93
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเด็นท่ีประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน
321
ความใส่ใจในการ เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่ ส่ว นใหญ่เมื่อเกิด เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่
ทำงาน เข้าใจบทเรียนทุกครั้ง ปัญหาหรือไม่เข้าใจ เข้าใจบทเรียนทุกคร้ัง
มักซักถามและมีความ บทเรียนทุกครั้งมัก มักซักถามและมีความ
พยายามในการค้นหา ซักถามและมีความ พยายามในการค้นหา
คำตอบอยเู่ สมอ พยายามในการค้นหา คำตอบเป็นบางครง้ั
คำตอบ
การเสนอความคิดเหน็ ส ่ ว น ใ ห ญ ่ เ ส น อ เสนอความคิดเห็น ไม่เสนอความคิดเห็น
ความคิดเห็น กล้า กล้าแสดงออกที่จะพดู กล้าแสดงออกที่จะพดู
แสดงออกที่จะพูดใน ในสิ่งที่ถูกห ร ื อ ดี ในส่งิ ทถี่ กู หรือดี
สง่ิ ที่ถกู หรอื ดี บางคร้ัง
ความรว่ มมือในการ ใหค้ วามร่วมมือในการ ส่วนใหญ่ให้ คว าม ให้ความร่วมมือในการ
ทำงาน ทำงานกล่มุ และ ร่วมมือในการทำงาน ทำงานกลมุ่ และ
ปฏิบัติงานท่ีสมาชิกใน กลุ่มและปฏิบัติงานที่ ปฏิบัติงานทีส่ มาชิกใน
กลมุ่ มอบหมายดว้ ย ส ม า ช ิ ก ใ น ก ลุ่ ม กลุ่มมอบหมายได้เป็น
ความเต็มใจทุกครั้ง มอบหมายได้ บางครง้ั
การยอมรับฟังคนอน่ื ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ไม่ยอมรับฟังความ
คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี
เหตุผลของผู้อื่นทุก เหตุผลของผู้อื่นบ้าง เหตุผลของผู้อื่น มัก
ค ร ั ้ ง ไ ม ่ ย ึ ด ค ว า ม แ ต ่ บ า ง ค ร ั ้ ง จ ะ ยึด ยึดความคิดเห็นของ
คิดเห็นของตนแต่ฝ่าย ความคิดเหน็ ของตน ตนแตฝ่ ่ายเดียว
เดียว
94
แบบสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คลชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/6
เร่อื ง การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ 2
คำชี้แจง จงทำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมที่ผู้เรียนแสดงออก โดยจำแนกระดับ
พฤตกิ รรมการแสดงออกไว้เปน็ 3 คะแนน ดงั นี้
3 คะแนน หมายถึง ผ้เู รียนมีพฤติกรรมในระดบั ดี
2 คะแนน หมายถงึ ผู้เรียนมีพฤติกรรมในระดบั ปานกลาง
1 คะแนน หมายถึง ผเู้ รยี นมีพฤติกรรมในระดับพอใช้
ช่อื -สกุล รายการประเมิน คะแนน รอ้ ยละ สรปุ ผลการ
รวม ประเมิน
ความใส่ใจ การเสนอ ความร่วมมอื การยอมรับ
ในการ ความ ในการทำงาน ฟงั คนอืน่
ทำงาน คิดเหน็
เลข ่ที
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผา่ น ไม่ผ่าน
1 นายเชิดเกยี รติ เพช็ รนาดี
2 นายอภิสิทธิ์ บตุ รวงศ์
3 นายวรภพ คูณเทกอง
4 นายกสวิ ัฒน์ คำวนั ดี
5 นายภูริพฒั น์ ศริ ธิ ร
6 นายวรี ะพล นามลาย
7 นายสกุ ฤษฎ์ิ เทภาศกั ดิ์
8 นายกติ ตพิ งศ์ ศรีลาลัด
9 นายณัฎฐชัย สุวรรณขาว
10 นางสาวสุภสั สรา แชม่ ชอ้ ย
11 นางสาวธนั ยรตั น์ ผดั แสน
12 นางสาวชลมาศ หาญณรงค์
13 นางสาวณัฐธิดา ปสั บนั
14 นางสาวพชั ปรยี า ทองสทุ ธิ
15 นางสาวอาทิตยา จันทรส์ ิทธ์ิ
16 นางสาวพชิ ญาภา แก่นประชา
17 นางสาวศริ ิประภา ใหม่คามิ
18 นางสาวเมษา พลเสนา
19 นางสาววาทยิ า รวมวงศ์
20 นางสาวศวิ พร ชมชัยรตั น์
21 นางสาวอาภสั รา โสภาดี
22 นางสาวกลุ ธิดา โพธ์ิทรพั ย์
95
ช่อื -สกลุ รายการประเมนิ คะแนน ร้อยละ สรุปผลการ
รวม ประเมิน
ความใส่ใจ การเสนอ ความรว่ มมือ การยอมรับ
ในการ ความ ในการทำงาน ฟังคนอนื่
ทำงาน คิดเห็น
เลข ่ีท
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผา่ น ไมผ่ ่าน
23 นางสาวญดาพร จนั ทจร
24 นางสาวนภสั วรรณ พูลทวี
25 นางสาวหทั ยา พรมขาว
26 นางสาวอธิตมิ า ใตช้ มภู
27 นางสาวอรุณี ขาวกุญชร
28 นางสาวรัตติกาล นึกชอบ
29 นางสาวอจั จิมาภรณ์ รตั นโกเมศ
30 นางสาวณัฐติกานต์ จันทรเสนา
31 นางสาวนรศิ รา นามทวย
32 นางสาวพรภริ มย์ บญุ ภาตระกูล
33 นางสาวไพรนิ ทร์ เสนานชุ
34 นางสาวภารุจีร์ เสาแคน
35 นางสาวสุตาภทั ร เพชรทองเกลีย้ ง
เกณฑก์ ารประเมิน
รอ้ ยละ 75 ข้ึนไป ( 9 - 12 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
น้อยกวา่ รอ้ ยละ 75 ( 0 – 8 คะแนน ) ไม่ผา่ นเกณฑ์
ลงชื่อ.......................................ผู้สอน
(นายชานน โทอง้ิ )
วันท.ี่ ...........เดอื น........................พ.ศ..............
96
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ประเดน็ ที่ประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน
321
ความใส่ใจในการ เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่ ส่ว นใหญ่เมื่อเกิด เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่
ทำงาน เข้าใจบทเรียนทุกครั้ง ปัญหาหรือไม่เข้าใจ เข้าใจบทเรียนทุกครั้ง
มักซักถามและมีความ บทเรียนทุกครั้งมัก มักซักถามและมีความ
พยายามในการค้นหา ซักถามและมีความ พยายามในการค้นหา
คำตอบอย่เู สมอ พยายามในการค้นหา คำตอบเปน็ บางครงั้
คำตอบ
การเสนอความคิดเหน็ ส ่ ว น ใ ห ญ ่ เ ส น อ เสนอความคิดเห็น ไม่เสนอความคิดเห็น
ความคิดเห็น กล้า กล้าแสดงออกทีจ่ ะพดู กล้าแสดงออกทีจ่ ะพดู
แสดงออกที่จะพูดใน ในสิ่งที่ถูกห ร ื อ ดี ในสง่ิ ทถ่ี ูกหรอื ดี
ส่งิ ที่ถูกหรือดี บางครงั้
ความรว่ มมือในการ ใหค้ วามร่วมมือในการ ส่วนใหญ่ให้ คว าม ให้ความร่วมมือในการ
ทำงาน ทำงานกลุ่มและ ร่วมมือในการทำงาน ทำงานกลุ่มและ
ปฏบิ ตั ิงานทีส่ มาชกิ ใน กลุ่มและปฏิบัติงานท่ี ปฏิบัติงานที่สมาชิกใน
กล่มุ มอบหมายด้วย ส ม า ช ิ ก ใ น ก ลุ่ ม กลุ่มมอบหมายได้เป็น
ความเต็มใจทกุ ครั้ง มอบหมายได้ บางคร้ัง
การยอมรับฟังคนอื่น ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ไม่ยอมรับฟังความ
คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี
เหตุผลของผู้อื่นทุก เหตุผลของผู้อื่นบ้าง เหตุผลของผู้อื่น มัก
ค ร ั ้ ง ไ ม ่ ย ึ ด ค ว า ม แ ต ่ บ า ง ค ร ั ้ ง จ ะ ยึด ยึดความคิดเห็นของ
คิดเห็นของตนแต่ฝ่าย ความคดิ เห็นของตน ตนแต่ฝ่ายเดยี ว
เดียว
97
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
ชอ่ื กลุ่ม...............................................................................................................ชนั้ ............................
รายชอ่ื สมาชกิ 1. .............................................................................................เลขท่ี...........................
2. .............................................................................................เลขท.ี่ ..........................
3. .............................................................................................เลขท่.ี ..........................
4. .............................................................................................เลขท่ี...........................
5. .............................................................................................เลขท่.ี ..........................
คำชีแ้ จง จงทำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกบั รายการประเมนิ โดยจำแนกระดบั คะแนนไวเ้ ป็น
3 ระดับคะแนน ดังนี้
3 คะแนน หมายถึง ดี
2 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
1 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ที่ รายการประเมนิ คะแนน ข้อคิดเห็น
32 1
1 การเตรียมความพร้อม
2 เนื้อหาสาระครอบคลมุ ชัดเจน
3 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา
4 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกลมุ่
5 รปู แบบการนำเสนอ
รวม
เกณฑก์ ารประเมิน
ร้อยละ 75 ขึ้นไป ( 11 - 15 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
นอ้ ยกว่าร้อยละ 75 ( 0 – 10 คะแนน ) ไม่ผ่านเกณฑ์
ลงช่อื ........................................ผสู้ อน
(นายชานน โทอิง้ )
วนั ท่.ี ...........เดอื น........................พ.ศ.............
