85
2) ให้มีคณะกรรมการติดตาม ประเมินผล และรายงานการขับเคลื่อนโยบาย
การจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ สู่การปฏิบัติระดับพื้นที่ ทาหน้าที่ตรวจราชการ ติดตาม
ประเมิ น ผลใน ร ะ ดั บ น โย บ าย แล ะ จัด ท าร า ยง าน เส น อ ต่ อ รัฐม น ต รีว่ าก าร ก ร ะ ท ร ว ง ศึ ก ษ าธิ ก า ร
และคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
ทราบตามลาดับ
3) กรณีมีปัญหาในเชิงพ้ืนท่ีหรือข้อขัดแย้งในการปฏิบัติงานให้ศึกษา วิเคราะห์
ข้อมูลและดาเนินการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นท่ีก่อน โดยใช้ภาคีเครือข่ายในการแก้ไขข้อขัดข้อง
พร้อมทั้งรายงานตอ่ คณะกรรมการติดตามฯ ตามข้อ 2 ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร และรฐั มนตรวี ่าการ
กระทรวงศึกษาธกิ าร ตามลาดับ
4) สาหรับภารกิจของส่วนราชการหลักและหน่วยงานท่ีปฏิบัติในลักษณะงาน
ในเชิงหน้าท่ี (Function) งานในเชิงยุทธศาสตร์ (Agenda) และงานในเชิงพ้ืนท่ี (Area) ซ่ึงได้
ดาเนินการอยู่ก่อนแล้ว หากมีความสอดคล้องกับหลักการนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ
ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ข้างต้น ให้ถือเป็นหน้าที่ของส่วนราชการหลักและหน่วยงาน
ท่ีเกี่ยวข้องต้องเร่งรัด กากับ ติดตาม ตรวจสอบให้การดาเนินการเกิดผลสาเร็จและมีประสิทธิภาพ
อยา่ งเปน็ รูปธรรม
86
4.5 เขตพ้ืนท่ตี รวจราชการของผตู้ รวจราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ
87
ภาพที่ 17 เขตพนื้ ที่ตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
5. งานวจิ ยั ท่เี กีย่ วขอ้ ง
เดชดนัย จุยชุม, เกษรา บาวแชมชอย และศิริกัญญา แกนทอง (2559) ได้ศึกษาเรื่อง
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ือง ทักษะการคิดของนักศึกษาในรายวิชาทักษะการคิด
(Thinking Skills) ด้วยการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Active Learning) รหัสวิชา 11-024-112
ภาค เรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ (1) ศึกษาพฤติกรรมทางการเรียน
(2) เปรยี บเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ (3) ศึกษาความพึงพอใจของนักศกึ ษาในรายวิชาทักษะ
การคิด (Thinking Skills) รหัสวิชา 11-024-112 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2558 ด้วยการเรียนรู้
แบบมีส่วนร่วม (Active Learning) ผลการวิจัย พบว่า (1) พฤติกรรมทางการเรียนของนักศึกษา
หลังการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมดีขึ้นทั้งในด้านการทางานเป็นกลุ่ม การแสดงความคิดเห็น
และการแสดงออกเพ่ือสะท้อนความคิดเห็นร่วมกัน (2) คะแนนผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียน
ของนักศึกษาสูงกว่าก่อนเรียน (3) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Active
Learning) โดยรวมอยรู่ ะดับมาก
จุฑามาศ เพิ่มพูนเจริญยศ (2561) ไดศ้ ึกษาเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรยี นร้เู ชิงรุกผ่าน
ห้องเรียนอัจฉริยะสาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนอนุบาลไทรโยค โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุกผ่านห้องเรียนอัจฉริยะสาหรับนักเรียน ระดับ
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลไทรโยค (1) เปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียน
ระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบเดมิ กับการจัดการเรียนรูเ้ ชิงรุกผ่านห้องเรียนอัจฉริยะ (3) ศกึ ษาปจั จัย
ท่สี ง่ ผลต่อผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนท่ใี ชร้ ูปแบบการจัดการเรยี นรูเ้ ชงิ รุกผา่ นหอ้ งเรยี นอัจฉริยะ และ (4)
เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกผ่านห้องเรียนอัจฉริยะของนักเรียนระดับช้ัน
มัธยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนอนุบาลไทรโยค ผลการวิจัยพบว่า (1) รูปแบบการจดั การเรียนรู้เชิงรกุ ผ่าน
หอ้ งเรยี นอัจฉริยะท่ีได้พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมมาก มีคณุ ภาพในเกณฑ์ดี โดยประเดน็ ท่ีผเู้ ชี่ยวชาญ
สว่ นใหญม่ ีความเห็นวา่ มีคุณภาพดีมาก คือ รูปแบบการจัดการเรยี นรเู้ ชิงรุกผ่านหอ้ งอัจฉริยะสามารถ
จูงใจในการเรียนรู้ของผู้เรียน (2) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนระหว่างการ
จัดการเรียนรู้แบบเดิมกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกผ่านห้องเรียนอัจฉริยะ พบว่า ผู้เรียนท่ีมีการใช้
รปู แบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกผา่ นห้องเรียนอัจฉริยะมีคะแนนผลสัมฤทธิ์เฉลี่ยสูงกว่าผู้เรยี นที่มีการ
จดั การเรียนรู้แบบเดิม อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 (3) ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธท์ิ างการ
เรียนที่ใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกผ่านห้องเรียนอัจฉริยะในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5
โรงเรียนอนบุ าลไทรโยค พบวา่ มีปัจจัย 3 ปจั จยั คือ ด้านผู้เรียน ดา้ นผ้สู อน และด้านสื่อการเรียนการ
สอน เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สามารถ
88
ทานายการเปล่ียนแปลง ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนได้ ร้อยละ 70.10 (4) ความพึงพอใจ
ของผู้เรียนท่ีมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรยี นรู้เชิงรุกผ่านห้องเรียนอัจฉรยิ ะ พบวา่ โดยรวมผู้เรยี นมี
ความคิดเห็นอยใู่ นระดับนึง พอใจมาก สรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้เชิงรกุ ผ่านห้องเรยี นอัจฉริยะช่วย
กระตุ้นหรือเร้าความสนใจให้ เกิดกระบวนการเรยี นรู้ ทักษะกระบวนการคิดวเิ คราะหไ์ ดล้ งมือปฏิบัติ
ด้วยตนเอง อิสระในการค้นคว้า หาความรู้ มีเทคโนโลยีที่หลากหลายมาช่วยสนับสนุนและสามารถ
นาไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจาวันได้
ชรินทร ชะเอมเทส (2561) ได้ศึกษาเรื่อง การใช้รูปแบบการสอน Active Learning
เพือ่ พัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการบัญชีบรหิ าร สาหรับผเู้ รียนระดับ ปวส. 2 สาขา การบัญชี
โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ (1) หาประสิทธิภาพของบทเรียนวิชาการบัญชีบริหารที่ใช้รูปแบบการสอน
Active Learning สาหรับผู้เรียนระดับ ปวส. 2 สาขาการบัญชี (2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วิชาการบัญชีบริหารโดยใช้รูปแบบการสอน Active Learning (3) ศกึ ษาความพึงพอใจของผูเ้ รยี นท่ีมี
ต่อรูปแบบการสอน Active Learning ในรายวิชาการบัญชีบริหาร ผลการวิจัยพบว่า (1) บทเรียน
วิชาการบัญชีบริหารท่ีใช้รูปแบบการสอน Active Learning มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2)
ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์หลังการเรียนวิชาการบัญชีบริหารโดยใช้รูปแบบการสอน Active Learning สูง
กวา่ ก่อนเรยี น และ (3) ผู้เรียนมคี วามพึงพอใจต่อการเรียนการสอนวชิ าการบญั ชบี ริหารโดยใชร้ ปู แบบ
การ สอน Active Learning อย่ใู นระดบั มากท่ีสุด
จนั ทรา แซ่ลิ่ว (2561) ทาการวจิ ัยเร่ือง การจัดการเรยี นรู้แบบเชิงรุก (Active learning)
ในรายวิชาการพัฒนาทักษะการคิดสาหรับเด็กปฐมวัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้
แบบเชิงรุก Active learning ของนักศึกษาชั้นปีท่ี 2 ในรายวิชาการพัฒนาทักษะการคิดสาหรับ
เด็กปฐมวัย ในประเด็น (1) ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ในรายวิชาการพัฒนาทักษะการคิดสาหรับเด็ก
ปฐมวัย (2) ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 และ (1) ความพึงพอใจตอ่ การจัดการเรียนรแู้ บบเชิงรุก
Active learning ผลก ารวิจัยพ บว่า (1) ผลสัมฤทธิ์ทางก ารเรียน ของนักศึ กษ าชั้น ปีที่ 2
ในรายวิชาการ พัฒนาทักษะการคิดสาหรับเด็กปฐมวัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จานวน
50 คน นักศึกษามีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ในระดับ A จานวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 28.33
ในระดับ B+ จานวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 35 ในระดับ B จานวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 26.67
ในระดับ C+ จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 8.33 และอยู่ในระดับ C จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ
1.67 (2) การประเมินทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 หลังการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active
Learning ทักษะที่มีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด คือ ทักษะการเห็นอกเห็นใจและการเป็นพลเมืองดี
(Compassion) มีค่าเฉล่ีย 4.67 ในระดับมากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ 92.00 ทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษ
ที่ 21 ที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ทักษะการคิดสร้างสรรค์ (Creative Skills) มีค่าเฉล่ีย 4.09 ในระดับ
มาก คิดเป็นร้อยละ 81.80 และทักษะที่มีค่าเฉล่ียก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบ Active
89
Learning มีค่าเฉล่ียที่ต่างกันมากท่ีสุด คือ ทักษะด้านสื่อเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ICT Literacy
skills) มีค่าเฉลี่ยท่ีแตกต่างกัน คือ 0.73 และ (3) ความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการจัดการเรียนรู้
แบบเชิงรุก Active learning ในรายวิชาการพัฒนาทักษะการคิดสาหรับเด็กปฐมวัย รูปแบบ
ท่ีนักศึกษามีความพึงพอใจมากที่สุด คือ รูปแบบการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ (Experiential
Learning) มคี า่ เฉล่ีย 4.58 ในระดบั มากท่สี ุด คิดเป็นรอ้ ยละ 91.60 และการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก
Active learning ที่นักศึกษามีความพึงพอใจน้อยที่สุด คือ รูปแบบการเรียนรู้โดยการสืบค้น
(Inquiry-Based Learning) มีค่าเฉลี่ย 4.41 ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 84.20 และประเด็นท่ี
นักศึกษาแสดงข้อคิดเห็นมากที่สุด คือ นักศึกษาได้จัดทาโครงการบริการวิชาการในสถานศึกษา
และชุมชน การจัดประสบการณ์ในสถานศึกษาเป็นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีดี เรยี นรู้จาก
การปฏิบัติจริง ส่งเสริมความกล้าแสดงออกและได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างแท้จริง มีค่าความถี่
44 คน คิดเป็นร้อยละ 81.67 การเรียนรู้นอกห้องเรียนในสถานศึกษา และชุมชนเป็นการสร้าง
ประสบการณ์ที่มีคุณค่าต่อการเรียนรู้และการนาไปใช้ในวิชาชีพครูได้จรงิ มีค่าความถี่ 48 คน คิดเป็น
ร้อยละ 80.00 และการจัดทาโครงการบริการวิชาการในสถานศึกษาและชุมชน เป็นกิจกรรมท่ีดี
ฝึกกระบวนการทางานที่เป็นระบบ เป็นข้ันตอน มีการวางแผน การทางานเป็นทีมท่ีเข้มแข็งและ
การแก้ปญั หาเฉพาะหนา้ มีคา่ ความถ่ี 42 คน คิดเป็นร้อยละ 70.00
กานต์ อัมพานนท์ (2561) ทาการวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เชิงรุก
ที่ส่งเสริมทักษะการคิดวิชาความเป็นครู สาหรับนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
เพชรบูรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา สร้าง ทดลอง และประเมินการใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุก
ท่ีส่งเสริมทักษะ การคิด วิชาความเป็นครูสาหรับนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
เพชรบูรณ์ ผลการวิจัย พบว่า (1) การศึกษารูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกท่ีส่งเสริมทักษะการคิด วิชา
ความเป็นครูสาหรับนักศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ จากการวิเคราะห์
เอกสารและการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ในระดับอุดมศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอนวิชา
ความเป็นครู กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ 8 แห่ง และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ
กลุ่มภาคเหนือ พบว่า ได้แนวทางในการร่างรูปแบบการเรียนรู้ เชิงรุกที่ส่งเสริมทักษะการคิด
ประกอบด้วย 3 ข้ันตอน คือ ข้ันตอนก่อนการสอน ข้ันตอนการสอน และข้ันตอน หลังการสอน
(2) การสร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกที่ส่งเสริมทักษะการคิด วิชา
ความเป็นครูสาหรับนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ พบว่า มี 5 ข้ันตอน
เรียกว่า POSSE Model ประกอบด้วย 1) ข้ันตอนการเตรียมความพร้อม และทบทวนความรู้เดิม
(Preparing and reviewing pre-existing knowledge : P) คือ ผู้สอนควรจัดกิจกรรมเพ่ือกระตุ้น
สมองก่อนการเรยี นรู้ และทบทวนความรู้เดมิ เพอ่ื นาไปสู่การเช่ือมโยงความรูใ้ หม่ด้วยกระบวนการคิด
ของตนเอง 2) ขั้นตอนการจัดกิจกรรมกระบวนการทางปัญญา (Organizing Cognitive activities : O)
90
คือ ผู้สอนควรออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกท่ีหลากหลาย ท้าทาย ฝึกทักษะ
ในสถานการณ์จาลองที่กาหนดให้ และเหมาะสมกบั เน้ือหา เน้นทกั ษะการลงมือปฏบิ ัติ เพ่ือให้ผู้เรียน
เกิดประสบการณ์ตรง 3) ข้ันตอนการศึกษารวบรวมข้อมูล และการใช้แหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย
(Studying and collecting the data with diverse learning resources : S) คือ ผู้สอนควรให้
ผู้เรียนได้สืบค้นและรวบรวมข้อมูล เพ่ิมเติมจากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย และนาความรู้มาใช้
วิเคราะห์หาข้อสรุป เพื่อส่งเสริมกระบวนการ แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 4) ขั้นตอนการสรุป
องค์ความรู้ (Summarizing the body of knowledge : S) คือ ผู้สอน ควรส่งเสริมกา รคิด
ด้วยผังความคิด เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถแยกประเด็นย่อย ๆ ได้ และสรุปองค์ความรู้ได้ชัดเจน
5) ขั้นตอนการประเมินผลงาน (Evaluating works : E) คือ ผู้สอนควรประเมินผลการเรียนรู้
ประเมนิ ทักษะ และประเมินชิ้นงานของผเู้ รยี น ซึง่ ผลการตรวจสอบคุณภาพรูปแบบ พบว่า มีคุณภาพ
โดยรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด และในทุกองค์ประกอบย่อยในคู่มือการจัดการเรียนการสอน ได้แก่
