The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานวิจัยในชั้นเรียน ระดับปฐมวัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

งานวิจัยในชั้นเรียน ระดับปฐมวัย

งานวิจัยในชั้นเรียน ระดับปฐมวัย

สังกัดสำ นักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำ นักงานศึกษาธิการจังหวัดนครสวรรค์ ระดับปฐมวัย งานวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ ปีการศึกษา 2566


งานวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 1. ชื่องานวิจัย การแก้ปัญหาเด็กไม่กล้าแสดงออก ระดับชั้น ปฐมวัยปีที่ 3/2 จ านวน 1 คน โดยใช้กิจกรรม ส่งเสริมการเป็นผู้น า-ผู้ตาม 2. ชื่อผู้วิจัย นางสาวสุธิดา เกษคร้าม วิชา บูรณาการ ชั้น ปฐมวัยปีที่ 3/2 3. ความส าคัญและที่มา ในวัยนี้เด็กจะลดการยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางลง แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์มากยิ่งขึ้น มี ความชื่นชมในความสามารถของตนเองและผู้อื่น ช่วงแรกเกิด – 6 ปีแรกของเด็ก จะเป็นช่วงที่ส าคัญมากในการ วางรากฐานพฤติกรรม และบุคลิกภาพ เพราะช่วงวัยนี้เด็ก ๆ จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวแบบ เพื่อให้เด็กสามารถ ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม จากการสังเกตพฤติกรรมของเด็กหญิงเกวลี บุญมีพบว่ามีพฤติกรรม ไม่กล้าแสดงออก ถามอะไรก็ไม่คอยพูด เขินอายในการท ากิจกรรมต่างๆ ดังนั้นผู้วิจัยจึงแก้ไขแก้ปัญหาเด็กไม่กล้าแสดงออกของผู้เรียนโดยการใช้กิจกรรม ส่งเสริมการเป็นผู้น า-ผู้ตาม 4. จุดมุ่งหมายในการวิจัย 1. เพื่อส่งเสริมความมั่นใจในตนเองและการกล้าแสดงออกของเด็ก 2. เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกล้าแสดงออกที่ดีขึ้นของเด็ก 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. เด็กมีพฤติกรรมในการกล้าแสดงออกที่ดีขึ้น 2. เพื่อเป็นแนวทางส าหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของ เด็กปฐมวัย 6. วิธีด าเนินการวิจัย 1. ก าหนดกลุ่มเป้าหมายของเด็กปฐมวัยปีที่ 3/2 จ านวน 1 คน เด็กหญิงเกวลี บุญมี 2. ครูส่งเสริมการเป็นผู้น าผู้ตามให้กับเด็กโดยใช้กิจกรรม ดังนี้ - การเป็นผู้น า-ผู้ตามในการเคลื่อนไหวเข้าจังหวะ - การเล่าผลงานหน้าชั้นเรียน - ส่งเสริมให้เด็กเป็นตัวแทนของชั้นเรียน ในการไปร่วมกิจกรรมของทางโรงเรียน 3. โดยใช้ระยะเวลา 4 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 5 - 30 มิถุนายน 2566 4. ครูบันทึกพฤติกรรมการกล้าแสดงออกในแบบสังเกต เเละเปรียบเทียบความก้าวหน้า 5. รวบรวมข้อมูลสรุปผล 7. ผลการวิจัย จากผลการแก้ไขปัญหาเด็กไม่กล้าแสดงออก ระดับชั้นปฐมวัยปีที่ 3/2 จ านวน 1 คนโดยใช้กิจกรรมส่งเสริม การเป็นผู้น าผู้ตาม ปรากฏว่าเด็กหญิงเกวลี บุญมีมีความมั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้นและสามารถอยู่กับผู้อื่นได้ อย่างมีความสุข ฝ่ายวิชาการ


8. ผลการวิจัย จากผลการแก้ไขปัญหาเด็กไม่กล้าแสดงออก ระดับชั้นปฐมวัยปีที่ 3/2 จ านวน 1 คนโดยใช้กิจกรรมส่งเสริม การเป็นผู้น าผู้ตาม ปรากฏว่าเด็กหญิงเกวลี บุญมีมีความมั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้นและแสดงออกทางอารมณ์ ได้เหมาะสมกับสถานการณ์มากยิ่งขึ้น มีความชื่นชมในความสามารถของตนเองและผู้อื่น 9. ข้อเสนอแนะจากการวิจัย ในการคิดศึกษาท าการวิจัยในครั้งต่อไป ผู้วิจัยควรจะจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อพัฒนาเด็กทุกด้านอย่าง สมดุลและต่อเนื่อง ลงชื่อ................................................ผู้รายงาน ลงชื่อ............................................ ( นางสาวสุธิดา เกษคร้าม) (นางอ่อนนุช นุ่นอ่อน ) ผู้ช่วยฝ่ายวิชาการระดับปฐมวัย


การลดพฤติกรรมการเล่นที่ไม่ค านึงถึงอันตราย เด็กหญิงเกวลี บุญมี ระดับชั้นปฐมวัยปีที่ 3/2 จ านวน 1 คน วัน/เดือน/ปี พฤติกรรม ผลการสังเกต 3 2 1 5 – 9 มิถุนายน 2566 มีความเป็นผู้น า - ผู้ตามที่ดี มีความมั่นใจในตนเอง กล้าพูด กล้าแสดงออก แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ 12–16 มิถุนายน 2566 มีความเป็นผู้น า - ผู้ตามที่ดี มีความมั่นใจในตนเอง กล้าพูด กล้าแสดงออก แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ 19–23 มิถุนายน 2566 มีความเป็นผู้น า - ผู้ตามที่ดี มีความมั่นใจในตนเอง กล้าพูด กล้าแสดงออก แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ 26–30 มิถุนายน 2566 มีความเป็นผู้น า - ผู้ตามที่ดี มีความมั่นใจในตนเอง กล้าพูด กล้าแสดงออก แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ เกณฑ์การประเมิน ท าได้ดีมาก คะแนน ระดับ 3 ท าได้ดี คะแนน ระดับ 2 ท าได้พอใช้ คะแนน ระดับ 1


