239
เม่ือตวั เก็บประจุทาํ การเก็บประจุไฟฟ้ าจนเตม็ ก็สิ้นสุดสภาวะลอจิก 0 หลงั จากน้นั
ตวั เกบ็ ประจุก็จะคายประจุไฟฟ้ ามายงั จุดที่ 1 ดงั รูปที่ 6.6 ทาํ ใหจ้ ุดที่ 1 เป็นลอจิก 1 ส่งผลทาํ ให้
จุดท่ี 2 เป็นลอจิก 0 และจุดที่ 3 กลบั เป็นลอจิก 1 ตามลาํ ดบั ตามสภาวะการทาํ งานของนอตเกต
เอาตพ์ ตุ จึงเป็นลอจิก 1 ตามช่วงระยะเวลาที่ตวั เก็บประจุจะคายประจุไฟฟ้ าจนหมด วงจรจะทาํ งาน
สลบั ต่อเนื่องเช่นน้ีเร่ือยไป จึงทาํ ใหไ้ ดเ้ อาตพ์ ตุ ดงั รูปที่ 6.7
11
0 00
รูปท่ี 6.7 เอาตพ์ ตุ ท่ีไดจ้ ากวงจร
ในการปฏิบตั ิจริงน้นั รูปคลื่นที่ไดจ้ ะมีขอบโคง้ มนไม่คมดงั รูป เน่ืองจากผลของการ
ทาํ งานของตวั เกบ็ ประจุ แต่สามารถแกไ้ ขใหร้ ูปคล่ืนมีขอบคมไดโ้ ดยต่อวงจรดงั รูปท่ี 6.8
รูปท่ี 6.8 วงจรแกก้ ารโคง้ มนของขอบสญั ญาณ
240
เอาตพ์ ตุ ของวงจรสามารถหาคาบเวลา (T) และคา่ ความถ่ี (F) ไดจ้ ากสมการดงั น้ี
1. คาบเวลา (T) = 3RC (หน่วยคือ Sec)
2. ความถี่ (F) = 1 (หน่วยคือ HZ)
3RC
วงจรอะสเตเบิลมัลติไวเบรเตอร์ สามารถสร้างโดยใช้ไอซีไทม์เมอร์เบอร์ 555
ไดโ้ ดยต่อร่วมกบั ตวั ตา้ นทานและตวั เกบ็ ประจุดงั รูปท่ี 6.9
รูปที่ 6.9 วงจรอะสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์ที่ใชไ้ อซีไทมเ์ มอร์เบอร์ 555
จากรูปท่ี 6.9 การต่อขาท่ี 2 และขาท่ี 6 เป็นการต่อเพ่ือเปรียบเทียบแรงดนั ขณะที่ C1
ประจุแรงดนั ถึง 2 ของแหล่งจ่ายซ่ึงใชร้ ะยะเวลาช่วงหน่ึง จะทาํ ใหข้ าเอาตพ์ ุตขาท่ี 3 เป็นลอจิก 0
3
จากน้นั C1 จะเริ่มคายประจุจนถึงระดบั แรงดนั 1 ของแหล่งจ่ายผา่ น R2 และโครงสร้างภายใน
3
ของไอซี ซ่ึงจะใชร้ ะยะเวลาอีกช่วงหน่ึง ขาเอาตพ์ ุตขาที่ 3 กจ็ ะเปลี่ยนเป็นลอจิก 1 ทนั ที แลว้ C1
จะเร่ิมเก็บประจุอีกคร้ัง กระทาํ กลบั ไปกลบั มาเช่นน้ีอย่างต่อเนื่อง จึงทาํ ให้เกิดสัญญาณพลั ส์
ออกมาท่ีเอาตพ์ ตุ สามารถทาํ ใหว้ งจรหยดุ การทาํ งานไดโ้ ดยนาํ ขาที่ 4 ต่อลงกราวด์ เน่ืองจากขาท่ี 4
เป็นขา Reset
241
t1 t2
T
รูปท่ี 6.10 ช่วงเวลาสญั ญาณเอาตพ์ ตุ
เอาตพ์ ตุ ของวงจรสามารถหาคาบเวลา (T) และคา่ ความถี่ (F) ไดจ้ ากสมการดงั น้ี
คาบเวลา (T) = t1+ t2 (หน่วยเป็น Sec.)