หลักการ วัตถุประสงค์ เน้ือหาสาระ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและแหล่งการเรียนรู้ และการวัด
และประเมินผล ผลทไี่ ด้จากรูปแบบมีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมากที่สุดทุกองค์ประกอบ (3) การทดลองใช้
รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกท่ีส่งเสริมทักษะการคิดวิชาความเป็นครู สาหรับนักศึกษาคณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ กับนักศึกษาที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง พบว่า นักศึกษาคณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ มีทักษะการคิดหลังสูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบอย่างมี
นัยสาคัญทางสถิตทิ ่รี ะดบั .05 โดยมคี ะแนนเฉลีย่ กอ่ นและหลงั การจัดการเรียนรูต้ ามรปู แบบมีคา่ เฉล่ีย
เทา่ กบั 26.57 และ 33.83 คะแนน ตามลาดบั
ยุ ภ าลั ย ม ะ ลิ ซ้ อ น แ ล ะ ก าญ จ น์ เรื อ ง ม น ต รี (2 5 6 3 ) ท าก าร วิ จั ย เร่ือ ง
การพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจดั การเรียนรเู้ ชงิ รกุ ในสถานศกึ ษา สงั กดั สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา
ประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน และสภาพ
ที่พึงประสงค์ของการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 และ (2) พัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
ในสถานศึกษา สังกัด สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 ผลการวิจัย
พบว่า (1) สภาพปัจจุบันของการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 โดยรวมอย่ใู นระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน
พบว่าอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน ซ่ึงด้านที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
ตามสภาพจริง ส่วนสภาพท่ีพึงประสงค์ของการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในสถานศึกษา สังกัดสานักงาน
เขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เม่ือพิจารณา
เปน็ รายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากท่สี ดุ ทุกด้าน ซึ่งด้านที่มคี ่าเฉลี่ยสงู สุด คือ การออกแบบการเรียนรู้
(2) การพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ี
91
การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 ดาเนินการ 2 วงรอบดังน้ี วงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์
ในการพัฒนาสมรรถนะครู คือ การประชุมเชิงปฏิบัติการและการนิเทศภายใน พบวา่ กลุ่มเป้าหมาย
สามารถจดั การเรียนรเู้ ชิงรกุ ตามท่ีกาหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ สรุปโดยรวมมีการปฏิบัติอยู่ใน
ระดับมาก ถ้าพิจารณารายข้อพบว่า กลุ่มเป้าหมายสามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุกอยู่ในระดับมากที่สุด
2 รายการ และมีการจัดการเรียนรเู้ ชิงรุกอยู่ในระดับมาก 4 รายการ รายการท่ีมีค่าเฉลี่ยสรุปโดยรวม
มากที่สุด คือ ผู้สอนกาหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการเรียนรู้ และรายการที่มีค่าเฉล่ียสรุป
โดยรวมน้อยท่ีสุด คือ ผู้สอนจัดการเรียนรู้ท่ีเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์วิจารณ์และอภิปราย
อย่างกว้างขวาง และวงรอบท่ี 2 โดยใช้กลยุทธ์ในการพัฒนาสมรรถนะครู คือ การนิเทศแบบพ่ีเล้ียง
พบว่า ครูเป้าหมายสามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุกตามท่ีกาหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ โดยรวม
เฉล่ียมีการปฏิบตั ิอยู่ในระดบั มาก ถ้าพจิ ารณารายข้อพบว่า ครูเป้าหมายสามารถจดั การเรียนรู้เชิงรุก
อยู่ในระดบั มากท่ีสดุ 5 รายการ และมกี ารจัดการเรียนรเู้ ชิงรกุ อยู่ในระดับมาก 5 รายการ รายการที่มี
คา่ เฉลี่ยสรปุ โดยรวมมากที่สุด คอื ผู้สอนกาหนดวตั ถุประสงค์และเป้าหมายในการเรียนรู้ และรายการ
ท่ีมีค่าเฉล่ียสรุปโดยรวมน้อยที่สุด คือ ผู้สอนจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นให้ผู้เรียนเกิดทักษะการคิดข้ันสูง
และคดิ แก้ปัญหา
92
บทท่ี 3
วิธดี าเนินการวจิ ัย
การศึกษา เรื่อง การดาเนินงานการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นการดาเนินงานในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา
(Research and Development) มขี ัน้ ตอนในการดาเนนิ การวิจยั 3 ระยะ ดงั น้ี
ระยะท่ี 1 ศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศึกษา สังกดั กระทรวงศกึ ษาธิการ ประกอบด้วย 3 ข้นั ตอนย่อย ดังนี้
ข้นั ตอนท่ี 1.1 ศกึ ษาสภาพการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศกึ ษา สังกดั กระทรวงศกึ ษาธิการ โดยการวิเคราะหเ์ อกสาร
ข้นั ตอนที่ 1.2 ศึกษาสภาพการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศึกษา สงั กัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยการสนทนากลมุ่
ขนั้ ตอนที่ 1.3 ศึกษาสภาพการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธกิ าร โดยการสอบถาม
ระยะที่ 2 ศกึ ษาแนวทางการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรยี นการสอนแบบ
Active Learning ของกระทรวงศึกษาธกิ าร ประกอบด้วย 1 ข้ันตอนยอ่ ย ดงั นี้
ศึกษาสภาพการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของกระทรวงศึกษาธกิ าร โดยการสมั ภาษณ์
ระยะที่ 3 จัดทาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบดว้ ย 1 ขน้ั ตอนย่อย ดงั น้ี
จัดทาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของกระทรวงศึกษาธกิ าร โดยผู้วิจยั
93
ขน้ั ตอนการวิจยั ผลลัพธ์ทีเ่ กดิ ขึ้น
ระยะท่ี 1 ศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศกึ ษา
สังกดั กระทรวงศกึ ษาธิการ
1.1 ศกึ ษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ สภาพการจดั การเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของสถานศึกษา Active Learning ของสถานศึกษา
สงั กัด กระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยการวเิ คราะหเ์ อกสาร สงั กดั กระทรวงศึกษาธกิ าร
1.2 ศกึ ษาสภาพการจัดการเรยี นการสอนแบบ
Active Learning ของสถานศึกษา
สังกัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยการสนทนากลมุ่
1.3 ศกึ ษาสภาพการจดั การเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของสถานศกึ ษา
สังกัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยการสอบถาม
ระยะท่ี 2 ศึกษาแนวทางการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของกระทรวงศกึ ษาธิการ
ศึกษาแนวทางการดาเนินงานตามนโยบาย แนวทางการดาเนนิ งานตามนโยบาย
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning การจัดการเรียนการสอนแบบ Active
ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยการสัมภาษณ์ Learning ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ระยะท่ี 3 จัดทาขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบายการดาเนนิ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของกระทรวงศึกษาธกิ าร
จดั ทาขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบายการดาเนนิ การ ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนนิ การ
จัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning จดั การเรยี นการสอนแบบ Active
ของกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยผู้วจิ ัย Learning ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ภาพที่ 18 ข้นั ตอนการดาเนินงานวจิ ัย
94
ระยะท่ี 1 ศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ
การศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สงั กดั กระทรวงศกึ ษาธิการ ผวู้ ิจยั ได้กาหนดขนั้ ตอนในการดาเนินการ 3 ข้นั ตอนย่อย ดังน้ี
1.1 ศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สงั กัดกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยการวิเคราะห์เอกสาร มีขอบเขตการศึกษา ดังน้ี
1.1.1 แหล่งข้อมลู
1) เอกสาร งานวิจัย คู่มือการปฏิบัติงานที่เก่ียวข้องกับการดาเนินงาน
ตามนโยบายการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning ของสถานศกึ ษา สังกดั กระทรวงศกึ ษาธิการ
2) นโยบายการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
3) คู่มือ แนวทางการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอน
ทีม่ ุ่งเน้นให้ผู้เรียนทุกระดับมีส่วนร่วมสร้างสรรคก์ ารเรยี นรู้ เพื่อให้เกิดสมรรถนะหลักและการพัฒนา
ตนเองตามความถนดั และความสนใจ Active Learning สงั กัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
1.1.2 เครือ่ งมือทีใ่ ช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบบันทึกสภาพการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning ของสถานศกึ ษา สงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ มีทงั้ หมด 3 ประเดน็ ดังน้ี
ประเด็นท่ี 1 รูปแบบทใี่ ชใ้ นการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning
ประเด็นที่ 2 สภาพการดาเนนิ การจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning
ประเด็นท่ี 3 ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสาเร็จในการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning
การสร้างและหาคณุ ภาพเคร่ืองมือ
แบบบันทึกสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้วิจัยดาเนินการสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือ ตามลาดับ
ดังน้ี 1) ศึกษาเอกสารแบบบันทึกสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning และหลกั การสรา้ งแบบบันทกึ ขอ้ มูล
2) ออกแบบบันทึกสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศกึ ษา สงั กัดกระทรวงศึกษาธกิ าร
3) ตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาของแบบบันทึกสภาพการจดั การเรยี นการสอน
แบบ Active Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยผู้เช่ียวชาญ จานวน 5 คน
(รายช่ือผู้เชี่ยวชาญ ดังภาคผนวก) แล้วนามาวเิ คราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้องระหวา่ งประเด็นแบบ
บันทึกกับนิยามศัพท์ (IOC : Index of item Objective Congruence) และพิจารณาเลือกประเด็น
95
บนั ทกึ ที่มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.50 ขึน้ ไป พบวา่ ประเดน็ บนั ทึกใชไ้ ด้ทกุ ประเด็น โดยมคี ่า IOC ตง้ั แต่ 0.80
– 1.00 (รายละเอียดของผลการหาค่า IOC อยู่ในภาคผนวก)
สูตรการหาค่า IOC มีดงั น้ี (ศิริชยั พงษ์วิชยั ม, 2554)
IOC= R
เมอื่ IOC แทน ดัชนีความสอดคลอ้ งระหว่างประเด็นแบบบันทึกกบั นิยามศพั ท์
R แทน คะแนนรวมทผี่ ู้เชี่ยวชาญทุกคนให้
แทน จานวนผู้เช่ียวชาญ
คะแนนพจิ ารณาของผู้เช่ยี วชาญ กาหนดเป็น +1 หรอื 0 หรือ -1 ดงั นี้
+1 หมายถึง แนใ่ จวา่ ประเด็นแบบบนั ทึกมคี วามสอดคลอ้ ง
กบั นยิ ามศพั ท์
0 หมายถงึ ไมแ่ นใ่ จวา่ ประเด็นแบบบนั ทึกมีความสอดคลอ้ ง
กับนิยามศพั ท์
-1 หมายถึง แน่ใจวา่ ประเด็นแบบบนั ทกึ ไม่มคี วามสอดคล้อง
กับนิยามศัพท์
4) ปรบั ปรงุ แบบบันทกึ สภาพการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศึกษา สงั กัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ตามขอ้ เสนอแนะของผเู้ ชี่ยวชาญ
1.1.3 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล
ผู้วิจัยดาเนินการจัดเก็บข้อมูล โดยการศึกษาข้อมูลจากหนังสือ ตารา
เอกสาร งานวิจัยที่เก่ียวข้องกับการดาเนินงานการจัดการเรียนการสอนท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนทุกระดับมี
ส่วนร่วมสร้างสรรค์การเรียนรู้ เพื่อให้เกิดสมรรถนะหลักและการพัฒนาตนเองตามความถนัดและ
ความสนใจ (Active Learning) ผู้มีส่วนเกย่ี วข้องในการดาเนนิ งานแล้วนามาบันทึกลงในแบบบันทกึ ท่ี
ได้กาหนดไว้ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนนาไปวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป ผู้ศึกษา
ดาเนนิ การเดอื นมีนาคม 2565
1.1.4 การวิเคราะหข์ อ้ มลู
ผู้วิจัยดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เน้ือหา (Content
Analysis) การดาเนินการจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning และนาเสนอโดยการบรรยาย
96
1.2 ศึกษาสภาพการจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สังกัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยการสนทนากลุม่ (Focus group)
1.2.1 กลุม่ ผูใ้ ห้ขอ้ มูล
กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารหน่วยงาน
การศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จานวน 11 คน
โดยการสนทนากลุม่ (Focus group)
1.2.2 เครื่องมอื ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม
เกี่ยวกับสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา สังกัด
กระทรวงศึกษาธิการ
การสร้างและหาคณุ ภาพเครือ่ งมือ
แบบบันทึกการสนทนากลุ่มสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้วิจัยดาเนินการสร้างและหาคุณภาพ
เคร่ืองมือ ตามลาดับดังนี้
1) จดั ทารา่ งเป็นประเด็นการสนทนากล่มุ แบบบนั ทกึ การสนทนากลุ่ม
2) นารายการประเด็นการสนทนากลุ่ม แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม
เสนอผเู้ ชี่ยวชาญ 5 คน เพ่อื ตรวจสอบความตรงของเนอื้ หาและภาษา
3) ตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาประเด็นการสนทนากลุ่ม แบบบันทึก
การสนทนากลุ่มสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา สังกัด
กระทรวงศึกษาธิการ โดยผู้เช่ียวชาญ จานวน 5 คน (รายช่ือผู้เชี่ยวชาญ ดังภาคผนวก)
แล้วนามาวิเคราะหห์ าค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างประเด็นการสนทนากลุ่มกับนิยามศัพท์ (IOC :
Index of item Objective Congruence) และพิจารณาเลือกประเด็นการสนทนากลุ่มที่มีค่า IOC
ตง้ั แต่ 0.50 ขึ้นไป พบว่า ประเด็นการสนทนากลุ่มใชไ้ ด้ทกุ ประเด็น โดยมีค่า IOC ตง้ั แต่ 0.80 – 1.00
4) ปรับปรุงประเด็นการสนทนากลุ่มและแบบบันทึกการสนทนาสภาพ
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
ตามขอ้ เสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ
