รวมคุตบะฮ์ (วันศุกร์)

151


เตาฮีดอุลูฮียะฮ์ นักวิชาการอธิบายว่า คํานีเB ป็นความลบั ของอัลกุรอานเพราะประโยคนีเB ป็น
ประโยคทีEเหมือนกบั วา่ เราโต้ตอบกบั บคุ คลทEี T หมายถงึ เรากําลงั กลา่ วกบั พระองค์นนEั เอง

b – อัสมาอฺวัศศิฟาต คือ การศรัทธาต่อพระนามและคุณลักษณะของพระองค์
นกั วิชาการอธิบายว่า มสุ ลิมจะต้องศรัทธาเกีEยวกบั พระนามและคณุ ลกั ษณะตามทีEพระองค์ได้
ทรงเปิ ดเผยไว้ ในอัลกุรอานและถ่ายทอดลงมาเป็ นวะฮีย์ให้ กับท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) ได้บอกกับเราเท่านันB เพราะผู้ถูกสร้ างย่อมไม่รู้ดีกว่าผู้สร้ าง
พวกเราคือสงEิ ทEีถกู สร้าง ยอ่ มไมร่ ู้ดีไปกวา่ พระองค์ทีEเป็นผ้สู ร้าง นกั วิชาการบอกวา่ ต้องยดึ มนัE ตอ่
พระนามและคุณลกั ษณะของพระองค์ ใครทีEปฏิเสธก็หมายความว่าออกนอกแนวทาง ใครทีE
เทียบกับสEิงทีEถูกสร้ างก็ออกนอกแนวทางเช่นเดียวกัน รวมทังB ห้ามทEีจะไต่สวนหรือแสวงหา
สภาพของพระองค์ กิริยาการกระทําของพระองค์ ทงัB นีเB พราะไม่มีทางทีEจะค้นหาได้พบ ซงEึ สEิงทEี
พระองค์ทรงเปิดเผยอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนนัB นีEคือแนวทางหรืออะกีดะฮ์ของอะหลสุ ซุนนะฮ์
วลั ญะมาอะฮ์ซึEงอัสมาอฺวัศศิฟาตก็อยู่ในซูเราะฮ์ฟาติฮะฮ์ คําว่า ‫ اﻟ ﱠر ْﺣ ٰ َﻣ ِن اﻟ ﱠر ِﺣ ْﯾ ِم‬แปลว่า
ผ้ทู รงเมตตากรุณาปราณีเสมอ นกั วิชาการอธิบายวา่ คําวา่ ‫ اﻟ ﱠر ْﺣ ٰ َﻣ ِن‬คือ เมตตาปราณีกบั สงEิ ทีE
ถูกสร้ างในโลกนีทB ังB หมดทังB มุสลิมและกาเฟรหรือสัตว์ล้วนได้รับริสกีทังB หมด ขออะไรก็ได้
ทําอะไรก็สําเร็จ แตส่ ําหรับคําวา่ ‫ اﻟ ﱠر ِﺣ ْﯾ ِم‬เฉพาะมอุ ฺมินในโลกอาคีเราะฮ์เทา่ นนัB และเป็นความ
เมตตาทEีอัลลอฮฺได้ทรงเตรียมสวรรค์ให้กับมุอฺมิน ซึEงการทEีเราจะได้เข้าสวรรค์ไม่ใช่เพราะ
อะม้าลอิบาดะฮฺทEีเราได้กระทํา ทงัB นีเB พราะมีฮะดีษของท่านนบีมฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ
วา่ สลั ลมั ) ทีEได้รายงานโดยอิหมา่ มบคุ อรีย์ได้รายงานวา่

،‫ " َﻻ‬:‫؟ ﻗَﺎ َل‬6ِ ‫ َو َﻻ أَ ْﻧ َت ﯾَﺎ َرﺳُو َل ا ﱠ‬:‫ ﻗَﺎﻟُوا‬."َ‫ﻟَ ْن ﯾُ ْد ِﺧ َل أَ َﺣدًا َﻋ َﻣﻠُﮫُ ا ْﻟ َﺟﻧﱠﺔ‬

‫ُ ِﺑﻔَ ْﺿ ٍل َو َر ْﺣ َﻣ ٍﺔ‬6‫َو َﻻ أَﻧَﺎ ِإ ﱠﻻ أَ ْن ﯾَﺗَﻐَ ﱠﻣدَ ِﻧﻲ ا ﱠ‬

ความว่า “จะไม่ทําให้คนใดจากพวกท่านได้เข้าสวรรค์ด้วยกบั อะมลั ของเขา ซอ่ ฮาบะฮ์
กล่าวถามว่า ท่านก็ไม่ได้เข้าหรือ โอ้ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ? ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ตอบว่า ไม่
แม้กระทEังฉัน นอกจากอัลเลาะฮ์ทรงปกคลุมกับฉันด้วยความเมตตาและความโปรดจาก
พระองค์”

152


เพราะฉะนนัB การทEีเราจะได้เข้าสวรรค์ของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) นนEั คือความ
เมตตาหรือความโปรดปรานของอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) โดยแท้จริง

ทา่ นพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ทา่ นครับ นอกจากซเู ราะฮ์อลั ฟาติฮะฮ์จะเป็นแมข่ องคมั ภีร์ทีE
มีเตาฮีดทงัB b ประเภท เรายงั ใช้พระนาม (อสั มาอฺวศั ศิฟาต) ในการขอดอุ าอฺได้ และในซูเราะฮ์
ฟาตฮิ ะฮ์อายะฮ์ทEีบอกวา่

‫ا ْھ ِدﻧَﺎ اﻟ ِ ّﺻ َرا َط ا ْﻟ ُﻣ ْﺳﺗَ ِﻘﯾ َم ِﺻ َرا َط اﻟﱠ ِذﯾ َن أَ ْﻧﻌَ ْﻣ َت َﻋﻠَ ْﯾ ِﮭ ْم‬
‫َﻏ ْﯾ ِر ا ْﻟ َﻣ ْﻐ ُﺿو ِب َﻋﻠَ ْﯾ ِﮭ ْم َو َﻻ اﻟ ﱠﺿﺎ ِﻟّﯾ َن‬

ความว่า “โปรดนําทางเรากบั หนทางอนั เทEียงตรง คือทางของบรรดาผ้ทู Eีพระองค์ได้ทรง
โปรดปรานแก่พวกเขา มิใชใ่ นทางของพวกทีEถกู กริวB และมิใชท่ างของพวกทEีหลงผิด”

นกั วิชาการอธิบายวา่ T อายะฮ์นี Bคือ ดอุ าอฺทีEทําให้เราอยใู่ นหนทางทีEเทีEยงตรง ไมใ่ ชท่ าง
ทEีถูกโกรธกริวB และหลงผิด มีคําถามว่า แล้วทางทีEเทEียงตรงนนัB คืออะไรคําตอบในเรEืองนีอB ยู่ใน
พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานทังB หมดเรEิมตังB แต่ซูเราะฮ์อัลบะก่อเราะฮ์จนถึงซูเราะฮ์อันนาส
ด้วยเหตนุ ี B บทฟาตฮิ ะฮ์จงึ เป็นบทนําและอลั กรุ อานสว่ นทEีเหลอื ทงัB หมดเป็นคําตอบนนEั เอง

‫ اﻟﻌَ ِظ ْﯾ َم ِﻟﻲ َوﻟَﻛُ ْم َو ِﻟ َﺳﺎ ِﺋ ِر اﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ِﻣ ْﯾ َن‬6َ ‫أَﻗُو ُل ﻗُو ِﻟﻲ َھذَا َوا ْﺳﺗَ ْﻐﻔَ ُر ا ﱠ‬
‫ﻓَﺎ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُر ْوهُ ِإﻧﱠﮫُ ھُ َو ا ْﻟﻐَﻔُ ْو ُر اﻟ ﱠر ِﺣﻲ‬

153


เร;ือง มู่รอก้อบะตุ้ลลอฮ

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫َﺻ ًل‬ ‫اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم‬٠ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
‫ أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌدُه‬٠‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬

‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬٠‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬
٠ ‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬

‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทีEทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถึงวนั ศกุ ร์นีอB ีก ข้าพเจ้าขอเตือนตวั เองและพวกท่านทงัB หลายให้มีความยําเกรงต่ออลั ลอฮฺ

(ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ด้วยกับการปฏิบัติในสิEงทEีพระองค์ทรงสEังใช้และออกห่างจากสEิงทีE

พระองค์ทรงสงัE ห้าม

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ เราได้ชีวิตอยู่จนถึงทุกวนั นีคB ือความโปรดปราน
ของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) ทีEทําให้ได้เห็นถึงเหตกุ ารณ์สําคญั ของโลกทEีเกิดโรคระบาด
ขึนB และพวกเรากําลังประสบอยู่ แม้ว่าตอนนีปB ระเทศจะสามารถควบคุมโรคได้เป็นอย่างดี
แต่ต่างประเทศหรือทEัวโลกก็มีแนวโน้มทีEจะเพEิมมากขึนB เพราะฉะนันB พวกเราก็ต้องใช้ชีวิตใน
รูปแบบใหม่ทEีเขาเรียกว่า “New Normal” หรือวิถีชีวิตปกติใหม่ ทEีจะต้องมีระบบการป้องกัน
ตัวเอง ป้องกันการติดโรค ป้องกันไม่ให้โรคระบาดไปติดผู้อEืน ซEึงสEิงต่างๆ เหล่านีใB นศาสนา
อิสลามได้มีกําหนดไว้แล้ว แต่ข้าพเจ้าอยากจะเตือนพวกเราในการใช้วิถีชีวิตปกติใหม่ทีEต้องมี
การเปลีEยนหน้ากากอนามัย มีการระวงั เรืEองการล้างมือ การสมั ผัสกับบุคคลอEืน หรือการอยู่
ใกล้ชิดกัน สEิงเหล่านันB ต้องเป็นสิEงทEีไม่ทําให้เราเหินห่างจากอัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา)
และยEิงไปกวา่ นนัB ต้องบอกวา่ มนั เป็นวิกฤตทEีมีโอกาส กลา่ วคือ เราจะต้องขอดอุ าอฺจากพระองค์
ให้มากขนึ B เราต้องใกล้ชิดกบั พระองค์ให้มากทีEสดุ และทีEสําคญั เราได้อย่กู บั ครอบครัว เราได้มี

154


ความใกล้ชิดกับครอบครัวเนืEองจากได้มีการ Work from Home เพราะฉะนันB เราได้มีการ
สนทนากบั ครอบครัวอย่างมีคณุ ภาพและใช้เวลากบั ครอบครัวมากขึนB เป็นผลทําให้ครอบครัว
มีความอบอ่นุ มีความเข้าใจกนั และมีการปฏิบตั ิอะม้าลอิบาดะฮฺร่วมกนั ตลอดไม่ว่าจะเป็นวนั
อีดทังB สองซึEงจะเห็นได้ว่าเราได้มีโอกาสทําเช่นนีเB พราะโรคโควิด •g นีEคือ วิกฤตทEีเป็นโอกาส
สําหรับเรา สEิงต่างๆเหล่านีคB งต้องปฏิบตั ิกนั ต่อไปจนกว่าข่าวคราวเกีEยวกบั โรคนีจB ะลดน้อยลง
หรือมีการฉีดวคั ซีนได้เป็นจํานวนมากจนทําให้เกิดภมู ิค้มุ กนั หมทู่ วัE โลกแล้ว

ทา่ นพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ นครับ อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) ได้ทรงบอกพวกเรา
วา่ สงEิ ทีEพระองค์ทรงประทานมา คือ การทดสอบและโลกก็หมนุ เวียนเปลีEยนไปเรEือยๆ เราก็ได้ใช้
ชีวิตของเราตามวงโคจรของชีวิตมอุ ฺมินทEีอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ได้ทรงตรัสไว้ในพระ
มหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อาละอิมรอน อายะฮ์ทEี •VW ได้ระบวุ า่

‫َو ِﺗ ْﻠ َك اﻷﯾﱠﺎ ُم ﻧُدَا ِوﻟُ َﮭﺎ ﺑَ ْﯾ َن اﻟﻧﱠﺎ ِس‬

ความวา่ “และบรรดาวนั เหลา่ นนัB เราได้ให้มนั หมนุ เวียนไประหวา่ งมนษุ ย์”

ตอนนีเB ราได้ย่างเข้าสู่เดือนมุฮัรรอม เข้าใกล้กับปีใหม่ของอิสลาม เราควรทีEจะปฏิบตั ิ
อะม้าลอิบาดะฮฺใหมๆ่ เพEิมมากขนึ B อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) ได้ทรงบอกตอ่ อีกวา่

‫ُ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا َوﯾَ ْﻣ َﺣ َق ا ْﻟ َﻛﺎ ِﻓ ِرﯾ َن‬6‫َو ِﻟﯾُ َﻣ ِ ّﺣ َص ا ﱠ‬
ความว่า “เพืEอพระองค์จะได้ขัดเกลาบรรดาผู้ศรัทธาทังB หลายให้บริสุทธ›ิและทรงขจัด
บรรดาผ้ปู ฏิเสธศรัทธาให้หมดไป”

สิEงทEีอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) ได้ทรงประทานมาเป็นวฏั จกั รในรอบปีทEีหมนุ เวียน
เปลEียนไปก็จะมีอะม้าลอิบาดะฮฺทEีพระองค์ทรงกําหนดให้ทําผลดั ปลEียนเข้ามาเพืEอทEีจะทําให้
ผู้ศรัทธานันB ได้รับการขัดเกลาให้บริสุทธ›ินัEนเอง และขจัดผู้ปฏิเสธออกไปเพEือให้รู้ว่าใครคือ
ผ้ศู รัทธา เพราะฉะนนัB สิEงต่างๆ ทีEได้หมนุ เวียนเข้ามาในชีวิตของผ้ศู รัทธาล้วนแล้วแต่ทําให้เขามี
อีหม่านเพิEมมากขึนB ไม่ได้ทําให้อีหม่านน้อยลงแต่อย่างใด ดังนันB ท่านลองสํารวจตัวเองว่า
ในช่วงวิกฤตท่านทังB หลายมีอีหม่านเพิEมขึนB หรือไม่ มีการทําอิบาดะฮฺน้อยลงหรือไม่ ถ้าหาก
น้อยลงแปลวา่ เปา้ หมายทีEพระองค์ทรงประสงค์ให้เราได้รับการทดสอบเหลา่ นีมB นั ไม่สมั ฤทธิ›ผล

155


เพราะฉะนนัB ตรงนีมB นั เป็นโอกาสทีEดีสําหรับมอุ ฺมิน แม้วา่ เราต้องปฏิบตั ิอะม้าลอิบาดะฮฺลําพงั คน
เดียวไม่ต้องทําร่วมกนั ก็ตาม แตม่ ิใช่วา่ ถือโอกาสทีEจะไม่ทําเลยนะ ข้าพเจ้าคิดวา่ ทกุ คนคงต้อง
ละหมาด คงต้องทําอิบาดะฮฺเหมือนเดิมหรือมากขนึ B กวา่ เดิมเพืEอทEีจะได้ทําการขอดอุ าอฺให้พวก
เราได้พ้นไปจากโรคภยั ทEีกําลงั ประสบอยนู่ ี B

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ ขณะนีเBราได้ย่างเข้าเดือนมฮุ รั รอมซงึE เป็นเดือนทEี •
ของศาสนาอิสลาม ซงึE ก็มีบางกลมุ่ ทEีเฉลิมฉลอง และมีบางกลมุ่ ทีEโศกเศร้า มีการตีอกชกตวั นนEั
ก็เป็นกลมุ่ ลทั ธิหนึEงซงึE ไม่ใช่อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วลั ญะมาอะฮ์ ทีEเราได้เห็นกนั ตามเฟสบ๊คุ หรือไลน์ มี
การเผยแพร่สิEงต่างๆ ซึEงต้ องบอกว่าเป็ นความเชEือทEีผิดพลาดเกEียวกับเดือนมุฮัรรอม
เพราะฉะนนัB เราจงึ ต้องศกึ ษาหาความรู้เพEือทําให้เราได้เข้าใจในหลกั การศาสนาอิสลามทีEแท้จริง
มากขนึ B

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ เดือนมฮุ รั รอมเป็นเดือนต้องห้าม • ใน V เดือน คือ
เดือนซุ้ลกอดะฮ์ เดือนซุ้ลฮิญญะฮ์ เดือนมุฮัรรอม ติดกัน b เดือน และอีก • เดือน คือเดือน
ร่อญับ ซึEงเป็นเดือนต้องห้ามทังB V แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องห้ามทําความดีหรืออิบาดะฮฺ
งานแต่งหรืองานดีๆ ทังB หลายสามารถกระทําได้หมด ส่วนทEีต้องห้ามคือต้องห้ามในการทํา
สงครามหรือส้รู บเพราะเป็นเดือนทEีต้องทําฮจั ญ์ นEีคือความหมายทEีแท้จริงซงึE เราสามารถศกึ ษา
รายละเอียดได้และมีเหตกุ ารณ์สําคญั บางเหตกุ ารณ์เกิดขึนB ในเดือนมฮุ รั รอมซงEึ หลกั ฐานตรงนี B
เป็นสิEงสําคญั ถ้ายงั มีหลกั ฐานทีEยงั ไม่ชดั เจนยงั ไม่ซอเฮียะฮ์เราก็ยึดถือว่ามีเหตุการณ์สําคญั
เกิดขึนB ไม่ได้ เพราะฉะนันB พวกเราต้องใช้วิจารณญาณในการเผยแพร่กันในเฟสหรือไลน์
เหตกุ ารณ์ทีEเกิดขนึ B ในวนั อาชรู ออฺก็ดี ทEีเกิดขนึ B ในเดือนมฮุ รั รอมก็ดี ซงึE มนั มีหลากหลายมากเราก็
ต้ องพิจารณาดูว่าสิEงต่างๆ เหล่านีจB ะยึดถือได้ หรือไม่ ถ้ าไม่มีหลักฐานก็เชEือถือไม่ได้
เพราะฉะนนัB ในการทีEเราจะเชืEอถือได้ก็คงต้องตรวจสอบก่อนเสมอ

ท่านพEีน้องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ ในเดือนมุฮัรรอมมีความสําคัญมากมีฮะดีษทีE
รายงานโดยอิหมา่ มมสุ ลมิ วา่ ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้กลา่ ววา่

‫ ا ْﻟ ُﻣ َﺣ ﱠر ُم‬6ِ ‫أَ ْﻓ َﺿ ُل اﻟ ِ ّﺻﯾَﺎ ِم ﺑَ ْﻌدَ َر َﻣ َﺿﺎ َن َﺷ ْﮭ ُر ا ﱠ‬

156


ความวา่ “การถือศีลอดทีEประเสริฐทีEสดุ หลงั จากเดือนรอมฎอนซงึE เป็นเดือนของอลั ลอฮฺ
คือ เดือนมฮุ รั รอม”

และมีฮะดีษทีEรายงานโดยอิหมา่ มมสุ ลมิ วา่ ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ
วา่ สลั ลมั ) ได้ถกู ถาม

