้ทู ีEดีทEีสดุ ในยคุ ญาฮิลียะฮ์
ก็เป็นผู้ทีEดีทEีสุดในยุคอิสลามเมEือเขาเข้าใจอย่างลึกซึงB และบรรดาดวงวิญญาณทังB หลาย
เหมือนกบั ทหารทีEถกู จดั หมวดหม่ไู ว้แล้วในโลกแห่งวิญญาณ เมEือกลมุ่ ใดทีEค้นุ เคยกนั ได้พบเจอ
กนั เขาก็จะรักชอบพอกนั และกลมุ่ ชนใดทีEไมค่ ้นุ เคยกนั เวลาเจอกนั เขาก็รังเกียจกนั ”

นกั วิชาการได้ให้ความหมายวา่ เราได้ถกู จดั หมวดหมตู่ งัB แตอ่ ยใู่ นโลกของวิญญาณแล้ว
การทEีมาเจอกนั ในโลกนีแB ล้วเรารวมกล่มุ กนั เรารักกนั เราเหมือนทหารทEีถกู จดั ไว้แล้วเวลามา
เจอกนั ก็มาชอบพอกนั เราอาจจะมาจากกลมุ่ เดียวกนั โดยอาจเป็นแร่ธาตทุ องหรือเงิน คนทEีโลก
นีเBกลียดกนั นนEั คือ ดวงวิญญาณทีEถกู จดั ให้อยใู่ นหมวดหมทู่ Eีตา่ งกนั แม้แตเ่ ราจะเกิดจากพอ่ แม่
ทEีแตกตา่ งกนั อยใู่ นวงศ์ตระกลู ทEีตา่ งกนั สีผิวตา่ งกนั หน้าตาไมเ่ หมือนกนั หรืออยคู่ นละประเทศ
กนั แตเ่ วลามาเจอกนั แล้วมีความรักใคร่กนั นนEั คือเราอยใู่ นหมวดหมเู่ ดียวกนั เพราะฉะนนัB นีEเป็น
สEิงทEีสําคญั มาก ข้าพเจ้าได้สมั ผสั กับเรืEองนีดB ้วยตวั เอง เมEือได้มาอยู่ทEีสงขลาและได้พบปะกับ
พีEน้ องมุสลิมทีEนีEแล้ วมีความร้ ู สึกว่ารักใคร่ ชอบพอกับคนทีEนEีและมีความร้ ู สึกว่าเป็ นกลุ่มชน
เดียวกัน ข้าพเจ้าได้ไปเยEียมเยียนพEีน้องหลายมัสยิดโดยเฉพาะอย่างยิEงทEีมัสยิดสายซุนนะฮ์
มกั จะเป็นมสั ยิดทEีใฝ่หาความรู้มากทีEสดุ คตุ บะฮ์ทEีพดู แตล่ ะครังB ก็มีเนือB หาสาระทEีดีและมีความรู้
ใหม่ๆ เวลาจัดงานก็เชิญอาจารย์ทEีมีความรู้มาให้ความรู้กับพวกเรา เพราะฉะนันB กลุ่มชน
เหล่านีคB ือกล่มุ ชนทEีใฝ่ หาความรู้ เป็นสงั คมทีEอดุ มปัญญา กล่าวคือ มีการเพEิมพนู ความรู้ให้กบั
สติปัญญาของคนในชุมชนอยู่ตลอดเวลา มันเป็นเหมือนกับการให้เครืEองป้องกันมิให้ความ
เลวร้ายทEีเกิดจากความไมร่ ู้แทรกซมึ เข้ามาได้เป็นอยา่ งดียิEง ดงั เชน่ ทEีชาวสะลฟั บอกวา่

78


‫َﺧ ْﯾ ُر ا ْﻟ َﻣ َوا ِھ ِب اَ ْﻟﻌَ ْﻘ ُل َو َﺷ ﱡر ا ْﻟ َﻣ َﺻﺎ ِﺋ ِب ا ْﻟ َﺟ ْﮭ ُل‬
ความว่า “ของขวญั ทีEดีทีEสดุ คือสติปัญญา ส่วนภยั พิบตั ิทEีเลวร้ายทEีสดุ คือ ความญะเฮล
(ความไมร่ ู้)”

สภาพในปัจจบุ นั นีทB ีEสงั คมมสุ ลิมตกตEําเพราะการไม่มีความรู้ ทําให้ไม่เข้าใจเนือB หาและ
เจตนารมณ์ของอิสลามทีEแท้จริง เพราะฉะนนัB ถ้าเราใฝ่ หาความรู้ เราจะได้รับความเข้าใจและ
ได้รับทางนําทีEถกู ต้อง เนEืองจากอลั ลอฮฺจะทรงประทานฮิดายะฮ์ให้แก่ผ้ทู ีEพระองค์ทรงประสงค์
และมีฮะดีษทีEบอกให้เราแสวงหาความรู้เพEือจะได้อยใู่ นหนทางของพระองค์ตลอดเวลา

‫ َﺣﺗﱠﻰ ﯾَ ْر ِﺟ َﻊ‬6ِ ‫َﻣ ْن َﺧ َر َج ﻓﻲ َطﻠَ ِب اﻟ ِﻌ ْﻠ ِم ﻓَ ُﮭ َو ﻓﻲ َﺳﺑﯾ ِل ا ﱠ‬
ความว่า “ผู้ใดก็ตามทEีออกไปนอกบ้านเพEือแสวงหาความรู้เท่ากับเขาอยู่ในหนทาง
ของอลั ลอฮฺตราบจนกระทงัE เขากลบั มา”

เพราะฉะนนัB เวลาเราเดินทางไปร่วมงานทEีมสั ยิดไหนก็ตามทEีจดั งานเพืEอฟังบรรยายเรืEอง
ศาสนาถือว่าเราเดินทางไปในหนทางของอลั ลอฮฺแล้ว ถ้าเราตายในระหว่างนนัE ก็ย่อมถือได้ว่า
ตายในหนทางของอลั ลอฮฺ จนกว่าเราจะได้กลบั มายงั บ้าน เพราะฉะนนัB จะเห็นได้ว่าเรืEองการ
แสวงหาความรู้นนัB เป็นสิEงทEีสําคญั ทEีสดุ นอกจากนียB งั มีฮะดีษซอเฮียะฮ์ทีEรายงานอีกมากมาย
เชน่

‫ُ ﻟَﮫُ َط ِرﯾﻘًﺎ ِإﻟَﻰ ا ْﻟ َﺟﻧﱠ ِﺔ‬6‫َﻣ ْن َﺳﻠَ َك َط ِرﯾﻘًﺎ ﯾَ ْﻠﺗَ ِﻣ ُس ِﻓﯾ ِﮫ ِﻋ ْﻠ ًﻣﺎ َﺳ ﱠﮭ َل ا ﱠ‬
ความว่า “ผ้ใู ดขวนขวายหนทางเพืEอแสวงหาความรู้ อลั ลอฮฺจะทรงให้ความสะดวกแก่
เขาในหนทางไปยงั สวรรค์”

นEีคือหลกั ฐานหรือตวั บททีEชีใB ห้เห็นถึงความสําคญั ของการแสวงหาความรู้ เพราะฉะนนัB
ถ้าเราเป็นคนทEีใฝ่หาความรู้อยตู่ ลอดเวลาเราจะเข้าสวรรค์ได้อยา่ งงา่ ยดาย รวมทงัB หากสงั คมใด
เป็นสงั คมทีEจดั ให้มีการเรียนการสอนมีการเรียนรู้อย่ตู ลอดเวลาย่อมถือได้ว่าเป็นสงั คมทีEอดุ ม
ปัญญาอยา่ งแท้จริง

79


ทา่ นพEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ นครับ ทกุ วนั นีเBราสนใจเรEืองอืEน เราให้ความสําคญั กบั โลก
ดนุ ยา เราให้ความสําคญั กบั การประกอบอาชีพต่างๆ อนั เป็นสEิงทEีถกู ต้องเพราะเราเป็นมนษุ ย์
สองโลก แตเ่ ราอยา่ ไปเน้นหรือให้ความสําคญั มากจนเกินไป หากเรามีอาชีพใดเราทําให้ดีทEีสดุ
ในอาชีพนันB ก็เพียงพอแล้ว จะเป็นข้าราชการหรือเป็นพนักงานล้วนแล้วแต่มีความสําคัญ
เพราะว่าอลั ลอฮฺเป็นผ้ปู ระทานริสกี อย่าเป็นห่วงเรืEองริสกีมากเกินไป อย่ากลวั ว่าลกู เราจะไม่มี
ริสกี ทงัB ๆ ทEีเรารู้วา่ อลั ลอฮฺให้ริสกีแก่สรรพสEิงทงัB หลายอย่างแน่นอน แตห่ ากอลั ลอฮฺไม่อนมุ ตั ิให้
เราได้รับรีสกี เราย่อมไม่อาจจะหลีกเลีEยงได้เลย เช่น เราสงEั อาหารไว้แล้วถ้าอลั ลอฮฺเก็บชีวิตเรา
เราก็กินอาหารนนัB ไมไ่ ด้ ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์ลกุ มาน อายะฮ์ทEี bV ได้ระบวุ า่

‫ َﻋ ِﻠﯾ ٌم َﺧ ِﺑﯾر‬6َ ‫َوﻣﺎ ﺗَ ْدري ﻧَ ْﻔ ٌس ﻣﺎذا ﺗَ ْﻛ ِﺳ ُب َﻏدًا َوﻣﺎ ﺗَ ْدري ﻧَ ْﻔ ٌس ِﺑﺄ ّيِ أر ٍض ﺗَ ُﻣو ُت ِإ ﱠن ا ﱠ‬

ความว่า “และไม่มีชีวิตใดรู้ว่าพรุ่งนีมB ันจะขวนขวายในสEิงใด และไม่มีชีวิตใดรู้ว่า ณ
แผน่ ดนิ ใดทEีมนั จะตาย แท้จริงอลั ลอฮฺทรงรอบรู้ยEิง”

เพราะฉะนนัB สิEงเหลา่ นีเBป็นสEิงทEีอยากเตือนใจพวกเราในการทําความดี ในการประกอบ
อาชีพ ไม่ว่าท่านจะเป็นพ่อค้า เป็นชาวประมง หรือแม้แต่ขับวินมอเตอร์ไซค์ ล้วนเป็นอาชีพ
ทEีประเสริฐทงัB สนิ B ถงึ แม้วา่ จะได้ปัจจยั น้อยก็ตาม ซงึE อาชีพเหลา่ นีเBป็นอาชีพทEีประเสริฐ เพราะวา่
ต้องหวงั ในความโปรดปรานของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ทีEจะประทานให้ในแต่ละวนั
ทา่ นจะมีริสกีมากน้อยเพียงใดอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) เป็นผ้ทู รงประทานให้ ออกเรือไป
จะเจอปลาหรือไม่ต้องขอจากอลั ลอฮฺ จะค้าขายดีหรือไม่ดีต้องขอดุอาอฺจากอลั ลอฮฺ การขบั
วินมอเตอร์ไซค์จะมีคนใช้บริการหรือไมท่ า่ นก็ต้องขอจากอลั ลอฮฺ ดงั นนัB จงึ ทําให้ทา่ นได้ใกล้ชิด
กับอัลลอฮฺมาก เวลาท่านได้กล่าวว่า “อัลฮัมดุลลิลB าฮ์” ให้ท่านระลึกถึงความโปรดปราน
ทEีพระองค์ได้ทรงประทานให้แก่ท่าน แต่อย่างไรก็ตาม มีอาชีพหนึEงซึEงเป็นอาชีพทEีดีทีEสดุ และ
อยากนําเสนอให้ท่านทงัB หลายพยายามประกอบอาชีพดงั กล่าว เนืEองจากท่านศาสดาได้ทรง
ตรัสไว้นนEั ก็คือ อาชีพเป็นครูสอนอลั กรุ อาน

‫َﺧ ْﯾ ُرﻛُ ْم َﻣ ْن ﺗَﻌَﻠﱠ َم ا ْﻟﻘُ ْرآ َن َو َﻋﻠﱠ َﻣﮫ‬

ความวา่ “ผ้ทู Eีดีเลศิ ทีEสดุ ในพวกเจ้าคือ ผ้ทู Eีเรียนและสอนอลั กรุ อาน”