1.2.3 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
ผู้วิจัยดาเนนิ การเกบ็ รวบรวมข้อมูล ดังนี้
1) ประสาน นัดหมาย ผู้ทรงคุณวุฒิ ท้ัง 11 ท่าน เพ่ือกาหนด วัน เวลา
วิธีการสนทนากลุ่ม
97
2) ดาเนิน การสน ทน ากลุ่ม (Focus Group) เกี่ยวกับสภาพ การจัด
การเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ
เครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ Zoom meeting เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ณ ห้องประชุมโรงแรม
คันทรรี ีสอร์ท โฮเทล จงั หวัดสุพรรณบรุ ี
1.2.4 การวิเคราะห์ข้อมลู
ผู้วิจัยดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการรวิเคราะห์เน้ือหา (Content
Analysis) และนาเสนอโดยการบรรยาย
1.3 ศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สังกดั กระทรวงศกึ ษาธิการ โดยการสอบถาม
1.3.1 ประชากร
ประชากร คือ ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารหน่วยงานการศึกษา
สถานศกึ ษา ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา
กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารหน่วยงานการศึกษา
สถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จานวน 3,137 คน ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง
โดยใช้เกณฑ์ตามตาราง Krejcie and Morgan (1970) และได้มาด้วยการสุ่มแบบแบ่งช้นั (Stratified
random sampling)
1.3.2 เครื่องมือท่ใี ช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู
เคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถาม ซึ่งมีท้ังหมด
3 ตอน ดงั นี้
ตอนท่ี 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นแบบสารวจรายการ
(Check list) จานวน 3 ข้อ
ตอนท่ี 2 สภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning จานวน
20 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า
5 ระดับ
5 หมายถงึ รายการนน้ั มีการปฏบิ ตั ิมากที่สดุ
4 หมายถึง รายการนน้ั มีการปฏบิ ัติมาก
3 หมายถึง รายการนนั้ มีการปฏิบตั ิปานกลาง
2 หมายถงึ รายการนน้ั มีการปฏิบัตินอ้ ย
1 หมายถึง รายการน้ันมีการปฏิบัตินอ้ ยที่สดุ
ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะเพมิ่ เติมเกยี่ วกบั การจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ลกั ษณะขอ้ คาถามปลายเปดิ
98
การสรา้ งและหาคณุ ภาพของเครื่องมอื
แบบสอบถามสภาพการจดั การเรียนการสอนแบบ Active ผู้วจิ ัยดาเนินการ
สร้างและหาคณุ ภาพเคร่ืองมอื ตามลาดบั ดงั น้ี
1) ศึกษา วิเคราะห์ลักษณะของข้อมูลที่ต้องการ โดยวิเคราะห์จาก
วัตถุประสงค์ในการวิจัย กาหนดโครงสร้างเน้ือหาของแบบสอบถาม ให้ครอบคลุมเน้ือหาสาระ
ขอบเขตทีเ่ กย่ี วกบั การจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
2) สร้างแบบสอบถามสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ทีม่ ุ่งเนน้ ให้ผเู้ รียนทุกระดับมีส่วนร่วมสร้างสรรค์การเรยี นรู้ เพื่อใหเ้ กิดสมรรถนะหลัก และ
การพฒั นาตนเองตามความถนัดและความสนใจ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร
3) นาแบบสอบถามสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ที่สร้างข้ึนเสนอต่อผู้เช่ียวชาญ จานวน 5 คน เพื่อประเมินความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity)
ด้านความสอดคล้อง ความครอบคลมุ และความครบถว้ นของรายการในส่งิ ที่ตอ้ งการวดั
4) นาผลการประเมินความตรงเชิงเนื้อหาของแบบสอบถามสภาพการจัด
การเรียนการสอนแบบ Active Learning มาวิเคราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถาม
กับนิยามศัพท์ (IOC : Index of item Objective Congruence) และพิจารณาเลือกข้อคาถามที่มีค่า
IOC ตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป พบว่า ข้อคาถามทุกข้อคาถามใช้ได้ โดยมีค่า IOC ตั้งแต่ 0.80 – 1.00
(รายละเอียดของผลการหาค่า IOC อยู่ในภาคผนวก)
5) ปรับปรุงแบบสอบถามสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของสถานศึกษา สงั กัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ตามขอ้ เสนอแนะของผเู้ ชีย่ วชาญ
6) ทดลองใช้แบบสอบถามกับกลุ่มท่ีคล้ายกลุ่มตัวอย่างจากสานักงาน
ศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม จานวน 15 คน และสานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศกึ ษานครปฐม
เขต 2 จานวน 15 คน รวมท้งั ส้นิ จานวน 30 คน เพอื่ หาค่าความเท่ยี งของแบบสอบถาม
7) หาค่าความเที่ยง (Reliability) ของแบบสอบถามพบว่าแบบสอบถาม
ไดค้ ่าความเท่ยี งภาพรวมทั้งฉบบั 0.89
สตู ร สัมประสทิ ธแิ์ อลฟาของครอนบาค (Cronbach’s alpha) (พชิ ิต ฤทธ์จิ รูญ, 2556)
α = n 1 - S2
n- 1 i
S2
t
99
α หมายถงึ สัมประสทิ ธ์คิ วามเท่ียง
n หมายถึง จานวนข้อคาถาม
S2 หมายถึง ผลรวมความแปรปรวนในแต่ละขอ้
i
S2 หมายถึง ความแปรปรวนของคะแนนรวมทง้ั ฉบับ
t
1.3.3 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
ผวู้ จิ ัยดาเนินการจดั เกบ็ รวบรวมข้อมลู ดังนี้
1) จัดทาหนังสือราชการขอความร่วมมือสานักงานศึกษาธิการจังหวัด
ทกุ จังหวัด จัดเก็บข้อมูลตามหนังสือสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ท่ี ศธ 0207/2399 ลงวันท่ี
30 มถิ ุนายน 2565
2) ศึกษาข้อมูลจากแบบสอบถามสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning
1.3.4 การวิเคราะหข์ ้อมูล
ผวู้ ิจัยดาเนนิ การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ดังน้ี
1) วิเคราะห์ข้อมูลท่ีได้จากแบบสอบถามข้อมูลท่ัวไปของผู้ให้ข้อมูล โดยใช้
ความถ่ี (Frequency) และร้อยละ (Percentage) โดยใชส้ ตู รต่อไปน้ี
เม่ือ แทน ร้อยละ
แทน จานวนของสิ่งทีต่ ้องการเปรียบเทยี บ
แทน จานวนเตม็ ของสิง่ ท่ีต้องการเปรยี บเทียบ
2) วเิ คราะห์ข้อมูลทไ่ี ด้จากแบบสอบถามสภาพการจัดการเรยี นการสอนแบบ
Active Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยคานวณค่าเฉลี่ย (Mean : X )
จากสูตร ดงั นี้
X=
เมื่อ X แทน คา่ เฉล่ีย
แทน ผลรวมของคะแนนทง้ั หมด
แทน จานวนคะแนนในกลุ่ม
ซึ่งมเี กณฑใ์ นการแปลความหมายของคา่ เฉลี่ยที่คานวณได้ 5 ระดับ ดงั น้ี
4.50 – 5.00 แปลความวา่ รายการน้ันมีการปฏบิ ัตอิ ยู่ในระดบั มากทสี่ ดุ
3.50 – 4.49 แปลความวา่ รายการน้ันมีการปฏบิ ัติอยู่ในระดับมาก
100
2.50 – 3.49 แปลความว่า รายการนนั้ การปฏิบัติอยใู่ นระดับกลาง
1.50 – 2.49 แปลความว่า รายการนั้นมกี ารปฏบิ ตั ิอยู่ในระดับน้อย
1.00 – 1.49 แปลความว่า รายการนั้นมกี ารปฏิบตั ิอยู่ในระดบั น้อยท่ีสุด
ค่าสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : S.D.) จากสตู ร ดงั น้ี
=
เมอ่ื แทน ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน
แทน คะแนนแต่ละตัว
แทน จานวนคะแนนในกลุ่ม
แทน ผลรวม
ระยะที่ 2 ศึกษาแนวทางการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศึกษาธกิ าร
การศึกษาแนวทางการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศึกษาธกิ าร ผวู้ จิ ยั กาหนดขอบเขตการดาเนนิ งาน ดงั นี้
2.1. กลุ่มผใู้ หข้ อ้ มลู
กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ท่ีปฏิบัติงานเก่ียวข้องกับดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ แยกเป็น 6 ภูมิภาค จานวน 72 คน โดยเลือก
แบบเจาะจง (Purposive Sampling)
2.2 เครอื่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูล
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งน้ี คือ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง
(Semi-Structured Interview) เป็นแบบบันทึกการสัมภาษณ์แนวทางการดาเนินงานตามนโยบาย
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีประเด็นการเก็บ
รวบรวมข้อมูลการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ประกอบด้วย
1) ปัจจยั สู่ความสาเร็จ ท่ีส่งผลต่อความสาเร็จจัดการเรียนการสอน Active Learning
ของสถานศึกษา สงั กดั กระทรวงศกึ ษาธิการ
2) ความต้องการในการส่งเสริม สนับสนุน เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning ของสถานศกึ ษา สงั กดั กระทรวงศกึ ษาธิการ
101
3) แนวทางการดาเนินการการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศึกษา สงั กัดกระทรวงศึกษาธิการ เพือ่ ขบั เคล่ือนดาเนนิ งานใหบ้ รรลุเป้าหมาย
4) ข้อเสนอแนะการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สงั กัดกระทรวงศึกษาธิการ
การสร้างและหาคุณภาพของเครื่องมือ
ออก แบบ บั น ทึก การสัมภาษ ณ์ แน วทางก ารดาเนิน ก ารก ารจัดก ารเรียน
การสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้วิจัยดาเนินการสร้าง
และหาคณุ ภาพเคร่อื งมือ ตามลาดบั ดงั น้ี
1) ศึกษาวิเคราะห์ลักษณะของข้อมูลที่ต้องการ โดยวิเคราะห์จากวัตถุประสงค์
ในการศึกษาการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning และ
หลักการสร้างแบบบันทึกการสมั ภาษณ์ โดยใชล้ ักษณะเป็นแบบสมั ภาษณ์แบบกง่ึ โครงสร้าง
2) ออกแบบบันทึกการสัมภาษณ์ แนวทางการดาเนินการการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา สังกดั กระทรวงศกึ ษาธิการ
3) ตรวจสอบความตรงเชงิ เนอ้ื หาของแบบบันทึกการสมั ภาษณ์แนวทางการดาเนนิ การ
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยผู้เช่ียวชาญ จานวน 5 คน (รายช่ือผู้เช่ียวชาญ
ดังภาคผนวก) แล้วนามาวิเคราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างประเด็นการสัมภาษณ์กับ
นิ ยาม ศัพ ท์ (IOC : Index of item Objective Congruence) แล ะ พิ จาร ณ าเลือ ก ป ร ะ เด็ น
การสัมภาษณ์ที่มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป พบว่า ประเด็นการสัมภาษณ์ใช้ได้ทุกประเด็น โดยมีค่า
IOC ตัง้ แต่ 0.80 – 1.00 (รายละเอยี ดของผลการหาค่า IOC ในภาคผนวก)
4) ปรับปรุงแบบบันทึกการสัมภาษณ์แนวทางการดาเนนิ การจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ตามขอ้ เสนอแนะของผ้เู ช่ียวชาญ
2.3 การเก็บรวบรวมข้อมลู
ผ้วู ิจัยดาเนนิ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ในข้นั ตอนนี้ ดงั น้ี
1) ดาเนินการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติงานจริง ตามลาดับกรอบคิดและประเด็นข้อคาถาม
การสัมภาษณผ์ ู้ปฏิบตั งิ านจริง เมอ่ื เดือนกรกฎาคม 2565
2) วเิ คราะห์ตีความข้อมูลท่ีได้จากการสัมภาษณก์ ลมุ่ ผู้ใหข้ อ้ มูล
2.4 การวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยดาเนนิ การวิเคราะห์ข้อมลู โดยยการวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis)
แนวทางการดาเนนิ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning และนาเสนอโดยการบรรยาย
102
ระยะท่ี 3 จัดทาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
การจัดทาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยการสนทนากลุ่ม
3.1 แหลง่ ขอ้ มูล / กลมุ่ ผ้ใู หข้ ้อมูล
1) แหล่งข้อมูล คือ ข้อมูลความคิดเห็นเกี่ยวกับการดาเนินการจัดการเรียนการสอน
แบบ Active Learning ท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนทุกระดับมีส่วนร่วมสร้างสรรค์การเรียนรู้ เพ่ือให้เกิด
สมรรถนะหลัก และการพัฒนาตนเองตามความถนัดความสนใจของกระทรวงศึกษาธิการ และผล
การศกึ ษาในระยะที่ 1 และระยะที่ 2
2) กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารหน่วยงานการศึกษา
ข้าราชการครูและบุคลากรทางก ารศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จานวน 11 คน
โดยการสนทนากล่มุ (Focus group)
3.2 เครอ่ื งมือทีใ่ ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมลู
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจดการเรียนการสอน แบบ Active Learning ของ
กระทรวงศึกษาธิการ
การสร้างและหาคุณภาพเครือ่ งมอื
แบบบันทึกการสนทนากลุ่มข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจดการเรียนการ
สอนแบบ Active Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้วิจัยดาเนินการสร้างและหาคุณภาพ
เคร่ืองมือ ตามลาดบั ดงั น้ี
1) จัดทาร่างประเด็นการสนทนากลุ่ม และแบบบันทึกการสนทนากลุ่มข้อเสนอแนะ
เชิงนโยบายการดาเนินการจดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ
2) น า ราย ก ารป ร ะ เด็ น ก ารส น ท น าก ลุ่ม แ บ บ บั น ทึ ก ก ารส น ท น าก ลุ่ ม
เสนอผู้เชี่ยวชาญ 5 คน เพ่ือตรวจสอบความตรงของเนือ้ หาและภาษา
3) ตรวจสอบความตรงเชิงเน้ื อหาประเด็น ก ารสน ท น ากลุ่ ม แบบบัน ทึ ก
การสนทนากลุ่มข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจดการเรียนการสอน แบบ Active
Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยผู้เชี่ยวชาญ จานวน 5 คน (รายช่ือผู้เช่ียวชาญ ดัง
ภาคผนวก) แล้วนามาวิเคราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างประเด็นการสนทนากลุ่มกับนิยาม
ศัพท์ (IOC : Index of item Objective Congruence) และพิจารณาเลือกประเด็นการสนทนากลุ่ม
103
ที่มีค่า IOC ต้ังแต่ 0.50 ข้ึนไป พบว่า ประเด็นการสนทนากลุ่มใช้ได้ทุกประเด็น โดยมีค่า IOC ต้ังแต่
0.80 – 1.00
4) ปรับปรุงประเด็นการสนทนากลุ่มและแบบบันทึกการสนทนาข้อเสนอแนะเชิง
นโยบายการดาเนินการจดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ
ตามข้อเสนอแนะของผู้เชีย่ วชาญ
3.3 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู
ผู้วจิ ยั ดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ดังนี้
1) ประสาน นัดหมาย ผ้ทู รงคุณวุฒิ ทง้ั 11 ท่าน เพอื่ กาหนด วัน เวลาการสนทนากลุม่
2) ดาเนินการสนทนากลุ่ม (Focus Group) ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการ
จดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565
ณ ห้องประชุมโรงเรียนโพธ์ิทองจินดามณี อาเภอโพธ์ิทอง จังหวัดอ่างทอง และผ่านระบบเครือข่าย
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ Zoom meeting
3.4 การวิเคราะห์ขอ้ มลู
ผู้วิจัยดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) และ
นาเสนอโดยการบรรยาย
104
บทท่ี 4
ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู
การศึกษา เรื่อง การดาเนินงานการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นการดาเนินงานในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา
(Research and Development) มผี ลการดาเนนิ การวจิ ัย 3 ระยะ มีรายละเอียด ดงั นี้
ระยะที่ 1 ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศึกษา สังกัดกระทรวงศกึ ษาธิการ ประกอบด้วย 3 ขนั้ ตอนย่อย ดังน้ี
ข้ันตอนท่ี 1.1 ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของสถานศึกษา สงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ โดยการวเิ คราะห์เอกสาร
ขั้นตอนท่ี 1.2 ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของสถานศึกษา สงั กดั กระทรวงศกึ ษาธิการ โดยการสนทนากล่มุ
ข้ันตอนที่ 1.3 ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของสถานศึกษา สงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ โดยการสอบถาม
ระยะที่ 2 ผลการศึกษาแนวทางการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอน
แบบ Active Learning ของกระทรวงศึกษาธกิ าร
ผลการศกึ ษาแนวทางการดาเนนิ งานตามนโยบายการจดั การเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยการสัมภาษณ์
ระยะที่ 3 ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศึกษาธกิ าร โดยการสนทนากลุ่ม
105
ระยะที่ 1 ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สงั กัดกระทรวงศึกษาธิการ
1.1 ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศกึ ษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยการวเิ คราะห์เอกสาร
ผลการศกึ ษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยการวิเคราะห์
สังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
สรุปไดด้ ังน้ี
1) รูปแบบที่ใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน เรียงตามอนั ดบั การใช้จากมากไปน้อย ดงั นี้
1.1) การสอนแบบใชค้ าถาม (Questioning Method)
1.2) การเรยี นรู้โดยใชก้ จิ กรรมเปน็ ฐาน (Activity-Based Learning)
1.3) การเรียนรู้แบบใช้เกม (Games)
1.4) การเรียนรเู้ ชงิ ประสบการณ์ (Experiential Learning)
1.5) การเรยี นรโู้ ดยใช้ปัญหาเปน็ ฐาน (Problem Based Learning)
1.6) การเรียนรแู้ บบแสดงบทบาทสมมติ (Anchored Instruction)
1.7) การเรียนรูโ้ ดยใชโ้ ครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning)
1.8) การเรยี นรแู้ บบกรณีศกึ ษา (Analyze Case Studies)
2) สภาพการดาเนินการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning
2.1) ผู้บริหาร เป็นบุคคลสาคัญ ในการสนับสนุน ควรกาหนดเป็นนโยบาย
ในการขับเคลือ่ นในสถานศึกษา ส่งเสรมิ สนับสนนุ และเสริมแรงจูงใจ สังเกตกระบวนการเรียนรู้อย่าง
ตอ่ เนื่อง รวมท้งั ส่งเสริมชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชพี PLC
2.2) ครูผู้สอน ควรใช้คาถามเพ่ือกระตุ้นให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ ไม่นาความคิด
ของตนเองเข้าไปในการจัดการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนคิดนอกกรอบ ส่งเสริม พัฒนาให้ผู้เรียน
สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง สามารถต่อยอดและนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน ด้วยทักษะ
วธิ ีการจัดการเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย ใช้สื่อ อุปกรณท์ ีท่ นั สมยั น่าเรยี นรู้ ดึงดูความสนใจของผู้เรียน
2.3) ผู้เรียน การจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับวัย สภาพ บริบท ความพร้อม
ทกั ษะ สมรรถนะ ความกระตอื รอื ร้นใสใ่ จตอ่ การเรยี นรู้ของผ้เู รยี น
2.4) ส่ือ วัสดุ อุปกรณ์ ที่ทนั สมัย เพียงพอ เหมาะสม สร้างความสนใจในการเรียนรู้
ของผเู้ รียน
2.5) งบประมาณที่สามารถสนับสนุนจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศึกษา
106
3) ปัจจัยท่สี ง่ ผลตอ่ ความสาเร็จในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
3.1) บทบาทของครู เปล่ียนบทบาทจากผู้สอนมาเป็นผู้ให้คาแนะนา อานวย
ความสะดวก และช่วยเหลอื ผู้เรยี น
3.2) สมรรถนะของครู ประกอบด้วย 2 สมรรถนะหลัก ได้แก่ 1) สมรรถนะหลัก
(Core Competency) ประกอบด้วยสมรรถะ 4 ด้าน คือ การมุ่งผลสัมฤทธิ์ การบริการท่ีดี การพัฒนา
ตนเอง และการทางานเป็นทีม 2) สมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency)
ประกอบด้วยสมรรถนะ 5 ด้าน คือ การจัดการเรียนรู้ การพัฒนาผู้เรียน การบริหารจัดการชั้นเรียน
และการวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวจิ ัย รูปแบบการเรียนรู้ ครูควรมีการเลือกรูปแบบการเรียนรู้
ที่เหมาะสมกับเน้ือหาและธรรมชาติวิชา เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ เป็นกิจกรรม
ทช่ี ่วยพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ กิด 3R8C ซ่ึงเปน็ ทักษะท่พี งึ มใี นศตวรรษท่ี 21
1.2 ผลการศึกษาสภาพ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศกึ ษา สังกัดกระทรวงศึกษาธกิ าร โดยการสนทนากลุ่ม
ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยการสนทนากลุ่ม พบว่า สภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศกึ ษาธิการ มีดงั นี้
1) บคุ คล
1.1) ผู้บริหาร ขาดความตระหนัก การให้ความสาคัญ การส่งเสริมและสนับสนุน
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ภาวะผู้นาทางวิชาการ (Instructional Leadership)
มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายสถานศึกษาบ่อย
1.2) ครูผู้สอน ขาดความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ใช้รูปแบบการสอนแบบเดิม ไม่มีเวลาในการจัด
การเรียนการสอนเน่ืองจากได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบกิจกรรมอื่น ๆ เช่น งานยาเสพติด
งานอนามัย งานแนะแนว
1.3) ผู้เรียน ขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ การจัดการเรียนการสอ นของครู
ไม่เน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ ผู้เรียนไม่มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ไม่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้
ในการแกไ้ ขปัญหาได้ รวมทง้ั ขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้
2) วัสดุ สื่อ อปุ กรณ์
2.1) ขาดแคลนวัสดุ ส่ือ และอุปกรณ์สาหรับใช้ในการจัดการเรียนการสอน เชิงรุก
ที่ต้องใชเ้ พื่อใหผ้ เู้ รียนไดล้ งมือปฏิบตั จิ รงิ
2.2) สื่อและเทคโนโลยี ไม่ตอบสนองตอ่ การเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21
107
3) การบรหิ ารจัดการ
3.1) การขับเคล่ือนนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
หน่วยงานการศึกษาระดับจังหวัด เช่น สานักงานศึกษาธิการจังหวัด สานักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา ไม่
ต่อเนื่อง มีรูปแบบการดาเนินงานไม่ท่ีชัดเจน ส่งผลให้ผู้บริหารสถานศึกษา ไม่ให้ความสาคัญ
ของการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ไม่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning ในระดับตา่ ง ๆ
3.2) หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาขาดการส่งเสริมครูผู้สอนอย่างจริงจัง
โดยเฉพาะผู้ที่จัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีผลงาน
เชิงประจักษ์ เป็นที่ยอมรับ ให้มีความก้าวในอาชีพ สร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน มอบเกียรติบัตร
การพิจารณาความดีความชอบ เป็นต้น และขาดการพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนอย่างต่อเน่ือง
ด้วยวธิ ีการทห่ี ลากหลาย เพอ่ื สร้างแรงบนั ดาลใจ
3.3) การสนับสนุนด้านงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ให้กับสถานศึกษาเพื่อใช้
ในการจดั การเรยี นการสอนเชิงรกุ ไม่เพียงพอตอ่ การจัดทาสื่อเพอ่ื ให้ผเู้ รียนได้เรยี นรู้
3.4) การนิเทศ กากับ ติดตามการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
ครูผู้สอนและผู้บริหารสถานศึกษาขาดความต่อเนื่องและเปน็ ระบบ
3 .5 ) ก าร ขั บ เค ล่ื อ น ก าร จั ด ก าร เรี ย น ก าร ส อ น แ บ บ Active Learning
ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ นายไพศาล วุทฒิลานนท์ และ นายธีร์ ภวัคนันท์ ดาเนินการ
วเิ คราะห์ แนวทางการขับเคล่อื น Active Learning เพอื่ พัฒนาทักษะแห่งอนาคต ดังภาพท่ี 19
108
ภาพที่ 19 แนวทางการขบั เคลื่อน Active Learning เพ่ือพฒั นาทักษะแหง่ อนาคต
1.3 ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศกึ ษา สังกัดกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยการสอบถาม
ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สังกัดกระทรวงศกึ ษาธิการ ดาเนนิ การจดั เกบ็ ขอ้ มูล 2 ระดบั ประกอบด้วย หนว่ ยงานการศกึ ษาระดับ
จังหวัด และสถานศึกษา ซ่ึงมีผลการศกึ ษา ดังน้ี
109
ตารางท่ี 5 ขอ้ มูลทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม หน่วยงานระดบั จงั หวดั
รายการ จานวน ร้อยละ
สงั กดั
สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวัด 76 16.34
168 36.13
สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษา 55 11.83
สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษา 43 9.25
สานักงาน กศน.จังหวัด 26 5.59
สานักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา 12 2.58
สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน 85 18.28
สานักบริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ 465 100
ตาแหน่ง 200 43.01
ผู้บริหารการศึกษา 136 29.25
บคุ ลากรทางการศึกษา 129 27.74
ศึกษานิเทศก์ 0 0.00
465 100
อนื่ ๆ
รวม
จากตารางท่ี 5 ข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถาม ของหน่วยงานการศึกษาระดับจังหวัด พบว่า
ผู้ตอบแบบสอบถาม จานวนท้ังส้ิน 465 คน ส่วนใหญ่ สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษา จานวน 168 คน คิดเป็นร้อยละ 36.13 และดารงตาแหน่งผู้บริหารการศึกษา จานวน
200 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 43.01
110
ตารางที่ 6 ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ของหน่วยงานการศึกษา
ระดบั จังหวัด
รายการ ระดบั การปฏิบัติ แปลผล
X S.D. การปฏิบัติ
1) ครจู ดั สภาพการเรยี นรู้แบบร่วมมอื 4.28 0.67 มากทสี่ ดุ
สง่ เสริมให้เกดิ การร่วมมอื ในกลุ่มผู้เรียน 4.23 0.74 มากทสี่ ุด
2) ครจู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยคานึงถงึ 4.04 0.73
ความแตกต่างของผู้เรยี นเป็นรายบุคคล 4.32 0.70 มาก
3) ครจู ัดกิจกรรมการเรียนรู้ทส่ี ง่ เสรมิ ทักษะการคดิ 4.40 0.67 มากที่สุด
ขน้ั สงู และกระบวนการแกป้ ัญหา 4.17 0.70 มากท่สี ุด
4) ครจู ดั กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รียน 4.35 0.71
นาความร้ไู ปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวนั 4.09 0.73 มาก
5) ครจู ัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเปิดโอกาส 4.35 0.67 มากที่สดุ
ให้ผ้เู รยี นมีสว่ นรว่ มในกระบวนการเรยี นรู้ 4.39 0.65
6) ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ให้ผู้เรยี น 4.12 0.71 มาก
เป็นผปู้ ฏบิ ตั ิและสรา้ งองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง มากทสี่ ุด
7) ครจู ดั กจิ กรรมการเรียนรดู้ ้วยวิธีการสอน มากทส่ี ดุ
ทหี่ ลากหลาย
8) ครจู ัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีทา้ ทาย มาก
ความสามารถของผู้เรยี น
9) ครจู ัดกิจกรรมการเรียนรทู้ ่ีสง่ เสริมใหผ้ ู้เรียน 4.33 0.68 มากทสี่ ุด
มีความรบั ผิดชอบรว่ มกัน
10) ครจู ดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ่ีส่งเสรมิ ใหผ้ ูเ้ รยี น
มีวินยั ในการทางาน
11) ครจู ัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่เี ปดิ โอกาส
ใหผ้ ู้เรยี นบรู ณาการขอ้ มูล ข่าวสาร
สกู่ ารสรา้ งความคิดรวบยอด
12) ครูจดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ่สี ง่ เสริมให้ผเู้ รียน
ไดพ้ ัฒนาเต็มตามศักยภาพ
111
รายการ ระดบั การปฏิบัติ แปลผล
X S.D. การปฏบิ ัติ
13) ครูจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ทสี่ ร้างแรงบันดาลใจ 4.20 0.70
ให้กับผ้เู รียน 4.21 0.72 มาก
14) ครูจัดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยใช้ใชค้ าถามกระตนุ้ มากท่สี ดุ
ให้ผ้เู รยี นสรา้ งองคค์ วามรู้และใช้กระบวนการเรยี นรู้ 4.22 0.71
ดว้ ยตนเอง 4.24 0.72 มากที่สดุ
15) ครูใชน้ วัตกรรม เทคโนโลยแี ละแหลง่ เรียนรู้ 4.20 0.69 มากทส่ี ดุ
เพ่ือกระตุ้นใหผ้ เู้ รียนประสบความสาเร็จในการเรียนรู้ 4.19 0.72
16) ครทู าการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 4.41 0.63 มาก
ตามสภาพจริงดว้ ยวิธีการที่หลากหลาย 4.25 0.68 มาก
17) ครสู ร้างโอกาสให้ผเู้ รยี นสรา้ งความรู้และช้นิ งาน 4.25 0.70 มากท่สี ุด
มเี กณฑ์การประเมินชน้ิ งาน/ภาระงานท่เี หมาะสม มากท่ีสดุ
18) ครูนาผลการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มากที่สดุ
มาใช้แก้ไขปญั หาการจัดการเรียนรู้อย่างต่อเน่อื ง
19) ครูสร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมและส่งเสรมิ
ให้ผู้เรียนมปี ฏิสมั พันธท์ ่ีดีกับเพ่อื นในชน้ั เรยี น
20 ครูให้คาแนะนา แก้ปญั หาและขอ้ มูลยอ้ นกลบั
แก่นกั เรยี นอย่างสร้างสรรค์
รวม
จากตารางที่ 6 พบว่า สภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ของหน่วยงานการศึกษา ระดับจังหวัด ในภาพรวม
อยู่ในระดับมากท่ีสุด ( x = 4.25) เม่ือพิจารณาเป็นรายการ พบว่า รายการครูสร้างบรรยากาศ
ของการมีส่วนร่วมและส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพ่ือนในช้ันเรียน มีค่าเฉลี่ยสุงสุด
( x = 4.41) รองลงมา คือ รายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม
ในกระบวนการเรียนรู้ ( x = 4.40) รายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีวินัย
ในการทางาน ( x = 4.39) และรองลงมามีค่าเฉล่ียเท่ากัน 2 รายการ คือ รายการครูจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนท่ีหลากหลาย และรายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียน
มีความรับผิดชอบร่วมกัน ( x = 4.35) โดยรายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิด
ข้นั สูงและกระบวนการแก้ปญั หา มคี า่ เฉลี่ยตา่ สดุ ( x = 4.04)
112
ตารางท่ี 7 ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม หน่วยงานทางการศึกษา และสถานศกึ ษา
