The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่มรายงาน ETP510 วิชาปรัชญาการศึกษา คุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณความเป็นครู

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by parnwad.kaew, 2022-11-19 00:54:45

รวมเล่มรายงาน ETP 510

รวมเล่มรายงาน ETP510 วิชาปรัชญาการศึกษา คุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณความเป็นครู

ดำเนินการกรณีขอต่ออายุใบอนญุ าตล่าช้าเป็นเงนิ เดอื นละสองรอ้ ยบาทแตไ่ ม่เกินสองพันบาท กรณรี ะยะเวลาที่ล่าช้า
นับได้ไมถ่ ึงหนงึ่ เดือนให้นับเป็นหนง่ึ เดอื น

กรณีผู้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตหลังจากวันที่ใบอนุญาตหมดอายุพ้นระยะเวลาห้าปีให้ดำเนินการตาม
ข้างตน้ จนกวา่ ใบอนุญาตจะมอี ายุใชไ้ ด้

ทัง้ น้ี ใหใ้ ช้หลักฐานการชำระเงินเปน็ หลกั ฐานการแสดงการย่ืนคำขอต่ออายใุ บอนุญาตและผา่ นการตรวจสอบ
คุณสมบัติเบอ้ื งต้นแล้ว ผูย้ ่ืนคำขอจะได้รับใบอนญุ าตเมือ่ ผา่ นการอนุมตั ิจากคณะกรรมการมาตรฐานมาตรฐานวชิ าชีพ

กรณี คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพไมต่ อ่ อายใุ บอนญุ าต ใหจ้ ดั ทำเป็นคำสั่งและแจ้งให้ผูย้ ืน่ คำขอรับทราบ
3. ผู้ได้รับใบอนุญาตที่ใบอนุญาตหมดอายุแล้ว ไม่สามารถใช้สิทธิในการประกอบวิชาชีพตามประเภท
ใบอนุญาตท่ไี ด้รบั ต่อไปได้
4.ใบอนุญาตส้ินสุดลงในกรณี ดงั ต่อไปน้ี

1. ใบอนญุ าตหมดอายุ
2. ถกู สงั่ เพกิ ถอน
3. ถกู ส่งั พักใช้ใบอนุญาต
ผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต เมื่อพ้นกำหนดห้าปีนับแต่วันที่ถูกสั่งเพิกถอน ประสงค์ขอรับใบอนุญาตตาม
ประเภททเี่ คยได้รับ ใหย้ ืน่ คำขอต่อเลขาธิการตามแบบทก่ี ำหนด พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานดังนี้
1. สำเนาทะเบียนบา้ น สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาบตั รประจำตวั เจา้ หน้าที่ของรฐั
2. ใบอนุญาตและสำเนาคำสัง่ เพกิ ถอนใบอนญุ าต
3. เอกสารที่แสดงหรือรับรองความประพฤติและการประกอบวิชาชีพหรือการทำงานระหว่างถูกเพิกถอน
ใบอนุญาต ซ่ึงออกโดยหนว่ ยงานตน้ สงั กดั หรือผบู้ ังคับบัญชา หรือหนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวขอ้ งของผยู้ นื่ คำขอ
4. รปู ถา่ ยหน้าตรงคร่ึงตวั
5. หลกั ฐานการชำระเงินคา่ ธรรมเนยี มการขน้ึ ทะเบียนรบั ใบอนญุ าต
6. เอกสารอืน่ ๆ (ถ้ามี)
เมื่อตรวจสอบแบบคำพร้อมเอกสารหลักฐานถูกต้องและครบถ้วนแล้ว ให้เลขาธิการเสนอคณะกรรมการ
มาตรฐานวิชาชีพพิจารณาประเมินความเหมาะสม จากความรู้ ความสามารถ ความประพฤติระหว่างถูกเพิกถอน
ใบอนญุ าตตามประเภทของใบอนญุ าต โดยวันท่ีออกใบอนุญาตใหน้ บั ต้ังแต่วันท่ีคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพอนุมตั ิ
กรณี คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพไม่อนุมัติออกใบอนุญาต ให้จัดทำเป็นคำสั่งและแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอ
รบั ทราบ
ค่าใช้จา่ ย ในการขอขนึ้ ทะเบยี น 500 บาท ต่ออายุ 200 บาท และคา่ ปรบั 200 บาท (ใบอนญุ าตหมดอายุ)

147

สรปุ ใบประกอบวชิ าชีพทางการศึกษา

บุคคลที่ปฏิบัติวิชาชีพทางการศึกษาจำเป็นต้องมีใบอนุญาตการทำงาน ที่เรียกว่า “ใบประกอบวิชาชีพ
ทางการศกึ ษา” โดยประกอบไปดว้ ย ผู้บรหิ ารการศกึ ษา ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ครู และศึกษานิเทศก์ หากฝ่าฝืนจะมี
โทษทางกฎหมาย โดยผ้ทู ่มี สี ทิ ธ์ิจะขอใบอนุญาตประกอบวิชาชพี ทางการศึกษา ต้องมคี ุณสมบตั ิและไม่มีคุณลักษณะ
ต้องหา้ มตามทค่ี รุ สุ ภากำหนดไว้ ใบประกอบวชิ าชพี ทางการศึกษามีอายกุ ารใชง้ าน 5 ปี โดยจะตอ้ งตอ่ อายใุ บประกอบ
วชิ าชีพก่อนหมดอายเุ ป็นเวลา 180 วนั ใบประกอบวชิ าชพี สนิ้ สดุ ลงในกรณี (1) หมดอายุ (2) ถูกสั่งเพิกถอน (3) ถกู ส่ัง
พักใช้ หากใบประกอบวิชาชีพหมดอายุจะไม่สามารถใช้สิทธิในการประกอบวิชาชีพตามประเภทใบอนุญาตท่ีได้รับ
ต่อไปได้

5. มาตรฐานวิชาชีพในต่างประเทศ

ในท่นี ี้จะกลา่ วถงึ มาตรฐานวิชาชีพ ฝง่ั ตะวันตกและฝั่งตะวันออกซงึ่ ไดแ้ ก่ ประเทศฟินแลนด์และประเทศ
สิงคโปร์ ดังนี้

มาตรฐานวชิ าชีพฝ่ังตะวนั ตก ประเทศฟนิ แลนด์
วลิ าวัลล์ มาคมุ้ (2554) ไดก้ ลา่ วถึงการศึกษาของประเทศฟนิ แลนด์ จากศึกษาดูงานทค่ี ณะครศุ าสตร์
มหาวิทยาลัยเชลชาล สถาบันอบรมครู Viikki และสหภาพแรงงงานประเทศฟนิ แลนดว์ ่า ประเทศฟินแลนด์ให้
ความสำคญั กับการสร้างครูที่มคี ุณภาพ โดยมวี สิ ัยทศั น์ในการสร้างชาติ และจะต้องเรม่ิ ตน้ ทก่ี ารสรา้ งครทู ีม่ ีคุณภาพ
และระบบการศกึ ษาทมี่ ีคณุ ภาพ ท่ใี ห้ความสำคญั กบั คุณวุฒแิ ละความเช่ยี วชาญของครู โดยผทู้ จ่ี ะมาเรียนครจู ะต้อง
เปน็ คนทเ่ี รียนดีอยู่ในกลุ่ม 10 เปอร์เซ็นตแ์ รกเทา่ น้นั

เปรยี บเทยี บความคลา้ ยคลงึ และความแตกต่างระหว่างมาตรฐานวิชาชีพครปู ระเทศฟนิ แลนด์และ
มาตรฐานวชิ าชพี ครูในประเทศไทย
ความคล้ายคลงึ กนั ระหว่างมาตรฐานวิชาชพี ครูประเทศฟินแลนด์และมาตรฐานวิชาชพี ครใู นประเทศไทย

ประเทศฟินแลนด์ ประเทศไทย

มกี ารใช้เทคโนโลยใี นการสอนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยการจดั การเรยี นการสอน

การศึกษาวจิ ยั และพัฒนานวัตกรรม

รว่ มมอื กบั ท้องถ่นิ ชุมชน ผู้ปกครอง และองค์กรตา่ ง ๆ

เข้ามาช่วยสร้างสังคมแห่งการเรยี นรู้

การจัดการศึกษาพิเศษ สวสั ดิภาพนักเรียน การแนะแนวและชว่ ยเหลือดแู ลนกั เรยี น และหลกั การจดั การ

ส่ิงแวดลอ้ มทเี่ หมาะสมกบั การเรียนรู้

148

ความแตกต่างกันระหว่างมาตรฐานวชิ าชพี ครูประเทศฟนิ แลนดแ์ ละมาตรฐานวิชาชพี ครูในประเทศไทย

ประเทศฟินแลนด์ ประเทศไทย

ครูต้องจบการศกึ ษาดา้ นศึกษาศาสตร์ ระดบั ปริญญาโท มีคุณวุฒิไม่ตำ่ กวา่ ปรญิ ญาตรที างการศกึ ษา หรือ

เทียบเทา่ หรอื คณุ วุฒอิ ื่นที่ครุ สุ ภารบั รอง

ใชว้ ธิ ีการประเมินแบบไมใ่ หเ้ กรด เนน้ ใหน้ กั เรียนตดิ ตาม ปฏิบตั ิการวดั และการประเมนิ ผล

ประเมนิ ผลเอง และตดั สนิ ใจวางแผนเอง

- ครปู ระจำชั้น เรยี นคณะศึกษาศาสตร์ ระดบั ปรญิ ญา มาตรฐานประสบการณ์วิชาชพี ผา่ นการปฏิบตั กิ ารสอน

โท ฝกึ สอน ทดลองสอน ในโรงเรียนสาธติ ในสถานศึกษาตามหลกั สตู รปริญญาทางการศึกษาเป็น

- ครูประจำวิชา เรียนคณะทส่ี อนวชิ าเอก และต่อคณะ เวลาไม่นอ้ ยกวา่ หนงึ่ ปี และผ่านเกณฑ์การประเมนิ

ศึกษาศาสตรใ์ นระดบั ปริญญาโท ปฏบิ ตั ิ การสอนตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขท่ี

- ครอู าชวี ศกึ ษา เรียนคณะศึกษาศาสตร์ ฝึกสอนใน คณะกรรมการครุ สุ ภากำหนด

โรงเรยี นอาชวี ศกึ ษา ผา่ นอบรมวิชาการศกึ ษาพเิ ศษหรอื

แนะแนวไม่นอ้ ยกวา่ 60 หนว่ ยกติ มีประสบการณ์ 1 ปี

สญั ญาจา้ ง 3-5 ปี/ครัง้

มาตรฐานวิชาชีพฝงั่ ตะวันออก ประเทศสิงคโปร์
รฐั บาลสงิ คโปรเ์ ชื่อวา่ “ครู” คอื หวั ใจของการศกึ ษา จึงให้ความสำคญั และสง่ เสรมิ วชิ าชพี ครใู ห้เปน็ อาชพี ทมี่ ี
เกยี รติ จริงจังในการคัดเลอื กคณุ ภาพ และใหเ้ งนิ เดือนสูงประมาณ 3,360 ดอลลารส์ ิงคโปร์ (82,290 บาท) เพ่อื ดึงดดู
คนเก่งใหม้ าเปน็ ครูกันมากขนึ้ โดยครูทุกคนต้องเข้ารับการฝกึ อบรมวิชาชีพครูจากสถาบนั การศึกษาแห่งชาติสิงคโปร์
(National Institute of Education : NIE ) เปน็ เวลา 1 ปี

เปรยี บเทยี บความคลา้ ยคลงึ และความแตกต่างระหว่างมาตรฐานวชิ าชีพครปู ระเทศสงิ คโปร์และ
มาตรฐานวิชาชีพครใู นประเทศไทย
ความคลา้ ยคลึงกันระหวา่ งมาตรฐานวิชาชพี ครูประเทศสงิ คโปร์และมาตรฐานวิชาชพี ครใู นประเทศไทย

ประเทศสงิ คโปร์ ประเทศไทย

ครจู ะต้องเข้ารบั การประเมนิ และพฒั นาทกุ ปี

ครตู ้องตดิ ตอ่ กบั ผปู้ กครองอย่างสมำ่ เสมอ และทกุ ครง้ั ทตี่ ิดตอ่ ผปู้ กครองจะมกี ารบันทึกไว้

มุ่งฝกึ หดั ครูให้พรอ้ มดแู ลนักเรยี นทมี่ คี วามหลากหลาย คิดและตดั สินใจอย่างเปน็ มอื อาชพี ขณะจัดการเรียนรู้

ดว้ ยบทบาททีแ่ ตกต่างกัน

149

การปฏิรปู ทกั ษะ สมรรถนะดา้ นการสอนวิชาชพี ครูหรือการฝึกอบรม เปน็ ความรบั ผดิ ชอบหลกั ของหน่วยงาน
ของรฐั

ความแตกต่างกันระหวา่ งมาตรฐานวชิ าชพี ครูประเทศสงิ คโปรแ์ ละมาตรฐานวิชาชพี ครใู นประเทศไทย

ประเทศสิงค์โปร์ ประเทศไทย

มีคุณวุฒไิ มต่ ำ่ กวา่ ระดบั ปรญิ ญาตรี จำแนกหลกั สูตรผลิต มีคุณวฒุ ิไม่ตำ่ กว่าปริญญาตรที างการศึกษา หรอื

ครตู ามระดบั การใช้ครเู ป็นสองระดบั คอื ครปู ระถมศึกษา เทยี บเทา่ หรอื คณุ วฒุ อิ ื่นท่คี รุ ุสภารบั รอง

(primary) และครมู ัธยมศกึ ษา (secondary)

กำหนดมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ าน กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงาน

- การปฏบิ ตั ิด้านวชิ าชีพ - มาตรฐานหน้าท่คี รู

- ดา้ นภาวะผู้นำและการจัดการ - การจัดเรยี นรู้

- ดา้ นประสิทธภิ าพสว่ นบุคคล - ความสัมพันธ์กับผปู้ กครองและชมุ ชน

ครใู หม่ทุกคนในสงิ คโปร์ใน 2 ปแี รก ตอ้ งรว่ มโครงการ ผ้ปู ระกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องปฏบิ ตั ติ าม

แนะแนวท่ีเน้นพัฒนาการจัดการชัน้ เรยี น การรบั มอื กับ และตอ้ งฝกึ ฝนตามขอ้ กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติ

ผปู้ กครอง การสานสมั พนั ธ์กบั นักเรยี น การวพิ ากษก์ าร ในสถานศกึ ษา โดยไมม่ โี ครงการแนะแนวที่

ปฏิบตั ิการสอน ศาสตร์การจัดการเรียนรู้ ตลอดจนการวัด สนับสนุนงบประมาณจากรฐั

และประเมินผลการศกึ ษา โดยสนบั สนนุ งบประมาณจากรฐั

สรปุ มาตรฐานวชิ าชีพในตา่ งประเทศ
ทั้ง 2 ประเทศ ล้วนเน้นการผลิตครูที่มีคุณภาพ ภายใต้กฎของคุณสมบัติความเป็นครู ที่มีการปฏิบัติด้าน
มาตรฐานวิชาชพี ต่าง ๆ ภายใตม้ าตรฐานทักษะของครศู ตวรรษท่ี 21 ท่เี น้นสนับผเู้ รยี นในดา้ นต่าง ๆ โดยคลา้ ยคลึงกับ
ประเทศไทย ไม่วา่ จะเปน็ การทำหนา้ ท่เี ป็นผชู้ ว่ ยเหลอื สนบั สนนุ ให้ผูเ้ รยี นพฒั นาตนได้เต็มตามศกั ยภาพ โดยไดร้ บั การ
สนับสนนุ จากรัฐ แต่มีความแตกต่างกันในเร่ืองการประเมินผลที่เน้นผูเ้ รยี นมากกว่า เช่น การประเมินผลแบบไม่ให้
เกรด ซึง่ ประเทศไทยยงั ตอ้ งศกึ ษาแนวทางปรบั ใช้ในอนาคตตอ่ ไป

150

สรุป
มาตรฐานวิชาชพี บุคลากรทางการศกึ ษา

การเปล่ียนแปลงในดา้ นเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเรว็ และตลอดเวลา ซึ่ง จำเป็นตอ้ ง
อาศยั ผู้นำทีม่ วี ิสัยทศั น์ มีความรู้ ความสามารถ และมีคณุ ธรรมในการดำเนนิ การ จึงทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ
ตามความมุ่งหมายท่ีคาดไว้ ดั้งนนั้ ครูและบคุ ลากรทางการศึกษาจึงเป็นบคุ คลท่ีมีความสำคญั ทงั้ ทางตรงและทางออ้ ม
ทจี่ ะถา่ ยทอดความรู้ ความสามารถใหแ้ ก่ศิษย์ รวมท้งั พฒั นาศิษย์ให้เปน็ มนษุ ย์ทีม่ ีคณุ ภาพและประสิทธิภาพ โดยเน้น
กระบวนการ 4 ด้าน คือ ด้านความรู้ ความคิด หรือพทุ ธพิสัย ด้านความรูส้ ึก อารมณ์ สังคมหรือด้านจิตพิสยั ด้าน
ทกั ษะปฏบิ ัตหิ รือทักษะพิสยั และดา้ นทักษะการจดั การหรอื ทกั ษะกระบวนการ
มาตรฐานวชิ าชีพบุคลากรทางการศกึ ษาแบ่งเป็น 4 ประเภทไดแ้ ก่ ครู ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ผบู้ รหิ ารการศึกษา และ
บคุ ลากรทางการศกึ ษาอ่ืน (ศกึ ษานเิ ทศก)์ ในตารางเปรียบเทียบข้างตน้ ทก่ี ล่าวมาจะเปรียบเทยี บในเรอ่ื งของมาตรฐาน
วิชาชพี ทง้ั 3 ดา้ น ได้แก่

1. ดา้ นมาตรฐานความรู้และประสบการณ์
2.มาตรฐานปฎิบัตงิ าน
3. มาตรฐานปฏิบัติตน จะเปรียบเทียบในปี 2546 2556 และ 2562 ซ่ึงจะเปรียบเทียบเป็นแต่ละมาตรฐาน
มาตรฐานวชิ าชีพบคุ ลากรทางการศึกษาแบ่งเป็น 4 ประเภทได้แก่ ครู ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา ผูบ้ รหิ ารการศึกษา และ
บุคลากรทางการศกึ ษาอื่น (ศึกษานเิ ทศก์) ในตารางเปรียบเทยี บข้างต้นทกี่ ล่าวมาจะเปรียบเทยี บในเรอ่ื งของมาตรฐาน
วชิ าชีพทัง้ 3 ดา้ น ได้แก่
1.ด้านมาตรฐานความรแู้ ละประสบการณ์
2.มาตรฐานปฎบิ ตั ิงาน
3.มาตรฐานปฏบิ ัติตน จะเปรียบเทยี บในปี 2562 จะมมี าตรฐานความรูแ้ ละประสบการณ์
มาตรฐานปฎิบัติงานที่แตกต่างกัน ส่วนมาตรฐานปฎิบัตินก็จะมีทั้งหมด 5 ด้าน 9 ข้อ ที่ใช้เหมือนกันทุก
บุคลากร บุคคลที่ปฏิบัติวิชาชีพทางการศึกษาจำเป็นต้องมีใบอนุญาตการทำงาน ที่เรียกว่า “ใบประกอบวิชาชีพ
ทางการศกึ ษา” โดยประกอบไปดว้ ย ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศกึ ษา ครู และศึกษานิเทศก์ หากฝ่าฝืนจะมี
โทษทางกฎหมาย โดยผ้ทู มี่ สี ทิ ธจ์ิ ะขอใบอนุญาตประกอบวิชาชพี ทางการศกึ ษา ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีคุณลักษณะ
ตอ้ งหา้ มตามท่คี รุ ุสภากำหนดไว้ ใบประกอบวชิ าชีพทางการศกึ ษามอี ายกุ ารใช้งาน 5 ปี โดยจะตอ้ งตอ่ อายุใบประกอบ
วิชาชพี กอ่ นหมดอายุเปน็ เวลา 180 วัน
ใบประกอบวชิ าชีพสิ้นสดุ ลงในกรณี
1.หมดอายุ
2.ถูกส่ังเพกิ ถอน

151

3.ถูกสั่งพักใช้ หากใบประกอบวิชาชีพหมดอายุจะไม่สามารถใช้สิทธิในการประกอบวิชาชีพตามประเภท
ใบอนุญาตทไี่ ดร้ บั ตอ่ ไปได้ทงั้ 2 ประเทศ ลว้ นเนน้ การผลิตครทู ีม่ คี ุณภาพ ภายใต้กฎของคุณสมบตั ิความเป็นครู ท่ีมี
การปฏบิ ัติดา้ นมาตรฐานวิชาชีพต่าง ๆ ภายใต้มาตรฐานทักษะของครูศตวรรษที่ 21 ที่เน้นสนับผู้เรียนในด้านต่าง ๆ
โดยคล้ายคลึงกับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือ สนับสนุนให้ผู้เรียนพัฒนาตนได้เต็มตาม
ศักยภาพ โดยได้รบั การสนับสนุนจากรัฐ แต่มคี วามแตกต่างกันในเรอื่ งการประเมนิ ผลทีเ่ น้นผูเ้ รียนมากกว่า เช่น การ
ประเมนิ ผลแบบไมใ่ ห้เกรด ซึ่งประเทศไทยยงั ต้องศึกษาแนวทางปรบั ใช้ในอนาคตตอ่ ไป

152

อา้ งอิง

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (29 กุมภาพนั ธ์ 2543). มาตรฐานวชิ าชีพคร.ู สืบคน้ เม่ือวนั ท่ี 24 กันยายน 2565.
กลุ่มนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศกึ ษา สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาเพชรบรู ณ์ เขต 2.
(ม.ป.ป.). บทบาทหน้าท่ีศึกษานเิ ทศก.์ สบื คน้ เมือ่ วนั ท่ี 28 กนั ยายน 2565,
ขอ้ บงั คบั ครุ ุสภา วา่ ด้วยใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี พ.ศ. 2559 (2559, ธนั วาคม 9). 133 ตอนพิเศษ

(268ง), 67-76
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวชิ าชพี พ.ศ. 2562 (2562, พฤศจิกายน 26).
ครูเชยี งราย. (28 กมุ ภาพันธ์ 2564). บทบาทหนา้ ท่ขี องครูในศวรรษท่ี 21. สบื คน้ เมอื่ วนั ท่ี 28 กนั ยายน 2565, จาก

https://www.kruchiangrai.net/2020/02/28/
ครเู ชียงราย. (6 ธันวาคม 2561). หน้าทแ่ี ละความรบั ผิดชอบ ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการและรองผู้อำนวยการ

สถานศึกษา. สืบค้นเมอ่ื วันท่ี 26 กนั ยายน 2565, จาก
https://www.kruchiangrai.net/2018/12/06/
ครูสมารท์ ดอทคอม. (ม.ป.ป.). ขอ้ บงั คบั ครุ สุ ภา วา่ ดว้ ยมาตรฐานวชิ าชพี (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2562. สบื ค้น เมือ่ วนั ที่
25 กันยายน 2565, จาก http://www.krusmart.com/teacher-standards-2562/
ครูอาชีพดอทคอม. (1 พฤศจิกายน 2562). สรุปมาตรฐานวิชาชีพครู ฉบับแก้ไข ราชกิจจานุเบกษา 2562 สืบค้น

เมื่อวนั ท่ี 25 กนั ยายน 2565 จาก kruachieve.com.