80


สดุ ท้ายนีขB อเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) ได้ทรงประทานฮิดายะฮ์ให้พวกเรา
ได้รับความเข้าใจและทางนําทีEถกู ต้องด้วยเถิด อามีน

‫ اﻟﻌَ ِظ ْﯾ َم ِﻟﻲ َوﻟَﻛُ ْم َو ِﻟ َﺳﺎ ِﺋ ِر اﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ِﻣ ْﯾ َن‬6َ ‫أَﻗُو ُل ﻗُو ِﻟﻲ َھذَا َوا ْﺳﺗَ ْﻐﻔَ ُر ا ﱠ‬
‫ﻓَﺎ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُر ْوهُ ِإﻧﱠﮫُ ھُ َو ا ْﻟﻐَﻔُ ْو ُر اﻟ ﱠر ِﺣﻲ‬

81


เร;ือง ภารกจิ ของมุอมฺ นิ ในการเผยแผ่อสิ ลาม

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ‬Dِ ‫ َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬، ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َو ِﻣ ْن َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫ اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم َﺻ ًل‬، ُ‫أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭد‬،ُ‫ﻟَﮫ‬ ‫ﷲُ َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك‬ ‫ِإﻟَﮫَ ِإ ﱠﻻ‬
ُ‫أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌد‬ ، ‫ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ‬ ‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬
‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬، ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬
، ‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِط ِﻊ ا ﱠ‬
‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทEีทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถงึ วนั ศกุ ร์นีอB ีกครังB

ข้าพเจ้าขอเตือนตวั เองและพวกท่านให้มีความยําเกรงต่ออลั ลอฮฺด้วยกบั การปฏิบตั ิใน
สิEงทีEพระองค์ทรงสงัE ใช้ ทงัB ในสิEงทEีระบุในพระมหาคมั ภีร์อลั กุรอานและทEีท่านศาสดามฮู มั หมดั
(ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้นํามา และขอให้ห่างไกลจากสEิงทีEพระองค์ทรงสงัE ห้ามและ
ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้ทรงห้ามปรามด้วย

ท่านพEีน้ องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ ชีวิตผู้ศรัทธาเป็ นชีวิตทEีจะต้ องถูกทดสอบ
ตลอดเวลา สEิงทีEมาประสบกับพวกเราทุกคน ไม่ใช่เป็นเหตุบังเอิญแต่เป็นพระประสงค์ของ
พระองค์ทกุ อยา่ ง เพราะฉะนนัB เราต้องอดทนในชีวิตของเราและเพิEมพนู อีหมา่ นและอะม้าลให้ได้
มากยิEงขนึ B กบั เหตกุ ารณ์ทEีมาประสบ อยา่ งเชน่ ในชว่ งทีEผา่ นมามีความกดอากาศจากทางตอนใต้
ของประเทศจีนมาทEีประเทศไทยซงEึ ทําให้เราหนาวกวา่ ปกติ เวลาเราอาบนําB ละหมาดเราจะรู้สกึ
วา่ เราหนาวสะท้าน บางคนก็ไมอ่ ยากอาบนําB แตส่ งิE เหลา่ นีมB นั เป็นสงิE ทีEอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะ
อาลา) ได้ทรงกําหนดมาแล้วไม่ใช่เหตบุ งั เอิญและเป็นพระประสงค์ของพระองค์ทีEจะทดสอบให้
เรามีอีหม่านเพิEมมากขึนB ต้องการให้เราอดทนมากขึนB และต้องการให้เราได้รับความรู้มากขึนB
ตวั อย่างในประวตั ิศาสตร์ของชนชาติอ๊าดทีEมีร่างกายใหญ่โตแข็งแรง กํายํา ลํEาสนั ซงึE สามารถ

82


สกัดหรือเจาะภูเขาทําเป็นบ้านเรือนทEีอยู่อาศยั ได้ แต่ในทีEสดุ อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา)
ก็ได้ทําลายชนชาตินีดB ้วยกับกระแสลมและความหนาวเย็นของลมเป็นเวลานานหลายวัน
จนกระทงัE ถกู ทําลายหมด แตเ่ ราถกู ความหนาวเย็นเพียงนิดหนอ่ ย การทดสอบนียB งั ไมถ่ งึ ขนัB ของ
ประชาชาติก่อนหน้านีทB Eีถูกทดสอบ มีรายงานว่ามีคนตายในบางจังหวัดและมีสัตว์ เช่น วัว
ควาย นก และปลาทีEตายไม่มาก เพราะฉะนันB สEิงเหล่านีเB ป็นแค่การทดสอบบางส่วนเท่านันB
ด้วยเหตุนี B เวลาอาบนําB ละหมาดในขณะทEีหนาวเย็นมีฮะดีษซอเฮียะฮ์ทีEรายงานโดยอิหม่าม
มสุ ลิมได้บอกว่าเราจะได้รับการลบล้างโทษหรือบาปกรรม รวมทงัB ได้ยกสถานะให้สงู ขึนB ด้วย
เพราะฉะนนัB เวลาเราอาบนําB ละหมาดในขณะทีEหนาวเย็นหรือในขณะทEีเราไม่ปรารถนา ให้เรา
นึกถึงกุศลผลบุญทีEอัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ได้ทรงมอบให้ สEิงเหล่านีเB ป็นสEิงทEีล้วน
แล้วแตท่ ําให้เราได้เพิEมพนู อีหมา่ นมากขนึ B

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ อลั ฮมั ดลุ ิลB ลา ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเข้าร่วมสมั มนา
เรืEองปัญหาอปุ สรรคของการเผยแพร่อิสลามและการพฒั นาทีEจดั โดยสถานทตู ซาอดุ ิอาระเบีย
โดยกระทรวงเอากอฟ โดยได้เชิญผ้ทู Eีได้ทนุ ของกษัตริย์ซลั มานเข้าร่วมสมั มนาดงั กลา่ ว ซงึE ผ้ทู Eีได้
ทนุ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผ้นู ําองค์กรอิสลามทงัB หลาย การจดั ครังB นีเB พEือเสนอแนะปัญหาอปุ สรรคทีE
ได้ประสบมาและแนวทางการแก้ไข ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเป็นวิทยาการพดู ในส่วนทีEเกEียวข้องกบั
ระบบราชการและต่างศาสนิก ซงEึ ก็ได้สะท้อนให้เห็นภาพปัญหาทีEเกิดขึนB ระหว่างสงั คมไทยกบั
สงั คมทีEไมใ่ ชศ่ าสนาอิสลามวา่ เป็นอยา่ งไร ข้าพเจ้าจงึ ขอนําเสนอสว่ นหนงึE ในคตุ บะฮ์นี B

ทา่ นพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ นครับ เรEืองการเผยแพร่อิสลามแตเ่ ดิมเรามองวา่ เราไม่ได้
เป็นองค์กร ไมไ่ ด้เป็นนกั ดาอีย์ทEีมีหน้าทEีในการเผยแผศ่ าสนา ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอ
ฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ท่านเป็นนกั ดาอีย์ทEีเป็นผ้เู ผยแผ่มวลมนษุ ย์เพEือนําไปสแู่ นวททางทEีเทEียงตรง
ท่านได้ถูกส่งมาบนโลกนีเB พืEอทีEจะให้ความเมตตาแก่ชาวโลก ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน
ซเู ราะฮ์อมั บยิ าอ์ได้กลา่ วไว้วา่

‫َو َﻣﺎ أَ ْر َﺳ ْﻠﻧَﺎ َك ِإ ﱠﻻ َر ْﺣ َﻣﺔً ِﻟ ْﻠﻌَﺎﻟَ ِﻣﯾ َن‬

ความวา่ “และเจ้าไมไ่ ด้ถกู สง่ มาเพืEอการใดเว้นแตค่ วามเมตตาแก่บรรดาโลกทงัB หลาย”

83


เพราะฉะนนัB สEิงทีEท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้นํามาเป็นสิEงทEี
สําคญั ยิEงเพราะสEิงทีEท่านเผยแพร่คือ หลกั เตาฮีดทEียดึ มนEั ในอลั ลอฮฺองค์เดียว ในขณะนนัB ชมุ ชน
ชาวมกั กะฮ์ ชาวกเุ รชแม้วา่ จะเชEือในอลั ลอฮฺโดยมีอะกีดะฮ์รุบบู ียะฮ์เชืEอวา่ อลั ลอฮฺเป็นผ้อู ภิบาล
และทรงบนั ดาลทกุ สิEงอย่าง แตก่ ็ยงั มีชีริคเกิดขนึ B เพราะยงั มีพระเจ้าองค์อืEนทีEกราบไหว้เป็นภาคี
จํานวนมากมายมหาศาลเพราะฉะนนัB ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) จงึ มี
หน้าทEี มีภาระกิจ งานเผยแพร่เป็นงานของท่านและเป็นงานทEียEิงใหญ่ ซึEงสEิงต่างๆ เหล่านีมB ีมา
เพืEอทีEจะให้ความเมตตากับมนุษย์โลก เพราะการทEีมนุษย์โลกนันB ตกอยู่ในความไม่รู้เกีEยวกับ
พระผ้เู ป็นเจ้าทีEแท้จริงมนั คือ ความโง่เขลาเบาปัญญา เป็นความขาดทนุ ยิEง เพราะว่าการชีริค
หรือการตังB ภาคีนันB คือ การอธรรมต่อพระผู้เป็นเจ้าทีEสมควรได้รับการเคารพอย่างแท้จริง
ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์ลกุ มาน อายะฮ์ทีE •b ได้ระบวุ า่

‫ِإ ﱠن اﻟ ِّﺷ ْر َك ﻟَظُ ْﻠ ٌم َﻋ ِظﯾ ٌم‬

ความวา่ “แท้จริงการชีริค (หรือการตงัB ภาคี) เป็นการอธรรมทEียิEงใหญ่มาก”

ทงัB นีเB พราะอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) เป็นผ้สู ร้างทกุ อย่าง แล้วมนษุ ย์ยงั จะไปนบั
ถือสEิงอืEนมาเทียบเคียงพระองค์และเป็นพระเจ้าเท่ากบั พระองค์ได้อย่างไร ซงEึ เป็นสEิงทีEเป็นบาป
และเป็นความผิดทEียEิงใหญ่มาก เพราะฉะนนัB คนทEีไม่ได้รับทางนําคือ คนทEีหลงทางเป็นผ้ทู ีEน่า
สงสาร น่าสมเพช พวกเราสมควรทีEจะต้องให้ความเมตตากบั พวกทEีหลงผิดเหลา่ นีดB ้วยการสร้าง
ความเข้าใจในอลั อิสลามให้แก่พวกเขาเหลา่ นนัB เพราะวา่ เราในฐานะทEีเป็นประชาชาติของทา่ น
ศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) เราคงต้องรับภาระนีดB ้วย คนทEีตังB ภาคีต่อ
พระองค์นนัB ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อลั ฮจั ญ์ อายะฮ์ทEี b• ได้ระบวุ า่

‫ ﻓَ َﻛﺄَﻧﱠ َﻣﺎ َﺧ ﱠر ِﻣ َن اﻟ ﱠﺳ َﻣﺎ ِء‬6ِ ‫َو َﻣن ﯾُ ْﺷ ِر ْك ِﺑﺎ ﱠ‬

ความวา่ “ผ้ใู ดทEีตงัB ภาคีตอ่ อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) ดงั นนัB เปรียบเสมือนกบั ร่วง
หลน่ ลงมาจากฟากฟา้ ”

หมายความวา่ ไม่มีทEียดึ เหนีEยวหรือเคว้งคว้างหรือลอ่ งลอยอย่ใู นอากาศ ซงEึ นกสามารถ
คาบหรือลมสามารถพดั พาไปในทีEอนั ไกลโพ้นได้ สําหรับสงั คมประเทศไทยในบ้านเราต้องบอก

