The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้เทอม 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 132 ศรัณย์พร พลดี, 2024-02-06 01:52:40

แผนการจัดการเรียนรู้เทอม 2

แผนการจัดการเรียนรู้เทอม 2

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๐ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สาระการเรียนรู้ที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ การบริหารจิตและการเจริญปัญญา เวลา ๔ ชั่วโมง เรื่อง การบริหารจิต เวลา ๑ ชั่วโมง วันที่ เดือน พ.ศ. ๒๕๖๖ นางสาวศรัณย์พร พลดี ผู้สอน ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ สุข ตัวชี้วัด ส ๑.๑ ม.๑/๗ สวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจิต และเจริญปัญญาด้วยอานาปานสติ หรือตาม แนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามที่กำหนด ๒. สาระสำคัญ การฝึกจิตให้มีสมาธิในชีวิตประจำวัน ย่อมทำให้จิตมีความพร้อมต่อการทำกิจวัตรต่างๆ อย่างมี ประสิทธิภาพ ซึ่งการสวดมนต์แผ่เมตตานั้นเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการทำสมาธิ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนศึกษาบทเรียนเรื่อง การบริหารจิต นักเรียนสามารถ ๑. อธิบายความหมายของการทำสมาธิได้อย่างถูกต้อง (K) ๒. สวดมนต์แปล แผ่เมตตา และทำสมาธิตามหลักอานาปานสติได้(P) ๓. เห็นความสำคัญของการทำสมาธิ (A) ๔. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge) เรื่อง การบริหารจิต ๕.๒ ด้านทักษะ (Process) เรื่อง การฝึกทำสมาธิ ๕.๓ ด้านเจตคติ (Attitude) เรื่อง การมีส่วนร่วมในชั้นเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๓.๑ มีความสามัคคี นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและสามารถปรับตัวทำงานกับ ผู้อื่นได้ ๕.๓.๒ มีวินัย นักเรียนมีความตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ๕.๓.๓ ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนมีความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน ๕.๓.๔ มุ่งมั่นในการทำงาน นักเรียนเอาใจใส่และรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ๕.๓.๕ รักความเป็นไทย นักเรียนเห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบทอด เผยแพร่วัฒนธรรมไทย และใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม ๖. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ ๒๑ (๓R ๘C ๒L) R๑-Reading (อ่านออก) R๒-(W)Riting (เขียนได้) R๓-(A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C-๑ Critical thinking and problem solving คือ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมี วิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ C-๒ Creativity and innovation คือ การคิดอย่างสร้างสรรค์และคิดเชิงนวัตกรรม C-๓ Cross-cultural understanding คือ ความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรมและ กระบวนการคิดข้ามวัฒนธรรม C-๔ Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะ ความเป็นผู้นำ C-๕ Communication information and media literacy คือ มีทักษะในการสื่อสารและการรู้เท่า ทันสื่อ C-๖ Computing and IT literacy คือ มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และรู้เท่าทันเทคโนโลยี C-๗ Career and learning skills คือ มีทักษะอาชีพและการเรียนรู้ C-๘ Compassion คือ มีความเมตตากรุณา มีคุณธรรม และมีระเบียบวินัย L-๑ Learning (ทักษะการเรียนรู้) L-๒ Leadership (ทักษะความเป็นผู้นำ)


๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและทำสมาธิก่อนเรียน ขั้นที่ ๑ สังเกต รับรู้ ๑. ครูเลือกสถานที่ที่เหมาะสมในการฝึกให้นักเรียนทำสมาธิ เช่น ห้องจริยธรรม หรือห้องพุทธ ศาสน์ หรือห้องที่มีบรรยากาศเหมาะสมไกลจากเสียงรบกวน ๒. ตัวแทนนักเรียนกล่าวนำสวดมนต์แปล และแผ่เมตตา (กล่าวคำนมัสการพระรัตนตรัย คำ นอบน้อมพระพุทธเจ้า บทสรรเสริญพระพุทธคุณ บทสรรเสริญพระธรรมคุณ บทสรรเสริญพระสังฆคุณ และแผ่เมตตา ตามลำดับ โดยศึกษาได้จากหนังสือเรียน หรือจากเอกสารประกอบการสอน) และทำ สมาธิตามขั้นตอน โดยครูเป็นผู้อธิบายประกอบ แต่ละขั้นตอน เพื่อให้นักเรียนสามารถปฏิบัติได้อย่าง ถูกต้อง ขั้นที่ ๒ ทำตามแบบ ๓. เมื่อนักเรียนสวดมนต์แปล และแผ่เมตตาแล้ว ครูให้นักเรียนนั่งสมาธิ คือ นั่งขัดสมาธิ เอา มือขวาทับมือซ้าย เท้าขวาทับเท้าซ้าย นั่งสบายๆ ตั้งกายให้ตรง ไม่เกร็ง และต้องคอยระวังไม่ให้หลังงอ เพราะจะทำให้เสียบุคลิก โดยครูปฏิบัติให้นักเรียนดูเป็นแบบอย่าง แล้วให้นักเรียนปฏิบัติตาม ๔. นักเรียนหลับตาพอสบาย ตั้งศูนย์กลางสมาธิไว้ที่ลมหายใจ ให้สังเกตว่าลมกระทบตรงไหน ชัดเจนก็ให้กำหนดจุดนั้นเพียงจุดเดียว เช่น บริเวณช่องจมูก โพรงจมูก หรือริมฝีปากบน เป็นต้น ๕. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า เมื่อลมหายใจเข้า ก็ให้กำหนดว่า “เข้า” เมื่อลมหายใจออกก็ ให้จิตกำหนดว่า “ออก” นักเรียนอาจภาวนาในใจเวลาหายใจเข้าว่า “พุท” และเวลาหายใจออกว่า “โธ” เป็น พุทโธ เรื่อยไปจนจิตสงบก็ได้ หรือนักเรียนอาจใช้วิธีนับเลขก็ได้ โดยเวลาหายใจเข้าและออก จนสุดแล้วเริ่มนับหนึ่งใหม่ ทั้งนี้ควรนับเฉพาะตอนหายใจออกก็พอ ตอนหายใจเข้าไม่ต้องนับ ระหว่างนับหนึ่งถึงสิบ ต้องคอยระวังอย่าให้เผลอ ถ้าเผลอก็ให้ตั้งต้นนับใหม่ทำเรื่อยไปจนกว่าจะมีสติ สมาธิแน่วแน่ ๖. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ขั้นที่ ๓ ทำเองโดยไม่มีแบบ ๗. ครูให้นักเรียนทำสมาธิประมาณ ๑๐-๑๕ นาที หรือตามความเหมาะสม ๘. เมื่อนักเรียนออกจากสมาธิแล้ว ครูตรวจสอบการทำสมาธิของนักเรียนและปัญหาต่างๆ ที่ เกิดขึ้นระหว่างการทำสมาธิ โดยให้นักเรียนแต่ละคนเล่าความรู้สึก และปัญหาอุปสรรคต่างๆ ระหว่าง การทำสมาธิ ๙. ครูแนะนำนักเรียนแต่ละราย จนนักเรียนมีความเข้าใจ เพื่อนำไปปรับปรุงการทำสมาธิใน การปฏิบัติครั้งต่อไป


