The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Unit_4_การเขียนเพื่อการสื่อสาร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pp.biplu, 2022-07-09 08:53:57

Unit_4_การเขียนเพื่อการสื่อสาร

Unit_4_การเขียนเพื่อการสื่อสาร

คำนำ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท22101 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 เลม่ นี้ได้จดั ทำขึ้น
เพอื่ ใช้เปน็ แนวทางในการจดั การเรยี นรู้โดยเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ใหน้ ักเรยี นมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมและ
กระบวนการเรยี นรู้ สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ทั้งเปน็ รายบคุ คลและรายกลมุ่ สรา้ งสถานการณ์
การเรยี นรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ทำให้นักเรียนสามารถเชือ่ มโยงความรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้
อน่ื ๆ ไดใ้ นเชงิ บรู ณาการดว้ ยวธิ ีการทีห่ ลากหลาย เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และสรปุ ความรู้
ดว้ ยตนเอง ทำใหน้ ักเรียนได้รับการพฒั นาทงั้ ด้านความรู้ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ และด้านคณุ ธรรม
จรยิ ธรรม และคา่ นิยมท่ีดี นำไปสู่การอย่รู ่วมกนั ในสังคมอย่างสนั ติสุข

การจดั ทำแผนการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชาท22101 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 เลม่ นี้
ไดจ้ ัดทำตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ซ่ึงครอบคลมุ ตัวช้วี ดั และมาตรฐาน
การเรียนรู้ โดยได้นำเสนอแผนการจดั การเรยี นรเู้ ป็นรายชว่ั โมงตามหน่วยการเรียนรู้ และในแต่ละหนว่ ยการ
เรยี นรู้มีการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรทู้ ้ัง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านพุทธิพิสัยหรือความรู้ Cognitive Domain (K),
ดา้ นจติ พสิ ยั หรือทกั ษะ Psychomotor Domain (P) และดา้ นทกั ษะพสิ ัยหรือเจตคติ Affective Domain (A)

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชาท22101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 เล่มน้ีได้ออกแบบ
การเรียนรู้ด้วยเทคนิคและวิธีการสอนอยา่ งหลากหลาย เพ่ือการจดั การเรียนร้สู ำหรับนกั เรียนใหบ้ รรลุ
เปา้ หมายของหลกั สูตรต่อไป

นางสาวอารยี วัฒน์ พงษ์นิรันดร
ผ้จู ดั ทำ

สารบญั

คำนำ.............................................................................................................................................. ก
สารบัญ.......................................................................................................................................... ข
บันทกึ ข้อความขออนญุ าตใช้แผนการจัดการเรยี นรู้........................................................................ ค
คำอธิบายรายวชิ า........................................................................................................................... 1
โครงสรา้ งการแบง่ เวลารายช่วั โมงในการจดั การเรียนร.ู้ .................................................................. 2
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การเขียนเชงิ สรา้ งสรรค์...................................................................................7

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 ความรูพ้ ้ืนฐานในการเขียน....................................................................7
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 การเขยี นบรรยาย................................................................................24
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 พรรณนาก่อเกิดจินตนาการ.................................................................40
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 ยอ่ ความจากสื่อ....................................................................................59
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 รอ้ ยเรยี งความประทับใจ......................................................................79
ภาคผนวก......................................................................................................................................101

บนั ทกึ ข้อความ

สว่ นราชการ โรงเรยี นหนองก่ีพิทยาคม อำเภอหนองกี่ จังหวดั บุรรี ัมย์ โทร ๐๔๔-๖๔๑๓๒๔

ท่ี /๒๕๖๕ วนั ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เรอ่ื ง ขออนุมัตใิ ชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาภาษาไทย ๓ (ท๒๒๑๐๑) ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕

---------------------------------------------------------------------------------------

เรยี น ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองกี่พิทยาคม

ตามทข่ี ้าพเจ้า นางสาวอารยี วัฒน์ พงษน์ ิรันดร ตำแหน่ง ครู กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

โรงเรียนหนองกี่พิทยาคม ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ีสอน รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๒๑๐๑

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕

ข้าพเจ้าจึงได้วเิ คราะห์ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วดั คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวชิ า

เพื่อจดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้วชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๑ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มสาระการ

เรียนรู้ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ซึ่งสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองกี่

พทิ ยาคมกลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย (ฉบบั ปรับปรุง) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา

ขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนท่ีเน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญ

บัดนี้ ข้าพเจ้าได้ดำเนินการจัดทำแผนการจดั การเรียนรู้เรียบร้อยแล้ว จึงขออนุมัติใช้แผนการจัดการ

เรียนรู้ดังกล่าว เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อพัฒนาคุณภาพ

ผู้เรียนใหบ้ รรลุเป้าหมายของหลกั สตู รฯ ต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพจิ ารณาอนมุ ัติ

ลงชื่อ
(นางสาวอารยี วัฒน์ พงษ์นิรันดร)
ตำแหน่ง ครู

ความเห็นของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

 อนมุ ัติ  ไม่อนุมตั ิ  อนื่ ๆ..........................................................................................

ลงช่ือ
(นางปนัดดา ยอดแกว้ )

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
………/……………./………

ความคิดเห็นของผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ

 อนุมัติ  ไมอ่ นุมัติ  อ่ืน ๆ..........................................................................................

ลงชื่อ
(นายสุเนตร บอกประโคน)

ผ้ชู ่วยผูอ้ ำนวยการฝา่ ยบริหารงานวิชาการ
………/……………/………..

ความคิดเห็นของรองผูอ้ ำนวยการฝ่ายบรหิ ารงานวชิ าการ

 อนุมตั ิ  ไมอ่ นุมตั ิ  อน่ื ๆ..........................................................................................

ลงช่อื
(นายเฉลิมพล คนชมุ )

รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยบริหารงานวชิ าการ
………/……………/………..

ความคดิ เหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี นหนองกพ่ี ทิ ยาคม

 อนมุ ตั ิ  ไมอ่ นุมัติ  อืน่ ๆ..........................................................................................

ลงช่ือ
(นายชาตรี อัครสขุ บตุ ร)

ผ้อู ำนวยการโรงเรียนหนองกพ่ี ทิ ยาคม
………/……………/………

คำอธบิ ายรายวชิ าภาษาไทย 3

รหัสวิชา ท 22101 เวลา 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกติ

ศึกษาหลกั ภาษาเกย่ี วกบั ชนิดของประโยคสามญั ประโยคความรวม ประโยคความซอ้ น
การแต่งคำประพันธ์ ใช้คำราชาศัพท์ได้ถูกต้องเหมาะสมตามฐานะของบุคคล หลักการอ่านออกเสียง
ร้อยแก้ว ร้อยกรอง หลักการจับใจความ หลักการพูด หลักการเขียน เพื่อให้สามารถจับใจความสำคัญ
แยกข้อเทจ็ จริงจากขอ้ คิดเห็น แสดงความคิดเห็น วิเคราะห์และประเมินคา่ ส่งิ ทไี่ ด้อา่ น ฟัง พดู
และเขยี นได้ถูกต้องชดั เจน

ฝกึ การฟงั ดู พูด อา่ น เขยี น โดยอ่านออกเสียงรอ้ ยแกว้ รอ้ ยกรอง อ่านจับใจความอ่าน
สรุปความ อา่ นวรรณคดี และวรรณกรรมท้องถิ่น ท่องจำบทอาขยาน หรือบทร้อยกรองทม่ี คี ณุ คา่
ตามความสนใจ คดั ลายมอื บรรจงครึ่งบรรทัด เขียนเลขไทย เขยี นบรรยาย พรรณนาย่อความ เรียงความ
รายงานการศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น ข้อโต้แย้งวิเคราะห์จำแนกข้อเท็จจริง
ข้อคิดเห็น และประเมนิ คา่ พดู สรุปความ พูดอวยพรในโอกาสต่าง ๆ

มมี ารยาทและมนี ิสัยรักการอ่าน การฟงั การดู การพดู และการเขยี น ทอ่ งจำและอธิบายคุณค่า
บทอาขยาน ซาบซ้งึ ในบทอาขยาน นำไปใช้อา้ งอิง สามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้

รหสั ตวั ช้ีวดั
ท1.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/8
ท2.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/8 ม.2/4 ม.2/5
ท3.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/6 ม.2/3 ม.2/2
ท4.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3
ท5.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/5

โครงสรา้ งรายวชิ า

ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ สาระสำคญั / เวลา น้ำหนกั
หน่วยท่ี /มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ความคดิ รวบยอด (ชม.) คะแนน

เรียนรู้/ตวั ช้ีวดั 3 2

1 การอ่านออกเสียง 1. อธบิ ายความรูเ้ รอื่ ง การอ่านออกเสียงบทร้อย 7 10

ตัวชี้วดั ข้อที่ 1,2 หลกั การอา่ นออกเสียงบท แก้วและบทร้อยกรองเป็น

รอ้ ยแก้วและบทร้อยกรอง การอ่านทีเ่ ปน็ เอกลักษณ์ของ

ได้ถูกตอ้ ง (K) ไทยที่ผู้อ่านจะต้องเข้าใจ

2. ปฏบิ ตั ิตามหลกั การ ฉันทลักษณ์ในการอ่านและ

อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง

และบทร้อยกรองได้ รวมทั้งสามารถถ่ายทอด

ถกู ต้อง (P) อารมณ์ของบทประพันธ์สู่

3. มมี ารยาทในการอ่าน ผู้ฟังได้อย่างลึกซึ้งและเห็น

และนำข้อคดิ ประโยชน์ คณุ ค่า

จากเร่ืองทอ่ี ่านมา

ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ

ประจำวนั ได้ (A)

2 การอา่ นใน 1. อธบิ ายหลักการอ่าน การอา่ นจบั ใจความสำคัญ

ชวี ติ ประจำวัน จบั ใจความสำคัญ สรุป เปน็ ทกั ษะการอ่านท่ีควร

สร้างสรรคป์ ญั ญา ความและอธิบาย ฝกึ ฝนจะชว่ ยใหผ้ อู้ า่ น

ตวั ชี้วัดขอ้ ท่ี 3,4,5 รายละเอียดจากเรอ่ื ง สามารถเขา้ ใจเร่อื งราวท่ีอา่ น

ทอี่ า่ นได้ (K) ได้อยา่ งรวดเรว็ ทำใหเ้ ขา้ ใจ

2. อธิบายหลกั การ หลกั การอ่านจับใจความ

อภิปรายแสดงความ สำคัญจากสือ่ ตา่ ง ๆ ทั้งบท

คิดเห็นและข้อโตแ้ ย้งได้ รอ้ ยแก้วและบทร้อยกรอง

(K) ตลอดจนสามารถอภิปราย

3. อธิบายหลักการอ่าน แสดงความคิดเห็น จากสอ่ื

เพอ่ื จับใจความสำคัญ ท่อี า่ นและสรุปความ

วิเคราะห์ ประเมนิ คา่ (K) เป็นแผนผงั ความคิดได้อย่าง

4. ปฏบิ ตั ติ ามหลกั การ ถกู ต้อง

อา่ นจับใจความสำคัญ

สรุปความและอธบิ าย

รายละเอียดจากเรอื่ ง

ที่อ่านได้ (P)

ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ สาระสำคญั / เวลา น้ำหนกั
หน่วยที่ /มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรียนรู้ ความคิดรวบยอด (ชม.) คะแนน

เรียนร้/ู ตัวชว้ี ัด 2 2

5.อภิปรายแสดงความ

คดิ เหน็ และขอ้ โต้แยง้

เกยี่ วกบั เรอื่ งท่อี ่าน (P)

6. เขียนผังความคดิ เพื่อ

แสดงความเข้าใจใน

บทเรยี นทีอ่ า่ น (P)

7. ตระหนักและเห็น

ความสำคญั ของการอ่าน

(A)

8. มนี สิ ยั รักการอ่าน (A)

3 การคดั ลายมอื 1. อธิบายหลักการ ลายมอื ท่ีใช้ในการเขียน

ตวั ชว้ี ัดข้อท่ี 6 คดั ลายมือตวั บรรจง สื่อสารคือลายมอื ตวั บรรจง

คร่ึงบรรทัดตามรปู แบบ คร่งึ บรรทดั และคดั ตาม

การเขียนตวั อักษรไทย รูปแบบการเขยี นตวั

(K) อกั ษรไทย ซง่ึ การคัดลายมอื

2. คัดลายมอื ตวั บรรจง ตามรูปแบบการเขียนตัว

ครง่ึ บรรทัดตามรูปแบบ อกั ษรไทยเพื่อใช้ในการ

การเขียนตัวอักษรไทย สอ่ื สารจะต้องศึกษารปู แบบ

(P) ตวั อกั ษรเพื่อให้สามารถคดั

3. มวี นิ ยั และรักความ ลายมอื ได้อย่างถกู ต้องและ

เปน็ ไทย (A) สวยงาม

4 การเขยี น 1. อธิบายความร้พู ื้นฐาน การเขยี นเพือ่ การสอ่ื สารมี 9 6

เพ่อื การสือ่ สาร เกี่ยวกับการเขยี น/ ความจำเป็นในชีวิตประจำวัน

ตวั ชว้ี ัดข้อที่ หลักการเขียนบรรยาย ผเู้ ขียนควรศกึ ษาเรียนร้ทู ำ

7,8,9,10 และพรรณนาได้(K) ความเขา้ ใจรูปแบบการเขยี น

2. อธิบายหลักการเขยี น หลกั การเขยี นบรรยายการ

ย่อความได้ (K) เขียนพรรณนา การเขยี น

3. อธิบายหลกั การเขียน ย่อความ และการเขยี น

เรยี งความได้ (K) เรียงความอย่างถูกตอ้ ง

4. ปฏิบัติตามหลักการ อีกท้ังจะต้องมีมารยาทใน

เขียนบรรยายและ การเขยี นและสามารถนำมา

พรรณนาได้ (P) ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจำวัน

ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ สาระสำคญั / เวลา น้ำหนกั
หนว่ ยที่ /มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรียนรู้ ความคิดรวบยอด (ชม.) คะแนน

เรียนรู/้ ตัวช้ีวดั 4 2
5 4
6. ปฏบิ ัตติ ามหลกั การ
5 4
เขยี นเรียงความได้ (P)

7. ปฏบิ ัติตามหลักการ

เขียนย่อความได้ (P)

8. มมี ารยาทในการ

เขยี น และนำข้อคิด

ประโยชน์มาประยกุ ตใ์ ช้

ในชีวติ ประจำวันได้ (A)

5 การพูดสรุปความ 1. อธิบายความรู้พืน้ ฐาน การพดู สรุปใจความสำคัญ

จากเร่ืองทฟี่ ังและดู เร่ืองการพดู (K) จากส่ือตา่ ง ๆ ทฟ่ี ังและดู

ตัวชี้วดั ข้อที่ 11 2. พดู สรุปใจความสำคญั ผพู้ ูดจะต้องมีพืน้ ฐานใน

ของเร่ืองที่ฟงั และดู (P) การพดู เพื่อนำไปใช้ได้อย่าง

3. มีความซื่อสัตย์ (A) ถกู ต้อง

6 โคลงภาพพระราช 1. มีความร้คู วามเข้าใจ การศกึ ษาเรื่อง โคลงภาพ

พงศาวดาร เกีย่ วกับหลกั การ พระราชพงศาวดาร จะตอ้ ง

ตวั ช้วี ัดขอ้ ที่ 12 วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์ วิเคราะหแ์ ละวิจารณ์

วรรณคดวี รรณกรรมที่ วรรณคดจี ากเร่ืองที่อ่านได้

อ่าน (K) พร้อมทัง้ ยกเหตุผลประกอบ

2. วิเคราะห์และวิจารณ์ เกี่ยวกับเน้ือเร่ืองทอี่ า่ นได้

วรรณคดเี ร่อื ง โคลงภาพ อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม

พระราชพงศาวดาร ตอน

พระสรุ โิ ยทัยขาดคอช้าง

ได้ (P)

3. มีความซอื่ สัตย์ (A)

7 บทเสภา 1. อธิบายหลักการพูด การศกึ ษาเร่ือง บทเสภา

สามัคคเี สวก วิเคราะห์ วจิ ารณ์จากสื่อ สามคั คเี สวก ตอน

ตวั ช้วี ัดข้อที่ 13,14 ท่ฟี งั และดู (K) วิศวกรรมาและสามคั คเี สวก

2. มารยาทในการฟัง จะต้องวิเคราะหว์ จิ ารณ์เร่ือง

การดู และการพดู (K) ได้ รวมท้ังมีมารยาทในการ

3. วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์ ฟงั และดู

เร่ืองท่ีฟงั และดู

อย่างมวี จิ ารณญาณ (P)

ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ เวลา นำ้ หนกั
หนว่ ยที่ /มาตรฐานการ ความคิดรวบยอด (ชม.) คะแนน
3
เรียนรู้/ตวั ช้ีวดั 6 5
5
4. มีมารยาทในการฟัง 4
4
การดู และการพูด นำ

ขอ้ คิดมาประยุกต์ใช้ในการ

ดำเนนิ ชีวิต (A)

5. มคี วามซอื่ สัตย์ (A)

8 สรา้ งคำในภาษาไทย 1. อธบิ ายหลักการ การศกึ ษาเร่ือง สร้างคำใน

ตัวชวี้ ดั ข้อที่ 15 สร้างคำในภาษาไทย (K) ภาษาไทย จะต้องมคี วามรู้

2. สามารถสร้างคำ พน้ื ฐานในการสร้างคำ ท้งั

ในภาษาไทยได้ (P) หลกั เกณฑ์วิธีการสร้างคำ

3. มคี วามกระตือรือร้นใน ในภาษาไทย เพ่ือให้มี

การทำงาน (A) ความเข้าใจและสามารถ

ใชไ้ ด้อยา่ งถกู ตอ้ ง

9 ประโยคในภาษาไทย 1. อธิบายโครงสร้าง การศึกษาเร่ืองประโยคใน

ตวั ช้ีวัดข้อที่ 16 ประโยคสามญั ประโยค ภาษาไทย ต้องวเิ คราะห์

รวม และประโยคซ้อนได้ โครงสรา้ งประโยคให้

(K) ถูกต้อง

2. วเิ คราะหโ์ ครงสร้าง

ประโยคสามญั ประโยค

รวม และประโยคซ้อนได้

(P)

3. มคี วามกระตือรือร้นใน

การทำงาน (A)

10 รามเกยี รต์ิ ตอน 1. หลกั การสรุปเนอื้ หา การศึกษาเร่ืองรามเกยี รต์ิ

นารายณป์ ราบน วรรณคดแี ละวรรณกรรมที่ ตอน นารายณ์ปราบนนทก

นทก อา่ นในระดับทีย่ ากข้นึ (K) จะตอ้ งจับใจความสำคญั

ตวั ชว้ี ัดขอ้ ท่ี 17 2. สรุปเนือ้ หาวรรณคดี สรปุ ความ อธิบาย

และวรรณกรรมจาก รายละเอยี ดจากเรื่องที่

บทเรยี นในวรรณคดี (P) อา่ น และยังตอ้ งรู้ความ

3. ตระหนกั และเหน็ คณุ คา่ เปน็ มาและประวตั ผิ ูแ้ ตง่

ของวรรณคดีและนำมา

ประยกุ ต์ใช้ใน

ชวี ติ ประจำวันได้ (A)

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ เวลา น้ำหนกั
หนว่ ยที่ /มาตรฐานการ ความคิดรวบยอด (ชม.) คะแนน
4
เรียนร/ู้ ตัวช้ีวดั 4
2
11 ศิลาจารึกพ่อขุน 1. หลกั การวเิ คราะห์และ การศกึ ษาเรื่องศิลาจารึก 2

รามคำแหงมหาราช วจิ ารณว์ รรณคดี พอ่ ขุนรามคำแหง จะต้อง

ตวั ชว้ี ดั ขอ้ ท่ี 18 วรรณกรรม และ สามารถวิเคราะหว์ จิ ารณ์

วรรณกรรมท้องถิน่ (K) เรื่องท่ีอ่านพร้อมอธิบาย

2. วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์ เนื้อหาและยกเหตุผล

วรรณคดีวรรณกรรมจาก ประกอบเร่ืองได้อย่าง

เรอื่ ง บทเรียนในวรรณคดี ถกู ต้อง

และวรรณกรรมท้องถิ่น

ทอี่ า่ น พร้อมยกเหตผุ ล

ประกอบ (P)

3. รกั ชาติศาสน์ กษัตรยิ ์

ซ่ือสัตยแ์ ละมจี ติ สาธารณะ

(A)

12 ทอ่ งจำบทอาขยาน 1. หลกั การท่องบท บทอาขยานเปน็ บททม่ี ี

ตวั ชว้ี ัดขอ้ ท่ี 19 อาขยาน (K) คุณคา่ ให้ข้อคิด จงึ ควรนำ

2. ทอ่ งจำบทอาขยาน บทอาขยานตามท่ีกำหนด

ตามท่กี ำหนดและบทรอ้ ย มาท่องจำ

กรองที่มีคุณค่าตามความ

สนใจ (P)

3. มีความซื่อสัตย์ (A)

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1

รหสั วชิ า ท 22101 รายวชิ าภาษาไทย 3 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 การเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์ เวลา 9 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง ความรู้พืน้ ฐานเกีย่ วกบั การเขียน เวลา 1 ชว่ั โมง

สอนวันที่………....……เดือน……………………………….พ.ศ…….....…. ผู้สอน นางสาวอารียวฒั น์ พงษน์ ริ ันดร

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวดั
1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพื่อนำไปใช้ตัดสนิ ใจ

แก้ปัญหาในการดำเนนิ ชวี ติ และมีนสิ ยั รกั การอ่าน
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขียน

เร่ืองราวในรปู แบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่าง
มปี ระสทิ ธิภาพ

มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
และความรสู้ ึกในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์

1.2 ตัวชว้ี ดั
ท 1.1 ม.2/3 เขียนผงั ความคดิ เพือ่ แสดงความเข้าใจในบทเรียนตา่ ง ๆ ที่อา่ น
ท 2.1 ม.2/1 คดั ลายมอื ตัวบรรจงคร่งึ บรรทัด
ม.2/8 มมี ารยาทในการเขียน
ท 3.1 ม.2/3 วิเคราะห์และวิจารณเ์ รอื่ งทฟี่ งั และดูอย่างมเี หตุผลเพื่อนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้