84


ว่าเรEืองชีริคมีมากมายมหาศาล เพราะเขาไม่เข้าใจเรืEองเกEียวกับพระเจ้าทีEแท้จริง ปัจจุบนั เรา
เห็นวา่ รูปเจว็ดอาจมีเยอะแยะมากมาย ซงEึ มนั เป็นพฒั นาการของชยั ฏอนทEีจะหลอกลวงมนษุ ย์
ให้ทําการตงัB ภาคีตอ่ อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) ได้มากมายหลากหลายรูปแบบ ก่อนหน้านี B
มีความเชืEอในจตคุ ามรามเทพ มีบางคนเข้าใจว่ามนั ไม่ใช่เจว็ด มนั ไม่ใช่รูปเคารพแต่ศกั ด›ิสิทธิ›
มสุ ลิมบางคนยงั ไปกดแป้นพิมพ์จตคุ ามรามเทพ เพราะว่าไม่เข้าใจว่ามนั คือรูปแบบหนEึงของ
การทําชีริคทีEเปลEียนแปลงไป ถ้ามีความเชEือมนัE ว่ามนั ให้คณุ หรือให้โทษได้ นEีคือการตงัB ภาคีต่อ
พระองค์ซึEงเป็นบาปทEีสําคญั ยิEง ปัจจบุ นั ต๊กุ ตาลกู เทพมีตงัB เต็มไปหมดตามร้านค้าต่างๆ กล่าว
อ้างวา่ ให้สรรพคณุ อยา่ งนนัB อยา่ งนี BโดยเฉพาะในเรืEองเมตตามหาคณุ ซงEึ มสุ ลมิ ก็สามารถบชู าได้
สEิงเหลา่ นีคB ือ สEิงทีEจะลอ่ ลวงเรา เราในฐานะทีEเป็นมสุ ลิมเราต้องยดึ มนEั ตอ่ อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่
ตะอาลา) องค์เดียว สิEงเหล่านีมB ันเป็นภาคีทEีมาในรูปแบบต่างๆ แล้วแต่ว่าชัยฏอนมันจะมี
พัฒนาการในการหลอกลวงไปเช่นไร ซEึงเราต้องตามมันให้ทัน เพราะฉะนันB คนทีEไม่มีทEียึด
เหนีEยวเป็ นคนทEีขาดหลักในการยึดมัEนศรัทธาก็ล่องลอยเหมือนคนทEีตกจากฟากฟ้า
เพราะฉะนนัB เป็นหน้าทEีของเราทEีเราจะต้องเผยแผ่ให้กบั คนทีEหลงผิดเหลา่ นีไB ด้รับทราบเรEืองของ
พระเจ้าทEีแท้จริง ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อาน ซเู ราะฮ์อาละอิมรอน อายะฮ์ทEี ••W ได้ระบวุ า่

6ِ ‫ﻛُﻧﺗُ ْم َﺧ ْﯾ َر أُ ﱠﻣ ٍﺔ أُ ْﺧ ِر َﺟ ْت ِﻟﻠﻧﱠﺎ ِس ﺗَﺄْ ُﻣ ُرو َن ِﺑﺎ ْﻟ َﻣ ْﻌ ُرو ِف َوﺗَ ْﻧ َﮭ ْو َن َﻋ ِن ا ْﻟ ُﻣﻧ َﻛ ِر َوﺗُ ْؤ ِﻣﻧُو َن ِﺑﺎ ﱠ‬

ความว่า “พวกเจ้านนัB เป็นประชาชาติทีEดียEิงซึEงถูกให้อบุ ตั ิขึนB สําหรับมนุษยชาติ โดยทEี
พวกเจ้าใช้ให้ปฏิบตั สิ งิE ทEีชอบ และห้ามมิให้ปฏิบตั สิ งEิ ทEีมิชอบ และศรัทธาตอ่ อลั ลอฮฺ”

เพราะฉะนนัB จงึ ถือเป็นหน้าทีEของมสุ ลมิ ทกุ คนทEีจะต้องเผยแพร่หลกั การยดึ มนัE ในอลั ลอฮฺ
(ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) องค์เดียว พระผ้สู ร้างโลก จกั รวาลและสรรพสEิงทงัB หลายโดยต้องไม่มี
ชีริคตอ่ พระองค์แม้แตเ่ ลก็ น้อยแอบแฝงอยเู่ ลย ในฮะดีษทEีรายงานโดยอิหมา่ มบคุ อรีย์กลา่ ววา่

ً‫ﺑَ ِﻠّﻐُ ْوا َﻋ ِﻧّ ْﻲ َوﻟَ ْو آﯾَﺔ‬

ความวา่ “จงเผยแพร่จากฉนั แม้เพียงหนงึE อายะฮ์”

เราอ่านกุรอานหรือเราท่องจําได้หนEึงอายะฮ์เราก็ต้องเผยแพร่ นEีเป็นคําสัEงทEีท่าน
ศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้บอกพวกเรา เพราะมนั เป็นความเมตตาทีEจะ

85


ให้กบั มนษุ ยชาติทEีไม่เข้าใจและหลงผิด และทEีสําคญั การเผยแพร่นีจB ะต้องยึดทีEอลั กุรอานและ
ฮะดีษเท่านันB เพราะว่า ถ้าหากจะทํางานดะอฺวะฮ์แต่ไม่ใช้รูปแบบของท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) แล้วมันจะเป็นแนวทางทEีดีหรือแบบอย่างทีEดีงามได้อย่างไร
ในปัจจบุ นั เราชอบใช้ของแบรนด์เนมทEีดีๆ ราคาแพงๆ แตเ่ วลาเราทําอิบาดะฮฺเรากลบั ไม่ใช้ของ
แบรนด์เนมของท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ทงัB ทEีเป็นซุนนะฮ์ของท่าน
ทEีท่านทําไว้เป็นแบบฉบบั และใช้กนั ทวัE โลกไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย บางคนบอกว่าเราตามนบี
อย่แู ล้วแต่หากลองพิจารณาดคู ําว่าตามนบี คือ ท่านนบีต้องอย่ขู ้างหน้าแล้วเราตาม แต่บางที
เรานําหน้านบีทงัB ๆ ทีEท่านนบีไม่ได้ทําแตเ่ ราทําก่อน แล้วอย่างนีจB ะเรียกวา่ ตามใช่หรือไม่ ขอให้
พวกเราได้ใช้สติปัญญาทีEอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) ได้ให้เราไว้ เพราะฉะนนัB ตรงนีเBป็นสEิง
ทีEสําคญั ยิEงทีEเราจะต้องยดึ เป็นหลกั การสําคญั เพราะงานนีเBป็นงานทีEมีเกียรติยEิงของทา่ นศาสดา
นอกจากนียB ังมีหลักฐานทีEเกEียวกับการเผยแผ่ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานซูเราะฮ์อันนะหฺล์
อายะฮ์ทีE •TU ได้ระบวุ า่

◌ۚ ‫اُ ْدعُ ِإﻟَ ٰﻰ َﺳ ِﺑﯾ ِل َر ِﺑّ َك ِﺑﺎ ْﻟ ِﺣ ْﻛ َﻣ ِﺔ َوا ْﻟ َﻣ ْو ِﻋ َظ ِﺔ ا ْﻟ َﺣ َﺳﻧَ ِﺔ ۖ◌ َو َﺟﺎ ِد ْﻟ ُﮭم ِﺑﺎﻟﱠ ِﺗﻲ ِھ َﻲ أَ ْﺣ َﺳ ُن‬
‫ِإ ﱠن َرﺑﱠ َك ھُ َو أَ ْﻋﻠَ ُم ِﺑ َﻣن َﺿ ﱠل َﻋن َﺳ ِﺑﯾ ِﻠ ِﮫ ۖ◌ َوھُ َو أَ ْﻋﻠَ ُم ِﺑﺎ ْﻟ ُﻣ ْﮭﺗَ ِدﯾ َن‬

ความวา่ “จงเรียกร้องสแู่ นวทางแหง่ พระเจ้าของสเู จ้าโดยสขุ มุ และการตกั เตือนทีEดี และ
จงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิEงทEีดีกว่า แท้จริงพระผู้อภิบาลของสเู จ้านนัB เป็นผู้ทรงรู้ดียEิงว่าผู้ใดหลง
ทางไปจากทางของพระองค์ และพระองค์ทรงรู้ดียิEงถงึ บรรดาผ้ทู Eีอยใู่ นทางทEีถกู ต้อง”

นีEเป็ นวิธีการหรื อรู ปแบบในการเผยแผ่อิสลามให้ กับคนต่างศาสนิกหรื อแม้ แต่มุสลิม
ด้วยกนั ทีEยงั เข้าใจในเรEืองเตาฮีดหรือชีริคทEีคลาดเคลEือนซงึE เราควรจะให้ความกระจ่างและความ
เข้าใจ รวมทังB เรียกร้ องไปสู่หนทางของอัลลอฮฺด้วยกับฮิกมะฮ์ทีEเหมาะสมกับกาลเวลาและ
สถานทีE สEิงทEีนําเสนอต้องเป็นอิสลามทีEสมบูรณ์แบบไม่แยกส่วนและเป็นหลกั การอิสลามทEีไม่
สดุ โต่งและไม่หย่อนยาน แต่เป็นอิสลามทEีครบถ้วนและบูรณาการ สEิงเหล่านีเB ป็นเป็นสิEงทีEเรา
สามารถมีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี มีคําถามว่า ทําไมเราถึงต้องมีหน้าทEีเกEียวข้องกับเรEืองนี B
คําตอบก็เพราะวา่ การเผยแผ่เป็นเรEืองทีEสําคญั ยEิงของอิสลามและการเผยแผ่ทีEดีต้องเริEมต้นจาก
ตวั เรา เหมือนคําพดู ทีEบอกวา่ “อยา่ ไลจ่ บั ผีเสือB ” เพราะถ้าเราไลจ่ บั ผีเสือB โดยใช้มือหรือใช้สะหวิง

86


อาจทําให้ความสวยงามของปีกเกิดเสียหายได้ แต่ถ้าเราต้องการได้ผีเสือB ให้เราปลกู ต้นไม้หรือ
ดอกไม้ทEีมีสีสนั สวยงามและมีเกสรทEีหอมหวาน แล้วผีเสือB เหล่านีกB ็จะบินเข้ามาในสวนของเรา
เพราะฉะนนัB เราควรเรEิมต้นทEีตวั เราให้เราเป็นมสุ ลิมทีEดี และเมEือคนต่างศาสนิกได้เห็นความดี
ของเราเมEือนนัB เขาก็จะเข้าใจในอิสลามหรืออาจจะเข้ารับอิสลามเอง และอีกประการหนEึงทEีเป็น
แนวทางในการดะอฺวะฮ์และทกุ ๆ คนสามารถกระทําได้ไม่ยาก สําหรับข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นการ
ดะอฺวะทีEยงEั ยืนตลอดไปนนEั ก็คือ ฮะดีษซอเฮียะฮ์ทีEรายงานโดยอิหมา่ มมสุ ลมิ

،‫ َﺻدَﻗَ ٍﺔ َﺟﺎ ِرﯾَ ٍﺔ‬:‫ِإذَا َﻣﺎ َت اﺑ ُن آدم ا ْﻧﻘَ َط َﻊ َﻋ ْﻧﮫُ َﻋ َﻣﻠُﮫُ ِإ ﱠﻻ ِﻣ ْن ﺛَ َﻼ ٍث‬

ُ‫ أَ ْو َوﻟَ ٍد َﺻﺎ ِﻟﺢٍ ﯾَ ْدﻋُو ﻟَﮫ‬،‫أو ِﻋ ْﻠ ٍم ﯾُ ْﻧﺗَﻔَ ُﻊ ِﺑ ِﮫ‬

ความว่า “เมืEอลูกหลานของอาดมั ได้เสียชีวิต การงานของเขาจะถูกตดั ขาดลงยกเว้น
เพียงสามประการคือ การบริจาคทานทEีถาวร ความรู้ทีEยงั ประโยชน์ หรือบตุ รทีEดีขอดอุ าอฺให้กบั
เขา”