๑๐.ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า การปฏิบัติสมาธิในระยะแรกๆ จิตอาจจะฟุ้งซ่าน สงบอยู่กับ ลมหายใจได้ยากหรือไม่นานจึงต้องอาศัยความพยายามหมั่นฝึกบ่อยๆ จนเป็นกิจวัตร จึงจะเกิดผล จากการปฏิบัติ จิตสงบเยือกเย็นขึ้น จะคิด หรือเลิกคิดเรื่องใดๆ ได้ฉับไวขึ้น ความจำดีขึ้น จิตแจ่มใส เบิกบาน ๑๑.นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ขั้นที่ ๔ ฝึกทำให้ชำนาญ ๑๒. ครูให้นักเรียนทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอในเวลาว่าง หรือก่อนนอน หรือตอนตื่นนอนในเวลา เช้าตามความเหมาะสม แล้วรายงานผลการปฏิบัติงานต่อครูในชั่วโมงเรียนต่อไป ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ สื่อการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒. โปรแกรมสื่อ Power Point เรื่อง การบริหารจิต ๘.๒ แหล่งการเรียนรู้ ๑. ห้องสมุด ๒. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - ห้องเมตตา ๑ เมตตา ๙. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (Knowledge) ๑. อธิบายความหมายของการ ทำสมาธิได้อย่างถูกต้อง (K) - การตอบคำถาม - แบบสังเกตการตอบ คำถาม - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินร้อยละ ๗๐ ขึ้น ไป ด้านทักษะ (Process) ๒. สวดมนต์แปล แผ่เมตตา และทำสมาธิตามหลักอานา ปานสติได้ (P) - สังเกตพฤติกรรม - แ บ บ ส ั ง เ ก ต พฤติกรรม - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป ด้านเจตคติ (Attitude) ๓. เห็นความสำคัญของการ ทำสมาธิ (A) - การตอบคำถาม - แบบสังเกตการตอบ คำถาม - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป


๑๐. บันทึกผลหลังสอน


แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน เรื่อง สวดมนต์แปล แผ่เมตตา และทำสมาธิตามหลักอานาปานสติ คำชี้แจง : ให้ครูผู้สอนประเมิน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับ ที่ ชื่อ-สกุล สวดมนต์แปล แผ่เมตตา และทำสมาธิตามหลักอานา ปานสติได้ หมายเหตุ ๑ ๒ ๓ 45. 46. 47. 48. 49. 50. 51. 52. 53. 54. 55. 56. 57. 58. 59. 60. 61. 62. 63. 64. 65. 66.


ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การปะเมิน ๓ ๒ ๑ ๑.สวดมนต์แปล แผ่เมตตา และ ทำสมาธิตามหลักอานาปานสติ ได้(P) สวดมนต์แปล แผ่ เมตตา และทำสมาธิ ตามหลักอานาปาน สติได้ ถูกต้อง ครบถ้วนและชัดเจน สวดมนต์แปล แผ่ เมตตา และทำ สมาธิตามหลักอา นาปานสติได้ ถูกต้อง และ ครบถ้วน สวดมนต์แปล แผ่ เมตตา และทำ สมาธิตามหลักอา นาปานสติได้ ลงชื่อ................................................ (นางสาวศรัณย์พร พลดี) ครูผู้สอน


แบบสังเกตการตอบคำถาม คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตการตอบคำถามของนักเรียนในระหว่างการตอบคำถาม แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับ ที่ พฤติกรรม / ระดับคะแนน สนใจและ ตั้งใจฟัง คำถาม ตอบคำถาม ได้ตรง ประเด็น ความมั่นใจ ในการตอบ คำถาม รวม คะ แนน การ ประ เมิน ผล หมายเหตุ ชื่อ-สกุล ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ผ่าน ไม่ ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ลงชื่อ................................................ (นางสาวศรัณย์พร พลดี ครูผู้สอน เกณฑ์การให้คะแนน ระดับ ๓ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก ระดับ ๒ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง ระดับ ๑ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๘ - ๙ ดี ๖ - ๗ ปานกลาง ๔-๕ พอใช้ ต่ำกว่า ไม่ผ่านเกณฑ์