ในการดำเนนิ ชวี ติ

2. สาระสำคญั
การเขยี นเป็นการถ่ายทอดความร้คู วามคดิ เรื่องราวประสบการณ์ อารมณ์ ความรูส้ ึกจากผู้เขยี น

ไปยังผู้อ่าน การเขียนเพ่ือการสอื่ สารมคี วามจำเป็นในชวี ติ ประจำวัน ผู้เขยี นควรศกึ ษาเรยี นร้ทู ำความ
เขา้ ใจรปู แบบการเขียน หลกั การเขยี น การเขยี นดว้ ยลายมือที่อา่ นงา่ ยเป็นระเบยี บเรียบร้อยและใช้
สำนวนภาษาใหถ้ กู ต้องเหมาะสมเพ่ือให้เขียนส่ือสารอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 อธิบายความรพู้ ้ืนฐานเกีย่ วกับการเขียนได้ (K)
3.2 ปฏิบตั ิตามหลักการเขยี นไดถ้ ูกต้อง (P)
3.3 เขียนผังความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรยี นได้ (P)
3.4 มมี ารยาทในการเขียน และนำข้อคดิ ประโยชนจ์ ากเรือ่ งที่ฟงั และดูมาประยุกตใ์ ช้

ในชีวติ ประจำวนั ได้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้
ความร้พู ื้นฐานเกี่ยวกับการเขียน
4.1 ความหมายและความสำคัญของการเขียน
4.2 หลักของการเขยี น
4.3 จุดม่งุ หมายของการเขียน
4.4 ความสำคัญของลายมือและรปู แบบตัวอักษรไทย
4.5 มารยาทในการเขยี น

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มุ่งม่นั ในการทำงาน

6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
6.1 ความสามารถในการสื่อสาร
6.2 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ชั่วโมงท่ี 1 ขนั้ นำเขา้ ส่บู ทเรยี น
7.1 ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ เรอ่ื ง ความรูพ้ น้ื ฐานเกยี่ วกบั การเขยี น โดยใชส้ ไลด์

อเิ ลก็ ทรอนิกสใ์ นชุดกจิ กรรมท่ี 1 ประกอบ
7.2 นกั เรยี นสแกน QR CODE จากสไลดอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ ในชดุ กจิ กรรมท่ี 1 เร่ือง

ความรพู้ ื้นฐานเก่ียวกับการเขียน เพ่ือทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเชงิ
สรา้ งสรรค์ จำนวน 10 ข้อ จากโปรแกรมประยุกต์การทำแบบทดสอบออนไลน์ เพื่อวัดความรพู้ ้ืนฐาน
ของนักเรียน

7.3 ใหน้ ักเรยี นดูคลิป “ภาษาไทยไม่ยาก แตร่ ะวังใชผ้ ดิ ” จากสไลดอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ ในชดุ
กจิ กรรมท่ี 1 เรื่อง ความรู้พนื้ ฐานเกีย่ วกบั การเขยี น จากนั้นสังเกตการใช้ภาษาในการเขียนตา่ ง ๆ ใน
คลิป (ท่ีมาhttps://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3087489
https://www.youtube.com/watch?v=iQ2_zxgQOzg: สืบค้นเม่ือวนั ท่ี 28 มี.ค. 2565)

7.4 ครูและนักเรยี นร่วมสนทนาซกั ถามเกีย่ วกับการแสดงความคดิ เห็นตา่ ง ๆ จากคลปิ
“ภาษาไทยไมย่ าก แต่ระวังใช้ผิด” วา่ นกั เรยี นมีความคดิ เห็นอย่างไรและการเขียนมีความสำคัญหรอื ไม่
อยา่ งไร จากนัน้ นักเรยี นเข้าโปรแกรมประยุกต์การแสดงความคดิ เห็นออนไลนผ์ า่ นมอื ถือ เพ่ือแสดง
ความคดิ เห็นของแต่ละคน

ขน้ั การสอนและการปฏิบตั กิ ิจกรรม
7.5 นกั เรยี นศึกษาความรู้พืน้ ฐานเก่ยี วกับเขยี นจากชุดกจิ กรรมท่ี 1 เรอ่ื ง ความรู้

พ้ืนฐานเก่ียวกบั การเขียน โดยมคี รูเปน็ ผทู้ ค่ี อยกำกับดูแลและช่วยเหลือ หากนกั เรยี นเกิดความสงสัยใน
การศึกษาชดุ กจิ กรรม ครใู ห้คำแนะนำและอธิบายเพม่ิ เติม
ขัน้ การสอนและการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม

7.6 ให้นกั เรียนสแกน QR CODE จากสไลดอ์ ิเล็กทรอนิกส์ ในชุดกจิ กรรมที่ 1
เพื่อทำใบงานที่ 1 เร่อื ง ความรู้พน้ื ฐานเกีย่ วกับการเขียน โดยใหเ้ วลาทำกจิ กรรม 15 นาที
โดยก่อนทำใบงาน ครสู รปุ สั้นๆ เกย่ี วกับเปา้ หมายของการทำใบงานให้นักเรยี นเขา้ ใจ

7.7 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มสรปุ เพือ่ ทบทวนความรู้เร่อื ง ความรู้พื้นฐานเกย่ี วกับ
การเขยี น โดยใช้สไลดอ์ ิเล็กทรอนกิ สจ์ ากในชุดกจิ กรรมท่ี 1 ประกอบ
ข้ันการสอนและการปฏิบตั ิกิจกรรม

7.8 ครแู ละนกั เรียนรว่ มสนทนาวา่ ไดศ้ ึกษาเรื่องอะไรบา้ งจากชั่วโมงที่แลว้
7.9 ครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยใบงานท่ี 1 และแนวคำตอบเร่ือง ความรู้พืน้ ฐานเกยี่ วกับ
การเขียน

7.10 ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั สรปุ เพ่อื ทบทวนบทเรยี นเร่ือง ความรูพ้ ืน้ ฐานเก่ียวกบั การเขียน โดย
มีครูคอยให้คำช้แี นะและอธบิ ายเพ่ิมเติมในสว่ นท่ีบกพร่อง

7.11 นกั เรียนเขียนแผนผังความคิดเพ่อื แสดงความเขา้ ใจในบทเรียน ผ่านโปรแกรมประยุกต์
การเขียนแผนผังความคดิ โดยใหเ้ วลาทำกจิ กรรม 15 นาที โดยกอ่ นทำใบงาน ครสู รปุ สั้นๆ เกี่ยวกบั
เป้าหมายของการทำใบงานให้นักเรียนเข้าใจ

ขนั้ สรปุ
7.12 ครแู ละนักเรยี นสนทนารว่ มกันเพ่ือสรุปบทเรยี นโดยใช้แผนผังความคิดประกอบ
7.13 ให้นกั เรยี นสแกน QR CODE จากสไลดอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ ในชดุ กิจกรรมที่ 1 เพอื่

บันทกึ การเรยี นรู้ เรื่อง ความรู้พื้นฐานเกีย่ วกบั การเขียน โดยใชก้ จิ กรรม learning logs
โดยการบนั ทึกผา่ นโปรแกรมประยกุ ต์บันทึกการเรียนรอู้ อนไลน์

โดยใหน้ กั เรียนบนั ทกึ การเรียนรู้ 2 ข้อดังน้ี
1) การเขยี นมคี วามสำคัญดังน้ี...........
2) ฉันจะนำความรู้จากบทเรียนไปประยุกตใ์ ชใ้ นเร่ือง…….....

8. การวดั ผลประเมินผล

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธกี ารวัดผล เคร่ืองมือ เกณฑ์

8.1 อธบิ ายความรู้พน้ื ฐาน ตรวจแบบทดสอบ 1. แบบทดสอบหลงั เรียน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60

เก่ียวกบั การเขยี นได้

8.2 ปฏิบัตติ ามหลักการเขียน ตรวจผลงาน 2. ใบงานที่ 1 ความรู้ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60

ไดถ้ ูกต้อง พ้นื ฐานเกีย่ วกบั การ

เขียน

8.3 เขียนแผนผังความคิดเพื่อ ตรวจผลงาน 3. แบบประเมินแผนผงั ระดบั คุณภาพ 3

แสดงความเข้าใจบทเรยี น ความคดิ ผ่านเกณฑ์

8.4 มีมารยาทในการเขียน ตรวจบันทึก 4. แบบประเมินการ ระดบั คุณภาพ 3

และนำข้อคดิ ประโยชน์จาก การเรียนรู้ บนั ทกึ การเรยี นรู้ ผา่ นเกณฑ์

เรือ่ งท่ีฟังและดมู าประยุกต์ใช้ 5. แบบสงั เกตการบนั ทึก

ในชวี ิตประจำวันได้ การเรียนรู้

9. สื่อและแหล่งเรียนรู้
9.1 ชดุ กิจกรรมที่ 13 เรื่อง ความรพู้ ื้นฐานเก่ียวกับการเขียน
9.2 ใบงานที่ 1 ความรพู้ ้นื ฐานเกี่ยวกับการเขยี น
9.3 โปรแกรมประยุกต์การแสดงความคดิ เหน็ ออนไลน์
9.4 โปรแกรมประยุกต์การเขียนแผนผังความคิด
9.5 โปรแกรมประยกุ ต์บันทกึ การเรยี นรู้ออนไลน์
9.6 โปรแกรมประยุกต์การทำแบบทดสอบออนไลน์

10. บันทึกหลังสอน
10.1 ผลการจดั การเรียนรู้
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ มีจดุ ประสงค์  K  P  A
 มกี ารบรู ณาการ คุณธรรม/การต้านการทจุ ริต/หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
 มกี ระบวนการทำงานกลุ่ม/การสืบคน้ ขอ้ มลู /การใชเ้ ทคโนโลยี
 สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อืน่ ๆ ....................................................................................................................................
10.2 ผลการเรียนรู้ตามจดุ ประสงค์
 จำนวนนักเรยี นท่ผี า่ นการประเมนิ ................... คน คดิ เป็นร้อยละ .................................
 จำนวนนกั เรยี นที่ไมผ่ า่ นการประเมิน .................. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...............................
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.3 ปัญหาและอปุ สรรค
 กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา
 มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา
 มีนักเรียนทไี่ ม่สนใจเรยี น
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................................

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรุง เร่อื ง ..............................................................................................
 ................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนที่ไมผ่ ่านการประเมนิ /ไมส่ นใจเรยี น ................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อนื่ ๆ ...................................................................................................................... .............

ลงช่อื ........................................... ผบู้ ันทึก
(นางสาวอารียวัฒน์ พงษ์นริ ันดร)
ครูผ้สู อน

ใบงานท่ี 1 ความรพู้ น้ื ฐานในการเขียน

ช่อื -สกลุ .................................................................................ชั้น..................เลขท่ี................

