ขอสอบเนนการคิด ๒) การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับวัย ควรพิจารณา ดังนี้ วัยทารก เป็นวัยที่ต้องดูแลและทะนุถนอมอย่างใกล้ชิด เพราะ ภูมิคุ้มกันต่างๆ ของร่างกายยังมีน้อย ควรเลือกเสื้อผ้าที่ผลิตจาก เส้นใยธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีที่ใช้ในการตกแต่งเนื้อผ้า และมี ความเหมาะสมกับทุกสภาวะอากาศอย่างผ้าฝ้ายแท้ธรรมชาติ ๑๐๐% ซึ่งเป็นผ้าที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัยต่อผู้สวมใส่ วัยเด็ก เป็นวัยที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ชอบเลียนแบบ ชอบท�ากิจกรรม ควรเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมกลางแจ้ง ควรเลือกเสื้อผ้าที่สามารถป้องกันแสงยูวีได้ เพื่อช่วยลดผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นกับผิวหนัง หรือกิจกรรมภาคสนาม ควรเลือกเสื้อผ้าที่ สามารถซักท�าความสะอาดสิ่งสกปรกออกได้ง่าย วัยรุ่น เป็นวัยที่มีความคิดเป็นอิสระ กล้าแสดงออก ชอบแต่งกายตาม สมัยนิยม เพื่อเสริมสร้างจุดเด่นให้กับตนเอง เสื้อผ้าของวัยรุ่นควรมี สีสันที่สดใส หรือมีสีอ่อนๆ รูปแบบของเสื้อผ้าจะเป็นไปตามความนิยม ของแต่ละบุคคล แต่ควรเลือกเสื้อผ้าแบบที่สุภาพ ไม่รัดรูป หรือเน้น รูปร่างมากจนเกินไป และต้องค�านึงถึงความปลอดภัย วัยท�างาน เป็นวัยที่ต้องท�างานหารายได้ เพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับคนในวัยนี้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสุภาพ เรียบร้อย เพื่อให้ดูภูมิฐานและสง่างาม ควรเลือกเสื้อผ้าที่สะดวกต่อการท�ากิจกรรมต่าง ๆ โดยดูจากโอกาสใช้สอยว่าเป็นชุดในโอกาสใด และควร เลือกให้เหมาะสมกับสีผิว วัยสูงอายุ เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกาย เสื้อผ้า ส�าหรับวัยสูงอายุควรเน้นเนื้อผ้าที่เบาสบายเป็นหลัก รูปทรงที่หลวม ไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่คับมากจนเกินไป เพราะจะท�าให้หายใจล�าบาก และเคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก อาจท�าให้หกล้ม หรือเกิดอุบัติเหตุได้ 34 วัยเด็ก วัยสูงอายุ 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนปฏิบัติ 7. ครูนําภาพการแตงกายของผูหญิงและผูชาย ในแตละชวงวัยมาใหนักเรียนดู จากนั้นครูให นักเรียนรวมกันวิเคราะหความแตกตางของ การแตงกายของผูหญิงและผูชายในแตละ ชวงวัย โดยมีครูเปนผูคอยเสนอแนะเพิ่มเติม 8. ครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใด เสื้อผาและเครื่องแตงกายของ เด็กวัยทารกจึงตองมีความพิถีพิถันในการ เลือกใชเปนอยางมาก (แนวตอบ เด็กวัยทารกเปนวัยที่ตองไดรับ การดูแลและทะนุถนอมเปนพิเศษ เนื่องจาก ภูมิคุมกันในรางกายมีนอย ผิวมีความ บอบบาง และเกิดอาการแพไดงาย จึงควร เลือกใชเสื้อผาที่มีความออนนุม ผลิตจาก เสนใยธรรมชาติ ควรเลือกใหมีขนาดใหญ พอที่จะทําใหการเคลื่อนไหวเปนไปอยาง สะดวก) • นักเรียนคิดวาตนเองแตงกายไดเหมาะสม กับชวงวัยของตนเองหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน แตงกายเหมาะสม กับวัยของตนเอง โดยเสื้อผาและเครื่อง แตงกายที่สวมใส สวนใหญจะเปนเสื้อผา ตามสมัยนิยมที่มีความสุภาพ เรียบรอย และ มีสีสันที่สดใส) • หากตองการเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่องแตงกาย เปนของขวัญวันเกิดใหกับคุณพอ คุณแม นักเรียนจะมีแนวทางในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เลือกซื้อเสื้อผาที่มีสีสุภาพ เรียบรอย เพื่อใหดูภูมิฐานและมีความสงางาม สะดวกตอการทํากิจกรรมตางๆ ในชีวิต ประจําวัน) เพราะเหตุใดจึงควรเลือกซื้อเสื้อผาที่ผลิตจากผาฝายใหเด็ก วัยทารกสวมใส (แนวตอบ เนื่องจากผิวของเด็กทารกมีความบอบบางและแพงาย หากเลือกเสื้อผาใหสวมใสไมเหมาะสม อาจทําใหเกิดการระคายเคือง ตอผิว ควรเลือกเสื้อผาที่ผลิตจากเสนใยธรรมชาติ เชน ผาฝาย ผาปาน เพราะเนื้อผามีความบางเบา สวมใสสบาย ชวยระบาย อากาศ และซึมซับเหงื่อไดดี) นักเรียนควรรู 1 วัยเด็ก ควรสวมใสเสื้อผาที่เนื้อผามีความออนนุม ไมควรสวมใสเสื้อผาที่ เนื้อผาแข็งกระดาง เพราะจะทําใหเกิดการระคายเคืองตอผิวได ควรเลือกที่มี ตะเข็บนอย เนื่องจากตะเข็บอาจทําใหเกิดอาการคัน ควรเลือกสวมใสเสื้อผา ที่มีขนาดใหญกวาลําตัว เพื่อใหเกิดความรูสึกสบาย และสามารถเคลื่อนไหว รางกายไดอยางสะดวกในขณะปฏิบัติกิจกรรมตางๆ กอนนําเสื้อผามาสวม ใสควรซักดวยนํ้ายาซักผาเด็กๆ เพื่อปองกันการระคายเคือง ชวยใหผานุมขึ้น และชวยกําจัดเชื้อโรคตางๆ ที่ติดมากับเสื้อผา 2 วัยสูงอายุ ควรสวมใสเสื้อผาที่เนื้อผามีความบางเบา สวมใสสบาย ระบาย อากาศไดดี สีสุภาพเรียบรอย รูปทรงของเสื้อผาตองไมรัดแนนจนเกินไป รูปแบบมีความเรียบหรู มีการตกแตงเพื่อเพิ่มความสวยงามเพียงเล็กนอย เพื่อใหดูภูมิฐานและมีความสงางามสมวัย นํา สอน สรุป ประเมิน T40
ขอสอบเนน การคิด ๓) การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพ ควรพิจารณา ดังนี้ ๔) การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสีผิว ควรพิจารณา ดังนี้ บุคลิกภาพ สีผิว เสื้อผ้า เสื้อผ้า ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีน�้าหนักทิ้งตัว แบบเรียบ อาจมีการติดโบ หรือ มีลายปักเล็กน้อย เพื่อให้เกิดจุดเด่น สุภาพ เรียบรอย เป็นผิวที่เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี สามารถเลือกสวมใส่เสื้อผ้าได้หลายสี โดยเฉพาะโทนสีที่สดใส ซึ่งจะช่วยขับผิวให้ดูผุดผ่องยิ่งขึ้น ขาวอมชมพู ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าสีพื้นและมีลายเส้นตรงแบบเรียบ เช่น เสื้อโปโล เสื้อยืดคอกลม หรือคอวี แข็งแรงแบบนักกีฬา เป็นสีผิวของคนเอเชียโดยส่วนใหญ่ สามารถเลือกสวมใส่เสื้อผ้าได้ หลายสีเช่นเดียวกับผู้ที่มีผิวขาวอมชมพู ขาวอมเหลือง ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีสีสันสวยงาม สะดุดตา ออกแบบอย่างทันสมัยตาม ความนิยมของคนในยุคปัจจุบัน เชื่อมั่นในตนเองสูง เป็นสีผิวที่ขาวมาก ซึ่งอาจดูเหมือนผู้ที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าโทนสีค่อนข้างเข้ม เพื่อขับสีผิวให้ดูเข้มขึ้นเล็กน้อย ขาวซีด ควรเลือกเสื้อผ้าที่สะดวกต่อการเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ควรตกแต่งมาก จนดูรกรุงรัง เน้นผ้าสีเข้ม เนื้อผ้าทรงตัว วองไว ปราดเปรียว ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีค่อนข้างอ่อน โดยเฉพาะสีผสมต่าง ๆ ที่ดู ไม่ร้อนแรงจนเกินไป ซึ่งจะช่วยขับผิวให้ดูสว่างขึ้น สองสี หรือสีนํ้าผึ้ง ควรเลือกเสื้อผ้าที่เน้นความสง่างาม มีความภูมิฐาน ออกแบบเรียบหรู ไม่ตกแต่งมากจนดูรกรุงรัง สุขุม ลุมลึก ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าสีโทนกลาง ๆ ไม่อ่อนจนเกินไป และไม่สดจน เกินไป หรือเลือกโทนสีที่ค่อนข้างเข้ม เพราะสีโทนนี้จะช่วยท�าให้ผิว ดูกลมกลืนกับเสื้อผ้า และยังท�าให้ผิวดูขาวขึ้นอีกด้วย คลํ้า เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 35 ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าสีพื้นและมีลายเส้นตรงแบบเรียบ เช่น เสื้อโปโล เสื้อยืดคอกลม หรือคอวี เป็นผิวที่เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี สามารถเลือกสวมใส่เสื้อผ้าได้หลายสี โดยเฉพาะโทนสีที่สดใส ซึ่งจะช่วยขับผิวให้ดูผุดผ่องยิ่งขึ้น 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนปฏิบัติ 9. ครูขออาสาสมัครนักเรียนหญิงและนักเรียน ชายอยางละ 3 คน ที่มีบุคลิกภาพและสีผิวที่ แตกตางกันออกมาเปนแบบ เพื่อใหเพื่อน รวมกันวิเคราะหเกี่ยวกับการเลือกเสื้อผาให เหมาะสมกับบุคลิกภาพและการเลือกเสื้อผา ใหเหมาะสมกับสีผิว โดยครูใหอาสาสมัครเลา เกี่ยวกับการแตงกายของตนเองใหเพื่อนฟง จากนั้นใหเพื่อนรวมชั้นเรียนรวมกันวิเคราะห วาลักษณะการแตงกายดังกลาวมีความ เหมาะสมกับบุคลิกภาพและสีผิวของเพื่อน หรือไม 10. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนมีแนวทางอยางไรในการเลือก เสื้อผาใหเหมาะสมกับบุคลิกภาพและการ เลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับสีผิวของตนเอง (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • ผูหญิงที่มีรูปรางแข็งแรงแบบนักกีฬา ควร เลือกสวมใสเสื้อผาอยางไรจึงจะเหมาะสม กับบุคลิกภาพ (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ควรสวมใสเสื้อผาสีพื้น เรียบๆ ไมควรสวมใสเสื้อที่มีลายดอกโตๆ มีระบาย และมีเนื้อผาที่บางเบา) • เพราะเหตุใดผูที่มีผิวคลํ้าจึงไมควรสวมใส เครื่องแตงกายที่มีสีโทนรอน (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เพราะจะทําใหผิวดูคลํ้า มากขึ้น มองดูแลวไมสะอาดตา จึงควรเลือก สวมใสเสื้อผาที่มีโทนสีกลางๆ เพื่อชวยทําให สีผิวกับสีของเสื้อผามีความกลมกลืนกัน และชวยใหผิวดูขาวมากขึ้น) “นานาเปนผูหญิงวัยทํางานที่มีบุคลิกแบบ Working Women” การแตงกายในขอใดบงบอกถึงลักษณะของนานาไดชัดเจนที่สุด 1. สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงยีนสีเขม สวมรองเทาผาใบ 2. สวมเสื้อเชิ้ต มีเสื้อสูทสวมทับ กางเกงเขารูป สวมรองเทาสนสูง 3. สวมเสื้อเชิ้ตสีออน กระโปรงยาวสีดําคลุมเขา สวมรองเทาสนสูง 4. สวมเสื้อแขนยาวคอเตา กระโปรงสีดําเหนือเขา สวมรองเทา สนเตี้ย (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะลักษณะของผูหญิงแบบ Working Women จะมีความคลองแคลวสูง มีความมั่นใจในตัวเอง ดังนั้น เสื้อผาที่สวมใสจึงตองมีขนาดพอดีกับตัว เพื่อเสริมสราง บุคลิกภาพและความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น) นักเรียนควรรู 1 เสื้อโปโล หากเปนเสื้อกีฬาควรเลือกที่สามารถซับเหงื่อไดดี เพื่อใหเกิด ความรูสึกเย็นสบาย ควรหลีกเลี่ยงเสื้อสีขาว หรือสีออน เพราะจะทําใหสกปรก ไดงาย คุณภาพของเนื้อผาอยูในระดับปานกลางถึงดี 2 คอกลม เปนลักษณะของคอเสื้อที่ตัดกลม ไมมีปก สวนใหญจะเปนเสื้อยืด การสวมใสเสื้อคอกลมจะมีความเหมาะสมกับผูที่มีรูปรางผอม เนื่องจากชวย ปกปดชวงคอไมใหดูโดดเดนมากจนเกินไป จะชวยเสริมใหรูปหนามีความ เรียวยาว ใบหนาและคางดูสมสวนมากยิ่งขึ้น 3 สีที่สดใส เปนสีที่แสดงใหเห็นถึงความสนุกสนาน รื่นเริง เชน สีแดง (ความกระตือรือรน ความมีชีวิตชีวา) สีเขียว (ความสดชื่น) สีเหลือง (ความรื่นเริง ความสดใส) สีสม (ความมีชีวิตชีวา ความสนุกสนาน) สงเสริมใหบุคลิกดู โดดเดน มีความคลองแคลว วองไว นํา สอน สรุป ประเมิน T41
รูปร่าง เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เลือกเสื้อผ้าที่มีลวดลายตามขวาง จะช่วย อ�าพรางหุ่นให้ดูกว้างขึ้น หรือเตี้ยลง เช่น เสื้อลายขวาง กระโปรงบาน สวมรองเท้าส้นเตี้ย ถือกระเป๋าใบใหญ่ หูสั้น คาดเข็มขัดขนาดใหญ่ ไม่ใส่ต่างหู แบบห้อยยาว สร้อยคอควรมีลักษณะสั้น สูง เลือกเสื้อผ้าที่มีลวดลายตามแนวยาว ช่วยให้หุ่นดูสูงเพรียวยิ่งขึ้น เช่น เสื้อลาย ตรงแนวตั้ง กระโปรงบานเล็กน้อย สวมรองเท้าส้นสูง ถือกระเป๋าขนาดกลาง คาดเข็มขัดเส้นเล็กสีเดียวกับเสื้อผ้า เครื่องประดับไม่ควรใช้ชิ้นใหญ่ เตี้ย เลือกเสื้อผ้าแบบเรียบเน้นสีเข้ม ควรมี ลวดลายไม่เด่นมาก เช่น เสื้อคอแหลม กระโปรงแคบรัดรูป สวมรองเท้าส้นสูง ถือกระเป๋าและคาด เข็มขัดแบบเรียบ ใช้เข็มกลัดติดเสื้อเพื่อ ให้มีจุดสะดุดตา อวน เลือกเสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ปกตั้ง แขนพอง จะช่วยให้ดูอ้วนขึ้น เช่น เสื้อที่ตกแต่งด้วย ลูกไม้ระบาย กระโปรงบานย้วย สวมรองเท้าส้นเตี้ย หรือส้นสูงปานกลาง ถือกระเป๋าหูสั้น ใช้ผ้าพันคอ สวมสร้อย ข้อมือ สร้อยคอประดับแนบล�าคอผอม ๖) การเลือกเสื้อผ้าเพื่ออําพรางจุดบกพรองของรูปหน้าและคอควรพิจารณา ดังนี้ ๗) การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับฤดูกาล ควรพิจารณา ดังนี้ ลักษณะใบหน้า เสื้อผ้า หนากลม เลือกสวมใส่เสื้อคอวี เสื้อคอกว้าง เสื้อคอเปิด หนายาว เลือกสวมใส่เสื้อคอกลม คอใหญ เลือกสวมใส่เสื้อคอจีน เสื้อคอตั้ง เสื้อที่มีคอแคบแต่ลึก หนาเหลี่ยม เลือกสวมใส่เสื้อคอวี เสื้อคอรูปตัวยู เสื้อคอเปิด คอสั้น เลือกสวมใส่เสื้อคอเปิด เสื้อคอต�่า คอยาว เลือกสวมใส่เสื้อปกตั้งและใช้ผ้าพันคอที่พันชิดกับคอ ฤดูร้อน นิยมใส่สีสดใส เนื้อผ้าเบา สบาย เพื่อช่วยระบายความ ร้อนให้กับร่างกาย ฤดูฝน ควรใส่สีเข้ม เนื้อผ้าไม่บาง จนเกินไป เพื่อช่วยอ�าพราง รูปร่างเมื่อเสื้อผ้าเปียกฝน ฤดูหนาว นิยมใส่สีหม่น สีเข้ม เนื้อผ้า หนา เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ แก่ร่างกาย 3๖ กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนปฏิบัติ 11. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหเกี่ยวกับการ เลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับรูปราง การเลือก เสื้อผาเพื่ออําพรางจุดบกพรองของรูปหนา และคอ และการเลือกเสื้อผาใหเหมาะสมกับ ฤดูกาล จากอาสาสมัครนักเรียนหญิงและ นักเรียนชายกลุมเดิม 12. ครูถามนักเรียนวา • หากเพื่อนมีรูปรางเล็ก นักเรียนจะแนะนํา ใหเพื่อนแตงกายอยางไร (แนวตอบ ควรแตงกายดวยเสื้อผาที่มีรูปแบบ สุภาพและมีสีสันเรียบรอย ควรสวมใสเสื้อผา ที่มีลายตามแนวยาว เพราะจะชวยใหดูสูง มากขึ้น หากสวมเสื้อที่มีปก ปกเสื้อควร มีขนาดที่เหมาะสม ไมเล็ก หรือใหญมาก เกินไป จะทําใหคอดูสั้นลง) • คนที่ชวงขาสั้นควรแตงกายอยางไร เพื่อเปน การอําพรางจุดบกพรองของตนเอง (แนวตอบ ควรสวมใสกระโปรงสั้นที่มีความ ยาวเหนือเขา หรือคลุมเขา เปนกระโปรง หรือกางเกงเอวสูง มีลายตามแนวยาว เปน กระโปรงทรงสอบ หรือกางเกงขาเดฟ) • นักเรียนชอบฤดูใดมากที่สุด และในฤดูนั้น นักเรียนจะแตงกายอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน ชอบฤดูหนาว เพราะจะได สวมใสเสื้อผาที่มีความหนา เพื่อปองกัน อากาศเย็น เสื้อผามีรูปแบบที่ปกปดรางกาย ไดอยางมิดชิด ชวยใหรางกายเกิดความ อบอุน และปองกันการเกิดโรคไขหวัดได) • จากสภาพอากาศในปจจุบัน นักเรียนควร เลือกสวมใสเสื้อผาแบบใดจึงจะเหมาะสม (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) ใหนักเรียนเขียนอธิบายรูปแบบและลักษณะการแตงกายของ ตนเอง รวมถึงวิธีการเลือกสวมใสเสื้อผา พรอมติดภาพประกอบ ลงในกระดาษรายงาน จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน โดยใหเพื่อนรวมชั้นเรียนรวมกันวิเคราะหลักษณะ การแตงกายของของตนวามีความเหมาะสมกับรูปราง สีผิว และ บุคลิกภาพหรือไม กิจกรรม สรางเสริม ใหนักเรียนจับคู จากนั้นออกแบบเครื่องแตงกายใหกันและกัน โดยคํานึงถึงรูปราง สีผิว และบุคลิกภาพเปนหลัก จากนั้นออกมา นําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมอธิบายแนวคิด ในการออกแบบเครื่องแตงกายดังกลาว เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของคอเสื้อใหนักเรียนฟงวาคอเสื้อเปน สวนของเสื้อที่ชิดคอ หรือควานเปนวง เพื่อใชสวมศีรษะมีหลายประเภท เชน คอกลม เปนคอเสื้อที่ตัดกลม ไมมีปก คอวี เปนคอเสื้อที่ตัดแหลมตรงกลางคลาย ตัววี เรียกอีกอยางหนึ่งวา คอแหลม คอถวงเปนคอเสื้อที่ใชผาเฉลียงตัด ทําให มีลักษณะจีบถวงเปนชั้นๆ คอปาด เปนคอเสื้อที่ตัดปาดตรงจากไหลซายไปยัง ไหลขวา คอกระเชา เปนคอเสื้อที่ควานใหกวางและลึก ทั้งขางหนาและขางหลัง ในลักษณะของวงกลม และมีจีบรูดบริเวณคอพับ คอเชิ้ต เปนปกเสื้อแบบติดคอ ปลายปกแหลม จะมีสาบเชื่อมระหวางปกกับตัวเสื้อ เพื่อใหปกตั้งขึ้น คอฮาวาย เปนปกเสื้อชนิดปลายแหลม สาบตอนบนจะแบะออก เพื่อใหรับกับปก คอกะลาสี เปนปกเสื้อแบบกะลาสี ดานหนามีลักษณะแหลมแบะออกดานขาง สวนดานหลัง เปนรูปสี่เหลี่ยม นํา สอน สรุป ประเมิน T42
ขอสอบเนน การคิด ก่อนขจัดรอยเปอนบนเสื้อผ้า ควร พิจารณาก่อนว่ารอยเปอนนั้นเกิดจาก สิ่งใด และควรเลือกใช้สารให้ถูกต้อง ตามชนิดของรอยเปอนนั้น ๆ ซึ่งรอยเปอน การ¢¨ัดรอÂเป„œอ¹º¹เสื้อผ้า ที่พบเห็นบ่อย ๆ ในชีวิตประจ�าวัน มีดังนี้ ñ. รอÂเป„œอ¹ËมÖกËÂด ถาเปนรอยเปอนใหม ใหขยี้ในน้ําผสมสารซักฟอก หากมีรอยเปอนตกคางใหใชกรดออกซาลิกผสมน้ํา หรือไฮโดรเจนเปอรออกไซด แชเฉพาะสวนที่เปอน บีบมะนาวลงไป ทิ้งไว ๒ นาที นําไปผึ่งแดด ๓ ชั่วโมง แลวนําไปซักตามปกติ ò. รอÂเป„œอ¹ลÔปสตÔก เช็ดดวยคารบอนเตตระคลอไรด โดยกลับเอาดาน ในออก ดานลางรองดวยผาฝาย เช็ดทางกลับดาน ซักดวย น้ํารอนผสมผงซักฟอก หรือใชวาสลีนทาตรงที่เปอน แชในน้ําผสมเกลือ ทิ้งไว ๑ คืิน รอยเปอนจะหายไป ó. รอÂเป„œอ¹ªา กาแ¿ ถารอยเปอนยังไมแหง ใหนําแปงขาวเจา หรือ แปงขาวเหนียว หรือแปงฝุนโรยลงบนรอยเปอน เพื่อให แปงดูดซับรอยเปอน ทิ้งไวใหแหง ใชแปรงปดแปงออก แลวซักดวยสารซักฟอกตามปกติ ô.รอÂเป„œอ¹เลือด ถาเปนผาฝาย หรือผาลินินใหนําไปแชน้ําและใช แอมโมเนียเจือจางเช็ด แลวนําไปซัก หรือใชแปงมัน ผสมน้ําใหขนเหมือนแปงเปยกทารอยเปอน ทิ้งไว ประมาณ ๔ ชั่วโมง แลวนําไปซักตามปกติ õ.รอÂเป„œอ¹Ëมาก½รั่ง ใชน้ําแข็งถูใหหมากฝรั่งจับตัวเปนกอน แลวใช สันมีดขูดหมากผรั่งออก เช็ดดวยสารละลายเปอรคลอโรเอทิลีน หรือคารบอนเตตระคลอไรด หรือแอลกอฮอล แลวจึงนําไปซักในน้ําสบูออน ö. รอÂเป„œอ¹¹í้ามั¹ เช็ดดวยเปอรคลอโรเอทิลีนและซักในน้ําสบู หรือ สารละลายอื่น ๆ หรือใชผาขนหนู หรือผาฝายรองดานลาง เทคารบอนเตตระคลอไรดลงไปที่รอยเปอน เช็ดดวย สําลี หรือผาแหง นําไปซักในน้ําอุนที่ผสมสารซักฟอก ÷. รอÂเป„œอ¹äอÈกรÕม เช็ดดวยแอลกอฮอล หรือนําไปตมในนํ้าผสม สารละลายโซเดียมไทโอซัลเฟต หรือนําไปซักในนํ้าอุน ผสมดวยผงซักฟอก หรือใชมะนาวถูบริเวณรอยเปอน แลวนําไปซักตามปกติ ø.รอÂเป„œอ¹¹มและ¤รÕม เช็ดดวยสารฟอกขาวไฮเปอรคลอไรด ซักในน้ําอุน ผสมสารซักฟอก หรือนําแปงฝุนมาโรย ใชกระดาษชําระ วางทับ นําเตารีดที่รอนพอสมควรวางทับบนกระดาษ จนแปงดูดคราบมันออกหมด จึงนําไปซักตามปกติ เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 37 เช็ดดวยคารบอนเตตระคลอไรด โดยกลับเอาดาน น้ํารอนผสมผงซักฟอก หรือใชวาสลีนทาตรงที่เปอน เช็ดดวยสารฟอกขาวไฮเปอรคลอไรด ซักในน้ําอุน 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 ขั้นวางแผนปฏิบัติ 13. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมาจับสลากหัวขอสถานการณตางๆ ที่ ครูกําหนดขึ้น เพื่อรวมกันออกแบบเครื่อง แตงกายใหเหมาะสมกับสถานการณดังกลาว โดยสถานการณที่ครูกําหนดขึ้น คือ การไป สัมภาษณงาน การไปรวมงานมงคลสมรส การไปติดตอสถานที่ราชการ การไปซื้อของ ที่หางสรรพสินคา การไปรวมงานสวดพระ อภิธรรม การไปรวมงานทําบุญขึ้นบานใหม และการไปวัด เนื่องในเทศกาลสําคัญทาง ศาสนา ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 14. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันออกแบบ เครื่องแตงกายใหเหมาะสมกับสถานการณ ที่จับสลากไดกลุมละ 1 ชุด พรอมทั้งเลือก ตัวแทนกลุม เพื่อเปนตนแบบในการใสชุดตาม ที่ไดออกแบบไว โดยจะตองคํานึงถึงรูปราง สีผิว บุคลิกภาพ เพศ วัย ฤดูกาล โอกาส และ กาลเทศะรวมดวย จากนั้นบันทึกขั้นตอนการ ปฏิบัติงานลงในใบงานที่ 3.1.1 การเลือกใช เสื้อผาและเครื่องแตงกาย 15. ครูใหนักเรียนแตละกลุมแบงหนาที่ความ รับผิดชอบในการจัดเตรียมเสื้อผาตามที่ได ออกแบบไว เพื่อนํามาใหตนแบบเปนผูสวมใส และนําเสนอผลงานในชั่วโมงถัดไป 16. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันแตงกายใหกับ ตนแบบในชุดที่ไดออกแบบไว โดยใหแตละ กลุมผลัดกันออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อน ชมหนาชั้นเรียน จากนั้นใหเพื่อนรวมชั้นเรียน รวมกันเสนอแนะเพิ่มเติม ถาหากเสื้อมีรอยเปอนหมึกปากกาลูกลื่น ควรแกปญหาดังกลาว อยางไร 1. เช็ดดวยไฮโดรเจนเปอรออกไซด 2. แชในนํ้าอุน แลวซักดวยนํ้ายาซักแหง 3. ใชฟองนํ้าชุบแอลกอฮอลเช็ดรอยเปอน แลวนําไปซักตาม ปกติ 4. ใชผาฝาย หรือผาขนหนูเช็ดรอยเปอน และใชกอนนํ้าแข็ง ถูแรงๆ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะผาที่เปอนหมึกปากกาลูกลื่น สามารถกําจัดรอยเปอนได โดยการใชฟองนํ้าชุบแอลกอฮอล เช็ดบริเวณรอยเปอน แลวนําไปซักตามปกติ หรือใชนํ้ามันเบนซิน เช็ดรอยเปอน แลวโรยผงซักฟอก ขยี้บริเวณรอยเปอน นํ้าหมึก ปากกาจะคอยๆ จางลง) นักเรียนควรรู 1 คารบอนเตตระคลอไรด เปนสารเคมีที่นํามาใชในอุตสาหกรรมหลายอยาง ในอดีต เชน เปนนํ้ายาซักแหง กําจัดคราบสกปรกบนเสื้อผา เปนนํ้ายาทําความ สะอาดลางคราบมัน เปนสารกําจัดศัตรูพืช เปนสารดับเพลิง ซึ่งกอใหเกิด อันตรายตอรางกาย หากสัมผัสถูกผิวหนังจะทําใหเกิดการอักเสบ ระคายเคือง สงผลตอระบบทางเดินหายใจ และทําลายโอโซน ปจจุบันสารเคมีชนิดนี้ถูกจัด ใหเปนสารอันตรายตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย 2 ผงซักฟอก หากซักไมสะอาด หรือลางผงซักฟอกไมหมด สารเคมีที่หลงเหลือ อยูบนเนื้อผา อาจกอใหเกิดการระคายเคืองตอผิวหนังได 3 สารฟอกขาวไฮเปอรคลอไรด เปนสารเคมีที่ใชในอุตสาหกรรมการฟอกยอม เสนดาย เยื่อกระดาษ ใชเปนสารฆาเชื้อโรคในนํ้า ขอควรระมัดระวังในการ ใชงาน คือ หามไมใหสัมผัสถูกผิวหนัง เพราะจะทําใหเกิดการระคายเคืองได นํา สอน สรุป ประเมิน T43
ขอสอบเนนการคิด ò การเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่องแตงกาย การซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ควรเลือกซื้อตามความจ�าเป็นและความเหมาะสม นอกจากนี้ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง โดยค�านึงถึงรูปร่าง สีผิว เพศ วัย บุคลิกภาพของ ผู้สวมใส่ โอกาสในการใช้งาน ราคา ตลอดจนวิธีการดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายอย่างถูกต้อง ๒.๑ หลักการเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ก่อนการเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ควรค�านึงถึงประโยชน์ในการใช้สอย ความสะดวกสบาย ในการสวมใส่ ความเหมาะสมกับวัยและบุคลิกภาพ หลักการเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย มีดังนี้ ๑ ตรวจดูแนวตะเข็บ โดยตะเข็บ ต้องเย็บเรียบร้อยและถี่ เพื่อ ความแข็งแรง ทนทาน 3 ควรตรวจสอบเสื้อผ้าในแสง ธรรมชาติหรือใต้แสงสีขาว 5 ตรวจสอบความเรียบร้อยของ ตะเข็บด้านใน โดยตะเข็บต้อง ไม่ขาด หรือหลุดลุ่ยง่าย 7 น�ากระดาษจดบันทึกสัดส่วน ไปด้วย ในกรณีฝากผู้อื่นซื้อ 9 เลือกเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส หรือ เลือกให้เหมาะสมกับเสื้อผ้า ที่มีอยู่เดิม 2 สังเกตลายตามรอยต่อแต่ละ ส่วนให้ตรงพอดี ดูแล้วไม่ขัดตา 4 เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับ รูปร่างของตนเอง เพื่อเพิ่ม ความมั่นใจ ๖ ตรวจสอบสัญลักษณ์บนป้าย เสื้อผ้าจะได้ใช้งานและดูแล รักษาได้อย่างถูกต้อง ๘ เลือกเครื่องแต่งกายที่สามารถ น�ามาประยุกต์ได้กับทุกยุค ทุกสมัย ๑0 จดรายการเสื้อผ้าที่ซื้อไว้ เพื่อป้องกันการซื้อซ�้า หรือซื้อ เกินความจ�าเป็น 3๘ ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 17. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวิเคราะห หลักการเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่องแตงกาย จากสถานการณที่จับสลากได จากนั้นสง ตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลการ วิเคราะหใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 18. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การเลือกซื้อเสื้อผา และเครื่องแตงกาย ควรเลือกซื้อตามความ จําเปนและความเหมาะสมในการใชงาน และ ควรพิจารณาอยางรอบคอบกอนตัดสินใจซื้อ โดยคํานึงถึงรูปราง สีผิว บุคลิกภาพ เพศ วัย ฤดูกาล โอกาส และกาลเทศะ ตลอดจนวิธี การดูแลรักษาเสื้อผาและเครื่องแตงกายอยาง ถูกตอง” 19. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนเคยเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่อง แตงกายดวยตนเองหรือไม ถาเคย มีวิธีการ ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • เมื่อตองเลือกซื้อเสื้อผาควรพิจารณาถึงสิ่งใด เปนสําคัญ (แนวตอบ พิจารณาจากราคาของสินคา พิจารณาจากคุณภาพของสินคา) 20. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาเลา ประสบการณเกี่ยวกับการเลือกซื้อเสื้อผาและ เครื่องแตงกายของตนเองวามีวิธีการอยางไร ใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน จากนั้นใหเพื่อนรวม ชั้นเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวาเพื่อน คนดังกลาวมีวิธีการเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่อง แตงกายที่ถูกตอง เหมาะสมหรือไม อยางไร เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือกขนาดของเสื้อผาสําเร็จรูปใหนักเรียน ฟงวา เสื้อผาสําเร็จรูปจะมีขนาดระบุไว อาจอยูบริเวณคอปก ขอบเอว ตะเข็บขาง โดยมีการระบุขนาดเปนนิ้ว หรือใชอักษรยอ S, M, L, XL เชน • S ชาย รอบอก 36 นิ้ว ยาว 27 นิ้ว หญิง รอบอก 34 นิ้ว ยาว 24 นิ้ว • M ชาย รอบอก 38 นิ้ว ยาว 27 นิ้ว หญิง รอบอก 36 นิ้ว ยาว 27 นิ้ว • L ชาย รอบอก 40 นิ้ว ยาว 28 นิ้ว หญิง รอบอก 38 นิ้ว ยาว 27 นิ้ว • XL ชาย รอบอก 42 นิ้ว ยาว 29 นิ้ว หญิง รอบอก 40 นิ้ว ยาว 28 นิ้ว ผูที่มีรูปรางผอม สูง ควรเลือกสวมใสเสื้อผาแบบใดจึงจะมีความ เหมาะสม 1. เนนโทนสีดํารัดรูป 2. ใสเสื้อลายดอกไมเล็กๆ 3. เลือกที่มีเสนลายแนวดิ่งตามลําตัว 4. โทนสีสวางและพื้นเปนเสนลายขวาง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะผูที่มีรูปรางผอม สูง ควรเลือก สวมใสเสื้อผาที่มีโทนสีสวาง มีลวดลายโดยเฉพาะลายขวาง ควร หลีกเลี่ยงการสวมใสเสื้อผาที่มีโทนสีเขมอยางสีดํา เพราะจะทําให เห็นความผอมเดนชัด แตถาหากตองการสวมใส ควรเลือกเสื้อผา ใหมีขนาดใหญกวาลําตัว) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานขนาดเสื้อผาสําเร็จรูป ไดที่ https://www. monamafifia.com/shirt-size-chart/ นํา สอน สรุป ประเมิน T44