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนในระหว่างเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ................................................ผู้สอน (นางสาวศรัณย์พร พลดี) เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การให้คะแนน ๗ – ๙ คะแนน ระดับดี ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้งให้ ๓ คะแนน ๔ – ๖ คะแนน ระดับพอใช้ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งให้ ๒ คะแนน ต่ำกว่า ๔ คะแนน ระดับปรับปรุง ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้งให้ ๑ คะแนน ลำ ดับ ที่ ชื่อ – สกุล ของผู้รับการ ประเมิน พฤติกรรมและการปฏิบัติ คะแน นรวม (๑๕ คะแน น) เกณฑ์ การ ตัดสิน คุณภาพ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รักความ เป็นไทย มีความ สามัคคี ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๑ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สาระการเรียนรู้ที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ การบริหารจิตและการเจริญปัญญา เวลา ๔ ชั่วโมง เรื่อง การพัฒนาการบริหารจิตตามหลักอาปานสติ เวลา ๑ ชั่วโมง วันที่ เดือน พ.ศ. ๒๕๖๖ นางสาวศรัณย์พร พลดี ผู้สอน ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ สุข ตัวชี้วัด ส ๑.๑ ม.๑/๗ สวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจิต และเจริญปัญญาด้วยอานาปานสติ หรือตาม แนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามที่กำหนด ๒. สาระสำคัญ การสวดมนต์แผ่เมตตาเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการทำสมาธิ ซึ่งการฝึกจิตให้มีสมาธิ และหมั่น พัฒนา การบริหารจิตอย่างสม่ำเสมอนั้น ย่อมทำให้จิตมีความพร้อมต่อการทำกิจวัตรต่างๆ อย่างมี ประสิทธิภาพ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนศึกษาบทเรียนเรื่อง การพัฒนาการบริหารจิตตามหลักอานาปานสตินักเรียนสามารถ ๑. อธิบายการพัฒนาการบริหารจิตตามหลักอานาปานสติ ได้อย่างถูกต้อง (K) ๒. ทำสมาธิเบื้องต้นตามหลักอานาปานสติได้(P) ๓. เห็นความสำคัญของการทำสมาธิ(A) ๔. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge) เรื่อง การบริหารจิต ๕.๒ ด้านทักษะ (Process) เรื่อง การฝึกทำสมาธิ ๕.๓ ด้านเจตคติ (Attitude) เรื่อง การมีส่วนร่วมในชั้นเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๓.๑ มีความสามัคคี นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและสามารถปรับตัวทำงานกับ ผู้อื่นได้ ๕.๓.๒ มีวินัย นักเรียนมีความตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ๕.๓.๓ ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนมีความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน ๕.๓.๔ มุ่งมั่นในการทำงาน นักเรียนเอาใจใส่และรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ๕.๓.๕ รักความเป็นไทย นักเรียนเห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบทอด เผยแพร่วัฒนธรรมไทย และใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม ๖. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ ๒๑ (๓R ๘C ๒L) R๑-Reading (อ่านออก) R๒-(W)Riting (เขียนได้) R๓-(A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C-๑ Critical thinking and problem solving คือ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมี วิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ C-๒ Creativity and innovation คือ การคิดอย่างสร้างสรรค์และคิดเชิงนวัตกรรม C-๓ Cross-cultural understanding คือ ความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรมและ กระบวนการคิดข้ามวัฒนธรรม C-๔ Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะ ความเป็นผู้นำ C-๕ Communication information and media literacy คือ มีทักษะในการสื่อสารและการรู้เท่า ทันสื่อ C-๖ Computing and IT literacy คือ มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และรู้เท่าทันเทคโนโลยี C-๗ Career and learning skills คือ มีทักษะอาชีพและการเรียนรู้ C-๘ Compassion คือ มีความเมตตากรุณา มีคุณธรรม และมีระเบียบวินัย L-๑ Learning (ทักษะการเรียนรู้) L-๒ Leadership (ทักษะความเป็นผู้นำ)


๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและทำสมาธิก่อนเรียน ขั้นที่ ๑ สังเกต รับรู้ ๑. ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับวิธีการทำสมาธิตามหลักอานา-ปานสติ และให้นักเรียนแต่ ละคนผลัดกันเล่าว่าได้ทำสมาธิ ในเวลาใดบ้าง และผลเป็นอย่างไร ๒. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ๓. ครูให้นักเรียนดูวีซีดีแสดงขั้นตอนการทำสมาธิของบุคคล กลุ่มต่างๆ หรือให้นักเรียนศึกษา ความรู้เพิ่มเติมจากเอกสารประกอบการสอน แล้วอธิบายให้นักเรียนเข้าใจรูปแบบหรือขั้นตอนการทำ สมาธิของแต่ละกลุ่มบุคคลที่มีความแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับวัยของนักเรียนนั้นใช้วิธีการทำสมาธิ แบบอานาปานสติที่ใช้กำหนดลมหายใจเข้า “พุท” หายใจออกว่า “โธ” หรือใช้วิธีการนับเลขก็ได้ ขั้นที่ ๒ ทำตามแบบ ๔. ครูให้นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย แผ่เมตตา และทำสมาธิตามขั้นตอนที่ได้ดูจากวีซีดี หรือจากภาพที่ครูนำมาให้ดูใน ขั้นที่ ๑ โดยใช้เวลาประมาณ ๑๐-๑๕ นาที ขั้นที่ ๓ ทำเองโดยไม่มีแบบ ๕. ครูให้นักเรียนทำสมาธิตามลำพังเป็นเวลา ๑๐-๑๕ นาที ๖. ครูให้นักเรียนแต่ละคนเล่าผลของการปฏิบัติว่าเป็นอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับชั่วโมงก่อน ในกรณีที่นักเรียนยังมีปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ ครูก็แนะนำนักเรียนเป็นรายบุคคล ๗. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ของการทำสมาธิ โดยครูคอยเสนอแนะ เพิ่มเติม ขั้นที่ ๔ ฝึกทำให้ชำนาญ ๙. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๙.๑ สื่อการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒. โปรแกรมสื่อ Power Point เรื่อง การบริหารจิต ๙.๒ แหล่งการเรียนรู้ ๑. ห้องสมุด ๒. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - ห้องเมตตา ๑ เมตตา ๒


๙. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (Knowledge) ๑. อธิบายการพัฒนาการ บริหารจิตตามหลักอานาปาน สติ ได้อย่างถูกต้อง (K) - การตอบคำถาม - แบบสังเกตการตอบ คำถาม - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินร้อยละ ๗๐ ขึ้น ไป ด้านทักษะ (Process) ๒. ทำสมาธิเบื้องต้นตามหลัก อานาปานสติได้ (P) - สังเกตพฤติกรรม - แ บ บ ส ั ง เ ก ต พฤติกรรม - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป ด้านเจตคติ (Attitude) ๓. เห็นความสำคัญของการ ทำสมาธิ (A) - การตอบคำถาม - แบบสังเกตการตอบ คำถาม - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป


๑๐ม. บันทึกผลหลังสอน


เอกสารประกอบการสอน การนั่งสมาธิจะนั่งท่าขัดสมาธิ เอามือขวาทับซ้าย เท้าขวาทับซ้าย ไม่งอหลัง หลับตา และตั้งสมาธิ โดยกำหนดลมหายใจเข้า-ออก


แบบบันทึกการปฏิบัติตนในการบริหารจิต ระหว่างวันที่ เดือน พ.ศ. ถึงวันที่ เดือน พ.ศ......................................... ชื่อ....................................................................................................................................ชั้น........... เลขที่........... วัน/เดือน/ปี รายการปฏิบัติ ผลที่ได้รับ ลายมือชื่อผู้สังเกต พฤติกรรม ๑ ม.ค.. ๖๖ ตัวอย่าง ทำสมาธิก่อน ๑๕ นาที มีความกังวลบ้าง แต่จิตใจสงบขึ้น ๒ ม.ค.. ๖๖ ทำสมาธิตอนพักกลางวัน จิตใจสบาย


แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน เรื่อง สวดมนต์แปล แผ่เมตตา และทำสมาธิตามหลักอานาปานสติ คำชี้แจง : ให้ครูผู้สอนประเมิน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับ ที่ ชื่อ-สกุล ทำสมาธิเบื้องต้นตาม หลักอานาปานสติได้ หมายเหตุ ๑ ๒ ๓ 67. 68. 69. 70. 71. 72. 73. 74. 75. 76. 77. 78. 79. 80. 81. 82. 83. 84. 85. 86. 87. 88.


ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การปะเมิน ๓ ๒ ๑ ๑. ทำสมาธิเบื้องต้นตาม หลักอานาปานสติได้(P) ทำสมาธิเบื้องต้นตาม หลักอานาปานสติได้ ถูกต้อง ครบถ้วนและ ชัดเจน ทำสมาธิเบื้องต้นตาม หลักอานาปานสติได้ ถูกต้อง และครบถ้วน ทำสมาธิเบื้องต้นตาม หลักอานาปานสติได้ ลงชื่อ................................................ (นางสาวศรัณย์พร พลดี ครูผู้สอน


แบบสังเกตการตอบคำถาม คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตการตอบคำถามของนักเรียนในระหว่างการตอบคำถาม แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับ ที่ พฤติกรรม / ระดับคะแนน สนใจและ ตั้งใจฟัง คำถาม ตอบคำถาม ได้ตรง ประเด็น ความมั่นใจ ในการตอบ คำถาม รวม คะ แนน การ ประ เมิน ผล หมายเหตุ ชื่อ-สกุล ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ผ่าน ไม่ ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ลงชื่อ................................................ (นางสาวศรัณย์พร พลดี ครูผู้สอน เกณฑ์การให้คะแนน ระดับ ๓ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก ระดับ ๒ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง ระดับ ๑ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๘ - ๙ ดี ๖ - ๗ ปานกลาง ๔-๕ พอใช้ ต่ำกว่า ไม่ผ่านเกณฑ์


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนในระหว่างเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ................................................ผู้สอน (นางสาวศรัณย์พร พลดี) เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การให้คะแนน ๗ – ๙ คะแนน ระดับดี ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้งให้ ๓ คะแนน ๔ – ๖ คะแนน ระดับพอใช้ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งให้ ๒ คะแนน ต่ำกว่า ๔ คะแนน ระดับปรับปรุง ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้งให้ ๑ คะแนน ลำ ดับ ที่ ชื่อ – สกุล ของผู้รับการ ประเมิน พฤติกรรมและการปฏิบัติ คะแน นรวม (๑๕ คะแน น) เกณฑ์ การ ตัดสิน คุณภาพ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รักความ เป็นไทย มีความ สามัคคี ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๒ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สาระการเรียนรู้ที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ การบริหารจิตและการเจริญปัญญา เวลา ๔ ชั่วโมง เรื่อง การเจริญปัญญา เวลา ๒ ชั่วโมง วันที่ เดือน พ.ศ. ๒๕๖๖ นางสาวศรัณย์พร พลดี ผู้สอน ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ สุข ตัวชี้วัด ส ๑.๑ ม.๑/๖ เห็นคุณค่าของการพัฒนาจิตเพื่อการเรียนรู้และการดำเนินชีวิตด้วยวิธีคิด แบบโยนิโสมนสิการ คือ วิธีคิดแบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม และวิธีคิดแบบคุณ-โทษ และ ทางออก หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือ ๒. สาระสำคัญ การใช้วิธีคิดแบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม วิธีคิดแบบคุณ-โทษ และทางออก ในการดำเนินชีวิตนั้น ย่อม ส่ง ผลดีต่อการตัดสินใจกระทำการต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธิบายความหมายของวิธีคิดแบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม และวิธีคิดแบบคุณ-โทษ และทางออกได้ (K) ๒. วิเคราะห์ผลการคิดแบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม และวิธีคิดแบบคุณ-โทษ และทางออกได้(P) ๓. เห็นคุณค่าของวิธีคิดวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตได้ (A) ๔. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge) เรื่อง วืธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ ๕.๒ ด้านทักษะ (Process) เรื่อง การฝึกวิเคราะห์ผลการคิด ๕.๓ ด้านเจตคติ (Attitude) เรื่อง การมีส่วนร่วมในชั้นเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๓.๑ มีความสามัคคี นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและสามารถปรับตัวทำงานกับ ผู้อื่นได้ ๕.๓.๒ มีวินัย นักเรียนมีความตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ๕.๓.๓ ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนมีความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน ๕.๓.๔ มุ่งมั่นในการทำงาน นักเรียนเอาใจใส่และรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ๕.๓.๕ รักความเป็นไทย นักเรียนเห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบทอด เผยแพร่วัฒนธรรมไทย และใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม ๖. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ ๒๑ (๓R ๘C ๒L) R๑-Reading (อ่านออก) R๒-(W)Riting (เขียนได้) R๓-(A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C-๑ Critical thinking and problem solving คือ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมี วิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ C-๒ Creativity and innovation คือ การคิดอย่างสร้างสรรค์และคิดเชิงนวัตกรรม C-๓ Cross-cultural understanding คือ ความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรมและ กระบวนการคิดข้ามวัฒนธรรม C-๔ Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะ ความเป็นผู้นำ C-๕ Communication information and media literacy คือ มีทักษะในการสื่อสารและการรู้เท่า ทันสื่อ C-๖ Computing and IT literacy คือ มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และรู้เท่าทันเทคโนโลยี C-๗ Career and learning skills คือ มีทักษะอาชีพและการเรียนรู้ C-๘ Compassion คือ มีความเมตตากรุณา มีคุณธรรม และมีระเบียบวินัย L-๑ Learning (ทักษะการเรียนรู้) L-๒ Leadership (ทักษะความเป็นผู้นำ) ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธีสอนแบบธรรมสากัจฉา นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและทำสมาธิก่อนเรียน


