pptการอบร รร ทู

การพฒั นาการจดั การเรยี นรู้ด้วย Active Learning
แบบ PBLสาหรับครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา

วนั ที่ 27 – 28 ตลุ าคม 2565
ณ หอ้ งประชุม โรงเรียนวัดหนองศาลา

รองศาสตราจารย์ ดร.กรัณย์พล วิวรรธมงคล
คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั กาญจนบรุ ี



การศึกษายคุ ใหม่ใช้ IT
เป็ นฐานการเรี ยนรู้

การศึกษายคุ ใหม่ครูเป็น
พี่เล้ียง ช้ีแนะ

หอ้ งเรียนสร้างสุข
นกั เรียนเป็นสาคญั

การสอนยคุ ใหม่ไม่เนน้ การทดสอบความรู้อยา่ งเดียว

และการสอนแบบบรรยาย





บทบาทสาคญั ในการเปล่ียนแปลงการศึกษา
กบั การพฒั นาปฏิรูปช้นั เรียน

1.การเพม่ิ ประสิทธิภาพองคก์ รใหเ้ กิดผลงานเชิงประจกั ษท์ ี่มีประสิทธิภาพ
สูงข้ึน
2.การเสริมสร้างความเขม้ แขง็ ของผทู้ าหนา้ ที่ครูในวชิ าชีพทุกช่วงวยั การ
ทางานเพอื่ ผเู้ รียนใหเ้ กิดการเรียนรู้บรรลุมาตรฐาน
3.การปฏิบตั ิงานบทพ้นื ฐานบริบทการทางานและการสร้างอตั ลกั ษณ์จากผนู้ า
องคก์ รทางการศึกษาใหเ้ กิดประสิทธิผลและการบูรณาการ

บทบาทผู้บริหารกบั การพฒั นาปฏิรูปช้นั เรียน ผา่ น วPA

1.กาหนดเป้าหมายการปฏิบตั ิงานแก่องคก์ ารใหเ้ กิดการพฒั นาในวชิ าชีพ
ที่เป็นรูปธรรมและเกิดข้ึนแก่ผเู้ รียนเพอ่ื ครูจะไดน้ าไปวเิ คราะห์สู่การ
สร้างเกณท่ีทา้ ทายไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และเกณฑท์ ี่ตน้ สงั กดั กาหนดไว้
2.จดั ทาแผนแผนกลยทุ ธ์และแผนพฒั นางานที่เหมาะสมกบั บริบทและ
สามารถวดั ไว้ รายงานผลไดเ้ ชิงรูปธรรมต่อหน่วยงานตน้ สงั กดั ได้
3.ประชุม สร้างความเขา้ ใจ ติดตามงาน ใชห้ ลกั การมีส่วนร่วมในการ
บริหารจดั การ ดว้ ยแนวทางของ PLC กบั บุคลากรในโรงเรียน

บทบาทผู้สอน กบั การพฒั นาปฏิรูปช้นั เรียน ผา่ น วPA

1.ศึกษาเป้าหมายการปฏิบตั ิงานแก่องคก์ ารใหเ้ กิดการพฒั นาในวชิ าชีพท่ีเป็น
รูปธรรมจาก ผอู้ านวยการกาหนดข้ึนแก่ผเู้ รียนเพอื่ จะไดน้ าไปวเิ คราะห์สู้การ
สร้างเกณท่ีทา้ ทายไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
2.ปฏิบตั ิงานวชิ าชีพครูตามบทบาทหนา้ ที่ท่ีเก่ียวขอ้ งและงานที่รับผิดชอบใน
องคก์ รของตนเองใหส้ อดคลอ้ งกบั บริบทและสามารถวดั ไว้ รายงานผลไดเ้ ชิง
รูปธรรมต่อสถานศึกษาได้
3.พฒั นาวชิ าชีพครู ดว้ ยหลกั การมีส่วนร่วมตามแนวทางของ PLC กบั เพอื่
สมาชิกครูในโรงเรียนเพ่ือตอบโจทยก์ ารพฒั นาของผบู้ ริหาร

