The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by paretom21, 2021-04-04 12:04:21

demo

ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ สกส. ๑/๒๕๕๘
แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกา

ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงนทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑



๑. เหตุผลในการออกประกาศ


ั้
เพื่อแตงตงพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นพนักงานเจาหน้าทเพื่อปฏิบัตการตามพระราช
ี่


กฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑
๒. อ านาจตามกฎหมาย

อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๓ และมาตรา ๒๐ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคมดแล

ธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑ และตามข้อ ๑๓ แห่งประกาศกระทรวงการคลง เรื่อง




ี่

ี่

กิจการทตองขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะปฏิวัต ฉบับท ๕๘ (การประกอบธุรกิจบัตรเงิน
อิเล็กทรอนิกส์) ลงวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๔๗ ก าหนดให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีอ านาจแต่งตั้งพนักงานธนาคารแห่ง
ประเทศไทยเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าว
๓. ขอบเขตการบังคับใช ้



ู้


ประกาศฉบับนี้ใชบังคบกับผซึ่งประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสตาม

พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑
๔. ประกาศที่ยกเลิก
ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ท สกส. ๑/๒๕๕๔ ลงวันท ๑ ๙ เมษายน ๒๕๕๔
ี่
ี่

เรื่อง การแตงตงพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นพนักงานเจาหน้าทตามพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการ


ี่
ั้
ควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑
๕. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศแต่งตั้งพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นพนักงานเจ้าหน้าท ี่




ตามพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแลธุรกิจบริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑ และ



ี่
ประกาศกระทรวงการคลง เรื่อง กิจการทตองขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะปฏิวัต ฉบับท ๕๘

ี่

จ านวน ๗๐ คน ดังนี้
๑. นางนิศารัตน์ ไตรรัตน์วรกุล
๒. นายบัญชา มนูญกุลชัย
๓. นางอัจฉรา ทรัพย์เมลือง
๔. นางวันทนา บุญสร้อย

๕. นายรณรงค ขุนภาษี
๖. นางสาวสุกันยา สุพรรณขันธ์
๗. นายรณภูมิ ไชยคุณา

๘. นางเสาวลักษณ ตรีพจนีย์
๙. นายสุวิทย์ กิตติปัญญาธรรม

๑๐. นางสาววาทินี ชัยพชรพร
๑๑. นางวลัย วัชโรบล
๑๒. นางสุทธินี ศิลา
๑๓. นางสาวเพชรินทร์ หงส์วัฒนกุล
๑๔. นายวิศิษฏ์ มังกรแก้ว

๑๕. นางสาววันทิพย์ ยิ้มละมัย
๑๖. นายชัชวาล เกษรมาลา
๑๗. นางณัฐกา ดวงทิพย์

๑๘. นางสาวทัศนาทิพย์ โอฬาระชิน
๑๙. นายอุดม โหสกุล
๒๐. นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร
๒๑. นางสาวรังสิมา บุญธาทิพย์

๒๒. นางสาวมนทกานต ทีนะกุล
๒๓. นางบุษกร ธีระปัญญาชัย
๒๔. นายวีรไชย เล็กประเสริฐ
๒๕. นางสาวอโรรา อุนนะนันทน์

๒๖. นายธนะสิทธิ์ สรรพโชติวัฒน์
๒๗. นางอัมพร แก้วประเสริฐ
๒๘. นายทัศนัย เพชรรุ่งรัศมี
๒๙. นางสาวมณีรัตน์ กฤตยาประทานพร

๓๐. นางรุ่งนภา อภิรติกุล
๓๑. นางสุธาวดี ทองศิริ
๓๒. นายธีรศักดิ์ สูงลอย

๓๓. นางสาววิภา กังสดาล
๓๔. นายยุทธนา อัชชวัฒนา
๓๕. นายสืบศักดิ์ ทองศรีค า
๓๖. นายณัฐสมพล ศีละสะนา
๓๗. นายสมชาย รุ่งขจรไพศาล

๓๘. นายจุมพล สอนพงศ ์
๓๙. นายทรงชัย เงินหมื่น
๔๐. นายสุทธิศักดิ์ ถาวรสุข

๔๑. นายธาดาธร จุลิกพงศ ์

๔๒. นายฐะนัต แสงมณีทอง
๔๓. นายลิขิต ทองกิ่ง
๔๔. นางจินตนา พุทธสุภะ

๔๕. นายวันชัย ปัญญาวิเศษพงศ ์

๔๖. นายปฐมพงศ สว่างวงศ์ธรรม
๔๗. นายเทอดพงษ์ เปล่งศิริวัฒน์

๔๘. นายอดิศักดิ์ เสริฐศรี
๔๙. นายสกนธ์ เสนะวัต
๕๐. นายภัทร ทองสุพรรณ
๕๑. นางสาวธีรารัตน์ ศรีใหม่
๕๒. นายนภดล คุณานุกูล

๕๓. นายธ ารง อุ่นสินมั่น
๕๔. นายธนวัฒน์ โสตถิโยธิน
๕๕. นายวารินทร์ เจียมปัญญา

๕๖. นางสาวประภาศรี วัชรสุวรรณ
๕๗. นายวิสุทธ์ เจนพิทักษ์
๕๘. นางสาวณัฐพร พิพิธพัฒนาปราปต ์
๕๙. นายภูริทัต กฤษณ์เพ็ชร์

๖๐. นายประทีป พัตราภรณ์พิศุทธิ์

๖๑. นายสุรัต ทังสุภูต ิ
๖๒. นายอนุภาค มาตรมูล
๖๓. นางสาวนันท์นภัส ศรีธนาวาณิชย์

๖๔. นายคมศักดิ์ สุขเกษม
๖๕. นางสาวเจนนิสา อารียาภินันท ์
๖๖. นางสาวชญาดา ทองเพ็ญ
๖๗. นายธนากร บ ารุงกิจเจริญ

๖๘. นายณรงค์พล โชตเศรษฐ ์

๖๙. นายศกรี สวัสดิ์วนิช

๗๐. นางสาวกุญญาณ ศุภกุลศรีศักดิ์

๖. วันเริ่มต้นบังคับใช ้
[๑]
ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘
ประสาร ไตรรัตน์วรกุล

ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ั่
แนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมนคงปลอดภัย
ด้านสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๖



โดยทเป็นการสมควรปรับปรุงแนวนโยบายและแนวปฏิบตในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้าน

ี่

สารสนเทศของหน่วยงานของรัฐให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
อาศยอ านาจตามความในมาตรา ๕ มาตรา ๗ และมาตรา ๘ แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนด


หลักเกณฑ์และวิธีการในการทาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส ์

จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้



ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส เรื่อง แนวนโยบาย
และแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖”

ข้อ ๒ ให้ยกเลกความในข้อ ๑๔ ของประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส เรื่อง




แนวนโยบายและแนวปฏิบัตในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดานสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๓

และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน



“ข้อ ๑๔ หน่วยงานของรัฐตองก าหนดความรับผดชอบทชดเจน กรณระบบคอมพิวเตอร์หรือ
ี่



ู้
ข้อมูลสารสนเทศเกิดความเสยหาย หรืออันตรายใด ๆ แก่องคกรหรือผหนึ่งผใด อันเนื่องมาจากความ
ู้





บกพร่อง ละเลย หรือฝาฝนการปฏิบัตตามแนวนโยบายและแนวปฏิบัตในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดาน
ู้

ู้
ั้




สารสนเทศ ทงนี้ ให้ผบริหารระดบสงสดของหน่วยงาน (Chief Executive Officer : CEO) เป็นผรับผดชอบตอ
ความเสี่ยง ความเสียหาย หรืออันตรายที่เกิดขึ้น”

ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖

นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ นาครทรรพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์

ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
มาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศตามวิธีการแบบปลอดภัย
พ.ศ. ๒๕๕๕



โดยทพระราชกฤษฎีกาว่าดวยวิธีการแบบปลอดภัยในการทาธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ.

ี่



๒๕๕๓ ก าหนดให้คณะกรรมการประกาศก าหนดมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศตาม
วิธีการแบบปลอดภัยในแต่ละระดับ เพื่อให้การท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ใดที่ได้กระท าตามวิธีการแบบปลอดภัย
ที่คณะกรรมการก าหนดเป็นวิธีการที่เชื่อถือได ้


อาศยอ านาจตามความในมาตรา ๗ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าดวยวิธีการแบบปลอดภัยในการท า
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง มาตรฐานการ
รักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศตามวิธีการแบบปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๕”


ี่



ข้อ ๒ ในกรณทจะตองปฏิบัตให้เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบ


สารสนเทศตามวิธีการแบบปลอดภยในระดบเคร่งครัด ระดับกลาง หรือระดับพื้นฐานให้หน่วยงานหรือองค์กร หรือ

สวนงานของหน่วยงานหรือองคกรปฏิบัตตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศตาม


หลักเกณฑ์ที่ก าหนดในแนบท้ายประกาศฉบับนี้




ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใชบังคบเมื่อพ้นก าหนดสามร้อยหกสบวันนับแตวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕

นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ นาครทรรพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์
















[เอกสารแนบท้าย]

๑. บัญชีแนบท้ายประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง มาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
ของระบบสารสนเทศตามวิธีการแบบปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๕

ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ประเภทของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และหลักเกณฑ์การประเมินระดับผลกระทบของ
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการแบบปลอดภัย
พ.ศ. ๒๕๕๕





ี่


โดยทพระราชกฤษฎีกาว่าดวยวิธีการแบบปลอดภัยในการทาธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส
พ.ศ. ๒๕๕๓ ก าหนดให้คณะกรรมการประกาศก าหนดประเภทของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือหลักเกณฑ์การ

ประเมินระดับผลกระทบของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้การท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสใดที่ได้กระทาตาม

วิธีการแบบปลอดภัยที่คณะกรรมการก าหนดเป็นวิธีการที่เชื่อถือได ้
อาศยอ านาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าดวยวิธีการแบบปลอดภัย




ในการทาธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสจงออกประกาศเพื่อ








ก าหนดประเภทของธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส และหลกเกณฑ์การประเมินระดบผลกระทบของธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการแบบปลอดภัยไว้ ดังนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง
ประเภทของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และหลักเกณฑ์การประเมินระดับผลกระทบของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์
ตามวิธีการแบบปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๕”






ข้อ ๒ ให้ธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสในประเภทดงตอไปนี้ ใชวิธีการแบบปลอดภัยในระดบ
เคร่งครัด






(๑) ธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสดานการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย
การควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑
(๒) ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้านการเงินของธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน
(๓) ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้านประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
(๔) ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้านหลักทรัพย์ของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าดวย

หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(๕) ธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสทจดเก็บ รวบรวม และให้บริการข้อมูลของบุคคลหรือทรัพย์สน




ี่
หรือทะเบียนต่าง ๆ ที่เป็นเอกสารมหาชนหรือที่เป็นข้อมูลสาธารณะ





(๖) ธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสในการให้บริการดานสาธารณปโภคและบริการสาธารณะทตอง
ี่
ด าเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา





ข้อ ๓ ในการประเมินระดบผลกระทบของธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส ให้หน่วยงานหรือองคกร
ี่
ยึดถือหลกการประเมินความเสยงของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งเป็นทยอมรับเป็นการทวไปว่าเชอถือไดเป็น
ี่

ื่

ั่
แนวทางในการประเมินระดับผลกระทบ

ข้อ ๔ การประเมินระดับผลกระทบของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องประเมินผลกระทบในด้านต่อไปนี้ด้วย
(๑) ผลกระทบด้านมูลค่าความเสียหายทางการเงิน
(๒) ผลกระทบต่อจ านวนผู้ใช้บริการหรือผู้มีส่วนได้เสียที่อาจได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรืออนามัย
(๓)ผลกระทบต่อจ านวนผู้ใช้บริการหรือผู้มีส่วนได้เสียที่อาจได้รับความเสียหายอื่นใดนอกจาก (๒)
(๔) ผลกระทบด้านความมั่นคงของรัฐ



ข้อ ๕ ในการประเมินผลกระทบดานมูลคาความเสยหายทางการเงิน ให้จดเป็นสามระดบโดยมี




เกณฑ์ในการประเมิน ดังนี้
(๑) ในกรณีมูลค่าความเสียหายทางการเงินไม่เกินหนึ่งล้านบาท ให้จัดเป็นผลกระทบระดับต่ า

(๒) ในกรณมูลคาความเสยหายทางการเงินเกินกว่าหนึ่งลานบาทแตไม่เกินหนึ่งร้อยลานบาท





ให้จัดเป็นผลกระทบระดับกลาง
(๓) ในกรณีมูลค่าความเสียหายทางการเงินเกินกว่าหนึ่งร้อยล้านบาทขึ้นไปให้จัดเป็นผลกระทบระดับสูง



ในการประเมินมูลคาความเสยหายทางการเงินตามวรรคหนึ่ง ให้คานวณจาก
ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในหนึ่งวันและค านวณความเสียหายโดยตรงเท่านั้น

ู้




ข้อ ๖ ในการประเมินผลกระทบตอจานวนผใชบริการหรือผมีสวนไดเสยทอาจไดรับอันตราย

ู้

ี่
ต่อชีวิตร่างกายหรืออนามัย ให้จัดเป็นสามระดับ โดยมีเกณฑ์ในการประเมิน ดังนี้
ู้







ู้

ี่
(๑) ในกรณทไม่มีผใชบริการหรือผมีสวนไดเสยไดรับผลกระทบตอชวิต ร่างกายหรืออนามัย ให้
จัดเป็นผลกระทบระดับต่ า

ู้
(๒) ในกรณจานวนผใชบริการหรือผมีสวนไดเสยไดรับผลกระทบตอร่างกายหรืออนามัยตงแตหนึ่งคน
ั้







ู้

แต่ไม่เกินหนึ่งพันคน ให้จัดเป็นผลกระทบระดับกลาง
ู้
(๓) ในกรณจานวนผใชบริการหรือผมีสวนไดเสยไดรับผลกระทบตอร่างกายหรืออนามัยเกิน
ู้








กว่าหนึ่งพันคน หรือต่อชีวิตตั้งแต่หนึ่งคน ให้จัดเป็นผลกระทบระดับสูง

ู้
ู้
ในการประเมินผลกระทบตอจานวนผใชบริการหรือผมีสวนไดเสยทอาจไดรับอันตรายตอ





ี่


ชีวิตร่างกายหรืออนามัยตามวรรคหนึ่ง ให้ค านวณจากจ านวนของบุคคลดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบในหนึ่งวัน





ข้อ ๗ ในการประเมินผลกระทบต่อจานวนผู้ใชบริการหรือผู้มีส่วนไดเสียที่อาจได้รับความเสยหาย
อื่นนอกจากข้อ ๔ (๒) ให้จัดเป็นสามระดับ โดยมีเกณฑ์ในการประเมิน ดังนี้

ี่



ู้
(๑) ในกรณจานวนผใชบริการหรือผมีสวนไดเสยทอาจไดรับผลกระทบไม่เกินหนึ่งหมื่นคน ให้

ู้


จัดเป็นผลกระทบระดับต่ า
ู้
(๒) ในกรณจานวนผใช้บริการหรือผมีสวนได้เสยทอาจไดรับผลกระทบเกินกว่าหนึ่งหมื่นคนแต่ไม่


ู้

ี่


เกินหนึ่งแสนคน ให้จัดเป็นผลกระทบระดับกลาง
ี่

(๓) ในกรณจานวนผใชบริการหรือผมีสวนไดเสยทอาจไดรับผลกระทบเกินกว่าหนึ่งแสนคน ให้




ู้

ู้

จัดเป็นผลกระทบระดับสูง
ู้



ในการประเมินผลกระทบตอจานวนผใชบริการหรือผมีสวนไดเสยทอาจไดรับความเสยหายตาม
ี่


ู้





วรรคหนึ่ง ให้ค านวณจากจานวนของบุคคลดังกลาวที่ได้รับผลกระทบ ในหนึ่งวันและค านวณความเสียหายโดยตรง
เท่านั้น

ข้อ ๘ ในการประเมินผลกระทบด้านความมั่นคงของรัฐ ให้จัดเป็นสองระดับ โดยมีเกณฑ์ในการประเมิน ดังนี้
(๑) ในกรณีไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ให้จัดเป็นผลกระทบระดับต่ า
(๒) ในกรณีมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ให้จัดเป็นผลกระทบระดับสูง

