The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิชาอาวุธและการใช้อาวุธ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by preparation, 2022-07-11 00:11:45

วิชาอาวุธและการใช้อาวุธ

วิชาอาวุธและการใช้อาวุธ

- 43 -

คำถามทา้ ยบท

1. ปลย. ทาโวร์ ผลิตโดยบริษทั อะไร และประเทศใด
2. ปลย. ทาโวร์ มีกแ่ี บบ อะไรบา้ ง
3. จงบอกระยะยงิ ไกลสุดและระยะยิงหวังผลของ ปลย. ทาโวร์
4. วงรอบการทำงานของ ปลย. ทาโวร์ มีกขี่ นั้ อะไรบา้ ง
5. จงบอกกลไกนิรภัยทช่ี ว่ ยป้องกนั อุบตั ิเหตุในการทำปนื ลน่ั โดยไม่ตั้งใจของ ปลย. ทาโวร์
6. การสรา้ งจุดเลง็ ขณะทีใ่ ชง้ านในเวลากลางวนั ใช้ระบบรวบรวมแสงสว่างตามธรรมชาติดว้ ยใยแกว้ นำแสง ส่วนการ
ใหแ้ สงในเวลากลางคืนใชแ้ หลง่ ใหแ้ สงจากอะไร
7. จงบอกข้อดีกลอ้ งเลง็ สะท้อนภาพ MEPRO 21 M
8. การปรบั ศูนย์เล็งของกล้องเล็ง MEPRO 21 M การปรบั ศนู ย์เล็งทางทิศและทางระยะ 1 คลิก มีค่าเท่ากบั 1 ซม.ใน
ระยะ 25 เมตร อยากทราบว่าในระยะ 100 เมตร 1 คลิก มคี า่ เท่ากับก่ี ซม.
9. การปรับศูนยเ์ ลง็ สำรอง ในระยะ 25 เมตร สามารถปรับไดท้ ้ังทางทิศและทางระยะ 1 คลิก มคี า่ เท่ากับเท่าใด
10. ในเรือ่ งกระสุนวิถขี อง ปลย.ทาโวร์ เมื่อยิงกระสุนชนิด M 855 ในระยะ 25 เมตร กระสุนจะต่ำกวา่ แนวเสน้ สายตา
เท่าใด

***********************************

- 44 -

บทท่ี 3

เครือ่ งยงิ ลูกระเบิดขนาด 40 มม. เอ็ม.203

กลา่ วท่ัวไป
ความมุ่งหมายในข้ันพื้นฐาน เพ่ือใช้เป็นแนวทางสำหรับการฝึก เคร่ืองยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มม.
เอ็ม. 203 ได้อย่างมีประสิทธ์ิภาพ รวมถงึ ความปลอดภัยในระหว่างการใช้และการฝึกพลประจำเครื่องยิงเป็นไปอย่างดี
ตาม รส. 23 – 31 – 1 พ.ศ. 2536
1. ลักษณะโดยทัว่ ไปของเครือ่ งยิงลกู ระเบดิ ขนาด 40 มม. เอ็ม. 203

1.1 เปน็ อาวุธขนาดเบา
1.2 ยงิ ทีละนดั บรรจุกระสนุ ทางท้ายรงั เพลงิ
1.3 ทำงานด้วยการเล่ือนลำกล้องออกและเข้า
1.4 เปน็ อาวุธทใี่ ชย้ ิงดว้ ยการประทับไหล่ ตัวเครื่องยงิ ติดอยู่กับ ปลย.เอม็ . 16 เอ 1
1.5 ตวั เครื่องยิงประกอบด้วย

1) ฝาครอบลำกลอ้ ง
2) ชุดเคร่ืองเลง็
3) ชุดเครื่องลัน่ ไก
4) ชดุ ศูนย์ยงิ ประณีต
5) ชุดลำกลอ้ ง

รปู ท่ี 3-1 เคร่ืองยิงลกู ระเบดิ ขนาด 40 มม.เอ็ม.203

- 45 -

1.6 ขนาด นำ้ หนกั

ความยาวของเคร่ืองยิง 15 5/16 นว้ิ

ความยาวของลำกล้อง 12 นิ้ว

นำ้ หนัก (ยงั ไมไ่ ด้บรรจกุ ระสุน) 3 ปอนด์ (โดยประมาณ)

นำ้ หนกั (บรรจุกระสนุ แล้ว) 3.5 ปอนด์ (โดยประมาณ)

น้ำหนักบรรจกุ ระสุนเอม็ . 16 เอ 1 และ เอ็ม. 203 11 ปอนด์ (โดยประมาณ)

แรงเหน่ยี วไก 5 ปอนด์

1.7 กระสนุ

ขนาด 40 มม.

นำ้ หนัก 8 ออนซ์ (โดยประมาณ)

1.8 อตั ราการยงิ

ระยะยิงไกลสดุ 400 เมตร (โดยประมาณ)

1.9 ระยะยิงหวงั ผลไกลสดุ

เปา้ หมายเป็นพน้ื ที่ 350 เมตร

เป้าหมายเปน็ จุด 150 เมตร

1.10 ระยะท่ีปลอดภยั (กระสุนระเบิดและซ้อมยิง)

ในการฝกึ 80 เมตร

ในการรบ 31 เมตร

รศั มกี ารระเบดิ 5 เมตร

อัตรากระสุนมลู ฐาน 30 นัด

1.11 เคร่อื งควบคมุ การยงิ

1) หา้ มไก ห้ามไกอยตู่ รงหนา้ ไกเม่อื จะทำการยิงห้ามไกตอ้ งอยู่ในตำแหน่งหา้ มไก ต้องดัน

หา้ มไกไปข้างหลงั สดุ (SAFE) หรอื ยิง (FIRE) ตอ้ งดนั หา้ มไกไปข้างหน้าไกและโกร่งไก

2) กลอนยึดลำกล้อง กลอนยึดลำกล้องอยู่ทางซ้ายของลำกล้อง กลอนนี้ทำหน้าที่ยึด

ลำกลอ้ งกับโครงเครอ่ื งลั่นไก การเปดิ ลำกล้องใหก้ ดกลอนยดึ ลำกล้องแลว้ เล่ือนลำกล้องไปขา้ งหนา้

1.12 เคร่อื งเล็ง

1) ชุดใบศูนย์ (ศูนย์ยิงเร่งด่วน) ต้ังอยู่บนส่วนบนสุดฝาครอบลำกล้อง ประกอบด้วย ฐานใบ

ศูนย์, แทน่ ศูนย์, ใบศูนย,์ ควงปรบั มุมสงู และควงปรับมุมทิศ

2) ฐานศูนย์ ติดตายตัวกับฝาคราอบลำกล้องด้วยควงยึดแท่นศูนย์ 2 ตัว ฐานของใบศูนย์นี้

ทำหน้าที่ปอ้ งกันไมใ่ หใ้ บศูนยเ์ กิดการชำรดุ ปกติจะอยูใ่ นตำแหนง่ พับลง

- 46 -

3) แท่นศูนย์และใบศูนย์ จะติดอยู่กับฐานศูนย์ การใช้ยกใบศูนย์สูงข้ึนหรือต่ำลง ที่ใบศูนย์มี
เครื่องหมายแบ่งไว้ต้ังแต่ 50 – 250 เมตร ทุก ๆ ระยะ 50 เมตร จะมีขีดย่อยแสดงไว้และมีตัวเลขกำกับไว้ที่ระยะ
100 เมตร และ 200 เมตร

4) ชุดศูนย์ยิงประณีต ติดตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของหูหิ้วของปืนเล็กยาว เอ็ม. 16 เอ 1
ประกอบด้วย ควงยดึ แทนศนู ย์ แผ่นประกับชดุ ศูนยย์ ิงประณีต ชุดแทนศูนย์ กลอนยดึ ศนู ย์, รูศูนย์หลัง, ก้านรศู ูนยห์ ลัง
, หลักศูนย์หน้าและก้านหลักศูนย์หน้า, แผ่นประกับชุดศูนย์ยิงประณีต, ชุดแท่นศูนย์และควงยึดแท่นศูนย์ติดอยู่กับ
หูห้ิว ของ ปลย. เอ็ม. 16 เอ 1 จะตรึงไว้กับควงยึดแท่นศูนย์ติดอยู่กับหูห้ิว ปลย. เอ็ม. 16 เอ 1 จะตรึงไว้กับควงยึด
แท่นศูนย์ ประกอบตดิ เข้าทางดา้ นขวาของแทน่ ประกบั ชดุ ศูนยย์ งิ ประณตี

กลอนยึดศูนย์ ก้านศูนยย์ งิ ประณีต กระเด่ืองยดึ รูศนู ยห์ ลัง
หลักศูนยห์ นา้ ก้านหลักศนู ยห์ นา้

รูศนู ย์หลงั

ควงปรบั มุมสงู กา้ นรูศูนย์หลัง

มาตราระยะยิง

รูปที่ 3-2 ชนิ้ ส่วนตา่ งๆ เครื่องยิงลูกระเบดิ ขนาด 40 มม.เอ็ม.203

5) ก้านศนู ยย์ ิงประณตี และมาตราระยะยิง ทำหนา้ ที่ 2 ประการ
5.1) ใชต้ ดิ ก้านรูศูนย์หลงั (ยดึ รูศูนย์ไว้)
5.2) ใช้ติดก้านหลักศูนย์หน้า (ยึดหลักศูนย์หน้า) จะทำให้ศูนย์หมุนไปตามมาตราระยะ

ยงิ ท่ีต้องการได้ ที่มาตราระยะยิงนม้ี ีเคร่ืองหมายแบ่งไว้ ตั้งแต่ 50 – 400 เมตร ทุกๆ ระยะ 25 เมตร จะมีเส้นขดี ย่อย
แสดงไว้ การเลอื่ นศนู ยย์ ิงประณีตไปตามมาตราระยะยงิ นนั้ ให้ปลดกลอนกา้ นศูนยย์ งิ ประณีตแลว้ เลื่อนข้ึนหรอื ลง

6) หลักศูนย์หน้า ติดตั้งอยู่บนก้านศูนย์ยิงประณีตโดยกลางบานพับออกเวลาทำการยิงหรือ
พันเก็บ หลังเลิกยิง หลักศูนย์หน้าใช้ปรับเพื่อระยะและลดระยะหมุนควงปรบั ศูนย์หน้าไปทางขวา เพ่ือลดระยะมุมลง
หมุนควงปรับศูนย์หน้าไปทางซ้ายเพ่ือเพิ่มระยะมุมขึ้นเมื่อหมุนควงปรับมุมเพ่ิมหรือลด 1 รอบ จะเลื่อนตำบลกระสุน
ตกไป 5 เมตร ในระยะ 200 เมตร

- 47 -

7) รูศูนย์หลัง จะติดกับก้านรูศูนย์หลังและติดกับตอนหลังของก้านศูนย์ยิงประณีต จะทำ
ศูนย์หลังก่อนการเล่ือนรูศูนย์หน้า สามารถปรับมุมน้อยหรือมากได้ก่อนการปรับให้กดกระเด่ืองยึดศูนย์หลังก่อนการ
เลอื่ นรูศูนย์หลงั เป็นการปรบั ทางทศิ (ขวา – ซ้าย) เลอื่ นศนู ยห์ ลงั ออกจากช่องเล็ง 1 รอยบาก กระสนุ ตกไปทางซ้าย
จะมีค่า = 1 1/2 เมตร ในระยะ 200 เมตร เลื่อนรูศูนย์หลังเข้าหาช่องเล็ง 1 รอยบาก กระสุนตกไปทางขวาจะ
มีค่า = 1 1/2 เมตร ในระยะ 200 เมตร

หมายเหตุ หลักศนู ย์หน้า ก่อนทำการยงิ ใหห้ มุนศูนย์หน้าไปจนสงู สดุ แล้วคายออก 2 1/2 รอบ
2. การถอดและประกอบ

2.1 การถอดปกติ พลยิงไดร้ ับการถอดชิน้ ส่วนเครอื่ งยงิ ลูกระเบิดได้ ดังนี้
1) ตรวจอาวุธเสียก่อนโดยกดกลอนยึดลำกล้อง แล้วเลื่อนชุดลำกล้องไปข้างหน้าแล้วตรวจดู

รังเพลงิ
2) คลายควงยึดแท่นศูนยแ์ ละถอดชุดศูนย์ยงิ ประณีตออกจากหูหิ้ว ปลย.เอ็ม.16เอ 1
3) การถอดชุดลำกลอ้ งมี 2 วธิ ี คือ
วิธีที่ 1 กดกลอนยึดลำกล้อง และเล่ือนชุดลำกล้องไปข้างหน้าจากปากลำกล้องของ ปลย.

