The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

7.คู่มือหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย พฤติกรรมและอารมณ์ ๖๓

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jmuensu, 2020-09-07 14:34:15

7.คู่มือหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย พฤติกรรมและอารมณ์ ๖๓

7.คู่มือหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย พฤติกรรมและอารมณ์ ๖๓

คูม่ ือหลกั สูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวยั
สาหรับเดก็ ที่มีความบกพรอ่ งทางพฤตกิ รรม หรอื อารมณ์
ของศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั ลาปาง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวัดลาปาง
สานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ

สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

บว.คูม่ อื หลักสูตร ๐๗/๒๕๖๓

ประกาศศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง
เร่ือง ให้ใช้หลกั สูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย
สาหรบั เด็กทีม่ คี วามตอ้ งการจาเปน็ พิเศษ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓

……………………………………………………………
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ (๒) พ.ศ.
๒๕๔๕ มาตรา ๑๐ กาหนดไว้ว่า “การจัดการศึกษาต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการ
รับการศึกษาข้ันพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐต้องจัดให้อย่างท่ัวถึงและมีคุณภาพโดยไม่เสีย
ค่าใช้จ่าย” และพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๕ กาหนดให้
คนพกิ ารมสี ิทธทิ างการศึกษาโดยไม่เสยี ค่าใช้จา่ ยตัง้ แตแ่ รกเกิดหรอื พบความพิการจนตลอดชีวิต พร้อม
ทั้งได้รับเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการและความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา เลือก
บรกิ ารทางการศึกษา สถานศกึ ษา ระบบ และรปู แบบการศึกษาโดยคานึงถึงความสามารถ ความสนใจ
ความถนัดและความตอ้ งการจาเป็นพิเศษเฉพาะบคุ คลนน้ั
เพ่ือสนองเจตนารมณ์ตามพระราชบัญญัติ ดังกล่าว ให้การจัดการศึกษาสาหรับเด็กพิการ
ได้รับการพัฒนาตั้งแต่แรกเกิด ถึง ๖ ปี มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา
ท่ีเหมาะสมเต็มศักยภาพ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปางได้เพ่ิมทักษะจาเป็นเฉพาะความ
พิการสาหรับเด็กพิการแต่ละประเภทเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความพิการและศักยภาพของแต่ละ
บุคคล ได้แก่ บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางการเห็น บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางการได้ยิน บุคคลท่ีมีความ
บกพร่องทางสตปิ ญั ญา บุคคลที่มีความบกพรอ่ งทางรา่ งกาย หรือการเคล่ือนไหว หรือสุขภาพ บุคคลที่มีความ
บกพร่องทางการเรยี นรู้ บุคคลท่มี ีความบกพรอ่ งทางการพูดและภาษา บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางพฤติกรรม
หรอื อารมณ์ บุคคลออทิสติก และบคุ คลพกิ ารซ้อน
ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ให้ใช้หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย สาหรับเด็กท่ีมีความต้องการ
จาเป็นพิเศษ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ท้ังนี้ หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย สาหรับเด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษ
ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปาง พุทธศักราช ๒๕๖๓ ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ
สถานศกึ ษา เมอื่ วันท่ี...........เดือน กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ จึงประกาศใช้ หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษา
ปฐมวยั สาหรบั เดก็ ท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง พุทธศักราช
๒๕๖๓ ตงั้ แตบ่ ัดน้เี ปน็ ต้นไป

ประกาศ ณ วันท่ี ...........เดือน กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓

(……………………………………)
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั ลาปาง

คานา

สภาพการเปลี่ยนแปลงดา้ นเศรษฐกิจ สังคม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
ประกอบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ รวมทั้งกรอบยุทธศาสตร์ชาติ
ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๗๙) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐-
๒๕๖๔) แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๗๙) เป้าหมายยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษา
ในทศวรรษท่ี ๒ (พ.ศ.๒๕๕๒-๒๕๖๑) แผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๖๔)
นาไปสู่การกาหนดทักษะสาคัญสาหรับเด็กในศตวรรษที่ ๒๑ ที่มีความสาคัญต่อการกาหนดเป้าหมาย
ในการพฒั นาเด็กปฐมวัย ใหม้ ีความสอดคล้องและทนั ต่อการเปลยี่ นแปลงทุกด้าน

ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง เป็นสถานศึกษาของรัฐท่ีจัดการศึกษานอก
ระบบ หรือตามอัธยาศัยแก่คนพิการ ตั้งแต่แรกเกิดหรือแรกพบความพิการจนตลอดชีวิต และจัดการ
ศึกษาอบรมแก่ผู้ดูแลคนพิการ ครู บุคลากรและชุมชน รวมทั้งการจัดส่ือ เทคโนโลยี ส่ิงอานวยความ
สะดวก บรกิ ารและความชว่ ยเหลอื อน่ื ใด ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กาหนดในประกาศกระทรวง
ซ่ึงมีกลุ่มเป้าหมายบริการสาธารณะได้แก่ เด็กพิการรับบริการในศูนย์การศึกษาพิเศษ เด็กพิการรับ
บริการที่บ้านหรือหน่วยบริการหรือศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ เด็กพิการรับบริการในห้องเรียน
สาหรับเด็กในโรงพยาบาล และเด็กพิการรับบริการในโรงเรียนเรียนรวมโดยมีเด็กท่ีเรียนในระดับ
ปฐมวัยรวมอยดู่ ว้ ย ศูนย์การศกึ ษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปางจึงได้จัดทาหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษา
ปฐมวัยสาหรับเด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปางพุทธศักราช
๒๕๖๓ ข้ึน ซึ่งพัฒนาจากหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และหลักสูตรการศึกษา
ปฐมวัยสาหรบั เด็กทม่ี คี วามต้องการจาเป็นพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๖๒ เพ่ือเป็นหลักสูตรสถานศึกษาท่ี
ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพโดยมีเปา้ หมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ
ใหม้ พี ฒั นาการดา้ นร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย ความสามารถ และ
ความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลเปน็ การเตรียมความพรอ้ มท่ีจะเรียนรู้และสร้างรากฐานชีวิตใช้พัฒนาเด็ก
ปฐมวัยไปสู่ความเป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในตนเอง และมีความรับผิดชอบต่อ
ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม และประเทศชาติ

คู่มือหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัยสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทางพฤติกรรม หรือ

อารมณ์ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปางพุทธศักราช ๒๕๖๓ เป็นหลักสูตรสาหรับการจัด

การศึกษาสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทางการเห็น โดยการเพิ่มมาตรฐานคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์

ด้านท่ี ๕ พัฒนาการด้านทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องสาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรม

หรอื อารมณ์ ระดบั การศึกษาปฐมวยั ไดแ้ ก่ การบรู ณาการประสาทความรู้สึก (Sensory Integration)

การปรบั ตัวในการอยู่ ร่วมกบั สังคม

การควบคุมพฤติกรรมของตนเองได้อย่างเหมาะสม การใช้เทคโนโลยีสิ่งอานวยความ

สะดวกเคร่ืองช่วยในการเรยี นรู้ ทักษะด้านภาษา

ขอขอบคุณ คณะครูและบุคลากรศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปางทุกท่าน

ที่มีส่วนร่วมในการจัดทา หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัยสาหรับเด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษ



ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปางพุทธศักราช ๒๕๖๓ฉบับนี้ ให้มีความสมบูรณ์ตาม
เจตนารมณ์ของพระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ (๒) พ.ศ.
๒๕๔๕ มาตรา ๑๐ และพระราชบญั ญัตกิ ารจดั การศึกษาสาหรับคนพกิ าร พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๕

(นางสรุ ัญจติ วรรณนวล)
ผอู้ านวยการศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั ลาปาง

………/กันยายน/ ๒๕๖๓



สารบญั

หนา้

ประกาศศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง....................................................................
คานา......................................................................................................................... .................
สารบัญ......................................................................................................... .............................
สารบัญตาราง.................................................................................................................. ..........
สารบญั แผนภาพ.......................................................................... ..............................................
บทที่ ๑ สว่ นนา....................................................................................................................... ...
บทที่ ๒ การบรหิ ารหลกั สตู ร......................................................................................................
บทที่ ๓ หลักฐานการศึกษา และการส่งตอ่ ................................................................................
เอกสารอ้างองิ ...........................................................................................................................
ภาคผนวก
คาสง่ั แตง่ ต้งั คณะกรรมการจัดทาหลักสูตร................................................................................
คณะผ้จู ดั ทา.................................................................................................................. .............



สารบญั ตาราง

หน้า
ตารางแสดงรายละเอียดตามโครงสรา้ วหลักสตู รสถานศกึ ษาการพัฒนาทกั ษะการดารงชีวิต
สาหรับเดก็ ทม่ี ีความบกพร่องทางพฤติกรรม หรอื อารมณ์ ของศนู ย์การศึกษาพิเศษประจา
จังหวดั ลาปาง ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓



สารบัญรูปภาพ

โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศึกษาการพัฒนาทักษะการดารงชวี ิตสาหรบั เด็กที่มคี วามต้องการ หนา้
จาเปน็ พิเศษ ของศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศักราช
๒๕๖๓

บทท่ี ๑

สว่ นนา

ความนา

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ หมวด ๓ สิทธิและเสรีภาพ
ของปวงชนชาวไทย มาตรา ๒๗ บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพและได้รับ
ความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติ
โดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องถ่ินกาเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความ
พิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อ
ทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
หรือเหตุอื่นใด จะกระทามิได้ มาตรการท่ีรัฐกาหนดข้ึนเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้
สิทธิหรือเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอ่ืน หรือเพื่อคุ้มครองหรืออานวยความสะดวกให้แก่ เด็ก
สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือผู้ด้อยโอกาส ย่อมไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
หมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ มาตรา ๕๔ รัฐต้องดาเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา ๑๒ ปี ตั้งแต่
ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย รัฐต้องดาเนินการ
ให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษา เพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม
และสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนเข้ามี
ส่วนร่วมในการดาเนนิ การ รัฐต้องดาเนนิ การให้ประชาชนได้รบั การศึกษาตามความต้องการในระบบต่าง ๆ
รวมท้ังสง่ เสริมใหม้ ีการเรยี นรู้ตลอดชีวิต และจดั ใหม้ ีการรว่ มมอื กันระหว่างรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และภาคเอกชนในการจัดการศึกษาทุกระดับ โดยรัฐมีหน้าท่ีดาเนินการ กากับ ส่งเสริม และสนับสนุนให้
การจัดการศึกษาดังกล่าวมีคณุ ภาพและไดม้ าตรฐานสากล ทั้งนี้

ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติซ่ึงอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการจัดทา
แผนการศึกษาแห่งชาติ และการดาเนินการและตรวจสอบการดาเนินการให้เป็นไปตามแผนการศึกษา
แห่งชาติด้วย การศึกษาท้ังปวงต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ สามารถเชี่ยวชาญได้
ตามความถนัดของตน และมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติในการ
ดาเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาหรือให้ประชาชนได้รับการศึกษา หมวด ๑๖ การปฏิรูป
ประเทศมาตรา ๒๕๘ จ. ด้านการศึกษา ให้สามารถเร่ิมดาเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนา
ก่อนเข้ารับการศึกษา เพื่อให้เด็กเล็กได้รับการพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาให้
สมกบั วยั โดยไม่เกบ็ คา่ ใช้จ่าย ปรบั ปรงุ การจัดการเรียนการสอนทุกระดบั เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนสามารถเรียนได้ตาม
ความถนดั และปรับปรุงโครงสร้างของหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว โดยสอดคล้องกัน
ท้ังในระดับชาติและระดบั พ้นื ท่ี

พระราชบญั ญัติการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และ
(ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ หมวด ๒ สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษา มาตรา ๑๐ การจัดการศึกษาต้องจัดให้
บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษา ข้ันพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปีท่ีรัฐ
ต้องจัดให้อย่างท่ัวถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาสาหรับบุคคลซึ่งมีความบกพร่อง
ทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาอารมณ์ สังคม การสื่อสารและการเรียนรู้ หรือมีร่างกายพิการ หรือทุพพล



ภาพหรือบุคคลซ่ึงไม่สามารถพึ่งตนเองได้หรือไม่มีผู้ดูแลหรือด้อยโอกาส ต้องจัดให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิ
และโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษ การศึกษาสาหรับคนพิการให้จัดตั้งแต่แรกเกิดหรือพบ
ความพกิ ารโดยไมเ่ สียค่าใช้จา่ ยและมีสทิ ธิไ์ ด้รับสิ่งอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออื่น
ใดทางการศึกษา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในกฎกระทรวง การจัดการศึกษาสาหรับบุคคลซึ่งมี
ความสามารถพเิ ศษต้องจัดด้วยรูปแบบที่เหมาะสมโดยคานึงถงึ ความสามารถของบคุ คลน้ัน ๆ

แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐- ๒๕๖๔) มุ่งสร้างคุณภาพ
ชีวิตและสุขภาวะที่ดีสาหรับคนไทยพัฒนาคนให้มีความเป็นคนที่สมบูรณ์มีวินัย ใฝ่รู้ มีความรู้ มีทักษะ
มคี วามคิดสร้างสรรค์ มีทัศนคติที่ดีรับผิดชอบต่อสังคม มีจริยธรรมและคุณธรรม พัฒนาคนทุกช่วงวัยและ
เตรยี มความพร้อมเข้าสู่สังคมผูส้ ูงอายุอยา่ งมีคณุ ภาพ

กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐
เปน็ หลกั สูตรสาหรบั สถานศกึ ษา สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นกรอบและ
ทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานตามจุดหมายหลักสูตรที่
กาหนดเปา้ หมายในการพฒั นาเด็กปฐมวยั ให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา
เป็นคนดี มีวินัย สานึกความเป็นไทย และมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และ
ประเทศชาติในอนาคต

สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษได้จัดทาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสาหรับเด็กท่ีมีความ
ตอ้ งการจาเปน็ พเิ ศษ พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ ซ่ึงเปน็ หลกั สตู รท้องถ่ิน โดยเพิ่มทักษะจาเป็นเฉพาะความพิการ
สาหรับเด็กพิการแต่ละประเภท เพื่อให้ศูนย์การศึกษาพิเศษนาไปเป็นแนวทางในการจัดทาหลักสูตร
สถานศึกษาการศึกษาปฐมวัยสาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษของศูนย์การศึกษาพิเศษได้อย่างมี
ประสิทธิภาพตอ่ ไป