ข้อ ๙ หากปรากฏว่ามีผลประเมินทเป็นผลกระทบในระดบสงดานหนึ่งดานใดให้ธุรกรรมทาง
ี่










อิเลกทรอนิกสนั้นตองใชวิธีการแบบปลอดภัยในระดบเคร่งครัด และหากมีผลกระทบในระดบกลางอย่างน้อยสอง
ด้านขึ้นไปให้ใช้วิธีการแบบปลอดภัยในระดับกลางขึ้นไป

ในกรณีที่ไม่เป็นไปตามวรรคหนึ่ง ให้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ใช้วิธีการแบบปลอดภัยในระดบไม่
ต่ ากว่าระดับพื้นฐาน

ข้อ ๑๐ ประกาศนี้ให้ใชบังคบเมื่อพ้นก าหนดสามร้อยหกสบวัน นับแตวันประกาศในราชกิจจา



นุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕

นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ นาครทรรพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์

ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

ที่ สรข. ๓/๒๕๕๒
นโยบายและมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ

ในการประกอบธุรกิจของผู้ให้บริการการช าระเงนทางอิเล็กทรอนิกส์



๑. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อให้มีมาตรฐานในการก าหนดนโยบายและมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทาง



ู้
ระบบสารสนเทศในการประกอบธุรกิจของผให้บริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส และใชเป็นแนวทางก าหนด


ี่
วิธีปฏิบัตในการตรวจสอบและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศทเกี่ยวข้องกับการให้บริการการ
ช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มีความน่าเชื่อถือ มีความมั่นคงปลอดภัยและสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
๒. อ านาจตามกฎหมาย


อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคมดแล
ธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงได้ก าหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส ์

๓. ขอบเขตการบังคับใช ้


ู้


ประกาศฉบับนี้ให้ใชบังคบกับผให้บริการตามพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแล


ธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑
๔. เนื้อหา
ู้



ผให้บริการตามพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแลธุรกิจบริการการชาระเงินทาง

อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ต้องถือปฏิบัติตามมาตรฐานนโยบายและมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทาง
ระบบสารสนเทศ ดังนี้
๔.๑ นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ


(๑).ผให้บริการจะตองจดทานโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ
ู้

เป็นลายลักษณ์อักษร โดยได้รับการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารหรือผู้บริหารระดับสูงของ ผ ู้

ี่
ั้

ให้บริการ ทงนี้ ผให้บริการจะตองเผยแพร่นโยบายดงกลาว และอบรมให้แก่บุคลากรทเกี่ยวข้องเพื่อถือปฏิบัต ิ

ู้
รวมทั้งจัดให้มีการทบทวนหรือปรับปรุงนโยบายให้เหมาะสมกับสถานการณ์อย่างสม่ าเสมอ
ี่
(๒) นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศทเกี่ยวข้องกับการให้บริการ
อย่างน้อยต้องครอบคลุมในเรื่องดังต่อไปนี้
(ก) การควบคุมการเข้าถึง และการพิสูจน์ตัวตนผู้ใช ้
(ข) การรักษาความลับของข้อมูล และความถูกต้องเชื่อถือได้ของระบบสารสนเทศ
(ค) การรักษาสภาพความพร้อมใช้งานของการให้บริการ
(ง) การตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ
๔.๒ มาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ
ู้

ผให้บริการจะตองจดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศ

ทเกี่ยวข้องกับการให้บริการการชาระเงินทางอิเลกทรอนิกสให้สอดคลองกับนโยบายทไดก าหนดขึ้นและมาตรการ



ี่

ี่










ู้
ดงกลาวจะตองเหมาะสมกับลกษณะของธุรกิจ โดยครอบคลมถึงการควบคมการเข้าถึง และการพิสจน์ตวตนผใช ้


การรักษาความลบของข้อมูล การรักษาความถูกตองเชอถือไดของระบบสารสนเทศ การรักษาสภาพความพร้อม

ื่
ใชงานของการให้บริการ การแก้ไขปัญหาและการรายงานรวมถึงจดให้มีการตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยทาง


ระบบสารสนเทศอย่างสม่ าเสมอ อย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง
ั้

ู้
ี่

ทงนี้ ผให้บริการจะตองดาเนินการทบทวนหรือปรับปรุงมาตรการตามระยะเวลาทก าหนด


ี่
หรือเมื่อมีการเปลยนแปลงทสงผลกระทบกับนโยบายและมาตรการทไดก าหนดไว้ ตลอดจนจดอบรมและให้

ี่
ี่
ความรู้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้อง




อนึ่ง ธปท. ไดจดทาแนวปฏิบัตการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศท ี่
เกี่ยวข้องกับการให้บริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๒ (เอกสารแนบ) เพื่อ
เป็นแนวทางในการก าหนดมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศให้น่าเชอถือและให้เป็นท ี่
ื่

ู้
ู้
ยอมรับของผใชบริการ ทงนี้ การก าหนดมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของผให้บริการแตละรายอาจ
ั้

แตกต่างจากแนวปฏิบัติดังกล่าวได้ หากผู้ให้บริการเห็นว่าสามารถป้องกันความเสี่ยงทางระบบสารสนเทศได้อย่างมี
ประสิทธิภาพเพียงพอ และอยู่ในมาตรฐานที่ยอมรับได ้
๕. วันเริ่มต้นใช้บังคับ

ประกาศฉบับนี้ใหใช้บังคับนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒
ธาริษา วัฒนเกส
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
















[เอกสารแนบท้าย]



๑. แนวปฏิบัตการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศทเกี่ยวข้องกับการให้บริการการชาระเงินทาง
ี่

อิเล็กทรอนิกส ์

ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

ที่ สรข. ๑/๒๕๕๒
การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ตามบัญชี ก ที่ไม่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนให้บริการ



๑. เหตุผลในการออกประกาศ
เพื่อก าหนดประเภทของการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งใช้ซื้อสินค้าหรือรับบริการเฉพาะอย่าง
ตามรายการที่ก าหนดไว้ล่วงหน้า จากผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ไม่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนให้บริการ


๒. อ านาจตามกฎหมาย





อาศยอ านาจตามความในบัญชทายพระราชกฤษฎีกาว่าดวยการควบคมดแลธุรกิจบริการการ



ชาระเงินทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๑ ธนาคารแห่งประเทศไทยโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการธุรกรรม





ี่



ทางอิเลกทรอนิกส จงประกาศก าหนดประเภทของการให้บริการเงินอิเลกทรอนิกสตามบัญช ก ทไม่ตองแจง

ให้ทราบก่อนให้บริการ
๓. ขอบเขตการบังคับใช ้



ี่

ประกาศฉบับนี้ให้ใชบังคบกับการให้บริการเงินอิเลกทรอนิกส บัญช ก ตามทก าหนดไว้ในบัญช ี

ท้ายพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑
๔. เนื้อหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ประกาศ

ก าหนดให้การให้บริการเงินอิเลกทรอนิกสทใช้ซื้อสินค้าหรือรับบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่ก าหนดไว้ล่วงหน้า

ี่
ู้
จากผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ใช้จ ากัดเพื่ออ านวยความสะดวกแก่ผบริโภคโดยไม่แสวงหาก าไรจาก
การออกบัตรดังต่อไปนี้ เป็นธุรกิจบริการที่ไม่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนให้บริการ
๔.๑ เงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เพื่อช าระค่าสินคาหรือบริการเฉพาะอย่างอันเป็นธุรกิจของตนเอง เช่น

บัตรโดยสารรถสาธารณะ บัตรโทรศัพท์สาธารณะ บัตรช าระค่าผ่านทางสาธารณะ
๔.๒ เงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เฉพาะช าระค่าอาหารและเครื่องดื่มภายในศูนย์อาหาร
๕. วันเริ่มต้นใช้บังคับ
ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒
ธาริษา วัฒนเกส
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

ค าสั่งส านักงานตรวจคนเข้าเมือง

ที่ ๑๙๒/๒๕๖๑
เรื่อง ก าหนดรายการข้อมูลที่พัก (Accommodation) หรือสถานที่อยู่ในประเทศไทย
(Place of stay in Thailand) เพื่อให้คนต่างด้าวแจ้งล่วงหน้า
โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์



ด้วยเป็นการสมควรก าหนดให้คนต่างด้าวที่จะเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว แจ้ง
ี่

ข้อมูลทพัก (Accommodation) หรือสถานทอยู่ในประเทศไทย (Place of stay in Thailand) ซึ่งคนตางดาว
ี่

จะต้องพักอาศัย ตามมาตรา ๑๘ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยค าสง
ั่
ี่

หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาต ท ๔๒/๒๕๖๐ เรื่อง แก้ไขกฎหมายคนเข้าเมืองเพื่ออ านวยความสะดวกแก่
ผู้เดินทางสัญชาติไทย ลงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ และมาตรา ๓๗ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคน เข้า




เมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ลวงหน้าโดยวิธีการทางอิเลกทรอนิกสให้พนักงานเจาหน้าทตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบ ข้อมูล
ี่


ล่วงหน้า เพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัยของคนตางดาว และการอ านวยความสะดวกในการตรวจอนุญาตให้เข้า
มาในราชอาณาจักร
อาศัยอ านาจตามระเบียบ ก.ต.ช. ว่าด้วยหลกเกณฑ์การปฏิบตราชการของผบัญชาการในฐานะเป็น


ู้


ี่

อธิบดหรือแทนผบัญชาการต ารวจแห่งชาต พ.ศ. ๒๕๕๑ ลงวันท ๒๙ สงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดย

ู้
ู้

ู้
ระเบียบ ก.ต.ช. ว่าดวยหลกเกณฑ์การปฏิบัตราชการของผบัญชาการในฐานะเป็นอธิบดหรือแทนผบัญชาการ



ี่
ตารวจแห่งชาต (ฉบับท ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ ลงวันท ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ประกอบมาตรา ๑๘ วรรคสอง
ี่



ั่


แห่งพระราชบัญญัตคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเตมโดยคาสงหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาต

ที่ ๔๒/๒๕๖๐ เรื่อง แก้ไขกฎหมายคนเข้าเมืองเพื่ออ านวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางสัญชาติไทย ลง
วันท ๑๓ กันยายน พุทธศกราช ๒๕๖๐ และมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัตคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ภายใต ้

ี่



บทบัญญัตมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๓ และ







มาตรา ๗ แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลกเกณฑ์และวิธีการในการทาธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสภาครัฐ
พ.ศ. ๒๕๔๙ ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๗ เมื่อ

วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ เห็นชอบนโยบายและแนวปฏบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ด้าน



สารสนเทศของสานักงานตรวจคนเข้าเมือง และสานักงานตรวจคนเข้าเมืองไดมีประกาศ เรื่อง แนวนโยบายและ
แนวปฏิบัตในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ลงวันท ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ รองรับ
ี่






การด าเนินการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสภาครัฐ จึงก าหนดให้คนตางด้าวที่จะเดนทางเขามา ในราชอาณาจกร


โ ด ย ท า ง อ า ก า ศ แ จ ง ข้ อ มู ล ท พั ก ( Accommodation) ห รื อ ส ถ า น ท อ ยู่ ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย
ี่
ี่



(Place of stay in Thailand) ลวงหน้าโดยวิธีการทางอิเลกทรอนิกสผานระบบข้อมูลการตรวจสอบและ

คัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า





ตามนัยขอ ๒ (๒) (ฌ) แหงข้อบังคบของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับท่ ๘๗ ว่าด้วยการ


ู้
อ านวยความสะดวกเพื่อการตรวจสอบและคดกรองผโดยสารลวงหน้า ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ และ
ู้





ู้
ให้เจาของหรือผจดทะเบยนอากาศยาน หรือผดาเนินการเดนอากาศ จดเก็บข้อมูลทพัก (Accommodation) หรือ
ี่


สถานทอยู่ในประเทศไทย (Place of stay in Thailand) ของคนตางดาวดงกลาวทกเทยวบิน ตาม
ี่



ี่
ั่





มาตรฐาน Platform สาหรับจดเก็บข้อมูลแนบทายคาสงนี้ น าสงทางอิเลกทรอนิกสไปยังระบบการตรวจสอบและ


คัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (Advance Passenger Processing System : APPS)
เพื่อน าเข้าระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง ตามบัญชีแนบท้ายค าสั่งนี้ ทั้งนี้ ให้ถือว่าคนต่างด้าวได้แจ้งที่พักอาศย

ตามกฎหมายแล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๑๑ ตลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑

พลต ารวจตรี สุรเชษฐ หักพาล
รองผู้บัญชาการต ารวจท่องเที่ยว รักษาราชการแทน

ผู้บัญชาการสานักงานตรวจคนเข้าเมือง

























[เอกสารแนบท้าย]


๑. มาตรฐาน Platform ส าหรับจัดเก็บข้อมูล

ค าสั่งส านักงานตรวจคนเข้าเมือง

ที่ ๑๙๑/๒๕๖๑
เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติในการคัดกรองและตรวจสอบเอกสารล่วงหน้า
ส าหรับผู้ยื่นขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง
โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (ELECTRONICS VISA ON ARRIVAL : E - VOA)



ี่


โดยทเป็นการสมควรก าหนดวิธีการยื่นขอรับการตรวจลงตรา ณ ชองทางอนุญาตของดานตรวจ
คนเข้าเมืองโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (ELECTRONICS VISA ON ARRIVAL : E - VOA)


ี่



ให้พนักงานเจาหน้าทคดกรองและตรวจสอบเอกสารลวงหน้าก่อนการเดนทางเข้ามาในราชอาณาจกร เพื่อให้
ี่



ู่
สอดคลองกับทศทางการพัฒนาประเทศตามนโยบายไทยแลนด ๔.๐ และยุทธศาสตร์การปรับเปลยนภาครัฐส

ี่
ั้





ี่
การเป็นรัฐบาลดจทล รวมทงเพื่ออ านวยความสะดวกแก่คนตางดาวทเข้ามาทองเทยวในประเทศไทยอย่าง


มีประสทธิภาพ รวดเร็ว และถูกตอง อันเป็นการสนับสนุนภาคการทองเทยวและยกระดบการอ านวยความสะดวก


ี่
ให้อยู่ในระดับสากล (World Class) ภายใต้การรักษามาตรฐานความมั่นคงของประเทศ
อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๑ ๑.๒.๕ และข้อ ๓ แห่งระเบียบส านักงานตรวจคนเข้าเมืองว่าด้วย
หลัก เก ณฑ์และ วิธีก าร ใน ก าร ต ร ว จ ลง ตร าแ ละ ก าร เ ปล่ยน ปร ะ เ ภทก าร ตร ว จ ล ง ต ร า



ี่



ล ง วันท ๒ ตลาคม พ.ศ. ๒ ๕ ๕ ๗ ภายใตบทบัญญัตมาตรา ๓ ๕ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรม



ทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๓ และมาตรา ๗ แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลกเกณฑ์และวิธีการใน


การท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้มีมติในการ

ประชมครั้งท ๔/๒๕๕๗ เมื่อวันท ๒๗ พฤศจกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ เห็นชอบตอนโยบายและแนวปฏบัตในการรักษา


ี่

ี่



ความมั่นคงปลอดภัย ด้านสารสนเทศของสานักงานตรวจคนเขาเมือง และส านักงานตรวจคนเข้าเมืองไดมีประกาศ


เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบัตในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ลงวันท ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ รองรับการดาเนินการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสภาครัฐ จงก าหนดหลกเกณฑ์



ี่




และวิธีการปฏิบัตในการคดกรองและตรวจสอบเอกสารลวงหน้า สาหรับผยื่นขอรับการตรวจลงตรา ณ ชองทางอนุญาต
ู้




ของด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยวิธีการทางทางอิเล็กทรอนิกส (ELECTRONICS VISA ON ARRIVAL :
E-VOA) ไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในค าสั่งนี้

“อิเล็กทรอนิกส” ให้มีความหมายตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์
“ข้อความ” ให้มีความหมายตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์

“ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส” ให้มีความหมายตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์
“ผู้ส่งข้อมูล” ให้มีความหมายตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์
“ผู้รับข้อมูล” ให้มีความหมายตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์

“บุคคลที่เป็นสื่อกลาง” ให้มีความหมายตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส ์


“วิธีการทางอิเลกทรอนิกส” หมายความรวมทงและใชตลอดถึง การดาเนินการใด ๆท่กฎหมาย
ั้





ว่าดวยคนเข้าเมือง หรือกฎหมายอื่นทเกี่ยวข้องบังคบให้ จดท า ยื่น สง รับ เก็บรักษา การอนุญาต การช าระเงิน


ี่
หรือด าเนินการอื่นใด โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด หรือบางส่วน
ื่

“ระบบทาการแทน” หมายความว่า ระบบและเครือข่ายกลางในการเชอมโยงข้อมูล
ื่
ี่
ี่
ี่


ระหว่างสมาชก หน่วยงาน และบุคคลทเกี่ยวข้อง เป็นระบบทพัฒนาขึ้นเพื่อทาหน้าทเป็นตวกลางในการเชอม

ี่

ตอข้อมูลเข้ากับระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง เพื่อลดการเกิดความเสยงในการเกิดข้อผดพลาดจากการ

ด าเนินการ (human errors) การปลอมแปลงเอกสารและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส ์
“ตัวแทนผู้ยื่นขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยวิธีการทาง
ู้
อิเล็กทรอนิกส์ (ELECTRONICS VISA ON ARRIVAL : E - VOA)” หมายความถึง ผู้ประกอบการซึ่งเป็นผให้บริการ



บันทกข้อมูล และรับสงข้อมูลทางอิเลกทรอนิกสกับระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมืองหรือดาเนินการอื่นใดตาม






ที่ส านักงานตรวจคนเข้าเมืองก าหนดในนามของคนตางดาวที่มีคณสมบัตขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาต
ของด่านตรวจคนเข้าเมือง (VISA ON ARRIVAL)


ี่
ข้อ ๒ เพื่อประโยชน์แก่การให้บริการคนตางดาวทมาขอรับการตรวจลงตรา ณ ชองทางอนุญาต


ของดานตรวจคนเขาเมือง (VISA ON ARRIVAL) ให้ใชวิธีการทางอิเลกทรอนิกสในระบบทาการแทนในการรับและ





ส่งผ่านข้อมูลไปยังระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมืองได้ดังนี้.




