135
ที่ดีกับเพ่ือนในช้ันเรียนมีค่าเฉล่ียสูงสุด รองลงมา 4 รายการ คือ รายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้
โดยเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนมีสว่ นร่วมในกระบวนการเรียนรู้ รายการครูจัดกจิ กรรมการเรียนร้ทู ่ีส่งเสริม
ให้ผู้เรียนมีวินัยในการทางาน รายการครูจดั กจิ กรรมการเรียนรดู้ ้วยวธิ ีการสอนที่หลากหลาย รายการ
ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบร่วมกัน และรายการครูจัดกิจกรรม
การเรยี นร้ทู ่สี ง่ เสริมให้ผ้เู รยี นได้พัฒนาเต็มตามศกั ยภาพ ตามลาดับ
ระดับหน่วยงานทางการศึกษา สถานศึกษา ผลการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม
ส่วนใหญ่ สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา และดารงตาแหน่งครู ผลการศึกษา
สภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของหน่วยงานทางการศึกษา สถานศึกษา
ในภาพรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า รายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีวินัยในการทางาน มีระดับการปฏิบัติงานมากที่สุด รองลงมา มีค่าเฉล่ียเท่ากัน
2 รายการ คือ รายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการ
เรียนรู้ และรายการครูสร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมและส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับ
เพอื่ นในช้นั เรียน รองลงมา คือ รายการครูจดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ี่สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นมีความรับผิดชอบ
ร่วมกัน โดยรายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สง่ เสรมิ ทักษะการคิดข้นั สูงและกระบวนการแก้ปญั หา
มรี ะดบั การปฏบิ ัตติ ่าสดุ
ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลการเสนอแนะเพ่ิมเตมิ เกยี่ วกบั ปญั หา อุปสรรค ในการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning พบว่า มีข้อมูลเสนอแนะ ดังน้ี
1. บคุ คล
1.1 ผบู้ รหิ าร ขาดความตระหนักถึงความสาคัญของการขบั เคลอื่ นนโยบายสู่การปฏบิ ัติ
ในหอ้ งเรยี น การส่งเสรมิ และกระต้นุ ใหค้ รูจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
1.2 ครูผู้สอน ขาดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ ความสามารถ ประสบการณ์ในการจัด
การเรียนการสอน การสื่อสาร ภาษา การพัฒนาท่ีต่อเน่ืองเพื่อเพ่ิมประสบการณ์ มีภาระงาน
หลายหน้าท่ี ทั้งงานท่ีได้รับมอบหมายตามหนา้ ท่ีและกิจกรรมของหนว่ ยงานภายนอก
1.3 ผู้เรียน ผู้เรียนมีความแตกต่างกันและหลากหลาย เช่น ความสามารถ พื้นฐาน
ความรู้ ศักยภาพและพัฒนาการของผู้เรียนมีความแตกต่างกัน ไม่กล้าแสดงออก การคิด วิเคราะห์
สังเคราะห์ ขาดการเช่ือมโยงการเรียนรู้ในแต่ละวิชา ขาดความรับผิดชอบ ความกระตือรือร้น
ความสนใจท่ีจะเรียนรู้ ขาดทักษะการนาเสนอ ทักษะที่จาเป็น ความร่วมมือน้อย สถานการณ์โควิค
ทาให้เกิดภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ มาเรียนไม่สม่าเสมอ ขาดเรยี นบอ่ ย
136
2. วสั ดุอุปกรณ์ ขาดแคลนส่ือ วสั ดุ อปุ กรณ์ และเทคโนโลยี ทเ่ี พียงพอ และทันสมัย
3. งบประมาณ ขาดงบประมาณในการจัดช้อื วสั ดุอปุ กรณ์ งบประมาณมจี านวนจากัด
4. การบริหารจัดการ การขับเคลื่อนนโยบายไม่ต่อเน่ือง ไม่ตอบสนองกับสภาพ บริบท
ของสถานศกึ ษา และผู้เรยี น ขาดการกากับ ตดิ ตามการนเิ ทศการจัดการเรยี นการสอนอย่างตอ่ เนอื่ ง
ระยะท่ี 2 ผลการศกึ ษาแนวทางการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศกึ ษาธิการ
ผลการศึกษาแนวทางการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ พบว่า โดยส่วนใหญ่แนวทาง ความต้องการ ปัจจัยที่ส่งผลต่อ
การดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ
ขึน้ อยู่
2.1 ผลการศึกษาปัจจัยสู่ความสาเร็จ ท่ีส่งผลต่อความสาเร็จการจัดการเรียนการสอน
แบบ Active Learning ของสถานศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย ทรัพยากร
ทางการบริหารตอ้ งพร้อม คอื
1) บุคคล คอื ผ้บู รหิ าร ครผู สู้ อน บคุ ลากร และผู้เรียน
2) ส่อื วัสดุ อปุ กรณ์ เทคโนโลยี
3) งบประมาณ
4) การบริหารจัดการ
2.2 ผลการศึกษาความต้องการในการส่งเสริม สนับสนุน เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการจัด
การเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศกึ ษาธิการ
1) การพัฒนาการจัดการเรยี นการสอนของครู
2) งบประมาณ
3) การบริหารจัดการ
2.3 ผลการศึกษาแนวทางการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศกึ ษา สงั กดั กระทรวงศกึ ษาธิการ เพื่อขับเคลอ่ื นการดาเนนิ งานให้บรรลเุ ป้าหมาย มีดังนี้
1) การจัดการเรียนการสอน ประกอบด้วย หลักสูตร สาระการเรียนรู้ การออบแบบ
กระบวนการการจัดการเรยี นการสอน การบรู ณาการเชื่อมโยงของการจดั การเรยี นการสอน
2) นโยบาย การขับเคล่ือน แนวทางการดาเนินงาน ท่ีชัดเจน ต่อเน่ือง เป็นรปู ธรรม
3) ปัจจัยการบริหาร ประกอบด้วย ผู้บริหาร ครูผู้สอน นักเรียน งบประมาณ วัสดุ
อุปกรณ์ การบริหารจดั การ
137
ระยะที่ 3 จัดทาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศึกษาธกิ าร
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning ของ
กระทรวงศึกษาธกิ าร ประกอบด้วย
1. ใหค้ วามสาคัญ โดยการยกระดับให้เป็นวาระเรง่ ด่วน
2. ควรจัดทากลยุทธ์ในการขับเคล่ือน เป็นนโยบาย 3 ระดับ อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน
เหมาะสมกับคนทุกช่วงวัย ด้วยการวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ท้ังในภารกิจพื้นฐาน
ภารกิจยุทธศาสตร์ และภารกิจพ้ืนท่ี ท่ีส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย สอดคล้องกับพ้ืนที่ในระดับ
กระทรวง ระดับจังหวดั /เขตพนื้ ท่ี และระดับสถานศึกษา
3. สง่ เสริมให้ผ้เู รยี นมีสว่ นร่วมในการออกแบบการเรยี นรู้ การลงมือปฏิบัติของผู้เรียน และ
รว่ มประเมินผลการเรยี นรู้ให้มากขน้ึ อย่างเป็นรูปธรรม
4. พัฒนาครูให้มีทักษะ สมรรถนะ เปลี่ยนบทบาทเป็นผู้อานวยการการเรียนรู้