َ‫ﺳُ ِﺋ َل َﻋ ْن َﺻ ْو ِم ﯾَ ْو ِم َﻋﺎﺷُو َرا َء ﻓَﻘَﺎ َل ﯾُ َﻛ ِﻔّ ُر اﻟ ﱠﺳﻧَﺔَ ا ْﻟ َﻣﺎ ِﺿﯾَﺔ‬

ความว่า “ท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้ถกู ถามเกีEยวกบั การ
ถือศีลอดในวนั ทีE •W คือ วนั อาชรู ออฺ ท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ตอบ
วา่ มนั จะลบล้างความผิดของปีทEีผา่ นไป

นักวิชาการได้ อธิบายว่า เป็ นความผิดทEีเกEียวกับบาปเล็กไม่ใช่บาปใหญ่ นEีก็คือ
ความสําคญั ของการถือศีลอดในเดือนมุฮัรรอมทEีตรงกับวนั อาชูรออฺซึEงท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้บอกพวกเราว่า ถ้าหากว่าท่านมีชีวิตอยู่ท่านจะถือศีลอดใน
วนั ทEี g และ •W แตว่ า่ ทา่ นได้เสียชีวิตก่อน เพราะฉะนนัB ก็มีซนุ นะฮ์ให้เราถือศีลอดในวนั ทEี g และ
วนั ทีE •W ของเดือนมฮุ รั รอมด้วย

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ สิEงตา่ งๆ ทีEพระองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)
และท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) ได้นํามาบอกเราล้วนแล้วแต่มี
คณุ ประโยชน์กบั เราทงัB สินB ท่านลองสงั เกตหรือไม่ว่าเราจะมีวนั อีดซงึE เป็นวนั รEืนเริง T วนั คือ วนั
อีดิลB ฟิ ตรีEกบั วนั อีดิลB อฎั ฮา ซงEึ ก่อนวนั อีดก็จะมีการถือศีลอด เวลามีเหตกุ ารณ์สําคญั เราก็มกั จะ
มีการถือศีลอด การถือศีลอดเป็นสงิE สําคญั ทEีอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) ทรงกําหนดให้พวก
เราถือ นอกจากการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนและถือศีลอดสุนัตยังมีถือศีลอดบนบาน
ถือศีลอดเกีEยวกับการกัฟฟาเราะฮ์คือ การไถ่บาป เนEืองจากมีการร่วมหลับนอนกับภรรยา
ในตอนกลางวันของเดือนรอมฎอน เราต้องเสียกัฟฟาเราะฮ์คือปล่อยทาส • คน ถ้าไม่มี
ความสามารถก็ให้ถือศีลอด T เดือนติดต่อกนั ถ้าหากทําไม่ได้ก็ให้ถือศีลอดชดใช้ และกรณีทีE
ประกอบพิธีฮจั ญ์หรืออมุ เราะฮ์หากมีการโกนศีรษะหรือมีการฆา่ สตั ว์ก็จะต้องเสียดมั โดยจะต้อง
ทําการเชือดสตั ว์ และถ้าหากทําไม่ได้ก็ให้ถือศีลอดชดใช้ เพราะฉะนันB จะเห็นได้ว่าหลกั การ

157


เกีEยวกับการถือศีลอดเพEือการกัฟฟาเราะฮ์มีในหลกั การอิสลาม ถามว่าทําไมการถือศีลอดจึง
สําคญั มาก ทําไมอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) หรือท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮุอะ
ลยั ฮิว่าสลั ลมั ) จึงได้มีบทบญั ญัติให้พวกเราต้องถือศีลอด การถือศีลอดสําคญั ไฉน ถ้าหากเรา
พิจารณาดวู า่ อิบาดะฮฺอEืนๆไมว่ า่ จะเป็นการละหมาด การออกซะกาตหรือการทําฮจั ญ์ก็เป็นการ
กระทําในบางช่วงเวลา แตก่ ารถือศีลอดนนัB เป็นการพิสจู น์ระหวา่ งบ่าวกบั พระผ้เู ป็นเจ้าทEีดีมาก
เพราะจะต้องถือศีลอดตลอดทังB วนั และช่วงเวลานีจB ะสามารถรู้ได้เลยว่าบ่าวมีสภาพเหมือน
อะไร ไม่กิน ไม่ดืEม ทําแต่สิEงทEีใช้และไม่ทําในสิEงทีEอลั ลอฮฺสงัE ห้าม ทําแต่ความดี อ่านอลั กรุ อาน
ซิกรุ้ลลอฮ เห็นหรือไม่ว่ามีคุณสมบตั ิเหมือนกับมะลาอีกะฮ์ เพราะไม่ทําความชวัE ในช่วงทีEถือ
ศีลอดเพราะฉะนนัB จะเห็นได้ว่าสEิงทีEอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) และท่านศาสดามฮู มั หมดั
(ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้นํามาล้วนแล้วแต่ทําให้เราเพEิมพนู อีหม่าน ทําให้เราเป็นคนดี
พระองค์อลั ลอฮฺไม่ทรงได้อะไรจากทีEเราถือศีลอดและไม่ทําให้พระองค์สงู ส่งขึนB หรือตกตEําลง
เพราะพระองค์สงู ส่งอย่แู ล้ว แต่เราต่างหากทีEได้รับภาคผลในการถือศีลอดทงัB ร่างกาย สขุ ภาพ
และอีหมา่ นทีEเพิEมขนึ B

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ บทพิสจู น์อนั หนึEงทEีเป็นฮะดีษทEีได้มีการหยิบยกขนึ B
มาเสมอ เป็นฮะดีษซอเฮียะฮ์ทีEทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้บอกวา่

‫ ﻓَﺈﻧﱠﮫ ِﻟ ْﻲ َوأَﻧَﺎ أ ْﺟ ِز ْي ِﺑﮫ‬،‫ ِإ ﱠﻻ اﻟ ِ ّﺻﯾَﺎ َم‬،‫ﻛُ ﱡل َﻋ َﻣ ِل ِا ْﺑ ِن آدَ َم ﻟَﮫ‬

ความว่า “การงานทุกอย่างของมนุษย์ทังB หมดนันB เป็นสิทธิของเขาเอง ยกเว้นการถือ
ศีลอดเพราะมนั เป็นสทิ ธิของข้า และข้าเป็นผ้ตู อบแทนในสงิE นี”B

ซงึE เป็นฮะดีษซอเฮียะฮ์ทEีรายงานโดยอีหม่ามบคุ อรีย์และมสุ ลิม ฮะดีษนีชB ีใB ห้เห็นว่าการ
ถือศีลอดเป็นการงานทีEสําคญั ยEิงเพราะอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) ทรงบอกวา่ เป็นการงาน
ของพระองค์และพระองค์จะตอบแทนด้วยตวั ของพระองค์เอง ความหมายก็คือวา่ พระองค์จะ
ทรงตอบแทนตามการอีหม่านหรือตามความจริงใจของบ่าวทีEมีต่อพระองค์ ถ้าหากบ่าวถือ
ศีลอด อดนําB อดอาหาร อดการกระทําสิEงทีEไม่ดีเพืEอพระองค์อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ พระองค์ก็จะ
ทรงตอบแทนให้มากกว่าเจ็ดร้ อยเท่าตามทีEพระองค์ทรงประสงค์ เพราะฉะนันB จะเห็นได้ว่า

158


การถือศีลอดนนัB ค่อนข้างสําคญั ด้วยเหตนุ ี Bเหตกุ ารณ์ต่างๆ ทEีเกิดขึนB ในวนั สําคญั ของศาสนา
ก่อนวนั อีดหรือวนั ต่างๆ มกั จะมีการกําหนดให้มีการถือศีลอดสนุ ตั เพืEอทดสอบถึงความจริงใจ
ของบ่าวทEีมีต่อพระองค์ เพราะฉะนนัB จะเห็นได้ว่า การถือศีลอดจึงมีความสําคญั ยิEงทEีจะทําให้
บา่ วได้ใกล้ชิดตอ่ อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา)

ทา่ นพEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ นครับ อีกประเดน็ หนงEึ ทีEนกั วิชาการได้อธิบายความสําคญั
ในเรEืองนี Bมนั มีหลกั การหนึEงทีEได้หยิบยกในฮะดีษของญิบรีลทEีได้เลา่ ว่ามะลาอีกะฮ์ได้แปลงร่าง
เป็นชายและได้มาถามท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ในเรEืองวา่ อีหม่าน
คืออะไร อิสลามคืออะไร และอลั เอียะฮ์ซานคืออะไร ซงEึ ท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะ
ลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ก็ได้ตอบวา่ “อลั เอียะฮ์ซาน” หมายถงึ

‫ ﻓَﺈِ ْن ﻟَ ْم ﺗَﻛُ ْن ﺗَ َراهُ ﻓَﺈِﻧﱠﮫُ ﯾَ َرا َك‬،ُ‫ َﻛﺄَﻧﱠ َك ﺗَ َراه‬6َ ‫أَ ْن ﺗَ ْﻌﺑُدَ ا ﱠ‬

ความว่า “อลั เอียะฮ์ซานหมายถึง การทEีเราอิบาดะฮฺต่ออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา)
เสมือนหนงึE วา่ เราเหน็ พระองค์แตห่ ากเราไมเ่ หน็ พระองค์แท้จริงพระองค์ทรงเหน็ พวกเรา”

นกั วิชาการได้อธิบายว่าอลั เอียะฮ์ซานนีนB บั เป็นหวั ใจสําคญั ของการทําอิบาดะฮฺ โดยใช้
ถ้อยคําวา่ เป็นเรืEองม่รู อก้อบะต้ลุ ลอฮ คือ การทEีเราต้องมีหลกั ในใจอย่ตู ลอดเวลาวา่ อลั ลอฮฺทรง
เห็นเราและพระองค์ทรงเฝ้ามองดูเรา ท่านอิบนุก็อยยิม (ร่อฮิม่าฮุ้ลลอฮ) ซEึงเป็นลกู ศิษย์ของ
ทา่ นอิบนตุ ยั มียะฮ์ (ร่อฮิมา่ ฮ้ลุ ลอฮ) ได้บอกวา่ หลกั การนีเBป็นหลกั การทEีสําคญั ทีEบา่ วของอลั ลอฮฺ
จะต้องมีอย่ตู ลอดเวลาคือ การทีEเขาจะต้องระลึกหรือตระหนกั เสมอว่าในการทําอิบาดะฮฺของ
เขานนัB อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) จะทรงรู้ จะทรงสอดสอ่ งการงานของเขาทงัB ในทีEลบั และทีE
แจ้ง หลกั การมรู่ อก้อบะต้ลุ ลอฮเป็นสงEิ ทีEสําคญั ซงึE ถ้าเปรียบเทียบกบั การทําละหมาด เราจะต้อง
มีคุชูอฺในการละหมาด เราเหนียตตังB แต่ต้นว่าทําเพืEออัลลอฮฺ เราละหมาดเหมือนเราเข้าเฝ้า
พระองค์ แต่ในขณะละหมาดเราก็มีการวิสวัสหรือมีการเหินห่างออกจากสEิงทีEเรานึกได้
แต่จะต้องดงึ จิตใจให้กลบั มาสกู่ ารละหมาดให้ได้ ซงEึ หลกั ม่รู อก้อบะต้ลุ ลอฮ คือ การทEีเราต้องมี
หลกั ในใจอยตู่ ลอดเวลาวา่ อลั ลอฮฺทรงเห็นเราและพระองค์ทรงเฝา้ มองดเู รา จะสามารถช่วยเรา
ได้เป็ นอย่างดี เช่นในกรณีของการถือศีลอดท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ

159


ว่าสลั ลมั ) บอกว่า ถ้าหากมีคนมายุยงให้เราทําสิEงทEีไม่ดีก็ให้เราบอกว่า “อินนีซออิม” แปลว่า
ฉนั ถือศีลอด แล้วเราก็สามารถทEีจะยบั ยงัB ความชวัE เหลา่ นนัB ได้ ทงัB นีเBนืEองจากวา่ เรามีเครืEองมือคือ
การถือศีลอดและหลักมู่รอก้อบะตุ้ลลอฮจึงทําให้เราลดนัฟซูหรือสามารถยับยังB ความชัEวได้
ด้วยเหตุนี B หลักมู่รอก้อบะตุ้ลลอฮจึงเป็นสEิงสําคัญทีEจะทําให้เรามีความใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺ
(ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) ตลอดเวลา

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ นกั วิชาการอธิบายว่าหลกั การม่รู อก้อบะตุ้ลลอฮ
สําคัญมากเพราะมันจะทําให้เหนียตของเราในการทําอิบาดะฮฺมีความบริสุทธิ›ใจ มันต้องมี
ตงัB แตก่ ่อนเริEมต้น เชน่ ละหมาดก็ต้องมีเหนียตทีEจะละหมาดเพEืออลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา)
การถือศีลอด การบริจาคทานซะกาตหรือการช่วยเหลือคนก็ต้องทําเพEืออลั ลอฮฺ แม้แตก่ ารเรียน
หนงั สือ การเดินทางไปฟังบรรยายก็ต้องเหนียตเพEืออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) การออกไป
ทํามาหากินเพืEอหาปัจจยั ยงั ชีพมาเลียB งดคู รอบครัวก็ต้องทําเพEืออลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)
การทําเช่นนีจB ะเป็นผลทําให้มีความบริสทุ ธ›ิใจเกิดขึนB ในจิตใจก่อนและขณะเริEมต้นกระทําและ
ทEีสําคัญคือ จะต้องมีตลอดเวลาในขณะทีEเราทําอิบาดะฮฺ หลักการมู่รอก้อบะตุ้ลลอฮเป็น
หลกั การทีEสําคัญทEีเราจะขาดไม่ได้เพราะถ้าหากขาดมันจะทําให้เราไม่บริสุทธิ›ใจต่ออัลลอฮฺ
(ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) มนั จะมีความโอ้อวดเกิดขึนB ทนั ที ถ้าเราไม่ทําเพืEออลั ลอฮฺมนั ก็อาจจะ
เป็นการทําเพEือสEิงอEืนได้ เนEืองจากในจิตใจของเรานนัB วา่ งอย่โู ดยไม่มีอลั ลอฮฺนนEั เอง นกั วิชาการ
ได้อธิบายวา่ ให้ลองสงั เกต b ประการวา่ ในการทําอิบาดะฮฺของเรานนัB มีการโอ้อวดเกิดขนึ B หรือไม่

1. ถ้าอยู่คนเดียวอยากจะทําอิบาดะฮฺหรือไม่ เช่น การละหมาดตะฮญั ‘ุดในยามคEําคืน
หรือการละหมาดดฮุ าในยามสาย

2. อยากละหมาดตอ่ เมEือมีคนเหน็ หรือไม่
3. ถ้าหากมีคนชมเชยยิEงอยากทํามากขนึ B ทําให้ประณีต อา่ นซเู ราะฮ์ให้ดีมากขนึ B หรือไม่
4. แตถ่ ้าหากมีคนมาวา่ เราหรือตําหนิเรา เราก็จะท้อถอยและไมอ่ ยากทําอิบาดะฮฺนนัB

สEิงต่างๆ เหล่านีเB ป็นสิEงทEีชีใB ห้เห็นว่าขาดหลกั การม่รู อก้อบะต้ลุ ลอฮทงัB สินB การทีEเรานึก
ถึงอัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ว่าพระองค์ทรงมองเห็นเรานันB ไม่ใช่เป็นหลักทีEล่องลอย
เพราะมีหลกั ฐานในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อาละอิมรอน อายะฮ์ทีE U ได้ระบวุ า่

160


‫ َﻻ ﯾَ ْﺧﻔَ ٰﻰ َﻋﻠَ ْﯾ ِﮫ َﺷ ْﻰ ٌء ِﻓﻰ ٱ ْﻷَ ْر ِض َو َﻻ ِﻓﻰ ٱﻟ ﱠﺳ َﻣﺂ ِء‬6َ ‫ِإ ﱠن ٱ ﱠ‬
ความวา่ “แท้จริงอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) ไมท่ รงถกู ปกปิดหรือปิดบงั ด้วยกบั สงิE
ใดทงัB ในแผน่ ดนิ และชนัB ฟา้ ”

และในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อนั นิสาอ์ อายะฮ์ทีE •W˜ ได้ระบวุ า่

6ِ ‫ﯾَ ْﺳﺗَ ْﺧﻔُو َن ِﻣ َن اﻟﻧﱠﺎ ِس َو َﻻ ﯾَ ْﺳﺗَ ْﺧﻔُو َن ِﻣ َن ا ﱠ‬
ความวา่ “พวกเขาสามารถปิดบงั มนษุ ย์ได้ แตเ่ ขาไมส่ ามารถปิดบงั อลั ลอฮฺได้”

และในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อลั อะลกั อายะฮ์ทEี •V ได้ระบวุ า่

‫ ﯾَ َرى‬6َ ‫أَﻟَ ْم ﯾَ ْﻌﻠَ ْم ِﺑﺄَ ﱠن ا ﱠ‬
ความวา่ “เขาไมร่ ู้หรอกหรือวา่ อลั ลอฮฺนนัB ทรงเหน็ ”

และในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อลั ฟัญร์ อายะฮ์ทีE •V ได้ระบวุ า่

‫ِإ ﱠن َرﺑﱠ َك ﻟَ ِﺑﺎ ْﻟ ِﻣ ْر َﺻﺎ ِد‬
ความวา่ “แท้จริงอลั ลอฮฺทรงสอดสอ่ งดแู ลเรา”

นอกจากนียB ังมีอายะฮ์อัลกุรอานอีกมากมายทีEชีใB ห้เห็นว่าอัลลอฮฺทรงรอบรู้ อัลลอฮฺทรงเห็น
อัลลอฮฺทรงสอดส่องเรา แต่เดิมการสอดส่องของอัลลอฮฺนันB พระองค์จะทรงสอดส่องดูแล้ว
พระองค์ก็จะทรงลงโทษเลยในสมยั ฟิรอนู หรือในสมยั สะมดู ดงั อลั กรุ อานทีEบอกวา่

‫ﻓَ َﺻ ﱠب َﻋﻠَ ْﯾ ِﮭ ْم َرﺑﱡ َك َﺳ ْو َط َﻋذَا ٍب ِإ ﱠن َرﺑﱠ َك ﻟَ ِﺑﺎ ْﻟ ِﻣ ْر َﺻﺎ ِد‬
ความวา่ “อลั ลอฮฺกระหนEําการลงโทษกบั ผ้ทู ีEละเมิดกบั ผ้ทู Eีทําให้เสียหายบนหน้าแผ่นดิน
อยา่ งมากมาย แท้จริงอลั ลอฮฺทรงสอดสอ่ ง”

สําหรับในปัจจุบนั อลั ลอฮฺจะยงั ไม่ทรงลงโทษในทนั ที แต่อลั ลอฮฺจะทรงตะอฺคีรอะซาบ
คือ เลEือนการลงโทษออกไป แต่อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงเฝา้ ดู ทรงเห็นในทีEลบั เพราะฉะนนัB
ถ้าเราจะทําผิดให้นกึ ถงึ หลกั ารมรู่ อก้อบะต้ลุ ลอฮวา่ อลั ลอฮฺทรงเฝา้ มองเราอยู่ เพEือทEีจะสามารถ
ป้องกันการทํามะอ์ซียัตหรือสิEงทีEไม่ดีเหล่านันB ได้ ขอให้เราพยายามนึกเสมอว่าอัลลอฮฺทรง