เอ็ม. 16 เอ 1 ให้นับรูซ่ึงอยู่ทางซ้ายมือของฝาครอบลำกล้องไปจนถึงรูท่ี 4 แล้วสอดปลายด้านหนึ่งของแส้เข้าไปใน
รูกดกระเดื่องยดึ ลำกล้อง และเลอื่ นชุดลำกลอ้ ง กลอ้ งออกจากรางรบั ลำกลอ้ ง

วิธีท่ี 2 ถอดฝาครอบลำกล้องและชุดศูนย์ โดยกดแหวนครอบลำกลอ้ งของ ปลย.เอม็ . 16 เอ 1
ลงจนกระท่ังขอบล่างของฝาครอบลำกล้องหลุดออกจากแหวนแหนบยึดครอบลำกล้อง กดกลอนยึดลำกล้องและเลื่อน
ชดุ ลำกลอ้ งไปข้างหนา้ แลว้ กดกระเดอ่ื งยึดลำกลอ้ ง และเลอ่ื นชุดลำกลอ้ งออกจากรางรับลำกล้อง

2.2 การประกอบ
การถอดประกอบเครือ่ งยิงลกู ระเบดิ ให้ทำตรงกันขา้ มกบั การถอดทกุ ประการ

1) ประกอบลำกลอ้ งเข้ากบั เคร่ืองล่นั ไก แลว้ เลือ่ นไปจนขดั กลอนกบั กระเดื่องยดึ ลำกล้อง
2) ประกอบชุดแท่นศูนยย์ ิงประณีต และแผ่นประกับชุดศูนย์ยิงประณีตเข้ากับหูห้ิวของ ปลย.
เอม็ . 16 เอ 1 แลว้ ขนั ควงยึดแทน่ ศนู ย์ให้แนน่
3. การปฏิบัตแิ ละการทำงานของเคร่ืองกลไก
3.1 การเตรยี มการเพ่ือทำการยิง
1) ตรวจภายในลำกล้องเพ่อื ให้แนใ่ จวา่ สะอาด
2) ตรวจเคร่ืองยงิ
3) ตรวจหาชิ้นส่วนตา่ ง ๆ มีการชำรุดหรอื ไม่
3.2 การทำงานของเครื่องกลไก

- 48 -

เคร่อื งยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มม. เอ็ม.203 มีลักษณะการทำงานดว้ ยการบรรจุกระสุน 1 นัด
จากท้ายรงั เพลงิ และทำการยิงวงรอบการทำงานจะเริม่ ขนึ้ 8 ข้นั ดังน้ี

1) การปลดกลอน - การปลดกลอน การปลดกลอนกระทำโดยการกดท่ีกลอนยึดลำกล้องและ
เลอื่ นชุดลำกล้องไปขา้ งหน้า

2) การข้นึ นก - การขนึ้ นก กระทำได้ดงั น้ี
2.1) เคร่ืองยงิ จะขน้ึ นกเมื่อชดุ ลำกล้องเปิด
2.2) เม่อื ชดุ ลำกล้อง และโครงตอ่ ท้ายลำกล้องเคลื่อนทไ่ี ปข้างหน้าโครงต่อท้ายลำกล้องจะ

เก่ยี วกบั คนั นกปนื คันขึ้นนกจะกดลง จะทำใหเ้ ข็มแทงชนวนอัดแหนบ
2.3) แหนบเหล็กผลักโครงตอ่ ท้ายลำกล้องจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า พร้อมกบั โครงตอ่ ท้ายลำ

กล้องจะบังคับใหข้ ึ้นนกอยใู่ นตำแหนง่ ขา้ งลา่ ง
2.4) เม่ือชุดลำกล้องเคลื่อนที่ไปข้างหลังเหล็กผลักโครงต่อท้ายลำกล้องจะถูกบังคับให้ไป

ข้างหลงั ในขณะเดียวกนั คันขน้ึ นกจะเก่ียวกับโครงต่อท้ายลำกลอ้ งไว้ เข็มแทงชนวนจะเคลือ่ นท่ไี ปข้างหนา้ เก่ยี วเข้ากับ
แงห่ น้าไกจะข้นึ นกทันที

3) การรั้งปลอกกระสุน - การรั้งปลอกกระสุน ในขณะท่ีลำกล้องถูกเปิดออกขอร้ังปลอก
กระสนุ ทีย่ ิงไปแล้วไว้กับโครงเคร่ืองลัน่ ไกจนกว่าในลำกล้องจะไม่มีปลอกกระสนุ

4) การคัดปลอกกระสุน - การคดั ปลอกกระสุน แหนบเหล็กคดั ปลอกกระสุนจะดันปลอก
กระสุนทีย่ งิ ออกไปแล้วหรอื กระสนุ จริงออกจากชุดลำกล้อง

5) การบรรจุ - การบรรจุ เม่ือชุดลำกล้องอยู่ในตำแหน่งเปิดทำการบรรจุกระสุน เข้าท้าย
รังเพลิง

6) การเข้าสรู่ ังเพลิง - การเขา้ รังเพลงิ ในขณะท่ีท้ายลำกล้องถูกปิด ขอร้ังกระสุนจะสัมผัสกับ
ขอบกระสนุ กระสนุ จะเข้าสรู่ งั เพลงิ ทนั ที

7) การปิดลำกล้อง - การปิดลำกล้อง เมื่อปิดชุดลำกล้องกลอนยึดชุดลำกล้องไว้ใน
ขณะเดียวกัน คันขึ้นนกจะไปเก่ียวเข้ากบั โครงตอ่ ท้ายลำกลอ้ งไม่สามารถเคลือ่ นไปข้างหนา้ ตามชุดโครงเคร่ืองลน่ั ไกได้

8) การยิง - การยิง เม่ือเหนี่ยวไกมาข้างหลังแง่หน้าไกจะหลุดออกจากแง่ล่าง จะทำให้เข็ม
แทงชนวน พงุ่ ไปข้างหนา้ ไปกระทบกับชนวนท้ายปลอกกระสุนทันที

4. เหตตุ ิดขัดและวธิ แี กไ้ ขเหตุติดขดั ทนั ทีทันใด
4.1 เหตุติดขัด คือเหตุของการทำงานของเครื่องยิงต้องสะดุดลงโดยไม่เจตนา สาเหตุติดขัด

ตามปกตเิ กดิ ขน้ึ ไดแ้ ก่ ปนื ไม่ลัน่ , ป้อนกระสุนไม่ได้, ไมร่ ง้ั ปลอกกระสนุ , ปนื ไม่ข้นึ นก
4.2 การแก้ไขเหตุติดขัดทันทีทัน คือ การแก้ไขการติดขัดอย่างฉับพลันโดยไม่คำนึงถึงสาเหตุของ

การติดขัดนนั้ ๆ ในขณะท่ีปืนไมล่ ่นั

- 49 -

4.3 การแก้ไขเหตตุ ิดขัดในการยิงปืน คอื สาเหตตุ ิดขัดต่างๆ ของเครื่องกลไกที่เกิดชำรดุ การแกไ้ ข
จะตอ้ งปฏิบตั ใิ ห้ถกู ต้องตามตารางการแกไ้ ข

4.4 สาเหตุของเครื่องยงิ ลกู ระเบดิ ขนาด 40 มม. เอม็ . 203 ในขณะทำการยงิ จะเกิดขนึ้ ได้กระสุน
ลัน่ ช้า, กระสุนด้าน

1) กระสุนล่ันช้า เกิดจากคนั ส่งกระสุนทำงานชา้ ในเวลาลัน่ ไก จำนวนเวลาของการทำงานจะ
ไมส่ ามารถระบุได้ชดั ในเวลาทกี่ ำหนดไดจ้ ะตอ้ งพจิ ารณากระสุนท่ยี ิงไวก้ ่อน หรอื สาเหตขุ องปืนท่ยี งิ ต่อไป

2) กระสุนด้าน เกิดจากเม่ือเราลั่นไกปืนไม่ล่ันตรวจดูสาเหตุเกิดข้ึนเพราะอะไรถ้าเกิดจาก
กระสุนดา้ นจรงิ จะไม่เกดิ อันตราย ให้ปฏิบตั อิ ยา่ งระมัดระวังจนกวา่ กระสุนด้านนัดน้ันจะออกจากเครื่องยิงให้กระทำได้
ดังน้ี

ให้ตะโกนวา่ “กระสนุ ดา้ น” ผูย้ งิ ยงั คงเลง็ ปนื ไปยังเปา้ หมายหลังจากน้ันคอย 30 วินาทีแล้ว
จึงเปดิ ทา้ ยรังเพลิงนำกระสนุ ออกไวย้ ิงท่ีปลอดภัย

หมายเหตุ การร้องวา่ “กระสุนด้าน” นัน้ ใหใ้ ช้เฉพาะในการฝกึ เทา่ นัน้

เหตุติดขดั สาเหตุ วิธแี ก้ไข
เคร่อื งยิงไม่ลัน่ ไก
- ห้ามไกไว้ - เล่อื นหา้ มไกไปอยใู่ นตำแหนง่ “FIRE”
ปนื ไมข่ ึน้ นก
- รงั เพลงิ ไม่มีกระสนุ - บรรจุกระสนุ นดั ใหม่

- มีนำ้ หรือน้ำมนั หล่อลื่นในช่องเข็ม - ใช้มือเล่ือนเคร่ืองยงิ ไปมาให้ครบวงรอบการ

แทงชนวนมากเกนิ ไป ทำงานหลายๆครั้งและเหน่ยี วไกด้วย

- เข็มแทงชนวนสกึ หรอหรือหัก - เปลี่ยนเขม็ แทงชนวนใหม่

- ในช่องเขม็ แทงชนวนสกปรก หรือ - ทำความสะอาด

มีเศษวตั ถุคา้ งอยู่

- กระเดอื่ งไกหรือเขม็ แทงชนวน - เปล่ียนใหม่

เป็นเสีย้ น

- ชอ่ งเข็มแทงชนวนสกปรก -ทำความสะอาด

- แหนบเข็มแทงชนวนอ่อนหรือ - เปลี่ยนใหม่

สกปรก

- กระเดอื่ งไกหกั - เปล่ียนใหม่

- ประกอบคนั ขึน้ นกไมถ่ กู - ประกอบใหม่

- สลักแหนบคนั ขึ้นนกหลวมหัก -เปลย่ี นใหม่

หรอื หาย

- 50 -

เหตตุ ิดขดั สาเหตุ วิธแี ก้ไข
ไมป่ ดิ ท้ายลำกล้อง
(ไม่ขัดกลอน) - มวี ตั ถุหลอมเหลวทีท่ ้ายชดุ ลำ - เอาวตั ถทุ ี่หลอมเหลวออกจากเครอื่ งปิดท้าย

บรรจกุ ระสนุ ไม่ได้ กล้องมากเกนิ ไป ลำกล้อง
ไม่รง้ั ปลอกกระสุน
- เหลก็ ผลักคางต่อทา้ ยลำกล้อง - ทำความสะอาด
ไมค่ ัดปลอกกระสุน
หรือโครงเคร่ืองล่นั ไกสกปรก
หา้ มไกไม่อยู่ในตำแหน่ง
ศนู ย์ไม่อยใู่ นตำแหน่งท่ี - กระสุนผดิ รปู - บรรจุกระสุนใหม่
ตอ้ งการ
- รังเพลงิ สกปรก - ทำความสะอาด

- แหนบหรอื สลักแหนบขอร้ังปลอก -เปลี่ยนใหม่

กระสุนชำรดุ

- ปลอกกระสุนบวม - ถอดปลอกกระสนุ ออกจากลำกล้อง

- เหลก็ คดั ปลอกกระสุนหรือสลกั - เปลี่ยนใหม่

แหนบเหล็กคัดปลอกกระสนุ สึก

หลอหรอื หาย

- หา้ มไกหักหรือสึกหลอหรอื สลกั - เปลย่ี นใหม่

แหนบหา้ มไกหาย

- ควงยึดแท่นศูนย์หลวม - ขัดควงยึดแทน่ ศนู ย์ใหแ้ นน่ หรือเปลี่ยนใหมถ่ ้า

มรี อยชำรดุ หรือหัก

5. ชนดิ กระสุน 6 ประเภท

5.1 กระสนุ ระเบิดสงั หาร

5.2 กระสนุ ลูกปราย

5.3 กระสนุ ควนั

5.4 กระสุนสอ่ งแสง

5.5 กระสนุ แก๊ส

5.6 กระสุนซ้อมยิง

6. ชนวนทใี่ ช้กับกระสุนเครื่องยงิ ลูกระเบิด เอ็ม. 203 ขนาด 40 มม. มี 6 แบบ คือ

6.1 ชนวน เอ็ม. 536 พรอ้ มทำงานประมาณ 14 – 28 เมตร

6.2 ชนวน เอม็ . 536 อ.ี 1 พรอ้ มทำงานประมาณ 28 – 34 เมตร

6.3 ชนวน เอ็ม. 550 พรอ้ มทำงานประมาณ 14 – 28 เมตร

6.4 ชนวน เอม็ . 551 พร้อมทำงานประมาณ 14 – 28 เมตร

- 51 -

6.5 ชนวน เอม็ . 552 พร้อมทำงานประมาณ 2 – 3 เมตร

6.6 ชนวน เอ็ม. 733 พรอ้ มทำงานประมาณ 15 – 45 เมตร

*หมายเหตุ : ชนวน ข้อท่ี 1 - 2 ใชก้ ระสนุ แตกอากาศ, ชนวน ขอ้ ท่ี 3 - 5 ใช้กระสุนสังหาร ซอ้ มยงิ ,

ชนวน ข้อที่ 6 ใชก้ ระสนุ ควนั

- 52 -

คำถามท้ายบท ลำกล้องกระสุน

1. เม่ือทำการยิงเครื่องลูกระเบิดขนาด 40 มม. เอ็ม. 203 อยากทราบว่าเม่ือกระสุนพ้นออกจาก
จะมีความเร็วในการหมนุ ก่ีรอบตอ่ นาที

2. เคร่อื งยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. เอ็ม. 203 มกี ่สี ว่ น

3. ชิน้ ส่วนหลกั ของเคร่ืองยิงลกู ระเบดิ ขนาด 40 มม. เอม็ . 203 มกี ่ชี ้นิ ส่วน

4. การทำงานของเครอ่ื งยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. เอ็ม. 203 มกี ารทำงานกี่ข้นั ตอน

5. ใหเ้ รียงลำดับข้นั ตอนการทำงานของเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. เอ็ม. 203 ใหถ้ ูกต้อง

6. ค. ขนาด 40 มม. เอ็ม. 203 ระยะยงิ หวงั ผลเปน็ จดุ และเปน็ พืน้ ทเี่ ทา่ ใด

7. กระสนุ สังหาร ค. ขนาด 40 มม. เอ็ม. 203 มีรศั มีฉกรรจเ์ ทา่ ไร

8. มาตราระยะยิงศูนย์ยงิ ประณตี ของ ค. 40 มม. เอ็ม. 203 มีระยะบอกไว้เท่าใด

9. จงอธิบายส่วนประกอบตัวเครอ่ื งยิง ค. ขนาด 40 มม. เอ็ม. 203

10. การตัง้ ศูนยร์ บของ ค. 40 มม. เอม็ . 203 (ศูนยย์ งิ ประณีต) จะมีศนู ย์หน้าและศูนย์หลัง ก่อนทำการยิง พลยิง
จะต้องหมุนศูนยห์ นา้ เขา้ ใหส้ ุด อยากทราบวา่ พลยิงจะต้องหมนุ ออกก่ีรอบ

****************************************

- 53 -

บทที่ 4

ปืนเลก็ กล เนเกฟ ขนาด 5.56 มม.

