The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

3517003TM-คู่มือครู-การงานอาชีพ-ม5-[221221]

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by กัลยกร ไชยมงคล, 2023-05-12 03:59:15

3517003TM-คู่มือครู-การงานอาชีพ-ม5-[221221]

3517003TM-คู่มือครู-การงานอาชีพ-ม5-[221221]

ขอสอบเนนการคิด ๒) การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับวัย ควรพิจารณา ดังนี้ วัยทารก เป็นวัยที่ต้องดูแลและทะนุถนอมอย่างใกล้ชิด เพราะ ภูมิคุ้มกันต่างๆ ของร่างกายยังมีน้อย ควรเลือกเสื้อผ้าที่ผลิตจาก เส้นใยธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีที่ใช้ในการตกแต่งเนื้อผ้า และมี ความเหมาะสมกับทุกสภาวะอากาศอย่างผ้าฝ้ายแท้ธรรมชาติ ๑๐๐% ซึ่งเป็นผ้าที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัยต่อผู้สวมใส่ วัยเด็ก เป็นวัยที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ชอบเลียนแบบ ชอบท�ากิจกรรม ควรเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมกลางแจ้ง ควรเลือกเสื้อผ้าที่สามารถป้องกันแสงยูวีได้ เพื่อช่วยลดผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นกับผิวหนัง หรือกิจกรรมภาคสนาม ควรเลือกเสื้อผ้าที่ สามารถซักท�าความสะอาดสิ่งสกปรกออกได้ง่าย วัยรุ่น เป็นวัยที่มีความคิดเป็นอิสระ กล้าแสดงออก ชอบแต่งกายตาม สมัยนิยม เพื่อเสริมสร้างจุดเด่นให้กับตนเอง เสื้อผ้าของวัยรุ่นควรมี สีสันที่สดใส หรือมีสีอ่อนๆ รูปแบบของเสื้อผ้าจะเป็นไปตามความนิยม ของแต่ละบุคคล แต่ควรเลือกเสื้อผ้าแบบที่สุภาพ ไม่รัดรูป หรือเน้น รูปร่างมากจนเกินไป และต้องค�านึงถึงความปลอดภัย วัยท�างาน เป็นวัยที่ต้องท�างานหารายได้ เพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับคนในวัยนี้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสุภาพ เรียบร้อย เพื่อให้ดูภูมิฐานและสง่างาม ควรเลือกเสื้อผ้าที่สะดวกต่อการท�ากิจกรรมต่าง ๆ โดยดูจากโอกาสใช้สอยว่าเป็นชุดในโอกาสใด และควร เลือกให้เหมาะสมกับสีผิว วัยสูงอายุ เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกาย เสื้อผ้า ส�าหรับวัยสูงอายุควรเน้นเนื้อผ้าที่เบาสบายเป็นหลัก รูปทรงที่หลวม ไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่คับมากจนเกินไป เพราะจะท�าให้หายใจล�าบาก และเคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก อาจท�าให้หกล้ม หรือเกิดอุบัติเหตุได้ 34 วัยเด็ก วัยสูงอายุ 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนปฏิบัติ 7. ครูนําภาพการแตงกายของผูหญิงและผูชาย ในแตละชวงวัยมาใหนักเรียนดู จากนั้นครูให นักเรียนรวมกันวิเคราะหความแตกตางของ การแตงกายของผูหญิงและผูชายในแตละ ชวงวัย โดยมีครูเปนผูคอยเสนอแนะเพิ่มเติม 8. ครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใด เสื้อผาและเครื่องแตงกายของ เด็กวัยทารกจึงตองมีความพิถีพิถันในการ เลือกใชเปนอยางมาก (แนวตอบ เด็กวัยทารกเปนวัยที่ตองไดรับ การดูแลและทะนุถนอมเปนพิเศษ เนื่องจาก ภูมิคุมกันในรางกายมีนอย ผิวมีความ บอบบาง และเกิดอาการแพไดงาย จึงควร เลือกใชเสื้อผาที่มีความออนนุม ผลิตจาก เสนใยธรรมชาติ ควรเลือกใหมีขนาดใหญ พอที่จะทําใหการเคลื่อนไหวเปนไปอยาง สะดวก) • นักเรียนคิดวาตนเองแตงกายไดเหมาะสม กับชวงวัยของตนเองหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน แตงกายเหมาะสม กับวัยของตนเอง โดยเสื้อผาและเครื่อง แตงกายที่สวมใส สวนใหญจะเปนเสื้อผา ตามสมัยนิยมที่มีความสุภาพ เรียบรอย และ มีสีสันที่สดใส) • หากตองการเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่องแตงกาย เปนของขวัญวันเกิดใหกับคุณพอ คุณแม นักเรียนจะมีแนวทางในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เลือกซื้อเสื้อผาที่มีสีสุภาพ เรียบรอย เพื่อใหดูภูมิฐานและมีความสงางาม สะดวกตอการทํากิจกรรมตางๆ ในชีวิต ประจําวัน) เพราะเหตุใดจึงควรเลือกซื้อเสื้อผาที่ผลิตจากผาฝายใหเด็ก วัยทารกสวมใส (แนวตอบ เนื่องจากผิวของเด็กทารกมีความบอบบางและแพงาย หากเลือกเสื้อผาใหสวมใสไมเหมาะสม อาจทําใหเกิดการระคายเคือง ตอผิว ควรเลือกเสื้อผาที่ผลิตจากเสนใยธรรมชาติ เชน ผาฝาย ผาปาน เพราะเนื้อผามีความบางเบา สวมใสสบาย ชวยระบาย อากาศ และซึมซับเหงื่อไดดี) นักเรียนควรรู 1 วัยเด็ก ควรสวมใสเสื้อผาที่เนื้อผามีความออนนุม ไมควรสวมใสเสื้อผาที่ เนื้อผาแข็งกระดาง เพราะจะทําใหเกิดการระคายเคืองตอผิวได ควรเลือกที่มี ตะเข็บนอย เนื่องจากตะเข็บอาจทําใหเกิดอาการคัน ควรเลือกสวมใสเสื้อผา ที่มีขนาดใหญกวาลําตัว เพื่อใหเกิดความรูสึกสบาย และสามารถเคลื่อนไหว รางกายไดอยางสะดวกในขณะปฏิบัติกิจกรรมตางๆ กอนนําเสื้อผามาสวม ใสควรซักดวยนํ้ายาซักผาเด็กๆ เพื่อปองกันการระคายเคือง ชวยใหผานุมขึ้น และชวยกําจัดเชื้อโรคตางๆ ที่ติดมากับเสื้อผา 2 วัยสูงอายุ ควรสวมใสเสื้อผาที่เนื้อผามีความบางเบา สวมใสสบาย ระบาย อากาศไดดี สีสุภาพเรียบรอย รูปทรงของเสื้อผาตองไมรัดแนนจนเกินไป รูปแบบมีความเรียบหรู มีการตกแตงเพื่อเพิ่มความสวยงามเพียงเล็กนอย เพื่อใหดูภูมิฐานและมีความสงางามสมวัย นํา สอน สรุป ประเมิน T40


ขอสอบเนน การคิด ๓) การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพ ควรพิจารณา ดังนี้ ๔) การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสีผิว ควรพิจารณา ดังนี้ บุคลิกภาพ สีผิว เสื้อผ้า เสื้อผ้า ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีน�้าหนักทิ้งตัว แบบเรียบ อาจมีการติดโบ หรือ มีลายปักเล็กน้อย เพื่อให้เกิดจุดเด่น สุภาพ เรียบรอย เป็นผิวที่เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี สามารถเลือกสวมใส่เสื้อผ้าได้หลายสี โดยเฉพาะโทนสีที่สดใส ซึ่งจะช่วยขับผิวให้ดูผุดผ่องยิ่งขึ้น ขาวอมชมพู ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าสีพื้นและมีลายเส้นตรงแบบเรียบ เช่น เสื้อโปโล เสื้อยืดคอกลม หรือคอวี แข็งแรงแบบนักกีฬา เป็นสีผิวของคนเอเชียโดยส่วนใหญ่ สามารถเลือกสวมใส่เสื้อผ้าได้ หลายสีเช่นเดียวกับผู้ที่มีผิวขาวอมชมพู ขาวอมเหลือง ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีสีสันสวยงาม สะดุดตา ออกแบบอย่างทันสมัยตาม ความนิยมของคนในยุคปัจจุบัน เชื่อมั่นในตนเองสูง เป็นสีผิวที่ขาวมาก ซึ่งอาจดูเหมือนผู้ที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าโทนสีค่อนข้างเข้ม เพื่อขับสีผิวให้ดูเข้มขึ้นเล็กน้อย ขาวซีด ควรเลือกเสื้อผ้าที่สะดวกต่อการเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ควรตกแต่งมาก จนดูรกรุงรัง เน้นผ้าสีเข้ม เนื้อผ้าทรงตัว วองไว ปราดเปรียว ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีค่อนข้างอ่อน โดยเฉพาะสีผสมต่าง ๆ ที่ดู ไม่ร้อนแรงจนเกินไป ซึ่งจะช่วยขับผิวให้ดูสว่างขึ้น สองสี หรือสีนํ้าผึ้ง ควรเลือกเสื้อผ้าที่เน้นความสง่างาม มีความภูมิฐาน ออกแบบเรียบหรู ไม่ตกแต่งมากจนดูรกรุงรัง สุขุม ลุมลึก ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าสีโทนกลาง ๆ ไม่อ่อนจนเกินไป และไม่สดจน เกินไป หรือเลือกโทนสีที่ค่อนข้างเข้ม เพราะสีโทนนี้จะช่วยท�าให้ผิว ดูกลมกลืนกับเสื้อผ้า และยังท�าให้ผิวดูขาวขึ้นอีกด้วย คลํ้า เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 35 ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าสีพื้นและมีลายเส้นตรงแบบเรียบ เช่น เสื้อโปโล เสื้อยืดคอกลม หรือคอวี เป็นผิวที่เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี สามารถเลือกสวมใส่เสื้อผ้าได้หลายสี โดยเฉพาะโทนสีที่สดใส ซึ่งจะช่วยขับผิวให้ดูผุดผ่องยิ่งขึ้น 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนปฏิบัติ 9. ครูขออาสาสมัครนักเรียนหญิงและนักเรียน ชายอยางละ 3 คน ที่มีบุคลิกภาพและสีผิวที่ แตกตางกันออกมาเปนแบบ เพื่อใหเพื่อน รวมกันวิเคราะหเกี่ยวกับการเลือกเสื้อผาให เหมาะสมกับบุคลิกภาพและการเลือกเสื้อผา ใหเหมาะสมกับสีผิว โดยครูใหอาสาสมัครเลา เกี่ยวกับการแตงกายของตนเองใหเพื่อนฟง จากนั้นใหเพื่อนรวมชั้นเรียนรวมกันวิเคราะห วาลักษณะการแตงกายดังกลาวมีความ เหมาะสมกับบุคลิกภาพและสีผิวของเพื่อน หรือไม 10. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนมีแนวทางอยางไรในการเลือก เสื้อผาใหเหมาะสมกับบุคลิกภาพและการ เลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับสีผิวของตนเอง (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • ผูหญิงที่มีรูปรางแข็งแรงแบบนักกีฬา ควร เลือกสวมใสเสื้อผาอยางไรจึงจะเหมาะสม กับบุคลิกภาพ (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ควรสวมใสเสื้อผาสีพื้น เรียบๆ ไมควรสวมใสเสื้อที่มีลายดอกโตๆ มีระบาย และมีเนื้อผาที่บางเบา) • เพราะเหตุใดผูที่มีผิวคลํ้าจึงไมควรสวมใส เครื่องแตงกายที่มีสีโทนรอน (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เพราะจะทําใหผิวดูคลํ้า มากขึ้น มองดูแลวไมสะอาดตา จึงควรเลือก สวมใสเสื้อผาที่มีโทนสีกลางๆ เพื่อชวยทําให สีผิวกับสีของเสื้อผามีความกลมกลืนกัน และชวยใหผิวดูขาวมากขึ้น) “นานาเปนผูหญิงวัยทํางานที่มีบุคลิกแบบ Working Women” การแตงกายในขอใดบงบอกถึงลักษณะของนานาไดชัดเจนที่สุด 1. สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงยีนสีเขม สวมรองเทาผาใบ 2. สวมเสื้อเชิ้ต มีเสื้อสูทสวมทับ กางเกงเขารูป สวมรองเทาสนสูง 3. สวมเสื้อเชิ้ตสีออน กระโปรงยาวสีดําคลุมเขา สวมรองเทาสนสูง 4. สวมเสื้อแขนยาวคอเตา กระโปรงสีดําเหนือเขา สวมรองเทา สนเตี้ย (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะลักษณะของผูหญิงแบบ Working Women จะมีความคลองแคลวสูง มีความมั่นใจในตัวเอง ดังนั้น เสื้อผาที่สวมใสจึงตองมีขนาดพอดีกับตัว เพื่อเสริมสราง บุคลิกภาพและความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น) นักเรียนควรรู 1 เสื้อโปโล หากเปนเสื้อกีฬาควรเลือกที่สามารถซับเหงื่อไดดี เพื่อใหเกิด ความรูสึกเย็นสบาย ควรหลีกเลี่ยงเสื้อสีขาว หรือสีออน เพราะจะทําใหสกปรก ไดงาย คุณภาพของเนื้อผาอยูในระดับปานกลางถึงดี 2 คอกลม เปนลักษณะของคอเสื้อที่ตัดกลม ไมมีปก สวนใหญจะเปนเสื้อยืด การสวมใสเสื้อคอกลมจะมีความเหมาะสมกับผูที่มีรูปรางผอม เนื่องจากชวย ปกปดชวงคอไมใหดูโดดเดนมากจนเกินไป จะชวยเสริมใหรูปหนามีความ เรียวยาว ใบหนาและคางดูสมสวนมากยิ่งขึ้น 3 สีที่สดใส เปนสีที่แสดงใหเห็นถึงความสนุกสนาน รื่นเริง เชน สีแดง (ความกระตือรือรน ความมีชีวิตชีวา) สีเขียว (ความสดชื่น) สีเหลือง (ความรื่นเริง ความสดใส) สีสม (ความมีชีวิตชีวา ความสนุกสนาน) สงเสริมใหบุคลิกดู โดดเดน มีความคลองแคลว วองไว นํา สอน สรุป ประเมิน T41


รูปร่าง เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เลือกเสื้อผ้าที่มีลวดลายตามขวาง จะช่วย อ�าพรางหุ่นให้ดูกว้างขึ้น หรือเตี้ยลง เช่น เสื้อลายขวาง กระโปรงบาน สวมรองเท้าส้นเตี้ย ถือกระเป๋าใบใหญ่ หูสั้น คาดเข็มขัดขนาดใหญ่ ไม่ใส่ต่างหู แบบห้อยยาว สร้อยคอควรมีลักษณะสั้น สูง เลือกเสื้อผ้าที่มีลวดลายตามแนวยาว ช่วยให้หุ่นดูสูงเพรียวยิ่งขึ้น เช่น เสื้อลาย ตรงแนวตั้ง กระโปรงบานเล็กน้อย สวมรองเท้าส้นสูง ถือกระเป๋าขนาดกลาง คาดเข็มขัดเส้นเล็กสีเดียวกับเสื้อผ้า เครื่องประดับไม่ควรใช้ชิ้นใหญ่ เตี้ย เลือกเสื้อผ้าแบบเรียบเน้นสีเข้ม ควรมี ลวดลายไม่เด่นมาก เช่น เสื้อคอแหลม กระโปรงแคบรัดรูป สวมรองเท้าส้นสูง ถือกระเป๋าและคาด เข็มขัดแบบเรียบ ใช้เข็มกลัดติดเสื้อเพื่อ ให้มีจุดสะดุดตา อวน เลือกเสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ปกตั้ง แขนพอง จะช่วยให้ดูอ้วนขึ้น เช่น เสื้อที่ตกแต่งด้วย ลูกไม้ระบาย กระโปรงบานย้วย สวมรองเท้าส้นเตี้ย หรือส้นสูงปานกลาง ถือกระเป๋าหูสั้น ใช้ผ้าพันคอ สวมสร้อย ข้อมือ สร้อยคอประดับแนบล�าคอผอม ๖) การเลือกเสื้อผ้าเพื่ออําพรางจุดบกพรองของรูปหน้าและคอควรพิจารณา ดังนี้ ๗) การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับฤดูกาล ควรพิจารณา ดังนี้ ลักษณะใบหน้า เสื้อผ้า หนากลม เลือกสวมใส่เสื้อคอวี เสื้อคอกว้าง เสื้อคอเปิด หนายาว เลือกสวมใส่เสื้อคอกลม คอใหญ เลือกสวมใส่เสื้อคอจีน เสื้อคอตั้ง เสื้อที่มีคอแคบแต่ลึก หนาเหลี่ยม เลือกสวมใส่เสื้อคอวี เสื้อคอรูปตัวยู เสื้อคอเปิด คอสั้น เลือกสวมใส่เสื้อคอเปิด เสื้อคอต�่า คอยาว เลือกสวมใส่เสื้อปกตั้งและใช้ผ้าพันคอที่พันชิดกับคอ ฤดูร้อน นิยมใส่สีสดใส เนื้อผ้าเบา สบาย เพื่อช่วยระบายความ ร้อนให้กับร่างกาย ฤดูฝน ควรใส่สีเข้ม เนื้อผ้าไม่บาง จนเกินไป เพื่อช่วยอ�าพราง รูปร่างเมื่อเสื้อผ้าเปียกฝน ฤดูหนาว นิยมใส่สีหม่น สีเข้ม เนื้อผ้า หนา เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ แก่ร่างกาย 3๖ กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนปฏิบัติ 11. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหเกี่ยวกับการ เลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับรูปราง การเลือก เสื้อผาเพื่ออําพรางจุดบกพรองของรูปหนา และคอ และการเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับ ฤดูกาล จากอาสาสมัครนักเรียนหญิงและ นักเรียนชายกลุมเดิม 12. ครูถามนักเรียนวา • หากเพื่อนมีรูปรางเล็ก นักเรียนจะแนะนํา ใหเพื่อนแตงกายอยางไร (แนวตอบ ควรแตงกายดวยเสื้อผาที่มีรูปแบบ สุภาพและมีสีสันเรียบรอย ควรสวมใสเสื้อผา ที่มีลายตามแนวยาว เพราะจะชวยใหดูสูง มากขึ้น หากสวมเสื้อที่มีปก ปกเสื้อควร มีขนาดที่เหมาะสม ไมเล็ก หรือใหญมาก เกินไป จะทําใหคอดูสั้นลง) • คนที่ชวงขาสั้นควรแตงกายอยางไร เพื่อเปน การอําพรางจุดบกพรองของตนเอง (แนวตอบ ควรสวมใสกระโปรงสั้นที่มีความ ยาวเหนือเขา หรือคลุมเขา เปนกระโปรง หรือกางเกงเอวสูง มีลายตามแนวยาว เปน กระโปรงทรงสอบ หรือกางเกงขาเดฟ) • นักเรียนชอบฤดูใดมากที่สุด และในฤดูนั้น นักเรียนจะแตงกายอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน ชอบฤดูหนาว เพราะจะได สวมใสเสื้อผาที่มีความหนา เพื่อปองกัน อากาศเย็น เสื้อผามีรูปแบบที่ปกปดรางกาย ไดอยางมิดชิด ชวยใหรางกายเกิดความ อบอุน และปองกันการเกิดโรคไขหวัดได) • จากสภาพอากาศในปจจุบัน นักเรียนควร เลือกสวมใสเสื้อผาแบบใดจึงจะเหมาะสม (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) ใหนักเรียนเขียนอธิบายรูปแบบและลักษณะการแตงกายของ ตนเอง รวมถึงวิธีการเลือกสวมใสเสื้อผา พรอมติดภาพประกอบ ลงในกระดาษรายงาน จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน โดยใหเพื่อนรวมชั้นเรียนรวมกันวิเคราะหลักษณะ การแตงกายของของตนวามีความเหมาะสมกับรูปราง สีผิว และ บุคลิกภาพหรือไม กิจกรรม สรางเสริม ใหนักเรียนจับคู จากนั้นออกแบบเครื่องแตงกายใหกันและกัน โดยคํานึงถึงรูปราง สีผิว และบุคลิกภาพเปนหลัก จากนั้นออกมา นําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมอธิบายแนวคิด ในการออกแบบเครื่องแตงกายดังกลาว เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของคอเสื้อใหนักเรียนฟงวาคอเสื้อเปน สวนของเสื้อที่ชิดคอ หรือควานเปนวง เพื่อใชสวมศีรษะมีหลายประเภท เชน คอกลม เปนคอเสื้อที่ตัดกลม ไมมีปก คอวี เปนคอเสื้อที่ตัดแหลมตรงกลางคลาย ตัววี เรียกอีกอยางหนึ่งวา คอแหลม คอถวงเปนคอเสื้อที่ใชผาเฉลียงตัด ทําให มีลักษณะจีบถวงเปนชั้นๆ คอปาด เปนคอเสื้อที่ตัดปาดตรงจากไหลซายไปยัง ไหลขวา คอกระเชา เปนคอเสื้อที่ควานใหกวางและลึก ทั้งขางหนาและขางหลัง ในลักษณะของวงกลม และมีจีบรูดบริเวณคอพับ คอเชิ้ต เปนปกเสื้อแบบติดคอ ปลายปกแหลม จะมีสาบเชื่อมระหวางปกกับตัวเสื้อ เพื่อใหปกตั้งขึ้น คอฮาวาย เปนปกเสื้อชนิดปลายแหลม สาบตอนบนจะแบะออก เพื่อใหรับกับปก คอกะลาสี เปนปกเสื้อแบบกะลาสี ดานหนามีลักษณะแหลมแบะออกดานขาง สวนดานหลัง เปนรูปสี่เหลี่ยม นํา สอน สรุป ประเมิน T42


ขอสอบเนน การคิด ก่อนขจัดรอยเปอนบนเสื้อผ้า ควร พิจารณาก่อนว่ารอยเปอนนั้นเกิดจาก สิ่งใด และควรเลือกใช้สารให้ถูกต้อง ตามชนิดของรอยเปอนนั้น ๆ ซึ่งรอยเปอน การ¢¨ัดรอÂเป„œอ¹º¹เสื้อผ้า ที่พบเห็นบ่อย ๆ ในชีวิตประจ�าวัน มีดังนี้ ñ. รอÂเป„œอ¹ËมÖกËÂด ถาเปนรอยเปอนใหม ใหขยี้ในน้ําผสมสารซักฟอก หากมีรอยเปอนตกคางใหใชกรดออกซาลิกผสมน้ํา หรือไฮโดรเจนเปอรออกไซด แชเฉพาะสวนที่เปอน บีบมะนาวลงไป ทิ้งไว ๒ นาที นําไปผึ่งแดด ๓ ชั่วโมง แลวนําไปซักตามปกติ ò. รอÂเป„œอ¹ลÔปสตÔก เช็ดดวยคารบอนเตตระคลอไรด โดยกลับเอาดาน ในออก ดานลางรองดวยผาฝาย เช็ดทางกลับดาน ซักดวย น้ํารอนผสมผงซักฟอก หรือใชวาสลีนทาตรงที่เปอน แชในน้ําผสมเกลือ ทิ้งไว ๑ คืิน รอยเปอนจะหายไป ó. รอÂเป„œอ¹ªา กาแ¿ ถารอยเปอนยังไมแหง ใหนําแปงขาวเจา หรือ แปงขาวเหนียว หรือแปงฝุนโรยลงบนรอยเปอน เพื่อให แปงดูดซับรอยเปอน ทิ้งไวใหแหง ใชแปรงปดแปงออก แลวซักดวยสารซักฟอกตามปกติ ô.รอÂเป„œอ¹เลือด ถาเปนผาฝาย หรือผาลินินใหนําไปแชน้ําและใช แอมโมเนียเจือจางเช็ด แลวนําไปซัก หรือใชแปงมัน ผสมน้ําใหขนเหมือนแปงเปยกทารอยเปอน ทิ้งไว ประมาณ ๔ ชั่วโมง แลวนําไปซักตามปกติ õ.รอÂเป„œอ¹Ëมาก½รั่ง ใชน้ําแข็งถูใหหมากฝรั่งจับตัวเปนกอน แลวใช สันมีดขูดหมากผรั่งออก เช็ดดวยสารละลายเปอรคลอโรเอทิลีน หรือคารบอนเตตระคลอไรด หรือแอลกอฮอล แลวจึงนําไปซักในน้ําสบูออน ö. รอÂเป„œอ¹¹í้ามั¹ เช็ดดวยเปอรคลอโรเอทิลีนและซักในน้ําสบู หรือ สารละลายอื่น ๆ หรือใชผาขนหนู หรือผาฝายรองดานลาง เทคารบอนเตตระคลอไรดลงไปที่รอยเปอน เช็ดดวย สําลี หรือผาแหง นําไปซักในน้ําอุนที่ผสมสารซักฟอก ÷. รอÂเป„œอ¹äอÈกรÕม เช็ดดวยแอลกอฮอล หรือนําไปตมในนํ้าผสม สารละลายโซเดียมไทโอซัลเฟต หรือนําไปซักในนํ้าอุน ผสมดวยผงซักฟอก หรือใชมะนาวถูบริเวณรอยเปอน แลวนําไปซักตามปกติ ø.รอÂเป„œอ¹¹มและ¤รÕม เช็ดดวยสารฟอกขาวไฮเปอรคลอไรด ซักในน้ําอุน ผสมสารซักฟอก หรือนําแปงฝุนมาโรย ใชกระดาษชําระ วางทับ นําเตารีดที่รอนพอสมควรวางทับบนกระดาษ จนแปงดูดคราบมันออกหมด จึงนําไปซักตามปกติ เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 37 เช็ดดวยคารบอนเตตระคลอไรด โดยกลับเอาดาน น้ํารอนผสมผงซักฟอก หรือใชวาสลีนทาตรงที่เปอน เช็ดดวยสารฟอกขาวไฮเปอรคลอไรด ซักในน้ําอุน 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนปฏิบัติ 13. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมาจับสลากหัวขอสถานการณตางๆ ที่ ครูกําหนดขึ้น เพื่อรวมกันออกแบบเครื่อง แตงกายใหเหมาะสมกับสถานการณดังกลาว โดยสถานการณที่ครูกําหนดขึ้น คือ การไป สัมภาษณงาน การไปรวมงานมงคลสมรส การไปติดตอสถานที่ราชการ การไปซื้อของ ที่หางสรรพสินคา การไปรวมงานสวดพระ อภิธรรม การไปรวมงานทําบุญขึ้นบานใหม และการไปวัด เนื่องในเทศกาลสําคัญทาง ศาสนา ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 14. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันออกแบบ เครื่องแตงกายใหเหมาะสมกับสถานการณ ที่จับสลากไดกลุมละ 1 ชุด พรอมทั้งเลือก ตัวแทนกลุม เพื่อเปนตนแบบในการใสชุดตาม ที่ไดออกแบบไว โดยจะตองคํานึงถึงรูปราง สีผิว บุคลิกภาพ เพศ วัย ฤดูกาล โอกาส และ กาลเทศะรวมดวย จากนั้นบันทึกขั้นตอนการ ปฏิบัติงานลงในใบงานที่ 3.1.1 การเลือกใช เสื้อผาและเครื่องแตงกาย 15. ครูใหนักเรียนแตละกลุมแบงหนาที่ความ รับผิดชอบในการจัดเตรียมเสื้อผาตามที่ได ออกแบบไว เพื่อนํามาใหตนแบบเปนผูสวมใส และนําเสนอผลงานในชั่วโมงถัดไป 16. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันแตงกายใหกับ ตนแบบในชุดที่ไดออกแบบไว โดยใหแตละ กลุมผลัดกันออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อน ชมหนาชั้นเรียน จากนั้นใหเพื่อนรวมชั้นเรียน รวมกันเสนอแนะเพิ่มเติม ถาหากเสื้อมีรอยเปอนหมึกปากกาลูกลื่น ควรแกปญหาดังกลาว อยางไร 1. เช็ดดวยไฮโดรเจนเปอรออกไซด 2. แชในนํ้าอุน แลวซักดวยนํ้ายาซักแหง 3. ใชฟองนํ้าชุบแอลกอฮอลเช็ดรอยเปอน แลวนําไปซักตาม ปกติ 4. ใชผาฝาย หรือผาขนหนูเช็ดรอยเปอน และใชกอนนํ้าแข็ง ถูแรงๆ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะผาที่เปอนหมึกปากกาลูกลื่น สามารถกําจัดรอยเปอนได โดยการใชฟองนํ้าชุบแอลกอฮอล เช็ดบริเวณรอยเปอน แลวนําไปซักตามปกติ หรือใชนํ้ามันเบนซิน เช็ดรอยเปอน แลวโรยผงซักฟอก ขยี้บริเวณรอยเปอน นํ้าหมึก ปากกาจะคอยๆ จางลง) นักเรียนควรรู 1 คารบอนเตตระคลอไรด เปนสารเคมีที่นํามาใชในอุตสาหกรรมหลายอยาง ในอดีต เชน เปนนํ้ายาซักแหง กําจัดคราบสกปรกบนเสื้อผา เปนนํ้ายาทําความ สะอาดลางคราบมัน เปนสารกําจัดศัตรูพืช เปนสารดับเพลิง ซึ่งกอใหเกิด อันตรายตอรางกาย หากสัมผัสถูกผิวหนังจะทําใหเกิดการอักเสบ ระคายเคือง สงผลตอระบบทางเดินหายใจ และทําลายโอโซน ปจจุบันสารเคมีชนิดนี้ถูกจัด ใหเปนสารอันตรายตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย 2 ผงซักฟอก หากซักไมสะอาด หรือลางผงซักฟอกไมหมด สารเคมีที่หลงเหลือ อยูบนเนื้อผา อาจกอใหเกิดการระคายเคืองตอผิวหนังได 3 สารฟอกขาวไฮเปอรคลอไรด เปนสารเคมีที่ใชในอุตสาหกรรมการฟอกยอม เสนดาย เยื่อกระดาษ ใชเปนสารฆาเชื้อโรคในนํ้า ขอควรระมัดระวังในการ ใชงาน คือ หามไมใหสัมผัสถูกผิวหนัง เพราะจะทําใหเกิดการระคายเคืองได นํา สอน สรุป ประเมิน T43


ขอสอบเนนการคิด ò การเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่องแตงกาย การซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ควรเลือกซื้อตามความจ�าเป็นและความเหมาะสม นอกจากนี้ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง โดยค�านึงถึงรูปร่าง สีผิว เพศ วัย บุคลิกภาพของ ผู้สวมใส่ โอกาสในการใช้งาน ราคา ตลอดจนวิธีการดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายอย่างถูกต้อง ๒.๑ หลักการเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ก่อนการเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ควรค�านึงถึงประโยชน์ในการใช้สอย ความสะดวกสบาย ในการสวมใส่ ความเหมาะสมกับวัยและบุคลิกภาพ หลักการเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย มีดังนี้ ๑ ตรวจดูแนวตะเข็บ โดยตะเข็บ ต้องเย็บเรียบร้อยและถี่ เพื่อ ความแข็งแรง ทนทาน 3 ควรตรวจสอบเสื้อผ้าในแสง ธรรมชาติหรือใต้แสงสีขาว 5 ตรวจสอบความเรียบร้อยของ ตะเข็บด้านใน โดยตะเข็บต้อง ไม่ขาด หรือหลุดลุ่ยง่าย 7 น�ากระดาษจดบันทึกสัดส่วน ไปด้วย ในกรณีฝากผู้อื่นซื้อ 9 เลือกเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส หรือ เลือกให้เหมาะสมกับเสื้อผ้า ที่มีอยู่เดิม 2 สังเกตลายตามรอยต่อแต่ละ ส่วนให้ตรงพอดี ดูแล้วไม่ขัดตา 4 เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับ รูปร่างของตนเอง เพื่อเพิ่ม ความมั่นใจ ๖ ตรวจสอบสัญลักษณ์บนป้าย เสื้อผ้าจะได้ใช้งานและดูแล รักษาได้อย่างถูกต้อง ๘ เลือกเครื่องแต่งกายที่สามารถ น�ามาประยุกต์ได้กับทุกยุค ทุกสมัย ๑0 จดรายการเสื้อผ้าที่ซื้อไว้ เพื่อป้องกันการซื้อซ�้า หรือซื้อ เกินความจ�าเป็น 3๘ ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 17. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวิเคราะห หลักการเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่องแตงกาย จากสถานการณที่จับสลากได จากนั้นสง ตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลการ วิเคราะหใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 18. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การเลือกซื้อเสื้อผา และเครื่องแตงกาย ควรเลือกซื้อตามความ จําเปนและความเหมาะสมในการใชงาน และ ควรพิจารณาอยางรอบคอบกอนตัดสินใจซื้อ โดยคํานึงถึงรูปราง สีผิว บุคลิกภาพ เพศ วัย ฤดูกาล โอกาส และกาลเทศะ ตลอดจนวิธี การดูแลรักษาเสื้อผาและเครื่องแตงกายอยาง ถูกตอง” 19. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนเคยเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่อง แตงกายดวยตนเองหรือไม ถาเคย มีวิธีการ ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • เมื่อตองเลือกซื้อเสื้อผาควรพิจารณาถึงสิ่งใด เปนสําคัญ (แนวตอบ พิจารณาจากราคาของสินคา พิจารณาจากคุณภาพของสินคา) 20. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาเลา ประสบการณเกี่ยวกับการเลือกซื้อเสื้อผาและ เครื่องแตงกายของตนเองวามีวิธีการอยางไร ใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน จากนั้นใหเพื่อนรวม ชั้นเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวาเพื่อน คนดังกลาวมีวิธีการเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่อง แตงกายที่ถูกตอง เหมาะสมหรือไม อยางไร เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือกขนาดของเสื้อผาสําเร็จรูปใหนักเรียน ฟงวา เสื้อผาสําเร็จรูปจะมีขนาดระบุไว อาจอยูบริเวณคอปก ขอบเอว ตะเข็บขาง โดยมีการระบุขนาดเปนนิ้ว หรือใชอักษรยอ S, M, L, XL เชน • S ชาย รอบอก 36 นิ้ว ยาว 27 นิ้ว หญิง รอบอก 34 นิ้ว ยาว 24 นิ้ว • M ชาย รอบอก 38 นิ้ว ยาว 27 นิ้ว หญิง รอบอก 36 นิ้ว ยาว 27 นิ้ว • L ชาย รอบอก 40 นิ้ว ยาว 28 นิ้ว หญิง รอบอก 38 นิ้ว ยาว 27 นิ้ว • XL ชาย รอบอก 42 นิ้ว ยาว 29 นิ้ว หญิง รอบอก 40 นิ้ว ยาว 28 นิ้ว ผูที่มีรูปรางผอม สูง ควรเลือกสวมใสเสื้อผาแบบใดจึงจะมีความ เหมาะสม 1. เนนโทนสีดํารัดรูป 2. ใสเสื้อลายดอกไมเล็กๆ 3. เลือกที่มีเสนลายแนวดิ่งตามลําตัว 4. โทนสีสวางและพื้นเปนเสนลายขวาง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะผูที่มีรูปรางผอม สูง ควรเลือก สวมใสเสื้อผาที่มีโทนสีสวาง มีลวดลายโดยเฉพาะลายขวาง ควร หลีกเลี่ยงการสวมใสเสื้อผาที่มีโทนสีเขมอยางสีดํา เพราะจะทําให เห็นความผอมเดนชัด แตถาหากตองการสวมใส ควรเลือกเสื้อผา ใหมีขนาดใหญกวาลําตัว) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานขนาดเสื้อผาสําเร็จรูป ไดที่ https://www. monamafifia.com/shirt-size-chart/ นํา สอน สรุป ประเมิน T44