ขอสอบเนน การคิด ๒.๒ วิธีการเลือกซื้อชุดชั้นใน การเลือกซื้อชุดชั้นใน ควรค�านึงถึงความสะดวกสบายในการสวมใส่ ซึ่งชุดชั้นในมีทั้งชนิดที่ท�าด้วย ใยฝ้ายและใยสังเคราะห์ ดังนั้น การเลือกชุดชั้นในแต่ละชนิด ควรพิจารณาตามความเหมาะสม ดังนี้ • แนวตะเข็บแน่นหนา ทนทาน • เก็บรูปทรงได้มิดชิด แนบกับตัว • สายแขนเสื้อร่นให้สั้น-ยาวได้ หรือเลือกแบบที่เหมาะสม กับรูปร่างของผู้สวมใส่ มีขนาดพอดีกับตัว สวมใส่สบาย • เลือกที่มีตะขอเกี่ยวด้านหลังมากกว่า ๑ แถว • ควรลองใส่ทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ • เนื้อผ้านุ่ม สวมใส่สบาย ไม่หนาจนเกินไป แนบตัวผู้สวมใส่ • แนวตะเข็บเรียบเนียน ตะเข็บทั้ง ๒ ข้างยาวเท่ากัน และ ชายเสื้อทุกด้านอยู่ในแนวเดียวกัน • แบบมีความเหมาะสมกับรูปร่างของผู้สวมใส่และเหมาะสม กับเสื้อชั้นนอก • ความยาวของตัวเสื้อทับในควรสั้นกว่าเสื้อชั้นนอก • ท�าความสะอาดได้ง่าย เช่น ซักธรรมดาได้ แห้งเร็ว ซับเหงื่อได้ดี • ท�าจากผ้าฝ้าย ซึมซับเหงื่อได้ดี มีความยืดหยุ่นดี • ชายเสื้อยาวเสมอกันโดยรอบ • มีขนาดเหมาะสมกับผู้สวมใส่ ได้แก่ ขนาดเล็ก เบอร์ S รอบอก ๓๔-๓๖ นิ้ว ขนาดกลาง เบอร์ M รอบอก ๓๘-๔๐ นิ้ว ขนาดใหญ่ เบอร์ L รอบอก ๔๒-๔๔ นิ้ว ขนาดใหญ่พิเศษ เบอร์ XL รอบอก ๔๖ นิ้ว • เลือกแบบที่ยางรอบโคนขาไม่ระคายต่อผิว วงขากว้าง พอดี ขอบมียางยืดกระชับ • แนวตะเข็บแน่นหนาและประณีต เรียบร้อย • ท�าด้วยผ้าฝ้าย ซับเหงื่อได้ดี ยืดหยุ่นดี สวมใส่สบาย • หากเป็นกางเกงในชายขอบเอวยางยืดควรมีขนาดกว้าง อย่างน้อย ๑ นิ้ว ส่วนกางเกงในสตรีขอบเอวยางยืดควร กว้างไม่เกิน ๐.๕ นิ้ว เป็นเสื้อที่ใช้ปกปิดหน้าอกและยกหน้าอก เพื่อ ให้ได้รูปทรง ซึ่งควรเลือกเสื้อชั้นในที่รอบอกและ รอบใต้อกสมดุลกัน เป็นเสื้อที่สวมทับด้านใน เพื่อปกปิดสัดส่วนและ เสื้อชั้นใน ใช้สวมเมื่อเสื้อชั้นนอกเป็นเสื้อผ้าที่มี เนื้อบาง หรือมีรอยฉลุของผ้าลูกไม้ เป็นเสื้อที่สวมทับด้านใน มักใส่เป็นเสื้อล�าลอง ส่วนใหญ่จะสวมใส่เป็นสีขาวและสีด�า มีวงแขน กว้าง คอลึก เป็นชุดชั้นในที่มีเนื้อผ้าระบาย ช่วยปกปิด ช่วงขาหนีบและบริเวณอวัยวะเพศ มีช่องเปิดให้ ขาทั้ง ๒ ข้างลอดได้ ขอบกางเกงเป็นยางยืด เสื้อชั้นในสตรี เสื้อทับชั้นในสตรี เสื้อกล้ามชาย กางเกงใน เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 39 ๒.๒ วิธีการเลือกซื้อชุดชั้นใน1 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 21. ครูถามนักเรียนวา • ในการเลือกซื้อเสื้อชั้นในสตรีควรพิจารณา จากสิ่งใด (แนวตอบ ควรพิจารณาแบบที่เก็บรูปทรง ไดมิดชิด เมื่อใสตองแนบกับตัว มีการ เย็บตะเข็บแนนหนา ทนทาน เลือกแบบ ที่เหมาะสมกับรูปราง มีขนาดพอดีตัว สวมใสสบาย และควรเลือกที่มีตะขอเกี่ยว ดานหลังมากกวา 1 แถว) • ในการเลือกซื้อเสื้อทับชั้นในสตรี ควร พิจารณาจากสิ่งใด (แนวตอบ ควรพิจารณาแบบที่มีความเหมาะสม กับรูปรางของผูสวมใส เมื่อใสตองแนบกับ ตัว มีลักษณะเนียนนุม สวมใสสบาย ตะเข็บ ทั้ง 2 ขางยาวเทากัน และชายเสื้อทุกดาน อยูในแนวเดียวกัน) • ในการเลือกซื้อกางเกงใน ควรพิจารณาจาก สิ่งใด (แนวตอบ ควรพิจารณาแบบที่มีวงขากวาง พอดี ขอบยางยืดกระชับเมื่อสวมใส การเย็บ ตะเข็บแนนหนา ทําดวยผาฝาย ยืดหยุนได ดี สวมใสสบาย) • “การเลือกซื้อชุดชั้นในควรเลือกซื้อให เหมาะสมกับการปฏิบัติกิจกรรมในแตละวัน” จากขอความนี้ นักเรียนเห็นดวยหรือไม อยางไร (แนวตอบ เห็นดวย เพราะในแตละวันจะมี กิจกรรมที่ตองปฏิบัติแตกตางกันไป จึงควร เลือกซื้อชุดชั้นในใหเหมาะสมกับกิจกรรม ที่ตองปฏิบัติ เชน หากตองออกกําลังกาย หรือตองเคลื่อนไหวรางกายมากเปนพิเศษ ควรเลือกสวมใสชุดชั้นในที่มีความกระชับ หรือชุดชั้นในสําหรับการออกกําลังกาย โดยเฉพาะ) ผูหญิงและผูชายควรเลือกสวมใสชุดชั้นในอยางไร เพื่อสุขภาพ อนามัยที่ดี (แนวตอบ ผูหญิง มีหลักในการเลือก ดังนี้ • เสื้อชั้นใน ควรเลือกที่เก็บทรงหนาอกไดอยางมิดชิด เลือก ขนาดใหพอดีกับหนาอกและรอบตัว ไมคับ หรือหลวมเกินไป • กางเกงใน ควรเลือกขนาดใหพอดีตัว เนื้อผานุม ระบาย อากาศไดดี ผูชาย มีหลักในการเลือก ดังนี้ • เสื้อกลาม ควรเลือกที่ผลิตจากผาฝาย ขนาดใหพอดีกับรอบตัว ไมคับ หรือหลวมจนเกินไป ซึมซับเหงื่อและระบายอากาศ ไดดี มีความยืดหยุน • กางเกงใน ควรเลือกขนาดใหพอดีตัว ขอบเอวกวางอยางนอย 1 นิ้ว เนื้อผานุม ระบายอากาศไดดี ไมระคายเคืองผิว) นักเรียนควรรู 1 ชุดชั้นใน การทําความสะอาดทําไดหลายวิธี เชน หากซักดวยมือใหเปดนํ้า เบาๆ โดยปลอยใหนํ้าไหลผานเสื้อชั้นใน เพื่อปองกันไมใหเสียทรง บีบฟองนํ้า เบาๆ เพื่อไลนํ้าออก ซักดวยนํ้ายาซักผา หรือสบูเหลว หากซักดวยเครื่องซักผา ใหใสในถุงถนอมผา เพื่อปองกันไมใหเสียทรง เก็บสายใหเรียบรอย นําเขา เครื่องปนในโหมดถนอมผา ซักดวยนํ้ายาซักผาสําหรับชุดชั้นใน เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อชุดชั้นในใหนักเรียนฟงวา การ เลือกซื้อชุดชั้นในควรเนนที่สวมใสสบาย ไมคับ หรือหลวมจนเกินไป ซึ่งชุดชั้นใน บางชนิดอาจทําใหเกิดอาการแพและเกิดผื่นขึ้นได ดังนั้น จึงควรพิจารณาอยาง รอบคอบกอนตัดสินใจซื้อ เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี นํา สอน สรุป ประเมิน T45
ขอสอบเนนการคิด ๒.๓ วิธีการเลือกซื้อชุดชั้นนอก ชุดชั้นนอกเป็นเสื้อผ้าที่มีจ�าหน่ายโดยทั่วไป มีการบอกขนาดโดยใช้อักษรย่อ เช่น ขนาดเล็กใช้ อักษร A ขนาดกลางใช้อักษร B ขนาดใหญ่ใช้อักษร C หรือมีการบอกขนาดเป็นนิ้ว โดยใช้สัดส่วน จากรอบเอว เช่น ๒๔ นิ้ว ๒๖ นิ้ว หรือบอกขนาดรอบอก เช่น ๓๒ นิ้ว ๓๔ นิ้ว ซึ่งการเลือกซื้อ ชุดชั้นนอกควรพิจารณา ดังนี้ • แบบ สี ขนาดเหมาะสมกับรูปร่างและบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ • เสื้อมีกระดุม การเย็บกระดุมและรังดุมจะต้องมีความแข็งแรง • เนื้อผ้ามีความทนทาน สีไม่ลอก สีไม่ตก เกรนผ้าต้องตรงไปในทิศทางเดียวกัน • การเย็บตะเข็บสม�่าเสมอ เรียบ และมีขนาดเท่ากัน ด้ายเย็บใช้สีเดียวกัน กับเนื้อผ้า • ชายเสื้อทั้ง ๒ ด้านเท่ากัน และพับชายมีขนาดเหมาะสมกับแบบ • ถ้าเป็นเสื้อที่สอยชายเสื้อและปลายแขน จะต้องสอยเรียบร้อย แน่นหนา • สะดวกสบายในการสวมใส่ สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว • เนื้อผ้าเหมาะสมกับการใช้งาน เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม หรือฤดูกาล • แบบ สี ขนาดเหมาะสมกับรูปร่างและบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ • เนื้อผ้ามีความทนทาน ไม่บางจนเกินไป สีไม่ลอก สีไม่ตก • ตะเข็บข้างทั้ง ๒ ข้างยาวเท่ากัน การกันรุ่ยริมตะเข็บเรียบร้อย แน่นหนา • การเย็บตะเข็บสม�่าเสมอ ด้ายเย็บใช้สีเดียวกับเนื้อผ้า ถ้าเป็นกระโปรง สอยชาย จะต้องสอยเรียบร้อย แน่นหนา • ความยาวของกระโปรงเหมาะสมกับรูปร่างและกาลเทศะ • หากเนืิ้อผ้าที่น�ามาตัดเย็บกระโปรงบางจนเกินไปต้องมีการตัดซับใน หรืออัดกาวเพิ่ม • เนื้อผ้ามีความทนทาน สีไม่ลอก สีไม่ตก รอบวงแขนกว้างพอดี • การกันรุ่ยริมตะเข็บประณีต เรียบร้อย ไหล่ทั้ง ๒ ข้างยาวเท่ากัน ไม่ตึง หรือไม่ย่น • เสื้อมีกระดุม การเย็บกระดุมและรังดุมจะต้องมีความแข็งแรง ทนทาน • ถ้าเป็นเสื้อเชิ้ต หรือเสื้อฮาวาย ปกทั้ง ๒ ข้างต้องเท่ากันและเหมือนกัน • การเย็บตะเข็บประณีต เรียบร้อย ความยาวแขนพอดี ถ้าเป็นแขนยาวควร ยาวปิดข้อมือ สาบปลายแขนเย็บเรียบร้อย • ควรอ่านป้ายที่เย็บติดกับคอเสื้อด้านหลัง ซึ่งจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ ชื่อทางการค้า บริษัทผู้ผลิต บอกขนาดของเสื้อ เช่น SIZE ๑๕, ๓๓ หมายถึง รอบคอ ๑๕ นิ้ว และความยาวแขนถึงข้อมือยาว ๓๓ นิ้ว เป็นเครื่องแต่งกายที่มีแบบ ให้เลือกสวมใส่หลากหลาย เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถ เลือกสวมใส่ได้ตามความ เหมาะสมกับโอกาส เป็นเครื่องแต่งกายส�าหรับ สตรีทุกวัย มีรูปแบบการ ตัดเย็บที่หลากหลาย เช่น กระโปรงทรงตรง กระโปรง ทรงเอ กระโปรงจีบรอบตัว เป็นเครื่องแต่งกายที่มีแบบ ให้เลือกสวมใส่หลากหลาย เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถ เลือกสวมใส่ได้ตามความ เหมาะสมกับโอกาส เสื้อผู้หญิง กระโปรง เสื้อผู้ชาย 40 แบบ สี ขนาดเหมาะสมกับรูปร่างและบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ เสื้อมีกระดุม การเย็บกระดุมและรังดุมจะต้องมีความแข็งแรง เสื้อมีกระดุม การเย็บกระดุมและรังดุมจะต้องมีความแข็งแรง ทนทาน ถ้าเป็นเสื้อเชิ้ต หรือเสื้อฮาวาย ปกทั้ง ๒ ข้างต้องเท่ากันและเหมือนกัน 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 22. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เสื้อผาที่มีจําหนาย ทั่วไปบางชนิดจะบอกขนาด โดยใชอักษรยอ เชน ขนาดเล็กใชอักษร A ขนาดกลางใช อักษร B ขนาดใหญใชอักษร C บางชนิดจะ บอกขนาดเปนนิ้ว โดยใชสัดสวนจากรอบเอว เชน 24 นิ้ว 26 นิ้ว 28 นิ้ว หรือบางชนิดจะ บอกขนาดรอบอก เชน 32 นิ้ว 34 นิ้ว 36 นิ้ว” 23. ครูถามนักเรียนวา • หากตองการซื้อเสื้อ นักเรียนจะมีหลัก ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน พิจารณาเลือกซื้อจากรูปแบบ สี ขนาด ที่เหมาะสมกับรูปราง บุคลิกภาพ สีผิว และวัยของตนเอง การตัดเย็บมีความ เรียบรอย ความทนทานของเนื้อผา) • นักเรียนหญิงควรมีหลักในการเลือกซื้อ กระโปรงของตนเองอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน เนื้อผาไมบางเกินไป ขนาดและ ความยาวของกระโปรงมีความเหมาะสม กับรูปราง และบุคลิกภาพของตน การตัดเย็บ ที่ประณีต เรียบรอย) • นักเรียนชายควรมีหลักในการเลือกซื้อเสื้อ ของตนเองอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน รอบวงแขนกวางพอดี ไหล ทั้ง 2 ขางยาวเทากัน ไมตึง หรือยน มีการ เย็บตะเข็บที่ประณีต เรียบรอย หากเปน เสื้อแขนยาวควรยาวปดขอมือ สาบปลาย แขนเสื้อเย็บเรียบรอย) ผูหญิงที่มีรูปรางอวนและผูหญิงที่มีรูปรางผอม จะมีหลักในการ เลือกใชและเลือกซื้อกระโปรงที่แตกตางกันอยางไร (แนวตอบ ผูหญิงที่มีรูปรางอวน ควรเลือกกระโปรงทรงเรียบ ยาวประมาณนอง ควรหลีกเลี่ยงการสวมใสกระโปรงรัดรูป สั้นเลยเขา เพราะจะยิ่งเนนรูปรางใหชัดเจนยิ่งขึ้น สวนผูหญิงที่มี รูปรางผอม ควรเลือกกระโปรงทรงบาน หรือพอง กระโปรง คอนขางยาว ควรหลีกเลี่ยงการสวมใสกระโปรงทรงแคบแนบลําตัว เพราะจะยิ่งเนนรูปรางใหดูผอมมากยิ่งขึ้น) นักเรียนควรรู 1 ขนาดเหมาะสมกับรูปราง การเลือกกระโปรงใหมีความเหมาะสมกับ รูปราง ควรพิจารณาจากผูที่ตนขาใหญ ควรเลือกกระโปรงทรงตรงแบบเรียบ ยาวประมาณนอง หรือกระโปรงทรงเอ ควรหลีกเลี่ยงกระโปรงรัดพอดีตัว ผูที่เอวหนา ควรเลือกกระโปรงทรงเอวสูง ผูที่ขาสั้น ควรเลือกกระโปรงทรงเอ สวมรองเทาสนสูง จะชวยใหขาดูยาวขึ้น ผูที่สะโพกใหญ ควรเลือกกระโปรง ที่พอดีตัว ยาวประมาณเขา จะชวยใหดูเพรียวบางมากยิ่งขึ้น 2 เสื้อเชิ้ต การเลือกเสื้อเชิ้ต ใหทดลองติดกระดุมคอแลวสังเกตวากระชับ หรือไม ควรหลีกเลี่ยงเสื้อที่คอคับจนเกินไป เพราะจะทําใหหายใจไมสะดวก ตะเข็บขอบไหลควรอยูบริเวณหัวไหลพอดี วงแขนกวางพอที่จะเคลื่อนไหว ไดอยางสะดวก รอบอกและรอบเอวตองพอดีตัว ไมคับ หรือหลวมจนเกินไป และไมควรเลือกเสื้อเชิ้ตที่มีขนาดใหญกวาตัว เพราะจะดูหลวมโครง นํา สอน สรุป ประเมิน T46
• ผ้าเนื้อแน่น ทนทาน สีไม่ลอก สีไม่ตก • สีมีความเหมาะสมกับเพศ วัย โอกาส กาลเทศะในการสวมใส่ • การเย็บตะเข็บประณีต เรียบร้อย ไม่ห่างจนเกินไป • มีขนาดเหมาะสมกับผู้สวมใส่ ขาและเอวไม่คับ สวมใส่สบาย • ในขณะนั่งเป้าไม่ตึง หรือหย่อนจนเกินไป • การเย็บตะเข็บและกันรุ่ยเรียบร้อย • กางเกงนอนควรมียางยืดที่ขอบกางเกงและสวมใส่สบาย ไม่ควรคับและแน่นจนเกินไป • เสื้อนอนมีกระดุม การเย็บกระดุมและรังดุมจะต้องแข็งแรง ทนทาน • ควรเลือกเสื้อตัวหลวมที่สวมใส่สบาย ท�าจากผ้าที่มีผิวสัมผัสนุ่ม • ดูดซับเหงื่อได้ดี ซักรีดง่าย แห้งเร็ว สีไม่ลอก สีไม่ตก • แบบ สี ขนาด และการตกแต่งเหมาะสมกับผู้สวมใส่ โดยทั่วไป มี ๒ คือ แบบผ่าหน้าตลอดและแบบสวมหัว • ลองสวมก่อนตัดสินใจซื้อ เลือกขนาดใหญ่กว่ารอบอกประมาณ ๘ นิ้ว รอบข้อมือ คอ เอว ถักแน่นเพื่อให้คงรูป แต่ยืดหยุ่นได้ดี • ตะเข็บเย็บแน่นหนา ไม่เป็นกระจุก ถ้าเป็นชนิดพับข้อมือจะต้อง ไม่เห็นตะเข็บด้านนอกที่พับ • เมื่อสวมใส่แล้วบริเวณบ่าและหลังควรเรียบตลอด เป็นเครื่องแต่งกายที่ทุกเพศ ทุกวัยนิยม สวมใส่ มีหลายรูปแบบให้เลือก แบ่งเป็น กางเกงขายาวส�าหรับสตรีและบุรุษจะ แตกต่างกันที่ขนาดและแบบของกางเกง เป็นเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ในตอน กลางคืน สวมใส่สบาย ท�าจากผ้าที่มี น�้าหนักเบา เนื้อผ้าไม่หนามาก เป็นเครื่องแต่งกายที่สวมใส่เพื่อเพิ่ม ความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย มีทั้งที่ท�าจาก ใยสังเคราะห์และท�าจากใยผสมระหว่าง ใยขนสัตว์และออร์ลอน รวมทั้งชนิดที่ ท�าจากขนสัตว์แท้ กางเกงขายาว ชุดนอน เสื้อกันหนาว T i p ชนิดของผ้า ผ้าที่น�ามาใช้ในการตัดเสื้อผ้ามีอยู่มากมายหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กันอยู่ ๓ ชนิด ได้แก่ ๑. ผ้าฝาย (Cotton) เนื้อผ้ามีลักษณะด้าน ซับเหงื่อ ระบายอากาศได้ดี สวมใส่สบาย เหมาะแก่ผู้ที่อยู่กลางแจ้ง และโดนแสงแดดบ่อย ๆ ๒. ผ้าใยสังเคราะห์ หรือผ้า TK (Polyester) เนื้อผ้ามีลักษณะมัน ไม่ค่อยยับ อยู่ทรง ไม่หด ไม่ย้วย สีไม่ตก ระบายอากาศได้ไม่ดี เมื่อสวมใส่จะรู้สึกร้อน เหมาะแก่ผู้ที่อยู่ในห้องแอร์ ๓. ผ้าฝายผสมผ้าใยสังเคราะห์ หรือผ้า TC (Cotton ผสม Polyester) เนื้อผ้ามีลักษณะมันน้อยกว่าผ้า TK ระบายอากาศได้ไม่ดี นิยมทอผ้าให้เป็นรูเล็ก ๆ เพื่อช่วยในการระบายอากาศและเพื่อความสบายขณะสวมใส่ เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 4๑ กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ • หากตองการซื้อกางเกง นักเรียนจะมีหลัก ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน พิจารณาเลือกขนาดใหมี ความเหมาะสมกับรูปรางของตนเอง โดย ขาและเอวจะตองไมคับแนน เปาไมตึง หรือ หยอนจนเกินไป มีการเย็บตะเข็บที่ประณีต เรียบรอย) • เพราะเหตุใดในเวลานอน เราจึงควรสวมใส ชุดนอนแทนการสวมใสเสื้อยืดและกางเกง ขาสั้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เนื้อผาของชุดนอนมี ความบางเบา สวมใสสบาย ระบายอากาศ ไดดี การสวมใสชุดนอนที่สบายจะดีตอ ระบบไหลเวียนเลือด ซึ่งสงผลใหระบบตางๆ ในรางกายทํางานไดอยางมีประสิทธิภาพ และชวยปรับอุณหภูมิในรางกายใหคงที่ได อีกดวย) 24. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในการเลือกซื้อชุดชั้นใน และชุดชั้นนอก นักเรียนจะสังเกตเห็นปาย สัญลักษณที่กํากับอยูบนเสื้อผา ซึ่งสัญลักษณ เหลานั้นจะเรียกวา Laundry symbols หรือ CareLabel เปนสัญลักษณที่ใชบอกขนาดหรือ เบอรของเสื้อผา เพื่อความสะดวกในการเลือก ชนิดเสนใยที่ใชผลิตผา คําแนะนําในการดูแล รักษา การทําความสะอาด การซัก การรีด การใชนํ้ายาในการทําความสะอาด เพื่อให ผูใชสามารถดูแลรักษาเสื้อผาไดอยางถูกตอง และเพื่อเปนการถนอมเสื้อผาใหสามารถ ใชงานไดยาวนานยิ่งขึ้น” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือกกางเกงยีนใหเหมาะสมกับรูปราง ใหนักเรียนฟงวา การเลือกกางเกงยีนควรพิจารณาใหเหมาะสมกับรูปราง เชน ผูที่มีชวงขาสั้น ควรเลือกกางเกงยีนทรงตรง หรือทรงกระบอก จะชวยพราง ตาใหขาดูยาวขึ้น ควรหลีกเลี่ยงกางเกงยีนสามสวน เพราะจะทําใหขาดูสั้นลง ผูที่มีสะโพกใหญ ควรเลือกกางเกงยีนที่มีกระเปาหลัง จะชวยพรางบั้นทายให ดูเล็กลง และควรเลือกที่มีตะเข็บยาวลงมา เพราะจะทําใหขาดูเรียวยาวมากขึ้น ผูที่มีบั้นทายแบนราบ ควรเลือกกางเกงยีนที่มีลายเสนโคง สีสวาง จะชวยเนน สัดสวนใหดูชัดเจนยิ่งขึ้น ควรหลีกเลี่ยงกางเกงยีนทรงตรง เพราะจะทําให บั้นทายแบบราบลงไปอีก ทั้งนี้ ความยาวของขากางเกงก็มีสวนชวยทําใหขาดูยาว และเพรียวมากขึ้น และที่สําคัญการใสกางเกงยีนควรใสใหพอดีตัว ไมควรใสที่มี ขนาดเล็กกวา เพราะจะทําใหกางเกงปริ ดูอวน เตี้ย ตัน มากขึ้น ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกางเกงขายาว รูปแบบตางๆ ในปจจุบันวามีลักษณะอยางไร กางเกงแตละรูปแบบ มีความเหมาะกับบุคคลที่มีรูปราง สีผิว บุคลิกภาพ กิจกรรม และโอกาสใด โดยใหจัดทําเปนสมุดภาพ ตกแตงใหสวยงาม นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน เลือกตัวแทนกลุม 1 คน เพื่อเปนตนแบบ และรวมกันเลือกแบบกางเกงที่เหมาะสมกับรูปราง สีผิว บุคลิกภาพของเพื่อนที่เปนตนแบบ โดยครูกําหนดลักษณะ ของกางเกงให คือ กางเกงขาสั้น กางเกงขายาว (ผาทั่วไป) และ กางเกงยีน จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายวิธีการเลือกกางเกงประกอบ นํา สอน สรุป ประเมิน T47
ขอสอบเนนการคิด ๒.๔ วิธีการเลือกซื้อเครื่องแต่งกาย เครื่องแต่งกายที่นิยมใช้โดยทั่วไป เช่น รองเท้า กระเป๋า เข็มขัด สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ซึ่ง การเลือกซื้อเครื่องแต่งกายควรเลือกใช้ให้เหมาะสมและซื้อตามความจ�าเป็น ในที่นี้จะขอยกตัวอย่าง การเลือกซื้อเครื่องแต่งกายในบางประเภท ดังนี้ • ผ้าทอตรง ส้นเท้าและปลายเท้าทอแน่นกว่าส่วนอื่น ๆ • ขอบทอผสมยางยืดเส้นเล็ก ยืดหยุ่น กระชับ และทนทาน • เลือกขนาดให้เหมาะสมกับขนาดเท้าและรองเท้า ถ้าเท้ากว้างควรใช้เบอร์ใหญ่ กว่าจะช่วยให้สวมใส่สบายขึ้น • ถุงเท้าผู้ใหญ่มักจะเป็น Free Size ซึ่งสามารถยืดหยุ่นได้ตามขนาดเท้าของ ผู้สวมใส่ • ไม่ยืดจนเสียรูปทรงเมื่อน�าไปซัก • ข้อมือเล็ก ไม่ควรใส่นาฬิกาสายเหล็กและสายหนัง เพราะจะท�าให้ต้องตัดสาย นาฬิกาออก จนอาจท�าให้สายนาฬิกาบิดไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือไม่อยู่ กึ่งกลางของข้อมือ ควรใส่นาฬิกาแบบก�าไลขนาดพอดีกับข้อมือ หน้าปัด สี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือวงรีเล็ก สีของหน้าปัดควรเลือกโทนสีขาว หรือสีครีม เพราะจะช่วยให้ข้อมือดูสว่างขึ้น • ข้อมือใหญ่ สามารถเลือกใส่ได้ทุกแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าปัดแบบ สี่เหลี่ยมผืนผ้า จะท�าให้ข้อมือดูเรียวยาวและสวยงามยิ่งขึ้น • ฝีมือการตัดเย็บมีความละเอียด ประณีต เรียบร้อย พื้นรองเท้าท�าจากวัสดุ อ่อนนุ่ม • มีความแข็งแรง ทนทาน น�้าหนักเบา สวมใส่สบาย • มีความยาวและความกว้างพอเหมาะกับรูปเท้าของผู้สวมใส่ • เมื่อสวมใส่จะต้องแนบกับเท้าทั้ง ๒ ด้าน รวมถึงฝ่าเท้าด้วย • ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อควรทดลองสวมทุกครั้ง เพื่อความสบายและกระชับเท้า • เลือกแบบและวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น รองเท้าใส่กับบ้าน ควร เลือกเป็นรองเท้าแตะที่สวมใส่สบาย • เลือกแบบให้เหมาะสมกับรูปร่าง เช่น รูปร่างสูงใหญ่ ควรเลือกรองเท้าส้นเตี้ย ส่วนรูปร่างอ้วน ควรเลือกรองเท้าส้นสูง นิยมใส่ทั้งหญิงและชาย เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและ ท�าให้เกิดความสวยงามแก่ ผู้สวมใส่ มีทั้งแบบสั้นและ แบบยาว เป็นส่วนหนึ่งของเครื่อง แต่งกายที่มีความจ�าเป็น ส�าหรับทุกเพศ ทุกวัย ใช้ บอกเวลา ช่วยเสริมสร้าง บุคลิกภาพให้กับผู้สวมใส่ ท�ามาจากวัสดุหลายชนิด เช่น หนัง พลาสติก ผ้า ซึ่ง รองเท้าแต่ละชนิดมีราคา และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ถุงเท้า นาฬิกา รองเท้า 42 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 25. ครูใหนักเรียนแตละคนสํารวจตนเองวาใน รางกายของนักเรียนปรากฏเครื่องแตงกาย ชนิดใดบาง ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมา เลาประสบการณเกี่ยวกับการเลือกซื้อเครื่อง แตงกายของตนเองวามีวิธีการอยางไรให เพื่อนฟงหนาชั้นเรียน จากนั้นใหเพื่อนรวม ชั้นเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวาเพื่อน คนดังกลาวมีวิธีการเลือกซื้อเครื่องแตงกาย ที่ถูกตอง เหมาะสมหรือไม อยางไร 26. ครูถามนักเรียนวา • หากตองการเลือกซื้อถุงเทา ควรมีหลัก ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ควรเลือกที่มีขนาด เหมาะสมกับเทาและรองเทา มีความ ยืดหยุนดี สวมใสกระชับ มีความทนทาน ระบายอากาศไดดี) • หากตองการเลือกซื้อรองเทา ควรมีหลัก ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ควรเลือกซื้อรองเทาที่มี ขนาดพอดีกับเทา เหมาะสมกับรูปเทาของ ตนเอง สวมใสสบาย มีนํ้าหนักเบา อากาศ ถายเทไดดี การตัดเย็บประณีต เรียบรอย และมีความทนทาน) • การเลือกซื้อเครื่องแตงกายดวยตนเองมี ประโยชนหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ มีประโยชน เพราะชวยใหไดเครื่อง แตงกายที่มีลักษณะเหมาะสมกับรูปราง บุคลิกภาพ สีผิว เพศ และวัยของตนเอง) ขอใดเปนวิธีการรักษารองเทาที่ไมถูกตอง 1. เก็บรองเทาไวในกลอง หรือในถุงผา 2. นํารองเทาเก็บใสตูทันทีเมื่อกลับถึงบาน 3. ใสที่ยึดรองเทาไว เพื่อใหรองเทาคงรูปทรง 4. นํารองเทาออกมาผึ่งแดดเปนประจํา เพื่อเปนการฆาเชื้อโรค (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะรองเทาอาจมีเหงื่อและ ความชื้น ซึ่งเปนสาเหตุหลักที่กอใหเกิดเชื้อโรคตางๆ ได ดังนั้น ควรวางรองเทาทิ้งไวบริเวณดานนอกกอน 1 วัน โดยจะตองปลอย รองเทาใหแหงกอน แลวจึงทําความสะอาดรองเทา กอนนําไปเก็บ เขาตูใหเรียบรอย) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใสถุงเทาใหนักเรียนฟงวา การใสถุงเทา ไมควรใสซํ้า เพราะจะทําใหเกิดการอับชื้น ซึ่งเปนสาเหตุสําคัญของการเกิด กลิ่นเทาและการเกิดเชื้อราที่เทา หลังจากสวมใสถุงเทาแลว ควรถอดผึ่งไว โดยแยกจากเสื้อผาชนิดอื่น เพื่อปองกันไมใหกลิ่นติดเสื้อผาชิ้นอื่น ในการซักถุงเทา ควรนําถุงเทาไปแชในนํ้าผงซักฟอก แลวซักใหสะอาด โดยแยกซักเฉพาะถุงเทา เทานั้น ไมควรนําไปซักรวมกับเสื้อผาชนิดอื่น แลวผึ่งใหแหง นักเรียนควรรู 1 รองเทา การดูแลรองเทาหนัง ใหใชผานุมสะอาดเช็ดรองเทากอน แลวปาย นํ้ายาขัดรองเทาในลักษณะวนเปนวงใหทั่ว ใชแปรงเนื้อนุมขัดเบาๆ ใชผานุม สะอาดเช็ดเบาๆ อีกครั้ง แลวนําไปผึ่งแดดทุกสัปดาห เพื่อปองกันความอับชื้น นํา สอน สรุป ประเมิน T48
แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน ล าดับที่ ชื่อ-สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ขอสอบเนน การคิด การแต่งกายให้สวยงามและเหมาะสมกับบุคลิกภาพ ผู้สวมใส่จ�าเป็นต้องค�านึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น รูปร่าง วัย สีผิว บุคลิกภาพ โอกาสที่จะสวมใส่ รวมทั้งเลือกเครื่องประกอบการแต่งกาย ให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ ซึ่งควรที่จะพิจารณาและเลือกซื้ออย่างละเอียดรอบคอบ • ฝีมือการตัดเย็บประณีต เรียบร้อย มีความแข็งแรง ทนทาน • สีของกระเป๋า ควรเลือกให้เข้ากับสีของเสื้อผ้าที่สวมใส่ • เลือกแบบให้เหมาะสมกับโอกาสที่ใช้ ซึ่งจะช่วยประหยัดรายจ่าย • กระเป๋าที่มีสายสะพาย หรือกระเป๋าหูหิ้ว จะต้องมีความแข็งแรง ทนทาน • เลือกแบบให้เหมาะสมกับรูปร่าง เช่น รูปร่างสูงใหญ่ ไม่ควรเลือกกระเป๋า ใบใหญ่จนเกินไป • มีขนาดพอเหมาะ บรรจุของที่ต้องใช้โดยกระเป๋าไม่เสียรูปทรง • มีซิปและมีช่องจัดเก็บสิ่งของต่างๆ เพื่อสะดวกในการจัดเก็บและการหยิบใช้ • เลือกแบบของหมวกให้เหมาะสมกับโอกาสที่ใช้ รวมถึงเวลาและฤดูกาลร่วมด้วย • เลือกให้เหมาะสมกับรูปหน้า เช่น ใบหน้ากลม ควรเลือกหมวกที่มีปีกกว้าง จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น • เลือกให้เหมาะสมกับทรงผม เช่น มัดผม หรือมวยต�่า ควรสวมหมวก แบบ Fedora มัดหางม้าต�่า ควรสวมหมวกแบบ Newsboy • เลือกให้เหมาะสมกับสีผิว เช่น ผิวขาวและผมสีด�าธรรมชาติ ควรเลือกหมวก สีสว่างๆ จะช่วยขับใบหน้าให้ดูสดใสและโดดเด่นยิ่งขึ้น • เลือกโทนสีของเข็มขัดให้มีความใกล้เคียงกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ • ความยาวของสายเข็มขัดควรเหลือปลายเข็มขัดออกมาประมาณ ๑-๒ นิ้ว • ไม่ควรเลือกหัวเข็มขัดที่ดูใหญ่ ควรเลือกสีของหัวเข็มขัดให้เข้ากับเครื่องประดับ ที่สวมใส่อยู่ • เลือกเข็มขัดให้มีรูปแบบเหมาะสมกับรูปร่าง เช่น ช่วงตัวหนาและกว้าง ไม่ควร เลือกเข็มขัดที่มีสีโทนเข้มและมีสายเข็มขัดกว้างกว่าปกติ • สายของเข็มขัดควรเป็นสีเข้ม เพราะจะช่วยให้รูปร่างของผู้สวมใส่มีลักษณะ ที่เพรียวบางมากกว่าเข็มขัดสีอ่อน • ต้องผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพดี หนังนุ่ม ยืดหยุ่นได้ดี การตัดเย็บประณีต เรียบร้อย • ควรเลือกหัวเข็มขัดแบบเรียบ เพราะสามารถน�ามาใช้ในโอกาสส�าคัญต่างๆ ได้ มากกว่าหัวเข็มขัดที่ตกแต่งมาก ๆ มีหลายขนาด มีรูปร่าง และสีที่แตกต่างกัน เช่น กระเป๋าสะพาย กระเป๋า หนีบ กระเป๋าหูหิ้ว สิ่งที่ใช้สวมบนศีรษะเพื่อ ป้องกันแดด ลม ฝน ท�าจาก วัสดุหลากหลายชนิด มีให้เลือกหลายรูปแบบ หลายขนาด แล้วแต่ความ เหมาะสมในการใช้งาน เป็นองค์ประกอบส�าคัญ ในการแต่งกายและมี ส่วนช่วยในการเสริมสร้าง บุคลิกภาพให้แก่ผู้สวมใส่ กระเป๋าถือ หมวก เข็มขัด เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 43 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ • หากตองการเลือกซื้อกระเปา ควรมีหลัก ในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ควรเลือกแบบที่เหมาะสม กับรูปรางของตนเอง มีขนาดพอเหมาะ สามารถบรรจุของไดโดยไมเสียรูปทรง มีความแข็งแรง ทนทาน) ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู ความเขาใจ 27. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 3.1.2 เรื่อง การเลือกซื้อเสื้อผาและเครื่องแตงกาย ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การเลือกใช เสื้อผาและเครื่องแตงกาย 3. ครูตรวจสอบใบงานที่ 3.1.2 เรื่อง การเลือกซื้อ เสื้อผาและเครื่องแตงกาย 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน การสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การ เลือกใชเสื้อผาและเครื่องแตงกายและการซื้อ เสื้อผาและเครื่องแตงกาย 2. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน จากการนําเสนอผลการวิเคราะห วิจารณ และการสรุปความรู บุคคลในขอใดทําความสะอาดเข็มขัดหนังไดเหมาะสมมากที่สุด 1. พิมใชแอลกอฮอลเช็ดสายเข็มขัด แลวนําไปผึ่งแดดใหแหง 2. พลอยใชผงซักฟอกและแปรงซักผาขัดคราบสกปรก แลวนําไป ผึ่งลม 3. แพรใชนํ้าสบูกับผานุมเช็ดทําความสะอาด แลวใชผาแหงเช็ด ซํ้าอีกครั้ง 4. เพลงใชครีมทาผิวทาและใชแปรงสีฟนขัด นําไปลางนํ้า แลวผึ่งแดดใหแหง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการทําความสะอาดเข็มขัดหนัง ใหถูกตอง ควรใชผานุมกับนํ้าสบูออนๆ เช็ดทําความสะอาด แลวใชผานุมสะอาดเช็ดซํ้าอีกครั้ง และควรหลีกเลี่ยงการใชครีม นํ้ายาขัดเงาที่ไมใชสําหรับขัดเครื่องหนัง เพราะมีฤทธิ์เปนกรด สงผลทําใหหนังเข็มขัดเกิดความเสียหายได) แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 นํา สอน สรุป ประเมิน T49
