รายงานนวตั กรรมการจดั การเรียนการสอนด้วยวิธกี ารปฏิบัติท่เี ปน็ เลิศ (Best Practice)
นายภทั รวรรธน์ ปิจจวงค์ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรียนสายปัญญารังสิต 17
รายงานนวตั กรรมการจัดการเรยี นการสอนดว้ ยวธิ กี ารปฏบิ ัตทิ ่ีเปน็ เลิศ (Best Practice)
ช่ือผลงาน “สื่อการสอนเรื่องกราฟของฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึมโดยใช้
โปรแกรม GSP ผ่านโปรแกรม Microsoft Teams”
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
วิชา คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเติม ๔ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๕
ผเู้ สนอผลงาน นางสาวกานตธ์ ีรา คำโท
โรงเรียนสายปัญญารงั สิต อำเภอธญั บรุ ี
สงั กัด สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต ๔
๑. ความเปน็ มาและสภาพปัญหา
ตามท่กี ระทรวงศกึ ษาธิการได้มปี ระกาศเม่ือวันที่ ๒๒ ธนั วาคม ๒๕๖๔ เรื่องการป้องกันและควบคมุ สถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ทำให้โรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียน แต่การจัดการ
เรียนการสอนจำเป็นต้องดำเนินต่อไป ดังนั้น ผู้สอนได้ตระหนักถึงความสำคัญข้อนี้ จึงได้ศึ กษาโปรแกรม Microsoft
Teams เพื่อใช้เป็นสื่อการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ให้กับผู้เรียน และด้วยวิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่สำคัญตามแนว
ทางการจัดการเรียนการสอนตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง
พุทธศักราช ๒๕๖๐) ซึ่งมุ่งเน้นใหก้ ารศึกษา และการเรียนรู้มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล พัฒนาคนไทยให้มีทักษะการคดิ
สังเคราะห์ สร้างสรรค์ ต่อยอดสู่นวัตกรรม มีทักษะชีวิตและอาชีพ ทักษะ สารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยีมีการเรียนรู้
ต่อเนื่องตลอดชีวิต และส่งเสริมระบบ การเรียนรู้ที่บูรณาการระหว่างวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีวิศวกรรมศาสตร์และ
คณิตศาสตร์ (STEM Education) เพื่อพัฒนาผู้สอนและผู้เรียนในเชิงคุณภาพ โดยเน้นการเช่ือมโยงระหว่างการเรียนรู้กบั
การทำงาน (Work Integrated Learning)
เนื่องด้วยด้วยวชิ าคณิตศาสตร์เป็นวิชาทีย่ ากสำหรบั ผู้เรียน และค่อนข้างเป็นนามธรรมมากกว่ารูปธรรม ส่งผล
ให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์จากการสอบวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ๔ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ของ
นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕/๑ - ๓ โรงเรียนสายปัญญารังสิต ในปีการศึกษา ๒๔๖๓ มีคะแนนเฉลี่ยคอ่ นข้างต่ำ อาจมี
สาเหตมุ าจากนกั เรยี นไมไ่ ด้เรยี นรู้จากประสบการณ์ตรง ขาดการปฏบิ ตั จิ ริง อาจทำใหเ้ กิดความยอ่ ท้อเบ่ือหน่ายและมีเจต
คตทิ ่ีไม่ดตี อ่ วิชาคณติ ศาสตร์ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมเี จตคตทิ ี่ดีต่อวิชาคณิตศาสตรเ์ ปน็ การยกระดบั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนในกลุ่ม
สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และเพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ผู้รายงานในฐานะเป็นครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ๔
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ โรงเรียนสายปัญญารังสิต สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๔ จึงใช้สื่อการ
สอน เรอ่ื ง กราฟของฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟงั ก์ชันลอการิทึมโดยใชโ้ ปรแกรม GSP และแบบฝึกทักษะเข้ามาเสริม
ในการเรียนการสอน เพ่อื เป็นการสง่ เสริมให้นกั เรยี นเขา้ ใจไดม้ ากย่ิงขนึ้
๒. วัตถปุ ระสงคแ์ ละเป้าหมายของการดำเนินงาน
๒.๑ เพือ่ ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี นมเี จตคตทิ ดี่ ตี ่อวิชาคณิตศาสตร์
๒.๒ เพอ่ื พฒั นาทกั ษะทางคณติ ศาสตรข์ องนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๕/๑ - ๓ โรงเรียนสายปญั ญารงั สิต
๒.๓ เพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นวชิ าคณติ ศาสตร์เพ่ิมเติม ๔ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕
โรงเรยี นสายปัญญารงั สติ
๓. ข้นั ตอนการดำเนินงานหรอื ระยะเวลาในการดำเนินงาน
๓.๑ ข้ันตอนการดำเนนิ งาน
๓.๑.๑ วิเคราะหโ์ ครงสร้างของสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๕ ศกึ ษารปู แบบการจัดกิจกรรม
การเรยี นรู้และสือ่ การเรียนรู้
๓.๑.๒ จัดกิจกรรมเรยี นรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิต
- จดั ทำห้องเรยี นออนไลนโ์ ดยใช้โปรแกรม Microsoft Teams
- จัดทำสื่อการสอน “กราฟของฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึมโดยใช้โปรแกรม GSP”
ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ เพื่อพัฒนาความสามารถทางคณิตศาสตร์ เพื่อเป็นการสร้างเจตติที่ดีของผู้เรยี น
เพอื่ ให้ผ้เู รยี นกระตือรือรน้ ในการศึกษาการศกึ ษาเล่าเรยี นวิชาคณิตศาสตร์
- จดั กิจกรรมการจัดการเรยี นรโู้ ดยใช้ส่อื การสอนผา่ นทางโปรแกรม Microsoft Teams
๓.๑.๓ นกั เรยี นสง่ ผลงานเพือ่ ประเมินผ่านทางโปรแกรม Microsoft Teams
๓.๑.๔ สรุปผลการดำเนนิ งาน
๓.๒ ระยะเวลาในการดำเนนิ งาน
๔ มกราคม - ๒๘ มกราคม ๒๕๖๔
๔. ผลการดำเนนิ งาน/ประโยชน์ท่ีได้รับ
ผลทเี่ กิดขน้ึ ตามวตั ถปุ ระสงค์
๔.๑ นกั เรียนมเี จตคติที่ดตี อ่ วชิ าคณติ ศาสตร์ มีความคิดสร้างสรรค์
๔.๒ นกั เรียนมที กั ษะทางคณติ ศาสตรใ์ นเรือ่ งกราฟของฟงั กช์ ันเอกซโ์ พเนนเชยี ลและฟังก์ชันลอการิทึมมากข้นึ
๕. ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
๕.๑ นักเรียนมีพนื้ ฐานความรคู้ วามสามารถ มีทักษะทางคณิตศาสตร์ มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ คิด
สังเคราะห์ คดิ อย่างสรา้ งสรรค์ มคี วามสามารถในการสอื่ สาร การแกป้ ญั หา รวมทัง้ มคี วามมุ่งมั่นตงั้ ใจในการทำงาน