ภาคผนวก นิทานคุณธรรม


ผลจากการวิจัยเด็กไม่กล้าแสดงออก


งานวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 1. ชื่องานวิจัย การแก้ปัญหาเด็กไม่นอนพักผ่อนในช่วงกลางวัน ระดับชั้นปฐมวัยปีที่ 3/3 จ านวน 1 คน โดยการใช้นิทานและกิจกรรมนั่งสมาธิ 2. ชื่อผู้วิจัย นางสาวภัทราวดี ช่วยเปรม วิชา บูรณาการ ชั้น ปฐมวัยปีที่ 3/3 3. ความส าคัญและที่มา การนอนกลางวันของเด็กปฐมวัยเป็นช่วงเวลาส าคัญอย่างมากต่อพัฒนาการของเด็ก การให้เด็กนอน กลางวันจ าเป็นต่อการเจริญเติบโตและฟื้นฟูร่างกาย ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และ สติปัญญาดีขึ้น จาการสังเกตนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/3 จ านวน 35 คน พบว่า มีเด็กจ านวน 1 คน มี พฤติกรรมไม่ชอบ นอนกลางวัน ปัญหาดังกล่าวมีผลกระทบท าให้เพื่อนอีกหลายคนนอนไม่หลับไปด้วย ผู้วิจัยจึงสนใจแก้ปัญหาเด็กไม่ นอนพักผ่อนในช่วงกลางวันโดยใช้การเล่านิทานก่อนนอนและการนั่งสมาธิ 4. จุดมุ่งหมายในการวิจัย เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมให้เด็กหลับง่ายและมีการพักผ่อนร่างกายอย่างพอเพียง 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ได้พักผ่อนในตอนกลางวันท าให้ร่างกายเจริญเติบโตและมีพัฒนาการตามวัย 6. วิธีด าเนินการวิจัย 1. ครูสังเกตพฤติกรรมของเด็กชายณัฐกิตติ์ ดีมีจะไม่หลับและเป็นเด็กไม่มีสมาธิ 2. ครูให้ฟังนิทานก่อนนอน และฝึกให้เด็กนั่งสมาธิก่อนนอนเป็นเวลา 1 เดือน มีสมาธิและหลับง่ายขึ้น 3. ครูบันทึกพฤติกรรมในแบบสังเกตพฤติกรรม 4. รวบรวมข้อมูลและสรุป 7. ผลการวิจัย จากการฝึกให้เด็กฟังนิทานและนั่งสมาธิก่อนนอนเด็กชายณัฐกิตติ์ ดีมีหลับกลางวันได้ดีขึ้น 8. สรุปผลการวิจัย จากผลการสังเกตพฤติกรรม การนอนหลับของเด็ก พบว่าเด็กชายณัฐกิตติ์ ดีมีได้นั่งสมาธิจะมีสมาธิมาก ขึ้นและหลับพักผ่อนได้ดีขึ้น 9. ข้อเสนอแนะจากการวิจัย 1. ครูแนะน าให้ผู้ปกครองฝึกให้เด็กนั่งสมาธิก่อนนอน 2. ให้ผู้ปกครองให้ค าชมเชยกับเด็กจะท าให้เด็กหลับได้ดีขึ้น ลงชื่อ................................................ผู้รายงาน ลงชื่อ............................................ ( นางสาวภัทราวดี ช่วยเปรม) (นางอ่อนนุช นุ่นอ่อน ) ฝ่ายวิชาการ หัวหน้าระดับวิชาการปฐมวัย


ภาคผนวก


แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม เด็กชายณัฐกิตติ์ ดีมี ระดับชั้นปฐมวัยปีที่ 3/3 โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ วัน /เดือน /ปี กิจกรรม ผลการสังเกตพฤติกรรม 3 2 1 2-5 ม.ค. 2567 เล่านิทาน “นิทานก่อนนอนสอนเด็กดี” นั่งสมาธิ 8 -12 ม.ค. 2567 เล่านิทาน “กล่อมฝัน” นั่งสมาธิ 15-19 ม.ค. 2567 เล่านิทาน “ชวนฝัน” นั่งสมาธิ 22-26 ม.ค. 2567 เล่านิทาน “อุ่นฝัน” นั่งสมาธิ เกณฑ์การประเมิน นอนหลับสนิท คะแนน ระดับ 3 นอนหลับบางครั้ง คะแนน ระดับ 2 ไม่นอนหลับเลย คะแนน ระดับ 1


นิทานก่อนนอน


ผลจากการวิจัยเด็กไม่นอนกลางวัน


งานวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 1. ชื่องานวิจัย การแก้ปัญหาเด็กไม่รู้จักตัวเลขและไม่รู้ค่าจ านวน 1 – 10 ของเด็กชั้นปฐมวัยปีที่ 3/4 โดยใช้บัตรภาพ และบัตรตัวเลข 1-10 2. ชื่อผู้วิจัย นางสาวกัญญารัตร์ มุกสิพันธ์ วิชา บูรณาการ ชั้น ปฐมวัยปีที่ 3/4 3. ความส าคัญและที่มา จากการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนเด็กชั้นปฐมวัยปีที่ 3/4 พบว่าเด็กไม่รู้จักตัวเลขและไม่รู้ค่าจ านวน 1 – 10 จ านวน 1 คน ครูผู้สอนจึงต้องแก้ปัญหาเพื่อให้เด็กมีพัฒนาการทักษะด้านคณิตศาสตร์ที่ดีมากขึ้น เพราะตัวเลขต่างๆ มีความส าคัญต่อตัวเด็กมากในชีวิตประจ าวัน การเรียนเลขจะช่วยให้เด็กรู้จักตัวเลขมากขึ้น ท าให้เด็กสามารถน า ความรู้เกี่ยวกับตัวเลขไปสื่อสารในชีวิตประจ าวันได้ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ เลขที่บ้าน หรือ จ านวนเงินที่ได้รับ ดังนั้นเด็กวัยนี้ควรต้องเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเลขรอบตัวเพื่อให้เด็กจ าได้หากเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างเบอร์โทรศัพท์พ่อแม่ ทะเบียนรถพ่อแม่การเรียนเลขตั้งแต่ระดับปฐมวัยจะช่วยให้เด็กแก้ปัญหาเบื้องต้นในชีวิตประจ าวันด้วยวิธีการทาง คณิตศาสตร์ได้ เช่น เรื่องการน าเงินมาโรงเรียน เด็กจะเรียนรู้ได้เองว่าพอซื้อขนมแล้วจะเหลือเงินกี่บาท 4. จุดมุ่งหมายในการวิจัย 1. เพื่อให้เด็กรู้จักค่าของตัวเลข 1 – 10 2. เพื่อให้เด็กเขียนตัวเลข 1 – 10 ได้ถูกต้อง 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. เด็กรู้จักค่าของตัวเลข 1 – 10 2. เด็กเขียนตัวเลข 1 – 10 ได้ถูกต้อง 6. วิธีด าเนินการวิจัย 1. ครูให้เด็กฝึกนับตัวเลข 1 – 10 2. จัดท าบัตรภาพต่าง ๆ ประกอบด้วย บัตรตัวเลข, บัตรภาพจ านวนกับตัวเลข, ฝึกนับเลข 1 – 10 3. เด็กเรียนรู้จากบัตรตัวเลข, บัตรภาพจ านวนกับตัวเลข, ฝึกนับเลข 1 – 10 4. จัดกิจกรรมเรียนรู้โดยให้เด็กฝึกนับเลขของชั้นปฐมวัยปีที่ 3/4 ในภาคเรียนที่ 2 เป็นเวลา 4 สัปดาห์ 5. เด็กท าแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ในแต่ละสัปดาห์ 7. ผลการวิจัย หลังจากบูรณาการโดยสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ใช้ชุดฝึกทักษะการรู้ค่าตัวเลข จัดประสบการณ์โดยแทรกใน กิจกรรมเสริมประสบการณ์ให้เด็กได้เรียนรู้ตัวเลข 1 – 10 เพื่อพัฒนาทักษะด้านคณิตศาสตร์ของเด็กชั้นปฐมวัยปีที่ 3/4 ในภาคเรียนที่ 2 จ านวน 1 คน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดยให้เด็กฝึกนับตัวเลข และจับคู่ตัวเลข ผลการสังเกตการ พัฒนาทักษะด้านคณิตศาสตร์มีดังนี้ เด็กสามารถชี้บอกตัวเลขได้ถูกต้อง จับคู่ภาพกับจ านวนได้ เขียนตัวเลขที่ขาด หายไปได้และบอกจ านวนที่มีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่าได้พอสมควร 8. สรุปผลการวิจัย พบว่า เมื่อเด็กได้ฝึกนับบัตรภาพ กับบัตรตัวเลขที่ก าหนดให้แล้ว เด็กสามารถนับเลข 1 – 10 ได้ ชี้บอก ตัวเลข ที่ก าหนดให้ได้ถูกต้อง จับคู่ภาพกับจ านวนได้ เขียนตัวเลขที่ขาดหายไปได้ บอกจ านวนที่มีค่ามากกว่าหรือน้อย กว่าได้แทนค่าตัวเลขด้วยรูปภาพต่าง ๆ สามารถบวกและลบเลขอย่างง่ายที่มีค่าของผลบวกไม่เกินสิบได้ ส่วนการท า แบบฝึกแต่ละชุด ถ้าเด็กได้ฝึกท าบ่อย ๆ จะท าให้เด็กเกิดความช านาญและเป็นพื้นฐานในการจ าตัวเลข และท าให้รู้ค่า ของจ านวนที่มากกว่าสิบได้ ฝ่ายวิชาการ