161


เห็นอัลลอฮฺทรงรู้ และทีEสําคัญ คนทEีจะปฏิบัติอย่างนีไB ด้อัลลอฮฺได้ทรงตรัสไว้ในพระมหา
คมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อลั มลุ อายะฮ์ทีE •T วา่

‫ِإ ﱠن اﻟﱠ ِذ ْﯾ َن ﯾَ ْﺧ َﺷ ْو َن َرﺑﱠ ُﮭ ْم ِﺑﺎ ْﻟﻐَ ْﯾ ِب ﻟَ ُﮭ ْم ﱠﻣ ْﻐ ِﻔ َرةٌ َوأَ ْﺟ ٌر َﻛ ِﺑ ْﯾ ٌر‬
ความวา่ “แท้จริงบรรดาผ้ซู งึE เกรงกลวั อลั ลอฮฺในทEีลบั อลั ลอฮฺจะทรงอภยั โทษให้กบั พวก
เขาและพระองค์จะตอบแทนรางวลั อนั ยิEงใหญ่นนัE คือสรวงสวรรค์ให้แก่เขา”

‫ اﻟﻌَ ِظ ْﯾ َم ِﻟﻲ َوﻟَﻛُ ْم َو ِﻟ َﺳﺎ ِﺋ ِر اﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ِﻣ ْﯾ َن‬6َ ‫َ◌ﻗُو ُل ﻗُو ِﻟﻲ َھذَا َوا ْﺳﺗَ ْﻐﻔَ ُر ا ﱠ‬
‫ﻓَﺎ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُر ْوهُ ِإﻧﱠﮫُ ھُ َو ا ْﻟﻐَﻔُ ْو ُر اﻟ ﱠر ِﺣ ْﯾ ُم‬

162


เร;ือง การตอบโต้ต่อการดหู ม;นิ ท่านศาสดาฯ

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِرأَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬Dِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َو ِﻣ ْن َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
٠ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدًا َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫَ ِإ ﱠﻻ ﷲُ َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬
٠ ‫َو َﻋﻠَﻰ آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫أاََﻟ ﱠﻣﻠﱠﺎ ُﮭﺑَﱠم ْﻌدُهَﺻ ﯾًَلﺎ أَ َﻋﯾﱡﻠ َﮭﺎَﻰاﻧَﻟﱠ ِﺑِذﯾًﯾﻧَﺎَن ُﻣآ َﻣَﺣﻧُ ﱠﻣو ٍدا‬
‫ َﺣ ﱠق ﺗُﻘَﺎ ِﺗ ِﮫ َو َﻻ ﺗَ ُﻣوﺗُ ﱠن ِإ ﱠﻻ َوأَﻧﺗُم ﱡﻣ ْﺳ ِﻠ ُﻣو َن‬6َ ‫اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬
‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم ﺳُ ْو َرةٌ ﺣم َﺳ َﺟدَة‬
‫ُ ﺛُ ﱠم ا ْﺳﺗَﻘَﺎ ُﻣ ْوا ﺗَﺗَﻧَ ﱠز ُل َﻋﻠَ ْﯾ ِﮭ ُم‬6‫ ِﻣ َن اﻟ ﱠﺷ ْﯾ َطﺎ ِن اﻟ ﱠر ِﺟﯾم ِإ ﱠن اﻟﱠ ِذﯾ َن ﻗَﺎﻟُ ْوا َرﺑﱡﻧَﺎ ا ﱠ‬Dِ ‫أَﻋُ ْوذُ ِﺑﺎ‬
٠‫ا ْﻟ َﻣ َﻼ ِﺋ َﻛﺔُ أَ ﱠﻻ ﺗَ َﺧﺎﻓُ ْوا َو َﻻ ﺗَ ْﺣ َزﻧُ ْوا َوأَ ْﺑ ِﺷ ُر ْوا ِﺑﺎ ْﻟ َﺟﻧﱠ ِﺔ اﻟﱠ ِﺗﻲ ﻛُﻧﺗُ ْم ﺗُ ْو َﻋدُون‬
‫ﻧَ ْﺣ ُن أَ ْو ِﻟﯾَﺎ ُؤﻛُ ْم ِﻓﻲ ا ْﻟ َﺣﯾَﺎ ِة اﻟدﱡ ْﻧﯾَﺎ َو ِﻓﻲ ا ْﻵ ِﺧ َر ِة ۖ َوﻟَﻛُ ْم ِﻓﯾ َﮭﺎ َﻣﺎ ﺗَ ْﺷﺗَ ِﮭﻲ أَﻧﻔُﺳُﻛُ ْم‬
6ِ ‫ ﻧُ ُزﻻً ِّﻣ ْن َﻏﻔُو ٍر ﱠر ِﺣﯾ ٍم َو َﻣ ْن أَ ْﺣ َﺳ ُن ﻗَ ْوﻻً ِّﻣ ﱠﻣن دَ َﻋﺂ ِإﻟَﻰ ا ﱠ‬٠ ‫َوﻟَﻛُ ْم ِﻓﯾ َﮭﺎ َﻣﺎ ﺗَدﱠﻋُو َن‬
ُ‫ﺗَ ْﺳﺗَ ِوي ا ْﻟ َﺣ َﺳﻧَﺔُ َوﻻَ اﻟ ﱠﺳ ِﯾّﺋَﺔ‬ َ‫اَو ْدﻓَ َﻋ ِْﻊﻣ ِﺑَلﺎﻟﱠ ِﺗ َﺻﻲﺎ ِﻟ ِھﺣﺎًَﻰ َأَوﻗَْﺣﺎ ََﺳل ُِإنﻧﱠ ِﻧﻓَﺈِﻲذَا ِﻣاﻟﱠَنِذا ْﻟي ُﻣﺑَ ْﯾْﺳﻧَِﻠ ِﻣَكﯾ ََنوﺑَ َْﯾوﻧَﮫُﻻ‬
٠‫َﻋدَا َوةٌ َﻛﺄَﻧﱠﮫُ َو ِﻟ ﱞﻲ َﺣ ِﻣﯾ ٌم‬ ‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)
จงประสบแด่พEีน้องผู้ศรัทธาทุกท่าน อลั ฮมั ดลุ ิลB ลา นบั เป็นความโปรดปรานของพระองค์ทีEได้

ทรงโปรดให้ข้าพเจ้าและพวกท่านได้มีชีวิตอยู่ร่วมกันในวนั ศกุ ร์ในวนั นีอB ีกครังB หนึEง ขอให้พวก

ท่านจงยําเกรงต่ออัลลอฮฺให้มากๆ เพราะทุกวนั นีสB ิEงต่างๆ ทีEมาประสบกับเรา นอกจากจะมี

ความรวดเร็วยงั มีสEิงต่างๆ ทีEมาประสบมากมายทีEเป็นภยั บาลาอฺหรือเป็นการทดสอบ ไม่รู้วา่ จะ

เป็นเพราะวา่ ใกล้จะถงึ วนั อาคีเราะฮ์หรือไม่ สงิE ตา่ งๆ ถงึ ได้มีความเข้มข้นมากขนึ B ทกุ ทีๆ ไมว่ า่ จะ

เป็นสEิงทีEเกิดจากธรรมชาติเรืEองไฟไหม้ เรืEองพายุ เรืEองนําB ท่วม ในปีทEีแล้ว ในปีนีกB ็ทําท่าว่าจะมี

ฝนตกมาก นอกจากนนัB ก็จะมีปัญหาเรEืองโลกร้อนเนEืองจากนําB แข็งทEีขวัB โลกเหนือกําลงั ละลาย

มนั ถึงทําให้เกิดพายุมากขึนB เรืEอยๆ สิEงต่างๆ เหล่านีมB นั เรEิมมากขึนB และทวีความรุนแรงเพEิมขึนB

นอกจากสิEงเหลา่ นีแB ล้วก็ยงั มีสEิงตา่ งๆ สิEงทEีเป็นธรรมชาติ สEิงทEีเกิดจากนําB มือมนษุ ย์ ไมว่ า่ จะเป็น

ปัญหาการต่อส้ฆู ่าฟันกัน การทําให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ วิกฤตทางการเมืองต่อส้รู ะหว่าง

163


กล่มุ ต่างๆ วิกฤตในกล่มุ ประเทศอาหรับทEีว่า “อาหรับสปริง” ซEึงดเู หมือนว่าจะเป็นการปฏิวตั ิ
อาหรับใหมโ่ ดยการฟื นB ฟู แตก่ ็มีการฆา่ กนั ตายจํานวนไมน่ ้อยตราบจนกระทงัE ถงึ ปัจจบุ นั นี Bไมว่ า่
จะเป็นปัญหาเรEืองสงครามในประเทศซีเรียก็ยงั ไม่จบสินB ปัญหาเรืEองโรฮิงญา ปัญหาเหล่านี B
เพEิมขนึ B จากนําB มือมนษุ ย์ และลา่ สดุ ปัจจบุ นั ทีEเราได้ยินก็คือ ข่าวเรืEองการดถู กู เหยียดหยามท่าน
ศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) ถามว่าสิEงเหล่านีคB ืออะไร ในทัศนะของ
ผู้ศรัทธาแล้วเรามองปัญหานีอB ย่างไร และเราควรจะทําอย่างไรต่อสEิงทีEเกิดขึนB นี B ในซูเราะฮ์
อตั เตาบะฮ์ อายะฮ์ทีE U• ได้ระบวุ า่

‫ ﻓَ ْﻠﯾَﺗَ َو ﱠﻛ ِل ا ْﻟ ُﻣ ْؤ ِﻣﻧُو َن‬6ِ ‫ُ ﻟَﻧَﺎ ھُ َو َﻣ ْو َﻻﻧَﺎ َو َﻋﻠَﻰ ا ﱠ‬6‫ﻗُل ﻟﱠ ْن ﯾُ ِﺻﯾﺑَﻧَﺎ ِإ ﱠﻻ َﻣﺎ َﻛﺗَ َب ا ﱠ‬

ความว่า “จงกล่าวเถิด จะไม่มีสิEงใดมาประสบแก่พวกเราเว้นแต่เป็นการกําหนดของ
พระองค์ทEีมาสู่พวกเราเท่านันB พระองค์เป็นผู้ทรงปกครองเรา และพระองค์เท่านันB ทีEบรรดา
ผ้ศู รัทธาจะต้องมอบหมายแก่พระองค์”

จากซูเราะฮ์อัตเตาบะฮ์นีชB ีใB ห้เห็นว่า เราในฐานะมุอฺมินต้องยอมรับว่าสEิงนีเB ป็นการ
กําหนดของพระองค์ทังB หมดทังB สินB ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติทีEเราควบคุมไม่ได้หรือมาจากฝีมือ
มนษุ ย์ อลั ลอฮฺกําหนดมาแล้วเพืEอทดสอบเราหรือเพEือลงบะลาอฺเนืEองจากการกระทําความผิด
ของพวกเราหรือของคนทีEอย่ใู กล้ๆ เรา ถ้าไม่ได้เป็นการกระทําความผิดก็เป็นการทดสอบพวก
เราว่าเราจะทําสิEงนันB หรือตอบโต้อย่างไร อันนีเB ป็นการทดสอบอย่างหนEึงของพระผู้เป็นเจ้า
สําหรับเรืEองทีEได้กลา่ วมาตอนต้นเกEียวกบั การลบหลทู่ ่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ
ว่าสลั ลมั ) นนัB ทEีจริงแล้วถ้าหากย้อนกลบั ไปดใู นอดีต เรEืองเหลา่ นีไB ม่ได้พึEงเกิดขนึ B มนั เกิดขนึ B มา
นานแล้วเท่าทีEข้าพเจ้าจําได้ก็คือ ในปี พ.ศ. TUb• ก็ได้มีการเขียนหนังสือเล่มหนึEงชEือว่า
“Satanic Verses” โดยนาย Salman Rushdie ซงEึ เป็นคนองั กฤษเชือB สายอินเดียได้เขียนหนงั สือ
แปลเป็นภาษาไทยว่า “โองการปีศาจหรือโองการซาตาน” เนือB หาของหนังสือเล่มนีไB ด้มีการ
เขียนขนึ B ในเชิงนวนิยาย โดยเอาชืEอของท่านศาสดาและภรรยามาเขียนเป็นตวั ละคร และพดู ถึง
การกระซิบกระซาบของชยั ฏอนในการทEีจะบอกโองการต่างๆ ทีEเกิดขึนB มนั มีลกั ษณะของการ
ดูหมEินเพียงแต่ไม่ได้ว่ากล่าวโดยตรงเท่านันB แต่เป็นเชิงเสียดสีเพEือให้เกิดผลกระทบต่อท่าน
ศาสดาซEึงในตอนนันB มีการประท้วงกันทัEวโลกเพราะการเขียนหนังสือเล่มนี B ผลสุดท้ายนาย

164


Salman Rushdie ต้องหนีไปอยู่ทEีประเทศอังกฤษ ตอนนันB ผู้นําอิหร่านสมัยนันB คือ โคมัยนี
ก็ได้ออกคําตดั สินให้ประหารชีวิตได้ แต่ทว่าในตอนนีนB าย Salman Rushdie ก็ยังมีชีวิตอยู่ทีE
ประเทศองั กฤษและได้รับเครืEองราชอิสริยาภรณ์ชนัB อศั วินจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ
ทEี T ถัดมาในปี พ.ศ. TUVg ก็มีชาวเดนมาร์คเขียนการ์ตูนล้อเลียนท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) โดยใส่ชืEอบรรดาซ่อฮาบะฮ์และภรรยาของท่าน ซEึงทางฝรัEงเศส
ก็เอามาตีพิมพ์ซําB นEีก็เป็นการดหู มEินเท่าทEีข้าพเจ้าจําได้ทีEจริงมนั มีเยอะกว่านี Bถดั จากนนัB ก็เป็น
ครังB นีเB ป็นอีกเรEืองหนEึงทีEได้ดูหมิEนท่านศาสดาโดยทําเป็นการแสดง เป็นการสร้างภาพยนตร์ทีE
ลงทุนไม่มากนักแต่ต้องการทีEจะดูหมEินเหยียดหยามมุสลิม นัEนก็คือ เรืEอง Innocence of
muslim ซEึงมีการนํามาลงในYoutubeเนEืองจากภาพยนตร์ขายไม่ได้ จึงเป็นผลทําให้มีการ
เผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้าดูแล้วก็มีความรู้สึกว่าเป็นเป็นภาพยนตร์ทEีแกล้งใส่ไคล้ท่าน
ศาสดา (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) จริงๆ แม้ว่าจะไม่มีการนําเอาประวตั ิจริงๆ มาใช้ แต่ก็มี
การใช้ชืEอท่าน ชEือบรรดาซ่อฮาบะฮ์และภรรยาของท่าน อนั เป็นเรEืองทEีต้องการจะลบหลู่ท่าน
ศาสดา (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) แต่อย่างไรก็ตาม ต่อมาเรEืองนีทB ีEประชมุ ใหญ่ของสมชั ชา
ใหญ่แห่งสหประชาชาติ ในปี ค.ศ. TW•T รวมถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคือ นายบารัค
โอบาม่า ได้ประณามผ้ทู Eีสร้างภาพยนตร์เรืEองนี Bแต่ไม่เห็นด้วยกบั การใช้ความรุนแรง รวมทงัB ยงั
แสดงออกในลกั ษณะทEีปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอีกด้วย นEีคือท่าทีของ
สหรัฐอเมริกา สําหรับท่าทีของกล่มุ ประเทศอาหรับไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย
ซูซิโล บัมบัง ก็บอกว่า การแสดงความคิดเห็นหรือเสรีภาพนันB ไม่ได้เป็นสิEงทีEสูงสุดเพราะใน
ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนษุ ยชนได้มีการกล่าวถึงเรืEองว่าการใช้สิทธิเสรีภาพจะต้องไม่ขดั
ต่อศีลธรรมและระเบียบประเพณีทEียอมรับกนั รวมถึงประธานาธิบดีของปากีสถานก็กล่าวว่า
การใช้ สิทธิ ในการแสดงความคิดเห็นมาเป็ นข้ ออ้ างในการลบลู่ศาสนาเป็ นสิEงทีEไม่สมควร
อย่างไรก็ตาม กลุ่มประเทศอาหรับก็ได้มีการเสนอขอให้สหประชาชาติออกกฎเกณฑ์สากล
เพืEอทEีจะควบคุมการดูถูกเหยียดหยามศาสนา ซEึงก่อนหน้านีเB ป็นความพยายามของกลุ่ม
ประเทศอาหรับทEีจะผลกั ดนั ในเรEืองนีใB ห้เป็นรูปธรรม ซงึE ชีใB ห้เห็นวา่ กฎหมายมนษุ ย์ไมไ่ ด้กําหนด

165


กฏเกณฑ์ในเรืEองนีไB ว้ ดงั นันB จึงถือได้ว่า การมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทําให้ทุกคน
สามารถทEีจะเหยียดหยามศาสดา รวมถงึ ศาสนาของคนอืEนได้ด้วยหรือ?