1. กล่าวนำ
ปลก.เนเกฟ จัดเป็นอาวุธกลประจำหมู่ปืนเล็กของทหารราบผลิตโดยบริษัท Israel Weapon
Industries (IWI) Ltd. ประเทศอิสราเอล ภายใต้ขอบเขตความต้องการทางด้านเทคนคิ และดา้ นการใชง้ านทางยุทธวิธี
ซึง่ มุ่งเนน้ ในเรื่องความเช่ือถอื ในการใชง้ านและความสามารถดำรงสภาพของปืน กองทัพบกจัดซอ้ื เข้าประจำการเมื่อปี
51 เป็นอาวุธกลทำการยิงได้ท้ังแบบกึ่งอัตโนมัติและอัตโนมัติ ซึ่งมีข้อแตกต่างจากอาวุธชนิดอ่ืน จัดเป็นปืนพัฒนาท่ี
เน้นในเรื่องของขนาด การใช้งานท่ีรวดเร็ว และมีอำนาจการยิงที่รวดเร็ว แม่นยำตามคุณลักษณะของอาวุธสมัยใหม่
กล่าวคือมขี นาดเล็กลง อีกทั้งมีความเป็นสากลกล่าวคือ สามารถใช้กระสุนขนาดเดยี วกับกล่มุ ประเทศนาโต้ เป็นปนื ท่ี
ทำงานด้วยแก๊สโดยมีกรวยจัดแก๊สเป็นเคร่ืองมือช่วยในการจัดปรับแก๊สอัตราความเร็วในการยิงของปืนให้เป็นไปตาม
สภาพแวดลอ้ ม ปอ้ นกระสุนด้วยสายกระสุนหรือซองกระสนุ ระบายความร้อนดว้ ยอากาศ ทำการยิงจากตำแหน่งหน้า
ลูกเลื่อนเปิดทำการยงิ ด้วยการประทับบ่า ประทับสะโพกหรือใต้แขน มขี าทรายแบบพับไดต้ ิดอยู่กับลำกล้องส่ายยิงได้
และสามารถยึดติดปืนกลบนรถเกราะทหารราบ ปลก.เนเกฟ มีการออกแบบโครงสร้างให้มีความเรียบร้อยและ
นา่ เชอ่ื ถอื สูง จงึ ไม่จำเป็นตอ้ งทำการจัดปรับแก้ใด ๆ ในระดับผ้ใู ช้

1.1 ระบบ ปลก.เนเกฟ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักไดแ้ ก่
1.1.1 ปนื เล็กกลเนเกฟ
1.1.2 อปุ กรณป์ ระจำปนื

3) กระสนุ

ภาพ 4 - 1 ปนื เล็กกลเนเกฟ

- 54 -

1.2 รายการทั่วไปและขปี นวธิ ี

1.2.1 คณุ ลักษณะ

- กว้างปากลำกล้อง ขนาด 5.56 มม.

- กระสนุ ขนาด 5.56 x 45 มม.นาโต้ (เอสเอส109 / เอ็ม 855)

- มีขาทรายพับไดต้ ิดอยู่กบั ลำกลอ้ ง

- มชี ่องปอ้ นกระสนุ ด้วยสายกระสนุ หรือซองกระสนุ

- ปนื ยาวเมอ่ื กางพานท้าย 1,020 มม.

- ปืนยาวเมอ่ื พบั พานท้าย 780 มม.

- ความยาวลำกล้อง (รวมปลอกลดแสง) 500 มม.

- ความยาวลำกล้อง (ไม่รวมปลอกลดแสง) 460 มม.

- ความสูงของปนื (พบั ขาทราย) 220 มม.

- ลำกล้องจำนวน 6 เกลยี วเวยี นขวา ความยาว 1 รอบเทา่ กับ 7 นว้ิ

1.2.2 รายการน้ำหนกั และขีปนวิธี

น้ำหนกั

- ปืนไม่มีกระสุน 7.45 กก.

- ปืนพร้อมกล่องกระสนุ รวมกระสนุ 150 นดั 10.30 กก.

- ซองกระสุนเปลา่ ขนาด 30 นดั 7 กรัม

1.2.3 ความเร็วตน้ 915 เมตร/วินาที

1.2.4 อัตราการยงิ

- กรวยจัดแก๊สอยู่ท่ี 1 ซองกระสนุ 850 – 1,050 นดั /นาที

- กรวยจัดแก๊สอย่ทู ี่ 2 สายกระสนุ 850 – 1,050 นดั /นาที

- กรวยจัดแกส๊ อย่ทู ่ี 3 สายกระสุน 950 – 1,150 นัด/นาที

5) ระยะยิงหวังผล 300 – 1,000 เมตร

1.3 ศูนยเ์ ลง็ ประกอบดว้ ย

1.3.1 ศูนย์หลงั เปน็ ศนู ย์รู มีควงปรับระยะจาก 300 – 1,000 เมตร (ปรบั ไดช้ ่วงละ 100

เมตร) 1.3.2 ศูนย์หน้า เป็นศูนย์คมมีด ปรับได้ทั้งทางทิศและทางระยะ ระยะศูนย์หน้าถึงศูนย์หลัง
ยาว 440 มม.

1.3.3 ศูนยก์ ลางคืน เป็นศูนย์เรืองแสง
ศูนย์หนา้ - ในใบศูนย์

- 55 -

ศนู ยห์ ลัง – ท่ลี ้อหมุน
1.4 เครอ่ื งนิรภัย ได้แกค่ นั บังคบั การยิง ท่ีสำคญั ประกอบด้วย

1.4.1 ปรบั ได้ 3 ตำแหนง่ คือ S หา้ มไก, R กึ่งอัตโนมัต,ิ A อัตโนมตั ิ
1.4.2 จัดคันบงั คับการยงิ ให้อยใู่ นตำแหนง่ “หา้ มไก”ไดไ้ ม่ว่าจะขึ้นนกหรือไม่
1.4.3 ไม่สามารถขึน้ นกไดเ้ ม่ือปืนอยู่ตำแหนง่ หา้ มไก
1.4.4 มีกลไกป้องกันชุดคันรั้งลูกเล่ือนเคลื่อนกลับและทำให้ปืนล่ันโดยไม่ต้ังใจในกรณี การ
ขนี้ นกด้วยมือยงั ไม่สมบรู ณ
1.4.5 ไม่สามารถถอดลำกล้องได้ไม่เปิดฝาปิดห้องลกู เลื่อน
1.5 อปุ กรณ์พเิ ศษชว่ ยในการเลง็ สามารถตดิ ตั้งบนปนื ประกอบด้วย
1.5.1 กลอ้ งเลง็ เทเลสโคป หรือกล้องแสงดาว (SLS) ตดิ ตงั้ บนอแดป๊ พิเศษ
1.5.2 เครอ่ื งช้เี ปา้ ด้วยแสงเลเซอร์ M 1 ติดตงั้ บนรางอเนกประสงค์ที่ยดึ อย่ทู ี่ดา้ นขวาของลำ
กล้องปืน

ภาพ 4– 2 การติดตั้งกล้อง SLS ของ LITTON

1.6 เครอ่ื งป้อนกระสนุ ได้แก่
1.6.1 สายกระสนุ ประกอบดว้ ยกระสนุ และขอ้ ต่อสายกระสนุ (M 27) เปน็ แบบแยกออกจาก

กันไดโ้ ดยมีกระสนุ เป็นตวั เช่อื มระหวา่ งข้อต่อสายกระสุนแตล่ ะอนั
1.6.2 ซองกระสุน มลี ักษณะเชน่ เดียวกบั ของ ปลย.เอม็ 16 พร้อมเรือนยดึ ซองกระสุน การใช้

กบั ซองกระสนุ ปลย.เอ็ม 16 จะต้องดำเนินการโดยช่างซ่อมอาวุธท่ผี ่านการอบรมมาแล้วเทา่ นั้น
1.6.3 กล่องบรรจุสายกระสุนแบบจโู่ จม(DRUM) แบบอ่อนจกุ ระสุนได้ 150 นดั ใชย้ ดึ ติดอยู่

กับปนื เช่นเดยี วกบั ซองกระสุน

- 56 -

ภาพ 4 – 3 การป้อนกระสุนด้วยสายกระสนุ

ภาพ 4 – 4 การปอ้ นกระสนุ ด้วยซองกระสนุ
2. โครงสรา้ งของปนื
ปลก.เนเกฟ ได้รับการออกแบบสรา้ งให้เป็นปืนที่มีระบบการทำงานด้วยแก๊ส กล่าวคือแก๊สที่เกิดจาก
การเผาไหม้ของดินส่งกระสุนส่วนหนึ่งเดินทางผ่านช่องเปิดท่ีลำกล้องผ่านเข้าไปท่ีหัวลูกสูบ และดันลูกสูบไปทางด้าน
หลังต้านแรงดันของแหนบส่งลูกเล่ือน โดยกรวยจัดแก๊สทำหน้าที่ควบคุมปริมาณแก๊สที่จะผ่านเข้าไปท่ีหัวลูกสูบ หาก
ทำการยิงปกติให้จัดกรวยจัดแก๊สไว้ที่ตำแหน่งหมายเลข 2 ถ้าต้องการพลังงานในการผลักดันเพ่ิมมากข้ึน จากเหตุ
สภาพแวดล้อมขณะทำการยิงไม่ดี ให้ใช้ตำแหน่งหมายเลข 3 และใช้ตำแหน่งหมายเลข 1 กรณีใช้เคร่ืองป้อนกระสุน
เป็นซองกระสุน ปืนจะสามารถทำงานได้ปกติ ส่วนแก๊สที่เกิดจากการเผาไหม้ของดินส่งกระสุนท่ีไหลผ่านเข้าไปท่ีหัว

- 57 -

ลูกสูบจะถูกปล่อยออกสู่บรรยายกาศทางช่องระบายที่โครงปืน หลังจากลูกสูบเคล่ือนท่ีถอยหลังแลพ้นจากกระบอก
ลูกสูบ

ปลก.เนเกฟ ทำการยิงจากตำแหน่งหน้าลูกเล่ือนเปิด (OPEN BOLT) เมื่อปล่อยไกช้ินส่วนเคล่ือนที่
ของปืนจะถูกยึดอยู่ด้านหลังและรังเพลิง จะไม่มีกระสุนบรรจุอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด “COOK OFF” (กระสุนล่ัน
จากความร้อนที่สะสมในลำกล้องปืน หลังทำการยิงต่อเนื่อง) ในส่วนของลำกล้องปืนสามารถอดเปลี่ยนได้ง่ายและ
รวดเร็วโดยพลยิง เพ่ือปล่อยให้ลำกล้องเย็นลง การยิงในขณะลำกล้องปืนร้อนจะส่งผลให้ลำกล้องปืนเกิดการสึกหรอ
อย่างรวดเร็ว ปลก.เนเกฟ มีฝาปิดป้องกันฝุ่นและทรายไม่ให้เข้าไปในตัวปืนหลายจุด ในด้านการยิงปืนสามารถทำการ
ยงิ ได้ทั้งแบบอัตโนมัตแิ ละกึ่งอัตโนมัติ ป้อนกระสุนด้วยสายกระสุนบรรจุในกล่องกระสุนแบบอ่อน(กล่องกระสุนแบบจู่
โจม) ซ่งึ ยดึ อย่ทู ่ดี ้านลา่ งของปนื หรือซองกระสุน โดยการใชต้ ้องเลอื กใชอ้ ยา่ งใดอยา่ งหน่ึง

ภาพ 4 – 5 ภาพด้านขวาของปนื
2.1 ปลก.เนเกฟ มีองค์ประกอบหลัก 4 สว่ น คอื

2.1.1 ชดุ ลำกล้อง (BARREL ASSEMBLY)
2.1.2 ชุดโครงปนื (RECEIVER ASSEMBLY)
2.1.3 ชดุ กลไกเคล่ือนท่ี (MOVING MECHENISM)
2.1.4 พานท้ายปนื (STOCK)

- 58 -

ภาพ 4 - 6 ปนื พรอ้ มกล่องกระสุนแบบจู่โจม
2.2 ชดุ ลำกลอ้ ง

ภาพ 4 - 7 ชดุ ลำกลอ้ ง
ลำกล้องปืนยึดติดอยู่กับโครงปืนด้วยข้อต่อปลดเร็ว ทำให้พลยิงสามารถถอดและใส่ลำกล้อง
ในขณะปฏิบตั ิภารกิจไดอ้ ย่างรวดเร็ว(การถอดและประกอบชุดลำกล้องต้องเปิดฝาปิดห้องลูกเลื่อนก่อนทุกครัง้ ) ชุดลำ
กล้องประกอบด้วยสว่ นต่าง ๆ ทสี่ ำคญั คอื

2.2.1 ปลอกลดแสง ขันติดอยู่กับปลายปากลำกล้องปืน ทำหน้าที่ลดแสงท่ีเกิดจากการเผา
ไหม้

- 59 -

2.2.2 ลำกล้อง อยู่ท่ีด้านหน้าของโครงปืนจะถูกยึดด้วยกลอนยึดลำกล้อง ด้านบนจะมีด้าม
หิ้วพับได้ สว่ นดา้ นลา่ งมกี ระบอกแก๊สติดตง้ั ยดึ ไวด้ ว้ ยสลกั 2 ตวั

2.2.3 ชุดศูนย์หน้า สำหรับการเล็งปืน สามารถจัดปรับได้ท้ังทางทิศและทางระยะ ส่วนต่าง
ๆ ประกอบดว้ ย แทน่ ศนู ยห์ นา้ แท่งศูนย์หนา้ (รวมทงั้ ศูนยเ์ ลง็ กลางคืน) กระเดอ่ื งและควงเกลยี วจดั ปรับทางทิศ

ภาพ 4 – 8 ชุดศนู ย์หนา้
2.2.4 ด้ามหิ้วปืน ติดอยู่ท่ีด้านท้ายลำกล้องโดยการยึดไว้ด้วยหมุดย้ำ ใช้สำหรับยกห้ิวลำ
กล้องและใชจ้ ับถือในการถอดเปลยี่ นชดุ ลำกล้องอะไหล่ ปกตจิ ะอย่ใู นตำแหน่งทางด้านซ้ายเม่อื ไม่ใช้งาน
2.2.5 กระบอกแกส๊ ติดตั้งเข้ากบั ลำกล้องปืนโดยการอัดด้วยแรงท่ีระยะ 1/3 ของความยาว
ลำกล้องนับจากปลายปากลำกล้องแล้วยึดไว้ด้วยสลัก 2 ตัว ทำหน้าท่ีเป็นตัวเรือนให้กับกรวยจัดแก๊ส (GAS
REGULATOR) เป็นทางผ่านของแก๊สแรงดนั สูงจากการเผาไหมข้ องดนิ ส่งกระสนุ ไปยังชุดกรวยจดั แก๊สและไปดนั ลูกสบู
2.2.6 กรวยจดั แกส๊ ทำหนา้ ทค่ี วบคมุ ปริมาณแก๊สท่ีไหลจากรูหลอดลำกล้องไป
ยงั ลกู สูบแกส๊ มลี ักษณะสามเหล่ียมด้านไมเ่ ท่า
2.2.7 เรอื นขดั กลอน(โครงต่อท้ายลำกล้อง) เปน็ ส่วนหนึง่ ของลำกลอ้ ง

- 60 -

-

ภาพ 4 – 9 กรวยจัดแกส๊
2.3 ชุดโครงปืน มลี กั ษณะเป็นกลอ่ งทำจากแผน่ เหล็กขึ้นรูปแล้วเช่ือมติดเข้าดว้ ยกัน มีช้นิ ส่วน
สำคัญท่ปี ระกอบอยู่กบั โครงปืนคอื ชุดศนู ยห์ ลงั ระบบเคร่อื งป้อนกระสุน ระบบเครื่องกลไกของปืนและขาทราย