t1 = 0.693 (R2 x C1)
t2 = 0.693 (R1 + R2) C1
ความถี่ (F) = 1 (หน่วยเป็น HZ)
T
6.2.2 วงจรโมโนสเตเบลิ มลั ติไวเบรเตอร์
วงจรโมโนสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์ (Monostable Multivibrator) หรือเรียกอีกอยา่ ง
หน่ึงว่า “วงจรวนั ช็อต” (One Shot Circuit) เป็นวงจรท่ีใหก้ าํ เนิดสัญญาณพลั ส์ โดยตอ้ งมีการ
กระตุน้ จากสัญญาณอินพุต กล่าวคือ ถา้ มีสัญญาณอินพุตมากระตุน้ จะทาํ ให้มีการเปลี่ยนแปลง
ระดับของสัญญาณทางเอาต์พุต เป็ นระยะเวลาตามท่ีเราสามารถออกแบบได้ แล้วกลับคืน
สู่สภาวะเดิม
สญั ญาณกระตุน้ วงจรโมโนสเตเบิล
มลั ติไวเบรเตอร์
สญั ญาณเอาตพ์ ตุ
รูปที่ 6.11 แผนผงั วงจรโมโนสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์
242
วงจรโมโนสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์ แบ่งตามสญั ญาณการกระตุน้ ทางอินพตุ ได้ 2 ชนิด คือ
1. วงจรโมโนสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์แบบกระตุน้ ซ้าํ ได้ (Retriggerable Monostable
Multivibrator) เป็ นวงจรที่เร่ิมทาํ งานโดยเม่ือมีการกระตุน้ ที่อินพุตแลว้ ทางเอาต์พุตจะเปลี่ยน
สภาวะจาก 0 ไปเป็ น 1 ในระยะเวลาท่ีวงจรจะทาํ ได้ ในขณะน้ีเองถา้ วงจรไดร้ ับสัญญาณ
การกระตุน้ ทางอินพุตอีกคร้ังโดยที่สัญญาณเอาตพ์ ุตยงั ไม่เปล่ียนเป็ นลอจิก 0 วงจรจะเริ่มตน้ นบั
การเกิดสญั ญาณลอจิก 1 ทางเอาตพ์ ตุ ในการกระตุน้ คร้ังที่สองน้ีใหม่ แสดงดงั รูปท่ี 6.12
1 2 3
สญั ญาณกระตุน้
สัญญาณเอาตพ์ ุต
tP tP
เร่ิมนบั ใหม่
รูปที่ 6.12 ไดอะแกรมเวลาการทาํ งานวงจรโมโนสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์แบบกระตุน้ ซ้าํ ได้
2. วงจรโมโนสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์แบบกระตุน้ ซ้าํ ไม่ได้ (Non Retriggerable
Monostable Multivibrator) เป็นวงจรที่เร่ิมทาํ งานโดยเมื่อมีการกระตุน้ ท่ีอินพุตแลว้ ทางเอาตพ์ ุต
จะเปล่ียนสภาวะจาก 0 เป็ นลอจิก 1 ในระหว่างน้ีถา้ มีการกระตุน้ ทางอินพุตอีกจะไม่มีผลต่อ
สัญญาณทางเอาตพ์ ตุ จนกวา่ เอาตพ์ ตุ หมดเวลาการคงสภาพของสญั ญาณลอจิก 1 แลว้ เปลี่ยนจาก
สญั ญาณลอจิก 1 เป็นลอจิก 0 จึงจะรับการกระตุน้ ทางอินพตุ อีกคร้ัง
รูปแบบของการทาํ งานของวงจรโมโนสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์แบบกระตุน้ ซ้าํ ได้
และแบบกระตุน้ ซ้าํ ไม่ได้ สัญญาณที่กระตุน้ ทางอินพุตน้ันมีท้งั แบบการกระตุน้ ดว้ ยขอบขาข้ึน
และการกระตุน้ ดว้ ยขอบขาลงท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั การใชง้ าน และการออกแบบของวงจร สัญญาณที่มา
กระตุน้ ทางอินพตุ เรียกตามช่ือภาษาองั กฤษวา่ “สญั ญาณทริกเกอร์” (Trigger)
243
ขอบขาข้ึน ขอบขาลง
1 2 3
สญั ญาณกระตุน้
สญั ญาณเอาตพ์ ตุ tP
tP
ไม่มีผลต่อเอาตพ์ ตุ
รูปที่ 6.13 ไดอะแกรมเวลาการทาํ งานวงจรโมโนสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์แบบกระตุน้ ซ้าํ ไม่ได้
244
วงจรโมโนสเตเบิลมัลติไวเบรเตอร์โดยใช้ไอซีไทม์เมอร์เบอร์ 555 ต่อร่วมกับ
ตวั ตา้ นทานและตวั เกบ็ ประจุดงั รูปท่ี 6.14
รูปท่ี 6.14 วงจรโมโนสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์โดยใชไ้ อซีไทมเ์ มอร์เบอร์ 555
ค่าของ C ที่ต่อกบั ขาควบคุมแรงดนั CON ใหใ้ ชค้ ่า 0.1 μF ส่วนที่เอาตพ์ ุตของวงจร
สามารถหาค่าความกวา้ งของสญั ญาณพลั ส์หรือช่วงเวลาเอาตพ์ ตุ ไดจ้ าก
T = 1.1RC (หน่วยเป็น Sec.)
