The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by siriwut2555, 2022-06-05 13:24:36

แผนการสอนกีฬา มวยไทย เทอม 2 ปี 64

แผนมวยไทย_merged

 การริเรม่ิ สร้างสรรค์และการเป็นตัวของตวั เอง

 ทกั ษะสงั คม และสงั คมข้ามวฒั นธรรม

 การเปน็ ผสู้ ร้างหรอื ผผู้ ลติ และความรบั ผิดชอบเชื่อถือได้

 ภาวะผู้นาและความรับผดิ ชอบ

คณุ ลกั ษณะสาหรบั ศตวรรษท่ี 21

 คุณลกั ษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตวั ความเป็นผ้นู า

 คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง

 คณุ ลักษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ เคารพผู้อน่ื ความซื่อสัตย์ สานกึ พลเมือง

การวัดผลประเมนิ ผลการเรียนรู้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เคร่ืองมอื วัด เกณฑ์การผ่าน

ดา้ นความรู้ วัดความรู้ความเข้าใจ ประวตั ิ แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ ผลการ

( K ; Knowledge) ความเปน็ มา ประโยชน์ ทดสอบก่อนเรียนและหลงั

มารยาทการเล่น และการดู เรียน

กีฬามวยไทย ทาได้ 8 - 10 คะแนน

เกณฑ์ ดีมาก

ทาได้ 6 - 7 คะแนน

เกณฑ์ ดี

ทาได้ 4 - 5 คะแนน

เกณฑ์ พอใช้

ทาได้ 0 - 3 คะแนน

เกณฑ์ ต้องปรับปรงุ

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ สังเกตการณป์ ฏบิ ัตทิ กั ษะมวย แบบสังเกตการณ์ การวดั และประเมินผลด้าน

(P ; Process ) ไทย และการนาไปใช้ รายงานผล ทกั ษะกระบวนการ การปฏบิ ัติ

การคิดเชงิ ระบบ การคิดอยา่ ง

มวี ิจารณญาณ

1. สงั เกตการณ์นาเสนอ

รายงานผลสรปุ หนา้ ชนั้ เรียน

2. ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงาน

3. สังเกตจากการมีส่วนร่วม

จากการปฎบิ ัตกิ ิจกรรม

เกณฑ์การประเมนิ

คา่ คะแนน 3 หมายถึง

ปฏิบัตกิ ิจกรรม ดี

ค่าคะแนน 2 หมายถงึ

ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ปานกลาง

ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึง สงั เกตการณเ์ ข้าร่วมกิจกรรม ค่าคะแนน 1 หมายถึง
ประสงค์ ตามกระบวนการกลุ่ม ปฏิบตั ิกิจกรรม ควรปรบั ปรุง
( A ; Attitude ) การแปลผลคะแนน
ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดีมาก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ต้องปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตการณเ์ ข้า การวดั และประเมนิ ผลด้าน
ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม
และลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
จากพฤติกรรมการแสดงออก
ความรสู้ ึก และการปฏบิ ตั ติ น
ในการรว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
1.สังเกตจากการทางานเป็น
กลุ่ม ความรับผิดชอบ การ
แขง่ หน้าท่ี ในการทางานการ
รบั ฟังความคดิ เห็น การทางาน
ท่ีไดร้ บั มอบหมาย ความเปน็
ประชาธปิ ไตย
2.สังเกตพฤตกิ รรม การตรง
ต่อเวลา ความรบั ผดิ ชอบ
ความต้ังใจเรยี น ความอดทน
ความรว่ มมือ
เกณฑ์การประเมนิ
ค่าคะแนน 3 หมายถึง
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ดี
คา่ คะแนน 2 หมายถงึ
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ปานกลาง
ค่าคะแนน 1 หมายถงึ
ปฏบิ ัติกจิ กรรม ควรปรบั ปรุง
การแปลผลคะแนน

ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดมี าก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ต้องปรับปรุง

บันทึกผลหลงั สอน แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 6

ผลการเรยี นรู้
1. กจิ กรรมการเรยี นการสอนทกี่ าหนดไว้ในแผนการจดั การเรียนรู้ เป็นกจิ กรรมท่ีเหมาะสมกับวยั ของ

ผ้เู รียนและเหมาะสมกับสาระการเรยี นรู้ สามารถจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน
 ได้ตามเวลาที่กาหนดทกุ กิจกรรม
 ไมท่ ันตามเวลาที่กาหนดในกจิ กรรม เน่ืองจาก...............................................................................
2. การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนคร้ังน้ี นกั เรียนทุกคนได้รว่ มกจิ กรรมและเรยี นรอู้ ย่างมีความสุข
3. กิจกรรมชว่ ยใหผ้ ูเ้ รียนมีความร้คู วามเข้าใจตรงตามสาระการเรยี นรู้ เกิดคณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์

และมีทักษะกระบวนการตามทจี่ ดุ ประสงค์กาหนด
4. สอ่ื การเรยี นการสอนทก่ี าหนดในแผนการจดั การเรียนรู้ ได้ใชส้ อื่ หลายอยา่ ง เปน็ สอ่ื ที่เหมาะสมกบั

วัยผู้เรยี น สอดคล้องกับเน้ือหา สามรถใช้ประกอบการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ชว่ ย
ใหผ้ ู้เรียนเรียนร้อู ย่างสนุกสนานและเขา้ ใจบทเรยี นได้เรว็ ยิ่งข้ึน

5. การวดั ผลประเมนิ ผล ในการจัดการเรียนการสอนคร้งั น้ี ครอบคลุมพฤติกรรมตามจุดประสงค์
การเรียนรู้ที่กาหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ ผลการวดั ผลและประเมินผลสรปุ ได้ ดงั น้ี :-

5.1 ดา้ นความรูค้ วามเข้าใจ (A)
นกั เรียนผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรขู้ อ้ ท่ี .............
นกั เรยี นทผ่ี ่านจดุ ประสงคต์ ามเกณฑ์รอ้ ยละ................. จานวน..............คน
เลขที่ ........................................... คิดเปน็ ร้อยละ..................................
- นกั เรยี นทไ่ี ม่ผา่ นจุดประสงค์ จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คดิ เปน็ ร้อยละ
และไดด้ าเนินการแก้ปญั หา คือ
 สอนเสรมิ  มอบงานใหท้ าเพ่ิมเติม ทารายงาน  อ่นื ๆ................

5.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)
นักเรยี นที่ผา่ นทักษะกระบวนการตามเกณฑ์รอ้ ยละ................. จานวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเปน็ ร้อยละ..................................
- นกั เรียนที่ไม่ผ่านทักษะกระบวนการ จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คดิ เปน็ ร้อยละ
และไดด้ าเนินการแกป้ ญั หา คือ ............................................................................

5.3 ด้านค่านยิ ม (A)
- นักเรียนท่มี ีคา่ นิยมตามเกณฑ์ร้อยละ จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเปน็ รอ้ ยละ ......................................
- นักเรียนท่ตี ้องปรบั เปลย่ี นค่านยิ ม จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเป็นรอ้ ยละ .......................................
และไดด้ าเนนิ การปรับเปลย่ี นค่านิยม (แจงรายละเอียด ของการปรับเปลย่ี น
ค่านิยม คือ ......................................................................................................

ปัญหาและอปุ สรรค

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แนวทางการแก้ไขปัญหา

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................ครผู สู้ อน
(นายสิริวฒุ ิ ชสู วุ รรณ)

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7

วิชาพลศกึ ษา (พ 33102) ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 ชื่อหน่วย การเคล่ือนไหว จานวน 1 ชั่วโมง

เรอ่ื งย่อยท่ี 7 เรื่อง การเคล่ือนไหว เวลา 1 ชว่ั โมง

*********************************************

มาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ 3 การเคลอ่ื นไหวการออกกาลงั กาย เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ 3.1 : เขา้ ใจมที ักษะ การออกกาลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทยและกีฬาสากล

มาตรฐาน พ 3.2 : รกั การออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ัตเิ ป็นประจาอยา่ ง

สมา่ เสมอ มวี ินยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี ้าใจนกั กฬี า มจี ิตวิญญาณในการแข่งขนั และชื่นชมในสุนทรียภาพ

ของการกีฬา

สาระสาคญั

มุ่งเนน้ ให้ผ้เู รียนมีความคล่องตวั ในการเคลือ่ นไหวทั้งรุก คืบหนา้ และถอยหลงั ขณะเดียวกันก็

เตรยี มพร้อมทจี่ ะออกอาวธุ ได้ทกุ ขณะและสามารถปอ้ งกันอาวธุ ค่ตู อ่ สไู้ ดท้ ันทว่ งที สว่ นในการก้าวย่างสามขุม

สามารถใชห้ ลบหลกี และป้องกนั หรอื ใช้ในการรุกอยา่ งมีประสิทธิภาพ เพราะการฝึกการย่างสามขุมเป็นการ

ฝึกฝนทช่ี ว่ ยในการเบ่ียงตัวให้แคบเปน็ เปา้ เลก็ ในการต่อสู้ และชว่ ยให้รจู้ กั การกา้ ว พร้อมที่จะใชแ้ ม่ไม้มวย

ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้

1. วเิ คราะหค์ วามคดิ รวบยอดเกยี่ วกับการเคล่ือนไหวรูปแบบต่างๆ ในการเลน่ กีฬา

2. แสดงการเคลอ่ื นไหวได้อย่างสรา้ งสรรค์

3. รว่ มกจิ กรรมทางกายและเล่นกฬี าอย่างมีความสุข ชน่ื ชมในคณุ ค่าและความงามของการกีฬา

จุดประสงค์การเรียนรู้

ดา้ นความรู้ ( K ; Knowledge) :

1. ซักถามเก่ยี วกบั ข้อตกลงในการเรียนการสอน วชิ าพลศกึ ษา (มวยไทย) พ 33102

2. ครตู ัง้ คาถามเก่ียวกบั เร่ืองทีน่ ักเรยี นนาเสนอ

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P ; Process ) :

1. สงั เกตการปฏบิ ัติทกั ษะมวยไทย

2. ประเมินผลการปฏิบตั ทิ ักษะมวยไทย

3. สงั เกตจากการมสี ว่ นรว่ ม การให้ความสนใจในระหวา่ งปฏิบตั ทิ ักษะ

ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ( A ; Attitude ) :

1. สงั เกตพฤตกิ รรมท่แี สดงออกทางด้านเจตคติ และคุณลักษณะทีด่ ีในชน้ั เรียนได้แก่ การตรงตอ่ เวลา

ความรบั ผดิ ชอบ การมนี าใจ

2. สงั เกตจากการทางานเปน็ กลุ่ม ความรบั ผิดชอบ การแบง่ หนา้ ท่ีในการทางาน การรับฟังความคิดเหน็

ของเพ่อื น ความเปน็ ประชาธปิ ไตย

สาระการเรียนรู้/เน้ือหา
1. นักเรียนสามารถปฏิบตั ิการเคลื่อนไหวต่างๆไดถ้ ูกต้อง
2. นกั เรยี นสามารถอธิบายขนั้ ตอนการรกุ และถอยรับได้อย่างถูกตอ้ ง
3. นกั เรยี นตั้งใจและให้ความรว่ มมอื ในการปฏิบัติกิจกรรมอย่างมีระเบียบวินัย
4. นกั เรียนสามารถนาความรทู้ เี่ รยี นไปถา่ ยทอดใหผ้ ู้อ่ืนได้

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นา / ข้ันเตรยี ม ( 5 นาที )
1.1 นักเรยี นเข้าแถวตอน กลุ่มละ 5 คน 8-9 แถว สารวจรายชือ่ สุขภาพ และเคร่อื งแต่งกาย ของนกั เรียน
ทุกคน








 ครู นกั เรยี น

1.2 ครแู จง้ หน่วยการเรยี นรู้ และจุดประสงค์การเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ
1.3 ใหน้ ักเรียนอบอุน่ ร่างกาย
ขนั้ สอน ( 10 – 15 นาที )
2.1 ใหน้ กั เรียนน่ังลง ดูครสู าธิต
2.2 ครอู ธบิ ายพร้อมสาธติ และอธบิ ายการเคลื่อนเปน็ จงั หวะ

-การยา่ งสามขุม
-การย่างสุขเกษม
ขั้นฝกึ ปฏิบัติ ( 10 - 15 นาที )
3.1 ใหน้ ักเรยี นปฏิบัติตามท่ีครสู าธติ ได้ดูโดยครเู ปน็ ตน้ เสยี งในการใหค้ าส่งั
-การยา่ งสามขุม
-การยา่ งสขุ เกษม
3.2 เปา่ นกหวดี ส่ัง พรอ้ มเดนิ ตรวจสอบนกั เรียนท่ีปฏบิ ัติไมถ่ ูกต้องพร้อมแก้ไขทนั ทีเพื่อไม่ให้นักเรียน
เกดิ การจาในสง่ิ ที่ผิด
3.3 ใหน้ ักเรยี นปฏบิ ตั เิ ปน็ แถวๆละ 8 คน/รอบ