ขั้นที่ ๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูนำตัวอย่างข่าวบุคคลที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ มาเล่าให้นักเรียนฟัง แล้วครูชี้แนะให้ นักเรียนเข้าใจว่า บุคคลดังกล่าวประสบความสำเร็จได้เนื่องจากพัฒนาปัญญา ซึ่งสามารถ ทำได้ ๓ ทาง คือ ๑) สุตมยปัญญา : ปัญญาเกิดจากการฟัง ๒) จินตามยปัญญา : ปัญญาเกิดจากการคิด ๓) ภาวนามยปัญญา : ปัญญาเกิดจากการลงมือทำ ขั้นที่ ๒ ขั้นสอน ๒. แสวงหาความรู้ นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕-๗ คน ตามความสมัครใจแล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้จากใบ ความรู้ เรื่องวิธีคิดตามแนวพุทธธรรม : วิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการและจากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้า เพิ่มเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ จากนั้นบันทึกความรู้ที่ได้จากการ ศึกษาลงในแบบ บันทึกการอ่าน ๓. ค้นพบความรู้/สนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ สมาชิกแต่ละกลุ่มสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับ การคิดแบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม และการ คิดแบบคุณ-โทษ และทางออก ในประเด็นต่อไปนี้ - ความหมาย - ตัวอย่างวิธีคิด - ประโยชน์และความสำคัญของการนำไปประยุกต์ใช้ ๔. วิเคราะห์และประเมินค่าความรู้ ๑) สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันวิเคราะห์และประเมินค่าความรู้ตามหัวข้อที่กำหนดในใบงาน เรื่อง วิธีคิดตามแนวพุทธธรรม ๒) ครูเฉลยคำตอบในใบงาน ให้แต่ละคนตรวจสอบคำตอบของตนเองตามที่ครูเฉลย ๕. พิสูจน์ความรู้หรือปฏิบัติ ๑) ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนนำความรู้เกี่ยวกับการคิดแบบคุณค่าแท้-คุณค่า เทียม และการคิดแบบคุณ-โทษ และทางออกไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ๒) ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมผลัดกันเล่าประสบการณ์ในชีวิต ของตนเองที่เคยตัดสินกระทำสิ่ง ต่างๆ ที่แสดงถึงความสอดคล้องกับการคิดแบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม และการคิดแบบคุณ-โทษ และ ทางออก พร้อมกับบอกผลดีที่เกิดขึ้นต่อตนเอง ๓) สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันสรุปประสบการณ์ของนักเรียน ในข้อ ๒ แล้วบันทึกลงในใบ งาน เรื่อง รู้จักคิด ๔) ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานหน้าชั้นเรียน ครูตรวจสอบความ ถูกต้อง และให้ข้อเสนอแนะ


ขั้นที่ ๓ ขั้นสรุป ๖. นักเรียนและครูช่วยกันสรุปคุณค่าและประโยชน์ของการรู้จักคิดแบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม และการคิดแบบคุณ-โทษ และทางออก ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ สื่อการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒. โปรแกรมสื่อ Power Point เรื่อง การเจริญปัญญา ๓. ใบงาน เรื่อง วิธีคิดตามแนวพุทธธรรม ๔. ใบงาน เรื่อง รู้จักคิด ๘.๒ แหล่งการเรียนรู้ ๑. ห้องสมุด ๒. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - ห้องเมตตา ๑ เมตตา ๒


๙. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (Knowledge) ๑. อธิบายความหมายของวิธีคิด แบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม และวิธีคิดแบบคุณ-โทษ และ ทางออกได้ (K) - ใบงาน - ใบงาน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินร้อยละ ๗๐ ขึ้น ไป ด้านทักษะ (Process) ๒. วิเคราะห์ผลการคิดแบบ คุณค่าแท้-คุณค่าเทียม และวิธี คิดแบบคุณ-โทษ และทางออก ได้ (P) - ใบงาน - ใบงาน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินร้อยละ ๗๐ ขึ้น ไป ด้านเจตคติ (Attitude) ๓. เห็นคุณค่าของวิธีคิดวิธีคิด แบบโยนิโสมนสิการนำไปใช้ใน การดำเนินชีวิตได้ (A) - การตอบคำถาม - แบบสังเกตการตอบ คำถาม - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป


๑๐. บันทึกผลหลังสอน


ใบงาน เรื่อง วิธีคิดตามแนวพุทธธรรม คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบคำถาม กรณีศึกษา เรื่อง มอบความรัก ในวันวาเลนไทน์ปีนี้ ก้องตั้งใจซื้อของขวัญให้ดาวแฟนสาวของเขา เพื่อแสดงว่าเขายังรักดาวอยู่ เสมอไม่เสื่อมคลาย เขาไปเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง มีของที่เขาสนใจ คือ ตุ๊กตาตัวใหญ่เท่า เด็กอายุ ๒ ขวบ ราคา ๑,๕๐๐ บาท ดอกไม้ช่อใหญ่ สั่งตรงมาจากต่างประเทศ ราคา ๒,๐๐๐ บาท ดอกกุหลาบ ดอกละ ๑๐ บาท แจกันดอกไม้สด ราคา ๕๐๐ บาท แจกันดอกไม้แห้ง ราคา ๕๐๐ บาท กระเป๋าถือผลิตจากต่างประเทศ ราคาใบละ ๕,๐๐๐ บาท ก้องนับเงินในกระเป๋าของเขาซึ่งเก็บออมมา เป็นเวลา ๑ ปี มีเงินอยู่ประมาณ ๓,๐๐๐ บาท เขาคิดและตัดสินใจอยู่นานว่าจะซื้ออะไรดี คำถาม 1.ถ้านักเรียนเป็นก้องจะตัดสินใจซื้ออะไรให้ดาว พร้อมอธิบายเหตุผล ...................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.นักเรียนใช้วิธีคิดอย่างไร อธิบายวิธีคิด .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................