รายการ จานวน ร้อยละ
สงั กัด 2,672 100.00
สานักงานศึกษาธกิ ารจังหวัด 46 1.72
1,275 47.72
สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา 297 11.12
สานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา 528 19.76
สานักงาน กศน.จังหวดั 185 6.92
สานกั งานคณะกรรมการอาชวี ศึกษา 216 8.08
สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน 125 4.68
สานักบริหารงานการศกึ ษาพิเศษ 2,672 100.00
ตาแหน่ง 925 34.62
ผู้บริหารสถานศึกษา 1,741 65.16
ครู 0.22
บุคลากรทางการศกึ ษา 6 0.00
อื่น ๆ 0 100
2,672
รวม
จากตารางท่ี 7 พบว่า ขอ้ มลู ผ้ตู อบแบบสอบถาม ของหนว่ ยงานทางการศึกษา สถานศึกษา
พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม ของหน่วยงานทางการศึกษา สถานศึกษา จานวนท้ังสิ้น 2,672 คน
ส่วนใหญ่ สังกดั สานักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษา จานวน 1,275 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 47.72
และดารงตาแหนง่ ครู จานวน 1,741 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 65.16
113
ตารางที่ 8 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ของหน่วยงานการศึกษา
สถานศกึ ษา
รายการ ระดบั การปฏิบตั ิ แปลผล
X S.D. การปฏิบัติ
1) ครจู ดั สภาพการเรียนร้แู บบร่วมมือ 4.36 0.63 มากท่ีสดุ
สง่ เสริมให้เกดิ การร่วมมือในกลุ่มผเู้ รียน 4.38 0.66 มากที่สดุ
2) ครูจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยคานึงถึง 4.18 0.69
ความแตกต่างของผู้เรียนเป็นรายบุคคล 4.46 0.63 มาก
3) ครจู ัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่สง่ เสรมิ ทักษะการคดิ 4.50 0.62 มากที่สุด
ขนั้ สูงและกระบวนการแก้ปัญหา 4.34 0.67 มากทส่ี ุด
4) ครจู ัดกิจกรรมการเรยี นร้สู ง่ เสริมให้ผเู้ รยี น 4.46 0.64 มากที่สุด
นาความรไู้ ปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน 4.20 0.68 มากที่สุด
5) ครูจดั กิจกรรมการเรยี นรู้โดยเปดิ โอกาส 4.47 0.63
ใหผ้ เู้ รียนมสี ่วนร่วมในกระบวนการเรยี นรู้ 4.51 0.62 มาก
6) ครจู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้เน้นให้ผู้เรียน 4.26 0.70 มากที่สดุ
เปน็ ผปู้ ฏิบัติและสรา้ งองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง มากทส่ี ดุ
7) ครจู ดั กิจกรรมการเรียนรดู้ ว้ ยวธิ กี ารสอน มากที่สดุ
ที่หลากหลาย
8) ครูจัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ท้าทาย 4.42 0.65 มากท่ีสุด
ความสามารถของผู้เรยี น
9) ครจู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ทส่ี ่งเสริมใหผ้ เู้ รยี น
มีความรบั ผิดชอบรว่ มกัน
10) ครูจัดกิจกรรมการเรียนรทู้ สี่ ่งเสริมใหผ้ ้เู รียน
มีวนิ ัยในการทางาน
11) ครูจดั กิจกรรมการเรียนรู้ทเ่ี ปิดโอกาส
ให้ผ้เู รียนบูรณาการขอ้ มูล ข่าวสาร
ส่กู ารสร้างความคิดรวบยอด
12) ครูจดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ่ีส่งเสริมให้ผเู้ รียน
ไดพ้ ฒั นาเต็มตามศักยภาพ
114
รายการ ระดับการปฏิบัติ แปลผล
X S.D. การปฏบิ ตั ิ
13) ครจู ดั กจิ กรรมการเรียนรู้ที่สร้างแรงบนั ดาลใจ 4.35 0.68 มากทส่ี ดุ
ให้กับผ้เู รยี น 4.37 0.69 มากที่สุด
14) ครูจดั กจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยใช้ใชค้ าถามกระตนุ้
ให้ผูเ้ รียนสรา้ งองค์ความรู้และใชก้ ระบวนการเรยี นรู้ 4.32 0.68 มากทส่ี ุด
ด้วยตนเอง 4.39 0.66 มากทส่ี ดุ
15) ครใู ชน้ วัตกรรม เทคโนโลยีและแหลง่ เรียนรู้ 4.34 0.67 มากทสี่ ุด
เพอื่ กระตนุ้ ให้ผู้เรยี นประสบความสาเร็จในการเรียนรู้ 4.32 0.67 มากทส่ี ดุ
16) ครทู าการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 4.50 0.63 มากท่สี ุด
ตามสภาพจริงด้วยวิธกี ารท่ีหลากหลาย 4.41 0.64 มากทสี่ ดุ
17) ครสู ร้างโอกาสให้ผู้เรียนสรา้ งความรู้และชิ้นงาน 4.38 0.66 มากท่สี ุด
มีเกณฑ์การประเมนิ ช้นิ งาน/ภาระงานทเ่ี หมาะสม
18) ครูนาผลการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
มาใช้แกไ้ ขปัญหาการจัดการเรียนรู้อยา่ งต่อเนอ่ื ง
19) ครสู ร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมและสง่ เสรมิ
ให้ผูเ้ รียนมปี ฏิสมั พนั ธ์ทดี่ กี บั เพื่อนในชั้นเรยี น
20 ครูให้คาแนะนา แก้ปญั หาและขอ้ มูลย้อนกลับ
แกน่ ักเรยี นอย่างสร้างสรรค์
รวม
จากตารางที่ 8 พบว่า สภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
หน่วยงานทางการศึกษา สถานศึกษา ในภาพรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด ( x = 4.38) เมื่อพิจารณา
เปน็ รายการ พบวา่ รายการครจู ัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผเู้ รียนมีวินยั ในการทางาน มีค่าเฉล่ีย
สูงสุด ( x = 4.51) รองลงมา มีค่าเฉล่ียเท่ากัน 2 รายการ คือ รายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้
โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ และรายการครูสร้างบรรยากาศ
ของการมีส่วนร่วมและส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพ่ือนในช้ันเรียน ( x = 4.50) รองลงมา
คือ รายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบร่วมกัน ( x = 4.47)
และมีคา่ เฉลี่ยเท่ากัน 2 รายการ เช่นเดียวกัน คือ รายการครจู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ส่งเสริมให้ผู้เรียน
นาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน และรายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอน
115
ท่ีหลากหลาย ( x = 4.46) ตามลาดับ โดยรายการครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมทักษะการคิด
ขน้ั สงู และกระบวนการแก้ปญั หา มีค่าเฉล่ียตา่ สุด ( x = 4.18)
ผลการวิเคราะห์ข้อมลู การเสนอแนะเพ่ิมเติม เกี่ยวกับปญั หา อุปสรรค ในการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning พบวา่ มขี ้อมลู เสนอแนะ ดงั นี้
1. บุคคล
1.1 ผูบ้ ริหาร
- ขาดความตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการขับเคล่ือนนโยบายสู่การปฏิบัติในห้องเรยี น
- ขาดการส่งเสรมิ และกระตนุ้ ใหค้ รูจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
1.2 ครผู ู้สอน
- ขาดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ ความสามารถ ประสบการณ์ในการจัดการเรียน
การสอน การสือ่ สาร ภาษา การพัฒนาที่ต่อเน่ืองเพื่อเพิม่ ประสบการณ์
- ครูมีภาระงานหลายหน้าที่ ทั้งงานที่ได้รับมอบหมายตามหน้าท่ีและกิจกรรม
ของหน่วยงานภายนอก ทาให้ไม่มีเวลาออกแบบกิจกรรม หรอื เตรียมสอ่ื อปุ กรณ์
- ไม่สามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ และจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้แบบ
Active Learning ได้
- เน้ือหาตามหลักสูตรมีปริมาณมากไม่สอดคล้องกับเวลาเรียน ทาให้ครูต้องจัด
การสอนแบบเดิม เนน้ การบรรยายเพื่อสอนให้ครบตามเนื้อหา ไม่มีเวลาจดั กิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ฝกึ ทักษะ
- ขาดการวิเคราะห์รู้เรียนเป็นรายบุคคล ส่งผลต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ให้สอดคลอ้ งกับความแตกตา่ งของผเู้ รยี น
- ขาดแคลนครทู ี่ตรงตามวชิ าเอก ครูสอนไม่ตรงเอก ครสู อนหลายชั้น/วชิ า มีครไู มค่ รบ
ช้ันเรยี น ทาใหผ้ ้เู รยี นไม่ไดร้ ับการพัฒนาไดเ้ ตม็ ตามศักยภาพ
- แต่ละโรงเรียนมีครูบรรจุใหม่จานวนมาก ซงึ่ ยงั ขาดประสบการณ์ในการจดั การเรียน
การสอน
1.3 ผเู้ รียน
- ผู้เรียนมีความแตกต่างกันและหลากหลาย เช่น ความสามารถ พื้นฐาน ความรู้
ศักยภาพและพฒั นาการของผเู้ รยี นมคี วามแตกต่างกนั ไม่กล้าแสดงออก การคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์
ขาดการเช่อื มโยงการเรยี นรใู้ นแต่ละวิชา
- ขาดความรับผิดชอบ ความกระตือรือร้น ความสนใจที่จะเรียนรู้ ขาดทักษะ
การนาเสนอ ทักษะทีจ่ าเปน็ ความรว่ มมือน้อย สถานการณโ์ ควคิ ทาให้เกิดภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้
มาเรียนไม่สม่าเสมอ ขาดเรียนบ่อย
- ผเู้ รียน กศน. มงี านประจา ช่วงอายุท่ีแตกต่างกัน ผเู้ รียนขาดการพบกลุ่ม
116
- นักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ทาให้จัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ไดย้ าก เช่น อา่ น เขียน ไม่คลอ่ ง การเรยี นรชู้ า้ ไมเ่ ขา้ ใจคาสั่ง
- นักเรียนแต่ละห้องมีจานวนมาก ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ได้
- ความพร้อมด้านครอบครวั ของผ้เู รียน
2. วสั ดุอุปกรณ์
2.1 ขาดแคลนสอ่ื วสั ดุ อุปกรณ์ และเทคโนโลยี
2.2 ส่ือ วสั ดุ อุปกรณ์ เทคโนโลยีไมท่ ันสมัย
2.3 สื่อการเรียนรู้ ประกอบการเรียนการสอนไมเ่ พยี งพอกบั จานวนผู้เรียน
2.4 สัญญาณอินเตอรเ์ น็ตไม่ดี
3. งบประมาณ
3.1 ขาดงบประมาณในการจดั ช้ือวัสดุอุปกรณ์
3.2 งบประมาณมีจานวนจากดั
4. การบริหารจดั การ
4.1 การขับเคล่ือนนโยบายไม่ต่อเน่ือง ไม่ตอบสนองกับสภาพบริบทของสถานศึกษา
และผู้เรยี น
4.2 ขาดการกากับ ตดิ ตามการนเิ ทศการจัดการเรียนการสอนอย่างตอ่ เนือ่ ง
4.3 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ทาให้ไม่สามารถจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ดี ครูและนักเรียน
ไมม่ ีปฏสิ มั พันธก์ นั
4.4 ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ได้ทุกตัวช้ีวัด มาตรฐาน
ของสาระการเรียนรู้
4.5 สถานศึกษาขนาดเล็ก ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เน่ืองจากขาดแคลนครู วัสดุ อุปกรณ์ งบประมาณ และผู้เรียนไม่มี
ความพรอ้ ม ขาดทักษะและสมรรถนะทจี่ าเปน็
4.6 จานวนเวลาท่ีเรียน/สัปดาห์ในบางรายวิชาน้อยไปไม่สอดคล้องกับการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning
4.7 สภาพห้องเรียน การจัด/สร้างบรรยากาศ และสิง่ แวดลอ้ มไมเ่ ออื้ ตอ่ การจดั การเรียน
การสอนแบบ Active Learning
4.8 ขาดการบรู ณาการรว่ มกนั ของแต่ละรายวิชา
117
ระยะท่ี 2 ผลการศึกษาแนวทางการดาเนนิ งานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย
ผลการศึกษาแนวทางการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ของกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยการสัมภาษณ์ มผี ลการศึกษาดังน้ี
2.1 ผลการศึกษาปัจจัยสู่ความสาเร็จ ท่ีส่งผลต่อความสาเร็จการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของสถานศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ ประกอบด้วย
1) บุคคล
1.1) ผู้บริหาร
- ให้ความสาคัญของนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
และ ขับ เคล่ือน น าน โยบ ายสู่ก ารป ฏิบั ติอ ย่ างเป็น ระบ บ ท้ังระ ดับ เขตพ้ื น ท่ี ก ารศึก ษ า
ระดบั สถานศึกษา และระดับห้องเรยี นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
- นโยบายของผู้บริหารที่เห็นความสาคัญของการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ท่ีลงสู่ครูอย่างเต็มที่ และครูได้นาไปใช้กับผู้เรียนเพื่อสร้างองค์ความรู้ อีกทั้งเป็น
การพัฒนากระบวนการจดั การเรยี นการสอนและเกิดประโยชนโ์ ดยตรงกบั ผเู้ รียน
- กาหนดให้การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เป็นตัวช้ีวัดการ
ประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารหน่วยงานการศึกษา และผู้บริหาร
การศึกษา ของแต่ละรอบการประเมิน
- การกากับ ติดตาม ตรวจสอบ นิเทศอยา่ งเป็นระบบต่อเน่ือง โดยผู้บริหารทุก
ระดับ และผลของขอ้ มลู การตดิ ตามเปน็ กลไกการแกไ้ ขปัญหาเชงิ พ้นื ที่
- การส่งเสริม สนับสนุน สร้างแรงจูงใจ ขวัญ กาลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน
ทุกระดับ เช่น สนับสนุนปัจจยั ท่ีเอือ้ ต่อการพฒั นานวตั กรรม เชน่ การยกย่อง กล่าวช่ืนชมให้เกียรตคิ รู
ที่สามารถจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ได้ดี สนับสนุนให้ครูเข้ารับการพัฒนา เช่น
การอบรม การสมั มนาเชิงปฏิบัติการ ศึกษาดงู าน ฯลฯ เป็นต้น
- เปน็ ผู้นาการเปลย่ี นแปลง เป็นผู้อานวยการการจดั การเรียนรู้ เป็นโค้ชให้กบั ครู
ในช้ันเรียน เพ่ือเพ่ิมประสิทธภิ าพ แรงจูงใจ กลยุทธ์การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ผ้นู าทางวชิ าการของผ้บู ริหาร เช่ือมโยงหลกั การและทฤษฎีไปสู่การปฏิบตั จิ ริงทส่ี อดคลอ้ งกับหลักสูตร
โดยไมเ่ พม่ิ ภาระงานแกค่ รู และสนับสนุนทรัพยากรท่ีจาเปน็
1.2) ครูผสู้ อน, บุคลากร
- เปิดใจ ยอมรับการเปล่ียนแปลง พร้อมรับ ปรับ เปล่ียน วิธีการจัดการเรียน
การสอนที่เหมาะสมกับศักยภาพ ทักษะ ความสามารถของผู้เรียนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และ
ชุมชน
118
- ฝึกอบรม ประชุม สัมมนา พัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา เพ่ือให้
มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ ความสามารถ ประสบการณ์ในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning สามารถออกแบบกระบวนการเรียนรู้ จัดทาแผนการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ควบคู่
เนื้อหาสาระการเรียนรู้กับการลงมือปฏิบัติจริง และใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย การปรับกิจกรรม
ให้เหมาะสมกับผู้เรยี น
- ความพ ร้อมขอ งครู ลด ภ าระงาน ขอ งครู เพ่ื อ ให้ครูมีความพ ร้อ ม
ในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ ด้านการจัด
การเรียนรู้ ด้านการประเมินผล ด้านการเตรียมการจัดการเรียนรู้ ด้านการใช้สื่อการเรียนรู้
การเตรียมการจัดการเรียนการสอน การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้มีโอกาส
สร้างความรู้ด้วยตนเองครูผู้สอนสามารถประเมินสถานการณ์ การใช้ส่ือ นวัตกรรมต่าง ๆ ที่จะทาให้
ผเู้ รียนสามารถบรรลุตามวตั ถุประสงคไ์ ด้
- บทบาทของครผู ู้สอนในการจดั การเรียนรู้การสอนแบบ Active Learning ตอ้ ง
คานึงถึงประเด็นสาคัญที่เป็นการขับเคล่ือนให้การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด กล่าวคือ 1) ครูผู้สอนต้องลดบทบาทของตนเองให้เป็นเพียงผู้ชี้แนะ
ค อ ย แ น ะ น า แ ล ะ อ า น ว ย ค ว า ม ส ะ ด ว ก ให้ แ ก่ ผู้ เรี ย น ให้ เกิ ด ก า ร เรี ย น รู้ แ ล ะ ส า ม า รถ ต อ บ ส น อ ง
ต่อวัตถุประสงค์การเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง 2) ครูผู้สอนต้องสร้างบรรยากาศในการมีส่วนร่วมและ
การปฏิสัมพันธ์ท่ีดีระหวา่ งผู้เรียนในช้ันเรียน และระหว่างผู้เรยี นกับผู้สอน เพ่ือผู้เรียนเกิดพฤติกรรม
กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าพูด กล้าคิด กล้าวิพากษ์วิจารณ์เพื่อเป็นการสะท้อนคิด 3) ครูผู้สอน
ต้องส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนกล้าคิด คอยกระตุ้นให้ผู้เรียนค้นคว้าหาคาตอบด้วยตนเอง และ
มีความมั่นใจในตนเองมากข้ึน 4) ครูผู้สอนต้องมีใจกว้างยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้เรียนและ
คอยสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน 5) ครูผู้สอนออกแบบและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้น
ให้ผู้เรียนได้ลงมือคิด ลงมือปฏิบัติ ลงมือทาด้วยตนเองเพื่อสะท้อนความคิดในส่ิงที่ได้เรียนรู้
จากการลงมือปฏิบัติจริง 6) ครผู ู้สอนต้องจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนแบบบูรณาการท้งั เนอ้ื หาสาระ
วธิ กี าร และฝกึ ให้ผเู้ รียนบูรณาการเนื้อหาสู่การประยกุ ต์ใช้ในสถานการณ์จริง
- เปลี่ยนบทบาท จากผู้สอน มาเป็นผู้ให้คาแนะนา ผู้ช่วยเหลือ โดยเร่ิมจาก
เทคนิคงา่ ย ๆ และบางห้องเรียนที่รับผิดชอบ มกี ารแลกเปล่ยี นเรียนรู้ระหวา่ งกลุ่ม ท่ีสาคัญคือตอ้ งให้
ผู้เรียนได้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหน่ึงของกิจกรรม ผลที่เกิดจากการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ส่งผลให้ผู้เรียนเรียนอย่างมีความสุข สามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งแสดงถึง
ผลการเรียนรู้ของผู้เรียนนาไปสู่การเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงาน มีความสามารถ
ในการสื่อสาร มีความเช่ือม่ันในตนเอง ซึ่งเป็นคุณลักษณะของผู้เรียนท่ีพึงประสงค์เป็นไปตาม
ที่กาหนดไว้
119
- ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูได้ปรับวิธีการจัดการเรียนการสอนเป็นแบบ Active
Learning (ระเบดิ จากข้างใน)
- ส่งเสริม สนับสนุน การใช้ส่ือ เทคโนโลยี นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ที่ทันสมัย มีคุณภาพ เหมาะสมกับสถานการณ์
ปัจจบุ นั สอดคลอ้ งกับบริบทของผเู้ รียน และสภาพของชุมชน
- สง่ เสริม สนับสนนุ ให้ครูมคี วามกา้ วหนา้ ในอาชีพ
1.3) นักเรยี น
- พัฒ นาศักยภาพ ทักษะ สมรรถนะของผู้เรียน ให้มีความพร้อมกับ
การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 สามารถใช้อปุ กรณ์สื่อสาร และเทคโนโลยสี มยั ใหม่ต่าง ๆ ได้อย่างถกู ต้อง
- ความพร้อมของนักเรียน นักเรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียน เกิดปฏิสัมพันธ์
ระหว่างครูผู้สอนกับนักเรียน ทาให้นักเรียนสนใจบทเรียนและทาให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
ซ่ึงนักเรียนต้องมีความพร้อม 1) มีความรับผิดชอบ เตรียมตัวล่วงหน้าให้พร้อมที่จะเรียนรู้ศึกษา
และปฏิบัติงานในส่ิงท่ีครูผู้สอน มอบหมายให้ศึกษาล่วงหน้า 2) ให้ความร่วมมือกับผู้สอน
ในการจัดการเรียนรู้เร่ิมจากการวางแผนการจัดการเรียนรู้การดาเนินกิจกรรม และการประเมินผล
3) มีส่วนรว่ มในการทากิจกรรมอยา่ งกระตือรือรน้ 4) มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน เพ่ือสร้าง
องคค์ วามร้ใู หม่ การทางานเปน็ ทีม และการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน 5) มีความกระตือรือร้น
ทีจ่ ะเรียนร้ไู ด้ลงมือปฏิบัติในสถานการณ์จรงิ ด้วยตนเองเพ่ือให้เกดิ การเรียนรู้ ด้วยตนเอง 6) มกี ารใช้
ความคิดเชิงระบบ ได้แก่ การคิดวิเคราะห์การคิดเชิงเหตุผล การคิดอย่างมีวิจารณญ าณ
การคิดเชื่อมโยง และการคิดอย่างสร้างสรรค์ 7) มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ว่าการเรียนรู้ไม่ใช่
เรือ่ งท่นี า่ เบอื่ แตเ่ ป็นการเรียนทที่ า้ ทายและมีชวี ติ ชีวา
- อ อ ก แ บ บ ก า ร จั ด ก า ร เรี ย น ก าร ส อ น แ บ บ Active Learning ให้ มี
ความสอดคล้องเหมาะสมกับบริบทของผู้เรียน เน้นการเรียนการสอนที่ให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์
สงั เคราะห์ โดยการตง้ั คาถาม อภิปรายรว่ ม ลงมอื ปฏบิ ตั ิจริง การแลกเปล่ยี นความคิดเห็น
2) วสั ดอุ ปุ กรณ์
- จดั หาสือ่ วัสดุ อปุ กรณ์ เทคโนโลยี ที่ทนั สมัย หลากหลายให้กับสถานศกึ ษา
- จดั สอ่ื การเรียนรู้ ประกอบการเรยี นการสอนให้เพยี งพอกับจานวนผ้เู รยี น
- จัดให้สถานศึกษาทุกแห่งมีระบบสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ดีและครู นักเรียน
สามารถใช้งานไดท้ ุกเวลาและทกุ สถานท่ี
- จัดใหม้ กี ารใชท้ รพั ยากรร่วมกนั ระดบั สถานศกึ ษา เครอื ขา่ ย เขตพื้นที่
120
3) งบประมาณ
- สนบั สนนุ งบประมาณเพ่ือจดั ชอ้ื สอ่ื วัสดุ อุปกรณ์
- จัดงบประมาณแลกเป้า สาหรับสถานศึกษาท่ีตอ้ งการพฒั นานวตั กรรม
- สนับสนุนงบประมาณจดั การเรียนรูเ้ พ่ิมเตมิ
- จดั สรรงบประมาณใหเ้ พียงพอและตรงตามไตรมาสทีต่ ้องใช้งบประมาณ
4) การบรหิ ารจดั การ
- จัดให้มีภาคีเครือข่าย แหล่งเรียนรู้ ผู้รู้และภูมิปัญญาท่ีหลากหลาย และให้
การสนบั สนุนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
- ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียน จัดระบบขอ้ มูลสารสนเทศ
เก่ียวกบั แหลง่ เรยี นรู้ใกล้บริเวณโรงเรยี น เช่ือมโยงกบั ชวี ิตจริงให้นักเรียนเกดิ ทกั ษะชีวติ
- ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน ผู้ปกครอง หรือ
หน่วยงานอ่ืนที่เกี่ยวข้องร่วมสนับสนุนกระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรกุ ในด้านนโยบาย
งบประมาณ ทรพั ยากรทางหารศึกษา และดา้ นอืน่ ๆ
- การนานโยบายสู่การปฏิบัติอย่างเป็นระบบมีแนวทางท่ีชัดเจนในการปฏิบัติของ
หน่วยงานต้นสังกดั
- สภาพแวดล้อม แหล่งเรียนรู้ท่ีเอ้ือให้เกิดการเรียนรู้ของนักเรียน อาทิ ห้อง
ประกอบ บรรยากาศการเรียนการสอน ส่ือต่าง ๆ อุปกรณ์เทคโนโลยีที่พร้อม ฯลฯ ซ่ึงล้วนส่งเสริมให้
เกิดกระบวนการเรยี นรขู้ องนักเรยี น
- จดั ทาแผนปฏิบัตกิ ารและจดั สรรงบประมาณสนับสนุนให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ท่ีเน้นให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ มีการนิเทศกากับติดตามอย่างต่อเน่ือง จัดสภาพแวดล้อม วัสดุฝึก
และพัฒนาระบบเทคโนโลยใี หม้ ีประสิทธิภาพในการส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของนกั เรยี น
- กาหนดเป้าหมายของโรงเรียน เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ เพ่ื อพัฒ นานักเรียน ให้มีความรู้ตามตัวชี้วัด
มีทักษะการคดิ วเิ คราะห์ โดยการพฒั นารว่ มกันและถอดบทเรยี นเพือ่ พฒั นาแนวทางร่วมกนั
- ความเสมอภาคในการพัฒนาครผู ู้สอนในพ้ืนท่ีห่างไกล การสนบั สนุนส่ือเทคโนโลยี
การเรยี นการสอน สาหรับโรงเรียนขนาดเล็กหา่ งไกล
- กระบวนการจัดการเรียนการสอน กระบวนการในการดาเนินงานใช้ PDCA และ
PLC โดยเน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ
- การบูรณาการการทางานร่วมกัน เพื่อถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ ส่ือ
นวตั กรรม แลกเปลี่ยนประสบการณ์
121
- มีระบบและกระบวนการนิเทศ ติดตาม การทางานและการจัดการเรียนการสอน
ท่เี ขม้ แข็งและต่อเนอื่ ง
- มีกระบวนการทางานเป็นทีมของบุคลากรในโรงเรียนเป็นจุดแข็ง ทาให้สามารถ
ขับเคลื่อนและพัฒนาประสทิ ธิภาพการทางานให้บรรลุผลสาเร็จได้โดยง่าย
- เปล่ียน แป ลงก ระบ วน ก ารจัดการเรียน ก ารสอ น ยุคเก่า ใช้ทั กษ ะชีวิต
และการทางาน ซึ่งประกอบด้วย 1) ความยืดหยุ่นและมีความสามารถในการปรับตัว 2) มีความคิด
ริเร่ิม และการเป็นผู้นา 3) ทักษะทางสังคมและการเรยี นร้วู ัฒนธรรมที่แตกต่าง 4) ทักษะการเรยี นรู้
และนวัตกรรม 5) ทักษะเทคโนโลยีด้านสารสนเทศ (ความรู้พ้ืนฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การส่ือสาร) โดยจัดการเรียนรู้ทเี่ น้นผู้เรยี นเป็นสาคญั โดยใช้ผู้เรียนได้ลงมือปฏบิ ัติ เรียนรู้และดาเนิน
กิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง โดยมีครูเป็นผู้ให้คาแนะนา ชี้แนะ กระตุ้น หรืออานวยความสะดวก
ให้กับผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ท่ีผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ การแลกเปล่ียนเรียนรู้
ระหวา่ งผู้เรียน
2.2 ผลการศึกษาความต้องการในการสง่ เสริม สนบั สนุน เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการจัดการ
เรยี นการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศกึ ษาธิการ ประกอบดว้ ย
1) การพัฒนาการจดั การเรียนการสอนของครู
1.1 หน่วยงานต้นสังกัดจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน
แบบ Active Learning ให้แก่ครู โดยเน้นครูได้ลงมือปฏิบัติตั้งแต่การออกแบบกิจกรรม และ
จัดกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจท่ีชัดเจนแก่ครูโดยวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญหรือครูต้นแบบ
ท่ีมีการปฏิบัติดีจนประสบผลสาเร็จ และกิจกรรมการอบรมเป็นแบบ Active Learning ส่งผลให้
ครูได้เหน็ ภาพของการจดั กจิ กรรมได้ชัดเจนข้นึ
1.2 กระทรวงศึกษาธิการจัดทาตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active
Learning ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และระดับช้ันเผยแพร่เป็นทางการจัดกิจกรรมให้แก่ครู และจัดทา
แผนการจัดการเรยี นรใู้ หแ้ กค่ รูในสังกดั การศึกษาพิเศษและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ดว้ ย
1.3 กระทรวงศึกษาธิการจัดทาวิดิทัศน์สาธิตการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active
Learning ทกุ กลุ่มสาระการเรียนร้เู พื่อเปน็ แนวทางใหแ้ ก่ครู
2) งบประมาณ
2.1 สนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อและ/หรือพัฒนาส่ือท่ีช่วยเสริมการเรียนรู้
ของนักเรยี น เช่น บอร์ดเกม กระดานอัจฉริยะ
2.2 สนับสนนุ งบประมาณในการสรา้ งและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ท่ีทนั สมัย ให้นักเรียน
ทกุ คนมคี วามเสมอภาคในการเขา้ ถงึ
122
2.3`กระทรวงศึกษาจัดสรรงบประมาณให้ทุกโรงเรียนมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
และเครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ่มี ปี ระสิทธิภาพ
2.4 โรงเรียนมีการสนับสนุนงบประมาณในการศึกษาดูงานโรงเรียนต้นแบบการ
เรียนการสอนแบบ Active Learning
3) การบริหารจดั การ
3.1 กระทรวงศึกษาธิการสนับสนุนให้มีการจัดตั้งโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning เพ่อื เปน็ แหล่งศกึ ษาดูงานและใหค้ รูได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้
3.2 กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายไปสู่แนวการปฏิบัติที่ชัดเจนแก่หน่วยงานต้น
สงั กดั และมอบหมายหนว่ ยงานทาหน้าทีก่ ากบั ดูแลการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning
3.3 หน่วยงานต้นสังกัดมีการติดตามการดาเนินงานแต่ละโรงเรียน ให้มีการรายงาน
และสะท้อนผลการดาเนินงานรวมทั้งปัญหาในการดาเนินงานแก่หน่วยงานต้นสังกัด และ
กระทรวงศกึ ษาธิการตอ่ ไป
3.4 หน่วยงานระดับเขตพ้ืนท่ีมีการแต่งตั้งบุคลากรท่ีมีความเชี่ยวชาญการเรียน
การสอนแบบ Active Learning เป็นพี่เลยี้ งให้แกค่ รูในสังกัด
3.5 ผู้บริหารสถานศึกษาส่งเสริมให้ครูได้พัฒนาการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ทั้งการสนับสนนุ การอบรม งบประมาณ การสรา้ งขวัญกาลงั ใจแก่ครู
3.6 โรงเรียนและหน่วยงานต้นสังกัดส่งเสริมให้ครูได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันโดยจัด
ในรปู แบบของการนาเสนอผลงานทางวชิ าการ การเสวนา เปน็ ต้น
2.3 ผลการศึกษาแนวทางการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศึกษา สังกดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เพื่อขบั เคลอื่ นการดาเนนิ งานให้บรรลเุ ป้าหมาย มดี งั น้ี
1) การจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning
1.1 โรงเรียนกาหนดเป้าหมายในการพัฒนารูปแบบการพัฒนาครู และโรงเรียนทั้ง
ระบบด้วยกิจกรรมการเรยี นการสอนแบบ Active Learning โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ เพอ่ื พัฒนา
นักเรียนใหม้ ีความรตู้ ามตวั ชี้วดั มีทกั ษะการคิด วิเคราะห์ เกิดข้ึน 1 รปู แบบ โดยนาแนวทางการศึกษา
บทเรียนร่วมกัน (Lesson Study) มาใช้เพ่ือพัฒนาหน่วยการเรียนรู้บูรณาการ และส่งเสริมทักษะ
การคดิ วิเคราะหข์ องนกั เรยี น
1.2 ปรับหลักสูตรทางด้านการศึกษาให้มีการสอดคล้องกับการเรียนการสอนแบบ
Active Learning เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเน้ือหาวิชา โดยการมีส่วนร่วมของผู้เรียน และ
จดั การเรียนรู้หลากหลายวิธี เช่น จัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน จัดการเรยี นรู้เชิงประสบการณ์
จัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน การสนับสนุนองค์ความรู้แบบบูรณาการหลายวิชาอย่างต่อเนื่อง
จากผเู้ ช่ียวชาญหลายสาขาวชิ าท่ีนาสู่ปฏิบตั ไิ ด้
123
1.3 การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ภายใต้บริบทของโรงเรียน
สอดคล้องกับวิถีชีวิตของนักเรียนซ่ึงเพ่ิมคุณค่าได้มากกว่าครูจัดให้ตามหลักสูตร โดยมีแนวทาง
การจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning ท่ีสามารถนามาปรับใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้หลาย
ลักษณะ เช่น จัดเฉพาะในบางหน่วยการเรียนรู้หรือเฉพาะบทหรือท้ังรายวิชา ซ่ึงการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning จะเป็นการนาเอาวิธีการสอนหลากหลายวิธีมาผสมผ สาน
โดยครูผสู้ อนวางแผนคัดเลือกเทคนิคการสอนท่ีเหมาะสมกับธรรมชาติรายวิชา เหมาะสมกับเปา้ หมาย
การจัดการเรียนรู้ ลักษณะของผู้เรียน รวมไปถึงการออกแบบสัดส่วนของเทคนิคหลัก เทคนิครอง
ในการจัดการเรียนรู้แต่ละคร้ัง ซึ่งแนวทาง/วิธีการจัดการเรียนรู้เป็นไปได้หลากหลายวิธี อาทิ
1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) เป็นรูปแบบ
การจัดการเรียนรู้ท่ีมุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้และบทบาทในการเรียนรู้ของ
ผู้เรียน "ใช้กิจกรรมเป็นฐาน" เป็นการนากิจกรรมเป็นที่ต้ังเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้และ
สามารถบรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่กาหนด 2) รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงประสบการณ์
(Experiential Learning) เป็ น วิ ธี ก าร จั ด ก าร เรีย น รู้ท่ี ส่ งเส ริม ให้ ผู้ เรีย น เกิ ด ก าร เรีย น รู้
จากประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรม เพ่ือนาไปสู่ความรู้ความเขา้ ใจเชิงนามธรรมเหมาะกับรายวิชาท่ีเน้น
ปฏิบัติหรือเน้นการส่งเสริมทักษะ ซ่ึงสามารถใช้จัดการเรียนรู้ได้ท้ังเป็นกลุ่มและรายบุคคล
โดยหลักการจดั การเรียนรู้ คอื ครูวางแผนจัดสถานการณ์ใหผ้ ูเ้ รียนมีประสบการณ์จาเป็นต่อการเรียนรู้
คอยกระตุ้นให้ผู้เรียนสะท้อน ความคิด อภิปราย ส่ิงท่ีได้รับจากสถานการณ์และการนาความรู้
ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง 3) รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem -
Based Learning) เป็นวิธกี ารจดั การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเปน็ ตัวกระตนุ้ ให้ผ้เู รียนตั้งสมมตฐิ าน สาเหตุ
และกลไกของการเกิดปัญหาน้ัน รวมถึงการค้นคว้าความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเพ่ือนาไปสู่
การแก้ปญั หาต่อไป โดยผู้เรียนอาจไม่มคี วามรู้ในเร่ืองน้ัน ๆ มากอ่ น แต่อาจใช้ความรู้ทผ่ี ู้เรียนมีอย่เู ดิม
หรือเคยเรียนมานอกจากนี้ยังมุ่งให้ผู้เรียนใฝ่หาความรู้เพ่ือแก้ไขปัญหา ได้คิดเป็น ทาเป็น
มีการตดั สนิ ใจที่ดี และสามารถเรียนรู้การทางานเปน็ ทีม โดยเนน้ ใหผ้ ู้เรียนได้เกดิ การเรียนรดู้ ้วยตนเอง
แล ะ ส าม ารถ น า ทั ก ษ ะ จ าก ก ารเรีย น ม าช่ วย แ ก้ ปั ญ ห าใน ชี วิ ต ก ารเรีย น รู้ โด ย ใช้ ปั ญ ห าเป็ น ฐา น
4) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning) เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้
แบบโครงงานสามารถจัดเป็นกิจกรรมกลุ่มหรือกิจกรรมเดี่ยวก็ได้ให้พิจารณาจากความยาก - ง่าย
ความเหมาะสมของโจทยง์ านและคุณลักษณะท่ีต้องการพฒั นา วางแผนและกาหนดเกณฑ์อย่างกวา้ ง
ๆ แล้วให้ผู้เรียนวางแผนดาเนินการศึกษาค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเองโดยผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้ให้
คาปรึกษา จากนั้นให้ผู้เรียนนาเสนอแนวคิดการออกแบบช้ินงาน พร้อมให้เหตุผลประกอบ
จากการค้นคว้า ให้ผู้สอนพิจารณาร่วมกับการอภิปรายในชั้นเรียน จากนั้นผู้เรียนลงมือปฏิบัติ
124
ทาชิ้นงานและส่งความคืบหน้าตามกาหนดการประเมินผลจะประเมินตามสภาพจริง โดยมีเกณฑ์
การประเมินกาหนดไว้ล่วงหน้าและแจ้งให้ผู้เรียนทราบก่อนลงมือทาโครงการและมีการเชิญ
ผทู้ รงคณุ วฒุ ริ ่วมประเมนิ ผล
1.4 จัดการเรยี นรู้ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ข้ันตอน หรือ 5 STEPs” ขั้นตอนที่ 1
การเรียนรู้ตั้งคาถาม หรือข้ันต้ังคาถาม ขั้นตอนท่ี 2 การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ ข้ันตอนท่ี 3
การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ ข้ันตอนที่ 4 การเรียนรู้เพ่ือการสื่อสาร และขั้นตอนที่ 5 การเรียนรู้
เพอ่ื ตอบแทนสังคม
1.5 บูรณาการความร่วมมือในการ 1) วิเคราะห์เป้าหมายการเรียนรู้ 2) วิเคราะห์
มาตรฐาน ตัวช้ีวัด และ 3) ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ การประเมินผล
แบบหลายหลาก บรู ณาการทกุ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วดั ผลประเมนิ ผลด้วยวิธกี ารท่ีหลากหลาย
1.6 พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบ Active Learning และพัฒนาทักษะ
ดา้ นการเรียนรู้และนวัตกรรมสาหรับนักเรียน เพื่อเปรยี บเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ก่อนและหลังด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning และประเมินความพึงพอใจ
ของนักเรียนด้วยกระบวนการจัดการเรียนรแู้ บบ Active Learning ท่สี ่งเสริมพฤติกรรมทางการเรียน
ดีขนึ้
2) นโยบาย
2.1 หน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการสนับสนุน กากับ ติดตาม
ประเมิน และพัฒนาคุณภาพของการจัดการศึกษาโดยมุ่งเน้นระบบการบริหารและการจัดการ
ท้ังดา้ นผู้บริหาร ครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา หลักสูตรการเรียนการสอน ส่ือ เทคโนโลยี ทรพั ยากร
ส่ิงสนับสนนุ การศกึ ษา การประเมนิ และการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเน่อื ง
2.2 ผ้บู ริหารสถานศึกษาสนองนโยบาย/ขับเคลอื่ นการดาเนนิ งานในสถานศึกษา
2.3 วิสัยทัศน์ของโรงเรียน ที่นาสู่เป้าหมายท่ีเด่นชัด กาหนดเป้าหมาย (Goal)
ของโรงเรยี น และเป้าหมาย (Goal) ของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้
2.4 กาหนดเปน็ นโยบายเรง่ ดว่ นและเชอื่ มโยงกบั การประเมนิ ผลการปฏิบตั ติ ิงาน
3) ปัจจัยการบริหาร
3.1 คน
1) ผู้บริหาร
- ผบู้ รหิ ารใหค้ าแนะนากับครู หรือเปน็ แบบอย่างในการจัดกระบวนการเรียนรู้
- ผูบ้ ริหารท่ีมคี วามรู้ในกระบวนการบริหารหลกั สูตร
125
2) ครูผู้สอน
- ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับกิจกรรมการเรียนรู้
เหมาะกับผู้เรียน กระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ส่งเสริมปฏิสัมพันธร์ ะหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน
และผู้เรียนกับผู้สอน ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์และความสาเร็จในการเรียนจัดการเรียนรู้
ที่มุ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้ ทักษะ และเช่ือมโยงองค์ความรู้นาไปปฏิบัติติเพ่อแก้ไขปัญหาหรือ
ประกอบอาชีพในอนาคตได้
- ครูผู้สอนที่มีเทคนิควิธีการสอนที่หลากหลายสามารถจัดกิจกรรมการเรียน
การสอนแบบ Active Learning
- การพัฒนาครูให้มีเทคนิคการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
เพิ่มสมรรถนะและทักษะของคูรูผู้สอนทุกประเภทเพ่ือให้ผู้สอนเกิดการจัดการเรียนการสอน
ทเี่ ปน็ ไปในรูปแบบเชิงรุก
- การสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ โดยครู
เป็นผู้อานวยความสะดวก สร้างแรงบันดาลใจ ให้คาปรึกษา ดูแล แนะนาทาหน้าท่ีเป็นโค้ช แสวงหา
เทคนคิ วธิ ีการจดั การเรียนรู้ และแหล่งเรียนรู้ท่หี ลากหลาย ใช้สตปิ ญั ญา คดิ สร้างสรรคผ์ ลงาน
- ครูต้องมีความรู้ ความเข้าใจถึงวิธีการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning มีความสามารถในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ โดยนามาปรับใช้ในการจัดการเรียนรู้
ให้แก่นักเรียนให้เหมาะกับบริบทของโรงเรียน โดยการพัฒนาครู อาทิ 1) การเพิ่มประสิทธิภาพ
การจัดการเรียนรู้ 2) การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning 3) การจัดการเรียนรู้
แบบโครงงาน เป็น ฐาน Project Base Learning 4) ทักษะการใช้เทคโน โลยี สื่อ สมัยใหม่
ในการปฏิบัติงานและการออกแบบการจัดการเรียนรู้และสร้างส่ือการเรียนรู้ 5) การพัฒนาผู้เรียน
ด้วยการเสรมิ สร้างทักษะชวี ติ ผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรู้
3) นักเรียน
- วิเคราะห์ผู้เรียนและออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ
คานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ครูผู้สอนยอมรับในความแตกต่างของผู้เรียน จัดกิจกรรม
ให้ผู้เรียนกล้าคิด กล้าทา กล้าแสดงออกในส่ิงที่ตนเองถนัดและสนใจ ได้ลงมือปฏิบัติและเรียนรู้
ข้ันตอนการทากิจกรรม รู้จักการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง กระตุ้น หรืออานวยความสะดวกให้ผู้เรียน
ไดเ้ กิดการเรยี นรู้มากท่ีสุด
- ให้ผู้เรียนมีอิสระทางด้านความคิด และการกระทาของผู้เรียน ทุ่มเท
ในการเรียน จูงใจในการเรียน ให้ผู้เรียนแสดงออกถึง ความรู้ความสามารถ ในลักษณะการลงมือ
ปฏิบัติ กระบวนการเรยี นรทู้ ี่ก่อให้เกิดการพัฒนาเชิงบวกท้งั ตวั ผเู้ รยี น
126
3.2 งบประมาณ
- จัดสรรงบประมาณให้เพียงพอสาหรับการจัดการศึกษาของทุกระดั บ
ทุกประเภท การให้ความรู้แกบ่ คุ ลากรครู
- งบประมาณท่ีเพียงพอต่อความต้องการในการจัดหาส่ือ วัสดุ อุปกรณ์
ในการสนบั สนนุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
3.3 วสั ดุ อปุ กรณ์ เทคโนโลยี
- จัดทาสื่อประกอบการเรียนรู้ โดยใช้แอปพลิเคชัน KineMaster โปรแกรม
สาเร็จรูปที่อยู่ในรปู แบบของเวบ็ ไซต์ YouTube, Canva
- การจดั สรรงบประมาณให้เพยี งพอตอ่ ความต้องการ
- การสนับสนุน สื่อ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์วิทยาศาสตร์
ส่ือภาษาองั กฤษ เพือ่ การจดั การเรยี นรู้ท่ีมีคุณภาพ
3.4 การบริหาร
- สร้างความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจ ตามสาคัญของการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning ให้ผ้เู กยี่ วข้องทุกระดับ กาหนดแนวทางใหค้ รูปรับวิธีการจัดการเรียน
การสอนแบบเดิม ๆ ให้เน้นการเรียนการสอนแบบ Active Learning ฝ่ายบริหาร นิเทศการจัด
การเรยี นการสอนของครูผสู้ อนเนน้ แบบเชงิ รกุ
- ขับเคล่ือนผ่าน PLC การทางานเป็นทีมอย่างมีความสุข PLC กระบวนการ
บริหารหลักยึดหลักการพัฒนาตามแนวพระราชดาริ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ผ่านกระบวนการ
ขับเคลอ่ื นการทางาน PDCA
- ให้ความสาคัญ เพื่อดาเนินการสนับสนุนให้การจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ประสบความสาเรจ็ ทั้งดา้ นงบประมาณ ส่อื และอปุ กรณก์ ารจัดการเรยี นรู้
- ใหข้ วญั กาลงั ใจในเรอ่ื งการเลอ่ื นวทิ ยฐานะให้สงู ขึ้น
- สร้างเอกสาร คู่มือ ตัวอย่าง ต้นแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ในรูปแบบเอกสาร คลิปวิดีโอ ที่สามารถนาไปใชไ้ ด้จริง
- คัดเลือกต้นแบบท่ีมีการปฏิบัติที่ดีเพื่อเป็นตัวอย่างในระดับต่าง ๆ โดยไม่ได้
ประกวดแขง่ ขัน
- จัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาท่ีครอบคลุมการจัดกิจกรรมการจัด
การเรียนการสอนแบบ Active Learning
- พัฒนารูปแบบการดาเนินการแบบ PDCA 1. ประชุมวางแผน 2. มีการจัด
อบรมขยายผลให้กับครูผู้สอน 3. นาสู่ห้องเรียน 4. มีการนิเทศ ติดตาม 5. สรุปและประเมินผล
127
ประกอบกับ 1) นโยบายจากผู้บริหาร 2) การจัดการเรียนการสอนของครู 3) คุณภาพของผเู้ รียนท่ีมี
การพฒั นาความรู้อยา่ งต่อเน่ือง
- ประเมินผลกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ Active Learning ที่ครูผู้สอน
จัดกิจกรรม โดยวัดจากผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนรายกลุ่มตามครูประจากลุ่มจนถึงระดับสถานศึกษา
เพ่ือนาข้อดีและข้อปรับปรุงมาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนแบบบ Active Learning ต่อไป
ในระดับสถานศึกษา
- รณรงค์ให้ผู้บริหารมีความรู้ความเข้าใจการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning เพื่อขบั เคล่ือนภายในสถานศึกษา
- ถอดบทเรียนจากสถานศึกษาที่ประสบผลสาเร็จด้วยการกระบวนการจัด
การเรียนรู้ KM เพื่อค้นหาแนวปฏิบัติท่ีดี (Best Practice) และนวัตกรรม เพ่ือแรงบันดาลใจให้กับ
สถานศึกษาที่กาลังพัฒนา การพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning สู่การปฏิบัติท่ีเป็นเลิศ (Best Practices) สร้างเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่นวัตกรรม
การปฏิบัติทเี่ ปน็ เลิศ (Best Practices) ในระดับสถานศกึ ษา สู่ระดับประเทศ
2.4. ผลการศึกษาข้อเสนอแนะการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประกอบดว้ ย
1) ด้านนโยบาย
1.1 กาหนดนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ท่ีเป็น
รูปธรรม มีระบบการขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติท่ีชัดเจน ต่อเน่ือง โดยกาหนดเป็นค่าเป้าหมาย ตัวช้ีวัด
ทช่ี ดั เจนใหแ้ ต่ละระดับได้ปฏบิ ัติตามเงื่อนไข ระยะเวลา
2.2 มรี ะบบการกากบั ตดิ ตาม ตรวจสอบ นิเทศ และรายงานผล
2.3 พัฒนา ฝึกอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ
เก่ียวกับการจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning ให้ผู้ปฏบิ ตั ิติงานทุกระดับ
2.4 การจัดสรรอัตรากาลังครูให้มีความสอดคล้องตามความต้องการจาเป็น
เหมาะสม โดยการจัดการเรียนการสอนควบช้ัน ควบระดับ จะส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning
2.5 มีหน่วยงานใหค้ าปรกึ ษาการจัดการเรียนการสอน การประเมินผล การสร้างสื่อ
นวัตกรรมอย่างเปน็ ระบบในการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
2) ด้านหลกั สตู ร
2.1 พัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ท่ีตอบสนองความสามารถ ความถนัด ของนักเรียน
สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมีการกาหนดตัวชี้วัดชัดเจนโครงสร้างในการจัดการเรียนรู้ยืดหยุ่น
ตามบริบทของโรงเรยี น
128
2.2 มีการฝึกอบรม พัฒนาครูผู้สอน เก่ยี วกับการออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการ
จัดการเรียนรู้ การวัดประเมนิ ผลการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
2.3 จัดทาแนวทางการการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยบูรณาการ
เชื่อมโยงทุกกลุ่มสาระการเรียนรแู้ ละระดบั ชนั้ ของผูเ้ รยี น
3) ดา้ นการจัดการเรียนการสอน
3.1 ควรมีวทิ ยากรแกนนาที่เช่ียวชาญเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ท่สี ามารถถ่ายทอดความรู้ กระบวนการได้เขา้ ใจ และสามารถนาความรูไ้ ปปฏบิ ัติไดจ้ รงิ
3.2 นักเรียนควรได้รับการสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based
Learning) เพ่ือส่งเสริมทักษะในการคิดแก้ปญั หาของนักเรียน
3.3 การเรียนการสอนโดยให้ผู้เรียนปฏบิ ัตใิ ห้มากท่ีสดุ เพอื่ นาความรู้ความเข้าใจไปใช้
ในชวี ติ ประจาวัน สามารถเรยี นร้วู ิธีการจากคนใกล้ตวั เปน็ การนาความรูไ้ ปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตซงึ่ ตอ้ งมี
กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือสร้างองค์ความรู้ซึ่งกระบวนการจะต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีโอกาส
เข้าร่วม รวมถึงผู้เรียนสามารถเรียนรอู้ ย่างมรี ะเบียบวนิ ัยในการทางานรว่ มกับผูอ้ น่ื
3.4 การจัดการเรียนการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ทาให้นักเรียน
มคี วามสนกุ สนานผสมผสานไปกบั ความรู้ท่ีไดร้ ับ อกี ท้ังสามารถนาความรู้ท่ีไดไ้ ปใช้ในชวี ติ จริงได้
3.5 ควรจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนแบบ Active Learning อย่างตอ่ เนื่อง
3.6 การจัดการเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์สามารถดาเนินการในรูปแบบการจัดการ
เรียนการสอนแบบ Active Learning ได้
3.7 การจัดการเรียน การสอนแบบ Active Learning สาหรับเด็กพิการของ