98
แบบประเมินชนิ้ งาน
ชือ่ กลุ่ม...............................................................................................................ช้นั ............................
รายช่อื สมาชิก 1. .............................................................................................เลขท่.ี ..........................
2. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................
3. .............................................................................................เลขที่...........................
4. .............................................................................................เลขที่...........................
5. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................
คำชแ้ี จง จงทำเครอ่ื งหมาย ลงในช่องทต่ี รงกบั รายการประเมิน โดยจำแนกระดบั ลกั ษณะไวเ้ ปน็ 3
คะแนน ดังนี้
3 คะแนน หมายถึง ชิน้ งานมีคุณภาพระดับดี
2 คะแนน หมายถงึ ช้ินงานมีคณุ ภาพระดบั ปานกลาง
1 คะแนน หมายถงึ ช้นิ งานมีคุณภาพระดับพอใช้
ที่ รายการประเมนิ คะแนน ข้อคิดเห็น
32 1
1 มีความคิดสร้างสรรค์
2 ความสวยงาม
3 ความถกู ต้องของชิ้นงาน
รวม
เกณฑ์การประเมิน
รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป ( 7-9 คะแนน) ผา่ นเกณฑ์
น้อยกวา่ ร้อยละ 80 ( 0 – 6 คะแนน ) ไม่ผ่านเกณฑ์
ลงช่อื ........................................ผู้สอน
(นายชานน โทอง้ิ )
วันท่.ี ...........เดอื น........................พ.ศ..............
99
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเด็นทีป่ ระเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน
321
มีความคดิ สร้างสรรค์ ผ ล ง า น ม ี ร ู ป แ บ บ ผลงานมีความสัมพันธ์ ผลงานมีความสัมพันธ์
น ่ า ส น ใ จ มี กับหัวข้อท่ีกำหนด แต่ กับหัวข้อที่กำหนด
ความสมั พนั ธ์กับหวั ข้อ ไมด่ ึงดูดความสนใจ น้อยมาก
ที่กำหนด ระบายสีได้
สวยงาม
ความสวยงาม มีขนาดเหมาะสม สีสนั มขี นาดเหมาะสม สีสัน สสี ันไมน่ า่ สนใจ
น่าสนใจ สวยงาม สวยงาม
ความถูกตอ้ งของ ชิน้ งานถูกต้อง ส ่ ว น ใ ห ญ ่ ช ิ ้ น ง า น ช้ินงานไมถ่ ูกต้อง
ช้ินงาน ครบถว้ น ถูกตอ้ ง
100
101
102
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 15 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
รหสั วิชา ว31241
กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา 27 ช่ัวโมง
รายวชิ า ชวี วิทยา 1 เวลา 3 ชว่ั โมง
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 เซลล์และการทำงานของเซลล์
เรือ่ ง การหายใจระดับเซลล์ 1 ภาคเรยี นท่ี 1/2565
ครผู ้สู อน นายชานน โทองิ้
1. สาระการเรยี นรู้เพิ่มเติมและผลการเรยี นรู้
สาระชีววิทยา
1. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์
สารท่เี ป็นองค์ประกอบของสิง่ มีชวี ติ ปฏกิ ิริยาเคมใี นเซลล์ของสงิ่ มีชีวิต กล้องจลุ ทรรศนโ์ ครงสร้างและ
หน้าทีข่ องเซลล์ การลำเลยี งสารเข้าและออกจากเซลล์ การแบง่ เซลล์และการหายใจระดับเซลล์
ผลการเรียนรู้
อธิบาย เปรยี บเทียบ และสรุปขัน้ ตอนการหายใจระดบั เซลล์ในภาวะที่มอี อกซิเจนเพียงพอ
และภาวะที่มีออกซเิ จนไม่เพยี งพอ
2. สาระสำคญั
กระบวนการสลายสารอาหารภายในเซลล์เพื่อเปลี่ยนพลังงานของพันธะเคมีให้เป็นพลังงานสูงที่
เซลล์ สามารถนำไปใช้ได้ เรียกว่าการสลายอาหารระดับเซลล์ เพื่อให้การสลายของอาหารเป็นไป
อย่างช้า ๆ ไม่เกิดอันตรายต่อเซลล์ จึงมีกระบวนการสลายอาหาร 3 ขั้นตอน คือ ไกลโคซิส เป็นการ
สลายกลูโคสที่ไซโทซอลเป็นกรดไพรูวิก จากนั้นจึงส่งเข้าวัฏจักรเครปส์ เกิดการสลายแอซิทิล
โคเอนไซม์เอเป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และ เก็บพลังงานไว้ในรูป NADH FADH2 และ ATP
การถ่ายทอดอิเล็กตรอน เป็นกระบวนการส่งอิเล็กตรอนจาก NADH และ FADH2 ไปให้สารประกอบ
อ่ืนๆ พร้อมกับปล่อยพลังงานออกมาทีละน้อย และได้น้ำเป็นผลิตภัณฑ์ โดยมีออกซิเจนเป็นตัวรับ
อเิ ล็กตรอนตัวสดุ ท้าย
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (K)
1. อธบิ ายและสรปุ ขน้ั ตอนการสลายกลูโคสในภาวะทมี่ ีออกซิเจนเพียงพอ
103
3.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
1. เขียนแผนภาพข้นั ตอนการหายใจระดับเซลลใ์ นภาวะทีม่ อี อกซิเจนเพยี งพอ
3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
1. ม่งุ มน่ั ในการทำงานและรับผิดชอบต่องานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
4. สาระการเรียนรู้
1) การหายใจระดบั เซลล์ในภาวะท่มี อี อกซิเจนเพยี งพอ
5. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5E
5.1 ข้นั สรา้ งความสนใจ (Engagement)
5.1.1 ครูนำภาพกิจกรรมของมนุษย์ สัตว์ พืช หรือสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว แล้วใช้คำถามเพื่อให้
นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่า สิ่งมีชีวิตเหล่านี้นำพลังงานไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ แล้วพลังงานที่
นำไปใช้ได้มาจากไหน (แนวคำตอบ: จากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป แต่ต้องผ่านกระบวนการ
มากมายกว่าท่ีจะได้เป็นพลังงานออกมาให้เซลลใ์ นร่างกายของเรานำไปใชไ้ ด้)
104
5.1.2 ครูกล่าวว่า มนุษย์มีกิจกรรมระหว่างวันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟัน การ
รับประทานอาหาร การเดนิ การออกกำลังกาย การนง่ั ทำงาน นอกจากนี้ภายในร่างกายของเราก็ยังมี
การทำงานอยู่ตลอดเวลาด้วย เช่น หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การแบ่งเซลล์
หรือการส่งกระแสประสาทจากสมองไปตามเส้นประสาทต่าง ๆ กิจกรรมทั้งภายในและภายนอก
เหล่านี้ล้วนจำเป็นต้องใชพ้ ลังงาน ซึ่งพลังงานดังกล่าวก็มาจากอาหารท่ีเรารับประทานเข้าไป แต่ต้อง
ผา่ นกระบวนการมากมายกวา่ ท่จี ะได้เป็นพลังงานออกมาให้เซลลใ์ นรา่ งกายของเรานำไปใชไ้ ด้
5.1.3 ครูใช้คำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจในบทเรียนที่ผ่านมา เพื่อเชื่อมโยงกับเรื่องการ
หายใจระดบั เซลล์
สารอาหารประเภทใดเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่สิ่งมีชีวิต (แนวคำตอบ:
คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตนี จัดเปน็ สารอาหารทใ่ี ห้พลงั งาน)
คาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานหลักแก่ร่างกาย ซึ่งจะผ่านการย่อยจนได้
เป็นโมเลกุลของกลูโคส ก่อนลำเลียงเข้าสู่เซลล์เพื่อสร้างพลังงาน การที่เซลล์จะนำพลังงานจากการ
สลายกลูโคสไปใช้โดยตรงอาจทำให้เกิดอันตรายกับเซลล์ได้ เซลล์จะสร้างพลังงานจากกระบวนการ
สลายกลูโคสได้อย่างไร โดยไม่ทำให้เกิดอันตรายกับเซลล์ (แนวคำตอบ: การสร้างพลังงานจาก
กระบวนการสลายกลูโคสในสภาวะทมี่ ีออกซิเจนเกิดข้ึนเปน็ กระบวนการต่อเนื่อง แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน
หลักคือ ไกลโคไลซิส การสร้างแอซิทิลโคเอนไซม์เอ วัฏจักรเครปส์ และกระบวนการถ่ายทอด
อเิ ล็กตรอน โดยมีเอนไซม์ชว่ ยเร่งในปฏกิ ริ ยิ า)
5.2 ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration)
5.2.1 นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน คละความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน
5.2.2 ครแู บง่ หัวข้อให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศกึ ษาข้อมลู ดังต่อไปนี้ โดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มจับ
สลากหัวขอ้ ทแี่ ตล่ ะกลุ่มจะได้รับมอบหมาย
กล่มุ ที่ 1 ศกึ ษาไกลโคไลซิส
กลมุ่ ท่ี 2 การสร้างแอซทิ ลิ โคเอนไซม์เอ และวฏั จักรเครบส์
กลุม่ ที่ 3 กระบวนการถา่ ยทอดอิเลก็ ตรอน
โดยกลุ่มทจี่ ะไดเ้ รื่องทเี่ รยี งตามลำดับของกล่มุ ท่ี 1 2 และ 3 โดยวนซ้ำเร่อื งอีกครง้ั โดยเฉล่ียใหแ้ ต่ละ
เร่ืองมีจำนวนกลุ่มเท่า ๆ กนั
5.2.3 ครูให้นักเรียนศึกษาเนื้อหา โดยใช้หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยา 1 ม.4 หรือ
อินเตอรเ์ น็ต
105
5.2.4 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนแผนภาพขั้นตอนกระบวนการที่แต่ละกลุ่มได้รับ
มอบหมายให้ศกึ ษาและรว่ มกันอภปิ รายลงในกระดาษบรู๊ฟท่ีครแู จกให้ เพือ่ นำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น
5.3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation)
