การงานอาชีพ ม.๕ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน มนตรี สมไร่ขิง เพ็ญพร ประมวลสุข ปัญญา สังข์ภิรมย์ วรรณี วงศ์พานิชย์ ศิริรัตน์ ฉัตรศิขรินทร ดร.สถิตย์พงษ์ มั่นหลำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ÕÐ.- หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพ ม. ๕ flêÐúôĀÖ úèĀÖùĆüċòĄñè..................................................................................................................................................................................... ĎéêòÿÐĀèÓćâïāíùĆēüÐāòċòĄñèòĈśÑüÖùĘāèĀÐíăðíŞċüÐÙè úèĀÖùĆüċòĄñè òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄí ð Ġ ÙĀĔèðĀçñð÷ąÐøāêŒæĄē Ġ ÐôćŚðùāòÿÐāòċòĄñèòĈśÐāòÖāèüāÙĄí ċôŚðèĄĔ ×ĀãíăðíŞčãñ éòăøĀæ üĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞ ü׿ ×ĘāÐĀã ùĘāúòĀéĎÙśêòÿÐüéÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäòČÐèÐôāÖÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāè íćæç÷ĀÐòāÙ ĝĠĠĜčãñðĄčÓòÖùòśāÖċèĆĔüúāäāðæĄēéòăøĀæÐĘāúèãČôÿðĄëĈśċòĄñéċòĄñÖëĈśäòö× ČôÿéòòâāçăÐāò ãĀÖèĄĔ ëĈśċòĄñéċòĄñÖ Ĝ èāñðèäòĄùðďòŚÑăÖ ĝ ë÷ċíĒÜíò êòÿðöôùćÑ Ğ èāñêŠÜÜā ùĀÖÑŞïăòðñŞ ğ èāÖöòò⥠öÖ÷ŞíāèăÙñŞ Ġ èāÖ÷ăòăòĀäèŞØĀäò÷ăÑòăèæò ġ ãòùåăäñŞíÖøŞðĀēèúôĘā ëĈśäòö× Ĝ ò÷×üðÑöĀÜ ùćöòòâòĀÐøŞ ĝ ë÷ ãòċéÜÜā ðÿčèÙĀñ Ğ èāÖùāöÐćúôāé ôā÷èĀèæŞ éòòâāçăÐāò èāñùðċÐĄñòäă ïĈŚòÿúÖøŞ éòăøĀæÑüòĀéòüÖöŚā ÓâÿëĈśäòö×ČôÿéòòâāçăÐāòãĀÖÐôŚāö ċêŢèëĈśðĄÓćâùðéĀäăċêŢèďê äāðúôĀÐċÐâàŞČôÿċÖĆēüèďÑæĄēùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèÐĘāúèã ÚąēÖďãś æĘāúèśāæĄēäòö×íă×āòâāÓćâïāíČôÿéòòâāçăÐāòúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔĎúśðĄÓöāðåĈÐäśüÖČôÿðĄÓćâïāí ĎèÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäò úāÐúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔðĄÑśüéÐíòŚüÖéòăøĀæ×ÿêòĀéêòćÖČÐśďÑČôÿùŚÖúèĀÖùĆüæĄēêòĀéêòćÖČôśö Ďúśùåāè÷ąÐøā ĎèÐòâĄðĄċèĆĔüúāďðŚåĈÐäśüÖ ďðŚċúðāÿùð ðĄëôċùĄñäŚüÐāòċòĄñèòĈś ÐŚüĎúśċÐăã ëôċùĄñúāñäŚüÐāò÷ąÐøā Óćâçòòð ×òăñçòòð ČôÿÓöāððĀēèÓÖÑüÖÙāäă éòăøĀæñăèãĄĎúś ùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèåüãåüèòāñÙĆēüüüÐ×āÐéĀÜÙĄêòÿÐā÷ÐĘāúèã úèĀÖùĆüċòĄñè Čôÿíòśüð×ÿċòĄñÐċÐĒéúèĀÖùĆüæĄē×ĘāúèŚāñæĀĔÖúðã ČôÿÙãĎÙśÓŚāċùĄñúāñĎúśÐĀé ùåāè÷ąÐøā èāñÙĀñâòÖÓŞ ôăðêřÐăääăùăè ÐòòðÐāòëĈś×ĀãÐāòéòăøĀæüĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞü׿×ĘāÐĀã òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄíČôÿċæÓčèčôñĄ ðĠ คู่มือครู บร. วิทยาศาสตร์ ม.2 ล.1 300.- 8 858649 121349 สร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ระดับโลก ม.๕ คู่มือครู นร. การงานอาชีพ ม.5 300.- 8 858649 144294 เพ็ญพร ประมวลสุข ปัญญา สังข์ภิรมย์ ใช้ประกอบการสอนคู่กับหนังสือเรียน คู่มือครู อจท. เพิ่ม คำแนะนำการใช้ เพิ่ม คำอธิบายรายวิชา เพิ่ม Pedagogy เพิ่ม Teacher Guide Overview เพิ่ม Chapter Overview เพิ่ม ข้อสอบเน้นการคิด เพิ่ม กิจกรรม 21 Century Skills st ราคานี้เป็นของฉบับคู่มือครูเท่านั้น >> ราคาเล่มนักเรียนโปรดดูจากใบสั่งซื้อของ อจท. บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทร. 0 2622 2999 (อัตโนมัติ 20 คู่สาย) ID Line: @aksornkrumattayom www.aksorn.com อักษรเจริญทัศน์ อจท. ภาพปกนี้มีขนาดเท่ากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน ผู้เรียบเรียงคู่มือครู พรรณมณฑ์ นิลนฤนาท อัญชลี ฉายแสงจันทร์ แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน คู่มือครู ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹ ¡ÒçҹÍÒªÕ¾ Á. ๕ การงานอาชีพ ม.๕ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน มนตรี สมไร่ขิง เพ็ญพร ประมวลสุข ปัญญา สังข์ภิรมย์ วรรณี วงศ์พานิชย์ ศิริรัตน์ ฉัตรศิขรินทร ดร.สถิตย์พงษ์ มั่นหลำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ÕÐ.- หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน การงานอาชีพ ม. ๕ flêÐúôĀÖ úèĀÖùĆüċòĄñè..................................................................................................................................................................................... ĎéêòÿÐĀèÓćâïāíùĆēüÐāòċòĄñèòĈśÑüÖùĘāèĀÐíăðíŞċüÐÙè úèĀÖùĆüċòĄñè òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄí ð Ġ ÙĀĔèðĀçñð÷ąÐøāêŒæĄē Ġ ÐôćŚðùāòÿÐāòċòĄñèòĈśÐāòÖāèüāÙĄí ċôŚðèĄĔ ×ĀãíăðíŞčãñ éòăøĀæ üĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞ ü׿ ×ĘāÐĀã ùĘāúòĀéĎÙśêòÿÐüéÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäòČÐèÐôāÖÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāè íćæç÷ĀÐòāÙ ĝĠĠĜčãñðĄčÓòÖùòśāÖċèĆĔüúāäāðæĄēéòăøĀæÐĘāúèãČôÿðĄëĈśċòĄñéċòĄñÖëĈśäòö× ČôÿéòòâāçăÐāò ãĀÖèĄĔ ëĈśċòĄñéċòĄñÖ Ĝ èāñðèäòĄùðďòŚÑăÖ ĝ ë÷ċíĒÜíò êòÿðöôùćÑ Ğ èāñêŠÜÜā ùĀÖÑŞïăòðñŞ ğ èāÖöòò⥠öÖ÷ŞíāèăÙñŞ Ġ èāÖ÷ăòăòĀäèŞØĀäò÷ăÑòăèæò ġ ãòùåăäñŞíÖøŞðĀēèúôĘā ëĈśäòö× Ĝ ò÷×üðÑöĀÜ ùćöòòâòĀÐøŞ ĝ ë÷ ãòċéÜÜā ðÿčèÙĀñ Ğ èāÖùāöÐćúôāé ôā÷èĀèæŞ éòòâāçăÐāò èāñùðċÐĄñòäă ïĈŚòÿúÖøŞ éòăøĀæÑüòĀéòüÖöŚā ÓâÿëĈśäòö×ČôÿéòòâāçăÐāòãĀÖÐôŚāö ċêŢèëĈśðĄÓćâùðéĀäăċêŢèďê äāðúôĀÐċÐâàŞČôÿċÖĆēüèďÑæĄēùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèÐĘāúèã ÚąēÖďãś æĘāúèśāæĄēäòö×íă×āòâāÓćâïāíČôÿéòòâāçăÐāòúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔĎúśðĄÓöāðåĈÐäśüÖČôÿðĄÓćâïāí ĎèÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäò úāÐúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔðĄÑśüéÐíòŚüÖéòăøĀæ×ÿêòĀéêòćÖČÐśďÑČôÿùŚÖúèĀÖùĆüæĄēêòĀéêòćÖČôśö Ďúśùåāè÷ąÐøā ĎèÐòâĄðĄċèĆĔüúāďðŚåĈÐäśüÖ ďðŚċúðāÿùð ðĄëôċùĄñäŚüÐāòċòĄñèòĈś ÐŚüĎúśċÐăã ëôċùĄñúāñäŚüÐāò÷ąÐøā Óćâçòòð ×òăñçòòð ČôÿÓöāððĀēèÓÖÑüÖÙāäă éòăøĀæñăèãĄĎúś ùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèåüãåüèòāñÙĆēüüüÐ×āÐéĀÜÙĄêòÿÐā÷ÐĘāúèã úèĀÖùĆüċòĄñè Čôÿíòśüð×ÿċòĄñÐċÐĒéúèĀÖùĆüæĄē×ĘāúèŚāñæĀĔÖúðã ČôÿÙãĎÙśÓŚāċùĄñúāñĎúśÐĀé ùåāè÷ąÐøā èāñÙĀñâòÖÓŞ ôăðêřÐăääăùăè ÐòòðÐāòëĈś×ĀãÐāòéòăøĀæüĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞü׿×ĘāÐĀã òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄíČôÿċæÓčèčôñĄ ðĠ คู่มือครู บร. วิทยาศาสตร์ ม.2 ล.1 300.- 8 858649 121349 สร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ระดับโลก ม.๕ คู่มือครู นร. การงานอาชีพ ม.5 300.- 8 858649 144294 เพ็ญพร ประมวลสุข ปัญญา สังข์ภิรมย์ ใช้ประกอบการสอนคู่กับหนังสือเรียน คู่มือครู อจท. เพิ่ม คำแนะนำการใช้ เพิ่ม คำอธิบายรายวิชา เพิ่ม Pedagogy เพิ่ม Teacher Guide Overview เพิ่ม Chapter Overview เพิ่ม ข้อสอบเน้นการคิด เพิ่ม กิจกรรม 21 Century Skills st ราคานี้เป็นของฉบับคู่มือครูเท่านั้น >> ราคาเล่มนักเรียนโปรดดูจากใบสั่งซื้อของ อจท. บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทร. 0 2622 2999 (อัตโนมัติ 20 คู่สาย) ID Line: @aksornkrumattayom www.aksorn.com อักษรเจริญทัศน์ อจท. ภาพปกนี้มีขนาดเท่ากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน ผู้เรียบเรียงคู่มือครู พรรณมณฑ์ นิลนฤนาท อัญชลี ฉายแสงจันทร์ แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน คู่มือครู ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹ ¡ÒçҹÍÒªÕ¾ Á. ๕
คำู่มือคำรู Teacher Script ผู้เรียบเรียงหนังสือเรียน นายมนตรี สมไร่ขิง ผศ.เพ็ญพร ประมวลสุข นายปัญญา สังข์ภิิรมย์ นางวรรณี วงศ์พานิชย์ นางศิริรัตน์ ฉัตรศิขรินทำร ดำร.สถิตย์พงษ์ มั่นหล�า ผู้เรียบเรียงคู่มือครู นางสาวพรรณมณฑ์ ันิลนฤนาทำ นางสาวอัญชลี ัฉายแสงจำันทำร์ ผู้ตรวจำหนังสือเรียน รศ.จำอมขวัญ สุวรรณรักษ์ ผศ. ดำร.เบญญา มะโนชัย นางสาวกุหลาบ ลาศนันทำ์ บรรณาธิการหนังสือเรียน นายสมเกียรติ ภิู่ระหงษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 5 ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดำ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทำธศักราช 2551 กำรงำนอำชีพ ม.5 พิมพครั้งที่ 4 สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ รหัสสินคา 3547007
ค�าแนะน�าการใช้ ชวยสรางความเขาใจ เพื่อใชคูมือครูได อยางถูกตองและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ค�าอธิบายรายวิชา แสดงขอบขายเนื้อหาสาระของรายวิชา ซึ่งครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดตามที่หลักสูตร กําหนด Pedagogy ชวยสรางความเขาใจในกระบวนการออกแบบ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ไดอยางมี ประสิทธิภาพ Teacher Guide Overview ชวยใหเห็นภาพรวมของการ จัดการเรียนการสอนทั้งหมดของรายวิชากอนที่จะลงมือ สอนจริง Chapter Overview ชวยสรางความเขาใจและเห็นภาพรวม ในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรูแตละหนวย ข้อสอบเน้นการคิด เพื่อเตรียมความพรอมของผูเรียน สูการสอบในระดับตาง ๆ กิจกรรม 21st Century Skills กิจกรรมที่จะชวยพัฒนา ผูเรียนใหมีทักษะที่จําเปนสําหรับการเรียนรูและการดํารงชีวิต ในโลกแหงศตวรรษที่ 21 เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ แนวทางเขาสูอาชีพ - เตรียมตัวหางานและพัฒนาบุคลิกภาพ - การสัมภาษณ - ลักษณะความมั่นคงและความกาวหนา - การทํางาน - การสมัครงาน - การเปลี่ยนงาน ■ การเลือกและใชเทคโนโลยีอยางเหมาะสมกับอาชีพ - วิธีการ - หลักการ - เหตุผล ■ ประสบการณในอาชีพ - การจําลองอาชีพ - กิจกรรมอาชีพ ■ คุณลักษณะที่ดีตออาชีพ - คุณธรรม - จริยธรรม - คานิยม ตัวชี้วัด ■ อภิปรายแนวทางเขาสูอาชีพที่สนใจ (ง ๒.๑ ม.๔-๖/๑) ■ เลือกและใชเทคโนโลยีอยางเหมาะสมกับอาชีพ (ง ๒.๑ ม.๔-๖/๒) ■ มีประสบการณในอาชีพที่ถนัดและสนใจ (ง ๒.๑ ม.๔-๖/๓) ■ มีคุณลักษณะที่ดีตออาชีพ (ง ๒.๑ ม.๔-๖/๔) ñ แนวทางการเข้าสู่อาชีพ อาชีพเป็นการท�ากิจกรรม การท�างาน หรือการประกอบการที่ไม่เป็นโทษแก่สังคม และมีรายได้ ตอบแทน โดยอาศัยแรงงาน ความรู้ ทักษะ อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการที่แตกต่างกันไปเพื่อเลี้ยงชีพ ตนเองและครอบครัว ส่วนแนวทางการเข้าสู่อาชีพเป็นกระบวนการ หรือการกระท�าใด ๆ ที่สามารถ สร้างโอกาสให้ได้ประกอบอาชีพที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งแนวทางการเข้าสู่อาชีพของ แต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความสนใจ ความสามารถ ความถนัด ความพร้อม ในด้านความรู้ทักษะอาชีพ เงินทุน และการให้โอกาสของผู้ประกอบการ §านÍาªÕ¾ หน่วยการเรียนรู้ที่ ö ËÒ¡µŒÍ§¡ÒÃËÒÃÒÂä´Œ¾ÔàÈÉ ÃÐËNjҧ»´ÀÒ¤àÃÕ¹ ¨ÐÁÕÇÔ¸Õ àµÃÕÂÁµÑÇËÒ§Ò¹ ÊÁѤçҹ áÅÐÊÑÁÀÒɳ§Ò¹Í‹ҧäà 10๔ เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับแนวทางการเขาสูอาชีพที่สนใจ การเตรียมตัวหางาน และการพัฒนาบุคลิกภาพ การสมัครงาน การสัมภาษณ หลักการทํางาน การเปลี่ยนงาน การเลือกใชเทคโนโลยีอยางเหมาะสมกับการ ประกอบอาชีพ มีประสบการณในอาชีพที่ตนเองถนัดและสนใจ มีคุณลักษณะที่ดี ตออาชีพ โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียน เกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับแนวทางการเขาสูอาชีพ การเลือกใชเทคโนโลยี อยางเหมาะสมกับการประกอบอาชีพ ประสบการณในอาชีพ และคุณลักษณะ ที่ดีตออาชีพ • ใหนักเรียนสํารวจตนเองวามีความตองการที่จะประกอบอาชีพใด บุคลิกภาพและความสามารถในลักษณะของอาชีพนั้นๆ เหมาะสมกับตนเองหรือไม • ใหนักเรียนทําแบบทดสอบความสนใจในอาชีพ เนื่องจากนักเรียนบางคน อาจยังไมรูวาตนเองมีความตองการที่จะประกอบอาชีพใด ซึ่งหากไดทําแบบ ทดสอบดังกลาว อาจทําใหรูจักตนเองมากขึ้น เพื่อจะไดเตรียมความพรอมใน การประกอบอาชีพนั้นๆ ไดอยางเหมาะสม ขั้นนํา (กระบวนการเรียนรู ความรู ความเขาใจ) 1. ครูแจงชื่อเรื่องที่จะเรียนรูและผลการเรียนรู ใหนักเรียนทราบ จากนั้นใหนักเรียนแตละคน ทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 6 เรื่อง งานอาชีพ 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา อาชีพที่นักเรียนใฝฝนอยากเปนในอนาคต คือ อาชีพใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน แพทย พยาบาล วิศวกร สถาปนิก ครู ตํารวจ ทหาร นักธุรกิจ นักออกแบบ เสื้อผา เชฟ ชางภาพ นักแสดง นักกฏหมาย ที่ปรึกษาดานการลงทุน นักประชาสัมพันธ) • นักเรียนมีการวางแผนชีวิต เพื่อวางแนวทาง เขาสูอาชีพที่ตนเองใฝฝนไดอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิด เห็นไดอยางอิสระ เชน ศึกษาขอมูลที่มี ความเกี่ยวของกับอาชีพที่สนใจ เพื่อศึกษา รูปแบบและลักษณะการทํางาน รวมถึงความ ตองการของตลาดแรงงาน และตั้งเปาหมาย ในการเรียนใหมีความสอดคลองกับอาชีพ ที่สนใจ เชน อาชีพทันตแพทย โดยเลือกเรียน ในสายวิทยและคณิตฯ แลวสอบเขาเรียนตอ ในคณะทันตแพทย สาขาทันตแพทยศาสตร) • นักเรียนคิดวาตนเองสามารถทําตามแผนที่ วางไวไดหรือไม เพราะเหตุใด” (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ทําตามแผนที่วางไวได เนื่องจากมีความมุงมั่นและตั้งใจในการ ศึกษาเลาเรียน ชอบศึกษาคนควาความรู ใหมๆ อยูเสมอ เพื่อใหสามารถสอบเขาเรียนตอ ในคณะทันตแพทย สาขาทันตแพทยศาสตร ในมหาวิทยาลัยที่สนใจได) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T114 T115 โซน 1 โซน 2 โซน 3 ค�ำแนะน�ำกำรใช้ คู่มือครู รายวิชา การงานอาชีพ ม.5 จัดท�าขึ้นเพื่อให้ครูผู้สอน ใช้เป็นแนวทางวางแผนการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนและประกันคุณภาพผู้เรียน ตามนโยบายของส�านักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โซน 2 โดยประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ส�าหรับ ครู เพื่อน�าไปประยุกต์ใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน ช่วยครูเตรียมสอน เกร็ดแนะครู ความรู้เสริมส�าหรับครู ข้อเสนอแนะ ข้อสังเกต แนวทางการจัด กิจกรรมและอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอน นักเรียนควรรู้ ความรู้เพิ่มเติมจากเนื้อหา ส�าหรับอธิบายเสริมเพิ่มเติมให้ กับนักเรียน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ครูผู้สอน โดยแนะน�าขั้นตอนการสอน และการจัดกิจกรรมอย่างละเอียด เพื่อให้นักเรียนบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามตัวชี้วัด ช่วยครูจัด กำรเรียนกำรสอน น�ำ สอน สรุป ประเมิน โซน 1
ขอสอบเนน การคิด ดังนั้น เราจึงจ�าเป็นที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวหางานและการพัฒนาบุคลิกภาพ ลักษณะความมั่นคงและความก้าวหน้าในการท�างาน การสมัครงาน การสัมภาษณ์ การท�างาน อย่างมีความสุข และการเปลี่ยนงาน นอกจากนี้ จะต้องรู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับอาชีพ เพราะมีส่วนช่วยในการพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และสิ่งส�าคัญที่สุดของการประกอบอาชีพ คือ การมีคุณธรรม จริยธรรม และมีค่านิยมที่ดีต่อการประกอบอาชีพ เพราะมีส่วนช่วยให้มีโอกาส ในการพัฒนางานให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น เสริมสร้างแนวทางการเข้าสู่อาชีพที่ตนเองสนใจ ให้ประสบความส�าเร็จ การเข้าสู่อาชีพเปนการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่การ ท�างาน หรือการประกอบอาชีพตามที่ใฝฝน หรือต้องการ โดย จะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อศึกษาท�าความเข้าใจเกี่ยวกับ ลักษณะของอาชีพและพัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ ให้มีคุณสมบัติ เหมาะสมกับอาชีพนั้น ๆ เนื่องจากจะส่งผลให้สามารถประกอบ อาชีพที่ต้องการได้อย่างมีคุณภาพและประสบความส�าเร็จ งานอาชีพ 10๕ เราจึงจ�าเป็นที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวหางานและการพัฒนาบุคลิกภาพ 1 การประกอบอาชีพมีความสําคัญตอตัวบุคคลอยางไร 1. เปนที่รูจักของคนในสังคม 2. ยกระดับฐานะของตนเองใหดีขึ้น 3. มีเงินออมในแตละเดือนเพิ่มมากขึ้น 4. สรางรายไดใหแกตนเองและครอบครัว (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการประกอบอาชีพนับเปน สิ่งจําเปนและสําคัญในวิถีการดํารงชีวิตของมนุษยในปจจุบัน เปนสิ่งที่ชวยสรางคุณคาใหแกตนเอง ชวยสรางรายได เพื่อนํามา ใชในการเลี้ยงชีพของตนเองและครอบครัว และเปนสิ่งสําคัญ อยางหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ ชุมชน และความ เจริญกาวหนาของประเทศชาติ) นักเรียนควรรู 1 พัฒนาบุคลิกภาพ บุคลิกภาพของมนุษยแตละคนจะมีลักษณะเฉพาะที่ แตกตางกันออกไป ในการพัฒนาบุคลิกภาพตองเริ่มตนจากการวิเคราะห ตนเอง เพื่อหาขอบกพรองที่ตองการปรับปรุงแกไข ลงมือแกไขขอบกพรอง แลวใหปฏิบัติตนตามแนวใหมจนเกิดเปนนิสัย จากนั้นประเมินวาสิ่งที่แกไข แลวนั้นดีขึ้นหรือไม ยังมีอุปสรรคในการปฏิบัติอยางไร และจะมีแนวทางแกไข อยางไร เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคําวา “ผูประกอบการ” ใหนักเรียนฟงวา ผูประกอบการ คือ ผูที่เปนเจาของกิจการ หรือผูรวบรวมปจจัยการผลิต ไดแก ที่ดิน แรงงาน ทุน มาผลิตเปนสินคาและบริการ คุณลักษณะของการเปน ผูประกอบการที่ดี คือ ตองมีแรงผลักดัน ลมแลวกลาที่จะลุก มีความเชื่อมั่นใน ตนเอง กลาที่จะเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนวิกฤตใหเปนโอกาสได ขั้นนํา 3. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 2-3 คน ออกมาเลา ความฝนเกี่ยวกับการประกอบอาชีพในอนาคต ของตนเองใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน จากนั้น ใหเพื่อนรวมชั้นเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น วาเพื่อนคนดังกลาวมีคุณสมบัติที่เหมาะสม ตออาชีพที่สนใจหรือไม ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ ตางๆ ใหนักเรียดู เชน ขาราชการ ตํารวจ ทหาร ครู พิธีกร นักเขียน นักแสดง สถาปนิก ฯลฯ 2. ครูถามนักเรียนวา • จากคลิปวิดีโอที่ไดชมไปนั้น มีอาชีพที่ นักเรียนตองการประกอบในอนาคตหรือไม หากมี นักเรียนคิดวาตนเองมีคุณสมบัติที่ เหมาะสมกับอาชีพนั้นหรือไม อยางไร หากไมมี นักเรียนสนใจอาชีพใด และคิดวา ตนเองมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับอาชีพนั้น หรือไม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิด เห็นไดอยางอิสระ) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การที่นักเรียนตองการ จะประกอบอาชีพใดๆ นั้น นักเรียนจะตองหมั่น รูจักสังเกตตนเองอยูเสมอวามีความชอบ ความ สนใจความถนัด และความสามารถในดานใด เพราะหากมีคุณสมบัติที่มีเหมาะสมกับอาชีพ ที่สนใจ ก็ยอมสงผลใหตนเองสามารถประกอบ อาชีพที่สนใจนั้นไดประสบความสําเร็จและมี ความสุขในการทํางาน” นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T114 T115 โซน 1 โซน 2 โซน 3 ประกอบด้วยแนวทางส�าหรับการจัดกิจกรรมและ เสนอแนะแนวข้อสอบ เพื่ออ�านวยความสะดวกให้แก่ครูผู้สอน โดยใช้หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 ของบริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จ�ากัด เป็นสื่อหลัก (Core Material) ประกอบการสอน และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยคู่มือครูมีองค์ประกอบที่ง่ายต่อการใช้งาน ดังนี้ โซน 3 ช่วยครูเตรียมนักเรียน แนวทางการวัดและประเมินผล เสนอแนะแนวทางการบรรลุผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่หลักสูตรก�าหนด กิจกรรม 21st Century Skills กิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ประยุกต์ใช้ความรู้มาสร้างชิ้นงาน หรือท�ากิจกรรมรวบยอดเพื่อให้เกิดคุณลักษณะที่ระบุในทักษะ แห่งศตวรรษที่ 21 ข้อสอบเน้นการคิด ตัวอย่างข้อสอบที่มุ่งเน้นการคิด มีทั้งปรนัย-อัตนัย พร้อม เฉลยอย่างละเอียด กิจกรรมเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค กิจกรรมเสนอแนะแนวทางการเสริมสร้างคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ กิจกรรมท้าทาย เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรม เพื่อต่อยอดส�าหรับนักเรียน ที่เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และต้องการท้าทายความสามารถใน ระดับที่สูงขึ้น กิจกรรมสร้างเสริม เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมซ่อมเสริมส�าหรับนักเรียนที่ ควรได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ กิจกรรม Mini Project เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อให้สามารถน�าความรู้ที่ ได้รับมาออกแบบชิ้นงานตามความสนใจ 1 ชิ้น บูรณาการอาเซียน ความรู้เสริมหรือการเชื่อมโยงในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาคม อาเซียน สื่อ Digital การแนะน�าแหล่งเรียนรู้และแหล่งค้นคว้าจากสื่อ Digital ต่าง ๆ
ค�ำอธิบายรายวิชา การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลาเรียน20 ชั่วโมง/ปีจ�ำนวน0.5 หน่วยกิต ตัวชี้วัด ง 1.1 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ม.4-6/4 ม.4-6/5 ม.4-6/6 ม.4-6/7 ง 2.1 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ม.4-6/4 รวม 11 ตัวชี้วัด ศึกษาและวิเคราะห์วิธีการท�ำงานเพื่อการด�ำรงชีวิต ในเรื่องการเลือกใช้ ดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย การประดิษฐ์ของใช้ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย หน้าที่และบทบาทของตนเองที่มีต่อสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และ ชุมชน การปลูกพืช การขยายพันธุ์พืช การบ�ำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อ�ำนวยความสะดวกในชีวิตประจ�ำวัน การตัดเย็บและดัดแปลงเสื้อผ้า การติดตั้ง ประกอบ ซ่อมแซมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ สิ่งอ�ำนวยความสะดวก ในบ้านและโรงเรียน การเลี้ยงสัตว์ แนวทางเข้าสู่อาชีพ การเลือกและใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมกับอาชีพ ประสบการณ์ ในอาชีพ และคุณลักษณะที่ดีต่ออาชีพ โดยใช้ทักษะการท�ำงานร่วมกัน ทักษะการจัดการในการท�ำงาน ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�ำงาน และทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ำรงชีวิต เพื่อให้เกิดความตระหนักและเห็นคุณค่าของการท�ำงาน สามารถน�ำความรู้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�ำวันได้ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�ำงาน รวมถึงมีจิตสำ�นึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากร ในการท�ำงานอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