๒.๑ ภายใตหลกเกณฑ์ของกฎหมายว่าดวยธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสในการปฏิบัตพิธีการ






ตรวจลงตรา ณ ชองทางอนุญาตของดานตรวจคนเข้าเมืองทางอิเลกทรอนิกส
(ELECTRONICS VISA ON ARRIVAL : E - VOA)


๒.๑.๑ ห้ามปฏิเสธความผกพันและการบังคบใชกฎหมายของข้อความใดเพียงเพราะเหตท ี่


ข้อความนั้นอยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส ์
๒.๑.๒ ในกรณทกฎหมายก าหนดให้การใดตองทาเป็นหนังสอ มีหลกฐานเป็นหนังสอ หรือ



ี่






ี่





มีเอกสารมาแสดง ถ้าไดจดทาข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเลกทรอนิกสทสามารถเข้าถึงและน ากลบมาใชได
โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ให้ถือว่าข้อความนั้นเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือมีเอกสารมาแสดงแล้ว
ื่
๒.๑.๓ ในกรณีที่ต้องลงลายมือชอในหนังสือ ให้ถือว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นมีการลงลายมือ
ชื่อแล้ว เมื่อได้ด าเนินการตามรูปแบบที่ส านักงานตรวจคนเข้าเมืองก าหนด


๒.๒ การปฏิบัตพิธีการตรวจคนเข้าเมืองตามคาสงนี้ ให้กระทาโดยสงข้อมูลอิเลกทรอนิกส



ั่

ู้
ี่
ู่
ื่

ผานบุคคลทเป็นสอกลางผให้บริการระบบทาการแทนเข้าสระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมืองตามรูปแบบ




ี่
ื่
ทสานักงานตรวจคนเข้าเมืองก าหนด แทนการจดทา ยื่น สง รับเอกสาร และการลงลายมือชอในแบบ

ตม.๘๘ (APPLICATION FOR VISA ON ARRIVAL)


๒.๓ การสงข้อมูลอิเลกทรอนิกสของผสงข้อมูลเข้าสระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมืองทดแทน


ู่

ู้


เอกสารใด หากระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมืองผรับข้อมูลไดทาการตอบรับข้อมูลอิเลกทรอนิกสนั้น ๆ ในการ
ู้



ปฏิบัตพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแลว ถือเป็นการยื่นเอกสารนั้นตามกฎหมายว่าดวยคนเข้าเมืองและกฎหมายอื่นท ี่


เกี่ยวข้องแล้ว


ข้อ ๓ วิธีการยื่นขอรับการตรวจลงตรา ณ ชองทางอนุญาตของดานตรวจคนเข้าเมืองโดยวิธีการ

ทางอิเลกทรอนิกส (ELECTRONICS VISA ON ARRIVAL : E - VOA) การคดกรองและตรวจสอบเอกสารลวงหน้า



มีขั้นตอนด าเนินการดังนี้

๓.๑ การส่งข้อมูลและการช าระคาธรรมเนียม
๓.๑.๑ การส่งข้อมูล
ก่อนคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ให้ตัวแทนผู้ยื่นขอรับการตรวจลงตรา
ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส ์

(ELECTRONICS VISA ON ARRIVAL : E - VOA) จัดทาข้อมูลโดยอ้างอิงกับหน้าข้อมูลหนังสือ

เดินทาง (Passport information page) ของคนต่างด้าวที่มีคณสมบัติขอรับการตรวจลงตรา ณ ชองทางอนุญาต

ของด่านตรวจคนเข้าเมือง (VISA ON ARRIVAL) และข้อมูลอื่น ๆ ตามรูปแบบที่ส านักงานตรวจคนเข้าเมืองก าหนด
และส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้าเข้าสู่ระบบท าการแทน โดยให้มีหน้าที่รับผิดชอบตรวจสอบข้อมูลให้
ี่

ครบถ้วนถูกต้องก่อนส่งข้อมูลล่วงหน้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าทสามารถคดกรองและตรวจสอบ
ี่


ล่วงหน้าก่อนทคนตางดาวจะเดินทางมาถึงประเทศไทย
๓.๑.๒ การช าระค่าธรรมเนียม

ให้ผู้ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด าเนินการตามรูปแบบที่สานักงานตรวจคนเข้าเมืองก าหนดเพื่อช าระ
ค่าธรรมเนียมในอัตราตามที่ก าหนดในกฎกระทรวงเป็นสกุลเงินไทยเท่านั้น(THAI CURRENCY ONLY) ทั้งนี้จะได้รับการพิจารณา
อนุญาตหรือไม่ก็ตาม จะไม่คืนเงินค่าธรรมเนียมในทุกกรณ ี

๓.๒ การคัดกรองและตรวจสอบเอกสารล่วงหน้า
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด าเนินการคัดกรองและตรวจสอบเอกสาร
อิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้า (Pre - Approved) ในระบบท าการแทน ให้เป็นไปตามระเบียบส านักงานตรวจคนเข้า เมือง

ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ ในการตรวจลงตราและการเปลยนประเภทการตรวจลงตรา ลงวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ พร้อมทั้ง
ี่

ตรวจสอบการช าระคาธรรมเนียมให้เสร็จสิ้นและตอบกลับล่วงหน้าก่อนคนต่างด้าวเดินทางมาถึงประเทศไทย

ข้อ ๔ การตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (VISA ON ARRIVAL) และการตรวจอนุญาตให้
เข้ามาในราชอาณาจักร
๔.๑ เมื่อคนตางดาวทผานการคดกรองและตรวจสอบเอกสารอิเลกทรอนิกสลวงหน้าแลวมาแสดงตว ให้



ี่









ี่
พนักงานเจาหน้าทประจา ณ ชองทางอนุญาตของดานตรวจคนเข้าเมืองอ่านข้อมูลหนังสอเดนทางผานเครื่อง






อ่านหนังสือเดินทาง Passport Reader ระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมืองจะแสดงข้อมูลการผานการคดกรองและ
ตรวจสอบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้าและช าระค่าธรรมเนียมไว้เรียบร้อยแล้ว

ี่
ี่
ี่



๔.๒ ให้พนักงานเจาหน้าทประจา ณ ชองทางอนุญาตของดานตรวจคนเข้าเมืองทมีหน้าทตรวจ

ู้
บุคคลเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นผมีอ านาจตรวจพิจารณาอนุญาต โดยให้ประทับตรา“VISA ON ARRIVAL” ลงใน
หนังสือเดินทางของคนต่างด้าว และลงลายมือชื่อในตราประทับประจ าตาแหน่งหากไม่มีให้ใชตราประจาสวนราชการ






ื่
ั้




และลงลายมือชอไว้เป็นสาคญ พร้อมทงถ่ายภาพคนตางดาวแลวดาเนินกระบวนการตรวจอนุญาตให้เข้ามาใน
ราชอาณาจักร และบันทึกผลการตรวจพิจารณาอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรไว้ในระบบให้เรียบร้อย
ข้อ ๕ การยื่นเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการด าเนินการใด ๆ เฉพาะที่กระท าในรูปของข้อมูล

ั่
อิเลกทรอนิกสกับระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมืองตามคาสงนี้ ให้มีก าหนดเวลาตลอดยี่สบสชวโมงโดยไม่เว้น
ี่
ั่



วันหยุดราชการ
ู้


ข้อ ๖ ตวแทนผยื่นขอรับการตรวจลงตรา ณ ชองทางอนุญาตของดานตรวจ คนเข้าเมืองทาง

อิเลกทรอนิกส (ELECTRONICS VISA ON ARRIVAL : E - VOA) ลวงหน้าในระบบทาการแทนตองไดรับอนุญาต







จากผู้บัญชาการส านักงานตรวจคนเข้าเมืองก่อน ทั้งนี้ ตั้งแต วันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๑๑ ตลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑

พลต ารวจตรี สุรเชษฐ หักพาล
รองผู้บัญชาการต ารวจท่องเที่ยว รักษาราชการแทน

ผู้บัญชาการสานักงานตรวจคนเข้าเมือง

ค าสั่งส านักงานตรวจคนเข้าเมือง

ที่ ๑๗๘/๒๕๕๘
เรื่อง วิธีการยื่นค าขอรับการตรวจลงตรา APPLICATION FOR VISA ON ARRIVAL
ตามแบบ ตม.๘๘ ทางอิเล็กทรอนิกส์





ตามระเบียบสานักงานตารวจแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจลงตราและ

ี่


ี่
การเปลยนประเภทการตรวจลงตรา ลงวันท ๒๒ ตลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อ ๑.๒.๔ ก าหนดให้คนตางดาวทมีสทธิ

ี่

ขอรับการตรวจลงตรา ณ ชองทางอนุญาตของดานตรวจคนเขาเมือง (VISA ON ARRIVAL) ขอรับการตรวจลงตรา


ี่



ตอพนักงานเจาหน้าทสานักงานตรวจคนเข้าเมือง ณ ดานตรวจคนเข้าเมืองตามทก าหนดไว้ โดยยื่นคาขอรับการ


ี่
ตรวจลงตรา APPLICATION FOR VISA ON ARRIVAL ตามแบบ ตม.๘๘ ที่ก าหนดไว้ท้ายระเบียบ นั้น
ต่อมาภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๓๕ และพระ



ราชกฤษฎีกาก าหนดหลกเกณฑ์และวิธีการในการทาธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ มาตรา ๗

คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๗ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ พฤศจิกายน
พ.ศ. ๒๕๕๗ เห็นชอบตอนโยบายและแนวปฏิบัตในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดานสารสนเทศของสานักงาน




ตรวจคนเข้าเมือง และส านักงานตรวจคนเข้าเมืองได้มีประกาศ เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความ
ี่

มั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ลงวันท ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ รองรับการดาเนินการธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ
อาศยอ านาจตามความในข้อ ๓ ของระเบียบสานักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่าดวยหลกเกณฑ์และ




วิธีการในการตรวจลงตราและการเปลยนประเภทการตรวจลงตรา ลงวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ และมาตรา ๓
ี่



แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลกเกณฑ์และวิธีการในการทาธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ จง ึ


ก าหนดวิธีการยื่นคาขอรับการตรวจลงตรา APPLICATION FOR VISA ON ARRIVAL ตามแบบ ตม.๘๘ ทาง





อิเลกทรอนิกส ตามข้อปฏิบัตการใชงานระบบการยื่นคาร้องขอรับการตรวจลงตรา (TR ๑๕) ทางอิเลกทรอนิกส ์



(VOA Application Online) และสถานทยื่นคาขอรับการตรวจลงตรา (TR ๑๕) ทางอิเลกทรอนิกส ตามผนวก ก.

ี่

และผนวก ข. ท้ายค าสั่งนี้ โดยให้ถือว่าคนตางดาวไดยื่นค าขอรับการตรวจลตรา APPLICATION FOR VISA ON


ARRIVAL ตามแบบ ตม.๘๘ แล้ว

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นตนไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
พลต ารวจโท ศักดา ชื่นภักดี

ผู้บัญชาการสานักงานตรวจคนเข้าเมือง

[เอกสารแนบท้าย]



๑. ผนวก ก. : ข้อปฏิบัตการใชงานระบบการยื่นคาร้องขอรับการตรวจลงตรา (TR ๑๕) ทางอิเลกทรอนิกส ์


ี่



ั่


(VOA Application Online) แนบทายคาสงสานักงานตรวจคนเขาเมือง ท ๑๗๘/๒๕๕๘ เรื่อง วิธีการยื่นคาขอรับ
การตรวจ ลงตรา APPLICATION FOR VISA ON ARRIVAL ตามแบบ ตม.๘๘ ทางอิเลกทรอนิกส ลงวันท ๑๑
ี่


สิงหาคม ๒๕๕๘




ี่
ั่
๒. ผนวก ข. : สถานทยื่นคาขอรับการตรวจลงตรา (TR ๑๕) ทางอิเลกทรอนิกส แนบทายคาสงสานักงานตรวจคน


เข้าเมือง ที่ ๑๗๘/๒๕๕๘ เรื่อง วิธีการยื่นค าขอรับการตรวจลงตรา APPLICATION FOR VISA ON ARRIVAL ตาม
แบบ ตม.๘๘ ทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๘

ระเบียบกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดท าหรือแปลงเอกสารและข้อความ
ให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๗






ดวยกรมพัฒนาธุรกิจการคาไดจดทา ดดแปลงและจดเก็บเอกสารตามกฎหมายทอยู่ในความ



ี่


รับผดชอบของกรมไว้ในรูปแบบข้อมูลอิเลกทรอนิกส ซึ่งกฎหมายว่าดวยธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสก าหนดให้




หน่วยงานของรัฐทได้มีการจดทาหรือแปลงเอกสาร และข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเลกทรอนิกสสามารถออก




ี่
ระเบียบก าหนดหลักเกณฑ์รายละเอียดบางอย่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรักษาเอกสารหรือข้อความในรูปของข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ โดยให้ถือว่าได้มีการจัดเก็บรักษาเป็นเอกสารต้นฉบับตามกฎหมายแล้ว



อาศยอ านาจตามความในมาตรา ๒ วรรคสาม มาตรา ๑๒/๑ และมาตรา ๕ แห่ง


ี่



พระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔ และแก้ไขเพิ่มเตม (ฉบับท ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ อธิบดกรม

พัฒนาธุรกิจการค้าจึงออกระเบียบ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมพัฒนาธุรกิจการคาว่าดวยหลกเกณฑ์และวิธีการในการ



จัดท าหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๗”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้



“การจดทาหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเลกทรอนิกส” หมายความว่า

การจดทาหรือแปลงเอกสารและข้อความการจดทะเบียนห้างหุ้นสวนสามัญนิตบุคคล ห้างหุ้นสวนจากัด









บริษัทจากัด บริษัทมหาชนจากัด สมาคมการคา หอการคา เอกสารการขออนุญาต หรือการขอหนังสอรับรองการ


ี้
ื่


ู้



ประกอบธุรกิจของคนตางดาว สาเนางบการเงิน สาเนาบัญชรายชอผถือหุ้น หนังสอชแจงการจดทะเบียน

หนังสือแจ้งการด าเนินการตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและ เอกสาร

ี่
หนังสอราชการอื่นทอยู่ในความรับผดชอบของหน่วยงานในสงกัดกรมพัฒนาธุรกิจการคา ให้อยู่ในรูปของข้อมูล



อิเล็กทรอนิกส ์
“ผู้จัดท าหรือแปลง” หมายความว่า อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย

“ผมีหน้าทจดทาหรือแปลง” หมายความว่า ข้าราชการ พนักงานราชการ หรือบุคคลอื่นทได
ี่
ี่

ู้

รับมอบหมายจากผู้จัดท าหรือแปลงให้เป็นผู้มีหน้าที่จัดท าหรือแปลงเอกสารให้อยู่ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส ์
ู้
ี่



“ผตรวจสอบ” หมายความว่า ข้าราชการ ลกจางประจา หรือพนักงานราชการทไดรับมอบหมาย

จากผู้จัดท าหรือแปลงให้เป็นผู้มีหน้าท ี่
ี่





(๑) ตรวจสอบและรับรองความถูกตองและครบถ้วนของข้อมูลอิเลกทรอนิกสทไดจากการจดทา



หรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเลกทรอนิกสว่าข้อมูลอิเลกทรอนิกสมีความหมายหรือ


รูปแบบเหมือนกับเอกสารและข้อความเดิม
(๒) ตรวจสอบและรับรองกระบวนการจัดทาหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูล



ี่


อิเลกทรอนิกส โดยครอบคลมถึงขั้นตอนการดาเนินการ คณภาพ และความถูกตองของข้อมูลเลกทรอนิกสทผาน





การจัดท าหรือแปลง และที่ใช้ในการระบุตัวตนของผู้จัดท าหรือแปลง


(๓) ตรวจสอบและรับรองความถูกตองและครบถ้วนของเมตาดาตา (Metadata) ในรูปแบบ
อิเลกทรอนิกสทเป็นข้อความบรรยายสาระสาคญของเอกสารและข้อความ ซึ่งตองครอบคลมให้สามารถสบคน
ี่








เอกสารและข้อความนั้นได้ถูกต้อง
“เอกสาร” หมายความว่า เอกสารและข้อความการจดทะเบียนห้างหุ้นสวนสามัญนิตบุคคล







ห้างหุ้นสวนจากัด บริษัทจากัด บริษัทมหาชนจากัด สมาคมการคา หอการคา เอกสารการขออนุญาต หรือ

ื่

การขอหนังสอรับรองการประกอบธุรกิจของคนตางดาว สาเนางบการเงิน สาเนาบัญชรายชอผถือหุ้น
ู้







หนังสือชี้แจงการจดทะเบยน หนังสือแจ้งการด าเนินการตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผดชอบของกรมพัฒนาธุรกิจ
การค้าและเอกสารหนังสือราชการอื่นที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานในสังกัดกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

“ข้อความ” หมายความว่า เรื่องราวหรือข้อเทจจริง ไม่ว่าจะปรากฏในรูปแบบของตวอักษร

ตัวเลข เสียง ภาพ หรือรูปแบบอื่นใดที่สื่อความหมายได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการใด ๆ
“เมตาดาตา” (Metadata) หมายความว่า ข้อมูลที่ใช้ก ากับและอธิบายข้อมูลอื่น
ข้อ ๔ ให้มีคณะท างานคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะท างานก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดท า
หรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส” โดยองค์ประกอบคณะท างานให้เป็นไปตามท ี่


อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก าหนด ให้คณะทางานมีอ านาจหน้าที่ในการพิจารณาและก าหนดหลักเกณฑ์ในการ

จัดท าหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบด ี
ประกาศก าหนด
ี่

ข้อ ๕ เอกสารหรือข้อความทจะตองจดทาหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของ


ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบนี้ มี ๓ ประเภท คือ

(๑) เอกสารจดทะเบียน ได้แก่ เอกสารการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนสามัญนิตบุคคล ห้างหุ้นส่วนจ ากัด

บริษัทจากัด บริษัทมหาชนจากัด สมาคมการคา หอการคา และเอกสารการขออนุญาต หรือการขอหนังสอรับรอง




การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว


ื่


(๒) เอกสารรับแจง ไดแก่ สาเนางบการเงิน สาเนาบัญชรายชอผถือหุ้น หนังสือชี้แจงการจดทะเบียน

ู้
ี่
หรือหนังสือแจ้งการด าเนินการตามกฎหมายทอยู่ในความรับผิดชอบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
(๓) เอกสารหนังสือราชการอื่นที่ไม่ก าหนดไว้ใน (๑) และ (๒)

ข้อ ๖ เอกสารตามข้อ ๕ (๑) และ (๒) เมื่อนายทะเบียนหรือเจาหน้าท รับจดทะเบียนอนุญาต

ี่

หรือได้รับเอกสาร แล้วแต่กรณี ให้ผู้มีหน้าที่จดทาหรือแปลง ด าเนินการจัดท าหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่





ี่


ในรูปของข้อมูลอิเลกทรอนิกสและบันทกเมตาดาตา (Metadata) ทแสดงสาระสาคญอันเป็นคณลกษณะเฉพาะและ

รายละเอียดของข้อมูลอิเลกทรอนิกสไว้เป็นหลกฐาน โดยให้ผตรวจสอบตรวจสอบความถูกต้องครบถวนก่อนบันทึก



ู้


ยืนยันความถูกตอง และส่งคืนผู้ยื่นค าขอ ผู้แจ้ง หรือผู้รับมอบอ านาจตามข้อก าหนดแนบท้ายระเบียบ
ข้อ ๗ เอกสารตามข้อ ๕ (๓) ให้ผู้มีหน้าที่จัดท าหรือแปลง ด าเนินการจัดท าหรือแปลงเอกสารและ



ี่



ข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเลกทรอนิกส และบันทกเมตาดาตา (Metadata) ทแสดงสาระสาคญอันเป็นคณ




ู้
ลกษณะเฉพาะ และรายละเอียดของข้อมูลอิเลกทรอนิกสไว้เป็นหลกฐานโดยให้ผตรวจสอบตรวจสอบขั้นตอนการ
ด าเนินการบันทึกเอกสารและข้อความที่จัดท าหรือแปลงให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนบันทึกยืนยันความถูกต้อง
ข้อ ๘ การจดทาหรือแปลงเอกสารและข้อความดวยวิธีการทางอิเลกทรอนิกสให้มีการก าหนด





ี่


มาตรการเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลอิเลกทรอนิกสซึ่งเป็นวิธีการทเชอถือไดอย่างน้อยต้อง

ื่
ครอบคลุมหัวข้อต่อไปนี้
(๑) การระบุตัวตน (Indentification)
(๒) การยืนยันตัวตน (Authentication)
(๓) อนุญาตเฉพาะผู้มีสิทธิเข้าถึง (Authorization)
(๔) ความรับผิดชอบต่อผลของการกระท า (Accountability)



ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถยืนยันได้ว่า ข้อมูลอิเล็กทรอนิกสที่มีการจดทาหรือแปลงได้ดาเนินการโดยผมี

ู้


สิทธิในการเข้าถึงเทานั้น ผู้มีสิทธิในการเข้าถึงดังกล่าวให้หมายความรวมถึงผรับผดชอบดาเนินงานจดท าหรือแปลง


ู้
และผู้ที่มีสิทธิตรวจสอบซึ่งจะเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ก็ได ้
ข้อ ๙ การจัดท าหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ต้องเป็นไป

ตามข้อก าหนดแนบทายประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการในการ
ี่
จัดท าหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๓ ฉบับท ๑ ว่าด้วยข้อก าหนด

วิธีปฏิบัติในการจัดทาหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส ์
ประกาศ ณ วันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗
ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า




[เอกสารแนบท้าย]
๑. ข้อก าหนดแนบท้ายระเบียบกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดท าหรือแปลงเอกสาร
และข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๗

ระเบียบกรมสรรพากร

ว่าด้วยการจัดท า ส่งมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๐



ู้

เพื่อให้ผประกอบการสามารถจดทาใบก ากับภาษีหรือใบรับทมีการจดทาข้อความขึ้นเป็นข้อมูล
ี่



อิเลกทรอนิกสได จงเป็นการสมควรก าหนดหลกเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการจัดท า ส่งมอบ และเก็บ









รักษาใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสและใบรับอิเลกทรอนิกส ให้มีความเหมาะสมและอ านวยความสะดวกแก่
ผประกอบการ อันเป็นการรองรับโครงการระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอยู่ภายใต้แผน
ู้


ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการ ชาระเงินแบบอิเลกทรอนิกสแห่งชาต


(National e - Payment Master Plan)
อาศัยอ านาจตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔


ประกอบมาตรา ๘ แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการทาธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกสภาครัฐ


พ.ศ. ๒๕๔๙ ก าหนดให้หน่วยงานของรัฐท่มีการปฏิบัติงานตามกฎหมายท่แตกต่างเป็นการเฉพาะอาจก าหนด



รายละเอียดการปฏิบัติงานตามกฎหมายท่แตกต่างนั้นได้ โดยออกเป็นระเบียบ ทงนี้ โดยให้คานึงถึงความ
ั้

ถูกตองครบถ้วน ความน่าเชอถือ สภาพความพร้อมใชงาน และความมั่นคงปลอดภัยของระบบและข้อมูล
ื่


อิเล็กทรอนิกส อธิบดีกรมสรรพากรจึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้




ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมสรรพากร ว่าดวยการจดทา สงมอบ และเก็บรักษา
ใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๐”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ยกเลกระเบียบกรมสรรพากร ว่าดวยการจดทา สงมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษี




อิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๕
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น

“อธิบด” หมายความว่า อธิบดีกรมสรรพากร หรือผู้ที่อธิบดีกรมสรรพากรมอบหมาย
“ใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกส” หมายความว่า ใบก ากับภาษีตามมาตรา ๘๖/๔ แห่งประมวล








รัษฎากรที่ได้มีการจดทาข้อความขนเป็นข้อมูลอิเลกทรอนิกส์ซึ่งไดลงลายมือชื่อดจิทล (Digital Signature) และให้
ึ้
หมายความรวมถึง ใบก ากับภาษีอย่างย่อตามมาตรา ๘๖/๖ ใบเพิ่มหนี้ตามมาตรา ๘๖/๙ และใบลดหนี้ตามมาตรา



ื่


ี่
๘๖/๑๐ แห่งประมวลรัษฎากร ทไดมีการจดทาข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเลกทรอนิกสซึ่งไดลงลายมือชอดจทล




(Digital Signature)
“ใบรับอิเล็กทรอนิกส” หมายความว่า ใบรับตามมาตรา ๑๐๕ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรที่ได้มีการ

จัดท าข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้ลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature)
“ผู้ประกอบการจดทะเบียน” หมายความว่า ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา
๗๗/๑ (๖) แห่งประมวลรัษฎากร
“ผู้มีหน้าที่ออกใบรับ” หมายความว่า ผู้มีหน้าที่ออกใบรับตามมาตรา ๑๐๕ แห่งประมวลรัษฎากร



“ผู้ออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกส” หมายความว่า ผู้ประกอบการจดทะเบยนที่ได้รับอนุมัตจาก


อธิบดีให้จัดท า ส่งมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบนี้





“ผู้ออกใบรับอิเล็กทรอนิกส” หมายความว่า ผู้มีหน้าที่ออกใบรับที่ไดรับอนุมัตจากอธิบดให้จดทา

ส่งมอบและเก็บรักษาใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบนี้
“อิเลกทรอนิกส” หมายความว่า การประยุกต์ใชวิธีการทางอิเลกตรอน ไฟฟ้าคลนแม่เหล็กไฟฟ้า




ื่




หรือวิธีการอื่นใดในลกษณะคลายกัน และให้หมายความรวมถงการประยุกต์ใชวิธีการทางแสง วิธีการทางแม่เหล็ก
หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้วิธีต่าง ๆ เช่นว่านั้น
“ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส” หมายความว่า ข้อความที่ได้สร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือประมวลผลดวย


วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส ์
“ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate)” หมายความว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือการ
บันทึกอื่นใด ซึ่งยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าของลายมือชื่อดิจทัล (Digital Signature) กับข้อมูลส าหรับใชสร้าง


ลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) ที่ออกโดยผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Certification Authority)
“ผให้บริการออกใบรับรองอิเลกทรอนิกส (Certification Authority)” หมายความว่า บุคคลท ี่
ู้



ให้บริการเกี่ยวกับการออกใบรับรองอิเลกทรอนิกส (Electronic Certificate) เพื่อรับรองตวตนของบุคคลหรือ


องคกรใด ๆ ซึ่งเป็นเจาของลายมือชอดจทล (Digital Signature) โดยมีมาตรฐานหรือมาตรการดานความมั่นคง
ื่







ปลอดภัยตามที่ส านักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส (องค์การมหาชน) ก าหนด

“ลายมือชอดจทล (Digital Signature)” หมายความว่า ข้อความหรือสญลกษณทสร้างขึ้นทาง


ื่

ี่



อิเลกทรอนิกสโดยการคานวณทางคณตศาสตร์เข้ารหัสอัลกอริทมแบบอสมมาตร (Asymmetric Key Algorithms) บน




พื้นฐานวิทยาการเข้ารหัส (Encryption) และใช้กับระบบค่กุญแจ (Key Pair) โดยน าไปคานวณร่วมกับกุญแจ



สวนตว (Private Key) ของผลงลายมือชอในข้อมูลอิเลกทรอนิกสในลกษณะทสามารถจะใชกุญแจสาธารณะ
ู้

ี่




ื่

ื่

ื่



ู้
(Public Key) ของผลงลายมือชอตรวจสอบไดว่า ลายมือชออิเลกทรอนิกสนั้นไดสร้างขึ้นโดยกุญแจสวนตว

ี่




ู้
(Private Key) ของผลงลายมือชอนั้นหรือไม่และข้อมูลอิเลกทรอนิกสทมีการลงลายมือชอดงกลาวไดมีการแก้ไข
ื่
ื่

เปลี่ยนแปลงภายหลังการลงลายมือชื่อหรือไม่




ื่
ี่
“กุญแจสาธารณะ (Public Key)” หมายความว่า กุญแจทใชในการตรวจสอบลายมือชอดจทล

(Digital Signature) และสามารถน าไปใช้ในการเข้ารหัสลับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส เพื่อมิให้สามารถเข้าใจความหมาย





ของข้อมูลอิเลกทรอนิกสทมีการเข้ารหัสลบนั้นได เพื่อประโยชน์ในการรักษาความลับของข้อมูลอิเล็กทรอนิกสนั้น
ี่
ได ้
ื่



“กุญแจสวนตว (Private Key)” หมายความว่า กุญแจทใชในการสร้างลายมือชอดจทล

ี่


(Digital Signature) และสามารถน าไปใชในการถอดรหัสลบเมื่อมีการเข้ารหัสลบข้อมูลอิเลกทรอนิกสเพื่อให้







สามารถเข้าใจความหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการเขารหัสลบนั้นได ้


“คู่กุญแจ (Key Pair)” หมายความว่า กุญแจส่วนตัวและกุญแจสาธารณะในระบบการเข้ารหัสลบ
ี่

ี่

(Encryption) แบบอสมมาตร (Asymmetric Key Algorithms) ทไดสร้างขึ้นโดยวิธีการททาให้กุญแจสวนตว



(Private Key) มีความสัมพันธ์ในทางคณตศาสตร์กับกุญแจสาธารณะ (Public Key) ในลักษณะที่สามารถใชกุญแจ



ื่






สาธารณะ (Public Key) ตรวจสอบไดว่าลายมือชอดจทล (Digital Signature) ไดสร้างขึ้นโดยใชกุญแจสวนตว


(Private Key) นั้นหรือไม่ และสามารถน ากุญแจสาธารณะ (Public key) ไปใชในการเข้ารหัสลบข้อมูล




อิเลกทรอนิกส ทาให้ไม่สามารถเข้าใจความหมายของข้อมูลอิเลกทรอนิกสไดเพื่อประโยชน์ในการรักษาความลบ




ี่
ของข้อมูลอิเลกทรอนิกส เว้นแตบุคคลทถือกุญแจสวนตว (Private Key) ซึ่งสามารถน ากุญแจสวนตว











(Private Key) ของตนใชในการถอดรหัสลบ (Decryption) ของข้อมูลอิเลกทรอนิกส เพื่อให้เจาของกุญแจส่วนตัว
(Private Key) สามารถอ่านหรือเข้าใจความหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได ้

“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการสวนกลาง ราชการสวนภูมิภาค ราชการสวนทองถิ่น



หรือองค์การของรัฐบาลตามมาตรา ๒ แห่งประมวลรัษฎากร


ู้

“ผให้บริการ (Service Provider)” หมายความว่า บุคคลซึ่งไดรับอนุมัตจากอธิบดให้จดทา หรือ