๕.๒ ครูต้องเปน็ ผมู้ คี วามรู้ความสามารถ มีความตัง้ ใจ มีการเสยี สละ และเปน็ บคุ คลแหง่ การเรียนรู้
๕.๓ โรงเรียนใหก้ ารสนับสนุนในดา้ นการพฒั นาความสามารถของผู้เรียนใหเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ
๕.๔ ผู้บรหิ ารเป็นผู้มีวสิ ัยทัศน์ ใหก้ ารสนบั สนุนในการทำงาน
๖. บทเรยี นที่ไดร้ ับ
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้วิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรมประกอบกับให้นักเรียนได้
ประสบการณ์ตรง เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนยิ่งขึ้น มีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ มีความสามารถทาง
คณติ ศาสตร์ สูงขึน้ อยา่ งต่อเนอ่ื ง ส่งผลต่อการพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนวชิ าคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ๔ ให้สูงข้นึ สง่ เสริม
ให้นักเรียนพัฒนาตนให้สอดคล้องกับความสนใจ และความถนัดของผู้เรียนโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล จัด
กิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงและฝึกปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ฝึกทักษะอย่างรอบคอบมี
ประสิทธภิ าพมผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพมิ่ ขน้ึ พัฒนาทักษะทางคณติ ศาสตร์ของผ้เู รยี นให้เต็มศักยภาพ
๗. การเผยแพร่/การได้รบั การยอดรับ/รางวัลทไี่ ดร้ บั
ไดท้ ำการเผยแพร่ผลงานผ่านทางโปรแกรม Microsoft Teams เป็นคลปิ วิดโี อใหก้ ับนักเรยี นนำไปใชใ้ น
การศกึ ษาไดท้ ่บี ้านด้วยตนเอง
ภาคผนวก
ส่อื การสอนเร่อื งกราฟของฟงั ก์ชนั เอกซ์โพเนนเชยี ลและฟงั ก์ชนั ลอการทิ มึ
โดยใช้โปรแกรม GSP
ภาพการใช้ สอื่ การสอนเรอื่ งกราฟของฟงั กช์ ันเอกซโ์ พเนนเชียลและฟังกช์ นั
ลอการทิ มึ โดยใช้โปรแกรม GSP ผ่านโปรแกรม Microsoft Teams
ภาพการใช้โปรแกรม Microsoft Teams เผยแพรส่ ่อื การสอน
ผลการประเมินความพงึ พอใจของผู้เรียนการใช้ ส่ือการสอนเรือ่ งกราฟของฟังก์ชันเอกซ์
โพเนนเชยี ลและฟงั ก์ชนั ลอการิทึมโดยใชโ้ ปรแกรม GSP ผ่านโปรแกรม Microsoft Teams
สรุปผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้เรียนการใช้ ส่อื การสอนเรื่องกราฟของฟงั กช์ นั เอกซ์
โพเนนเชยี ลและฟงั กช์ ันลอการทิ ึมโดยใชโ้ ปรแกรม GSP ผ่านโปรแกรม Microsoft Teams
4.6
4.5
4.4
4.3
4.2
4.1 4.48 4.52
4 4.34 4.12
4.18
4.26
3.9
3.8 3.96 4
3.7
3.6
แบบฝึกทกั ษะ เรอื่ ง กราฟของฟังก์ชันเอกซโ์ พเนนเชียล
จากทนี่ ักเรยี นเคยศึกษามา ตัวแปร x มกั จะปรากฏเปน็ “ฐาน” ของเลขยกกำลงั เชน่ ......................................
แต่ในเร่อื งนีน้ ักเรียนจะได้ศึกษา “ฟังกช์ นั เอกซ์โพเนนเชยี ล” คอื ฟังกช์ ันท่ีอยู่ในรูป.............................................
เชน่ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
เมอ่ื a เป็นจำนวนจริงใด ๆ โดยมีเงอื่ นไขดังน้ี
1…………………………………………………เชน่ …………………………………………………………………….…………………………
เรียกว่า …………………………………………………………………….……………………………………………………………………….
2…………………………………………………เชน่ ………………………………………………………………………………………..………
เรยี กวา่ …………………………………………………………………….……………………………………………………………………….
หากฟังก์ชนั เอกซ์โพเนนเชยี ลไมอ่ ยู่ในรปู = เราต้องจดั รปู ก่อน
ตวั อยา่ ง = 32 จัดรปู ได้เปน็ ..............................................................................................................
= 2(− ) จดั รปู ได้เปน็ ...............................................................................................................
แบบฝึกทักษะ กราฟของฟังก์ชันเอกซโ์ พเนนเชียล
1. จงบอกวา่ ฟงั ก์ชันตอ่ ไปนเ้ี ป็นฟังกช์ ันเพม่ิ หรอื ฟังกช์ นั ลด
(1) = 5 …………………………………….. (2) = (1) ……………………………….…
(3) = 3− …………………………………… 2
(5) = (4)− ………………………………...
(4) = (1)− ……………………………….
3 2
(7) = ( 120°) ……………………..… (6) = ( 60°) ……………………..…
(8) = ( 1°) ……………………..……
(9) = (1+ 2 2) ; ≠ 0………………….. (10) = ( +1) ; > 0…………………..
2. จงวาดกราฟของฟงั ก์ชนั f ท่กี ำหนดดว้ ยสมการในแตล่ ะขอ้ ต่อไปนอี้ ยา่ งครา่ ว ๆ พร้อมท้งั หาโดเมนและเรนจข์ องฟงั ก์ชนั ด้วย
(1) = 7−
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(2) = −(7− )
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(3) = −(7 )
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(4) = 2 −3
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(5) = 4 + 2
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(6) = 2| |
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(7) 1 | |
= (2)
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(8) 1 −| |
= (2) − 3
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
แบบฝึกทกั ษะ เรื่อง กราฟของฟังกช์ นั ลอการทิ ึม
1…………………………………………………เชน่ …………………………………………………………………….…………………………
จากสมการ y=log[a]x ; x>0 ; a>0 และ a≠1 จึงสามารถแบ่ง a ไดเ้ ป็น 2 ช่วง คือ
2…………………………………………………เชน่ ………………………………………………………………………………………..………
ขอ้ สงั เกต 1............................................................................................................................ ..............................
2..........................................................................................................................................................
3............................................................................................................................ ..............................
4............................................................................................................................ ..............................