ผอ.กาหนดนโยบาย กรอบดาเนินการ PLC
วจิ ยั ช้ันเรียน
ต้งั กลุ่ม PLC วเิ คราะห์ปัญหาและ กาหนดแนวทางใหม่ของ
เป้าหมายของโรงเรียน กลุ่มตามเป้าหมายองคก์ ร

สรุปผลของ นาไปใชแ้ ละเยย่ี มช้นั เรียน สร้างนวตั กรรม
กลุ่ม PLC ในการนาไปใชแ้ ละดูซ้า ๆ และแนวทาง
หลาย ๆ คร้ัง ประเมินผล
โรงเรียนสรุปผลตาม การสอน
เป้าหมายหรือประกวด และสะทอ้ นผล
หลงั การสอน
Best practice

การสอนที่ประสบความสาเร็จ

ครูกลา้ ท่ีจะเปลี่ยนตวั เองจากการสอนแบบเดิม ๆ

ครูกลา้ ที่จะคิดและลงมือปฏิบตั ิการสอนดว้ ยวธิ ีใหม่ ๆ
และบูรณาการใหเ้ ป็นไม่สอนเชิงเดี่ยว

ครูกลา้ แสดงออกโดยใชต้ วั เองเป็นส่ือการในการ
เรียนรู้ ไม่วางท่าในแบบเดิม ๆ ท่ีเป็นมา

ครูกลา้ ที่หลุดจากมโนทศั น์ท่ีเนน้ เน้ือหาเป็นฐาน

เทคนิคการจดั กิจกรรมแนวใหม่

มีเร่ืองเล่าเร้าพลงั ประกอบสาระการเรียนรู้
สาธิตตวั แบบจากตวั ครูสู่มุมมองนกั เรียน
เฝ้าเพยี รถามดว้ ยกลั ยาณมิตร
อทุ ิศเวลาแบบ ALขณะสอน

ผอ่ นการประเมินดา้ นความรู้

หนว่ ยก1ารเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้

1. อธิบายกระบวนการจัดการเรยี นรตู้ ามแนว AL

2. ตั้งเปา้ ความสาเรจ็ ของตนดว้ ยกระบวนพฒั นาวิชาชพี

มโนทศั นห์ ลัก

1. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ด้วยกระบวนการคดิ ข้นั สงู GPAS 5 ขั้นตอน

2. กาหนดวัตถุประสงค์การจดั การเรียนรดู้ ้วยกระบวนการคดิ ขัน้ สงู GPAS 5 ข้นั ตอน
ดา้ นสตปิ ัญญา (Cognitive : K) ดา้ นอารมณ์ (Affective : A) และ ดา้ นทกั ษะปฏบิ ตั ิ (Psychomotor : S)
3. การประเมนิ ผลสัมฤทธน์ิ ักเรียนทีม่ ุ่งเน้นการเรียนรู้เปน็ สาคัญ (Assessment is for Learning)

กระบวนการเรยี นรู้

1. สะท้อนความกา้ วหน้าทางวิชาชีพของครู กับการคดั สรรกิจกรรมการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 ผา่ นการวเิ คราะห์

2. แลกเปลยี่ นเรยี นรแู้ ละวเิ คราะห์กระบวนการคิดขน้ั

ประเมินการเรยี นรู้

1. วเิ คราะห์เนอื้ หาจากการอภปิ รายระหวา่ งทากจิ กรรม
2. ใบงานประจาหนว่ ยการเรยี นรู้

รว่ มมอื รวมพลงั ครสู ่กู ารสร้างมโนทศั นท์ ่ีถกู ต้อง

การวดั และประเมินผลตาม
ตวั ชีว้ ดั

วงจรการจดั การเรียนรู้ ACTIVE LEARNING

ACTIVE LEARNING

O มาตรฐานการเรียนรู้

E L

การประเมินผล การจดั การเรียนรู้ AL

การวเิ คราะห์ลกั ษณะตวั ช้ีวดั สู่การประเมินผลช้นั เรียน

K แบบทดสอบ, ใบ การวดั โดยนบั

กิจกรรม,แบบฝึ ก หน่วยคะแนน

(การบา้ น) ใบกิจกรรม

P การปฏิบตั ิ,การลงมือ,การ การวดั โดยการสงั เกต

เคล่ือนไหว การทางาน พฤติกรรม

เป็ นทีม.....