9. ข้อเสนอแนะจากการวิจัย - การเรียนรู้ทักษะด้านคณิตศาสตร์เด็กต้องได้รับการฝึกฝนทบทวนอย่างต่อเนื่อง จึงต้องได้รับความร่วมมือ จากผู้ปกครอง ลงชื่อ.................................................. ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกัญญารัตร์ มุกสิพันธ์) (นางอ่อนนุช นุ่นอ่อน) ผู้รายงาน ผู้ช่วยหัวหน้าระดับปฐมวัยฝ่ายวิชาการ


งานวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 1. ชื่องานวิจัย การแก้ปัญหาเด็กจ าตัวเลขไม่ได้และไม่รู้ค่าของจ านวน 1 – 10 โดยใช้แบบฝึกหัดภาพและตัวเลข 2. ชื่อผู้วิจัย นางกัญญาพัชร พุ่มเปี่ยม วิชาบูรณาการ ชั้นปฐมวัยปีที่ 3/1 3. ความส าคัญและที่มา เด็กปฐมวัยเป็นวัยเริ่มต้นแห่งการเรียนรู้มีความอยากรู้อยากเห็นช่างสังเกตชอบเล่นและส ารวจสิ่งต่างๆรอบตัว คณิตศาสตร์สามารถพัฒนาเสริมสร้างให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจมีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และมีเจตคติที่ดีต่อ คณิตศาสตร์ซึ่งผลต่อศาสตร์อื่นๆ คณิตศาสตร์มีบทบาทส าคัญทั้งในการเรียนรู้และประโยชน์ต่อการด าเนินชีวิต จากการสังเกตกิจกรรมการเรียนการสอนระดับชั้นอนุบาล 3 เด็กส่วนใหญ่ในชั้นเรียนสนใจเข้าร่วมกิจกรรม และ ท างานตามที่ครูก าหนดให้ได้ส่วนพัฒนาการทางด้านคณิตศาสตร์มีเด็กบางคนบอกค่าของจ านวน 1 –10 ไม่ได้ จึงท าให้ เด็กไม่สามารถท าแบบฝึกหัดได้เช่ดน เติมจ านวนที่ขาดหายไปไม่ได้บอกค่าของจ านวนที่น้อยกว่า และมากกว่าไม่ได้ แทน ค่าจ านวนด้วยตัวเลขไม่ได้ วาดภาพตามจ านวนที่ก าหนดให้ไม่ได้บวกและลบเลขอย่างง่ายไม่ได้ 4. จุดมุ่งหมายในการวิจัย 1.เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหากระบวนการคิด 2.เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 3.เพื่อให้เด็กรู้จ านวนและบอกค่าของจ านวน 1 – 10 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.เด็กมีทักษะการแก้ปัญหากระบวนการคิด 2.เด็กมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 3.เด็กรู้จ านวนและบอกค่าของจ านวน 1 – 10 6. เครื่องมือการวิจัย - แบบฝึกหัดภาพและตัวเลข 7. วิธีด าเนินการวิจัย 1.เก็บรวบรวมข้อมูล/ศึกษาสภาพปัญหา/วางแผน จากการศึกษาข้อมูลของ เด็กชายทินภัทร สมบรูณ์ จ าตัวเลข 1-10 และบอกค่าตัวเลขไม่ได้ จึงท าให้เด็กไม่สามารถบอกค่าของตัวเลขที่ใช้ในชีวิตประจ าวันได้ ดังนั้นครูจึงใช้ แบบฝึกหัดภาพให้เด็กได้ฝึกท าในช่วงเช้าสัปดาห์ละ 3 วัน เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ระว่างวันที่ 7 – 31 สิงหาคม 2566 2.เครื่องมือที่ใช้ 2.1 เครื่องมือที่ใช้ในการแก้ปัญหา สัปดาห์ที่ 1 ชุดที่ 1 แบบบันทึกผลการฝึกนับจ านวนทีละตัว 1 – 10 ฝ่ายวิชาการ


