แผนปฏบิ ตั ิการ
ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563
สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2
เอกสารลาดับที่ 8/2562
กลุ่มนโยบายและแผน
สานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานราธิวาส เขต 2
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
คำนำ
สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำนรำธิวำส เขต 2 ได้จัดทำแผนปฏิบัติกำร
ประจำปีงบประมำณ 2563 ที่สอดคร้องกับนโยบำยของหน่วยงำนที่เก่ียวข้อง สภำพปัญหำ ควำม
ต้องกำร และศักยภำพของหน่วยงำน โดยกำรศึกษำ วิเครำะห์รำยละเอียดนโยบำยและงบประมำณ
กำรทบทวนกลยุทธ์ตำมแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน เพื่อกำหนดเป้ำหมำยกำรพัฒนำ
รวมท้ังกำรจัดทำรำยละเอียดแผนปฎิบัติกำรประจำปี เผยแพร่ประชำสัมพันธ์ และบริหำรแผนไปสู่
กำรปฎบิ ัติท่ีเปน็ รูปธรรม
สำระสำคัญของแผนปฏิบัติกำรประจำปีงบประมำณ 2563 ของสำนักงำนเขตพ้ืนท่ี
กำรศึกษำประถมศึกษำนรำธิวำส เขต 2 ประกอบดว้ ยสำระสำคัญ 4 บท ได้แก่
บทท่ี 1 บทนำ
บทที่ 2 นโยบำยทีเ่ กีย่ วขอ้ งกำรจัดกำรศกึ ษำ
บทท่ี 3 นโยบำยสำนกั งำนเขตพืน้ ทกี่ ำรศึกษำประถมศกึ ษำนรำธวิ ำส เขต 2
บทที่ 4 งบประมำณ/โครงกำร
สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำนรำธิวำส เขต 2 ขอขอบคุณคณะทำงำนที่
ดำเนนิ กำรจดั ทำแผนปฎบิ ัตกิ ำรประจำปี 2563 สำเร็จลุล่วงและบรรลุตำมวตั ถุประสงคท์ ว่ี ำงไว้
สำนักงำนเขตพน้ื ที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำนรำธวิ ำส เขต 2
สารบญั หน้า
เรือ่ ง 1
1
คานา 1
2
บทที่ 1 บทนา 4
ความเป็นมา
สภาพท่วั ไป 13
อานาจหน้าท่ีของสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานราธวิ าส เขต 2 13
ขอ้ มลู พืน้ ฐาน 13
14
บทที่ 2 นโยบายท่ีเก่ียวข้องกับการจดั การศึกษา 16
พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาในสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั รชั กาลท่ี 10 20
รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย 2560 21
ยุทธศาสตร์ชาตริ ะยะ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580) 22
แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ.2560 -2564)
แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579) 24
แผนพฒั นาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) 25
แผนยุทธศาสตรก์ ารศึกษาเขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกิจจงั หวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี 26
(พ.ศ. 2560 - 2579)
แผนพฒั นาด้านการศกึ ษาระดับภาค (ภาคใตช้ ายแดน) 28
แผนพัฒนาจังหวัดนราธวิ าส พ.ศ. 2561-2564 28
นโยบายของสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน 28
28
บทท่ี 3 นโยบายสานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 29
วิสัยทศั น์ 29
พนั ธกิจ 29
เป้าประสงค์
คา่ นิยม 50
ประเดน็ กลยุทธ์ 51
มาตรการและแนวทางการพัฒนา 51
51
บทที่ 4 งบประมาณ/โครงการ 52
งบประมาณประจาปี 2563 54
แผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563
รายละเอียดแผนการใชจ้ า่ ยงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
สรุปโครงการตามภารกจิ กลุ่ม
รายละเอยี ดโครงการ
- กล่มุ อานวยการ 54
- กลุ่มสง่ เสรมิ การศกึ ษาทางไกล เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 72
- กลมุ่ พฒั นาครูและบุคลากรทางการศึกษา 92
- กลมุ่ สง่ เสริมการจัดการศกึ ษา 103
- กลุ่มนโยบายและแผน 117
- กลุ่มนเิ ทศติดตาม ตดิ ตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา 121
ภาคผนวก 184
คาสงั่ 185
บทที่ 1
บทนำ
ควำมเปน็ มำ
ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 มาตรา 13 และ
มาตรา 14 กาหนดให้คณะรฐั มนตรีต้องจัดให้มีแผนการบริหารราชการแผ่นดินตลอดระยะเวลาสี่ปีของการบริหาร
ราชการของคณะรัฐมนตรี และเมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแผนการบริหารราชการแผ่นดินแล้วให้
ประกาศใช้ ซึ่งส่วนราชการต้องนาแผนการบริหารราชการแผ่นดินมาใช้เป็นกรอบสาหรับการจัดทาแผนปฏิบัติ
ราชการระยะ 3 ปี ของส่วนราชการต่อไป เพื่อให้ทุกหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องนาไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง สามารถ
บรรลุวัตถุประสงค์ และเปา้ หมายทกี่ าหนดไว้ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและเกดิ ประสิทธิผล อย่างเปน็ รปู ธรรม
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ได้จัดทาแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ.
2563 – 2565 ข้ึนโดยได้วิเคราะห์ให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ และนโยบาย
ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน โดยมีวัตถุประสงค์ท่ีจะใช้เป็นเครื่องมือกาหนดทิศทางการ
ปฏบิ ตั งิ าน ให้องค์กรและโรงเรียนในสงั กัดใชเ้ ป็นกรอบแนวทางในการปฏบิ ัติ เพ่ือร่วมกันบริหารและดาเนินงานจัด
การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานตามภารกจิ ขององค์กรและโรงเรียนให้บรรลุผลสาเร็จตามเปา้ หมายและวัตถุประสงค์ที่กาหนด
ไว้ ทั้งด้านปริมาณและด้านคุณภาพ ภายใต้การประสานความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชน รวมท้ังใช้เป็นเคร่ืองมือสาคัญในการติดตามประเมินผล เพ่ือร่วมกัน
ดาเนินการจดั การศึกษาขั้นพนื้ ฐานใหท้ ่ัวถึง เทา่ เทียมกัน เป็นธรรมและมีคณุ ภาพได้มาตรฐานเกดิ ประโยชนส์ ูงสุด
สภำพท่วั ไป
ด้ำนกำยภำพ
สานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 เป็นหน่วยงานในสงั กดั สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีภารกิจหลักท่ีสาคัญ คือ จัดการศึกษา ในเขตพื้นที่ 5 อาเภอ ของ
จงั หวัดนราธวิ าส ไดแ้ ก่ อาเภอตากใบ อาเภอสไุ หงโก-ลก อาเภอแวง้ อาเภอสุไหงปาดี และอาเภอสุคิริน
สภำพภูมศิ ำสตร์
ภูมิประเทศ : พ้ืนที่ประมาณ 2 ใน 3 เป็นป่าและภูเขา ซ่ึงมีภูเขาหนาแน่นแถบทิศตะวันตกเฉียงใต้จด
เทือกเขาสันกาลาคีรี ซึ่งเป็นพรมแดนไทย-มาเลเซีย ลักษณะของพ้ืนท่ีมีความลาดเอียงจากทิศตะวันตกไปสู่ทิศ
ตะวันออก พื้นที่ราบส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณติดกับอ่าวไทย โดยเฉพาะอาเภอตากใบ และมีท่ีราบลุ่มบริเวณแม่น้า
2 สาย คือ แม่นา้ สุไหงโก-ลก และแม่นา้ ตากใบ มีพืน้ ทพ่ี รุประมาณ 200,000 ไร่
ภูมิอำกำศ : เป็นแบบมรสุมเขตร้อน แบ่งฤดูกาลออกเป็น 2 ฤดู ได้แก่ ฤดูฝน ฝนตกชุกในช่วง เดือน
พฤศจกิ ายน – มกราคม ฤดูร้อน อยรู่ ะหว่างเดือนกมุ ภาพนั ธ์ – เมษายน
สภำพสังคม เศรษฐกจิ กำรปกครอง
สภำพสังคม : ประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 85 นับถือศาสนาอิสลาม การติดตอ่ ส่ือสารในชวี ิตประจาวันใช้
ภาษามาลายทู ้องถ่ินปนกับภาษาไทย
2
เศรษฐกิจ : รายได้ประชากรส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับผลผลิตทางด้านการเกษตร และการค้า อาชีพหลักคือ
การทาสวนยางพารา การปลกู ผลไม้ การทานา การทาสวนมะพรา้ ว การประมง และการเล้ียงสตั ว์
กำรปกครอง : ในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 มีพ้ืนที่รับผิดชอบทั้งหมด 5 อาเภอ
ไดแ้ ก่ อาเภอตากใบ อาเภอสุไหงโก-ลก อาเภอแวง้ อาเภอสุไหงปาดี อาเภอสุคิริน
อำนำจหนำ้ ท่ีสำนักงำนเขตพน้ื ท่ีกำรศกึ ษำประถมศกึ ษำนรำธิวำส เขต 2
สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 เป็นหน่วยงานราชการส่วนกลาง ท่ีตั้งอยู่ใน
ส่วนภูมิภาค สังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีอานาจหน้าที่
ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. จัดทานโยบาย แผนพัฒนา และมาตรฐานการศึกษาของเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ให้สอดคล้องกับนโยบาย
มาตรฐานการศกึ ษา แผนการศึกษา แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน และความตอ้ งการของทอ้ งถ่นิ
2. วิเคราะห์การจัดตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนท่ัวไปของสถานศึกษา และหน่วยงานในเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
และแจ้งการจัดสรรงบประมาณที่ได้รับให้หน่วยงานข้างต้นรับทราบ รวมทั้งกากับตรวจสอบ ติดตามการใช้จ่าย
งบประมาณของหนว่ ยงานดังกลา่ ว
3. ประสาน ส่งเสรมิ สนับสนุน และพฒั นาหลกั สตู รรว่ มกับสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา
4. กากับ ดแู ล ตดิ ตาม และประเมนิ ผลสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานและในเขตพืน้ ที่การศึกษา
5. ศกึ ษา วิเคราะห์ วจิ ยั และรวบรวมข้อมลู สารสนเทศดา้ นการศึกษา ในเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา
6. ประสานการระดมทรัพยากรด้านต่าง ๆ รวมทั้งทรัพยากรบุคคล เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการจัดและ
พฒั นาการศึกษาในเขตพน้ื ที่การศึกษา
7. จดั ระบบประกันคณุ ภาพการศึกษา และประเมนิ ผลสถานศกึ ษาในเขตพ้นื ที่การศึกษา
8. ประสาน ส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษาของสถานศึกษาเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
รวมทั้งบุคคล องค์กรชุมชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการและสถาบันอ่ืนที่จัดการศึกษา
รปู แบบทหี่ ลากหลายในเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา
9. ดาเนินการและประสาน ส่งเสรมิ สนบั สนนุ การวิจยั และพัฒนาการศึกษาในเขตพื้นที่การศกึ ษา
10. ประสาน สง่ เสรมิ การดาเนนิ การของคณะอนุกรรมการ และคณะทางานดา้ นการศึกษา
11. ประสานการปฏิบตั ริ าชการทวั่ ไปกับองค์กรหรือหนว่ ยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กร
ปกครองส่วนท้องถ่ินในฐานะสานักงานผูแ้ ทนกระทรวงศกึ ษาธิการในเขตพ้ืนที่การศกึ ษา
12. ปฏบิ ตั หิ น้าท่ีอื่นเก่ยี วกับกจิ การภายในเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาที่มิได้ระบุใหเ้ ป็นหน้าที่ของหนว่ ยงานใด
โดยเฉพาะ หรอื ปฏิบตั ิงานอ่นื ท่ีไดร้ ับมอบหมาย
3
โครงสรำ้ งกำรบรหิ ำรงำนสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศกึ ษำนรำธวิ ำส เขต 2
สำนกั งำนเขตพนื้ ท่ี
กำรศึกษำประถมศกึ ษำ
นรำธิวำส เขต 2
หนว่ ยตรวจสอบภายใน กล่มุ กฎหมายและคดี
กลุ่มอานวยการ กลมุ่ นโยบายและแผน กล่มุ ส่งเสรมิ การศกึ ษาทางไกล กลุม่ บรหิ ารงานการเงนิ
เทคโนโลยสี ารสนเทศและ และสนิ ทรัพย์
การสอื่ สาร
กลมุ่ บรหิ ารงานบคุ คล กลมุ่ พัฒนาครูและ กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตาม และ กลุม่ สง่ เสรมิ
บคุ ลากรทางการศกึ ษา ประเมินผลการจัดการศึกษา การจดั การศกึ ษา
สถำนศึกษำ 117 แหง่ คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พื้นฐาน
ศนู ย์เครอื ข่ายสถานศึกษา 16 ศูนย์
ข้อมูลพ้ืนฐำน 4
1. จำนวนบคุ ลำกรในสังกดั 112 คน
1 คน
ข้ำรำชกำรครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำในสถำนศกึ ษำ
ผอู้ านวยการสถานศึกษา 1494 คน
รองผอู้ านวยการสถานศึกษา 19 คน
ครผู ู้สอน 7 คน
ครผู ู้สอน (มาช่วยราชการ) 385 คน
ครผู ู้สอน (ไปช่วยราชการ) 25 คน
พนักงานราชการ 32 คน
พนักงานราชการ ไปชว่ ยราชการ 18 คน
ลกู จ้างประจา
ลูกจ้างรายชว่ั โมง 2,093 คน
รวม
1 คน
ขำ้ รำชกำรครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำในสำนักงำน - คน
ผอู้ านวยการสานักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษา 1 คน
รองผอู้ านวยการสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา 9 คน
รองผู้อานวยการสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา (ไปชว่ ยราชการ) 38 คน
บุคลากรทางการศึกษา มาตรา 38 ค (1) ศึกษานิเทศก์ 2 คน
บุคลากรทางการศึกษา มาตรา 38 ค (2) 6 คน
ครู (มาชว่ ยราชการ) - คน
ลูกจ้างประจา 25 คน
พนักงานราชการ 8 คน
พนักงานราชการ (มาช่วยราชการ) 3 คน
ลกู จา้ งรายเดือน (งบสพฐ.) 93 คน
ลกู จา้ งรายเดือน (งบสานกั งาน)
รวม
แหลง่ ข้อมูล : จากกล่มุ บริหารงานบคุ คล ข้อมลู ณ ตลุ าคม 2562
5
ศนู ย์อำเภอและศนู ย์เครอื ข่ำยสถำนศกึ ษำ
สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ได้ออกระเบียบสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา
ประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ว่าด้วยศูนย์เครือข่ายสถานศึกษา เพ่ือส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษามี
ประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารและการจัดการศึกษาด้านวิชาการ งบประมาณ การบริหารบุคคล และการ
บริหารทั่วไป และในการดาเนินการตามระเบียบดังกล่าว สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานราธิวาส
เขต 2 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อาเภอและศูนย์เครือข่ายสถานศึกษาเพ่ือกระจายอานาจการบริหาร
จัดการศึกษาทั้ง 4 ด้าน จานวน 16 ศูนย์ แยกเป็นอาเภอสุไหงโก-ลก จานวน 2 ศูนย์ อาเภอแว้งจานวน 4 ศูนย์
อาเภอตากใบจานวน 4 ศูนย์ อาเภอสุไหงปาดีจานวน 4 ศูนย์ และอาเภอสุคิริน จานวน 2 ศูนย์ โดยมี
รายละเอยี ดแต่ละศนู ย์เครือข่าย ดังน้ี
3. ขอ้ มลู ศนู ยเ์ ครอื ข่ำยสถำนศกึ ษำ
ที่ ศนู ย์เครือขำ่ ยอำเภอ/สถำนศึกษำ จำนวน ทตี่ ง้ั ศนู ย์
สถำนศึกษำ
อำเภอสุไหงโก-ลก มี 2 ศูนย์ ร.ร.บา้ นสไุ หงโก-ลก
1. บงึ รามงิ 13 ร.ร.บา้ นลโู บ๊ะลือซง
1. บ้านลโู บ๊ะลือซง 7
2. บา้ นลาแล
3. บ้านปโู ป๊ะ 6 ร.ร.บา้ นซรายอ
4. บา้ นโตะ๊ เวาะ
5. บา้ นกูแบอแี ก 27 ร.ร.บา้ นแว้ง
6. บา้ นปาดงั ยอ 5 ร.ร.บ้านบ้านแว้ง
7. บา้ นมโู นะ
2. พกิ ลุ ทอง 9 ร.ร.บ้านบา้ นตอื มายู
1. บ้านซรายอ
2. บ้านมอื บา
3. บา้ นกวาลอซีรา
4. บ้านตือระมิตรภาพท่ี 172
5. บา้ นสุไหงโก-ลก
6. บ้านลโู บะ๊ ซามา
อำเภอแวง้ มี 4 ศูนย์
1. เมืองทอง
1. บ้านฆอเลาะทูวอ
2. บ้านเจะ๊ เหม
3. บา้ นแวง้
4. บา้ นกรอื ซอ
5. บ้านกวู า
2. ชา้ งเผอื ก
1. บา้ นตือมายู 6
2. บา้ นศาลาอูมา
3. บา้ นแอแว 7 ร.ร.นคิ มสร้างตนเองแวง้
4. บา้ นสามแยก 6 ร.ร.เทพประทาน(บา้ นเจะ๊ เด็ง)
5. บา้ งบาโง 31 ร.ร.วดั ชลธาราสงิ เหฯ
6. บา้ นแขยง 7 ร.ร.บา้ นหัวคลอง
7. บ้านไม้ฝาด 7 ร.ร.บ้านกูบู
8. บา้ นตอออ
9. เพลินพิศ
3. แวง้ พฒั นา
1. นิคมสร้างตนเองแว้ง
2. บ้านแมด่ ง
3. บ้านบางขุด
4. บ้านยะหอ
5. บ้านจะมาแกะ
6. บา้ นตาเสาพัฒนา
7. บา้ นตอแล
4. ฮาลาบาลา
1. เทพประทาน(บ้านเจ๊ะเด็ง)
2. เทพประทานไทยยนื ยง
3. นคิ มสร้างตนเองแวง้ สายโท 2
4. บ้านบูเกะตา
5. บ้านเจ๊ะยอ
6. บ้านนูโร๊ะ
อำเภอตำกใบ มี 4 ศนู ย์
1. กเุ ราทอง
1. บ้านหัวคลอง
2. บ้านศาลาใหม่
3. วัดชลธาราสิงเหฯ
4. บ้านคลองตัน
5. วดั โคกมะเฟอื ง
6. บา้ นตาบา
7. บา้ นปลู าเจะ๊ มูดอ
2. ไพรวัน
1. บา้ นกบู ู
2. บ้านโคกยามู
3. บ้านตอหลัง
4. บา้ นสะปอม
5. วัดเกาะสวาด
7
6. วดั ทรายขาว 10 ร.ร.วัดพระพทุ ธ
7. บ้านไพรวัน
7 ร.ร.บ้านแฆแบ๊ะ
3. คุรุพลัง 31 ร.ร.บา้ นโคกตา
6 ร.ร.บ้านสากอ
1. วัดพระพุทธ 9 ร.ร.บ้านกวู า
2. บ้านตะเหลีย่ ง
3. บ้านบางขนุ ทอง
4. วดั โคกมะมว่ ง
5. บ้านเกาะสะท้อน
6. ราชประชานเุ คราะห์44
(วัดฉทั ทันต์สนาน)
7. วัดสิทธิสารประดิษฐ์
8. บ้านศรพี งนั
9. บ้านโคกงู
10. บ้านปยู ู
4. มติ รภาพ
1. บา้ นแฆแบ๊ะ
2. บา้ นปะลุกา
3. วดั เกษตรธกิ าราม
4. บ้านสะหรง่ิ
5. บา้ นโคกมือบามิตรภาพที่ 223
6. บ้านปลกั ปลา
7. บา้ นปะดะดอ
อำเภอสุไหงปำดี มี 4 ศนู ย์
1. สันติ
1. บ้านจอื แร
2. บ้านสากอ
3. บา้ นไม้แกน่
4. บ้านบอเกาะ
5. บา้ นบาโงมาแย
6. บ้านกลบู ี
2. การเวก
1. บา้ นตะโละบูเก๊ะ
2. บา้ นบาโงฮมู อ
3. บา้ นบาโงกือแต
4. บ้านดอเฮะ
5. บา้ นกาวะ
6. ไทยรฐั วิทยา 89
7. บา้ นเปาะเจ๊ะเต็ง
8. บา้ นสายะ
8
9. บ้านกวู า
3. ฉตั รวาริน 10 ร.ร.บ้านโคกตา
1. บา้ นโคกตา
2. บา้ นไอบาตู
3. บ้านโตะ๊ เดง็
4. อิสลามบารงุ
5. บ้านตาเซะใต้
6. บ้านปะลรุ ู
7. บา้ นปอเนาะ
8. บา้ นโผลง
9. บา้ นละหาน
10. บา้ นบอื ราแง
4 ธญั ญธารา 6 ร.ร.บา้ นตลง่ิ สงู
1. บ้านตลิง่ สงู
2. ราชภกั ดี
3. วดั โบราณสถิตย์
4. บา้ นตาเซะเหนือ
5. วัดประชมุ ชลธารา
6. วดั ประดษิ ฐบ์ ุปผา
อำเภอสุคิรนิ มี 2 ศูนย์ 15 ร.ร.บา้ นนา้ ใส
1. ธารทอง 7 ร.ร.บ้านนา้ ใส
1. บา้ นน้าใส
2. นคิ มพฒั นา 10
3. นคิ มพฒั นา 2
4. รักไทย
5. นิคมพัฒนา 4
6. สุคิรนิ
7. บา้ นภเู ขาทอง
2. ศรสี ังวาล 8 ร.ร.บ้านร่วมใจ
1. บา้ นร่วมใจ
2. บ้านบาลูกายาอิง
3. นคิ มพัฒนา 9
4. นคิ มพัฒนา 6
5. นิคมพฒั นา 7
6. บ้านนา้ ทเุ รียน
7. นคิ มพัฒนา 5
8. บ้านจฬุ าภรณ์ 12
ที่มำ : คาสัง่ สพป.นราธิวาส เขต 2 ท่ี 110/2562 ลงวันที่ 23 เมษายน 2562)
9
ข้อมูลทำงกำรศกึ ษำ
1. จานวนสถานศึกษาในสงั กัดแยกเปน็ รายอาเภอ (ข้อมลู ณ 10 ม.ิ ย. 2562)
ตากใบ อำเภอ จำนวนโรง
แว้ง รวม 31
สุไหงโก-ลก 27
สไุ หงปาดี 13
สุคริ นิ 31
15
117
2. ระดับการศึกษาท่เี ปดิ สอน (ขอ้ มูล ณ 10 ม.ิ ย. 2562)
ประเภทที่เปิดสอน จำนวนโรง
ระดบั ประถมศึกษา 99
ระดับขยายโอกาส 18
117
รวม
3. ขนาดโรงเรียน (ขอ้ มูล ณ 10 มิ.ย. 2562)
ที่ ขนำดโรงเรยี น จำนวน
1. ขนาดเลก็ 22
2. ขนาดกลาง 85
3. ขนาดใหญ่ 9
4. ขนาดใหญ่พิเศษ 1
117
รวม
4. จานวนโรงเรยี น นกั เรยี น ครู แยกเปน็ รายอาเภอ (ข้อมลู ณ 10 มิ.ย. 2562)
ที่ อำเภอ จำนวน ระดบั ม.ต้น รวม
โรงเรียน ก่อนประถม ประถม 439
1. ตากใบ 234 8,782
2. แว้ง 31 1,788 6,555 369 6,748
3. สไุ หงโก-ลก 27 1,461 5,053 171 5,254
4. สไุ หงปาดี 13 996 3,889 313 6,113
5. สุคริ นิ 31 1,201 4,741 3,442
15 737 2,392 1,526 30,339
รวม 117 6,183 22,630
10
5. จานวนนักเรียนจบการศกึ ษาปกี ารศกึ ษา 2561 และศึกษาต่อปีการศึกษา 2562
ท่ี ระดบั ชั้น นร.ต้นปีการศึกษา นร.ทเ่ี รียนจบ นร.ทศ่ี กึ ษาต่อ อัตราการเรยี นต่อ(ร้อยละ)
1. ช้ัน ป. 6
2. ช้ัน ม. 3 3,570 3,498 3,498 100.00
รวม 382 349 342 97.99
3,952 3,847 3,840 99.82
6. จานวนนักเรียนท่ีออกกลางคัน ปีการศึกษา 2561
ท่ี อาเภอ ฐำนะ มี สม มี ตอ้ ง เจ็บ อพยพตำม หำ กรณี รวม
ยำก ปญั หำ รถ ปญั หำ คดี/ ปว่ ย/ ผู้ปกครอง เลย้ี ง อ่นื ๆ
จน ครอบ แลว้ กำร ถกู อบุ ัติ ครอบ
ครัว ปรับตัว จบั เหตุ ครวั
1 ตากใบ - - 1 - - - - - - 1
2 แวง้ - - - - - - - - - -
3 สุคริ ิน - - 2 - - - - - - 2
4 สไุ หง - - - - - - - - - -
โก-ลก
5 สไุ หง - - 1 - - - - - - 1
ปาดี
รวม - - 4 - - - - - - 4
7. ผลการสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ั้นพ้ืนฐาน (NT) ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 ปกี ารศึกษา 2561
วชิ ำ รอ้ ยละคะแนนเฉล่ีย หมำยเหตุ
ด้านภาษา 34.14
ด้านคดิ คานวณ 31.68
ดา้ นเหตุผล 30.57
32.13
รวม/เฉลี่ย
11
8. ผลการสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ั้นพ้นื ฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2561
ร้อยละคะแนนเฉลี่ย (O-NET)
วชิ ำ ปี 2560 ปี 2561 เปรยี บเทียบร้อยละ หมำยเหตุ
คะแนนเฉลย่ี
ภาษาไทย
คณติ ศาสตร์ 34.20 41.42 7.22
วทิ ยาศาสตร์
ภาษาองั กฤษ 26.51 25.32 -1.19
รวม/เฉล่ีย 30.65 31.34 0.69
28.68 30.51 1.83
30.01 32.15 2.14
9. ผลการสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ้นั พืน้ ฐาน (O-NET) ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ปีการศกึ ษา 2561
ร้อยละคะแนนเฉลี่ย (O-NET)
วิชำ ปี 2560 ปี 2561 เปรียบเทียบร้อยละ หมำยเหตุ
คะแนนเฉลีย่
ภาษาไทย
คณิตศาสตร์ 36.23 39.05 2.82
วทิ ยาศาสตร์
ภาษาองั กฤษ 18.24 25.88 7.64
รวม/เฉล่ยี
27.86 21.61 -6.25
26.70 29.24 2.54
27.25 28.95 1.70
ผลกำรดำเนินงำนทผ่ี ่ำนมำ
ขับเคล่ือนนโยบำยตำมกลยทุ ธ์
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ได้ติดตามผลการดาเนินงานขับเคล่ือนนโยบายตามกลยุทธ์
ของสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 โดยวิธีสังเกต สัมภาษณ์ สนทนากลุ่ม สารวจ
ตรวจสอบจากเอกสารหลักฐานต่างๆ จากน้ันมาวิเคราะห์และนาเสนอระดับความก้าวหน้า โดยใช้ Tracking
System คือ ระดับ A1 หมายถึง ความตระหนัก A2 หมายถึง ความพยายาม A3 หมายถึงความสาเร็จ A4
