The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมคุตบะฮ์ (วันศุกร์)
โดย นายไพโรจน์ มินเด็น
ปี 2021

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by minden family, 2021-07-11 21:33:54

รวมคุตบะฮ์ (วันศุกร์)

รวมคุตบะฮ์ (วันศุกร์)
โดย นายไพโรจน์ มินเด็น
ปี 2021

Keywords: คุตบะฮ์,วันศุกร์,นายไพโรจน์,มินเด็น,นายไพโรจน์ มินเด็น,ไพโรจน์,ไพโรจน์ มินเด็น

101


เร;ือง หวั ใจ 3 ประเภท

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫُ اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم َﺻ ًل‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
ُ‫ أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌد‬٠ ‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬
‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬٠‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬
‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬
‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทEีทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถงึ วนั ศกุ ร์

ท่านพEีน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาทีEสูงส่ง เป็นศาสนา
ทีEอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ได้ทรงรับรองไว้ เพราะฉะนันB หลกั การต่างๆ จึงเป็นเหมือน
ธรรมนูญแห่งชีวิต ทีEเราต้องยอมรับและน้อมนํามาปฏิบตั ิให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ทEีอลั ลอฮฺ
(ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ได้ทรงกําหนดไว้ สEิงหนEีงทีEโดดเด่นในหลกั การของศาสนาอิสลามคือ
การตักเตือนซึEงกันและกัน ในอิสลามมีการตักเตือนกันในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการ
ตักเตือนตัวเองโดยการทําอะม้าลอิบาดะฮฺ การละหมาด ถือศีลอด จ่ายซะกาต การอ่าน
อัลกุรอาน การซิกรุ้ลลอฮ การขอดุอาอฺ ทุกอย่างเป็นการเตือนให้อยู่ในหลกั การของศาสนา
เพราะเราต้องทําเพืEออัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) โดยระลึกเสมอว่าเราทําเพืEอพระองค์
การตักเตือนตัวเองรวมไปถึงการศึกษาหาความรู้ เช่น การอ่านหนังสือ ดูเว็บไซต์ Youtube
ทีEเกEียวกบั ศาสนา มีมากมายมหาศาล เราเปิดให้ตวั เองได้รับความรู้และเพEิมพนู ความรู้ให้มาก
ยEิงขึนB เพEือจะได้มีอีหม่านเพิEมมากขึนB และตกั เตือนลกู หลานเราให้พ้นจากไฟนรก ปกป้องพEีน้อง
พ่อแม่ เพืEอนฝงู รวมทงัB ตกั เตือนแก่ผ้นู ํา อิสลามได้บอกถึงวิธีการไว้ทงัB หมดแต่อาจจะแตกต่าง

102


กันในบางหลักเกณฑ์เพราะฉะนันB การตักเตือนกันจึงเป็ นสEิงทีEสําคัญแม้ แต่คุตบะฮ์วันนี B
ก็เช่นเดียวกัน การกําหนดให้ชายทีEผ่านเกณฑ์ทางด้านศาสนบญั ญัติต้องมาละหมาดวนั ศกุ ร์
และในละหมาดวนั ศกุ ร์ก็มี T คตุ บะฮ์ ใครก็ตามทEีมาฟังต้องฟังอย่างตงัB ใจ ห้ามพดู คยุ กนั เพราะ
ถ้าพูดในขณะทีEคอเต็บขึนB คุตบะฮ์ท่านจะไม่ได้อะไรเลย นอกจากนันB การฟังคุตบะฮ์คือ ภาค
บงั คบั ให้ตงัB ใจฟังเพราะเรEืองศาสนาไมใ่ ชเ่ รEืองเลน่ ๆ แตต่ ้องเอาไปใช้จริงและเราต้องถกู สอบสวน
ในโลกหน้า เพราะฉะนนัB จึงต้องฟังอย่างตงัB ใจ บางคนอาจจะง่วงนอนก็คงต้องย้ายทEีนงัE ตามทEี
ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้กล่าวไว้ ถ้าย้ายทEีนEังแล้วยังไม่หายก็ให้
อาบนําB ละหมาดใหม่ จะเห็นได้ว่า อย่างไรเสียก็ต้องตงัB ใจฟังเพราะในอาทิตย์หนึEงจะต้องได้มี
การเพิEมพนู อีหมา่ นจากการฟังคตุ บะฮ์

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ อิสลามเป็นศาสนาทีEเทีEยงตรงไม่มีเลียB วขวาเลียB ว
ซ้ายไม่มีแวะข้างทางไม่เช่นนันB จะหลงทางและต้องตรงตามคําสัEงใช้คําสัEงห้ามของอัลลอฮฺ
(ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) และแบบฉบบั ของท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั )
ไม่มียูเทิร์น หรือโอกาสกลบั มาตงัB ต้นใหม่ ชีวิตในดุนยามีแค่ครังB เดียว ไม่มีโอกาสแก้ตวั และ
จะต้องทําในสงEิ ทEีดีทEีสดุ และมนEั ใจมากทีEสดุ ไมต่ ้องเผืEอ ถ้าหากไมแ่ นใ่ จให้ค้นคว้าหาหลกั ฐานวา่
มีจริงหรือไม่ มีอลุ ามะฮ์บางคนไม่รู้วา่ เขาพดู เลน่ หรือพดู จริงเขาบอกวา่ เวลาทําความชวEั ไม่เห็น
ยกหลักฐาน แต่ตอนจะทําความดีต้องหาหลักฐาน อย่างนีเB ป็นคําพูดทีEผิด การทําความชEัว
จะต้องหาหลกั ฐานด้วยหรือ เพราะความชEัวมันเกิดจากชัยฏอนเกิดจากอารมณ์ใฝ่ ตํEาทังB สินB
แต่เวลาเราทําความดีเราไม่ใช่เจ้าของศาสนาทีEกําหนดขึนB เองได้ แต่ทว่าอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่า
ตะอาลา) ทรงกําหนดไว้แล้ว อนั ไหนฮาลาล อนั ไหนฮารอม จงทําความดีเมEือมีหลกั ฐาน ไม่ใช่
ทําไปก่อนแล้วคอ่ ยไปหาหลกั ฐาน ถ้าเช่นนีจB ะถือวา่ เราปฏิบตั ิตามคําสงEั ใช้หรือคําสงEั ห้ามได้จริง
หรือ เพราะทีEจริงแล้วคําสงEั ใช้หรือคําสงัE ห้ามต้องระบไุ ว้ชดั เจนไมว่ า่ จะในอลั กรุ อานหรือซนุ นะฮ์
นอกจากนีหB ากหลกั ฐานทงัB สองอย่างอาจจะไม่ทําให้เราเข้าใจได้อย่างครบถ้วนสมบรู ณ์ ก็หาดู
แบบอย่างจากซ่อฮาบะฮ์หรือชาวสะลัฟ สิEงเหล่านีคB ือสิEงทEีทําให้เรามัEนใจเพราะสิEงทEีเราได้
กระทําไปไม่มีแก้ตัว ไม่มีหวนกลบั มาได้เลย ทEีผ่านไปทุกวนั มันไม่มีวนั หวนกลบั ไปได้แม้แต่
วนั เดียว อดีตไม่เคยหวนกลบั คืนมา มีแตว่ นั ข้างหน้า เวลาขนึ B ปีใหม่ก็เฉลิมฉลองครบรอบ UW ปี

103


‡W ปี คือการนบั สิEงทีEผ่านมาแต่สEิงทีEเหลืออย่ไู ม่เคยนบั เลย มนั น้อยลงทกุ วนั เพราะฉะนนัB ต้อง
ทําในสิEงทEีดีทEีสดุ และสิEงทีEดีทEีสดุ ก็คือแบบฉบบั ทEีมาจากศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ
วา่ สลั ลมั )

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ คุตบะฮ์ในวันนีขB ้าพเจ้าก็จะขอพูดเรEืองโรคทีE
เกีEยวกบั หวั ใจ ไม่ใช่โรคทEีเกEียวกบั หวั ใจอดุ ตนั แตเ่ ป็นโรคหวั ใจทีEเกEียวกบั การศรัทธา ข้าพเจ้าได้
อา่ นหนงั สือทEีมีชEือวา่ ตซั กียะต้นุ นฟุ สู แปลวา่ การขดั เกลาจิตใจ ซงEึ เป็นหนงั สือทีEรวบรวมมาจาก
คําบรรยายหรือคําอธิบายของอิหม่ามทงัB b ท่าน คือ ท่านอิบนฮุ าญัร ท่านอบฮู ามิดอลั ฆ่อซาลี
และทา่ นอิบนกุ อยยิม หนงั สอื เลม่ นีบB อกวา่ หวั ใจของมนษุ ย์นนัB มี b ประเภท คือ

• – ก็อลบนุ ซะลมี (‫ )ﻗﻠب ﺳﻠﯾم‬หวั ใจทีEสะอาดบริสทุ ธิ›หรือมีสขุ ภาพดีหรือสงบ

ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อาน ซเู ราะฮ์อชั ชอู ะรออฺ อายะฮ์ทEี ˜˜ -˜g ได้ระบวุ า่

‫ ِﺑﻘَ ْﻠ ٍب َﺳ ِﻠﯾ ٍم‬6َ ‫ﯾَ ْو َم َﻻ ﯾَﻧﻔَ ُﻊ َﻣﺎ ٌل َو َﻻ ﺑَﻧُو َن ِإ ﱠﻻ َﻣ ْن أَﺗَﻰ ا ﱠ‬

ความว่า “ในวนั ซงEึ ทรัพย์สมบตั ิและลกู หลานทงัB หลายไม่สามารถช่วยเหลือหรืออํานวย
ประโยชน์ได้ เว้นแตผ่ ้ทู Eีมายงั อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) ด้วยกบั หวั ใจทEีบริสทุ ธ›ิ

ท่านอิบนุกอยยิมได้อธิบายว่า หัวใจทEีบริสุทธ›ิคือ หัวใจทีEปราศจากการตังB ภาคีต่อ
พระองค์ นอกจากนียB งั เป็นหวั ใจทีEปราศจากการเคียดแค้น อาฆาต อิจฉาริษยา ตระหนีEถีEเหนียว
หยEิงยโสโอหังและลุ่มหลงในดุนยาและอํานาจ รวมทังB ต้องเป็นหัวใจทEีปราศจากอารมณ์ทEี
สวนทางกับคําสงัE ใช้ของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) หรือมีอารมณ์ทีEฝ่ าฝืนหรือสวนทาง
หรือไม่เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ รวมทงัB ต้องออกห่างจากสEิงทีEทําให้บนEั ทอนความ
ผูกพันทีEมีต่ออัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) กับเรา ความหมายทEีท่านอิบนุกอยยิมกล่าว
ค่อนข้างเป็นนามธรรมและเป็นเรEืองของการศรัทธาทังB นันB แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าหัวใจเรา
บริสทุ ธิ›หรือไม่ คือเราต้องสํารวจตวั เองว่าเราล่มุ หลงดนุ ยาหรือไม่ หรือหลงในอํานาจหรือไม่
เราเองอาจจะไม่รู้ตวั ท่านอิบนกุ อยยิมได้ให้ข้อสงั เกตว่า มนั มีหลายระดบั ด้วยกนั ประการแรก
คือ การล่มุ หลงแบบเต็มทEี หรือไม่สนใจอาคีเราะฮ์ ไม่สนใจเรืEองศาสนา หาความสขุ ในโลกนี B
เพียงอย่างเดียว ประการทีEสองคือ คนทีEยงั ละทิงB เรืEองโลกในดนุ ยาไม่ได้ หรือปรารถนาทEีจะมี

104


ความสขุ ในโลกดนุ ยา กล่าวคือ อาจจะทําความดีและก็ยงั คงติดกบั โลกดนุ ยา ประการทEีสาม
คือ การให้ความสําคญั ในเรEืองของโลกดนุ ยามากกวา่ โลกอาคีเราะฮ์ เช่น เมEือเข้าเวลาละหมาด
สมควรทEีจะทําละหมาดเลย แต่กลบั ให้ความสําคญั ในเรEืองของการงานมากกว่า นอกจากนนัB
จะต้องเป็นคนทีEทําอิบาดะฮฺด้วยความบริสทุ ธิ›ใจด้วยกบั เจตนาเพืEออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอา
ลา) นีEคือ คณุ สมบตั ขิ องคนทีEมีหวั ใจทEีบริสทุ ธ›ิ

T – ก็อลบนุ มยั ยิต (‫ )ﻗﻠب ﻣﯾت‬หวั ใจทEีตายหรือหวั ใจทEีตายด้าน

อุลามะฮ์บอกว่า คนจําพวกนีคB ือ คนทEีไม่ศรัทธาหรือปฏิเสธทุกอย่าง แม้กระทEังสEิง
ทEีอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ทรงกําหนด ในพระมหาคมั ภีร์อลั กุรอาน ซูเราะฮ์อลั อะรอฟ
อายะฮ์ทีE •ˆg ได้ระบวุ า่

‫َوﻟَﻘَ ْد ذَ َرأْﻧَﺎ ِﻟ َﺟ َﮭﻧﱠ َم َﻛ ِﺛﯾ ًرا ِّﻣ َن ا ْﻟ ِﺟ ِّن َوا ْ ِﻹﻧ ِس ۖ◌ ﻟَ ُﮭ ْم ﻗُﻠُو ٌب ﱠﻻ ﯾَ ْﻔﻘَ ُﮭو َن ِﺑ َﮭﺎ َوﻟَ ُﮭ ْم أَ ْﻋﯾُ ٌن‬
◌ۚ ‫ﱠﻻ ﯾُ ْﺑ ِﺻ ُرو َن ِﺑ َﮭﺎ َوﻟَ ُﮭ ْم آذَا ٌن ﱠﻻ ﯾَ ْﺳ َﻣﻌُو َن ِﺑ َﮭﺎ ۚ◌ أُوٰﻟَ ِﺋ َك َﻛﺎ ْﻷَ ْﻧﻌَﺎ ِم ﺑَ ْل ھُ ْم أَ َﺿ ﱡل‬

‫أُوٰﻟَ ِﺋ َك ھُ ُم ا ْﻟﻐَﺎ ِﻓﻠُو َن‬

ความว่า “และแน่นอนเราได้บงั เกิดสําหรับญะฮันนัม ซึEงมากมายจากญินและมนุษย์
โดยทEีพวกเขามีหวั ใจซEึงพวกเขาไม่ใช้มนั ทําความเข้าใจ และพวกเขามีตา ซEึงพวกเขาไม่ใช่มนั
มอง และพวกเขามีหู ซึEงพวกเขาไม่ใช้มันฟัง ชนเหล่านีแB หละประหนEึงปศุสัตว์ ใช่แต่เท่านันB
พวกเขาเป็นผ้หู ลงผิดยEิงกวา่ ชนเหลา่ นีแB หละ พวกเขาคือ ผ้ทู ีEเผลอเรอ”

จากอายะฮ์นีชB ีใB ห้เห็นว่าคนทEีหัวใจตายด้านคือ คนทEีไม่ยอมรับฟัง ไม่ยอมใช้ตามอง
มีอลุ ามะฮ์มาบรรยายให้ฟังก็ไม่สนใจ ไม่ว่าจะพดู อย่างไรก็ไม่คิด ไม่ไตร่ตรองว่าเป็นจริงขนาด
ไหน หรือแม้กระทEังแอนตีทB ุกอย่างทีEเกีEยวกับศาสนา เราต้องเอาหลักการศาสนาอยู่เหนือ
อารมณ์ อยู่เหนือความคิด อยู่เหนือความรู้สึกเรา เพราะเรEืองศาสนาไม่ใช่เรืEองทEีเรากําหนด
ขึนB มาเอง แต่เป็นสEิงทEีอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ได้ทรงกําหนดไว้แล้ว ศาสนาอิสลามนนัB
ครบถ้วนสมบรู ณ์แล้วและทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้กระทําไว้เป็น
แบบอย่าง ตรงนีไB ม่มีข้อสงสยั ถ้าเราใช้สติปัญญาใช้ตามอง ใช้หฟู ัง เราก็จะสามารถเข้าใจและ
ศรัทธาได้

105


b – ก็อลบนุ มะรีฎ (‫ )ﻗﻠب ﻣرﯾض‬หวั ใจทีEมีโรค

อลุ ามะฮ์ได้อธิบายไว้ว่าคือ หวั ใจทีEมีทงัB ความดีและความชวEั แต่มนั มีสิEงทEีมากดั กินอยู่
ภายในหวั ใจซงEึ สามารถสงั เกตอาการของหวั ใจประเภทนีไB ด้ คือ

1 – รักดนุ ยา หลงดนุ ยาหรือไม่ ถ้ายงั ไม่สนใจศาสนาทําแตด่ นุ ยา หาความสขุ ในดนุ ยา
ในโลกนีเBทา่ นนัB กอบโกยทกุ อยา่ งโดยไมส่ นใจวา่ จะถกู ต้องตามชะรีอะฮ์หรือไม่

2 – เกรงกลวั ความตายหรือไม่ แม้วา่ เราจะไมร่ ักดนุ ยาหรือหลงดนุ ยา ไมใ่ ห้ความสําคญั
ของดนุ ยามากกว่า แต่ถามว่าเรากลวั ความตายหรือไม่ ถ้าเราคิดว่าเราจะตายแล้วรู้สกึ เสียวๆ
แสดงวา่ เรายงั ตดิ อยใู่ นโลกนี Bยงั คดิ วา่ โลกนีดB ีกวา่ โลกหน้าเพราะเรามีความสขุ

3 – เราเห็นความชวัE แล้วชินชาหรือไม่ ถ้าเราบอกว่ามนั เป็นเรEืองเล็กน้อย ต่อไปเราก็รับ
มนั ได้

อลุ ามะฮ์ได้บอกอีกวา่ มนั มีสาเหตทุ ีEทําให้หวั ใจมีโรคทีEเหมือนยาพิษ

1 – การพดู มาก คือ การนินทาใสร่ ้าย หรือพดู ในเรืEองไร้สาระทีEไมใ่ ชเ่ รEืองศาสนา พดู มาก
ก็ผิดมาก ผิดมากก็บาปมาก บาปมากก็ถกู ลงโทษ

T – การกินมาก ปัจจุบันเราให้ความสําคญั กับเรืEองกินมาก เรามักจะหาทีEกินอาหาร
อร่อยๆ ร้านอาหารทEีเปิดใหม่ๆ เราล่มุ หลงกบั การกิน คือ อาการเป็นโรคในหวั ใจ ทEีเรียกว่า “รัก
ดนุ ยา” ท่านนบีใช้ให้เรากินหนึEงในสามของกระเพาะ เราทํากนั บ้างหรือไม่ ถือศีลอดสนุ ตั วนั
จนั ทร์กบั วนั พฤหสั เราทํากนั หรือไม่ การถือศีลอดมนั ทําให้ขดั เกลาจิตใจ เพราะฉะนนัB การกิน
มากก็เป็นสว่ นหนงEึ ทีEเป็นสาเหตทุ ีEทําให้หวั ใจเป็นโรค

3 – ตาทีEมองสEิงต่างๆ ทีEเป็นข้อห้าม เช่น ดูสิEงทีEไร้สาระ ดูเพศตรงข้าม นบีบอกให้เรา
ลดสายลงตEําเพEือลดความกําหนดั ถ้าทําไมไ่ ด้ก็ให้ถือศีลอด

V - การคบเพEือน เราเห็นมากมายเวลาจะแต่งงาน ต่อหน้ากนั ก็ดีกนั แต่พอแต่งไปแล้ว
ออกลาย เราไม่รู้เลยวา่ กําพืดเป็นอย่างไร เขาบอกเวลาจะดผู ้ชู ายผ้หู ญิงให้ดเู พEือนหรือคนทEีเขา
คบด้วย ถ้าเขาเป็นคนทีEมีมารยาทดีแต่เพืEอนของเขาเกเร มนั เป็นไปไม่ได้ทEีเขาจะอย่ดู ้วยกนั ได้

106


เพราะฉะนันB ให้ดูว่าเพืEอนดีหรือไม่ เพืEอนมีอีหม่านหรือไม่ มันเป็นสEิงทEีชีใB ห้เห็นได้เป็นอย่างดี
และการทีEคบเพEือนไม่ดีมนั จะเป็นยาพิษทําให้เขาซึมซบั เรืEองไม่ดีของเพืEอนตลอดเวลาโดยไม่
รู้ตวั ถ้าเพืEอนนงEั ในวงเหล้าเราก็นงEั ด้วยมนั จะทําให้เรารู้สกึ ชินชา นEีคือสEิงทEีศาสนาพยายามทEีจะ
กนั เราออกจากสงิE ทีEจะทําให้เราบนEั ทอนความผกู พนั ตอ่ อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) นนัE เอง

สว่ นวิธีแก้ไขหรือยาแก้ก็มี V อยา่ งด้วยกนั คือ

• – พยายามตรวจสอบเหนียตในทกุ อะม้าลทีEทําว่า มีเจตนาทําเพEืออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮู
วา่ ตะอาลา) หรือไม่ หรือทําเพEืออะไร

T - การกล่าวซิกรุ้ลลอฮหรือขอดุอาอฺเป็นประจํา ทุกอิริยาบถทีEท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้นํามาให้เราปฏิบตั ิประจําวนั จะทําให้เรานึกถึงอลั ลอฮฺ มนั จะ
ขดั เกลาจิตใจของเราไมใ่ ห้มีโรค

b – ให้บริจาคทานมากๆ ไม่ว่าจะเป็นซะกาตหรือซอดาเกาะฮ์ เพืEอจะได้ขดั เกลาจิตใจ
ไมใ่ ห้ยดึ ตดิ กบั ทรัพย์สนิ

V – การมอบหมายต่อพระองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ไม่ว่าจะทําอะไรก็ตาม
ความสาํ เร็จอยทู่ ีEพระองค์ ไมไ่ ด้อยทู่ ีEเรา

สดุ ท้ายนี Bขอดอุ าอฺจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ในฐานะทEีพระองค์เป็น
ผ้ทู ีEทรงพลกิ ผนั หวั ใจให้พวกเราได้มีความมนEั คงในศาสนาของพระองค์ตลอดไป

‫ اﻟﻌَ ِظ ْﯾ َم ِﻟﻲ َوﻟَﻛُ ْم َو ِﻟ َﺳﺎ ِﺋ ِر اﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ِﻣ ْﯾ َن‬6َ ‫أَﻗُو ُل ﻗُو ِﻟﻲ َھذَا َوا ْﺳﺗَ ْﻐﻔَ ُر ا ﱠ‬
‫ﻓَﺎ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُر ْوهُ ِإﻧﱠﮫُ ھُ َو ا ْﻟﻐَﻔُ ْو ُر اﻟ ﱠر ِﺣ ْﯾ ُم‬

107


เร;ือง โรคหวั ใจแขง็ กระด้างและแนวทางแก้ไข

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫َﺻ ًل‬ ‫اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم‬ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
ُ‫ﺑَ ْﻌد‬ ‫ أَ ﱠﻣﺎ‬٠‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬
‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬
‫ﻻَ َو َﺧَرْوﺳُ ٌوفﻟَﮫَُﻋﻠَﻓَ ْﯾﻘَ ِﮭْد ْمﻓَﺎَو َزﻻَﻓَ ْوھُ ًْمزاﯾَ ْﺣَﻋ َزِظﻧُﯾوًﻣﺎَن‬6َ ‫ ﱠ‬6ِ‫أَﺗَ ْﻌَﻋﺎَﻣﻟَﺎﻟَﻰﻛُ ِﻓْم َﻲوﯾَﺳُْﻐ ِْﻔو ْ َررﻟَِةﻛُاﻟْمﯾُ ْذوُﻧُﻧُوﺑَسﻛُأَْمﻻ ۗ ِإ◌ ﱠَنوأََﻣ ْو ِنﻟﯾَﯾُﺎ َِءطا ِﻊ ﱠا‬ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم‬
ُ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲ‬
‫اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُواْ َو َﻛﺎﻧُواْ ﯾَﺗﱠﻘُو َن ﻟَ ُﮭ ُم ا ْﻟﺑُ ْﺷ َرى ِﻓﻲ ا ْﻟ َﺣﯾﺎ ِة اﻟدﱡ ْﻧﯾَﺎ َو ِﻓﻲ اﻵ ِﺧ َر ِة ﻻَ ﺗَ ْﺑ ِدﯾ َل ِﻟ َﻛ ِﻠ َﻣﺎ ِت‬
‫ َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬٠‫ ذَ ِﻟ َك ھُ َو ا ْﻟﻔَ ْو ُز ا ْﻟﻌَ ِظﯾ ُم‬6ِ ‫ا ﱠ‬

ขอความสขุ ความสนั ติความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา)

จงประสบแดพ่ ีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ ตอ่ พระองค์ทEีได้ทรงโปรดประทานให้เราได้

มีชีวิตอยรู่ ่วมกนั ในวนั ศกุ ร์ทีEมีเกียรตยิ EิงอีกครังB หนงEึ

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่าน ทกุ สิEงทกุ อย่างทEีเกิดขึนB เป็นสEิงทEีอลั ลอฮฺได้ทรงกําหนด
ไว้ทงัB สนิ B ไมว่ า่ จะเป็นสงEิ ทีEดีหรือสงิE ทีEไมด่ ีซงึE พระองค์ได้ลขิ ิตไว้หมดแล้วและไมม่ ีทางจะหลีกเลEียง
ได้ และพระองค์มีเจตจํานงทEีต้องการจะทดสอบพวกเราเพืEอจะให้มีอีหม่านเพEิมมากขึนB หรือให้
ปฏิบตั ิอะม้าลให้ดีขนึ B ด้วยเหตนุ ี BสิEงทEีผ่านมาเราจะเห็นว่าก่อนหน้านีเBรามีความรู้สกึ อดึ อดั มาก
ตอ่ เหตกุ ารณ์ทีEเกิดขนึ B และมีความขดั แย้งกนั อยา่ งรุนแรง แตต่ อนนีกB ็เริEมดีขนึ B เริEมชดั เจนขนึ B วา่ จะ
เป็นอย่างไร เราก็คงต้องขอบคณุ พระองค์ทีEพระองค์ได้ทรงโปรดประทานให้เราได้เห็นให้เราได้
รับรู้ ทุกปัญหาคือความก้าวหน้า ทุกปัญหาคือสEิงทีEมีคุณค่าอยู่ในตวั เพราะสิEงทีEอลั ลอฮฺทรง
กําหนดนนัB มีวตั ถปุ ระสงค์ทีEชดั เจนทีEจะทดสอบเรา เพราะฉะนนัB เหตกุ ารณ์ทีEผ่านมาเราต้องได้
อีหมา่ นเพEิมขนึ B