คู่มือการออกใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี ทางการศึกษา สำนกั งานเลขาธกิ ารคุรสุ ภา สำนักทะเบยี นและใบอนญุ าต
ประกอบวชิ าชพี พ.ศ.2554 (มีนาคม 2554)
จาก http://pnb2.esdc.go.th/home/bthbath-hnathi-khxng-suksanithesk
จาก http://www.thaischool.in.th/_files_school/84101969/data/84101969_1_20190814-
221419.pdf จาก https://www.kroobannok.com/21343

ชลิดา หนหู ลา้ . (7 พฤษภาคม 2564). เรยี นรูด้ ้วยภาพ: ปนั้ ครู เปลย่ี นโลก ถอดนโยบายสรา้ งครจู ากสงิ คโปร์. สืบค้น
เมือ่ วันท่ี 27 กันยายน 2565.

ดารณีย์ พยัคฆ์กลุ . (2559). การพฒั นาสมรรถนะการนิเทศการศึกษาสู่ความเปน็ ศึกษานิเทศกม์ อื อาชพี .
สรุ ิยา ฆอ้ งเสนาะ. (5 กุมภาพนั ธ์ 2563). ฟินแลนดก์ ับความสำเรจ็ ดา้ นการศึกษา.
สรปุ มาตรฐานวิชาชีพครู ฉบับแกไ้ ข ราชกจิ จานุเบกษา 2562. สบื ค้นจาก ครอู าชีพดอทคอม (kruachieve.com) เมอ่ื

วนั ที่ 25 กันยายน 2562.
ผศ. ดร. กัลยาณี หรมทอง. (ม.ป.ป.). บทบาท หนา้ ท่ี และความรับผิดชอบของคร.ู

153

พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546. (2546, มิถุนายน 11). ราชกิจจานุเบกษา,
120(52ก), 1-30

รองศาตราจารย์ ดร.ประวติ ร เอราวรรณ.์ (ม.ป.ป.). สงิ คโปร์ผลิตและพฒั นาครอู ยา่ งไร.
อภิณห์พร สถิตย์ภาคีกุล,อารี สารีปา. (2556). รายงานการวิจัยการวิจัยและพัฒนาหลักสูตรการผลิตครูใน

ศตวรรษท่ี 21 : กรณีศกึ ษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครศรีธรรมราช.

154

บทที่ 5
การศกึ ษากับการเปลีย่ นแปลงบรบิ ทโลก

การศกึ ษากบั การเปลีย่ นแปลงบริบทดลกนนั้ ได้ศึกษาแล้วสามารถแบง่ ออกไปไดอ้ ีก 5 หวั ข้อ
1. การศึกษาไทยในพ.ศ. 1781 - พ.ศ.2411
2. การศึกษาไทยก่อนปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ.2000)
3. การศกึ ษาไทยในปี พ.ศ. 2543 ถงึ ยุคโควดิ -19
4. รูปแบบการเรียนการสอนในยคุ โควิด-19 ถงึ ปจั จบุ ัน
5. การศกึ ษาในยุคอนาคต

โดยเน้ือเหล่านจ้ี ะแบง่ ออกไปแต่ละเรอื่ งท่ศี ึกษามา ดงั นน้ั เนอื้ หาจะมีดงั ต่อไปนี้

1. การศึกษาไทยในพ.ศ. 1781 - พ.ศ. 2411

กระแสโลก (Global Wave) คอื ทางหรอื เสน้ ทางหรอื แนวทางหรือสายธารหรือคลื่นของความเปล่ียนแปลง
ของโลก ส่วนบรบิ ทโลก (Global Context) คอื สถานการณห์ รือสภาพการณห์ รือเหตกุ ารณ์หรอื ปรากฏการณข์ อง
สภาพแวดลอ้ มท่ีถอื กำเนดิ ดำรงอยู่ ทำให้อธบิ ายสภาพที่เกดิ ขึ้น

1. เป็นชดุ ของสภาพแวดล้อมหรือข้อเท็จจรงิ รอบเหตุการณ์ สถานการณ์ หรืออนื่ ใด
2. กระแสโลกจึงมจี ุดเน้นท่ีคล่ืนความเปล่ยี นแปลง เป็นภาพกวา้ งของการเปล่ยี นผ่านของโลก สว่ นบริบทโลก
มีจดุ เนน้ ทส่ี ภาพแวดล้อมของโลก โดยบรบิ ทโลกจะมีปจั จัยอยูห่ ลายดงั น้ี

1) ดา้ นเศรษฐกจิ
2) ดา้ นส่งิ แวดล้อม
3) ดา้ นเทคโนโลยี
4) ด้านการเมอื ง
5) ดา้ นสุขภาพ

การศกึ ษาไทยสมยั สโุ ขทยั
การจัดการศึกษาของประเทศไทยมีววิ ัฒนาการมาตั้งแตส่ มยั โบราณเรอื่ ยมาจนถึงปจั จุบัน ดว้ ยความเช่ือท่ีว่า
การศึกษาช่วยกำหนดทิศทางของชาติ เพื่อพัฒนาคนไทยให้มีความพร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญสำหรับการพัฒนา
ประเทศใหเ้ จริญกา้ วหนา้ ความเปน็ มาของการศกึ ษาไทยมปี ระวตั ทิ ่ีน่าสนใจแบง่ ออกได้ 5 ช่วง ดงั น้ี (ประไพ เอกอุ่น.
2542 : 75)

155

การศึกษาของไทยสมยั โบราณ (พ.ศ. 1781 - พ.ศ. 2411)
(1) การศกึ ษาสมัยกรุงสุโขทัย (พ.ศ. 1781 - พ.ศ. 1921)
(2) การศึกษาสมยั กรุงศรีอยธุ ยา (พ.ศ. 1893 - พ.ศ. 2310)
(3) การศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ตอนต้น (พ.ศ. 2311 – พ.ศ. 2411)
การศกึ ษาสมัยนเี้ ปน็ การศกึ ษาแบบสบื ทอดวฒั นธรรมประเพณที มี่ มี ากแต่เดมิ จำเปน็ ทีค่ นไทยในสมยั นั้นต้อง
ขวนขวายหาความรู้จากผู้รูใ้ นชุมชนต่างๆ ซึง่ การศกึ ษาในสมยั นมี้ บี า้ นและวัดเป็นศูนยก์ ลางของการศึกษา เช่น บ้าน
เปน็ สถานที่อบรมกล่อมเกลาจิตใจของสมาชิกภายในบ้าน โดยมีพ่อและแม่ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดอาชีพและอบรม
ลูกๆ วังเป็นสถานที่รวมเอานักปราชญ์สาขาต่างๆ มาเป็นขุนนางรับใช้เบื้องพระยุคลบาท โดยเฉพาะงานช่าง
ศิลปหัตถกรรมเพื่อสร้างพระราชวังและประกอบพระราชพิธีต่างๆ ซง่ึ เป็นสถานทท่ี ี่ถา่ ยทอดความรู้ต่าง ๆ จากคนรุ่น
หนึง่ ไปสู่คนอกี รุ่นหนง่ึ สว่ นวดั เปน็ สถานท่ปี ระกอบพิธกี รรมทางศาสนา พระจะทำหน้าท่ีในการอบรมสั่งสอนธรรมะ
แกพ่ ุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะผูช้ ายไทยมโี อกาสได้ศกึ ษาธรรมะและบวชเรียน ในสงั คมไทยจงึ นิยมใหผ้ ู้ชายบวชเรียน
ก่อนแต่งงานทำให้มีคุณธรรมและจิตใจมั่นคงสามารถครองเรือนได้อย่างมีความสุข นอกจากนี้ผู้ที่มาบวชเรียนมา
แสวงหาความรู้เรือ่ งธรรมะในวดั แลว้ ยังสามารถแลกเปล่ียนและถา่ ยทอดความรใู้ นด้านศิลปวิทยาการต่าง ๆ ท่เี คยได้
อบรมจาก ครอบครัวมา จะเห็นไดว้ า่ สถาบนั ท้ังสามน้ีล้วนแต่มี บทบาทในการศึกษาอบรมสำหรบั คนไทยในสมยั น้ัน

การศกึ ษาในสมยั สโุ ขทยั (พ.ศ. 1781 – พ.ศ. 1921) มีลกั ษณะการจัด ดังน้ี
รปู แบบการจัดการศึกษา แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย กลา่ วคือ
ฝ่ายอาณาจักรแบ่งออกเปน็ 2 สว่ น ได้แก่ ส่วนทหี่ น่ึงเปน็ การจัดการศกึ ษาสำหรบั ผู้ชายทเ่ี ป็นทหาร เชน่ มวย กระบี่
กระบองและอาวธุ ต่างๆ ตลอดจนวิธกี ารบงั คับมา้ ช้าง ตำราพชิ ยั ยุทธซ่ึงเป็นวิชาช้ันสูงของผทู้ ่ีจะเป็นแม่ทัพนายกอง
และส่วนที่สอง พลเรือน เปน็ การจัดการศกึ ษาใหแ้ ก่พลเรือนผชู้ ายเรยี นคมั ภีรไ์ ตรเวทโหราศาสตร์ เวชกรรม ฯลฯ ส่วน
พลเรือนผู้หญิงให้เรียนวิชาช่างสตรี การปัก การย้อม การเย็บ การถักทอ นอกจากนั้นมีการอบรมบ่มนิสัย
กิรยิ ามารยาท การทำอาหารการกนิ เพื่อเตรยี มตวั เป็นแมบ่ ้านแมเ่ รอื นท่ดี ตี อ่ ไป
ฝา่ ยศาสนาจกั ร เป็นการศกึ ษาเกย่ี วกับพระพทุ ธศาสนาการจดั การศึกษาในสมยั สโุ ขทัย จึงเป็นการจัด
การศกึ ษาท่ีเน้นพระพุทธศาสนาและศลิ ปะศาสตร์ สมยั นพี้ อ่ ขุนรามคำแหงได้นำชา่ งชาวจีนเข้ามาเผยแพรก่ ารทำถว้ ย
ชามสังคโลกให้แก่คนไทย และหลังจากทที่ รงคดิ ประดษิ ฐอ์ ักษรไทยแลว้ งานดา้ นอักษรศาสตรเ์ จริญขึน้ มกี ารสอน
ภาษาไทยในพระบรมมหาราชวัง มวี รรณคดที ส่ี ำคัญ คือ หนงั สอื ไตรภูมพิ ระร่วงและตำรบั ท้าวศรีจุฬาลกั ษณ์
สถานศกึ ษาในสมัยนี้ ประกอบดว้ ย
- บ้าน เป็นสถาบันสังคมพ้ืนฐานที่ชว่ ยทำหนา้ ท่ีในการถ่ายทอดความรดู้ า้ นอาชีพตามบรรพบุรษุ การก่อสร้าง
บ้านเรอื นศลิ ปการป้องกนั ตัวสำหรับลกู ผูช้ ายและการบา้ นการเรอื น เช่น การจบี พลู การทำอาหารและการทอผา้
สำหรับลกู ผหู้ ญงิ เปน็ ตน้
- สำนักสงฆ์ เปน็ สถานศึกษาทสี่ ำคญั ของราษฎรทั่วไป เพอ่ื หนา้ ทขี่ ดั เกลาจิตใจ และแสวงหาธรรมะต่างๆ

156

- สำนักราชบัณฑิต เปน็ บา้ นของบคุ คลทปี่ ระชาชนยกยอ่ งวา่ มี ความรสู้ ูง บางคนก็เป็นขุนนางมี
ยศถาบรรดาศักด์ิ บางคนกเ็ คยบวชเรียนแลว้ จงึ มีความรู้ แตกฉานในแขนงตา่ งๆ

- พระราชสำนัก เป็นสถานศึกษาของพระราชวงศ์และบุตรหลาน ของขุนนางในราชสำนกั มพี ราหมณห์ รอื ราช
บัณฑิตเป็นครสู อน
วิชาท่สี อน ไม่ไดก้ ำหนดตายตัว พอแบ่งออกไดด้ ังน้ี

- วชิ าความรสู้ ามญั สันนษิ ฐานว่าในชว่ งต้นสโุ ขทัยใชภ้ าษาบาลี และสันสกฤตในการศกึ ษา ตอ่ มาในสมัย
หลงั จากทีพ่ ่อขุนรามคำแหงได้ทรงประดษิ ฐ์อกั ษรไทยข้ึนใชเ้ มอื่ พ.ศ. 1826 จงึ มีการเรียนภาษาไทยกัน

- วชิ าชพี เรียนกนั ตามแบบอยา่ งบรรพบรุ ุษ ตระกลู ใดมคี วาม ชำนาญดา้ นใดลกู หลานจะมีความถนัดและ
ประกอบอาชพี ตามแบบอย่างกนั มา เช่น ตระกูลใดเป็นแพทย์ก็จะสอนบตุ รหลานใหเ้ ปน็ แพทย์

- วชิ าจรยิ ศึกษา สอนใหเ้ คารพนบั ถือบรรพบุรษุ การรจู้ กั กตญั ญรู ้คู ณุ การรกั ษาขนบธรรมเนยี มประเพณี
ดง้ั เดิม และการรจู้ ักทำบญุ ให้ทาน ถอื ศีลในระหวา่ งเข้าพรรษา เปน็ ตน้

- วิชาศิลปะป้องกนั ตวั เปน็ การสอนใหร้ ู้จกั การใช้อาวุธ การ บงั คับสตั ว์ทใ่ี ชเ้ ปน็ พาหนะในการออกศึกและ
ตำราพิชยั ยุทธ

การศกึ ษาในสมยั กรุงศรอี ยธุ ยา (พ.ศ. 1893 - พ.ศ. 2310)
กรุงศรอี ยุธยาซง่ึ เปน็ ราชธานอี ันยาวนาน 417 ปี ซ่งึ มีความเจริญท้งั ทางด้านการเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คม
การเปลยี่ นแปลงดงั กลา่ วนบั เกดิ จากมชี นชาตติ า่ ง ๆ ในเอเชยี เขา้ มาติดตอ่ ค้าขายและเข้ามาเพอ่ื ตงั้ หลักแหล่งหากินใน
ดนิ แดนไทย เชน่ จีน มอญ ญวน เขมร อินเดียและอาหรบั และต้งั แตร่ ชั สมยั พระรามาธบิ ดที ่ี 2 ชาติตะวนั ตกได้เริ่ม
เขา้ มาตดิ ต่อคา้ ขาย เช่น ชาตโิ ปรตุเกสเขา้ มาเป็นชาติแรก และมชี นชาติอนื่ ๆ ตดิ ตามมา เช่น ฮอลนั ดา ฝรั่งเศส
องั กฤษ เปน็ ต้น มผี ลใหก้ ารศกึ ษาไทยมีความเจริญข้นึ โดยเฉพาะใน รัชสมัยสมเดจ็ พระเจ้าปราสาททองและสมเดจ็
พระนารายณม์ หาราช
ลักษณะการจดั การศกึ ษาสมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา มีดังนี้
1. รูปแบบการจัดการศกึ ษา มีดังน้ี
- การศึกษาวชิ าสามญั เน้นการอา่ น เขยี น เรยี นเลข อนั เป็นวิชาพ้ืนฐานสำหรบั การประกอบสมั มาอาชพี ของ
คนไทย พระโหราธบิ ดไี ด้แต่งแบบเรยี นภาษาไทย ชื่อ จนิ ดามณี ถวายสมเดจ็ พระนารายณม์ หาราชซงึ่ ใช้เปน็ แบบเรียน
สืบมาเป็นเวลานาน
- การศึกษาทางดา้ นศาสนา วัดยังมบี ทบาทมากในสมัยสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั บรมโกศ พระองค์ทรงสง่ เสริม
พุทธศาสนาโดยทรงวางกฎเกณฑ์ไว้ว่าประชาชนคนใดไมเ่ คยบวช เรียนเขียนอ่านมากอ่ น จะไมท่ รงแตง่ ตั้งใหเ้ ปน็
ข้าราชการและในสมยั สมเด็จพระนารายณม์ หาราชเป็นต้นมา มีนักสอนศาสนาหรอื มชิ ชันนารีได้จดั ต้ังโรงเรียนสอน
หนงั สอื และวชิ าอ่ืน ๆ ขึน้ เรียกโรงเรยี นมิชชนั นารีนวี้ า่ โรงเรยี นสามเณร เพอ่ื ชักจูงให้ชาวไทยหนั ไปนบั ถือศาสนา
ครสิ ต์

157

- การศึกษาทางดา้ นภาษาศาสตรแ์ ละวรรณคดี ปรากฎว่ามกี ารสอนทัง้ ภาษาไทย บาลี สันสกฤต ฝรัง่ เศส
เขมร พม่า มอญ และภาษาจีน ในรชั สมัยสมเดจ็ พระนารายณม์ หาราชมวี รรณคดีหลายเล่ม เช่น เสอื โคคำฉนั ท์ สมทุ ร
โฆษคำฉันท์ อนริ ุทธ์คำฉันท์ และกำสรวลศรปี ราชญ์ เป็นตน้

- การศกึ ษาของผูห้ ญิง มีการเรียนวชิ าชีพ การเรอื นการครวั ทอผ้า ตลอดจนกริ ยิ ามารยาท เพอื่ ป้องกันไม่ให้
เขยี นเพลงยาวโต้ตอบกบั ผู้ชาย แต่ผูห้ ญงิ ทอี่ ย่ใู น ราชตระกลู เริม่ เรยี นภาษาไทยตลอดทง้ั การประพนั ธด์ ้วย ในสมัยนี้
โปรตเุ กสเปน็ ชาติแรกทนี่ ำวิธกี ารทำขนมหวานทใี่ ชไ้ ข่มาเปน็ สว่ นผสม เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง มาเผยแพรจ่ นขนม
เหลา่ น้เี ป็นเอกลกั ษณ์ขนมหวานของไทยในปจั จบุ นั

- การศึกษาวชิ าการดา้ นทหาร มกี ารจดั ระเบยี บการปกครองในแผน่ ดนิ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงแยก
ราชการฝา่ ยทหารและฝา่ ยพลเรือนออกจากกัน หัวหนา้ ฝา่ ยทหารเรยี กวา่ สมหุ กลาโหม ฝา่ ยพลเรือนเรยี กวา่ สมุหนา
ยก ในรชั สมัยพระรามาธบิ ดที ี่ 2 ทรงจัดวางระเบียบทางด้านการทหาร มีการทำบญั ชี คือ การเกณฑ์คนเข้ารับราชการ
ทหาร ผู้ชายอายตุ ้งั แต่ 13 ปีขึ้นไปถงึ 60 ปี เรียกว่าไพร่หลวง เชือ่ วา่ ตอ้ งมีการศึกษาวชิ าการทหาu3619 เปน็
การศกึ ษาด้านพลศึกษาสำหรบั ผู้ชาย ฝึกระเบยี บวนิ ยั เพอ่ื ฝกึ อบรมใหเ้ ปน็ กำลงั สำคญั ของชาติ
2. สถานศึกษา

ในสมัยกรุงศรีอยุธยานี้ยังคงเหมือนกับสมัยสุโขทัยที่ต่างออกไป คือ มีโรงเรียนมิชชันนารี เป็นโรงเรียนท่ี
ชาวตะวนั ตกไดเ้ ข้ามาสร้างเพื่อเผยแพรศ่ าสนาและขณะ เดยี วกันก็สอนวชิ าสามญั ด้วย
3. เนอ้ื หาวิชาท่สี อน มสี อนทงั้ วิชาชพี และวิชาสามญั กล่าวคอื

1. วิชาสามัญ มกี ารเรียนวชิ าการอา่ น เขียน เลข ใชแ้ บบเรียนภาษาไทยจินดามณี
2. วิชาชีพเรียนรู้กันในวงศ์ตระกูล สำหรับเด็กผู้ชายได้เรียนวิชาวาดเขียน แกะสลัก และช่างฝีมือต่าง ๆ ที่
พระสงฆ์เปน็ ผู้สอนให้ ส่วนเดก็ ผหู้ ญงิ เรียนรู้การบ้านการเรือนจากพอ่ แม่สมยั ตอ่ มาหลังชาติตะวันตกเข้ามาแล้วมีการ
เรียนวิชาชีพชั้นสูงด้วย เช่น ดาราศาสตร์ การทำน้ำประปา การทำปืน การพาณิชย์ แพทยศาสตร์ ตำรายา การ
ก่อสร้าง ตำราอาหาร เปน็ ตน้
3. ด้านอกั ษรศาสตร์ มกี ารศกึ ษาดา้ นอกั ษรศาสตร์ มีวรรณคดีหลายเลม่ ท่ีเกดิ ขึน้ เชน่ สมุทรโฆษคำฉนั ท์ และ
กำศรวลศรีปราชญ์ เปน็ ต้น อกี ทั้งมกี ารสอนภาษาไทย บาลี สนั สกฤต ฝรง่ั เศส เขมร พมา่ มอญ และจีน
4. วิชาจริยศกึ ษา เน้นการศกึ ษาด้านพระพทุ ธศาสนามากขน้ึ เช่นในสมยั พระเจ้าอยู่หวั บรมโกศ ทรงกวดขัน
ในเรอ่ื งการศกึ ษาหลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนามาก มกี ารกำหนดให้ผชู้ ายท่เี ขา้ รบั ราชการทุกคนจะตอ้ งเคยบวชเรยี น
มาแลว้ เกิดประเพณกี ารอุปสมบทเมอื่ อายุครบ 20 ปี นอกจากนีใ้ นสมัยสมเด็จพระนารายณท์ รงให้เสรีภาพไม่กีดกัน
ศาสนา ทรงอุปถมั ภพ์ วกสอนศาสนา เพราะทรงเหน็ ว่าศาสนาทุกศาสนาต่างสอนใหค้ นเป็นคนดี
5. วชิ าพลศึกษายงั คงเหมือนสมยั สุโขทัย

158

การศกึ ษาในสมยั ธนบุรีและรตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น (พ.ศ. 2311 – พ.ศ. 2411)
การศึกษาในสมยั นเ้ี ชน่ เดียวกับสมยั อยุธยา บ้านและวดั ยงั คงมบี ทบาทเหมอื นเดิม การจดั การศึกษาในช่วงนี้
มีดงั น้ี
1. สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี เป็นระยะเก็บรวบรวมสรรพตำราจากแหล่งต่าง ๆ ที่รอดพน้ จากการทำลายของ
พม่า เนน้ การทำนุบำรงุ ตำราทางศาสนา ศลิ ปะและวรรณคดี
2. สมัยพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงฟืน้ ฟกู ารศกึ ษาด้านอกั ษรศาสตร์ วรรณคดี มีการแต่ง
รามเกยี รตไิ ดเ้ ค้าโครงเรอ่ื งมาจากอนิ เดียเรื่อง รามายณะ ศิลปะ กฎหมาย เชน่ กฎหมายตรา3ดวง และหลักธรรมทาง
ศาสนา มีการสังคายนาพระไตรปฎิ ก
3. สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เริ่มมีชาวยุโรป เช่น ชาติโปรตุเกสเข้ามาตดิ ต่อทางการคา้
กับไทยใหม่ หลังจากเลิกราไปเมื่อประมาณปลายสมัยอยุธยา และชาติอื่น ๆ ตามเข้ามาอีกมากมาย เช่น อังกฤษ
ฝรั่งเศส ฮอลันดา เป็นต้น เนื่องจากยุโรปมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้เปลี่ยนระบบการผลิตจากการใช้มือมาใช้
เคร่ืองจกั ร พลังงานจากไอน้ำสามารถผลติ สินคา้ ได้มากขน้ึ จึงต้องหาแหลง่ ระบายสินค้า ในสมยั นีไ้ ด้สง่ เสรมิ การศึกษา
ทั้งวิชาสามัญ โหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ จริยศาสตร์ มีการตั้งโรงทานหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวังเป็นที่ให้
การศึกษา
4. สมัยพระบาทสมเด็จพระน่ังเกลา้ เจ้าอยู่หัว
5. สมยั พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั
ในสมัยน้ีชาวยโุ รป และอเมริกนั เริม่ เขา้ มาตดิ ตอ่ ค้าขายและสอนศาสนา มกี ารนำวทิ ยาการสมัยใหม่ ๆ เข้ามา
ปรับใช้ในเมืองไทยเพิม่ ขึ้น และพระองค์ทรงเห็นความสำคัญของการศกึ ษาจึงทรงจ้างนางแอนนา เอช เลียวโนเวนส์
มาสอนสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เมื่อ พ.ศ. 2405 จนรอบรู้ภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี ลักษณะการจัดการศึกษาเป็น
แบบเดิมทง้ั วดั และบ้าน ในสว่ นวชิ าชีพและวชิ าสามญั มอี ักษรศาสตร์ธรรมชาตวิ ทิ ยาหรือวิทยาศาสตร์