ความตระหนกั การ การวดั โดยการสงั เกต

A เห็นคุณค่า รักษค์ วาม พฤติกรรม

เป็ นไทย [email protected]

ลักษณะของพฤติกรรมการเรียนรู้ ทปี่ รากฏ ในมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั

ดา้ นความรู้ ( K ) ด้านทกั ษะและกระบวนการ ( P:S ) ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ( A )

1.ที่เป็น ข้อเทจ็ จริง 1.ทกั ษะการสอ่ื สาร ไดแ้ ก่ การฟงั , 1.คนดี คอื มจี ิตใจทดี่ ีงาม มี
พดู , อา่ น , เขยี น คุณธรรม เชน่ มีวนิ ยั มเี หตผุ ล
2.ท่ีเป็น ความคิดรวบยอด
2.ทักษะและกระบวนการทางาน 2.คนเก่ง คอื มคี วามสามารถด้าน
3.ที่เปน็ กระบวนการ เช่น ใดด้านหนงึ่ หรือรอบด้าน เชน่ มี
ความรู้ในวิธีการเขียนรายงาน 2.1) ทักษะและกระบวนการ ทางคณติ ศาสตร์ ความคิดสร้างสรรค์ เป็นคน
2.2) กระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ ทนั สมยั
4.ทีเ่ ป็น อภิปญั ญา (ความรู้ 2.3) กระบวนการวธิ กี าร ทางประวตั ศิ าสตร์
2.4) กระบวนการ ทางภมู ศิ าสตร์ 3.คนมีความสุข คือ สขุ ภาพ
ทเ่ี ก่ียวกบั ทกั ษะการคิด 2.5) กระบวนการ คิดแก้ปัญหา กาย สขุ ภาพจิตดี
กระบวนการคิดของตนเอง ,ยุทธวธิ ี 2.6) กระบวนการ ใช้เทคโนโลยี
การจา ,การแสวงหาความร)ู้ 2.7) ทกั ษะการ ปฏบิ ตั ิงาน

พฤตกิ รรมทป่ี รากฎในตวั ชี้วดั และการพฒั นนา

ด้านความรู้ ความคิด(K) ด้านทักษะ(S)/กระบวนการ(P) ด้านคุณลักษณะ(A)

❖ จำ ❖ การรับรู้(ในสิ่งท่ีตอ้ งการใหท้ า) ❖ การรบั รู้ (ค่านิยมทต่ี ้องการจะปลูกฝัง)
❖ เขำ้ ใจ ❖ การทาตามโดยมีแบบ ❖ ตอบสนอง (สนใจแลว้ มีโอกาสไดต้ อบสนอง)
❖ นำไปใช้ ❖ การทาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ❖ เห็นคณุ ค่า(ทาให้มเี จตคติทด่ี ตี ่อคา่ นิยมนนั้ )
❖ วิเครำะห์ ❖ การทาถกู ตอ้ งไดห้ ลากหลายรูปแบบ ❖ จัดระบบ (เข้ามาอยู่ในระบบคา่ นิยมของตน)
❖ สร้างคณุ ลักษณะ(ปฏบิ ตั ติ ามคา่ นยิ มนนั้ จน
❖ ประเมินคำ่
❖ การทาไดอ้ ยา่ งเป็นธรรมชาติ เป็นนสิ ัย)

❖ สรำ้ งสรรค์ 1.วัดกระบวนการทางาน , วัดผลผลติ ภาระงาน/ 1.แบบสงั เกต
2. แบบสารวจความสนใจ
แบบทดสอบ/ใบกิจกรรม ชนิ้ งาน /นวตั กรรมจาการเรียนรู้/ทักษะเฉพาะ 3. แบบสอบถามความคดิ เห็น
ศาสตร์
ตคี ่าคะแนน 0 1 4. แบบสมั ภาษณ์
2. เกณฑก์ ารให้คะแนน 3 4 5 ระดับ
แบบรบู ริคประเมินระหวา่ งเรยี น/ส้ินสุดการเรยี นรู้ แบบรบู รคิ ประเมนิ ระหวา่ งเรยี น
20