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่าน ตอนนีมB ีเหตกุ ารณ์หนึEงทEีชาวโลกรอคอยเป็นเหตกุ ารณ์
ทีEไมเ่ กิดขนึ B บอ่ ยนกั และเหตกุ ารณ์นีเBป็นเหตกุ ารณ์ทีEยิEงใหญ่ทEีมนษุ ย์พยายามทีEจะรังสรรค์ให้มนั

108


มีความน่าสนใจ เหตุการณ์ทEีทําให้คนอดหลับอดนอน รวมทังB อาจจะมีเรEืองของการพนัน
ในบางครังB หลงั จากทีEการแข่งขนั จบลงก็มีการติดตามทวงหนีทB วงสินกันมีการฆ่ากันมากมาย
สงEิ ตา่ งๆ เหลา่ นีเBป็นสงิE ทีEมนษุ ย์ทีEไมใ่ ชม่ อุ ฺมินรอคอยกนั อยู่ แตส่ ําหรับผ้ศู รัทธาคงไมม่ ีใครรอคอย
เหตกุ ารณ์การแข่งขนั ฟุตบอลโลกหรือเล่นพนนั อย่างแน่นอน เพราะเรืEองของการพนนั เป็นสEิงทีE
ต้องห้ามอย่างชัดเจน ถึงแม้เราอาจจะไม่เข้าไปเกEียวข้องแต่มันก็มีบางเรืEองทีEนําให้เราไป
เกEียวข้องด้วย ดงั จะเห็นได้ว่าสินค้าบางประเภททEีเป็นเครEืองดืEมจะให้มีการเสEียงโชคของรางวลั
อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเสEียงโชคทองหรือโชครถยนต์ก็ตาม และในกรณีของฟุตบอลโลกถึงแม้
จะไม่มีเรEืองของการพนันแต่ก็มีเรEืองของการทายผลฟุตบอลว่าทีมไหนจะชนะ ทีมไหนจะ
เข้ารอบ หรือทีมไหนจะได้แชมป์ ถามว่าสEิงเหล่านีมB ุสลิมสามารถทําได้ขนาดไหน หนEึงใน
นกั วิชาการร่วมสมยั เชคบินบาซได้มีฟัตวาว่า การทายผลฟุตบอลเป็นฮารอมโดยให้เหตผุ ลว่า
เป็นเรืEองทEีเกEียวข้องหรือเข้าข่ายการพนัน ส่วนเชคอุษัยมีนบอกว่าไม่ถึงขันB ฮารอมแต่ต้องมี
เงEือนไข T ประการ คือ

• – เราต้องซือB สินค้านนัB เป็นปกติอย่แู ล้ว ไม่ได้ซือB เพืEอจะไปทายผลฟตุ บอล และถ้าปกติ
เราไม่ได้ซือB สินค้านีแB ต่มาซือB เพืEอทายผลฟุตบอลก็เท่ากบั ว่าเราเจตนาทEีจะเล่นพนนั โดยมีเงินทีE
ซือB เป็นการลงทนุ

T - สนิ ค้านนัB ราคาจะต้องไมเ่ พิEมขนึ B จากปกติ

ถ้าครบเงืEอนไขทงัB สองประการนีเBราก็สามารถซือB สินค้านนัB ได้โดยเป็นทEีอนญุ าต ข้อคิดทEี
ได้จากคําฟัตวาคือทกุ ๆ สิEงทEีมาประสบกบั เราล้วนแล้วแตเ่ ป็นสEิงทีEมาทดสอบเราทงัB สินB วา่ เราจะ
ทําหรือจะตดั สนิ ใจอยา่ งไรให้ดีทEีสดุ และให้มีอีหมา่ นเพEิมมากขนึ B

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ท่านจงยําเกรงต่ออลั ลอฮฺให้มากๆ เถิด แท้จริงอลั ลอฮฺ
นนัB ทรงรุนแรงยEิงในการลงโทษ ปัจจบุ นั มีเรืEองต่างๆ เกิดขนึ B มากมาย ลา่ สดุ นีขB ้าพเจ้าได้เข้าร่วม
ในงานสมั มนาสมชั ชาอิหม่ามทวัE กรุงเทพมหานคร และก่อนทEีจะสมั มนาก็ได้มีการเชิญกรมการ
แพทย์มาพดู เกEียวกบั โรคโคโรน่าหรือโรคไข้อฐู ตามภาษาชาวบ้าน โดยมีการให้คําแนะนําแก่คน
ทEีจะเดินทางไปทําฮัจญ์หรือทําอุมเราะฮ์ รวมทังB มีการเฝ้าระวงั หลงั จากกลบั มาว่าจะต้องทํา

109


อย่างไรบ้างเป็นเวลา •U วนั ซงึE โรคระบาดนีกB ็เป็นโรคทีEมีความรุนแรงเพิEมมากขนึ B เพราะฉะนนัB
คนทีEเดินทางไปทําฮจั ญ์หรือทําอมุ เราะฮ์คงต้องเตรียมตวั และศกึ ษาปอ้ งกนั ตวั เอง รวมทงัB ต้องมี
การเฝา้ ระวงั เพEือไมใ่ ห้นําโรคมาระบาดในประเทศไทย สงิE เหลา่ นีกB ็เป็นข้อเตือนใจทEีอยากจะฝาก
พีEน้องผ้ศู รัทธา

ทา่ นพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ น โรคนีกB ็ยงั ไมถ่ ือวา่ ใหญ่หรือสําคญั มากนกั เพราะยงั มีอีก
หนึEงโรคทีEระบาดในประเทศทEีมีมสุ ลิมซึEงโรคนีทB ําให้ร่างกาย วาจา และจิตใจเปลEียนแปลงไป
โรคนีคB ือ โรคอีหม่านอ่อน เป็นโรคทีEมีผลกระทบเพราะวา่ อีหม่านคือการกลา่ วด้วยวาจาและยดึ
มนEั ด้วยหวั ใจและปฏิบตั ิด้วยร่างกาย เพราะฉะนนัB ถ้าอีหม่านอ่อนจะทําให้วาจาและการกระทํา
ก็อ่อนลงตาม และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นโรคนี B นักวิชาการได้รวบรวมถึงข้อสงั เกตหรือ
ข้อพิจารณาวา่ อีหมา่ นของเราออ่ นหรือไม่ ดงั นี B

หลกั เกณฑ์แรก ในเรืEองเกีEยวกบั พฤติกรรมทวEั ไปเพEือดวู ่าอีหม่านของเราอ่อนหรือไม่ คือ
ให้ดวู ่าเรามีการกระทําความชวEั หรือไม่ หรือกระทําในสEิงทีEต้องห้ามตามหลกั การศาสนาหรือไม่
ถ้ามีการกระทําไมว่ า่ จะทําเป็นประจําหรือไมเ่ ป็นประจําก็ถือวา่ มีอาการของการเป็นโรคอีหมา่ น
ออ่ นแล้ว รวมถึงการทีEเรามองเห็นคนอืEนกระทําความผิดแล้วเรารู้สกึ เฉยๆ ไม่มีการตกั เตือน ไม่
มีการมองว่าเป็นความผิดทEีจะต้องห้ามปรามกนั นอกจากนี Bยงั มีเรEืองของความเบาบางในการ
กระทําความดีหรือขีเB กียจในการทําอิบาดะฮฺหรือกระทําอิบาดะฮฺแบบลวกๆ รวมทงัB ยงั มีเรEือง
ของการแสวงหาความสขุ ในโลกนีหB รือการแสวงหาอํานาจหรือการหมกม่นุ อย่กู บั ความสําราญ
ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทองหรือเรืEองต่างๆ ทีEเป็นสEิงอํานวยประโยชน์ในโลกนีเB ท่านนัB นีEก็เป็น
สว่ นหนงึE จากสงิE ทีEนกั วิชาการได้อธิบายไว้

หลกั เกณฑ์ทEีสอง ในเรEืองของวาจา คือ ถ้าหากมีพฤติกรรมในการพดู ให้ร้ายหรือนินทา
ผ้อู ืEนก็เป็นสญั ลกั ษณ์หนEึงทEีแสดงให้เห็นว่าอีหม่านอ่อนหรือมีการพดู จาในสิEงทีEไร้สาระ ไม่อ่าน
อลั กรุ อาน ไม่ซิกรุ้ลลอฮ รวมทงัB ชอบพดู โต้เถียงในสิEงทEีเป็นเรืEองรายละเอียดหรือเรืEองปลีกย่อย
หรือเรืEองทEีไมส่ ร้างสรรค์ รวมทงัB ชอบเผดจ็ การในวงสนทนา เป็นต้น

110


หลกั เกณฑ์ทEีสาม ในเรEืองของจิตใจ คือ หวั ใจมีความแข็งกระด้างหรือไม่ให้ความสําคญั
ในเรEืองของการทําอิบาดะฮฺหรือการทําความดีเล็กๆ น้อยๆ และมีความกลวั ตอ่ การทดสอบหรือ
กลวั ต่อโรคภยั ไข้เจ็บหรือกลวั ความตาย ซงึE เขาจะมีความโศกเศร้าเสียใจหรือตีโพยตีพายอย่าง
มากมายเมEือมีการทดสอบมาหาเขา ซEึงอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ได้กล่าวไว้ในซูเราะฮ์
ยนู สุ อายะฮ์ทEี ‡T-‡V วา่

‫ ﻻَ َﺧ ْو ٌف َﻋﻠَ ْﯾ ِﮭ ْم َوﻻَ ھُ ْم ﯾَ ْﺣ َزﻧُو َن اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُواْ َو َﻛﺎﻧُواْ ﯾَﺗﱠﻘُو َن ﻟَ ُﮭ ُم‬6ِ ‫أَ َﻻ ِإ ﱠن أَ ْو ِﻟﯾَﺎ َء ا ﱠ‬
‫ ذَ ِﻟ َك ھُ َو ا ْﻟﻔَ ْو ُز ا ْﻟﻌَ ِظﯾ ُم‬6ِ ‫ا ْﻟﺑُ ْﺷ َرى ِﻓﻲ ا ْﻟ َﺣﯾَﺎ ِة اﻟدﱡ ْﻧﯾَﺎ َو ِﻓﻲ اﻵ ِﺧ َر ِة ﻻَ ﺗَ ْﺑ ِدﯾ َل ِﻟ َﻛ ِﻠ َﻣﺎ ِت ا ﱠ‬

ความว่า “พงึ ทราบเถิดว่าผ้ทู Eีอลั ลอฮฺทรงรักนนัB คือผ้ทู ีEความกลวั ไม่ได้ประสบกบั เขาและ
เขาก็ไม่ได้มีความทกุ ข์โศกเศร้าเสียใจแต่อย่างใด และคนผ้ซู งEึ มีอีหม่านและเป็นผ้ซู งึE มีความยํา
เกรง สําหรับเขานันB มีข่าวดีในชีวิตทังB โลกนีแB ละโลกหน้า แท้จริงลิขิตของพระองค์ไม่ทรง
เปลยEี นแปลง นนEั แหละ่ คือรางวลั อนั ยEิงใหญ่”

จากอายะฮ์อลั กรุ อานข้างต้นชีใB ห้เห็นวา่ ผ้ทู Eีมีอีหมา่ นหรือศรัทธานนัB จะไมม่ ีความกลวั ใน
สงEิ ทEีเป็นลขิ ิตของอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) คือ ไมก่ ลวั ตายเพราะเขามีความพร้อมเสมอทEี
จะตาย เขาไม่เกรงกลวั โรคภยั หรือการทดสอบต่างๆ ทEีอลั ลอฮฺได้ทรงกําหนดให้กบั เขา เพราะ
เขารู้ดีว่าสิEงเหลา่ นีคB ือการทดสอบ เขาจะกลา่ วว่า “อลั ฮมั ดลุ ิลB ลาฮฺ” กบั ทกุ ๆ สEิงทEีมาประสบกบั
เขา

นอกจากนีบB รรดานกั วิชาการได้อธิบายเรEืองหวั ใจแข็งกระด้างไว้อยา่ งมากมาย ทา่ นอิบนุ
ก็อยยิม (ร่อฮิมา่ ฮ้ลุ ลอฮ) บอกวา่ เรEืองหวั ใจแข็งกระด้างเป็นเรEืองทEีสาํ คญั มากๆ ถ้าใครเป็นโรคนี B
แล้วเขาจะไม่รับข้อตกั เตือนใดๆ ไม่ว่าจะมีหลกั ฐานอย่างไรก็ตาม ท่านเปรียบเทียบเหมือนคน
เจ็บป่ วยเพราะเมEือเจ็บป่ วยแล้วก็ไม่สามารถทEีจะลิมB รสอาหารหรือเครืEองดEืมทีEดีได้เลย เมEือเรา
เจ็บป่ วยเราก็จะไม่รู้รสชาติของอาหาร ฉันใดก็ฉันนันB คนทEีเป็นโรคหวั ใจแข็งกระด้างเขาจะไม่
ยอมรับข้อตกั เตือนใดๆ ทงัB สนิ B และนีEคือสญั ลกั ษณ์หนงึE ของคนทEีเป็นโรคหวั ใจแขง็ กระด้าง

วิธีแก้ไขโรคนี BสําหรับคนทEีเป็นโรคหวั ใจแข็งกระด้าง ท่านอิบนกุ ็อยยิม (ร่อฮิม่าฮ้ลุ ลอฮ)
บอกว่า ต้องแก้ด้วยการซิกรุ้ลลอฮ เพราะการซิกรุ้ลลอฮจะหลอมละลายหัวใจทีEแข็งกระด้าง

111


สว่ นหนึEงจากสาเหตทุ Eีทําให้มนษุ ย์อย่ใู นนรก คือ การทีEมีหวั ใจแข็งกระด้างและไฟนรกได้เตรียม
ไว้สําหรับหัวใจทEีแข็งกระด้างและการทEีจะแก้โรคหัวใจทEีแข็งกระด้างคือ การซิกรุ้ลลอฮ ท่าน
ฮาซนั อลั บศั รีEย์ (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ได้บอกวา่ การทีEเราเฉยเมยกบั หลกั การศาสนาทําให้หวั ใจเรา
แข็งกระด้าง วิธีการแก้ก็คือการซิกรุ้ลลอฮ และท่านได้อธิบายอีกวา่ การซิกรุ้ลลอฮก็เหมือนการ
เอาตะกวEั ลงไปในไฟ หมายถึง มนั จะหลอมละลายทนั ที เพราะฉะนนัB การซิกรุ้ลลอฮ คือ การทีE
เราอยู่กับพระองค์อัลลอฮฺ และนักวิชาการได้ให้ทางแก้ของคนทEีเป็นโรคหัวใจแข็งกระด้าง
ตามอลั กรุ อานนนัB อยใู่ นซเู ราะฮ์อลั อนั ฟาล อายะฮ์ทEี T ระบวุ า่

ُ‫ُ َو ِﺟﻠَ ْت ﻗُﻠُوﺑُ ُﮭ ْم َو ِإذَا ﺗُ ِﻠﯾَ ْت َﻋﻠَ ْﯾ ِﮭ ْم آﯾَﺎﺗُﮫ‬6‫ِإﻧﱠ َﻣﺎ ا ْﻟ ُﻣ ْؤ ِﻣﻧُو َن اﻟﱠ ِذﯾ َن ِإذَا ذُ ِﻛ َر ا ﱠ‬
‫َزادَﺗْ ُﮭ ْم ِإﯾ َﻣﺎﻧًﺎ َو َﻋﻠَ ٰﻰ َر ِﺑّ ِﮭ ْم ﯾَﺗَ َو ﱠﻛﻠُون‬

ความว่า “แท้จริงมอุ ฺมินนนัB คือผ้ทู EีเมEือนามของอลั ลอฮฺได้ถกู กล่าวกบั เขาแล้วหวั ใจของ
เขาก็หวนัE เกรง และเมEือกุรอานได้ถูกอ่านมายังเขา จะทําให้เขาเพEิมพูนอีหม่านมากขึนB และ
แดพ่ ระเจ้าของพวกเขานนัB พวกเขามอบหมายกนั ”

จากอายะฮ์อลั กรุ อานข้างต้นชีใB ห้เหน็ วา่ คณุ สมบตั ขิ องการเป็นมอุ ฺมินมี b ประการ คือ

• - หวั ใจหวนัE เกรงเมืEอระลกึ ถงึ อลั ลอฮฺ

T - การได้ฟังกรุ อานแล้วมีศรัทธาเพิEมมากขนึ B

3 – การมอบหมายการงานทงัB หมดไปยงั อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา)

คําถามคือพวกเรามีคณุ สมบตั ิครบทงัB b ประการหรือไม่ ถ้าเราคิดวา่ ตวั เองยงั มีไมค่ รบ
ก็จงพิจารณาตวั เองและพยายามทําให้อีหม่านเพEิมขึนB ให้ได้เพราะว่าหลกั ศรัทธาของอะห์ลิซ
ซนุ นะวลั ญะมาอะฮ์ต้องเชEือมนEั วา่ อีหมา่ นนนัB สามารถเพิEมขนึ B และลดลงได้

สว่ นวิธีแก้เมEือเราไมม่ ีคณุ สมบตั คิ รบทงัB b ประการ คือ

1 – การกล่าวซิกรุ้ลลอฮให้มากๆ เพืEอทําให้เราระลึกนึกถึงคําสงัE ใช้และคําสงัE ห้ามของ
พระองค์

112


ท่านเชคมฮู มั หมดั ฮซั ซานได้กล่าวว่า วิธีทEีทําให้เราระลึกถึงอลั ลอฮฺคือการทEีเรานําเอา
หลกั การอิสลามมาใช้หรือปฏิบตั ิจริง เช่น สมมตุ ิวา่ เราจดั วงสนทนาในเรืEองของศาสนาและถ้ามี
การนําเสนอคําสงEั ใช้และคําสงEั ห้ามก็ให้เราปฏิบตั ิตามในขณะนนัB เลย ถ้าทําไม่ได้ก็ให้ทําในครังB
ทEี T หรือครังB ทEี b, V, U ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทําตลอดเวลา แต่ก็เป็นความพยายามของเราซEึงได้
ผลบุญ และท้ายทEีสุดถ้าเราทําไม่ได้ก็ให้เราขอดุอาอฺเพราะอย่างน้อยๆ เราก็ได้ใกล้ชิดกับ
พระองค์แล้ว

T – การเข้าใกล้กบั อลั กรุ อานหรือการทําให้อลั กรุ อานเข้ามาอย่ใู นหวั ใจของเรา โดยการ
อ่านอลั กรุ อานและนํามาปฏิบตั ิ เพราะอลั กรุ อานคือยาบําบดั และเป็นความเมตตาแก่ผ้ศู รัทธา
เรEืองราวในอลั กรุ อานคือเรืEองราวในอดีตซEงึ ทําให้เราย้อนไปในอดีตซงึE ทําให้เราเห็นในสEิงทEีเกิด
ขนึ B กบั บรรดาบรรพชนหรือบรรดาศาสนทตู ว่าพวกเขามีการศรัทธาอย่างไร อีกทงัB เป็นการทําให้
หวั ใจของเราสละจากโลกนีไB ปเพืEอเข้าสโู่ ลกหน้า

b - การมอบหมายต่ออัลลอฮฺ คือ การเชEือมัEนอย่างร้ อยเปอร์เซ็นว่าอัลลอฮฺเป็นผู้ให้
ความสําเร็จ นักวิชาการได้บอกว่าความเชEือมัEนคือการทEีให้หัวใจเต็มเปEียมโดยไม่มีพืนB ทEีว่าง
ให้กบั ปัจจยั หรือตวั แปรใดๆ ทีEจะทําให้ความมนัE ใจในอลั ลอฮฺนนัB ลดน้อยลง และการมนัE ใจอย่าง
ร้ อยเปอร์เซ็นจะเกิดขึนB ได้ จะต้ องประกอบไปด้ วยการปฏิบัติตามซุนนะฮ์ของท่านนบี
(ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) และส่วนหนึEงจากตัวอย่างหรือแบบอย่างของท่านในการ
มอบหมายต่ออลั ลอฮฺ คือ การทEีท่านใสเ่ สือB เกราะ T ชนัB ในการทําสงครามอฮุ ดุ และอีกตวั อย่าง
หนึEงคือ การทีEท่านได้เตรียมเสบียงไประหวา่ งการเดินทางไปประกอบพิธีฮจั ญ์และอมุ เราะฮ์ สิEง
นีชB ีใB ห้เห็นถึงการมอบหมายต่ออัลลอฮฺซึEงเราในฐานะทีEเป็นประชาชาติของท่านจําเป็นทีEเรา
จะต้องเจริญรอยตามแบบอยา่ งของทา่ น

สดุ ท้ายนีใB ห้เราลองพิจารณาตวั เองวา่ เราเข้าเกณฑ์การมีอีหมา่ นออ่ นแอหรือไม่ ถ้ามีเรา
ควรหาทางแก้ไขในสงEิ ทีEได้แนะนําไป และขอดอุ าอฺจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา)
ให้ข้าพเจ้าและพีEน้องผ้ศู รัทธาทกุ ทา่ นมีอีหมา่ นทEีเข้มแขง็ ได้รับฮิดายะฮ์ทEีถกู ต้องและขอให้พวก
เราได้รับความสขุ ทงัB โลกนีแB ละโลกหน้าและให้พ้นจากไฟนรกด้วยเถิด อามีน

113


เร;ือง การทดสอบของอัลลอฮแฺ ละการระงบั ความโกรธ

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫُ اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم َﺻ ًل‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
‫ أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌدُه‬٠ ‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬

‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬
‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬

‫ِّﻣن ﱠر ِﺑّﻛُ ْم َو َﺟﻧﱠﺔ َﻋ ْر ُﺿﮭﺎ‬ ‫ﺗََوﻌَاﺎﻟَﻻَ ْﻰر ِﻓ ُﻲض أُﺳُ ِْﻋودﱠَر ِةْتآ ِﻟ َْﻠل ُﻣﺗﱠِﻋِﻘ ْﯾﻣ ََنرااﻟَﱠن ِذﯾ َ َون َﯾﺳُﻧﺎ ِﻔِرﻘُوﻋُ َوناْ ِﻓ ِإﻟَﻲﻰاﻟ َﻣ ﱠﺳ ْﻐ ﱠِﻔراَرِءة‬ ُ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲ‬
‫َواﻟ ﱠﺿ ﱠرا ِء َوا ْﻟ َﻛﺎ ِظ ِﻣﯾ َن‬ ‫اﻟ ﱠﺳ َﻣـﺎ َوا ُت‬
‫ َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬٠ ‫ُ ﯾُ ِﺣ ﱡب ا ْﻟ ُﻣ ْﺣ ِﺳ ِﻧﯾ َن‬6‫ا ْﻟﻐَ ْﯾ َظ َوا ْﻟﻌَﺎ ِﻓﯾ َن َﻋ ِن اﻟﻧﱠﺎ ِس ۗ◌ َوا ﱠ‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทีEทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถึงวันศุกร์ ข้าพเจ้าขอเตือนตัวเองและพวกท่านให้มีความยําเกรงต่ออัลลอฮฺในการทีEจะ

ปฏิบตั ใิ นสงิE ทEีพระองค์ทรงสงEั ใช้และหา่ งไกลจากสงิE ทีEพระองค์ทรงสงEั ห้าม

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ เดือนนีเBป็นเดือนร่อญับและเป็นเดือนทEีสําคญั ของ
อิสลาม ชาวสะลฟั บอกว่า เดือนร่อญับเป็นเดือนแห่งการเพาะปลกู เดือนชะอบานเป็นเดือน
แหง่ การรดนําB หรือพรวนดิน และเดือนรอมฎอนเป็นเดือนแหง่ การเก็บเกEียว เพราะฉะนนัB ในเดือน
ร่อญบั ก็จะมีการทําอะม้าลอิบาดะฮฺไม่วา่ จะเป็นการอา่ นกรุ อานหรือการถือศีลอด เพียงแตอ่ ย่า
ไปเจาะจงวนั ใดวนั หนงEึ ซงึE ไมม่ ีหลกั ฐานทEีชดั เจน

ทา่ นพEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ทา่ นครับ สงิE ทีEอลั ลอฮฺได้ทรงให้เราได้ประสบนนัB ไมไ่ ด้เป็นเหตุ
บงั เอิญ ทุกปี ทุกเดือน ทุกวนั ทุกวินาที ทEีเราประสบล้วนเป็นพระประสงค์ของพระองค์ทงัB สินB
ไม่ว่าจะเป็นสEิงทีEดีหรือไม่ดี และเราในฐานะทEีเป็นผ้ศู รัทธาเราจะต้องพยายามตรวจสอบตวั เอง
ว่า สิEงทEีเราทําในอดีตมนั มีสิEงทีEขาดตกบกพร่องหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเตาฮีดอุลฮู ียะฮ์ รู่บูบียะฮ์