คอยกระตุ้น สร้างแรงบันดาลใจ แนะนาวิธีเรียนรู้และวิธีจัดระเบียบการสร้างความรู้ให้กับนักเรียน
เพื่อใหน้ กั เรียนไดร้ ับการปพู ื้นฐานความพรอ้ มทั้งกาย ใจ ปญั ญา อยา่ งรอบดา้ น
5. สร้างขวัญกาลังใจให้ผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานเชิงประจักษ์ และสนับสนุน
ให้ไดร้ ับโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ
6. จัดระบบการกากับ ติดตาม นิเทศ ประเมิน ผลและการรายงานผลที่ชัดเจน
อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มให้เกิดความคล่องตัว รวดเร็ว สะดวกต่อการปฏิบัติงาน
ทุกระดบั
อภปิ รายผล
1. ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยการ
วเิ คราะห์ สังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยทีเ่ กี่ยวข้องการสนทนากลุ่มของผู้เช่ียวชาญและเก่ียวกับการ
จัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ท่ีเน้นผู้เรียนทุกระดับมีส่วนร่วมสร้างสรรค์การเรียนรู้
เพื่อให้เกิดสมรรถนะหลัก และการพัฒนาตนเองตามความถนัดและความสนใจ ซึ่งได้ผลการศึกษา 3
หวั ขอ้ โดย พบวา่
1.1 รูปแบบท่ใี ชใ้ นการจดั การเรียนการสอนมี 8 รูปแบบ ไดแ้ ก่ ก า ร ส อ น แ บ บ ใ ช้
คาถาม (Questioning Method) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน(Activity-Based Learning) การ
เรียนรู้แบบใช้เกม (Games) การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ (Experiential Learning) การเรียนรู้โดยใช้
ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning) การเรียนรู้แบบแสดงบทบาทสมมติ (Anchored
138
Instruction) การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) การเรียนรู้แบบ
กรณีศึกษา (Analyze Case Studies)ซึ่งเรียงลาดับจากการนาไปใช้มากไปหาน้อย เหตุท่ีเป็นเช่นนี้
อาจสืบเนื่องมาจากการศึกษาสภาพการจัดการเรยี นการสอนในครั้งนี้ได้วิเคราะห์สังเคราะห์เอกสาร
และงานวิจยั ท่ีเกี่ยวข้องท่ดี าเนนิ การในชว่ งต่งั แต่ พ.ศ. 2553- พ.ศ.2563 ซึ่งเปน็ ระยะเวลาหนงึ่ เท่าน้ัน
อีกทั้งในการศึกษาเอกสารและรายงานการวิจัยการนาไปใช้อาจมีเฉพาะส่วนท่ีเผยแพร่และนาเสนอ
ผ่านระบบท่ีฐานข้อมูลงานวิจัยระดับชาติ และรูปแบบของการจัดการเรียนการสอนที่พบจาก
การศึกษาเป็นข้อสังเกตได้ว่า การจัดการเรียนการสอนในช่วงระยะเวลาท่ีผ่านมายังจัดการเรียนการ
สอนที่ส่วนใหญย่ ังมีรูปแบบที่เน้นครูเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ และเป็นวธิ ีการสอนแบบใช้คาถาม
(Questioning Method) มากกว่าวธิ ีอื่น ทัง้ นี้อาจสบื เนื่องจากเป็นรูปแบบการสอนที่ง่ายและสะดวก
สาหรับครูผู้สอน เพราะผู้สอนไม่ต้องเตรียมสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ประกอบการจัดการเรียนการสอน
เพียงแต่ใช้องค์ความรปู้ ระสบการณ์จากวิชาทที่ าการสอนมาต้ังคาถาม กระตุ้นใหน้ กั เรียนเกดิ ความคิด
และการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ท่ีตั้งไว้ ซ่ึงสอดคล้องกับแนวความคิดและงานวิจัยของ Mckinney
(2008), เยาวเรศ ภักดจี ิตร(2557) และวิทวสั ดวงภมุ เมศ และวารีรัตน์ แกว้ อุไร (2560) ทไี่ ด้สรุปไว้ว่า
วธิ ีการสอนแบบใช้คาถาม (Questioning Method) คือ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้สอนตั้งคาถาม
ในลักษณะต่าง ๆ ที่เป็นคาถามเชิงท้าทาย มุ่งเน้นพัฒนาความคิดของผู้เรียน ซึ่งเป็นลักษณะคาถาม
ตามระดับชั้นของ Bloom คือ ถามความรู้ เป็นคาถามที่ผู้เรียนสามารถตอบข้อเท็จจริงได้ เช่น ใคร
(WHO) อะไร (WHAT) เมื่อไหร่ (WHEN) ที่ไหน (WHERE) คาถามความเข้าใจ เป็นคาถามสามารถ
อธิบายด้วยคาพดู มกั ใช้คาว่า อยา่ งไร(HOW) ถามการนาไปใช้ เป็นคาถามทีผ่ เู้ รียนสามารถนาความรู้
ในการแก้ปัญหาในสถานการณใ์ หมไ่ ด้ ถามการวเิ คราะห์ เป็นคาถามทผ่ี ู้เรยี นสามารถจาแนกแยกแยะ
เรือ่ งราวต่าง ๆได้ ถามสงั เคราะหเ์ ปน็ คาถามท่ีผเู้ รียนใชก้ ระบวนการคิด สรุปเป็นหลักการ แนวคดิ ใหม่
ถามประเมนิ ค่า เป็นคาถามท่ีผูเ้ รียนตีคุณค่าโดยใช้ความรูส้ กึ นกึ คิดอย่างมเี หตผุ ล สาหรับรปู แบบหรือ
วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกท่ีครูผู้สอนนามาใช้จัดการเรียนการสอน รองลงมา ได้แก่ การ
เรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (ActivityBased Learning) ทั้งนี้อาจเน่ืองมาจาก สานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (2562) ได้ นาเสนอรูปแบบวธิ ีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่เน้น
บทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียนด้วยรูปแบบ การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-
Based Learning) ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ท่ีเน้นบทบาทและการ มีส่วนร่วมของผู้เรียน หรือ “การเรียนรู้
เชิงรุก” (Active Learning) หมายถึง นากิจกรรมเป็นที่ต้ัง เพ่ือท่ีจะฝึกหรือพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการ
เรียนรู้ให้บรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่กาหนด กิจกรรม การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน มี
หลากหลายกิจกรรม การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัด
กิจกรรมนัน้ ๆ วา่ มุ่งใหผ้ ู้เรียนได้เรยี นรู้หรือพัฒนาในเรื่องใด สามารถจาแนกออกเปน็ 3 ประเภทหลัก
คือ (1) กิจกรรมเชิงสารวจ เสาะหา คน้ คว้า (Exploratory) ซึง่ เกย่ี วข้องกับการรวบรวม สั่งสมความรู้
139
ความคิดรวบยอด และทักษะ (2) กิจกรรมเชิงสรา้ งสรรค์ (Constructive) ซงึ่ เก่ียวข้องกับการรวบรวม
ส่ังสมประสบการณ์ โดยผ่านการปฏิบัติ หรือการทางานที่ริเริ่มสร้างสรรค์ (3) กิจกรรมเชิงการ
แสดงออก (Expressional) ได้แก่ กิจกรรมทีเ่ กีย่ วกับการนาเสนอ การเสนอผลงาน
1.2 สภ าพ ก ารด าเนิ น ก ารจัด ก าร เรีย น ก ารสอ น แบ บ Active Learning
ประกอบด้วย 3 ดา้ น ได้แก่ 1)ด้านบุคคล คือ คือ 1) ผบู้ ริหาร ขาดความตระหนักในการส่งเสรมิ และ
สนับสนุน ขาดภาวะผู้นาทางวชิ าการ อีกทั้งมีการโยกย้ายสถานศึกษาบ่อย 2) ครูผู้สอน ขาดความรู้