สรปุ การศกึ ษาไทยในพ.ศ.1781 - พ.ศ.2411
สงั เกตเหน็ ไดช้ ัดเจนว่าสมยั กอ่ นมกี ารตดิ ตอ่ สอ่ื สารกบั ต่างประเทศมากมายทั้งการค้า การทำธรุ กิจ รวมไปถึง
ความเปน็ อยู่ ซ่ึงสง่ ผลทำให้การศกึ ษาในอดีตเปลีย่ นแปลงไปตามบรบิ ทโลกในดา้ นของเศรษฐกจิ และส่งิ แวดลอ้ มเขา้ มา
มบี ทบาทที่สำคญั

2. การศึกษาไทยกอ่ นปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ.2000)

พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช รชั กาลท่ี 1 พ.ศ. 2328
พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หล้านภาลัย รชั กาลที่ 2 วันที่ 17 กนั ยายน 2352
พระบาทสมเด็จพระนงั่ เกลา้ เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 วันท่ี 1 สิงหาคม พุทธศกั ราช 2367
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจา้ อยู่หวั รชั กาลท่ี 4 วันท่ี 15 พฤษภาคม พทุ ธศักราช 2394

159

พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ 5 ทรงมพี ระปฐมบรมราชโองการ 2 ครงั้ ดังน้ี
- ครั้งแรก วนั ที่ 12 พฤศจิกายน พทุ ธศักราช 2411
- ครง้ั ท่สี อง วนั ท่ี 16 พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช 2416

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 วันที่ 11 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2453พระบาทสมเด็จ
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รชั กาลท่ี 7 วันท่ี 25 กมุ ภาพนั ธ์ พุทธศกั ราช 2468
พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอฐั มรามาธิบดินทร

- เสดจ็ สวรรคตก่อนทรงรับพระราชพิธบี รมราชภเิ ษก
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รชั กาลที่ 9 วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493

2.1 ความเป็นมาของการศกึ ษาไทยในอดตี
ตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นต้นมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น การศึกษาของคนไทยจะอาศัยวัดเป็นสถานท่ี
อบรมส่ังสอนกลุ บุตรท้ังหลาย เช่น การสอนหนังสือให้อ่านออกเขยี นได้และการสอนวชิ าช่างตา่ งๆ เป็นต้น ดังนั้น ผู้
ชายไทยทุกคนเมื่อครบ 20 ปี ก็จะต้องเข้าสู่เพศบรรพชิต โดยขณะที่บวชเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่วัดก็จะได้รับการ
อบรมสั่งสอนในด้านการเขียนการอ่านและวิชาช่างต่างๆ ส่วนสตรีไทยก็จะได้รับการอบรมสั่งสอนเกี่ยวกับ
กิริยามารยาท การเย็บปักถักร้อย และงานประดิษฐ์ที่เกี่ยวกับดอกไม้จากครอบครัวของตนเอง เพื่อเตรียมตัวเป็น
แม่บ้านท่ีดีตอ่ ไป
สมัยรชั กาลท่ี 4 ไทยได้ทำการตดิ ต่อกบั ชาติตะวนั ตกอยา่ งกว้างขวาง อนั เป็นผลมาจากการทำสนธสิ ญั ญาบาว
ริง พ.ศ.2398 และทำให้พระองคท์ รงสนพระทัยภาษาอังกฤษเปน็ อยา่ งมาก จงึ ทรงศึกษาภาษาองั กฤษจนใช้การได้ดี
และนำประโยชนจ์ ากการเรยี นภาษาองั กฤษไปใช้ในการปรบั เปล่ยี นนโยบายาการบรหิ ารบา้ นเมอื งของพระองคอ์ ีกด้วย
พ.ศ.2404 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯให้จ้างนางแอนนาเลียวโนเวนส์ สตรีชาวอังกฤษมาเป็นครูสอน
ภาษาอังกฤษในพระราชโอรสและพระราชธิดา โดยตั้งโรงเรียนข้ึนพระบรมมหาราชวัง ให้บรรดาพระเจ้าลูกยาเธอที่
พระชนั ษาพอจะเลา่ เรยี นได้เขา้ เรยี นทุกพระองค์ นางแอนนาสอนอยู่ได้ประมาณ 3 ปีก็กลบั ไป ต่อมาโปรดเกล้าฯ ให้
จ้างนายเชนต์เลอร์ มชิ ชนั นารีชาวอเมรกิ นั ทำหน้าที่เป็นครสู อนแทน ซงึ่ แสดงใหเ้ หน็ ว่าพระองคท์ รงเหน็ ความสำคัญ
ของการศึกษาสมยั ใหม่แบบตะวันตก

สาเหตุทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การปฏริ ูปการศกึ ษาในสมัยรชั กาลท่ี 5
1. การคุกคามของลัทธิจกั รวรรดนิ ิยมตะวนั ตกทม่ี ตี อ่ ประเทศไทยในขณะน้ันเปน็ กระแสกดดันให้ไทยต้อง
ปรับปรงุ ประเทศในทกุ ๆด้าน และการเปล่ยี นแปลงนร้ี ัชกาลท่ี 5 ทรงมคี วามเห็นว่า การปรับปรงุ การศึกษาตามแบบ
สมัยใหม่มคี วามสำคญั เป็นอย่างมาก
2. การไดร้ ับอทิ ธิพลทางดา้ นสตปิ ญั ญาและความคดิ ตามแบบตะวันตกจากชาวยโุ รปและอเมรกิ นั ท่ีมา
เมอื งไทยเพอ่ื การค้า เผยแผศ่ าสนาและเผยแพร่ความคิดเกีย่ วกับการจดั การศึกษาแบบใหม่ให้กบั สงั คมไทยดว้ ย

160

3. การเสดจ็ ประพาสต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัวท้ังในเอเชียและยโุ รป ไดท้ ำ
ใหพ้ ระองค์ทรงได้แนวคิดในการจดั การศกึ ษาแบบใหมม่ าใชก้ ับประเทศไทยดว้ ย

4. สืบเนอื่ งมาจากการเลิกทาสซงึ่ รัชกาลท่ี 5 ทรงมพี ระราชดำรทิ ่ีจะใช้การศึกษาเปน็ เครอ่ื งมอื ที่จะใหผ้ ู้ทพี่ น้
จากการเปน็ ทาสนำไปใช้ในการยงั ชีพ เพอื่ จะไดไ้ มต่ ้องกลับมาเปน็ ทาสอกี

5. สืบเนือ่ งมาจากความตอ้ งการบคุ คลเขา้ รบั ราชการ ซึ่งจำเปน็ ต้องอาศัยบคุ คลท่ีได้รบั การศกึ ษาตามแบบ
ใหมเ่ ข้าทำงาน

จุดม่งุ หมายในการปฏริ ปู การศึกษา
จดุ มุ่งหมายในการปฏริ ปู การศึกษา ทสี่ ำคัญมี 3 ประการ คอื

1.เพอื่ ผลติ คนเขา้ รบั ราชการ
2.เพ่ือใหร้ าษฎรมีความรสู้ ูงขึ้น จะไดเ้ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ผเู้ รยี นและเปน็ รากฐานทส่ี ำคญั ในการปรบั ปรุง

ประเทศ
3.เพ่ือประโยชนท์ างดา้ นศาสนาใหเ้ ดก็ ได้ใกล้ชดิ พระศาสนามากขน้ึ และเปน็ รากฐานในการศกึ ษาพระ
ศาสนาตอ่ ไป

การดำเนนิ งานปฏริ ปู การศึกษา
1) การจดั ตง้ั โรงเรียนหลวงและโรงเรยี นสอนภาษาองั กฤษใน พ.ศ.2414
โดยการจัดตงั้ โรงเรยี นหลวงใน พ.ศ. 2414 เปน็ โรงเรยี นแหง่ น้แี ตกต่างโรงเรยี นแบบโบราณหรอื โรงเรยี นวดั
เพราะมสี ถานทเี่ ล่าเรยี นจดั ไว้เฉพาะ มีฆราวาสเป็นครแู ละทำการสอนตามเวลาท่ีกำหนด วชิ าทส่ี อนมที ง้ั ภาษาไทย
ภาษาตา่ งประเทศและวชิ าอน่ื ๆ ทไ่ี มเ่ คยสอนในโรงเรยี นแบบโบราณและรบั นักเรยี นไว้เฉพาะ เพอ่ื จะได้ฝกึ ฝนเล่าเรยี น
ให้รหู้ นงั สอื รูจ้ กั คิดเลขและเรยี นร้ขู นบธรรมเนียมให้ชดั เจน หลงั จากจดั ตงั้ โรงเรยี นหลวงแล้ว ทรงสถาปนาโรงเรียน
สอนภาษาอังกฤษขึน้ อกี เพื่อสอนภาษาใหแ้ กเ่ จา้ นายสำหรบั ใช้ประโยชน์ในการเจรจากับชาวตา่ งประเทศและผู้แทน
ของมหาอำนาจตะวันตก
2) การสถาปนาโรงเรยี นทหารมหาดเล็กใน พ.ศ.2424
พ.ศ.2424 ทรงสถาปนาโรงเรียนทหารมหาดเล็กข้นึ และขยายกจิ การออกไปเปน็ โรงเรยี นทส่ี อนวชิ าพลเรือน
ด้วยใน พ.ศ.2425 ณ พระตำหนกั สวนกหุ ลาบในพระบรมมหาราชวัง
3) การสถาปนาโรงเรยี นสำหรบั ทวยราษฎรแ์ หง่ แรกใน พ.ศ. 2427
พ.ศ.2427 ทรงโปรดเกลา้ ฯใหส้ ถาปนาโรงเรยี นสำหรบั ราษฎรขึน้ เป็นครง้ั แรกที่วดั มหรรณพาราม กรงุ เทพฯ
เพ่ือใหร้ าษฎรไดม้ ีโอกาสเข้ารับการศกึ ษาแบบใหมเ่ ชน่ เดียวกบั บรรดาบุตรหลานของเจ้านายและขนุ นางทเ่ี รยี นอยใู่ น
วัง

161

4) การจดั ตงั้ โรงเรียนในมณฑลต่างๆใน พ.ศ. 2428 เพื่อให้การศึกษาแก่เยาวชนตามหัวเมอื ง เป็นผลให้
การศกึ ษาขยายออกไปอย่างกวา้ งขวางตามลำดับ

5) การจดั ตงั้ กรมศกึ ษาธกิ ารใน พ.ศ. 2430 จากการท่ีไดม้ กี ารจดั ต้ังโรงเรยี นสำหรบั ราษฎรทง้ั ในกรงุ เทพฯ
และในหวั เมือง เพอ่ื ให้การศึกษาแกเ่ ยาวชนตามหวั เมอื งต่างๆ เปน็ ผลให้การศึกษาขยายออกไปอย่างกว้างขวางจึงเกดิ
ความจำเปน็ ทีจ่ ะตอ้ งมหี นว่ ยงานทรี่ ับผิดชอบอยา่ งจรงิ จงั จงึ ทรงโปรดเกล้าฯใหจ้ ดั ต้ังกรมศกึ ษาธิการขน้ึ ในพ.ศ. 2430
เพื่อรบั ผิดชอบการจดั การศกึ ษา โดยมหี นา้ ที่ควบคมุ ดแู ลทางดา้ นการศกึ ษา การจัดตั้งโรงเรียน ดูแลเรอ่ื งหนงั สอื
แบบเรยี นหลวงและการสอบไล่

6) การจดั ตง้ั กระทรวงธรรมการใน พ.ศ.2435
ภายหลงั ทไ่ี ดม้ กี ารปฏริ ูประบบบรหิ ารราชการแผ่นดนิ ใน พ.ศ.2435 ได้มีการยกฐานะกรมศึกษาธกิ ารขึน้ เป็น
กระทรวงธรรมการ และไดม้ ีการจัดประเภทของโรงเรยี นออกเป็น 2 ประเภท คือ

1) โรงเรียนมลู ศกึ ษา จดั ตัง้ ทั่วไปท้ังในกรุงและหัวเมอื ง มีวัตถุประสงค์ทจี่ ะขยายการเรยี นหนังสอื ไทยให้
แพรห่ ลายและเปน็ แบบแผนยิง่ ข้นึ โรงเรียนประเภทนม้ี ี 2 แบบ คอื โรงเรยี นมลู ศึกษาชัน้ ต่ำและโรงเรียนมลู ศึกษา
ช้นั สงู โรงเรียนที่จดั การศกึ ษาแบบนเ้ี รยี กว่า โรงเรียนหลวง

2) โรงเรยี นเชลยศักดิ์ เปน็ โรงเรยี นท่ีจดั ตงั้ ข้นึ โดยการอนุมตั ิของกระทรวงธรรมการเปิดสอนเหมอื นกับ
โรงเรียนหลวง แต่เปดิ สอนภาษาไทยโบราณ ภาษาองั กฤษ ภาษาจนี และภาษาแขก เรยี กว่า โรงเรยี นเชลยศักด์พิ เิ ศษ

พ.ศ.2420 ได้มโี รงเรียนประเภทเดยี วกันนีเ้ กดิ อีกโรงเรยี นคอื โรงเรียนอสั สมั ชัญ ส่วนโรงเรยี นราษฎร์ของไทย
คือโรงเรียนบำรุงวิทยาลัย ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2448 สำหรับการศึกษาของสตรี มิชชันนารีอเมริกันที่มีบทบาทต่อ
การศึกษาของสตรี คอื นางแฮเรยี ท เอ็ช.เฮาส์ ไดเ้ คยเข้าไปทำการสอนในพระบรมมหาราชวงั สมยั รัชกาลท่ี 4 มาแล้ว
ต่อมาในรัชกาลที่ 5 ได้เป็นผู้พยายามตั้งโรงเรียนกินนอนสตรีที่จัดตามแบบตะวันตกแท้ๆ ในประเทศไทย เรียกว่า
โรงเรยี นกลุ สตรีวังหลัง พ.ศ.2417

พ.ศ.2438 ได้มีการจัดการศึกษาและหลักสูตรใหม่ คือจัดชั้นเรียนเป็นประโยค 1 ประกอบด้วยชั้น 1,2,3
ประโยค 2 ประกอบด้วยชนั้ 1,2,3 ประโยค 3 ประกอบดว้ ย 1,2,3,4

7) การประกาศใช้โครงการศึกษาของชาตใิ น พ.ศ. 2441 โครงการนี้ไดแ้ ยกประเภทการศึกษาออกเปน็ ดงั นี้
(1) การศกึ ษาสามัญศกึ ษา ประกอบด้วยมูลศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศกึ ษาและอุดมศกึ ษา
(2) การศึกษาพเิ ศษ เรียนวิชาเฉพาะทมี่ กี ารฝกึ หดั อาจารย์ ศิลปะ กฎหมาย การแพทย์ การชา่ ง การค้า

การเพาะปลกู สำหรบั การศึกษาในหวั เมอื ง การจดั การศกึ ษาจะแบ่งออกเป็นมณฑลการศึกษาทุกมณฑล การศึกษา
จะมีสารวัตรใหญ่ทางการศึกษาทำหน้าที่ตรวจสอบวางแผนการเล่าเรียนและทำรายง านประจำปี ส่วนเมืองที่เป็น
ศูนย์กลางของมณฑลจะมีโรงเรียนฝึกหัดครู ทำการผลิตครูป้อนโรงเรียนต่างๆในมณฑลนั้น นอกจากนี้แล้วแต่ละ
มณฑลจะต้องมโี รงเรียนมัธยมศึกษาดว้ ย

พ.ศ.2441 การจัดการศึกษาในหวั เมอื งให้แยกออกจากกรมศกึ ษาธกิ าร กระทรวงธรรมการ โดยให้ผู้อยภู่ ายใต้
การดำเนินงานของกรมหมื่นวชิรญาณวโรรส และภายการสนับสนุนของกรมหมื่นดำรงราชานุภาพ เสนาบดี

162

กระทรวงมหาดไทย มหี น้าท่จี ัดการศกึ ษาของกรมศกึ ษาธิการ กระทรวงธรรมการ ซึง่ มีเฉพาะในกรงุ เทพฯเทา่ นั้น สว่ น
การศกึ ษาในหวั เมอื งมอบหมายใหค้ ณะสงฆจ์ ัดการภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงมหาดไทย

8) การประกาศใชแ้ ผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2445 โดยแบง่ การศกึ ษาออกเปน็ 2 สาย คอื สายสามัญและสาย
วสิ ามญั ในการจดั การศึกษาไดแ้ บง่ งานกนั ระหว่างพระสงฆ์กับกรมศึกษาธิการดงั น้คี ือ พระสงฆจ์ ัดการศึกษาในระดับ
ประถมศึกษา สว่ นในระดับสูงกว่าชนั้ ประถมศึกษาเป็นหนา้ ที่ของกรมศกึ ษาธกิ าร

9) การปรับปรุงการจัดการศึกษาใน พ.ศ.2450 ได้มีการแบ่งสายของสามัญศึกษาออกเป็น 2 สาย คือ สาย
สามัญกับสายพิเศษ และได้มีการแก้ไขหลักสูตรใน พ.ศ.2451 โดยมีหลักสูตรสำหรับเด็กหญิงในชั้นมูลศึกษา
ประถมศึกษา มัธยมศึกษา แต่ไมม่ ภี าษาอังกฤษ วิชาคำนวณกล็ ดน้อยลง มเี ลขเพียงอย่างเดยี ว แตเ่ พ่ิมวิชาการเรือน
สุขวทิ ยา จรรยา ศลิ ปะ(การฝีมือ ทอผ้า ดนตรี ขบั ร้องและการครวั ) ส่วนผ้ทู ่ตี ้องการเรียนภาษาอังกฤษกต็ ้องเรียนช้ัน
มธั ยมศกึ ษาพิเศษทจี่ ดั ไวต้ ่างหาก

10) การแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบในการจัดการศึกษาระหว่ างกระทรวงธรรมการและ
กระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2452 โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผจู้ ดั การศึกษาเบื้องตน้ ให้ทวยราษฎรทัว่ ราชอาณาจักร
รับไปดำเนนิ งานต้ังแต่ พ.ศ. 2453 เป็นต้นไป ส่วนการศกึ ษาชน้ั สงู น้นั ใหก้ ระทรวงธรรมการเปน็ ผจู้ ัด

บทบาทของคณะสงฆ์ในการจัดการศึกษาตามนโยบายการปฏริ ปู การศกึ ษา
1. สาเหตุที่คณะสงฆเ์ ขา้ ไปมีบทบาทในการจดั การศึกษาตามนโยบายการปฏิรปู การศกึ ษา
หลังจากรชั กาลที่ 5 ทรงดำเนนิ นโยบายปฏิรูปการศึกษาให้ทันสมัยตามแบบตะวนั ตกตั้งแต่ข้ึนครองราชย์ได้
ไม่นาน ทรงขอให้สมเด็จพระเจา้ น้องยาเธอกรมหมนื่ วชิรญาณวโรรส เจ้าคณะรองคณะธรรมยตุ นิ ิกาย เป็นผู้รับผิดชอบ
การจดั การศึกษาในหัวเมือง เพราะมเี หตผุ ลดงั น้ี

(1) การศกึ ษาในหวั เมอื งยังไม่สามารถขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวางได้ตามทร่ี ัฐบาลต้องการ เนอื่ งจาก
กลไกของรฐั บาลยังไมพ่ รอ้ ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดแคลนกำลังคนทีม่ คี วามสามารถไปดำเนนิ การ

(2) ความสามารถเฉพาะพระองค์ของสมเด็จพระเจา้ นอ้ งยาเธอ กรมหม่ืนวชิรญาณวโรรส เจ้าคณะรอง
คณะธรรม-ยตุ นิ ิกาย เพราะทรงมีความรอบรู้ในการศึกษาแบบใหม่ ได้ทรงจัดการศึกษาในมหามกุฎราชวิทยาลัย ซ่ึง
เป็นวิทยาลัยสงฆเ์ กิดผลดีเป็นอย่างมาก เพราะเรียนทั้งภาษาไทย บาลี สันสฤต อังกฤษ คณิตศาสตร์เบื้องต้น และ
วิชาการอนื่ ๆ อีกหลายอย่าง นอกจากนีจ้ ัดใหม้ ีการสอบแบบใหมด่ ว้ ยการสอบข้อเขียน มีการคิดคะแนนในการสอบซึ่ง
เปน็ การตดั สนิ วา่ สอบไดห้ รือสอบตก ทำให้รัชกาลที่ 5 ทรงพอพระทยั มาก

(3) คณะสงฆ์มีกำลังคน คือ พระภิกษุที่สามารถอ่านออกเขียนได้ สามารถที่จะเป็นครูสอน และ
นอกจากนน้ั กย็ งั มสี ถานท่คี อื วดั ซงึ่ ใชแ้ ทนโรงเรียนได้ ดงั นัน้ การทีค่ ณะสงฆ์และพระภิกษุสงฆท์ กี่ ระจายอยตู่ ามหวั เมอื ง
ทั่วพระราชอาณาจักรเข้ามามบี ทบาทชว่ ยจัดการศึกษาในหัวเมือง ถือว่าเป็นการช่วยแบง่ เบาภาระของรัฐบาลไปได้
บ้าง

2. การจดั การศกึ ษาตามหวั เมืองของคณะสงฆ์

163

ภายหลงั จากกรมหมื่นวชิรญาณวโรรสทรงรับนโยบายทจี่ ะขยายการศึกษาออกไปตามหัวเมอื งจากรชั กาล
ท่ี 5 แลว้ พระองค์ทรงดำเนินนโยบายดงั น้ีคอื

(1) ปลุกใจข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนให้สละเงินจัดตั้งโรงเรียนตามวัดหรือตามบ้าน ส่วน
รัฐบาลเป็นแตเ่ พียงใหเ้ งนิ บำรงุ ตามสมควร และแจกหนงั สือแบบเรยี นหลวงใหฟ้ รี

(2) ให้มหามกฎุ ราชวิทยาลัยเป็นโรงเรยี นฝึกหัดครูสอนวิชาความรูส้ มัยใหมแ่ ก่ภิกษุที่ส่งมาจากหัว
เมอื งต่างๆ เพอ่ื กลับไปเปน็ ครูสอนในทอ้ งที่ภมู ิลำเนาเดมิ