114


อสั มาอฺวศั ศิฟาต หรือเรืEองแนวทางอะลิสซุนนะฮ์วลั ญะมาอะฮ์ ให้ไตร่ตรองว่าเราบกพร่องใน
เรEืองอีหม่านหรือเรืEองอิบาดะฮฺมากมายหรือไม่ เพียงใด การตรวจสอบตวั เองเป็นสEิงทEีผ้ศู รัทธา
และ ผู้ทEีมีความยําเกรงถือเป็ นคุณสมบัติหนEึงเพEือทEีจะปรับปรุงเปลEียนแปลงต่อไป เมืEอ
ตรวจสอบตวั เองแล้วพบข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนซEึงท่านจะต้องแก้ไขข้อบกพร่องนันB เพืEอทีEจะ
ปรับปรุง อะม้าลของท่านให้ดียิEงขึนB มีตวั อย่างของท่านอามีรุ้ลมุอมีนีนคือ ท่านอุมัร อิบนุ
ค้อตต้อบ (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ครังB หนงEึ ทา่ นพลาดการละหมาดญะมาอะฮ์ร่วมกนั ในละหมาดอสั
รEี ท่านจึงแก้ไขข้อบกพร่องด้วยการบริจาคทานเป็นทEีดิน • แปลง มูลค่า T แสนดิรฮัม นีEคือ
วิธีการของท่านทEีทําให้ เกิดวินัยกับตัวเองในการทีEจะแก้ ไขข้ อบกพร่ องหรื อข้ อผิดพลาดหรื อ
จุดอ่อนของตัวเองเพEือเป็นการเตือนตัวเอง และลูกของท่านอุมัรก็เช่นกัน คือ ท่านอิบนุอุมัร
(ร่อฎิยลั ลอฮุอนั ฮุ) ท่านก็พลาดการละหมาดญะมาอะฮ์รวมกนั ทีEมสั ยิด ท่านเลยปล่อยทาส T
คน นEีคือตัวอย่างของบรรดาซ่อฮาบะฮ์ทEีคิดวิเคราะห์จุดอ่อนของเขาและเขาได้แก้ไขหรือใช้
บทลงโทษกับตัวเองหรือทําความดีอย่างมากมายเพืEอให้สร้ างวินัยกับตัวเอง พวกเราลอง
ตรวจสอบตวั เองว่าละหมาดครบหรือไม่ ถ้ายงั ไม่ครบก็ต้องแก้ปัญหาหรือชดเชยความผิดนนัB
ด้วยความดีเชน่ ทีEบรรดาซอ่ ฮาบะฮ์กระทํา

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ ข้าพเจ้าได้กลา่ วเบือB งต้นแล้ววา่ สิEงทEีมาประสบกบั
พวกเรานันB ทังB สEิงทEีดีหรือไม่ดี สิEงทEีเราพอใจหรือไม่พอใจล้วนแล้วแต่เป็นพระประสงค์ของ
อลั ลอฮฺทงัB สินB เพราะฉะนนัB สEิงใดก็ตามทีEเป็นสEิงดี แน่นอนผ้ทู Eีมีอีหม่านก็ต้องสรรเสริญพระองค์
ในกรณีทีEมีคนเป็นสEือนําความดีมาให้ เช่น ของขวัญหรือซอดาเกาะฮ์ นอกจากเราจะกล่าว
“อัลฮัมดุลลิลB ลาฮฺ” สรรเสริญขอบคุณอัลลอฮฺเพราะอัลลอฮฺกําหนดให้เขานํามาให้เราแล้ว
ในขณะเดียวกนั เราก็จะกล่าวว่า” ญะซากลั ลอฮคุ อยรอน” เพืEอขอดอุ าอฺให้เขา และให้อลั ลอฮฺ
ตอบแทนเขาในสEิงทEีดีกว่า มีคนในศาสนาใดบ้างทีEเวลาเจอกนั ก็ให้สลามกนั ขอดอุ าอฺให้แก่กนั
(เพราะเป็ นสุนัตและได้ กุศลผลบุญ ส่วนคนทีEได้ ยินเป็ นวายิบทีEต้ องตอบรับสลาม)
นEีคือหลักการของศาสนาอิสลาม ถูกระบุอยู่ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อันนิสาอ์
อายะฮ์ทีE ˜‡ ได้กลา่ ววา่

‫َو ِإذَا ُﺣ ِﯾّﯾﺗُم ِﺑﺗَ ِﺣﯾﱠ ٍﺔ ﻓَ َﺣﯾﱡوا ِﺑﺄَ ْﺣ َﺳ َن ِﻣ ْﻧ َﮭﺎ أَ ْو ُردﱡو َھﺎ‬

115


‫ َﻛﺎ َن َﻋﻠَ ٰﻰ ﻛُ ِّل َﺷ ْﻲ ٍء َﺣ ِﺳﯾﺑًﺎ‬6َ ‫ِإ ﱠن ا ﱠ‬

ความว่า “และเมEือพวกท่านได้ถกู ขอพรให้ ไม่ว่าจะเป็นคําขอพรใดๆ ดงั นนัB จงอวยพร
กลบั ไปให้กบั คนนนัB ด้วยสิEงทีEดีกว่าหรือเท่าเทียมกนั แท้จริงอลั ลอฮฺนนัB เป็นผ้ทู รงคิดคํานวณยEิง
ในทกุ ๆ สงEิ ”

เพราะฉะนนัB จะเห็นได้วา่ มนั เป็นหลกั การศาสนาซงEึ มีศาสนาเดียวทEีมีการขอดอุ าอฺให้กนั
เวลารับสลาม เวลาคนให้ของเราเราก็ขอดุอาอฺให้อัลลอฮฺตอบแทนเขา เวลาจามให้กล่าว
“อลั ฮมั ดลุ ิลB ลาฮฺ” (สรรเสริญอลั ลอฮฺ) คนทีEได้ยินกล่าวว่า “ญัรฮมั กุม้ลุ ลอฮฺ” (ขออลั ลอฮฺทรง
เมตตาปราณีกบั ท่าน) คนทEีจามก็กลา่ วตอบวา่ ” ยะฮ์ดีนาวะยะฮ์ดีกมุ ้ลุ ลอฮฺ” (ขออลั ลอฮฺได้นํา
ทางพวกเราและพวกท่าน) เพราะฉะนนัB ในการกระทําทกุ อย่างอลั ลอฮฺทรงรับดอุ าอฺแต่จะมีผล
ในโลกนีหB รือโลกหน้าก็เป็นพระประสงค์ของพระองค์เทา่ นนัB แตท่ วา่ ไมส่ ญู เปลา่ อยา่ งแนน่ อน

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ ทกุ อย่างทีEมาประสบกบั เราล้วนเป็นพระประสงค์
ของพระองค์ไม่วา่ จะเป็นสEิงดีหรือไม่ดี กรณีทEีเป็นสิEงไม่ดีก็คือ การทดสอบของพระองค์ ยEิงเรามี
อีหม่านมาก พระองค์จะยEิงทดสอบมาก บางคนคิดว่าอย่างนีกB ็ไม่ต้องมีอีหม่านหรือมีอีหม่าน
น้อยๆ จะได้ไม่ถูกทดสอบ แต่ในความเป็นจริงอาจจะโดนบะลาอ์ก็เป็นได้ เพราะฉะนันB ให้ทํา
ความดีแม้วา่ ผลของการทําความดีอลั ลอฮฺจะทดสอบมากยEิงขนึ B ก็ตาม มีฮะดีษรายงานโดยทา่ น
อานสั บินมาลกิ (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ได้กลา่ ววา่ ทา่ นนบีมฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั )
ได้กลา่ ววา่

ُ‫ ِإذَا أَ َﺣ ﱠب ﻗَ ْو ًﻣﺎ ا ْﺑﺗَ َﻼھُ ْم ﻓَ َﻣ ْن َر ِﺿ َﻲ ﻓَﻠَﮫُ اﻟ ِّر َﺿﺎ َو َﻣ ْن َﺳ ِﺧ َط ﻓَﻠَﮫُ اﻟ ﱠﺳ َﺧط‬6َ ‫ِإ ﱠن ا ﱠ‬

ความวา่ “และแท้จริงพระองค์อลั ลอฮฺนนัB เมืEอพระองค์ทรงรักกลมุ่ ชนใดพระองค์จะทรง
ทดสอบเขา ดงั นนัB หากผ้ใู ดพอใจ อลั ลอฮฺก็จะทรงพอใจ และหากผ้ใู ดไม่พอใจ อลั ลอฮฺก็จะทรง
กริวB โกรธ”

นEีเป็นหลกั ฐานทEีชีใB ห้เห็นว่าอลั ลอฮฺจะทดสอบเรา เพราะฉะนนัB ให้เราเพิEมพนู อีหม่านให้
เพEิมมากขึนB และรับรู้ว่าสิEงทEีดีและไม่ดีทีEมาประสบกับเราล้วนแล้วแต่เป็นบททดสอบของ

116


พระองค์เพราะพระองค์มีพระประสงอย่างใดอย่างหนึEงทีEเราไม่ทราบถ้ าเรามีอีหม่านอยู่แล้ ว
พระองค์ก็ทรงต้องการให้เรามีอีหมา่ นเพEิมมากขนึ B ถ้าเรามีอีหมา่ นน้อยก็ให้มีอีหมา่ นเพิEมขนึ B

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ เมืEอเราประสบกบั สEิงทEีไม่พอใจสิEงทีEไม่ดีเราก็ต้อง
กลา่ วอลั ฮมั ดลุ ลลิ B า เมืEอมีคนทีEทําไมด่ ีกบั เรามาทําให้เราโกรธนอกจากจะกลา่ วอลั ฮมั ดลุ ลลิ B ลาฮฺ
แล้ว บางคนก็ด่ากลบั หรือแสดงออกทางการกระทําต่างๆ อนั นีชB ีใB ห้เห็นถึงความยําเกรงในตวั
ของเขา เพราะแท้จริงการระงบั ความโกรธเป็นคณุ สมบตั ิหนEึงของผู้ทEียําเกรง ในซูเราะฮ์อาละ
อิมรอน อายะฮ์ทีE •bb – •bV ได้ระบวุ า่

‫َو َﺳﺎ ِرﻋُواْ ِإﻟَﻰ َﻣ ْﻐ ِﻔ َرة ِّﻣن ﱠر ِﺑّﻛُ ْم َو َﺟﻧﱠﺔ َﻋ ْر ُﺿﮭﺎ اﻟ ﱠﺳ َﻣـﺎ َوا ُت َواﻻَ ْر ُض أُ ِﻋدﱠ ْت ِﻟ ْﻠ ُﻣﺗﱠ ِﻘﯾ َن‬
◌ۗ ‫اﻟﱠ ِذﯾ َن ﯾُﻧ ِﻔﻘُو َن ِﻓﻲ اﻟ ﱠﺳ ﱠرا ِء َواﻟ ﱠﺿ ﱠرا ِء َوا ْﻟ َﻛﺎ ِظ ِﻣﯾ َن ا ْﻟﻐَ ْﯾ َظ َوا ْﻟﻌَﺎ ِﻓﯾ َن َﻋ ِن اﻟﻧﱠﺎ ِس‬
‫ُ ﯾُ ِﺣ ﱡب ا ْﻟ ُﻣ ْﺣ ِﺳ ِﻧﯾ َن‬6‫َوا ﱠ‬

ความว่า “และพวกเจ้าจงรีบเร่งกนั ไปส่กู ารอภยั โทษจากพระเจ้าของพวกเจ้า และไปสู่
สวรรค์ซึEงความกว้างของมันนันB คือบรรดาชันB ฟ้าและแผ่นดิน โดยทีEมันถูกเตรียมไว้สําหรับ
บรรดาผู้ทีEยําเกรง คือบรรดาผู้ทEีบริจาคทงัB ในยามสขุ สบาย และในยามเดือดร้อน และบรรดา
ผ้ขู ม่ โทษและบรรดาผ้ใู ห้อภยั แก่เพืEอนมนษุ ย์และอลั ลอฮฺนนัB ทรงรักผ้กู ระทําดีทงัB หลาย”

จากอายะฮ์นีชB ีใB ห้เห็นถึงประการสําคญั ของผ้ทู ีEตกั วา คือ การระงบั ความโกรธ แล้วพวก
เรามีวิธีการหรือเทคนิคในการระงบั ความโกรธอยา่ งไร เวลาทีEมีคนดา่ เราจะทําอยา่ งไร เรากลา่ ว
อลั ฮมั ดลุ ิลB ลาหรือไม่ หรือว่าโมโหหรือแสดงออกทางร่างกายโต้ตอบกลบั ไปทนั ที นักวิชาการ
ทางศาสนาอิสลามได้กลา่ วถงึ เทคนิคในการระงบั ความโกรธไว้ b ระดบั คือ

• - การใช้ความอดทน ความอดทนคือ การระงบั หรือการอดกลนัB นกั วิชาการอธิบายว่า
การอดกลันB หมายถึง การอยู่ในสภาพเดิมเหมือนไม่เกิดอะไรขึนB ทังB ๆ ทEีมีสEิงไม่ดีมาประสบ
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพคือ การไปกินสEิงทีEมีรสขมโดยทีEใบหน้าของท่านไม่แสดงถึงความขม
ให้เห็นเลย ความอดทนนีถB ือว่าเป็นคณุ สมบตั ิหรือหน้าทีEของมอุ ฺมินเพราะว่าท่านก้อตาดะฮ์ได้
บอกไว้ว่า มาลาอีกะฮ์เป็นสEิงทีEถูกสร้ างมาโดยเป็นผู้ทEีมีเหตุผลและจะปฏิบัติตามคําสัEงใช้
ของอลั ลอฮฺโดยจะไม่มีความต้องการหรือความปรารถนา ซึEงตรงกนั ข้ามกบั สตั ว์ทีEไม่มีเหตผุ ล

117


แต่มีความต้องการ ส่วนมนุษย์นEันถูกสร้างมาทงัB มีเหตุผลและมีความปรารถนา เพราะฉะนันB
ถ้าหากมนษุ ย์คนใดมีความปรารถนามากกว่าเหตผุ ล มากกว่าเรืEองหลกั การศาสนาก็จะคล้าย
กบั สตั ว์ แตถ่ ้าเรามีเหตผุ ล มีหลกั การศาสนาเหนือกวา่ ความต้องการ เราก็คล้ายกบั มาลาอีกะฮ์
นEีเป็ นตัวอย่างทีEแสดงให้ เห็นถึงคุณสมบัติของการเป็ นมุอฺมินทีEนักวิชาการได้ อธิบายไว้
เพราะฉะนันB การอดทนคือ อดกลนัB ไม่แสดงอาการด้วยวาจา ด้วยการกระทํา หรือด้วยจิตใจ
เสมือนวา่ ไมม่ ีอะไรเกิดขนึ B โดยหวงั วา่ บะลาอ์หรือสงEิ ทีEมาประสบนนัB จะผา่ นพ้นไป

T – การใช้ความพึงพอใจ คือ การเพEิมระดบั ของการโต้ตอบสEิงทีEเป็นความโกรธกับสEิง
ทEีมาประสบโดยเฉพาะสEิงทีEไม่พอใจ โดยจะไม่แสดงอาการเพราะเขารู้ว่าสEิงนนัB คือพระประสงค์
ของพระองค์และพระองค์เป็นผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงรอบรู้ ดังนันB จึงไม่มีทางทEีจะเป็นสEิงทีEไม่ดี
หากแต่เป็นสิEงทEีพระองค์ทรงทดสอบให้เรามีอีหม่านเพิEมมากขึนB เท่านันB เพราะฉะนันB เขาก็จะ
พอใจในสงิE นนัB โดยไมห่ วงั วา่ มนั จะจบไปเมืEอใดเหมือนกบั การอดทน

b - การแยกความโกรธเนืEองจากเรืEองส่วนตัวออกจากเรEืองส่วนรวม ยกตัวอย่างเช่น
ครังB หนEึงท่านอาลี (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ท่านได้ทําสงครามกบั หวั หน้าเผ่าและได้ต่อส้กู นั ตวั ต่อตวั
ผลปรากฏว่าค่ตู ่อส้ขู องท่านเพลEียงพลําB หวั หน้าเผ่าเมEือรู้ว่าตวั เองเพลีEยงพลําB จะถกู สงั หารเขา
จึงถ่มนําB ลายไปทีEใบหน้าของท่านอาลี ท่านอาลีเมEือได้ถกู ถ่มนําB ลายแล้ว ท่านจึงผละออกและ
เดินหนีออกจากค่ตู ่อสู้ ซึEงทําให้ค่ตู ่อส้คู นนนัB สงสยั จึงถามว่า ทําไมท่านถึงต้องเดินออก ทําไม
ทา่ นถงึ ไมฆ่ า่ ฉนั ทา่ นอาลีจงึ ตอบวา่ ฉนั มาทําสงครามกบั ทา่ นเพEืออลั ลอฮฺ ถ้าหากฉนั ฆา่ ทา่ นใน
ขณะทEีท่านถ่มนําB ลายใส่หน้าฉันเท่ากบั ว่าฉันฆ่าท่านเพราะความโกรธ ท่านแยกออกระหว่าง
เรืEองสว่ นตวั กบั เรEืองศาสนา ถามวา่ เราเป็นอย่างไรบ้าง ยกตวั อย่างเช่น ลกู เราไปทะเลาะกบั ลกู
ของคนอEืนโดยอาจจะถูกรังแก และกลบั มาร้องไห้ เราตีลูกหรือไม่ ตีเพราะความโกรธหรือตี
เพราะอลั ลอฮฺสงEั ให้ตี นีEก็เป็นตวั อยา่ งหนงEึ ของเทคนิคทีEนกั วิชาการได้อธิบายไว้ในการทีEจะจะงบั
ความโกรธ

นอกจากนีแB ล้ว ท่านศาสดายงั ได้สงัE ใช้ให้เปลEียนอิริยาบถ จากยืนให้เป็นนงEั จากนงัE ให้
เป็นเอียงและจากเอียงให้เป็นนอน และหากยงั ไมห่ ายก็ให้ไปอาบนําB ละหมาดใหม่ ดงั ฮะดีษของ
ท่านศาสดาทEีว่า “พึงรู้เถิดว่าความโกรธ คือ ถ่านไฟทEีอย่ใู นใจของมนษุ ย์ พวกท่านไม่เห็นดอก

118


หรือวา่ ตาของเขาแดงกํEาและกรามของเขาพองโต เพราะฉะนนัB ใครทEีมีอาการเชน่ นนัB ให้เขารีบไป
อาบนําB วฎู อู ฺ (อาบนําB ละหมาด)” (รายงานโดย อตั -ตริ มิซีย์)

เร;ือง ความอดทนและการขอบคุณ

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ﻟَﮫ‬ ‫َاھَﻟﺎﻠﱠِد ُﮭ ﱠَمي‬ ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫َﺻ ًل َﻋﻠ َﻰ ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲُ َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬
‫ أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌدُه‬٠‫َو َﻋﻠَﻰ آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬

‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬٠ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬
‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِط ِﻊ ا ﱠ‬
‫ ِﺑﺎ ْﻟ َﻣَﺻ ْﻌدَ َُرقوﷲُِفا َﻟواﻌَ ْﻧ ِظﮫَ ْﯾم َﻋ ِن‬٠‫ ﱠنﯾَ ٰﺎذَ ِﻟﺑُﻧََك ﱠﻲِﻣأَ ِْﻗن ِم اَﻋﻟ ْز ِم ﱠﺻاَ ْﻼﻷُةَ ُﻣ َووأْ ِ ُرﻣ ْر‬٠‫َﻣﺳُﺎ ْأوَ َر َِةﺻﺎﻟُﺑَ ْﻘ ََﻣكﺎ َۖن◌ ِإ‬
‫ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ‬ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل‬
‫َوا ْﺻ ِﺑ ْر َﻋﻠَ ٰﻰ‬ ‫ا ْﻟ ُﻣﻧ َﻛ ِر‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณี จากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทEีทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถึงวันศุกร์ ข้าพเจ้าขอเตือนตัวเองและพวกท่านให้มีความยําเกรงต่ออัลลอฮฺในการทีEจะ

ปฏิบตั ใิ นสงิE ทEีพระองค์ทรงสงัE ใช้และหา่ งไกลจากสงEิ ทีEพระองค์ทรงสงัE ห้าม

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ เวลาผ่านไปรวดเร็วมากตอนนีกB ็เข้าส่ปู ลายเดือน
ร่อญับเรามีเวลาเหลือไม่กีEวนั ทีEจะเข้าส่เู ดือนรอมฎอนอนั ทรงเกียรติทEีเป็นอาคนั ตกุ ะทีEยิEงใหญ่
ทีEเราจะต้องต้อนรับ เรามีอะม้าลอิบาดะฮฺทEีรอคอยจะต้องทํา เป็นอะม้าลทEียิEงใหญ่มากและ
ผ้ศู รัทธาตา่ งทีEจะแสวงหาความโปรดปรานและการให้อภยั ในเดือนรอมฎอนนี B

ทา่ นพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ นครับ ข้าพเจ้าอยากตงัB คําถามวา่ พวกทา่ นรู้สกึ อยา่ งไรกบั
เดือนรอมฎอนทีEจะมาถึงในไม่ช้า ท่านรู้สกึ ดีใจหรือไม่ อยากให้เข้ามาเร็วๆ เพืEอจะได้ประกอบ

119


อะม้าลอิบาดะฮฺมากๆ หรือไม่ หรือว่าไม่อยากจะให้มาถึงเพราะมีภาระทEีหนกั อึงB ต้องหลบๆ
ซ่อนๆ เพราะกลัวคนถามว่าบวชหรือไม่ หรือว่าเรารู้สึกเฉยๆ และคงจะทําเพืEอให้ครบฟัรดู
เท่านนัB สEิงต่างๆ เหลา่ นีชB ีใB ห้เห็นถึงศรัทธาทีEเรามีอย่ใู นตวั เราว่าเป็นอย่างไร ดงั นนัB จงพิจารณา
ตัวเอง เดือนรอมฎอนเป็นเดือนทEีมีการทดสอบอย่างมากมาย และหนEึงในนันB คือ การอดทน
ในคุตบะฮ์วันนีขB ้าพเจ้าจะขอถ่ายทอดบางส่วนในเรEืองเกีEยวกับการอดทนทEีได้อ่านมาจาก
หนงั สือของทา่ นอิบนกุ อยยิม (ร่อฮิม่าฮ้ลุ ลอฮ) ทีEมีชืEอวา่ ‫ﻋُدﱠةُ اﻟ ﱠﺻﺎ ِﺑ ِر ْﯾن َوذَ ِﺧ ْﯾ َرةُ اﻟ ﱠﺷﺎ ِﻛ ِر ْﯾن‬
แปลวา่ เครEืองมือของผ้ทู Eีอดทนและการแสวงหาผลประโยชน์ของผ้ทู ีEขอบคณุ

ท่านพEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ นกั วิชาการมีมติเป็นเอกฉนั ท์ว่า การอดทนถือเป็น
หน้าทEีหรือคุณลกั ษณะของผู้ศรัทธา เพราะว่าการอดทนเป็นครEึงหนึEงของการศรัทธาและอีก
ครึEงหนEึงคือ การขอบคณุ นกั วิชาการอธิบายวา่ ถ้าหากผ้ศู รัทธาขาดเรEืองความอดทน เขาจะไม่
สามารถผ่านการทดสอบในโลกนีไB ด้ ความสัมพันธ์ระหว่างความอดทนกับการอีหม่าน
เปรียบเสมือนศีรษะกบั ร่างกาย ถามวา่ ร่างกายขาดศีรษะได้หรือไม่ ถ้าขาดไปก็ไม่สามารถทํา
สEิงใดได้เพราะฉะนนัB ฉนั ใดก็ฉนั นนัB การอีหม่านต้องมีการอดทนเพืEอกระทําสิEงต่างๆ ในพระมหา
คมั ภีร์อลั กรุ อานมีการกลา่ วถงึ คําวา่ อดทนถงึ gW ครังB อยใู่ นซเู ราะฮ์ตา่ งๆ มากมาย ถามวา่ การ
กล่าวถึง gW ครังB มนั มีความสําคญั อย่างไร ถ้าไม่สําคญั อลั ลอฮฺคงไม่ได้ระบุไว้ในอลั กุรอานถึง
gW ครังB ในชีวประวตั ขิ องบรรดานบีได้ถกู เลา่ อยใู่ นอลั กรุ อานก็เกEียวข้องกบั ความอดทนมากมาย
ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อาน ซเู ราะฮ์อลั บากอเราะฮ์ อายะฮ์ทEี VU ได้ระบวุ า่

‫َوا ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُوا ِﺑﺎﻟ ﱠﺻ ْﺑ ِر َواﻟ ﱠﺻ َﻼ ِة ۚ◌ َو ِإﻧﱠ َﮭﺎ ﻟَ َﻛ ِﺑﯾ َرةٌ ِإ ﱠﻻ َﻋﻠَﻰ ا ْﻟ َﺧﺎ ِﺷ ِﻌﯾ َن‬

ความวา่ “และสเู จ้าจงอาศยั การอดทนและการกระทําละหมาดและแท้จริงการละหมาด
ยิEงใหญ่มากเว้นแตค่ นทีEมีความนอบน้อม”

จากอายะฮ์นีชB ีใB ห้เห็นว่า มุสลิมผู้ศรัทธาจะต้องอาศยั T อย่าง คือ การอดทนและการ
ละหมาด ถึงจะสามารถอย่ใู นโลกดนุ ยานีไB ด้ ถ้าหากไม่มีความอดทน ไม่มีการละหมาด มสุ ลิม
ก็จะทําได้ไม่ดีเท่าทEีควร ในอายะฮ์นีเB น้นถึงเรEืองความสําคัญของการละหมาด ถามว่าการ
ละหมาดของเราเป็นอย่างไร มีสมาธิขนาดไหน มีความสําคญั กบั เราหรือไม่ เรามีปัญหาหรือมี