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ ต้องบอกวา่ เราเองในฐานะผ้ศู รัทธาเราต้องมีความ
รักในศาสนาและท่านศาสดาเพราะมนั เป็นส่วนหนEึงของการศรัทธา คนทีEเขาไม่เข้าใจว่าทําไม
มสุ ลิมต้องหวงแหนเทิดทูน จนกระทงEั บางทีมีการกล่าวกนั ถึงขนาดว่าศาสดาของอิสลามนนัB
แตะไม่ได้เลยหรือ? ปัญหาเหล่านีเB กิดจากการทEีพวกเขาไม่เข้าใจในหลักฐานทEีเป็นฮะดีษ
ซอเฮียะฮ์ของอิหมา่ มบคุ อรีย์และมสุ ลมิ ได้กลา่ วไว้วา่

،‫َواﻟﱠ ِذ ْي ﻧَ ْﻔ ِﺳ ْﻲ ِﺑﯾَ ِده َﻻ ﯾُ ْؤ ِﻣ ُن أَ َﺣدُﻛُ ْم َﺣﺗﱠﻰ أَﻛُ ْو َن أَ َﺣ ﱠب ِإﻟَ ْﯾ ِﮫ ِﻣ ْن َوا ِﻟ ِد ِه َو َوﻟَ ِد ِه‬
‫َواﻟﻧﱠﺎ ِس أَ ْﺟ َﻣ ِﻌﯾ َن‬

ความวา่ “ขอสาบานตอ่ ผ้ซู งึE ชีวิตของฉนั อยใู่ นพระหตั ถ์ของพระองค์ ผ้ศู รัทธาคนหนงEึ คน
ใดจะยงั ไมเ่ ป็นผ้ศู รัทธาทีEสมบรู ณ์ จนกวา่ เขาจะรักฉนั มากกวา่ บิดามารดาของเขา และมากกวา่
ลกู หลานของเขา และมากกวา่ บรรดามนษุ ย์ทงัB หมดในโลกนี”B

จากฮะดีษนีชB ีใB ห้เห็นว่า ผู้ศรัทธาจะต้องมีความรักต่อท่านศาสดาเหนือกว่าคนทงัB โลก
นีEคือเหตุผลว่าทําไมเราต้องปกป้องสิทธิของท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ
วา่ สลั ลมั ) ซงึE ศาสนาอืEน ชาติอEืนไมม่ ี เมEือเขาบอกวา่ เป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เราก็
มีเสรีภาพในการปกปอ้ งทา่ ศาสดา (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) เช่นกนั แตส่ ิEงทEีเราต้องทําเรา
ควรตระหนกั วา่ เราควรจะทําอย่างไร ในรัฐธรรมนญู มีเรืEองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นแต่
ก็มีข้อยกเว้นว่าจะต้องไม่กระทบต่อความเป็นสว่ นตวั และเรEืองของครอบครัว ถ้าหากการแสดง
ความคิดเห็นเป็นแบบวิชาการหรือสจุ ริตชนก็สามารถทําได้ เพราะอีกฝ่ ายหนึEงสามารถโต้ตอบ
ได้ แตใ่ นขณะนีทB ่านศาสดา (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ไม่ได้มีชีวิตอย่แู ล้ว ท่านไม่มีสิทธิไป
ฟ้องร้ อง ไม่มีสิทธิไปโต้แย้งเลย พวกเราผู้ศรัทธาต่างหากทEีจะต้องใช้สิทธิในการปกป้อง
ช่วยเหลือท่านศาสดา ถามว่าเราทําอย่างไร ในอายะฮ์อลั กรุ อานทEียกมาตอนต้นซูเราะฮ์ฮามีม
ซะญะดะห์ ในอายะฮ์ทีE bV กลา่ ววา่

166


ٌ‫َﻋدَا َوة‬ ُ‫ِﺑﺎﻟﱠ ِﺗَﺻﺑَﻲ ُروِھا َﻰَوأََﻣﺎْﺣﯾُ َﺳﻠَﻘﱠ ُﺎن َھﻓَﺎﺈِ ِإذَاﱠﻻاﻟﱠذُِذوي َﺣﺑَ ْﯾ ٍﻧَّظ َك َﻋ َ ِوظﺑَﯾ ْﯾٍمﻧَﮫ‬ ‫ا ْدﻓَ ْﻊ‬ ُ‫َ َﻛوﺄَﻧﱠﻻَﮫُﺗَ َوْﺳِﻟﺗَ ِﱞوﻲي َﺣاِﻣْﻟﯾ ٌَمﺣ َﺳﻧََوﺔُ َﻣﺎ َوﯾُﻠَﻻَﻘﱠﺎاﻟَھﺎ ﱠﺳ ِﯾِّإﺋَﱠﻻﺔ‬
‫اﻟﱠ ِذﯾ َن‬
ความวา่ “ความดีนนัB ไม่เท่าเทียมกบั ความชวEั จงตอบโต้สEิงทีEเลวกวา่ ด้วยสEิงทีEดีกวา่ เมEือ

นนัB บรรดาผ้ซู งEึ ระหว่างพวกเราและพวกเขาเป็นศตั รูกนั นนัB จะกลบั มาเป็นประหนึEงมิตรสหายทีE

แน่นแฟ้น และไม่มีใครทีEจะได้รับมรดกตกทอดอนั นี Bคณุ ธรรมอนั นีเBว้นแตผ่ ้ทู ีEมีความอดทน และ

ไมม่ ีใครทีEจะได้รับมรกดกตกทอดอนั นี Bคณุ ธรรมอนั นีเBว้นแตผ่ ้ทู ีEมีวาสนาอนั ยิEงใหญ่”

จากอายะฮ์นีชB ีใB ห้เห็นว่ามุสลิมจะต้องตอบโต้ด้วยสิEงทEีดีกว่า เราคงไม่เอาความชEัวไป
แลกกบั ความชวEั เพราะฉะนนัB การประท้วงและไปฆา่ ผ้นู ําสหรัฐอเมริกาหรือทตู หรือเจ้าหน้าทEีทตู
ตาย มนั คงไม่ได้เป็นหลกั การของอิสลาม หากแต่เป็นสEิงทEีนอกเหนือ เพราะว่าคนทEีทําผิดควร
จะต้องได้รับโทษตามกระบวนการและเนือB หาของกฎหมาย แตค่ นทีEไมไ่ ด้ทําผิดยอ่ มไมส่ มควรทEี
จะได้รับโทษของคนอEืน ‫ َو َﻻ ﺗَ ِز ُر َوا ِز َرةٌ ِو ْز َراُ ْﺧ َری‬อายะฮ์นีไB ด้ถูกกล่าวในอลั กุรอาน T-b
ครังB ความว่า ไม่มีใครทEีจะต้องรับบาปของคนอืEน เพราะฉะนันB การกระทําต่อบุคคลอืEนไม่ใช่
วิธีการของอิสลามและไม่ใช่วิธีการกระบวนการยุติธรรมทEีถูกต้อง ดงั นันB การทีEพวกเรามีการ
ประท้วงและแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการจัดงานเรารักท่านนบี (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ
ว่าสัลลัม) นEีก็เป็นการแสดงออกว่าเรารักท่านนบี (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) เราเป็นผู้
ศรัทธาทีEปกปอ้ งทา่ นศาสดา (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) เราควรพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสใน
การเผยแพร่ศาสนประวตั ิหรือชีวประวตั ิของท่านให้ลกู หลานได้ฟัง สิEงทีEถกู ต้องเผยแพร่ให้ได้รับ
รู้ เมืEอผ้คู นได้ศกึ ษาประวตั ิของท่านนบีอย่างจริงจงั เหมือนเหตกุ ารณ์ g/•• มนั ไม่ได้เป็นผลร้าย
กบั มสุ ลิมเท่านนัB แต่กลบั กลายเป็นผลดีเมืEอมีคนศกึ ษาอลั กรุ อานศกึ ษาอิสลามเพEิมมากขนึ B และ
เข้ารับอิสลามมากขนึ B ตอนนีใB นอเมริกามีประมาน ‡-•W ล้านคน เราควรพลิกวิกฤตตรงนีใB ห้เรา
ได้เรียนรู้ชีวประวตั ิหรือจริยธรรมหรือจริยวตั รของท่านทีEดีเอามาเป็นแบบอย่างทEีดี เราควรจะ
รณรงค์ในการสงEั สอนลกู หลานให้มากขนึ B ดีเสียกวา่ เรานกึ ถงึ ทา่ นโดยการทําเมาลดิ ทําสงิE ทEีเราไม่
รู้ความหมายทEีเราทํากนั ทกุ วนั สิEงเหลา่ นียB งั เป็นสงิE ทีEมีข้อกงั ขาในหลายๆ เรืEอง เพราะฉะนนัB สEิงทEี
เราจะต้องทําเพืEอเป็นการบอกถึงความรักต่อท่านศาสดา (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) นันB
สามารถกระทําได้ สดุ ท้ายนี Bขอดอุ าอฺจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) ให้ข้าพเจ้า

167


และพีEน้องผ้ศู รัทธาทกุ ทา่ นได้รับฮิดายะฮ์ทีEถกู ต้องและขอให้พวกเราได้รับความสขุ ทงัB โลกนีแB ละ
โลกหน้าและให้พ้นจากไฟนรก อามีน

เร;ือง วจที ;ดี เี ลศิ

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ِإﻟَﮫ‬ ‫ َﺻ َو ًلأَ ْﺷ َﻋ َﻠﮭدُ َﻰأَﻧَ ْ ِﺑنﯾً َﻧَﺎﻻ‬،ُ‫ﺎاَِدﻟﻠﱠ َيُﮭ ﱠمﻟَﮫ‬٠‫َھ‬ ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲُ َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬
‫ أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌدُه‬٠ ‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد َو َﻋﻠَﻰ آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬
‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬٠ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬
‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬
‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทEีทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถึงวนั ศุกร์นีอB ีกครังB ข้าพเจ้าขอเตือนตวั เองและเตือนพวกท่านทังB หลายให้มีความยําเกรง

ต่ออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ด้วยกับการปฏิบตั ิในสEิงทEีพระองค์ทรงสงEั ใช้และออกห่าง

หรือหลกี ให้พ้นจากสงิE ทีEเป็นความชวEั ร้ายทEีพระองค์ทรงสงัE ห้าม

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ ทุกวนั นีกB าลเวลาช่างรวดเร็วมาก ถ้าเราไม่มีการ
พัฒนาปรับปรุงตัวเองให้ ดีขึนB เราก็เหมือนถอยหลังและอยู่ในสภาวะขาดทุนแน่นอน
เพราะฉะนันB เราในฐานะทีEเป็นผู้ศรัทธาต้องมีการพัฒนาหรือปรับปรุงทังB การศรัทธาและ
อะม้าลอิบาดะฮฺของเราให้เพEิมมากยิEงขนึ B เพราะวา่ เราเข้าใกล้ความตายในทกุ เวลา ท่านคิดหรือ
ตงัB คําถามกบั ตวั เองหรือไม่วา่ เราจะเพEิมพนู อีหม่านของเราได้อยา่ งไร หรือเราจะเพEิมพนู อีหม่าน

168


ให้ถึงขนัB สงู สดุ ได้หรือไม่ และรู้หรือไม่ว่าอีหม่านขนัB สงู สดุ คืออะไร เราในฐานะทEีเป็นผ้ศู รัทธามี
เป้าหมายคือโลกอาคีเราะฮ์ ส่วนโลกดุนยาเป็นเพียงทางผ่าน เพราะฉะนันB เราต้องพยายาม
ทบทวนเปา้ หมายของเราเสมอวา่ เราต้องกลบั ไปสคู่ วามเมตตาของอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอา
ลา) ไม่วนั ใดก็วนั หนEึง เพราะฉะนันB วนั นีเB ราทําอะม้าลอิบาดะฮฺมากขึนB หรือไม่ เรามีศรัทธาทEี
ถกู ต้องตามแนวอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วลั ญะมาอะฮ์ตามแบบท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะ
ลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) และบรรดาสะลฟั หรือไม่ เราต้องทําอยา่ งไรถงึ จะเป็นมสุ ลมิ ทEีดีหรือเป็นมอุ ฺมินได้

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ ในเรEืองของการศรัทธาหรืออีม่านมีฮะดีษของท่าน
ศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ทีEรายงานโดยอิหม่ามมสุ ลิม ได้แบ่งออกเป็น
ˆW หรือ ˜W แขนง แขนงทEีประเสริฐทEีสดุ คือ การกลา่ วลาอิลาฮะอิลลลัB ลอฮ สว่ นแขนงทีEมีความ
ประเสริฐน้อยทีEสดุ คือ การเก็บหนามออกจากถนนหนทาง รวมทงัB การละอายก็เป็นสว่ นหนงึE ของ
การศรัทธา การกลา่ วลาอิลาฮะอิลลลัB ลอฮคือ การใช้วาจาพดู การเก็บหนามออกจากทางถนน
คือการกระทํา การละอายคือการแสดงออกทางความรู้สึก เพราะฉะนนัB การศรัทธาจะต้องมี b
องค์ประกอบคือ วาจา การกระทําและจิตใจ การเป็นมสุ ลิมทีEดีก็เช่นเดียวกนั เพราะมีฮะดีษของ
ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้กลา่ ววา่

‫ا ْﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ُم َﻣ ْن َﺳ ِﻠ َم ا ْﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ُﻣو َن ِﻣ ْن ِﻟ َﺳﺎ ِﻧ ِﮫ َوﯾَ ِد ِه‬

ความวา่ “มสุ ลมิ คือบคุ คลซงึE บรรดามสุ ลมิ ีนทงัB หลายปลอดภยั จากลนิ B และมือของเขา”

เพราะฉะนนัB วาจากบั การกระทําเป็นสงEิ ทีEสําคญั ทีEสดุ ทEีเราจะต้องตระหนกั วา่ ปัจจบุ นั เรา
ทําความเดือดร้ อนให้กับชาวบ้านหรือให้กับพEีน้องมุสลิมหรือไม่ เพราะสองสิEงนีคB ือสิEงทEีอยู่
ภายนอก ถ้าจะเปรียบเป็นดาบมนั ก็คือ ปลายดาบหรือคมดาบทEีมนั จะฟันหรือกินเนือB คนอืEนได้
เสมอ เพราะฉะนันB วาจากับการกระทําถือเป็น T สิEงทEีเราจะต้องระมัดระวงั ท่านศาสดามูฮัม
หมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) ได้เตือนเสมอเกีEยวกับการใช้ลินB การนินทาและใส่ร้ าย
ทEีเคยพูดว่าจะมีการนินทาใส่ร้ายกันข้ามโลกไปสุดขอบฟ้า ซึEงตอนนันB ยงั ไม่เห็นภาพทีEชดั นัก
แต่ตอนนีไB ด้เห็นเป็นจริงแล้ว เพราะว่าเวลาเราแช็ทกันในไลน์หรือในเฟสบุ๊คมันจะไปทEัวโลก
ถ้าเป็นเรEืองจริงทีEมีคนใดคนหนงEึ เสียหายหรือไม่ชอบก็อาจจะเป็นการนินทา แตถ่ ้าเป็นเรืEองทEีไม่

169


จริงก็เป็นการใส่ร้ าย ซึEงทังB สองสิEงเป็นบาป เพราะฉะนันB เวลาเราใช้โซเชียลมีเดียเหล่านีตB ้อง
พิจารณาดวู ่าสEิงทEีเราโพสต์หรือสEิงทีEเราจะคอมเม้นหรือกดไลค์มนั เป็นสEิงทEีถกู ต้องไหมหรือเป็น
สิEงทEีกระทบกระเทือนต่อพีEน้องเราหรือไม่ ถ้ากระทบกระเทือนก็ไม่สมควรกระทํา โดยเฉพาะ
อย่างยEิงถ้าหากเกีEยวข้องกบั อะกีดะฮ์ซึEงเป็นเรEืองของต่างศาสนิกทีEโพสต์มา แล้วเราเห็นดีหรือ
วีดีโอทีEมีเสียงเพลงหรือมีผ้หู ญิงทีEไม่ปกปิดเอาเราะฮ์ เหล่านีลB ้วนแล้วแต่เป็นสิEงทีEทําให้ฟิ ตนะฮ์
เกิดขึนB เพราะการสร้ างฟิ ตนะฮ์หรือสร้ างความหายนะมันทําง่ายมากและเผยแพร่ไปทEัวโลก
เพราะฉะนนัB ถ้าเรารู้เท่าทนั และเปลEียนแปลงสEิงทีEจะเป็นภยั กบั เรากลบั กลายเป็นการดะอฺวะฮ์
ข้ามโลกโดยใช้ผ่านอินเตอร์เน็ตทงัB เฟสบ๊คุ หรือไลน์ สEิงนียB ่อมเป็นสิEงทีEเราทกุ คนควรทEีจะกระทํา
เนEืองจากเป็นการตกั เตือนกนั ด้วยกบั ขนั ตธิ รรมและด้วยกบั สจั ธรรม

ทา่ นพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ทา่ นครับ เมEือพดู ถงึ เรืEองวาจา คําพดู เป็นสงEิ หนงEึ ทีEเป็นเหมือน
ปลายดาบทEีจะฟาดฟันหรือระรานคนอืEนเพราะฉะนันB อิสลามจึงให้ระมัดระวงั เป็นอย่างมาก
โดยในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อิบรอฮีม อายะฮ์ทEี TV-T‡ ได้ระบวุ า่

‫َُط ِﯾّاﺑَ ٍﺔﻷَ ْأﻣَﺛَﺎ ْﺻَلﻠُ ِﻟَﮭﻠﺎﻧﱠﺎﺛَﺎ ِ ِﺑس ٌﻟَتﻌََﻠﱠوﻓَُﮭ ْْمر ﯾَﻋُﺗَ َﮭذَﺎ ﱠﻛ ِﻓ ُرﻲو اَﻟن ﱠﺳ َﻣﺂ ِء‬6‫ُﯾ َﻣٍنﺛَ ِﺑﺈِﻼً ْذ َﻛ ِِﻠن َﻣ َرﺔً ِﺑّ َﮭ َطﺎ ِﯾّﺑََوﺔًﯾَ َﻛ ْﺿ َﺷِر َﺟ ُبرةٍا ﱠ‬6‫أَﻟَ ْم ﺗَ َرﺗُ ْ َؤﻛ ِْﺗﯾﻲَفأُﻛُﻠَ َﺿَﮭ َﺎرﻛُ َب ﱠلا ﱠِﺣ‬
‫َو َﻣﺛ ُل َﻛ ِﻠ َﻣ ٍﺔ َﺧ ِﺑﯾﺛَ ٍﺔ َﻛ َﺷ َﺟ َرةٍ َﺧ ِﺑﯾﺛَ ٍﺔ ا ْﺟﺗُﺛﱠ ْت ِﻣن ﻓَ ْو ِق اﻷَ ْر ِض َﻣﺎ ﻟَ َﮭﺎ ِﻣن ﻗَ َرا ٍر‬

ความว่า “เจ้ามิเห็นดอกหรือว่า อลั ลอฮฺทรงยกอทุ าหรณ์ไว้ว่า อปุ มาคําพดู ทEีดีดงัE ต้นไม้
ทีEดี รากของมนั ฝังแน่นลกึ มนัE คง และกEิงก้านของมนั ชขู ึนB ไปในท้องฟ้า ผลของมนั จะออกมาทกุ
กาลเวลา โดยอนมุ ตั ิของพระเจ้าของมนั และอลั ลอฮฺทรงยกอทุ าหรณ์แก่ปวงมนษุ ย์เพืEอพวกเขา
จะได้รําลึก และอุปมาคําพูดทีEเลว ดงัE ต้นไม้ทีEอบั เฉาถูกถอนราออกจากพืนB ดิน มันไม่มีความ
มนEั คงเลย”

อัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ได้ทรงเปรียบเทียบคําพูดทีEดีเหมือนกับต้นไม้ทีEดี
เพราะว่าต้นไม้ทEีดีจะมีรากฐานทีEมนEั คงอย่ใู นดินและกิEงก้านสาขาของมนั แตกไปอย่บู นท้องฟ้า
และออกดอกออกผลและให้ความร่มเย็นเหมือนคําพดู ทEีดี เพราะคําพดู ทEีดีมนั มีผลตอ่ ภายนอก
และผ้คู น ถ้าเราใช้คําพดู ทีEไม่ดีแน่นอนไม่มีใครคบค้าสมาคมกบั เรา คําพดู ทีEดีทกุ คนฟังแล้วชืEน
ใจ นกั วิชาการอธิบายอายะฮ์นีไB ว้ว่า การทEีอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ได้ทรงเปรียบเทียบ