ความเข้าใจ และทักษะในการจัดการเรียนการสอน และมีภาระงานอื่นได้รับมอบหมายมากเกินไป
3) ผู้เรยี น ขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ การจดั การเรียนการสอนของครู ไม่เน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ
ผู้เรียนไม่มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ไม่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ไขปัญหาได้ รวมท้ังขาด
แรงจูงใจในการเรียนรู้ 2) ด้านส่ือ วสั ดุ อุปกรณ์ ได้แก่ การขาดแคลนวัสดุ ส่อื และอุปกรณ์สาหรับใช้
ในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ท่ีตอ้ งใช้เพ่อื ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ส่ือและ
เทคโนโลยี ไม่ตอบสนองต่อการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21และ3)ดา้ นงบประมาณขาดงบประมาณในการ
จัดช้ือวัสดุอุปกรณ์ งบประมาณมีจานวนจากัดและ 4)การบริหารจัดการ ได้แก่ 4.1) การขับเคล่ือน
นโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของหน่วยงานการศกึ ษาระดับจังหวัด เช่น
ศึกษาธกิ ารจังหวดั สานักงานเขตพื้นที่การศกึ ษา ไม่ต่อเนื่อง มีรูปแบบการดาเนนิ งานไมท่ ี่ชัดเจนส่งผล
ให้ผู้บริหารสถานศึกษา ไม่ให้ความสาคัญของการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ไม่มี
การแลกเปลี่ยน เรียน รู้ก ารจัดการเรียน การสอ น แบบ Active Learning ใน ระดับต่าง ๆ
4.2) หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาขาดการส่งเสริมครูผู้สอนอย่างจริงจังโดยเฉพาะผู้ท่ีจัดการ
เรียนการสอนแบบ Active Learning ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มผี ลงานเชิงประจักษเ์ ป็นท่ยี อมรับ ให้มี
ความก้าวในอาชีพ สร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน มอบเกียรติบัตร การพิจารณาความดีความชอบ
เป็นตน้ และขาดการพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนอย่างต่อเน่ือง ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพ่ือสร้างแรง
บันดาลใจ 4.3) การสนับสนุนด้านงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ให้กับสถานศึกษาเพ่ือใช้ในการจัดการ
เรียนการสอนเชิงรกุ ไมเ่ พียงพอต่อการจดั ทาส่ือเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ 4.4) การนิเทศ กากบั ตดิ ตาม
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของครูผู้สอนและผู้บริหารสถานศึกษาขาดความ
ต่อเนื่องและเป็นระบบ 4.5) การขับเคล่ือนการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ผู้ตรวจ
ราชการกระทรวงศึกษาธิการ นายไพศาล วุทฒิลานนท์ และ นายธรี ์ ภวคั นันท์ ดาเนินการวิเคราะห์
แนวทางการขับเคล่ือน Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะแห่งอนาคต เหตุที่เป็นเช่นนี้อาจสืบ
เนื่องมาจากการดาเนนิ การการจัดการพัฒนาการคุณภาพการศึกษานั้นมสี ่วนสาคัญอยู่ 4 ส่วนด้วยกัน
คอื คน(Man)วัสดุ(Material) เงิน(Money) และ การจดั การ(Management) ซ่ึงสอดคล้องกับทฤษฎี
หลักการแนวคิดการบรหิ ารองค์กร 4M (เกียรติพงษ์ อุดมธนะธีระ (2560) ทไ่ี ด้ให้รายละเอยี ดไวว้ ่า
140
1) ทรัพยากรมนุษย์ (Man) คือ คนงาน พนักงาน หรือบุคลากรท้ังจากภายในและภายนอก ซ่ึงถือว่า
เป็นปัจจัยหลักท่ีสาคัญท่ีสุด เพราะการทาธุรกิจหรือดาเนินการใดๆ จะต้องเกิดขึ้นได้ต้องอาศัย
คนท้ังในด้านความคิด การวางแผน การดาเนินการ หรือจัดการทาให้เกิดผลทางธุรกิจทุกรูปแบบ
การพัฒนาคนจึงเป็นสิ่งสาคัญที่สุดเพ่ือให้ประสบความสาเร็จในการดาเนินธุรกิจ 2) งบประมาณ
(Money) คือ เงิน หรือทุนท่ีใช้ในการดาเนินธุรกิจทั้งจากเงินทุนภายในและภายนอก ในทางธุรกิจ
เงินทุนถือว่าเป็นปัจจัยหลักท่ีสาคัญที่สุด เพราะการทาธุรกิจทุกอย่างไม่สามารถดาเนินได้ดีหาก
ขาดทนุ ในการดาเนนิ งาน กล่าวได้วา่ การทาธรุ กจิ ทุกอยา่ งจะต้องเกดิ ขน้ึ ได้ต้องอาศยั เงินทนุ เพราะจะ
เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจและปัจจัยต่างๆ ให้ดาเนินการไปได้ท้ังในด้านค่าแรงคน ค่าใช้จ่ายในการ
ดาเนินงาน ค่าใช้จ่ายในการซื้อวัสดุมาใช้ในการดาเนินธุรกิจ การมุ่งเป้าไปท่ีการพัฒนาเงินจึงเป็นส่ิง
สาคัญที่สุดเพื่อให้ประสบความสาเรจ็ ในการดาเนินธุรกิจ 3) วัสดุ อุปกรณ์(Material)คือ วัสดุสิ่งของ
วัตถุดิบ ช้นิ ส่วนอะไหล่ ผลติ ภัณฑ์ บริการหรอื อุปกรณ์อน่ื ๆ ซึ่งมีส่วนนามาใชใ้ นการผลิตสินค้า เป็นสิ่ง
ทสี่ าคัญอนั ดบั ต่อมา เพราะทุกธุรกจิ ตอ้ งอาศัยส่งิ ท่ีได้ในกลุ่มน้ีมาใชใ้ นการผลิต ดังนนั้ ต้องรู้จกั บริหาร
จัดการวัตถุดิบ ให้มีประสิทธิภาพสามารถมีเพียงพอในการผลิต การบริหารวัสดุ ในการดาเนินงาน
ว่าทาอยา่ งไรให้สิ้นเปลืองทรัพยากรในการผลิตให้น้อยที่สดุ หรือการใชใ้ ห้เกิดประโยชน์คุ้มค่าสูงสุดธ
4) วธิ ีปฏิบตั ิงาน(Management) คือ วิธีการ ข้ันตอน หรอื ขบวนการในการทาธรุ กิจ ความสาเร็จของ
การดาเนินธุรกิจส่วนใหญ่จะมาจากการท่ีองค์กรมีการกาหนดขั้นตอนแนวทางในการดาเนินงานที่ดี
การท่ีจะมีแนวทางการปฏิบัติงานและข้ันตอนของการดาเนินธุรกิจที่ดีได้ ควรต้องมีการกาหนด
นโยบายที่ชัดเจน มีวิสัยทัศน์ที่ดี มีการวางแผนจัดการ การติดตามความก้าวหน้าของงาน
การตรวจสอบคุณภาพผลงานท่ีได้ และการควบคุมการทาทางานอย่างต่อเนื่อง ต้องมีการพัฒนา
ขั้นตอนการทางาน นาเอาความรู้เทคโนโลยีใหม่ และวางแผนขบวนการทางานให้ดี มีข้ันตอนท่ีไม่
ยุ่งยาก ประหยัดเวลา สามารถติดตามตรวจสอบได้ง่าย และกระบวนการจัดการบริหารควบคุมเพื่อให้
งานท้ังหมดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดส่วนใหญ่ ซ่ึงท้ัง 4 ส่วนมีส่วนที่มีความสัมพันธ์
เก่ยี วเนื่องสง่ เสรมิ ซึง่ กนั และกนั ต่อเนอื่ งและสอดรับกับแนวนโยบายนาสู่การปฏิบตั ทิ ีช่ ดั เจนเป็นระบบ
1.3 ปจั จัยที่สง่ ผลตอ่ ความสาเร็จในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ได้แก่ 1) บทบาทของครู เปลี่ยนบทบาทจากผู้สอนมาเป็นผู้ให้คาแนะนา อานวยความสะดวก และ
ช่วยเหลือผู้เรียน 2) สมรรถนะของครู ได้แก่ 2.1) สมรรถน ะหลัก (Core Competency)
ประกอบด้วย การมุ่งผลสัมฤทธ์ิ การบริการท่ีดี การพัฒนาตนเองและการทางานเป็นทีม และ