จงเขียนกราฟของฟังก์ชนั ในแตล่ ะข้อต่อไปนี(้ เขียนกราฟคร่าวๆ)
(1) y = log3
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(2) y = log2
3
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(3) y = log5 −1
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(4) y = −log4
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(5) y = |log2 |
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
(6) y = log2| |
=……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
=………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
โรงเรยี นสายปญ ญารังสิต
สำนักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษาเขต 4
รายงานนวตั กรรม
การจดั การเรยี นการสอน
ดว ยวิธกี ารปฏบิ ัติตนทเี่ ปนเลิศ
(Best Practice)
จดั ทำโดย
นางสาวอุทัยรัตน ธรรมอนิ ทร
ตำแหนง ครู
กลุมสาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตรและแทคโนโลยี
1
Best Practice
คำนำ
รายงานนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการปฏิบัติตนที่เป็นเลิศ (Best Practice)
จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนออนไลน์ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือ
ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) โดยครูผูส้ อนได้คิดพัฒนาวธิ กี ารปฏิบัตติ นทีเ่ ป็นเลิศ (Best Practice) ใน
รปู แบบสือ่ การสอนแบบคลปิ วิดีโอ เพอื่ พฒั นาสอื่ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แนวคิดเชงิ คำนวณ โดยที่ผู้เรียน
สามารถเข้าถึงเนือ้ หาไดท้ ุกที่ทุกเวลา และเป็นอกี ชอ่ งทางที่ให้ผเู้ รียนได้ทบทวนเนือ้ หา
ครูผู้สอนขอขอบพระคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการ
ปฏิบัติตนที่เป็นเลิศ (Best Practice) ในครั้งนี้ที่สามารถทำให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และหากรายงาน
ฉบบั น้ีผดิ พลาดประการใด ขออภยั มา ณ ท่นี ่ดี ้วย
นางสาวอทุ ัยรตั น์ ธรรมอินทร์
ผู้จดั ทำ
สารบญั 2
คำนำ Best Practice
สารบัญ
ความสำคญั ของผลงาน หรือนวตั กรรมที่นำเสนอ หนา้
ก
ความเป็นมาและสภาพปญั หา ข
แนวทางการแกป้ ญั หาและพัฒนา
จดุ ประสงค์และเป้าหมายของการดำเนนิ งาน 1
การกำหนดจดุ ประสงค์และเป้าหมาย 1
กระบวนการผลติ ผลงาน หรือข้ันตอนการดำเนนิ งาน
การออกแบบผลงาน/นวตั กรรม 2
ผลการดำเนนิ การ/ผลสมั ฤทธ์ิ/ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั
ผลทีเ่ กิดตามจดุ ประสงค์ 2
ผลสมั ฤทธข์ิ องงาน
ประโยชน์ทีไ่ ด้รบั 3
ปัจจยั ความสำเร็จ 4-6
ส่งิ ท่ชี ว่ ยใหง้ านประสบความสำเร็จ
7
7
3
Best Practice
ความสำคัญของผลงาน หรือนวตั กรรมทนี่ ำเสนอ
ความเป็นมาและสภาพปัญหา
ณ ขณะนี้รูปแบบการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ด้วยในสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ในปจั จุบนั สง่ ผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงในทุก ๆ ด้าน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสถานศึกษาทุกแห่งต้องมีการรับมือและปรับตัว ส่งผลให้รูปแบบการเรียนการสอน
ของครูผู้สอนก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เดิมครูเป็นผู้นำจัดกิจกรรมการเรียนการสอนใน
ห้องเรียน แต่เมื่อสถานการณ์ยืดเย้ือและไม่มใี ครรู้ว่าจะกลบั มาสูส่ ภาวะปกตไิ ด้เม่ือใด ครูผู้สอนจึงจะต้อง
ปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนจากเดิม เป็นการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ แนวทางจัดการ
เรียนรู้ออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และสารสนเทศขึ้นอย่างมากมาย ดังนั้น ครูผู้สอนในฐานะผู้
ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่นักเรียนต่างก็มีการปรับตัว และเตรียมทักษะเพื่อรับมือกับแนวทางการจัดการ
เรยี นร้แู บบใหมอ่ ย่างทนั ท่วงที พรอ้ มรับกบั สถานการณค์ วามไมแ่ นน่ อนท่ีอาจเกิดขึน้ ไดอ้ ยเู่ สมอ
แนวทางการแกป้ ัญหาและพัฒนา
ด้วยสภาพแวดล้อมของการเรยี นผ่านเครอื ข่าย และโปรแกรมออนไลน์ต่าง ๆ ที่อาจจะก่อให้เกดิ
อปุ สรรคในการสือ่ สาร และการตีความได้ ดังนน้ั ประเด็นเรอื่ งทักษะการส่ือสารท่ชี ดั เจน ตรงประเดน็ และ
เข้าใจง่าย โดยอาจใช้ภาพ วิดีโอ หรือตัวอย่างสื่อออนไลน์ประเภทอื่น ๆ ที่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจได้มาก
ทส่ี ดุ ภายในขอบเขตระยะเวลาทีจ่ ำกดั
ยง่ิ ไปกวา่ นนั้ ครูจะต้องเพม่ิ ความถใี่ นการสื่อสารกับนักเรยี น และผปู้ กครองทม่ี ากกว่าการส่ือสาร
ในช่วงการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนปกติ ซึ่งปรับใช้การสื่อสารทั้งแบบทางการ และกึ่งทางการเพื่อสร้าง
ความร่วมมือ และการสนับสนุนการเรียนรู้ระหว่างครู นักเรียน และผู้ปกครองให้พัฒนาไปพร้อมกัน ทุก
ฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันในแนวทาง และแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็นระหว่างกันเพื่อจัดการเรียนรู้ที่มี
ประสิทธิภาพให้มากทสี่ ดุ
4
Best Practice
จดุ ประสงค์และเปา้ หมายของการดำเนนิ งาน
การกำหนดจุดประสงคแ์ ละเปา้ หมาย
1. ศกึ ษาพฤตกิ รรมทางการเรียนการสอนในรปู แบบออนไลน์ ผ่านสือ่ การสอนในรปู แบบคลิปวดิ ีโอ
เร่อื งกรณีศึกษาแนวคิดเชิงคำนวณ
2. พฒั นาส่อื การสอนคลปิ วดิ ีโอหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 แนวคิดเชิงคำนวณ