170


คําพดู ทีEดีเหมือนต้นไม้เนืEองจากวา่ มนั ผลิดอกออกผลให้กบั ผ้คู นได้บริโภค เช่นเดียวกบั คําพดู ทีE
มีผลต่อผ้พู ดู ถ้าเราพดู ดีคนก็จะได้รับรู้สEิงทEีดีจากเรา ถ้าเราพดู ไม่ดีความไม่ดีก็จะเข้าตวั เราเอง
ไม่ว่าจะเป็ นเพืEอนฝูง พEีน้ อง สามี บิดา มารดา ภรรยา หรือแม้ แต่ลูก ทังB หมดล้วนได้รับ
ผลกระทบทังB สินB รวมทังB สังคมด้วย ถามว่าเราเองเมืEอพูดออกไปมีผลดีหรือไม่ คําพูดทีEดี
นกั วิชาการส่วนใหญ่อธิบายว่าคําพูดทEีดีในทีEนีคB ือ คําว่า “ลาอิลาฮะอิลลลัB ลอฮ” แปลว่า ไม่มี
พระเจ้าอืEนใดทEีถูกกราบไหว้โดยเทEียงแท้นอกจากอัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) เท่านันB
มีสะลฟั บางท่านอธิบายว่า ต้นไม้ทีEดีในทEีนีหB มายถึง ต้นอินทผลมั ทงัB นีเBนEืองจากว่าเป็นต้นไม้ทีE
อย่ใู นสรวงสวรรค์ ท่านอาลีบินอบตู อลฮะฮ์ (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ได้รายงานจากท่านอิบนอุ บั บาส
(ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ได้กล่าวว่า การทีEอายะฮ์นีไB ด้อธิบายถึงการเป็นมอุ ฺมินทEีดีจะต้องมีคําพดู ทEีดี
คือ คําว่า “ลาอิลาฮะอิลลลัB ลอฮ” เป็นพืนB ฐานการศรัทธาทEีฝังแน่นอย่ใู นหวั ใจ หลงั จากทEีมีการ
ศรัทธายึดมนัE ในอลั ลอฮฺทEีบริสทุ ธ›ิถูกต้องแล้ว มนั ส่งผลให้การกระทําอะม้าลของเขาดีตามมา
ด้ วยเหมือนต้ นไม้ นEีคือสEิงทีEบรรดานักวิชาการได้ อธิบายถึงอายะฮ์นี B แล้ วคําพูดทีEไม่ดี
ก็เปรียบเสมือนต้นไม้ทEีเลว คือ ต้นไม้ทีEเหEียวเฉาทีEถกู ดงึ ถกู ถอนรากถอนโคนออกมาซงEึ มนั จะไม่
มีความมัEนคงแต่อย่างใด เพราะฉะนันB เวลาเราพูดในสEิงทEีไม่ดีกับคนอืEน คําพูดทEีไม่ดีมันจะ
ชีใB ห้เห็นถึงความไม่มีประโยชน์ ความไร้สาระและอาจจะเป็นภยั ต่อเราด้วยซําB ไป เพราะฉะนนัB
จงึ ขอเตือนให้ทกุ คนจงระวงั ในทกุ คําพดู ทีEจะพดู ตอ่ บคุ คลใดๆ ก็ตาม

ทา่ นพEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ นครับ เมEือพดู ถึงคําวา่ “ลาอิลาฮะอิลลลัB ลอฮ” นกั วิชาการ
ได้อธิบายความหมายหรือเงืEอนไขของคํานีไB ว้ว่า การทEีจะเข้าใจคําว่า “ลาอิลาฮะอิลลลัB ลอฮ”
มีเงืEอนไขทีEจะต้องสมบรู ณ์ครบถ้วนถงึ ˆ ประการ คือ

1. ‫ اﻟﻌﻠم‬จะต้องมีความรู้เกีEยวกบั คําวา่ “ลาอิลาฮะอิลลลัB ลอฮ” อย่างแท้จริง กลา่ วคือ
รู้ว่ามีองค์ประกอบสําคญั T สEิง สEิงแรกคือ การปฏิเสธว่าไม่มีพระเจ้าอEืนใดทEีถกู กราบไหว้โดย
เทีEยงแท้หรือมีสิทธิทEีจะถกู กราบไหว้ สิEงทีEสองคือ การยืนยนั ว่าแท้จริงอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะ
อาลา) เป็นพระเจ้าองค์เดียวเทา่ นนัB นีEคือความรู้ทีEเราจะต้องมีในคํานีถB งึ จะถกู ต้อง

2. ‫ اﻟﯾﻘﯾن‬จะต้องมีความมนัE ใจในคําๆ นีใB นขณะทีEกลา่ ว

171


3. ‫ اﻹﺧﻼص‬จะต้องมีความจริงใจหรือบริสทุ ธ›ิในการทEีจะปฏิบตั ติ ามความหมาย

4. ‫ اﻟﺻدق‬จะต้องมีความสจั จะอยา่ งแท้จริง โดยปากทีEพดู นนัB ต้องตรงกบั ใจทีEนกึ คดิ

5. ‫ اﻟﻣﺣﺑﺔ‬จะต้องมีความรักตอ่ อลั ลอฮฺอยา่ งแท้จริงในขณะทEีกลา่ วถ้อยคําดงั กลา่ ว

6. ‫ اﻟﻘﺑول‬จะต้องมีการยอมจํานนหรือยอมรับอยา่ งสดดุ ีโดยไมม่ ีข้อสงสยั

7. ‫ اﻟﻛﻔرﺑﺎﻟطﺎﻏوت‬จะต้องปฏิเสธตอ่ บรรดาตอฆตู ทงัB หลาย

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ นครับ องค์ประกอบหนงEึ ของคําวา่ “ลาอิลาฮะอิลลลัB ลอฮ”
คือ การรักต่ออลั ลอฮฺ ในขณะทEีเรากล่าวคําว่าลาอิลาฮะอิลลลัB ลอฮ เราจะต้องมีความรักต่อ
พระองค์ ความรักต่อพระองค์เป็ นอย่างไร ทําไมต้ องรักด้ วย แล้ วรักอย่างไร รักแค่ไหน
นกั วิชาการได้อธิบายเรEืองนีวB า่ ทําไมเราถงึ ต้องรักอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) การทีEเราจะรัก
หรือไม่รักพระองค์นนัB ไม่ได้ทําให้อลั ลอฮฺสงู สง่ ขนึ B การทีEเราจะทําการเคารพอิบาดะฮฺต่ออลั ออฮฺ
ก็ไมไ่ ด้สง่ ผลทําให้พระองค์ทรงสงู สง่ หรือตEําต้อยลง แตท่ ําไมเราถงึ ต้องรักอลั ลอฮฺ นกั วิชาการได้
ให้คําอธิบายวา่ เนืEองจากวา่ ความรักมนั คือเรEืองของหวั ใจทEีมีความโน้มเอียงไปในสิEงซงึE เขาเห็น
ว่ามนั เลอเลิศหรือสมบรู ณ์แบบ ถ้าเราเห็นว่าคนนีสB วยในสายตาของเรา เราก็จะรักเขา เราเห็น
ว่าคนนีดB ีเก่ง เราก็จะรักเขาเพราะเขาเป็นคนเก่ง เพราะฉะนนัB ความรักคือความรู้สกึ หรือความ
โน้มเอียงทีEโน้มไปสคู่ วามเลอเลิศความสมบรู ณ์แบบของคนๆ นนัB ด้วยเหตนุ ี Bมนั จงึ เกEียวกบั การ
ศรัทธาในอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) เพราะวา่ เราในฐานะทีEเป็นมคั ลกู ทีEถกู สร้างขนึ B มาเพEือ
ทําการอิบาดะฮฺต่อพระองค์ เราศรัทธาว่าอลั ลอฮฺเป็นพระเจ้า อลั ลอฮฺนนัB ทรงเอกะ อลั ลอฮฺนนัB
เป็นทีEพึEงเสมอ อลั ลอฮฺนนัB ไม่เหมือนสิEงใดในโลกนี BเพราะฉะนนัB อลั ลอฮฺเป็นผ้ทู รงสมบูรณ์แบบ
เป็นผู้ทรงทีEสุดหรือเป็นผู้ทรงเลอเลิศในทุกด้าน ด้วยเหตุนี B จึงจําเป็นหรือเป็นหน้าทEีของเรา
ทีEจะต้องรักต่ออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) เนืEองจากพระองค์ทรงสมบรู ณ์แบบและเลอเลิศ
ต่อมัคลูกซEึงเทียบกันไม่ได้ ฉะนันB การตังB ภาคีจึงเกิดขึนB ไม่ได้ ถ้าเรารักสิEงอEืนเทียบเคียงกับ
อัลลอฮฺเท่ากับเราตังB ภาคีต่อพระองค์ ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานซูเราะฮ์อัลบากอเราะฮ์
อายะฮ์ทีE •‡U ได้ระบวุ า่

◌ۖ 6ِ ‫ أَﻧدَادًا ﯾُ ِﺣﺑﱡوﻧَ ُﮭ ْم َﻛ ُﺣ ِّب ا ﱠ‬6ِ ‫َو ِﻣ َن اﻟﻧﱠﺎ ِس َﻣن ﯾَﺗﱠ ِﺧذُ ِﻣن دُو ِن ا ﱠ‬

172


6‫َواﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا أَ َﺷدﱡ ُﺣﺑ‹ﺎ ِّ ﱠ‬

ความว่า “และในหมู่มนุษย์นันB มีผู้ทEียึดถือบรรดาภาคี อืEนจากอัลลอฮฺ ซEึงพวกเขารัก
ภาคีเหลา่ นนัB เชน่ เดียวกบั รักอลั ลอฮฺ แตบ่ รรดาผ้ศู รัทธานนัB เป็นผ้ทู Eีรักอลั ลอฮฺมากยEิงกวา่ ”

อายะฮ์นีชB ีใB ห้เห็นว่า ถ้าเป็นผู้ทีEตงัB ภาคีไม่มีศรัทธาแล้วเขารักภาคีเท่าเทียมกับอลั ลอฮฺ
แต่เราในฐานะทีEไม่มีภาคี เรารักอลั ลอฮฺองค์เดียวมากทEีสุด เพราะฉะนันB การรักอลั ลอฮฺมาก
ทEีสดุ จงึ เป็นหน้าทEีของเราตามอายะฮ์นี B

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ รักอัลลอฮฺแล้วต้องทําอย่างไร ในอัลกุรอานได้
กลา่ ววา่ ถ้าหากทา่ นรักอลั ลอฮฺจงปฏิบตั ิตามฉนั หมายถงึ ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะ
ลยั ฮิว่าสลั ลมั ) การรักอลั ลอฮฺก็คือ การทีEต้องปฏิบตั ิตามสิEงทEีท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอ
ฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้นํามา ท่านเป็นแบบอย่างให้พวกเรา ถ้าไม่มีท่านแล้วเราจะเป็นอย่างไร
ถามว่าศาสนาอิสลามจะมาถึงเราหรือไม่ และศาสนาอิสลามจะเลอะเลือนหรือจางหายไป
ขนาดไหน การทEีท่านได้ปฏิบตั ิเป็นแบบอย่างทEีดีให้แก่เรานนัB ชีใB ห้เห็นว่า แนวทางของท่านเป็น
แนวทางทีEถกู ต้องเพียงแนวทางเดียวเทา่ นนัB เพราะถ้าหากมีหลายแนวทางเราคงสบั สนมากจน
ไม่รู้จะตามแนวทางไหนดี เพราะฉะนนัB ถ้าเรารักอลั ลอฮฺ เราต้องปฏิบตั ิหรือเดินตามแนวทาง
ของทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) นอกจากจะต้องมีความรักตอ่ อลั ลอฮฺ
แล้ว ลําดบั ถดั รองลงมาเราจะต้องรักทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) และ
รักผ้ทู Eีปฏิบตั ิตามท่านด้วย การรักท่านนบีมีฮะดีษทEีรายงานโดยอิหม่ามบคุ อรีย์และมสุ ลิมเป็น
ฮะดีษซอเฮียะฮ์วา่

‫ﻻَ ﯾُ ْؤ ِﻣ ُن أَ َﺣدُﻛُ ْم َﺣﺗﱠﻰ أَﻛُو َن أَ َﺣ ﱠب ِإﻟَ ْﯾ ِﮫ ِﻣ ْن َوا ِﻟ ِد ِه َو َوﻟَ ِد ِه َواﻟﻧﱠﺎ ِس أَ ْﺟ َﻣ ِﻌﯾ َن‬

ความว่า “คนหนEึงคนใดจากพวกท่าน ความศรัทธาของเขายังไม่สมบูรณ์ จนกว่าฉัน
(ทา่ นนบี) จะเป็นทีEรักยEิงสาํ หรับเขา มากกวา่ บดิ าของเขา ลกู ของเขา และมนษุ ย์ทงัB หมด”

แนวทางในการรักท่านนบีตามฮะดีษนีคB ือว่า มุอฺมินนันB จะต้องรักท่านนบีมากยEิงกว่า
บิดา มากยEิงกว่าลกู หลานและมากกว่ามนษุ ย์คนใดในโลกนีทB งัB หมด จึงจะทําให้การศรัทธานนัB
สมบรู ณ์ ขอตงัB คําถามว่า เรารักท่านนบีจริงตามฮะดีษนีหB รือไม่ เราได้ยึดหรือปฏิบตั ิตามแบบ

173


ฉบบั บของท่านจริงหรือไม่ รักแล้วเราอยากใกล้ชิดท่านหรือไม่ มีใครบ้างทีEไม่อยากเข้าใกล้ชิด
ท่านหรือไม่อยากให้ท่านได้ชะฟาอะฮ์ให้ความช่วยเหลือในวนั อาคีเราะฮ์ เพราะฉะนันB เราจึง
สมควรอย่างยEิงทีEจะต้องปฏิบัติตามแนวทางของท่านหรือสEิงทEีท่านได้นํามาบอก รวมทังB การ
ยอมรับของท่านด้วย คําถามว่าแล้วทําไมเราถึงต้องรักท่านมากกว่าบิดามารดา ลกู หลานและ
มนุษย์ทงัB หมด คําตอบ คือ เพราะท่านเป็นคนเดียวทีEนําอิสลามมาส่พู วกเรา ส่วนสามีภรรยา
หรือพ่อแม่ พีEน้องนนัB เป็นอะมานะฮ์ทEีเราต้องทําดีด้วย เราอย่ใู นโลกนีเB พืEอถกู ทดสอบว่าเราจะ
ปฏิบตั ิตามอยา่ งไร จะทําความดีอยา่ งไร เพราะฉะนนัB การรักสงิE อEืนใดคือการรักแคโ่ ลกนี Bแตก่ าร
รักทEีแท้จริงแล้วต้องรักท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) มากกว่ามนุษย์
ทงัB หมด นีEคือสงิE ทEีอยากจะฝากไว้ในคตุ บะฮ์นี B

ท่านพีEน้ องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ มีคนบางคนกล่าวว่าท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) เป็นโรคจิต เป็นคนบ้า เป็นคนโกหก หรือกลา่ วหาวา่ ทา่ นเป็นคน
ทีEแตง่ เรEืองขนึ B มาแล้วเชืEอวา่ เรืEองนนัB เป็นจริง ถามวา่ มนั เป็นอยา่ งนนัB จริงหรือไม่ การรักษาโรคจิต
ฟEันเฟื อนนนัB นกั จิตแพทย์จะทําการรักษาโดยการพยายามตงัB คําถามเพืEอให้เขาได้คิดเพราะว่า
คนทEีเป็นโรคนีจB ะชอบทึกทกั หรือมีจิตนาการสงู และเข้าใจว่าสEิงทีEตนพูดนนัB เป็นความจริง เช่น
คนบ้าอาจจะบอกว่าเขาเป็นกษัตริย์ จิตแพทย์จะไม่ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้เป็นกษัตริย์ เพราะหาก
ปฏิเสธเขาจะไมย่ อมรับการรักษา จิตแพทย์จะถามวา่ คณุ เป็นกษัตริย์ใชไ่ หม แล้วมเหสีของคณุ
อย่ทู ีEไหน คนบ้าก็อาจจะตอบว่า ตอนนีเB สด็จไปอย่บู ้านพระบิดา จิตแพทย์ก็อาจถามต่อไปว่า
เหล่าเสนาบดีของท่านอย่ทู Eีไหน เขาก็อาจจะบอกว่า ว่าราชการอยู่ แล้วมหาดเล็กล่ะ องครักษ์
อย่ทู Eีไหนบ้าง ให้ตงัB คําถามลงรายละเอียดไปเรEือยๆ จนกระทงEั เขานึกไม่ออกแล้วอาจจะนึกเอง
ได้ว่าเขาไม่ได้เป็นกษัตริย์ อย่างนีเB ขาก็จะได้รับการรักษา เพราะฉะนนัB โรคเหล่านีมB นั ไม่ใช่สิEงทEี
ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) เป็นอยู่ สEิงทEีท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) นํามาเผยแพร่ทEีมกั กะฮ์ •b ปีและทีEมะดีนะฮ์อีก •W ปี รวมเป็น
Tb ปี เป็นความจริงทงัB หมด นกั วิชาการได้อธิบายแล้วว่า ˜W เปอร์เซ็นได้รับการพิสจู น์แล้วว่า
เป็นความจริงทังB ทEีเกิดขึนB ในอดีตก็เป็นความจริงทีEเอามาใช้ในช่วงทEีท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้รับโองการมา และทีEเป็นความจริงซงึE สามารถพิสจู น์ได้แล้วใน

174


ปัจจบุ นั ทีEเป็นเรืEองเกEียวกบั วิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ มีเพียง TW เปอร์เซ็นเท่านนัB ทEียงั ไม่ได้
รับการพิสจู น์ เช่นเรืEองเร้นลบั ตา่ งๆ เรEืองวนั อาคีเราะฮ์ซงึE รอการพิสจู น์ หากกลา่ วหาวา่ สEิงทEีท่าน
ศาสดาได้นํามา Tb ปีล้วนแล้วแต่เป็นความมดเท็จหรือเรืEองโกหกหรือท่านได้แต่งเรืEองด้วยกบั
จิตทEีฟัEนเฟื อนทงัB หมด มีบทพิสจู น์ครังB หนEึงทีEชีใB ห้เห็นได้อย่างชดั เจนเลยว่า ข้อกลา่ วหาดงั กลา่ ว
ไม่เป็นความจริง เนEืองจากมีคนกล่มุ หนEึงได้มาถามท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ
ว่าสัลลัม) ว่าท่านรู้เรืEองเกีEยวกับชาวถําB หรือไม่ ท่านรู้เรืEองเกีEยวกับซุ้ลก็อรนัยน์หรือไม่ ท่าน
ศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) บอกว่าพรุ่งนีทB ่านจะให้คําตอบ ผลปรากฏว่า
วะฮีย์ไม่ได้ถกู ประทานลงมาเป็นเวลานานถึง •U วนั ผ่านไป แล้วในทEีสดุ วะฮีย์ก็ได้ถกู ประทาน
ลงมาอยใู่ นซเู ราะฮ์อลั กะฮฺฟEี อายะฮ์ทEี Tb-TV ได้ระบวุ า่

ُ6‫ ِإ ﱠﻻ أَن ﯾَ َﺷﺎ َء ا ﱠ‬٠ ‫َو َﻻ ﺗَﻘُوﻟَ ﱠن ِﻟ َﺷ ْﻲ ٍء ِإ ِﻧّﻲ ﻓَﺎ ِﻋ ٌل ٰذَ ِﻟ َك َﻏدًا‬