ในมุมมองของข้าพเจ้าสามสEิงนีหB ากใครได้กระทําย่อมถือเสมือนว่าเป็นการเผยแผ่
อิสลามทีEค่อนข้างครบถ้วนทงัB ในแง่ของวตั ถทุ Eีเป็นศาสนสถาน องค์ความรู้และบคุ ลากร อีกทงัB
ยังเป็นการดาอีย์ทEียังคงอยู่ตลอดไป เพราะถ้าทําการซอดาเกาะฮ์ญารียะฮ์โดยทําการกุศล
ให้กบั โรงเรียนหรือมสั ยิดในส่วนทEีเผยแผ่ศาสนา และสEิงทีEเราได้ซอดาเกาะฮ์ยงั คงอย่ตู ลอดไป
แม้เราจะตายไปแล้ว นEีเป็นสงิE ทEียงEั ยืนมากและเราก็มีสว่ นในการดะอฺวะฮ์ สว่ นความรู้ทีEเราได้พดู
หรื อสอนให้ คนอEืนได้ เข้ าใจแล้ วนํ าไปใช้ มันยังประโยชน์ ต่อไปถึงแม้ ว่าเราจะตายไปแล้ ว
เพราะฉะนนัB มนั เป็นองค์ความรู้ทEีเราได้ให้กบั สงั คม สว่ นลกู ทEีซอและฮ์ทEีเขาเป็นคนดีเขาก็จะขอ
ดอุ าอฺให้เราและทําอะม้าลอิบาดะฮฺพ่อแม่ก็ได้กศุ ล และเมEือลกู มีหลาน และหลานมีเหลนก็จะ
เป็นการส่งต่อความดีหรือดะอฺวะฮ์ทEีอยู่ตลอดไป เพราะฉะนันB อยากให้พวกเราทํา b สิEงนีเB พEือ
อยา่ งน้อยทีEสดุ เราก็จะได้เป็นผ้ทู Eีเผยแผอ่ ิสลามทEีมีผลยงัE ยืนตลอดไป อินชาอลั ลอฮฺ

87


การใช้ชีวติ ของผู้ศรัทธาในโลกดุนยา

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫َﺻ ًل‬ ‫اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم‬ ٠ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
ُ‫ﺑَ ْﻌد‬ ‫ أَ ﱠﻣﺎ‬٠ ‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬
‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬٠ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬
‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬
‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทีEทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถงึ วนั ศกุ ร์นีอB ีกครังB

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ ข้าพเจ้าขอเตือนตัวเองและพวกท่านให้มีความ
ยําเกรงต่ออัลลอฮฺด้วยกับการปฏิบัติในสEิงทEีพระองค์ทรงสัEงใช้ทังB ทีEถูกระบุอยู่ในพระมหา
คมั ภีร์อลั กรุ อาน และทีEท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้นํามาเผยแผ่แก่
เรารวมทังB ขอให้พวกท่านจงออกห่างจากสิEงทEีพระองค์ทรงสงัE ห้ามและท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้ทรงห้ามปรามด้วย

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ ปัจจบุ นั หลายสEิงหลายอย่างได้ถาโถมเข้ามาส่เู รา
เพืEอทีEจะเป็นการทดสอบพวกเรา ให้เราได้มีอีหม่านเพิEมมากขึนB ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัย
เกีEยวกับอิสลามอย่างจริงจังเพราะมีการเข้ ารับอิสลามเป็ นจํานวนมากทังB ในประเทศ
สหรัฐอเมริกาและในประเทศแถบยุโรป แม้แต่ในแถบเอเชียหรือประเทศไทยก็ตาม ซEึงเราจะ
เห็นได้จากมี Youtube หรือ Facebook จํานวนมากมายนําเสนอเผยแพร่เกEียวกับหลักการ
ของอัลอิสลาม ล่าสุดได้มีการศึกษาวิจัยเป็นระยะเวลาถึง ‡ ปี จึงได้ข้อมูลทีEแน่ชัดว่าตอนนี B
ศาสนาทEีเติบโตเร็วทีEสดุ คือ ศาสนาอิสลาม และในระยะเวลาอีก UU ปีข้างหน้า อิสลามจะเป็น
ศาสนาทีEมีคนนับถือมากทีEสุดในโลก จากจุดนีเB องทําให้เกิดความไม่พอใจของผู้คนจํานวน

88


มากมาย หลังจากเหตุการณ์ถล่มตึกเวิลร์ดเทรด หรือ g/•• มีคนหลายกลุ่มหลายพวกทีE
พยายามจะตอ่ ต้านหรือพยายามทEีจะสร้างความเกลียดชงั ให้เกิดขนึ B กบั มสุ ลมิ เราจะได้ยินคําวา่
Islamophobia คือโรคกลัวอิสลาม เรEิมต้นจากการกลัวไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อการร้ ายและมีการ
ประณามและเหยียดมุสลิม ต่อมาก็พัฒนาเป็นความเกลียดชัง ในต่างประเทศจะค่อนข้าง
รุนแรงมาก มีเหตุการณ์ทEีเรียกว่า Hate Crime คือ อาชญากรรมทEีเกิดจากความเกลียดชัง
ในต่างประเทศถ้ามสุ ลีมะฮ์เดินคนเดียวก็อาจจะถกู คกุ คาม เช่น การดงึ ฮีญาบหรืออาจทํามิดีมิ
ร้ายหรือแม้แต่การพูดจาเหยียดหยาม เราเห็นใน Youtube บ่อยเนืEองจากมีการเผยแพร่อย่าง
มากมายให้เราได้รับรู้ นEีคือลกั ษณะของ Hate Crime ทEีเกิดขนึ B ในตา่ งประเทศ ตอนนีเBหตกุ ารณ์
ลกั ษณะเช่นนีเB ริEมเข้ามาในประเทศไทยแล้ว แต่อาจจะไม่ได้เกิดขึนB ในรูปของ Islamophobia
หรือ Hate Crime แต่อยู่ในรูปแบบของ Hate speech ซึEงเป็นคําพูดหรือถ้อยคําทEีทําให้เกิด
ความเกลียดชงั มสุ ลมิ และอิสลาม มีผ้ทู Eีแสดงออกถงึ ความเกลียดชงั มสุ ลมิ และอิสลามมากมาย
ซงEึ ได้มีการสง่ ตอ่ กนั บนไลน์และเฟสบ๊คุ ทงัB ทีEเป็นข้าราชการ มีสี มีตําแหน่ง เป็นทงัB ฆราวาสและ
สมณเพศ ซEึงตอนนีบB างเฟสบุ๊คก็ถกู สงัE ปิดไปแล้ว การกระทําแบบนีคB ือ การสร้างกระแสความ
เกลียดชงั ซงึE เราต้องไมห่ ลงกลโดยการโต้ตอบในลกั ษณะทEีไมเ่ หมาะสม เพราะขณะนีอB งค์กรทEีมี
หน้าทEีรับผิดชอบกําลงั ดําเนินการอยู่ ต้องบอกว่าสิEงทีEเกิดขึนB นอกจากจะเป็นกระแสทEีมาจาก
ภายนอกแล้ว ยงั มีกระแสทEีเกิดขนึ B จากภายในทEีมีอย่เู ดิม มีความไม่ชอบหรือไม่พอใจในอิสลาม
ว่าเราได้รับการเชิดชหู รือสนบั สนนุ จากรัฐบาลเป็นจํานวนมาก มีการปะติดปะต่อเรืEองต่างๆ ทีE
เกิดขึนB มากมายตงัB แต่กฎหมายการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม เรEืองมสั ยิด เรEืองการทําฮจั ญ์
เรืEองชะรีอะฮ์ เรืEองซะกาต มีการเผยแพร่อิสลาม การออกตบั ลีก การออกดะอฺวะฮ์ทวัE ประเทศ
มีการสร้ างมัสยิดในจังหวัดทEีไม่มีมุสลิม สิEงต่างๆ เหล่านีเB ป็นการปะติดปะต่อเรEืองทังB สินB
ส่วนหนึEงนํามาจากข้อมลู ทีEค่อนข้างคลาดเคลEือน ไม่ใช่เรืEองเดียวกันแต่มาพูดปนกันซEีงทําให้
เกิดเป็นเรืEองราวทEีเชืEอมโยงเข้าหากนั ตรงนีคB ือการให้ข้อมลู ทEีผิดพลาดและเป็นสว่ นหนEึงทEีสร้าง
ความเกลียดชังให้เกิดขึนB พวกเราในฐานะทEีเป็นมุสลิมสามารถทEีจะช่วยเหลือหรือแก้ปัญหา
เหล่านีไB ด้ ไม่ใช่ส่งต่อไป แต่น่าจะสร้ างความเข้าใจบางเรEืองให้เขาได้รับรู้ และทEีสําคัญคือ
เราเป็นผ้ทู ีEจะต้องปรับปรุงตวั เอง ข้าพเจ้ามองว่ามนั เป็นผลสะท้อนหรือสEิงทEีสะท้อนให้เห็นว่า

89


คนตา่ งศาสนิกเขาไม่เข้าใจอิสลามและเขาไมเ่ ข้าใจวิถีของมสุ ลิมวา่ ทําอะไรไปบ้าง การมีมสั ยิด
เพืEออะไร การทEีเราจะใช้กฎหมายชะรีอะฮ์ในส่วนของครอบครัวมรดกนันB เพืEออะไร การทีEเรา
ต้องการเดินทางไปทําฮจั ญ์เพืEออะไร ซงEึ เขาไม่เข้าใจและจบั มาเป็นประเด็นและทําให้ภาพพจน์
ของอิสลามเสียหาย อิสลามนันB สูงส่ง มันอาจจะมีมุสลิมบางคนทีEทําไม่ดี ตรงนีกB ็เป็นปัญหา
เฉพาะคน ซงึE มนั ไม่ควรทีEจะก้าวลว่ งไปถึงศาสนาอิสลาม ซงึE อิสลามนนัB สงู สง่ และไม่มีศาสนาใด
สงู สง่ กวา่ อิสลาม คําสอนนีเBป็นสจั ธรรม มีบางคนมีการตดั ต่อบางอายะฮ์วา่ ถ้าเจอต่างศาสนิก
ทีEไหนให้ฆ่าทEีนัEน ซึEงเขาไม่พูดถึงอายะฮ์ก่อนหน้านันB หรือหลงั จากนันB หรือสาเหตุของการลง
โองการนี BซึEงเขาต้องการทําให้เกิดการเกลียดชงั ตรงนีเB ราต้องช่วยสร้างความเข้าใจทีEดีต่อคน
ต่างศาสนิกโดยเฉพาะอย่างยEิง เราต้องปฏิบัติตัวในฐานะทีEเป็นมุสลิมทีEดีมีมารยาทและ
จริยธรรมทีEดี ถ้าเราอยากให้ลกู เป็นคนดีเราต้องทําดีให้ลกู ดู ไม่ใช่เราเองก็ไม่ทําแต่อยากให้ลกู
เป็นคนดี เพราะฉะนนัB เราจะต้องเป็นแบบฉบบั และเราสามารถเผยแพร่สิEงทีEเป็นสิEงทีEดีและเป็น
คุณธรรมได้ตลอดถ้ามีโอกาส อิสลามและคําสอนนันB สงู ส่งยEิงทีEมีปัญหาคือตวั มนุษย์หรือพูด
ง่ายๆ ว่าแนวทางของอัลอิสลามนันB ใสบริสุทธ›ิ แต่จิตใจของมนุษย์ต่างหากทEีมีมลทิลถึง
ยอมรับอลั อิสลามไม่ได้และฝ่ าฝืนหลกั การของศาสนา นกั วิชาการบอกว่าเปรียบเหมือนนําB ใน
แก้ว ถ้าแก้วสกปรกแต่นําB ใสบริสทุ ธิ›เมEือใส่ลงไปแล้วก็ทําให้ดูสกปรกไม่น่ากินเพราะว่าจิตใจ
มนุษย์มีความแปดเปือB นเหมือนแก้วทEีเปือB น แต่อัลอิสลามเป็นเหมือนนําB เพราะฉะนันB ตรงนี B
อยากให้เราสํารวจตวั เราเองวา่ เรายอมรับหลกั การของอลั อิสลามมากน้อยแคไ่ หน สิEงทEีบญั ญตั ิ
ไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานเราได้น้อมนํามาปฏิบัติหรือไม่ สิEงทEีท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) ได้บอกหรือกระทําหรือยอมรับ เราได้นํามาปฏิบัติมากน้อย
เพียงใด ถ้ าเรายังยอมรับไม่ได้เราควรพิจารณาตัวเองว่าเราเป็นแก้ วทEีสกปรกทEีมีมลทิน
ใช่หรือไม่ และทีEสําคญั คนประเภทนีอB ลั ลอฮฺก็จะไม่ทรงประทานทางนําให้ ในพระมหาคมั ภีร์
อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อนั อาม อายะฮ์ทEี •TU ได้ระบวุ า่