ส่งมอบ หรือเก็บรักษา ใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ แทนผู้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส ์
หรือผู้ออกใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบนี้


“แบบ บ.อ.๐๑” หมายความว่า แบบคาขอจดทา สงมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษี


อิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส ์




“แบบ บ.อ.๐๙” หมายความว่า แบบคาขอแจงการเปลยนแปลงการจดทาสงมอบและเก็บรักษา

ี่
ใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส ์
ข้อ ๕ ให้อธิบดีรักษาการตามระเบียบนี้

หมวด ๑

การยื่นค าขอ




ู้
ข้อ ๖ ให้ผประสงคจะจดทา สงมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสหรือใบรับ






อิเล็กทรอนิกส์ ตามระเบียบนี้ ยื่นคาขอต่ออธิบดี ตามแบบ บ.อ.๐๑ ท่แนบท้ายระเบียบนี้ โดยยื่นผานระบบ

อิเล็กทรอนิกส ์
ข้อ ๗ ผู้ประสงค์ที่จะยื่นค าขอตามข้อ ๖ ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
ู้
(๑) เป็นผประกอบการจดทะเบียน ตามมาตรา ๗๗/๑ (๖) แห่งประมวลรัษฎากร หรือ
ผู้มีหน้าที่ออกใบรับ ตามมาตรา ๑๐๕ แห่งประมวลรัษฎากร หรือหน่วยงานของรัฐ
(๒) มีใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate)





ี่
(๓) มีระบบการควบคมภายในทดี และสามารถพิสจน์ไดว่าใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสและใบรับ
อิเล็กทรอนิกส์ ที่จัดท าและส่งมอบให้แก่ผู้รับมีขอความถูกต้องครบถ้วนเช่นเดยวกับขณะที่สร้าง ส่ง และรับ โดยใช ้



วิธีการที่เชื่อถือได้และสามารถแสดงข้อความไดในภายหลังโดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งต้องมีระบบงานท ี่

ี่

ี่
ี่
สามารถพิสจน์ไดว่าไม่มีการแก้ไขเปลยนแปลงโดยไร้ร่องรอย หรือมีการเปลยนแปลงรายการในเอกสารทออก
ระหว่างทาง
ู้




ู้
ข้อ ๘ ให้ผทมีคณสมบัตตามข้อ ๗ เป็นผมีสทธิยื่นคาขอตามข้อ ๖ โดยยื่นคาขอตออธิบดีผ่าน
ี่




ี่
ี่

ระบบอิเลกทรอนิกสทกรมสรรพากรก าหนด โดยตองปฏิบัตตามเงื่อนไขทก าหนดไว้และให้ผู้ยื่นค าขอยืนยันตัวตน


โดยใช้ใบรับรองอิเลกทรอนิกส์ (Electronic Certificate)
ข้อ ๙ เมื่อผู้ยื่นค าขอได้รับอนุมัติจากอธิบดให้เป็นผู้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกสหรือผู้ออกใบ



รับอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ให้มีสิทธิจัดท า ส่งมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกสได ้
ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ก าหนดไว้ในระเบียบนี้

หมวด ๒

การจัดท าใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส ์


ข้อ ๑๐ ให้ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสหรือผออกใบรับอิเลกทรอนิกส จดทาใบก ากับภาษี


ู้

ู้







อิเลกทรอนิกสหรือใบรับอิเลกทรอนิกส แลวแตกรณ ตามวิธีการแบบปลอดภัยทเชอถือไดทงในสวนของระบบ

ื่

ั้
ี่



ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และระบบซอฟต์แวร์ (Software) ดังต่อไปนี้
(๑) มีระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลได้ โดยจะต้อง
(ก) สามารถแสดงภาพการท างานรวมของระบบงานทั้งหมด(System Flowchart) ได ้
(ข) เป็นโปรแกรมที่เมื่อบันทึกข้อมูลแล้วจะแก้ไขรายการนั้น ๆ โดยไร้ร่องรอยไม่ได้ การแก้ไข

รายการไม่ให้ใชวิธีลบทง หรือลางรายการออก ถ้าจะแก้ไขตองบันทกรายการปรับปรุงเพิ่มเข้าไปเพื่อแสดงให้เห็น
ิ้



รายการก่อนปรับปรุงและหลังปรับปรุง และต้องมีรายงานการแก้ไขรายการเพื่อการตรวจสอบได ้
ี่
ู้


ี่



(ค) แสดงระดับการปฏบัติงานของเจาหน้าทผใชระบบ โดยระบุจ านวนและระดบเจาหน้าทท ี่
สามารถบันทึก อ่าน หรือเข้าไปใช้ระบบงานในแต่ละระดับได ้

(ง) มีการควบคุมโดยใช้รหัสผานส าหรับผู้มีสทธิเข้าไปใช้ระบบงานทุกระดับและมีระบบงานท ี่

บันทึกการเปลี่ยนรหัสผ่านทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง
(จ) มีรายงานบันทกการใชระบบงานโดยระบุให้ทราบถึงรหัสประจาตวของเจาหน้าทผใช ้

ู้



ี่


ระบบงานที่ท า วัน เดือน ปี และเวลาที่เขาใช้ระบบงาน (Access) ในกรณีที่มีการแก้ไขรายการจะต้องระบุให้ทราบ
ถึงรหัสประจ าตัวของเจ้าหน้าที่ผู้ใช้ระบบ จ านวนและรายละเอียดของรายการที่แก้ไขปรับปรุง
ู้
ู้
(ฉ) มีระบบการตรวจสอบผเขาใชหรือผเข้าไปแก้ไขข้อมูลในระบบ และมีกระบวนการในการ








ี่

ตรวจสอบข้อมูลทบันทกไว้ในระบบทสามารถแสดงว่าข้อมูลดงกลาวไดบันทกไว้ครบถ้วนทกรายการแลวและไม่มี
ี่
การแก้ไขรายการของเอกสารที่มีข้อความอยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส ์
(๒) มีการควบคุมแฟ้มข้อมูลซึ่งมีการเข้ารหัส (Encryption) เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูล ถ้ามีการ

ถอดรหัส (Decryption) ต้องบันทึกหลักฐานไว้ทุกครั้งเพื่อการตรวจสอบ และสามารถจดพิมพ์เป็นรายงานเพื่อการ
ตรวจสอบได ้
ข้อ ๑๑ การจดทาใบก ากับภาษีตามมาตรา ๘๖/๔ แห่งประมวลรัษฎากร ขึ้นเป็นข้อมูล


อิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ด าเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังต่อไปนี้
( ๑ ) จดทาข้อความใบก ากับภาษีโดยมีรายการทเป็นสาระสาคญตามมาตรา ๘๖/๔


ี่




ี่

แห่งประมวลรัษฎากร ขึ้นเป็นข้อมูลอิเลกทรอนิกส และให้ระบุรหัสสถานประกอบการทจดทาใบก ากับภาษีตามท ี่

ปรากฏในใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.๒๐) ในใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
(๒) ผู้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์อาจก าหนดให้มีรายการอื่นใดในใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส ์
นอกจากรายการที่เป็นสาระส าคัญตาม (๑)
(๓) น าข้อมูลตาม (๑) (๒) และใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate) มาสร้างลายมือ
ชื่อดิจิทัล (Digital Signature)

ข้อ ๑๒ การจัดท าใบก ากับภาษีอย่างย่อ ตามมาตรา ๘๖/๖ แห่งประมวลรัษฎากร ให้ ผ ู้
ี่






ออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสจดทาข้อความใบก ากับภาษีอย่างย่อโดยมีรายการทเป็นสาระสาคญตามมาตรา

๘๖/๖ แห่งประมวลรัษฎากร ขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และให้น าความตามข้อ ๑๑ มาใชบังคับโดยอนุโลม


ู้

กรณผซื้อสนคาหรือผรับบริการเรียกร้องใบก ากับภาษี ตามมาตรา ๘๖/๔ แห่งประมวลรัษฎากร
ู้








ู้
ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสไม่จาตองเรียกคนข้อมูลใบก ากับภาษีอย่างย่อตามวรรคหนึ่งแตให้จดทาใบก ากับ
ภาษีอิเลกทรอนิกสใหม่ตามข้อ ๑๑ โดยให้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ให้ตรงวันเดือนปีในใบก ากับภาษ ี



อย่างย่อพร้อมท้งระบุช่อท่อยู่ของลูกค้าและหมายเหตในใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสใหม่ว่า “เป็นการยกเลก






ใบก ากับภาษีอย่างย่อเลขที่....และออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ใหม่แทน”
ข้อ ๑๓ การจัดท าใบเพิ่มหนี้ ตามมาตรา ๘๖/๙ หรือใบลดหนี้ ตามมาตรา ๘๖/๑๐ แห่งประมวล



รัษฎากร ให้ผ้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ดาเนินการจัดทาข้อความใบเพิ่มหนี้หรือใบลดหนี้โดยมีรายการท ี่



เป็นสาระสาคญตามมาตรา ๘๖/๙ หรือตามมาตรา ๘๖/๑๐ แห่งประมวลรัษฎากร ขึ้นเป็นข้อมูลอิเลกทรอนิกส ์
แล้วแต่กรณี และให้น าความตามข้อ ๑๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

ข้อ ๑๔ การจัดท าใบรับตามมาตรา ๑๐๕ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ให้ผู้ออกใบรับอิเลกทรอนิกส ์



ด าเนินการจัดทาข้อความใบรับโดยมีรายการทเป็นสาระส าคัญตามมาตรา ๑๐๕ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ขึ้นเปน
ี่
ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และให้น าความตามข้อ ๑๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม


ข้อ ๑๕ ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสและผออกใบรับอิเลกทรอนิกสจะดาเนินการจดทา

ู้


ู้


ใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ คราวหนึ่งคราวใดที่มีการขายสินค้าหรือให้บริการก็ได ้

หมวด ๓

การส่งมอบ



ส่วน ๑
การส่งมอบใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส ์



ข้อ ๑๖ ให้ผู้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์มีหน้าที่ส่งมอบใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ ผ ู้
ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ ตามมาตรา ๘๖ แห่งประมวลรัษฎากร
ี่


การสงมอบใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสตามวรรคหนึ่งให้ดาเนินการตามวิธีการทบัญญัตไว้ตาม



มาตรา ๑๕ มาตรา ๑๖ มาตรา ๑๗ มาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ มาตรา ๒๐ มาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๓ และ




มาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔
กรณีผู้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้จัดท าใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกสตามระเบียบนี้แลวและ



ู้

สามารถสงมอบให้แก่ผซื้อสนคาหรือผรับบริการโดยวิธีการแลกเปลยนข้อมูลทางอิเลกทรอนิกสตามวรรคสอง
ี่


ู้




แตผซื้อสนคาหรือผรับบริการไม่ประสงครับใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสโดยวิธีการแลกเปลยนข้อมูลทาง
ี่


ู้

ู้






อิเลกทรอนิกส ให้ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสจดพิมพ์ใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสดงกลาวโดยให้ปรากฏ



ู้




ข้อความว่า “เอกสารนี้ได้จดทาและสงข้อมูลให้แก่กรมสรรพากรดวยวิธีการทางอิเลกทรอนิกส” และสงมอบให้แก่



ู้


ี่

ี่
ู้


ั้



ั้
ผซื้อสนคาหรือผรับบริการ ทงนี้ สาหรับใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสทได้จดทาขึ้นตงแตวันท ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป



หากดาเนินการดงกลาวแลวให้ถอว่ามีการสงมอบใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสให้แก่ผซื้อสนคาหรือผรับบริการตาม




ู้

ู้








ระเบียบนี้แลวซึ่งผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสจะทาให้ปรากฏข้อความดงกลาวนั้นโดยวิธีการทาง
ู้



อิเล็กทรอนิกส์ประทบด้วยตรายาง เขียนด้วยหมึกพิมพ์ดด หรือท าให้ปรากฏขึ้นด้วยวิธีการอื่นใดในลักษณะทานอง
เดียวกันก็ได ้
ู้


ู้

ี่
ู้
ข้อ ๑๗ ให้ผออกใบรับอิเลกทรอนิกสมีหน้าทสงมอบใบรับอิเลกทรอนิกสให้แก่ผซื้อ ผเชาซื้อ ผ ู้



จ่ายเงิน หรือผู้ช าระราคา ตามมาตรา ๑๐๕ แห่งประมวลรัษฎากร



ให้น าความตามวรรคสอง และวรรคสามของข้อ ๑ ๖ มาใชบังคบแก่การสงมอบใบรับ
อิเล็กทรอนิกส์โดยอนุโลม

ส่วน ๒

การส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร


ข้อ ๑๘ ให้ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสหรือผออกใบรับอิเลกทรอนิกสมีหน้าทส่งข้อมูลท่ ี


ู้
ู้

ี่







เกี่ยวข้องกับใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสหรือใบรับอิเลกทรอนิกสให้แก่กรมสรรพากรเป็นรายเดอนภาษีโดยผาน

ี่


ั้

ระบบอิเลกทรอนิกสของกรมสรรพากรภายในวันท ๑๕ ของเดอนภาษีถัดไป ทงนี้ ตามหลกเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไข ที่อธิบดีก าหนด




การสงข้อมูลทเกี่ยวข้องกับใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสหรือใบรับอิเลกทรอนิกสตามวรรคหนึ่ง

ี่

ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสหรือผออกใบรับอิเลกทรอนิกสตองลงลายมือชอดจทล (Digital Signature) ใน


ื่



ู้


ู้
ข้อมูลดังกล่าวด้วย
ข้อ ๑๙ การส่งข้อมูลใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ ๑๘ ให้





ู้
ู้
ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสหรือผออกใบรับอิเลกทรอนิกสจดทาข้อมูลให้เป็นไปตามประกาศข้อเสนอแนะ



มาตรฐานดานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอสารทจาเป็นตอธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส


ี่
ื่

(ETDA Recommendation on ICT standard for Electronic Transaction)

หมวด ๔

การเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส ์
หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส ์



ข้อ ๒๐ ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกส หรือผประกอบการจดทะเบียนซึ่งเป็นผซื้อสินค้าหรือ
ู้

ู้
ู้


ผู้รับบริการที่ได้รับใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ต้องเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ดังกลาวไว้ในรูปของข้อมูล








อิเลกทรอนิกส และถ้าไดเก็บรักษาในรูปของข้อมูลอิเลกทรอนิกสตามหลกเกณฑ์ ดงตอไปนี้ ให้ถือว่าไดมีการเก็บ

รักษาไว้ตามระเบียบนี้แล้ว
(๑) ไดเก็บรักษาข้อมูลใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสนั้นโดยสามารถเข้าถึงและน ากลบมาใชไดโดย






ความหมายไม่เปลี่ยนแปลง และ
ี่
(๒) ได้เก็บรักษาข้อมูลใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นั้นให้อยู่ในรูปแบบท่เป็นอยู่ในขณะทได ้

สร้าง ส่ง หรือได้รับข้อมูลใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นั้น หรืออยู่ในรูปแบบที่สามารถแสดงข้อความทสร้าง ส่ง หรือ
ี่
ได้รับให้ปรากฏอย่างถูกต้องได้ และ


(๓) ไดเก็บรักษาข้อความสวนทระบุถึงแหลงก าเนิด ตนทาง และปลายทางของใบก ากับภาษี


ี่

อิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนวันและเวลาที่ส่งหรือไดรับข้อความดังกล่าว ถ้ามี




ข้อ ๒๑ การเก็บรักษาใบรับอิเลกทรอนิกสให้น าความตามข้อ ๒๐ มาใชบังคบโดยอนุโลม

หมวด ๕

การจัดท ารายงานภาษี




ี่
ู้
ข้อ ๒๒ ให้ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสตามระเบียบนี้มีหน้าทจดทาและสงมอบรายงาน



ภาษีเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศก าหนด
ู้
ี่
ข้อ ๒๓ เพื่อประโยชน์ในการสงมอบรายงานภาษีตามข้อ ๒๒ ในกรณทผออกใบก ากับภาษี





อิเล็กทรอนิกส์ได้จัดทาใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสทุกคราวส าหรับการขายสินคาหรือการให้บริการและได้ส่งข้อมูล


ู้


ให้กรมสรรพากรตามสวน ๒ หมวด ๓ แลว ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสนั้นไม่จาตองสงมอบรายงานภาษี