120


เรืEองเดือดร้อนเราพงEึ การละหมาดหรือไม่ อาศยั การละหมาดหรือไม่ หรืออาศยั คนอEืน เพืEอนฝงู
ผ้บู งั คบั บญั ชา ญาติพEีน้อง หรือเจ้าหนี Bเราอาศยั การละหมาดและการอดทนหรือไม่ ในอายะฮ์ทีE
•Ub ในซเู ราะฮ์อลั บากอเราะฮ์ได้ระบวุ า่

‫ َﻣ َﻊ اﻟ ﱠﺻﺎ ِﺑ ِرﯾ َن‬6َ ‫ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا ا ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُوا ِﺑﺎﻟ ﱠﺻ ْﺑ ِر َواﻟ ﱠﺻ َﻼ ِة ۚ◌ ِإ ﱠن ا ﱠ‬

ความว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทังB หลาย จงอาศัยการอดทนและการละหมาด แท้จริง
อลั ลอฮฺอยพู่ ร้อมกบั ผ้ทู Eีมีความอดทน”

อายะฮ์ทีE •Ub นีเB น้นเรืEองการอดทน แต่อายะฮ์ทีE VU เน้นเรืEองการละหมาดแต่เนือB หา
คล้ายคลึงกัน เพราะทังB สองอายะฮ์ต่างเห็นถึงความสําคัญของการอดทนและการละหมาด
เหมือนกนั และตอนท้ายบอกว่า ‫ َﻣ َﻊ اﻟ ﱠﺻﺎ ِﺑ ِرﯾ َن‬6َ ‫ ِإ ﱠن ا ﱠ‬แท้จริงอลั ลอฮฺนนัB อย่พู ร้อมหรืออย่คู ู่
กบั ผ้ทู Eีมีความอดทน นกั วิชาการอธิบายวา่ ใครทEีอดทนอลั ลอฮฺจะอยใู่ กล้กบั เขา และเขายอ่ มจะ
ได้รับความสําเร็จเพราะอลั ลอฮฺทรงอยใู่ กล้ นกั วิชาการได้อธิบายความหมายของคําวา่ “อดทน”
ไว้ค่อนข้างหลากหลายมาก บางท่านอธิบายว่าการอดทนนนัB คือ ความมีเหตมุ ีผลหรือสามญั
สํานึกหรือมลู เหตจุ งู ใจทางด้านศาสนามีความแข็งแกร่งเข้มแข็งมากกว่าความต้องการของเขา
ความหมายคือว่ามันมี T สEิงทีEต่อสู้กันเสมอคือความมีเหตุมีผลทางศาสนากับเรืEองความ
ปรารถนาหรือความต้องการทางอารมณ์ของคนๆ นันB การอดทนมนั คือ การทีEความมีเหตุผล
ทางศาสนานนัB เข้มแข็งกวา่ ความต้องการหรือความใคร่หรือการกระทําตามอารมณ์ นกั วิชาการ
บางท่านอธิบายว่าหมายถึง การทีEคนไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างบนใบหน้าของเขาใน
ระหว่างทEีเขามีความสุขหรือมีความทุกข์ได้ ความอดทนเป็นผลทําให้บุคคลภายนอกไม่
สามารถแยกแยะได้ว่าเขามีความสุขหรือความทุกข์ ท่านอัมรฺอิบนุอุสมาน (ร่อฎิยัลลอฮุ
อนั ฮมุ า) ทา่ นได้บอกวา่ การอดทนคือหนทางทEีบา่ วจะได้ใกล้ชิดกบั อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะอา
ลา) จากอายะฮ์ทEีวา่ ‫ َﻣ َﻊ اﻟ ﱠﺻﺎ ِﺑ ِرﯾ َن‬6َ ‫ ِإ ﱠن ا ﱠ‬แท้จริงอลั ลอฮฺอย่กู บั ผ้ทู ีEอดทน เพราะฉะนนัB ใครทEี
ต้องการเข้าใกล้ชิดกบั อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ก็ให้ทําการอดทนให้มากๆ นอกจากนนัB
ความอดทนยงั มีหลายชEือ ท่านอิบนุกอยยิมได้รวบรวมมาซEึงอาจจะไม่ได้ใช้ถ้อยคําว่า อดทน
หากแต่อยู่ในความหมายเดียวกัน เช่น กรณีทีEเราอดทนทEีจะไม่ทําตามความต้องการของ
อารมณ์ใฝ่ ตํEาทางเพศก็จะเรียกว่า “การรักษาไว้ซึEงชEือเสียงวงศ์ตระกูล” การอดทนต่อความ

121


ตระหนีEถEีเหนียวหรือการเห็นแก่ตวั ก็จะเรียกว่า “ ความเสียสละ ความใจกว้าง” สว่ นความกล้า
หาญก็คือ ความอดทนต่อความขีขB ลาดและความหวาดกลวั ในการทําสงคราม เพราะฉะนันB
ความหมายของการอดทนอยใู่ นสงิE ตา่ งๆ ทีEกลา่ วมา แตย่ งั มีอีกมากมาย

ทา่ นพEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ทา่ นครับ เมืEอเราทราบถงึ ความหมายและความสาํ คญั ของ
การอดทน ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์ลกุ มาน อายะฮ์ทEี •ˆ ได้ระบวุ า่

◌ۖ ‫ﯾَﺎ ﺑُﻧَ ﱠﻲ أَ ِﻗ ِم اﻟ ﱠﺻ َﻼةَ َوأْ ُﻣ ْر ِﺑﺎ ْﻟ َﻣ ْﻌ ُرو ِف َوا ْﻧﮫَ َﻋ ِن ا ْﻟ ُﻣﻧ َﻛ ِر َوا ْﺻ ِﺑ ْر َﻋﻠَ ٰﻰ َﻣﺎ أَ َﺻﺎﺑَ َك‬
‫ِإ ﱠن ٰذَ ِﻟ َك ِﻣ ْن َﻋ ْز ِم ا ْﻷُ ُﻣو ِر‬

ความวา่ “โอ้ลกู รัก จงดํารงไว้ซงEึ การละหมาดและจงใช้ในการทําความดีและยบั ยงัB กนั ใน
การทําความชวEั และจงอดทนในสEิงทEีมาประสบกับท่าน แท้จริงสิEงเหล่านีคB ือส่วนหนึEงของการ
งานทEีหนกั แนน่ และมนEั คง”

ทา่ นอิบนกุ อยยิม (ร่อฮิมา่ ฮ้ลุ ลอฮ) ได้แบง่ ความอดทนออกเป็น b ประเภท

1. ‫ اﻟﺻﺑر ﻓﻲ طﺎﻋﺔ ﷲ‬การอดทนต่อการเชEือฟังต่ออลั ลอฮฺ ในการฏิบตั ิอะม้าล
อิบาดะฮฺต่างๆ ซEึงความอดทนประเภทนีเB รามักจะได้ทําเป็นประจําอยู่แล้ว นักวิชาการได้ให้
ข้อสงั เกตไว้สามประการ คือ ประการแรก การอดทนในการกระทําอะม้าลอิบาดะฮฺควรจะต้อง
ทําเป็นประจํา ใครก็ตามทEียังละหมาดไม่ครบก็ให้ปรับปรุงตัวเองให้ละหมาดให้ครบและ
พยายามรักษาการละหมาด เพราะวา่ เมEือเราทําเป็นประจําแล้วเราจะมีความรู้สกึ วา่ ถ้าเราไมไ่ ด้
ทําหรือเลยเวลามนั จะมีความตะขิดตะขวงใจหรือรู้สกึ ในตวั วา่ ต้องทําเพราะฉะนนัB การอดทนใน
ประเภทนีจB ึงมกั จะกระทําได้ง่าย ประการทEีสอง ให้พยายามตรวจสอบความบริสทุ ธ›ิใจในการ
กระทําของเราวา่ เป็นการทําเพEืออลั ลอฮฺหรือไม่ ทงัB ก่อนทํา ขณะทําและหลงั ทําอิบาดะฮฺ เพEือให้
มีความบริสทุ ธ›ิใจต่ออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) องค์เดียวเท่านนัB มิใช่ว่ากระทําเพEือความ
พึงพอใจของคนอEืน ประการทีEสาม ให้ กระทําตามแบบฉบับของท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) เพราะเป็นแบบฉบบั ทEีดีงามยEิง

2. ‫ اﻟﺻﺑرﻋن ﻣﺣﺎﻣرﷲ‬การอดทนต่อการงดเว้นจากการกระทําความชัEว
นกั จิตวิทยาบอกวา่ ร่างกายของมนษุ ย์มีแรง T ประเภท คือ แรงผลกั ดนั หรือขบั เคลอEื นในการทํา

122


สิEงทีEเราคิดหรือปรารถนา ซEึงทําให้เกิดการริเริEมสร้างสรรค์สิEงต่างๆ ในโลกนี BประเภททEีสองคือ
แรงทEีจะระงบั ยบั ยงัB ในเรืEองต่างๆ ด้วยเหตนุ ี Bผ้ศู รัทธาจะต้องมีทงัB สองแรงในการปฏิบตั ิอะม้าล
อิบาดะฮฺ บางคนแรงขบั เคลEือนในการทําอะม้าลอิบาดะฮฺเยอะมาก แต่แรงยบั ยงัB ห้ามปรามใน
การกระทําความชัEวนันB อ่อนมาก เราจะเห็นได้ว่าคนๆ หนEึงอาจจะกระทําอิบาดะฮฺอย่างมาก
แล้วแตก่ ็ทําความชวัE ด้วยโดยไมอ่ าจจะละทิงB ได้ เช่น การกินของฮะรอม การคบเพEือนทีEไมด่ ี การ
ดหู นงั ฟังเพลง เล่นดนตรีหรือเสพของฮะรอมทงัB หลาย เพราะฉะนนัB การอดทนในประเภทนีคB ือ
การระงบั ต่อจิตใจตนเองในสิEงทีEตวั เองพอใจแต่ขดั ต่อหลกั การศาสนา นกั วิชาการได้ให้เทคนิค
ในการระงบั ยบั ยงัB การกระทําความชวEั T อยา่ ง คือ

(•) ให้พยายามนึกถึงการลงโทษของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ในวนั อาคีเราะฮ์ทEีรุนแรง
ยEิง ถ้าเราจะทําความชวEั ให้นกึ วา่ อลั ลอฮฺทรงลงโทษรุนแรงขนาดไหน แล้วเราจะเกรงกลวั ในการ
ทําความชวEั
(T) ใช้การละอายตอ่ อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) ทEีจะไปพบกบั พระพกั ตร์ของพระองค์ในวนั
ตดั สนิ ในขณะทEีเราทําบาป นกั วิชาการบอกวา่ การละอายนนัB สงู สง่ กวา่ การเกรงกลวั การลงโทษ
เพราะการเกรงกลวั การลงโทษเป็นเรEืองของการศรัทธา แต่การละอายเป็นเรEืองของคุณธรรม
กล่าวคือ การทําอะม้าลอิบาดะฮฺต่างๆ เสมือนกับว่ากําลงั มองเห็นพระองค์อยู่ หรือพระองค์
กําลงั ทรงมองเราอยู่

3. ‫ اﻟﺻﺑرﻋﻧد اﻟﻣﺻﯾﺑﺔ‬การอดทนในขณะทีEเกิดภยั พิบตั ิมาประสบกบั เรา เมืEอเรา
เจอบททดสอบทีEอลั ลอฮฺบนั ดาลให้มาประสบ เราจะต้องมีความอดทน สEิงนีเBป็นสิEงทEีสําคญั ยิEง
และเป็นคณุ สมบตั ิทEีสําคญั ของผ้ศู รัทธา ท่านซะอ์บินอบีวากอส (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ได้ถามท่าน
ศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ว่า มีคนใดในประชาชาติทEีถกู ทดสอบรุนแรง
มากทEีสดุ ท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้บอกวา่ บรรดาศาสนทตู และ
บรรดานบี หลงั จากนันB คือ ผู้ทEีศรัทธาหรือผู้ทีEปฏิบตั ิตามหลกั การทีEถูกต้อง หลงั จากนันB ก็คือ
กลมุ่ ชนตา่ งๆ ทEีอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) จะทรงทดสอบผ้ศู รัทธาอยา่ งตอ่ เนEืองจนกระทงEั
เขาเดินบนหน้าแผ่นดินโดยไม่มีบาปกรรมหลงเหลืออย่เู ลย กล่าวอีกนยั หนึEงคือได้รับการอภยั
โทษจากบาปกรรมของเขา (รายงานโดยอิหม่ามบคุ อรีย์) เพราะฉะนนัB การทดสอบจึงเป็นสิEงทEี

123


เราต้องประสบโดยเฉพาะอย่างยEิงผู้ศรัทธาและเราจะต้องมีเทคนิคในการทําข้อทดสอบนี B
นักวิชาการได้แนะนําว่ามีเทคนิค b ประการคือ (•) ให้นึกถึงการตอบแทนในวนั อาคีเราะฮ์ทีE
ยEิงใหญ่กวา่ โลกนีมB าก ทา่ นอะนสั (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ได้เลา่ วา่ ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอ
ฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้กล่าวว่า อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ได้ทรงตรัสว่า หากพระองค์จะ
ทรงทดสอบบ่าวของท่านคนใดด้วยกับการให้เขาสญู เสียสEิงทEีสําคญั ทีEสดุ สําหรับเขาหมายถึง
ดวงตาหรือการมองเห็นแล้ว บ่าวผ้นู นัB มีใบหน้าทีEม่งุ มนEั ในการอดทนโดยไม่แสดงออกถึงความ
โศกเศร้ า พระองค์จะทรงตอบแทนเขาและทดแทนเขาด้วยกับสวรรค์ (รายงานโดยอิหม่าม
บคุ อรีย์)

นEีคือรางวลั ทีEอลั ลอฮฺตอบแทนการทดสอบตอ่ บา่ วของพระองค์ ซงึE ให้เรานกึ ถงึ รางวลั ของ
พระองค์ แล้วเราจะมีความอดทนต่อการทดสอบทEีมาประสบ (T) ให้มีความหวงั ว่าการทดสอบ
เหล่านันB จะต้องพ้นจากไปสักวันหนึEงและการทดสอบเหล่านันB จะนํามาซEึงการอภัยโทษใน
บาปกรรม ทา่ นหญิงอาอีชะฮ์ (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮา) ได้กลา่ ววา่ ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอ
ฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้กล่าวว่า ผู้ทีEเจ็บไข้หรือป่ วย อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) จะทรงลบ
ล้างความผิดเหมือนกบั ใบไม้ทEีร่วงหลน่ จากต้นของมนั หรือเสมือนกบั เหลก็ ทEีถกู ไฟหลอมละลาย
จนกระทงEั สEิงปนเปือB นของมนั ได้ออกไปจากตวั มนั จนเหลือแตเ่ นือB แท้ของเหล็กเท่านนัB นEีคือสิEงทีE
นักวิชาการได้บอกเทคนิคทEีสองคือ การหวงั ว่าการทดสอบจะพ้นออกไปและระหว่างทีEมีการ
ทดสอบอลั ลอฮฺจะทรงลบล้างความผิดให้หมดสินB ไปด้วย (b) ให้นกึ ถึงวา่ เวลาของการทดสอบ
หรือทกุ ข์ยากมนั มีน้อยกว่าเวลาของความสขุ เช่น นึกถึงความสขุ ทEีผ่านมาแล้วเราจะทนต่อภยั
พิบัติทEีเราประสบอยู่ได้ ตัวอย่าง ท่านนบีอัยยูบ (อะลัยฮิสสลาม) ท่านมีทรัพย์สินมากมาย
มหาศาล มีลกู •V คน เป็นชาย ˆ คน หญิง ˆ คน ผลปรากฏว่าอลั ลอฮฺทดสอบท่านนบีอยั ยบู
(อะลัยฮิสสลาม) อย่างรุนแรงมากโดยให้ท่านสูญเสียทรัพย์สินทังB หมดและลูกทังB •V คน
เสียชีวิตหมด รวมทงัB ท่านเป็นโรคผิวหนงั พพุ อง เป็นหนองและมีกลEินเหม็นมาก ซงึE เป็นเวลาถึง
•˜ ปี ภรรยาของท่านถามท่านว่า ขอให้ท่านขอต่ออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) เพEือให้พ้น
จากภยั พิบตั ิทEีประสบอยเู่ ถิด ทา่ นนบีอยั ยบู (อะลยั ฮิสสลาม) บอกกบั ภรรยาวา่ ฉนั เป็นโรคนีมB า
นานเทา่ ไหร่ ภรรยาบอก •˜ ปี แล้ว ฉนั มีความสขุ ทEีไมเ่ ป็นโรคนีกB Eีปี ภรรยาบอก ˜W ปี นบีอยั ยบู

124


(อะลยั ฮิสสลาม) จึงตอบว่า ฉันละอายใจเหลือเกินทีEจะขอต่ออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา)
ว่าให้พ้นจากสEิงทEีพระองค์ทรงกําลงั ทดสอบอยู่ แต่ในทีEสดุ ท่านก็ได้ขอดอุ าอฺและอลั ลอฮฺก็ได้ให้
ทรัพย์สนิ ของทา่ นกลบั คืนมาและทา่ นได้มีลกู เหมือนเดิมคือ •V คน และโรคภยั ก็ได้หายไป สงิE นี B
ชีใB ห้เห็นว่าช่วงเวลาทีEมีความสขุ ˜W ปี มนั สามารถชดเชยหรือทดแทนความเจ็บไข้ทีEเป็นเวลา
•˜ ปีได้นนEั เอง เทคนิคคือ ให้เรานึกถึงเพืEอเราจะได้มีความอดทนในสEิงทีEอลั ลอฮฺทรงทดสอบ
นีEคือสEิงทEีท่านอิบนุกอยยิม (ร่อฮิม่าฮุ้ลลอฮ) ได้แนะนําพวกเราในการอดทนต่อสEิงทEีอลั ลอฮฺได้
ทรงประทานทงัB b ประเภท คือ การอดทนตอ่ การเชืEอฟังตอ่ อลั ลอฮฺ การอดทนตอ่ การละเว้นจาก
ความชวัE และการอดทนในขณะทEีเกิดภยั พิบตั มิ าประสบกบั เรา

สดุ ท้ายนีขB อดอุ าอฺจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ได้ทรงโปรดประทานให้
พวกเราได้มีความอดทนในการทําอะม้าลอิบาดะฮฺและการยบั ยงัB ห้ามปรามในสิEงทEีเป็นความชวัE
และการทดสอบทีEกําลงั เกิดขนึ B ในขณะนีหB รือทEีจะเกิดขนึ B ในอนาคตด้วยเถิด

‫َﮫُاﻟ ُھﻌَ َﻮ ِﻈاْﯿ ْﻟ َﻢﻐَ ِﻟﻔُ ْﻮﻲ ُر َواﻟَﻟ ُﻜ ﱠﺮْﻢ ِﺣَ ْوﯿ ِﻟ ُﻢ َﺴﺎ ِﺋ ِﺮ اﻟ ُﻤ ْﺴ ِﻠ ِﻤ ْﯿ َﻦ‬5‫أَﻗُﻮ ُل ﻗُﻮ ِﻟﻲ َھﺬَاﻓَﺎ َواْﺳﺘَ ْﺳ ْﻐﺘَ ِﻔ ْﻐ ُﻔَﺮ ُْوﺮهُ ِإ ﱠﻧﱠ‬

125


เร;ือง การลงทนุ ท;ชี าญฉลาด

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫َﺻ ًل‬ ‫اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم‬ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
‫ﺑَ ْﻌدُه‬ ‫ أَ ﱠﻣﺎ‬٠‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬

‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬
٠ ‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬

‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทEีทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถงึ วนั ศกุ ร์นีอB ีกครังB

ท่านพEีน้ องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ ข้าพเจ้าขอเตือนตัวเองและเตือนพวกท่าน
ทังB หลายให้มีความยําเกรงต่ออัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ความยําเกรงนีกB ็ด้วยกับการ
ปฏิบตั ิในสงิE ทีEพระองค์ทรงสงEั ใช้และออกหา่ งหรือหลีกให้พ้นจากสงิE ทีEเป็นความชวัE ร้ายทEีพระองค์
ทรงสงัE ห้าม ทําในสิEงทีEใช้ห่างไกลจากสEิงทีEห้าม หากเรารู้แล้วเราศกึ ษาแล้วตอนนีอB ย่ใู นขนัB ตอน
ปฏิบตั วิ า่ เราทําได้แคไ่ หนเพียงใด

ท่านพEีน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ เราในฐานะผู้ศรัทธา เราควรหมนEั ทEีจะตรวจสอบ
ตวั เองวา่ การศรัทธาของเรานนัB เพิEมขนึ B หรือลดน้อยลงเพราะวา่ อีหมา่ นสามารถเพEิมขนึ B หรือลดลง
ได้ขึนB อยู่กบั อะม้าลอิบะดะฮ์ทEีเราทํา ในทศั นะของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วลั ญามาอะฮ์ (แต่ในทศั นะ
หรือแนวทางอEืนอาจมีความเห็นว่าอีหม่านจะไม่ลดลงในคนทEีมีสถานะสูงหรือมีความรู้สูง)
ดงั นนัB เราจงึ ต้องหมนัE ตรวจสอบทกุ วนั ถ้าไม่ตรวจสอบเราก็ไม่รู้ว่าอีหม่านเริEมลดลงและเราจะ
เป็นผู้ศรัทธาทีEอยู่ในสภาพทีEขาดทุน นักวิชาการได้เปรียบว่าเวลาถูกฆ่าหรือถูกทําให้เสียไป
เสมือนนําB แข็งทEีถกู หลอมละลายซงEึ จะเห็นได้วา่ ถ้าตงัB นําB แข็งทิงB ไว้ในอณุ ภมู ิปกติมนั ก็จะละลาย

126


เช่นเดียวกัน ถ้าเราอยู่เฉยๆ ไม่ทําอิบาดะฮฺหรือไม่ศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลาก็อาจทําให้
อีหม่านของเราอ่อนลง สิEงนีเBป็นหน้าทEีของเราทEีจะต้องหลอ่ เลียB งชีวิตของเราด้วยกบั การศรัทธา
ทEีถูกต้อง ชีวิตมุสลิมถูกหล่อเลียB งด้วยกับเตาฮีดการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺหรือศรัทธาต่อ
อลั ลอฮฺอยา่ งแท้จริงหรือไม่ ทEีบอกเชน่ นีเBพราะวา่ เราอาจจะหลงลืมวา่ ศรัทธาของเรามนEั คงขนาด
ไหน สิEงทีEมาประสบกับเราล้วนเป็นบททดสอบในเรEืองศรัทธาทงัB นนัB ว่าเรามีศรัทธาต่ออลั ลอฮฺ
ขนาดไหนและเราควรจะปฏิบตั ิตอ่ สEิงทEีมาประสบกบั เราอย่างไร เราในฐานะทEีเป็นผ้ศู รัทธาต้อง
พยายามหลอ่ เลียB งชีวิตของเราด้วยกบั อีหมา่ นทีEถกู ต้อง ด้วยกบั เตาฮีด ด้วยกบั สงEิ ทEีพระองค์ทรง
สงEั ใช้ทงัB หมดและน้อมนําเอาชะรีอะฮ์มาใช้ในชีวิตประจําวนั และดวู า่ อิบาดะฮฺทีEเราทําทกุ วนั เป็น
อย่างไรบ้าง เราทําครบถ้วนหรือไม่ สมบูรณ์หรือไม่ ละหมาดครบ U เวลาไหมหรือต้องชดใช้
หรือไม่ เราในฐานะผ้ศู รัทธาต้องทําอิบาดะฮฺแบบ full time (เต็มเวลา) และต้องตรงเวลาด้วย
ไม่ใช่ทําแบบ part time (บางเวลา) หรือ sometime (บางครังB ) และไม่สามารถจะอ้างว่า
no time (ไม่มีเวลา) ทีEต้องทําเพราะว่าความตายนันB จะมาถึงคุณ anytime (เวลาใดก็ได้)
เพราะฉะนนัB นEีคือ สิEงทEีอยากจะฝากพวกเราให้ลองตรวจสอบอิบาดะฮฺของเราวา่ เราเป็นอย่างไร
เราเฉยเมยตอ่ การละหมาดห้าเวลาหรือไม่ ละหมาดตรงตอ่ เวลาหรือไม่ หรือรอจนท้ายเวลาเพEือ
ทําสองเวลาในเวลาใกล้ๆ กัน ทําละหมาดสนุ ตั บ้างหรือไม่ สิEงเหล่านีทB ําให้อีหม่านเราเพิEมขึนB
และน้อยลง ถ้าเราไม่ทําตรงต่อเวลาหรือครบถ้วน และทEีสําคญั การละหมาดของเราคชุ อู ฺขนาด
ไหน จิตใจเราวอกแวกหรือไม่ การละหมาดของเรามีคุณภาพขนาดไหน ถ้าหากไม่มี ก็จง
ปรับปรุงตัวเองโดยการตรวจสอบว่าสิEงทีEเราปฏิบัติตรงตามซุนนะของท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) หรือไม่ ในการอาบนําB ละหมาดหรือละหมาดหรือคําทEีเราอา่ นใน
ละหมาดไม่วา่ จะเป็นกรุ อานหรือดอุ าอฺหรือคําตสั เบียะห์ในละหมาดให้เรารู้ความหมายทงัB หมด
เราไม่อยากรู้ความหมายของคําทEีเราอ่านในละหมาดว่าคืออะไรบ้าง ขออะไรไปบ้าง นีEคือ
เทคนิคหนึEงในการทEีจะทําให้การละหมาดมีคุชูอฺคือการเข้าใจในความหมายทEีอ่าน ในการ
ละหมาดไม่มีอิริยาบถไหนทEีหยุดนEิงโดยไม่กล่าว เพราะฉะนันB ถ้าเรารู้ความหมายในสิEงทEีเรา
กล่าว เราจะอยู่ในเนือB หาของการละหมาดตลอดเวลา ทังB กุรอาน ตสั เบียะห์ ดุอาอฺ ขอให้เรา
ศึกษาความหมาย นอกจากนันB นักวิชาการได้อธิบายเทคนิคหนEึงว่าการอาบนําB ละหมาดทEี