5.3.1 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแผนภาพขั้นตอนกระบวนที่แต่ละกลุ่มได้รับ
มอบหมาย หน้าชนั้ เรียน
5.3.2 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายแผนภาพของแต่ละกลุ่ม และนำสรุปองค์ความรู้
เรอ่ื ง การหายใจระดบั เซลล์ ดงั น้ี
106
5.4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration)
5.4.1 ครูและนกั เรียนอภปิ รายรว่ มกันเกย่ี วกบั คำถามชวนคิดในหนังสือเรยี นท่ีว่า NADH 1
โมเลกุล ให้พลังงานเท่ากับ FADH2 1 โมเลกุลหรือไม่ โดยครูให้นักเรียนใช้รูป 3.39 หน้า 191
ประกอบคำอธิบาย (แนวคำตอบ: NADH 1 โมเลกุล ส่งผ่านอิเล็กตรอนไปยังตัวนำอิเลก็ ตรอนทีอ่ ยูใ่ น
107
เยื่อหุ้มไมโทคอนเดรยี มากกวา่ FADH2 1 โมเลกุล ทำใหเ้ กิดการเคลื่อนย้าย H+ ไปยังช่องว่างระหว่าง
เยื่อห้มุ ไมโทคอนเดรยี ได้มากกวา่ สง่ ผลให้เกิดการสรา้ ง ATP ท่มี ากกว่าตามไปดว้ ย)
5.4.2 หลังจากการอภิปรายร่วมกันของนักเรียนครูอาจสรุปเป็นแผนภาพเพื่อให้นักเรียน
เข้าใจไดง้ า่ ยข้ึน ดงั น้ี
5.5 ขั้นประเมิน (Evaluation)
5.5.1 สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งเรียนของนกั เรียน
5.5.2 สงั เกตการตอบคำถาม
5.5.3 สงั เกตการทำงานร่วมกนั ภายในกลมุ่
5.5.4 สังเกตการนำเสนอ
6. ส่ือ/อปุ กรณ์/แหล่งการเรียนรู้
6.1 หนังสอื เรียนรายวิชาเพมิ่ เตมิ ชวี วิทยา 1 ม.4
6.2 กระดาษบร๊ฟู
6.3 Power Point เรอ่ื ง การหายใจระดับเซลล์ 1
6.4 ภาพคนกำลังวงิ่ ข้ึนเขา ภาพแมวกำลังกนิ อาหาร
108
109
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคลชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/4
เร่อื ง การหายใจระดับเซลล์ 1
คำชี้แจง จงทำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมที่ผู้เรียนแสดงออก โดยจำแนกระดับ
พฤตกิ รรมการแสดงออกไว้เป็น 3 คะแนน ดงั น้ี
3 คะแนน หมายถงึ ผเู้ รียนมีพฤติกรรมในระดบั ดี
2 คะแนน หมายถึง ผู้เรียนมีพฤติกรรมในระดบั ปานกลาง
1 คะแนน หมายถึง ผ้เู รียนมีพฤติกรรมในระดบั พอใช้
ช่ือ-สกุล รายการประเมิน คะแนน ร้อยละ สรุปผลการ
รวม ประเมิน
ความใสใ่ จ การเสนอ ความร่วมมอื การยอมรับ
ในการ ความ ในการทำงาน ฟังคนอ่ืน
ทำงาน คดิ เหน็
เลข ่ที
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผ่าน ไมผ่ า่ น
1 นายมารุต มุกดามว่ ง
2 นายภวู เนศวร์ ทองเพง็
3 นายนิธกิ ร จนั ทรเสนา
4 นายวรี ะชยั บญุ ทันเสน
5 นายสุวรรณภมู ิ พิมพา
6 นายวศิ รตุ สุขเกษม
7 นายกฤษฎา เทพศลิ า
8 นายชินกร หาญธงชยั
9 นายพุทธินนั ท์ วันโน
10 นายศุภชยั ตยิ บตุ ร
11 นางสาวน้ำทิพย์ ศรสี ธุ รรม
12 นางสาววชิรญาณ์ สำคญั ควร
13 นางสาวศภุ ัชญา อังคนติ ย์
14 นางสาวอมรรัตน์ จงใจเทศ
15 นางสาวผกาพร กญั ญาเถอื่ น
16 นางสาวภาวณิ ี ปลูกฝัง
17 นางสาวอรัญญา หาญธงชัย
18 นางสาวกนกพร ศรหี าวงษ์
19 นางสาววยธุ ิดา วเิ ศษทอง
20 นางสาววรนิ ทรญ์ า โพธ์ใิ บงาม
21 นางสาวชลธชิ า กนิ ารกั ษ์
22 นางสาวเทยี นหอม พนั ธย์ าง
110
ชอื่ -สกลุ รายการประเมิน คะแนน ร้อยละ สรุปผลการ
รวม ประเมิน
ความใสใ่ จ การเสนอ ความรว่ มมือ การยอมรับ
ในการ ความ ในการทำงาน ฟังคนอืน่
ทำงาน คดิ เห็น
เลข ่ีท
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผา่ น ไม่ผ่าน
23 นางสาวอรญั ญา อาจเจริญ
24 นางสาววิญาดา สิมมาแกว้
25 นางสาวสุภาพชิ ญ์ ปัญจะสีลา
26 นางสาวกัญญาพชั ร อาจจำปา
27 นางสาวศศธิ ร สงวนนาม
28 นางสาวชนนพิ า อินทกลุ
29 นางสาวธญั ญารตั น์ จนั ทร์ธานี
30 นางสาวอภิญญา ทอนศรี
31 นางสาวภูษติ า วิประทุม
32 นางสาวธญั รดา พานเมือง
33 นางสาวจดิ าภา ไทยสทิ ธพิ งษ์
34 นางสาวชนสิ รา อัตะวิชา
35 นางสาวพรนภา อ่นุ อก
36 นางสาวเยาวเรศ เสนคำ
37 นางสาวสิรภิ รณพ์ ันธ์ บุญภา
38 นางสาวอรจิรา กาแก้วมติ มาน
เกณฑก์ ารประเมิน
รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป ( 9 - 12 คะแนน) ผา่ นเกณฑ์
นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 75 ( 0 – 8 คะแนน ) ไมผ่ ่านเกณฑ์
ลงชอื่ .........................................ผู้สอน
(นายชานน โทอิ้ง)
วันท่.ี ...........เดือน........................พ.ศ..............
111
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ประเด็นท่ีประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน
321
ความใส่ใจในการ เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่ ส่ว นใหญ่เมื่อเกิด เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่
ทำงาน เข้าใจบทเรียนทุกคร้ัง ปัญหาหรือไม่เข้าใจ เข้าใจบทเรียนทุกครั้ง
มักซักถามและมีความ บทเรียนทุกครั้งมัก มักซักถามและมีความ
พยายามในการค้นหา ซักถามและมีความ พยายามในการค้นหา
คำตอบอยู่เสมอ พยายามในการค้นหา คำตอบเปน็ บางครงั้
คำตอบ
การเสนอความคดิ เหน็ ส ่ ว น ใ ห ญ ่ เ ส น อ เสนอความคิดเห็น ไม่เสนอความคิดเห็น
ความคิดเห็น กล้า กล้าแสดงออกที่จะพูด กล้าแสดงออกทีจ่ ะพดู
แสดงออกที่จะพูดใน ในสิ่งที่ถูกห ร ื อ ดี ในส่งิ ที่ถกู หรอื ดี
ส่ิงทีถ่ ูกหรือดี บางคร้งั
ความร่วมมือในการ ให้ความร่วมมือในการ ส่วนใหญ่ให้ คว าม ให้ความร่วมมือในการ
ทำงาน ทำงานกลมุ่ และ ร่วมมือในการทำงาน ทำงานกลุ่มและ
ปฏิบตั งิ านทีส่ มาชกิ ใน กลุ่มและปฏิบัติงานที่ ปฏิบัติงานที่สมาชิกใน
กล่มุ มอบหมายด้วย ส ม า ช ิ ก ใ น ก ลุ่ ม กลุ่มมอบหมายได้เป็น
ความเต็มใจทกุ ครั้ง มอบหมายได้ บางครง้ั
การยอมรับฟังคนอ่นื ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ไม่ยอมรับฟังความ
คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี
เหตุผลของผู้อื่นทุก เหตุผลของผู้อื่นบ้าง เหตุผลของผู้อื่น มัก
ค ร ั ้ ง ไ ม ่ ย ึ ด ค ว า ม แ ต ่ บ า ง ค ร ั ้ ง จ ะ ยึด ยึดความคิดเห็นของ
คิดเห็นของตนแต่ฝ่าย ความคิดเหน็ ของตน ตนแตฝ่ า่ ยเดยี ว
เดยี ว
112
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคลช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4/6
เร่ือง การหายใจระดับเซลล์ 1
คำชี้แจง จงทำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมที่ผู้เรียนแสดงออก โดยจำแนกระดับ
พฤติกรรมการแสดงออกไว้เป็น 3 คะแนน ดังน้ี
3 คะแนน หมายถึง ผู้เรยี นมีพฤติกรรมในระดับดี
2 คะแนน หมายถงึ ผูเ้ รียนมีพฤติกรรมในระดับปานกลาง
1 คะแนน หมายถึง ผเู้ รียนมีพฤติกรรมในระดบั พอใช้
ชอ่ื -สกุล รายการประเมนิ คะแนน ร้อยละ สรปุ ผลการ
รวม ประเมนิ
ความใส่ใจ การเสนอ ความร่วมมอื การยอมรบั
ในการ ความ ในการทำงาน ฟังคนอ่ืน
ทำงาน คดิ เหน็
เลข ่ที
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผ่าน ไม่ผ่าน
1 นายเชิดเกยี รติ เพ็ชรนาดี
2 นายอภสิ ิทธิ์ บตุ รวงศ์
3 นายวรภพ คูณเทกอง
4 นายกสวิ ฒั น์ คำวันดี
5 นายภรู ิพฒั น์ ศริ ิธร
6 นายวีระพล นามลาย
7 นายสุกฤษฎ์ิ เทภาศกั ด์ิ
8 นายกติ ตพิ งศ์ ศรีลาลดั
9 นายณฎั ฐชัย สวุ รรณขาว
10 นางสาวสุภัสสรา แช่มชอ้ ย
11 นางสาวธันยรัตน์ ผดั แสน
12 นางสาวชลมาศ หาญณรงค์
13 นางสาวณัฐธิดา ปัสบนั
14 นางสาวพัชปรยี า ทองสุทธิ
15 นางสาวอาทิตยา จันทรส์ ิทธ์ิ
16 นางสาวพชิ ญาภา แก่นประชา
17 นางสาวศริ ิประภา ใหม่คามิ
18 นางสาวเมษา พลเสนา
19 นางสาววาทยิ า รวมวงศ์
20 นางสาวศวิ พร ชมชยั รตั น์
21 นางสาวอาภัสรา โสภาดี
22 นางสาวกลุ ธิดา โพธท์ิ รพั ย์
113
ช่อื -สกลุ รายการประเมนิ คะแนน รอ้ ยละ สรปุ ผลการ
รวม ประเมิน
ความใส่ใจ การเสนอ ความรว่ มมือ การยอมรบั
ในการ ความ ในการทำงาน ฟังคนอน่ื
ทำงาน คดิ เหน็
เลข ่ีท
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผา่ น ไม่ผ่าน
23 นางสาวญดาพร จนั ทจร
24 นางสาวนภัสวรรณ พูลทวี
25 นางสาวหทั ยา พรมขาว
26 นางสาวอธิติมา ใตช้ มภู
27 นางสาวอรุณี ขาวกญุ ชร
28 นางสาวรตั ติกาล นึกชอบ
29 นางสาวอจั จมิ าภรณ์ รัตนโกเมศ
30 นางสาวณฐั ตกิ านต์ จันทรเสนา
31 นางสาวนริศรา นามทวย
32 นางสาวพรภิรมย์ บญุ ภาตระกลู
33 นางสาวไพรินทร์ เสนานุช
34 นางสาวภารจุ รี ์ เสาแคน
35 นางสาวสุตาภทั ร เพชรทองเกลีย้ ง
เกณฑ์การประเมนิ
ร้อยละ 75 ขน้ึ ไป ( 9 - 12 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 75 ( 0 – 8 คะแนน ) ไม่ผ่านเกณฑ์
ลงชือ่ .......................................ผู้สอน
(นายชานน โทอ้งิ )
วันท่.ี ...........เดอื น........................พ.ศ..............