การกาหนดวตั ถุประสงค์
ด้านความรู้ (Knowledge) ตามแนวคดิ บลูม

พฤติกรรม

ความรู้ความจา

คากริยา

บอก นิยาม ระบุ ช้ีบอก แปล กาหนด กาหนดรายการ ใชจ้ าแนก จดั ประเภท
แสดง สรุปประเดน็ สรุปสาระ บ่งบอก ยกตวั อยา่ ง คานวณ

เง่ือนไข - ขอบเขต

ความหมาย คาจากดั ความ ลกั ษณะ สูตร ช่ือ ขนาด จานวน วนั เวลา สถานท่ี บุคคล รูปแบบ
สัญลกั ษณ์ กฎ ระเบียบ แบบแผน แบบฟอร์ม ลาดับข้นั ข้นั ตอน กระบวนการ ชนิด ประเภท
เกณฑ์ ข้อกาหนด ข้อคดิ ขอบเขต องค์ประกอบ เหตุผล ข้อสรุป ความสาคญั ทฤษฎี หลกั การ
วธิ ีการ โครงสร้าง บทบาท หน้าที่

•สามารถบอกสูตรการคานวณหาคา่ แรงและการเคลื่อนท่ีได้
•สามารถบอกเครื่องดนตรีที่อยใู่ นปี พาทยม์ อญวงเลก็ ได้
•สามารถยกตวั อยา่ งการใชช้ ีวติ แบบพอเพยี งได้

พฤติกรรม

ความเขา้ ใจ

คากริยา

แปลความหมาย ถอดความ สรุปเร่ือง อธิบาย บรรยาย ชี้แจง คาดคะเน
พยากรณ์ ทานาย ตีความ ขยายความ ยกสถานการณ์ เปรียบเทียบ

เงื่อนไข - ขอบเขต

คา ข้อความ วลี ประโยค เรื่อง ลกั ษณะ ท่าทาง อาการ พฤตกิ รรม สาระ
เหตุการณ์ สถานการณ์ เรื่องราว ข้อเทจ็ จริง บทบาท หน้าที่ รูปแบบ ภาพ
แผนผงั กราฟ สัญลกั ษณ์ การทดลอง

• สามารถถอดคาประพนั ธ์/แปลความหมายของคาประพนั ธ์เร่ือง
สามคั คีเภทคาฉนั ทไ์ ด้

• สามารถนาเสนอบทบาทหนา้ ที่นกั การเมืองในทอ้ งถิ่นได้

• สามารถยกตวั อยา่ งประโยค Present Simple Tense ได้

พฤติกรรม

การนาไปใช้

คากริยา

คานวณ เลือก ค้นหา ใช้ บอก ระบุ กาหนด สร้าง จัดทา ปฏบิ ตั ิ ยกตัวอย่าง
จริง แก้ปัญหา ดดั แปลง เปลยี่ นแปลง สาธิต เตรียม แสดง เรียบเรียง

เง่ือนไข - ขอบเขต

หลกั วชิ า คาตอบ ข้อมูล ตวั อย่างจริง ขอบข่าย ผลลพั ธ์ วธิ ีการ การปฏบิ ัติ
การกระทา ข้นั ตอน ผลสาเร็จ โจทย์ปัญหา ทฤษฎี หลกั เกณฑ์ เงื่อนไข
เหตุผลการปฏบิ ตั ิ ข้อยกเว้น กระบวนการ

• สามารถคน้ หาขอ้ มูลเกี่ยวกบั กระบวนการทาเกษตรทฤษฎีใหม่ได้
• สามารถแสดงข้นั ตอนการแกโ้ จทยป์ ัญหาตามท่ีกาหนดจากสถานการณ์
จริงได้
• สามารถแสดงกระบวนการทาขนมไทยที่ตนเองสนใจได้ 1 ชนิด