127


สมบูรณ์แบบก็จะทําให้เราเตรียมความพร้ อม นอกจากนันB คือการรูกัวะและสุ‘ูดนานๆ
เราส‘ุ ดู หรือรูกวั ะนานขนาดไหน เราได้ขออะไรในรูกวั ะและส‘ุ ดู บ้างหรือทําแบบไก่จิก ซงEึ มนั
จะไม่ได้อรรถรสและทําให้ไม่มีคชุ ูอฺในการละหมาด ถ้าเรารูกวั ะหรือส‘ุ ูดนานๆ แล้วขอดอุ าอฺ
กับพะองค์อัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) จะทําให้เรามีคุชูอฺมากขึนB เพราะฉะนันB สEิงนีเB ป็น
หนทางในการปรับปรุงทEีจะทําให้อิบาดะฮฺของเราเพEิมพนู และสมบรู ณ์แบบ และขอฝากให้พวก
ทา่ นทงัB หลายนําไปปฏิบตั ติ ามและบอกตอ่ กบั คนอืEนทEีไมอ่ ยใู่ นทีEนีดB ้วย

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ เราใช้ชีวิตอย่ใู นทกุ วนั นีแB บบไม่สนใจอะไรเหมือน
ใช้ชีวิตอยู่ไปวนั ๆ หนEึง ถึงเวลาก็ทํางาน ถึงเวลาก็ละหมาดแค่นนัB ทEีจริงแล้วชีวิตของผู้ศรัทธา
จะต้องน้ อมนําเอาชะรีอะฮ์ของอัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) มาใช้จริงๆ ท่านศาสดา
มฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ไม่ใช่ผ้ทู ีEสอนเราอย่างเดียวแต่ท่านทําเป็นแบบฉบบั
เป็นตวั อย่างทีEดีทีEเราต้องปฏิบตั ิตามด้วย ท่านได้ใช้ชีวิตสอดคล้องกบั ชะรีอะฮ์และบทบญั ญัติ
ของพระองค์อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) ทงัB หมด เราลองสํารวจตวั เองวา่ เรานําเอามาใช้แค่
ไหน ยกตวั อย่างเช่น เราประกอบอาชีพเป็นหลกั แต่บางคนอาจจะมีอาชีพเสริม บางคนมีธุรกิจ
ลงทุนมุดอรอบะฮ์จะต้องดูด้วยว่าตรงตามหลักชะรีอะฮ์หรือไม่ และต้องดูว่าการลงทุนใน
กองทนุ หรือกองทนุ รวมถกู ต้องตามหลกั ศาสนาอิสลามหรือไม่ มีการเกีEยวข้องกบั สิEงต้องห้าม
หรือไม่ หรือย่งุ เกีEยวกบั ยาเสพติดหรือสรุ าหรือบหุ รีEและแม้แต่สิEงทีEไม่ดี มนั ก็ทําให้การงานทEีเรา
ขวนขวายหรือธุรกิจของเรามีสงEิ ทีEไมด่ ีเจือปนโดยเฉพาะอยา่ งยEิงในเรืEองดอกเบียB ตรงนีตB ้องระวงั
เป็นอย่างยEิงเพราะในธุรกิจปัจจุบันมีส่วนเกEียวข้องกับดอกเบียB ทังB นันB ท่านศาสดามูฮัมหมัด
(ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิว่าสัลลัม) ได้บอกว่าประชาชาติของฉันจะมียุคหนึEงทEีถูกควันหลงของ
ดอกเบียB ซEึงนกั วิชาการบอกว่าคือ ยคุ นี Bทกุ อย่างมีดอกเบียB บวกอย่ใู นตวั เราแทบจะหนีไม่พ้น
แต่เราก็ต้องพยายามในการทEีจะไม่ยุ่งเกEียวกับดอกเบียB เพราะว่าแท้จริงดอกเบียB มันเป็นสิEงทีE
ต้องห้ามอย่างแจ้งชดั และโทษขนัB ตํEาของมนั คือการทําผิดประเวณีกบั แม่ของตวั เองซงEึ มนั หนกั
มาก และทEีสําคญั มนั ไม่ใช่การเพิEมพนู ถ้าเราจะซือB บ้านหรือรถเราต้องเข้าไปย่งุ กบั ธนาคารเป็น
ปกติซEึงมีดอกเบียB แม้ว่ามนั จะถกู กว่าธนาคารอิสลามหรือไอแบงก์ เพราะไอแบงก์แพงกว่าแต่
มนั ก็เป็นสEิงทEีฮาลาล สิEงทEีถกู กวา่ แม้จะบาทเดียวมนั ก็ฮารอมและมนั ไม่ได้เพEิมพนู เพราะอลั ลอฮฺ

128


(ซบุ ฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) ได้ทรงบอกในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานในซเู ราะฮ์อรั รูม อายะฮ์ทEี bg ได้
ระบวุ า่

6ِ ‫َو َﻣﺎ آﺗَ ْﯾﺗُم ِّﻣن ِّرﺑًﺎ ِﻟّﯾَ ْرﺑُ َو ِﻓﻲ أَ ْﻣ َوا ِل اﻟﻧﱠﺎ ِس ﻓَ َﻼ ﯾَ ْرﺑُو ِﻋﻧدَ ا ﱠ‬
ความว่า “และสิEงทีEพวกเจ้าจ่ายออกไปจากทรัพย์สิน (ดอกเบียB ) เพEือให้มันเพEิมพูนใน
ทรัพย์สนิ ของมนษุ ย์ มนั จะไมเ่ พEิมพนู ณ ทีEอลั ลอฮฺ”

และในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานในซเู ราะฮ์อลั บากอเราะฮ์ อายะฮ์ทEี Tˆ‡ ได้ระบวุ า่

‫ُ اﻟ ِّرﺑَﺎ َوﯾُ ْر ِﺑﻲ اﻟ ﱠﺻدَﻗَﺎ ِت‬6‫ﯾَ ْﻣ َﺣ ُق ا ﱠ‬
ความว่า “อัลลอฮฺจะทรงให้ดอกเบียB ลดน้อยลงและหมดความจําเริญ และจะทรงให้
บรรดาทEีเป็นทานเพEิมพนู ขนึ B ”

นัยจากทังB สองอายะฮ์นีกB ็น่าจะเพียงพอแล้วทีEมุสลิมจะต้องไม่ไปยุ่งเกีEยวกับดอกเบียB
ทงัB หลายทีEทําให้บนัE ทอนทงัB อีหมา่ นทงัB ทรัพย์สนิ ของเขา

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ เมืEอพูดถึงเรEืองการลงทุนมันมีการลงทุนทEีได้
ผลตอบแทนค่อนข้างสงู ไม่วา่ จะเป็นแชร์ลกู โซ่ แชร์ข้าวสาร แชร์ตว±ั เครืEองบิน ซงึE ได้ผลตอบแทน
รวดเร็วและมีกําไรมาก เราลงทุนเพEือหวงั ผลตอบแทนแต่ทว่ามันเป็นการลงทุนทีEหลอกลวง
ข้าพเจ้ามีการลงทนุ อนั หนEึงทEีอยากจะนําเสนอเป็นการลงทนุ ระยะยาวได้ผลตอบแทนสงู และมี
หลกั ประกนั ดีกว่าหลกั ประกนั ของรัฐบาล ถ้าท่านลงทนุ •W,WWW บาทท่านจะได้ผลตอบแทน ˆ
ล้านบาท ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานในซเู ราะฮ์อลั บากอเราะฮ์ อายะฮ์ทีE T‡• ได้ระบวุ า่

ُ‫ َﻛ َﻣﺛَ ِل َﺣﺑﱠ ٍﺔ أَﻧﺑَﺗَ ْت َﺳ ْﺑ َﻊ َﺳﻧَﺎ ِﺑ َل ِﻓﻲ ﻛُ ِّل ﺳُﻧﺑُﻠَ ٍﺔ ِّﻣﺎﺋَﺔ‬6ِ ‫ﱠﻣﺛَ ُل اﻟﱠ ِذﯾ َن ﯾُﻧ ِﻔﻘُو َن أَ ْﻣ َواﻟَ ُﮭ ْم ِﻓﻲ َﺳ ِﺑﯾ ِل ا ﱠ‬
‫ُ َوا ِﺳ ٌﻊ َﻋ ِﻠﯾ ٌم‬6‫ُ ﯾُ َﺿﺎ ِﻋ ُف ِﻟ َﻣن ﯾَ َﺷﺎ ُء ۗ◌ َوا ﱠ‬6‫َﺣﺑﱠ ٍﺔ ۗ◌ َوا ﱠ‬

ความว่า “อุปมาบรรดาผู้ทEีบริจาคทรัพย์ของพวกเขาในทางของอลั ลอฮฺนนัB ดงั อปุ ไมย
เมล็ดพืชเมล็ดหนึEงทEีงอกขึนB เป็นเจ็ดรวง ซึEงในแต่ละรวงนนัB มีร้อยเมล็ด และอลั ลอฮฺนนัB จะทรง
เพEิมพนู แก่ผ้ทู ีEพระองค์ทรงประสงค์อีก และอลั ลอฮฺเป็นผ้ทู รงกว้างขวาง ผ้ทู รงรอบรู้”

129


ในกรุ อานบอกว่าเราจ่ายเงินไปเพียง • บาท เราได้กลบั คืน ˆWW บาท เป็นอย่างตํEาหรือ
มากกวา่ นีหB ากอลั ลอฮฺทรงประสงค์ เราลง • หมEืน ได้กลบั มา ˆ ล้าน และในระยะยาวการลงทนุ
แบบนีนB ่าลงทุนมากกว่าสิEงอEืนทEีปรากฎในโลกนีทB งัB หมด แต่มสุ ลิมได้ลงทุนกนั หรือไม่ พวกเรา
มองการบริจาคเป็นการลงทนุ หรือไม่ หรือวา่ มองเป็นการสญู เปลา่

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกนีนB อกจากจะต้องปรับปรุง
ตวั เองแล้ว สิEงหนEึงทEีเราจะต้องคํานึงก็คือ เราจะต้องมีโอกาสรับใช้ศาสนาอิสลามและสงั คม
เรEิมต้นจากตวั เราเป็นอนั ดบั แรก หลงั จากนนัB คือครอบครัวของเรา เราต้องนําความรู้ไปเผยแพร่
ต่อสามีภรรยาของเราหรือลกู หลานของเรา ถึงแม้จะเป็นเพียงความรู้แค่หนึEงอายะฮ์ เราได้สอน
ลกู เราหรือไม่ หรือวา่ ทกุ วนั นีเBราแทบจะไมไ่ ด้เห็นหน้าลกู เพราะต้องออกจากบ้านตอนทีEลกู ยงั ไม่
ตEืนและกลับบ้ านโดยไม่เห็นหน้ าลูกอีกเช่นกันเพราะว่าเราหลับไปแล้ วลูกถึงกลับเข้ าบ้ าน
หรือไม่ก็ให้เงินเขียนโน้ตทิงB ไว้ให้ทําโน่นทํานEี เราเป็นอย่างนีหB รือไม่ เราเป็นสตั ว์เลียB งลกู ด้วย
นําB นมหรือเป็นสัตว์ทีEเลียB งลูกด้วยเงิน เราเคยสอนลูกหรือไม่ เคยเอากุรอานมาอ่านในบ้าน
หรือไม่ ว่าลกู อ่านกรุ อานได้หรือไม่ วนั ศกุ ร์อ่านซูเราะฮ์อลั กะฮฺฟีE หรืออ่านกรุ อานอาทิตย์ละครังB
หรือละหมาดร่วมกนั หรือไม่ มีการกินข้าวร่วมกนั หรือไม่ มีการตกั เตือนกนั หรือไม่ มีการศกึ ษา
หาความรู้ร่วมกันหรือไม่ มีการไปฟังบรรยายร่วมกันหรือไม่ เราไม่เคยสอนหนังสือลูกเลยใช่
หรือไม่ แต่จะรอให้ลกู ไปอ่านหนงั สือพิมพ์บนถนนใช่หรือไม่คือแข่งรถกนั แล้วตายบนถนนแล้ว
เอาหนงั สือพิมพ์คลมุ คือได้อา่ นตอนนนัB หรือจะอา่ นให้ตอนทEีอยหู่ น้าหลมุ ศพ เราต้องการให้สอน
ตอนนนัB ใชห่ รือไม่ เรามีเวลาวนั นีเBราสอนลกู ในสงEิ ทEีเรารู้ แสวงหาความรู้หรือไปชว่ ยงานการกศุ ล
ของพีEน้องมุสลิมหรือขององค์กรต่างๆ นอกจากเราจะได้พบกับลกู และใช้จ่ายทรัพย์สินไปใน
หนทางของอลั ลอฮฺแล้ว เรายงั ได้เพิEมพนู ความรู้ให้กบั ตวั เองและลกู ของเราด้วย ข้าพเจ้าอยาก
ให้มสุ ลิมทกุ คนสนใจในเรEืองการศกึ ษาหาความรู้เพราะมีฮะดีษซอเฮียะฮ์ทEีรายงานโดยอิหม่าม
มสุ ลมิ บอกวา่

‫ُ ﻟَﮫُ َط ِرﯾﻘًﺎ ِإﻟَﻰ ا ْﻟ َﺟﻧﱠ ِﺔ‬6‫َﻣ ْن َﺳﻠَ َك َط ِرﯾﻘًﺎ ﯾَ ْﻠﺗَ ِﻣ ُس ِﻓﯾ ِﮫ ِﻋ ْﻠ ًﻣﺎ َﺳ ﱠﮭ َل ا ﱠ‬

ความวา่ “ผ้ใู ดก็ตามทีEออกเดนิ ทางเพืEอแสวงหาความรู้ อลั ลอฮฺจะอํานวยความสะดวก
ให้แก่เขาไปสสู่ รวงสวรรค์”

130


พวกเราอยากได้ความง่ายดายในการเข้าสรวงสวรรค์ของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)
ถ้าเราต้องการให้ตวั เราเองและครอบครัวของเราเป็นชาวสวรรค์ จงขอดอุ าอฺให้เป็นชาวสวรรค์
และให้ลกู ศึกษาหาความรู้ แน่นอนในการทําอะม้าลอิบาดะฮฺมีความยากและบางครังB จะต้อง
อดทน ผ้ศู รัทธาต้องอาศยั ความอดทนและการละหมาดเพEือทEีจะปฏิบตั ิอิบาดะฮฺให้สําเร็จลลุ ว่ ง
ไปได้ เพราะมีฮะดีษของทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ทีEบอกวา่

‫ َو ُﺣ ِﺟﺑَ ِت ا ْﻟ َﺟﻧﱠﺔُ ِﺑﺎ ْﻟ َﻣ َﻛﺎ ِر ِه‬،‫ُﺣ ِﺟﺑَ ِت اﻟﻧﱠﺎ ُر ِﺑﺎﻟ ﱠﺷ َﮭ َوا ِت‬

ความว่า “นรกถูกห้อมล้อมด้วยกับอารมณ์ใฝ่ ตEํา (หมายถึงการประพฤติปฏิบัติตาม
อารมณ์ใฝ่ ตํEา ส่วนมากจะนําไปสู่นรก) และสรวงสวรรค์ถูกห้อมล้อมด้วยกับสิEงทEีอารมณ์ไม่
ชอบ”

แม้วา่ จะต้องขืEนขมหรือแม้วา่ จะต้องอดทนในการทําอิบาดะฮฺหรือในการตกั เตือนพีEน้อง
ของเราทEีทําความชวEั อยู่ เราก็ต้องอดทนเพราะความความอดทนเป็นสว่ นหนงึE ของผ้ศู รัทธา และ
สวรรค์ซงEึ เป็นสEิงทีEเราปรารถนานนัB ถกู ห้อมล้อมไปด้วยสEิงทEีเราไม่ชอบ ดงั นนัB แน่นอนเราต้องฝืน
ใจกระทําในสEิงทEีไม่ชอบ อนั นีคB ือสEิงทีEอยากนํามาให้พวกเราได้รับรู้และถ่ายทอดไปส่คู รอบครัว
ของเรา สดุ ท้ายนี Bขอดอุ าอฺจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ได้ทรงโปรดประทาน
ทางนําทEีถกู ต้องและโปรดประทานความสขุ ทงัB โลกนีแB ละโลกหน้าและโปรดประทานความสําเร็จ
และขอพระองค์ในฐานะทEีพระองค์เป็นผู้ทรงพลิกผนั หวั ใจ ขอพระองค์ทรงพลิกผนั หวั ใจของ
พวกเราอยใู่ นศาสนาของพระองค์ด้วยเถิด./ อามีน

131


เร;ือง กลลวงของชัยฏอนกับการประกอบอาชีพท;ปี ระเสริฐ

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫ اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم َﺻ ًل‬٠ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫َو ْﺣدُه‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
‫ أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌدُه‬٠‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬ ‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬

‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬
٠ ‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِط ِﻊ ا ﱠ‬

‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทEีทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถึงวันศุกร์นีอB ีกครังB ข้าพเจ้าขอเตือนตัวเองและพวกท่านทังB หลายให้มีความยําเกรงต่อ

อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ด้วยกบั การปฏิบตั ิในสEิงทEีพระองค์ทรงสงEั ใช้และออกห่างหรือ

ละเว้นจากสEิงทีEพระองค์ทรงสงัE ห้าม นกั วิชาการได้อธิบายว่า การทีEเรายงั ฝ่ าฝืนข้อห้ามอย่ยู ่อม

แสดงให้เห็นว่าเรายงั ไม่ศรัทธาต่ออลั ลอฮฺ เรายงั ไม่เชEือในการตอบแทนหรือลงโทษในวนั อาคี

เราะฮ์ เราจึงฝ่ าฝืนสEิงทEีเป็นข้อห้ามและละเลยไม่ปฏิบัติในสEิงทEีเป็นข้อใช้ ด้วยเหตุนี Bเราต้อง

ตระหนกั ว่าถ้าเราไม่ปฏิบตั ิตามมนั จะหมายความว่าเรามีศรัทธาต่อพระผ้เู ป็นเจ้าอย่างแท้จริง

หรือไม่ ศรัทธาตอ่ วนั อาคีเราะฮ์อยา่ งแท้จริงหรือไม่ ตรงนีเBป็นสงิE ทEีต้องคํานงึ ถงึ ให้มาก

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ ช่วงทEีผ่านมาต้องบอกว่ากาลเวลาช่างผ่านไป
รวดเร็วมาก ตอนนีถB ึงสินB ปีแล้วคือเดือนธนั วาคม โควิดเริEมระบาดตงัB แตป่ ลายปี พ.ศ.TU‡T หาก
นบั จนถึงวนั นีคB รบหนEึงปีแล้วทีEเกิดโควิด เราได้ผ่านการทดสอบอย่างมาก อลั ฮมั ดลุ ิลB ลา ตอนนี B
คนติดโควิด ˆW ล้านกวา่ คน คนตายประมานล้านกวา่ คน ประเทศไทยเสียชีวิตเพียง ˜W กวา่ คน
เพราะฉะนนัB จะเห็นได้ว่าเป็นความโปรดปราน แต่อย่างไรก็ตาม เราก็มีความพยายาม มีการ
กระทําทีEต่อส้หู รือป้องกนั สEิงเหล่านีตB ามทEีท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั )
ได้บอกไว้ นนัE คือภยั ทีEเราเห็นได้ชดั และทําข้อทดสอบได้เป็นอย่างดี แต่มีภยั บางอย่างทีEเราไม่รู้

132


เนือB รู้ตวั เพราะมนั แอบแฝงมากบั ความสขุ ความสบาย เรารู้วา่ เราเป็นผ้ศู รัทธาทีEต้องอย่ใู นโลกนี B
เพEือโลกอาคีเราะฮ์ เรารู้เราเข้าใจและยอมรับกนั ทกุ คนแต่เราไม่ค่อยตระหนกั คํานึงหรือระลกึ
ถึงในทุกเวลาว่าเราจะต้องตาย เราจะต้องไปสู่โลกอาคีเราะฮ์ เราไม่ได้อยู่โลกนีอB ย่างถาวร
ทุกคนต้องตายอย่างแน่นอน เพราะฉะนันB เราพร้อมทEีจะตายแล้วหรือยงั และเราได้เตรียมตวั
สะสมเสบียงในโลกนีเB พEือโลกหน้าจริงหรือไม่ ตรงนีสB ําคญั ทEีสดุ ในการให้ความสําคญั ของการ
ใช้ชีวิตอย่ใู นโลกนี Bโลกดนุ ยามนั เปลEียนแปลงไปเรืEอย ภยั เกีEยวกบั โรคโควิดเราสามารถเห็นได้
ชัดเจนแต่ภัยบางอย่างทEีข้ าพเจ้ าอยากจะกล่าวต่อไปคือภัยทEีแอบแฝงมากับความเจริ ญ
ความก้าวหน้า ทําให้ความคิดความอ่านของวยั รุ่นมีความแตกต่างจากพวกเราทีEเป็นผู้ใหญ่
เพราะฉะนนัB จะเห็นได้วา่ โลกเปลีEยนไปแล้ว การสEือสารทEีรวดเร็ว ข้อมลู ทEีมากบั โซเชียล ความสขุ
สบายความบันเทิงทีEพรEังพรูเข้ามา สิEงเหล่านีอB าจจะไม่สอดคล้องหรืออาจเป็นปฏิปักษ์ต่อ
อิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิEง ความคิดในเรEืองเกEียวกับเสรีนิยม ซึEงมันตามมาด้วยกับการเป็น
Liberal หรือ Feminism หรือสิทธิของเสรีนิยม ซงEึ จะเห็นได้วา่ สิEงเหลา่ นีไB ด้ถกู แทรกซมึ เข้ามาใน
สงั คมมสุ ลิมทEีน่าเป็นห่วงอย่างยEิง คือ ลกู หลานของเรา และทEีสําคญั มนั คืบคลานเข้ามาโดยทEี
เราไม่รู้ตวั เพราะมนั มากับความรู้สมยั ใหม่ มนั มากับการต่อส้เู รียกร้องบางสEิงบางอย่าง พวก
ผู้ใหญ่อาจจะไม่มีผลกระทบมากนกั และอาจจะแยกแยะได้ แต่ลกู หลานทEีเป็นคนรุ่นใหม่เมEือ
ได้รับสEือเหล่านีมB ากขึนB ๆ (โดยทีEเขาคิดว่ามนั คือเสรีภาพ) แล้วผลลพั ธ์จะเป็นเช่นไร ข้าพเจ้า
ได้ รับฟั งยูธูปของอาจารย์ท่านหนEึงในคณ ะนิติศาสตร์ ได้ พูดในเรEื องเกEียวกับการกตัญ ‘ูต่อ
พ่อแม่ในเชิงทีEวา่ พ่อแม่สร้างลกู ขนึ B มาก็ต้องมีหน้าทีEทEีจะต้องเลียB งดลู กู แตล่ กู ๆ มิได้ยินยอมทีEจะ
มาเป็นลูก เพราะฉะนันB เมืEอลูกออกมาแล้วทําไมต้องกตัญ‘ูต่อพ่อแม่ด้วย เพราะเขาไม่ได้
อาสาสมคั รออกมาแต่พ่อแม่ต่างหากทEีทําให้เขาเกิดขนึ B มา เพราะฉะนนัB หน้าทีEในการเลียB งดพู ่อ
แม่หรือการกตญั ‘จู งึ ไม่มี ความคิดเหลา่ นีมB นั ตรงข้ามกบั สEิงทีEอิสลามปลกู ฝังในเรืEองครอบครัว
เรEืองครอบครัวสําคัญมาก บิดามารดานันB สําคัญรองลงมาจากพระผู้เป็นเจ้าด้วยซําB ไปและ
สวรรค์ก็อยใู่ ต้ฝ่าเท้าของมารดา เพราะฉะนนัB จะเหน็ ได้วา่ อิสลามให้ความสาํ คญั กบั บดิ ามารดา
มาก การกตญั ‘รู ู้คณุ คือสEิงทีEสําคญั มากในการสืบทอดวงศ์ตระกลู นอกจากนี Bยงั มีคําพดู ของ
นกั วิชาการบางคนพดู วา่ ศาสนาเป็นเรืEองทีEจดั กรอบชีวิตของมนษุ ย์เหมือนกบั เพดานบ้าน ทําให้

