The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by paretom21, 2021-04-04 12:04:21

demo

ู้
ในกรณีมีเหตุจ าเป็นหรือพฤติการณ์พิเศษทท าให้ผให้บริการไม่สามารถให้บริการการช าระเงินทาง
ี่
อิเล็กทรอนิกส์ได้ตามปกติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่ก าหนดในประกาศคณะกรรมการหรือประกาศของ


ื่
ธปท. และอาจสงผลกระทบในการให้บริการอย่างตอเนื่องหรือตอความน่าเชอถือของระบบการชาระเงิน ให้ผ ู้


ให้บริการยื่นขออนุญาตยกเว้นการปฏิบัตตามหลกเกณฑ์ตอ ธปท. พร้อมชแจงเหตผล ความจาเป็น โดย ธปท.


ี้




อาจจะพิจารณาอนุญาตหรือไม่ก็ได ทั้งนี้ ธปท. มีอ านาจพิจารณาอนุญาตได้ไม่เกิน ๙๐ วัน
ในการอนุญาตขยายระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง หรืออนุญาตยกเว้นตามวรรคสอง ธปท. อาจก าหนด
เงื่อนไขใด ๆ ไว้เป็นรายกรณีด้วยก็ได ้


ในกรณทผให้บริการเห็นว่าจะไม่สามารถปฏิบัตไดภายในระยะเวลาทก าหนดตามวรรคหนึ่งหรือ
ู้
ี่

ี่
วรรคสอง ให้ผู้ให้บริการยื่นขอขยายระยะเวลา พร้อมชี้แจงเหตผลและความจ าเป็นต่อ ธปท. และให้ ธปท. เสนอต่อ

คณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ คณะกรรมการอาจพิจารณาอนุญาตหรือไม่ก็ได้ หรืออาจพิจารณาอนุญาต


โดยก าหนดเงื่อนไขใด ๆ ไว้เป็นรายกรณด้วยก็ได ทั้งนี้ ธปท. และคณะกรรมการจะใชเวลาในการพิจารณาให้แลว


เสร็จภายใน ๔๕ วันท าการ นับแต่วันที่ได้รับค าขอขยายระยะเวลาและเอกสารถูกต้องครบถ้วน

หมวด ๓

หลักเกณฑ์เฉพาะสาหรับธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์แต่ละประเภท


ส่วนที่ ๑

การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)



ข้อ ๒๔ ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์บัญชี ก บัญชี ข และบัญชี ค ต้องให้บริการภายใต้เงื่อนไขดังนี้
(๑) การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ต้องบันทึกมูลค่าเป็นเงินสกุลบาท หรือเงินสกุลต่างประเทศ


(๒) ผู้ให้บริการตามบัญชี ข บัญชี ค ต้องก าหนดมูลค่าสูงสดของเงินอิเล็กทรอนิกสที่สามารถใชได ้

ต่อบัตรหรือบัญชี โดยต้องพิจารณาตามความเหมาะสมของผู้ใช้บริการและต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่ด ี
(๓) ผู้ให้บริการตามบัญชี ข บัญชี ค ต้องจัดให้มีระบบ กระบวนการหรือเครื่องมือการลงทะเบียน

หรือวิธีการอื่นใดในการใช้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อดูแลผู้ใช้บริการและจากัดความเสียหายขั้นสูงของมูลคาเงิน

อิเลกทรอนิกส หากเกิดกรณบัตรสญหายหรือถูกขโมย เมื่อผใชบริการร้องขอ โดยผให้บริการตองชแจงระเบียบ
ู้


ู้



ี้

หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขดังกล่าวให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า
(๔) การให้บริการต้องไม่มีลักษณะเป็นการให้สินเชื่อ
ู้



(๕) ผให้บริการตองเปิดเผยหลกเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอแลกคนเป็นเงินสดให้ผ้ใช้บริการ



ทราบ และหากการขอแลกคืนเป็นเงินสดเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแล้ว ผ้ให้บริการตามบัญช ค
จะต้องจัดให้มีการคืนเงินภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่ผู้ใช้บริการได้ด าเนินการขอแลกคืน


(๖) ผให้บริการตองจดให้มีวิธีการทผใชบริการสามารถตรวจสอบยอดเงินคงเหลอ วันหมดอายุ

ี่
ู้
ู้

และแจ้งวิธีการดังกล่าวให้ผู้ใช้บริการทราบ


ู้

(๗) ผให้บริการตองจดให้มีระบบงานทสามารถป้องกันไม่ให้ผใชบริการโอนเงินระหว่างกันโดยไม่
ี่
ู้
ผ่านระบบของผู้ให้บริการ

(๘) ผู้ให้บริการเงินอิเลกทรอนิกส์บัญชี ข และบัญชี ค ต้องจัดท าบัญชเงินรับล่วงหน้าที่ไดรับจาก



ผู้ใช้บริการแยกไว้ต่างหากจากบัญชีอื่นของผให้บริการ และแยกแสดงไว้ในงบการเงินต่างหากให้ชดเจนหรือแสดงไว้
ู้
ในหมายเหตุประกอบงบการเงินให้ชัดเจนก็ได ้


ี่


(๙) ผให้บริการเงินอิเลกทรอนิกสบัญช ค ทมิไดเป็นสถาบันการเงินตามพระราชบัญญัตธุรกิจ

ู้
สถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ จะประกอบธุรกิจอื่นเพิ่มเติมได้เฉพาะธุรกิจดังต่อไปนี้เท่านั้น
ี่
(ก) ธุรกิจทบางสวนหรือทงหมดเกี่ยวกับหรือเนื่องจากการให้บริการเงินอิเลกทรอนิกสโดย



ั้






หากธุรกิจดงกลาวเป็นธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสประเภทอื่น ให้ดาเนินการแจงให้ทราบขึ้น

ทะเบียน หรือขอรับใบอนุญาต แล้วแต่กรณ ี
(ข) ธุรกิจอื่นที่สนับสนุนธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ตราบเท่าที่ไม่ก่อให้เกิด

ความเสี่ยงอันจะกระทบต่อการด าเนินธุรกิจหลัก และเงินที่ได้รับล่วงหน้าจากผู้ใช้บริการ
ู้

ู้
ทงนี้ หากผให้บริการประสงคจะประกอบธุรกิจตามข้อ (ก) และหรือข้อ (ข) ผให้บริการตอง
ั้


ขออนุญาตเป็นรายกรณ โดยชแจงหลกการ เหตผล และการประเมินความเสยงตาง ๆ ทเกี่ยวข้อง พร้อมจดสง


ี้


ี่

ี่
ข้อมูลและเอกสารประกอบการพิจารณาให้ ธปท. โดย ธปท. จะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ๔๕ วันท าการ นับแต ่




วันทไดรับคาขอและเอกสารถูกตองครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ธปท. อาจพิจารณาอนุญาตหรือไม่ก็ได หรืออาจ
ี่



ั่

พิจารณาอนุญาตโดยก าหนดเงื่อนไขใด ๆ ไว้เป็นรายกรณดวยก็ไดหรือสงระงับเป็นการชวคราว หรือยกเลกการ
ั่


ี่




ี่

ให้บริการนั้นในภายหลงดวยก็ได หากพบว่ามีการดาเนินการทไม่เป็นไปตามข้อเทจจริงทแจงเมื่อขออนุญาต
หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ ธปท. ก าหนด
ส่วนที่ ๒

การให้บริการเครือข่ายบัตรเครดต (Credit Card Network)
การให้บริการเครือข่ายอีดีซี (EDC Network) และ
การให้บริการสวิตชชิ่งในการช าระเงิน (Transaction Switching)



ข้อ ๒๕ ผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิต ผู้ให้บริการเครือข่ายอีดีซี และผู้ให้บริการสวิตช์ชิ่งในการ

ชาระเงินระบบหนึ่งระบบใดหรือผให้บริการสวิตชชงในการชาระเงินหลายระบบ ตองก าหนดวัตถุประสงค ์


ิ่

ู้
ู้
หลกเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีปฏิบัตในการเข้าร่วมและการออกจากระบบของผใชบริการ




(Access and Exit Criteria) ไว้อย่างชัดเจนเป็นลายลักษณอักษร และเปิดเผยให้ผู้ใช้บริการทราบโดยทั่วถึง เพื่อให้

ู้
มั่นใจว่าการรับผู้ใช้บริการรายใหม่เพิ่มเติม จะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงและผลกระทบต่อการใชบริการของผใชบริการ

รายเดิม
ส่วนที่ ๓
การให้บริการหักบัญชี (Clearing)

ู้
ข้อ ๒๖ ให้น าความในข้อ ๒๕ มาใชบังคับกับผให้บริการหักบัญชีด้วย

ี่





ู้
ข้อ ๒๗ ผให้บริการหักบัญชตองจดให้มีมาตรการจดการความเสยง เพื่อให้การชาระดลระหว่าง


ู้



ผใชบริการสาเร็จลลวง โดยมีการชาระเงินตามภาระผกพันภายในเวลาทก าหนด รวมทงวิธีปฏิบัตทเหมาะสมเพื่อ



ั้
ี่
ี่

รองรับกรณีที่ผู้ใช้บริการรายใดรายหนึ่งไม่สามารถชาระดุลได้ และต้องเปิดเผยให้ผู้ใชบริการทราบโดยทั่วถึง รวมทั้ง

มีหน้าที่ต้องติดตามดูแลให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการและวิธีปฏิบัติดังกล่าวด้วย
ู้

ี่

ั้
ทงนี้ ในกรณทมีการเปลยนแปลงมาตรการจดการความเสยง ผให้บริการหักบัญชตองแจงให้


ี่
ี่

ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า และแจ้ง ธปท. ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน ก่อนเริ่มด าเนินการ

ข้อ ๒๘ ผู้ให้บริการหักบัญชีต้องแจ้งให้ ธปท. ทราบด้วยวาจาหรือโดยวิธีอื่นใดโดยทันทเมื่อมีเหต ุ
ดังนี้



(๑) กรณีที่ผู้ใช้บริการรายใดรายหนึ่งไม่สามารถชาระดลไดด้วยวิธีการปกติและตามเวลาทก าหนด
ี่
ี่
ี่





เชน มีเงินไม่เพียงพอสาหรับการชาระดล โดยตองใชมาตรการจดการความเสยงและวิธีปฏิบัตทก าหนดเพื่อให้



กระบวนการช าระดุลส าเร็จลุล่วง
ู้
(๒) กรณทระบบของผให้บริการขัดข้อง ทาให้ไม่สามารถคานวณยอดเงินแสดงความเป็นเจาหนี้

ี่





ู้

หรือลกหนี้ของผใชบริการ หรือไม่สามารถสงข้อมูลดงกลาวไปเพื่อทาการชาระดุลระหว่างเจาหนี้และลกหนี้ได้ด้วย






วิธีการปกติและตามเวลาที่ก าหนด
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการหักบัญชีต้องจัดส่งรายงานปัญหากรณเกิดเหตขัดข้องตามแบบที่ ธปท. ก าหนดให้


ธปท. ภายในวันท าการถัดจากวันเกิดเหต ุ

ู้

ข้อ ๒๙ ในกรณทผให้บริการหักบัญชมีการระงับการให้บริการกับผใชบริการรายใดรายหนึ่งเป็น

ี่
ู้


การชวคราว ผให้บริการตองแจงให้ผใชบริการรายอื่นทราบโดยทนท และในกรณทมีการยกเลกการให้บริการกับ


ั่
ู้


ี่

ู้




ั้
ู้
ู้
ผใชบริการรายใดรายหนึ่ง ให้แจงผใชบริการรายอื่นทราบลวงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน ทงนี้ ผให้บริการหักบัญช ี

ู้
ต้องแจ้ง ธปท. ทราบภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่มีการระงับหรือยกเลิกการให้บริการ แล้วแต่กรณ ี
ส่วนที่ ๔
การให้บริการช าระดุล (Settlement)

ข้อ ๓๐ ให้น าความในข้อ ๒๕ มาใช้บังคับกับผู้ให้บริการช าระดุลด้วย


ข้อ ๓๑ ผู้ให้บริการช าระดลต้องจัดให้มีวิธีการช าระดลเพื่อปรับฐานะความเป็นเจ้าหนี้หรือลกหนี้


ของผใชบริการทเหมาะสม โดยคานึงถึงความเสยงจากการชาระดล (Settlement Risk) ทอาจทาให้ไม่สามารถ


ู้
ี่
ี่


ี่
ช าระดุลได้ส าเร็จลุล่วงและส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการรายอื่น


ข้อ ๓๒ ในกรณีที่ผู้ให้บริการช าระดลไม่สามารถดาเนินการปรับฐานะความเป็นเจ้าหนี้หรือลกหนี้


ของผใชบริการไดดวยวิธีการปกติและตามเวลาทก าหนด ให้ผให้บริการชาระดลแจงให้ ธปท. ทราบดวยวาจาหรือ
ี่
ู้

ู้






โดยวิธีอื่นใดโดยทันที และต้องจัดส่งรายงานปัญหากรณีเกิดเหตขัดข้องตามแบบที่ ธปท. ก าหนด ภายในวันท าการ
ถัดจากวันเกิดเหต ุ



ี่
ู้
ู้

ข้อ ๓๓ ในกรณทผให้บริการชาระดลมีการระงับการให้บริการกับผใชบริการรายใดรายหนึ่งเป็น

การชวคราว ผให้บริการตองแจงให้ผใชบริการรายอื่นทราบโดยทนท และในกรณทมีการยกเลกการให้บริการกับ





ู้
ู้
ี่

ั่
ผู้ใช้บริการรายใดรายหนึ่ง ให้แจ้งผู้ใช้บริการรายอื่นทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน

ทงนี้ ผให้บริการชาระดลตองแจง ธปท. ทราบภายใน ๑๕ วันนับจากวันทมีการระงับหรือยกเลิก

ั้


ู้
ี่
การให้บริการ แล้วแต่กรณ ี
ส่วนที่ ๕
การให้บริการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใดหรือผ่านทางเครือข่าย


ข้อ ๓๔ ผให้บริการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสผานอุปกรณอย่างหนึ่งอย่างใดหรือผานทาง
ู้







ี่

ี่


เครือข่ายทมิใชสถาบันการเงินตามพระราชบัญญัตธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตองบันทกบัญชเงินทไดรับ

จากการรับชาระเงินคาสนคา คาบริการ หรือคาอื่นใดแยกไว้ต่างหากจากบัญชเงินทนหมุนเวียนอื่นของผให้บริการ

ู้







และต้องจัดท าข้อมูลให้มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน

ส่วนที่ ๖
การให้บริการรับช าระเงินแทน



ข้อ ๓๕ ผู้ให้บริการรับช าระเงินแทนต้องออกข้อก าหนดและให้บริการภายใตเงื่อนไขดังนี้

(๑) ก าหนดหน้าที่และความรับผดของผู้ให้บริการที่มีต่อเจาหนี้ซึ่งผให้บริการรับช าระเงินแทนและ

ู้

ผู้ใช้บริการ รวมถึงหน้าที่และความรับผิดของตัวแทนที่ผู้ให้บริการแต่งตั้งด้วย
(๒) ก าหนดวิธีปฏิบัติในการส่งข้อมูลรายการรับช าระเงินให้แก่เจ้าหนี้
(๓) ผให้บริการทมิใชสถาบันการเงินตามพระราชบัญญัตธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตอง



ู้
ี่








บันทกบัญชเงินทไดรับจากการรับชาระเงินไว้ตางหากจากบัญชเงินทนหมุนเวียนอื่นของผให้บริการและตองจดท า
ี่
ู้

ข้อมูลให้มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน

ส่วนที่ ๗
การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับบัตรเดบิตที่ออกและมีการใช้จ่ายภายในประเทศ

ข้อ ๓๖ ในส่วนนี้
“ผออกบัตร” (Issuer) หมายความว่า สถาบันการเงินทตกลงและยินยอมออกบัตรเดบิตให้แก่
ี่
ู้
บุคคลที่ผูกพันตนตามสัญญาบัตรเดบิต
“ผู้ให้บริการแก่ผู้รับบัตร” (Acquirer) หมายความว่า ผู้ที่ท าหน้าทให้บริการรับส่งข้อมูลการชาระ
ี่



เงินทางอิเล็กทรอนิกสจากบัตรเดบิตไปยังผู้ออกบัตร และจะจ่ายเงินค่าสินค้าหรือคาบริการให้แก่ผประกอบกิจการ
ู้

ขายสินค้าหรือให้บริการซึ่งมีสัญญาระหว่างกันว่าจะรับชาระราคาสินคาหรือบริการด้วยบัตรเดบิตตามเงื่อนไขทตก

ี่
ลงกัน
“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า



(๑) ผให้บริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสผานอุปกรณอย่างหนึ่งอย่างใดหรือผานทาง



ู้
เครือข่ายตามบัญชี ค (๓) ที่เป็นผู้ออกบัตร (Issuer) และผู้ให้บริการแก่ผู้รับบัตร (Acquirer)




(๒) ผ้ให้บริการสวิตช์ช่งในการชาระเงินระบบหนึ่งระบบใดตามบัญชี ข (๓) หรือผ้ให้บริการ
สวิตช์ชิ่งในการช าระเงินหลายระบบตามบัญชี ค (๔)
(๓) ผู้ให้บริการหักบัญชีตามบัญชี ค (๑)
(๔) ผให้บริการช าระดุลตามบัญชี ค (๒)
ู้

“เครือข่ายบัตรเดบิต” หมายความว่า เครือข่ายการให้บริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส์แก่

สมาชิกซึ่งเป็นผู้ออกบัตรและผู้ให้บริการแก่ผู้รับบัตร โดยอย่างน้อยต้องท าหน้าที่ให้บริการ ดังต่อไปนี้
(๑) บริการด้านการตลาดภายใต้ชื่อทางธุรกิจของตน
(๒) บริการสวิตซ์ชิ่งในการช าระเงิน
(๓) บริการหักบัญช ี

ี่

“มาตรฐานชปการ์ดกลาง” หมายความว่า มาตรฐานชปการ์ดท ธปท. ประกาศก าหนด โดยได ้
หารือกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสภาสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อใช้เป็นมาตรฐานกลาง
ในการออกบัตรเดบิตของผู้ออกบัตร


ข้อ ๓๗ ผให้บริการทเกี่ยวข้องกับบัตรเดบิตทออกและใชจายภายในประเทศ ตองปฏิบัตตาม

ี่

ู้
ี่

หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีปฏิบัติในการให้บริการ ดังต่อไปนี้
(๑) ผู้ออกบัตร
(ก) ต้องใช้มาตรฐานชิปการ์ดกลาง
(ข) ตองออกบัตรให้ใชบริการเครือข่ายบัตรเดบิตในประเทศ เว้นแตผออกบัตรใชระบบการ

ู้



รับส่งข้อมูลภายในของตนเอง
ี่

(ค) ในกรณทออกบัตรเดบิตทใชบริการเครือข่ายบัตรเดบิตตงแตสองรายขึ้นไปในบัตรเดบิต
ี่

ั้

เดยวกัน (Multi-Brand) ตองปฏิบัตในเรื่องตราสญลกษณทปรากฏบนบัตรเดบิต ให้เป็นไปตามข้อตกลงและ





ี่

ค านึงถึงหลักความเท่าเทียมกัน

(ง) ต้องให้ข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จายของบัตรเดบิตแตละประเภทแก่ผู้ใช้บริการ





ู้


อย่างเพียงพอ ชดเจน และถูกตอง เพื่อให้ผใชบริการสามารถเลอกใชบริการไดอย่างเหมาะสมตรงกับวัตถุประสงค ์
การใช้จ่ายของตนเอง


ในกรณีที่ผู้ออกบัตรจะออกบัตรเดบิตที่ใชบริการเครือข่ายบัตรเดบิตตั้งแตสองรายขึ้นไปในบัตรเด
บิตเดียวกัน (Multi-Brand) การออกบัตรดังกล่าวจะใช้เครือข่ายบัตรเดบิตรายใดมากกว่าหนึ่งรายก็ได้แต่อย่างน้อย
รายหนึ่งต้องเป็นเครือข่ายบัตรเดบิตในประเทศ
(๒) ผู้ให้บริการแก่ผู้รับบัตร
(ก) ตองจดให้มีอุปกรณและระบบทสามารถรองรับบัตรเดบิตทใชบริการเครือข่ายบัตรเดบิต