ดังกล่าวต่อกรมสรรพากร
หมวด ๖
ผู้ให้บริการ (Service Provider)







ู้
ข้อ ๒๔ ในการจดทาใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสหรือใบรับอิเลกทรอนิกสตามระเบียบนี้ ผออก
ใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือผู้ออกใบรับอิเล็กทรอนิกส์ อาจแต่งตั้งผู้ให้บริการ (Service Provider) เป็นตัวแทน




เพื่อดาเนินการจดทา หรือสงมอบ หรือเก็บรักษา ใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสหรือใบรับอิเลกทรอนิกสแทน ตาม





หมวด ๒ หมวด ๓ หรือหมวด ๔ ก็ได ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีก าหนด





ข้อ ๒๕ เพื่อประโยชน์ในการจดทา สงมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสตาม
ระเบียบนี้ อธิบดีอาจอาศยอ านาจตามความในมาตรา ๘๖/๕ (๔) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับกฎกระทรวง




ฉบับท่ ๑๙๘ (พ.ศ. ๒๕๓๘) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าดวยการขายสนคาหรือการให้บริการอื่นตาม




มาตรา ๘๖/๕ (๔) แห่งประมวลรัษฎากร ก าหนดให้มีผให้บริการ (Service Provider) เป็นตวแทนในการจดทา
ู้


หรือส่งมอบ หรือเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกส์ แทนผู้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกสตามหมวด ๒ หมวด
๓ หรือหมวด ๔ ก็ได ้
ข้อ ๒๖ เพื่อประโยชน์ในการจดทา สงมอบ และเก็บรักษาใบรับอิเลกทรอนิกสตามระเบียบนี้





ู้






อธิบดอาจก าหนดให้มีผให้บริการ (Service Provider) เปนตวแทนในการจดทา หรือสงมอบ หรือเก็บรักษาใบรับ

ู้





อิเลกทรอนิกสแทนผออกใบรับอิเลกทรอนิกสตามหมวด ๒ หมวด ๓ หรือหมวด ๔ ก็ได ทงนี้ ตามหลกเกณฑ์
ั้
วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีก าหนด

หมวด ๗

การยกเลิกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส ์




ข้อ ๒๗ การยกเลกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสเดมเพื่อออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสใหม่






ให้ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสจดเตรียมข้อความของใบก ากับภาษีฉบับใหม่ขึ้นเป็นข้อความอิเลกทรอนิกส ์


ู้
ี่

ี่


โดยใชเลขทใบก ากับภาษีใหม่ และลงวัน เดอน ปี ทออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสใหม่และหมายเหตไว้ใน


ใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ว่า “เป็นการยกเลิกและออกใบก ากับภาษีฉบับใหม่แทนฉบับเดิม เลข
ที่... วัน เดือน ปี ที่ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์เดิม”
เพื่อประโยชน์ในการด าเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้น าความตามข้อ ๑๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม



ข้อ ๒๘ เมื่อผ้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ดาเนินการตามข้อ ๒๗ แล้ว ให้หมายเหตการ
ยกเลิกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ไว้ในรายงานภาษีขายของเดือนภาษีที่จัดท าใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ด้วย





ข้อ ๒๙ การยกเลกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสเดมเพื่อออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสใหม่ตาม

หมวดนี้ ให้น าความตามหมวด ๓ หมวด ๔ และหมวด ๕ มาใช้บังคับโดยอนุโลม




ข้อ ๓๐ การยกเลกใบรับอิเลกทรอนิกสเดมเพื่อออกใบรับอิเลกทรอนิกสใหม่ ให้น าความตาม


ข้อ ๒๗ ข้อ ๒๘ และข้อ ๒๙ มาบังคับใช้โดยอนุโลม

หมวด ๘

การแจ้งเปลี่ยนแปลง


ข้อ ๓๑ กรณีผู้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือผู้ออกใบรับอิเล็กทรอนิกส



ประสงคจะยกเลกการจดท าใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกส หรือใบรับอิเลกทรอนิกสตามระเบียบนี้ ให้ยื่นค าขอตาม





แบบ บ.อ.๐๙ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร
ข้อ ๓๒ ให้ผู้ออกใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือผู้ออกใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งยื่นค าขอตามข้อ

๓๑ หมดสทธิในการจัดทา ส่งมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบนี้

เมื่อพ้นวันสุดท้ายของเดือนที่ยื่นค าขอ

หมวด ๙
บทเฉพาะกาล





ข้อ ๓๓ ให้ผ้ประกอบการจดทะเบียน หรือผ้มีหน้าท่ออกใบรับ ซึ่งได้รับอนุมัติให้จดทา สง






มอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกส หรือใบรับอิเลกทรอนิกส ตามระเบียบกรมสรรพากร ว่าดวยการ

จัดท า ส่งมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๕ ยังคงมีสิทธิในการ





จดทา สงมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกส และใบรับอิเลกทรอนิกสตามหลกเกณฑ์และวิธีการท ี่




ก าหนดตามระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการจัดทา ส่งมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับ
อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๕ ต่อไปถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐

ประสงค พูนธเนศ
อธิบดีกรมสรรพากร










[เอกสารแนบท้าย]


๑. แบบค าขอจัดท า ส่งมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (บ.อ. ๐๑)
๒. ข้อตกลงการจัดท า ส่งมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (ใบแนบ บ.อ. ๐๑)

๓. แบบค าขอแจ้งการเปลี่ยนแปลงการจัดท า ส่งมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (บ.อ. ๐๙)

ระเบียบกรมสรรพากร
ว่าด้วยการจัดท าค าสั่งยึด หรืออายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน

ตามมาตรา ๑๒ แห่งประมวลรัษฎากร
เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๓



ี่
ั่
โดยทประมวลรัษฎากรก าหนดให้อธิบดกรมสรรพากรมีอ านาจสงยึด หรืออายัด และ ขาย

ทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรหรือน าส่งภาษีอากร เพื่อบังคับช าระหนี้ภาษีอากร ดังนั้น เพื่อให้
การบังคับตามกฎหมายมีประสิทธิภาพพร้อมทั้งส่งเสริมให้มีการน าเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในหน่วยงาน
ภาครัฐ จึงอาศัยอ านาจตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔



ประกอบมาตรา ๘ แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลกเกณฑ์และวิธีการในการทาธุรกรรม ทาง



อิเลกทรอนิกสภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ ก าหนดให้การจดทาคาสงยึดหรืออายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สน ตาม
ั่



มาตรา ๑๒ แห่งประมวลรัษฎากร เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

ั่

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมสรรพากร ว่าดวยการจดทาคาสงยึด หรืออายัด และ


ขายทอดตลาดทรัพย์สิน ตามมาตรา ๑๒ แห่งประมวลรัษฎากร เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๓”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น
ี่
“เจ้าหน้าท” หมายความว่า เจ้าพนักงานสรรพากร
ั่

ู้

“ผมีอ านาจ” หมายความว่า ผมีอ านาจออกคาสงยึด หรืออายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สน ตามมาตรา ๑๒
ู้
แห่งประมวลรัษฎากร



ู้
“ผคางภาษีอากร” หมายความว่า บุคคลผตองรับผดเสยภาษีอากรหรือน าสงภาษีอากร


ู้
“ภาษีอากรค้าง” หมายความว่า ภาษีอากรซึ่งต้องเสียหรือน าส่งตามประมวลรัษฎากรและรายได้
อื่นทกรมสรรพากรมีหน้าทจดเก็บ เมื่อถึงก าหนดช าระแลวมิไดเสยหรือน าสง





ี่
ี่



“ระบบการจดทาเอกสารอิเลกทรอนิกส” หมายความว่า ระบบการจดทาเอกสาร หนังสือ หรือ



ค าสั่งใด ๆ ของกรมสรรพากร เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงและน ากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง
“ระบบรักษาความปลอดภัยกลาง(Security Portal & Single Sign On : SSO)”

หมายความว่า ระบบงานของกรมสรรพากรซึ่งทาหน้าทเป็นศนย์กลางในการควบคมการเข้าใชระบบงานและ



ี่

สารสนเทศของกรมสรรพากร โดยผ่านกระบวนการพิสูจน์ตัวตน(Identification) การยืนยันตวตน
ู้
(Authentication) และการก าหนดสิทธิให้กับผใช้ (Authorization) ในการเข้าใช้งาน
“สิ่งพิมพ์ออก” หมายความว่า สิ่งพิมพ์ออกของคาสั่งยึด หรืออายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน ตาม

มาตรา ๑๒ แห่งประมวลรัษฎากร ที่ได้จัดท าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกสที่มีข้อความถูกต้องตรงกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส ์

ของค าสั่งนั้น และได้จัดท าการสั่งพิมพ์ออกจากระบบการพิมพ์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลหรือจัดเก็บรักษาของกอง
บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ หรือส านักงานสรรพากรภาคหรือส านักงานสรรพากรพื้นทที่เกี่ยวข้องกับค าสั่งนั้น
ี่

ข้อ ๔ ในการจัดท าค าสั่งและประกาศที่เกี่ยวกับการสั่งยึด หรืออายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน ตาม



ี่


มาตรา ๑๒ แห่งประมวลรัษฎากร เป็นข้อมูลอิเลกทรอนิกส ให้เจาหน้าทของสานักงานสรรพากรพื้นท่ หรือกอง

บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ แล้วแต่กรณี รายงานขออนุมัติต่อผ้มีอ านาจเพื่อทาการยึด หรืออายัด หรือขอ

อนุญาตขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ค้างภาษีอากร ตามระเบียบกรมสรรพากรว่าด้วยการยึดทรัพย์สินตามความใน


มาตรา ๑๒ แห่งประมวลรัษฎากร หรือระเบียบกรมสรรพากรว่าดวยการอายัดทรัพย์สนตามความในมาตรา ๑๒

แห่งประมวลรัษฎากร หรือระเบียบกรมสรรพากรว่าด้วยการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้คางภาษีอากรโดยวิธีการ

ู้

ื่





ทางอิเลกทรอนิกสผานระบบการจดทาเอกสารอิเลกทรอนิกสโดยใชชอผใชงาน(Username) และรหัสผาน



(Password) ที่ได้รับจากระบบรักษาความปลอดภัยกลาง (Security Portal & Single Sign On : SSO)
ี่

ข้อ ๕ ในกรณทผมีอ านาจเห็นควรให้ทาการยึด หรืออายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สนตามท ี่


ู้
ี่
ู้

ั่

ั่
ี่
เจาหน้าทรายงาน ให้ผมีอ านาจดาเนินการออกคาสงและประกาศทเกี่ยวกับการสงยึด หรืออายัด และขาย

ทอดตลาดทรัพย์สน ตามมาตรา ๑๒ แห่งประมวลรัษฎากรเป็นข้อมูลอิเลกทรอนิกสผานระบบการจดทาเอกสาร






อิเลกทรอนิกส โดยใชชอผใชงาน (Username) และรหัสผาน (Password) ทไดรับจากระบบรักษาความปลอดภัย

ื่



ี่
ู้




ี่


กลาง (Security Portal & Single Sign On : SSO) แลวให้สงไฟลข้อมูลคาสงและประกาศทเกี่ยวกับการยึด หรือ
ั่


อายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นไปยังสานักงานสรรพากรพื้นท่ หรือกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่



แลวแตกรณ ผานระบบดงกลาว




ี่


ข้อ ๖ เมื่อสานักงานสรรพากรพื้นท หรือกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ แลวแตกรณ ได้รับ

ไฟล์ข้อมูลคาส่งและประกาศท่เกี่ยวกับการยึด หรืออายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินตามข้อ ๕ แล้ว ให้



ี่

ั่
ั่
ดาเนินการสงพิมพ์คาสงและประกาศทเกี่ยวกับการยึด หรืออายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นออกจากระบบ

ู้

การพิมพ์เป็นส่งพิมพ์ออกและน าส่งให้แก่ผ้รับคาส่ง ผ้ค้างภาษีอากร และผทเกี่ยวข้องกับคาสงนั้น ตามระเบยบท ี่

ั่
ี่





เกี่ยวข้องกับการยึด หรืออายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นต่อไป


ั่
ี่


ข้อ ๗ ในการจดทาคาสงและประกาศทเกี่ยวกับการยึด หรืออายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สน
ตามมาตรา ๑๒ แห่งประมวลรัษฎากร เป็นข้อมูลอิเลกทรอนิกสตามระเบียบนี้ จะต้องก าหนดให้มีตวอักษร หมายเลข



รหัส หรือสิ่งอื่นใด ไว้ในค าสั่งและประกาศที่เกี่ยวกับการยึด อายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สิน เพื่อให้ผู้รับค าสั่ง ผ ู้
ั่

ค้างภาษีอากร หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับค าสั่งนั้น สามารถน าไปตรวจสอบความมีอยู่และความถูกต้องของข้อมูลในคาสง
และประกาศดังกล่าวผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของกรมสรรพากรได ้

ข้อ ๘ ผู้รับค าสั่ง ผู้ค้างภาษีอากร หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับคาสั่ง ซึ่งประสงคจะตรวจสอบความมีอยู่และ

ความถูกต้องของข้อมูลในค าสั่งและประกาศตามข้อ ๗ จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการใช้งาน
ที่ก าหนดไว้ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของกรมสรรพากร
ข้อ ๙ กระบวนการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature) ตามประกาศนี้ ให้

ู้
ี่
กระทาโดยการใชชอผใชงาน (Username) และรหัสผาน (Password) ซึ่งเจาหน้าทหรือผมีอ านาจไดรับจากระบบ


ู้
ื่



รักษาความปลอดภัยกลาง (Security Portal & Single Sign On : SSO) โดยทาการเข้าส่ระบบการจัดท าเอกสาร





อิเลกทรอนิกส เพื่อน ามาใชประกอบกับข้อมูลอิเลกทรอนิกสที่เกิดขึ้นในกระบวนการจัดท าค าสั่งยึด หรืออายัด และ


ู้



ขายทอดตลาดทรัพย์สนเปนข้อมูลอิเลกทรอนิกส เพื่อแสดงความสมพันธ์ระหว่างเจาหน้าทหรือผมีอ านาจกับข้อมูล
ี่





ู้


อิเลกทรอนิกส และเพื่อแสดงว่าเจาหน้าทหรือผมีอ านาจไดยอมรับข้อความในข้อมูลอิเลกทรอนิกสทเกี่ยวข้องกับ

ี่
ี่

ค าสั่งยึด หรืออายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้น

ั่
ข้อ ๑๐ ให้น าความตามข้อ ๔ ข้อ ๕ ข้อ ๖ ข้อ ๗ และข้อ ๙ มาใชบังคบแก่การเพิกถอนคาสงหรือ




ั่
ี่
ประกาศทเกี่ยวกับการสงยึด หรืออายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สน ตามมาตรา ๑๒ แห่งประมวลรัษฎากร เป็น
ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วย โดยอนุโลม
ข้อ ๑๑ ให้ผู้อ านวยการกองมาตรฐานการจัดเก็บภาษีรักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓
เอกนิต นิติทัณฑ์ประภาศ

อธิบดีกรมสรรพากร

ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
ว่าด้วยการคุ้มครองและจดการข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๑



โดยทกระทรวงสาธารณสขมีนโยบายทจะให้ประชาชนทกคนสามารถเข้าถึงบริการดานการให้



ี่
ี่

ื่
ค าแนะน าด้านสุขภาพและวินิจฉัยโรคเบื้องต้น โดยบูรณาการระบบประวัติสขภาพผู้ป่วยอิเลกทรอนิกสเชอมตอกัน





ทั้งประเทศที่ประชาชนสามารถเขาถึงและบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพของตนเองไดเพื่ออ านวยความสะดวกในการ


เข้ารับการรักษาและเป็นข้อมูลสาคัญประกอบการรักษากรณฉุกเฉินนอกจากนี้ข้อมูลสขภาพดานบุคคลยังสามารถ



ี่



น าไปใชประโยชน์ในการพัฒนาระบบสขภาพของประเทศตอไป ดงนั้น จงมีความจาเป็นทจะตองมีการควบคม






ก ากับเพื่อให้การไดมา การบริหารจดการ การใชและการคมครองข้อมูลดานสขภาพของบุคคลมีความสะดวก