ขนั้ นาไปใช้ ( 8 – 10 นาที )
4.1 ให้นักเรยี นนาทักษะการเคลื่อนไหวทงั้ 2 แบบมาประยุกตก์ ับการรุกและการถอย

-การรุกและถอยเป็นเส้นตรง
-การรกุ และถอยเปน็ ฉาก
ข้นั สรปุ ( 3 – 5 นาที )
5.1 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสรปุ ทกั ษะที่ไดร้ ับจากการศกึ ษาในวันนตี้ ลอดจนเปิดโอกาสให้
นักเรียนซักถามและตอบคาถาม ถา้ นักเรยี นไม่เขา้ ใจครูชว่ ยอธิบาย และให้คานาเสนอแนะ
5.2 ใหน้ ักเรยี นคลายอนุ่ ร่ายกาย
5.3 นกั เรียนทุกคนสารวจความเรียบรอ้ ยของช้นั เรยี น เครอ่ื งแต่งการ ความสะอาดของชน้ั เรียน
สอ่ื -แหล่งเรยี นรู้
1. สอ่ื สง่ิ พิมพ์ เชน่ แผน่ พบั วารสารที่เกย่ี วกบั การออกกาลังกาย กีฬามวยไทย
2. เวบ็ ไซน์เก่ยี วกบั กฎ กติกา กีฬามวยไทย
3. ห้องสมดุ โรงเรียนสเิ กาประชาผดงุ วิทย์
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
 1. ความสามารถในการคิด
นักเรยี นสามารถวิเคราะห์ จดจาท่าทางการไหว้ครู แมไ่ ม้มวยไทยต่างๆ และสามารถออกแบบการใช้
มวยไทยในเชงิ การแสดงศิลปะการต่อสูไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม สวยงาม
 2. ความสามารถในการส่ือสาร
นกั เรยี นอธิบาย แนะนาทักษะกีฬามวยไทยให้ผอู้ นื่ เข้าใจได้อย่างถูกต้อง และสามารถสอนทกั ษะกีฬา
มวยไทยให้แก่ผูอ้ ื่นได้อยา่ งถูกตอ้ ง
 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
นักเรยี นรู้จักแกไ้ ขปัญหา ดัดแปลง ทกั ษะมวยไทยไปใช้ในทักษะอย่างอนื่ ไดอ้ ย่างสมบรู ณ์แบบ
 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
นกั เรียนนาความรู้ทางดา้ นทักษะกีฬามวยไทยไปปรบั ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างถูกตอ้ ง
 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
นกั เรยี นมคี วามสามารถในการสบื ค้นหาขอ้ มลู ใน goggle ตามท่ีครมู อบหมายได้
จดุ เนน้ สู่การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ทกั ษะศตวรรษที่ 21
 การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)
 ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)
 ทักษะด้านความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทีม และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and
Leadership)
 ทักษะด้านการสอื่ สารสนเทศ และร้เู ท่าทันส่อื (Communications, Information, and Media
Literacy)
ทักษะดา้ นชีวติ และอาชพี
 ความยืดหยุน่ และการปรับตวั

 การริเรม่ิ สร้างสรรค์และการเป็นตัวของตวั เอง

 ทกั ษะสงั คม และสงั คมข้ามวฒั นธรรม

 การเปน็ ผสู้ ร้างหรอื ผผู้ ลติ และความรบั ผิดชอบเชื่อถือได้

 ภาวะผู้นาและความรับผดิ ชอบ

คณุ ลกั ษณะสาหรบั ศตวรรษท่ี 21

 คุณลกั ษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตวั ความเป็นผ้นู า

 คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง

 คณุ ลักษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ เคารพผู้อน่ื ความซื่อสัตย์ สานกึ พลเมือง

การวัดผลประเมนิ ผลการเรียนรู้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เคร่ืองมอื วัด เกณฑ์การผ่าน

ดา้ นความรู้ วัดความรู้ความเข้าใจ ประวตั ิ แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ ผลการ

( K ; Knowledge) ความเปน็ มา ประโยชน์ ทดสอบก่อนเรียนและหลงั

มารยาทการเล่น และการดู เรียน

กฬี ามวยไทย ทาได้ 8 - 10 คะแนน

เกณฑ์ ดีมาก

ทาได้ 6 - 7 คะแนน

เกณฑ์ ดี

ทาได้ 4 - 5 คะแนน

เกณฑ์ พอใช้

ทาได้ 0 - 3 คะแนน

เกณฑ์ ต้องปรับปรงุ

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ สังเกตการณป์ ฏบิ ัตทิ กั ษะมวย แบบสังเกตการณ์ การวดั และประเมินผลด้าน

(P ; Process ) ไทย และการนาไปใช้ รายงานผล ทกั ษะกระบวนการ การปฏบิ ัติ

การคิดเชงิ ระบบ การคิดอยา่ ง

มวี ิจารณญาณ

1. สงั เกตการณ์นาเสนอ

รายงานผลสรปุ หนา้ ชนั้ เรียน

2. ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงาน

3. สังเกตจากการมีส่วนร่วม

จากการปฎบิ ตั กิ ิจกรรม

เกณฑ์การประเมนิ

คา่ คะแนน 3 หมายถึง

ปฏิบัตกิ ิจกรรม ดี

ค่าคะแนน 2 หมายถงึ

ปฏิบตั กิ ิจกรรม ปานกลาง

ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึง สงั เกตการณเ์ ข้าร่วมกิจกรรม ค่าคะแนน 1 หมายถึง
ประสงค์ ตามกระบวนการกลุ่ม ปฏิบตั ิกิจกรรม ควรปรบั ปรุง
( A ; Attitude ) การแปลผลคะแนน
ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดีมาก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ต้องปรบั ปรุง
แบบสงั เกตการณเ์ ข้า การวดั และประเมินผลด้าน
ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม
และลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
จากพฤติกรรมการแสดงออก
ความรสู้ ึก และการปฏบิ ตั ิตน
ในการรว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
1.สังเกตจากการทางานเป็น
กลุ่ม ความรับผิดชอบ การ
แขง่ หน้าท่ี ในการทางานการ
รบั ฟังความคดิ เห็น การทางาน
ท่ีไดร้ บั มอบหมาย ความเปน็
ประชาธปิ ไตย
2.สงั เกตพฤตกิ รรม การตรง
ต่อเวลา ความรบั ผดิ ชอบ
ความต้ังใจเรยี น ความอดทน
ความรว่ มมือ
เกณฑ์การประเมนิ
ค่าคะแนน 3 หมายถึง
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ดี
คา่ คะแนน 2 หมายถงึ
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ปานกลาง
ค่าคะแนน 1 หมายถงึ
ปฏบิ ัติกจิ กรรม ควรปรบั ปรุง
การแปลผลคะแนน

ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดมี าก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ต้องปรับปรุง

บนั ทกึ ผลหลงั สอน แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7

ผลการเรียนรู้
1. กจิ กรรมการเรยี นการสอนทก่ี าหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ เปน็ กจิ กรรมท่ีเหมาะสมกบั วัยของ

ผเู้ รยี นและเหมาะสมกบั สาระการเรยี นรู้ สามารถจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน
 ไดต้ ามเวลาที่กาหนดทกุ กิจกรรม
 ไมท่ นั ตามเวลาท่ีกาหนดในกจิ กรรม เน่ืองจาก...............................................................................
2. การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนครัง้ นี้ นักเรียนทุกคนได้ร่วมกิจกรรมและเรยี นร้อู ย่างมีความสขุ
3. กิจกรรมช่วยใหผ้ ้เู รียนมีความรู้ความเข้าใจตรงตามสาระการเรยี นรู้ เกิดคณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์

และมีทักษะกระบวนการตามท่จี ดุ ประสงค์กาหนด
4. ส่ือการเรยี นการสอนที่กาหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ ไดใ้ ช้สือ่ หลายอยา่ ง เป็นสอ่ื ทเี่ หมาะสมกบั

วัยผูเ้ รยี น สอดคลอ้ งกับเนื้อหา สามรถใช้ประกอบการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ชว่ ย
ใหผ้ เู้ รียนเรียนรู้อย่างสนุกสนานและเขา้ ใจบทเรยี นได้เรว็ ยิ่งขนึ้

5. การวัดผลประเมนิ ผล ในการจัดการเรยี นการสอนครงั้ น้ี ครอบคลุมพฤติกรรมตามจดุ ประสงค์
การเรยี นรู้ท่กี าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้ ผลการวัดผลและประเมนิ ผลสรุปได้ ดงั น้ี :-

5.1 ด้านความรู้ความเข้าใจ (A)
นกั เรียนผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรูข้ อ้ ที่ .............
นกั เรียนท่ผี า่ นจดุ ประสงคต์ ามเกณฑร์ อ้ ยละ................. จานวน..............คน
เลขที่ ........................................... คดิ เป็นร้อยละ..................................
- นักเรียนทีไ่ ม่ผา่ นจุดประสงค์ จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เปน็ รอ้ ยละ
และได้ดาเนินการแก้ปัญหา คือ
 สอนเสริม  มอบงานให้ทาเพ่ิมเติม ทารายงาน  อื่น ๆ................

5.2 ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
นักเรียนทผ่ี า่ นทักษะกระบวนการตามเกณฑ์รอ้ ยละ................. จานวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เป็นรอ้ ยละ..................................
- นักเรียนท่ีไมผ่ ่านทักษะกระบวนการ จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เปน็ รอ้ ยละ
และไดด้ าเนนิ การแก้ปัญหา คือ ............................................................................

5.3 ดา้ นคา่ นยิ ม (A)
- นักเรียนท่ีมีค่านิยมตามเกณฑ์รอ้ ยละ จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คิดเป็นรอ้ ยละ ......................................
- นกั เรียนทต่ี ้องปรับเปลยี่ นค่านยิ ม จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คิดเป็นร้อยละ .......................................
และได้ดาเนินการปรบั เปล่ยี นค่านยิ ม (แจงรายละเอียด ของการปรับเปลย่ี น
ค่านยิ ม คือ ......................................................................................................

ปัญหาและอปุ สรรค

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แนวทางการแก้ไขปญั หา

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชอื่ ....................................................ครผู สู้ อน
(นายสริ วิ ฒุ ิ ชูสวุ รรณ)

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 8

วชิ าพลศึกษา (พ 33102) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 ชื่อหน่วย ทกั ษะ จานวน 16 ชว่ั โมง

เรอ่ื งย่อยท่ี 8 เร่อื ง การใช้หมดั เวลา 1 ชวั่ โมง

*********************************************

มาตรฐานการเรยี นรู้

สาระท่ี 3 การเคล่อื นไหวการออกกาลังกาย เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ 3.1 : เขา้ ใจมที ักษะ การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทยและกฬี าสากล

มาตรฐาน พ 3.2 : รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบตั ิเปน็ ประจาอย่าง

สม่าเสมอ มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีน้าใจนกั กฬี า มีจิตวิญญาณในการแขง่ ขนั และชน่ื ชมในสนุ ทรยี ภาพ

ของการกีฬา

สาระสาคญั

มงุ่ เน้นใหผ้ ูเ้ รยี นออกอาวุธโดยการออกหมัดได้อยา่ งถูกต้อง ซ่งึ หมดั เป็นอาวธุ สาคญั ของมวยไทย โดย

ผ้เู รียนสามารถออกหมัดได้ถกู ต้อง แข็งแรง สามารถปฏิบตั ิทักษะได้อยา่ งเตม็ ศักยภาพ และสามารถพัฒนา

ฝมี อื เผอ่ื ออกกาลังกาย และใช้ในการปอ้ งกันตวั ได้

ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้

1. เล่นกฬี าไทย กฬี าสากลประเภทบคุ คล / คู่ กีฬาประเภททีมไดอย้ า่ งนอ้ ย 1 ชนดิ

2. ออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาทเี่ หมาะสมกบั ตนเองอย่างสม่าเสมอและใชค้ วามสามารถของตนเอง

เพิม่ ศักยภาพของทมี ลดความเปน็ ตวั ตนคานงึ ถงึ ผลท่ีเกดิ ต่อสงั คม

3. อธิบายและปฏบิ ตั เิ ก่ยี วกับสทิ ธิ กฎ กติกา กลวธิ ีต่างๆ ในระหวา่ งการเลน่ การแข่งขันกฬี ากบั