ี่

ี่

ในประเทศ และใช้มาตรฐานชิปการ์ดกลาง
(ข) ต้องไม่จ ากัดสิทธิผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการในการเลือกใช้เครือข่ายบัตรเด
บิต





(ค) ตองให้ข้อมูลคาธรรมเนียมและคาบริการตาง ๆ แก่ผประกอบกิจการขายสนคา หรือ
ู้

ให้บริการในการใช้บริการอย่างเพียงพอ ชัดเจน และถูกต้อง



(๓) ผู้ให้บริการสวิตช์ชิ่งในการชาระเงิน ผู้ให้บริการหักบัญชี และผู้ให้บริการชาระดล






(ก) ตองดาเนินการให้ระบบของตนรองรับการใชบัตรเดบิตไดทกเครือข่ายบัตรเดบิตหรือจด






ให้ระบบของตนสามารถเช่อมโยงกับระบบของผ้ให้บริการสวิตช์ช่งในการชาระเงิน ผ้ให้บริการหักบัญชและผ ู้
ให้บริการช าระดุลรายอื่นได้ด้วย

ี่

(ข) ตองดาเนินการให้ระบบของตนสามารถรองรับบัตรเดบิตทใชบริการเครือข่ายบัตรเดบิต


ตั้งแต่สองรายขึ้นไปในบัตรเดบิตเดยวกัน (Multi-Brand) และต้องไม่ด าเนินการใด ๆ อันเป็นการจ ากัดสิทธิในการเลอก

เครือข่ายบัตรเดบิตของผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ


ี่
ข้อ ๓๘ ในกรณทออกบัตรเดบิตทใชบริการเครือข่ายบัตรเดบิตตงแตสองรายขึ้นไปในบัตรเดบิต
ั้
ี่

เดียวกัน (Multi-Brand) เมื่อผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการเลือกใช้บริการเครือข่ายบัตรเดบิตรายใดราย



ู้

หนึ่งในการท าธุรกรรมแลว ผให้บริการจะคดคาธรรมเนียมหรือคาใชจายอื่นเพิ่มเตมไดเฉพาะเครือข่ายบัตรเดบิตท ี่




ใช้เท่านั้น


ี่
ข้อ ๓๘/๑ในการให้บริการทเกี่ยวข้องกับบัตรเดบิตทออกและมีการใชจายภายในประเทศผ ู้
ี่

ให้บริการต้องด าเนินการเหล่านี้ภายในประเทศเท่านั้น

ู้

ู้
ู้
(๑) การรับสงข้อมูลการใชบัตรเดบิตระหว่างผให้บริการแก่ผรับบัตร (Acquirer) และผออกบัตร
(Issuer)
(๒) การให้บริการสวิตช์ชิ่งในการช าระเงิน (Transaction Switching)
(๓) การให้บริการหักบัญชี (Clearing)
(๔) การให้บริการช าระดุล (Settlement)

ข้อ ๓๘/๒ ในกรณีที่ผู้ให้บริการรายใดเห็นว่ามีความจาเป็นและไม่สามารถดาเนินการให้เป็นไปตาม



ี่
หลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขทก าหนดตามข้อ ๓๗ ข้อ ๓๘ และข้อ ๓๘/๑ ได ให้ขออนุญาตขยายระยะเวลาการ
ปฏิบัติตามประกาศนี้เป็นการชั่วคราวจนกว่าเหตจาเป็นจะหมดไป โดยชี้แจงเหตุผลและความจ าเป็นต่อ ธปท. เป็น




ี่

รายกรณ และให้ ธปท. มีอ านาจพิจารณาขยายระยะเวลาไดคราวละไม่เกิน ๑๘๐ วัน นับแตระยะเวลาทก าหนด
สิ้นสุด
ี่



ให้ ธปท. พิจารณาให้แลวเสร็จภายใน ๔๕ วันทาการ นับแตวันทไดรับคาขอและเอกสารถูกต้อง


ครบถ้วน

ู้
ข้อ ๓๘/๓ ในกรณีที่ผู้ให้บริการประสงค์จะใช้บริการจากผให้บริการรายอื่นหรือบุคคลอื่นดานงาน

ู้
เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Outsourcing) ตามข้อ ๓๘/๑ (๑) - (๔) ให้ผให้บริการยื่นขออนุญาต ตอ ธปท. พร้อม
ชี้แจงเหตุผลและความจ าเป็น
ให้ ธปท. พิจารณาให้แลวเสร็จภายใน ๔๕ วันทาการ นับแตวันทไดรับคาขอและเอกสารถูกต้อง





ี่
ครบถ้วน


ู้
การยื่นขออนุญาตตามวรรคหนึ่งให้กระทาไดเฉพาะการใชบริการจากผให้บริการรายอื่นหรือบุคคลอื่น




ดานงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Outsourcing) ในประเทศ เว้นแตเป็นการดาเนินการตามข้อ ๓๘/๑ (๑) ผ ู้

ู้
ให้บริการอาจขออนุญาตใชบริการจากผให้บริการรายอื่นหรือบุคคลอื่นดานงานเทคโนโลยีสารสนเทศ

(IT Outsourcing) ในต่างประเทศได ้
ในกรณีที่ผู้ให้บริการตามข้อ ๓๖ (๑) เป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน



และไดปฏิบัตตามหลกเกณฑ์การใชบริการจากผให้บริการรายอื่นหรือบุคคลอื่นดานงานเทคโนโลยีสารสนเทศ


ู้

(IT Outsourcing) ทออกตามกฎหมายว่าดวยธุรกิจสถาบันการเงินแลว ให้ถือว่าได้รับอนุญาตตามวรรคหนึ่ง

ี่
ี่
ข้อ ๓๘/๔ ในระหว่างท ธปท. พิจารณาตามข้อ ๓๘/๒ วรรคสอง และข้อ ๓๘/๓ วรรคสอง ให้ผ ู้
ให้บริการยังคงให้บริการต่อไปได้ จนกว่า ธปท. จะมีค าสั่งในเรื่องดังกล่าว

หมวด ๔
บทเฉพาะกาล




ข้อ ๓๙ ผให้บริการรายใดทไดรับอนุญาต ไดขึ้นทะเบียน หรือแจงให้ทราบไว้อยู่ก่อนทประกาศ

ู้
ี่

ี่
ฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ให้ปฏิบัติดังนี้
ู้






(๑) ผให้บริการตองดาเนินการเกี่ยวกับคณสมบัตและลกษณะตองห้ามของกรรมการหรือผซึ่งมี
ู้

ู้

อ านาจจดการของนิตบุคคลของผให้บริการ ให้เป็นไปตามหลกเกณฑ์ในประกาศฉบับนี้ภายใน ๑๘o วัน นับจาก

วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ

(๒) ผู้ให้บริการต้องด าเนินการจัดท าบันทึกบัญชเงินที่ได้รับจากการประกอบธุรกิจการรับชาระเงิน

แยกไว้ต่างหากจากบัญชีเงินทุนหมุนเวียนอื่นของผู้ให้บริการภายใน ๑๘๐ วัน นับจากวันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ
(๓) ผู้ให้บริการต้องด าเนินการจัดให้มีระบบ กระบวนการหรือเครื่องมือการลงทะเบียนหรือวิธีการ
อื่นใดในการใช้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่ก าหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ภายใน ๑ ปี นับจากวันที่ประกาศมีผลใช ้
บังคับ

ข้อ๔๐ ประกาศนี้ให้ใช้บังคบนับแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
อุตตม สาวนายน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์













[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบการแจ้งให้ทราบ การประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (บัญชี ก)

๒. แบบการขอขึ้นทะเบียน การประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (บัญชี ข)

๓. แบบการขอรับใบอนุญาต การประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส (บัญชี ค)
ี่

๔. แบบการขอรับใบแทน กรณทใบรับแจง ใบรับการขึ้นทะเบียน หรือใบอนุญาต การประกอบธุรกิจบริการการ

ช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ สูญหาย ถูกท าลาย หรือช ารุดเสียหายในสาระส าคัญ

ู้
ู้
๕. แบบหนังสอรับรองคณสมบัตผประสงคจะเป็นผให้บริการ ผให้บริการ กรรมการหรือผซึ่งมีอ านาจจดการของผ ู้


ู้
ู้


ประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส ์

ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน
ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นขอความเห็นชอบสถานที่ที่ใช้เก็บส ารองน้ ามันเชื้อเพลิง และ

การมอบหมายให้บุคคลอื่นเก็บส ารองน้ ามันเชื้อเพลิงแทน และการรายงานปริมาณน้ ามันเชื้อเพลิง
คงเหลือรายวัน โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๓



ตามที่ได้มีประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นขอ ความเห็น
ี่
ี่

ี่
ู้

ื้

ขอบสถานททใชเก็บสารองน้ ามันเชอเพลง และเงื่อนไขทผไดรับความเห็นชอบตองปฏิบัต และประกาศกรมธุรกิจ




ื้
พลงงาน เรื่อง หลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการมอบหมายให้บุคคลอื่น เก็บสารองน้ ามันเชอเพลงแทน ซึ่ง






ื้
ก าหนดให้ผคาน้ ามันตามมาตรา ๗ หรือผรับมอบหมายเก็บสารองน้ ามันเชอเพลงแทน ตองเก็บสารองน้ ามัน


ู้
ู้

ี่
เชื้อเพลิงไว้ทุกขณะในสถานทที่ได้รับความเห็นชอบจากอธิบดนั้น
เพื่อเป็นการอ านวยความสะดวกให้แก่ผู้ค้าน้ ามันตามมาตรา ๗ ในการยื่นขอความเห็นชอบสถานท ี่

ู้


ื้

ี่

ื้
ทใชเก็บสารองน้ ามันเชอเพลง และ/หรือการมอบหมายให้ผอื่นเก็บสารองน้ ามันเชอเพลงแทน รวมไปถึง การ

รายงานปริมาณน้ ามันเชอเพลงคงเหลอรายวันในสถานททไดรับความเห็นชอบให้ใชเป็นสถานท เก็บสารองน้ ามัน


ี่
ี่
ี่


ื้

เชื้อเพลิงตามกฎหมาย จงอาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

ี่



พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเตมโดยพระราชบัญญัตระเบียบบริหาร ราชการแผนดน (ฉบับท ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ และ
มาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔
ประกอบมาตรา ๙ แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลกเกณฑ์ และวิธีการในการทาธุรกรรมทาง


อิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
ข้อ ๒ ในประกาศนี้

ื้
“แบบคาขอ" หมายความว่า แบบขอความเห็นชอบสถานททใชเก็บสารองน้ ามันเชอเพลง (ธพ.ธ ๓๖๔)


ี่

ี่
และ/หรือแบบขอความเห็นขอบการมอบหมายให้บุคคลอื่นเก็บสารองน้ ามันเชอเพลงแทน (ธพ.ธ ๓๐๕) ตามท ี่
ื้


ก าหนดไว้ในประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการยื่นขอความเห็นขอบสถานทท ี่
ี่
ใช้เก็บส ารองน้ ามันเชื้อเพลิง และเงื่อนไขที่ผู้ได้รับความเห็นชอบต้องปฏิบัติและหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการ
มอบหมายให้บุคคลอื่นเก็บส ารองน้ ามันเชื้อเพลิงแทน

ื้
“ระบบ” หมายความว่า ระบบฐานข้อมูลสถานทเก็บและปริมาณน้ ามันเชอเพลงสารอง

ี่
ื้
ี่
ี่


ของประเทศ โดยเป็นระบบบริการในการยื่นขอความเห็นชอบสถานททใชเก็บสารองน้ ามันเชอเพลง

ื้

และการยื่นขอความเห็นชอบการมอบหมายให้บุคคลอื่นเก็บสารองน้ ามันเชอเพลงแทน และรวมไปถึง

ี่

การรายงานข้อมูลปริมาณน้ ามันเชื้อเพลิงคงเหลอรายวันในสถานททใชเก็บส ารองเชื้อเพลิงที่ได้รับความเห็นชอบไว้

ี่
แล้ว
“อธิบด” หมายความว่า อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมธุรกิจพลังงานมอบหมาย


ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน
ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยื่นแบบแจ้งทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขอความเห็นชอบ ลักษณะและ

คุณภาพของน้ ามันเชื้อเพลิงเฉพาะส่วนที่ไม่เป็นไปตามที่กรมธุรกิจพลังงานก าหนด และการยื่นแบบรายงาน
ทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแจ้งรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการจัดหา
การจ าหน่าย และยอดคงเหลือของน้ ามันเชื้อเพลิงที่ได้รับความเห็นชอบ พ.ศ. ๒๕๒๓






ี่

ตามทไดมีประกาศกรมธุรกิจพลงงานก าหนดลกษณะและคณภาพของน้ ามันเชอเพลง ออกตามความใน
ื้

มาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการค้าน้ ามันเชอเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึ่งก าหนดให้ การจ าหน่ายหรือมีไว้
ื้

เพื่อจ าหน่ายซึ่งน้ ามันเชื้อเพลิงที่มีลักษณะและคณภาพแตกต่างจากที่ กรมธุรกิจพลังงานก าหนด โดยให้ผู้คาน้ ามัน


ต้องยื่นแบบแจ้งเพื่อขอความเห็นชอบต่ออธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดกรม
ธุรกิจพลังงานก าหนด และต้องได้รับความเห็นชอบจาก อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานก่อน นั้น
ี่

โดยทเป็นการสมควรแก้ไขปรับปรุงหลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นแบบแจง

ทางอิเล็กทรอนิกสเพื่อขอความเห็นชอบลักษณะและคณภาพของน้ ามันเชอเพลิงเฉพาะส่วนที่ไม่เป็นไป ตามทกรม

ี่

ื้

ธุรกิจพลังงานก าหนด ให้ครอบคลุมถึงการยื่นแบบรายงานทางอิเล็กทรอนิกสเพื่อแจ้งรายงาน ข้อมูลการจัดหา การ
ื้




ี่
จาหน่าย และยอดคงเหลอของน้ ามันเชอเพลงทไดรับความเห็นขอบ อาศยอ านาจ ตามความในมาตรา ๓๒ แห่ง






พระราชบัญญัตระเบยบบริหารราชการแผนดน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไข เพิ่มเตมโดยพระราชบัญญัตระเบียบบริหาร



ี่


ราชการแผนดน (ฉบับท ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส ์



พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกอบมาตรา ๘ แห่งพระราชกฤษฎีกา ก าหนดหลกเกณฑ์และวิธีการในการทาธุรกรรมทาง

อิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๕๔๙ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน จงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
ข้อ ๒ ให้ยกเลกประกาศกรมธุรกิจพลงงาน เรื่อง หลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข




ื้

ในการยื่นแบบแจงทางอิเลกทรอนิกสเพื่อขอความเห็นชอบลกษณะและคณภาพของน้ ามันเชอเพลง





เฉพาะสวนทไม่เป็นไปตามทกรมธุรกิจพลงงานประกาศก าหนด พ.ศ. ๒ ๕ ๖ ๐ ลงวันท ๗ กรกฎาคม


ี่
ี่
ี่
พ.ศ. ๒๕๖๐
ข้อ ๓ ในประกาศนี้


ื้

ี่


“แบบแจง” หมายความว่า แบบแจงลกษณะและคณภาพของนมันเชอเพลงเฉพาะสวนท

ไม่เป็นไปตามทกรมธุรกิจพลงงานก าหนดเพื่อขอความเห็นขอบ ตามทก าหนดไว้ในประกาศ
ี่

ี่

กรมธุรกิจพลงงานว่าดวยการก าหนดหลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยื่นขอความเห็นขอบ


การเติมสารเติมแต่งในน้ ามันเชื้อเพลิง และการยื่นขอความเห็นขอบลักษณะและคุณภาพของ

ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
แนวทางการใช้บริการคลาวด ์

พ.ศ. ๒๕๖๒







โดยทในปัจจบันการให้บริการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสมีการใชบริการคลาวด (Cloud Computirg)
ี่
อย่างแพร่หลาย อาศัยจากการให้บริการคลาวด์จากผู้ประกอบการรายอื่น เพื่อให้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์

ี่
ี่
ื่

ทใชบริการคลาวด มีความมั่นคงปลอดภัย ความน่าเชอถือ และมาตรฐานในการให้บริการ ซึ่งเป็นทยอมรับ
ในระดับสากล


อาศยอ านาจตามความในมาตรา ๓๗ (๒) แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ.




๒๕๕๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเตมโดยพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส (ฉบับท ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
ี่




คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ก าหนดแนวทางการใช้บริการคลาวด์ ดังต่อไปนี้
ี่
ู้
ข้อ กรณทผให้บริการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสมีการใชบริการคลาวด ไม่ว่าจะเป็น








การดาเนินการโดยผให้บริการคลาวดอื่นหรือไม่ก็ตาม เพื่อวางมาตรฐานในการให้บริการและเป็น
ู้



ี่

ข้อมูลอ้างอิง การประมวลผลดงกลาวอาจดาเนินการตามแนวทางการใชบริการทก าหนดตามเอกสารแนบทาย

ประกาศนี้ได ้

ี่




ข้อ การน าแนวทางการใชบริการคลาวดตามทก าหนดในข้อ มาใชในการให้บริการ
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น ให้ค านึงถึงหลักเกณฑ์ขั้นพื้นฐานซึ่งเป็นมาตรการขั้นต่ าในการลดความเสยง จากภัย
ี่
ั้


คกคามของบริการ โดยจะตองตรวจสอบและประเมินความเสยงอย่างสม่ าเสมอ รวมทงปรับปรุง มาตรการเพื่อ
ี่
รักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์

ประกาศกรมการขนส่งทางบก

เรื่อง แนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. ๒๕๖๒





ู้
ุ้


เพื่อให้การคมครองข้อมูลสวนบุคคลของผใชบริการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสในภารกิจของ
กรมการขนส่งทางบก อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา ๗ แห่งพระราชกฤษฎีกา ก าหนดหลักเกณฑ์
และวิธีการในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดีกรมการขนส่ง ทางบกโดยความเห็นชอบ
ของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กรมการขนส่งทางบกมีแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการมีดังนี้

(๑) ข้อมูลเบื้องต้น


ุ้


(ก) แนวปฏิบัตในการคมครองข้อมูลสวนบุคคล จดทาขึ้นเพื่อใชบังคบตามนโยบาย การ


คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกรมการขนส่งทางบก
(ข) ก าหนดขอบเขตให้การคมครองข้อมูลสวนบุคคลนี้ ใชกับการดาเนินการใด ๆ ของ
ุ้






ี่



กรมการขนสงทางบกตอข้อมูลสวนบุคคลทกรมการขนสงทางบกรวบรวม จดเก็บ หรือไดรับมาตามวัตถุประสงค ์
เท่านั้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวรวมถึงข้อมูลที่ผู้ใช้บริการ ให้บริการของกรมการขนส่งทางบกด้วย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล คือ
ข้อมูลที่ระบุตัวบุคคลของผู้ใช้บริการได้เช่นเดียวกับชื่อ ที่อยู่ หมายเลขประจ าตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และ

ี่

อีเมลของผใชบริการ ทงนี้ ข้อมูลสวนบุคคลในทนี้ไม่ไดรวมถึงข้อมูลทสาธารณชนสามารถเข้าถึงไดเป็นการทวไป
ี่
ู้
ั่

ั้



นอกจากนี้ยังได้ระบุขอบเขตของนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกรมการขนส่งทางบกดังกล่าวเพิ่มเตมว่า
ี่







ไม่ใชกับแนวปฏิบตตอข้อมูลสวนบุคคลของหน่วยงานอื่นทกรมการขนสงทางบกมิไดเกี่ยวข้องหรือสามารถควบคุม
ี่

ี่
ได และไม่ใชบังคบกับแนวปฏิบัตของบุคคลทมิไดเป็นเจาหน้าทหรือพนักงานของกรมการขนสงทางบก หรือท