หมายถึงความยั่งยืน และในการประเมินดังกล่าวยังได้กาหนดเกณฑ์การประเมินตัวบ่งช้ีเป็น 4 ระดับ ตาม
คณุ ลกั ษณะหรือการปฏิบตั ิงานเพ่ือให้เกิดผลตามตวั บ่งช้ี โดยเร่ิมทีร่ ะดบั ท่ี 1 ซึ่งมรี ายละเอียดการปฏิบัติตามเกณฑ์
ระดบั น้อยไปส่รู ะดบั ท่มี กี ารปฏิบตั หิ รือผลสาเร็จการปฏบิ ัตทิ สี่ ูงขนึ้ ระดับท่ี 4
12
ผลการติดตามและประเมินผลการบริหารจัดการศึกษาข้ันพื้นฐานของสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา
ตามยุทธศาสตรข์ องสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2561
ยุทธศาสตร์ที่ 1 ยทุ ธศำสตร์ ระดับคะแนน หมำยเหตุ
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 2 3.5
จัดการศกึ ษาเพือ่ ความมั่นคง 2.25
ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 3
ยทุ ธศาสตร์ที่ 4 พฒั นาคุณภาพผู้เรยี นและส่งเสริมการจัดการศกึ ษา 2.67
เพ่ือสรา้ งขีดความสามารถในการแข่งขนั 3.67
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 5
สนบั สนุนการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 3
ยุทธศาสตรท์ ่ี 6
ขยายโอกาสการเขา้ ถงึ บรกิ ารทางการศึกษาและการ 3.5
เรียนรอู้ ย่างมีคณุ ภาพ
3
การจดั การศึกษาเพ่ือเสริมสร้างคณุ ภาพชีวติ ท่เี ปน็
มิตรกับส่งิ แวดลอ้ ม
การพัฒนาระบบบรหิ ารจัดการและสง่ เสรมิ ให้ทุก
ภาคสว่ นมีสว่ นรว่ มในการจัดการศึกษา
คะแนนเฉลย่ี
ผลกำรปฏิบัติรำชกำรตำมคำรับรองกำรปฏบิ ัติรำชกำร
กรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการประกอบด้วย 4 มิติ ไดแ้ ก่ มิติท่ี 1 มติ ดิ ้านประสิทธิผล มิติท่ี 2
มิตดิ ้านคุณภาพการใหบ้ รกิ าร มิตทิ ่ี 3 มิตดิ ้านประสิทธภิ าพของการปฏิบตั ริ าชการ และมิตทิ ่ี 4 มิตดิ ้านการ
พัฒนาองค์กร แยกเปน็ การดาเนินงานตวั ชีว้ ดั ตามคารับรองการปฏิบัติราชการประจาปี : KRS (KPI Report
System) และการดาเนินงานตามแผนปฏบิ ตั ิราชการประจาปี : ARS (Action plan Report System)
โดยสามารถสรุปผลการดาเนินงานได้ ดงั น้ี
ผลการดาเนินงานตัวช้วี ดั การประเมนิ สว่ นราชการตามมาตรการปรบั ปรงุ ประสิทธภิ าพในการปฏบิ ตั ิราชการ
ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2561
องคป์ ระกอบทป่ี ระชมุ
รำยกำร ระดับท่ีได้ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ คำ่ คะแนน
ที่ 1 ที่ 2 ที่ 4
ตัวชีว้ ัดการประเมนิ ส่วน
ราชการตามมาตรการ ระดับ เปน็ ไปตาม สงู กวา่ สูงกวา่ 4.39124
ปรับปรงุ ประสิทธิภาพ มาตรฐาน เป้าหมาย เป้าหมาย เป้าหมาย
ในการปฏิบัตริ าชการ
บทท่ี 2
นโยบายท่เี กย่ี วขอ้ งกับการจดั การศกึ ษา
พระบรมราโชบายด้านการศกึ ษาในสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั รัชกาลท่ี 10
การศึกษาต้องมงุ่ พน้ื ฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน คือ
ด้านที่ 1 มีทัศนคติท่ีถูกต้องต่อบ้านเมือง มีความรู้ความเข้าใจต่อชาติบ้านเมือง ยึดมั่นในศาสนา
มนั่ คงในสถาบนั พระมหากษัตริย์ และมีการเออื้ อาทรต่อครอบครัวและชมุ ชนของตน
ด้านที่ 2 มีพื้นฐานชีวิตที่ม่ันคง - มีคุณธรรม รู้จักแยกแยะสิ่งผิด–ชอบ/ชั่ว ดี ปฏิบัติแต่สิ่งท่ีชอบ
สิ่งที่ดงี าม ปฏิเสธสง่ิ ท่ผี ิด สงิ่ ท่ชี ่วั ช่วยกนั สร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง
ด้านที่ 3 มีงานทา และมีอาชีพ การเลี้ยงดูลูกหลานในครอบครัว หรือการฝึกฝนอบรมใน
สถานศึกษาต้องมุ่งม่ันให้เด็กและเยาวชนรักงาน สู้งานทางานจนสาเร็จ การฝึกฝนอบรมทั้งในหลักสูตรและนอก
หลกั สูตรต้องมีจุดหมายให้ผู้เรียนทางานเป็นและมีงานทาในท่ีสุด ต้องสนับสนุนผู้สาเร็จหลักสูตรมีอาชีพ มีงานทา
จนสามารถเลยี้ งตนเองและครอบครวั
ด้านท่ี 4 การเป็นพลเมืองดี การเป็นพลเมืองดี เป็นหน้าท่ีของทุกคน ครอบครัว สถาบันการศึกษา
และสถานประกอบการตอ้ งเสรมิ สรา้ งให้ทกุ คนมีโอกาสทาหน้าท่ีเปน็ พลเมืองดี การเป็นพลเมืองดี คือ “เห็นอะไรท่ี
จะทาเพ่ือบ้านเมืองได้ก็ต้องทา” เช่น งานอาสาสมัคร งานบาเพ็ญประโยชน์ งานสาธารณกุศล ให้ทาด้วยความมี
นา้ ใจ และความเอื้ออาทร
รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย ราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 134 ตอนท่ี 40 ก 6 เมษายน 2560
มาตรา 54 รัฐต้องดาเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจน
จบการศกึ ษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไมเ่ กบ็ ค่าใชจ้ า่ ย
รัฐตอ้ งดาเนนิ การให้เดก็ เลก็ ได้รบั การดแู ลและพฒั นาก่อนเข้ารับการศึกษาตามวรรคหน่ึง เพ่ือพัฒนา
ร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุน ให้องค์กรปกครอง
ส่วนทอ้ งถนิ่ และภาคเอกชนเข้ามามีสว่ นร่วมในการดาเนนิ การด้วย
รัฐต้องดาเนินการให้ประชาชนได้รับการศึกษาตามความต้องการในระบบต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมให้มี
การเรียนรู้ตลอดชวี ติ และจัดให้มีการร่วมมือกันระหว่างรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนในการจัด
การศกึ ษาทกุ ระดับ โดยรฐั มีหนา้ ที่ดาเนินการ กากับ ส่งเสริม และสนับสนุนให้การจัดการศึกษาดังกล่าวมีคุณภาพ
และได้มาตรฐานสากล ท้ังน้ี กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติซึ่งอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเก่ียวกับการจัดทา
แผนการศึกษาแหง่ ชาติ และการดาเนินการและตรวจสอบการดาเนนิ การใหเ้ ป็นไปตามแผนการศกึ ษาแหง่ ชาตดิ ้วย
การศึกษาท้ังปวงต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ สามารถเช่ียวชาญได้
ตามความถนัดของตน และมีความรับผดิ ชอบต่อครอบครัว ชมุ ชน สังคมและประเทศชาติ
ในการดาเนนิ การให้เดก็ เล็กได้รับการดูแลและพัฒนาตามวรรคสอง หรือให้ประชาชนได้รับการศึกษา
ตามวรรคสาม รัฐต้องดาเนินการให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการศึกษาตามความถนัด
ของตน
ใหจ้ ัดตงั้ กองทุนเพื่อใช้ในการชว่ ยเหลือผขู้ าดแคลนทุนทรพั ย์ เพ่ือลดความเหลื่อมล้าในการศึกษาและ
เพ่อื เสรมิ สร้างและพัฒนาคุณภาพและประสิทธภิ าพครู โดยใหร้ ฐั จัดสรรงบประมาณให้แก่กองทุน หรือใช้มาตรการ
หรือกลไกทางภาษีรวมท้ังการใหผ้ ้บู ริจาคทรัพย์สินเขา้ กองทุนได้รับประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีด้วย ท้ังนี้ ตามที่
กฎหมายบัญญตั ิ ซงึ่ กฎหมายดังกลา่ วอย่างน้อยต้องกาหนดให้การบริหารจัดการกองทุนเป็นอิสระและกาหนดให้มี
การใชจ้ า่ ยเงินกองทนุ เพอ่ื บรรลุวัตถุประสงค์ดังกลา่ ว
14
ยทุ ธศาสตร์ชาตริ ะยะ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580)
ประเทศไทยมกี ารจดั ทายุทธศาสตรช์ าติ ระยะยาว 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580) เพื่อใช้เป็นกรอบแนว
ทางการพัฒนาประเทศในระยะ 20 ปี เพื่อให้การพัฒนาประเทศมีความต่อเนื่องและมีแนวทางที่ชัดเจน โดย
กาหนดวสิ ยั ทศั น์ เป้าหมายและยทุ ธศาสตร์ ดังนี้
วสิ ัยทัศน์
“ประเทศมีความม่ันคง มั่งคั่ง ย่ังยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง”หรอื เปน็ คติพจนป์ ระจาชาติว่า “มนั่ คง มั่งคงั่ ยั่งยนื ”
เพอื่ สนองตอบต่อผลประโยชนแ์ ห่งชาติ อันได้แก่ การมเี อกราช อธิปไตย การดารงอยู่อย่างม่ันคง
และย่ังยนื ของสถาบันหลกั ของชาติและประชาชนจากภยั คุกคามทุกรูปแบบ การอยูร่ ่วมกันในชาติอย่างสันติสุขเป็น
ปึกแผ่น มีความมั่นคงทางสังคมท่ามกลางพหุสังคมและการมีเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ความ
เจริญเติบโตของชาติ ความเป็นธรรมและความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ความย่ังยืนของฐานทรัพยากรธรรมชาติ
ส่ิงแวดล้อม ความม่ันคงทางพลังงานและอาหาร ความสามารถในการรักษาผลประโยชน์ของชาติภายใต้การ
เปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมระหว่างประเทศ และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติประสานสอดคล้องกันด้านความ
มนั่ คงในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกอยา่ งมีเกยี รติและศักดิ์ศรี
โดยมีเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ “ประเทศชาติม่ันคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจ
พฒั นาอยา่ งต่อเนือ่ ง สังคมเปน็ ธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาตยิ ง่ั ยนื ”
ความมั่นคง หมายถงึ การมคี วามมนั่ คงปลอดภัยจากภัยและการเปล่ียนแปลงท้ังภายในประเทศและ
ภายนอกประเทศในทกุ ระดับ ท้งั ระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และมีความม่ันคงในทุก
มิติ ท้ังมิติทางการทหาร เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง เช่น ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและ
อธิปไตย มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยท่ีมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์มีความเข้มแข็งเป็นศูนย์กลางและเป็นท่ียึดเหน่ียวจิตใจของประชาชน มีระบบการเมืองที่ม่ันคง
เป็นกลไกท่ีนาไปสู่การบริหารประเทศที่ต่อเน่ืองและโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล สังคมมีความปรองดองและ
ความสามัคคี สามารถผนึกกาลังเพ่ือพัฒนาประเทศ ชุมชนมีความเข้มแข็ง ครอบครัวมีความอบอุ่น ประชาชนมี
ความม่ันคงในชีวติ มีงานและรายได้ทม่ี ่ันคงพอเพยี งกับการดารงชีวิต มีการออมสาหรับวัยเกษียณ ความม่ันคงของ
อาหาร พลังงาน และน้า มที ี่อย่อู าศยั และความปลอดภัยในชวี ติ ทรัพย์สนิ
ความม่ังค่ัง หมายถึง ประเทศมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมีความย่ังยืนจนเข้าสู่
ประเทศรายได้สงู ความเหล่ือมลา้ ของการพฒั นาลดลง ประชากรมีความอยู่ดมี สี ขุ ไดร้ ับผลประโยชน์จากการพัฒนา
อย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น และมีการพัฒนาอย่างท่ัวถึงทุกภาคส่วนมีคุณภาพชีวิตตามมาตรฐานขององค์การ
สหประชาชาติ ไม่มีประชาชนท่ีอยู่ในภาวะความยากจน เศรษฐกิจในประเทศมีความเข้มแข็ง ขณะเดียวกันต้องมี
ความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่างๆทั้งในตลาดโลกและตลาดภายในประเทศเพ่ือให้สามารถสร้างรายได้
ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศตลอดจนมีการสร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคตเพ่ือให้สอดรับกับ
บรบิ ทการพัฒนาทีเ่ ปล่ียนแปลงไป และประเทศไทยมบี ทบาทท่ีสาคัญในเวทีโลก และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
และการค้าอย่างแน่นแฟ้นกับประเทศในภูมิภาคเอเซีย เป็นจุดสาคัญของการเช่ือมโยงในภูมิภาค ท้ังการคมนาคม
ขนส่ง การผลิต การค้า การลงทุน และการทาธุรกิจ เพ่ือให้เป็นพลังในการพัฒนา นอกจากนี้ยังมีความสมบูรณ์ใน
ทุนที่จะสามารถสร้างการพัฒนาต่อเนื่องไปได้ ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนท่ีเป็นเครื่องมือ
เครอ่ื งจักร ทุนทางสงั คม และทุนทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม
ความยั่งยืน หมายถึง การพัฒนาที่สามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชนให้
เพิ่มข้ึนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจท่ีอยู่บนหลักการใช้ การรักษา และการฟ้ืนฟูฐาน
ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมจนเกิด
ความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศ การผลิตและการบริโภค เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสอดคล้อง
15
กับเป้าหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืน ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นและส่ิงแวดล้อมมีคุณภาพดีขึ้น คนมี
ความรับผิดชอบต่อสังคม มีความเอ้ืออาทร เสียสละเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม รัฐบาลมีนโยบายท่ีมุ่งประโยชน์ส่วนรวม
อย่างย่ังยืนและให้ความสาคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน และทุกภาคส่วนในสังคมยึดถือและปฏิบัติตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือการพัฒนาอย่างสมดุล มีเสถียรภาพ และยั่งยืน
ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ชาติ
1 ยุทธศาสตร์ชาติด้านความม่ันคง มีเป้าหมายการพัฒนาท่ีสาคัญ คือ ประเทศชาติมั่นคง
ประชาชนมีความสุข เน้นการบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความม่ันคง ปลอดภัย เอกราช
อธิปไตย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับ ต้ังแต่ระดับชาติ สังคม ชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาคน เคร่ืองมือ
เทคโนโลยี และระบบฐานขอ้ มูลขนาดใหญ่ให้มีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคาม และภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ
และทกุ ระดบั ความรุนแรง ควบคู่ไปกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความม่ันคงที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่อาจจะ
เกิดขน้ึ ในอนาคต ใชก้ ลไกการแกไ้ ขปญั หาแบบบรู ณาการท้ังกับส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาสังคม และองค์กร
ท่ีไม่ใช่รัฐ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศท่ัวโลกบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล เพ่ือเอ้ืออานวย
ประโยชน์ต่อการดาเนินการของยุทธศาสตร์ชาติด้านอื่นๆ ให้สามารถขับเคล่ือนไปได้ตามทิศทางและเป้าหมายที่
กาหนด
2 ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒนาท่ีมุ่งเน้นการ
ยกระดับศกั ยภาพของประเทศในหลากหลายมติ ิ บนพน้ื ฐานแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ (1) “ต่อยอดอดีต” โดยมอง
กลับไปท่ีรากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่
หลากหลาย รวมทงั้ ความไดเ้ ปรยี บเชิงเปรียบเทียบของประเทศในดา้ นอ่ืนๆ นามาประยกุ ตผ์ สมผสานกับเทคโนโลยี
และนวัตกรรม เพ่ือให้สอดรับกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมโลกสมัยใหม่ (2) “ปรับปัจจุบัน” เพื่อปูทางสู่
อนาคต ผา่ นการพฒั นาโครงสร้างพนื้ ฐานของประเทศในมติ ิต่างๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสร้าง
พ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และดิจิทัล และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอ้ือต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและ
บริการอนาคตและ (3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่
รวมถงึ ปรับรปู แบบธรุ กิจ เพือ่ ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ที่รองรับอนาคต บน
พื้นฐานของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน พร้อมท้ังการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐให้ประเทศไทย
สามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในเวทีโลก ควบคู่ไปกับการ
ยกระดบั รายได้และการกนิ ดีอย่ดู ี รวมถึงการเพ่ิมขึน้ ของคนชั้นกลางและลดความเหลื่อมล้าของคนในประเทศได้ใน
คราวเดียวกนั
3 ยทุ ธศาสตร์ชาตดิ า้ นการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมายการพัฒนา
ที่สาคัญเพื่อพัฒนาคนในทกุ มติ ิและในทกุ ช่วงวยั ใหเ้ ป็นคนดี เกง่ และมีคณุ ภาพ โดยคนไทย มีความพร้อมทั้งกายใจ
สติปัญญา มีพัฒนาการท่ีดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อ่ืน
มธั ยัสถ์ อดออม โอบออ้ มอารี มวี นิ ัย รักษาศีลธรรมและเป็นพลเมืองดขี องชาติ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะท่ีจาเป็น
ในศตวรรษที่ 21 มีทักษะส่ือสารภาษาอังกฤษและภาษาที่สาม และอนุรักษ์ภาษาท้องถ่ิน มีนิสัยรักการเรียนรู้และ
การพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยท่ีมีทักษะสูง เป็นนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ
เกษตรกรยุคใหม่และอืน่ ๆ โดยมีสัมมาชีพตามความถนัดของตนเอง
4 ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเป้าหมาย การพัฒนาท่ีให้
ความสาคัญกับการดึงเอาพลังของภาคต่างๆ ท้ังภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชน ท้องถิ่น มาร่วมขับเคลื่อน โดย
การสนบั สนนุ การรวมตวั ของประชาชนในการร่วมคิดรว่ มทา เพ่ือส่วนรวม การกระจายอานาจและความรับผิดชอบ
ไปสู่กลไกบริหารราชการแผ่นดินในระดับท้องถ่ินการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดการตนเอง และ
การเตรียมความพรอ้ มของประชากรไทยทั้งในมติ สิ ขุ ภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมให้เป็นประชากรที่มี
คุณภาพ สามารถพึง่ ตนเองและทาประโยชน์แก่ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้นานที่สุด โดยรัฐให้หลักประกันการ
เขา้ ถงึ บรกิ ารและสวสั ดิการที่มคี ณุ ภาพอย่างเป็นธรรมและทว่ั ถึง
16
5 ยทุ ธศาสตร์ชาติดา้ นการสรา้ งการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมาย
การพัฒนาที่สาคญั เพื่อนาไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาท่ียั่งยืนในทุกมิติ ท้ังด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม
ธรรมาภิบาล และความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันท้ังภายในและภายนอกประเทศอย่างบูรณาการ ใช้
พ้นื ทเ่ี ป็นตวั ตงั้ ในการกาหนดกลยทุ ธ์และแผนงานและการให้ทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมในแบบทางตรง
ให้มากท่ีสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเป็นการดาเนินการบนพื้นฐานการเติบโตร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ
สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวติ โดยให้ความสาคัญกับการสร้างสมดุลทั้ง 3 ด้าน อันจะนาไปสู่ความยั่งยืนเพื่อคนรุ่น
ตอ่ ไปอยา่ งแท้จรงิ
6 ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการ
พัฒนาทสี่ าคัญเพื่อปรบั เปล่ียนภาครฐั ทยี่ ึดหลกั “ภาครฐั ของประชาชนเพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม” โดย
ภาครฐั ตอ้ งมีขนาดทเี่ หมาะสมกบั บทบาทภารกจิ แยกแยะบทบาท หนว่ ยงานของรัฐท่ีทาหน้าที่ในการกากับหรือใน
การให้บริการในระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขัน มีสมรรถนะสูง ยึดหลักธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการทางานให้
มุ่งผลสัมฤทธ์ิและผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทันสมัย และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงของโลก
อยูต่ ลอดเวลา โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การนานวัตกรรม เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการทางานที่เป็นดิจิทัลเข้ามา
ประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและปฏิบัติงานเทียบได้กับมาตรฐานสากล รวมทั้งมีลักษณะเปิดกว้าง เช่ือมโยงถึงกันและ
เปดิ โอกาสให้ทกุ ภาคส่วนเขา้ มามสี ่วนร่วมเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และ
โปร่งใส โดยทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันปลูกฝังค่านิยมความซ่ือสัตย์ ความมัธยัสถ์ และสร้างจิตสานึกในการ
ปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้น กฎหมายต้องมีความชัดเจน มีเพียงเท่าที่
จาเปน็ มคี วามทันสมัย มคี วามเป็นสากล มีประสิทธิภาพ และนาไปสู่การลดความเหลื่อมล้าและเอื้อต่อการพัฒนา
โดยกระบวนการยตุ ิธรรมมกี ารบรหิ ารท่ีมีประสิทธิภาพ เป็นธรรมไมเ่ ลือกปฏิบัติ และการอานวยความยุติธรรมตาม
หลกั นติ ธิ รรม
แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ.2560 -2564)
สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดทาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ.2560 – 2564) สาหรับใช้เป็นแผนพัฒนาประเทศไทยในระยะ 5 ปี ซึ่งเป็นการ
แปลงยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพ่ือเตรียมความพร้อมและวางรากฐานในการ
ยกระดับประเทศไทยให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีความมั่นคง ม่ังค่ัง ยั่งยืน ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง ซ่ึงการพัฒนาประเทศไทยในระยะของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.