เพื่อให้การจัดการศึกษาสาหรับเด็กพิการได้รับการพัฒนาต้ังแต่แรกเกิดถึง ๖ ปี ให้มี
พัฒนาการดา้ นรา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาท่ีเหมาะสมกับวัย รวมท้ังมีพัฒนาการทางด้าน
ทักษะจาเป็นเฉพาะความพิการท่ีเหมาะสมกับความต้องการจาเป็น ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัด
ลาปางจึงได้วิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
สาหรับเดก็ ทม่ี คี วามตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษ พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ และได้จัดทาหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษา
ปฐมวยั สาหรับเด็กทมี่ คี วามตอ้ งการจาเปน็ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง พุทธศักราช ๒๕๖๓
ขน้ึ เพือ่ ใชเ้ ปน็ แนวทางในการจดั การศึกษาระดับปฐมวัยสาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางทางการเห็น เด็ก
ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา เด็กท่ีมีความบกพร่องทางร่างกาย
หรือการเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา เด็กท่ีมีความบกพร่องทาง
พฤติกรรมหรอื อารมณ์ เด็กออทสิ ติก และเดก็ พิการซ้อนในปกี ารศึกษา ๒๕๖๓

วิสยั ทศั น์

เด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษอายุแรกเกิด ถึง ๖ ปี ได้รับการพัฒนาตามมาตรฐาน
คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์แบบองค์รวมเต็มตามศักยภาพ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้รับสื่อ ส่ิงอานวย
ความสะดวกและบริการอ่ืนใดทางการศึกษาที่ตรงตามความต้องการจาเป็นพิเศษ โดยการมีส่วนร่วมของ
ทีมสหวิชาชีพ ครอบครัว ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมี
ความสขุ



หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย สาหรับเด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษ
ของศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษประจาจงั หวัดลาปาง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ มหี ลกั การสาคญั ดงั นี้

๑. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย สาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ
ของศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามข้นั ตอนการพัฒนาหลกั สูตร

๒. ส่งเสรมิ ให้เดก็ ที่มคี วามต้องการจาเป็นพิเศษ ไดร้ ับการพัฒนาตามมาตรฐานคุณลักษณะท่ี
พึงประสงคแ์ บบองคร์ วมและกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี นจากการใช้หลักสูตรทตี่ รงตามประเภทความพกิ าร

๓. ส่งเสริมและพัฒนาเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์โดย
ใช้รปู แบบและกระบวนการที่มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั อายุพฒั นาการ และประเภทความพกิ าร

๔. ส่งเสรมิ และพัฒนาเทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออ่ืน
ใดทางการศึกษา ใหต้ รงกับความต้องการจาเปน็ พเิ ศษเฉพาะบุคคล

๕. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับครอบครัว คณะสหวิชาชีพ สถานศึกษา ชุมชน และผู้เก่ียวข้อง
ในการพัฒนาเด็กพกิ าร

เป้าหมาย

๑. เพ่ือให้ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปางมีหลักสูตรสถานศึกษาที่มีความ
เหมาะสมกบั เด็กท่ีมคี วามต้องการจาเปน็ พเิ ศษระดบั ปฐมวัย

๒. เพื่อให้เดก็ ทม่ี ีความตอ้ งการจาเป็นพิเศษ ได้รับการพัฒนาแบบองค์รวม มีพัฒนาการ เต็ม
ตามศักยภาพ สามารถสือ่ สารและดารงชีวติ ได้

๓. เพื่อให้เด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสามารถอยู่
รว่ มกบั ผูอ้ ืน่ ในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ

๔. เพอ่ื ให้เด็กที่มีความต้องการจาเปน็ พิเศษไดร้ ับสอ่ื ส่ิงอานวยความสะดวก ท่ีเหมาะสมตรง
ตามความต้องการจาเป็นพิเศษเฉพาะบคุ คล

๕. เพ่ือใหค้ รอบครัว นกั สหวชิ าชพี ชุมชน และผู้ทเ่ี กย่ี วข้องมสี ่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพ
เด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษให้มีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ สามารถดารงชีวิตในสังคมได้อย่างมี
ความสขุ

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

การพัฒนาศักยภาพเดก็ ทมี่ ีความต้องการจาเปน็ พิเศษ โดยใช้หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษา
ป ฐ ม วั ย ส า ห รั บ เ ด็ ก ที่ มี ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร จ า เ ป็ น พิ เ ศ ษ ศู น ย์ ก า ร ศึ ก ษ า พิ เ ศ ษ ป ร ะ จ า จั ง ห วั ด ล า ป า ง
พุทธศักราช ๒๕๖๓ ผู้เรียนควรมีสมรรถนะสาคัญ ๗ ข้อ ตามสานักงานเลขาธิการสภาการศึกษาและ
องคก์ รทุนเพ่อื เด็กแหง่ สหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ประเทศไทย (๒๕๖๑. ๓๐-๗๐) ดังตอ่ ไปน้ี

๑. การเคลอ่ื นไหว และสุขภาวะทางกาย (Motor Development /Physical Well – Being)
๑.๑ เด็กสามารถแสดงความแข็งแรงและประสานการทางานของกล้ามเน้ือมดั ใหญ่
๑.๒ เดก็ สามารถแสดงความแข็งแรงและประสานการทางานของกล้ามเนื้อมดั เลก็
๑.๓ เด็กสามารถใชป้ ระสาทสัมผัสต่าง ๆ (เชน่ การเหน็ ได้ยิน กายสมั ผสั ฯลฯ) เป็น