6.2.3 วงจรไบสเตเบลิ มลั ติไวเบรเตอร์
วงจรไบสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์ (Bistable Multivibrator) เป็ นวงจรที่มีการทาํ งาน
หรือจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ก็ต่อเมื่อมีสัญญาณอินพุตมาควบคุมจึงจะเกิดการเปล่ียนแปลง
และจะคงสภาวะเช่นน้ีต่อไปจนกว่าจะมีสัญญาณอินพุตมากระตุน้ อีกจึงจะกลบั ไปสู่สภาวะเดิม
วงจรการทาํ งานน้ีจะมีสองส่วน น่ันหมายความว่า ถา้ ส่วนท่ีหน่ึงทาํ งานส่วนท่ีสองจะหยุดการ
ทาํ งาน ลกั ษณะของวงจรประเภทน้ีไดแ้ ก่ ฟลิปฟลอป หรือ วงจรแลตช์ ซ่ึงวงจรแลตชน์ ้นั ไดก้ ล่าว
มาแลว้ ในหน่วยการเรียนท่ีผา่ นมา ส่วนวงจรทรานซิสเตอร์แสดงดงั รูปท่ี 6.15
245
รูปท่ี 6.15 วงจรไบสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์โดยใชท้ รานซิสเตอร์
จากรูปที่ 6.15 ทรานซิสเตอร์ Q1 และทรานซิสเตอร์ Q2 สลบั กนั ทาํ งาน
นน่ั หมายความว่า กรณีท่ีทรานซิสเตอร์ Q1 หยดุ ทาํ งานหรือ OFF จะทาํ ใหข้ า C ขา E มีค่าความ
ตา้ นทานสูงแรงดนั ที่ +Vcc จะไหลไปไบอสั ให้กบั ขา B ของทรานซิสเตอร์ Q2 ทาํ ให้
ทรานซิสเตอร์ Q2 อยใู่ นสภาวะทาํ งาน ON จนถึงจุดอิ่มตวั ส่งผลใหแ้ รงดนั ที่ขา E กบั ขา C มีค่าแรง
ดนั ประมาณ 0V แรงดงั ที่จุด –Vbb จะจ่ายใหข้ า B ของทรานซิสเตอร์ Q1 มีผลทาํ ใหท้ รานซิสเตอร์
Q1 อยใู่ นสภาวะ OFF และทรานซิสเตอร์ Q2อยใู่ นสภาวะ ON เป็นเช่นน้ีจนกวา่ จะมีอินพุต Ei1
มากระตุน้ ที่ขา B ของทรานซิสเตอร์ Q1 ทาํ ใหท้ รานซิสเตอร์ Q1 ทาํ งานอยใู่ นสภาวะ ON จึงทาํ ให้
ขา E กบั C ของ Q1 มีค่าความตา้ นทานต่าํ ส่งผลให้แรงดนั ท่ีจุด –Vbb ไหลเขา้ ท่ีขา B
ของทรานซิสเตอร์ Q2 สภาวะน้ีทรานซิสเตอร์ Q2 จึงหยดุ ทาํ งานอยใู่ นสภาวะ OFF ซ่ึงจะยงั คง
สภาวะเช่นน้ีเรื่อยไปจนกว่าจะมีอินพุต Ei2 ป้ อนเขา้ มากระตุน้ อีก การทาํ งานก็จะสลบั เช่นน้ี
เร่ือยไป ซ่ึงจะเห็นวา่ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงท่ีเอาตพ์ ตุ ไดต้ อ้ งมีสญั ญาณจากภายนอกมาควบคุม
246
บทสรุปเนือ้ หาหน่วยที่ 6
สัญญาณพลั ส์ คือสญั ญาณท่ีมีการเปลี่ยนระดบั จากลอจิก 0 เป็ นระดบั ลอจิก 1 และเปลี่ยน
จากระดบั ลอจิก 1 เป็ นระดบั ลอจิก 0 ต่อเนื่องกนั ไป สัญญาณพลั ส์เกิดจากวงจรมลั ติไวเบรเตอร์
ซ่ึงมีอยู่ 3 ชนิดคือ วงจรอะสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์, วงจรโมโนสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์ และวงจร
ไบสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์
247
กจิ กรรมการเรียนการสอน
ข้ันนํา