ผู้อืน่ และนาไปสรปุ เป็นแนวปฏิบัติและใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั อยา่ งต่อเนอื่ ง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ ( K ; Knowledge) :

1. ซักถามเกี่ยวกับข้อตกลงในการเรียนการสอน วิชาพลศึกษา (มวยไทย) พ 33102

2. ครูต้ังคาถามเกี่ยวกับเรื่องที่นักเรียนนาเสนอ

ด้านทักษะ/กระบวนการ (P ; Process ) :

1. สงั เกตการปฏบิ ัติทกั ษะมวยไทย

2. ประเมินผลการปฏิบัติทักษะมวยไทย

3. สงั เกตจากการมีส่วนรว่ ม การให้ความสนใจในระหวา่ งปฏิบัตทิ กั ษะ

ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ( A ; Attitude ) :

1. สังเกตพฤติกรรมท่ีแสดงออกทางด้านเจตคติ และคุณลักษณะทีด่ ีในช้นั เรยี นไดแ้ ก่ การตรงตอ่ เวลา

ความรับผิดชอบ การมนี าใจ

2. สงั เกตจากการทางานเปน็ กลุ่ม ความรบั ผดิ ชอบ การแบ่งหนา้ ทีใ่ นการทางาน การรับฟงั ความคิดเหน็

ของเพื่อน ความเป็นประชาธปิ ไตย

สาระการเรียนรู้/เนอื้ หา
1. นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิทกั ษะการใช้หมัดได้ถูกตอ้ ง
2. นกั เรียนสามารถอธบิ ายข้นั ตอนการใชห้ มดั ได้อย่างถกู ตอ้ ง
3. นกั เรยี นให้ความสนใจและความกระตอื รือร้นในการเรยี นทักษะการใชห้ มัด
4. นักเรยี นสามารถนาความรทู้ เ่ี รยี นไปถา่ ยทอดใหผ้ ู้อ่นื ได้

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นนา / ขั้นเตรยี ม ( 5 นาที )
1.1 นักเรยี นเข้าแถวตอน กลุ่มละ 5 คน 8-9 แถว สารวจรายชื่อ สุขภาพ และเครอ่ื งแตง่ กาย ของนกั เรียน
ทุกคน








 ครู นักเรียน

1.2 ครแู จ้งหนว่ ยการเรียนรู้ และจุดประสงค์การเรยี นรใู้ หน้ ักเรยี นทราบ
1.3 ให้นักเรยี นอบอุ่นรา่ งกาย
ขนั้ สอน ( 10 – 15 นาที )
2.1 ใหน้ กั เรียนน่ังลง ดคู รสู าธิต
2.2 ครอู ธบิ ายพร้อมสาธติ และอธิบายใชห้ มดั ตอ่ ย เปน็ จังหวะ

-หมดั ตรง
-หมดั เหวีย่ ง
-หมัดเสย
ขน้ั ฝึกปฏิบตั ิ ( 10 - 15 นาที )
3.1 ให้นักเรยี นปฏิบตั ติ ามท่ีครสู าธติ ได้ดูโดยครเู ป็นต้นเสียงในการใหค้ าสั่ง
-หมดั ตรง
-หมดั เหวยี่ ง
-หมัดเสย
3.2 เป่านกหวดี สัง่ พร้อมเดนิ ตรวจสอบนักเรียนทีป่ ฏิบตั ิไม่ถูกต้องพร้อมแก้ไขทันทีเพื่อไมใ่ ห้นักเรยี น
เกดิ การจาและปฏิบัตทิ ักษะในสิ่งทผี่ ิด
3.3 ให้นกั เรียนปฏบิ ัตเิ ปน็ แถวๆละ 8 คน/รอบ

ขนั้ นาไปใช้ ( 8 – 10 นาที )
4.1 ใหน้ ักเรียนที่อยดู่ า้ นหน้ามาเอาอุปกรณล์ ่อเป้าของมวยไทย
4.2 ให้นกั เรยี นลองปฏิบตั ิทกั ษะการใชห้ มดั









ครู นักเรยี นทีป่ ฏิบตั ทิ ักษะ นกั เรยี นที่ถือเปา้ ล่อ

4.3 นกั เรียนทป่ี ฏิบัติแล้วให้มาต่อแถวใหม่ เมื่อครบทกุคนในแถวแล้ว ให้คนต่อไปมา ถือเปา้ ล่อตอ่
ข้ันสรปุ ( 3 – 5 นาที )
5.1 ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายสรปุ ทักษะที่ได้รับจากการศกึ ษาในวนั นี้ตลอดจนเปดิ โอกาสให้

นกั เรียนซักถามและตอบคาถาม ถ้านกั เรียนไมเ่ ข้าใจครชู ่วยอธบิ าย และให้คานาเสนอแนะ
5.2 ใหน้ ักเรยี นคลายอุ่นร่ายกาย
5.3 นกั เรยี นทกุ คนสารวจความเรียบร้อยของชน้ั เรยี น เครือ่ งแต่งการ ความสะอาดของช้ันเรยี น
สอ่ื -แหล่งเรยี นรู้
1. ส่ือสงิ่ พมิ พ์ เชน่ แผน่ พบั วารสารท่เี ก่ยี วกับการออกกาลังกาย กีฬามวยไทย
2. เวบ็ ไซนเ์ ก่ยี วกบั กฎ กติกา กฬี ามวยไทย
3. ห้องสมุดโรงเรียนสิเกาประชาผดุงวิทย์
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
 1. ความสามารถในการคิด
นักเรียนสามารถวเิ คราะห์ จดจาท่าทางการไหว้ครู แมไ่ มม้ วยไทยตา่ งๆ และสามารถออกแบบการใช้
มวยไทยในเชิงการแสดงศลิ ปะการต่อสู้ได้อยา่ งเหมาะสม สวยงาม
 2. ความสามารถในการส่ือสาร
นักเรียนอธิบาย แนะนาทักษะกีฬามวยไทยใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจได้อย่างถูกต้อง และสามารถสอนทักษะกีฬา
มวยไทยให้แกผ่ ู้อน่ื ได้อย่างถูกตอ้ ง
 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
นักเรยี นรจู้ ักแกไ้ ขปญั หา ดดั แปลง ทักษะมวยไทยไปใช้ในทักษะอย่างอน่ื ได้อยา่ งสมบรู ณ์แบบ
 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
นกั เรียนนาความร้ทู างดา้ นทักษะกีฬามวยไทยไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างถูกต้อง
 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

จดุ เนน้ สู่การพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน ทกั ษะศตวรรษท่ี 21

 การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)

 ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)

 ทกั ษะด้านความรว่ มมอื การทางานเปน็ ทีม และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and

Leadership)

 ทักษะด้านการสอื่ สารสนเทศ และรเู้ ท่าทนั สือ่ (Communications, Information, and Media

Literacy)

ทกั ษะดา้ นชีวติ และอาชีพ

 ความยดื หยนุ่ และการปรับตวั

 การรเิ ร่ิมสร้างสรรค์และการเปน็ ตวั ของตวั เอง

 ทักษะสงั คม และสงั คมข้ามวฒั นธรรม

 การเปน็ ผู้สร้างหรอื ผ้ผู ลิต และความรับผดิ ชอบเช่ือถือได้

 ภาวะผ้นู าและความรบั ผิดชอบ

คุณลกั ษณะสาหรับศตวรรษที่ 21

 คณุ ลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผ้นู า

 คณุ ลักษณะด้านการเรยี นรู้ ได้แก่ การช้ีนาตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง

 คณุ ลักษณะด้านศลี ธรรม ได้แก่ เคารพผู้อ่ืน ความซ่ือสัตย์ สานึกพลเมือง

การวัดผลประเมนิ ผลการเรียนรู้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีการวดั เครื่องมือวัด เกณฑ์การผ่าน

ด้านความรู้ วดั ความรู้ความเข้าใจ ประวตั ิ แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ ผลการ

( K ; Knowledge) ความเป็นมา ประโยชน์ ทดสอบก่อนเรยี นและหลัง

มารยาทการเลน่ และการดู เรียน

กีฬามวยไทย ทาได้ 8 - 10 คะแนน

เกณฑ์ ดีมาก

ทาได้ 6 - 7 คะแนน

เกณฑ์ ดี

ทาได้ 4 - 5 คะแนน

เกณฑ์ พอใช้

ทาได้ 0 - 3 คะแนน

เกณฑ์ ต้องปรบั ปรุง

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ สังเกตการณ์ปฏิบตั ทิ กั ษะมวย แบบสงั เกตการณ์ การวัดและประเมินผลด้าน

(P ; Process ) ไทย และการนาไปใช้ รายงานผล ทกั ษะกระบวนการ การปฏบิ ตั ิ

การคิดเชิงระบบ การคิดอย่าง

มีวจิ ารณญาณ

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึง สังเกตการณเ์ ขา้ ร่วมกิจกรรม 1. สงั เกตการณ์นาเสนอ
ประสงค์ ตามกระบวนการกลุ่ม รายงานผลสรปุ หนา้ ชัน้ เรียน
( A ; Attitude ) 2. ประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน
3. สงั เกตจากการมีสว่ นรว่ ม
จากการปฎบิ ตั กิ ิจกรรม
เกณฑ์การประเมนิ
คา่ คะแนน 3 หมายถงึ
ปฏิบัติกิจกรรม ดี
คา่ คะแนน 2 หมายถึง
ปฏิบตั ิกจิ กรรม ปานกลาง
ค่าคะแนน 1 หมายถึง
ปฏบิ ัติกจิ กรรม ควรปรับปรุง
การแปลผลคะแนน
ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดมี าก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ต้องปรบั ปรงุ
แบบสังเกตการณเ์ ขา้ การวัดและประเมนิ ผลด้าน
ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม
และลักษณะอันพงึ ประสงค์
จากพฤตกิ รรมการแสดงออก
ความรู้สึก และการปฏิบตั ิตน
ในการร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
1.สังเกตจากการทางานเปน็
กลมุ่ ความรับผิดชอบ การ
แขง่ หน้าท่ี ในการทางานการ
รับฟังความคิดเหน็ การทางาน
ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ความเปน็
ประชาธิปไตย
2.สังเกตพฤตกิ รรม การตรง
ตอ่ เวลา ความรบั ผิดชอบ

ความตัง้ ใจเรยี น ความอดทน
ความร่วมมอื
เกณฑ์การประเมนิ
คา่ คะแนน 3 หมายถึง
ปฏบิ ัติกิจกรรม ดี
คา่ คะแนน 2 หมายถึง
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ปานกลาง
ค่าคะแนน 1 หมายถึง
ปฏิบตั กิ จิ กรรม ควรปรบั ปรุง
การแปลผลคะแนน
ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดีมาก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ตอ้ งปรบั ปรุง

บันทกึ ผลหลงั สอน แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 8

ผลการเรยี นรู้
1. กิจกรรมการเรยี นการสอนท่ีกาหนดไวใ้ นแผนการจัดการเรยี นรู้ เปน็ กจิ กรรมท่ีเหมาะสมกบั วัยของ

ผ้เู รียนและเหมาะสมกับสาระการเรียนรู้ สามารถจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน
 ได้ตามเวลาที่กาหนดทกุ กิจกรรม
 ไมท่ ันตามเวลาที่กาหนดในกิจกรรม เน่ืองจาก...............................................................................
2. การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนคร้งั น้ี นกั เรียนทกุ คนไดร้ ่วมกจิ กรรมและเรยี นรอู้ ย่างมคี วามสขุ
3. กจิ กรรมชว่ ยใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจตรงตามสาระการเรียนรู้ เกิดคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์

และมีทักษะกระบวนการตามทจี่ ดุ ประสงค์กาหนด
4. สอ่ื การเรยี นการสอนทีก่ าหนดในแผนการจดั การเรียนรู้ ไดใ้ ช้ส่อื หลายอย่าง เปน็ ส่ือทเ่ี หมาะสมกับ

วัยผู้เรยี น สอดคล้องกับเน้ือหา สามรถใชป้ ระกอบการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ชว่ ย
ใหผ้ ู้เรียนเรียนร้อู ย่างสนุกสนานและเข้าใจบทเรยี นไดเ้ ร็วยิ่งข้นึ

5. การวดั ผลประเมินผล ในการจดั การเรียนการสอนครง้ั น้ี ครอบคลมุ พฤติกรรมตามจดุ ประสงค์
การเรียนรู้ที่กาหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ ผลการวดั ผลและประเมินผลสรปุ ได้ ดังน้ี :-

5.1 ดา้ นความรู้ความเข้าใจ (A)
นกั เรียนผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรขู้ ้อท่ี .............
นกั เรียนท่ีผ่านจุดประสงคต์ ามเกณฑร์ อ้ ยละ................. จานวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เป็นรอ้ ยละ..................................
- นักเรียนทไ่ี ม่ผ่านจุดประสงค์ จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เป็นรอ้ ยละ
และไดด้ าเนนิ การแกป้ ญั หา คือ
 สอนเสรมิ  มอบงานใหท้ าเพ่ิมเตมิ ทารายงาน  อ่นื ๆ................