ความว่า “และเจ้าอย่ากล่าวเกีEยวกับสEิงใดว่า แท้จริงฉันจะเป็นผู้ทําสิEงนันB ในวนั พรุ่งนี B
เว้นแตอ่ ลั ลอฮฺทรงประสงค์”

ความในอายะฮ์นีลB งมาเพืEอเตือนท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั )
ว่าท่านอย่าได้พดู ว่า จะนํามาบอกในวนั พรุ่งนีเB พราะคําตอบในสEิงทีEเขาถามนนัB จะต้องมีวะฮีย์
ประทานลงมามิใช่ท่านศาสดาจะสามารถกล่าวได้เอง อายะฮ์นียB ่อมชีใB ห้เห็นว่าถ้าหากท่าน
โกหก ท่านก็สามารถตอบในวนั พรุ่งนีไB ด้เลย ทําไมท่านต้องรอเพืEอให้มีการประทานวะฮีย์ลงมา
ตงัB •U วนั นEีเป็นสิEงทีEพิสจู น์ให้เห็นว่า ท่านศาสดานนัB ไม่ได้กเุ รEืองขึนB มาหรือใช้จิตฟัEนเฟื อนแต่ง
เรEืองจนเป็นคําสอนของศาสนาแต่อย่างใด หากแต่เป็นบทพิสจู น์ทีEชีใB ห้เห็นแล้วว่าอลั กุรอาน
และฮะดีษทEีท่านนบีได้นํามานนัB ล้วนแต่เป็นสจั ธรรมเพราะแท้จริงท่านไม่ได้กล่าวสEิงใดยกเว้น
แตเ่ ป็นวะฮีย์เทา่ นนัB

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ สดุ ท้ายนีขB อเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอา
ลา) ได้ทรงโปรดประทานทางนําทีEถูกต้องให้กับพวกเรา และขอพระองค์อัลลอฮฺในฐานะทีE
พระองค์ได้ทรงพลิกผนั หวั ใจบรรดาหวั ใจต่างๆ ขอพระองค์ได้ทรงโปรดทําให้หวั ใจของพวกเรา
หนกั แนน่ ยดึ มนัE อยา่ งมนัE คงอยกู่ บั ศาสนาของพระองค์ด้วยเถิด อามีน

175


เร;ือง จงอย่าเข้าใกล้การทาํ ซนิ า

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫َﺻ ًل‬ ‫ اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم‬٠ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
‫أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌدُه‬٠ ‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬
‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬٠ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬
‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًم‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬
‫ﺻدق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทEีทรงโปรดประทานเน«ียะมตั ให้กบั

พวกเราให้พวกเราได้มีชีวิตอยจู่ นถงึ วนั ศกุ ร์นีอB ีกครังB

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ ท่านทงัB หลายจงตกั วาต่ออลั ลอฮฺ การตกั วาคือการ
ยําเกรงตอ่ อลั ลอฮฺด้วยกบั การปฏิบตั ิ T สEิง คือ ปฏิบตั ิในสEิงทีEพระองค์ทรงสงัE ใช้และหา่ งไกลหรือ
อย่าปฏิบตั ิในสEิงทEีพระองค์ทรงสงEั ห้าม การทํา T อย่างนีคB ือการตกั วา แต่ปัญหาคือเราทําไม่
ครบถ้วน ท่านพEีน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ เราได้พิจารณาว่าตวั เราอายุมากขึนB แล้วเรามี
อีหม่านมากขึนB มีความรู้มากขึนB มีอะม้าลอิบาดะฮฺมากขึนB หรือไม่ ปีทีEผ่านมาเราสํารวจตวั เรา
เองหรือไมว่ า่ เราละหมาดครบ U เวลาหรือไม่ ได้ละหมาดสนุ ตั ครบ •T ร่อกะอตั หรือไม่ หรือขาด
ละหมาดวนั ศกุ ร์หรือไม่ ถือศีลอดครบหรือไม่ ได้ออกซะกาตบ้างหรือไม่ เพราะฉะนนัB ตรงนีเBป็น
สงิE ทEีเราได้ทบทวนวา่ อายขุ องเรามากขนึ B อีกหนงEึ ปีและเข้าใกล้ความตายอีกหนงEึ ปี ใกล้ถงึ อาญลั
ทีEอลั ลอฮฺทรงกําหนดซงEึ เราไม่สามารถทEีจะผ่อนผนั ได้ และเหตกุ ารณ์ในโลกทกุ วนั นีกB ็เรEิมทEีจะมี
ความสับสน มีฟิ ตนะฮ์ มีข้ อทดสอบมากขึนB เมืEอได้ รับฟั งจากข่าวเรEืองพายุทEีประเทศ
สหรัฐอเมริกาหรือแผ่นดินไหวทีEแม็กซิโกรุนแรงมาก มีคนล้มตายและคนสูญหายมหาศาล
เพราะฉะนนัB จะเห็นได้วา่ สิEงเหลา่ นีชB ีใB ห้เห็นวา่ ใกล้ถึงวนั อาคีเราะฮ์แล้ว เราควรรีบทําความ
ดีกนั ให้มากๆ อทุ ธาหรณ์เหลา่ นีตB ้องบอกว่าไม่ใช่เรืEองบงั เอิญแต่เป็นพระประสงค์ของอลั ลอฮฺ

176


(ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ทีEทรงกําหนดให้มนั เกิดขึนB ในโลกเพEือทEีจะทดสอบหรือลงบาลาอ์ให้กบั
คนกลมุ่ ใดกลมุ่ หนงEึ ซงึE ถ้าเป็นกลมุ่ ชนทEีทําดีอลั ลอฮฺจะให้เป็นการทดสอบ แตถ่ ้าเป็นกลมุ่ ชนนนัB
มีคนทีEไม่ดีอยู่ก็คือการลงบาลาอ์ เพราะฉะนันB เมEือเราอยู่ในสงั คมและเห็นคนทEีไม่ดี เราต้อง
ตกั เตือน ห้ามปรามตามฮะดีษของท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ทEีได้
กลา่ ววา่

‫َﻣ ْن َرأَى ِﻣ ْﻧﻛُ ْم ُﻣ ْﻧ َﻛ ًرا ﻓَ ْﻠﯾُﻐَ ِﯾّ ْرهُ ِﺑﯾَ ِد ِه ﻓَﺈِ ْن ﻟَ ْم ﯾَ ْﺳﺗَ ِط ْﻊ ﻓَ ِﺑ ِﻠ َﺳﺎ ِﻧ ِﮫ‬
‫ﻓَﺈِ ْن ﻟَ ْم ﯾَ ْﺳﺗَ ِط ْﻊ ﻓَ ِﺑﻘَ ْﻠ ِﺑ ِﮫ َوذَ ِﻟ َك أَ ْﺿﻌَ ُف ا ِﻹﯾ َﻣﺎ ِن‬

ความว่า “ใครก็ตามในหม่ขู องพวกท่านทEีเห็นความชวัE ร้าย เขาจงเปลEียนแปลงมนั ด้วย
มือของเขา หากเขาไม่สามารถก็ด้วยลินB ของเขา และหากไม่สามารถก็ด้วยหัวใจของเขา
ดงั กลา่ วนี Bแสดงถงึ ระดบั ขนัB อีหมา่ นทีEออ่ นแอทีEสดุ ”

นกั วิชาการได้อธิบายวา่ การเปลยEี นแปลงความชวัE ด้วยกบั หวั ใจนนัB มี T อยา่ ง คือ

1. ปฏิเสธหรือไมย่ อมรับในจิตใจวา่ มนั เป็นสงEิ ทEีถกู ต้อง
2. ขอดอุ าอฺตอ่ อลั ลอฮฺทรงพลกิ ผนั หวั ใจของเขา

นีEคือการใช้หวั ใจในการตกั เตือนซงEึ ถือวา่ เป็นการกระทําของคนทีEมีอีหมา่ นออ่ นแอทีEสดุ

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ เหตกุ ารณ์ทEีผ่านมาในช่วง T-b เดือนทEีแล้วข้าพเจ้า
ได้ รับฟั งข่าวหนEึงซึEงร้ ู สึกน่าหดหู่มากจึงต้ องขอยกเป็ นอุทธาหรณ์ ของพวกเราเพราะมันไม่ใช่
ความบงั เอิญมนั เป็นสิEงทEีอลั ลอฮฺได้ทดสอบหรือลงบาลาอ์คนกล่มุ นันB คือเหตุการณ์ทีEจงั หวดั
พังงา ทEีบ้านเกาะแรด ซEึงตามเนือB ข่าวกล่าวว่า มีชายประมาน VW คนข่มขืนผู้หญิงมุสลีมะฮ์
ซEึงตอนนีมB ีการออกหมายจบั •W คนแล้ว มีการรับสารภาพและมีการดําเนินคดีตามกฎหมาย
แต่สEิงสําคัญทีEอยากนํามาเป็นอุทธาหรณ์ให้พวกเราคือ สถานทีEเกิดเหตุเป็นสังคมมุสลิม
ไมใ่ ชส่ งั คมกาเฟร คนมสุ ลมิ ทํากนั เอง ไมม่ ีใครมาทําเราแตเ่ รามาทํากนั เอง มีอิหมา่ มหรือมีคนทีE
รู้เรืEองศาสนาในหม่บู ้านนันB มีการตกั เตือนกันบ้างหรือไม่ การศรัทธาของคนในชุมชนนันB เป็น
อย่างไรบ้าง ต่อมาก็มีคนในหมู่บ้านให้ข่าวเพิEมเติมว่าเมืEอหลายปีก่อนก็มีเหตุการณ์เช่นนี B
เกิดขนึ B เหมือนกนั แต่คนได้ลืมกนั ไปแล้วหรือทําให้มนั กลบเกลEือนกนั ไป เห็นหรือไม่ว่าเมืEอมนั มี

177


ความไม่ดีหรือมีมะซียะฮ์เกิดขนึ B ในชมุ ชนแล้วไม่ได้มีการห้ามปราม ไม่ได้มีการจดั การตามหลกั
ชะรีอะฮ์อิสลามียะฮ์มนั จึงทําให้เกิดขึนB อีกเป็นภัยบาลาอ์และฟิ ตนะฮ์ทEีเกิดขึนB แล้วเกิดขึนB อีก
เพราะไมท่ ําตามหลกั การของอิสลาม สงิE ทีEอยากจะนํามาตกั เตือนคือการกระทําทEีเกิดขนึ B นีอB ยา่ ง
น้อยมีความผิด T เรEืองคือ

1. การทําดีตอ่ เพEือนบ้าน
กรณีนีมB ิใช่การกระทําดีต่อเพืEอนบ้านทีEอิสลามส่งเสริม หากแต่เป็นสิEงทEีตรงกันข้ามคือการ
กระทําทีEไมด่ ีตอ่ เพืEอนบ้านเพราะคนทีEขม่ ขืนก็คือคนในหมบู่ ้านและอาจจะมีคนนอกหมบู่ ้านด้วย
แต่มันเป็นการกระทําไม่ดีต่อเพืEอนบ้านเลยซEึงท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ
วา่ สลั ลมั ) ได้ทรงบอกไว้วา่

‫ َوا ْﻟﯾَ ْو ِم اﻵ ِﺧ ِر ﻓَ ْﻠﯾُ ْﺣ ِﺳ ْن ِإﻟَﻰ َﺟﺎ ِر ِه‬6ِ ‫َﻣ ْن َﻛﺎ َن ﯾُ ْؤ ِﻣ ُن ِﺑﺎ ﱠ‬

ความวา่ “ผ้ใู ดทEีศรัทธาตอ่ อลั ลอฮฺและศรัทธาตอ่ วนั ตอบแทน เขาจงทําความดีกบั เพEือน
บ้านของเขา”

ท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้กล่าวว่า ท่านญิบรีลได้มาบอก
ยําB แล้วยําB อีกจนกระทงEั ท่านคิดว่าเพืEอนบ้านจะมีสิทธิรับมรดกด้วยซําB ไป ในฮจั ญะตุ้ลวะดาอฺ
ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) ก็ได้กล่าวถึงเรืEองเพืEอนบ้าน สิทธิของ
เพืEอนบ้านและการให้เกียรติ การทําดีต่อเพEือนบ้าน เพราะฉะนันB จะเห็นได้ว่าเพืEอนบ้านมี
ความสําคญั ตอ่ เรามาก แตก่ ารกระทําทีEเกิดขนึ B นนัB กระทงทีE • คือ เป็นการกระทําทีEไมด่ ีตอ่ เพEือน
บ้าน

2. การทําซีนา
สําหรับกรณีนีไB ม่ใช่การซีนาตามปกติเพราะมนั เป็นเรืEองของการข่มขืนด้วยซึEงถือว่าผิด

กฎหมายอาญาด้วย ในเรEืองของการทําซีนาต้องบอกว่ามนั เป็นบาปใหญ่มาก ซEึงมีโทษทงัB ใน
โลกดนุ ยาและอาคีเราะฮ์ ตามหลกั ชะรีอะฮ์อิสลามียะฮ์มีโทษเพราะเป้าหมาย (มะกอซิด) ของ
อิสลามคือ การทีEจะปอ้ งกนั รักษา U ประการ คือ •. รักษาศาสนา T. รักษาชีวิต b. รักษาปัญญา
V. รักษาวงศ์ตระกูล และ U. รักษาทรัพย์สิน หนEึงในเป้าหมายของอิสลามทีEมุ่งจะคุ้มครอง

178


ปกป้องนนัB ก็คือ เรEือง การดแู ลวงศ์ญาติหรือสายสกลุ การเป็นมนษุ ย์นนัB มีความสําคญั มากใน
คําสอนของอิสลามให้มสุ ลิมและมอุ ฺมินพึงต้องพยายามรักษาอวยั วะเพศสิEงทีEอย่สู องริมฝีปาก
คือ ลินB และสิEงทีEอย่สู องขาคือ อวยั วะเพศ คนทีEรักษาได้คือมอุ ฺมินและได้เข้าสวรรค์เป็นทายาท
ของชาวสวรรค์ แต่ถ้ารักษาไม่ได้ก็เป็นชาวนรกและถกู ลงโทษอย่างมหนั ต์ ซงEึ เป็นโทษทEีรุนแรง
มากสาํ หรับเรEืองซีนา ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์มอุ ฺมินนู อายะฮ์ทEี U-‡ ได้ระบวุ า่

‫َواﻟﱠ ِذ ْﯾ َن ھُ ْم ِﻟﻔُ ُر ْو ِﺟ ِﮭ ْم َﺣﺎ ِﻓظُ ْو َن ِإ ﱠﻻ َﻋﻠَﻰ أَ ْز َوا ِﺟ ِﮭ ْم أ ْو َﻣﺎ َﻣﻠَ َﻛ ْت أَ ْﯾ َﻣﺎﻧُ ُﮭ ْم ﻓَﺈِﻧﱠ ُﮭ ْم َﻏ ْﯾ ُر َﻣﻠُو ِﻣ ْﯾ َن‬

ความวา่ “ผ้ทู ีEสงวนอวยั วะเพศจากการผิดประเวณี เว้นแตก่ บั บรรดาภรรยาหรือทาสีของ
พวกเขา เชน่ นนัB พวกเขาก็จะไมใ่ ชผ่ ้ทู Eีถกู ตําหนิ”

อายะฮ์นีหB มายความว่าหนEึงในบรรดาผู้ทEีเป็นชาวสวรรค์คือผู้ทีEรักษาอวยั วะเพศของ
ตนเองให้มีความบริสทุ ธิ›ยกเว้นกบั ภรรยาเท่านนัB เพราะฉะนนัB นีEคือสEิงทEีอิสลามส่งเสริมและใน
อายะฮ์ทEี •W-•• ได้ระบวุ า่

‫ اﻟﱠ ِذ ْﯾ َن ﯾَ ِرﺛُ ْو َن ا ْﻟ ِﻔ ْردَ ْو َس ھُ ْم ِﻓ ْﯾ َﮭﺎ َﺧﺎ ِﻟدُ ْو َن‬،‫أُوﻟَ ِﺋ َك ھُ ُم ا ْﻟ َوا ِرﺛُ ْو َن‬

ความว่า “คนเหล่านนัB คือผ้ทู ีEได้รับมรดก คือ รับมรดกในสรวงสวรรค์อลั -ฟิ รเดาส์โดยทีE
พวกเขาจะพํานกั อยใู่ นนนัB ชวัE กาลนาน”

ใครทีEรักษาอวยั วะเพศของเขาให้พ้นจากมลทินยกเว้นกบั ภรรยาทEีแตง่ งานโดยชอบตาม
หลกั การศาสนาหรือทาสี เขาจะได้รับสวรรค์ชนัB ฟิ รเดาส์และอย่ใู นนนัB ตลอดกาล แตถ่ ้าไม่รักษา
อวยั วะเพศหรือทําซีนา ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อนั นรู อายะฮ์ทีE T ได้ระบวุ า่

ٍ‫اﻟ ﱠزا ِﻧﯾَﺔُ َواﻟ ﱠزا ِﻧ ْﻲ ﻓَﺎ ْﺟ ِﻠدُ ْوا ﻛُ ﱠل َوا ِﺣ ٍد ِّﻣ ْﻧ ُﮭ َﻣﺎ ِﻣﺎﺋَﺔَ َﺟ ْﻠدَة‬

ความว่า “หญิงและชายทEีผิดประเวณี พวกเจ้าจงโบยแต่ละคนในสองคนนนัB คนละหนEึง
ร้ อยที”

นกั วิชาการได้อธิบายว่าอายะฮ์นีใB ช้สําหรับผ้หู ญิงและผ้ชู ายทีEทําซีนาทEียงั ไม่ได้แต่งงาน
โดยชอบด้วยหลกั การศาสนาอิสลามให้โบยร้อยครังB นีEคือโทษในโลกดนุ ยาแล้วโทษในโลกอาคี
เราะฮ์จะขนาดไหน แต่สําหรับคนทEีเคยแต่งงานแล้วมีฮะดีษทีEรายงานโดยท่านอับดุลเลาะ

