สารบญั
การเชอ่ื มต่อเครือข่ายอปุ กรณ์สอ่ื สารเคลอื่ นที่ ....................................................................................................... 1
การเช่ือมต่อเครือข่ายมอื ถอื ............................................................................................................................. 1
การทางานของ Tablet ......................................................................................................................................... 1
ประโยชน์ของ Tablet ..................................................................................................................................... 1
การทางานของ Smart Phones............................................................................................................................ 2
ความแตกตา่ งของ Smart Phones กับ Feature Phone............................................................................... 2
ระบบสง่ ข้อความทนั ที (Instant Messaging)........................................................................................................ 2
A
การเชอ่ื มต่อเครือขา่ ยอุปกรณส์ ือ่ สารเคลอื่ นที่
การเชื่อมต่อเครือข่ายของอุปกรณ์เคลื่อนที่ มี 2 วิธี คือ การเช่ือมต่อผ่านเครือข่ายมือถือ (Cellular) และการเชื่อมต่อผ่าน
เครอื ข่ายไรส้ าย (Wi-Fi)
การเชือ่ มต่อเครอื ข่ายมือถือ
ปัจจบุ ันเครือข่ายมอื ถือ ที่มคี วามเร็วสูงทส่ี ดุ ไดแ้ ก่ เครือข่ายแบบ 4G LTE
LTE นั้นย่อมาจาก Long Term Evolution เป็นเทคโนโลยหี นึ่งที่ถูกนามาทดลองใช้ในยุค 4G โดยเกิดจากความร่วมมอื
ของ 3GPP (3rd Generation Partnership Project) ท่ีมีการพัฒนาให้ LTE มีความเร็วมากกว่ายุค 3G ถึง 10 เท่า โดยมี
ความสามารถในการโอนถา่ ยข้อมลู และมลั ติมีเดียสตรีมมิง่ ท่มี ีความเร็วอยา่ งนอ้ ย 100 Mbps และมคี วามเรว็ สูงสดุ ถึง 1 Gbps ซึ่ง
เกอื บทุกประเทศทั่วโลกใช้เทคโนโลยี 4G LTE
ประโยชนข์ องเครือขา่ ยมอื ถือ (Cellular)
สามารถเขา้ ถงึ การเช่ือมตอ่ อนิ เทอร์เน็ตไดห้ ลายสถานที่มากกวา่ การเชือ่ มตอ่ แบบมสี าย (LAN) หรอื แบบ Wi-Fi
การทางานของ Tablet
แท็บเล็ต คือเทคโนโลยีเคร่อื งคอมพิวเตอร์ที่สามารถพกตดิ ตวั ได้โดยวัตถปุ ระสงคข์ องเครอื่ งคอมพิวเตอรช์ นดิ น้ีใช้เพื่อทดแทนสมุด
หรือกระดาษ ในปัจจุบันแท็บเล็ต ถูกพัฒนาให้มีความสามารถใกล้เคียงเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เครื่องแท็บเล็ตพีซีมีขนาดไม่ใหญ่มาก
สามารถถอื ไดด้ ว้ ยมือเดียว และนา้ หนกั เบากว่าเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์โนต้ บุก๊
ข้อดี ของการใช้ Tablet ที่ใช้ซิมการ์ด (Cellular) คือ สามารถเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้มากกว่า เน่ืองจากสัญญาณมือถือ
ครอบคลมุ พืน้ ท่ีมากกว่า
ข้อเสีย ของการใช้ Tablet ทใ่ี ชซ้ มิ การ์ด (Cellular) คอื ต้องเสียค่าบริการอนิ เทอรเ์ นต็ เพิ่มมากข้ึน หากไมต่ ้องการเสยี ค่าใช้จ่ายใน
การเชื่อมต่อผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไร้สายสาธารณะ หรือ เครือข่ายไร้สายภายในบ้านได้และเครือข่ายไร้สายท่ีมี
ระบบรักษาความปลอดภัย
ประโยชนข์ อง Tablet
ธุรกิจท่ีสามารถนา Tablet ท่ีใช้ซิมการ์ด (Cellular) มาใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี เช่น บริการส่งอาหาร, บริการส่ง
ดอกไม้, บรกิ ารสง่ พัสดุ เปน็ ต้น
1
การทางานของ Smart Phones
สมาร์ทโฟน คือ โทรศัพท์ยุคใหม่ท่ีพัฒนาขึ้นกว่าเดิม ที่มีความสามารถมากกว่าการรับสาย และโทรออก มีแอพพลิเคช่ันที่เสริม
ความสามารถต่าง ๆ มากมาย อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา ที่มีระบบการเช่ือมต่อไร้สาย Bluetooth 3G หรือ WIFI มี
Port Mini USB เชื่อมตอ่ กบั คอมพวิ เตอร์ได้ รับ-สง่ ข้อมูลต่าง ๆ ด้วยความเร็วสูง รองรับระบบมลั ติมีเดยี ต่าง ๆ ดหู นัง ฟงั เพลง และอืน่ ๆ ใน
ปัจจบุ นั มีระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Google) ระบบปฏิบตั ิการ iOS (Apple) ระบบปฏิบตั กิ าร Windows Phone (Microsoft) Symbian
(Nokia) ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS (RIM) เป็นตน้
Smart Phones ใช้ซิมการ์ด (SIM Card) เพ่ือระบุความเป็นเจ้าของบัญชีของโทรศัพท์เครื่องน้ัน หากขาย Smart Phones ให้กับ
บุคคลอื่น การปอ้ งกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตวั ไม่ใหต้ กอยู่ในมือผูอ้ นื่ ควรปฏิบัติตามขน้ั ตอนต่อไปน้ี
1. ถอด ซิมการ์ด (SIM Card) ออกหากยังอยู่ในเครอื่ ง
2. สารองข้อมูลส่วนตัวและแอพพลิเคชนั่ เช่น รายช่อื ผตู้ ดิ ตอ่ ประวัตกิ ารสนทนา
3. ใชค้ าสง่ั “คืนคา่ โรงงาน (Factory Reset) เพ่ือลา้ งข้อมลู ส่วนตัวออกจากเคร่อื ง Smart Phones ใหห้ มด
ความแตกต่างของ Smart Phones กบั Feature Phone
เปรียบเทยี บการใชง้ าน Smart Phone กับ Feature Phone พบวา่ Smart Phone สามารถทางานได้หลากหลายและมี
ประสทิ ธภิ าพทด่ี ีกวา่ เช่น
1. มีระบบโทรศพั ทผ์ ่านวดิ ีโอ
2. มรี ะบบการเขา้ อินเทอรเ์ น็ตท่ีรวดเร็วกวา่
3. มีบริการแอพพลเิ คชน่ั ต่าง ๆ เช่น แอพอีเมล
ระบบสง่ ขอ้ ความทนั ที (Instant Messaging)
เมสเซนเจอร์ หรือ อินสแตนท์ เมสเซจจิง (Instant Messaging: IM) คือ ระบบการส่งข้อความทนั ที ระหว่างสองคน หรอื กล่มุ คนใน
เครือข่ายเดียวกัน จาเป็นตอ้ งเช่อื มต่อกับระบบอนิ เทอร์เนต็ เช่น การสง่ ขอ้ ความผา่ นทางอินเทอร์เนต็ สามารถส่งไฟลร์ ปู ภาพ, ใสไ่ ฮเปอรล์ งิ ก์
ในข้อความ และสามารถส่งขอ้ ความไปยังผู้ติดตอ่ ท่ีกาลังออฟไลน์ได้
การทางานของเมสเซนเจอร์จาเป็นต้องใช้ไคลเอนท์ซอฟต์แวร์ โดยซอฟต์แวร์ทาการเช่ือมต่อระบบท่ีบริการเมสเซนเจอร์ การส่ง
ข้อความผ่านเมสเซนเจอร์ในยคุ แรก ตัวอักษรแต่ละตัวท่ีทาการพิมพ์จะปรากฏทางหน้าจอของผู้ที่สง่ ข้อความด้วยทันที ในขณะเดียวกันการ
ลบตัวอักษรแต่ละตัว จะลบข้อความทันที ซ่ึงแตกต่างกับระบบเมสเซนเจอร์ในปัจจุบัน โดยข้อมูลที่ปรากฏจะเกิดข้ึนหลังจากที่มีการตกลง
ยอมรับส่งข้อความแล้ว ในปัจจุบันเมสเซนเจอร์ท่ีได้รับความนิยมได้แก่ LINE, WeChat, MSN Messenger, AOL Instant Messenger,
Yahoo! Messenger, Google Talk, .NET Messenger Service Jabber และ ICQ
2
3
สารบัญ
หน่วยความจาและหนว่ ยเกบ็ ขอ้ มลู ........................................................................................................................ 1
อุปกรณ์ต่อพ่วง...................................................................................................................................................... 2
Bluetooth...................................................................................................................................................... 3
เครือข่ายไรส้ าย Wi-Fi ........................................................................................................................................... 3
การเช่ือมตอ่ เครอื ข่ายไรส้ าย............................................................................................................................. 3
การจดั การพลังงานบนระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows 10 ......................................................................................... 3
ไดรเวอร์อปุ กรณ์ (Drivers).................................................................................................................................... 4
ระบบปฏบิ ัตกิ าร (operating systems) ............................................................................................................... 4
การเชอ่ื มตอ่ ระบบเครือขา่ ย................................................................................................................................... 4