ี่



กรมการขนส่งทางบกไม่มีอ านาจควบคุมดูแล

(ค) กรณทมีการเปลยนแปลงวัตถุประสงค หรือนโยบายในการคมครองข้อมูลสวนบุคคล
ี่


ี่
ุ้





กรมการขนสงทางบก จะแจงประกาศให้ทราบและขอความยินยอมจากผใชบริการผานทางหน้าเว็บไซตของ
ู้
กรมการขนส่งทางบก (https://www.dlt.go.th) ล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน
กรมการขนส่งทางบกอาจท าการปรับปรุง หรือแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ั้




โดยไม่ไดแจงให้ทราบลวงหน้า ทงนี้ เพื่อความเหมาะสมและความมีประสทธิภาพในการให้บริการ ดงนั้น จงขอ


แนะน าให้ผู้ใช้บริการอ่านนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลก่อนทุกครั้งที่ใช้บริการ
(๒) การเก็บรวบรวม จัดประเภท และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ประกาศกรมการขนส่งทางบก

เรื่อง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. ๒๕๒๒



ี่



โดยทการดาเนินการของกรมการขนสงทางบกซึ่งจะตองปฏิบัตการตามกฎหมายว่าดวยรถยนต ์




ู้





และกฎหมายว่าดวยการขนสงทางบก จาเป็นตองมีการจดเก็บข้อมูลสวนบุคคลของบุคคลผยืนขอดาเนินการ และ
ั่


บางกรณมีความจาเป็นตองดาเนินการทางอิเลกทรอนิกส เพื่อให้สามารถบริการประชาชนไดอย่างทวถึง สะดวก





รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
ุ้

ู้

ดงนั้น เพื่อให้มีมาตรฐานในการคมครองข้อมูลสวนบุคคลของผใชบริการธุรกรรมทาง

อิเล็กทรอนิกส์ ในภารกิจของกรมการขนส่งทางบก อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา ๗ แห่งพระราช
กฤษฎีกา ก าหนดหลกเกณฑ์และวิธีการในการทาธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดกรมการ





ขนส่ง ทางบกโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กรมการขนส่งทางบกมีนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับเรื่อง ดังต่อไปนี้
(๑) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจ ากัด



กรมการขนสงทางบกจะจดเก็บข้อมูลสวนบุคคลของผใชบริการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส ไว้


ู้

เท่าที่จ าเป็น และเป็นการจัดเก็บจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ภายใต้อ านาจหน้าที่และวัตถุประสงค์ ในการด าเนินงาน
ของกรมการขนสงทางบกตามทกฎหมายก าหนด หรือรับรองตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัต ข้อมูลข่าวสาร

ี่

ู้



ี่


ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ เทานั้น ในกรณทกรมการขนสงทางบกประสงคจะใชข้อมูลสวนบุคคล ของผใชบริการเพื่อ


วัตถุประสงค์อื่น กรมการขนส่งทางบกจะแจ้งความประสงค์ให้ผู้ใช้บริการทราบและ ขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการ
ก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายก าหนด หรือในกรณีอื่น ๆ ตามที่ ก าหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้
(๒) คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล



กรมการขนสงทางบกมีการรวบรวมและจดเก็บข้อมูลสวนบุคคลของผใชบริการธุรกรรม ทาง
ู้





อิเลกทรอนิกส โดยข้อมูลทจดเก็บ กรมการขนสงทางบกจะให้ความสาคญถึงความถูกตอง ครบถ้วน และเป็น



ี่
ปัจจุบันของข้อมูล
(๓) การระบุวัตถุประสงค์ในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล
กรมการขนสงทางบก มีการรวบรวม จดเก็บ ใช ข้อมูลสวนบุคคลของผใชบริการ ธุรกรรมทาง




ู้


อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการผานอินเตอร์เน็ต เช่น ระบบช าระภาษีรถ ระบบจองคิวใบขับขี่ (e -
Booking) ระบบประมูลเลขทะเบียนรถ ระบบจองเลขทะเบียนรถ เป็นตน การให้บริการผานระบบ Mobile


Application เช่น Tai - OK DLT - GPS DLT - eForm - IFound DLT - Notification DLT - OR - License DLT
- Check-in - Plus DLT - Inspection DLT

ประกาศส านักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทราย

หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยื่นค าร้องขอรับหนังสืออนุญาตส่งน้ าตาลทราย
ออกนอกราชอาณาจักร และค าขอรับใบอนุญาตส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร
โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

พ.ศ. ๒๕๖๑




โดยที่คณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทรายไดออกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทรายว่า
ี่




ั่
ี่
ดวยการอนุญาตให้สงออกน้ าตาลทราย พ.ศ. ๒๕๖๑ และกระทรวงพาณชย์ไดมีคาสงท ๕๖๙/๒๕๕๔ ลงวันท ๒๘



ตลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ มอบอ านาจให้ข้าราชการสานักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทรายมีอ านาจในการ

พิจารณาอนุญาตและลงนามในใบอนุญาตและหนังสอรับรอง Certificate for Quota Eligbility ให้สงน้ าตาล



ทรายขาว น้ าตาลทรายขาวบริสทธิ์ น้ าตาลทรายดบ และน้ าตาลทรายแดงออกนอกราชอาณาจักร และให้มีอ านาจ

ลงนามก ากับการแก้ไขในใบอนุญาตและหนังสอรับรอง Certificate for Quota Eligbility เพื่อให้เป็นไปตาม
นโยบายของรัฐบาลในการให้บริการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ประเทศไทย ๔.๐ อันเป็นการอ านวยความสะดวกทาง
การค้า รวมถึงการลดขั้นตอนการปฏิบัติในการปฏิบัติงาน


อาศยอ านาจตามความในมาตรา ๘ ประกอบมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง



อิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔ และข้อ ๖ ข้อ ๗ ข้อ ๘ ข้อ ๑๑ ข้อ ๑๒ และข้อ ๑๓ แห่งระเบยบคณะกรรมการอ้อย

และน้ าตาลทราย ว่าด้วยการอนุญาตให้ส่งออกน้ าตาลทราย พ.ศ. ๒๕๖๑ ส านักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ าตาล
ทราย จึงออกประกาศไว้ดังนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้

“ค าร้องขอรับหนังสออนุญาตส่งน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจกร (แบบ กน.๙) และค าขอรับ


ใบอนุญาตสงสนคาออกไปนอกราชอาณาจกร (แบบ อ.๑) โดยวิธีการทางอิเลกทรอนิกส” หมายความว่าคาร้อง












ขอรับหนังสออนุญาตสงน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจกร หรือคาขอรับใบอนุญาตสงสนคาออกไปนอก

ราชอาณาจักร ที่ได้ด าเนินการผ่านการรับสงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส ์




“หนังสออนุญาตให้สงน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจกร (แบบ กน.๑๐) และใบอนุญาตให้สง ่


สนคาออกไปนอกราชอาณาจกร (แบบ อ.๒) โดยวิธีการทางอิเลกทรอนิกส” หมายความว่าหนังสออนุญาตให้สง






น้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจกร หรือใบอนุญาตให้ส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร ที่ได้ด าเนินการผ่านการ
รับส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส ์

ข้อ ๒ ให้บริษัทสงออกทประสงคจะยื่นคาร้องขอรับหนังสออนุญาตสงน้ าตาลทรายออกนอก




ี่
ราชอาณาจักร (แบบ กน.๙) และค าขอรับใบอนุญาตส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.๑) โดยวิธีการทาง

อิเลกทรอนิกส ยื่นคาร้องขอลงทะเบยนตามคมือการใชงานเพื่อลงทะเบียนเป็นผยื่นคาร้องขอสงออกน้ าตาลทราย


ู้

ู่



ไปนอกราชอาณาจักร โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ แนบท้ายประกาศนี้




ข้อ ๓ ให้บริษัทสงออกยื่นคาร้องขอรับหนังสออนุญาตสงน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจกร







(แบบ กน.๙) และคาขอรับใบอนุญาตสงสนคาออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.๑)โดยวิธีการทางอิเลกทรอนิกส ์
ตามคู่มือการใช้งานระบบยื่นค าร้องขอส่งออกน้ าตาลทรายไปนอกราชอาณาจักรโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ แนบ
ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๔ ให้เจาหน้าทผมีอ านาจพิจารณาคาร้องขอรับหนังสออนุญาตสงน้ าตาลทรายออกนอก



ู้
ี่

ราชอาณาจักร (แบบ กน.๙) และค าขอรับใบอนุญาตส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.๑) โดยวิธีการทาง





อิเลกทรอนิกส พิจารณาออกหนังสออนุญาตให้สงน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจกร (แบบ กน.๑๐) และ
ู่



ใบอนุญาตให้สงสนคาออกไปนอกราชอาณาจกร (แบบ อ.๒) โดยวิธีการทางอิเลกทรอนิกส ตามคมือการใชงาน




ระบบการพิจารณาค าร้องขอส่งน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจักรโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ การอนุมัติ (แบบ

กน.๑๐) และคมือการใชงานระบบการพิจารณาคาร้องขอสงน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจกร โดยวิธีทาง
ู่



อิเล็กทรอนิกส์ การอนุมัติ (แบบ อ.๒) แนบท้ายประกาศนี้
ข้อ ๕ ให้บริษัทส่งออกที่ได้ส่งน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจักรแล้ว รายงานการ ส่ง
น้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจกรตามแบบรายงานรายละเอียดการสงออกน้ าตาลทรายโดยวิธีการทาง


อิเล็กทรอนิกส์ ตามคู่มือการใช้งานระบบการรายงาน (แบบ กน.๑๑) แนบท้ายประกาศ




ข้อ ๖ บริษัทสงออกทไดขึ้นทะเบียนเป็นสมาชกระบบให้บริการอิเลกทรอนิกสของ

ี่



สานักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทรายอยู่ก่อนวันทประกาศนี้มีผลใชบังคบ ให้สามารถยื่นคาร้องขอรับ

ี่




หนังสออนุญาตสงน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจกร (แบบ กน.๙) และคาขอรับใบอนุญาตสงสนคาออกไปนอก




ั้




ราชอาณาจกร (แบบ อ.๑) โดยวิธีการทางอิเลกทรอนิกสตามระเบียบนี้แตทงนี้ไม่เกินสามสบวันนับจากวันท ี่
ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ
ข้อ ๗ การยื่นขอลงทะเบียนเป็นผยื่นคาร้องขอสงออกน้ าตาลทรายไปนอกราชอาณาจกรโดย



ู้

วิธีการทางอิเลกทรอนิกส ตามข้อ ๒ การยื่นคาร้องขอรับหนังสออนุญาตสงน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจกร





(แบบ กน.๙) และค าขอรับใบอนุญาตส่งสินคาออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ อ.๑) โดยวิธีการทางอิเลกทรอนิกส ์


ตามข้อ ๓ การรายงานเมื่อได้ส่งน้ าตาลทรายออกนอกราชอาณาจักรแล้วตามข้อ ๕ บริษัทส่งออกจะต้องยื่นเอกสาร
หลักฐานต่าง ๆ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่ก าหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการอ้อยและ
น้ าตาลทราย ว่าด้วยการอนุญาตให้ส่งออกน้ าตาลทราย พ.ศ. ๒๕๖๑

ประกาศ ณ วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑
วรวรรณ ชิตอรุณ
เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทราย

ประกาศกระทรวงการคลัง

ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการใช้ระบบบริการ Tax Single Sign On


ี่

เพื่อเป็นการอ านวยความสะดวกแก่ผทประสงคจะยื่นคาร้อง คาขอ แบบแสดงรายการ หรือ

ู้

การด าเนินการใด ๆ ตามกฎหมายในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ อันเป็นการท าธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกสภาครัฐ


กับ ๓ กรมภาษี ได้แก่ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลง



ื่



ู้
โดยให้สามารถใชชอผใชงาน (Username) และรหัสผาน (Password) เดยวกัน สาหรับการเข้าใชระบบบริการ
อิเลกทรอนิกสของกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศลกากร หากกระทาผานระบบบริการ Tax Single





Sign On ของกระทรวงการคลัง
การท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ หน่วยงานของรัฐต้องก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ
ตามที่ก าหนดในมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส ์
ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๕ ออกตามความในมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔
กระทรวงการคลังจึงก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการใช้ระบบบริการ Tax Single Sign On ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้



ี่
“ผใชบริการ" หมายความว่า บุคคลธรรมดา นิตบุคคล ห้างหุ้นสวน หรือคณะบุคคล ทไดลงทะเบียนขอใชระบบ


ู้
บริการ Tax Single Sign On
“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า กระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบบริการ Tax Single Sign On
“ระบบบริการ Tax Single Sign On” หมายความว่า ระบบบริการอิเลกทรอนิกส ตานภาษี




ู่

ื่


ู้

ของ ๓ กรมภาษี โดยใชชอผใชงาน (Username) และรหัสผาน (Password) ชดเดยว ในการเข้าสระบบบริการ
อิเล็กทรอนิกส์ของ ๓ กรมภาษี
“๓ กรมภาษี” หมายความว่า กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร
ข้อ ๒ ผใช้บริการที่มีความประสงค์จะใช้ระบบบริการ Tax Single Sign On ต้องลงทะเบียน
ู้
โดยยื่นค าขอใช้ระบบบริการ Tax Single Sign On ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของ
กระทรวงการคลัง https://etax.mof.go.th โดยต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน ตามความเป็นจริงทุกประการ

ประกาศส านักงานประกันสังคม
เรื่อง ขั้นตอนการรับสมัครและขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๑



ู้
เพื่อให้การด าเนินการรับสมัครและขึ้นทะเบียนผประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส ์






เปนไปตามขอ ๕ แห่งระเบียบสานักงานประกันสงคม ว่าดวยการรับสมัครและขึ้นทะเบยนผประกันตนตามมาตรา
ู้
๔๐ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์
ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ ออกตามความในมาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์
พ.ศ. ๒๕๔๔
อาศยอ านาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัตระเบียบบริหารราชการแผนดน พ.ศ.





ี่

๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเตมโดยพระราชบัญญัตระเบียบบริหารราชการแผนดน (ฉบับท ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ เลขาธิการ


ส านักงานประกันสังคมจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป
ข้อ ๒ การรับสมัครและการตรวจสอบข้อมูลระบุตัวตน
ู้
ี่
๑) ผู้สมัครเข้าเว็บไซต์ของระบบลงทะเบียนผประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผ่านช่องทางทส านักงาน
ประกันสังคมก าหนด

๒) ให้ผู้สมัครกรอกข้อมูลระบุตวตน ได้แก่ เลขประจ าตัวประชาชน ๑๓ หลักและเลขควบคุมบัตร


ประชาชน (Laser Code) ซึ่งอยู่ด้านหลังบัตรประจาตัวประชาชน (ตัวอย่าง LAx-xxxxxxx-xx) คาน าหน้า
นาม ชอ - สกุล วันเดอนปีเกิด และ e-mail address หรือ หมายเลขโทรศพท ์
ื่



๓) เมื่อผสมัครกรอกข้อมูลระบุตวตนเรียบร้อยแลว ระบบจะดาเนินการประมวลผลผานระบบ


ู้

ู้



เว็บเซอร์วิส (web service) และตรวจสอบข้อมูลและคณสมบัตของผสมัครตามเงื่อนไขทก าหนด ไดแก่การพิสูจน์
ี่

ตัวตน การมีอายุครบ ๑๕ ปีบริบูรณ์และไม่เกิน ๖๐ ปีบริบูรณ และไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๓ และมาตรา ๓๙
ู้




ู้
ี่

โดยระบบจะแจงผลการตรวจสอบให้ผสมัครทราบเพื่อด าเนินการในขั้นตอนตอไป เฉพาะกรณทผสมัครมีคณสมบัต
ี่
ตรงตามเงื่อนไขทส านักงานประกันสังคมก าหนดเท่านั้น


ู้

ทั้งนี้ หากผสมัครมีคณสมบัติไม่ตรงตามเงื่อนไขทสานักงานประกันสังคมก าหนด ระบบจะแจงผลการ
ี่

ตรวจสอบให้ทราบ และผู้สมัครจะไม่สามารถดาเนินการในขั้นตอนต่อไปได ้
ข้อ ๓ การให้ข้อมูล



ี่
๑) ให้ผสมัครกรอกข้อมูลสวนบุคคล ไดแก่ ทอยู่ทสามารถตดตอได หมายเลขโทรศพทบ้านหรือ

ี่
ู้



โทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อได้อย่างสะดวก
๒) ให้ผสมัครกรอกข้อมูลอื่น ไดแก่ กลมอาชพ รายไดตอเดอน สภาพร่างกาย
ู้



ุ่



(กรณพิการให้ระบุความพิการ)



๓) ให้ผสมัครยืนยันข้อมูลการไม่เป็นสมาชกของกองทนบ าเหน็จบ านาญข้าราชการ กองทน
ู้

บ าเหน็จบ านาญข้าราชการกรุงเทพมหานคร กองทุนบ าเหน็จบ านาญข้าราชการท้องถิ่น หรือไม่เป็นสมาชิกกองทน

ของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่มีลักษณะอย่างเดียวกับกองทุนบ าเหน็จบ านาญของส่วนราชการรวมทั้งไม่


ี่

ี่
เป็นเจาหน้าทของรัฐทอยู่ภายใตบังคบตามกฎหมายว่าดวยบ าเหน็จบ านาญข้าราชการ กฎหมายว่าดวยบ าเหน็จ


บ านาญข้าราชการกรุงเทพมหานคร หรือกฎหมายว่าด้วยบ าเหน็จบ านาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น




ู้

ระบบจะแจงให้ผสมัครยืนยันความถูกตองของข้อมูล หากภายหลงสานักงานประกันสงคม
ตรวจสอบพบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จ ส านักงานประกันสังคมสามารถยกเลิกการสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา
๔๐ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได ้
ข้อ ๔ การยืนยันการลงทะเบียน

เมื่อสานักงานประกันสงคมไดรับข้อมูลการสมัครเป็นผประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผานระบบ

ู้





อิเลกทรอนิกสเรียบร้อยแลว ระบบจะแจงให้ผสมัครยืนยันการลงทะเบียนผประกันตนตามมาตรา ๔๐ โดยให้
ู้
ู้





ผู้สมัครเลือกยืนยันการลงทะเบียน หรือยกเลิกการลงทะเบียน โดยส านักงานประกันสงคมจะอนมัตการขึ้นทะเบยน
ู้

ผประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผานระบบอิเลกทรอนิกส และแจงผลการพิจารณาอนุมัตให้ผสมัครทราบทันทเฉพาะ


ู้



ผู้สมัครที่ยืนยันการลงทะเบียนเท่านั้น
ข้อ ๕ การเลือกรูปแบบการจ่ายเงินสมทบ
๑) ทางเลือกที่ ๑ จ่ายเงินสมทบ ๗๐ บาท ต่อเดือน
๒) ทางเลือกที่ ๒ จ่ายเงินสมทบ ๑๐๐ บาท ต่อเดือน
๓) ทางเลือกที่ ๓ จ่ายเงินสมทบ ๓๐๐ บาท ต่อเดือน
ข้อ ๖ การช าระเงินสมทบ

ให้ผู้สมัครที่ได้รับการอนุมัติขึ้นทะเบียน ด าเนินการช าระเงินสมทบตามรูปแบบการจายเงินสมทบ
ที่เลือกไว้ ณ หน่วยบริการรับช าระเงินที่ส านักงานประกันสังคมก าหนด โดยแจ้งเลขประจ าตัวประชาชน ๑๓ หลัก
ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑
สุรเดช วลีอิทธิกุล

เลขาธิการสานักงานประกันสังคม

ประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา
ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขส าหรับการยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า

และค าขออื่น ๆ ผ่านทางระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing)


ั่
เพื่อเป็นการอ านวยความสะดวกในการให้บริการแก่ภาคธุรกิจเอกชนและประชาชนทวไปในการ

ู้
ี่


ยื่นคาขอจดทะเบียนเครื่องหมายการคา หรือคาขออื่น ๆ กรมทรัพย์สนทางปัญญาจงเปิดให้บริการแก่ผทประสงค ์


จะยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า และค าขออื่น ๆ ผ่านทางระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) แทนการมายื่นค าขอด้วยตนเองได้อีกทางหนึ่ง
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.