114
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ประเด็นท่ีประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน
321
ความใส่ใจในการ เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่ ส่ว นใหญ่เมื่อเกิด เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่
ทำงาน เข้าใจบทเรียนทุกครั้ง ปัญหาหรือไม่เข้าใจ เข้าใจบทเรียนทุกคร้ัง
มักซักถามและมีความ บทเรียนทุกครั้งมัก มักซักถามและมีความ
พยายามในการค้นหา ซักถามและมีความ พยายามในการค้นหา
คำตอบอยเู่ สมอ พยายามในการค้นหา คำตอบเปน็ บางครง้ั
คำตอบ
การเสนอความคดิ เห็น ส ่ ว น ใ ห ญ ่ เ ส น อ เสนอความคิดเห็น ไม่เสนอความคิดเห็น
ความคิดเห็น กล้า กล้าแสดงออกที่จะพูด กล้าแสดงออกที่จะพูด
แสดงออกที่จะพูดใน ในสิ่งที่ถูกห ร ื อ ดี ในสิ่งทถี่ กู หรือดี
สิง่ ทถ่ี ูกหรือดี บางคร้งั
ความรว่ มมือในการ ใหค้ วามรว่ มมือในการ ส่วนใหญ่ให้ คว าม ให้ความร่วมมือในการ
ทำงาน ทำงานกลุม่ และ ร่วมมือในการทำงาน ทำงานกลมุ่ และ
ปฏิบตั ิงานท่ีสมาชิกใน กลุ่มและปฏิบัติงานท่ี ปฏิบัติงานทีส่ มาชิกใน
กลุม่ มอบหมายด้วย ส ม า ช ิ ก ใ น ก ลุ่ ม กลุ่มมอบหมายได้เป็น
ความเตม็ ใจทุกครั้ง มอบหมายได้ บางครั้ง
การยอมรับฟงั คนอื่น ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ไม่ยอมรับฟังความ
คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี
เหตุผลของผู้อื่นทุก เหตุผลของผู้อื่นบ้าง เหตุผลของผู้อื่น มัก
ค ร ั ้ ง ไ ม ่ ย ึ ด ค ว า ม แ ต ่ บ า ง ค ร ั ้ ง จ ะ ยึด ยึดความคิดเห็นของ
คิดเห็นของตนแต่ฝ่าย ความคิดเห็นของตน ตนแต่ฝา่ ยเดียว
เดียว
115
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
ชอื่ กลุ่ม...............................................................................................................ช้ัน............................
รายชอื่ สมาชกิ 1. .............................................................................................เลขท่ี...........................
2. .............................................................................................เลขที.่ ..........................
3. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................
4. .............................................................................................เลขที.่ ..........................
5. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................
คำช้แี จง จงทำเครือ่ งหมาย ลงในช่องที่ตรงกบั รายการประเมนิ โดยจำแนกระดับคะแนนไว้เปน็
3 ระดับคะแนน ดงั น้ี
3 คะแนน หมายถึง ดี
2 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
1 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเหน็
32 1
1 การเตรียมความพร้อม
2 เน้อื หาสาระครอบคลมุ ชัดเจน
3 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา
4 การมีส่วนร่วมของสมาชกิ ในกล่มุ
5 รปู แบบการนำเสนอ
รวม
เกณฑ์การประเมิน
ร้อยละ 75 ขึ้นไป ( 11 - 15 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
น้อยกวา่ รอ้ ยละ 75 ( 0 – 10 คะแนน ) ไมผ่ ่านเกณฑ์
ลงช่ือ........................................ผูส้ อน
(นายชานน โทอ้ิง)
วนั ท่.ี ...........เดอื น........................พ.ศ.............
116
แบบประเมินช้ินงาน
ช่ือกลุ่ม...............................................................................................................ชน้ั ............................
รายชอื่ สมาชิก 1. .............................................................................................เลขที.่ ..........................
2. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................
3. .............................................................................................เลขท่ี...........................
4. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................
5. .............................................................................................เลขที่...........................
คำชีแ้ จง จงทำเคร่ืองหมาย ลงในช่องท่ตี รงกับรายการประเมนิ โดยจำแนกระดบั ลักษณะไวเ้ ป็น 3
คะแนน ดงั นี้
3 คะแนน หมายถงึ ช้ินงานมีคุณภาพระดบั ดี
2 คะแนน หมายถงึ ช้นิ งานมีคณุ ภาพระดับปานกลาง
1 คะแนน หมายถึง ชิน้ งานมีคุณภาพระดับพอใช้
ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น
32 1
1 มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์
2 ความสวยงาม
3 ความถูกต้องของช้นิ งาน
รวม
เกณฑ์การประเมิน
ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป ( 7-9 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
น้อยกวา่ ร้อยละ 80 ( 0 – 6 คะแนน ) ไม่ผ่านเกณฑ์
ลงชือ่ ........................................ผู้สอน
(นายชานน โทองิ้ )
วนั ที่............เดือน........................พ.ศ..............