สัปดาห์ที่ 2 ชุดที่ 2 แบบบันทึกผลการฝึกถามตอบตัวเลขทีละตัว โดยใช้ชุดฝึกการถามและตอบ ตัวเลข สัปดาห์ที่ 3 ชุดที 3 ท าแบบฝึกหัดจากชุดฝึกที่ครูจัดท าขึ้น สัปดาห์ที่ 4 ชุดที่ 4 แบบฝึกหัดการหาค่าของจ านวนมากกว่าและน้อยกว่า จากข้อ 1 – 4 ท าการฝึกเด็กในแต่ละข้อจนเด็กปฏิบัติได้ช านาญก่อนจึงเริ่มฝึกในข้อถัดไป 2.2 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบบฝึกหัดภาพและตัวเลข 3.เก็บรวบรวมข้อมูลและสรุปผลการวิจัย 8. ผลการวิจัย จากการวิจัยนักเรียนชั้นปฐมวัยปีที่ 3/1 เด็กชายทินภัทร สมบรูณ์ ผลการวิจัยพบว่าการท าแบบฝึกหัดภาพและ ตัวเลข ท าให้นักเรียนรู้จ านวนและบอกค่าของจ านวน 1 – 10 ได้ 9. สรุปผลการวิจัย จากการสังเกตกิจกรรมการเรียนการสอนระดับชั้นอนุบาล 3/1 เด็กชายทินภัทร สมบรูณ์ จ าตัวเลข 1-10 บอกค่า ตัวเลขไม่ได้ เมื่อใช้แบบฝึกหัดภาพและตัวเลข นักเรียนสามารถบอกตัวเลขและรู้ค่าของตัวเลขได้มากขึ้น 9. ข้อเสนอแนะจากการวิจัย - ในการท าแบบฝึกหัดภาพและตัวเลขต้องมีการฝึกหัดบ่อยๆอาจใช้สิ่งของที่อยู่รอบตัวหรือที่ใช้ในชีวิตประจ าวัน ลงชื่อ............................................ผู้รายงาน ลงชื่อ....................................ฝ่ายวิชาการระดับปฐมวัย ( นางกัญญาพัชร พุ่มเปี่ยม ) ( นางอ่อนนุช นุ่นอ่อน )


แบบบันทึกผลการวิจัย ชุดที่ 1 แบบบันทึกผลการฝึกนับจ านวนทีละตัว 1 – 10 จ านวนวัน วิธีการฝึกปฏิบัติ ผลการฝึกปฏิบัติ สัปดาห์ที่ 1 1-4 ส.ค 2566 ( 3 วัน ) - ฝึกนับจ านวน 1– 10 โดยใช้บัตรตัวเลข 1–10 ชี้บอกตัวเลขทีละตัวแล้วเด็กชี้ตามพร้อมกับ อ่านตัวเลขทีละตัว - ฝึกนับโดยเด็กชี้บอกตัวเลขทีละตัว 1 – 10 ด้วยตนเอง เด็กสามารถชี้ตัวเลขและอ่านตามทีละตัว ได้ ชุดที่ 2 แบบบันทึกผลการฝึกถามตอบตัวเลขทีละตัว จ านวนวัน ครั้งที่ ตัวเลขที่จับคู่กับภาพได้ถูกต้อง ข้อสังเกต สัปดาห์ที่ 2 7-11 ส.ค 2566 ( 3 วัน ) 1 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 8 , 10 1. เด็กจะจ าตัวเลข 6 กับเลข 9 สลับกัน ใน ครั้งที่ 4 จึงบอกได้ถูกต้อง 2. ในการเริ่มถามตอบตัวเลขทีละตัวในแต่ ละครั้งให้เด็กฝึกชี้บอกตัวเลข 1 – 10 ก่อน เพื่อให้เด็กได้ฝึกจ าตัวเลขแต่ละตัว 2 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6, 8 , 9, 10 3 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6, 7, 8 , 9, 10 ชุดที่ 3 แบบฝึกหัดการวาดภาพตามจ านวนที่ก าหนดให้ จ านวนวัน การฝึกปฏิบัติ ผลการปฏิบัติ สัปดาห์ที่ 3 14-18 ส.ค 2566 ( 3 วัน ) ให้เด็กวาดภาพอะไรก็ได้ตามจินตนาการตาม จ านวนที่ก าหนดให้1 – 10 โดยสลับตัวเลขไม่ เรียงจาก 1 – 10 เด็กสามารถวาดภาพตามจ านวนที่ก าหนดให้ได้ เพราะจ าตัวเลข 1 – 10 ได้แล้ว และรู้ค่าของ จ านวน 1 – 10 แล้ว ชุดที่ 4 แบบฝึกหัดการหาค่าของจ านวนมากกว่าและน้อยกว่า จ านวนวัน วิธีการฝึกปฏิบัติ ผลการฝึกปฏิบัติ สัปดาห์ที่ 4 21-25 ส.ค 2566 ( 3 วัน ) เด็กเปรียบเทียบจ านวนภาพ และบอก จ านวนภาพที่มากกว่าหรือน้อยกว่า เด็กสามารถบอกได้โดยการนับภาพทีละภาพ เปรียบเทียบกัน และบอกได้ว่ามากกว่าหรือน้อย กว่า


เอกสารอ้างอิง ชุดการฝึกการนับเลข 1 2 3 4 5 6 7 8 10 9


แบบฝึกหัดการเขียนตามแบบตัวเลข ค าสั่ง ให้เด็กเขียนตามแบบตัวเลขที่ก าหนดให้ 1 ……. ……. ……. ……. ……. 2 ……. ……. ……. ……. ……. 3 ……. ……. ……. ……. ……. 4 ……. ……. ……. ……. ……. 5 ……. ……. ……. ……. ……. 6 ……. ……. ……. ……. ……. 7 ……. ……. ……. ……. ……. 8 ……. ……. ……. ……. ……. 9 ……. ……. ……. ……. ……. 10 ……. ……. ……. ……. …….


แบบฝึกหัดการจับคู่ภาพกับจ านวนที่เท่ากัน ค าสั่ง ให้เด็กจับคู่ภาพกับจ านวนที่เท่ากัน 1 2 3 4 5


แบบฝึกหัดการจับคู่ภาพกับจ านวนที่เท่ากัน ค าสั่ง ให้เด็กจับคู่ภาพกับจ านวนที่เท่ากัน แ 6 7 8 9 10


แบบฝึกหัดการหาค่าจ านวนมากกว่า หรือ น้อยกว่า แบบใช้ภาพ ค าสั่ง ให้เด็กท าเครื่องหมาย ( × ) ทับภาพที่มีจ านวนมากกว่า และ ( / ) ภาพที่มีจ านวนน้อยกว่า 1. 2. 3. 4. 5.