2.2) สมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency) ประกอบด้วย การจัดการเรียนรู้
การพัฒนาผู้เรียน การบริหารจัดการช้ันเรียน และการวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวิจัย และ 2.3)
รูปแบบการเรียนรู้ ครูควรมีการเลือกรูปแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเน้ือหาและธรรมชาติวิชา
เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ เป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้เกิด 3R8C ซ่ึงเป็น
141
ทักษะที่พึงมีในศตวรรษท่ี 21 เหตุที่เป็นเช่นนี้อาจสืบเนื่องมาจากการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ครูผู้สอนเป็นผู้ที่ส่วนสาคัญมากท่ีสุดและมีความใกล้ชิดกับตัวผู้เรียนมากท่ีสุด
ในการกระตุ้นและนาวธิ กี ารที่หลากหลายตามบรบิ ทและความตอ้ งการของผู้เรยี นแต่ละคน หรอื แตล่ ะ
กลุ่ม อีกท้ังยงั ปรบั เปลย่ี นบทบาทตนเองใหค้ อยอานวยความสะดวก ช่วยเหลือผู้เรียนให้เกดิ การเรยี นรู้
ให้มากที่สุด โดยอาศัยครูผู้สอนที่มีสมรรถนะหลักและรองที่พร้อมในการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ท่ีสามารถช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาและเกิดการเรียนรู้ด้วยตัวของผู้เรียนได้เองตาม
ศักยภาพสูงสุดต่อไป สอดคล้องกับแนวคิดและงานวิจัยของ ณัชนัน แก้วชัยเจริญกิจ (2550)
ได้กล่าวถึงบทบาทของครูผู้สอนในการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุก (Active Learning) ไว้ว่า ครู
ควรมีสมรรถนะในการจัดการเรียนการสอนที่จัดให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียน สร้างและ
สะท้อนความต้องการของผู้เรียนให้มากท่ีสุด สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมและภายใต้ความ
ร่วมมือ จัดการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ท้าทาย หลากหลาย วางแผนและใจกว้างในการยอมรับ
ความสามารถและการแสดงออกของผูเ้ รยี น
2. ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยการสอบถาม ประกอบด้วย หน่วยงานการศกึ ษาระดับ
จังหวัด และสถานศึกษา ซ่ึงมีผลการศึกษา ดังนี้ ระดับหน่วยงานการศึกษาระดับจังหวัด ข้อมูล
ผู้ตอบแบบสอบถาม ของหน่วยงานการศึกษาระดับจังหวัด พบว่า ผตู้ อบแบบสอบถาม จานวนท้ังส้ิน
465 คน ส่วนใหญ่ สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา และดารงตาแหน่งผู้บริหาร
การศึกษา จากการศึกษาพบวา่ สภาพการจัดเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ของหน่วยงานการศึกษา ระดับจังหวัด ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
( x = 4.25) เม่ือพิจารณาเป็นรายการ พบว่า รายการครูสร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมและ
ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีกับเพ่ือนในชั้นเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา 4 รายการ คือ
รายการครูจัดกจิ กรรมการเรียนรูโ้ ดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนรว่ มในกระบวนการเรียนรู้ รายการครู
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีวินัยในการทางาน รายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วย
วิธีการสอนที่หลากหลาย รายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบ
ร่วมกัน และรายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ
ตามลาดับ เหตุที่เป็นเช่นน้ีสืบเนื่องจาก การจัดเรียนการสอนแบบ Active Learning น้ันเป็น
กระบวนการท่ีครูผู้สอนเป็นผู้สร้างบรรยากาศการมีส่วนร่วมระหว่างครูและผู้เรียนมากท่ีสุด ผู้เรียน
เกิดการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง ตามศักยภาพและความร่วมมือของผู้เรียนแต่ละบุคคล
สอดคล้องกบั แนวคดิ และงานวิจัยของ เมเยอรแ์ ละโจนส์ (1993) ได้กลา่ วว่ากิจกรรมการเรยี นรู้ภายใต้
142
สมมติฐานพ้ืนฐาน การเรียนรู้โดยธรรมชาติของผู้เรียน และแนวทางในการเรียนรู้ท่ีแตกต่างกันของ
แตล่ ะบคุ คล
ระดับหน่วยงานทางการศึกษา สถานศึกษา ผลการศึกษา พ บว่า ผู้ตอบ
แบบสอบถามส่วนใหญ่ สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา และดารงตาแหน่งครู
ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของหน่วยงานทางการศึกษา
สถานศึกษา ในภาพรวมอยูใ่ นระดับมากที่สุด เม่ือพิจารณาเป็นรายการ พบว่า รายการครจู ัดกิจกรรม
การเรยี นรู้ท่สี ่งเสรมิ ใหผ้ ้เู รียนมวี นิ ัยในการทางาน มีระดับการปฏบิ ตั ิงานมากที่สุด รองลงมา มีค่าเฉลี่ย
เท่ากัน 2 รายการ คือ รายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมใน
กระบวนการเรียนรู้ และรายการครูสร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมและส่งเสริมให้ผู้เรียนมี
ปฏิสัมพันธท์ ี่ดกี ับเพ่ือนในชั้นเรยี น รองลงมา คือ รายการครูจัดกิจกรรมการเรยี นรูท้ ี่สง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี น
มีความรับผิดชอบร่วมกัน โดยรายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดข้ันสูงและ
กระบวนการแก้ปัญหา มีระดบั การปฏิบัติต่าสุด สอดคลอ้ งกับแนวคิดของบอนเวลล์และอีสัน(1991)
สถาพร พฤฑฒิกุล (2555) สิริพร ปาณวงษ์ (2560) และปรียานุช พรหมภาสิต (2559) ได้สรุปไว้ว่า
การจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุก (Active Learning) นั้นเป็นกระบวนการท่ีเน้นการเรียนรู้
มากกว่าเน้ือหา สร้างความรู้ด้วยตัวของผู้เรียนเอง โดยครูผู้สอน เป็นผู้คอยแนะนา กระตุ้น หรือ
อานวยความสะดวกให้ผเู้ รยี นเกดิ การเรียนรดู้ ้วยกระบวนการคดิ ข้นั สูง สามารุคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
และประเมนิ ค่าจากสิง่ ทไ่ี ดร้ ับจากกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
3. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของกระทรวงศกึ ษาธิการ ประกอบดว้ ย
1. ใหค้ วามสาคัญ โดยการยกระดับให้เป็นวาระเรง่ ดว่ น
2. ควรจัดทากลยุทธ์ในการขับเคลื่อน เป็นนโยบาย 3 ระดับ อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน
เหมาะสมกับคนทุกช่วงวัย ด้วยการวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ทั้งในภารกิจพ้ืนฐาน
ภารกิจยุทธศาสตร์ และภารกิจพ้ืนที่ ที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย สอดคล้องกับพ้ืนท่ีในระดับ
กระทรวง ระดับจังหวดั /เขตพน้ื ที่ และระดับสถานศกึ ษา
3. ส่งเสริมให้ผู้เรียนมสี ่วนร่วมในการออกแบบการเรียนรู้ การลงมือปฏิบัติของผู้เรียน
และร่วมประเมนิ ผลการเรยี นร้ใู หม้ ากข้นึ อย่างเป็นรูปธรรม
143
4. พัฒนาครูให้มีทักษะ สมรรถนะ เปล่ียนบทบาทเป็นผู้อานวยการการเรียนรู้
คอยกระตุ้น สร้างแรงบันดาลใจ แนะนาวิธีเรียนรู้และวิธีจัดระเบียบการสร้างความรู้ให้กับนักเรียน
เพือ่ ใหน้ กั เรียนไดร้ บั การปพู นื้ ฐานความพรอ้ มทงั้ กาย ใจ ปญั ญา อยา่ งรอบดา้ น
5. สรา้ งขวญั กาลงั ใจให้ผปู้ ฏิบตั ิงาน โดยเฉพาะผปู้ ฏิบัติงานเชงิ ประจกั ษ์ และสนับสนุน
ใหไ้ ดร้ บั โอกาสความกา้ วหน้าในอาชีพ
6. จัดระบบการกากับ ติดตาม นิเทศ ประเมินผลและการรายงานผลท่ีชัดเจน
อย่างต่อเน่ือง โดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มให้เกิดความคล่องตัว รวดเร็ว สะดวกต่อการปฏิบัติงาน
ทุกระดับ
144
บรรณานกุ รม
จุฑามาศ เพ่ิมพูนเจริญยศ. (2561). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุกผ่านห้องเรียนอัจฉริยะ
สาหรับนักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลไทรโยค. สารนิพนธ์
วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลยั ศรปี ทมุ .
จิตณรงค์ เอย่ี มสาอางค์, (2558), “Active Learning แนวทางการจัดการเรยี นรู้สาหรบั ผู้เรียนใน
ยคุ ศตวรรษที่ 21.” เข้าถึงเมอ่ื 4 มีนาคม 2565. เข้าถึงไดจ้ าก:
http://chitnarongactivelearning
ชรินทร ชะเอมเทส. (2561) . การใช้รูปแบบการสอน Active Learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์
ทางการเรยี นวิชาการบญั ชีบรหิ าร สาหรับผู้เรยี นระดบั ปวส. 2 สาขา การบญั ชี. วิจัยช้ัน
เรียน. วิทยาลัยอาชีวศึกษาสนั ติราษฎร์ ในพระอุปถมั ภ์ฯ
ณัชนนั แกว้ ชัยเจรญิ กจิ . (2550). “ภาวะผนู้ าและนวัตกรรมทางการศกึ ษา: บทบาทของครกู บั
ActiveLearning.” เขา้ ถงึ เมอื่ 22 มีนาคม 2563. เข้าถึงได้จาก:
http://www.pochanukul.com
ดเิ รก พรสมี า. (2554), “ครูไทย 4.0 กระทรวงศึกษาธิการ.” เขา้ ถึงเมือ่ 5 เมษายน 2565. เข้าถงึ
ได้จาก: http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID
ดุษฎี โยเหลา และคณะ, (2557), “การศึกษาการจัดการเรียนร้แู บบ PBL ท่ไี ด้จากโครงการสรา้ งชุด
ความรเู้ พอื่ สรา้ งเสริมทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ ๒๑ ของเด็กและเยาวชน: จากประสบการณ์
ความสาเรจ็ ของโรงเรียนไทย. กรุงเทพฯ: ทิพยว์ ิสทุ ธ์ิ
เดชดนัย, เกษรา บ่าวแช่มช้อย, และศิริกัญญา แก่นทอง จุ้ยชุม. (2559). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียน เรื่อง ทักษะการคิดของนักศึกษาในรายวิชาทักษะการคิด (Thinking
Skills) รหัสวิชา 11-024-112 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ด้วยการเรียนรู้แบบมี
สว่ นรว่ ม (Active Learning). วารสารมหาวิทยาลัยนราธวิ าสราชนครนิ ทร์ , 47-57.
มหาวิทยาลยั ทกั ษณิ คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ (2561), แนวปฏิบตั ทิ ดี่ กี ารเรียนการสอน
เชงิ รุก (Active Learning. ม.ป.ท.
เยาวเรศ ภักดีจติ ร. (2557), “Active Learning กับการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ ๒๑.” เอกสาร
ประกอบการเสวนาทางวชิ าการ “วนั ส่งเสริมวิชาการส่คู ุณภาพการเรยี นการสอน”
20 กรกฎาคม 2557 ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
วารินทพ์ ร ฟนั เฟ่ืองฟ.ู (2562), “การจัดการเรยี นรู้ Active Learning ใหส้ าเรจ็ ” วารสารวไลยลง
กรณป์ ริทัศน์ (มนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร)์ 9, 1 มกราคม - เมษายน): 135 – 145
145
วทิ วสั ดวงภมู เมศ และวารรี ัตน์ แก้วอุไร. (2560), การจดั การเรยี นรใู้ นยุคไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการ
เรียนรู้อยา่ งกระตอื รอื ร้น. วารสารมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์บัณฑิตวทิ ยาลยั
มหาวทิ ยาลัยราช ภฏั พบิ ูลสงคราม. 11(2), 1-4.
สานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สงั คมแหง่ ชาติ ฉบับท่สี บิ สอง (พ.ศ. 2560 – 2564). กรุงเทพฯ.
สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร. (2560). แผนพัฒนาการศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธิการฉบับที่
12 (พ.ศ. 2560 - 2564). กรุงเทพฯ: สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร.
สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579.
กรุงเทพฯ: สานักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา
Bonwell, C. C. (2003). Active Learning: Creating Excitement in the Classroom.
Retrieved May 14, 2022, from shorturl.at/fGJVY
Felder, R. & Brent, R. (1996). Navigating the Bumpy Road to Student-Centered
Instruction. Journal of College Teaching. 44(6), 43-47.
Gifkins, J. (2015). What Is ‘Active Learning’ and Why Is It Important?.
E-international relations. [Online], Available:
http://www.eir.info/2015/10/08/what-is-active learning-and-why-is-it-
important. (2022, 23 January).
Fink, L. D. (1999 ). Active learning. [Online], Available:
http://www.honolulu.hawaii.edu/intranet. (2017, 21 January).
Felder, R. M. and Brent, R. (boom). Active Learning: An Introduction. (online)
Available:http://wwwe.ncsu.edu/unity/lockers/users/f/felder/bublic/Papers/A
Lpaper (ASQ).pdf
Johnson, D. W. (1991). Cooperation in the classroom. American Psychological
Association.
Johnson, D.W. Johnson, R.T.& Holubec, E.J. (1994). The nuts and bolts of cooperative
learning. Edina, Minnesona: Interaction Book Company.
Joyce, B. & Weil, M. (1996). Model of teaching. (5th ed.). London: Allyn and Bacon.