3. ศกึ ษาความพึงพอใจของนักเรียน หลังจากการเรียนในรูปแบบออนไลน์ผา่ นสอ่ื การสอนในรปู แบบ
คลปิ วิดโี อ เรื่องกรณศี ึกษาแนวคิดเชงิ คำนวณ
กระบวนการผลติ ผลงาน หรอื ขัน้ ตอนการดำเนนิ งาน
การออกแบบผลงาน/นวตั กรรม
ครูจัดทำส่ือการเรียนรู้ในรปู แบบคลิปวดิ ีโอเพื่อใหเ้ หมาะกับสถานการณ์ และเพ่ือให้นักเรียนเกิด
ความเขา้ ใจในเนื้อหางา่ ยขึน้ โดยมีข้นั ตอนการจดั ทำสอ่ื ดงั นี้
1. ศึกษาเนื้อหาจดุ ประสงค์การเรียนรขู้ องหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 แนวคดิ เชงิ คำนวณ
2. ศกึ ษาตวั อย่างส่ือการเรยี นรจู้ ากแหลง่ ต่าง ๆ เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต
3. ออกแบบสื่อการเรยี นรู้ การทำ story board การกำหนดลำดบั การนำเสนอของส่อื
4. จดั ทำส่อื การเรยี นรู้ในรูปแบบวดิ โี อนำเสนอ
5. ตรวจสอบความถูกต้องของเน้ือหา การจัดเรียง
5
Best Practice
ผลการดำเนินการ/ผลสมั ฤทธิ์/ประโยชนท์ ไ่ี ด้รับ
ผลทเ่ี กิดตามจุดประสงค์
หลังจากที่นักเรียนได้ศึกษาผ่านสื่อการสอนคลิปวิดีโอ เรื่องกรณีศึกษาแนวคิดเชิงคำนวณ
สามารถอภิปรายผลตามจุดประสงค์การวิจัยได้ดงั นี้
1. พฤติกรรมทางการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ผ่านสื่อการสอนในรูปแบบคลิปวิดีโอ เรื่อง
กรณีศึกษาแนวคิดเชงิ คำนวณของนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563
หลังการเรียนรู้แบบวิดีโอนำเสนอ นักเรียนมีทักษะการคิดแก้ปัญหาจากกรณีศึกษาที่ครู
ยกตัวอย่าง สงั เกตจากการแสดงความคิดเหน็ และการแสดงออกเพ่อื สะท้อนความคดิ เหน็ ร่วมกัน
2. การพัฒนาสื่อการสอนคลปิ วิดีโอหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แนวคิดเชิงคำนวณ ครูผู้สอนมคี วามกลา้ ท่ี
จะสร้างสื่อในรูปแบบวิดีโอมากขึ้น หากสถานกาณ์ปกติครูคงสอนหน้าชั้นเรียนเพียงอย่างเดียว
แต่เมื่อไม่ได้เจอนักเรียนแบบเดิม ครูต้องผลิตสื่อการสอนที่น่าสนใจ และเป็นการพัฒนาองค์
ความรเู้ รอ่ื งการทำสื่อการสอนในรูปแบบวดิ โี อ สือ่ รปู แบบวิดโี อมสี ว่ นประกอบหลาย ๆ ด้าน และ
ต้องใช้ความสามารถดา้ นเทคโนโลยีในการผลติ สอ่ื การสอน
3. ความพึงพอใจหลังจากนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ได้เรียนรู้ผ่านส่ือ
การสอนคลิปวิดีโอ ผลปรากฏว่านักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวม อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด
ค่าเฉล่ียร้อยละ 4.59
6
Best Practice
ผลสัมฤทธิข์ องงาน
1. พฤติกรรมทางการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ผ่านสื่อการสอนในรูปแบบคลิปวิดีโอ เรื่อง
กรณีศึกษาแนวคิดเชงิ คำนวณของนักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563
หลังการเรียนรู้แบบวิดีโอนำเสนอ นักเรียนมีทักษะการคิดแก้ปัญหาจากกรณีศึกษาที่ครู
ยกตัวอยา่ ง สังเกตจากการแสดงความคดิ เห็น และการแสดงออกเพอ่ื สะท้อนความคิดเห็นร่วมกัน
เนือ้ หา กจิ กรรม ส่อื การวัดพฤติกรรมนักเรียนด้านคุณลักษณะอนั
พงึ ประสงค์
กรณศี ึกษา - ศึกษาคลิป คลิปวิดีโอ
แนวคิดเชงิ วดิ ีโอการสอน กรณีศึกษา เมื่อนักเรียนศึกษาเรียนรู้ผ่านสื่อวิดีโอท่ี
คำนวณ - ปฏบิ ตั ิใบ แนวคิดเชิง ครูสร้างขึ้น นักเรียนกล้าแสดงออกทาง
กิจกรรม คำนวณ ความคิดในการแก้ปัญหากรณีศึกษาต่าง ๆ
อย่างสร้างสรรค์ กล้าแสดงออกทางความคิด
มากขึ้น ไม่กลัวว่าความคิดที่ตอบครูจะผิด
หรือไม่ และสามารถทำใบกิจกรรมได้อย่าง
ถกู ตอ้ ง
2. การพัฒนาสื่อการสอนคลปิ วิดีโอหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แนวคิดเชิงคำนวณ ครูผู้สอนมคี วามกลา้ ท่ี
จะสร้างสื่อในรูปแบบวิดีโอมากขึ้น หากสถานกาณ์ปกติครูคงสอนหน้าชั้นเรียนเพียงอย่างเดียว
แต่เมื่อไม่ได้เจอนักเรียนแบบเดิม ครูต้องผลิตสื่อการสอนที่น่าสนใจ และเป็นการพัฒนาองค์
ความร้เู รื่องการทำสือ่ การสอนในรูปแบบวิดโี อ สื่อรปู แบบวิดีโอมีส่วนประกอบหลาย ๆ ดา้ น และ
ต้องใช้ความสามารถด้านเทคโนโลยีในการผลิตส่อื การสอน
ภาพตวั อยา่ งสื่อการสอน เร่ืองกรณีศึกษาแนวคดิ เชงิ คำนวณ
7
Best Practice
3. ศึกษาความพงึ พอใจของนักเรียน หลังจากการเรียนในรปู แบบออนไลน์ผา่ นสือ่ การสอนในรปู แบบ
คลปิ วิดีโอ เรอ่ื งกรณีศึกษาแนวคิดเชงิ คำนวณ
ตารางแสดงผลความพึงพอใจของนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2563
หลงั จากได้เรยี นรู้ผ่านสอ่ื การสอนรปู แบบคลิปวดิ โี อ
ที่ รายการประเมิน ระดบั การประเมิน
5 4 3 21
ด้านผสู้ อน
1 การเตรยี มความพร้อม การเตรยี มสอน 134 48 8 1
คดิ เปน็ ร้อยละ 70.16 22.51 4.19 0.52
2 ความรู้ ความสามารถของผู้สอน 148 39 4
คิดเปน็ รอ้ ยละ 77.49 20.42 2.09
3 บุคลกิ ภาพโดยรวมของผู้สอน 124 59 7 1
คดิ เปน็ รอ้ ยละ 64.92 30.89 3.66 0.52
ด้านเน้ือหา
4 ความน่าสนใจ ทันสมยั 120 62 7 2
คิดเปน็ รอ้ ยละ 62.83 32.46 3.66 1.05
5 ความครอบคลมุ และสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ 112 69 9 1
คิดเปน็ ร้อยละ 58.64 36.13 4.71 0.52
6 ความเหมาะสมกับระดับความรู้ ความสามารถของ 117 61 12 1
ผเู้ รียน
คิดเป็นร้อยละ 61.26 31.94 6.28 0.52
7 การนำไปประยกุ ต์ใช้ในสถานการณห์ รอื วชิ าอื่น ๆ 81 85 19 5 1
คดิ เปน็ ร้อยละ 42.41 44.50 9.95 2.62 0.52
ด้านสื่อและสิ่งสนับสนนุ การเรียนการสอน
8 รูปแบบของสือ่ ข้อความ รูปภาพ เสียง เหมาะสม 142 42 6 1
คิดเปน็ รอ้ ยละ 74.35 22.11 3.14 0.52
9 นำเทคโนโลยีสมยั ใหม่เขา้ มาใช้ในการเรียนการ 140 45 5 1