การเชอื่ มตอ่ ระบบอนิ เทอร์เน็ตแบนดว์ ดิ ท์ (Bandwidth)...................................................................................... 5
A
หน่วยความจาและหน่วยเก็บขอ้ มลู
หน่วยความจาหลัก เป็นส่วนประกอบสาคัญ ทาหน้าที่เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการจดจาข้อมูล และโปรแกรมต่าง ๆ ในขณะท่ี
คอมพิวเตอรท์ าการประมวลผล แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คอื
1. หนว่ ยความจาหลกั แบบอา่ นได้อย่างเดียว (Read Only Memory: ROM)
หน่วยความจาท่ีมีโปรแกรม หรือข้อมูลอยู่แล้ว พร้อมท่ีจะนามาต่อกับไมโครโพรเซสเซอร์ได้โดยตรง ซ่ึงโปรแกรมหรือ
ขอ้ มูลน้นั จะไมส่ ญู หาย แม้วา่ จะไมม่ ีการจา่ ยไฟเล้ียง
2. หนว่ ยความจาหลักแบบแก้ไขได้ (Random Access Memory: RAM)
หนว่ ยความจาที่สามารถเก็บข้อมลู ไดเ้ ฉพาะเวลาที่มีกระแสไฟฟ้า ทาหนา้ ทเี่ กบ็ ชดุ คาส่ัง และขอ้ มลู ทีร่ ะบบคอมพิวเตอร์
กาลังทางานอยู่ ไม่ว่าจะเปน็ การนาเข้าขอ้ มูล (Input) หรือการส่งออกข้อมูล (Output) แล้วถ้าหากมีการปดิ โปรแกรมท่ีเปิดอยู่จะ
ทาใหห้ น่วยความจามเี นอื้ ที่เพม่ิ มากขึ้น
หนว่ ยเกบ็ ขอ้ มลู
1. ฮารด์ ดสิ กไ์ ดร์ฟ (Hard Disk Drive)
ฮารด์ ดิสก์ คือ อุปกรณเ์ กบ็ ขอ้ มูลท่ีสามารถเก็บได้อย่างถาวร โดยไมต่ ้องมไี ฟฟา้ หล่อเลีย้ งตลอดเวลา เมือ่ ปดิ เครอ่ื งข้อมูล
ไม่สูญหาย ดงั นน้ั จงึ ใชฮ้ ารด์ ดิสกเ์ ป็นอุปกรณท์ ่ใี ชจ้ ัดเกบ็ ระบบปฏิบตั ิการโปรแกรม และข้อมลู ต่าง ๆ แลว้ ถ้าหากมกี ารลบไฟล์ข้อมูล
ออกไปจากเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ก็จะทาใหฮ้ ารด์ ไดรฟ์ มเี นื้อทเี่ พ่มิ ขึ้น
2. แฟลชไดร์ฟ (Flash Drive)
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลชนิดน้ี บางครั้งเรียกว่า แฮนด้ีไดร์ฟ (Handy Drive) หรือ ทัมไดร์ฟ (Thumb Drive) มีช่ือจริงว่า
USB Mass Storage Device ใช้เช่ือมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านทางพอร์ต USB ใช้ Flash Memory เก็บข้อมูล ทางานเหมือน
ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ คอื ใช้สาหรับอ่าน และบันทกึ ข้อมลู แฟลชไดร์ฟมีขนาดเลก็ นา้ หนักเบา พกพาสะดวก ราคาเรมิ่ ถูกลงพรอ้ มกับความ
จุทมี่ ากข้นึ เรือ่ ย ๆ
1
อุปกรณ์ต่อพว่ ง
สายเคเบลิ HDMI
เป็นระบบการเชอ่ื มต่อภาพ และเสียงแบบใหม่ ยอ่ มาจากคาว่า (High Definition Multimedia Interface โดย HDMI จะเช่ือมต่อ
ท้ังสัญญาณภาพ และเสยี งระบบดิจิตอลแบบไม่มีการบีบอดั ขอ้ มลู ไวใ้ นสายสัญญาณเพียงเส้นเดยี ว
ที่ให้ความคมชัดของภาพมีความละเอียด มีความคมลึก และให้เสียงท่ีสมบูรณ์แบบ HDMI ถูกนามาใช้กับอุปกรณ์ Home- Theatre หลาย
อยา่ งเชน่ พลาสมาทีวี แอลซดี ที ีวี รวมถงึ เครอื่ งเล่นบูลเรย์ (Blu-ray Player)
พอรท์ อีเธอรเ์ นต็ (Ethernet port)
อีเธอรเ์ นต็ (Ethernet) คอื เทคโนโลยเี ครือข่าย LAN ท่ีนิยมใชก้ นั อยา่ งกว้างขวางในปัจจุบัน เพราะเปน็ การส่งข้อมูลด้วยความเร็ว
สงู ดังนนั้ พอร์ทอีเธอร์เนต็ (Ethernet port) ใชส้ าหรบั เชื่อมต่อเครือข่ายในพ้นื ที่ หรอื เชือ่ มตอ่ กับเราเทอร์ทีอ่ ยู่ใกล้เคียง
การเชื่อมตอ่ พอร์ตวีจเี อ (VGA) หรือดีวไี อ (DVI)
พอร์ตสาหรับเชื่อมต่อสายสัญญาณเข้ากับจอภาพ ปัจจุบันมีท้ังแบบวีจีเอ และพอร์ตแบบดีวีไอ ซ่ึงเป็นพอร์ตแบบใหม่ที่ให้ความ
ละเอียดภาพท่ีสูงข้ึน
การเชอ่ื มต่อพอร์ตยูเอสบี (USB)
พอร์ตที่ออกแบบมาเพื่อให้การรับส่งสัญญาณทาได้เร็วขึ้น อุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB เช่น กล้องดิจิตอล เมาส์
แป้นพิมพ์ จอยสต๊ิก สแกนเนอร์ อุปกรณ์ที่มีพอร์ตยูเอสบี จะมีคุณสมบัติท่ีเรียกว่า Plug and Play หมายถึง การติดตั้งไม่จาเป็นต้องบู้ต
เคร่อื งใหม่เพียงเช่อื มต่อสายกส็ ามารถใช้งานไดท้ ันที
การเชื่อมต่อพอรต์ มลั ติมีเดยี
ปัจจุบนั คอมพวิ เตอร์จะมกี ารตดิ ต้ังการด์ เสยี งมาใหด้ ว้ ย ซึง่ การด์ นีจ้ ะมชี อ่ งสาหรบั ต่อกับลาโพง ไมโครโฟน และพอร์ตสาหรับตอ่ กับ
ก้านควบคมุ (Joystick) อยู่ในตัว และมีสที แ่ี ตกต่างกัน โดยชอ่ งสาหรับตอ่ ลาโพงใช้ขั้วตอ่ สเี ขียว ต่อไมโครโฟนใชส้ แี ดง หรือหากไมม่ สี ีสามารถ
สังเกตจากสญั ลกั ษณ์ได้
2
Bluetooth
Bluetooth คือ ระบบส่ือสารของอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกแบบสองทาง ด้วยคล่ืนวิทยุระยะสั้น มีขั้นตอนในการเชื่อมต่อ
อปุ กรณส์ องอปุ กรณ์ดังนี้
1. เปิดใช้งานระบบ Bluetooth
2. ตรวจสอบให้แนใ่ จวา่ พบอุปกรณ์ท่ตี ้องการจะเชอ่ื มต่อ
3. จับคู่ (Pair) อุปกรณท์ ี่จะเชือ่ มต่อ
เครอื ขา่ ยไรส้ าย Wi-Fi
Wi-Fi (wireless fidelity) หมายถึง องค์กรท่ีทาหน้าท่ีทดสอบผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่ายแบบไร้สาย (Wireless Lan) ภายใต้
เทคโนโลยีการส่ือสารมาตราฐาน IEEE 802.11 วา่ อปุ กรณ์แต่ละยหี่ อ้ กนั กส็ ามารถตดิ ต่อส่ือสารกันได้โดยไม่มีปัญหา
ประโยชน์ของการสรา้ งเครอื ข่ายไร้สายภายในบา้ น มีดังนี้
1. สามารถการเชอ่ื มตอ่ กับอปุ กรณห์ ลายช้นิ มาอยใู่ นเครือขา่ ยเดยี วกนั
2. สามารถจดจาเครือขา่ ยของแต่ละอุปกรณ์ และเชือ่ มตอ่ ใหมโ่ ดยอตั โนมัติ
การรักษาความปลอดภยั ของระบบเครือข่ายไร้สาย
เพือ่ ควบคุมการเขา้ ถึงเครือข่าย และมกี ารเขา้ รหัสในการโอนถ่ายขอ้ มูล การป้องกนั อุปกรณ์ไม่ใหเ้ ช่ือมต่อกับเครือข่ายไร้
สายทมี่ รี ะบบรกั ษาความปลอดภยั สามารถทาได้ 2 วิธี คือ
1. ยกเลิกการใช้งาน (Disable) การด์ เครือข่ายไรส้ ายของอปุ กรณน์ ้นั ๆ
2. เปลยี่ นรหสั ผ่าน (Password) ของเครอื ข่ายไร้สาย
การเชือ่ มตอ่ เครอื ขา่ ยไร้สาย
กรณที ีห่ ลดุ (Disconnect) จากการเช่ือมต่อเครือข่ายไร้สาย สามารถ
เชอื่ มต่อเครือข่ายใหม่อกี คร้ังโดยปฏิบตั ิตามข้นั ตอน ดังต่อไปนี้
1. คลกิ ไอคอน Wireless Network
2. คลิกปมุ่ Connect เครือขา่ ยทีต่ ้องการจะเชือ่ มตอ่
** ในกรณที ่หี น้าเวบ็ ไซต์ยังไม่อัพเดทเนอื้ หาหลังจากเชอ่ื มต่อเครอื ข่ายอีกครงั้
สามารถกดปุม่ Refresh เพอื่ เรยี กเน้ือหาหนา้ เว็บไซต์มาแสดงได้ ดังรปู
การจัดการพลงั งานบนระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows 10
สาหรบั คอมพิวเตอร์ หรอื พซี ีเคลือ่ นท่ี หรอื ใชน้ อกสถานที่ เชน่ โนต้ บกุ๊ เน็ตบกุ๊ แทบ๊ เล็ต หากเปิดเครอื่ งทิง้ ไว้นานโดยไมม่ ีการพัก
หน้าจอ แบตเตอรีก่ จ็ ะหมดไปอยา่ งรวดเรว็ ซงึ่ วนิ โดว์ ได้เตรียมรูปแบบการประหยัดพลงั งานให้เลอื กใช้ตามความเหมาะสม ผู้ใชส้ ามารถเลือก
แผนการจัดการพลงั งานเพ่ือลดการใชพ้ ลังงานของคอมพวิ เตอร์ เพิ่มประสทิ ธิภาพในการทางาน
3
การจัดการพลังงานในระบบปฏิบัติการ เพื่อลดการใช้พลังงานของคอมพิวเตอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน ซึ่งใน
ระบบปฏบิ ตั ิการ สามารถกาหนดค่าได้ ดังน้ี
1. การลดพลงั งานฮาร์ดดสิ ก์
2. การปิดการแสดงผลเม่อื ไมม่ กี ิจกรรมใด ๆ
3. การจัดการพลังงานของตวั ประมวลผล (CPU)
การจัดการพลงั งานในระบบปฏิบตั กิ าร เพอ่ื ประหยัดพลังงาน และยืดอายุแบตเตอรีใ่ นขณะทใี่ ช้แล็ปทอ็ ป ได้แก่
1. ปดิ โปรแกรมท่ีไม่ไดใ้ ชง้ าน
2. ปิดการทางานของระบบ Wi-Fi
3. ลดความสวา่ งหนา้ จอของอุปกรณ์
ไดรเวอรอ์ ุปกรณ์ (Drivers)
ไดรเวอร์อุปกรณ์ (Drivers) หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมฮาร์ดแวร์ ทาหน้าท่ีเป็นตัวกลางระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ
ระบบปฏบิ ัตกิ ารให้สื่อสารกนั ได้อย่างถูกต้อง เช่น หากจะใช้เครอ่ื งพิมพย์ ่ีห้อใดก็จาเป็นจะต้องติดตั้งโปรแกรมทเี่ รยี กส้ัน ๆ ว่า “ไดร์ฟเวอร์”
สาหรับเครอ่ื งพิมพ์ยห่ี อ้ นั้นด้วย ไดร์ฟเวอร์ช่วยให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ท่ีนามาประกอบเป็นคอมพิวเตอรส์ ามารถทางานได้อย่างเต็มประสิทธภิ าพ
การเชอื่ มต่อฮาร์ดแวร์ทุกอปุ กรณก์ บั คอมพิวเตอร์ต้องการไดรฟ์ เวอร์ และในบางครง้ั ต้องใช้มากกว่าหน่ึงไดร์ฟเวอรด์ ว้ ยซ้า เคร่ืองคอมพิวเตอร์
ทม่ี ไี ดรฟ์ เวอรล์ ้าสมัย และไมท่ าการอัพเดทจะทางานอยา่ งไม่เสถียร และอาจทางานชา้ ลงในท่ีสุด
กรณใี นการอัพเดทไดรเวอรอ์ ปุ กรณ์
กรณีอัพเกรดระบบปฏบิ ตั ิการ Windows จาก 32 bit ไปเป็น 64 bit
กรณที ี่อปุ กรณฮ์ ารด์ แวร์ทางานไมถ่ ูกต้อง
ระบบปฏบิ ัตกิ าร (operating systems)
ระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows พบเหน็ ทว่ั ไปในเคร่อื งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC)
ระบบปฏิบตั ิการ OS X ที่ใช้กับเครอื่ ง MAC
ระบบปฏิบตั ิการ iOS ทใี่ ช้กับ iPhone หรือ iPad
ระบบปฏบิ ตั ิการ Linux ทเี่ ป็นระบบปฏบิ ตั กิ ารแบบ Open Source
ระบบปฏบิ ตั ิการ Android ท่เี ปน็ ระบบปฏบิ ตั ิการแบบ Open Source ใช้กบั อปุ กรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Devices) ต่าง ๆ
การเช่อื มตอ่ ระบบเครอื ขา่ ย
การเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่าย (Network) มีหลายรูปแบบท้ังแบบมีสาย และแบบไร้สาย ซึ่งการเชื่อมต่อแบบมีสายนั้น ให้
ความเรว็ และความเชอ่ื ถือมากที่สดุ
4
การเชอื่ มตอ่ ระบบอนิ เทอรเ์ น็ตแบนดว์ ดิ ท์ (Bandwidth)
แบนด์วิดท์ (Bandwidth) หมายถึง ปรมิ าณการรบั และการส่งข้อมูล ณ เวลาหน่ึง ผ่านอุปกรณเ์ ครือขา่ ย ซ่งึ ปจั จยั ที่มผี ลกระทบต่อ
แบนดว์ ิดท์ (Bandwidth) ไดแ้ ก่
1. อปุ กรณเ์ คเบิลโมเด็ม
2. เราเทอร์ของระบบไร้สาย
3. ผู้ให้บรกิ ารอนิ เทอร์เน็ต (ISP)
5
สารบญั
การจัดการแถบเครื่องมือดว่ น................................................................................................................................ 1
กาหนดคา่ เริ่มต้นใหก้ บั โปรแกรม........................................................................................................................... 1
จัดการบญั ชีผู้ใช้..................................................................................................................................................... 2
การสลบั ผูใ้ ชง้ าน (Switch User)...................................................................................................................... 2
การต้งั รหัสผา่ นใหก้ บั บัญชผี ูใ้ ช้ ......................................................................................................................... 3
การจัดการไฟลแ์ ละโฟลเดอร์................................................................................................................................. 4
การสร้างไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ .............................................................................................................................. 4
การเคล่ือนย้าย และคัดลอกไฟล์/โฟลเดอร์ ...................................................................................................... 4
ที่ตง้ั ของไฟล์ข้อมลู ........................................................................................................................................... 5
การอนุญาตสทิ ธ์ิจดั การไฟล์ ............................................................................................................................. 5
ทอี่ ยู่ (IP Address)........................................................................................................................................... 6
การซอ่ มแซม และถอนการติดตงั้ โปรแกรม............................................................................................................ 6
A
การจดั การแถบเครอื่ งมอื ด่วน
เป็นแถบทแ่ี สดงอยทู่ างดา้ นซ้ายของแถบชื่อเรื่อง (Title Bar) เปรยี บเสมือนทางลดั สูค่ าส่งั ที่ถูกเรียกใช้งานบ่อย ๆ ช่วยให้เกดิ ความ
สะดวกรวดเร็วในการทางาน ซึ่งสามารถเพม่ิ เครอื่ งมอื ทต่ี ้องการได้ ดังนี้
1. คลิกทส่ี ัญลกั ษณ์สามเหล่ียมชลี้ ง ▼ ที่ แถบเครอื่ งมอื ด่วน (Quick Access Toolbar)
2. คลิกเลือก เคร่ืองมือที่ต้องการเพิ่มลงในแถบเคร่ืองมือ เช่น พิมพ์ด่วน หรือแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์และพิมพ์ หรือการสะกด
เป็นต้น
กาหนดค่าเรม่ิ ต้นใหก้ ับโปรแกรม
การเปล่ียนคา่ เริ่มตน้ ของฟอนตใ์ ห้กับโปรแกรม สามารถทาไดด้ ังน้ี
1. คลิก แท็บ ไฟล์ (File) > เลอื กคาสั่ง ตัวเลอื ก (Options)
2. ด้านซ้ายเลือกคาสั่ง ทว่ั ไป (General) > ด้านขวาท่ีหัวขอ้ ฟอนตเ์ ร่ิมต้น (Default font) > คาสง่ั ฟอนต์ (Font) เปลี่ยนฟอนต์
ไดต้ ามความตอ้ งการ > เสร็จแลว้ คลิกปุ่ม ตกลง (OK)
1
จัดการบญั ชีผใู้ ช้
การสลับผใู้ ชง้ าน (Switch User)
ในกรณที ่ีเครื่องคอมพิวเตอร์มผี ู้ใช้งานหลายคน บางครั้งอาจจะต้องมกี ารสลับผ้ใู ชง้ าน สามารถทาไดโ้ ดย
1. คลกิ ปมุ่ เรมิ่ (Start)
2. คลกิ สญั ลักษณ์ทเ่ี ป็นรูปคน
3. เลือก ผู้ใช้ทตี่ อ้ งการสลับ
Administrator
Student
4. คลกิ เลือก ชื่อผใู้ ช้ (User) ที่ตอ้ งการ
Student
2
การต้ังรหสั ผา่ นใหก้ บั บญั ชผี ู้ใช้
ผูใ้ ช้สามารถต้งั รหสั ผ่านใหก้ บั บัญชขี องแต่ละผ้ใู ช้ได้ สามารถทาได้ดงั น้ี
1. คลกิ ปุ่ม เรม่ิ (Start)
2. คลิกคาส่งั แผงควบคุม (Control Panel)
3. คลกิ คาสั่ง บญั ชีผใู้ ช้ (User Accounts)
4. คลิกคาสงั่ จัดการบัญชีผู้ใชอ้ ื่น (Manage another account)
5. คลกิ เลอื ก ผูใ้ ช้ทีต่ ้องการตง้ั รหัสผา่ น
6. คลิกคาส่ัง สรา้ งรหสั ผ่าน (Create password)
7. ปอ้ นรหสั ผ่าน และยนื ยันรหัสผา่ น > คลกิ ปุ่ม สรา้ งรหัสผ่าน (Create password)
3
การจัดการไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
การสร้างไฟล์และโฟลเดอร์
วิธจี ัดเกบ็ ข้อมูลตา่ ง ๆ อย่างเป็นระเบียบเม่อื มปี รมิ าณมากข้ึน คอื การสรา้ งโฟลเดอร์ใหม่สาหรับจดั เก็บข้อมูลทเ่ี กีย่ วข้อง
กัน เพ่ือสะดวกในการค้นหา และทาให้หน้าตา่ งการทางานกับโฟลเดอร์ดูไมร่ กเกินไปด้วยสาหรับขั้นตอนการสร้างโฟลเดอรใ์ หม่ มี
ดังน้ี
วิธีท่ี 1
1. คลิกปุ่ม สรา้ ง จากเมนบู นหนา้ ตา่ งวนิ โดวส์
2. จะปรากฏไอคอนโฟลเดอร์ใหม่ขึ้น จากนั้นให้พมิ พ์ชอ่ื โฟลเดอรท์ ี่ตอ้ งการ แลว้ กด Enter บนแป้นพิมพ์
วิธีท่ี 2
1. คลกิ เมาสป์ ่มุ ขวาบริเวณทว่ี ่างในโฟลเดอรท์ ี่ต้องการสร้างโฟลเดอรย์ ่อย
2. เลือกคาสัง่ สรา้ ง > โฟลเดอร์ เพ่ือสรา้ งโฟลเดอร์ใหม่ได้
3. จากน้นั ใหพ้ มิ พ์ช่อื โฟลเดอร์ท่ตี อ้ งการ แล้วกดปมุ่ Enter บนแป้นพมิ พ์
การเคล่ือนยา้ ย และคดั ลอกไฟล์/โฟลเดอร์
การเคล่อื นย้ายไฟล/์ โฟลเดอร์ (Move) เป็นการย้ายขอ้ มูลไปยงั ตาแหนง่ ใหม่
การคัดลอกไฟล์/โฟลเดอร์ (Copy) เป็นการสาเนาข้อมูลไปเกบ็ อีกที่หนง่ึ ซ่ึงเม่ือคัดลอกไฟล์/โฟลเดอรแ์ ล้ว ต้นฉบบั กย็ ัง
อยูท่ เี่ ดมิ
วิธที ่ี 1 : การเคลอื่ นยา้ ย/คดั ลอกไฟล์ด้วยการใช้เมาส์ลาก
สาหรับการเคล่ือนย้าย และคัดลอกไฟล์/โฟลเดอร์ มีขั้นตอนที่คล้ายกัน โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือ การเลือกไฟล์/
โฟลเดอร์ท่ีต้องการย้าย แล้วแดรกเมาส์ลากไฟล์/โฟลเดอร์ ไปไว้ที่ตาแหน่งใหม่ ซึ่งวิธีน้ีเรียกว่า Drag and Drop (แดรก
แอนด์ดรอบ)
หรอื เรยี กอยา่ งงา่ ย ว่าลากและวาง
1. เปดิ หน้าต่างไฟลต์ น้ ทาง และเปิดหน้าตา่ งปลายทางทต่ี ้องการย้าย หรอื คัดลอกไฟล์/โฟลเดอร์
2. คลกิ เมาส์เลอื กไฟล/์ โฟลเดอร์ ทต่ี ้องการย้าย หรอื คดั ลอก
3. ถ้าตอ้ งการ ยา้ ยไฟล์/โฟลเดอร์ ใหค้ ลิกเมาสค์ า้ งไว้ และลากไฟล/์ โฟลเดอร์ ท่ีเลอื กไวไ้ ปยังหนา้ ตา่ งปลายทาง
4. ถ้าต้องการ คัดลอกไฟล์/โฟลเดอร์ ให้เลือกไฟล์ แล้วคลิกเมาส์ค้างไว้ และลากไฟล์/โฟลเดอร์ ท่ีเลือกไปยังหน้าตา่ ง
ปลายทาง โดยให้กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ดว้ ย วิธีน้ีจะเป็นการคัดลอกไฟล์/โฟลเดอร์ ไม่ใช่การเคลอื่ นย้าย ซึ่งไฟล์ต้นทาง
ยงั คงอยทู่ ่ีเดิม ไม่หายไปไหน
วธิ ีท่ี 2 : ใชก้ ารคลิกขวาที่ไฟล/์ โฟลเดอร์
1. เปดิ หนา้ ตา่ งเก็บไฟลต์ น้ ทาง และเลือกไฟล์
2. คลกิ เมาส์ขวา และเลอื กคาสงั่ ตดั เพื่อเคล่ือนย้าย หรอื คาส่งั คดั ลอก เพอ่ื ทาสาเนา
3. เปดิ โฟลเดอรป์ ลายทางขึ้นมา
4. คลกิ เมาส์ขวา และเลือกคาสั่งวาง
4
ท่ีต้ังของไฟลข์ ้อมลู
ในการดาวนโ์ หลดไฟลจ์ ากอินเทอรเ์ น็ต จะมีข้ันตอน ดังนี้
1. เปดิ Chrome และไปยังหน้าเวบ็ ทต่ี อ้ งการดาวน์โหลดไฟล์
2. คลิกขวาทไ่ี ฟล์แลว้ เลือกบันทกึ เป็น…