Pedagogy จัดท�ำขึ้นเพื่อให้ครูผู้สอนน�ำไปใช้เป็นแนวทางวางแผนพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของผู้เรียน โดยสามารถวางแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้หนังสือเรียน รายวิชาการงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ฉบับประกัน) ที่ทางบริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จ�ำกัด จัดพิมพ์จ�ำหน่าย เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 โดยออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ (Instructional Design) ให้มีความสอดคล้องกับรูปแบบการสอนโดยใช้โครงการเป็นหลัก (Project-Based Instruction) โดยมีรายละเอียด ดังนี้ วิธีการสอน เทคนิคการสอน • การใช้ค�ำถาม • การเล่นเกม • การใช้ตัวอย่างกระตุ้นความคิด • การใช้สื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจ ทักษะที่ใช้ • การท�ำงานร่วมกัน • การวิเคราะห์ • การมีความคิดสร้างสรรค์ • การคิดอย่างมีเหตุผล • การสังเกต • การสืบค้น รูปแบบการสอนโดยใช้โครงการเป็นหลัก (Project-Based Instruction) • แบบบรรยาย • การสาธิต • การอภิปรายกลุ่มย่อย • การแสดงบทบาทสมมติ • การใช้กรณีตัวอย่าง • การใช้สถานการณ์จ�ำลอง • การใช้ศูนย์การเรียนรู้ • การลงมือปฏิบัติ ด้วยจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนการงาน อาชีพ เพื่อช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ พื้นฐานที่จ�ำเป็นต่อการด�ำรงชีวิต รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง น�ำความรู้เกี่ยวกับการด�ำรงชีวิตและการอาชีพมาประยุกต์ ใช้ ในการท�ำงานได้อย่างสร้างสรรค์ เห็นแนวทางในการประกอบ อาชีพ รักการท�ำงาน มีเจตคติที่ดีต่อการท�ำงาน สามารถ ด�ำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียงและมีความสุข ผู้จัดท�ำจึงเลือกใช้รูปแบบการสอนโดยใช้โครงการ เป็นหลัก ซึ่งเป็นขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งให้ผู้เรียน แสวงหาประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีประโยชน์ต่อชีวิตประจ�ำวัน โดยใช้ศักยภาพที่ตนเองมี ผู้เรียนจะมีส่วนร่วมในการก�ำหนด งานที่ท�ำ มุ่งให้ผู้เรียนได้ใช้ทักษะการสืบค้นและการปฏิบัติจริง เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่การปฏิบัติงานอื่นๆ ในการด�ำรงชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับธรรมชาติของวิชาการงานอาชีพ คู่มือครู การงานอาชีพ ม.5 1 2 3 4 5 6 รูปแบบ การสอน ขั้นให้ความรู้ พื้นฐาน ขั้นกระตุ้น ความสนใจ ขั้นจับกลุ่ม ร่วมมือ ขั้นน�ำเสนอ ผลงาน ขั้นแสวงหา ความรู้ ขั้นสรุปสิ่งที่ เรียนรู้
การงานอาชีพ ม.5 หน่วย การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ทักษะที่ได้ เวลาที่ใช้ การประเมิน สื่อที่ใช้ 1 หลักการท�างาน เพื่อการ ด�ารงชีวิต 1. อธิบายวิธีการท�ำงานเพื่อการด�ำรงชีวิต 2. สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และมีทักษะการท�ำงานร่วมกัน 3. มีทักษะการจัดการในการท�ำงาน 4. มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำ�งาน 5. มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการ ด�ำรงชีวิต 6. มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�ำงาน 1. ทักษะการส�ำรวจค้นหา 2. ทักษะการสังเกตวิธีการ ท�ำงาน เพื่อการดำ� รงชีวิต 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ 4. ทักษะกระบวนการคิด แก้ปัญหา 5. ทักษะการสรุป ลงความเห็น 6. ทักษะการประเมิน 3 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง ทักษะ กระบวนการท�ำงาน 3. ตรวจใบงานที่ 1.2.1 เรื่อง การแก้ปัญหา ในการท�ำงาน ด้วยวงจร PDCA 4. ตรวจใบงานที่ 1.3.1 เรื่อง บทบาท และหน้าที่ของ ตนเองที่มีต่อ สมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน 5. ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การปฏิบัติ งานต่างๆ โดยใช้ ทักษะกระบวนการ ท�ำงานและทักษะ กระบวนการแก้ ปัญหา 6. การน�ำเสนอผลงาน 7. สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานเป็น รายบุคคล 8. สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานเป็นกลุ่ม 9. สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ 10. ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - หนังสือเรียนการงาน อาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint Teacher Guide Overview
หน่วย การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ทักษะที่ได้ เวลาที่ใช้ การประเมิน สื่อที่ใช้ 2 งานช่างในบ้าน 1. สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และมีทักษะการท�ำงานร่วมกัน 2. มีทักษะการจัดการในการท�ำงาน 3. มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำ�งาน 4. มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการ ด�ำรงชีวิต 5. มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�ำงาน 6. ใช้พลังงาน ทรัพยากรในการท�ำงาน อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน เพื่อการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม 1. ทักษะการส�ำรวจค้นหา 2. ทักษะการสังเกตวิธีการ ท�ำงานเพื่อการด�ำรงชีวิต 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ 4. ทักษะกระบวนการคิด แก้ปัญหา 5. ทักษะการสรุป ลงความเห็น 6. ทักษะการประเมิน 4 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง เครื่องมือ เครื่องใช้ในการ ซ่อมแซมและติดตั้ง อุปกรณ์ เครื่องใช้ ภายในบ้าน 3. ตรวจใบงานที่ 2.2.1 เรื่อง การปฏิบัติงาน ช่างในบ้าน 4. ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การปฏิบัติงาน ช่างในบ้าน 5. การน�ำเสนอผลงาน 6. สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานเป็น รายบุคคล 7. สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานเป็นกลุ่ม 8. สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ 9. ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - หนังสือเรียนการงาน อาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 3 เสื้อผ้าและ เครื่องแต่งกาย 1. อธิบายวิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต 2. สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และมีทักษะการท�ำงานร่วมกัน 3. มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 4. มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการ ด�ำรงชีวิต 5. ใช้พลังงาน ทรัพยากรในการท�ำงาน อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน เพื่อการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม 1. ทักษะการส�ำรวจค้นหา 2. ทักษะการสังเกตวิธีการ ท�ำงาน เพื่อการดำ� รงชีวิต 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ 4. ทักษะกระบวนการคิด แก้ปัญหา 5. ทักษะการสรุป ลงความเห็น 6. ทักษะการประเมิน 4 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่ 3.1.1 การเลือกใช้เสื้อผ้า และเครื่องแต่งกาย 3. ตรวจใบงานที่ 3.1.2 เรื่อง การเลือกซื้อ เสื้อผ้าและเครื่อง แต่งกาย 4. ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลง เสื้อผ้า 5. การน�ำเสนอผลงาน 6. สังเกตพฤติกรรมการ ท�ำงานเป็นรายบุคคล 7. สังเกตพฤติกรรมการ ท�ำงานเป็นกลุ่ม 8. สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ 9. ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - หนังสือเรียนการงาน อาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint
หน่วย การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ทักษะที่ได้ เวลาที่ใช้ การประเมิน สื่อที่ใช้ 4 งานประดิษฐ์ เอกลักษณ์ไทย 1. สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และมีทักษะการท�ำงานร่วมกัน 2. มีทักษะการจัดการในการท�ำงาน 3. มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 4. มีทักษะในการแสวงหาความรู้ เพื่อการ ด�ำรงชีวิต 5. มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�ำงาน 6. ใช้พลังงาน ทรัพยากรในการท�ำงาน อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน เพื่อการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม 1. ทักษะการส�ำรวจค้นหา 2. ทักษะการสังเกตวิธีการ ท�ำงาน เพื่อการดำ� รงชีวิต 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ 4. ทักษะกระบวนการคิด แก้ปัญหา 5. ทักษะการสรุป ลงความเห็น 6. ทักษะการประเมิน 3 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง ความส�ำคัญ และประเภทของ งานประดิษฐ์ที่เป็น เอกลักษณ์ไทย 3. ตรวจแผนผัง ความคิดเกี่ยวกับ เรื่อง ความส�ำคัญ และประเภทของงาน ประดิษฐ์ที่เป็น เอกลักษณ์ไทย 4. ตรวจโครงงาน เรื่อง งานประดิษฐ์ ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย 5. การน�ำเสนอผลงาน 6. สังเกตพฤติกรรมการ ท�ำงานเป็นรายบุคคล 7. สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานเป็นกลุ่ม 8. สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ 9. ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - หนังสือเรียนการงาน อาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 5 งานเกษตร 1. สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และมีทักษะการท�ำงานร่วมกัน 2. มีทักษะการจัดการในการท�ำงาน 3. มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการ ด�ำรงชีวิต 4. มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการ ท�ำงาน 1. ทักษะการส�ำรวจค้นหา 2. ทักษะการสังเกตวิธีการ ท�ำงาน เพื่อการดำ� รงชีวิต 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ 4. ทักษะกระบวนการคิด แก้ปัญหา 5. ทักษะการสรุป ลงความเห็น 6. ทักษะการประเมิน 4 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่ 5.1.1 เรื่อง การปลูกพืช 3. ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง งานเกษตร ของฉัน 4. การน�ำเสนอผลงาน 5. สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานเป็น รายบุคคล 6. สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานเป็นกลุ่ม 7. สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ 8. ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - หนังสือเรียนการงาน อาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint
หน่วย การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ทักษะที่ได้ เวลาที่ใช้ การประเมิน สื่อที่ใช้ 6 งานอาชีพ 1. อภิปรายแนวทางเข้าสู่อาชีพที่สนใจ 2. เลือกและใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม กับอาชีพ 3. มีประสบการณ์ในอาชีพที่ถนัดและสนใจ 4. มีคุณลักษณะที่ดีต่ออาชีพ 1. ทักษะการส�ำรวจค้นหา 2. ทักษะการสังเกตวิธีการ ท�ำงาน เพื่อการดำ� รงชีวิต 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ 4. ทักษะกระบวนการคิด แก้ปัญหา 5. ทักษะการสรุป ลงความเห็น 6. ทักษะการประเมิน 2 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่ 6.1.1 เรื่อง การวิเคราะห์ SWOT เพื่อค้นพบ อาชีพที่เหมาะสมกับ ตนเอง 3. ตรวจใบงานที่ 6.2.1 เรื่อง ความรู้ใน การงานอาชีพ 4. ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การสัมภาษณ์ บุคคลที่ประสบ ความส�ำเร็จ 5. การน�ำเสนอผลงาน 6. สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานเป็น รายบุคคล 7. สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานเป็นกลุ่ม 8. สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ 9. ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - หนังสือเรียนการงาน อาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint
สารบัญ Chapter Title Chapter Overview Teacher Script หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หลักการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต T2-T3 T4 • ทักษะกระบวนการท�ำงานและกระบวนการแก้ปัญหา • หลักการท�ำงานเพื่อการด�ำรงชีพ • การแก้ปัญหาในการท�ำงานด้วยวงจร PDCA • การแก้ปัญหาในการท�ำงานด้วยกิจกรรม 5 ส • บทบาทหน้าที่ของตนเองที่มีต่อสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน T4-T7 T7-T8 T9-T10 T11-T12 T13-T15 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 งานช่างในบ้าน T16-T17 T18 • เครื่องมืองานช่างในบ้าน • ตัวอย่างการซ่อมแซมเครื่องใช้ภายในบ้าน • ตัวอย่างการติดตั้งเครื่องใช้ภายในบ้าน T18-T25 T26-T29 T30-T33 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย T34-T35 T36 • การเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย • การเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย • การซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงเสื้อผ้า • ตัวอย่างการตัดเย็บเสื้อผ้าและของใช้ภายในบ้าน T36-T43 T44-T49 T50-T59 T60-T65
Chapter Title Chapter Overview Teacher Script หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 งำนประดิษฐเอกลักษณไทย T66 -T67 T68 • ความส�าคัญของงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทย • ประเภทของงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทย • ตัวอย่างงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทย : งานแกะสลัก • ตัวอย่างงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทย : งานดอกไม้สด T68 -T70 T71-T72 T73 -T78 T79 -T85 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 งำนเกษตร T86 -T87 T88 • การปลูกพืช • การเลี้ยงสัตว T88 -T104 T105 -T113 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 งำนอำชีพ T114 -T115 T116 • แนวทางการเข้าสู่อาชีพ • การเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมกับการประกอบอาชีพ • ประสบการณ ในอาชีพ • คุณลักษณะที่ดีต่ออาชีพ T116 -T129 T130 -T131 T132 -T133 T134 -T136 บรรณำนุกรม T137 -T138
Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ทักษะ กระบวนการ ท�ำงาน 1 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - PowerPoint 1. อธิบายทักษะ กระบวนการท�ำงาน และกระบวนการ แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง 2. มีทักษะในการท�ำงาน ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา และทักษะ การแสวงหาความรู้ อย่างถูกต้อง 3. น�ำหลักการท�ำงานมา ประยุกต์ใช้ในการ ด�ำรงชีวิตได้อย่าง ถูกต้องและเหมาะสม 4. มีคุณธรรมและ มีลักษณะนิสัยที่ดี ในการท�ำงาน แบบ สืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 1.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 2 การแก้ปัญหา ในการท�ำงาน ด้วยวงจร PDCA 1 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - PowerPoint 1. อธิบายวิธีการแก้ปัญหา ในการท�ำงานด้วยวงจร PDCA ได้อย่างถูกต้อง 2. สามารถน�ำวิธีการ แก้ปัญหาในการท�ำงาน ด้วยวงจร PDCA มาปฏิบัติได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม 3. ประยุกต์ใช้กิจกรรม 5 ส ในการท�ำงาน และการด�ำรงชีวิต ประจ�ำวันได้อย่าง เหมาะสม 4. มีคุณธรรมและ มีลักษณะนิสัยที่ดี ในการท�ำงาน แบบกระบวน การเรียน ความรู้ ความเข้าใจ - ตรวจใบงานที่ 1.2.1 - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T2
แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 3 บทบาทและหน้าที่ ของตนเองที่มี ต่อสมาชิกใน ครอบครัว โรงเรียน และชุมชน 1 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 1. อธิบายบทบาทหน้าที่ ของตนเองที่มีต่อ สมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ได้อย่างถูกต้อง 2. ปฏิบัติตนตามบทบาท หน้าที่ของตนเองที่มี ต่อสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชนได้ อย่างเหมาะสม แบบ สืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจใบงานที่ 1.3.1 - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T3
หลักการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต หน่วยการเรียนรู้ที่๑ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ วิธีการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต ■ ทักษะการท�างานร่วมกัน ■ ทักษะการจัดการ ■ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�างาน ■ ทักษะการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ารงชีวิต ตัวชี้วัด ■ อธิบายวิธีการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๑) ■ สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะการท�างานร่วมกัน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๒) ■ มีทักษะการจัดการในการท�างาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๓) ■ มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�างาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๔) ■ มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ารงชีวิต (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๕) ■ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�างาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๖) ๑ ทักษะกระบวนการท�างานและกระบวนการแก้ปัญหา การท�างานมีความส�าคัญและมีคุณค่าต่อชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง เพราะท�าให้มีประสบการณ์ รู้จักวางแผนการท�างาน การปฏิบัติงานตามขั้นตอนต่าง ๆ การปรับปรุงแก้ไขงาน และการพัฒนา ระบบการท�างาน ดังนั้น การท�างานจึงเป็นการเปิดโอกาสให้แสดงออกถึงความสามารถ ความคิด สร้างสรรค์ ซึ่งจะน�ามาสู่ความส�าเร็จและความพึงพอใจในชีวิต ในการทÓงานเมื่อมีป ัญหา จะมีกระบวนการแก้ป ัญหา อย่างไรเพื่อให้งานสÓเร็จ 2 เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับหลักการทํางานเพื่อการดํารงชีวิตใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเรื่องทักษะกระบวนการทํางานและทักษะ กระบวนการแกปญหาที่มากขึ้น สามารถใชทักษะตางๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพในการทํางานไดอยางเหมาะสม ชวยใหไดผลงานที่มีคุณภาพ ผูปฏิบัติงานสามารถปฏิบัติ งานไดอยางมีความสุข รูจักวิธีการแกปญหาในการทํางานดวยวงจร PDCA หรือวิธีแกปญหาในการทํางานดวยกิจกรรม 5 ส นอกจากนี้ ยังปฏิบัติตนไดเหมาะสม กับบทบาทหนาที่ที่มีตอสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับหลักการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต • ใหนักเรียนปฏิบัติงานกลุม โดยการนําวงจร PDCA มาใชในกระบวนการทํางานและการแกปญหา เพื่อใหนักเรียนสามารถแกปญหาในการทํางานไดอยาง เหมาะสม • ใหนักเรียนปฏิบัติกิจกรรม 5 ส ที่บานของตนเอง เพื่อใหสามารถแกปญหาจากการปฏิบัติกิจกรรมดังกลาวไดอยางเหมาะสม ขั้นนํา (5Es) ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 1. ครูแจงชื่อเรื่องที่จะเรียนรูและผลการเรียนรู ใหนักเรียนทราบ จากนั้นใหนักเรียนแตละคน ทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 เรื่อง หลักการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • ในชีวิตประจําวันของนักเรียนไดรับมอบหมาย ใหทํางานใด และมีวิธีการทํางานอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ไดรับมอบหมายให ชวยเหลือคุณแมในการทําความสะอาดบาน คือ กวาดบาน ถูบาน และชวยทําอาหารเย็น หลังจากกลับมาจากโรงเรียน โดยมีวิธีการ ทํางาน คือ หลังจากกลับมาจากโรงเรียนจะ รีบทําการบานใหเสร็จ จากนั้นจึงกวาดบาน ถูบาน และชวยคุณแมทําอาหารเย็น) • หากตองการทํางานที่ไดรับมอบหมายให สําเร็จลุลวงอยางมีประสิทธิภาพ จําเปนตอง ใชทักษะกระบวนการทํางานใด (แนวตอบ ในการทํางานจําเปนตองใชทักษะ กระบวนการทํางานที่หลากหลาย เชน ทักษะ การจัดการ ทักษะกระบวนการแกปญหา ทักษะการแสวงหาความรู เพื่อใหการทํางาน สําเร็จลุลวงตามจุดมุงหมายที่ไดวางไวอยาง มีประสิทธิภาพ) • นักเรียนมีเทคนิคใดที่ทําใหตนเองสามารถ ทํางานไดประสบผลสําเร็จ (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน มีทักษะกระบวนการ แกปญหาในการทํางาน มีทักษะการจัดการ ในการทํางาน มีทักษะการแสวงหาความรู เพื่อการสรางงานอยางมีความคิดสรางสรรค) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T4
ขอสอบเนน การคิด กระบวนการท�ำงำนและกระบวนกำรแก้ปัญหำ เป็นกระบวนกำรที่ส�ำคัญในกำรท�ำงำนเพื่อกำรด�ำรงชีวิต กำรเรียนรู้กระบวนกำรท�ำงำนและกระบวนกำรแก้ปัญหำจะ ช่วยฝึกวิธีท�ำงำนอย่ำงสม�่ำเสมอ ทั้งกำรท�ำงำนเป็นรำยบุคคล และท�ำงำนเป็นกลุ่ม โดยช่วยให้เกิดควำมคิดและวิธีกำร แก้ปัญหำ ตลอดจนช่วยให้เกิดควำมช�ำนำญในสำขำต่ำง ๆ ที่ ต้องน�ำมำใช้ในกำรท�ำงำนด้วย ๑.๑ ทักษะกระบวนการท�างาน ทักษะที่มุ่งเน้นการปฏิบัติอย่างเป็นระบบ มีล�าดับขั้นตอนในการปฏิบัติงาน ทั้งการท�างานเป็น รายบุคคลและการท�างานเป็นกลุ่ม เพื่อให้สามารถท�างานได้บรรลุตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ที่ตั้งไว้ กระบวนการท�างานมีขั้นตอน ดังนี้ ๑ 2 ๓ ๔ การวิเคราะห์งาน การวางแผน การปฏิบัติงาน การประเมิน ผลการปฏิบัติงาน ๓หลักการท�างาน เพื่อการด�ารงชีวิต งสม�่ำเสมอ ทั้งกำรท�ำงำนเป็นรำยบุคคล รายบุคคลและการท�างานเป็นกลุ่ม เพื่อให้สามารถท� การวิเคราะห์งาน 1 2 3 ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา 5. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันศึกษาหาความรูเพิ่มเติมในประเด็นที่ ครูกําหนดให คือ ทักษะกระบวนการทํางาน ทักษะกระบวนการแกปญหา และหลักการ ทํางานเพื่อการดํารงชีวิต จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 หรือศึกษาเพิ่มเติมจาก อินเทอรเน็ต 6. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับทักษะ กระบวนการทํางาน ทักษะกระบวนการแกปญหา และหลักการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นนํา ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 3. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาเลาประสบการณ เกี่ยวกับการทํางานในชีวิตประจําวันของตนเองวา มีวิธีการทํางานอยางไรใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน จากนั้นใหเพื่อนรวมชั้นเรียนรวมกันแสดง ความคิดเห็นวาเพื่อนคนดังกลาวมีการทํางาน ที่เปนกระบวนการหรือไม อยางไร 4. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนคิดวาการทํางานมีความสําคัญตอ การดํารงชีวิตประจําวันของเราหรือไม อยางไร (แนวตอบ การทํางานมีความสําคัญตอชีวิต มนุษยเปนอยางยิ่ง อาจกลาวไดวา การทํางาน เปนสวนหนึ่งของชีวิตที่ปฏิบัติมากกวาการ ปฏิบัติกิจกรรมใดๆ การทํางานเปนสิ่งที่ให ประสบการณที่มีคุณคาตอชีวิตมนุษย เพราะ เปนโอกาสที่ทําใหเกิดการวางแผน การปฏิบัติ ตามขั้นตอนตางๆ การปรับปรุงแกไข และ พัฒนาระบบใหดียิ่งขึ้น) ขอใดเปนสิ่งที่ชวยใหการปฏิบัติงานกลุมประสบความสําเร็จได งายขึ้น 1. สมาชิกในกลุมจะรอรับคําสั่งจากหัวหนากลุมเทานั้น 2. หัวหนากลุมมีความเชื่อมั่นในตนเองสูง 3. หัวหนากลุมมีความรูที่หลากหลาย 4. สมาชิกในกลุมมีสุขภาพจิตที่ดี (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะสมาชิกในกลุมควรมี มนุษยสัมพันธที่ดีตอกัน เริ่มจากการมีสุขภาพจิตที่ดี ยิ้มแยมแจมใส ซึ่งจะสงผลใหมีเหตุผลมากขึ้น ไมใชอารมณในการปฏิบัติงาน มองโลกในแงดี รูจักเสียสละ รับฟงความคิดเห็นของผูอื่นอยางมี เหตุผล ดังนั้น การมีสุขภาพจิตที่ดีจึงเปนสิ่งสําคัญในการปฏิบัติ งานกลุมใหประสบความสําเร็จ) นักเรียนควรรู 1 การทํางานเปนรายบุคคล เปนการปฏิบัติงานที่ผูปฏิบัติงานไดใชความคิด ของตนอยางเต็มที่ แตอาจมีขอบกพรองจากการปฏิบัติงานบาง หากงานที่ปฏิบัติ จําเปนตองใชทักษะ หรือใชความรูที่หลากหลาย แตผูปฏิบัติงานมีความรู ความสามารถเพียงบางทักษะ อาจทําใหงานไมสําเร็จตามที่คาดหวังไว 2 การทํางานเปนกลุม เปนการแลกเปลี่ยนเรียนรูประสบการณทํางาน จากผูอื่น ซึ่งตองคํานึงถึงคุณธรรมในการทํางาน การสื่อสาร การเคารพใหเกียรติ ซึ่งกันและกัน การรับฟงและแสดงความคิดเห็นอยางมีเหตุผล อีกทั้งยังสามารถ ปฏิบัติตนเปนผูนําและเปนผูตามที่ดีได 3 การวิเคราะห ประกอบดวยทักษะสําคัญ 3 ประการ ไดแก การคิดวิเคราะห ความสําคัญของเนื้อหา หรือสิ่งของตางๆ การคิดวิเคราะหความสัมพันธ และ การคิดวิเคราะหเชิงหลักการ นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T5