คำชแ้ี จง ให้นักเรียนจับคคู่ ำและความหมายดว้ ยการนำตัวอักษรหน้าความหมายมาเติม

ลงในช่องวา่ ง

ก. ความหมายของการเขยี น ข. ความสำคัญของการเขยี น

ฃ. จดุ ม่งุ หมายของการเขยี น ค. ความสมั พันธข์ องการอา่ นและการเขยี น

ฅ. รูปแบบตัวอกั ษรไทย ง. ตวั อกั ษรแบบกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

จ. ตวั อกั ษรแบบอาลักษณ์ ช. มารยาททีดีในการเขยี น

..............1. การเขียนเป็นเคร่ืองสร้างความสามคั คีและความเจริญรงุ่ เรอื งภายในชาติ

..............2. เขยี นเพื่อให้ผ้อู ่านเขา้ ใจและรบั รู้ได้ตรงเจตนาของผูเ้ ขียน

..............3. เขยี นถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ไม่คดั ลอกงานเขยี นของผู้อ่ืน

..............4. ใชใ้ นงานเอกสารทางราชการ

..............5. การเขียนเปน็ การแสดงออกซ่งึ ภูมิปญั ญาของมนษุ ย์

..............6. แบบอาลกั ษณ์ แบบกระทรวงศกึ ษาธิการ

..............7 ตวั อกั ษรประเภทหัวเหล่ยี มตัวเหลี่ยม

..............8. การถ่ายทอดความร้สู ึกนกึ คิดและความต้องการของบุคคลออกมาเป็นตัวอักษร

เพ่อื ส่ือความหมายให้ผอู้ ่ืนเขา้ ใจ
..............9. ปรญิ ญาบตั ร เกียรติบตั ร ประกาศนยี บัตร
..............10. การมีประสบการณ์ที่มากทำให้เข้าใจงานเขียนได้ดี

เฉลยใบงานท่ี 1 ความรู้พื้นฐานในการเขยี น

ชือ่ -สกลุ ................................................................................ช้ัน...................เลขท.่ี ...............

คำช้แี จง ให้นักเรยี นเลือกความหมายท่ีสัมพนั ธก์ นั ด้วยการนำตัวอกั ษรหนา้ ความหมาย

มาเตมิ ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

ก. ความหมายของการเขยี น ข. ความสำคญั ของการเขียน

ฃ. จุดมงุ่ หมายของการเขียน ค. ความสัมพนั ธข์ องการอ่านและการเขียน

ฅ. รูปแบบตวั อกั ษรไทย ง. ตวั อักษรแบบกระทรวงศกึ ษาธิการ

จ. ตัวอกั ษรแบบอาลกั ษณ์ ช. มารยาททดี ีในการเขยี น

.....ข..... 1. การเขียนเป็นเครอ่ื งสรา้ งความสามัคคีและความเจรญิ รุ่งเรืองภายในชาติ

.....ฃ..... 2. เขยี นเพ่ือใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจและรับร้ไู ดต้ รงเจตนาของผู้เขยี น

.....ช..... 3. เขยี นถกู ต้องตามอักขรวิธี ไม่คดั ลอกงานเขียนของผู้อื่น

.....ง..... 4. ใชใ้ นงานเอกสารทางราชการ
.....ข..... 5. การเขยี นเปน็ การแสดงออกซึ่งภูมปิ ญั ญาของมนุษย์

.....ฅ..... 6. แบบอาลกั ษณ์ แบบกระทรวงศึกษาธิการ

.....จ..... 7. ตวั อกั ษรประเภทหัวเหล่ียมตัวเหล่ียม

.....ก..... 8. การถ่ายทอดความรสู้ ึกนกึ คิดและความต้องการของบุคคลออกมาเปน็ ตัวอักษร

เพอ่ื ส่ือความหมายใหผ้ ้อู ่นื เขา้ ใจ
.....จ..... 9. ปริญญาบัตร เกียรตบิ ัตร ประกาศนียบัตร
.....ค..... 10. การมีประสบการณท์ ่ีมากทำให้เข้าใจงานเขียนไดด้ ี

แบบประเมินแผนผังความคิด

รายการประเมิน

1. เนื้อหา

2. การแสดงความสัมพนั ธ์

3. ความคิดสร้างสรรค์

เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคุณภาพ

รายการ คำอธบิ ายระดับคณุ ภาพ

ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)

1. เนอ้ื หา สามารถสรปุ เน้อื หา สามารถสรปุ เนื้อหา สรปุ เน้ือหาไม่ครบ สรปุ เน้อื หาไม่ครบ

ไดค้ รบตรงประเด็น ไดค้ รบ ตรง ทุกประเด็น และมี ทกุ ประเด็นและ

และถูกตอ้ งทกุ ประเดน็ และมี ความถกู ตอ้ ง เนื้อหาไมถ่ กู ตอ้ ง

หวั ข้อ ความถกู ต้องเปน็ บางส่วน

สว่ นใหญ่

2. การแสดง เนื้อหามคี วาม เน้อื หามี เน้อื หามี เนอ้ื หาไมม่ ี

ความสัมพันธ์ ความสัมพนั ธก์ นั ความสมั พนั ธ์กัน ความสมั พนั ธก์ นั ความสัมพันธ์กัน

และนำเสนอเป็นไป เปน็ สว่ นใหญแ่ ละ บางสว่ นและ และนำเสนอไม่

ตามลำดับ ขัน้ ตอน นำเสนอเปน็ ไป นำเสนอเปน็ ไป เปน็ ไปตามลำดับ

ตามลำดบั ขั้นตอน ตามลำดับ ข้ันตอน ขัน้ ตอน

บางสว่ น

3. ความคิด นำเสนอรูปแบบ นำเสนอรปู แบบ นำเสนอรปู แบบ นำเสนอรปู แบบ

สรา้ งสรรค์ ทแ่ี ปลกใหม่และ คอ่ นข้างแปลกใหม่ ท่สี วยงาม ไม่สวยงาม

สวยงาม สวยงาม ลอกเลียนแบบผู้อ่ืน ลอกเลียนแบบผู้อน่ื

มีความคดิ มกี ารดัดแปลง เป็นส่วนใหญ่ มาทงั้ หมด

สร้างสรรค์ มาบา้ ง

คะแนนตัดสนิ ระดบั คณุ ภาพ คุณภาพ

คะแนน (4) ดมี าก
10 - 12 (3) ดี
7–9
4–6 (2) พอใช้
1–3 (1) ควรปรับปรุง

*เกณฑ์การผา่ น ระดบั คณุ ภาพ (3) ดี ขึน้ ไปผา่ นเกณฑ์

แบบประเมนิ แผนผงั ความคิด (สำหรบั ผสู้ อน)
คำช้ีแจง ให้ผู้สอนทำเครอื่ งหมาย  ลงในช่องคะแนนตามเกณฑก์ ารประเมิน

เลข ชอ่ื เนื้อหา การแสดง ความคิด สรปุ ผล
ที่ ความสัมพนั ธ์ สรา้ งสรรค์ รวม

432143214321

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

แบบประเมินแผนผงั ความคิด (สำหรบั ผู้สอน)
คำช้แี จง ใหผ้ สู้ อนทำเครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งคะแนนตามเกณฑก์ ารประเมิน

เลข ชื่อ เนือ้ หา การแสดง ความคดิ สรปุ ผล
ที่ ความสมั พันธ์ สรา้ งสรรค์ รวม

432143214321

25

26

27

28

29

30

31

32

33

34

35

36

37

38

39

40

41

42

43

44

45

ลงชือ่ .........................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวอารียวัฒน์ พงษน์ ริ ันดร)
ครผู ู้สอน

เกณฑ์ประเมินบนั ทึกการเรียนรู้

รายการประเมิน
1. เนอ้ื หา 2. ความคิดสรา้ งสรรค์ในการนำไปประยกุ ต์ใช้ 3. มารยาทในการเขียน

เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ

รายการ คำอธบิ ายระดับคุณภาพ
ประเมนิ
1. เนอื้ หา 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)

2. ความคดิ เขียนบันทกึ การ เขียนบนั ทึกการ เขยี นบันทึกการ เขยี นบนั ทกึ การ
สรา้ งสรรคใ์ น
การนำไป เรียนรูไ้ ด้ครบทุก เรยี นรู้ไดค้ รบทุก เรยี นรู้ไดไ้ ม่ครบทุก เรยี นรไู้ ด้ไม่ครบทุก
ประยุกต์ใช้
หัวข้อ เขยี นได้ หัวข้อ เขียนได้ หัวข้อ เขียนได้ หัวข้อ เขยี นไดไ้ ด้
3. มารยาทใน
การเขยี น ใจความดี ขยาย ใจความ ขยาย ใจความ ขยาย ใจความ ขยาย

ความตอ่ เนื่อง และ ความได้เปน็ ส่วน ความได้บางตอน ความไม่ได้

สมเหตสุ มผล ใหญ่

มีความคดิ มคี วามคดิ มคี วามคิด ไม่มีการนำความรู้

สรา้ งสรรคใ์ นการ สร้างสรรคใ์ นการ สรา้ งสรรคใ์ นการ ไปประยุกตใ์ ช้

นำความรูไ้ ป นำความรู้ไป นำความรไู้ ป

ประยกุ ตใ์ ช้ได้อย่าง ประยกุ ต์ใชเ้ ปน็ สว่ น ประยุกต์ใชน้ ้อย

หลากหลาย มี ใหญ่ และค่อนขา้ ง และยังไม่เหมาะต่อ

ประเดน็ น่าสนใจ เหมาะสมต่อการใช้ การใช้งานจรงิ

และเหมาะสมต่อ งานจริง

การใช้งานจรงิ

เขยี นถกู ต้องตาม เขียนถูกต้องตาม เขียนถกู ต้องตาม เขยี นไม่ถกู ต้องตาม

อกั ขรวิธี ใช้ถอ้ ยคำ อกั ขรวธิ ีและ อักขรวธิ ี อักขรวิธี

เหมาะสมกบั เน้อื หา ใชถ้ อ้ ยคำ และใช้ถ้อยคำ ใชถ้ ้อยคำ

ไมค่ ดั ลอกงานผู้อืน่ เหมาะสมกบั เนือ้ หา เหมาะสมกับเนอ้ื หา ไม่เหมาะสมกบั

เป็นส่วนใหญ่ ไม่ บางสว่ น เนื้อหา

คดั ลอกงานผอู้ นื่ มีการดดั แปลง คัดลอกผลงานผู้อ่ืน

มาบ้าง

คะแนนตัดสินระดับคุณภาพ คณุ ภาพ

คะแนน (4) ดมี าก
10 - 12 (3) ดี
7–9
4–6 (2) พอใช้
1–3 (1) ควรปรบั ปรงุ

*เกณฑ์การผ่าน ระดับคณุ ภาพ (3) ดี ขึ้นไปผา่ นเกณฑ์

1

แบบประเมินการบนั ทกึ การเรียนรู้ (สำหรบั ผู้สอน)
คำชี้แจง ใหผ้ ูส้ อนทำเครอ่ื งหมาย  ลงในชอ่ งคะแนนตามเกณฑ์การประเมนิ

เลข ช่ือ เนอื้ หา ความคิด มารยาท รวม สรุป
ที่ สรา้ งสรรคใ์ นการ ในการเขยี น ผล
นำไปประยุกต์ใช้

432143214321

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

2

แบบประเมินการบันทกึ การเรยี นรู้ (สำหรบั ผู้สอน)
คำชีแ้ จง ให้ผ้สู อนทำเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน

เลข ชอ่ื เนอ้ื หา ความคดิ มารยาท รวม สรปุ ผ
ท่ี สรา้ งสรรค์ในการ ในการเขยี น ล
นำไปประยุกตใ์ ช้

432143214321

25

26

27

28

29

30

31

32

33

34

35

36

37

38

39

40

41

42

43

44

45

ลงชื่อ.........................................ผปู้ ระเมนิ
(นางสาวอารยี วัฒน์ พงษ์นิรนั ดร)
ครูผสู้ อน

3

แบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรื่อง การเขยี นเชิงสร้างสรรค์

ประกอบแผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1

คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ีถกู ต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดียว
1. ข้อใดคือความหมายการเขียน

ก. การถา่ ยทอดความรสู้ ึกนึกคิดและความตอ้ งการของบุคคลออกมาเปน็ ตวั อกั ษร
เพอื่ สอ่ื ความหมายใหผ้ ู้อ่นื เข้าใจ

ข. การสือ่ สารดว้ ยตัวอักษร ใชถ้ อ้ ยคำสละสลวย เหน็ ภาพ เกิดอารมณค์ วามรู้สกึ
ค. การส่ือสารทุกอยา่ งท่สี ามารถส่ือความหมายให้ผู้อืน่ เขา้ ใจ
ง. การสื่อสารด้วยสัญลกั ษณ์ ตัวอกั ษรและภาพประกอบ
2. ขอ้ ใดคือมีความสำคัญต่อการเขียนมากทส่ี ดุ
ก. การเขยี นเป็นการถา่ ยทอดมรดกทางภมู ปิ ญั ญา
ข. การเขยี นเป็นการแสดงออกซง่ึ ภมู ิปัญญาของมนุษย์
ค. การเขยี นเป็นทักษะการสื่อสารท่ที ำใหม้ นุษยร์ ับร้คู วามต้องการของอีกฝ่าย
ง. การเขยี นเป็นเคร่ืองสร้างความสามคั คแี ละความเจรญิ ร่งุ เรอื งภายในชาตินัน้ ๆ
3. ขอ้ ใดคือจุดมุ่งหมายสำคัญของการเขียน
ก. เขียนเพ่ือแสดงความรู้ ความคดิ อยา่ งตอ่ เนื่อง
ข. เขยี นเพ่ือใหผ้ อู้ า่ นเหน็ ภาพเหตุการณ์ทเ่ี กดิ ข้ึน
ค. เขียนเพื่อเล่าเร่ืองท่แี ต่งขนึ้ ตามจินตนาการของผูเ้ ขียน
ง. เขยี นเพอื่ ให้ผอู้ า่ นเขา้ ใจและรบั รู้ได้ตรงเจตนาของผู้เขยี น
4. ข้อใดเป็นจดุ มงุ่ หมายของการเขยี นท้ังหมด
ก. การเขยี นเพอ่ื กจิ ธุระ การเขยี นเพื่อโตแ้ ย้ง การเขยี นเพ่ืออธิบาย
ข. การเขยี นเพื่อเล่าเร่ือง การเขียนเพ่ืออธิบาย การเขยี นเพื่อกิจธรุ ะ
ค. การเขียนเพ่ือสื่อสาร การเขียนเพื่อเลา่ เร่ือง การเขยี นเพื่อแสดงความคดิ เห็น
ง. การเขยี นเพื่อกิจธรุ ะ การเขยี นเพื่อโน้มนา้ วใจ การเขยี นเพือ่ โฆษณาชวนเช่อื
5. ขอ้ ใดเป็นการเขยี นเพ่ืออธิบาย
ก. การเขยี นเล่าเรื่องตามลำดับเหตกุ ารณท์ ี่เกดิ ข้ึน
ข. การเขยี นแนะนำหรอื แสดงความคดิ เหน็ ในเร่ืองใดเรอื่ งหนึ่ง
ค. การเขยี นเพื่อชี้แจงเพ่อื ให้ผอู้ ่านเกิดความเข้าใจและปฏิบัติตามได้
ง. การเขยี นเพ่ือชกั จงู โนม้ น้าวใจให้ผอู้ า่ นเชือ่ ถือและยอมรับใสส่ งิ่ ท่ผี ูเ้ ขียนนำเสนอ

4

6. ข้อใดเป็นลกั ษณะการเขยี นเพ่อื แสดงความคดิ เห็นท่ีเดน่ ชัด

ก. เขียนตามลำดับเหตุการณ์ท่ีเกิดขนึ้ โดยอาจเลา่ จากประสบการณต์ น

ข. เขยี นเพื่อชักจงู โน้มน้าวใจให้ผู้อา่ นเชื่อและยอมรับในส่ิงท่ีผ้เู ขียนนำเสนอ

ค. เขียนเพ่ือแสดงความคดิ เห็นในเรอ่ื งใดเรื่องหนง่ึ โดยคำนึงถงึ หลกั ฐาน ข้อเทจ็ จริง

ง. การเขยี นที่มีจุดมงุ่ หมายใดจดุ ม่งุ หมายหน่งึ แตกตา่ งกันตามประเภทของงานเขยี น

7. ขอ้ ใดคือมารยาททดี่ ีที่สุดในการเขยี น

ก. เขยี นดว้ ยภาษาเชิงวชิ าการ เขียนใหถ้ ูกต้องตามอกั ขรวธิ ี

ข. เขียนส่ิงท่มี ีคุณค่า ถกู อักขรวธิ ี ไม่คดั ลอกงานเขยี นของผู้อื่น

ค. เขยี นส่งิ ท่เี ปน็ จริงมเี หตุมผี ล เขยี นเรอ่ื งราวเก่ยี วกบั ศลี ธรรมจรรยา

ง. ใช้ถ้อยคำสุภาพไพเราะ เขียนสิง่ ท่มี ีคุณคา่ กอ่ ให้เกิดความสงบสุขแกป่ ระเทศชาติ

8. บคุ คลใดปฏิบัติตนไม่เหมาะสมในการเขียน

ก. บารมเี ขียนเล่าเรอื่ งตามลำดับเหตุการณ์ทเ่ี กิดขน้ึ

ข. นพรัตนเ์ ขียนแสดงความคิดเหน็ โดยคำนงึ ถึงหลักฐานขอ้ เท็จจริง

ค. ไอรดาคดั ลอกงานเขยี นจากนักเขยี นท่เี กง่ และมีช่ือเสียงนา่ เช่อื ถือ

ง. วศินีเขียนอธิบายโดยแจกแจงเพอื่ ใหผ้ ู้อ่านเกิดความเขา้ ใจและปฏบิ ัติตามได้

9. มารยาทในการเขียนข้อใดสำคญั ท่ีสุด

ก. ไม่เขียนเพือ่ ทำลายผ้อู ่นื

ข. เขียนด้วยความเป็นกลาง

ค. ผูเ้ ขยี นตอ้ งมีความรู้ในเร่ืองที่เขียน

ง. ไม่แสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ผู้อนื่

10. ตวั อกั ษรประเภทหวั เหล่ยี มหรือหัวบัวนยิ มใชใ้ นงานใด

ก. งานเขยี นท่วั ไป ข. หนังสอื ราชการ

ค. งานเขียนโคลง กลอน ง. ปริญญาบัตร ประกาศนยี บัตร

5

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

1. ก
2. ค
3. ง
4. ข
5. ค
6. ค
7. ข
8. ค
9. ก
10. ง

6

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2

รหสั วิชา ท 22101 รายวิชาภาษาไทย 3 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 การเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์ เวลา 9 ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 เร่ือง การเขียนบรรยาย เวลา 2 ช่วั โมง

สอนวันที่………....……เดือน……………………………….พ.ศ…….....…. ผู้สอน นางสาวอารยี วัฒน์ พงษ์นริ ันดร

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนส่อื สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขยี น

เรอ่ื งราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่าง
มีประสิทธภิ าพ

มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์

1.2 ตวั ช้ีวดั
ท 2.1 ม.2/2 เขียนบรรยายและพรรณนา
ม.2/8 มมี ารยาทในการเขยี น
ท 3.1 ม.2/3 วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์เร่อื งทฟ่ี ังและดูอยา่ งมีเหตผุ ลเพื่อนำข้อคดิ มาประยุกต์ใช้

ในการดำเนินชวี ิต

2. สาระสำคัญ
การเขยี นบรรยายเปน็ การเขียนเพ่อื การส่ือสารอยา่ งหน่ึง นักเรยี นตอ้ งมคี วามรู้พนื้ ฐาน

ในการเขียนเพื่อสอื่ สารไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสมและมีมารยาทในการเขยี น การเขียนบรรยาย
เปน็ การเขยี นเลา่ ข้อเท็จจริงตามเร่อื งที่เป็นอยู่โดยคำนึงถงึ ความต่อเน่ือง เปน็ การเขยี นเล่าเหตกุ ารณ์ใด
เหตกุ ารณ์หนงึ่ ที่เกิดขนึ้ เพ่ือใหผ้ ู้อ่านเห็นภาพเหตุการณ์ ลำดบั เวลา สถานที่ บุคคล ผู้เขยี นควรกล่าวถึง
เหตุการณใ์ ห้ชัดเจน โดยมขี ้อมูลและเนื้อหาสาระของเรื่องทีจ่ ะแสดงความคิด

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 อธิบายความหมายและหลกั การเขียนบรรยายได้ (K)
3.2 เขียนบรรยายตามสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ไดอ้ ย่างเหมาะสม (P)
3.3 มีมารยาทในการเขยี น และนำไปประยุกต์ใชใ้ นการดำเนินชวี ติ ได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ความหมายของการเขยี นบรรยาย
4.2 หลักการเขยี นบรรยาย
4.3 จดุ มงุ่ หมายของการเขยี นบรรยาย

7

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุ่งม่นั ในการทำงาน

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
6.1 ความสามารถในการสื่อสาร
6.2 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ช่ัวโมงที่ 1 ขั้นนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น
7.1 ครแู จ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 2 เรือ่ ง การเขียนบรรยาย
7.2 ครูให้นักเรียนดูภาพจากสไลด์อิเลก็ ทรอนิกส์ จากนั้นครูสนทนาซกั ถามนกั เรยี นวา่

เห็นอะไรในภาพบ้าง โดยนกั เรยี นแสดงความคิดเหน็ ผา่ นโปรแกรมประยุกต์การแสดงความคดิ เห็น
ออนไลน์ซ่งึ ทุกความเหน็ ของนกั เรียนจะปรากฏที่จอ จากน้ันครแู ละนกั เรียนรว่ มกันปะติดปะต่อความ
คดิ เห็นทไ่ี ด้มาเปน็ เร่ืองราว ท่ีมาของภาพ: https://bit.ly/3dha1DP สบื คน้ เมื่อวนั ท่ี 21 มี.ค. 2565

ข้ันการสอนและการปฏิบตั กิ จิ กรรม
7.3 นักเรียนศึกษาความรู้พน้ื ฐานและหลักการเขยี นบรรยายจากชดุ กจิ กรรมที่ 2

เรื่อง การเขียนบรรยาย
7.4 ให้นักเรียนแบ่งเปน็ กลุ่ม กล่มุ ละ 5 คน จากนนั้ รว่ มกนั ทำใบงานท่ี 2.1 บรรยาย