5.2 ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
นักเรยี นท่ีผา่ นทักษะกระบวนการตามเกณฑ์รอ้ ยละ................. จานวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเป็นร้อยละ..................................
- นักเรียนที่ไม่ผา่ นทกั ษะกระบวนการ จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เปน็ ร้อยละ
และไดด้ าเนินการแก้ปญั หา คือ ............................................................................

5.3 ด้านคา่ นยิ ม (A)
- นกั เรียนที่มีค่านยิ มตามเกณฑร์ ้อยละ จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเปน็ ร้อยละ ......................................
- นักเรยี นทต่ี อ้ งปรับเปลยี่ นค่านิยม จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คดิ เป็นร้อยละ .......................................
และได้ดาเนินการปรบั เปลย่ี นค่านยิ ม (แจงรายละเอียด ของการปรับเปลีย่ น
ค่านยิ ม คือ ......................................................................................................

ปัญหาและอปุ สรรค

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แนวทางการแกไ้ ขปญั หา

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชือ่ ....................................................ครผู สู้ อน
(นายสิรวิ ฒุ ิ ชูสวุ รรณ)

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 9

วิชาพลศึกษา (พ 33102) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชื่อหน่วย ทกั ษะ จานวน 16 ชว่ั โมง

เรื่องย่อยท่ี 9 เร่อื ง การใชศ้ อก เวลา 1 ชว่ั โมง

*********************************************

มาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ 3 การเคลอื่ นไหวการออกกาลงั กาย เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ 3.1 : เขา้ ใจมที ักษะ การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทยและกีฬาสากล

มาตรฐาน พ 3.2 : รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กีฬา ปฏบิ ตั เิ ปน็ ประจาอย่าง

สมา่ เสมอ มวี ินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มีน้าใจนักกฬี า มจี ิตวญิ ญาณในการแข่งขนั และชื่นชมในสุนทรียภาพ

ของการกีฬา

สาระสาคัญ

มงุ่ เนน้ ให้ผูเ้ รยี นออกอาวุธโดยการใช้ศอกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ซึ่งศอกเปน็ อาวธุ ลับทส่ี าคญั ของกีฬามวย

ไทย เพราะศอกเป็นอวัยวะกระดกู ส่วนแหลมของแขนท่ีแข็ง และแหลมมาก เม่ือกระทบเปา้ หมายจะทาให้

เจ็บปวด บวม และ แตกได้ ศอกจดั ว่าเปน็ อาวุธส้ันทีใ่ ช้ได้ดีในระยะประชิด เปา้ หมายของการตีศอกท่ีได้ผลดี

คอื บรเิ วณ ขมับ ค้ิว ตา ท้ายทอย และปลายคาง

ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้

1. เล่นกีฬาไทย กฬี าสากลประเภทบคุ คล / คู่ กฬี าประเภททมี ไดอ้ยา่ งนอ้ ย 1 ชนดิ

2. ออกกาลังกายและเลน่ กีฬาทเ่ี หมาะสมกบั ตนเองอย่างสม่าเสมอและใชค้ วามสามารถของตนเอง

เพ่ิมศักยภาพของทีม ลดความเปน็ ตวั ตนคานึงถงึ ผลท่เี กิดต่อสงั คม

3. อธิบายและปฏิบัตเิ กีย่ วกับสทิ ธิ กฎ กตกิ า กลวธิ ตี า่ งๆ ในระหว่างการเลน่ การแขง่ ขันกีฬากบั

ผอู้ ืน่ และนาไปสรปุ เปน็ แนวปฏบิ ัตแิ ละใชใ้ นชีวติ ประจาวันอย่างต่อเนื่อง

จุดประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ ( K ; Knowledge) :

1. ซกั ถามเกยี่ วกับข้อตกลงในการเรยี นการสอน วชิ าพลศกึ ษา (มวยไทย) พ 33102

2. ครูต้งั คาถามเกย่ี วกับเรอื่ งทน่ี ักเรียนนาเสนอ

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P ; Process ) :

1. สงั เกตการปฏิบัติทักษะมวยไทย

2. ประเมนิ ผลการปฏิบัติทักษะมวยไทย

3. สังเกตจากการมสี ่วนร่วม การให้ความสนใจในระหวา่ งปฏบิ ัติทกั ษะ

ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ( A ; Attitude ) :

1. สงั เกตพฤติกรรมที่แสดงออกทางดา้ นเจตคติ และคุณลกั ษณะท่ีดีในช้นั เรียนได้แก่ การตรงตอ่ เวลา

ความรบั ผดิ ชอบ การมีนาใจ

2. สงั เกตจากการทางานเปน็ กลุ่ม ความรับผดิ ชอบ การแบ่งหน้าท่ใี นการทางาน การรบั ฟังความคิดเห็น
ของเพือ่ น ความเป็นประชาธปิ ไตย

สาระการเรียนร/ู้ เนอื้ หา
1. นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิทกั ษะการใช้ศอกได้ถูกต้อง
2. นกั เรยี นสามารถอธิบายข้ันตอนการใช้ศอกไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
3. นักเรียนใหค้ วามสนใจและความกระตือรือร้นในการเรียนทักษะการใชศ้ อก
4. นักเรยี นสามารถนาความรู้ทเ่ี รยี นไปถา่ ยทอดให้ผู้อ่นื ได้

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นา / ขน้ั เตรียม ( 5 นาที )
1.1 นกั เรยี นเขา้ แถวตอน กลมุ่ ละ 5 คน 8-9 แถว สารวจรายชอื่ สขุ ภาพ และเครื่องแตง่ กาย ของนกั เรียน
ทกุ คน
1.2 ครแู จง้ หนว่ ยการเรยี นรู้ และจุดประสงค์การเรียนร้ใู ห้นกั เรยี นทราบ
1.3 ใหน้ ักเรยี นอบอุน่ ร่างกาย








 ครู นกั เรียน

ขนั้ สอน ( 10 – 15 นาที )
2.1 ใหน้ กั เรียนนง่ั ลง ดูครูสาธติ
2.2 ครูอธิบายพร้อมสาธิต และอธิบายใชศ้ อก เป็นจังหวะ

-การใชศ้ อกตี
-การใชศ้ อกตัด
-การใช้ศอกงดั
-การใช้ศอกกด
-การใช้ศอกกระทงุ้
-การใชศ้ อกกลับ

ขนั้ ฝกึ ปฏบิ ตั ิ ( 10 - 15 นาที )
3.1 ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ัติตามทค่ี รสู าธิตได้ดูโดยครเู ปน็ ตน้ เสยี งในการให้คาสง่ั

-การใชศ้ อกตี
-การใชศ้ อกตดั
-การใช้ศอกงดั
-การใช้ศอกกด
-การใช้ศอกกระทุง้
-การใชศ้ อกกลับ
3.2 เป่านกหวีดส่งั พร้อมเดินตรวจสอบนกั เรยี นที่ปฏบิ ัติไมถ่ ูกต้องพร้อมแก้ไขทนั ทเี พื่อไม่ให้นักเรยี น
เกิดการจาและปฏบิ ตั ิทักษะในส่ิงทีผ่ ดิ
3.3.ให้นักเรยี นปฏบิ ตั เิ ปน็ แถวๆละ 8 คน/รอบ
ขั้นนาไปใช้ ( 8 – 10 นาที )
4.1 ให้นักเรยี นที่อยดู่ า้ นหนา้ มาเอาอุปกรณ์ล่อเป้าของมวยไทย
4.2 ให้นกั เรียนลองปฏบิ ัติทักษะการใช้ศอก









ครู นกั เรยี นทปี่ ฏบิ ัตทิ ักษะ นกั เรียนที่ถอื เปา้ ล่อ

4.3 นกั เรยี นทปี่ ฏิบัติแลว้ ใหม้ าต่อแถวใหม่ เมื่อครบทกุคนในแถวแล้ว ใหค้ นตอ่ ไปมา ถอื เป้าล่อต่อ
ขนั้ สรุป ( 3 – 5 นาที )
5.1 ครูและนกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายสรปุ ทักษะท่ีไดร้ ับจากการศกึ ษาในวันนตี้ ลอดจนเปดิ โอกาสให้

นักเรียนซักถามและตอบคาถาม ถ้านักเรยี นไมเ่ ข้าใจครูชว่ ยอธบิ าย และให้คานาเสนอแนะ
5.2 ให้นกั เรียนคลายอุ่นรา่ ยกาย
5.3 นักเรยี นทกุ คนสารวจความเรียบร้อยของชัน้ เรียน เครื่องแต่งการ ความสะอาดของชั้นเรียน
สอ่ื -แหล่งเรยี นรู้
1. สือ่ ส่งิ พิมพ์ เชน่ แผ่นพบั วารสารท่ีเก่ยี วกบั การออกกาลังกาย กีฬามวยไทย
2. เวบ็ ไซนเ์ กีย่ วกบั กฎ กติกา กีฬามวยไทย
3. หอ้ งสมดุ โรงเรียนสเิ กาประชาผดุงวิทย์

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
 1. ความสามารถในการคิด
นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์ จดจาทา่ ทางการไหวค้ รู แม่ไม้มวยไทยตา่ งๆ และสามารถออกแบบการใช้

มวยไทยในเชงิ การแสดงศลิ ปะการต่อสไู้ ด้อยา่ งเหมาะสม สวยงาม
 2. ความสามารถในการสอ่ื สาร
นกั เรียนอธบิ าย แนะนาทักษะกีฬามวยไทยให้ผู้อ่ืนเขา้ ใจได้อย่างถูกต้อง และสามารถสอนทักษะกีฬา

มวยไทยให้แกผ่ ู้อ่นื ได้อยา่ งถูกตอ้ ง
 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
นกั เรยี นรูจ้ กั แก้ไขปัญหา ดัดแปลง ทักษะมวยไทยไปใช้ในทักษะอยา่ งอ่นื ไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์แบบ
 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
นักเรียนนาความร้ทู างด้านทักษะกีฬามวยไทยไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันไดอ้ ย่างถูกต้อง
 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
นักเรยี นมคี วามสามารถในการสืบคน้ หาขอ้ มลู ใน goggle ตามท่ีครมู อบหมายได้

จุดเน้นสู่การพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รียน ทกั ษะศตวรรษที่ 21
 การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)
 ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)
 ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and
Leadership)
 ทักษะด้านการส่ือสารสนเทศ และรู้เท่าทันส่ือ (Communications, Information, and Media
Literacy)

ทกั ษะดา้ นชีวิตและอาชีพ
 ความยืดหยุ่นและการปรับตัว
 การรเิ ริ่มสร้างสรรค์และการเป็นตวั ของตวั เอง
 ทักษะสงั คม และสังคมข้ามวัฒนธรรม
 การเปน็ ผู้สรา้ งหรอื ผู้ผลิต และความรบั ผิดชอบเช่ือถือได้
 ภาวะผู้นาและความรับผิดชอบ

คณุ ลักษณะสาหรับศตวรรษท่ี 21
 คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเป็นผนู้ า
 คุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชน้ี าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง
 คุณลักษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ เคารพผู้อนื่ ความซื่อสัตย์ สานกึ พลเมือง

การวดั ผลประเมนิ ผลการเรยี นรู้

จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ กี ารวัด เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การผา่ น
แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมินผลการ
ด้านความรู้ วดั ความร้คู วามเข้าใจ ประวตั ิ ทดสอบก่อนเรยี นและหลงั
แบบสงั เกตการณ์ เรียน
( K ; Knowledge) ความเปน็ มา ประโยชน์ รายงานผล ทาได้ 8 - 10 คะแนน
เกณฑ์ ดีมาก
มารยาทการเลน่ และการดู ทาได้ 6 - 7 คะแนน
เกณฑ์ ดี
กฬี ามวยไทย ทาได้ 4 - 5 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ สังเกตการณ์ปฏิบัติทักษะมวย ทาได้ 0 - 3 คะแนน
เกณฑ์ ต้องปรบั ปรงุ
(P ; Process ) ไทย และการนาไปใช้ การวดั และประเมินผลด้าน
ทกั ษะกระบวนการ การปฏิบตั ิ
การคิดเชิงระบบ การคิดอย่าง
มวี จิ ารณญาณ
1. สงั เกตการณน์ าเสนอ
รายงานผลสรุปหน้าช้ันเรยี น
2. ประเมินผลการปฏิบัติงาน
3. สงั เกตจากการมสี ่วนรว่ ม
จากการปฎิบัตกิ จิ กรรม
เกณฑ์การประเมนิ
คา่ คะแนน 3 หมายถึง
ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ดี
คา่ คะแนน 2 หมายถึง
ปฏบิ ัติกจิ กรรม ปานกลาง
ค่าคะแนน 1 หมายถึง
ปฏบิ ัติกิจกรรม ควรปรบั ปรุง
การแปลผลคะแนน
ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดมี าก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี

ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ สังเกตการณ์เขา้ ร่วมกจิ กรรม ทาได้ 5 - 9 คะแนน
ประสงค์ ตามกระบวนการกลุ่ม เกณฑ์ พอใช้
( A ; Attitude ) ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ต้องปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตการณ์เข้า การวดั และประเมินผลดา้ น
รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม
และลักษณะอันพึงประสงค์
จากพฤติกรรมการแสดงออก
ความรู้สึก และการปฏบิ ตั ติ น
ในการร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้
1.สังเกตจากการทางานเปน็
กลมุ่ ความรบั ผดิ ชอบ การ
แข่งหนา้ ท่ี ในการทางานการ
รบั ฟงั ความคดิ เห็น การทางาน
ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ความเป็น
ประชาธปิ ไตย
2.สงั เกตพฤตกิ รรม การตรง
ตอ่ เวลา ความรับผดิ ชอบ
ความตงั้ ใจเรยี น ความอดทน
ความรว่ มมือ
เกณฑ์การประเมนิ
ค่าคะแนน 3 หมายถงึ
ปฏบิ ัติกจิ กรรม ดี
คา่ คะแนน 2 หมายถึง
ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ปานกลาง
ค่าคะแนน 1 หมายถงึ
ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ควรปรบั ปรุง
การแปลผลคะแนน
ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดีมาก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้

ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ต้องปรับปรงุ

บันทึกผลหลงั สอน แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 9

ผลการเรียนรู้
1. กิจกรรมการเรียนการสอนท่ีกาหนดไวใ้ นแผนการจดั การเรยี นรู้ เป็นกจิ กรรมท่ีเหมาะสมกับวัยของ

ผเู้ รยี นและเหมาะสมกับสาระการเรียนรู้ สามารถจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน
 ไดต้ ามเวลาท่กี าหนดทกุ กิจกรรม
 ไม่ทนั ตามเวลาที่กาหนดในกิจกรรม เนื่องจาก...............................................................................
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนคร้งั น้ี นักเรียนทุกคนได้รว่ มกจิ กรรมและเรียนรูอ้ ย่างมีความสขุ
3. กจิ กรรมช่วยให้ผูเ้ รยี นมคี วามร้คู วามเขา้ ใจตรงตามสาระการเรยี นรู้ เกิดคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์

และมีทักษะกระบวนการตามทีจ่ ดุ ประสงค์กาหนด
4. ส่ือการเรียนการสอนที่กาหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ ไดใ้ ชส้ อื่ หลายอย่าง เปน็ สอ่ื ทีเ่ หมาะสมกับ

วัยผู้เรียน สอดคล้องกบั เน้ือหา สามรถใช้ประกอบการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ช่วย
ให้ผู้เรยี นเรียนร้อู ย่างสนกุ สนานและเข้าใจบทเรียนไดเ้ ร็วยิง่ ขน้ึ

5. การวดั ผลประเมนิ ผล ในการจดั การเรยี นการสอนครั้งนี้ ครอบคลุมพฤติกรรมตามจุดประสงค์
การเรียนรทู้ ี่กาหนดในแผนการจดั การเรียนรู้ ผลการวัดผลและประเมนิ ผลสรปุ ได้ ดงั นี้ :-

5.1 ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ (A)
นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ .............
นกั เรยี นทผี่ า่ นจุดประสงค์ตามเกณฑร์ ้อยละ................. จานวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเปน็ ร้อยละ..................................
- นกั เรยี นที่ไมผ่ า่ นจุดประสงค์ จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเปน็ รอ้ ยละ
และไดด้ าเนนิ การแกป้ ญั หา คือ
 สอนเสรมิ  มอบงานใหท้ าเพ่ิมเติม ทารายงาน  อ่นื ๆ................

5.2 ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
นักเรยี นทีผ่ า่ นทักษะกระบวนการตามเกณฑ์ร้อยละ................. จานวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เป็นร้อยละ..................................
- นกั เรยี นทไ่ี ม่ผ่านทกั ษะกระบวนการ จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คิดเป็นรอ้ ยละ
และได้ดาเนนิ การแกป้ ญั หา คือ ............................................................................

5.3 ด้านคา่ นยิ ม (A)
- นักเรยี นทม่ี ีค่านิยมตามเกณฑ์ร้อยละ จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเป็นรอ้ ยละ ......................................
- นกั เรยี นทต่ี ้องปรับเปลีย่ นค่านยิ ม จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คดิ เป็นร้อยละ .......................................

และได้ดาเนินการปรบั เปลี่ยนค่านิยม (แจงรายละเอียด ของการปรบั เปล่ียน
คา่ นยิ ม คือ ......................................................................................................

ปัญหาและอปุ สรรค

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แนวทางการแก้ไขปญั หา

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชื่อ....................................................ครูผสู้ อน
(นายสิริวุฒิ ชูสวุ รรณ)

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 10

วิชาพลศกึ ษา (พ 33102) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 ชื่อหน่วย ทักษะ จานวน 16 ช่ัวโมง

เร่อื งย่อยท่ี 10 เรื่อง การใชเ้ ท้าเตะ เวลา 1 ช่ัวโมง

*********************************************

มาตรฐานการเรยี นรู้

สาระท่ี 3 การเคลอ่ื นไหวการออกกาลังกาย เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ 3.1 : เข้าใจมีทักษะ การออกกาลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทยและกีฬาสากล

มาตรฐาน พ 3.2 : รักการออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏบิ ัติเป็นประจาอยา่ ง

สม่าเสมอ มวี ินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีนา้ ใจนกั กีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชนื่ ชมในสนุ ทรยี ภาพ

ของการกีฬา

สาระสาคัญ

ม่งุ เนน้ ให้ผเู้ รยี นออกอาวธุ โดยการใชเ้ ทา้ เตะได้อยา่ งถูกต้อง ซ่ึงเทา้ เป็นเอกลกั ษณ์สาคัญของกีฬามวย

ไทย การใชเ้ ท้าตัง้ แต่หวั เข่าลงไปจนถงึ ปลายเท้า โดยเหว่ียงเท้าไปปะทะเปา้ หมาย โดยวิธีโค้ง เฉียง ทางตรง

จากพื้นข้ึนไป เรียกวา่ การเตะ

ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้

1. เลน่ กฬี าไทย กีฬาสากลประเภทบุคคล / คู่ กีฬาประเภททีมไดอ้ย่างนอ้ ย 1 ชนิด

2. ออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาทเี่ หมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเอง

เพม่ิ ศักยภาพของทีม ลดความเปน็ ตัวตนคานึงถงึ ผลทีเ่ กดิ ต่อสงั คม

3. อธบิ ายและปฏิบตั เิ กีย่ วกับสิทธิ กฎ กติกา กลวิธตี ่างๆ ในระหว่างการเล่น การแข่งขันกฬี ากับ

ผูอ้ ื่นและนาไปสรปุ เปน็ แนวปฏบิ ตั แิ ละใชใ้ นชีวิตประจาวันอยา่ งต่อเนื่อง

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

ด้านความรู้ ( K ; Knowledge) :

1. ซกั ถามเกย่ี วกบั ขอ้ ตกลงในการเรียนการสอน วิชาพลศึกษา (มวยไทย) พ 33102

2. ครตู ง้ั คาถามเกี่ยวกบั เรอ่ื งทน่ี ักเรียนนาเสนอ

ด้านทักษะ/กระบวนการ (P ; Process ) :

1. สังเกตการปฏิบตั ิทกั ษะมวยไทย

2. ประเมนิ ผลการปฏบิ ัตทิ ักษะมวยไทย

3. สังเกตจากการมีสว่ นร่วม การใหค้ วามสนใจในระหว่างปฏิบตั ทิ ักษะ

ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ( A ; Attitude ) :

1. สังเกตพฤติกรรมทแี่ สดงออกทางด้านเจตคติ และคุณลกั ษณะท่ดี ีในชนั้ เรียนได้แก่ การตรงตอ่ เวลา
ความรับผิดชอบ การมีนาใจ

2. สงั เกตจากการทางานเปน็ กลุ่ม ความรับผิดชอบ การแบ่งหนา้ ทใ่ี นการทางาน การรับฟังความคิดเหน็
ของเพ่อื น ความเปน็ ประชาธปิ ไตย

สาระการเรียนร้/ู เนอื้ หา
1. นักเรยี นสามารถปฏิบตั ิทักษะการใช้เทา้ เตะได้ถูกตอ้ ง
2. นกั เรยี นสามารถอธิบายขั้นตอนการใชเ้ ทา้ เตะได้อยา่ งถกู ต้อง
3. นักเรยี นให้ความสนใจและความกระตอื รือร้นในการเรียนทักษะการใชเ้ ท้าเตะ
4. นกั เรยี นสามารถนาความรู้ทเี่ รียนไปถ่ายทอดให้ผู้อนื่ ได้

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นา / ข้นั เตรียม ( 5 นาที )
1.1 นกั เรยี นเข้าแถวตอน กลมุ่ ละ 5 คน 8-9 แถว สารวจรายช่อื สขุ ภาพ และเครื่องแต่งกาย ของนักเรยี น
ทุกคน








 ครู นักเรียน

1.2 ครูแจ้งหนว่ ยการเรยี นรู้ และจุดประสงค์การเรียนรใู้ ห้นกั เรียนทราบ
1.3 ใหน้ กั เรยี นอบอนุ่ รา่ งกาย
ขน้ั สอน ( 10 – 15 นาที )
2.1 ใหน้ ักเรียนนง่ั ลง ดคู รสู าธติ
2.2 ครูอธบิ ายพร้อมสาธติ และอธิบายใช้เท้าเตะ เป็นจังหวะ
-เตะตรง
-เตะตดั
-เตาะตวัดหรอื เตะเฉยี ง
-กลบั หลงั เตะ
ขน้ั ฝึกปฏิบตั ิ ( 10 - 15 นาที )
3.1 ใหน้ กั เรยี นปฏิบัตติ ามทคี่ รูสาธติ ไดด้ ูโดยครเู ปน็ ตน้ เสยี งในการให้คาสงั่

-เตะตรง
-เตะตดั

-เตาะตวัดหรอื เตะเฉียง
-กลับหลงั เตะ

3.2 เปา่ นกหวีดสง่ั พร้อมเดินตรวจสอบนกั เรยี นท่ปี ฏบิ ัติไม่ถูกต้องพร้อมแก้ไขทนั ทเี พ่ือไม่ให้นักเรยี น
เกดิ การจาและปฏบิ ตั ิทักษะในส่งิ ท่ผี ดิ

3.3 ให้นกั เรียนปฏิบตั เิ ป็นแถวๆละ 8 คน/รอบ
ขนั้ นาไปใช้ ( 8 – 10 นาที )
4.1 ใหน้ ักเรียนท่ีอยดู่ ้านหน้ามาเอาอุปกรณล์ อ่ เป้าของมวยไทย
4.2 ใหน้ ักเรยี นลองปฏบิ ัติทักษะการใชเ้ ท้าเตะ









ครู นักเรยี นทปี่ ฏิบัติทักษะ นกั เรยี นท่ีถอื เป้าล่อ

4.3 นกั เรยี นทป่ี ฏบิ ัติแล้วให้มาต่อแถวใหม่ เม่ือครบทกคุ นในแถวแล้ว ใหค้ นตอ่ ไปมา ถือเปา้ ล่อตอ่
ขั้นสรุป ( 3 – 5 นาที )
5.1 ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปทักษะที่ได้รับจากการศึกษาในวันน้ีตลอดจนเปดิ โอกาสให้

นักเรียนซักถามและตอบคาถาม ถ้านักเรยี นไม่เข้าใจครชู ่วยอธบิ าย และให้คานาเสนอแนะ
5.2 ให้นักเรยี นคลายอุ่นร่ายกาย
5.3 นกั เรยี นทกุ คนสารวจความเรียบร้อยของชน้ั เรียน เคร่ืองแต่งการ ความสะอาดของชน้ั เรียน
สอ่ื -แหล่งเรยี นรู้
1. สื่อส่ิงพมิ พ์ เชน่ แผ่นพับ วารสารที่เก่ยี วกบั การออกกาลังกาย กีฬามวยไทย
2. เว็บไซน์เกยี่ วกับกฎ กติกา กีฬามวยไทย
3. ห้องสมุดโรงเรียนสิเกาประชาผดงุ วทิ ย์
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
 1. ความสามารถในการคิด
นักเรยี นสามารถวเิ คราะห์ จดจาท่าทางการไหวค้ รู แมไ่ ม้มวยไทยต่างๆ และสามารถออกแบบการใช้
มวยไทยในเชงิ การแสดงศิลปะการต่อสูไ้ ด้อย่างเหมาะสม สวยงาม
 2. ความสามารถในการสื่อสาร
นักเรยี นอธบิ าย แนะนาทักษะกีฬามวยไทยให้ผอู้ ืน่ เข้าใจได้อยา่ งถูกต้อง และสามารถสอนทักษะกีฬา
มวยไทยให้แก่ผอู้ ่นื ได้อย่างถูกต้อง