ภาพ 4 – 10 ชุดโครงปืน
ชดุ โครงปนื แบง่ ออกเปน็ สว่ นหลัก ๆ ดังนี้

2.3.1 โครงปืนส่วนหน้า เป็นพื้นที่สำหรับรองรับลำกล้องบริเวณกระบอกรับแก๊สและแท่น
สำหรบั ยดึ ขาทราย รูที่โครงปนื ส่วนหนา้ มไี ว้สำหรบั ยดึ ปืนเข้ากับแท่นยึดปนื กล

2.3.2 โครงปืนส่วนล่าง เป็นท่ีรองรับลำกล้องด้วยกลอนยึดลำกล้อง ด้านล่างใช้เป็นทาง
เคลื่อนที่ของโครงนำลูกเลื่อนไม่มีสิ่งกีดขวาง ส่วนของลำกล้องที่อยู่หลังกลอนยึดลำกล้อง จะถูกยึดไว้ด้วยสลักฝาปิด

- 61 -

ห้องลูกเล่ือนซ่ึงเป็นกลไกท่ีออกแบบมาเพ่ือป้องกันลำกล้องหลุดออกโดยไม่เปิดปิดห้องลูกเล่ือนก่อน ติดต้ังอยู่ทาง
ด้านซา้ ย

2.3.3 รางเลื่อน เริ่มต้นจากโครงปืนส่วนกลางไปจนถึงส่วนปลายหลังสุดของโครงปืน กลไก
เคล่ือนท่ีของปืนจะเคลอื่ นที่อยู่บนราง ซึ่งติดอยู่กับผนังของโครงปืน มีความเทยี่ งตรงสูงเพื่อความมั่นใจในการเคลอ่ื นท่ี
และการทำงานของปนื

2.3.4 โครงปนื สว่ นหลงั ถกู ยึดอยู่กบั ปลายด้านหลังโครงปืน เป็นท่ียึดพานท้ายปนื ดว้ ยแหนบ
รว่ มกับร่องบากภายในโครงปืน นอกจากนี้ยังส่วนประกอบทส่ี ำคญั อยู่ดว้ ยคือชุดศูนยห์ ลัง

2.4 ชุดกลไกเคล่ือนที่ มีหน้าที่ทำให้ปืนเกิดการป้อนกระสุน การบรรจุกระสุน การล่ันไกการร้ัง
ปลอกและการคัดปลอก มชี ิน้ สว่ นประกอบด้วย

2.4.1 ชดุ โครงนำลกู เลอ่ื น
1) ลูกเลอื่ น
2) เขม็ แทงชนวน

ภาพ 4 - 11 กลไกเคลื่อนท่ขี องปนื

2.4.2 ชดุ แหนบส่งลูกเลอ่ื น มีหน้าท่ีดนั ชุดโครงลูกเลื่อนกลับไปด้านหน้าในจังหวะสิ้นสุดการ
ยงิ ของปนื มีช้นิ สว่ นประกอบดว้ ย

1) แกนแหนบสง่ ลูกเลอื่ น
2) ฐานแหนบส่งลกู เลื่อน
3) ชดุ รบั แรงกระแทก

- 62 -

ช้ินส่วนหลกั คือ ภาพ 4 - 12 ชุดแหนบสง่ ลกู เลอื่ น
ความจำเป็น
2.4.3 ชดุ พานทา้ ยปืน เปน็ ชิ้นสว่ นท่ที ำมาโดยสมบูรณ์ ระดับผู้ใชห้ ้ามถอดประกอบ มี

1) แท่นยึดพานท้ายปืน ทำหนา้ ที่ยึดพานทา้ ยปืนเข้ากบั โครงปืน
2) หกู ระวนิ สำหรบั รอ้ ยสายสะพาย ท่ีพานท้ายปนื
3) พานท้ายปืนยดึ ติดกับแท่นยดึ พานท้ายปืนสามารถกางออกและพับเกบ็ ไดต้ าม

ภาพ 4 – 13 ชดุ พานทา้ ยปนื
3. การถอดและการประกอบปกติ
การถอดประกอบหรือการซ่อมบำรุง ให้ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยที่กล่าวแล้ว และปฏิบัติตาม
ขอ้ แนะนำกล่าวคือ ให้เอากระสุนจริงออกจากพื้นท่ใี กล้เคียงให้หมด ห้ามใช้กระสุนแทนเครื่องมอื เมอื่ ทำการถอดแยก
ปืน ให้วางชิ้นส่วนของปืนบนพ้ืนที่สะอาดและเรียงตามลำดับ ก่อน – หลัง และการประกอบกระทำย้อนกลับขั้นตอน
การถอด

3.1 การถอดประกอบ

- 63 -

3.1.1 ชุดลำกล้อง กดกลอนยึดฝาปิดห้องลูกเลื่อน แล้วเปิดฝาปิดห้องลกู เลื่อนแล้วกดกลอน
ยึดลำกล้องทางขวา มือซ้ายจับดา้ มห้ิวปืนแลว้ ดนั ลำกลอ้ งไปข้างหน้า พรอ้ มกบั ยกออก

ภาพ 4 - 14 การถอดลำกล้อง
3.1.2 ชุดพานทา้ ยปืน กดกลอนยึดด้ามปืนแล้วดงึ พานท้ายขน้ึ ด้านบน

ภาพ 4-15 การถอดแยกพานทา้ ยปนื
3.1.3 ชดุ แหนบส่งลูกเล่อื น ใชห้ วั แม่มือดนั ส่วนฐานของชุดแหนบส่งลูกเล่อื นและดนั
ขนึ้ จากนั้นค่อย ๆผอ่ นให้แหนบเลอื่ นออกจากโครงปืน

- 64 -

ภาพ 4-16 การถอดชุดแหนบสง่ ลกู เลือ่ น
3.1.4 ชุดโครงนำลูกเลื่อน ให้ดึงคันร้ังลกู เล่ือนมาด้านหลังแลว้ ถอดชุดโครงนำลกู เล่อื น

ภาพ 4-17 การถอดชุดโครงนำลูกเลื่อน
3.1.5 ชุดลกู เลื่อน ใชป้ ระแจควบงดั กลอนยดึ ลูกเลื่อนขึ้นแลว้ หมนุ ลูกเลอ่ื นตามเขม็
นาฬกิ าและดงึ ออก ระวงั อย่าใหแ้ หนบเขม็ แทงชนวนหล่นหาย

- 65 -

ภาพ 4-18 การถอดลกู เลื่อน
3.1.6 ชุดกรวยจัดแก๊สด้วยการใช้เคร่ืองมือควบกดกรวยจัดปรับแก๊สเขา้ ไปพร้อมกับหมุนไป
90 องศา แลว้ ถอดป่มุ กรวยจดั แกส๊ และกรวยจัดแก๊สพรอ้ มแหนบ ระวัง อยา่ ทำแหนบกรวยจดั แกส๊ หาย

ภาพ 4 – 19 การถอดชดุ กรวยจัดแกส๊
3.2 การประกอบ ให้กระทำกลับกนั กับการถอด ตามลำดับคือ

3.2.1 กรวยจัดแก๊ส ด้วยการปรับปุ่มจัดแก๊สไว้ในตำแหน่งที่ 2 หรือสีขาวช้ีไปในทิศข้างหน้า
ขนานกับแนวแกนลำกล้อง สอดกรวยจัดแก๊สพร้อมแหนบเข้าทางด้านขวาลำกล้อง ขนานแนวลำกล้อง ใช้เครื่องมือ
ควบดันกรวยจัดแก๊สเข้าไปและหมุน 90 องศา หลังจากประกอบเสร็จ ต้องตรวจดูให้แน่ใจว่าครีบ(LUG) ท่ีขอบกรวย
จดั แก๊ส เขา้ ไปอดั แน่นอย่ใู นรอ่ ง จากนนั้ ใหห้ มุนปมุ่ ปรบั ไปตำแหน่งต่าง ๆ เพอื่ ตรวจสอบการทำงาน

- 66 -

3.2.2 ชุดลูกเลื่อน ใช้ประแจควบงัดกลอนยึดลูกเล่ือนเข้าไปในชุดโครงนำลูกเลื่อนขณะกด
แหนบเข็มแทงชนวนเอาไว้ หมุนลูกเล่ือนทวนเข็มนาฬิกา แล้วตรวจดูให้ม่ันใจลูกเล่ือนถูกยึดไว้ด้วยกลอนยึดลูกเลื่อน
เรยี บรอ้ ย

3.2.3 ชดุ โครงนำลกู เล่ือน ให้สอดชุดโครงนำลูกเลือ่ นเขา้ ไปในปืนจนสดุ ในขณะลกู เล่อื นอยู่ใน
ตำแหน่งปลดกลอน(ยื่นไปทางด้านหนา้ )

3.2.4 ชุดแหนบส่งลูกเล่ือน สอดชุดแหนบส่งลูกเลื่อนเข้าทางด้านท้ายโครงปืน โดยให้แหนบ
ทั้งคู่สอดเข้าไปในช่องท่ีด้านข้างของชุดโครงนำลูกเล่ือน จากนั้นให้เหน่ียวไก(คันบังคับการยิงอยู่ท่ีตำแห่ง R หรือ A )
แล้วดันฐานแหนบสง่ ลกู เลอ่ื นพรอ้ มด้วยชุดโครงนำลูกเลื่อนเขา้ ไปในโครงปืน

3.2.5 ชุดพานท้ายปืน สอดพานท้ายปนื เข้าในรอ่ งท่ีด้านหลังโครงปืน กดลงจนได้ยนิ เสียงคลิ๊ก
แล้วทดลองดงึ พานท้ายให้มัน่ ใจวา่ ถกู ยดึ ไว้มนั่ คง

3.2.6 ชุดลำกล้อง ขณะฝาปิดท้ายลูกเลื่อนอยู่ในตำแหน่งเปิด จับด้ามหิ้วปืนไว้แล้วสอดลำ
กลอ้ งเข้าไปในโครงปนื จนไดย้ ินเสยี งคลิก๊ แล้วทดลองดึงลำกล้องออกทางดา้ นหน้าเพื่อให้ม่นั ใจวา่ ลำกล้องยึดไว้มน่ั คง

ภายหลงั การประกอบ ใหต้ รวจสอบการทำงานของปนื โดยการขน้ึ นกและปลดนกปืน โดยบดิ
คนั บงั คบั การยิงไปในตำแหน่งต่าง ๆ

4. วงรอบการทำงานของปืน
วงรอบการทำงานของปืนเริ่มจากการที่ปืนถูกข้ึนนกและห้ามไกไว้และสายกระสุนถูกวางไว้ใน
ตำแหน่งถูกต้องบนถาดป้อนกระสุน หากเป็นการยิงด้วยซองกระสุน กระเดื่องป้อนกระสุนจะทำหน้าที่นำกระสุนให้
พรอ้ มยิง สำหรับการทำงานของปนื แบง่ ออกไดด้ ังน้ี

4.1 การป้อนกระสุน ให้เลื่อนคันบังคับการยิงไปที่ตำแหน่งยิงทีละนัดหรอื ยิงอัตโนมัติแล้วเหน่ียว
ไก กระเดื่องนกปืนจะต่ำลงหลุดจากการขัดชุดโครงนำลูกเลื่อน ทำให้ลูกเล่ือนและโครงนำเลื่อนไปชนกับกระสุนและ
นำกระสนุ เขา้ ไปในรงั เพลงิ

ภาพ 4 – 20 การป้อนกระสนุ

- 67 -

4.2 การขัดกลอน เกิดจากการที่โครงนำลูกเลื่อนเล่อื นไปข้างหน้าทำให้ลูกเล่ือนหมุนขัดกลอนกับ
โครงตอ่ ทา้ ยลำกลอ้ ง

4.3 การล่ันไก เข็มแทงชนวนซึง่ ตดิ อยู่กับโครงนำลูกเลื่อนกระแทกเข้ากับชนวนท้ายปลอกกระสุน
ทีอ่ ยใู่ นรังเพลงิ เกดิ การลุกไหม้สลายตัวเปน็ แก๊สแรงดันสงู ข้ึนในรงั เพลิงและดันกระสุนให้วิง่ ออกจากลำกล้อง

ภาพ 4 – 21 การลั่นไก
4.4 การปลดกลอน เม่ือกระสุนเคล่อื นท่ีที่ผ่านช่องแก๊สทำให้แกส๊ แรงดนั สงู ไหลเข้าไปในช่องแก๊ส
และไหลเขา้ ยังกระบอกสูบแกส๊ ทางกรวยจัดแกส๊ แลว้ ดันลกู สบู ถอยมาด้านหลงั พรอ้ มกับชุดโครงนำลกู เล่ือนจะถูกปลด
กลอน

ภาพ 4 – 23 การปลดกลอน
4.5 การรั้งปลอก เมื่อลูกเล่ือนปลดกลอนถอยมาด้านหลัง ขอร้ังปลอกกระสุนที่ขอบจานท้าย
กระสุนจะกระแทกกับเหลก็ คัดปลอกส่งผลใหป้ ลอกกระสุนดดี ออกจาดตัวปนื ผ่านชอ่ งคดั ปลอก

- 68 -

ภาพ 4 – 24 การคัดปลอก

4.6 การนำกระสุนอยู่ตำแหน่งป้อน การเคลื่อนท่ีมาด้านหลังของชุดโครงนำลูกเล่ือน ทำให้คัน
ปอ้ นกระสนุ เปล่ยี นมาทางด้านขวาและเลื่อนสายกระสนุ ส่งผลใหก้ ระสุนนัดหนึ่งอยูใ่ นตำแหนง่ พร้อมบรรจุ ไกปืนยังถูก
เหน่ียวค้างไว้และคันบงั คับการยิงอยู่ในตำแหน่งยิง ชดุ โครงนำลกู เล่อื นจะไม่ติดคา้ ง ปนื ทำการยิงเป็นวงรอบตอ่ ไป

4.7 การตรวจความปลอดภยั ของปืน
4.7.1 ตงั้ ปืนและหนั ลำกล้องปนื ในทศิ ทางท่ปี ลอดภัย
4.7.2 ปืนอยใู่ นตำแหน่งห้ามไก
4.7.3 เปดิ ฝาปดิ หอ้ งลกู เล่ือน
4.7.4 ตรวจรังเพลิงไม่มีกระสุน ปลอกกระสุนหรือข้อต่อสายกระสนุ
4.7.5 ปิดฝาปดิ หอ้ งลูกเล่ือน
4.7.6 จดั คันบงั คับการยงิ ไปตำแหนง่ ยงิ ทีละนดั (R)
4.7.7 ดึงคนั รงั้ ลูกเล่อื นไว้
4.7.8 เหน่ยี วไกปนื และผ่อนคันรง้ั ลูกเลอ่ื นไปข้างหน้าช้า ๆ
4.7.9 จัดคันบังคบั การยงิ ในตำแหนง่ ห้ามไก (S)