การนาในการเคลอ่ื นไหว



๑.๔ เดก็ รับประทานอาหารหลาย ๆ ชนิด ทม่ี ปี ระโยชน์และปลอดภัย
๑.๕ เดก็ แสดงความแข็งแรงและความทนทานทางร่างกาย
๑.๖ เดก็ แสดงออกว่ามคี วามเข้าใจเก่ยี วกบั ความปลอดภัย
๑.๗ เด็กสามารถชว่ ยและพึง่ ตนเองในกิจวัตรของตน
๒. พัฒนาการดา้ นสังคม (Social Development)
๒.๑ เด็กแสดงทกั ษะในการมีปฏิสมั พันธ์กบั ผใู้ หญ่
๒.๒ เด็กแสดงทักษะทางสังคมเชิงบวก
๒.๓ เด็กแสดงความตระหนักรู้ว่าพฤตกิ รรมมผี ลกระทบต่อบุคคลและส่งิ แวดลอ้ ม
๒.๔ เดก็ ตระหนักรู้ เห็นคณุ ค่า และ ยอมรบั นับถือในความเหมือนและความแตกต่าง
ระหวา่ งบคุ คล
๓. พฒั นาการดา้ นอารมณ์ (Emotional Development)
๓.๑ เดก็ สามารถรบั รูเ้ ก่ียวกบั ตนเอง และตระหนักรู้วา่ ตนเองชอบหรือไมช่ อบอะไร
๓.๒ เด็กปฏบิ ตั ติ นตามกฎระเบยี บและกจิ วตั ร และคมุ อารมณ์ได้ตามสมควร
๓.๓ เดก็ แสดงความเชอ่ื มั่นในความสามารถของตน
๓.๔ เด็กสามารถแสดงความคิดพน้ื ฐานในเรอื่ งเก่ยี วกบั เวลาชอ่ งว่าง ตาแหนง่ แหล่งท่ีอยู่
คุณลกั ษณะ ฯลฯ รวมท้ังการจัดกลุม่ สงิ่ ตา่ ง ๆ ท่ีอยู่แวดลอ้ ม
๓.๕ เด็กแสดงความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกบั เหตแุ ละผล
๓.๖ เด็กสามารถเปรียบเทยี บแยกแยะความเหมือน ความแตกตา่ ง และประเมนิ
สถานภาพ
๓.๗ เดก็ สามารถแกป้ ัญหาได้
๓.๘ เด็กสามารถจดจ่อกับการทากจิ กรรมดว้ ยความตง้ั ใจ
๓.๙ เดก็ สามารถอา่ นตวั เลข นับเลข และรู้จานวน
๔. พัฒนาการด้านการคดิ และสตปิ ัญญา (Cognitive Development)
๔.๑ เดก็ แสดงพฤติกรรมอยากรูอ้ ยากลอง โดยการมอง การฟงั การถาม จับต้อง และลง
มือทาเกี่ยวกับสง่ิ แวดล้อมท่ีมีชวี ิตต่าง ๆ
๔.๒ เด็กแสดงพฤติกรรมอยากรู้ อยากลอง โดยการมอง การฟงั การถามจบั ต้อง และลง
มอื ทาเก่ยี วกับสิง่ แวดล้อมที่ไม่มชี ีวิตตา่ ง ๆ
๔.๓ เดก็ แสดงออกถึงความตระหนกั รู้เกย่ี วกบั คุณลักษณะของครอบครัว และ บทบาท
ของครอบครัว
๔.๔ เด็กแสดงออกถึงความตระหนกั รูเ้ กี่ยวกบั ชมุ ชนของตน การพึ่งพาซงึ่ กันและกนั
และบทบาททางสงั คมของคนตา่ ง ๆ
๔.๕ เดก็ แสดงพฤติกรรมรักษาสง่ิ แวดล้อมและหลีกเลีย่ งมลภาวะ
๔.๖ เด็กแสดงออกถึงความตระหนักรู้เกี่ยวกบั คณุ คา่ เชิงเศรษฐกจิ ของสิง่ ตา่ ง ๆ
๕. พัฒนาการด้านภาษา (Language Development)
๕.๑ เดก็ สามารถรบั รู้ เข้าใจ และใชค้ าศพั ท์ได้
๕.๒ เดก็ แสดงพัฒนาการการใช้ไวยากรณ์ และการเรียบเรียงคาใหเ้ ปน็ ประโยค



๕.๓ เดก็ สามารถแสดงพฤติกรรมเข้าใจความหมายและจับใจความได้จากการฟงั ภาษา
พูด

๕.๔ เด็กสามารถรับรแู้ ละใชภ้ าษาพูด ส่ือความหมาย ได้ตรงตามความต้องการของตน
๕.๕ เดก็ สามารถส่ือความหมายอย่างมีประสทิ ธิภาพดว้ ยสีหนา้ ท่าทางและสัญลักษณ์
๕.๖ เดก็ สามารถบง่ ชแี้ ละออกเสยี งตวั พยัญชนะ และคาง่าย ๆ ได้
๕.๗ เด็กสามารถเขยี นตัวอักษะและคาง่าย ๆ ได้
๖. พฒั นาการด้านจรยิ ธรรม (Moral Development)
๖.๑ เดก็ สามารถแสดงพฤติกรรรมควบคมุ ตนเอง
๖.๒ เด็กสามารถแสดงพฤติกรรมสะท้อนความเข้าใจเก่ียวกับการกระทาใดถกู หรือผดิ
๗. พฒั นาการด้านการสรา้ งสรรค์ (Creative Development)
๗.๑ เดก็ สามารถแสดงพฤติกรรมทางดนตรแี ละเคล่ือนไหวตามดนตรี
๗.๒ เดก็ สามารถแสดงพฤติกรรมทางศิลปะการละคร
๗.๓ เดก็ สามารถแสดงพฤตกิ รรมด้านการวาด การปั้น และการประดษิ ฐ์

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย สาหรับเด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษ
ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั ลาปาง พุทธศักราช ๒๕๖๓ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ เพือ่ ใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถอยรู่ ่วมกับผู้อน่ื ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพล
โลก ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กระทรวงศึกษาธิการ (๒๕๕๑, หน้า
๗) มาวิเคราะห์เพ่ือกาหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษของศูนย์
การศกึ ษาพเิ ศษประจาจงั หวดั ลาปาง ดังนี้

๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซ่อื สัตย์สจุ รติ
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
๖. มุง่ มั่นในการทางาน
๗. รกั ความเปน็ ไทย
๘. มจี ติ สาธารณะ

โครงสร้างหลกั สูตร

การพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย สาหรับเด็กท่ีมีความ
ต้องการจาเป็นพิเศษ ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง พุทธศักราช ๒๕๖๓ จาเป็นต้อง
คานึงถงึ โครงสร้างหลักสูตร ดังน้ี



แผนภาพท่ี ๑ โครงสร้างหลกั สูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวยั สาหรบั เด็กท่มี ีความตอ้ งการจาเป็นพิเศษ ของ

ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปาง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

จากโครงสร้างหลกั สูตรสถานศกึ ษาขา้ งต้นไดว้ เิ คราะห์จดั ทาโครงสร้างหลักสตู รสถานศึกษาเฉพาะ

ความบกพร่องทางพฤติกรรม หรืออารมณ์ ดงั น้ี

การพัฒนาศักยภาพเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ ตามคู่มือหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษา

ปฐมวัย สาหรับเดก็ ทีม่ คี วามบกพร่องทางการเห็น ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง พุทธศักราช

๒๕๖๓ จาเป็นต้องคานึงถึงโครงสรา้ งหลักสตู รดังนี้

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง

๒. ซ่ือสัตย์สุจรติ ๖. มงุ่ มัน่ ในการทางาน

๓. มวี นิ ยั ๗. รักความเปน็ ไทย

๔. ใฝ่เรียนรู้ ๘. มจี ิตสาธารณะ

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์

๑. พัฒนาการด้านร่างกาย กลมุ่ ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะสาหรับเดก็ ท่มี คี วามบกพรอ่ งทางพฤตกิ รรม

๒. พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ หรอื อารมณ์

๓. พฒั นาการดา้ นสังคม ๑) การบรู ณาการประสาทความรสู้ กึ (Sensory Integration)
๔. พัฒนาการด้านสตปิ ัญญา ๒) การปรับตัวในการอยู่ ร่วมกบั สงั คม

๓) การควบคุมพฤตกิ รรมของตนเองได้อยา่ งเหมาะสม

๔) การใชเ้ ทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก เครอื่ งชว่ ยในการเรียนรู้

๕) ทกั ษะดา้ นภาษา

เวลาเรียน ไม่น้อยกว่า ๑๘๐ วนั แต่ละวันจะใชเ้ วลาไมน่ อ้ ยกวา่ ๕ ชว่ั โมง

กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น

๑. กจิ กรรมวิชาการ

๒. กิจกรรมคณุ ธรรม จริยธรรม

๓. กิจกรรมทศั นศึกษา
๔. กิจกรรมการบรกิ ารเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (ICT)