Joyce, B., Weil, M. & Showers, B. (1992). Model of teaching. (@th ed.). London: Allyn
and Bacon.
Krathwohl, D.R. , Bloom, B.S. & Masia, B. (1956). Taxonomy of educational objectives,
Book le. Affective Domain. Newyork: Mckay.
146
Mckinney, S. E. (2008). Developing teachers for high-poverty schools: The role of the
internship experience. Urban Education. m(o), ba-holo. [Online], Available:
http://www.eric.ed.gor (600, lo January).
Meyers, C., & Jones, T. B. (1993). Promoting Active Learning: Strategies or the College
Classroom. San Francisco: Josey-Bass Publishers.
Michaelsen, S. & Michaelsen, L.K. (2012). Team - based learning in the social science
and humanities: group work that works to generate critical thinking and
engagement. Sterling, VA.: Stylus Publishing.
Prince, M. (2004). Does Active Learning Work? A Review of the Research. Journal of
Engineering Education. 93(3), 223-232.
Raths, L.E., Hamin, M. & Simon, S.B. (1966). alue and Teaching .Columbus Ohio:
Charles E.Merile Publishing.
Shenker, J. I., Goss, S. A., & Bernstein, D. A. (1996). Instruction's Resource Manual for
Psychology: Implementing Active Learning in the Classroom. [Online],
Available:
http://www.s.psych/uiuic.edu/~jskenker/active.html. (2018', 6. January).
Standford Teaching Commons. (2015). Course Design Overview. [Online], Available:
https://teachingcommons.
147
ภาคผนวก
148
ภาคผนวก ก.
1. รายชอ่ื ผ้เู ชี่ยวชาญตรวจสอบเครอ่ื งมือวิจัย
2. สรปุ การพิจารณาความสอดคล้องของผู้เช่ยี วชาญ
ตอ่ เคร่ืองมอื วจิ ยั (ค่า IOC)
149
รายชอ่ื ผเู้ ชยี่ วชาญตรวจสอบเครือ่ งมือวจิ ยั
1. ดร.ผดุงชัย ภพู่ ฒั น์
- ขา้ ราชการบานาญ คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรมและเทคโนโลยี
สถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- อาจารย์พิเศษ คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกล้า พระนครเหนือ
2. ผศ.ดร.เมธา อึง่ ทอง
- รองหัวหน้าภาควชิ าฝ่ายบรหิ ารและกิจการนักศกึ ษา ภาควิชาครศุ าสตรเ์ คร่ืองกล
คณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกล้า พระนครเหนอื
3. นายธราธปิ วงษ์แกว้
- รองผูอ้ านวยการสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาชลบรุ ี เขต 1
4. นายอานาจ เหลือนอ้ ย
- ผูอ้ านวยการโรงเรยี นอนุบาลลานสัก
สานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2
5. นางจาเริญ สมี ารตั น์
- ผอู้ านวยการโรงเรียนพระตาหนกั สวนกหุ ลาบมหามคล
สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 2
150
สรปุ การพิจารณาความสอดคล้องของผู้เชีย่ วชาญตอ่ เคร่ืองมอื
แบบบนั ทึกเอกสารเกี่ยวกบั สภาพการดาเนินงานการจดั การเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของสถานศกึ ษา สงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ
รายการ คะแนนความคิดเหน็ ของผเู้ ชย่ี วชาญ รวม คา่ IOC สรปุ ผล
คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 คนท่ี 4 คนท่ี 5
รูปแบบท่ีใช้ในการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning +1 +1 +1 0 +1 4 0.8 ใช้ได้
สภาพการดาเนนิ การจดั การเรียน +1 +1 +1 0 +1 4 0.8 ใช้ได้
การสอนแบบ Active Learning
ปจั จัยท่ีสง่ ผลต่อความสาเร็จใน
การจัดการเรียนการสอนแบบ +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใชไ้ ด้
Active Learning
151
สรปุ การพจิ ารณาความสอดคล้องของผู้เชย่ี วชาญต่อเครื่องมือ
แบบสอบถามความคิดเหน็ สภาพการจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธกิ าร
รายการ คะแนนความคดิ เห็นของผู้เชย่ี วชาญ รวม คา่ IOC สรปุ ผล
ใช้ได้
คนท่ี 1 คนที่ 2 คนท่ี 3 คนที่ 4 คนที่ 5 ใชไ้ ด้
ใชไ้ ด้
ครูจัดสภาพการเรียนรู้แบบรว่ มมือ +1 +1 +1 0 +1 4 0.8 ใชไ้ ด้
สง่ เสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุม่ ผเู้ รยี น
ใช้ได้
ครจู ัดกิจกรรมการเรียนรโู้ ดยคานงึ ถึง +1 +1 +1 0 +1 4 0.8
ความแตกต่างของผู้เรียนเปน็ รายบุคคล ใชไ้ ด้
ใช้ได้
ครูจดั กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีสง่ เสริมทักษะ +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
การคิดขน้ั สูงและกระบวนการแก้ปัญหา ใช้ได้
ใช้ได้
ครูจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้สง่ เสริมให้
ผ้เู รยี นนาความรไู้ ปประยุกตใ์ ช้ใน +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00
ชวี ติ ประจาวนั
ครจู ดั กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยเปิดโอกาส
ให้ผู้เรยี นมสี ว่ นร่วมในกระบวนการ 0 +1 +1 +1 +1 4 0.8
เรยี นรู้
ครจู ดั กิจกรรมการเรียนรูเ้ น้นใหผ้ ูเ้ รียน
เปน็ ผปู้ ฏบิ ัติและสร้างองค์ความรู้ด้วย +1 +1 +1 0 +1 4 0.8
ตนเอง
ครจู ดั กิจกรรมการเรยี นรู้ด้วยวธิ ีการสอน +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00
ทีห่ ลากหลาย
ครูจดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ่ีท้าทาย +1 0 +1 +1 +1 4 0.8
ความสามารถของผู้เรียน
ครูจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ทส่ี ่งเสริมให้ +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00
ผเู้ รียนมคี วามรบั ผิดชอบร่วมกนั
ครจู ดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ทสี่ ่งเสริมให้ 0 +1 +1 +1 +1 4 0.8
ผเู้ รยี นมวี ินัยในการทางาน
152
รายการ คะแนนความคดิ เห็นของผู้เชย่ี วชาญ รวม คา่ IOC สรปุ ผล
คนท่ี 1 คนที่ 2 คนที่ 3 คนท่ี 4 คนที่ 5
ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่เี ปิดโอกาสให้
ผเู้ รยี นบูรณาการขอ้ มลู ข่าวสาร สู่การ +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
สร้างความคิดรวบยอด
ครูจัดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ีส่งเสริมให้ +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใชไ้ ด้