3. เลือกตาแหนง่ ทตี่ อ้ งการบนั ทกึ ไฟล์ จากน้ันคลกิ บันทกึ
4. เมือ่ ดาวนโ์ หลดไฟลเ์ สรจ็ สน้ิ แล้ว จะเห็นไฟล์ท่ีด้านล่างของหน้าต่าง Chrome คลกิ ช่อื ไฟล์เพอื่ เปดิ ไฟล์
5. ไมบ่ งั คบั : คลิก “ดาวนโ์ หลด” Download arrow for computers ขา้ งช่อื ไฟล์ จากนั้นคลิกแสดงในโฟลเดอร์เพื่อ
คน้ หาไฟล์ดังกลา่ วในคอมพิวเตอร์
** ปกตติ าแหน่งเริ่มตน้ ในการดาวนโ์ หลดของ Google Chrome จะดาวน์โหลดไปยงั ตาแหน่ง ดังตอ่ ไปน้ี
Windows Vista / Windows 7 / Windows 8 / Windows 10: \ Users \ <ชอ่ื ผูใ้ ช>้ \ Downloads
ตัวอย่างเช่น C:\Users\ช่ือผู้ใช\้ Downloads
Mac: / Users / <ชอื่ ผูใ้ ช>้ / Downloads
Linux: home / <ชื่อผู้ใช>้ / Downloads
การอนุญาตสทิ ธจ์ิ ัดการไฟล์
การกาหนดสิทธิ์ให้กับไฟล์เอกสาร ผู้สร้างไฟล์ สามารถกาหนดสิทธิ์ให้กับผู้ใช้ (User) อื่นๆ โดยกาหนดให้ไม่สามารถ
แกไ้ ข ดดั แปลง ไฟล์ขอ้ มูลบางไฟลไ์ ด้ มีข้นั ตอนดังน้ี
1. คลิกขวาท่ีไฟลเ์ อกสาร > เลือกคาสั่ง คณุ สมบัติ (properties)
2. คลิกแท็บ ความปลอดภัย (Security) และคลิกปมุ่ แกไ้ ข (Edit)
3. คลกิ ผู้ใช้ทีจ่ ะกาหนดสิทธ์ิ > คลิก Check Box ปฏเิ สธ (Deny) การปรับเปลย่ี น (Modify) > ตกลง (OK)
5
ทอี่ ยู่ (IP Address)
IP Address คือ หมายเลขประจาเครื่องนั่นคือเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเคร่ืองที่อยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต จะต้องมี
หมายเลขประจาเครื่องที่ไม่ซ้ากันเลย เรียกว่า IP Address หรือ Internet Address เพื่อใช้เป็นตัวชี้เฉพาะในระบบเม่ือมีการ
ติดตอ่ สอื่ สารภาษาสื่อสารจะใช้ภาษา TCP/IP จะให้หมายเลข IP Address ของ เครอ่ื งต้นทางและปลายทางนี้ในการกากับข้อมูลที่
ส่งผ่านไปในระบบ เพ่ือให้สามารถส่งผ่านไปยังที่หมายได้อย่างถูกต้อง ดังน้ันถ้าเปรียบเคร่ืองแต่ละเครื่องเป็นบ้านแต่ละหลัง IP
Address ก็คอื บ้านเลขทีข่ องบ้านแต่ละหลังน่นั เอง
IP Address จะประกอบด้วยข้อมูลจานวน 32 บิต โดยแยกออกเป็น 4 ส่วน ๆ ละ 8 บิต โดยแต่ละส่วนจะคั่นด้วย
เครื่องหมายจุด เช่น 208.48.176.11 เป็น IP Address ของเครื่องเคร่ืองหน่งึ นน่ั เอง
การซอ่ มแซม และถอนการติดตั้งโปรแกรม
ผูใ้ ช้สามารถถอนการติดตั้งโปรแกรมจากคอมพิวเตอร์ของตน เมอ่ื ไม่ต้องการโปรแกรมนน้ั อกี ต่อไป หรืออาจจะมคี วามต้องการเพ่ิม
เนอ้ื ท่ีวา่ งบนฮารด์ ดิสก์ ผูใ้ ชจ้ ะสามารถใช้ “โปรแกรมและคุณลกั ษณะ” เพื่อถอนการตดิ ตัง้ โปรแกรม หรอื เปลี่ยนการกาหนดคา่ ของโปรแกรม
ดว้ ยการเพิ่ม หรอื เอาตัวเลือกบางตวั ออก หลังจากมกี ารตดิ ตงั้ โปรแกรมบนคอมพวิ เตอรไ์ วก้ ่อนแล้ว ใหป้ ฏบิ ัติดงั น้ี
1. คลกิ ปุ่ม เร่ิม (Start)
2. คลิกคาสัง่ แผงควบคุม (Control panel)
3. คลิกคาสงั่ โปรแกรมและคณุ ลักษณะ (Programs and Features)
4. คลกิ เลอื ก โปรแกรมท่ตี อ้ งการถอนการตดิ ตั้ง คลิกป่มุ ถอนการติดตั้ง (Uninstall)
6
บางโปรแกรมจะมีตัวเลือกให้เปลี่ยนแปลง หรือซ่อมแซมโปรแกรม นอกเหนือจากการถอนการตดิ ตั้งโปรแกรม แต่หลายโปรแกรม
จะมใี หเ้ พียงตวั เลือกสาหรับถอนการติดต้งั เทา่ นัน้ เมือ่ ตอ้ งการเปล่ียนแปลงโปรแกรมใหป้ ฏิบตั โิ ดยคลกิ เปลี่ยนแปลง หรอื ซอ่ มแซม ซง่ึ ตอ้ งใช้
สิทธร์ิ ะดบั ผดู้ แู ล โดยจะมหี น้าต่างใหใ้ สร่ หสั ผ่านของผู้ดูแล หรอื การยืนยัน ให้พมิ พ์รหสั ผา่ น หรอื ทาการยืนยันกอ่ น
7
สารบัญ
การสารองไฟลข์ อ้ มลู ............................................................................................................................................. 1
รปู แบบการสารองไฟล์ขอ้ มลู ............................................................................................................................ 1
การคนื ค่าระบบ (System Restore)..................................................................................................................... 3
A
การสารองไฟล์ขอ้ มูล
การสารองไฟล์ข้อมูล (Backup Files) คือ เป็นการคัดลอกแฟ้มขอ้ มูลเพอ่ื ทาสาเนา เพ่ือหลีกเล่ียงความเสียหายที่จะเกิดข้ึน หาก
ข้อมูลเกิดการเสียหายหรือสญู หาย โดยสามารถนาขอ้ มูลที่สารองไว้มาใช้งานได้ทันที เช่น แฟ้มข้อมูลหนึ่งเก็บไว้ในแผ่น Diskette และเกบ็
ขอ้ มลู เดยี วกันไวใ้ น Harddisk ดว้ ย แถมยงั เขยี นลง CD-RW เก็บไวท้ ่ีบา้ นอีกทีหนงึ่ กค็ ือ การสารองขอ้ มูลหลายครั้ง เปน็ การลดความเสี่ยงใน
การสญู เสยี ต่อข้อมูลในแฟ้มขอ้ มลู น้ัน
ข้อมูลในการสารองไฟลข์ อ้ มลู
1. ขอ้ มลู ทีส่ าคัญทจี่ าเปน็ ตอ้ งสารองอย่เู สมอ คือ ข้อมูลส่วนตัว เชน่ ไฟลเ์ อกสารตา่ ง ๆ หรอื ไฟล์รปู ภาพ
2. ผใู้ ช้ควรสารองข้อมูลอย่างสมา่ เสมอ เพ่อื ปอ้ งกันอปุ กรณ์ทเ่ี กบ็ ข้อมูลเสยี หาย อาทเิ ชน่ ไฟล์ตดิ ไวรัส หรือ ฮาร์ดไดร์ฟเสีย เป็น
ต้น
การสารองข้อมูลท่ีดีควรกระทาดังน้ี
1. ควรสารองข้อมูลไว้ที่แตกตา่ งกันไป เช่น สารองไว้ท่ีฮาร์ดไดร์ฟภายนอก (External hard disk) สารองไว้ในเฟลชไดรฟ์ และ
บนระบบคลาวด์ เป็นตน้
2. ควรเก็บขอ้ มูลที่สารองไวค้ นละที่กับข้อมูล เชน่ ควรเกบ็ ขอ้ มูลที่สารองไวภ้ ายนอกบ้าน หรอื สานกั งาน
3. ข้อมลู ทีส่ ารองควรมีการเข้ารหสั
ประโยชน์ของการสารองขอ้ มลู
1. เพ่ือปอ้ งกันทง้ั การลบ หรอื ทาข้อมูลสูญหาย ทัง้ ที่ตัง้ ใจ และไม่ตั้งใจ
2. กู้ข้อมูลเกา่ ทเ่ี กิดจากการแกไ้ ขขอ้ มูลปัจจุบันแลว้ มปี ญั หา หรือไฟลท์ ม่ี ีใชง้ านไม่ได้ ต้องการกลับไปใช้ต้นฉบับก่อนหนา้ น้ี
3. ป้องกันอุปกรณ์เก็บข้อมูลเสียหาย หรือโดนขโมย หากอุปกรณ์สาหรับเก็บข้อมูลหายไป ผู้ใช้ก็สามารถใช้ข้อมูลท่ีสารองไ ว้
จากอุปกรณเ์ กบ็ ขอ้ มูลตัวอ่นื แทนได้
การสารองข้อมูลสามารถทาไดห้ ลายวธิ ี เชน่
1. ใชโ้ ปรแกรมการคนื ค่าระบบ หนึ่งในโปรแกรมสารอง และเรยี กขอ้ มลู กลบั คืน หากวนิ โดวม์ ปี ัญหา สามารถใชก้ ารคนื คา่ ได้ทนั ที
2. ใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ เมื่อต้องการใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ ให้ไปที่ เร่ิม โปรแกรมทั้งหมด เบ็ดเตล็ด
เครือ่ งมอื ระบบ การสารองข้อมูล
3. สารองขอ้ มลู ด้วยอปุ กรณ์ฮาร์ดแวร์ เชน่ ฮาร์ดดิสกแ์ บบติดต้งั ภายนอกผ่านพอร์ต USB ท่ีมักใช้กบั การสารองขอ้ มูลขนาดใหญ่
ซิปไดร์ฟ (Zip Drive) เคร่ืองบันทึก DVD/CD นอกจากนั้นยังมีการใช้แฟลชเมมโมรี่ความจุสูง รวมท้ังไมโครไดร์ฟที่ใช้กับ
อุปกรณ์โมบายมาสารองขอ้ มลู ด้วยเช่นกัน
4. ใช้โปรแกรมสารองข้อมลู เชน่ Symantec NetBackup, Symantec BackupExec, Norton ghost เปน็ ต้น
รปู แบบการสารองไฟล์ข้อมูล
แหลง่ เกบ็ ข้อมลู ทส่ี ะดวกทสี่ ุดสาหรับการสารองข้อมูลอาจเปน็ ภายในเครื่องคอมพิวเตอรข์ องผูใ้ ช้เอง (ในกรณีที่มพี ้นื ทวี่ ่าง
เพียงพอ) ซึ่งดีกว่าไม่มีการสารองข้อมูลไว้ แต่การสารองข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถลดความเสี่ยงให้กับข้อมูลของผู้ใช้มากนัก
ทางเลือกที่ดีท่ีสุดคือ การใช้ระบบการเก็บข้อมูลที่อยู่ภายนอกบ้าน หรือสานักงานของผู้ใช้ โดยอาจพิจารณาใช้รูปแบบการเก็บ
ข้อมูลบางอยา่ งตอ่ ไปน้ี
1
ประเภทของท่เี ก็บข้อมลู ข้อดี ข้อเสีย
ไดร์ฟท่ตี ดิ ต้ังภายนอก มีซอฟตแ์ วรส์ ารองข้อมลู ให้ ตอ้ งลงทนุ ซ้ือฮารด์ แวร์ และ
มตี วั เลือกของประเภททเ่ี ก็บ บางกรณีจะต้องซ้ือแผ่นดสิ กด์ ้วย
ไดรฟ์ ZIP (ขนาด 750MB) ข้อมลู
สาหรบั ผใู้ ชท้ วั่ ไป
ฮาร์ดดสิ ก์ (ขนาด 250 GB)
สาหรบั ผ้ใู ช้งานมาก
CD-RW ในปจั จุบันมักมีการตดิ ตั้ง CD- การเก็บข้อมลู ให้เตม็ ความจุ
RW ของแผน่ ดสิ ก์อาจทาได้ยาก
มากับคอมพิวเตอร์เครอ่ื งใหมด่ ้วย
แผน่ ดสิ ก์ CD-RW สามารถ
เกบ็ ขอ้ มลู ได้ถงึ 700 MB
DVD RW เก็บขอ้ มลู ไดห้ ลายกิกะไบต์ ตอ้ งซื้อไดร์ฟมาเพ่ิมเตมิ
ดว้ ยแผ่นดิสกเ์ พยี งแผน่ เดยี ว
ไมม่ ซี อฟต์แวรส์ ารองข้อมลู ให้
มา
พรอ้ มกับไดรฟ์
การสารองข้อมลู และทเี่ กบ็ ข้อมลู แบบ สามารถถ่ายโอนข้อมูลจาก อาจต้องเสียค่าธรรมเนยี มราย
ออนไลน์ เช่น iback up และ iStorage บา้ น เดือนสาหรบั การสารองและ/หรือเกบ็
หรอื สานักงานของคณุ โดยอัตโนมัติ ข้อมูล
มซี อฟต์แวร์สาหรบั การดาวน์ ในกรณที ี่เซิร์ฟเวอรข์ องบริษัท