กรณีศึกษาเรื่อง การตัดสินใจ พาฝัน อยากไปอยู่ค่ายพัฒนาหมู่บ้านดงดิบ ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่ในป่าลึก พาฝันคิดว่ามันคงสนุก ตื่นเต้น และได้ช่วยแนะนำชาวบ้าน ให้รู้จักวิธีดูแลสุขภาพ และช่วยสอนหนังสือให้แก่ลูกๆ ของ ชาวบ้านที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์เข้าเรียนในโรงเรียนอีกด้วย แต่พ่อแม่ของพาฝัน ก็พูดท้วงติงพาฝันว่าการ ไปอยู่ค่ายในป่าทึบอาจเป็น ไข้มาลาเรียได้ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของหญิงสาวจะต้องไป พักแรมอยู่ในบ้านของชาวบ้าน ซึ่งเป็น คนแปลกหน้า นอกจากนั้นเรายังไม่รู้ว่าเพื่อนที่จะไปด้วยนั้นมี ผู้หญิงไปด้วยหรือเปล่า คำถาม 1.คุณค่าแท้ของการไปอยู่ค่ายพัฒนาหมู่บ้านดงดิบคืออะไร คุณค่าเทียมคืออะไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๒. ในการไปอยู่ค่ายพัฒนาหมู่บ้านดงดิบ มีคุณ-โทษ ต่อพาฝันอย่างไร และพาฝันควรหาทางออกอย่างไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................


ใบงาน เรื่อง รู้จักคิด คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละคนเล่าประสบการณ์ของนักเรียนในการตัดสินใจโดยใช้วิธีคิดแบบคุณค่าแท้- คุณค่าเทียม และวิธีคิดแบบคุณ-โทษ และทางออก แล้วบันทึกผลลงในตาราง ลำดั บที่ การกระทำ วิธีคิดแบบ คุณค่าแท้- คุณค่าเทียม วิธีคิดแบบคุณโทษ และ ทางออก ผลที่ได้รับ


แบบสังเกตการตอบคำถาม คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตการตอบคำถามของนักเรียนในระหว่างการตอบคำถาม แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับ ที่ พฤติกรรม / ระดับคะแนน สนใจและ ตั้งใจฟัง คำถาม ตอบคำถาม ได้ตรง ประเด็น ความมั่นใจ ในการตอบ คำถาม รวม คะ แนน การ ประ เมิน ผล หมายเหตุ ชื่อ-สกุล ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ผ่าน ไม่ ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ลงชื่อ................................................ (นางสาวศรัณย์พร พลดี) ครูผู้สอน เกณฑ์การให้คะแนน ระดับ ๓ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก ระดับ ๒ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง ระดับ ๑ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๘ - ๙ ดี ๖ - ๗ ปานกลาง ๔-๕ พอใช้ ต่ำกว่า ไม่ผ่านเกณฑ์


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนในระหว่างเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ................................................ (นางสาวศรัณย์พร พลดี) ครูผู้สอน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การให้คะแนน ๗ – ๙ คะแนน ระดับดี ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้งให้ ๓ คะแนน ๔ – ๖ คะแนน ระดับพอใช้ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งให้ ๒ คะแนน ต่ำกว่า ๔ คะแนน ระดับปรับปรุง ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้งให้ ๑ คะแนน ลำ ดับ ที่ ชื่อ – สกุล ของผู้รับการ ประเมิน พฤติกรรมและการปฏิบัติ คะแน นรวม (๑๕ คะแน น) เกณฑ์ การ ตัดสิน คุณภาพ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รักความ เป็นไทย มีความ สามัคคี ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๓ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สาระการเรียนรู้ที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ ศาสนสัมพันธ์ เวลา ๔ ชั่วโมง เรื่อง ธรรมะกับสังคม เวลา ๒ ชั่วโมง วันที่ เดือน พ.ศ. ๒๕๖๖ นางสาวศรัณย์พร พลดี ผู้สอน ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ สุข ตัวชี้วัด ส ๑.๑ ม.๑/๘ วิเคราะห์และปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือในการดำรงชีวิต แบบพอเพียงและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ม.๑/๙ วิเคราะห์เหตุผลและความจำเป็นที่ทุกคนต้องศึกษาเรียนรู้ศาสนาอื่นๆ ม.๑/๑๐ ปฏิบัติตนต่อศาสนิกชนอื่นในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ๒. สาระสำคัญ การเรียนรู้ศาสนาอื่นนั้นทำให้เราได้ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ และสามารถปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ต่อศาสนิกชนอื่น และการศึกษาเกี่ยวกับหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือแล้วนำไปปฏิบัติในการดำรงชีวิตแบบ พอเพียง และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ย่อมทำให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนศึกษาบทเรียนเรื่อง ธรรมะกับสังคม นักเรียนสามารถ 1. อธิบายความจำเป็นที่เราควรเรียนรู้ศาสนาอื่นได้(K) 2. อธิบายวิธีการปฏิบัติตนต่อศาสนิกชนอื่นในสถานการณ์ต่างๆ ได้(K) 3. ปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือในการดำรงชีวิตแบบพอเพียง และการดูแลรักษา สิ่งแวดล้อมได้(P) 4. อภิปรายประโยชน์ที่ได้จากการศึกษาศาสนาอื่นๆ ได้อย่างมีเหตุผล (A)


๔. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge) เรื่อง เรียนรู้ศาสนาต่างๆ ๕.๒ ด้านทักษะ (Process) เรื่อง ปฏิบัติตนต่อศาสนิกชนอื่นในสถานการณ์ต่าง ๆ ๕.๓ ด้านเจตคติ (Attitude) เรื่อง การมีส่วนร่วมในชั้นเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๓.๑ มีความสามัคคี นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและสามารถปรับตัวทำงานกับ ผู้อื่นได้ ๕.๓.๒ มีวินัย นักเรียนมีความตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ๕.๓.๓ ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนมีความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน ๕.๓.๔ มุ่งมั่นในการทำงาน นักเรียนเอาใจใส่และรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ๕.๓.๕ รักความเป็นไทย นักเรียนเห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบทอด เผยแพร่วัฒนธรรมไทย และใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม ๖. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ ๒๑ (๓R ๘C ๒L) R๑-Reading (อ่านออก) R๒-(W)Riting (เขียนได้) R๓-(A)Rithmetics (คิดเลขเป็น) C-๑ Critical thinking and problem solving คือ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมี วิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ C-๒ Creativity and innovation คือ การคิดอย่างสร้างสรรค์และคิดเชิงนวัตกรรม C-๓ Cross-cultural understanding คือ ความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรมและ กระบวนการคิดข้ามวัฒนธรรม C-๔ Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะ ความเป็นผู้นำ C-๕ Communication information and media literacy คือ มีทักษะในการสื่อสารและการรู้เท่า ทันสื่อ C-๖ Computing and IT literacy คือ มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และรู้เท่าทันเทคโนโลยี