ขอสอบเนน การคิด ๒.๒ วิธีการเลือกซื้อชุดชั้นใน การเลือกซื้อชุดชั้นใน ควรค�านึงถึงความสะดวกสบายในการสวมใส่ ซึ่งชุดชั้นในมีทั้งชนิดที่ท�าด้วย ใยฝ้ายและใยสังเคราะห์ ดังนั้น การเลือกชุดชั้นในแต่ละชนิด ควรพิจารณาตามความเหมาะสม ดังนี้ • แนวตะเข็บแน่นหนา ทนทาน • เก็บรูปทรงได้มิดชิด แนบกับตัว • สายแขนเสื้อร่นให้สั้น-ยาวได้ หรือเลือกแบบที่เหมาะสม กับรูปร่างของผู้สวมใส่ มีขนาดพอดีกับตัว สวมใส่สบาย • เลือกที่มีตะขอเกี่ยวด้านหลังมากกว่า ๑ แถว • ควรลองใส่ทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ • เนื้อผ้านุ่ม สวมใส่สบาย ไม่หนาจนเกินไป แนบตัวผู้สวมใส่ • แนวตะเข็บเรียบเนียน ตะเข็บทั้ง ๒ ข้างยาวเท่ากัน และ ชายเสื้อทุกด้านอยู่ในแนวเดียวกัน • แบบมีความเหมาะสมกับรูปร่างของผู้สวมใส่และเหมาะสม กับเสื้อชั้นนอก • ความยาวของตัวเสื้อทับในควรสั้นกว่าเสื้อชั้นนอก • ท�าความสะอาดได้ง่าย เช่น ซักธรรมดาได้ แห้งเร็ว ซับเหงื่อได้ดี • ท�าจากผ้าฝ้าย ซึมซับเหงื่อได้ดี มีความยืดหยุ่นดี • ชายเสื้อยาวเสมอกันโดยรอบ • มีขนาดเหมาะสมกับผู้สวมใส่ ได้แก่ ขนาดเล็ก เบอร์ S รอบอก ๓๔-๓๖ นิ้ว ขนาดกลาง เบอร์ M รอบอก ๓๘-๔๐ นิ้ว ขนาดใหญ่ เบอร์ L รอบอก ๔๒-๔๔ นิ้ว ขนาดใหญ่พิเศษ เบอร์ XL รอบอก ๔๖ นิ้ว • เลือกแบบที่ยางรอบโคนขาไม่ระคายต่อผิว วงขากว้าง พอดี ขอบมียางยืดกระชับ • แนวตะเข็บแน่นหนาและประณีต เรียบร้อย • ท�าด้วยผ้าฝ้าย ซับเหงื่อได้ดี ยืดหยุ่นดี สวมใส่สบาย • หากเป็นกางเกงในชายขอบเอวยางยืดควรมีขนาดกว้าง อย่างน้อย ๑ นิ้ว ส่วนกางเกงในสตรีขอบเอวยางยืดควร กว้างไม่เกิน ๐.๕ นิ้ว เป็นเสื้อที่ใช้ปกปิดหน้าอกและยกหน้าอก เพื่อ ให้ได้รูปทรง ซึ่งควรเลือกเสื้อชั้นในที่รอบอกและ รอบใต้อกสมดุลกัน เป็นเสื้อที่สวมทับด้านใน เพื่อปกปิดสัดส่วนและ เสื้อชั้นใน ใช้สวมเมื่อเสื้อชั้นนอกเป็นเสื้อผ้าที่มี เนื้อบาง หรือมีรอยฉลุของผ้าลูกไม้ เป็นเสื้อที่สวมทับด้านใน มักใส่เป็นเสื้อล�าลอง ส่วนใหญ่จะสวมใส่เป็นสีขาวและสีด�า มีวงแขน กว้าง คอลึก เป็นชุดชั้นในที่มีเนื้อผ้าระบาย ช่วยปกปิด ช่วงขาหนีบและบริเวณอวัยวะเพศ มีช่องเปิดให้ ขาทั้ง ๒ ข้างลอดได้ ขอบกางเกงเป็นยางยืด เสื้อชั้นในสตรี เสื้อทับชั้นในสตรี เสื้อกล้ามชาย กางเกงใน เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 39 ๒.๒ วิธีการเลือกซื้อชุดชั้นใน1 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 21. ครูถามนักเรียนวา • ในการเลือกซื้อเสื้อชั้นในสตรีควรพิจารณา จากสิ่งใด (แนวตอบ ควรพิจารณาแบบที่เก็บรูปทรง ไดมิดชิด เมื่อใสตองแนบกับตัว มีการ เย็บตะเข็บแนนหนา ทนทาน เลือกแบบ ที่เหมาะสมกับรูปราง มีขนาดพอดีตัว สวมใสสบาย และควรเลือกที่มีตะขอเกี่ยว ดานหลังมากกวา 1 แถว) • ในการเลือกซื้อเสื้อทับชั้นในสตรี ควร พิจารณาจากสิ่งใด (แนวตอบ ควรพิจารณาแบบที่มีความเหมาะสม กับรูปรางของผูสวมใส เมื่อใสตองแนบกับ ตัว มีลักษณะเนียนนุม สวมใสสบาย ตะเข็บ ทั้ง 2 ขางยาวเทากัน และชายเสื้อทุกดาน อยูในแนวเดียวกัน) • ในการเลือกซื้อกางเกงใน ควรพิจารณาจาก สิ่งใด (แนวตอบ ควรพิจารณาแบบที่มีวงขากวาง พอดี ขอบยางยืดกระชับเมื่อสวมใส การเย็บ ตะเข็บแนนหนา ทําดวยผาฝาย ยืดหยุนได ดี สวมใสสบาย) • “การเลือกซื้อชุดชั้นในควรเลือกซื้อให เหมาะสมกับการปฏิบัติกิจกรรมในแตละวัน” จากขอความนี้ นักเรียนเห็นดวยหรือไม อยางไร (แนวตอบ เห็นดวย เพราะในแตละวันจะมี กิจกรรมที่ตองปฏิบัติแตกตางกันไป จึงควร เลือกซื้อชุดชั้นในใหเหมาะสมกับกิจกรรม ที่ตองปฏิบัติ เชน หากตองออกกําลังกาย หรือตองเคลื่อนไหวรางกายมากเปนพิเศษ ควรเลือกสวมใสชุดชั้นในที่มีความกระชับ หรือชุดชั้นในสําหรับการออกกําลังกาย โดยเฉพาะ) ผูหญิงและผูชายควรเลือกสวมใสชุดชั้นในอยางไร เพื่อสุขภาพ อนามัยที่ดี (แนวตอบ ผูหญิง มีหลักในการเลือก ดังนี้ • เสื้อชั้นใน ควรเลือกที่เก็บทรงหนาอกไดอยางมิดชิด เลือก ขนาดใหพอดีกับหนาอกและรอบตัว ไมคับ หรือหลวมเกินไป • กางเกงใน ควรเลือกขนาดใหพอดีตัว เนื้อผานุม ระบาย อากาศไดดี ผูชาย มีหลักในการเลือก ดังนี้ • เสื้อกลาม ควรเลือกที่ผลิตจากผาฝาย ขนาดใหพอดีกับรอบตัว ไมคับ หรือหลวมจนเกินไป ซึมซับเหงื่อและระบายอากาศ ไดดี มีความยืดหยุน • กางเกงใน ควรเลือกขนาดใหพอดีตัว ขอบเอวกวางอยางนอย 1 นิ้ว เนื้อผานุม ระบายอากาศไดดี ไมระคายเคืองผิว) นักเรียนควรรู 1 ชุดชั้นใน การทําความสะอาดทําไดหลายวิธี เชน หากซักดวยมือใหเปดนํ้า เบาๆ โดยปลอยใหนํ้าไหลผานเสื้อชั้นใน เพื่อปองกันไมใหเสียทรง บีบฟองนํ้า เบาๆ เพื่อไลนํ้าออก ซักดวยนํ้ายาซักผา หรือสบูเหลว หากซักดวยเครื่องซักผา ใหใสในถุงถนอมผา เพื่อปองกันไมใหเสียทรง เก็บสายใหเรียบรอย นําเขา เครื่องปนในโหมดถนอมผา ซักดวยนํ้ายาซักผาสําหรับชุดชั้นใน เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อชุดชั้นในใหนักเรียนฟงวา การ เลือกซื้อชุดชั้นในควรเนนที่สวมใสสบาย ไมคับ หรือหลวมจนเกินไป ซึ่งชุดชั้นใน บางชนิดอาจทําใหเกิดอาการแพและเกิดผื่นขึ้นได ดังนั้น จึงควรพิจารณาอยาง รอบคอบกอนตัดสินใจซื้อ เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี นํา สอน สรุป ประเมิน T45


ขอสอบเนนการคิด ๒.๓ วิธีการเลือกซื้อชุดชั้นนอก ชุดชั้นนอกเป็นเสื้อผ้าที่มีจ�าหน่ายโดยทั่วไป มีการบอกขนาดโดยใช้อักษรย่อ เช่น ขนาดเล็กใช้ อักษร A ขนาดกลางใช้อักษร B ขนาดใหญ่ใช้อักษร C หรือมีการบอกขนาดเป็นนิ้ว โดยใช้สัดส่วน จากรอบเอว เช่น ๒๔ นิ้ว ๒๖ นิ้ว หรือบอกขนาดรอบอก เช่น ๓๒ นิ้ว ๓๔ นิ้ว ซึ่งการเลือกซื้อ ชุดชั้นนอกควรพิจารณา ดังนี้ • แบบ สี ขนาดเหมาะสมกับรูปร่างและบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ • เสื้อมีกระดุม การเย็บกระดุมและรังดุมจะต้องมีความแข็งแรง • เนื้อผ้ามีความทนทาน สีไม่ลอก สีไม่ตก เกรนผ้าต้องตรงไปในทิศทางเดียวกัน • การเย็บตะเข็บสม�่าเสมอ เรียบ และมีขนาดเท่ากัน ด้ายเย็บใช้สีเดียวกัน กับเนื้อผ้า • ชายเสื้อทั้ง ๒ ด้านเท่ากัน และพับชายมีขนาดเหมาะสมกับแบบ • ถ้าเป็นเสื้อที่สอยชายเสื้อและปลายแขน จะต้องสอยเรียบร้อย แน่นหนา • สะดวกสบายในการสวมใส่ สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว • เนื้อผ้าเหมาะสมกับการใช้งาน เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม หรือฤดูกาล • แบบ สี ขนาดเหมาะสมกับรูปร่างและบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ • เนื้อผ้ามีความทนทาน ไม่บางจนเกินไป สีไม่ลอก สีไม่ตก • ตะเข็บข้างทั้ง ๒ ข้างยาวเท่ากัน การกันรุ่ยริมตะเข็บเรียบร้อย แน่นหนา • การเย็บตะเข็บสม�่าเสมอ ด้ายเย็บใช้สีเดียวกับเนื้อผ้า ถ้าเป็นกระโปรง สอยชาย จะต้องสอยเรียบร้อย แน่นหนา • ความยาวของกระโปรงเหมาะสมกับรูปร่างและกาลเทศะ • หากเนืิ้อผ้าที่น�ามาตัดเย็บกระโปรงบางจนเกินไปต้องมีการตัดซับใน หรืออัดกาวเพิ่ม • เนื้อผ้ามีความทนทาน สีไม่ลอก สีไม่ตก รอบวงแขนกว้างพอดี • การกันรุ่ยริมตะเข็บประณีต เรียบร้อย ไหล่ทั้ง ๒ ข้างยาวเท่ากัน ไม่ตึง หรือไม่ย่น • เสื้อมีกระดุม การเย็บกระดุมและรังดุมจะต้องมีความแข็งแรง ทนทาน • ถ้าเป็นเสื้อเชิ้ต หรือเสื้อฮาวาย ปกทั้ง ๒ ข้างต้องเท่ากันและเหมือนกัน • การเย็บตะเข็บประณีต เรียบร้อย ความยาวแขนพอดี ถ้าเป็นแขนยาวควร ยาวปิดข้อมือ สาบปลายแขนเย็บเรียบร้อย • ควรอ่านป้ายที่เย็บติดกับคอเสื้อด้านหลัง ซึ่งจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ ชื่อทางการค้า บริษัทผู้ผลิต บอกขนาดของเสื้อ เช่น SIZE ๑๕, ๓๓ หมายถึง รอบคอ ๑๕ นิ้ว และความยาวแขนถึงข้อมือยาว ๓๓ นิ้ว เป็นเครื่องแต่งกายที่มีแบบ ให้เลือกสวมใส่หลากหลาย เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถ เลือกสวมใส่ได้ตามความ เหมาะสมกับโอกาส เป็นเครื่องแต่งกายส�าหรับ สตรีทุกวัย มีรูปแบบการ ตัดเย็บที่หลากหลาย เช่น กระโปรงทรงตรง กระโปรง ทรงเอ กระโปรงจีบรอบตัว เป็นเครื่องแต่งกายที่มีแบบ ให้เลือกสวมใส่หลากหลาย เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถ เลือกสวมใส่ได้ตามความ เหมาะสมกับโอกาส เสื้อผู้หญิง กระโปรง เสื้อผู้ชาย 40 แบบ สี ขนาดเหมาะสมกับรูปร่างและบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ เสื้อมีกระดุม การเย็บกระดุมและรังดุมจะต้องมีความแข็งแรง เสื้อมีกระดุม การเย็บกระดุมและรังดุมจะต้องมีความแข็งแรง ทนทาน ถ้าเป็นเสื้อเชิ้ต หรือเสื้อฮาวาย ปกทั้ง ๒ ข้างต้องเท่ากันและเหมือนกัน 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 22. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เสื้อผาที่มีจําหนาย ทั่วไปบางชนิดจะบอกขนาด โดยใชอักษรยอ เชน ขนาดเล็กใชอักษร A ขนาดกลางใช อักษร B ขนาดใหญใชอักษร C บางชนิดจะ บอกขนาดเปนนิ้ว โดยใชสัดสวนจากรอบเอว เชน 24 นิ้ว 26 นิ้ว 28 นิ้ว หรือบางชนิดจะ บอกขนาดรอบอก เชน 32 นิ้ว 34 นิ้ว 36 นิ้ว” 23. ครูถามนักเรียนวา • หากตองการซื้อเสื้อ นักเรียนจะมีหลัก ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน พิจารณาเลือกซื้อจากรูปแบบ สี ขนาด ที่เหมาะสมกับรูปราง บุคลิกภาพ สีผิว และวัยของตนเอง การตัดเย็บมีความ เรียบรอย ความทนทานของเนื้อผา) • นักเรียนหญิงควรมีหลักในการเลือกซื้อ กระโปรงของตนเองอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน เนื้อผาไมบางเกินไป ขนาดและ ความยาวของกระโปรงมีความเหมาะสม กับรูปราง และบุคลิกภาพของตน การตัดเย็บ ที่ประณีต เรียบรอย) • นักเรียนชายควรมีหลักในการเลือกซื้อเสื้อ ของตนเองอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน รอบวงแขนกวางพอดี ไหล ทั้ง 2 ขางยาวเทากัน ไมตึง หรือยน มีการ เย็บตะเข็บที่ประณีต เรียบรอย หากเปน เสื้อแขนยาวควรยาวปดขอมือ สาบปลาย แขนเสื้อเย็บเรียบรอย) ผูหญิงที่มีรูปรางอวนและผูหญิงที่มีรูปรางผอม จะมีหลักในการ เลือกใชและเลือกซื้อกระโปรงที่แตกตางกันอยางไร (แนวตอบ ผูหญิงที่มีรูปรางอวน ควรเลือกกระโปรงทรงเรียบ ยาวประมาณนอง ควรหลีกเลี่ยงการสวมใสกระโปรงรัดรูป สั้นเลยเขา เพราะจะยิ่งเนนรูปรางใหชัดเจนยิ่งขึ้น สวนผูหญิงที่มี รูปรางผอม ควรเลือกกระโปรงทรงบาน หรือพอง กระโปรง คอนขางยาว ควรหลีกเลี่ยงการสวมใสกระโปรงทรงแคบแนบลําตัว เพราะจะยิ่งเนนรูปรางใหดูผอมมากยิ่งขึ้น) นักเรียนควรรู 1 ขนาดเหมาะสมกับรูปราง การเลือกกระโปรงใหมีความเหมาะสมกับ รูปราง ควรพิจารณาจากผูที่ตนขาใหญ ควรเลือกกระโปรงทรงตรงแบบเรียบ ยาวประมาณนอง หรือกระโปรงทรงเอ ควรหลีกเลี่ยงกระโปรงรัดพอดีตัว ผูที่เอวหนา ควรเลือกกระโปรงทรงเอวสูง ผูที่ขาสั้น ควรเลือกกระโปรงทรงเอ สวมรองเทาสนสูง จะชวยใหขาดูยาวขึ้น ผูที่สะโพกใหญ ควรเลือกกระโปรง ที่พอดีตัว ยาวประมาณเขา จะชวยใหดูเพรียวบางมากยิ่งขึ้น 2 เสื้อเชิ้ต การเลือกเสื้อเชิ้ต ใหทดลองติดกระดุมคอแลวสังเกตวากระชับ หรือไม ควรหลีกเลี่ยงเสื้อที่คอคับจนเกินไป เพราะจะทําใหหายใจไมสะดวก ตะเข็บขอบไหลควรอยูบริเวณหัวไหลพอดี วงแขนกวางพอที่จะเคลื่อนไหว ไดอยางสะดวก รอบอกและรอบเอวตองพอดีตัว ไมคับ หรือหลวมจนเกินไป และไมควรเลือกเสื้อเชิ้ตที่มีขนาดใหญกวาตัว เพราะจะดูหลวมโครง นํา สอน สรุป ประเมิน T46


• ผ้าเนื้อแน่น ทนทาน สีไม่ลอก สีไม่ตก • สีมีความเหมาะสมกับเพศ วัย โอกาส กาลเทศะในการสวมใส่ • การเย็บตะเข็บประณีต เรียบร้อย ไม่ห่างจนเกินไป • มีขนาดเหมาะสมกับผู้สวมใส่ ขาและเอวไม่คับ สวมใส่สบาย • ในขณะนั่งเป้าไม่ตึง หรือหย่อนจนเกินไป • การเย็บตะเข็บและกันรุ่ยเรียบร้อย • กางเกงนอนควรมียางยืดที่ขอบกางเกงและสวมใส่สบาย ไม่ควรคับและแน่นจนเกินไป • เสื้อนอนมีกระดุม การเย็บกระดุมและรังดุมจะต้องแข็งแรง ทนทาน • ควรเลือกเสื้อตัวหลวมที่สวมใส่สบาย ท�าจากผ้าที่มีผิวสัมผัสนุ่ม • ดูดซับเหงื่อได้ดี ซักรีดง่าย แห้งเร็ว สีไม่ลอก สีไม่ตก • แบบ สี ขนาด และการตกแต่งเหมาะสมกับผู้สวมใส่ โดยทั่วไป มี ๒ คือ แบบผ่าหน้าตลอดและแบบสวมหัว • ลองสวมก่อนตัดสินใจซื้อ เลือกขนาดใหญ่กว่ารอบอกประมาณ ๘ นิ้ว รอบข้อมือ คอ เอว ถักแน่นเพื่อให้คงรูป แต่ยืดหยุ่นได้ดี • ตะเข็บเย็บแน่นหนา ไม่เป็นกระจุก ถ้าเป็นชนิดพับข้อมือจะต้อง ไม่เห็นตะเข็บด้านนอกที่พับ • เมื่อสวมใส่แล้วบริเวณบ่าและหลังควรเรียบตลอด เป็นเครื่องแต่งกายที่ทุกเพศ ทุกวัยนิยม สวมใส่ มีหลายรูปแบบให้เลือก แบ่งเป็น กางเกงขายาวส�าหรับสตรีและบุรุษจะ แตกต่างกันที่ขนาดและแบบของกางเกง เป็นเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ในตอน กลางคืน สวมใส่สบาย ท�าจากผ้าที่มี น�้าหนักเบา เนื้อผ้าไม่หนามาก เป็นเครื่องแต่งกายที่สวมใส่เพื่อเพิ่ม ความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย มีทั้งที่ท�าจาก ใยสังเคราะห์และท�าจากใยผสมระหว่าง ใยขนสัตว์และออร์ลอน รวมทั้งชนิดที่ ท�าจากขนสัตว์แท้ กางเกงขายาว ชุดนอน เสื้อกันหนาว T i p ชนิดของผ้า ผ้าที่น�ามาใช้ในการตัดเสื้อผ้ามีอยู่มากมายหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กันอยู่ ๓ ชนิด ได้แก่ ๑. ผ้าฝาย (Cotton) เนื้อผ้ามีลักษณะด้าน ซับเหงื่อ ระบายอากาศได้ดี สวมใส่สบาย เหมาะแก่ผู้ที่อยู่กลางแจ้ง และโดนแสงแดดบ่อย ๆ ๒. ผ้าใยสังเคราะห์ หรือผ้า TK (Polyester) เนื้อผ้ามีลักษณะมัน ไม่ค่อยยับ อยู่ทรง ไม่หด ไม่ย้วย สีไม่ตก ระบายอากาศได้ไม่ดี เมื่อสวมใส่จะรู้สึกร้อน เหมาะแก่ผู้ที่อยู่ในห้องแอร์ ๓. ผ้าฝายผสมผ้าใยสังเคราะห์ หรือผ้า TC (Cotton ผสม Polyester) เนื้อผ้ามีลักษณะมันน้อยกว่าผ้า TK ระบายอากาศได้ไม่ดี นิยมทอผ้าให้เป็นรูเล็ก ๆ เพื่อช่วยในการระบายอากาศและเพื่อความสบายขณะสวมใส่ เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 4๑ กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ • หากตองการซื้อกางเกง นักเรียนจะมีหลัก ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน พิจารณาเลือกขนาดใหมี ความเหมาะสมกับรูปรางของตนเอง โดย ขาและเอวจะตองไมคับแนน เปาไมตึง หรือ หยอนจนเกินไป มีการเย็บตะเข็บที่ประณีต เรียบรอย) • เพราะเหตุใดในเวลานอน เราจึงควรสวมใส ชุดนอนแทนการสวมใสเสื้อยืดและกางเกง ขาสั้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เนื้อผาของชุดนอนมี ความบางเบา สวมใสสบาย ระบายอากาศ ไดดี การสวมใสชุดนอนที่สบายจะดีตอ ระบบไหลเวียนเลือด ซึ่งสงผลใหระบบตางๆ ในรางกายทํางานไดอยางมีประสิทธิภาพ และชวยปรับอุณหภูมิในรางกายใหคงที่ได อีกดวย) 24. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในการเลือกซื้อชุดชั้นใน และชุดชั้นนอก นักเรียนจะสังเกตเห็นปาย สัญลักษณที่กํากับอยูบนเสื้อผา ซึ่งสัญลักษณ เหลานั้นจะเรียกวา Laundry symbols หรือ CareLabel เปนสัญลักษณที่ใชบอกขนาดหรือ เบอรของเสื้อผา เพื่อความสะดวกในการเลือก ชนิดเสนใยที่ใชผลิตผา คําแนะนําในการดูแล รักษา การทําความสะอาด การซัก การรีด การใชนํ้ายาในการทําความสะอาด เพื่อให ผูใชสามารถดูแลรักษาเสื้อผาไดอยางถูกตอง และเพื่อเปนการถนอมเสื้อผาใหสามารถ ใชงานไดยาวนานยิ่งขึ้น” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือกกางเกงยีนใหเหมาะสมกับรูปราง ใหนักเรียนฟงวา การเลือกกางเกงยีนควรพิจารณาใหเหมาะสมกับรูปราง เชน ผูที่มีชวงขาสั้น ควรเลือกกางเกงยีนทรงตรง หรือทรงกระบอก จะชวยพราง ตาใหขาดูยาวขึ้น ควรหลีกเลี่ยงกางเกงยีนสามสวน เพราะจะทําใหขาดูสั้นลง ผูที่มีสะโพกใหญ ควรเลือกกางเกงยีนที่มีกระเปาหลัง จะชวยพรางบั้นทายให ดูเล็กลง และควรเลือกที่มีตะเข็บยาวลงมา เพราะจะทําใหขาดูเรียวยาวมากขึ้น ผูที่มีบั้นทายแบนราบ ควรเลือกกางเกงยีนที่มีลายเสนโคง สีสวาง จะชวยเนน สัดสวนใหดูชัดเจนยิ่งขึ้น ควรหลีกเลี่ยงกางเกงยีนทรงตรง เพราะจะทําให บั้นทายแบบราบลงไปอีก ทั้งนี้ ความยาวของขากางเกงก็มีสวนชวยทําใหขาดูยาว และเพรียวมากขึ้น และที่สําคัญการใสกางเกงยีนควรใสใหพอดีตัว ไมควรใสที่มี ขนาดเล็กกวา เพราะจะทําใหกางเกงปริ ดูอวน เตี้ย ตัน มากขึ้น ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกางเกงขายาว รูปแบบตางๆ ในปจจุบันวามีลักษณะอยางไร กางเกงแตละรูปแบบ มีความเหมาะกับบุคคลที่มีรูปราง สีผิว บุคลิกภาพ กิจกรรม และโอกาสใด โดยใหจัดทําเปนสมุดภาพ ตกแตงใหสวยงาม นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน เลือกตัวแทนกลุม 1 คน เพื่อเปนตนแบบ และรวมกันเลือกแบบกางเกงที่เหมาะสมกับรูปราง สีผิว บุคลิกภาพของเพื่อนที่เปนตนแบบ โดยครูกําหนดลักษณะ ของกางเกงให คือ กางเกงขาสั้น กางเกงขายาว (ผาทั่วไป) และ กางเกงยีน จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายวิธีการเลือกกางเกงประกอบ นํา สอน สรุป ประเมิน T47


ขอสอบเนนการคิด ๒.๔ วิธีการเลือกซื้อเครื่องแต่งกาย เครื่องแต่งกายที่นิยมใช้โดยทั่วไป เช่น รองเท้า กระเป๋า เข็มขัด สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ซึ่ง การเลือกซื้อเครื่องแต่งกายควรเลือกใช้ให้เหมาะสมและซื้อตามความจ�าเป็น ในที่นี้จะขอยกตัวอย่าง การเลือกซื้อเครื่องแต่งกายในบางประเภท ดังนี้ • ผ้าทอตรง ส้นเท้าและปลายเท้าทอแน่นกว่าส่วนอื่น ๆ • ขอบทอผสมยางยืดเส้นเล็ก ยืดหยุ่น กระชับ และทนทาน • เลือกขนาดให้เหมาะสมกับขนาดเท้าและรองเท้า ถ้าเท้ากว้างควรใช้เบอร์ใหญ่ กว่าจะช่วยให้สวมใส่สบายขึ้น • ถุงเท้าผู้ใหญ่มักจะเป็น Free Size ซึ่งสามารถยืดหยุ่นได้ตามขนาดเท้าของ ผู้สวมใส่ • ไม่ยืดจนเสียรูปทรงเมื่อน�าไปซัก • ข้อมือเล็ก ไม่ควรใส่นาฬิกาสายเหล็กและสายหนัง เพราะจะท�าให้ต้องตัดสาย นาฬิกาออก จนอาจท�าให้สายนาฬิกาบิดไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือไม่อยู่ กึ่งกลางของข้อมือ ควรใส่นาฬิกาแบบก�าไลขนาดพอดีกับข้อมือ หน้าปัด สี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือวงรีเล็ก สีของหน้าปัดควรเลือกโทนสีขาว หรือสีครีม เพราะจะช่วยให้ข้อมือดูสว่างขึ้น • ข้อมือใหญ่ สามารถเลือกใส่ได้ทุกแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าปัดแบบ สี่เหลี่ยมผืนผ้า จะท�าให้ข้อมือดูเรียวยาวและสวยงามยิ่งขึ้น • ฝีมือการตัดเย็บมีความละเอียด ประณีต เรียบร้อย พื้นรองเท้าท�าจากวัสดุ อ่อนนุ่ม • มีความแข็งแรง ทนทาน น�้าหนักเบา สวมใส่สบาย • มีความยาวและความกว้างพอเหมาะกับรูปเท้าของผู้สวมใส่ • เมื่อสวมใส่จะต้องแนบกับเท้าทั้ง ๒ ด้าน รวมถึงฝ่าเท้าด้วย • ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อควรทดลองสวมทุกครั้ง เพื่อความสบายและกระชับเท้า • เลือกแบบและวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น รองเท้าใส่กับบ้าน ควร เลือกเป็นรองเท้าแตะที่สวมใส่สบาย • เลือกแบบให้เหมาะสมกับรูปร่าง เช่น รูปร่างสูงใหญ่ ควรเลือกรองเท้าส้นเตี้ย ส่วนรูปร่างอ้วน ควรเลือกรองเท้าส้นสูง นิยมใส่ทั้งหญิงและชาย เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและ ท�าให้เกิดความสวยงามแก่ ผู้สวมใส่ มีทั้งแบบสั้นและ แบบยาว เป็นส่วนหนึ่งของเครื่อง แต่งกายที่มีความจ�าเป็น ส�าหรับทุกเพศ ทุกวัย ใช้ บอกเวลา ช่วยเสริมสร้าง บุคลิกภาพให้กับผู้สวมใส่ ท�ามาจากวัสดุหลายชนิด เช่น หนัง พลาสติก ผ้า ซึ่ง รองเท้าแต่ละชนิดมีราคา และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ถุงเท้า นาฬิกา รองเท้า 42 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 25. ครูใหนักเรียนแตละคนสํารวจตนเองวาใน รางกายของนักเรียนปรากฏเครื่องแตงกาย ชนิดใดบาง ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมา เลาประสบการณเกี่ยวกับการเลือกซื้อเครื่อง แตงกายของตนเองวามีวิธีการอยางไรให เพื่อนฟงหนาชั้นเรียน จากนั้นใหเพื่อนรวม ชั้นเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวาเพื่อน คนดังกลาวมีวิธีการเลือกซื้อเครื่องแตงกาย ที่ถูกตอง เหมาะสมหรือไม อยางไร 26. ครูถามนักเรียนวา • หากตองการเลือกซื้อถุงเทา ควรมีหลัก ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ควรเลือกที่มีขนาด เหมาะสมกับเทาและรองเทา มีความ ยืดหยุนดี สวมใสกระชับ มีความทนทาน ระบายอากาศไดดี) • หากตองการเลือกซื้อรองเทา ควรมีหลัก ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ควรเลือกซื้อรองเทาที่มี ขนาดพอดีกับเทา เหมาะสมกับรูปเทาของ ตนเอง สวมใสสบาย มีนํ้าหนักเบา อากาศ ถายเทไดดี การตัดเย็บประณีต เรียบรอย และมีความทนทาน) • การเลือกซื้อเครื่องแตงกายดวยตนเองมี ประโยชนหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ มีประโยชน เพราะชวยใหไดเครื่อง แตงกายที่มีลักษณะเหมาะสมกับรูปราง บุคลิกภาพ สีผิว เพศ และวัยของตนเอง) ขอใดเปนวิธีการรักษารองเทาที่ไมถูกตอง 1. เก็บรองเทาไวในกลอง หรือในถุงผา 2. นํารองเทาเก็บใสตูทันทีเมื่อกลับถึงบาน 3. ใสที่ยึดรองเทาไว เพื่อใหรองเทาคงรูปทรง 4. นํารองเทาออกมาผึ่งแดดเปนประจํา เพื่อเปนการฆาเชื้อโรค (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะรองเทาอาจมีเหงื่อและ ความชื้น ซึ่งเปนสาเหตุหลักที่กอใหเกิดเชื้อโรคตางๆ ได ดังนั้น ควรวางรองเทาทิ้งไวบริเวณดานนอกกอน 1 วัน โดยจะตองปลอย รองเทาใหแหงกอน แลวจึงทําความสะอาดรองเทา กอนนําไปเก็บ เขาตูใหเรียบรอย) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใสถุงเทาใหนักเรียนฟงวา การใสถุงเทา ไมควรใสซํ้า เพราะจะทําใหเกิดการอับชื้น ซึ่งเปนสาเหตุสําคัญของการเกิด กลิ่นเทาและการเกิดเชื้อราที่เทา หลังจากสวมใสถุงเทาแลว ควรถอดผึ่งไว โดยแยกจากเสื้อผาชนิดอื่น เพื่อปองกันไมใหกลิ่นติดเสื้อผาชิ้นอื่น ในการซักถุงเทา ควรนําถุงเทาไปแชในนํ้าผงซักฟอก แลวซักใหสะอาด โดยแยกซักเฉพาะถุงเทา เทานั้น ไมควรนําไปซักรวมกับเสื้อผาชนิดอื่น แลวผึ่งใหแหง นักเรียนควรรู 1 รองเทา การดูแลรองเทาหนัง ใหใชผานุมสะอาดเช็ดรองเทากอน แลวปาย นํ้ายาขัดรองเทาในลักษณะวนเปนวงใหทั่ว ใชแปรงเนื้อนุมขัดเบาๆ ใชผานุม สะอาดเช็ดเบาๆ อีกครั้ง แลวนําไปผึ่งแดดทุกสัปดาห เพื่อปองกันความอับชื้น นํา สอน สรุป ประเมิน T48