ผู้เรยี นไดพ้ ฒั นาเตม็ ตามศกั ยภาพ
ครูจัดกิจกรรมการเรียนรูท้ ี่สร้างแรง +1 0 +1 +1 +1 4 0.8 ใชไ้ ด้
บันดาลใจใหก้ ับผเู้ รยี น
ครูจดั กิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใชใ้ ช้คาถาม
กระตนุ้ ให้ผ้เู รยี นสรา้ งองค์ความรูแ้ ละใช้ +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใชไ้ ด้
กระบวนการเรียนรูด้ ้วยตนเอง
ครูใช้นวตั กรรม เทคโนโลยีและแหลง่
เรียนรู้เพื่อกระตนุ้ ให้ผูเ้ รียนประสบ 0 +1 +1 +1 +1 4 0.8 ใช้ได้
ความสาเร็จในการเรยี นรู้
ครทู าการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใชไ้ ด้
ตามสภาพจรงิ ด้วยวิธกี ารท่หี ลากหลาย
ครูสรา้ งโอกาสให้ผู้เรียนสร้างความรแู้ ละ
ช้นิ งาน มีเกณฑ์การประเมินชนิ้ งาน/ +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
ภาระงานทีเ่ หมาะสม
ครูนาผลการวดั และประเมินผลการ
เรียนรู้ มาใช้แก้ไขปัญหาการจัดการ +1 0 +1 +1 +1 4 0.8 ใช้ได้
เรยี นรอู้ ย่างต่อเน่อื ง
ครูสร้างบรรยากาศของการมสี ่วนรว่ ม
และส่งเสริมให้ผเู้ รียนมีปฏสิ มั พันธ์ที่ดกี บั +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
เพ่ือนในชัน้ เรยี น
ครูให้คาแนะนา แกป้ ัญหาและข้อมูล +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
ยอ้ นกลบั แก่นกั เรยี นอย่างสรา้ งสรรค์
153
สรปุ การพิจารณาความสอดคล้องของผเู้ ชย่ี วชาญตอ่ เครื่องมือ
แบบบันทกึ การสมั ภาษณแ์ นวทางการดาเนนิ งานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของกระทรวงศึกษาธกิ าร
รายการ คะแนนความคดิ เหน็ ของผเู้ ช่ยี วชาญ รวม คา่ IOC สรปุ ผล
คนที่ 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 คนที่ 4 คนท่ี 5
ปัจจัยสู่ความสาเร็จ ท่ีสง่ ผลต่อ
ความสาเร็จการจดั การเรยี นการสอน +1 +1 +1 0 +1 4 0.8 ใชไ้ ด้
แบบ Active Learning ของ
สถานศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ความต้องการในการสง่ เสริม
สนับสนุน เพ่อื เพิ่มประสิทธิภาพการ
จดั การเรียนการสอนแบบ Active +1 +1 +1 +1 +1 5 1.00 ใช้ได้
Learning ของสถานศึกษา สังกัด
กระทรวงศกึ ษาธิการ
แนวทางการดาเนินการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning 0 +1 +1 +1 +1 4 0.8 ใชไ้ ด้
ของ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ข้อเสนอแนะการดาเนนิ งานตาม
นโยบายการจดั การเรียนการสอน +1 +1 +1 0 +1 4 0.8 ใชไ้ ด้
แบบ Active Learning ของ
กระทรวงศึกษาธกิ าร
154
ภาคผนวก ข.
รายชอื่ ผู้ทรงคณุ วุฒิในการสนทนากลมุ่
1.สภาพการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สงั กดั กระทรวงศกึ ษาธิการ
2.จดั ทาขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบายการดาเนนิ การจดั การเรยี นการสอนแบบ
Active Learning ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
155
รายช่อื ผทู้ รงคุณวฒุ สิ นทนากลุม่ “สภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของสถานศกึ ษา สังกดั กระทรวงศึกษาธิการ”
1. นายธรี ์ ภวังคนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร
2. ดร.เกอื้ กลู ดีประสงค์ ขา้ ราชการบานาญ สานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
3. นายอทุ ยั คาสหี ารอง ผอู้ านวยการสานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาอทุ ัยธานี เขต 1
4. นายตรี ภวู ิโคตรธนกุล ผู้อานวยการโรงเรยี นหัวหนิ วทิ ยาลยั
สานกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษามัธยมศกึ ษากาฬสินธ์ุ
5. นายเทวิล ศรีสองเมือง ผอู้ านวยการโรงเรยี นแชงบาดาลบา้ นบากวิทยา
สานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษากาฬสนิ ธุ์ เขต 3
6. นายพงศ์ธร พิมพะนิตย์ ผ้อู านวยการกลมุ่ ประกนั คุณภาพการอาชีวศกึ ษา สอศ.
7. นายธนนท์ วรี ธนนท์ ผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารงานท่ัวไป
สานกั งานบรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ สพฐ.
8. นางบปุ ผา มณีจนั ทร์ นกั วชิ าการศึกษา ชานาญการพิเศษ
สานกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาสุพรรณบุรี เขต 2
9. นางสาววชริ าภรณ์ ภนู าโท นกั วิชาการศึกษา ชานาญการพิเศษ
สานักงานศึกษาธิการจงั หวัดกาฬสินธ์ุ
10. นางภคั รดา เทียนสมบัติ นักวิชาการศกึ ษา ชานาญการพเิ ศษ
สานกั งานศกึ ษาธิการจังหวัดอ่างทอง
11.นางสาวหทัยรัตน์ สวนชานิ นักวิเคราะหน์ โยบายและแผนชานาญการพิเศษ
สานักตรวจราชการและติดตามประเมนิ ผล สป
156
รายช่ือผู้ทรงคณุ วุฒิสนทนากล่มุ “ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบายการดาเนนิ การ
จัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของกระทรวงศึกษาธิการ”
1. นายธรี ์ ภวงั คนันท์ ผ้ตู รวจราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
2. ดร.เกอื้ กูล ดปี ระสงค์ ขา้ ราชการบานาญ สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
3. ดร.พระครูสมหุ ์เดือน ปญุ ญาจาโร ผู้รบั ใบอนุญาตโรงเรยี นวรดติ ถ์วิทยาประสูทน์
สานักงานศึกษาธิการจงั หวดั อ่างทอง
4. นายสมบตั ิ ลอ้ จงเฮง รองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา
สงิ หบ์ ุรี อ่างทอง
5. นายบรรจบ เฉลยมรรค ผู้อานวยการโรงเรยี นโพธ์ิทอง “จินดามณี”
สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษาสงิ หบ์ ุรี อ่างทอง
6. นายตรี ภวู โิ คตรธนกลุ ผ้อู านวยการโรงเรียนหัวหนิ วิทยาลัย
สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามัธยมศกึ ษากาฬสนิ ธุ์
7. นายวีรยทุ ธ วงษ์เขียว ผอู้ านวยการโรงเรยี นวรดิตถว์ ิทยาประสูทน์
8. นางสาวสิริรักษ์ นกั ดนตรี รองผอู้ านวยการโรงเรยี นโพธทิ์ อง “จินดามณี”
9. นายธรรมสรณ์ สศุ ริ ิ ครูโรงเรียนโพธิท์ อง “จินดามณี”
10. นางภคั รดา เทียนสมบตั ิ นกั วิชาการศกึ ษา ชานาญการพิเศษ
สานักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั อ่างทอง
11.นางสาวหทัยรัตน์ สวนชานิ นักวิเคราะหน์ โยบายและแผนชานาญการพิเศษ
สานกั ตรวจราชการและติดตามประเมินผล สป.
157
ภาคผนวก ค.