‫ُ أَ ْن ﯾَ ْﮭ ِدﯾَﮫُ ﯾَ ْﺷ َر ْح َﺻ ْد َرهُ ِﻟ ِﻺ ْﺳﻼ ِم َو َﻣ ْن ﯾُ ِر ْد أَ ْن ﯾُ ِﺿﻠﱠﮫُ ﯾَ ْﺟﻌَ ْل َﺻ ْد َرهُ َﺿ ِﯾّﻘًﺎ‬6‫ﻓَ َﻣ ْن ﯾُ ِر ِد ا ﱠ‬
‫َﺣ َر ًﺟﺎ َﻛﺄَﻧﱠ َﻣﺎ ﯾَ ﱠﺻﻌﱠدُ ِﻓﻲ اﻟ ﱠﺳ َﻣﺎ ِء‬

90


ความวา่ “ใครก็ตามทEีอลั ลอฮฺต้องการให้เขาได้รับทางนํา อลั ลอฮฺจะทําให้จิตใจเขาเบกิ
บานด้วยกบั อิสลาม และใครก็ตามทีEอลั ลอฮฺต้องการให้เขาหลงทาง อลั ลอฮฺจะทําให้หวั อกของ
เขาอดึ อดั ประหนงึE เหมือนกบั เขาขนึ B ไปบนท้องฟา้ ทEีสงู ”

สงEิ นีเBป็นสงEิ ทีEไมม่ ีใครรู้มาก่อนนอกจากอลั ลอฮฺ ซงึE ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะ
ลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ก็ไมร่ ู้ แตอ่ ลั ลอฮฺได้วะฮีย์ลงมายงั ทา่ นวา่ การขนึ B สฟู่ ากฟ้านนัB อดึ อดั เพราะอากาศ
เบาบาง ยิEงถ้าออกไปนอกโลกซงึE เป็นสญู ญากาศยิEงอดึ อดั มากเพราะไม่มีอากาศเลย อลั ลอฮฺได้
ทรงบอกวา่ จะอดึ อดั เหมือนกบั การขนึ B ไปอยบู่ นฟากฟ้า คนทEีไม่ได้รับทางนําเมืEอได้รับฟังอายะฮ์
อลั กุรอานหรือได้รับทราบถึงบทบัญญัติทEีเป็นการสงEั ใช้หรือสงัE ห้ามแล้ว อาจจะทําให้รู้สึกว่า
รับไมไ่ ด้และอดึ อดั ทEีจะทําตาม และพระองค์อลั ลอฮฺได้ทรงกลา่ วตอ่ ไปอีกวา่

‫ُ اﻟ ِّر ْﺟ َس َﻋﻠَﻰ اﻟﱠ ِذﯾ َن َﻻ ﯾُ ْؤ ِﻣﻧُو َن‬6‫َﻛ ٰذَ ِﻟ َك ﯾَ ْﺟﻌَ ُل ا ﱠ‬

ความวา่ “ในทํานองนนัB แหละอลั ลอฮฺจะทรงให้มีความโสมม แก่บรรดาผ้ทู Eีไมศ่ รัทธา”

อลั ลอฮฺจะทําให้เขาสกปรก โสมม เลอะเทอะไปเรืEอยๆ ถ้าหากเขาอึดอดั กบั บทบญั ญัติ
ของพระองค์ เพราะฉะนนัB เราลองพิจารณาดวู า่ ตวั เราเองวา่ เป็นอยา่ งไร เราน้อมรับหลกั การของ
ศาสนาแค่ไหน บางคนอาจจะยึดตามมัซฮับแบบไม่ผิดเพียB นก็สามารถกระทําได้เพราะเป็น
แนวทางทEีถกู ต้อง และถ้ามีอลั กรุ อานทEีมีการอรรถธิบายโดยนกั วิชาการทีEชดั เจนวา่ หลกั การใน
เรืEองนีสB งEั ใช้ว่าอย่างไร หรือมีฮะดีษของท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั )
ทEีเชEือถือได้บอกเรEืองใดไว้ เราต้องน้อมรับและปฏิบตั ติ ามโดยไมร่ ู้สกึ อดึ อดั แตอ่ ยา่ งใด

ทา่ นพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ทา่ นครับ ผ้ศู รัทธาเหมือนกบั นกั เดินทางแตไ่ มใ่ ชน่ กั ทอ่ งเทีEยว
เราทกุ คนต้องเดินทางจากดนุ ยาไปส่อู าคีเราะฮ์อย่างแน่นอน เราต้องไม่ชืEนชมหรือหลงไปกบั
ดุนยาหรือเพลิดเพลินหรือหาความสุขใส่ตัวเหมือนนักท่องเทEียว แต่เราเป็นนักเดินทางทEีไม่
สะสมอะไร เราอยู่เพืEอทEีจะไปต่อ เราพกั แค่ให้หายเหนืEอยหรือได้รับความร่มเย็นใต้ต้นไม้และ
ต้องเดินทางต่อไป เพราะฉะนนัB เราทิงB เพียงร่างกายไว้บนดนุ ยา กล่าวคือ ยกร่างกายให้ดนุ ยา
แตท่ วา่ หวั ใจเราต้องมงุ่ สอู่ าคีเราะฮ์ มสุ ลมิ ผ้ศู รัทธาเป็นนกั ตอ่ ส้แู ตไ่ มใ่ ชผ่ ้ทู ีEแสวงหาอํานาจหรือ
ตําแหนง่ เราเป็นนกั ตอ่ ส้กู บั สงEิ ชวEั ร้ายและชยั ฏอน รวมทงัB ตอ่ ส้กู บั อารมณ์ใฝ่ของตวั เอง ผ้ศู รัทธา

91


เป็นเพียงผ้แู ทนหรือผ้คู รอบครองทรัพย์สินแต่ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สิน เราอย่าคิดว่าตวั เองเป็น
เจ้าของทรัพย์สินตา่ งๆ หรือสิEงของมีคา่ เพราะมนั ไมใ่ ช่ของเรา อลั ลอฮฺเพียงให้เรามาครอบครอง
แคช่ วEั คราว เมืEอตายไปก็เอาไปไม่ได้ นกั วิชาการได้ยกตวั อยา่ งวา่ ถ้าหากเปรียบชีวิตผ้ศู รัทธาทีE
ใช้ชีวิตอย่ใู นโลกดนุ ยานีเB หมือนกบั เรือเดินสมทุ ร มีภารกิจสําคญั ทีEต้องข้ามมหาสมทุ รใหญ่ไป
ให้ได้ ด้วยเหตนุ ี Bจงึ ต้องเตรียมตวั ก่อนการเดนิ ทาง คือ

1 – เรือลํานีตB ้องเตรียมความพร้อมอย่ตู ลอดเวลาเนEืองจากไม่มีท่าเรือทีEจะแวะหรือจอด
กลางมหาสมทุ รได้ เพราะวา่ ในมหาสมทุ รมนั จะมีคลืEนลมหรือมีพายทุ ีEโหมกระหนํEาเมืEอไหร่ก็ได้
ซEึงจะทําให้เรืออบั ปาง เช่นเดียวกันชีวิตของผู้ศรัทธาก็ไม่รู้ว่าจะตายเมEือไหร่ เพราะฉะนนัB เรา
จะต้องเตรียมพร้อมเสมอทEีจะตายและอยา่ กลวั ความตาย

2 – เรือต้องเตรียมเสบียงทีEมีคณุ ภาพยEิงคือ อะม้าลอิบาดะฮฺทEีเพียงพอต่อการเดินทาง
ไปสโู่ ลกอาคีเราะฮ์ทEีแสนยาวไกล เพราะต้องผ่านโลกแห่งหลมุ ฝังศพและต้องรอคอยโดยไม่รู้วา่
เมืEอไหร่จะถงึ วนั อาคีเราะฮ์

3 – เรือทEีจะเดินข้ามมหาสมุทรจะต้องไม่มีสEิงทEีเป็นภาระหนักอึงB ทีEทําให้เรือมีนําB หนัก
มากขนึ B โดยไม่จําเป็นเพราะจะทําให้เรือแลน่ ได้ลา่ ช้า เช่นเดียวกนั เราจะต้องไม่มีมีความชวัE ติด
ตวั หรือยงั ไม่ทิงB หรือการกระทําสิEงทEีศาสนาบอกว่าเป็นสEิงต้องห้าม และปล่อยให้เป็นภาระอนั
หนักอึงB ในตอนทีEเราตายกระนันB หรือ เพราะฉะนันB เราจําเป็นจะต้องทิงB หรือสละของต้องห้าม
เหมือนกบั เรือทEีสละสมั ภาระทEีไมจ่ ําเป็นเพEือให้เรือถงึ ฝัEงหรือจดุ มงุ่ หมายได้อยา่ งรวดเร็ว

V – เรือต้องมีความเทEียงตรง กล่าวคือ จะต้องมีเข็มทิศทEีแม่นยํา มิเช่นนนัB จะทําให้ไม่รู้
ทิศรู้ทางในมหาสมทุ รอนั กว้างใหญ่ซงึE อาจทําให้หลงทางได้ ฉนั ใดก็ฉนั นนัB ผ้ศู รัทธาจะต้องมีเข็ม
ทิศทEีจะนําให้อย่ใู นหนทางทีEถกู ต้อง คือ ตามคําสอนจากอลั กรุ อานและฮะดีษ รวมทงัB แนวทาง
ของบรรดาชาวสะลัฟทีEปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่าง สEิงเหล่านีจB ะทําให้เรามีอีหม่าน มีอะม้าลทEี
บริสุทธิ› เพราะว่าผู้ทีEตรวจสอบเราเป็นผู้ทีEรอบรู้ยEิง ผู้ทรงสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่ หน่วยงาน สตง.
หรือ ปปง. หรือ ปปช. ซงึE สามารถผิดพลาดได้ แตผ่ ้ทู Eีตรวจสอบเรา คืออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะ
อาลา) ผ้ทู รงเห็นเรา ผ้ทู รงรอบรู้ในทกุ ๆ เรEือง เพราะฉะนนัB เราต้องทําให้ดีทEีสดุ บริสทุ ธิ›ใจทEีสดุ

92


อยา่ มีภาคีแอบแฝงโดยเฉพาะอยา่ งยิEงคือ ภาคีแฝงเร้นทีEเปรียบเสมือนมดดําทีEเดินบนหินเกลียB ง
กลมในคEําคืนอนั มืดมิด มันมาในขณะทีEเราไม่รู้ตวั ไม่ได้ยินเสียง และมองไม่เห็น เช่น การโอ้
อวด และทEีสําคญั อย่าปฏิเสธต่อโองการของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) หรืออย่าเฉยเมย
ตอ่ แบบฉบบั ของทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) หรือมองเป็นเรEืองล้อเลน่
ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อลั กะฮฺฟีE อายะฮ์ทีE •Wb - •W‡ ได้ระบวุ า่