โหลดและสารองข้อมลู ให้ ไม่ทางาน ผใู้ ช้อาจไมส่ ามารถเขา้ ถงึ
ข้อมูลของตวั เองได้
ในกรณที ่ีมีการเจาะระบบของ
บรษิ ทั ขอ้ มลู ของผใู้ ช้อาจถกู ขโมย
ในกรณที ่บี รษิ ัทเลิกดาเนิน
กจิ การ
จะสูญเสียทรพั ยากรในการสารอง
ขอ้ มลู
การสารองขอ้ มูลแบบออนไลน์ สามารถสารองขอ้ มลู ได้หลายรูปแบบ ดังตอ่ ไปน้ี
การสารองขอ้ มลู ลงบน iCloud
2
เป็นการสารองข้อมูลผ่านระบบอินเทอรเ์ น็ต โดยระบบจะสารองข้อมูลของเคร่ืองไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแอปเปิลอัตโนมตั ิ
เมอ่ื เคร่อื งiPhone, iPod touch และ iPad เชื่อมตอ่ อินเทอรเ์ น็ตผ่าน Wi-Fi และเสียบปล๊ักทิง้ ไว้ (ระบบบงั คบั ใหช้ ารจ์ แบตเตอร์ร่ี
เพื่อปอ้ งกันเคร่ืองดับกอ่ นสารองข้อมูลเสรจ็ ) การสารองข้อมูลผา่ น iCloud ทาได้ผา่ น Wi-Fi เท่านั้น ไมส่ ามารถสารองขอ้ มูลโดยใช้
3G หรอื 4G
ขน้ั ตอนการสารองข้อมลู ดว้ ย iClound ดังน้ี
1. เช่อื มต่ออุปกรณ์ของผู้ใช้กับเครือขา่ ย Wi-Fi
2. ใน iOS 8 หรือใหม่กว่า เลอื ก การต้ังคา่ iCloud การสารองขอ้ มูล
3. ตรวจสอบใหแ้ น่ใจวา่ การสารองข้อมูล iCloud เปดิ อยู่
4. เลอื ก สารองข้อมลู ตอนน้ี ระบบจะเชื่อมต่อกับเครือขา่ ย Wi-Fi ของผู้ใชจ้ นกว่ากระบวนการจะเสร็จสมบูรณ์
5. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการสารองข้อมูลเสร็จสิ้น โดยแตะที่ การตงั้ คา่ iCloud พ้ืนทเ่ี กบ็ ข้อมลู จัดการพ้ืนที่
เก็บข้อมูล แล้วเลือกอุปกรณ์ของผู้ใช้ ข้อมูลสารองท่ีเพิ่งสรา้ งจะปรากฏ พร้อมด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับเวลา และ
ขนาดของขอ้ มูลท่ีสารอง
การสารองข้อมลู บนเดสก์ท็อป มีขอ้ ควรระวงั ในการสารองขอ้ มูล ดงั น้ี
1. การสารองขอ้ มลู บนเดสก์ทอ็ ป มคี วามจขุ องพืน้ ท่เี กบ็ ขอ้ มูลอย่างจากดั
2. การสารองข้อมลู ไวบ้ นเดสกท์ อ็ ป มคี วามเส่ยี งทขี่ อ้ มลู นนั้ จะเสียหาย หากเดสก์ท็อป นั้นเสียหาย
3. ขอ้ มูลที่สารองควรมีการเข้ารหัส
การสารองขอ้ มูลออนไลน์ สามารถเขา้ ถงึ ได้ทางอินเทอร์เนต็
การสารองขอ้ มูลผ่านแอพพลเิ คช่ัน ตัวอย่าง แอปพลิเคชันที่สามารถสารองข้อมูลของ iPhone คอื iCloud หรือ iTunes
เปน็ ตน้
การสารองขอ้ มลู ในฮาร์ดไดร์ฟ คอื ฮารด์ ไดร์ฟภายนอกต้องเช่อื มต่อกบั คอมพิวเตอร์สาหรับการสารองข้อมูลในแตล่ ะครงั้
และสามารถถูกเก็บไวใ้ นที่ปลอดภัยและห่างไกลได้
การคนื คา่ ระบบ (System Restore)
ในกรณที ่รี ะบบเกดิ ความเสียหาย ผใู้ ช้สามารถใช้คุณสมบัติการคืนค่าระบบ (System Restore) เพ่ือเรยี กคนื ระบบ ณ วนั ที่ระบบ
ทางานเป็นปกตไิ ด้
3
การสร้างจุดคนื คา่ (Restore Point)
ในกรณีท่ีระบบเกิดความเสียหาย ผู้ใช้สามารถใช้คุณสมบัติการคืนค่าระบบ (System Restore) เพ่ือเรียกคืนระบบ ณ วันที่
ระบบทางานเปน็ ปกติได้
1. คลกิ ขวาทไี่ อคอน คอมพวิ เตอร์ (This PC) -> เลอื กคาสั่ง คุณสมบัติ (Properties)
2. สังเกตดา้ นซ้ายมือ คลิกคาส่ัง การปอ้ งกนั ระบบ (System protection)
3. ท่ีแท็บ การป้องกันระบบ คลิกป่มุ สรา้ ง... (Create…)
4
4. ตง้ั ชือ่ จุดคนื คา่ -> คลกิ ปุม่ สรา้ ง (Create…)
ต้งั ชื่อจุดคืนค่า
5. คลิกปมุ่ ปิด (Close)
การคืนค่าระบบ (System Restore)
1. คลกิ ขวาทไ่ี อคอน คอมพวิ เตอร์ (This PC) > เลือกคาส่ัง คุณสมบัติ (Properties)
2. สังเกตด้านซ้ายมือ คลกิ คาสัง่ การปอ้ งกนั ระบบ (System protection)
5
3. ทแ่ี ท็บ การปอ้ งกนั ระบบ คลกิ ปุม่ การคนื คา่ ระบบ
4. คลิกป่มุ ถดั ไป
5. คลิกปุ่ม ถดั ไป
6. คลิกป่มุ เสร็จสนิ้
6
7. คลิกปุ่ม ใช่
7
สารบัญ
การถ่ายโอนไฟล์ .................................................................................................................................................... 1
คัดลอกไฟล์ไปยังอปุ กรณ์ภายนอก ................................................................................................................... 2
การแบ่งปันไฟล์ให้กับผูร้ บั เป็นกลุ่ม .................................................................................................................. 2
การบบี อดั ไฟล์และการแยกไฟล์ท่ีถูกบบี อัด............................................................................................................ 2
A
การถ่ายโอนไฟล์
การโอนถ่ายไฟลข์ ้อมลู ระหว่างอุปกรณ์
การโอนถา่ ยไฟล์จากสมารท์ โฟนไปยงั เดสก์ทอ็ ป สามารถทาได้หลายวธิ ี ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. การโอนไฟล์ผา่ นสาย Mini USB
ปกติมือถอื Android จะมสี าย Mini USB สาหรับการเชื่อมต่อกบั คอมพิวเตอร์ เพอื่ ถ่ายโอนข้อมลู มาใหใ้ นทกุ ร่นุ
มคี วามสะดวก อกี ทัง้ ยงั สามารถเชอ่ื มตอ่ มือถือ Android ไดก้ บั คอมพิวเตอร์ทุกเคร่อื ง ใชง้ านได้เหมอื นเป็นแฟลชไดรฟ์
2. ใช้แอพ เชน่ Samsung Smart Switch ในการเชื่อมต่อมือถอื กบั คอมพิวเตอร์
3. ใช้ระบบคอมพิวเตอรค์ ลาวด์
การถา่ ยโอนไฟลโ์ ดยใช้เครอื ข่ายไรส้ ายสาธารณะ
เครือข่ายไร้สายสาธารณะนั้น จะเป็นจุดท่ีผู้ใช้สามารถเข้ามาใช้เครือข่ายกันได้อย่างง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการใช้งาน
ประเภทรบั -ส่งอเี มล การเขา้ เว็บไซต์ตา่ งๆ และการถา่ ยโอนไฟล์ ซงึ่ สงิ่ ที่ควรหลีกเล่ียงในการถ่ายโอนไฟล์บนเครือขา่ ยสาธารณะ มี
ดังน้ี
1. ไฟล์ทตี่ ้องการโอนถ่ายมีขนาดใหญเ่ กนิ ไป
2. ข้อมูลในไฟลเ์ ปน็ ขอ้ มูลสว่ นบุคคล หรอื มคี วามละเอยี ดอ่อน
วธิ ีการถ่ายโอนไฟลข์ อ้ มลู ขนาดใหญ่
การถา่ ยโอนไฟลข์ ้อมลู ขนาดใหญ่ สามารถทาไดห้ ลายวธิ ี เชน่
1. การใช้ฮารด์ ไดรฟ์ แบบพกพา หรืออปุ กรณ์เกบ็ ข้อมูล
2. การบนั ทกึ ขอ้ มูลลงบนแผน่ CD หรอื DVD
3. การใช้เซิร์ฟเวอรไ์ ฟล์ทแ่ี ชร์
4. การส่งผ่านทางอเี มล
5. การส่งไฟล์ขนาดใหญด่ ว้ ย Google Drive หรือ One Drive หรือ Dropbox
6. การใช้ FTP (File Transfer Protocal)
7. การส่งผา่ น Bittorrent
1
คดั ลอกไฟล์ไปยังอปุ กรณภ์ ายนอก
เช่น แฟลชไดร์ฟ หรือฮาร์ดไดรฟ์ สามารถทาได้โดยคลิกขวา ไฟลท์ ี่ต้องการคดั ลอก > เลอื กคาส่งั ส่งไปยัง > เลือก Flash drive
การแบง่ ปนั ไฟล์ให้กบั ผรู้ ับเป็นกลมุ่
การแบง่ ปันไฟล์ขอ้ มลู คือการแบง่ ปันการใช้งานร่วมกนั ไม่วา่ จะเป็นเอกสาร รูปภาพ วดิ โี อ ท่ีเก็บไวจ้ ากศูนย์กลางท่ีเดียว
คอยให้บริการกบั Client User สามารถเขา้ ไปใช้งานโดยทไ่ี มต่ อ้ งเกบ็ ไวก้ บั เครอื่ งตนเอง และยงั สามารถกาหนดสิทธกิ์ ารเข้าถงึ ไฟล์
หรือโฟล์เดอรเ์ หลา่ น้ันไดอ้ ีกด้วย
การแบง่ ปนั การใช้งานร่วมกันไม่วา่ จะเปน็ เอกสาร รูปภาพ วดิ โี อ ทถ่ี กู เกบ็ ไวจ้ ากศูนยก์ ลาง และยังสามารถกาหนดสทิ ธ์ิ
การเข้าถงึ ไฟลไ์ ด้อกี ดว้ ย ผใู้ ชส้ ามารถใชก้ ารแบง่ ปนั ไฟล์ให้กบั ผู้รับเปน็ กลุ่มได้ ดังนี้
1. บันทึกไฟล์ลงในแฟม้ เครือข่ายทต่ี ้องการแชร์
2. อัพโหลดไฟล์ลงในบรกิ ารเก็บข้อมูลคลาวด์ และให้การเข้าถึงไฟลก์ ับทุกคนในกลุ่ม เหมาะสาหรับไฟลท์ ี่มีขนาดใหญ่
เชน่ 1 GB, 10 GB, 50 GB เป็นต้น
3. คัดลอกไฟล์ลงในซดี ี ดีวีดี หรือแฟลชไดรฟ์ แล้วส่งสาเนาไปยงั สมาชกิ ในกลุม่
การบีบอัดไฟลแ์ ละการแยกไฟลท์ ี่ถกู บีบอัด
การบบี อัดไฟล์ (Zip File)
วธิ จี ดั การไฟล์ท่มี ีขนาดใหญใ่ ห้ไฟลม์ ีขนาดเลก็ ลง เพือ่ สะดวกตอ่ การจัดเกบ็ หรอื ในการส่งถึงผู้รับทางอเี มลท่มี ีขอ้ จากัดใน
การส่งทกี่ ารบบี อดั ไฟลน์ นั้ มปี ระโยชนด์ งั นี้
1. เพ่ือลดขนาดไฟล์ และเพม่ิ ความรวดเร็วในการอัพโหลดไฟล์ หรอื ดาวน์โหลดไฟลข์ อ้ มลู ทางออนไลน์
2. เพอ่ื รักษาโครงสร้างของไฟลเ์ มือ่ แบ่งปนั ไฟล์กับคนอืน่ ๆ
3. เพื่อรักษาการจัดกล่มุ ของไฟล์ หรอื รายชือ่ เมื่อแบง่ ปันไฟล์กับคนอ่ืน ๆ
2
** กรณีที่ผู้ใชต้ ้องการสง่ ไฟลข์ นาด 30 MB ข้ึนไปผา่ น Gmail ซึ่ง Gmail รองรับการแนบไฟลไ์ ดส้ งู สดุ เพยี ง 25 MB ผู้ใช้จาเป็นต้อง
บบี อัดไฟล์ เพอื่ ใหก้ ารทางานน้ันสาเรจ็ เรยี บร้อย
3
สารบญั
ความหมายของคลาวด์ .......................................................................................................................................... 1
การบรกิ ารทางคอมพิวเตอร์กับระบบคลาวด์ ......................................................................................................... 1