1. นกั ศึกษาเขา้ แถวครูผสู้ อนตรวจสอบรายชื่อและตรวจความเรียบร้อย
2. ครูผสู้ อนอบรมคุณธรรม จริยธรรม เรื่อง การอยรู่ ่วมกนั
3. ใหน้ กั ศึกษาทาํ แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 6
ข้ันสอน
1. สปั ดาห์ท่ี 15 ครูผสู้ อนบรรยายเน้ือหาหน่วยที่ 6 และสาธิต ตวั อยา่ งโจทย์ ประกอบการบรรยาย
2. ซกั ถาม-ตอบขอ้ สงสยั ระหวา่ งการบรรยาย
3. ใหน้ กั ศึกษาทาํ แบบฝึกหดั หน่วยที่ 6
4. ครูผสู้ อนเฉลยแบบฝึกหดั หน่วยที่ 6
5. แบ่งกลุ่มนกั ศึกษากลุ่มละ 2-3 คน เพ่ือทดลองใบงานในสปั ดาห์ที่ 16 และ 17
6. สปั ดาห์ท่ี 16 ใหน้ กั ศึกษาปฏิบตั ิใบงานท่ี 6.1
7. สปั ดาห์ท่ี 17 ใหน้ กั ศึกษาปฏิบตั ิใบงานท่ี 6.2
8. ครูผสู้ อนเดินไปประเมินผลใบงานที่กลุ่มนกั ศึกษาท่ีส่งผลการทดลอง ใหน้ กั ศึกษาในกลุ่ม
ทดลองใบงานใหด้ ู ครูผสู้ อนซกั ถามเพอ่ื ใหน้ กั ศึกษาอภิปรายตอบคาํ ถาม ครูผสู้ อนใหค้ ะแนน
9. นกั ศึกษาเกบ็ วสั ดุ-อุปกรณ์ และชุดทดลอง
10. ครูผสู้ อนเฉลยใบงานการทดลอง
ข้ันสรุป
1. ครูผสู้ อนและนกั ศึกษาร่วมกนั อภิปรายซกั ถามสรุปขอ้ สงสยั โดยในสปั ดาห์ท่ีมีการทดลอง
ใบงานใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมาอภิปรายซกั ถามและตอบปัญหา กลุ่มละ5 คาํ ถามโดยกลุ่มท่ี 1 ถาม
กลุ่มที่ 2 กลุ่มท่ี 2 ถามกลุ่มที่ 3 ถามต่อๆกนั ไป ส่วนกลุ่มสุดทา้ ยใหก้ ลบั มาถามกลุ่มที่ 1 โดยมี
ครูผสู้ อนร่วมสรุปคาํ ตอบท่ีถูกตอ้ งและใหค้ ะแนนการอภิปรายของนกั ศึกษา
2. เมื่อนกั ศึกษาไดศ้ ึกษาหน่วยท่ี 6 จบแลว้ ใหน้ กั ศึกษาทาํ แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 6
3. ครูผสู้ อนแจง้ คะแนนผลการสอบหน่วยท่ี 6
4. นกั ศึกษาทาํ ความสะอาดหอ้ งเรียนตามตารางเวรก่อนเลิกเรียน
5. ครูผสู้ อนบนั ทึกขอ้ มูลหลงั การสอน
6. สปั ดาห์ที่ 18 สรุปภาพรวมของรายวชิ าและทดสอบปลายภาคตามตารางของวทิ ยาลยั ฯ
7. รวบรวมคะแนน ตดั เกรด ส่งเกรดท่ีงานวดั ผลฯโดยผา่ นหวั หนา้ แผนก
248
สื่อการเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการเรียนการสอนวชิ าดิจิตอลเบ้ืองตน้ รหสั วิชา 2104-2116
จดั ทาํ โดยนายพนมไพร ช่วงจน่ั
2. เคร่ืองฉายภาพโปรเจคเตอร์ (ถา้ มี)
3. เครื่องคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook (ถา้ มี)
4. ชุดทดลองดิจิตอล พร้อมอุปกรณ์ (ใชป้ ฏิบตั ิใบงาน)
5. ออสซิลโลสโคป (ใชป้ ฏิบตั ิใบงาน)
การวดั ผลประเมินผล
1. แบบทดสอบ
2. ใบงาน
3. แบบประเมินผลคะแนนจิตพิสยั
เกณฑ์การวดั ผลประเมินผล
ระหว่างภาค (ใบงาน และแบบทดสอบ) 60 %
ปลายภาค (แบบทดสอบปลายภาค) 20 %
จิตพสิ ัย 20 %
249
แบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 6
วิชา ดิจิตอลเบ้ืองตน้ รหสั 2104-2116 เร่ือง วงจรพลั ส์เบ้ืองตน้ เวลา 20 นาที
คาํ ชี้แจง 1. จงทาํ เครื่องหมาย ° ขอ้ ที่ถกู ตอ้ งที่สุดเพยี งขอ้ เดียวลงในกระดาษคาํ ตอบ
2. คะแนนเตม็ 10 คะแนน
253
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 6
วชิ า ดิจิตอลเบ้ืองตน้ รหสั 2104-2116 เรื่อง วงจรพลั ส์เบ้ืองตน้
254
แบบฝึ กหัดหน่วยที่ 6
เรื่อง วงจรพลั ส์เบือ้ งต้น
คาํ ชี้แจง จงตอบคาํ ถามต่อไปนี้
1. วงจรมลั ติไวเบรเตอร์แบ่งไดเ้ ป็นก่ีชนิดอะไรบา้ ง
2. จงอธิบายคุณลกั ษณะของสญั ญาณพลั ส์พร้อมวาดรูปคลื่นประกอบ
3. จากวงจรจงคาํ นวณหาค่าคาบเวลา(T)และความถ่ี(F) เมื่อ R=1KΩ, C=10μF
255
เฉลยแบบฝึ กหัดหน่วยท่ี 6
เรื่อง วงจรพลั ส์เบือ้ งต้น
คาํ ชี้แจง จงตอบคาํ ถามต่อไปนี้
257
ใบงานที่ 6.1 (สปั ดาห์ที่ 16)
เรื่อง วงจรกาํ เนิดสัญญาณพลั ส์ทส่ี ร้างด้วยลอจกิ เกต
วตั ถุประสงค์
1. เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจการทาํ งานของวงจรกาํ เนิดสญั ญาณพลั ส์ท่ีสร้างดว้ ยลอจิกเกต
2. ต่อวงจรและทดสอบวงจรกาํ เนิดสญั ญาณพลั ส์ท่ีสร้างดว้ ยลอจิกเกตได้
เครื่องมอื และอุปกรณ์ 1 ชุด
1. ชุดทดลองวงจรดิจิตอล 1 ชุด
2. สายต่อวงจร 1 เครื่อง
3. ออสซิลโลสโคป 1 ชุด
4. คูม่ ือโครงสร้างไอซีท่ีใชใ้ นการทดลอง เบอร์ละ 1 ตวั
5. ไอซีเบอร์ 7400 และ7404
1 ตวั
6. ตวั ตา้ นทาน 330 Ω 1 ตวั
7. ตวั เกบ็ ประจุ 0.1μF
ทฤษฎโี ดยย่อ
สัญญาณพลั ส์ เป็ นองคป์ ระกอบท่ีสําคญั สัญญาณหน่ึงของวงจรดิจิตอล โดยการเกิดของ
สญั ญาณน้นั เกิดข้ึนซ้าํ ๆกนั ตลอดเวลา และถา้ ใชใ้ นการอา้ งอิงในการทาํ งานหรือควบคุมการทาํ งาน
จะเรียกอีกอยา่ งหน่ึงว่า “สัญญาณนาฬิกา” (Clock Pulse) ซ่ึงเกิดจากวงจรมลั ติไวเบรเตอร์ท้งั 3
ชนิด คือวงจรอะสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์, วงจรโมโนสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์ และวงจร
ไบสเตเบิลมลั ติไวเบรเตอร์
ลาํ ดบั ข้นั การทดลอง
1. ต่อวงจรตามรูปที่ 6.1.1
รูปที่ 6.1.1
258
2. บนั ทึกรูปสญั ญาณท่ีเอาตพ์ ตุ ลงตารางที่ 6.1.1
ตารางที่ 6.1.1
3. คาบเวลา (T) หาไดจ้ ากสมการ………………………………………………………….
4. คาบเวลาที่คาํ นวณได…้ …………………………………………………………………
5. คาบเวลาที่ไดจ้ ากการวดั ………………………………………………………………...
6. ความถ่ี (F) หาไดจ้ ากสมการ……………………………………...…………………….
7. ความถี่ที่คาํ นวณได…้ ……………...…………………………………………………...
8. ความถี่ท่ีไดจ้ ากการวดั …………...……………………………………………………..