117
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ประเด็นท่ีประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
321
มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ผ ล ง า น ม ี ร ู ป แ บ บ ผลงานมีความสัมพันธ์ ผลงานมีความสัมพันธ์
น ่ า ส น ใ จ มี กับหัวข้อท่ีกำหนด แต่ กับหัวข้อที่กำหนด
ความสมั พันธก์ ับหัวข้อ ไม่ดึงดูดความสนใจ นอ้ ยมาก
ที่กำหนด ระบายสีได้
สวยงาม
ความสวยงาม มีขนาดเหมาะสม สีสนั มีขนาดเหมาะสม สีสนั สสี นั ไมน่ ่าสนใจ
นา่ สนใจ สวยงาม สวยงาม
ความถกู ตอ้ งของ ช้ินงานถูกต้อง ส ่ ว น ใ ห ญ ่ ช ิ ้ น ง า น ชิ้นงานไม่ถกู ต้อง
ช้นิ งาน ครบถว้ น ถูกตอ้ ง
118
119
120
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4
รหสั วิชา ว31241
กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 27 ช่ัวโมง
รายวิชา ชวี วิทยา 1 เวลา 3 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เซลล์และการทำงานของเซลล์
เรื่อง การหายใจระดบั เซลล์ 2 ภาคเรยี นที่ 1/2565
ครผู ู้สอน นายชานน โทอิง้
1. สาระการเรียนรเู้ พิม่ เตมิ และผลการเรยี นรู้
สาระชวี วทิ ยา
1. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์
สารทีเ่ ป็นองคป์ ระกอบของสิ่งมชี ีวติ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีในเซลลข์ องสิง่ มีชีวติ กลอ้ งจลุ ทรรศนโ์ ครงสร้างและ
หนา้ ที่ของเซลล์ การลำเลียงสารเขา้ และออกจากเซลล์ การแบง่ เซลล์และการหายใจระดับเซลล์
ผลการเรียนรู้
อธิบาย เปรียบเทยี บ และสรุปขั้นตอนการหายใจระดับเซลลใ์ นภาวะทมี่ ีออกซเิ จนเพียงพอ
และภาวะทมี่ ีออกซเิ จนไมเ่ พียงพอ
2. สาระสำคัญ
เซลล์ต้องการพลังงานเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งพลังงานที่เซลล์ต้องการนำไปใช้น้ีอยู่ในรูป
ของสารพลงั งานสูงที่ไดจ้ ากการสลายอาหารผ่านกระบวนการหายใจระดบั เซลล์
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
1. อธิบายและสรุปขนั้ ตอนการสลายกลูโคสในภาวะทีม่ อี อกซิเจนไมเ่ พยี งพอ
2. เปรียบเทียบขั้นตอนการหายใจระดับเซลล์ในภาวะที่มีออกซิเจนเพียงพอกับภาวะที่มี
ออกซเิ จนไม่เพียงพอ
3.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
1. เขยี นแผนภาพขั้นตอนการหายใจระดับเซลลใ์ นภาวะที่มีออกซเิ จนไมเ่ พยี งพอ
3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
1. มุง่ ม่ันในการทำงานและรบั ผิดชอบตอ่ งานทีไ่ ด้รับมอบหมาย
121
4. สาระการเรียนรู้
1) การหายใจระดบั เซลลใ์ นภาวะท่มี อี อกซิเจนไม่เพียงพอ
5. การจัดกิจกรรมการเรียนรูแ้ บบ 5E
5.1 ขัน้ สรา้ งความสนใจ (Engagement)
5.1.1 ครูครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นและร่วมกันอภิปรายว่า ถ้าใน
ภาวะทีม่ ีออกซิเจนไมเ่ พียงพอ การหายใจระดับเซลล์ในสิ่งมีชวี ิตจะเกิดข้ึนได้หรือไม่ ถ้าเกิดขึ้นได้จะมี
กระบวนการท่เี หมอื นหรือแตกตา่ งจากการหายใจระดบั เซลล์ในภาวะท่ีมีออกซิเจนเพียงพออยา่ งไร
(แนวคำตอบ: ในภาวะทอ่ี อกซเิ จนไม่เพยี งพอ การหายใจระดับเซลล์ยังสามารถเกดิ ขน้ึ ได้แต่การสลาย
สารอาหารให้ได้เป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำจะเกิดได้ไม่สมบูรณ์ มีกระบวนการแตกต่างจากการ
หายใจระดับเซลล์ในภาวะที่มีออกซิเจนเพียงพอคือ กระบวนการถ่ายทอดอิเล็กตรอนหยุดชะงัก
เนื่องจากอิเล็กตรอนจาก NADH และ FADH2 ที่ส่งผ่านไปยังตัวนำอิเลก็ ตรอนชนิดต่าง ๆ ขาดตัวรับ
อเิ ล็กตรอนตวั สุดทา้ ยซงึ่ ก็คอื ออกซเิ จนเกดิ การสะสมของ NADH และ FADH2 มากขนึ้ และทำให้ขาด
แคลน NAD+ และ FADที่ต้องนำกลับไปใช้ในไกลโคไลซิสและวฏั จกั รเครบส์ ไกลโคไลซิสยังคงดำเนิน
ตอ่ โดยกรดไพรูวิกจะถกู นำเขา้ สกู่ ระบวนการหมกั กรดแลกติก หรือเกดิ การหมกั แอลกอฮอล์)
5.2 ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration)
5.2.1 นักเรยี นแบ่งกลุม่ กล่มุ ละ 4-5 คน คละความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน
5.2.2 ครูให้นกั เรยี นศึกษาเน้ือหา โดยใชห้ นังสอื เรียนรายวิชาเพิ่มเตมิ ชีววทิ ยา 1 ม.4 หรือ
อนิ เตอร์เน็ต เรอื่ ง การหายใจระดบั เซลลใ์ นภาวะท่ีมีออกซิเจนไมเ่ พียงพอ
5.2.3 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนแผนภาพขั้นตอนกระบวนการการหายใจระดับเซลล์ใน
ภาวะที่มีออกซิเจนไม่เพียงพอลงในกระดาษบรู๊ฟที่ครูแจกให้ และร่วมกันอภิปรายภายในกลุ่ม
เพื่อนำเสนอหนา้ ช้ันเรยี น
5.3 ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation)
5.3.1 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอองค์ความรู้ทสี่ รุปได้ หนา้ ช้นั เรียน
5.3.2 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายแผนภาพของแต่ละกลุ่ม และนำสรุปองค์ความรู้
เรอ่ื ง การหายใจระดบั เซลล์ในภาวะทม่ี อี อกซเิ จนไม่เพยี งพอ ดังน้ี
122
1) กระบวนการหมักกรดแลกติก
ใน 1 นาที ปอดจะมีการแลกเปลีย่ นแกส๊ ไดม้ ากทสี่ ุดประมาณ 5,000 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร แต่
ในขณะที่เราออกกำลังกายจะมีพลังงานที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนแก๊สสูงถึง 24,000 ลูกบาศก์
เซนติเมตร/นาที แต่ปอดมีความจุเพียง 5,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร ดังนั้นพลังงานส่วนเกินประมาณ
5 เท่า พบว่าในขณะที่เราออกกำลังกาย เลือดจะมีกรดแลกติก (Lactic acid) สูงพร้อม ๆ กับการ
ทำงานหนักของกล้ามเนื้อลาย ในสภาวะที่ร่างกายขาดออกซิเจนหรือได้รับแก๊สออกซิเจนไม่เพียงพอ
การสลายกลูโคสในเซลล์กล้ามเนื้อจะไม่สมบูรณ์ และไม่เข้าสู่วัฏจักรเครบส์และระบบถ่ายทอด
อิเล็กตรอน แต่จะสลายไปสู่กรดแลกติกหรือแลกเตดโดยตรง ทำให้ได้พลังงานน้อยมากเพียง 2 ATP
ต่อกลโู คส 1 โมเลกลุ เทา่ น้ัน แต่กรดแลกติกสามารถเปลี่ยนไปเป็นกรดไพรวู ิกหรือไพรูเวตแล้วเข้าสู่วัฏ
จักรเครบส์ได้ต่อไปอีก สำหรับกรดแลกติกถ้าหากมีสะสมอยู่ในกล้ามเนื้อมาก ๆ ทำให้กล้ามเนื้อล้า
จนกระทง่ั ทำงานไม่ได้ต้องไดร้ บั แก๊สออกซิเจนมาชดเชย เพ่อื สลายกรดแลกติกต่อไปจนสมบรู ณ์ ได้น้ำ
และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะถูกกำจัดออกนอกร่างกายได้ การหายใจแบบไม่ใช้แก๊สออกซิเจน
แล้วเกิดกรดแลกติก จงึ เรียกได้อกี อยา่ งหนึ่งว่า การหมกั กรดแลกติก (Lactic acid fermentation)
มีแบคทีเรียบางชนิด เช่น แลกโตบาซิลลสั (Lactobacillus) สามารถสลายสารอาหารโดยไม่
ใช้แก๊สออกซิเจน ทำให้เกิดกรดแลกติก เราจึงนำจุลินทรีย์เหล่านี้มาใช้ประโยชนใ์ นการหมักหรือผลิต
อาหารบางชนดิ เชน่ นมเปรีย้ ว โยเกริ ต์ เต้าหู้ยี การดองผกั และผลไม้ต่าง ๆ
123
2) กระบวนการหมกั แอลกอฮอล์
โดยเริ่มจากไกลโคลิซิสเช่นเดียวกับการสลายกลูโคสโดยใช้ออกซิเจนและได้กรดไพรูวิก 2
โมเลกุล พร้อมปล่อย ATP 2 โมเลกุลและ 4 ไฮโดรเจนอะตอมเช่นกัน แต่ NADH+ H+ จะถ่ายทอด