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน ล าดับที่ ชื่อ-สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ขอสอบเนน การคิด การแต่งกายให้สวยงามและเหมาะสมกับบุคลิกภาพ ผู้สวมใส่จ�าเป็นต้องค�านึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น รูปร่าง วัย สีผิว บุคลิกภาพ โอกาสที่จะสวมใส่ รวมทั้งเลือกเครื่องประกอบการแต่งกาย ให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ ซึ่งควรที่จะพิจารณาและเลือกซื้ออย่างละเอียดรอบคอบ • ฝีมือการตัดเย็บประณีต เรียบร้อย มีความแข็งแรง ทนทาน • สีของกระเป๋า ควรเลือกให้เข้ากับสีของเสื้อผ้าที่สวมใส่ • เลือกแบบให้เหมาะสมกับโอกาสที่ใช้ ซึ่งจะช่วยประหยัดรายจ่าย • กระเป๋าที่มีสายสะพาย หรือกระเป๋าหูหิ้ว จะต้องมีความแข็งแรง ทนทาน • เลือกแบบให้เหมาะสมกับรูปร่าง เช่น รูปร่างสูงใหญ่ ไม่ควรเลือกกระเป๋า ใบใหญ่จนเกินไป • มีขนาดพอเหมาะ บรรจุของที่ต้องใช้โดยกระเป๋าไม่เสียรูปทรง • มีซิปและมีช่องจัดเก็บสิ่งของต่างๆ เพื่อสะดวกในการจัดเก็บและการหยิบใช้ • เลือกแบบของหมวกให้เหมาะสมกับโอกาสที่ใช้ รวมถึงเวลาและฤดูกาลร่วมด้วย • เลือกให้เหมาะสมกับรูปหน้า เช่น ใบหน้ากลม ควรเลือกหมวกที่มีปีกกว้าง จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น • เลือกให้เหมาะสมกับทรงผม เช่น มัดผม หรือมวยต�่า ควรสวมหมวก แบบ Fedora มัดหางม้าต�่า ควรสวมหมวกแบบ Newsboy • เลือกให้เหมาะสมกับสีผิว เช่น ผิวขาวและผมสีด�าธรรมชาติ ควรเลือกหมวก สีสว่างๆ จะช่วยขับใบหน้าให้ดูสดใสและโดดเด่นยิ่งขึ้น • เลือกโทนสีของเข็มขัดให้มีความใกล้เคียงกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ • ความยาวของสายเข็มขัดควรเหลือปลายเข็มขัดออกมาประมาณ ๑-๒ นิ้ว • ไม่ควรเลือกหัวเข็มขัดที่ดูใหญ่ ควรเลือกสีของหัวเข็มขัดให้เข้ากับเครื่องประดับ ที่สวมใส่อยู่ • เลือกเข็มขัดให้มีรูปแบบเหมาะสมกับรูปร่าง เช่น ช่วงตัวหนาและกว้าง ไม่ควร เลือกเข็มขัดที่มีสีโทนเข้มและมีสายเข็มขัดกว้างกว่าปกติ • สายของเข็มขัดควรเป็นสีเข้ม เพราะจะช่วยให้รูปร่างของผู้สวมใส่มีลักษณะ ที่เพรียวบางมากกว่าเข็มขัดสีอ่อน • ต้องผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพดี หนังนุ่ม ยืดหยุ่นได้ดี การตัดเย็บประณีต เรียบร้อย • ควรเลือกหัวเข็มขัดแบบเรียบ เพราะสามารถน�ามาใช้ในโอกาสส�าคัญต่างๆ ได้ มากกว่าหัวเข็มขัดที่ตกแต่งมาก ๆ มีหลายขนาด มีรูปร่าง และสีที่แตกต่างกัน เช่น กระเป๋าสะพาย กระเป๋า หนีบ กระเป๋าหูหิ้ว สิ่งที่ใช้สวมบนศีรษะเพื่อ ป้องกันแดด ลม ฝน ท�าจาก วัสดุหลากหลายชนิด มีให้เลือกหลายรูปแบบ หลายขนาด แล้วแต่ความ เหมาะสมในการใช้งาน เป็นองค์ประกอบส�าคัญ ในการแต่งกายและมี ส่วนช่วยในการเสริมสร้าง บุคลิกภาพให้แก่ผู้สวมใส่ กระเป๋าถือ หมวก เข็มขัด เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 43 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ • หากตองการเลือกซื้อกระเปา ควรมีหลัก ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ควรเลือกแบบที่เหมาะสม กับรูปรางของตนเอง มีขนาดพอเหมาะ สามารถบรรจุของไดโดยไมเสียรูปทรง มีความแข็งแรง ทนทาน) ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู ความเขาใจ 27. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 3.1.2 เรื่อง การเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่องแตงกาย ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การเลือกใช เสื้อผาและเครื่องแตงกาย 3. ครูตรวจสอบใบงานที่ 3.1.2 เรื่อง การเลือกซื้อ เสื้อผาและเครื่องแตงกาย 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน การสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การ เลือกใชเสื้อผาและเครื่องแตงกายและการซื้อ เสื้อผาและเครื่องแตงกาย 2. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน จากการนําเสนอผลการวิเคราะห วิจารณ และการสรุปความรู บุคคลในขอใดทําความสะอาดเข็มขัดหนังไดเหมาะสมมากที่สุด 1. พิมใชแอลกอฮอลเช็ดสายเข็มขัด แลวนําไปผึ่งแดดใหแหง 2. พลอยใชผงซักฟอกและแปรงซักผาขัดคราบสกปรก แลวนําไป ผึ่งลม 3. แพรใชนํ้าสบูกับผานุมเช็ดทําความสะอาด แลวใชผาแหงเช็ด ซํ้าอีกครั้ง 4. เพลงใชครีมทาผิวทาและใชแปรงสีฟนขัด นําไปลางนํ้า แลวผึ่งแดดใหแหง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการทําความสะอาดเข็มขัดหนัง ใหถูกตอง ควรใชผานุมกับนํ้าสบูออนๆ เช็ดทําความสะอาด แลวใชผานุมสะอาดเช็ดซํ้าอีกครั้ง และควรหลีกเลี่ยงการใชครีม นํ้ายาขัดเงาที่ไมใชสําหรับขัดเครื่องหนัง เพราะมีฤทธิ์เปนกรด สงผลทําใหหนังเข็มขัดเกิดความเสียหายได) แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 นํา สอน สรุป ประเมิน T49


ขอสอบเนนการคิด ó การซอมแซม ตกแตง และดัดแปลงเสื้อผา การซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงเสื้อผ้า เป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้เสื้อผ้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ สามารถใช้งานได้ตามปกติ รวมถึงท�าให้เสื้อผ้าดูสวยงาม มีความแปลกใหม่ และน่าสวมใส่มากยิ่งขึ้น ซึ่งมีหลักเกณฑ์ ดังนี้ ค�านึงถึงผู้ใช้ เมื่อซ่อมแซม ตกแต่ง และ ดัดแปลงเสื้อผ้าแล้ว ผู้ใช้ยินดี ที่จะสวมใส่หรือไม่ ค�านึงถึงอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช้ พิจารณาว่ามีอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ พร้อมส�าหรับการ ซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลง หรือไม่ ค�านึงถึงเวลา พิจารณาว่าต้องใช้เวลามาก น้อยเพียงใดในการซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงเสื้อผ้า เมื่อแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใช้ต่อไปได้อีกนานหรือไม่ ค�านึงถึงสภาพวัสดุที่ต้องการซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลง พิจารณาว่ามีเสื้อผ้าเก่า หรือเสื้อผ้าที่ช�ารุดพอที่จะน�ามาซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงใหม่ตามที่ต้องการหรือไม่ ค�านึงถึงค่าใช้จ่าย หรืองบประมาณว่าคุ้มค่ากับ เงินที่จ่ายไปในการซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงหรือไม่ T i p วิธีการเย็บซ่อมแซมผ้า การซ่อมแซมเสื้อผ้า จ�าเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเย็บผ้าเบื้องต้น เพื่อน�าไปพิจารณาเลือก วิธีการซ่อมแซมเสื้อผ้าได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการเย็บผ้ามีอยู่หลายวิธี เช่น ๑. การเนา เป็นการเย็บผ้าด้วย มือให้ติดกันชั่วคราว เพื่อการเย็บ ถาวร หรือการสอย เช่น การเนา ตะเข็บ การเนาชายเสื้อ การเนา ชายกระโปรง ๒. การสอย เป็นการเย็บผ้าด้วย มือที่มองเห็นรอยเย็บด้านนอก น้อยที่สุด นิยมใช้สอยชายเสื้อ ชายกระโปรง ปลายขากางเกง หรือชายผ้าอื่น ๆ ที่ต้องการความ ประณีต สวยงาม ๓. การด้น เป็นการเย็บผ้าด้วย มือที่ใช้แทนการเย็บด้วยจักร รอยที่เย็บจะมีความทนทานมาก นิยมน�ามาใช้ในการเย็บผ้า ๒ ชิ้น ให้ติดกัน การเนาแบบเท่ากัน การสอยฟันปลา การด้นตะลุย 44 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 5 กลุม กลุมละ เทาๆ กัน ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทน กลุมละ 1 คน ออกมาจับสลาก เพื่อจัดทําโครงงาน ในหัวขอที่ไดรับ คือ การซอมแซมเสื้อผา การ ตกแตงเสื้อผา การดัดแปลงเสื้อผา การตัดเย็บ เสื้อผา และการตัดเย็บของใชภายในบาน ขั้นนํา (แบบใชโครงการเปนฐาน) ขั้นที่ 1 ขั้นใหความรูพื้นฐาน 1. ครูอธิบายใหนักเรียนฟงวา “ในอดีตคนไทย สวนใหญนิยมสวมใสชุดที่ตัดเย็บจากผาไทย เชน ผาไหม ผาซิ่น ผาฝาย เพราะเปนผาที่ผลิตขึ้น ในทองถิ่น เนื้อผาสวมใสสบาย เหมาะสมกับ สภาพภูมิอากาศของประเทศ รูปแบบและ รูปทรงของเสื้อผาจะมีลักษณะที่สุภาพ เรียบรอย สามารถสวมใสไดทุกสถานที่ แตในปจจุบัน เกิดการแพรหลายทางวัฒนธรรมที่มากขึ้น จึงสงผลใหรูปแบบของการแตงกายเปลี่ยนแปลง ไปจากเดิม” ขั้นที่ 2 ขั้นกระตุนความสนใจ 2. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับวิธีการซอมแซม ตกแตง ดัดแปลง ตัดเย็บเสื้อผาและของใช ภายในบานใหนักเรียนดู จากนั้นครูถาม นักเรียนวา • การซอมแซมสิ่งของเครื่องใชตางๆ ภายใน บานที่ไดชมไปนั้น นักเรียนคิดวา ผูปฏิบัติงาน ปฏิบัติไดถูกตองและปลอดภัยหรือไม (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) ขอใดเปนการกระทําที่ไมเหมาะสมในการเย็บกระดุมติดกับตัวเสื้อ 1. เย็บกระดุมติดกับตัวเสื้อใหดายตึง 2. ใชเศษผารองใตผาใหตรงกับตําแหนงกานกระดุม 3. ใชเข็มแทงรูกระดุมขึ้น-ลงทุกรู ประมาณ 2-3 ครั้ง 4. ใชชอลกเขียนผาทําเครื่องหมายตําแหนงที่ตองการติดกระดุม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะการเย็บกระดุมติดกับตัวเสื้อ ดวยดายที่ตึงเกินไปจะทําใหเสื้อยน และตําแหนงกระดุมกับ รังกระดุมอาจคลาดเคลื่อนกัน สงผลใหเสื้อไมสวยได) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการซอมแซมเสื้อผาดวยวิธีการสอยใหนักเรียน ฟงวา การสอยเปนวิธีการซอมแซมเสื้อผาที่ชํารุดบริเวณรอยพับปลายแขนเสื้อ ชายกระโปรง ปลายขากางเกง โดยการเย็บสวนที่ขาดใหติดกัน แตจะไมปรากฏ รอยเย็บใหเห็น จะเห็นเปนเพียงรอยจุดเล็กๆ อยูหางกันเปนระยะๆ ที่ผาดานนอก เทานั้น ซึ่งการสอยมีอยูดวยกันหลายวิธี เชน การสอยซอนดาย ใชสําหรับสอย ชายเสื้อ สอยปลายแขนเสื้อ สอยชายกระโปรง สอยชายกางเกง เปนการสอย ที่มองเห็นเสนดายเพียงเล็กนอยเทานั้น การสอยฟนปลา ใชสําหรับสอยผายืดและ ผาเนื้อหนาที่ริมผาไมรุย โดยไมตองพับริมผากอนสอย เปนการสอยที่มองเห็น เสนดายดานในที่มีลักษณะไขวหักมุม การสอยพันใชสําหรับสอยชายกางเกง เปนการสอยที่มองเห็นเสนดายทางดานในมากกวาดานนอก นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T50


ขอสอบเนน การคิด การซ่อมแซม กระเป๋าเสื้อ ขาด ๓.๑ การซ่อมแซมเสื้อผ้า การซ่อมแซมเสื้อผ้า เป็นการซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ช�ารุดให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ เช่น การซ่อมแซมปลายแขน การซ่อมแซมชายเสื้อและชายกระโปรง ยกตัวอย่างการซ่อมแซมเสื้อผ้า ง่าย ๆ ด้วยตนเอง มีดังนี้ ขั้นตอนการซอมแซม ๑. ตรวจสอบว่าเป็นรอยขาดแบบใด หากเนื้อผ้าขาด หายไปให้ปะรอยขาดให้เรียบร้อยก่อน ใช้เข็มหมุด กลัดกระเป๋าติดกับตัวเสื้อให้แน่น หรือใช้วิธีการเนา ตามแนวเย็บแทนได้ ๒. ใช้เข็มสอยเย็บด้วยวิธีการด้นถอยหลัง หรือใช้ จักรเย็บตามแนวเย็บเดิม ตัดด้ายออกให้เรียบร้อย น�าไปรีดให้เรียบ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. เข็มสอย/เข็มหมุด ๒. ด้ายสีเดียวกับผ้า หรือสีใกล้เคียง ๓. กรรไกรตัดผ้า ๑ 2 45 เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการซอมแซมเสื้อผาใหนักเรียนฟงวา กอน ลงมือปฏิบัติการซอมแซมเสื้อผาดวยตนเอง นักเรียนควรฝกการตัดเย็บเบื้องตน เพื่อนํามาใชเปนพื้นฐานในการซอมแซมเสื้อผาที่ชํารุด โดยใชผาดิบ หรือเศษผา เหลือใชที่เปนสีพื้นมาทําการฝก ซึ่งการตัดเย็บมีอยูดวยกันหลายวิธี เชน การเนา ไดแก การเนาตะเข็บเทา เปนการเย็บตะเข็บเทากันตลอดทั้งดานหนาและ ดานหลัง โดยฝเข็มจะถี่และหางสลับกันประมาณ 1 2 นิ้ว การเนาตะเข็บไมเทา เปนการเย็บที่ฝเข็มจะถี่และหางสลับกัน โดยฝเข็มหางอยูดานหนา มีความยาว ประมาณ 1 2 นิ้ว ฝเข็มถี่อยูดานหลัง มีความยาวประมาณ 1 2 นิ้ว การดน ไดแก การดนตะลุย ฝเข็มจะมีลักษณะเหมือนกับตะเข็บเนาเทา แตจะมีระยะที่ถี่ มากกวาการดนถอยหลัง ดานหนาฝเข็มจะเหมือนตะเข็บที่เย็บดวยจักร สวน ดานหลังดายเย็บจะซอนกันแนน หากกระเปาเสื้อมีรอยขาดเปนรู ควรเริ่มตนซอมแซมดวย ขั้นตอนใดกอนเปนลําดับแรก 1. ปะรอยขาดที่เปนรูดวยเศษผา 2. เนากระเปาที่ขาดใหติดกับตัวเสื้อ 3. พับริมแลวเย็บรูที่ขาดติดกับตัวเสื้อ 4. ใชชอลกเขียนผาขีดตรงตําแหนงที่ตองการเย็บ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะหากพบวากระเปาเสื้อขาด เปนรู ควรเริ่มตนซอมแซมดวยขั้นตอนการปะรอยขาดที่เปนรูดวย เศษผากอนเปนลําดับแรก จากนั้นจึงเนากระเปาใหติดกับตัวเสื้อ ใหเปนแนว เพื่อจะไดเย็บดวยฝเข็มของจักร) ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 2. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับวิธีการซอมแซมเสื้อผา ใหนักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนวา • นักเรียนเคยซอมแซมเสื้อผาดวยตนเอง หรือไม หากเคย ซอมแซมสิ่งใดและซอมแซม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เคยซอมแซมชายกระโปรง นักเรียนที่ขาดหลุดรุยดวยวิธีการสอย) 3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา เรื่องการซอมแซมเสื้อผา จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือศึกษาเพิ่มเติมจาก อินเทอรเน็ต 4. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซอมแซม เสื้อผา จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรู ที่ 3 5. ครูนําเสื้อที่กระเปาเสื้อชํารุด พรอมทั้งอุปกรณ ในการซอมแซมเสื้อผามาใหนักเรียนดู เพื่อ ทําการสาธิตวิธีการซอมแซมเสื้อที่กระเปาเสื้อ ชํารุด เพื่อใหสามารถกลับมาใชงานไดตาม ปกติ 6. ครูแจกอุปกรณในการซอมแซมเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณในการซอมแซมเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการซอมแซม เสื้อที่กระเปาเสื้อชํารุดใหนักเรียนดูอยางละเอียด โดยครูใหนักเรียนแตละกลุมปฏิบัติตามใน แตละขั้นตอนอยางพรอมเพรียงกัน 7. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ซอมแซมของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน นํา สอน สรุป ประเมิน T51


๑ 2 3 การซ่อมแซม ขั้นตอนการซอมแซม ๑. ตรวจสอบว่าเป็นรอยขาดแบบใด หากเนื้อผ้าขาดหายไปให้ใช้เศษผ้า มาปะแนวตะเข็บที่ขาดก่อน เย็บติดกันให้แน่น ตัดเศษผ้าที่ปะให้เสมอ ริมผ้ากางเกง ใช้กรรไกรตัดชายผ้าที่หลุดลุ่ยออกให้เรียบร้อย ๒. พลิกกางเกงกลับด้านใน ใช้เข็มหมุดกลัดบริเวณเป้ากางเกงที่ขาด ให้ติดกัน หรือใช้วิธีการเนาตามแนวเย็บแทนได้ ๓. ใช้เข็มสอยเย็บด้วยวิธีการด้นถอยหลัง หรือใช้จักรเย็บตามแนวเย็บเดิม และกันรุ่ยริมตะเข็บให้เรียบร้อย พลิกกางเกงกลับด้านนอก เพื่อตรวจดู ความเรียบร้อยอีกครั้ง วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. เข็มสอย/เข็มหมุด ๒. ด้ายสีเดียวกับผ้า หรือสีใกล้เคียง ๓. กรรไกรตัดผ้า เปากางเกง ขาด 4๖ 1 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 8. ครูนํากางเกงที่เปากางเกงชํารุด พรอมทั้ง อุปกรณในการซอมแซมเสื้อผามาใหนักเรียนดู เพื่อทําการสาธิตวิธีการซอมแซมกางเกงที่ เปากางเกงชํารุด เพื่อใหสามารถกลับมาใชงาน ไดตามปกติ 9. ครูแจกอุปกรณในการซอมแซมเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณในการซอมแซมเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการซอมแซม กางเกงที่เปากางเกงชํารุด ใหนักเรียนดูอยาง ละเอียด โดยครูกําหนดใหนักเรียนแตละกลุม ปฏิบัติตามในแตละขั้นตอนอยางพรอมเพรียงกัน 10. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ซอมแซมของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน 11. ครูอธิบายเพื่อเปนการสรุปความรูใหนักเรียน เขาใจวา “การซอมแซมเสื้อผา เปนการแกไข เสื้อผาที่ชํารุดใหอยูในสภาพที่สามารถใชงาน ไดตามปกติ อาจทําการซอมแซมดวยมือ หรือ อาจซอมแซมโดยการใชจักรก็ได ขึ้นอยูกับ ลักษณะของรอยชํารุดและเครื่องมือที่มีอยู อยางเหมาะสม เพื่อใหไดชิ้นงานที่มีคุณภาพ ซึ่งควรเลือกวิธีการซอมแซมใหเหมาะสมกับ สวนที่ชํารุด” 12. ครูถามนักเรียนวา • จากการฝกซอมแซมเสื้อที่กระเปาเสื้อชํารุด และกางเกงที่เปากางเกงชํารุด นักเรียน คิดวาตนเองสามารถซอมแซมงานในลักษณะ อื่นๆ ไดหรือไม (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) เกร็ดแนะครู ครูควรแนะนําใหนักเรียนฝกปฏิบัติการซอมแซมเสื้อผาดวยตนเอง ซึ่งอาจ เปนเสื้อผาของตนเอง หรือเสื้อผาของสมาชิกในครอบครัว โดยเลือกเสื้อผา ที่เกิดการชํารุดเสียหายมาทําการซอมแซม พรอมทั้งจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณที่ใช ในการซอมแซมเสื้อผาใหพรอม เชน เข็มสอย เข็มหมุด ดายสีเดียวกับผา หรือ สีใกลเคียง กรรไกรตัดผา จากนั้นปฏิบัติการซอมแซมเสื้อผาที่ชํารุด โดยมีครู เปนผูคอยใหคําแนะนําและเนนยํ้าใหนักเรียนใชงานอุปกรณตางๆ ในการ ซอมแซมเสื้อผาอยางระมัดระวัง เพื่อใหเกิดความปลอดภัย ใหนักเรียนศึกษาคนควาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการซอมแซม เสื้อผาในลักษณะตางๆ ที่นอกเหนือจากที่ไดศึกษาในหนังสือเรียน จัดทําเปนรูปเลมรายงาน สงครูผูสอน กิจกรรม สรางเสริม ใหนักเรียนนําเสื้อผาที่เกิดการชํารุดเสียหายมาทําการซอมแซม โดยออกแบบวิธีการซอมแซมดวยตนเอง เชน การซอมแซม รอยขาดของกระเปากางเกงดวยเศษผาหลากสี โดยใชความคิด ริเริ่มสรางสรรคในการซอมแซมเสื้อผาใหออกมามีรูปแบบสวยงาม มีความแปลกใหม จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายแนวคิดในการออกแบบวิธีการ ซอมแซมเสื้อผาที่ชํารุดของตนเอง นักเรียนควรรู 1 กรรไกรตัดผา ควรเลือกที่ทําดวยเหล็กที่มีคุณภาพดี มีความคมตั้งแตโคน ถึงปลายกรรไกร ไมควรนําไปตัดวัสดุอื่นๆ ใชสําหรับตัดผาเพียงอยางเดียว นํา สอน สรุป ประเมิน T52


ขอสอบเนน การคิด ๓.๒ การตกแต่งเสื้อผ้า เสื้อผ้าที่สวมใส่จะมีความล้าสมัยไปตามกาลเวลา ท�าให้ต้องมีการตกแต่งเสื้อผ้า เพื่อท�าให้ เสื้อผ้านั้นดูทันสมัย มีความแปลกใหม่ และสวยงามมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการประหยัด ค่าใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่ ซึ่งวิธีการตกแต่งเสื้อผ้าจะแตกต่างกันไปตามความคิดสร้างสรรค์ ของแต่ละบุคคล ดังนี้ การปัก เป็นการตกแต่งเสื้อผ้า โดยใช้วัสดุ ต่างๆ มาเย็บลงบนผ้า เพื่อให้ เกิดลวดลายที่สวยงาม ซึ่งมีทั้ง การปักด้วยไหม ด้าย และวัสดุ อื่น ๆ เช่น เปลือกหอย ลูกปัด เมล็ดพืชแห้ง การปะ เป็นการน�าผ้า หรือวัสดุอื่น ๆ ที่มี ลวดลาย หรือต้องการให้เกิด ลวดลายมาวางทับเสื้อผ้า และ ปกริม โดยวิธีใดวิธีหนึ่งตาม ต้องการท�าให้ผ้า ๑ ชิ้น มีลวดลาย ที่แตกต่างกันออกไป การกุ๊น เป็นการน�าผ้าเฉลียงมาเย็มมุม ริมผ้า เพื่อให้เกิดลวดลายที่ สวยงาม รวมถึงเป็นการเก็บ ริมผ้าให้มีความเรียบร้อย ซึ่ง สามารถพบเห็นได้จากของใช้ ทั่ว ๆ ไป เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 47 การปัก 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 13. ครูนําผลงานการตกแตงเสื้อผาในลักษณะตางๆ มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนวา • ที่บานของนักเรียนมีผลงานในลักษณะนี้ บางหรือไม หากมี เปนผลงานใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน หมอน กระเปา เสื้อ ผากันเปอน ถุงมือไมโครเวฟ ผาคลุมตูเย็น) • นักเรียนเคยสรางสรรคผลงานในลักษณะนี้ บางหรือไม (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เคยสรางสรรคผลงาน ในลักษณะนี้ โดยใชวิธีการปกกับปกของ เสื้อเชิ้ต) • การตกแตงเสื้อผามีประโยชนอยางไร (แนวตอบ ทําใหเสื้อผามีความสวยงาม มีความแปลกตา และดูทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังชวยประหยัดคาใชจาย ในการซื้อเสื้อผาตัวใหมอีกดวย) 14. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา เรื่อง การตกแตงเสื้อผา จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือศึกษาเพิ่มเติมจาก อินเทอรเน็ต 15. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ตกแตงเสื้อผา จาก PowerPoint ม.5 หนวย การเรียนรูที่ 3 16. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การตกแตงเสื้อผาเปน วิธีการที่ทําใหเสื้อผามีความแปลกใหมและ สวยงามมากยิ่งขึ้น ดวยวิธีการปก การปะ และการกุน ผูปฏิบัติงานสามารถนําความคิด สรางสรรคของตนเองมาใชในการปฏิบัติงาน ไดอยางอิสระ ชวยประหยัดคาใชจายในการ ซื้อเสื้อผาไดอีกทางหนึ่ง” วัตถุประสงคสําคัญของการตกแตงเสื้อผาดวยวิธีการกุนคือสิ่งใด (แนวตอบ การกุนมีวัตถุประสงคสําคัญ คือ เพื่อเก็บริมผาใหเกิด ความเรียบรอย โดยเฉพาะในสวนที่โคงและเวา เชน คอเสื้อ และ เพื่อความสวยงาม ใชเปนสวนตกแตงทําใหชายผาไมรุย ซึ่งการ กุนผามี 2 แบบ คือ การกุนผาตามแนวโคง เชน ผาที่ตัดเปน วงกลม เวลาเย็บไมควรดึงผา ควรใชวิธีเนากอน โดยใหริมผากุนกับ แนวโคงของชิ้นงานเสมอกัน และการกุนผาที่เวา เชน คอเสื้อ ใหดึงผาเฉลียงเล็กนอย จะทําใหแนวกุนกระชับกับสวนเวา ซึ่งจะ ทําใหไดผลงานที่สวยงามมากยิ่งขึ้น) นักเรียนควรรู 1 การปก เปนการตกแตงเสื้อผา โดยการนําวัสดุตางๆ มาเย็บลงบนผา เพื่อใหเกิดลวดลายที่สวยงาม แบงออกเปน 2 ลักษณะ คือ • การปกดวยไหม หรือดาย มีทั้งการปกดวยมือและการปกดวยจักร หากใช จักรแบบธรรมดาจําเปนตองอาศัยความชํานาญเปนอยางมากจึงจะสามารถปกได อยางสวยงามและประณีต แตในปจจุบันสามารถทําไดโดยการใชจักรอัตโนมัติ ซึ่งมีราคาสูงกวาจักรธรรมดา สวนการปกดวยมือเปนการปกที่งาย มีขั้นตอนที่ ไมยุงยาก และสามารถเลือกปกลวดลายที่ตองการได ซึ่งมีอยูดวยกันหลายวิธี เชน การปกเดินเสน การปกไขว การปกโซ การปกทึบ การปกจุดกลม การปก คัตเวิรก • การปกดวยวัสดุอื่นๆ ปจจุบันนิยมนําวัสดุอื่นๆ มาทําเปนลวดลายบนผา เชน ใชเลื่อมปกชุดราตรี นอกจากนี้ ยังมีการนําเปลือกหอย กระดูกสัตว ลูกปด เมล็ดพืชแหงมาใชอีกดวย จึงสงผลทําใหเกิดลวดลายที่สวยงามแปลกตา นํา สอน สรุป ประเมิน T53


ขอสอบเนนการคิด การตกแต่ง ขั้นตอนการตกแตง ๑. ใช้ดินสอร่างภาพตามต้องการลงบนกระโปรง โดยวาดเป็นเส้นบาง ๆ ๒. ร่างภาพตามต้องการลงบนกระโปรงให้เต็มพื้นที่ โดยวาดเก็บรายละเอียด ที่ต้องการให้ครบ ๓. ใช้สีอะคริลิกส�าหรับเพนต์ผ้าระบายสีตามต้องการลงบนกระโปรงให้เรียบเนียน ๔. ใช้สีขาวระบายทับสีพื้น เพื่อให้สีดูอ่อนลงและภาพมีมิติเพิ่มมากขึ้น ทิ้งไว้ ให้แห้ง น�าไปรีดโดยใช้ผ้าปูทับบริเวณที่วาดภาพ จากนั้นจึงน�าไปซักให้ เรียบร้อย วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. กระโปรง ๒. สีอะคริลิกส�าหรับ เพนต์ผ้า ๓. พู่กัน/จานสี ๔. ดินสอ ๑ 2 3 4 เขียนสีบน กระโปรง 4๘ ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 17. ครูนํากระโปรง พรอมทั้งอุปกรณในการตกแตง มาใหนักเรียนดู เพื่อทําการสาธิตวิธีการตกแตง กระโปรงดวยวิธีการเขียนสี 18. ครูแจกอุปกรณในการตกแตงเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณในการตกแตงเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการตกแตง กระโปรงดวยวิธีการเขียนสีใหนักเรียนดูอยาง ละเอียด โดยครูกําหนดใหนักเรียนแตละกลุม ออกแบบผลงานดวยตนเองจากอุปกรณที่มี อยางสรางสรรค 19. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ตกแตงของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน 20. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการใช สีอะคริลิกใหนักเรียนฟงวา “สีอะคริลิกเปน สีที่แหงเร็ว ติดทนนาน จึงนิยมนํามาใชใน การเพนตลงบนวัสดุตางๆ อยางมากมาย เชน ผา รองเทาผา จานเซรามิก โลหะ พลาสติก ไม เทคนิคสําคัญในการใชสีอะคริลิก คือ ควรเลือกใชพูกันสังเคราะห เพราะจะชวย อุมนํ้าไดดีกวาพูกันขนสัตว ชวยใหสีแหงชาลง ใชพูกันเบอรใหญระบายสีบริเวณที่วาง จะชวย ประหยัดเวลาในการระบายสี ใชวิธีการระบายสี แบบเปนเลเยอรในบริเวณสําคัญกอน แลว จึงกลับมาเก็บรายละเอียดในภายหลัง ใช สเปรยฉีดนํ้าฉีดอยูเสมอ เพื่อปองกันไมให สีแหงเร็วจนเกินไป และผสมนํ้า หรือนํ้ามัน ลงในสีอะคริลิก จะชวยใหสีแหงชาลง” เกร็ดแนะครู ครูแนะนําเกี่ยวกับวิธีการตกแตงเสื้อใหสวยงามใหนักเรียนฟงวา การตกแตง เสื้อผา เปนวิธีการที่ทําใหเสื้อผามีความสวยงามและแปลกใหม ซึ่งนอกเหนือจาก การปก การปะ และการกุนแลว นักเรียนสามารถนําวัสดุอื่นๆ มาใชในการตกแตง เสื้อผา เพื่อใหเกิดความสวยงามได เชน การใชเครื่องประดับในการตกแตง เชน การติดเข็มกลัด การตกแตงบริเวณใดบริเวณหนึ่งของเสื้อ เชน ปกเสื้อ กระเปาเสื้อ การใชวัสดุชนิดอื่นๆ ติดเพิ่มไปกับตัวเสื้อ เชน การติดผาลูกไมที่ ชายเสื้อ หรือปลายแขนเสื้อ การตกแตงเสื้อผาเพื่อใหเกิดความสวยงาม ควรคํานึงถึงสิ่งใด เปนหลัก (แนวตอบ ในการตกแตงเสื้อผา เพื่อใหเกิดความสวยงาม ควร คํานึงถึงสิ่งสําคัญตางๆ ดังนี้ • การตกแตงตองมีความสัมพันธกับรูปแบบและรูปทรงของเสื้อ เพื่อปองกันไมใหเกิดการรกรุงรัง • วัสดุที่นํามาใชในการตกแตงจะตองมีความกลมกลืนกับ ตัวเสื้อ เพื่อใหเกิดความสอดคลองกลมกลืนกัน • จะตองมีความสวยงาม มีเอกภาพ มีความโดดเดน และมีความ นาสนใจกวาแบบเสื้อของเดิม สีมีความเหมาะสม ไมขัดกับ สีเสื้อเดิม • วัสดุที่นํามาใชตกแตงตองมีขนาดเหมาะสมและสัมพันธกับ บริเวณที่ตองการตกแตง เพื่อใหเกิดความสวยงาม กลมกลืน กับตัวเสื้อ) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการตกแตงเสื้อผา ไดที่ https://www.youtube. com/watch?v=mMdYXQQJy90 นํา สอน สรุป ประเมิน T54