 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

นกั เรียนรู้จักแกไ้ ขปัญหา ดัดแปลง ทักษะมวยไทยไปใชใ้ นทักษะอย่างอื่นไดอ้ ย่างสมบูรณ์แบบ

 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

นักเรยี นนาความรู้ทางด้านทักษะกีฬามวยไทยไปปรับใช้ในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง

 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

นกั เรยี นมคี วามสามารถในการสืบคน้ หาขอ้ มูลใน goggle ตามทคี่ รูมอบหมายได้

จุดเนน้ สกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ทักษะศตวรรษท่ี 21

 การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)

 ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)

 ทักษะด้านความร่วมมอื การทางานเป็นทีม และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and

Leadership)

 ทกั ษะด้านการสอื่ สารสนเทศ และรูเ้ ทา่ ทนั สื่อ (Communications, Information, and Media

Literacy)

ทักษะด้านชีวติ และอาชพี

 ความยดื หยนุ่ และการปรับตัว

 การรเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์และการเป็นตัวของตวั เอง

 ทักษะสงั คม และสงั คมขา้ มวัฒนธรรม

 การเป็นผสู้ ร้างหรอื ผู้ผลิต และความรบั ผิดชอบเช่ือถือได้

 ภาวะผูน้ าและความรับผดิ ชอบ

คณุ ลกั ษณะสาหรบั ศตวรรษท่ี 21

 คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรบั ตวั ความเป็นผนู้ า

 คุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง

 คุณลักษณะด้านศลี ธรรม ไดแ้ ก่ เคารพผู้อน่ื ความซ่ือสัตย์ สานึกพลเมือง

การวดั ผลประเมนิ ผลการเรียนรู้

จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การผ่าน

ดา้ นความรู้ วัดความรคู้ วามเข้าใจ ประวตั ิ แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ ผลการ

( K ; Knowledge) ความเป็นมา ประโยชน์ ทดสอบก่อนเรยี นและหลัง

มารยาทการเล่น และการดู เรยี น

กีฬามวยไทย ทาได้ 8 - 10 คะแนน

เกณฑ์ ดมี าก

ทาได้ 6 - 7 คะแนน

เกณฑ์ ดี

ทาได้ 4 - 5 คะแนน

เกณฑ์ พอใช้

ทาได้ 0 - 3 คะแนน

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ สงั เกตการณ์ปฏบิ ัตทิ ักษะมวย แบบสงั เกตการณ์ เกณฑ์ ต้องปรบั ปรุง
(P ; Process ) ไทย และการนาไปใช้ รายงานผล การวัดและประเมนิ ผลดา้ น
ทักษะกระบวนการ การปฏิบัติ
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ สงั เกตการณเ์ ขา้ รว่ มกจิ กรรม แบบสงั เกตการณเ์ ข้า การคดิ เชงิ ระบบ การคิดอยา่ ง
ประสงค์ ตามกระบวนการกลุ่ม ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม มวี ิจารณญาณ
( A ; Attitude ) 1. สังเกตการณน์ าเสนอ
รายงานผลสรปุ หน้าชัน้ เรียน
2. ประเมินผลการปฏบิ ตั งิ าน
3. สงั เกตจากการมีสว่ นร่วม
จากการปฎบิ ตั กิ ิจกรรม
เกณฑ์การประเมนิ
คา่ คะแนน 3 หมายถงึ
ปฏิบัตกิ จิ กรรม ดี
ค่าคะแนน 2 หมายถงึ
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ปานกลาง
ค่าคะแนน 1 หมายถึง
ปฏิบัติกิจกรรม ควรปรบั ปรุง
การแปลผลคะแนน
ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดมี าก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ตอ้ งปรับปรุง
การวัดและประเมินผลด้าน
คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม
และลักษณะอันพงึ ประสงค์
จากพฤติกรรมการแสดงออก
ความร้สู กึ และการปฏบิ ตั ติ น
ในการรว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
1.สงั เกตจากการทางานเปน็
กลมุ่ ความรับผิดชอบ การ
แข่งหนา้ ที่ ในการทางานการ

รับฟังความคิดเหน็ การทางาน
ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ความเป็น
ประชาธปิ ไตย
2.สังเกตพฤตกิ รรม การตรง
ตอ่ เวลา ความรบั ผดิ ชอบ
ความต้งั ใจเรียน ความอดทน
ความร่วมมือ
เกณฑ์การประเมนิ
ค่าคะแนน 3 หมายถงึ
ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ดี
คา่ คะแนน 2 หมายถึง
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ปานกลาง
ค่าคะแนน 1 หมายถึง
ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ควรปรับปรุง
การแปลผลคะแนน
ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดีมาก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ตอ้ งปรับปรุง

บนั ทกึ ผลหลงั สอน แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 10

ผลการเรียนรู้
1. กิจกรรมการเรยี นการสอนที่กาหนดไวใ้ นแผนการจัดการเรยี นรู้ เปน็ กจิ กรรมที่เหมาะสมกบั วัยของ

ผเู้ รียนและเหมาะสมกบั สาระการเรียนรู้ สามารถจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
 ได้ตามเวลาทกี่ าหนดทกุ กิจกรรม
 ไมท่ ันตามเวลาที่กาหนดในกจิ กรรม เนื่องจาก...............................................................................
2. การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนครัง้ นี้ นกั เรียนทุกคนไดร้ ่วมกิจกรรมและเรียนรอู้ ย่างมีความสขุ
3. กจิ กรรมชว่ ยให้ผ้เู รยี นมีความรู้ความเข้าใจตรงตามสาระการเรียนรู้ เกิดคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์

และมีทักษะกระบวนการตามท่ีจุดประสงค์กาหนด
4. สอื่ การเรยี นการสอนที่กาหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ ไดใ้ ชส้ ือ่ หลายอย่าง เป็นสอื่ ทีเ่ หมาะสมกบั

วยั ผเู้ รยี น สอดคล้องกับเน้ือหา สามรถใช้ประกอบการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนได้อยา่ งเหมาะสม ช่วย
ใหผ้ ้เู รียนเรียนร้อู ย่างสนุกสนานและเข้าใจบทเรียนไดเ้ ร็วย่ิงขึน้

5. การวดั ผลประเมนิ ผล ในการจัดการเรยี นการสอนครง้ั น้ี ครอบคลมุ พฤติกรรมตามจุดประสงค์
การเรยี นรทู้ ี่กาหนดในแผนการจัดการเรยี นรู้ ผลการวดั ผลและประเมนิ ผลสรุปได้ ดงั นี้ :-

5.1 ด้านความรู้ความเขา้ ใจ (A)
นักเรียนผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรูข้ อ้ ท่ี .............
นกั เรียนท่ผี ่านจดุ ประสงคต์ ามเกณฑร์ อ้ ยละ................. จานวน..............คน
เลขที่ ........................................... คิดเปน็ รอ้ ยละ..................................
- นกั เรยี นท่ีไม่ผ่านจุดประสงค์ จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเป็นร้อยละ
และไดด้ าเนนิ การแก้ปญั หา คือ
 สอนเสริม  มอบงานใหท้ าเพิ่มเติม ทารายงาน  อื่น ๆ................

5.2 ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
นกั เรียนท่ีผ่านทักษะกระบวนการตามเกณฑร์ อ้ ยละ................. จานวน..............คน
เลขที่ ........................................... คิดเปน็ ร้อยละ..................................
- นักเรียนทไ่ี ม่ผา่ นทกั ษะกระบวนการ จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คิดเป็นร้อยละ
และได้ดาเนินการแก้ปัญหา คือ ............................................................................

5.3 ดา้ นค่านิยม (A)
- นักเรียนทีม่ คี า่ นยิ มตามเกณฑ์รอ้ ยละ จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คิดเป็นรอ้ ยละ ......................................
- นกั เรยี นทีต่ ้องปรับเปลีย่ นค่านยิ ม จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คิดเป็นร้อยละ .......................................
และไดด้ าเนินการปรับเปลย่ี นค่านยิ ม (แจงรายละเอยี ด ของการปรบั เปลี่ยน
คา่ นิยม คือ ......................................................................................................

ปัญหาและอปุ สรรค

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แนวทางการแก้ไขปัญหา

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชือ่ ....................................................ครผู สู้ อน
(นายสริ วิ ฒุ ิ ชสู วุ รรณ)

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 11

วิชาพลศึกษา (พ 33102) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 ชื่อหน่วย ทกั ษะ จานวน 16 ช่ัวโมง

เรือ่ งย่อยท่ี 11 เรื่อง การใชเ้ ทา้ ถบี เวลา 1 ช่ัวโมง

*********************************************

มาตรฐานการเรียนรู้

สาระท่ี 3 การเคลอ่ื นไหวการออกกาลังกาย เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ 3.1 : เข้าใจมีทักษะ การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทยและกฬี าสากล

มาตรฐาน พ 3.2 : รกั การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเปน็ ประจาอย่าง

สม่าเสมอ มีวนิ ัย เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มีน้าใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแขง่ ขนั และชื่นชมในสุนทรยี ภาพ

ของการกีฬา

สาระสาคญั

มงุ่ เนน้ ใหผ้ ู้เรยี นออกอาวุธโดยการใชเ้ ท้าถบี ได้อยา่ งถกู ต้อง ซึง่ เทา้ ถบี เปน็ ทาลายสมาธคิ ตู่ ่อสู้ โดยการ

ใชป้ ลายเทา้ ฝ่าเท้า ส้นเท้า ปะทะเป้าหมาย โดยการยกเท้าขนึ้ เหยียดตรงหรืองอเขา่ ก่อนปะทะคู่ต่อสู้

ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้

1. เลน่ กีฬาไทย กีฬาสากลประเภทบคุ คล / คู่ กีฬาประเภททีมไดอย้ า่ งน้อย 1 ชนิด

2. ออกกาลงั กายและเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับตนเองอยา่ งสม่าเสมอและใชค้ วามสามารถของตนเอง

เพิ่มศักยภาพของทมี ลดความเป็นตัวตนคานึงถึงผลท่ีเกดิ ต่อสงั คม

3. อธิบายและปฏบิ ตั ิเกี่ยวกับสิทธิ กฎ กติกา กลวิธตี ่างๆ ในระหวา่ งการเล่น การแข่งขันกีฬากบั

ผ้อู น่ื และนาไปสรุปเปน็ แนวปฏิบัตแิ ละใช้ในชวี ิตประจาวันอยา่ งต่อเนอื่ ง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ ( K ; Knowledge) :

1. ซักถามเกยี่ วกบั ข้อตกลงในการเรียนการสอน วชิ าพลศึกษา (มวยไทย) พ 33102

2. ครตู ง้ั คาถามเกยี่ วกับเรื่องทนี่ ักเรียนนาเสนอ

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P ; Process ) :

1. สงั เกตการปฏิบตั ิทักษะมวยไทย

2. ประเมนิ ผลการปฏิบัตทิ ักษะมวยไทย

3. สงั เกตจากการมสี ่วนร่วม การให้ความสนใจในระหว่างปฏบิ ัตทิ กั ษะ

ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ( A ; Attitude ) :

1. สงั เกตพฤตกิ รรมทีแ่ สดงออกทางด้านเจตคติ และคณุ ลกั ษณะทดี่ ีในชั้นเรียนไดแ้ ก่ การตรงตอ่ เวลา

ความรับผดิ ชอบ การมนี าใจ

2. สงั เกตจากการทางานเป็นกลุ่ม ความรบั ผิดชอบ การแบ่งหน้าทใ่ี นการทางาน การรบั ฟงั ความคิดเหน็

ของเพอ่ื น ความเปน็ ประชาธิปไตย

สาระการเรียนร/ู้ เน้อื หา
1. นักเรยี นสามารถปฏบิ ัติทกั ษะการใชเ้ ท้าถบี ได้ถูกต้อง
2. นักเรียนสามารถอธิบายข้นั ตอนการใชเ้ ท้าถีบได้อยา่ งถกู ต้อง
3. นักเรยี นให้ความสนใจและความกระตอื รือรน้ ในการเรยี นทักษะการใชเ้ ทา้ ถบี
4. นักเรียนสามารถนาความร้ทู ่เี รยี นไปถา่ ยทอดใหผ้ ู้อืน่ ได้