เคร่ืองมือการวิจยั
1.แบบบนั ทกึ เอกสารเกี่ยวกับสภาพการดาเนินงาน
2.แบบสอบถามความคดิ เหน็ สภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธกิ าร
3.แบบบนั ทึกการสัมภาษณ์แนวทางการดาเนินงานตามนโยบาย
การจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning ของกระทรวงศกึ ษาธิการ
158
แบบบันทกึ สภาพการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศึกษา สงั กัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ประเด็นที่ 1 รปู แบบท่ีใช้ในการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
ประเดน็ ที่ 2 สภาพการดาเนนิ การจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
ประเด็นท่ี 3 ปัจจัยทส่ี ่งผลตอ่ ความสาเรจ็ ในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
159
แบบสอบถามความคดิ เหน็ สภาพการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
คาชแี้ จง
1. แบบสอบถามฉบับนจี้ ดั ทาข้ึนเพอ่ื สอบถามความคิดเหน็ สภาพการดาเนินงานการจัดการเรียนรู้แบบ
Active Learning ของสถานศกึ ษา สังกดั ประทรวงศกึ ษาธกิ าร
2. ผลการตอบแบบสอบถามจะนาไปศึกษาสภาพการดาเนินงานการจดั การเรียนรู้แบบ Active Learning
เพอื่ เป็นแนวทางในการส่งเสริม สนับสนนุ การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ
3. แบบสอบถามมีทง้ั หมด 3 ตอน ดงั นี้
ตอนท่ี 1 ข้อมูลพ้ืนฐานของผตู้ อบแบบสอบถาม
ตอนท่ี 2 การศกึ ษาสภาพการดาเนินงานการจัดการเรยี นรู้แบบ Active Learning
ตอนท่ี 3 ปัญหา แนวทางแก้ไขและข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ เก่ยี วกับการศกึ ษาสภาพการดาเนินงาน
การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
ตอนที่ 1 ข้อมลู พนื้ ฐานของผตู้ อบแบบสอบถาม
คาชแ้ี จง โปรดทาเครือ่ งหมาย ในช่องหน้าข้อความทต่ี รงกับสถานภาพของทา่ นมากทสี่ ุด
1. จงั หวดั .................................................
2. สงั กัด / หนว่ ยงาน ( ) สานักงานศึกษาธิการจงั หวัด
( ) สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษา
( ) สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา
( ) สานกั งาน กศน.จังหวัด
( ) สานักงานคณะกรรมการอาชวี ศึกษา
( ) สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
( ) สานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ
๓. ปัจจบุ ันตาแหนง่ ( ) ผ้บู ริหารสถานศึกษา
( ) ครู
( ) บุคลากรทางการศึกษา
( ) อ่นื ๆ (ระบุ)…………………………………………………
160
ตอนที่ 2 สภาพการดาเนนิ งานการจดั การเรียนรู้แบบ Active Learning ของสถานศกึ ษา
คาชี้แจง โปรดทาเครื่องหมาย ในชอ่ งหนา้ ขอ้ ความท่ีท่านเหน็ ว่าตรงกับระดบั การปฏิบตั ิ
5 หมายถึง มากที่สดุ
4 หมายถงึ มาก
3 หมายถึง ปานกลาง
2 หมายถึง น้อย
1 หมายถงึ น้อยทสี่ ุด
ท่ี รายการ ระดับการปฏบิ ัติ 1
5432
1 ครูจัดสภาพการเรยี นรู้แบบร่วมมือ สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การร่วมมอื ใน
กล่มุ ผเู้ รยี น
2 ครจู ดั กิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยคานงึ ถึงความแตกตา่ งของผูเ้ รยี น
เป็นรายบคุ คล
3 ครูจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ีส่งเสรมิ ทักษะการคดิ ข้ันสูงและ
กระบวนการแกป้ ญั หา
4 ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นนาความรู้ไป
ประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวนั
5 ครจู ดั กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นมีสว่ นรว่ มใน
กระบวนการเรียนรู้
6 ครูจัดกจิ กรรมการเรียนรูเ้ น้นใหผ้ ู้เรียนเป็นผปู้ ฏบิ ัติและสร้างองค์
ความรู้ด้วยตนเอง
7 ครจู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ดว้ ยวธิ กี ารสอนท่ีหลากหลาย
8 ครูจดั กิจกรรมการเรยี นร้ทู ่ีท้าทายความสามารถของผูเ้ รียน
9 ครจู ัดกจิ กรรมการเรียนรู้ทส่ี ่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรับผดิ ชอบ
รว่ มกนั
10 ครูจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ทีส่ ่งเสรมิ ให้ผ้เู รยี นมวี ินัยในการทางาน
11 ครูจัดกจิ กรรมการเรียนรูท้ ี่เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นบรู ณาการขอ้ มลู
ข่าวสาร สู่การสรา้ งความคดิ รวบยอด
12 ครูจัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่สง่ เสริมให้ผู้เรียนไดพ้ ฒั นาเต็มตาม
ศักยภาพ
161
ท่ี รายการ ระดับการปฏบิ ตั ิ
54321
13 ครูจัดกจิ กรรมการเรยี นรูท้ ่ีสร้างแรงบันดาลใจใหก้ ับผู้เรียน
14 ครจู ดั กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ดยใช้ใชค้ าถามกระตนุ้ ใหผ้ ู้เรียน
สรา้ งองคค์ วามรู้และใช้กระบวนการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง
15 ครใู ช้นวัตกรรม เทคโนโลยีและแหลง่ เรียนรู้เพือ่ กระตนุ้ ให้ผเู้ รยี น
ประสบความสาเรจ็ ในการเรียนรู้
16 ครทู าการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามสภาพจรงิ ด้วยวิธกี าร
ท่หี ลากหลาย
17 ครูสร้างโอกาสให้ผเู้ รียนสรา้ งความรู้และชิ้นงาน มีเกณฑ์การ
ประเมินชน้ิ งาน/ภาระงานท่เี หมาะสม
18 ครูนาผลการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ มาใชแ้ กไ้ ขปญั หาการ
จัดการเรียนรูอ้ ย่างตอ่ เนอื่ ง
19 ครูสรา้ งบรรยากาศของการมสี ว่ นรว่ มและสง่ เสริมใหผ้ ้เู รียนมี
ปฏิสัมพนั ธท์ ด่ี กี บั เพ่อื นในชน้ั เรียน
20 ครูใหค้ าแนะนา แกป้ ญั หาและขอ้ มูลยอ้ นกลบั แก่นกั เรียน
อยา่ งสร้างสรรค์
ตอนที่ 3 ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ เกี่ยวกบั การศกึ ษาสภาพการดาเนินงานการจดั การเรียนรู้แบบ
Active Learning
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…….......................................................................................................................................………………
……………..………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………..…
ขอบคุณทีต่ อบแบบสอบถาม
162
แบบบนั ทกึ การสัมภาษณ์
แนวทางการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศกึ ษา ของกระทรวงศึกษาธิการ
ประเด็นท่ี 1 ปัจจยั สู่ความสาเรจ็ ท่ีส่งผลต่อความสาเร็จการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของสถานศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
ประเดน็ ท่ี 2 ความต้องการในการสง่ เสริม สนบั สนุน เพ่ือเพ่มิ ประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอน
แบบ Active Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
ประเดน็ ท่ี 3 แนวทางการดาเนินการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning ของ
กระทรวงศึกษาธกิ าร
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
ประเดน็ ที่ 4 ขอ้ เสนอแนะการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
163
ภาคผนวก ง.
คณะทางาน
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
ภาคผนวก จ
ประมวลภาพติดตาม
การจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
175
ประมวลภาพติดตามการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
ณ โรงเรียนโพธิ์ทอง “จินดามณี จังหวัดอา่ งทอง
176
177
178
179
180
ประมวลภาพกจิ กรรมการติดตามผลการดาเนินงานนโยบายการจดั การเรียนการสอน
แบบ Active Learning ของโรงเรยี นปา่ บอนพทิ ยาคม
สงั กัดสานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษาพัทลงุ
181
182
183
184