สอน
คดิ เปน็ ร้อยละ 73.30 23.56 2.62 0.52
8
Best Practice
จากตารางแสดงผลความพึงพอใจของนักเรียนโดยหาค่าความถี่และค่าร้อยละ ซึ่งมี
ทั้งหมด 9 รายการ พบว่านักเรียนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด 8 รายการ ระดับ
มาก 1 รายการ
ตารางแสดงค่าเฉล่ีย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ในการประเมนิ ความพึงพอใจของนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ปกี ารศึกษา 2562
หลงั จากได้เรยี นรู้ผา่ นสื่อการสอนรปู แบบคลปิ วดิ ีโอ
รายการประเมิน S.D. ระดบั
ดา้ นผ้สู อน 4.65 0.59 มากที่สดุ
1 การเตรียมความพร้อม การเตรียมสอน 4.75 0.48 มากทส่ี ุด
2 ความรู้ ความสามารถของผสู้ อน 4.60 0.59 มากท่ีสุด
3 บุคลิกภาพโดยรวมของผสู้ อน
ดา้ นเน้อื หา 4.57 0.62 มากที่สดุ
4 ความน่าสนใจ ทนั สมยั 4.53 0.61 มากทส่ี ุด
5 ความครอบคลมุ และสอดคล้องกบั วัตถปุ ระสงค์ 4.54 0.64 มากทส่ี ุด
6 ความเหมาะสมกับระดบั ความรู้ ความสามารถของผู้เรยี น 4.26 0.78 มาก
7 การนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสถานการณ์อ่นื ๆ หรอื วชิ าอืน่ ๆ
ดา้ นสอ่ื และสิง่ สนับสนุนการเรยี นการสอน 4.70 0.55 มากทส่ี ดุ
8 รูปแบบของสอ่ื ข้อความ รปู ภาพ เสียง เหมาะสม 4.70 0.54 มากที่สดุ
9 นำเทคโนโลยีสมัยใหมเ่ ข้ามาใช้ในการเรยี นการสอน 4.59 0.65 มากท่ีสุด
เฉล่ีย
จากตารางแสดงค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ในการประเมินความ
พึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2563 หลังจากได้เรียนรู้ผา่ นสือ่ การสอน
รูปแบบคลปิ วิดีโอ พบวา่ ภาพรวมเฉล่ยี 9 รายการนกั เรียนมีความพึงพอใจอยูใ่ นระดบั ดีมาก ( =
4.59)
9
Best Practice
ประโยชน์ท่ีไดร้ บั
1. นำประสบการณท์ ี่ได้ไปพัฒนาขยายผลสร้างสื่อการสอนในรูปแบบคลปิ วิดีโอกับหน่วยการเรยี นรู้
อื่น ๆ ในวชิ าเดียวกัน
2. การนำสื่อการสอน นำไปใช้ประโยชน์เพื่อการเรียนการสอน หรือเป็นแนวทางในการพัฒนาสื่อ
การเรียนรู้ตา่ ง ๆ
3. นำสื่อการสอนไปให้ผู้เชี่ยวชาญแนะเพิ่มเติม ไปเผยแพร่เพื่อนครู เพื่อให้ผู้อื่นได้ศึกษาและเป็น
ตวั อยา่ ง
ปจั จยั ความสำเรจ็
ส่งิ ที่ช่วยให้งานประสบความสำเรจ็
นวตั กรรมการบริหารจดั การเรยี นการสอนดว้ ยวิธีการปฏบิ ตั ิทเ่ี ป็นเลิศ โดยการสร้างสื่อการสอน
รูปแบบคลิปวิดีโอสำเร็จได้ด้วยดี จากการท่ีครูผู้สอนได้มีความสนใจที่จะพัฒนาวิธีการสอนในช่วง
สถานการณ์การสอนออนไลน์ ให้ผู้เรียนได้สามารถทบทวนความรู้ได้นอกเหนือจากการทบทวนในหนงั สอื
จึงเกิดเป็นวิธีการสร้างสื่อการสอนในรูปแบบคลิปวิดีโอ ทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ และเห็น
คณุ ค่า ความสำคัญของการเรียนมากข้นึ
ครผู ู้สอนขอขอบคณุ เพ่ือนครูในงานคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงทา่ นคอยให้คำปรกึ ษา และข้อเสนอแนะดี
ๆ เสมอมา และขอขอบคุณคณะผู้บริหาร ท่ีที่เอื้อเฟื้อสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับทำสื่อการสอน
และพฒั นาวธิ กี ารสอนในคร้งั นี้
รายงานนวัตกรรมการจัดการเรยี นการสอนดว้ ยวธิ ปี ฏบิ ัตทิ ่ีเปน็ เลศิ (Best Practice)
รายงานนวตั กรรมการจัดการเรียนการสอนด้วยวธิ ปี ฏบิ ัตทิ ี่เปน็ เลศิ (Best Practice)
รายงานนวตั กรรมการจัดการเรียนการสอน
ด้วยวิธีปฏิบตั ทิ ่เี ป็นเลศิ (Best Practice)
จัดทำโดย
นายนันทกร แวน่ แกว้
ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
โรงเรียนสายปัญญารังสติ อำเภอธญั บุรี จังหวัดปทมุ ธานี
สังกัดสำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 4
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน
รายงานนวัตกรรมการจัดการเรยี นการสอนดว้ ยวิธปี ฏบิ ัตทิ ี่เปน็ เลศิ (Best Practice)
รายงานนวัตกรรมการจดั การเรียนการสอนด้วยวิธีปฏิบตั ิทเี่ ปน็ เลิศ (Best Practice)
1. ความเป็นมาและสภาพปัญหา
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ส่งผลต่อกระทบหลายด้านต่อการ
พัฒนาประเทศ รวมถึงส่งลต่อระบบการศึกษา เนื่องจากทำให้เกิดการเลื่อนเปิดภาคเรียน ตลอดจนสั่งปิด
สถานศึกษาจาก เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมตัวที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดและเป็นการรักษาระยะห่างทางสังคม
เมื่อมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ซึ่งทวีความรุนแรงในหลายพื้นที่ของประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ
จึงตระหนักถึงความปลอดภัยของนักเรียน นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด จึงออกประกาศ
เรื่อง ให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการปิดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ตั้งแต่วันจันทร์ที่
4 มกราคม 2564 ถงึ วันอาทติ ยท์ ่ี 31 มกราคม 2564 และต้งั แตว่ ันจันทรท์ ่ี 1 กุมภาพนั ธ์ 2564 ถึงวนั อาทิตย์ท่ี
28 กุมภาพันธ์ 2564 โรงเรียนสายปัญญารังสิตก็ได้ดำเนินการเปิดการเรียนการสอนแบบสลับวันมาเรียน
เพื่อเป็นไปตามนโยบายการป้องกันการแพร่ระบาด โดยในวันที่นักเรียนหยุดอยู่บ้านก็ยังดำเนินการเรียน
การสอนตามตารางเรียนปกติในรูปแบบการเรียนการสอนออนไลน์ (โรงเรยี นสายปัญญารังสติ , 2564))
การจัดการเรียนการสอนออนไลน์เป็นสิ่งที่แปลกใหม่ทั้งครูและนักเรียนจึงต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้เกิด