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนา / ขน้ั เตรียม ( 5 นาที )
1.1 นกั เรยี นเข้าแถวตอน กลุ่มละ 5 คน 8-9 แถว สารวจรายชอื่ สขุ ภาพ และเครือ่ งแตง่ กาย ของนกั เรยี น
ทุกคน








 ครู นกั เรยี น

1.2 ครแู จง้ หน่วยการเรยี นรู้ และจุดประสงค์การเรยี นรใู้ หน้ ักเรยี นทราบ
1.3 ใหน้ ักเรยี นอบอ่นุ รา่ งกาย
ขั้นสอน ( 10 – 15 นาที )
2.1 ใหน้ ักเรียนนงั่ ลง ดูครสู าธิต
2.2 ครอู ธบิ ายพร้อมสาธิต และอธิบายใช้เท้าถบี เป็นจังหวะ

-ถีบตรง
-ถบี ข้าง
-กระโดดถีบ
-ถีบจกิ
ข้นั ฝึกปฏบิ ตั ิ ( 10 - 15 นาที )
3.1 ให้นักเรียนปฏิบตั ิตามทีค่ รสู าธติ ไดด้ ูโดยครูเป็นตน้ เสียงในการใหค้ าสัง่
-ถีบตรง
-ถบี ข้าง
-กระโดดถบี
-ถบี จกิ
3.2 เปา่ นกหวดี สั่ง พรอ้ มเดินตรวจสอบนักเรยี นทป่ี ฏิบัติไมถ่ ูกต้องพร้อมแก้ไขทนั ทเี พ่ือไมใ่ หน้ ักเรยี น
เกดิ การจาและปฏิบตั ิทักษะในสงิ่ ท่ผี ิด

3.3 ให้นักเรียนปฏิบัตเิ ป็นแถวๆละ 8 คน/รอบ
ข้ันนาไปใช้ ( 8 – 10 นาที )
4.1 ให้นักเรียนที่อยดู่ า้ นหน้ามาเอาอุปกรณล์ ่อเปา้ ของมวยไทย
4.2 ให้นักเรยี นลองปฏิบตั ิทกั ษะการใช้เท้าถีบ










ครู นกั เรยี นท่ปี ฏบิ ตั ิทักษะ นักเรียนท่ีถือเป้าล่อ

4.3 นักเรียนท่ีปฏบิ ัตแิ ลว้ ให้มาต่อแถวใหม่ เมื่อครบทกคุ นในแถวแลว้ ใหค้ นต่อไปมา ถอื เปา้ ล่อต่อ
ขน้ั สรุป ( 3 – 5 นาที )
5.1 ครูและนักเรยี นรว่ มกันอภิปรายสรุปทักษะท่ีไดร้ บั จากการศึกษาในวันนี้ตลอดจนเปิดโอกาสให้

นักเรยี นซกั ถามและตอบคาถาม ถ้านักเรยี นไม่เขา้ ใจครูชว่ ยอธบิ าย และให้คานาเสนอแนะ
5.2 ให้นกั เรียนคลายอุน่ ร่ายกาย
5.3 นกั เรยี นทกุ คนสารวจความเรียบร้อยของช้ันเรยี น เครอื่ งแต่งการ ความสะอาดของชั้นเรยี น
สอ่ื -แหล่งเรยี นรู้
1. สือ่ สิง่ พิมพ์ เช่น แผน่ พบั วารสารท่เี กย่ี วกับการออกกาลังกาย กีฬามวยไทย
2. เวบ็ ไซน์เก่ยี วกับกฎ กตกิ า กฬี ามวยไทย
3. หอ้ งสมุดโรงเรยี นสิเกาประชาผดุงวทิ ย์
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
 1. ความสามารถในการคิด
นกั เรียนสามารถวิเคราะห์ จดจาท่าทางการไหว้ครู แมไ่ ม้มวยไทยต่างๆ และสามารถออกแบบการใช้
มวยไทยในเชิงการแสดงศิลปะการต่อสไู้ ด้อยา่ งเหมาะสม สวยงาม
 2. ความสามารถในการสือ่ สาร
นักเรยี นอธิบาย แนะนาทักษะกีฬามวยไทยใหผ้ ้อู น่ื เขา้ ใจได้อยา่ งถูกต้อง และสามารถสอนทักษะกีฬา
มวยไทยให้แกผ่ ู้อน่ื ได้อยา่ งถูกต้อง
 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
นักเรยี นรู้จกั แก้ไขปัญหา ดดั แปลง ทกั ษะมวยไทยไปใช้ในทักษะอย่างอ่ืนได้อยา่ งสมบูรณ์แบบ
 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
นกั เรียนนาความรู้ทางดา้ นทักษะกีฬามวยไทยไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้อย่างถูกต้อง

 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

นกั เรียนมคี วามสามารถในการสืบค้นหาขอ้ มูลใน goggle ตามที่ครมู อบหมายได้

จุดเนน้ สู่การพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น ทกั ษะศตวรรษท่ี 21

 การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)

 ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)

 ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผูน้ า (Collaboration, Teamwork and

Leadership)

 ทักษะดา้ นการส่อื สารสนเทศ และรู้เท่าทันสอ่ื (Communications, Information, and Media

Literacy)

ทกั ษะดา้ นชีวติ และอาชพี

 ความยืดหยนุ่ และการปรับตัว

 การริเร่มิ สรา้ งสรรค์และการเป็นตวั ของตวั เอง

 ทกั ษะสงั คม และสังคมข้ามวัฒนธรรม

 การเปน็ ผูส้ รา้ งหรอื ผู้ผลติ และความรบั ผดิ ชอบเชื่อถือได้

 ภาวะผู้นาและความรบั ผิดชอบ

คณุ ลกั ษณะสาหรบั ศตวรรษที่ 21

 คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตวั ความเป็นผู้นา

 คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง

 คณุ ลักษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ เคารพผู้อืน่ ความซื่อสัตย์ สานึกพลเมือง

การวดั ผลประเมนิ ผลการเรยี นรู้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธกี ารวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารผา่ น

ด้านความรู้ วดั ความร้คู วามเข้าใจ ประวตั ิ แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมินผลการ

( K ; Knowledge) ความเปน็ มา ประโยชน์ ทดสอบก่อนเรียนและหลัง

มารยาทการเล่น และการดู เรียน

กฬี ามวยไทย ทาได้ 8 - 10 คะแนน

เกณฑ์ ดมี าก

ทาได้ 6 - 7 คะแนน

เกณฑ์ ดี

ทาได้ 4 - 5 คะแนน

เกณฑ์ พอใช้

ทาได้ 0 - 3 คะแนน

เกณฑ์ ต้องปรบั ปรุง

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ สงั เกตการณป์ ฏิบตั ิทกั ษะมวย แบบสงั เกตการณ์ การวดั และประเมินผลด้าน

(P ; Process ) ไทย และการนาไปใช้ รายงานผล ทกั ษะกระบวนการ การปฏบิ ตั ิ

ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ สงั เกตการณเ์ ข้าร่วมกจิ กรรม การคิดเชิงระบบ การคิดอย่าง
ประสงค์ ตามกระบวนการกลุ่ม มวี จิ ารณญาณ
( A ; Attitude ) 1. สังเกตการณ์นาเสนอ
รายงานผลสรปุ หนา้ ชั้นเรียน
2. ประเมินผลการปฏิบัตงิ าน
3. สงั เกตจากการมสี ว่ นร่วม
จากการปฎิบัตกิ จิ กรรม
เกณฑ์การประเมนิ
ค่าคะแนน 3 หมายถึง
ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ดี
ค่าคะแนน 2 หมายถึง
ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ปานกลาง
คา่ คะแนน 1 หมายถงึ
ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ควรปรบั ปรุง
การแปลผลคะแนน
ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดีมาก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ตอ้ งปรบั ปรงุ
แบบสังเกตการณ์เขา้ การวัดและประเมินผลด้าน
ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม
และลักษณะอันพึงประสงค์
จากพฤติกรรมการแสดงออก
ความรู้สึก และการปฏบิ ตั ติ น
ในการร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้
1.สังเกตจากการทางานเปน็
กลมุ่ ความรบั ผดิ ชอบ การ
แข่งหนา้ ที่ ในการทางานการ
รับฟงั ความคดิ เห็น การทางาน
ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ความเป็น
ประชาธิปไตย

2.สงั เกตพฤติกรรม การตรง
ต่อเวลา ความรบั ผิดชอบ
ความตง้ั ใจเรยี น ความอดทน
ความรว่ มมือ
เกณฑ์การประเมนิ
ค่าคะแนน 3 หมายถึง
ปฏิบตั กิ จิ กรรม ดี
ค่าคะแนน 2 หมายถงึ
ปฏิบตั กิ ิจกรรม ปานกลาง
คา่ คะแนน 1 หมายถงึ
ปฏิบตั ิกจิ กรรม ควรปรับปรุง
การแปลผลคะแนน
ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดมี าก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ต้องปรับปรงุ

บันทกึ ผลหลงั สอน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 11

ผลการเรียนรู้
1. กิจกรรมการเรยี นการสอนทกี่ าหนดไว้ในแผนการจัดการเรยี นรู้ เปน็ กิจกรรมท่เี หมาะสมกับวยั ของ

ผ้เู รียนและเหมาะสมกบั สาระการเรยี นรู้ สามารถจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน
 ได้ตามเวลาที่กาหนดทุกกิจกรรม
 ไมท่ นั ตามเวลาท่ีกาหนดในกจิ กรรม เนื่องจาก...............................................................................
2. การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนคร้งั นี้ นักเรียนทกุ คนได้ร่วมกิจกรรมและเรยี นรอู้ ย่างมคี วามสขุ
3. กจิ กรรมชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ความเข้าใจตรงตามสาระการเรยี นรู้ เกิดคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์

และมีทักษะกระบวนการตามทีจ่ ุดประสงค์กาหนด
4. สอ่ื การเรยี นการสอนท่ีกาหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ ไดใ้ ช้สือ่ หลายอยา่ ง เป็นส่อื ทเี่ หมาะสมกบั

วัยผเู้ รียน สอดคล้องกบั เนื้อหา สามรถใชป้ ระกอบการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม ชว่ ย
ใหผ้ ู้เรยี นเรียนรอู้ ยา่ งสนุกสนานและเขา้ ใจบทเรยี นไดเ้ รว็ ย่ิงขน้ึ

5. การวดั ผลประเมนิ ผล ในการจดั การเรยี นการสอนครง้ั นี้ ครอบคลมุ พฤติกรรมตามจดุ ประสงค์
การเรยี นรทู้ กี่ าหนดในแผนการจัดการเรยี นรู้ ผลการวัดผลและประเมนิ ผลสรปุ ได้ ดังน้ี :-

5.1 ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ (A)
นักเรียนผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้ขู อ้ ท่ี .............
นกั เรยี นท่ผี า่ นจดุ ประสงค์ตามเกณฑร์ ้อยละ................. จานวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเป็นรอ้ ยละ..................................
- นักเรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์ จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คิดเป็นร้อยละ
และไดด้ าเนนิ การแกป้ ัญหา คือ
 สอนเสรมิ  มอบงานให้ทาเพ่ิมเติม ทารายงาน  อ่นื ๆ................

5.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
นกั เรียนท่ผี ่านทักษะกระบวนการตามเกณฑร์ ้อยละ................. จานวน..............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เป็นรอ้ ยละ..................................
- นักเรยี นท่ีไมผ่ ่านทกั ษะกระบวนการ จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คดิ เป็นร้อยละ
และได้ดาเนนิ การแก้ปญั หา คือ ............................................................................

5.3 ด้านค่านยิ ม (A)
- นกั เรียนท่ีมคี ่านิยมตามเกณฑ์ร้อยละ จานวน............คน
เลขท่ี ........................................... คิดเปน็ รอ้ ยละ ......................................
- นักเรยี นทต่ี ้องปรบั เปลยี่ นค่านยิ ม จานวน............คน
เลขที่ ........................................... คดิ เปน็ ร้อยละ .......................................
และไดด้ าเนนิ การปรบั เปล่ยี นค่านยิ ม (แจงรายละเอียด ของการปรับเปลี่ยน
คา่ นิยม คือ ......................................................................................................