แบบฝึกหัดการหาค่าจ านวนมากกว่า หรือ น้อยกว่า แบบใช้ตัวเลข ค าสั่ง ให้เด็กท าเครื่องหมาย ( × ) ทับภาพที่มีจ านวนมากกว่า และ ( / ) ภาพที่มีจ านวนน้อยกว่า 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 1 2 3 4 6 7 4 6 8 3 7 4 5 6 4 2


แบบฝึกหัดการเติมตัวเลขที่ขาดหายไป ค าสั่ง ให้เด็กเติมตัวเลขที่ขาดหายไปให้ถูกต้อง 1 ……… 3 ……… 4 ……… 6 7 ……… 9 ……… ……… 2 3 ……… 5 ……… 7 8 ……… 10 1 ……… ……… 4 ……… 6 ……… ……… 9 ………


แบบฝึกหัดการแทนค่าตัวเลขด้วยรูปวาด ให้เด็ก ๆ แทนค่าตัวเลข 1 – 10 ด้วยรูป หัวใจ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 = = = = = = = = = =


แบบฝึกหัดการบวกและลบเลขอย่างง่าย ค าสั่ง ให้เด็กเติมตัวเลขที่ขาดหายไปให้ถูกต้อง 1 + 2 = 1 + 3 = 1 + 2 = 2 + 2 = 3 + 2 = 4 + 2 = 3 + 3 = 5 + 3 = 4 + 3 = 4 + 4 = 4 + 5 = 5 + 5 = 5 - 4 = 4 - 2 = 6 - 5 = 8 - 2 = 9 - 1 = 5 - 2 =


เพลง “ แม่ไก่ ออกไข่ วันละฟอง ” แม่ ไก่ ออกไข่ วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง แม่ไก่ออกไข่ทุกวัน หนึ่งวันได้ไข่ หนึ่งฟอง แม่ ไก่ ออกไข่ วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง แม่ไก่ออกไข่ทุกวัน สองวันได้ไข่ สองฟอง แม่ ไก่ ออกไข่ วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง แม่ไก่ออกไข่ทุกวัน สามวันได้ไข่ สามฟอง แม่ ไก่ ออกไข่ วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง แม่ไก่ออกไข่ทุกวัน สี่วันได้ไข่ สี่ฟอง แม่ ไก่ ออกไข่ วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง แม่ไก่ออกไข่ทุกวัน ห้าวันได้ไข่ ห้าฟอง แม่ ไก่ ออกไข่ วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง แม่ไก่ออกไข่ทุกวัน หกวันได้ไข่ หกฟอง แม่ ไก่ ออกไข่ วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง แม่ไก่ออกไข่ทุกวัน เจ็ดวันได้ไข่ เจ็ดฟอง แม่ ไก่ ออกไข่ วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง แม่ไก่ออกไข่ทุกวัน แปดวันได้ไข่ แปดฟอง แม่ ไก่ ออกไข่ วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง แม่ไก่ออกไข่ทุกวัน เก้าวันได้ไข่ เก้าฟอง แม่ ไก่ ออกไข่ วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง แม่ไก่ออกไข่ทุกวัน สิบวันได้ไข่ สิบฟอง


นักเรียนชั้นปฐมวัยปีที่3/1 เด็กชายทินภัทร สมบรูณ์ เ เด็กทดสอบท าแบบฝึกหัดการรู้ค่า 1-10


งานวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 1. ชื่องานวิจัย การแก้ปัญหาพฤติกรรมเด็กการรังแกเพื่อนโดยใช้นิทานคุณธรรม 2. ชื่อผู้วิจัย นางสาวภัทราวดี ช่วยเปรม วิชา บูรณาการ ชั้น ปฐมวัยปีที่ 3/3 3. ความส าคัญและที่มา จากการสังเกตพฤติกรรมของเด็กนักเรียนในห้องเรียน จากการเล่น และการท างานร่วมกัน พบว่าเด็กจ านวน 2 คน มีพฤติกรรมชอบรังแกเพื่อนอยู่เสมอ เวลาท ากิจกรรมหรือท างานเสร็จแล้วก็จะชอบไป แกล้งเพื่อนคนอื่นๆ เป็นประจ า ทั้งนี้ได้พยายามปรับพฤติกรรม อธิบายหลายครั้ง แต่เด็กก็ยังมีพฤติกรรมรังแก เพื่อนอยู่ ท าให้เด็กหลาย ๆ คนไม่อยากเล่นด้วยและไม่อยากท างานด้วย จึงท าให้เกิดปัญหาในห้องเรียน 4. จุดมุ่งหมายในการวิจัย 1. เพื่อแก้ปัญหาพฤติกรรมการรังแกเพื่อนโดยใช้นิทานคุณธรรม 2. เพื่อให้เด็กสามารถอยู่ร่วมกับเพื่อน และด าเนินกิจวัตรประจ าวันได้อย่างมีความสุข 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. เด็กมีพฤติกรรมไม่การรังแกเพื่อนที่ดีขึ้น 2. เด็กสามารถอยู่ร่วมกับเพื่อน และด าเนินกิจวัตรประจ าวันได้อย่างมีความสุข 6. เครื่องมือการวิจัย - แบบประเมินการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมการรังแกเพื่อนโดยใช้นิทานคุณธรรม 7 . วิธีด าเนินการวิจัย 1. เก็บรวบรวมข้อมูล/ศึกษาสภาพปัญหา/วางแผน จากการศึกษาข้อมูลจากผู้ปกครองของเด็กชายจิรายุ เอื้อจิรกาล และเด็กชายทีวายุ ยาวงษ์ ซึ่งถูกตามใจมาตลอด เมื่อมาอยู่ร่วมกับเพื่อนที่โรงเรียน ไม่สามารถปรับตัว เข้ากับเพื่อนๆได้เพราะเพื่อนๆไม่ให้เล่นของเล่นตามที่ต้องการ จึงท าให้เกิดปัญหากลายเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมชอบ รังแกเพื่อน ดังนั้นครูได้ใช้นิทานคุณธรรมมาเล่าให้เด็กๆฟัง ในช่วงเช้าสัปดาห์ละ 3 วันเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 7 – 25 สิงหาคม 2566 2. เครื่องมือที่ใช้ 2.1 เครื่องมือในการแก้ปัญหา/แนวทางแก้ปัญหา นิทานคุณธรรม เรื่อง - นิทานเรื่องหมีเกเร - นิทานเรื่องชางเกเร - นิทานเรื่องปลาหมึกแสนเศร้า - จุ๊กจิ๊กจอมเกเร - หมีใหญ่จอมเกเร - กระต่ายน้อยจอมเกเร - ฟักทองจอมเกเร - เด็กเกเรกับแม่มด - เจ้าเสือจอมแกล้ง 2.2 เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบบสังเกตพฤติกรรม 3. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล รวบรวมแบบสังเกตพฤติกรรมเด็กก่อนเล่านิทานคุณธรรม และสังเกต พฤติกรรมหลังการเล่านิทาน ฝ่ายวิชาการ