ขอสอบเนนการคิด ตัวอย่าง การวิเคราะห์งาน การก�าหนดภาระงานที่ต้องท�าว่ามีลักษณะ อย่างไร ต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ชนิดใด และมีล�าดับขั้นตอนในการปฏิบัติงานอย่างไร เช่น จะจัดซุ้มดอกไม้ในรูปแบบใด ต้องใช้ อุปกรณ์ชนิดใด หาซื้อได้จากแหล่งใด รวมถึง งบประมาณที่ใช้มีจ�านวนเท่าไร โดยสืบค้น ข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ การวางแผน การวางแผนการท�างานเพื่อให้สามารถ ปฏิบัติงานได้ตรงตามขั้นตอน โดยการ ก�าหนดรูปแบบและวิธีการท�างานอย่างเป็น ขั้นตอน เช่น หัวหน้ากลุ่มแบ่งงานให้กับ สมาชิกในกลุ่มท�าตามความสามารถและ ความถนัดของแต่ละบุคคล เลือกและซื้อวัสดุ อุปกรณ์ที่จะน�ามาใช้ กลุ่มของนักเรียนได้รับมอบหมายให้ร่วมกันจัดซุ้มดอกไม้ เพื่อต้อนรับแขกที่มาเยี่ยม โรงเรียน การปฏิบัติงาน การลงมือปฏิบัติงานตามแผนที่ได้วางไว้ เพื่อให้งานส�าเร็จตามเป้าหมาย ตรวจสอบ กระบวนการท�างานเป็นระยะๆ เช่น สมาชิก แต่ละคนปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย อย่างเต็มความสามารถ และให้สังเกตระหว่าง การท�างานว่าพบปัญหาหรือไม่ หากมีให้จด บันทึกไว้ การประเมินผลการปฏิบัติงาน การตรวจสอบและประเมินผลการท�างาน ซึ่งจะท�าให้ทราบว่างานที่ปฏิบัตินั้นประสบ ความส�าเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ หากไม่ส�าเร็จมีสาเหตุมาจากสิ่งใดและมีวิธี การแก้ไขอย่างไร เช่น ซุ้มดอกไม้ที่จัดมี ขนาดเล็ก งบประมาณซื้อดอกไม้มาประดับ ตกแต่งไม่เพียงพอ เพราะราคาดอกไม้สูงขึ้น ๑ ๓ 2 ๔ ๔ ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายแลก เปลี่ยนความรูในเรื่องที่ไดศึกษามา จากนั้นครู ถามนักเรียนวา • การวางแผนมีความสําคัญตอการทํางาน อยางไร (แนวตอบ การวางแผนเปนสิ่งที่ชวยกําหนด ทิศทางในการทํางาน เพื่อใหสมาชิกทุกคน สามารถทํางานไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อ ทําใหการทํางานสําเร็จลุลวงไปไดอยาง รวดเร็ว ราบรื่น มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ) • หลักการพัฒนาคุณภาพในการทํางาน สามารถนํามาประยุกตใชในการทํางานของ นักเรียนไดอยางไร (แนวตอบ เปนการนําหลักการพัฒนาใน ดานตางๆ มาประยุกตใชในการทํางาน เพื่อใหสามารถทํางานไดอยางสรางสรรค มีทัศนคติที่ดีตอการทํางาน มีความมุงมั่นใน การทํางาน ซึ่งจะสงผลใหการทํางานสําเร็จ ลุลวงไปไดดวยดีและมีประสิทธิภาพ) 2. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยาง “กลุมของนักเรียน ไดรับมอบหมายใหรวมกันจัดซุมดอกไม เพื่อ ตอนรับแขกที่มาเยี่ยมโรงเรียน” จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 หนา 4 จากนั้นใหนักเรียน รวมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทักษะ กระบวนการทํางาน โดยมีครูเปนผูคอยเสนอแนะ เพิ่มเติม 3. ครูถามนักเรียนวา • จากกรณีตัวอยาง นักเรียนคิดวาเปนการ วางแผนการทํางานที่ดีหรือไม อยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) บุคคลในขอใดมีการวางแผนขั้นตอนในการปฏิบัติงาน 1. แยมทําอุปกรณสําหรับกองเชียร 2. ยูยี่กําหนดงบประมาณในการจัดงานกีฬาสี 3. ยิมวิเคราะหปญหา เพื่อนําไปเปนแนวทางในการจัดงานครั้ง ตอไป 4. โยเรียกประชุมสมาชิกของกลุม เพื่อใหทุกคนเตรียมตัวจัดงาน กีฬาสี (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะขั้นตอนการวางแผนการ ปฏิบัติงาน เปนขั้นตอนในการกําหนดรูปแบบการปฏิบัติงานวาจะ ตองใชวัสดุ อุปกรณชนิดใด ใชเงินลงทุนเทาไร ซึ่งยูยี่เปนผูกําหนด งบประมาณในการจัดงานกีฬาสี จึงจัดอยูในขั้นตอนการวางแผน ในการปฏิบัติงาน เพื่อใหมีการจัดสรรงบประมาณในการจัดงาน ไดอยางลงตัว) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทํางานอยางเปนลําดับขั้นตอนใหนักเรียน ฟงวา ในการปฏิบัติงานจําเปนตองทํางานอยางมีลําดับขั้นตอน เพราะจะสงผล ใหการทํางานประสบความสําเร็จตามจุดมุงหมายที่ไดวางไว ซึ่งสามารถปฏิบัติ ไดจากการวางแผนขั้นตอนการทํางานกอนลงมือปฏิบัติงานจริง เพื่อชวยลด ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทํางาน รวมถึงมีการวางแผนสํารองเพิ่มเติม และคิดหาวิธีการแกปญหาที่อาจเกิดขึ้นไวลวงหนา การวางแผนการทํางานอยาง เปนลําดับขั้นตอนจะทําใหสามารถมองเห็นภาพรวมของงานทั้งหมด ซึ่งนําไปสู การลดขั้นตอนในการทํางานลงได ชวยใหประหยัดทั้งเวลา แรงงาน และงบประมาณ โดยที่คุณภาพของผลงานไมไดลดลง นํา สอน สรุป ประเมิน T6
๑.๒ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการที่ต้องการให้ผู้ปฏิบัติงานได้รู้จักคิดหาวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ อย่างเป็นระบบ กระบวนการแก้ปัญหามีขั้นตอน ดังนี้ การสังเกต รับรู้และท�าความ เข้าใจกับปัญหาที่ เกิดขึ้น จากตัวอย่างปัญหาการจัด ซุ้มดอกไม้ข้างต้นพบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ซุ้ม ดอกไม้มีขนาดเล็กเกินไป ในขณะที่พื้นที่มีขนาดใหญ่ งบประมาณไม่เพียงพอ ดอกไม้มีราคาแพงขึ้น จึงท�าให้ซื้อดอกไม้ได้ น้อยกว่าจ�านวนที่ต้องการ วิธีที่ ๑ ของบประมาณเพื่อ น�าไปซื้อดอกไม้มาเพิ่ม วิธีที่ ๒ ออกแบบใหม่ โดย ใช้ดอกไม้เท่าที่มี เลือกวิธีที่ ๒ เพราะไม่ต้อง เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทั้งยังได้ ซุ้มดอกไม้ที่สวยงามตาม แบบที่วาดไว้ การวิเคราะห์ปัญหา พิจารณาปัญหาที่ เกิดขึ้นว่ามีสาเหตุ มาจากสิ่งใด การสร้างทางเลือก แสวงหาทางเลือกใน การแก้ปัญหาอย่าง หลากหลาย การประเมิน ทางเลือก เลือกทางเลือกที่ดี และเหมาะสมที่สุด เพื่อน�าไปใช้ในการแก้ ปัญหา • มีสติปัญญา เฉลียวฉลาด • มีทัศนคติที่ดีต่อการท�างาน • มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี • มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ • มีจริยธรรม ซื่อสัตย์ และเสียสละ • สร้างแรงจูงใจและมีความมุ่งมั่นตั้งใจ • มีความรู้และมีประสบการณ์ ในงานที่ท�า • มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง ๒ หลักการท�างานเพื่อการด�ารงชีพ การท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต เป็นการท�างานที่มีความเกี่ยวข้องในชีวิตประจ�าวัน เพื่อช่วยเหลือ ตนเอง ครอบครัว และสังคม ไม่ท�าลายสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การเรียนรู้หลักการท�างานจะช่วยให้ ท�างานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความส�าเร็จ ๒.๑ หลักการพัฒนาคุณภาพในการท�างาน การพัฒนาการท�างานให้มีคุณภาพที่ดี ควรมีการฝึกทักษะทางด้านการเข้าสังคม การท�างาน เป็นกลุ่ม การปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี การพัฒนาคุณภาพในการท�างาน มีหลักการส�าคัญ ดังนี้ 5 หลักการท�างาน เพื่อการด�ารงชีวิต การสร้างทางเลือก 1 งานให้มีคุณภาพที่ดี ควรมีการฝึกทักษะทางด้านการเข้าสังคม การท� สร้างแรงจูงใจและมีความมุ่งมั่นตั้งใจ 2 3 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในการทํางานตางๆ ไมวาจะเปนการทํางานแบบรายบุคคล หรือ การทํางานแบบกลุมจะตองมีการนําทักษะใน การทํางานมาใชอยูเสมอ ซึ่งทักษะที่นํามาใช จะมีความหลากหลาย เชน ทักษะกระบวนการ ทํางาน ทักษะกระบวนการแกปญหา นอกจากนี้ การทํางานยังตองรูจักการพัฒนาตนเอง พัฒนาผลงานที่ทําอยูเสมอ เพื่อใหงานมี คุณภาพมากยิ่งขึ้น” 5. ครูถามนักเรียนวา • หากตองประสบปญหาในการทํางาน นักเรียน จะมีแนวทางในการแกปญหาอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความ คิดเห็นไดอยางอิสระ เชน ทําความเขาใจกับ ปญหาที่เกิดขึ้น จัดลําดับความสําคัญของ ปญหา สรางทางเลือกในการแกปญหาอยาง หลากหลาย พิจารณาขอมูลทางเลือกตางๆ จากนั้นนํามาประเมินทางเลือก วางแผน การปฏิบัติงานอยางเปนขั้นตอน บันทึกผล การปฏิบัติงานเพื่อรายงาน และตรวจสอบ ความถูกตองของทางเลือกในการแกปญหา) นักเรียนควรรู 1 การสรางทางเลือก เปนวิธีการเพิ่มหนทางในการแก ไข หรือกระทําในบางสิ่ง บางอยาง ในการสรางทางเลือกควรสรางทางเลือกอยางหลากหลาย ทั้งที่มีความ เปนไปไดมากและมีความเปนไปไดนอย เพื่อใหสามารถปรับใชใหมีความ เหมาะสมกับลักษณะของงาน หรือปญหาที่เกิดขึ้น 2 การเขาสังคม เปนสิ่งที่ตองพบเจอเมื่อตองทํางานรวมกับผูอื่น การสราง ความสัมพันธที่ดี สามารถปฏิบัติไดหลายวิธี เชน การกลาวคําทักทาย การวางตัว อยางมีมารยาท การพูดจาสุภาพไพเราะนาฟง การสื่อสารและการสนทนารวมกับ ผูอื่นในเรื่องที่สรางสรรค การรับฟงความคิดเห็นของผูอื่น สิ่งเหลานี้ลวนทําให เกิดความราบรื่นในการสรางความสัมพันธที่ดีตอกัน รวมถึงทําใหสามารถทํางาน รวมกับผูอื่นไดอยางมีความสุขและประสบความสําเร็จในการปฏิบัติงาน 3 สรางแรงจูงใจ หากตองการสรางแรงจูงใจ ควรมีหลักสําคัญ 3 ประการ คือ การใหการยกยอง การใหรางวัล และการสงเสริม ใหนักเรียนวิเคราะหแนวทางการทํางานใหประสบความสําเร็จ วาควรประกอบไปดวยสิ่งใดและสิ่งนั้นมีความสําคัญอยางไร อธิบาย เหตุผล พรอมยกตัวอยางประกอบการอธิบายใหชัดเจน ลงใน กระดาษ A4 นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนสืบคนขอมูลของบุคคลที่ประสบความสําเร็จจาก การทํางาน 1 ทาน ในประเด็นที่ครูกําหนดให คือ ประวัติสวนตัว ทักษะการทํางาน การวิเคราะหแนวทางการทํางาน หลักการทํางาน ใหประสบความสําเร็จ ลงในกระดาษ A4 นําสงครูผูสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวางแผนการ ทํางานตามความสนใจ 1 งาน (งานบาน งานประดิษฐ งานผา) โดยนําขั้นตอนของ กระบวนการทํางานมาประยุกตใช ซึ่งสามารถ ศึกษาจากตัวอยางในหนังสือเรียน หนวยการ เรียนรูที่ 1 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต จากนั้นบันทึกขั้นตอนการวางแผนการทํางาน ลงในใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง ทักษะกระบวนการ ทํางาน นํา สอน สรุป ประเมิน T7
ขอสอบเนนการคิด มองเห็นคุณค่าของงาน มองเห็นคุณค่าของงานที่ท�าอยู่ ว่าได้ช่วยเหลือ หรือท�าประโยชน์ ให้แก่ผู้ ใด ก็จะท�าให้เกิดความรัก ความภาคภูมิใจ ความมั่นใจใน งานของตนเองมากขึ้น มีสมาธิกับงาน ฝึกจิตให้มีสมาธิก่อนเริ่มท�างาน ต้องมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ อยู่กับงาน ขณะท�างานควรคิด หาวิธีแก้ไขและพัฒนางานอยู่ เสมอ จะช่วยฝึกการคิดวิเคราะห์ และไม่เกิดความฟุ้งซ่าน มีความกระตือรือร้น สร้างอิริยาบถต่างๆ ให้มีชีวิตชีวา รักและสนุกสนานไปกับการ ท�างาน ฝึกท�างานให้คล่องแคล่ว ว่องไว มีความตื่นตัวและกระฉับ กระเฉงอยู่เสมอ ๑. ปรับปรุง หรือพัฒนาวิธีการท�างานให้สะดวก และดียิ่งขึ้น เช่น ลดขั้นตอน หรือเพิ่มเทคนิคเข้าไป เพื่อให้ท�างานได้อย่างคล่องแคล่วและรวดเร็ว มากยิ่งขึ้น 2. ค้นหาวิธีการท�างานให้ประหยัด หรือ ลดการใช้อุปกรณ์และก�าลังคนได้อย่างคุ้มค่า เพื่อ เพิ่มผลผลิตในการท�างาน เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ โดยน�ากระบวนการทางเทคโนโลยีเข้ามาใช้ใน การท�างาน ๓. พัฒนาการท�างานให้มีความถูกต้อง เพื่อ ลดการสูญเสียและเพิ่มความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงาน ๔. สร้าง หรือค้นหาวิธีการท�างานใหม่ ๆ เพื่อ ให้สามารถพัฒนาการท�างานได้ดียิ่งขึ้น ๒.๓ วิธีท�างานอย่างมีความสุข ทุกคนย่อมมีความต้องการความก้าวหน้าและความมั่นคงในการท�างาน มีความพึงพอใจ ในงานที่ท�า แต่ในการท�างานภายใต้หน้าที่ความรับผิดชอบ ความกดดัน ความวิตกกังวล เป็นสิ่งที่ ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จึงควรปฏิบัติเพื่อให้ท�างานอย่างมีความสุข ซึ่งการท�างานอย่างมี ความสุขมี ๓ วิธี ดังนี้ การน�าเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการท�างาน จะช่วยให้ท�างาน ได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ๒.๒ คุณภาพในการท�างาน ปัจจุบันการแข่งขันมีสูงขึ้น ท�าให้มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น บริษัท หรือสถานประกอบการ หลายแห่งมีการปลดพนักงานออก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดประสิทธิภาพในการท�างาน ไม่พัฒนา และปรับปรุงการท�างานของตนให้มีคุณภาพ ซึ่งคุณภาพในการท�างานสามารถปฏิบัติได้ ดังนี้ 6 แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง ทักษะ กระบวนการทํางาน 3. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง ทักษะ กระบวนการทํางาน 2. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน จากการนําเสนอผลการวิเคราะห วิจารณ และ การสรุปความรู ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 7. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน จากนั้นใหเพื่อนรวมชั้นเรียนรวมกันเสนอแนะ เพิ่มเติม 8. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “คุณภาพในการทํางาน มีความสําคัญมาก เพราะปจจุบันมีการแขงขันสูง เชน ในภาคธุรกิจที่มุงเนนคุณภาพของงาน เพื่อศักยภาพในการแขงขัน หากคุณภาพของงาน ไมดี ก็ไมสามารถแขงขันกับธุรกิจอื่นๆ ได ดานแรงงานก็เชนเดียวกัน หากขาดทักษะใน การทํางาน ผลงานจะไมมีประสิทธิภาพ อาจ เปนสาเหตุที่ทําใหถูกเลิกจางงานได” แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม บุคคลในขอใดนําวิธีการทํางานอยางมีความสุขมาประยุกตใช ไดอยางเหมาะสม 1. นิวชวนเพื่อนไปเดินเลนที่หางสรรพสินคากอนแลวจึง กลับมาทํางาน 2. นุนตั้งความหวังไววาจะไดคะแนนจากการทํางานมากกวา เพื่อน 3. แนนจะทํางานไปเรื่อยๆ เมื่อใกลกําหนดสงจึงคอยเรงมือ 4. เนยทํางานที่ตนเองชอบ ถนัด และสนใจ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการทํางานที่ตนเองชอบ ถนัด และสนใจ จะทําใหเกิดความสุขจากการทํางาน เกิดความภาคภูมิใจ มองเห็นคุณคาและประโยชนของงานที่ทํา มีความมุงมั่นตั้งใจ ในการทํางานอยางกระตือรือรน และไมตองเครงเครียดกับงาน มากจนเกินไป) นํา สอน สรุป ประเมิน T8
๓ การแก้ปัญหาในการท�างานด้วยวงจร PDCA PDCA เป็นวงจรของการพัฒนาทักษะในการแก้ปัญหา ซึ่งน�าไปประยุกต์ ใช้ ได้ ในทุกองค์กร เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางด้านคุณภาพของงาน หรือผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะช่วยให้ ผู้ปฏิบัติงานได้ติดตามและทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ท�าให้ผู้ร่วมงานทุกคน มีส่วนร่วมในการแก้ไข ปรับปรุงวิธีการท�างาน เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการท�างานให้มีความยั่งยืน ๓.๑ โครงสร้างของวงจร PDCA วงจร PDCA ถูกน�ามาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา พัฒนา และปรับปรุงงานอย่างเป็น ขั้นตอน เพื่อให้งานส�าเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสามารถน�าไปประยุกต์ใช้ได้กับ ทุก ๆ เรื่อง เช่น การเรียน การประกอบอาหาร การตั้งเป้าหมายในชีวิต ซึ่งโครงสร้างวงจร PDCA มีขั้นตอน ดังนี้ Plan Do Act Check PDCA Check การตรวจสอบงาน ตรวจสอบผลการปฏิบัติงานในแต่ละขั้นตอน ของแผนงานว่ามีปัญหาใดเกิดขึ้น และจ�าเป็น ต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขแผนงานในขั้นตอนใด Act การปรับปรุง แก้ไขงาน ปรับปรุงแก้ไขงานที่มีปัญหา หากงานไม่มีปัญหาสามารถน�า แนวทางการปฏิบัติที่เกิดผล ส�าเร็จนี้ไปประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงานครั้งต่อ ๆ ไป Plan การวางแผนงาน ตั้งเป้าหมาย ก�าหนดขั้นตอนวิธีการด�าเนินงาน รวมทั้งก�าหนดงบประมาณ แรงงาน วัตถุดิบ และระยะเวลาในการท�างาน Do การปฏิบัติงาน ลงมือปฏิบัติงานตามขั้นตอน ที่ได้วางแผนไว้ และควรมี การตรวจสอบระหว่างการ ปฏิบัติงานด้วย 7 หลักการท�างาน เพื่อการด�ารงชีวิต ขั้นนํา (กระบวนการเรียน ความรู ความเขาใจ) 1. ครูถามนักเรียนเกี่ยวกับปญหา หรืออุปสรรค ในการทํางานที่ผานมาวา • นักเรียนเคยพบเจอกับปญหา หรืออุปสรรคใด และมี วิธีการแกปญหา หรืออุปสรรคนั้นอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 2. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาเลาประสบการณ เกี่ยวกับปญหา หรืออุปสรรคที่พบเจอจากการ ทํางาน และวิธีการแกปญหาใหเพื่อนฟงหนา ชั้นเรียน 3. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นและครู ชวยเสนอแนะเพิ่มเติม ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครูใหนักเรียนดูแผนภูมิกระบวนการแกปญหา ในการทํางานดวยวงจร PDCA จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการ แกปญหาในการทํางานดวยวงจร PDCA จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรูที่ 1 3. ครูถามนักเรียนวา • วงจร PDCA ประกอบไปดวยขั้นตอนใด (แนวตอบ วงจร PDCA ประกอบไปดวย 4 ขั้นตอนที่สําคัญ คือ P (Plan) เปนขั้นตอน การวางแผนงาน D (DO) เปนการลงมือ ปฏิบัติงานตามแผนงานที่วางไว C (Check) เปนขั้นตอนการตรวจสอบผลที่ไดรับจาก การปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง และ A (Act) เปนขั้นตอนการปรับปรุงแกไขการทํางาน ซึ่งเกิดจากการประเมินวาการทํางานเปนไป ตามแผนหรือไม เพื่อปรับปรุงการทํางานใหดี ยิ่งขึ้นไป) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคในการปฏิบัติงานตามวงจร PDCA ใหนักเรียนฟงวา เทคนิคในการปฏิบัติงานตามวงจร PDCA สามารถปฏิบัติได ตามขั้นตอน คือ เทคนิคการวางแผน ตรวจสอบหนาที่ ภาระงาน และอุปกรณที่ตอง รับผิดชอบ โดยคํานึงถึงระยะเวลาในการทํางาน ลําดับการทํางาน และเปาหมาย ในการทํางาน เทคนิคขั้นตอนการปฏิบัติ ตรวจสอบทุกขั้นตอนอยางละเอียด หากพบขอบกพรองใหรีบแกไขทันที กอนที่ความเสียหายจะเพิ่มมากขึ้น เทคนิค ขั้นตอนการตรวจสอบ ตรวจสอบวิธีการ ระยะเวลา และผลที่ไดรับจากการปฏิบัติ งานวาทําไดตามแผนหรือไม เทคนิคขั้นตอนการปรับปรุงแกไข หากตรวจสอบ แลวพบวามีขอผิดพลาด ใหรีบหาสาเหตุ และแก ไขทันที กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ใหแตละกลุมรวมกัน ศึกษา เรื่อง วงจร PDCA จากสื่อการเรียนรูที่หลากหลาย เชน อินเทอรเน็ต 2. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันระดมความคิดและแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับวงจร PDCA วามีเทคนิคการทํางานในแตละขั้นตอน อยางไร 3. ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเรื่อง วงจร PDCA ภายในหองเรียน อยางสรางสรรค โดยนําเทคนิคตางๆ ที่ใชในการทํางานมา ทบทวน เพื่อสรุปขอดี ขอบกพรอง หรือจุดที่ควรแกไขปรับปรุง ในระบบงาน เพื่อใหการดําเนินงานครั้งตอไปเปนไปอยางราบรื่น มากยิ่งขึ้น 4. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสรุปความรูที่ไดรับจากการศึกษา เรื่อง วงจร PDCA ลงในกระดาษ A4 นําสงครูผูสอน สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแกปญหาในการทํางานดวยวงจร PDCA ไดที่ http://www.manage.rbru.ac.th/images/Book/PDCA.pdf นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T9
ขอสอบเนนการคิด ตัวอย่าง การน�าวงจร PDCA มาใช้ในการซื้อของใช้ภายในบ้าน Plan Do Act Check ๓.๒ ตัวอย่างการน�าวงจร PDCA มาใช้ ในกระบวนการท�างานและ กระบวนการแก้ปัญหา วงจร PDCA ที่สมบูรณ์จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเราน�าผลที่ได้จากขั้นตอนการด�าเนินการที่เหมาะสม มาด�าเนินการในกระบวนการวางแผนอีกครั้งหนึ่ง และเป็นวงจรแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งสามารถใช้วงจรนี้ได้กับการด�าเนินชีวิตประจ�าวัน การวางแผนงาน (Plan) ส�ารวจว่าของในบ้านมีสิ่งใดเหลืออยู่เป็น จ�านวนเท่าไร หากต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมให้ จดรายการไว้ เลือกสถานที่ที่จะไปซื้อ และ เตรียมเงินให้เพียงพอ การปรับปรุงแก้ไขงาน (Act) พิจารณาความผิดพลาดจากการซื้อสินค้า ว่าเกิดจากสาเหตุใด เช่น สินค้าบางชนิดมี ราคาสูง จึงไม่ได้ซื้อมา วิธีการแก้ไข คือ ครั้งต่อไปควรตรวจสอบราคาของสินค้าที่ ต้องการซื้อจากสถานที่ซื้อต่าง ๆ แล้วเลือก สถานที่ซื้อสินค้าที่มีราคาถูก หรือเตรียมเงิน ส�ารองไว้ด้วย การปฏิบัติงาน (Do) ไปที่ร้านค้า เรียงล�าดับในการซื้อสินค้าโดย เลือกซื้อของตามที่จดมา หากไม่พบสิ่งที่ ต้องการ หรือมีราคาสูงเกินกว่าที่ตั้งไว้ให้ พิจารณาตามความเหมาะสม ก่อนออกจาก ร้านให้ตรวจสอบว่าซื้อสินค้าได้ครบตามที่ ต้องการหรือไม่สินค้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือ มีต�าหนิหรือไม่ ผู้ขายคิดราคาและทอนเงิน ถูกต้องหรือไม่ การตรวจสอบ (Check) เมื่อถึงบ้านควรตรวจสอบจ�านวนเงินที่ใช้ไป และตรวจสอบว่ามีสิ่งใดที่ซื้อไม่ได้ตามที่ ต้องการ เช่น ได้สินค้ามาไม่ครบเพราะมี ราคาสูง แล้วน�าข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบ ไปวางแผนในการซื้อสินค้าครั้งต่อไป เพื่อจะ ได้สินค้าตรงตามที่ต้องการและใช้งานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ 8 ขั้นที่ 2 วางแผนปฏิบัติ 5. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) รวมกันศึกษา กรณีศึกษาที่ครูกําหนดให ซึ่งกรณีศึกษาของ แตละกลุมจะมีความแตกตางกันไป ดังนี้ • ปญหาที่เกิดขึ้นระหวางการทํางาน • ปญหาความขัดแยงกันระหวางสมาชิกในกลุม • ปญหาการวางแผนในการทํางานกลุม 6. ครูแจกกรณีศึกษาที่เกี่ยวกับปญหาที่เกิดขึ้น ในการทํางานทั้งหมด 3 กรณี ใหกับนักเรียน แตละกลุม โดยใชวิธีการสุมแจก เพื่อใหนักเรียน ไดรวมกันคิดวิเคราะหและอภิปรายความรูรวมกัน ภายในกลุม บูรณาการอาเซียน ครูอธิบายเพิ่มเติมวาในชวงที่ประเทศไทยมีการเตรียมความพรอม เพื่อ เขาสูประชาคมอาเซียน ประเทศไทยไดมีการเตรียมความพรอมทั้งในดาน เศรษฐกิจ ความมั่นคงทางการเมือง และอาจตองมีการรับมือกับการหลั่งไหล ของแรงงานจากนานาประเทศ ซึ่งสงผลทําใหเกิดการแขงขันทางดานการทํางาน ที่เพิ่มสูงมากขึ้น จึงตองมีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย เพื่อใหสามารถแขงขัน กับแรงงานจากนานาชาติไดอยางมีประสิทธิภาพ โดยจะตองมีการพัฒนา ทางดานภาษา การศึกษา เทคโนโลยี ทักษะกระบวนการทํางาน และทักษะ กระบวนการแกปญหา เพื่อใหบุคลากรของประเทศมีศักยภาพในการทํางาน ที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับนานาชาติได ขอใดเปนลักษณะของการวางแผนการทํางานที่ดี 1. ปฏิบัติงานงาย ไมซับซอน 2. มีความชัดเจน ขอมูลถูกตอง 3. สามารถตรวจสอบการทํางานได 4. มีความซับซอนในการปฏิบัติมากกวาปกติ ( วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะจะตองมีความชัดเจน ขอมูล ถูกตองครบถวน มีการระบุวาใครจะรับผิดชอบทําหนาที่ใด ทําสิ่งใด เวลาใด สถานที่ใด ทําอยางไร และทําเพื่อสิ่งใดอยางละเอียด เพื่อใหสามารถนําแผนที่วางไวไปใชในการปฏิบัติงานไดประสาน สอดคลองอยางตอเนื่อง ซึ่งขอมูลเหลานี้จะตองกําหนดไวอยาง ชัดเจน) ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก • นักเรียนเคยเห็นวงจร PDCA นี้หรือไม นักเรียนคิดวามีประโยชนอยางไร (แนวตอบ วงจร PDCA เปนวิธีการทํางาน และการแกปญหาในการทํางาน โดยเนน การพัฒนา ปองกัน และปรับปรุงการทํางาน ใหดียิ่งขึ้น เพื่อใหการทํางานสามารถพัฒนา ไดอยางยั่งยืนและมีคุณภาพ วงจร PDCA จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งวา “วงจรบริหารงาน คุณภาพ”) 4. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยาง “การนําวงจร PDCA มาใชในการซื้อของใชภายในบาน” จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 หนา 8 จากนั้น ใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การนําวงจร PDCA มาใชในกระบวนการทํางาน และกระบวนการแกปญหา โดยมีครูเปนผูคอย เสนอแนะเพิ่มเติม นํา สอน สรุป ประเมิน T10
กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค ๔ การแก้ปัญหาในการท�างานด้วยกิจกรรม ๕ ส กิจกรรม ๕ ส เป็นกระบวนการท�างานที่เป็นระบบ มีแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสม โดยน�า มาใช้เพื่อปรับปรุง แก้ ไขงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ต่าง ๆ ให้ดีขึ้น สามารถน�ามาใช้ ใน การเพิ่มประสิทธิภาพการท�างานได้อีกทางหนึ่งด้วย ๔.๑ หลักการของกิจกรรม ๕ ส กิจกรรม ๕ ส เป็นกิจกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบและการท�าความสะอาดใน สถานที่ต่างๆ เช่น บ้าน โรงเรียน ห้องเรียน สถานที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบ สะอาด ปลอดภัย มีบรรยากาศที่ดี และสร้างความสุขให้กับผู้อยู่อาศัย สะสาง การแยกของที่จ�าเป็นต้องใช้กับ ของที่ไม่จ�าเป็นต้องใช้ และขจัด ของที่ไม่จ�าเป็นต้องใช้ ทิ้งไป สะดวก การจัดวางสิ่งของให้เป็นระเบียบ เพื่อความสะดวก ปลอดภัย และ สามารถหยิบใช้งาน ได้ทันที ส�ารวจสิ่งของ โดยเฉพาะบริเวณ ที่อยู่ ในความรับผิดชอบ แยก ของที่ต้องการใช้งานกับของที่ ไม่ต้องการใช้งานออกจากกัน วางของให้เป็นที่ เป็นหมวด หมู่ หรือท�าป้ายบอก และเมื่อ น�าของไปใช้งานเสร็จแล้ว ควร น�ามาเก็บไว้ที่เดิมให้เรียบร้อย กิจกรรม 5 ส Seiri [เซริ] สะสาง Seiton [เซตง] สะดวก Seiso [เซโซ] สะอาด Seiketsu [เซเคทซี] สุขลักษณะ Shitsuke [ซึทซึเคะ] สร้างนิสัย หลักการ หลักการ สะอาด การท�าความสะอาด ปัด กวาด เช็ด ถู สถานที่ สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร ให้สะอาดอยู่เสมอ สร้างนิสัย การสร้างนิสัยในการปฏิบัติงาน ตามระเบียบวินัย หรือข้อบังคับ อย่างเคร่งครัด สุขลักษณะ การรักษาและปฏิบัติ ๓ ส ได้แก่ สะสาง สะดวก และสะอาด ให้ดี ตลอดไป หมั่นปัด กวาด เช็ด ถู บริเวณ ต่าง ๆ ของห้อง เช่น เพดาน ฝาผนัง พื้นห้อง ชั้นวางของ โต๊ะให้สะอาดอยู่เสมอ แยกของใช้กับของไม่ใช้ออก จากกัน จัดสิ่งของเป็นหมวด หมู่ หมั่นรักษาความสะอาด อยู่เสมอ ปฏิบัติงานตามกฎระเบียบ วินัย ข้อบังคับ เพื่อสร้างลักษณะ นิสัยที่ดีให้เกิดขึ้นในการ ท�างาน หลักการ หลักการ หลักการ 9 หลักการท�างาน เพื่อการด�ารงชีวิต ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 7. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวิเคราะหปญหา ที่เกิดขึ้นในการทํางานจากกรณีศึกษาที่ครู แจกให และใชวงจร PDCA เขามาชวยในการ แกปญหา โดยใหแตละกลุมรวมกันเขียนขั้นตอน การแกปญหาในรูปแบบของแผนผังความคิด เพื่อใหเกิดความเขาใจที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 8. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลการศึกษาเกี่ยวกับ ปญหาที่เกิดขึ้นในการทํางานจากกรณีศึกษา ที่ครูแจกใหใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน จากนั้น ใหเพื่อนรวมชั้นเรียนรวมกันเสนอแนะเพิ่มเติม 9. ครูถามนักเรียนวา • วงจร PDCA ชวยปองกันปญหาที่จะเกิดขึ้น ในการทํางานไดอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) 10. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “กระบวนการแกปญหา ในการทํางานไมไดมีเพียงการแกปญหาดวย วงจร PDCA เทานั้น แตยังมีการแกปญหาดวย การใชกิจกรรม 5 ส ซึ่งสามารถนํามาประยุกตใช เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานไดอีกวิธีหนึ่ง” 11. ครูใหนักเรียนศึกษาเรื่อง การแกปญหาดวยการ ใชกิจกรรม 5 ส จากหนังสือเรียน หนวยการ เรียนรูที่ 1 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 12. ครูถามนักเรียนวา • การทํากิจกรรม 5 ส ที่โรงเรียน สามารถนํา มาประยุกตใช ในชีวิตประจําวันของนักเรียน ไดอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) ใหนักเรียนนําความรูเกี่ยวกับหลักการของกิจกรรม 5 ส ไดแก สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ และสรางนิสัย ไปประยุกต ใชในชีวิตประจําวัน เพื่อจัดระเบียบและทําความสะอาดบานของ ตนเองในการปฏิบัติงาน โดยใหนักเรียนถายภาพกอนและหลังการ ปฏิบัติงาน พรอมทั้งบันทึกขอมูลเกี่ยวกับปญหาที่พบและแนวทาง แกไข จัดทําเปนรูปเลมรายงาน นําสงครูผูสอน (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะดานซื่อสัตยสุจริต มีวินัย และ มุงมั่นในการทํางาน) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชนจากการทํากิจกรรม 5 ส ใหนักเรียน ฟงวา การทํากิจกรรม 5 ส จะสงผลใหสถานที่ทํางาน บาน โรงเรียนมีความ นาอยู นาทํางาน ผูปฏิบัติงาน หรือผูอาศัยจะมีจิตใจที่สดชื่น ปลอดโปรง และ กระตือรือรนที่จะปฏิบัติหนาที่ของตนอยางเต็มกําลังความสามารถ นอกจากนี้ การทําความสะอาดยังสงผลทางออม คือ เปนการตรวจสอบอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชตางๆ ทําใหทราบถึงขอบกพรองที่มีอยู และแนะนําใหนักเรียนนําหลัก กิจกรรม 5 ส ไปประยุกตใชในชีวิตประจําวัน เชน บาน โรงเรียน สถานที่สาธารณะ เพื่อสรางความเปนระเบียบเรียบรอย กอใหเกิดความปลอดภัย ถูกสุขอนามัย นอกจากนี้ ควรใหนักเรียนจัดกิจกรรมรณรงค 5 ส ในชุมชนรวมดวย สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแกปญหาในการทํางานดวยกิจกรรม 5 ส ไดที่ http://library.rsu.ac.th/library5s/lib5s_mean.html นํา สอน สรุป ประเมิน T11
ขอสอบเนนการคิด ๓ เกิดความสะดวกและความ ปลอดภัยในการปฏิบัติงาน 6 ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของ บุคลากรในองค์กร หน่วยงาน ตลอดจนประชาชนในสังคม ให้ดีขึ้น 2 เกิดการฝึกฝนแนวความคิด อย่างเป็นระบบ 5 มีพื้นที่จัดเก็บวัสดุ อุปกรณ์ อย่างมีประสิทธิภาพ 8 ช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น จากการท�างาน ๑ บ้าน โรงเรียน ห้องเรียน สถานที่ ปฏิบัติงานมีความสะอาดและ เป็นระเบียบเรียบร้อย ๔ มีประสิทธิภาพในการท�างาน ที่สูงขึ้น 7 มีโอกาสท�างานเป็นกลุ่มและ ร่วมกันแก้ปัญหา T i p ๕ ส กับการจัดบ้าน การจัดบ้านโดยใช้กิจกรรม ๕ ส จะช่วยให้บ้านมีความเป็นระเบียบ สะอาด และปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งมีวิธีการจัดตามหลัก ๕ ส ดังนี้ ๑. สะสาง : เครื่องเรือนชิ้นใดที่ช�ารุดแล้วให้ทิ้งไป ๒. สะดวก : จัดวางของที่จ�าเป็นให้สะดวกต่อการ น�าไปใช้ ๓. สะอาด : ท�าความสะอาดบ้าน เครื่องเรือนต่าง ๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ ๔. สุขลักษณะ : ดูแลรักษาบ้าน ของใช้ เครื่องเรือน ต่างๆ ให้ถูกสุขลักษณะ และ ค�านึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ๕. สร้างนิสัย : ปฏิบัติตามหลัก ๕ ส จนเป็นนิสัย ๔.๒ ประโยชน์ที่ ได้รับจากการท�ากิจกรรม ๕ ส การท�างานโดยยึดหลักกิจกรรม ๕ ส จะช่วยก่อประโยชน์ ให้แก่องค์กร หน่วยงาน และบุคคล ดังนี้ ๑0 ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบใบงานที่ 1.2.1 เรื่อง การแกปญหา ในการทํางานดวยวงจร PDCA 2. ครูตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การปฏิบัติงานตางๆ โดยใชทักษะกระบวนการ ทํางานและทักษะกระบวนการแกปญหา 3. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรม การเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการ ทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการ สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การ แกปญหาในการทํางานดวยวงจร PDCA 2. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การ แกปญหาในการทํางานดวยกิจกรรม 5 ส 3. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน จากการนําเสนอผลการวิเคราะห วิจารณ และ การสรุปความรู ขั้นสอน ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู ความเขาใจ 13. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 1.2.1 เรื่อง การแกปญหาในการทํางานดวยวงจร PDCA 14. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การปฏิบัติงานตางๆ โดยใช ทักษะกระบวนการทํางานและทักษะกระบวนการ แกปญหา แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 ขอใดเปนวิธีการประเมินความกาวหนาจากการทํากิจกรรม 5 ส ไดดีที่สุด 1. แบบบันทึก 2. แบบประเมิน 3. การนําเสนอ 4. ภาพถาย ( วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะวิธีการประเมินความกาวหนา จากการทํากิจกรรม 5 ส ที่ไดผลดีที่สุด คือ การใชภาพถายกอน และหลังการปฏิบัติกิจกรรม เนื่องจากภาพถายสามารถระบุความ เปลี่ยนแปลงของพื้นที่ไดอยางชัดเจน) แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม นํา สอน สรุป ประเมิน T12
การศึกษาเป็นสิ่งส�าคัญที่ครอบครัวส่งเสริมให้ได้รับอย่าง เต็มที่ เพื่อน�าความรู้ที่ได้นั้นไปใช้ในการประกอบอาชีพสุจริต ในอนาคต ๑. เคารพเชื่อฟังบิดามารดา เคารพและเชื่อฟัง ค�าสั่งสอนของบิดามารดา และปฏิบัติตนตามค�า สั่งสอนของท่านอย่างเคร่งครัดด้วยความเต็มใจ 2. ช่วยเหลือบิดามารดาในทุกโอกาสที่ สามารถปฏิบัติได้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ ของท่าน ซึ่งสามารถท�าได้หลายวิธี เช่น ช่วยท�า ความสะอาดบ้าน ช่วยดูแลเมื่อยามเจ็บไข้ ประกอบอาชีพสุจริต ๓. ใช้จ่ายอย่างประหยัด ควรใช้จ่ายในสิ่งที่ จ�าเป็นเท่านั้น ไม่สุรุ่ยสุร่าย เพราะเงินทองเป็นสิ่ง ที่บิดามารดาหามาด้วยความเหนื่อยยาก เช่น รู้จักซ่อมแซมเสื้อผ้าและของใช้ในบ้านให้ใช้งาน ได้อย่างคุ้มค่า ประดิษฐ์งานเอกลักษณ์ไทยเพื่อใช้ ในโอกาสส�าคัญต่าง ๆ ๔. ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน การตั้งใจเรียน เป็น หน้าที่ส�าคัญของบุตร ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของ ตนเอง เพราะเมื่อส�าเร็จการศึกษาสามารถน�า ความรู้ไปประกอบอาชีพสุจริตเพื่อเลี้ยงตนเอง และบิดามารดา ถือเป็นการตอบแทนบุญคุณ ที่ดีที่สุดที่บุตรพึงกระท�า 5. มีความรักใคร่ปรองดองในหมู่พี่น้อง จะต้องมีความรักใคร่สามัคคีกันในหมู่พี่น้อง ไม่ทะเลาะวิวาทกันเอง ซึ่งท�าให้บิดามารดา สบายใจและเท่ากับเป็นการตอบแทนความรัก ความห่วงใยของบิดามารดาอีกด้วย 6. ประพฤติตนให้สมกับเป็นผู้ด�ารงวงศ์ ตระกูล โดยต้องประพฤติตัวดี ไม่ปฏิบัติตนไปใน ทางเสื่อมเสียแก่วงศ์ตระกูล ซึ่งจะน�ามาซึ่งความ ภาคภูมิใจให้แก่บิดามารดาและญาติผู้ ใหญ่ ๕ บทบาทและหน้าที่ของตนเองที่มีต่อสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ทุกคนในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ย่อมมีบทบาทและหน้าที่แตกต่างกันไป หากทุกคน รู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเอง ก็จะท�าให้อาศัยอยู่ร่วมกันในครอบครัว โรงเรียน และชุมชนได้อย่าง มีความสุข ๕.๑ บทบาทและหน้าที่ในฐานะสมาชิกในครอบครัว ครอบครัวเป็นสถาบันพื้นฐานของสังคม เราซึ่งอยู่ ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวจึงควร เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของบุตรต่อบิดามารดา หรือผู้ปกครอง ดังนี้ ๑๑หลักการท�างาน เพื่อการด�ารงชีวิต กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นนํา (5Es) ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 1. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • บทบาทหนาที่ของนักเรียนที่มีตอสมาชิก ในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน คือสิ่งใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) 2. ครูขออาสาสมัคร 3 คน ออกมาเลาประสบการณ เกี่ยวกับบทบาทหนาที่ของตนเองในการชวยเหลือ ครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน โดยกําหนดให • นักเรียนคนที่ 1 เลาบทบาทและหนาที่ใน ฐานะสมาชิกในครอบครัว • นักเรียนคนที่ 2 เลาบทบาทและหนาที่ใน ฐานะสมาชิกในโรงเรียน • นักเรียนคนที่ 3 เลาบทบาทและหนาที่ใน ฐานะสมาชิกในชุมชน 3. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นและ วิจารณบทบาทหนาที่ของเพื่อนทั้ง 3 คน ที่มีตอ ครอบครัว โรงเรียน และชุมชน โดยมีครูเปนผูคอย ใหคําแนะนําและชี้แนะเพิ่มเติม 4. ครูถามนักเรียนวา • บทบาทและหนาที่ในฐานะสมาชิกในโรงเรียน ของนักเรียนคือสิ่งใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เคารพเชื่อฟง มีความ กตัญูกตเวทีตอบิดา มารดา และผูปกครอง ชวยเหลือแบงเบาภาระหนาที่ในการดูแล รักษาความสะอาดบาน ตั้งใจศึกษาเลาเรียน มีความประหยัดมัธยัสถ มีความรักใคร ปรองดองในหมูพี่นอง ประพฤติตนเปนคนดี มีคุณธรรมและจริยธรรม) ใหนักเรียนเขียนอธิบายบทบาทหนาที่ในฐานะสมาชิกใน ครอบครัวของตนเอง จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน แลวใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ บทบาทหนาที่ในฐานะสมาชิกในครอบครัว โดยมีครูเปนผูคอย เสนอแนะเพิ่มเติม ใหนักเรียนวิเคราะหความแตกตางของบทบาทหนาที่ในฐานะ สมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ในรูปแบบของแผนผัง ความคิด (Mind Mapping) ตกแตงใหสวยงาม นําสงครูผูสอน เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทหนาที่ในฐานะสมาชิกในครอบครัว ใหนักเรียนฟงวา นักเรียนควรรูจักบทบาทหนาที่ในฐานะสมาชิกในครอบครัวของ ตนเอง และปฏิบัติตนตามบทบาทหนาที่อยางถูกตองและเหมาะสม เพราะการที่ นักเรียนไดรับมอบหมายใหทํากิจกรรมใดๆ นั้น ยอมหมายความวา ครอบครัว ของนักเรียนมีความไววางใจใหนักเรียนปฏิบัติหนาที่นั้นๆ เชน การไดรับมอบหมาย ใหทํางานบาน การซอมแซมสิ่งของเครื่องใชภายในบาน การประกอบอาหาร สําหรับบริโภคในครอบครัว เมื่อนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเหลานั้นบอยครั้ง จะกอใหเกิดความชํานาญ ซึ่งความชํานาญนี้จะกลายเปนทักษะขั้นพื้นฐานใน การดํารงชีวิตในอนาคตได สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทและหนาที่ของตนเองที่มีตอสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ไดที่ http://poypersie11.blogspot.com/2014/06/blogpost_8216.html นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T13
ขอสอบเนนการคิด ๑. มีความรับผิดชอบต่องานและหน้าที่ของ ตนเอง โดยหน้าที่ของนักเรียน คือ การตั้งใจ ศึกษาเล่าเรียน ประพฤติตนเป็นคนดี เป็นแบบ อย่างที่ดีให้แก่เพื่อนร่วมชั้นเรียน และปฏิบัติตาม กฎระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด 2. เชื่อฟังค�าสั่งสอนของครู อาจารย์ ซึ่งครู อาจารย์เป็นผู้ที่มีความรัก ความเมตตาต่อศิษย์ ต้องการให้ศิษย์เป็นคนดี ประสบความส�าเร็จใน การศึกษา สามารถน�าความรู้ไปประกอบอาชีพ สุจริตได้ รวมถึงบ�าเพ็ญตนเพื่อสร้างประโยชน์ ต่อตนเองและสังคม ดังนั้น หากประพฤติตนไม่ ถูกต้องและถูกครู อาจารย์ว่ากล่าวตักเตือน ควร น้อมรับฟังด้วยความตั้งใจและปรับปรุงตนเองให้ ดีขึ้น โดยไม่คิดโกรธแค้นท่าน ๓. กตัญญูรู้คุณต่อครู อาจารย์ ต้องรู้จักส�านึก ในพระคุณและตอบแทนครู อาจารย์เมื่อมีโอกาส ซึ่งท�าได้ไม่ยากนัก เช่น การประพฤติตนเป็นคนดี ไม่เกเร ปฏิบัติตนอยู่ในกฎระเบียบของโรงเรียน มีความสุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน ตั้งใจ ศึกษาเล่าเรียน ช่วยเหลือท่านตามโอกาสและ ความสามารถของตนที่จะกระท�าได้ ๔. เป็นผู้น�าและผู้ตามที่ดี ในการปฏิบัติงาน หรือการเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ก็ตาม หากได้รับ มอบหมายให้เป็นผู้น�าในกิจกรรมนั้นๆ ต้องรู้ว่า ตนเองควรปฏิบัติตนในฐานะผู้น�าอย่างไร และหาก ไม่ได้เป็นผู้น�า ควรปฏิบัติตนในฐานะ ผู้ตามอย่างไรจึงจะเหมาะสม ๕.๒ บทบาทและหน้าที่ในฐานะสมาชิกในโรงเรียน โรงเรียนเป็นสถานที่ที่ให้การศึกษาแก่สมาชิกในสังคม เพื่อให้มีความรู้ มีคุณธรรม และวิชาชีพ ต่างๆ ที่จะน�าไปใช้ในการด�าเนินชีวิตในสังคม ในฐานะที่นักเรียนเป็นสมาชิกคนหนึ่งในโรงเรียน ควรรู้บทบาทหน้าที่ที่พึงปฏิบัติต่อครู อาจารย์ และเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ดังนี้ 5. แสดงความคิดเห็นตามสิทธิของตน รวมถึง รู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น โดยให้ความ เคารพในข้อตกลงของคนส่วนใหญ่เป็นหลัก 6. ส่งเสริมเพื่อนในทางที่ถูกที่ควร ไม่ควร อิจฉาริษยากัน ไม่ชักชวนเพื่อนให้กระท�าความผิด หรือท�าร้ายเพื่อนให้ได้รับความเจ็บปวด เพื่อนที่ดี จะต้องแนะน�าส่งเสริมเพื่อนไปในทางที่ดี มีการ ตักเตือนเพื่อนเมื่อเพื่อนประพฤติตนในทางที่ผิด แสดงความรู้สึกยินดีเมื่อเพื่อนประสบความส�าเร็จ 7. รักใคร่ปรองดองในหมู่เพื่อนนักเรียน มีความสามัคคีกัน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน ร่วมมือร่วมใจกัน ไม่ก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ในโรงเรียน รวมถึงเพื่อนต่างโรงเรียนด้วย การช่วยกันทบทวนบทเรียน นอกจากจะเป็นการส่งเสริม เพื่อนไปในทางที่ถูกที่ควรแล้ว ยังส่งผลดีต่อการเรียนของ ตนเองด้วย ๑2 อย่างที่ดีให้แก่เพื่อนร่วมชั้นเรียน และปฏิบัติตาม ศึกษาเล่าเรียน ประพฤติตนเป็นคนดี เป็นแบบ กฎระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด 2 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา เรื่อง บทบาทและหนาที่ของตนเองที่มีตอสมาชิก ในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 หรือศึกษาเพิ่มเติมจาก อินเทอรเน็ต 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาท และหนาที่ของตนเองที่มีตอสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปราย แลกเปลี่ยนความรูในเรื่องที่ไดศึกษามา 4. ครูถามนักเรียนวา • บทบาทและหนาที่ในฐานะสมาชิกในโรงเรียน ของนักเรียนคือสิ่งใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ตั้งใจศึกษาเลาเรียน ประพฤติตนตามกฏระเบียบทางวินัยของ โรงเรียนอยางเครงครัด เชื่อฟงคําสั่งสอน และมีความกตัญูกตเวทีตอครูอาจารย สงเสริมและชักชวนเพื่อนใหประพฤติตน ในทางที่ถูกตอง) • บทบาทและหนาที่ในฐานะสมาชิกในชุมชน ของนักเรียนคือสิ่งใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน รักษาสุขลักษณะของ ชุมชน รวมกันทําความสะอาดบริเวณรอบๆ ชุมชน อนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอมในชุมชน มีสวนรวมในการประกอบ กิจกรรมตางๆ ที่ชุมชนจัดขึ้น อนุรักษ วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปญญาที่ดีงาม ของชุมชน) นักเรียนควรรู 1 แบบอยางที่ดี การปฏิบัติตนในฐานะสมาชิกในโรงเรียนมีความสําคัญมาก เพราะนักเรียนสวมใสเครื่องแบบที่บงบอกความเปนเอกลักษณของโรงเรียน ซึ่งกําหนดบทบาทหนาที่ในการเปนนักเรียนไววา ควรประพฤติตนอยางไร จึงจะเหมาะสม หากประพฤติตนไมเหมาะสม หรือไมปฏิบัติตามกฎของโรงเรียน เครื่องแบบที่สวมใสอาจถูกมองไมดีตามไปดวย ดังนั้น โรงเรียนจึงนิยมจัดกิจกรรม เพื่อคัดเลือกนักเรียนดีเดน ทั้งในดานความประพฤติ ดานวิชาการ และดานกีฬา เพื่อเปนแบบอยางที่ดี และเปนกําลังใจแกนักเรียนคนอื่นๆ ไดปฏิบัติตาม 2 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน นักเรียนควรแตงกายใหถูกตองตาม ระเบียบของโรงเรียน ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของโรงเรียนอยางเครงครัด มาทัน เวลาเขาแถวเคารพธงชาติในตอนเชา ชวยกันดูแลรักษาความสะอาดของโรงเรียน รวมถึงอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชตางๆ ภายในโรงเรียนดวย การเปนผูนําและผูตามที่ดีมีประโยชนอยางไร (แนวตอบ การเขารวมกิจกรรมตางๆ ภายในโรงเรียน นักเรียน จะไดรับมอบหมายบทบาทหนาที่แตกตางกันไป บางคนไดเปน หัวหนา บางคนไดเปนสมาชิกในกลุม แตถึงอยางไร การเปนผูนํา และผูตามนั้นลวนตองมีวินัยในตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแยง ที่อาจเกิดขึ้นในการทํางานรวมกัน ซึ่งการประพฤติตนเปนผูนํา และ ผูตามที่ดีกอใหเกิดประโยชนหลายประการ เชน ไดเรียนรู แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในบทบาทหนาที่ที่แตกตางกัน ไดรับ มิตรภาพที่ดีจากเพื่อนในกลุม เขาใจและรับฟงผูอื่นอยางมีเหตุผล รวมถึงไดรับประสบการณที่ดีในการทํางาน) นํา สอน สรุป ประเมิน T14
แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ขอสอบเนน การคิด ๑. รักษาสุขลักษณะของชุมชน โดยการมี ส่วนร่วมในการรักษาสุขลักษณะของชุมชน เช่น การทิ้งขยะให้เป็นที่ ช่วยก�าจัดสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ใน ชุมชน ช่วยท�าลายแหล่งเพาะพันธุ์ 2. อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยช่วยกัน ดูแลโบราณสถานและโบราณวัตถุต่างๆ ที่อยู่ใน ชุมชน เช่น ไม่ขีดเขียนท�าลายโบราณวัตถุให้ช�ารุด เสียหาย ช่วยกันดูแลรักษาสาธารณสมบัติของรัฐ และชุมชน เช่น สวนสาธารณะ ไฟฟ้าส่องสว่าง ริมทาง หากพบเห็นผู้ใดมาท�าลายควรแจ้งให้ เจ้าหน้าที่ด�าเนินการจับกุม เพื่อให้สาธารณสมบัติ ต่าง ๆ ใช้ประโยชน์ ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ๓. มีส่วนร่วมในการท�ากิจกรรมของชุมชน ควรมีส่วนร่วมในการท�ากิจกรรมในวันส�าคัญต่าง ๆ กับชุมชน เช่น การปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้แก่ชุมชน การร่วมรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน การบ�าเพ็ญสาธารณประโยชน์ การรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ๕.๓ บทบาทและหน้าที่ในฐานะสมาชิกในชุมชน ชุมชนมีความส�าคัญต่อการสร้างคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เช่น มีจิตสาธารณะ มีความสามัคคี ตลอดจนรักษาสิ่งแวดล้อม สร้างวัฒนธรรมอันดีงามให้ได้ ปฏิบัติตาม ซึ่งการเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน สามารถปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ได้ ดังนี้ ๔.อนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาที่ดีงาม ชุมชน หรือท้องถิ่น แต่ละแห่งย่อมมีวัฒนธรรม ประเพณีที่แตกต่าง กัน ซึ่งล้วนแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ได้รับการ ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษประจ�าท้องถิ่นของตน เช่น การท�าปลาร้า เป็นภูมิปัญญาด้านการถนอม อาหารของคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภูมิปัญญา ล้านนาของคนภาคเหนือ เช่น ประเพณีสืบ ชะตาบ้าน ชะตาเมือง ภูมิปัญญาด้านการละเล่น ของคนภาคกลาง เช่น การแสดงล�าตัด ภูมิปัญญา ด้านการแสดงของคนภาคใต้ เช่น การแสดง มโนห์รา หนังตะลุง ดังนั้น ในฐานะสมาชิกที่ดีของ ชุมชนจะต้องมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบสาน วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาที่ดีงามของ ชุมชนให้คงอยู่คู่กับท้องถิ่นและสังคมไทยสืบ ต่อไป สรุป การท�ำงำนเพื่อกำรด�ำรงชีวิตมีควำมส�ำคัญต่อชีวิตมนุษย์เป็นอย่ำงยิ่ง ซึ่งในสังคม ปัจจุบันมีกำรแข่งกันสูง จึงได้มีกำรน�ำเทคโนโลยีเข้ำมำช่วยในกำรท�ำงำน เพื่อลดต้นทุนในด้ำน ต่ำง ๆ กำรท�ำงำนเพื่อให้งำนมีประสิทธิภำพและมีประสิทธิผลจ�ำเป็นต้องมีกระบวนกำรท�ำงำน และกระบวนกำรแก้ปัญหำที่ดี โดยน�ำหลักกำรของวงจร PDCA และกิจกรรม ๕ ส มำใช้ประกอบ กำรท�ำงำนอย่ำงมีระบบ รวมถึงกำรรู้จักบทบำทและหน้ำที่ของตนที่มีต่อสมำชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ก็จะท�ำให้กำรท�ำงำนประสบควำมส�ำเร็จและมีคุณภำพที่ดียิ่งขึ้น ๑๓หลักการท�างาน เพื่อการด�ารงชีวิต แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ขั้นประเมิน å1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 1.3.1 เรื่อง บทบาทและ หนาที่ของตนเองที่มีตอสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน 3. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลการศึกษา เรื่อง บทบาทและหนาที่ของตนเองที่มีตอสมาชิกใน ครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน 6. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ทุกคนมีบทบาทหนาที่ ที่แตกตางกันออกไป หากทุกคนปฏิบัติตาม บทบาทหนาที่ของตนเองอยางเหมาะสมและ ถูกตองแลว จะชวยทําใหอยูรวมกับผูอื่นใน สังคมไดอยางมีความสุข” 7. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 1.3.1 เรื่อง บทบาทและหนาที่ของตนเองที่มีตอสมาชิก ในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง บทบาท และหนาที่ของตนเองที่มีตอสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวย การเรียนรูที่ 1 แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 เพราะเหตุใดจึงตองเรียนรูเรื่องหลักการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต (แนวตอบ เพราะมนุษยทุกคนลวนตองดําเนินชีวิตไปในทิศทาง ที่มีจุดหมายแตกตางกัน ตางตองพบเจอกับอุปสรรค ความยาก ลําบาก และปญหาตางๆ อยางหลากหลาย หลักการทํางานเปน เพียงสวนหนึ่งในการดํารงชีวิต การเรียนรูเกี่ยวกับหลักการทํางาน จึงมีสวนชวยในการฝกฝนทักษะกระบวนการตางๆ ที่เปนประโยชน ชวยฝกประสบการณ เพื่อเปนภูมิคุมกันในการรับมือกับปญหา ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อใหสามารถแกปญหาไดอยางถูกตอง เหมาะสม อีกทั้งยังมีสวนชวยใหสามารถคนพบความถนัดของตนเอง อันเปน ทักษะที่สามารถนําไปใชในการดํารงชีวิต หรือการประกอบอาชีพ ในอนาคต) นํา สอน สรุป ประเมิน T15
Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 การใช้ เครื่องมือช่าง อย่างปลอดภัย 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - PowerPoint 1. อธิบายหลักการใช้ เครื่องมืองานช่างอย่าง ปลอดภัยได้ 2. อธิบายเกี่ยวกับประเภท ของเครื่องมือ เครื่องใช้ ในการซ่อมแซมและ ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ ภายในบ้านได้อย่าง ถูกต้อง 3. ใช้และเก็บรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ในการซ่อมแซม และติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้าน ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 4. มีคุณธรรมและมีลักษณะ นิสัยที่ดีในการท�ำงาน แบบ สืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 2.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T16
แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 2 การซ่อมแซมและ ติดตั้งเครื่องใช้ ภายในบ้าน 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 1. อธิบายวิธีการซ่อมแซม และติดตั้งเครื่องใช้ ภายในบ้านได้อย่าง ถูกต้อง 2. ซ่อมแซมและติดตั้ง อุปกรณ์เครื่องใช้ ภายในบ้านง่ายๆ ได้ ด้วยตนเอง 3. เลือกใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ในการซ่อมแซม และติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้าน ได้ถูกต้อง 4. ใช้และเก็บรักษา เครื่องมือ เครื่องใช้ ในการซ่อมแซม และติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้าน ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 5. มีคุณธรรมและมีลักษณะ นิสัยที่ดีในการท�ำงาน แบบเน้น การสาธิต - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจใบงานที่ 2.2.1 - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T17
§Ò¹ª‹Ò§ã¹ºŒÒ¹ สาระการเรียนรูแกนกลาง ■ ทักษะการทํางานรวมกัน เปนการทํางานกลุม ทํางานรวมกับผูอื่นไดอยางมีความสุข ทํางาน อยางมีกระบวนการตามขั้นตอน และฝกหลักการทํางานกลุม ■ ทักษะการจัดการ เปนการจัดระบบงานและระบบคน เพื่อใหการทํางานสําเร็จตามเปาหมาย อยางมีประสิทธิภาพ เชน การบํารุง เก็บรักษา เครื่องใชไฟฟา และอุปกรณอํานวยความ สะดวกในชีวิตประจําวัน ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สรางทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน การติดตั้ง ประกอบ ซอมแซมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช สิ่งอํานวยความสะดวกในบานและโรงเรียน ■ ทักษะการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิต ประกอบดวยการศึกษา คนควา รวบรวม สังเกต สํารวจ และบันทึก ■ คุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทํางาน เปนการสรางคุณงามความดีและควรฝกใหผูเรียน มีคุณภาพที่สําคัญๆ เชน ขยัน อดทน รับผิดชอบ และซื่อสัตย ■ การใชพลังงาน ทรัพยากรอยางคุมคาและยั่งยืน เปนคุณธรรมในการทํางาน ตัวชี้วัด ■ สรางผลงานอยางมีความคิดสรางสรรคและมีทักษะการทํางานรวมกัน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๒) ■ มีทักษะการจัดการในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๓) ■ มีทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๔) ■ มีทักษะในการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิต (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๕) ■ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๖) ■ ใชพลังงาน ทรัพยากรในการทํางานอยางคุมคาและยั่งยืน เพื่อการอนุรักษสิ่งแวดลอม (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๗) ñ เครื่องมืองานช่างในบ้าน เครื่องมือเป็นสิ่งจ�าเป็นและส�าคัญในการปฏิบัติงานซ่อมแซมและติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ ภายในบ้าน ซึ่งเครื่องมือที่น�ามาใช้ในการซ่อมแซมและติดตั้งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด แต่ละชนิด จะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามชนิดของงานแต่ละประเภท ดังนั้น จึงต้องเรียนรู้ เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือและการดูแลบ�ารุงรักษาเครื่องมือแต่ละประเภทให้เข้าใจ เพื่อให้สามารถ น�ามาใช้งานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ËÒ¡¢Í§ãªŒã¹ºŒÒ¹ªÓÃØ´ ËÃ×Í àÊÕ¨ÐÁÕÇÔ¸Õ¡ÒÃÍ‹ҧäà ãËŒ¡ÅѺ ÁÒ㪌§Ò¹ä´ŒÍ‹ҧ»ÅÍ´ÀÑ หน่วยการเรียนรู้ที่ò ๑๔ ขั้นนํา (5Es) ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 1. ครูแจงชื่อเรื่องที่จะเรียนรูและผลการเรียนรู ใหนักเรียนทราบ จากนั้นใหนักเรียนแตละคน ทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 เรื่อง งานชางในบาน 2. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการซอมแซมสิ่งของ เครื่องใชตางๆ ภายในบานใหนักเรียนดู จากนั้น ครูถามนักเรียนวา • การซอมแซมสิ่งของเครื่องใชตางๆ ภายในบาน ที่ไดชมไปนั้น นักเรียนคิดวาผูปฏิบัติงาน ปฏิบัติไดถูกตองและปลอดภัยหรือไม (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • หากอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชภายในบาน เกิดการชํารุด นักเรียนจะแกปญหาดังกลาว อยางไร (แนวตอบ นําอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช ภายในบานที่เกิดการชํารุดมาวิเคราะหสภาพ ปญหา หรือลักษณะของงาน และสรุปสาเหตุ ของอาการชํารุด เพื่อหาวิธีในการซอมแซม อยางเหมาะสม วางแผนการปฏิบัติงานอยาง เปนขั้นตอน และปฏิบัติตามขั้นตอนที่วางแผน ไวไดอยางถูกตองและปลอดภัย พรอมทั้ง ประเมินผลจากการปฏิบัติงานวาอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชภายในบานชิ้นดังกลาว สามารถกลับมาใชงานไดตามปกติหรือไม) 3. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาเลาประสบการณ เกี่ยวกับการปฏิบัติงานชางในบานของตนเอง ใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน ในประเด็นที่ครูกําหนดให คือ สิ่งของเครื่องใชที่เกิดการชํารุด เสียหาย ลักษณะอาการชํารุด วิธีการซอมแซม และ ความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับงานชางในบานใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ เรื่อง การปฏิบัติงานชางในบานที่มากขึ้น สามารถเลือกใช เครื่องมืองานชางไดอยางถูกตองและปลอดภัย ดูแล บํารุงรักษาเครื่องมืองานชางแตละประเภทไดอยางเหมาะสม ลงมือปฏิบัติการซอมแซมและติดตั้งอุปกรณ เครื่องใชภายในบานเพื่อใหเกิดความชํานาญ ใชทรัพยากรอยางคุมคาและยั่งยืน เพื่อเปนการอนุรักษสิ่งแวดลอม นําทักษะการจัดการมาประยุกตใชในการทํางาน รวมถึงใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางานอยางเปนขั้นตอน เพื่อใหผลงานสําเร็จตรงตามเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานชางในบาน • ใหนักเรียนปฏิบัติงานชางในบาน โดยการซอมแซมและติดตั้งอุปกรณเครื่องใชภายในบาน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T18
ขอสอบเนน การคิด งานช่างในบ้าน เป็นงานพื้นฐานเบื้องต้นที่ควร เรียนรู้และสามารถท�าได้ด้วยตนเอง การเรียนรู้ถึงวิธีการ ใช้อุปกรณ์และเครื่องมือแต่ละประเภท ตลอดจนการดูแล บ�ารุงรักษา นอกจากจะช่วยยืดอายุในการใช้งานแล้วยัง เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังช่วยประหยัด ค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว และสามารถที่จะพัฒนาตนเอง ไปสู่การเป็นช่างมืออาชีพได้ ในอนาคต ๑.๑ หลักการใชเครื่องมือชางอยางปลอดภัย เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ ผู้ ใช้จึงควรใช้ด้วย ความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยต่อตนเองและบุคคลรอบข้าง เพราะการประมาทอาจท�าให้ เกิดการสูญเสียเวลาในการท�างาน สูญเสียทรัพย์สิน หรือส่งผลท�าให้ร่างกายพิการ หรือเสียชีวิตได้ ซึ่งผู้ใช้ควรศึกษาวิธีการใช้และข้อจ�ากัดของเครื่องมือและอุปกรณ์ชนิดนั้น ๆ ให้ชัดเจนก ่อน การใช้งาน ซึ่งหลักการใช้เครื่องมืองานช่างอย่างปลอดภัย มีดังนี้ งานช่างในบ้าน ๑๕ ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา 5. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา เรื่อง หลักการใชเครื่องมืองานชางอยางปลอดภัย จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 หรือ ศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 6. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการ ใชเครื่องมืองานชางอยางปลอดภัย จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรูที่ 2 ขั้นนํา ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 4. ครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใดการปฏิบัติงานชางในบาน ทุกประเภทจึงตองคํานึงถึงความปลอดภัย ในขณะปฏิบัติงาน รวมถึงความปลอดภัยใน การใชเครื่องมืองานชางเปนสําคัญ (แนวตอบ การปฏิบัติงานชางในบาน เปนการ ปฏิบัติงานที่มีโอกาสไดรับอันตรายในขณะ ปฏิบัติงาน ซึ่งอาจกอใหเกิดความเสียหาย แกทรัพยสิน หรือชีวิตได เนื่องจากงานชาง แตละประเภทมีลักษณะการทํางาน วิธีการ ทํางาน และการใชเครื่องมือ เครื่องใช ในการ ปฏิบัติงานที่แตกตางกัน ผูที่จะปฏิบัติงาน จึงตองศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการทํางาน เลือกและใชเครื่องมืองานชางที่ถูกตอง เหมาะสมกับประเภทของงานและใชงาน ดวยความระมัดระวัง เพื่อใหเกิดความ ปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน มีการวางแผน การทํางาน การบริหารเวลาและทรัพยากร อยางคุมคา และตองคํานึงถึงความปลอดภัย ในการปฏิบัติงานอยูเสมอ) บุคคลในขอใดปฏิบัติตนไดอยางเหมาะสมในขณะปฏิบัติงานชาง ในบาน 1. วินพูดคุยกับเพื่อนทางโทรศัพทในขณะกําลังตัดสายไฟ 2. วานใชนํ้าลางอุปกรณ เครื่องมืองานชาง หลังใชงานเสร็จ 3. วุนวางไขควงไวบนโตะอาหาร เพราะจะไดหยิบใชงาน ไดสะดวก 4. แวนศึกษาวิธีการใชอุปกรณ เครื่องมืองานชางกอนลงมือ ปฏิบัติงาน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะผูปฏิบัติงานควรศึกษาวิธี การใชงานของอุปกรณ เครื่องมืองานชางอยางละเอียดกอนลงมือ ปฏิบัติงาน เพื่อใหสามารถเลือกใชอุปกรณ เครื่องมืองานชางไดอยาง ถูกตองและเหมาะสมกับลักษณะของงาน ชวยใหประหยัดเวลา และชวยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุในขณะปฏิบัติงานได) บูรณาการอาเซียน ประชาคมอาเซียนมีการสนับสนุนการแขงขันฝมือแรงงานในระดับอาเซียน เกี่ยวกับงานชางในสาขาตางๆ โดยแตละประเทศจะสงตัวแทนเขารวมการ แขงขัน ซึ่งเปนแนวทางในการสงเสริมงานชางใหไดรับการพัฒนามากยิ่งขึ้น โดยจัดการแขงขันฝมือแรงงานระหวางกลุมประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งกําหนด ใหมีการแขงขันฝมือแรงงานเกี่ยวกับงานชางในสาขาตางๆ ขึ้น ทุก 2 ป มีจุดมุงหมาย เพื่อกระตุนใหเยาวชนและกําลังแรงงานในภูมิภาคอาเซียนเกิดความตื่นตัวและ สนใจที่จะพัฒนาทักษะฝมือของตนใหทันตอการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และทัดเทียมมาตรฐานสากล สงผลใหเยาวชนไดเขาสูการเปนชางฝมือใน ตลาดแรงงาน เพิ่มศักยภาพการผลิตและบริการของประเทศในอนาคตได นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T19
๑ ศึกษาคู ่มือการใช้งานปฏิบัติ ตามค�าแนะน�าในการใช้งาน เครื่องมือและอุปกรณ์อย ่าง เคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย จากการใช้งาน ๔ ขณะใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ หากผู้ใช้เกิดอาการง ่วงนอน หรืออ ่อนเพลีย ควรหยุดใช้ เครื่องมือโดยทันที ๙ ขณะใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ ของมีคม ควรอยู่ในภาวะทาง อารมณ์ปกติ หากผิดปกติให้ หยุดท�างานทันที 7 หลังเสร็จจากการใช้งานทุกครั้ง ควรท�าความสะอาดและบ�ารุง รักษาเครื่องมือ แล้วน�าไปเก็บ เข้าที่ให้เรียบร้อย ๒ เรียนรู้วิธีการใช้เครื่องมือและ อุปกรณ์อย่างถูกต้อง และใช้ ให้เหมาะสมกับชนิดของงาน ที่ปฏิบัติ ๕ ตรวจสอบสภาพเครื่องมือก่อน การใช้งานอยู่เสมอ หากพบ ว่ามีเครื่องมือที่ช�ารุด ควรน�าไป ซ่อมแซมก่อนน�าไปใช้งาน ๑๐ ถ้าผู้ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ไว้ ผมยาว ควรมัดผม หรือเก็บผม ให้เรียบร้อยก่อนปฏิบัติงาน ๓ ขณะใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ ควรแต่งกายให้รัดกุม ไม่สวมใส่ เครื่องประดับที่อาจก่อให้เกิด อันตราย หรือขัดขวางการ ท�างาน ๘ ในขณะใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ ไม่ควรดื่มสุรา หรือของมึนเมา หรือยาที่มีฤทธิ์กดประสาท ๖ จัดเก็บและจัดวางเครื่องมือ ให้เป็นระเบียบ เพื่อให้สะดวก ต่อการหยิบใช้งานและเก็บให้ พ้นจากมือเด็ก หลักการใช้เครื่องมืองานช่างอย่างปลอดภัย ๑๖ ควรแต่งกายให้รัดกุม ไม่สวมใส่ 1 กิจกรรม สรางเสริม ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปราย แลกเปลี่ยนความรู ในเรื่องที่ไดศึกษามา จากนั้น ครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใดจึงตองอานคําแนะนําในการ ใชงาน (แนวตอบ คําแนะนําในการใชงานมีประโยชน อยางยิ่งตอผูปฏิบัติงานชาง เนื่องจากไดมี การระบุวิธีการ หรือขั้นตอนในการปฏิบัติงาน ที่ถูกตองและเหมาะสม เพื่อใหผูปฏิบัติงาน สามารถปฏิบัติตามได ชวยปองกันไมใหเกิด ขอผิดพลาดในขณะปฏิบัติงาน และชวยให เกิดความปลอดภัยจากการใชงานเครื่องมือ งานชางทุกประเภท ดังนั้น ในการปฏิบัติ งานชาง จึงตองอานคําแนะนําการใชงานให เขาใจกอนลงมือปฏิบัติงานทุกครั้ง) • การใชเครื่องมืองานชางอยางปลอดภัยกอให เกิดประโยชนตอการปฏิบัติงานชางอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • การปฏิบัติงานชางในบานประเภทใด ผูปฏิบัติงานควรคํานึงถึงความปลอดภัย ในขณะปฏิบัติงานมากที่สุด (แนวตอบ งานไฟฟา เนื่องจากมีความเสี่ยง และอันตรายมากกวางานชางประเภทอื่นๆ หากผูปฏิบัติงานปฏิบัติงานดวยความประมาท ซึ่งมีสาเหตุมาจากปจจัยตางๆ เชน ความ ไมพรอมของสุขภาพรางกาย ขาดความรู ความเขาใจในงานที่ปฏิบัติ การชํารุดเสียหาย ของเครื่องมือ การประมาทเลินเลอ ขาดความ ระมัดระวัง และขาดความรอบคอบ อาจสงผล ใหเกิดอันตรายตอชีวิต หรือทรัพยสินได) เกร็ดแนะครู ครูควรนําอุปกรณ เครื่องมืองานชางแตละประเภท เชน ตลับเมตร ประแจ ไขควง คีม คอน เลื่อย สวาน เครื่องวัดมัลติมิเตอร มาใหนักเรียนดู พรอมทั้งอธิบาย และสาธิตวิธีการใชงานอุปกรณ เครื่องมืองานชางดังกลาวที่ถูกตองและปลอดภัย รวมถึงอธิบายวิธีการดูแลบํารุงรักษาอุปกรณ เครื่องมืองานชางอยางเหมาะสม จากนั้นครูถามนักเรียนวา “นักเรียนมีแนวทางในการเลือกใชงานอุปกรณ เครื่องมืองานชางอยางไรใหเหมาะสมกับลักษณะของงาน และเพื่อใหเกิดความ ปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน” นักเรียนควรรู 1 แตงกายใหรัดกุม ผูปฏิบัติงานควรสวมใสเสื้อผาที่อยูในสภาพเรียบรอย ไมฉีกขาด ติดกระดุมครบทุกเม็ด สวมรองเทาหุมสน หรือรองเทาบูต เพื่อปองกัน อันตรายจากของมีคมทิ่มตํา สวมหนากากอนามัย เพื่อปองกันฝุนละออง ใหนักเรียนอธิบายแนวทางการปฏิบัติงานชางในบานของ ตนเอง เพื่อใหเกิดความปลอดภัยในรูปแบบของแผนพับ หรือ รูปแบบอื่นๆ ตามความสนใจ ตกแตงใหสวยงาม นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนวางแผนการปฏิบัติงานชางในบานของตนเองตาม ความสนใจ 1 งาน โดยเขียนสรุปในประเด็นที่ครูกําหนดให คือ เหตุผลในการปฏิบัติงาน การเลือกใชอุปกรณ เครื่องมืองานชาง ขั้นตอน หรือวิธีการปฏิบัติงาน ปญหาที่พบและแนวทางการแกปญหา ประโยชนที่คาดวาจะไดรับ จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อน ฟงหนาชั้นเรียน กิจกรรม ทาทาย นํา สอน สรุป ประเมิน T20
ขอสอบเนน การคิด ๑.๒ เครื่องมือ เครื่องใชในการซอมแซมและติดตั้งอุปกรณ เครื่องใช ภายในบาน เครื่องมือเป็นสิ่งจ�าเป็นและส�าคัญส�าหรับงานช่าง จึงต้องรู้จักลักษณะการใช้เครื่องมือให้ ถูกต้อง ตลอดจนการดูแลบ�ารุงรักษาเครื่องมือให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ประเภทของเครื่องมือ แบ่งตามลักษณะการใช้งานออกเป็น ๗ ประเภท ดังนี้ ฉากเหล็ก ใช้วัดขนาดการสร้างมุมฉาก ตรวจสอบการได้ฉาก ของงานชนิดต่าง ๆ หรือใช้วัดขนาดความกว้าง ยาว และลึกของชิ้นงานขนาดเล็ก เช็ดและท�าความสะอาดหลังเลิกใช้งาน ชโลม น�้ามันเครื่องชนิดใส ก ่อนน�าไปเก็บเข้าที่ให้ เรียบร้อย ฉากรวม ใช้วัด หรือตรวจสอบมุม ๔๕, ๙๐ องศา และวัด ระดับแนวดิ่ง หรือแนวนอนของชิ้นงาน วัดฉาก ได้ทั้งภายนอกและภายในชิ้นงาน เช็ดและท�าความสะอาดหลังเลิกใช้งาน ชโลม น�้ามันเครื่องชนิดใสที่ใบฉาก ร่องเลื่อน และสกรู ก่อนน�าไปเก็บ ตลับเมตร ใช้วัดภายนอกและภายในของชิ้นงาน โดยทั่วไป จะบรรจุความยาวตั้งแต ่ ๑.๐๐-๘.๐๐ เมตร มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ค่อย ๆ ผ่อนแถบวัดกลับเข้าในตลับ เพื่อป้องกัน ขอเกี่ยวช�ารุด เช็ดท�าความสะอาด ทุกครั้งหลังจากการใช้งานเสมอ ไม้บรรทัดเหล็ก ใช้วัดระยะสั้น ใช้ส�าหรับขีดเส้น มีหลายขนาด เช่น ๖ นิ้ว ๑๒ นิ้ว ๓๖ นิ้ว ระบบการวัด คือ เมตริก (Matrix) เช็ดและท�าความสะอาดหลังเลิกใช้งาน เก็บใส่ ในกล่องอุปกรณ์ และเก็บให้พ้นมือเด็ก เครื่องมือส�าหรับวัด การใช้งาน การบํารุงรักษา การบํารุงรักษา งานช่างในบ้าน ๑7 ฉากเหล็ก ร่องเลื่อน และสกรู ตลับเมตร 1 3 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 2. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ใหแตละกลุม สงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมาจับสลาก เลือกภาพจิกซอวกลุมละ 1 ภาพ โดยภาพจิกซอว ที่กําหนดใหจะเปนภาพเกี่ยวกับการซอมแซม สิ่งของเครื่องใชภายในบานที่แตกตางกัน จากนั้น ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันตอภาพจิกซอว ใหสําเร็จ 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาเกี่ยวกับ การซอมแซมสิ่งของเครื่องใชภายในบานจาก ภาพจิกซอวของกลุมตนเอง พรอมทั้งบันทึก ขอมูลในประเด็นที่กําหนดให ดังนี้ • ประเภทของงานชางในบาน • ลักษณะอาการชํารุด • เครื่องมือ เครื่องใชในการซอมแซม • การใชงานเครื่องมือ เครื่องใชแตละชนิด • การบํารุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใชแตละชนิด 4. ครูนําตัวอยางเครื่องมืองานชางที่สวนใหญ ทุกบานจะตองมีประจําบานมาใหนักเรียนดู 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1-2 คน ออกมาสาธิตวิธีการใชงานเครื่องมือ งานชางที่ถูกตอง พรอมทั้งอธิบายถึงขอควร ระวังจากการใชงาน วิธีการใชงานเครื่องมือ งานชางอยางปลอดภัย และการดูแลบํารุงรักษา เครื่องมืองานชางอยางถูกตอง 6. ครูถามนักเรียนวา • ตลับเมตรสามารถนํามาใชในการวัดมุม 90 องศา ไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ ไมได เพราะเปนอุปกรณที่เหมาะ สําหรับวัดเพื่อหาระยะ หรือขนาดของชิ้นงาน ควรใชฉากเหล็กในการวัดมุม 90 องศา จึงจะเหมาะสมมากกวา) นักเรียนควรรู 1 ฉากเหล็ก มีสวนประกอบที่สําคัญ 2 สวน ไดแก ใบฉากและดามฉาก มีมาตราสวนเปนนิ้ว ใช ในการวัดขนาดและการขีดเสนฉาก ไมควรใชวัดงานที่มี ลักษณะผิวหยาบ หามเอียงฉากเมื่อตองการตรวจสอบความราบเรียบของผิวงาน เพราะอาจทําใหขอบฉากเหล็กกระแทกกับผิวงานจนเกิดรอยได 2 ตลับเมตร ควรใชอยางระมัดระวัง เมื่อดึงแถบวัดออกมาวัดชิ้นงานเสร็จ เรียบรอยแลว ใหคอยๆ ผอนแถบวัดกลับเขาในตลับ เนื่องจากแถบวัดมีความ บางและคม หากปลอยอยางรวดเร็วอาจทําใหแถบวัดบาดมือได 3 สกรู หรือนอตตัวผู มีลักษณะเปนเกลียวรอบทรงกระบอก นิยมนํามาใช คูกับนอต หรือนอตตัวเมีย ซึ่งมีรูตรงกลางคลายแหวน ภายในมีรองเปนเกลียว เพื่อใหสามารถหมุนเขากับสกรูได สกรูแบงออกเปน 4 ประเภท คือ สกรูเกลียวไม สกรูเกลียว สกรูปลายสวาน และสกรูหัวจมหกเหลี่ยม เพราะเหตุใดจึงตองมีการศึกษาถึงวัตถุประสงคของอุปกรณ เครื่องมืองานชางแตละประเภท 1. ตองการทราบตนทุนการผลิต 2. แสดงถึงมาตรฐานของชางมืออาชีพ 3. เรียนรูพัฒนาการใหมๆ ที่หลากหลายของอุปกรณ เครื่องมือ งานชาง 4. สามารถเลือกใชอุปกรณ เครื่องมืองานชางไดอยางถูกตอง ปลอดภัย (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะชวยใหผูปฏิบัติงานสามารถ เลือกใชอุปกรณ เครื่องมืองานชางแตละประเภทไดอยางถูกตอง เหมาะสมกับลักษณะของงานที่ตองการปฏิบัติ ทั้งยังชวยใหงาน สําเร็จตามเปาหมายไดอยางรวดเร็วและมีความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงาน) นํา สอน สรุป ประเมิน T21