ขอสอบเนนการคิด ó การซอมแซม ตกแตง และดัดแปลงเสื้อผา การซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงเสื้อผ้า เป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้เสื้อผ้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ สามารถใช้งานได้ตามปกติ รวมถึงท�าให้เสื้อผ้าดูสวยงาม มีความแปลกใหม่ และน่าสวมใส่มากยิ่งขึ้น ซึ่งมีหลักเกณฑ์ ดังนี้ ค�านึงถึงผู้ใช้ เมื่อซ่อมแซม ตกแต่ง และ ดัดแปลงเสื้อผ้าแล้ว ผู้ใช้ยินดี ที่จะสวมใส่หรือไม่ ค�านึงถึงอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช้ พิจารณาว่ามีอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ พร้อมส�าหรับการ ซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลง หรือไม่ ค�านึงถึงเวลา พิจารณาว่าต้องใช้เวลามาก น้อยเพียงใดในการซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงเสื้อผ้า เมื่อแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใช้ต่อไปได้อีกนานหรือไม่ ค�านึงถึงสภาพวัสดุที่ต้องการซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลง พิจารณาว่ามีเสื้อผ้าเก่า หรือเสื้อผ้าที่ช�ารุดพอที่จะน�ามาซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงใหม่ตามที่ต้องการหรือไม่ ค�านึงถึงค่าใช้จ่าย หรืองบประมาณว่าคุ้มค่ากับ เงินที่จ่ายไปในการซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงหรือไม่ T i p วิธีการเย็บซ่อมแซมผ้า การซ่อมแซมเสื้อผ้า จ�าเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเย็บผ้าเบื้องต้น เพื่อน�าไปพิจารณาเลือก วิธีการซ่อมแซมเสื้อผ้าได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการเย็บผ้ามีอยู่หลายวิธี เช่น ๑. การเนา เป็นการเย็บผ้าด้วย มือให้ติดกันชั่วคราว เพื่อการเย็บ ถาวร หรือการสอย เช่น การเนา ตะเข็บ การเนาชายเสื้อ การเนา ชายกระโปรง ๒. การสอย เป็นการเย็บผ้าด้วย มือที่มองเห็นรอยเย็บด้านนอก น้อยที่สุด นิยมใช้สอยชายเสื้อ ชายกระโปรง ปลายขากางเกง หรือชายผ้าอื่น ๆ ที่ต้องการความ ประณีต สวยงาม ๓. การด้น เป็นการเย็บผ้าด้วย มือที่ใช้แทนการเย็บด้วยจักร รอยที่เย็บจะมีความทนทานมาก นิยมน�ามาใช้ในการเย็บผ้า ๒ ชิ้น ให้ติดกัน การเนาแบบเท่ากัน การสอยฟันปลา การด้นตะลุย 44 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 5 กลุม กลุมละ เทาๆ กัน ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทน กลุมละ 1 คน ออกมาจับสลาก เพื่อจัดทําโครงงาน ในหัวขอที่ไดรับ คือ การซอมแซมเสื้อผา การ ตกแตงเสื้อผา การดัดแปลงเสื้อผา การตัดเย็บ เสื้อผา และการตัดเย็บของใชภายในบาน ขั้นนํา (แบบใชโครงการเปนฐาน) ขั้นที่ 1 ขั้นใหความรูพื้นฐาน 1. ครูอธิบายใหนักเรียนฟงวา “ในอดีตคนไทย สวนใหญนิยมสวมใสชุดที่ตัดเย็บจากผาไทย เชน ผาไหม ผาซิ่น ผาฝาย เพราะเปนผาที่ผลิตขึ้น ในทองถิ่น เนื้อผาสวมใสสบาย เหมาะสมกับ สภาพภูมิอากาศของประเทศ รูปแบบและ รูปทรงของเสื้อผาจะมีลักษณะที่สุภาพ เรียบรอย สามารถสวมใสไดทุกสถานที่ แตในปจจุบัน เกิดการแพรหลายทางวัฒนธรรมที่มากขึ้น จึงสงผลใหรูปแบบของการแตงกายเปลี่ยนแปลง ไปจากเดิม” ขั้นที่ 2 ขั้นกระตุนความสนใจ 2. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับวิธีการซอมแซม ตกแตง ดัดแปลง ตัดเย็บเสื้อผาและของใช ภายในบานใหนักเรียนดู จากนั้นครูถาม นักเรียนวา • การซอมแซมสิ่งของเครื่องใชตางๆ ภายใน บานที่ไดชมไปนั้น นักเรียนคิดวา ผูปฏิบัติงาน ปฏิบัติไดถูกตองและปลอดภัยหรือไม (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) ขอใดเปนการกระทําที่ไมเหมาะสมในการเย็บกระดุมติดกับตัวเสื้อ 1. เย็บกระดุมติดกับตัวเสื้อใหดายตึง 2. ใชเศษผารองใตผาใหตรงกับตําแหนงกานกระดุม 3. ใชเข็มแทงรูกระดุมขึ้น-ลงทุกรู ประมาณ 2-3 ครั้ง 4. ใชชอลกเขียนผาทําเครื่องหมายตําแหนงที่ตองการติดกระดุม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะการเย็บกระดุมติดกับตัวเสื้อ ดวยดายที่ตึงเกินไปจะทําใหเสื้อยน และตําแหนงกระดุมกับ รังกระดุมอาจคลาดเคลื่อนกัน สงผลใหเสื้อไมสวยได) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการซอมแซมเสื้อผาดวยวิธีการสอยใหนักเรียน ฟงวา การสอยเปนวิธีการซอมแซมเสื้อผาที่ชํารุดบริเวณรอยพับปลายแขนเสื้อ ชายกระโปรง ปลายขากางเกง โดยการเย็บสวนที่ขาดใหติดกัน แตจะไมปรากฏ รอยเย็บใหเห็น จะเห็นเปนเพียงรอยจุดเล็กๆ อยูหางกันเปนระยะๆ ที่ผาดานนอก เทานั้น ซึ่งการสอยมีอยูดวยกันหลายวิธี เชน การสอยซอนดาย ใชสําหรับสอย ชายเสื้อ สอยปลายแขนเสื้อ สอยชายกระโปรง สอยชายกางเกง เปนการสอย ที่มองเห็นเสนดายเพียงเล็กนอยเทานั้น การสอยฟนปลา ใชสําหรับสอยผายืดและ ผาเนื้อหนาที่ริมผาไมรุย โดยไมตองพับริมผากอนสอย เปนการสอยที่มองเห็น เสนดายดานในที่มีลักษณะไขวหักมุม การสอยพันใชสําหรับสอยชายกางเกง เปนการสอยที่มองเห็นเสนดายทางดานในมากกวาดานนอก นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T50
ขอสอบเนน การคิด การซ่อมแซม กระเป๋าเสื้อ ขาด ๓.๑ การซ่อมแซมเสื้อผ้า การซ่อมแซมเสื้อผ้า เป็นการซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ช�ารุดให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ เช่น การซ่อมแซมปลายแขน การซ่อมแซมชายเสื้อและชายกระโปรง ยกตัวอย่างการซ่อมแซมเสื้อผ้า ง่าย ๆ ด้วยตนเอง มีดังนี้ ขั้นตอนการซอมแซม ๑. ตรวจสอบว่าเป็นรอยขาดแบบใด หากเนื้อผ้าขาด หายไปให้ปะรอยขาดให้เรียบร้อยก่อน ใช้เข็มหมุด กลัดกระเป๋าติดกับตัวเสื้อให้แน่น หรือใช้วิธีการเนา ตามแนวเย็บแทนได้ ๒. ใช้เข็มสอยเย็บด้วยวิธีการด้นถอยหลัง หรือใช้ จักรเย็บตามแนวเย็บเดิม ตัดด้ายออกให้เรียบร้อย น�าไปรีดให้เรียบ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. เข็มสอย/เข็มหมุด ๒. ด้ายสีเดียวกับผ้า หรือสีใกล้เคียง ๓. กรรไกรตัดผ้า ๑ 2 45 เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการซอมแซมเสื้อผาใหนักเรียนฟงวา กอน ลงมือปฏิบัติการซอมแซมเสื้อผาดวยตนเอง นักเรียนควรฝกการตัดเย็บเบื้องตน เพื่อนํามาใชเปนพื้นฐานในการซอมแซมเสื้อผาที่ชํารุด โดยใชผาดิบ หรือเศษผา เหลือใชที่เปนสีพื้นมาทําการฝก ซึ่งการตัดเย็บมีอยูดวยกันหลายวิธี เชน การเนา ไดแก การเนาตะเข็บเทา เปนการเย็บตะเข็บเทากันตลอดทั้งดานหนาและ ดานหลัง โดยฝเข็มจะถี่และหางสลับกันประมาณ 1 2 นิ้ว การเนาตะเข็บไมเทา เปนการเย็บที่ฝเข็มจะถี่และหางสลับกัน โดยฝเข็มหางอยูดานหนา มีความยาว ประมาณ 1 2 นิ้ว ฝเข็มถี่อยูดานหลัง มีความยาวประมาณ 1 2 นิ้ว การดน ไดแก การดนตะลุย ฝเข็มจะมีลักษณะเหมือนกับตะเข็บเนาเทา แตจะมีระยะที่ถี่ มากกวาการดนถอยหลัง ดานหนาฝเข็มจะเหมือนตะเข็บที่เย็บดวยจักร สวน ดานหลังดายเย็บจะซอนกันแนน หากกระเปาเสื้อมีรอยขาดเปนรู ควรเริ่มตนซอมแซมดวย ขั้นตอนใดกอนเปนลําดับแรก 1. ปะรอยขาดที่เปนรูดวยเศษผา 2. เนากระเปาที่ขาดใหติดกับตัวเสื้อ 3. พับริมแลวเย็บรูที่ขาดติดกับตัวเสื้อ 4. ใชชอลกเขียนผาขีดตรงตําแหนงที่ตองการเย็บ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะหากพบวากระเปาเสื้อขาด เปนรู ควรเริ่มตนซอมแซมดวยขั้นตอนการปะรอยขาดที่เปนรูดวย เศษผากอนเปนลําดับแรก จากนั้นจึงเนากระเปาใหติดกับตัวเสื้อ ใหเปนแนว เพื่อจะไดเย็บดวยฝเข็มของจักร) ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 2. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับวิธีการซอมแซมเสื้อผา ใหนักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนวา • นักเรียนเคยซอมแซมเสื้อผาดวยตนเอง หรือไม หากเคย ซอมแซมสิ่งใดและซอมแซม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เคยซอมแซมชายกระโปรง นักเรียนที่ขาดหลุดรุยดวยวิธีการสอย) 3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา เรื่องการซอมแซมเสื้อผา จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือศึกษาเพิ่มเติมจาก อินเทอรเน็ต 4. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซอมแซม เสื้อผา จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรู ที่ 3 5. ครูนําเสื้อที่กระเปาเสื้อชํารุด พรอมทั้งอุปกรณ ในการซอมแซมเสื้อผามาใหนักเรียนดู เพื่อ ทําการสาธิตวิธีการซอมแซมเสื้อที่กระเปาเสื้อ ชํารุด เพื่อใหสามารถกลับมาใชงานไดตาม ปกติ 6. ครูแจกอุปกรณในการซอมแซมเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณในการซอมแซมเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการซอมแซม เสื้อที่กระเปาเสื้อชํารุดใหนักเรียนดูอยางละเอียด โดยครูใหนักเรียนแตละกลุมปฏิบัติตามใน แตละขั้นตอนอยางพรอมเพรียงกัน 7. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ซอมแซมของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน นํา สอน สรุป ประเมิน T51
๑ 2 3 การซ่อมแซม ขั้นตอนการซอมแซม ๑. ตรวจสอบว่าเป็นรอยขาดแบบใด หากเนื้อผ้าขาดหายไปให้ใช้เศษผ้า มาปะแนวตะเข็บที่ขาดก่อน เย็บติดกันให้แน่น ตัดเศษผ้าที่ปะให้เสมอ ริมผ้ากางเกง ใช้กรรไกรตัดชายผ้าที่หลุดลุ่ยออกให้เรียบร้อย ๒. พลิกกางเกงกลับด้านใน ใช้เข็มหมุดกลัดบริเวณเป้ากางเกงที่ขาด ให้ติดกัน หรือใช้วิธีการเนาตามแนวเย็บแทนได้ ๓. ใช้เข็มสอยเย็บด้วยวิธีการด้นถอยหลัง หรือใช้จักรเย็บตามแนวเย็บเดิม และกันรุ่ยริมตะเข็บให้เรียบร้อย พลิกกางเกงกลับด้านนอก เพื่อตรวจดู ความเรียบร้อยอีกครั้ง วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. เข็มสอย/เข็มหมุด ๒. ด้ายสีเดียวกับผ้า หรือสีใกล้เคียง ๓. กรรไกรตัดผ้า เปากางเกง ขาด 4๖ 1 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 8. ครูนํากางเกงที่เปากางเกงชํารุด พรอมทั้ง อุปกรณในการซอมแซมเสื้อผามาใหนักเรียนดู เพื่อทําการสาธิตวิธีการซอมแซมกางเกงที่ เปากางเกงชํารุด เพื่อใหสามารถกลับมาใชงาน ไดตามปกติ 9. ครูแจกอุปกรณในการซอมแซมเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณในการซอมแซมเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการซอมแซม กางเกงที่เปากางเกงชํารุด ใหนักเรียนดูอยาง ละเอียด โดยครูกําหนดใหนักเรียนแตละกลุม ปฏิบัติตามในแตละขั้นตอนอยางพรอมเพรียงกัน 10. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ซอมแซมของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน 11. ครูอธิบายเพื่อเปนการสรุปความรูใหนักเรียน เขาใจวา “การซอมแซมเสื้อผา เปนการแกไข เสื้อผาที่ชํารุดใหอยูในสภาพที่สามารถใชงาน ไดตามปกติ อาจทําการซอมแซมดวยมือ หรือ อาจซอมแซมโดยการใชจักรก็ได ขึ้นอยูกับ ลักษณะของรอยชํารุดและเครื่องมือที่มีอยู อยางเหมาะสม เพื่อใหไดชิ้นงานที่มีคุณภาพ ซึ่งควรเลือกวิธีการซอมแซมใหเหมาะสมกับ สวนที่ชํารุด” 12. ครูถามนักเรียนวา • จากการฝกซอมแซมเสื้อที่กระเปาเสื้อชํารุด และกางเกงที่เปากางเกงชํารุด นักเรียน คิดวาตนเองสามารถซอมแซมงานในลักษณะ อื่นๆ ไดหรือไม (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) เกร็ดแนะครู ครูควรแนะนําใหนักเรียนฝกปฏิบัติการซอมแซมเสื้อผาดวยตนเอง ซึ่งอาจ เปนเสื้อผาของตนเอง หรือเสื้อผาของสมาชิกในครอบครัว โดยเลือกเสื้อผา ที่เกิดการชํารุดเสียหายมาทําการซอมแซม พรอมทั้งจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณที่ใช ในการซอมแซมเสื้อผาใหพรอม เชน เข็มสอย เข็มหมุด ดายสีเดียวกับผา หรือ สีใกลเคียง กรรไกรตัดผา จากนั้นปฏิบัติการซอมแซมเสื้อผาที่ชํารุด โดยมีครู เปนผูคอยใหคําแนะนําและเนนยํ้าใหนักเรียนใชงานอุปกรณตางๆ ในการ ซอมแซมเสื้อผาอยางระมัดระวัง เพื่อใหเกิดความปลอดภัย ใหนักเรียนศึกษาคนควาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการซอมแซม เสื้อผาในลักษณะตางๆ ที่นอกเหนือจากที่ไดศึกษาในหนังสือเรียน จัดทําเปนรูปเลมรายงาน สงครูผูสอน กิจกรรม สรางเสริม ใหนักเรียนนําเสื้อผาที่เกิดการชํารุดเสียหายมาทําการซอมแซม โดยออกแบบวิธีการซอมแซมดวยตนเอง เชน การซอมแซม รอยขาดของกระเปากางเกงดวยเศษผาหลากสี โดยใชความคิด ริเริ่มสรางสรรคในการซอมแซมเสื้อผาใหออกมามีรูปแบบสวยงาม มีความแปลกใหม จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายแนวคิดในการออกแบบวิธีการ ซอมแซมเสื้อผาที่ชํารุดของตนเอง นักเรียนควรรู 1 กรรไกรตัดผา ควรเลือกที่ทําดวยเหล็กที่มีคุณภาพดี มีความคมตั้งแตโคน ถึงปลายกรรไกร ไมควรนําไปตัดวัสดุอื่นๆ ใชสําหรับตัดผาเพียงอยางเดียว นํา สอน สรุป ประเมิน T52
ขอสอบเนน การคิด ๓.๒ การตกแต่งเสื้อผ้า เสื้อผ้าที่สวมใส่จะมีความล้าสมัยไปตามกาลเวลา ท�าให้ต้องมีการตกแต่งเสื้อผ้า เพื่อท�าให้ เสื้อผ้านั้นดูทันสมัย มีความแปลกใหม่ และสวยงามมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการประหยัด ค่าใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่ ซึ่งวิธีการตกแต่งเสื้อผ้าจะแตกต่างกันไปตามความคิดสร้างสรรค์ ของแต่ละบุคคล ดังนี้ การปัก เป็นการตกแต่งเสื้อผ้า โดยใช้วัสดุ ต่างๆ มาเย็บลงบนผ้า เพื่อให้ เกิดลวดลายที่สวยงาม ซึ่งมีทั้ง การปักด้วยไหม ด้าย และวัสดุ อื่น ๆ เช่น เปลือกหอย ลูกปัด เมล็ดพืชแห้ง การปะ เป็นการน�าผ้า หรือวัสดุอื่น ๆ ที่มี ลวดลาย หรือต้องการให้เกิด ลวดลายมาวางทับเสื้อผ้า และ ปกริม โดยวิธีใดวิธีหนึ่งตาม ต้องการท�าให้ผ้า ๑ ชิ้น มีลวดลาย ที่แตกต่างกันออกไป การกุ๊น เป็นการน�าผ้าเฉลียงมาเย็มมุม ริมผ้า เพื่อให้เกิดลวดลายที่ สวยงาม รวมถึงเป็นการเก็บ ริมผ้าให้มีความเรียบร้อย ซึ่ง สามารถพบเห็นได้จากของใช้ ทั่ว ๆ ไป เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 47 การปัก 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 13. ครูนําผลงานการตกแตงเสื้อผาในลักษณะตางๆ มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนวา • ที่บานของนักเรียนมีผลงานในลักษณะนี้ บางหรือไม หากมี เปนผลงานใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน หมอน กระเปา เสื้อ ผากันเปอน ถุงมือไมโครเวฟ ผาคลุมตูเย็น) • นักเรียนเคยสรางสรรคผลงานในลักษณะนี้ บางหรือไม (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เคยสรางสรรคผลงาน ในลักษณะนี้ โดยใชวิธีการปกกับปกของ เสื้อเชิ้ต) • การตกแตงเสื้อผามีประโยชนอยางไร (แนวตอบ ทําใหเสื้อผามีความสวยงาม มีความแปลกตา และดูทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังชวยประหยัดคาใชจาย ในการซื้อเสื้อผาตัวใหมอีกดวย) 14. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา เรื่อง การตกแตงเสื้อผา จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือศึกษาเพิ่มเติมจาก อินเทอรเน็ต 15. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ตกแตงเสื้อผา จาก PowerPoint ม.5 หนวย การเรียนรูที่ 3 16. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การตกแตงเสื้อผาเปน วิธีการที่ทําใหเสื้อผามีความแปลกใหมและ สวยงามมากยิ่งขึ้น ดวยวิธีการปก การปะ และการกุน ผูปฏิบัติงานสามารถนําความคิด สรางสรรคของตนเองมาใชในการปฏิบัติงาน ไดอยางอิสระ ชวยประหยัดคาใชจายในการ ซื้อเสื้อผาไดอีกทางหนึ่ง” วัตถุประสงคสําคัญของการตกแตงเสื้อผาดวยวิธีการกุนคือสิ่งใด (แนวตอบ การกุนมีวัตถุประสงคสําคัญ คือ เพื่อเก็บริมผาใหเกิด ความเรียบรอย โดยเฉพาะในสวนที่โคงและเวา เชน คอเสื้อ และ เพื่อความสวยงาม ใชเปนสวนตกแตงทําใหชายผาไมรุย ซึ่งการ กุนผามี 2 แบบ คือ การกุนผาตามแนวโคง เชน ผาที่ตัดเปน วงกลม เวลาเย็บไมควรดึงผา ควรใชวิธีเนากอน โดยใหริมผากุนกับ แนวโคงของชิ้นงานเสมอกัน และการกุนผาที่เวา เชน คอเสื้อ ใหดึงผาเฉลียงเล็กนอย จะทําใหแนวกุนกระชับกับสวนเวา ซึ่งจะ ทําใหไดผลงานที่สวยงามมากยิ่งขึ้น) นักเรียนควรรู 1 การปก เปนการตกแตงเสื้อผา โดยการนําวัสดุตางๆ มาเย็บลงบนผา เพื่อใหเกิดลวดลายที่สวยงาม แบงออกเปน 2 ลักษณะ คือ • การปกดวยไหม หรือดาย มีทั้งการปกดวยมือและการปกดวยจักร หากใช จักรแบบธรรมดาจําเปนตองอาศัยความชํานาญเปนอยางมากจึงจะสามารถปกได อยางสวยงามและประณีต แตในปจจุบันสามารถทําไดโดยการใชจักรอัตโนมัติ ซึ่งมีราคาสูงกวาจักรธรรมดา สวนการปกดวยมือเปนการปกที่งาย มีขั้นตอนที่ ไมยุงยาก และสามารถเลือกปกลวดลายที่ตองการได ซึ่งมีอยูดวยกันหลายวิธี เชน การปกเดินเสน การปกไขว การปกโซ การปกทึบ การปกจุดกลม การปก คัตเวิรก • การปกดวยวัสดุอื่นๆ ปจจุบันนิยมนําวัสดุอื่นๆ มาทําเปนลวดลายบนผา เชน ใชเลื่อมปกชุดราตรี นอกจากนี้ ยังมีการนําเปลือกหอย กระดูกสัตว ลูกปด เมล็ดพืชแหงมาใชอีกดวย จึงสงผลทําใหเกิดลวดลายที่สวยงามแปลกตา นํา สอน สรุป ประเมิน T53
ขอสอบเนนการคิด การตกแต่ง ขั้นตอนการตกแตง ๑. ใช้ดินสอร่างภาพตามต้องการลงบนกระโปรง โดยวาดเป็นเส้นบาง ๆ ๒. ร่างภาพตามต้องการลงบนกระโปรงให้เต็มพื้นที่ โดยวาดเก็บรายละเอียด ที่ต้องการให้ครบ ๓. ใช้สีอะคริลิกส�าหรับเพนต์ผ้าระบายสีตามต้องการลงบนกระโปรงให้เรียบเนียน ๔. ใช้สีขาวระบายทับสีพื้น เพื่อให้สีดูอ่อนลงและภาพมีมิติเพิ่มมากขึ้น ทิ้งไว้ ให้แห้ง น�าไปรีดโดยใช้ผ้าปูทับบริเวณที่วาดภาพ จากนั้นจึงน�าไปซักให้ เรียบร้อย วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. กระโปรง ๒. สีอะคริลิกส�าหรับ เพนต์ผ้า ๓. พู่กัน/จานสี ๔. ดินสอ ๑ 2 3 4 เขียนสีบน กระโปรง 4๘ ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 17. ครูนํากระโปรง พรอมทั้งอุปกรณในการตกแตง มาใหนักเรียนดู เพื่อทําการสาธิตวิธีการตกแตง กระโปรงดวยวิธีการเขียนสี 18. ครูแจกอุปกรณในการตกแตงเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณในการตกแตงเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการตกแตง กระโปรงดวยวิธีการเขียนสีใหนักเรียนดูอยาง ละเอียด โดยครูกําหนดใหนักเรียนแตละกลุม ออกแบบผลงานดวยตนเองจากอุปกรณที่มี อยางสรางสรรค 19. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ตกแตงของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน 20. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการใช สีอะคริลิกใหนักเรียนฟงวา “สีอะคริลิกเปน สีที่แหงเร็ว ติดทนนาน จึงนิยมนํามาใชใน การเพนตลงบนวัสดุตางๆ อยางมากมาย เชน ผา รองเทาผา จานเซรามิก โลหะ พลาสติก ไม เทคนิคสําคัญในการใชสีอะคริลิก คือ ควรเลือกใชพูกันสังเคราะห เพราะจะชวย อุมนํ้าไดดีกวาพูกันขนสัตว ชวยใหสีแหงชาลง ใชพูกันเบอรใหญระบายสีบริเวณที่วาง จะชวย ประหยัดเวลาในการระบายสี ใชวิธีการระบายสี แบบเปนเลเยอรในบริเวณสําคัญกอน แลว จึงกลับมาเก็บรายละเอียดในภายหลัง ใช สเปรยฉีดนํ้าฉีดอยูเสมอ เพื่อปองกันไมให สีแหงเร็วจนเกินไป และผสมนํ้า หรือนํ้ามัน ลงในสีอะคริลิก จะชวยใหสีแหงชาลง” เกร็ดแนะครู ครูแนะนําเกี่ยวกับวิธีการตกแตงเสื้อใหสวยงามใหนักเรียนฟงวา การตกแตง เสื้อผา เปนวิธีการที่ทําใหเสื้อผามีความสวยงามและแปลกใหม ซึ่งนอกเหนือจาก การปก การปะ และการกุนแลว นักเรียนสามารถนําวัสดุอื่นๆ มาใชในการตกแตง เสื้อผา เพื่อใหเกิดความสวยงามได เชน การใชเครื่องประดับในการตกแตง เชน การติดเข็มกลัด การตกแตงบริเวณใดบริเวณหนึ่งของเสื้อ เชน ปกเสื้อ กระเปาเสื้อ การใชวัสดุชนิดอื่นๆ ติดเพิ่มไปกับตัวเสื้อ เชน การติดผาลูกไมที่ ชายเสื้อ หรือปลายแขนเสื้อ การตกแตงเสื้อผาเพื่อใหเกิดความสวยงาม ควรคํานึงถึงสิ่งใด เปนหลัก (แนวตอบ ในการตกแตงเสื้อผา เพื่อใหเกิดความสวยงาม ควร คํานึงถึงสิ่งสําคัญตางๆ ดังนี้ • การตกแตงตองมีความสัมพันธกับรูปแบบและรูปทรงของเสื้อ เพื่อปองกันไมใหเกิดการรกรุงรัง • วัสดุที่นํามาใชในการตกแตงจะตองมีความกลมกลืนกับ ตัวเสื้อ เพื่อใหเกิดความสอดคลองกลมกลืนกัน • จะตองมีความสวยงาม มีเอกภาพ มีความโดดเดน และมีความ นาสนใจกวาแบบเสื้อของเดิม สีมีความเหมาะสม ไมขัดกับ สีเสื้อเดิม • วัสดุที่นํามาใชตกแตงตองมีขนาดเหมาะสมและสัมพันธกับ บริเวณที่ตองการตกแตง เพื่อใหเกิดความสวยงาม กลมกลืน กับตัวเสื้อ) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการตกแตงเสื้อผา ไดที่ https://www.youtube. com/watch?v=mMdYXQQJy90 นํา สอน สรุป ประเมิน T54
การตกแต่ง ขั้นตอนการตกแตง ๑. ตัดเศษผ้ายีนกว้าง ๓ ซม. ยาว ๒๕ ซม. ตัดผ้าลูกไม้กว้าง ๑.๕ ซม. ยาว ๑๕ ซม. อย่างละ ๘ เส้น พับผ้าเป็นทบ ตัดชายผ้าให้เป็น เส้นโค้ง เนาให้เรียบร้อย จากนั้นรูดผ้าเข้าหากัน ขดให้เป็นวงกลม มัดปลายเชือกและเย็บชายผ้าติดกันให้แน่น น�าผ้าลูกไม้ที่ขดแล้ว วางบนเศษผ้ายีนที่ขดเป็นวงกลม เย็บติดกัน โดยเย็บกระดุมไว้ ด้านบน จะได้ดอกไม้ส�าหรับติดเสื้อ ๒. ตัดเศษผ้ายีนเป็นรูปสี่เหลี่ยมกว้าง ๑๓ ซม. ยาว ๑๒ ซม. พับชายผ้า ทั้ง ๔ ด้าน ด้านละ ๑ ซม. โดยสอยผ้าด้านหนึ่งให้เรียบร้อย จากนั้น น�ามาวางบนเสื้อ ใช้เข็มหมุดกลัดให้แน่น เย็บด้วยวิธีการด้นถอยหลัง เพื่อท�าเป็นกระเป๋าเสื้อ ๑ 2 3 4 วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. เสื้อ ๒. เศษผ้ายีน ๓. ผ้าลูกไม้ ๔. เข็มสอย/เข็มหมุด ๕. ด้ายสีเดียวกับผ้า หรือสีใกล้เคียง ๖. กรรไกรตัดผ้า ๗. ชอล์กเขียนผ้า ๘. สายวัด ๙. กระดุม ๓. น�าผ้าลูกไม้มาวางทาบบริเวณ กระเป๋าและตัวเสื้อ ใช้เข็มหมุด กลัดให้แน่น เย็บด้วยวิธีการด้น ถอยหลัง หรือใช้จักรเย็บแทน ๔. วางต�าแหน่งดอกไม้บริเวณ คอเสื้อ โดยใช้ชอล์กเขียนผ้า ก�าหนดจุดที่ต้องการเย็บ จากนั้นเย็บดอกไม้ให้ติดกับ คอเสื้อให้แน่น แต่งเสื้อ ด้วยดอกไม้ 49 ๗. ชอล์กเขียนผ้า ๘. สายวัด 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 21. ครูนําเสื้อแขนกุด พรอมทั้งอุปกรณในการ ตกแตงมาใหนักเรียนดู เพื่อทําการสาธิต วิธีการตกแตงเสื้อดวยดอกไม 22. ครูแจกอุปกรณในการตกแตงเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณตกแตงเสื้อผาครบแลว ครูทํา การสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการตกแตงเสื้อ ดวยดอกไมใหนักเรียนดูอยางละเอียด โดยครู กําหนดใหนักเรียนแตละกลุมออกแบบผลงาน ไดดวยตนเองจากอุปกรณที่มีอยางสรางสรรค 23. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ตกแตงของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน 24. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทําดอกไม จากเศษผาใหนักเรียนฟงวา “เศษผาที่ เหลือใชสามารถนํามาประดิษฐเปนดอกไมได หลากหลายรูปแบบ ซึ่งนักเรียนสามารถศึกษา เพิ่มเติมเกี่ยวกับการประดิษฐดอกไมจาก เศษผาผานทางเว็บไซตตางๆ เชน • https://www.youtube.com/ watch?v=paDYqUmke3A • https://www.youtube.com/ watch?v=wPzi-RtDJao • https://www.youtube.com/ watch?v=MugeskrvIM0 เพื่อนํามาใชเปนแนวทางในการสรางสรรค ผลงานของตนเอง ใหเกิดความสวยงามและ มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น” นักเรียนควรรู 1 ชอลกเขียนผา มีลักษณะเปนแทงสามเหลี่ยม มี 4 สี ไดแก สีเหลือง สีฟา สีชมพู และสีขาว ในการใชงานตองระมัดระวังมากเปนพิเศษเนื่องจากเปราะบาง และแตกหักไดงาย นํามาใชในการขีดเพื่อทําเครื่องหมายบนผา หรือทําแบบ บนผา หลังจากใชงานเสร็จควรเก็บลงในกลองอุปกรณใหเรียบรอย 2 สายวัด เปนเสนยาว 60 นิ้ว และ 150 เซนติเมตร ปลายหุมดวยโลหะ มีขีด แบงไวมองเห็นชัดเจน ซึ่งควรเลือกชนิดที่มีมาตรวัดทั้งนิ้วและเซนติเมตรอยู ในหนาเดียวกัน เพราะจะชวยใหเกิดความสะดวกสบายในการวัดตัว ไมควร ใชสายวัดผูกเอว หรือผูกสิ่งของ เพราะจะทําใหสายบิดเบี้ยว และควรเก็บดวย วิธีการแขวน เพื่อสะดวกตอการใชงาน กิจกรรม ทาทาย ใหนักเรียนเลือกวิธีการตกแตงเสื้อผาตามความสนใจ 1 ประเภท ไดแก การปก การปะ และการกุน ลงมือปฏิบัติการ ตกแตงเสื้อผาตามความคิดสรางสรรคและจินตนาการ จากนั้น ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบาย แนวคิดในการสรางสรรคผลงานของตน ใหนักเรียนคนหาคลิปวิดีโอการตกแตงเสื้อผาจากเว็บไซต ตางๆ แลวเลือกคลิปวิดีโอที่ตัวเองชื่นชอบ 1 คลิป ทําการรางภาพ เพื่อออกแบบการตกแตงเสื้อผา พรอมทั้งเขียนอธิบายเหตุผลที่ เลือกคลิปวิดีโอนี้เปนตนแบบในการตกแตงเสื้อผา จากนั้นออกมา นําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน กิจกรรม สรางเสริม นํา สอน สรุป ประเมิน T55