สรุปผลการทดลอง
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
คาํ ถามท้ายการทดลอง
จากวงจรการทดลองแนนดเ์ กตท้งั สองตวั ต่อไวเ้ พอ่ื อะไร
เฉลยใบงานท่ี 6.1 259
(สปั ดาห์ท่ี 16)
เรื่อง วงจรกาํ เนิดสัญญาณพลั ส์ทส่ี ร้างด้วยลอจกิ เกต
261
ใบงานท่ี 6.2
เร่ือง วงจรกาํ เนิดสัญญาณพลั ส์ที่สร้างด้วยไอซีไทม์เมอร์เบอร์ 555 (สปั ดาห์ที่ 17)
วตั ถุประสงค์
1. เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจการทาํ งานของวงจรกาํ เนิดสญั ญาณพลั ส์ที่สร้างดว้ ยไอซีไทมเ์ มอร์เบอร์ 555
2. ต่อวงจรและทดสอบวงจรกาํ เนิดสญั ญาณพลั ส์ที่สร้างดว้ ยไอซีไทมเ์ มอร์เบอร์ 555ได้
เครื่องมือและอปุ กรณ์
1. ชุดทดลองวงจรดิจิตอล 1 ชุด
2. สายต่อวงจร 1 ชุด
3. ออสซิลโลสโคป 1 เคร่ือง
4. คูม่ ือโครงสร้างไอซีที่ใชใ้ นการทดลอง 1 ชุด
5. ไอซีไทมเ์ มอร์เบอร์ 555 1 ตวั
6. ตวั ตา้ นทาน 4.7 KΩ และ10 KΩ อยา่ งละ 1 ตวั
7. ตวั เกบ็ ประจุ 0.1μF 2 ตวั
ทฤษฎโี ดยย่อ
วงจรมลั ติไวเบรเตอร์ เป็นวงจรกาํ เนิดความถ่ีสญั ญาณรูปคล่ืนสี่เหล่ียม หรือรูปคล่ืนพลั ส์ ที่มี
ความสําคัญต่อวงจรดิจิตอลอีกชนิดหน่ึง หรื อเรี ยกวงจรที่กําเนิดสัญญาณน้ีว่า “วงจร
ออสซิลเลเตอร์” (Oscillator Circuit) การทาํ งานของวงจรชนิดน้ีมีท้งั ตอ้ งมีการกระตุน้ สญั ญาณจาก
ภายนอก และไม่ตอ้ งการกระตุน้ สัญญาณจากภายนอกอุปกรณ์ที่นาํ มาสร้างนอกจากจะเป็ นลอจิก
เกตแลว้ ยงั นิยมใชไ้ อซีไทมเ์ มอร์เบอร์ 555 โดยต่อร่วมกบั ตวั ตา้ นทาน และตวั เกบ็ ประจุ
262
ลาํ ดับข้ันการทดลอง
1. เปิ ดคูม่ ือไอซีศึกษาตาํ แหน่งขาของไอซีเบอร์ 555 แลว้ ต่อวงจรตามรูปที่ 6.2.1
รูปที่ 6.2.1
2. บนั ทึกรูปสญั ญาณที่เอาตพ์ ตุ ลงตารางท่ี 6.2.1
ตารางที่ 6.2.1
263
3. คาบเวลา (T) หาไดจ้ ากสมการ……………………………………………………………
…………………………………………………………………………...…………………………
…………….………………...……………………………..………………………………………
…………………………………………………………..…………………………………………
4. คาบเวลาที่คาํ นวณได…้ ………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………..……………
…………………………………………………………………………………………..…………
…………………………………………………………………………………………..…………
…………………………………………………………………………………………..…………
…………………………………………………………………………………………..…………
…………………………………………………………………………………………..…………
5. คาบเวลาท่ีไดจ้ ากการวดั ………………………………………………………………….
6. ความถี่ (F) หาไดจ้ ากสมการ……………………………………...………………………
………………………………………………………………………..……………………………
7. ความถี่ท่ีคาํ นวณได…้ ……………...……………………………………………………..
………………………………………………………..……………………………………………
8. ความถ่ีท่ีไดจ้ ากการวดั …………...………….……………………………………………
สรุปผลการทดลอง
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
คาํ ถามท้ายการทดลอง
1. จากวงจรการทดลองจงคาํ นวณหาค่าคาบเวลา T และความถ่ี F เม่ือ R1 = 22KOhm,
R2 = 4.7KOhm และ C1 = 0.1μF
2. คาบเวลา t1 กบั t2 คือส่วนใดของรูปสญั ญาณพลั ส์
264
เฉลยใบงานที่ 6.2
เร่ือง วงจรกาํ เนิดสัญญาณพลั ส์ที่สร้างด้วยไอซีไทม์เมอร์เบอร์ 555 (สปั ดาห์ท่ี 17)
268
แบบประเมนิ ผลการปฏิบตั ใิ บงานหน่วยที่ 6
ชื่อ-สกลุ …………………………………………..…….………………เลขที่………...….ช้นั ……..…….กลุ่มที่………....