ขอสอบเนนการคิด การบํารุงรักษา ประแจเลื่อน ใช้ขัน หรือคลายเกลียวนอต รวมถึงจับยึด หรือ ล็อกอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ ไขควงปากแบน ใช้หมุน หรือขันสกรูที่มีช่องผ่า เพื่อยึดชิ้นงาน หรือวัสดุให้แน่น ประแจปากตาย ใช้ขัน หรือคลายสลักเกลียวทั่วไปที่มีขนาด มาตรฐาน ไขควงปากแฉก ใช้ขันสกรูที่มีช่องผ่าสี่แฉก ใช้หมุน หรือขันสกรู เพื่อยึดชิ้นงาน หรือวัสดุให้แน่น ประแจแหวน ใช้ขัน หรือคลายสลักเกลียวในที่ที่เป็นซอก หรือ หลุม และไม่ลึกมาก ไขควงบล็อก ใช้หมุน หรือขันสกรูที่มีร่องเป็นหกเหลี่ยม เพื่อยึดชิ้นงาน หรือวัสดุให้แน่น ประแจคอม้า ใช้ขันท่อโลหะ หรือขันข้อต่อที่มีผิวกลม ไม่เหมาะกับการขันนอต ไขควงออฟเซต ใช้หมุน หรือขันสกรูในที่แคบ ๆ ที่ไขควงธรรมดา ไม่สามารถเข้าไปขันได้ • เช็ดท�าความสะอาดหลังเสร็จจากการใช้งาน • ชโลมน�้ามันเครื่องชนิดใส หรือน�้ามันจักร แล้วน�าไปเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย • เช็ดท�าความสะอาดหลังเสร็จจากการใช้งาน • เก็บใส่ในกล่องอุปกรณ์และเก็บให้พ้นมือเด็ก เครื่องมือส�าหรับขันและไข การใช้งาน ๑๘ ประแจเลื่อน ไขควงปากแบน 1 2 ชโลมน�้ามันเครื่องชนิดใส หรือน�้ามันจักร 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ไขควงมีสวนประกอบที่ สําคัญอยู 3 สวน ไดแก ปากไขควง กานไขควง และดามไขควง ซึ่งปากของไขควงมีอยูดวยกัน หลายลักษณะ จึงควรเลือกใชใหเหมาะสมกับ การใชงาน หามใชไขควงแคะ แกะ หรืองัดงาน ทุกชนิด เพราะจะทําใหปากไขควงบิ่นและกอให เกิดความเสียหายได” 8. ครูนําภาพไขควง หรือไขควงที่มีลักษณะของ ปากที่แตกตางกันมาใหนักเรียนดู พรอมทั้ง อธิบายเพิ่มเติม เพื่อเปนการเสริมสรางความรู ความเขาใจของนักเรียนใหดียิ่งขึ้น ลักษณะของปากไขควง 9. ครูถามนักเรียนวา • ประแจและไขควงมีวิธีการดูแลบํารุงรักษา ที่เหมือน หรือแตกตางกันหรือไม อยางไร (แนวตอบ มีวิธีการดูแลบํารุงรักษาที่แตกตางกัน เพียงเล็กนอย กลาวคือ ประแจ หลังจากการ ใชงานควรทําความสะอาด ชโลมนํ้ามันเครื่อง ชนิดใส หรือนํ้ามันจักร กอนนําไปเก็บ ในแผงเครื่องมือ และควรเก็บใหพนมือเด็ก สวนไขควง หลังจากใชงานควรทําความสะอาด กอนนําไปเก็บในแผงเครื่องมือ และควรเก็บ ใหพนมือเด็ก) นักเรียนควรรู 1 ประแจ ควรเลือกประเภทของประแจใหเหมาะสมกับขนาดของหัวนอต หากไมพอดี แรงดึงจากการหมุนประแจอาจหลุด สงผลใหผูปฏิบัติงานเกิดการ บาดเจ็บและทําใหตัวนอตเสียหายได ดังนั้น ผูปฏิบัติงานควรใชงานประแจ อยางระมัดระวัง รวมถึงใชวิธีการดึง หรือการเหนี่ยวประแจเขาหาตัวอยูเสมอ จะชวยใหบังคับประแจไดดีขึ้น 2 ไขควง ผูปฏิบัติงานควรพึงปฏิบัติ เพื่อใหเกิดความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน เชน ควรเลือกใชปากของไขควงใหมีขนาดและความหนาเหมาะสมกับรองของ นอต สกรู หรือสลักเกลียว ขณะใชงานไขควงตองตั้งตรง หรือตั้งฉากกับนอต สกรู หรือสลักเกลียว จากนั้นบิดไขควงทวนเข็มนาฬกาเมื่อตองการคลายออก และบิดไขตามเข็มนาฬกาเมื่อตองการขันใหแนน 3 นํ้ามันจักร เปนวัสดุหลอลื่นชนิดเหลว ชวยปองกันการเกิดสนิมและการ สึกกรอนของอุปกรณตางๆ หากตองการเลือกซื้ออุปกรณ เครื่องมืองานชางในบานควร พิจารณาจากสิ่งใด 1. ความชื่นชอบของตนเอง 2. วัตถุประสงคในการใชงาน 3. ความนิยมของคนในสังคม 4. ความสวยงามของรูปลักษณภายนอก (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะควรเลือกซื้อตามวัตถุประสงค ของการใชงาน ซึ่งการปฏิบัติงานชางแตละประเภท จะเลือกใช อุปกรณ เครื่องมืองานชางที่แตกตางกัน หากเลือกใชไมเหมาะสม กับงาน อาจทําใหเกิดอุบัติเหตุในระหวางปฏิบัติงานได) นํา สอน สรุป ประเมิน T22
กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค การบํารุงรักษา คีมตัด ใช้ตัดลวด หรือตัดสายไฟ มีร่องฟันเพื่อจับ ชิ้นงานได้อีกด้วย ค้อนหงอน ใช้เคาะ ตี ตอก ทุบ งัด ปลายบาง มีรอยแยก ตรงกลาง เป็นมุมแหลมที่ปลายไว้ใช้ ถอนตะปู ส่วนใหญ่จะใช้ในงานไม้ ค้อนเดินสายไฟ ใช้ตอกตะปูตัวเล็ก ๆ ในการเดินสายไฟและใช้ ส�าหรับย�้าหัวหมุดในงานโลหะแผ่น ค้อนหัวกลม ใช้ตอกหมุดเหล็ก ตีขึ้นรูป งานตีเหล็ก มีหลาย ขนาดให้เลือกตามความเหมาะสม ค้อนปอนด์ ใช้ตีเหล็ก ตอกหมุด สกัดหิน และงานที่ต้องใช้ แรงเหวี่ยงมาก ๆ เช่น ทุบก�าแพง วัสดุเนื้อแข็ง คีมปากแบน ใช้จับชิ้นงานโลหะแบนหรือสายไฟ เหมาะกับ งานในที่แคบ คีมปากนกแก้ว ใช้ตัดเหล็กและเส้นลวด ไม่เหมาะที่จะน�ามาใช้ จับชิ้นงาน คีมล็อก ใช้จับชิ้นงาน เพื่อป้องกันการหมุน หรือเลื่อน โดยปรับขยายเลื่อนความกว้างของปากคีมได้ • เช็ดท�าความสะอาดหลังเสร็จจากการใช้งาน • หยดน�้ามันที่จุดหมุน ชโลมน�้ามันเครื่องชนิด ใส หรือน�้ามันจักรบริเวณปากคีม • เก็บในกล่องอุปกรณ์และเก็บให้พ้นมือเด็ก • เช็ดท�าความสะอาดหลังเสร็จจากการใช้งาน • ชโลมน�้ามันเครื่องชนิดใส หรือน�้ามันจักร บริเวณหัวค้อน • เก็บในกล่องอุปกรณ์และเก็บให้พ้นมือเด็ก เครื่องมือประเภทจับยึด เครื่องมือส�าหรับตอก การใช้งาน งานช่างในบ้าน ๑๙ ถอนตะปู ใช้จับชิ้นงานโลหะแบนหรือสายไฟ เหมาะกับ ใช้ตอกตะปูตัวเล็ก ๆ ในการเดินสายไฟและใช้ 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 10. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การใชคีมเพื่อใหเกิด ความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน ควรเลือกใช คีมใหเหมาะสมกับลักษณะของงาน การจับคีม ควรใหดามคีมอยูที่ปลายนิ้วทั้งสี่ ใชอุงมือและ นิ้วหัวแมมือกดดามคีมอีกดาน จะทําใหมีกําลัง ในการจับ หรือตัดมากขึ้น ไมใชคีมตัดโลหะ ที่มีขนาดใหญ หรือมีความแข็งมากจนเกินไป ควรใชกรรไกรตัดแทน ไมควรใชคีมขัน หรือ คลายหัวนอต เพราะจะทําใหหัวนอตชํารุดได” 11. ครูถามนักเรียนวา • “หากตองการปอกสายไฟที่ชํารุด สามารถ ใชคีมตัด หรือคีมปากแบนปอกได” นักเรียน เห็นดวยหรือไม อยางไร (แนวตอบ ไมเห็นดวย เนื่องจากคีมทั้ง 2 ชนิด มีรูปแบบการใชงานที่แตกตางกัน โดยคีมตัด จะใชตัดลวด หรือตัดสายไฟ สวนคีมปากแบน จะใชจับชิ้นงานโลหะ หรือสายไฟ หากตองการ ปอกสายไฟฟาที่ชํารุดควรใชคีมปอกสายไฟฟา โดยเฉพาะ เพราะจะมีขนาดของชองปอก เทากับขนาดของสายไฟฟาพอดี) 12. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “วัสดุที่ใชในการผลิต หัวคอนสวนใหญทํามาจากโลหะ เมื่อใชงาน เปนเวลานานและขาดการดูแลบํารุงรักษา ที่ถูกตองอาจทําใหเกิดสนิมได ดังนั้น หากพบวา คอนขึ้นสนิม สามารถแกไขไดโดยการใช นํ้าสมสายชู โดยเทนํ้าสมสายชูลงในภาชนะ นําโลหะที่เกิดสนิมลงไปแช ทิ้งไวสักพัก ใชผา หรือสกอตช-ไบรตมาขัดบริเวณที่เกิดสนิม ลางใหสะอาด จากนั้นจึงใชผาสะอาดเช็ดใหแหง” ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ใหสมาชิกแตละคน ทําการสํารวจอุปกรณเครื่องใชภายในบานของตนเองวามีอุปกรณ เครื่องใชภายในบานชนิดใดที่ชํารุดเสียหาย นําผลการสํารวจมา แลกเปลี่ยนภายในกลุม เพื่อใหสมาชิกภายในกลุมแตละคนลงความเห็น ในการซอมแซมอุปกรณเครื่องใชภายในบานตามความสนใจกลุมละ 1 ชิ้น โดยจัดทําเปนคลิปวิดีโอสั้นๆ ความยาวไมเกิน 7 นาที จากนั้น ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะดานซื่อสัตยสุจริต มีวินัย และมุงมั่นในการทํางาน) นักเรียนควรรู 1 ถอนตะปู ควรปฏิบัติงานดวยความระมัดระวัง หากตะปูตัวใหญมาก ควรใชไมรองหัวคอน จากนั้นจึงคอยๆ งัดตะปูขึ้น โดยออกแรงเพิ่มทีละนอย เนื่องจากหากงัดดวยความแรง อาจสงผลใหดามคอนหักได 2 สายไฟ แบงเปน 2 ชนิด คือ สายสําหรับไฟแรงดันตํ่าและสายสําหรับ ไฟแรงดันสูง ในการใชงานควรเลือกใชใหเหมาะสม เนื่องจากสายไฟแตละชนิด จะมีขนาด ความทนแรงดันไฟ และการใชงานที่แตกตางกัน 3 ตอกตะปู หากใชคอนตอกตะปูที่มีขนาดเล็กมากเกินกวาจะใชนิ้วมือ จับได ควรใชคีมปลายแหลมจับแทน เพื่อปองกันการตอกถูกนิ้วมือ ทั้งนี้ กอนใชคอนทุกครั้งควรตรวจสอบวาหัวคอนกับดามจับยึดติดกันแนนหรือไม โดยใชมือขางใดขางหนึ่งจับหัวคอนและมืออีกขางหนึ่งจับดามคอน บิดเพื่อ ทดสอบความแข็งแรงของคอน เพื่อใหเกิดความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน นํา สอน สรุป ประเมิน T23
ขอสอบเนนการคิด การบํารุงรักษา การใช้งาน • หลังใช้งานให้คลายใบเลื่อยออก เพื่อยืดอายุ การใช้งานให้ยาวนานขึ้น • ชโลมน�้ามันเครื่องชนิดใส หรือน�้ามันจักร • เก็บเข้าที่ให้เรียบร้อยและเก็บให้พ้นมือเด็ก • เช็ดท�าความสะอาดหลังเสร็จจากการใช้งาน • ถอดดอกสว่านออก แล้วหมุนหัวบังคับดอกสว่าน ให้แน่นทาจาระบีที่เฟือง และหัวจับดอกสว่าน • เก็บเข้าที่ให้เรียบร้อยและเก็บให้พ้นมือเด็ก เครื่องมือส�าหรับตัด เครื่องมือประเภทเจาะ เลื่อยลันดา ใช้ตัดไม้และโกรกไม้ แบ่งเป็น ๒ ชนิด คือ ชนิด ฟันตัดและชนิดฟันโกรก สว่านไฟฟา ใช้เจาะวัสดุต่าง ๆ เช่น คอนกรีต ปูน โลหะ ไม้ พลาสติก สว่านมือ ใช้เจาะรูที่มีขนาดเล็กและ มีความหนามาก ๆ ได้ สว่านข้อเสือ ใช้เจาะรูไม้ คันสว่านจะมีลักษณะคล้ายตัวยู (U) ท�าให้เพิ่มระยะ การหมุนได้มากขึ้น บิดหล่า ใช้เจาะรูขนาดเล็ก ๆ ที่ต้องการฝังตะปูเข้าไปใน ไม้เนื้อแข็ง เลื่อยหางหนู ใช้ตัดไม้ หรือตัดชิ้นงานเป็นแนวโค้ง ทั้งยัง สามารถใช้เจาะฝ้า หรือผนังยิปซัมได้ เลื่อยตัดเหล็ก ใช้ตัดโลหะทั่วไป เช่น ตะปู นอต สกรู ฉากเหล็ก ท่อ PVC เลื่อยรอ ใช้ตัดแต ่งปากไม้ที่ผิวหน้าไม ่เรียบให้เรียบ ตรง หรือตัดแต่งหน้าผิวรอยต่อของการเข้าไม้ เข้าเดือยให้แนบสนิท ๒๐ ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 13. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “สําหรับผูที่ยังไมมีความ ชํานาญในการใชเลื่อย ควรใชดินสอขีดเสน ลงบนวัสดุที่ตองการเลื่อยกอน เพื่อเปนการนํา สายตา แลวใชนิ้วหัวแมมือขางที่ไมไดจับเลื่อย ชวยประคองนําใบเลื่อย เพื่อใหใบเลื่อยนิ่ง ไมพลิกไปมา เมื่อเลื่อยลงไปจนลึกแลวให นํานิ้วที่ใชประคองออก จรดใบเลื่อยลงบน บริเวณที่ตองการเลื่อย ดึงเลื่อยเขาหาตัวโดย ไมตองออกแรงมาก กดใบเลื่อยลงไปแลว ออกแรงในการดึง เพื่อใหใบเลื่อยกินเขาไป ในเนื้อวัตถุที่ตองการเลื่อย ชักเลื่อยขึ้น-ลง ทําสลับกันไปมาในอัตราความเร็วประมาณ 40-50 ครั้งตอนาที ไมจําเปนตองออกแรงมาก เพราะฟนเลื่อยที่คมจะทําหนาที่ในการตัดเนื้อ ของวัตถุนั้นๆ” 14. ครูถามนักเรียนวา • หากตองการตัดและตกแตงกิ่งของตนไม ควรเลือกใชเลื่อยชนิดใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ ควรเลือกใชเลื่อยโคงตัดกิ่งไม เพราะความโคงของคมเลื่อยและฟนเลื่อย จะทําใหสามารถทํางานไดอยางสะดวก รวดเร็ว) 15. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การใชสวานเจาะไม ควรนําเศษวัสดุที่เรียบมารองบริเวณดานลาง เพื่อปองกันไมใหไมฉีก แตก ไมเรียบ และ ในการเจาะรูไมที่มีความหนามากๆ ไมควร ออกแรงกดมากจนเกินไป เพราะอาจสงผล ใหดอกสวานหักได” 16. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนมีแนวทางอยางไรในการใชสวาน ไฟฟา เพื่อใหเกิดความปลอดภัยตอตนเอง และผูอื่น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) ในการประกอบและติดตั้งอุปกรณเครื่องใชภายในบานให ถูกตองและเกิดความปลอดภัยในขณะใชงาน ควรมีหลักในการ ปฏิบัติตนอยางไร (แนวตอบ ในการประกอบและติดตั้งอุปกรณเครื่องใชภายใน บานใหถูกตองและเกิดความปลอดภัย มีหลักในการปฏิบัติ คือ ควรศึกษาคุณลักษณะเฉพาะของอุปกรณเครื่องใชภายในบาน ประเภทตางๆ จากคูมือแนะนําการใชงานใหเขาใจอยางละเอียด กอนลงมือประกอบและติดตั้ง กําหนดตําแหนงที่ตองการติดตั้ง ที่มีความปลอดภัย จัดเตรียมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชในการ ปฏิบัติงานใหพรอม จากนั้นจึงปฏิบัติตามคูมือที่ผูผลิตแนะนํา อยางเครงครัด) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการใชสวานไฟฟาในการเจาะผนังที่เปน กระเบื้องไมใหแตกใหนักเรียนฟงวา การเจาะกระเบื้องดวยสวานไฟฟา เพื่อ ปองกันการชํารุดเสียหาย สามารถปฏิบัติได ดังนี้ • ใหประกอบสวานไฟฟาเขากับดอกสวานเจาะเหล็ก ปรับใหอยูในระบบ การเจาะเบา คอยๆ กดสวานเปนจังหวะ เพื่อใหหัวสวานผานชั้นผนัง กระเบื้องเขาไปเล็กนอย • ใหเปลี่ยนดอกสวานจากดอกสวานเจาะเหล็กเปนดอกสวานสําหรับ เจาะกระแทก ปรับสวานไฟฟาใหอยูในระบบเจาะกระแทก คอยๆ กดสวาน ลงไปที่รูเดิมเปนจังหวะดวยความระมัดระวัง นํา สอน สรุป ประเมิน T24
แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน ล าดับที่ ชื่อ-สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ขอสอบเนน การคิด T i p การใช้งาน การบํารุงรักษา ระดับนํ้า อุปกรณ์งานช่างชนิดหนึ่ง ท�าจากอะลูมิเนียม มีความยาวประมาณ ๖๐ ซม. หนาประมาณ ๕ ซม. นิยมน�ามาใช้วัดความราบเอียงของพื้น โดยวัดได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เมื่อต้องการวัดความลาดเอียง ของพื้น ให้น�าระดับน�้าวางลงบนพื้นที่ต้องการ สังเกตฟองอากาศภายใน หลอดแก้ว หากพื้นไม่ลาดเอียงฟองอากาศจะอยู่ตรงกลางระหว่างเส้น ๒ เส้น บนหลอดแก้ว ไขควงวัดไฟฟา ใช้ตรวจสอบกระแสไฟฟ้าในวงจร หากมีกระแส ไฟฟ้า หลอดไฟฟ้าเรืองแสงที่ด้ามไขควงจะ ปรากฏแสงสว่างขึ้นทันที ตรวจสอบไขควงวัดไฟให้มีฉนวนหุ้มไขควงที่ สมบูรณ์ เช็ดท�าความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้ เรียบร้อย เครื่องวัดมัลติมิเตอร์ ใช้วัดปริมาณทางไฟฟ้า เช่น วัดความต้านทานไฟฟ้า วัดแรงเคลื่อน ไฟฟ้ากระแสตรง วัดแรงเคลื่อนไฟฟ้ากระแสสลับ การบํารุงรักษา หลังจากใช้งานเสร็จแล้วให้ถอดสายวัดออก แล้วปรับสวิตช์ ไปที่ OFF เช็ดท�าความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย หลอดทดลองไฟฟา ใช้ตรวจสอบกระแสไฟฟ้าเบื้องต้น เพื่อหาจุด บกพร่องของวงจรนั้น ๆ โดยมีหลักการพื้นฐาน เช่นเดียวกับการต่อหลอดไฟฟ้าเข้าสู่วงจร จุดปากคีบและจุดตรวจสอบต้องมีฉนวนหุ้ม อย่างดี เพื่อป้องกันการถูกกระแสไฟฟ้าดูด เช็ด ท�าความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย เครื่องมือส�าหรับงานไฟฟา งานช่างในบ้าน ๒๑ ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง เครื่องมือ เครื่องใชในการซอมแซมและติดตั้งอุปกรณ เครื่องใชภายในบาน 3. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางาน กลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกต คุณลักษณะอันพึงประสงค ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 17. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน จากนั้นใหเพื่อนรวมชั้นเรียนรวมกันเสนอแนะ เพิ่มเติม 18. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสําคัญของ การใชงานและการบํารุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช ในการซอมแซมและติดตั้งอุปกรณ เครื่องใช ภายในบานใหนักเรียนฟง เพื่อเพิ่มเติมความรู ใหกับนักเรียน ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การใช เครื่องมืองานชางอยางปลอดภัย 2. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน จากการนําเสนอผลการวิเคราะห วิจารณ และ การสรุปความรู แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 2 งานชางในบานประเภทใดที่สามารถปฏิบัติไดเอง และงานชาง ในบานประเภทใดที่ควรใหผูที่มีความเชี่ยวชาญมาปฏิบัติงานแทน (แนวตอบ งานชางในบานที่สามารถปฏิบัติไดเองมีอยูดวยกัน หลายอยาง เชน การประดิษฐของเลนจากไม การดูแลบํารุงรักษา เครื่องใชไฟฟา การเปลี่ยนหลอดไฟภายในบาน สวนงานชางในบาน ที่ควรใหผูที่มีความเชี่ยวชาญมาปฏิบัติงานแทน มีอยูดวยกัน หลายอยาง เชน การใชเลื่อยไฟฟาตัดเหล็ก การติดตั้งอุปกรณ ไฟฟา การซอมแซมเครื่องใชไฟฟาบางประเภท) นํา สอน สรุป ประเมิน T25
ขอสอบเนนการคิด การซ่อมแซม ๑ ๒ สายชาร์จ โทรศัพท์ ฉนวนหุ้มสายชาร์จ เปื่อยหรือ เสื่อมสภาพ ๒ ตัวอย่างการซ่อมแซมเครื่องใช้ภายในบ้าน การซ่อมแซมเครื่องใช้ภายในบ้านที่ช�ารุด จะเป็นการช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานให้ยาวนาน ยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุและช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ทั้งนี้ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ เพื่อความปลอดภัยในการซ่อม มีตัวอย่าง ดังนี้ สายชาร์จโทรศัพท์ เป็นสาย USB สีขาว หรือสีด�า เมื่อใช้ไปนาน ๆ อัตราการชาร์จไฟจะตกลง จนถึงชาร์จไฟไม่เข้า ปัญหาที่พบส่วนใหญ่มักไม่ได้ เกิดขึ้นที่อะแดปเตอร์แต่มักเกิดขึ้นกับสาย USB สายชาร์จโทรศัพท์เมื่อใช้ไประยะหนึ่งอาจเกิดการ ช�ารุด หรือเสื่อมสภาพจากการใช้งาน หรือการเก็บ รักษา เมื่อช�ารุดสามารถซ่อมขั้วสายชาร์จโทรศัพท์ ได้ตามอาการ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. สายชาร์จโทรศัพท์ ๒. อะแดปเตอร์ ๓. ท่อหดขนาดต่าง ๆ ๔. คัตเตอร์/กรรไกร ๕. ไฟแช็ก ๖. ไขควงวัดไฟระบบเสียง ๗. เทปประปา ๒๒ ขั้นนํา (เนนการสาธิต) ขั้นที่ 1 การเตรียมการ 1. ครูจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ เครื่องมือที่ใชใน การซอมแซมสายชารจและการซอมแซมปลั๊ก ตอพวง เพื่อใช ในการสาธิตการซอมแซมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชภายในบาน 2. ครูทดลองซอมแซมสายชารจโทรศัพทและ ซอมแซมปลั๊กตอพวง 1 รอบ กอนการสาธิตจริง เพื่อใหเกิดความชํานาญและลดขอบกพรอง ที่อาจเกิดขึ้นจากการสาธิต ขั้นที่ 2 กอนการสาธิต 3. ครูนําสายชารจโทรศัพทที่ฉนวนหุมสายชารจ เปอย หรือเสื่อมสภาพ และปลั๊กตอพวงที่ชํารุด เนื่องจากไฟไมเขามาใหนักเรียนดู 4. ครูถามนักเรียนวา • ที่บานของนักเรียนมีสายชารจโทรศัพทที่ ฉนวนหุมสายชารจเปอย หรือเสื่อมสภาพ หรือปลั๊กตอพวงที่ชํารุดเนื่องจากไฟไมเขา บางหรือไม หากมี นักเรียนทําอยางไรกับของ ที่ชํารุดดังกลาว” (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 5. ครูใหนักเรียนที่พบกับปญหาดังกลาวออกมา เลาประสบการณเกี่ยวกับวิธีการแกปญหาจาก คําถามที่ครูกําหนดใหใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 6. ครูใหนักเรียนศึกษา เรื่อง วิธีการซอมแซมสาย ชารจโทรศัพทและวิธีการซอมแซมปลั๊กตอพวง จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 7. ครูถามนักเรียนวา • จากการศึกษา เรื่อง วิธีการซอมแซมสายชารจ โทรศัพท และวิธีการซอมแซมปลั๊กตอพวง นักเรียนคิดวาตนเองสามารถซอมแซมเอง ไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) หากตองการซอมแซมอุปกรณเครื่องใชภายในบาน ควรปฏิบัติ อยางไร (แนวตอบ หากตองการซอมแซมอุปกรณเครื่องใชภายในบาน ควรปฏิบัติตามขั้นตอน คือ ใหทําการสํารวจพรอมทั้งสังเกตชนิด และลักษณะการชํารุดของวัสดุที่นํามาใชในการทําอุปกรณเครื่องใช ภายในบาน จากนั้นศึกษาขั้นตอนและวิธีการซอมแซมอุปกรณ เครื่องใชภายในบาน ตรวจสอบการทํางานของวงจรไฟฟาใหแนใจ กอนวาไดตัดไฟฟาออกจากวงจรกอนทําการซอมแซมหรือไม หลังการ ซอมแซมควรตรวจสอบความถูกตองของวงจรไฟฟาใหละเอียด กอนการใชงาน และผูปฏิบัติงานจะตองมีความรอบคอบในขณะ ปฏิบัติงาน เพื่อใหเกิดความปลอดภัยตอรางกายและทรัพยสิน) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกซื้อสายชารจโทรศัพทใหนักเรียนฟงวา การเลือกซื้อสายชารจโทรศัพท ควรเลือกซื้อจากบริษัทผูผลิตโทรศัพทเครื่องนั้นๆ โดยตรง หากจําเปนตองใชสายชารจโทรศัพทของผูผลิตรายอื่น ควรเลือกซื้อที่มี มาตรฐาน มีการรับรองคุณภาพ เชื่อถือได หากใชสายชารจโทรศัพทลอกเลียนแบบ ที่ไมมีการรับรองคุณภาพ อาจทําใหเกิดความเสียหายตอแบตเตอรีและโทรศัพท ทั้งยังสงผลถึงความปลอดภัยในขณะใชงาน อาจทําใหเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหวาง การชารจโทรศัพท เนื่องจากสายชารจโทรศัพทไมมีมาตรฐานดานความปลอดภัย ที่เพียงพอ ดังนั้น จึงควรเลือกซื้อจากบริษัทผูผลิตที่ไดการรับรองคุณภาพและ มาตรฐาน จึงเปนทางเลือกที่ดีที่สุด นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T26
ขอสอบเนน การคิด ๓ ๔ ๕ ๖ ซ่อมสายไฟขาดด้วยตนเอง ขั้นตอนการซ่อมแซม ๑. น�ำสำยชำร์จที่ฉนวนหุ้มสำยเปื่อย หรือเสื่อมสภำพมำท�ำควำมสะอำดให้เรียบร้อย ให้น�ำเทป ประปำพันรอบสำยชำร์จที่ช�ำรุด จะต้องพันให้แน่นตลอดแนวที่สำยช�ำรุด แต่ไม่ควรพันหนำจน เกินขนำดของท่อหดที่เตรียมไว้ ๒. ตัดท่อหดให้มีควำมยำวตำมขนำดที่ต้องกำรจะหุ้มทับ น�ำท่อหดสวมเข้ำกับขั้ว USB ปิดทับ สำยชำร์จที่พันเทปประปำไว้ จัดท่อหดให้อยู่แนวเดียวกันกับสำยชำร์จ ๓. จุดไฟแช็กให้เปลวไฟลนท่อหดให้หดตัวแนบสนิทกับสำยชำร์จ ในขณะที่ใช้ไฟแช็กลนจะต้อง หมุนสำยชำร์จให้ท่อหดได้รับควำมร้อนสม�่ำเสมอกัน ๔. ปฏิบัติตำมขั้นตอนในข้อ ๓. โดยใช้ท่อหดหุ้มสำยชำร์จไว้ทั้ง ๒ ด้ำน ๕. น�ำไขควงวัดไฟวำงทำบลงบนสำยชำร์จ ตั้งแต่อะแดปเตอร์ไปจนถึงขั้วสำยชำร์จ จำกนั้นให้ สังเกตดูแสงและเสียงของไขควงวัดกระแสไฟ หำกมีแสงสว่ำงเกิดขึ้น หรือมีเสียงดังแสดงว่ำ มีกระแสไฟเข้ำสำยชำร์จ สำมำรถท�ำงำนได้ตำมปกติ ๖. ทดสอบกำรใช้งำนจริง โดยน�ำสำยชำร์จเสียบเข้ำที่ตัวเครื่องของโทรศัพท์ปรำกฏภำพกำรชำร์จไฟ แสดงว่ำสำยชำร์จสำมำรถกลับมำใช้งำนได้ตำมปกติ 2๓ ั้งแต่อะแดปเตอร์ไปจนถึงขั้วส กับขั้ว USB สังเกตดูแสงและเสียงของไขควงวัดกระแสไฟ 2 1 3 ทอหดมีความสําคัญตอการซอมแซมสายชารจโทรศัพทอยางไร (แนวตอบ ทอหดเปนทอพลาสติกที่ใชสําหรับหุมสายไฟ เมื่อ ถูกความรอนจะหดตัวไดอยางรวดเร็ว ในการซอมแซมสายชารจ โทรศัพทที่ฉนวนหุมสายชารจเปอย หรือเสื่อมสภาพนั้น จําเปน ตองใชทอหดที่มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว จํานวน 2 ทอ สวมเขาบริเวณ สายชารจดานที่เปนหัวตอเขาโทรศัพทและดานหัว USB เพื่อให ทอหดทําหนาที่ในการชวยปองกันการหักงอของสายชารจโทรศัพท ทําใหสายชารจโทรศัพทมีอายุการใชงานที่ยาวนานขึ้น) นักเรียนควรรู 1 ขั้ว USB หรือ Universal Serial Bus เปนชองทางในการเชื่อมตอระหวาง คอมพิวเตอร หรืออุปกรณอื่นๆ เชน ปรินเตอร โมเด็ม คียบอรด เมาส 2 อะแดปเตอร เปนอุปกรณในการแปลงกระแสไฟฟาสลับที่มีคาความตางศักย 220 โวลต ใหเปนกระแสไฟฟาตรงที่มีคาความตางศักยตํ่าลง 3 ไขควงวัดกระแสไฟ กอนนําไขควงวัดกระแสไฟไปใชในการตรวจสอบ วงจรไฟฟา ควรทําการทดสอบดูกอนวาไขควงวัดกระแสไฟสามารถใชงานได ตามปกติหรือไม โดยทําการแหยเขาไปในเตารับที่มีไฟอยู หากหลอดเรืองแสง ที่ไขควงวัดกระแสไฟติดแสดงวาสามารถใชงานได ขอควรระวังในการใช ไขควงวัดกระแสไฟ คือ ทุกครั้งที่ใชงานใหพึงระลึกอยูเสมอวาอาจมีอันตราย เกิดขึ้นไดเสมอ เชน ไขควงวัดกระแสไฟอาจชํารุด หรือลัดวงจร จึงควรแตะ ที่เตารับ หรืออุปกรณไฟฟาเพียงเล็กนอยเทานั้น หามทําการซอมแซม หรือ ดัดแปลงไขควงวัดกระแสไฟที่ชํารุดเองโดยเด็ดขาด และหามนําไปทดสอบ กับไฟฟาที่ไมรูคาแรงดัน หรือไฟฟาแรงดันสูง ขั้นสอน ขั้นที่ 3 การสาธิต 1. ครูนําวัสดุ อุปกรณ เครื่องมือที่ใชในการ ซอมแซมสายชารจโทรศัพท และวัสดุ อุปกรณ เครื่องมือที่ใชในการซอมแซมปลั๊กตอพวงมาให นักเรียนดู 2. ครูใหนักเรียนชวยกันจําแนกวัสดุ อุปกรณ ดังกลาวออกเปนกลุมตามประเภทของการ ซอมแซม 3. ครูสาธิตวิธีการซอมแซมสายชารจโทรศัพท ใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบาย ประกอบทีละขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียน ไดสังเกตและติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 4. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนคิดวาเปนเพราะสาเหตุใดฉนวนหุม สายชารจโทรศัพทจึงเปอย หรือเสื่อมสภาพ (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน สายชารจโทรศัพทมีอายุ การใชงานที่ยาวนาน ผูใชงานเก็บรักษาไมถูก วิธี เก็บไวในที่ที่มีความรอนสูง ยืดสายชารจ โทรศัพทตึงเกินไปในขณะที่กําลังชารจไฟ จะสงผลใหสายในตึง ซึ่งมีโอกาสทําใหสายใน ขาดไดงาย) • นักเรียนมีแนวทางในการปองกันไมให สายชารจโทรศัพทชํารุดไดอยางไร (แนวตอบ เก็บสายชารจโทรศัพทดวยวิธีการ มวนเปนวงกลม จะทําใหสายในไมขาดไดงาย มีความเรียบรอย สะดวกตอการหยิบใชงาน เก็บไวในที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ไมรอน หรือเย็นจนเกินไป เลือกใชสายชารจโทรศัพท ที่เหมาะสมกับอุปกรณที่ ใช ระมัดระวัง สายชารจโทรศัพทตก หรือถูกสิ่งที่มีนํ้าหนัก มากดทับ เพราะอาจทําใหสายชารจโทรศัพท ชํารุดเสียหายได) นํา สอน สรุป ประเมิน T27