การใชค้ ลาวดแ์ ละประโยชนจ์ ากคลาวด์ ................................................................................................................. 2
ประเภทของบรกิ ารระบบคลาวด์........................................................................................................................... 3
การใชเ้ วบ็ แอปพลเิ คชัน ......................................................................................................................................... 4
พื้นที่จดั เกบ็ ทางออนไลน์ (OneDrive)................................................................................................................... 4
A
ความหมายของคลาวด์
ซอฟต์แวร์และการบริการที่ทางานบนอินเทอร์เน็ตแทนที่จะทางานบนคอมพิวเตอร์ ทาให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากรทางด้าน
คอมพวิ เตอรต์ ่าง ๆ ตามตอ้ งการได้ โดยผา่ นเครือขา่ ย หรืออนิ เทอรเ์ นต็
การบรกิ ารทางคอมพวิ เตอร์กบั ระบบคลาวด์
1. การบริการทางคอมพิวเตอร์ของคลาวดอ์ าจเปรยี บได้กับการใช้ Software-as-a-Service (SaaS) และ
ไม่จาเปน็ ตอ้ งเป็นการจดั เก็บขอ้ มลู เพยี งอย่างเดยี ว
2. บริการเก็บขอ้ มูลในระบบคลาวดน์ น้ั สามารถเรยี กเก็บแยกกนั สาหรบั ปรมิ าณขอ้ มลู ทีจ่ ัดเกบ็ ได้
3. แอพพลเิ คชั่นบนเดสก์ทอ็ ป และอปุ กรณส์ อ่ื สารเคลื่อนที่ สามารถต้งั ค่าสาหรับการซิงคข์ ้อมลู โดยใชบ้ รกิ ารของระบบคลาวด์ได้
1
การใช้คลาวดแ์ ละประโยชน์จากคลาวด์
การเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกท่ีที่สามารถเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตได้ และยังช่วยให้สามารถ
แบ่งปันไฟล์กับผู้รับอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น ซ่ึงในปัจจุบันผู้ใช้สามารถนาระบบคลาวด์มาประยุกต์ใช้กับงานได้ การใช้ฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพา หรือ
อุปกรณ์เกบ็ ขอ้ มูล
ประโยชนข์ องระบบคอมพิวเตอรค์ ลาวด์
1. ช่วยลดตน้ ทนุ เชน่ ต้นทนุ การซ้อื ฮารด์ แวรก์ ารบารงุ รกั ษาระบบ
2. เริ่มใช้งานไดเ้ ร็ว ไม่ต้องรอขั้นตอน หรือกระบวนการจดั ซื้อ/จัดจา้ ง
3. มคี วามยดื หยุ่นในการการเพิม่ หรือลดทรัพยากรไดต้ ามความตอ้ งการ
4. ตอ้ งการใชม้ ากจ่ายมาก ใชน้ อ้ ยจ่ายนอ้ ย
5. อย่ภู ายใต้การดูแลของผ้เู ชยี่ วชาญ
6. การใชท้ รัพยากรมีประสิทธภิ าพมากขน้ึ
2
ซึ่งในปัจจุบนั ผ้ใู ชส้ ามารถนาระบบคลาวด์มาประยกุ ตใ์ ชก้ บั งานได้ เชน่
1. ใช้เปน็ เครอ่ื งมือจดั การความสัมพนั ธ์กบั ลูกค้า (CRM)
2. ใช้ทางานเอกสารพรอ้ ม ๆ กัน เชน่ Microsoft Office365
3. การประชมุ ผา่ นเวบ็
4. การบันทึกไฟลล์ งระบบคลาวด์ เชน่ บนั ทึกไฟลล์ งใน Google Drive, การอพั โหลดรูปภาพลง Instagram
ประเภทของบรกิ ารระบบคลาวด์
Software as a Service (SaaS)
เป็นการใช้ หรือเช่าบริการซอฟต์แวร์ หรือแอพพลิเคช่ันผ่านอินเทอร์เน็ต โดยประมวลผลบนระบบของผู้ให้บริการ ทาให้ไม่ต้อง
ลงทุนในการสรา้ งระบบคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ เพราะซอฟตแ์ วรจ์ ะถกู เรยี กใช้งานผา่ นระบบ Cloud
บางกรณี SaaS อาจหมายถึง ซอฟต์แวร์ตามความต้องการ หรือ "on-demand software" คือ รูปแบบการให้บริการด้าน
ซอฟตแ์ วร์ โดยที่ตัวซอฟต์แวร์และข้อมลู ทีเ่ กดิ ขนึ้ จากการใช้งานซอฟต์แวร์นั้น จะฝากไว้ท่ีผ้ใู หบ้ ริการ ผู้ใช้งานสามารถเขา้ ถึงตัวซอฟต์แวร์ได้
ดว้ ยบราวเซอร์ โดยผา่ นเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็
Platform as a Service (PaaS)
ผู้ให้บริการจะเตรียมระบบ Server เช่น เครื่อง Server ท่ีติดต้ังระบบฐานข้อมูล Web server, Runtime, Software Library,
Frameworks ต่าง ๆ เอาไว้ให้เรียบร้อย ซ่ึงส่ิงต่าง ๆ ท่ีผู้ให้บริการเตรยี มไว้ให้เรียกว่า Platform ซ่ึงจะทาให้ลดต้นทุน และเวลาที่ใช้ในการ
พฒั นาซอฟท์แวร์อย่างมาก ตวั อย่าง เชน่ Google App Engine, Microsoft Azure
Infrastructure as a Service (IaaS)
เป็นบริการให้ใช้โครงสร้างพื้นฐานทางคอมพิวเตอรอ์ ย่าง หน่วยประมวลผล ระบบจัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย ในรูปแบบระบบ
เสมอื น (Virtualization)
3
การใชเ้ ว็บแอปพลิเคชัน
ประโยชนใ์ นการใชง้ านเว็บแอพพลเิ คช่นั เมอื่ เปรยี บเทียบกับการใชโ้ ปรแกรมท่เี ก็บไว้บนเครอื่ งคอมพวิ เตอร์แล้ว มดี งั น้ี
1. ผใู้ ช้ไดใ้ ช้งานซอฟตแ์ วรร์ นุ่ ใหมล่ า่ สดุ และเช่ือถือไดม้ ากที่สดุ
2. เวบ็ แอพพลเิ คชั่นไมต่ อ้ งมกี ารลงตดิ ตง้ั โปรแกรม
3. เว็บแอพพลเิ คช่นั สามารถเข้าถงึ ไดแ้ ม้อยนู่ อกสานกั งาน
4. เว็บแอพพลิเคชัน่ ทน่ี ยิ มใชใ้ นการแบ่งบนั ไฟล์ และไฟล์นั้นสามารถอพั เดทในภายหลงั ไดแ้ ก่ OneDrive, Google Drive และ
Dropbox เป็นต้น
5. ผ้ใู ช้สามารถสรา้ งเอกสารจากแอพพลิเคชัน่ สานกั งานในเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เช่น Word, Excel หรือ PowerPoint แลว้ บันทกึ ไฟล์
เกบ็ ไวใ้ น OneDrive ได้ โดยการเลอื กคาสั่ง บันทึกเป็นไฟลใ์ นแฟ้ม OneDrive ของคณุ
พนื้ ทจี่ ดั เกบ็ ทางออนไลน์ (OneDrive)
การสรา้ งแฟม้ เอกสารใน OneDrive
1. คลกิ ไอคอน OneDrive ทป่ี มุ่ Start
2. คลกิ ขวา > ใหม่ (New) > โฟลเดอร์ (Forder)
4
3. ตง้ั ชือ่ แฟ้มเอกสาร
การคัดลอกขอ้ มลู จาก OneDrive นามาวางบนเดสกท์ อ็ ป
1. ดบั เบ้ลิ คลกิ แฟม้ เอกสาร เพอ่ื เลือกไฟล์ขอ้ มูลทีต่ อ้ งการคดั ลอก
2. คลิกขวาท่ี ไฟล์ข้อมูล เลอื กคาสงั่ คดั ลอก (Copy)
3. คลกิ ขวา บนหน้าจอเดสก์ทอ็ ป เลอื กคาส่ัง วาง (Paste)
5
สารบัญ
การจดั การรหสั ผ่าน (Password) .......................................................................................................................... 1
ภยั คุกคามแบบตา่ ง ๆ............................................................................................................................................ 1
ซอฟต์แวรก์ ารป้องกนั ไวรสั ............................................................................................................................... 2
มาตรฐานของการเขา้ รหสั เครือขา่ ยไรส้ าย ............................................................................................................. 3
การทางานของไฟร์วอลล์....................................................................................................................................... 3
ความปลอดภัยในการใช้งาน Social Media.......................................................................................................... 4
ความปลอดภยั ในการเลอื กซื้อสนิ ค้าผ่านเว็บ.......................................................................................................... 4
การใชง้ าน Virtual Private Network (VPN) ....................................................................................................... 4
A
การจัดการรหสั ผา่ น (Password)
การตัง้ รหัสผา่ นมขี อ้ ควรปฏิบตั ิ ดังน้ี
1. รหสั ผา่ นไม่ส้นั จนเกนิ ไป ต้องมคี วามยาวอย่างน้อย 8 ตัวอกั ษร
2. ตอ้ งประกอบไปด้วยตวั อกั ษร ตัวเลข และอกั ขระพิเศษ
3. ไม่ควรเป็นคาทีม่ ใี นดกิ ชนั นารี และไมค่ วรเรียงตามลาดับตามตวั อกั ษร
** ในกรณที ีผ่ ู้ใชม้ รี หัสผ่านหลายรหสั ผูใ้ ชค้ วรใชโ้ ปรแกรมจดั การรหสั ผ่านเพอื่ ถอดรหสั และเกบ็ รกั ษารหัสผ่านทางออนไลน์
ภยั คุกคามแบบตา่ ง ๆ
ฟิชช่งิ (Phishing) หมายถงึ การหลอกลวงทางอินเทอร์เนต็ เพอ่ื ขอข้อมูลท่ีสาคญั เช่น รหสั ผา่ น หรือหมายเลขบัตรเครดติ ลกั ษณะ
ของฟิชชิ่งอเี มล มดี งั น้ี
1. ผู้ใช้อาจถูกส่งไปยังเวบ็ ไซตป์ ลอมโดยอัตโนมัติ หากผูใ้ ชค้ ลกิ ลงิ ก์ทไ่ี ม่ได้ตรวจสอบ
2. ผใู้ ช้ถูกคุกคามด้วยขอ้ ความแจ้งเตอื นท่ีหลอกลวง
3. ผู้ใช้สังเกตุได้ว่า บญั ชอี เี มลของเพ่อื นได้ถูกเจาะขอ้ มลู เช่น เพอื่ นโพสต์ลิงกแ์ ปลก ๆ
ไวรสั (Virus) โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ท่มี ชี ดุ คาสัง่ ประสงคร์ า้ ย และสรา้ งความเสยี หายให้กบั ระบบของเครื่องคอมพวิ เตอรน์ ั้นๆ