ที่ รายการประเมินผล ใบงานท่ี 6.1 สรุป
ใบงานที่ 6.2 ผลคะแนน
รวม
1 ผลการปฏบิ ตั งิ าน คะแนน คะแนน
1.1 การเบิกและส่งคืนวสั ดุ-อุปกรณ์
1.2 การต่อวงจรตามท่ีกาํ หนดไดถ้ กู ตอ้ ง เต็ม ทไี่ ด้ เตม็ ทไ่ี ด้ เต็ม ทไ่ี ด้
1.3 บนั ทึกผลการทดลองไดถ้ กู ตอ้ ง (20) (20) (40)
1.4 เสร็จตามเวลาท่ีกาํ หนด 5 5 10
5 5 10
2 การอภปิ ราย 5 5 10
2.1 การต้งั คาํ ถามในการอภิราย 5 5 10
2.2 การตอบคาํ ถามในการอภิปราย (10) (10) (20)
5 5 10
รวมคะแนน 5 5 10
60
คะแนนเตม็ 60 ผลการประเมิน
ผา่ น
ไม่ผา่ น
ขอ้ เสนอแนะ………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ…………………………………ผปู้ ระเมิน
(..…………................................)
………/…………/……….
269
เกณฑ์การประเมนิ การปฏบิ ตั ใิ บงาน
คะแนนเตม็ 60 คะแนน 5 คะแนน
ใบงานละ 30 คะแนน หน่วยละ 2 ใบงาน รวม 60 คะแนน 1 คะแนน
เกณฑ์การให้คะแนนแต่ละใบงานดงั นี้ 0 คะแนน
1. ผลการปฏบิ ตั งิ าน (20 คะแนน) 5 คะแนน
1 คะแนน
1.1 การเบกิ และส่งคนื วสั ดุ-อุปกรณ์ (5 คะแนน) 0 คะแนน
ส่งคืนวสั ดุ-อุปกรณ์ครบทุกชิ้น ไม่ชาํ รุดเสียหายไดค้ ะแนน
ส่งคืนวสั ดุ-อุปกรณ์ไม่ครบ ชาํ รุดเสียหาย ติดลบคะแนนชิ้นละ 5 คะแนน
ส่งคืนวสั ดุ-อุปกรณ์ไม่ครบ ชาํ รุดเสียหายเกิน 3 ชิ้นไดค้ ะแนน 1 คะแนน
0 คะแนน
1.2 การต่อวงจรตามทกี่ าํ หนดได้ถูกต้อง (5 คะแนน)
ต่อวงจรถกู ตอ้ งตามท่ีกาํ หนดไดค้ ะแนน 5 คะแนน
ต่อวงจรผดิ ติดลบคะแนนจุดละ 1 คะแนน
ต่อวงจรผดิ เกิน 3 จุดไดค้ ะแนน 3 คะแนน
0 คะแนน
1.3 บนั ทกึ ผลการทดลองได้ถูกต้อง (5 คะแนน)
บนั ทึกผลการทดลองถูกตอ้ งทุกขอ้ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน
บนั ทึกผลการทดลองผดิ ติดลบคะแนนขอ้ ละ
บนั ทึกผลการทดลองผดิ เกิน 3 ขอ้ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน
1.4 เสร็จตามเวลาทกี่ าํ หนด (5 คะแนน)
ปฏิบตั ิใบงานเสร็จตามเวลาที่กาํ หนดไดค้ ะแนน
ปฏิบตั ิใบงานเกิน 2 นาทีติดลบคะแนน
ปฏิบตั ิใบงานเกิน 5 นาทีติดลบคะแนน
ปฏิบตั ิใบงานเกิน 10 นาทีไดค้ ะแนน
2. การอภปิ ราย
2.1 การต้งั คาํ ถามในการอภิราย
ต้งั คาํ ถามในการอภิปรายไดค้ ะแนนขอ้ ละ
2.2 การตอบคาํ ถามในการอภปิ ราย
ตอบคาํ ถามในการอภิปรายถกู ตอ้ งไดค้ ะแนนขอ้ ละ
270
แบบประเมนิ ผลด้านจิตพสิ ัย
คุณธรรม จริยธรรม พฤตกิ รรมอนั พงึ ประสงค์
พฤติกรรมอนั พึงประสงค์
ลาํ ดบั ช่ือ-นามสกลุ แ ่ตงกาย ูถกระเ ีบยบ รวม
ที่ ใช้วาจา ุสภาพ เ ีรยบ ้รอย คะแนน
ขยัน ้ตังใจ ใ ่ฝ ู้ร
ความ ัรบผิดชอบ ตรงเวลา
ทํางาน ่รวมกับผู้ ื่อน
4 4 444 20
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี
4 หมายถึง พฤติกรรมท่ีแสดงออกอยใู่ นระดบั ดีมาก
3 หมายถึง พฤติกรรมที่แสดงออกอยใู่ นระดบั ดี
2 หมายถึง พฤติกรรมที่แสดงออกอยใู่ นระดบั ปานกลาง
1 หมายถึง พฤติกรรมท่ีแสดงออกอยใู่ นระดบั ควรปรับปรุง
ลงชื่อ…………………………………ผปู้ ระเมิน
(……………………….………..)
………/…………/……….