179


อิบนมุ สั อ้ดู (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ได้กลา่ วว่าท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั )
ได้กล่าวว่า ไม่เป็นทีEอนุมัติแก่บุคคลใดทีEจะฆ่าบุคคลอEืนทีEกล่าวกะลีเมาะฮ์ชะฮาดะฮ์ คือ
ปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอEืนใดทEีถกู กราบไหว้โดยเทีEยงแท้นอกจากอลั ลอฮฺ และปฏิญาณว่า
ฉนั เป็นศาสนทตู ของอลั ลอฮฺ ยกเว้นบคุ คล • ใน b คนนี Bคือ •. คนทีEทําซีนาแต่งงานแล้ว T. คน
ทEีฆ่าคนอืEนตาย และ b. คนทีEตกศาสนา ในฮะดีษนีชB ีชB ดั ว่าถ้าคนทEีแต่งงานแล้ว ไปทําซีนาโทษ
ของเขาคือ การทําให้ตายโดยการฝังครEึงตวั แล้วใช้หินขว้างจนตาย นีEคือโทษของการทําซีนา
เห็นหรือไมว่ า่ การรักษาอวยั วะเพศกบั คนทีEทําซีนานนัB อยตู่ รงข้ามกนั คนทีEรักษาได้จะเข้าสวรรค์
ฟิ รเดาส์ ส่วนคนทEีทําผิดเรEืองเพศถกู ลงโทษในโลกดนุ ยาและลงนรกในโลกอาคีเราะฮ์ ท่านจง
เลือกเอาว่าจะเป็นคนประเภทใด และเราต้องสํารวจด้วยว่าพวกเราเป็นอย่างไร ลกู หลานของ
เรา พEีน้องของเรา มีคนทําซีนาหรือไม่ และการทําซีนามีความสําคญั ยEิงใหญ่ทีEเป็นบาปใหญ่
มากเพราะเป็นโทษทEีถกู ลงโทษทางอาญาและถือว่าเป็นอาชญากรรมด้วย อาจจะมีคําถามว่า
ทําไมจึงต้องกําหนดให้โทษซีนาเป็นบาปใหญ่ นกั วิชาการได้อธิบายไว้ว่า การทําซีนาเป็นบาป
ใหญ่เพราะมีความผิดทางอาญา และการทําซีนาเป็นสิEงทีEทําให้ตกตEํา อัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮู
ว่าตะอาลา) ได้ทรงให้เกียรติลูกหลานอาดัมเพราะมีสติปัญญา ลูกหลานอาดัมประเสริฐ
แต่ลกู หลานอาดมั ทีEทําซีนาเท่ากับคณุ ทําเยEียงสตั ว์ทEีไม่มีสติปัญญา สตั ว์มนั จะสมส่กู ับตวั ใด
ก็ไม่ผิดเพราะมันไม่รู้ว่าตัวใดเป็นลูกเป็นเมีย พีEน้ องหรือพ่อแม่ มันสามารถสมสู่ได้หมด
แต่คนเรามีความรู้มีสติปัญญาต้องรักษาตระกลู และชEือเสียง การไปร่วมทําซีนาโดยไม่รู้ว่าใคร
เป็นใคร ไม่รู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครมEัวกันไปหมด มันคือการกระทําทEีเป็นผลทําให้มนุษย์
ลดเกียรติตวั เองเหมือนกบั สตั ว์มนั จึงเป็นโทษทEีใหญ่มากและถือว่าเป็นอาชญากรรมในทศั นะ
ของอิสลามเพราะว่ามนั ทําให้เกิดความว่นุ วายในสงั คมและเกิดฟิ ตนะฮ์ตามมา ถ้าชมุ ชนใดมี
การทําซีนาและไม่มีการตกั เตือนไม่มีการห้ามปรามอาจจะเกิดฟิ ตนะฮ์ อาจจะเกิดภยั บาลาอ์
ตามมา เพราะฉะนนัB เราต้องช่วยกนั ยบั ยงัB ห้ามปรามด้วยกบั มือหรือด้วยกบั คําพดู หรือด้วย
กบั การ ขอดอุ าอฺและปฏิเสธในใจ

ท่านพEีน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ ตามหลกั การของอิสลาม การทEีจะห้ามสEิงเหล่านี B
แล้วกําหนดเป็นโทษใหญ่นนัB อิสลามได้กําหนดให้มีระบบป้องกนั เป็นหลกั การเฝา้ ระวงั ไว้ก่อน

180


เพืEอไม่ให้ปัญหาหรือฟิ ตนะฮ์เกิดขึนB เป็นต้นว่าในแง่ของผู้หญิง จะมีข้อกําหนดเกEียวกับการ
แต่งกายเพEือออกนอกบ้าน ผ้หู ญิงจะต้องคลมุ ฮีญาบปกปิดร่างกาย ไม่มีใครทEีจะเห็นทรวดทรง
เห็นใบหน้าของนางได้ ไม่ใช่ใส่เสือB แขนกุดหรือสายเดีEยว เพราะว่าผู้ชายมีความรู้สึก มีความ
ต้องการไม่เหมือนกัน ผู้ชายบางคนแค่เห็นแขนขาวๆ มีขนรําไรก็มีความรู้สึกหรือเกิดอารมณ์
ทางเพศแล้ว เพราะฉะนนัB อิสลามจงึ ต้องมีระบบในการปกปอ้ งไว้ก่อน และมาตรการทEีสอง เมEือ
ผ้หู ญิงจะออกนอกบ้านจะต้องมีมะฮ์รอม ตอนนีเBราทํากนั หรือไม่ ถ้ามีมะฮ์รอมด้วยจะทําซีนา
กนั ได้อย่างไร มาตรการทEีสาม การทีEผ้หู ญิงกบั ผ้ชู ายอย่กู นั สองต่อสอง อิสลามสอนว่า ระหว่าง
นนัB จะมีชยั ฏอนเป็นบคุ คลทีEสาม เพEือมากระซิบกระซาบให้ผ้หู ญิงกบั ผ้ชู ายนนัB ทําซินากนั นนEั เอง
มาตรการทีEสEี การทEีผู้หญิงกับผู้ชายสมั ผัสหรือกระทบกันไม่ได้ นบีบอกว่าเอาเข็มมาแทงหัว
ยังจะดีกว่า คือ เป็นสEิงทEีละเมิดกฎเกณฑ์ทEีอัลลอฮฺทรงกําหนดป้องกันไว้แล้วสําหรับผู้หญิง
แต่สําหรับผู้ชายทEีมีความต้องการทางเพศสูง อิสลามสอนให้ชายต้องลดสายตาในพระมหา
คมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อนั นรู อายะฮ์ทEี bW ได้ระบวุ า่

‫ﻗُل ِﻟّ ْﻠ ُﻣ ْؤ ِﻣ ِﻧ ْﯾ َن ﯾَﻐُ ﱡﺿ ْوا ِﻣ ْن أَ ْﺑ َﺻﺎ ِر ِھ ْم َوﯾَ ْﺣﻔَظُ ْوا ﻓُ ُر ْو َﺟ ُﮭ ْم‬

ความว่า “จงกล่าวเถิด (มฮู มั หมดั ) สําหรับบรรดามอุ ฺมินจงลดสายตาของพวกเจ้าและ
จงรักษาอวยั วะเพศของพวกเขา”

มีคําถามว่า พวกเราทEีเป็นผู้ชายทีEมีความต้องการทางเพศสงู นันB ได้ปฏิบตั ิตามหรือไม่
มีการลดสายตาและรักษาอวยั วะเพศหรือไม่

มาตรการทีEห้า อิสลามมีระบบป้องกนั ไว้ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซูเราะฮ์อลั อิสรออ์
อายะฮ์ทEี bT ได้ระบวุ า่

ً‫َو َﻻ ﺗَ ْﻘ َرﺑُ ْوا اﻟ ِّزﻧَﺎ ۖ◌ ِإﻧﱠﮫُ َﻛﺎ َن ﻓَﺎ ِﺣ َﺷﺔً َو َﺳﺎ َء َﺳ ِﺑ ْﯾﻼ‬

ความวา่ “พวกเจ้าอย่าได้เข้าใกล้การผิดประเวณี มนั ย่อมเป็นความโสมมทEีแย่ยEิงเพราะ
มนั เป็นหนทางชวัE ร้าย”

อายะฮ์นีพB ดู วา่ จงอยา่ เข้าใกล้การผิดประเวณีหรือการทําซีนาเพราะมนั เป็นความโสมมทีE
ไม่ดีและเป็นหนทางทีEชวEั ร้าย คือ เป็นหนทางทีEจะให้เราทําความชวัE ต่อไปได้ ถ้าหากเข้าไปใกล้

181


การทําซีนาแล้วมนั จะมีพฒั นาการไปเรืEอยๆ มนั ไม่หยดุ แค่นนัB เห็นหรือไม่ว่าเหตกุ ารณ์ทีEพงั งา
มนั เกิดมาแล้วในอดีตแล้วมนั เกิดซําB สอง อิสลามมีระบบปอ้ งกนั ไว้หมดวา่ ห้ามเข้าใกล้การซีนา
เช่น เราเดินไปสถานบนั เทิง ไปดภู าพยนตร์ทEีมนั เปิดเผยเอาเราะฮ์ หรือแม้กระทงัE การดหู นงั โป๊
หรือหนงั เรทอาร์ เรทเอ็กซ์ หรืออะไรก็แล้วแต่ มนั เป็นหนทางทEีนําไปสกู่ ารซีนา เช่น ในหนงั ของ
ฮอลลีวดู มกั จะมีบทเลฟิ ซีนทกุ เรEือง เวลาเราดู เราก็เสพมนั เสมือนเป็นเรืEองปกติ เวลาเราเห็นเอา
เราะฮ์ของผ้หู ญิง เราก็เพลินไปกบั มนั รู้สกึ ว่ามนั เป็นเรEืองธรรมดา หลงั จากนนัB เราก็เข้าใกล้มนั
ไปเรEือยๆ จนในทีEสุดก็ดูหนังเอ็กซ์ หนังโป๊ และทําซีนา การห้ามเข้าใกล้จึงเป็นสิEงจําเป็นทีE
อิสลามห้ามไว้ก่อนแล้วในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน แต่ทว่าเราไม่ปฏิบัติตาม ปัญหาต่างๆ
จงึ ได้เกิดขนึ B ตามมา

ทา่ นพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ นครับ การทําซีนามนั เป็นการกระทําทEีสวนทางกบั อิสลาม
ทีEส่งเสริมให้แต่งงาน ถ้าการแต่งงานกระทําได้ง่าย การซีนาก็จะเกิดขึนB ได้ยาก แต่ถ้าการ
แต่งงานทําได้ยากการทําซีนาก็จะเกิดขึนB ได้ง่าย นอกจากนี Bการทําซีนาจะทําให้ไม่รู้ถึงคณุ ค่า
ของการแตง่ งาน การแตง่ งานคือสEิงทEีอลั ลอฮฺทรงสง่ เสริมให้ทําเพEือให้เราได้มีคคู่ รองได้มีการสืบ
ตระกลู กนั ต่อไป แต่การทําซีนามนั เป็นสิEงทEีก่อให้เกิดโรคภยั ก่อให้เกิดสิEงทีEไม่ดีต่างๆ แต่ก่อนมี
เฉพาะโรคหนองใน โรคซฟิ ิ ลสิ ตอนนีมB ีโรคทEีรุนแรงมากคือโรคเอดส์ แตก่ ่อนคนทีEทําซีนาเป็นโรค
นีกB นั ทงัB นนัB เพราะไปเทีEยวกนั และก็ตายกนั มากมาย การเทEียวแตร่มีน้อยลงมีระบบปอ้ งกนั มาก
ขึนB เราส่งเสริมให้เด็กๆ รู้จักถุงยางอนามัยเพืEอจะป้องกันไม่ให้ติดโรค แต่ลืมไปว่าเท่ากับ
ส่งเสริมการทําซีนาเพราะคนทEีแต่งงานเขาไม่ต้องใช้ถงุ ยาง จะเห็นได้ว่าสEิงเหล่านีมB นั เป็นสิEงทีE
น่ากลวั มากเพราะมนั เข้ามาใกล้ตวั เรามากขึนB และทําให้เรามองเห็นว่าการซีนาเป็นสิEงธรรมดา
มาก

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ สEิงเหล่านีเB ป็นสิEงทEีพวกเราจะต้องตระหนักและ
ช่วยกนั ตรวจสอบตวั เราเอง พีEน้องของเราและลกู หลานของเรา เพราะวา่ มนั เข้ามาใกล้มากทา่ น
รู้หรือไมว่ า่ มือถือของเดก็ ๆ ทEีอยใู่ นห้องคนเดียวสามารถเปิดหนงั เปิดภาพเหลา่ นีไB ด้ มนั สามารถ
ทําชวัE ทําซีนาได้รวดเร็วมาก เพราะฉะนนัB เราต้องระวงั ให้ดี สดุ ท้ายนีขB อให้พวกเราพยายามทีEจะ

182


รักษาอวยั วะเพศของเราสําหรับบุคคลทEีฮาลาลเท่านนัB และเราก็จะได้เป็นมอุ ฺมินทEีเป็นทายาท
ของชาวสวรรค์ชนัB ฟิรเดาส์ อามีน

เร;ือง การเล่นดนตรีในทศั นะของอสิ ลาม

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ﻟَﮫ‬ ‫َاھَﻟﺎﻠﱠِد ُﮭ ﱠَمي‬ ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫َﺻ ًل َﻋﻠ َﻰ ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲُ َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬
‫ أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌدُه‬٠‫َو َﻋﻠَﻰ آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬

٠‫ َْدﺣ َ ِودﻓَﻗُﯾﺎ َوزﻟُِثﻓَوِﻟ ْاﯾُوﻗًَ ِزْاوﺿ َﱠﻋﻻل ِظ ََﺳﻋﯾ ِدًﻣنﯾﺎدًا‬6ََ‫ﺷﻧُﺗَ َﱡِﻣووراَِﮭرﯾايﺗﱠﺳٌُنﻘﻟَُوْﮭوۚﻟَاَ◌وﮫُااﻓَْﱠﻟﻘ‬6َ‫ﻛُ ْمِﺑﷲﷲُُأﻐََﺗﺗََْﯾ ْﻌﻌََﻋِﺎﺎرَﻣﻟﻟََﺎﻟَِﻋﻰﻰ ْﻠﻛُ ٍ ِِﻓﻓمْم ََﻲﻲووﯾَﯾَ ِﺗﻛﱠﺳُْﻐِﺗِِْﻔﺎﺧو ْذََررِبَھﻟَِةﺎﻛُاﻟْمھُﻠِﷲُ ْﻘُاذزَُﻟﻣﻧًُﺎوﻌَواﺑَنِظۚﻛُْﯾَ◌ ْوممأُِﻣ ۗوَٰ◌ﯾَﻟَنﺎِﺋ َاوأَﻟَﯾﱡكﻧَﱠﻣﺎَﮭﻟَﺎنِ ُﮭاْﯾسُمﻟﱠ ِِذَطﻣﯾَﻋ ِﻊذنََنااﯾَآ ﱠٌَْﻣب‬6ِ ‫ﯾﻓﻓََُ َﻘﻘﺳََ ِﺑْْدد ْﯾﺻ ِﻠﻗﻗََ ِلﺎﺎ ْﺢاََللﻟَ ﱠ‬
‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแดพ่ ีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ทา่ น

ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทEีทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอย่จู นถึงวนั ศกุ ร์ ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทีE
รักทกุ ทา่ น ทกุ วนั นีกB าลเวลาได้ผา่ นไปอยา่ งรวดเร็ว อาจจะเป็นเพราะวา่ เราอายมุ ากขนึ B จงึ ทําให้
เวลาสนัB ลง ทกุ วนั นีทB กุ อย่างเจริญขึนB และการล่อลวงของชยั ฏอนก็พฒั นาขึนB ตามยคุ ตามสมยั
ตามความเจริญของเทคโนโลยี เราจะเห็นได้จากปัจจบุ นั ว่า เราไม่ค่อยได้ใช้คอมพิวเตอร์หรือ
โน๊ตบ๊คุ แต่ใช้สมาร์ทโฟนหรือไอแพดแทนซงึE มนั สามารถค้นคว้าข้อมลู ทงัB สEิงทีEดีและสEิงทีEไม่ดีได้
ตลอดเวลา นEีคือการพฒั นาของเทคโนโลยีซงEึ มนั ทําให้การล่อลวงของชยั ฏอนก็มากขึนB ตามไป
ด้ วย ปัญหาคือเราจะหลงต่อสEิงเหล่านีหB รือไม่ เพราะฉะนันB พีEน้ องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่าน
เราจะต้องมีการพฒั นาเสริมสร้างอีหมา่ นมากขนึ B มิเชน่ นนัB แล้วเราจะต้องขาดทนุ อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮา
นา่ ฮวู า่ ตะอาลา) ได้ทรงกลา่ ววา่

183


‫َوا ْﻟﻌَ ْﺻ ِر ِإ ﱠن ا ْ ِﻹ ْﻧ َﺳﺎ َن ﻟَ ِﻔﻲ ُﺧ ْﺳ ٍر ِإ ﱠﻻ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا َو َﻋ ِﻣﻠُوا اﻟ ﱠﺻﺎ ِﻟ َﺣﺎ ِت‬
‫َوﺗَ َوا َﺻ ْوا ِﺑﺎ ْﻟ َﺣ ِّق َوﺗَ َوا َﺻ ْوا ِﺑﺎﻟ ﱠﺻ ْﺑ ِر‬

ความวา่ “ขอสาบานตอ่ กาลเวลา แท้จริงมนษุ ย์อยใู่ นสภาพทีEขาดทนุ นอกจากบรรดาผ้ศู รัทธา
และกระทําความดีทงัB หลาย และตกั เตือนกนั และกนั ในสงEิ ทEีเป็นสจั ธรรม และตกั เตือนกนั และ
กนั ด้วยความอดทน”

จากซูเราะฮ์นีนB อกจากเราจะรู้ถึงความหมายแล้ว ถ้าหากเราคิดใคร่ครวญดจู ะเห็นได้วา่
การเป็นมอุ ฺมินทีEสมบรู ณ์แบบมีอยู่ b องค์ประกอบด้วยกนั คือ

• – ต้องมีอีหมา่ นหรือมีศรัทธา

T - ต้องปฏิบตั คิ วามดี

b – ต้องตกั เตือนกนั และกนั ด้วยสจั ธรรมและด้วยความอดทน

นกั วิชาการได้อธิบายว่าการยึดมนEั ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวก็เปรียบเสมือนเมล็ดพืช
เมล็ดหนึEงซึEงอดั แน่นไปด้วย DNA หรือสิEงต่างๆ ทEีสามารถถ่ายทอดพันธุกรรมในการอีหม่าน
เพราะฉะนนัB การศรัทธาต่ออลั ลอฮฺองค์เดียวจึงสําคญั มาก ถ้าเมล็ดนีถB กู เพาะในใต้ดิน มนั ก็จะ
งอกรากออกมา รากนีคB ือการศรัทธาตอ่ รู่ก่นอีหมา่ นทงัB ‡ ประการก็เปรียบเสมือนรากทีEมนัE คงซงึE
ประกอบไปด้วยรากแก้ วรากฝอยต่างๆ ส่วนลําต้นทEีโผล่มาเหนือดินก็เปรียบเสมือนการ
ปฏิบตั ิอะม้าลอิบาดะฮฺต่างๆ คือ รู่ก่นอิสลามทงัB U ประการ หรือกล่าวในอีกความหมายหนEึง
ก็คือเราจะศรัทธาอย่างเดียวไม่ได้ เราจะต้องปฏิบัติด้วย เราจะเป็นต้นไม้ทีEมีแต่ราก แต่ไม่มี
ลําต้นหรือไม่มีใบไม้กระนนัB หรือ อย่างนีมB นั คงเป็นต้นไม้ไม่ได้ ถ้าเราขาดบางประการของรู่ก่น
อิสลาม เช่น ขาดละหมาดหรือไมถ่ ือศีลอด มนั ก็เหมือนต้นไม้ทEีไมส่ มบรู ณ์ขาดกิEงก้านและใบไม้
ทีEจะใช้ในการสงั เคราะห์แสง และการทEีไม่ตกั เตือนให้มีความอดทนก็เปรียบเสมือนต้นไม้ทีEไม่มี
ดอกและผลรวมถึงไม่มีเมล็ดทีEจะสืบพนั ธ์ุต่อไป ต้นไม้ทEีมี DNA มาจากอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่า
ตะอาลา) ทEีพระองค์ทรงให้เป็นมอุ ฺมินแล้ว ตอนนีเB ราเข้าส่รู ะยะไหนของต้นไม้แล้ว เราถึงระยะ
ทEีออกดอกออกผลหรือยงั รากฐานของเรามนัE คงขนาดไหนซึEงเราสามารถสร้างได้ถ้าเราศึกษา
อะม้าลอิบาดะฮฺเราก็สามารถทําได้ ถ้าเราคิดว่าเราบกพร่อง รวมถึงการตกั เตือนกนั และกนั ซงEึ