พฤติกรรม

การวิเคราะห์

คากริยา

บอก ค้นหา ระบุ บ่งบอก เปรียบเทยี บ แยกแยะ จาแนก จัดประเภท คดั เลือก ให้เหตุผล
สรุปสาระสาคญั วจิ ารณ์

เง่ือนไข - ขอบเขต

ชนิด ประเภท หน้าที่ ลกั ษณะ จุดมุ่งหมาย เลศนัย ความสาคญั กฎเกณฑ์ สาระสาคญั
หลกั การ ระบบ โครงสร้าง ข้อสรุป สาเหตุ ผลทเี่ กดิ เหตุผล ต้นตอ ความสัมพนั ธ์ ความ
สอดคล้อง ความเหมือน ความต่าง ความเกยี่ วข้องอทิ ธิพล ข้อบกพร่อง ข้อผดิ พลาด
ความขัดแย้ง ข้อเทจ็ จริง เหตุการณ์ องค์ประกอบ

•สามารถเปรียบเทียบโครงสร้างพืชกบั โครงสร้างสตั วไ์ ด้

•สามารถความแตกต่างระหวา่ งกีฬาประเภทลู่กบั ประเภทลาน
ได้

•สามารถระบุความสมั พนั ธ์ของสถาบนั ครอบครัวได้

พฤติกรรม

การสงั เคราะห์

คากริยา

สรุปความ เสนอแนะ แสดง ผลติ เขยี น สร้าง แก้ไข ปฏบิ ัติ ประดษิ ฐ์ วางแผน
วางโครงการ จัดรวม อนุมาน อปุ มาน โต้วาที ต้ังสมมตฐิ าน อภปิ ราย ค้นคว้า เรียบเรียง
นาเสนอ คาดคะเน

เง่ือนไข - ขอบเขต

ข้อความ บทวจิ ารณ์ เรียงความ ข้อคดิ เห็น เค้าโครง โครงการ การแสดงออก ท่าทาง
การค้นคว้า งาน เรื่องราว ข้อสรุป การอ้างองิ ความสัมพนั ธ์ ทฤษฎี โครงสร้าง
แผนงาน ภาพ แผนผงั กราฟ การทดลอง

•สามารถเขียนเรียงความเรื่องท่ีตนเองสนใจได้ 1 บทความ

•สามารถจดั ทาแผนผงั มโนทศั น์จากการเรียนเร่ือง......ไดด้ ว้ ย
กระบวนการกลุ่ม

•สามารถจดั เรียงโครงสร้างชุมชนจากการศึกษาลงพ้ืนท่ีได้

พฤติกรรม

การประเมินคา่

คากริยา

สรุป วนิ ิจฉยั โตแ้ ยง้ ติชม ประเมิน พิจารณา ตดั สิน ตีราคา วพิ ากษว์ ิจารณ์ บอกเกณฑ์

เง่ือนไข - ขอบเขต

ขอ้ มูล เร่ืองราว คุณค่า เกณฑ์ มาตรฐาน ขอ้ เทจ็ จริง ความถูกตอ้ ง ความเช่ือถือได้ ความ
เหมาะสม เหตุการณ์ ประสิทธิภาพ ความเด่นนอ้ ย การปฏิบตั ิ เหตุผลการปฏิบตั ิ

•สามารถวนิ ิฉยั เหตุการณ์การฆ่าเสือดา กรณีศึกษาทุ่งใหญ่นเรศวรได้
•สามารถพจิ ารณาประสิทธิภาพของการตลาดชุมชนท่ีศึกษาได้
•สามารถกาหนดเกณฑป์ ระสิทธิภาพของการปฏิบตั ิงานโครงงานได้

กจิ กรรมเสริมสร้างองค์ความรู้
หน่วยท่ี 1



ผลการเรยี นรู้

1. อธิบายแนวคิด PBL ได้ถกู ตอ้ ง
2. ศกึ ษาสบื ค้นวธิ กี ารจดั การเรียนร้ตู ามแนว PBL