การตกแต่ง ขั้นตอนการตกแตง ๑. ตัดเศษผ้ายีนกว้าง ๓ ซม. ยาว ๒๕ ซม. ตัดผ้าลูกไม้กว้าง ๑.๕ ซม. ยาว ๑๕ ซม. อย่างละ ๘ เส้น พับผ้าเป็นทบ ตัดชายผ้าให้เป็น เส้นโค้ง เนาให้เรียบร้อย จากนั้นรูดผ้าเข้าหากัน ขดให้เป็นวงกลม มัดปลายเชือกและเย็บชายผ้าติดกันให้แน่น น�าผ้าลูกไม้ที่ขดแล้ว วางบนเศษผ้ายีนที่ขดเป็นวงกลม เย็บติดกัน โดยเย็บกระดุมไว้ ด้านบน จะได้ดอกไม้ส�าหรับติดเสื้อ ๒. ตัดเศษผ้ายีนเป็นรูปสี่เหลี่ยมกว้าง ๑๓ ซม. ยาว ๑๒ ซม. พับชายผ้า ทั้ง ๔ ด้าน ด้านละ ๑ ซม. โดยสอยผ้าด้านหนึ่งให้เรียบร้อย จากนั้น น�ามาวางบนเสื้อ ใช้เข็มหมุดกลัดให้แน่น เย็บด้วยวิธีการด้นถอยหลัง เพื่อท�าเป็นกระเป๋าเสื้อ ๑ 2 3 4 วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. เสื้อ ๒. เศษผ้ายีน ๓. ผ้าลูกไม้ ๔. เข็มสอย/เข็มหมุด ๕. ด้ายสีเดียวกับผ้า หรือสีใกล้เคียง ๖. กรรไกรตัดผ้า ๗. ชอล์กเขียนผ้า ๘. สายวัด ๙. กระดุม ๓. น�าผ้าลูกไม้มาวางทาบบริเวณ กระเป๋าและตัวเสื้อ ใช้เข็มหมุด กลัดให้แน่น เย็บด้วยวิธีการด้น ถอยหลัง หรือใช้จักรเย็บแทน ๔. วางต�าแหน่งดอกไม้บริเวณ คอเสื้อ โดยใช้ชอล์กเขียนผ้า ก�าหนดจุดที่ต้องการเย็บ จากนั้นเย็บดอกไม้ให้ติดกับ คอเสื้อให้แน่น แต่งเสื้อ ด้วยดอกไม้ 49 ๗. ชอล์กเขียนผ้า ๘. สายวัด 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 21. ครูนําเสื้อแขนกุด พรอมทั้งอุปกรณในการ ตกแตงมาใหนักเรียนดู เพื่อทําการสาธิต วิธีการตกแตงเสื้อดวยดอกไม 22. ครูแจกอุปกรณในการตกแตงเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณตกแตงเสื้อผาครบแลว ครูทํา การสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการตกแตงเสื้อ ดวยดอกไมใหนักเรียนดูอยางละเอียด โดยครู กําหนดใหนักเรียนแตละกลุมออกแบบผลงาน ไดดวยตนเองจากอุปกรณที่มีอยางสรางสรรค 23. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ตกแตงของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน 24. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทําดอกไม จากเศษผาใหนักเรียนฟงวา “เศษผาที่ เหลือใชสามารถนํามาประดิษฐเปนดอกไมได หลากหลายรูปแบบ ซึ่งนักเรียนสามารถศึกษา เพิ่มเติมเกี่ยวกับการประดิษฐดอกไมจาก เศษผาผานทางเว็บไซตตางๆ เชน • https://www.youtube.com/ watch?v=paDYqUmke3A • https://www.youtube.com/ watch?v=wPzi-RtDJao • https://www.youtube.com/ watch?v=MugeskrvIM0 เพื่อนํามาใชเปนแนวทางในการสรางสรรค ผลงานของตนเอง ใหเกิดความสวยงามและ มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น” นักเรียนควรรู 1 ชอลกเขียนผา มีลักษณะเปนแทงสามเหลี่ยม มี 4 สี ไดแก สีเหลือง สีฟา สีชมพู และสีขาว ในการใชงานตองระมัดระวังมากเปนพิเศษเนื่องจากเปราะบาง และแตกหักไดงาย นํามาใชในการขีดเพื่อทําเครื่องหมายบนผา หรือทําแบบ บนผา หลังจากใชงานเสร็จควรเก็บลงในกลองอุปกรณใหเรียบรอย 2 สายวัด เปนเสนยาว 60 นิ้ว และ 150 เซนติเมตร ปลายหุมดวยโลหะ มีขีด แบงไวมองเห็นชัดเจน ซึ่งควรเลือกชนิดที่มีมาตรวัดทั้งนิ้วและเซนติเมตรอยู ในหนาเดียวกัน เพราะจะชวยใหเกิดความสะดวกสบายในการวัดตัว ไมควร ใชสายวัดผูกเอว หรือผูกสิ่งของ เพราะจะทําใหสายบิดเบี้ยว และควรเก็บดวย วิธีการแขวน เพื่อสะดวกตอการใชงาน กิจกรรม ทาทาย ใหนักเรียนเลือกวิธีการตกแตงเสื้อผาตามความสนใจ 1 ประเภท ไดแก การปก การปะ และการกุน ลงมือปฏิบัติการ ตกแตงเสื้อผาตามความคิดสรางสรรคและจินตนาการ จากนั้น ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบาย แนวคิดในการสรางสรรคผลงานของตน ใหนักเรียนคนหาคลิปวิดีโอการตกแตงเสื้อผาจากเว็บไซต ตางๆ แลวเลือกคลิปวิดีโอที่ตัวเองชื่นชอบ 1 คลิป ทําการรางภาพ เพื่อออกแบบการตกแตงเสื้อผา พรอมทั้งเขียนอธิบายเหตุผลที่ เลือกคลิปวิดีโอนี้เปนตนแบบในการตกแตงเสื้อผา จากนั้นออกมา นําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน กิจกรรม สรางเสริม นํา สอน สรุป ประเมิน T55


ขอสอบเนนการคิด ๓.๓ การดัดแปลงเสื้อผ้า การน�าเสื้อผ้าที่มีอยู่มาเปลี่ยนแปลง ต่อเติม และแก้ไขให้ได้รูปแบบใหม่ เพื่อช่วยประหยัด รายจ่าย ซึ่งการดัดแปลงเสื้อผ้ามีหลายรูปแบบ เช่น การซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงเสื้อผ้า สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้า ท�าให้ ไม่ล้าสมัย ในการซ่อมแซมเสื้อผ้ามีวิธีการที่หลากหลาย ดังนั้น ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะ การช�ารุด นอกจากนี้ การตกแต่งและดัดแปลงเสื้อผ้ายังขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์และความชอบ ส่วนบุคคลอีกด้วย การดัดแปลงขนาดของเสื้อผ้า เป็นการดัดแปลงเสื้อผ้าให้มีขนาด ใหญ่ขึ้น หรือมีขนาดเล็กลง การ ดัดแปลงในลักษณะนี้ ท�าได้โดย การเลาะตะเข็บข้างออก เนาและเย็บ ให้พอดีกับตัว หรือตามที่ต้องการ เหมาะส�าหรับเสื้อและกางเกง การดัดแปลงส่วนประกอบ เป็นการแก้ไขส่วนที่ประกอบกันเป็น ตัวเสื้อ เป็นกางเกง ให้เปลี่ยนแปลง ไปจากแบบเดิม เช่น น�าเสื้อยืด ตัวเก่ามาย้อมสีให้เป็นเสื้อยืดตัวใหม่ ดัดแปลงกระโปรงยาวให้กลายเป็น กระโปรงสั้น การดัดแปลงด้วยการลงสี เป็นการน�าสีมาตกแต่ง เพิ่มลวดลาย ลงบนเนื้อผ้าให้มีความสวยงามมาก ยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถท�าได้หลายวิธี เช่น การมัดย้อม การเพนต์ การเขียนเทียน การสะบัดสี การพิมพ์ลาย โดยสีที่ น�ามาใช้ควรเป็นสีส�าหรับงานเขียน ผ้าเท่านั้น 50 ๓.๓ การดัดแปลงเสื้อผ้า1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 25. ครูเปดคลิปวิดีโอการดัดแปลงเสื้อผาใน รูปแบบตางๆ ใหนักเรียนดู จากนั้นครูถาม นักเรียนวา • นักเรียนเห็นดวยหรือไมในการนําเสื้อผา ตัวเกามาดัดแปลงใหเกิดเปนเสื้อผาตัวใหม (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เห็นดวย เพราะเปนการ ชวยประหยัดคาใชจายในการซื้อเสื้อผา ตัวใหม) • นักเรียนเคยดัดแปลงเสื้อผาดวยตนเองบาง หรือไม หากเคย ดัดแปลงในรูปแบบใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • การดัดแปลงเสื้อผามีประโยชนอยางไร (แนวตอบ ทําใหเสื้อผามีความสวยงาม มีความแปลกตา และดูทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังชวยประหยัดคาใชจายในการ ซื้อเสื้อผาตัวใหมอีกดวย) 26. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ใหนักเรียน แตละกลุมรวมกันศึกษา เรื่อง การดัดแปลง เสื้อผา จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 27. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ดัดแปลงเสื้อผา จาก PowerPoint ม.5 หนวย การเรียนรูที่ 3 28. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การดัดแปลงเสื้อผา เปนการนําเสื้อผาที่ยังมีสภาพดีมาแกไข เปลี่ยนแปลง เพื่อใหไดรูปแบบและรูปทรงที่ ที่มีความเหมาะสมกับผูสวมใส โดยเลือก วิธีการดัดแปลงใหเหมาะสมกับสภาพของ เสื้อผาชุดนั้น ๆ และคํานึงถึงความคุมคาของ เวลาและคาใชจายที่เสียไปดวย” นักเรียนควรรู 1 การดัดแปลงเสื้อผา เปนการนําเสื้อผาที่ยังคงสภาพดีอยูมาแกไขเปลี่ยนแปลง เพื่อใหไดเสื้อผารูปแบบใหมที่เหมาะสมกับผูสวมใสและเหมาะสมกับยุคสมัย สามารถปฏิบัติไดหลายวิธี เชน • การดัดแปลงกระโปรงยาวใหเปนกระโปรงสั้น โดยการตัดชายกระโปรง และพับสอยตามตองการ หรือการทํากระโปรงสั้นใหเปนกระโปรงยาว โดยใช ผาลูกไม หรือผาที่มีลวดลายสวยงามมาตอที่ชายกระโปรง • การดัดแปลงเสื้อแขนยาวใหเปนเสื้อแขนสั้น ซึ่งอาจเปนเสื้อแขนยาวที่แขน สวนลางชํารุด หรือลาสมัย สามารถนํามาดัดแปลงโดยการตัดแขนใหกลายเปน เสื้อแขนสั้นได • การดัดแปลงชายเสื้อที่ยาว หรือคับสะโพก โดยการนํามาตัดใหสั้น หรือ เลาะปลายตะเข็บดานขางออกทั้ง 2 ขาง ทําเปนเสื้อผาขาง เสื้อผาในขอใดเหมาะสําหรับนํามาใชในการดัดแปลงเสื้อผา 1. เสื้อดํา กระโปรงดําเขาชุด ยาวคลุมเขา 2. เสื้อตัวใหม ยี่หอดัง นําเขาจากตางประเทศ ใสเขารูปพอดีตัว 3. เดรสสีชมพูเปดไหลเขารูป ซื้อมาเตรียมใสในงานแตงงานของ พี่สาว 4. กระโปรงยีนสีนํ้าเงินที่ซื้อมาเมื่อ 2 ปที่แลว แตปจจุบันไมไดใส เพราะสั้น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะกระโปรงยีนที่สั้นสามารถนํา มาดัดแปลงใหกลายเปนกระโปรงตัวใหมได เชน การนําผาลูกไม มาตอที่ชายกระโปรงจะทําใหกระโปรงยาวขึ้น สามารถนํามา สวมใสไดตามปกติ) นํา สอน สรุป ประเมิน T56


ขอสอบเนน การคิด การดัด แปลง ๑ 2 3 4 วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. กางเกงขายาว ๒. ผ้าก�ามะหยี่ ๓. เข็มสอย/เข็มหมุด ๔. ด้ายสีเดียวกับผ้า หรือสีใกล้เคียง ๕. กรรไกรตัดผ้า ๖. ชอล์กเขียนผ้า ๗. สายวัด ขั้นตอนการดัดแปลง ๑. พับขากางเกงให้เรียบเสมอกัน ใช้สายวัดวัดความยาวของขากางเกงที่ต้องการและส่วนที่ไม่ต้องการให้ตัดออก ๒. พลิกด้านใน พับชายขากางเกงขึ้น ๒.๕ ซม. ทั้ง ๒ ข้าง ใช้เข็มหมุดกลัดให้แน่น แล้วใช้เข็มสอยเนาชายขา กางเกง ๓. พลิกด้านนอก ใช้ผ้าก�ามะหยี่กุ๊นชายขากางเกง โดยวัดขนาดของผ้าให้มีความยาวเท่ากับปลายขากางเกง ใช้เข็มหมุดกลัดให้แน่น ตลบผ้าด้านที่ไม่มีลายขึ้นด้านบน ใช้เข็มสอยสอยผ้าและชายกางเกงให้ติดกัน ๔. พลิกด้านใน ตลบเศษผ้าด้านที่มีลายลง เลาะด้ายเนาออก ใช้เข็มสอยสอยชายผ้าและชายกางเกงให้ติดกัน พลิกด้านนอก ใช้ผ้าก�ามะหยี่ตัดเป็นเส้นตรงความยาวให้มากกว่าเอวของผู้สวมใส่ พับชายผ้าทั้ง ๔ ด้าน ใช้เข็มหมุดกลัดให้แน่น ใช้เข็มสอยสอยผ้า หรือใช้จักรเย็บแทนได้ น�าไปร้อยในหูกางเกง เพื่อใช้แทนเข็มขัด กางเกง ขายาวเป็น กางเกง ขาสั้น Trick การลับกรรไกรตัดผ้า ด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ เตรียมอะลูมิเนียมฟอยล์ยาว ๘-๑๐ นิ้ว พับตามความยาวหลาย ๆ ทบ ตัด อะลูมิเนียมฟอยล์ตามความยาวไป เรื่อย ๆ จนหมดแผ่น ต้องตัดให้เต็ม ใบมีด ใช้ผ้าสะอาดชุบน�้าบิดหมาด เช็ดให้สะอาด เพื่อขจัดเศษฝุ่น 5๑ กางเกง กางเกง ขายาวเป็น ขาสั้น เข็มสอย/เข็มหมุด 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 29. ครูนํากางเกงขายาว พรอมทั้งอุปกรณในการ ดัดแปลงเสื้อผามาใหนักเรียนดู เพื่อทําการ สาธิตวิธีการดัดแปลงกางเกงขายาวเปน กางเกงขาสั้น 30. ครูแจกอุปกรณในการดัดแปลงเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณในการดัดแปลงเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการดัดแปลง กางเกงขายาวเปนกางเกงขาสั้นใหนักเรียนดู อยางละเอียด โดยครูกําหนดใหนักเรียนแตละ กลุมออกแบบผลงานดวยตนเองจากอุปกรณ ที่มีอยางสรางสรรค 31. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ดัดแปลงของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน 32. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอยผาให นักเรียนฟงวา “การสอยเปนการซอมแซมเสื้อผา ที่ชํารุดบริเวณรอยพับปลายแขน ชายกระโปรง ปลายขากางเกง โดยการเย็บสวนที่ขาดให ติดกัน แตจะไมปรากฏรอยเย็บใหเห็น จะเห็น เปนจุดเล็กๆ อยูหางกันเปนระยะๆ ที่ผา ดานนอกเทานั้น การสอยมีอยูดวยกันหลาย รูปแบบ เชน การสอยซอนดาย เปนการสอย ที่มองเห็นเสนดายเย็บเล็กนอย โดยแทงเข็ม ใหสอดเขาไปในพับทบของผาใหกวางชวงละ ประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งกอนแทงเข็มออกให สะกิดเสนดายจากผาชิ้นลางประมาณ 1-3 เสน แลวสอดเข็มเขาไปในสันทบผา จากนั้นแทง เข็มออกสะกิดเสนดายจากผาชิ้นลาง โดยทํา เชนนี้เรื่อยไปจนสุดแนวที่ตองการสอย” นักเรียนควรรู 1 กางเกงขายาวเปนกางเกงขาสั้น เปนการดัดแปลงเสื้อผาในรูปแบบหนึ่ง โดยการนํากางเกงขายาวที่มีสภาพดี แตปลายขาขาดจนไมสามารถซอมแซมได หรือไมอยากสวมใสอีก มาดัดแปลงใหเปนกางเกงขาสั้นเพื่อใสอยูบาน ดวยวิธีการ ตัดขากางเกงและพับเย็บ 2 เข็มสอย ทําดวยเหล็ก เมื่อถูกความชื้นจะเกิดสนิม มีอยูดวยกันหลายขนาด สําหรับขนาดที่ใชโดยทั่วไปจะใชตั้งแตเบอร 7-11 โดยเข็มเล็กจะมีเบอรเลขมาก เข็มใหญจะมีเลขเบอรนอย ดังนั้น เข็มเบอร 11 จึงมีขนาดเล็กกวาเข็มเบอร 9 โดยเข็มเบอร 7-8 จะใชเย็บผาที่มีความหนาและถักรังดุม เข็มเบอร 9-11 ใชเย็บผา ทั่วไปและใชสอย หลังจากการใชงาน ควรเช็ดดวยนํ้ามันจักร หรือเช็ดใหแหงสนิท อยาใหเปอนเหงื่อ และเก็บใสกลอง หรือปกไวที่หมอนปกเข็มแทนได ขอใดกลาวถึงกรรไกรตัดผาไดอยางถูกตอง 1. กรรไกรตัดผาจะมีความคมไมมาก 2. กรรไกรตัดผาใชตัดผาไดเพียงอยางเดียว 3. กรรไกรตัดผาใชตัดกระดาษขึ้นแบบเสื้อได 4. กรรไกรตัดผาใชตัดกระดาษและตัดพลาสติกได (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะกรรไกรตัดผาควรใชตัดผา เพียงอยางเดียว ไมควรนําไปใชตัดวัสดุประเภทอื่นๆ เชน กระดาษ พลาสติก เนื่องจากกรรไกรมีความคมมาก หากนําไปใชตัดวัสดุ อื่นๆ ที่ไมใชผา จะทําใหกรรไกรไมคมและทื่อ เมื่อนํามาตัดผาจะ ทําใหผารุย ซึ่งจะเปนอุปสรรคตอการเย็บ) นํา สอน สรุป ประเมิน T57


การดัด แปลง ๑ 2 3 4 วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. เสื้อยืด ๒. กรรไกรตัดผ้า ๓. ชอล์กเขียนผ้า ๔. ลูกปัดร้อยผมสีต่าง ๆ ๕. ไม้บรรทัดตรง/ไม้บรรทัดโค้ง ขั้นตอนการดัดแปลง ๑. ใช้ไม้บรรทัดโค้งวางทาบบริเวณไหล่ ใช้ชอล์กเขียนผ้าลากเส้นตาม วงโค้งของแขนเสื้อที่ต้องการตัดออก ใช้กรรไกรตัดผ้าตัดตามรอย ที่วาด พับกึ่งกลางของเสื้อเพื่อดูว่าบริเวณที่ตัดเท่ากันหรือไม่ หากไม่ เท่ากันควรตัดให้เรียบร้อย ๒. ใช้ไม้บรรทัดตรงวัดกึ่งกลางของคอเสื้อ ใช้ชอล์กเขียนผ้าก�าหนด จุดกึ่งกลางจากเส้นตรงเข้าหาจุดที่ก�าหนดให้เป็นตัววี ใช้กรรไกรตัด คอเสื้อ จากนั้นใช้ไม้บรรทัดตรงวางทาบ วัดระยะความสูงตามต้องการ ใช้ชอล์กเขียนผ้าขีดเส้นไว้ เพื่อให้การตัดมีความสูงเท่ากัน ๓. ใช้กรรไกรตัดผ้าตัดชายเสื้อ บริเวณกึ่งกลางของเสื้อ ยาวมา ถึงแนวที่ก�าหนดไว้ เป็นเส้นตรง โดยแบ่งการตัดออกเป็น ๔ ชิ้น ใหญ่ ตัดชายเสื้อเป็นเส้นตรง ขนาดประมาณ ๑ ซม. จนครบ ทั้งตัวเสื้อ ๔. ขมวดชายเสื้อแต่ละเส้นเป็น ปม มัดให้แน่นจนครบทุกเส้น น�าลูกปัดร้อยผมสีต่าง ๆ มา ร้อยที่ชายเสื้อแต่ละเส้น ขมวด ชายเสื้อแต่ละเส้นเป็นปม มัดให้แน่นจนครบทุกเส้น เพื่อ ป้องกันลูกปัดหลุด เปลี่ยน เสื้อตัวเก่า เป็นเสื้อ ตัวใหม่ 52 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 33. ครูนําเสื้อยืด พรอมทั้งอุปกรณในการดัดแปลง เสื้อผามาใหนักเรียนดู เพื่อทําการสาธิตวิธี การเปลี่ยนเสื้อตัวเกาเปนเสื้อตัวใหม 34. ครูแจกอุปกรณในการดัดแปลงเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณในการดัดแปลงเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการดัดแปลง เสื้อตัวเกาเปนเสื้อตัวใหมใหนักเรียนดูอยาง ละเอียด โดยครูกําหนดใหนักเรียนแตละกลุม ออกแบบผลงานไดดวยตนเองจากอุปกรณ ที่มีอยางสรางสรรค 35. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ดัดแปลงของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน 36. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนเสื้อ ตัวเกาเปนเสื้อตัวใหมใหนักเรียนฟงวา “เสื้อ ตัวเกาที่ไมไดใชงานสามารถนํามาออกแบบ และสรางสรรคเปนเสื้อตัวใหมไดหลากหลาย รูปแบบ ซึ่งนักเรียนสามารถศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับการเปลี่ยนเสื้อตัวเกาเปนเสื้อตัวใหม ผานทางเว็บไซตตางๆ เชน • https://www.youtube.com/ watch?v=_J5DPoiw6i4 • https://www.youtube.com/ watch?v=8dqrm-3yyvQ • https://www.youtube.com/ watch?v=4qrEQX3bZbQ เพื่อนํามาใชเปนแนวทางในการสรางสรรค ผลงานของตนเองใหดียิ่งขึ้น” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกตางของไมบรรทัดตรงและไมบรรทัดโคง ใหนักเรียนฟงวา ไมบรรทัดตรง ทําจากไม หรือพลาสติก มีอยูดวยกัน 3 ขนาด ไดแก ขนาดยาว 12 นิ้ว ขนาดยาว 18 นิ้ว และขนาดยาว 24 นิ้ว ใชสําหรับ ขีดเสนในการสรางแบบตัดที่เปนเสนตรงและยาว เชน เสนตะเข็บขาง เสนกลาง หนาและกลางหลัง เพื่อความสะดวกในการใชงานควรมี 2 อัน คือ ขนาดยาว 12 นิ้ว และขนาดยาว 18 นิ้ว หรือ 24 นิ้ว ควรระมัดระวังรอยขีดขูด เพราะจะทําให ตัวเลขเลือนหายได ควรเก็บดวยวิธีการแขวน สวนไมบรรทัดโคง ทําจากไม หรือ พลาสติก มีอยูดวยกันหลายรูปแบบ สามารถเลือกใชงานไดตามความเหมาะสม ใชสําหรับขีดเสนโคงสวนตางๆ ของแบบตัดเสื้อ กระโปรง หรือกางเกง ควรเก็บ ดวยวิธีการแขวน หรือวางราบบนพื้น ใหนักเรียนฝกปฏิบัติการดัดแปลงเสื้อผาในรูปแบบที่สนใจตาม ความคิดและจินตนาการ 1 ชิ้น เขียนอธิบายขั้นตอนการดัดแปลง เสื้อผาลงในกระดาษรายงาน สงครูผูสอน จากนั้นออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายแนวคิดในการ สรางสรรคผลงานของตน กิจกรรม สรางเสริม ใหนักเรียนฝกปฏิบัติการดัดแปลงเสื้อผาตามความคิดและ จินตนาการ 1 ชิ้น จัดทําเปนคลิปวิดีโออธิบายขั้นตอนการดัดแปลง เสื้อผาประกอบการสาธิตอยางถูกตอง โดยจัดทําเปนคลิปวิดีโอ สั้นๆ ความยาวไมเกิน 7 นาที พรอมทั้งอัปโหลดคลิปวิดีโอลงใน สื่อโซเชียลที่สามารถกดติดตามได จากนั้นออกมานําเสนอคลิป วิดีโอใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน นํา สอน สรุป ประเมิน T58


ขอสอบเนน การคิด กางเกงยีนเป็นกางเกงที่หลายคน นิยมสวมใส่มีให้เลือกหลายสี หลาย ยี่ห้อ ควรเลือกซื้อให้เหมาะสมกับ บุคลิกภาพของตนเอง รวมทั้งค�านึง ถึงหลัก หรือเทคนิคในการเลือกซื้อ เ·¤¹Ô¤การเลือกซื้อกางเกงÂÕ¹ กางเกงยีน ดังนี้ ñ. มÕ¢¹าดเลçกกÇ่าเอǨรÔง ควรเลือกกางเกงยีนใหมีขนาดเล็กกวาเอวจริง ๑-๒ ไซส เนื่องจากกางเกงยีนถูกทอแบบ Twill ทําใหผายืดตัวไดเมื่อสวมใสจะพอดีตัว ทําใหดู สวยงามกวาการใสแบบหลวมๆ ò. ¹Ø่ง·รงเ¢้ารÙปควรเปนทรงเล็กๆ ที่เขารูป ตั้งแตโคนขาลงมาถึงปลายขาแตไมรัดแนนแบบ เลกกิง (กางเกงผายืด เนื้อบาง ขอบยางยืด แนบเนื้อ) เพื่อชวยเก็บขาใหมีขนาดเล็กลง ó. เ¹้¹ãส่สÕเ¢้ม ควรเปนสีเขม เพราะ เมื่อสวมใสจะดูสุภาพและสวมใสได ทุกโอกาสมากกวาสีออกสวาง หรือ ถูกฟอกมาแลว ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยง การสวมกางเกงยีนขาดๆ เพราะจะ ทําใหเสียบุคลิกภาพ ô. ดÙป‡าÂส่ǹประกอº¢องเ¹ื้อผ้า ควรมีสวนผสมของผายืด โดยที่ พบทั่วไป จะเปน Lycra ประมาณ ๒% จะทําใหกางเกงเขารูปและ มีความยืดหยุนมากขึ้น หากมี องคประกอบอยางอื่นมากกวา Cotton กางเกงจะไมคอยระบายอากาศ õ. ดÙกระเป‰าËลังก ่อ¹ซื้อ ควรตรวจดู รายละเอียดของเสนดายลวดลายที่ปรากฏบน กระเปาวามีความเหมาะสมหรือไม กระเปาหลัง มีขนาดพอดี ไมเล็ก หรือใหญจนเกินไป ö. äม ่¤ÇรกังÇลเรื่องรÙปร ่าง ควรเลือก ตามความชอบและใสแลวพอดีหรือไม ไมควรใส กางเกงยีนที่หลวมและรัดจนเกินไป เพราะจะทําให ไมสวยงาม ควรเปนสีเขม เพราะ เมื่อสวมใสจะดูสุภาพและสวมใสได ดÙป‡าÂส่ǹประกอº¢องเ¹ื้อผ้า องคประกอบอยางอื่นมากกวา Cotton ศัพทน่ารู้เกี่ยวกับกางเกงยีน Rise : ความยาวระหวางเปาถึง ขอบเอว เพื่อดูเอวสูง หรือเอวต่ํา Whiskering: ลายทางบนกางเกง ชวยอําพรางจุดบกพรองบริเวณ สะโพก Inseam : รอยตะเข็บดานขางจาก เปาถึงปลายขากางเกง Wash: สีสันและการฟอกสีกางเกง Boot-cut : ทรงกางเกงเขารูป บริเวณสะโพก บานออกใตหัวเขา เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 53 กางเกงยีนเป็นกางเกงที่หลายคน 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 37. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1-2 คน ออกมานําเสนอผลงานที่ไดจากการ ฝกปฏิบัติการตกแตงเสื้อผาและการดัดแปลง เสื้อผาใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้ง อธิบายแนวคิดในการสรางสรรคผลงาน โดยครูเปดโอกาสใหนักเรียนรวมกันวิพากษ วิจารณ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงาน ที่ไดชม เพื่อใหแตละกลุมนําคําติชมไปใชใน การพัฒนาผลงานใหดียิ่งขึ้น 38. ครูและนักเรียนรวมกันคัดเลือกผลงานการ ตกแตงเสื้อผาและการดัดแปลงเสื้อผาของ นักเรียนแตละกลุม เพื่อใหนักเรียนนําผลงาน ที่ไดรับการคัดเลือกมาจัดแสดงในรูปแบบ แฟชั่นโชว โดยใหนักเรียนประชุมวางแผน การทํางานรวมกัน พรอมทั้งแบงหนาที่ความ รับผิดชอบตามความสามารถและความถนัด ของแตละบุคคล 39. ครูอธิบายเพื่อเปนการสรุปความรูใหนักเรียน เขาใจวา “ประโยชนที่ไดรับจากการซอมแซม ตกแตง และดัดแปลงเสื้อผา มีอยูดวยกันหลาย ประการ เชน เปนการชวยประหยัดรายจาย ในการซอมแซมเสื้อผาของตนเองและของ สมาชิกในครอบครัว เปนการยืดอายุการใช เสื้อผาและเครื่องแตงกายใหยาวนานยิ่งขึ้น เปนการใชเวลาวางใหเกิดประโยชน สงเสริม ความมีนํ้าใจและการใหการชวยเหลือซึ่งกัน และกันระหวางสมาชิกในครอบครัว กอใหเกิด ความรูสึกภาคภูมิใจรวมกัน สรางเสริมความ อดทน ความมีระเบียบวินัยในการทํางานให กับสมาชิกในครอบครัว เปนแนวทางในการ ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการตัดเย็บเสื้อผาและ เครื่องแตงกายไดในอนาคต” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจัดเก็บและวิธีการทําความสะอาด กางเกงยีนใหนักเรียนฟงวา การจัดเก็บกางเกงยีนที่ถูกตอง ควรแขวนไวในที่โลง โปรง ระบายอากาศไดดี เพื่อเปนการรักษาทรงของกางเกงใหไดรูป สวนการ ทําความสะอาด ควรแยกซักกับเสื้อผาชนิดอื่นๆ โดยกลับดานในของกางเกงออก ซักดวยนํ้าเย็น ใชผงซักฟอกแบบออนๆ ซึ่งจะชวยรักษากางเกงยีนไมใหไดรับ ความเสียหาย รวมถึงการเกิดรอยยับอันไมพึงประสงคอีกดวย นักเรียนควรรู 1 กางเกงยีน ไมควรนํากางเกงยีนเขาตูอบ เนื่องจากลมรอนของเครื่องอบ เปนสาเหตุที่ทําใหเนื้อผาของกางเกงยีนหดได ควรนําไปตากในที่อากาศถายเท ไดสะดวกและไมถูกแสงแดด เพื่อปองกันแดดเลียจนสีซีด ผูที่มีเอวคอดเล็กและสะโพกผาย ควรเลือกสวมใสกางเกงยีน ที่มีลักษณะตรงตามขอใด เพื่อชวยเสริมสรางบุคลิกภาพใหดูดี 1. กางเกงยีนสกินนี 2. กางเกงยีนเอวสูง 3. กางเกงยีนทรงขาบาน 4. กางเกงยีนทรงกระบอก (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะผูที่มีเอวคอดเล็กและ สะโพกผาย ควรเลือกสวมใสกางเกงยีนที่ชวยกระชับสะโพก นั่นก็คือ “กางเกงยีนเอวสูง” เนื่องจากชวยเก็บสะโพกไดดี ทั้งยัง ชวยทําใหเอวดูเล็กลงอีกดวย) นํา สอน สรุป ประเมิน T59