(3) ต้องมีการสอนจริยธรรมแก่นกั เรยี น
(4) ช่วยแตง่ หนงั สอื แบบเรียน
กรมหมื่นวชิรญาณวโรรสได้ดำเนินการพิจารณาแต่งตั้งพระราชาคณะที่มีความสามารถเป็นผู้อำนวยการ
ประจำมณฑล แตไ่ มค่ รบทุกมณฑล เพราะหาผ้ทู ่มี ีความสามารถไมไ่ ด้ ต่อจากน้นั ใหผ้ อู้ ำนวยการศึกษาประจำมณฑล
ต้ังผอู้ ำนวยการศึกษาประจำเมือง เพือ่ ช่วยกันดำเนินงานจดั การศกึ ษาตามนโยบายรชั กาลท่ี 5 ทรงมอบหมายไว้
หลังจากนั้นไม่นาน ข้าราชการและประชาชนที่มีความศรัทธาต่อคณะสงฆ์ ก็ได้ให้ความร่วมมือช่วยกัน
จดั สร้างโรงเรยี น จนกระท่ังมีโรงเรยี นต้งั ใหม่เกดิ ขึน้ ในหัวเมอื งเปน็ จำนวนมากและเรว็ กวา่ ทร่ี ฐั บาลจะลงมอื ทำเองเสีย
อีก ในระหวา่ งทกี่ รมหม่นื วชิรญาณวโรรสทรงทำหนา้ ทเ่ี ป็นผู้อำนวยการจดั การศึกษาในหวั เมืองอยนู่ นั้ พระองค์ทรง
ตรวจพจิ ารณาแบบเรียนทกุ เรอื่ งท่กี รมศกึ ษาธกิ ารจะพิมพจ์ ำหน่ายดว้ ยพระองค์เอง
การจัดการศึกษาในหวั เมืองของคณะสงฆด์ ำเนนิ ต่อมาจนถงึ พ.ศ.2445 สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอ กรมหม่ืนว
ชิรญาณวโรรส ทรงขอโอนจัดการศกึ ษาในหัวเมอื งไปใหก้ ระทรวงธรรมการดำเนนิ การต่อไป ทัง้ นีเ้ พราะพระราชาคณะ
ที่เป็นผู้อำนวยการให้หัวเมอื งต้องประสบกับความยากลำบากในการเดินทาง ทำให้ต้องอาพาธอยู่เสมอ ประกอบกบั
ตอ้ งเกยี่ วข้องกับการเบิกเงินไปดำเนนิ การอันขดั กบั ขอ้ วัตรปฏิบตั ิของสงฆ์ รัชกาลที่ 5 ทรงเขา้ ใจเหตุผลจงึ ทรงอนญุ าต
กระทรวงธรรมการ จงึ ดำเนินการจดั การศกึ ษาในหวั เมอื งแทนคณะสงฆ์นบั แตน่ น้ั มา

ผลของการปฏิรปู การศึกษา
1. ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมอย่างมาก เพราะการศึกษาสมัยใหม่ได้เป็นกลไกสำคญั ในการพัฒนา
บุคคลทุกระดับ ใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจตอ่ การปรบั ตวั เข้าส่คู วามทนั สมยั ตามแบบตะวันตก
2. สามารถสนองตอบต่อการปฏิรูประบบราชการสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี เพราะระบบราชการสมัยใหม่ต้อง
อาศัยผูท้ ม่ี คี วามร้อู า่ นออกเขยี นไดแ้ ละคิดเลขเป็น ซึ่งเป็นคณุ สมบตั ิทีต่ ้องการในเบ้ืองต้น
3 .เป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาอาชีพและความเป็นอยู่ของบุคคลท่ีถูกปลดปล่อยออกมาจากระบบไพรแ่ ละ
ทาส
4. ส่งผลให้อาชีพรับราชการเปน็ ที่นิยมของสังคมไทยตั้งแต่นั้นมา เพราะทางราชการได้เสรมิ สร้างให้คนมี
การศกึ ษาไดเ้ ขา้ รับราชการ แลว้ ได้รับอภสิ ทิ ธิ์เหนือกวา่ ผู้อื่น

164

5. การปฏิรูปการศึกษาได้เป็นพื้นฐานที่จะพัฒนาบุคคลให้ได้รับการศึกษาในระดับสงู ตอ่ ไปในต่างประเทศ
โดยเฉพาะประเทศตะวนั ตก ซึ่งคนเหล่าน้ีตา่ งก็ได้รบั ทนุ เลา่ เรียนหลวงไปศกึ ษาต่อตา่ งประเทศ ซ่งึ มที ้ังเจา้ นาย ขุนนาง
และขา้ ราชการ ภายหลงั ที่จบการศึกษาจากต่างประเทศแลว้ บุคคลเหล่านีก้ ็กลายเปน็ ผนู้ ำสมยั ใหมท่ ม่ี ีบทบาทสำคญั
ในการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยในระยะหลังต่อมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะผู้ก่อการในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
พ.ศ.2475 ก็เป็นผลติ ผลของนโยบายการปฏิรปู การศกึ ษาในสมยั รัชกาลที่ 5

รัชกาลท่ี 6
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลท่ี 5 ทรงปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทดั เทียมกับการศึกษาใน
ประเทศที่พัฒนาแล้วเชน่ ในประเทศยุโรป ซงึ่ พระองค์ได้เสดจ็ ประพาสสองครง้ั โดยทรงออกโครงการศกึ ษาหลายฉบับ
ตั้งแต่ พ.ศ.2441-2464 แต่ยังไม่ปรากฏการศกึ ษาภาคบังคบั เต็มรูปแบบ จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยูห่ ัว รัชกาลท่ี 6 ทรงตรากฎหมายการศึกษาภาคบงั คับอย่างเปน็ ทางการเป็นครัง้ แรก
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จพระราชสมภพเมือ่ วันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้น 2 ค่ำ ปี
มะโรง ตรงกับวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2423 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 29 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว เสวยราชสมบัติเมื่อวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม ปีจอ พุทธศักราช 2453 และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 26
พฤศจิกายน พ.ศ.2468 รวมพระชนมพรรษา 45 พรรษา ครองราชย์สมบตั ิรวม 15 ปี
พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยูห่ วั ทรงพระราชอัจฉริยภาพและทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกจิ ในหลาย
สาขา ทงั้ ด้านการเมอื งการปกครอง การทหาร การศึกษา การสาธารณสขุ การตา่ งประเทศ และทส่ี ำคญั ที่สุดคือด้าน
วรรณกรรมและอกั ษรศาสตร์ ไดท้ รงพระราชนพิ นธบ์ ทรอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรองไวน้ บั พนั เรอ่ื ง กระทั่งทรงไดร้ ับการถวาย
พระราชสมญั ญาเมอื่ เสดจ็ สวรรคตแลว้ วา่ “สมเดจ็ พระมหาธรี าชเจา้ ” (พระมหากษัตรยิ ผ์ ้เู ปน็ จอมปราชญ)์ พระองค์
เป็นพระมหากษัตริย์ในพระราชวงศ์จักรีพระองค์แรกที่ไม่สร้างวัดประจำรัชกาล แต่ได้ทรงมีการสถาปนาโรงเรียน
มหาดเล็กหลวง หรอื วชริ าวธุ วทิ ยาลัยในปัจจุบนั ขึน้ แทน ดว้ ยทรงพระราชดำริว่าพระอารามนน้ั มีมากแล้ว และสร้าง
อารามในสมยั กอ่ นนน้ั ก็เพอ่ื บำรงุ การศกึ ษาของเยาวชนของชาติ จงึ ทรงพระราชดำริใหส้ ร้างโรงเรียนข้ึนแทน
ดา้ นการศกึ ษาภาคบงั คบั ของไทยเร่มิ ขึน้ เม่ือประกาศใชพ้ ระราชบัญญตั ปิ ระถมศึกษา พระพุทธศักราช 2464
โดยบังคับให้เดก็ ทุกคนทม่ี ีอายตุ ั้งแต่ 7 ปีบรบิ รู ณ์ตอ้ งเรียนอยใู่ นโรงเรยี นประถมศึกษาจนอายุได้ 14 ปีบรบิ รู ณ์ ซ่ึงบาง
อำเภอและตำบลอาจเขยิบข้นึ เป็น 8 ปี 9 ปี หรอื 10 ปไี ด้
โรงเรยี นตามกฎหมายฉบับน้เี ปน็ โรงเรียนประถมศึกษา ไดแ้ ก่
(1) โรงเรียนรัฐบาล หมายถึง โรงเรียนประถมศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการตั้งและดำรงอยู่ด้วยเงินใน
งบประมาณของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
(2) โรงเรียนประชาบาล หมายถึง โรงเรยี นประถมศึกษาที่ประชาชนอำเภอหนึ่งหรอื ตำบลหนึ่งตัง้ และดำรง
อยู่ด้วยทุนทรัพยข์ องตนเอง หรอื ทน่ี ายอำเภอ ตัง้ ขึ้นและดำรงอย่ดู ว้ ยทุนทรพั ยข์ องประชาชน ซง่ึ อยู่ในความดูแลของ
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

165

(3) โรงเรียนราษฎร์ หมายถึง โรงเรียนประถมศกึ ษาที่บุคคลคนเดียวหรอื หลายคนรวมกันตงั้ และดำรงอยตู่ าม
พระราชบัญญัตโิ รงเรยี นราษฎร์ ข้อยกเวน้ ที่ไมอ่ ยูใ่ นการศึกษาภาคบงั คับ คอื

3.1) เด็กอยู่ต่ำกว่า 14 ปี เมื่อได้เรียนจบหลักสูตรประถมศึกษาหรือหลักสูตรอื่นที่เสนาบดี
กระทรวงศึกษาธิการเห็นว่าเทียบได้ปานนั้น และสอบไล่ได้ประโยคประถมศึกษาตามหลักสูตรประถมศึกษาหรือ
หลักสตู รทเี่ ทียบได้ปานน้ัน

3.2) เดก็ ท่บี กพร่องในสว่ นกำลงั กายหรอื กำลังความคดิ หรือเป็นโรคตดิ ต่อ
3.3) เดก็ ที่อยู่หา่ งจากโรงเรียนประถมศึกษาท่ีสอนให้เปลา่ เกิน 3,200 เมตร หรือทไ่ี มส่ ามารถจะไป
ถึงโรงเรียนได้ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งอันไมม่ ีทางจะหลกี เลี่ยงได้ การยกเว้นทั้งปวง ผู้ว่าราชการจงั หวดั ให้ได้ แต่เมื่อให้
ยกเวน้ ไปแล้วตอ้ งรายงานตอ่ อุปราชหรือสมหุ เทศาภิบาล อุปราชหรือสมุหเทศาภิบาลจะถอนการยกเวน้ ทผี่ ู้วา่ ราชการ
จังหวดั ได้ใหไ้ ปนัน้ เสียก็ได้
มาตรการกำกบั ดูแลการศึกษาภาคบงั คับนีก้ ำหนดใหม้ ีสารวัดศกึ ษาทำหน้าท่สี อบบญั ชเี ดก็ เพอ่ื ต้องการทราบ
ว่าเด็กได้เรยี นอยู่ตามที่แจ้งไวห้ รือไม่ ถา้ บดิ ามารดา ผปู้ กครอง หรือเด็กเองไมป่ ฏบิ ัติตามท่ีแจ้งไว้นัน้ ให้สารวัดศึกษา
แจง้ ความด้วยลายลักษณอ์ กั ษรให้ปฏิบัติตามภายในเวลาอนั สมควรสำหรับการกำหนดวิธีพิจารณาและลงโทมดี งั นี้
1. บดิ ามารดาหรอื ผู้ปกครองใดทไ่ี ด้รับแจ้งความของนายอำเภอให้สง่ เด็กเข้าโรงเรียนประถมศึกษาไม่ปฏิบัติ
ตามแจง้ ความนนั้ ผนู้ ั้นมีความผิดฐานลหุโทษและจะต้องกฎหมายเรยี กไปยังศาลคดีอาญา หากไมม่ ีข้อเกิดแก้คดีอันพงึ
พิงได้ ให้ทำทณั ฑ์บน โดยกำหนดจำนวนเงนิ คา่ ปรับ เม่ือผิดทณั ฑ์บนไม่เกนิ 50 บาท
2. ผใู้ ชเ้ ด็กทำงานขดั ขวางไม่ให้เด็กเรยี นอยู่ในโรงเรียนตามแจ้งความของนายอำเภอ ผ้นู น้ั มคี วามผิดลหุโทษ
และให้ปรับไม่เกนิ 50 บาท

รชั กาลท่ี 7
ขยายโอกาส มุง่ คณุ ภาพ พรอ้ มคณุ ธรรม
การจดั การศึกษาในรัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยหู่ ัว เปน็ สืบเน่อื งจากการปฏริ ปู การศึกษาในรัช
สมยั พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว รชั กาลที่ 5 และการจดั การศึกษาในรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ
เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 6 ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวคิดและนโยบายในการจัดการศึกษา นอกจาก
พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั แลว้ กค็ ือ เสนาบดกี ระทรวงธรรมการทงั้ สองท่าน ทา่ นแรก คอื เจ้าพระยาธรรม
ศักด์มิ นตรี (สนั่น เทพหสั ดิน ณ อยุธยา) มคี วามเหน็ วา่ ควรเรง่ รดั จัดการศกึ ษาเพื่อให้โอกาสแก่คนส่วนใหญ่ได้ศึกษา
โดยทว่ั หนา้ กัน และเร่งจดั การวิชาชพี เพอื่ ความอย่ดู กี นิ ดีของประชาชน และเพม่ิ พูนรายไดใ้ หแ้ กป่ ระเทศ อกี ท่านหนึ่ง
คือ พระวรวงศเ์ ธอพระองค์เจา้ ธานนี วิ ตั กรมหมืน่ พิทยาลาภพฤฒิยากร ทรงเล็งเหน็ วา่ เม่อื การศึกษาแพร่หลายมากขน้ึ
ในระดบั หนึง่ แลว้ กค็ วรทีจ่ ะให้ความสนใจในการพัฒนาคุณภาพของการศกึ ษามากขึ้น
ปัญหาและอุปสรรคสำคัญในการจดั การศึกษา คือ การขาดแคลนงบประมาณในการดำเนินงาน ซึ่งถือเปน็
ปัญหาพื้นฐานของการศึกษาทุกยุคทุกสมัย เพราะรัฐยังคงเน้นเรือ่ งความมั่นคงของประเทศเป็นหลัก และการขาด

166

แคลนบุคลากรท่ีมีความร้คู วามสามารถท่ีจะรบั งานไปปฏบิ ัติให้เกิดประสิทธิภาพในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ
เกล้าเจ้าอยู่หัว มีการแก้ปัญหาโดยเริ่มภาษีการศึกษาในรูปแบบเงินศกึ ษาพลี ซึ่งเปน็ การเกบ็ เงินสำหรบั ช่วยการจดั
การศกึ ษาในแต่ละทอ้ งถิ่น ต้งั แต่ พ.ศ.2465 เปน็ ตน้ มา แต่กย็ ังสามารถดำเนนิ การได้ในขอบเขตท่จี ำกัด ประกอบกับ
ประชาชนส่วนใหญย่ ังไม่เห็นความสำคัญของการศึกษาเท่าที่ควร จนกระท่ังประกาศยกเลิกการเก็บเงินศึกษาพลใี น
พ.ศ.2473 และจดั เงินงบประมาณแผ่นดินทดแทนเงินศึกษาพลี ซึ่งเท่ากบั เปน็ การเริ่มจัดการศึกษาขัน้ พื้นฐานใหแ้ ก่
ประชาชนโดยไม่คดิ มลู คา่

รัชกาลท่ี 9
ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงให้ความสำคัญ ส่งเสริม และ พัฒนาด้าน "การศึกษา" ด้วยเป็นรากฐานสำคัญ ใน
การพัฒนาคน อันจะนำไปสู่การพฒั นาประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรอื งสืบไป
“...การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างและพัฒนาความรู้ ความคิด ความประพฤติ และคุณธรรมของ
บุคคลสังคมและบ้านเมืองใดให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วน ล้วนพอเหมาะกันทุกๆ ด้าน สังคม และ
บา้ นเมอื งน้ัน ก็จะมีพลเมืองมนั่ คงของประเทศชาติไว้ และพฒั นาใหก้ ้าวหนา้ ตอ่ ไปไดโ้ ดยตลอด...”
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ใส่พระราชหฤทัยเรื่องการศึกษาของประเทศ มีพระบรมราโชบายเพ่ือพฒั นาการศึกษา
ของประเทศในทกุ ระดับ ทกุ ประเภท ทง้ั ในระบบโรงเรยี น นอกระบบโรงเรียน การศึกษาตามอัธยาศยั ตลอดจนดูแล
ให้การศึกษาเข้าถึงเด็กทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ไหนถิ่นทุรกันดารเพียงใด ก็ต้องนำการศึกษาเข้าไปให้ถึง ด้วยพระ
อัจฉริยภาพได้พระราชทานแนวทางในการยกระดับและแก้ไขปญั หาคุณภาพการศึกษามากมาย
“การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม” หรือ “ครูตู้” หนึ่งในโครงการพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาและยกระดบั
คุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนทั้งในเมืองหรือชนบทให้ใกล้เคียงกัน เริ่มต้นในปี 2538 กระทรวงศึกษาธิการ
(ศธ.) จดั “โครงการการศกึ ษาสายสามญั ด้วยระบบทางไกลผ่านดาวเทียม” เพือ่ เฉลิมพระเกยี รตปิ ีกาญจนา ภิเษ
กของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและถวายเปน็ พระราชกศุ ลแดส่ มเด็จพระศรีนครินทราบรม
ราชชนนีโดยใช้ “โรงเรียนวังไกลกังวล” อ.หัวหนิ จ.ประจวบครี ีขันธ์ เป็นแมข่ ่าย ถ่ายทอดสัญญาณไปยังโรงเรียนที่
ได้รบั การตดิ ตงั้ อปุ กรณร์ บั สัญญาณดาวเทยี ม โดยไม่คิดมูลค่าตั้งแตเ่ ปน็ โรงเรียนระดับประถมศึกษา ระดับมธั ยมศกึ ษา
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (ศธ.) อาทิ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ โรงเรยี นเอกชน โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม เป็นตน้
ปเี ดยี วกันไดข้ อพระบรมราชานญุ าตจดั ต้ัง“มูลนธิ กิ ารศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทียม”เพือ่ รว่ มเฉลมิ ฉลองในมหา
มงคลวโรกาสทรงครองสิรริ าชสมบัติครบ 50 ปี (กาญจนาภิเษก) ในครั้งนนั้ ได้พระราชทานพระราชทรัพยจ์ ำนวน 50
ล้านบาทที่เป็นทุนประเดิมก่อตั้ง“มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม” ขึ้น การนี้ยังได้เสด็จพระราชดำเนิน
พระราชทานความรู้แก่นักเรียนด้วยพระองค์เองคร้ังแรกผ่านรายการ “ศึกษาทัศน์” ของมูลนิธิการศึ กษาทางไกลฯ
เมอ่ื วันท่ี 6 ตุลาคม 2544 ทโ่ี รงเรียนเทศบาลบ้านเขาเตา่ ตำบลหนองแก อำเภอหัวหนิ จังหวัดประจวบคีรขี ันธจ์ วบจน
วนั น้ีกว่า 20 ปี “การศกึ ษาพระราชทานด้วยเทคโนโลยี” ยงั ทำหน้าท่ีถ่ายทอดความรู้สูป่ ระชาชน จากรุ่นสู่รนุ่ ยดึ หลกั
สำคัญคือ“สอนงา่ ย ฟังง่าย เขียนง่าย เขา้ ใจงา่ ย” และด้วยทรงห่วงวา่ เดก็ และเยาวชนท่สี นใจหรืออยากรูเ้ รอื่ งใด จะ

167

ไม่มีแหล่งข้อมูลที่สามารถอ้างอิง และหาความรู้เพิ่มเติมได้จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “โครงการ
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ในพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช”ขึ้น แบ่ง
วทิ ยาการออกเป็น 4 สาขาวชิ า คือ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ เล่มแรกพิมพข์ ้ึนในพ.ศ.
2516 ปจั จุบันยงั มกี ารจดั พมิ พ์และจดั ทำในรูปแบบซีดรี อม นบั เป็นการพฒั นาวชิ าการทสี่ ำคัญยิง่ ในวงการศึกษา ไม่
เพียงเท่านั้น ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อเด็กที่ยากไร้ ขาดแคลนทุนทรัพย์ ทรงพระทานจัดตั้งมูลนิธิ ตลอดจน
ทุนการศึกษาพระราชทาน อันประกอบด้วย "มูลนิธิราชประชานุเคราะห์"ในพระบรมราชปู ถัมภ์ฯ องค์กรการกุศลที่
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2506 ภายหลังจากที่เกิดมหาวาตภัย
ภาคใตแ้ หลมตะลมุ พุก อ.ปากพนัง จ.นครศรธี รรมราช เพื่อช่วยเหลอื ประชาชนผปู้ ระสบความเดอื ดรอ้ นจากสาธารณ
ภัย และจัดตั้งโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ มาตั้งแต่ปี 2506 ปัจจุบันมี 51 โรง นักเรียนจะได้รับการสนับสนุน
เครอ่ื งแบบนักเรยี น อุปกรณก์ ารเรียน และอุปกรณก์ ารกฬี า

"โครงการพระดาบส" ในพระราชดำรฯิ เริม่ ดำเนินการในพ.ศ.2519 เพอื่ ช่วยเหลือผดู้ ้อยโอกาสทางการศกึ ษา
ขาดแคลนทุนทรัพย์ ไม่มีอาชพี และไม่มีความรู้พ้ืนฐานเพียงพอที่จะศึกษาตอ่ ในสถาบันวิชาชีพ แต่สนใจใฝ่ศึกษา ให้
ได้รับโอกาสฝึกวิชาชีพและฝึกอบรมคุณธรรมศีลธรรม เพื่อให้สามารถประกอบสัมมาอาชีวะ สร้างตนเอง ช่วยเหลือ
ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ จดทะเบียนเปน็ โรงเรยี นพระดาบส เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2532 และจัดตง้ั
มูลนิธิพระดาบสเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2533 ทรงพระราชทานทนุ ประเดิมจัดตั้งกองทุนโรงเรียนพระดาบส 5
ล้านบาท ปัจจุบันเปิดการสอนใน 8 สาขาอาชีพ ได้แก่ วิชาชีพช่างยนต์,ชา่ งไฟฟ้า,ช่างอิเลก็ ทรอนิกส์,ชา่ งซ่อมบำรงุ ,
การเกษตรพอเพียง,ช่างไม้เครอื่ งเรอื น,ชา่ งเชื่อม,และวชิ าเคหบรบิ าล

สรปุ การศกึ ษาไทยก่อนกอ่ นปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ.2000)
การศึกษาในยุคก่อน ค.ศ. 2000 เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยในหลายๆด้าน รวมถึงก่อต้ัง
โรงเรียนและวทิ ยาลัยขึน้ ใหมม่ ากมาย ให้ประชาชนไดเ้ ขา้ ถงึ การศกึ ษาและมอี าชพี กันเพมิ่ มากขนึ้

3. การศกึ ษาไทยในปี พ.ศ. 2543 ถงึ ยคุ โควดิ -19

โลกาภวิ ัตน์ (Globalization) คอื การท่ีทกุ คนบนโลกนีส้ ามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลและรบั รู้สงิ่ ทเี่ กดิ ขึ้นจากทั่วโลกได้
อย่างรวดเร็ว ซึ่งโลกาภิวัตน์คือสิ่งที่เป็นผลพวงมาจากเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ในอีก
ความหมายหนึ่ง Globalization ก็คือ การแพร่กระจายของข่าวสารไปทั่วโลก ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดบนโลกใบนี้ก็
สามารถรบั รู้ข่าวสารได้ หรือได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากการพัฒนาระบบสารสนเทศ
(จากพจนานุกรมฉบับ ราชบณั ฑติ ยสถาน ปี 2542)
รูปแบบของการจดั การศึกษาในยุคโลกาภิวตั น์