๕. กิจกรรมการจดั การเรยี นการสอนทางไกลในชว่ งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – 19)

แผนภาพที่ ๒ โครงสรา้ งคู่มือหลักสูตรสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย สาหรบั เด็กที่มีความบกพรอ่ งทางการเห็น
ของศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวัดลาปาง พุทธศักราช ๒๕๖๓

โดยมีรายละเอียดตามตารางแสดงรายละเอียดตามโครงสร้างคู่มือหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษา
ปฐมวัย สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางการเห็น ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง พุทธศักราช
๒๕๖๓ ดังนี้

ตารางแสดงรายละเอียด
คู่มอื หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวยั สาหรบั เดก็

ของศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจาจงั หว

มาตรฐานคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์

ตามโครงสรา้ งคูม่ ือหลักสตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย สาหรับเดก็ ทม่ี คี วามบกพ
พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ได้กาหนดให้มีมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ๕ ด้าน ได้แก่
พัฒนาการดา้ นสติปัญญา และพฒั นาการดา้ นทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพร่องทางพฤ

โดยผู้ใช้คู่มือหลักสูตร ฯ สามารถศึกษารายละเอียดการเช่ือมโยงความสัมพ
ประสบการณ์สาคัญ สภาพที่พึงประสงค์ สาระท่ีควรเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แ
สามารถนาคมู่ ือหลกั สตู รเป็นแนวทางในการจัดการเรยี นสอนแบบบรู ณาการ ดงั ตอ่ ไปน

ดตามโครงสรา้ ง
กทมี่ คี วามบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
วดั ลาปาง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓

พร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง
พัฒนาการด้านร่างกาย พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ พัฒนาการด้านสังคม
ฤตกิ รรมและอารมณ์ รวมจานวน ๑๓ มาตรฐาน
พันธ์จากตารางแสดงรายละเอียดการนามาตรฐานคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาเช่ือมโยงกันเพื่อให้ผู้ใช้คู่มือหลักสูตร ฯ
น้ี

๑๐

ตารางแสดงรายละเอียดตามโครงสรา้ งหลกั สตู ร

มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ ส

มาตรฐานท่ี ๑๓ มกี ารพัฒนาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพรอ่ งทางพฤติกรรม หรือ

ตัวบ่งช้ี ๑๓.๗.๑ การรบั รูอ้ ารมณ์โกรธ/หงดุ หงิด/เครียด/วติ กกงั วล/อาย/กลวั /หวา

สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ๖ ปี

๑. การรับรอู้ ารมณก์ ลัว (แรกเกดิ -๓ป)ี ๑) ทากิจกรรม การร
นนั ทนาการ การท
และ
๒) ทากจิ กรรมใน สงั คม
ชุมชน

๓) เดนิ เลน่
๔) ทากจิ กรรมทาง

สังคมรว่ มกับเพื่อน

สาระทีค่ วรเรียนรู้ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น คุณลักษณะ
อนั พึงประสงค์
ออารมณ์
าดระแวง

รับร้อู ารมณก์ ลัวใน 1) กิจกรรมวิชาการ เช่น 3) มวี ินยั
๓.๑ ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง
ทากิจกรรม เดินเลน่ กิจกรรมบาบดั ตามกฎเกณฑ์
ระเบียบ ของ
ะการทากิจกรรม 2) กิจกรรมคุณธรรม ครอบครัว โรงเรยี น
และสังคม
มร่วมกบั เพอ่ื น จริยธรรม เช่น การ
4) ใฝเ่ รยี นรู้
ทาความเคารพ ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายาม
ในการเรยี นและเขา้
ผู้ปกครองและครู รว่ มกจิ กรรมการ
เรียนรู้
๔.๒ แสวงหาความรจู้ าก
แหล่งเรยี นรู้ต่างๆ
ทั้งภายในและ
ภายนอกโรงเรยี น

๑๑

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ ส

๒. การรับรูอ้ ารมณ์โกรธ (แรกเกิด-๓ปี) ๑) เลน่ บทบาทสมมตุ ิ การร
๒) ทากิจกรรมดนตรี ในกา
๓) ทากจิ กรรมศิลปะ บทบ
๔) ทากจิ กรรมใน

สาระทีค่ วรเรยี นรู้ กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน คุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
รับรู้อารมณโ์ กรธ 1) กจิ กรรมวิชาการ เชน่
ารทากจิ กรรม เล่น กิจกรรมบาบดั ด้วยการเลือกใช้สือ่
บาทสมมุติ ศิลปะ อยา่ งเหมาะสม
2) กิจกรรมคุณธรรม บันทึกความรู้
วิเคราะห์ สรปุ เปน็
องค์ความรู้
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
และนาไปใชใ้ น
ชีวติ ประจาวนั ได้
6) มงุ่ ม่ันในการทางาน
๖.๑ ต้ังใจและ
รับผิดชอบในการ
ปฏิบตั หิ น้าทีก่ ารงาน
๖.๒ ทางานดว้ ยความ
เพียรพยายามและ
อดทนเพ่อื ใหง้ าน
สาเรจ็ ตามเป้าหมาย
3) มวี นิ ยั
๓.๑ ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง
ตามกฎเกณฑ์
ระเบียบ ของ

๑๒

มาตรฐานคณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ ส

ชมุ ชน เดนิ เ
๕) เดนิ เล่น กจิ ก
๖) ทากิจกรรมทาง เพือ่ น

สงั คมร่วมกับเพือ่ น

สาระทค่ี วรเรียนรู้ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น คุณลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์
เล่น และการทา จริยธรรม เช่น การ
กรรมสังคมร่วมกบั ทาความเคารพ ครอบครวั โรงเรียน
น ผปู้ กครองและครู และสงั คม
4) ใฝ่เรยี นรู้
๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายาม
ในการเรยี นและเข้า
ร่วมกิจกรรมการ
เรยี นรู้
๔.๒ แสวงหาความรู้จาก
แหล่งเรยี นรตู้ ่างๆ
ทั้งภายในและ
ภายนอกโรงเรยี น
ดว้ ยการเลือกใชส้ ือ่
อยา่ งเหมาะสม
บนั ทกึ ความรู้
วเิ คราะห์ สรปุ เป็น
องค์ความรู้
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
และนาไปใชใ้ น
ชีวิตประจาวันได้
6) มุ่งมั่นในการทางาน

๑๓

มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ประสบการณส์ าคญั ส

๓. การรบั ร้อู ารมณ์หงดุ หงิด (แรกเกิด-๓ปี) ๑) เล่นบทบาทสมมตุ ิ การร
๒) ทากิจกรรมดนตรี ใน
๓) ทากจิ กรรมศิลปะ เล
๔) ทากิจกรรมใน ศ

ชุมชน ร
๕) เดนิ เล่น
๖) ทากจิ กรรมทาง

สงั คมรว่ มกับเพอื่ น

สาระที่ควรเรียนรู้ กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น คณุ ลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
รบั รอู้ ารมณห์ งุดหงดิ 1) กิจกรรมวิชาการ เชน่
๖.๑ ตงั้ ใจและ
นการทากจิ กรรม กจิ กรรมบาบดั รับผิดชอบในการ
ปฏบิ ตั หิ น้าทกี่ ารงาน
ลน่ บทบาทสมมุติ 2) กิจกรรมคุณธรรม
๖.๒ ทางานด้วยความ
ศิลปะเดนิ เลน่ และ จรยิ ธรรม เชน่ การ เพยี รพยายามและ
อดทนเพ่ือใหง้ าน
การทากิจกรรมสังคม ทาความเคารพ สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