๒๕๓๔ และข้อ ๒ วรรคสาม แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญัต เครื่องหมาย

ี่

การคา พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเตมโดยกฎกระทรวง ฉบับท ๔ (พ.ศ. ๒๕๔๓) ออกตามความในพระราชบัญญัต ิ


เครื่องหมายการคา พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๗ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัตการอ านวยความสะดวกในการพิจารณา



อนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ.


๒๕๔๔ พระราชกฤษฎีกาก าหนดหลกเกณฑ์และวิธีการในการทาธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙





ประกอบกับมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัตระเบียบบริหารราชการแผนดน พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเตมโดย




ี่

พระราชบัญญัตระเบียบบริหารราชการแผนดน (ฉบับท ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดกรมทรัพย์สนทางปัญญาจงออก



ประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา เรื่อง ก าหนดหลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข


ส าหรับการยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมาย และคาร้องหรือค าขออื่น ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ลงวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๙
ข้อ ๒ ในประกาศนี้

“เครื่องหมายการคา” หมายความรวมถึง เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง และ
เครื่องหมายร่วม



“ผยื่นคาขอ” หมายความว่า บุคคลทยื่นคาขอจดทะเบียนเครื่องหมายการคา หรือคาขออื่น ๆ
ี่

ู้
ผ่านทางระบบ e-Filing
“ค าขออื่น ๆ” หมายความว่า


(๑) ค าคัดคานการจดทะเบียน ค าโต้แย้งคาคัดค้าน
(๒) ค าอุทธรณ ์
(๓)คาขอโอนหรือรับมรดกสทธิในคาขอทยื่นจดทะเบียน คาขอโอนหรือรับมรดกสทธิ

ี่




ในเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนแล้ว






(๔) คาขอจดทะเบียนสญญาอนุญาตให้ใชเครื่องหมายการคา คาขอจดทะเบียนตออายุสญญา

อนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า
(๕) ค าขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน
(๖) ค าขอต่ออายุการจดทะเบียน
(๗) ค าขอให้เพิกถอนการจดทะเบียน
(๘) ค าขอถือสิทธิวันที่ยื่นค าขอนอกราชอาณาจักรครั้งแรก หรือวันที่น าสินค้าที่ใชเครื่องหมายออก




แสดงในงานแสดงสนคาระหว่างประเทศเป็นวันยื่นค าขอในราชอาณาจกรตามมาตรา ๒๘ หรือมาตรา ๒๘ ทวิ
(๙) หนังสือแสดงการปฏิเสธ

(๑๐) หนังสือแจ้งฟ้องคดีต่อศาล ค าพิพากษา และผลคด ี
(๑๑) ค าขออื่น ๆ และหนังสือต่าง ๆ






โดยไม่รวมถึงคาขอตรวจดทะเบียนหรือสารบบ คาขอคดสาเนาเอกสาร คาขอให้รับรองสาเนา


เอกสารและรายการจดทะเบียน ค าขอใบแทนหนังสือส าคัญแสดงการจดทะเบียน

“ระบบ e-Filing” หมายความว่าระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทางอิเล็กทรอนิกส (e-Filing)
ข้อ ๓ ในการยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า หรือค าขออื่น ๆ ผ่านทางระบบ e-Filing ให้ผ ู้
ื่
ยื่นค าขอใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate) ที่ได้รับจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาแทนการลงลายมือชอ
ในค าขอดังกล่าว


ข้อ ๔ ผู้ยื่นคาขอต้องปฏิบัตตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานตามที่ระบบ e-Filing ก าหนด
หมวด ๑

ข้อก าหนดในการยื่นค าขอ และการส่งเอกสารหลกฐาน




ข้อ ๕ ให้ผู้ยื่นคาขอกรอกข้อมูลในคาขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า หรือคาขออื่น ๆ ที่ประสงค ์

จะยื่นผ่านทางระบบ e-Filing ให้ถูกต้องครบถ้วน พร้อมทั้งแนบเอกสารหลักฐานที่มีความชัดเจนถูกต้อง ตามวิธีการ
รูปแบบและมาตรฐานที่ระบบ e-Filing ก าหนดไว้




ู้


ข้อ ๖ ภายใตบังคบข้อ ๕ และในกรณทประกาศนี้มิไดก าหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้ผยื่นค าขอ
ี่
ี่
แนบเอกสารหลักฐานตามทค าขอจดทะเบียนและค าขออื่น ๆ ในเรื่องนั้น ๆ ก าหนดไว้ให้ครบถ้วน (ถ้ามี) เช่น
(๑) หนังสือมอบอ านาจ

ี่



(๒) สาเนาบัตรประจาตวประชาชนหรือบัตรประจาตวอื่น ๆ ททางราชการออกให้ของบุคคลท ี่

เกี่ยวข้องซึ่งมิใช่ผู้ยื่นค าขอ

(๓) รายชื่อและเอกสารหรือค าชี้แจงแสดงความสัมพันธ์ของผู้มีสทธิใช้เครื่องหมายร่วม (กรณีค าขอ
จดทะเบียนเครื่องหมายร่วม)




(๔) ข้อบังคบหรือข้อก าหนดหลกเกณฑ์การใชเครื่องหมายรับรอง (กรณคาขอจดทะเบียน

เครื่องหมายรับรอง)
(๕) หนังสือยินยอมจากผู้โอนหรือผู้รับโอนตามมาตรา ๕๑/๑
(๖) หนังสออนุญาตให้ใชลายมือชอหรือภาพของบุคคลอื่นเป็นเครื่องหมายการคา (กรณ ี



ื่
เครื่องหมายการค้าที่ขอจดทะเบียนเป็นลายมือชื่อหรือภาพของบุคคลอื่น)

(๗) ภาพถ่ายใบมรณบัตร หนังสอยืนยันของทายาทผรับมรดก ภาพถ่ายพินัยกรรม หรือสาเนา
ู้

ค าสั่งตั้งผู้จัดการมรดก พร้อมด้วยส าเนาบัตรประจ าตัวประชาชนผู้เกี่ยวข้อง (กรณีการรับมรดก)


(๘) หนังสือส าคัญแสดงกรรมสทธิ์ของผู้ซื้อเครื่องหมายการคาจากการขายทอดตลาดของสานักงาน

บังคับคดีและวางทรัพย์ (กรณีการโอนโดยการขายทอดตลาด)






(๙) หนังสอแจงข้อเทจจริงและเอกสารหลกฐานเกี่ยวกับการบังคบหลกประกันหรือคาพิพากษา

บังคับหลักประกัน (กรณีการโอนโดยกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ)
(๑๐) หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล หรือเอกสารหลักฐานประกอบการแก้ไขเปลี่ยนแปลง (กรณ ี
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน)








(๑๑) สาเนาคาขอจดทะเบียนนอกราชอาณาจกร หนังสอรับรองการจดงานแสดงสนคาระหว่าง



ี่



ู้
ประเทศ เอกสารแสดงว่าผขอไดน าสนคาทใชเครื่องหมายออกแสดงในงานแสดงสนคาระหว่างประเทศ เอกสาร

ู้

แสดงว่านิตบุคคลทยื่นคาขอจดทะเบียนครั้งแรกมีสานักงานแห่งใหญ่อยู่ในประเทศไทย เอกสารทแสดงว่าผขอมี
ี่

ี่
ภูมิล าเนาหรือประกอบอุตสาหกรรมหรือพาณิชยกรรมอย่างจริงจังในประเทศไทย หนังสือรับรองที่แสดงว่าค าขอจด
ทะเบียนครั้งแรกไม่เคยถูกปฏิเสธหรือถอนคนหรือละทง หรือถูกปฏิเสธหรือถอนคนหรือละทง แตยังไม่เคยขอใช ้
ิ้


ิ้






สทธิและไม่อาจดาเนินการใดตามกฎหมายของประเทศนั้นและไม่ไดมีการเปิดเผยตอสาธารณชน คาแปลเป็น

ี่

ี่

ภาษาไทย (กรณขอถือสทธิวันทยื่นคาขอนอกราชอาณาจกรเป็นครั้งแรกหรือวันทน าสนคาทใชเครื่องหมายออก




ี่
แสดงในงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศเป็นวันยื่นค าขอในราชอาณาจักร)


ี่





(๑๒) สาเนาคาฟ้องหรือสาเนาคาพิพากษาฉบับทศาลรับรอง หรือสาเนาหนังสอรับรองคดถึง

ที่สด (กรณีแจ้งการฟ้อง หรือค าพิพากษาและผลคดี)
ข้อ ๗ ในกรณีที่เครื่องหมายการค้าที่ขอจดทะเบยนเป็นเสียงหรือประกอบด้วยเสียง ให้ผู้ยื่นค าขอ

แนบเครื่องหมายเสียงตามวิธีการ รูปแบบ และมาตรฐานที่ระบบ e-Filing ก าหนดไว้ และให้ถือว่าได้ส่งสิ่งบันทึกเสียง
ที่ขอจดทะเบียนให้แก่นายทะเบียนแล้ว
ข้อ ๘ ในกรณีการคัดค้านการจดทะเบียนและการโต้แย้งค าคัดค้าน ให้ถือว่าการยื่นค าคดคาน









การจดทะเบยน หรอค าโตแยงค าคดคานผานทางระบบ e-Filing เป็นการแนบส าเนาค าคดคานหรอส าเนาค า






โตแยงให้แก่นายทะเบียนแลว






ข้อ ๙ ในกรณการโอนสทธิในคาขอจดทะเบยนหรือโอนสทธิในเครื่องหมายการคา ให้ผยื่นคาขอ
ู้

แนบสัญญาโอนในระบบ e-Filing พร้อมกับค าขอ และให้ถือว่าเป็นการส่งสัญญาโอนให้แก่นายทะเบียนแล้ว





ข้อ ๑๐ ในกรณการโอนสทธิในเครื่องหมายการคา ให้เจาของเครื่องหมายการคาสงหนังสอ







สาคญแสดงการจดทะเบียนหรือใบแทนหนังสอสาคญแสดงการจดทะเบียน ให้แก่นายทะเบียน ณ กรมทรัพย์สน

ทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ภายในสิบห้าวันนับถัดจากวันที่ได้ยื่นค าขอผ่านทางระบบ e-Filing


ในกรณการขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการคาของตนเอง ให้เจาของเครื่องหมาย

การคาสงหนังสอสาคญแสดงการจดทะเบียน ใบแทนหนังสอสาคญแสดงการจดทะเบียน หรือหนังสอยืนยันจาก











เจาของเครื่องหมายการคาหรือตวแทนว่าหนังสอสาคญสญหาย ให้แก่นายทะเบียน ณ กรมทรัพย์สนทางปัญญา






กระทรวงพาณิชย์ ภายในสิบห้าวันนับถัดจากวันที่ได้ยื่นค าขอผ่านทางระบบ e-Filing
หากเจ้าของเครื่องหมายการค้าไม่ส่งเอกสารภายในระยะเวลาทก าหนดในวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง
ี่





ให้ถือว่าเจาของเครื่องหมายการคาไม่ประสงคจะดาเนินการโอนสทธิในเครื่องหมายการคาหรือให้เพิกถอนการจด

ทะเบียนเครื่องหมายการค้า และให้นายทะเบียนมีค าสั่งไม่อนุญาตค าขอดังกล่าว
ข้อ ๑๑ ในกรณีการขอจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการคา การแก้ไขเปลี่ยนแปลง



รายการการจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใชเครื่องหมายการคา และการขอเพิกถอนการจดทะเบียนสัญญาอนุญาต

ู้

ให้ใช้เครื่องหมายการคา ให้เจ้าของเครื่องหมายการคาหรือผขอจดทะเบียนเป็นผู้ได้รับอนุญาตแนบสัญญาอนุญาต

สัญญาอนุญาตซึ่งมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือเอกสารทแสดงว่าสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการคาสิ้นสดแลว
ี่



แล้วแต่กรณี มาพร้อมกับค าขอ และให้ถือว่าเป็นการสงเอกสารดังกล่าวให้แก่นายทะเบียนแล้ว
ข้อ ๑๒ ในกรณการอุทธรณค าสงหรือค าวินิจฉัยของนายทะเบียน หรือขอให้เพิกถอนการจด
ั่


ทะเบียนเครื่องหมายการคาของบุคคลอื่น ให้ถือว่าการอุทธรณหรือการยื่นคาขอให้เพิกถอนการจดทะเบียน








เครื่องหมายการคาผานทางระบบ e-Filing เป็นการแนบสาเนาคาอุทธรณหรือคาขอให้เพิกถอนการจดทะเบียน


เครื่องหมายการค้าด้วยแล้ว
ข้อ ๑๓ ในกรณีที่ผู้ยื่นค าขอประสงค์ส่งเอกสารหลักฐานอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา

ี่
ของนายทะเบียนหรือคณะกรรมการเครื่องหมายการคา เช่น เอกสารหลักฐานการน าสบลักษณะบ่งเฉพาะทเกิดจาก







การใช้เครื่องหมายการคา เอกสารหลกฐานประกอบคาขอถือสทธิวันที่ยื่นคาขอนอกราชอาณาจกรครั้งแรกหรือวันท ี่



น าสนคาทใชเครื่องหมายออกแสดงในงานแสดงสนคาระหว่างประเทศเอกสารประกอบคาคดคานหรือคาโตแย้ง


ี่





เอกสารหลักฐานประกอบอุทธรณหรือขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น ให้ส่งเอกสาร







หลกฐานดงกลาวภายในสิบห้าวันนับถัดจากวันท่ได้ยื่นคาขอจดทะเบียนหรือคาขออื่น ๆ ผ่านทางระบบ e-
Filing เว้นแต่ผู้ยื่นค าขอจะได้มีหนังสือขอผ่อนผันการส่งเอกสารหลักฐานดังกล่าวไว้ ให้ผู้ยื่นค าขอส่งเอกสารหลักฐาน
ดังกล่าวภายในระยะเวลาที่ขอผ่อนผันไว้

ี่

ในกรณทผยื่นคาขอไม่สงเอกสารหลกฐานภายในระยะเวลาทก าหนดในวรรคหนึ่ง และมิไดมี
ู้



ี่

หนังสอขอผอนผนไว้ ให้ถือว่าผยื่นคาขอไม่ประสงคจะสงเอกสารหลกฐานนั้น และคาขอนั้นจะไดรับการพิจารณา







ู้

โดยไม่มีเอกสารหลักฐานดังกล่าว
ข้อ ๑๔ ให้ผ้ยื่นคาขอเก็บรักษาเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งได้ยื่นผ่านทางระบบ e-Filing ไว้





เพื่อตรวจสอบในกรณนายทะเบียนหรือคณะกรรมการเครื่องหมายการคาเห็นว่าเอกสารหลกฐานตาง ๆ ไม่ชดเจน


ไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง

ข้อ ๑๕ การส่งเอกสารหลักฐานตามข้อ ๑๐ และข้อ ๑๓ ให้ใช้แบบหนังสือน าส่งเอกสารหลกฐาน



และคาชแจง (แบบ ก. ๒๐) โดยทางไปรษณย์ลงทะเบียนตอบรับถึงนายทะเบียน หรือน าสงดวยตนเอง ณ กรม

ี้
ทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์
ในกรณีส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ให้ถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นส าคัญ
ในกรณีการน าส่งด้วยตนเอง ให้ถือวันที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับเอกสารหลักฐานเป็นส าคัญ

หมวด ๒
ี่
การได้รับเลขทค าขอและวันยื่นค าขอรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
และการได้รับวันยื่นค าขออื่น ๆ


ู้
ี่
ข้อ ๑๖ ผู้ยื่นค าขอจะได้รับเลขที่ค าขอและวันยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในวันทผยื่น
ค าขอได้ส่งข้อมูลของค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเข้าสู่ระบบ e-Filing แล้ว
ในกรณีค าขออื่น ๆ ผู้ยื่นค าขอจะได้รับวันยื่นค าขออื่น ๆ เมื่อผู้ยื่นค าขอได้ส่งข้อมูลของค าขออื่น ๆ
เข้าสู่ระบบ e-Filing แล้ว



หมวด ๓
การช าระค่าธรรมเนียมการยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า หรือค าขออื่น ๆ
และการช าระค่าธรรมเนียมตามการแจ้งหรือค าสั่งของนายทะเบียน


ู้

ข้อ ๑๗ ผยื่นคาขอสามารถเลอกชาระคาธรรมเนียมการยื่นคาขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า




หรือค าขออื่น ๆ ในคราวเดียวกัน โดยวิธีการและระยะเวลาที่ก าหนด ดังต่อไปนี้

(๑) กรณีช าระค่าธรรมเนียมผ่านผู้ให้บริการรับช าระค่าธรรมเนียมที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาไดทา


ี่

ความตกลงไว้ ให้ช าระภายใน ๒๒.๐๐ นาฬกา ของวันถัดไปของวันทไดยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า


หรือค าขออื่น ๆ แลวแตกรณ ี
(๒) กรณชาระคาธรรมเนียม ณ กรมทรัพย์สนทางปัญญา หรือสานักงานพาณชย์จงหวัด ให้ชาระ








ภายใน ๑๕.๓๐ นาฬิกา ของวันท าการถัดไปของวันที่ได้ยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าหรือค าขออื่น ๆ




ู้

ี่
ในกรณทผยื่นคาขอไม่ชาระคาธรรมเนียมภายในก าหนดเวลาตาม (๑) หรือ (๒) หรือชาระไม่


ครบถ้วน ให้ถือว่าผู้ยื่นคาขอไม่ประสงคจะดาเนินการกับคาขอจดทะเบยนเครื่องหมายการคาหรือค าขออื่น ๆ หรือ





ั้






ละทงคาขอจดทะเบียนเครื่องหมายการคา หรือคาขออื่น ๆ แลวแตกรณ ทงนี้ นายทะเบยนจะจาหน่ายคาขอจด
ิ้



ทะเบียนเครื่องหมายการคา หรือค าขออื่น ๆ ออกจากระบบ e-Filing ต่อไป

การขอคนคาธรรมเนียมซึ่งชาระไม่ครบถ้วน สามารถดาเนินการได ณ กรมทรัพย์สนทางปัญญา









ภายใน ๓๐ วันนับแตวันยื่นค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการคา หรือค าขออื่น ๆ แลวแตกรณ ี

ข้อ ๑๘ กรณทนายทะเบียนแจงหรือมีคาสงให้ผยื่นคาขอชาระคาธรรมเนียมการจดทะเบียน





ี่
ู้
ั่

เครื่องหมายการค้า การจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใชเครื่องหมายการค้า หรือช าระค่าธรรมเนียมอื่นใดเพิ่มเติม ผ ู้

ยื่นคาขอสามารถเลอกชาระคาธรรมเนียมภายในก าหนดเวลาการแจงหรือคาสงของนายทะเบียนในคราวเดียวกัน




ั่

โดยวิธีการและระยะเวลาที่ก าหนด ดังต่อไปนี้

(๑) กรณีช าระค่าธรรมเนียมผ่านผู้ให้บริการรับช าระค่าธรรมเนียมที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาไดทา



ความตกลงไว้ หากชาระในวันสดทายของวันครบก าหนดเวลาการแจงหรือคาสงของนายทะเบียนให้ชาระภายใน

ั่



๒๒.๐๐ นาฬิกา ของวันดังกล่าว

(๒) กรณีช าระค่าธรรมเนียม ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือส านักงานพาณิชย์จังหวัด หากช าระ
ั่
ในวันสดทายของวันครบก าหนดเวลาการแจงหรือคาสงของนายทะเบียน ให้ชาระภายใน ๑๕.๓๐ นาฬกา ของวัน