5. กระสนุ
5.1 กระสนุ ขนาด 5.56 X 45 มม. (SS1O9/M 855,L 11O /M856)
5.2 กระสุน ขนาด 5.56 มม.(M 193) น้ำหนักกระสุน 3.5 กรัม การยิงด้วยกระสุนชนิดนี้

อาจทำใหอ้ ัตราการกระจายเพ่มิ ขึน้ 10 %
6. การใช้อาวุธ
6.1 การบรรจุและการเลิกบรรจุกระสนุ
การบรรจุ ปลก.เนเกฟ การบรรจดุ ว้ ยสายกระสุน ใหป้ ฏิบตั ิดังน้ี
6.1.1 จัดกรวยปรบั แกส๊ ไว้ในตำแหน่งท่ี 2
6.1.2 ดึงคนั รั้งลูกเลื่อนมาข้างหลงั สุดแลว้ เลือ่ นไปขา้ งหน้าตำแหนง่ ลอ๊ คเสยี งดงั คล๊ิก

- 69 -

6.1.3 จัดคนั บังคบั การยิงไปตำแหน่งหา้ มไก (S)

6.1.4 สอดกล่องบรรจสุ ายกระสุนเข้าในช่องใสซ่ องกระสุนแลว้ ดงึ สายกระสนุ ไป

วางไวบ้ นถาดป้อนโดยให้กระสุนนดั แรกอยู่ในช่องป้อนกระสุน

6.1.5 ปดิ ฝาปิดห้องลูกเลื่อน

6.2 การบรรจดุ ว้ ยซองกระสุน

6.2.1 ปฏิบัตติ ามข้นั ตอนท่ี 6.1.1, 6.1.2 และ 6.1.5 ในข้อ 6.1 ทก่ี ลา่ วแล้ว

6.2.2 จดั กรวยปรบั แก๊สไว้ตำแหนง่ ที่ 2

6.2.3 ใสซองกระสุนเข้ากบั ปืน

6.3 การเลิกบรรจกุ ระสุน

6.3.1 หา้ มไก

6.3.2 เปดิ ฝาปดิ หอ้ งลกู เลื่อน

6.3.3 นำสายกระสนุ ออกแลว้ ตรวจดใู นรงั เพลิง

6.3.4 ปิดฝาปดิ หอ้ งลูกเลื่อน

6.3.5 ปลดหา้ มไก เหนย่ี วไกปลอ่ ยชดุ โครงนำลกู เลอื่ นไปขา้ งหนา้ โดยใชม้ ือประคองคนั ร้งั ไว้

6.3.6 ห้ามไกปนื

7. เหตุตดิ ขดั และการแก้ไขเหตุตดิ ขัด

7.1 ตารางเหตขุ ดั ขอ้ งและการแกไ้ ข

ลำดับ ข้อบกพร่อง สาเหตทุ ีเ่ ปน็ ไปได้ วิธีการแก้ไข ขั้นการซ่อม

1 ปืนไม่ป้อนกระสุน - ใสสายกระสุนไมถ่ ูก - เอาสายกระสุนใสใ่ หม่ ผู้ใช้

- ใสซ่ องกระสุนไม่ถูก - เอาออกแล้วใส่ใหม่ ผูใ้ ช้

- ปากซองกระสุนเสียรปู - เปล่ียนซองกระสุนใหม่ ผใู้ ช้

-บรรจุสายกระสนุ และ -เลอื กใชอ้ ยา่ งใดอยา่ งหนึง่ ผูใ้ ช้

ซองกระสุนพร้อมกัน

- รังเพลิงสกปรก - ถอดแยกปนื ทำ ผใู้ ช้

ความสะอาดลำกล้อง

- กระสุนบกพรอ่ ง - เอากระสนุ ผ้ใู ช้

- สายกระสุนบกพร่อง - ตรวจแล้วบรรจุใหม่ ผู้ใช้

- ปลอกกระสุนขาดคา - ใช้เครื่องมือถอนปลอก A

ในรงั เพลิง

- แหนบส่งกระสนุ อ่อน - เปลีย่ นใหม่ A

- 70 -

2 ปนี ไมล่ นั่ - กระสนุ บกพรอ่ ง - เอากระสุนออกเปลี่ยน ผู้ใช้
3 ปนื ไม่รง้ั ปลอก - หน้าลกู เล่ือนสกปรก - ถอดแยกทำความสะอาด ผ้ใู ช้
- เข็มแทงชนวนหกั /สึก - เปลี่ยนเข็มแทงชนวน A
4 ปืนไมค่ ัดปลอก - แหนบสง่ ลูกเลอ่ื นออ่ น – เปล่ยี นแหนบใหม่ A
- กระสุนสกปรกหรอื - เปลยี่ นกระสนุ ใหม่ ผ้ใู ช้
เปน็ สนิม
- ขอยกสายกระสุนติด -ถอดลำกลอ้ งแลว้ คัด A
ปลอกกระสนุ ออก
-ขอรั้งปลอกหรือแหนบ - เปลย่ี นขอร้งั หรือแหนบ A
ขอรัง้ ปลอกชำรุด
- ปืนถอนสน้ั /ถอยน้อย - ตรวจกรวยจัดแก๊ส ผู้ใช้
- รงั เพลิงสกปรก - ถอดลำกล้องทำความสะอาด ผ้ใู ช้
- ปนื ถอยน้อย - ปรบั กรวยจัดแกส๊ ตำแหนง่ ที่ 3 ผู้ใช้
-ขอรงั้ ปลอกหรือแหนบ - เปล่ยี นเหลก็ คัดปลอก A
ขอรัง้ ปลอกชำรดุ หรือแหนบ

7.2 การแก้ไขทันทีทันใด กรณปี ืนไม่ลนั่ ใหป้ ฏบิ ัตดิ ังนี้
7.2.1 ดงึ คนั รงั้ ลูกเลอ่ื นมาข้างหลงั
7.2.2 ตรวจ ช่องคดั ปลอกว่ามีกระสนุ ,ข้อต่อ,ปลอกกระสุนหรือไม่
7.2.3 ดันคนั ร้งั ลกู เลื่อนกลับไปขา้ งหนา้
7.2.4 เหนยี่ ว ลั่นไกปนื ใหม่

ถา้ ปนื ไมล่ ่ันอีกใหห้ าสาเหตตุ ามการตดิ ขดั ตามขั้นตอนในตารางขา้ งบน และนำสง่ ใหช้ า่ งอาวธุ ซ่อม
ถา้ เกินขีดการซ่อมระดับผู้ใช้

8. การใช้ศนู ย์และการปรับศูนย์
ปลก.เนเกฟ มีศูนยเ์ ล็งประกอบด้วย

8.1 ศนู ยห์ นา้ เปน็ ศนู ยค์ มมีดปรับได้ท้งั ทางทิศและทางระยะ วิธกี ารปรบั แก้คือ

- 71 -

8.1.1 พลยิงต้องการเปลยี่ นย้ายตำบลกระสนุ ตกในการยิงครั้งแรกใหส้ งู ขึ้นใหท้ ำการหมุน
กระเด่ืองจดั ปรับทางระยะไปในทศิ ทางตามเข็มนาฬกิ า 1 คลก๊ิ เท่ากบั 0.7 ซม.

8.1.2 พลยงิ ต้องการเปลยี่ นย้ายตำบลกระสุนตกในทางทิศ ซ้าย-ขวา ใหห้ มนุ ควงเกลียวจัด
ปรับทางทศิ ตามเข็มนาฬกิ ากระสุนจะย้ายไปทางขวา 1 คล๊ิกเทา่ กับ 0.7 ซม.

8.2 ศนู ย์หลัง เปน็ ศนู ย์รู มคี วงปรับระยะจาก 300 – 1,000 เมตร ทำการปรับไดช้ ่วงละ 100
เมตร

8.3 ศนู ยก์ ลางคนื มีลกั ษณะเปน็ ศูนย์เรืองแสง จะปรากฏที่ศนู ย์หน้าและทลี่ อ้ หมุนศูนยห์ ลัง
8.4 การจดั ปรบั แนวเสน้ เลง็ ปืนทุกกระบอกได้รบั การจัดปรับแนวเสน้ เลง็ มาแลว้ จากโรงงาน
รวมทั้งลำกล้องอะไหลแ่ ต่ละอันไดร้ บั การตอกหมายเลขเดียวกบั หมายเลขปืน
การปรบั แนวเสน้ เลง็
วถิ กี ระสุนของปืนเลก็ กล เนเกฟ :

ลำกล้องสั้น ลำกลอ้ งยาว
ระยะ (M) การเบ่ยี งเบน(CM) ระยะ (M) การเบย่ี งเบน(CM)

0 -4.8 0 -4.8
17 0 21 0
25 2 25 0.8
50 7.9 50 5.6
100 12.7
100 16.8 150 16.2
150 21.2 170 16.4
170 21.6 200 15.6
200 20.5 250 10.4
250 13.7 300 0
300 0

- 72 -

ภาพ 4 – 25 วิถกี ระสนุ ปลก.เนเกฟ

- 73 -

ภาพ 4 – 26 เป้า ปลก.เนเกฟ

- 74 -

วิธกี ารตรวจสอบแนวเส้นเล็งกระทำไดด้ ังนี้
- ตรวจศูนยห์ ลงั ใหม้ น่ั ใจว่าทำงานได้ถูกต้อง
- การยงิ ใช้ท่านอนยิงประกอบขาทราย
- ระยะยงิ ในการปรบั เสน้ เลง็ 25 เมตร
- ปรับคันบังคบั การยิงตำแหน่ง R (ยิงก่ึงอตั โนมัติ)
- ควงปรบั ทางสูง(ทางระยะ) ทตี่ ำแหน่ง 3 (300 เมตร) กลุ่มกระสุน 5 นดั อยูใ่ นเปา้ ขนาด 5 ซม.X 5

ซม.
9. การใชข้ าทราย ประกอบทา่ นอนยิง

9.1 การกางขาทราย ใหจ้ บั ขาทรายออกจากแท่นยึดขาทรายจากโครงปืนสว่ นหน้า
9.2 แหนบ 2 ตวั จะทำหนา้ ท่ีดันขาทรายกางออกรองรับนำ้ หนักปนื ทำให้เกิดความม่นั
คงและแม่นยำระหว่างการยิง
9.3 เมื่อไมไ่ ด้ใชข้ าทราย ควรพับให้อยู่ในตำแหน่งเกบ็ ด้านหน้า
10. การเตรียมการสำหรบั การยิง
ปลก.เนเกฟ ไม่สามารถป้อนกระสุนพร้อมกันท้ังจากสายกระสุนและซองกระสุน การใส่สาย
กระสุนและซองกระสุนเข้าในปืนเวลาเดียวกันจะทำให้ปืนป้อนกระสุนซ้อน และเป็นเหตุให้ปืนหยุดยิง ดังนั้นเม่ือใดก็
ตามท่ีต้องการเปล่ียนเคร่ืองป้อนกระสุนจากแบบหน่ึงเป็นอีกแบบหน่ึงให้ทำการเลิกบรรจุเคร่ืองป้อนท่ีกำลังใช้งานอยู่
แล้วทำการบรรจเุ ครือ่ งป้อนที่ต้องการใช้เข้าไปแทน
10.1 การเตรียมสายกระสุน

10.1.1 เตรยี มกล่องบรรจสุ ายกระสนุ ขนาด 150 นดั
10.1.2 ดึงปลายกระสุนออกจากกล่องกระสุน ตรวจดูความสะอาดและสภาพของกระสุน
และข้อตอ่ สายกระสนุ
10.1.3 บรรจุสายกระสุนท่ีตรวจดูดีแล้วเข้ากล่องบรรจุสายกระสุน โดยวัดให้อยู่ใน
ตำแหน่งทีส่ ามารถนำไปพาดบนถาดป้อนกระสุนไดง้ า่ ย ท้ังนี้ดา้ นปลายเปิดของขอ้ ตอ่ สายกระสุนจะตอ้ งหันลงด้านล่าง
ดใู ห้แนใ่ จวา่ ทศิ ทางของกระสนุ เป็นไปตามเครอื่ งหมายภาพลูกกระสนุ บนกล่องบรรจสุ ายกระสุน
10.2 การเตรยี มปนื
10.2.1 ตรวจดปู นื ใหแ้ น่ใจวา่ ปนื ได้หา้ มไกไว้แล้ว
10.2.2 เปิดฝาปิดหอ้ งลูกเลื่อน ตรวจดูใหแ้ น่ใจว่าไมม่ ขี ้อต่อสายกระสนุ หลงเหลืออยู่
10.2.3 เล่ือนคันบงั คับการยงิ ไปที่ตำแหน่ง R (ยงิ ก่ึงอัตโนมัติ)
10.2.4 ดงึ คันร้งั ลูกเลื่อนมาขา้ งหลงั สดุ แลว้ เลื่อนไปขา้ งหน้าตำแหน่งล็อคเสียงดังคลิก๊
10.2.5 จัดคนั บงั คับการยงิ ไปตำแหน่งหา้ มไก (S)

- 75 -

10.2.6 จดั กรวยปรับแกส๊ ไว้ในตำแหน่งท่ี 2
10.2.8 สอดกล่องบรรจุสายกระสุนเข้าในชอ่ งใสซ่ องกระสนุ แล้วดึงสายกระสุนไป
วางไวบ้ นถาดป้อนโดยให้กระสุนนดั แรกอย่ใู นชอ่ งป้อนกระสุน
10.2.9 ปดิ ฝาปิดหอ้ งลูกเล่อื น
10.3 การยิงดว้ ยซองกระสนุ ใหป้ ฏิบัติตามทก่ี ล่าวแล้วในข้อ 6.2
10.4 การลัน่ ไก
10.4.1 เลือ่ นคนั บงั คับการยิงไปทต่ี ำแหน่ง R (ยงิ ทีละนัด) ถ้าต้องการ
10.4.2 เหนยี่ วไกมาด้านหลังสุด
10.4.3 ทำการยิงโดยให้สอดคลอ้ งกับข้อกำหนดการยิงของปนื
10.5 ขอ้ กำหนดในการยิง
10.5.1 ในการยิงดว้ ยสายกระสุน ใหห้ มนุ ปมุ่ ปรับกรวยจัดแกส๊ ไปอยู่ในตำแหน่งที่
2 และการยิงดว้ ยซองกระสุน ให้หมนุ ปุม่ ปรบั กรวยจดั แกส๊ ไปอยูใ่ นตำแหน่งท่ี 1
10.5.2 ในสภาพแวดลอ้ มที่รุนแรง อัตราในการยิงมีแนวโน้มทจี่ ะลดลง ซ่งึ อาจเป็น
เหตใุ ห้ปืนหยดุ ยงิ (STOPPAGES) ในกรณนี ีใ้ หป้ รับกรวยจดั แกส๊ ไปอยใู่ นตำแหน่งทสี่ ูงข้นึ (ตวั เลขมากขน้ึ )
10.5.3 เพ่ือถนอมอายุลำกลอ้ งให้ใชง้ านได้นาน ควรทำการยิงด้วยอตั ราเรว็ ในการ
ยงิ ไม่เกนิ 85 นดั /นาที และในกรณที ีท่ ำการยิงกระสนุ 300 นดั ตดิ ต่อกนั ด้วยอัตราในการยิงสูงสุด จะต้องเปล่ยี นลำ
กล้องหรือปล่อยใหล้ ำกลอ้ งเย็นลงจนสามารถสัมผสั ไดด้ ้วยมือ
10.5.4 โดยทั่วไป ขอแนะนำให้ทำการยิงเป็นชดุ สัน้ ๆ ชดุ ละ 3 – 5 นัด
10.5.5 ข้อหา้ มเก่ียวกบั ปืน