ุ้







ปลอดภัย เกิดประโยชน์สงสดแก่ประชาชนเจาของข้อมูล หน่วยบริการและระบบสขภาพของประเทศไทย จงเป็น
การสมควรมีระเบียบ เรื่องการคุ้มครองและจัดการข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล เพื่อก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
แนวทางปฏิบัตให้เหมาะสมสอดคลองกับพระราชบัญญัตสขภาพแห่งชาต พ.ศ. ๒๕๕๐ พระราชบัญญัตข้อมูล






ข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ และกฎหมายอื่น
ที่เกี่ยวข้อง




อาศยอ านาจตามความในมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัตระเบียบบริหารราชการแผนดน
พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงสาธารณสข ว่าดวยการคมครองและจดการข้อมูล
ุ้


ด้านสุขภาพของบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๑”


ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใชบังคบเมื่อพ้นก าหนดหนึ่งร้อยยี่สบวัน (๑๒๐ วัน) นับจากวันประกาศใน


ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในกรณีที่การด าเนินการใด ๆ เกี่ยวกับข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลที่ระเบียบนี้ไม่ได้ก าหนดไว้

ให้ปฏิบัตตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคบ ประกาศหรือคาสงทออกตามพระราชบัญญัตว่าดวยธุรกรรมทาง


ี่


ั่
อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้

“ข้อมูลดานสขภาพของบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลหรือสงใด ๆ ทแสดงออกมาในรูปเอกสาร
ี่

ิ่
ี่






แฟ้ม รายงาน หนังสอ แผนผง แผนท ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิลม การบันทกภาพหรือเสยงการบันทกโดยเครื่องมือ
ี่
ทางอิเลกทรอนิกส หรือวิธีอื่นใดททาให้สงทบันทกไว้ปรากฏขึ้นในเรื่องทเกี่ยวกับสขภาพของบุคคลทสามารถระบุ

ี่

ี่
ิ่
ี่



ตัวบุคคลได้และให้รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการเปิดเผยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ประกาศก าหนด
ี่
“ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส” หมายความว่า ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลทเป็นเอกสารหรือข้อความใน

รูปแบบอิเล็กทรอนิกส ์

“ระเบียนสุขภาพ” หมายความว่า ทะเบียนหรือรายการ ข้อมูลด้านสขภาพของบุคคลที่กระทรวง
สาธารณสุข หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน น ามาเก็บ จัดการ ใช้และเปิดเผยเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลตาม
ระเบียบนี้

“เจ้าของข้อมูล” หมายความว่า บุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลด้านสุขภาพ


ู้

“ผควบคมข้อมูล” หมายความว่า สวนราชการ หน่วยงาน โรงพยาบาล โรงพยาบาลสงเสริม
สุขภาพต าบล สถานีอนามัยในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและหมายความรวมถึงสถานพยาบาลตามพระราชบัญญัต ิ
ี่




สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และหน่วยงานของรัฐอื่นทประสงคเข้าร่วมใชข้อมูลดานสขภาพร่วมกับกระทรวง
สาธารณสุขซึ่งเป็นผู้จัดท า เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล

“ผู้บริหารจัดการข้อมูล” หมายความว่า กระทรวงสาธารณสขรวมถึงบุคคลหรือหน่วยงานทไดรับ
ี่

มอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข

“ผรับข้อมูล” หมายความว่า บุคคลหรือนิตบุคคลทไดรับข้อมูลดานสขภาพของบุคคลจากผ ู้

ู้


ี่
ควบคุมข้อมูลและน าข้อมูลนั้นไปใช้เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการคุ้มครองและจัดการข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล

ี่



“เจาหน้าท” หมายความว่า ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสข ลกจาง
ของกระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับข้อมูลด้านสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข







ข้อ ๕ การจดทาระเบียนสขภาพ การจดการ เก็บรวบรวม ใชหรือเปิดเผยข้อมูลดานสขภาพของ
ู้


บุคคลตองเป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลหรือเพื่อด าเนินงานตามหน้าที่และอ านาจของผควบคมข้อมูล หรือ
หน้าที่และอ านาจของกระทรวงสาธารณสุขตามที่ได้รับมอบหมาย
หมวด ๑
คณะกรรมการคุ้มครองและจัดการข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล

ุ้

ข้อ ๖ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการคมครองและจดการข้อมูลดาน

สุขภาพของบุคคล” ประกอบด้วย
(๑) ปลดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานกรรมการ

(๒) รองปลดกระทรวงสาธารณสขผปฏิบัตหน้าทผบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดบสงประจา
ู้
ี่





ู้

กระทรวงสาธารณสุขเป็นรองประธานกรรมการ



ู้
(๓) ผปฏิบัตหน้าทผบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดบสงประจาสานักงานปลดกระทรวง





ู้
ี่
สาธารณสุข ผู้แทนกรมควบคุมโรค ผู้แทนกรมสุขภาพจต ผู้แทนกรมการแพทย์ ผู้แทนกรมสนับสนุนบริการสขภาพ





ู้
ู้


ผแทนนายแพทย์สาธารณสขจงหวัด ผแทนโรงพยาบาลในสงกัดสานักงานปลดกระทรวงสาธารณสขและ


ู้
ผทรงคณวุฒิหรือผเชยวชาญทปลดกระทรวงสาธารณสขแตงตงจากกระทรวงดจทลเพื่อเศรษฐกิจและสงคม

ี่
ู้
ี่


ั้






ู้
สานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สานักงานคณะกรรมการคมครองผบริโภค สานักงาน

ุ้
คณะกรรมการกฤษฎีกา และส านักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติหน่วยงานละ ๑ คน เป็นกรรมการ
(๔) นักวิชาการที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้งจ านวน ๒ คนเป็นกรรมการ
(๕) ผู้อ านวยการกองบริหารการสาธารณสุข ส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นกรรมการ
(๖) ผู้อ านวยการกองกฎหมาย ส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นกรรมการ
(๗) ผู้อ านวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน ส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นกรรมการ

ู้
(๘) ผอ านวยการศนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอสาร สานักงานปลดกระทรวงสาธารณสุข
ื่


เป็นกรรมการและเลขานุการ
ี่
ให้เลขานุการแต่งตั้งเจาหน้าทของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจานวนไม่เกิน ๒ คน


เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ข้อ ๗ ให้คณะกรรมการมีหน้าที่และอ านาจ ดังต่อไปนี้
(๑) ก าหนดข้อมูลที่จะต้องน าไปไว้ในระเบียนสุขภาพ
(๒) ก าหนดนโยบายการดาเนินการและการพัฒนาข้อมูลดานสขภาพของบุคคลและระเบียน



สุขภาพ
(๓) ก าหนดข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลตามข้อ ๑๑ (๕)





(๔) ออกประกาศ ข้อก าหนด หลกเกณฑ์หรือแนวทางการปฏิบัตในการจดการข้อมูลดานสขภาพ
ของบุคคลให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเจ้าของข้อมูลตามข้อ ๒๙
(๕) ออกประกาศ ข้อก าหนด หลักเกณฑ์หรือแนวทางปฏิบัตตามข้อ ๓๐ และข้อ ๓๑


ู้

ู้
(๖) ออกประกาศ ข้อก าหนด หลกเกณฑ์เกี่ยวกับทะเบียนผควบคมข้อมูลและผรับข้อมูลตามข้อ
๓๓

(๗) ดาเนินการตาง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของระเบียนสขภาพตามข้อ ๒๗


(๘) ติดตาม ก ากับการด าเนินการจัดการข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล



(๙) เสนอแนะหรือให้คาปรึกษาแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขหรือปลดกระทรวง
สาธารณสุขในการด าเนินการเกี่ยวกับข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลของกระทรวงสาธารณสุข
(๑๐) แตงตงคณะอนุกรรมการหรือทปรึกษาเพื่อดาเนินการตามระเบียบนี้หรือตามท ี่
ี่

ั้

คณะกรรมการมอบหมาย

(๑๑) พิจารณาทบทวนระเบียบนี้ให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ และเสนอแก้ไขระเบียบต่อ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
(๑๒) ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของระเบียบนี้
ข้อ ๘ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ านวนกรรมการ
ทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
ี่



ในการประชมคณะกรรมการถ้าประธานกรรมการไม่มาประชมหรือไม่อาจปฏิบัตหน้าทไดให้รอง

ี่



ี่
ี่

ประธานกรรมการเป็นประธานในทประชม ถ้ารองประธานกรรมการไม่มาหรือไม่อาจปฏิบัตหน้าทไดให้ทประชม
เลือกกรรมการคนหนึ่งท าหน้าที่ประธานในที่ประชุม
ี่

ี้


การวินิจฉัยชขาดของทประชมให้ถือเสยงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสยงหนึ่งในการ
ลงคะแนนถ้าคะแนนเสียงในการลงคะแนนเท่ากันให้ประธานกรรมการออกเสียงเพิ่มอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด
ข้อ ๙ การประชุมคณะอนุกรรมการให้น าข้อ ๘ มาบังคับใช้โดยอนุโลม



ื่

ข้อ ๑๐ ให้ศนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอสาร สานักงานปลดกระทรวงสาธารณสขทา

ี่

หน้าทสานักงานเลขานุการคณะกรรมการ เพื่อดาเนินการตามทคณะกรรมการมอบหมายและตามทก าหนดไว้ใน
ี่

ี่
ระเบียบนี้

หมวด ๒
การคุ้มครองข้อมูลด้านสขภาพของบุคคล



ข้อ ๑๑ ข้อมูลดังต่อไปนี้ถือเป็นข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล


(๑) ประวัตสขภาพเฉพาะของบุคคล เชน สวนสง น้ าหนัก หมู่เลอด รูปร่าง ลกษณะทวไปของ





ั่

ร่างกายเป็นต้น
(๒) ประวัติการรักษาพยาบาล เช่น เวชระเบียน บันทึกการพยาบาล การตรวจทางห้องปฏิบัตการ

ฟิล์มเอ็กซ์เรย์ เป็นต้น
(๓) เอกสารและวัตถุต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ (๑) และ (๒)


ี่
(๔) ภาพถ่ายการปฏิบัตงานรักษาพยาบาลผป่วยของบุคลากรทางการแพทย์หรือเจาหน้าทอื่นใน
ู้
การรักษาพยาบาล รวมถึงการกระท าด้วยประการใด ๆ ให้ปรากฏภาพ เสียงของบุคคลดังกล่าว
(๕) ข้อมูลที่คณะกรรมการก าหนด

ข้อ ๑๒ ผู้ควบคุมข้อมูลมีหน้าที่ต้องจดให้มีสถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลด้านสขภาพของบุคคลให้อยู่

ในสภาพที่เหมาะสม มีมาตรการด้านความปลอดภัยที่รัดกุม
เจ้าหน้าที่ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านการจัดการข้อมูลและด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


ข้อ ๑๓ ข้อมูลดานสขภาพของบุคคลเป็นความลบสวนบุคคล จะเปิดเผยไดตอเมื่อไดรับความ






ยินยอมจากเจ้าของข้อมูลหรือผมีอ านาจกระทาการแทนตามข้อ ๑๔ (๒) - (๕) และตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เทานั้น
ู้

และการเปิดเผยจะท าให้เกิดความเสียหายแก่เจาของข้อมูลและผู้ครอบครองข้อมูลไม่ได ้

ข้อ ๑๔ บุคคลดังต่อไปนี้ มีสิทธิขอให้เปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล
(๑) ผู้เป็นเจ้าของข้อมูล
(๒) ผู้ที่ได้รับมอบอ านาจจากผู้เป็นเจ้าของข้อมูล
(๓) ผู้ที่ได้รับความยินยอมจากผู้เป็นเจ้าของข้อมูล

(๔) ผู้มีอ านาจกระทาการแทนเจ้าของข้อมูล คือ ผู้แทนโดยชอบธรรม กรณีเจ้าของข้อมูลเป็นเดก


ู้

ู้
หรือผเยาว์ ผอนุบาล กรณเจาของข้อมูลเป็นคนไร้ความสามารถหรือผพิทกษ์ กรณเจาของข้อมูลเป็นคนเสมือนไร้

ู้


ความสามารถ ทั้งนี้ ถ้าผู้เยาว์อายุ ๑๕ ปีบริบูรณ์แล้วต้องได้รับความยินยอมจากผู้เยาว์นั้นก่อน
(๕) ทายาท ในกรณผู้เป็นเจ้าของข้อมูลเสียชีวิต


ู้


ทายาทตาม (๕) หมายถึง สามีหรือภรรยาโดยชอบดวยกฎหมาย บุตรหรือผสบสนดานตามความ
เป็นจริง บุตรบุญธรรมตามกฎหมาย บิดาหรือมารดาตามความเป็นจริง
ข้อ ๑๕ บุคคลดังต่อไปนี้มีอ านาจขอให้ผู้ควบคุมข้อมูล เปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลโดยไม่
จ าต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลหรือผู้มีอ านาจกระทาการคือ ศาล พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตารวจ



ี่
ี่
คณะกรรมาธิการ คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการและเจาหน้าททมีกฎหมายให้อ านาจในการเรียกเอกสารข้อมูล


ดานสขภาพของบุคคลได ทงนี้ ตองอยู่ภายใตหลกการไม่เป็นการน าข้อมูลไปใชในทางให้เกิดความเสยหายแก่
ั้






เจ้าของข้อมูลหรือทายาท

ข้อ ๑๖ ผู้ขอข้อมูลจะต้องด าเนินการ ดังต่อไปนี้
(๑) ยื่นค าขอเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อผู้ขอ

(๒) ระบุวัตถุประสงค์ของการขอข้อมูลว่าจะน าไปใช้ประโยชน์อย่างไร
(๓) แนบเอกสารประกอบการขอข้อมูลตามที่ก าหนดไว้
(๔) รับทราบเงื่อนไขที่ผู้ควบคุมข้อมูลก าหนด


ข้อ ๑๗ เอกสารประกอบค าขอตามข้อ ๑๖ (๓) มีดังนี้
(๑) ส าเนาบัตรประจ าตัวผู้ขอ
(๒) กรณเป็นผรับมอบอ านาจ ตองมีสาเนาบัตรประจาตวผมอบอ านาจ ผรับมอบอ านาจและ
ู้




ู้
ู้

หนังสือมอบอ านาจ (ติดอากรแสตมป์) ด้วย
ื่





ี่
(๓) กรณเจาของข้อมูลให้ความยินยอม ตองมีหนังสอแสดงความยินยอมทลงลายมือชอเจาของ
ข้อมูลมาแสดงด้วย (ถ้าเป็นส าเนาควรขอดูตัวจริง)


(๔) กรณทายาท ตองมีใบมรณะบัตรและเอกสารแสดงการเป็นทายาท เชน ใบทะเบียนสมรส สาเนา


ทะเบียนบ้าน สูติบัตร ค าสั่งศาล เป็นต้น
(๕) กรณีเป็นทารก เด็ก ผู้เยาว์ หรือผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้หรือเป็นผู้พิการไม่สามารถรับรู้
การกระท าหรือเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ผู้แทนโดยชอบธรรมคือบิดาหรือมารดาตาม
ี่
ความเป็นจริง ผู้ปกครองที่ศาลตั้ง ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ต้องแสดงค าสั่งศาลหรือหลกฐานทแสดงการเป็นผู้ปกครอง

ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ หรือผู้แทนโดยชอบธรรม
(๖) เอกสารอื่น ๆ ตามที่ผู้ควบคุมข้อมูลก าหนด


ี่


ข้อ ๑๘ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับคาขอให้ตรวจคาขอและเอกสารทเกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนแลวจง
เสนอค าขอพร้อมความเห็นไปให้ผู้มีอ านาจพิจารณาอนุมัตให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวหรืออาจน าเสนอคณะกรรมการ

ข้อมูลข่าวสารของผู้ควบคุมข้อมูลก่อนก็ได ้

ู้
ผู้มีอ านาจกระท าการแทนผู้ควบคุมข้อมูลหรือผที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้มีอ านาจอนุมัติการเปดเผย
ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล
ข้อ ๑๙ ในกรณีผู้ขอให้เปิดเผยข้อมูล ขอส าเนาข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลให้ก าหนดเงื่อนไขดังนี้
(๑) ผู้ขอต้องใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เท่านั้น
(๒) ผู้ขอต้องไม่น าข้อมูลไปเผยแพร่ จ าหน่าย จ่าย แจก หรือกระท าโดยประการใด ๆ ในลักษณะเช่น
ว่านั้น
(๓) ผขอตองไม่น าข้อมูลไปใชในทางทอาจจะก่อให้เกิดความเสยหายแก่เจาของข้อมูลหรือผ ู้