จากภาพ โดยให้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ เขยี นบรรยายอย่างสร้างสรรคจ์ ากภาพทีก่ ำหนดพร้อมตงั้ ช่อื เร่ือง
ความยาวไมต่ ่ำกว่า 8 บรรทดั ใหเ้ วลา 15 นาที และเตรียมตวั นำเสนอหน้าชนั้ เรียน

8

7.5 ครทู ำการสุ่มลำดับ 3-4 กลุม่ จากโปรแกรมประยุกตส์ มุ่ การลำดบั อัตโนมัติ เพื่อใหน้ ักเรียน
ออกมานำเสนอการเขยี นบรรยายหน้าช้นั เรียน

7.6 ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และแก้ไขขอ้ บกพร่องใหม้ ีความสมบรู ณ์และ
แนะแนวทางในการเขยี นอย่างสรา้ งสรรคใ์ หก้ บั นักเรยี น

7.7 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปบทเรยี น และบอกหัวข้อการเขียนบรรยายจากประสบการณ์
ตนเอง เพื่อใหน้ ักเรียนได้เตรยี มตัวในชว่ั โมงต่อไป
ขน้ั การสอนและการปฏิบตั ิกิจกรรม (ต่อ) ช่ัวโมงท่ี 2

7.8 ครูและนักเรียนรว่ มสนทนาและทบทวนวา่ ไดศ้ ึกษาเร่ืองอะไรบ้างจากช่วั โมงทแ่ี ล้ว
7.9 สแกน QR CODE เพ่ือดตู วั อย่างการเขยี นบรรยายประสบการณ์จากเวบ็ ต่าง ๆ

- https://www.gotoknow.org/posts/370458
- http://oknation.nationtv.tv/blog/singsoontor/2009/10/15/entry-1
- https://bit.ly/2UWLVWu

7.10 ให้นกั เรียนเขียนบรรยายจากประสบการณ์ตนเองอย่างสรา้ งสรรค์ พร้อมต้ังชือ่ เร่ือง ความ
ยาวไมต่ ่ำกวา่ 8 บรรทัด โดยให้เวลา 15 นาที

7.11 ครสู ุ่มเลขที่ของนกั เรยี นจากโปรแกรมประยกุ ต์การสมุ่ ลำดับอตั โนมัติ จำนวน
3-4 คน เพื่อนำเสนอการเขียนบรรยายจากประสบการณ์ของตนเองหนา้ ช้ันเรยี น

7.12 ครูและนักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง และแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งให้มคี วามสมบรู ณ์
และแนะแนวทางในการเขียนอยา่ งสรา้ งสรรค์ให้กับนักเรยี น

9

ข้ันสรปุ
7.13 ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปบทเรยี น โดยใชส้ ไลด์อิเล็กทรอนกิ ส์ประกอบการสรุป
7.14 ใหน้ กั เรยี นบนั ทึกการเรียนรเู้ รื่อง การเขียนบรรยาย โดยใชก้ จิ กรรม learning logs

โดยการบนั ทกึ ผ่านโปรแกรมออนไลน์ 2 ข้อดังนี้

1) สว่ นของบทเรียนทฉี่ ันชอบ/ไม่ชอบมากทส่ี ดุ คือ.....เพราะ.....
2) ฉันจะนำความรู้จากบทเรียนไปประยุกต์ใช้ในเร่ือง.....

8. การวัดผลประเมนิ ผล

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีการวัดผล เครือ่ งมือ เกณฑ์
8.1 อธิบายความหมายและ ตรวจแบบทดสอบ
หลกั การเขียนบรรยายได้ 1. แบบทดสอบหลงั เรียน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60
8.2 เขียนบรรยายได้ถกู ต้อง ตรวจผลงาน
2. ใบงานที่ 2.1 การเขยี น ระดับคุณภาพ 3

บรรยายจากภาพ ผา่ นเกณฑ์

3. ใบงานที่ 2.2 การเขยี น

บรรยายจาก

ประสบการณ์

8.3 มมี ารยาทในการเขียน สังเกตพฤติกรรม 4. แบบสงั เกตการ ระดับคุณภาพ 3
และนำไปประยุกตใ์ ช้ในการ การเรียน
ดำเนนิ ชีวติ ได้ อภิปรายรายงานผล ผ่านเกณฑ์

9. ส่ือและแหลง่ เรยี นรู้
9.1 ชุดกจิ กรรมชุดท่ี 14 เรื่องการเขียนบรรยาย
9.2 ใบงานท่ี 2.1 การเขียนบรรยายจากภาพ
9.3 ใบงานที่ 2.2 บรรยายจากประสบการณ์
9.4 โปรแกรมประยุกต์การแสดงความคดิ เหน็ ออนไลน์
9.5 โปรแกรมประยุกต์การสุ่มลำดับอัตโนมัติ
9.6 โปรแกรมประยกุ ต์บนั ทึกการเรียนรู้ออนไลน์
9.7 เว็บไซต์ต่าง ๆ
- https://www.gotoknow.org/posts/370458

- http://oknation.nationtv.tv/blog/singsoontor/2009/10/15/entry-1

- https://bit.ly/2UWLVWu

10

10. บันทึกหลังสอน
10.1 ผลการจัดการเรียนรู้
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ มจี ุดประสงค์  K  P  A
 มกี ารบูรณาการ คุณธรรม/การตา้ นการทจุ รติ /หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
 มกี ระบวนการทำงานกลุ่ม/การสืบคน้ ขอ้ มูล/การใช้เทคโนโลยี
 สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เน่อื งจาก....................................................................
 .............................................................................................................................................. ..
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................... ..............
10.2 ผลการเรยี นรูต้ ามจุดประสงค์
 จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านการประเมนิ ................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 จำนวนนักเรยี นทไี่ ม่ผ่านการประเมนิ .................. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............................
 อ่ืน ๆ ...................................................................................................................................

10.3 ปัญหาและอปุ สรรค
 กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มีนกั เรยี นทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา
 มีนักเรยี นทไ่ี มส่ นใจเรยี น
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เรื่อง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 แนวทางแก้ไขนกั เรียนที่ไมผ่ ่านการประเมิน/ไมส่ นใจเรียน ................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อนื่ ๆ ...................................................................................................................................

ลงชอื่ ........................................... ผู้บนั ทกึ
(นางสาวอารียวัฒน์ พงษน์ ริ ันดร)
ครูผู้สอน

11

ใบงานที่ 2.1 การเขยี นบรรยายจากภาพ
กลุม่ ท.ี่ ............ชื่อกล่มุ .........................................................
ช่ือ-สกลุ ................................................................................ชน้ั ....................เลขที่................
ชอ่ื -สกลุ ................................................................................ช้ัน....................เลขท่.ี .............. .
ชื่อ-สกุล................................................................................ชั้น....................เลขท.่ี ...............
ชอ่ื -สกุล................................................................................ชน้ั ....................เลขท.ี่ ...............
ชอ่ื -สกุล................................................................................ชน้ั ....................เลขที่................
คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นบรรยายจากภาพอยา่ งสรา้ งสรรค์ พร้อมตง้ั ชื่อเรื่อง โดยมีความยาวไมต่ ำ่ กวา่
8 บรรทดั (ใหเ้ วลา 15 นาที)

เร่อื ง............................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. .......................................
........................................................................................... .........................................................................
............................................................................................................................. .......................................
.............................................................................................................................................. ......................
............................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................
................................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................

12

ใบงานท่ี 2.2 บรรยายจากประสบการณ์

ชอื่ -สกลุ ................................................................................ชัน้ ....................เลขท.่ี ...............
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนเขยี นบรรยายจากประสบการณ์อย่างสร้างสรรค์ พรอ้ มตง้ั ชอ่ื เร่ือง โดยมคี วามยาว
ไม่ตำ่ กวา่ 8 บรรทัด (ให้เวลา 15 นาท)ี

เรอ่ื ง............................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
...................................................................................................................................... ..............................
.................................................................................................... ................................................................
............................................................................................................................. .......................................
........................................................................................................................................................ ............
............................................................................................................................. .......................................
........................................................................................... .........................................................................
............................................................................................................................. .......................................
.............................................................................................................................................. ......................
............................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................

13

แบบประเมินการเขยี นบรรยาย

รายการประเมนิ

1. เน้ือหา

2. การแสดงความสัมพันธ์

3. ความคิดสร้างสรรค์

4. มารยาทในการเขียน

รายการประเมิน 4 (ดีมาก) คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ 1 (ปรบั ปรุง)
3 (ด)ี 2 (พอใช้)

1. เนือ้ หา เนื้อหามคี วามยาวตาม เนือ้ หามีความยาวตาม เนื้อหามีความยาวตาม เนอื้ หามคี วามยาวไม่

เกณฑ์ทีก่ ำหนด เขียน เกณฑ์ท่ีกำหนด เขยี น เกณฑ์ท่ีกำหนด เขยี น ครบตามเกณฑ์ท่ี

ได้ใจความดี ขยาย ไดใ้ จความ ไดใ้ จความ กำหนด เขียนไม่ได้

ความได้อย่างต่อเนือ่ ง ขยายความ ขยายความ ใจความ

และสมเหตสุ มผลกับ ไดอ้ ย่างตอ่ เนื่อง และ ได้บางตอน แต่ขาด ขยายความไมไ่ ด้

เรื่องทเี่ ขียน สมเหตสุ มผลกบั เรอื่ งที่ รายละเอยี ด และขาดรายละเอยี ด

เขียน เป็นส่วนใหญ่

2. การแสดง กำหนดชอื่ เรื่องได้ กำหนดชอ่ื เร่อื งได้ กำหนดชือ่ เรอื่ งได้ กำหนดชอ่ื ไม่

ความสมั พันธ์ น่าสนใจ เหมาะสม น่าสนใจเหมาะสม สอดคล้องกับเน้ือหา สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หา

สอดคลอ้ งกบั เนือ้ หา สอดคล้องกบั เน้ือหา และนำเสนอ นำเสนอไม่เป็นไป

และนำเสนอเป็นไป และนำเสนอ ตามลำดบั ข้นั ตอนเปน็ ตามลำดบั ข้ันตอน

ตามลำดบั ขัน้ ตอน ตามลำดับ ขน้ั ตอน บางสว่ น เขยี นวกวน

เป็นสว่ นใหญ่

3. ความคิด มีประเดน็ นา่ สนใจและ มีประเด็นนา่ สนใจและ มปี ระเด็นน่าสนใจและ ไมม่ ปี ระเด็นน่าสนใจ

สร้างสรรค์ นำเสนอในรปู แบบที่ นำเสนอในรปู แบบที่ นำเสนอในรปู แบบ รูปแบบในการนำเสนอ

แปลกใหม่ มีการ ค่อนขา้ งแปลกใหม่ มี ค่อนขา้ งใหม่ ไมน่ า่ สนใจหรอื

สอดแทรกคณุ ธรรม การสอดแทรก มีการสอดแทรก ลอกเลียนแบบผอู้ ่นื

และให้ข้อคิดในการ คุณธรรมและใหข้ ้อคดิ คณุ ธรรมบางตอน

นำไปประยกุ ตใ์ ช้

4. มารยาทใน เขียนถกู ต้องตาม เขยี นถกู ตอ้ งตาม เขียนถูกตอ้ งตาม เขียนไมถ่ ูกต้องตาม