ร่วมกับเพื่อน ผู้ปกครองและครู 3) มีวนิ ัย
๓.๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง
ตามกฎเกณฑ์
ระเบยี บ ของ
ครอบครวั โรงเรียน
และสงั คม

4) ใฝ่เรยี นรู้
๔.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายาม
ในการเรียนและเขา้
รว่ มกจิ กรรมการ
เรียนรู้
๔.๒ แสวงหาความรู้จาก
แหลง่ เรียนร้ตู า่ งๆ

๑๔

มาตรฐานคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั ส

๔. การรับรู้อารมณว์ ิตกกังวล (แรกเกิด-๓ป)ี ๑) เล่นบทบาทสมมุติ กา
๒) ทากิจกรรมดนตรี ใน

สาระทค่ี วรเรียนรู้ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน คณุ ลกั ษณะ
อันพงึ ประสงค์
ารรบั รู้อารมณ์กังวล 1) กิจกรรมวชิ าการ เชน่
นการทากิจกรรม กจิ กรรมบาบัด ทง้ั ภายในและ
ภายนอกโรงเรยี น
ดว้ ยการเลอื กใช้สือ่
อยา่ งเหมาะสม
บันทึกความรู้
วเิ คราะห์ สรุปเปน็
องคค์ วามรู้
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
และนาไปใช้ใน
ชวี ิตประจาวันได้
6) มงุ่ มน่ั ในการทางาน
๖.๑ ตงั้ ใจและ
รับผิดชอบในการ
ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีการงาน
๖.๒ ทางานดว้ ยความ
เพยี รพยายามและ
อดทนเพ่ือใหง้ าน
สาเรจ็ ตามเป้าหมาย
3) มวี ินยั
๓.๑ ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง

๑๕

มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ ส

๓) ทากจิ กรรมศลิ ปะ เล
๔) ทากิจกรรมใน ศ

ชมุ ชน ร
๕) เดนิ เล่น
๖) ทากจิ กรรมทาง

สงั คมรว่ มกับเพ่ือน

สาระที่ควรเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น คุณลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์
ลน่ บทบาทสมมตุ ิ 2) กจิ กรรมคุณธรรม
ตามกฎเกณฑ์
ศิลปะเดินเลน่ และ จรยิ ธรรม เช่น การ ระเบยี บ ของ
ครอบครัว โรงเรียน
การทากิจกรรมสังคม ทาความเคารพ และสงั คม
4) ใฝเ่ รยี นรู้
รว่ มกบั เพื่อน ผูป้ กครองและครู ๔.๑ ตั้งใจ เพียรพยายาม
ในการเรยี นและเขา้
รว่ มกิจกรรมการ
เรยี นรู้
๔.๒ แสวงหาความรจู้ าก
แหล่งเรยี นรูต้ ่างๆ
ท้ังภายในและ
ภายนอกโรงเรยี น
ด้วยการเลือกใช้สอื่
อย่างเหมาะสม
บันทึกความรู้
วิเคราะห์ สรุปเปน็
องคค์ วามรู้
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
และนาไปใช้ใน

๑๖

มาตรฐานคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ ส

๕. การรบั รอู้ ารมณ์อาย (แรกเกดิ -๓ปี) ๑) เลน่ บทบาทสมมตุ ิ กา
๒) ทากิจกรรมดนตรี ใน
๓) ทากจิ กรรมศิลปะ เล
๔) ทากจิ กรรมใน ศ

ชมุ ชน ร
๕) เดนิ เลน่
๖) ทากิจกรรมทาง

สงั คมร่วมกับเพือ่ น

สาระที่ควรเรียนรู้ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น คุณลกั ษณะ
อันพงึ ประสงค์
ารรับรอู้ ารมณ์อาย 1) กิจกรรมวชิ าการ เช่น
ชีวิตประจาวันได้
นการทากิจกรรม กิจกรรมบาบัด 6) มงุ่ มนั่ ในการทางาน

ล่นบทบาทสมมุติ 2) กิจกรรมคุณธรรม ๖.๑ ต้ังใจและ
รบั ผิดชอบในการ
ศลิ ปะเดินเลน่ และ จริยธรรม เช่น การ ปฏิบัตหิ น้าทก่ี ารงาน

การทากจิ กรรมสงั คม ทาความเคารพ ๖.๒ ทางานด้วยความ
เพยี รพยายามและ
ร่วมกับเพื่อน ผู้ปกครองและครู อดทนเพื่อใหง้ าน
สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

3) มีวินยั
๓.๑ ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง
ตามกฎเกณฑ์
ระเบียบ ของ
ครอบครวั โรงเรียน
และสงั คม

4) ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๑ ตง้ั ใจ เพยี รพยายาม
ในการเรยี นและเข้า
ร่วมกจิ กรรมการ
เรยี นรู้

๑๗

มาตรฐานคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั ส

สาระที่ควรเรยี นรู้ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น คณุ ลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์

๔.๒ แสวงหาความรจู้ าก
แหล่งเรยี นรตู้ ่างๆ
ท้ังภายในและ
ภายนอกโรงเรยี น
ดว้ ยการเลอื กใชส้ ื่อ
อยา่ งเหมาะสม
บนั ทกึ ความรู้
วิเคราะห์ สรุปเปน็
องค์ความรู้
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้
และนาไปใชใ้ น
ชีวิตประจาวันได้

6) มงุ่ มน่ั ในการทางาน
๖.๑ ต้ังใจและ
รับผิดชอบในการ
ปฏบิ ัตหิ น้าที่การงาน
๖.๒ ทางานด้วยความ
เพียรพยายามและ
อดทนเพ่ือให้งาน
สาเรจ็ ตามเป้าหมาย

๑๘

มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ประสบการณ์สาคญั ส
๖. การรับร้อู ารมณ์หวาดระแวง (แรกเกิด-๓ปี)
๑) เล่นบทบาทสมมตุ ิ กา
๒) ทากิจกรรมดนตรี ห
๓) ทากจิ กรรมศิลปะ ก
๔) ทากิจกรรมใน บ
เด
ชุมชน ก
๕) เดินเลน่ เพ
๖) ทากิจกรรมทาง

สังคมรว่ มกบั เพื่อน

สาระท่คี วรเรยี นรู้ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน คณุ ลักษณะ
อนั พึงประสงค์
ารรับรอู้ ารมณ์ 1) กจิ กรรมวชิ าการ เช่น
หวาดระแวง ใน กจิ กรรมบาบดั 3) มวี นิ ยั
การทากิจกรรม เล่น 2) กิจกรรมคุณธรรม ๓.๑ ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง
บทบาทสมมุติ ศลิ ปะ จรยิ ธรรม เช่น การ ตามกฎเกณฑ์
ดินเล่น และการทา ทาความเคารพ ระเบียบ ของ
กจิ กรรมสงั คมรว่ มกบั ผปู้ กครองและครู ครอบครวั โรงเรียน
พอ่ื น และสังคม