ปัญหาและอปุ สรรค

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แนวทางการแกไ้ ขปญั หา

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชือ่ ....................................................ครผู สู้ อน
(นายสิริวฒุ ิ ชสู วุ รรณ)

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 12

วิชาพลศึกษา (พ 33102) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ช่ือหน่วย ทกั ษะ จานวน 16 ชัว่ โมง

เร่ืองย่อยที่ 12 เร่ือง การใช้เขา่ เวลา 1 ชว่ั โมง

*********************************************

มาตรฐานการเรยี นรู้

สาระที่ 3 การเคลอ่ื นไหวการออกกาลงั กาย เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ 3.1 : เข้าใจมที ักษะ การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทยและกฬี าสากล

มาตรฐาน พ 3.2 : รกั การออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั ิเปน็ ประจาอย่าง

สม่าเสมอ มวี ินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี า้ ใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแขง่ ขัน และชนื่ ชมในสุนทรยี ภาพ

ของการกีฬา

สาระสาคญั

มุ่งเนน้ ใหผ้ ้เู รยี นออกอาวธุ โดยการใชเ้ ขา่ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง การเขา่ เป็นการใช้อาวธุ ทน่ี บั วา่ รนุ แรงท่ีสุด

เพราะการเข่าเกดิ จากการใช้อวยั วะทม่ี มี มุ และความแขง็ แกร่ง คอื หัวเข่า เข้าปะทะร่างกายค่ตู อ่ สู้ แต่การจะใช้

เขา่ นน้ั ไมส่ ามารถใชไ้ ดง้ ่ายเนื่องจากไม่มคี ู่ต่อสูค้ นใดทจ่ี ะยอมใหต้ ัวเองถูกตเี ขา่ ดังน้นั การจะตเี ขา่ ฝ่ายตเี ข่าจึง

ต้องอาศยั ความแข็งแกรง่ ของรา่ งกาย กอด รดั ปล้า และเหนี่ยวรั้งคตู่ อ่ สู้มาตเี ขา่ ให้ได้

ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้

1. เลน่ กีฬาไทย กฬี าสากลประเภทบคุ คล / คู่ กีฬาประเภททมี ไดอ้ย่างน้อย 1 ชนดิ

2. ออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาที่เหมาะสมกบั ตนเองอยา่ งสม่าเสมอและใชค้ วามสามารถของตนเอง

เพม่ิ ศักยภาพของทมี ลดความเป็นตวั ตนคานึงถึงผลท่ีเกิดต่อสังคม

3. อธบิ ายและปฏิบัตเิ ก่ียวกับสิทธิ กฎ กติกา กลวธิ ีต่างๆ ในระหวา่ งการเล่น การแขง่ ขันกีฬากับ

ผู้อ่นื และนาไปสรุปเป็นแนวปฏบิ ตั แิ ละใชใ้ นชีวิตประจาวนั อย่างต่อเน่ือง

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ ( K ; Knowledge) :

1. ซักถามเกย่ี วกับข้อตกลงในการเรียนการสอน วิชาพลศกึ ษา (มวยไทย) พ 33102

2. ครูตงั้ คาถามเกยี่ วกบั เรื่องทนี่ ักเรยี นนาเสนอ

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P ; Process ) :

1. สังเกตการปฏิบตั ิทักษะมวยไทย

2. ประเมนิ ผลการปฏบิ ัตทิ ักษะมวยไทย

3. สงั เกตจากการมีส่วนรว่ ม การใหค้ วามสนใจในระหวา่ งปฏบิ ัตทิ กั ษะ

ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( A ; Attitude ) :

1. สังเกตพฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกทางด้านเจตคติ และคณุ ลักษณะทดี่ ีในชน้ั เรยี นได้แก่ การตรงตอ่ เวลา

ความรบั ผิดชอบ การมีนาใจ

2. สงั เกตจากการทางานเป็นกลุ่ม ความรับผดิ ชอบ การแบง่ หนา้ ทใ่ี นการทางาน การรบั ฟงั ความคดิ เห็น
ของเพือ่ น ความเปน็ ประชาธิปไตย

สาระการเรยี นรู้/เน้ือหา
1. นกั เรยี นสามารถปฏิบัติทกั ษะการใชเ้ ข่าได้ถูกตอ้ ง
2. นกั เรยี นสามารถอธิบายขั้นตอนการใช้เขา่ ได้อย่างถูกตอ้ ง
3. นกั เรยี นให้ความสนใจและความกระตือรือรน้ ในการเรยี นทักษะการใชเ้ ข่า
4. นักเรยี นสามารถนาความรู้ทเ่ี รียนไปถา่ ยทอดใหผ้ ู้อน่ื ได้

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนา / ข้นั เตรียม ( 5 นาที )
1.1 นกั เรยี นเข้าแถวตอน กลมุ่ ละ 5 คน 8-9 แถว สารวจรายชื่อ สขุ ภาพ และเครอื่ งแตง่ กาย ของนกั เรยี น
ทุกคน








 ครู นกั เรยี น

1.2 ครแู จ้งหนว่ ยการเรียนรู้ และจุดประสงค์การเรยี นรใู้ ห้นกั เรยี นทราบ
1.3 ให้นักเรียนอบอุ่นรา่ งกาย
ข้นั สอน ( 10 – 15 นาที )
2.1 ใหน้ ักเรยี นนง่ั ลง ดูครสู าธติ
2.2 ครูอธบิ ายพร้อมสาธติ และอธิบายใช้เข่า เป็นจงั หวะ

-เขา่ ตรง
-เข่าเฉียง
-เขา่ ลอย
ขน้ั ฝกึ ปฏิบตั ิ ( 10 - 15 นาที )
3.1 ให้นักเรียนปฏบิ ตั ติ ามที่ครูสาธิตไดด้ โู ดยครเู ป็นต้นเสียงในการให้คาส่ัง
-เข่าตรง
-เข่าเฉยี ง
-เขา่ ลอย
3.2 เปา่ นกหวดี สง่ั พรอ้ มเดินตรวจสอบนักเรียนที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องพร้อมแก้ไขทันทีเพ่ือไมใ่ ห้นักเรยี น
เกดิ การจาและปฏิบัตทิ ักษะในส่งิ ทีผ่ ิด

3.3 ให้นกั เรียนปฏิบัตเิ ปน็ แถวๆละ 8 คน/รอบ
ขน้ั นาไปใช้ ( 8 – 10 นาที )
4.1 ให้นกั เรยี นที่อยดู่ า้ นหน้ามาเอาอปุ กรณ์ลอ่ เปา้ ของมวยไทย
4.2 ให้นักเรยี นลองปฏบิ ัติทักษะการใช้เข่า










ครู นักเรียนที่ปฏิบัตทิ ักษะ นักเรียนที่ถอื เปา้ ล่อ

4.3 นกั เรียนทีป่ ฏิบตั แิ ล้วใหม้ าต่อแถวใหม่ เมื่อครบทกุคนในแถวแล้ว ใหค้ นต่อไปมาถือเป้าล่อตอ่
ขนั้ สรปุ ( 3 – 5 นาที )
5.1 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายสรุปทักษะท่ีไดร้ ับจากการศึกษาในวันนีต้ ลอดจนเปดิ โอกาสให้

นักเรยี นซกั ถามและตอบคาถาม ถา้ นกั เรยี นไม่เขา้ ใจครชู ว่ ยอธบิ าย และให้คานาเสนอแนะ
5.2 ใหน้ ักเรยี นคลายอนุ่ รา่ ยกาย
5.3 นักเรียนทกุ คนสารวจความเรียบรอ้ ยของชัน้ เรียน เคร่ืองแต่งการ ความสะอาดของชั้นเรียน
สอ่ื -แหล่งเรียนรู้
1. สือ่ สงิ่ พมิ พ์ เชน่ แผ่นพับ วารสารทีเ่ ก่ียวกับการออกกาลังกาย กีฬามวยไทย
2. เว็บไซนเ์ กยี่ วกบั กฎ กติกา กีฬามวยไทย
3. ห้องสมุดโรงเรียนสิเกาประชาผดุงวิทย์
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
 1. ความสามารถในการคิด
นักเรยี นสามารถวิเคราะห์ จดจาทา่ ทางการไหว้ครู แมไ่ มม้ วยไทยต่างๆ และสามารถออกแบบการใช้
มวยไทยในเชิงการแสดงศิลปะการต่อสู้ได้อย่างเหมาะสม สวยงาม
 2. ความสามารถในการสื่อสาร
นกั เรียนอธบิ าย แนะนาทักษะกีฬามวยไทยให้ผู้อนื่ เขา้ ใจได้อยา่ งถูกต้อง และสามารถสอนทกั ษะกีฬา
มวยไทยใหแ้ ก่ผูอ้ ่ืนได้อย่างถูกต้อง
 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
นกั เรยี นร้จู กั แก้ไขปัญหา ดดั แปลง ทักษะมวยไทยไปใช้ในทักษะอยา่ งอ่นื ได้อยา่ งสมบรู ณ์แบบ
 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
นกั เรยี นนาความร้ทู างด้านทักษะกีฬามวยไทยไปปรับใช้ในชีวติ ประจาวันไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง

 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

นกั เรียนมคี วามสามารถในการสืบค้นหาขอ้ มูลใน goggle ตามที่ครมู อบหมายได้

จุดเนน้ สู่การพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น ทกั ษะศตวรรษท่ี 21

 การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)

 ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)

 ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผูน้ า (Collaboration, Teamwork and

Leadership)

 ทักษะดา้ นการส่อื สารสนเทศ และรู้เท่าทันสอ่ื (Communications, Information, and Media

Literacy)

ทกั ษะดา้ นชีวติ และอาชพี

 ความยืดหยนุ่ และการปรับตัว

 การริเร่มิ สรา้ งสรรค์และการเปน็ ตัวของตวั เอง

 ทกั ษะสงั คม และสังคมข้ามวัฒนธรรม

 การเปน็ ผูส้ รา้ งหรอื ผู้ผลติ และความรบั ผดิ ชอบเชื่อถือได้

 ภาวะผู้นาและความรบั ผิดชอบ

คณุ ลกั ษณะสาหรบั ศตวรรษที่ 21

 คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตวั ความเป็นผู้นา

 คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การช้ีนาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง

 คณุ ลักษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ เคารพผู้อืน่ ความซื่อสัตย์ สานึกพลเมือง

การวดั ผลประเมนิ ผลการเรยี นรู้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธกี ารวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารผา่ น

ด้านความรู้ วดั ความร้คู วามเข้าใจ ประวตั ิ แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมินผลการ

( K ; Knowledge) ความเปน็ มา ประโยชน์ ทดสอบก่อนเรียนและหลัง

มารยาทการเล่น และการดู เรียน

กฬี ามวยไทย ทาได้ 8 - 10 คะแนน

เกณฑ์ ดมี าก

ทาได้ 6 - 7 คะแนน

เกณฑ์ ดี

ทาได้ 4 - 5 คะแนน

เกณฑ์ พอใช้

ทาได้ 0 - 3 คะแนน

เกณฑ์ ต้องปรบั ปรุง

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ทิ กั ษะมวย แบบสงั เกตการณ์ การวดั และประเมินผลด้าน

(P ; Process ) ไทย และการนาไปใช้ รายงานผล ทกั ษะกระบวนการ การปฏบิ ตั ิ

ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ สงั เกตการณเ์ ข้าร่วมกจิ กรรม การคิดเชงิ ระบบ การคิดอย่าง
ประสงค์ ตามกระบวนการกลุ่ม มวี จิ ารณญาณ
( A ; Attitude ) 1. สังเกตการณ์นาเสนอ
รายงานผลสรปุ หนา้ ชั้นเรียน
2. ประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ าน
3. สงั เกตจากการมสี ว่ นร่วม
จากการปฎิบัตกิ จิ กรรม
เกณฑ์การประเมนิ
ค่าคะแนน 3 หมายถึง
ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ดี
ค่าคะแนน 2 หมายถึง
ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ปานกลาง
คา่ คะแนน 1 หมายถงึ
ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ควรปรบั ปรุง
การแปลผลคะแนน
ทาได้ 13 - 15 คะแนน
เกณฑ์ ดมี าก
ทาได้ 10 - 12 คะแนน
เกณฑ์ ดี
ทาได้ 5 - 9 คะแนน
เกณฑ์ พอใช้
ทาได้ 0 - 4 คะแนน
เกณฑ์ ต้องปรบั ปรงุ
แบบสังเกตการณ์เขา้ การวัดและประเมินผลด้าน
ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม
และลักษณะอนั พึงประสงค์
จากพฤตกิ รรมการแสดงออก
ความรู้สกึ และการปฏบิ ตั ติ น
ในการรว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
1.สังเกตจากการทางานเปน็
กลมุ่ ความรับผดิ ชอบ การ
แข่งหนา้ ที่ ในการทางานการ
รับฟงั ความคดิ เห็น การทางาน
ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ความเป็น
ประชาธปิ ไตย


Click to View FlipBook Version