การเขียน อักขรวิธี ใช้ถอ้ ยคำ อักขรวธิ แี ละ อักขรวธิ ี อักขรวิธี

เหมาะสมกบั เนอื้ หา ใชถ้ ้อยคำ และใชถ้ ้อยคำ ใชถ้ อ้ ยคำ

ถกู กาลเทศะ ไม่ เหมาะสมกบั เน้อื หา เหมาะสมกบั เน้อื หา ไม่เหมาะสมกับเน้อื หา

คดั ลอกงานเขยี นผ้อู ่นื ถกู กาลเทศะเปน็ สว่ น บางสว่ น มีการ คัดลอกงานเขยี นผอู้ นื่

ใหญ่ ไม่คดั ลอกงาน ดดั แปลงจากงานเขียน

เขยี นผ้อู ืน่ ผอู้ ื่น

14

คะแนนตดั สินระดบั คุณภาพ

คะแนน คณุ ภาพ

13 – 16 (4) ดมี าก

9 – 12 (3) ดี

5 – 8 (2) พอใช้

1 – 4 (1) ควรปรบั ปรงุ

*เกณฑ์การผา่ น ระดบั คณุ ภาพ (3) ดี ขึ้นไปผ่านเกณฑ์

15

แบบประเมนิ การเขยี นบรรยาย (สำหรับผสู้ อน)
คำชแี้ จง ใหผ้ สู้ อนทำเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องคะแนนตามเกณฑ์การประเมนิ

เลข ช่อื เนื้อหา การแสดง ความคดิ มารยาท รวม
ท่ี ความสัมพันธ์ สรา้ งสรรค์ ในการเขยี น

4 3 2 1 432143214321

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

25

26

27

28

16

แบบประเมนิ การเขียนบรรยาย (สำหรับผู้สอน)
คำชี้แจง ใหผ้ สู้ อนทำเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องคะแนนตามเกณฑก์ ารประเมนิ

เลข ชื่อ เนือ้ หา การแสดง ความคิด มารยาท รวม
ท่ี ความสัมพนั ธ์ สร้างสรรค์ ในการเขยี น

4 3 2 1 432143214321

29

30

31

32

33

34

35

36

37

38

39

40

41

42

43

44

45

ลงช่อื .........................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวอารยี วฒั น์ พงษน์ ริ นั ดร)
ครผู ้สู อน

17

แบบสงั เกตการอภปิ รายรายงานผล (สำหรับผู้สอน)
คำช้ีแจง ให้ผู้สอนทำเครอื่ งหมาย  ลงในช่องคะแนนตามเกณฑก์ ารประเมนิ

เลข ช่ือ เน้อื หา การแสดง ความคิด มารยาท สรปุ ผล
ท่ี ความสัมพนั ธ์ สร้างสรรค์ ในการเขียน

4 3 2 1 432143214321

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

25

26

27

28

18

แบบสงั เกตการอภิปรายรายงานผล (สำหรับผู้สอน)
คำชแ้ี จง ใหผ้ สู้ อนทำเครอื่ งหมาย  ลงในช่องคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน

เลข ชื่อ เนื้อหา การแสดง ความคดิ มารยาท สรปุ ผล
ท่ี ความสมั พนั ธ์ สร้างสรรค์ ในการเขยี น

4 3 2 1 432143214321

29

30

31

32

33

34

35

36

37

38

39

40

41

42

43

44

45

ลงช่อื .........................................ผปู้ ระเมิน
(นางสาวอารยี วัฒน์ พงษน์ ิรันดร)
ครูผู้สอน

19

แบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรยี น เร่ือง การเขียนบรรยาย

ประกอบแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เร่อื ง การเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์

คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพยี งข้อเดียว

1. การเขียนบรรยายมีจดุ เด่นอย่างไร
ก. เปน็ การเขยี นแสดงความรู้ ความคดิ อย่างต่อเน่อื ง
ข. เป็นการเขยี นเพ่ือใหผ้ ูอ้ า่ นเหน็ ภาพเหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขึน้

ค. เป็นการเขียนเลา่ เรื่องทแี่ ต่งขึน้ ตามจนิ ตนาการของผูเ้ ขยี น
ง. เปน็ การเขยี นเลา่ ข้อเท็จจริงตามเรอื่ งทเี่ ป็นอยู่โดยคำนึงถึงความตอ่ เนอื่ ง
2. ข้อใดเป็นหลักการเขยี นบรรยาย

ก. ใชค้ ำหรอื กลุ่มคำท่ีเปน็ ภาษาภาพพจน์
ข. เขยี นแสดงความคิดเห็นหรือข้อเทจ็ จริงเท่าน้ัน
ค. ใชภ้ าษาทกี่ ระชบั ชดั เจน เขียนเฉพาะสาระสำคัญ

ง. เขยี นลำดับเร่ืองตามเหตกุ ารณ์มีคำนำ เนื้อเร่อื ง สรปุ
3. การเขยี นบรรยาย มีลักษณะอย่างไร

ก. ใชศ้ ัพทย์ าก มคี วามหมายลกึ ซง้ึ ให้อารมณ์ความร้สู กึ

ข. เป็นการเขยี นตามข้อเทจ็ จริงสามารถใช้เป็นหลักฐาน
ค. เขียนตามแบบแผน ถูกต้องตามกาลเทศะ เน้นความสละสลวย
ง. เปน็ การเขียนทใี่ ช้ภาษาไพเราะเหมาะสม ทำให้เกิดจนิ ตนาการ

4. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประเภทของการเขยี นบรรยาย
ก. เรอ่ื งทแ่ี ต่งขึน้ หรือเหตุการณท์ เ่ี กิดขึ้น
ข. ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณท์ างประวัตศิ าสตร์

ค. อตั ชวี ประวตั หิ รือการเลา่ ประวตั ิชีวิตบุคคลต่าง ๆ
ง. การเขียนนิทานโดยใชภ้ าษาสละสลวย ทำให้เกดิ จินตนาการ

5. ข้อใดไมใ่ ช่หลกั การเขยี นบรรยาย

ก. เขียนเฉพาะสาระสำคัญ
ข. ใช้ภาษาที่กระชบั ชัดเจน

ค. ใชถ้ ้อยคำสละสลวยสอ่ื ให้เห็นภาพ

ง. เรยี บเรยี งข้อมูลใหส้ อดคล้องและตอ่ เน่ืองกนั
6. ขอ้ ใดเปน็ ประเภทของการเขยี นบรรยาย

ก. ประวัติกรงุ ศรีอยธุ ยา ข. นิทานพน้ื บ้านไทย

ค. รามเกียรติ์ ง. นวนยิ าย
7. ข้อใดไมใ่ ช่ลกั ษณะการเขียนบรรยาย

ก. ช่วงเทศกาลต่าง ๆ ในประเทศไทยทำให้รถตดิ มาก

ข. การออกกำลงั กายและพกั ผอ่ นเพียงพอช่วยใหร้ า่ งกายแขง็ แรง
ค. ดอกลลิ ลสี่ มี ว่ งดอกนอ้ ย ๆ ค่อย ๆ แย้มกลีบผลบิ านรบั แสงตะวันในยามเช้า

ง. นักเรยี นขยนั อ่านหนังสือและต้งั ใจเรยี นทำให้ประสบความสำเร็จในการเรียน

20

8. ข้อใดเปน็ การเขียนบรรยาย
ก. กำแพงน้ำโถมปะทะต้นไม้รมิ ฝง่ั นำ้ พงุ่ กระเซ็นสูงซดั ต้นไมใ้ หญโ่ ค่นช่ัวพรบิ ตา
ข. เมฆสีดำเป็นกล่มุ ก้อนซับซ้อนเคลื่อนไหวรวดเร็วปน่ั ป่วนหมนุ วนไม่เปน็ ทิศ
เปน็ ทาง
ค. ดวงอาทติ ยส์ ีส้มกลมโตกำลงั โผลข่ นึ้ เหนอื พื้นนำ้ ท้องฟา้ เริ่มมสี ีชมพูเรื่อตัดกบั
น้ำทะเลสีครามใส
ง. สายลมยามเย็นพัดผ่านชายนำ้ ฝงู ปลาวนเวียนกนั เขา้ มาตอดอาหารนกกระเตน็
โผบินจากฟากน้ีไปฟากโน้น

9. ขอ้ ใดเป็นการเขยี นแบบบรรยาย
ก. ปราสาทสูงตระหง่านหลงั นนั้ ก็งดงามไมน่ ้อยเต็มไปดว้ ยตน้ ไม้นานาพันธไุ์ ม้ดอก
และลดาวลั ยง์ ามน่าทศั นา
ข. โลหติ คือสายธารแหง่ ชวี ิตถา้ รา่ งกายขาดโลหิตชวี ติ ก็อยู่ไม่ไดโ้ ลหติ จงึ เป็นน้ำ
หล่อเลยี้ งรา่ งกายท่ีจำเปน็ อย่างยิ่งเพื่อให้มชี วี ติ อยู่
ค. ภาพแสดงโคมที่ห้อยจากเพดานรวมทั้งแสงเทียนบนแท่นท่บี ูชาภาพพระประธาน
องค์ใหญ่ทรงไว้ซงึ่ รศั มอี นั ไพโรจน์ลว้ นเปน็ ภาพที่สดุ ใสตระการตานา่ ชมยงิ่ นกั
ง. ทุก ๆ ตึกน้ันแบ่งออกเป็นสองบ้านทุก ๆ บา้ นมีขนาดและการจัดแบ่งหอ้ ง
เหมอื นกันทกุ ๆ ห้องมีขนาดเล็กคับแคบมากราวหนงึ่ ในสี่ของห้องนอนข้าพเจา้
ทวี่ ังปารุสก์

10. เม่อื นักเรยี นมีเวลาจำกดั ในการเขยี นบรรยาย นักเรยี นควรเลอื กใชห้ วั ขอ้ ใดในการเขียน
ก. การเกิดแผ่นดนิ ไหว
ข. ประวัติส่วนตัวของตน
ค. เหตุการณ์ทางประวัตศิ าสตร์
ง. ประวตั ิความเป็นมาของโรงเรยี น

21

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
1. ง
2. ค
3. ข
4. ง
5. ค
6. ก
7. ค
8. ง
9. ข
10. ข

22

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 3

รหัสวชิ า ท 22101 รายวิชาภาษาไทย 3 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การเขียนเชงิ สรา้ งสรรค์ เวลา 9 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่ือง พรรณนาก่อเกดิ จนิ ตนาการ เวลา 2 ชว่ั โมง

สอนวันที่………....……เดือน……………………………….พ.ศ…….....…. ผู้สอน นางสาวอารยี วฒั น์ พงษ์นริ นั ดร

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวัด
1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี น

เรอื่ งราวในรปู แบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่าง
มปี ระสทิ ธิภาพ

มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด
และความร้สู ึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์

1.2 ตัวชวี้ ัด
ท 2.1 ม.2/2 เขยี นบรรยายและพรรณนา
ม.2/8 มีมารยาทในการเขยี น
ท 3.1 ม.2/3 วเิ คราะห์และวจิ ารณเ์ ร่อื งทฟี่ งั และดูอย่างมีเหตผุ ลเพ่ือนำข้อคดิ มาประยกุ ตใ์ ช้ใน