ขอสอบเนนการคิด ๓.๓ การดัดแปลงเสื้อผ้า การน�าเสื้อผ้าที่มีอยู่มาเปลี่ยนแปลง ต่อเติม และแก้ไขให้ได้รูปแบบใหม่ เพื่อช่วยประหยัด รายจ่าย ซึ่งการดัดแปลงเสื้อผ้ามีหลายรูปแบบ เช่น การซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงเสื้อผ้า สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้า ท�าให้ ไม่ล้าสมัย ในการซ่อมแซมเสื้อผ้ามีวิธีการที่หลากหลาย ดังนั้น ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะ การช�ารุด นอกจากนี้ การตกแต่งและดัดแปลงเสื้อผ้ายังขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์และความชอบ ส่วนบุคคลอีกด้วย การดัดแปลงขนาดของเสื้อผ้า เป็นการดัดแปลงเสื้อผ้าให้มีขนาด ใหญ่ขึ้น หรือมีขนาดเล็กลง การ ดัดแปลงในลักษณะนี้ ท�าได้โดย การเลาะตะเข็บข้างออก เนาและเย็บ ให้พอดีกับตัว หรือตามที่ต้องการ เหมาะส�าหรับเสื้อและกางเกง การดัดแปลงส่วนประกอบ เป็นการแก้ไขส่วนที่ประกอบกันเป็น ตัวเสื้อ เป็นกางเกง ให้เปลี่ยนแปลง ไปจากแบบเดิม เช่น น�าเสื้อยืด ตัวเก่ามาย้อมสีให้เป็นเสื้อยืดตัวใหม่ ดัดแปลงกระโปรงยาวให้กลายเป็น กระโปรงสั้น การดัดแปลงด้วยการลงสี เป็นการน�าสีมาตกแต่ง เพิ่มลวดลาย ลงบนเนื้อผ้าให้มีความสวยงามมาก ยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถท�าได้หลายวิธี เช่น การมัดย้อม การเพนต์ การเขียนเทียน การสะบัดสี การพิมพ์ลาย โดยสีที่ น�ามาใช้ควรเป็นสีส�าหรับงานเขียน ผ้าเท่านั้น 50 ๓.๓ การดัดแปลงเสื้อผ้า1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 25. ครูเปดคลิปวิดีโอการดัดแปลงเสื้อผาใน รูปแบบตางๆ ใหนักเรียนดู จากนั้นครูถาม นักเรียนวา • นักเรียนเห็นดวยหรือไมในการนําเสื้อผา ตัวเกามาดัดแปลงใหเกิดเปนเสื้อผาตัวใหม (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เห็นดวย เพราะเปนการ ชวยประหยัดคาใชจายในการซื้อเสื้อผา ตัวใหม) • นักเรียนเคยดัดแปลงเสื้อผาดวยตนเองบาง หรือไม หากเคย ดัดแปลงในรูปแบบใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • การดัดแปลงเสื้อผามีประโยชนอยางไร (แนวตอบ ทําใหเสื้อผามีความสวยงาม มีความแปลกตา และดูทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังชวยประหยัดคาใชจายในการ ซื้อเสื้อผาตัวใหมอีกดวย) 26. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ใหนักเรียน แตละกลุมรวมกันศึกษา เรื่อง การดัดแปลง เสื้อผา จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 27. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ดัดแปลงเสื้อผา จาก PowerPoint ม.5 หนวย การเรียนรูที่ 3 28. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การดัดแปลงเสื้อผา เปนการนําเสื้อผาที่ยังมีสภาพดีมาแกไข เปลี่ยนแปลง เพื่อใหไดรูปแบบและรูปทรงที่ ที่มีความเหมาะสมกับผูสวมใส โดยเลือก วิธีการดัดแปลงใหเหมาะสมกับสภาพของ เสื้อผาชุดนั้น ๆ และคํานึงถึงความคุมคาของ เวลาและคาใชจายที่เสียไปดวย” นักเรียนควรรู 1 การดัดแปลงเสื้อผา เปนการนําเสื้อผาที่ยังคงสภาพดีอยูมาแกไขเปลี่ยนแปลง เพื่อใหไดเสื้อผารูปแบบใหมที่เหมาะสมกับผูสวมใสและเหมาะสมกับยุคสมัย สามารถปฏิบัติไดหลายวิธี เชน • การดัดแปลงกระโปรงยาวใหเปนกระโปรงสั้น โดยการตัดชายกระโปรง และพับสอยตามตองการ หรือการทํากระโปรงสั้นใหเปนกระโปรงยาว โดยใช ผาลูกไม หรือผาที่มีลวดลายสวยงามมาตอที่ชายกระโปรง • การดัดแปลงเสื้อแขนยาวใหเปนเสื้อแขนสั้น ซึ่งอาจเปนเสื้อแขนยาวที่แขน สวนลางชํารุด หรือลาสมัย สามารถนํามาดัดแปลงโดยการตัดแขนใหกลายเปน เสื้อแขนสั้นได • การดัดแปลงชายเสื้อที่ยาว หรือคับสะโพก โดยการนํามาตัดใหสั้น หรือ เลาะปลายตะเข็บดานขางออกทั้ง 2 ขาง ทําเปนเสื้อผาขาง เสื้อผาในขอใดเหมาะสําหรับนํามาใชในการดัดแปลงเสื้อผา 1. เสื้อดํา กระโปรงดําเขาชุด ยาวคลุมเขา 2. เสื้อตัวใหม ยี่หอดัง นําเขาจากตางประเทศ ใสเขารูปพอดีตัว 3. เดรสสีชมพูเปดไหลเขารูป ซื้อมาเตรียมใสในงานแตงงานของ พี่สาว 4. กระโปรงยีนสีนํ้าเงินที่ซื้อมาเมื่อ 2 ปที่แลว แตปจจุบันไมไดใส เพราะสั้น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะกระโปรงยีนที่สั้นสามารถนํา มาดัดแปลงใหกลายเปนกระโปรงตัวใหมได เชน การนําผาลูกไม มาตอที่ชายกระโปรงจะทําใหกระโปรงยาวขึ้น สามารถนํามา สวมใสไดตามปกติ) นํา สอน สรุป ประเมิน T56
ขอสอบเนน การคิด การดัด แปลง ๑ 2 3 4 วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. กางเกงขายาว ๒. ผ้าก�ามะหยี่ ๓. เข็มสอย/เข็มหมุด ๔. ด้ายสีเดียวกับผ้า หรือสีใกล้เคียง ๕. กรรไกรตัดผ้า ๖. ชอล์กเขียนผ้า ๗. สายวัด ขั้นตอนการดัดแปลง ๑. พับขากางเกงให้เรียบเสมอกัน ใช้สายวัดวัดความยาวของขากางเกงที่ต้องการและส่วนที่ไม่ต้องการให้ตัดออก ๒. พลิกด้านใน พับชายขากางเกงขึ้น ๒.๕ ซม. ทั้ง ๒ ข้าง ใช้เข็มหมุดกลัดให้แน่น แล้วใช้เข็มสอยเนาชายขา กางเกง ๓. พลิกด้านนอก ใช้ผ้าก�ามะหยี่กุ๊นชายขากางเกง โดยวัดขนาดของผ้าให้มีความยาวเท่ากับปลายขากางเกง ใช้เข็มหมุดกลัดให้แน่น ตลบผ้าด้านที่ไม่มีลายขึ้นด้านบน ใช้เข็มสอยสอยผ้าและชายกางเกงให้ติดกัน ๔. พลิกด้านใน ตลบเศษผ้าด้านที่มีลายลง เลาะด้ายเนาออก ใช้เข็มสอยสอยชายผ้าและชายกางเกงให้ติดกัน พลิกด้านนอก ใช้ผ้าก�ามะหยี่ตัดเป็นเส้นตรงความยาวให้มากกว่าเอวของผู้สวมใส่ พับชายผ้าทั้ง ๔ ด้าน ใช้เข็มหมุดกลัดให้แน่น ใช้เข็มสอยสอยผ้า หรือใช้จักรเย็บแทนได้ น�าไปร้อยในหูกางเกง เพื่อใช้แทนเข็มขัด กางเกง ขายาวเป็น กางเกง ขาสั้น Trick การลับกรรไกรตัดผ้า ด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ เตรียมอะลูมิเนียมฟอยล์ยาว ๘-๑๐ นิ้ว พับตามความยาวหลาย ๆ ทบ ตัด อะลูมิเนียมฟอยล์ตามความยาวไป เรื่อย ๆ จนหมดแผ่น ต้องตัดให้เต็ม ใบมีด ใช้ผ้าสะอาดชุบน�้าบิดหมาด เช็ดให้สะอาด เพื่อขจัดเศษฝุ่น 5๑ กางเกง กางเกง ขายาวเป็น ขาสั้น เข็มสอย/เข็มหมุด 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 29. ครูนํากางเกงขายาว พรอมทั้งอุปกรณในการ ดัดแปลงเสื้อผามาใหนักเรียนดู เพื่อทําการ สาธิตวิธีการดัดแปลงกางเกงขายาวเปน กางเกงขาสั้น 30. ครูแจกอุปกรณในการดัดแปลงเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณในการดัดแปลงเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการดัดแปลง กางเกงขายาวเปนกางเกงขาสั้นใหนักเรียนดู อยางละเอียด โดยครูกําหนดใหนักเรียนแตละ กลุมออกแบบผลงานดวยตนเองจากอุปกรณ ที่มีอยางสรางสรรค 31. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ดัดแปลงของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน 32. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอยผาให นักเรียนฟงวา “การสอยเปนการซอมแซมเสื้อผา ที่ชํารุดบริเวณรอยพับปลายแขน ชายกระโปรง ปลายขากางเกง โดยการเย็บสวนที่ขาดให ติดกัน แตจะไมปรากฏรอยเย็บใหเห็น จะเห็น เปนจุดเล็กๆ อยูหางกันเปนระยะๆ ที่ผา ดานนอกเทานั้น การสอยมีอยูดวยกันหลาย รูปแบบ เชน การสอยซอนดาย เปนการสอย ที่มองเห็นเสนดายเย็บเล็กนอย โดยแทงเข็ม ใหสอดเขาไปในพับทบของผาใหกวางชวงละ ประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งกอนแทงเข็มออกให สะกิดเสนดายจากผาชิ้นลางประมาณ 1-3 เสน แลวสอดเข็มเขาไปในสันทบผา จากนั้นแทง เข็มออกสะกิดเสนดายจากผาชิ้นลาง โดยทํา เชนนี้เรื่อยไปจนสุดแนวที่ตองการสอย” นักเรียนควรรู 1 กางเกงขายาวเปนกางเกงขาสั้น เปนการดัดแปลงเสื้อผาในรูปแบบหนึ่ง โดยการนํากางเกงขายาวที่มีสภาพดี แตปลายขาขาดจนไมสามารถซอมแซมได หรือไมอยากสวมใสอีก มาดัดแปลงใหเปนกางเกงขาสั้นเพื่อใสอยูบาน ดวยวิธีการ ตัดขากางเกงและพับเย็บ 2 เข็มสอย ทําดวยเหล็ก เมื่อถูกความชื้นจะเกิดสนิม มีอยูดวยกันหลายขนาด สําหรับขนาดที่ใชโดยทั่วไปจะใชตั้งแตเบอร 7-11 โดยเข็มเล็กจะมีเบอรเลขมาก เข็มใหญจะมีเลขเบอรนอย ดังนั้น เข็มเบอร 11 จึงมีขนาดเล็กกวาเข็มเบอร 9 โดยเข็มเบอร 7-8 จะใชเย็บผาที่มีความหนาและถักรังดุม เข็มเบอร 9-11 ใชเย็บผา ทั่วไปและใชสอย หลังจากการใชงาน ควรเช็ดดวยนํ้ามันจักร หรือเช็ดใหแหงสนิท อยาใหเปอนเหงื่อ และเก็บใสกลอง หรือปกไวที่หมอนปกเข็มแทนได ขอใดกลาวถึงกรรไกรตัดผาไดอยางถูกตอง 1. กรรไกรตัดผาจะมีความคมไมมาก 2. กรรไกรตัดผาใชตัดผาไดเพียงอยางเดียว 3. กรรไกรตัดผาใชตัดกระดาษขึ้นแบบเสื้อได 4. กรรไกรตัดผาใชตัดกระดาษและตัดพลาสติกได (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะกรรไกรตัดผาควรใชตัดผา เพียงอยางเดียว ไมควรนําไปใชตัดวัสดุประเภทอื่นๆ เชน กระดาษ พลาสติก เนื่องจากกรรไกรมีความคมมาก หากนําไปใชตัดวัสดุ อื่นๆ ที่ไมใชผา จะทําใหกรรไกรไมคมและทื่อ เมื่อนํามาตัดผาจะ ทําใหผารุย ซึ่งจะเปนอุปสรรคตอการเย็บ) นํา สอน สรุป ประเมิน T57
การดัด แปลง ๑ 2 3 4 วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. เสื้อยืด ๒. กรรไกรตัดผ้า ๓. ชอล์กเขียนผ้า ๔. ลูกปัดร้อยผมสีต่าง ๆ ๕. ไม้บรรทัดตรง/ไม้บรรทัดโค้ง ขั้นตอนการดัดแปลง ๑. ใช้ไม้บรรทัดโค้งวางทาบบริเวณไหล่ ใช้ชอล์กเขียนผ้าลากเส้นตาม วงโค้งของแขนเสื้อที่ต้องการตัดออก ใช้กรรไกรตัดผ้าตัดตามรอย ที่วาด พับกึ่งกลางของเสื้อเพื่อดูว่าบริเวณที่ตัดเท่ากันหรือไม่ หากไม่ เท่ากันควรตัดให้เรียบร้อย ๒. ใช้ไม้บรรทัดตรงวัดกึ่งกลางของคอเสื้อ ใช้ชอล์กเขียนผ้าก�าหนด จุดกึ่งกลางจากเส้นตรงเข้าหาจุดที่ก�าหนดให้เป็นตัววี ใช้กรรไกรตัด คอเสื้อ จากนั้นใช้ไม้บรรทัดตรงวางทาบ วัดระยะความสูงตามต้องการ ใช้ชอล์กเขียนผ้าขีดเส้นไว้ เพื่อให้การตัดมีความสูงเท่ากัน ๓. ใช้กรรไกรตัดผ้าตัดชายเสื้อ บริเวณกึ่งกลางของเสื้อ ยาวมา ถึงแนวที่ก�าหนดไว้ เป็นเส้นตรง โดยแบ่งการตัดออกเป็น ๔ ชิ้น ใหญ่ ตัดชายเสื้อเป็นเส้นตรง ขนาดประมาณ ๑ ซม. จนครบ ทั้งตัวเสื้อ ๔. ขมวดชายเสื้อแต่ละเส้นเป็น ปม มัดให้แน่นจนครบทุกเส้น น�าลูกปัดร้อยผมสีต่าง ๆ มา ร้อยที่ชายเสื้อแต่ละเส้น ขมวด ชายเสื้อแต่ละเส้นเป็นปม มัดให้แน่นจนครบทุกเส้น เพื่อ ป้องกันลูกปัดหลุด เปลี่ยน เสื้อตัวเก่า เป็นเสื้อ ตัวใหม่ 52 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 33. ครูนําเสื้อยืด พรอมทั้งอุปกรณในการดัดแปลง เสื้อผามาใหนักเรียนดู เพื่อทําการสาธิตวิธี การเปลี่ยนเสื้อตัวเกาเปนเสื้อตัวใหม 34. ครูแจกอุปกรณในการดัดแปลงเสื้อผาใหกับ นักเรียนแตละกลุม เมื่อนักเรียนแตละกลุม ไดรับอุปกรณในการดัดแปลงเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการดัดแปลง เสื้อตัวเกาเปนเสื้อตัวใหมใหนักเรียนดูอยาง ละเอียด โดยครูกําหนดใหนักเรียนแตละกลุม ออกแบบผลงานไดดวยตนเองจากอุปกรณ ที่มีอยางสรางสรรค 35. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ดัดแปลงของนักเรียนแตละกลุม หากพบวา นักเรียนกลุมใดยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควร แนะนํา หรืออธิบายเพิ่มเติมใหนักเรียนกลุม ดังกลาวมีความเขาใจที่ชัดเจน 36. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนเสื้อ ตัวเกาเปนเสื้อตัวใหมใหนักเรียนฟงวา “เสื้อ ตัวเกาที่ไมไดใชงานสามารถนํามาออกแบบ และสรางสรรคเปนเสื้อตัวใหมไดหลากหลาย รูปแบบ ซึ่งนักเรียนสามารถศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับการเปลี่ยนเสื้อตัวเกาเปนเสื้อตัวใหม ผานทางเว็บไซตตางๆ เชน • https://www.youtube.com/ watch?v=_J5DPoiw6i4 • https://www.youtube.com/ watch?v=8dqrm-3yyvQ • https://www.youtube.com/ watch?v=4qrEQX3bZbQ เพื่อนํามาใชเปนแนวทางในการสรางสรรค ผลงานของตนเองใหดียิ่งขึ้น” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกตางของไมบรรทัดตรงและไมบรรทัดโคง ใหนักเรียนฟงวา ไมบรรทัดตรง ทําจากไม หรือพลาสติก มีอยูดวยกัน 3 ขนาด ไดแก ขนาดยาว 12 นิ้ว ขนาดยาว 18 นิ้ว และขนาดยาว 24 นิ้ว ใชสําหรับ ขีดเสนในการสรางแบบตัดที่เปนเสนตรงและยาว เชน เสนตะเข็บขาง เสนกลาง หนาและกลางหลัง เพื่อความสะดวกในการใชงานควรมี 2 อัน คือ ขนาดยาว 12 นิ้ว และขนาดยาว 18 นิ้ว หรือ 24 นิ้ว ควรระมัดระวังรอยขีดขูด เพราะจะทําให ตัวเลขเลือนหายได ควรเก็บดวยวิธีการแขวน สวนไมบรรทัดโคง ทําจากไม หรือ พลาสติก มีอยูดวยกันหลายรูปแบบ สามารถเลือกใชงานไดตามความเหมาะสม ใชสําหรับขีดเสนโคงสวนตางๆ ของแบบตัดเสื้อ กระโปรง หรือกางเกง ควรเก็บ ดวยวิธีการแขวน หรือวางราบบนพื้น ใหนักเรียนฝกปฏิบัติการดัดแปลงเสื้อผาในรูปแบบที่สนใจตาม ความคิดและจินตนาการ 1 ชิ้น เขียนอธิบายขั้นตอนการดัดแปลง เสื้อผาลงในกระดาษรายงาน สงครูผูสอน จากนั้นออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายแนวคิดในการ สรางสรรคผลงานของตน กิจกรรม สรางเสริม ใหนักเรียนฝกปฏิบัติการดัดแปลงเสื้อผาตามความคิดและ จินตนาการ 1 ชิ้น จัดทําเปนคลิปวิดีโออธิบายขั้นตอนการดัดแปลง เสื้อผาประกอบการสาธิตอยางถูกตอง โดยจัดทําเปนคลิปวิดีโอ สั้นๆ ความยาวไมเกิน 7 นาที พรอมทั้งอัปโหลดคลิปวิดีโอลงใน สื่อโซเชียลที่สามารถกดติดตามได จากนั้นออกมานําเสนอคลิป วิดีโอใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน นํา สอน สรุป ประเมิน T58
ขอสอบเนน การคิด กางเกงยีนเป็นกางเกงที่หลายคน นิยมสวมใส่มีให้เลือกหลายสี หลาย ยี่ห้อ ควรเลือกซื้อให้เหมาะสมกับ บุคลิกภาพของตนเอง รวมทั้งค�านึง ถึงหลัก หรือเทคนิคในการเลือกซื้อ เ·¤¹Ô¤การเลือกซื้อกางเกงÂÕ¹ กางเกงยีน ดังนี้ ñ. มÕ¢¹าดเลçกกÇ่าเอǨรÔง ควรเลือกกางเกงยีนใหมีขนาดเล็กกวาเอวจริง ๑-๒ ไซส เนื่องจากกางเกงยีนถูกทอแบบ Twill ทําใหผายืดตัวไดเมื่อสวมใสจะพอดีตัว ทําใหดู สวยงามกวาการใสแบบหลวมๆ ò. ¹Ø่ง·รงเ¢้ารÙปควรเปนทรงเล็กๆ ที่เขารูป ตั้งแตโคนขาลงมาถึงปลายขาแตไมรัดแนนแบบ เลกกิง (กางเกงผายืด เนื้อบาง ขอบยางยืด แนบเนื้อ) เพื่อชวยเก็บขาใหมีขนาดเล็กลง ó. เ¹้¹ãส่สÕเ¢้ม ควรเปนสีเขม เพราะ เมื่อสวมใสจะดูสุภาพและสวมใสได ทุกโอกาสมากกวาสีออกสวาง หรือ ถูกฟอกมาแลว ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยง การสวมกางเกงยีนขาดๆ เพราะจะ ทําใหเสียบุคลิกภาพ ô. ดÙป‡าÂส่ǹประกอº¢องเ¹ื้อผ้า ควรมีสวนผสมของผายืด โดยที่ พบทั่วไป จะเปน Lycra ประมาณ ๒% จะทําใหกางเกงเขารูปและ มีความยืดหยุนมากขึ้น หากมี องคประกอบอยางอื่นมากกวา Cotton กางเกงจะไมคอยระบายอากาศ õ. ดÙกระเป‰าËลังก ่อ¹ซื้อ ควรตรวจดู รายละเอียดของเสนดายลวดลายที่ปรากฏบน กระเปาวามีความเหมาะสมหรือไม กระเปาหลัง มีขนาดพอดี ไมเล็ก หรือใหญจนเกินไป ö. äม ่¤ÇรกังÇลเรื่องรÙปร ่าง ควรเลือก ตามความชอบและใสแลวพอดีหรือไม ไมควรใส กางเกงยีนที่หลวมและรัดจนเกินไป เพราะจะทําให ไมสวยงาม ควรเปนสีเขม เพราะ เมื่อสวมใสจะดูสุภาพและสวมใสได ดÙป‡าÂส่ǹประกอº¢องเ¹ื้อผ้า องคประกอบอยางอื่นมากกวา Cotton ศัพทน่ารู้เกี่ยวกับกางเกงยีน Rise : ความยาวระหวางเปาถึง ขอบเอว เพื่อดูเอวสูง หรือเอวต่ํา Whiskering: ลายทางบนกางเกง ชวยอําพรางจุดบกพรองบริเวณ สะโพก Inseam : รอยตะเข็บดานขางจาก เปาถึงปลายขากางเกง Wash: สีสันและการฟอกสีกางเกง Boot-cut : ทรงกางเกงเขารูป บริเวณสะโพก บานออกใตหัวเขา เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 53 กางเกงยีนเป็นกางเกงที่หลายคน 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 37. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1-2 คน ออกมานําเสนอผลงานที่ไดจากการ ฝกปฏิบัติการตกแตงเสื้อผาและการดัดแปลง เสื้อผาใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้ง อธิบายแนวคิดในการสรางสรรคผลงาน โดยครูเปดโอกาสใหนักเรียนรวมกันวิพากษ วิจารณ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงาน ที่ไดชม เพื่อใหแตละกลุมนําคําติชมไปใชใน การพัฒนาผลงานใหดียิ่งขึ้น 38. ครูและนักเรียนรวมกันคัดเลือกผลงานการ ตกแตงเสื้อผาและการดัดแปลงเสื้อผาของ นักเรียนแตละกลุม เพื่อใหนักเรียนนําผลงาน ที่ไดรับการคัดเลือกมาจัดแสดงในรูปแบบ แฟชั่นโชว โดยใหนักเรียนประชุมวางแผน การทํางานรวมกัน พรอมทั้งแบงหนาที่ความ รับผิดชอบตามความสามารถและความถนัด ของแตละบุคคล 39. ครูอธิบายเพื่อเปนการสรุปความรูใหนักเรียน เขาใจวา “ประโยชนที่ไดรับจากการซอมแซม ตกแตง และดัดแปลงเสื้อผา มีอยูดวยกันหลาย ประการ เชน เปนการชวยประหยัดรายจาย ในการซอมแซมเสื้อผาของตนเองและของ สมาชิกในครอบครัว เปนการยืดอายุการใช เสื้อผาและเครื่องแตงกายใหยาวนานยิ่งขึ้น เปนการใชเวลาวางใหเกิดประโยชน สงเสริม ความมีนํ้าใจและการใหการชวยเหลือซึ่งกัน และกันระหวางสมาชิกในครอบครัว กอใหเกิด ความรูสึกภาคภูมิใจรวมกัน สรางเสริมความ อดทน ความมีระเบียบวินัยในการทํางานให กับสมาชิกในครอบครัว เปนแนวทางในการ ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการตัดเย็บเสื้อผาและ เครื่องแตงกายไดในอนาคต” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจัดเก็บและวิธีการทําความสะอาด กางเกงยีนใหนักเรียนฟงวา การจัดเก็บกางเกงยีนที่ถูกตอง ควรแขวนไวในที่โลง โปรง ระบายอากาศไดดี เพื่อเปนการรักษาทรงของกางเกงใหไดรูป สวนการ ทําความสะอาด ควรแยกซักกับเสื้อผาชนิดอื่นๆ โดยกลับดานในของกางเกงออก ซักดวยนํ้าเย็น ใชผงซักฟอกแบบออนๆ ซึ่งจะชวยรักษากางเกงยีนไมใหไดรับ ความเสียหาย รวมถึงการเกิดรอยยับอันไมพึงประสงคอีกดวย นักเรียนควรรู 1 กางเกงยีน ไมควรนํากางเกงยีนเขาตูอบ เนื่องจากลมรอนของเครื่องอบ เปนสาเหตุที่ทําใหเนื้อผาของกางเกงยีนหดได ควรนําไปตากในที่อากาศถายเท ไดสะดวกและไมถูกแสงแดด เพื่อปองกันแดดเลียจนสีซีด ผูที่มีเอวคอดเล็กและสะโพกผาย ควรเลือกสวมใสกางเกงยีน ที่มีลักษณะตรงตามขอใด เพื่อชวยเสริมสรางบุคลิกภาพใหดูดี 1. กางเกงยีนสกินนี 2. กางเกงยีนเอวสูง 3. กางเกงยีนทรงขาบาน 4. กางเกงยีนทรงกระบอก (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะผูที่มีเอวคอดเล็กและ สะโพกผาย ควรเลือกสวมใสกางเกงยีนที่ชวยกระชับสะโพก นั่นก็คือ “กางเกงยีนเอวสูง” เนื่องจากชวยเก็บสะโพกไดดี ทั้งยัง ชวยทําใหเอวดูเล็กลงอีกดวย) นํา สอน สรุป ประเมิน T59
ขอสอบเนนการคิด การตัดเย็บ เสื้อคลุม อาบนํ้า ô ตัวอยางการตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบาน การตัดเย็บเสื้อผาและของใช เปนการฝกการตัดเย็บและเรียนรูกระบวนการตัดเย็บ การรูจัก เลือกผา การคํานวณผา การวางแบบและการตัดผา รวมถึงการรูจักเลือกใชและเก็บรักษาอุปกรณ ตัดเย็บไดอยางถูกวิธี ซึ่งเปนแนวทางที่นําความรูไปใชไดในชีวิตประจําวัน ตัวอยางการตัดเย็บ ของใชในบาน มีดังนี้ ขั้นตอนเตรียมการ ๑. วิธีวัดตัว ประกอบดวยวัดรอบอก คือ วัดสวนที่ กวางที่สุด วัดความยาวจากขางคอถึงเอว และ วัดความยาวตัวเสื้อ คือ วัดจากขางคอลงไปตาม ตองการ ๒. การคํานวณผา คิดจากแบบวัดตัวแผนหนา + แบบวัดตัวแผนหลัง + เผื่อตะเข็บ ๑๐ เซนติเมตร เชน แบบวัดตัวแผนหนา ๘๐ เซนติเมตร จะใช ผา ๘๐ + ๘๐ + ๑๐ = ๑๗๐ เซนติเมตร หรือ ๑.๗๐ เมตร วัสดุ อุปกรณที่ใช ๑. ผาสําหรับเย็บ ๒. สายวัด ๓. กระดาษสรางแบบ ดินสอ ยางลบ ๔. ไมบรรทัด ไมบรรทัดโคง ๕. ลูกกลิ้ง กระดาษคารบอน ๖. ดายสีเดียวกับผา หรือสีใกลเคียง ๗. กรรไกรตัดผา ๘. เข็มสอย/เข็มหมุด ๙. ดายเนา ๑๐. จักรเย็บผา เสื้อคลุมใชสําหรับสวมใสในโอกาสตางๆ เชน คลุมทับชุดอาบนํ้า มีหลายแบบ และเนื่องจาก ขั้นตอนการสรางแบบและการตัดเย็บไมยุงยาก จึงตัดเย็บไดงาย เราควรฝกปฏิบัติการตัดเย็บ เพื่อนํา ความรูที่ไดไปใชประโยชนในชีวิตประจําวัน ทั้งยัง ชวยประหยัดรายจายเรื่องเสื้อผาดวย Trick เทคนิคการซักผาที่เปอนชอลกเขียนผา นําผาที่เปอนไปแชในนํ้าสบูออน ๆ หรือนํ้าที่ผสมผงซักฟอก ขยี้บริเวณรอยเปอนจนกวาคราบชอลกจะหลุดออก แลวจึง นําไปซักใหสะอาด ๕๔ ๔. ไมบรรทัด ไมบรรทัดโคง ๕. ลูกกลิ้ง กระดาษคารบอน 1 2 สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตัดเย็บเสื้อคลุมแบบงายๆ ดวยผาไทย ไดที่ https://www.youtube.com/watch?v=FnF2H8PTtdY นักเรียนควรรู 1 ไมบรรทัดโคง มีลักษณะเหมือนไมบรรทัดทั่วไป แตจะมีความโคงตรงชวง ดานบนของไม และมีความกวางกวาชวงปลาย มีทั้งชนิดที่ทําดวยไมและชนิดที่ ทําจากพลาสติก นิยมนํามาใชสําหรับโคงแนวสะโพกและแนวตะเข็บขาง 2 กระดาษคารบอน เปนกระดาษกอปปสําหรับการตัดเสื้อ วิธีการใชงาน คือ วางแบบลงบนกระดาษคารบอน แลววางทับบนผาที่ตองการลอกลาย ใชลูกกลิ้ง หรือของปลายแหลมกลิ้งไปตามแนวแบบ จะปรากฏเปนรอยแนวลายเสนบนผา สามารถตัดออกมาเปนชิ้นสวน เพื่อใชในการเย็บตอไปได ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 40. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียน วา • นักเรียนเคยตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายใน บานหรือไม หากเคย ตัดเย็บในรูปแบบใด และมีแนวทางในการปฏิบัติงานอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 41. ครูขออาสาสมัครนักเรียนที่มีประสบการณ ในการตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบาน ออกมาเลาประสบการณของตนเองในการตัด เย็บเสื้อผาและของใชภายในบานใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน ในประเด็นที่ครูกําหนดให คือ รูปแบบการตัดเย็บ การจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในการตัดเย็บ ขั้นตอนการตัดเย็บ และประโยชนที่ไดรับจากการตัดเย็บ โดย ครูเปดโอกาสใหนักเรียนรวมกันซักถามหาก เกิดขอสงสัย 42. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา เรื่อง การตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบาน จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือศึกษา เพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 43. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบาน จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรูที่ 3 44. ครูนําผา พรอมทั้งอุปกรณในตัดเย็บเสื้อผา และของใชภายในบาน เชน กระดาษสรางแบบ ดินสอ ยางลบ สายวัด กระดาษคารบอน ไมบรรทัดตรง ไมบรรทัดโคง ลูกกลิ้ง เข็มสอย เข็มหมุด ดายสีเดียวกับผา หรือสีใกลเคียง ดายเนา กรรไกรตัดผา ชอลกเขียนผา จักร เย็บผาขนาดพกพา มาใหนักเรียนดู เพื่อ ทําการสาธิตวิธีการตัดเย็บเสื้อคลุมอาบนํ้า ขอใดเปนขั้นตอนการเตรียมการตัดเย็บเสื้อคลุม 1. วัดตัว 2. ลอกแบบ 3. สรางแบบ 4. ตัดเย็บเสื้อ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะกอนที่จะลงมือตัดเย็บเสื้อคลุม ขั้นตอนแรกจะตองมีการเตรียมการ โดยวัดตัว ไดแก การวัดรอบอก การวัดความยาวจากขางคอถึงเอว และการวัดความยาวของตัวเสื้อ จากนั้นจึงคํานวณผาสรางแบบ ลอกแบบ แลวจึงตัดเย็บเสื้อคลุม ตามลําดับ) นํา สอน สรุป ประเมิน T60
เสนกลางตัว เสนตะเข็บขาง เสนปลายแขน เสนชายเสื้อ เสนตะเข็บไหล เสนเอว Trick วิธีการกลัดเข็มหมุด ควรกลัดให้ห่างจากเส้นที่ต้องการกดรอย ๓-๔ ซม. เพื่อ ไม่ให้เสียเวลาในการถอดเข็มหมุดออก และควรกลัดให้มี ระยะห่างเท่า ๆ กัน ขั้นตอนการสร้างแบบเสื้อคลุม ๑. การสร้างแบบความกว้างและความยาวเสื้อ ● ก�าหนดจุด ๑ จากริมกระดาษด้านบนวัด ลงมา ๕ เซนติเมตร และจากริมกระดาษ ด้านซ้ายวัดเข้ามา ๑๒ เซนติเมตร ● ระยะจุด ๑ - ๒ = ของรอบอกบวก ๑๐ เซนติเมตร ● ระยะจุด ๑ - ๓ และจุด ๒ - ๔ = ความยาว เสื้อ ● ระยะจุด ๓ - ๔ และจุด ๑ - ๒ = ความกว้าง เสื้อ ๒. การหาต�าแหน่งเอว ● ระยะจุด ๑ - ๕ และ ๒ - ๖ = ความยาวของ ไหล่ถึงเอวประมาณ ๓๓-๓๖ เซนติเมตร ● ระยะจุด ๕ - ๖ เป็นแนวเส้นเอว ๓. การสร้างแขนเสื้อ ● ระยะจุด ๒ - ๗ ยาวประมาณ ๒๕-๓๐ เซนติเมตร ● ระยะจุด ๗ - ๘ และ ๒ - ๙ = ๑๐ เซนติเมตร ● จากจุด ๗ วัดออกมาประมาณ ๒ เซนติเมตร ขีดเส้นโค้งใต้วงแขน ๑ ๔ ๔. การสร้างคอเสื้อ ● ระยะจุด ๑ - ๑๐ = ๓ เซนติเมตร ● ระยะจุด ๑ - ๑๑ ยาวประมาณ ๘-๑๐ เซนติเมตร ● จุด ๑๐ - ๑๑ ลากเส้นโค้งเป็นเส้นคอหลัง ๕. การสร้างแผ่นหน้า ● ระยะจุด ๕ - ๑๒ และ ๓ - ๑๓ = ๑๐ เซนติเมตร ● จากจุด ๑๑ - ๑๒ - ๑๓ ลากเส้นป้ายแผ่นหน้า ● จากจุด ๑๒ วัดเข้ามาประมาณ ๒ เซนติเมตร ลากเส้นโค้งตามแบบ ๖. การสร้างเผื่อพับ ● จากจุด ๘ - ๙ วัดออกไปยาว ๓ เซนติเมตร ลากเส้นปลายแขนเผื่อพับ ● จากจุด ๔ - ๑๓ วัดออกไปยาว ๓ เซนติเมตร ลากเส้นชายเสื้อเผื่อพับ ๗. การสร้างสาบเสื้อ ● ระยะจากจุด ๑๐ - ๑๑ - ๑๒ - ๑๓ เป็นเส้นระยะ คอหลังผ่านคอหน้าจดชายเสื้อ เท่ากับ ความยาวสาบเสื้อ ● ระยะความกว้างสาบเสื้อ = ๘ เซนติเมตร ๘. การสร้างสายผูกเอว ● ระยะความยาวสายผูกเอว = รอบเอวบวก ๒๐-๒๕ เซนติเมตร ● ระยะความกว้าง = ๘ เซนติเมตร 55 เสนตะเข็บขาง 1 เกร็ดแนะครู ครูอาจนําตัวอยางการเขียนแบบเสื้อหลายๆ แบบมาใหนักเรียนดู และอธิบาย เพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการสรางแบบเสื้อใหนักเรียนฟง เชน การกําหนดจุด ระยะจุดในแตละสวน เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจที่เพิ่มมากขึ้น โดยครูสามารถสาธิตวิธีการสรางแบบเสื้อใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง แลวอาจให นักเรียนแบงกลุมรวมกันทดลองสรางแบบเสื้อ นักเรียนควรรู 1 ตะเข็บ ปญหาตะเข็บรุยพบไดทั้งชุดเกาและชุดใหม ซึ่งอาจเกิดจากคุณภาพ ของการตัดเย็บที่ไมดีมากพอ หากพบวาตะเข็บเกิดการหลุดรุย สามารถแกไข ไดดวยวิธีการเย็บดวยมือ หรือการเย็บดวยจักร โดยสามารถศึกษาตัวอยางไดที่ https://www.youtube.com/watch?v=4IawLRFbCto กิจกรรม ทาทาย ใหนักเรียนสืบคนวิธีการสรางแบบเสื้อคลุมจากสื่อการเรียนรู ที่หลากหลาย จากนั้นเลือกแบบเสื้อคลุมตามความสนใจ 1 แบบ ฝกปฏิบัติการทดลองสรางแบบเสื้อตามที่ไดเลือกมา จากนั้น ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน ใหนักเรียนสรางแบบเสื้อตามความสนใจ 1 แบบ โดยจะตอง สรางแบบใหครบองคประกอบ เชน ความกวาง ความยาว แขนเสื้อ คอเสื้อ สาบเสื้อ โดยระบุจุด หรือระยะจุดในการหาตําแหนงให ชัดเจน จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน กิจกรรม สรางเสริม ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 45. ครูแจกอุปกรณในการตัดเย็บเสื้อผาและ ของใชภายในบานใหกับนักเรียน เมื่อนักเรียน ไดรับอุปกรณในการตกแตงเสื้อผาครบแลว ครูทําการสาธิตวิธี หรือขั้นตอนในการตัดเย็บ เสื้อผาและของใชภายในบานใหนักเรียนดู อยางละเอียด โดยครูกําหนดใหนักเรียน แตละกลุมออกแบบผลงานไดดวยตนเองจาก อุปกรณที่มีอยางสรางสรรค 46. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการสราง แบบและแยกแบบใหนักเรียนฟงวา “ในการ สรางแบบสามารถทําไดโดยนําขนาดของ สัดสวนที่วัดมาไดสรางขึ้นเปนแบบตัดพื้นฐาน กอนที่จะแยกแบบ เพื่อใหไดแบบตัดตาม แบบเสื้อที่ตองการ การสรางแบบมีทั้งการสราง ลงบนผืนผาและการสรางลงบนกระดาษแลว จึงนําแบบตัดที่ถูกสรางจากกระดาษไปวาง ลงบนผา หลังจากไดตรวจสอบความถูกตอง เรียบรอยแลว สําหรับผูที่กําลังฝกตัดเย็บ เสื้อผา ควรสรางแบบตัดบนกระดาษและ ควรตรวจสอบความถูกตองของแบบตัดให เรียบรอยกอนนําไปวางลงบนผา เพื่อปองกัน การผิดพลาด และควรเขียนเครื่องหมายที่ จําเปนตางๆ พรอมทั้งรายละเอียดที่จําเปน ในการตัดลงบนแบบตัดดวย” 47. ครูอธิบายเพื่อเปนการสรุปความรูใหนักเรียน เขาใจวา “การสรางแบบเสื้อคลุมอาบนํ้า จะ ตองสรางแบบความกวางและความยาวเสื้อ หาตําแหนงของเอว สรางแขนเสื้อ สรางคอเสื้อ สรางแผนหนา สรางเผื่อพับ สรางสาบเสื้อ และ สรางสายผูกเอว โดยทั้งหมดนี้จะตองมีการ กําหนดจุดตางๆ เพื่อใหไดตําแหนงในการ ตัดเย็บที่ถูกตอง” นํา สอน สรุป ประเมิน T61