1) ห้ามราดน้ำหรอื นำ้ มนั ลงบนลำกล้อง เพื่อทำไหล้ ำกลอ้ งเย็นเร็ว
2) ห้ามยิงกระสุนท่ีสกปรกเป็นสนิม หรือกระสุนท่ีบิดเบี้ยวผิดรูปหรือหัวกระสุน
หลดุ /หลวม กระสุนทช่ี ำรุดอาจเปน็ สาเหตใุ ห้ปนื ติดขดั หรอื ในกรณีร้ายแรง อาจส่งผลให้ผ้ใู ช้ปนื ไดร้ ับบาดเจ็บ
11. การปรนนบิ ัตบิ ำรงุ
การปรนนบิ ตั ิบำรงุ เปน็ ขนั้ ตอนท่สี ำคัญทส่ี ุดของการซ่อมบำรุงปืน การปรนนบิ ัตบิ ำรงุ อย่างถูกต้อง
และเพยี งพอจะช่วยปอ้ งกันการชำรดุ กอ่ นเวลาอนั ควร ดงั น้ันเพอ่ื ยึดอายุการใช้งานของปืนทา่ นตอ้ งปฏิบตั ิตาม
คำแนะนำโดยเครง่ ครัด
11.1 การปรนนิบตั บิ ำรงุ ระดับผู้ใช้ แบง่ ออกเปน็
11.1.1 การปรนนบิ ตั บิ ำรุงประจำวนั เม่อื ไม่ได้นำอาวธุ ออกใช้งาน ให้ทำการถอกแยกปนื
ทำความสะอาด และตรวจดกู ารชำรดุ บกพร่อง การผดิ รูป รอยบุบ/ยุบ การเป็นสนมิ การกัดกร่อน ของชิ้นส่วนต่าง ๆ
หรือการหลุดลอกของสหี รอื วัสดุเคลือบในระดับผ้ใู ช้

- 76 -

11.1.2 การปรนนิบัตบิ ำรงุ กอ่ นการยงิ ใหด้ ำเนนิ การดังนี้
1) ทำการถอดแยกชิน้ สว่ นของปนื ระดบั ผู้ใช้
2) หล่อล่ืนกรวยจดั แก๊ส ลูกสูบแกส๊ และเรือนลูกสูบแก๊ส
3) หล่อลืน่ รางนำช้นิ สว่ นเคล่ือนที่
4) เชด็ ถาดป้อนกระสุนให้ปราศจากนำ้ มนั
5) หลอ่ ลืน่ รางนำที่โครงปืน
6) ประกอบปืน แลว้ ตรวจสอบการทำงาน โดยการขนึ้ นกแล้วปล่อยใหช้ ้ินส่วน

เคลอ่ื นทว่ี ง่ิ กลับไปดา้ นหนา้ 2 – 3 คร้ัง
7) ทำความสะอาดและเชด็ แหง้ รูหลอดลำกล้องและรงั เพลงิ

11.1.3 การปรนนบิ ตั บิ ำรุงหลังการยิง
1) ทำความสะอาดเอาคราบเขมา่ ดินปืนออกโดยเร็วหลังเสรจ็ สิน้ การยงิ
2) ถอดแยกทำความสะอาดชน้ิ สว่ นทัง้ หมดในขน้ั ผใู้ ช้ จนปืนสะอาดและแห้ง
3) หลงั จากปรนนิบตั ิบำรงุ หลังการยงิ เสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ ให้ทำการตรวจ

สภาพวงรอบการทำงานของปืน
11.2 การซ่อมบำรุงระดบั ชา่ งซ่อมของหน่วย
11.2.1 แบง่ การซ่อมออกเป็น 3 ระดบั คือ
1) ข้ันการซ่อมบำรงุ A หมายถงึ การซ่อมบำรงุ ระดบั หน่วย
2) ข้นั การซอ่ มบำรุง B หมายถึง การซ่อมบำรุงระดบั หนว่ ยสนับสนุน
3) ขนั้ การซอ่ มบำรุง C หมายถงึ การซ่อมบำรงุ ระดับโรงงาน
11.2.2 การตรวจสภาพ แบง่ ออกเป็น
1) การตรวจสภาพในรอบ 3 เดือน เป็นการตรวจสภาพปืนว่าพรอ้ มใช้งานหรือไม่

โดยตรวจเครื่องกลไกท้ังหมด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีข้อบกพร่อง ไม่ปิด/งอ,ไม่เป็นสนิม,สีไม่หลุดลอก และช้ินส่วนสำคัญ
อน่ื ๆ ตามรายการทค่ี มู่ อื กำหนดไว้ ถา้ ตรวจพบใหส้ ่งซอ่ มข้นั คลงั

2) การตรวจตามระยะเวลา เป็นการตรวจสภาพระยะเวลา จะดำเนินการทุก ๆ
เดอื น
โดยช่างซ่อมอาวุธอาวุโส เช่นเดียวกับการสภาพในวงรอบ 3 เดือน และตรวจสอบด้วยเกจวัดในทุกชิ้นส่วนของปืนให้
เปน็ ไปตามคมู่ ือการซ่อมบำรุง

12. วธิ กี ารทำลายอาวุธ
ต้องได้รับอนุมัติจาก ผบช.ก่อนจึงจะทำลายได้เมื่อได้พิจารณาแล้วว่า เพ่ือมิให้ข้าศึกยึดอาวุธไปหรือ
นำไปใชง้ านได้ ผบู้ ังคบั บญั ชาสามารถสั่งให้ทำลายอาวุธได้ แต่ต้องรายงานให้หน่วยเหนือทราบ

- 77 -

12.1 ถอดชิ้นสว่ นอาวธุ ใหม้ ากทีส่ ดุ เท่าทเ่ี วลาจะอำนวยใชล้ ำกล้องทุบทำลายชิ้นสว่ นตา่ งๆ
12.2 ใชว้ ิธแี ยกช้นิ ส่วนออกจากกนั แล้วฝัง, ทิ้งลงในแม่น้ำ, ลำธาร, หล่มโคลน
12.3 ใช้ ลข.เพลิงเผาทำลายบรเิ วณโครงปืนแล้วจุดระเบิด

- 78 -

คำถามทา้ ยบท

1. ปนื เล็กกล เนเกฟ เริม่ ทำการยิงในลกั ษณะท่าลกู เล่ือนเปิด อยากทราบวา่ ขน้ั ตอนการบรรจุกระสุนด้วยสายกระสุนมี
ก่ขี น้ั ตอน อะไรบ้าง

2. กอ่ นทำการถอดปนื จะต้องปฏิบตั ขิ น้ั ตอนใดก่อนทกุ ครั้ง

3. ปลก.เนเกฟ มีองคป์ ระกอบหลกั 4 ชน้ิ สว่ น อะไรบ้าง

4. การปรับวิถีกระสุนให้ตรงกลับแนวแกนลำกลอ้ ง จะปรับท่ีศนู ย์หน้า โดยใช้เคร่อิ งมือปรับ สามารถปรับไดท้ ้ังทางทิศ
และทางระยะ อยากทราบว่าถ้าจัดปรับแท่งศูนยห์ น้าตามเข็มนาฬิกา จะทำใหต้ ำบลกระสุนตกเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร

5. การจดั ปรับศนู ยห์ น้าสามารถปรบั ทัง้ ทางทศิ และทางระยะ ถ้าทำการยิงปรบั ปนื ในสนามยิงปนื กลเบื้องตน้ ระยะ 25
เมตร เม่อื ทำการปรบั ทางทิศ หรือทางระยะ จะทำใหเ้ ลื่อนตำบลกระสนุ ตกกีเ่ ซนติเมตร

6. การห้ามไก จะต้องบดิ คันบังคับการยงิ อยู่ท่ี ตำแหนง่ ตัวอักษรอะไร

7. จงอธบิ ายวิธีการจดั ปรบั ทางทศิ ที่แท่นศนู ยห์ น้า ถ้าตอ้ งการเปลย่ี นตำบลกระสนุ ถูกเปา้ หมายให้เลอื่ นไปทางขวา จะ
ทำการจดั ปรบั อยา่ งไร

8. การถอดประกอบปกติ มีกี่หมู่ช้นิ สว่ น มีหมชู่ ้ินสว่ นใดบา้ ง จงบอกมาตามลำดับ

9. การจดั ปรบั ชุดศนู ย์หน้าในการฝกึ ยิงปรับปืนระยะ 25 เมตร อยากทราบ 1 คล๊ิก สำหรับการปรับท้งั ทางทิศ และ
ทางระยะ จะทำให้ตำบลกระสุนถูกเป้าหมายเปล่ียนแปลงมคี า่ เท่าไร

10. จงบอกสาเหตุของการท่ีปืนไมป่ ้อนกระสุนเกิดจากสาเหตใุ ด

***********************************

- 79 -

บทที่ 5

ปืนพก แบบ 86

1. คุณลักษณะของ ปนื พก แบบ 86 (ปพ. 86)

รปู ท่ี 5-1 ปืนพก แบบ 86

ปพ. 86 ขนาด .45 น้ิว (11 มม.) เป็นอาวุธประจำกาย ทำงานด้วยการสะท้อนถอยหลังของลำ
กล้อง ป้อนกระสุนด้วยซองกระสุนเป็นอาวุธที่สามารถทำการยิงในแบบกึ่งอัตโนมัติ แก๊สอันเกิดจากการเผาไหม้ของ
กระสุนซง่ึ ยงิ ออกไป ใชป้ ระโยชนใ์ นการทำให้สว่ นเคลื่อนท่ีถอยไปข้างหลังเพ่อื

1.1 คดั ปลอกกระสุน
1.2 ขึน้ นก
1.3 บงั คบั ให้เลือ่ นปืนถอยมาข้างหลัง
ในขณะที่เล่ือนปืนถอยมาข้างหลัง ก็เกิดการอัดแหนบรับแรงถอย ด้วยการทำงานของแหนบรับแรง
ถอย จะบังคับใหเ้ ล่ือนปนื ว่ิงกลับไปข้างหนา้ และปอ้ นกระสุนนัดตอ่ ไปเข้าส่รู ังเพลงิ
2. ปืนพก 86 ขนาด .45 น้ิว(11 มม.) มี 2 แบบ คือ
2.1 แบบ เอ็ม. 1911
2.2 แบบ เอ็ม. 1911 เอ 1
ปืนทง้ั สองแบบนี้มีการทำงานเหมือนกนั ผดิ กันตรงท่ีรปู ร่างซ่ึง แบบ เอ็ม. 1911 เอ 1 ได้คดั แปลง
แก้ไขใหเ้ หมาะสมและสะดวกแกก่ ารใช้ปนื ดยี ง่ิ ข้ึนดงั นี้
3. ความแตกต่างของแบบเอ็ม 1911 และ เอ็ม. 1911 เอ 1
3.1 ห้ามไกชว่ ยสรา้ งให้ยืนออกไปรบั กับอุ้มมือ

- 80 -

3.2 รอยตัดที่โครงปนื ได้คัดแปลงให้สอดนิ้วเขา้ หนา้ ไกได้สะดวก (สวมถุงมอื ยิงได้)
3.3 ไกด้านหนา้ ทำใหเ้ วา้ สน้ั กว่าเดิมและมลี ายกันล่ืน
3.4 เหล็กปิดทา้ ยโครงปนื โค้งออกมาและมีลายกันเลอ่ื นเพ่ือให้แนบสนิทกับอุ้มมือ
3.5 ศนู ยห์ น้าขยายใหญ่กว่าเดมิ

ศูนย์หนา้ รอยตดั ทีโ่ ครงปนื

หางห้ามไกชว่ ย

เหลก็ ปดิ ทา้ ยโครงปนื

รูปท่ี 5-2 ความแตกตา่ งของแบบเอม็ 1911 และ เอม็ . 1911 เอ 1

4. ปนื พก 86 บรรจุกระสนุ ด้วยซองซึง่ บรรจุ 7 นัด
การเคลื่อนท่ีไปข้างหน้าของเลื่อนปืน จะดนั กระสุนนัดบนจากกระสนุ เข้าสู่รังเพลงิ เพื่อยิงกระสุนนัด
ท้ายในซองกระสุนออกไปแล้ว เลื่อนปืนจะถอยไปอยู่ข้างหลัง โดยมีสลักยึดลำกล้องข้ึนปลดเล่ือนปืนไว้ เมื่อกดเหล็ก
ยึดซองกระสนุ ซองกระสุนจะหลดุ ออกช่องสวมซองกระสนุ

- 81 -

5. รายการทว่ั ไป

5.1 กวา้ งปากลำกลอ้ ง .45 นิ้ว (11 มม.) มีเกลยี ว 6 เกลยี วเวยี นซา้ ย
นว้ิ
5.2 ลำกลอ้ งยาว 5.0 นวิ้
ปอนด์
5.3 ปนื ทั้งกระบอกยาว 8.593 ปอนด์
กโิ ลกรมั
5.4 ปืน,ซองกระสนุ พร้อมด้วยกระสุน 7 นัด หนัก 2.437 นวิ้
นว้ิ
5.5 แรงเหน่ยี วไก 5-6ฝ นว้ิ
นดั /นาที
5.6 กำลงั งานกระทบในระยะ 25 หลา 43.80 นดั /นาที
หลา
5.7 อำนาจการทะลุทะลวงต่อไมส้ นขาว ระยะ 25 หลา 6.00 หลา