133


เรายืนไม่ได้ต้องนงEั ลงหรือต้องย่อหรือโค้ง เพราะฉะนนัB สิEงทEีจะทําให้เรามีเสรีภาพอย่างแท้จริง
คือ การทําให้เพดานสงู ขนึ B หรือเอาเพดานออกไป เพEือทีEมนษุ ย์จะได้ยืนอย่างสง่าผ่าเผยในโลกนี B
นEีความคิดแบบเสรีนิยม ทําอะไรก็ได้ทEีไม่กระทบต่อคนอEืนหรือไม่ผิดกฎหมาย แต่ทว่าอิสลาม
จดั กรอบความคิดให้อย่ใู นหนทางทEีถกู ต้องเพราะเป้าหมายในการจดั กรอบความคิดเพEือระงบั
อารมณ์ใฝ่ตํEาให้น้อยลง แตล่ ทั ธิเสรีนิยมคือการเปิดกว้างเรืEองความคิดปลอ่ ยให้ลอ่ งลอยไปไหน
ก็ได้และส่งเสริมให้ความใคร่ นฟั ซู อารมณ์ใฝ่ ตEํามากขึนB ซึEงจะเห็นได้ว่าเหล่านีมB าจากสิEงทEีให้
ความบนั เทิง เช่น ภาพยนตร์ ละคร ดนตรี เราคิดหรือไม่ว่าลกู หลานเราจะคล้อยตามสEิงเหลา่ นี B
หรือไม่ มนั เข้ามาแบบเล็กๆน้อยๆ และลกู เราก็จะมีความรู้สึกว่ามนั เป็นเรEืองธรรมดา มนั เป็น
เรืEองทEีเรามีสิทธิเสรีภาพทีEทําได้ นีEคือสิEงทEีข้าพเจ้าอยากจะมาเตือนในคตุ บะฮ์นีวB ่ามนั เป็นสEิงทีE
อนั ตรายต่อเราและเป็นอนั ตรายต่อลกู หลานของเรา เรามีภาระหน้าทEีอนั หนEึงทีEจะต้องปกป้อง
ตวั เราและครอบครัวของเราให้พ้นจากไฟนรกใช่หรือไม่ เราเองเป็นอยา่ งไร เราปกปอ้ งได้หรือไม่
กับสิEงเหล่านีหB รือเรายังเพลิดเพลินเพราะว่าสิEงเหล่านีมB ันมีความเพลิดเพลิน มีความชอบ
และนฟั ซูพอใจ ลกู หลานเรามีความรู้ขนาดไหนเรืEองศาสนาและถ้าเราลกู หลานเราไปแต่งกับ
มุอัลลัฟมีความเคร่ งครัดขนาดไหนและต่อไปในรุ่ นหลานหรื อเหลนของเราจะเป็ นอย่างไร
นกั วิชาการบอกวา่ มนั จะมีการเจือจางลงไปเรEือยๆ เชน่ หากรุ่นเรายงั มีความรู้ศาสนาบ้าง รุ่นลกู
ของเราเรEิมไม่เคร่งครัดในเรEืองฟัรดตู า่ งๆ พอถึงรุ่นหลานเรา เขาก็อาจจะกลายเป็นพวกเสรีนิยม
พอถึงเหลนเราก็อาจจะกลายเป็นพวกไม่มีศาสนาหรือเอทิสต์ มนั จะทวีความรุนแรงไปเรืEอยๆ
จากรุ่นสรู่ ุ่น เพราะฉะนนัB ข้าพเจ้าอยากจะเตือนพวกเราและเตือนข้าพเจ้าเองวา่ เราคงจะต้องมา
หนั ดตู วั เอง แล้ววางกลยทุ ธของเราให้เรามีลกู หลานทีEมีศาสนา เราต้องทําลกู ของเราให้เป็นลกู
ทEีซอและฮ์เพราะลกู ทีEซอและฮ์จะขอดอุ าอฺไปถึงเราเมEือเราได้ตายไปเพราะฉะนนัB เราต้องไม่ใช่
ระวงั แต่ตวั เอง แต่ต้องระวงั คนในรุ่นลกู หลานเหลนต่อๆไปจากเราให้ระวงั ด้วยเพราะฉะนนัB ทํา
ให้เขามีศาสนาอยา่ งน้อยทEีสดุ ให้เรียนศาสนา ข้าพเจ้ามีความรู้สกึ วา่ ตอนนีใB นประเทศไทยคนทีE
จะเป็น อลุ ามะฮ์ทEีมีความรู้ทางด้านศาสนาจริงๆ จบฮาฟิ สกรุ อาน จบฮาฟิ สฮะดีษและมีความรู้
ด้านชะรีอะฮ์อิสลามียะฮ์มีน้อยมาก เราไม่สามารถทEีจะมีอุลามะฮ์เหมือนประเทศต่างๆ ได้
เพราะเรามีคนน้อยหรือ เราไม่มีความรู้หรือ เราไม่มีความสามารถหรือ คนทEีจบฮาฟิ สก็ฮาฟิ ส

134


อย่างเดียวไม่ทําอย่างอEืนเลย ก็ไม่ได้เรียนเรEืองฮะดีษไม่ได้เรียนเรืEองชะรีอะฮ์และเราก็ไม่มีการ
สนบั สนนุ อย่างจริงจงั มีคนทEีเขียนหนงั สือซกั กEีคน มีแตค่ นพดู เพราะฉะนนัB จะเห็นได้วา่ ถึงเวลา
ทีEพวกเราทีEมีความรู้ มีความคิด ความอ่าน ช่วยกันเรEิมสนับสนุนคนทีEมีความรู้สามารถทีEจะ
เขียนตํารับตํารา แปลตํารับตําราเรEืองศาสนามาเผยแพร่ซึEงมนั เป็นสEิงทีEจะทําให้อิสลามยงัE ยืน
และยืนหยัดอยู่ได้ต่อไปและทEีสําคัญลูกเราต้องส่งเรียนศาสนา แต่ทีEผ่านมาคือหากส่งเรียน
ศาสนาอย่างเดียวแล้วมีความกลวั วา่ จะกลบั มาทํางานอะไร จบมาแล้วไม่มีงานทํา นีEคือปัญหา
ทEีเป็นไปตามแนวทางการลอ่ ลวงของชยั ฏอนในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อลั บะก่อเราะฮ์
อายะฮ์ทีE T‡˜ ได้ระบวุ า่

◌ۗ ‫ُ ﯾَ ِﻌدُﻛُم ﱠﻣ ْﻐ ِﻔ َرةً ِّﻣ ْﻧﮫُ َوﻓَ ْﺿ ًﻼ‬6‫اﻟ ﱠﺷ ْﯾ َطﺎ ُن ﯾَ ِﻌدُﻛُ ُم ا ْﻟﻔَ ْﻘ َر َوﯾَﺄْ ُﻣ ُرﻛُ ْم ِﺑﺎ ْﻟﻔَ ْﺣ َﺷﺎ ِء َوا ﱠ‬

‫ُ َوا ِﺳ ٌﻊ َﻋ ِﻠﯾ ٌم‬6‫َوا ﱠ‬

ความว่า “ชยั ฎอนนนัB มนั จะข่พู วกเจ้าให้กลวั ความยากจน และจะใช้พวกเจ้าให้กระทํา
ความชEัว และอัลลอฮฺนันB ทรงสัญญาแก่พวกเจ้าไว้ ซึEงการอภัยโทษ และความกรุณาจาก
พระองค์ และอลั ลอฮฺนนัB เป็นผ้ทู รงกว้างขวาง ผ้ทู รงรอบรู้”

จากอายะฮ์นีอB ลั ลอฮฺได้ทรงบอกให้เรารู้ว่าชยั ฏอนมนั ทําหน้าทEีอย่างหนEึงคือ การทําให้
เรากลวั ความยากจน และพวกเราก็กลวั จริงๆ ท่านอิหม่ามซุฟยานอษั เษารีย์ (ร่อฮิม่าฮ้ลุ ลอฮ)
ซึEงเป็นชาวสะลฟั ได้อธิบายอายะฮ์นีวB ่า มนั เป็นอาวธุ ชินB หนEึงของชยั ฏอนทEีทําให้เรากลวั ความ
ยากจน กลวั จะไม่มีงานทํา กลวั จะอดยาก กลวั ลูกหลานไม่มีเงิน เราเลยต้องไปทําอย่างอEืน
ผลจากการทีEมนั ทําให้เรากลวั ความยากจน เมืEอหวั ใจของเรากลวั ความยากจนแล้วก็จะละเลย
เพิกเฉยตอ่ บทบญั ญตั ิของอลั ลอฮฺ จะไมส่ นองตอ่ พระบญั ชาของพระองค์ และคิดตอ่ ไปวา่ การทEี
ทํางานและได้เงินมามนั เป็นผลมาจากตวั เองขวนขวายไมไ่ ด้มาจากพระองค์อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮู
ว่าตะอาลา) และถ้าหากมีภัยพิบัติเกิดขึนB หรือมีมุซีบะฮ์เขาก็จะมีความรู้สึกว่าเป็นเพราะ
พระองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ทําให้เกิดขึนB หรือทําให้เขาตกตํEา นEีคือแนวทางของ
ชยั ฏอนทีEต้องการทําให้มนษุ ย์กลวั ความยากจนอนั จะเป็นหนทางตอ่ ไปทEีจะทําให้มีการไมส่ นอง
ต่อพระบญั ชาของพระองค์ เรEิมเกียจคร้าน เริEมไม่สนใจความรู้เรEืองศาสนา เกียจคร้านในการ
ทําอิบาดะฮฺ ไมอ่ ยากแตง่ งาน มีเงินได้เงินมาก็ไมอ่ ยากออกซะกาต ไมอ่ ยากทําการซอดาเกาะฮ์

135


ยงั คิดว่าเป็นของตวั เอง นีEคือสEิงทีEเป็นอาวธุ เล็กๆ ของชยั ฏอนทEีมีอานภุ าพมาก กล่าวคือ การทีE
หัวใจของพวกเรามีความกลวั ความยากจน เราก็จะไม่กล้าบริจาคเงินเพราะกลวั จะจน ทังB ทEี
อัลลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ได้บอกแล้วว่าอัลลอฮฺเป็นผู้ประทานริสกีให้ ถ้าเราศรัทธา
ต่ออัลลอฮฺ เรายืนหยัดในหนทางของพระองค์ พระองค์จะหาทางออกทEีถูกต้องให้แก่เรา
ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อลั องั กะบรู อายะฮ์ทีE ‡g ได้ระบวุ า่

‫ ﻟَ َﻣ َﻊ ا ْﻟ ُﻣ ْﺣ ِﺳ ِﻧ ْﯾ َن‬6َ ‫َواﻟﱠ ِذﯾ َن َﺟﺎ َھدُ ْوا ِﻓ ْﯾﻧَﺎ ﻟَﻧَ ْﮭ ِدﯾَﻧﱠ ُﮭ ْم ﺳُﺑُﻠَﻧَﺎ ۚ◌ َو ِإ ﱠن ا ﱠ‬
ความวา่ “และบรรดาผ้ตู อ่ ส้ดู ินB รนในทางของเรา (อลั ลอฮฺ) แน่นอนเราจะชีแB นะแนวทาง
ทีEถกู ต้องแก่พวกเขาสทู่ างของเรา และแท้จริงอลั ลอฮฺทรงอยรู่ ่วมกบั ผ้กู ระทําความดีทงัB หลาย”

เมืEอพดู มาถงึ จดุ นีแB ล้ว มีคําถามวา่ แล้วอาชีพอะไรทีEอลั ลอฮฺ (ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) หรือ
ท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้ทรงสง่ เสริมหรือให้เรากระทํา เพราะวา่
ตอนนีอB ยู่ในช่วงทEีเศรษฐกิจไม่ดีทุกคนก็เก็บเงินกัน ทุกคนก็อยากทํางานรับราชการ อยาก
ทํางานในรัฐวิสาหกิจ อยากทํางานในบริษัททEีได้เงินเดือนดีมีความมนัE คง สว่ นการค้าขายนนัB ไม่
ค่อยจะส้ดู ีนกั ทงัB ทEีในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานในซูเราะฮ์อลั บะก่อเราะฮ์ อายะฮ์ทีE TˆU ได้ระบุ
วา่

‫ُ ا ْﻟﺑَ ْﯾ َﻊ َو َﺣ ﱠر َم اﻟ ِّرﺑَﺎ‬6‫َوأَ َﺣ ﱠل ا ﱠ‬

ความวา่ “อลั ลอฮฺทรงอนมุ ตั ใิ นการค้าขายและทรงห้ามในเรืEองดอกเบียB ”

และฮะดีษทีEทา่ นฮากีมได้รายงานวา่ ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้ถกู
ถามจากซอ่ ฮาบะฮ์วา่

‫أَ ﱡي اَ ْﻟ َﻛ ْﺳ ِب أَ ْطﯾَ ُب؟ ﻗَﺎ َل َﻋ َﻣ ُل اَﻟ ﱠر ُﺟ ِل ِﺑﯾَ ِد ِه َوﻛُ ﱡل ﺑَ ْﯾﻊٍ َﻣ ْﺑ ُر ْو ٍر‬
ความว่า “อาชีพอะไรทEีดีทEีสดุ ท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้
ตอบวา่ อาชีพทีEเขาได้ทําด้วยกบั นําB มือของเขา และอาชีพการค้าขายทEีถกู ตอบรับ”

จากฮะดีษนีชB ีใB ห้เห็นว่าท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้บอกเรา
ว่าอาชีพทEีดีทีEสดุ คือ อาชีพทEีเราประกอบด้วยนําB มือของเรา ถามว่าทําไม ทําไมถึงเป็นอย่างนนัB

136


อาชีพทีEประกอบด้วยกบั นําB มือคือ อาชีพทํานา ทําไร่ ทําสวน การใช้แรงงาน การก่อสร้าง การ
ทําประมง และทําหตั ถกรรม หรืออาชีพทEีใช้แรงงานทงัB หลาย ซงึE ดเู หมือนวา่ จะให้เราใช้แรงงาน
อย่างเดียว ไม่ให้เป็นอย่างอEืนเลยหรือ คําอธิบายตรงนี Bนกั วิชาการได้บอกว่าอาชีพเหลา่ นีทB Eีถือ
วา่ ประเสริฐเนืEองจากการทEีเราได้ทําด้วยนําB มือของเรามนั ทําให้มีความใกล้ชิดกบั อลั ลอฮฺ (ซบุ ฮา
น่าฮวู ่าตะอาลา) เพราะเราทํานาเราได้ผลลพั ธ์ตอบแทนดีเราก็จะขอบคณุ อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮู
ว่าตะอาลา) หากเราทําการประมงออกไปหาปลาออกเรือได้ปลากลบั มาเราก็ขอบคณุ อลั ลอฮฺ
(ซบุ ฮานา่ ฮวู า่ ตะอาลา) แตอ่ าชีพรับราชการทEีได้เงินเดือนมาทกุ เดือน เรารู้สกึ วา่ ราชการดีตอ่ เรา
ตําแหน่งทEีได้มาก็เพราะว่าเราขวนขวายเอง เราก็จะรู้สึกยEิงใหญ่จะเข้าทางของชยั ฏอนว่าเรา
ขวนขวายได้เอง เพราะฉะนนัB เราจงึ มีความหวงแหนทEีจะไมอ่ อกซะกาต ไมบ่ ริจาค อีกอาชีพหนงึE
คือ อาชีพการค้าขาย ท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) บอกว่าต้องทําตาม
หลกั ชะรีอะฮ์อิสลามียะฮ์ คือ การขายของทีEมีคณุ ภาพ มีราคาทีEเป็นธรรม ไม่มีการกกั ตนุ ไม่มี
การโกงราคา การชัEงการตวงก็ถูกต้องและทําเพืEอคนอืEน ข้าพเจ้าได้ดูยูธูปของประเทศญEีป่ ุน
มีการใช้เทคนิคหรือแนวคิดทีEใช้ชEือว่า “อิคิไก” (IKIGAI) ในการประกอบธุรกิจหรือทําการงาน
ต่างๆ การใช้อิคิไก คือ มีเป้าหมายในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเพืEอสังคม หมายความว่า
จะต้องมีปัจจยั ทงัB V อยา่ งครบถ้วนคือ

1. ทํางานในสงิE ทีEตวั เองชอบ
2. ต้องเป็นงานทEีตวั เองถนดั
3. ได้ผลตอบแทนหรือได้เงินค้มุ คา่
4. ได้ประโยชน์ตอ่ สงั คม

ตวั อย่าง เช่น มีชายชราคนหนึEงอยากได้รองเท้าแต่เขามีเท้าทEีไม่เท่ากนั คือข้างขวาบวม
ใหญ่กวา่ ข้างซ้าย เมืEอเวลาเขาซือB รองเท้าเขาจะซือB ไซส์ bˆ กบั bg ก็ไม่มีใครขายให้เพราะข้างทEี
เหลือมนั จะใช้ประโยชน์ไม่ได้ ดงั นนัB ปกติเขาจึงต้องซือB รองเท้าครังB ละ T คู่ ผลปรากฏว่าเขาก็
จ้างให้ช่างคนนีทB ําข้างซ้าย bˆ ข้างขวา bg เขาก็ทําให้และเขาคิดราคาปกติ ชายชราคนนีจB ึง
ถามว่าทําไมถึงคิดราคาปกติ ทีEจริงต้องคิดราคา T คู่ ช่างรองเท้าตอบว่าเขาต้องการให้คนแก่
ซึEงมีโรคประจําตวั คือเท้าบวมให้มีความสขุ จากการใส่รองเท้าของเขา นีEคือแนวคิดอิคิไกของ

137


ญีEป่ ุน แต่อิสลามมีมา •VWW ปีแล้ว เราไม่เคยเอามาใช้เลยว่าถ้าเราจะค้าขายตามทีEท่าน
ศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) บอกหรือทEีถกู ตอบรับหรือทําตามหลกั ชะรีอะฮ์
จะต้องเอาสินค้าทEีมีคณุ ภาพมาขายในราคาทEีย่อมเยา เราต้องขายเอากําไรเพียงเลก็ น้อยให้อยู่
ได้ แตท่ วา่ มีเปา้ หมายต้องการให้คนมสุ ลิมได้กินของฮาลาล ได้กินฝีมือของบรรพบรุ ุษของเราทEี
ถ่ายทอดมาส่เู รา นEีคือความคิดทีEเป็นการซือB ขายทีEดีงามตามทEีฮะดีษได้บอกไว้ เพียงแต่เราเอง
ยงั มองไม่เห็นภาพ เราไม่เคยเอามาปฏิบตั ิ อยากให้พวกเราหนั มาให้ความสําคญั กับอาชีพทEี
ต้องใช้ฝีมือหรือนําB พักนําB แรงของเรา ทีEใช้มือในการประกอบและการค้าขายทEีถูกตอบรับ
สงิE เหลา่ นีจB ะเห็นได้วา่ เราไมไ่ ด้ทําเพืEอตวั เราเอง แตท่ ําเพEือครอบครัว เพEือสงั คมและทEีสําคญั ต้อง
เหนียตเพEืออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) เพราะท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ
วา่ สลั ลมั ) บอกให้มสุ ลมิ ทําอาชีพนีแB ละเป็นอาชีพทีEดีทEีสดุ

ท่านพEีน้ องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ มีอีกเรืEองหนEึงทEีอยากจะเตือนทุกท่าน คือ
บทบญั ญัติจากซูเราะฮ์อลั บะก่อเราะฮ์ อายะฮ์ทีE TˆU ทีEบอกว่าอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา)
ได้อนมุ ตั ิในเรEืองการซือB ขายและห้ามปรามเรืEองดอกเบียB สําหรับคนทEีมีทรัพย์สินมากและฝาก
ธนาคารทีEมีดอกเบียB ไว้ แม้ว่าบางธนาคารจะจ่ายดอกเบียB ให้น้อยก็ตาม แต่ก็ยงั คงถือว่าเป็น
ดอกเบียB บางคนไปฝากไฟแนนซ์หรือทีEอืEนทEีมีดอกเบียB สงู ยEิงต้องระวงั เพราะอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮู
วา่ ตะอาลา) ทรงห้ามไว้และมนั ไม่ได้ทําให้ทรัพย์สินของท่านเพิEมพนู ณ ทีEอลั ลอฮฺเพราะอลั ลอฮฺ
ทรงตรัสไว้ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานในซเู ราะฮ์อรั รูม อายะฮ์ทEี b‡ โดยได้ระบวุ า่

6ِ ‫َو َﻣﺎ آﺗَ ْﯾﺗُ ْم ِّﻣ ْن ِّرﺑًﺎ ِﻟّﯾَ ْرﺑُ َو ِﻓ ْﻲ أَ ْﻣ َوا ِل اﻟﻧﱠﺎ ِس ﻓَ َﻼ ﯾَ ْرﺑُ ْو ِﻋﻧدَ ا ﱠ‬

ความวา่ “และสงEิ ทEีพวกเจ้าจา่ ยออกไปจากทรัพย์สนิ (ดอกเบียB ) เพEือให้มนั เพEิมพนู ใน
ทรัพย์สนิ ของมนษุ ย์ มนั จะไมเ่ พิEมพนู ณ ทEีอลั ลอฮฺ”

ในยคุ นีตB อนนีไB ด้เหน็ แล้ววา่ มนั ไมเ่ พิEมพนู จริงๆ เพราะดอกเบียB มนั ลดลงมาก ลดลง
จนกระทงEั ไมม่ ีใครสนใจทีEจะฝากธนาคาร แตไ่ ปลงทนุ ทําการค้าขายดีกวา่

‫ ﻓَﺄُ ْوﻟَ ِﺋ َك ھُ ُم ا ْﻟ ُﻣ ْﺿ ِﻌﻔُو َن‬6ِ ‫َو َﻣﺎ آﺗَ ْﯾﺗُم ِّﻣن َز َﻛﺎةٍ ﺗُ ِرﯾدُو َن َو ْﺟﮫَ ا ﱠ‬

138


ความว่า “และสEิงทีEพวกเจ้าจ่ายไปจากซะกาต โดยพวกเจ้าปรารถนาพระพักตร์ของ
อลั ลอฮฺ ชนเหลา่ นนัB แหละพวกเขาคือผ้ไู ด้รับการตอบแทนอยา่ งทวีคณู ”

ในตอนท้ายของอายะฮ์นีพB ระองค์ได้ทรงบอกว่า ตรงกนั ข้ามสิEงทEีเจ้าจ่ายไปกบั การออก
ซะกาตซงึE เรามองเหน็ วา่ มนั ลดลงจากทรัพย์ของเรา อลั ลอฮฺบอกวา่ มนั จะเป็นการเพิEมพนู ถ้าหวงั
ความโปรดปรานจากพระองค์ เราอยู่ในกลุ่มทEีเพิEมพูน ซะกาตเป็นสEิงทีEสําคัญยEิงในช่วงนี B
เศรษฐกิจไม่ดี คนทEีมีทรัพย์สินถึงจํานวนทEีกําหนด (นิซอบ) และครบรอบปี ก็สมควรทีEจะนึกถึง
คน ˜ จําพวกทEีมีสิทธิรับซะกาตให้เขาได้รับซะกาตจากเรา อย่ากลวั ความยากจน อย่าคิดว่า
ต้องเก็บเงินเพราะตอนนีเB ศรษฐกิจไม่ดี แต่เราควรเอาซะกาตช่วยเหลือพEีน้องเราเพราะซะกาต
มันเป็นสEิงซึEงอัลลอฮฺได้ฝากเราเพืEอมาให้กับคนแปดจําพวก ข้าพเจ้าได้ลองค้นในพระมหา
คัมภีร์อัลกุรอาน คําว่า “ซะกาต” ในภาษาไทยมีการกล่าวไว้ถึง Tg ครังB และทEีสําคัญเรEือง
ซะกาตจะถกู กล่าวค่กู บั เรEืองการละหมาดเสมอ ประมาณ Tˆ ครังB นกั วิชาการอธิบายว่าทําไม
ถึงกล่าวคู่กันทังB ทEีมันเป็ นอิบาดะฮฺคนละอย่าง สาเหตุทีEกล่าวคู่กันเพราะสองสิEงมันมี
ความสําคญั คู่กัน ละหมาดเป็นเรืEองส่วนบุคคลหรือฟัรดูอีน แต่ซะกาตเป็นเรEืองส่วนรวมหรือ
ฟัรดกู ิฟายะฮ์ ถ้าใครมีความสามารถและไมจ่ ่ายซะกาตก็ถือวา่ เป็นฟัรดตู กหนกั กบั เขา มีบรรดา
กล่มุ ชนในยุคหลงั จากทEีท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้เสียชีวิต คือ
สมยั ท่านอบบู กั รอซั ซิดดีก (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ กล่มุ หนEึงไม่ยอมจ่ายซะกาตทงัB ทีEตวั เองละหมาด
ท่านอบูบักรจึงได้ ประกาศสงครามกับคนกลุ่มนีจB นในทีEสุดเขาก็ยอมทีEจะจ่ายซะกาต
ให้กบั บยั ต้ลุ มาล นEีคือความสําคญั ของซะกาต ถ้าหากเรามีทรัพย์สินเราทําการค้าขายได้จนทํา
ให้ ทรัพย์สินของเราเพEิมพูน ทรัพย์ทEีเป็ นสินค้ าต้ องออกซะกาตตามจํานวนทEีกําหนดไว้
เหน็ หรือไมว่ า่ การจา่ ยซะกาตไปให้กบั คนยากจนในท้องถEิน มนั เป็นผลทEีจะกลบั มาเพEิมพนู ให้คน
ในท้องถิEนของเรา เพEิมพูนสงั คมเราให้มีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป การปฏิบตั ิตามสEิงทEีพระองค์
ทรงสงEั ใช้และออกห่างจากสEิงทEีพระองค์ทรงสงEั ห้ามล้วนแล้วแต่นํามาซงEึ ความผาสขุ และการใช้
ชีวิตอยใู่ นโลกนีอB ยา่ งปลอดภยั ทงัB สนิ B

139


เร;ือง คุณลักษณะของชาวสวรรค์ชันR ฟิ รเดาส์

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫َﺻ ًل‬ ‫اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم‬ ُ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫ‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
‫ﺑَ ْﻌدُه‬ ‫أَ ﱠﻣﺎ‬٠ ‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬

‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬
‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِط ِﻊ ا ﱠ‬

‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทEีทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถงึ วนั ศกุ ร์นีอB ีกครังB