ขอสอบเนนการคิด ๑ ขั้นตอนการลอกแบบเสื้อคลุม ๑. การลอกแบบแผ่นหลัง ● กดรอยเส้นด้วยลูกกลิ้งตามแบบ ● เขียนเครื่องหมายบนแบบตัด หมายถึง แนวเส้นด้ายในผืนผ้า ● เขียนเครื่องหมายบนแบบตัด ✕ หมายถึง สันทบ ● เขียนก�ากับแผ่นหลัง และตัด ๑ ชิ้น บนแบบตัด ๒. การลอกแบบแผ่นหน้า ● กดรอยเส้นด้วยลูกกลิ้งตามแบบ ● เขียนเครื่องหมายบนแบบตัด หมายถึง แนวเส้นด้ายในผืนผ้า ● เขียนก�ากับแผ่นหน้า และตัด ๒ ชิ้น บนแบบตัด ● แบบสาบและสายผูกเอวตัดเท่าแบบ ผ้าสาบ แผ่นหลัง ตัด ๑ ชิ้น ๗ ๓ ๕ สายผูกเอว ขั้นตอนการวางแบบตัดบนผ้าและการเผื่อตะเข็บ ๑. วางแบบตัดเอาด้านที่มีลายชัดเจนออกด้านนอก ๒. แผ่นหลัง วางแบบตัดตามยาว หรือตามแนว ริมผ้า วางผ้าทบกัน เอาด้านที่มีลวดลายชัดเจน ออกด้านนอก เผื่อตะเข็บ ๑ เซนติเมตร หรือเท่ากับ ซีกตีนฝีจักรเย็บผ้าทั้ง ๓ ด้าน คือ ชายแขนเสื้อ และตะเข็บข้าง ส่วนกลางตัวแผ่นหลังวางผ้า สันทบ ตัดผ้า ๑ ชิ้น ๓. แผ่นหน้า วางผ้าทบกัน เอาด้านที่มีลวดลาย ชัดเจนออกด้านนอก เผื่อตะเข็บ ๑ เซนติเมตร โดยรอบ ตัด ๒ ชิ้นซ้อนกัน ๔. สาบเสื้อ วางผ้าทบกัน ๒ ชั้น เผื่อตะเข็บ ๑ เซนติเมตรโดยรอบ จะใช้ผ้าเฉลียง ผ้าตามขวาง หรือผ้าตามยาวก็ได้ ๕. สายผูกเอว วางผ้าทบกัน ๒ ชั้น เผื่อตะเข็บ ๑ เซนติเมตรโดยรอบ จะใช้ผ้าเฉลียง ผ้าตามขวาง หรือผ้าตามยาวก็ได้ 5๖ กดรอยเส้นด้วยลูกกลิ้งตามแบบ 1 นักเรียนควรรู 1 ลูกกลิ้ง ใชสําหรับกลิ้งรอยบนผา หรืองานตัดเย็บ มีหัวกลิ้งหลายแบบ เชน • หัวแบบเรียบ ใชกลิ้งรอยผาใหเปนเสน • หัวฟนแหลม ใชกลิ้งผาเนื้อบางกวาปกติ • หัวดอกไม ใชกลิ้งผาที่มีเนื้อบางๆ ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 48. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลอกแบบให นักเรียนฟงวา “การลอกแบบเสื้อคลุมอาบนํ้า จะตองลอกแบบแผนหลังและลอกแบบ แผนหนาโดยการลอกแบบทั้ง 2 แบบนี้ จะ ตองกดรอยเสนดวยลูกกลิ้งตามแบบ และ เขียนเครื่องหมายบนแบบตัด” โดยครูอธิบาย พรอมกับสาธิตการลอกแบบเสื้อคลุมอาบนํ้า ใหนักเรียนดูอีกครั้ง จากนั้นครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาสาธิตการลอกแบบคลุมเสื้อ อาบนํ้าใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน เมื่อนักเรียน ปฏิบัติการลอกแบบเสร็จสิ้น ครูจะทําหนาที่ ในการตรวจสอบความถูกตองของชิ้นงาน หากพบวานักเรียนยังปฏิบัติไมถูกตอง ครู ควรแนะนําการปฏิบัติที่ถูกตองใหกับนักเรียน 49. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลอกแบบให นักเรียนฟงวา “การวางแบบตัดจะตองปฏิบัติ ดังนี้ • วางแบบตัดเอาดานที่มีลายชัดเจนออก ดานนอก • แผนหลัง วางแบบตัดตามยาว หรือแนวริมผา วางผาทบกัน เอาดานที่มีลวดลายชัดเจน ออกดานนอก เผื่อตะเข็บ 1 เซนติเมตร หรือเทากับซีกตีนผีจักรเย็บผาทั้ง 3 ดาน • แผนหนา วางผาทบกัน โดยเอาดานที่มี ลวดลายชัดเจนออกดานนอก เผื่อตะเข็บ 1 เซนติเมตร โดยรอบ ตัด 2 ชิ้น ซอนกัน • สาบเสื้อ วางผาทบกัน 2 ชั้น เผื่อตะเข็บ 1 เซนติเมตรโดยรอบ จะใชผาเฉลียง ผาตาม ขวาง หรือผาตามยาวก็ได • สายผูกเอว วางผาทบกัน 2 ชั้น เผื่อตะเข็บ 1 เซนติเมตรโดยรอบ จะใชผาเฉลียง ผาตาม ขวาง หรือผาตามยาวก็ได” ขอใดคือขั้นตอนการลอกแบบเสื้อคลุม 1. เนาผาใหติดกันเปนตัวเสื้อ 2. กดรอยเสนดวยลูกกลิ้งตามแบบ 3. วางผาทบกัน 2 ชั้น เพื่อทําสาบเสื้อ 4. นําผาชิ้นหนาและผาชิ้นหลังวางปะกบกัน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการลอกแบบเสื้อคลุม เปน การลอกแบบแผนหนาและแผนหลังของตัวเสื้อ โดยใชลูกกลิ้ง กดรอยเสนตามแบบที่เขียนไวในขั้นตอนการสรางแบบเสื้อคลุม) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการลอกแบบเสื้อใหนักเรียนฟงวา การปฏิบัติ ตามขั้นตอนการลอกแบบเสื้อคลุมนั้น นักเรียนควรลงมือปฏิบัติดวยความตั้งใจ มีความละเอียด รอบคอบ เนื่องจากจะตองนําแบบมาลอกลงบนผา และใชลูกกลิ้ง กดรอยเสน ซึ่งขั้นตอนนี้ควรกดลูกกลิ้งใหแนน เพราะหากกดไมแนนจะทําใหผา และกระดาษที่เปนแบบเลื่อนออกจากกัน สงผลใหเกิดรอยเสนที่ผิดเพี้ยนไปได นํา สอน สรุป ประเมิน T62
๑ ๒ ๕ ๓ ๔ ๖ การเลือกใชเสื้อผาและเครื่องแตงกาย ตองรูจักอําพรางสวนที่บกพรองและเนนจุดเดน รวมถึงสวมใสเสื้อผาที่มีความประณีต สะอาด เรียบรอย เหมาะสมกับรูปราง โอกาส และกาลเทศะ มีการดูแลรักษาอยางถูกวิธี รูจักซอมแซมสวนที่ชํารุด เพื่อชวยใหเสื้อผาอยูในสภาพดี สามารถ ใชงานไดตามปกติ รวมทั้งตกแตงและดัดแปลงเสื้อผา เพื่อใหดูสวยงามและมีความทันสมัย การตัดเย็บ เสื้อผาและของใชในบานเปนงานที่ตองใชความประณีต ละเอียดออน ดังนั้น จึงควรศึกษาเกี่ยวกับ อุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช และวิธีการปฏิบัติงานตามขั้นตอนที่ถูกตอง ผลงานที่ไดจึงจะมีความ สวยงามและมีคุณภาพ ซึ่งสามารถนําความรูไปปรับใชในชีวิตประจําวันได สรุป ขั้นตอนการเย็บตัวเสื้อ ๑. นําผาชิ้นหนาและผาชิ้นหลังวางประกบกัน โดยนําผาดานที่มีลายชัดเจนไวดานใน เนาตะเข็บไหลและเย็บ ตะเข็บกวาง ๑ เซนติเมตร หรือเทากับซีกตีนผีทางขวามือ ตัดแตงตะเข็บไหลซึ่งเย็บแลว และกันรุยริมผา เนาปลายแขนเสื้อทั้ง ๒ ขาง และเย็บตามรอยเนา ๒. เนาผาใหผาติดกันเปนตัวเสื้อและเย็บตามรอยเนา ๓. กลับผาดานที่ลายไมชัดเจนไวดานใน เนาตามแนวรอยเย็บ ๔. สอยพับริม หรือเย็บตามแนวเนา ๕. พับชายเสื้อและเย็บ จากนั้นจึงคอยเย็บสายผูกเอว โดยการพับทบผาและเย็บ ๖. เสื้อที่เย็บเรียบรอยแลว เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ๕๗ ตะเข็บกวาง ๑ เซนติเมตร หรือเทากับซีกตีนผีทางขวามือ ตัดแตงตะเข็บไหลซึ่งเย็บแลว และกันรุยริมผา 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขั้นแสวงหาความรู 50. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเย็บตัวเสื้อให นักเรียนฟงวา “การเย็บตัวเสื้อจะตองปฏิบัติ ดังนี้ • นําผาชิ้นหนาและผาชิ้นหลังมาวางประกบ กัน โดยวางริมผาใหเทากัน • เนาตะเข็บไหล และเย็บตะเข็บกวาง ประมาณ 1 เซนติเมตร หรือเทากับซีกตีนผี จักรเย็บทางขวามือ • ตัดแตงตะเข็บไหล ซึ่งเย็บเสร็จเรียบรอย แลวและกันรุยริมผาใหเรียบรอย • เนาปลายแขนเสื้อทั้ง 2 ขาง จากนั้นใหเย็บ ตามรอยเนา • เนาผาติดกับตัวเสื้อและเย็บ • พับผาเขาดานใน เนาตามรอยเย็บ • สอยริมผา หรือเย็บตามแนวเนา • พับชายเสื้อและเย็บ จากนั้นจึงเย็บสาย ผูกเอว โดยการพับทบผาและเย็บ • ตรวจสอบความเรียบรอยและนําไปใชได ในชีวิตประจําวัน” 51. ครูตรวจสอบความถูกตองและลักษณะการ ตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบานของ นักเรียนแตละกลุม หากพบวานักเรียนกลุมใด ยังปฏิบัติไมถูกตอง ครูควรแนะนําหรืออธิบาย เพิ่มเติมใหนักเรียนกลุมดังกลาวมีความเขาใจ ที่ชัดเจน 52. ครูใหนักเรียนนําความรูที่ไดรับจากการศึกษา และฝกปฏิบัติการซอมแซม ดัดแปลง ตกแตง ตัดเย็บเสื้อผาและของใชภายในบาน มาเปน แนวทางในการปฏิบัติโครงงานตามหัวขอ ที่ไดรับมอบหมาย เกร็ดแนะครู ครูควรแนะนํานักเรียนวา ในขณะปฏิบัติการตัดเย็บตัวเสื้อไมวาจะดวย วิธีการเย็บดวยมือ หรือการเย็บดวยจักรเย็บผา ควรระมัดระวังในการใชอุปกรณ เครื่องมือในการเย็บดวย เนื่องจากอุปกรณ เครื่องมือบางชนิดมีความแหลมคม บางชนิดเปนอุปกรณไฟฟา ดังนั้น จึงควรปฏิบัติงานดวยความระมัดระวัง เพื่อ ใหเกิดความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน นักเรียนควรรู 1 ตีนผี มีหลายแบบและมีคุณสมบัติที่แตกตางกัน เชน ตีนผีเหล็ก ใชเย็บ ตะเข็บทั่วไป เย็บไดทั้งผาหนาและผาบาง ตีนผีมวนกลม ใชเย็บกันรุยริมผา โดยตีนผีจะมวนเก็บริมผาใหเรียบรอย สวยงาม เหมาะสําหรับเย็บริมผาพันคอ ระบายตกแตงเสื้อ ระบายหมอน และระบายผามาน กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทา ๆ กัน รวมกันออกแบบเสื้อคลุม ตามความสนใจ 1 ตัว ที่นอกเหนือจากตัวอยางในหนังสือเรียน โดยสามารถสืบคนขอมูลไดจากแหลงการเรียนรูที่หลากหลาย 2. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสรางแบบและลอกแบบเสื้อคลุม ตามที่กลุมของตนเองไดเลือกไว จากนั้นรวมกันตัดเย็บเสื้อคลุม (อาจใชวิธีการเย็บดวยมือ หรือวิธีการเย็บดวยจักรเย็บผาก็ได) 3. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประเมินผลการปฏิบัติงานกลุมของ ตนเอง หากพบปญหา หรืออุปสรรคในการทํางาน ใหจดบันทึก ไว เพื่อหาแนวทางการแกไข 4. ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1-2 คน ออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน นํา สอน สรุป ประเมิน T63
สรé างสรร¤ì ¾ั²¹าการเรÕ¹รéÙกÔ¨กรรม ค�าชี้แจง : ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นรายบุคคล โดยการเขียน ตอบตามที่ก�าหนด เรื่อง การเลือกãª้เสื้อผ้า และเ¤รื่องแต่งกา ใบมอบหมายงานที่ 3.๑ ๑. ในการแต่งกายของตนเองให้ดูสวยงามและเหมาะสมกับบุคลิกภาพ ควรยึดหลักการแต่งกายอย่างไร ๒. ควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่กับบ้านในลักษณะใด เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายในการท�ากิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้าน ๓. เสื้อผ้าที่สวมใส่ไปท�างาน หรือไปท�ากิจธุระ ควรเลือกที่มีรูปแบบอย่างไร เพราะเหตุใด ๔. เสื้อผ้าที่สวมใส่ไปงานเลี้ยงต่าง ๆ ควรเลือกที่มีรูปแบบอย่างไรจึงจะมีความเหมาะสม ๕. ถ้ามีน้องวัย ๑๒ ขวบ นักเรียนควรเลือกเสื้อผ้าสีใดให้สวมใส่จึงจะเหมาะสม ๖. การเลือกซื้อชุดชั้นในควรค�านึงถึงสิ่งใดเป็นหลัก ๗. การเลือกซื้อเครื่องแต่งกายประเภทกระเป๋า ควรพิจารณาเลือกให้เหมาะสมอย่างไร ๘. การเลือกซื้อถุงเท้าและรองเท้า ควรพิจารณาจากสิ่งใดเป็นหลัก ๙. การซ่อมแซมเสื้อผ้า เช่น การซ่อมแซมซิป การซ่อมแซมเน�้อผ้าที่ขาด การซ่อมแซมตะเข็บ การเย็บ ตะขอ การเย็บกระดุม การปะ ควรใช้หลักเกณฑ์ใดในการซ่อมแซมเสื้อผ้าดังกล่าว ๑๐. การตกแต่งเสื้อผ้ามีหลายรูปแบบ ถ้าต้องการตกแต่งเสื้อยืดตัวเก่าให้เป็นเสื้อยืดตัวใหม่จะเลือกใช้วิธีใด เพราะเหตุใด 5๘ ๘. การเลือกซื้อถุงเท้าและรองเท้า ควรพิจารณาจากสิ่งใดเป็นหลัก 1 2 ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 สรุปสิ่งที่ไดเรียนรู 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การ ซอมแซม ตกแตง ดัดแปลง ตัดเย็บเสื้อผา และของใชภายในบาน 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การซอมแซม ตกแตง และ ดัดแปลงเสื้อผา 3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวย การเรียนรูที่ 3 4. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน จากการนําเสนอผลการปฏิบัติงานและการสรุป ความรู ขั้นที่ 6 นําเสนอผลงาน 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอ ผลงานตามหัวขอโครงการที่ไดรับมอบหมาย 6. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนแตละกลุมรวมกัน ซักถามในประเด็นที่สงสัยในแตละโครงการ นักเรียนควรรู 1 ถุงเทา ควรเลือกสวมใสถุงเทาที่ผลิตจากเสนใยธรรมชาติ 100% เชน ผาฝาย หรือผาคอตตอน ไมควรใชถุงเทาที่ผลิตจากไนลอน หรือเสนใยพอลิเอสเตอร เนื่องจากไมซับเหงื่อและระบายอากาศไดไมดีเทาที่ควร นอกจากนี้ ควรซัก ทําความสะอาดถุงเทาทุกวัน ไมควรปลอยทิ้งไว และหมั่นแชถุงเทาในนํ้ายา ฆาเชื้อโรคอยางนอย 1 ครั้ง ตอ 2 สัปดาห 2 รองเทา ควรเลือกสวมใสรองเทาที่มีความแข็งแรง ทนทาน นํ้าหนักเบา ระบายอากาศไดดี ไมควรสวมรองเทาคูเดิมทุกวัน เพราะหากสวมคูเดิมทุกวัน โดยไมมีการนําออกมาผึ่งใหแหง เพื่อระบายความอับชื้น อาจทําใหเกิดเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียที่สงผลทําใหเกิดกลิ่นเทาไดงาย ควรซักและทําความสะอาด รองเทาอยางนอยเดือนละ 1 ครั้ง และควรนําไปผึ่งแดดจนแหงสนิทกอนนํามา ใชงาน กิจกรรม Mini Project 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทา ๆ กัน โดยใหสมาชิกภายในกลุม แตละคนสํารวจและคัดเลือกเสื้อผาที่ชํารุด หรือเสื้อผาที่ตนเอง ไมไดสวมใสมาใหสมาชิกในกลุมรวมกันคัดเลือก เพื่อนํามา ดัดแปลงเสื้อผา 2. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันคิดและออกแบบเสื้อผาใหม โดยนํา เสื้อผาตัวเกามาดัดแปลง จากนั้นรวมกันสรางแบบ คัดลอกแบบ และลงมือตัดเย็บเสื้อผา 3. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประเมินผลการปฏิบัติงานกลุมของ ตนเอง หากพบปญหา หรืออุปสรรคในการทํางาน ใหจดบันทึกไว เพื่อหาแนวทางการแกไข 4. ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1-2 คน ออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน นํา สอน สรุป ประเมิน T64
ขอสอบเนน การคิด แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน ล าดับที่ ชื่อ-สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ค�าชี้แจง : ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นกลุ่ม โดยปฏิบัติงานตาม ที่ก�าหนดให้ เรื่อง การซ่อมแซม ตกแต่ง และดัดแปลงเสื้อผ้า ใบมอบหมายงานที่ 3.2 ๑. ส�ารวจเสื้อผ้าของตนเองที่ช�ารุด หรือเสื้อผ้าที่ต้องการตกแต่ง หรือดัดแปลงให้สวยงามอย่างใดอย่างหนึ่ง เพียง ๑ ชิ้น ๒. น�าเสื้อผ้าที่ได้มาคัดเลือกในกลุ่มเพื่อท�าการซ่อมแซม หรือตกแต่ง หรือดัดแปลงเสื้อผ้าที่เลือกไว้ ๓. แสวงหาความรู้เพื่อการท�างานจากสื่อที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน นิตยสาร ปรึกษาผู้รู้ ผู้ช�านาญการ ในท้องถิ่น ครูผู้สอน ๔. วางแผนการท�างานในรูปแบบโครงงานและน�าส่งเอกสารพร้อมผลงาน โดยมีรายละเอียด ดังนี้ • ชื่อกลุ่ม • รายชื่อหัวหน้ากลุ่มและสมาชิกในกลุ่ม • การแบ่งหน้าที่การท�างานภายในกลุ่ม • รูปแบบงานที่ท�า • หลักการและเหตุผลที่ท�างาน • วัตถุประสงค์ • ระยะเวลาในการท�างาน • งบประมาณที่ใช้ • บัญชีรายรับ-รายจ่าย • วิธีการด�าเนินงาน • บันทึกผลการปฏิบัติงาน • ปัญหา หรืออุปสรรคในการท�างาน • วิธีแก้ไขปัญหา • ผลการปฏิบัติงาน • ความภาคภูมิใจในการท�างาน เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย 59 แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การซอมแซม ตกแตง และดัดแปลง เสื้อผา 3. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางาน กลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกต คุณลักษณะอันพึงประสงค หากพบวาเสื้อผาที่นักเรียนสวมใสมีสภาพชํารุด หรือไมได สวมใสแลว นักเรียนสามารถนํามาทําสิ่งใด เพื่อใหเกิดความคุมคา มากที่สุด 1. นําไปทําเปนพรมเช็ดเทา 2. ดัดแปลงใหเปนเสื้อผาตัวใหม 3. จําหนายเปนเสื้อผามือสองในตลาด 4. ตัดใหเปนเศษผาชิ้นเล็กๆ แลวนําไปรองวัสดุประเภทแกว (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะเปนการสรางสรรคเสื้อผาตัวเกา ใหเปนเสื้อผาตัวใหมที่มีความสวยงาม แปลกใหม ไมเหมือนใคร ซึ่งเกิดจากความคิดสรางสรรคของผูประดิษฐ ทําใหไมตองซื้อ เสื้อผาใหม จึงเกิดความคุมคามากที่สุด) นํา สอน สรุป ประเมิน T65
Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ความส�ำคัญ และประเภทของ งานประดิษฐ์ เอกลักษณ์ไทย 1 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - PowerPoint 1. อธิบายความหมายและ คุณค่าของงานประดิษฐ์ ที่เป็นเอกลักษณ์ไทยได้ 2. เห็นคุณค่าของงาน ประดิษฐ์ที่เป็น เอกลักษณ์ไทย 3. ออกแบบงานประดิษฐ์ ที่เป็นเอกลักษณ์ไทยได้ แบบกระบวน การเรียน ความรู้ ความเข้าใจ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 4.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T66
แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 2 งานประดิษฐ์ เอกลักษณ์ไทย 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 1. เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือ เครื่องใช้ ในงานประดิษฐ์ที่เป็น เอกลักษณ์ไทย ได้เหมาะสมกับ ประเภทของงาน 2. ออกแบบและประดิษฐ์ ชิ้นงานที่เป็น เอกลักษณ์ไทย ได้อย่างสวยงาม แบบใช้ โครงการ เป็นหลัก (ProjectBased Instruction) - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจโครงงาน - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T67
งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ ไทย สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ความคิดสร้างสรรค์มี ๔ ลักษณะ ประกอบด้วยความคิดริเริ่ม ความคล่องในการคิด ความยืดหยุ่น ในการคิด และความคิดละเอียดลออ ■ ทักษะการท�างานร่วมกัน เป็นการท�างานกลุ่ม ท�างานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ท�างาน อย่างมีกระบวนการตามขั้นตอน และฝึกหลักการท�างานกลุ่ม เช่น การประดิษฐ์ของใช้ที่เป็น เอกลักษณ์ไทย ■ ทักษะการจัดการ เป็นการจัดระบบงานและระบบคน เพื่อให้การท�างานส�าเร็จตามเป้าหมาย อย่างมีประสิทธิภาพ ■ ทักษะกระบวนการการแก้ปัญหาในการท�างาน มีขั้นตอน คือการสังเกต วิเคราะห์สร้างทางเลือก และประเมินทางเลือก ■ ทักษะการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ารงชีวิต ประกอบด้วยการศึกษาค้นคว้า รวบรวม สังเกต ส�ารวจ และบันทึก ■ การใช้พลังงาน ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน เป็นคุณธรรมในการท�างาน ตัวชี้วัด ■ สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะการท�างานร่วมกัน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๒) ■ มีทักษะการจัดการในการท�างาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๓) ■ มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�างาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๔) ■ มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ารงชีวิต (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๕) ■ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�างาน (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๖) ■ ใช้พลังงาน ทรัพยากรในการท�างานอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ง ๑.๑ ม.๔-๖/๗) ๑ ความส�าคัญของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย เป็นผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันซึ่งมีความงามและมีคุณค่า ทางศิลปะควรค่าแก่การอนุรักษ์ ไว้เพื่อไม่ ให้สูญหาย หน่วยการเรียนรู้ที่๔ ถ้าต้องการประดิษฐ์ของใช้ที่ เป็นเอกลักษณ์ไทย เพื่อนÓไป เป็นของขวัญผู้ใหญ่ ควรเลือก ประดิษฐ์งานประเภทใด เพราะ เหตุใด 60 ขั้นนํา (เนนกระบวนการเรียนความรู ความเขาใจ) 1. ครูแจงชื่อเรื่องที่จะเรียนรูและผลการเรียนรูให นักเรียนทราบ จากนั้นใหนักเรียนแตละคนทํา แบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 เรื่อง งานประดิษฐเอกลักษณไทย 2. ครูเปดคลิปวิดีโอการทํางานประดิษฐที่เปน เอกลักษณไทยในลักษณะตางๆ ใหนักเรียนดู 3. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนรูจักและเคยเห็นงานประดิษฐที่เปน เอกลักษณไทยประเภทใดจากการชมคลิป วิดีโอ (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน งานแกะสลักผักและผลไม งานแกะสลักไม งานดอกไมสด งานใบตอง งานปนดิน งานจักสาน) • จากคลิปวิดีโอ นักเรียนเคยประดิษฐงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยในลักษณะนี้ บางหรือไม ถาเคย นักเรียนประดิษฐงาน ประเภทใด และรูสึกอยางไรที่ไดประดิษฐ งานชิ้นนั้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เคยทํางานใบตอง โดยการทํากระทง เพื่อใชในงานประเพณี ลอยกระทง มีความรูสึกภาคภูมิใจที่สามารถ สรางสรรคงานประดิษฐเอกลักษณไทยที่มี ความสวยงาม ประณีต ละเอียดออน เพื่อใช ในงานประเพณีที่สําคัญของไทย เคยทํางาน แกะสลักผักและผลไม เพื่อใชในการตกแตง ภาชนะใสอาหาร เพื่อเลี้ยงตอนรับเพื่อนของ คุณแม ซึ่งเปนชาวตางชาติที่เดินทางมา ทองเที่ยวยังประเทศไทย มีความรูสึกภาคภูมิใจ ที่สามารถสรางสรรคงานประดิษฐเอกลักษณ ไทยที่มีความสวยงาม เพื่อใชในการตกแตง ภาชนะใสอาหารใหนารับประทานยิ่งขึ้น) เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเรื่องความสําคัญและประเภทของ งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยมากขึ้น สามารถเลือกใชเครื่องมือในงานประดิษฐไดอยางถูกตองและปลอดภัย ลงมือปฏิบัติงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย เชน งานแกะสลัก งานดอกไมสด ไดอยางสรางสรรค เพื่อใหเกิดความชํานาญ ใชทรัพยากรอยางคุมคาและยั่งยืน เพื่อเปนการอนุรักษสิ่งแวดลอม นําทักษะ การจัดการมาประยุกตใชในการทํางาน ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางานอยางเปนขั้นตอน รวมถึงทักษะในการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิต ในการคนหาขอมูลที่เปนประโยชน เพื่อใหผลงานสําเร็จตรงตามเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย • ใหนักเรียนปฏิบัติงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย เชน งานแกะสลัก งานดอกไมสด อยางสรางสรรค นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T68
ขอสอบเนน การคิด งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ ไทย เป็นชิ้นงานที่จัดท�า หรือ สร้างขึ้น เพื่อน�ามาใช้ประดับตกแต ่งให้เกิดความสวยงาม งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ ไทยมีอยู่มากมาย เช่น เครื่องประดับ จากเปลือกหอย งานจักสาน แกะสลักผักและผลไม้มาลัย ดอกไม้สด โดยงานประดิษฐ์เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาที่มีคุณค่า ควรแก่การอนุรักษ์ ๑.๑ ความหมายของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย งานประดิษฐ์เป็นงานที่สืบทอดต ่อกันมาตั้งแต ่สมัยโบราณ สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตแบบไทยเป็นงานที่มีความประณีตละเอียดอ่อนมีความงดงามและมีคุณค่า ทางศิลปะ สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์อันดีงามของชาติไทย ส่วนใหญ่จะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิตประจ�าวัน สื่อความหมายถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี งานประดิษฐ์ประเภทนี้เป็นมรดกไทย ที่สืบทอดกันมาแต่ช้านานสามารถฝึกท�าได้ด้วยตนเอง โดยศึกษาขั้นตอนการประดิษฐ์จากหนังสือ นิตยสารคลิปวิดีโอ หรือฝึกจากผู้ที่มีความรู้มีประสบการณ์ ในท้องถิ่นนั้น ๆ เมื่อฝึกฝนจนเกิดความ ช�านาญแล้วสามารถน�าความรู้ ไปประกอบเป็นอาชีพได้ ในอนาคต งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย 61 ๑.๑ ความหมายของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย ประเพณี 1 2 ขั้นนํา • จากคลิปวิดีโอที่ไดชมไปนั้น นักเรียนชื่นชอบ งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยในลักษณะใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ชอบงานดอกไมสด โดยเฉพาะ การรอยมาลัย และการจัดดอกไม เพราะชอบ ดอกไมที่มีสีสันสวยงาม ชอบกลิ่นหอมของ ดอกไม ชอบรอยมาลัย เพื่อนําไปถวายพระ และชอบนําดอกไมมาจัดใสแจกัน เพื่อใช ใน การจัดและตกแตงหองใหมีความสวยงาม ยิ่งขึ้น ชวยเพิ่มบรรยากาศที่ดีภายในบานได) • นักเรียนคิดวา งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทยมีความสําคัญหรือไม อยางไร (แนวตอบ มีความสําคัญ เนื่องจากงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย เปนงานประดิษฐที่ ไดรับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งสะทอน ใหเห็นถึงเอกลักษณอันดีงามของชาติไทย รวมถึงวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปญญา และ วิถีชีวิตของคนไทยที่มีมาตั้งแตอดีต) 4. ครูใหนักเรียนรวมกันยกตัวอยางงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทยที่นักเรียนเคยเห็น โดยมี ครูเปนผูคอยเสนอแนะเพิ่มเติม 5. ครูถามนักเรียนวา • งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยจัดเปน งานที่มีลักษณะอยางไร (แนวตอบ งานประดิษฐเอกลักษณไทยเปน ผลงานที่มีความงามและมีคุณคาทางศิลปะ เปนผลงานที่บรรพบุรุษไดสรางสรรคขึ้น มีการสืบทอดมาจนถึงปจจุบัน ผลงานสวนใหญ จะมีความเกี่ยวของกับชีวิตประจําวัน และ การสื่อความหมายถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมไทย) ขอใดกลาวถึงงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทยไดอยางถูกตอง 1. เปนผลงานที่เลียนแบบมาจากวัฒนธรรมตะวันตก 2. เปนผลงานที่มีขนาดใหญ ไมสามารถเคลื่อนยายได 3. เปนผลงานที่มีมูลคาสูง จึงตองเก็บรักษาไวในพิพิธภัณฑ 4. เปนผลงานที่แสดงออกถึงเอกลักษณทางวัฒนธรรมของชาติ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย เปนผลงานที่มีมาตั้งแตสมัยโบราณ จัดเปนผลงานที่เกิดขึ้นจาก ภูมิปญญาของบรรพบุรุษที่ไดสรางสรรคชิ้นงานดวยความประณีต วิจิตรบรรจง แสดงใหเห็นถึงเอกลักษณทางวัฒนธรรมของชาติ ที่มีความสวยงาม และไดมีการสืบทอดมาจนถึงปจจุบัน) นักเรียนควรรู 1 งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย เปนการนําวัสดุตางๆ เชน ผัก ผลไม ใบไม ดอกไม ตนไม ดินเหนียว มาประดิษฐเปนผลงานในลักษณะตางๆ เพื่อ ประโยชนในการใชสอย เชน เปนของเลน ของใช ของตกแตง เพื่อความ สวยงาม จัดเปนผลงานที่ไดรับการถายทอดมาจากบรรพบุรุษทั้งในครอบครัว และในทองถิ่น หรือจัดทําขึ้นเพื่อใชในงานประเพณี หรือเทศกาลสําคัญตางๆ ที่แสดงใหเห็นถึงความโดดเดน เปนเอกลักษณประจําชาติ เชน มาลัย บายศรี งานแกะสลัก งานใบตอง ซึ่งผลงานเหลานี้จะถูกสรางขึ้นอยางประณีต งดงาม 2 ประเพณี ในงานประเพณีสําคัญของไทย ไดมีการนํางานประดิษฐที่เปน เอกลักษณไทยมาใชหลากหลายรูปแบบ เชน ประเพณีลอยกระทง นิยมนํา ใบตองมาทําเปนกระทงใชลอย เพื่อเปนการสะเดาะเคราะหและขอขมาตอ พระแมคงคา นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T69