5.8 ดินทราย,ดนิ เปยี ก 10.00

5.9 ทรายแห้ง 8.00

5.10 ความเรว็ ในการยิงทางทฤษฎี 21 - 28

5.11 ความเรว็ ในการหวังผล 10

5.12 ระยะยิงไกลสดุ ( มุม 30 องศา ) 1640

5.13 ระยะยิงหวังผล 50

6. การถอดประกอบ (ตามลำดบั การถอด คอื )

6.1 การถอดประกอบปกติตามลำดับและจำนวนชน้ิ สว่ น ดงั นี้

6.1.1 ซองกระสนุ

6.1.2 ครอบแหนบรบั แรงถอย

6.1.3 ปลอกบังคับแหนบรบั แรงถอย

6.1.4 สลักยดึ ลำกลอ้ งปนื

6.1.5 โครงปืนออกจากเลื่อนปืน

6.1.6 แกนแหนบรบั แรงถอย

6.1.7 แหนบรับแรงถอยออกจากด้านหนา้

6.1.8 ลำกลอ้ งปนื

6.1.9 เลอื่ นปนื

- 82 -

- 83 -

- 84 -

รปู ท่ี 5-3 การถอด ประกอบ ปพ.86

6.2 การถอดประกอบพเิ ศษ ตามลำดบั การถอด
6.2.1 ท่ีเลอื่ นปืน
1) ถอดเหลก็ ปิดท้ายเข็มแทงชนวน
2) เข็มแทงชนวนและแหนบ
3) ขอรั้งปลอกกระสุน

ขอ้ สังเกต ระวังการประกอบเหล็กปิดท้ายผดิ ทาง ต้องประกอบรงั้ ปลอกกระสนุ ก่อนตามทม่ี ิฉะนัน้
อาจประกอบเหล็ก ปิดทา้ ยเข็มแทงชนวนชนวนไม่เข้า

6.2.2 ท่ีโครงปืน
1) ถอดห้ามไก
2) สลกั เหล็กปิดท้ายโครงปนื
3) เหล็กปิดทา้ ยโครงปืน
4) หา้ มไกช่วย
5) แหนบกระเดื่องนกปืน
6) สลักนกปนื
7) นกปืน
8) สลกั กระเดือ่ งนกปืน
9) กระเดือ่ งนกปนื

- 85 -

10) เหล็กปลดกระเด่อื งนกปนื
11) เหล็กยึดซองกระสนุ
12) ไกและสะพานไก

ขอ้ ควรสังเกต
- การประกอบจากลำดบั หลงั สุดไปหาลำดับแรก
- กอ่ นถอด ประกอบห้ามไก ต้องขึน้ นกปืนกอ่ นทกุ ครั้ง
- ชน้ิ สว่ นในเหลก็ ปดิ ทา้ ยโครงปนื ไมค่ วรถอดออกโดยไมจ่ ำเปน็
- การถอดเหล็กยึดซองกระสุน ควรใช้ไขควงตวั เล็กมีขนาดเท่ากบั หมดุ เกลียวของเหลก็ ยดึ ซองกระสุน
(ถา้ หากจำเปน็ ใช้ปลายของแหนบห้ามไกชว่ ย ถอดก็ได้)
7. การระวงั รักษาและการทำความสะอาด

7.1 กอ่ นนำออกฝกึ หรอื ก่อนการยงิ
7.1.1 ทำความสะอาดลำกลอ้ งและรงั เพลิงโดยเชด็ นำ้ มันออกใหห้ มด
7.1.2 ควรหยอดน้ำมันหลอ่ ลนื่ 2 – 3 หยด ตามชนิ้ ส่วนเคลอ่ื นท่ี
7.1.3 ตรวจเครือ่ งนิรภยั และช้ินส่วนของปืน
7.1.4 ตรวจซองกระสนุ ทำความสะอาดและหลอ่ ล่นื เล็กนอ้ ย

7.2 ภายหลังการฝึกหรอื หลังจากการยิง
7.2.1 ทำความสะอาดทนั ที โดยถอดปกติชำระลำกลอ้ ง แยงดว้ ยแปรงขนหนู
7.2.2 วิธีปฏิบัติต่อไปคงปฏบิ ัติเหมือนกับการทำความสะอาดอาวุธประจำกาย
7.2.3 ตอ้ งทำความสะอาดตดิ ตอ่ กนั เปน็ เวลาอยา่ งน้อย 3 วัน

ขอ้ ควรระวัง ภายหลงั การยิงอย่าชโลมในลำกล้อง ก่อนท่ีจะชำระลำกล้องให้สะอาดและเชด็ แห้งแล้ว
เสยี กอ่ น

8. ข้อสงั เกตเก่ียวกบั การใชป้ ืนพก 86
8.1 หลังจากการยิงไม่ควรท้ิงปืนไว้โดยไม่ทำความสะอาดเพราะเม่ือเกิดการชำรุดแล้วยากท่ีจะ

แก้ไข
8.2 ชโลมน้ำมนั เพียงเบา ๆ
8.3 อย่างวางปืนลงบนพื้นท่ีมีฝุ่นละออง เพราะวัสดุดังกล่าวอาจเข้าไปภายในลำกล้องและ

เครอ่ื งกลไก
8.4 อย่าใช้เศษผ้าหรือวัสดุอ่ืนใดอุดปากลำกล้อง เพราะอาจหลงลืมถอดออกซึ่งจะทำให้ลำกล้อง

แตกหรอื บวมเม่ือทำการยิง

- 86 -

8.5 ไมค่ วรลนั่ ไกขณะทำการถอด
8.6 ไม่ควรใช้น้ิวลั่นไก ถ้าใช้น้ิวกลาง น้ิวชี้จะดันส่วนเคล่ือนท่ีและกดสลักยึดลำกล้อง จะเป็นเหตุ
ให้เล่อื นปนื ถอยไม่สะดวก
8.7 เมือ่ ล่นั ไกไปแล้ว ตอ้ งปลอ่ ยไก เพอ่ื ใหเ้ หล็กปลดกระเด่ืองนกปนื ขดั กบั กระเดื่องนกปนื ไดใ้ หม่
8.8 เมอื่ จะเลิกบรรจใุ หถ้ อดซองกระสุนก่อน
8.9 การสอดซองกระสุนเข้าปืน อย่ากระแทกแรง เพราะจะทำให้ซองกระสุนสะท้อนออกและ
ปากซองกระสุนอาจชำรุดได้ ซง่ึ จะได้เป็นเหตใุ หป้ นื ตดิ ขัดขณะทำการยงิ
8.10 การเก็บปืนพกไวใ้ นซองหนัง จะทำใหเ้ ป็นสนิมไดง้ ่าย เนื่องจากความช้นื ของหนัง ฉะนั้นควร
ใชซ้ องปืนทแ่ี ห้งสนทิ จริง ถ้าจำเปน็ ตอ้ งเก็บปืนพก ไวใ้ นซองหนังให้ชโลมน้ำมันหนา ๆ
9. กระสุน กระสนุ ของ ปพ. 86 มี 5 ชนดิ คือ
9.1 กระสุนธรรมดา M 1911 ใช้สงั หาร
9.2 กระสนุ ส่องวถิ ี T 30 ใช้สังหารและทำสญั ญาณ
9.3 กระสุนลูกปราย M 14 ใช้ลา่ สตั วเ์ ลก็ มาเปน็ อาหาร
9.4 กระสุนซอ้ มรบ M 9 ใช้ฝึก
9.5 กระสนุ ฝึกหดั บรรจุ M 1921
ขอ้ สงั เกต
- กระสุนซ้อมรบ หัวกระสนุ ไมใ่ ช่โลหะ อาจเปน็ กระดาษหรอื ไมก้ ๊อก
- กระสนุ ฝึกหดั บรรจุท่ีปลอกไม่มชี นวนข้างปลอกมีรเู ลก็ ๆ ปา้ ยสแี ดง
- กระสุนลูกปลายมีหัวตัด คอปลอกกระสุนคอด และถ้าจะมีให้มีการรั้งและคัดปลอกกระสุนชนิดนี้
ต้องปลดซองกระสนุ กอ่ นทำการยงิ ทุกคร้งั
10. เครอื่ งนิรภยั ของปนื พก แบบ 86 มี 4 อย่าง คือ
10.1 หา้ มไก
10.2 หา้ มไกชว่ ย
10.3 การขึน้ นกขนั้ ที่ 1
10.4 เหล็กปลดกระเด่อื งนกปนื
หา้ มไก วิธีตรวจ ขึ้นนกปืนแล้วปลดห้ามไกข้ึนข้างบน กำด้ามปืนตามปกติแล้วเหนียวไก 3-4 คร้ัง ถ้า
หา้ มไกช่วยจมลงดว้ ยนำ้ หนักของตัวเอง และสามารถลัน่ ไกได้ แสดงวา่ หา้ มไกช่วยชำรดุ
นกปืนข้ันที่ 1 วิธีตรวจ ง้างนกปืนไปข้างหลังเกือบสุด แล้วค่อย ๆ ปล่อยกลับคืนไปข้างหน้าบากข้ึน
นกที่นกปืนบากแรก จะขัดกับแง่ท่ีกระเดื่องปืน เรียกว่า ขึ้นนกปืนขั้นที่ 1 หรืออกี วิธีหน่ึงคอื ขนึ้ นกขนั้ ที่ 2 (ใช้สำหรับ
ยงิ ) แลว้ ใช้มือที่ถนดั ล่ันไก ก่อนลัน่ ไกใช้หัวแม่มอื อีกข้างบังคับนกปืนไว้ แล้วค่อย ๆ ปล่อยให้นกปืนฟาดตัวไปข้างหน้า

- 87 -

ชา้ ๆ จนนกปืนไปขัดท่บี ากขึ้นนกข้นั ที่ 1 จากนั้นจึงปล่อยไก แลว้ ทดลองเหน่ียวไกดใู หม่ ถ้าหากสามารถลนั่ ไกไดแ้ สดง
วา่ นกปืนหรือกระเด่ืองนกปนื ชำรดุ ตอ้ งส่งซ่อม

ข้อสังเกต การปลดนกปืนจากข้ันที่ 2 ไปข้ันที่ 1 ใช้ปฏิบัติเม่อื บรรจุกระสนุ เข้ารังเพลิงแล้วเป็นเครื่อง
นริ ภยั ที่นับว่าปลอดภยั ดี แต่มีข้อควรระวงั คือ

- อาจหลงลมื เร่อื งการบรรจกุ ระสุนอยู่ในรังเพลิง
- นกปนื อาจฟาดตวั หลุดจากบากขนึ้ นกข้ันท่ี 1 ไปตีท้ายเขม็ แทงชนวน ปนื อาจลั่นได้
- เหล็กปลดกระเดื่องนกปืน วิธีตรวจข้ึนนกปืนแล้วถึงเลื่อนปืนมาข้างหลัง 1/4 น้ิว แล้วล่ันไกขณะ
เหน่ียวไกใหป้ ล่อยเลื่อนปนื กลับ ถ้านกปืนฟาดตัวไปข้างหน้าได้ แสดงวา่ ปลายบนของเหล็กปลดกระเด่ืองนกปืนสึก ให้
เปล่ียนใหม่ ถ้านกปืนไม่ฟาดไปข้างหน้า ให้ปล่อยนิ้วท่ีเหน่ียวไก แล้วล่ันไกใหม่ นกปืนจะฟาดตัวไปข้างหน้าได้ ที่เป็น
เช่นนี้ก็เพราะเหล็กปลดกระเด่ืองนกปืนหน้าท่ีป้องกันมิให้ทำงานขณะที่นกปืนและลำกล้องยังไม่กลับเข้าท่ีและขัด
กลอนสนทิ นอกจากนั้นยังป้องกนั มใิ หย้ ิงเปน็ ชดุ อีกดว้ ย
11. การฝึกยงิ ปนื เบ้อื งต้น (การฝกึ บนพ้ืนดนิ )

11.1 การถือปืนพก ใชค้ ำบอกวา่ “ถือปืนพก” คอื ใช้มอื ท่ีถนัดถอื ปืน 3 น้ิว กำรอบด้ามปืน นว้ิ ช้ี
พาดลำกล้องยกปืนเสมอแนวไหล่ ลำกล้องขึน้ ขา้ งบน ทำมมุ กบั ลำตัว 3 องศา ห่างจากไหล่ 1 ฝา่ มือ

11.2 ปลดซองกระสุน ให้พลิกลำกล้องออกจากตัวเล็กน้อย โดยไม่ต้องลดมือท่ีจับปืน ถ้าใช้มือ
ขวาถือปืนก็ใช้หัวแม่มือขวากดเหล็กยึดซองกระสุน ถ้าใช้มือซ้ายถือปืน ต้องใช้มือขวากดเหล็กซองกระสุน และใช้อุ้ง
มือมิใหก้ ำปนื รอบซองกระสุนไว้ด้วย เม่อื ปลดซองออกมาแล้ว จึงนำมาเหน็บไว้ท่ีเขม็ ขัด

11.3 เปิดรังเพลิง (ปนื ต้องไม่มซี องกระสนุ จึงออกได้) วิธีปฏิบัติ คว่ำมือที่มิได้กำปนื หันหัวแม่มือ
และนิ้วชี้เข้าหาตัว จับเล่ือนปืนตรงลายกันลื่น ดึงเลื่อนปืนลงจนสุด ถ้ากำปืนด้วยมือขวา ใช้หัวแม่มือดึงสลักยึดลำ
กล้อง ถ้าใช้มือซ้ายกำปืน ให้ใช้น้ิวนางหรอื น้ิวก้อยขวาดึงสลักยึดลำกล้องขึ้นขัดกับเลื่อนปืน ขณะปฏิบัติต้องไม่ลดปืน
ลงเลย

11.4 เปิดรงั เพลิง ให้ใช้หวั แมม่ ือขวาหรือน้ิวช้ีขวา (เม่ือใช้มอื ซ้ายกำปืน) กดสลักยึดลำกล้องปืน
ลง ทำให้เลื่อนปืนเคลอื่ นทีไ่ ปข้างหน้า (ตอ้ งฝึกหา้ มไกทุกครั้งทเ่ี ปิดรังเพลงิ และอยู่ในทา่ ถือปืนตลอดเวลา)

11.5 บรรจุซองกระสุน เบนลำกล้องออกนอกตัวทางข้าง โดยไม่ลดปืนลง ใช้มือท่ีว่างหยิบซอง
กระสนุ ท่เี อาสอดเขา้ ท่ีชอ่ งใสซ่ องกระสุนดันเข้าที่