8. ผลการวิจัย จากการวิจัยนักเรียนชั้นปฐมวัยปีที่ 3/3 จ านวน 2 คน ได้แก่ เด็กชายจิรายุ เอื้อจิรกาล เด็กชายที วายุ ยาวงษ์ ผลการวิจัยพบว่า นิทานคุณธรรมสามารถปรับพฤติกรรมการรังแกเพื่อนได้โดยนักเรียนมีพฤติกรรม การรังแกเพื่อนลดลง ซึ่งเนื่องมาจากเนื้อหาในนิทานทั้ง 9 เรื่อง 9. สรุปผลการวิจัย จากการสังเกตพฤติกรรมเด็กเกี่ยวกับพฤติกรรมการรังแกเพื่อน ในชั้นปฐมวัยปีที่ 3/3 ของ เด็กจ านวน 2 คน ที่มีพฤติกรรมชอบรังแกเพื่อน เมื่อฟังนิทานคุณธรรมเด็กจะค่อยๆปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การรังแกเพื่อนลดลงไป เรื่อยๆ และมีเพื่อนๆยอมเล่นด้วย 10. ข้อเสนอแนะจากการวิจัย - ควรให้ผูส้ปกครองมีส่วนร่วมในการเล่านิทานสอดแทรกคุณธรรมให้ลูกฟังที่บ้าน - ในกรณีบันทึกผลลงแบบสังเกตพฤติกรรมหลังการเล่านิทานคุณธรรมพบว่าเด็กมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น อาจใช้แรงเสริมโดยครูคอยใหค าชม เพื่อการแก้ปัญหาในระยะเวลาที่เร็วยิ่งขึ้น ลงชื่อ................................................ผู้รายงาน ลงชื่อ............................................ ( นางสาวภัทราวดี ช่วยเปรม) (นางอ่อนนุช นุ่นอ่อน) หัวหน้าระดับวิชาการป มวัย


ภาคผนวก


แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเด็กการรังแกเพื่อนโดยใช้นิทานคุณธรรม เด็กชายจิรายุ เอื้อจิรกาล ระดับชั้นป มวัยปีที่ 3/3 โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ สัปดาห์ที่ 1-3 วัน /เดือน /ปี พฤติกรรม ผลการสังเกต 3 2 1 7-11 ส.ค 2566 เล่านิทานเรื่อง “หมีเกเร” เล่านิทานเรื่อง “ช้างเกเร” เล่านิทานเรื่อง “ปลาหมึกแสนเศร้า” 15-18 ส.ค 2566 เล่านิทานเรื่อง “จุ๊กจิ๊กจอมเกเร” เล่านิทานเรื่อง “หมีใหญ่จอมเกเร” เล่านิทานเรื่อง “กระต่ายน้อยจอมเกเร” 21-25 ส.ค 2566 เล่านิทานเรื่อง “ฟักทองจอมเกเร” เล่านิทานเรื่อง “เด็กเกเรกับแม่มด” เล่านิทานเรื่อง “เจ้าเสือจอมเกเร” เกณฑ์การประเมิน ท าได้ดีมาก คะแนน ระดับ 3 ท าได้ดี คะแนน ระดับ 2 ท าได้พอใช้ คะแนน ระดับ 1


แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมเด็กการรังแกเพื่อนโดยใช้นิทานคุณธรรม เด็กชายทีวายุ ยาวงษ์ ระดับชั้นป มวัยปีที่ 3/3 โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ สัปดาห์ที่ 1-3 วัน /เดือน /ปี พฤติกรรม ผลการสังเกต 3 2 1 7-11 ส.ค 2566 เล่านิทานเรื่อง “หมีเกเร” เล่านิทานเรื่อง “ช้างเกเร” เล่านิทานเรื่อง “ปลาหมึกแสนเศร้า” 15-18 ส.ค 2566 เล่านิทานเรื่อง “จุ๊กจิ๊กจอมเกเร” เล่านิทานเรื่อง “หมีใหญ่จอมเกเร” เล่านิทานเรื่อง “กระต่ายน้อยจอมเกเร” 21-25 ส.ค 2566 เล่านิทานเรื่อง “ฟักทองจอมเกเร” เล่านิทานเรื่อง “เด็กเกเรกับแม่มด” เล่านิทานเรื่อง “เจ้าเสือจอมเกเร” เกณฑ์การประเมิน ท าได้ดีมาก คะแนน ระดับ 3 ท าได้ดี คะแนน ระดับ 2 ท าได้พอใช้ คะแนน ระดับ 1


นิทานคุณธรรม


ผลจากการวิจัยเด็กที่มีพฤติกรรมการรังแกเพื่อนโดยใช้นิทานคุณธรรม


งานวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 1. ชื่องานวิจัย การพัฒนาเด็กสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ 2. ชื่อผู้วิจัย นางสาวนิญาชล ศรีสุพัฒนะกุล วิชา บูรณาการ ชั้น ปฐมวัยปีที่ 2/4 3. ความส าคัญและที่มา เด็กจะเป็นนักเรียนไม่ค่อยนิ่งในขณะปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ต้องให้นั่งใกล้ๆครูเพื่อคอยกระตุ้นในการฟัง การ พูด และการตอบค าถาม ลักษณะการพูด การตอบค าถามของนักเรียนจะพูดทวนค าถามก่อนจึงจะตอบ และไม่นิ่ง ในขณะร่วมกิจกรรมการระบายสีภาพต่างๆ จะขีดเขียน แค่สอง สาม ครั้งแล้วจะเลิก ไม่ท าต่อ และ เปลี่ยนไปท า กิจกรรมอื่นอย่างไม่หยุดนิ่ง ถึงแม้จะเป็นกิจกรรมที่หน้าสนใจ เช่น ฟังนิทาน ฯลฯ ครูประจ าชั้นจึงมีความสนใจจะ ศึกษานักเรียนทั้ง 1 คน เพื่อน ากิจกรรมสร้างสรรค์มาฝึกปฏิบัติ เพื่อปรับพฤติกรรมในการพัฒนาความสามารถของ นักเรียน ที่มีสมาธิสั้น ให้ปรับพฤติกรรมในขั้นพื้นฐานได้เหมาะสมกับวัย 4. จุดมุ่งหมายในการวิจัย 1. เพื่อพัฒนาความสามารถของ ด.ช.ชนกันต์ เชื้อรอด ที่มีสมาธิสั้นให้มีการพัฒนาได้เหมาะสมกับวัย 2. เพื่อการฝึกสมาธิให้กับนักเรียนที่มีสมาธิสั้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ - ผลจากการวิจัยครั้งนี้จะเป็นแนวทางส าหรับครูที่จะจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในวัย 4 – 5 ปีให้ได้ผลตาม จุดประสงค์ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในห้องเรียน และน าผลมาใช้ในการปรับปรุง หรือพัฒนาการเรียน การสอนให้ นักเรียนเกิดการพัฒนา และเกิดประสิทธิภาพส าหรับนักเรียนปฐมวัย 6. วิธีด าเนินการวิจัย ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ ด.ช.ชนกันต์ เชื้อรอด อายุ 4 ปี 6 เดือน เดือนอยู่ในระดับชั้นอนุบาล 2/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โดยมีวิธีด าเนินงานด้วยการวิจัยดังนี้ ที่ วัน/เดือน/ปี กิจกรรม หมายเหตุ 1 2 3 5/พ.ย./2566 12/พ.ย./2566 19/พ.ย./2566 26/พ.ย./2566 3/ธ.ค./2566 9/ธ.ค./2566 17/ธ.ค./2566 24/ธ.ค./2566 7/ม.ค./2567 14/ม.ค./2567 21/ม.ค./2567 28/ม.ค./2567 วาดภาพตามจินตนาการ ระบายสีภาพ ฉีก – ปะภาพ ปั้นดินน้ ามัน วาดภาพตามจินตนาการ ระบายสีภาพ ฉีก – ปะภาพ ปั้นดินน้ ามัน วาดภาพตามจินตนาการ ระบายสีภาพ ฉีก – ปะภาพ ปั้นดินน้ ามัน ปฏิบัติตามกิจกรรมทุก วันพุธของสัปดาห์ วันที่ ปฏิบัติกิจกรรมตรงกับ วันหยุดจะเลื่อนปฏิบัติ ในวันอังคารของ สัปดาห์ ฝ่ายวิชาการ