184


เป็นสิEงทีEหลงเหลือไว้และเป็นสEิงทEียงั ประโยชน์หลงั จากเราจากโลกนีไB ปแล้ว อาจจะเป็นความรู้
ลกู ทEีซอและฮ์ หรือซอดะเกาะญารียะฮ์ นกั วิชาการได้มองจดุ นีแB ละคิดวา่ เขาจะทําอะไรให้สงั คม
ได้บ้าง เพราะฉะนันB อยากให้เราพิจารณาตวั เองไตร่ตรองว่าเรามีอะไรทEีจะหลงเหลืออยู่บ้าง
เหมือนกบั ต้นไม้ทีEมีเมลด็ ทEีจะสบื พนั ธ์ตุ อ่ ไป

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน โลกนีมB ีการหลอกลวงของชยั ฏอนทEีแยบยล บางทีก็เป็น
การหลอกแบบยดั เยียดอย่างเช่นมือถือทีEเราใช้เวลาโทรออกก็จะมีเสียงเพลงรอสาย ฟังรายการ
ข่าวหรือสาระคดีก็จะมีเสียงเพลงประกอบโดยทEีเราไม่ต้องการ หรือแม้กระทงัE ข้อความโฆษณา
ทีEส่งมาก็มีเรEืองดวงหรือเรืEองเสEียงโชคเต็มไปหมด ต้องบอกว่ายคุ นีเB ป็นยคุ ทEีสEิงต่างๆ เข้ามาได้
อยา่ งรวดเร็วและมาเพืEอหลอกลวง ดงั นนัB เราจําเป็นต้องรู้ให้เทา่ ทนั มนั

เมืEอวนั เลือกตงัB ทEีผ่านมาข้าพเจ้าได้ไปงานแต่งงานแถวปริมณฑลแห่งหนEึง ภายในงาน
มีเสียงดนตรีดังมากจนทําให้คุยกันไม่รู้เรืEอง ข้าพเจ้าก็เลยบอกเจ้าภาพว่าช่วยเปลEียนเป็น
เสียงอลั กรุ อานได้หรือไม่ เขาก็หายไปแต่ทว่าไม่มีการเปลีEยนแต่อย่างใด เท่าทีEสงั เกตส่วนมาก
ของงานแต่งงานจะเปิดอลั กรุ อานหรืออะนาชีดภาษาอาหรับช่วงแรกๆ ของงาน และพอท้ายๆ
งานก็จะเปิดเพลงไทยเพลงสากลกันดงั ลนัE มากโดยทีEเจ้าของงานก็ไม่ได้ห้ามปรามเพราะมัน
กลายเป็นวฒั นธรรมไปแล้ว หลงั จากนนัB ข้าพเจ้าจึงได้ค้นคว้าหาข้อมลู เกีEยวกบั ดนตรีในทศั นะ
ของอิสลาม พบวา่ มีหลายทศั นะด้วยกนั คือ

ทัศนะแรก อ้างว่าเป็นฟัตวาจากประเทศอียิปต์ กลา่ วว่า เครืEองดนตรีเป็นทEีอนมุ ตั ิโดย
อ้างหลักฐานทางนิติศาสตร์ว่า แท้จริงรากฐานเดิมของทุกๆ อย่างนันB คืออนุมัติจนกว่าจะมี
หลกั ฐานมาห้าม และไม่มีหลกั ฐานทEีชดั เจนมาห้ามด้วย ดงั นนัB การฟังก็เป็นทEีอนญุ าตเช่นกนั
แต่มีเงืEอนไขว่าเนือB หาของเพลงหรือดนตรีจะต้องไม่เป็นการเกEียวข้องกับการเกียวพาราสีกัน
หรือไม่เป็นการยยุ งสง่ เสริมให้ทําสิEงทEีไม่ดีหรือไม่เป็นเรEืองทEีตลกหรือไม่เป็นสEิงทีEไม่สร้างอีหม่าน
หรือไม่เป็นสิEงทEียวEั ยทุ ําให้เกิดอารมณ์ รวมทงัB จะต้องไม่กระทําพร้อมกบั สEิงทEีเป็นของไม่ดี เช่น
มีการดืEมเหล้า มีการเต้นรํา เป็นต้น

185


ทัศนะท)ีสอง กล่าวว่า เป็นสิEงทEีต้องห้าม ตามหลกั ฐานจากอลั กุรอาน ซูเราะฮ์ลกุ มาน
อลั ลอฮฺได้ทรงกลา่ ววา่

◌ۚ ‫ھُ ُز ًوا‬ ‫َوﯾَﺗﱠ ِﺧذَ َھﺎ‬ ‫ِﻋ ْﻠ ٍم‬ ‫ِﺑﻐَ ْﯾ ِر‬ 6ِ ‫َﺳ ِﺑﯾ ِل ا ﱠ‬ ‫ا ْﻟ َﺣأُ ِدوٰﯾﻟَ ِﺋ ِث َك ِﻟﻟَﯾُ ُﮭ ِ ْمﺿ ﱠلَﻋذَاَﻋ ٌنب‬ ‫ﻟَ ْﮭ َو‬ ‫ﯾَ ْﺷﺗَ ِري‬ ‫َﻣن‬ ‫اﻟﻧﱠﺎ ِس‬ ‫َو ِﻣ َن‬
‫ﱡﻣ ِﮭﯾ ٌن‬

ความว่า “จากบรรดามวลมนษุ ย์ทงัB หลายจะมีคนซือB เรEืองไร้สาระเพEือทีEเขาจะได้หลงไป
จากทางของอลั ลอฮฺโดยทEีเขาไม่มีความรู้ และยดึ เอาอลั กรุ อานเป็นเรEืองเลน่ ๆ บรรดาคนเหลา่ นี B

พวกเขาจะได้รับการลงโทษอยา่ งอปั ยศยEิง”

ทา่ นอบั ดลุ ลอฮอิบนิอบั บาส (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ได้อธิบายคําวา่ ‫ ﻟَ ْﮭ َو ا ْﻟ َﺣ ِدﯾ ِث‬คําพดู ทEีไร้
สาระ หมายถงึ เสียงเพลง และอลุ ามะอ์สว่ นใหญ่ก็บอกวา่ เป็นเสียงเพลงและสEิงทีEคล้ายคลงึ กบั
เสยี งเพลง

ชยั ค้ลุ อิสลามอิบนตุ ยั มียะฮ์ (ร่อฮิม่าฮ้ลุ ลอฮ) ได้กล่าวไว้ในหนงั สือมจั มวั ะอลั ฟาตาวา
ว่าอิหม่ามทงัB V มซั ฮบั และบรรดาสานุศิษย์เห็นตรงกันว่าเสียงเพลงนันB ฮารอม รวมทงัB เชคอลั
บานีย์ด้วย

ทา่ นอบั ดลุ ลอฮบนิ อบั ดลุ อาซีซ ซงึE เป็นคอลฟี ะฮ์ในราชวงศ์อมุ ยั ยะฮ์และถกู ขนานนามวา่
เป็น • ใน •T คอลีฟะฮ์ทีEดีเลิศ ได้เขียนสารไปถึงแม่นมทEีเลียB งดลู กู ของท่านว่า สิEงแรกทEีจะสอน
ให้ลกู ของเขามีมารยาทคือ การละทิงB เสียงดนตรี เพราะจุดเรEิมต้นของมนั มาจากชยั ฏอนและ
จดุ จบของมนั คือ ความกริวB โกรธของพระผ้อู ภิบาล ท่านอ้างหลกั ฐานจากฮะดีษทEีรายงานโดย
บคุ คอรี ทEีทา่ นร่อซ้ลู (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้กลา่ ววา่

“จะมีกลมุ่ หนงEึ ในประชาชาติของฉนั ทีEอนญุ าตในเรEืองซีนา ในการสวมใสผ่ ้าไหม ในเรืEอง
เหล้า และในเรEืองดนตรี”

นักวิชาการได้ รายงานฮะดีษนีวB ่าเป็ นหลักฐานในการห้ ามว่าดนตรีฮารอม และ
นกั วิชาการได้ให้เหตผุ ลเกีEยวกบั ดนตรีวา่ ฮารอมเพราะวา่ ถ้าหากเราเพลนิ กบั เรืEองราวไร้สาระมนั
จะทําให้เราห่างจากทางของอลั ลอฮฺโดยไม่รู้ตวั ซEึงตรงกันข้ามกับการละหมาด การซิกรุ้ลลอฮฺ
หรือการทําอิบาดะฮฺตา่ งๆ ทีEจะทําให้เรามีอีหมา่ นหรือมีศรัทธาเพิEมขนึ B และมนั จะทําให้จิตใจเรา

186


หลงไหลไปและเคลิบเคลิมB ตามอารมณ์ นกั วิชาการบอกว่าเป็นไปไม่ได้ทEีหวั ใจของเราจะมีสอง
สงิE อยใู่ นทีEทEีเดียวกนั เพราะในขณะทีEเราเพลดิ เพลนิ กบั เสยี งเพลงเราก็จะไมน่ กึ ถงึ อลั ลอฮฺ

แต่อย่างไรก็ตาม นักวิชาการก็บอกว่ายังมีข้อยกเว้นเกEียวกับดนตรีคือเป็นทEีอนุญาต
เฉพาะผ้หู ญิงและเฉพาะกบั กลองหน้าเดียวและจดั ขนึ B เฉพาะกบั วนั อีดหรือวนั รEืนเริงเทา่ นนัB ซงEึ มี
ฮะดีษเกีEยวกบั ชาวอนั ซอรทีEเล่น รวมทงัB จะต้องมีเนือB หาทีEส่งเสริมให้มีอีหม่านเพิEมมากขึนB ซงึE มี
ฮะดีษทEีรายงานโดยบคุ อรีย์ว่า มีผ้หู ญิงคนหนEึงทีEร้องเพลงและเลน่ กลองหน้าเดียวโดยกลา่ วถึง
พ่อของเขาทีEเสียชีวิตในสงครามบะดัร ซEึงมีช่วงหนEึงบอกว่าไม่มีใครรู้นอกจากท่านร่อซู้ล
(ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) ทีEจะรู้ถึงอนาคต ท่านร่อซู้ล (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม)
จงึ ตอบวา่ เจ้าอยา่ กลา่ วเชน่ นีแB ตใ่ ห้เจ้ากลา่ วในสงEิ ทีEควรจะกลา่ วตอ่ ไป หมายความวา่ อยา่ บอก
วา่ ทา่ นเป็นผ้ทู ีEรู้ในอนาคต แตอ่ ยากให้กลา่ วในสิEงทEีเจ้านําเสนอในเรEืองทีEพอ่ ของทา่ นเสียชีวิตใน
สงครามบะดรั นEีคือหลกั ฐานบอกว่าดนตรีเป็นทEีอนญุ าต แต่เป็นเรืEองทEีเฉพาะคน เฉพาะดนตรี
บางอยา่ ง และเฉพาะบางเวลาเทา่ นนัB

นีEคือสงิE ทEีข้าพเจ้าอยากตกั เตือนเกEียวกบั เสียงดนตรีเพราะวา่ มนั เข้ามาอยใู่ นทกุ อิริยาบท
ของเราไม่วา่ จะแทรกอย่ใู นละครหรือข่าวหรือสารคดี ซงEึ ยากตอ่ การหลีกเลEียง แตเ่ ราก็ต้องรู้เท่า
ทนั มนั วา่ สงEิ เหลา่ นีเBป็นสงEิ ทEีทําให้เราเคลบิ เคลมิ B และทําให้หา่ งไกลจากการรําลกึ ถงึ อลั ลอฮฺ

สดุ ท้ายนีขB ้าพเจ้าขอฝากดอุ าอฺต้นหนงEึ ความวา่

ُ‫ َوأَ ِرﻧَﺎ اﻟﺑَﺎ ِط َل ﺑَﺎ ِطﻼً َوا ْر ُز ْﻗﻧَﺎ ا ْﺟ ِﺗﻧَﺎﺑَﮫ‬،ُ‫اﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم أَ ِرﻧَﺎ اﻟ َﺣ ﱠق ﺣﻘﱠﺎً َوا ْر ُز ْﻗﻧَﺎ ا ِﺗّﺑَﺎ َﻋﮫ‬

ความวา่ “ข้าแดอ่ ลั ลอฮฺ ขอพระองค์ทรงให้เราเห็นความจริงเป็นความจริง และขอทรงให้
เราปฏิบตั ิตามความจริงนนัB และขอพระองค์ทําให้เราเห็นความเท็จเป็นความเท็จ และขอทรงให้
เราออกจากจากมนั ”

‫ اﻟﻌَ ِظ ْﯾ َم ِﻟﻲ َوﻟَﻛُ ْم َو ِﻟ َﺳﺎ ِﺋ ِر اﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ِﻣ ْﯾ َن‬6َ ‫أَﻗُو ُل ﻗُو ِﻟﻲ َھذَا َوا ْﺳﺗَ ْﻐﻔَ ُر ا ﱠ‬
‫ﻓَﺎ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُر ْوهُ ِإﻧﱠﮫُ ھُ َو ا ْﻟﻐَﻔُ ْو ُر اﻟ ﱠر ِﺣ ْﯾ ُم‬

187


เอกสารอ้างองิ

รวม Youtube คุตบะฮ์ในหวั ข้อเร;ืองต่างๆ

28 กนั ยายน 2555 เรEือง การตอบโต้ตอ่ การดหู มิEนทา่ นศาสดาฯ
https://youtu.be/JuiTKTgnaYc
19 ตลุ าคม 2555 เรEือง ความสาํ คญั และฮิกมะฮ์ของการประกอบพิธีฮจั ญ์
https://youtu.be/5-XG1QtxKO8
16 พฤศจิกายน 2555. เรEือง ฮิกมะฮ์ของการได้ยินและการเหน็ ของมนษุ ย์
https://www.youtube.com/watch?v=wYp0NaNKr4U&sns=em
21 มิถนุ ายน 2556 เรืEอง มหศั จรรย์ของนําB ซมั ซมั
https://youtu.be/p3wRdq3aXD8
19 กรกฎาคม 2556 เรEือง ฮิกมะฮ์และความมหศั จรรย์ของเดือนรอมฎอน
https://www.youtube.com/watch?v=gSyKbA40WlM&sns=em
15 มีนาคม 2556 เรืEอง การเลน่ ดนตรีในทศั นะของอิสลาม
https://www.youtube.com/watch?v=BnM44L7DrtQ&sns=em
23 พฤษภาคม 2557 เรืEอง โรคหวั ใจแขง็ กระด้างและทางแก้ไข
https://www.youtube.com/watch?v=KybMThqhJSI&sns=em
28 มีนาคม 2557 เรืEอง ความยตุ ธิ รรมทีEแท้จริง
https://www.youtube.com/watch?v=9RsXQLubSUA&sns=em
18 เมษายน 2557 เรืEอง มหศั จรรย์ของความจําในสมองของมนษุ ย์
https://youtu.be/LK3vpNCT51M
20 มิถนุ ายน 2557 เรืEอง ประชาชาตอิ ิสลามยคุ สดุ ท้าย
https://youtu.be/DUPwvodrKEU
23 มกราคม 2558 เรEือง หวั ใจ 3 ประเภท
https://www.youtube.com/watch?v=sKf3vEymLSo&sns=em

188



27 กมุ ภาพนั ธ์ 2558 เรEือง อลั ฟาตฮิ ะฮ์กบั หลกั การศรัทธา
https://www.youtube.com/watch?v=LKzz1nqjEaY&sns=em
20 มีนาคม 2558 เรEือง การใช้ชีวิตทา่ มกลางสงั คมในยคุ ใหม่
https://youtu.be/ZRW77NWJzns
24 เมษายน 2558 เรEือง การทดสอบของอลั ลอฮฺและการระงบั ความโกรธ
https://youtu.be/wNJVv1vs7tI
15 พฤษภาคม 2558 เรืEอง ความอดทนและการขอบคณุ
https://youtu.be/eB4mXS29Y2A
13 พฤศจิกายน 2558 เรืEอง การใช้ชีวิตของมอุ ฺมินในโลกดนุ ยา
https://youtu.be/jJ9TertxFJM
11 ธนั วาคม 2558 เรEือง คณุ ลกั ษณะของมอุ ฺมินซงึE เป็นทายาทของชาวสวรรค์ชนัB ฟิรเดาส์
http://www.youtube.com/watch?v=rxZsyBYtlxA&sns=em
29 มกราคม 2559 เรEือง ภารกิจในการเผยแผอ่ ิสลามของมอุ ฺมิน
http://youtu.be/2p7G9M8Gnkw
26 กมุ ภาพนั ธ์ 2559 เรEือง ทฤษฎีสมั พนั ธภาพกบั อลั กรุ อาน
http://youtu.be/-AuGxHa836Y
18 มีนาคม 2559 เรืEอง การลงทนุ ทีEชาญฉลาด
https://youtu.be/6GAX8yKTiVc
8 เมษายน 2559 เรEือง วจีทีEดีเลศิ
https://youtu.be/6pmaTyBlr_o
7 กรกฎาคม 2560 เรEือง การเป็นสงั คมอดุ มปัญญา
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1921581808116187&id=10000793159
5705
22 กนั ยายน 2560 เรEือง จงอยา่ เข้าใกล้การทําซนิ า
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1955774581363576&id=10000793159
5705

189


3 สงิ หาคม 2561 เรืEอง ความประเสริฐของการทําฮจั ญ์
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2137703499837349&id=10000793159
5705
13 ธนั วาคม 2562 เรืEอง การศกึ ษาวิจยั เกEียวกบั การมีสขุ ภาพดีและอายยุ ืนยาว
https://youtu.be/HwePdlp_--I
7 กมุ ภาพนั ธ์ 2563 เรืEอง ภยั พิบตั กิ บั บททดสอบของมอุ ฺมิน
https://youtu.be/kKRKqE7wcWk
6 มีนาคม 2563 เรืEอง โคโรนา่ ไวรัสกบั ความกลวั และความหวงั ของมอุ ฺมิน
https://youtu.be/dp3WpeOdOFI
29 สงิ หาคม 2563 เรEือง มรู่ อก้อบะต้ลุ ลอฮ
https://www.facebook.com/195332760519558/videos/318318752557030/
18 ธนั วาคม 2563 เรEือง กลลวงของชยั ฏอนกบั การประกอบอาชีพทีEประเสริฐ
https://www.facebook.com/195332760519558/videos/382954639658869/

190