อะตอมของไฮโดรเจนไปยัง acetaldehyde ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีคาร์บอน 2 อะตอม ทำให้ไม่
สามารถใช้พลังงานจากอิเล็กตรอนที่มีอยู่ในอะตอมของไฮโดรเจนมาสร้าง ATP ได้อีก ดังนั้น การ
สลายกลูโคส 1 โมเลกุลจึงได้ ATP เพียง 2 โมเลกุล เอทิลแอลกอฮอล์เป็นสารพิษเป็นอันตรายต่อ
เซลล์ ถ้ามีเอทิลแอลกอฮอล์มาก ๆ ยีสต์อาจทนไม่ได้และตายในที่สุด ต่อจากนั้นกรดไพรูวิกจะ
เปลี่ยนเป็นแอซีทัลดีไฮด์ (Acetaldehyde) เป็นสารประกอบที่มีคาร์บอน 2 อะตอม และได้แก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์ โดยเอนไซม์ไพรเู วตดคี าร์บอกซเี ลส( Pyruvate decarboxylase) ปฏิกริ ิยาต่อไป
แอซิทิลดีไฮด์จะถูกออกซิไดซ์ด้วย NADH + H+ เป็นเอทิลแอลกอฮอล์หรือเอทานอล โดยเอนไซม์
แอลกอฮอล์ดีไฮโดรจเี นส (Alcohol dehydrogenase)
การหมักแอลกอฮอล์ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิตเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์
สุรา ไวน์ชนิดต่าง ๆ ซึ่งกรรมวิธีแตกต่างกันไป ในปัจจุบันได้มีการนำความรู้น้ีไปผลิตแอลกอฮอล์จาก
ของเหลอื ใช้ เช่น การผลติ แอลกอฮอลจ์ ากกากนำ้ ตาล มผี ลทำให้ลดปญั หามลภาวะจากกากน้ำตาลได้
เป็นจำนวนมากแอลกอฮอล์ยังเป็นสารท่ีมีพลังงานแฝงอยู่มาก สามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ ยีสต์
จะหมกั แอลกอฮอล์ไดส้ งู สดุ ประมาณ 12 % (ถา้ สูงกวา่ น้ีจะเปน็ อนั ตรายตอ่ เซลล์ )
124
ยีสต์สามารถสลายสารอาหารได้ทั้งในสภาพแวดล้อมที่มีออกซิเจนและไม่มีออกซิเจน
ในสภาพแวดล้อมที่มอี อกซิเจนยีสตจ์ ะเจริญเติบโตได้ดีกว่า เพราะจะนำออกซิเจนไปสลายสารอาหาร
ให้ไดพ้ ลังงานมากกว่า
ยีสต์ชนิดที่ใช้ในการทำขนมปังมีชื่อว่า Saccharomyces cercvisiae ในระหว่างการหมัก
แป้งยีสต์จะเกิดปฏิกิริยาการหมักแอลกอฮอล์ และเกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นทำให้แป้งพองฟู
เมอ่ื นำไปอบแกส๊ คาร์บอนไดออกไซดจ์ ะถูกไล่ออกไปพร้อมกบั แอลกอฮอล์
5.4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
5.4.1 ครชู วนนกั เรียนคดิ เก่ียวกับ แลคโตบาซลิ ลสั (Lactobacillus) แตม่ ีประโยชน์ต่อลำไส้
โดยใชค้ ำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน
นักเรียนเคยกินนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ต แล้วหลังจากรับประทานเข้าไป นักเรียนจะมีอาการ
หลังจากรับประทานหรือไม่ ถ้ามีเป็นอาการอย่างไร (แนวคำตอบ: นักเรียนส่วนใหญ่จะตอบว่า มี
อาการหลงั จากท่รี บั ประทานช่วยให้รา่ งกายขับถ่ายสะดวกมากข้นึ )
อะไรคือตัวช่วยในการขับถา่ ยทีอ่ ยู่ในนมเปรีย้ วหรอื โยเกิรต์ (แนวคำตอบ: แลคโตบาซิลลสั
หรือ Lactobacillus Acidophilus ท่เี ปน็ แบคทเี รยี ชนิดดีในกล่มุ ของโพรไบโอติก (Probiotic) )
ทำไมยาคูลท์ที่ขาย มีขนาดเดียวคือ 80 cc. (แนวคำตอบ: เพราะถ้าเราได้รับเชื้อจุลินทรีย์
แลตโตบาซิลัสมากเกินไป จะทำให้ท้องเสียได้ ทางบริษัทจึงจำหน่ายเพียงขนาดเดียว ที่เหมาะสมกับ
ความต้องการของร่างกาย โดยสังเกตข้างขวดที่เขียนไว้ว่า มีเชื้อแลคโตบาซิลลัส 8.0 x 10 (ยกกำลัง
9))
125
5.5 ขัน้ ประเมิน (Evaluation)
5.5.1 สงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรียนของนักเรยี น
5.5.2 สังเกตการตอบคำถาม
5.5.3 สังเกตการทำงานร่วมกนั ภายในกลุ่ม
5.5.4 สงั เกตการนำเสนอ
5.5.5 นักเรยี นทำใบงานที่ 1 เรอ่ื ง การหายใจระดบั เซลล์ในภาวะทมี่ อี อกซเิ จนไมเ่ พียงพอ
5.5.6 นักเรียนทำใบงานที่ 2 เรื่อง เปรียบเทียบขั้นตอนการหายใจระดับเซลล์ในภาวะที่มี
ออกซิเจนเพียงพอกบั ภาวะท่มี อี อกซิเจนไมเ่ พียงพอ
6. ส่อื /อุปกรณ/์ แหลง่ การเรียนรู้
6.1 หนังสือเรยี นรายวิชาเพมิ่ เติม ชวี วทิ ยา 1 ม.4
6.2 กระดาษบรฟู๊
6.3 Power Point เร่อื ง การหายใจระดับเซลล์ 2
6.4 ภาพยาคูลท์
6.5 ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง การหายใจระดบั เซลล์ในภาวะท่ีมีออกซเิ จนไม่เพียงพอ
6.6 ใบงานที่ 2 เรื่อง เปรยี บเทยี บขน้ั ตอนการหายใจระดับเซลล์ในภาวะทีม่ ี
ออกซิเจนเพยี งพอกับภาวะทม่ี ีออกซิเจนไมเ่ พยี งพอ
126
127
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคลชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/4
เร่อื ง การหายใจระดับเซลล์ 2
คำชี้แจง จงทำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมที่ผู้เรียนแสดงออก โดยจำแนกระดับ
พฤตกิ รรมการแสดงออกไว้เป็น 3 คะแนน ดงั น้ี
3 คะแนน หมายถงึ ผเู้ รียนมีพฤติกรรมในระดบั ดี
2 คะแนน หมายถึง ผู้เรียนมีพฤติกรรมในระดบั ปานกลาง
1 คะแนน หมายถึง ผ้เู รียนมีพฤติกรรมในระดบั พอใช้
ช่ือ-สกุล รายการประเมิน คะแนน ร้อยละ สรุปผลการ
รวม ประเมิน
ความใสใ่ จ การเสนอ ความร่วมมอื การยอมรับ
ในการ ความ ในการทำงาน ฟังคนอ่ืน
ทำงาน คดิ เหน็
เลข ่ที
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผ่าน ไมผ่ า่ น
1 นายมารุต มุกดามว่ ง
2 นายภวู เนศวร์ ทองเพง็
3 นายนิธกิ ร จนั ทรเสนา
4 นายวรี ะชยั บญุ ทันเสน
5 นายสุวรรณภมู ิ พิมพา
6 นายวศิ รตุ สุขเกษม
7 นายกฤษฎา เทพศลิ า
8 นายชินกร หาญธงชยั
9 นายพุทธินนั ท์ วันโน
10 นายศุภชยั ตยิ บตุ ร
11 นางสาวน้ำทิพย์ ศรสี ธุ รรม
12 นางสาววชิรญาณ์ สำคญั ควร
13 นางสาวศภุ ัชญา อังคนติ ย์
14 นางสาวอมรรัตน์ จงใจเทศ
15 นางสาวผกาพร กญั ญาเถอื่ น
16 นางสาวภาวณิ ี ปลูกฝัง
17 นางสาวอรัญญา หาญธงชัย
18 นางสาวกนกพร ศรหี าวงษ์
19 นางสาววยธุ ิดา วเิ ศษทอง
20 นางสาววรนิ ทรญ์ า โพธ์ใิ บงาม
21 นางสาวชลธชิ า กนิ ารกั ษ์
22 นางสาวเทยี นหอม พนั ธย์ าง
128
ชอื่ -สกลุ รายการประเมิน คะแนน ร้อยละ สรุปผลการ
รวม ประเมิน
ความใสใ่ จ การเสนอ ความรว่ มมือ การยอมรับ
ในการ ความ ในการทำงาน ฟังคนอืน่
ทำงาน คดิ เห็น
เลข ่ีท
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผา่ น ไม่ผ่าน
23 นางสาวอรญั ญา อาจเจริญ
24 นางสาววิญาดา สิมมาแกว้
25 นางสาวสุภาพชิ ญ์ ปัญจะสีลา
26 นางสาวกัญญาพชั ร อาจจำปา
27 นางสาวศศธิ ร สงวนนาม
28 นางสาวชนนพิ า อินทกลุ
29 นางสาวธญั ญารตั น์ จนั ทร์ธานี
30 นางสาวอภิญญา ทอนศรี
31 นางสาวภูษติ า วิประทุม
32 นางสาวธญั รดา พานเมือง
33 นางสาวจดิ าภา ไทยสทิ ธพิ งษ์
34 นางสาวชนสิ รา อัตะวิชา
35 นางสาวพรนภา อ่นุ อก
36 นางสาวเยาวเรศ เสนคำ
37 นางสาวสิรภิ รณพ์ ันธ์ บุญภา
38 นางสาวอรจิรา กาแก้วมติ มาน
เกณฑก์ ารประเมิน
รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป ( 9 - 12 คะแนน) ผา่ นเกณฑ์
นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 75 ( 0 – 8 คะแนน ) ไมผ่ ่านเกณฑ์
ลงชอื่ .........................................ผู้สอน
(นายชานน โทอิ้ง)
วันท่.ี ...........เดือน........................พ.ศ..............