ขอสอบเนนการคิด การตัดเย็บ เสื้อคลุม อาบนํ้า ô ตัวอยางการตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบาน การตัดเย็บเสื้อผาและของใช เปนการฝกการตัดเย็บและเรียนรูกระบวนการตัดเย็บ การรูจัก เลือกผา การคํานวณผา การวางแบบและการตัดผา รวมถึงการรูจักเลือกใชและเก็บรักษาอุปกรณ ตัดเย็บไดอยางถูกวิธี ซึ่งเปนแนวทางที่นําความรูไปใชไดในชีวิตประจําวัน ตัวอยางการตัดเย็บ ของใชในบาน มีดังนี้ ขั้นตอนเตรียมการ ๑. วิธีวัดตัว ประกอบดวยวัดรอบอก คือ วัดสวนที่ กวางที่สุด วัดความยาวจากขางคอถึงเอว และ วัดความยาวตัวเสื้อ คือ วัดจากขางคอลงไปตาม ตองการ ๒. การคํานวณผา คิดจากแบบวัดตัวแผนหนา + แบบวัดตัวแผนหลัง + เผื่อตะเข็บ ๑๐ เซนติเมตร เชน แบบวัดตัวแผนหนา ๘๐ เซนติเมตร จะใช ผา ๘๐ + ๘๐ + ๑๐ = ๑๗๐ เซนติเมตร หรือ ๑.๗๐ เมตร วัสดุ อุปกรณที่ใช ๑. ผาสําหรับเย็บ ๒. สายวัด ๓. กระดาษสรางแบบ ดินสอ ยางลบ ๔. ไมบรรทัด ไมบรรทัดโคง ๕. ลูกกลิ้ง กระดาษคารบอน ๖. ดายสีเดียวกับผา หรือสีใกลเคียง ๗. กรรไกรตัดผา ๘. เข็มสอย/เข็มหมุด ๙. ดายเนา ๑๐. จักรเย็บผา เสื้อคลุมใชสําหรับสวมใสในโอกาสตางๆ เชน คลุมทับชุดอาบนํ้า มีหลายแบบ และเนื่องจาก ขั้นตอนการสรางแบบและการตัดเย็บไมยุงยาก จึงตัดเย็บไดงาย เราควรฝกปฏิบัติการตัดเย็บ เพื่อนํา ความรูที่ไดไปใชประโยชนในชีวิตประจําวัน ทั้งยัง ชวยประหยัดรายจายเรื่องเสื้อผาดวย Trick เทคนิคการซักผาที่เปอนชอลกเขียนผา นําผาที่เปอนไปแชในนํ้าสบูออน ๆ หรือนํ้าที่ผสมผงซักฟอก ขยี้บริเวณรอยเปอนจนกวาคราบชอลกจะหลุดออก แลวจึง นําไปซักใหสะอาด ๕๔ ๔. ไมบรรทัด ไมบรรทัดโคง ๕. ลูกกลิ้ง กระดาษคารบอน 1 2 สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตัดเย็บเสื้อคลุมแบบงายๆ ดวยผาไทย ไดที่ https://www.youtube.com/watch?v=FnF2H8PTtdY นักเรียนควรรู 1 ไมบรรทัดโคง มีลักษณะเหมือนไมบรรทัดทั่วไป แตจะมีความโคงตรงชวง ดานบนของไม และมีความกวางกวาชวงปลาย มีทั้งชนิดที่ทําดวยไมและชนิดที่ ทําจากพลาสติก นิยมนํามาใชสําหรับโคงแนวสะโพกและแนวตะเข็บขาง 2 กระดาษคารบอน เปนกระดาษกอปปสําหรับการตัดเสื้อ วิธีการใชงาน คือ วางแบบลงบนกระดาษคารบอน แลววางทับบนผาที่ตองการลอกลาย ใชลูกกลิ้ง หรือของปลายแหลมกลิ้งไปตามแนวแบบ จะปรากฏเปนรอยแนวลายเสนบนผา สามารถตัดออกมาเปนชิ้นสวน เพื่อใชในการเย็บตอไปได ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 40. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียน วา • นักเรียนเคยตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายใน บานหรือไม หากเคย ตัดเย็บในรูปแบบใด และมีแนวทางในการปฏิบัติงานอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 41. ครูขออาสาสมัครนักเรียนที่มีประสบการณ ในการตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบาน ออกมาเลาประสบการณของตนเองในการตัด เย็บเสื้อผาและของใชภายในบานใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน ในประเด็นที่ครูกําหนดให คือ รูปแบบการตัดเย็บ การจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในการตัดเย็บ ขั้นตอนการตัดเย็บ และประโยชนที่ไดรับจากการตัดเย็บ โดย ครูเปดโอกาสใหนักเรียนรวมกันซักถามหาก เกิดขอสงสัย 42. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา เรื่อง การตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบาน จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือศึกษา เพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 43. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบาน จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรูที่ 3 44. ครูนําผา พรอมทั้งอุปกรณในตัดเย็บเสื้อผา และของใชภายในบาน เชน กระดาษสรางแบบ ดินสอ ยางลบ สายวัด กระดาษคารบอน ไมบรรทัดตรง ไมบรรทัดโคง ลูกกลิ้ง เข็มสอย เข็มหมุด ดายสีเดียวกับผา หรือสีใกลเคียง ดายเนา กรรไกรตัดผา ชอลกเขียนผา จักร เย็บผาขนาดพกพา มาใหนักเรียนดู เพื่อ ทําการสาธิตวิธีการตัดเย็บเสื้อคลุมอาบนํ้า ขอใดเปนขั้นตอนการเตรียมการตัดเย็บเสื้อคลุม 1. วัดตัว 2. ลอกแบบ 3. สรางแบบ 4. ตัดเย็บเสื้อ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะกอนที่จะลงมือตัดเย็บเสื้อคลุม ขั้นตอนแรกจะตองมีการเตรียมการ โดยวัดตัว ไดแก การวัดรอบอก การวัดความยาวจากขางคอถึงเอว และการวัดความยาวของตัวเสื้อ จากนั้นจึงคํานวณผาสรางแบบ ลอกแบบ แลวจึงตัดเย็บเสื้อคลุม ตามลําดับ) นํา สอน สรุป ประเมิน T60


เสนกลางตัว เสนตะเข็บขาง เสนปลายแขน เสนชายเสื้อ เสนตะเข็บไหล เสนเอว Trick วิธีการกลัดเข็มหมุด ควรกลัดให้ห่างจากเส้นที่ต้องการกดรอย ๓-๔ ซม. เพื่อ ไม่ให้เสียเวลาในการถอดเข็มหมุดออก และควรกลัดให้มี ระยะห่างเท่า ๆ กัน ขั้นตอนการสร้างแบบเสื้อคลุม ๑. การสร้างแบบความกว้างและความยาวเสื้อ ● ก�าหนดจุด ๑ จากริมกระดาษด้านบนวัด ลงมา ๕ เซนติเมตร และจากริมกระดาษ ด้านซ้ายวัดเข้ามา ๑๒ เซนติเมตร ● ระยะจุด ๑ - ๒ = ของรอบอกบวก ๑๐ เซนติเมตร ● ระยะจุด ๑ - ๓ และจุด ๒ - ๔ = ความยาว เสื้อ ● ระยะจุด ๓ - ๔ และจุด ๑ - ๒ = ความกว้าง เสื้อ ๒. การหาต�าแหน่งเอว ● ระยะจุด ๑ - ๕ และ ๒ - ๖ = ความยาวของ ไหล่ถึงเอวประมาณ ๓๓-๓๖ เซนติเมตร ● ระยะจุด ๕ - ๖ เป็นแนวเส้นเอว ๓. การสร้างแขนเสื้อ ● ระยะจุด ๒ - ๗ ยาวประมาณ ๒๕-๓๐ เซนติเมตร ● ระยะจุด ๗ - ๘ และ ๒ - ๙ = ๑๐ เซนติเมตร ● จากจุด ๗ วัดออกมาประมาณ ๒ เซนติเมตร ขีดเส้นโค้งใต้วงแขน ๑ ๔ ๔. การสร้างคอเสื้อ ● ระยะจุด ๑ - ๑๐ = ๓ เซนติเมตร ● ระยะจุด ๑ - ๑๑ ยาวประมาณ ๘-๑๐ เซนติเมตร ● จุด ๑๐ - ๑๑ ลากเส้นโค้งเป็นเส้นคอหลัง ๕. การสร้างแผ่นหน้า ● ระยะจุด ๕ - ๑๒ และ ๓ - ๑๓ = ๑๐ เซนติเมตร ● จากจุด ๑๑ - ๑๒ - ๑๓ ลากเส้นป้ายแผ่นหน้า ● จากจุด ๑๒ วัดเข้ามาประมาณ ๒ เซนติเมตร ลากเส้นโค้งตามแบบ ๖. การสร้างเผื่อพับ ● จากจุด ๘ - ๙ วัดออกไปยาว ๓ เซนติเมตร ลากเส้นปลายแขนเผื่อพับ ● จากจุด ๔ - ๑๓ วัดออกไปยาว ๓ เซนติเมตร ลากเส้นชายเสื้อเผื่อพับ ๗. การสร้างสาบเสื้อ ● ระยะจากจุด ๑๐ - ๑๑ - ๑๒ - ๑๓ เป็นเส้นระยะ คอหลังผ่านคอหน้าจดชายเสื้อ เท่ากับ ความยาวสาบเสื้อ ● ระยะความกว้างสาบเสื้อ = ๘ เซนติเมตร ๘. การสร้างสายผูกเอว ● ระยะความยาวสายผูกเอว = รอบเอวบวก ๒๐-๒๕ เซนติเมตร ● ระยะความกว้าง = ๘ เซนติเมตร 55 เสนตะเข็บขาง 1 เกร็ดแนะครู ครูอาจนําตัวอยางการเขียนแบบเสื้อหลายๆ แบบมาใหนักเรียนดู และอธิบาย เพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการสรางแบบเสื้อใหนักเรียนฟง เชน การกําหนดจุด ระยะจุดในแตละสวน เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจที่เพิ่มมากขึ้น โดยครูสามารถสาธิตวิธีการสรางแบบเสื้อใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง แลวอาจให นักเรียนแบงกลุมรวมกันทดลองสรางแบบเสื้อ นักเรียนควรรู 1 ตะเข็บ ปญหาตะเข็บรุยพบไดทั้งชุดเกาและชุดใหม ซึ่งอาจเกิดจากคุณภาพ ของการตัดเย็บที่ไมดีมากพอ หากพบวาตะเข็บเกิดการหลุดรุย สามารถแกไข ไดดวยวิธีการเย็บดวยมือ หรือการเย็บดวยจักร โดยสามารถศึกษาตัวอยางไดที่ https://www.youtube.com/watch?v=4IawLRFbCto กิจกรรม ทาทาย ใหนักเรียนสืบคนวิธีการสรางแบบเสื้อคลุมจากสื่อการเรียนรู ที่หลากหลาย จากนั้นเลือกแบบเสื้อคลุมตามความสนใจ 1 แบบ ฝกปฏิบัติการทดลองสรางแบบเสื้อตามที่ไดเลือกมา จากนั้น ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน ใหนักเรียนสรางแบบเสื้อตามความสนใจ 1 แบบ โดยจะตอง สรางแบบใหครบองคประกอบ เชน ความกวาง ความยาว แขนเสื้อ คอเสื้อ สาบเสื้อ โดยระบุจุด หรือระยะจุดในการหาตําแหนงให ชัดเจน จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน กิจกรรม สรางเสริม ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 45. ครูแจกอุปกรณในการตัดเย็บเสื้อผาและ ของใชภายในบานใหกับนักเรียน เมื่อนักเรียน ไดรับอุปกรณในการตกแตงเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการตัดเย็บ เสื้อผาและของใชภายในบานใหนักเรียนดู อยางละเอียด โดยครูกําหนดใหนักเรียน แตละกลุมออกแบบผลงานไดดวยตนเองจาก อุปกรณที่มีอยางสรางสรรค 46. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการสราง แบบและแยกแบบใหนักเรียนฟงวา “ในการ สรางแบบสามารถทําไดโดยนําขนาดของ สัดสวนที่วัดมาไดสรางขึ้นเปนแบบตัดพื้นฐาน กอนที่จะแยกแบบ เพื่อใหไดแบบตัดตาม แบบเสื้อที่ตองการ การสรางแบบมีทั้งการสราง ลงบนผืนผาและการสรางลงบนกระดาษแลว จึงนําแบบตัดที่ถูกสรางจากกระดาษไปวาง ลงบนผา หลังจากไดตรวจสอบความถูกตอง เรียบรอยแลว สําหรับผูที่กําลังฝกตัดเย็บ เสื้อผา ควรสรางแบบตัดบนกระดาษและ ควรตรวจสอบความถูกตองของแบบตัดให เรียบรอยกอนนําไปวางลงบนผา เพื่อปองกัน การผิดพลาด และควรเขียนเครื่องหมายที่ จําเปนตางๆ พรอมทั้งรายละเอียดที่จําเปน ในการตัดลงบนแบบตัดดวย” 47. ครูอธิบายเพื่อเปนการสรุปความรูใหนักเรียน เขาใจวา “การสรางแบบเสื้อคลุมอาบนํ้า จะ ตองสรางแบบความกวางและความยาวเสื้อ หาตําแหนงของเอว สรางแขนเสื้อ สรางคอเสื้อ สรางแผนหนา สรางเผื่อพับ สรางสาบเสื้อ และ สรางสายผูกเอว โดยทั้งหมดนี้จะตองมีการ กําหนดจุดตางๆ เพื่อใหไดตําแหนงในการ ตัดเย็บที่ถูกตอง” นํา สอน สรุป ประเมิน T61


ขอสอบเนนการคิด ๑ ขั้นตอนการลอกแบบเสื้อคลุม ๑. การลอกแบบแผ่นหลัง ● กดรอยเส้นด้วยลูกกลิ้งตามแบบ ● เขียนเครื่องหมายบนแบบตัด หมายถึง แนวเส้นด้ายในผืนผ้า ● เขียนเครื่องหมายบนแบบตัด ✕ หมายถึง สันทบ ● เขียนก�ากับแผ่นหลัง และตัด ๑ ชิ้น บนแบบตัด ๒. การลอกแบบแผ่นหน้า ● กดรอยเส้นด้วยลูกกลิ้งตามแบบ ● เขียนเครื่องหมายบนแบบตัด หมายถึง แนวเส้นด้ายในผืนผ้า ● เขียนก�ากับแผ่นหน้า และตัด ๒ ชิ้น บนแบบตัด ● แบบสาบและสายผูกเอวตัดเท่าแบบ ผ้าสาบ แผ่นหลัง ตัด ๑ ชิ้น ๗ ๓ ๕ สายผูกเอว ขั้นตอนการวางแบบตัดบนผ้าและการเผื่อตะเข็บ ๑. วางแบบตัดเอาด้านที่มีลายชัดเจนออกด้านนอก ๒. แผ่นหลัง วางแบบตัดตามยาว หรือตามแนว ริมผ้า วางผ้าทบกัน เอาด้านที่มีลวดลายชัดเจน ออกด้านนอก เผื่อตะเข็บ ๑ เซนติเมตร หรือเท่ากับ ซีกตีนฝีจักรเย็บผ้าทั้ง ๓ ด้าน คือ ชายแขนเสื้อ และตะเข็บข้าง ส่วนกลางตัวแผ่นหลังวางผ้า สันทบ ตัดผ้า ๑ ชิ้น ๓. แผ่นหน้า วางผ้าทบกัน เอาด้านที่มีลวดลาย ชัดเจนออกด้านนอก เผื่อตะเข็บ ๑ เซนติเมตร โดยรอบ ตัด ๒ ชิ้นซ้อนกัน ๔. สาบเสื้อ วางผ้าทบกัน ๒ ชั้น เผื่อตะเข็บ ๑ เซนติเมตรโดยรอบ จะใช้ผ้าเฉลียง ผ้าตามขวาง หรือผ้าตามยาวก็ได้ ๕. สายผูกเอว วางผ้าทบกัน ๒ ชั้น เผื่อตะเข็บ ๑ เซนติเมตรโดยรอบ จะใช้ผ้าเฉลียง ผ้าตามขวาง หรือผ้าตามยาวก็ได้ 5๖ กดรอยเส้นด้วยลูกกลิ้งตามแบบ 1 นักเรียนควรรู 1 ลูกกลิ้ง ใชสําหรับกลิ้งรอยบนผา หรืองานตัดเย็บ มีหัวกลิ้งหลายแบบ เชน • หัวแบบเรียบ ใชกลิ้งรอยผาใหเปนเสน • หัวฟนแหลม ใชกลิ้งผาเนื้อบางกวาปกติ • หัวดอกไม ใชกลิ้งผาที่มีเนื้อบางๆ ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 48. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลอกแบบให นักเรียนฟงวา “การลอกแบบเสื้อคลุมอาบนํ้า จะตองลอกแบบแผนหลังและลอกแบบ แผนหนาโดยการลอกแบบทั้ง 2 แบบนี้ จะ ตองกดรอยเสนดวยลูกกลิ้งตามแบบ และ เขียนเครื่องหมายบนแบบตัด” โดยครูอธิบาย พรอมกับสาธิตการลอกแบบเสื้อคลุมอาบนํ้า ใหนักเรียนดูอีกครั้ง จากนั้นครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาสาธิตการลอกแบบคลุมเสื้อ อาบนํ้าใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน เมื่อนักเรียน ปฏิบัติการลอกแบบเสร็จสิ้น ครูจะทําหนาที่ ในการตรวจสอบความถูกตองของชิ้นงาน หากพบวานักเรียนยังปฏิบัติไมถูกตอง ครู ควรแนะนําการปฏิบัติที่ถูกตองใหกับนักเรียน 49. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลอกแบบให นักเรียนฟงวา “การวางแบบตัดจะตองปฏิบัติ ดังนี้ • วางแบบตัดเอาดานที่มีลายชัดเจนออก ดานนอก • แผนหลัง วางแบบตัดตามยาว หรือแนวริมผา วางผาทบกัน เอาดานที่มีลวดลายชัดเจน ออกดานนอก เผื่อตะเข็บ 1 เซนติเมตร หรือเทากับซีกตีนผีจักรเย็บผาทั้ง 3 ดาน • แผนหนา วางผาทบกัน โดยเอาดานที่มี ลวดลายชัดเจนออกดานนอก เผื่อตะเข็บ 1 เซนติเมตร โดยรอบ ตัด 2 ชิ้น ซอนกัน • สาบเสื้อ วางผาทบกัน 2 ชั้น เผื่อตะเข็บ 1 เซนติเมตรโดยรอบ จะใชผาเฉลียง ผาตาม ขวาง หรือผาตามยาวก็ได • สายผูกเอว วางผาทบกัน 2 ชั้น เผื่อตะเข็บ 1 เซนติเมตรโดยรอบ จะใชผาเฉลียง ผาตาม ขวาง หรือผาตามยาวก็ได” ขอใดคือขั้นตอนการลอกแบบเสื้อคลุม 1. เนาผาใหติดกันเปนตัวเสื้อ 2. กดรอยเสนดวยลูกกลิ้งตามแบบ 3. วางผาทบกัน 2 ชั้น เพื่อทําสาบเสื้อ 4. นําผาชิ้นหนาและผาชิ้นหลังวางปะกบกัน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการลอกแบบเสื้อคลุม เปน การลอกแบบแผนหนาและแผนหลังของตัวเสื้อ โดยใชลูกกลิ้ง กดรอยเสนตามแบบที่เขียนไวในขั้นตอนการสรางแบบเสื้อคลุม) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการลอกแบบเสื้อใหนักเรียนฟงวา การปฏิบัติ ตามขั้นตอนการลอกแบบเสื้อคลุมนั้น นักเรียนควรลงมือปฏิบัติดวยความตั้งใจ มีความละเอียด รอบคอบ เนื่องจากจะตองนําแบบมาลอกลงบนผา และใชลูกกลิ้ง กดรอยเสน ซึ่งขั้นตอนนี้ควรกดลูกกลิ้งใหแนน เพราะหากกดไมแนนจะทําใหผา และกระดาษที่เปนแบบเลื่อนออกจากกัน สงผลใหเกิดรอยเสนที่ผิดเพี้ยนไปได นํา สอน สรุป ประเมิน T62


๑ ๒ ๕ ๓ ๔ ๖ การเลือกใชเสื้อผาและเครื่องแตงกาย ตองรูจักอําพรางสวนที่บกพรองและเนนจุดเดน รวมถึงสวมใสเสื้อผาที่มีความประณีต สะอาด เรียบรอย เหมาะสมกับรูปราง โอกาส และกาลเทศะ มีการดูแลรักษาอยางถูกวิธี รูจักซอมแซมสวนที่ชํารุด เพื่อชวยใหเสื้อผาอยูในสภาพดี สามารถ ใชงานไดตามปกติ รวมทั้งตกแตงและดัดแปลงเสื้อผา เพื่อใหดูสวยงามและมีความทันสมัย การตัดเย็บ เสื้อผาและของใชในบานเปนงานที่ตองใชความประณีต ละเอียดออน ดังนั้น จึงควรศึกษาเกี่ยวกับ อุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช และวิธีการปฏิบัติงานตามขั้นตอนที่ถูกตอง ผลงานที่ไดจึงจะมีความ สวยงามและมีคุณภาพ ซึ่งสามารถนําความรูไปปรับใชในชีวิตประจําวันได สรุป ขั้นตอนการเย็บตัวเสื้อ ๑. นําผาชิ้นหนาและผาชิ้นหลังวางประกบกัน โดยนําผาดานที่มีลายชัดเจนไวดานใน เนาตะเข็บไหลและเย็บ ตะเข็บกวาง ๑ เซนติเมตร หรือเทากับซีกตีนผีทางขวามือ ตัดแตงตะเข็บไหลซึ่งเย็บแลว และกันรุยริมผา เนาปลายแขนเสื้อทั้ง ๒ ขาง และเย็บตามรอยเนา ๒. เนาผาใหผาติดกันเปนตัวเสื้อและเย็บตามรอยเนา ๓. กลับผาดานที่ลายไมชัดเจนไวดานใน เนาตามแนวรอยเย็บ ๔. สอยพับริม หรือเย็บตามแนวเนา ๕. พับชายเสื้อและเย็บ จากนั้นจึงคอยเย็บสายผูกเอว โดยการพับทบผาและเย็บ ๖. เสื้อที่เย็บเรียบรอยแลว เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ๕๗ ตะเข็บกวาง ๑ เซนติเมตร หรือเทากับซีกตีนผีทางขวามือ ตัดแตงตะเข็บไหลซึ่งเย็บแลว และกันรุยริมผา 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 50. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเย็บตัวเสื้อให นักเรียนฟงวา “การเย็บตัวเสื้อจะตองปฏิบัติ ดังนี้ • นําผาชิ้นหนาและผาชิ้นหลังมาวางประกบ กัน โดยวางริมผาใหเทากัน • เนาตะเข็บไหล และเย็บตะเข็บกวาง ประมาณ 1 เซนติเมตร หรือเทากับซีกตีนผี จักรเย็บทางขวามือ • ตัดแตงตะเข็บไหล ซึ่งเย็บเสร็จเรียบรอย แลวและกันรุยริมผาใหเรียบรอย • เนาปลายแขนเสื้อทั้ง 2 ขาง จากนั้นใหเย็บ ตามรอยเนา • เนาผาติดกับตัวเสื้อและเย็บ • พับผาเขาดานใน เนาตามรอยเย็บ • สอยริมผา หรือเย็บตามแนวเนา • พับชายเสื้อและเย็บ จากนั้นจึงเย็บสาย ผูกเอว โดยการพับทบผาและเย็บ • ตรวจสอบความเรียบรอยและนําไปใชได ในชีวิตประจําวัน” 51. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบานของ นักเรียนแตละกลุม หากพบวานักเรียนกลุมใด ยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควรแนะนําหรืออธิบาย เพิ่มเติมใหนักเรียนกลุมดังกลาวมีความเขาใจ ที่ชัดเจน 52. ครูใหนักเรียนนําความรูที่ไดรับจากการศึกษา และฝกปฏิบัติการซอมแซม ดัดแปลง ตกแตง ตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบาน มาเปน แนวทางในการปฏิบัติโครงงานตามหัวขอ ที่ไดรับมอบหมาย เกร็ดแนะครู ครูควรแนะนํานักเรียนวา ในขณะปฏิบัติการตัดเย็บตัวเสื้อไมวาจะดวย วิธีการเย็บดวยมือ หรือการเย็บดวยจักรเย็บผา ควรระมัดระวังในการใชอุปกรณ เครื่องมือในการเย็บดวย เนื่องจากอุปกรณ เครื่องมือบางชนิดมีความแหลมคม บางชนิดเปนอุปกรณไฟฟา ดังนั้น จึงควรปฏิบัติงานดวยความระมัดระวัง เพื่อ ใหเกิดความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน นักเรียนควรรู 1 ตีนผี มีหลายแบบและมีคุณสมบัติที่แตกตางกัน เชน ตีนผีเหล็ก ใชเย็บ ตะเข็บทั่วไป เย็บไดทั้งผาหนาและผาบาง ตีนผีมวนกลม ใชเย็บกันรุยริมผา โดยตีนผีจะมวนเก็บริมผาใหเรียบรอย สวยงาม เหมาะสําหรับเย็บริมผาพันคอ ระบายตกแตงเสื้อ ระบายหมอน และระบายผามาน กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทา ๆ กัน รวมกันออกแบบเสื้อคลุม ตามความสนใจ 1 ตัว ที่นอกเหนือจากตัวอยางในหนังสือเรียน โดยสามารถสืบคนขอมูลไดจากแหลงการเรียนรูที่หลากหลาย 2. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสรางแบบและลอกแบบเสื้อคลุม ตามที่กลุมของตนเองไดเลือกไว จากนั้นรวมกันตัดเย็บเสื้อคลุม (อาจใชวิธีการเย็บดวยมือ หรือวิธีการเย็บดวยจักรเย็บผาก็ได) 3. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประเมินผลการปฏิบัติงานกลุมของ ตนเอง หากพบปญหา หรืออุปสรรคในการทํางาน ใหจดบันทึก ไว เพื่อหาแนวทางการแกไข 4. ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1-2 คน ออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน นํา สอน สรุป ประเมิน T63


สรé างสรร¤ì ¾ั²¹าการเรÕ¹รéÙกÔ¨กรรม ค�าชี้แจง : ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นรายบุคคล โดยการเขียน ตอบตามที่ก�าหนด เรื่อง การเลือกãª้เสื้อผ้า และเ¤รื่องแต่งกา ใบมอบหมายงานที่ 3.๑ ๑. ในการแต่งกายของตนเองให้ดูสวยงามและเหมาะสมกับบุคลิกภาพ ควรยึดหลักการแต่งกายอย่างไร ๒. ควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่กับบ้านในลักษณะใด เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายในการท�ากิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้าน ๓. เสื้อผ้าที่สวมใส่ไปท�างาน หรือไปท�ากิจธุระ ควรเลือกที่มีรูปแบบอย่างไร เพราะเหตุใด ๔. เสื้อผ้าที่สวมใส่ไปงานเลี้ยงต่าง ๆ ควรเลือกที่มีรูปแบบอย่างไรจึงจะมีความเหมาะสม ๕. ถ้ามีน้องวัย ๑๒ ขวบ นักเรียนควรเลือกเสื้อผ้าสีใดให้สวมใส่จึงจะเหมาะสม ๖. การเลือกซื้อชุดชั้นในควรค�านึงถึงสิ่งใดเป็นหลัก ๗. การเลือกซื้อเครื่องแต่งกายประเภทกระเป๋า ควรพิจารณาเลือกให้เหมาะสมอย่างไร ๘. การเลือกซื้อถุงเท้าและรองเท้า ควรพิจารณาจากสิ่งใดเป็นหลัก ๙. การซ่อมแซมเสื้อผ้า เช่น การซ่อมแซมซิป การซ่อมแซมเน�้อผ้าที่ขาด การซ่อมแซมตะเข็บ การเย็บ ตะขอ การเย็บกระดุม การปะ ควรใช้หลักเกณฑ์ใดในการซ่อมแซมเสื้อผ้าดังกล่าว ๑๐. การตกแต่งเสื้อผ้ามีหลายรูปแบบ ถ้าต้องการตกแต่งเสื้อยืดตัวเก่าให้เป็นเสื้อยืดตัวใหม่จะเลือกใช้วิธีใด เพราะเหตุใด 5๘ ๘. การเลือกซื้อถุงเท้าและรองเท้า ควรพิจารณาจากสิ่งใดเป็นหลัก 1 2 ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 สรุปสิ่งที่ไดเรียนรู 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การ ซอมแซม ตกแตง ดัดแปลง ตัดเย็บเสื้อผา และของใชภายในบาน 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การซอมแซม ตกแตง และ ดัดแปลงเสื้อผา 3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวย การเรียนรูที่ 3 4. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน จากการนําเสนอผลการปฏิบัติงานและการสรุป ความรู ขั้นที่ 6 นําเสนอผลงาน 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอ ผลงานตามหัวขอโครงการที่ไดรับมอบหมาย 6. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนแตละกลุมรวมกัน ซักถามในประเด็นที่สงสัยในแตละโครงการ นักเรียนควรรู 1 ถุงเทา ควรเลือกสวมใสถุงเทาที่ผลิตจากเสนใยธรรมชาติ 100% เชน ผาฝาย หรือผาคอตตอน ไมควรใชถุงเทาที่ผลิตจากไนลอน หรือเสนใยพอลิเอสเตอร เนื่องจากไมซับเหงื่อและระบายอากาศไดไมดีเทาที่ควร นอกจากนี้ ควรซัก ทําความสะอาดถุงเทาทุกวัน ไมควรปลอยทิ้งไว และหมั่นแชถุงเทาในนํ้ายา ฆาเชื้อโรคอยางนอย 1 ครั้ง ตอ 2 สัปดาห 2 รองเทา ควรเลือกสวมใสรองเทาที่มีความแข็งแรง ทนทาน นํ้าหนักเบา ระบายอากาศไดดี ไมควรสวมรองเทาคูเดิมทุกวัน เพราะหากสวมคูเดิมทุกวัน โดยไมมีการนําออกมาผึ่งใหแหง เพื่อระบายความอับชื้น อาจทําใหเกิดเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียที่สงผลทําใหเกิดกลิ่นเทาไดงาย ควรซักและทําความสะอาด รองเทาอยางนอยเดือนละ 1 ครั้ง และควรนําไปผึ่งแดดจนแหงสนิทกอนนํามา ใชงาน กิจกรรม Mini Project 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทา ๆ กัน โดยใหสมาชิกภายในกลุม แตละคนสํารวจและคัดเลือกเสื้อผาที่ชํารุด หรือเสื้อผาที่ตนเอง ไมไดสวมใสมาใหสมาชิกในกลุมรวมกันคัดเลือก เพื่อนํามา ดัดแปลงเสื้อผา 2. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันคิดและออกแบบเสื้อผาใหม โดยนํา เสื้อผาตัวเกามาดัดแปลง จากนั้นรวมกันสรางแบบ คัดลอกแบบ และลงมือตัดเย็บเสื้อผา 3. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประเมินผลการปฏิบัติงานกลุมของ ตนเอง หากพบปญหา หรืออุปสรรคในการทํางาน ใหจดบันทึกไว เพื่อหาแนวทางการแกไข 4. ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1-2 คน ออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน นํา สอน สรุป ประเมิน T64


ขอสอบเนน การคิด แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน ล าดับที่ ชื่อ-สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ค�าชี้แจง : ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นกลุ่ม โดยปฏิบัติงานตาม ที่ก�าหนดให้ เรื่อง การซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงเสื้อผ้า ใบมอบหมายงานที่ 3.2 ๑. ส�ารวจเสื้อผ้าของตนเองที่ช�ารุด หรือเสื้อผ้าที่ต้องการตกแต่ง หรือดัดแปลงให้สวยงามอย่างใดอย่างหนึ่ง เพียง ๑ ชิ้น ๒. น�าเสื้อผ้าที่ได้มาคัดเลือกในกลุ่มเพื่อท�าการซ่อมแซม หรือตกแต่ง หรือดัดแปลงเสื้อผ้าที่เลือกไว้ ๓. แสวงหาความรู้เพื่อการท�างานจากสื่อที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน นิตยสาร ปรึกษาผู้รู้ ผู้ช�านาญการ ในท้องถิ่น ครูผู้สอน ๔. วางแผนการท�างานในรูปแบบโครงงานและน�าส่งเอกสารพร้อมผลงาน โดยมีรายละเอียด ดังนี้ • ชื่อกลุ่ม • รายชื่อหัวหน้ากลุ่มและสมาชิกในกลุ่ม • การแบ่งหน้าที่การท�างานภายในกลุ่ม • รูปแบบงานที่ท�า • หลักการและเหตุผลที่ท�างาน • วัตถุประสงค์ • ระยะเวลาในการท�างาน • งบประมาณที่ใช้ • บัญชีรายรับ-รายจ่าย • วิธีการด�าเนินงาน • บันทึกผลการปฏิบัติงาน • ปัญหา หรืออุปสรรคในการท�างาน • วิธีแก้ไขปัญหา • ผลการปฏิบัติงาน • ความภาคภูมิใจในการท�างาน เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 59 แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การซอมแซม ตกแตง และดัดแปลง เสื้อผา 3. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางาน กลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกต คุณลักษณะอันพึงประสงค หากพบวาเสื้อผาที่นักเรียนสวมใสมีสภาพชํารุด หรือไมได สวมใสแลว นักเรียนสามารถนํามาทําสิ่งใด เพื่อใหเกิดความคุมคา มากที่สุด 1. นําไปทําเปนพรมเช็ดเทา 2. ดัดแปลงใหเปนเสื้อผาตัวใหม 3. จําหนายเปนเสื้อผามือสองในตลาด 4. ตัดใหเปนเศษผาชิ้นเล็กๆ แลวนําไปรองวัสดุประเภทแกว (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะเปนการสรางสรรคเสื้อผาตัวเกา ใหเปนเสื้อผาตัวใหมที่มีความสวยงาม แปลกใหม ไมเหมือนใคร ซึ่งเกิดจากความคิดสรางสรรคของผูประดิษฐ ทําใหไมตองซื้อ เสื้อผาใหม จึงเกิดความคุมคามากที่สุด) นํา สอน สรุป ประเมิน T65


Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ความส�ำคัญ และประเภทของ งานประดิษฐ์ เอกลักษณ์ไทย 1 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - PowerPoint 1. อธิบายความหมายและ คุณค่าของงานประดิษฐ์ ที่เป็นเอกลักษณ์ไทยได้ 2. เห็นคุณค่าของงาน ประดิษฐ์ที่เป็น เอกลักษณ์ไทย 3. ออกแบบงานประดิษฐ์ ที่เป็นเอกลักษณ์ไทยได้ แบบกระบวน การเรียน ความรู้ ความเข้าใจ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 4.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T66


แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 2 งานประดิษฐ์ เอกลักษณ์ไทย 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 1. เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือ เครื่องใช้ ในงานประดิษฐ์ที่เป็น เอกลักษณ์ไทย ได้เหมาะสมกับ ประเภทของงาน 2. ออกแบบและประดิษฐ์ ชิ้นงานที่เป็น เอกลักษณ์ไทย ได้อย่างสวยงาม แบบใช้ โครงการ เป็นหลัก (ProjectBased Instruction) - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจโครงงาน - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T67


งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ ไทย สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ความคิดสร้างสรรค์มี ๔ ลักษณะ ประกอบด้วยความคิดริเริ่ม ความคล่องในการคิด ความยืดหยุ่น ในการคิด และความคิดละเอียดลออ ■ ทักษะการท�างานร่วมกัน เป็นการท�างานกลุ่ม ท�างานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ท�างาน อย่างมีกระบวนการตามขั้นตอน และฝึกหลักการท�างานกลุ่ม เช่น การประดิษฐ์ของใช้ที่เป็น เอกลักษณ์ไทย ■ ทักษะการจัดการ เป็นการจัดระบบงานและระบบคน เพื่อให้การท�างานส�าเร็จตามเป้าหมาย อย่างมีประสิทธิภาพ ■ ทักษะกระบวนการการแก้ปัญหาในการท�างาน มีขั้นตอน คือการสังเกต วิเคราะห์สร้างทางเลือก และประเมินทางเลือก ■ ทักษะการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ารงชีวิต ประกอบด้วยการศึกษาค้นคว้า รวบรวม สังเกต ส�ารวจ และบันทึก ■ การใช้พลังงาน ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน เป็นคุณธรรมในการท�างาน ตัวชี้วัด ■ สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะการท�างานร่วมกัน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๒) ■ มีทักษะการจัดการในการท�างาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๓) ■ มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�างาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๔) ■ มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ารงชีวิต (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๕) ■ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�างาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๖) ■ ใช้พลังงาน ทรัพยากรในการท�างานอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๗) ๑ ความส�าคัญของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย เป็นผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันซึ่งมีความงามและมีคุณค่า ทางศิลปะควรค่าแก่การอนุรักษ์ ไว้เพื่อไม่ ให้สูญหาย หน่วยการเรียนรู้ที่๔ ถ้าต้องการประดิษฐ์ของใช้ที่ เป็นเอกลักษณ์ไทย เพื่อนÓไป เป็นของขวัญผู้ใหญ่ ควรเลือก ประดิษฐ์งานประเภทใด เพราะ เหตุใด 60 ขั้นนํา (เนนกระบวนการเรียนความรู ความเขาใจ) 1. ครูแจงชื่อเรื่องที่จะเรียนรูและผลการเรียนรูให นักเรียนทราบ จากนั้นใหนักเรียนแตละคนทํา แบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 เรื่อง งานประดิษฐเอกลักษณไทย 2. ครูเปดคลิปวิดีโอการทํางานประดิษฐที่เปน เอกลักษณไทยในลักษณะตางๆ ใหนักเรียนดู 3. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนรูจักและเคยเห็นงานประดิษฐที่เปน เอกลักษณไทยประเภทใดจากการชมคลิป วิดีโอ (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน งานแกะสลักผักและผลไม งานแกะสลักไม งานดอกไมสด งานใบตอง งานปนดิน งานจักสาน) • จากคลิปวิดีโอ นักเรียนเคยประดิษฐงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยในลักษณะนี้ บางหรือไม ถาเคย นักเรียนประดิษฐงาน ประเภทใด และรูสึกอยางไรที่ไดประดิษฐ งานชิ้นนั้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เคยทํางานใบตอง โดยการทํากระทง เพื่อใชในงานประเพณี ลอยกระทง มีความรูสึกภาคภูมิใจที่สามารถ สรางสรรคงานประดิษฐเอกลักษณไทยที่มี ความสวยงาม ประณีต ละเอียดออน เพื่อใช ในงานประเพณีที่สําคัญของไทย เคยทํางาน แกะสลักผักและผลไม เพื่อใชในการตกแตง ภาชนะใสอาหาร เพื่อเลี้ยงตอนรับเพื่อนของ คุณแม ซึ่งเปนชาวตางชาติที่เดินทางมา ทองเที่ยวยังประเทศไทย มีความรูสึกภาคภูมิใจ ที่สามารถสรางสรรคงานประดิษฐเอกลักษณ ไทยที่มีความสวยงาม เพื่อใชในการตกแตง ภาชนะใสอาหารใหนารับประทานยิ่งขึ้น) เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเรื่องความสําคัญและประเภทของ งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยมากขึ้น สามารถเลือกใชเครื่องมือในงานประดิษฐไดอยางถูกตองและปลอดภัย ลงมือปฏิบัติงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย เชน งานแกะสลัก งานดอกไมสด ไดอยางสรางสรรค เพื่อใหเกิดความชํานาญ ใชทรัพยากรอยางคุมคาและยั่งยืน เพื่อเปนการอนุรักษสิ่งแวดลอม นําทักษะ การจัดการมาประยุกตใชในการทํางาน ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางานอยางเปนขั้นตอน รวมถึงทักษะในการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิต ในการคนหาขอมูลที่เปนประโยชน เพื่อใหผลงานสําเร็จตรงตามเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย • ใหนักเรียนปฏิบัติงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย เชน งานแกะสลัก งานดอกไมสด อยางสรางสรรค นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T68


ขอสอบเนน การคิด งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ ไทย เป็นชิ้นงานที่จัดท�า  หรือ สร้างขึ้น  เพื่อน�ามาใช้ประดับตกแต ่งให้เกิดความสวยงาม งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ ไทยมีอยู่มากมาย เช่น เครื่องประดับ  จากเปลือกหอย งานจักสาน แกะสลักผักและผลไม้มาลัย ดอกไม้สด โดยงานประดิษฐ์เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาที่มีคุณค่า ควรแก่การอนุรักษ์ ๑.๑ ความหมายของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย งานประดิษฐ์เป็นงานที่สืบทอดต ่อกันมาตั้งแต ่สมัยโบราณ สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตแบบไทยเป็นงานที่มีความประณีตละเอียดอ่อนมีความงดงามและมีคุณค่า ทางศิลปะ สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์อันดีงามของชาติไทย ส่วนใหญ่จะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิตประจ�าวัน สื่อความหมายถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี งานประดิษฐ์ประเภทนี้เป็นมรดกไทย ที่สืบทอดกันมาแต่ช้านานสามารถฝึกท�าได้ด้วยตนเอง โดยศึกษาขั้นตอนการประดิษฐ์จากหนังสือ นิตยสารคลิปวิดีโอ หรือฝึกจากผู้ที่มีความรู้มีประสบการณ์ ในท้องถิ่นนั้น ๆ เมื่อฝึกฝนจนเกิดความ ช�านาญแล้วสามารถน�าความรู้ ไปประกอบเป็นอาชีพได้ ในอนาคต งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย 61 ๑.๑ ความหมายของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย ประเพณี 1 2 ขั้นนํา • จากคลิปวิดีโอที่ไดชมไปนั้น นักเรียนชื่นชอบ งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยในลักษณะใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ชอบงานดอกไมสด โดยเฉพาะ การรอยมาลัย และการจัดดอกไม เพราะชอบ ดอกไมที่มีสีสันสวยงาม ชอบกลิ่นหอมของ ดอกไม ชอบรอยมาลัย เพื่อนําไปถวายพระ และชอบนําดอกไมมาจัดใสแจกัน เพื่อใช ใน การจัดและตกแตงหองใหมีความสวยงาม ยิ่งขึ้น ชวยเพิ่มบรรยากาศที่ดีภายในบานได) • นักเรียนคิดวา งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทยมีความสําคัญหรือไม อยางไร (แนวตอบ มีความสําคัญ เนื่องจากงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย เปนงานประดิษฐที่ ไดรับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งสะทอน ใหเห็นถึงเอกลักษณอันดีงามของชาติไทย รวมถึงวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปญญา และ วิถีชีวิตของคนไทยที่มีมาตั้งแตอดีต) 4. ครูใหนักเรียนรวมกันยกตัวอยางงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทยที่นักเรียนเคยเห็น โดยมี ครูเปนผูคอยเสนอแนะเพิ่มเติม 5. ครูถามนักเรียนวา • งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยจัดเปน งานที่มีลักษณะอยางไร (แนวตอบ งานประดิษฐเอกลักษณไทยเปน ผลงานที่มีความงามและมีคุณคาทางศิลปะ เปนผลงานที่บรรพบุรุษไดสรางสรรคขึ้น มีการสืบทอดมาจนถึงปจจุบัน ผลงานสวนใหญ จะมีความเกี่ยวของกับชีวิตประจําวัน และ การสื่อความหมายถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมไทย) ขอใดกลาวถึงงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทยไดอยางถูกตอง 1. เปนผลงานที่เลียนแบบมาจากวัฒนธรรมตะวันตก 2. เปนผลงานที่มีขนาดใหญ ไมสามารถเคลื่อนยายได 3. เปนผลงานที่มีมูลคาสูง จึงตองเก็บรักษาไวในพิพิธภัณฑ 4. เปนผลงานที่แสดงออกถึงเอกลักษณทางวัฒนธรรมของชาติ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย เปนผลงานที่มีมาตั้งแตสมัยโบราณ จัดเปนผลงานที่เกิดขึ้นจาก ภูมิปญญาของบรรพบุรุษที่ไดสรางสรรคชิ้นงานดวยความประณีต วิจิตรบรรจง แสดงใหเห็นถึงเอกลักษณทางวัฒนธรรมของชาติ ที่มีความสวยงาม และไดมีการสืบทอดมาจนถึงปจจุบัน) นักเรียนควรรู 1 งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย เปนการนําวัสดุตางๆ เชน ผัก ผลไม ใบไม ดอกไม ตนไม ดินเหนียว มาประดิษฐเปนผลงานในลักษณะตางๆ เพื่อ ประโยชนในการใชสอย เชน เปนของเลน ของใช ของตกแตง เพื่อความ สวยงาม จัดเปนผลงานที่ไดรับการถายทอดมาจากบรรพบุรุษทั้งในครอบครัว และในทองถิ่น หรือจัดทําขึ้นเพื่อใชในงานประเพณี หรือเทศกาลสําคัญตางๆ ที่แสดงใหเห็นถึงความโดดเดน เปนเอกลักษณประจําชาติ เชน มาลัย บายศรี งานแกะสลัก งานใบตอง ซึ่งผลงานเหลานี้จะถูกสรางขึ้นอยางประณีต งดงาม 2 ประเพณี ในงานประเพณีสําคัญของไทย ไดมีการนํางานประดิษฐที่เปน เอกลักษณไทยมาใชหลากหลายรูปแบบ เชน ประเพณีลอยกระทง นิยมนํา ใบตองมาทําเปนกระทงใชลอย เพื่อเปนการสะเดาะเคราะหและขอขมาตอ พระแมคงคา นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T69


ขอสอบเนนการคิด ๑.๒ ประโยชน์ของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย นอกจากจะมีความงดงาม แสดงให้เห็นถึงความประณีต ละเอียดอ่อนในการท�างานประดิษฐ์แล้ว ยังสามารถน�ามาใช้งานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งประโยชน์  ของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย มีดังนี้ 1 น�าไปใช้ประโยชน์ในชีวิต ประจ�าวันและช่วยอ�านวย ความสะดวกในการท�างาน ๒ ส่งเสริมให้เกิดความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์เพื่อเป็นการพัฒนา ทางด้านสติปัญญา ๓ ฝึกนิสัยให้มีความอดทนขยัน หมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ  พิถีพิถัน  และมีความละเอียด รอบคอบในการท�างาน 6 ช่วยเพิ่มคุณค่าของวัสดุและ ช่วยให้ตนเองและครอบครัว มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น ๔ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย โดยน�า สิ่งของที่มีอยู่ สิ่งของเหลือใช้ มาใช้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ๗ น�าไปใช้เป็นของขวัญ หรือ ของก�านัลเพื่อมอบให้แก่ผู้อื่น ในโอกาสส�าคัญต่าง ๆ ๕ ช ่วยให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน เป็นการใช้เวลา ว่างให้เกิดประโยชน์ ๘ ช่วยอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่มี คุณค่าของไทย ไม่ ให้สูญหาย ไปตามกาลเวลา งานแกะสลักผักและผลไม้สามารถน�ามาใช้ ในการตกแต่งอาหารให้มีความสวยงาม และน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น 6๒ และมีความละเอียด ช่วยเพิ่มคุณค่าของวัสดุและ รอบคอบในการท� 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยมีประโยชน อยางไร (แนวตอบ มีประโยชนหลายประการ เชน ชวยใหเกิดความเพลิดเพลิน เปนการใช เวลาวางใหเกิดประโยชน ชวยเพิ่มคุณคา ของวัสดุที่นํามาใช นําไปใชเปนของขวัญ เพื่อมอบใหแกผูอื่นในโอกาสสําคัญตางๆ ชวยประหยัดคาใชจาย โดยนําสิ่งของที่มีอยู มาใชใหเกิดประโยชนอยางสูงสุดและคุมคา สงเสริมความคิดริเริ่มสรางสรรค ชวยอนุรักษ ศิลปวัฒนธรรมของไทยไมใหสูญหาย) • นักเรียนเคยนําผลงานประดิษฐที่เปน เอกลักษณไทยประเภทใดไปใชในชีวิต ประจําวัน ใชในโอกาสใด และนําไปใช อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน นํางานดอกไมสด คือ พวงมาลัย มาไหวคุณพอและคุณแม เพื่อขอพรในชวงเทศกาลปใหมไทยหรือ วันสงกรานต) 2. ครูใหนักเรียนดูงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทยในลักษณะตางๆ ที่ครูนํามา เชน ผักและ ผลไมแกะสลัก พวงมาลัยดอกไมสด กระทง ใบตองสําหรับใสอาหารหรือขนม จากนั้นให นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็น ที่ครูกําหนดให ดังนี้ • งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยดังกลาว มีประโยชนตอชีวิตประจําวันอยางไร • หากตองการแบงประเภทของงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย สามารถแบงออกไดเปน กี่ประเภท ประกอบไปดวยสิ่งใดบาง ในการประดิษฐชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทย ควรคํานึงถึงสิ่งใด เปนสําคัญ 1. ชิ้นงานนั้นทําไดหรือไม 2. ชิ้นงานนั้นจําหนายไดหรือไม 3. ชิ้นงานนั้นใชประโยชนไดหรือไม 4. ชิ้นงานนั้นหาเศษวัสดุมาประดิษฐไดหรือไม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการประดิษฐชิ้นงานที่เปน เอกลักษณไทย ควรคํานึงถึงประโยชนของการนําไปใชเปนหลัก โดยการนําวัสดุเหลือใชที่มีอยูในบาน ในโรงเรียน หรือในทองถิ่น มาประดิษฐเปนชิ้นงานในลักษณะตางๆ เพื่ออํานวยความสะดวก ในการดําเนินชีวิต เชน นําใบตองมาประดิษฐเปนถาดหรือจาน เพื่อใชบรรจุอาหาร นําใบลานมาสานเปนปลาตะเพียน เพื่อใชเปน ของเลนของเด็กๆ) นักเรียนควรรู 1 ความละเอียดรอบคอบ การฝกปฏิบัติงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย นอกจากจะชวยฝกใหผูประดิษฐมีความอดทนแลว ยังชวยใหเปนคนที่ทํางาน ไดอยางละเอียดรอบคอบ เนื่องจากชิ้นงานหลายประเภท จําเปนตองใชความ ประณีตและความละเอียดออนในการปฏิบัติงาน เพื่อใหไดชิ้นงานที่มีความ สวยงาม เชน การรอยมาลัย การแกะสลักผักและผลไม นอกจากนี้ ยังสามารถ นําประโยชนที่ไดรับจากการประดิษฐชิ้นงานไปประยุกตใชกับการเรียนรูในวิชา อื่นๆ หรือการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจําวันได 2 เพิ่มคุณคาของวัสดุ เปนการนําวัสดุชนิดอื่นๆ มาใชทดแทน เพื่อประดิษฐ ชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทย นิยมนํามาใชเพื่อประดิษฐเปนของที่ระลึก ของฝาก ของกํานัล เชน การประดิษฐมาลัยจากดินญี่ปุน การสานตะกราจากไมไผ นํา สอน สรุป ประเมิน T70


ขอสอบเนน การคิด งานดอกไม้สด มีหลายชนิดและหลายรูปแบบ เช่น การร้อยตาข่าย การร้อยอุบะ การร้อย พวงมาลัย  เพื่อน�ามาใช้ประดับตกแต่ง ท�าให้เกิดความสวยงาม ซึ่งสามารถ ศึกษาจากผู้รู้ หรือศึกษาด้วยตนเอง จากหนังสือ นิตยสารต ่าง ๆ และฝึก ประดิษฐ์อย่างสม�่าเสมอเพื่อให้เกิดความ ช�านาญ สามารถน�าไปประกอบอาชีพได้  ในอนาคต งานใบตอง งานประดิษฐ์ที่คนไทยนิยม ประดิษฐ์เพื่อน�ามาใช้ ในการ บรรจุอาหาร ห่อขนม ตลอดจน น�ามาใช้ ในงานพิธีต่าง ๆ  เช่น ท�ากระทงในประเพณีลอยกระทง ท�าพานในวันไหว้ครู  ท�าบายศรี ในพิธีต่าง ๆ ท�ากระทงสลากภัต ถาดใบตองใส่ขนมถวายพระ ท�าพานขันหมากงานมงคลสมรส งานแกะสลักผักและผลไมั เป็นการแกะลวดลายลงบนผัก หรือ ผลไม้ โดยการใช้มีดแกะ เพื่อให้เกิด ลวดลายขึ้นเช่นดอกไม้ใบไม้แล้วน�า มาตกแต่งในจาน ถาด หรือพานให้ สวยงามเช่นการแกะสลักฟักทองเป็น ภาชนะใส่อาหาร การแกะสลักผักจิ้ม น�้าพริก การแกะสลักหยวกกล้วย หรือ ที่เรียกว่า “การแทงหยวก” งานแกะสลักไม้ การแกะลวดลายลงบนเนื้อไม้ โดยการใช้สิ่ว ค้อน ในการแกะ เช่น การแกะสลักไม้ท�าบานประตู การแกะสลักภาพประดับฝาผนัง แกะสลักเป็น ลวดลายต่าง ๆ  เพื่อใช้ประดับตกแต ่งอาคาร บ้านเรือนและสถานที่ต่าง ๆ เป็นงานที่ต้องอาศัย ความช�านาญและประสบการณ์อย่างมาก  เพราะ จะช่วยให้ผลงานมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ๒ ประเภทของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท มีรูปแบบขั้นตอนการท�า การน�า ไปใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกันจึงควรเลือกใช้ ให้เหมาะสมกับลักษณะของงานโดยงานประดิษฐ์ที่เป็น เอกลักษณ์ ไทย สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้ งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย 6๓ ขั้นสอน ขั้นที่ 2 วางแผนปฏิบัติ 3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกัน วางแผนปฏิบัติงาน พรอมทั้งแบงหนาที่ความ รับผิดชอบตามความถนัดและความสามารถ ของแตละบุคคล เพื่อสืบคนขอมูลเกี่ยวกับ ความหมาย ความสําคัญ และประเภทของงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูล เกี่ยวกับความหมาย ความสําคัญ และประเภท ของงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หรือศึกษา เพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 5. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมาย ความสําคัญ และประเภทของงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรูที่ 4 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปราย ความรูตามที่ไดศึกษามา จากนั้นสรุปสาระสําคัญ ในรูปแบบของแผนผังความคิด เพื่อเตรียม นําเสนอหนาชั้นเรียน ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู ความเขาใจ 7. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอแผนผังความคิดเกี่ยวกับ ความหมาย ความสําคัญ และประเภทของ งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน จากนั้นใหเพื่อนรวมชั้นเรียน รวมกันเสนอแนะเพิ่มเติม งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณของไทย มีความสําคัญและมีคุณคา อยางไร (แนวตอบ มีความสําคัญและมีคุณคาหลายประการ เชน สามารถนําไปใชประโยชนและอํานวยความสะดวกในการทํางาน และการดําเนินชีวิตประจําวัน นําไปใชในงานประเพณี เทศกาล สําคัญ พิธีกรรมทางศาสนา หรือนําไปประกอบอาชีพ เพื่อสราง รายไดเลี้ยงตนเองและครอบครัว เปนการอนุรักษภูมิปญญา ของไทยที่เปนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ สืบสาน และเผยแพร ไวใหคนรุนหลังไดศึกษาเรียนรู) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับศิลปะการแทงหยวกใหนักเรียนฟงวา การแทงหยวก เปนการนําหยวกกลวยมาแทงเปนลวดลายตางๆ เชน ลายกระจัง ฟนปลา ลายนองสิงห ลายหนากระดาน ลายเสา โดยหยวกกลวย ที่นิยมนํามาใชจะเปนหยวกกลวยตานี ศิลปะการแทงหยวกจะถูกนํามาใช ในการประดับตกแตงในงานพิธีกรรมตางๆ ซึ่งผูคนสวนใหญมักเขาใจกันวา จะตองนํามาใชประดับในงานศพเทานั้น แตการแทงหยวกสามารถนํามา ใชประดับตกแตงในงานมงคลตางๆ ได เชน งานบวช งานทอดกฐิน งานขึ้นบานใหม สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับศิลปะการแทงหยวก ไดที่ https://www.stou.ac.th/ study/sumrit/7-58/page2-7-58.html นํา สอน สรุป ประเมิน T71


ขอสอบเนนการคิด T i p งานปั้นดิน งานที่ได้จากการน�าดินเหนียว หรือดินชนิดอื่น ๆ มาปั้น ให้เป็นรูป หรือชิ้นงานตามต้องการ เช่น งานเครื่องปั้น ดินเผา งานปั้นตุ๊กตาชาววัง งานปั้นถ้วยชาม ซึ่งงาน ประดิษฐ์ประเภทนี้ถือเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน ประเภทหนึ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นตามภาคต่าง ๆ เช่น ชุมชน เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี งานจักสาน งานประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ เช่น หวาย ไม้ ไผ่ ใบลาน กก เพื่อประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจ�าวัน  เช่น การประดิษฐ์เครื่องใช้ เช่น งอบ กระด้ง กระจาด กระเป๋า การประดิษฐ์เครื่องดักสัตว์ เช่น กระชัง ลอบ ไซ ข้อง การประดิษฐ์เครื่องเล่น เช่น ตะกร้อ ปลาตะเพียน นกตั๊กแตน การปั้นตุ๊กตาชาววัง จัดเป็นผลงานหัตถศิลป์ของไทยประเภทหนึ่งที่มีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยจัดท�าขึ้นเพื่อน�ามาเล่นกันเฉพาะเจ้านายในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาได้มี คุณข้าหลวงน�าออกมาปั้นบริเวณนอกพระบรมมหาราชวัง  จึงท�าให้ตุ๊กตาชนิดนี้เริ่มเป็นที่รู้จักของคน อย่างแพร่หลายตุ๊กตาชาววังมีอยู่ ๓ ขนาดคือเล็กกลางและใหญ่แต่ที่นิยมกันมากจะเป็นขนาดเล็ก ซึ่งมี ความสูงประมาณ  ๒  เซนติเมตร ปั้นเป็นรูปหญิงชายในวัยต่าง ๆ แสดงอิริยาบถในลักษณะที่แตกต่างกัน ไปตามจินตนาการของผู้ปั้น ช่างปั้นจะปั้นตุ๊กตาจากส่วนขาก่อน จากนั้นจึงต่อขึ้นเป็นล�าตัวและแขน ซึ่งจะใช้ดินก้อนเล็ก ๆ เพียงก้อนเดียว หัวและใบหน้าจะกดจากแม่พิมพ์  จึงท�าให้ ใบหน้าของตุ๊กตาชาววัง มีลักษณะที่เหมือนกันทั้งหมด เมื่อปั้น เสร็จน�าไปผึ่งแดดให้แห้งก ่อนน�าไปเผา เมื่อเย็นแล้วจึงลงสีให้สวยงาม งานปั้นตุ๊กตาชาววัง 6๔ ขั้นสอน ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู ความเขาใจ 8. ครูเนนยํ้าใหนักเรียนเขาใจวา “งานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทยจัดเปนภูมิปญญาของ บรรพบุรุษที่ไดนําสิ่งตางๆ มาสรางสรรคเปน ผลงานที่มีความสวยงาม” ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 สรุป 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง ความหมาย ความสําคัญ และประเภทของ งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง ความสําคัญและประเภทของประดิษฐที่เปน เอกลักษณไทย 3. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน จากการนําเสนอผลการวิเคราะห วิจารณ และ การสรุปความรู ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง ความสําคัญ และประเภทของงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทย 3. ครูประเมินผลการสรุปสาระสําคัญในรูปแบบ แผนผังความคิด เรื่อง ความหมาย ความสําคัญ และประเภทของงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทย 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค หากตองประดิษฐชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทยโดยคํานึงถึง ทรัพยากรและสิ่งแวดลอม เพื่อนําไปใชเปนของเลนสําหรับเด็ก ควรเลือกประดิษฐชิ้นงานประเภทใดจึงจะมีความเหมาะสม มากที่สุด (แนวตอบ สามารถเลือกประดิษฐชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทย ประเภทงานจักสาน หรืองานปนจากดิน เพราะเปนการนําวัสดุ ที่มีอยูในธรรมชาติ หรือในทองถิ่น มาสรางสรรคเปนชิ้นงานที่ ไมกอใหเกิดอันตรายตอผูใช โดยชิ้นงานจะมีรูปแบบที่แตกตางกัน ไปตามความคิดสรางสรรคของผูประดิษฐ จัดเปนชิ้นงานที่มีความ ประณีต สวยงาม และมีคุณคาทางศิลปะอีกประเภทหนึ่ง) แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 4 แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม นํา สอน สรุป ประเมิน T72


ผักและผลไม้ เลือกผักและผลไม้ตามฤดูกาลมีความสดใหม่ซึ่งจะ ท�าให้แกะได้ง่ายและเก็บได้นาน เลือกชนิดของผัก และผลไม้ ให้ตรงกับความต้องการและความเหมาะสม กับงานแกะสลักนั้น ๆ มีดแกะสลักด้ามกลม เหมาะส�าหรับผู้ที่แกะสลัก ได้เบื้องต้นแล้ว ใบมีดมี ลักษณะเรียวแหลม ยาว ประมาณ ๑.๕-๒.๕  นิ้ว  มีทั้งเนื้อสเตนเลสและ เนื้อเหล็ก ควรเลือกใช้ ให้ เหมาะสมกับการใช้งาน ช้อนกลม ใช้ตักไส้ผักและผลไม้ควรเลือกใช้เนื้อสเตนเลส เพราะจะไม่เป็นสนิม เช่น ตักเนื้อสีแดงของแตงโม ออก เพื่อน�าแตงโมไปแกะสลักเป็นภาชนะ มีดแกะสลักด้ามแบน ใช้ ในการแกะ บาก หั่น เป็น ลวดลายต่าง ๆ ใบมีดเรียวแหลม ยาวประมาณ ๑-๒ นิ้ว ควร เลือกใช้เนื้อสเตนเลส  เพื่อ ไม่ให้เกิดปฏิกิริยากับผักและ ผลไม้และควรเลือกชนิดด้าม แบนเพราะควบคุมได้ง่ายกว่า ด้ามแบบอื่น ๆ มีดปอกผลไม้ •  มีดปอก หรือหั่นผักและผลไม้ ควรเลือกใช้ เนื้อสเตนเลส เพื่อไม่ ให้ผักและผลไม้ด�า  ควรมี ความคม ใบมีดมีความยาวประมาณ ๔-๕ นิ้ว •  มีดปอกสองคมใช้ปอกเปลือกผลไม้ควรเลือก ขนาดให้เหมาะสมกับชนิดผักและผลไม้ เขียง ใช้ส�าหรับรองผักและ ผ ลไ ม้ เ ว ลา แ กะ ส ลั ก ควรเ ลือกที่มีน�้าหนัก พอประมาณ มีขนาด พอเหมาะกับขนาดของ ผักและผลไม้ ๓ ตัวอย่างงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย : งานแกะสลัก งานแกะสลักผักและผลไม้จ�าเป็นต้องใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ เราสามารถน�าผักและ ผลไม้มาแกะสลักได้ ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งใบไม้ ดอกไม้ รูปสัตว์ต่าง ๆ งานแกะสลักในปัจจุบัน ที่นิยมกันแพร่หลาย เช่นการจัดจานตกแต่งอาหารในโรงแรมในงานเลี้ยงรับรองแขกต่างประเทศ ใช้ ในการตกแต่งสถานที่ในโอกาสส�าคัญต่าง ๆ การเลือกวัสดุ อุปกรณ์ ในงานแกะสลัก มีดังนี้ งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย 6๕ กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นนํา (ใชโครงการเปนหลัก) ขั้นที่ 1 ใหความรูพื้นฐาน 1. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทยประเภทงานแกะสลัก จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยาง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยประเภท งานแกะสลัก จาก PowerPoint ม.5 หนวย การเรียนรูที่ 4 3. ครูใหนักเรียนรวมกันเสนอแนะวา ตัวอยางงาน แกะสลักดังกลาวจะตองใชวัสดุ อุปกรณชนิดใด และมีขั้นตอนการปฏิบัติงานอยางไร ขั้นที่ 2 กระตุนความสนใจ 4. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการแกะสลักแครรอต การแกะสลักแตงกวา การแกะสลักแอปเปล และการแกะสลักมะมวงใหนักเรียนดู เพื่อให นักเรียนไดเรียนรูขั้นตอนการปฏิบัติงานแตละ ประเภท 5. ครูถามนักเรียนวา • ความสวยงามของการแกะสลักผักและผลไม อยูที่สิ่งใด เพราะเหตุใดจึงเปนเชนนั้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • นักเรียนรูสึกอยางไรหากตองรับประทาน ผักและผลไมที่ผานการแกะสลักมากอน (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • นักเรียนมีวิธีการเลือกซื้อมีดแกะสลักอยางไร (แนวตอบ ควรเลือกซื้อมีดแกะสลักที่มีปลายมีด เรียวแหลม คม และบาง ผลิตจากวัสดุประเภท สเตนเลสหรือทองเหลือง ซึ่งจะชวยปองกัน ไมใหผักและผลไมมีสีดําในขณะแกะสลัก) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอควรระวังในการใชและการเก็บรักษามีด แกะสลักเพื่อความปลอดภัยใหนักเรียนฟงวา ในการแกะสลักผักและผลไม มีขอควรระวังในการใชมีดแกะสลัก คือ ควรจับมีดใหอยูในทาที่สบาย ไมควรจับ จนแนน หรือเกร็งมือ ขณะใชควรหันคมมีดออกนอกลําตัวเสมอ ไมวางมีดทิ้งไว บนพื้น และสวมปลอกมีดทุกครั้งเมื่อไมไดใชงาน หามสงดานคมมีดใหกับ ผูอื่น ควรปดหรือใสปลอกมีดใหเรียบรอยกอนทุกครั้ง และสงดานที่เปนดามจับ กอนเสมอ รวมถึงหมั่นตรวจสอบสภาพแวดลอมรอบขาง เพื่อปองกันอันตราย ที่อาจเกิดขึ้น ไมควรใชมีดขูดหรือแคะวัสดุที่มีเนื้อแข็ง เพราะอาจทําใหใบมีด ชํารุดได สวนการเก็บรักษามีด สามารถทําไดโดยเช็ดมีดใหแหงและสะอาด หยอดนํ้ามันเล็กนอย ลับมีดอยางถูกวิธี ควรเก็บมีดใหหางจากไฟ เก็บมีดไวใน ที่ปลอดภัย และใหพนจากมือเด็ก ใหนักเรียนเขียนอธิบายความสําคัญและประโยชนที่ไดรับจาก การศึกษา เรื่อง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย ประเภทงาน แกะสลัก ในรูปแบบแผนผังความคิด ตกแตงใหสวยงาม นําสง ครูผูสอน ใหนักเรียนรวบรวมภาพงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย ประเภทงานแกะสลักผัก งานแกะสลักผลไม และงานแกะสลักไม เขียนอธิบายเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณที่นํามาใชในการแกะสลัก วิธีการ แกะสลัก และเทคนิคในการแกะสลักชิ้นงานประเภทตางๆ จัดทํา เปนรูปเลมรายงาน นําสงครูผูสอน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T73


ขอสอบเนนการคิด การแกะสลัก 1 ๒ ๓ ๔ แคร์รอต ขั้นตอนการแกะสลัก ๑. เกลาแคร์รอตเป็นรูปหยดน�้า โดยเกลาส่วนโคนดอกให้เป็นวงกลม เซาะร่อง แบ่งกลีบดอกให้เท่า ๆ กัน ๒. ปาดร่องกลีบ ใช้ปลายมีดวาดกลีบดอกให้ปลายแหลมลงในร่องกลีบ ปาดเนื้อแคร์รอตใต้กลีบดอกออก ๓.  ปาดร่องกลีบต่อไปใช้ปลายมีดวาดกลีบดอกให้ปลายแหลมลงในร่องกลีบปาดเนื้อแคร์รอตใต้กลีบดอกออก ท�าเช่นนี้จนครบชั้นแรก ๔.  ปาดร่องกลีบดอกในชั้นต่อไป โดยสับหว่างกับกลีบดอกในชั้นแรก  ท�าเช่นนี้จนสุดปลายแคร์รอต ซึ่งใน ชั้นสุดท้ายกลีบดอกจะเล็กมาก จึงควรท�าแบบเบามือ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. แคร์รอต ๒. มีดแกะสลัก ๓. มีดปลายแหลม ๔. เขียง ๕. จาน 66 ขั้นตอนการแกะสลัก 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา ตัวอยางงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลักแครรอต จากหนังสือเรียน หนวย การเรียนรูที่ 4 หนา 66 จากนั้นรวมกันอภิปราย ถึงขั้นตอนการแกะสลักแครรอตทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบาย ขั้นตอนการแกะสลักแครรอตใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน 2. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการแกะสลักแครรอต มาใหนักเรียนดู 3. ครูสาธิตการแกะสลักแครรอตใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมแกะสลักแครรอต หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 5. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลักแครรอต โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และ อธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 6. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การเลือกแครรอตมาใช ในงานแกะสลักควรเลือกที่มีผิวเรียบ สีผิว สมํ่าเสมอกัน ผลมีลักษณะตรง ไมโคงงอ ไมมี รอยชํ้า ไมมีตําหนิ หรือมีรอยเนา เนื้อแนน ขนาดไมเล็กหรือใหญจนเกินไป จับพอดีมือ” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแกะสลักผักใหนักเรียนฟงวา การแกะสลักผัก เปนศิลปะที่บรรพบุรุษไดสรางสรรคขึ้น เปนวิธีการตัดแตงผักใหสะดวกและงาย ตอการนํามารับประทาน และยังคงความประณีต ละเอียดออนไว นับตั้งแต สมัยสุโขทัยเปนตนมา ทั้งนี้ ในสมัยรัตนโกสินทรตอนตนไดปรากฏเรื่องราว ของงานแกะสลักผักอยูในงานพระราชนิพนธกาพยเหชมเครื่องคาวหวาน และ เรื่องสังขทอง ซึ่งเปนพระราชนิพนธของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัย บุคคลในขอใดปฏิบัติตนไมเหมาะสมในการแกะสลักแครรอต 1. วิมเลือกแครรอตที่มีผิวเรียบ เปนแทงตรง 2. แววนําแครรอตไปแชนํ้ากอนนํามาแกะสลัก 3. วานใชมีดปลายแหลมเกลาแครรอตเปนรูปหยดนํ้า 4. วุนใชผาขาวบางชุบนํ้าบิดหมาดคลุมแครรอตที่แกะสลักเสร็จแลว (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะกอนแกะสลักไมควรนํา แครรอตไปแชนํ้า เพราะจะทําใหเนื้อของแครรอตแข็ง ทําให แกะสลักเปนลวดลายตางๆ ไดยาก ควรนําแครรอตไปแชนํ้า หลังจากที่แกะสลักเสร็จแลว ซึ่งจะชวยใหสีสดขึ้นและกลีบดอก แข็งตัวไดดี) นักเรียนควรรู 1 การแกะสลัก สําหรับผูที่เริ่มตนแกะสลัก ควรนําผักหรือผลไมที่มีเนื้อแข็ง มาใชในการฝกการใชนํ้าหนักมือของตนเอง หากผักหรือผลไมที่นํามาแกะสลัก มีเนื้อนิ่ม อาจทําใหเกิดความผิดพลาดกับชิ้นงานได หากใชผักหรือผลไมที่มี เนื้อแข็ง เมื่อลงมีดไปเรื่อยๆ จะทําใหรูนํ้าหนักมือของตนเอง นํา สอน สรุป ประเมิน T74