ู้


ี่
ควบคุมข้อมูล หากมีความเสียหายเกิดขึ้น ผู้ขอต้องรับผิดชอบทั้งสิ้น



ู้


ู้


เมื่อผขอข้อมูลลงนามรับทราบเงื่อนไขดงกลาวแลวจงมอบสาเนาข้อมูลดงกลาวแก่ผขอตอไปใน

ู้

ี่

กรณผขอรับทราบเงื่อนไขแลวไม่ยอมลงนามให้บันทกไว้และเจาหน้าทลงนามก ากับพร้อมพยานและมอบสาเนา



ข้อมูลให้ผู้ขอ
ข้อ ๒๐ ในกรณีผู้ขอข้อมูลไม่ใช่เจ้าของข้อมูล และเจ้าหน้าที่เห็นว่า ควรมีการขอความยินยอมจาก
เจ้าของข้อมูลก่อน ให้ผู้ขอด าเนินการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อน



ข้อ ๒๑ ผู้ควบคุมข้อมูล อาจขอให้เจ้าของข้อมูลให้ความยินยอมล่วงหน้าในการเปดเผยข้อมูลดาน
สุขภาพของบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้
ู้

ี่


(๑) ตอบุคลากรทางการแพทย์ของผควบคมข้อมูลในการปฏิบัตงานในหน้าท หรือเพื่อประโยชน์
ของเจ้าของข้อมูล
(๒) เพื่อประโยชน์ในการศกษาวิจัยโดยไม่ระบุชอ หรือสวนที่ทาให้รู้ว่าเป็นข้อมูลดานสขภาพของ



ื่


บุคคลใด
(๓) เป็นการจ าเป็นเพื่อการป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต หรือสุขภาพของบุคคล
(๔) มีเหตุจ าเป็นอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล (ถามี)

ในการด าเนินการตามวรรคหนึ่ง ต้องอธิบายให้เจ้าของข้อมูลทราบและเข้าใจด้วย


ู้


ในกรณเป็นการศกษา วิเคราะห์ วิจยเพื่อการพัฒนางานดานสขภาพของผควบคมข้อมูลถือเป็น





ู้
ี่

การปฏิบัตงานในหน้าทและอ านาจของผควบคมข้อมูลให้สามารถดาเนินการไดโดยไม่ตองขอความยินยอมจาก

เจ้าของข้อมูล
ข้อ ๒๒ เมื่อได้ด าเนินการจนเสร็จสิ้นแล้ว ให้เก็บเอกสารต่าง ๆ ไว้เป็นหลักฐานด้วย

หมวด ๓
การแก้ไขข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล






ข้อ ๒๓ เจ้าของข้อมูลมีสิทธิท่จะขอให้แก้ไขข้อมูลด้านสุขภาพของตนเอง โดยยื่นคาขอตอ
ผควบคมข้อมูลพร้อมพยานหลกฐานแสดงข้อมูลทถูกตองตามความเป็นจริงเมื่อเจาหน้าทไดตรวจสอบแลวเห็นว่า

ี่


ี่


ู้

ถูกต้องให้เสนอผู้มีอ านาจอนุมัติและท าการแก้ไขข้อมูลดังกล่าวแล้วแจ้งเจ้าของข้อมูลทราบต่อไป
ข้อ ๒๔ เจ้าหน้าที่ผู้เขียนข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลอาจแก้ไขข้อมูลได้ โดยอยู่ในเงื่อนไขดังนี้
(๑) ต้องแก้ไขตามความเป็นจริง
(๒) ไม่ควรแก้ไข โดยลบหรือขีดฆ่าโดยไม่จ าเป็น ถ้าต้องการแก้ไขโดยขีดฆ่าต้องเซ็นชื่อก ากับทุกครั้ง
(๓) การเพิ่มเติมแก้ไขทุกครั้งให้เขียนเหตผลไว้ด้วย โดยอาจมีบันทึกตดไว้กับเวชระเบียน หรือทา



รายการไว้ท้ายเวชระเบียนหน้านั้น ๆ
(๔) เมื่อมีการแก้ไขให้มีหัวหน้าหน่วยและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ลงชื่อเป็นพยานด้วย
(๕) ไม่ควรแก้ไขเมื่อมีการร้องเรียนหรือฟ้องร้องคดีแล้ว

หมวด ๔
ข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส ์



ู้
ี่
ข้อ ๒๕ ผู้ควบคุมข้อมูลและผบริหารจดการข้อมูลทด าเนินการเก็บ รวมรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูล







ดานสขภาพสวนบุคคลโดยวิธีการทางอิเลกทรอนิกสตองมีการก าหนดมาตรการเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคง
ปลอดภัยของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้อย่างน้อยต้องครอบคลุมหัวข้อ ดังต่อไปนี้
(๑) การเข้าถึงและควบคุมการใช้งาน โดยต้องมีองค์ประกอบดังนี้
(ก) การระบุตัวตน (Identification)
(ข) การยืนยันตัวตน (Authentication)
(ค) อนุญาตเฉพาะผู้มีสิทธิเข้าถึง (Authorization)
(ง) ความรับผิดชอบต่อผลการกระท า (Accountability)
ทงนี้ เพื่อให้สามารถยืนยันไดว่าข้อมูลอิเลกทรอนิกสทมีการจดทาหรือแปลงไดด าเนินการโดยผู้มี
ั้





ี่


สิทธิเข้าถึงเท่านั้น ผู้มีสิทธิในการเข้าถึงดังกลาวใหหมายความรวมถึงผู้รับผิดชอบดาเนินงานจดทาหรือแปลงเอกสาร




หรือข้อความและผู้มีสทธิตรวจสอบซึ่งจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่ก็ได้




(๒) จดให้มีระบบการใชงานและระบบสารองซึ่งอยู่ในสภาพพร้อมใชงานและจดทาแผนเตรียม



ความพร้อมกรณีฉุกเฉินในกรณีที่ไม่สามารถด าเนินการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ตามปกติอย่างต่อเนื่อง
(๓) การตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงของระบบที่ใช้อย่างสม่ าเสมอ
ข้อ ๒๖ ในการสงต่อข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ควบคุมข้อมูล และผู้บริหารข้อมูลต้องจัดให้มีการ


ู้
บริหารจัดการเข้าถึงของผใช้งาน (user access management) เพื่อควบคุมการเข้าถึงระบบการจัดการข้อมูลดาน
สุขภาพของบุคคลเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้วและต้องมีการด าเนินการดังนี้
(๑) ฝึกอบรมสร้างความเข้าใจให้กับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดความตระหนักในผลกระทบที่อาจเกิดจาก


การใชงานระบบการจดการข้อมูลดานสขภาพของบุคคล รวมถึงการก าหนดให้มีมาตรการเชงป้องกันตามความ



เหมาะสม


(๒) การลงทะเบียนผให้งาน (user registration) โดยตองก าหนดให้มีขั้นตอนทางปฏิบัตสาหรับ

ู้


ู้

การลงทะเบียนผใชงานเมื่อมีการอนุญาตให้เข้าถึงระบบแลวและการตดออกจากทะเบียนของผใชงานเมื่อมีการ
ู้

ยกเลิกเพิกถอนการอนุญาตดังกล่าว

(๓) การบริหารจดการสทธิของผใชงาน (user management) โดยตองจดให้มีการควบคมและ


ู้






จากัดสทธิเพื่อเข้าถึงและใชงานระบบแต่ละชนิดตามความเหมาะสม ทงนี้ รวมถึงสทธิจาเพาะสทธิพิเศษและสิทธิ


ั้

อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึง
(๔) การบริหารจัดการรหัสผ่านส าหรับผู้ใช้งาน(user password management)
ู้
โดยต้องจัดให้มีกระบวนการบริหารจัดการรหัสผ่านส าหรับผใช้งานอย่างรัดกุม
(๕) การทบทวนสทธิการเข้าถึงของผใชงาน (review of user access right) โดยตองจดให้มี

ู้




ู้
กระบวนการทบทวนการเข้าถึงสทธิของผใชงานระบบการจดการข้อมูลดานสขภาพของบุคคลตามระยะเวลาท ี่




ก าหนดไว้
ี่
ี่

ู้

ี่

(๖) การป้องกันอุปกรณในขณะทไม่มีผใชงานทอุปกรณโดยต้องก าหนดข้อปฏิบัตทเหมาะสมเพื่อ

ป้องกันไม่ให้ผู้ไม่มีสิทธิสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ของหน่วยงานในขณะที่ไม่มีผู้ดูแล


(๗) การควบคมสนทรัพย์สารสนเทศและการใชงานระบบคอมพิวเตอร์โดยตองควบคมไม่ให้




สินทรัพย์ เช่น เอกสารสื่อบันทึกข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือสารสนเทศอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเข้าถึงโดยผู้ไม่มีสิทธิ
(๘) การควบคุมเครือข่าย (network access control)
(๙) การควบคุมการเข้าถึงระบบปฏิบัติการ (operating system access control)


ั้
ทงนี้ ให้เป็นไปตามประกาศนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสข
ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบัตในการรักษาความมั่นคง




ั้
ปลอดภัยดานสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ ของกระทรวงดจทลเพื่อเศรษฐกิจและสงคม รวมทงมาตรการตาม




เอกสารหมายเลข ๑ แนบท้ายระเบียบนี้

หมวด ๕
ระเบียนสุขภาพ



ข้อ ๒๗ ระเบียนสุขภาพจัดท าขึ้นเพื่อ

(๑) รวบรวมข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลของประชาชน
(๒) คุ้มครองข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล
(๓) น าข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลไปใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพของเจ้าของข้อมูลนั้น
(๔) น าไปศึกษา วิเคราะห์ วิจัย เพื่อพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศ

(๕) ให้หน่วยงานทเกี่ยวข้องสามารถน าข้อมูลดานสขภาพของบุคคลไปใชเพื่อประโยชน์ของ

ี่


เจ้าของข้อมูล และหน่วยงานนั้น
(๖) การอื่นที่คณะกรรมการก าหนด
ข้อ ๒๘ ระเบียนสขภาพ ประกอบดวยข้อมูลดานสขภาพของบุคคล ทงนี้ ให้เป็นไปตามเอกสาร




ั้
หมายเลข ๒ แนบท้ายของระเบียบนี้

ู้
ู้


ข้อ ๒๙ ผบริหารจดการข้อมูลเป็นผดาเนินการบริหารจดการข้อมูลเพื่อประโยชน์ของเจาของ

ข้อมูลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่คณะกรรมการก าหนด

ข้อ ๓๐ ผบริหารจดการข้อมูลตองจดให้มีสถานทจดเก็บข้อมูลดานสขภาพของบุคคลทเหมาะสม



ี่
ี่
ู้



ี่
มีระบบการรักษาความปลอดภัยของการเก็บ การรวบรวม การใชและการเปิดเผยข้อมูลตามทคณะกรรมการ
ก าหนด
ู้
ู้


ข้อ ๓๑ ผควบคมข้อมูลตองเป็นผดาเนินการสงมอบข้อมูลดานสขภาพของบุคคลให้ผบริหาร
ู้




ี่



จดการข้อมูลเพื่อจดทาระเบียนสขภาพรวมทงขอความยินยอมจากเจาของข้อมูลตามแบบทก าหนดทายระเบียบนี้



ั้
หรือตามที่คณะกรรมการก าหนด
ในกรณีเจ้าของข้อมูลไม่ยินยอมให้บันทึกไว้เป็นหลักฐานด้วย
ข้อ ๓๒ ผู้ควบคุมข้อมูลมีหน้าทต้องตรวจสอบและบันทึกข้อมูลให้เป็นปัจจบันเสมอและส่งมอบให้
ี่

ผู้บริหารจัดการข้อมูลภายในเวลาที่ก าหนด

ข้อ ๓๓ ผบริหารจดการข้อมูลตองจดให้มีทะเบียนผควบคมข้อมูลและผรับข้อมูลการจดการ
ู้

ู้
ู้




ข้อมูลตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการใช้งานข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลที่คณะกรรมการก าหนด
ข้อ ๓๔ เมื่อผู้รับข้อมูลได้รับข้อมูลและใชประโยชน์แล้ว ต้องส่งข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลทเป็น
ี่

ปัจจบันของเจาของข้อมูลไปให้ผบริหารจดการข้อมูลเพื่อเก็บรวบรวม และใชประโยชน์ตามทระเบียบนี้ก าหนดไว้
ี่

ู้



ต่อไป

ข้อ ๓๕ ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสขเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ปิยะสกล สกลสัตยาทร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
















































[เอกสารแนบท้าย]


๑. แนบท้ายระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการคุ้มครองและจัดการข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๑
(เอกสารหมายเลข ๑)

๒. แนบท้ายระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการคุ้มครองและจัดการข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๑
(เอกสารหมายเลข ๒)

ระเบียบกรมสรรพากร
ว่าด้วยการจัดท า ส่งมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์

พ.ศ. ๒๕๖๐ (ฉบับที่ ๒)




เพื่อให้การจัดทา ส่งมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเลกทรอนิกสตาม



ระเบียบกรมสรรพากร ว่าดวยการจดทา สงมอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกส และใบรับ






อิเลกทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๖๐ มีความเหมาะสม อ านวยความสะดวก และลดข้อจากัดในกรณทผซื้อสนคาหรือ

ี่
ู้




ี่
ู้


ผรับบริการไม่ประสงครับใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสหรือใบรับอิเลกทรอนิกสโดยวิธีการแลกเปลยนข้อมูลทาง


อิเล็กทรอนิกส์อันเป็นอุปสรรคในการพัฒนาระบบภาษีและการใช้เอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส ์
อาศัยอ านาจตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔
ประกอบมาตรา ๘ แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ
พ.ศ. ๒๕๔๙ อธิบดีกรมสรรพากร จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้



ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมสรรพากร ว่าดวยการจดทา สงมอบ และเก็บรักษา

ใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๐ (ฉบับที่ ๒)”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสามของข้อ ๑๖ ของระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการจัดท า ส่ง
มอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๖๐








“กรณผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสไดจดทาใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสตามระเบียบนี้แลว

ู้

ู้

ี่
และสามารถสงมอบให้แก่ผซื้อสนคาหรือผรับบริการโดยวิธีการแลกเปลยนข้อมูลทางอิเลกทรอนิกสตามวรรคสอง


ู้







แตผซื้อสนคาหรือผรับบริการไม่ประสงครับใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสโดยวิธีการแลกเปลยนข้อมูลทาง
ู้

ี่
ู้

ู้
อิเลกทรอนิกสให้ผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสจดพิมพ์ใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสดงกลาวโดยให้ปรากฏ









ข้อความว่า “เอกสารนี้ได้จัดท าและส่งข้อมูลให้แก่กรมสรรพากรด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส” และส่งมอบให้แก่ผ ู้
ซื้อสนคาหรือผรับบริการ ทงนี้ สาหรับใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ท่ได้จัดทาขึ้นต้งแต่วันท่๑ มกราคมพ.ศ.


ั้
ู้








ู้





๒๕๖๑ เป็นต้นไป หากดาเนินการดงกลาวแลวให้ถือว่ามีการสงมอบใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสให้แก่ผซื้อสนค้า

ู้




หรือผรับบริการตามระเบียบนี้แลวซึ่งผออกใบก ากับภาษีอิเลกทรอนิกสจะทาให้ปรากฏข้อความดงกลาวนั้นโดย
ู้

วิธีการทางอิเลกทรอนิกสประทบดวยตรายาง เขียนดวยหมึกพิมพ์ดด หรือทาให้ปรากฏขึ้นดวยวิธีการอื่นใดใน








ลักษณะท านองเดียวกันก็ได”





ข้อ ๔ ให้ยกเลกความในวรรคสองของข้อ ๑๗ ของระเบียบกรมสรรพากร ว่าดวยการจดทา สง


มอบ และเก็บรักษาใบก ากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๐และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ให้น าความตามวรรคสอง และวรรคสามของข้อ ๑๖ มาใช้บังคับแก่การส่งมอบใบรับอิเล็กทรอนิกส ์
โดยอนุโลม”

ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๑

ประสงค พูนธเนศ
อธิบดีกรมสรรพสามิต














































[เอกสารแนบท้าย]

๑. กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลง แบบแจงราคาขายปลกแนะน า ตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัตภาษี



สรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ (ภส.๐๒-๐๑)


Click to View FlipBook Version