ในการจัดการศึกษาในปัจจุบันและอนาคต ครูจะต้องสร้างทักษะ และประสบการณ์ที่พัฒนาผู้เรียนให้มี
ความสามารถ รจู้ กั ปรับความรคู้ วามเขา้ ใจทไ่ี ด้รบั จากการเรยี นไปใช้ใน ชีวติ จรงิ ได้และเมื่อเทคโนโลยีหรอื ระบบต่างๆ

168

ในโลกน้ีเปล่ียนแปลงไป ผทู้ ่ีผ่านระบบการศึกษาแล้วจะตอ้ ง สามารถปรับความรทู้ มี่ ีอยู่มาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ดังที่
เกิดแนวคิดของกระบวนการที่เรียกว่า Reskill-Upskill ซึ่งขออธิบายไว้ดังนี้ 1. การเสริมทักษะใหม่ (Reskill) การ
เสริมทักษะเพ่ิมเติมในความเช่ียวชาญเดิมในบริบทใหม่ เพือ่ เพิ่มความสามารถของผปู้ ฏิบตั งิ านเดมิ ในบรบิ ทใหม่ ซึ่งจะ
เป็นการเพ่มิ คณุ ค่าของผ้ปู ฏบิ ัติงานทีม่ ตี อ่ ประสิทธภิ าพการปฏิบัติงานให้กบั องค์กรเปน็ อย่างมาก เมือ่ พิจารณาในแง่
ของการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการ ปฏิบัติงานน้ันที่ผ่านมาผู้ปฏิบัติงานได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน
อยา่ งต่อเน่ืองมาโดยตลอด แตเ่ มอ่ื มีการพัฒนาเทคโนโลยใี หม้ คี วามทนั สมยั มรี ูปแบบการใช้ท่เี ปลยี่ นแปลงไป ย่อมเปน็
สิง่ สำคญั ที่ ผู้รบั ผดิ ชอบของหนว่ ยงานจะตอ้ งเสรมิ ทกั ษะใหมเ่ พื่อใหผ้ ปู้ ฏิบัตงิ านน้นั มคี วามแม่นยำ มคี วามมัน่ ใจในการ
ปฏิบตั งิ านกบั เทคโนโลยใี หมซ่ ง่ึ ถอื ว่าเป็นการเสรมิ ทักษะใหม่เพือ่ พัฒนาบุคลากรและเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ให้กบั
บุคลากร สำหรับวิชาชพี ครนู ้ัน แตเ่ ดิมมาครูจะเปน็ ศนู ยก์ ลางของการจดั การเรียนการสอน โดยบทบาท หน้าทข่ี องครู
จะต้องไดร้ บั การเสริมทักษะใหม่ท่ีมีความสำคญั อยา่ งยิ่งตอ่ การทำงานของครูเพราะบทบาทของ ครูยังเป็นบทบาทท่ี
มุ่งเน้นทำหนา้ ท่ใี นการอบรมสั่งสอนไมแ่ ตกตา่ งไปจากเดมิ เพียงแต่ต้องมีการเปลีย่ นแปลง รูปแบบวิธีการจดั การเรียน
การสอนท่ีเปลีย่ นจากกระบวนการทคี่ รทู ำหนา้ ที่เปน็ หลกั ในการจดั การเรยี นการสอน มาสู่รูปแบบของการจัดการเรยี น
การสอนที่เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั โดยครูจะทำหนา้ ท่เี ป็นที่ปรึกษาหรือเป็นผูฝ้ กึ ใหก้ ับผเู้ รยี นได้เรียนรู้โดยใช้ศักยภาพ
ของตนเองใหม้ ากทสี่ ดุ 2. การเพิม่ ทกั ษะใหม่ท่จี ำเป็น (Upskill) การพฒั นาทกั ษะทงั้ หมดของผูป้ ฏิบัติงานสำหรบั เนื้อ
งาน อื่นๆ การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ หรือการฝึกทักษะที่จำเป็นและสามารถนำทักษะเหล่านี้ไปใช้ในหน้าที่ใหม่
ภายในองค์กรเดิม หากพิจารณาเกี่ยวกับการเพิ่มทักษะใหม่ที่จำเป็นให้กับครูจะพบว่า เรื่องของการนำเทคโนโลยี
สารสนเทศมาใช้ใหเ้ ป็นประโยชนใ์ นการจดั การเรียนการสอนน่าจะเปน็ ทกั ษะใหมท่ จ่ี ำเป็นสำหรบั ครู กล่าวไดว้ ่า การ
เสริมทักษะทั้ง 2 ประเด็นที่กล่าวมานี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในองค์กร เพราะเมื่อ
เทคโนโลยีมกี ารเปลี่ยนแปลงไปยอ่ มทำใหก้ ารปฏิบัตงิ านเปลีย่ นตามไปดว้ ย

ดังนั้น หากต้องการเพิ่ม ศักยภาพของผู้ปฏิบัติงาน องค์กรต่างๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเสริมทักษะทั้ง 2
ประเดน็ น้ใี หเ้ กิดขนึ้ กับบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มทักษะใหม่ทจี่ ำเป็น เพราะหากมเี ทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้
การดำเนนิ งานในการจดั การศึกษาใหส้ อดคลอ้ งกบั กระแสโลกาภวิ ัตน์ยอ่ มเปน็ ท่จี ำเปน็

การเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21 เกดิ จากแนวคิดของกลุ่มนักวชิ าการในประเทศสหรัฐอเมรกิ า
เกิดจากแนวคิดของกลุ่มนักวิชาการในประเทศสหรัฐอเมริกา(ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าการศึกษาดีเยี่ยม) ซึ่งได้
นำเสนอกรอบแนวคิดออกมา ในศตวรรษที่ 21 การให้การศึกษาตามทฤษฎีการเรียนรู้ของบลูม ( Bloom's
Taxonomy of Learning)จะเปลี่ยนไป เน้นทักษะการเรียนรู้ขั้นที่สูงขึ้น (higher order learning skill) โดยเฉพาะ
ทักษะการประเมินค่า (evaluating skills) จะถกู แทนทโี่ ดยทกั ษะการนำเอาความรู้ใหมไ่ ปใชอ้ ย่างสร้างสรรค์ (ability
to use new knowledge in a creative way) ในอดตี ทผี่ า่ นมา นักเรียนไปโรงเรยี นเพ่อื ใชเ้ วลาในการเรยี นรายวิชา
ต่างๆ เพือ่ รับเกรด และเพ่ือใหจ้ บการศกึ ษา แตใ่ นปัจจุบนั จะพบปรากฏการณใ์ หมท่ ี่แตกต่างไป
กรอบแนวคิดและหาแนวทางในการเรยี นรูแ้ บบใหมๆ่ ดังนี้

169

วิสยั ทัศน์การศึกษาศตวรรษที่ 21
การศึกษาในปัจจุบนั ถือว่า "เทคโนโลย"ี เปน็ เส้นทางเดินไปสกู่ ารปรับโฉมใหม่ของระบบการศึกษาโดยเฉพาะ

การสรา้ งรายวชิ าออนไลน์
1. สอนการทำงานเป็นกลุ่ม
2. สอนความสัมพนั ธร์ ะหว่างบุคคล
3. สอนตวั ตอ่ ตัว
4. ใหค้ ำปรึกษาแนะนำ

ไทยแลนด์ 4.0
ความหมายของ ไทยแลนด์ 4.0" เปน็ วสิ ยั ทศั นเ์ ชงิ นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย หรือ โมเดล
พัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษา
ความสงบแหง่ ชาติ (คสช.) ทเ่ี ขา้ มาบริหารประเทศบนวิสยั ทัศนท์ ว่ี า่ "มน่ั คง ม่ังคง่ั และยง่ั ยืน" ที่มีภารกิจสำคญั ในการ
ขับเคลอ่ื นปฏริ ูปประเทศด้านตา่ ง ๆ เพื่อปรับแก้ จดั ระบบ ปรับทิศทาง และสร้างหนทางพัฒนาประเทศสามารถรบั มอื
กบั โอกาสและภยั คกุ คามแบบใหม่ ๆ ทเ่ี ปล่ยี นแปลงอยา่ งเร็ว รุนแรงในศตวรรษที่ ๒๑ ได้ เพ่อื ให้เข้าใจ "ประเทศไทย
๔.๐ " กอ่ นจะมาถงึ ประเทศไทย ๔.๐ ประเทศไทยก็ผา่ นการพฒั นามาเปน็ ลำดับขั้นอย่างตอ่ เนอื่ ง เริ่มตงั้ แต่ "ประเทศ
ไทย ๑.๐" การดำรงอย่แู ละพฒั นาประเทศเนน้ การเกษตรเปน็ หลกั เชน่ ผลติ และขาย พืชไร่ พชื สวน หมู หมา กา ไก่
เปน็ ตน้

"ประเทศไทย ๒.๐" นอกจากเกษตรกรรมแล้วกเ็ น้นไปทางอตุ สาหกรรมแตเ่ ปน็ อตุ สาหกรรมเบา เช่น การผลติ
และขายรองเท้า เครอื่ งหนงั เครื่องดมื่ เครื่องประดับ เครอื่ งเขยี น กระเป๋า เครื่องนงุ่ ห่ม เป็นตน้

"ประเทศไทย ๓.๐ " ซง่ึ เป็นยุคปัจจุบนั เน้นหนักไปทางอุตสาหกรรมหนักและการสง่ ออก เช่น การผลิตและ
ขาย ส่งออกเหลก็ กล้า รถยนต์ กลั่นนำ้ มัน แยกกา๊ ซธรรมชาติ ปนู ชเี มนต์ เปน็ ต้น (United States)

ยุคที่สี่ เรียกว่า "ประเทศไทย ๔.0 " กำหนดแนวทางพัฒนาประเทศให้เป็นประเทศ เศรษฐกิจใหม่ (New
Engines of Growth) ประเทศและประชากรมีรายได้สูง โดยวางเป้าหมายให้เกิดผลการพัฒนา ภายใน ๕ - ๖ ปีน้ี
คลา้ ย ๆ กบั การวางภาพอนาคตทางเศรษฐกจิ ที่ชัดเจนของประเทศท่พี ฒั นา เชน่ สหรฐั อเมรกิ า
"A Nation of Makers" อังกฤษ "Design of Innovation"
อินเดีย "Made in India" หรอื ประเทศเกาหลใี ต้
ทวี่ างโมเดลเศรษฐกจิ ในชื่อ " Creative Economy"

ด้านการศึกษา

170

Education 1.0 คอื การจดั การศกึ ษาท่กี ารสอนแบบ ครเู ปน็ ผใู้ หน้ ักเรียนเป็นผูร้ ับ เน้นการท่องจำตำราและ
ทำแบบฝึกหดั ตามตำรา ไมไ่ ดเ้ น้นกระบวนการเรยี นรู้ ตามความสามารถของผู้เรยี นแต่ละคน

Education 2.0 คือ การจดั การศกึ ษาทเ่ี น้นผเู้ รียน เปน็ สำคัญ โดยการจดั การเรยี นการสอนที่สอดคล้อง กับ
ความถนดั ความสนใจและความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล ปลกู ฝงั ใหผ้ ูเ้ รยี นมีจิตวญิ ญาณแหลง่ เรยี นรู้

Education 3.0 คือ การจัดการศกึ ษาที่เน้นให้ ผู้เรยี นสร้างองค์ความรู้ใหม่และสิ่งประดิษฐใ์ หม่โดยการใช้
กระบวนการทางปัญญา (กระบวนการคิด) กระบวนการ ทางสังคม (กระบวนการกลุม่ ) และให้ผู้เรยี นปฏิสมั พนั ธ์ และ
มีส่วนร่วมในการเรยี นสามารถนำความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ได้ โดยครูมบี ทบาทเป็นผอู้ ำนวยความสะดวกจดั ประสบการณ์
การเรียนรู้ใหผ้ ู้เรียน

Education 4.0 คือ การจัดการศึกษาที่สอดคล้อง กับพฤติกรรมของผู้เรียนที่เปลี่ยนไปการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีสมยั ใหม่เป็นเครอ่ื งกระตุ้นการเรยี นรู้ มุ่งเนน้ ใหผ้ เู้ รียนสรา้ งสรรค์นวัตกรรมและการวจิ ัยดว้ ย วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยเี พือ่ เพิ่มขีดความสามารถ แข่งขันของประเทศ
ไทยแลนด์ 4.๐ มลี กั ษณะอย่างไร

"ประเทศไทย 4.๐" เป็นความมุ่งมัน่ ของนายกรัฐมนตรี ทต่ี ้องการปรับเปล่ยี นโครงสร้างเศรษฐกิจ ส"ู่ Value-
Based Economy" หรอื "เศรษฐกจิ ทข่ี บั เคล่ือนด้วยนวัตกรรม" โดยมีฐานคดิ หลักโดยเปล่ยี นจากการผลิตสินค้า"โภค
ภัณฑ์" ไปสู่สินค้าเชิง "นวัตกรรม" เปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรมไปสู่การขับเคล่ือนด้วย
เทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม เปลี่ยนจากการเนน้ ภาคการผลิตสินค้าไปส่กู ารเน้นภาคบริการมากขึ้น
ดังนั้น "ประเทศไทย ๔.๐"จึงควรมีการเปลี่ยนวิธีการทำทีม่ ีลักษณะสำคัญ คือ เปลี่ยนจากการเกษตรแบบดั้งเดิมใน
ปัจจุบันไปสู่การเกษตรสมยั ใหม่ ทเ่ี นน้ การบริหารจดั การและเทคโนโลยี (Smart Farming) โดยเกษตรกรต้องร่ำรวย
ขึ้น และเป็นเกษตรกรแบบเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur) เปลี่ยนจาก Traditional SMES หรือ SMESที่มีอยู่
และรัต้องให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ไปสู่การเป็น Smart Enterprises และ Startups บริษัทเกิดใหม่ที่มี
ศักยภาพสูง

Education 1.0 คอื การจดั การศกึ ษาท่กี ารสอนแบบ ครเู ป็นผู้ใหน้ กั เรียนเป็นผูร้ บั เน้นการทอ่ งจำตำราและ
ทำแบบฝกึ หัดตามตำรา ไมไ่ ดเ้ นน้ กระบวนการเรียนรู้ ตามความสามารถของผ้เู รยี นแต่ละคน

Education 2.0 คอื การจัดการศกึ ษาท่ีเนน้ ผเู้ รยี น เป็นสำคญั โดยการจดั การเรยี นการสอนทีส่ อดคล้อง กับ
ความถนัด ความสนใจและความแตกต่างระหว่างบุคคล ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีจิตวิญญาณแหล่งเรียนรู้ และแสวงหา
ความรู้ด้วยตนเองจากแหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอก โรงเรยี นครคู ือผูส้ นับสนนุ และเป็นแหลง่ เรยี นรู้ Education
3.0 คอื การจัดการศกึ ษาท่เี น้นให้ ผ้เู รียนสร้างองค์ความรูใ้ หม่และสิ่งประดษิ ฐ์ใหมโ่ ดยการใช้ กระบวนการทางปัญญา
(กระบวนการคดิ ) กระบวนการ ทางสังคม (กระบวนการกลุม่ ) และใหผ้ ู้เรยี นปฏสิ ัมพันธ์ และมีส่วนร่วมในการเรียน
สามารถนำความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ช้ได้ โดยครูมีบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวกจัดประสบการณ์ การเรียนรูใ้ ห้ผูเ้ รียน

Education 4.0 คือ การจัดการศึกษาที่สอดคล้อง กับพฤติกรรมของผู้เรียนที่เปลี่ยนไปการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีสมัยใหมเ่ ป็นเครือ่ งกระตุน้ การเรยี นรู้ มงุ่ เน้น ใหผ้ ูเ้ รยี นสรา้ งสรรคน์ วัตกรรมและการวจิ ัยดว้ ย วิทยาศาสตร์

171

และเทคโนโลยเี พ่ือเพม่ิ ขดี ความสามารถ แข่งขนั ของประเทศ กระบวนทัศน์ในการพัฒนาประเทศภายใต้“ประเทศไทย
4.0” เป็นอีกนโยบายหนึ่งทีเ่ ป็นการ วางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว เปน็ จุดเริ่มตน้ ในการขับเคลื่อนไปสู่
การเป็นประเทศที่มั่งคั่ง มั่นคง และ ยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์รัฐบาลเป็นรูปแบบที่มีการผลักดันการปฏิรูปโครงสร้ าง
เศรษฐกจิ การปฏิรูปการวจิ ยั และ การพัฒนา และการปฏริ ปู การศกึ ษาไปพร้อม ๆ กนั เป็นการผนึกกำลงั ของทกุ ภาค
สว่ นภายใต้แนวคดิ “ประชารัฐ” ทีผ่ นกึ กำลงั กบั เครือข่ายทกุ คนทรี่ ับรูถ้ งึ วิกฤตในครัง้ นี้ ซึง่ Thailand 4.0 นี้เป็นการ
‘ขบั เคล่อื นเศรษฐกจิ ดว้ ยนวัตกรรม’

สรุป การศกึ ษาไทยในปี พ.ศ. 2543 ถึงยุคโควดิ -19
การศึกษาในยุคก่อนโควดิ หลัง ค.ศ. 2000 ในยคุ โลกาภวิ ตั น์มกี ารนำคอมพวิ เตอร์ โทรศัพทม์ ือถือเข้ามาแต่
เป็นการติดตอ่ กันทางเสยี งเทา่ น้นั การเรยี นการสอนเน้นครูเปน็ ศูนยก์ ลางทกุ สิง่ ทุกอยา่ งมาจากครูป้อนให้ท้ังหมด ใน
ยุคศตวรรษที่ 21 มีการพัฒนาคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ มีแทบเลต ไอแพด สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเกิดขน้ึ
มากมาย การตดิ ต่อสือ่ สารกนั สะดวกขึน้ ไม่วา่ จะอยู่ใกล้หรอื ไกลกันก็สามารถเหน็ หนา้ กนั ได้โดยการวิดีโอคอล และยุค
ศตวรรษท่ี 21 กม็ ีเน็ตเทอรเ์ นต็ เข้ามาซ่งึ แตกต่างจากยคุ โลกาภิวตั นค์ อื มีอินเทอรเ์ นต็ มีแอปสำหรับการติดตอ่ สอ่ื สาร
และหาความรู้ ความบันเทงิ เกิดขนึ้ มากมาย เช่น Twitter Line Instagram Youtube เป็นตน้ การเรียนการสอนเน้น
ผู้เรียนเปน็ ศนู ยก์ ลาง ศึกษาหาความรเู้ พ่มิ เตมิ ด้วยตัวเองได้

4. รูปแบบการเรยี นการสอนในยคุ โควดิ -19 ถึงปัจจุบนั

ปัจจบุ ันกำหนด 6 รปู แบบการเรยี นการสอนรองรับการเปดิ ภาคเรียนใหเ้ หมาะสมแตล่ ะภูมภิ าคของประเทศ
ทงั้ หมด 6 รปู แบบ ประกอบดว้ ย

1. On- site คอื การเดนิ ทางมาเรยี นทโี่ รงเรียนซึง่ เหมาะสำหรบั โรงเรยี นที่มปี รมิ าณนักเรียนน้อยสามารถจัด
พ้ืนทแ่ี บบเว้นระยะหา่ งและเข้มงวดการสวมหน้ากากอนามยั ตามมาตรการดา้ นสาธารณสุข

2. การเรยี นแบบ On-Air ผ่านระบบมลู นิธิการศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทยี ม หรอื DLTV
3. การเรียนแบบOn-Line ครผู ู้สอนทำการสอนผ่านระบบอเิ ลคทรอนิค
4. การเรียนแบบ On-demand ผ่านระบบแอปพลิเคชัน
5. การเรยี นแบบ On- hand ครูผู้สอนเดินทางไปแจกเอกสารใบงานให้กับนกั เรยี นทีบ่ า้ น
6. การเรียนแบบผสมผสาน การเรียนรู้แบบผสมผสาน เรียนระบบออนไลน์ทีน่ ำเทคโนโลยีเข้าใช้ให้ผู้เรยี น
เข้าถงึ การเรยี นร้ไู ด้รวดเรว็ มากขึ้น
การดำเนินการตามมาตรการ

สมพร หลิมเจริญ (ศึกษานิเทศก์สพป.สกลนคร เขต 1 กระทรวงศึกษาธิการ)กล่าวว่าการจัดการเรียน
การสอนทางไกลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สถานการณ์ที่ 1 กรณีที่สถานการณ์การ

172

แพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโควิด-19 (Covid–19) คลี่คลาย จะจัดการเรียนการสอนปกติในโรงเรยี น โดยให้เว้น
ระยะห่างทาง โรงเรยี นจะดำเนนิ การ 8 มาตรการ ประกอบดว้ ย

มาตรการที่ 1 (การคัดกรอง )
มาตการที่ 2 (การปอ้ งกันการสวมหน้ากากอนามยั )
มารตการท่ี 3 (การจัดจดุ ล้างมือ )
มาตรการท่ี 4 (การเวน้ ระยะหา่ งทางสงั คม) (Social Distancing)
มาตรการท่ี 5 (การทำความสะอาดพ้นื ผวิ สัมผสั )
มาตาการท่ี 6 (การลดความแออดั ไมจ่ ดั กิจกรรมท่เี กิดการรวมกลุม่ ของเด็ก)
มาตรการท่ี 7 (กระบวนการจัดการเรยี นการสอน )
มาตรการที่ 8 (การบรหิ ารจดั การ)

การจดั การเรียนการสอนแบบยดื หยุ่น: กรณศี กึ ษาประเทศจีน
ผู้เรียนมีอิสระในการเรียน สามารถเลือกเรียนได้ตามความต้องการ ( On-demand Learning) บน
แพลตฟอร์มเว็บไซต์การศึกษา จนมาถึงปัจจุบัน การเรียนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์กำลังก้าวเข้าสู่คลื่นลูกที่ 3 ‘การ
เรียนร้อู อนไลนใ์ นโรงเรียน’ (School-based Online Learning) ซึง่ จงึ มี 7 ขอ้ ดังน้ี
1. การผสานพนื้ ทหี่ อ้ งเรียนทง้ั ทางกายภาพและทางออนไลน์
2. การขา้ มขอบเขตทางกายภาพและเสมอื นจรงิ
3. โมเดลหลักสตู รสำหรับการเรยี นรู้
4. บทบาทของผูส้ อนที่ตอ้ งทำงานรว่ มกันระหวา่ งมนุษยแ์ ละเคร่ืองจกั ร
5. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ผ่าน Big Data, AI, Blockchain
6. การเตรยี มความรเู้ ท่าทันขอ้ มูลข่าวสารสำหรบั พลเมือง
7. ระบบการศกึ ษาแบบใหม่

เปรยี บเทยี บการศึกษาระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีน
แตกต่างจากของไทยอย่างไร เราลองมาเทียบกนั ทลี ะประเดน็ ระบบการสอบเก็บคะแนน เพอื่ ประมวลผลการ
เรียนรู้ท้ังหมดในภาคเรยี นนนั้ แลว้ ตดั เกรด แตห่ ากเป็นประเทศจีน จะไมเ่ น้นการสอบเกบ็ คะแนนระหว่างภาคเลย จะ
เน้นการสอบปลายภาคอยา่ งเดียว ทีส่ ำคัญจะเน้นการสอบขอ้ เขียนอย่างเดียวด้วย
ระบบการจบการศกึ ษา
หากเปน็ ของไทยการประเมนิ จะแบ่งออกเป็นสามระดับตั้งแต่ ระดับช้นั เรียน ระดบั โรงเรยี น และระดับชาติ
แต่หากเปน็ ของจนี ระดบั ชน้ั ประถมไมต่ ้องผ่านการสอบ
ชว่ งเวลาปดิ เทอม