1
สปายแวร์ (Spyware) ภัยคกุ คามท่อี อกแบบเพือ่ สงั เกตการณ์หรอื ดักจับขอ้ มลู โดยทผี่ ใู้ ชไ้ มร่ วู้ ่าได้ตดิ ตง้ั เอาไว้ สปายแวร์จะแอบดัก
ขอ้ มลู สถติ กิ ารใช้งานจากผู้ใชแ้ ล้วจะสง่ ไปยังบริษัทโฆษณาตา่ งๆ บางโปรแกรมอาจบนั ทึกว่าผใู้ ช้พิมพ์อะไรบ้าง เพอ่ื พยายามคน้ หา
รหสั ผ่าน หรอื เลขหมายบัตรเครดิต
ซอฟตแ์ วร์การป้องกันไวรัส
ซอฟต์แวร์ Anti-virus ทไ่ี ด้รบั ความนิยมในปัจจุบัน ไดแ้ ก่ McAfee VirusScan และ Norton AntiVirus โดยที่ McAfee
VirusScan จะสามารถตรวจสอบไฟล์ขอ้ มลู ประเภทตา่ ง ๆ และกาจดั ไวรัสทีต่ ดิ มากบั ไฟล์ได้
การใชโ้ ปรแกรมแอนตีไ้ วรัส (Anti-Virus) เพื่อป้องกันไวรสั ทเ่ี ป็นทร่ี ูจ้ ักไม่ให้ทาอันตรายต่อเคร่ืองคอมพิวเตอร์ และกาจัด
ถอดถอนไวรัส ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้ใชส้ ามารถป้องกนั ภยั คุกคาม เช่น ไวรัส, มัลแวร์, สปายแวร์ หรือผบู้ กุ รุก (Hacker) ท่ี
จะโจมตีระบบคอมพวิ เตอรไ์ ด้ดว้ ยวิธีการดังตอ่ ไปนี้
1. การใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัส (Anti-Virus) เพือ่ ป้องกนั ไวรัสทีเ่ ปน็ ท่รี จู้ ักไม่ใหท้ าอันตรายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ และกาจัด
ถอดถอนไวรัส ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์
2. การใช้โปรแกรมไฟร์วอลล์ (Firewall) ในการกาหนดกฎ (Rule) ในการปกป้องคอมพิวเตอร์จากการเข้าสู่เครือข่ายท่ี
อันตราย
2
มาตรฐานของการเขา้ รหสั เครือขา่ ยไรส้ าย
WPE: การเข้ารหสั ในยคุ แรกทีม่ ีการใช้งานเครือข่ายไรส้ าย ปจั จบุ ันไม่มคี วามปลอดภยั แล้วเพราะสามารถถูกเจาะโดยผบู้ กุ รุกได้
อย่างง่ายดาย
WPA: การเข้ารหสั ในยคุ ถัดมา ปจั จบุ นั ไมม่ คี วามปลอดภัยแลว้ เพราะสามารถถูกเจาะโดยผ้บู ุกรุกได้อย่างง่ายดาย แต่ยงั แขง็ แกร่ง
กวา่ แบบ WPE
WPA2: การเข้ารหสั ที่มคี วามแขง็ แกร่งทสี่ ุด ณ ปัจจบุ นั
ประโยชน์ของการติดต้งั ระบบรกั ษาความปลอดภยั ให้เครือขา่ ยไร้สาย (Wi-Fi) ทีบ่ า้ น ไดแ้ ก่
1. สามารถควบคุมการเขา้ ถึงเครอื ข่ายได้
2. การโอนถา่ ยข้อมลู จะต้องมีการเข้ารหสั
การทางานของไฟร์วอลล์
ในระบบปฏบิ ัตกิ าร Windows มีคณุ สมบัติไฟร์วอลล์ทม่ี าพร้อมกบั ความสามารถที่กาหนดคา่ ตา่ ง ๆ เชน่
1. เปิดหรอื ปดิ ไฟรว์ อลล์
2. อนญุ าตให้โปรแกรมบางอย่างใหส้ ื่อสารผา่ นไฟร์วอลล์ได้
3. สามารถสกัดก้นั การเช่ือมตอ่ (Connection) ทเี่ ช่อื มต่อเขา้ มาท้งั หมด
3
ความปลอดภยั ในการใช้งาน Social Media
ในการใช้งาน Social Media ผูใ้ ช้อาจถูกขโมยข้อมลู ส่วนบคุ คลได้ ดังกรณตี อ่ ไปน้ี
1. การต้ังคา่ ความเป็นสว่ นตวั ในระดับตา่
2. การยอมรับคาเชิญจากคนท่คี ุณไม่รจู้ ัก
3. การตอบอีเมลทีข่ อใหผ้ ใู้ ช้อพั เดทขอ้ มลู ในบัญชีของผใู้ ช้
ความปลอดภยั ในการเลอื กซ้อื สินคา้ ผา่ นเวบ็
เวบ็ ไซต์ทีม่ คี วามปลอดภัยในการสงั่ ซ้ือสนิ คา้ ควรมีลักษณะดงั น้ี
1. มีการประกาศดา้ นการรักษาความเป็นสว่ นตวั และ/หรอื ขอ้ กาหนดและเงื่อนไขโดยละเอียด
2. เว็บไซตเ์ ป็นรา้ นค้าออนไลน์ทเี่ ปน็ ทร่ี จู้ ัก และมีช่ือเสียงดี
3. สังเกตุ URL ของเวบ็ ไซต์ต้องเร่ิมต้นด้วย https://
การใช้งาน Virtual Private Network (VPN)
VPN คือ เครือข่ายที่ขยายการเช่ือมตอ่ ท่ีปลอดภัย และเป็นส่วนตัวมากกว่าเครือข่ายสาธารณะ ข้อมูลที่รับส่งผ่านเครือข่าย VPN
จะมกี ารเข้ารหสั
ขอ้ ดขี อง VPN คือ สามารถเชอ่ื มตอ่ เข้าใช้งานไดจ้ ากทุกที่ทว่ั โลกที่สามารถเช่ือมตอ่ อินเทอรเ์ นต็ ได้
4
คียล์ ัดในโปรแกรมสำนักงำน..........................................................................................................................................1
กำรใชเ้ คร่อื งมือตรวจสอบกำรสะกด..............................................................................................................................1
กำรแกไ้ ขกรณสี ะกดคำผดิ หรือพมิ พผ์ ิดหลกั ไวยำกรณภ์ ำษำ ...................................................................................1
เครือ่ งมอื ค้นหำและแทนที่ บนแอปพลเิ คชัน่ Microsoft Office ...................................................................................2
กำรคน้ หำข้อควำม...................................................................................................................................................2
กำรแทนทีข่ อ้ ควำม ..................................................................................................................................................2
กำรแทนทีข่ ้อควำมด้วยรปู แบบ................................................................................................................................3
กำรใช้ปมุ่ เครอ่ื งมอื เลกิ ทำ (Undo) หรอื ทำซำ (Redo)..................................................................................................3
คณุ สมบัติแบบอำ่ นอย่ำงเดียว .......................................................................................................................................3
คณุ สมบัติกำหนดใหเ้ ป็นขันสุดท้ำย ...............................................................................................................................3
มมุ มองที่ได้รบั กำรปอ้ งกนั .............................................................................................................................................4
มมุ มองกำรจำกดั กำรแกไ้ ข ............................................................................................................................................4
A
คุณลักษณะทั่วไป
คยี ์ลัดเป็นกำรใช้งำนแป้นพิมพ์เพื่อไปยังคำสั่งในโปรแกรมได้รวดเร็วกว่ำกำรนำเมำสไ์ ปคลกิ เลือกคำส่งั คยี ล์ ัดที่นยิ มใช้งำนใน
โปรแกรมสำนกั งำน ประกอบด้วย
การคดั ลอกข้อความ (Ctrl+C) ลำกคลุมขอ้ ควำม > กดปุ่ม Ctrl+C บนแป้นพมิ พ์
การยา้ ยข้อความ (Ctrl+X) ลำกคลมุ ข้อควำม > กดปมุ่ Ctrl+X บนแป้นพิมพ์
การวางขอ้ ความ (Ctrl+V) คลกิ ตำแหน่งทีต่ อ้ งกำรวำง > กดปมุ่ Ctrl+V บนแปน้ พิมพ์
ขณะทำงำนในแอพพลิเคชั่น Word 2016 ผู้ใช้สำมำรถตรวจสอบคำสะกดและไวยำกรณ์ ได้จำกคำที่ผู้ใช้เลือกเอง หรือ
ตรวจสอบทังเอกสำร ในกรณีท่ีเอกสำรมีกำรสะกดคำผิด หรอื พิมพ์ผิดหลักกำรไวยำกรณภ์ ำษำ ผใู้ ช้สำมำรถสงั เกตเห็นได้จำกสัญลักษณ์
ทปี่ รำกฏตรงบรเิ วณแถบสถำนะ (STATUS BAR) สว่ นรปู แบบของกำรแสดงวำ่ มคี ำทส่ี ะกดผดิ ในเอกสำรจะแสดงใหเ้ ห็นเปน็ เส้นใต้
หยกั สีแดงท่คี ำนนั ๆ แต่ถำ้ คำนนั เปน็ กำรพมิ พ์ผิดหลกั ไวยำกรณภ์ ำษำจะแสดงใหเ้ หน็ เปน็ เสน้ ใตห้ ยกั สีนำเงินเสน้ ใต้หยกั สแี ดง
การแก้ไขกรณีสะกดคาผดิ หรือพิมพผ์ ิดหลักไวยากรณภ์ าษา
เมื่อตรวจสอบเอกสำรแล้ว ปรำกฏวำ่ มตี ำแหนง่ ท่ขี ีดเส้นใต้หยักสีแดง (สะกดคำผดิ ) หรือสนี ำเงิน (ผิดหลักไวยำกรณภ์ ำษำ) ซึง่
วิธีกำรตรวจสอบพร้อมแก้ไขสำมำรถทำได้ 2 วิธี ดังนี
วิธีท่ี 1 วิธแี ก้ไขคำผดิ เพยี งคำเดยี ว มขี ันตอนดังนี
1
วธิ ีที่ 2 วธิ ีแก้ไขคำผดิ ทงั หมด มีขนั ตอนดงั นี
กำรใชค้ ำสง่ั ในกำรคน้ หำ หรอื เปลย่ี นข้อควำม ซึ่งสำมำรถค้นหำและแทนที่ขอ้ ควำมทงั เอกสำร หรือเฉพำะขอ้ ควำมทเี่ ลือกไว้
การคน้ หาขอ้ ความ
การแทนทข่ี ้อความ
2
การแทนทข่ี ้อความด้วยรปู แบบ
ขณะทำงำนนันอำจเกิดควำมผิดพลำดทงั ท่ีตังใจและไม่ตังใจ หรือในบำงครังเมื่อต้องกำรยกเลิกคำส่ังท่ีใช้งำนผิดพลำดไปนัน
สำมำรถทำได้โดย
คลกิ ปุม่ เลิกทำ บนแถบเครอื่ งมือดว่ น เพื่อยกเลิกคำสั่งทีเ่ คยทำไปกอ่ นหน้ำ
คลกิ ป่มุ ทำซำ บนแถบเครื่องมือดว่ น เพ่อื ทำซำคำสง่ั ทไ่ี ดท้ ำกำรยกเลิกไป
กำรปอ้ งกันโฟลเดอร์หรือไฟล์ ใหบ้ คุ คลอนื่ สำมำรถใชส้ ิทธ์ิใน
กำรอ่ำนไดอ้ ยำ่ งเดยี ว ซง่ึ ถอื วำ่ เปน็ ขนั ตอนกำรปอ้ งกันไฟลไ์ ด้อีกวิธีหนึ่ง
มขี นั ตอนดังนี
1. คลกิ ขวำท่ี ไฟลเ์ อกสำรที่ต้องกำร
2. คลกิ เลือกคำสง่ั Properties