11.6 บรรจุ (หมายถึงนำกระสุนเข้าสู่รังเพลิง โดยมากมักจะมีคำบอกว่า หน่ึงซอง จำนวนนัด
หรือจำนวนนัดหนึ่งซอง นำหนา้ คำบอกว่า “บรรจุ” ก่อนเสมอ) ถ้ายังมิไดบ้ รรจุซองกระสนุ ก็ให้ใส่ซองกระสุนเขา้ ที่ปืน
ก่อน ถ้าบรรจซุ องกระสุนแล้วก็เพียงแต่ดึงเล่ือนปนื มาขา้ งหลังแล้วปล่อยกลับ หรือกดสลกั ยึดซองกระสุน ปล่อยเล่ือน
ปืนไปข้างหนา้ แล้วห้ามไก

- 88 -

11.7 "เลิกบรรจุ" ให้ปลดซองกระสุนออกก่อน เปิดรังเพลิงเพื่อนำกระสุนนัดที่อยู่รังเพลิงออก
ตรวจดูในรังเพลิงว่า ไม่มกี ระสนุ ค้างอยู่ แลว้ เปิดรงั เพลิงอยใู่ นท่าถอื ปืน แลว้ ล่ันไก จากนั้นบรรจุซองกระสนุ เข้าปืน

11.8 "ตรวจปืนพก" ให้เปิดรังเพลิงแล้วปลดซองกระสุนออก วางแบไว้บนฝ่ามือที่มิได้ถือปืน
ยกขึ้นระดับเข็มขัด ภายหลงั การตรวจให้เปิดรังเพลงิ ลั่นไกในท่าถอื ปืนพก แล้วบรรจุซองกระสุนเข้าปืน คอยฟังคำส่ัง
ตอ่ ไป

11.9 "เก็บปนื พก" ให้ลดปืนลงนำปนื เก็บไวใ้ นซองปนื แล้วอยู่ในท่าตรง
12. ท่ายิง ท่ายิง ปพ. 86 ตามปกติมีเพียงท่าเดียว คือท่ายืนยิง ท่าฝึกยิงปืนตามทำนองรบมี 3 ท่า
คอื

12.1 ท่านนอนยงิ จับปืนสองมือ ใชย้ ิงในระยะ 50 หลาหรือกวา่ น้ัน
12.2 ทา่ น่ังคุกเขา่ ยงิ จับปืนใชย้ ิงในระยะ 25 หลา ถึง 50 หลา
12.3 ทา่ ยืนย่อตัวยิง จบั ปืนมอื เดียวใช้ยงิ ในระยะประชดิ ประมาณ 15 หลา
13. ข้อแนะนำ การจับปืนพกเพื่อทำการยิงนั้น ผู้ยิงจะต้องฝึกให้เคยชินเกี่ยวกับการจับปืน
โดยเฉพาะการจบั ทีถ่ ูกตอ้ ง เพราะ ปพ. 86 ตามปกตมิ ีอาการสะบัดมากว่าปืนชนิดอนื่ ซ่งึ พอสรปุ เปน็ ขอ้ ปฏิบัติไดด้ งั น้ี
13.1 จับเลื่อนปืนหันด้ามปืนเข้าหามือที่ใช้ยิง พยายามให้ด้านหลังอยู่ท่ีก่ึงกลางของรอยพับ
ระหวา่ งหัวแม่มอื กบั น้ิวชี้
13.2 นวิ้ กำด้ามปนื 3 นิ้ว รูดชิดใต้โก่งไกเขา้ หาดา้ มปนื
13.3 กำปืนแน่นพอประมาณ ถ้ายิงจังหวะช้าและแน่นขึ้นถ้าหากเป็นการยิงเร็ว(แต่อย่างเกร็ง)
น้วิ ชีต้ อ้ งเป็นอสิ ระจริง
13.4 นิ้วหัวแม่มือท่ีกำปืนตั้งขึ้นอย่างน้อยเท่ากับระดับของโคนนิ้วช้ีท่ีใช้ลั่นไกปืน แต่ไม่สูงจน
เลยหา้ มไก เพราะจะทำให้อุม้ มอื เปิดไมก่ ดหา้ มไกช่วย มอื จะลั่นไกไม่ได้
13.5 ในการยิงจังหวะเร็ว ควรล็อคข้อศอกและหัวไหล่ เพื่อให้ปืนกลับเข้าท่ีเร็วข้ึนและไม่ทำให้
เส้นเล็งเสียไปบางนัด (การเล็งตรง)
13.6 ลำตัวของผู้ยิงควรจำผมกับแนวยิงหรือแนวเป้าประมาณ 45 องศา แต่ไม่ควรเกิน 90
องศา สำหรับท่ายิงน้ีไม่ถือเป็นกฎตายตัวว่าทุกคนจะต้องปฏิบัติเหมือกันหมด เพราะรูปร่าง ขนาดและความถนัดของ
แตล่ ะบคุ คลย่อมไมเ่ หมอื นกันผูฝ้ กึ ยิงควรคน้ คว้าแก้ไขเร่ือย ๆ
14. เปา้ ของ ปพ. 86 มี 3 แบบ คอื
14.1 เป้าหุ่น จ. มีขนาดเทา่ กบั คนธรรมดา ครึง่ ตัวจากศีรษะถึงสะโพก
14.2 เป้าหนุ่ จ. หมนุ ใช้สำหรับยงิ จับเวลา(พลกิ ใหย้ งิ 3 วนิ าที)
14.3 เปา้ วงกลม ฏ. มวี งกลม 7 วง วงดำเส้นผา่ ศนู ย์กลาง 5 นวิ้ วง 3 เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 46 นิ้ว

- 89 -

15. สรุป
ปนี พก 86 เป็นอาวุธทม่ี ีลำกล้องสั้นกว่าอาวุธชนิดอ่นื ๆ และนายทหารสญั ญาบัตรมไี วใ้ ชเ้ พื่อป้องกัน
ตนเอง จึงควรมีความรู้ความสามารถในการใชพ้ อสมควร ซ่ึงมีข้อควรรู้และควรปฏบิ ตั ดิ ังน้ี

15.1 เกลยี วปืนพก 86 มีลกั ษณะเวียนซ้าย ผิดกับอาวุธชนดิ อ่นื ซงึ่ เวยี นขวา
15.2 กระสนุ และลำกล้องมีขนาดกวา้ งกวา่ อาวธุ ประจำกายชนิดอ่นื ทำใหป้ นื มีอาการสะบัด
มากเมื่อทำการยิง
15.3 ซองกระสุนต้องระวงั อย่าใหป้ ากซองกระสุนผิดรูป ดว้ ยการทำหล่น บรรจดุ ้วยการตบแรง
เกนิ ควรและอืน่ ๆ เพราะจะทำใหป้ นื ติดขัดขณะทำการยงิ
15.4 ต้องตรวจเคร่ืองนริ ภัยของปนื พกทุกครั้งท่ีนำออกใช้
15.5 กระสนุ ลกู ปลาย ถา้ จะใหม้ ีการคัดปลอก ต้องปลดซองกระสนุ ออกก่อนทำการยิง
15.6 อยา่ ประมาท เชน่ เล็งปืนและลั่นไกไปยงั ท่ีซึง่ ไมป่ ลอดภัย
15.7 ในการฝกึ ทหาร ต้องจัดใหม้ ีครแู ละผชู้ ว่ ยครู มากพอสมควร โดยเฉพาะการฝึกยิงปืนใน
สนาม เพราะอาจเกิดอุบัตเิ หตุไดง้ ่าย
15.8 ถา้ ฝึกเล็งและล่ันไกบ่อย ๆ จะทำใหผ้ ู้ฝกึ ยิงไดผ้ ล ถึงแมว้ า่ จะไมม่ ีกระสนุ ซ้อมยิงก็ตาม

- 90 -

คำถามทา้ ยบท

1. ขอ้ แตกต่างระหว่าง ปพ. 86 แบบ เอม็ . 1911 และ เอ็ม. 1911 เอ 1 มีอะไรบา้ ง
2. ความยาว ปพ. 86 ทง้ั กระบอกยาวเท่าใด
3. กระสุนท่ใี ช้กับ ปพ. 86 มีก่ีชนิด อะไรบา้ ง
4. เครือ่ งนิรภยั ปพ. 86 มีอะไรบ้าง
5. จงบอกข้อควรปฏิบัตกิ ่อนนำปนื ออกทำการยิง
6. ท่ายงิ ตามทำนองรบ ปพ. 86 มกี ่ที ่าอะไรบ้าง
7. นำ้ หนัก ปพ. 86 รวมซองกระสุนและกระสนุ 7 นัดหนักเทา่ ใด
8. จงบอกลักษณะเกลยี วภายในลำกลอ้ ง ปพ. 86
9. ข้อควรปฏิบตั ภิ ายหลังจากการยิง ปพ. 86
10. ท่ายิงตามปกติของ ปพ. 86 คอื

******************************

- 91 -

บทท่ี 6

การฝึกพลแมน่ ปืน

1. หลกั พืน้ ฐานของการฝกึ ยิงปนื เบอื้ งตน้
ทหารจะต้องเขา้ ใจหลักพืน้ ฐานสำคญั 4 ประการ กอ่ นจะเข้าสู่แนวยิง กล่าวคอื
- ทหารต้องสามารถจัดทา่ ยิงทม่ี ่นั คง เพ่ือให้ตรวจการณ์ค้นหาเป้าหมายได้
- ทหารตอ้ งสามารถเลง็ ปนื ไปยงั เปา้ หมายได้โดยใชศ้ นู ย์พอดี
- ทหารต้องสามารถยิงปืนได้โดยที่ไม่กระทบกระเทือนการจัดศูนย์พอดีต่อเป้าหมายด้วยวิธีการ
ควบคมุ ระบบการหายใจ
- ในขณะเหนี่ยวไกนัน้ ภาพการจัดศูนย์พอดตี อ่ เป้าหมายจะต้องไม่ถูกทำให้เสียไป
ทกั ษะท่จี ะทำใหเ้ กดิ สิ่งต่าง ๆ ดังกลา่ วได้นน้ั เรยี กว่าหลักพ้นื ฐานของการยิงปนื เล็กยาว
หลักการง่ายๆเหล่านี้ จะช่วยให้ทหารประสบความสำเร็จ ในการยิงต่อเป้าหมายในสภาพการณ์
หลายๆ แบบ เมอื่ ได้รับการเพ่ิมเติมเทคนิคและการฝึก การใช้หลกั พื้นฐานของการยิงปนื ได้อย่างรวดเร็วและสมำ่ เสมอ
น้ัน เรยี กวา่ การมีทักษะในการยิงปืนสงู
ท่ายิงที่ม่ันคง เม่ือทหารเข้าสู่แนวยิงนั้นทหารจะต้องจัดท่าทางใช้ท่ายิงที่สบายและม่ันคง เพ่ือท่ีจะ
ทำการยิงเป้าหมายได้ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอและต่อเน่ือง บนแนวยิงนั้นจะมีเวลาจำกัดสำหรับครูฝึกท่ีจะกำกับดูแล
การจัดท่าทางให้ทหารทุกคน ดังนั้นทหารจะต้องได้รับการฝึกหัดและเรียนรู้การจัดท่ายิงในระหว่างการฝึกยิงแห้งผู้ที่
ทำการฝึกยิงปืนจะตัดสินได้ด้วยตนเองท่ายิงลักษณะใดที่เหมาะสมกับตนเอง (ท่ายิงที่แสดงในรูป เป็นเพียงแนวทาง
หนึ่งเท่าน้ัน ทหารอาจดัดแปลงให้เหมาะสมกับร่างกายของตัวเองได้) ตราบก็ตามที่ทหารสามารถประคองศูนย์หน้า
ของปืนให้อยู่นิ่งได้ ขณะท่ีนกปืนฟาดไปข้างหนา้ น่ันแสดงว่าทหารคนน้ันทำท่ายิงได้เหมาะสมกับตนเองแล้ว ปัจจัยที่
ทำใหท้ ่ายิงมั่นคงนั้นไดแ้ ก่
การใช้มือจบั ท่ฝี าประกบั ลำกลอ้ ง ฝาประกับลำกล้องปืนนั้นจะวางอยู่ในอุ้งมือท่ีทำเป็นรูปตัววี โดย
นิ้วหวั แม่มือและนิว้ ทเี่ หลอื ทัง้ หมด การจบั ท่ฝี าประกบั ลำกล้องนน้ั ไมแ่ นน่ นกั และออกแรงดึงมาข้างหลงั เล็กนอ้ ย
ตำแหน่งท่ีวางพานท้าย พานท้ายปืนจะอยู่บริเวณร่องไหล่ ซึ่งจะช่วยทำให้ลดแรงสะท้อนถอยหลัง
ของปนื และทำใหท้ า่ ยงิ มน่ั คง
การจับถือของมือข้างท่ีใช้เหนี่ยวไก มือข้างที่ใช้เหนี่ยวไกนั้นจะใช้จับด้ามปืนซ่ึงใช้นิ้วหัวแม่มือและ
นิว้ ชท้ี ำเป็นรูปตัววี นิ้วช้ที ี่ใชว้ างทีไ่ กปืนนั้นจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ทำใหป้ ืนเคลือ่ นไปมาเมื่อออกแรงเหนี่ยวไกน้ิวท่ีเหลือ
น้นั ใช้ออกแรงอดั พานท้ายมาทางด้านหลังเล็กน้อยให้พานท้ายอย่ใู นร่องไหล่ เพือ่ ลดแรงสะทอ้ นถอยหลงั ของปนื

- 92 -

การจบั ถอื ของมือข้างทีใ่ ช้เหนย่ี วไก จดุ สัมผสั พานท้าย

การ การ
การใชม้ อื จับทฝี่ าปะกับลำกลอ้ ง ใชม้ ือจับไม่แน่นมาก ตำแหนง่ การวางพานท้าย

การ การ
จดุ สมั ผสั พานทา้ ย
ตำแหน่งการวางศอก
ขา้ งทีใ่ ช้เหน่ียวไก ข้างทจ่ี บั ฝาปะกบั กลาำรกลอ้ ง

กกาารรจบั ถือของมอื ขา้ งท่ใี ชเ้ หน่ยี ว การ
ไก
รูปท่ี 6.1 ท่ายิงที่มั่นคง

การวางศอกข้างที่ถนัด (แขนของมือท่ีใช้เหน่ียวไก) ตำแหน่งข้อศอกกว้างน้ีมีความสำคัญเพราะจะ
ทำใหเ้ กกดิาสร มดุล แต่การท่ีระบตุ ำแหน่งทแ่ี นน่ อนน้นั ข้ึนอยกู่ ับทา่ ยิงต่างๆ เช่น ทา่ คกุ เขา่ ท่านอน หรือ ทา่ ยงิ
การจัดตำแหน่งของข้อศอกน้ันจะตอ้ งนำใหห้ ัวไหลข่ องผู้ยงิ ในแนวระดับ


Click to View FlipBook Version