C-๗ Career and learning skills คือ มีทักษะอาชีพและการเรียนรู้ C-๘ Compassion คือ มีความเมตตากรุณา มีคุณธรรม และมีระเบียบวินัย L-๑ Learning (ทักษะการเรียนรู้) L-๒ Leadership (ทักษะความเป็นผู้นำ) ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธีสอนแบบ : สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : ๕E) นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและทำสมาธิก่อนเรียน ทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ ๔ ขั้นที่ ๑ กระตุ้นความสนใจ ๑. ครูให้นักเรียนดูภาพกิจกรรมของศาสนาต่างๆ ต่อไปนี้ - ภาพที่ ๑ ภาพผู้นับถือพระพุทธศาสนา นั่งฟังธรรม - ภาพที่ ๒ ภาพผู้นับถือศาสนาคริสต์ ทำพิธีในโบสถ์ - ภาพที่ ๓ ภาพผู้นับถือศาสนาอิสลาม ทำพิธีละหมาด - ภาพที่ ๔ ภาพคนปล่อยปลา - ภาพที่ ๕ ภาพตำรวจจับผู้ร้าย - ภาพที่ ๖ ภาพคนแจกสิ่งของเครื่องใช้ให้แก่ผู้ยากจน - ภาพที่ ๗ ภาพตำรวจจับคนส่งยาเสพติด ๒. ครูให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ - ภาพใดแสดงถึงการปฏิบัติตนของชาวพุทธ (ภาพที่ ๑) - ภาพใดแสดงถึงการปฏิบัติตนของชาวคริสต์ (ภาพที่ ๒) - ภาพใดแสดงถึงการปฏิบัติตนของชาวมุสลิม (ภาพที่ ๓) - ภาพใดแสดงการกระทำที่ทั้งชาวพุทธ ชาวคริสต์ และชาวมุสลิมปฏิบัติได้เช่นกัน พร้อมบอก เหตุผล (ภาพที่ ๔ และภาพที่ ๖ เพราะแสดงถึงความเมตตาเป็นเรื่องการส่งเสริมให้ทำความดี) - ภาพใดแสดงถึงการกระทำที่ทั้งชาวพุทธ ชาวคริสต์ และชาวมุสลิม ไม่ควรปฏิบัติ (ภาพที่ ๕ และภาพที่ ๗ เพราะแสดงถึงการกระทำที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ควรละเว้นตามคำสอนของศาสนา) ๓. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ทำความดี ละเว้นความชั่ว ในประเทศไทยมีประชาชนที่นับถือพระพุทธศาสนาส่วนใหญ่ และก็มีผู้นับถือศาสนาคริสต์และอิสลาม เป็นจำนวนหนึ่ง การอยู่ร่วมกันในสังคมไทยอย่างสงบสุขนั้น ศาสนิกชนทุกคนต้องเรียนรู้ศาสนาที่ตนนับ ถือให้เข้าใจลึกซึ้งและปฏิบัติตนตามหลักคำสอนของศาสนาที่นับถือ ทั้งในแง่หลักคำสอนและพิธีกรรม เพื่อจะได้ปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในความเชื่อและ สิ่งเคารพของศาสนาอื่น ทำให้ไม่เกิดการ กระทบกระทั่งกันขึ้น ๔. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ขั้นที่ ๒ สำรวจค้นหา


5.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้ จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ในหัวข้อที่กำหนดให้ ดังนี้ - ความจำเป็นที่เราควรเรียนรู้ศาสนาอื่น - การปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อศาสนิกชนอื่นในสถานการณ์ต่างๆ - หลักธรรมสำคัญของพระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม - การปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือในการดำรงชีวิตแบบ พอเพียง และการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ๖. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้ในหัวข้อที่กำหนด แล้วบันทึกความรู้ที่ได้รับจากการศึกษา ลงในแบบบันทึกการอ่าน ๗. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ขั้นที่ ๓ อธิบายความรู้ ๘. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาในขั้นที่ ๒ มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู้กัน ในสาระสำคัญจนมีความเข้าใจกระจ่างชัดเจน ในกรณีที่มีปัญหาหรือมีข้อสงสัยให้สอบถามจากครู ขั้นที่ ๔ ขยายความเข้าใจ ๙. สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงาน เรื่อง หลักธรรมของศาสนากับการดำรงชีวิต โดยตอบคำถาม ในตอนที่ ๑ และหาข่าวบุคคลที่มีการกระทำที่แสดงถึงการดำรงชีวิต แบบพอเพียง และการดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมมาวิเคราะห์ ตามหัวข้อที่กำหนด ๑๐. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ขั้นที่ ๔ ตรวจสอบผล ๑๑. ครูซักถามนักเรียนเกี่ยวกับการร่วมมือกันทำใบงาน ของแต่ละกลุ่ม และความพร้อมในการ นำเสนอผลงาน ๑๒. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงาน หน้าชั้นเรียน โดยครูเป็นผู้ตรวจสอบความ ถูกต้อง ๑๓. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความจำเป็นที่เราควรเรียนรู้ศาสนาอื่น การปฏิบัติตนอย่าง เหมาะสม ต่อศาสนิกชนอื่นในสถานการณ์ต่างๆ การปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือในการ ดำรงชีวิตแบบพอเพียง และการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อม ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ สื่อการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒. โปรแกรมสื่อ Power Point เรื่อง ธรรมมะกับสังคม


๓. บัตรภาพ ๔. แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ ๔ ๕. ใบงาน เรื่อง หลักธรรมของศาสนากับการดำรงชีวิต ๘.๒ แหล่งการเรียนรู้ ๑. ห้องสมุด ๒. ห้องเมตตา ๑ เมตตา ๒ ๙. การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (Knowledge) ๑. อธิบายความจำเป็นที่เราควร เรียนรู้ศาสนาอื่นได้ (K) ๒. อธิบายวิธีการปฏิบัติตน ต่อศาสนิกชนอื่นในสถานการณ์ ต่างๆ ได้ (K) - ใบงาน - การตอบคำถาม - ใบงาน - การตอบคำถาม - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินร้อยละ ๗๐ ขึ้น ไป ด้านทักษะ (Process) ๓. ปฏิบัติตนตามหลักธรรมทาง ศาสนาที่ตนนับถือในการ ดำรงชีวิตแบบพอเพียง และการ ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมได้ (P) - สังเกตพฤติกรรม - แ บ บ ส ั ง เ ก ต พฤติกรรม - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป ด้านเจตคติ (Attitude) ๔. อภิปรายประโยชน์ที่ได้จาก การศึกษาศาสนาอื่นๆ ได้อย่าง มีเหตุผล (A) - การตอบคำถาม - แบบสังเกตการตอบ คำถาม - นักเรียนผ่านเกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับดี ขึ้นไป