4) ใฝเ่ รยี นรู้
๔.๑ ตัง้ ใจ เพียรพยายาม
ในการเรียนและเขา้
ร่วมกิจกรรมการ
เรียนรู้
๔.๒ แสวงหาความรจู้ าก
แหลง่ เรียนรูต้ ่างๆ
ทง้ั ภายในและ
ภายนอกโรงเรียน
ดว้ ยการเลอื กใชส้ ่อื
อย่างเหมาะสม
บันทกึ ความรู้
วิเคราะห์ สรปุ เป็น
องค์ความรู้

๑๙

มาตรฐานคุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ ประสบการณส์ าคญั ส

มาตรฐานท่ี ๑๓ มกี ารพัฒนาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความบกพรอ่ งทางพฤตกิ รรม หรือ

ตวั บง่ ชี้ ๑๓.๗.๒ การจดั การกับอารมณ์ของตนเอง

สภาพท่พี งึ ประสงค์ ๖ ปี

๑. โกรธ/หงุดหงดิ /เครยี ด/วิตกกังวล/อาย/กลวั / ๑) เล่นบทบาทสมมุติ กา

หวาดระแวง** (๓-๔ปี) ๒) ทากจิ กรรมดนตรี ว

๓) ทากิจกรรมศลิ ปะ

๔) ฟังนทิ านและเลา่ ห
เรอ่ื ง ท

สาระทีค่ วรเรียนรู้ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน คณุ ลกั ษณะ
ออารมณ์ อนั พงึ ประสงค์

แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
และนาไปใช้ใน
ชวี ิตประจาวนั ได้
6) ม่งุ ม่ันในการทางาน
๖.๑ ตัง้ ใจและ
รบั ผดิ ชอบในการ
ปฏบิ ตั หิ น้าทก่ี ารงาน
๖.๒ ทางานด้วยความ
เพียรพยายามและ
อดทนเพอ่ื ใหง้ าน
สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

ารรับรู้อารมณโ์ กรธ/ 1) กิจกรรมวชิ าการ เช่น 3) มวี นิ ยั
๓.๑ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง
หงดุ หงดิ /เครียด/ กจิ กรรมบาบัด ตามกฎเกณฑ์
วติ กกังวล/อาย/กลวั / 2) กิจกรรมคุณธรรม ระเบยี บ ของ
หวาดระแวง ในการ ครอบครวั โรงเรยี น
ทากจิ กรรม เล่น จริยธรรม เช่น การ

๒๐

มาตรฐานคณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ ส

๕) นงั่ สมาธิ ทา บ
กิจกรรมฝึกอบรม ศ
เล
๖) ออกกาลังกาย อ
๗) ทากิจกรรม ก
กิจ
นนั ทนาการ เล
๘) ทากจิ กรรมใน ก
เพ
ชมุ ชน
๙) เดนิ เลน่
๑๐) ทากิจกรรมทาง

สังคมร่วมกับเพือ่ น

สาระท่ีควรเรยี นรู้ กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น คณุ ลกั ษณะ
อันพงึ ประสงค์
บทบาทสมมุติ ดนตรี ทาความเคารพ
ศลิ ปะ ฟังนิทานและ ผูป้ กครองและครู และสังคม
ล่าเรือ่ ง น่ังสมาธิ 4) ใฝ่เรยี นรู้
ออกกาลังกาย ทา
กจิ กรรมนันทนาการ ๔.๑ ต้งั ใจ เพียรพยายาม
จกรรมในชมุ ชน เดนิ ในการเรยี นและเข้า
ล่น และการทา ร่วมกจิ กรรมการ
กจิ กรรมสงั คมร่วมกบั เรยี นรู้
พอ่ื น
๔.๒ แสวงหาความร้จู าก
แหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆ
ทง้ั ภายในและ
ภายนอกโรงเรียน
ดว้ ยการเลือกใช้สอ่ื
อยา่ งเหมาะสม
บนั ทกึ ความรู้
วิเคราะห์ สรปุ เปน็
องค์ความรู้
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้
และนาไปใช้ใน
ชีวิตประจาวนั ได้

6) มงุ่ มัน่ ในการทางาน
๖.๑ ตั้งใจและ

๒๑

มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ ส

๒. แสดงออกทางอารมณ์ อยา่ งเหมาะสมตาม ๑) เลน่ บทบาทสมมตุ ิ กา
สถานการณ์* (๔ – ๕ปี) ๒) ทากจิ กรรมดนตรี เห
๓) ทากิจกรรมศลิ ปะ ส
๔) ฟังนทิ านและเล่า ท

เรอื่ ง ศ
๕) น่งั สมาธิ ทา เล

กจิ กรรมฝึกอบรม ก
๖) ออกกาลังกาย กจิ
๗) ทากิจกรรม
เล
นันทนาการ
๘) ทากิจกรรมใน ก

ชุมชน เพ
๙) เดนิ เล่น
๑๐) ทากจิ กรรมทาง

สาระทค่ี วรเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น คณุ ลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
ารรบั รอู้ ารมณท์ ี่ 1) กิจกรรมวิชาการ เชน่
รับผิดชอบในการ
หมาะสมกบั กจิ กรรมบาบัด ปฏิบตั หิ น้าทก่ี ารงาน
๖.๒ ทางานด้วยความ
สถานการณ์ ในการ 2) กจิ กรรมคุณธรรม เพยี รพยายามและ
ทากิจกรรม เลน่ จรยิ ธรรม เชน่ การ อดทนเพื่อใหง้ าน
บทบาทสมมุติ ดนตรี ทาความเคารพ สาเรจ็ ตามเป้าหมาย
ศิลปะ ฟงั นิทานและ 3) มวี ินัย
ผู้ปกครองและครู ๓.๑ ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง
ลา่ เรื่อง นง่ั สมาธิ ตามกฎเกณฑ์
ระเบยี บ ของ
ออกกาลงั กาย ทา ครอบครวั โรงเรียน
และสังคม
กจิ กรรมนนั ทนาการ 4) ใฝ่เรยี นรู้
๔.๑ ต้ังใจ เพยี รพยายาม
จกรรมในชมุ ชน เดนิ ในการเรยี นและเขา้
รว่ มกจิ กรรมการ
ลน่ และการทา เรียนรู้
๔.๒ แสวงหาความรู้จาก
กิจกรรมสังคมร่วมกบั แหล่งเรียนรูต้ า่ งๆ
ทัง้ ภายในและ
พือ่ น

๒๒

มาตรฐานคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั ส
สังคมรว่ มกับเพื่อน

๓. การแสดงออกทางกายเม่ือเกิดอารมณโ์ กรธ/ ๑) เลน่ บทบาทสมมุติ กา
หงดุ หงดิ เครยี ด/วิตกกังวล/อาย/กลวั / ๒) ทากิจกรรมดนตรี เม
หวาดระแวง (ทา่ ทาง สีหนา้ ) ** (๔ – ๕ป)ี ๓) ทากิจกรรมศิลปะ ห

สาระท่คี วรเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน คุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
ารแสดงออกทางกาย 1) กจิ กรรมวิชาการ เช่น
ม่ือเกดิ อารมณโ์ กรธ/ กจิ กรรมบาบัด ภายนอกโรงเรยี น
หงุดหงิดเครียด/วติ ก 2) กิจกรรมคุณธรรม ด้วยการเลอื กใช้ส่อื
อยา่ งเหมาะสม
บันทกึ ความรู้
วิเคราะห์ สรปุ เปน็
องคค์ วามรู้
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้
และนาไปใชใ้ น
ชวี ิตประจาวนั ได้
6) มงุ่ มัน่ ในการทางาน
๖.๑ ต้งั ใจและ
รบั ผดิ ชอบในการ
ปฏิบตั ิหนา้ ที่การงาน
๖.๒ ทางานดว้ ยความ
เพียรพยายามและ
อดทนเพ่อื ให้งาน
สาเรจ็ ตามเป้าหมาย
3) มวี ินยั
๓.๑ ปฏิบัตติ ามข้อตกลง
ตามกฎเกณฑ์