2560-2564) มหี ลกั การทีส่ าคญั คอื
1) ยึด “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อให้เกิดบูรณาการการพัฒนาในทุกมิติอย่าง
สมเหตุสมผล มีความพอประมาณ และมีระบบภูมิคุ้มกันและการบริหารจัดการความเส่ียงที่ดี ซึ่งเป็นเง่ือนไขที่
จาเป็นสาหรบั การพฒั นาทยี่ ง่ั ยืนซงึ่ ม่งุ เนน้ การพฒั นาคนใหม้ คี วามเปน็ คนที่สมบูรณ์ สังคมไทยเป็นสังคมคุณภาพ มี
ทยี่ ืนและเปดิ โอกาสให้กบั ทุกคนในสงั คมได้ดาเนินชีวิตทดี่ ี มีความสขุ และอยู่รว่ มกนั อย่างสมานฉันท์
2) ยึด “คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา” มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตและสุขภาวะท่ีดีสาหรับคนไทย พัฒนา
คนให้มีความเป็นคนที่สมบูรณ์ มีวินัย ใฝ่รู้ มีความรู้ มีทักษะ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทัศนคติท่ีดี รับผิดชอบต่อ
สังคม มีจริยธรรมและคุณธรรม พัฒนาคนทุกช่วงวัยและเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ
รวมถึงการสร้างคนให้ใช้ประโยชน์และอยู่กับสิ่งแวดล้อมอย่างเกื้อกูล อนุรักษ์ ฟื้นฟู ใช้ประโยชน์
ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อมอยา่ งเหมาะสม
3) ยึด“วสิ ยั ทศั นภ์ ายใต้ยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี” มาเปน็ กรอบของวสิ ัยทัศน์ประเทศไทยในแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความม่ันคง มั่งคั่ง ย่ังยืน เป็นประเทศพัฒนา
แล้ว ด้วยการพฒั นาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง” หรือเป็นคตพิ จน์ประจาชาติว่า “มน่ั คง มง่ั คัง่ ยั่งยนื ”
17
4) ยึด “เป้าหมายอนาคตประเทศไทยปี 2579”ท่ีเป็นเป้าหมายในยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี มา
เป็นกรอบในการกาหนดเป้าหมายที่จะบรรลใุ น 5 ปีแรกและเป้าหมายในระดับย่อยลงมา ควบคู่กับกรอบเป้าหมาย
ที่ยัง่ ยนื (SDGs)
5) ยึด “หลักการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจท่ีลดความเหลื่อมล้าและขับเคล่ือนการเจริญเติบโตจาก
การเพมิ่ ผลติ ภาพการผลิตบนฐานของการใชภ้ ูมปิ ัญญาและนวตั กรรม”
6) ยึด “หลกั การนาไปสกู่ ารปฏิบตั ใิ หเ้ กิดผลสัมฤทธอ์ิ ยา่ งจริงจังใน 5 ปีทีต่ ่อยอดไปสู่ผลสัมฤทธิ์ท่ีเป็น
เปา้ หมายระยะยาว”
วตั ถุประสงค์
1. เพื่อวางรากฐานให้คนไทยเป็นคนที่สมบูรณ์ มีคุณธรรมจริยธรรม มีระเบียบวินัยค่านิยมท่ีดี มีจิต
สาธารณะ และมีความสุข โดยมีสุขภาวะและสุขภาพที่ดี ครอบครัวอบอุ่น ตลอดจนเป็นคนเก่งท่ีมีทักษะความรู้
ความสามารถและพัฒนาตนเองได้ตอ่ เนื่องตลอดชีวิต
2. เพ่ือให้คนไทยมีความม่ันคงทางเศรษฐกิจและสังคม ได้รับความเป็นธรรมในการเข้าถึงทรัพยากรและ
บรกิ ารทางสงั คมทมี่ ีคุณภาพ ผู้ด้อยโอกาสได้รับการพฒั นาศกั ยภาพ รวมท้ังชุมชนมคี วามเข้มแขง็ พงึ่ พาตนเองได้
3. เพ่ือให้เศรษฐกิจเข้มแข็ง แข่งขันได้ มีเสถียรภาพ และมีความย่ังยืน สร้างความเข้มแข็งของฐาน
การผลิตและบริการเดิมและขยายฐานใหม่โดยการใช้นวัตกรรมท่ีเข้มข้นมากขึ้น สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจ
ฐานราก และสรา้ งความมั่นคงทางพลังงาน อาหารและน้า
4. เพ่ือรักษาและฟ้ืนฟูทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพส่ิงแวดล้อมให้สามารถสนับสนุนการเติบโต
ท่ีเป็นมติ รกบั สง่ิ แวดล้อมและการมีคณุ ภาพชีวิตทีด่ ีของประชาชน
5. เพื่อใหก้ ารบรหิ ารราชการแผน่ ดินมีประสิทธภิ าพ โปรง่ ใส ทนั สมัย และมีการทางานเชงิ บูรณาการ
ของภาคกี ารพฒั นา
6. เพื่อให้มีการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคโดยการพัฒนาภาคและเมืองเพ่ือรองรับการพัฒนา
ยกระดบั ฐานการผลิตและบริการเดิมและขยายฐานการผลิตและบริการใหม่
7. เพ่ือผลักดันให้ประเทศไทยมคี วามเชื่อมโยง(Connectivity)กบั ประเทศตา่ งๆทั้งในระดบั อนภุ ูมิภาคและโลก
เป้าหมายรวม ประกอบด้วย
1 คนไทยมีคุณลักษณะเป็นคนไทยที่สมบูรณ์ มีวินัย มีทัศนคติและพฤติกรรมตามบรรทัดฐานท่ีดีของ
สังคม มีความเป็นพลเมืองต่ืนรู้ มีความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรู้เท่าทันสถานการณ์ มีความรับผิดชอบและ
ทาประโยชน์ต่อส่วนรวม มีสุขภาพกายและใจที่ดี มีความเจริญงอกงามทางจิตวิญญาณ มีวิถีชีวิตที่พอเพียง และมี
ความเป็นไทย
2 ความเหลอื่ มลา้ ทางด้านรายได้และความยากจนลดลง เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง ประชาชนทุกคน
มีโอกาสในการเข้าถึงทรพั ยากร การประกอบอาชพี และบริการทางสังคมทีม่ คี ุณภาพอย่างทั่วถงึ และเป็นธรรม
3. ระบบเศรษฐกิจมคี วามเข้มแขง็ และแข่งขันได้ โครงสร้างเศรษฐกิจปรับสู่เศรษฐกิจฐานบริการและ
ดิจิทัล มีผู้ประกอบการรุ่นใหม่และเป็นสังคมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กที่เข้มแข็งสามารถใช้
นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างสรรค์คุณค่าสินค้าและบริการมีระบบการผลิตและให้บริการจากฐาน
รายได้เดิมท่ีมีมูลค่าเพ่ิมสูงข้ึน และมีการลงทุนในการผลิตและบริการฐานความรู้ช้ันสูงใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับ
สิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมทั้งกระจายฐานการผลิตและการให้บริการสู่ภูมิภาคเพ่ือลดความเหลื่อมล้า โดย
เศรษฐกิจไทยมเี สถียรภาพ
4. ทุนทางธรรมชาติและคณุ ภาพสิ่งแวดลอ้ มสามารถสนับสนุนการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มี
ความม่ันคงทางอาหาร พลงั งาน และน้า
5. มีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย สังคมปลอดภัย สามัคคี สร้างภาพลักษณ์ดีและเพ่ิมความ
เชื่อม่ันของนานาชาติตอ่ ประเทศไทย
18
6. มีระบบบริหารจัดการท่ีมีประสิทธิภาพ ทันสมัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ กระจายอานาจและมีส่วน
ร่วมจากประชาชน
ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ประกอบด้วย 10 ยุทธศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศึกษา
ข้นั พนื้ ฐาน 6 ยทุ ธศาสตร์ ดงั น้ี
1. ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 การเสริมสรา้ งและพัฒนาศกั ยภาพทุนมนุษย์ ให้ความสาคัญกับการวางรากฐาน
การพัฒนาคนให้มีความสมบูรณ์ เร่ิมตั้งแต่กลุ่มเด็กปฐมวัยท่ีต้องพัฒนาให้มีสุขภาพกายและใจท่ีดีมีทักษะทางสมอง
ทักษะการเรียนรู้ และทักษะชีวิต เพ่ือให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ควบคู่กับการพัฒนาคนไทยในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี
มีสุขภาวะที่ดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีระเบียบวินัย มีจิตสานึกที่ดีต่อสังคมส่วนรวม มีทักษะความรู้ และ
ความสามารถปรับตัวเท่าทันกับการเปล่ียนแปลงรอบตัวที่รวดเร็ว บนพื้นฐานของการมีสถาบันทางสังคมที่เข้มแข็ง
ท้งั สถาบันครอบครวั สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา สถาบันชุมชน และภาคเอกชนที่ร่วมกันพัฒนาทุนมนุษย์ให้มี
คณุ ภาพสูง อีกท้ังยงั เป็นทุนทางสังคมสาคัญ ในการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศ โดยมีเป้าหมาย 1) ให้คนไทยส่วน
ใหญม่ ที ัศนคตแิ ละพฤตกิ รรมตามบรรทดั ฐานทดี่ ขี องสงั คมเพิ่มขึ้น 2) คนในสังคมไทยทุกช่วงวัยมีทักษะ ความรู้ และ
ความสามารถเพ่ิมข้ึน 3) คนไทยได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล และสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง
อย่างต่อเนื่อง โดยการปรับเปลี่ยนค่านิยมคนไทยให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย จิตสาธารณะ และพฤติกรรมที่พึง
ประสงค์ ด้วยการส่งเสริมให้มีกิจกรรมการเรียนการสอนท้ังในและนอกห้องเรียนท่ีสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม
ความมีระเบียบวินัย จิตสาธารณะ รวมทั้งเร่งสร้างสภาพแวดล้อมภายในและโดยรอบสถานศึกษาให้ปลอดจาก
อบายมขุ อยา่ งจรงิ จัง พฒั นาศกั ยภาพคนให้มีทักษะความรู้และความสามารถในการดารงชีวิตอย่างมีคุณค่า ด้วยการ
ส่งเสริมให้เดก็ ปฐมวยั มีการพัฒนาทักษะทางสมองและทกั ษะทางสังคมท่ีเหมาะสม พัฒนาเด็กวัยเรียนและวัยรุ่นให้มี
ทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการทางานและการใช้ชีวิตท่ีพร้อมเข้าสู่ตลาด
งาน ส่งเสริมแรงงานให้มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพท่ีเป็นไปตามความต้องการของตลาดงาน พัฒนา
ศักยภาพของกลุ่มผู้สูงอายุวัยต้นให้สามารถเข้าสู่ตลาดงานเพ่ิมขึ้น และยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้
ตลอดชีวิต
2. ยุทธศาสตร์ท่ี 2 การสร้างความเป็นธรรม ลดความเหล่ือมล้าในสังคม ให้ความสาคัญกับการ
ดาเนนิ การยกระดับคณุ ภาพบริการทางสังคมใหท้ ่วั ถงึ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งด้านการศึกษาและสาธารณสุข รวมทั้งการ
ปิดช่องว่างการคุ้มครองทางสังคมในประเทศไทยซึ่งเป็นการดาเนินงานต่อเน่ืองจากที่ได้ขับเคล่ือนและผลักดัน
ในช่วงแผนพัฒนาฯฉบับท่ี 11 และมุ่งเน้นมากข้ึนในเรื่องการเพิ่มทักษะแรงงานและการใช้นโยบายแรงงานที่
สนับสนุนการเพ่ิมผลิตภาพแรงงานและเสริมสร้างรายได้สูงขึ้น และการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม
โดยเฉพาะอย่างยง่ิ การสนบั สนนุ ในเรอ่ื งการสรา้ งอาชีพ รายได้ และให้ความช่วยเหลือที่เชื่อมโยง การเพิ่มผลิตภาพ
สาหรบั ประชากรกลุ่มรอ้ ยละ 40 รายได้ต่าสุด ผูด้ อ้ ยโอกาส สตรี และผู้สูงอายุ อาทิ การสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก
ขนาดกลาง และขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชนและวิสาหกิจเพื่อสังคม การพัฒนาองค์กรการเงิน ฐานรากและการ
เข้าถึงเงินทนุ เพื่อสรา้ งอาชีพ และการสนบั สนุนการเข้าถึงปัจจัยการผลิตคณุ ภาพดีที่ราคาเป็นธรรม เป็นต้น และใน
ขณะเดียวกันก็ต้องเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณเชิงพ้ืนท่ีและบูรณาการเพ่ือการลดความเหลื่อมล้า โดยมี
เป้าหมาย เพ่ือเพ่ิมโอกาสการเข้าถึงบริการพ้ืนฐานทางสังคมของภาครัฐ ด้วยการเพิ่มโอกาสให้กับกลุ่มเป้าหมาย
ประชากรรอ้ ยละ 40 ท่ีมีรายได้ต่าสุดให้สามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพของรัฐ และมีอาชีพ ทั้งในด้านการศึกษา
ในระดับท่ีสูงขึ้น การได้รับขยายการคุ้มครองทางสังคม (Social Protection) และสวัสดิการ (Welfare) ที่
เหมาะสมอย่างท่ัวถึงและเป็นธรรม และการพัฒนาทักษะฝีมือเพ่ือประกอบอาชีพและยกระดับรายได้ โดยขยาย
โอกาสการเข้าถึงการศึกษาท่ีมีคุณภาพให้แก่เด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเน่ือง โดยไม่ถูก
จากัดศักยภาพจากสภาพครอบครัว พื้นท่ี และสภาพร่างกาย การดูแลนักเรียนยากจนที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลท่ี
ครอบคลุมต้ังแต่การสร้างรายได้ของครัวเรือน การสนับสนุนค่าเดินทางไปยังสถานศึกษา การให้ทุนการศึกษาต่อ
ระดับสูง เพอ่ื ป้องกนั ไมใ่ ห้เดก็ นักเรียนออกจากโรงเรียนกลางคนั รวมถึงสนบั สนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการ
เรียนรูใ้ นพนื้ ทหี่ า่ งไกล
19
3. ยทุ ธศาสตร์ที่ 4 การเตบิ โตท่เี ป็นมติ รกับสิ่งแวดล้อมเพ่ือการพัฒนาอย่างย่ังยืน ประเด็นท้าทาย
ที่ต้องเร่งดาเนินการในช่วงแผนพัฒนาฯฉบับท่ี 12 ได้แก่ การสร้างความม่ันคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและ
ยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน เร่ง
แก้ไขปัญหาวิกฤติสิ่งแวดล้อมเพ่ือลดมลพิษที่เกิดจากการผลิต และการบริโภค พัฒนาระบบบริหารจัดการที่โปร่งใส
เป็นธรรม ส่งเสริมการผลิตและการบริโภคท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้างมากข้ึน ต้องเร่งเตรียมความพร้อมใน
การลดการปลอ่ ยก๊าชเรือนกระจกและเพ่มิ ขีดความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมท้ัง
บริหารจัดการเพ่ือลดความเส่ียงด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยมีเป้าหมาย สร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี ลดมลพิษ
และลดผลกระทบต่อสขุ ภาพของประชาชนและระบบนเิ วศ
4. ยุทธศาสตร์ที่ 5 การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศ สู่ความมั่งค่ังและ
ยงั่ ยืน ใหค้ วามสาคัญต่อการฟ้ืนฟูพื้นฐานด้านความม่ันคงท่ีเป็นปัจจัยสาคัญต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม
ของประเทศ โดยเฉพาะการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติของผู้มีความเห็นต่างทางความคิดและอุดมการณ์บน
พ้ืนฐานของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและการเตรี ยมการรับมือกับภัย
คุกคามข้ามชาติซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสาคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะ 20 ปี
ข้างหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นสถาบันหลักของประเทศ และ
ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีโอกาสในการศึกษาและการประกอบ
อาชีพท่ีสร้างรายได้เพ่ิมข้ึน โดยการรักษาความมั่นคงภายใน เพื่อให้เกิดความสงบในสังคมและธารงไว้ซึ่งสถาบัน
หลักของชาติ ด้วยการสร้างจิตสานึกของคนในชาติให้มีความหวงแหน และธารงรักษาสถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ โดยปลูกฝังและสร้างความตระหนักถึงความสาคัญ และป้องกัน แก้ไขปัญหาความไม่สงบใน
จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกระบวนการสนั ตสิ ขุ แนวทางสนั ตวิ ิธี และกระบวนการมีสว่ นร่วมของประชาชนในพื้นที่
บนพื้นฐานความแตกต่างทางอัตลักษณ์และชาติพันธุ์ เพื่อขจัดความขัดแย้ง ลดความรุนแรงตามแนวทาง “เข้าใจ
เข้าถงึ พัฒนา”
5. ยุทธศาสตร์ท่ี 6 การบริหารจัดการในภาครัฐ การป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบและ
ธรรมาภิบาลในสังคมไทย เป็นช่วงเวลาสาคัญท่ีต้องเร่งปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่าง
จริงจัง เพื่อให้เป็นปัจจัยสนับสนุนสาคัญที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาประเทศในทุกด้านให้ประสบผลสาเร็จบรรลุ
เป้าหมาย ทั้งการบริหารจัดการภาครัฐให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพ รับผิดชอบ ตรวจสอบได้อย่างเป็นธรรม และ
ประชาชนมีส่วนร่วม มีการกระจายอานาจ และแบ่งภารกิจรับผิดชอบท่ีเหมาะสมระหว่างส่วนกลาง ภูมิภาค และ
ท้องถ่ิน และวางพ้ืนฐานเพื่อให้บรรลุตามกรอบเป้าหมายอนาคตในปี 2579 โดยมีเป้าหมาย เพ่ือลดสัดส่วน
ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และเพ่ิมประสิทธิภาพ การบริหารจัดการและการให้บริการของภาครัฐ การเพิ่มคะแนน
ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปช่ันให้อยู่สูงกว่าร้อยละ 50 เม่ือส้ินสุดแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 12 ด้วยการปรับปรุงโครงสร้าง
หน่วยงาน บทบาท ภารกิจ และคุณภาพบุคลากรภาครัฐ ให้มีความโปร่งใส ทันสมัย คล่องตัว มีขนาดท่ีเหมาะสม
เกิดความคุ้มคา่ สามารถใหบ้ ริการประชาชนในรูปแบบทางเลือกที่หลากหลายและมีคุณภาพ ข้าราชการมีคุณภาพ
ประสิทธิภาพ และความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ องค์กรมีสมรรถนะสูงและมีความทันสมัย ราชการบริหาร
ส่วนกลางมีขนาดเล็กลง และราชการบริหารส่วนท้องถิ่นมีขนาดที่เหมาะสมกับพื้นท่ีรับผิดชอบ และป้องกัน
ปราบปรามการทุจริตและประพฤตมิ ิชอบ เพื่อให้สังคมไทยมีวินัย โปร่งใส และยุติธรรม รวมทั้งสร้างความเข้มแข็ง
เป็นภูมิคุ้มกันของสังคมไทยให้ครอบคลุมภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน พร้อมทั้งเพ่ือสร้างพลัง
การขบั เคลือ่ นคา่ นยิ มต่อต้านการทจุ ริต
6. ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 8 การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม ให้ความสาคัญกับการ
ใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ผลงานวิจัยและพัฒนา ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนวัตกรรมและความคิด
สร้างสรรค์อย่างเข้มข้นทั้งในภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาสังคม รวมท้ังให้ความสาคัญกับการพัฒนาสภาวะ
แวดล้อมหรือปัจจัยพ้ืนฐานที่เอ้ืออานวยทั้งการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากรวิจัย โครงสร้าง
20
พ้ืนฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการบริหารจัดการ เพื่อช่วยขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่
เปา้ หมายดังกลา่ ว โดยมเี ป้าหมาย เพม่ิ ความเขม้ แขง็ ด้านวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ
แผนการศึกษาแห่งชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579)
สานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษาได้จัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2574 เพื่อใช้เป็นแผน
ยุทธศาสตร์ระยะยาวสาหรับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องกับการศึกษาของประเทศ ได้นาไปใช้เป็นกรอบและแนวทางการ
พฒั นาการศกึ ษาและเรียนรู้สาหรับพลเมืองทุกช่วงวัยต้ังแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต โดยจุดมุ่งหมายท่ีสาคัญของแผนคือ
การมุง่ เน้นการประกนั โอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาและการศึกษาเพ่ือการมีงานทาและสร้างงานได้ ภายใต้
บริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ รวมท้ังความ
เป็นพลวัตร เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศท่ีมีรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศท่ีพัฒนาแล้ว ซ่ึง
ภายใต้กรอบแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2567 ได้กาหนดสาระสาคัญสาหรับบรรลุเป้าหมายของการพัฒนา
การศึกษาใน 5 ประการ ได้แก่ 1) การเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา (Access) คนไทยทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ
และมาตรฐานได้อย่างทั่วถึง 2) ความเท่าเทียมทางการศึกษา (Equity) สถานศึกษาทุกแห่งให้บริการการศึกษาแก่
ผู้เรยี นทุกคนทกุ กลุ่มเปา้ หมาย ไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพตามมาตรฐานอย่างเท่าเทียม 3) คุณภาพการศึกษา (Quality) ระบบ
การศึกษาทมี่ ีคุณภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุขีดความสามารถเต็มตามศักยภาพ 4) ประสิทธิภาพ (Efficiency)
ระบบการบริหารจัดการศึกษาทีม่ ีประสิทธิภาพ เพื่อการลงทุนทางการศึกษาท่ีคุ้มค่าและบรรลุเป้าหมาย 5) ตอบโจทย์
การเปลี่ยนแปลง (Relevancy) ระบบการศึกษาท่ีสนองตอบและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นพลวัตและ
บริบทท่เี ปลย่ี นแปลง
วิสัยทัศน์ “คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดารงชีวิตอย่าง
เป็นสขุ สอดคล้องกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลีย่ นแปลงของโลกศตวรรษท่ี 21”
วตั ถปุ ระสงค์ของแผนการศกึ ษาแห่งชาติ (Objective)
1. เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษาท่ีมีคุณภาพและมปี ระสิทธิภาพ
2. เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทักษะและสมรรถนะท่ีสอดคล้องกับ
บทบัญญัติของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ
3. เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรมจริยธรรม รู้รักสามัคคี และ
ร่วมมอื ผนึกกาลังมงุ่ สกู่ ารพัฒนาประเทศอย่างยงั่ ยนื ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
4. เพ่ือนาประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศท่ีมีรายได้ปานกลาง และความเหล่ือมล้า
ภายในประเทศลดลง
ยทุ ธศาสตร์
1. การจัดการศกึ ษาเพ่อื ความมน่ั คงของสังคมและประเทศชาติ
2. การผลิตและพฒั นากาลงั คน การวจิ ัย และนวัตกรรม เพอ่ื สรา้ งขีดความสามารถในการแข่งขัน
ของประเทศ
3. การพัฒนาศกั ยภาพคนทกุ ชว่ งวยั และการสรา้ งสังคมแห่งการเรยี นรู้
4. การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเทา่ เทยี มทางการศึกษา
5. การจดั การศึกษาเพื่อสรา้ งเสริมคุณภาพชวี ิตทีเ่ ปน็ มิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม
6. การพัฒนาประสิทธภิ าพของระบบบรหิ ารจดั การศกึ ษา
เปา้ หมายสุดทา้ ย (Ends)
1. ผู้เรียนทุกระดับการศึกษาได้รับการพัฒนาขีดความสามารถเต็มตามศักยภาพ
ท่ีมีอยู่ในตัวตนของแต่ละบุคคล มีคุณลักษณะนิสัย/พฤติกรรมท่ีพึงประสงค์และอยู่อย่างพอเพียง มีองค์ความรู้
21
ท่สี าคญั และทักษะการเรียนรู้ท่ีเชื่อมโยงกับการทางานในศตวรรษท่ี 21 มีทักษะการดารงชีวิต และทักษะ ความรู้
ความสามารถ และสมรรถนะในการปฏิบัติงานที่ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและ
การพัฒนาประเทศ
2. ประชากรทกุ ช่วงวยั สามารถเข้าถงึ โอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาและการเรียนรู้
จากระบบการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น หลากหลาย และสนองตอบความต้องการของผู้เรียน เพ่ือยกระดับคุณภาพชีวิต
ผ่านกระบวนการศึกษาและการเรียนรู้ มีระบบการทดสอบ วัดและประเมินผลลัพธ์ การเรียนรู้ (Learning Outcome)
ทั้งการศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้จากประสบการณ์การทางาน เพื่อยกระดับ
คุณวุฒิตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ภายใต้ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge based Economy) ที่เอ้ือต่อการ
สร้างสังคมแห่งปญั ญา และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ที่ประชาชนสามารถแสวงหาความรู้และเรียนรู้ได้
ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
3. สถานศึกษามีระบบการบริหารและการจัดการศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณภาพและ
มาตรฐานระดับสากล สามารถใหบ้ รกิ ารการศกึ ษาทตี่ อบสนองความต้องการของบริบทเชิงพื้นท่ีระดับประเทศและ
ระดับภูมิภาคตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในฐานะท่ีเป็นศูนย์กลางของการบริการด้านการศึกษาใน
ภูมิภาคอาเซียน (Hub for Education) และเป็นภาคเศรษฐกิจหนึ่งของระบบเศรษฐกิจของประเทศและของ
ภมู ภิ าคทสี่ รา้ งรายได้ให้กบั ประเทศไทย
4. ภาคการศึกษามีทุนและทรัพยากรท่ีเพียงพอ สาหรับการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพมาตรฐาน
จากการมีสว่ นร่วมในการระดมทุนและสนองทุนเพ่ือการศกึ ษาจากทุกภาคสว่ นของสงั คม ผ่านการเสียภาษีตามสิทธิ
และหน้าที่ของพลเมอื ง การบรจิ าค การระดมทนุ และการร่วมรับภาระคา่ ใช้จ่ายทางการศึกษา
5. ระบบการศึกษาท่ีมีคุณภาพและประสิทธิภาพ สามารถเป็นกลไกในการพัฒนาศักยภาพและ
ขีดความสามารถ รวมทั้งเพ่ิมผลิตภาพของทุนมนุษย์ (productivity) ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน
และการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ประเทศสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศท่ีมีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่พัฒนา
แล้วอย่างย่งั ยืน ภายใตพ้ ลวัตของโลกศตวรรษที่ 21
แผนพฒั นาการศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560 - 2564)
แผนพฒั นาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) เน้นให้ความสาคัญ
ในการวิเคราะห์ความเช่ือมโยงระหว่างยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) และแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2560 – 2574 กับทิศทางท่ี
จะพัฒนาการศึกษาในมิติต่างๆ ท้ังในมิติด้านความม่ันคง มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านสังคม และมิติด้านการบริหาร
จัดการภาครัฐ รวมท้ังได้วิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งภายนอกและภายใน ( SWOT) ที่เกี่ยวข้องกับ
กระทรวงศึกษาธิการท้ังหมด ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งของคนภายในประเทศอันเนื่องมาจากปัญหาทาง
การเมือง ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การติดกับดักประเทศท่ีมีรายได้ปานกลางอันเนื่องมาจาก
สภาวะทางเศรษฐกิจ ปัญหาคุณภาพแรงงาน โครงสร้างประชากรเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัย การเปิดเสรีภายใต้
ข้อตกลงเขตเศรษฐกิจอาเซียน การก้าวกระโดดของเทคโนโลยีไปสู่สังคมดิจิทัล เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ
โลก (SCGs) อานาจหนา้ ท่ขี องกระทรวงศกึ ษาธิการตามทีก่ ฎหมายไดก้ าหนดไว้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(ฉบับช่ัวคราว) พุทธศักราช 2557 คาส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (มาตรา 44) รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รวมทัง้ ใช้ผลการประเมินของแผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
ฉบบั ที่ 11 (พ.ศ. 2555 – 2559) ท่ีผ่านมา การตรวจสอบสถานภาพด้านตา่ งๆ ของกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน
และการคาดการณ์แนวโน้มการดาเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในอนาคตมาใช้ในการร่วมวิเคราะห์ ซ่ึง
ประกอบดว้ ย
22
เปา้ หมายหลกั ของแผนพฒั นาการศกึ ษา
1. คุณภาพการศึกษาของไทยดีขึ้น คนไทยมีคุณธรรม จริยธรรม มีภูมิคุ้มกันต่อการเปล่ียนแปลง
และการพัฒนาประเทศในอนาคต
2. กาลังคนได้รบั การผลติ และพฒั นา เพ่อื เสริมสร้างศกั ยภาพการแข่งขันของประเทศ
3. มอี งคค์ วามรู้ เทคโนโลยี นวตั กรรม สนับสนุนการพัฒนาประเทศอยา่ งย่ังยืน
4. คนไทยไดร้ บั โอกาสในการเรยี นรอู้ ย่างต่อเนื่องตลอดชวี ติ
5. ระบบบรหิ ารจัดการการศึกษามีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล โดยการมสี ่วนร่วมจากทุกภาคสว่ น
วสิ ัยทศั น์ “มุ่งพัฒนาผู้เรียนใหม้ คี วามรคู้ คู่ ุณธรรม มคี ุณภาพชวี ติ ทีด่ ี มคี วามสขุ ในสังคม”
พนั ธกิจ
1. ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษาทกุ ระดับ/ประเภทสสู่ ากล
2. เสริมสร้างโอกาสการเข้าถงึ บริการทางการศกึ ษาของประชาชนอยา่ งท่ัวถงึ เท่าเทียม
3. พฒั นาระบบบรหิ ารจดั การการศึกษาตามหลกั ธรรมาภิบาล
ยุทธศาสตร์
ยุทธศาสตร์ท่ี 1 พัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล ที่มุ่งหวังให้
คนไทยมีคุณธรรม จริยธรรม มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาประเทศในอนาคต ซ่ึงตอบสนองการ
พัฒนาในดา้ นคณุ ภาพและดา้ นการตอบโจทยบ์ รบิ ทที่เปลยี่ นแปลง
ยุทธศาสตร์ที่ 2 ผลิต พัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ที่มุ่งหวังให้มีการผลิตครู
ได้สอดคล้องกับความต้องการในการจัดการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท และมีสมรรถนะ ตามมาตรฐานวิชาชีพ
สามารถใชศ้ กั ยภาพในการสอนไดอ้ ยา่ งเต็มท่ี ซึ่งตอบสนองการพฒั นาในดา้ นคุณภาพ
ยุทธศาสตร์ที่ 3 ผลิตและพัฒนากาลังคน รวมท้ังงานวิจัยท่ีสอดคล้องกับความต้องการของการ
พฒั นาประเทศ ท่มี ุง่ หวังใหก้ าลังคนได้รับการผลิตและพัฒนาเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และ
มีองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม สนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างย่ังยืน ซ่ึงตอบสนองการพัฒนาในด้าน
คุณภาพ และด้านการตอบโจทย์บรบิ ทท่ีเปล่ียนแปลง
ยุทธศาสตร์ที่ 4 ขยายโอกาสการเข้าถึงบริการทางการศึกษาและการเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองตลอด
ชีวิต ที่มุ่งหวังให้การบริการการศึกษาแก่ผู้เรียนทุกกลุ่มทุกวัยในระดับท่ีเหมาะสมกับสภาพบริบทและสภาพพื้นที่
ซึ่งตอบสนองการพฒั นาในดา้ นการเข้าถึงการให้บรกิ ารและดา้ นความเท่าเทยี ม
ยุทธศาสตร์ที่ 5 ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยดี จิ ิทลั เพ่อื การศึกษา ท่ีมุ่งหวังให้คนไทยได้รับ
โอกาสในการเรยี นรู้อย่างตอ่ เน่อื งตลอดชวี ติ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ซ่ึงตอบสนองการพัฒนาในด้านการเข้าถึง
การใหบ้ ริการ ดา้ นความเทา่ เทยี ม และดา้ นประสิทธิภาพ
ยุทธศาสตร์ท่ี 6 พัฒนาระบบบริหารจัดการ และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัด
การศกึ ษา ท่มี ุ่งหวงั ให้มกี ารใช้ทรัพยากรท้ังด้านงบประมาณและบุคลากรได้อย่างคุ้มค่า ไม่เกิดการสูญเปล่า และมี
ความคลอ่ งตวั ซงึ่ ตอบสนองการพัฒนาในดา้ นประสทิ ธิภาพ
แผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี
(พ.ศ.2560-2579)
แผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี ของ
กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทาข้ึนโดยยึดยุทธศาสตร์พระราชทาน คือการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ให้บรรลุ
เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) คือ ความมั่นคง มั่งค่ัง ย่ังยืน และสอดคล้องกับ
23
แผนการศึกษาแห่งชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) นโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ศ. 2560-2562 เพ่ือวางกรอบเป้าหมายและทิศทางการจัดการศึกษาให้ประชาชนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับบริการการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกันพัฒนากาลังคนให้มีสมรรถนะในการ
ทางานท่ีสอดคล้องกับความต้องการของตลาดงานและการพัฒนาประเทศเป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน
ภายใต้แนวคิดการจัดการศึกษาเพื่อคนทุกคน และทุกคนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิต
อย่างมีคณุ ภาพ ดารงชวี ิตอย่างเป็นสุขในสงั คมพหุวัฒนธรรม สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ
การเปลย่ี นแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21” โดยมเี ปา้ ประสงค์หลัก คอื
1. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยึดม่ันสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มี
จติ สานึกในความเปน็ พลเมือง มีคณุ ธรรม จริยธรรม อย่รู ่วมกนั อยา่ งมคี วามสขุ ในสงั คมพหุวัฒนธรรม
2. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีทักษะการดารงชีวิตในศตวรรษที่ 21 โดยเน้นทักษะ
การเรียนรู้ ทกั ษะชีวติ ทกั ษะการทางาน รวมทั้งทักษะการส่ือสาร และเทคโนโลยี สามารถพึ่งพาตนเองได้
3. กาลังคนมีคุณภาพ มีทักษะท่ีสาคัญและมีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน
เปน็ ฐานรองรับการขบั เคลือ่ นประเทศไทย 4.0
4. หน่วยงานการศกึ ษาและสถานศึกษามีระบบบริหารจัดการท่ีมีประสิทธิภาพ ทันสมัย โปร่งใส
มกี ารบรู ณาการการทางานทุกระดบั ในพน้ื ท่แี ละมีส่วนรว่ มจากประชาชน
5. ผู้เรียนทกุ กล่มุ เปา้ หมายได้รบั บรกิ ารทางการศกึ ษาอยา่ งเสมอภาคและเท่าเทียม
6. ประชาชนมีคุณภาพชีวิตท่ีดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พ่ึงพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง
แผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี ได้กาหนด
ยทุ ธศาสตรใ์ นการพัฒนาดังนี้
1. การศึกษาเพ่ือเสริมสร้างความม่ันคง มีเป้าหมาย 1) ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
มีความภูมิใจและความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุข 2) ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในสังคมพหุวัฒนธรรม
3) ประชาชนในจังหวดั ชายแดนภาคใต้มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วามเปน็ พลเมอื งไทย และพลโลก สามารถดารงตน
ได้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
2. การผลิตและพัฒนากาลังคนให้มีสมรรถนะในการแข่งขัน มีเป้าหมาย 1) ประชากรวัยแรงงานมี
ทักษะและสมรรถนะทั้งความรู้ คุณลักษณะด้านอาชีพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน และได้รับการ
สง่ เสริมสนบั สนุนส่คู วามเปน็ เลิศ 2) ประชากรวยั ทางานมีความเช่ยี วชาญ และมีความเปน็ เลิศเฉพาะด้าน
3. การพฒั นาศกั ยภาพคนทกุ ชว่ งวยั และการสรา้ งสังคมแหง่ การเรียนรู้ มีเป้าหมาย 1) ประชาชน
ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีทักษะ ความรู้ ความสามารถตามช่วงวัย และมีศักยภาพรองรับการพัฒนาพ้ืนท่ี
เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2) ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต
พร้อมรบั บริบทการเปลีย่ นแปลงท้งั ภายในและภายนอกประเทศ
4. การสร้างโอกาสความเสมอภาคและเทา่ เทยี มกันทางการศึกษา มีเป้าหมาย 1) ประชาชนกลุ่ม
ท่ีด้อยโอกาสทางสังคมได้รับการช่วยเหลอื ใหม้ คี วามพรอ้ มในการเข้าถึงบริการการศึกษา 2) ประชาชนได้รับโอกาส
ในการเข้าถึงบรกิ ารการศกึ ษาอยา่ งมคี ุณภาพต่อเน่อื งตลอดชีวิต
24
5. การจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม มีเป้าหมาย
ประชาชนมีองค์ความรู้จิตสานึกในการใช้และกา รอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สถานศกึ ษา ชมุ ชน มคี วามเขม้ แขง็ ในการอนุรักษฟ์ ้ืนฟู ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม
6. การพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษา มีเป้าหมาย 1) ผู้เรียน ครู อาจารย์ บุคลากร
ทางการศึกษา มีปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีขวัญกาลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ 2) หน่วยงาน/สถานศึกษามี
ระบบบริหารจัดการและมีการทางานเชิงบูรณาการกับทุกหน่วยงานในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพทันสมัย โปร่งใส
ตรวจสอบได้ 3) ทกุ ภาคสว่ นเข้ามามีส่วนในการจัดการศกึ ษาในรูปแบบการสานพลงั ประชารฐั
แผนพัฒนาด้านการศกึ ษาระดบั ภาค (ภาคใต้ชายแดน)
วสิ ยั ทศั น์ “พัฒนากาลังคนให้มคี ุณภาพชีวติ ท่ีดี เพ่ือการขับเคล่ือนสามเหล่ียมเศรษฐกิจ สู่ความ
ม่นั คง มงั่ คั่ง ยั่งยนื ”
เปา้ หมายเชิงยุทธศาสตร์
เป็นแหล่งผลิตภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่สาคัญของประเทศ และเป็นเมือง
ชายแดน เช่ือมโยงการค้าและการท่องเทีย่ วกับพ้ืนท่ีภาคใตแ้ ละการพฒั นาเศรษฐกจิ ของมาเลเชียและสิงคโปร์
ยทุ ธศาสตร์การพฒั นา
ยุทธศาสตร์ท่ี 1 ยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรม
แปรรปู การเกษตร เพื่อสร้างความม่ันคงให้กับภาคการผลติ
แนวทางการพฒั นา
1) พฒั นาศกั ยภาพการผลิตภาคเกษตร
2) ยกระดับอุตสาหกรรมประมง การเพาะเลี้ยงกุ้งและสัตว์น้าชายฝ่ังเพื่อการส่งออกและ
เปน็ มิตรตอ่ สิง่ แวดลอ้ ม
3) สง่ เสริมการเลยี้ งปศสุ ัตว์
4) พัฒนาเกษตรกรร่นุ ใหม่ (Young Smart Farmer)
5) ส่งเสริมการใช้ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยชี วี ภาพ
6) ส่งเสริมการสร้างตราสินคา้ (Brand) ผลผลติ ทางการเกษตร
7) พัฒนาพ้นื ที่อาเภอหนองจิกตอ่ เน่ืองอาเภอเมอื งปตั ตานี
8) สนับสนนุ ท่าเทียบเรือปัตตานีให้มมี าตรฐาน
ยุทธศาสตรท์ ่ี 2 สง่ เสริมการศึกษาเพ่อื พัฒนาเมอื งสไุ หงโก-ลก และเมืองเบตง ให้เป็นเมืองการค้า
และเมอื งท่องเทีย่ วชายแดน
แนวทางการพัฒนา
1) พัฒนาสิ่งอานวยความสะดวกบริเวณด่านชายแดนให้เพียงพอและได้มาตรฐานรวมทั้ง
พ้ืนทเ่ี ศรษฐกจิ บริเวณชายแดน
2) พฒั นาโครงขา่ ยคมนาคมใหม้ คี วามเชื่อมโยงและมีมาตรฐานทงั้ ทางบกและทางอากาศ
3) พฒั นาแหลง่ ท่องเทีย่ วทางธรรมชาตแิ ละวัฒนธรรม
4) พฒั นาและสง่ เสริมธุรกจิ ตอ่ เน่อื งการทอ่ งเท่ยี วในเมืองทอ่ งเทีย่ วชายแดน
5) พฒั นาและสง่ เสริมธุรกิจการคา้ ชายแดน
25
6) เร่งการพัฒนาพ้ืนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาสเพื่อรองรับการค้าการลงทุนท้ังในและ
ต่างประเทศ
ยทุ ธศาสตร์ที่ 3 สง่ เสริมการศกึ ษาเพอื่ เสริมสรา้ งความเข้มแข็งใหก้ บั ชุมชน
แนวทางการพฒั นา
1) พฒั นาและสนบั สนนุ ทักษะฝมี ือแรงงาน
2) พฒั นาและยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษา
3) ส่งเสริมการพัฒนาสุขภาวะของประชาชนทุกช่วงวยั
4) สง่ เสริมเศรษฐกจิ ชุมชนใหม้ ีความเข้มแขง็
5) สรา้ งความเข้มแขง็ ของสังคมพหวุ ัฒนธรรม
แผนพฒั นาจังหวัดนราธิวาส พ.ศ. 2561-2564
จังหวัดนราธิวาสได้จัดทาแผนจังหวัดนราธิวาส พ.ศ. 2561-2564 เป็นแผนในการพัฒนาจังหวัดระยะ 4 ปี
โดยกาหนด วสิ ัยทศั นจ์ งั หวัดนราธวิ าส “เศรษฐกิจม่นั คง การค้าเฟอ่ื งฟู นรานา่ อยู่ ม่งุ สสู่ นั ติสขุ อยา่ งยงั่ ยืน”
แผนพัฒนาจังหวัดนราธิวาส มีเป้าประสงค์รวมให้เศรษฐกิจของจังหวัดนราธิวาสเติบโตอย่างมี
เสถียรภาพ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตท่ีดี ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความมั่นคงในชีวิต โดยกาหนด
ประเด็นยทุ ธศาสตร์การพัฒนา ดังน้ี
1. เสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมการค้า การลงทุน และการค้าชายแดน มี
กลยุทธ์ในการดาเนินการ คือ (1) ยกระดับคุณภาพของแรงงาน รองรับการท่องเที่ยว การค้า และการพัฒนาทาง
เศรษฐกจิ ของจงั หวัด (2) พฒั นาผูป้ ระกอบการ ขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการใหม่
มีความพร้อมในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจจังหวัดให้มีศักยภาพท่ีแข่งขันได้ (3) พัฒนาและสร้างสรรค์รูปแบบการ
บริหารจดั การผลผลิตทางการเกษตรทม่ี ปี รมิ าณ คณุ ภาพรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรของจังหวัดเพ่ือ
การค้าและการส่งออก (4) พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน การคมนาคม และระบบ โลจิสติกส์ให้มีคุณภาพและได้
มาตรฐานรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการพัฒนาจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ (5) ยกระดับศักยภาพและ
เสริมสร้างความเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวเชิงนิเวศน์ การท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิง
สันทนาการและกีฬา สร้างสรรค์เศรษฐกิจเพิ่มมูลค่าจากฐานของการกีฬา นันทนาการ และการบริการ (6)
เสริมสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมเพิ่มมูลค่าที่มีคุณภาพมาตรฐานในระดับส่งออกและเป็นมิตรกับ
ส่ิงแวดล้อม (7) สร้างระบบนิเวศน์การค้าชายแดน จัดระเบียบ และพัฒนาเมืองสุไหงโก-ลก เป็นต้นแบบการค้า
ชายแดนระหว่างประเทศ ที่มีความพร้อม มาตรฐาน และการจัดการเมืองชายแดนท่ีเป็นสากล (8) พัฒนาจังหวัด
สู่ระบบการค้าผ่านระบบอเิ ล็กทรอนิกสเ์ ปดิ ตลาดสสู่ ังคมดิจทิ ัล เชอื่ มโยงการค้ากับประเทศอาเซียน และนานาชาติ
บนโลกออนไลน์
2. การลดความเหลื่อมล้า พัฒนาและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตประชาชนบนพื้นฐานหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง มีกลยุทธ์ในการดาเนินการ คือ (1) สร้างโอกาสในชีวิตด้วยศาสตร์พระราชา ส่งเสริมการ
ขยายผลและประยุกตใ์ ช้แนวทางตามโครงการพระราชดาริและเสริมสร้างศักยภาพ การพึ่งตนเองตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง (2) พัฒนาขีดความสามารถของประชาชนให้มีคุณภาพ ก้าวทัน การเปล่ียนแปลงอย่างมี
ภูมคิ มุ้ กันภายใต้อัตลกั ษณท์ ี่ดีงามของพืน้ ที่ (3) พัฒนาคุณภาพการศึกษา มุ่งสร้างผู้เรียนท่ีมีคุณภาพด้วยมาตรฐาน
การศึกษาและบุคลากรการศึกษา (4) สร้างโอกาสแก่ผู้ด้อยโอกาส ดูแลคนยากจน เยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับ
ผลกระทบจากความไม่สงบให้มีคุณภาพชีวิตท่ีดี และพึ่งตนเองได้ (5) สร้างชุมชนแห่งสุขภาวะท่ีเข้มแข็ง ให้
ประชาชนฉลาดรู้ พ่ึงตนเองทางสุขภาพ ลดปัญหาการเจ็บป่วย ป่วยตาย ทุกพื้นท่ี และพัฒนาขีดความสามารถ
26
การบริการสุขภาพที่มีคุณภาพมาตรฐาน (6) ลดความเหล่ือมล้าทางรายได้ ด้วยระบบเศรษฐกิจชุมชนท่ีเข้มแข็ง
สร้างงาน อาชีพ รายได้ แก่ชุมชนจากต้นทุนทรัพยากรและภูมิปัญญา (7) พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและ
สาธารณปู โภค เพ่อื หนุนเสรมิ คณุ ภาพชีวิตแกป่ ระชาชนอยา่ งทั่วถงึ
3. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ใช้ประโยชน์อย่างย่ังยืน และมี
ส่ิงแวดล้อมที่ดี มีกลยุทธ์ในการดาเนินการ คือ (1) เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ และ
ความหลากหลายของระบบนิเวศน์ป่าเขา ชายฝ่ัง และทะเล (2) สร้างระบบการจัดการปัญหาทางธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม การกัดเซาะชายฝ่ังและตล่ิง และภัยพิบัติ แบบมีส่วนร่วม และวิทยาการท่ีทันสมัย (3) พัฒนาให้เป็น
เมอื งส่ิงแวดล้อมที่ดี อากาศบริสุทธิ์ บ้านเมืองสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย (4) ส่งเสริมการพ่ึงพาตนเองด้วยการ
ใช้พลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน จากฐานทรัพยากรมุ่งเน้นการพัฒนาพลังงานท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
รองรับการเติบโตของเมือง
4. การเสริมสร้างสันติสุขและความมั่นคงภายในพื้นท่ีแบบมีส่วนร่วม อย่างเข้าใจ เข้าถึง และ
พัฒนามีกลยุทธ์ในการดาเนินการ คือ (1) เสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน และชุมชนเมืองในการจัดการ
ตนเองให้มีความปลอดภัย สงบเรียบร้อย และมีความมั่นคงในพื้นที่ (2) เสริมสร้างวิธีการคิดของประชาชน สร้าง
หลักยึดและวิถีชีวิตบนฐานของหลักธรรมทางศาสนาและอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายของประเพณี และ
วัฒนธรรม (3) เสรมิ สร้างการมีสว่ นร่วมและเปดิ โอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา
พน้ื ที่ (4) เพ่ิมประสทิ ธภิ าพเจ้าหน้าที่รัฐและการบูรณาการภารกิจความม่ันคงของหน่วยงานในพื้นที่ทุกระดับ และ
พัฒนาระบบงานความมัน่ คงทที่ นั สมัย ได้รับการยอมรบั เชือ่ มน่ั ไว้วางใจจากประชาชน (5) สร้างพื้นที่ให้ประชาชน
มคี วามปลอดภัย สงบสุข อยู่อยา่ งเข้าใจซง่ึ กนั และกัน และภาคภมู ิใจในพื้นที่ ใหก้ ระจายทัว่ ท้งั จังหวัด
นโยบายสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน ปงี บประมาณ พ.ศ. 2563
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ได้กาหนดนโยบายสานักงานคณะกรรมการการศึกษา
ข้ันพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) แผนการศึกษา
แห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 แผนการปฏิรูปประเทศ นโยบายรัฐบาลท่ีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันท่ี
25 - 26 กรกฎาคม 2562 และนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดย
ได้กาหนด วสิ ัยทศั น์ พันธกิจ เปา้ หมาย ดงั น้ี
วิสัยทัศน์
“สร้างคุณภาพทุนมนุษย์ สู่สังคมอนาคตที่ยั่งยืน”
พันธกิจ
1. จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติและการปกครอง
ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2. พัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถความเป็นเลิศทางวิชาการเพ่ือสร้างขีดความสามารถ
ในการแข่งขัน
3. พัฒนาศักยภาพและคุณภาพผู้เรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตรและคุณลักษณะ
ในศตวรรษท่ี 21
4. สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมลา้ ให้ผู้เรียนทุกคนได้รับบริการทางการศึกษา
อย่างท่ัวถึงและเท่าเทียม
27
5. พัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นมืออาชีพ
6. จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง และเป้าหมายการพัฒนาท่ียั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs)
7. ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาทุกระดับ และจัดการศึกษาโดยใช้
เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) เพื่อพัฒนามุ่งสู่ Thailand 4.0
เป้าหมาย
1. ผู้เรียนมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดม่ันการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีหลักคิดที่ถูกต้อง และเป็นพลเมืองดีของชาติ
มีคุณธรรม จริยธรรม มีค่านิยมที่พึงประสงค์ มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น ซ่ือสัตย์ สุจริต
มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรม
2. ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ศิลปะ ดนตรี กีฬา ภาษา และ
อื่น ๆ ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพ
3. ผู้เรียน เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ คิดริเริ่มและสร้างสรรค์นวัตกรรม มีความรู้ มีทักษะ
มีสมรรถนะตามหลักสูตร และคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 มีสุขภาวะท่ีเหมาะสมตามวัย
มีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเป็นพลเมือง
พลโลกที่ดี (Global Citizen) พร้อมก้าวสู่สากล นาไปสู่การสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
4. ผู้เรียนท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ (ผู้พิการ) กลุ่มชาติพันธ์ุ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส
และกลุ่มที่อยู่ในพ้ืนที่ห่างไกลทุรกันดาร ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีคุณภาพ
5. ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีความรู้
และจรรยาบรรณ ตามมาตรฐานวิชาชีพ
6. สถานศึกษาจัดการศึกษาเพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างย่ังยืน (Sustainable
Development Goals: SDGs) และสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง
7. สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา มี
สมดุลในการบริหารจัดการเชิงบูรณาการ มีการกากับ ติดตาม ประเมินผล มีระบบข้อมูลสารสนเทศ
ท่ีมีประสิทธิภาพ และการรายงานผลอย่างเป็นระบบ ใช้งานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม
ในการขับเคล่ือนคุณภาพการศึกษา
ในการขับเคลื่อนการดาเนินงาน สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานได้กาหนด
นโยบาย 6 ด้าน ดังน้ี
นโยบายท่ี 1 ด้านการจัดการศึกษาเพื่อความม่ันคงของมนุษย์และของชาติ
นโยบายท่ี 2 ด้านการจัดการศึกษาเพ่ือเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
นโยบายท่ี 3 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
นโยบายท่ี 4 ด้านการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาท่ีมีคุณภาพ มีมาตรฐานและ
ลดความเหลื่อมลา้ ทางการศึกษา
นโยบายท่ี 5 ด้านการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นโยบายที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษา
บทท่ี 3
นโยบายสานักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานราธวิ าส เขต 2
สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำนรำธิวำส เขต 2 ได้กำหนดทิศทำงกำรจัดกำรศึกษำ
ในปงี บประมำณ พ.ศ. 2563 ประกอบดว้ ย วิสัยทศั น์ พันธกิจ เป้ำประสงค์ กลยทุ ธ์ ซึ่งมีสำระสำคัญ ดงั นี้
วสิ ัยทัศน์ (Vision)
“เปน็ องค์กรท่ีมีคุณภาพ พฒั นาคน มงุ่ ส่ทู กั ษะในศตวรรษที่ 21”
พันธกิจ(Mission)
1. จดั กำรศึกษำเพื่อเสริมสรำ้ งควำมมัน่ คงของสถำบันหลักของชำติ และกำรปกครองในระบอบ
ประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ
2. พัฒนำผู้เรียนใหม้ ีควำมเป็นเลิศทำงวิชำกำรเพ่ือสร้ำงขดี ควำมสำมำรถทำงควำมแขง่ ขัน
3. พฒั นำศักยภำพ และคณุ ภำพผู้เรียนให้มสี มรรถนะตำมหลกั สูตร และคณุ ลักษณะในศตวรรษที่ 21
และ พัฒนำศกั ยภำพและคณุ ภำพ ผบู้ ริหำร ครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ใหเ้ ป็นมอื อำชพี
4. สรำ้ งโอกำส ควำมเสมอภำค ลดควำมเหล่อื มลำ้ ให้ผูเ้ รยี นทกุ คนไดร้ ับบรกิ ำรทำงกำรศึกษำจนจบ
กำรศึกษำภำคบงั คบั อย่ำงท่ัวถึงและเท่ำเทยี ม
5. จัดกำรศึกษำเพื่อพัฒนำคุณภำพชวี ติ ท่เี ป็นมติ รกับสง่ิ แวดล้อมโดยยึดหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ
พอเพยี ง
6. เพมิ่ ประสิทธิภำพกำรบรหิ ำรจัดกำรศึกษำของสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำ และสถำนศกึ ษำตำมหลัก
ธรรมำภบิ ำล และเสริมสรำ้ งกำรมีส่วนร่วมภำคเี ครอื ข่ำยจำกทุกภำคสว่ น
เปา้ ประสงค์ (Goal)
1. ผูเ้ รียนมคี วำมรกั ในสถำบนั หลักของชำติยดึ มน่ั กำรปกครองระบอบประชำธปิ ไตย อันมี
พระมหำกษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ มที ัศนคติที่ดีตอ่ บ้ำนเมือง มหี ลักคดิ ที่ถกู ต้อง เป็นพลเมืองท่ีดีของชำติ มคี ุณธรรม
จริยธรรม มคี ำ่ นยิ มที่พงึ ประสงค์ มจี ิตสำธำรณะ จิตอำสำ สำมำรถรับมือกบั ภยั คกุ คำมทุกรูปแบบดำรงชวี ติ ใน
สงั คมพหวุ ฒั นธรรมอย่ำงสนั ติสุข
2. ผู้เรียนมคี วำมเปน็ เลศิ ตำมควำมถนดั และควำมสนใจนำไปส่กู ำรพัฒนำทักษะวชิ ำชีพเป็นนักคดิ
นกั พฒั นำพรอ้ มสำหรบั กำรกำรใชว้ ิถีชีวติ ในศตวรรษท่ี 21 เพ่ือกำรรองรบั เขตพื้นทเ่ี ศรษฐกิจพเิ ศษ
3. ผูเ้ รยี นเป็นบคุ คลแหง่ กำรเรยี นรู้ คดิ รเิ ริ่มและสรำ้ งสรรค์นวัตกรรม มีควำมรู้ มีทักษะ มสี มรรถนะ
ตำมหลักสูตร และคณุ ลักษณะของผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21
4. ผู้บรหิ ำร ครู และบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ เปน็ บคุ คลแหง่ กำรเรยี นรู้ มคี วำมรู้ และจรรยำบรรณ
ตำมมำตรฐำนวชิ ำชพี
5. สถำนศึกษำจัดกำรศึกษำใหเ้ ด็กที่มีควำมต้องกำรพิเศษ รว่ มมอื ในกำรจัดกำรศึกษำกับองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถนิ่ ภำคเอกชน และหน่วยงำนทเ่ี กีย่ วข้องอย่ำงมีคุณภำพและมำตรฐำนตำมบรบิ ทของพ้ืนท่ี นำเทคโนโลยี
ให้ผูเ้ รยี นไดม้ โี อกำสเขำ้ ถงึ บริกำรทำงกำรศึกษำ
29
6. นักเรยี นมีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกีย่ วกับกำรอนรุ ักษ์ส่ิงแวดลอ้ ม โรงเรยี นมหี ลักสตู รสง่ิ แวดล้อม
ผ่ำนเกณฑ์มำตรฐำนส่งิ แวดล้อมศึกษำอย่ำงย่ังยนื
7. สำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศกึ ษำและสถำนศึกษำมีกำรบริหำรจัดกำรเชงิ บูรณำกำรจำกภำคเี ครือข่ำย
ทกุ ภำคสว่ น ยดึ หลกั ธรรมำภิบำล โดยใช้เทคโนโลยีและนวตั กรรมในกำรขบั เคลือ่ นคุณภำพกำรศึกษำ
คา่ นิยม
ถกู ต้อง รวดเร็ว บรกิ ำรดี มคี วำมรบั ผิดชอบ
ประเดน็ กลยุทธ์ (Strategic Issue)
1. จัดกำรศึกษำเพื่อควำมม่นั คงของชำติ
2. พฒั นำคณุ ภำพผเู้ รียน และส่งเสริมกำรจดั กำรศึกษำ เพื่อสร้ำงขดี ควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขัน สูเ่ วที
ระดบั นำนำชำติ
3. พัฒนำและเสริมสร้ำงศักยภำพผู้เรียนครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ
4. สร้ำงโอกำสและควำมเสมอภำคทำงกำรศึกษำภำคบงั คับ
5. จัดกำรศกึ ษำเพ่ือเสรมิ สรำ้ งคณุ ภำพชวี ิตทเี่ ป็นมิตรกับส่งิ แวดลอ้ ม
6. พัฒนำระบบบริหำรจัดกำรเสรมิ สร้ำงกำรมสี ่วนร่วมและใช้เทคโนโลยีในกำรบริหำรจัดกำรศกึ ษำ
มาตรการและแนวทางการดาเนนิ การ
ประเด็นกลยทุ ธ์ท่ี 1 จัดการศึกษาเพอื่ ความมั่นคงของชาติ
นโยบำยด้ำนกำรจัดกำรศึกษำเพ่ือควำมม่ันคงของมนุษย์และของชำติ เป็นกำรจัดกำรศึกษำเพื่อมุ่งเน้น
กำรพัฒนำผู้เรียนทุกคน ให้มีควำมรักในสถำบันหลักของชำติ ยึดม่ันในกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมี
พระมหำกษตั ริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติที่ดีต่อบ้ำนเมือง มีหลักคิดที่ถูกต้อง เป็นพลเมืองดีของชำติ และพลเมือง
โลกทด่ี ี มีคุณธรรม จริยธรรม มคี ุณธรรมอตั ลักษณ์ มีจิตสำธำรณะมีจิตอำสำ รับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคม
และประเทศชำติ ซือ่ สตั ย์ สจุ ริต มธั ยัสถ์ อดออม โอบออ้ มอำรี มีวินัย และรักษำศีลธรรม เป็นผู้เรียนที่มีควำมพร้อม
สำมำรถรับมือกับภัยคุกคำมรูปแบบใหม่ทุกรูปแบบ ที่มีผลกระทบต่อควำมม่ันคง เช่น ภัยจำกยำเสพติด
ควำมรุนแรง กำรคุกคำมในชีวิตและทรัพย์สิน กำรค้ำมนุษย์ อำชญำกรรมไซเบอร์ และภัยพิบัติต่ำง ๆ เป็นต้น
ควบคู่ไปกับกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่อำจจะเกิดขึ้นในอนำคต และเน้นกำรจัดกำรศึกษำ
ให้เหมำะสม สอดคล้องกับบริบทของเขตพัฒนำพิเศษเฉพำะกิจจังหวัดชำยแดนภำคใต้ เพ่ือให้ผู้เรียนได้มีโอกำส
ไดร้ บั กำรพัฒนำสอดคล้องกบั บรบิ ทของพ้ืนที่ ไดร้ ับกำรบริกำรด้ำนกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำนที่มีคุณภำพ และเหมำะสม
ตรงตำมควำมตอ้ งกำร
เป้าประสงค์
1. ผู้เรียนทุกคนท่ีมีพฤติกรรมท่ีแสดงออกถึงควำมรักในสถำบันหลักของชำติ ยึดมั่นกำรปกครอง
ระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข
30
2. ผู้เรียนทุกคนมีทัศนคติที่ดีต่อบ้ำนเมือง มีหลักคิดที่ถูกต้อง เป็นพลเมืองดีของชำติ มีคุณธรรม
จริยธรรม มีค่ำนิยมที่พึงประสงค์ มีจิตสำธำรณะ มีจิตอำสำ รับผิดชอบต่อครอบครัว ผู้อื่น และสังคม
โดยรวม ซื่อสัตย์ สุจริต มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอำรี มีวินัย และรักษำศีลธรรม
3. ผู้เรียนทุกคนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และมีควำมพร้อมสำมำรถรับมือกับภัยคุกคำมทุกรูปแบบ
ท่ีมีผลกระทบต่อควำมมั่นคง เช่น ภัยจำกยำเสพติด ควำมรุนแรง กำรคุกคำมในชีวิตและทรัพย์สิน กำรค้ำ
มนุษย์ อำชญำกรรมไซเบอร์ และภัยพิบัติต่ำง ๆ เป็นต้น
4. ผู้เรียนในเขตพื้นที่เขตพัฒนำพิเศษเฉพำะกิจจังหวัดชำยแดนภำคใต้ได้รับโอกำสและกำร
พัฒนำอย่ำงเต็มศักยภำพ และมีคุณภำพสอดคล้องกับบริบทของพ้ืนที่
ตัวช้ีวัด
1. ร้อยละของผู้เรียนที่มีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงควำมรักในสถำบันหลักของชำติ ยึดมั่น
กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุ ข
2. ร้อยละของผู้เรียนที่มีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงกำรมีทัศนคติที่ดีต่อบ้ำนเมือง มีหลักคิดที่
ถูกต้องเป็นพลเมืองดีของชำติ มีคุณธรรม จริยธรรม มีค่ำนิยมที่พึงประสงค์ มีคุณธรรม อัตลักษณ์
มีจิตสำธำรณะ มีจิตอำสำ รับผิดชอบต่อครอบครัว ผู้อื่น และสังคมโดยรวม ซื่อสัตย์ สุจริต มัธยัสถ์
อดออม โอบอ้อมอำรี มีวินัย และรักษำศีลธรรม