หนว่ ยการเรยี นรู้ มโนทศั นห์ ลัก

2 1. กระบวนการจัดการเรยี นรูด้ ว้ ยกระบวนการคดิ ขนั้ ตอน
2. กาหนดวตั ถุประสงค์การจดั การเรยี นรู้ดว้ ยกระบวนการคดิ ข้ันสงู
ด้านสติปัญญา (Cognitive : K) ด้านอารมณ์ (Affective : A) และ ด้านทกั ษะปฏิบัติ (Psychomotor : S)

3. การประเมนิ ผลสมั ฤทธิ์นักเรยี นที่มุง่ เน้นการเรยี นรู้เปน็ สาคญั (Assessment is for Learning)

กระบวนการเรียนรู้

1. สะทอ้ นความก้าวหน้าทางวชิ าชพี ของครู กับการคัดสรรกิจกรรมการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ผา่ นการวิเคราะห์
กระบวนการคดิ ขั้นสูง

2. แลกเปลย่ี นเรียนรูแ้ ละวเิ คราะห์กระบวนการคิดขน้ั สูง

ประเมนิ การเรียนรู้

1. วิเคราะหเ์ นื้อหาจากการอภปิ รายระหวา่ งทากจิ กรรม
2. ใบงานประจาหน่วยการเรยี นรู้

ร่วมมือรวมพลงั ครูส่กู ารสร้างมโนทศั น์ที่ถกู ตอ้ ง





00 แผนภาพ 00
00 กา0ร0คิด 00
00 00
00 00 00 00
00
00



แนวคิด PBL

แนวทางการเรียนรู้ท่ีให้ผูเ้ รยี นได้ลง
มือปฏิบตั ิจนเกิดองค์ความร้ใู หมจ่ าก
การเรียนรู้ ซง่ึ อาจเป็นนวัตกรรม
จากการเรยี นรไู้ ด้

องคป์ ระกอบการเรยี นรู้ PBL





Project Based Learning Project Based Learning

เ ริ่ ม ต้ น ด้ ว ย ก า ร ก า ห น ด เริ่มต้นด้วยการกาหนดปัญหา

ประเด็น การแก้ปัญหา/พัฒนา ที่เกิดข้ึน ให้ผู้เรียนได้ออกแบบ

ดาเนินการวางแผนการปฏิบัติ และเรียนรู้ หากลวิธีให้ในการ

อยา่ งเป็นกระบวนการ มีข้ันตอน แก้ปัญหาและตอบโจทย์ด้วย

การเรียนรู้ที่ชัดเจนและมีองค์ วิ ธี ก า ร ท่ี ห ล า ก ห ล า ย โ ด ย มี

ความรู้ท่ไี ดจ้ ากการศึกษา ซ่ึงอาจ จุ ด เ น้ น ที่ แ ก้ ปั ญ ห า ด้ ว ย

มาจากปัญหา ผลลัพธ์อาจเป็น กระบวนการและเน้นผลลัพธ์ที่

กระบวนการ กระบวนการเปน็ สาคัญ

ผลทีเ่ กิดจากการเรียนรู้ PBL

ได้รูบ้ ทบาทการทางานเปน็ ทมี
ร่วมพลงั ในการเรยี นรศู้ ึกษางาน

ตามบรรลเุ ปา้ หมาย

ชว่ ยเติมเต็มซ่ึงกันและกัน
ระหว่างครูและนักเรียน
และนักเรยี นกบั นักเรยี น

ผลทเ่ี กิดจากการเรียนรู้จาก PBL

ได้รจู้ กั การยอมรบั ความสาเร็จใน
การศึกษาตามเปา้ หมายของ
การเรียนรู้

ช่วยฝึกให้มองเหน็ การทางาน
ตามเปา้ หมายและทางาน
เป็นระบบ

หลกั คดิ การเรียนรู้ PBL

สร้างสรรค์ส่ิงใหม่
แก้ไขปัญหา
ดารงรักษาสิ่งท่ดี ีงาม

Problem Baesd Learning
Project Baesd Learning