การเรยี นรอู้ ย่างตอ่ เนื่องและมคี ุณภาพตรงตามมาตรฐานการเรียนรูท้ ่ีนกั เรียนจะต้องไดร้ บั ในแต่ละระดบั ชนั้ ซ่ึง
ครูผู้สอนก็มีสิ่งที่ต้องพัฒนาในเรื่องของการหาเทคนิควิธีการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความสนใจและได้รับ
ความรู้เสมอื นเรยี นปกตใิ นหอ้ งเรียน
อย่างไรก็ตามสิ่งท่ีเป็นปญั หาของการจักการเรยี นการสอนออนไลนน์ ั่นก็คือปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียน
ผ้สู อนลดลงจะเป็นในลักษณะของการเรียนแบบฟงั บรรยายมากยง่ิ ขน้ึ การลงมือปฏบิ ัติจริงก็จะลดน้อยลงหรือ
ปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบอืน่ ๆ นักเรียนไม่เปิดกล้อง ไม่กล้าเปิดไมค์ตอบ ข้อจำกัดในเรื่องอุปกรณ์ท่ีใช้ในการ
เรยี นการสอนออนไลนเ์ ปน็ อุปสรรค ไมก่ ลา้ ตอบคำถาม หรือไมช่ อบการสุม่ เลขทห่ี รือถกู ครเู รยี กชอื่ รายบคุ คลใน
การตอบคำถาม จากปัญหาดังกล่าว จึงได้เลือกหาวิธีการที่นักเรียนจะมีปฏิสัมพันธ์ในการเรียนการสอน
ออนไลน์เสมือนการร่วมตอบคำถามหรือแสดงความคดิ เหน็ ในช้นั เรยี นปกติ เพื่อให้นักเรยี นได้แลกเปลย่ี นเรียนรู้
และเรยี นรู้จากประสบการณ์ของผูอ้ นื่ อีกดว้ ย
2. จดุ ประสงคข์ องการดำเนินงาน
เพ่ือให้นกั เรียนมีปฏิสัมพนั ธร์ ว่ มแสดงความคดิ เห็นหรอื ตอบคำถามกับผสู้ อนมากยิ่งข้นึ
คิดเป็นรอ้ ยละ 80 (กลุ่มตวั อย่างนักเรยี นระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2/8 จำนวน 35 คน)
รายงานนวตั กรรมการจดั การเรยี นการสอนด้วยวธิ ปี ฏิบัตทิ ี่เปน็ เลิศ (Best Practice)
3. ข้ันตอนการดำเนนิ งาน
3.1 ศกึ ษาและกำหนดจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ในเนอื้ หารายวิชา
3.2 กำหนดประเด็นคำถามท่ีจะใหน้ ักเรยี นได้รว่ มแสดงความคดิ เหน็ ร่วมกันในช้ันเรียน
3.3 ครสู ร้างสอ่ื การเรยี นการสอนผ่านทาง www.mentimeter.com โดยใส่หัวขอ้ คำถาม
และกำหนดจำนวนขอ้ คำตอบ
3.4 ครูส่งลิงค์ข้อมูลใหน้ ักเรยี นไดร้ ่วมแสดงความคิดเหน็ เพื่อนำเขา้ ส่บู ทเรียน
4. ผลการดำเนินงาน
4.1 ผลทเ่ี กิดตรงตามจดุ ประสงค์
นักเรียนให้ความสนใจ และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ร่วมกันตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น
ทั้งหมด 31 คน จากกลุ่มตัวอย่างนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/8 จำนวน 35 คน
คิดเป็นรอ้ ยละ 88
4.2 ผลสมั ฤทธข์ิ องงาน
นักเรียนแสดงความคดิ เหน็ เกนิ ร้อยละ 80 และยงั สามารถใช้เป็นหลักฐานในการเช็คชอื่ เข้า
เรยี นไดอ้ กี ด้วยโดยการแคปหนา้ จอหลังจากท่ีสง่ คำตอบเสรจ็ เรยี นร้อยแลว้
4.3 ประโยชน์ท่ีได้รับ
มีการแนะนำใหค้ รูท่านอืน่ ผา่ นทางเพจ Facebook คนเรยี นครู เพอื่ จะไดน้ ำวิธกี ารน้ีไปใช้
ในการจัดการเรียนการสอนออนไลนห์ รอื ในชน้ั เรยี นปกติ เพราะจะเพ่ิมความน่าสนใจในการเรยี น
การสอนมากย่งิ ขนึ้
5. ปัจจยั ความสำเร็จ
5.1 การกระตุ้นเสรมิ แรงเพิ่มความน่าสนใจของผสู้ อน
5.2 เป็นส่ิงแปลกใหมม่ ีความน่าสนใจสำหรับนกั เรียน
5.3 การอธิบายขยายความรู้ของครูผู้สอนกอ่ นนำเข้าสบู่ ทเรยี น
ลงชือ่ นนั ทกร แวน่ แก้ว ผู้บนั ทกึ
(นายนนั ทกร แว่นแกว้ )
ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย
รายงานนวตั กรรมการจัดการเรียนการสอนดว้ ยวธิ ปี ฏิบตั ทิ ่ีเป็นเลิศ (Best Practice)
ภาพห้องเรียนออนไลนด์ ว้ ยโปรแกรม Microsoft Teams
ของกลุม่ ตวั อย่างระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2/8 จำนวน 35 คน
รายงานนวัตกรรมการจัดการเรยี นการสอนด้วยวิธปี ฏบิ ัติท่ีเปน็ เลิศ (Best Practice)
ภาพการแสดงความคิดเหน็ ของนกั เรยี นกลุ่มตัวอยา่ ง จาก www.mentimeter.com
รายงานนวตั กรรมการจดั การเรยี นการสอนดว้ ยวธิ ปี ฏิบัตทิ ี่เป็นเลศิ (Best Practice)
ภาพการแนะนำ www.mentimeter.com ผ่านทางเพจ Facebook
เพ่อื ใหผ้ ู้ท่ีสนใจได้นำไปใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน
แบบเสนอผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบตั ิท่ีเปน เลิศ
(Best Practice)
ช่ือผลงาน Con & Abs รางวัลระดับเหรยี ญทอง
ผูเสนอผลงาน
นางสาวสินนี าฏ กระจางวงษ
โรงเรียนสายปญ� ญารังสิต อำเภอธัญบุรี จงั หวัดปทมุ ธานี
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 4
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน
แบบเสนอผลงาน/นวตั กรรมการปฏบิ ัตทิ ่ีเปนเลิศ (Best Practice)
**********************************
ประเภท ครูผสู อน
ชอ่ื ผลงาน Con & Abs
ชื่อผูเสนอผลงาน นางสาวสินีนาฏ กระจา งวงษ ตําแหนง ครผู ูช วย
โรงเรียน สายปญ ญารังสิต
สังกดั สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 4
กรอบการนาํ เสนอผลงาน/ผลงานแนวปฏบิ ัตทิ ีด่ สี คู วามสําเรจ็ ( Best Practice)
1. ความสาํ คญั ของผลงานหรอื นวตั กรรมท่นี ําเสนอ
1.1 ความเปน มาและสภาพปญหา ปญหาสําคญั อกี ประการหนึ่งของการจดั การเรียนการสอนใน
ปจ จุบนั คอื ผเู รยี นไมคอยจะสนใจในกิจกรรมการเรียนการสอน เกดิ ความเบือ่ หนาย และไมต้งั ใจเรยี นเทา ทคี่ วร
ทําไมจงึ เปนเชน นัน้ สาเหตุท่ีสําคัญคือ เด็กเบื่อหนา ยในการเรียน ซึง่ อาจเปน เพราะการสอนของครไู มม ีอะไร
แปลกใหม หรือนาสนใจ โดยเฉพาะอยา งยิง่ ในสถานการณป จจุบนั นีท้ ่ีเกดิ โรคระบาด COVID-19 ทําใหตองมี
การหยดุ เรียนตอ เน่ืองหลายวัน จงึ ตองมีการจัดการเรยี นการสอนออนไลนเพ่ือไมใหเกิดผลกระทบทางดานการ