129
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ประเด็นท่ีประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน
321
ความใส่ใจในการ เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่ ส่ว นใหญ่เมื่อเกิด เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่
ทำงาน เข้าใจบทเรียนทุกคร้ัง ปัญหาหรือไม่เข้าใจ เข้าใจบทเรียนทุกครั้ง
มักซักถามและมีความ บทเรียนทุกครั้งมัก มักซักถามและมีความ
พยายามในการค้นหา ซักถามและมีความ พยายามในการค้นหา
คำตอบอยู่เสมอ พยายามในการค้นหา คำตอบเปน็ บางครงั้
คำตอบ
การเสนอความคดิ เหน็ ส ่ ว น ใ ห ญ ่ เ ส น อ เสนอความคิดเห็น ไม่เสนอความคิดเห็น
ความคิดเห็น กล้า กล้าแสดงออกที่จะพูด กล้าแสดงออกทีจ่ ะพดู
แสดงออกที่จะพูดใน ในสิ่งที่ถูกห ร ื อ ดี ในส่งิ ที่ถกู หรอื ดี
ส่ิงทีถ่ ูกหรือดี บางคร้งั
ความร่วมมือในการ ให้ความร่วมมือในการ ส่วนใหญ่ให้ คว าม ให้ความร่วมมือในการ
ทำงาน ทำงานกลมุ่ และ ร่วมมือในการทำงาน ทำงานกลุ่มและ
ปฏิบตั งิ านทีส่ มาชกิ ใน กลุ่มและปฏิบัติงานที่ ปฏิบัติงานที่สมาชิกใน
กล่มุ มอบหมายด้วย ส ม า ช ิ ก ใ น ก ลุ่ ม กลุ่มมอบหมายได้เป็น
ความเต็มใจทกุ ครั้ง มอบหมายได้ บางครง้ั
การยอมรับฟังคนอ่นื ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ไม่ยอมรับฟังความ
คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี
เหตุผลของผู้อื่นทุก เหตุผลของผู้อื่นบ้าง เหตุผลของผู้อื่น มัก
ค ร ั ้ ง ไ ม ่ ย ึ ด ค ว า ม แ ต ่ บ า ง ค ร ั ้ ง จ ะ ยึด ยึดความคิดเห็นของ
คิดเห็นของตนแต่ฝ่าย ความคิดเหน็ ของตน ตนแตฝ่ า่ ยเดยี ว
เดยี ว
130
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคลช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4/6
เร่ือง การหายใจระดับเซลล์ 2
คำชี้แจง จงทำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมที่ผู้เรียนแสดงออก โดยจำแนกระดับ
พฤติกรรมการแสดงออกไว้เป็น 3 คะแนน ดังน้ี
3 คะแนน หมายถึง ผู้เรยี นมีพฤติกรรมในระดับดี
2 คะแนน หมายถงึ ผูเ้ รียนมีพฤติกรรมในระดับปานกลาง
1 คะแนน หมายถึง ผเู้ รียนมีพฤติกรรมในระดบั พอใช้
ชอ่ื -สกุล รายการประเมนิ คะแนน ร้อยละ สรปุ ผลการ
รวม ประเมนิ
ความใส่ใจ การเสนอ ความร่วมมอื การยอมรบั
ในการ ความ ในการทำงาน ฟังคนอ่ืน
ทำงาน คดิ เหน็
เลข ่ที
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผ่าน ไม่ผ่าน
1 นายเชิดเกยี รติ เพ็ชรนาดี
2 นายอภสิ ิทธิ์ บตุ รวงศ์
3 นายวรภพ คูณเทกอง
4 นายกสวิ ฒั น์ คำวันดี
5 นายภรู ิพฒั น์ ศริ ิธร
6 นายวีระพล นามลาย
7 นายสุกฤษฎ์ิ เทภาศกั ด์ิ
8 นายกติ ตพิ งศ์ ศรีลาลดั
9 นายณฎั ฐชัย สวุ รรณขาว
10 นางสาวสุภัสสรา แช่มชอ้ ย
11 นางสาวธันยรัตน์ ผดั แสน
12 นางสาวชลมาศ หาญณรงค์
13 นางสาวณัฐธิดา ปัสบนั
14 นางสาวพัชปรยี า ทองสุทธิ
15 นางสาวอาทิตยา จันทรส์ ิทธ์ิ
16 นางสาวพชิ ญาภา แก่นประชา
17 นางสาวศริ ิประภา ใหม่คามิ
18 นางสาวเมษา พลเสนา
19 นางสาววาทยิ า รวมวงศ์
20 นางสาวศวิ พร ชมชยั รตั น์
21 นางสาวอาภัสรา โสภาดี
22 นางสาวกลุ ธิดา โพธท์ิ รพั ย์
131
ช่อื -สกลุ รายการประเมนิ คะแนน รอ้ ยละ สรปุ ผลการ
รวม ประเมิน
ความใส่ใจ การเสนอ ความรว่ มมือ การยอมรบั
ในการ ความ ในการทำงาน ฟังคนอน่ื
ทำงาน คดิ เหน็
เลข ่ีท
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผา่ น ไม่ผ่าน
23 นางสาวญดาพร จนั ทจร
24 นางสาวนภัสวรรณ พูลทวี
25 นางสาวหทั ยา พรมขาว
26 นางสาวอธิติมา ใตช้ มภู
27 นางสาวอรุณี ขาวกญุ ชร
28 นางสาวรตั ติกาล นึกชอบ
29 นางสาวอจั จมิ าภรณ์ รัตนโกเมศ
30 นางสาวณฐั ตกิ านต์ จันทรเสนา
31 นางสาวนริศรา นามทวย
32 นางสาวพรภิรมย์ บญุ ภาตระกลู
33 นางสาวไพรินทร์ เสนานุช
34 นางสาวภารจุ รี ์ เสาแคน
35 นางสาวสุตาภทั ร เพชรทองเกลีย้ ง
เกณฑ์การประเมนิ
ร้อยละ 75 ขน้ึ ไป ( 9 - 12 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 75 ( 0 – 8 คะแนน ) ไม่ผ่านเกณฑ์
ลงชือ่ .......................................ผู้สอน
(นายชานน โทอ้งิ )
วันท่.ี ...........เดอื น........................พ.ศ..............
132
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ประเด็นท่ีประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน
321
ความใส่ใจในการ เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่ ส่ว นใหญ่เมื่อเกิด เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่
ทำงาน เข้าใจบทเรียนทุกครั้ง ปัญหาหรือไม่เข้าใจ เข้าใจบทเรียนทุกคร้ัง
มักซักถามและมีความ บทเรียนทุกครั้งมัก มักซักถามและมีความ
พยายามในการค้นหา ซักถามและมีความ พยายามในการค้นหา
คำตอบอยเู่ สมอ พยายามในการค้นหา คำตอบเปน็ บางครง้ั
คำตอบ
การเสนอความคดิ เห็น ส ่ ว น ใ ห ญ ่ เ ส น อ เสนอความคิดเห็น ไม่เสนอความคิดเห็น
ความคิดเห็น กล้า กล้าแสดงออกที่จะพูด กล้าแสดงออกที่จะพูด
แสดงออกที่จะพูดใน ในสิ่งที่ถูกห ร ื อ ดี ในสิ่งทถี่ กู หรือดี
สิง่ ทถ่ี ูกหรือดี บางคร้งั
ความรว่ มมือในการ ใหค้ วามรว่ มมือในการ ส่วนใหญ่ให้ คว าม ให้ความร่วมมือในการ
ทำงาน ทำงานกลุม่ และ ร่วมมือในการทำงาน ทำงานกลมุ่ และ
ปฏิบตั ิงานท่ีสมาชิกใน กลุ่มและปฏิบัติงานท่ี ปฏิบัติงานทีส่ มาชิกใน
กลุม่ มอบหมายด้วย ส ม า ช ิ ก ใ น ก ลุ่ ม กลุ่มมอบหมายได้เป็น
ความเตม็ ใจทุกครั้ง มอบหมายได้ บางครั้ง
การยอมรับฟงั คนอื่น ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ไม่ยอมรับฟังความ
คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี คิดเห็นที่ดีแ ล ะ มี
เหตุผลของผู้อื่นทุก เหตุผลของผู้อื่นบ้าง เหตุผลของผู้อื่น มัก
ค ร ั ้ ง ไ ม ่ ย ึ ด ค ว า ม แ ต ่ บ า ง ค ร ั ้ ง จ ะ ยึด ยึดความคิดเห็นของ
คิดเห็นของตนแต่ฝ่าย ความคิดเห็นของตน ตนแต่ฝา่ ยเดียว
เดียว
133
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
ชอื่ กลุ่ม...............................................................................................................ช้ัน............................
รายชอื่ สมาชกิ 1. .............................................................................................เลขท่ี...........................
2. .............................................................................................เลขที.่ ..........................
3. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................
4. .............................................................................................เลขที.่ ..........................
5. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................
คำช้แี จง จงทำเครือ่ งหมาย ลงในช่องที่ตรงกบั รายการประเมนิ โดยจำแนกระดับคะแนนไว้เปน็
3 ระดับคะแนน ดงั น้ี
3 คะแนน หมายถึง ดี
2 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
1 คะแนน หมายถงึ พอใช้
ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเหน็
32 1
1 การเตรียมความพร้อม
2 เน้อื หาสาระครอบคลมุ ชัดเจน
3 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา
4 การมีส่วนร่วมของสมาชกิ ในกล่มุ
5 รปู แบบการนำเสนอ
รวม
เกณฑ์การประเมิน
ร้อยละ 75 ขึ้นไป ( 11 - 15 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
น้อยกวา่ รอ้ ยละ 75 ( 0 – 10 คะแนน ) ไมผ่ ่านเกณฑ์
ลงช่ือ........................................ผูส้ อน
(นายชานน โทอ้ิง)
วนั ท่.ี ...........เดอื น........................พ.ศ.............
134
แบบประเมินช้ินงาน
ช่ือกลุ่ม...............................................................................................................ชน้ั ............................
รายชอื่ สมาชิก 1. .............................................................................................เลขที.่ ..........................
2. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................
3. .............................................................................................เลขท่ี...........................
4. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................
5. .............................................................................................เลขที่...........................
คำชีแ้ จง จงทำเคร่ืองหมาย ลงในช่องท่ตี รงกับรายการประเมนิ โดยจำแนกระดบั ลักษณะไวเ้ ป็น 3
คะแนน ดงั นี้
3 คะแนน หมายถงึ ช้ินงานมีคุณภาพระดบั ดี
2 คะแนน หมายถงึ ช้นิ งานมีคณุ ภาพระดับปานกลาง
1 คะแนน หมายถึง ชิน้ งานมีคุณภาพระดับพอใช้
ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น
32 1
1 มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์
2 ความสวยงาม
3 ความถูกต้องของช้นิ งาน
รวม
เกณฑ์การประเมิน
ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป ( 7-9 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
น้อยกวา่ ร้อยละ 80 ( 0 – 6 คะแนน ) ไม่ผ่านเกณฑ์
ลงชือ่ ........................................ผู้สอน
(นายชานน โทองิ้ )
วนั ที่............เดือน........................พ.ศ..............