การดำเนินชวี ิต

2. สาระสำคญั
การเขียนพรรณนาเป็นการเขยี นที่ใหร้ ายละเอียดของสง่ิ ใดสิง่ หนึ่ง เชน่ บคุ คล สัตว์ วัตถุ สถานที่

หรอื เหตกุ ารณ์ช่วงใดชว่ งหนึง่ ดว้ ยถ้อยคำพรรณนาทีไ่ พเราะเหมาะสม ผเู้ ขยี นจะใชว้ ธิ กี ารเลอื กสรร
ถอ้ ยคำเพ่ือใหผ้ อู้ ่านเกดิ จินตนาการไปกบั เน้อื เร่ือง

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 อธบิ ายความหมายและหลกั การเขยี นพรรณนาได้ (K)
3.2 เขยี นพรรณนาตามสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ได้อยา่ งเหมาะสม (P)
3.3 มีมารยาทในการเขียน และนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นการดำเนนิ ชวี ติ ได้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 การเขียนพรรณนา
4.2 หลกั การเขียนพรรณนา
4.3 จดุ มุ่งหมายของการเขียนพรรณนา

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

5.1 ใฝเ่ รยี นรู้

5.2 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

23

6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
6.1 ความสามารถในการส่อื สาร
6.2 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1 ขัน้ นำเข้าสู่บทเรียน
7.1 ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่อื ง พรรณนาก่อเกดิ

จินตนาการ
7.2 ครูสนทนาซักถามนักเรียนวา่ การเขยี นพรรณนาคืออะไร
7.3 ครใู หน้ กั เรียนเลน่ เกม kahoot โดยเกมจะเป็นการใหน้ ักเรียนดภู าพและใหเ้ ลือกตอบ

ข้อความจากภาพเป็นการพรรณนาภาพที่เห็นวา่ ควรใช้ขอ้ ความใด (ใชเ้ วลา 5 นาท)ี

ขน้ั การสอนและการปฏิบัติกิจกรรม
7.4 นกั เรยี นศกึ ษาชดุ กิจกรรมท่ี 3 เรือ่ ง พรรณนากอ่ เกิดจินตนาการ
7.5 นักเรียนทำใบงานที่ 3.1 เร่ือง การเขยี นพรรณนา โดยให้เวลาทำกิจกรรม 15 นาที
7.6 ครเู ฉลยใบงานท่ี 3.1 และแนวคำตอบเรื่อง การเขยี นพรรณนา
7.7 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปบทเรียน และบอกหัวข้อการเขยี นพรรณนาธรรมชาติ เพื่อให้

นกั เรยี นได้เตรยี มตัวในชั่วโมงต่อไป
ข้ันการสอนและการปฏิบัติกิจกรรม (ชวั่ โมงท่ี 2)
7.8 ครแู ละนักเรียนร่วมสนทนาและทบทวนว่าได้ศึกษาเร่ืองอะไรบา้ งจากช่วั โมงท่แี ลว้
7.9 นักเรียนศกึ ษาตวั อยา่ งการเขียนพรรณนาจากบทความต่าง ๆ เพ่ือให้นักเรยี นมองเห็น

ลกั ษณะการใชภ้ าษาและรูปแบบการเขียน เพือ่ ให้เกดิ แนวคดิ ใหม่ๆ ของนักเรยี น
7.10 ครอู ธบิ ายและสรุปหลักการเขียนพรรณนา ลักษณะการใชภ้ าษาและรปู แบบการเขียน

พรรณนา เพื่อทบทวนความรู้จากการศึกษาตวั อยา่ งการเขียนพรรณนาจากบทความ
7.11 นักเรียนทำใบงานท่ี 3.2 เรอื่ ง พรรณนาก่อเกดิ จินตนาการ โดยใหน้ กั เรียนเขียนพรรณนา

ธรรมชาตอิ ย่างสร้างสรรคจ์ ากภาพประกอบเสียงท่กี ำหนด พรอ้ มตง้ั ชือ่ เรื่อง โดยกำหนดความยาวไมต่ ำ่
กว่า 5 บรรทดั ให้เวลาทำกิจกรรม 20 นาที

24

7.12 ครูสมุ่ เลขที่ของนักเรียนจากโปรแกรมประยุกต์การสมุ่ ลำดับอตั โนมัติ จำนวน
3-4 คน เพ่ือนำเสนอการเขียนพรรณนาธรรมชาตขิ องตนเองหน้าชนั้ เรยี น

7.13 ครูและเพื่อนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และแก้ไขขอ้ บกพร่องใหม้ คี วามสมบูรณ์และ
แนะแนวทางในการเขยี นอย่างสร้างสรรค์ให้กับนักเรียน

ขนั้ สรปุ
7.14 ใหน้ ักเรียนสแกน QR CODE เพื่อบนั ทกึ การเรยี นรู้ เรอ่ื ง พรรณนาก่อเกดิ

จนิ ตนาการ โดยใชก้ ิจกรรม learning logs โดยการบันทึกผา่ นโปรแกรมออนไลน์ ให้นักเรียนเลือก 1
คำถามทีต่ อ้ งการตอบ ดังนี้

1) การเขียนพรรณนามปี ระโยชนค์ ือ.....

2) ส่งิ ทฉี่ นั ไมแ่ น่ใจ/ไม่เขา้ ใจในบทเรยี นคือ.....

3) สว่ นของบทเรียนทฉ่ี นั ชอบมากทสี่ ุดคอื .....เพราะ.....

4) ส่วนของบทเรียนทฉี่ นั ไมช่ อบคือ.....เพราะ.....

5) ฉันจะนำความรจู้ ากบทเรียนไปประยุกตใ์ ชใ้ นเรื่อง.....

8. การวัดผลประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวัดผล เครอื่ งมือ เกณฑ์
8.1 อธบิ ายความหมายและ ตรวจแบบทดสอบ
หลักการเขยี นพรรณนาได้ 1. แบบทดสอบหลังเรียน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ
8.2 เขยี นพรรณนาตาม ตรวจผลงาน
สถานการณ์ที่กำหนดใหไ้ ด้ 60 ขึ้นไป
อย่างเหมาะสม
2. ใบงานที่ 3.1 การเขยี น ระดับคุณภาพ 3
8.3 มีมารยาทในการเขยี น สงั เกตพฤตกิ รรม
และนำไปประยุกต์ใช้ใน การเรยี น พรรณนา ผา่ นเกณฑ์
การดำเนนิ ชีวิตได้
3. ใบงานที่ 3.2 พรรณนา

ก่อเกิดจนิ ตนาการ

4. แบบสงั เกตการ ระดับคุณภาพ 3

อภิปรายรายงานผล ผ่านเกณฑ์

25

9. สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้
9.1 ชดุ กจิ กรรมชุดที่ 15 เร่ือง พรรณนาก่อเกิดจนิ ตนาการ
9.2 ใบงานที่ 3.1 การเขยี นพรรณนา (LiveWorksheets)
9.3 ใบงานท่ี 3.2 พรรณนาก่อเกิดจินตนาการ
9.4 เกม Kahoot
9.5 โปรแกรมประยุกต์การสมุ่ ลำดบั อัตโนมตั ิ
9.6 โปรแกรมประยกุ ตบ์ ันทึกการเรยี นรู้ออนไลน์
9.7 หนังสืออา่ นนอกเวลา เร่อื ง ความสขุ ของกะทิ ของ งามพรรณ เวชชาชวี ะ

นวนยิ ายรางวัลวรรณกรรมสรา้ งสรรค์ยอดเย่ยี มแห่งอาเซยี น (ซีไรต์) ประจำปี 2549

26

10. บันทกึ หลังสอน
10.1 ผลการจัดการเรยี นรู้
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ มจี ดุ ประสงค์  K  P  A
 มกี ารบูรณาการ คุณธรรม/การตา้ นการทุจริต/หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
 มกี ระบวนการทำงานกลุ่ม/การสบื ค้นข้อมูล/การใช้เทคโนโลยี
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................... ..............
10.2 ผลการเรยี นรู้ตามจุดประสงค์
 จำนวนนักเรียนท่ผี า่ นการประเมิน ................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 จำนวนนักเรยี นทไี่ มผ่ ่านการประเมนิ .................. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...............................
 อ่ืน ๆ ...................................................................................................................................

10.3 ปัญหาและอุปสรรค
 กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มีนกั เรยี นทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
 มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................................

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เรอื่ ง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไม่ผ่านการประเมิน/ไมส่ นใจเรียน ................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อนื่ ๆ ...................................................................................................................................

ลงชื่อ ........................................... ผบู้ นั ทกึ
(นางสาวอารยี วฒั น์ พงษ์นริ ันดร)
ครผู ู้สอน

27

ใบงานท่ี 3.1 การเขียนพรรณนา

ชอื่ -สกุล................................................................................ช้ัน....................เลขท.ี่ ...............

คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนนาํ คําที่กําหนดให้ ไปเขยี นเติมลงในช่องว่างให้เปน็ ข้อความเชิงพรรณนา
ไดอ้ ย่างเหมาะสม

มาลัยรอ้ ย กระแสธารไหล จิตรกรเอก บนผืนผา้ ใบ น่าหลงใหล
ดวงตะวนั ทอแสง เปน็ ฟองฝอย ชน้ั แล้วช้ันเล่า แสงกะพริบ เสียงดนตรี

เสยี ง.......................จากยอดภผู าอันสงู ใหญ่กระทบโขดหิน..........................
บางตอนกพ็ ่งุ ลงมาจากหน้าผาสูงลิ่วบางตอนก็ไหลเร่อื ยไปตามซอกหนิ ลดเลย้ี ว
ซงึ่ ไมส่ งู มากนักลงสูแ่ อ่งนำ้ ด้านล่าง ดว้ ยเสียงอนั ดงั กกึ ก้อง ดอกไมป้ ่าหลากสรี ว่ ง
จากตน้ ลอยละลวิ่ สพู่ ้นื น้ำเรียงเปน็ สายคลา้ ย............................ดว้ ยธรรมชาติ

ผเี สอ้ื แสนสวยกลมุ่ ใหญ่ บา้ งบินวอ่ น บ้างเกาะอยตู่ ามโขดหิน แตง่ แต้มสสี ัน ของผืน
ปา่ ได้สวยงามราว.........................กาํ ลังบรรจงระบายส.ี ........................

เสียงนกหลายพันธสุ์ ่งเสยี งร้องกู่ก้องท่วั พฤกษไ์ พร ..........................ขบั กลอ่ ม ทีบ่ รรเลง
โดยนกั ดนตรฝี มี ือเยยี่ ม.............................

ฉันยนื อยูภ่ ายใต้แผ่นฟ้ากว้างใหญ่ ทา่ มกลางเสียงขับขานของพงไพร ซึ่งมี
สายลมพดั พลว้ิ อยู่เปน็ ระยะ ๆ ...........................รำไรผา่ นหมแู่ มกไม้กระทบผนื นำ้
ทแ่ี ตก....................... เปน็ ประกายระยิบระยับประดุจ.................ของดวงดาวในยาม
ค่ำคืน

ท่ีมา : หนังสือเรียน รายวชิ าเพม่ิ เติม การเขียน ๒ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔-๖
กลมุ่ สาระการเรนี รภู้ าษาไทย ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา

ขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๖.


Click to View FlipBook Version