173

ไทยเราการปิดเทอมจะมีสองช่วง ส่วนทางประเทศจีนจะมีการปิดเทอมสองช่วง หนึ่งจะเป็นช่วงเดือน
กุมภาพันธ์ สองเดือนกรกฎาคม จนถึง เดือน สิงหาคม

อิทธิพลทางดา้ นศาสนา
การเรียนการสอน ทั้งสองประเทศมเี รอ่ื งศาสนาเข้ามาเกีย่ วขอ้ งด้วยอยา่ งหลกี เลี่ยงไม่ได้ ถ้าเป็นไทยเรา แม้ว่า
ศาสนาพุทธจะเขา้ มามีบทบาทในการเรียนการสอนในวันสำคัญทางพุทธศาสนา
พกั เที่ยง
พักเท่ยี งของไทยเรากับจนี แตกต่างกันมาก ถา้ เปน็ ของไทย การพักเท่ยี งจะใชเ้ วลาเพยี งแค่ 1 ช่ัวโมงเท่าน้ัน
แตห่ ากเป็นฝงั่ ชาวจีนการพกั เที่ยงจะมากกวา่ พวกเค้าจะใชเ้ วลาพัก สองช่ัวโมงดว้ ยกนั
กลมุ่ สาระวิชาท่ใี ช้เรียน
วิชาที่เรียน ของไทยกับจีนก็มีทั้งจุดเหมือนและแตกต่างกันอยู่ในนั้น ของจีนจะแบ่งกลุ่มสาระการเรียน
ออกเปน็ 6 กลุ่มด้วยกนั หากเปน็ ของไทยจะแบง่ ออกเป็น 8 กลุม่
การจัดการระดับมหาบัณฑติ
หากเป็นของไทยการเรียนระดับปริญญาโทจะมีสองแผนการเรียน ทางฝั่งประเทศจีนการเรียนระดับ
มหาบัณฑิตจะต้องทำวทิ ยานิพนธ์เท่านั้นการเรียนของจีนยุคใหม่ปรบั ระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย เน้นคิดวิเคราะห์
มากขึ้น เดก็ สดุ ขยัน ใชเ้ วลาว่างฝึกงาน-ทำงานอาสาสมัครเชิญนกั ธุรกิจ-อาจารย์จากตา่ งประเทศสอนนกั ศกึ ษา หนุน
ทำวจิ ยั ท่ใี ชแ้ ก้ปญั หา สรา้ งมูลค่าเพิ่มไดแ้ ปล Textbook เป็นภาษาจนี -มหี ลักสตู รออนไลนฟ์ รี (พงศ์ทัศ วนชิ านนั ท์)
แนวทางการเปิดโรงเรยี นของประเทศสงิ คโปร์ รบั มือโควิด-19
โดยมกี ารกำหนดใหน้ กั เรยี น จำนวน 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 กลุ่มนเ้ี ปน็ นักเรียนทจี่ ะต้องเขา้ รบั การทดสอบ
กลุ่มท่ี 2 นกั เรยี นตอ้ งมีการเรียนรู้แบบฝกึ ปฏิบตั ิ
กลุ่มที่ 3 นักเรียนทมี่ ปี ญั หาการเรยี นรู้
ยดึ ปฏิบัตติ ามมาตรการในลกั ษณะ ดงั น้ี

1. นกั เรยี นและครทู กุ คนจะต้องใชง้ าน “TraceTogether”
2. โรงเรยี นจะมีจัดเจา้ หนา้ ที่ “SafeEntry protocol”
3. จดั เวลา สลบั กนั โดยจะไม่ใหม้ าวนั -เวลาพรอ้ มกัน
4. ใช้วิธีการเรียนแบบตัวต่อหวั หรอื กลมุ่ เลก็ เทา่ นน้ั
5. จดั ห้องใหม้ รี ะบบระบายอากาศ
6. จัดห้องใหร้ ะบทุ นี่ งั่ แนน่ อน
7. ห้ามโรงเรียนจดั กจิ กรรมทเี่ สย่ี งตอ่ การตดิ ต่อเช้อื โรค
8. วัดอุณหภมู ริ า่ งกายทกุ วนั
9. นักเรียนและครทู กุ คนตอ้ งสวมหนา้ กากอนามัย

174

10. ให้นักเรยี นมาโดยสมคั รใจ ไมบ่ งั คับ

การเรยี นในสิงค์โปรย์ คุ ใหม่
เลิกแบ่งสายปกติและสายพิเศษในระดบั มัธยมสอบนอ้ ยลงสงิ คโปรย์ กเลิกการสอบกลางภาค ส่งเสริมให้
นกั เรยี นพฒั นาทกั ษะความสามารถหลากหลายเปิดโอกาสให้ครูสรา้ งสรรค์การเรยี นการสอน(เพชรลดั ดา เพช็ รภักด)ี

สรุป รูปแบบการเรยี นการสอนในยุคโควดิ -19 ถึงปจั จบุ นั
กำหนดรปู แบบการเรยี นการสอนของประเทศไทย ทง้ั หมด 6 รูปแบบ การจัดการเรียนการสอนแบบยืดหยุ่น
กรณศี ึกษาประเทศจนี การจดั การเรยี นรู้ในโลกที่เรียนออนไลน์ไม่ใช่แค่ทางเลือกอินเทอร์เน็ตชว่ ยให้ผู้เรียนมีอิสระใน
การเรียน สามารถเลือกเรียนได้ตามความต้องการ (On-demand Learning) บนแพลตฟอร์มเว็บไซต์การศึกษา
ประเทศสงิ คโปร์ การเปดิ โรงเรียนรบั มือสถานการณโ์ ควิด-19 โดยมีการกำหนดให้นักเรยี น จำนวน 3 กล่มุ

5. การศึกษาในอนาคต

การศกึ ษาในยคุ Next Normal
Next Normal หรือ ชีวิตวิถีถัดไป คือ การใช้ชีวิตในรูปแบบใหมข่ องประชาชนทุกเพศทุกวัย หลังจากท่ไี ด้
ปรบั ตัวกบั สถานการณ์โควิด 19 เพอื่ ความอยรู่ อด จนเกดิ ความคนุ้ ชนิ ทง้ั วิธีคดิ วธิ ีเรียนรู้ วธิ สี อ่ื สาร และวิธีปฏิบัติ ซ่ึง
จะเปลี่ยนแปลงไปตามบริบททางสังคมที่เปล่ียนแปลงไป โดย ธนาคารแหง่ ประเทศไทย ได้ศึกษารูปแบบการใช้ชวี ติ
ของผู้คนทั่วโลกที่เปลี่ยนไปหลังสถานการณโ์ ควิด 19 ที่ได้สะท้อนให้เห็นเทรนด์สำคัญๆ ในอนาคต โดยเฉพาะการ
เปดิ รับเทคโนโลยีและบรกิ ารดจิ ทิ ลั ใหม่ๆ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ ท่ตี อบโจทยเ์ รือ่ งความสะดวกสบาย โดยมุง่ เน้น
เรอ่ื งความปลอดภัยดา้ นสขุ อนามัย และผลกระทบกบั สงิ่ แวดล้อมมากขึน้ โดยมีเทรนดก์ ารใชช้ วี ิตแบบ Next Normal
ดังนี้
Touchless Society การดำเนินชีวิตในโลกยุค Next Normal จะมุ่งเนน้ เรื่องความปลอดภยั และสุขอนามัย
เป็นสำคัญ เทคโนโลยีจงึ ถกู พัฒนาขึน้ มาเพือ่ ลดการสัมผสั ยกตวั อยา่ งเช่น ระบบการจดั ส่งสินค้าแบบ Non-Contact
Delivery ระบบประตอู ัตโนมัติในพื้นที่สาธารณะ รูปแบบการจ่ายเงินแบบ e-payment รวมทั้งการออกแบบพื้นที่
ธุรกิจที่สามารถให้บริการลูกค้าแบบปราศจากการสัมผัสใดๆ แต่จะใช้เทคโนโลยีการสั่งงานด้วยเสียง ( Voice
recognition) หรอื จำลองโลกเสมือนจริง (Augmented reality) แทน
Regenerative Organic ประเด็นเรอื่ งความปลอดภยั และผลกระทบดา้ นสิ่งแวดล้อมถือเปน็ หัวใจสำคัญของ
โลกยุค Next Normal ดังนั้น เทรนด์หนึ่งที่จะฉายภาพชัดขึ้นเรื่อย ๆ คือ มาตรฐานสินค้าเกษตรที่เรียกว่า
Regenerative Organic ซง่ึ ไมเ่ พยี งต้องปลอดสารพษิ และปราศจากการใช้เมลด็ พนั ธ์ดุ ัดแปลงเท่านน้ั แตย่ ังครอบคลุม
ถงึ มาตรฐาน คุณภาพดนิ การคุ้มครองสัตว์ คุณภาพชวี ติ เกษตรกร ความยตุ ธิ รรมด้านคา่ แรง รวมถงึ ระบบฟาร์มท่เี ปน็
มิตรตอ่ ส่ิงแวดลอ้ มและชุมชน

175

นอกจากมุมของการใช้ชีวิตประจำวันของภาคประชาชนแล้ว ภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจาก
สถานการณ์โควดิ 19 ยังได้เตรยี มพรอ้ มและปรับตัว เพือ่ ตอบสนองตามความตอ้ งการของผบู้ ริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยยกตวั อยา่ งการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรม ไดแ้ ก่ การพัฒนาแพลตฟอร์มการทำธุรกรรมการเงนิ บนสมาร์ทโฟน
ระหว่างผูซ้ ้อื และผขู้ าย โดยไมผ่ า่ นตัวแทนจำหนา่ ย การใชเ้ คร่ืองพิมพ์สามมิติ การใช้ระบบอัตโนมตั ิ การใชเ้ ทคโนโลยี
Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) เป็นต้น ซึ่งนอกจากการปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยี
ดจิ ิทัลเข้ามาพัฒนากระบวนการผลิตแล้ว ภาคอุตสาหกรรมยังไดม้ องถึงแนวทางการปรับลดคา่ ใชจ้ า่ ย เช่น การปรับ
ลดจำนวนแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานทมี่ ที กั ษะตำ่ (Low Skill) และกลุ่มแรงงานไร้ฝีมือ (Unskilled labour)
และแม้กระทั่งภาคเกษตรกรรม ก็ได้มีการเตรยี มพร้อมและปรบั ตัว โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเข้าไป
ประยุกต์ใช้ เพื่อเพิม่ ปริมาณและคุณภาพของผลผลิต หรือทีเ่ รียกว่า “เกษตรแม่นยำ” หรือ “Precision Farming”
กันมากขึ้นสำหรับเทคโนโลยีและนวัตกรรรม และโซลูชั่น ทางการศึกษาภายใน แบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ Smart
Classroom Smart System ,Smart learning&Technology, Smart Office และ Smart Mice Smart Classroom
คอื การนำเทคโนโลยีเขา้ มามีส่วนร่วมภายในหอ้ งเรยี น เพ่อื สร้างสภาพแวดลอ้ มที่เหมาะสมที่สุดต่อการเรยี นรู้ โดยการ
นำนวัตกรรม เครื่องมือที่ทันสมัย และมัลติมีเดียต่างๆ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในห้องเรียนยกตัวอย่างเชน่
ระบบนำเสนอการเรียนการสอนผา่ นจอมอนิเตอร์ คอมพิวเตอร์โนต๊ บคุ๊ หรอื แท็บเล็ตสำหรบั ผูเ้ รยี น เคร่อื งปรับอากาศ
ภายในห้อง และอื่นๆ เพ่ือกอ่ ให้เกิดการเรยี นทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพมากยิ่งข้นึ โดย Smart Classroom น้ันจะถกู สรา้ งข้ึนมา
ได้ จะต้องมอี งคป์ ระกอบทั้ง 5 ดงั น้ี

องค์ประกอบทงั้ 5 ของ Smart Classroom
S: Showing - มีเทคโนโลยีที่ผู้สอนต้องการจะนำเสนอออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่นอุปกรณ์
มัลตมิ ีเดยี ต่างๆ อย่าง คอมพิวเตอร์ เครือ่ งฉายโปรเจค็ เตอร์ รวมไปถงึ ซอฟแวร์จำเปน็ ตา่ งๆ
M: Manageable - มรี ะบบการบริหารด้านส่ือ วสั ดอุ ุปกรณ์ รวมถงึ สภาพแวดล้อมภายในหอ้ งเรียนท่ีจำเป็น
ต่อการเรียนการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม เช่น คอมพิวเตอร์สำหรับผเู้ รียน เครื่องปรบั อากาศ ระบบอินเทอรเ์ นต็
A: Accessible - สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ต่างๆ ของห้องเรียนได้ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น eBook
ประกอบบทเรยี น หรือ การเรียนการสอนแบบย้อนหลัง
R: Real-time interactive - ผูส้ อนและผู้เรยี นสามารถสรา้ งปฏิสัมพนั ธ์ผ่านเทคโนโลยีภายในหอ้ งเรียนได้
T: Testing - มีบททดสอบทีส่ ามารถวดั ระดบั ความรูค้ วามเข้าใจของผู้เรียนได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
เปน็ การยกระดับของการเรยี นในหอ้ งเรียนแบบดัง้ เดิม มจี ุดเด่นทเี่ น้นการมีปฏสิ ัมพันธ์ระหวา่ งผเู้ รยี น และผ้สู อนโดยมี
มัลติมเี ดียต่างๆ เปน็ สื่อกลาง อกี ทัง้ ผสู้ อนยงั สามารถวัดผลลัพท์ ตรวจสอบความรูค้ วามเขา้ ใจของผเู้ รยี นไดอ้ ยา่ งเต็มท่ี
อีกด้วยนอกจากนี้ยังมีแนวคิดของ Smart Classroom ก็ได้มีการนำมาประยุกต์ใช้ภายในห้องประชุมของสถาน
ประกอบการต่างๆ เพ่ือยกระดบั ความเข้าใจระหวา่ งผสู้ ื่อสาร และผูร้ บั สารด้วยเชน่ กนั

176

Smart Classroom กบั ยุคดจิ ิทลั แนวคิดของ Smart Classroom น้ันถกู คดิ ค้นข้นึ มาดว้ ยจุดประสงค์ที่
ตอ้ งการให้ผเู้ รียนนัน้ ไดร้ บั สารอยา่ งเตม็ ประสทิ ธิภาพทส่ี ดุ รวมถงึ ขยายขอบเขตของการเรียนรู้ไดอ้ ย่างไม่จำกดั การ
เข้ามาของยคุ ดจิ ทิ ัลทม่ี ีอินเทอรเ์ น็ตเป็นปจั จยั สำคัญ จงึ ทำให้ Smart Classroom สามารถบรรลเุ ป้าหมายเหล่านไ้ี ด้
เปน็ อย่างดี

(Smart System) หรอื “ระบบบา้ นอจั ฉริยะ” เปน็ การนำอปุ กรณท์ ่ีสามารถส่งสญั ญานผ่านอินเตอร์เน็ตได้
มาทำงานร่วมกับซอพท์แวร์ บนโทรศัพท์มือถือ ทำให้เราสามารถควบคุมระบบไฟฟ้า อุปกรณ์เครื่องใช้หรอื ระบบ
รักษาความปลอดภัย ต่างๆ ภายในบ้านได้ด้วยการกดปุ่มสั่งการผ่านสมาร์ทโฟน (Smartphone) หรือใช้ เสียงพูด
(Voice Command) ช่วยให้การอยู่อาศัย และ การดูแลบ้านมีความสะดวกสบาย ทันสมัย ปลอดภัย ประหยัดเวลา
มากย่งิ ขึน้

ระบบสมารท์ โฮม (Smart Home) เปน็ การประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยขี องสมาร์ทโฟน (Smartphone) ที่สามารถ
ตดิ ต้งั แอพลเคช่ันได้, บวกกบั การสอื่ สารผา่ นอนิ เตอร์เนต็ (Internet) และ เทคโนโลยีอนิ เตอร์เนต็ ของสรรพส่งิ (ioT:
Internet of Things) ที่ทำให้อปุ กรณ์เซนเซอร์ หรือ ขนาดเลก็ ทีส่ ามารถส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตได้โดยใช้พลงั งาน
ต่ำจากแบเตอรท่ี ีม่ อี ายุการใชง้ านนาน

ระบบ Smart Home มีผนู้ ำมาสรา้ งเป็นผลติ ภณั ฑ์ต่าง ๆ ทงั้ เป็นผลิตภณั ฑ์แบบช้ินเดียว หรอื เป็นระบบท่ีนำ
อุปกรณ์มาเชื่อมต่อกันเช่น ระบบการควบคุมรีโมทคอนโทรล (Remote Control) , ระบบไฟแสงสว่าง (Lighting
System) ,ระบบควบคุมการใชไ้ ฟฟ้า (Electric Power) , ระบบรักษาความปลอดภัย (Home Security)
ระบบตรวจจบั ควนั (Smoke Detect) หรือ การรั่วของแก๊ส (Gas Leak) หรือ การรั่วของน้ำ (Water Leak), ระบบ
การติดตามเกีย่ วกับสขุ ภาพของผอู้ ยู่อาศัย (Health Monitoring System) เปน็ ตน้

โดยประโยชน์หลักๆ คือการสามารถสร้างการแจ้งเตือนจากระยะไกล ผ่านสมาร์ทโฟนให้เรารับรู้สถานะ
ตลอดเวลาไมว่ ่าเรากำลังอยูท่ ี่ใดบนโลกนีห้ รือสรา้ งการทำงานอตั โนมัติ (Automation) ตามสถานะการณ์ได้ เช่น ต้ัง
ปลุกแล้วเปิดเพลง เปิดไฟ ต้มกาแฟด้วยหรอื ให้เปิดแอร์ เปิดไฟ เปิดเพลงเบาๆ ก่อนที่เราจะกลบั ถงึ บ้าน เพื่อใหไ้ ด้
อุณหภูมิที่เย็นสบายพอดีเมื่อมาถึงบ้านเป็นต้น ปัจจุบันนิยมใช้กันอยา่ งแพร่หลายในอเมริกา ยุโรป และประเทศใน
แถบเอเซีย เชน่ จีน , เกาเหลี ญป่ี ุน่

Smart Learning จดุ เปล่ียนทางการศึกษา
กระดานดำ กับชอล์กสีขาว ที่เคยเป็นภาพจำและยึดครองห้องเรียนมานานแสนนาน ถึงคราวที่จะเกษียณ
ตัวเอง เมอ่ื ความเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยีทม่ี คี วามสลบั ซับซ้อน และขอ้ มลู ข่าวสารท่มี ีอยเู่ ปน็ จำนวนมาก ซึ่งไม่ว่า
ใครกส็ ามารถเข้าถงึ ได้อย่างงา่ ยดายเพียงแคเ่ ชือ่ มตอ่ กับอินเตอร์เนต็ ทำให้โลกใบนพ้ี ัฒนาและก้าวไปเรว็ เกินกวา่ ทใี่ คร
จะคาดคิด
ซอฟทแ์ วรท์ างการศึกษา เร่มิ เข้ามามีบทบาทกับสถานศึกษา บคุ ลากรทางการศกึ ษา รวมถึงตัวนักเรยี น นกั ศึกษา
เพ่ิมมากขึ้น เราจะเห็นไดว้ ่าสถานศึกษาในยุคปัจจบุ นั ไดข้ ยายขอบเขตการใชอ้ ปุ กรณเ์ คร่อื งมือการเรียนการสอนดจิ ิทลั

177

เพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการทเี่ พมิ่ ขนึ้ ของกลมุ่ Gen Z แกดเจ็ตยคุ ใหม่ เช่น Interactive Board (กระดานอจั ฉริยะ),
Smartphone, Tablet, PC และ Laptop กลายเปน็ เครอ่ื งมอื การสอนประจำวนั ทีส่ ามารถจะช่วยอธบิ ายรูปแบบและ
ทฤษฎที ซ่ี บั ซอ้ นให้เป็น Blog, VDO Clip หรือสอ่ื การสอน Multimedia ทมี่ รี ปู แบบนา่ สนใจอน่ื ๆ ทช่ี ว่ ยใหผ้ ้เู รียนเข้าใจ
ไดง้ า่ ยๆ การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยเี ขา้ กบั บทเรยี นวิชาตา่ งๆ ได้ถกู นำมาใช้เพ่อื เพิม่ ความสนใจ และเพิม่ ศกั ยภาพในการ
เรยี นรขู้ องผเู้ รยี นจากแตก่ อ่ นทม่ี เี พียงเน้อื หาและรูปภาพในบทเรยี นเทา่ นนั้ (ทม่ี าhttps://www.youtube.com
/watch?v=VNXkYTK3prM)

การศกึ ษาในยคุ 5G ต้องปรบั ตวั
ระบบการศกึ ษากำลังประสบปญั หาครัง้ ใหญจ่ ากการแพรร่ ะบาดของไวรสั นักเรยี นจำเป็นตอ้ งเรยี นออนไลน์
เทคโนโลยีจึงเข้ามาช่วยเสริมภาคการศึกษาให้เกิดการเรียนรู้ ทั้งปัญญาประดิษฐ์ และประมวลผลแบบคลาวด์
การศกึ ษาจะไมไ่ ด้ถูกจำกัดเพยี งแค่นักเรยี น นักศึกษาเท่านนั้ แตว่ ัยทำงานและคนทัว่ ไปก็ตอ้ งเพ่ิมทักษะ ซ่ึงสิ่งสำคัญ
ทสี่ ุด คอื การปรับตัว เพ่อื จะเรยี นรแู้ ละรับมือกับความเปลี่ยนแปลง มนษุ ย์ควรมที กั ษะทห่ี ลากหลาย พฒั นาตัวเองทั้ง
ในแง่ของการศึกษา และทักษะอน่ื ๆ เพราะในอนาคตหุ่นยนตจ์ ะถูกพัฒนาใหม้ าทำงานแทนมนุษย์ไดท้ ุกอย่าง

เรยี นออนไลน์สนุกได้ดว้ ย 5G
การนำเทคโนโลยี 5G เขา้ มาช่วยยกระดับด้านการศกึ ษาน้นั เทคโนโลยี 5G จะเป็นพืน้ ฐานของทุกอย่าง ทั้ง
การสรา้ งหุ่นยนต์ การพัฒนาดา้ น Smart City รวมถึงการพัฒนาการศึกษาทีเ่ น้นผู้เรียนเป็นศนู ย์กลาง ส่งเสริมให้มี
การเรียนตามความต้องการเฉพาะบคุ คลชว่ ยให้เกดิ การเรียนรใู้ นทุกท่ี ทุกเวลา ทกุ คนสามารถเรียนรูไ้ ด้ นอกจากน้ี 5G
ยังชว่ ยเอือ้ ใหก้ ารเรยี นออนไลน์เปน็ ไปไดส้ ะดวก สนุก และลำ้ สมัยมากย่ิงขึ้น เตมิ เต็มความสมั พันธร์ ะหว่างผสู้ อนและ
ผู้เรียนที่หายไป เช่น การใส่แว่น VR ที่ช่วยให้เห็นห้องเรียนแบบเสมือนจริงในวิชาวิทยาศาสตร์ เป็นการสร้าง
ประสบการณ์ทีด่ ใี ห้ผู้เรยี น 5G จึงเปน็ การปฏสิ ัมพันธแ์ บบ 2 ทางทท่ี ุกคนต้องเตรยี มพร้อมรับการเปล่ยี นแปลงใน 5 ปี
ต่อจากน้ี

live-long-learning เรยี นร้ไู ดต้ ลอดชวี ติ
แมอ้ ย่ใู นพน้ื ทหี่ ่างไกล เมอื่ พดู ถึงการนำเทคโนโลยีมาชว่ ยสนับสนนุ การเรยี นรู้ หรือ EdTech ในประเทศไทย
หลายคนอาจจะยงั ไม่คุ้นเคย ซึ่ง ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน หัวหน้าคณะผู้บรหิ ารด้านความเป็นเลิศทางธุรกิจและ
การศึกษา บมจ.ทรู คอร์ปอเรชนั่ ใหม้ ุมมองท่ีนา่ สนใจวา่ เทคโนโลยไี ดเ้ ปลย่ี นโลกของการเรียนรไู้ ปอยา่ งรวดเรว็ การ
เรียนร้จู ะไมจ่ ำกัดเพศและวยั เรียนร้ไู ด้ตลอดชีวิตแบบ live-long-learning ไม่ยึดตดิ แค่ในห้องเรียน โดย 5G เข้ามา
เชื่อมตอ่ ในดา้ นการศึกษา ทำใหค้ วามรู้กระจายไปในพืน้ ท่หี ่างไกลได้มากขึ้น เข้าถึงขอ้ มูลได้เร็วขึ้น มีการพัฒนาด้าน
คอนเทนตแ์ ละเอาไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนม์ ากทสี่ ดุ โดยกลมุ่ ทรู ได้นำเทคโนโลยมี อบใหแ้ กโ่ รงเรียนในพนื้ ท่หี า่ งไกล ผา่ น
โครงการทรูปลกู ปัญญา และได้พัฒนาเพิ่มชอ่ งทางตา่ งๆ ท้ังแอปพลิเคชนั เว็บไซต์ หรือ School tour เป็นต้น เพอ่ื