ขอสอบเนนการคิด ๑.๒ ประโยชน์ของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย นอกจากจะมีความงดงาม แสดงให้เห็นถึงความประณีต ละเอียดอ่อนในการท�างานประดิษฐ์แล้ว ยังสามารถน�ามาใช้งานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งประโยชน์ ของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย มีดังนี้ 1 น�าไปใช้ประโยชน์ในชีวิต ประจ�าวันและช่วยอ�านวย ความสะดวกในการท�างาน ๒ ส่งเสริมให้เกิดความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์เพื่อเป็นการพัฒนา ทางด้านสติปัญญา ๓ ฝึกนิสัยให้มีความอดทนขยัน หมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ พิถีพิถัน และมีความละเอียด รอบคอบในการท�างาน 6 ช่วยเพิ่มคุณค่าของวัสดุและ ช่วยให้ตนเองและครอบครัว มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น ๔ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย โดยน�า สิ่งของที่มีอยู่ สิ่งของเหลือใช้ มาใช้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ๗ น�าไปใช้เป็นของขวัญ หรือ ของก�านัลเพื่อมอบให้แก่ผู้อื่น ในโอกาสส�าคัญต่าง ๆ ๕ ช ่วยให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน เป็นการใช้เวลา ว่างให้เกิดประโยชน์ ๘ ช่วยอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่มี คุณค่าของไทย ไม่ ให้สูญหาย ไปตามกาลเวลา งานแกะสลักผักและผลไม้สามารถน�ามาใช้ ในการตกแต่งอาหารให้มีความสวยงาม และน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น 6๒ และมีความละเอียด ช่วยเพิ่มคุณค่าของวัสดุและ รอบคอบในการท� 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยมีประโยชน อยางไร (แนวตอบ มีประโยชนหลายประการ เชน ชวยใหเกิดความเพลิดเพลิน เปนการใช เวลาวางใหเกิดประโยชน ชวยเพิ่มคุณคา ของวัสดุที่นํามาใช นําไปใชเปนของขวัญ เพื่อมอบใหแกผูอื่นในโอกาสสําคัญตางๆ ชวยประหยัดคาใชจาย โดยนําสิ่งของที่มีอยู มาใชใหเกิดประโยชนอยางสูงสุดและคุมคา สงเสริมความคิดริเริ่มสรางสรรค ชวยอนุรักษ ศิลปวัฒนธรรมของไทยไมใหสูญหาย) • นักเรียนเคยนําผลงานประดิษฐที่เปน เอกลักษณไทยประเภทใดไปใชในชีวิต ประจําวัน ใชในโอกาสใด และนําไปใช อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน นํางานดอกไมสด คือ พวงมาลัย มาไหวคุณพอและคุณแม เพื่อขอพรในชวงเทศกาลปใหมไทยหรือ วันสงกรานต) 2. ครูใหนักเรียนดูงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทยในลักษณะตางๆ ที่ครูนํามา เชน ผักและ ผลไมแกะสลัก พวงมาลัยดอกไมสด กระทง ใบตองสําหรับใสอาหารหรือขนม จากนั้นให นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็น ที่ครูกําหนดให ดังนี้ • งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยดังกลาว มีประโยชนตอชีวิตประจําวันอยางไร • หากตองการแบงประเภทของงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย สามารถแบงออกไดเปน กี่ประเภท ประกอบไปดวยสิ่งใดบาง ในการประดิษฐชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทย ควรคํานึงถึงสิ่งใด เปนสําคัญ 1. ชิ้นงานนั้นทําไดหรือไม 2. ชิ้นงานนั้นจําหนายไดหรือไม 3. ชิ้นงานนั้นใชประโยชนไดหรือไม 4. ชิ้นงานนั้นหาเศษวัสดุมาประดิษฐไดหรือไม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการประดิษฐชิ้นงานที่เปน เอกลักษณไทย ควรคํานึงถึงประโยชนของการนําไปใชเปนหลัก โดยการนําวัสดุเหลือใชที่มีอยูในบาน ในโรงเรียน หรือในทองถิ่น มาประดิษฐเปนชิ้นงานในลักษณะตางๆ เพื่ออํานวยความสะดวก ในการดําเนินชีวิต เชน นําใบตองมาประดิษฐเปนถาดหรือจาน เพื่อใชบรรจุอาหาร นําใบลานมาสานเปนปลาตะเพียน เพื่อใชเปน ของเลนของเด็กๆ) นักเรียนควรรู 1 ความละเอียดรอบคอบ การฝกปฏิบัติงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย นอกจากจะชวยฝกใหผูประดิษฐมีความอดทนแลว ยังชวยใหเปนคนที่ทํางาน ไดอยางละเอียดรอบคอบ เนื่องจากชิ้นงานหลายประเภท จําเปนตองใชความ ประณีตและความละเอียดออนในการปฏิบัติงาน เพื่อใหไดชิ้นงานที่มีความ สวยงาม เชน การรอยมาลัย การแกะสลักผักและผลไม นอกจากนี้ ยังสามารถ นําประโยชนที่ไดรับจากการประดิษฐชิ้นงานไปประยุกตใชกับการเรียนรูในวิชา อื่นๆ หรือการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจําวันได 2 เพิ่มคุณคาของวัสดุ เปนการนําวัสดุชนิดอื่นๆ มาใชทดแทน เพื่อประดิษฐ ชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทย นิยมนํามาใชเพื่อประดิษฐเปนของที่ระลึก ของฝาก ของกํานัล เชน การประดิษฐมาลัยจากดินญี่ปุน การสานตะกราจากไมไผ นํา สอน สรุป ประเมิน T70
ขอสอบเนน การคิด งานดอกไม้สด มีหลายชนิดและหลายรูปแบบ เช่น การร้อยตาข่าย การร้อยอุบะ การร้อย พวงมาลัย เพื่อน�ามาใช้ประดับตกแต่ง ท�าให้เกิดความสวยงาม ซึ่งสามารถ ศึกษาจากผู้รู้ หรือศึกษาด้วยตนเอง จากหนังสือ นิตยสารต ่าง ๆ และฝึก ประดิษฐ์อย่างสม�่าเสมอเพื่อให้เกิดความ ช�านาญ สามารถน�าไปประกอบอาชีพได้ ในอนาคต งานใบตอง งานประดิษฐ์ที่คนไทยนิยม ประดิษฐ์เพื่อน�ามาใช้ ในการ บรรจุอาหาร ห่อขนม ตลอดจน น�ามาใช้ ในงานพิธีต่าง ๆ เช่น ท�ากระทงในประเพณีลอยกระทง ท�าพานในวันไหว้ครู ท�าบายศรี ในพิธีต่าง ๆ ท�ากระทงสลากภัต ถาดใบตองใส่ขนมถวายพระ ท�าพานขันหมากงานมงคลสมรส งานแกะสลักผักและผลไมั เป็นการแกะลวดลายลงบนผัก หรือ ผลไม้ โดยการใช้มีดแกะ เพื่อให้เกิด ลวดลายขึ้นเช่นดอกไม้ใบไม้แล้วน�า มาตกแต่งในจาน ถาด หรือพานให้ สวยงามเช่นการแกะสลักฟักทองเป็น ภาชนะใส่อาหาร การแกะสลักผักจิ้ม น�้าพริก การแกะสลักหยวกกล้วย หรือ ที่เรียกว่า “การแทงหยวก” งานแกะสลักไม้ การแกะลวดลายลงบนเนื้อไม้ โดยการใช้สิ่ว ค้อน ในการแกะ เช่น การแกะสลักไม้ท�าบานประตู การแกะสลักภาพประดับฝาผนัง แกะสลักเป็น ลวดลายต่าง ๆ เพื่อใช้ประดับตกแต ่งอาคาร บ้านเรือนและสถานที่ต่าง ๆ เป็นงานที่ต้องอาศัย ความช�านาญและประสบการณ์อย่างมาก เพราะ จะช่วยให้ผลงานมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ๒ ประเภทของงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท มีรูปแบบขั้นตอนการท�า การน�า ไปใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกันจึงควรเลือกใช้ ให้เหมาะสมกับลักษณะของงานโดยงานประดิษฐ์ที่เป็น เอกลักษณ์ ไทย สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้ งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย 6๓ ขั้นสอน ขั้นที่ 2 วางแผนปฏิบัติ 3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกัน วางแผนปฏิบัติงาน พรอมทั้งแบงหนาที่ความ รับผิดชอบตามความถนัดและความสามารถ ของแตละบุคคล เพื่อสืบคนขอมูลเกี่ยวกับ ความหมาย ความสําคัญ และประเภทของงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูล เกี่ยวกับความหมาย ความสําคัญ และประเภท ของงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หรือศึกษา เพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 5. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมาย ความสําคัญ และประเภทของงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย จาก PowerPoint ม.5 หนวยการเรียนรูที่ 4 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปราย ความรูตามที่ไดศึกษามา จากนั้นสรุปสาระสําคัญ ในรูปแบบของแผนผังความคิด เพื่อเตรียม นําเสนอหนาชั้นเรียน ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู ความเขาใจ 7. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอแผนผังความคิดเกี่ยวกับ ความหมาย ความสําคัญ และประเภทของ งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน จากนั้นใหเพื่อนรวมชั้นเรียน รวมกันเสนอแนะเพิ่มเติม งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณของไทย มีความสําคัญและมีคุณคา อยางไร (แนวตอบ มีความสําคัญและมีคุณคาหลายประการ เชน สามารถนําไปใชประโยชนและอํานวยความสะดวกในการทํางาน และการดําเนินชีวิตประจําวัน นําไปใชในงานประเพณี เทศกาล สําคัญ พิธีกรรมทางศาสนา หรือนําไปประกอบอาชีพ เพื่อสราง รายไดเลี้ยงตนเองและครอบครัว เปนการอนุรักษภูมิปญญา ของไทยที่เปนมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ สืบสาน และเผยแพร ไวใหคนรุนหลังไดศึกษาเรียนรู) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับศิลปะการแทงหยวกใหนักเรียนฟงวา การแทงหยวก เปนการนําหยวกกลวยมาแทงเปนลวดลายตางๆ เชน ลายกระจัง ฟนปลา ลายนองสิงห ลายหนากระดาน ลายเสา โดยหยวกกลวย ที่นิยมนํามาใชจะเปนหยวกกลวยตานี ศิลปะการแทงหยวกจะถูกนํามาใช ในการประดับตกแตงในงานพิธีกรรมตางๆ ซึ่งผูคนสวนใหญมักเขาใจกันวา จะตองนํามาใชประดับในงานศพเทานั้น แตการแทงหยวกสามารถนํามา ใชประดับตกแตงในงานมงคลตางๆ ได เชน งานบวช งานทอดกฐิน งานขึ้นบานใหม สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับศิลปะการแทงหยวก ไดที่ https://www.stou.ac.th/ study/sumrit/7-58/page2-7-58.html นํา สอน สรุป ประเมิน T71
ขอสอบเนนการคิด T i p งานปั้นดิน งานที่ได้จากการน�าดินเหนียว หรือดินชนิดอื่น ๆ มาปั้น ให้เป็นรูป หรือชิ้นงานตามต้องการ เช่น งานเครื่องปั้น ดินเผา งานปั้นตุ๊กตาชาววัง งานปั้นถ้วยชาม ซึ่งงาน ประดิษฐ์ประเภทนี้ถือเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน ประเภทหนึ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นตามภาคต่าง ๆ เช่น ชุมชน เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี งานจักสาน งานประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ เช่น หวาย ไม้ ไผ่ ใบลาน กก เพื่อประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจ�าวัน เช่น การประดิษฐ์เครื่องใช้ เช่น งอบ กระด้ง กระจาด กระเป๋า การประดิษฐ์เครื่องดักสัตว์ เช่น กระชัง ลอบ ไซ ข้อง การประดิษฐ์เครื่องเล่น เช่น ตะกร้อ ปลาตะเพียน นกตั๊กแตน การปั้นตุ๊กตาชาววัง จัดเป็นผลงานหัตถศิลป์ของไทยประเภทหนึ่งที่มีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยจัดท�าขึ้นเพื่อน�ามาเล่นกันเฉพาะเจ้านายในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาได้มี คุณข้าหลวงน�าออกมาปั้นบริเวณนอกพระบรมมหาราชวัง จึงท�าให้ตุ๊กตาชนิดนี้เริ่มเป็นที่รู้จักของคน อย่างแพร่หลายตุ๊กตาชาววังมีอยู่ ๓ ขนาดคือเล็กกลางและใหญ่แต่ที่นิยมกันมากจะเป็นขนาดเล็ก ซึ่งมี ความสูงประมาณ ๒ เซนติเมตร ปั้นเป็นรูปหญิงชายในวัยต่าง ๆ แสดงอิริยาบถในลักษณะที่แตกต่างกัน ไปตามจินตนาการของผู้ปั้น ช่างปั้นจะปั้นตุ๊กตาจากส่วนขาก่อน จากนั้นจึงต่อขึ้นเป็นล�าตัวและแขน ซึ่งจะใช้ดินก้อนเล็ก ๆ เพียงก้อนเดียว หัวและใบหน้าจะกดจากแม่พิมพ์ จึงท�าให้ ใบหน้าของตุ๊กตาชาววัง มีลักษณะที่เหมือนกันทั้งหมด เมื่อปั้น เสร็จน�าไปผึ่งแดดให้แห้งก ่อนน�าไปเผา เมื่อเย็นแล้วจึงลงสีให้สวยงาม งานปั้นตุ๊กตาชาววัง 6๔ ขั้นสอน ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู ความเขาใจ 8. ครูเนนยํ้าใหนักเรียนเขาใจวา “งานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทยจัดเปนภูมิปญญาของ บรรพบุรุษที่ไดนําสิ่งตางๆ มาสรางสรรคเปน ผลงานที่มีความสวยงาม” ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 สรุป 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง ความหมาย ความสําคัญ และประเภทของ งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง ความสําคัญและประเภทของประดิษฐที่เปน เอกลักษณไทย 3. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน จากการนําเสนอผลการวิเคราะห วิจารณ และ การสรุปความรู ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 4.1.1 เรื่อง ความสําคัญ และประเภทของงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทย 3. ครูประเมินผลการสรุปสาระสําคัญในรูปแบบ แผนผังความคิด เรื่อง ความหมาย ความสําคัญ และประเภทของงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณ ไทย 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค หากตองประดิษฐชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทยโดยคํานึงถึง ทรัพยากรและสิ่งแวดลอม เพื่อนําไปใชเปนของเลนสําหรับเด็ก ควรเลือกประดิษฐชิ้นงานประเภทใดจึงจะมีความเหมาะสม มากที่สุด (แนวตอบ สามารถเลือกประดิษฐชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทย ประเภทงานจักสาน หรืองานปนจากดิน เพราะเปนการนําวัสดุ ที่มีอยูในธรรมชาติ หรือในทองถิ่น มาสรางสรรคเปนชิ้นงานที่ ไมกอใหเกิดอันตรายตอผูใช โดยชิ้นงานจะมีรูปแบบที่แตกตางกัน ไปตามความคิดสรางสรรคของผูประดิษฐ จัดเปนชิ้นงานที่มีความ ประณีต สวยงาม และมีคุณคาทางศิลปะอีกประเภทหนึ่ง) แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 4 แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม นํา สอน สรุป ประเมิน T72
ผักและผลไม้ เลือกผักและผลไม้ตามฤดูกาลมีความสดใหม่ซึ่งจะ ท�าให้แกะได้ง่ายและเก็บได้นาน เลือกชนิดของผัก และผลไม้ ให้ตรงกับความต้องการและความเหมาะสม กับงานแกะสลักนั้น ๆ มีดแกะสลักด้ามกลม เหมาะส�าหรับผู้ที่แกะสลัก ได้เบื้องต้นแล้ว ใบมีดมี ลักษณะเรียวแหลม ยาว ประมาณ ๑.๕-๒.๕ นิ้ว มีทั้งเนื้อสเตนเลสและ เนื้อเหล็ก ควรเลือกใช้ ให้ เหมาะสมกับการใช้งาน ช้อนกลม ใช้ตักไส้ผักและผลไม้ควรเลือกใช้เนื้อสเตนเลส เพราะจะไม่เป็นสนิม เช่น ตักเนื้อสีแดงของแตงโม ออก เพื่อน�าแตงโมไปแกะสลักเป็นภาชนะ มีดแกะสลักด้ามแบน ใช้ ในการแกะ บาก หั่น เป็น ลวดลายต่าง ๆ ใบมีดเรียวแหลม ยาวประมาณ ๑-๒ นิ้ว ควร เลือกใช้เนื้อสเตนเลส เพื่อ ไม่ให้เกิดปฏิกิริยากับผักและ ผลไม้และควรเลือกชนิดด้าม แบนเพราะควบคุมได้ง่ายกว่า ด้ามแบบอื่น ๆ มีดปอกผลไม้ • มีดปอก หรือหั่นผักและผลไม้ ควรเลือกใช้ เนื้อสเตนเลส เพื่อไม่ ให้ผักและผลไม้ด�า ควรมี ความคม ใบมีดมีความยาวประมาณ ๔-๕ นิ้ว • มีดปอกสองคมใช้ปอกเปลือกผลไม้ควรเลือก ขนาดให้เหมาะสมกับชนิดผักและผลไม้ เขียง ใช้ส�าหรับรองผักและ ผ ลไ ม้ เ ว ลา แ กะ ส ลั ก ควรเ ลือกที่มีน�้าหนัก พอประมาณ มีขนาด พอเหมาะกับขนาดของ ผักและผลไม้ ๓ ตัวอย่างงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย : งานแกะสลัก งานแกะสลักผักและผลไม้จ�าเป็นต้องใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ เราสามารถน�าผักและ ผลไม้มาแกะสลักได้ ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งใบไม้ ดอกไม้ รูปสัตว์ต่าง ๆ งานแกะสลักในปัจจุบัน ที่นิยมกันแพร่หลาย เช่นการจัดจานตกแต่งอาหารในโรงแรมในงานเลี้ยงรับรองแขกต่างประเทศ ใช้ ในการตกแต่งสถานที่ในโอกาสส�าคัญต่าง ๆ การเลือกวัสดุ อุปกรณ์ ในงานแกะสลัก มีดังนี้ งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย 6๕ กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นนํา (ใชโครงการเปนหลัก) ขั้นที่ 1 ใหความรูพื้นฐาน 1. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทยประเภทงานแกะสลัก จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยาง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยประเภท งานแกะสลัก จาก PowerPoint ม.5 หนวย การเรียนรูที่ 4 3. ครูใหนักเรียนรวมกันเสนอแนะวา ตัวอยางงาน แกะสลักดังกลาวจะตองใชวัสดุ อุปกรณชนิดใด และมีขั้นตอนการปฏิบัติงานอยางไร ขั้นที่ 2 กระตุนความสนใจ 4. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการแกะสลักแครรอต การแกะสลักแตงกวา การแกะสลักแอปเปล และการแกะสลักมะมวงใหนักเรียนดู เพื่อให นักเรียนไดเรียนรูขั้นตอนการปฏิบัติงานแตละ ประเภท 5. ครูถามนักเรียนวา • ความสวยงามของการแกะสลักผักและผลไม อยูที่สิ่งใด เพราะเหตุใดจึงเปนเชนนั้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • นักเรียนรูสึกอยางไรหากตองรับประทาน ผักและผลไมที่ผานการแกะสลักมากอน (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • นักเรียนมีวิธีการเลือกซื้อมีดแกะสลักอยางไร (แนวตอบ ควรเลือกซื้อมีดแกะสลักที่มีปลายมีด เรียวแหลม คม และบาง ผลิตจากวัสดุประเภท สเตนเลสหรือทองเหลือง ซึ่งจะชวยปองกัน ไมใหผักและผลไมมีสีดําในขณะแกะสลัก) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอควรระวังในการใชและการเก็บรักษามีด แกะสลักเพื่อความปลอดภัยใหนักเรียนฟงวา ในการแกะสลักผักและผลไม มีขอควรระวังในการใชมีดแกะสลัก คือ ควรจับมีดใหอยูในทาที่สบาย ไมควรจับ จนแนน หรือเกร็งมือ ขณะใชควรหันคมมีดออกนอกลําตัวเสมอ ไมวางมีดทิ้งไว บนพื้น และสวมปลอกมีดทุกครั้งเมื่อไมไดใชงาน หามสงดานคมมีดใหกับ ผูอื่น ควรปดหรือใสปลอกมีดใหเรียบรอยกอนทุกครั้ง และสงดานที่เปนดามจับ กอนเสมอ รวมถึงหมั่นตรวจสอบสภาพแวดลอมรอบขาง เพื่อปองกันอันตราย ที่อาจเกิดขึ้น ไมควรใชมีดขูดหรือแคะวัสดุที่มีเนื้อแข็ง เพราะอาจทําใหใบมีด ชํารุดได สวนการเก็บรักษามีด สามารถทําไดโดยเช็ดมีดใหแหงและสะอาด หยอดนํ้ามันเล็กนอย ลับมีดอยางถูกวิธี ควรเก็บมีดใหหางจากไฟ เก็บมีดไวใน ที่ปลอดภัย และใหพนจากมือเด็ก ใหนักเรียนเขียนอธิบายความสําคัญและประโยชนที่ไดรับจาก การศึกษา เรื่อง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย ประเภทงาน แกะสลัก ในรูปแบบแผนผังความคิด ตกแตงใหสวยงาม นําสง ครูผูสอน ใหนักเรียนรวบรวมภาพงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย ประเภทงานแกะสลักผัก งานแกะสลักผลไม และงานแกะสลักไม เขียนอธิบายเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณที่นํามาใชในการแกะสลัก วิธีการ แกะสลัก และเทคนิคในการแกะสลักชิ้นงานประเภทตางๆ จัดทํา เปนรูปเลมรายงาน นําสงครูผูสอน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T73
ขอสอบเนนการคิด การแกะสลัก 1 ๒ ๓ ๔ แคร์รอต ขั้นตอนการแกะสลัก ๑. เกลาแคร์รอตเป็นรูปหยดน�้า โดยเกลาส่วนโคนดอกให้เป็นวงกลม เซาะร่อง แบ่งกลีบดอกให้เท่า ๆ กัน ๒. ปาดร่องกลีบ ใช้ปลายมีดวาดกลีบดอกให้ปลายแหลมลงในร่องกลีบ ปาดเนื้อแคร์รอตใต้กลีบดอกออก ๓. ปาดร่องกลีบต่อไปใช้ปลายมีดวาดกลีบดอกให้ปลายแหลมลงในร่องกลีบปาดเนื้อแคร์รอตใต้กลีบดอกออก ท�าเช่นนี้จนครบชั้นแรก ๔. ปาดร่องกลีบดอกในชั้นต่อไป โดยสับหว่างกับกลีบดอกในชั้นแรก ท�าเช่นนี้จนสุดปลายแคร์รอต ซึ่งใน ชั้นสุดท้ายกลีบดอกจะเล็กมาก จึงควรท�าแบบเบามือ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. แคร์รอต ๒. มีดแกะสลัก ๓. มีดปลายแหลม ๔. เขียง ๕. จาน 66 ขั้นตอนการแกะสลัก 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา ตัวอยางงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลักแครรอต จากหนังสือเรียน หนวย การเรียนรูที่ 4 หนา 66 จากนั้นรวมกันอภิปราย ถึงขั้นตอนการแกะสลักแครรอตทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบาย ขั้นตอนการแกะสลักแครรอตใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน 2. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการแกะสลักแครรอต มาใหนักเรียนดู 3. ครูสาธิตการแกะสลักแครรอตใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมแกะสลักแครรอต หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 5. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลักแครรอต โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และ อธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 6. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การเลือกแครรอตมาใช ในงานแกะสลักควรเลือกที่มีผิวเรียบ สีผิว สมํ่าเสมอกัน ผลมีลักษณะตรง ไมโคงงอ ไมมี รอยชํ้า ไมมีตําหนิ หรือมีรอยเนา เนื้อแนน ขนาดไมเล็กหรือใหญจนเกินไป จับพอดีมือ” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแกะสลักผักใหนักเรียนฟงวา การแกะสลักผัก เปนศิลปะที่บรรพบุรุษไดสรางสรรคขึ้น เปนวิธีการตัดแตงผักใหสะดวกและงาย ตอการนํามารับประทาน และยังคงความประณีต ละเอียดออนไว นับตั้งแต สมัยสุโขทัยเปนตนมา ทั้งนี้ ในสมัยรัตนโกสินทรตอนตนไดปรากฏเรื่องราว ของงานแกะสลักผักอยูในงานพระราชนิพนธกาพยเหชมเครื่องคาวหวาน และ เรื่องสังขทอง ซึ่งเปนพระราชนิพนธของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัย บุคคลในขอใดปฏิบัติตนไมเหมาะสมในการแกะสลักแครรอต 1. วิมเลือกแครรอตที่มีผิวเรียบ เปนแทงตรง 2. แววนําแครรอตไปแชนํ้ากอนนํามาแกะสลัก 3. วานใชมีดปลายแหลมเกลาแครรอตเปนรูปหยดนํ้า 4. วุนใชผาขาวบางชุบนํ้าบิดหมาดคลุมแครรอตที่แกะสลักเสร็จแลว (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะกอนแกะสลักไมควรนํา แครรอตไปแชนํ้า เพราะจะทําใหเนื้อของแครรอตแข็ง ทําให แกะสลักเปนลวดลายตางๆ ไดยาก ควรนําแครรอตไปแชนํ้า หลังจากที่แกะสลักเสร็จแลว ซึ่งจะชวยใหสีสดขึ้นและกลีบดอก แข็งตัวไดดี) นักเรียนควรรู 1 การแกะสลัก สําหรับผูที่เริ่มตนแกะสลัก ควรนําผักหรือผลไมที่มีเนื้อแข็ง มาใชในการฝกการใชนํ้าหนักมือของตนเอง หากผักหรือผลไมที่นํามาแกะสลัก มีเนื้อนิ่ม อาจทําใหเกิดความผิดพลาดกับชิ้นงานได หากใชผักหรือผลไมที่มี เนื้อแข็ง เมื่อลงมีดไปเรื่อยๆ จะทําใหรูนํ้าหนักมือของตนเอง นํา สอน สรุป ประเมิน T74
ขอสอบเนน การคิด การแกะสลัก 1 ๒ ๓ ๔ แตงกวา ขั้นตอนการแกะสลัก ๑. หั่นแตงกวาตามความยาวของลูก แล้วปาดแตงกวาให้เป็นรูปคล้ายใบไม้ ๒. วาดเส้นกลางใบ ๒ เส้นคู่กัน แล้วเซาะให้เป็นร่องกลางใบ ๓. เซาะร่องลายใบระหว่างเส้นกลาง โดยท�าเหมือนกันทั้ง ๒ ข้าง ๔. หยักขอบใบทั้ง ๒ ข้าง โดยจะหยักใบระหว่างเส้นลายใบตามภาพ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. แตงกวา ๒. มีดแกะสลัก ๓. มีดปลายแหลม ๔. เขียง ๕. จาน 6๗ แตงกวา แล้วปาดแตงกวาให้เป็นรูปคล้ายใบไม้ 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 7. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลัก แตงกวา จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรู ที่ 4 หนา 67 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การแกะสลักแตงกวาทีละขั้นตอน โดยครูขอ อาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การแกะสลักแตงกวาใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 8. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการแกะสลักแตงกวา มาใหนักเรียนดู 9. ครูสาธิตการแกะสลักแตงกวาใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 10. ครูใหนักเรียนแตละกลุมแกะสลักแตงกวา หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของ นักเรียนอยางใกลชิดและคอยใหความ ชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนักถึงความ ปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย 11. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลัก แตงกวา โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 12. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เนื่องจากแตงกวา มีผิวที่บาง เนื้อออน และชํ้างาย ดังนั้น มีด ที่นํามาใชในการแกะสลักแตงกวาจึงตอง ลับใหคมอยูเสมอ เพื่อปองกันไมใหผิวและ เนื้อของแตงกวาชํ้าในขณะที่ทําลวดลายตางๆ ลงบนผลของแตงกวา” “หากตองการแกะสลักแตงกวา เพื่อนํามาใชในการจัดตกแตง จานอาหาร” ควรปฏิบัติอยางไรจึงจะเหมาะสม 1. นําแตงกวามาลางนํ้าใหสะอาด ใชผาสะอาดซับนํ้าใหแหง แลวแกะทันที 2. นําแตงกวาแชนํ้าดางทับทิม หอผาขนหนู เก็บเขาตูเย็น และแกะในวันรุงขึ้น 3. นําแตงกวาแชในนํ้าเย็นจัด 10 นาที เก็บเขาตูเย็น และแกะในวันรุงขึ้น 4. นําแตงกวามาลางกับนํ้าเกลือ หยิบใสตะกรา ผึ่งแดดใหแหง แลวแกะทันที (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะการนําแตงกวามาลางนํ้า ใหสะอาด ใชผาสะอาดซับนํ้าใหแหง แลวแกะทันที จะทําใหได ชิ้นงานที่มีความสวยงาม สีเขียวสวย และกลีบใบแข็ง) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแกะสลักแตงกวาเปนรูปใบไม ไดที่ https://www. youtube.com/watch?v=AriDYqBJg9A นักเรียนควรรู 1 แตงกวา ในการเลือกซื้อแตงกวา ควรเลือกลูกที่มีผิวเรียบ ผิวเปลือกสด มีสีเขียวออนสลับกับสีขาว ลูกกลมกลึงเสมอกัน และควรเลือกลูกที่อวบ เพราะ เนื้อจะหนาและมีไสนอย 2 ปาดแตงกวา หากผูประดิษฐยังไมมีความชํานาญมากพอ ควรรางเสน ลงบนผลของแตงกวากอนใชมีดปาดที่เนื้อ หากปาดเบี้ยวสามารถแกไขไดโดย การปาดเก็บขอบใบใหกินเนื้อเขามา แตอาจทําใหรูปใบไมเรียวยาว เมื่อลง ลวดลายบนผลแตงกวาจึงไมสวยงาม จึงควรปาดอยางเบามือและระมัดระวัง เปนพิเศษ นํา สอน สรุป ประเมิน T75