‫ﯾُﻗُ ْﺣْل ِﺳ َھﻧُ ْول َاﻧُنْﻟﻧَ ِﻘِﺑّﯾَﺋُﺎ ُﺻﻛَُﻣْﻧم ِﺔﻌً ِﺑﺎ َﺎوأُْ ْﻷَزوٰﻟَﻧًْﺧِﺋﺎ ََٰﺳذَك ِﻟِارﻟَﱠﯾك ِذ َنﯾ َﺟأََنَزْﻋا َﻛ َﻣُﻔَؤﺎ ًُرھُﻻْموااﻟﱠ َﺟِﺑِذﺂَﯾﮭﯾَﻧﱠﺎَنُم ِِﺑت َﻣَﺿَﺎر ﱠِﺑّل َﻛِﮭﻔَ ْمَﺳ ُر ْﻌَوﯾوُِﻟا ُﮭﻘَﺎَْموِﺋا ِﻓِﮫﺗﱠﻓََﻲﺧ َاذُﺣ ْﻟ ِﺑواَﺣ َطﯾَآﺎﯾَ ِْةﺎت ِﺗاأَﻟﻲدﱡْﻋ ْﻧ ََﯾَﻣوﺎﺎ ُﻟُر َ ُﮭوﺳُْمِﻠھُ ْﻓَمﻲَﯾَﻼ ْھُﺣﻧُ ُِﻘز َﺳﯾًﺑُوُماوﻟَ َُﮭن ْمأَﻧﱠﯾَ ُْﮭو ْمَم‬

ความวา่ “จงกลา่ วเถิดมฮุ มั มดั เราจะแจ้งแก่พวกทา่ นไหมถงึ บรรดาผ้ทู Eีขาดทนุ ยิEงในการ
งาน คือบรรดาผ้ทู ีEการขวนขวายของพวกเขาสญู สินB ไปในการมีชีวิตในโลกนี Bและพวกเขาคิดว่า
แท้จริงพวกเขาปฏิบตั คิ วามดีแล้ว เขาเหลา่ นนัB คือบรรดาผ้ปู ฏิเสธศรัทธาตอ่ โองการทงัB หลายของ
พระผ้เู ป็นเจ้าของพวกเขา และการพบปะกบั พระองค์ ดงั นนัB การงานของพวกเขาจึงไร้ผล และ
ในวันกิยามะฮ์เราจะไม่ให้มันมีค่าแก่พวกเขาเลย นEันแหละการตอบแทนของพวกเขา คือ
นรกญะฮนั นมั เนEืองจากพวกเขาปฏิเสธศรัทธา และพวกเขายดึ เอาโองการทงัB หลายของข้า และ
บรรดาร่อซลู ของข้าเป็นเรEืองล้อเลน่ ”

เพราะฉะนันB เราอย่าทําให้ บทบัญญัติของอัลลอฮฺและสิEงทEีท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) เป็นเรืEองล้อเลน่ ไม่เช่นนนัB พระองค์จะไม่ทรงประทานศาสดาลง
มาให้เป็นตวั อย่างแก่พวกเรา เพราะฉะนนัB เราจะต้องน้อมรับหรือเปิดใจ นักวิชาการบอกว่า
ต้นไม้มนั จะขึนB บนดินทีEอ่อนน่มุ แต่ไม่สามารถขึนB บนแผ่นหินผาทีEแข็งกระด้างได้ ฉันใดฉันนนัB
เหมือนกบั การศรัทธาของมนษุ ย์มนั จะอย่บู นหวั ใจทีEอ่อนโยนโดยไม่สามารถอย่บู นหวั ใจทEีแข็ง
กระด้างได้ เพราะฉะนนัB ให้พวกเราสํารวจตวั เองว่าเรามีปัญหาหรือมีภาระทEียงั เลิกไม่ได้ หรือ
ปฏิเสธโองการของพระองค์หรือดถู กู แบบฉบบั ของทา่ นศาสดาเป็นเรEืองล้อเลน่ หรือไม่

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ ในประเทศอินโดนีเซียมีการรณรงค์เรืEองการคลมุ
ฮิญาบและเขาเขียนปา้ ยไว้วา่ ผ้ทู ีEไมต่ ้องคลมุ ฮีญาบมี b ประเภท คือ (•) ผ้ทู Eีไมใ่ ช่มสุ ลมิ (T) ผู้
ทEียงั ไม่บรรลศุ าสนภาวะ และ(b) คนบ้า มสุ ลิมะฮ์ทงัB หลายจงพิจารณาตวั เองว่า อย่ใู นบคุ คล

93


สามประเภทหรือไม่ ถ้าหากว่าไม่อย่กู ็จําเป็นทีEจะต้องมีการคลมุ ฮิญาบอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่มี
บางคนบอกว่าเรืEองการคลมุ ฮีญาบเป็นสิทธิสว่ นบคุ คลและเสรีภาพทีEจะแสดงออกหรือทําอะไร
ก็ได้กบั ตวั เอง ซงึE ในประเด็นนี Bดร. ซากิร ไนค์ กลา่ วไว้วา่ ถ้าหากการเปิดเผยร่างกายแสดงออก
ถึงความทันสมัยหรือความศิวิไลส์แล้ว สตั ว์ย่อมมีความทันสมัยและศิวิไลส์มากกว่ามนุษย์
อย่างแน่นอน เพราะมนั ไม่ได้ปกปิดอะไรเลย อนั ทีEจริงเราเข้าใจว่าประเทศไทยเป็นเมืองเปิดจึง
ไม่ต้องคลุมฮีญาบ แต่ลองมาคิดพิจารณาในลึกลงไป ถ้าเป็นเมืองเปิดจริงแล้วเวลาจะทํา
ละหมาดทําไมถึงต้องปิด นีEก็เป็นสEิงทีEชีใB ห้เห็นวา่ หลกั การจริงๆ อย่ใู นพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อาน
ในเรEืองเอาเราะฮ์หรือเรืEองฮีญาบ นกั วิชาการได้เปรียบเทียบว่า ถ้าเราไปซือB ผลไม้ไม่ว่าจะเป็น
ทเุ รียน แตงโมหรือส้ม ซงEึ คนขายมกั จะพยายามปอกเปลือกให้เราเห็นถึงความสวยงามภายใน
ของมนั เพEือเป็นแรงจูงใจให้เราซือB แต่ถามว่าจะมีใครซือB ส้มทีEปลอกเปลือกแล้วหรือซือB ของสEิง
ทEีตงัB โชว์ ทําไมเราถงึ ต้องเอาของทEียงั ไมป่ อกเปลือก นกั วิชาการได้อธิบายเรืEองนีวB า่ การทEีอลั ลอฮฺ
(ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ได้ทรงกําหนดให้มีการคลุมฮีญาบแก่มุสลิมะฮ์เพืEอทีEจะปกป้องนาง
เฉกเช่นเดียวกับไข่มุกทEีมีความบริสุทธ›ิผุดผ่อง ขาวสว่างสดใสเพราะมันอยู่ในเปลือกหอย
ตลอดเวลา มนั ไม่ได้รับมลทินหรือสารพิษจากท้องทะเลหรือสารเคมีทEีตกลงสกู่ ้นทะเลแต่อย่าง
ใด ถ้ามนั เปิดเผยไข่มกุ ก็จะไม่ขาวสะอาด ฉันใดฉันนนัB การทีEมสุ ลีมะฮ์ถกู บญั ญัติให้คลมุ เรือน
ร่างยกเว้นสิEงทีEเปิดเผยได้เท่านันB ก็เพืEอทEีจะปกป้องนางจากสิEงต่างๆ รอบตัว นอกจากการ
ปกป้องนางแล้วยงั เป็นการแสดงออกถึงการศรัทธาและการยอมจํานนต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่าง
แท้จริงอีกด้วย

‫ اﻟﻌَ ِظ ْﯾ َم ِﻟﻲ َوﻟَﻛُ ْم َو ِﻟ َﺳﺎ ِﺋ ِر اﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ِﻣ ْﯾ َن‬6َ ‫أَﻗُو ُل ﻗُو ِﻟﻲ َھذَا َوا ْﺳﺗَ ْﻐﻔَ ُر ا ﱠ‬
‫ﻓَﺎ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُر ْوهُ ِإﻧﱠﮫُ ھُ َو ا ْﻟﻐَﻔُ ْو ُر اﻟ ﱠر ِﺣﻲ‬

94


เร;ือง การใช้ชีวติ ท่ามกลางสังคมในยุคใหม่

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫َﺻ ًل‬ ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫُ اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
ُ‫ أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌد‬٠ ‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬
‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬
‫ﺑَآ َ ْﻌَوﻣﻧَُروًﺿاﺳُﺎاو ۚﻟَ ْ◌ﺟﮫُﺗَأَ ِﻧﯾُﻓَﺑُﻘَِﺣوْداﻓَﱡبﺎَﻛ ِﺛأََزﯾ َﺣًﻓَر ْدُاوﻛُ ًِّﻣْزما َأَن اَﻋنﻟ ِﯾَظﺄﱠظْﯾﻛًُِّﻣنﺎَل‬6َ‫ ْﻐَوﺗَﯾَ َﺎﻣ أبَنﯾﱡﺑﱠ َﯾﮭُ ْﻌﺎ ِطاﻟﱠ ِﻊُﺿِذﯾاﻛُمﱠَن‬٠َ‫ِإﯾﻓَُﻘَ ﱠن ْد ْﺻﺑَ ِﻠﻗَ ْﺎﻌ ْﺢ َلﻟَ َﻛُض ْمﷲاُﻟأَﺗَ ْﱠظﻌَﻋﺎَِﻣّﻟَنﺎﻟَِإﻰﺛْﻛُ ٌِﻓمْم َۖﻲو◌ﯾَ َﺳُْﻐو ِْﻔَو ْﻻ َررﺗَﻟَِة َﻛُاﺟﻟْم ﱠﺳ ُﺣذُﺳُﻧُُﺟووَارﺑَا َﻛُو ْمَتﻻ ۗ◌ﯾ‬
‫ َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬٠‫ ﺗَ ﱠوا ٌب ﱠر ِﺣﯾ ٌم‬6َ ‫ ۚ◌ ِإ ﱠن ا ﱠ‬6َ ‫ﻟَ ْﺣ َم أَ ِﺧﯾ ِﮫ َﻣ ْﯾﺗًﺎ ﻓَ َﻛ ِر ْھﺗُ ُﻣوهُ ۚ◌ َواﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทEีทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถงึ วนั ศกุ ร์ ข้าพเจ้าขอเตือนตวั เองและพวกทา่ นให้ยําเกรงตอ่ อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

ด้วยกบั การปฏิบตั ิตามสิEงทีEพระองค์ทรงสงEั ใช้และห่างไกลหรือห้ามปรามในสิEงทEีพระองค์ทรงสงEั

ห้าม

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ ทกุ วนั นีกB าลเวลาได้หมนุ เวียนเปลEียนผ่านไปอย่าง
รวดเร็วมาก ในขณะเดียวกนั ความเจริญในด้านตา่ งๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีก็พฒั นารวดเร็ว
มากเช่นเดียวกนั ลองถามตวั เองว่า ตอนนีเB รามีอีหม่านเพEิมขีนB หรือไม่ เราได้รับความรู้หรือได้
เรียนรู้เรืEองของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) หรือหลกั การของศาสนาอิสลามมากขนึ B เพียงใด
มีความเท่าทนั กบั เทคโนโลยีทEีได้เปลีEยนแปลงไปหรือไม่ ตรงนีเBป็นสEิงทีEผ้ศู รัทธาจะต้องตระหนกั
และควรจะมีวิธีคิดหรือหลกั การทีEจะดําเนินชีวิตอยู่ท่ามกลางความรวดเร็วของกาลเวลาและ
ท่ามกลางความเจริญทางด้านเทคโนโลยีอย่างไร ด้วยเหตนุ ี Bในคตุ บะฮ์นีจB ึงขอถือโอกาสกล่าว
ตกั เตือนในเรืEองเกEียวกบั วิธีการปฏิบตั ิตนหรือข้อคิดทีEเป็นประโยชน์ ในการใช้ชีวิตอยใู่ นโลกแหง่
การเปลยEี นแปลงและเทคโนโลยีทEีทนั สมยั U ประการ คือ

95


• - การใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากทEีสดุ

T - การรู้เทา่ ทนั เทคโนโลยีสมยั ใหม่

3 - การจดั ลาํ ดบั ความสาํ คญั ของเรEืองทEีควรจะทําก่อน

V – การจํากัดขอบเขตในสิEงทEีสามารถกระทําได้หรือกระทําไม่ได้ในฐานะทีEเป็นมสุ ลิม
ผ้ศู รัทธา