ขอสอบเนน การคิด การแกะสลัก 1 ๒ ๓ ๔ แตงกวา ขั้นตอนการแกะสลัก ๑. หั่นแตงกวาตามความยาวของลูก แล้วปาดแตงกวาให้เป็นรูปคล้ายใบไม้ ๒. วาดเส้นกลางใบ ๒ เส้นคู่กัน แล้วเซาะให้เป็นร่องกลางใบ ๓. เซาะร่องลายใบระหว่างเส้นกลาง โดยท�าเหมือนกันทั้ง ๒ ข้าง ๔. หยักขอบใบทั้ง ๒ ข้าง โดยจะหยักใบระหว่างเส้นลายใบตามภาพ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. แตงกวา ๒. มีดแกะสลัก ๓. มีดปลายแหลม ๔. เขียง ๕. จาน 6๗ แตงกวา แล้วปาดแตงกวาให้เป็นรูปคล้ายใบไม้ 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 7. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลัก แตงกวา จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรู ที่ 4 หนา 67 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การแกะสลักแตงกวาทีละขั้นตอน โดยครูขอ อาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การแกะสลักแตงกวาใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 8. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการแกะสลักแตงกวา มาใหนักเรียนดู 9. ครูสาธิตการแกะสลักแตงกวาใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 10. ครูใหนักเรียนแตละกลุมแกะสลักแตงกวา หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของ นักเรียนอยางใกลชิดและคอยใหความ ชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนักถึงความ ปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย 11. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลัก แตงกวา โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 12. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เนื่องจากแตงกวา มีผิวที่บาง เนื้อออน และชํ้างาย ดังนั้น มีด ที่นํามาใชในการแกะสลักแตงกวาจึงตอง ลับใหคมอยูเสมอ เพื่อปองกันไมใหผิวและ เนื้อของแตงกวาชํ้าในขณะที่ทําลวดลายตางๆ ลงบนผลของแตงกวา” “หากตองการแกะสลักแตงกวา เพื่อนํามาใชในการจัดตกแตง จานอาหาร” ควรปฏิบัติอยางไรจึงจะเหมาะสม 1. นําแตงกวามาลางนํ้าใหสะอาด ใชผาสะอาดซับนํ้าใหแหง แลวแกะทันที 2. นําแตงกวาแชนํ้าดางทับทิม หอผาขนหนู เก็บเขาตูเย็น และแกะในวันรุงขึ้น 3. นําแตงกวาแชในนํ้าเย็นจัด 10 นาที เก็บเขาตูเย็น และแกะในวันรุงขึ้น 4. นําแตงกวามาลางกับนํ้าเกลือ หยิบใสตะกรา ผึ่งแดดใหแหง แลวแกะทันที (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะการนําแตงกวามาลางนํ้า ใหสะอาด ใชผาสะอาดซับนํ้าใหแหง แลวแกะทันที จะทําใหได ชิ้นงานที่มีความสวยงาม สีเขียวสวย และกลีบใบแข็ง) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแกะสลักแตงกวาเปนรูปใบไม ไดที่ https://www. youtube.com/watch?v=AriDYqBJg9A นักเรียนควรรู 1 แตงกวา ในการเลือกซื้อแตงกวา ควรเลือกลูกที่มีผิวเรียบ ผิวเปลือกสด มีสีเขียวออนสลับกับสีขาว ลูกกลมกลึงเสมอกัน และควรเลือกลูกที่อวบ เพราะ เนื้อจะหนาและมีไสนอย 2 ปาดแตงกวา หากผูประดิษฐยังไมมีความชํานาญมากพอ ควรรางเสน ลงบนผลของแตงกวากอนใชมีดปาดที่เนื้อ หากปาดเบี้ยวสามารถแกไขไดโดย การปาดเก็บขอบใบใหกินเนื้อเขามา แตอาจทําใหรูปใบไมเรียวยาว เมื่อลง ลวดลายบนผลแตงกวาจึงไมสวยงาม จึงควรปาดอยางเบามือและระมัดระวัง เปนพิเศษ นํา สอน สรุป ประเมิน T75


ขอสอบเนนการคิด การแกะสลัก 1 ๒ ๓ ๔ แอปเปิล ขั้นตอนการแกะสลัก ๑.  ใช้ปลายมีดวาดกลีบดอกโค้งปลายแหลมจ�านวน ๔ กลีบ แล้วปาดเนื้อใต้กลีบดอกออก ๒.  ใช้ปลายมีดวาดกลีบชั้นที่ ๒ โดยท�าสับหว่างกับกลีบดอกชั้นแรก ปาดเนื้อแอปเปิลใต้กลีบดอกออกและ เซาะร่องตรงกลางในกลีบดอกชั้นแรก ๓. ปาดร่องกลีบในกลีบดอกชั้นที่ ๒ แล้วท�าลายหยักในร่องกลีบทั้ง ๒ ข้าง ให้ครบทั้ง ๔ กลีบ ๔. วาดเส้นโค้งจนถึงก้นลูกแอปเปิลและเซาะร่อง  จากนั้นวาดเส้นโค้งอีก ๑ เส้นคู่กัน  แล้วเซาะร่องพร้อมกับ   ท�าลายหยักในเส้นที่ ๒ โดยท�าเช่นนี้จนหมดทั้งลูก วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. แอปเปิล ๒. มีดแกะสลัก ๓. เขียง ๔. จาน 6๘ ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 13. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย:การแกะสลัก แอปเปล จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรู ที่ 4 หนา 68 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึง ขั้นตอนการแกะสลักแอปเปลทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบาย ขั้นตอนการแกะสลักแอปเปลใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน 14. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการแกะสลัก แอปเปลมาใหนักเรียนดู 15. ครูสาธิตการแกะสลักแอปเปลใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 16. ครูใหนักเรียนแตละกลุมแกะสลักแอปเปล หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 17. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย:การแกะสลัก แอปเปล โดยครูเปนผูตรวจสอบความ ถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยัง ขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 18. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “กอนนําแอปเปลมา แกะสลัก ใหนําผลแอปเปลไปแชในนํ้าเกลือ โดยใชนํ้าสะอาด 1 ถวยตวง กับเกลือปน 1 2 ชอนชา ซึ่งจะชวยใหเนื้อของแอปเปลไมดํา เมื่อตองสัมผัสกับอากาศในขณะที่กําลัง แกะสลัก เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแกะสลักที่ปรากฏอยูในงานพระราชนิพนธ กาพยเหชมเครื่องคาวหวาน ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัย ใหนักเรียนฟงวา กาพยเหชมเครื่องคาวหวาน เปนความงดงามของวรรณคดี ที่สะทอนใหเห็นถึงความประณีตและความละเอียดออนในการประกอบอาหาร ใหมีรสชาติที่เลิศรสและการจัดตกแตงอาหารอยางงดงาม เพื่อใหดูนารับประทาน มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายถึงศิลปะการแกะสลัก (แกะ ปอก ควาน) ผลไมของหญิงไทยที่มีความงดงามแทรกอยูในบทกวีดวย ดังตัวอยาง นอยหนานําเมล็ดออก ปลอนเปลือกปอกเปนอัศจรรย มือใครไหนจักทัน เทียบเทียมที่ฝมือนาง ผลเงาะไมงามแงะ ลอนเมล็ดและเหลือปญญา หวนเห็นเชนรจนา จาเจาเงาะเพราะเห็นงาม การเลือกมีดแกะสลักที่ถูกตอง ควรเลือกตามขอใด 1. เลือกมีดที่ทําจากไม มีการฉลุลวดลาย นํ้าหนักพอดีมือ 2. เลือกมีดดามแบน ดามทําจากพลาสติก นํ้าหนักเบา 3. เลือกมีดดามกลม ใบมีดเรียวยาว นํ้าหนักพอดีมือ 4. เลือกดามจับที่ถนัดมือ ใบมีดบาง นํ้าหนักเบา (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการเลือกมีดแกะสลักที่ถูกตอง ควรเลือกมีดที่มีดามจับถนัดมือ ซึ่งใชไดทั้งดามกลมและดามแบน ใบมีดบาง และมีนํ้าหนักเบา จะชวยใหสามารถแกะสลักลวดลาย ไดอยางละเอียด ไมเกิดรอยชํ้าจากรอยมีด มีดมีความคมและ ไมเปนสนิม) นํา สอน สรุป ประเมิน T76


การแกะสลัก 1 ๒ ๓ ๔ มะม่วง ขั้นตอนการแกะสลัก ๑.  ใช้ปลายมีดกรีดลากเส้นวงกลมตรงกลางเป็นเกสร เซาะเนื้อรอบเส้นนอกวงกลมออก เกลาเกสรให้กลม ใช้ปลายมีดวาดกลีบโค้งลงบนขอบวงกลม  ปาดเนื้อมะม่วงใต้กลีบออก  แกะกลีบต่อไปให้ซ้อนกลีบแรกจน ครบรอบ และแกะชั้นในให้สับหว่างกัน ๒.  ปาดเนื้อมะม่วงรอบนอกเกสรเป็นร่องกลีบดอกสับหว่างกับเกสร  ใช้ปลายมีดวาดกลีบดอกโค้งปลายแหลม ลงในร่องกลีบ จากนั้นปาดเนื้อมะม่วงใต้กลีบดอกออก ๓. ปาดร่องกลีบและแกะสลักกลีบดอกจนครบรอบชั้นแรก จ�านวน ๕ กลีบ โดยให้ปลายกลีบซ้อนกันเล็กน้อย ๔.  แกะสลักกลีบดอกชั้นที่ ๒ ปาดร่องกลีบสับหว่างกับชั้นแรก ใช้ปลายมีดวาดกลีบดอกโค้งปลายแหลมลงใน ร่องกลีบ แกะสลักกลีบดอกสับหว่างกันจนถึงขอบที่ปอกเปลือกไว้ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. มะม่วง ๒. มีดแกะสลัก ๓. มีดปลายแหลม ๔. จาน ๕. เขียง 69 มีดแกะสลัก 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 19. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลัก มะมวง จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 69 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การแกะสลักมะมวงทีละขั้นตอน โดยครูขอ อาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การแกะสลักมะมวงใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 20. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการแกะสลักมะมวง มาใหนักเรียนดู 21. ครูสาธิตการแกะสลักมะมวงใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 22. ครูใหนักเรียนแตละกลุมแกะสลักมะมวง หาก นักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือ ตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดย ครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 23. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลัก มะมวง โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 24. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในขณะแกะสลักมะมวง ควรมีการเตรียมนํ้าผสมนํ้าเกลือเจือจาง หรือ นํ้ามะนาวเจือจางไวใหพรอม จากนั้นใหหมั่นนํา ผลมะมวงที่แกะสลักมาลางนํ้าที่เตรียมไวบอยๆ ซึ่งจะชวยไมใหผิวและเนื้อของมะมวงดํา” กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ใหแตละกลุมรวมกัน ศึกษาเกี่ยวกับลวดลายตางๆ ที่นิยมนํามาใชในการแกะสลัก ผักและผลไม จากสื่อการเรียนรูที่หลากหลาย เชน หนังสือเรียน อินเทอรเน็ต 2. ใหนักเรียนแตละกลุมนําความรูที่ไดจากการศึกษามาแลกเปลี่ยน เรียนรูซึ่งกันและกันภายในกลุม 3. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันออกแบบลวดลายในการแกะสลัก ผักและผลไม 1 ลาย โดยนําลวดลายตางๆ ตามที่ไดศึกษา มาสรางสรรคใหเกิดลวดลายใหมตามความคิดและจินตนาการ 4. ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายแนวคิดในการ สรางสรรคลวดลายในงานแกะสลักผักและผลไม เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษาผักและผลไมที่แกะสลักเสร็จ เรียบรอยแลวใหนักเรียนฟงวา เมื่อแกะสลักผักและผลไมเสร็จแลว ควรนําไป ลางดวยนํ้าเย็นจัดกอนนําไปใชงาน หากยังไมไดใชงานควรใชผาขาวบางชุบนํ้า บิดหมาดคลุมไว วางไวในบริเวณที่ไมมีลมพัดผาน และไมรอนอบอาวจนเกินไป เพราะจะทําใหชิ้นงานเหี่ยวเร็ว หรือเก็บใสกลองเขาตูเย็น เมื่อตองการใชงาน จึงนํามาลางในนํ้าเย็นจัดอีกครั้ง จะชวยใหชิ้นงานคงความสดและคงความ สวยงามไดนานยิ่งขึ้น นักเรียนควรรู 1 มีดแกะสลัก ในการแกะสลักผักและผลไม ควรเลือกใชมีดแกะสลักที่ผลิต จากวัสดุประเภทสเตนเลส เพราะหากใชมีดทั่วไปจะทําใหเนื้อของผักและผลไม มีสีดําคลํ้า สงผลใหงานแกะสลักไมสวยงาม นํา สอน สรุป ประเมิน T77


ขอสอบเนนการคิด ผักและผลไม้ที่นิยมน�ามาใช้ ใน งานแกะสลักมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด  ซึ่ง แต่ละชนิดจะมีลักษณะและคุณสมบัติที่ แตกต่างกัน  ดังนั้น  ในการแกะสลักจึง ต้องเรียนรู้เทคนิคและวิธีการที่ถูกต้องจะช่วยให้ผลงานแกะสลักมีความสวยงาม เทคนิคการแกะสลัก คงทนมากยิ่งขั้น ดังนี้ ๑. แคร์รอต ก่อนแกะไม่ควรแช่น้�า เพราะจะท�าให้เนื้อแข็ง และหลังแกะควรน�าไปแช่น้�า เพราะจะท�าให้กลีบแข็ง และสีสด ๓. หัวไชเท้า เลือกที่มีหัวมน ผิวเรียบ มีน้�าหนัก จับแน่นมือ มีสีปกติไม่ขาวใสแบบ โปร่งใส หลังแกะควรน�าไปแช่น้�า เย็นจัด เพราะจะ ท�าให้สดนาน ๕.ฟักทอง หลังแกะไม่ควรน�าไปแช่น้�า เพราะ จะท�าให้เปลี่ยนสีและเน่าเร็ว ควรใช้ ผ้าขาวบางชุบน้�าบิดหมาดคลุมไว้ หรือแช่ตู้เย็นจะท�าให้สดนานขึ้น ๒. บีทรูต หลังปอกเปลือกควรล้างด้วย น้�าเกลือเจือจาง เพื่อไม่ให้ สีตก ในระหว่างแกะควร ฉีดน้�าอยู่เสมอจะช่วยไม่ ให้ผิวด�า ๖. หอมหัวใหญ่ ก่อนแกะให้น�าไปแช่น้�า จะช่วย ไม่ให้เกิดการแสบตา หรือน�าไปแช่ ในตู้เย็นอย่างน้อย ๓๐ นาที ก่อน น�ามาปอกเปลือก ๔.ขิง เลือกขิงที่มีลักษณะอวบอ้วน โดยดูจากแง่งที่ดูอิ่มน้�าและ น้�าหนัก เพราะจะมีเนื้อมาก หลังแกะควรน�าไปแช่น้�าผสม มะนาวจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู ๗.ชมพู่ ในขณะแกะไม่ควรน�าไปแช่น้�า เพราะจะท�าให้เนื้อเป็นขุยเมื่อแกะ เสร็จให้น�ามาล้างด้วยน้�ามะนาว เจือจาง แล้วตามด้วยน้�าเย็น ๗0 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 25. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิค การแกะสลัก ในกรอบ Know More จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 70 จากนั้นครูถามนักเรียนวา • จากการศึกษาเกี่ยวกับเทคนิคการแกะสลัก ทําใหนักเรียนไดรับประโยชนอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ทําใหทราบขั้นตอน หรือวิธีการตางๆ ที่ชวยใหการแกะสลัก ผักและผลไมคงความสวยงามอยูเสมอ) • หากสามารถเลือกผักและผลไมไดเพียง 1 ชนิด นักเรียนจะเลือกผักและผลไมชนิดใดมาใช ในการแกะสลัก เพราะเหตุใดจึงเปนเชนนั้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน แตงโม เพราะผลของ แตงโมมีขนาดใหญ เนื้อมีสีแดงสวย สามารถ แกะสลักเปนลวดลายตางๆ ไดงาย และเมื่อ นํามาแกะสลักเปนลวดลายตางๆ จะเห็น เปนสีขาวและสีแดงสลับกัน ทําใหผลงานมี ความสวยงามมากยิ่งขึ้น) 26. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “กอนแกะสลัก ควรศึกษา เกี่ยวกับเทคนิคที่นํามาใชในการแกะสลัก ใหเขาใจ เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติงานไดอยาง ถูกตอง และผลงานมีความสวยงาม นอกจากนี้ ยังตองรูจักวิธีการดูแลรักษาผลงานแกะสลัก ใหคงความสดใหมอยูเสมอ เชน การแกะสลัก ผักและผลไมที่มีขนาดใหญ ไมสามารถเก็บ เขาตูเย็นได ควรใชผาขาวบางชุบนํ้าบิดหมาด คลุมไว แลวเก็บในที่ที่อากาศถายเทไดสะดวก ไมรอนอบอาว ไมมีลมพัดผาน จะชวยคงความ สดใหมของผักและผลไมไมใหเหี่ยวเฉาเร็ว” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแกะสลักผักและผลไมของประเทศตางๆ ให นักเรียนฟงวา ประเทศจีนเปนประเทศที่มีการสืบทอดทางวัฒนธรรมในรูปแบบ ตางๆ มาอยางยาวนาน และหนึ่งในนั้นก็คือ การแกะสลักผักและผลไม ที่เรียกวา “ฉุยกั่วเตียวเคอ” ซึ่งศิลปะการแกะสลักผักและผลไมของชาวจีนจะนิยมแกะเปน รูปสัตวมงคลตางๆ ตามความเชื่อ เชน เตา มังกร หงส สวนในประเทศญี่ปุน จะเรียกผลงานการแกะสลักผักและผลไมวา “มุกิโมโนะ” โดยนิยมนําผักและ ผลไมมาแกะสลักเปนลายดอกซากูระ ลายพัด ลายคลื่น หรือรูปสัตวประเภท ตางๆ เพื่อนํามาใชในการประดับตกแตงอาหาร สิ่งที่ทําใหการแกะสลักผัก และผลไมของประเทศญี่ปุนมีความโดดเดน คือ การเลือกใชวัตถุดิบ ซึ่งจะมี ความหลากหลายและหมุนเวียนไปตามฤดูกาล เพื่อแสดงออกถึงอารมณและ ความรูสึกของฤดูกาลที่แตกตางกัน ประโยชนที่ไดรับจากการฝกแกะสลักผักและผลไมคือสิ่งใด (แนวตอบ ไดรับประโยชนจากการฝกแกะสลักผักและผลไม หลายประการ เชน ชวยฝกสมาธิ เสริมสรางและพัฒนาความคิด สรางสรรค เปนการใชเวลาวางใหเกิดประโยชน เกิดความภาคภูมิใจ ในตนเอง เพิ่มความสวยงามใหกับอาหารหรือสถานที่ตางๆ ชวย อนุรักษ สืบสาน เผยแพรศิลปะการแกะสลักใหบุคคลทั่วไปไดรูจัก และพัฒนาเปนอาชีพไดในอนาคต) นํา สอน สรุป ประเมิน T78


กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค แจกัน เลือกให้เหมาะสมกับงาน ทั้งรูปแบบและขนาดของ แจกัน เช่น แจกันทรงกระบอกนิยมใช้จัดดอกไม้ ที่มีลักษณะเป็นช ่อ หรือ พุ่มโดยมีก้านตรงแข็งแรง ฟลอร่าโฟม หรือโอเอซิส ใช้ปักดอกไม้ มีคุณสมบัติดูดซึมและอุ้มน�้า ก่อนใช้ ต้องแช่น�้าให้ชุมประมาณ ๑ ๒ ชั่วโมง เพื่อให้ดูดน�้า เต็มที่ ควรเลือกที่ชุ่มน�้าได้ง่าย กรรไกร มีด คีม •  กรรไกรใช้ส�าหรับตัดก้าน ดอกไม้กิ่งไม้ เลือกที่คม และใบมีดไม่เป็นสนิม •  มีดใช้ส�าหรับตัดโอเอซิส และริดหนามกุหลาบเลือก ที่คม •  คีมใช้ตัดลวดมีหลายขนาด เลือกใช้ตามความเหมาะสม ของลักษณะงาน ริบบิ้น ใช้ ในการผูกช่อดอกไม้และท�าใบตกแต่ง เพื่อให้ ดอกไม้ดูสวยงามการเลือกใช้งานให้เลือกความกว้าง และความยาวตามความเหมาะสมของช่อดอกไม้ กระดาษสา มีทั้งกระดาษสาแท้และ แบบสังเคราะห์ การใช้ กระดาษสาแท้ควรระวัง ไม ่ให้โดนน�้า  เพราะจะ ขาดยุ่ยได้ง่าย ๔ ตัวอย่างงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย : งานดอกไม้สด งานดอกไม้สดเป็นการน�าดอกไม้ชนิดต่าง ๆ มาประดิษฐ์เป็นชิ้นงานในหลากหลายรูปแบบ เช่นการร้อยพวงมาลัยการจัดแจกันดอกไม้เพื่อสร้างความสดชื่นความสวยงามสร้างบรรยากาศ ที่ดีในโอกาสส�าคัญต่าง ๆ  นับเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่มีความงดงามมาก  โดยการจัดดอกไม้สด จะแตกต่างกันไปตามจินตนาการของผู้จัด การเลือกวัสดุ อุปกรณ์ ในงานดอกไม้สด มีดังนี้ ดอกไม้ ดอกไม้ต้องสด ก้านแข็งตรง กระเปาะดอกแข็ง กลีบดอกไม่ช�้า  ทั้งใบและดอกสามารถเก็บไว้ได้ นาน ไม่เหี่ยวเฉา  หรือช�้าง่าย ขนาดของดอกไม้ เหมาะกับภาชนะ สถานที่ตั้ง และแบบของการจัด งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย ๗1 ดอกไม้ ฟลอร่าโฟม หรือโอเอซิส 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 27. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทยประเภทงานดอกไมสด จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 28. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยาง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยประเภท งานดอกไมสดจาก PowerPoint ม.5 หนวย การเรียนรูที่ 4 29. ครูใหนักเรียนรวมกันเสนอแนะวา ตัวอยาง งานดอกไมสดดังกลาวจะตองใชวัสดุ อุปกรณ ชนิดใด และมีขั้นตอนการปฏิบัติงานอยางไร 30. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการรอยมาลัย การจัด พานดอกไม การจัดดอกไมในลักษณะตางๆ ใหนักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนไดเรียนรูขั้นตอน การปฏิบัติงานแตละประเภท 31. ครูถามนักเรียนวา • ความสวยงามของงานดอกไมสดอยูที่สิ่งใด เพราะเหตุใดจึงเปนเชนนั้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • นักเรียนสามารถนําดอกไมสดมาใชประโยชน ในชีวิตประจําวันไดอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน จัดใสแจกันรวมกับ ดอกไมชนิดอื่นๆ เพื่อประดับตกแตงบาน ใหสวยงาม นํามาจัดเปนชอ เพื่อมอบใหแก บุคคลอันเปนที่รัก นํามารอยเปนพวงมาลัย ในลักษณะตางๆ เพื่อบูชาพระ) • หากไมมีฟลอราโฟม หรือโอเอซิส นักเรียน สามารถใชสิ่งใดแทนได เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันสํารวจดอกไม ที่ปลูกในบริเวณบานของตนเอง รวมถึงดอกไมที่มีในทองถิ่น จากนั้น นําขอมูลที่ไดมาประชุมวางแผนการทํางานรวมกัน เพื่อประดิษฐ ชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทยประเภทงานดอกไมสดตามความสนใจ กลุมละ 1 ชิ้น โดยจัดทําเปนคลิปวิดีโอสั้นๆ ความยาวไมเกิน 7 นาที จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะดานมีวินัย อยูอยางพอเพียง และมุงมั่นในการทํางาน) นักเรียนควรรู 1 ดอกไม การเลือกดอกไมมาใชเพื่อจัดแจกัน ควรเลือกดอกไมที่ใกลบาน มาจัด ควรหลีกเลี่ยงการเลือกใชดอกตูม เนื่องจากดอกตูมจะไมดูดซึมนํ้า และเหี่ยวเฉาไดอยางรวดเร็ว จากนั้นใชกรรไกรสําหรับตัดกานดอกไม ตัดกาน ใหเฉียงประมาณ 45 องศา เพื่อใหดอกไมดูดซึมนํ้าไดดีขึ้น เมื่อตัดเสร็จแลว ควรจุมกานลงในนํ้าทันที โดยใหกานจมนํ้าประมาณ 1 นิ้ว และวางไวในที่รม 2 ฟลอราโฟม หรือโอเอซิส นํามาใชงานไดทั้งแบบเปยกและแบบแหง โดย แบบเปยกใชสําหรับยึดกานและเปนแหลงนํ้าใหกับดอกไม ไมสามารถนํากลับมา ใชงานซํ้าได เนื่องจากมีรูที่เกิดจากกานของดอกไม จึงทําใหไมกักเก็บนํ้า กอนนํามาใชงานควรนําไปแชนํ้าที่ผสมสารจําพวก Clear flfloral preservative เพื่อชวยรักษาและคงความสดใหกับดอกไม สวนแบบแหงใชสําหรับยึดดอกไมแหง หรือดอกไมผา นํา สอน สรุป ประเมิน T79


ขอสอบเนนการคิด งานดอกไม้สด 1 ๒ ๓ ๙                ๕  ๘           ๖ ๗          ๗ ๖        ๘ ๕         ๘   ๔        ๘ ๓          ๗ ๒           ๖ ๑                ๕                ๑    ๒    ๓    ๔    ๕ แถว หรือชั้นที่ ดอกที่ มาลัยตุ้ม  = ดอกมะลิ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. ดอกมะลิ ๒. ดอกบานไม่รู้โรย ๓. ก้านมะพร้าว ขั้นตอนการร้อยมาลัย ๑.  ใช้ดอกบานไม่รู้ โรยเป็นฐานรอง หรือใช้ใบตอง หรือใช้ดอกอื่น ๆ ตามความเหมาะสม โดยในชั้นที่ ๑ ให้ร้อย ดอกมะลิ ๕ ดอก จัดวางระยะห่างระหว่างแต่ละดอกให้เท่ากัน ๒. ในชั้นที่ ๒-๘ ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้   ชั้นที่ ๒ ร้อยดอกมะลิ ๖ ดอก(ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ ของชั้นที่ ๑ ดอกต่อ ๆ ไปให้ร้อย      สับหว่างกัน)    ชั้นที่ ๓ ร้อยดอกมะลิ ๗ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ ของชั้นที่ ๒)   ชั้นที่ ๔ ร้อยดอกมะลิ ๘ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับกลีบที่ ๑ ของชั้นที่ ๓)   ชั้นที่ ๕ ร้อยดอกมะลิ ๘ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ ของชั้นที่ ๔)   ชั้นที่ ๖ ร้อยดอกมะลิ ๘ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ กับ ๒ ของชั้นที่ ๕)   ชั้นที่ ๗ ร้อยดอกมะลิ ๗ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ กับ ๒ ของชั้นที่ ๖)   ชั้นที่ ๘ ร้อยดอกมะลิ ๖ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ กับ ๒ ของชั้นที่ ๗) ๓. ร้อยดอกมะลิในชั้นที่  ๙  โดยร้อยดอกมะลิ  ๕ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกที่  ๑  กับ  ๒ ของชั้นที่ ๘)   เมื่อร้อยเสร็จให้ใช้ดอกบานไม่รู้โรยร้อยปิดด้านบน แผนผังมาลัยตุ้มแบบไม่มีลาย ๗๒ การร้อยมาลัยกลม ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 32. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยาง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การรอย มาลัยตุม จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรู ที่ 4 หนา 72 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึง ขั้นตอนการรอยมาลัยตุมทีละขั้นตอน โดยครู ขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การรอยมาลัยตุมใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 33. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการรอยมาลัยตุม มาใหนักเรียนดู 34. ครูสาธิตการรอยมาลัยตุมใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 35. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรอยมาลัยตุม หาก นักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือ ตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดย ครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 36. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การรอยมาลัย ตุม โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และ อธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 37. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การรอยมาลัยตุมตอง เริ่มตนรอยดวยดอกมะลิที่มีขนาดเล็กกอน ชั้นตอๆ ไปใหสงกานยาวขึ้นทีละนอยจนถึง ชวงที่มาลัยมีความปองเต็มที่ตามตองการ จึงสงกานใหสั้นลงทีละนอยยอนกลับมา เหมือนตอนที่เริ่มปฏิบัติ” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษามาลัยใหคงความสดและสวยงาม อยูเสมอใหนักเรียนฟงวา การเก็บรักษามาลัย สามารถปฏิบัติไดหลายวิธี เชน • นํามาลัยวางลงในถาดที่รองดวยใบตอง ใชผาขาวบางชุบนํ้าบิดหมาดคลุม เก็บไวในที่เย็น ไมมีลมโกรก นิยมนํามาใชกับการเก็บในระยะเวลาไมนาน • นํามาลัยใสในถุงพลาสติก วาง หรือแขวนไวในที่เย็น ไมมีลมโกรก วิธีนี้ จะชวยทําใหเก็บรักษามาลัยไดนานกวาวิธีแรก • นํามาลัยใสในถุงพลาสติก นําไปเก็บไวในชองเก็บผักสดของตูเย็น วิธีนี้ จะชวยทําใหเก็บรักษามาลัยไดนานหลายชั่วโมงไปจนถึงเก็บคางคืนได รอยมาลัยควรเลือกใชดอกไมที่มีสีใด จึงจะชวยใหไดมาลัยที่มี สีสันสวยงาม (แนวตอบ ควรเลือกใชดอกไมที่มีสีสันสดใส อาจเปนดอกไมที่มี สีกลมกลืนกัน หรือมีสีตัดกันก็ได หากชวงใดของมาลัยตองการ เนนใหเกิดจุดเดน ควรเลือกใชดอกไมที่มีสีตัดกันกับดอกไมที่ใช เปนหลัก ซึ่งสีของดอกไมที่ตัดกันจะชวยเพิ่มความสวยงามใหกับ มาลัยมากยิ่งขึ้น) นํา สอน สรุป ประเมิน T80