ขอสอบเนนการคิด การแกะสลัก 1 ๒ ๓ ๔ แอปเปิล ขั้นตอนการแกะสลัก ๑. ใช้ปลายมีดวาดกลีบดอกโค้งปลายแหลมจ�านวน ๔ กลีบ แล้วปาดเนื้อใต้กลีบดอกออก ๒. ใช้ปลายมีดวาดกลีบชั้นที่ ๒ โดยท�าสับหว่างกับกลีบดอกชั้นแรก ปาดเนื้อแอปเปิลใต้กลีบดอกออกและ เซาะร่องตรงกลางในกลีบดอกชั้นแรก ๓. ปาดร่องกลีบในกลีบดอกชั้นที่ ๒ แล้วท�าลายหยักในร่องกลีบทั้ง ๒ ข้าง ให้ครบทั้ง ๔ กลีบ ๔. วาดเส้นโค้งจนถึงก้นลูกแอปเปิลและเซาะร่อง จากนั้นวาดเส้นโค้งอีก ๑ เส้นคู่กัน แล้วเซาะร่องพร้อมกับ ท�าลายหยักในเส้นที่ ๒ โดยท�าเช่นนี้จนหมดทั้งลูก วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. แอปเปิล ๒. มีดแกะสลัก ๓. เขียง ๔. จาน 6๘ ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 13. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย:การแกะสลัก แอปเปล จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรู ที่ 4 หนา 68 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึง ขั้นตอนการแกะสลักแอปเปลทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบาย ขั้นตอนการแกะสลักแอปเปลใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน 14. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการแกะสลัก แอปเปลมาใหนักเรียนดู 15. ครูสาธิตการแกะสลักแอปเปลใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 16. ครูใหนักเรียนแตละกลุมแกะสลักแอปเปล หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 17. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย:การแกะสลัก แอปเปล โดยครูเปนผูตรวจสอบความ ถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยัง ขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 18. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “กอนนําแอปเปลมา แกะสลัก ใหนําผลแอปเปลไปแชในนํ้าเกลือ โดยใชนํ้าสะอาด 1 ถวยตวง กับเกลือปน 1 2 ชอนชา ซึ่งจะชวยใหเนื้อของแอปเปลไมดํา เมื่อตองสัมผัสกับอากาศในขณะที่กําลัง แกะสลัก เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแกะสลักที่ปรากฏอยูในงานพระราชนิพนธ กาพยเหชมเครื่องคาวหวาน ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัย ใหนักเรียนฟงวา กาพยเหชมเครื่องคาวหวาน เปนความงดงามของวรรณคดี ที่สะทอนใหเห็นถึงความประณีตและความละเอียดออนในการประกอบอาหาร ใหมีรสชาติที่เลิศรสและการจัดตกแตงอาหารอยางงดงาม เพื่อใหดูนารับประทาน มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายถึงศิลปะการแกะสลัก (แกะ ปอก ควาน) ผลไมของหญิงไทยที่มีความงดงามแทรกอยูในบทกวีดวย ดังตัวอยาง นอยหนานําเมล็ดออก ปลอนเปลือกปอกเปนอัศจรรย มือใครไหนจักทัน เทียบเทียมที่ฝมือนาง ผลเงาะไมงามแงะ ลอนเมล็ดและเหลือปญญา หวนเห็นเชนรจนา จาเจาเงาะเพราะเห็นงาม การเลือกมีดแกะสลักที่ถูกตอง ควรเลือกตามขอใด 1. เลือกมีดที่ทําจากไม มีการฉลุลวดลาย นํ้าหนักพอดีมือ 2. เลือกมีดดามแบน ดามทําจากพลาสติก นํ้าหนักเบา 3. เลือกมีดดามกลม ใบมีดเรียวยาว นํ้าหนักพอดีมือ 4. เลือกดามจับที่ถนัดมือ ใบมีดบาง นํ้าหนักเบา (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการเลือกมีดแกะสลักที่ถูกตอง ควรเลือกมีดที่มีดามจับถนัดมือ ซึ่งใชไดทั้งดามกลมและดามแบน ใบมีดบาง และมีนํ้าหนักเบา จะชวยใหสามารถแกะสลักลวดลาย ไดอยางละเอียด ไมเกิดรอยชํ้าจากรอยมีด มีดมีความคมและ ไมเปนสนิม) นํา สอน สรุป ประเมิน T76
การแกะสลัก 1 ๒ ๓ ๔ มะม่วง ขั้นตอนการแกะสลัก ๑. ใช้ปลายมีดกรีดลากเส้นวงกลมตรงกลางเป็นเกสร เซาะเนื้อรอบเส้นนอกวงกลมออก เกลาเกสรให้กลม ใช้ปลายมีดวาดกลีบโค้งลงบนขอบวงกลม ปาดเนื้อมะม่วงใต้กลีบออก แกะกลีบต่อไปให้ซ้อนกลีบแรกจน ครบรอบ และแกะชั้นในให้สับหว่างกัน ๒. ปาดเนื้อมะม่วงรอบนอกเกสรเป็นร่องกลีบดอกสับหว่างกับเกสร ใช้ปลายมีดวาดกลีบดอกโค้งปลายแหลม ลงในร่องกลีบ จากนั้นปาดเนื้อมะม่วงใต้กลีบดอกออก ๓. ปาดร่องกลีบและแกะสลักกลีบดอกจนครบรอบชั้นแรก จ�านวน ๕ กลีบ โดยให้ปลายกลีบซ้อนกันเล็กน้อย ๔. แกะสลักกลีบดอกชั้นที่ ๒ ปาดร่องกลีบสับหว่างกับชั้นแรก ใช้ปลายมีดวาดกลีบดอกโค้งปลายแหลมลงใน ร่องกลีบ แกะสลักกลีบดอกสับหว่างกันจนถึงขอบที่ปอกเปลือกไว้ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. มะม่วง ๒. มีดแกะสลัก ๓. มีดปลายแหลม ๔. จาน ๕. เขียง 69 มีดแกะสลัก 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 19. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลัก มะมวง จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 69 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การแกะสลักมะมวงทีละขั้นตอน โดยครูขอ อาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การแกะสลักมะมวงใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 20. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการแกะสลักมะมวง มาใหนักเรียนดู 21. ครูสาธิตการแกะสลักมะมวงใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 22. ครูใหนักเรียนแตละกลุมแกะสลักมะมวง หาก นักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือ ตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดย ครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 23. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การแกะสลัก มะมวง โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 24. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในขณะแกะสลักมะมวง ควรมีการเตรียมนํ้าผสมนํ้าเกลือเจือจาง หรือ นํ้ามะนาวเจือจางไวใหพรอม จากนั้นใหหมั่นนํา ผลมะมวงที่แกะสลักมาลางนํ้าที่เตรียมไวบอยๆ ซึ่งจะชวยไมใหผิวและเนื้อของมะมวงดํา” กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ใหแตละกลุมรวมกัน ศึกษาเกี่ยวกับลวดลายตางๆ ที่นิยมนํามาใชในการแกะสลัก ผักและผลไม จากสื่อการเรียนรูที่หลากหลาย เชน หนังสือเรียน อินเทอรเน็ต 2. ใหนักเรียนแตละกลุมนําความรูที่ไดจากการศึกษามาแลกเปลี่ยน เรียนรูซึ่งกันและกันภายในกลุม 3. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันออกแบบลวดลายในการแกะสลัก ผักและผลไม 1 ลาย โดยนําลวดลายตางๆ ตามที่ไดศึกษา มาสรางสรรคใหเกิดลวดลายใหมตามความคิดและจินตนาการ 4. ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายแนวคิดในการ สรางสรรคลวดลายในงานแกะสลักผักและผลไม เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษาผักและผลไมที่แกะสลักเสร็จ เรียบรอยแลวใหนักเรียนฟงวา เมื่อแกะสลักผักและผลไมเสร็จแลว ควรนําไป ลางดวยนํ้าเย็นจัดกอนนําไปใชงาน หากยังไมไดใชงานควรใชผาขาวบางชุบนํ้า บิดหมาดคลุมไว วางไวในบริเวณที่ไมมีลมพัดผาน และไมรอนอบอาวจนเกินไป เพราะจะทําใหชิ้นงานเหี่ยวเร็ว หรือเก็บใสกลองเขาตูเย็น เมื่อตองการใชงาน จึงนํามาลางในนํ้าเย็นจัดอีกครั้ง จะชวยใหชิ้นงานคงความสดและคงความ สวยงามไดนานยิ่งขึ้น นักเรียนควรรู 1 มีดแกะสลัก ในการแกะสลักผักและผลไม ควรเลือกใชมีดแกะสลักที่ผลิต จากวัสดุประเภทสเตนเลส เพราะหากใชมีดทั่วไปจะทําใหเนื้อของผักและผลไม มีสีดําคลํ้า สงผลใหงานแกะสลักไมสวยงาม นํา สอน สรุป ประเมิน T77
ขอสอบเนนการคิด ผักและผลไม้ที่นิยมน�ามาใช้ ใน งานแกะสลักมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ซึ่ง แต่ละชนิดจะมีลักษณะและคุณสมบัติที่ แตกต่างกัน ดังนั้น ในการแกะสลักจึง ต้องเรียนรู้เทคนิคและวิธีการที่ถูกต้องจะช่วยให้ผลงานแกะสลักมีความสวยงาม เทคนิคการแกะสลัก คงทนมากยิ่งขั้น ดังนี้ ๑. แคร์รอต ก่อนแกะไม่ควรแช่น้�า เพราะจะท�าให้เนื้อแข็ง และหลังแกะควรน�าไปแช่น้�า เพราะจะท�าให้กลีบแข็ง และสีสด ๓. หัวไชเท้า เลือกที่มีหัวมน ผิวเรียบ มีน้�าหนัก จับแน่นมือ มีสีปกติไม่ขาวใสแบบ โปร่งใส หลังแกะควรน�าไปแช่น้�า เย็นจัด เพราะจะ ท�าให้สดนาน ๕.ฟักทอง หลังแกะไม่ควรน�าไปแช่น้�า เพราะ จะท�าให้เปลี่ยนสีและเน่าเร็ว ควรใช้ ผ้าขาวบางชุบน้�าบิดหมาดคลุมไว้ หรือแช่ตู้เย็นจะท�าให้สดนานขึ้น ๒. บีทรูต หลังปอกเปลือกควรล้างด้วย น้�าเกลือเจือจาง เพื่อไม่ให้ สีตก ในระหว่างแกะควร ฉีดน้�าอยู่เสมอจะช่วยไม่ ให้ผิวด�า ๖. หอมหัวใหญ่ ก่อนแกะให้น�าไปแช่น้�า จะช่วย ไม่ให้เกิดการแสบตา หรือน�าไปแช่ ในตู้เย็นอย่างน้อย ๓๐ นาที ก่อน น�ามาปอกเปลือก ๔.ขิง เลือกขิงที่มีลักษณะอวบอ้วน โดยดูจากแง่งที่ดูอิ่มน้�าและ น้�าหนัก เพราะจะมีเนื้อมาก หลังแกะควรน�าไปแช่น้�าผสม มะนาวจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู ๗.ชมพู่ ในขณะแกะไม่ควรน�าไปแช่น้�า เพราะจะท�าให้เนื้อเป็นขุยเมื่อแกะ เสร็จให้น�ามาล้างด้วยน้�ามะนาว เจือจาง แล้วตามด้วยน้�าเย็น ๗0 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 25. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิค การแกะสลัก ในกรอบ Know More จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 70 จากนั้นครูถามนักเรียนวา • จากการศึกษาเกี่ยวกับเทคนิคการแกะสลัก ทําใหนักเรียนไดรับประโยชนอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ทําใหทราบขั้นตอน หรือวิธีการตางๆ ที่ชวยใหการแกะสลัก ผักและผลไมคงความสวยงามอยูเสมอ) • หากสามารถเลือกผักและผลไมไดเพียง 1 ชนิด นักเรียนจะเลือกผักและผลไมชนิดใดมาใช ในการแกะสลัก เพราะเหตุใดจึงเปนเชนนั้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน แตงโม เพราะผลของ แตงโมมีขนาดใหญ เนื้อมีสีแดงสวย สามารถ แกะสลักเปนลวดลายตางๆ ไดงาย และเมื่อ นํามาแกะสลักเปนลวดลายตางๆ จะเห็น เปนสีขาวและสีแดงสลับกัน ทําใหผลงานมี ความสวยงามมากยิ่งขึ้น) 26. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “กอนแกะสลัก ควรศึกษา เกี่ยวกับเทคนิคที่นํามาใชในการแกะสลัก ใหเขาใจ เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติงานไดอยาง ถูกตอง และผลงานมีความสวยงาม นอกจากนี้ ยังตองรูจักวิธีการดูแลรักษาผลงานแกะสลัก ใหคงความสดใหมอยูเสมอ เชน การแกะสลัก ผักและผลไมที่มีขนาดใหญ ไมสามารถเก็บ เขาตูเย็นได ควรใชผาขาวบางชุบนํ้าบิดหมาด คลุมไว แลวเก็บในที่ที่อากาศถายเทไดสะดวก ไมรอนอบอาว ไมมีลมพัดผาน จะชวยคงความ สดใหมของผักและผลไมไมใหเหี่ยวเฉาเร็ว” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแกะสลักผักและผลไมของประเทศตางๆ ให นักเรียนฟงวา ประเทศจีนเปนประเทศที่มีการสืบทอดทางวัฒนธรรมในรูปแบบ ตางๆ มาอยางยาวนาน และหนึ่งในนั้นก็คือ การแกะสลักผักและผลไม ที่เรียกวา “ฉุยกั่วเตียวเคอ” ซึ่งศิลปะการแกะสลักผักและผลไมของชาวจีนจะนิยมแกะเปน รูปสัตวมงคลตางๆ ตามความเชื่อ เชน เตา มังกร หงส สวนในประเทศญี่ปุน จะเรียกผลงานการแกะสลักผักและผลไมวา “มุกิโมโนะ” โดยนิยมนําผักและ ผลไมมาแกะสลักเปนลายดอกซากูระ ลายพัด ลายคลื่น หรือรูปสัตวประเภท ตางๆ เพื่อนํามาใชในการประดับตกแตงอาหาร สิ่งที่ทําใหการแกะสลักผัก และผลไมของประเทศญี่ปุนมีความโดดเดน คือ การเลือกใชวัตถุดิบ ซึ่งจะมี ความหลากหลายและหมุนเวียนไปตามฤดูกาล เพื่อแสดงออกถึงอารมณและ ความรูสึกของฤดูกาลที่แตกตางกัน ประโยชนที่ไดรับจากการฝกแกะสลักผักและผลไมคือสิ่งใด (แนวตอบ ไดรับประโยชนจากการฝกแกะสลักผักและผลไม หลายประการ เชน ชวยฝกสมาธิ เสริมสรางและพัฒนาความคิด สรางสรรค เปนการใชเวลาวางใหเกิดประโยชน เกิดความภาคภูมิใจ ในตนเอง เพิ่มความสวยงามใหกับอาหารหรือสถานที่ตางๆ ชวย อนุรักษ สืบสาน เผยแพรศิลปะการแกะสลักใหบุคคลทั่วไปไดรูจัก และพัฒนาเปนอาชีพไดในอนาคต) นํา สอน สรุป ประเมิน T78
กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค แจกัน เลือกให้เหมาะสมกับงาน ทั้งรูปแบบและขนาดของ แจกัน เช่น แจกันทรงกระบอกนิยมใช้จัดดอกไม้ ที่มีลักษณะเป็นช ่อ หรือ พุ่มโดยมีก้านตรงแข็งแรง ฟลอร่าโฟม หรือโอเอซิส ใช้ปักดอกไม้ มีคุณสมบัติดูดซึมและอุ้มน�้า ก่อนใช้ ต้องแช่น�้าให้ชุมประมาณ ๑ ๒ ชั่วโมง เพื่อให้ดูดน�้า เต็มที่ ควรเลือกที่ชุ่มน�้าได้ง่าย กรรไกร มีด คีม • กรรไกรใช้ส�าหรับตัดก้าน ดอกไม้กิ่งไม้ เลือกที่คม และใบมีดไม่เป็นสนิม • มีดใช้ส�าหรับตัดโอเอซิส และริดหนามกุหลาบเลือก ที่คม • คีมใช้ตัดลวดมีหลายขนาด เลือกใช้ตามความเหมาะสม ของลักษณะงาน ริบบิ้น ใช้ ในการผูกช่อดอกไม้และท�าใบตกแต่ง เพื่อให้ ดอกไม้ดูสวยงามการเลือกใช้งานให้เลือกความกว้าง และความยาวตามความเหมาะสมของช่อดอกไม้ กระดาษสา มีทั้งกระดาษสาแท้และ แบบสังเคราะห์ การใช้ กระดาษสาแท้ควรระวัง ไม ่ให้โดนน�้า เพราะจะ ขาดยุ่ยได้ง่าย ๔ ตัวอย่างงานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย : งานดอกไม้สด งานดอกไม้สดเป็นการน�าดอกไม้ชนิดต่าง ๆ มาประดิษฐ์เป็นชิ้นงานในหลากหลายรูปแบบ เช่นการร้อยพวงมาลัยการจัดแจกันดอกไม้เพื่อสร้างความสดชื่นความสวยงามสร้างบรรยากาศ ที่ดีในโอกาสส�าคัญต่าง ๆ นับเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่มีความงดงามมาก โดยการจัดดอกไม้สด จะแตกต่างกันไปตามจินตนาการของผู้จัด การเลือกวัสดุ อุปกรณ์ ในงานดอกไม้สด มีดังนี้ ดอกไม้ ดอกไม้ต้องสด ก้านแข็งตรง กระเปาะดอกแข็ง กลีบดอกไม่ช�้า ทั้งใบและดอกสามารถเก็บไว้ได้ นาน ไม่เหี่ยวเฉา หรือช�้าง่าย ขนาดของดอกไม้ เหมาะกับภาชนะ สถานที่ตั้ง และแบบของการจัด งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย ๗1 ดอกไม้ ฟลอร่าโฟม หรือโอเอซิส 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 27. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทยประเภทงานดอกไมสด จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 28. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยาง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยประเภท งานดอกไมสดจาก PowerPoint ม.5 หนวย การเรียนรูที่ 4 29. ครูใหนักเรียนรวมกันเสนอแนะวา ตัวอยาง งานดอกไมสดดังกลาวจะตองใชวัสดุ อุปกรณ ชนิดใด และมีขั้นตอนการปฏิบัติงานอยางไร 30. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการรอยมาลัย การจัด พานดอกไม การจัดดอกไมในลักษณะตางๆ ใหนักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนไดเรียนรูขั้นตอน การปฏิบัติงานแตละประเภท 31. ครูถามนักเรียนวา • ความสวยงามของงานดอกไมสดอยูที่สิ่งใด เพราะเหตุใดจึงเปนเชนนั้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • นักเรียนสามารถนําดอกไมสดมาใชประโยชน ในชีวิตประจําวันไดอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน จัดใสแจกันรวมกับ ดอกไมชนิดอื่นๆ เพื่อประดับตกแตงบาน ใหสวยงาม นํามาจัดเปนชอ เพื่อมอบใหแก บุคคลอันเปนที่รัก นํามารอยเปนพวงมาลัย ในลักษณะตางๆ เพื่อบูชาพระ) • หากไมมีฟลอราโฟม หรือโอเอซิส นักเรียน สามารถใชสิ่งใดแทนได เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันสํารวจดอกไม ที่ปลูกในบริเวณบานของตนเอง รวมถึงดอกไมที่มีในทองถิ่น จากนั้น นําขอมูลที่ไดมาประชุมวางแผนการทํางานรวมกัน เพื่อประดิษฐ ชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทยประเภทงานดอกไมสดตามความสนใจ กลุมละ 1 ชิ้น โดยจัดทําเปนคลิปวิดีโอสั้นๆ ความยาวไมเกิน 7 นาที จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะดานมีวินัย อยูอยางพอเพียง และมุงมั่นในการทํางาน) นักเรียนควรรู 1 ดอกไม การเลือกดอกไมมาใชเพื่อจัดแจกัน ควรเลือกดอกไมที่ใกลบาน มาจัด ควรหลีกเลี่ยงการเลือกใชดอกตูม เนื่องจากดอกตูมจะไมดูดซึมนํ้า และเหี่ยวเฉาไดอยางรวดเร็ว จากนั้นใชกรรไกรสําหรับตัดกานดอกไม ตัดกาน ใหเฉียงประมาณ 45 องศา เพื่อใหดอกไมดูดซึมนํ้าไดดีขึ้น เมื่อตัดเสร็จแลว ควรจุมกานลงในนํ้าทันที โดยใหกานจมนํ้าประมาณ 1 นิ้ว และวางไวในที่รม 2 ฟลอราโฟม หรือโอเอซิส นํามาใชงานไดทั้งแบบเปยกและแบบแหง โดย แบบเปยกใชสําหรับยึดกานและเปนแหลงนํ้าใหกับดอกไม ไมสามารถนํากลับมา ใชงานซํ้าได เนื่องจากมีรูที่เกิดจากกานของดอกไม จึงทําใหไมกักเก็บนํ้า กอนนํามาใชงานควรนําไปแชนํ้าที่ผสมสารจําพวก Clear flfloral preservative เพื่อชวยรักษาและคงความสดใหกับดอกไม สวนแบบแหงใชสําหรับยึดดอกไมแหง หรือดอกไมผา นํา สอน สรุป ประเมิน T79
ขอสอบเนนการคิด งานดอกไม้สด 1 ๒ ๓ ๙ ๕ ๘ ๖ ๗ ๗ ๖ ๘ ๕ ๘ ๔ ๘ ๓ ๗ ๒ ๖ ๑ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ แถว หรือชั้นที่ ดอกที่ มาลัยตุ้ม = ดอกมะลิ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. ดอกมะลิ ๒. ดอกบานไม่รู้โรย ๓. ก้านมะพร้าว ขั้นตอนการร้อยมาลัย ๑. ใช้ดอกบานไม่รู้ โรยเป็นฐานรอง หรือใช้ใบตอง หรือใช้ดอกอื่น ๆ ตามความเหมาะสม โดยในชั้นที่ ๑ ให้ร้อย ดอกมะลิ ๕ ดอก จัดวางระยะห่างระหว่างแต่ละดอกให้เท่ากัน ๒. ในชั้นที่ ๒-๘ ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ ชั้นที่ ๒ ร้อยดอกมะลิ ๖ ดอก(ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ ของชั้นที่ ๑ ดอกต่อ ๆ ไปให้ร้อย สับหว่างกัน) ชั้นที่ ๓ ร้อยดอกมะลิ ๗ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ ของชั้นที่ ๒) ชั้นที่ ๔ ร้อยดอกมะลิ ๘ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับกลีบที่ ๑ ของชั้นที่ ๓) ชั้นที่ ๕ ร้อยดอกมะลิ ๘ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ ของชั้นที่ ๔) ชั้นที่ ๖ ร้อยดอกมะลิ ๘ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ กับ ๒ ของชั้นที่ ๕) ชั้นที่ ๗ ร้อยดอกมะลิ ๗ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ กับ ๒ ของชั้นที่ ๖) ชั้นที่ ๘ ร้อยดอกมะลิ ๖ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกสุดท้ายกับดอกที่ ๑ กับ ๒ ของชั้นที่ ๗) ๓. ร้อยดอกมะลิในชั้นที่ ๙ โดยร้อยดอกมะลิ ๕ ดอก (ดอกแรกอยู่ระหว่างดอกที่ ๑ กับ ๒ ของชั้นที่ ๘) เมื่อร้อยเสร็จให้ใช้ดอกบานไม่รู้โรยร้อยปิดด้านบน แผนผังมาลัยตุ้มแบบไม่มีลาย ๗๒ การร้อยมาลัยกลม ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 32. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยาง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การรอย มาลัยตุม จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรู ที่ 4 หนา 72 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึง ขั้นตอนการรอยมาลัยตุมทีละขั้นตอน โดยครู ขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การรอยมาลัยตุมใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 33. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการรอยมาลัยตุม มาใหนักเรียนดู 34. ครูสาธิตการรอยมาลัยตุมใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 35. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรอยมาลัยตุม หาก นักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือ ตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดย ครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 36. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : การรอยมาลัย ตุม โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และ อธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 37. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การรอยมาลัยตุมตอง เริ่มตนรอยดวยดอกมะลิที่มีขนาดเล็กกอน ชั้นตอๆ ไปใหสงกานยาวขึ้นทีละนอยจนถึง ชวงที่มาลัยมีความปองเต็มที่ตามตองการ จึงสงกานใหสั้นลงทีละนอยยอนกลับมา เหมือนตอนที่เริ่มปฏิบัติ” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษามาลัยใหคงความสดและสวยงาม อยูเสมอใหนักเรียนฟงวา การเก็บรักษามาลัย สามารถปฏิบัติไดหลายวิธี เชน • นํามาลัยวางลงในถาดที่รองดวยใบตอง ใชผาขาวบางชุบนํ้าบิดหมาดคลุม เก็บไวในที่เย็น ไมมีลมโกรก นิยมนํามาใชกับการเก็บในระยะเวลาไมนาน • นํามาลัยใสในถุงพลาสติก วาง หรือแขวนไวในที่เย็น ไมมีลมโกรก วิธีนี้ จะชวยทําใหเก็บรักษามาลัยไดนานกวาวิธีแรก • นํามาลัยใสในถุงพลาสติก นําไปเก็บไวในชองเก็บผักสดของตูเย็น วิธีนี้ จะชวยทําใหเก็บรักษามาลัยไดนานหลายชั่วโมงไปจนถึงเก็บคางคืนได รอยมาลัยควรเลือกใชดอกไมที่มีสีใด จึงจะชวยใหไดมาลัยที่มี สีสันสวยงาม (แนวตอบ ควรเลือกใชดอกไมที่มีสีสันสดใส อาจเปนดอกไมที่มี สีกลมกลืนกัน หรือมีสีตัดกันก็ได หากชวงใดของมาลัยตองการ เนนใหเกิดจุดเดน ควรเลือกใชดอกไมที่มีสีตัดกันกับดอกไมที่ใช เปนหลัก ซึ่งสีของดอกไมที่ตัดกันจะชวยเพิ่มความสวยงามใหกับ มาลัยมากยิ่งขึ้น) นํา สอน สรุป ประเมิน T80
ขอสอบเนน การคิด งานดอกไม้สด 1 ๒ ๕ ๓ ๔ 6 พานตุ้ม ประดิษฐ์ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. พาน ๒. ดอกมะลิ ๓. ดอกสเปรย์ ๔. ดอกบานไม่รู้โรย ๕. ดอกคัตเตอร์ ๖. ใบโปร่งฟ้า ๗. ใบสนซูงิ ๘. กลีบพลับพลึง ๙. โอเอซิส ๑๐. ก้านมะพร้าว ขั้นตอนการจัดดอกไม้ ๑. ตัดโอเอซิสให้มีขนาดเหมาะสมกับพาน น�าไปแช่น�้าทิ้งไว้สักพัก เมื่อชุ่มน�้าดีแล้วจึงน�ามาใส่พาน จากนั้นน�า ใบโปร่งฟ้ามาเสียบรอบ ๆ พาน กะระยะความห่างให้เหมาะสม เพื่อความสวยงาม ๒. น�าใบสนซูงิมาเสียบทับบนใบโปร่งฟ้า โดยเสียบรอบ ๆ พาน กะระยะความห่างให้เหมาะสม ๓. น�ากลีบพลับพลึงประดิษฐ์มาเสียบตกแต่งบริเวณมุมทั้ง ๔ ด้าน และกึ่งกลางให้สวยงาม ๔. น�าดอกสเปรย์มาเสียบตกแต่งบริเวณรอบ ๆ พาน เพื่อปกปิดช่องว่างของกลีบพลับพลึง ๕. น�ามาลัยตุ้มที่ร้อยส�าเร็จแล้วมาเสียบบริเวณกึ่งกลางของพาน กะระยะความสูงให้พอดี ๖. เสียบมาลัยตุ้มให้ครบตามต�าแหน่งที่ต้องการ ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยใบโปร่งฟ้า ดอกสเปรย์ และดอกคัตเตอร์ ให้สวยงาม ๗๓ ดอกบานไม่รู้โรย 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 38. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยาง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : พานตุม ประดิษฐ จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรู ที่ 4 หนา 73 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึง ขั้นตอนการจัดพานตุมประดิษฐทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบาย ขั้นตอนการจัดพานตุมประดิษฐใหเพื่อนฟง หนาชั้นเรียน 39. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการจัดพานตุม ประดิษฐมาใหนักเรียนดู 40. ครูสาธิตการจัดพานตุมประดิษฐใหนักเรียน ดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 41. ครูใหนักเรียนแตละกลุมจัดพานตุมประดิษฐ หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 42. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย : พานตุมประดิษฐ โดย ครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบาย เพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรองจากการ ปฏิบัติงาน 43. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การจัดพานดอกไม ควรจัดใหมีความสมดุลกัน ไมหนัก หรือ เอียงไปดานใดดานหนึ่ง ความสูงของดอกไม เหมาะสมกับขนาดของพาน ดอกไม ใบไม หรือของประดับตกแตงอื่นๆ ที่นํามาใชมี ความกลมกลืนกัน” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเก็บมะลิ เพื่อใหสามารถใชงานไดนานขึ้น ใหนักเรียนฟงวา การเก็บมะลิควรเก็บในชวงที่แดดไมจัด เพราะจะชวยไมให มะลิบาน โดยเก็บใสในกะละมังแลวคัดดอกที่เสียออก เติมนํ้าแข็งและนํ้าสะอาด ลงในกะละมัง คนใหเขากันจนนํ้าแข็งละลายจนหมด นํามะลิมาใสในตะกรา เพื่อใหสะเด็ดนํ้า จากนั้นนําไปใสในถุงพลาสติกและไลอากาศออกจนหมด ปดปากถุงใหแนนสนิท แชไวในตูเย็น หรือถังนํ้าแข็ง นักเรียนควรรู 1 บานไมรูโรย เลือกดอกที่มีสีและกลีบเลี้ยงสด กลีบไมรวง กานดอกแข็ง หากยังไมไดใชงานใหตัดกานดอกเหลือไวประมาณ 1 นิ้วครึ่ง ใสถุงพลาสติก รัดปากถุงใหแนน แลวเก็บเขาตูเย็น หากไมมีตูเย็นใหใสถาดแลวคลุมดวยผาชื้น สิ่งสําคัญที่ควรคํานึงถึงมากที่สุดในการจัดพานดอกไมคือขอใด 1. คาใชจายในการซื้อวัสดุ อุปกรณ 2. ขนาดและสีของภาชนะ 3. สัดสวนของชิ้นงาน 4. ชนิดของดอกไม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะสัดสวนเปนเรื่องสําคัญ ที่ผูจัดพานจะตองคํานึงถึงมากที่สุด เปนสิ่งที่สามารถกําหนดไดวา พานดอกไมที่จัดเสร็จแลวจะมีความสวยหรือไม หากพานดอกไม มีสัดสวนที่ไมสมดุลกัน ผลงานที่จัดออกมาก็จะไมสวยงาม) นํา สอน สรุป ประเมิน T81