ศูนย์การศึกษาพิเศษโดยส่วนใหญ่เปน็ กิจกรรมในลักษณะที่ลงมือปฏิบัติจรงิ ควรให้มีเอกสารแนวทาง
คูม่ อื สือ่ เทคโนโลยใี หแ้ กค่ รูผสู้ อน
4) ด้านการวัดและประเมินผล
4.1 มีการวัดและประเมินผลการจัดการเรียนการสอน แบบ Active Learning
เป็นระยะและอยา่ งตอ่ เนือ่ ง
4.2 ควรมีการนิเทศ ตดิ ตามการสอน ประเมินการสอน อยา่ งเปน็ ระบบ สม่าเสมอ
4.3 ควรให้ผูท้ ่ีมสี ว่ นไดส้ ่วนเสียมสี ว่ นร่วมในการประเมนิ การสอนของครู
5) ดา้ นปจั จัยบริหาร
5.1 บคุ ลากร
1) ผบู้ รหิ ารโรงเรยี น
- ควรอบรมให้ความรู้แก่ผู้บริหารให้มีทักษะในการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning
129
- ผู้บริหารโรงเรียนควรสนับสนุนให้ดาเนินกิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
แบบ Active Learning
2) ดา้ นครู
- ควรจัดอบรมให้ความรู้ครูและการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ควรทาเป็น workshop ไม่เน้นทฤษฎีมากจนเกินไปจนครูมีความยากลาบาก
ท่จี ะนาไปปฏิบัตคิ วรคานึงถงึ ความแตกตา่ งของบริบทในแต่ละพ้นื ท่ี
- ควรจัดอบรมครูผู้สอนให้สามารถบูรณาการการจัดการเรียนการสอนภายใน
กลุ่มสาระและขา้ มกล่มุ สาระการเรยี นรู้
- การสนับสนุนบุคลากรให้เป็นแกนนาขับเคล่ือนกิจกรรมการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning
- สร้างแรงจูงใจให้กับครูเพื่อการจัดการเรียนการสอน สร้างสรรค์สื่อนวัตกรรม
ที่มีคุณภาพ ประสทิ ธภิ าพ
- ภาระงานนอกเหนือการสอนของครูมีจานวนมาก ส่งผลให้การจัดการเรียน
การสอนขาดประสิทธิภาพ ควรลดภาระงานอ่ืนของครูเพ่ือให้ครูได้มีเวลาเพ่ิมพูนประสิทธิภาพ
ในการสอนและไดท้ าหนา้ ที่หลักของครคู ือการสอนนั่นเอง
- มีการประเมินการสอนของครูผู้สอนว่าบรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่
โดยครูผู้สอน เพ่ือนร่วมงาน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ผู้บังคับบัญชาท้ังภายในและภายนอก
สถานศกึ ษา
- ควรจัดทาวิดิทัศนต์ ้นแบบวธิ ีการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning
เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูน าเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสารสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้
ในการจดั การเรียนรู้ทุกข้ันตอนของกระบวนการจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning
- การพัฒนาเคร่ืองมือเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้เด็กพิการรุนแรงสามารถ
เข้าถึงกิจกรรมได้
3) ด้านผู้มีสว่ นไดส้ ่วนเสยี
- ผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้องทุกภาคส่วนต้องตระหนักเห็นความสาคัญและให้
ความร่วมมอื ส่งเสรมิ และสนบั สนุนในการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning
- ผู้ปกครองและนกั เรียนมีส่วนร่วมในการจดั ทาหลกั สูตร
- ผปู้ กครองและนักเรยี นมสี ่วนรว่ มในการจัดการเรียนรู้
- การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เชงิ รุกเปน็ กิจกรรมท่นี ่าสนใจ
- การสนับสนุนจากผู้ที่เก่ียวข้องให้ดาเนินกิจกรรมการจัดการเรียนการสอน
แบบ Active Learning
130
5.2 งบประมาณ
1) ควรจัดสรรงบประมาณในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ให้เพยี งพอ
2) จัดสรรงบประมาณด้านสื่ออุปกรณ์การจัดการเรียนรู้ให้เพียงพอต่อ
ความตอ้ งการของผเู้ รยี น
3) การสนับสนนุ งบประมาณเป็นขวญั กาลงั ใจให้กบั บุคลากร
ระยะท่ี 3 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของกระทรวงศึกษาธิการ
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของกระทรวงศึกษาธกิ าร มีดงั น้ี
1. ให้ความสาคัญ โดยการยกระดบั ใหเ้ ปน็ วาระเรง่ ด่วน
2. ควรจัดทากลยุทธ์ในการขับเคล่ือน เป็นนโยบาย 3 ระดับ อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน
เหมาะสมกับคนทุกช่วงวัย ด้วยการวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ทั้งในภารกิจพ้ืนฐาน
ภารกิจยุทธศาสตร์ และภารกิจพ้ืนที่ ท่ีส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย สอดคล้องกับพ้ืนท่ีในระดับ
กระทรวง ระดบั จงั หวดั /เขตพ้ืนที่ และระดับสถานศึกษา
3. ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการออกแบบการเรียนรู้ การลงมือปฏิบัติของผู้เรียน
และรว่ มประเมินผลการเรียนรู้ให้มากขึ้นอยา่ งเป็นรูปธรรม
4. พัฒนาครูให้มีทักษะ สมรรถนะ เปลี่ยนบทบาทเป็นผู้อานวยการการเรียนรู้ คอย
กระตุ้น สร้างแรงบนั ดาลใจ แนะนาวิธีเรียนรู้และวธิ ีจัดระเบียบการสร้างความรูใ้ หก้ บั นกั เรียน เพื่อให้
นกั เรยี นไดร้ บั การปพู นื้ ฐานความพรอ้ มท้งั กาย ใจ ปญั ญา อยา่ งรอบดา้ น
5. สร้างขวัญกาลังใจให้ผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานเชิงประจักษ์ และสนับสนุน
ให้ได้รบั โอกาสความกา้ วหนา้ ในอาชีพ
6. จัดระบบการกากับ ติดตาม นิเทศ ประเมินผลและการรายงานผลท่ีชัดเจน
อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มให้เกิดความคล่องตัว รวดเร็ว สะดวกต่อการปฏิบัติงานทุก
ระดับ
131
บทท่ี 5
บทสรุป
การศึกษา เร่ือง การดาเนินงานการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นการดาเนินงานในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา
(Research and Development) มวี ตั ถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ 2) เพ่ือศึกษาแนวทางการดาเนินงาน
ตามนโยบายการจดั การเรยี นการสอนแบบ Active Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ 3) เพ่ือจัดทา
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
กระทรวงศกึ ษาธิการ ดาเนนิ การวจิ ยั 3 ระยะ มีรายละเอยี ด ดงั นี้
ระยะท่ี 1 ศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร
ระยะที่ 2 ศึกษาแนวทางการดาเนินงานตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของกระทรวงศึกษาธิการ
ระยะท่ี 3 จัดทาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ของกระทรวงศึกษาธกิ าร
สรปุ ผลการวจิ ัย
ระยะที่ 1 ผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สงั กดั กระทรวงศกึ ษาธิการ
1.1 ผลการศึกษาสภาพ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดย
การวิเคราะห์ สังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เก่ียวข้องกับการจัดการเรียนการสอนแบบ Active
Learning ท่ีเน้นผู้เรียนทุกระดับมีส่วนร่วมสร้างสรรค์การเรียนรู้เพื่อให้เกิดสมรรถนะหลัก
และการพัฒนาตนเองตามความถนดั และความสนใจ สรปุ ไดด้ ังน้ี
1. รูปแบบท่ีใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน เรียงตามอนั ดบั การใช้จากมากไปน้อย ดงั น้ี
1.1 การสอนแบบใชค้ าถาม (Questioning Method)
1.2 การเรียนรโู้ ดยใชก้ ิจกรรมเป็นฐาน(Activity-Based Learning)
1.3 การเรยี นรแู้ บบใช้เกม (Games)
1.4 การเรียนรูเ้ ชงิ ประสบการณ์ (Experiential Learning)
1.5 การเรียนรู้โดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (Problem Based Learning)
1.6 การเรียนรู้แบบแสดงบทบาทสมมติ (Anchored Instruction)
132
1.7 การเรียนร้โู ดยใช้โครงงานเปน็ ฐาน (Project-Based Learning)
1.8 การเรยี นรแู้ บบกรณศี ึกษา (Analyze Case Studies)
2. สภาพการดาเนินการจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning
2.1 ดา้ นบุคคล คือ ผบู้ รหิ าร ครผู สู้ อน และผเู้ รยี น โดยมีสาระสาคญั คือ
2.1.1 ผู้บริหาร เป็นบุคคลสาคัญในการสนับสนุน ควรกาหนดเป็นนโยบาย
ในการขับเคล่ือนในสถานศึกษา ส่งเสริมสนับสนุนและเสริมแรงจูงใจ สังเกตกระบวนการเรียนรู้
อย่างต่อเนอ่ื ง รวมทง้ั สง่ เสรมิ ชุมชนแห่งการเรียนรทู้ างวชิ าชีพ PLC
2.1.2 ครูผู้สอน ควรใช้คาถามเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ ไม่นา
ความคิดของตนเองเข้าไปในการจัดการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนคิดนอกกรอบ ส่งเสริม พัฒนา
ให้ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง สามารถต่อยอดและนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน
ดว้ ยทักษะวิธกี ารจัดการเรยี นรู้ที่หลากหลาย ใช้ส่ือ อุปกรณ์ที่ทันสมยั น่าเรยี นรู้ ดึงดูความสนใจของ
ผู้เรียน
2.1.3 ผู้เรียน การจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับวัย สภาพ บริบท
ความพร้อม ทกั ษะ สมรรถนะ ความกระตือรือรน้ ใสใ่ จต่อการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น
2.2 ส่ือ วัสดุ อุปกรณ์ ที่ทันสมัย เพียงพอ เหมาะสม สร้างความสนใจในการเรียนรู้
ของผู้เรยี น
2.3 งบประมาณที่สามารถสนับสนุนจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของสถานศกึ ษา
3. ปจั จัยท่สี ง่ ผลตอ่ ความสาเร็จในการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
3.1 บทบาทของครู เปลี่ยนบทบาทจากผู้สอนมาเป็นผู้ให้คาแนะนา อานวย
ความสะดวก และช่วยเหลอื ผู้เรียน
3.2 สมรรถนะของครู ประกอบด้วย 2 สมรรถนะหลัก ได้แก่ 1) สมรรถนะหลัก
(Core Competency) ประกอบด้วยสมรรถนะ 4 ด้าน คือ การมุ่งผลสัมฤทธิ์ การบริการท่ีดี
การพัฒ นาตนเองและการทางานเป็นทีม และ 2) สมรรถนะประจาสายงาน (Functional
Competency)ประกอบด้วยสมรรถนะ 5 ด้าน คือ การจัดการเรียนรู้ การพัฒนาผู้เรียน การบริหาร
จัดการช้ันเรียน และการวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวิจัย 3) รูปแบบการเรียนรู้ ครูควรมีการเลือก
รปู แบบการเรยี นรู้ท่เี หมาะสมกบั เนอื้ หาและธรรมชาติวชิ า เนน้ ให้ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นรู้ดว้ ยการลงมือปฏบิ ัติ
เป็นกจิ กรรมที่ชว่ ยพัฒนาผู้เรียนให้เกิด 3R8C ซง่ึ เป็นทกั ษะที่พงึ มีในศตวรรษท่ี 21
133
1.2 ผลการศึกษาสภาพ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
สถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยการสนทนากลุ่ม สรุปสภาพการจัดการเรียนการสอน
แบบ Active Learning ของสถานศึกษา สงั กัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ดงั น้ี
1. บุคคล
1.1 ผู้บริหาร ขาดความตระหนักในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning ขาดภาวะผู้นาทางวิชาการ (Instructional Leadership) ผู้บริหาร
มีการเปลย่ี นแปลงโยกยา้ ยสถานศึกษาบ่อย
1.2 ครูผู้สอน ขาดความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถและทักษะการจัดการเรียน
การสอนแบบ Active Learning ใช้รูปแบบการสอนแบบเดิม ไม่มีเวลาในการจัดการเรียนการสอน
เนอ่ื งจากไดร้ ับมอบหมายให้กิจกรรมอืน่ ๆ เชน่ งานยาเสพตดิ งานอนามยั งานแนะแนว
1.3 ผู้เรียน ขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ การจัดการเรียนการสอนของครู ไม่เน้น
ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ ผู้เรียนไม่มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ไม่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ไข
ปัญหาได้ รวมทัง้ ขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้
2. วสั ดุ ส่ือ อปุ กรณ์
2.1 ขาดแคลนวัสดุ สื่อ และอุปกรณ์สาหรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ทตี่ อ้ งใช้เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นไดล้ งมือปฏิบตั จิ ริง
2.2 ส่อื และเทคโนโลยี ไม่ตอบสนองต่อการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21
3. การบรหิ ารจัดการ
3.1 การขับเคลื่อนนโยบายการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของ
หน่วยงานการศึกษาระดับจังหวัด เช่น ศึกษาธิการจังหวัด สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ไม่ต่อเนื่อง
มีรูปแบบการดาเนินงานไม่ท่ีชัดเจนส่งผลให้ผู้บริหารสถานศึกษา ไม่ให้ความสาคัญของการจัด
การเรียนการสอนแบบ Active Learning ไม่มีการแลกเปล่ียนเรียนรู้การจัดการเรียนการสอนแบบ
Active Learning ในระดับต่าง ๆ
3.2 หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาขาดการส่งเสริมครูผู้สอนอย่างจริงจัง
โดยเฉพาะผู้ท่ีจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีผลงาน
เชิงประจักษ์เป็นที่ยอมรับ ให้มีความก้าวในอาชีพ สร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน มอบเกียรติบัตร
การพิจารณาความดีความชอบ เป็นต้น และขาดการพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนอย่างต่อเนื่อง
ดว้ ยวิธกี ารท่หี ลากหลาย เพ่อื สร้างแรงบนั ดาลใจ
3.3 การสนับสนุนด้านงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ให้กับสถานศึกษาเพื่อใช้
ในการจดั การเรียนการสอนเชงิ รุกไมเ่ พยี งพอตอ่ การจัดทาสอ่ื เพือ่ ให้ผู้เรยี นได้เรยี นรู้
134
3.4 การนิเทศ กากับ ติดตามการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning
ของครผู ้สู อนและผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาขาดความต่อเนือ่ งและเป็นระบบ
3.5 การขับเคล่ือนการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ผู้ตรวจราชการ
กระทรวงศึกษาธิการ นายไพศาล วุทฒิลานนท์ และ นายธีร์ ภวัคนันท์ ดาเนินการวิเคราะห์
แนวทางการขับเคล่ือน Active Learning เพอื่ พัฒนาทักษะแหง่ อนาคต นาเสนอดงั รปู ภาพที่ 20
ภาพที่ 20 แนวทางการขับเคล่อื น Active Learning เพื่อพฒั นาทกั ษะแหง่ อนาคต
1.3 ผลการศกึ ษาสภาพการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา
สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยการสอบถาม ประกอบด้วย หน่วยงานการศึกษาระดับจังหวัด
และสถานศกึ ษา ซง่ึ มีผลการศึกษา ดังนี้
ระดับหน่วยงานการศึกษาระดับจังหวัด ข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถาม ของหน่วยงาน
การศึกษาระดบั จังหวัด พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถาม จานวนท้ังส้ิน 465 คน ส่วนใหญ่ สังกดั สานักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และดารงตาแหน่งผู้บริหารการศึกษา จากการศึกษาพบว่า
สภาพการจัดเรียนการสอนแบบ Active Learning ของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
ของหน่วยงานการศึกษา ระดับจังหวัด ในภาพรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด ( x = 4.25) เมื่อพิจารณา
เป็นรายการ พบว่า รายการครสู ร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมและสง่ เสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์