ดังกล่าว

ในกรณีที่ผู้ยื่นค าขอไม่ช าระค่าธรรมเนียมภายในก าหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง หรือช าระไม่ครบถวน
ให้ถือว่าผู้ยื่นค าขอไม่ประสงคจะดาเนินการกับค าขอจดทะเบยนเครื่องหมายการคา หรือค าขออื่น ๆ ต่อไป และถือ




ว่าเป็นการละทิ้งค าขอนั้น ทั้งนี้ นายทะเบียนจะจ าหน่ายค าขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าหรือค าขออื่น ๆ ออก
จากระบบ e-Filing ต่อไป






การขอคนคาธรรมเนียมซึ่งชาระไม่ครบถ้วน สามารถดาเนินการได ณ กรมทรัพย์สนทางปัญญา
ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้ช าระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง
หมวด ๔

การแจ้งค าสั่ง คาวินิจฉัยของนายทะเบียนหรือเจ้าหน้าท ี่

ี่

ั่

ข้อ ๑๙ การแจงคาสง คาวินิจฉัยของนายทะเบียนทเกี่ยวกับการพิจารณาคาขอทไดยื่นตาม

ี่


ประกาศฉบับนี้ ให้นายทะเบียนแจ้งให้ผยื่นค าขอทราบหรือด าเนินการเป็นหนังสอทางไปรษณีย์ลงทะเบยนตอบรับ


ู้
โดยให้แจ้งไปยังสถานที่ติดต่อที่ผู้ยื่นค าขอได้ให้ไว้ในค าขอนั้น


ในกรณีที่ไม่สามารถส่งหนังสือตามวรรคหนึ่งได้ ให้นายทะเบยนส่งหนังสือแจ้งคาสั่งทางไปรษณย์


ลงทะเบียนตอบรับไปยังสถานที่ตดต่อที่ผยื่นค าขอไดให้ไว้ในคาขอจดทะเบียนเครื่องหมายการคาหรือคาขออื่น ๆ อีก


ู้





ครั้งหนึ่ง เมื่อได้ส่งหนังสือดังกล่าวและเวลาได้ลวงพ้นไปเจ็ดวันแลว ให้ถือว่าผู้ยื่นค าขอนั้นได้รับหนังสือนั้นแลว

หมวด ๕
บทเฉพาะกาล



ข้อ ๒๐ ให้การด าเนินการเกี่ยวกับค าขอจดทะเบยนเครื่องหมายการคา หรือค าขออื่น ๆ ที่ได้ยื่น

ี่




ผานทางอินเทอร์เน็ต (e-Trademark filing) ก่อนวันทประกาศนี้ใชบังคบ อยู่ภายใตประกาศกรมทรัพย์สนทาง



ปัญญา เรื่อง ก าหนดหลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขสาหรับการยื่นคาขอจดทะเบียนเครื่องหมาย และคาร้องหรือ

ค าขออื่น ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ลงวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๙ จนกว่าจะถึงที่สุด
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ทศพล ทังสุบุตร
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

ประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา
ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขส าหรับการยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรค าร้องหรือค าขออื่น ๆ

ผ่านทางระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing)


ั่
เพื่อเป็นการอ านวยความสะดวกในการให้บริการภาคธุรกิจเอกชนและประชาชนทวไปในการยื่น




ค าขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ กรมทรัพย์สนทางปัญญาจงเปิดให้บริการแก่ผู้ที่ประสงค ์
จะยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ ผ่านระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) แทนการมายื่นค าขอด้วยตนเองได้อีกทางหนึ่ง

อาศยอ านาจตามความในมาตรา ๒๘ (๒) มาตรา ๓ มาตรา ๕ มาตรา ๕ เบญจ





ี่

มาตรา ๖๕ ทศ และมาตรา ๗๔ แห่งพระราชบัญญัตสทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ และทแก้ไขเพิ่มเตมข้อ ๔ วรรคสอง

ี่
และข้อ ๙ วรรคสองแห่งกฎกระทรวงฉบับท ๒๒ (พ.ศ. ๒๕๔๒) ออกตามความในพระราชบัญญัตสทธิบัตร พ.ศ.


๒๕๒๒ มาตรา ๗ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัตการอ านวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ

พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔ พระราชกฤษฎีกา






ก าหนดหลกเกณฑ์และวิธีการในการทาธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒


แห่งพระราชบัญญัติระเบยบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร
ราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ให้ยกเลกประกาศกรมทรัพย์สนทางปัญญา เรื่อง ก าหนดหลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข




สาหรับการยื่นคาขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร คาร้องหรือคาขออื่น ๆ ผานทางอินเทอร์เน็ต ลงวันท ๒๒



ี่

มิถุนายน ๒๕๕๘
ข้อ ๒ ในประกาศนี้




“ผ้ยื่นคาขอ” หมายความว่า ผ้ยื่นคาขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร คาร้องหรือคาขออื่น ๆ



ผานทางระบบ e-Filing
“ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ” หมายความว่า
(๑) ค าขอรับความคุ้มครองการประดิษฐ์ในประเทศไทย
(๒) ค ารับรองเกี่ยวกับสิทธิขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรและ Statement
of Applicant’s Right to Apply for a Patent/ Petty Patent




(๓) ค าขอถือสิทธิให้ถอวันยื่นคาขอในตางประเทศเป็นครั้งแรกเป็นวันยื่นคาขอในไทย
(๔) ค าขอแก้ไขเพิ่มเติมค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
(๕) ค าขอเปลี่ยนแปลงประเภทของสิทธิ
(๖) ค าขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ ์
(๗) ค าขอตรวจค้นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร และคัดส าเนาเอกสาร
(๘) ค าคัดค้าน
(๙) ค าโต้แย้ง
(๑๐) ค าขอน าพยานหลักฐานมาแสดงหรือแถลงเพิ่มเติม
(๑๑) ค าอุทธรณ ์
(๑๒) ค าขอช าระค่าธรรมเนียมรายปี/คราวเดียว/ต่ออายุ

(๑๓) ค าขออื่น ๆ
(๑๔) ค าขอคืนสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรหรือเลิกข้อถือสิทธิบางข้อ

(๑๕) คาขอใบแทนสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร หรือใบแทนใบอนุญาตให้ใชสทธิตามสทธิบัตรหรือ





อนุสิทธิบัตร
(๑๖) ค าขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตให้เป็นตัวแทนสิทธิบัตร
(๑๗) ค าขอรับใบแทนใบอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนสิทธิบัตร
(๑๘) ค าขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนหรือใบอนุญาตให้เป็นตัวแทนสิทธิบัตรใหม่
(๑๙) ค าขอมีบัตร ค าขอมีบัตรใหม่และค าขอเปลี่ยนบัตรตัวแทนสิทธิบัตร

(๒๐) ค าขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตฯ (กรณีใบเดิมถูกเพิกถอน)

(๒๑) ค าขอบันทึกค ายินยอมให้บุคคลอื่นใช้สิทธิตามสทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
(๒๒) ค าขออนุญาตใช้สิทธิตามสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
(๒๓) ค าขอให้ยกเลิกใบอนุญาตให้ใช้สิทธิตามสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร

(๒๔) ค าขอจดทะเบียนการอนุญาตให้ใช้สิทธิตามสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
(๒๕) ค าขอจดทะเบียนการโอนสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร และการรับโอนสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรโดยทางมรดก
(๒๖) ค าขอรับบ าเหน็จพิเศษ
(๒๗) ค าร้องเพื่อขอฟื้นสิทธิให้ค าขอระหว่างประเทศยังคงมีผลในประเทศไทย

(๒๘) ค าร้องขอให้ทบทวนผลการพิจารณาค าขอระหว่างประเทศ
(๒๙) ค าร้องขอให้ด าเนินการกับค าขอระหว่างประเทศก่อนครบก าหนด ๓๐ เดือน
(๓๐) แบบค าร้องขอให้หน่วยงานอื่นตรวจสอบการประดิษฐ ์
(๓๑) จดหมายชี้แจง
“ระบบ e-Filing” หมายความว่าระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทางอิเล็กทรอนิกส (e-Filing)


ข้อ ๓ ในการยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ

ู้

ี่



ผานทางระบบ e-Filing ให้ผยื่นคาขอใชใบรับรองอิเลกทรอนิกส (Electronic Certificate) ทไดรับจากกรม

ทรัพย์สินทางปัญญาแทนการลงลายมือชื่อในค าขอหรือค าร้องดังกล่าว
ข้อ ๔ ผู้ยื่นค าขอต้องปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานตามที่ระบบ
e-Filing ก าหนด

ข้อ ๕ ผยื่นคาขอมีหน้าทตดตามและตรวจสอบ สถานะคาขอ การแจงคาสงคาวินิจฉัยของพนักงาน

ู้

ี่



ั่

เจ้าหน้าที่ อธิบดี หรือคณะกรรมการสทธิบัตร


ข้อ ๖ เมื่อผู้ยื่นคาขอไดยื่นคาขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร ค าร้องหรือคาขออื่น ๆ ตามประกาศ







ฉบบนี้แลว ให้ถือว่าผยื่นคาขอมีความประสงคทจะให้พนักงานเจาหน้าทดาเนินการเกี่ยวกับคาขอตามหลกเกณฑ์

ี่
ู้



ี่






ี่


ู้
วิธีการ และเงื่อนไขทก าหนดไว้ตามประกาศฉบับนี้ทกประการแม้ภายหลงผยื่นคาขอจะไม่ไดดาเนินการยื่นคาขอ
ดังกล่าวผ่านทางระบบ e-Filing

หมวด ๑

ข้อก าหนดในการยื่นค าขอรับสทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ
และการส่งเอกสารหลักฐาน





ข้อ ๗ ให้ผยื่นคาขอกรอกข้อมูลในคาขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร คาร้องหรือคาขออื่น ๆ

ู้



ทประสงคจะยื่นตอกรมทรัพย์สนทางปัญญาผานทางระบบ e-Filing ให้ถูกตองครบถ้วน พร้อมทงแนบเอกสาร



ี่

ั้



หลกฐานตามทพระราชบัญญัตสทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ และอนุบัญญัตก าหนดไว้ในรูปของข้อมูลอิเลกทรอนิกสทมี
ี่



ี่
ี่
ความชัดเจน ถูกต้องตามวิธีการ รูปแบบและมาตรฐานทระบบ e-Filing ก าหนดไว้

ข้อ ๘ ในการยื่นเอกสารหลักฐานสาหรับประกอบการพิจารณาของพนักงานเจาหน้าที่ อธิบดีหรือ





ี่
ู้

คณะกรรมการสทธิบัตรตามข้อ ๗ ทไม่สามารถทาให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเลกทรอนิกสได้ ให้ผยื่นคาขอยื่นเอกสาร





ี่


หลกฐานดงกลาวตอพนักงานเจาหน้าท ณ กรมทรัพย์สนทางปัญญา กระทรวงพาณชย์ หรือสงทางไปรษณย์ซึ่งจะ




ั้



ถือตราประทบไปรษณย์เป็นสาคญ ทงนี้ ภายในระยะเวลาทพระราชบัญญัติสทธิบัตรพ.ศ. ๒๕๒๒ และอนุบัญญัต ิ
ี่
ก าหนดให้ต้องยื่นค าร้องหรือค าขออื่น ๆ นั้นไว้
ข้อ ๙ การยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่นๆ หรือเอกสารหลักฐานผาน




ทางระบบ e-Filing ให้ถือเป็นการยื่นคาขอ เอกสารหลกฐาน และสาเนาเพื่อประกอบคาขอรับสทธิบัตรหรืออนุ



สิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ ตามที่พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ และอนุบัญญัติก าหนดแล้ว


ี่

ข้อ ๑๐ ในกรณทพนักงานเจาหน้าท หรือคณะกรรมการสทธิบัตร เห็นว่าเอกสารหรือหลกฐานท ี่
ี่


ี่


ู้
อยู่ในรูปของข้อมูลอิเลกทรอนิกสไม่ถกตองครบถ้วนหรือไม่ชดเจน พนักงานเจาหน้าท จะเรียกให้ผยื่นคาขอมาให้




ถ้อยค าชี้แจง หรือให้ส่งเอกสาร หรือสิ่งใดเพิ่มเตมตามมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติสทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือ


ู้




คณะกรรมการสทธิบัตรจะให้ผยื่นคาขอน าพยานหลกฐานมาแสดงหรือแถลงเพิ่มเตมตามมาตรา ๗๓ แห่ง
พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ ก็ได ้

หมวด ๒
ี่
การได้รับเลขทค าขอและวันยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร
และการได้รับวันยื่นค าร้องหรือค าขออื่น ๆ


ู้

ข้อ ๑๑ ผู้ยื่นค าขอจะได้รับเลขที่ค าขอและวันยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรในวันที่ผยื่นคา
ขอได้ส่งข้อมูลของค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรเข้าสู่ระบบ e-Filing แล้ว

ในกรณคาร้องหรือคาขออื่น ๆ ผยื่นคาขอจะไดรับวันยื่นคาร้องหรือคาขออื่น ๆ เมื่อผยื่นคาขอได ้






ู้
ู้

ส่งข้อมูลของค าร้องหรือค าขออื่น ๆ เข้าสู่ระบบ e-Filing แล้ว
หมวด ๓
การช าระค่าธรรมเนียมการยื่นค าขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ
และการช าระค่าธรรมเนียมตามการแจ้งหรือค าสั่งของพนักงานเจ้าหน้าท ี่



ู้





ข้อ ๑๒ ผยื่นคาขอสามารถเลอกชาระคาธรรมเนียมการยื่นคาขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตรค า
ร้องหรือค าขออื่น ๆ ในคราวเดียวกัน โดยวิธีการและระยะเวลาที่ก าหนด ดังต่อไปนี้

(๑) กรณีช าระค่าธรรมเนียมผ่านผู้ให้บริการรับช าระคาธรรมเนียมที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาไดทา



ความตกลงไว้ ให้ชาระภายใน ๒๒.๐๐ นาฬกา ของวันถัดไปของวันยื่นคาขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตรหรือของ




วันที่ได้รับวันยื่นค าร้องหรือค าขออื่น ๆ แล้วแต่กรณ ี





(๒) กรณชาระคาธรรมเนียม ณ กรมทรัพย์สนทางปัญญาหรือสานักงานพาณชย์จังหวัด ให้ชาระ



ภายใน ๑๕.๓๐ นาฬิกา ของวันทาการถัดไปของวันท่ได้รับเลขท่คาขอและวันยื่นคาขอรับสิทธิบัตรหรืออน ุ





ี่

สทธิบัตร หรือของวันทไดรับวันยื่นค าร้องหรือค าขออื่น ๆ แลวแตกรณ




ู้
ี่

ในกรณทผยื่นคาขอไม่ชาระคาธรรมเนียมภายในก าหนดเวลาตาม (๑) หรือ (๒) หรือชาระไม่



ครบถ้วน ให้ถือว่าผยื่นคาขอไม่ประสงคจะด าเนินการกับคาขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร หรือละทงคาร้องหรือ



ิ้



ู้





ั้
คาขออื่น ๆ แลวแตกรณ ทงนี้ พนักงานเจาหน้าทจะจาหน่ายคาขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตรคาร้องหรือคาขอ






ี่
อื่น ๆ ออกจากระบบ e-Filing ต่อไป




การขอคนคาธรรมเนียมซึ่งชาระไม่ครบถ้วน สามารถดาเนินการได ณ กรมทรัพย์สนทางปัญญา





ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้เลขคาขอและวันยื่นค าขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร หรือนับแต่วันที่ได้รับวันยื่นคา

ร้องหรือค าขออื่น ๆ แล้วแต่กรณ ี
ี่

ี่




ู้


ข้อ ๑๓ กรณทพนักงานเจาหน้าทแจงหรือมีคาสงให้ผยื่นคาขอชาระคาธรรมเนียมการประกาศ
ั่
โฆษณาค าขอรับสทธิบัตรตามมาตรา ๒๘ (๒) หรือมาตรา ๖๕ ประกอบด้วยมาตรา ๒๘ (๒) ค่าธรรมเนียมการออก


อนุสทธิบัตรและคาธรรมเนียมประกาศโฆษณาตามมาตรา ๖๕ เบญจ (๒) คาธรรมเนียมการออกสทธิบัตรตาม



มาตรา ๓๓ หรือมาตรา ๖๕ ประกอบด้วยมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ ผู้ยื่นค าขอสามารถ



ั่



เลอกชาระคาธรรมเนียมภายในก าหนดเวลาการแจงหรือคาสงของพนักงานเจาหน้าทในคราวเดยวกัน โดยวิธีการ

ี่
และระยะเวลาที่ก าหนดดังต่อไปนี้



(๑) กรณีช าระค่าธรรมเนียมผ่านผู้ให้บริการรับช าระค่าธรรมเนียมที่กรมทรัพย์สนทางปัญญาไดทา


ความตกลงไว้ หากชาระในวันสดทายของวันครบก าหนดเวลาการแจงหรือคาสงของพนักงานเจาหน้าทให้ชาระ


ั่

ี่


ภายใน ๒๒.๐๐ นาฬิกา ของวันดังกล่าว


(๒) กรณีช าระค่าธรรมเนียม ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญาหรือสานักงานพาณชย์จังหวัด หากช าระ
ในวันสุดท้ายของวันครบก าหนดเวลาการแจ้งหรือค าสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ช าระภายใน ๑๕.๓๐ นาฬิกา ของ
วันดังกล่าว


ในกรณีท่ผ้ยื่นคาขอไม่ชาระค่าธรรมเนียมภายในก าหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง หรือไม่ชาระให้






ครบถ้วน ให้ถือว่าผู้ยื่นค าขอละทิ้งค าขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตรตามมาตรา ๒๘ (๒) มาตรา ๖๕ ประกอบดวย

มาตรา ๒๘ (๒) มาตรา ๖๕ เบญจ (๒) มาตรา ๓๓ หรือมาตรา ๖๕ ประกอบดวยมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัต ิ
สิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ แล้วแต่กรณ ี


การขอคนคาธรรมเนียมซึ่งชาระไม่ครบถ้วน สามารถดาเนินการได ณ กรมทรัพย์สนทางปัญญา




ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้ช าระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง
หมวด ๔

การแจ้งค าสั่ง คาวินิจฉัยของพนักงานเจ้าหน้าที่ อธิบดี หรือคณะกรรมการสิทธิบัตร

ี่
ั่





ข้อ ๑๔ การแจงคาสง คาวินิจฉัยของพนักงานเจาหน้าท อธิบด หรือคณะกรรมการสทธิบัตรท ี่


เกี่ยวกับการพิจารณาคาขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร คาร้องหรือคาขออื่น ๆ ทไดยื่นตามประกาศฉบับนี้ ให้




ี่


พนักงานเจ้าหน้าท่แจ้งผ้ยื่นคาขอผ่านทางระบบ e-Filing และแจ้งเตือนทาง E-mail address ของผ้ยื่นคาขอ




ตามทระบุไว้ในใบรับรองอิเลกทรอนิกส (Electronic Certificate)


ี่




การแจ้งโดยวิธีการตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้ยื่นคาขอได้รับแจ้งคาสั่งหรือคาวินิจฉัยเมื่อผู้ยื่นคาขอ









ั่
เรียกดคาวินิจฉัยหรือคาสงผานทางระบบ e-Filing หรือเมื่อพ้นก าหนดเจดวันนับแตวันท่พนักงานเจ้าหน้าท่แจง

ู้



ิ้


ผานทางระบบ e-Filing และแจงเตอนทาง E-mail address ของผยื่นค าขอ แลวแตระยะเวลาใดจะสนสดลงก่อน
ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่มีความจ าเป็นจะต้องท าหนังสือเพื่อแจ้งค าสั่ง ค าวินิจฉัยของพนักงาน

เจ้าหน้าท่ อธิบดี หรือคณะกรรมการสิทธิบัตร โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ให้แจ้งไปยังท่อยู่ท่ผ้ยื่นค า



ขอไดให้ไว้ในแบบพิมพ์ค าขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร




ข้อ ๑๕ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่สามารถแจ้งคาสั่ง ค าวินิจฉัยของพนักงานเจ้าหน้าที่ อธิบด ี




ู้
หรือคณะกรรมการสทธิบัตร ให้ผยื่นคาขอทราบหรือดาเนินการผานทาง ระบบ e-Filing และแจงเตอน