เรียนตอผเู รยี น ดงั นน้ั จงึ สมควรอยางยิ่งทีค่ รูจะตองรวมหาทางแกไขปญหาเหลาน้ี ทําอยางไรจงึ จะทําใหผ ูเรยี น
สนใจฟงและตดิ ตามกิจกรรมในชว งการเรียนการสอนออนไลน
1.2 แนวทางการแกปญ หาและพัฒนา แนวทางการแกไขปญหานกั เรยี นไมใ หความสนใจในกิจกรรม
การเรียนการสอน จากหวั ขอดังกลา วครูไดศ ึกษาคนควาหาขอ มลู และสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรขู องนักเรียน
วา สวนมากแลว นักเรยี นใหค วามสนใจกบั อะไรมากท่สี ุดใน 1 วนั ท่นี กั เรียนมาโรงเรียน จากการสงั เกตของครู
พบวานักเรียนใหความสนใจกับเกมสอ อนไลน การดยู ูทูปของนักรอ งเกาหลที ี่ตนชื่นชอบ ครจู งึ มีแนวคิดท่ีจะ
สรางนวตั กรรมสอ่ื ออนไลนเพื่อใหน กั เรียนไดใชเทคโนโลยตี ามท่นี กั เรียนชอบ ปรับรูปแบบของสอ่ื ใหดูนารกั
สมวัยเพื่อดึงดดู ความสนใจของนกั เรียน มาใชใ นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
2. จดุ ประสงคแ ละเปาหมาย ของการดําเนนิ งาน
2.1 จดุ ประสงคของการดําเนนิ งาน
2.1.1 เพ่อื พัฒนาความสามารถทางการฟง การอาน การสังเกต และการจาํ โดยการใช
นวตั กรรม Con & Abs
2.1.2 เพอ่ื ใหน ักเรยี นเกิดการเรียนรูอ ยางมปี ระสทิ ธภิ าพ เรียนรไู ดงายและเขาใจไดช ดั เจน
2.2 เปา หมายของการดําเนนิ งาน
2.2.1 นกั เรยี นมที กั ษะการฟง คือตั้งใจฟงมีความเขา ใจในบทเรียน มีความม่ันใจในการฟง อยู
ใน ระดับดี–ดีมาก
2.2.2 นกั เรยี นสามารถสรางองคค วามรจู ากการฟง สามารถอธบิ ายบทเรยี นได
3. กระบวนการผลิตผลงาน หรอื ข้ันตอนการดําเนนิ งาน
โรเบิรต กาเย (Robert Gange') ไดนาํ เอาแนวแนวความคดิ 9 ประการ มาใชประกอบการเรยี นการ
สอน โดยยึดหลักการนาํ เสนอเน้อื หาและจัดกิจกรรมการเรียนรูจ ากการมีปฏิสัมพนั ธ โดยขอ ท่ผี ูผ ลติ นวตั กรรม
นาํ มาใชคือขอที่ 1. เรง เรา กระตนุ และดงึ ดูดความสนใจ (Gain Attention) ของผเู รยี น เปนการชว ยใหผ ูเ รยี น
สามารถรับส่งิ เรา หรือสิ่งทจ่ี ะเรียนรูไดดี นกั เรยี นแตล ะคนมวี ิธกี ารเรยี นรูท่ีแตกตา งกัน เปรียบเหมอื นสายรงุ ท่ี
หลากสี บุคคลจึงมีหลากหลายรสนิยม มคี วามแตกตา งของบคุ ลกิ ภาพ ครูควรตระหนกั และมองเหน็ คุณคาของ
ความแตกตาง เพื่อการคนหาใหพบวา นักเรยี นมีลกั ษณะการเรยี นรหู รอื ความสามารถที่จะเรยี นรูในทางใด เพื่อ
จะไดดาํ เนินกิจกรรมการพฒั นานักเรียนใหเ ต็มตามศักยภาพและไดใ ชความสามารถไดสูงสดุ ขอ สังเกตที่ไดจาก
หองเรียน อาจกลา วไดว าพฤตกิ รรมการเรา ความสนใจโดยทัว่ ไปหมายถึง การดงึ ดูดความสนใจของผูเรียนและ
กระตุนใหเ กิดความสนใจเพิ่มข้ึนจนประสบความสําเร็จในการเรยี น การรับรูของผเู รียน เชน จากการฟงเปน การ
ดู การอานเปนการเขยี น การอภปิ รายเปนการลงมือทํา และการเปลย่ี นจุดความสนใจภายในประสาทสมั ผสั
เดียวกนั เชน จากการดกู ระดานดําไปดภู าพยนตร จากการฟงครูพูดไปฟง เสยี งเทป เปน ตน
ขั้นตอนการดาํ เนนิ งาน
3.1. Plan ข้นั วางแผน ศึกษาหลักการ จดุ มุงหมาย คุณลักษณะตามวยั และโครงสรางหลกั สตู ร
มธั ยมศึกษาตอนตน เพ่ือใหทราบเน้อื หาการจัดประสบการณ จัดทําแผนการจดั ประสบการณ การวางแผนงาน
กอนเร่มิ ปฏบิ ตั ิงาน กาํ หนดความสาํ คัญของงาน วัตถปุ ระสงคในการดําเนินงาน วธิ ีการและข้ันตอนทจี่ ําเปน
เพ่ือใหการดําเนินงาน บรรลเุ ปาหมายโดยเร่มิ จากการคนควาหาขอมูลเก่ียวกับขอมลู ที่ใหค วามรู และออกแบบ
สือ่ Power point ทีส่ รางความสนใจใหน ักเรยี นมาสนใจกจิ กรรม
3.2. Do ขัน้ ตรวจสอบประเมินผล จากการจดั กจิ กรรมการพฒั นาความสามารถทางการฟงของนักเรียน
โดยใชน วัตกรรม Con & Abs พบวา นักเรยี นท่ีไดรบั การจัดกจิ กรรม โดยใชน วัตกรรม Con & Abs ประกอบการ
จดั ประสบการณ จากผลสรุปในแบบประเมนิ จากใบงาน นกั เรยี นสามารถทาํ แบบฝกหัดและแยกประเภทของ
คาํ นามไดถ ูกตอ ง แตก็มนี ักเรยี นบางคนยงั ไมส ามารถแยกประเภทของคาํ นามได เพื่อใหเกิดประสทิ ธิภาพและ
ผลลัพธทดี่ ีทส่ี ุด รวมถงึ ในระหวา งการปฏบิ ตั งิ านไดเก็บขอมูลทีส่ าํ คญั หรอื ขอผิดพลาดตางๆของงานเอาไวเพื่อ
ประโยชนใ นการทาํ งานขั้นตอไป
3.3. Check เปนกจิ กรรมทม่ี ีขน้ึ เพื่อประเมินผลวา มีการปฏบิ ัติงานตามแผนหรือไม มีปญหาเกิดขึน้ ใน
ระหวา งการปฏิบัติงานหรือไม ข้นั ตอนน้ีมคี วามสําคัญเนอ่ื งจากในการดําเนนิ งานใด ๆ มกั จะเกดิ ปญหาแทรก
ซอนที่ทําใหก ารดําเนนิ งานไมเปนไปตามแผนอยูเสมอ ซ่งึ เปน อุปสรรคตอประสทิ ธภิ าพและคุณภาพของการ
ทาํ งาน การติดตาม การตรวจสอบ และการประเมินปญ หาจงึ เปนสิ่งสาํ คัญที่ตองกระทาํ ควบคูไปกบั การ
ดําเนนิ งาน เพ่ือจะไดทราบขอ มลู ท่ีเปนประโยชน ในการปรบั ปรงุ คณุ ภาพของการดาํ เนินงานตอไป ในการ
ตรวจสอบ และการประเมินการปฏิบตั งิ าน จะตองตรวจสอบดว ยวา การปฏิบัตนิ นั้ เปน ไปตามมาตรฐานที่
กําหนดไวหรอื ไม ท้ังนี้เพ่ือเปนประโยชนตอการพฒั นาคุณภาพของงาน โดยท่คี รูผผู ลติ นวัตกรรม ไดมีการนํา
นวตั กรรม Con & Abs มาจดั กจิ กรรมใหกับนกั เรียนโดยมกี ารปรับปรุงเนื้อหาใหเขา กบั แผนการจัด
ประสบการณ และไดมกี ารนาํ เสนอเผยแพรนวตั กรรม โดยมกี าร P L C กับครูในแผนก มกี ารบนั ทึกการใชแ ละ
นาํ ส่งิ ทีค่ วรปรบั ปรงุ แกไ ขมาพัฒนานวตั กรรม Con & Abs ใหม ีประสทิ ธิภาพมากขึ้น
3.4. Action ขน้ั ปรับปรงุ และพัฒนา ไดมีการศกึ ษาความสามารถทางการฟง โดยการใชกจิ กรรม อยาง
อน่ื เชน การใชป รศิ นาคาํ ทาย ควบคูกับการศึกษานวัตกรรม Con & Abs ประกอบการจัดประสบการณชดุ
คาํ ศัพทเพอื่ พัฒนาหรอื สง เสรมิ พฤติกรรม ดานอื่น ๆ เชน ทักษะทางดานการคิด หรือแมกระท้ังการพัฒนา