๒๓

มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคญั ส

๔) ฟังนิทานและเลา่ ก
เร่อื ง ห

๕) นัง่ สมาธิ ทา ส
กจิ กรรมฝกึ อบรม ฟ
เร
๖) ออกกาลังกาย ก
๗) ทากิจกรรม ก

นันทนาการ
๘) ทากิจกรรมใน เด

ชุมชน ก
๙) เดนิ เลน่
๑๐) ทากิจกรรมทาง เพ

สังคมรว่ มกบั เพ่อื น

สาระท่ีควรเรียนรู้ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน คุณลกั ษณะ
อันพงึ ประสงค์
กงั วล/อาย/กลวั / จริยธรรม เชน่ การ
หวาดระแวง (ท่าทาง ทาความเคารพ ระเบยี บ ของ
สีหน้า) เล่นบทบาท ผปู้ กครองและครู ครอบครัว โรงเรียน
สมมตุ ิ ดนตรีศิลปะ และสงั คม
ฟงั นทิ านและเล่า 4) ใฝเ่ รยี นรู้
ร่ือง นง่ั สมาธิ ออก ๔.๑ ตง้ั ใจ เพียรพยายาม
กาลงั กาย ทา ในการเรยี นและเขา้
กิจกรรมนนั ทนาการ รว่ มกิจกรรมการ
กิจกรรมในชุมชน เรียนรู้
๔.๒ แสวงหาความรจู้ าก
ดนิ เลน่ และการทา แหล่งเรียนรูต้ า่ งๆ
ทงั้ ภายในและ
กจิ กรรมสงั คมร่วมกับ ภายนอกโรงเรียน
ด้วยการเลือกใช้ส่อื
พ่อื น อย่างเหมาะสม
บันทกึ ความรู้
วิเคราะห์ สรปุ เปน็
องคค์ วามรู้
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
และนาไปใช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั ได้

๒๔

มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ ส

๔. การแสดงทางการพดู เม่ือเกิดอารมณ์โกรธ/ ๑) เลน่ บทบาทสมมุติ กา
หงดุ หงิด/เครยี ด/วิตกกงั วล/อาย/กลัว/ ๒) ทากิจกรรมดนตรี เม
หวาดระแวง** (๔ – ๕ปี) ๓) ทากิจกรรมศลิ ปะ ห
๔) ฟังนทิ านและเล่า ว

เร่อื ง บ
๕) น่ังสมาธิ ทา ศ
เล
กจิ กรรมฝึกอบรม อ
๖) ออกกาลงั กาย ก
๗) ทากิจกรรม ก

นนั ทนาการ เด
๘) ทากจิ กรรมใน

ชุมชน

สาระท่คี วรเรียนรู้ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น คณุ ลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
ารแสดงทางการพูด 1) กิจกรรมวชิ าการ เช่น
6) ม่งุ ม่ันในการทางาน
ม่ือเกิดอารมณโ์ กรธ/ กิจกรรมบาบดั ๖.๑ ตั้งใจและ
หงดุ หงิด/เครยี ด/ 2) กิจกรรมคุณธรรม รับผดิ ชอบในการ
วิตกกังวล/อาย/กลัว/ ปฏิบัติหนา้ ที่การงาน
หวาดระแวง เลน่ จริยธรรม เชน่ การ ๖.๒ ทางานด้วยความ
บทบาทสมมุติ ดนตรี ทาความเคารพ เพยี รพยายามและ
อดทนเพอ่ื ใหง้ าน
ศิลปะ ฟงั นิทานและ ผู้ปกครองและครู สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

ลา่ เรื่อง นง่ั สมาธิ 3) มวี ินัย
๓.๑ ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง
ออกกาลังกาย ทา ตามกฎเกณฑ์
ระเบียบ ของ
กจิ กรรมนันทนาการ ครอบครวั โรงเรยี น
และสังคม
กจิ กรรมในชมุ ชน
4) ใฝ่เรยี นรู้
ดินเลน่ และการทา ๔.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายาม
ในการเรียนและเขา้
รว่ มกจิ กรรมการ
เรยี นรู้
๔.๒ แสวงหาความรู้จาก

๒๕

มาตรฐานคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ ส

๙) เดินเล่น ก
๑๐) ทากจิ กรรมทาง เพ

สังคมรว่ มกับเพอ่ื น

สาระท่ีควรเรียนรู้ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น คณุ ลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์
กจิ กรรมสงั คมร่วมกบั
พอ่ื น แหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ
ทัง้ ภายในและ
ภายนอกโรงเรยี น
ด้วยการเลือกใช้สื่อ
อย่างเหมาะสม
บนั ทกึ ความรู้
วิเคราะห์ สรุปเปน็
องคค์ วามรู้
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
และนาไปใช้ใน
ชีวิตประจาวันได้
6) มุง่ มั่นในการทางาน
๖.๑ ตงั้ ใจและ
รับผดิ ชอบในการ
ปฏบิ ตั หิ น้าทีก่ ารงาน
๖.๒ ทางานด้วยความ
เพยี รพยายามและ
อดทนเพื่อใหง้ าน
สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

๒๖

มาตรฐานคณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคญั ส

๕. ควบคุมความรสู้ ึกหรอื อารมณ์ของตนเองได้* ๑) พูดสะท้อน กา
(๕-๖ ปี) ความรู้สึกของตนเอง ห
และผู้อ่นื ต
๒) เล่นบทบาทสมมตุ ิ ส
๓) ทาในสิ่งทน่ี ักเรยี น เล
ชอบ ผ
๔) ทางานศลิ ปะ ท
๕) เลน่ เป็นกล่มุ

สาระที่ควรเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น คณุ ลักษณะ
อันพงึ ประสงค์
ารควบคุมความรูส้ กึ 1) กจิ กรรมวิชาการ เชน่
หรืออารมณข์ อง กจิ กรรมบาบดั 3) มวี นิ ยั
ตนเอง โดยการพูด ๓.๑ ปฏิบัตติ ามข้อตกลง
สะทอ้ นความรู้สึก 2) กจิ กรรมคุณธรรม ตามกฎเกณฑ์
ล่นบทบาทสมมตุ ิ จรยิ ธรรม เชน่ การ ระเบยี บ ของ
ผ่านงานศิลปะ และ ทาความเคารพ ครอบครัว โรงเรียน
ทากิจกรรมกล่มุ ผ้ปู กครองและครู และสังคม

4) ใฝ่เรยี นรู้
๔.๑ ตัง้ ใจ เพยี รพยายาม
ในการเรยี นและเข้า
รว่ มกิจกรรมการ
เรยี นรู้
๔.๒ แสวงหาความรู้จาก
แหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ
ทงั้ ภายในและ
ภายนอกโรงเรียน
ด้วยการเลอื กใชส้ ่อื
อยา่ งเหมาะสม
บันทกึ ความรู้
วเิ คราะห์ สรปุ เป็น
องค์ความรู้


Click to View FlipBook Version