ทาง E-mail address ของผู้ยื่นค าขอตามที่ผู้ยื่นค าขอไดให้ไว้ อันเนื่องมาจากความขัดข้องของระบบส่งข้อมูลระบบ




ั่
รับขอมูล หรือเหตอื่นใด ให้พนักงานเจาหน้าทแจงคาสงหรือคาวินิจฉัยดงกลาวไปยังผยื่นคาขอเป็นหนังสอโดยทาง



ู้
ี่




ไปรษณีย์ลงทะเบยนตอบรับแทนการแจ้งผ่านทางระบบ e-Filing

หมวด ๕
บทเฉพาะกาล


ี่




ข้อ ๑๖ คาขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร คาร้องหรือคาขออื่น ๆ ทไดยื่นผานทางระบบ





e-Filing ตามประกาศกรมทรัพย์สนทางปัญญา เรื่อง ก าหนดหลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขสาหรับการยื่น

ค าขอรับสทธิบัตรหรืออนุสทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ ผานทางอินเทอร์เน็ต ลงวันท ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๘
ี่



ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ และอธิบดียังไม่มีค าสั่งตามมาตรา ๓๓ มาตรา ๖๕ ประกอบมาตรา ๓๓ หรือ

ี่
มาตรา ๖๕ เบญจ แห่งพระราชบัญญัตสทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ ให้ถือว่าเป็นคาขอทไดยื่นตามประกาศฉบับนี้โดย






อนุโลม ให้ดาเนินการขอใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหนึ่ง เพื่อใช้ดาเนินการกับคาขอรับสิทธิบัตรหรืออนุ

สทธิบัตร ค าร้องหรือค าขออื่น ๆ ของตนผานทางระบบ e-Filing ตามประกาศฉบับนี้

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ทศพล ทังสุบุตร
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา

ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
หลักเกณฑ์การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครอง
ส าหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๐





อาศยอ านาจตามความในมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง






อิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔ ประกอบมาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแล



ธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสไดก าหนด



หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการพิจารณาลงโทษปรับทางปกครองดังนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เรื่อง หลักเกณฑ์การ
พิจารณาลงโทษปรับทางปกครองส าหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
๒๕๖๐”

ข้อ ๒ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส์ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณา

ลงโทษปรับทางปกครองส าหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๔
ข้อ ๓ ให้ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้

หมวด ๑
บททั่วไป



ข้อ ๔ ในประกาศนี้
ี่
“การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครอง” หมายความว่าการดาเนินการทเกี่ยวกับการพิจารณา

ลงโทษปรับทางปกครองส าหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส ์
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์
“พนักงานเจ้าหน้าท่” หมายความว่า ผ้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือผ้ซึ่งผ้ว่าการ






ั้

ธนาคารแห่งประเทศไทยแตงตงให้ปฏิบัตการตามพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแลธุรกิจบริการการ


ช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑
ู้

ี่
ู้

“ผถูกกลาวหา” หมายความว่า ผให้บริการตามทก าหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการ


ี่





ควบคมดแลธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งพนักงานเจาหน้าทพิจารณาในเบื้องตน
แล้วเห็นว่ามีการกระท าที่มีมูลเข้าข่ายเป็นการกระท าผิดที่มีโทษปรับทางปกครอง
ู้
ู้
ั่


“ผถูกสงปรับ” หมายความว่า ผกระทาการฝาฝนพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง



อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ที่คณะกรรมการมีค าสั่งปรับ


ี่
ู้


“คาปรับ” หมายความว่า เงินคาปรับทางปกครองทคณะกรรมการก าหนดให้ผกระทาการฝาฝืน
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ช าระให้แก่คณะกรรมการ



ข้อ ๕ ในการพิจารณาและมีคาสงลงโทษปรับทางปกครอง และการพิจารณาอุทธรณคาสง
ั่
ั่

ดงกลาว นอกจากทก าหนดไว้ในประกาศนี้ให้น ากฎหมายว่าดวยวิธีปฏิบัตราชการทางปกครองมาใชบังคบโดย

ี่




อนุโลม
ั่
ข้อ ๖ การแจงข้อกลาวหา การแจงก าหนดนัด การแจงคาสงลงโทษปรับทางปกครอง หรือการ





อย่างอื่นให้กระท าเป็นหนังสือ

ข้อ ๗ ในกรณีมีเหตจ าเป็นเร่งด่วนหรือผู้ให้บริการได้แสดงความจ านงให้แจ้งด้วยวิธีอื่นการแจงข้อ




ั่


กลาวหา การแจงก าหนดนัด การแจงคาสงลงโทษปรับทางปกครอง หรือการอย่างอื่น จะใชวิธีสงทางโทรสาร








ี่

ู้



จดหมายอิเลกทรอนิกส หรือวิธีอื่นตามทผให้บริการไดแจงความจานงไว้ก็ได แตตองมีหลกฐานการสง และตอง


ู้




จดสงหนังสอแจงให้แก่ผให้บริการในทนททอาจกระทาได ในกรณนี้ให้ถือว่าผให้บริการไดรับแจงตามวัน เวลาท ี่


ี่

ู้


ปรากฏในหลกฐานการสงโทรสาร จดหมายอิเลกทรอนิกส หรือวิธีอื่นนั้น เว้นแตจะมีการพิสจน์ไดว่าไม่มีการได้รับ








หรือได้รับก่อนหรือหลงจากนั้น

หมวด ๒

การพิจารณาและการมีคาสั่งลงโทษปรับทางปกครอง


ข้อ ๘ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริงและพิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่าผู้ถูกกลาวหา


ี่
ั้
ใดมีการกระทาทมีมูลควรจะไดรับโทษปรับทางปกครอง ให้รายงานข้อเทจจริงพร้อมทงเสนอความเห็นตอ



คณะกรรมการเพื่อพิจารณาตามความในหมวดนี้ต่อไป
ส่วนที่ ๑
การพิจารณาทางปกครอง



ข้อ ๙ การพิจารณาทางปกครองให้รวมถึงการด าเนินการ ดังต่อไปนี้

(๑) การแสวงหาพยานหลักฐานที่เห็นว่าจ าเป็นแก่การพิสูจน์ข้อเท็จจริง



ี้
ู้

(๒) การรับฟังพยานหลกฐาน คาชแจงของผถูกกลาวหา ความเห็นของพนักงานเจาหน้าท ี่

คณะกรรมการ หรือพยานบุคคลหรือพยานผู้เชี่ยวชาญที่พนักงานเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการ หรือผู้ถูกกล่าวหากลาว
อ้าง
(๓) การขอข้อเท็จจริงหรือความเห็นจากพยานบุคคล หรือพยานผู้เชี่ยวชาญ
(๔) การขอให้ผู้ครอบครองเอกสารส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง
(๕) การออกไปตรวจสถานท ี่
ผู้ถูกกล่าวหาต้องให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการในการพิสูจน์ข้อเทจจริง

และมีหน้าที่แจ้งพยานหลักฐานที่ตนทราบแก่พนักงานเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการ


ี่

ข้อ ๑๐ เมื่อคณะกรรมการไดรับรายงานจากพนักงานเจาหน้าทแลว หากพิจารณาเห็นว่าผถูก
ู้

ู้




ี่
ั่




กลาวหาไม่ไดกระทาผดให้คณะกรรมการมีคาสงยกข้อกลาวหาแตถ้าพิจารณาเห็นว่ามีมูลทผถูกกลาวหาควรจะ

ไดรับโทษปรับทางปกครองให้คณะกรรมการแจงข้อกลาวหาให้ผถูกกลาวหาทราบเพื่อโตแย้งและแสดง
ู้




พยานหลักฐานของตน
ี่
ี่


ในกรณทคณะกรรมการพิจารณาแลวเห็นว่าพยานหลกฐานทมีอยู่ไม่เพียงพอจะพิจารณาให้


คณะกรรมการแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่แสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเตมและรายงานต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
ต่อไป

เมื่อไดรับแจงข้อกลาวหาผถูกกลาวหามีสทธิยื่นคาชแจงแก้ข้อกลาวหาตอคณะกรรมการภายใน






ู้

ี้
สิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง

ี้







สทธิยื่นคาชแจงตามวรรคสามมิให้น ามาใชบังคบในกรณดงตอไปนี้เว้นแตคณะกรรมการจะ
เห็นสมควรปฏิบัติเป็นอย่างอื่น

(๑) เมื่อมีความจาเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผ ู้

หนึ่งผู้ใดหรือจะกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ
ู้

ี่
(๒) เมื่อเป็นข้อเทจจริงทผถูกกลาวหาเองไดให้ไว้ในคาชแจงหรือในการให้ถ้อยคาตอพนักงาน


ี้



เจ้าหน้าท ี่
(๓) เมื่อโดยสภาพเห็นได้ชัดในตัวว่าการให้โอกาสดังกล่าวไม่อาจกระท าได ้


ั่





ข้อ ๑๑ ภายใตบังคบข้อ ๗ ในการแจงข้อกลาวหา ให้คณะกรรมการแจงคาสงโดยทาเป็นหนังสือ
โดยมีสาระส าคัญ ดังต่อไปนี้
(๑) ชื่อผู้ถูกกล่าวหา
(๒) การกระท าทั้งหลายที่เข้าข่ายเป็นความผิดทมีโทษปรับทางปกครอง พร้อมทั้งข้อเทจจริงหรือ

ี่
พฤติการณ์ตามสมควรเกี่ยวกับการกระท าดังกล่าว



(๓) บทบัญญัต ระเบียบ ข้อบังคบ ประกาศ หรือข้อก าหนดตามกฎหมายว่าดวยการควบคมดูแล

การประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้อง



ู้


ข้อ ๑๒ เมื่อคณะกรรมการไดแจงข้อกลาวหาแลวผถูกกลาวหาไม่ชแจงข้อกลาวหาภายใน
ี้

ี่


ก าหนดเวลา ตามขอ ๑๐ วรรคสาม หรือเปนกรณทคณะกรรมการเห็นสมควรปฏิบัตตามวรรคสให้คณะกรรมการ
ี่


พิจารณาพยานหลกฐานประกอบกับคาชแจงแก้ข้อกลาวหา (ถ้ามี) ถ้าเห็นว่าผถูกกลาวหาไม่ไดกระทาผด ให้



ี้
ู้








คณะกรรมการมีคาสั่งยกข้อกลาวหา แต่ถ้าเห็นว่าผู้ถูกกลาวหากระทาผิดให้พิจารณาก าหนดโทษปรับทางปกครอง
แล้วมีค าสั่งลงโทษปรับทางปกครองต่อไป
ให้คณะกรรมการแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบโดยเร็ว


ข้อ ๑๓ การประชมของคณะกรรมการตองมีกรรมการมาประชมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งจงจะเป็นองค ์


ประชุม
ั้
การลงมติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีหนึ่งเสียงในการลงคะแนน ทงนี ้



ในกรณีท่ไม่ใช่การวินิจฉัยช้ขาดเพื่อพิจารณาก าหนดโทษปรับทางปกครอง ถ้าปรากฏว่าคะแนนเสยงเทากัน

ประธานในที่ประชุมอาจออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

ส่วนที่ ๒
การก าหนดลงโทษปรับทางปกครอง



ู้
ข้อ ๑๔ ในการพิจารณาโทษปรับทางปกครองทจะใชกับผถูกกลาวหา คณะกรรมการตอง
ี่


ค านึงถึงปัจจัย ดังต่อไปนี้
(๑) ความผิดเกิดขึ้นโดยความจงใจ หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือ ขาด
ความระมัดระวังตามสมควร
ี่


ี่
(๒) ประโยชน์ทผถูกกลาวหาหรือบุคคลทเกี่ยวข้องกับการกระทาผดหรือบุคคลอื่นไดรับหรือ


ู้
จะได้รับจากการกระท านั้น
(๓) ความเสียหายที่เกิดจากการกระท านั้น
(๔) ระดับโทษปรับทางปกครองที่เคยใช้กับผู้ถูกกล่าวหารายอื่นในความผิดท านองเดียวกัน (ถ้ามี)
ู้


(๕) ประวัติการถูกลงโทษทางปกครองของผถูกกลาวหา หรือในกรณีทผู้ถูกกลาวหาเป็นนิตบุคคล

ี่

ให้หมายความรวมถึงประวัตการถูกลงโทษปรับทางปกครองของบุคลากรทเกี่ยวข้องกับการกระทาของนิตบุคคลท ี่
ี่


ถูกกล่าวหานั้น
(๖) ข้อเท็จจริงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนที่ ๓
ค าสั่งลงโทษปรับทางปกครอง

ข้อ ๑๕ ค าสั่งลงโทษปรับทางปกครองให้ท าเป็นหนังสือระบุ วัน เดือน ปี ที่ท าค าสั่งโทษปรับทาง

ปกครองที่ลง รวมทั้งชื่อ ลายมือชื่อประธานกรรมการ

ข้อ ๑๖ คาสงลงโทษปรับทางปกครองตองจดให้มีเหตผลไว้ดวย และเหตผลนั้นอย่างน้อยตอง







ั่
ประกอบด้วย
(๑) ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระส าคัญ
(๒) ข้อกฎหมายที่อ้างอิง





(๓) ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใชดลพินิจ ความในวรรคหนึ่งไม่ใชบังคบกับกรณ
ดังต่อไปนี้
(๑) เหตุผลนั้นเป็นที่รู้กันอยู่แล้วโดยไม่จ าเป็นต้องระบุอีก
(๒) เป็นกรณีที่ต้องรักษาไว้เป็นความลับ
(๓) เป็นกรณีเร่งด่วน แต่ต้องให้เหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษรในเวลาอันควรหากผถูกลงโทษร้องขอ
ู้
ค าสั่งลงโทษปรับทางปกครองให้ใช้ตามแบบ ทปค. ๑ ท้ายประกาศนี้
ั่

ั่

ข้อ ๑๗ การออกคาสงลงโทษปรับทางปกครอง คณะกรรมการอาจมีคาสงให้ผถูกลงโทษ
ู้
ด าเนินการใด ๆ เพื่อแก้ไขให้ถูกต้องหรือเหมาะสมได ้
ข้อ ๑๘ ค าสั่งลงโทษปรับทางปกครองให้มีผลใช้ยันต่อผู้ถูกลงโทษตั้งแต่ขณะที่ผู้นั้นได้รับแจ้งเป็นต้นไป

ส่วนที่ ๔
การอุทธรณ ์



ข้อ ๑๙ การอุทธรณคาสงลงโทษปรับทางปกครองของคณะกรรมการตามมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔

ั่
แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้ผู้อุทธรณ์ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง

ส่วนที่ ๕
การบังคับโทษปรับทางปกครอง





ั่


ข้อ ๒๐ เมื่อถึงก าหนดให้ชาระคาปรับตามคาสงลงโทษปรับทางปกครองแลวไม่มีการชาระโดย



ั่

ู้


ถูกตองครบถ้วน ให้หัวหน้าสานักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสมีหนังสอเตอนให้ผถูกสงปรับช าระ

ภายในเวลาทก าหนดแตตองไม่น้อยกว่าเจดวัน หนังสอแจงเตอนให้ชาระคาปรับทางปกครองให้ใชตามแบบ ทปค.




ี่





๒ ท้ายประกาศนี้

เมื่อครบก าหนดเวลาให้น าเงินมาช าระตามหนังสือแจ้งเตือนแล้ว ถ้าผู้ถูกสั่งปรับไม่ช าระหรือชาระ
ค่าปรับไม่ครบถ้วน ให้คณะกรรมการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง เพื่อบังคับช าระค่าปรับทางปกครอง
บทเฉพาะกาล



ี่


ข้อ ๒๑ บรรดาการดาเนินการเพื่อลงโทษปรับทางปกครองใดทไดดาเนินการไปแลวตามประกาศ
ู้
คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาลงโทษปรับทางปกครองสาหรับผประกอบ

ธุรกิจให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้ด าเนินการต่อไปตามประกาศฉบับดังกล่าวจนเสร็จ
สิ้น เว้นแต่การอุทธรณ์ค าสั่งลงโทษปรับทางปกครองและการบังคับโทษปรับทางปกครอง




ั้

ข้อ ๒๒ ประกาศนี้ให้ใชบังคบตงแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นตนไป
ประกาศ ณ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๐
พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์


[เอกสารแนบท้าย]

๑. ค าสั่งคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส เรื่อง โทษปรับทางปกครอง (แบบ ทปค.๑)
๒. หนังสือแจ้งเตือนให้ช าระค่าปรับทางปกครอง (แบบ ทปค. ๒)

ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สนช. ๒/๒๕๕๙
มาตรฐานชิปการ์ดกลางส าหรับบัตรเดบิตที่ออกและมีการใช้จ่ายภายในประเทศ
ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ



๑. เหตุผลในการออกประกาศ

ดวยคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสไดออกประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทาง





อิเลกทรอนิกส เรื่อง หลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส ์



ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อยกระดบความปลอดภัยในการให้บริการการชาระเงินทาง





ื่
อิเลกทรอนิกส ตลอดจนสร้างความเชอมั่นตอระบบการเงินและระบบการชาระเงินของประเทศ จงก าหนดให้บัตร









ี่
เดบิตทออกและมีการใชจายภายในประเทศตองใชมาตรฐานชปการ์ดกลาง เพื่อให้มีความปลอดภัยเทยบเทา

ื่


มาตรฐานสากล และเสริมสร้างความเชอมั่นในการทาธุรกรรมการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส อันเปนการสนับสนุน


แผนยุทธศาสตร์ National e - Payment
ของรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หารือกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และ
สภาสถาบันการเงินของรัฐแลว จงเห็นควรประกาศก าหนดมาตรฐานชปการ์ดกลางสาหรับบัตรเดบิตทออกและมี


ี่


การใช้จ่ายภายในประเทศ โดยมีหลักการว่ามาตรฐานชิปการ์ดกลางดังกล่าว ต้องเป็นมาตรฐานชิปการ์ดส าหรับบตร

เดบิตที่ออกและมีการใช้จ่ายภายในประเทศที่ได้มาตรฐานระดับสากลเป็นที่ยอมรับและเหมาะสมกับธุรกิจการชาระ

เงินของไทย สนับสนุนการท าธุรกรรมด้วยบัตรเดบิตให้มีความมั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือ และรองรับการให้บริการท ี่


ข้ามเครือข่ายกันได (Interoperability) อันจะเป็นประโยชน์ตอระบบการชาระเงินของประเทศและเศรษฐกิจ


โดยรวม และการประกาศก าหนดมาตรฐานชปการ์ดกลางนี้ จะไม่เป็นการกีดกันหรือสร้างอุปสรรคในการแข่งขัน
หรือมีข้อจ ากัดในการประกอบธุรกิจ
๒. อ านาจตามกฎหมาย
อาศยอ านาจตามความในข้อ ๓๑ แห่งประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส เรื่อง





หลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสของสถาบันการเงิน


เฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
๓. ขอบเขตการบังคับใช ้



ประกาศฉบับนี้ให้ใชบังคบกับผให้บริการตามพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแลธุรกิจ


ู้
บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙

๔. เนื้อหา
ู้
๔.๑ เพื่อใชเปนมาตรฐานกลางในการออกบัตรเดบิตของผออกบัตร ธปท. จงก าหนดให้มาตรฐาน






ั้
ไทยชปการ์ด เป็นมาตรฐานชปการ์ดกลางสาหรับบัตรเดบิตทออกและมีการใชจายภายในประเทศ ทงนี้ การ
ี่




ก าหนดมาตรฐานดงกลาวไดผานการหารือกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาต และสภาสถาบัน



การเงินของรัฐแล้ว
ี่


๔.๒ เพื่อให้มาตรฐานชปการ์ดกลางสาหรับบัตรเดบิตทออกและมีการใชจายภายในประเทศ


ี่
เป็นไปตามมาตรฐานสากล เป็นทยอมรับและเหมาะสมกับธุรกิจการชาระเงินของไทย ธปท. อาจก าหนด เพิ่มเติม

แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขได้ตามที่เห็นสมควร
๕. วันเริ่มต้นบังคับใช ้

ประกาศนี้ให้ใชบังคับนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
วิรไท สันติประภพ
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

แนวปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ

ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ


ี่

ู้
เพื่อสนับสนุนให้การประกอบธุรกิจของผให้บริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสทเป็นสถาบัน


ื่
การเงินเฉพาะกิจ เป็นไปอย่างมีประสทธิภาพ ปลอดภัย ถูกตอง และน่าเชอถือ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้จดท า


แนวปฏิบัติเพื่อเป็นแนวทางในการก าหนดมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง
กับการให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ แนวปฏิบัตินี้เป็นเพียงกรอบแนวทางทั่วไป ผู้ให้บริการอาจก าหนด

มาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทแตกตางจากแนวปฏิบัตฉบับนี้ไดหากสามารถป้องกันความเสยงทาง


ี่
ี่


ู้

ระบบสารสนเทศไดอย่างมีประสทธิภาพเพียงพอ และอยู่ในมาตรฐานทยอมรับได นอกจากนี้ ผให้บริการตอง

ี่

พิจารณาปรับใชและก าหนดรายละเอียดของมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศของ
ผู้ให้บริการให้เหมาะสมกับประเภทและความซับซ้อนของธุรกิจตนเองด้วย
สาระส าคัญของแนวปฏิบัติฉบับนี้ประกอบด้วย
๑. การควบคุมการเข้าถึง และการพิสูจน์ตัวตนผู้ใช้


ู้
ผให้บริการตองคานึงถึงการก าหนดบุคลากรหรือหน่วยงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการ

ู้

ี่


แบ่งแยกหน้าทให้เหมาะสม การควบคมการเข้าถึงระบบสารสนเทศ การพิสจน์ตวตนผใช และการป้องกันการ
ปฏิเสธการรับผิด ดังนี้

๑.๑ การกาหนดบุคลากรหรอหน่วยงานทางระบบสารสนเทศ และการแบ่งแยกอ านาจ

หน้าที่ที่เหมาะสมในการบริหารจัดการทางระบบสารสนเทศของผู้ให้บริการ
ี่
ี่



ผให้บริการตองก าหนดหน้าทและความรับผดชอบของบุคลากรหรือหน่วยงานทดแล
ู้
เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศของผให้บริการ โดยสร้างความตระหนัก ให้ความรู้และให้มีการ
ู้
อบรม ตลอดจนจัดให้มีกระบวนการทางวินัยเพื่อลงโทษในกรณีฝาฝืนหรือละเมิดระเบียบปฏิบัตเกี่ยวกับความมั่นคง


ปลอดภัย
แนวปฏิบัต ิ
ี่

(๑) ก าหนดหน้าทความรับผดชอบ และแบ่งแยกหน้าทในการปฏิบัตงานดานตาง ๆ ท ี่


ี่

เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศของผู้ให้บริการออกจากกันให้ชัดเจน ให้มีการถ่วงดุลอ านาจ เพื่อ
ป้องกันความเสี่ยงในการปฏิบัติการที่อาจเกิดขึ้น
(๒) มีการอบรม เพิ่มเติมความรู้แก่บุคลากรเก่า และใหม่อย่างสม่ าเสมอ
(๓) จัดให้มีกระบวนการทางวินัย เพื่อลงโทษบุคลากรที่ฝ่าฝืน ละเมิดนโยบายหรือระเบียบ
ปฏิบัติเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศของผู้ให้บริการ
๑.๒ การควบคุมการเข้าถึงระบบสารสนเทศ


ผู้ให้บริการต้องจัดให้มีขั้นตอนปฏิบติเป็นลายลักษณอักษรสาหรับการควบคุม และจ ากัด

สิทธิการใช้ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับการให้บริการและข้อมูลตามความจ าเป็นในการใช้งานป้องกันการลักลอบการ
เข้าถึงระบบโดยผู้ที่ไม่มีสิทธิ ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร

แนวปฏิบัต ิ

(๑) จดทาทะเบียนทรัพย์สน หรืออุปกรณระบบสารสนเทศให้ถูกต้องอยู่เสมอ รวมถึงจัด



ให้มีผู้รับผิดชอบดูแลทรัพย์สินเหล่านั้น

ี่
(๒) มีกฎ ระเบียบ ในการใชระบบสารสนเทศ และทรัพย์สนทเกี่ยวข้องกับระบบ

สารสนเทศที่เหมาะสม


ี่
ั้
(๓) ตองมีการควบคม และป้องกันการเข้าถึงสถานทตง การควบคมการเข้าถึงอุปกรณ ์

และระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับการให้บริการ โดยกระบวนการดังกล่าวครอบคลุมถึง

(๓.๑) การจดวาง ตดตงอุปกรณทเกี่ยวกับการให้บริการทเป็นสดสวน แบ่ง เขต


ี่

ี่
ั้



ี่

ควบคุมอุปกรณส าคัญ จัดให้มีการควบคุมการเขาออกบริเวณพื้นทควบคม ป้องกันการลกลอบเขาถึงโดยผู้ไม่มีสทธิ



ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
ี่

(๓.๒) ก าหนดวิธีการและสทธิการเข้าถึงระบบสารสนเทศทเกี่ยวกับการให้บริการ

โดยแบ่งแยกตามระดับอ านาจหน้าที่ และจัดให้มีการตรวจสอบสทธิในการเข้าถึงระบบสารสนเทศดังกล่าว ทั้งจาก
ผใชบริการ และบุคลากรทเกี่ยวข้องก่อนอนุญาตให้เข้าใชระบบ โดยตองทบทวนและปรับปรุงให้เป็นปัจจบันอยู่




ี่
ู้
เสมอ
(๓.๓) ก าหนดให้มีการบันทึกการเข้าใช้ระบบสารสนเทศของผู้ใช้บริการและบุคลากรท ี่
เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบติดตามความผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
๑.๓ การตรวจสอบตัวตน และการป้องกันการปฏิเสธการรับผิด



ผให้บริการตองจดให้มีการระบุ ตรวจสอบ หรือพิสจน์ตวตนและตรวจสอบสทธิของผใช ้
ู้


ู้


ระบบโดยพิจารณาใชเทคโนโลยีทเหมาะสมกับระดบความเสยงของประเภทธุรกิจให้บริการ เชน การใชรหัสผาน
ี่
ี่



(Password) เลขประจ าตัว(Personal Identification Number)
อุปกรณหรือบัตรทเก็บข้อมูลสวนบุคคล (Token or Smart Card) ลกษณะทางชวมาตร (Biometric) เทคโนโลยี



ี่

กุญแจสาธารณะ (Public Key Infrastructure) เพื่อป้องกันการปฏิเสธการรับผิดกรณีมีข้อพิพาทเกิดขึ้นแนวปฏิบัต ิ



(๑) จดให้มีวิธีการระบุ หรือตรวจสอบ หรือพิสจน์ตวตนก่อนเขาใชระบบสารสนเทศของ


ู้

ี่


ผใชบริการและบุคลากรทเกี่ยวข้องของผให้บริการ เพื่อให้ทราบได้ว่าการเข้าใชงานนั้นมาจากผมีสทธิในการเข้าถึง
ู้
ู้
ระบบสารสนเทศ รวมทั้งป้องกันไม่ให้มีการปฏิเสธความรับผิด หรือข้อโต้แย้งในการท ารายการ



(๒) มีการบันทกรายละเอียดการเข้าถึงระบบสารสนเทศไว้เป็นหลกฐานสาหรับการ
ตรวจสอบกรณีเกิดปัญหา เพื่อป้องกันการปฏิเสธการรับผิด
๒. การรักษาความลับของข้อมูล และความถูกต้องเชื่อถือได้ของระบบสารสนเทศ

ผให้บริการตองก าหนดมาตรการในการรักษาความลบของข้อมูล และการรักษาความถูกตอง
ู้


เชื่อถือได้ของระบบสารสนเทศทให้บริการ เช่น การควบคุมการเปลี่ยนแปลงการปรับปรุงแก้ไขระบบ หรืออุปกรณ ์
ี่

ี่
ประมวลผลสารสนเทศ และการจดการระบบเครือข่ายทเกี่ยวกับการให้บริการเพื่อให้ระบบสารสนเทศมีความ
ถูกต้องอยู่เสมอ

๒.๑ การรักษาความลับของข้อมูล

ผให้บริการตองก าหนดขั้นตอน วิธีการในการรับสง ประมวลผล และการจดเก็บข้อมูล


ู้
อย่างเหมาะสม เพื่อรักษาความลับ ความถูกต้องสมบูรณ์ของข้อมูล
แนวปฏิบัต ิ
ู้
ี่


(๑) ก าหนดชนความลบของข้อมูลตามระดบความสาคญ รวมถึงก าหนดสทธิผทสามารถ



ั้
เข้าถึงข้อมูลความลับดังกล่าว
(๒) จัดให้มีวิธีการรับส่ง ประมวลผล และจัดเก็บข้อมูลลบในลกษณะทมั่นคงปลอดภัยตาม
ี่


ระดับความส าคัญ เพื่อป้องกันการเข้าแก้ไขเปลี่ยนแปลงโดยผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือไม่ได้รับอนุญาต
(๓) ก าหนดวิธีปฏิบัติในการจัดเก็บ ใช้งาน และท าลายข้อมูลแต่ละประเภทชั้นความลับ



๒.๒ การควบคุมการเปลี่ยนแปลง การปรบปรงแกไขระบบสารสนเทศหรออุปกรณ์

ประมวลผลสารสนเทศ
ผู้ให้บริการต้องก าหนดขั้นตอนปฏิบัติอย่างเป็นระบบส าหรับควบคุมการเปลี่ยนแปลงหรือ
แก้ไขระบบสารสนเทศ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะท าให้ระบบที่ให้บริการเกิดความเสียหายหรือท างานผิดปกต ิ
แนวปฏิบัต ิ
(๑) จัดให้มีขั้นตอนปฏิบัตสาหรับการควบคุมการแก้ไขเปลยนแปลงข้อมูลในกระบวนการ
ี่





ประมวลผล การรับสงข้อมูล การจดเก็บ การจดหา การปรับปรุงอุปกรณ และการพัฒนาระบบสารสนเทศ เชน มี


ู้

ี่
ขั้นตอนการประเมินผลกระทบทเกี่ยวข้อง การอนุมัตจากผมีอ านาจ ขั้นตอนการพัฒนาหรือปรับปรุงแก้ไข การ
ี่


ี่

ู้
ทดสอบก่อนดาเนินการ รวมถึงการบันทกการแก้ไขเปลยนแปลง การแจงให้ผทไดรับผลกระทบจากการ

เปลี่ยนแปลงนั้นได้รับทราบ และปรับปรุงเอกสารที่เกี่ยวข้อง
(๒) ต้องแยกระบบสาหรับการพัฒนา และระบบที่ใช้งานจริงออกจากกัน ซึ่งอาจเปนการ


แยกอุปกรณ์เป็นคนละเครื่อง และใช้ผู้ควบคุมระบบแยกกัน
(๓) การใช้บริการด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศจากผู้ให้บริการรายอื่น





(๓.๑) จดให้มีสญญาดาเนินการเป็นลายลกษณอักษร ระบุขอบเขตการดาเนินงาน

หน้าที่ความรับผิดชอบของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายให้ชัดเจน
ู้
ั้


(๓.๒) จดให้มีการบริหารความเสยงในการใชบริการจากผให้บริการรายอื่น รวมทง
ี่
การคัดเลือก การติดตาม ประเมิน และตรวจสอบการให้บริการอย่างเหมาะสม
(๓.๓) จดให้มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งรวมถงการรักษาความลับ


และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้บริการ
(๓.๔) ความรับผิดชอบต่อผู้ใช้บริการในการให้บริการที่ต่อเนื่อง มั่นคง ปลอดภัย และ
น่าเชื่อถือเสมือนกับการให้บริการโดยผู้ให้บริการเอง
(๓.๕) การจัดท าแผนฉุกเฉินสาหรับการด าเนินการด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศของ

ผู้ให้บริการรายอื่นหรือบุคคลอื่นให้สอดคล้องกับแผนฉุกเฉินของผู้ให้บริการ
ี่
(๔) จดทาคมือตาง ๆ ทเกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศทให้บริการ อบรม และเผยแพร่ให้

ู่
ี่


พนักงานไว้ใช้งาน

๒.๓ การจัดการเครือข่ายที่เกี่ยวกับการให้บริการ
ู้
ี่

ผให้บริการตองก าหนดมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบทให้บริการทางเครือข่ายโดย
ไม่ได้รับอนุญาต
แนวปฏิบัต ิ
ี่
(๑) บริหารจดการเครือข่ายทเกี่ยวกับการให้บริการ เพื่อป้องกันภัยคกคามทางเครือข่าย


หรือข้อมูลที่ส่งผ่านทางเครือข่าย เช่น

(๑.๑) ตองก าหนดมาตรการควบคมการเชอมตอทางเครือข่าย การอนุญาตการเชอมตอ

ื่


ื่
โดยอุปกรณ์จากภายนอก
(๑.๒) การตรวจสอบตัวตนในการใช้งานเครือข่าย
(๑.๓) การแบ่งแยกเครือข่ายตามกลุ่มบริการสารสนเทศ
(๑.๔) ติดตั้งโปรแกรมป้องกันภัยคุกคามจากภายนอก
ี่


(๒) มีมาตรการควบคมและป้องกันไวรัสทมีประสทธิภาพและปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันอยู่
เสมอ
๓. การรักษาสภาพความพร้อมใช้งานของการให้บริการ
ผให้บริการตองจดให้มีการให้บริการทมีประสทธิภาพและมีสภาพความพร้อมใชงานในการ
ู้




ี่


ให้บริการตลอดเวลา สามารถรองรับการทาธุรกรรมตามความตองการของผใชบริการไดอย่างพอเพียงตอบสนอง

ู้


การท าธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วทั้งในเวลาปกติและเวลาที่มีการใชบริการอย่างหนาแน่น (Peak Time) รวมทั้งมีการ
ส ารองข้อมูลอย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถกู้ระบบให้กลับมาท างานได้ตามปกติในกรณี ที่เกิดความเสียหาย
๓.๑ การประเมิน และจัดการความเสี่ยงของระบบที่ให้บริการ
ี่
ผู้ให้บริการต้องมีวิธีการประเมินความเสี่ยงของระบบที่ให้บริการทเหมาะสมก าหนดเกณฑ์
ี่
ี่
ี่


ในการยอมรับความเสยงและระบุระดบความเสยงทยอมรับได รวมถึงก าหนดวิธีการจดการความเสยงทอาจ
ี่

ี่

ู้


เกิดขึ้น ทงนี้ ผให้บริการตองจดให้มีการทบทวนความเสยงอยู่เสมอ ให้สอดคลองกับพัฒนาการทางเทคโนโลยีและ
ี่
ั้
สถานการณ์ปัจจุบัน
แนวปฏิบัต ิ
(๑) ก าหนดวิธีการประเมินความเสี่ยงที่เป็นรูปธรรม

(๒) วิเคราะห์และประเมินผลกระทบทมีตอธุรกิจทอาจเปนผลจากความลมเหลวของการ

ี่

ี่
รักษาความมั่นคงปลอดภัย
ี่
(๓) ก าหนดเกณฑ์ในการยอมรับความเสี่ยง และระดับความเสยงที่ยอมรับได ้

(๔) ระบุและประเมินทางเลือกในการจดการกับความเสี่ยงในการด าเนินการที่อาจเกิดขึ้น
ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

๓.๒ การติดตามตรวจสอบความผิดปกติและความล่อแหลมของระบบสารสนเทศ

ผู้ให้บริการต้องก าหนดให้มีการตดตาม ตรวจสอบความผิดปกติ ตลอดจนข้อมูลข่าวสารท ี่

เกี่ยวกับช่องโหว่ในระบบตาง ๆ ที่ให้บริการ เพื่อประเมินความเสี่ยงและก าหนดมาตรการรองรับเพื่อลดความเสยง
ี่
ดังกล่าว
แนวปฏิบัต ิ

ี่


ี่

(๑) ตดตามตรวจสอบรายการทไม่ปกต และโอกาสทจะเกิดภัยคกคาม หรือการลกลอบ
เข้าถึงระบบสารสนเทศ
(๒) ประเมินชองโหว่ของระบบ (Vulnerability Assessment) จดเตรียมแนวทางการ



ี่


แก้ไข หรือปิดชองโหว่จากความลอแหลมของระบบ โดยเฉพาะในสวนของระบบเครือข่ายทเกี่ยวกับการให้บริการ
รวมถึงโปรแกรมระบบงานและฐานข้อมูล
ี่
(๓) กรณระบบมีความเสยงสง ควรจดให้มีการทดสอบเจาะระบบ



(Penetration Test) เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการรักษาความมั่นคงปลอดภัย




๓.๓ การแก้ไขปัญหา บันทึกเหตการณ และการรายงาน กรณีระบบสารสนเทศไดรบความ
เสียหาย
ู้





ผให้บริการตองมีการตดตาม บันทก และรายงานเหตการณละเมิดความมั่นคงปลอดภัย

ี่

ี่
ั้





ี่
ผานชองทางการรายงานทก าหนดไว้ โดยดาเนินการอย่างรวดเร็วทสดเทาทจะทาได รวมทงให้มีการเรียนรู้จาก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อเตรียมการป้องกันที่จ าเป็นไว้ล่วงหน้า
แนวปฏิบัต ิ
(๑) ก าหนดขั้นตอนการแก้ไขปัญหา ทีมงานหรือผู้รับผิดชอบ รวมถึงวิธีการรายงานปัญหา
ให้กับผู้บริหาร และแจ้งให้กับผู้เกี่ยวข้องทราบ
(๒) เก็บรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์
(๓) บันทึกเหตุการณ์ หรือจัดท ารายงานที่เป็นลายลกษณ์อักษรเพื่อเก็บไว้เป็นแนวทางใน

การแก้ปัญหา
๓.๔ การส ารองข้อมูล

ี่

ผให้บริการตองจดให้มีการสารองและทดสอบข้อมูลทสารองเก็บไว้อย่างสม่ าเสมอเพื่อ
ู้


รักษาความถูกต้องสมบูรณ์ และสภาพความพร้อมใช้งานของการให้บริการ
แนวปฏิบัต ิ
(๑) ส ารองข้อมูลที่ส าคัญ และข้อมูลอื่นที่จ าเป็นต่อการปฏิบัติงานส ารองให้พร้อมใช้งานได ้



ี่
(๒) ก าหนดวิธีปฏิบัต หรือขั้นตอนในการสารองข้อมูลให้ชดเจน เชน ข้อมูลทจะสารอง


ความถี่ในการส ารองข้อมูล สื่อที่ใช้ สถานที่เก็บ วิธีการเก็บรักษา และการน ามาใช้งาน

(๓) ทดสอบข้อมูลทเก็บสารองไว้อย่างสม่ าเสมอ และให้เป็นไปตามนโยบายการสารอง
ี่

ข้อมูลของผู้ให้บริการ






๓.๕ การจัดท าแผนรองรบการดาเนินธุรกจอย่างตอเนื่อง หรอแผนฉกเฉนทางระบบ


สารสนเทศ
ู้
ผให้บริการตองจดทาแผนสร้างความตอเนื่องให้กับการให้บริการการชาระเงินทาง





อิเล็กทรอนิกส์ และน าแผนมาด าเนินการเพื่อให้บริการสามารถดาเนินต่อไปไดตามระยะเวลาที่ก าหนดไว้หลังจากท ี่


มีเหตุการณ์ที่ท าให้บริการหยุดชะงัก
แนวปฏิบัต ิ
(๑) วิเคราะห์และระบุความเสี่ยง และการด าเนินงานที่ส าคัญของการให้บริการ

(๒) ก าหนดระยะเวลาหยุดด าเนินงานที่ยอมรับได (Recovery Time
Objectives)
(๓) จัดท าแผนเป็นลายลักษณ์อักษร ก าหนดขั้นตอนรายละเอียดการด าเนินการเมื่อมีการ
หยุดชะงักของการด าเนินงานที่สาคัญ เพื่อให้สามารถกลับมาด าเนินงานได้ตามระยะเวลาที่ก าหนดรายละเอียดของ