ทกั ษะการอาน และการเขยี นในระดับชว งชัน้ ทสี่ งู ข้นึ การนําผลการใชนวัตกรรม Con & Abs มาวเิ คราะหว า
ควรปรับปรงุ หรอื พฒั นาสง่ิ ท่ดี ีอยูแลว ใหด ยี ่งิ ขึน้ ไปอีกซง่ึ หลังจากทนี่ าํ นวัตกรรม Con & Abs มาทดลอง ใช ซ่งึ
เปนส่งิ จําเปนเพื่อเปนการประเมนิ ผลและปรบั ปรุงแกไขผลการทดลองจะทําใหไดข อมลู นํามาใชในการปรบั ปรงุ
และพฒั นานวัตกรรมตอไป ถาหากมีการทดลองใชน วตั กรรมหลายครงั้ กย็ อมมีความมนั่ ใจในประสิทธภิ าพของ
นวัตกรรม
4. ผลการดําเนินงาน
จากการจัดกิจกรรมการพัฒนาความสามารถทางการฟงโดยใชนวตั กรรม Con & Abs นกั เรยี นมีความ
กระตือรอื รน และมีความเขาใจในบทเรยี น กลา นาํ เสนอความคดิ กลาตอบคําถาม มีความ กระตือรอื รน อยากที่
จะเรียนรูแ ละพรอ มที่จะเรียนรู เกดิ ความพอใจในการเรียนรแู ละเกดิ การเรียนรูไดตลอดเวลาขณะเรยี น โดยท่คี รู
มีการเตรียมนวัตกรรม Con & Abs ปรับไปตามหนว ยการจัดประสบการณ ตามสาระที่ควรเรียนรู ในที่นีจ้ ะ
พจิ ารณาเกี่ยวกบั ประโยชนห รอื คณุ คาของนวัตกรรม Con & Abs ออกโดยแบงออกเปน 2 ดา น คือ
- คุณคาที่มตี อผเู รียน
- คณุ คาที่มตี อผสู อน
1.คณุ คาของส่ือการสอนที่มีตอผเู รยี น
1.1 ชวยกระตุนและเราความสนใจของผูเรยี น
ชว ยทําใหผ ูเรยี นเกดิ ความสนใจเน้ือหาของบทเรยี น ท่ีถกู นําเสนอผา นทางส่ือการสอน เพราะอาจนับ
ไดว า ความสนใจเปนบันไดข้ันแรกท่จี ะนาํ ไปสูการเรียนรูของผเู รียนในท่สี ดุ
1.2 ชวยใหการเรยี นรขู องผูเรยี นเกิดขึ้นอยางมีประสทิ ธภิ าพ สะดวก และรวดเรว็
ทาํ ใหผ เู รยี นเกดิ ความเขา ใจท่ีถูกตองและตรงกับวัตถปุ ระสงคข องการเรียนการสอน
1.3 ชวยแกป ญหาเรอ่ื งความแตกตางระหวางบคุ คลในบริบทของการเรยี นรู
ผูเ รยี นแตล ะคนมีความแตกตางกันในดานตางๆ การใชสื่อการสอนจะชว ยลดอุปสรรคหรือแกปญหา
เรื่องความแตกตา งระหวา งบุคคลทม่ี ผี ลตอการเรียนรู เชน การใชบ ทเรยี นคอมพวิ เตอรช วยสอน
1.6 ชวยใหผเู รยี นเรยี นอยางกระตอื รอื รน และมีสวนรวมกับการเรยี น
ส่ือการสอนทีไ่ ดรบั การออกแบบมาเปน อยางดี ตอ งเปน ส่อื การสอนท่สี ามารถกระตุนหรือเรา ใหผ ูเรียน
ทําการเรียนรดู ว ยความ กระตือรอื รน โดยใหผเู รียนตอ งมปี ฏสิ มั พนั ธกบั บทเรยี น โดยควรเนน ท่ปี ฏสิ มั พันธด า น
การใชค วามคิดหรือ กิจกรรมทางสมอง
1.7 ชวยใหผเู รียนเรียนรอู ยางเพลิดเพลิน สนุกสนาน และไมเบ่ือหนา ยตอการเรยี น การใชส อ่ื การ
สอนจะเปน การเปลยี่ นบรรยากาศในหองเรยี นใหแตกตางไปจากสงิ่ ท่ีเคยปฏบิ ัตเิ ปน ประจาํ ในช้ันเรยี น ทาํ ให
ผูเรยี นไมเบอื่ หนายตอการเรียน
2. คณุ คาของสื่อการสอนท่ีมีตอผสู อน
2.1 ชวยแบงเบาภาระของผูสอนในดา นการเตรียมการสอนหรอื เน้ือหาการสอน ผูส อนไมตองจดจาํ
เน้ือหาบทเรยี นท้งั หมดเพ่ือนํามาบรรยายดว ยตนเอง เพราะรายละเอียดของเนอื้ หา บทเรยี นสวนใหญจ ะถกู
นาํ เสนอผานทางนวตั กรรม Con & Abs ในกรณีทตี่ อ งสอนซาในเนื้อหาเดิม ก็สามารถนําสอ่ื การสอนทเี่ คยใช
สอนกลับมาใชไดอ ีก
2.2 ชวยสรางบรรยากาศในการสอนใหน าสนใจ การใชส ่อื การสอนจะชวยสรา งบรรยากาศในการ
เรยี นใหมคี วามนา สนใจข้นึ มาได
2.3 ชวยสรางความม่ันใจในการสอนใหแ กผสู อน การใชส ่ือการสอนจะชว ยใหผ สู อนมีความม่ันใจใน
การสอนมากขน้ึ เพราะเนือ้ หาเหลา น้นั สามารถทจ่ี ะบันทึกไวไดใ นสอ่ื การสอน
2.4 กระตุนใหผ ูสอนตน่ื ตวั อยเู สมอในขั้นการเตรยี มผลิตสอ่ื การสอน การเลือกสื่อการสอน หรือการ
จัดหาสอ่ื การสอน ตลอดจนการแสวงหาเทคนิคใหม ๆ มาใชในการสอน จะทาํ ใหผูสอนเปน ผูม ีความตื่นตัว และ
มีการพจิ ารณาเพ่อื ทาํ ใหก ารสอนบรรลวุ ตั ถุประสงค
คุณคา ของนวตั กรรมทีวหี รรษาพัฒนาการฟงยังจําแนกเปน รายดา นได 3 ขอ คอื
1. คุณคา ดานวิชาการ
2. คณุ คา ดานจิตวิทยาการเรยี นรู
3. คณุ คาดา นเศรษฐกิจการศกึ ษา
1. คุณคา ดา นวิชาการ
1.1 ทาํ ใหผเู รียนเกิดประสบการณตรง
1.2 ทําใหผเู รยี นเรยี นรไู ดด ีกวา และมากกวา
1.3 สว นเสรมิ ดานความคิด
1.4 ชว ยใหผเู รยี นเรียนรูไดถกู ตอ ง
1.5 ชว ยเรงในการเรียนรู ทกั ษะ ทุกดาน
2. คุณคา ดา นจิตวิทยาการเรยี นรู
2.1 ทําใหเ กดิ ความสนใจ และตอ งเรียนรูในสิ่งตาง ๆ มากขึน้
2.2 ทาํ ใหเ กดิ ความคดิ รวบยอดเปนเพียงอยา งเดียว
2.3 เราความสนใจ ทําใหเกิดความพงึ พอใจ
3. คุณคา ดา นเศรษฐกิจการศึกษา
3.1 ชว ยใหผ เู รยี นท่เี รยี นชา เรยี นไดด ีขน้ึ
3.2 ประหยัดเวลาในการทําความเขา ใจเน้ือหาตาง ๆ
3.3 ผูเ รยี นสามารถเรยี นรูไดเหมอื นกันครงั้ ละหลาย ๆ คน
3.4 ชว ยขจัดปญหาเรื่องเวลา สถานที่ ขนาดและระยะทาง
5. ปจจัยความสาํ เร็จ
5.1. ไดรบั การสงเสรมิ สนบั สนนุ ดานการจดั การศกึ ษา จากผูบริหาร
5.2. ดานการจดั การเรยี นการสอน ไดรบั การสง เสริมจากเพ่ือนรว มงาน เปน ท่ปี รึกษาคอยใหกําลังใจ
และใหค ําแนะนาํ ในการออกแบบส่อื นวตั กรรม
5.3. ไดร บั ความรวมมือจากนักเรยี น และครูทุกคนเปน อยางดี นกั เรียนสนใจและมคี วามสุขในขณะทาํ
การเรยี นการสอนโดยใชนวัตกรรม Con & Abs ซึง่ สง ผลใหม ีการพัฒนาทต่ี อเนอ่ื งและยั่งยนื ปจ จัยทส่ี งเสรมิ ให
นวตั กรรมประสบผลสําเร็จคือนวตั กรรมเปนทีน่ า สนใจ นกั เรยี นเหน็ นวตั กรรมแลวเกิดความอยากเรียนรู
ข้นั ตอนในการนําไปใชและเผยแพรนวัตกรรม Con & Abs
ผา นการสอนออนไลน โปรแกรม Microsoft Team
ข้นั ตอนในการนําไปใชและเผยแพรนวัตกรรม Con & Abs
ผา นการสอนออนไลน โปรแกรม Microsoft Team
ข้นั ตอนในการนําไปใชและเผยแพรนวัตกรรม Con & Abs
ผา นการสอนออนไลน โปรแกรม Microsoft Team