3. ใสเ่ คร่ืองหมำยถกู ท่คี ำส่ัง Read Only
4. คลิก OK
เปน็ กำรปอ้ งกนั เอกสำรอกี วิธีหน่ึงทีใ่ ช้งำนบ่อย โดยไม่ต้องกำรให้เอกสำรนันมีกำรแกไ้ ขข้อมูล หรอื กรณีหนง่ึ ถ้ำไฟลง์ ำนนีได้ทำ
เสรจ็ ครบถ้วนสมบรู ณ์แลว้ ไมต่ อ้ งกำรแกไ้ ข แต่สำมำรถอ่ำนได้เพียงอยำ่ งเดียว ทำไดโ้ ดยมขี ันตอน ดงั นี
1. คลิก แทบ็ File
2. คลกิ คำสงั่ Info
3. เลอื กคำสง่ั Protect Workbook
4. เลอื กคำสัง่ Mask as Final
5. คลิก OK
3
เป็นกำรป้องกันไม่ให้แก้ไขข้อมูลในแผ่นงำนได้ ก่อนกำรป้องกันผู้ใช้สำมำรถกำหนดสิทธิได้ว่ำจะให้แก้ไขอะไรได้บ้ำง เช่น
รูปแบบของเซลล์ รปู แบบคอลัมน์ ตัวอย่ำง ถำ้ ไมอ่ นุญำตใหม้ สี ิทธใ์ิ นกำรแกไ้ ข มขี ันตอนดังนี
1. คลกิ ขวำที่ Worksheet
2. คลิกเลือก Protect Sheet
3. นำเครอื่ งหมำยถกู ออก หำกต้องกำรอนญุ ำตให้แกไ้ ขได้
กำรป้องกันกำรแก้ไข และจำกัดกำรแก้ไขข้อมูลในเอกสำรเพ่ือให้บุคคลอ่ืนไม่สำมำรถแก้ไข และจัดรูปแบบเอกสำรได้ เช่น
ปอ้ งกนั ไมใ่ หม้ กี ำรเปล่ียนรปู แบบ โดยกำหนดให้เอกสำรตอ้ งมกี ำรตดิ ตำมกำรเปล่ียนแปลง หรืออนุญำตใส่ขอ้ คดิ เหน็ ในเอกสำรไดเ้ ท่ำนัน
มขี ันตอนดังนี
1. คลิกแท็บ Review เลือกคำส่งั Restrict Editing
2. เลือกรปู แบบ Tracked Changes
3. คลกิ Yes, Start Enforcing Protection
4. คลิกปุม่ OK
4
การจดั รปู แบบข้อความ.................................................................................................................................................1
การปรับแตง่ ข้อความตวั อักษร .................................................................................................................................1
การปรบั แตง่ เอกสารด้วยธีม ..........................................................................................................................................1
กาหนดคา่ ตวั เลือกเค้าโครงหนา้ กระดาษ.......................................................................................................................2
ต้ังค่าระยะขอบกระดาษ ..........................................................................................................................................2
การปรบั เปลยี่ นสไตล.์ ....................................................................................................................................................2
การจัดตาแหนง่ ข้อความ หรอื ยอ่ หน้า............................................................................................................................2
เปลย่ี นการจดั แนวของยอ่ หนา้ .................................................................................................................................2
การกาหนดคา่ ตัวเลอื กเคา้ โครงยอ่ หนา้ ..........................................................................................................................3
การตงั้ ค่ายอ่ หน้า/การเยอื้ ง ......................................................................................................................................3
กาหนดค่าตวั เลือกการพมิ พเ์ อกสาร ..............................................................................................................................3
การสง่ั พิมพ์เอกสาร..................................................................................................................................................3
การซอ่ นข้อผดิ พลาดคาทีส่ ะกดผิด ................................................................................................................................4
การใช้เคร่อื งมือตดิ ตามการเปลี่ยนแปลง .......................................................................................................................4
ยอมรบั การเปลี่ยนแปลงท่ที าไว้ในเอกสารทง้ั หมด....................................................................................................4
ยอมรบั การเปลี่ยนแปลงเอกสาร ..............................................................................................................................4
ยกเลกิ /ปฏิเสธ การเปล่ยี นแปลงเอกสาร..................................................................................................................5
แทรกรปู ภาพจากไฟล์ ...................................................................................................................................................5
การสร้างตารางในเอกสาร ............................................................................................................................................. 5
แทรกตาราง ............................................................................................................................................................. 5
แปลงขอ้ ความเป็นตาราง .........................................................................................................................................6
ตัวแบ่งหนา้ หรือแบง่ สว่ นในเอกสาร .............................................................................................................................6
การแสดงมมุ มอง และไม้บรรทัดให้เอกสาร ...................................................................................................................6
เปลี่ยนมมุ มอง แสดงไม้บรรทัด ................................................................................................................................6
A
การทางานในเอกสาร
การปรับแต่งขอ้ ความตัวอักษร
การพิมพ์ข้อความในเอกสารที่เป็นเน้ือหายาว ๆ จะดูไม่น่าสนใจหากไม่มีการปรับแต่ง หรือเพิ่มลูกเล่นให้กับตัวอักษร ทั้งนี้
นอกจากจะทาให้งานเอกสารดูน่าสนใจมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตผลงานในรูปแบบต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย
การจัดการรูปแบบตวั อกั ษรหรือฟอนต์น้ัน สามารถทาไดห้ ลายวธิ ี
เปลยี่ นตวั อักษรเป็น ตวั หนา (B)
เปล่ียนตวั อักษรเป็น ตวั เอยี ง (I)
เปลยี่ นตวั อักษรเปน็ ตวั หนาและขีดเส้นใต้ (U)
ธีม คือ ชุดรูปแบบสาเร็จรูปของเอกสารท่ีผู้ใช้สามารถนามาใช้จัดรูปแบบของเอกสาร ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยชุด
รูปแบบนี้จะประกอบไปดว้ ยการจัดรูปแบบของสี ฟอนต์ และเอฟเฟ็กต์ ซ่ึงผู้ใช้สามารถเลือกใช้ และปรับแต่งได้ตามความเหมาะสม มี
ขน้ั ตอนดังนี้
1. คลิกเอกสาร
2. คลิกแทบ็ Design
3. คลกิ คาสง่ั Themes
4. คลกิ เลอื ก รปู แบบธีม ทต่ี ้องการ
1
ต้ังคา่ ระยะขอบกระดาษ
การกาหนดขอบกระดาษ เอกสารที่สร้างขึ้นมาใหม่นั้น จะต้ังค่าขอบกระดาษมาใหเ้ ป็นค่าพื้นฐาน โดยค่าที่ใช้จะเป็นคา่ แบบ
ปกติ ซงึ่ สามารถเปล่ยี นแปลงคา่ ได้ มขี ัน้ ตอนดงั น้ี
1. คลิก Layout
2. เลอื กคาส่ัง Margins
3. คลิกเลอื ก ระยะขอบทต่ี ้องการ
การจัดรูปแบบอย่างรวดเรว็ ด้วยสไตล์ คอื ช่ือรปู แบบของการจดั การรูปแบบตัวอักษรซ่ึงรวมไปถึงขนาด สี ลกั ษณะ การเยื้อง
ระยะห่างระหวา่ งย่อหน้า เป็นต้น แต่ละสไตลจ์ ะแตกต่างกัน และมชี อ่ื เรยี กเฉพาะการนาสไตล์มาใช้จะช่วยให้สามารถปรบั แต่งรูปแบบ
ขอ้ ความ ย่อหน้า หรอื ตัวอกั ษรไดอ้ ย่างรวดเร็ว สวยงาม มขี น้ั ตอนดังนี้
1. คลิกแท็บ Home
2. คลิกขวาที่รปู แบบสไตลท์ ่ตี อ้ งการ
3. คลิกเลอื กคาสง่ั Modify
4. ต้งั ช่ือ รปู แบบสไตล์
5. จดั รปู แบบตวั อกั ษร
6. คลิก OK
เปลีย่ นการจัดแนวของยอ่ หน้า
ในการจัดรูปแบบข้อความ หรือย่อหน้าน้ัน นอกจากจะจัดรูปแบบให้กับตัวอักษรให้มีสีสันน่าสนใจแล้ว การจัดวางตาแหน่ง
ขอ้ ความ ยังเป็นส่งิ สาคัญของการจัดลาดับความสาคญั ของเน้ือหาเอกสารอีกอย่างหนงึ่ ด้วยเชน่ กนั มขี ัน้ ตอนดงั น้ี
2