ตารางการวัดประเมินการพัฒนาการสร้างสรรค์ผลงาน รายการกิจกรรมสร้างสรรค์ วันที่ 6 – 11 มิถุนายน 2565 ก่อน หลัง เกณฑ์ระดับ เกณฑ์ระดับ 3 2 1 3 2 1 ครั้งที่ 1 วาดภาพตามจินตนาการ √ √ ระบายสีภาพบ้าน √ √ ฉีก – ปะภาพ √ √ ปั้นดินน้ ามันอิสระ √ √ ครั้งที่ 2 ระบายสีภาพสัตว์ชนิดต่าง ๆ √ √ วาดภาพสัตว์ชนิดต่าง ๆ √ √ วาดภาพต่อเติมจากรูปทรงต่าง ๆ √ √ ปั้นดินน้ ามันสัตว์ชนิดต่าง ๆ √ √ ครั้งที่ 3 วาดภาพต้นไม้ตามจินตนาการ √ √ ระบายสีภาพต้นไม้ √ √ ฉีก – ปะภาพภาพต้นไม้ √ √ ปั้นดินน้ ามันต้นไม้ √ √ รวม 0 1 11 4 8 0 ร้อยละ 0 8.33 91.66 33.33 66.66 0 7. ผลการวิจัย จากแบบบันทึกการพัฒนาสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาผู้เรียนภายหลังจากการท ากิจกรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผู้เรียนแล้ว ผู้เรียนมีระดับคะแนะสูงขึ้นตามล าดับ ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐาน 8. สรุปผลการวิจัย การพัฒนาสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาผู้เรียนภายหลังจากการท ากิจกรรม เพื่อส่งเสริมการ พัฒนาผู้เรียนแล้ว ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ท าให้ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น 9. ข้อเสนอแนะจากการวิจัย 1. ทดลองให้นักเรียนท ากิจกรรมสร้างสรรค์อย่างอิสระ 2. ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างสม่ าเสมอ ลงชื่อ..................................................ผู้รายงาน ลงชื่อ..................................................ผู้ช่วยฝ่ายวิชาการระดับปฐมวัย (...............................................) (………………………………………….)


งานวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 1. ชื่องานวิจัย การพัฒนาและแก้ปัญหาทักษะการใช้เมาส์ โดยใช้โปรแกรม CAI Disney Pooh ของนักเรียนชั้น อนุบาล1/2 จ านวน 1 คน 2. ชื่อผู้วิจัย นางสาวกิตติยา แซ่เฮง วิชา คอมพิวเตอร์ชั้น ปฐมวัย 3. ความส าคัญและที่มา คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือทางเทคโนโลยีชนิดหนึ่งที่ใช้กับเด็กได้ทุกวัยมีการน าคอมพิวเตอร์มาใช้ กับเด็ก ปฐมวัยในรูปแบบต่างๆทั้งเพื่อเป็นการฝึกทักษะให้กับเด็ก เช่น การสร้างสัมพันธภาพการเรียนรู้ ทางพุทธิปัญญา การ คิดเลข และใช้เพื่อการฝึกความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้คอมพิวเตอร์ยังช่วยในการ ใช้สายตา และมือให้สัมพันธ์กัน เมื่อเด็กใช้แล้วเด็กยังได้พัฒนาทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ด้วย จุดประสงค์ของการใช้คอมพิวเตอร์ในเด็กปฐมวัยมุ่งฝึก เด็กให้ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ และพัฒนา ความคิดและทักษะต่างๆ จากการจัดการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ เด็กชั้นอนุบาล 1/2 จ านวน 1 คน พบว่า ยังไม่สามารถ ควบคุมเมาส์ไปในทิศทางที่ก าหนดได้ ทั้งนี้ เนื่องจากมีการฝึกฝนน้อย และขาดความมั่นใจในการใช้เมาส์ ผู้วิจัยจึง สนใจศึกษาวิธีการพัฒนาทักษะการใช้เมาส์ของเด็กโดยใช้โปรแกรม CAI Disney Pooh เพื่อพัฒนาทักษะการใช้เมาส์ และพัฒนาการใช้กล้ามเนื้อมือของเด็กให้แข็งแรงและเหมาะสมตามวัย 4. จุดมุ่งหมายในการวิจัย 1. เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานของการใช้งานคอมพิวเตอร์ 2. เพื่อส่งเสริมการใช้กล้ามเนื้อเล็กได้คล่องแคล่ว 3. เพื่อศึกษาผลในการพัฒนาทักษะการใช้เมาส์ของเด็กปฐมวัยโดยการใช้โปรแกรม CAI Disney Pooh 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. เด็กชั้นอนุบาล 1/2 จ านวน 1 คนได้รับการพัฒนาทักษะการใช้เมาส์ สามารถใช้เมาส์ได้คล่องแคล่วขึ้น 2. เด็กเกิดทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้คอมพิวเตอร์มีความมั่นใจในการท ากิจกรรมมากขึ้น 3. เพื่อเป็นแนวทางส าหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยที่จะส่งเสริมทักษะพื้นฐานคอมพิวเตอร์ 6. วิธีด าเนินการวิจัย 1. ครูสังเกตพฤติกรรมของเด็กชั้นอนุบาล 1/2 ในเรื่องทักษะการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ 2. ครูเตรียมการสอนการใช้โปรแกรม CAI Disney Pooh ฝึกทักษะการใช้เมาส์เพื่อให้เด็กท าการฝึกและ บันทึกคะแนนในแต่ละครั้งของการฝึก 3. ครูให้เด็กท าการฝึกปฏิบัติแต่ละครั้ง ๆ ละ20 นาทีโดยเริ่มฝึกปฏิบัติ ตั้งแต่ วันที่ 6 พ.ย.-1 ธ.ค.2566รวม ระยะเวลา 4 สัปดาห์ ครูจะท าการบันทึกผลการฝึกเมาส์ของโดยโดยการใช้การใช้โปรแกรม CAI Disney Pooh ฝ่ายวิชาการ