ท่านพEีน้องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ กาลเวลาช่างรวดเร็วมาก วันหนEึง สัปดาห์หนึEง
เดือนหนึEง ค่อนข้างเร็ว ขณะนีเBราตกอย่ใู นภาวะของผ้ทู ีEขาดทนุ หรือไม่ ตรงนีเBป็นสิEงเราจะต้อง
ตระหนกั คตุ บะฮ์วนั ศกุ ร์มีไว้เพืEอเตือนให้ทกุ ท่านให้มีความยําเกรงตอ่ อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะ
อาลา) ด้วยกับการปฏิบตั ิในสิEงทีEพระองค์ทรงสงัE ใช้และห่างไกลจากสEิงทEีพระองค์ทรงสงัE ห้าม
เพราะฉะนนัB เราลองสํารวจตวั เองวา่ เราได้ทําอะไรไปแล้วบ้างในช่วงทEีผ่านมา บางคนพอตEืนเช้า
มาก็ต้องตรวจดไู ลน์หรือเฟสบุ๊คเป็นอนั ดบั แรก ก่อนเข้านอนก็ต้องดไู ลน์หรือเฟสบุ๊คก่อน บาง
คนดรู าคานําB มนั ขนึ B ลง บางคนดรู าคาทองคําหรือห้นุ แล้วเราหมนัE ตรวจสอบเรืEองอีหมา่ นของเรา
บ้างหรือไม่ ในฐานะทEีเราเป็นผ้ศู รัทธาเราได้ทําการสํารวจหรือไม่ ไม่ว่าจะตืEนนอนก่อนเข้านอน
หรือหลงั ละหมาด ว่าอีหม่านของเราเพิEมขึนB หรือไม่ เราทําอะม้าลอิบาดะฮฺมากกว่าเดิมหรือไม่
อา่ นกรุ อานบ้างหรือไม่ หรือได้ความรู้เกีEยวกบั ศาสนาเพEิมขนึ B หรือไม่ สิEงเหลา่ นีเBป็นสEิงทEีผ้ศู รัทธา
จะต้องตรวจสอบไมใ่ ช่ตรวจสอบอยา่ งอืEน แตส่ ิEงทEีสําคญั และจําเป็นในโลกนีตB งัB แตเ่ ราเกิดมาคือ
การทําข้อสอบให้ดีทีEสดุ เพราะเป้าหมาย คือโลกหน้า มีคนถามข้าพเจ้าว่าทําอย่างไรถึงได้รับ
ความสําเร็จ ข้าพเจ้ามีความรู้สกึ วา่ คําถามนีมB นั เป็นคําถามทีEถามไมต่ รงเวลาและไมต่ รงสถานทEี

140


เพราะในโลกนีเB รายงั ไม่นบั ว่าเป็นความสําเร็จ สําหรับผ้ศู รัทธาความสําเร็จจะต้องอย่โู ลกหน้า
แต่ข้าพเจ้าก็ต้องตอบในหลักทัEวๆไปว่าทําอย่างไรถึงได้รับความสําเร็จในโลกนีคB ือ ตอบ
ตามปกติหรือตามประเพณี แตใ่ นความเป็นจริงแล้วความสําเร็จของผ้ศู รัทธาไมใ่ ช่โลกนีหB ากแต่
เป็นโลกหน้า และข้าพเจ้าคิดว่าพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านคงมีเป้าหมายเหมือนข้าพเจ้า คือ
ต้องการได้รับสวรรค์เป็นการตอบแทน คงไม่มีใครอยากได้นรก แต่ปัญหาคือคณุ มีการเตรียม
ความพร้อมเข้าสู่สวรรค์หรือไม่ ถ้าสมมุติท่านมีอนั เป็นไปในวนั นี Bท่านลองประเมินตวั เองว่า
ท่านจะได้เข้าสวรรค์หรือลงนรก ตรงนีเBป็นสEิงทีEอยากตงัB คําถามให้ท่านคิด ถ้าท่านคิดว่าท่านยงั
ไมพ่ ร้อมทEีจะเข้าสวรรค์และแนน่ อนทา่ นต้องลงนรก เพราะฉะนนัB ทา่ นจําเป็นทEีจะต้องทําความดี
ให้มากๆ สมมตุ ิว่าถ้าท่านเชEือมนEั ว่าตวั เองต้องได้เข้าสวรรค์ แล้วท่านเชืEอมนEั หรือไม่ว่าท่านจะ
ได้เข้าสวรรค์ชันB ไหน เพราะฉะนันB อยากให้ทุกท่านมีเป้าหมายทEีจะเข้าสวรรค์ชันB สูงสุด คือ
สวรรค์อลั ฟิ รเดาส์ซงึE การจะได้เข้าไปอยใู่ นสวรรค์ชนัB นีใB นพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานซเู ราะฮ์อลั มอุ ฺ
มินนู อายะฮ์ทีE •-•• ซงEึ จะกลา่ วในช่วงท้ายของคตุ บะฮ์ว่าทําอย่างไรหรือเป็นคนเช่นไรจึงจะได้
เข้าสสู่ วรรค์ชนัB ฟิรเดาส์

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่านครับ ทกุ วนั นีเBราลองประเมินตวั เองวา่ เราเป็นมอุ ฺมินหรือ
เป็นมุสลิมทEีสมบูรณ์แบบหรือไม่ ท่านรู้หรือไม่ว่ามุอฺมินและมุสลิมมีความหมายอย่างไร
มีฮะดีษซอเฮียะฮ์ของอิหม่ามอะหมดั ได้รายงานว่าท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ
วา่ สลั ลมั ) ได้กลา่ ววา่

، ‫َﻻ أُ ْﺧ ِﺑ ُرﻛُ ْم ِﺑﺎ ْﻟ ُﻣ ْؤ ِﻣ ِن؟ َﻣ ْن أَ ِﻣﻧَﮫُ اﻟﻧﱠﺎ ُس َﻋﻠَﻰ أَ ْﻣ َوا ِﻟ ِﮭ ْم َوأَ ْﻧﻔُ ِﺳ ِﮭ ْم‬
‫َوا ْﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ُم َﻣ ْن َﺳ ِﻠ َم اﻟﻧﱠﺎ ُس ِﻣ ْن ِﻟ َﺳﺎ ِﻧ ِﮫ َوﯾَ ِد ِه‬

ความว่า “ฉนั ได้บอกให้พวกท่านได้ทราบหรือไม่ว่ามอุ ฺมินเป็นอย่างไร คือบคุ คลซงึE มวล
มนษุ ย์ได้รับความไว้วางใจในทรัพย์สินของเขาและในชีวิตของพวกเขา และมสุ ลิมคือบคุ คลซงEึ
มนษุ ย์ปลอดภยั จากลนิ B ของเขาและมือของเขา”

ขอถามว่าเรามีคณุ สมบตั ิเป็นมอุ ฺมินหรือมสุ ลิมครบถ้วนตามนีหB รือไม่ พEีน้องหรือเพEือน
ของเราปลอดภยั จากลินB หรือมือของเราหรือไม่ ทรัพย์สินของเขาเป็นทEีต้องห้ามหรือไม่ ชีวิตของ

141


เขาเป็นทEีต้องห้ามของเราหรือไม่ ในปัจจบุ นั นีมB นั มีการใช้ลนิ B แบบพิสดาร แตเ่ ดิมเราเข้าใจวา่ ผ้ทู Eี
ปลอดภยั จากลินB คือ การทEีไม่นินทาเขา ไม่ใส่ร้ายเขา แต่ตอนนีมB ีไลน์หรือเฟสบ๊คุ ซงึE สามารถทEี
จะพิมพ์ข้อความหรือโพสต์รูปภาพเช่นเดียวกบั การเอาลินB ไปละเมิดสิทธิของคนอืEนได้เสมอ ซงEึ
การละเมิดกนั อาจกระทําโดยการพดู ออก Youtube หรือลงเฟสบ๊คุ วา่ กลา่ วคนอEืนซงEึ เป็นการทํา
ให้เขาเดือดร้อนหรือทีEเรียกวา่ “ฮกั ก้ลุ อาดมั ” อย่างนีกB ็คือ การทีEเขาไม่ปลอดภยั จากลินB ของเรา
เช่นกัน เพราะฉะนันB เวลาเราจะแชท หรือแชร์หรือกดไลค์หรือจะทําอะไรเกEียวกับโซเชีEยล
เน็ตเวิร์คเหล่านี Bสมควรอย่างยิEงทีEจะต้องพิจารณาว่ามันเป็นข้อความทEีถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่
ถูกต้องหรือมีผลกระทบต่อพEีน้องมุสลิมหรือมีผลเสียหรือส่งผลต่อเรืEองหลกั การศรัทธา เช่น
จดหมายลกู โซเ่ มEือไม่สง่ ตอ่ จะเป็นอย่างนนัB อย่างนี Bหรือมีถ้อยคําทีEเกEียวกบั ศาสนาอEืนหรือความ
เชEืออEืนทEีมิใช่อิสลาม ถ้าเราส่งไปก็เท่ากับเราเป็นคนเผยแพร่สEิงเหล่านันB ต่อสาธารณชน
เพราะฉะนนัB ต้องระวงั และอย่าทําอะไรไปโดยไม่ไตร่ตรองก่อน และสEิงทEีสําคญั คือคําพดู ของเรา
เวลาพูดแล้วจะสนุกปากแต่ว่ามนั จะก้าวล่วงคนอืEน หลงั จากนันB ก็มีปัญหาตามมา สิEงเหล่านี B
เป็นสงEิ ทีEอยากจะเตือนพวกเราให้พงึ ระวงั โดยเฉพาะอยา่ งยEิงการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คทงัB หลาย

ท่านพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ท่านครับ เราเป็นมสุ ลิมและมอุ ฺมินซงึE สามารถปรับปรุงตวั เอง
ได้ นกั วิชาการบอกว่าเราได้อิสลามมาง่ายเลยไม่มีความหวงแหนหรือไม่มีความรักต่ออิสลาม
เท่าใดนกั ท่านเปรียบวา่ เป็นมสุ ลิมทางสายเลือดและบางท่านบอกวา่ เป็นมสุ ลิมทางสายสะดือ
ซงึE คําพดู นีคB ือความจริง คําวา่ เป็นมสุ ลิมทางสายสะดือหมายความวา่ คณุ เป็นมสุ ลิมเพราะคณุ
อยู่ในท้องแม่โดยทีEไม่ต้องทําอาหาร ไม่ต้องหาอาหาร ไม่ต้องเลือก ไม่ต้องจับ ไม่ต้องเคียB ว
เพราะแม่ทําให้หมดโดยการส่งอาหารให้ทางสายสะดือ เวลาจะถ่ายก็ผ่านทางสายสะดือ
เพราะฉะนนัB จะเห็นได้ว่ารับอิสลามแบบง่ายมาก เราจึงไม่มีความหวงแหนและไม่มีความคิดทEี
จะพยายามในการทําอะม้าลอิบาดะฮฺ ยกตวั อย่างประวตั ิของซ่อฮาบะฮ์ท่านหนึEงคือ ท่านอบู
อบุ ยั ดะฮ์อิบนิญัรเราะฮ์ (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ซงึE ท่านเป็นซอ่ ฮาบะฮ์คนทEีสําคญั เพราะท่านเป็น •
ใน •W ของผู้ทEีได้แจ้งข่าวดีว่าเป็นชาวสวรรค์ ท่านเป็นคนทEีรับอิสลามในกล่มุ แรกๆ ภายหลงั
จากทีEทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) นําอลั อิสลามมาเผยแพร่กบั พระนาง
คอดียะฮ์ ทา่ นอบบู กั รและทา่ นอาล(ี ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮมุ ) หลงั จากนนัB วนั รุ่งขนึ B ทา่ นอบอู บุ ยั ดะฮ์ได้

142


เข้ารับอิสลามตอ่ หน่าทา่ นอบบู กั ร (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ทา่ นไมไ่ ด้รับอิสลามง่ายดายแบบเราโดย
ทEีท่านต้องละทิงB หรือหนั หลงั ให้กบั ครอบครัวทงัB หมดและอพยพไปอย่ทู ีEนครมะดีนะฮ์ หลงั จาก
นนัB บททดสอบของท่านก็เกิดขนึ B เมEือชาวกเุ รชยกทพั มาทําสงครามกบั ชาวมะดีนะฮ์คือ สงคราม
บะดรั ท่านไม่ใช่คนทEีมีร่างกายกํายําแต่ท่านเป็นคนทEีสงู โปร่งและเข้มแข็ง เวลาต่อส้ทู ่านห้าว
หาญและปราดเปรียวเหมือนกบั ราชสีห์ ท่านต่อส้รู บกบั พวกกฟุ ฟารอย่างกล้าหาญ จนกระทงEั
กองทพั ม้าของชาวกุเรชไม่กล้าทEีจะมาหาท่าน มีชาวกุเรชคนหนึEงติดตามเพืEอจะต่อส้กู ับท่าน
ตลอด แต่ท่านพยายามจะหลบไม่ยอมสู้กับคนคนนีทB ังB ทEีท่านสู้ได้ทุกคน จนในทEีสุดท่านก็ไม่
สามารถหลบได้และต้องเผชิญหน้ากนั ท่านได้ประดาบกนั และท่านก็ฟันศีรษะของชาวกเุ รชคน
นันB ขาดออกเป็น T ท่อนซEึงดูเหมือนเป็นเรืEองทีEปกติเพราะท่านเป็นคนทEีกล้าหาญในเรืEองการ
ต่อสู้ แต่สEิงทEีสําคญั ท่านได้ฟันดาบลงบนศีรษะของชายคนนนัB ทีEมีชEือว่า “อบั ดลุ เลาะฮ์อิบนิญัร
เราะฮ์” ซงEึ เป็นพอ่ ของทา่ นเองซงึE ทําให้หวั ใจของทา่ นแตกสลาย ทงัB ๆ ทีEทา่ นต้องการเลEียงทีEจะไม่
ส้กู บั พ่อของท่าน แต่เมืEอจนตรอกไม่มีทางไปท่านก็ต้องต่อสู้ ในทีEสดุ ท่านก็ต้องเศร้าโศกมากทEี
หวั ใจของท่านร่วงไปกบั ชีวิตของพ่อ และมีซอ่ ฮาบะฮ์ท่านหนงEึ ปลอบใจท่านวา่ แท้จริงท่านอะบู
อบุ ยั ดะฮ์นนัB ไมไ่ ด้ฆา่ พอ่ ของตวั เองแตเ่ ป็นการฆา่ การปฏิเสธทEีอยใู่ นตวั ของพอ่ ของทา่ นตา่ งหาก
นEีคือการได้มาของอิสลามของบรรดาซอ่ ฮาบะฮ์ และอีกทา่ นหนงEึ ซงEึ เป็น • ใน •W ของผ้ทู ีEได้แจ้ง
ขา่ วดีวา่ เป็นชาวสวรรค์คือ ทา่ นซะอ์บินอบีวะกอส (ร่อฎิยลั ลอฮอุ นั ฮ)ุ ก่อนเข้ารับอิสลาม ทา่ นมี
ชืEอเสียงโด่งดังในเรืEองการกตัญ‘ูต่อแม่ ท่านได้ทําการเลียB งดูแม่โดยการอุ้มแม่ไปทุกทEี
แม่ต้องการอะไรจะหามาให้แม่ตลอด และเป็นลกู ทีEได้รับการยกย่องว่ากตญั ‘ูยิEง พอท่านเข้า
รับอิสลามการทดสอบก็เกิดขึนB ทนั ที คณุ แม่ของท่านปฏิเสธทEีจะให้ท่านช่วยเหลือ ไม่ยอมทาน
อาหารทีEท่านมอบให้หรือปอ้ นให้ และพยายามทีEจะฝ่าฝืนทกุ อย่างเหมือนเป็นการประท้วงท่าน
ว่าเข้ารับอิสลามทําไม ต่อมาท่านจึงตดั สินใจทีEจะกล่าวกับแม่ของท่าน ด้วยถ้อยคําว่า “ขอ
สาบานต่ออัลลอฮฺ มาดแม้นว่าแม่ของฉันจะมีชีวิตถึงร้ อยชีวิตและตายไปทีละชีวิต ฉันก็ไม่
สามารถทEีจะออกจากศาสนาอิสลามได้” ในทีEสดุ แม่ของท่านก็ทนต่อความม่งุ มนัE ของท่านไม่ได้
ก็ยอมรับทีEจะให้ท่านช่วยเหลือและทานอาหารทEีท่านหามาให้ นีEก็เป็นอีกชีวประวตั ิหนEึงของ
ซอ่ ฮาบะฮ์ทEีมีการต่อส้กู บั การได้มาซงEึ อิสลาม สว่ นของเราได้มาอย่างง่ายดายเพราะเป็นมสุ ลิม

143


ทางสายสะดือเราถึงไม่สนใจเรEืองศาสนาเท่าทEีควร ทุกวนั นีปB ัญหาสงั คมแตกแยกหรือมุสลิม
ตกตํEาส่วนหนึEงมาจากมุสลิมไม่ได้ มีการเปลีEยนแปลงให้ เจริ ญ ก้ าวหน้ าในเชิงวิชาการหรื อ
คุณธรรมมากขึนB หมายถึง ด้านวตั ถุอาจจะเจริญขึนB แต่จิตใจตกตEําลง การมีมารยาท การให้
เกียรติกนั น้อยลง และตามมาด้วยการแตกแยก แต่ทEีสิEงทEีจะแก้ไขได้ก็คือ การทีEจะต้องเริEมจาก
ตวั เราเองเพราะแท้จริงอลั ลอฮฺจะไม่ทรงเปลEียนแปลงชนชาติใดจนกว่าเขาจะเปลีEยนแปลงตวั
ของเขาเอง

ท่านพEีน้องผู้ศรัทธาทีEรักทุกท่านครับ การมุญาฮาดะฮ์หรือการญีฮาดในฮะดีษของ
อิหม่ามอะหมดั ทEียกไปตอนต้นท่านศาสดามฮู มั หมดั (ซ็อลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิว่าสลั ลมั ) ได้บอกถึง
คน V ประเภท ข้าพเจ้าบอกไปแล้ว T ประเภท อีก T ประเภทก็คือ ผ้ทู ีEญีฮาดทEีต่อส้กู บั อารมณ์
ใฝ่ตEําของตวั เองเพืEอปฏิบตั ิตามสงิE พระองค์ทรงสงEั ใช้ เราทําอยา่ งนีหB รือไม่ เราได้ตอ่ ส้กู บั อารมณ์
ใฝ่ ตEําของเราหรือไม่ หรืออารมณ์ใฝ่ ตEําอยู่เหนือเรา เราลองตรวจสอบว่าเราละหมาดครบ U
เวลาหรือไม่ หรือต้องละหมาดชดใช้ เมืEอเข้าเวลาละหมาดแล้วแต่ยงั ต้องทํางานอยู่ ยงั ติดซ้อม
ดนตรีอยู่ ยงั ติดทําโน่นทํานีEอยู่ เราให้ความสําคญั กบั การงานกบั สิEงทีEเป็นความเพลิดเพลินหรือ
สิEงทEีไร้สาระมากกวา่ สิEงทEีเป็นบทบญั ญัติใช้ของพระองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา) เราไม่
มุญาฮาดะฮ์ เราไม่ต่อสู้ ตรงนีเB ป็นสEิงทEีเราจะต้องให้ความสําคญั เรามีโอกาสทEีจะต่อสู้เสมอ
ขอให้ท่านตระหนกั ให้มาก คนทEีละหมาดฟัรดคู รบในเวลา ลองตรวจสอบดวู ่าเราละหมาดสนุ ตั
ครบ •T ร่อกะอัตหรือไม่ ถ้ายังไม่ครบท่านก็ควรมุญาฮาดะฮ์ต่อสู้ทีEจะทําให้ครบถ้วน สิEงทEี
สําคญั คือ การทําอิบาดะฮฺของทา่ น ทําในลกั ษณะถกู บงั คบั หรือทําด้วยใจทEีอยากจะทํา ถ้าหาก
ท่านทําเพราะถกู บงั คบั ท่านจะไม่ได้อรรถรสของสิEงทEีเป็นอิบาดะฮฺจริงๆ รวมทงัB ท่านลองสํารวจ
ตวั เองวา่ นอกจากจะเหนียตวา่ ทําเพืEอใครแล้ว ทําเพราะต้องการจะทํา ทา่ นต้องการจะได้ลมิ B รส
ความหอมหวานของอิบาดะฮฺแล้ว ท่านต้องทําตามหลกั ฐานจากอลั กุรอานและอลั ฮะดีษด้วย
ซงEึ ทา่ นศาสดามฮู มั หมดั (ซอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวา่ สลั ลมั ) ได้บอกวา่

‫ ِﻛﺗَﺎ َب ِﷲ َوﺳُﻧﱠﺔَ ﻧَ ِﺑ ِﯾّ ِﮫ‬:‫ﺗَ َر ْﻛ ُت ِﻓﯾﻛُ ْم أَ ْﻣ َر ْﯾ ِن ﻟَ ْن ﺗَ ِﺿﻠﱡوا َﻣﺎ ﺗَ َﻣ ﱠﺳ ْﻛﺗُ ْم ِﺑ ِﮭ َﻣﺎ‬

ความวา่ “ฉนั ทิงB ไว้ในหมพู่ วกทา่ นสองประการด้วยกนั หากพวกทา่ นยดึ สองประการนีไB ว้
จะไมห่ ลงทาง นนEั คือ คมั ภีร์ของอลั ลอฮฺ และซนุ นะห์ของฉนั ”

144


เพราะฉะนันB เราลองสงั เกตหรือพิจารณาดูว่าสEิงทEีเราทําทงัB หมด เราทําตามทังB สองสEิง
ทEีถูกกําหนดไว้หรือไม่ เพราะอะไรถึงให้พิจารณาในจุดนี B เพราะปัจจุบันเราเสพสิEงเหล่านี B
มากเกินไปเหมือนกบั เสพยาเสพติดหรือสารปรุงแตง่ เหมือนขนมกรุบกรอบทEีเดก็ ๆ กินกนั จนติด
ซึEงก็คือความเค็มของเกลือและผงชูรส กินจนไม่รู้รสของสิEงนันB เพราะมนั ปรุงแต่งมากจนไม่รู้
รสชาติทEีแท้จริง สํานวนทEีบอกว่า “ you are what you eat” คุณกินอะไรคุณก็เป็นอย่างนันB
คณุ กินของไมด่ ีมนั ก็ไมด่ ีตอ่ คณุ คณุ กินของฮารอมตวั คณุ ก็ฮารอม สายเลือด ความคิดคณุ ก็จะ
โน้มเอียงไปทางฮารอม อีหม่านก็จะอ่อน เพราะฉะนนัB เวลาคณุ ทําอิบาดะฮฺแล้วคณุ เพิEมสิEงปรุง
แต่งมนั เหมือนผงชรู สซงEึ ทําให้คณุ ติดและคณุ ก็เพิEมปริมาณมนั มากขนึ B ๆ และในทีEสดุ คณุ ก็แยก
ไม่ออกระหว่างรสชาติทีEแท้จริงกับของปรุงแต่ง ตรงนีเB ป็นสEิงทEีน่ากลวั ยิEง อยากให้เราได้ลิมB รส
ความหอมหวานของอิบาดะฮฺทEีถกู ต้องตามอลั กรุ อานและอลั ฮะดีษทีEแท้จริง

ทา่ นพีEน้องผ้ศู รัทธาทีEรักทกุ ทา่ นครับ ในซเู ราะฮ์อลั มอุ ฺมินนู อายะฮ์ทีE •-•• อลั ลอฮฺได้ทรง
บอกถงึ เรืEองคณุ สมบตั ขิ องผ้ทู ีEได้รับหรือเป็นทายาทของชาวสวรรค์อลั ฟิรเดาส์ ไว้ดงั นี Bคือ

‫ﻗَ ْد أَ ْﻓﻠَ َﺢ ا ْﻟ ُﻣ ْؤ ِﻣﻧُو َن‬

ความวา่ “แท้จริงบรรดามอุ ฺมินนนัB ยอ่ มประสบความสาํ เร็จ”

‫اﻟﱠ ِذﯾ َن ھُ ْم ِﻓﻲ َﺻﻼ ِﺗ ِﮭ ْم َﺧﺎ ِﺷﻌُو َن‬

ความวา่ “คือบรรดาผ้ทู Eีคชุ อู ฺ (มีสมาธิ) ในการละหมาดของพวกเขา”

กล่าวคือ ไม่วอกแวกในการละหมาด ซึEง แต่เดิมขณะละหมาดมีการมองท้องฟ้ามอง
ซ้ายมองขวา แต่เมืEออายะฮ์นีถB กู ประทานลงมา หลงั จากนนัB จึงทําการมองทีEส‘ุ ดู เพืEอให้มีการ
คชุ อู ฺในการละหมาด

‫َواﻟﱠ ِذﯾ َن ھُ ْم َﻋ ِن اﻟﻠﱠ ْﻐ ِو ُﻣ ْﻌ ِر ُﺿو َن‬

ความวา่ “และบรรดาผ้ทู ีEหา่ งไกลจากสงEิ ไร้สาระ”

ลองพิจารณาดซู ิวา่ เราได้ผินหลงั ให้เรืEองไร้สาระหรือไม่ เรายงั คงดหู นงั ฟังเพลง ยงั ดสู ิEง
ทีEไร้สาระมากเกินไปหรือไม่ เราหนั หลงั ให้มนั บ้างหรือไม่ เราได้อ่านกุรอานบ้างหรือไม่ เราได้