U - มมุ มองหรือการใช้อิสลามเป็นเครืEองมือในการแก้ปัญหาในปัจจบุ นั

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ ประการแรกทีEกล่าวคือ การใช้เวลาให้เป็น
ประโยชน์มากทีEสดุ มีฮะดีษของท่านศาสดาทีEสงEั ใช้ให้เราปลกู ต้นไม้แม้ว่าจะถึงวนั สดุ ท้ายของ
โลกก็ตาม นอกจากจะชีใB ห้ เห็นถึงความสําคัญ ของโลกดุนยาทEีเราจะละเลยไม่ได้
ในขณะเดียวกันก็ต้ องพยายามใช้ เวลาทุกวินาทีให้ มีประโยชน์ต่อการสร้ างอีหม่านหรื อสร้ าง
เสบียงส่อู าคีเราะฮ์ด้วยจึงจะถือได้ว่าเป็นการใช้เวลาได้อย่างค้มุ ค่า ตรงนีขB อฝากพีEน้องให้ช่วย
พิจารณาไตร่ตรองตวั เองว่าสามารถกระทําได้แค่ไหนเพียงใด เพราะมอุ ฺมินทีEดี คือ ผู้ทEีสํารวจ
ตวั เองและปรับปรุงการกระทําของเราให้ดีขนึ B

ประการท)ีสองคือ การรู้เท่าทนั เทคโนโลยีสมยั ใหม่ สิEงทEีเกิดขึนB ในโลกนีไB ม่ใช่เกิดจาก
ความบงั เอิญอย่างแน่นอน หากแต่เป็นพระประสงของพระองค์เท่านนัB เพราะฉะนนัB สิEงทEีเกิดขนึ B
ล้วนแล้วแต่เป็นบททดสอบของเรา เทคโนโลยีทีEก้าวหน้าก็เช่นเดียวกนั เราต้องตระหนกั ว่าสิEงนี B
คือสิEงทีEอัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ประสงค์จะทดสอบเราและเราจะต้องใช้มันให้เป็น
เครEืองมือทEีมีประโยชน์แก่เรา มิใช่เป็นโทษสําหรับเรา ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ต ไอโฟน ไอแพด
โซเชียลมีเดีย โซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ แต่ทว่าสEิงทEีเกิดขึนB คือ บางคนติดเทคโนโลยีเหล่านี B
จนงอมแงม ตEืนนอนมาก็ต้องแชทต้องไลน์ก่อนกระทําสEิงอืEนใด รวมทงัB บางคนใช้มนั เป็นเสมือน
ตวั แทนซึEงมนั ไม่สามารถแทนตวั เราได้ทงัB หมด ยกตวั อย่างเช่น ตอนนีเB ราติดต่อกนั โดยใช้แชท
ใช้ไลน์ ใช้เฟสบุ๊ค แต่เรากลับเดินทางไปมาหาสู่กันน้อยลง เพราะเราเข้าใจว่าเราพูดกันอยู่
ติดต่อกันอยู่ทุกวนั ทางโซเชียลมีเดียดงั กล่าว โดยเราลืมไปว่า นEีคือการมองหน้าจอไม่ใช่หน้า
จริง เราไมไ่ ด้ไปหาบิดามารดาหรือพีEน้องของเรานานแคไ่ หนแล้ว เราไปเฉพาะวนั อีดเพียง T วนั

96


หรือไม่ เพราะฉะนันB ตรงนีใB ห้พิจารณาว่าเป็นอย่างไร การโพสต์รูปก็เป็นสิEงทEีสําคญั อย่างยิEง
เช่น รูปภาพทEีไม่เหมาะสม ถ้อยคําบางอย่างทีEไม่แน่ชัดว่าเป็นความจริงหรือความเท็จหรือ
ก่อให้เกิดฟิตนะฮ์ ก่อนทEีจะโพสต์ก็ควรจะต้องไตร่ตรองหรือตรวจสอบให้ดีก่อนทีEจะดําเนินการ

ประการท)ีสามคือ การจดั ลําดบั ของเรEืองทีEควรจะทําก่อน ปัจจุบนั เรามีงานเยอะมาก
แล้วเราก็ทําหลายๆ เรืEองพร้อมกนั ผลลพั ธ์ก็อาจจะไม่ได้ดีซกั เรืEองหนึEง เราควรจะต้องจดั ลําดบั
ความสําคญั วา่ อะไรควรมาก่อน อะไรมาหลงั ตรงนีผB ้ศู รัทธาจะต้องจดั ให้ถกู วา่ อะไรสําคญั กวา่
อะไร มีคําถามให้ท่านพEีน้องคิดว่าท่านเป็นอย่างนีหB รือไม่ ท่านให้ความสําคญั กบั สิEงทEีถกู สร้าง
มากกวา่ ผ้สู ร้างหรือไม่ ทา่ นติดอยกู่ บั รูปรสกลEินเสียงหรือสEิงทีEมีความสขุ ในโลกนีมB ากจนลืมพระ
ผ้เู ป็นเจ้าผ้ทู รงสร้างหรือไม่ ให้เวลากบั มนั มากน้อยเพียงใด ท่านให้ความสําคญั กบั โลกดนุ ยา
มากกวา่ โลกอาคีเราะฮ์หรือไม่ เวลา TV ชวัE โมงทา่ นใช้หมดไปกบั เรEืองอะไร ใช้ในเรืEองดนุ ยาหรือ
เรืEองอาคีเราะฮ์ ทา่ นลองสํารวจตวั เอง ทา่ นสนใจให้ความสําคญั กบั ประเพณีทEีบรรพบรุ ุษกระทํา
มา มากกว่าซุนนะฮ์ของท่านนบีมฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ใช่หรือไม่ โดยมองวา่
เรืEองซุนนะฮ์ของท่านนบีนนัB ทําก็ได้ ไม่ทําก็ได้ แต่ประเพณีนนัB ต้องกระทําขาดไม่ได้ ใช่หรือไม่
ทังB ทีEบางทีมันไม่ใช่ประเพณีของอิสลามด้ วยซําB ไป แต่ซุนนะฮ์เราควรจะต้ องทํา เราให้
ความสําคญั กบั เรืEองการงานมากกวา่ เรEืองครอบครัวใช่หรือไม่ เราออกไปทํางานแตเ่ ช้ากลบั มา
บ้านมืดคํEา ตอนออกมาลูกยังไม่ตEืนเลย ส่วนตอนกลับไปบ้านลูกหลับแล้วใช่หรือไม่ เราให้
ความสําคญั กบั เพืEอนฝงู มากกว่าพีEน้องหรือพ่อแม่ใช่หรือไม่ พ่อแม่นดั ไม่เจอไม่เป็นไรแต่เพEือน
ฝงู เจอกนั ได้ทกุ วนั ไปไหนไปกนั ความสําคญั ของพEีน้องน้อยกว่าเพEือนฝงู ตรงนีกB ็เป็นส่วนหนึEง
ทีEอยากจะฝากพวกเราในฐานะผ้ศู รัทธาว่าควรจะให้ความสําคญั กบั สEิงทีEควรจะทํามากกว่ากนั
อย่าไปหลงมนั โดยเฉพาะเทคโนโลยีเหลา่ นีใB ห้เราใช้เป็นเครEืองมือในการสร้างอีหม่านจะดีกว่า
เพราะมนั มีทงัB ข้อดีและข้อเสยี

ประการท)ีส)ีคือ การจํากดั ขอบเขตในสิEงทีEเราทําได้หรือทําไม่ได้ในฐานะทEีเป็นผ้ศู รัทธา
เรืEองนีเB ป็นเรEืองทEีสําคญั เพราะว่าตอนนีไB ม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊คหรือไลน์ ล่าสดุ ข้าพเจ้าได้เคยเห็น
วีดีโอใน Youtube ทEีเกียวกบั การอ่านกรุ อานโดยมีเสียงเพลงประกอบด้วย ซงEึ เป็นของลทั ธิใหม่
ทีEชEือว่า KOS ชEือเต็มก็คือ Christian Orthodox Syria ลัทธินีกB ่อตังB ในประเทศซีเรียและ

97


เลบานอน แล้วเผยแพร่ขยายออกมาในกลุ่มประเทศอาหรับ มาถึงอินเดีย จนกระทEังมาถึง
อินโดนีเซีย ได้ขา่ ววา่ มีการรับคริสต์เตียนเป็นจํานวนไมใ่ ช่น้อย บริเวณเมืองยอร์คจาการ์ต้าและ
เมืองสรุ ะบายา ซงึE เป็นสEิงทีEประหลาดมากเพราะมีการอ่านกรุ อานโดยใช้คณะคอรัชและมีเสียง
ของวงออเคสตร้ าประกอบเป็นเบือB งหลงั เดิมเมEือ •W ปีทEีแล้วทEีอินโดนีเซียมีอุลามะอ์ทีEเมือง
บนั ดงุ บรรยาย โดยมีขนัB รายการด้วยกบั การเลน่ ของวงดนตรีให้เหตผุ ลวา่ ต้องการดงึ วยั รุ่นให้มา
ฟังศาสนา แต่ตอนนีกB ลบั พฒั นาเป็นว่า มีการอ่านกรุ อานพร้อมกบั วงออเคสตร้า สEิงเหล่านีคB ือ
การเลยเถิดในทางศาสนาแล้วขอบเขตมนั อยทู่ ีEไหน ทEียกตวั อยา่ งเรEืองนีเBพราะต้องการจะให้เห็น
ว่าถ้าเรามีขอบเขตของแนวทางทEีเทEียงตรง หลักการอิสลามอยู่แค่ไหน มีขอบเขตทEีชัดเจน
มสุ ลิมย่อมไม่อาจออกไปนอกขอบเขตได้ แตถ่ ้าหากคิดวา่ มนั ทําเพิEมเติมขนึ B ได้เพราะมนั เป็นสEิง
ดีมีประโยชน์แน่นอนขอบเขตก็จะไม่ชัดเจนและมันก็จะทําให้ เกิดการเกินเลยต่อไปได้ เรืE อยๆ
ไมม่ ีจดุ จบสินB นEีคือการทEีเราไมร่ ู้จกั ขอบเขตเพราะฉะนนัB เราคงต้องตระหนกั วา่ ทา่ นศาสดานนัB
ได้นําอลั อิสลามมาอยา่ งครบถ้วนสมบรู ณ์แล้ว การเพิEมเติมในเรืEองศาสนาก็ถือเป็นการกระทําทEี
อตุ ริหรือทีEเรียกว่า “บิดอะฮ์” ทงัB นีเB พราะทกุ แนวทางทEีหลงผิดย่อมเริEมต้นมาจากการกระทําสิEง
ใหม่ทีละนิดๆ แล้วหลงั จากนันB ก็เพิEมไปเรEือยๆ ไม่รู้จกั จบเพราะในจิตใจของมนุษย์มีนิสยั เป็น
อย่างนนัB มนั อาจจะตรงกบั นฟั ซูทEีตวั เองชอบอย่แู ล้วโดยเฉพาะเรEืองดนตรี ซงึE มนั จะมีผลหรือมี
อิทธิพลต่อจิตใจทําให้จิตใจอ่อนไหว ตอนนีใB นทุกๆ ศาสนาล้วนแล้วแต่ใช้ดนตรีกันทังB หมด
ยกเว้นอิสลามเทา่ นนัB และยEิงในวีดีโอ Youtube ทEีได้นําเสนอไปบอกวา่ เป็นอิสลามซงึE จริงๆ แล้ว
ไม่ใช่เพราะอะกีดะฮ์ของเขา คือ คริสเตียนซEึงต่างจากเราเพียงแต่วิธีปฏิบัติอาจจะ
ลอกเลียนแบบอิสลาม เช่น มีการละหมาด ˆ เวลา b ชวัE โมงละหมาด • ครังB มีถือศีลอด VW วนั
ในเดือนอืEนทีEไม่ใช่รอมฎอน มีบวชสนุ ตั วนั พธุ กบั วนั ศกุ ร์ สEิงเหลา่ นีเBป็นการกระทําทีEเกินขอบเขต
ของศาสนาอิสลาม ดงั นันB หากเราจํากัดกรอบหรือขอบเขตทีEทําได้ตงัB แต่เรEิมต้นแล้วเราก็จะ
สามารถยืนหยดั ในหลกั การของเราได้ตลอดโดยไมม่ ีการคลอนแคลนแตอ่ ยา่ งใด