ขอสอบเนนการคิด การซ่อมแซม ๑ ๒ ปลั๊กต่อ พ่วง ช�ารุด ไฟไม่เข้า ปลั๊กต่อพ่วงเป็นอุปกรณ์ส�าหรับต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า สามารถ น�ามาใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกบ้านเนื่องจากเต้ารับภายในบ้าน มักไม่ค่อยเพียงพอต่อการใช้งานจริง หรือต�าแหน่งเต้ารับไม่สอดคล้อง กับจุดที่ต้องการใช้งาน สาเหตุส่วนใหญ่ที่ท�าให้สายปลั๊กพ่วงช�ารุด คือ การใช้งานเกินก�าลัง (ใช้กับอุปกรณ์ที่มีโหลดมาก หรือวัตต์มาก) ต่อปลั๊กพ่วงกันเกิน ๓ จุด และใช้งานพร้อมกัน รูเต้ารับปลั๊กหลวม การใช้งานเก็บรักษาไม่ถูกวิธี ในการเลือกซื้อปลั๊กต ่อพ ่วงมาใช้งานจึงต้องเลือกซื้อที่ได้ มาตรฐานและมีเครื่องหมาย มอก. รับรอง หรือมาตรฐานของ IEC มีสายไฟภายใน ๓ เส้น มีฉนวนหุ้มทั้ง ๒ ชั้น เพื่อป้องกันการหักงอ หรือถูกของมีคมท�าให้สายช�ารุด วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. ปลั๊กต่อพ่วงที่ช�ารุด ๒. มัลติมิเตอร์วัดไฟ ๓. ไขควงวัดไฟ ๔. หัวแร้งไฟฟ้า ๕. ตะกั่ว/น�้ายาประสาน ๖. ไขควงปากแฉก/ ไขควงปากแบน ๗. แปรง Be careful ในการใช้ปลั๊กต่อพ่วง ควรระมัดระวังในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้ • ห้ามน�าปลั๊กต่อพ่วงไปใช้ติดตั้งแบบถาวร เนื่องจากถูกออกแบบ ให้ใช้งานได้ชั่วคราว • ห้ามน�าปลั๊กต่อพ่วงที่ช�ารุดมา ใช้งานโดยเด็ดขาดหากยังไม่ได้ รับการซ่อมแซมอย่างถูกต้อง • ห้ามน�าไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า ขนาดใหญ ่ หรือที่ต้องใช้กับ กระแสไฟฟ้าตลอดเวลา ๒๔ IEC ๕. ตะกั่ว/น�้ายาประสาน มีฉนวนหุ้มทั้ง 2 1 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 การสาธิต 5. ครูสาธิตวิธีการซอมแซมปลั๊กตอพวงใหนักเรียน ดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 6. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนคิดวาเปนเพราะสาเหตุใดปลั๊ก ตอพวงจึงไฟไมเขา (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ปลั๊กตอพวงมีอายุ การใชงานที่ยาวนาน ผูใชงานเก็บรักษา ไมถูกวิธี ใชงานไมเหมาะสม อุปกรณภายใน เกิดการชํารุดเสียหาย) • นักเรียนมีแนวทางในการปองกันไมใหปลั๊ก ตอพวงชํารุดไดอยางไร (แนวตอบ ระมัดระวังการเสียบอุปกรณไฟฟา จํานวนมากกับปลั๊กตอพวง หากใชงานกับ อุปกรณที่กินไฟมากควรเสียบเพียง 1 ตัว เลือกใชปลั๊กตอพวงที่ไดรับการรับรองคุณภาพ หลังจากใชงานควรถอดปลั๊กออกทุกครั้ง) 7. ครูใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 6 กลุม กลุมละ เทาๆ กัน โดยกําหนดให • กลุมที่ 1-3 ฝกปฏิบัติการซอมแซมสายชารจ โทรศัพท • กลุมที่ 4-6 ฝกปฏิบัติการซอมแซมปลั๊ก ตอพวง หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครูเปน รายกลุม โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงาน ของนักเรียนแตละกลุมอยางใกลชิดและคอย ใหความชวยเหลือ พรอมทั้งเนนยํ้าใหนักเรียน ตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน รวมดวย นักเรียนควรรู 1 นํ้ายาประสาน เปนสารเคมีที่ชวยเตรียมผิวโลหะที่ตองการบัดกรีให ปราศจากคราบออกไซดกอนการบัดกรี ชวยในการลดแรงตึงผิวระหวางพื้นผิว โลหะกับโลหะบัดกรี ซึ่งคุณภาพของบัดกรีจะดีหรือไมนั้น ขึ้นอยูกับประสิทธิภาพ ของนํ้ายาประสานเปนหลัก 2 IEC หรือคณะกรรมาธิการระหวางประเทศวาดวยมาตรฐานสาขาอิเล็กทรอเทคนิกส (International Electrotechnical Commission-IEC) เปนองคกรอิสระ ที่เริ่มกอตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2449 โดยมีวัตถุประสงคเพื่อจัดทํามาตรฐานระหวาง ประเทศทางดานไฟฟา อิเล็กทรอนิกส และเทคโนโลยีที่เกี่ยวของ นอกจากนี้ ยังดําเนินการจัดทําระบบการตรวจประเมิน เพื่อรับรองคุณภาพใหกับมาตรฐาน ของ IEC เพื่อเปนเครื่องมือในการอํานวยความสะดวกทางดานการคาระหวางประเทศ 3 ฉนวน เปนวัสดุที่มีคุณสมบัติในการกีดกั้น ขัดขวางการไหลของกระแสไฟฟา หรือเปนวัสดุที่กระแสไฟฟาไมสามารถไหลผานได มีทั้งชนิดที่เปนยางและชนิด ที่เปนพลาสติก การศึกษาคูมือ หรือคําแนะนําในการใชงานที่แนบมาพรอม กับอุปกรณเครื่องใชภายในบาน มีความจําเปนตอการปฏิบัติงาน อยางไร (แนวตอบ การศึกษาคูมือ หรือคําแนะนําในการใชงานมีความ จําเปนตอการปฏิบัติงานหลายประการ เชน ทําใหสามารถซอมแซม อุปกรณเครื่องใชภายในบานไดอยางถูกตองตรงตามขั้นตอนที่ ระบุไว เพื่อใหเกิดความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน ชวยลดความ เสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุในขณะปฏิบัติการซอมแซม ชวยให สามารถซอมแซมอุปกรณเครื่องใชภายในบานที่ชํารุดเสียหาย ใหสามารถกลับมาใชงานไดตามปกติ) นํา สอน สรุป ประเมิน T28
ขอสอบเนน การคิด ขั้นตอนการซ่อมแซม ๑. ทดสอบการใช้งานของปลั๊กต่อพ่วง เพื่อหาสาเหตุของการเสีย โดยใช้มัลติมิเตอร์วัดไฟ หรือไขควงวัดไฟวัดว่ามีกระแสไฟหรือไม่ รวมถึงทดสอบเปิด-ปิดสวิตช์ไฟว่ามีกระแสไฟ หรือไม่ ถ้าไม่มีกระแสไฟอยู่ให้ถอดฝาครอบฟิวส์ออกและดึงฟิวส์ออกมาตรวจสอบว่า ขาดหรือไม่ ถ้าขาดให้น�าฟิวส์ตัวใหม่มาเปลี่ยนให้เรียบร้อย ๒. เมื่อทดสอบแล้วว่าปลั๊กต่อพ่วงไม่มีกระแสไฟ ให้คว�่าตัวปลั๊กไฟ ใช้ไขควงปากแฉกขัน นอต/สกรูที่ยึดใต้ปลั๊กต่อพ่วงออก ใช้ปลายไขควงปากแบนแงะรอยต่อของฝาครอบปลั๊ก ต่อพ่วงออก ๓. ใช้แปรงปัดฝุ่นภายในปลั๊กต่อพ่วงให้สะอาด ตรวจสอบจุดต่อและรอยบัดกรีของสายไฟว่า หลุดหรือไม่ ๔. หากพบว่าสวิตช์เสีย หรือช�ารุดให้เปลี่ยนสวิตช์ใหม่ โดยใช้หัวแร้งบัดกรีถอดสวิตช์ออกและ น�ามาเปลี่ยนใหม่ ต่อสายบัดกรีเข้าที่เดิมให้เรียบร้อย ๕. น�าฝาครอบปลั๊กต่อพ่วงมาปิด โดยใช้ไขควงปากแฉกขันนอต/สกรูให้แน่น ๖. ใช้มัลติมิเตอร์วัดไฟ หรือไขควงวัดไฟวัดปลั๊กต่อพ่วง จากนั้นให้สังเกตดูแสงและเสียง ๓ ๔ ๕ ๖ ๒๕ ในการเลือกซื้อปลั๊กตอพวงมาใชงาน ควรพิจารณาจากสิ่งใดเปนหลัก (แนวตอบ การเลือกซื้อปลั๊กตอพวง ควรพิจารณาจากสิ่งตางๆ ดังนี้ 1. มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม (มอก.) 2. เตาเสียบ เตารับ สายไฟ และรางปลั๊กไฟ ผลิตจากวัสดุ ที่มีคุณภาพ มีสวิตชเปด-ปด มีฟวสที่ชวยตัดกระแสไฟฟา เมื่อใชงานไฟฟาเกินขนาดที่กําหนด สายไฟของชุดสาย พวงมีฉนวนหุม 2 ชั้น ที่เตาเสียบและเตารับ มีแรงดันไฟฟา ที่กําหนดไมเกิน 250 โวลต 3. รางเตารับผลิตจากพลาสติกเอวีซี (AVC) ซึ่งทนตอความรอน ไดดีกวาพลาสติกพีวีซี (PVC) ชวยลดความเสี่ยงจากการเกิด เพลิงไหมกรณีเกิดความรอนสูงที่ปลั๊กตอพวง) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอควรระวังในการใชงานปลั๊กตอพวงใหนักเรียน ฟงวา ในการใชงานปลั๊กตอพวง เพื่อใหเกิดความปลอดภัยจากการใชงาน ควรปฏิบัติ ดังนี้ • ตรวจสอบสภาพสายไฟกอนใชงานใหอยูในสภาพที่สมบูรณอยูเสมอ • หามนําปลั๊กตอพวงติดผนังแบบถาวร เนื่องจากไมใชปลั๊กหลัก สามารถ นํามาใชงานไดเพียงชั่วคราวเทานั้น • หามนําปลั๊กตอพวงที่ชํารุดมาใชงาน หากสายไฟชองเตารับแตก หรือชํารุด อาจกอใหเกิดอันตรายตอผูใชงาน สงผลใหเกิดเพลิงไหมได • หลีกเลี่ยงการใชปลั๊กตอพวงกับเครื่องใชไฟฟาที่มีขนาดใหญ เพราะ อาจทําใหกระแสไฟฟาเกินกําหนด จนเกิดไฟฟาลัดวงจรได • หากพบสิ่งผิดปกติขณะกําลังใชงานปลั๊กตอพวง เชน สายไฟรอน มีเสียงดัง เกิดประกายไฟ ควรหยุดการใชงานทันที แลวถอดเตาเสียบ ของปลั๊กตอพวงที่ติดกับผนังออกเพื่อความปลอดภัย และไมควรนําปลั๊ก ตอพวงที่ชํารุดมาใช เพราะอาจกอใหเกิดอันตรายได ขั้นสรุป ขั้นที่ 4 การอภิปรายสรุปการเรียนรู 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลการปฏิบัติงานซอมแซม สายชารจโทรศัพทและการซอมแซมปลั๊กตอพวง ของกลุมตนเองใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน ในประเด็นที่ครูกําหนดให คือ ปญหา หรือ ความตองการ การวิเคราะหงาน การวางแผน การทํางาน การประเมินผลการทํางาน และ ปญหาที่พบและแนวทางแกไข 2. ครูใหนักเรียนกลุมอื่นรวมกันวิเคราะห วิจารณ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ซอมแซมสายชารจโทรศัพทและซอมแซม ปลั๊กตอพวงของกลุมที่ออกมานําเสนอผลงาน พรอมทั้งจดบันทึกประเด็นสําคัญตางๆ ไว 3. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติงาน ซอมแซมสายชารจโทรศัพทและการซอมแซม ปลั๊กตอพวง โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 4. ครูถามนักเรียนวา • จากการที่ไดปฏิบัติการซอมแซมเครื่องใช ภายในบานดวยตนเอง นักเรียนไดรับประโยชน อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) 5. ครูใหนักเรียนแตละคนทํากิจกรรมสรางสรรค พัฒนาการเรียนรู ใบมอบหมายงานที่ 2.1 ตอนที่ 1 เรื่อง การวิเคราะหปญหาขอบกพรอง ของอุปกรณเครื่องใชภายในบาน จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 นํา สอน สรุป ประเมิน T29
การติดตั้ง ๑ ๒ ชั้นวางของ ใน ห้องน�้า ๓ ตัวอย่างการติดตั้งเครื่องใช้ภายในบ้าน เนื่องจากในปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่วางจ�าหน่าย มักถูกออกแบบให้ผู้ซื้อน�าไป ติดตั้งเองและถ้าเสียก็มีข้อเสนอแนะให้ตรวจเช็กและซ ่อมแซมเองในขั้นต้นได้ ในที่นี้จะขอ ยกตัวอย่างการติดตั้งเครื่องใช้ภายในบ้านมาให้ศึกษา ดังนี้ การติดตั้งชั้นวางของในห้องน�้า มีความจ�าเป็นอย ่างยิ่งส�าหรับห้องน�้า ที่อยู ่ภายในอาคารชุดหรือห้องน�้าที่อยู ่ ภายในบ้านเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ห้องน�้า มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งควร ติดตั้ง หรือเลือกจัดวางใกล้กับอ่างล้างมือ หรืออ่างล้างหน้า เพื่อความสะดวกในการ หยิบใช้งาน วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. ชั้นวางของเข้ามุม ๒. พุกพลาสติก ๓. นอต/สกรู ๔. สว่านเจาะคอนกรีต ๕. ดอกสว่านเจาะคอนกรีต ๖. ไขควงปากแฉก ๗. เทปสี ๘. ค้อน ๙. คัตเตอร์ ๑๐. ปากกา/ดินสอ ๑๑. กล่องกระดาษ หรือกล่องพลาสติกรองปูน ๒๖ กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย หรับห้องน�้า หรืออ่างล้างหน้า 1 2 ๑. ชั้นวางของเข้ามุม ๒. พุกพลาสติก3 ใหนักเรียนนําไมอัด หรือแผนไมสําเร็จรูป และวัสดุ อุปกรณ ในการทําชั้นวางของมา เพื่อนํามาปฏิบัติงานในชั้นเรียน โดย นักเรียนสามารถออกแบบไดอยางหลากหลายตามความคิด และจินตนาการอยางสรางสรรค ใหนักเรียนเลือกประกอบติดตั้งเครื่องใชภายในบานงายๆ ตามความสนใจ 1 ชิ้น เชน ชั้นวางโทรทัศน ชั้นวางของ ชั้นวาง รองเทา นําเสนอในรูปแบบของคลิปวิดีโอความยาวไมเกิน 7 นาที จากนั้นนําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน นักเรียนควรรู 1 หองนํ้า ควรทําความสะอาดอยางนอยสัปดาหละ 1 ครั้ง เพื่อกําจัดสิ่งสกปรก เชน คราบสบู คราบแชมพูสระผม ฆาเชื้อโรคตางๆ โดยใชนํ้ายาลางหองนํ้า เทลงบนพื้น ทิ้งไวประมาณ 10 นาที ขัดดวยแปรงขัดพื้น ใชนํ้าสะอาดลางนํ้ายา ลางหองนํ้าออกจนหมด หองนํ้าจะสะอาดและถูกสุขลักษณะมากขึ้น 2 อางลางหนา การทําความสะอาดอางลางหนาใหมีความวาวใสอยูเสมอ สามารถปฏิบัติไดโดยการนํากระดาษชําระประเภทซับนํ้ามันมาชุบกับสาร ฟอกขาว (วิธีนี้เหมาะสําหรับอางลางหนาที่เปนสีขาวเทานั้น) นําไปแปะใหทั่ว อางลางหนา ทิ้งไวประมาณ 30 นาที นํากระดาษชําระออก ลางดวยนํ้าสะอาด แลวเช็ดใหแหง 3 พุกพลาสติก เปนอุปกรณสําหรับใชยึดนอต หรือสกรูเขากับผนัง เหมาะกับงาน ที่มีนํ้าหนักเบา เชน การแขวนพวงกุญแจ การแขวนรูปภาพประดับผนัง ขั้นนํา (เนนการสาธิต) ขั้นที่ 1 การเตรียมการ 1. ครูจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ เครื่องมือที่ใชใน การติดตั้งชั้นวางในหองนํ้า เพื่อใชในการสาธิต การติดตั้งอุปกรณเครื่องใชภายในบาน 2. ครูทดลองติดตั้งชั้นวางในหองนํ้า 1 รอบ กอนการสาธิตจริง เพื่อใหเกิดความชํานาญ และลดขอบกพรองที่อาจเกิดขึ้นจากการสาธิต ขั้นที่ 2 กอนการสาธิต 3. ครูนําชั้นวางในหองนํ้ามาใหนักเรียนดู จากนั้น ครูถามนักเรียนวา • ที่บานของนักเรียนมีการติดตั้งชั้นวางใน หองนํ้าหรือไม ถามี ชั้นวางในหองนํ้ามี ประโยชนตอนักเรียนอยางไร ถาไมมี นักเรียนวางของในหองนํ้าอยางไร เพื่อให สามารถหยิบใชงานไดอยางสะดวก (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 4. ครูใหนักเรียนที่บานมีการติดตั้งชั้นวางใน หองนํ้าออกมาเลาเกี่ยวกับประโยชนที่ไดรับ จากการติดตั้งชั้นวางในหองนํ้าใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน 5. ครูใหนักเรียนศึกษา เรื่อง วิธีการติดตั้งชั้นวาง ในหองนํ้า จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรู ที่ 2 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 6. ครูถามนักเรียนวา • จากการศึกษา เรื่อง วิธีการติดตั้งชั้นวาง ในหองนํ้า นักเรียนคิดวาตนเองสามารถ ติดตั้งเองไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T30
เครื่องมือและอุปกรณ์ ในงานช่าง เป็นสิ่งที่ช่วยผ่อนแรงในการท�างานของผู้ปฏิบัติ งานช่าง และช่วยให้การท�างานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การศึกษาถึงชนิดของเครื่องมือ และอุปกรณ์ ตลอดจนวิธีการใช้ คุณลักษณะ การดูแลรักษา การซ่อมแซม และการติดตั้งเครื่องใช้ ภายในบ้าน จึงเป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานช่างทุกคนควรเกิดความเข้าใจให้ดีเสียก่อนที่จะลงมือปฏิบัติงาน จริง เพื่อให้ผลงานที่ออกมานั้นมีคุณภาพ และก่อให้เกิดความปลอดภัยในการท�างานมากยิ่งขึ้น สรุป ขั้นตอนการติดตั้ง ๑. น�าชั้นวางของมาวางทาบกับ ผนัง ใช้ปากกา หรือดินสอท�า เครื่องหมายในต�าแหน่งของ ผนังที่ต้องการเจาะ ๒. น�าดอกสว ่านมาเทียบขนาด ของพุกพลาสติก และน�าเทป สีมาพันรอบดอกสว่าน เพื่อ ท�าเครื่องหมายระดับความลึก น�ากล่องกระดาษ หรือกล่อง พลาสติกติดที่ผนังด้านล ่าง เพื่อรองรับเศษปูน ใช้ดอก สว่านขนาดเล็กเจาะน�า เพื่อ ป้องกันกระเบื้องแตกร้าว ๓. ใช้สว ่านเจาะรูผนังบริเวณ ต�าแหน ่งที่ท�าเครื่องหมาย ไว้ ให้มีระดับความลึกเท่ากับ ความยาวของพุก ในขณะที่ เจาะผนังจะต้องจับสว่านให้ตั้ง ฉากกับพื้น ๓ ๔ ๕ ๖ ๔. น�าพุกพลาสติกมาใส่บริเวณที่เจาะรูเรียบร้อยแล้ว ใช้ค้อนตอกพุกให้ จมลงไปในผนัง ให้พุกเสมอกับแนวราบของผนัง หากมีส่วนใดเกิน ให้ใช้คัตเตอร์ตัดส่วนปลายที่เกินออกมาทิ้งให้พุกเรียบเสมอกับผนัง ๕. น�าชั้นวางของมาติดตั้งตามต�าแหน่งที่ต้องการยึดด้วยนอต หรือสกรู โดยใช้ไขควงปากแฉกขันนอต หรือสกรูให้ยึดชั้นวางของติดกับผนัง จนครบทุกจุด ๖. ใช้ฝาครอบพลาสติกติดปิดบริเวณหัวนอตจนครบทุกจุด ตรวจสอบ ความเรียบร้อยในการติดตั้ง อาจมีการน�าสิ่งของที่มีน�้าหนักมาวาง ที่ชั้นวางของ เพื่อทดสอบการรับน�้าหนัก งานช่างในบ้าน ๒7 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 การสาธิต 1. ครูนําวัสดุ อุปกรณ เครื่องมือที่ใชในการติดตั้ง ชั้นวางในหองนํ้ามาใหนักเรียนดู จากนั้นครู ถามนักเรียนวา • การใชสวานไฟฟาเจาะผนังหองนํ้าที่ทําจาก ไมกับผนังหองนํ้าที่ทําจากปูน หรือคอนกรีต มีวิธีการที่เหมือน หรือแตกตางกันอยางไร (แนวตอบ มีวิธีการทําที่เหมือนกัน แตสิ่งที่ แตกตางกันจะเปนในเรื่องของดอกสวานที่ใช เนื่องจากดอกสวานมีอยูดวยกันหลายชนิด จึงควรเลือกใชใหเหมาะสมกับลักษณะของ งานที่ปฏิบัติ คือ ดอกสวานที่ใชสําหรับ เจาะไม ปลายดอกจะมีลักษณะคลายหางปลา มีขนาดไมกวางมากนัก ซึ่งขนาดที่นิยมใช กันโดยทั่วไป คือ ขนาด 5, 6, 8 มิลลิเมตร และดอกสวานเจาะปูน หรือคอนกรีต ดอกสวานจะมีลักษณะเปนเกลียวบิด ปลายดอกเปนเหล็กชุบแข็งพิเศษ เพื่อชวย ในการรองรับแรงกระแทกจากการใชงาน) 2. ครูสาธิตการติดตั้งชั้นวางในหองนํ้าใหนักเรียน ดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) รวมกันปฏิบัติ การติดตั้งชั้นวางในหองนํ้า โดยผลัดกันปฏิบัติ ทีละกลุมจนครบ หากนักเรียนเกิดขอสงสัย ในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือ ใหสอบถามครูเปนรายกลุม โดยครูจะคอย สังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียนแตละกลุม อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ แลว เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ใหแตละกลุมรวมกันศึกษา เกี่ยวกับปญหาภาวะโลกรอน จากสื่อการเรียนรูที่หลากหลาย เชน หนังสือเรียน อินเทอรเน็ต 2. ใหนักเรียนแตละกลุมนําความรูที่ไดจากการศึกษามาแลกเปลี่ยน เรียนรูซึ่งกันและกันภายในกลุม 3. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันหาคําตอบจากคําถามที่ครูกําหนดให คือ “นักเรียนสามารถใชอุปกรณเครื่องใชไฟฟาภายในบาน เพื่อชวยลดภาวะโลกรอนไดหรือไม อยางไร” 4. ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมาตอบคําถาม ที่ครูกําหนดใหใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใชงานสวาน เพื่อใหเกิดความปลอดภัย ใหนักเรียนฟงวา ในการใชงานสวาน ผูปฏิบัติงานควรใหความใสใจในเรื่อง ของความปลอดภัยมาเปนลําดับแรก โดยตรวจสอบความเรียบรอยของอุปกรณ กอนการใชงานทุกครั้ง เพื่อใหมีความพรอมในการใชงานอยูเสมอ หากตองการ เจาะลงบนชิ้นงานที่สามารถขยับได ควรล็อกชิ้นงานใหแนนกอนเจาะ สวมใส เสื้อแขนสั้น หรือเสื้อที่รัดกุม หามสวมใสเครื่องประดับ ผูที่ไวผมยาวควรมัดผม ใหเรียบรอย สวมใสอุปกรณปองกันขณะปฏิบัติงาน เชน แวนตา ผาปดจมูก ถุงมือ ที่อุดหู เมื่อใสดอกสวาน หรือเปลี่ยนอุปกรณตางๆ ควรตรวจสอบซํ้า ทุกครั้ง เพื่อปองกันไมใหอุปกรณเคลื่อนที่และอาจกอใหเกิดอันตรายตอ ผูใชงาน กดแรงลงบนสวานในขณะใชงานแตพอดี เพราะหากกดแรงเกินไป อาจทําใหมอเตอรทํางานหนัก สงผลใหสวานเกิดการชํารุดได นํา สอน สรุป ประเมิน T31
ขอสอบเนนการคิด ที่มา : www.pea.co.th/save/index.htm การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กระทรวงมหาดไทย 㪌俿‡ÒÍ‹ҧ»ÃÐËÂÑ´Å´ÀÒÇÐâšÌ͹ ปัจจุบันความต้องการใช้ไฟฟ้า มีมากขึ้น การใช้ไฟฟ้าสิ้นเปลือง ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ท�าให้เกิดภาวะ โลกร้อนได้ เพราะไฟฟ้าเป็นพลังงาน ที่เกิดจากการเผาผลาญเชื้อเพลิง ซึ่งการเผาไหม้เชื้อเพลิงเหล ่านี้ มาก ๆ จะก่อให้เกิดแกสเรือนกระจก และมลพิษทางอากาศ ดังนั้น เรา ควรใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด นอกจาก จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยัง ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย เช่น ¾Ñ´ÅÁ • เปดระดับความเร็วของพัดลมพอสมควร • ในกรณีที่ไมจําเปนตองเปดพัดลม อาจจะเปดหนาตาง โดยใชลมธรรมชาติ แทนได • กรณีพัดลมที่มีรีโมตคอนโทรล ควรถอดปลั๊กออกทันทีหลังจากเลิกใชงาน ËÁé ÍËØ§¢é ÒÇä¿¿é Ò • ควรหุงขาวใหพอดีกับจํานวนผูรับประทาน • อยาทําใหกนหมอเกิดรอยยุบ เพราะจะทําใหขาวสุกชา • หมั่นตรวจบริเวณแทนความรอนในหมอ อยาใหเม็ดขาวเกาะติด เพราะจะทําใหขาวสุกชาและเปลืองไฟ • ควรดึงเตาเสียบออกเมื่อขาวสุกแลว â·Ã·ÑÈ¹ì • ไมควรปรับจอภาพใหมีความสวางมากจนเกินความจําเปน เพราะจะทําให หลอดภาพมีอายุการใชงานสั้นและสิ้นเปลืองไฟ • ควรปดสวิตชที่ตัวเครื่องแทนการปดดวยรีโมตคอนโทรล เพราะจะทําให สิ้นเปลืองไฟ และปดเครื่องทุกครั้งเมื่อไมไดใชงาน à¤Ã×èͧ«Ñ¡¼ŒÒ • ควรใสผาแตพอเหมาะ ไมควรใสมาก หรือนอยจนเกินไป หากมีผาเพียง ๑-๒ ชิ้น ควรซักดวยมือ • ควรใชน้ําเย็นซักผา สวนน้ํารอนจะใชเฉพาะกรณีที่เสื้อผามีรอยเปอนไขมันมาก • ควรตั้งโปรแกรมการซักตามชนิดของผาและตามคําแนะนําของเครื่อง ñ. ò. ó. ô. ๒๘ ควรใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด นอกจาก 1 ขั้นสรุป ขั้นที่ 4 การอภิปรายสรุปการเรียนรู 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลการปฏิบัติงานติดตั้งชั้นวาง ในหองนํ้าของกลุมตนเองใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน ในประเด็นที่ครูกําหนดให คือ ปญหา หรือ ความตองการ การวิเคราะหงาน การวางแผน การทํางาน การประเมินผลการทํางาน และ ปญหาที่พบและแนวทางแกไข 2. ครูใหนักเรียนกลุมอื่นรวมกันวิเคราะห วิจารณ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติ งานติดตั้งชั้นวางในหองนํ้าของกลุมที่ออกมา นําเสนอผลงาน พรอมทั้งจดบันทึกประเด็น สําคัญตางๆ ไว 3. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการติดตั้ง ชั้นวางในหองนํ้า โดยครูเปนผูตรวจสอบความ ถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาด ตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 4. ครูถามนักเรียนวา • หากตองการติดตั้งอุปกรณเครื่องใชภายในบาน เพื่อใหเกิดความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน จะมีขั้นตอนและวิธีการในการปฏิบัติงาน อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ศึกษาเกี่ยวกับรายละเอียด ตางๆ ของอุปกรณเครื่องใชภายในบานที่ ตองการติดตั้ง รวมถึงศึกษาเกี่ยวกับคําแนะนํา การใชงานใหเขาใจ เลือกใชวัสดุ อุปกรณ เครื่องมือที่ใชในการติดตั้งใหเหมาะสม กับงาน ลงมือปฏิบัติการติดตั้งตามขั้นตอน ที่ระบุไวในคําแนะนําอยางเครงครัด ในขณะ ปฏิบัติงานควรมีความมุงมั่นตั้งใจ มีสติ มีความละเอียด รอบคอบ เพื่อเปนการ ปองกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในขณะติดตั้ง อุปกรณดังกลาวได) นักเรียนควรรู 1 ใชไฟฟาอยางประหยัด การประหยัดไฟจะชวยลดภาวะโลกรอนได สามารถ ทําไดโดยการปดเครื่องใชไฟฟาและถอดปลั๊กออกทุกครั้งเมื่อไมไดใชงาน เลือกซื้อผลิตภัณฑที่มีการติดฉลากประหยัดไฟเบอร 5 ซึ่งเปนสัญลักษณ ที่การไฟฟาฝายผลิตแหงประเทศไทย (กฟผ.) รับรองประสิทธิภาพของอุปกรณ เครื่องใชไฟฟา เชน ตูเย็น พัดลม เครื่องปรับอากาศ หมอหุงขาว เพื่อใหสามารถ ใชงานไดนานขึ้น ชวยประหยัดไฟฟา และชวยลดคาใชจายในการบํารุงรักษาได อีกดวย บุคคลในขอใดปฏิบัติตนเหมาะสมในการใชตูเย็นใหประหยัด พลังงาน 1. จิมตั้งตูเย็นหางจากผนัง 15 เซนติเมตร 2. แจมนําอาหารที่มีอุณหภูมิตํ่า มาแชในตูเย็น 3. โจกตั้งตูเย็นในที่รม เพื่อปองกันไมใหถูกแสงแดด 4. จูนตรวจสอบสภาพขอบยางประตูตูเย็นอยางสมํ่าเสมอ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะการตั้งตูเย็นใหหางจากผนัง ควรตั้งหางออกจากผนังประมาณ 15 เซนติเมตร เปนอยางนอย ซึ่งจะชวยใหตูเย็นสามารถระบายความรอนไดดี เนื่องจากแผง ระบายความรอนของตูเย็นอยูบริเวณดานหลัง เมื่อสามารถระบาย ความรอนไดดี ตูเย็นจะไมกินไฟ) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับคูมือการใชไฟฟาอยางประหยัดและปลอดภัย ไดที่ https://www.pea.co.th นํา สอน สรุป ประเมิน T32
แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน ล าดับที่ ชื่อ-สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม กิจกรรม Mini Project ÊÃé Ò§ÊÃÃ¤ì ¾Ñ²¹Ò¡ÒÃàÃÕ¹ÃéÙ ¡Ô¨¡ÃÃÁ ค�าชี้แจง : ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นรายบุคคล โดยการเขียนตอบตามที่ก�าหนด ค�าชี้แจง : ให้นักเรียนปฏิบัติงานเป็นกลุ่ม โดยท�า การซ่อมแซม ติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ ภายในบ้าน ดังน�้ µÍ¹·Õè ñ àÃ×èͧ ¡ÒÃÇÔà¤ÃÒÐË»˜ÞËÒ ¢ŒÍº¡¾Ã‹Í§¢Í§ÍØ»¡Ã³ à¤Ã×èͧ㪌ÀÒÂ㹺ŒÒ¹ µÍ¹·Õè ò àÃ×èͧ ¡Òë‹ÍÁá«ÁáÅеԴµÑé§ ÍØ»¡Ã³ à¤Ã×èͧ㪌ÀÒÂ㹺ŒÒ¹ ใบมอบหมายงาน ๑. การใช้เครื่องมือช่างชนิดต่าง ๆ ให้เกิดความปลอดภัย ควรมีหลักในการใช้อย่างไรจึงจะเหมาะสม ๒. ยกตัวอย่างเครื่องมือช่างที่รู้จัก ๓ ชนิด อธิบายลักษณะการใช้งานและการบ�ารุงรักษา ๓. สาเหตุใดที่ท�าให้อุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้านเกิดความช�ารุดเสียหาย จะมีวิธีการป้องกันการเสียหายใน ขณะใช้งานได้อย่างไร จงยกตัวอย่าง ๔. ในการซ่อมแซมเครื่องใช้ภายในบ้านที่เกิดการช�ารุด จะมีขั้นตอนในการซ่อมแซมอย่างไรจึงจะท�าให้เกิด ความปลอดภัยและเครื่องใช้ภายในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๕. นักเรียนมีวิธีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่าน�้อย่างไรถึงจะช่วยประหยัดพลังงาน และลดภาวะโลกร้อน • เตารีด • โคมไฟ • ตู้เย็น • เครื่องปรับอากาศ ๑. การซ่อมแซมเครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น หลอดไฟ พัดลม สายไฟฟ้า ๒. การติดตั้งเครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น ราวตากผ้า ชั้นวางของ กลอนประตู บานพับหน้าต่าง ๓. ใช้ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�างาน ซึ�งมีขั้นตอน ดังน�้ • การสังเกต • การวิเคราะห์ • การสร้างทางเลือก • การประเมินทางเลือก ๔. บันทึกการท�างานทุกขั้นตอน พร้อมถ่ายภาพขั้นตอนการท�างาน และผลงานที่ส�าเร็จ จากนั้นเขียนอธิบาย ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติงานช่าง เพื่อการน�าไปใช้ในชีวิตประจ�าวัน ๕. น�าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน งานช่างในบ้าน ๒๙ ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 2.2.1 เรื่อง การปฏิบัติ งานชางในบาน 3. ครูตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การซอมแซมและติดตั้งอุปกรณเครื่องใช ภายในบาน 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป ขั้นที่ 4 การอภิปรายสรุปการเรียนรู 5. ครูแนะนําใหนักเรียนนําความรูและทักษะที่ได จากการติดตั้งชั้นวางในหองนํ้าไปประยุกตใช เพื่อการติดตั้งชิ้นงานประเภทอื่นๆ ตามความ ตองการในการใชงาน เชน การติดตั้งราวตากผา การติดตั้งตูยาสามัญประจําบาน โดยใช กระบวนการทํางานอยางเปนขั้นตอน 6. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 2.2.1 เรื่อง การปฏิบัติงานชางในบาน 7. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การซอมแซมและติดตั้งอุปกรณ เครื่องใชภายในบาน 8. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การซอมแซมและติดตั้งเครื่องใชภายในบาน 9. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 2 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ใหแตละกลุมเลือกหัวขอ ในการซอมแซม หรือติดตั้งอุปกรณเครื่องใชภายในบานตาม ความสนใจกลุมละ 1 ชิ้น เพื่อนํามาจัดแสดงภายในชั้นเรียน 2. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวางแผนในการดําเนินงาน พรอมทั้ง มอบหมายหนาที่ในการปฏิบัติงานของแตละบุคคลตามความ ถนัดและความสามารถ โดยคํานึงถึงความถูกตองและความ ปลอดภัยของขั้นตอน หรือวิธีการปฏิบัติงานอยางเปนระบบ 3. ใหนักเรียนแตละกลุมนําเสนอผลงาน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู ภายในชั้นเรียน โดยมีครูเปนผูใหคําแนะนําและชี้แนะเพิ่มเติม เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจที่ถูกตอง นํา สอน สรุป ประเมิน T33
Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 การเลือกใช้ และการเลือกซื้อ เสื้อผ้าและ เครื่องแต่งกาย 1 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - PowerPoint 1. อธิบายหลักการเลือกใช้ และการเลือกซื้อเสื้อผ้า และเครื่องแต ่งกายได้ อย่างถูกต้อง 2. น�ำหลักการเลือกใช้ และการเลือกซื้อเสื้อผ้า และเครื่องแต่งกาย มาประยุกต์ใช้ในชีวิต ประจ�ำวันได้อย่าง เหมาะสม 3. ใช้และดูแลรักษาเสื้อผ้า และเครื่องแต่งกายได้ อย่างถูกต้อง เหมาะสม แบบกระบวน การเรียน ความรู้ ความเข้าใจ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 3.1.1 - ตรวจใบงานที่ 3.1.2 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T34
แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 2 การซ่อมแซม ตกแต่ง ดัดแปลง ตัดเย็บเสื้อผ้า และของใช้ ภายในบ้าน 3 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 1. อธิบายวิธีการซ่อมแซม ตกแต่ง ดัดแปลง ตัดเย็บ เสื้อผ้าและ ของใช้ภายในบ้าน ได้อย่างถูกต้อง 2. ปฏิบัติการซ่อมแซม ตกแต่ง ดัดแปลง ตัดเย็บ เสื้อผ้าและ ของใช้ภายในบ้าน ได้อย่างถูกต้องตาม ขั้นตอน 3. เลือกใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ในการซ่อมแซม ตกแต่งดัดแปลงตัดเย็บ เสื้อผ้าและของใช้ ภายในบ้านได้ถูกต้อง 4. ใช้และเก็บรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ในการซ่อมแซม ตกแต่งดัดแปลงตัดเย็บ เสื้อผ้าและของใช้ ภายในบ้านได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม 5. ใช้ทรัพยากรในการ ท�ำงานอย่างประหยัด และคุ้มค่า แบบใช้ โครงการเป็น ฐาน (ProjectBased Instruction) - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจโครงงาน - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T35
ñ การเลือกใชเสื้อผาและเครื่องแตงกาย เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายเป็นปัจจัยที่จ�าเป็นต่อการด�ารงชีวิตของมนุษย์ ซึ่งนอกจากจะใช้เพื่อ ปกปิดและสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ให้ดูดี มีรสนิยม ดังนั้น จึงควรศึกษาหลักการเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่ถูกต้อง เพื่อให้สามารถ เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม โดยค�านึงถึงบุคลิกภาพ รูปร่าง เวลา โอกาส และความจ�าเป็นของ แต่ละบุคคลร่วมด้วย สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ วิธีการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต เปนการทํางานที่จําเปนเกี่ยวกับความเปนอยูในชีวิต ประจําวัน เชน การเลือกใช ดูแลรักษาเสื้อผาและเครื่องแตงกาย ■ ความคิดสรางสรรคมี ๔ ลักษณะ ประกอบดวยความคิดริเริ่ม ความคลองในการคิด ความ ยืดหยุนในการคิด และความคิดละเอียดลออ ■ ทักษะการทํางานรวมกัน เปนการทํางานกลุม ทํางานรวมกับผูอื่นไดอยางมีความสุข ทํางาน อยางมีกระบวนการตามขั้นตอนและฝกหลักการทํางานกลุม ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สรางทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน การตัดเย็บและดัดแปลงเสื้อผา ■ ทักษะการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิต ประกอบดวยการศึกษา คนควา รวบรวม สังเกต สํารวจ และบันทึก ■ การใชพลังงาน ทรัพยากรอยางคุมคาและยั่งยืน เปนคุณธรรมในการทํางาน ตัวชี้วัด ■ อธิบายวิธีการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๑) ■ สรางผลงานอยางมีความคิดสรางสรรคและมีทักษะการทํางานรวมกัน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๒) ■ มีทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๔) ■ มีทักษะในการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิต (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๕) ■ ใชพลังงาน ทรัพยากรในการทํางานอยางคุมคาและยั่งยืน เพื่อการอนุรักษสิ่งแวดลอม (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๗) เสื้อผ้าและเ¤รื่องแต่งกา หน่วยการเรียนรู้ที่ó ËÒ¡àÊ×é͵ÑÇâ»Ã´¢Ò´ ¨ÐÁÕÇÔ¸Õ ¡Òë‹ÍÁá«Á µ¡áµ‹§ ËÃ×Í ´Ñ´á»Å§àÊ×é͵ÑǹÑé¹Í‹ҧäà 30 ขั้นนํา (แบบกระบวนการเรียน ความรู ความเขาใจ) 1. ครูแจงชื่อเรื่องที่จะเรียนรูและผลการเรียนรูให นักเรียนทราบ จากนั้นใหนักเรียนแตละคนทํา แบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 เรื่อง เสื้อผาและเครื่องแตงกาย 2. ครูสุมเลือกนักเรียน 1 คน ออกมาอานบทความ เรื่อง การแตงกายดี ใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน การแตงกายที่ดี การแตงกายดี หรือที่เรียกวา “มีรสนิยม” นั้น มิไดหมายความวา ตองใชแตของที่มีราคาสูง เชน การสวมใสเสื้อผาราคาชุดละหลายพันบาทจาก หองเสื้อชั้นนํา การใชเครื่องสําอางยี่หอดังที่สั่งตรง มาจากตางประเทศ การสวมใสรองเทา หรือนาฬกา รุนดังที่มีการจํากัดการผลิต การใชกระเปาถือ ที่ผลิตจากหนังสัตว ซึ่งมีราคาหลักแสนบาทขึ้นไป บางคนยอมลงทุนที่จะสูญเสียเงินจํานวนมาก เพื่อ ซื้อสิ่งของเหลานั้นมาใช เพราะคิดวาจะชวยใหตน ดูดี ดูมีรสนิยมในสายตาของผูอื่น แตในความ เปนจริงแลวนั้น การดูดี มีรสนิยมก็มิไดจําเปน ที่จะตองสวมใสเสื้อผาและใชสิ่งของที่มีราคาสูง เทานั้น เพราะเสื้อผาและสิ่งของที่มีราคาไมสูง แตมีคุณภาพดีก็มีใหเลือกใชอยูจํานวนไมนอย เพียงแคผูใชจะตองพิจารณาเลือกใชใหเหมาะสม กับรูปราง สีผิว บุคลิกภาพ เพศ และวัยของตน เพียงเทานี้ก็สามารถเรียกไดวาเปนคนที่มีรสนิยมดี ไดเชนเดียวกัน โดยสวมใสเสื้อผาและใชสิ่งของใน ราคาไมกี่รอยบาทเทานั้น 3. ครูถามนักเรียนวา • จากบทความนี้ ตองการนําเสนอในเรื่องใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับเสื้อผาและเครื่องแตงกายใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเรื่องหลักการเลือกใชและการเลือกซื้อเสื้อผา และเครื่องแตงกายที่มากขึ้น สามารถเลือกใชเครื่องมือในการซอมแซม ตกแตง ดัดแปลง ตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบานไดอยางถูกตองและปลอดภัย ลงมือ ปฏิบัติงานซอมแซม ตกแตง ดัดแปลง ตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบานไดอยางสรางสรรค เพื่อใหเกิดความชํานาญ ใชทรัพยากรอยางคุมคาและยั่งยืน เพื่อเปน การอนุรักษสิ่งแวดลอม นําทักษะการทํางานรวมกันมาประยุกตใชในการทํางาน ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางานอยางเปนขั้นตอน รวมถึงทักษะในการ แสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิตในการคนหาขอมูลที่เปนประโยชน เพื่อใหผลงานสําเร็จตรงตามเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับเสื้อผาและเครื่องแตงกาย • ใหนักเรียนนําหลักการเลือกใชและหลักการเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่องแตงกายมาประยุกตใชในชีวิตประจําวันอยางเหมาะสม • ใหนักเรียนเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่องแตงกายที่เหมาะสมจากการวิเคราะหรูปรางและบุคลิกภาพของตนเอง • ใหนักเรียนดูแลรักษาเสื้อผาและเครื่องแตงกายทั้งของตนเองและบุคคลในครอบครัวไดอยางถูกตอง เหมาะสม • ใหนักเรียนปฏิบัติงานซอมแซม ตกแตง ดัดแปลง ตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบานอยางสรางสรรค นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T36
ขอสอบเนน การคิด ๑.๑ หลักการเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย การแต่งกายให้ดูดีและเหมาะสมกับบุคลิกภาพ ควรเลือกเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับ บุคลิกภาพ โอกาส และกาลเทศะของผู้สวมใส่ โดยยึดหลักการเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ดังนี้ ๑. รักษา ซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ใส่ให้อยู่ในสภาพดี สามารถใช้งานได้นานขึ้น 2. เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับรูปร่าง โอกาส และกาลเทศะ 3. สวมใส่เสื้อผ้าที่ตัดเย็บอย่างประณีต มีความสะอาดและเรียบร้อย 4. สวมเครื่องประดับตกแต่ง เพื่อให้เสื้อผ้า มีความสวยงามยิ่งขึ้น 5. อ�าพรางส่วนที่บกพร่อง และเน้นในส่วน ที่เป็นจุดเด่นของตนเอง ๖. เลือกสีเสื้อผ้าให้เข้ากับสีผิว เช่น ผิวคล�้า ควรสวมเสื้อผ้าสีอ่อน เพื่อช่วยให้ผิวดูขาวขึ้น เสื้อผ้าและเครื่องแตงกายเปนปจจัยสําคัญในการ ดํารงชีวิต การรูจักแตงกายใหเหมาะสมกับบุคลิกภาพ โอกาส กาลเทศะ จะชวยใหเปนที่ชื่นชมของผูพบเห็น รวมทั้ง การเรียนรูเกี่ยวกับการซอมแซม ตกแตง และดัดแปลงเสื้อผา จะชวยใหประหยัดเรื่องคาใชจาย และยังไดเสื้อผาที่สวยงาม แปลกใหมไวสวมใสอีกดวย เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 3๑ 2. เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับรูปร่าง โอกาส 5. อ�าพรางส่วนที่บกพร่อง และเน้นในส่วน 1 2 ขั้นนํา • นักเรียนคิดวาตนเองเปนผูที่มีรสนิยมในการ แตงกายหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) • บุคคลในครอบครัวคนใดของนักเรียนที่คิดวา มีรสนิยมที่ดี (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 4. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น และครู ชวยเสนอแนะเพิ่มเติม ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครูใหนักเรียนศึกษา เรื่อง การเลือกใชเสื้อผา และเครื่องแตงกาย จากหนังสือเรียน หนวยการ เรียนรูที่ 3 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต ในประเด็นที่ครูกําหนดให ดังนี้ • หลักการเลือกใชเสื้อผาและเครื่องแตงกาย • วิธีการเลือกใชเสื้อผาและเครื่องแตงกาย 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกใช เสื้อผาและเครื่องแตงกาย จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรูที่ 3 3. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนมีหลักการเลือกใชเสื้อผาและเครื่อง แตงกายอยางไรที่เหมาะสมกับตนเอง (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เลือกสวมใสเสื้อผาที่ เหมาะสมกับรูปราง บุคลิกภาพ โอกาส และกาลเทศะ เลือกสวมใสเสื้อผาที่มีการ ตัดเย็บอยางประณีต งดงาม มีความสะอาด เรียบรอย สวมใสเสื้อผาที่มีสีสันเหมาะสมกับ สีผิวของตนเปนหลัก สวมใสเสื้อผาที่ชวย อําพรางจุดบกพรองของตนเอง) ขอใดเปนหลักการสําคัญของการเลือกสวมใสเสื้อผาและ เครื่องแตงกาย 1. เลือกเสื้อผาตามสมัยนิยม 2. เลือกเสื้อผาที่เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ 3. เลือกเสื้อผาที่เหมาะสมกับรูปรางหนาตาของตนเอง 4. เลือกเสื้อผาที่ชวยอําพรางสวนบกพรองของรางกาย (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการเลือกสวมใสเสื้อผาและ เครื่องแตงกายจะตองคํานึงถึงความเหมาะสมกับโอกาส สถานที่ และกาลเทศะเปนสําคัญ โดยตองทราบวาจะแตงกายไปรวมงาน ประเภทใด จัดขึ้นในสถานที่ใด ใครเปนผูรวมงาน เพื่อใหสามารถ เลือกสวมใสเสื้อผาและเครื่องแตงกายไดอยางเหมาะสม) นักเรียนควรรู 1 เลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับรูปราง เนื่องจากรูปรางของมนุษยแตละคน จะมีลักษณะที่แตกตางกันออกไป ดังนั้น ในการเลือกซื้อเสื้อผา จึงควรพิจารณา จากรูปรางของตนเองเปนหลัก เพื่อใหไดเสื้อผาที่มีความเหมาะสมกับรูปราง ของตนเองมากที่สุด เชน ผูหญิงที่มีชวงบนกวางกวาชวงลาง มีหนาอกปาน กลางถึงใหญ เอวหนา สะโพกและขาเรียว ควรเลือกสวมใสกระโปรงพอดีตัว สั้นเลยเขาเล็กนอย หรือกางเกงเขารูป เสื้อยาวคลุมสะโพก จะทําใหดู ผอมเพรียวมากยิ่งขึ้น 2 อําพรางสวนที่บกพรอง การแตงกายที่เหมาะสม สามารถชวยอําพราง สวนที่บกพรองของรางกายได เชน คนที่มีเอวใหญ เอวหนา ไมควรสวมใสชุดที่ เนนเอว เพราะจะทําใหเอวดูหนาขึ้น คนที่ตนขาใหญ ไมควรสวมกระโปรงสั้น คนที่ตนแขนใหญ ไมควรสวมใสเสื้อที่ไมมีแขน เสื้อแขนกุด หรือเสื้อสายเดี่ยว นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T37
ขอสอบเนนการคิด เสื้อผ้าสวมใส่อยู่กับบ้าน ควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย สะดวกในการ ท�ากิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น ท�างานบ้าน นั่งเล่นนอนเล่น ดังนั้น เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่บ้าน ควรเป็นเสื้อผ้าที่หลวมเล็กน้อย ไม่คับจนเกินไป สวมใส่สบาย เช่น เสื้อยืด กางเกงขาสั้น หรือ กางเกงขายาว เสื้อผ้าสวมใส่ส�าหรับเล่นกีฬา ควรพิจารณาจากชนิดกีฬาที่เล่น แล้วเลือกชุดกีฬาและรองเท้า ให้เหมาะสม ชุดกีฬาควรผลิตด้วยผ้าที่มีความยืดหยุ่นได้ดี สวมใส่ สบาย เคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก สามารถระบายอากาศได้ดี หากเป็นกีฬากลางแจ้งควรเลือกชุดกีฬาที่มีสีอ่อน เสื้อผ้าสวมใส่ไปท�างาน หรือกิจธุระ ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ปกปิดมิดชิด เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตนเอง เช่น ผู้ชาย ใส่เสื้อเชิ้ต ผูกเนกไท สวมกางเกงขายาว ผู้หญิง ใส่เสื้อมีปก กระโปรงยาว หรือสวมกางเกงขายาว ไม่ควรใส่เสื้อรัดรูปที่เน้นทรวดทรงจนเกินไป ๑.๒ วิธีการเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ก่อนที่จะเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ควรพิจารณาถึงวัย บุคลิกภาพ รูปร่าง โอกาส และ กาลเทศะ เพื่อจะได้เลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายได้อย่างเหมาะสม วิธีการเลือกใช้เสื้อผ้าและ เครื่องแต่งกาย มีดังนี้ ๑) การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับโอกาสและกาลเทศะ ควรพิจารณา ดังนี้ 32 เสื้อผ้าสวมใส่ไปท�างาน หรือกิ เสื้อผ้าสวมใส่ส�าหรับเล่นกีฬา 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก • หากเพื่อนผูหญิงมีสะโพกที่ใหญและเพื่อน ผูชายมีรูปรางที่เล็ก นักเรียนจะนําหลักการ เลือกใชเสื้อผาและเครื่องแตงกายมาเปน แนวทางในการแนะนําเพื่อนไดอยางไร (แนวตอบ แนะนําใหเพื่อนผูหญิงสวมกระโปรง หรือกางเกงที่พอดีตัว มีกระดุมเม็ดเล็กๆ เรียงเปนแถวยาว หรือมีรอยตะเข็บตรงกลาง หรือสวมใสเสื้อกลามที่ลําตัวยาวคลุมสะโพก และแนะนําใหเพื่อนผูชายสวมกางเกงทรง กระบอกเล็ก หรือกางเกงขาเดฟ แตกางเกง จะตองไมมีจีบ สวมใสเสื้อลายตามแนวยาว จะชวยใหดูสูงโปรงมากขึ้น) ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนปฏิบัติ 4. ครูใหนักเรียนแบงกลุมเปน 7 กลุม กลุมละ เทาๆ กัน ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษา ในประเด็นที่ครูกําหนดให ดังนี้ • การเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับโอกาสและ กาลเทศะ • การเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับวัย • การเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับบุคลิกภาพ • การเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับสีผิว • การเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับรูปราง • การเลือกเสื้อผาเพื่ออําพรางจุดบกพรอง ของรูปหนาและคอ • การเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับฤดูกาล จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือ ศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต ขอใดเปนการสวมใสเสื้อผาและเครื่องแตงกายไปรวมงานได อยางเหมาะสม 1. สวมชุดผายืดสีดําปาดไหล สวมรองเทาสนสูง ไปงานศพ 2. สวมชุดเดรสสีชมพูเปดไหล สวมรองเทาหุมสน ไปงานแตงงาน ของพี่สาว 3. สวมกางเกงยีนขาด เสื้อยืด รองเทาผาใบ ไปงานเลี้ยง ขอบคุณลูกคา 4. สวมกระโปรงลูกไมสีขาว สวมรองเทาผาใบ หมวกปกกวาง ไปงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการของคุณปา (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการไปรวมงานมงคลสมรส ควรเลือกสวมเสื้อผาที่มีสีสันสดใส สวมใสรองเทาหุมสน หรือ รองเทาสนสูง เพื่อเสริมบุคลิกภาพ และอาจสวมใสเครื่องประดับ ที่เขากับชุด) นักเรียนควรรู 1 เสื้อผาสวมใสไปทํางาน ควรเลือกสวมใสเสื้อผาที่มีขนาดพอดีตัว เพื่อชวย รักษาบุคลิกภาพ เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหวรางกายขณะปฏิบัติกิจกรรม ตางๆ สวมรองเทาหุมสน หรือรองเทารัดสน โดยผูชายควรสวมถุงเทาและสวม รองเทาหนัง หรือรองเทาผาใบ ผูหญิงควรสวมรองเทาที่ชวยเสริมสรางบุคลิกภาพ เชน รองเทาสนสูง แตจะตองสามารถเคลื่อนไหวรางกายไดอยางสะดวก ทั้งนี้ ควรศึกษากฎระเบียบเรื่องการแตงกายขององคกรใหละเอียดและปฏิบัติตาม อยางเครงครัด 2 เสื้อผาสวมใสสําหรับเลนกีฬา ควรเลือกสวมใสเสื้อผาที่เนื้อผาระบายอากาศ ความรอน และเหงื่อไดดี เชน ผาสแปนเด็กซ (Spandex) ซึ่งเปนผาที่มี นํ้าหนักเบา เนื้อเรียบลื่น สวมใสสบาย มีความยืดหยุนสูง ไมระคายเคืองตอผิว ระหวางการออกกําลังกาย นํา สอน สรุป ประเมิน T38
ขอสอบเนน การคิด เสื้อผาสวมใสไปงานเลี้ยงตาง ๆ แบงเปน ๒ ประเภท ไดแก งานเลี้ยงกลางวันและงานเลี้ยงกลางคืน ซึ่งการแตงกายจะมีแบบไมเปน ทางการและแบบทางการ ดังนี้ ๑. งานเลี้ยงกลางวัน • งานเลี้ยงแบบไมทางการ เชนงานเลี้ยง สังสรรคระหวางเพื่อนฝูง งานทําบุญบาน ควร แตงกายดวยชุดลําลองเรียบงาย แตดูสุภาพ ผูหญิงอาจสวมกระโปรง หรือกางเกงก็ได • งานเลี้ยงแบบพิธีการ เชน งานหมั้น งานเลี้ยง รับรองลูกคา งานพระราชพิธีตาง ๆ ควร แตงกายอยางพิถีพิถัน เชน ผูหญิงสวม ชุดกระโปรง หรือเดรส ผูชายสวมชุดสูท ๒. งานเลี้ยงกลางคืน • งานเลี้ยงแบบไมทางการ เชน งานเลี้ยงรุน งานเลี้ยงวันเกิด นิยมใสชุดลําลอง เพื่อให เขากับบรรยากาศของงานที่ดูเปนกันเอง • งานเลี้ยงแบบพิธีการ นิยมแตงใหดูหรูหรา เชน ผูชายสวมชุดสูทกางเกง หรือชุดทักซิโด ผูหญิงสวมชุดราตรีที่เนื้อผาบางเบา พลิ้ว มันระยับ หรือชุดไทยพระราชนิยมตาง ๆ T i p เทคนิคการเลือกชุดราตรีของสุภาพสตรี ชุดราตรีมีรูปแบบใหเลือกสวมใสอยางหลากหลาย ในการใชงานจึงควรพิจารณาจากรูปรางของผูสวมใส เปนหลัก ซึ่งเมื่อสวมใสแลวจะไดเกิดความมั่นใจและมีความสงางาม เปนที่สะดุดตา เชน สาวที่มีรูปรางเล็ก ควรเลือกสวมใสชุดราตรีที่มีลักษณะเปนเสื้อที่เผยบริเวณชวงลําคอและไหล ทําใหชวงลําตัวดูสูงขึ้น สาวที่ มีชวงสะโพกใหญกวาชวงอก ควรเลือกสวมใสชุดราตรีแบบยาว อาจเปนแบบที่มีระบาย จะชวยเบี่ยงเบน สายตาจากการมองชวงสะโพก เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ๓๓ ขั้นสอน ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนปฏิบัติ 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับโอกาสและ กาลเทศะ การเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับวัย การเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับบุคลิกภาพ การเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับสีผิว การเลือก เสื้อผาใหเหมาะสมกับรูปราง การเลือกเสื้อผา เพื่ออําพรางจุดบกพรองของรูปหนาและคอ และการเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับฤดูกาล จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรูที่ 3 6. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดไทยพระราช นิยมใหนักเรียนฟงวา “การสวมใสเสื้อผาไป งานเลี้ยงกลางคืนแบบพิธีการ ผูหญิงสามารถ สวมใสเครื่องแตงกายที่เรียกวา “ชุดไทย พระราชนิยม” ได ซึ่งชุดไทยพระราชนิยมเปน เอกลักษณการแตงกายประจําชาติอันงดงาม ของไทย เปนเครื่องแตงกายที่ประยุกตมาจาก การแตงกายของสตรีในสมัยโบราณ แสดง ใหเห็นถึงความงดงามของผาไทยที่ถักทอขึ้น อยางประณีต วิจิตรบรรจง ชุดไทยพระราช นิยมมีอยูดวยกันจํานวน 8 ชุด ไดแก ชุดไทย เรือนตน (ตั้งชื่อตามเรือนตน) ชุดไทยจิตรลดา (ตั้งชื่อตามพระที่นั่งจิตรลดารโหฐาน) ชุดไทย อมรินทร (ตั้งชื่อตามพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย) ชุดไทยบรมพิมาน (ตั้งชื่อตามพระที่นั่งบรม พิมาน) ชุดไทยจักรี (ตั้งชื่อตามพระที่นั่งจักรี มหาปราสาท) ชุดไทยจักรพรรดิ (ตั้งชื่อตาม พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน) ชุดไทยดุสิต (ตั้งชื่อ ตามพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) และชุดไทย ศิวาลัย (ตั้งชื่อตามพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท)” “ดาวตองการไปรวมงานสวดพระอภิธรรมศพที่วัด” ดาวควร แตงกายอยางไรจึงจะเหมาะสม 1. สวมเสื้อผาแบบใดก็ได รองเทาหุมสนสีดํา 2. สวมเสื้อยืดรัดรูปสีสด กางเกงยีนสีดํา รองเทาหุมสน 3. สวมเสื้อสีครีม กางเกงขายาวสีดํา สูทสีดํา รองเทาหุมสน 4. สวมเสื้อและกางเกง หรือกระโปรงสีดํา รองเทาหุมสนสีดํา (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการแตงกายไปรวมงานสวด พระอภิธรรมศพ จะตองแตงกายดวยชุดที่สุภาพ เรียบรอย ควรสวม กระโปรงที่ไมสั้นจนเกินไป หรือสวมกางเกงสีดํา สวมเสื้อสีดํา หรือ สีขาว จึงจะมีความเหมาะสมกับกาลเทศะ) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสวมใสชุดสูทของผูชายใหนักเรียนฟงวา ในการสวมใสชุดสูทมีสิ่งที่พึงปฏิบัติหลายประการ เชน การเลือกสีควรเลือก ใหเหมาะสมกับโอกาสและกาลเทศะ ซึ่งสีที่ไดรับความนิยมสวนใหญจะเปนสีดํา สีกรมทา สีเทา การติดกระดุมจะเวนการติดกระดุมเม็ดลางสุดเสมอ ความยาว ของแขนเสื้อควรสั้นกวาแขนของเสื้อเชิ้ตเล็กนอย และควรติดกระดุมที่แขนเสื้อ ใหครบทุกเม็ด เพื่อใหเกิดความเรียบรอย ขนาดของสูทควรมีความเหมาะสม กับรูปราง ไมควรสวมใสชุดที่เล็ก หรือใหญจนเกินไป คุณภาพของเนื้อผาควรมี ความยืดหยุน สวมใสสบาย ระบายอากาศไดดี การเลือกปกเสื้อควรเลือกให เหมาะสมกับลักษณะของงาน โดยทั่วไปจะนิยมปกแบบธรรมดา หากเปนงาน เลี้ยงสังสรรคควรเลือกใชปกแหลมจึงจะเหมาะสมมากกวา ขนาดของกางเกง ควรเลือกใหพอดีกับขอเทาและสีเหมาะสมกลมกลืนกับเสื้อสูท นํา สอน สรุป ประเมิน T39