178

สร้างระบบนิเวศทอ่ี ยู่ใกล้ตวั ทง้ั ครผู สู้ อนและเดก็ นกั เรยี น รวมถึงโครงการ CONNEXTED ทีภ่ าคเอกชนร่วมกับภาครัฐ
ขบั เคล่ือนการพัฒนาด้านการศึกษา เพอ่ื ผลิตเด็กไทยใหเ้ ป็นเดก็ ดีและเด็กเกง่ เรายงั มองว่า ส่ิงสำคญั ทส่ี ุดในการมอบ
เทคโนโลยที างการศกึ ษา คอื กระบวนการการนำไปใช้ทดี่ ีและถูกตอ้ ง ซงึ่ ICT Talent ผู้นำเทคโนโลยีดา้ นการศึกษาที่
ดแู ลในแตล่ ะโรงเรยี น จะชว่ ยถ่ายทอดองค์ความรู้ และแนะนำกระบวนการการนำเทคโนโลยีไปใชไ้ ด้อย่างถูกตอ้ งและ
เกดิ ประโยชน์สงู สดุ

5G เสรมิ สร้างจินตนาการในการเรยี นรู้
ดา้ น นายพรษิ ฐ์ วัชรสนิ ธุ ผูก้ ่อตั้งและประธานกรรมการบรหิ ารบรษิ ัท StartDee แอปพลิเคชนั ดา้ นการศึกษา
ครบทุกวิชาหลัก กล่าวถึง EdTech ในภาพรวมว่า เทคโนโลยีช่วยเสริมทั้งการเรียนรู้ภาคบังคับตามหลักสูตรใน
หอ้ งเรยี น และการเรยี นรูน้ อกหลกั สตู ร นอกห้องเรียนหรอื นอกระบบ อยา่ งการ upskill และ reskill การเข้าสู่สังคม
สูงวยั เป็นอกี เหตุผลทคี่ วรให้ความสำคัญในเรอื่ งการเรียนรตู้ ลอดชีวิต ซ่งึ เทคโนโลยจี ะเข้ามาช่วยขบั เคลอื่ นการพฒั นา
ทางการศกึ ษา อนิ เทอรเ์ นต็ คอื กุญแจสำคัญสกู่ ารเขา้ ถงึ การเรยี น เทคโนโลยี 5G มคี วามเร็วมากขึน้ กจ็ ะช่วยเสริมสร้าง
จินตนาการใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น Start Dee ต้องการช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงการศึกษาที่ดี ทำลายกำแพงทั้งเรื่องของ
คณุ ภาพการศึกษา ความเหลอ่ื มล้ำ และการหาความรู้นอกห้องเรียนจากการเรยี นพเิ ศษ โดยทำให้การศึกษาท่ีดีอยู่ใน
สมาร์ทโฟน ครบทุกหลักสูตรในแอปเดียว ทั้งยังนำเทคโนโลยีมาสร้างการเรียนรูใ้ ห้สนุก ไม่น่าเบ่ือ รวมถึงการใช้ AI
เข้ามาประเมนิ ผล พรอ้ มปรบั ใหเ้ ขา้ กับการเรยี นของนักเรียนแตล่ ะคนแบบ personalized มากขึ้น

ความจริงเสมอื น Virtual reality (VR)
Virtual reality (VR) คือ การจำลองโลกเสมือนจริงแบบ 360 องศา ถ้า AR คือ การสร้างให้เราเห็นหรือ
ตอบสนองกับวัตถเุ สมือนในโลกของความจรงิ เทคโนโลยี VR คือ การพาเราไปอยใู่ นโลกของความจรงิ เสมือน ผา่ นการ
ใช้แว่น VR ซึ่งทำให้เรารู้สึกถึงความสมจริงมากกว่า โดยผู้ใชจ้ ะถูกทำให้รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึง่ กบั ความจรงิ เสมอื นนั้น
และสามารถจะตอบสนองอยา่ งไรก็ไดก้ บั โลกเสมือนตามขอบเขตที่กำหนดไว้ โดยปจั จบุ ันอุตสาหกรรมท่เี กี่ยวข้องกับ
เทคโนโลยี VR น้ี กำลังขยายตัวและเติบโตอย่างมาก ซ่ึงเป็นผลจากการลงทนุ และสนบั สนุนจากท่วั โลก สิ่งนี้ทำให้ใน
อนาคตอันใกล้นี้ เครื่องมือที่ตอบสนองกับเทคโนโลยี VR นั้นจะมีราคาที่ถูกลง และเข้าถึงกับผู้คนในทุกระดับมาก
ยิง่ ข้นึ
เทคโนโลยี VR นี้จะสามารถช่วยพานักเรียนเข้าไปสู่โลกเสมือนจริงแห่งการเรียนรู้ได้ โดยที่ตัวนักเรียนไม่
จำเปน็ ต้องออกจากหอ้ งเรียน พวกเขาสามารถสัมผสั กับส่งิ ที่พวกเขาอ่าน หรือสง่ิ ที่พวกเขาเหน็ จากภาพประกอบของ
หนังสือ สามารถหลอกร่างกายให้คิดว่าเป็นสถานที่ใหม่ และช่วยให้นักเรียนสามารถเยี่ยมชมแหล่งท่ องเที่ยวทาง
วฒั นธรรมต่างๆท่วั โลก รวมถึงไปยังดินแดนทีไ่ ม่เคยพบเห็น อย่างมหานครอยี ิปต์ หรือ ดนิ แดนไดโนเสาร์
ท้งั หมดนี้คอื เทรนแห่งเทคโนโลยีทางการศึกษา ทีม่ ีการพฒั นาอย่างต่อเนอ่ื งและกำลงั จะมีบทบาทมากขน้ึ ในอนาคตอนั
ใกล้ ตัวช่วยทางการศึกษาเหล่านี้ จำเป็นอย่างยิ่งท่ีครูผู้สอนควรต้องศึกษาและเรียนรู้ วิธีใช้ รวมถึงรูปแบบและ

179

แนวทางทีจ่ ะนำเทคโนโลยีเหล่าน้ีมาใช้ประโยชน์ให้ได้อยา่ งเหมาะสม เพื่อให้เกิดการสรา้ งสรรคร์ ูปแบบการเรียนรู้ท่ี
สอดคลอ้ งกับแนวคิดในการจัดการศกึ ษายคุ ใหม่ ที่ตอ้ งสามารถผสานเทคโนโลยใี ห้เข้ากบั วิถชี ีวิตประจำวันให้ไดน้ ่นั เอง

ยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือเรื่อง ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial
Intelligence)โปรแกรมสมองกลแสนฉลาดมีวิธีการทำงาน เหมือนสมองมนุษย์ที่สามารถคิดวิเคราะห์วางแผนและ
ตัดสินใจ ได้โดยการประมวลผลจากฐานข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมันอยู่รอบตัวเราและใช้งานแทบทุกวัน
อยา่ งเชน่ Search Engine เจ้ายักษอ์ ย่าง Googleในระหวา่ งทเี่ รากรอกคำคน้ หาลงไป AI ของ Google กจ็ ะวเิ คราะห์
ข้อมลู จากคลงั ขนาดยักษท์ ่ีมีเวบ็ ไซต์จำนวนมหาศาล และแสดงผลในสงิ่ ทีเ่ ราต้องการเพยี งแค่เสย้ี ววินาทีเทา่ นั้น ซึ่งเร็ว
กวา่ มนุษยแ์ บบเทยี บไมต่ ดิ ไม่ใช่แคก่ ารคน้ หาข้อมูล แตท่ ุกความสามารถปัญญาประดิษฐ์เหลา่ นีเ้ รยี นรู้ได้ทั้งหมด จนมี
การทำนายไว้วา่ อีกไม่กปี่ ขี า้ งหน้าหลายอาชีพอาจจะถูกแย่งชงิ ในสกั วันคุณ

ครูหลายทา่ นอาจสงสัยว่า “AI จะสามารถมาแทนที่ครูไดห้ รือไม่?”
ถ้าหากลองวเิ คราะหจ์ ากหนา้ ทแ่ี ละคณุ สมบัตคิ รูแลว้ คงตอ้ งตอบว่าในมิติของการสอน พวกสมองกลเหล่านคี้ ง
จะสามารถทดแทนคุณครูได้ในสักวันหนึ่ง โดยเฉพาะในรายวิชาความรู้ที่ตายตัวอย่างเช่น คณิตศาสตร์และ
วิทยาศาสตร์พื้นฐานหรือภาษาเบื้องต้น ที่องค์ความรู้ไม่มีเพ่ิมและไม่ได้เรียนรู้ผ่านการตั้งคำถาม แต่สำหรับวชิ าที่มี
ความซับซ้อน ต้องมีการใช้คำถามในการเรียนรู้ เช่นศิลปะสังคมวรรณกรรมวิชาชีวิตและประสบการณ์ชวี ิต AI คงไม่
สามารถทดแทนไดแ้ นๆ่ ทั้งหมดเป็นเรื่อง
ในอนาคตทย่ี งั ไม่เกดิ ข้ึน ซ่งึ หากเกิดขน้ึ จริง เทคโนโลยี AI คงมวี วิ ัฒนาการใหมๆ่ ที่เปลีย่ นแปลงการศกึ ษาให้แตกต่าง
ออกไปในทศิ ทางที่ดขี ้นึ และช่วยใหก้ ารเรยี นการสอนมปี ระสิทธิภาพมากข้ึนไดอ้ ย่างแนน่ อน แลว้ AI ช่วยอะไรครูได้
บ้าง ?

ลดภาระครูดว้ ยระบบใหเ้ กรดอัตโนมัติ
หนึ่งในสงิ่ ทค่ี ณุ ครหู ลายท่านรู้สกึ ไม่คอ่ ยมีความสุขสักเท่าไหร่และกลายเป็นภาระหนักขึ้นในทุกวัน คือการท่ี
ตอ้ งตรวจข้อสอบและการบ้านหลายร้อยชุดในแต่ละสปั ดาหร์ วมไปถงึ การรวมคะแนนนกั เรยี นเพอื่ ตดั เกรดตอนปลาย
ภาค ซ่งึ สง่ ผลตอ่ ประสทิ ธภิ าพการสอน แม้วา่ ในปจั จุบัน AI จะยังไม่สามารถมาแทนการคดิ เกรดของคุณครไู ดเ้ ตม็ ร้อย
เปอรเ์ ซน็ ตแ์ ต่มันจะเกดิ ขนึ้ ไดใ้ นอนาคตแน่นอน ซึง่ กำลงั อยใู่ นขนั้ ทดลองของมหาวทิ ยาลัยชัน้ นำทั่วโลกเชน่ Harvard
University ด้วยการสร้าง AI เลียนแบบการประเมินนักเรียนของคุณครโู ดยจะนำปจั จยั ตา่ งๆ ในหอ้ งเรียนมาวเิ คราะห์
ซึง่ เทคโนโลยีการใหเ้ กรดเรม่ิ เขา้ มาในบ้านเราแล้วกค็ อื โปรแกรมการตรวจข้อสอบแบบปรนัย(เลอื กชอ้ ยส)์ และตอนน้ี
กเ็ ริม่ มโี ปรแกรมประมวลผลเกรดในระดบั มหาวิทยาลยั แล้วด้วย ถ้าปัญญาประดษิ ฐน์ สี้ ำเรจ็ จะส่งผลให้คุณครูมีภาระ
งานลดลงและสามารถทมุ่ เทเวลาให้กบั การสอนมากขึน้ ชว่ ยออกแบบการสอน
ปัจจบุ ัน AI สามารถสร้าง “เน้อื หาการสอน”ที่มคี วามสมบรู ณ์เทยี บเทา่ กับครทู เ่ี ปน็ มนุษย์ในเวลาที่น้อยกว่า
แถมยงั สามารถแปลงหนังสอื เรยี นเล่มนั้นใหเ้ หมาะสมกับนักเรียนในแต่ละช่วงอายไุ ดอ้ กี ดว้ ย เช่น โปรแกรมฮิตอย่าง

180

Cram101 ทีเ่ ป็น AI ประมวลเน้ือหาท้งั หมดในหนงั สือเรยี น แล้วแสดงผลเป็นเนือ้ หาผา่ นการยอ่ ยมาแลว้ มบี ทสรปุ ของ
ทุกบทมีแบบทดสอบให้นักเรียนใช้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า
Netex Learning ที่คอยชว่ ยอาจารย์ผู้สอนในการออกแบบหลักสตู รการเรียนการสอนโดยใช้อุปกรณ์ช่วยหลายชนดิ
เช่นส่อื เสยี ง วดิ โี อ และมีผชู้ ่วยออนไลน์ระบบตอบขอ้ สงสยั ใหก้ บั นักเรียน

นักเรียนทุกคนจะได้รู้จกั กับครผู ชู้ ่วยคนใหมท่ ีม่ ีช่ือว่า จลิ ลว์ ตั สนั ผู้ทีส่ ามารถตอบคำถามทุกคำถามด้วยความ
รวดเร็วและถูกต้อง ซงึ่ นกั เรียนสามารถถามคำถามกบั เขาได้ตลอดเวลาเพราะครผู ู้ช่วยคนนี้แท้จริงแล้วคือ AIท่ีบรรจุ
คำถามและคำตอบมากมายเกี่ยวกับวิชาที่เรียน นักเรียนจึงสามารถสอบถามข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับวิชาเรียนได้อย่าง
ถูกต้องแม่นยำ ซึ่งเป็นการลดภาระในการตอบคำถามของคุณครูลงได้ทำให้คุณครูมีเวลาในการเตรียมตัวสอนมาก
ยงิ่ ขึน้ นน่ั เอง.

6G อนาคตที่กำลงั เริม่ ตน้
6G คอื ยคุ ท่รี ะบบการส่ือสารไรส้ ายบนโทรศพั ท์มือถอื ของเราจะกา้ วข้ามข้อจำกัดหลายอย่างไปจากเดิม มัน
จะเป็นการเชื่อมต่อที่มีความเสถียร และรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เป็นการนำเอาเทคโนโลยี AI (Artificial
Intelligent) เขา้ มาผสมผสานกับระบบอินเตอรเ์ น็ต และโปรแกรมทีใ่ ชใ้ นอปุ กรณส์ อ่ื สารของเราได้ ซึ่งทำให้ระบบเกิด
การเรยี นรู้ ปรับเปลี่ยนและแก้ปญั หาหลายอย่างไดด้ ว้ ยตวั เอง และชว่ ยตดั สนิ ใจแทนเราได้ในบางเร่อื ง เชน่ การขับข่ี
ยานยนต์ไร้คนขับ การวิเคราะห์ปัญหาการเดินทาง การทำงาน และความช่วยเหลือต่างๆ เป็นต้น คาดการณ์ว่า
เทคโนโลยีในยุคนี้จะนำความสะดวกสบายมาสู่มนุษยม์ ากมาย และแน่นอนว่ามันกจ็ ะเข้ามาปรบั เปลี่ยนวิถชี ีวิตของ
พวกเราไปอีกเชน่ กัน และเทคโนโลยียุค 6G น้ีก็อยู่ไมไ่ กลจากที่เราคาดการณไ์ ว้

6G ความเร็วเปลี่ยนอนาคต
กอ่ นท่ีคุณจะไปทำความเขา้ ใจกับความเร็วในระดบั 6g นนั้ มาทำความรจู้ ักกับความสำคญั ของระบบ 5g กัน
ก่อนดีกว่า ซึ่งต้องบอกกอ่ นวา่ ระบบ 5g นน้ั มีการพัฒนามาอย่างก้าวกระโดดมากกว่า มาตรฐานของ 4G ที่เราใช้อยู่
ในปจั จบุ ันนเ้ี ป็นอย่างมาก ความเร็วนนั้ ของ 5g น้นั เหนือกวา่ ความเร็วของ 4G เรียกไดว้ า่ ไมอ่ าจเทียบกันได้เลย โดย
ความเร็วของ 5g นั้นจะมีความเร็วประมาณ 220Gbps ซึ่งถ้าเทียบกับ 4G แล้วจะมีความเร็วมากกว่า 100 – 200
เท่า เท่านั้นยังไม่พอความน่าสนใจของ 5g อีกประการหนึ่ง ก็คือ LOW LATENCY RATE ซึ่งก็คือความเร็วในการ
ตอบสนองต่อข้อมูล ทำให้ผู้ใช้งานสั่งงานพร้อมทั้งควบคุมสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วฉับไวหรือเรียกได้ว่าแทบจะ
ทันทีทนั ใดน้ันเด๋ยี วนน้ั แลว้ อย่างน้ี 6g จะดีกว่าอย่างไร?
ซง่ึ ความแตกตา่ งอันดบั 1 กค็ ือในเรอ่ื งของความเร็ว โดยในปจั จบุ นั น้ี 6g กำลงั อยใู่ นข้ันตอนของการพัฒนา
แต่ก็มีการวิเคราะห์คาดการณ์กันว่าความเร็วของ 6g นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 1 TERABIT/วินาที หรือพูดง่ายๆ ก็คือ
ประมาณ 100 เท่าของ 5g และจะมีในเรื่องของ AI เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย สำหรับความเร็วในระดับนี้จะทำให้การ
ประมวลผลของ AI เช่ือมตอ่ การทำงานได้อย่างรวดเร็ว อีกทัง้ ยงั มีความสามารถในการช่วยแก้ไขปญั หาให้ผู้ใช้งานได้

181

ทันที ถึงแม้ปัญหานั้นจะมีความซับซ้อนมากก็ตาม ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น ในเมือง NEW YORK ประเทศ
สหรฐั อเมริกาใน 1 วนั จะมีรถยนตจ์ ำนวนประมาณ 3 ลา้ นคนั วง่ิ เข้าออกในเมอื งหลวงตลอดเวลา เพราะฉะน้ันสมอง
กล AI จะทำการประมวลผล เพื่อขับเคลือ่ นรถยนต์ไร้คนขับได้อย่างมีประสทิ ธิภาพมาก โดยที่ไมก่ ่อให้เกิดอุบัติเหตุ
หรือปญั หาในเร่อื งของรถติดจำนวนมหาศาลเลย

6g คอื ความเรว็ แหง่ อนาคต
6g คือ เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแห่งโลกอนาคตโดยแท้จริง เพราะเรียนรู้ที่จะเคลื่อนที่ได้เอง
วิเคราะห์และแกป้ ัญหาได้เอง จากการสืบค้นข้อมูลอย่างรวดเรว็ โดยในยุค 6g นั้นจะเป็นยคุ ที่การสื่อสาร ได้รับการ
แก้ไขในเรื่องคลื่นรวมทง้ั การนำเทคโนโลยี AI เขา้ มาผสมผสาน สำหรับความน่าสนใจอีกประการหนึ่ง ก็คือ เม่อื ระบบ
AI นั้นทำงานผ่าน Application ไปได้สักพักหนึ่ง มันก็จะเริ่มเกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เช่น เรียนรู้เรื่องการขับ
ยานพาหนะ, เรียนร้เู รือ่ งการทำการเกษตรและเมื่อมนั สะสมความร้ไู ดม้ ากพอหลังจากน้นั กจ็ ะเกิดการตดั สินใจได้ด้วย
ตัวเองตามมาเทา่ นั้นยังไม่พอระบบ AI ก็จะมีการสั่งการจากการเรียงลำดับของข้อมูลที่ผ่านเขา้ มา พร้อมเลือกการ
ตัดสินใจท่ีมันคิดว่าดีที่สุด ซึ่งสิ่งเหลา่ นี้จะต้องผ่านการเชื่อมตอ่ ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเปน็ จำนวนมหาศาล และทาง
ระบบก็จะมีการปรับตัวให้เข้ากับการส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การขับขี่รถยนต์แบบ
อัตโนมตั ดิ ้วย AI ซึ่งสัง่ การให้มนั ขับในเสน้ ทางเดิมทกุ วันก็ไม่ใชเ่ รื่องท่เี ป็นปัญหาอะไร แต่ถ้าในวันหนึ่งคุณต้องการที่
จะต้องให้มันขับรถออกนอกเส้นทาง คราวนี้ระบบก็จะต้องมีการดึงข้อมูล เพื่อประมวลผลแผนที่พร้อมทั้งคำนวณ
เส้นทางในการเดินทาง ทำให้เกิดการตัดสินใจในระดับใหญ่ขึ้น เพราะฉะนั้นก็จำเป็นที่จะต้องใช้ความเร็วของ
อินเทอร์เน็ตท่ีเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในปัจจุบนั นี้ข้อมลู ทีส่ ง่ มานี้จัดเป็นแนวทางในการสร้าง 6g ที่จะเกดิ ขึ้นใน
อนาคต ซึง่ ถ้าสง่ิ น้ีเกดิ ข้ึนจรงิ ๆ กค็ งจะปรับเปลีย่ นวิถชี วี ิตของมนุษย์และอำนวยความสบายใหไ้ ดม้ ากขึ้นเปน็ อย่างมาก
เลยทีเดียว

สรุป การศึกษาในอนาคต
การศกึ ษาในอนาคต เห็นได้ชดั เจนวา่ การศึกษาในอนาคตมีการนำเทคโนโลยเี ข้ามาใชใ้ นชีวติ ประจำวันเกอื บ
ทั้งหมด รวมถงึ การศึกษาดว้ ย โดยจากวดิ โี ดแสดงให้เห็นแบบชัดเจน

182

สรุป
การศึกษากับการเปลยี่ นแปลงบริบทโลก

สังเกตเหน็ ได้ชดั เจนวา่ สมัยกอ่ นมกี ารตดิ ต่อสอื่ สารกับตา่ งประเทศมากมายทัง้ การค้า การทำธรุ กจิ รวมไปถึง
ความเป็นอยู่ ซง่ึ ส่งผลทำใหก้ ารศึกษาในอดีตเปลยี่ นแปลงไปตามบรบิ ทโลกในด้านของเศรษฐกจิ และส่งิ แวดลอ้ มเข้ามา
มีบทบาททีส่ ำคัญ