3. ร้อยละของผู้เรียนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และมีควำมพร้อมสำมำรถรับมือกับภัยคุกคำมทุก
รูปแบบที่มีผลกระทบต่อควำมม่ันคง เช่น ภัยจำกยำเสพติด ควำมรุนแรง กำรคุกคำมในชีวิตแล ะทรัพย์สิน
กำรค้ำมนุษย์ อำชญำกรรมไซเบอร์ และภัยพิบัติต่ำง ๆ เป็นต้น
4. ร้อยละของผู้เรียนได้รับโอกำส และกำรพัฒนำอย่ำงเต็มศักยภำพ และมีคุณภำพสอดคล้อง
กับบริบทของพื้นที่
5. จำนวนสถำนศึกษำที่น้อมนำพระบรมรำโชบำยด้ำนกำรศึกษำของพระบำทสมเด็จ
พระปรเมนทรรำมำธิบดีศรีสินทร มหำวชิรำลงกรณฯ พระวชิรเกล้ำเจ้ำอยู่หัว และหลักปรัชญำ
ของเศรษฐกิจพอเพียง ไปพัฒนำผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตำมที่กำหนดได้อย่ำงมี
ประสิทธิภำพ
6. จำนวนสถำนศึกษำที่จัดบรรยำกำศสิ่งแวดล้อม และจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ให้ผู้เรียน
แสดง ออก ถึงค ว ำมรักใน สถำ บันห ลักขอ งช ำ ติ ยึดมั่น กำรป กคร องร ะบอ บประ ช ำธิปไต ยอัน มี
พระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติที่ดีต่อบ้ำนเมือง มีหลักคิดที่ถูกต้อง เป็นพลเมืองดีของชำติ
มีคุณธรรม จริยธรรม
มาตรการและแนวทางการดาเนินการ
1. พัฒนำผู้เรียนให้เป็นพลเมืองดีของชำติและเป็นพลโลกที่ดี
เปน็ มำตรกำรในกำรพฒั นำผเู้ รียนใหม้ คี วำมรกั ในสถำบนั หลกั ของชำติ ยดึ มน่ั ในกำรปกครองระบอบ
ประชำธปิ ไตยอนั มีพระมหำกษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ มีทัศนคตทิ ีด่ ีต่อบำ้ นเมือง มีหลกั คิดที่ถูกต้อง เปน็ พลเมืองดี
ของชำติ และพลเมืองโลกท่ีดี มคี ุณธรรม จริยธรรม มีคำ่ นิยมทพ่ี ึงประสงค์ มีคุณธรรมอัตลกั ษณ์ มจี ิตสำธำรณะ
มีจติ อำสำ รับผดิ ชอบต่อครอบครวั ชมุ ชน และสังคมและประเทศชำตซิ ่ือสตั ย์ สจุ ริต มธั ยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอำรี
มีวินยั และรักษำศีลธรรม
31
โดยมแี นวทำงกำรดำเนินกำร ดังนี้
1.1 สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ ติดตำม และประเมินสถำนศึกษำตำม
มำตรกำรท่กี ำหนด
1.2 สถำนศึกษำ
1) พัฒนำหลกั สูตรของสถำนศึกษำ โดยนำพระบรมรำโชบำยดำ้ นกำรศึกษำของพระบำทสมเด็จ
พระปรเมนทรรำมำธบิ ดีศรีสนิ ทร มหำวชิรำลงกรณฯ พระวชิรเกลำ้ เจ้ำอยหู่ วั และหลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจ
พอเพียงไปบรู ณำกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นร้เู พ่ือพฒั นำผ้เู รียนมีคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ ำมท่ีกำหนด
2) จดั บรรยำกำศสิง่ แวดล้อม และจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ใหผ้ ู้เรียนแสดงออกถงึ ควำมรักใน
สถำบนั หลักของชำติ ยึดมนั่ กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ มีทัศนคตทิ ่ีดี
ต่อบ้ำนเมือง มีหลักคดิ ที่ถกู ต้อง เปน็ พลเมอื งดีของชำติ และพลเมืองโลกท่ีดี มคี ุณธรรม จริยธรรม มคี ่ำนยิ มที่
พงึ ประสงค์ มีคุณธรรมอตั ลักษณ์ มีจติ สำธำรณะ มีจติ อำสำ รบั ผดิ ชอบตอ่ ครอบครัว ชมุ ชน สังคม และ
ประเทศชำติ ซ่ือสตั ย์ สุจริต มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอำรี มวี ินยั และรักษำศลี ธรรม
2. พัฒนำผู้เรียนมีควำมให้มีควำมพร้อมสำมำรถรับมือกับภัยคุกคำมทุกรูปแบบ ทุกระดับ
ควำมรุนแรง ที่มีผลกระทบต่อควำมมั่นคงของประเทศ
เปน็ มำตรกำรในกำรพฒั นำผเู้ รยี นให้มีควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรรับมือกบั ภยั คกุ คำม รปู แบบใหม่
ทกุ รูปแบบ ทุกระดบั ควำมรุนแรง เช่น ภัยจำกยำเสพตดิ ภัยจำกควำมรุนแรง กำรคกุ คำมในชีวติ และทรัพยส์ ิน
กำรค้ำมนุษย์ อำชญำกรรมไซเบอร์ และภัยพบิ ตั ติ ่ำง ๆ เป็นต้น ควบคู่ไปกับกำรป้องกนั และแก้ไขปญั หำท่ีมีอยใู่ น
ปัจจบุ นั และที่อำจจะเกดิ ขึ้นในอนำคต
โดยมีแนวทำงกำรดำเนินกำร ดังน้ี
2.1 สำนกั งำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ สง่ เสรมิ สนบั สนนุ กำกับ ติดตำม และประเมินสถำนศึกษำตำม
มำตรกำรท่ีกำหนด
2.2 สถำนศึกษำ
1) พัฒนำหลักสตู รสถำนศกึ ษำ และจัดกิจกรรมกำรเรยี นรใู้ ห้ผ้เู รยี นมีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ
เกย่ี วกบั ภยั คุกคำมที่มผี ลกระทบต่อควำมมน่ั คง ภัยจำกยำเสพตดิ ควำมรุนแรง กำรคุกคำมในชีวติ และทรัพย์สิน
กำรคำ้ มนุษย์ อำชญำกรรมไซเบอร์ ภยั พบิ ตั ิและภำวะฉุกเฉินและภยั คุกคำมรปู แบบใหม่ ตลอดจนรจู้ ักวิธีกำร
ป้องกนั และแก้ไขหำกไดร้ บั ผลกระทบจำกภยั ดงั กล่ำว
2) มมี ำตรกำรและแนวทำงกำรป้องกนั ยำเสพตดิ ในสถำนศกึ ษำและชุมชน
3) จัดสภำพแวดล้อมภำยในสถำนศึกษำให้มคี วำมมนั่ คงปลอดภัย
4) มีระบบกำรดูแล ติดตำม และชว่ ยเหลอื ผูเ้ รยี น ในกำรแก้ปญั หำตำ่ ง ๆ ไดร้ บั คำปรึกษำ
ชีแ้ นะและควำมช่วยเหลืออยำ่ งทันกำรณ์ ทนั เวลำ รวมท้งั กำรอบรมบม่ นิสยั
ประเด็นกลยุทธ์ท่ี 2 พฒั นาคุณภาพผู้เรียน และสง่ เสรมิ การจัดการศกึ ษา เพือ่ สร้างขีด
ความสามารถในการแขง่ ขัน ส่เู วทีระดบั นานาชาติ
ยุทธศำสตร์ชำติด้ำนกำรสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน ให้ควำมสำคัญกับศักยภำพและคุณภำพของ
ทรัพยำกรมนุษย์เป็นสำคัญ เน่ืองจำก “ทรัพยำกรมนุษย์เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในกำรยกระดับกำรพัฒนำ
ประเทศในทุกมิติไปสู่เป้ำหมำยกำรเป็นประเทศที่พัฒนำแล้ว มีขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขันกับนำนำประเทศ”
ดังน้ัน กำรพัฒนำศักยภำพและคุณภำพผู้เรียนให้มีควำมเป็นเลิศทำงวิชำกำรจึงมีควำมจำเป็นอย่ำงยิ่งที่จะต้อง
ดำเนินกำรให้สอดคล้องกัน โดยเน้นปรับเปลี่ยนกระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของสถำนศึกษำท่ีจัดกำรศึกษำ
32
ให้เป็นสถำนศึกษำท่ีจัดกำรเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนเชิงสมรรถนะรำยบุคคล ตำมควำมสนใจ และควำมถนัด อย่ำงเต็ม
ศักยภำพ มีควำมเป็นเลิศทำงด้ำนวิช ำกำร มีทักษะท่ีจำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีควำมเป็นเลิศ
ด้ำนทกั ษะส่อื สำรภำษำไทย ภำษำองั กฤษ และภำษำที่ 3 มีทักษะควำมรู้ด้ำนดิจิทัล (Digital Literacy) เพ่ือใช้เป็น
เครื่องมือในกำรเรียนรู้ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ มีนิสัยรักกำรเรียนรู้และกำรพัฒนำตนเองอย่ำงต่อเน่ืองตลอดชีวิต
สู่กำรเป็นคนไทย ที่มีทักษะวิชำชีพช้ันสูง เป็นนักคิด เป็นผู้สร้ำงนวัตกรรม เป็นนวัตกร เป็นผู้ประกอบกำร
เป็นเกษตรกรยุคใหม่ และอ่ืน ๆ สอดคล้องกับควำมต้องกำรของประเทศ มีควำมยืดหยุ่นทำงด้ำนควำมคิด
สำมำรถทำงำนร่วมกับผู้อ่ืนได้ภำยใต้สังคมที่เป็นพหุวัฒนธรรม และมีควำมสำมำรถในกำรจัดกำรสุขภำวะของ
ตนเองใหม้ สี ขุ ภำวะท่ีดี สำมำรถดำรงชวี ติ อย่ำงมีควำมสุข ท้ังดำ้ นรำ่ งกำยและจิตใจ
เป้าประสงค์
1. ผู้เรียนทุกระดับมีควำมเป็นเลิศ มีทักษะท่ีจำเป็นในศตวรรษที่ 21
2. ผู้เรียนมีควำมเป็นเลิศตำมควำมถนัดและควำมสนใจ นำไปสู่กำรพัฒนำทักษะวิชำชีพ
เป็นนักคิด เป็นผู้สร้ำงนวัตกรรม เป็นนวัตกร
3. ผู้เรียนได้รับโอกำสเข้ำสู่เวทีกำรแข่งขันระดับนำนำชำติ
ตัวช้ีวัด
1. จำนวนผู้เรียนมีควำมเป็นเลิศทำงด้ำนวิชำกำร มีทักษะควำมรู้ที่สอดคล้องกับทักษะที่จำเป็น
ในศตวรรษที่ 21
2. ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษำผ่ำนกำรประเมินสมรรถนะที่จำเป็นด้ำนกำรรู้เรื่องกำรอ่ำน
(Reading Literacy) ด้ำนกำรรู้เรื่องคณิตศำสตร์ (Mathematical Literacy) และด้ำนกำรรู้เรื่อง
วิทยำศำสตร์ (Scientific Literacy) ตำมแนวทำงกำรประเมิน PISA
3. ร้อยละของผู้เรียนที่มีศักยภำพได้รับโอกำสเข้ำสู่เวทีกำรแข่งขันระดับนำนำชำติ
มาตรการและแนวทางการดาเนินการ
พฒั นำคุณภำพผ้เู รียนเตม็ ตำมศกั ยภำพ นำไปส่คู วำมเป็นเลิศดำ้ นวิชำกำร ตำมควำมสำมำรถ ควำมสนใจ
มที กั ษะทจ่ี ำเป็นในศตวรรษที่ 21 สรำ้ งขดี ควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขันของประเทศ
โดยมแี นวทำงดำเนินกำร ดงั น้ี
1. สำนักงำนเขตพนื้ ท่กี ำรศึกษำ
1.1 ส่งเสริมสนับสนุน ให้สถำนศึกษำ ดำเนินกำรวัดแววควำมถนัดทำงกำรเรียนของนักเรียน
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้นของโรงเรียนในเขตพื้นท่ีกำรศึกษำจัดกิจกรรมแนะแนวให้ผู้เรียนค้นหำตนเอง
นำไปสู่กำรพัฒนำผู้เรียนให้มีควำมพร้อมที่จะพัฒนำต่อยอดไปสู่ควำมเป็นเลิศด้ำนทักษะอำชีพที่ตรงตำม
ควำมต้องกำรและควำมถนัดของผู้เรียน
1.2 ส่งเสริมสนับสนุนให้ สถำนศึกษำจัดทำแผนงำน โครงกำร และกิจกรรม เพิ่มศักยภำพ
ผู้เรียนตำมควำมถนัด ควำมสนใจ และควำมต้องกำรพัฒนำ ท้ังด้ำนวิชำกำร ด้ำนอำชีพ และกิจกรรม
เสริมหลักสูตร ตั้งแต่ระดับสถำนศึกษำ เขตพื้นที่กำรศึกษำ จังหวัด ภูมิภำค ระดับประเทศ และระดับ
นำนำชำติ
1.3 กำกับ ติดตำม และให้ควำมช่วยเหลือสถำนศึกษำ พร้อมทั้งรำยงำนผลกำรดำเนินงำนต่อ
กระทรวงศึกษำธิกำรและหน่วยงำนที่เก่ียวข้อง
33
2. สถำนศกึ ษำ
2.1 ดำเนินกำรวัดแววผู้เรียน และพัฒนำขีดควำมสำมำรถของผู้เรียนตำมศักยภำพ และ
ควำมถนัด โดยจัดกำรเรียนรู้ผ่ำนกิจกรรมกำรปฏิบัติจริง (Active Learning) เช่น กำรจัดกำรเรียนรู้
ตำมกระบวนกำร 5 ขั้นตอนหรือบันได 5 ขั้น (Independent Study : IS) กำรเรียนรู้เชิงบูรณำกำร
แบบสหวิทยำกำร เช่น สะเต็มศึกษำ (Science Technology Engineering and Mathematics
Education : STEM Education) เป็นต้น โดยส่งเสริมให้ครูจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้เพ่ือพัฒนำผู้เรียนให้
ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองผ่ำนระบบดิจิทัล (Digital Learning Platform)
2.2 ปรับเปลี่ยนอัตลักษณ์ของสถำนศึกษำให้มุ่งเน้นกำรจัดกำรเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีควำมเป็นเลิศ
ทำงวิชำกำรตำมควำมถนัด ควำมสำมำรถ ควำมสนใจของผู้เรียน และจัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนำสุขพลำนำมัย
ให้เป็นคนที่สมบูรณ์แข็งแรงท้ังร่ำงกำยและจิตใจ
2.3 สถำนศึกษำ พัฒนำหลักสูตรและกำรจัดกิจกรรมกระบวนกำรเรียนรู้เพื่อพัฒนำผู้เรียน
ให้มีควำมเป็นเลิศทำงวิชำกำรตำมควำมสนใจ และควำมถนัดเต็มตำมศักยภำพ
2.4 ส่งเสริม สนับสนุน ให้ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ได้รับกำรพัฒนำเพื่อปรับเปลี่ยน
กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนโดยเน้นกำรจัดกำรเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนเป็นรำยบุคคลตำมควำม
ต้องกำร และควำมถนัดของผู้เรียน
2.5 จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ให้ผู้เรียนมีควำมเป็นเลิศในทักษะส่ือสำรภำษำไทย ภำษำอังกฤษ
และภำษำท่ี 3 เพิ่มเติมอย่ำงน้อย 1 ภำษำ
2.6 ปรับเปลี่ยนวิธีกำรวัด ประเมิน ผลกำรเรียนของผู้เรียน โดยมุ่งเน้นกำรวัดประเมิน
ตำมสมรรถนะรำยบุคคล โดยกำรจัดให้มีกำรวัดประเมินจำกส่วนกลำงในช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี 3
2.7 สรุปและรำยงำนผลกำรดำเนินงำนต่อสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำและหน่วยงำนท่ี
เก่ียวข้อง
ประเดน็ กลยทุ ธท์ ่ี 3 พฒั นาและเสริมสรา้ งศักยภาพผู้เรยี นครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา
นโยบำยดำ้ นกำรพัฒนำและสร้ำงเสริมศักยภำพของทรัพยำกรมนุษย์ มุ่งเน้นกำรพัฒนำทรัพยำกรมนุษย์
เร่มิ ตง้ั แตป่ ระชำกรวยั เรียนทุกชว่ งวยั ตลอดจนกำรพัฒนำ ครู และบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ ดังนี้
1. พัฒนำประชำกรวยั เรียนทุกคน ทุกชว่ งวัย ตั้งแตช่ ว่ งปฐมวยั ประถมศึกษำ และมัธยมศกึ ษำ ผเู้ รียนทมี่ ี
ควำมตอ้ งกำรดแู ลเป็นพเิ ศษ
ให้มีควำมพร้อมทั้งทำงด้ำนร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม และสติปัญญำ มีศักยภำพ มีทักษะควำมรู้
เป็นคนดี มีวินัย เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีควำมสำมำรถในกำรวำงแผนชีวิตและกำรวำงแผนทำงกำรเงินที่เหมำะสม
สำมำรถดำรงชีวิตอย่ำงมีคุณค่ำ โดยกำรพัฒนำระบบกำรเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อกำรเปล่ียนแปลงในศตวรรษที่ 21
มกี ำรออกแบบระบบกำรเรียนรใู้ หม่ พัฒนำระบบกำรเรียนรตู้ ลอดชวี ิต ผู้เรียนสำมำรถกำกับกำรเรยี นรู้ ท่ีเหมำะสม
กับตนเองได้อย่ำงต่อเนื่องแม้จะออกจำกระบบกำรศึกษำแล้ว รวมถึงควำมตระหนักถึง พหุปัญญำของมนุษย์
ท่ีหลำกหลำย และกำรพัฒนำและรักษำกลุ่มผู้มีควำมสำมำรถพิเศษของพหุปัญญำ แต่ละประเภท เสริมสร้ำงให้
ผู้เรียนมีลักษณะนิสัย มีควำมรักในสุขภำพและพลำนำมัย และพัฒนำทักษะด้ำนกีฬำสู่ควำมเป็นเลิศ และกีฬำ
เพอ่ื กำรอำชีพ
2. ครู และบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ
เป็นผู้ท่ีมีบทบำทสำคัญในกำรพัฒนำทรัพยำกรมนุษย์ ให้คนไทยเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภำพ พร้อม
สำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21 ครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ต้องตระหนักถึงควำมสำคัญในอำชีพและหน้ำที่
34
ของตนโดยครูต้องมีจิตวิญญำณของควำมเป็นครู มีควำมรู้ควำมสำมำรถอย่ำงแท้จริง และเป็นต้นแบบ
ด้ำนคุณธรรมและจริยธรรมพัฒนำตนเองทำงวิชำชีพอย่ำงต่อเน่ือง เพื่อประโยชน์ในกำรพัฒนำผู้เรียน เปล่ียนโฉม
บทบำท “ครู” ให้เป็นครูยุคใหม่ โดยปรับบทบำทจำก “ครูผู้สอน” เป็น “Coach” หรือ ผู้อำนวยกำรกำรเรียนรู้
ทำหน้ำที่กระตุ้น สร้ำงแรงบันดำลใจ แนะนำวิธีเรียนรู้และวิธีจัดระเบียบกำรสร้ำงควำมรู้ ออกแบบกิจกรรมและ
สรำ้ งนวตั กรรมกำรเรยี นรู้ใหผ้ ู้เรยี น และมบี ทบำทเปน็ นักวิจัยพัฒนำกระบวนกำรเรยี นรเู้ พ่อื ผลสมั ฤทธ์ิของผเู้ รยี น
เป้าประสงค์
1. ผู้เรียนได้รับกำรพัฒนำตำมจุดมุ่งหมำยของหลักสูตร และมีทักษะควำมสำมำรถที่สอดคล้อง
กับทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีควำมยืดหยุ่นทำงด้ำนควำมคิด สำมำรถทำงำนร่วมกับผู้อื่นได้
ภำยใต้สังคมที่เป็นพหุวัฒนธรรม รวมถึงกำรวำงพื้นฐำนกำรเรียนรู้เพื่อกำรวำงแผนชีวิต ที่เหมำะสมใน
แต่ละช่วงวัยและนำไปปฏิบัติได้
2. ผู้เรียนได้รับกำรพัฒนำให้มีควำมรู้และทักษะนำไปสู่กำรพัฒนำนวัตกรรม
3. ผู้เรียนได้รับกำรพัฒนำเต็มตำมศักยภำพ เชื่อมโยงสู่อำชีพและกำรมีงำนทำ มีทักษะอำชีพ
ท่ีสอดคล้องกับควำมต้องกำรของประเทศ
4. ผเู้ รยี นได้รบั กำรพัฒนำให้มีศักยภำพในกำรจัดกำรสุขภำวะของตนเองให้มสี ุขภำวะทีด่ ี สำมำรถ
ดำรงชีวิตอย่ำงมีควำมสุขทั้งด้ำนร่ำงกำยและจิตใจ
5. ครู เปลี่ยนบทบำทจำก “ครูผู้สอน” เป็น “Coach” ผู้ให้คำปรึกษำข้อเสนอแนะกำรเรียนรู้
หรือผู้อำนวยกำรกำรเรียนรู้
6. ครู มีควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน และเป็นแบบอย่ำงด้ำนคุณธรรมและ
จริยธรรม
ตัวช้ีวัด
1. ผู้เรียนทุกระดับมีสมรรถนะสำคัญตำมหลักสูตร มีทักษะกำรเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3R8C)
2. ร้อยละของผู้เรียนชั้นประถมศึกษำปีที่ 3 ที่มีคะแนนผลกำรทดสอบควำม สำมำรถพื้นฐำน
ระดับชำติ (NT) ผ่ำนเกณฑ์ที่กำหนด
3. ร้อยละของผู้เรียนที่มีคะแนนผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดับชำติขั้นพื้นฐำน ( O-NET)
มำกกว่ำร้อยละ 50 ในแต่ละวิชำเพิ่มขึ้นจำกปีกำรศึกษำที่ผ่ำนมำ
4. ร้อยละผู้เรียนที่จบกำรศึกษำชั้นประถมศึกษำปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 มีทักษะกำรเรียนรู้
ที่เชื่อมโยงสู่อำชีพและกำรมีงำนทำ ตำมควำมถนัด และควำมต้องกำรของตนเอง มีทักษะอำชีพที่
สอดคล้องกับควำมต้องกำรของประเทศ วำงแผนชีวิตและวำงแผนทำงกำรเงินที่เหมำะสมและนำไป
ปฏิบัติได้
5. ผู้เรียนทุกคนมีทักษะพ้ืนฐำนในกำรดำรงชีวิต สำมำรถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่ำงมีควำมสุข
มีควำมยืดหยุ่นทำงด้ำนควำมคิด สำมำรถทำงำนร่วมกับผู้อื่นได้ ภำยใต้สังคมท่ีเป็นพหุวัฒนธรรม
6. ผู้เรียนทุกคนมีศักยภำพในกำรจัดกำรสุขภำวะของตนเองให้มีสุขภำวะที่ดี สำมำรถดำรงชีวิต
อย่ำงมีควำมสุขท้ังด้ำนร่ำงกำยและจิตใจ
7. ครู มีกำรเปลี่ยนบทบำทจำก “ครูผู้สอน” เป็น “Coach” ผู้ให้คำปรึกษำข้อเสนอแนะ
กำรเรียนรู้หรือผู้อำนวยกำรกำรเรียนรู้
35
มาตรการและแนวทางการดาเนินการ
1. พัฒนำหลักสูตรทุกระดับกำรศึกษำ
เป็นมำตรกำรสนบั สนนุ ใหม้ ีกำรพัฒนำหลักสูตรแกนกลำงให้เปน็ หลักสตู รเชิงสมรรถนะ สอดคล้องกับ
ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เอ้ือต่อกำรพัฒนำสมรรถนะผู้เรียนเป็นรำยบุคคลอย่ำงเหมำะสมทุกด้ำนทั้ง
ทำงด้ำนรำ่ งกำย จติ ใจ อำรมณ์ สงั คม และสติปัญญำ มีทักษะสอ่ื สำรภำษำไทย
มแี นวทำงดำเนนิ กำร ดังนี้
1.1 สำนกั งำนเขตพ้นื ท่ีกำรศกึ ษำ
1) พัฒนำหลักสูตรทุกระดับเพ่ือให้ผู้เรียนได้รับกำรพัฒนำทั้ง 4 ด้ำน (ร่ำงกำย จิตใจ
อำรมณ์ และสติปญั ญำ) สอดคลอ้ งกับทกั ษะท่ีจำเป็นในศตวรรษท่ี 21
2) ส่งเสริมให้ครูปรับเปลี่ยนกำรจัดกำรเรียนรู้ “ครูผู้สอน” เป็น “Coach” ผู้อำนวยกำร
กำรเรียนรู้ ผู้ให้คำปรึกษำ หรือให้ข้อเสนอแนะกำรเรียนรู้ และปรับระบบกำรวัดประเมินผลสัมฤทธ์ิผู้เรียนให้
สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตร
1.2 สถำนศกึ ษำ
พัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำ ให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลำง เน้นกำรพัฒนำผู้เรียนเป็น
รำยบุคคล (หลักสูตรเชิงสมรรถนะ) และปรับเปลี่ยนกำรจัดกำรเรียนรู้ให้ตอบสนองต่อควำมต้องกำรของผู้เรียน
และบริบทของพ้นื ท่ี
2. กำรพัฒนำศักยภำพ และคุณภำพของผู้เรียน
2.1 กำรพฒั นำศกั ยภำพและคุณภำพของผ้เู รียนระดับปฐมวัย
เดก็ ปฐมวัยได้รับกำรพัฒนำเหมำะสมกับวัยในทุกด้ำน ท้ังทำงด้ำนร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม
และสตปิ ญั ญำ มีวนิ ยั มที ักษะสือ่ สำรภำษำไทย พร้อมทจ่ี ะได้รบั กำรพฒั นำในระดบั กำรศึกษำที่สูงข้นึ
โดยมีแนวทำงดำเนนิ กำร ดงั น้ี
2.1.1 สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำ
1) จดั ทำเครอื่ งมือประเมินพัฒนำกำรเด็กปฐมวยั และประเมนิ พัฒนำกำรเด็กปฐมวัย
2) ส่งเสรมิ สนบั สนุนกำรดำเนนิ งำนของสถำนศึกษำเพือ่ ประเมินพัฒนำกำรเด็กปฐมวัย
และดำเนินกำรพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำปฐมวัยท้ังผู้บริหำรสถำนศึกษำ ครูและบุคลำกรปฐมวัย รวมทั้งผู้ปกครอง
ใหม้ คี วำมรคู้ วำมเข้ำใจกำรจัดกำรศึกษำปฐมวัย
3) สนบั สนนุ ใหส้ ถำนศึกษำมีครูหรอื ครผู ชู้ ่วยดำ้ นปฐมวยั ตำมมำตรฐำนที่กำหนด
4) ศึกษำ วเิ ครำะห์ วิจัย กำรจดั กำรศึกษำปฐมวัย แนวคดิ ทฤษฎี และองค์ควำมรู้ใหม่
ๆ เก่ียวกับกำรจดั กำรศึกษำปฐมวัย เพอื่ บริกำรแก่โรงเรยี นและผสู้ นใจ
5) กำกับ ติดตำม และให้ควำมช่วยเหลือสถำนศึกษำ รวมทั้งสรุปและรำยงำนผล
กำรดำเนนิ งำนต่อกระทรวงศึกษำธิกำร และหนว่ ยงำนที่เกยี่ วขอ้ ง
2.1.2 สถำนศึกษำ
1) จดั กจิ กรรมพัฒนำเด็กปฐมวัยในรปู แบบทห่ี ลำกหลำย จัดสภำพแวดล้อมทั้งในและ
นอกห้องเรียนใหเ้ อ้อื ต่อกำรพัฒนำกำรเรียนรู้
2) จดั กำรเรียนรู้ สร้ำงประสบกำรณ์ เนน้ กำรเรยี นเปน็ เล่น เรยี นรู้อย่ำงมีควำมสุข
3) ปรบั ปรุงอำคำรสถำนที่ สิง่ อำนวยควำมสะดวกสนำมเด็กเล่นให้ได้มำตรฐำน
มีควำมปลอดภัย สำมำรถจัดกิจกรรมพัฒนำผู้เรียนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ
36
4) จดั หำสอ่ื อุปกรณ์ ทมี่ ีคุณภำพเหมำะสม มีมำตรฐำน และควำมปลอดภยั
5) อภิบำลเดก็ ปฐมวัยให้มสี ุขภำวะทีด่ รี ำ่ งกำยสมบูรณแ์ ขง็ แรงปรำศจำกโรค ภัยไขเ้ จบ็
6) สร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจแก่ผู้ปกครองในกำรจัดกำรศึกษำปฐมวัย เพ่ือกำรมีส่วนร่วม
และกำรสนบั สนนุ กำรดำเนนิ งำนของสถำนศึกษำ
7) สรุปและรำยงำนผลกำรดำเนินงำนต่อสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำและหน่วยงำนที่
เกีย่ วขอ้ ง
2.2 กำรพฒั นำศกั ยภำพ และคุณภำพผ้เู รียนระดับประถมศึกษำ
ผู้เรยี นระดับประถมศึกษำได้รับกำรพัฒนำทำงด้ำนร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม และสติปัญญำ
มีวินัย มที กั ษะท่ีจำเป็นในศตวรรษที่ 21
โดยมแี นวทำงดำเนินกำร ดงั นี้
2.2.1 สำนกั งำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำ
1) ส่งเสริม สนับสนุนให้สถำนศึกษำจัดกำรศึกษำพัฒนำผู้เรียนให้มีพัฒนำกำรที่สมวัยใน
ทกุ ดำ้ นทั้งทำงด้ำนร่ำงกำย จติ ใจ อำรมณ์ สังคม และสตปิ ัญญำ ให้มคี ณุ ลักษณะ
- เป็นไปตำมหลักสูตร
- มีทักษะกำรเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21
- มีทักษะกำรเรียนรู้ที่เชื่อมโยงสู่อำชีพและกำรมีงำนทำสอดคล้องกับควำมต้องกำร
ของประเทศ
- มคี วำมรู้ และทักษะด้ำนวทิ ยำศำสตร์นำไปสู่กำรพัฒนำนวัตกรรม
- มคี วำมรู้ควำมสำมำรถด้ำนดิจิทัล (Digital) และใช้ดิจิทัลเป็นเคร่ืองมือในกำรเรียนรู้ได้อย่ำง
มีประสิทธภิ ำพ
- มีทักษะทำงด้ำนภำษำไทย เพ่ือใช้เป็นเครื่องมือในกำรเรียนรู้ มีนิสัยรักกำรอ่ำน มีทักษะ
สอ่ื สำรภำษำองั กฤษ และภำษำท่ี 3
2) สง่ เสริม สนับสนนุ ใหส้ ถำนศกึ ษำจัดกิจกรรมพัฒนำผู้เรียนเตม็ ตำมศักยภำพสอดคล้องกบั
ควำมสำมำรถ ควำมถนัดและควำมสนใจ รวมถึงกำรวำงพน้ื ฐำนกำรเรยี นรู้เพ่ือกำรวำงแผนชีวติ และวำงแผน
ทำงกำรเงินทเี่ หมำะสมและนำไปปฏบิ ตั ิได้
3) สรำ้ งกลไกของระบบแนะแนวทำงกำรศึกษำเพ่ือสง่ เสรมิ กระบวนกำรเรยี นรตู้ ำมสมรรถนะ
รำยบุคคลและเตรยี มควำมพร้อมสกู่ ำรประกอบสมั มำอำชีพ
4) ดำเนินกำรตดิ ตำม และตรวจสอบให้ผเู้ รยี นได้รบั ประทำนอำหำรอย่ำงครบถว้ นถูกต้องตำม
หลกั โภชนำกำร
5) กำกับ ตดิ ตำม และใหค้ วำมชว่ ยเหลือสถำนศกึ ษำในกำรจดั กำรศกึ ษำภำพรวม รวมทง้ั สรปุ
และรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำนต่อกระทรวงศึกษำธกิ ำร และหน่วยงำนที่เกีย่ วข้อง
2.2.2 สถำนศึกษำ
1) จัดกำรเรียนรทู้ ีใ่ หผ้ ้เู รยี นไดเ้ รียนรู้ผำ่ นกิจกรรม กำรปฏิบัตจิ รงิ (Active Learning)
2) จัดกำรเรียนรู้อย่ำงเป็นระบบมุ่งเน้นกำรใช้ฐำนควำมรู้ และระบบควำมคิดในลักษณะ
สหวทิ ยำกำร (STEAM Education) เช่น
- ควำมร้ทู ำงวิทยำศำสตร์และกำรตง้ั คำถำม
- ควำมเข้ำใจและควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
- ควำมรทู้ ำงวศิ วกรรม และกำรคดิ เพ่ือหำทำงแกป้ ัญหำ
37
- ควำมรแู้ ละทักษะในด้ำนศลิ ปะ
- ควำมรดู้ ำ้ นคณิตศำสตรแ์ ละระบบคิดของเหตผุ ลและกำรหำควำมสัมพนั ธ์
3) จัดกิจกรรมพัฒนำผู้เรียนเต็มตำมศักยภำพสอดคล้องกับควำมสำมำรถ ควำมถนัดและ
ควำมสนใจ รวมถึงกิจกรรมกำรแนะแนวท้ังด้ำนศึกษำต่อ และด้ำนอำชีพ เป็นกำรวำงพ้ืนฐำนกำรเรียนรู้ กำร
วำงแผนชวี ิต และวำงแผนทำงกำรเงินทเี่ หมำะสมและนำไปปฏบิ ัติได้
4) จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนมีทักษะพ้ืนฐำนในกำรดำรงชีวิต มีสุข
ภำวะทด่ี ี สำมำรถดำรงชีวติ อย่ำงมีควำมสขุ
5) จดั กิจกรรมกำรเรียนรแู้ ละพัฒนำด้ำนอำรมณ์ และสังคม (Social and Emotional
Learning : SEL)
6) จดั กำรเรยี นกำรสอนเพือ่ เพมิ่ ทกั ษะกำรคิดแบบมีเหตผุ ลและเป็นขั้นตอน (Coding)
7) ดำเนนิ กำรให้ผู้เรียนได้รับประทำนอำหำรอย่ำงครบถ้วนถูกต้องตำมหลักโภชนำกำร เป็นไป
ดว้ ยควำมถูกต้องตำมระเบียบและวนิ ยั กำรคลงั
8) สรปุ และรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำนต่อสำนกั งำนเขตพ้นื ที่กำรศกึ ษำประถมศกึ ษำนรำธิวำส
เขต 2 และหน่วยงำนที่เก่ียวข้อง
2.3 กำรพฒั นำศักยภำพ และคุณภำพผเู้ รยี นระดบั มธั ยมศึกษำ
ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษำ ได้รับกำรพัฒนำทำงด้ำนร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม และสติปัญญำ
มีวนิ ัย มที ักษะที่จำเป็นในศตวรรษท่ี 21 มีทักษะด้ำนกำรคิดวิเครำะห์ สังเครำะห์ มีทักษะด้ำนภำษำไทยเพ่ือใช้ใน
กำรเรยี นรู้ มที ักษะสอ่ื สำรภำษำองั กฤษ และภำษำท่ี 3 มีควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี ได้รับกำรพัฒนำทักษะ
กำรเรียนรู้ที่เช่ือมโยงสู่อำชีพและกำรมีงำนทำ นำไปสู่กำรมีทักษะอำชีพท่ีสอดคล้องกับควำมต้องกำรของประเทศ
มีควำมยืดหยุ่นทำงด้ำนควำมคิด สำมำรถทำงำนร่วมกับผู้อ่ืนได้ ภำยใต้สังคมท่ีเป็นพหุวัฒนธรรม มีทักษะพ้ืนฐำน
ในกำรดำรงชวี ติ มสี ขุ ภำวะท่ดี ี สำมำรถดำรงชีวติ อยำ่ งมีควำมสุข
โดยมีแนวทำงดำเนนิ กำร ดังน้ี
2.3.1 สำนกั งำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำ
1) สง่ เสริม สนบั สนุนให้สถำนศึกษำจัดกำรศกึ ษำเพ่อื พฒั นำผเู้ รียนใหม้ ีพฒั นำกำรที่สมวัยใน
ทุกดำ้ นท้ังทำงด้ำนร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ สังคม และสติปัญญำ มีควำมยืดหยุ่นทำงด้ำนควำมคิด สำมำรถทำงำน
รว่ มกับผูอ้ ืน่ ได้ ภำยใต้สงั คมทเี่ ป็นพหวุ ัฒนธรรม ใหม้ ีคณุ ลักษณะ
- เปน็ ไปตำมหลักสตู ร
- มที กั ษะกำรเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21
- มีทกั ษะทำงด้ำนภำษำไทย มที กั ษะสื่อสำรภำษำอังกฤษและภำษำท่ี 3 เพ่ือใช้เป็นเครื่องมือ
ในกำรประกอบอำชีพ
- มีควำมรู้ และทักษะด้ำนวิทยำศำสตรน์ ำไปสู่กำรพฒั นำนวตั กรรม
- มีควำมสำมำรถด้ำนดิจิทัล (Digital) และใช้ดิจิทัลเป็นเคร่ืองมือในกำรเรียนรู้ได้อย่ำง
มีประสิทธิภำพ
- มีทักษะทำงด้ำนภำษำไทย เพ่ือใช้เป็นเคร่ืองมือในกำรเรียนรู้ มีนิสัยรักกำรอ่ำน มีทักษะ
สอ่ื สำรภำษำอังกฤษ และภำษำที่ 3
2) สง่ เสรมิ สนับสนุน สถำนศกึ ษำจดั กจิ กรรมพัฒนำผเู้ รียนเตม็ ตำมศักยภำพสอดคล้องกับ
ควำมสำมำรถ ควำมถนัดและควำมสนใจ รวมถึงกำรวำงพน้ื ฐำนกำรเรยี นรเู้ พ่ือกำรวำงแผนชวี ติ และ วำงแผนทำง
กำรเงินทเี่ หมำะสมและนำไปปฏบิ ัติได้
38
3) สรำ้ งกลไกของระบบแนะแนวทำงกำรศึกษำเพื่อสง่ เสรมิ กระบวนกำรเรยี นรู้ตำมสมรรถนะ
รำยบคุ คลและเตรยี มควำมพร้อมสกู่ ำรประกอบสัมมำอำชีพ
4) จดั ทำแผนงำน โครงกำร และกจิ กรรมเพ่มิ ศักยภำพผู้เรยี นทม่ี ีควำมรู้และทกั ษะด้ำน
วิทยำศำสตร์ เปน็ นักคิด นกั ปฏบิ ัติ นกั ประดษิ ฐ์ เปน็ นวตั กร นำไปสู่กำรพฒั นำนวตั กรรมในอนำคต รวมท้ัง
จดั กิจกรรมกฬี ำ กำรออกกำลังกำย และสนับสนุนใหผ้ เู้ รยี น มศี กั ยภำพในกำรจดั กำรสขุ ภำวะของตนเองใหม้ สี ุข
ภำวะทดี่ ี สำมำรถดำรงชีวติ อย่ำงมีควำมสุขทงั้ ดำ้ นร่ำงกำยและจติ ใจ
5) กำกับ ตดิ ตำม และให้ควำมชว่ ยเหลือสถำนศึกษำ
2.3.2 สถำนศกึ ษำ
1) ส่งเสริมครูให้จัดกำรเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่ำนกิจกรรมกำรปฏิบัติจริง ( Active
Learning)
2) สง่ เสริมครูให้จัดกำรเรียนรู้ตำมกระบวนกำร 5 ข้ันตอน หรือบันได 5 ขั้น (Independent
Study : IS)
3) ส่งเสริม สนับสนุนครูให้จัดกำรเรียนรู้อย่ำงเป็นระบบมุ่งเน้นกำรใช้ฐำนควำมรู้และระบบ
ควำมคิดในลกั ษณะสหวทิ ยำกำร (STEAM Education) เชน่
- ควำมรทู้ ำงวิทยำศำสตร์และกำรต้ังคำถำม
- ควำมเข้ำใจและควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
- ควำมรทู้ ำงวิศวกรรม และกำรคดิ เพ่ือหำทำงแก้ปัญหำ
- ควำมรแู้ ละทักษะในด้ำนศลิ ปะ
- ควำมรดู้ ำ้ นคณิตศำสตร์และระบบคิดของเหตุผลและกำรหำควำมสมั พนั ธ์
4) จัดกิจกรรมพัฒนำผู้เรียนที่มีควำมรู้และทักษะด้ำนวิทยำศำสตร์ เป็นนักคิด นักปฏิบัติ
นักประดิษฐ์ เป็นนวัตกร นำไปสู่กำรพัฒนำนวัตกรรมในอนำคตรวมทั้งจัดกิจกรรมกีฬำ กำรออกกำลังกำย และ
สนบั สนุนให้ผเู้ รียน มีศกั ยภำพในกำรจัดกำรสขุ ภำวะของตนเองให้มีสุขภำวะท่ีดี สำมำรถดำรงชีวิตอย่ำงมีควำมสุข
ท้ังด้ำนร่ำงกำยและจิตใจ เม่ือถึงชั้นมัธยมศึกษำตอนต้นสำมำรถวำงแผนกำรศึกษำต่อหรือกำรประกอบอำชีพได้
ตำมควำมถนดั ควำมต้องกำร และควำมสนใจของตนเอง
5) ส่งเสริมกำรเรียนรู้และพัฒนำด้ำนอำรมณ์และสังคม (Social and Emotional Learning :
SEL)
6) สรุปและรำยงำนผลกำรดำเนินงำนต่อสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำนรำธิวำส
เขต 2 และหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้อง
2.4 พัฒนำคุณภำพผ้เู รียนทมี่ ีควำมต้องกำรดูแลเปน็ พิเศษ
เป็นกำรจัดกำรศึกษำและพัฒนำสมรรถภำพสำหรับเด็กพิกำรและเด็กด้อยโอกำส ในรูปแบบที่
หลำกหลำย เหมำะสมกบั บรบิ ท และควำมตอ้ งกำรจำเปน็ พเิ ศษเฉพำะบุคคล
โดยแนวทำงกำรดำเนินกำร
1) สำนักงำนเขตพนื้ ที่กำรศึกษำนรำธิวำส เขต 2 พัฒนำระบบกำรวัดและประเมินผลตำมสภำพ
จริงสำหรับเดก็ พิกำรและเด็กด้อยโอกำส
2) สำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำนรำธวิ ำส เขต 2 สง่ เสริม สนบั สนุน กำรจัดกำรศึกษำ รวมทัง้
กำรพัฒนำหลกั สตู ร และสอ่ื กำรเรียนกำรสอนที่เหมำะสมสำหรบั เด็กพิกำร และเดก็ ด้อยโอกำสในรูปแบบท่ี
หลำกหลำยเหมำะสมกบั บรบิ ท และควำมต้องกำรจำเปน็ พิเศษเฉพำะบุคคล
39
3) สำนกั งำนเขตพ้นื ท่ีกำรศึกษำนรำธวิ ำส เขต 2 ส่งเสรมิ สนบั สนุน กำรใหบ้ ริกำรช่วยเหลอื
ระยะแรกเริม่ (Early Intervention : EI)
4) สำนกั งำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำนรำธวิ ำส เขต 2 สนับสนุนทรัพยำกร และจดั สรรงบประมำณ
ด้ำนกำรศึกษำทเี่ หมำะสมกับบรบิ ทและควำมต้องกำรจำเป็นพิเศษ
5) สำนกั งำนเขตพื้นทก่ี ำรศกึ ษำนรำธวิ ำส เขต 2 ส่งเสรมิ ใหส้ ถำนศึกษำนำระบบเทคโนโลยี
ดจิ ทิ ัล (Digital Technology) มำใชใ้ นกำรบริหำรจัดกำร กำรให้บริกำร และกำรเรียนรู้
6) สำนกั งำนเขตพ้นื ทก่ี ำรศกึ ษำนรำธวิ ำส เขต 2 สง่ เสริม สนบั สนนุ ให้มกี ำรพฒั นำผบู้ รหิ ำร ครู
และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ใหม้ คี วำมรู้ทักษะ ประสบกำรณ์ มเี จตคติทีด่ ีต่อกำรจัดกำรศกึ ษำสำหรับเด็กพิกำรและ
เดก็ ด้อยโอกำส
7) สำนักงำนเขตพน้ื ที่กำรศึกษำนรำธิวำส เขต 2 พัฒนำระบบกำรใหบ้ รกิ ำรเทคโนโลยี ส่งิ
อำนวยควำมสะดวก สอื่ บรกิ ำร และควำมชว่ ยเหลืออ่ืนใดทำงกำรศึกษำท่สี อดคลอ้ งกับควำมต้องกำรจำเป็นพเิ ศษ
8) สำนกั งำนเขตพนื้ ทกี่ ำรศึกษำนรำธิวำส เขต 2 สนับสนุนกำรพัฒนำภำคีเครือขำ่ ย
(Education Partnership) ใหท้ ุกภำคสว่ นมีสว่ นรว่ มในกำรจัดกำรศกึ ษำสำหรับเด็กพิกำรและเด็กด้อยโอกำส
3. นำเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) มำใช้สนับสนุนกำรเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนทุกระดับกำรจัด
กำรศกึ ษำ
เป็นมำตรกำรในกำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ในกำรส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนพัฒนำวิธีกำร
เรียนรู้ของตนเอง ตำมควำมต้องกำร และควำมถนัด ของผู้เรียนสำมำรถสร้ำงสังคมฐำนควำมรู้ (Knowledge -
Based Society) ของตนเอง เพอ่ื ให้เกดิ กำรเรยี นรู้อยำ่ งต่อเน่ืองตลอดชวี ติ
โดยแนวทำงกำรดำเนนิ กำร ดังนี้
3.1 สำนกั งำนเขตพ้นื ท่ีกำรศกึ ษำ
1) จัดหำ พัฒนำ ข้อมูลองค์ควำมรู้ ส่ือ วิดีโอ และองค์ควำมรู้ประเภทต่ำง ๆ หนังสือ
แบบเรียนในรูปแบบของดจิ ิทลั เทคบคุ๊ (Digital Textbook) ตำมเน้อื หำหลักสตู รทีก่ ำหนด
2) พฒั นำรปู แบบกำรเรียนร้ผู ำ่ นระบบดจิ ิทัล (Digital Learning Platform)
เพ่อื ตอบสนองต่อกำรพฒั นำกำรเรยี นรู้ของผเู้ รียนเปน็ รำยบุคคล
3) ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนมีอุปกรณ์ดิจิทัล (Digital device) เพ่ือเป็นเคร่ืองมือในกำร
เข้ำถึงองค์ควำมรู้ และกำรเรยี นร้ผู ำ่ นระบบดจิ ทิ ัล อยำ่ งเหมำะสมตำมวยั
4) ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ใหส้ ถำนศึกษำจดั กิจกรรมกำรเรยี นรูเ้ พื่อพัฒนำผู้เรียนให้ผู้เรียนเรียนรู้
ดว้ ยตนเองผ่ำนกำรเรียนร้ผู ำ่ นระบบดิจทิ ัล
3.2 สถำนศกึ ษำ
1) ประยุกตใ์ ช้ข้อมลู องค์ควำมรู้ สื่อ วิดีโอ และองค์ควำมรู้ประเภทต่ำง ๆ หนังสือแบบเรียน
ในรปู แบบของดิจทิ ลั เทคบคุ๊ (Digital Textbook) ตำมเน้อื หำหลักสตู รท่กี ำหนด
2) จัดกำรเรียนรู้ผ่ำนระบบดิจิทัล (Digital Learning Platform) เพื่อตอบสนองต่อกำร
พฒั นำกำรเรียนรูข้ องผู้เรียนเป็นรำยบุคคล
3) จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้เพ่ือพัฒนำผู้เรียน ให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง ผ่ำนกำรเรียนรู้ผ่ำน
ระบบดจิ ิทลั
4. กำรพฒั นำคุณภำพครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ
กำรพัฒนำคุณภำพครู จึงต้องดำเนินกำรต้ังแต่กำรผลิต และกำรพัฒนำครูอย่ำงต่อเนื่อง ต้องร่วมมือ
กับสถำบันกำรผลิตครู ในกำรผลิต และพัฒนำครูให้เป็นไปตำมเป้ำประสงค์ มีกำรดึงดูด คัดสรร ผู้มีควำมสำมำรถ
40
สูงให้เข้ำมำเป็นครูคุณภำพ มีระบบกำรพัฒนำ ศักยภำพและสมรรถนะครูอย่ำงต่อเนื่องครอบคลุมท้ังเงินเดือน
เส้นทำงสำยอำชีพ กำรสนับสนุนส่ือกำรสอน และสร้ำงเครือข่ำยพัฒนำครูให้มีกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่ำงกัน
รวมถึงกำรพัฒนำครูที่มีควำม เชี่ยวชำญด้ำนกำรสอนมำเป็นผู้สร้ำงครูรุ่นใหม่อย่ำงเป็นระบบ และประเมินครูจำก
กำรวัดผลงำนกำรพัฒนำผเู้ รยี นโดยตรง
4.1 พัฒนำครู และบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ
กำรพัฒนำครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ เป็นมำตรกำรทีส่ ำนักงำนเขตพ้นื ท่กี ำรศึกษำ
นรำธวิ ำส เขต 2 จะต้องดำเนนิ กำรเพ่ือใหค้ รูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำตระหนักถงึ ควำมสำคญั ในอำชีพและ
หน้ำท่ขี องตน โดยพัฒนำใหเ้ ป็นครู เปน็ ครูยคุ ใหม่ ปรับบทบำทจำก “ครผู ู้สอน” เปน็ “Coach” หรือ
“ผอู้ ำนวยกำรกำรเรียนรู้” ปรับวิธสี อน ให้เด็กสำมำรถแสดงควำมคิดเห็น แลกเปลยี่ นเรียนรู้ และทำกจิ กรรมใน
ชน้ั เรยี น ทำหนำ้ ที่กระตุ้นสรำ้ งแรงบันดำลใจ แนะนำวิธเี รียนรแู้ ละวธิ จี ัดระเบียบกำรสรำ้ งควำมรู้ ออกแบบ
กจิ กรรม และสรำ้ งนวัตกรรมกำรเรยี นรใู้ หผ้ ้เู รยี น มีบทบำทเปน็ นกั วิจยั พัฒนำกระบวนกำรเรียนรู้เพ่ือผลสัมฤทธ์ิ
ของผู้เรียน
โดยมแี นวทำงกำรดำเนินกำร ดังนี้
1) สำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำ สง่ เสริม สนับสนนุ ให้ครู ศึกษำวเิ ครำะห์ ควำมต้องกำรจำเป็นใน
กำรพัฒนำตนเอง (Need Assessment) เพื่อวำงแผนกำรพัฒนำอยำ่ งเปน็ ระบบและครบวงจร
2) สำนกั งำนเขตพ้นื ทก่ี ำรศึกษำ สนับสนุนใหค้ รแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำวำงแผนและเขำ้ รับกำร
พัฒนำตำมหลกั สตู รที่กำหนดทเี่ ช่อื มโยงควำมกำ้ วหน้ำในวิชำชพี (Career Path)
3) สำนกั งำนเขตพืน้ ทก่ี ำรศกึ ษำ สง่ เสริมและพัฒนำครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำในรูปแบบชมุ ชน
แห่งกำรเรยี นรูท้ ำงวชิ ำชพี (Professional Learning Community: PLC)
4) สำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศกึ ษำ ส่งเสริม และพัฒนำครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ ให้มีควำมรู้ทักษะ
ด้ำนกำรร้ดู ิจิทลั (Digital Literacy) กำรสอนดจิ ทิ ลั (Digital Pedagogy) ทักษะสื่อสำรภำษำองั กฤษ ทกั ษะส่ือสำร
ภำษำที่ 3 สอดคล้องกบั ภำรกิจและหน้ำทข่ี องตน
5) สำนกั งำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ สง่ เสริม พัฒนำ และยกระดบั ควำมรภู้ ำษำองั กฤษของครทู ่สี อน
ภำษำอังกฤษ โดยใช้ระดับกำรพัฒนำทำงด้ำนภำษำ (Common European Framework of Reference for
Languages : CEFR) ตำมเกณฑ์ท่ีกำหนด
6) สำนักงำนเขตพ้ืนทกี่ ำรศึกษำ ส่งเสรมิ และพฒั นำครูให้สำมำรถออกแบบกำรเรยี นรู้ กำรจดั กำร
เรียนรู้ให้สอดคล้องกับกำรวัดประเมินผลที่เน้นทักษะกำรคิดขัน้ สูง (Higher Order Thinking) ผำ่ นกิจกรรมกำร
ปฏิบัติจริง (Active Learning)
7) สำนกั งำนเขตพื้นทีก่ ำรศึกษำ ส่งเสริมและพฒั นำครูให้มีควำมรู้และทักษะในกำรจัดกำรเรยี นรู้
สำหรบั ผเู้ รียนทม่ี ีควำมแตกต่ำง (Differentiated Instruction)
8) สำนักงำนเขตพ้นื ทก่ี ำรศึกษำ ส่งเสรมิ และพัฒนำครใู ห้มีควำมรู้และทักษะในกำรสรำ้ งเครอ่ื งมอื
กำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรียนรดู้ ้ำนทักษะกำรคดิ ขน้ั สงู (Higher Order Thinking)
9) สำนกั งำนเขตพน้ื ที่กำรศึกษำ สง่ เสริมและพฒั นำครู ให้มีควำมรคู้ วำมสำมำรถจดั กำรเรยี นรใู้ น
โรงเรยี นขนำดเล็กได้อย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ
10) สำนักงำนเขตพนื้ ที่กำรศึกษำ สง่ เสริมและพัฒนำครใู นกำรจัดกำรเรียนรสู้ ำหรบั ผ้เู รยี นท่ีมี
ควำมตอ้ งกำรจำเป็นพิเศษ ตำมศกั ยภำพของผู้เรยี นแตล่ ะบุคคล และตำมสภำพและประเภทของควำมพิกำร
11) สำนักงำนเขตพ้นื ทกี่ ำรศึกษำ สง่ เสรมิ สนับสนุนให้ครูและบุคลำกรทำงกำร
ศกึ ษำพัฒนำตนเองผำ่ นระบบ Online และแบบ Face - to - Face Training
41
12) สำนักงำนเขตพน้ื ที่กำรศึกษำ ปรับปรุงระบบตรวจสอบ ตดิ ตำม และประเมินประสิทธิภำพและ
ประเมินประสิทธผิ ล ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ใหส้ อดคลอ้ งกับควำมมุ่งหมำย และหลกั กำรจดั กำรศึกษำ
ข้อกำหนดด้ำนคุณภำพ และแผนกำรศึกษำแห่งชำติ
13) สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำ นำเทคโนโลยดี จิ ิทลั (Digital Technology) มำเปน็ เครือ่ งมือใน
กำรบริหำรจัดกำรครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำท้ังระบบ ต้ังแต่กำรจัดทำฐำนข้อมลู ครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ
จนถงึ กำรพฒั นำครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ
โดยมแี นวทำงกำรดำเนินกำร ดังนี้
1. พัฒนำรปู แบบกำรพฒั นำครูผำ่ นระบบดิจทิ ลั เพ่ือใช้ในกำรพัฒนำผู้บรหิ ำร ครูและบุคลำกรทำงกำร
ศึกษำทกุ ประเภททัง้ ระบบ
2. พัฒนำหลักสูตร เนอ้ื หำดจิ ิทลั (Digital Content) ในสำขำทีข่ ำดแคลน เชน่ กำรพัฒนำทักษะกำรคดิ
ขั้นสงู กำรจดั กำรศกึ ษำสำหรับผู้เรียนท่มี ีควำมต้องกำรจำเปน็ พิเศษ และผเู้ รียนที่มี
ควำมแตกต่ำง เป็นต้น
3. ส่งเสรมิ สนับสนุน ให้ผู้บรหิ ำร ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ทุกประเภทพฒั นำตนเองอย่ำงต่อเนอื่ ง
ผำ่ นระบบดจิ ทิ ลั
4. พัฒนำแพลตฟอร์มดจิ ทิ ลั ระบบบริหำรจัดกำรผ้บู ริหำร ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำทกุ ประเภท
ทั้งระบบ
5. พฒั นำครูให้มีควำมชำนำญในกำรสอนภำษำอังกฤษ และภำษำ คอมพิวเตอร์ (Coding)
ประเด็นกลยุทธท์ ่ี 4 สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาภาคบังคับ
น โ ย บ ำ ย ก ำ ร ส ร้ ำ ง โ อ ก ำ ส ใ น ก ำ ร เ ข้ ำ ถึ ง บ ริ ก ำ ร ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ท่ี มี คุ ณ ภ ำ พ แ ล ะ มี ม ำ ต ร ฐ ำ น แ ล ะ ก ำ ร ล ด
ควำมเหล่ือมล้ำทำงกำรศึกษำ เน้นกำรสร้ำงโอกำสให้เด็กวัยเรียน และผู้เรียนทุกคน เข้ำถึงบริกำรกำรศึกษำท่ีมี
คุณภำพ ที่เป็นมำตรฐำนเสมอกัน ไม่ว่ำผู้เรียนจะยำก ดี มี จน จะอยู่ในพ้ืนท่ีใดของประเทศ อยู่ในชุมชนเมือง
พ้นื ทีห่ ่ำงไกลทุรกันดำร หรือกลุ่มเป้ำหมำยที่ต้องกำรกำรดูแลเป็นพิเศษ เพ่ือลดควำมเหลื่อมล้ำทำงกำรศึกษำของ
ประเทศ โดย สนับสนุนให้สถำนศึกษำจัดกำรศึกษำเพื่อให้บรรลุเป้ำหมำยโลกเพื่อกำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืน (Global
Goals for Sustainable Development) สร้ำงกลไกควำมร่วมมือของภำคส่วนต่ำง ๆ ในทุกระดับตั้งแต่ระดับ
องค์กรปกครองท้องถิ่นหรือตำบล ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับภูมิภำค และส่วนกลำง สร้ำงมำตรฐำน
สถำนศกึ ษำตำมบริบทของพื้นที่ จัดสรรงบประมำณแผ่นดินเพื่อสนับสนุนให้เด็กวัยเรียนทุกคนต้ังแต่ระดับปฐมวัย
ประถมศึกษำ และมัธยมศึกษำอย่ำงเพียงพอ และเหมำะสม สอดคล้องกับสภำพข้อเท็จจริง โดยคำนึงถึง
ควำมจำเป็น ตำมสภำพพน้ื ทีภ่ ูมิศำสตร์ สภำพทำงเศรษฐกิจ และที่ตั้งของสถำนศึกษำ จัดหำทุนกำรศึกษำเพิ่มเติม
เพ่ือช่วยเหลือผู้ขำดแคลนทุนทรัพย์ เพ่ือลดควำมเหล่ือมล้ำทำงกำรศึกษำ จัดสรรงบประมำณและทรัพยำกร
ทำงกำรศึกษำอ่ืนเป็นพิเศษให้เหมำะสม สอดคล้องกับควำมต้องกำรจำเป็นในกำรจัดกำรศึกษำสำหรับผู้เรียนที่มี
ควำมต้องกำรจำเป็นพิเศษ และจัดสรรงบประมำณเป็นค่ำใช้จ่ำยในกำรดำเนินกำร และงบลงทุนให้สถำนศึกษำ
ตำมควำมจำเปน็ ตลอดจนนำเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั (Digital Technology) มำใช้เป็นเคร่ืองมือในกำรเรียนรู้ของผู้เรียน
เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นสำมำรถใชเ้ ปน็ เคร่ืองมือในกำรพัฒนำตนเองอย่ำงต่อเน่ืองตลอดชีวิต รวมถึงพัฒนำระบบกำรติดตำม
สนบั สนนุ และประเมนิ ผลเพอ่ื สรำ้ งหลกั ประกนั สทิ ธกิ ำรได้รบั กำรศึกษำที่มีคุณภำพของประชำชน
42
เปา้ ประสงค์
1. สถำนศกึ ษำจดั กำรศึกษำเพ่ือให้บรรลุเป้ำหมำยโลกเพื่อกำรพฒั นำอย่ำงยง่ั ยืน (Global Goals for
Sustainable Development)
2. สถำนศึกษำกับองค์กรปกครองท้องถิ่น ภำคเอกชน และหนว่ ยงำนที่เกีย่ วข้องในระดบั พื้นที่ ร่วมมือใน
กำรจดั กำรศึกษำ
3. สถำนศึกษำมคี ุณภำพ และมมี ำตรฐำนตำมบริบทของพ้ืนท่ี
4. งบประมำณ และทรัพยำกรทำงกำรศึกษำมีเพียงพอ และเหมำะสม สอดคลอ้ งกับสภำพข้อเทจ็ จริง
โดยคำนงึ ถงึ ควำมจำเปน็ ตำมสภำพพน้ื ที่ภูมิศำสตร์ สภำพทำงเศรษฐกจิ และท่ีต้ังของสถำนศึกษำ
5. นำเทคโนโลยีดิจทิ ลั (Digital Technology) มำเป็นเครื่องมือให้ผ้เู รยี นได้มีโอกำสเข้ำถึงบรกิ ำร
ด้ำนกำรศึกษำได้อย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ
ตัวชี้วดั
1. ผูเ้ รียนทกุ คนสำมำรถเข้ำเรียนในสถำนศกึ ษำที่มคี ุณภำพเป็นมำตรฐำนเสมอกัน
2. ผู้เรยี นทกุ คนไดร้ บั จดั สรรงบประมำณอุดหนุนอย่ำงเพยี งพอ และเหมำะสม
3. ผเู้ รยี นไดร้ ับกำรสนับสนนุ วัสดุ อุปกรณ์ และอปุ กรณ์ดิจิทัล (Digital Device) เพ่ือใชเ้ ป็นเครอื่ งมอื ใน
กำรเรียนรอู้ ยำ่ งเหมำะสม เพียงพอ
4. ครไู ดร้ บั กำรสนบั สนุน วสั ดุ อปุ กรณ์ และอปุ กรณด์ จิ ิทัล (Digital Device) เพื่อใชเ้ ป็นเครือ่ งมือในกำร
จัดกจิ กรรมกำรเรยี นรใู้ หแ้ ก่ผเู้ รยี น
5. สถำนศกึ ษำได้รับกำรพฒั นำใหม้ ีมำตรฐำนอย่ำงเหมำะสมตำมบริบท ด้ำนประเภท ขนำด และพ้นื ท่ี
6. สถำนศกึ ษำนำเทคโนโลยดี ิจทิ ัล (Digital Technology) มำใชเ้ ปน็ เครื่องมือในกำรจดั กิจกรรม
กำรเรียนรูใ้ ห้แกผ่ ้เู รียนได้อยำ่ งมีประสิทธิภำพ
7. สถำนศึกษำมรี ะบบกำรดูแลชว่ ยเหลือและคมุ้ ครองนักเรียนและกำรแนะแนวท่ีมปี ระสิทธิภำพ
8. สถำนศึกษำทีม่ ีระบบฐำนข้อมลู ประชำกรวยั เรียนและสำมำรถนำมำใช้ในกำรวำงแผนจัดกำรเรียนรู้
ให้แกผ่ ้เู รียนได้อยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ
มาตรการและแนวทางการดาเนนิ การ
1. สร้ำงควำมรว่ มมอื กับองค์กรปกครองระดบั ทอ้ งถิ่น ภำคเอกชน หน่วยงำน
ท่เี กย่ี วข้องในกำรจัดกำรศกึ ษำให้สอดคล้องกบั บริบทของพ้ืนท่ี
โดยมีแนวทำงกำรดำเนินกำร ดังนี้
1.1 สำนกั งำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำ
(1) ส่งเสรมิ สนบั สนุนให้มีควำมรว่ มมือกับองคก์ รปกครองระดบั ท้องถ่ิน ภำคเอกชน หน่วยงำนที่
เกีย่ วขอ้ งในกำรจัดกำรศกึ ษำใหส้ อดคล้องกบั บริบทของพน้ื ที่ ตลอดจนกำรกำกับ ติดตำม และประเมินผล
(2) จัดทำฐำนขอ้ มูลประชำกรวยั เรยี น เพือ่ เก็บรวบรวม เชือ่ มโยงข้อมูล ศึกษำ วิเครำะห์
เพื่อวำงแผนกำรจดั บรกิ ำรกำรเรยี นรใู้ ห้แกผ่ ู้เรยี น
1.2 สถำนศึกษำ
(1) ร่วมกับองค์กรปกครองระดับพื้นที่ หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง และภำคเอกชน วำงแผนกำรจัด
กำรศกึ ษำใหส้ อดคล้องเหมำะสมกับบรบิ ทของพ้นื ท่ีรบั ผิดชอบ
43
(2) ร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ชมุ ชน เอกชน และหน่วยงำนทีเ่ กย่ี วข้องระดบั พน้ื ท่ี
จัดทำแผนกำรรับนักเรยี นทกุ ระดับ ต้ังแต่ระดบั ปฐมวัย ประถมศึกษำ และมธั ยมศกึ ษำ
(3) ร่วมกับองค์กรปกครองระดับพื้นที่ จัดทำสำมะโนประชำกรวัยเรยี น (อำยุ 0 - 6 ปี) เพ่ือในไป
ใชใ้ นกำรวำงแผนกำรจัดกำรศึกษำ
(4) ร่วมกับองค์กรปกครองระดับพื้นท่ี ติดตำม ตรวจสอบ เด็กวัยเรียนได้เข้ำถึง
บรกิ ำรกำรเรียนรไู้ ด้อยำ่ งทว่ั ถงึ ครบถว้ น
(5) ร่วมมอื กบั องคก์ รปกครองระดับพ้ืนท่ี ชมุ ชน ภำคเอกชน และทุกภำคสว่ นบรหิ ำรจดั กำร
ทรพั ยำกรในชุมชนใหส้ ำมำรถใช้ร่วมกบั ได้อย่ำงมีประสทิ ธิภำพ
(6) รว่ มมอื กบั องค์กรปกครองระดับพ้นื ท่ี จดั อำหำร อำหำรเสริม (นม) ให้ผู้เรียนอยำ่ งเพยี งพอ
มคี ณุ ภำพ
(7) ร่วมมอื กบั องค์กรปกครองระดับพน้ื ที่ สนับสนุนใหผ้ เู้ รียนทีอ่ ยูห่ ่ำงไกล ไดเ้ ดินทำงไปเรยี น
อยำ่ งปลอดภัยทั้งไปและกลับ
2. กำรยกระดับสถำนศึกษำในสังกัดทุกระดับและทุกประเภท ให้มีคุณภำพ และมำตรฐำนตำมบริบท
ของพน้ื ที่
โดยมแี นวทำงกำรดำเนนิ กำร ดงั นี้
(1) สำนักงำนเขตพ้นื ทีก่ ำรศึกษำจัดทำมำตรฐำนสถำนศึกษำให้มีคุณภำพในด้ำนตำ่ ง ๆ เชน่
1) มำตรฐำนดำ้ นโครงสร้ำงพ้ืนฐำนและสิ่งอำนวยควำมสะดวก
2) มำตรฐำนดำ้ นครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ
3) มำตรฐำนด้ำนระบบควำมปลอดภัยของสถำนศกึ ษำ
4) มำตรฐำนด้ำนเทคโนโลยีดิจิทลั Digital Technology เปน็ ตน้ กำรกำหนดมำตรฐำน
สถำนศกึ ษำดำ้ นต่ำง ๆ ดงั กล่ำวใหพ้ จิ ำรณำตำมบรบิ ทของสภำพทำงภูมศิ ำสตร์ประเภท และขนำดของสถำนศึกษำ
เปน็ สำคญั
(2) สำนกั งำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศึกษำ ส่งเสรมิ สนับสนุน พฒั นำสถำนศึกษำระดับตำบล ระดับ
อำเภอ ระดบั จงั หวดั โรงเรยี นขนำดเลก็ และสถำนศึกษำประเภทอืน่ ให้มคี ณุ ภำพ และตำมมำตรฐำนที่กำหนด
โดยเนน้ สถำนศกึ ษำระดบั ตำบล โรงเรียนขนำดเลก็ ในพืน้ ที่ห่ำงไกล และโรงเรยี นขนำดเล็ก ตำมโครงกำรพเิ ศษ
(3) สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำน และสำนักงำนเขตพน้ื ทีก่ ำรศึกษำ สง่ เสรมิ
สนบั สนุน สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศกึ ษำ ในกำร ติดตำม ตรวจสอบ ประเมินสถำนศึกษำในทุกมติ ิ
3. จดั สรรงบประมำณสนับสนนุ ผเู้ รยี นทุกกลุ่ม และสถำนศึกษำทกุ ประเภทอย่ำงเหมำะสม
และเพยี งพอ
เปน็ มำตรกำรเพือ่ กำรลดควำมเหล่อื มลำ้ และสรำ้ งโอกำสให้ผเู้ รยี นเข้ำถงึ กำรบริกำรกำรศกึ ษำ
ที่มคี ณุ ภำพ โดยกำรจดั สรรงบประมำณแผน่ ดินเพื่อใหเ้ ด็กวัยเรียนทกุ คนตัง้ แตร่ ะดบั ปฐมวัย ประถมศึกษำ และ
มธั ยมศึกษำ อย่ำงเพยี งพอ และเหมำะสม สอดคล้องกับสภำพข้อเท็จจริง โดยคำนงึ ถึงควำมจำเป็นตำมสภำพพนื้ ที่
ภมู ศิ ำสตร์ สภำพทำงเศรษฐกิจ และท่ีต้งั ของสถำนศึกษำ จัดหำทนุ กำรศึกษำเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือผ้ขู ำดแคลน
ทนุ ทรพั ย์ จดั สรรงบประมำณและทรัพยำกรทำงกำรศกึ ษำอนื่ เปน็ พิเศษให้เหมำะสมสอดคลอ้ งกับควำมต้องกำร
จำเป็นในกำรจดั กำรศึกษำสำหรบั ผเู้ รยี นท่ีมีควำมต้องกำรจำเป็นพิเศษ และจัดสรรงบประมำณเปน็ ค่ำใช้จำ่ ยในกำร
ดำเนินกำร และงบลงทุนให้สถำนศกึ ษำอย่ำงเหมำะสม และเพยี งพอ
44
โดยมแี นวทำงกำรดำเนินกำร ดังน้ี
(1) สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศกึ ษำ ศึกษำ วเิ ครำะห์ ควำมเหมำะสมของงบประมำณในกำร
สนับสนนุ ให้กบั ผเู้ รยี น และสถำนศึกษำ อย่ำงเหมำะสม และเพยี งพอ สอดคล้องกับสถำนภำพและพน้ื ที่
(2) สำนักงำนเขตพื้นท่กี ำรศกึ ษำ สง่ เสรมิ สนบั สนุนใหส้ ถำนศึกษำจัดทำแผนงบประมำณ
กำรศกึ ษำอยำ่ งอิสระ โดยรบั ฟังควำมคิดเห็นของผ้เู ก่ียวข้องในพ้ืนท่ปี ระกอบกำรจัดทำแผนงบประมำณก่อนเสนอ
หนว่ ยงำนต้นสงั กัด
(3) สำนกั งำนเขตพน้ื ทกี่ ำรศึกษำ ประสำนควำมรว่ มมือกบั กองทุนควำมเสมอภำคทำงกำรศึกษำ
เพ่ือจดั สรรงบประมำณให้เด็กวัยเรยี นกล่มุ ขำดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อลดควำมเหล่ือมล้ำทำงกำรศึกษำ
(4) สำนกั งำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศกึ ษำ สง่ เสรมิ สนับสนนุ สำนักงำนเขตพืน้ ทีก่ ำรศึกษำ สนับสนนุ
กระบวนกำรจัดทำแผนงบประมำณ และติดตำม กำกับกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณของสถำนศกึ ษำใหม้ ีประสิทธภิ ำพ
และมีควำมโปร่งใส
4. กำรประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทัล (Digital Technology) เปน็ เคร่ืองมือในกำรพฒั นำคุณภำพของ
ผู้เรียน
โดยมีแนวทำงกำรดำเนินกำร ดังนี้
(1) สำนกั งำนเขตพืน้ ท่กี ำรศึกษำ สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหส้ ถำนศึกษำมีระบบโครงข่ำยสื่อสำร
โทรคมนำคมท่มี ีประสทิ ธิภำพ และมคี วำมปลอดภัยสงู
(2) สำนักงำนเขตพืน้ ท่ีกำรศึกษำ ส่งเสริม สนบั สนุน ให้สถำนศกึ ษำมีระบบคอมพวิ เตอร์ และ
อปุ กรณ์ทีใ่ ช้เปน็ เคร่ืองมือในกำรพัฒนำทักษะด้ำนกำรรูด้ จิ ิทัล (Digital Literacy) แก่ผเู้ รยี น
(3) สำนกั งำนเขตพน้ื ที่กำรศึกษำ สง่ เสริม สนบั สนุน ใหส้ ถำนศกึ ษำปรบั ปรงุ พฒั นำหอ้ งเรยี นใหเ้ ปน็
หอ้ งเรยี นทป่ี ระยุกต์ใช้เทคโนโลยดี ิจิทลั (Digital Technology) ในกำรจัดกำรเรยี นร้แู ก่ผู้เรยี น
(4) สำนกั งำนเขตพ้นื ท่ีกำรศึกษำ สง่ เสรมิ สนับสนนุ อุปกรณ์ดจิ ิทัล (Digital Device) สำหรับผูเ้ รียน
ทุกระดับ ต้ังแตร่ ะดับปฐมวยั ประถมศกึ ษำ และมัธยมศึกษำอยำ่ งเหมำะสม เพือ่ เป็นเครื่องมือในกำรพัฒนำ
กำรเรียนรขู้ องตนเองนำไปสู่กำรสรำ้ งกำรเรียนร้อู ย่ำงตอ่ เนื่องตลอดชีวติ
(5) สำนักงำนเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำ ส่งเสริม สนบั สนนุ อุปกรณ์ดิจิทัล (Digital Device) และ
พัฒนำกำรสอนทักษะดจิ ิทลั (Digital Pedagogy) สำหรับครูอยำ่ งเหมำะสม เพอ่ื เป็นเคร่ืองมือในกำรจดั
กระบวนกำรเรยี นรู้ เพือ่ พฒั นำผ้เู รียนไดอ้ ย่ำงมีประสิทธิภำพ
(6) สำนกั งำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำ ส่งเสริม สนับสนุน ให้สถำนศึกษำใช้เทคโนโลยกี ำรเรยี นกำรสอน
ทำงไกล เพ่ือพัฒนำคุณภำพผู้เรยี น (Distance Learning Technology: DLT)
ประเดน็ กลยุทธท์ ี่ 5 จัดการศกึ ษาเพือ่ เสรมิ สร้างคุณภาพชีวติ ท่เี ป็นมิตรกับสิง่ แวดลอ้ ม
ยทุ ธศำสตรช์ ำติด้ำนกำรสรำ้ งกำรเตบิ โตบนคุณภำพชวี ิตทเ่ี ป็นมติ รตอ่ สิ่งแวดล้อม ได้น้อมนำ ศำสตร์ของ
พระรำชำสกู่ ำรพัฒนำท่ยี ั่งยืน โดยยึดหลกั 3 ประกำรคือ “มีควำมพอประมำณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน” มำเป็นหลัก
ในกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติควบคู่กับกำรนำเป้ำหมำยของกำรพัฒนำท่ียั่งยืนท้ัง 17 เป้ำหมำย มำเป็นกรอบ
แนวคิดที่จะผลักดันดำเนินกำรเพ่ือนำไปสู่กำรบรรลุเป้ำหมำยกำรพัฒนำที่ยั่งยืนในทุกมิติ ท้ังมิติด้ำนสังคม
เศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อม ธรรมำภิบำล และควำมเป็นหุ้นส่วนควำมร่วมมือ ระหว่ำงกันท้ังภำยในและภำยนอก
ประเทศอย่ำงบูรณำกำร โดยมีวิสัยทัศน์เพ่ือให้ประเทศไทย “เป็นประเทศพัฒนำแล้วมีคุณภำพชีวิตและ
ส่ิงแวดล้อมท่ีดีท่ีสุดในอำเซียนภำยในปี พ.ศ. 2580”ดังนั้น นโยบำยด้ำนกำรจัดกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนเพื่อรองรับ
วิสัยทัศน์ดังกล่ำว จึงได้น้อมนำศำสตร์พระรำชำ หลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง และเป้ำหมำยของกำรพัฒนำ
45
ท่ีย่ังยืนทั้ง 17 เป้ำหมำย มำเป็นหลักในกำรปรับปรุงหลักสูตร กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ และกำรจัด
สภำพแวดล้อมของสถำนศึกษำ ให้สอดคล้องกับหลักกำรดังกล่ำว บนพื้นฐำนควำมเช่ือในกำรเติบโตร่วมกัน ไม่ว่ำ
จะเปน็ ทำงเศรษฐกจิ สงิ่ แวดล้อม และคุณภำพชีวติ โดยให้ควำมสำคัญกับกำรสร้ำงสมดุลท้ัง 3 ด้ำน ไม่ให้มำกหรือ
นอ้ ยจนเกินไป อนั จะนำไปสูค่ วำมยัง่ ยนื เพอ่ื คนรุน่ ต่อไปอย่ำงแทจ้ ริง
เปา้ ประสงค์
1. สถำนศึกษำ นักเรียนได้รบั กำรส่งเสริมด้ำนควำมรู้ กำรสรำ้ งจิตสำนึกดำ้ นกำรผลติ และบริโภค ที่เปน็
มติ รกับสิง่ แวดล้อม
2. สถำนศกึ ษำสำมำรถนำเทคโนโลยมี ำจัดทำระบบสำรสนเทศกำรเกบ็ ข้อมูลดำ้ นควำมรู้ เร่อื ง ฉลำก
สเี ขียวเพ่อื ส่งิ แวดล้อม ฯลฯ และสำมำรถนำมำประยุกต์ใช้ในทุกโรงเรียน ตำมแนวทำง Thailand 4.0
3. สถำนศึกษำมกี ำรจัดทำนโยบำยจัดซื้อจดั จำ้ งที่เปน็ มติ รกับสงิ่ แวดลอ้ ม
4. สถำนศึกษำมกี ำรบูรณำกำรหลกั สูตร กจิ กรรมเร่ืองวงจรชวี ติ ของผลิตภณั ฑ์
กำรผลติ และบรโิ ภค สกู่ ำรลดปริมำณคำร์บอนในโรงเรียนคำร์บอนตำ่ ส่ชู มุ ชนคำรบ์ อนตำ่
5. สำนกั งำนเขตพน้ื ที่กำรศกึ ษำ โรงเรียน ทกุ โรงเรียนในสังกดั มีกำรปรบั ปรุงและพัฒนำเปน็ หนว่ ยงำน
ตน้ แบบสำนักงำนสเี ขยี ว (GREEN OFFICE) เพื่อให้มบี รบิ ททีเ่ ป็นแบบอย่ำงเอือ้ หรือสนบั สนนุ กำรเรียนรขู้ อง
นกั เรยี นและชมุ ชน
6. สถำนศกึ ษำมีนโยบำยสง่ เสรมิ ควำมรู้และสร้ำงจติ สำนกึ และจดั กำรเรยี นรูก้ ำรผลิตและบริโภคท่เี ปน็
มติ รกบั ส่งิ แวดลอ้ ม
ตัวช้วี ดั
1. สถำนศกึ ษำในสงั กัดมนี โยบำยและจัดกจิ กรรมใหค้ วำมรู้ ท่ีถกู ต้องและสรำ้ งจติ สำนึกดำ้ นกำรผลติ
และบรโิ ภคทีเ่ ป็นมิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ มนำไปปฏบิ ตั ิใชท้ ี่บ้ำนและชมุ ชน เช่น กำรสง่ เสริมอำชพี ท่เี ปน็ มิตรกบั
สิง่ แวดล้อม กำรลดใชส้ ำรเคมีจำกปุย๋ และยำฆ่ำแมลง ฯลฯ
2. สถำนศกึ ษำมีกำรนำขยะมำใชป้ ระโยชน์ในรปู ผลิตภัณฑ์และพลงั งำนเพื่อลดปรมิ ำณขยะและมี
ส่งเสรมิ กำรคัดแยกขยะในชมุ ชนเพ่อื ลดปริมำณคำร์บอนทโี่ รงเรียนและชุมชน
3. สถำนศึกษำมีกำรบรู ณำกำรเรอ่ื งกำรจดั กำรขยะแบบมีส่วนรว่ มและกำรนำขยะมำใช้ประโยชน์รวมท้ัง
สอดแทรกในสำระกำรเรยี นรู้ท่เี กย่ี วข้อง
4. นักเรยี นเรยี นรู้จำกแหล่งเรียนรู้ มกี ำรขยำยผลแหล่งเรียนรู้ นักเรยี น โรงเรียน ชมุ ชน เรยี นรดู้ ้ำนกำร
ลดใชพ้ ลังงำน กำรจดั กำรขยะและอนุรักษ์สิง่ แวดลอ้ มเพ่ือเปน็ แหล่งเรยี นรู้
5. นักเรียน สถำนศกึ ษำมีกำรเกบ็ ข้อมลู เปรียบเทียบกำรลดปรมิ ำณคำร์บอนไดออกไซต์ ในกำรดำเนิน
กิจกรรมประจำวนั ในสถำนศึกษำและท่ีบำ้ น และขอ้ มูลของ Carbon Footprint ในรปู แบบ QR CODE และ
Paper less
6. ครู มีควำมคิดสร้ำงสรรค์ สำมำรถพฒั นำส่อื นวัตกรรม และดำเนนิ กำรจดั ทำงำนวิจัยด้ำนกำรสรำ้ ง
สำนกึ ด้ำนกำรผลิตและบริโภคทีเ่ ปน็ มติ รกับส่ิงแวดลอ้ มได้
7. ครู และนักเรียนสำมำรถนำสอ่ื นวตั กรรมท่ีผำ่ นกระบวนกำรคดิ มำประยุกตใ์ ช้ในโรงเรียนกำร
จัดกำรเรยี นรู้ และประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั และชุมชนได้ตำมแนวทำง Thailand 4.0