271
แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 6
วชิ า ดิจิตอลเบ้ืองตน้ รหสั 2104-2116 เร่ือง วงจรพลั ส์เบ้ืองตน้ เวลา 20 นาที
คาํ ชี้แจง 1. จงทาํ เครื่องหมาย ° ขอ้ ท่ีถกู ตอ้ งท่ีสุดเพยี งขอ้ เดียวลงในกระดาษคาํ ตอบ
2. คะแนนเตม็ 10 คะแนน
274
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 6
วชิ า ดิจิตอลเบ้ืองตน้ รหสั 2104-2116 เรื่อง วงจรพลั ส์เบ้ืองตน้
275
บนั ทกึ หลงั การสอน
ผลการเรียนของผู้เรียน
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
ผลการสอนของครู
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
ปัญหาทพ่ี บ / แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ......................................ครูผสู้ อน ลงช่ือ.....................................หวั หนา้ แผนก
(.....................................) (....................................)
………/………../………. ………/………../……….
ลงชื่อ...........................................รองผอู้ าํ นวยการฝ่ ายวชิ าการ
(........................................)
.………/………../……….
บรรณานุกรม
จิระวฒั น์ ใจออ่ นนอ้ ม, นภทั ร วจั นเทพนิ ทร์, วงจรดิจิตอล (ภาคปฏิบตั ิ), กรุงเทพมหานคร;
สกายบบุก๊ ส์, 2541.
ทีมงานสมาร์ทเลีร์นน่ิง, ออกแบบวงจร DIGITAL และประยกุ ตใ์ ชง้ าน, กรุงเทพมหานคร;
หา้ งหุ่นส่วนสามญั สมาร์ทเลิร์นน่ิง, 2551.
ทีมงานแอนนาดิจิ กรุ๊ป จาํ กดั , การทดลองดิจิตอล 1, กรุงเทพมหานคร;
บริษทั แอนนาดิจิ กรุ๊ป จาํ กดั , 2544.
น.ต.ธวชั ชยั เลื่อนฉวีและพ.ต.อนุรักษ์ เถื่อนศิริ, ดิจิตอลเทคนิค (เล่ม 1), กรุงเทพมหานคร;
หา้ งหุ่นส่วนจาํ กดั ภาคพิมพ,์ 2532.
น.ท.สง่า ศรีศุภปรีดาและอชั รี หมอยาดี, ดิจิตอลเทคนิค, กรุงเทพมหานคร; เอมพนั ธ,์ 2550.
นภทั ร วจั นเทพนิ ทร์, วงจรดิจิตอลและการออกแบบ, กรุงเทพมหานคร; สกายบบุก๊ ส์, 2545.
นฤพนธ์ หอธรรมรัตน์และวฑิ ูร มลิวลั ย,์ วงจรดิจิตอล (ดิจิตอลเทคนิค), กรุงเทพมหานคร;
ศูนยส์ ่งเสริมอาชีวะ, 2544.
บรรจง พลขนั ธ,์ วงจรพลั ส์และดิจิตอล, กรุงเทพมหานคร; ศนู ยส์ ่งเสริมอาชีวะ, 2546.
ปิ ติภาค ปิ่ นรอด, วงจรพลั ส์และดิจิตอล, กรุงเทพมหานคร; เอมพนั ธ,์ 2550.
พนั ธศ์ กั ด์ิ พฒุ ิมานิตพงศ์ , ดิจิตอลเบ้ืองตน้ (ดิจิตอลและไมโครโพรเซสเซอร์),
กรุงเทพมหานคร; ศูนยส์ ่งเสริมอาชีวะ, 2548.
พนั ธ์ศกั ด์ิ พฒุ ิมานิตพงศ์ และคณะ, วงจรพลั ส์และดิจิตอล, กรุงเทพมหานคร;
ศนู ยส์ ่งเสริมอาชีวะ, 2548.
พนั ธศ์ กั ด์ิ พฒุ ิมานิตพงศ,์ ไฉน บุญเพช็ ร, วงจรดิจิตอล 1, กรุงเทพมหานคร;
ศนู ยส์ ่งเสริมอาชีวะ, 2539.
เพทาย ภาสวา่ งและเอกชยั ดีสุข, ดิจิตอลประยกุ ต,์ กรุงเทพมหานคร;
ศนู ยส์ ่งเสริมวชิ าการ, 2551.
มงคล เจตินยั , วงจรดิจิตอล, กรุงเทพมหานคร; ศนู ยส์ ่งเสริมวิชาการ, 2542.
วชิ า โตนิล, ทฤษฎีวงจรดิจิตอล 1, กรุงเทพมหานคร; เอมพนั ธ์, 2540.
ไวพจน์ ศรีธญั , ดิจิตอลเบ้ืองตน้ , กรุงเทพมหานคร; วงั อกั ษร, 2547.