การศึกษาในยุคก่อน ค.ศ. 2000 เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยในหลายๆด้าน รวมถึงก่อตั้ง
โรงเรยี นและวทิ ยาลยั ขน้ึ ใหม่มากมาย ให้ประชาชนได้เขา้ ถงึ การศึกษาและมีอาชีพกันเพม่ิ มากขึ้น

การศกึ ษาในยุคกอ่ นโควิด หลัง ค.ศ. 2000 ในยคุ โลกาภิวัตนม์ ีการนำคอมพิวเตอร์ โทรศัพทม์ อื ถือเข้ามาแต่
เป็นการตดิ ต่อกันทางเสยี งเทา่ นัน้ การเรยี นการสอนเน้นครเู ปน็ ศูนยก์ ลางทกุ ส่งิ ทุกอยา่ งมาจากครูปอ้ นให้ท้ังหมด ใน
ยุคศตวรรษที่ 21 มีการพัฒนาคอมพวิ เตอร์ โทรศัพท์มือถือ มีแทบเลต ไอแพด สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเกิดขนึ้
มากมาย การติดตอ่ สือ่ สารกนั สะดวกข้นึ ไม่ว่าจะอยูใ่ กล้หรือไกลกันก็สามารถเห็นหน้ากันได้โดยการวดิ ีโอคอล และยุค
ศตวรรษท่ี 21 ก็มเี นต็ เทอร์เน็ตเขา้ มาซง่ึ แตกตา่ งจากยคุ โลกาภิวตั นค์ อื มอี นิ เทอร์เนต็ มแี อปสำหรับการติดตอ่ สื่อสาร
และหาความรู้ ความบนั เทิงเกดิ ข้ึนมากมาย เช่น Twitter Line Instagram Youtube เป็นต้นการเรียนการสอนเน้น
ผูเ้ รยี นเป็นศนู ยก์ ลาง ศึกษาหาความรู้เพมิ่ เตมิ ด้วยตัวเองได้

กำหนดรปู แบบการเรยี นการสอนของประเทศไทย ทั้งหมด 6 รูปแบบ การจัดการเรียนการสอนแบบยดื หยุ่น
กรณศี กึ ษาประเทศจนี การจดั การเรียนรู้ในโลกที่เรยี นออนไลน์ไม่ใช่แคท่ างเลือกอนิ เทอร์เน็ตชว่ ยให้ผู้เรียนมีอิสระใน
การเรียน สามารถเลือกเรียนได้ตามความต้องการ (On-demand Learning) บนแพลตฟอร์มเว็บไซต์การศึกษา
ประเทศสิงคโปร์ การเปิดโรงเรียนรบั มือสถานการณ์โควดิ -19 โดยมกี ารกำหนดใหน้ ักเรยี น จำนวน 3 กล่มุ

5 การศึกษาในอนาคต เห็นได้ชัดเจนว่าการศึกษาในอนาคตมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน
เกือบท้ังหมด รวมถึงการศกึ ษาดว้ ย โดยจากวิดีโดแสดงใหเ้ ห็นแบบชดั เจน

183

อ้างองิ

การศึกษาระบบ 4.0. กรงุ เทพฯ: ศูนยน์ วตั กรรมการเรียนรู้ จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั
เกรยี งศกั ดิ์ เจริญวงศ์ศกั ด์ิ. (2560). การศกึ ษาบนฐานโลกาภวิ ฒั น์: กรณกี ารจดั การศกึ ษาฮาร์วารด์ ได.้
เกษม เมษนิ ทรยี ์. (2565 ). ยุทธศาสตรแ์ ละการปฏิรปู สู่ การเป็นไทยแลนด์ 4.0. กรุงเทพฯ: สำนกั งาน

เขต 6.
ครูบ้านนอก.คอม : https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9640000078493
ชัยยนต์ เพาพาน. (2565). ผู้บริหารสถานศึกษายุคใหม่ในศตวรรษที่ 21. การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นสู่

ประชาคมอาเซียน: ทิศทางใหมใ่ นศตวรรษที่ 21. ใน รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการระดบั ชาตคิ รุ
ศาสตร์ คร้ังที่ 1. มหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ
สุทัศน์ สังคะพนั ธ์. (2565). ทำไมต้องทักษะในศตวรรษที่ 21 ในบทความทักษะแห่งศตวรรษที่ 21. ใน ดุษฏีนิพนธ์
ปรชั ญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวชิ าหลกั สตู รและการสอน. มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม.
สุรศักดิ์ ปาเฮ. (2565). การพัฒนาวิชาชีพครูสู่ยุคปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2. ใน เอกสารประกอบการ
ประชุมสัมมนาทางวิชาการ การพัฒนาครูทั้งระบบตามยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2.
สำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 1,2.
ณัฐพร เหน็ เจริญเลิศ, ทัศนยี ์วรรณ์ ศรีประดิษฐ์, และปยิ พร นุรารัตน.์ (2559 ). ขอบแดนใหม่ แหง่ การเรยี นรู้ :
ธรี ะเกียรตเิ จริญเศรษฐศลิ ป์. (2565 ). การศึกษาไทย 4.0 ในบรบิ ทการจัดการศกึ ษาเพ่ือการพัฒนาทย่ี ่ังยนื . บรรยาย
นวิ ัตต์ น้อยมณี และกัญภร เอี่ยมพญา. (2560). จิตวิญญาณคร.ู พมิ พ์ครง้ั ท่ี 2. นนทบุร:ี 21 เซนจูร่ี.
นวิ ัตต์ น้อยมณ.ี (2565). การศึกษาไทยกับยุคโลกาภิวัตน์. ฉะเชงิ เทรา: สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา
บา้ นจอมยทุ ธ : https://www.padaacademy.com/blog/6g-change-the-world.html
พเิ ศษ ในการประชุมทางวชิ าการของ ครุ สุ ภา ประจำป2ี 559 (28 สิงหาคม 2559 ). ณ ศูนยป์ ระชุมวายุภักษ์
โรงแรมเซ็นทราศนู ย์ราชการ และคอนเวนชั่นเซน็ เตอร์ แจง้ วฒั นะ. มาสเตอร์ ทวปี แยม้ จะบก,
ธโสธร ตู้ทองคำ. (2565 ). รองศาสตราจารยส์ าขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช
แหลง่ ทมี่ า http://drdancando.com. สืบค้นเมื่อ 7 ต.ค. 2564

184

บรรณานุกรม

กมลรตั น์ หล้าสวุ งษ.์ (2523). จิตวทิ ยาการศกึ ษา (Educational Psychology). กรุงเทพ :
กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2547). คู่มือหลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั พุทธศกั ราช 2546. กรุงเทพมหานคร :
กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2557). ร่าง Roadmap การปฏริ ปู การศึกษา (2558-2564)
กระทรวงศึกษาธิการ. (29 กุมภาพันธ์ 2543). มาตรฐานวิชาชีพคร.ู สืบคน้ เมอ่ื วันที่ 24 กันยายน 2565,

กรงุ เทพฯ : ม.ป.ท.
กลมุ่ ครเู ทคโน.2551 : Online การศึกษาของไทยสมัยโบราณ (พ.ศ. 1781 - พ.ศ. 2411 )
กลั ยาณี หรมทอง. (ม.ป.ป.). บทบาท หนา้ ท่ี และความรบั ผดิ ชอบของคร.ู
กาญจนี เสยี งเพราะ. (2553). คมู่ อื การสอนแบบมอนเทสซอริ หมวดชวี ิตประจำวนั หมวดประสาทรับรู้

การศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ ทรวิโรฒ.
http://sitawan112.blogspot.com/2012/03/progessivism.html
เกรียงศกั ดิ์ เจรญิ วงศ์ศักด์ิ (พ.ศ. 2550 ) แนวโนม้ การจดั การศึกษาไทยในอนาคต
เกรียงศกั ดิ์ เจรญิ วงศศ์ กั ด์ิ. (2560). การศกึ ษาบนฐานโลกาภวิ ัฒน์: กรณกี ารจดั การศึกษาฮารว์ ารด์ ได.้
เกษม เมษนิ ทรยี ์. (2565 ). ยุทธศาสตร์และการปฏริ ปู สู่ การเป็นไทยแลนด์ 4.0. กรงุ เทพฯ:
ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 และแกไ้ ขเพ่ิมเติมฉบบั ที่ 2 พ.ศ. 2551.
กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พค์ รุ ุสภาลาดพร้าว.
คณะทำงานปฏิรปู การศกึ ษาไทย ( พ.ศ.2558) กระบวนทัศน์ใหม่ทางการศึกษา
คณะอาจารย์ภาควิชาพืน้ ฐานการศกึ ษา. 2532 : 7 การศกึ ษาของไทยสมัยปฏริ ปู การศึกษา
คน้ หาเมอ่ื 10 ก.ย. 2565 จาก http ://www.thainame.net/weblampang/sutat
คน้ หาเมอ่ื 12 ก.ย. 2565 จาก https ://pisan2012.wordpress.com
ค้นหาเม่ือ 13 ก.ย. 2565 จาก https ://www.kroobannok.com/3345
คริสติน วอร์ด. (2548). คมู่ อื ครสู ำหรบั เสริมสร้างสมองเด็กวยั เรยี น. กรงุ เทพมหานคร :บรษิ ัทแปลน
ครคู ้นหาเมอื่ 10 ก.ย. 2565 จาก https ://www.gotoknow.org
ครเู ชยี งราย. (28 กมุ ภาพันธ์ 2564). บทบาทหน้าทขี่ องครใู นศวรรษท่ี 21. สบื คน้ เมอ่ื วันที่ 28 กนั ยายน 2565, จาก
https://www.kruchiangrai.net/2020/02/28/
ครสู มารท์ ดอทคอม. (ม.ป.ป.). ข้อบงั คบั คุรสุ ภา วา่ ดว้ ยมาตรฐานวชิ าชพี (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2562. สบื ค้น เมื่อวันท่ี
25 กนั ยายน 2565, จาก http://www.krusmart.com/teacher-standards-2562/
ครอู าชีพดอทคอม. (1 พฤศจิกายน 2562). สรปุ มาตรฐานวชิ าชีพครู ฉบับแก้ไข ราชกิจจานเุ บกษา 2562
คลอเดยี วอลลนิ 3 ตลุ าคม 2018 การศึกษาชาติตะวนั ตก สืบคน้ เมอื 13 ก.ย. 2565

185

คลอเดีย วอลลนิ 3 ตลุ าคม 2018 ความแตกตา่ งทางการศึกษา สบื ค้นเมือ 13 ก.ย. 2565
จนั ทพร ศรีโพน. (23 ตลุ าคม 2560). กฎหมายเกยี่ วกบั การศึกษาของประเทศสงิ คโปร์. LAW of ASEAN. สบื ค้นเมอ่ื

วันที่ 3 กันยายน 2565 จาก https://lawforasean.krisdika.go.th/Content/View?Id=316&Type=1
เฉลิมลาภ ทองอาจ เขียนเมอื 31 สงิ หาคม 2013) การพฒั นานกั ศกึ ษาครู
ชลดิ า หนูหลา้ . (7 พฤษภาคม 2564). เรยี นรู้ด้วยภาพ: ปน้ั ครู เปลย่ี นโลก ถอดนโยบายสรา้ งครูจากสิงคโปร.์ สบื ค้น

เมือ่ วนั ที่ 27 กนั ยายน 2565, จาก https://bookscape.co/infographic-singapore-education-policy
ณัฐพร เหน็ เจริญเลศิ , ทศั นยี ว์ รรณ์ ศรีประดษิ ฐ์, ปยิ พร นุรารัตน์. (2559 ). ขอบแดนใหม่ แห่งการเรียนรู้
ดร.สรุ ศักดิ์ หลาบมาลา. (2541). TEACHER LAW OF THE PEOPLE’S REPUBLIC OF CHINA [กฎหมายครขู องสา

ธารณประชาชนจนี ]. สำนกั งานโครงการพเิ ศษเพ่อื การปฏริ ปู การฝกึ หดั ครฯู (สปค.). สืบค้นเมือ่ วันที่ 3
กันยายน 2565 จาก https://shorturl.asia/fXgK0
ดารณีย์ พยัคฆ์กลุ . (2559). การพฒั นาสมรรถนะการนเิ ทศการศกึ ษาส่คู วามเปน็ ศึกษานิเทศกม์ อื อาชพี .
ตาม พ.ร.บ. การศึกษาแหง่ ชา.ิ
ถวิล เกื้อกลู วงศ. (2530). การบรหิ ารการศกึ ษาสมัยใหม่ ทฤษฎี วิจยั และปฏิบตั ิ. กรุงเทพ ฯ :
ทางด้านเทคโนโลยใี นการเรยี นการสอนบทบาทของเทคโนโลยกี ับการจดั การศึกษา
ทิศนา แขมมณ.ี ศาสตร์การสอน. กรุงเทพฯ : จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย, 2545.
ทศิ นา แขมมณี (2553) .ศาสตรก์ ารสอน:องคค์ วามรเู้ พอ่ื การจดั กระบวนการเรยี นรทู้ ่ีมปี ระสิทธิภาพ.
ทิศนา แขมมณี. (2548). ศาสตร์การสอน : องค์ความรูเ้ พอ่ื การจดั กระบวนการเรียนรทู้ ม่ี ี
ทีย่ ั่งยนื . บรรยายพเิ ศษ ใน การประชุมทางวชิ าการของ ครุ สุ ภา ประจำปี2559 (28 สิงหาคม 2559 ).
ธรี ณฐั มะลิกัน 22 พฤศจกิ ายน 2553 ครูในยคุ โลกภิวตั นส์ ืบคน้ เมอื 19 ก.ย. 2565
ธรี ะ รญุ เจริญ 2544) “สภาพและปญหาการบรหิ ารและการจดั การศึกษาขัน้ พนื้ ฐานของ
ธีระเกยี รติ เจรญิ เศรษฐศลิ ป์. (2565 ). การศึกษาไทย 4.0 ในบริบทการจดั การศึกษาเพอื่ การพฒั นา
นรรชั ต์ ฝนเชียร 22 เมษายน 2562 ครใู นยคุ 4.0 ค้นหาเมอื่ 10 ก.ย. 2565
นอ้ ย อาจาริยางกรู 2554 การศึกษาในสมยั ธนบรุ แี ละรตั นโกสินทรต์ อนตน้ ( พ.ศ. 2311 พ.ศ. 2411 )
เฉลิมลาภ ทองอาจ เขยี นเมอื 31 สิงหาคม 2013 พระราชบญั ญัตริ ะเบียบขา้ ราชการครู
นวิ ัตต์ นอ้ ยมณี ,กัญภร เอยี่ มพญา. (2560). จิตวิญญาณครู. พิมพ์คร้ังที่ 2. นนทบรุ ี: 21 เซนจรู .่ี
บมจ. ธรรมนติ ิ. (25 สงิ หาคม 2563). สบื ค้นเมือ่ วนั ท่ี 5 กันยายน 2565 จาก
https://www.blockdit.com/posts/5f44b0baa6b4b90ca7f08ef9
บุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 การพัฒนาบรหิ ารจัดการสบื ค้นเมอื 10 ก.ย. 2565
บญุ ชู อังสวสั ด์ิ. (2553). รายงานการพฒั นาการสอนแบบมอนเทสซอรใิ นบรบิ ทประจวบครี ีขันธ์.
ประจวบครี ีขันธ์ : สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1.
ประไพ เอกอุน่ . 2542 : 75 ความรอบรู้ และทนั สมัย ของการศึกษาไทย

186

ประวิตร เอราวรรณ , Prof. Vicharn Panich และKristina Heikkila 10 กันยายน 2565)
ประสิทธิภาพ. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัทด่านสุทธาการพมิ พ์ จำกดั . พิมพค์ ร้ังท่ี 4.

พร บุนนาค การศกึ ษาสมัยการปกครองระบอบรฐั ธรรมนญู ( พ.ศ. 2475 ปัจจบุ นั )
พระราชบัญญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 การพฒั นาของ
พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546. (2546, มิถุนายน 11). ราชกิจจานุเบกษา,

120(52ก), 1-30
จรี ะพนั ธุ์ พลู พฒั น.์ (2540). การสอนแบบมอนเทสซอริจากทฤษฎีสแู่ บบการนำไปปฏบิ ตั ิ. กรงุ เทพฯ :

ภาควชิ าการแนะแนวและจติ วทิ ยาการศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ ประสาน
มติ ร.มาสเตอร์ ทวีป แย้มจะบก, ผศ.ดร.สมหมาย จนั ทรเ์ รอื ง https://www.teachthought.com/the-
future-of-learning/10-roles-for-artificial-intelligence-in-education/
รองศาตราจารย์ ดร.ประวติ ร เอราวรรณ์. (ม.ป.ป.). สิงคโปรผ์ ลิตและพัฒนาครอู ยา่ งไร.
รองศาสตราจารยธ์ โสธร ตู้ทองคำ. (2565 ). รองศาสตราจารยส์ าขาวชิ ารัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช
ราชกจิ จานเุ บกษา. (22 กรกฎาคม 2557). เลม่ 131 ตอนท่ี 55 ก รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย
รายงานการวจิ ัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาิ พ.ศ. 2553 แนวโนม้
รุง่ แก้วแดง, ปฏวิ ตั ิการศกึ ษาไทย, (กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พม์ ตชิ น, 2540),
โรงพมิ พค์ ุรสุ ภาลาดพรา้ ว.
ลำดับศักดิข์ องกฎหมาย. (26 สงิ หาคม 2565). ในวิกพิ เิ ดยี . สืบค้นเมือ่ วันที่ 5 กนั ยายน 2565 จาก
https://shorturl.asia/jpbah
และแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ : พรกิ หวานกราฟฟคิ .
และงบประมาณโดยสงั เขป ประจาํ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2551 สบื คน้ 6 พฤศจิกายน 2557 จาก
http://www.bb.go.th/?page_id=6039.
วชญิ ์ รตั นสทุ ธิกลุ .สริ ินทรา ขวญั สงา่ . (2557) กฎหมายดา้ นการศกึ ษาและที่เกย่ี วขอ้ ง. สำนักงานเลขาธิการสภา
ผูแ้ ทนราษฎร. สบื ค้นเมอื่ วนั ที่ 5 กนั ยายน 2565 จาก https://www.parliament.go.th/
วัฒนาพานิช. สมเดช สแี สง. (2548). ค่มู อื บรหิ ารโรงเรยี น สถานศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน
วารนิ ทร์ รัศมพี รหม. (2542). การออกแบบและพฒั นาระบบการสอน. กรุงเทพฯ : ภาควชิ าเทคโนโลยีทาง
เศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาตฉิ บบั ทสี่ บิ เอด็ พ.ศ.2555-2559. กรงเทพฯ : ม.ป.ท. .
สถานศึกษาใน สบื ค้นเมอื 9 ก.ค. 2564 จาก https ://www.shopback.co.th
สถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.).
สรุปมาตรฐานวิชาชพี ครู ฉบับแก้ไข ราชกจิ จานุเบกษา 2562. สืบคน้ จาก ครูอาชีพดอทคอม (kruachieve.com) เมอ่ื

วันที่ 25 กนั ยายน 2562.

187

สาํ นักงบประมาณ สาํ นักนายกรฐั มนตรี (2557). งบประมาณโดยสังเขป ประจาํ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2551
สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาแหง่ ชาติ. (2545). พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาตพิ .ศ. 2542
สํานักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ (ม.ป.ป.). สรปุ สาระสำคญั แผนพัฒนา
สาํ นกั งานปลดั กระทรวงกลาโหม. (2557).กรอบความเหน็ รว่ มปฏิรูปประเทศไทยดา้ นการศึกษา.
สาํ นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา. (2551). กรอบทศิ ทางการพัฒนาการศึกษาในช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ
สำนักคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2542). พระราชบญั ญัติการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542.

สำนกั งาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร.
สำนกั งานคณะกรรมการข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา. (2551). พระราชบญั ญัตริ ะเบยี บ

สืบค้น5 กนั ยายน 2565 จาก http://www.edreform.moe.go.th
สบื ค้นจาก https://sites.google.com/site/anansak2554/thvsdi-kar-reiyn-ru-khx-ngkaye
วกิ ิพเี ดยี . (2555). ทฤษฎีการเรียนรู้ [ออนไลน]์ . สบื คน้ จาก http://th.wikipedia.org/wiki/ทฤษฎีการเรยี นรู้
สบื ค้นเมอื 11 ก.ย. 2565 จาก http ://www.kriengsak.com
สนุ ีย์ ภูพ่ นั ธ์.2546 แนวคดิ พื้นฐานการสรา้ งและพฒั นาหลกั สตู ร.
สุริยา ฆอ้ งเสนาะ. (5 กมุ ภาพนั ธ์ 2563). ฟินแลนด์กบั ความสำเรจ็ ดา้ นการศึกษา.
หมวดภาษา และหมวดคณติ ศาสตร์. ประจวบครี ขี นั ธ์ :โรงเรยี นบา้ นดอนใจด.ี
แหลง่ ทม่ี า http://drdancando.com. สบื ค้นเมื่อ 7 ต.ค. 2564
อนนั ตศ์ ักด์ิ สร้างคำ. (2554). ทฤษฏีการเรยี นรขู้ องกาเย่ [ออนไลน]์ .
อภิณหพ์ ร สถิตย์ภาคีกลุ ,อารี สารปี า. (2556). รายงานการวจิ ัยการวจิ ัยและพฒั นาหลักสตู รการผลิตครใู น
ศตวรรษที่ 21 : กรณศี ึกษาคณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช.
อมั พร มนต์ประสิทธ์ิ 9 มนี าคม 2556 ครใู นยุคศตวรรษที่ 21 ค้นหาเมอ่ื 11 ก.ค. 2565

188

ภาคผนวก

189

ภาคผนวก ก
รายชอ่ื คณะผู้จดั ทำรายงาน

นายจณิ ณธรรม ไพรเขยี ว รหสั 64B44640603
นางสาวณัฐวดี น่มิ พศิ าล รหสั 64B44640609
นางสาวสุพรรณษา พรหมศาสตร์ รหสั 64B44640622
นางสาวปานวาด แก้วเนตร รหสั 64B44640613
นางสาวพมิ พล์ ลนิ พิมพาณชิ กลุ รหสั 64B44640614
นางสาววันทนา วงษาชัย รหสั 64B44640620
นางสาวนงคล์ กั ษณ์ เเถลงทรพั ย์ รหสั 64B44640627
นางจุฑารตั น์ ไพรสทิ ธิ์ รหสั 64B44640604
นางสาวประภาพร ไขท่ อง รหสั 64B44640612
นายลำแพน อุทยั รหสั 64B44640618
นางสาวอนตุ รา กล่นิ ขจร รหสั 64B44640630
นายกันตงั กลนิ่ ซอ้ น รหสั 64B44640601
นายชญานิน ยูไนดี รหสั 64B44640605
นางสาวศริ ิรัตน์ พรหมแกว้ รหสั 64B44640621
นางสาวสพุ ัตรา พมึ ขนุ ทด รหสั 64B44640623
นายเชดิ ศกั ดิ์ มลู ที รหสั 64B44640607
นางสาวดาลกิ า ชูน้อย รหสั 64B44640610
นางสาวนิรมล กลุ ฑล รหสั 64B44640611
นางสาววรรณสิ า ศรใี หม่ รหสั 64B44640619

190

ภาคผนวก ข
รายช่ือคณะผู้จัดทำรปู เล่มรายงาน

นางจฑุ ารตั น์ ไพรสทิ ธ์ิ รหสั 64B44640604
นางสาวประภาพร ไข่ทอง รหสั 64B44640612
นายลำแพน อทุ ยั รหสั 64B44640618
นางสาวอนตุ รา กล่ินขจร รหสั 64B44640630

191


Click to View FlipBook Version