แผนอย่างน้อยประกอบด้วย
ก. ชื่อแผน
ข. วัตถุประสงค์ และขอบเขตของแผน
ี่
ค. รายละเอียดของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ทรัพยากรทจ าเป็นส าหรับปฏิบัติงานทดแทน
ง. ผู้รับผิดชอบ ผู้มีอ านาจตัดสินใจ การติดต่อสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก

จ. วิธีการปฏิบัติกรณีเกิดปัญหา และสถานที่ปฏิบัติงานทดแทน
(๔) จัดให้มีการฝึกอบรมแผนแก่พนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการด าเนินการตามแผน
อย่างสม่ าเสมอ
ี่



(๕) ทดสอบและทบทวนแผนสาหรับการดาเนินงานทสาคญอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง

หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงปัจจัยที่มีผลต่อความเสี่ยง
๓.๖ การบ ารุงรักษาอุปกรณ์ระบบสารสนเทศ
ู้


ผให้บริการตองก าหนดให้มีการบ ารุงรักษาอุปกรณตาง ๆ อย่างสม่ าเสมอ เพื่อให้อุปกรณ ์

ท างานได้อย่างต่อเนื่อง และอยู่ในสภาพที่มีความสมบูรณ์ต่อการใช้งาน
แนวปฏิบัต ิ
ก าหนดให้มีการบ ารุงรักษาอุปกรณตาง ๆ อย่างสม่ าเสมอ เพื่อให้อุปกรณทางาน




ได้อย่างต่อเนื่อง และให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา

๔. การตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ
ผู้ให้บริการจะต้องจัดให้มีการตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศอย่างสม่ าเสมอ

อย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่านโยบายและมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ
ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมั่นคงปลอดภัยสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
แนวปฏิบัต ิ
(๑) จดให้มีผตรวจสอบและดาเนินการตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศใน

ู้




เรื่องทมีความเสยงหรือมีความสาคญตอการให้บริการอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง และจดทารายงานผลการตรวจสอบ


ี่
ี่
ู้
ี่
เสนอผบริหารของผให้บริการเพื่อพิจารณาระดบความเสยงทเป็นอยู่และก าหนดแนวทางการปรับปรุง และแจงให้

ี่

ู้
หน่วยงานภายในที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อน าไปปฏิบัต ิ
(๒) ตดตาม ตรวจสอบการให้บริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสให้เป็นไปตามกฎระเบียบ




ั้
ข้อบังคบทเกี่ยวข้องทงหมด เพื่อหลกเลยงการละเมิดข้อก าหนดทางกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติ ข้อก าหนดในสัญญา

ี่

ี่
และข้อก าหนดด้านความมั่นคงปลอดภัย
ฝ่ายนโยบายระบบการช าระเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย
สิงหาคม ๒๕๕๙

ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

ที่ สนส. ๑๒/๒๕๕๙
หลักเกณฑ์การก ากับดูแลตัวแทนของผู้ให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ



๑. เหตุผลในการออกประกาศ

ู้
ี่

เพื่อให้การแตงตงตวแทน (Agent) ของผให้บริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสทเป็นสถาบัน



ั้


การเงินเฉพาะกิจมีความน่าเชื่อถือและเป็นไปในแนวทางทเป็นมาตรฐานเดียวกัน และเพื่อป้องกันความเสยหายตอ
ี่
ี่


ู้


สาธารณชนจากการให้บริการของตวแทนของผให้บริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสทเป็นสถาบันการเงิน
เฉพาะกิจ ตลอดจนยังเป็นการเพิ่มชองทางการตดตอและการให้บริการแก่ผใชบริการและประชาชนอันเป็น
ู้




ประโยชน์โดยรวมของลูกค้า ประชาชน และระบบการช าระเงิน
๒. อ านาจตามกฎหมาย



อาศยอ านาจตามความในข้อ ๑๖ ของประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส เรื่อง


หลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสของสถาบันการเงิน


เฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
๓. ขอบเขตการบังคับใช ้



ู้


ประกาศฉบบนี้ให้ใชบังคบกับผให้บริการตามพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแลธุรกิจบริการ

การช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙
๔. เนื้อหา
๔.๑ นิยาม
ในประกาศฉบับนี้
“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส ์
ตามทก าหนดไว้ในบัญชทายพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดูแลธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส ์






ี่
ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙

“สถาบันการเงินเฉพาะกิจ” หมายความว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจตามกฎหมายว่าดวยธุรกิจ
สถาบันการเงิน

ี่
ู้



“ตวแทน” หมายความว่า บุคคลธรรมดาหรือนิตบุคคลทผให้บริการตามบัญช ก บัญช ข และ
บัญชี ค แต่งตั้งให้ด าเนินการแทนในการให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้บริการ

๔.๒ หลักเกณฑ์การก ากับดูแล

ั้





การแตงตงตวแทนเป็นการเพิ่มชองทางการตดตอและให้บริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส ์



ู้
ี่

ของผให้บริการ ดงนั้น ผให้บริการและตวแทนตองไม่ดาเนินการทเป็นการหลกเลยงการแจงให้ทราบ การขึ้น

ี่

ู้


ทะเบียน และการขอรับใบอนุญาต หรือการปฏิบัตตามพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแลธุรกิจบริการการ



ช าระเงินทางอิเลกทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และตามพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแลธุรกิจบริการการช าระเงิน






ู้
ทางอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙ ทงนี้ ผให้บริการตองปฏิบัตตามหลกเกณฑ์การ
ั้

แต่งตั้งตัวแทนในเรื่องต่อไปนี้

๔.๒.๑ ความรับผิดชอบต่อผู้ใช้บริการ

(๑) ผู้ให้บริการต้องควบคมดแลการปฏบัติงานของตัวแทนรวมถึงบุคคลธรรมดาหรือ


ี่






นิตบุคคลทตวแทนไดมอบหมายหรือว่าจางชวงงานตอ (Subcontract) ในทกทอด ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท ี่




ก าหนดตามพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแลธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสของสถาบัน



การเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และประกาศธนาคารแห่งประเทศ
ไทย รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
ู้
ู้





(๒) ผให้บริการยังคงมีความรับผดชอบตอผใชบริการในการดาเนินการของตวแทน
รวมถึงบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ตัวแทนได้มอบหมายหรือว่าจ้างช่วงงานต่อ (Subcontract) ในทุกทอด เสมือน
หนึ่งผู้ให้บริการเป็นผู้ด าเนินการเอง
๔.๒.๒ นโยบายและวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการแต่งตั้งตัวแทนที่มีความน่าเชื่อถือ




ั้

ู้

ผให้บริการตองก าหนดนโยบายและวิธีปฏิบตให้ชดเจนเกี่ยวกับการแตงตงตวแทนโดยอย่าง
น้อยต้องมีรายละเอียดในเรื่องต่อไปนี้



ั้
ี่
ี่
ื่


(๑) แนวทางการแตงตงตวแทนทมีความน่าเชอถือ ตวแทนทจะไดรับการแตงตงอาจ
ั้
เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ทั้งนี้ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังนี้
(๑.๑) บุคคลธรรมดา
(ก) มีอายุไม่ต่ ากว่ายี่สิบปีบริบูรณ ์
(ข) มีภูมิล าเนาหรือถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร


(ค) ไม่อยู่ในระหว่างถูกพิทกษ์ทรัพย์ หรือไม่เป็นบุคคลลมละลายหรือเคย
เป็นบุคคลล้มละลายและยังไม่พ้นก าหนดสองปีนับแต่วันที่มีค าสั่งยกเลิกการล้มละลายหรือปลดจากการล้มละลาย
(ง) ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้
ความสามารถ

ี่
(จ) ไม่เคยไดรับโทษจาคกโดยคาพิพากษาถึงทสดให้จาคกในความผด










เกี่ยวกับการปลอมและการแปลง ลกทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชงทรัพย์ ปลนทรัพย์ ฉ้อโกง โกง

เจ้าหนี้ ยักยอก หรือรับของโจร หรือความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ตามกฎหมายว่าด้วยการกระทาความผดเกี่ยวกับ

คอมพิวเตอร์

(ฉ) ไม่เคยถูกสั่งห้ามประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส ์
และยังไม่พ้นก าหนดห้าปีนับถึงวันแจ้งให้ทราบ
ั่

(ช) ไม่เป็นกรรมการหรือผู้ซึ่งมีอ านาจจดการของนิตบุคคลที่เคยถูกสงห้าม

ประกอบธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเพิกถอนใบอนุญาตและยังไม่พ้นก าหนดห้าปีนับถึงวันแจง

ให้ทราบ วันขอขึ้นทะเบียน หรือวันขอรับใบอนุญาต แล้วแต่กรณ ี

(๑.๒) นิติบุคคล

(ก) เป็นนิตบุคคลประเภทห้างหุ้นสวนจดทะเบียน ห้างหุ้นสวนจากัด



บริษัทจ ากัด บริษัทมหาชนจ ากัด

ู้




(ข) กรรมการหรือผซึ่งมีอ านาจจดการของนิตบุคคลตองมีคณสมบัตและ
ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ (๑.๑)
(ค) ไม่อยู่ในระหว่างถูกพักใช้ใบอนุญาต
(ง) ไม่เคยถูกสั่งห้ามประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส ์


หรือเพิกถอนใบอนุญาตและยังไม่พ้นก าหนดห้าปีนับถึงวันแจงให้ทราบ วันยื่นขอจดทะเบียนหรือวันขอรับ
ใบอนุญาต แล้วแต่กรณ ี
ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลตามข้อ (๑.๑) ข้อ (๑.๒) และกรรมการหรือ ผ ู้
ซึ่งมีอ านาจจัดการของนิติบุคคล จะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ด้วย





(ก) ไม่เคยตองคาพิพากษาหรือคาสงของศาลให้ทรัพย์สนตกเป็นของแผนดน

ั่


ี่




หรือไม่เคยตองคาพิพากษาถึงทสดว่ากระทาความผดฐานฟอกเงินตามกฎหมายว่าดวยการป้องกันและปราบปราม
การฟอกเงิน

ี่
(ข) ไม่เคยเป็นบุคคลทถูกก าหนดหรือตองคาพิพากษาถึงทสดว่ากระทาความผิด



ี่
ฐานสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ตามกฎหมายว่าดวยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทาง

การเงินแก่การก่อการร้าย

ู้


ี่
ี่



ั้
กรณผให้บริการตองการแตงตงตวแทนทมีคณสมบัตแตกตางจากทก าหนด

ู้


ข้างตน ผให้บริการตองขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นรายกรณ โดย ธปท. สงวนสทธิท ี่




จะไม่อนุญาตหรืออนุญาตพร้อมก าหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขเพิ่มเติมให้ผู้ให้บริการปฏิบัตตามความเหมาะสมดวย
ั้


ก็ได ทงนี้ ธปท. จะใชเวลาในการพิจารณาให้แลวเสร็จภายใน ๔๕ วันทาการ นับแตวันทไดรับคาขอและเอกสาร




ี่

ถูกต้องครบถ้วน
ู้
(๒) แนวทางการบริหารความเสยงจากการแตงตงตวแทนของผให้บริการระบบการ

ั้

ี่

ู้
ควบคุมภายใน และการประสานงานระหว่างผให้บริการกับตัวแทนเพื่อป้องกันความเสี่ยงตาง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น

ี่

ในดานการเก็บรักษาเงินทจะตองสงมอบ การตรวจสอบและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบการให้บริการท ี่




น่าเชอถืออย่างสม่ าเสมอ และการก าหนดจานวนเงินสงสดในการให้บริการของตวแทนเกี่ยวกับการโอนเงิน การ

ื่
ออกหนังสือค้ าประกันจากธนาคาร หรือการให้น าเงินมาวางเป็นประกัน
(๓) ผลเสร็จสนสมบูรณของธุรกรรมตองเป็นมาตรฐานเดยวกับการทาธุรกรรมกับผ ู้


ิ้


ให้บริการเอง
(๔) หลักฐานการท าธุรกรรมที่ตัวแทนต้องออกให้แก่ผู้ใช้บริการ
(๕) เงื่อนไขส าคัญในสัญญาการแต่งตั้งตัวแทน
(๖) ในการแต่งตั้งตัวแทน ผู้ให้บริการต้องดูแลไม่ให้ตัวแทนประกอบธุรกิจบริการการ

ี่



ชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส อันเป็นการหลกเลยงการแจงให้ทราบ การขึ้นทะเบียน และการขอรับใบอนุญาตตาม


พระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแลธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราช











กฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแลธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
พ.ศ. ๒๕๕๙

๔.๒.๓ การเปิดเผยข้อมูล

(๑) ผู้ให้บริการต้องเปิดเผยข้อมูลดังต่อไปนี้ให้ผู้ใช้บริการทราบ
ั้
(๑.๑) การแตงตงตวแทนของผให้บริการ เชน รายชอและสถานทให้บริการของ

ื่
ี่


ู้



ี่
ู้
ั้
ี่
ี่



ตวแทนทผให้บริการแตงตง พร้อมระบุวันทปรับปรุงข้อมูลลาสด ธุรกรรมทสามารถทาผานตวแทนแตละแห่ง


เงื่อนไขการให้บริการ ความรับผิดชอบของผู้ให้บริการต่อผู้ใช้บริการและการคุ้มครองผู้บริโภค

(๑.๒) ข้อมูลทอาจมีผลกระทบตอผใชบริการอันเนื่องมาจากการแตงตงตวแทน
ู้


ี่
ั้

ของผู้ให้บริการ เช่น ค่าธรรมเนียมหรือคาบริการ หรือการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการให้บริการใด ๆ ที่อาจทาให้


ผู้ใช้บริการเสียประโยชน์ โดยผู้ให้บริการต้องเปิดเผยให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า


ู้
ู้



(๒) ผให้บริการตองควบคมดแลให้ตวแทนของผให้บริการเปิดเผยข้อมูลดงตอไปนี้ให้

ผู้ใช้บริการทราบ
ี่



(๒.๑) ธุรกรรมทสามารถทาผานตวแทนดงกลาว เงื่อนไขการให้บริการความ


รับผิดชอบต่อผู้ใช้บริการ และการคุ้มครองผู้บริโภค


ี่
ู้
(๒.๒) ข้อมูลทอาจมีผลกระทบตอผใชบริการ เชน คาธรรมเนียมหรือคาบริการ



หรือการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการให้บริการใด ๆ ที่อาจท าให้ผู้ใช้บริการเสียประโยชน์โดยตัวแทนต้องเปิดเผยให้
ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า
๔.๒.๔ การคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องอื่น ๆ

ผให้บริการตองปฏิบัตตามและควบคมดแลให้ตวแทนของผให้บริการปฏิบัตตามหลกเกณฑ์

ู้



ู้


การคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องอื่น ๆ อย่างน้อยในเรื่อง ดังต่อไปนี้
(๑) ผลเสร็จสิ้นสมบูรณ์ของธุรกรรม


เมื่อตวแทนของผให้บริการไดออกหลกฐานการชาระเงิน หลกฐานการโอนเงินหรือ

ู้




ี่
ู้



หลกฐานอื่นใดทมีข้อความทานองเดยวกัน และจดสงให้ผใชบริการตามวิธีการทตกลงกับผใชบริการแลว ให้ถือว่า

ี่


ู้
การช าระเงินหรือการโอนเงินของผู้ใช้บริการมีผลเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เว้นแต่การรับช าระเงินหรือโอนเงินด้วยเช็คให้ถือ
ว่าการช าระเงินหรือโอนเงินเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เมื่อเช็คนั้นสามารถเรียกเก็บเงินได้ครบถ้วน
ู้
(๒) การรักษาความปลอดภัยให้แก่ผใชบริการ รวมถึงการรักษาความลบข้อมูลสวน



บุคคลของผู้ใช้บริการ
(๒.๑) ผให้บริการตองก าหนดให้ตวแทนให้บริการแก่ผใชบริการในสถานท ี่



ู้
ู้
ประกอบการ สาขา หรือช่องทางการให้บริการอื่นของตัวแทน หรือสถานที่ของนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นที่มีสัญญาให้
ตัวแทนใช้สถานที่เท่านั้น มีการก าหนดวันและเวลาในการให้บริการและมีป้ายแสดงหรือสัญลักษณของผู้ให้บริการท ี่

ี่

ี่


ชดเจนในสถานทให้บริการ นอกจากนั้นตวแทนอาจก าหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย ณ สถานทหรือชอง
ทางการให้บริการเหล่านั้นเพิ่มเติม
ี่
(๒.๒) ผู้ให้บริการต้องก าหนดให้ตัวแทนมีหน้าทในการรักษาความปลอดภัยและ
ความลับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เว้นแต่เป็นการเปิดเผยเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมาย
(๓) ช่องทางการรับข้อร้องเรียน

ี่
ผให้บริการตองจดให้มีชองทางการรับข้อร้องเรียนจากผใชบริการทสะดวกและ
ู้
ู้



ชดเจน โดยอย่างน้อยตองมีหมายเลขโทรศพทและทอยู่สานักงาน หรือทอยู่สาหรับตดตอทางจดหมาย

ี่
ี่







อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถติดต่อได ้

(๔) การรายงานต่อธนาคารแห่งประเทศไทย

ผู้ให้บริการต้องเตรียมข้อมูลสรุปรายชื่อตัวแทนให้เป็นปัจจบันและจัดส่งให้ ธปท. ทุก
๖ เดือน ภายใน ๓๐ วันนับจากวันสิ้นงวด ตามวิธีการ เงื่อนไข และแบบรายงานทแนบท้ายประกาศนี้ ทั้งนี้ ธปท.
ี่

อาจขอข้อมูลดังกล่าวเพิ่มเตมได้เป็นรายกรณีตามความจ าเป็นและเห็นสมควร


๔.๒.๕ กรณมีเหตจาเป็นหรือพฤตการณพิเศษ ททาให้ผให้บริการไม่สามารถปฏิบัตตาม

ู้


ี่






หลักเกณฑ์ที่ก าหนดในกรณคณสมบัติของตวแทน แนวทางการบริหารความเสยงจากการแต่งตั้งตวแทนการเปิดเผย
ี่
ข้อมูลการแตงตงตวแทนของผให้บริการ หรือการรายงานตอ ธปท. ให้ผให้บริการขออนุญาตยกเว้นการปฏิบัตตาม
ู้


ั้

ู้

หลักเกณฑ์ต่อ ธปท. พร้อมชี้แจงเหตุผล ความจ าเป็นและก าหนดเวลาทจะด าเนินการแลวเสร็จ โดย ธปท. อาจ
ี่

พิจารณาอนุญาตหรือไม่ก็ได้ ท้งนี้ ธปท. มีอ านาจพิจารณาอนุญาตได้ไม่เกิน ๙๐ วันและอาจก าหนดเงื่อนไขใด

ๆ ไว้เป็นรายกรณีด้วยก็ได ้


ในกรณทผให้บริการเห็นว่าจะไม่สามารถปฏิบตไดภายในระยะเวลาทก าหนดตามวรรคหนึ่ง

ู้

ี่
ี่
ให้ผให้บริการยื่นขอขยายระยะเวลา พร้อมชแจงเหตผลและความจาเป็นตอ ธปท. และให้ ธปท. เสนอตอ


ู้


ี้

คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสเพื่อพิจารณาตอไป โดยคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสอาจ




พิจารณาอนุญาตหรือไม่ก็ได้ หรืออาจพิจารณาอนุญาตโดยก าหนดเงื่อนไขใด ๆ ไว้เป็นรายกรณีด้วยก็ได ทั้งนี้ ธปท.



และคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสจะใชเวลาในการพิจารณาให้แลวเสร็จภายใน ๔๕ วันทาการ นับแต ่



วันที่ได้รับค าขอและเอกสารถูกต้องครบถ้วน
๕. วันเริ่มต้นบังคับใช ้
ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนด ๙๐ วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
วิรไท สันติประภพ
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย


Click to View FlipBook Version