การเปรียบเทียบคะแนนการใช้เมาส์ของนักเรียนชั้นอนุบาล 1/2 ตารางที่ 1 เปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการใช้เมาส์ของนักเรียนชั้นอนุบาล 1/2 สัปดาห์ที่ 1 วันที่ 6 – 10 พฤศจิกายน 2566 หัวข้อในการฝึกปฏิบัติ ท าได้ ท าไม่ได้ 1. เลือกภาพพื้นหลังตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ 2. เลือกองค์ประกอบในภาพตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ 3. เลือกแถบเครื่องในการระบายสีและเลือกระบายสี ตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ สรุปผลการปฏิบัติ - 3 สรุปผลการปฏิบัติ ท าได้ 0 ท าไม่ได้ 3 ความก้าวหน้า 0 ตารางที่ 1 เปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการใช้เมาส์ของนักเรียนชั้นอนุบาล 1/2 สัปดาห์ที่ 2 วันที่ 13 – 17 พฤศจิกายน 2566 หัวข้อในการฝึกปฏิบัติ ท าได้ ท าไม่ได้ 1. เลือกภาพพื้นหลังตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ 2. เลือกองค์ประกอบในภาพตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ 3. เลือกแถบเครื่องในการระบายสีและเลือกระบายสี ตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ สรุปผลการปฏิบัติ 1 2 สรุปผลการปฏิบัติ ท าได้ 1 ท าไม่ได้ 2 ความก้าวหน้า 1


ตารางที่ 1 เปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการใช้เมาส์ของนักเรียนชั้นอนุบาล 1/2 สัปดาห์ที่ 3 วันที่ 20 – 24 พฤศจิกายน 2566 หัวข้อในการฝึกปฏิบัติ ท าได้ ท าไม่ได้ 1. เลือกภาพพื้นหลังตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ 2. เลือกองค์ประกอบในภาพตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ 3. เลือกแถบเครื่องในการระบายสีและเลือกระบายสี ตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ สรุปผลการปฏิบัติ 2 1 สรุปผลการปฏิบัติ ท าได้ 2 ท าไม่ได้ 1 ความก้าวหน้า 2 ตารางที่ 1 เปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการใช้เมาส์ของนักเรียนชั้นอนุบาล 1/2 สัปดาห์ที่ 4 วันที่ 27 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2566 หัวข้อในการฝึกปฏิบัติ ท าได้ ท าไม่ได้ 1. เลือกภาพพื้นหลังตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ 2. เลือกองค์ประกอบในภาพตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ 3. เลือกแถบเครื่องในการระบายสีและเลือกระบายสี ตามที่ครูก าหนดได้ถูกต้อง √ สรุปผลการปฏิบัติ 3 - สรุปผลการปฏิบัติ ท าได้ 3 ท าไม่ได้ 0 ความก้าวหน้า 3 7. ผลการวิจัย นักเรียนที่ถูกคัดเลือกจากการฝึกคลิกเมาส์โดยการบันทึกคะแนนการใช้เมาส์ต่ าสุด 1 คนเมื่อได้รับการ แก้ปัญหาโดยน าการใช้โปรแกรม CAI Disney Pooh เข้ามาช่วยในการฝึกการควบคุมเมาส์จากการเปรียบเทียบผล การปฏิบัติในแต่ละสัปดาห์พบว่ามีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นตามล าดับทั้งนี้จึงเห็นได้ว่า มีการพัฒนาการใช้เมาส์ที่ดีขึ้น ทักษะการควบคุมเมาส์ของนักเรียน มีการพัฒนาทักษะเพิ่มขึ้น และนักเรียนจะรู้สึกสนุกกับการฝึกในแต่ละครั้ง


8. สรุปผลการวิจัย จากการวิจัยปรากฏว่านักเรียนมีความพยายามและสามารถควบคุมเมาส์ได้ดีขึ้น และมีความมั่นใจในการ ปฏิบัติงานวิชาคอมพิวเตอร์มากขึ้น มีการพัฒนาการใช้เมาส์ที่ดีขึ้นซึ่งวัดได้จากเกณฑ์การท าคะแนนโดยใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์CAI Disney Pooh ฝึกการใช้เมาส์ 9. ข้อเสนอแนะจากการวิจัย การได้น าปัญหาการใช้เมาส์ควบคุมเมาส์ไม่ค่อยได้ของนักเรียนชั้นอนุบาล 1/2 มาคิดวิเคราะห์ในครั้งนี้ เป็นประโยชน์กับผู้วิจัยและนักเรียนที่เกิดปัญหาเป็นอย่างมากและผู้วิจัยพบว่าเมื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเรียน ของนักเรียนได้ตรงจุด จะท าให้ผู้เรียนมีพัฒนาการทางด้านการเรียนในวิชานั้น ๆ ได้ดีขึ้น เท่ากับเป็นการ ส่งเสริม สนับสนุน ช่วยเหลือให้ผู้เรียนมีการพัฒนาพัฒนาการในการใช้กล้ามเนื้อมือของนักเรียนให้แข็งแรง และเหมาะสมตามวัย ลงชื่อ..................................................ผู้รายงาน ลงชื่อ..................................................ผู้ช่วยฝ่ายวิชาการระดับปฐมวัย (นางสาวกิตติยา แซ่เฮง) (นางอ่อนนุช นุ่นอ่อน)


ภาคผนวก


โปรแกรม CAI Disney Pooh นักเรียนสามารถเลือกภาพพื้นหลัง สัตว์ต่างๆ และเมนูสีด้านล่างซึ่งมีสีให้เด็กๆ เลือกหลากหลาย


Click to View FlipBook Version