ขอสอบเนนการคิด งานดอกไม้สด 1 ๒ ๕ ๓ ๔ 6 พาน รดน�้าสังข์ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. พาน ๒. โฟมรูปหัวใจ ๓. ดอกกุหลาบ ๔. ดอกรัก ๕. ดอกมัม ๖. ดอกคัตเตอร์ ๗. ใบเฟินนาคราช ๘. โอเอซิส ๙. ตะปูเข็ม ขั้นตอนการจัดดอกไม้ ๑. ตัดโอเอซิสให้มีขนาดเหมาะสม กับพาน น�าไปแช่น�้าทิ้งไว้สักพัก เมื่อชุ่มน�้าดีแล้วจึงน�ามาใส่พาน จากนั้นใช้ ไม้แหลมเสียบโฟม แล้วน�ามาเสียบที่โอเอซิส จัด ต�าแหน่งตามต้องการ ๒. น�าดอกรักมาเสียบด้วยตะปูเข็มแล้วน�าไปเสียบบนโฟมให้เต็มโดยเริ่มต้น จากการเสียบบริเวณกึ่งกลางของโฟม กะระยะช่องว่างให้เหมาะสม เพื่อความสวยงาม ๓. น�าใบเฟินนาคราชมาเสียบรอบ ๆ พาน กะระยะความห่างให้เหมาะสม ๔. น�าดอกกุหลาบมาเสียบลงในพาน จัดวางต�าแหน่งให้เหมาะสม ๕. น�าดอกมัมมาเสียบตกแต่งลงในพาน จัดวางต�าแหน่งให้เหมาะสม ๖. น�าดอกคัตเตอร์มาเสียบตกแต่งลงในพาน จัดวางต�าแหน่งให้เหมาะสม ๗๔ ดอกรัก ดอกมัม 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 44. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยาง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : พานรด นํ้าสังข จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรู ที่ 4 หนา 74 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การจัดพานรดนํ้าสังขทีละขั้นตอน โดยครู ขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การจัดพานรดนํ้าสังขใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 45. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการจัดพานรด นํ้าสังขมาใหนักเรียนดู 46. ครูสาธิตการจัดพานรดนํ้าสังขใหนักเรียน ดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 47. ครูใหนักเรียนแตละกลุมจัดพานรดนํ้าสังข หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 48. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : พานรดนํ้าสังข โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตองและ อธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 49. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “หากซื้อดอกไม หรือ ใบไมมาจากตลาด กอนการจัดพานควรนํา ดอกไมหรือใบไมมาแชนํ้าทิ้งไวอยางนอย 1-2 ชั่วโมง จากนั้นปลิดกลีบหรือใบที่ไมสวย หรือไมจําเปนออก แลวจึงนําไปจัดพานตาม ที่ไดออกแบบไว” นักเรียนควรรู 1 ดอกรัก มีทั้งดอกสีขาวและดอกสีมวง นิยมนํามาใชในงานมงคลตางๆ การเก็บดอกรักจากตน ควรเก็บอยางระมัดระวัง เนื่องจากยางของตนรักเปน เอนไซมประเภทหนึ่งที่อันตราย มีฤทธิ์กัดกรอน หากสัมผัสถูกผิวหนังจะทําใหเกิด การระคายเคือง แสบ คัน หากถูกศีรษะจะทําใหผมรวง หากเขาปากจะสงผลตอ ระบบทางเดินอาหาร ทําใหอาเจียนและถายอยางรุนแรง หากยางกระเด็น เขาตาจะทําใหตาพรามัว หรือตาบอดได 2 ดอกมัม หรือดอกเบญจมาศ จัดเปนดอกไมมงคลของประเทศจีนและ เปนสัญลักษณของฤดูใบไมรวง มีหลายสายพันธุและหลายสีสันใหเลือกใชงาน ซึ่งสีแตละสีของดอกเบญจมาศจะมีความหมายที่แตกตางกัน เชน สีแดง หมายถึง ความรักการรักใครชอบพอกัน สีขาว หมายถึง ความซื่อสัตย ความจริงใจ สีเหลือง หมายถึงความโชคดี ขอควรคํานึงในการจัดดอกไมเพื่อใหเกิดความสวยงามคือสิ่งใด (แนวตอบ การจัดดอกไมเพื่อใหเกิดความสวยงาม ควรคํานึงถึง สิ่งตางๆ ดังนี้ • สัดสวนและความสูงของดอกไม ควรมีความเหมาะสมกับ ความสูงของภาชนะ • ความสมดุล ควรจัดจํานวนดอกไมภายในภาชนะใหมีความ สมดุลกัน • ความกลมกลืน ควรเลือกชนิดของดอกไมใหเหมาะสมกับ รูปแบบที่ตองการ • ความแตกตาง ควรจัดดอกไมใหมีจุดเดน เพื่อใหเกิดความ สวยงามและสะดุดตา • จังหวะ ควรไลขนาดของดอกไม เริ่มจากดอกตูม ดอกแยม จนถึงดอกบาน) นํา สอน สรุป ประเมิน T82
ขอสอบเนน การคิด งานดอกไม้สด 1 ๒ ๓ ๔ ดอกไม้ ถวายพระ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ๑. ดอกบัว ๒. ใบเตย ๓. ดอกมะลิ ๔. ดอกสร้อยทองญี่ปุ่น ๕. ใบตอง ๖. ธูป เทียน ๗. ก้านมะพร้าว ขั้นตอนการจัดดอกไม้ ๑. จับกลีบดอกบัว ๑ กลีบ พับครึ่งทบ ตามขวาง สอดปลายกลีบเข้าที่ โคนดอกให้ลึก พับในลักษณะ เดียวกันจบครบทุกกลีบ ๒. น�าใบเตยและดอกสร้อยทองญี่ปุ่น มามัดรวมกันให้เป็นช ่อ จัดให้ สวยงาม ๓. น�าดอกมะลิร้อยด้วยก้านมะพร้าว น�าธูป เทียนมัดรวมกันกับใบเตย และดอกสร้อยทองญี่ปุ่น ๔. น�าซองพลาสติกใสมาสวมทับ มัดโคนให้แน่น พันด้วยใบตอง เพื่อปกปิดก้านดอกไม้ ติดโบ ให้สวยงาม งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทย เป็นผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ประเพณีของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย มีทั้งของเล่น ของใช้ และของประดับตกแต่ง ซึ่งมีความงามที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถพบเห็น ได้ทั่วไป เช่น พวงมาลัยดอกไม้สด เครื่องแขวน พานพุ่ม กระเช้าดอกไม้ ช่อดอกไม้งานใบตอง งานจักสาน งานแกะสลักผักและผลไม้ในการฝึกประดิษฐ์ชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยจ�าเป็นต้อง อาศัยความรู้ ทักษะการฝึกปฏิบัติจนเกิดความช�านาญ จึงจะท�าให้ผลงานมีประสิทธิภาพ สามารถ น�ามาใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจ�าวัน หรือประกอบเป็นอาชีพได้ ในอนาคต สรุป งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย ๗๕ ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 50. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย : ดอกไมถวายพระ จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 75 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการจัด ดอกไมถวายพระทีละขั้นตอน โดยครูขอ อาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การจัดดอกไมถวายพระใหเพื่อนฟงหนา ชั้นเรียน 51. ครูนําวัสดุ อุปกรณที่ใชในการจัดดอกไม ถวายพระมาใหนักเรียนดู 52. ครูสาธิตการจัดดอกไมถวายพระใหนักเรียน ดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 53. ครูใหนักเรียนแตละกลุมจัดดอกไมถวายพระ หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 54. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนงานประดิษฐ ที่เปนเอกลักษณไทย : ดอกไมถวายพระ โดยครู เปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบาย เพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรองจาก การปฏิบัติงาน 55. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ดอกไมที่นิยมนํามา ถวายพระมีหลายชนิด เชน ดอกมะลิ สื่อถึง ความรักอันบริสุทธิ์ ความสุขสมบูรณ ดอกพุด สื่อถึงความบริสุทธิ์ เจริญมั่นคง ดอกแกว สื่อถึงความดี จิตใจผองใส ดอกเบญจมาศ สื่อถึงความยั่งยืน” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อในการเลือกดอกไมถวายพระใหนักเรียน ฟงวา การกราบไหวบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพและนับถือ เชน พระพุทธรูป นอกเหนือ จากการนําธูปเทียนและการตั้งจิตมั่นอันเปนกุศลเพื่อนอมสักการะแลว สิ่งที่ ขาดไมไดก็คือดอกไม โดยมีความเชื่อที่สืบทอดตอกันมาวา ดอกไมที่นํามา ถวายพระควรเปนดอกไมที่สวยงาม สดใหม ไมเหี่ยวเฉา เพื่อชวยใหชีวิตมีความ สวยงามดังเชนดอกไม หากใชดอกไมที่เหี่ยวเฉาจะทําใหชีวิตเหี่ยวเฉาตามไปดวย หากดอกไมที่นํามาบูชาพระเหี่ยวเฉา ควรนําไปลอยแมนํ้าแทนการทิ้งลงใน ถังขยะ พรอมทั้งตั้งจิตอธิษฐานวา “ขาแตพระแมคงคา บัดนี้ ขาพเจาชื่อ... นามสกุล... ไดนําดอกไมบูชาที่หิ้งพระที่บานของลูกซึ่งเหี่ยวเฉาแลว มาทําการ จําเริญที่แมนํ้า (หรือลําคลอง) แหงนี้ ขอพระแมคงคาทรงโปรดอนุญาตใหลูก ไดทําการจําเริญพวงมาลัยและดอกไมเหลานี้ดวยเถิด” วิวัฒนาการของงานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยสะทอนใหเห็น ถึงคุณคาในดานใดมากที่สุด 1. การตอบสนองคุณคาทางดานจิตใจ 2. การสืบสานภูมิปญญาทางวัฒนธรรม 3. การเลือกใชวัสดุจากธรรมชาติที่มีในทองถิ่น 4. ความคิดสรางสรรคและคานิยมของคนในสังคม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะวิวัฒนาการของงาน ประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทยไดสะทอนใหเห็นถึงคุณคาทางดาน การสืบสานภูมิปญญาทางวัฒนธรรมจากบรรพบุรุษ มาจนถึง ในยุคปจจุบัน ทั้งยังสะทอนใหเห็นถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และ ประเพณีอันดีงามของชาติที่มีมาตั้งแตอดีตไดเปนอยางดี) นํา สอน สรุป ประเมิน T83
สร้ างสรรค์ พัฒนาการเรียนรู้กิจกรรม ตอนที่ ๑ ค�าชี้แจง : ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นรายบุคคลโดยเขียนตอบ ตามที่ก�าหนด ตอนที่ ๒ ค�าชี้แจง : ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นกลุ่มเพื่อจัดท�ารายงานการศึกษาค้นคว้าเรื่องงานประดิษฐ์ที่แสดง ความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น หรือของไทย โดยปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ เรื่อง งานประดิษฐ์ เอกลักษณ์ไทย ใบมอบหมายงานที่ ๔.1 ๑. งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยมีลักษณะอย่างไร ๒. ของประดับตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ไทยมีคุณค่าต่อนักเรียน สังคม และประเทศชาติอย่างไร ๓. ยกตัวอย่างชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยที่นักเรียนเคยพบเห็นและประทับใจ พร้อมทั้งบอกลักษณะการน�า ไปใช้มา ๕ ชนิด ๔. ถ้าครอบครัวของนักเรียนต้องการตกแต่งห้องนั่งเล่นที่แสดงถึงความเป็นไทยควรตกแต่งอย่างไร เพราะเหตุใด จึงเป็นเช่นนั้น ๕. ในการฝึกประดิษฐ์ชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยนักเรียนมีวิธีการอย่างไรที่จะใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและ เป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม • เลือกหัวหน้ากลุ่ม ระดมความคิดในการคิดหัวข้อการท�ารายงาน • แบ่งงานให้สมาชิกในกลุ่มแต่ละคนไปปฏิบัติ โดยแบ่งงานตามความถนัดและความสมัครใจ • สืบค้นข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ ในท้องถิ่น หรือศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากหนังสือต่าง ๆ หรืออินเทอร์เน็ต • จัดท�าเป็นรูปเล่มรายงาน • น�าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน • ครูและเพื่อน ๆ ร่วมกันแสดงความคิดเห็น และประเมินผลงาน ๗6 กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 3 จัดกลุมรวมมือ 56. ครูใหนักเรียนแตละกลุมลงความเห็นวา จะประดิษฐชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทย ประเภทใด ไดแก งานแกะสลักผักและ ผลไมและงานดอกไมสด ตามความสนใจ 1 ประเภท เพื่อจัดทําโครงงาน เรื่อง งาน ประดิษฐเอกลักษณไทย 57. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1-2 คน ออกมาเลือกวัสดุ อุปกรณที่นํามาใช ในงานประดิษฐเอกลักษณไทยตามที่กลุมของ ตนเองเลือกที่หนาชั้นเรียน โดยครูเปนผูจัด เตรียมวัสดุ อุปกรณดังกลาวไวใหกับนักเรียน 58. ครูใหนักเรียนแบงหนาที่ความรับผิดชอบ ตามความถนัดและความสามารถของแตละ บุคคล โดยครูเปนผูใหคําปรึกษาเกี่ยวกับการ วางแผนการแบงหนาที่การทํางานของสมาชิก ในแตละกลุม 59. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันปฏิบัติการ ประดิษฐชิ้นงานที่ไดเลือกและเตรียมไวตาม หนาที่ที่ไดรับมอบหมาย โดยชวยกันปฏิบัติ ตามขั้นตอนอยางเครงครัด และครูคอยให คําปรึกษา หรือแนะนําขั้นตอนในการประดิษฐ ชิ้นงานดังกลาว เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องแขวน ซึ่งจัดอยูในประเภทของงานดอกไมสด ใหนักเรียนฟงวา เครื่องแขวน เปนงานหัตถศิลปแขนงหนึ่งที่มีความวิจิตรงดงาม และทรงคุณคา มีมาตั้งแตสมัยอยุธยากอนที่จะเสื่อมถอยลงและไดรับการฟนฟู ขึ้นในสมัยรัตนโกสินทรตอนตน และมีความเจริญสูงสุดในสมัยรัชกาลที่ 5 ดัง จะเห็นไดจากการจัดประกวดทําเครื่องแขวนในงานพระราชพิธีตางๆ ในสมัยนี้ ไทยไดติดตอคาขายกับชาวตางชาติมากขึ้น ทําใหไดรับอิทธิพลของวัฒนธรรม ตางชาติเขามาผสมผสาน สงผลใหรูปแบบของเครื่องแขวนมีการผสมผสาน และพัฒนาขึ้นตามสมัยนิยม งานเครื่องแขวนนิยมจัดทําขึ้นเพื่อถวายเปน พุทธบูชา เนื่องในเทศกาลและวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา ใชประดับตาม พระที่นั่งองคตางๆ โดยแขวนไวตามชองประตู หนาตาง หรือระเบียงโบสถ ใหนักเรียนฝกปฏิบัติงานดอกไมสดตามความสนใจ 1 ชนิด จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้ง อธิบายขั้นตอนการปฏิบัติงานดอกไมสดประกอบอยางถูกตอง กิจกรรม สรางเสริม ใหนักเรียนฝกปฏิบัติงานดอกไมสดในรูปแบบที่แปลกใหม จากความคิดสรางสรรคและจินตนาการของตนเองตามความ สนใจ 1 ชนิด จัดทําเปนคลิปวิดีโออธิบายขั้นตอนการปฏิบัติงาน ดอกไมสดประกอบการสาธิตอยางถูกตอง โดยจัดทําเปนคลิป วิดีโอสั้นๆ ความยาวไมเกิน 7 นาที พรอมทั้งอัปโหลดคลิปวิดีโอ ลงในสื่อโซเชียลที่สามารถกดติดตามได จากนั้นออกมานําเสนอ คลิปวิดีโอใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน ขั้นที่ 4 แสวงหาความรู 60. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในการประดิษฐชิ้นงาน ที่เปนเอกลักษณไทยประเภทงานแกะสลัก ผูแกะสลักจะตองจับผักหรือผลไมอยางเบามือ ไมควรจับแรง เพราะจะทําใหผักหรือผลไม ชํ้าได สวนงานดอกไมสด ผูจัดไมควรจับ ที่ดอกโดยตรง เพราะจะทําใหดอกไมชํ้าและ กลีบดอกรวงโรย ซึ่งจะทําใหดอกไมขาดความ สวยงามได” นํา สอน สรุป ประเมิน T84
กิจกรรม Mini Project ค�าชี้แจง : ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเป็นกลุ่มโดยปฏิบัติงานตาม ที่ก�าหนดให้ เรื่อง การประดิษฐ์ชิ้นงาน เอกลักษณ์ ไทย ใบมอบหมายงานที่ ๔.๒ ๑. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มประดิษฐ์ของตกแต่งบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ ไทยตามความสนใจ ๑ ชนิด ๒. แสวงหาความรู้เพื่อการท�างานจากสื่อที่หลากหลาย เช่น หนังสือเรียน นิตยสารต่าง ๆ ปรึกษาผู้รู้ ผู้ช�านาญการในท้องถิ่น ครูผู้สอน ๓. วางแผนการท�างานในรูปแบบโครงงาน จากนั้นน�าส่งเอกสารพร้อมผลงาน โดยมีรายละเอียด ดังนี้ • ชื่อกลุ่ม • รายชื่อหัวหน้ากลุ่มและสมาชิกในกลุ่ม • การแบ่งหน้าที่การท�างานภายในกลุ่ม • รูปแบบงานที่ท�า • หลักการและเหตุผลที่ท�างาน • วัตถุประสงค์ • ระยะเวลาในการท�างาน • งบประมาณที่ใช้ • บัญชีรายรับ-รายจ่าย • วิธีการด�าเนินงาน • บันทึกผลการปฏิบัติงาน • ปัญหา หรืออุปสรรคในการท�างาน • วิธีแก้ปัญหา • ผลการปฏิบัติงาน • ความภาคภูมิใจในการท�างาน งานประดิษฐ์เอกลักษณ์ไทย ๗๗ ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) โครงงาน เรื่อง งานประดิษฐที่เปนเอกลักษณไทย 3. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 สรุปสิ่งที่ไดเรียนรู 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสรุปสิ่งที่ได เรียนรูจากการประดิษฐชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทย ตามที่กลุมของตนเองเลือก เพื่อเตรียมนําเสนอ ผลงานหนาชั้นเรียนในประเด็นที่ครูกําหนดให คือ ประเภทของงานประดิษฐเอกลักษณไทย ที่เลือก วัสดุ อุปกรณที่นํามาใชในการประดิษฐ ชิ้นงาน ขั้นตอนการปฏิบัติ ปญหาที่พบ และ แนวทางการแกปญหา 2. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู และครูชวย เสนอแนะเพิ่มเติม ขั้นที่ 6 นําเสนอผลงาน 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูจากการปฏิบัติงานใน ประเด็นที่ครูกําหนดให โดยครูเปดโอกาสให นักเรียนกลุมอื่นรวมกันซักถามในประเด็นที่ สงสัย 4. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวย การเรียนรูที่ 4 เรื่อง งานประดิษฐเอกลักษณไทย แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 4 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ใหแตละกลุมเลือกประดิษฐ ชิ้นงานที่เปนเอกลักษณไทยตามความสนใจกลุมละ 1 ชิ้น เพื่อนํามาจัดแสดงภายในชั้นเรียน โดยกําหนดใหใน 1 ชิ้นงาน จะตองประกอบไปดวยงานแกะสลักผักและผลไม และงาน ดอกไมสดรวมกัน 2. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวางแผนในการดําเนินงาน พรอมทั้ง มอบหมายหนาที่ในการปฏิบัติงานตามความถนัดและความ สามารถของแตละบุคคล 3. ใหนักเรียนแตละกลุมนําเสนอผลงาน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู ภายในชั้นเรียน โดยมีครูเปนผูใหคําแนะนําและชี้แนะเพิ่มเติม เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจที่ถูกตอง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติ หรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม นํา สอน สรุป ประเมิน T85
Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 การปลูกพืช 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบก่อนเรียน - PowerPoint 1. อธิบายเกี่ยวกับประเภท ของพืชที่ปลูกได้อย ่าง ถูกต้อง 2. วางแผนการปลูกพืช ได้อย่างถูกวิธี 3. รู้จักวิธีขยายพันธุ์พืช และสามารถขยาย พันธุ์พืชได้ แบบเน้น กระบวนการ ปฏิบัติ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 5.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T86
แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 2 การเลี้ยงสัตว์ 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.5 - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 1. ระบุปัจจัยที่มีผลต่อการ เลี้ยงสัตว์ได้ 2. เลี้ยงสัตว์ได้อย่างถูกวิธี 3. ปฏิบัติงานเกษตร ที่สนใจได้ แบบใช้ โครงการ เป็นฐาน (ProjectBased Instruction) - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจโครงงาน - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการส�ำรวจ ค้นหา - ทักษะการสังเกต วิธีการท�ำงาน เพื่อการด�ำรงชีวิต - ทักษะการคิด วิเคราะห์ - ทักษะกระบวน การคิดแก้ปัญหา - ทักษะการสรุป ลงความเห็น - ทักษะการประเมิน - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นใน การท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T87
งานเกษตร สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะการท�างานร่วมกัน เป็นการท�างานกลุ่ม ท�างานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ท�างาน อย่างมีกระบวนการตามขั้นตอน และฝึกหลักการท�างานกลุ่ม ■ ทักษะการจัดการ เป็นการจัดระบบงานและระบบคน เพื่อให้การท�างานส�าเร็จตามเป้าหมาย อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การปลูกพืช ขยายพันธุ์พืช หรือเลี้ยงสัตว์ ■ ทักษะการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ารงชีวิต ประกอบด้วยการศึกษา ค้นคว้า รวบรวม สังเกต ส�ารวจ และบันทึก เช่น การเลี้ยงสัตว์ ■ คุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�างาน เป็นการสร้างคุณงามความดี และควรฝึกให้ผู้เรียนมี คุณภาพที่ส�าคัญๆ เช่น ขยัน อดทน รับผิดชอบ และซื่อสัตย์ ตัวชี้วัด ■ สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะการท�างานร่วมกัน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๒) ■ มีทักษะการจัดการในการท�างาน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๓) ■ มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการด�ารงชีวิต (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๕) ■ มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการท�างาน (ง ๑.๑ ม. ๔-๖/๖) ๑ การปลูกพืช การเพิ่มจ�านวนต้นพืชให้มีปริมาณมากขึ้น โดยน�าพืชที่ปลูกได้ไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ ที่ตั้งไว้ เช่น การปลูกกุหลาบ เพื่อตัดดอกขาย การปลูกไม้ประดับ เพื่อใช้ตกแต่งสถานที่ การปลูก มะม่วงพันธุ์น�้าดอกไม้ เพื่อไว้บริโภค หรือส่งออกไปจ�าหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งการเพาะปลูก เพื่อให้ ได้ผลผลิตที่ดี จุดเริ่มต้นมาจากการขยายพันธุ์พืช หน่วยการเรียนรู้ที่๕ นักเรียนสามารถปลูกพืชและ เลี้ยงสัตว์ชนิดใดได้ และมี วิธีการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ชนิดนั้นอย่างไร 78 ขั้นนํา (แบบเนนกระบวนการปฏิบัติ) ขั้นที่ 1 สังเกตและรับรู 1. ครูแจงชื่อเรื่องที่จะเรียนรูและผลการเรียนรู ใหนักเรียนทราบ จากนั้นใหนักเรียนแตละคน ทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 เรื่อง งานเกษตร 2. ครูนําภาพพืชชนิดตางๆ มาใหนักเรียนดู ไดแก พืชไร เชน ขาวโพด มันสําปะหลัง ออย ขาว บัว แหว กระจับ มะพราว หมาก ตาล มะมวง มะนาว พืชสวน เชน มังคุด ลองกอง สม แกวมังกร ผักกาดขาว ตะไคร กวางตุง ไมดอก เชน กลวยไม กุหลาบ คารเนชัน ชบา บานชื่น หงอนไก ไมประดับ เชน บอนสี วาสนา เฟน ลิ้นมังกร เดหลี บัลเดียนัม ชวนชม ขอย มะสัง 3. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนชอบภาพใดมากที่สุด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ชอบกุหลาบ เพราะเปน ดอกไมที่มีกลิ่นหอม มีสีสันสวยงาม และ สีของกุหลาบแตละสีจะมีความหมายที่ดี แตกตางกันไป เชน สีขาว สื่อความหมายถึง ความรักที่บริสุทธิ์ ความจริงใจ) • จากภาพที่นักเรียนไดชมไปนั้น นักเรียนรูจัก พืชชนิดใดบาง (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • ที่บานของนักเรียนมีการปลูกพืชเหมือนภาพ ที่ไดชมหรือไม หากไมมี ที่บานของนักเรียน ปลูกพืชชนิดใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับงานเกษตรใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเรื่องการปลูกพืชและการเลี้ยงสัตวที่เพิ่มขึ้น สามารถอธิบาย ขอมูล จําแนกประเภท และวางแผนการปลูกพืชไดอยางถูกตอง เลือกใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในการปลูกพืชและการขยายพันธุพืชไดอยางถูกตองและปลอดภัย ลงมือปฏิบัติการปลูกพืชในทองถิ่นและการขยายพันธุพืชไดอยางถูกตอง เพื่อใหเกิดความชํานาญ อธิบายประโยชนและปจจัยที่มีผลตอการเลี้ยงสัตวไดอยาง ถูกตอง เลือกใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในการเลี้ยงสัตวไดอยางถูกตองและปลอดภัย ลงมือปฏิบัติการเลี้ยงสัตวในครัวเรือนไดอยางถูกตอง เพื่อใหเกิดความชํานาญ ใชทรัพยากรอยางคุมคาและยั่งยืน เพื่อเปนการอนุรักษสิ่งแวดลอม นําทักษะการทํางานรวมกันมาประยุกตใชในการทํางาน ใชทักษะการจัดการในการจัดทั้งระบบงาน และระบบคน รวมถึงทักษะในการแสวงหาความรูเพื่อการดํารงชีวิตในการคนหาขอมูลที่เปนประโยชน เพื่อใหผลงานสําเร็จตรงตามเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับงานเกษตร • ใหนักเรียนปฏิบัติการปลูกพืช การขยายพันธุพืช และการเลี้ยงสัตวในครัวเรือน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T88
ขอสอบเนน การคิด การปลูกพืชมีความส�าคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยในหลาย ๆ ด้าน เช่น เป็นแหล่งก�าเนิด ปัจจัย ๔ ที่มีความจ�าเป็นต่อการด�ารงชีวิตของมนุษย์ ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และเครื่องนุ่มห่ม ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมและธรรมชาติให้มีความสมดุล ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ ป้องกันอันตรายจากน�้าท่วมฉับพลัน ลดปัญหาภัยแล้ง สร้างรายได้ ให้แก่ประเทศชาติ เนื่องจาก พืชบางชนิดใช้เป็นสินค้าส่งออก เพื่อน�ารายได้มาพัฒนาประเทศ เป็นแหล่งอาชีพของประชากร เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ของประเทศประกอบอาชีพทางด้านเกษตรกรรม งานเกษตรเป็นการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ผู้ปลูก และผู้เลี้ยงจ�าเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการปลูกพืชและ การเลี้ยงสัตว์ชนิดนั้นๆ สามารถลงมือปฏิบัติจริงได้อย่างถูกต้อง ตามขั้นตอน และได้ผลสัมฤทธิ์ของงานตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนสามารถพัฒนาผลงานที่เกิดจากการเรียนรู้ได้อย่าง สร้างสรรค์ เป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม งานเกษตร 79 ป้องกันอันตรายจากน�้าท่วมฉับพลัน ลดปัญหาภัยแล้ง สร้างรายได้ พืชบางชนิดใช้เป็นสินค้าส่งออก เพื่อน� 1 3 2 เพราะเหตุใดประชากรสวนใหญของประเทศไทยจึงประกอบ อาชีพทางดานเกษตรกรรม 1. เปนอาชีพที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ 2. เปนสิ่งที่ทําไดงาย ไมตองใชเงินลงทุนสูง 3. เปนพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ มีสภาพภูมิอากาศเหมาะสม 4. เปนสิ่งที่ชวยใหครอบครัวมีความสุข ไมตองแยกกันไป ทํางานในเมือง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะประเทศไทยมีลักษณะ ภูมิประเทศที่เอื้อตอการเพาะปลูกพืช ดินมีความอุดมสมบูรณ ประกอบกับการมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม จึงสงผลทําให สามารถปลูกพืชไดทั่วทุกภาคของประเทศ ประชาชนสวนใหญ จึงนิยมประกอบอาชีพทางดานเกษตรกรรม) นักเรียนควรรู 1 นํ้าทวมฉับพลัน เกิดจากฝนตกหนักตอเนื่องเปนเวลานาน ทําใหจํานวนนํ้า สะสมมีปริมาณมากจนพื้นดินและตนไมดูดซับไมไหว จึงไหลบาลงสูที่ราบตํ่า เบื้องลางอยางรวดเร็ว สงผลทําใหบานเรือนพังทลายเสียหาย และอาจทําใหเกิด อันตรายถึงแกชีวิตได 2 ภัยแลง เกิดจาก 2 สาเหตุ ไดแก ธรรมชาติ เชน การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเกิดจากการกระทําของมนุษย เชน การพัฒนาทางดานอุตสาหกรรม การตัดไมทําลายปา สงผลใหขาดแคลนนํ้า เปนเวลานาน จนกอใหเกิดความแหงแลง สงผลกระทบตอชุมชนที่ตองการ นํานํ้ามาใชในการอุปโภค บริโภค 3 พืชบางชนิดใชเปนสินคาสงออก ประเทศไทยมีการสงออกขาวเปนอันดับที่ 1 ซึ่งมีมูลคากวา 51,069.50 ลานบาท ตามดวยยางพารา และมันสําปะหลัง ขั้นนํา ขั้นที่ 1 สังเกตและรับรู • นักเรียนเคยปลูกพืชชนิดใดและคิดวาตนเอง สามารถปลูกพืชตางๆ ดังภาพไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เคยปลูกมะลิ กุหลาบ กลวยไม ดาวเรือง มะมวง ขนุน และคิดวา ตนเองสามารถปลูกพืชดังภาพไดบางชนิด เชน พืชสวน ไมดอก ไมประดับ เพราะเปนพืช ที่สามารถหาซื้อตนพันธุไดงาย และมีขอมูล เกี่ยวกับวิธีการปลูก การดูแลบํารุงรักษา และการปองกันโรคใหศึกษาอยางมากมาย จากแหลงการเรียนรูที่หลากหลาย เชน หนังสือเกี่ยวกับการเกษตร อินเทอรเน็ต) 4. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวา พืชแตละชนิดจากภาพที่ไดชมไปนั้นมีวิธีการ ปลูกและการดูแลบํารุงรักษาอยางไร โดยยก ตัวอยางพืชที่มีการปลูกอยูในทองถิ่นที่นักเรียน อาศัยอยู เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความ เขาใจที่เพิ่มมากขึ้น 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การปลูกพืชจัดเปนการ ปลูกพืชผลทางการเกษตรอยางหนึ่ง ซึ่งสามารถ นํามาเปนปจจัยในการดํารงชีวิตของมนุษยได ดังนั้น เราจึงควรศึกษาและเรียนรูเกี่ยวกับการ ปลูกพืช ซึ่งนอกจากจะสามารถนํามาใชในการ ดํารงชีวิตของตนเองไดแลว ยังสามารถนํา ผลผลิตพืชมาจําหนาย เพื่อสรางรายไดใหแก ตนเอง ครอบครัว และชุมชน ตลอดจนสามารถ พัฒนาเปนอาชีพไดในอนาคต ซึ่งการปลูกพืช นั้นจําเปนตองมีความรูเกี่ยวกับความหมาย และความสําคัญของการปลูกพืช เพื่อนํามา ใชเปนแนวทางในการปลูกพืชที่มีคุณภาพและ ตรงตามความตองการ” นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T89