ประการท)ีห้า มมุ มองหรือการใช้อิสลามเป็นเครEืองมือในการแก้ปัญหาในปัจจบุ นั สิEงนี B
สําคญั มากเพราะว่าจากการใช้ไลน์ใช้เฟสบุ๊คมีหลายคนทีEมาขอคําปรึกษาข้าพเจ้าหลงั จากทEี
เขาได้โพสต์กนั มีการโต้เถียงกนั มีการปรามาสกนั ในเฟสในไลน์ และมีบางคนมาขอคําปรึกษา

98


วา่ อยา่ งนีจB ะผิดละเมิดหรือไม่ หมEินประมาทหรือไม่ ทําแล้วมากลวั แตต่ อนทําไมไ่ ด้คิด การหมิEน
ประมาท คือ การทEีผ้ใู ดใสค่ วามผ้อู EืนโดยประการทีEน่าจะเกิดความเสียหาย ถกู ดหู มEิน ถกู เกลียด
ชงั ถือว่าผิดฐานหมิEนประมาท ต้องจําคกุ • ปี ปรับไม่เกิน T พนั บาท ถ้าเป็นการกระทําในสืEอ
อินเตอร์เน็ตก็จะมีความผิดตามพระราชบญั ญัติวา่ ด้วยความผิดทางคอมพิวเตอร์ปี พ.ศ. TUUW
โทษก็จะหนักขึนB เป็นจําคุก U ปี ปรับ • แสนบาท นีEคือโทษทางกฎหมายไทยหรือกฎหมาย
บ้านเมือง แต่ถามว่ากลวั โทษทางกฎหมายชะรีอะฮ์หรือไม่ ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซูเราะฮ์
อลั ฮจุ ฺรอต อายะฮ์ทEี •T ได้ระบวุ า่

‫ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا ا ْﺟﺗَ ِﻧﺑُوا َﻛ ِﺛﯾ ًرا ِّﻣ َن اﻟ ﱠظ ِّن ِإ ﱠن ﺑَ ْﻌ َض اﻟ ﱠظ ِّن ِإﺛْ ٌم ۖ◌ َو َﻻ ﺗَ َﺟ ﱠﺳﺳُوا‬
◌ۚ ُ‫َو َﻻ ﯾَ ْﻐﺗَب ﺑﱠ ْﻌ ُﺿﻛُم ﺑَ ْﻌ ًﺿﺎ ۚ◌ أَﯾُ ِﺣ ﱡب أَ َﺣدُﻛُ ْم أَن ﯾَﺄْﻛُ َل ﻟَ ْﺣ َم أَ ِﺧﯾ ِﮫ َﻣ ْﯾﺗًﺎ ﻓَ َﻛ ِر ْھﺗُ ُﻣوه‬

‫ ﺗَ ﱠوا ٌب ﱠر ِﺣﯾ ٌم‬6َ ‫ ۚ◌ ِإ ﱠن ا ﱠ‬6َ ‫َواﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬

ความว่า “โอ้ศรัทธาชนทงัB หลาย! พวกเจ้าจงปลีกตวั ให้พ้นจากส่วนใหญ่ของการสงสยั
แท้จริงการสงสยั บางอย่างนนัB เป็นบาป และพวกเจ้าอย่าสอดแนม และบางคนในหม่พู วกเจ้า
อย่านินทาซEึงกนั และกนั คนหนึEงในหม่พู วกเจ้านนัB ชอบทีEจะกินเนือB พีEน้องของเขาทEีตายไปแล้ว
กระนันB หรือ? พวกเจ้าย่อมเกลียดมนั และจงยําเกรงอลั ลอฮฺเถิด แท้จริงอลั ลอฮฺนนัB เป็นผู้ทรง
อภยั โทษ ผ้ทู รงเมตตาเสมอ”

นกั วิชาการได้อธิบายวา่ สว่ นมากของการสงสยั คือการสงสยั อยา่ งมากมาย หมายความ
ว่าจําเป็นทEีมุอฺมินจะต้องศึกษาหาความรู้ในเรEืองนันB ก่อนเพEือป้องกันการสงสยั เพราะความ
สงสยั นนัB อาจจะทําให้เราบาป นอกจากนนัB แล้วมอุ ฺมินจะต้องไม่สอดแนมหรือสอดรู้สอดเห็นใน
เรืEองของคนอEืนและการนินทา นกั วิชาการได้อธิบายเรืEองการนินทาวา่ เป็นบาปใหญ่ และสาเหตุ
ทีEทําให้เป็นบาปใหญ่คือ ขดั ต่อหลกั การของอิสลาม เนEืองจากศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแห่ง
สนั ติภาพ เป็นศาสนาแห่งความรัก เป็นศาสนาแห่งความเห็นอกเห็นใจ ให้เกียรติซงEึ กนั และกนั
เอือB เฟื อB เผEือแผ่เป็นพEีน้องกนั แต่การนินทาเป็นสิEงทEีตรงกนั ข้าม นกั วิชาการบอกว่าเป็นเสมือน
กบั เอเลEียนหรือสิEงแปลกปลอมหรือมนษุ ย์ต่างดาวซงEึ ไม่ใช่หลกั การอิสลามและตรงกนั ข้ามกบั
หลกั การอิสลาม นอกจากนนัB ยงั ตรงกันข้ามกับนิยามของคําว่ามสุ ลิม เพราะฮะดีษทEีรายงาน

99


โดยท่านอบั ดลุ ลอฮอิบนอุ มุ รั (ร่อฎิยลั ลอฮุอนั ฮมุ า) ได้กล่าวว่า ท่านนบีมฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอ
ฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้กลา่ ววา่

‫ا ْﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ُم َﻣ ْن َﺳﻠَ َم ا ْﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ُﻣو َن ِﻣ ْن ِﻟ َﺳﺎ ِﻧ ِﮫ َوﯾَ ِد ِه‬

ความวา่ “มสุ ลมิ คือบคุ คลซงึE ทEีบรรดามสุ ลมิ ทงัB หลายปลอดภยั จากลนิ B และมือของเขา”

เพราะฉะนนัB การสอดแนม การนินทา การใสร่ ้ายกนั คือ การไม่ปลอดภยั จากลินB และมือ
นอกจากนนัB การนินทายงั ถือว่าเป็นบาปใหญ่ นกั วิชาการอธิบายว่าใหญ่กว่าการกินเหล้าหรือ
การทําประเวณีอีก เนEืองจากว่าทงัB สองอย่างนนัB เตาบตั ได้ แต่การนินทานอกจากจะต้องทําการ
เตาบัตแล้วก็ยังไม่พ้น แต่จะต้องขอมาอัฟกับคนทEีเรานินทาด้วยซEึงถือว่าเป็นฮักกุ้ลอาดัม
ยEิงกว่านนัB นกั วิชาการได้อธิบายว่าเป็นเรืEองทEีทําให้เกิดการข่นุ เคือง ซงEึ ท่านอิหม่ามฆอซาลีบอก
ว่าเป็นการฟิ ตนะฮ์และเป็นเรEืองทีEไร้สาระไม่ได้ประโยชน์อนั ใด ท่านนบีมฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอ
ฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้อธิบายว่าการนินทาคือการทEีคนหนEึงคนใดกล่าวถึงพEีน้องของเขาโดยทีE
เขาไม่พอใจหรือรังเกียจ ซอ่ ฮาบะฮ์ถามวา่ แม้แตเ่ ป็นการพดู ความจริงใช่หรือไม่ ท่านนบีบอกวา่
ใช่ แม้แตก่ ารพดู ความจริง ถ้าหากวา่ ไมใ่ ช่ความจริงก็ถือวา่ เป็นการใสร่ ้าย และคนนนัB ก็จะได้รับ
การโยนลงไปในนรก นEีคือสEิงหนึEงทEีชีใB ห้เห็นถึงความหายนะหรือความวิบตั ิทEีได้จากการนินทา
เพราะฉะนนัB เวลาเราโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดีย เราต้องดวู า่ เป็นเรืEองจริงหรือไม่ เป็นสงิE ทีEไม่
สร้างสรรค์หรือทําให้เกิดความวนุ่ วายในสงั คมหรือไม่ นกั วิชาการหลายๆ ท่านได้อธิบายเรืEองนี B
ไว้ว่า นอกจากจะถือว่า เป็นการกินเนือB พEีน้องของเราแล้ว ท่านอิบนุอัลมุบาร็อกได้กล่าวว่า
ถ้าหากฉนั จะนินทาใครซกั คน ฉนั จะนินทาบดิ ามารดาของฉนั เพราะฉนั อยากจะให้ความดีของ
ฉันไปตกกับพ่อแม่ของฉัน นอกจากนีคB นทีEนินทาในวันกิยามะฮ์จะมาในสภาพของคนทีE
ล้มละลาย ท่านนบีบอกว่า คือบคุ คลทีEมาในวนั กิยามะฮ์พร้อมกบั การทีEเขาทําละหมาด ถือศีล
อด ซะกาต ทําฮจั ญ์ แต่ว่าเขาได้ละเมิดกบั บคุ คลอืEนด้วยการด่า ด้วยการละเมิดทรัพย์สินหรือ
ละเมิดทางด้านร่างกายทําให้เลือดตกยางออก ความดีของเขาจะถกู โอนไปให้คนทีEถกู ละเมิด
ถ้าหากความดีของเขาหมดเขาก็จะรับความชEัวจากคนทีEถูกละเมิด ซึEงเป็นฮะดีษทีEซอเฮียะฮ์
เพราะฉะนันB ท่านอิบนุมบุ าร็อกจึงบอกว่าถ้าหากจะให้ฉันนินทา ฉันก็จะนินทาพ่อแม่ของฉัน
เพราะท่านทงัB สองจะได้รับความดีของฉันไป ท่านฮาซนั อลั บสั รีEได้บอกว่า ครังB หนEึงมีคนมาเล่า

100


ให้ท่านฟังว่ามีคนใส่ร้ายท่าน ท่านจึงเอาจานอินทผาลมั จานหนึEงฝากไปให้คนทEีมาเล่าให้ฟัง
โดยบอกว่าฝากไปให้คนนันB ด้วยแล้วบอกเขาด้วยว่าขออภัยด้วยทEีสEิงทีEฉันให้ท่านไม่อาจ
เทียบเท่ากับสิEงทEีท่านให้แก่ฉันได้ สEิงทีEกล่าวมาทังB หมดชีใB ห้เห็นถึงอันตรายของการนินทา
โดยเฉพาะอย่างยEิงการทีEเราทําในสิEงทีEเป็นโซเชียลมีเดียในสEิงทีEมนั สามารถแผ่กระจายไปได้ทวัE
ซงึE มนั จะมีผลและได้รับโทษทงัB โลกนีแB ละโลกหน้า

สดุ ท้ายนี Bขอดอุ าอฺจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ทรงโปรดให้พวกเราได้
พ้นจากการนินทาและการใส่ร้ าย และขออย่าให้พวกเราเป็นผู้ทีEนินทาและใส่ร้ ายด้วยเถิด
อามีน.

‫ اﻟﻌَ ِظ ْﯾ َم ِﻟﻲ َوﻟَﻛُ ْم َو ِﻟ َﺳﺎ ِﺋ ِر اﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ِﻣ ْﯾ َن‬6َ ‫أَﻗُو ُل ﻗُو ِﻟﻲ َھذَا َوا ْﺳﺗَ ْﻐﻔَ ُر ا ﱠ‬
‫ﻓَﺎ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُر ْوهُ ِإﻧﱠﮫُ ھُ َو ا ْﻟﻐَﻔُ ْو ُر اﻟ ﱠر ِﺣﻲ‬


Click to View FlipBook Version