135
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ประเด็นท่ีประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
321
มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ผ ล ง า น ม ี ร ู ป แ บ บ ผลงานมีความสัมพันธ์ ผลงานมีความสัมพันธ์
น ่ า ส น ใ จ มี กับหัวข้อท่ีกำหนด แต่ กับหัวข้อที่กำหนด
ความสมั พันธก์ ับหัวข้อ ไม่ดึงดูดความสนใจ นอ้ ยมาก
ที่กำหนด ระบายสีได้
สวยงาม
ความสวยงาม มีขนาดเหมาะสม สีสนั มีขนาดเหมาะสม สีสนั สสี นั ไมน่ ่าสนใจ
นา่ สนใจ สวยงาม สวยงาม
ความถกู ตอ้ งของ ช้ินงานถูกต้อง ส ่ ว น ใ ห ญ ่ ช ิ ้ น ง า น ชิ้นงานไม่ถกู ต้อง
ช้นิ งาน ครบถว้ น ถูกตอ้ ง
136
137
138
ใบงาน 1 เร่ือง การหายใจระดบั เซลล์ในภาวะท่ีมอี อกซเิ จนไมเ่ พียงพอ
คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนนำคำท่อี ยู่ในกรอบสเ่ี หล่ยี มข้างลา่ ง เติมใส่ในชอ่ งวา่ งขอ้ ความต่อไปนี้
นมเปร้ียว เบียร์ สุรา ไวน์
Fermentation NADH
lactic acid fermentation ไกลโคไลซสิ
C2H5OH Lactobacillus
Cytoplasm กรดไพรวู กิ
กระบว นการหมั ก ( . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ) สามารถเกิด ได ้ 2 รูปแบบ คือ
............................................................และ alcohol fermentation กระบวนการหมักแอลกอฮอล์
เกิดขึ้นใน......................และ จะได้....................จึงถูกนำมาใช้ในการผลิต................................
สว่ นกระบวนการหมักกรดแลกติก เปลี่ยน.........................ท่ีไดจ้ ากขน้ั ตอน..........................ไปเปน็ กรด
แลกติก โดยอาศัยอิเล็กตรอนจาก................. นอกจากนั้นยังมีแบคทีเรียบางชนิด เช่น
........................................สามารถสลายสารอาหารโดยไม่ใช้แกส๊ ออกซิเจน ทำใหเ้ กดิ กรดแลกติก
เราจึงนำจุลินทรีย์เหล่านี้มาใช้ประโยชน์ในการหมักหรือผลิตอาหารบางชนิด เช่น
.....................................
ช่ือ....................................................................................................เลขที.่ .............. ....ห้อง...................
139
ใบงานที่ 2 เรอื่ ง เปรียบเทียบข้ันตอนการหายใจระดับเซลล์ในภาวะทมี่ ีออกซิเจนเพยี งพอกับ
ภาวะท่มี ี ออกซเิ จนไม่เพียงพอ
คำชี้แจง ให้นักเรยี นเขยี นเปรียบเทยี บข้อแตกต่างระหวา่ งการหายใจระดับเซลล์ในภาวะที่มีออกซิเจน
เพียงพอกบั ภาวะท่มี ีออกซิเจนไมเ่ พยี งพอ
ข้อแตกตา่ ง ภาวะท่ีมีออกซิเจนเพียงพอ ภาวะที่มีออกซเิ จนไม่เพียงพอ
การสลายโมเลกลุ อาหาร
สารตัวสดุ ท้ายท่รี บั ไฮโดรเจน
จากกลโู คส
ผลลพั ธ์ตวั สุดทา้ ยได้
พลงั งาน
ตำแหน่งที่เกดิ
ชอื่ ....................................................................................................เลขท.่ี .............. ....หอ้ ง...................
140
เฉลยใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง การหายใจระดับเซลลใ์ นภาวะทีม่ ีออกซิเจนไม่เพยี งพอ
คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นนำคำทีอ่ ยใู่ นกรอบสเี่ หลีย่ มข้างล่าง เติมใส่ในชอ่ งว่างขอ้ ความต่อไปนี้
นมเปรีย้ ว เบยี ร์ สรุ า ไวน์
Fermentation NADH
lactic acid fermentation ไกลโคไลซสิ
C2H5OH Lactobacillus
Cytoplasm กรดไพรูวกิ
กร ะบ ว น การ ห มัก ( Fermentation) ส ามาร ถเกิดได้ 2 ร ูป แบ บ คือ lactic acid
fermentation และ alcohol fermentation กระบวนการหมักแอลกอฮอล์ เกิดขึ้นใน
Cytoplasm และ จะได้ C2H5OH จึงถูกนำมาใช้ในการผลิตเบยี ร์ สุรา ไวน์ ส่วนกระบวนการ
หมักกรดแลกติก เปลี่ยนกรดไพรูวิกที่ได้จากขั้นตอนไกลโคไลซิส ไปเป็นกรดแลกติก โดยอาศัย
อิเล็กตรอนจาก NADH นอกจากนั้นยังมีแบคทีเรียบางชนิด เช่น Lactobacillus สามารถสลาย
สารอาหารโดยไม่ใช้แก๊สออกซิเจน ทำให้เกิดกรดแลกติก เราจึงนำจุลินทรีย์เหล่านี้มาใช้ประโยชน์ใน
การหมกั หรือผลิตอาหารบางชนิด เชน่ นมเปรี้ยว
ชอื่ ....................................................................................................เลขท่.ี .............. ....ห้อง...................
141
เฉลยใบงานที่ 2 เรอ่ื ง เปรียบเทียบขนั้ ตอนการหายใจระดบั เซลลใ์ นภาวะที่มอี อกซเิ จนเพยี งพอกบั
ภาวะท่มี ีออกซเิ จนไมเ่ พียงพอ
คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นเปรยี บเทียบข้อแตกตา่ งระหว่างการหายใจระดบั เซลล์ในภาวะท่ีมีออกซิเจน
เพยี งพอกับภาวะทมี่ ีออกซิเจนไม่เพียงพอ
ข้อแตกต่าง ภาวะท่มี ีออกซิเจนเพยี งพอ ภาวะทมี่ ีออกซิเจนไม่เพยี งพอ
การสลายโมเลกลุ อาหาร ส ล า ย โ ม เ ล ก ุ ล อ า ห า ร ไ ด้ สลายโมเลกุลอาหารได้ไม่
สมบูรณ์ คาร์บอนอินทรีย์ถูก สมบูรณ์ คาร์บอนอนิ ทรยี ย์ ังคง
เปลย่ี นเป็นคารบ์ อนอนิ ทรีย์ได้ ปรากฏเหลืออยู่
ทงั้ หมด
สารตวั สุดทา้ ยที่รับ ออกซเิ จน กรดไพรูวิก
ไฮโดรเจนจากกลโู คส
ผลลัพธ์ตวั สุดท้ายได้ CO2 + H2O และ พลงั งาน เอทลิ แอลกอฮอล์ และ CO2 กับ
พลังงาน สำหรบั กล้ามเน้ือ
ลาย พยาธติ วั ตืด และ แบคทเี รยี
จะได้กรดแลกติกและพลังงาน
พลังงาน พลังงาน 36 หรือ 38 ATP/ พลังงาน 2 ATP /
กลโู คส 1 โมเลกุล กลโู คส 1 โมเลกลุ
ตำแหนง่ ที่เกิด เกดิ ทั้งใน Cytoplasm และ ไม เกดิ ใน Cytoplasm เท่าน้ัน
โทคอนเดรีย
ชอื่ ....................................................................................................เลขท.่ี .............. ....หอ้ ง...................
142
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 17 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
รหสั วิชา ว31241
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา 27 ช่วั โมง
รายวชิ า ชีววทิ ยา 1 เวลา 3 ชวั่ โมง
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เซลลแ์ ละการทำงานของเซลล์
เร่ือง การแบ่งเซลล์แบบไมโทซสิ ภาคเรียนท่ี 1/2565
ครูผูส้ อน นายชานน โทอง้ิ
1. สาระการเรยี นรเู้ พม่ิ เตมิ และผลการเรียนรู้
สาระชวี วิทยา
1. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์
สารที่เป็นองค์ประกอบของสงิ่ มีชวี ติ ปฏิกิรยิ าเคมใี นเซลลข์ องสง่ิ มชี ีวติ กล้องจุลทรรศน์โครงสร้างและ
หนา้ ที่ของเซลล์ การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์และการหายใจระดบั เซลล์
ผลการเรยี นรู้
สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและแบบไมโอซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้องจุลทรรศน์
พร้อมท้งั อธบิ ายและเปรยี บเทยี บการแบ่งนิวเคลยี สแบบไมโทซิสและแบบไมโอซิส
2. สาระสำคัญ
การแบ่งเซลล์คือการเพิ่มจำนวนเซลล์ในสิ่งมีชีวิต มีบทบาทสำคัญ 3 อย่างคือ การสืบพันธ์ุ
การเตบิ โต การซ่อมแซมหรือทดแทนเซลล์ทีส่ ึกหรอ วฏั จกั รของเซลล์ หมายถึง ชว่ งระยะเวลาทั้งหมด
ทเี่ ซลล์ใช้ในการเพ่มิ จำนวนจาก 1 เซลล์ เป็น 2 เซลล์ แบง่ ออกเป็นสองส่วน คือ การแบง่ นิวเคลียสซ่ึง
ประกอบด้วยสองระยะ คือ อินตอร์เฟส เป็นระยะเตรียมพร้อมก่อนการแบ่งเซลล์ และระยะ
M (M-phase) ระยะท่ีเซลลเ์ กิดการเปลย่ี นแปลงและเกิดการแบ่งนวิ เคลยี สขน้ึ โดยการแบ่งนิวเคลียส
สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิส พบในเซลล์ร่างกาย
จำนวนโครโมโซมของเซลล์ลูกเท่าเดิม และการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิสพบในการสร้างเซลล์
สืบพนั ธ์ุของสตั ว์ และเซลลส์ รา้ งสปอร์ของพชื จำนวนโครโมโซมของเซลล์ลูกลดลงคร่ึงหนึง่
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
1. ระบุชนดิ ของการแบง่ เซลล์และบอกความสำคัญของการแบ่งเซลลแ์ บบไมโทซสิ
2. อธบิ ายการเปลยี่ นแปลงของนวิ เคลียสในการแบง่ เซลล์แบบไมโทซสิ