145


ศกึ ษาความรู้ทางด้านศาสนาบ้างหรือไม่ ตรงนีขB อตกั เตือนท่านทงัB หลายให้สนใจเพราะกรุ อาน
นันB เป็นสEิงมหศั จรรย์ ถ้ามีคนบอกว่ามีคนลอยได้ มีคนเดินบนนําB ได้ ท่านจะไปดหู รือไม่ ใครๆ
ก็อยากไปดู แต่ทําไมอลั กรุ อานทีEเป็นสEิงมหศั จรรย์เรากลบั ไม่อยากดวู ่ามหศั จรรย์อย่างไร คนทEี
เข้ารับอิสลามเพราะอ่านอลั กรุ อานมีมากมาย แต่เรากลบั ไม่อ่านกรุ อานเลย หรืออ่านแต่ก็ไม่รู้
ความหมาย ทงัB ๆ ทEีอลั กรุ อานถกู ประทานลงมาอายะฮ์แรกคือ จงอา่ น แตเ่ ราไมอ่ า่ น เราไมช่ อบ
อ่าน วนั ศกุ ร์ได้อ่านซูเราะฮ์อลั กะฮฺฟEี บ้างหรือไม่ กุรอานลงมาให้กบั บุคคลทีEอ่านไม่ออกเขียน
ไม่ได้ แต่ท่านท่องจําได้ bW ยซุ เราอ่านออกเขียนได้แต่ท่องจําไม่ได้ซกั ซูเราะฮ์หรือได้น้อยมาก
เรารู้ความหมายในกรุ อานบ้างหรือไม่ ทEีสําคญั ก็คือวา่ ภาษากรุ อานเป็นภาษาอาหรับเป็นภาษา
ทEีฮิตมากๆ เพราะว่ามนั มีอรรถรสหรือมีพลงั ยกตวั อย่างภาษาไทย คําว่าอลั ลอฮฺทรงยEิงใหญ่
กับคําว่า “อลั ลอฮุอักบัร” ท่านมีความรู้สึกอย่างไร เหมือนกันหรือแตกต่างกัน นีEคือพลงั ของ
ภาษาอาหรับทีEทุกคนควรจะได้รู้ ควรจะได้ศึกษา ควรจะได้รับความซาบซึงB หรืออรรถรสของ
คมั ภีร์อลั กุรอาน ถ้าเราไม่อ่านกุรอาน เราจะไม่มีความซาบซึงB เราจะไม่มีอีหม่านเพEิมมากขึนB
ผ้ศู รัทธาคือผ้ทู EีเมEืออลั กรุ อานได้ถกู อ่าน เขาจะมีความเพEิมพนู ถ้าเราไม่ได้อ่านกรุ อานเราไม่ได้
เพEิมพนู อีหม่าน เพราะฉะนนัB เราหลีกห่างจากเรEืองไร้สาระ และหนั มาอ่านกรุ อาน หนั มาศึกษา
หาความรู้

‫َواﻟﱠ ِذﯾ َن ھُ ْم ِﻟﻠ ﱠز َﻛﺎ ِة ﻓَﺎ ِﻋﻠُو َن‬

ความวา่ “และบรรดาผ้ทู ีEจา่ ยซะกาต”

‫َواﻟﱠ ِذﯾ َن ھُ ْم ِﻟﻔُ ُرو ِﺟ ِﮭ ْم َﺣﺎ ِﻓظُو َن ِإﻻ َﻋﻠَﻰ أَ ْز َوا ِﺟ ِﮭ ْم أ ْو َﻣﺎ َﻣﻠَ َﻛ ْت أَ ْﯾ َﻣﺎﻧُ ُﮭ ْم‬
‫ﻓَﺈِﻧﱠ ُﮭ ْم َﻏ ْﯾ ُر َﻣﻠُو ِﻣﯾ َن ﻓَ َﻣ ِن ا ْﺑﺗَﻐَﻰ َو َرا َء ذَ ِﻟ َك ﻓَﺄُوﻟَ ِﺋ َك ھُ ُم ا ْﻟﻌَﺎدُو َن‬

ความว่า “และบรรดาผ้ทู ีEสงวนอวยั วะเพศจากการผิดประเวณี เว้นแต่กบั บรรดาภรรยา
หรือทาสีของพวกเขา เช่นนนัB พวกเขาก็จะไมใ่ ช่ผ้ทู ีEถกู ตําหนิ ทวา่ หากผ้ใู ดยงั หาทEีจะประพฤติตน
นอกเหนือจากนนัB พวกเขายอ่ มเป็นผ้ทู Eีละเมิด”

‫َواﻟﱠ ِذﯾ َن ھُ ْم ﻷ َﻣﺎﻧَﺎ ِﺗ ِﮭ ْم َو َﻋ ْﮭ ِد ِھ ْم َراﻋُو َن‬

ความวา่ “และบรรดาผ้ทู ีEรักษาหน้าทีEและสญั ญาของพวกเขา”

146


‫َواﻟﱠ ِذﯾ َن ھُ ْم َﻋﻠَﻰ َﺻﻠَ َوا ِﺗ ِﮭ ْم ﯾُ َﺣﺎ ِﻓظُو َن‬
ความวา่ “และผ้ทู ีEรักษาการละหมาดของพวกเขา”

‫أُوﻟَ ِﺋ َك ھُ ُم ا ْﻟ َوا ِرﺛُو َن اﻟﱠ ِذﯾ َن ﯾَ ِرﺛُو َن ا ْﻟ ِﻔ ْردَ ْو َس ھُ ْم ِﻓﯾ َﮭﺎ َﺧﺎ ِﻟدُو َن‬

คนเหลา่ นนัB คือ ผ้ทู ีEได้รับมรดก (ทายาท) ในสรวงสวรรค์อลั ฟิรเดาส์โดยทีEพวกเขาจะ
พํานกั อยใู่ นนนัB ชวัE กาลนาน”

นEีคือคน ‡ ประเภท ผู้ทีEเป็นทายาทในการได้รับสวรรค์อลั ฟิ รเดาส์ ข้าพเจ้าจึงขอดอุ าอฺ
จากอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ให้พวกเราทกุ คนเป็นหนEึงในทายาทของชาวสวรรค์นีดB ้วย
เถิด อามีน

‫ اﻟﻌَ ِظ ْﯾ َم ِﻟﻲ َوﻟَﻛُ ْم َو ِﻟ َﺳﺎ ِﺋ ِر اﻟ ُﻣ ْﺳ ِﻠ ِﻣ ْﯾ َن‬6َ ‫أَﻗُو ُل ﻗُو ِﻟﻲ َھذَا َوا ْﺳﺗَ ْﻐﻔَ ُر ا ﱠ‬
‫ﻓَﺎ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُر ْوهُ ِإﻧﱠﮫُ ھُ َو ا ْﻟﻐَﻔُ ْو ُر اﻟ ﱠر ِﺣﻲ‬

147


เร;ือง อัลฟาตฮิ ะฮ์กับหลักการศรัทธา

‫ِﺑ ْﺳ ِم اﻟﻠﱠـ ِﮫ اﻟ ﱠر ْﺣ َﻣ ٰـ ِن اﻟ ﱠر ِﺣﯾ ِم‬

‫ ِﻣ ْن ﺷُ ُر ْو ِر أَ ْﻧﻔُ ِﺳﻧَﺎ َو ِﻣ ْن‬Dِ ‫ ﻧَ ْﺣ َﻣدُهُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾﻧُﮫُ َوﻧَ ْﺳﺗَ ْﻐ ِﻔ ُرهُ َوﻧَﺗُ ْو ُب ِإﻟَ ْﯾ َك َوﻧَﻌُ ْوذُ ِﺑﺎ‬6ِ ّ ِ َ‫ِإ ﱠن ا ْﻟ َﺣ ْﻣد‬
َ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ْن َﻻ ِإﻟَﮫ‬،ُ‫ َو َﻣ ْن ﯾُ ْﺿ ِﻠ ْل ﻓَ َﻼ َھﺎ ِد َي ﻟَﮫ‬،ُ‫ َﻣ ْن ﯾَ ْﮭ ِد ِه ﷲُ ﻓَ َﻼ ُﻣ ِﺿ ﱠل ﻟَﮫ‬،‫َﺳ ِﯾّﺋَﺎ ِت أَ ْﻋ َﻣﺎ ِﻟﻧَﺎ‬
‫ُﻣ َﺣ ﱠﻣ ٍد‬ ‫ﻧَ ِﺑﯾًﻧَﺎ‬ ‫َﻋﻠ َﻰ‬ ‫ َوأَ ْﺷ َﮭدُ أَ ﱠن ُﻣ َﺣ ﱠﻣدَاً َﻋ ْﺑدُهُ َو َرﺳُ ْوﻟُﮫُ اَﻟﻠﱠ ُﮭ ﱠم َﺻ ًل‬،ُ‫َو ْﺣدُهُ َﻻ َﺷ ِر ْﯾ َك ﻟَﮫ‬ ُ‫ِإ ﱠﻻ ﷲ‬
‫ أَ ﱠﻣﺎ ﺑَ ْﻌدُه‬٠ ‫آ ِﻟﮫ َو َﺻ ْﺣ ِﺑﮫ َو َﻣ ْن ﺗَ ِﺑﻌَ ُﮭ ْم ِﺑﺈِ ْﺣ َﺳﺎ ٍن ِإﻟَﻰ ﯾَ ْو ِم اﻟدً ِﯾن‬ ‫َو َﻋﻠَﻰ‬

‫ َوﻗُوﻟُوا ﻗَ ْوﻻ َﺳ ِدﯾدًا‬6َ ‫ﻓَﻘَ ْد ﻗَﺎ َل ﷲُ ﺗَﻌَﺎﻟَﻰ ِﻓﻲ ِﻛ ِﺗﺎ ِب ِﷲ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم ﯾَﺎ أَﯾﱡ َﮭﺎ اﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا اﺗﱠﻘُوا ا ﱠ‬
‫ َو َرﺳُوﻟَﮫُ ﻓَﻘَ ْد ﻓَﺎ َز ﻓَ ْو ًزا َﻋ ِظﯾ ًﻣﺎ‬6َ ‫ﯾُ ْﺻ ِﻠ ْﺢ ﻟَﻛُ ْم أَ ْﻋ َﻣﺎﻟَﻛُ ْم َوﯾَ ْﻐ ِﻔ ْر ﻟَﻛُ ْم ذُﻧُوﺑَﻛُ ْم ۗ◌ َو َﻣن ﯾُ ِطﻊِ ا ﱠ‬

‫َﺻدَ َق ﷲُ اﻟﻌَ ِظ ْﯾم‬

ขอความสขุ ความสนั ติ ความเมตตาปราณีจากเอกองค์อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่ ตะอาลา)

จงประสบแด่พEีน้องผ้ศู รัทธาทEีรักทกุ ท่าน ขอขอบคณุ อลั ลอฮฺทีEทรงโปรดให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่

จนถึงวนั ศกุ ร์ ข้าพเจ้าขอเตือนตวั เองและพวกท่านให้มีความยําเกรงตอ่ อลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู า่

ตะอาลา) โดยการปฏิบตั ตามทีEพระองค์ทรงสงEั ใช้และหา่ งไกลจากสงEิ ทEีพระองค์ทรงสงัE ห้าม

ท่านพEีน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ ทุกวันนีโB ลกได้เปลEียนแปลงไปอย่างรวดเร็วมี
เหตกุ ารณ์ต่างๆ เกิดขึนB มากมาย การพฒั นาทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา
ซEึงเมืEอก่อนอาจจะไม่เคยประสบ สEิงต่างๆ เหล่านีไB ม่ใช่เหตุบังเอิญแต่มันเป็นพระประสงค์
ของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) ซEึงพระองค์มีเจตนาจะให้มาประสบเพEือทดสอบพวกเรา
ด้วยเหตุนี BเราควรทEีจะคิดไตร่ตรองว่าอลั ลอฮฺจะให้เราทําอย่างไร ใช้หลกั การอะไร จัดลําดบั
ความสําคัญของเรืEองนันB ดําเนินการและจนกระทEังทําให้เรามีอีหม่านทีEเพิEมพูน นีEคือสEิงทEี
ผ้ศู รัทธาจะต้องทําข้อทดสอบทEีมาประสบตลอดเวลา

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ เทคโนโลยีมันพัฒนาไปมากแม้แต่รัฐบาลยังมี
โครงการใหมๆ่ ในเรEืองเศรฐกิจดิจิตอล เราคงต้องเข้าใจและใช้มนั เพราะถ้าเราไมใ่ ช้เราอาจต้อง
ได้รับผลกระทบและประสบกับปัญหาทีEตามมาอย่างแน่นอน ตัวอย่างเช่น มีแอพพลิเคชEัน
มากมายในสมาร์ทโฟนของเราทEีเราใช้และมีทังB ส่วนทEีดีและไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยEิง การใช้

148


โซเชียลเน็ตเวิร์ก เราสามารถมองเห็นหน้ากนั ได้ยินเสียงกนั สง่ ข้อความ โพสต์รูป ไม่ว่าจะเป็น
Skype Viber Line Facebook Instagram หรือ Twitter เราใช้มนั ได้ถกู ต้องหรือไม่ เราเปลีEยน
จากสงั คมทEีมองหน้าแล้วพดู คยุ กนั มาเป็นสงั คมก้มหน้าต่างคนต่างไม่มองกนั ใช่หรือไม่ และ
บางคนติดจนถึงขนาดก่อนนอนและหลงั ตEืนนอนต้องมาดมู นั ซงึE เหลา่ นีกB ็เป็นสEิงทEีมาประสบกบั
เราเป็นข้อทดสอบของอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ซึEงเราต้องใช้มนั ให้ถกู เราต้องรู้เท่าทนั
มนั ทEีจะใช้ประโยชน์จากมนั ไม่ได้ใช้เพEือการนินทา หรือเอาสEิงทEีไม่จริงหรือโกหกมาเผยแพร่กนั
ในโซเชียลเน็ตเวิร์กเหล่านี BเราควรเอาสEิงทEีเป็นอลั กุรอาน เป็นฮะดีษมาใช้ในการตกั เตือนกัน
สง่ เสริมกนั ให้ทําความดีและยบั ยงัB ความชวEั นนัE คือเปา้ หมายของคนทEีใช้เป็น นนัE คือการรู้เทา่ ทนั
และทีEสําคัญเราต้องจัดลําดับความสําคัญเหล่านีวB ่าเป็นอย่างไร เราควรใช้มันนําหน้าสิEงอืEน
หรือไม่ ไม่ใช่เราเอามนั ไปใช้ในชีวิตประจําวนั ตลอดเวลาเลย ตอนนีถB ้าเป็นพนกั งาน ลกู จ้างเกิด
เลน่ ไลน์ในเวลาทํางาน นายจ้างสามารถไลอ่ อกได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลว่ งหน้า นีEก็เป็นจดุ หนEึงทEี
ชีใB ห้เห็นถึงการพัฒนาของโลกทEีก้าวไกลและเราต้องรู้เท่าทัน ทีEสําคัญคือเราต้องจัดลําดับ
ความสําคัญของแต่ละเรEือง นักวิชาการได้อธิบายว่า สมมุติท่านมีข้อสอบ T ข้อ ข้อทีE • ให้
คะแนน • คะแนน ข้อทEี T ให้คะแนน gg คะแนน รวมเป็น •WW คะแนน ท่านจะทําข้อสอบข้อ
ไหนก่อน คงไม่มีใครทําข้อทีE • ทีEมี • คะแนน ทกุ คนก็จะม่งุ ไปให้ความสําคญั ของข้อทEี T ซงึE ให้
คะแนนมากกวา่ ฉนั ใดก็ฉนั นนัB พEีน้องผ้ศู รัทธาเข้าใจและทราบดีวา่ โลกอาคีเราะฮ์เหนือกวา่ โลก
ดนุ ยาอย่างแน่นอน การทีEเราใช้ชีวิตอย่บู นโลกนีเBราทําข้อสอบข้อไหนก่อน เพราะฉะนนัB ท่านจึง
สมควรอย่างยิEงทีEจะต้องจดั ลําดบั ความสําคญั มิฉะนนัB เวลาในการทําข้อสอบในส่วนของโลก
อาคีเราะฮ์ทEีสาํ คญั กวา่ มีคะแนนมากกวา่ จะมีเวลาไมเ่ พียงพอ

ท่านพีEน้องผู้ศรัทธาทEีรักทุกท่านครับ สิEงหนEึงทีEอยากจะบอกพวกเราว่าสEิงทEีมาประสบ
กบั เราหรือเวลาเราเกิดเหตกุ ารณ์อะไรขึนB ลองนึกว่าเราจะทําข้อสอบข้อนีใB ห้ดีอย่างไร เราควร
ใช้หลกั การอิสลามมาแก้ปัญหาเรEืองนีหB รือไม่ เช่น เรEืองการทําอิบาดะฮฺ เรืEองการละหมาด ถาม
วา่ ท่านให้ความสําคญั กบั การละหมาดแคไ่ หน เราละหมาดแล้วได้ฮิกมะฮ์หรือสิEงทีEเป็นอรรถรส
ของการละหมาดหรือไม่ ละหมาดแบบมีสมาธิหรือไม่ และเราจดั ลําดบั ความสําคญั ของการ
ละหมาดแค่ไหนในขณะทีEเราทํางาน ถึงเวลาแล้วเราละหมาดก่อนหรือไม่และเราละหมาดแล้ว

149


เราเพิEมพนู อีหมา่ นหรือไม่ ทําไมละหมาดถงึ ต้องมาก่อน ละหมาดเป็นสงEิ ทีEสําคญั ทีEสามารถแยก
ระหว่างผ้ศู รัทธากบั ผ้ทู Eีไม่ศรัทธา และท่านทราบหรือไม่ว่าสEิงทEีสําคญั ทีEสดุ ของการละหมาดคือ
อะไร คือการเหนียต เพราะการเหนียตคือการตงัB เจตนาวา่ เรากระทําไปเพืEอใคร แล้วถดั จากการ
เหนียตคืออะไร คือ การอา่ นฟาติฮะฮ์เพราะจําเป็นต้องอา่ นในทกุ ๆ ละหมาดและทกุ ๆ ร่อกะอตั
ท่านเคยสงั เกตหรือไม่ว่าทําไมการอ่านฟาติฮะฮ์จึงสําคญั ทําไมถึงต้องอ่าน สEิงเหล่านีเBป็นสิEงทEี
อยากจะฝากพวกเราให้ได้คิดและสร้างตกั วาของเราให้เพิEมขึนB มีฮะดีษทีEรายงานโดยท่านอบู
ฮุรอยเราะฮ์ (ร่อฎิยลั ลอฮุอนั ฮุ) ได้กล่าวว่า ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ็อลลลั ลอฮุอะลยั ฮิว่าสลั ลมั )
ได้กลา่ ววา่

‫َﻻ َﺻ َﻼةَ ِﻟ َﻣن ﻟَ ْم ﯾَ ْﻘ َرأْ ﺑﻔَﺎ ِﺗ َﺣ ِﺔ اﻟ ِﻛﺗَﺎ ِب‬

ความวา่ “ไมถ่ ือวา่ เป็นการละหมาดสาํ หรับผ้ทู Eีไมไ่ ด้อา่ นฟาตฮิ ะฮ์”

ท่านนบีได้กล่าวประโยคนีถB ึงสามครังB ซ่อฮาบะฮ์ถามว่าแล้วฉันเป็นมะมูมต้องอ่าน
หรือไม่ ทา่ นอบฮู รุ อยเราะฮ์ตอบวา่ ให้อา่ นในใจ ฮะดีษนีชB ีใB ห้เห็นถึงการอา่ นฟาติฮะฮ์ ถามวา่ เรา
มีความรู้เรืEองฟาติฮะฮ์ขนาดไหน ทําไมถึงสําคัญ และเราได้อรรถรสของการอ่านฟาติฮะฮ์
หรือไม่ อย่างไร ซูเราะฮ์ฟาติฮะฮ์ไม่ใช่ซูเราะฮ์แรกทEีถูกประทานลงมาแต่เป็นซูเราะฮ์ทEีถูก
ประทานลงมาหลงั จากซูเราะฮ์อลั มดุ ดรั ซิร ซูเราะฮ์ฟาติฮะฮ์ถกู ประทานมาทEีนครมกั กะฮ์ ซงEึ ใน
เรEืองนีนB ักวิชาการมีความเห็นทEีต่างกันว่าประทานทEีมักกะฮ์หรือมะดีนะฮ์ แต่ทEีมีนําB หนักคือ
ประทานทีEนครมกั กะฮ์ มีทงัB หมด ˆ อายะฮ์ TU คํา ••b ตวั อกั ษร และฟาติฮะฮ์มี •T ชืEอ • ใน
•T ชEือ คือ “ฟาติฮะฮ์” แปลวา่ เปิดหรือบทนํา และมีชืEอวา่ “อมุ ม้ลุ กีตาบ” แปลวา่ แมข่ องคมั ภีร์
และมีชืEอว่า “อลั อะซาซ” แปลว่า รากฐาน และมีชEือว่า “อสั สบั อ้ลุ มะซานี” แปลว่า ˆ อายะฮ์ทEี
ถกู กล่าวซําB ซงEึ ชืEอนีกB ็บ่งบอกถึงความสําคญั แต่ทีEสําคญั นกั วิชาการบอกว่า ซูเราะฮ์ฟาติฮะฮ์มี
เตาฮีดอยู่ครบทังB b ประเภท คือ •. เตาฮีดรุบูบียะฮ์ T. เตาฮีดอุลูฮียะฮ์ และ b. อสั มาอฺวศั
ศฟิ าต มีคําถามวา่ แล้วอยตู่ รงไหน อยอู่ ยา่ งไร

• - เตาฮีดรุบูบียะฮ์ คือ การให้เอกภาพหรือให้ความเป็นหนึEงกับพระองค์ในเรEืองของ
การเป็นพระผู้อภิบาล นักวิชาการบอกว่ามี b เรEืองด้วยกัน คือ (•) การเป็นผู้สร้าง (Creator)

150


(T) การเป็นผู้บัญชาการ (Master) และ (b) การเป็นผู้ควบคุมกฎเกณฑ์ทังB หมด (Regulator)
และเตาฮีดรุบูบียะฮ์ในซูเราะฮ์ฟาตีฮะฮ์ คือ ‫ َر ِّب ا ْﻟﻌَﺎﻟَ ِﻣﯾ َن‬6ِ ‫ ا ْﻟ َﺣ ْﻣدُ ِ ﱠ‬แปลว่า การสรรเสริญ
ทงัB หมดเป็นของอลั ลอฮฺผ้อู ภิบาลแห่งโลกทงัB หลายหรือสากลจกั รวาล เพราะฉะนนัB เมEือเราอ่าน
‫ َر ِّب ا ْﻟﻌَﺎﻟَ ِﻣﯾ َن‬6ِ ‫ ا ْﻟ َﺣ ْﻣدُ ِ ﱠ‬ให้เรานกึ วา่ นีEคือการแสดงถงึ การเป็นเตาฮีดรุบบู ียะฮ์ คืออะกีดะฮ์ของ
เราอย่างหนEึงและยอมรับว่าอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา) เป็นพระผ้อู ภิบาลทีEทรงสร้างสรร
พสงEิ ทงัB หลาย ทรงบริหารกิจการและทรงควบคมุ ให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ทีEพระองค์ได้สร้าง

T – เตาฮีดอลุ ฮู ียะฮ์ คือ การให้เอกภาพตอ่ อลั ลอฮฺในการทEีเชืEอมนEั ศรัทธาวา่ อลั ลอฮฺองค์
เดียวเท่านนัB และไม่มีพระเจ้าอืEนใดทEีถกู กราบไหว้โดยเทEียงแท้นอกจากอลั ลอฮฺ สมยั ก่อนชาว
กุเรชทEีมักกะฮ์ก็มีเตาฮีดรุบูบียะฮ์เพราะเชืEอว่าอลั ลอฮฺเป็นผู้ทรงสร้างแต่ไม่มีเตาฮีดอุลูฮียะฮ์
เพราะไม่ได้กราบไหว้อลั ลอฮฺองค์เดียว นกั วิชาการได้แบ่งเตาฮีดอลุ ฮู ียะฮ์คือ • ต้องมีความรัก
ในอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) ยิEงใหญ่กว่าสEิงใดในโลกนี Bการยอมจํานนต่อพระองค์แบบ
ร้ อยเปอร์เซ็น การเกรงกลัวอัลลอฮฺมากทEีสุด และต้องทําการอิบาดะฮฺต่อพระองค์องค์เดียว
รวมทงัB ขอดอุ าอฺต่อพระองค์เท่านนัB ทงัB นีทB Eีบอกว่าต้องรักอลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่าตะอาลา) มาก
ทEีสดุ ในพระมหาคมั ภีร์อลั กรุ อานในซเู ราะฮ์อลั บากอเราะฮ์ อายะฮ์ทีE •‡U ได้ระบวุ า่

6ِ ‫ أَ ْﻧدَادًا ﯾُ ِﺣﺑﱡوﻧَ ُﮭ ْم َﻛ ُﺣ ِّب ا ﱠ‬6ِ ‫َو ِﻣ َن اﻟﻧﱠﺎ ِس َﻣ ْن ﯾَﺗﱠ ِﺧذُ ِﻣ ْن دُو ِن ا ﱠ‬
6ِ ‫َواﻟﱠ ِذﯾ َن آ َﻣﻧُوا أَ َﺷدﱡ ُﺣﺑ‹ﺎ ِ ﱠ‬

ความว่า “ และในหม่มู นษุ ย์นนัB มีบคุ คลทีEยึดจากพระเจ้าอืEนเป็นภาคีต่ออลั ลอฮฺ (ซุบฮา
น่าฮวู า่ ตะอาลา) และพวกเขารักมนั (สิEงอEืนนอกจากอลั ลอฮฺ) เทียบเทา่ กบั อลั ลอฮฺ และบรรดาผู้
ศรัทธาจะต้องรักอลั ลอฮฺมากทEีสดุ ”

นอกจากนันB เราต้องยอมจํานน ไว้วางใจต่อพระองค์มากทEีสุด และเราต้องอิบาดะฮฺ
กราบไหว้พระองค์เท่านนัB รวมทงัB ขอความช่วยเหลือโดยการขอดอุ าอฺต่ออลั ลอฮฺ (ซุบฮาน่าฮวู ่า
ตะอาลา) องค์เดียวเท่านันB ตรงนีอB ยู่ในอายะฮ์ทEีว่า ‫ ِإﯾﱠﺎ َك ﻧَ ْﻌﺑُدُ َو ِإﯾﱠﺎ َك ﻧَ ْﺳﺗَ ِﻌﯾ ُن‬แปลว่า
เฉพาะพระองค์เท่านันB ทEีเรากราบไหว้และเฉพาะพระองค์เท่านันB ทEีเราขอความช่วยเหลือ
เพราะฉะนันB เราต้องขอดุอาอฺจากพระองค์เท่านันB ถ้าเราไปขอสEิงอืEนหมายความว่าเราขาด


Click to View FlipBook Version