ขอสอบเนน การคิด งานดอกไม้สด 1 ๒ ๕ ๓ ๔ 6 พานตุ้ม ประดิษฐ์ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้   ๑. พาน   ๒. ดอกมะลิ  ๓. ดอกสเปรย์   ๔. ดอกบานไม่รู้โรย  ๕. ดอกคัตเตอร์    ๖. ใบโปร่งฟ้า  ๗. ใบสนซูงิ   ๘. กลีบพลับพลึง  ๙. โอเอซิส   ๑๐. ก้านมะพร้าว ขั้นตอนการจัดดอกไม้ ๑.  ตัดโอเอซิสให้มีขนาดเหมาะสมกับพาน น�าไปแช่น�้าทิ้งไว้สักพัก เมื่อชุ่มน�้าดีแล้วจึงน�ามาใส่พาน จากนั้นน�า ใบโปร่งฟ้ามาเสียบรอบ ๆ พาน กะระยะความห่างให้เหมาะสม เพื่อความสวยงาม ๒. น�าใบสนซูงิมาเสียบทับบนใบโปร่งฟ้า โดยเสียบรอบ ๆ พาน กะระยะความห่างให้เหมาะสม ๓. น�ากลีบพลับพลึงประดิษฐ์มาเสียบตกแต่งบริเวณมุมทั้ง ๔ ด้าน และกึ่งกลางให้สวยงาม ๔. น�าดอกสเปรย์มาเสียบตกแต่งบริเวณรอบ ๆ พาน เพื่อปกปิดช่องว่างของกลีบพลับพลึง ๕. น�ามาลัยตุ้มที่ร้อยส�าเร็จแล้วมาเสียบบริเวณกึ่งกลางของพาน กะระยะความสูงให้พอดี ๖.  เสียบมาลัยตุ้มให้ครบตามต�าแหน่งที่ต้องการ ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยใบโปร่งฟ้า ดอกสเปรย์ และดอกคัตเตอร์ ให้สวยงาม ๗๓ ดอกบานไม่รู้โรย 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 38. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยาง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : พานตุม ประดิษฐ จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรู ที่ 4 หนา 73 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึง ขั้นตอนการจัดพานตุมประดิษฐทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบาย ขั้นตอนการจัดพานตุมประดิษฐใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน 39. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการจัดพานตุม ประดิษฐมาใหนักเรียนดู 40. ครูสาธิตการจัดพานตุมประดิษฐใหนักเรียน ดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 41. ครูใหนักเรียนแตละกลุมจัดพานตุมประดิษฐ หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 42. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย : พานตุมประดิษฐ โดย ครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบาย เพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรองจากการ ปฏิบัติงาน 43. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การจัดพานดอกไม ควรจัดใหมีความสมดุลกัน ไมหนัก หรือ เอียงไปดานใดดานหนึ่ง ความสูงของดอกไม เหมาะสมกับขนาดของพาน ดอกไม ใบไม หรือของประดับตกแตงอื่นๆ ที่นํามาใชมี ความกลมกลืนกัน” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเก็บมะลิ เพื่อใหสามารถใชงานไดนานขึ้น ใหนักเรียนฟงวา การเก็บมะลิควรเก็บในชวงที่แดดไมจัด เพราะจะชวยไมให มะลิบาน โดยเก็บใสในกะละมังแลวคัดดอกที่เสียออก เติมนํ้าแข็งและนํ้าสะอาด ลงในกะละมัง คนใหเขากันจนนํ้าแข็งละลายจนหมด นํามะลิมาใสในตะกรา เพื่อใหสะเด็ดนํ้า จากนั้นนําไปใสในถุงพลาสติกและไลอากาศออกจนหมด ปดปากถุงใหแนนสนิท แชไวในตูเย็น หรือถังนํ้าแข็ง นักเรียนควรรู 1 บานไมรูโรย เลือกดอกที่มีสีและกลีบเลี้ยงสด กลีบไมรวง กานดอกแข็ง หากยังไมไดใชงานใหตัดกานดอกเหลือไวประมาณ 1 นิ้วครึ่ง ใสถุงพลาสติก รัดปากถุงใหแนน แลวเก็บเขาตูเย็น หากไมมีตูเย็นใหใสถาดแลวคลุมดวยผาชื้น สิ่งสําคัญที่ควรคํานึงถึงมากที่สุดในการจัดพานดอกไมคือขอใด 1. คาใชจายในการซื้อวัสดุ อุปกรณ 2. ขนาดและสีของภาชนะ 3. สัดสวนของชิ้นงาน 4. ชนิดของดอกไม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะสัดสวนเปนเรื่องสําคัญ ที่ผูจัดพานจะตองคํานึงถึงมากที่สุด เปนสิ่งที่สามารถกําหนดไดวา พานดอกไมที่จัดเสร็จแลวจะมีความสวยหรือไม หากพานดอกไม มีสัดสวนที่ไมสมดุลกัน ผลงานที่จัดออกมาก็จะไมสวยงาม) นํา สอน สรุป ประเมิน T81


ขอสอบเนนการคิด งานดอกไม้สด 1 ๒ ๕ ๓ ๔ 6 พาน รดน�้าสังข์ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. พาน  ๒. โฟมรูปหัวใจ ๓. ดอกกุหลาบ  ๔. ดอกรัก ๕. ดอกมัม  ๖. ดอกคัตเตอร์ ๗. ใบเฟินนาคราช  ๘. โอเอซิส ๙. ตะปูเข็ม ขั้นตอนการจัดดอกไม้ ๑.  ตัดโอเอซิสให้มีขนาดเหมาะสม กับพาน น�าไปแช่น�้าทิ้งไว้สักพัก เมื่อชุ่มน�้าดีแล้วจึงน�ามาใส่พาน จากนั้นใช้ ไม้แหลมเสียบโฟม แล้วน�ามาเสียบที่โอเอซิส  จัด   ต�าแหน่งตามต้องการ ๒.  น�าดอกรักมาเสียบด้วยตะปูเข็มแล้วน�าไปเสียบบนโฟมให้เต็มโดยเริ่มต้น จากการเสียบบริเวณกึ่งกลางของโฟม กะระยะช่องว่างให้เหมาะสม เพื่อความสวยงาม ๓. น�าใบเฟินนาคราชมาเสียบรอบ ๆ พาน กะระยะความห่างให้เหมาะสม ๔. น�าดอกกุหลาบมาเสียบลงในพาน จัดวางต�าแหน่งให้เหมาะสม ๕. น�าดอกมัมมาเสียบตกแต่งลงในพาน จัดวางต�าแหน่งให้เหมาะสม ๖.  น�าดอกคัตเตอร์มาเสียบตกแต่งลงในพาน จัดวางต�าแหน่งให้เหมาะสม ๗๔ ดอกรัก ดอกมัม 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 44. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยาง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : พานรด นํ้าสังข จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรู ที่ 4 หนา 74 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การจัดพานรดนํ้าสังขทีละขั้นตอน โดยครู ขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การจัดพานรดนํ้าสังขใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 45. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการจัดพานรด นํ้าสังขมาใหนักเรียนดู 46. ครูสาธิตการจัดพานรดนํ้าสังขใหนักเรียน ดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 47. ครูใหนักเรียนแตละกลุมจัดพานรดนํ้าสังข หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 48. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : พานรดนํ้าสังข โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตองและ อธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 49. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “หากซื้อดอกไม หรือ ใบไมมาจากตลาด กอนการจัดพานควรนํา ดอกไมหรือใบไมมาแชนํ้าทิ้งไวอยางนอย 1-2 ชั่วโมง จากนั้นปลิดกลีบหรือใบที่ไมสวย หรือไมจําเปนออก แลวจึงนําไปจัดพานตาม ที่ไดออกแบบไว” นักเรียนควรรู 1 ดอกรัก มีทั้งดอกสีขาวและดอกสีมวง นิยมนํามาใชในงานมงคลตางๆ การเก็บดอกรักจากตน ควรเก็บอยางระมัดระวัง เนื่องจากยางของตนรักเปน เอนไซมประเภทหนึ่งที่อันตราย มีฤทธิ์กัดกรอน หากสัมผัสถูกผิวหนังจะทําใหเกิด การระคายเคือง แสบ คัน หากถูกศีรษะจะทําใหผมรวง หากเขาปากจะสงผลตอ ระบบทางเดินอาหาร ทําใหอาเจียนและถายอยางรุนแรง หากยางกระเด็น เขาตาจะทําใหตาพรามัว หรือตาบอดได 2 ดอกมัม หรือดอกเบญจมาศ จัดเปนดอกไมมงคลของประเทศจีนและ เปนสัญลักษณของฤดูใบไมรวง มีหลายสายพันธุและหลายสีสันใหเลือกใชงาน ซึ่งสีแตละสีของดอกเบญจมาศจะมีความหมายที่แตกตางกัน เชน สีแดง หมายถึง ความรักการรักใครชอบพอกัน สีขาว หมายถึง ความซื่อสัตย ความจริงใจ สีเหลือง หมายถึงความโชคดี ขอควรคํานึงในการจัดดอกไมเพื่อใหเกิดความสวยงามคือสิ่งใด (แนวตอบ การจัดดอกไมเพื่อใหเกิดความสวยงาม ควรคํานึงถึง สิ่งตางๆ ดังนี้ • สัดสวนและความสูงของดอกไม ควรมีความเหมาะสมกับ ความสูงของภาชนะ • ความสมดุล ควรจัดจํานวนดอกไมภายในภาชนะใหมีความ สมดุลกัน • ความกลมกลืน ควรเลือกชนิดของดอกไมใหเหมาะสมกับ รูปแบบที่ตองการ • ความแตกตาง ควรจัดดอกไมใหมีจุดเดน เพื่อใหเกิดความ สวยงามและสะดุดตา • จังหวะ ควรไลขนาดของดอกไม เริ่มจากดอกตูม ดอกแยม จนถึงดอกบาน) นํา สอน สรุป ประเมิน T82


ขอสอบเนน การคิด งานดอกไม้สด 1 ๒ ๓ ๔ ดอกไม้ ถวายพระ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. ดอกบัว  ๒. ใบเตย ๓. ดอกมะลิ ๔. ดอกสร้อยทองญี่ปุ่น ๕. ใบตอง  ๖. ธูป เทียน ๗. ก้านมะพร้าว ขั้นตอนการจัดดอกไม้ ๑.  จับกลีบดอกบัว ๑ กลีบ พับครึ่งทบ ตามขวาง สอดปลายกลีบเข้าที่ โคนดอกให้ลึก พับในลักษณะ เดียวกันจบครบทุกกลีบ ๒.  น�าใบเตยและดอกสร้อยทองญี่ปุ่น มามัดรวมกันให้เป็นช ่อ จัดให้ สวยงาม ๓.  น�าดอกมะลิร้อยด้วยก้านมะพร้าว น�าธูป เทียนมัดรวมกันกับใบเตย และดอกสร้อยทองญี่ปุ่น ๔.  น�าซองพลาสติกใสมาสวมทับ มัดโคนให้แน่น พันด้วยใบตอง เพื่อปกปิดก้านดอกไม้ ติดโบ ให้สวยงาม     งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย เป็นผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่  วัฒนธรรม ประเพณีของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย มีทั้งของเล่น ของใช้ และของประดับตกแต่ง ซึ่งมีความงามที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถพบเห็น ได้ทั่วไป เช่น พวงมาลัยดอกไม้สด เครื่องแขวน พานพุ่ม กระเช้าดอกไม้ ช่อดอกไม้งานใบตอง งานจักสาน งานแกะสลักผักและผลไม้ในการฝึกประดิษฐ์ชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยจ�าเป็นต้อง อาศัยความรู้  ทักษะการฝึกปฏิบัติจนเกิดความช�านาญ  จึงจะท�าให้ผลงานมีประสิทธิภาพ  สามารถ น�ามาใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจ�าวัน หรือประกอบเป็นอาชีพได้ ในอนาคต สรุป งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย ๗๕ ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 50. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : ดอกไมถวายพระ จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 75 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการจัด ดอกไมถวายพระทีละขั้นตอน โดยครูขอ อาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การจัดดอกไมถวายพระใหเพื่อนฟงหนา ชั้นเรียน 51. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการจัดดอกไม ถวายพระมาใหนักเรียนดู 52. ครูสาธิตการจัดดอกไมถวายพระใหนักเรียน ดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 53. ครูใหนักเรียนแตละกลุมจัดดอกไมถวายพระ หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 54. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย : ดอกไมถวายพระ โดยครู เปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบาย เพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรองจาก การปฏิบัติงาน 55. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ดอกไมที่นิยมนํามา ถวายพระมีหลายชนิด เชน ดอกมะลิ สื่อถึง ความรักอันบริสุทธิ์ ความสุขสมบูรณ ดอกพุด สื่อถึงความบริสุทธิ์ เจริญมั่นคง ดอกแกว สื่อถึงความดี จิตใจผองใส ดอกเบญจมาศ สื่อถึงความยั่งยืน” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อในการเลือกดอกไมถวายพระใหนักเรียน ฟงวา การกราบไหวบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพและนับถือ เชน พระพุทธรูป นอกเหนือ จากการนําธูปเทียนและการตั้งจิตมั่นอันเปนกุศลเพื่อนอมสักการะแลว สิ่งที่ ขาดไมไดก็คือดอกไม โดยมีความเชื่อที่สืบทอดตอกันมาวา ดอกไมที่นํามา ถวายพระควรเปนดอกไมที่สวยงาม สดใหม ไมเหี่ยวเฉา เพื่อชวยใหชีวิตมีความ สวยงามดังเชนดอกไม หากใชดอกไมที่เหี่ยวเฉาจะทําใหชีวิตเหี่ยวเฉาตามไปดวย หากดอกไมที่นํามาบูชาพระเหี่ยวเฉา ควรนําไปลอยแมนํ้าแทนการทิ้งลงใน ถังขยะ พรอมทั้งตั้งจิตอธิษฐานวา “ขาแตพระแมคงคา บัดนี้ ขาพเจาชื่อ... นามสกุล... ไดนําดอกไมบูชาที่หิ้งพระที่บานของลูกซึ่งเหี่ยวเฉาแลว มาทําการ จําเริญที่แมนํ้า (หรือลําคลอง) แหงนี้ ขอพระแมคงคาทรงโปรดอนุญาตใหลูก ไดทําการจําเริญพวงมาลัยและดอกไมเหลานี้ดวยเถิด” วิวัฒนาการของงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยสะทอนใหเห็น ถึงคุณคาในดานใดมากที่สุด 1. การตอบสนองคุณคาทางดานจิตใจ 2. การสืบสานภูมิปญญาทางวัฒนธรรม 3. การเลือกใชวัสดุจากธรรมชาติที่มีในทองถิ่น 4. ความคิดสรางสรรคและคานิยมของคนในสังคม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะวิวัฒนาการของงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยไดสะทอนใหเห็นถึงคุณคาทางดาน การสืบสานภูมิปญญาทางวัฒนธรรมจากบรรพบุรุษ มาจนถึง ในยุคปจจุบัน ทั้งยังสะทอนใหเห็นถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และ ประเพณีอันดีงามของชาติที่มีมาตั้งแตอดีตไดเปนอยางดี) นํา สอน สรุป ประเมิน T83


สร้ างสรรค์ พัฒนาการเรียนรู้กิจกรรม ตอนที่ ๑ ค�าชี้แจง :  ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นรายบุคคลโดยเขียนตอบ ตามที่ก�าหนด ตอนที่ ๒ ค�าชี้แจง : ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นกลุ่มเพื่อจัดท�ารายงานการศึกษาค้นคว้าเรื่องงานประดิษฐ์ที่แสดง ความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น หรือของไทย โดยปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ เรื่อง งานประดิษฐ์ เอกลักษณ์ไทย ใบมอบหมายงานที่ ๔.1 ๑. งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยมีลักษณะอย่างไร ๒. ของประดับตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ไทยมีคุณค่าต่อนักเรียน สังคม และประเทศชาติอย่างไร ๓.  ยกตัวอย่างชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยที่นักเรียนเคยพบเห็นและประทับใจ พร้อมทั้งบอกลักษณะการน�า ไปใช้มา ๕ ชนิด ๔.  ถ้าครอบครัวของนักเรียนต้องการตกแต่งห้องนั่งเล่นที่แสดงถึงความเป็นไทยควรตกแต่งอย่างไร เพราะเหตุใด จึงเป็นเช่นนั้น ๕.  ในการฝึกประดิษฐ์ชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยนักเรียนมีวิธีการอย่างไรที่จะใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและ เป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม   • เลือกหัวหน้ากลุ่ม ระดมความคิดในการคิดหัวข้อการท�ารายงาน   • แบ่งงานให้สมาชิกในกลุ่มแต่ละคนไปปฏิบัติ โดยแบ่งงานตามความถนัดและความสมัครใจ   •  สืบค้นข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ ในท้องถิ่น หรือศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากหนังสือต่าง ๆ หรืออินเทอร์เน็ต   • จัดท�าเป็นรูปเล่มรายงาน   • น�าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน   • ครูและเพื่อน ๆ ร่วมกันแสดงความคิดเห็น และประเมินผลงาน ๗6 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 56. ครูใหนักเรียนแตละกลุมลงความเห็นวา จะประดิษฐชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทย ประเภทใด ไดแก งานแกะสลักผักและ ผลไมและงานดอกไมสด ตามความสนใจ 1 ประเภท เพื่อจัดทําโครงงาน เรื่อง งาน ประดิษฐเอกลักษณไทย 57. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1-2 คน ออกมาเลือกวัสดุ อุปกรณที่นํามาใช ในงานประดิษฐเอกลักษณไทยตามที่กลุมของ ตนเองเลือกที่หนาชั้นเรียน โดยครูเปนผูจัด เตรียมวัสดุ อุปกรณดังกลาวไวใหกับนักเรียน 58. ครูใหนักเรียนแบงหนาที่ความรับผิดชอบ ตามความถนัดและความสามารถของแตละ บุคคล โดยครูเปนผูใหคําปรึกษาเกี่ยวกับการ วางแผนการแบงหนาที่การทํางานของสมาชิก ในแตละกลุม 59. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันปฏิบัติการ ประดิษฐชิ้นงานที่ไดเลือกและเตรียมไวตาม หนาที่ที่ไดรับมอบหมาย โดยชวยกันปฏิบัติ ตามขั้นตอนอยางเครงครัด และครูคอยให คําปรึกษา หรือแนะนําขั้นตอนในการประดิษฐ ชิ้นงานดังกลาว เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องแขวน ซึ่งจัดอยูในประเภทของงานดอกไมสด ใหนักเรียนฟงวา เครื่องแขวน เปนงานหัตถศิลปแขนงหนึ่งที่มีความวิจิตรงดงาม และทรงคุณคา มีมาตั้งแตสมัยอยุธยากอนที่จะเสื่อมถอยลงและไดรับการฟนฟู ขึ้นในสมัยรัตนโกสินทรตอนตน และมีความเจริญสูงสุดในสมัยรัชกาลที่ 5 ดัง จะเห็นไดจากการจัดประกวดทําเครื่องแขวนในงานพระราชพิธีตางๆ ในสมัยนี้ ไทยไดติดตอคาขายกับชาวตางชาติมากขึ้น ทําใหไดรับอิทธิพลของวัฒนธรรม ตางชาติเขามาผสมผสาน สงผลใหรูปแบบของเครื่องแขวนมีการผสมผสาน และพัฒนาขึ้นตามสมัยนิยม งานเครื่องแขวนนิยมจัดทําขึ้นเพื่อถวายเปน พุทธบูชา เนื่องในเทศกาลและวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา ใชประดับตาม พระที่นั่งองคตางๆ โดยแขวนไวตามชองประตู หนาตาง หรือระเบียงโบสถ ใหนักเรียนฝกปฏิบัติงานดอกไมสดตามความสนใจ 1 ชนิด จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้ง อธิบายขั้นตอนการปฏิบัติงานดอกไมสดประกอบอยางถูกตอง กิจกรรม สรางเสริม ใหนักเรียนฝกปฏิบัติงานดอกไมสดในรูปแบบที่แปลกใหม จากความคิดสรางสรรคและจินตนาการของตนเองตามความ สนใจ 1 ชนิด จัดทําเปนคลิปวิดีโออธิบายขั้นตอนการปฏิบัติงาน ดอกไมสดประกอบการสาธิตอยางถูกตอง โดยจัดทําเปนคลิป วิดีโอสั้นๆ ความยาวไมเกิน 7 นาที พรอมทั้งอัปโหลดคลิปวิดีโอ ลงในสื่อโซเชียลที่สามารถกดติดตามได จากนั้นออกมานําเสนอ คลิปวิดีโอใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน ขั้นที่ 4 แสวงหาความรู 60. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในการประดิษฐชิ้นงาน ที่เปนเอกลักษณไทยประเภทงานแกะสลัก ผูแกะสลักจะตองจับผักหรือผลไมอยางเบามือ ไมควรจับแรง เพราะจะทําใหผักหรือผลไม ชํ้าได สวนงานดอกไมสด ผูจัดไมควรจับ ที่ดอกโดยตรง เพราะจะทําใหดอกไมชํ้าและ กลีบดอกรวงโรย ซึ่งจะทําใหดอกไมขาดความ สวยงามได” นํา สอน สรุป ประเมิน T84


กิจกรรม Mini Project ค�าชี้แจง : ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นกลุ่มโดยปฏิบัติงานตาม     ที่ก�าหนดให้ เรื่อง การประดิษฐ์ชิ้นงาน เอกลักษณ์ ไทย ใบมอบหมายงานที่ ๔.๒ ๑. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มประดิษฐ์ของตกแต่งบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยตามความสนใจ ๑ ชนิด ๒.  แสวงหาความรู้เพื่อการท�างานจากสื่อที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน นิตยสารต่าง ๆ ปรึกษาผู้รู้ ผู้ช�านาญการในท้องถิ่น ครูผู้สอน ๓. วางแผนการท�างานในรูปแบบโครงงาน จากนั้นน�าส่งเอกสารพร้อมผลงาน โดยมีรายละเอียด ดังนี้   • ชื่อกลุ่ม   • รายชื่อหัวหน้ากลุ่มและสมาชิกในกลุ่ม   • การแบ่งหน้าที่การท�างานภายในกลุ่ม   • รูปแบบงานที่ท�า   • หลักการและเหตุผลที่ท�างาน   •  วัตถุประสงค์   • ระยะเวลาในการท�างาน   • งบประมาณที่ใช้   • บัญชีรายรับ-รายจ่าย   •  วิธีการด�าเนินงาน   • บันทึกผลการปฏิบัติงาน   • ปัญหา หรืออุปสรรคในการท�างาน   •  วิธีแก้ปัญหา   • ผลการปฏิบัติงาน   • ความภาคภูมิใจในการท�างาน งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย ๗๗ ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) โครงงาน เรื่อง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย 3. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 สรุปสิ่งที่ไดเรียนรู 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสรุปสิ่งที่ได เรียนรูจากการประดิษฐชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทย ตามที่กลุมของตนเองเลือก เพื่อเตรียมนําเสนอ ผลงานหนาชั้นเรียนในประเด็นที่ครูกําหนดให คือ ประเภทของงานประดิษฐเอกลักษณไทย ที่เลือก วัสดุ อุปกรณที่นํามาใชในการประดิษฐ ชิ้นงาน ขั้นตอนการปฏิบัติ ปญหาที่พบ และ แนวทางการแกปญหา 2. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู และครูชวย เสนอแนะเพิ่มเติม ขั้นที่ 6 นําเสนอผลงาน 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูจากการปฏิบัติงานใน ประเด็นที่ครูกําหนดให โดยครูเปดโอกาสให นักเรียนกลุมอื่นรวมกันซักถามในประเด็นที่ สงสัย 4. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวย การเรียนรูที่ 4 เรื่อง งานประดิษฐเอกลักษณไทย แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 4 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ใหแตละกลุมเลือกประดิษฐ ชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทยตามความสนใจกลุมละ 1 ชิ้น เพื่อนํามาจัดแสดงภายในชั้นเรียน โดยกําหนดใหใน 1 ชิ้นงาน จะตองประกอบไปดวยงานแกะสลักผักและผลไม และงาน ดอกไมสดรวมกัน 2. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวางแผนในการดําเนินงาน พรอมทั้ง มอบหมายหนาที่ในการปฏิบัติงานตามความถนัดและความ สามารถของแตละบุคคล 3. ใหนักเรียนแตละกลุมนําเสนอผลงาน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู ภายในชั้นเรียน โดยมีครูเปนผูใหคําแนะนําและชี้แนะเพิ่มเติม เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจที่ถูกตอง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม นํา สอน สรุป ประเมิน T85


Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 การปลูกพืช 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - PowerPoint 1. อธิบายเกี่ยวกับประเภท ของพืชที่ปลูกได้อย ่าง ถูกต้อง 2. วางแผนการปลูกพืช ได้อย่างถูกวิธี 3. รู้จักวิธีขยายพันธุ์พืช และสามารถขยาย พันธุ์พืชได้ แบบเน้น กระบวนการ ปฏิบัติ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 5.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T86


แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 2 การเลี้ยงสัตว์ 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 1. ระบุปัจจัยที่มีผลต่อการ เลี้ยงสัตว์ได้ 2. เลี้ยงสัตว์ได้อย่างถูกวิธี 3. ปฏิบัติงานเกษตร ที่สนใจได้ แบบใช้ โครงการ เป็นฐาน (ProjectBased Instruction) - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจโครงงาน - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T87


งานเกษตร สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะการท�างานร่วมกัน เป็นการท�างานกลุ่ม ท�างานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ท�างาน อย่างมีกระบวนการตามขั้นตอน และฝึกหลักการท�างานกลุ่ม ■ ทักษะการจัดการ เป็นการจัดระบบงานและระบบคน เพื่อให้การท�างานส�าเร็จตามเป้าหมาย อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การปลูกพืช ขยายพันธุ์พืช หรือเลี้ยงสัตว์ ■ ทักษะการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ารงชีวิต ประกอบด้วยการศึกษา ค้นคว้า รวบรวม สังเกต ส�ารวจ และบันทึก เช่น การเลี้ยงสัตว์ ■ คุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�างาน เป็นการสร้างคุณงามความดี และควรฝึกให้ผู้เรียนมี คุณภาพที่ส�าคัญๆ เช่น ขยัน อดทน รับผิดชอบ และซื่อสัตย์ ตัวชี้วัด ■ สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะการท�างานร่วมกัน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๒) ■ มีทักษะการจัดการในการท�างาน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๓) ■ มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ารงชีวิต (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๕) ■ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�างาน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๖) ๑ การปลูกพืช การเพิ่มจ�านวนต้นพืชให้มีปริมาณมากขึ้น โดยน�าพืชที่ปลูกได้ไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ ที่ตั้งไว้ เช่น การปลูกกุหลาบ เพื่อตัดดอกขาย การปลูกไม้ประดับ เพื่อใช้ตกแต่งสถานที่ การปลูก มะม่วงพันธุ์น�้าดอกไม้ เพื่อไว้บริโภค หรือส่งออกไปจ�าหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งการเพาะปลูก เพื่อให้ ได้ผลผลิตที่ดี จุดเริ่มต้นมาจากการขยายพันธุ์พืช หน่วยการเรียนรู้ที่๕ นักเรียนสามารถปลูกพืชและ เลี้ยงสัตว์ชนิดใดได้ และมี วิธีการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ชนิดนั้นอย่างไร 78 ขั้นนํา (แบบเนนกระบวนการปฏิบัติ) ขั้นที่ 1 สังเกตและรับรู 1. ครูแจงชื่อเรื่องที่จะเรียนรูและผลการเรียนรู ใหนักเรียนทราบ จากนั้นใหนักเรียนแตละคน ทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 เรื่อง งานเกษตร 2. ครูนําภาพพืชชนิดตางๆ มาใหนักเรียนดู ไดแก พืชไร เชน ขาวโพด มันสําปะหลัง ออย ขาว บัว แหว กระจับ มะพราว หมาก ตาล มะมวง มะนาว พืชสวน เชน มังคุด ลองกอง สม แกวมังกร ผักกาดขาว ตะไคร กวางตุง ไมดอก เชน กลวยไม กุหลาบ คารเนชัน ชบา บานชื่น หงอนไก ไมประดับ เชน บอนสี วาสนา เฟน ลิ้นมังกร เดหลี บัลเดียนัม ชวนชม ขอย มะสัง 3. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนชอบภาพใดมากที่สุด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ชอบกุหลาบ เพราะเปน ดอกไมที่มีกลิ่นหอม มีสีสันสวยงาม และ สีของกุหลาบแตละสีจะมีความหมายที่ดี แตกตางกันไป เชน สีขาว สื่อความหมายถึง ความรักที่บริสุทธิ์ ความจริงใจ) • จากภาพที่นักเรียนไดชมไปนั้น นักเรียนรูจัก พืชชนิดใดบาง (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • ที่บานของนักเรียนมีการปลูกพืชเหมือนภาพ ที่ไดชมหรือไม หากไมมี ที่บานของนักเรียน ปลูกพืชชนิดใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับงานเกษตรใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเรื่องการปลูกพืชและการเลี้ยงสัตวที่เพิ่มขึ้น สามารถอธิบาย ขอมูล จําแนกประเภท และวางแผนการปลูกพืชไดอยางถูกตอง เลือกใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในการปลูกพืชและการขยายพันธุพืชไดอยางถูกตองและปลอดภัย ลงมือปฏิบัติการปลูกพืชในทองถิ่นและการขยายพันธุพืชไดอยางถูกตอง เพื่อใหเกิดความชํานาญ อธิบายประโยชนและปจจัยที่มีผลตอการเลี้ยงสัตวไดอยาง ถูกตอง เลือกใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในการเลี้ยงสัตวไดอยางถูกตองและปลอดภัย ลงมือปฏิบัติการเลี้ยงสัตวในครัวเรือนไดอยางถูกตอง เพื่อใหเกิดความชํานาญ ใชทรัพยากรอยางคุมคาและยั่งยืน เพื่อเปนการอนุรักษสิ่งแวดลอม นําทักษะการทํางานรวมกันมาประยุกตใชในการทํางาน ใชทักษะการจัดการในการจัดทั้งระบบงาน และระบบคน รวมถึงทักษะในการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิตในการคนหาขอมูลที่เปนประโยชน เพื่อใหผลงานสําเร็จตรงตามเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับงานเกษตร • ใหนักเรียนปฏิบัติการปลูกพืช การขยายพันธุพืช และการเลี้ยงสัตวในครัวเรือน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T88


ขอสอบเนน การคิด การปลูกพืชมีความส�าคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยในหลาย ๆ ด้าน เช่น เป็นแหล่งก�าเนิด ปัจจัย ๔ ที่มีความจ�าเป็นต่อการด�ารงชีวิตของมนุษย์ ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และเครื่องนุ่มห่ม ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมและธรรมชาติให้มีความสมดุล ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ ป้องกันอันตรายจากน�้าท่วมฉับพลัน ลดปัญหาภัยแล้ง สร้างรายได้ ให้แก่ประเทศชาติ เนื่องจาก พืชบางชนิดใช้เป็นสินค้าส่งออก เพื่อน�ารายได้มาพัฒนาประเทศ เป็นแหล่งอาชีพของประชากร เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ของประเทศประกอบอาชีพทางด้านเกษตรกรรม งานเกษตรเป็นการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ผู้ปลูก และผู้เลี้ยงจ�าเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการปลูกพืชและ การเลี้ยงสัตว์ชนิดนั้นๆ สามารถลงมือปฏิบัติจริงได้อย่างถูกต้อง ตามขั้นตอน และได้ผลสัมฤทธิ์ของงานตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนสามารถพัฒนาผลงานที่เกิดจากการเรียนรู้ได้อย่าง สร้างสรรค์ เป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม งานเกษตร 79 ป้องกันอันตรายจากน�้าท่วมฉับพลัน ลดปัญหาภัยแล้ง สร้างรายได้ พืชบางชนิดใช้เป็นสินค้าส่งออก เพื่อน� 1 3 2 เพราะเหตุใดประชากรสวนใหญของประเทศไทยจึงประกอบ อาชีพทางดานเกษตรกรรม 1. เปนอาชีพที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ 2. เปนสิ่งที่ทําไดงาย ไมตองใชเงินลงทุนสูง 3. เปนพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ มีสภาพภูมิอากาศเหมาะสม 4. เปนสิ่งที่ชวยใหครอบครัวมีความสุข ไมตองแยกกันไป ทํางานในเมือง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะประเทศไทยมีลักษณะ ภูมิประเทศที่เอื้อตอการเพาะปลูกพืช ดินมีความอุดมสมบูรณ ประกอบกับการมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม จึงสงผลทําให สามารถปลูกพืชไดทั่วทุกภาคของประเทศ ประชาชนสวนใหญ จึงนิยมประกอบอาชีพทางดานเกษตรกรรม) นักเรียนควรรู 1 นํ้าทวมฉับพลัน เกิดจากฝนตกหนักตอเนื่องเปนเวลานาน ทําใหจํานวนนํ้า สะสมมีปริมาณมากจนพื้นดินและตนไมดูดซับไมไหว จึงไหลบาลงสูที่ราบตํ่า เบื้องลางอยางรวดเร็ว สงผลทําใหบานเรือนพังทลายเสียหาย และอาจทําใหเกิด อันตรายถึงแกชีวิตได 2 ภัยแลง เกิดจาก 2 สาเหตุ ไดแก ธรรมชาติ เชน การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเกิดจากการกระทําของมนุษย เชน การพัฒนาทางดานอุตสาหกรรม การตัดไมทําลายปา สงผลใหขาดแคลนนํ้า เปนเวลานาน จนกอใหเกิดความแหงแลง สงผลกระทบตอชุมชนที่ตองการ นํานํ้ามาใชในการอุปโภค บริโภค 3 พืชบางชนิดใชเปนสินคาสงออก ประเทศไทยมีการสงออกขาวเปนอันดับที่ 1 ซึ่งมีมูลคากวา 51,069.50 ลานบาท ตามดวยยางพารา และมันสําปะหลัง ขั้นนํา ขั้นที่ 1 สังเกตและรับรู • นักเรียนเคยปลูกพืชชนิดใดและคิดวาตนเอง สามารถปลูกพืชตางๆ ดังภาพไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เคยปลูกมะลิ กุหลาบ กลวยไม ดาวเรือง มะมวง ขนุน และคิดวา ตนเองสามารถปลูกพืชดังภาพไดบางชนิด เชน พืชสวน ไมดอก ไมประดับ เพราะเปนพืช ที่สามารถหาซื้อตนพันธุไดงาย และมีขอมูล เกี่ยวกับวิธีการปลูก การดูแลบํารุงรักษา และการปองกันโรคใหศึกษาอยางมากมาย จากแหลงการเรียนรูที่หลากหลาย เชน หนังสือเกี่ยวกับการเกษตร อินเทอรเน็ต) 4. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวา พืชแตละชนิดจากภาพที่ไดชมไปนั้นมีวิธีการ ปลูกและการดูแลบํารุงรักษาอยางไร โดยยก ตัวอยางพืชที่มีการปลูกอยูในทองถิ่นที่นักเรียน อาศัยอยู เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความ เขาใจที่เพิ่มมากขึ้น 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การปลูกพืชจัดเปนการ ปลูกพืชผลทางการเกษตรอยางหนึ่ง ซึ่งสามารถ นํามาเปนปจจัยในการดํารงชีวิตของมนุษยได ดังนั้น เราจึงควรศึกษาและเรียนรูเกี่ยวกับการ ปลูกพืช ซึ่งนอกจากจะสามารถนํามาใชในการ ดํารงชีวิตของตนเองไดแลว ยังสามารถนํา ผลผลิตพืชมาจําหนาย เพื่อสรางรายไดใหแก ตนเอง ครอบครัว และชุมชน ตลอดจนสามารถ พัฒนาเปนอาชีพไดในอนาคต ซึ่งการปลูกพืช นั้นจําเปนตองมีความรูเกี่ยวกับความหมาย และความสําคัญของการปลูกพืช เพื่อนํามา ใชเปนแนวทางในการปลูกพืชที่มีคุณภาพและ ตรงตามความตองการ” นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T89


Click to View FlipBook Version