๑๐. บันทึกผลหลังสอน


เอกสารประกอบการสอน บัตรภาพ ภาพผู้นับถือพระพุทธศาสนา นั ่งฟังธรรม ภาพผ้นูับถือศาสนาคริสต์ทา พิธีในโบสถ์ ภาพผ้นูับถือศาสนาอิสลาม ทา พิธีละหมาด ภาพคนปลอ่ยปลา ที่มา : ภาพที่ ๑ วิทย์ วิศทเวทย์ และเสฐียรพงศ์ วรรณปก. ๒๕๕๒. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม.๑. พิมพ์ครั้งที่ ๑๐. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์. ภาพที่ ๒http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=๙๕๔๐๐๐๐๐๙๐๓๙๐ ภาพที่ ๓ http://www.rd๑๖๗๗.com/branch.php?id=๔๗๓๑๗ ภาพที่ ๔http://www.sarnarak.net/content.php?keyPage=votepost&innerPage=votepost_family๒&myDatalD= ๑๐๐๗๐๓๐๙๑๗๔๖ ๑ ๒ ๓ ๔


ใบงาน เรื่อง หลักธรรมของศาสนากับการดำรงชีวิต ตอนที่ ๑ คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1.การเรียนรู้ศาสนาอื่นก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไร ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ๒. หลักธรรมสำคัญที่เป็นข้อห้ามประพฤติในสิ่งต่างๆ ของพระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ได้แก่อะไรบ้าง ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ๓. หลักธรรมสำคัญของพระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ที่ผู้ปฏิบัติแล้วส่งผลดีต่อการดำรงชีวิต แบบพอเพียง ได้แก่อะไรบ้าง ยกตัวอย่างประกอบ ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ๔. นักเรียนสามารถนำหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือไปเป็นแนวทางปฏิบัติในการดำรงชีวิตแบบพอเพียง และดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างไรบ้าง ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................................................


ตอนที่ ๒ คำชี้แจง ให้นักเรียนหาข่าวบุคคลที่มีการกระทำที่แสดงถึงการดำรงชีวิตแบบพอเพียง และการดูแลรักษา สิ่งแวดล้อมมาติดลงในกรอบ แล้ววิเคราะห์และตอบคำถาม ชื่อข่าว (สาระสำคัญของข่าว) ที่มา …………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.การกระทำที่ดีของบุคคลในข่าวดังกล่าวคืออะไร ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ๒.การกระทำของบุคคลในข่าวสอดคล้องกับหลักธรรมใด ของศาสนาใด ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ๓.ผลของการกระทำของบุคคลในข่าวดังกล่าวแสดงถึงการดำรงชีวิตแบบพอเพียง และการดูแลรักษา สิ่งแวดล้อมอย่างไร ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................................................


แบบสังเกตการตอบคำถาม คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตการตอบคำถามของนักเรียนในระหว่างการตอบคำถาม แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับ ที่ พฤติกรรม / ระดับคะแนน สนใจและ ตั้งใจฟัง คำถาม ตอบคำถาม ได้ตรง ประเด็น ความมั่นใจ ในการตอบ คำถาม รวม คะ แนน การ ประ เมิน ผล หมายเหตุ ชื่อ-สกุล ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ผ่าน ไม่ ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ลงชื่อ................................................ (นางสาวศรัณย์พร พลดี ครูผู้สอน เกณฑ์การให้คะแนน ระดับ ๓ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นมาก ระดับ ๒ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นปานกลาง ระดับ ๑ หมายถึง แสดงพฤติกรรมให้เห็นน้อย เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๘ - ๙ ดี ๖ - ๗ ปานกลาง ๔-๕ พอใช้ ต่ำกว่า ไม่ผ่านเกณฑ์


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนในระหว่างเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ................................................ (นางสาวศรัณย์พร พลดี) ครูผู้สอน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การให้คะแนน ๗ – ๙ คะแนน ระดับดี ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้งให้ ๓ คะแนน ๔ – ๖ คะแนน ระดับพอใช้ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้งให้ ๒ คะแนน ต่ำกว่า ๔ คะแนน ระดับปรับปรุง ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้งให้ ๑ คะแนน ลำ ดับ ที่ ชื่อ – สกุล ของผู้รับการ ประเมิน พฤติกรรมและการปฏิบัติ คะแน นรวม (๑๕ คะแน น) เกณฑ์ การ ตัดสิน คุณภาพ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รักความ เป็นไทย มีความ สามัคคี ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๔ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สาระการเรียนรู้ที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ ศาสนสัมพันธ์ เวลา ๔ ชั่วโมง เรื่อง ตัวอย่างบุคคลที่เป็นแบบอย่างทางด้านศาสนสัมพันธ์ เวลา ๒ ชั่วโมง วันที่ เดือน พ.ศ. ๒๕๖๖ นางสาวศรัณย์พร พลดี ผู้สอน ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ สุข ตัวชี้วัด ส ๑.๑ ม.๑/๑๑ วิเคราะห์การกระทำของบุคคลที่เป็นแบบอย่างด้านศาสนสัมพันธ์และ นำเสนอแนวทางการปฏิบัติของตนเอง ๒. สาระสำคัญ การศึกษาการกระทำของบุคคลที่เป็นแบบอย่างด้านศาสนสัมพันธ์นั้น ย่อมทำให้ได้ข้อคิด คุณธรรมอัน เป็นแบบอย่างของท่าน และสามารถนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนศึกษาบทเรียนเรื่อง ตัวอย่างบุคคลที่เป็นแบบอย่างทางด้านศาสนสัมพันธ์ นักเรียน สามารถ 1. อธิบายแนวทางการปฏิบัติตนของตนเองในด้านศาสนสัมพันธ์ได้(K) 2. วิเคราะห์การกระทำของบุคคลที่เป็นแบบอย่างด้านศาสนสัมพันธ์ได้ (P) 3. อภิปรายประโยชน์ที่ได้จากการศึกษาศาสนสัมพันธ์ได้อย่างมีเหตุผล (A) ๔. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.๕ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version