The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

2217119TM-การงานอาชีพ-ม2-[221212]

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by กัลยกร ไชยมงคล, 2023-05-12 03:42:05

2217119TM-การงานอาชีพ-ม2-[221212]

2217119TM-การงานอาชีพ-ม2-[221212]

ม.๒ การงานอาชีพ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เพ็ญพร ประมวลสุข วรรณี วงศ์พานิชย์ มนตรี สมไร่ขิง ศิริรัตน์ ฉัตรศิขรินทร ดร.สถิตย์พงษ์ มั่นหลำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ flêÐúôĀÖ úèĀÖùĆüċòĄñè..................................................................................................................................................................................... ÕÐ.- ĎéêòÿÐĀèÓćâïāíùĆēüÐāòċòĄñèòĈśÑüÖùĘāèĀÐíăðíŞċüÐÙè  úèĀÖùĆüċòĄñè òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄí ð ĝ ÙĀĔèðĀçñð÷ąÐøāêŒæĄē ĝ ÐôćŚðùāòÿÐāòċòĄñèòĈśÐāòÖāèüāÙĄí ċôŚðèĄĔ ×ĀãíăðíŞčãñ éòăøĀæ üĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞ ü׿ ×ĘāÐĀã ùĘāúòĀéĎÙśêòÿÐüéÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäòČÐèÐôāÖÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāè íćæç÷ĀÐòāÙ ĝĠĠĜčãñðĄčÓòÖùòśāÖċèĆĔüúāäāðæĄēéòăøĀæÐĘāúèãČôÿðĄëĈśċòĄñéċòĄñÖëĈśäòö× ČôÿéòòâāçăÐāò ãĀÖèĄĔ   ëĈśċòĄñéċòĄñÖ Ĝ ë÷ċíĒÜíò êòÿðöôùćÑ    ĝ èāÖöòò⥠öÖ÷ŞíāèăÙñŞ    Ğ èāñðèäòĄùðďòŚÑăÖ    ğ èāÖ÷ăòăòĀäèŞØĀäò÷ăÑòăèæò    Ġ ãòùåăäñŞíÖøŞðĀēèúôĘā   ëĈśäòö× Ĝ ò÷×üðÑöĀÜ ùćöòòâòĀÐøŞ    ĝ ë÷ ãòċéÜÜā ðÿčèÙĀñ    Ğ èāÖùćÙĄòā ċùāòŞèśüñ   éòòâāçăÐāò Ĝ èāñêŠÜÜā ùĀÖÑŞïăòðñŞ    ĝ èāñùðċÐĄñòäă ïĈŚòÿúÖøŞ éòăøĀæÑüòĀéòüÖöŚā ÓâÿëĈśäòö×ČôÿéòòâāçăÐāòãĀÖÐôŚāö ċêŢèëĈśðĄÓćâùðéĀäăċêŢèďê äāðúôĀÐċÐâàŞČôÿċÖĆēüèďÑæĄēùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèÐĘāúèã ÚąēÖďãś æĘāúèśāæĄēäòö×íă×āòâāÓćâïāíČôÿéòòâāçăÐāòúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔĎúśðĄÓöāðåĈÐäśüÖČôÿðĄÓćâïāí ĎèÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäò úāÐúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔðĄÑśüéÐíòŚüÖéòăøĀæ×ÿêòĀéêòćÖČÐśďÑČôÿùŚÖúèĀÖùĆüæĄēêòĀéêòćÖČôśö Ďúśùåāè÷ąÐøā ĎèÐòâĄðĄċèĆĔüúāďðŚåĈÐäśüÖ ďðŚċúðāÿùð ðĄëôċùĄñäŚüÐāòċòĄñèòĈś ÐŚüĎúśċÐăã ëôċùĄñúāñäŚüÐāò÷ąÐøā Óćâçòòð ×òăñçòòð ČôÿÓöāððĀēèÓÖÑüÖÙāäă éòăøĀæñăèãĄĎúś ùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèåüãåüèòāñÙĆēüüüÐ×āÐéĀÜÙĄêòÿÐā÷ÐĘāúèã úèĀÖùĆüċòĄñè Čôÿíòśüð×ÿċòĄñÐċÐĒéúèĀÖùĆüæĄē×ĘāúèŚāñæĀĔÖúðã ČôÿÙãĎÙśÓŚāċùĄñúāñĎúśÐĀé ùåāè÷ąÐøā èāñÙĀñâòÖÓŞ ôăðêřÐăääăùăè  ÐòòðÐāòëĈś×ĀãÐāòéòăøĀæüĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞü׿×ĘāÐĀã òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄíČôÿċæÓčèčôñĄ ðĝ คู่มือครู บร. วิทยาศาสตร์ ม.2 ล.1 300.- 8 858649 121349 สร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ระดับโลก คู่มือครู นร. การงานอาชีพ ม.2 300.- 8 858649 144126 ใช้ประกอบการสอนคู่กับหนังสือเรียน คู่มือครู อจท. เพิ่ม คำแนะนำการใช้ เพิ่ม คำอธิบายรายวิชา เพิ่ม Pedagogy เพิ่ม Teacher Guide Overview เพิ่ม Chapter Overview เพิ่ม ข้อสอบเน้นการคิด เพิ่ม กิจกรรม 21 Century Skills st ราคานี้เป็นของฉบับคู่มือครูเท่านั้น >> ราคาเล่มนักเรียนโปรดดูจากใบสั่งซื้อของ อจท. บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทร. 0 2622 2999 (อัตโนมัติ 20 คู่สาย) ID Line: @aksornkrumattayom www.aksorn.com อักษรเจริญทัศน์ อจท. ภาพปกนี้มีขนาดเท่ากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน ผู้เรียบเรียงคู่มือครู พรรณมณฑ์ นิลนฤนาท อัญชลี ฉายแสงจันทร์ แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน คู่มือครู ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹ ¡ÒçҹÍÒªÕ¾ Á. ๒ ม.๒ การงานอาชีพ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เพ็ญพร ประมวลสุข วรรณี วงศ์พานิชย์ มนตรี สมไร่ขิง ศิริรัตน์ ฉัตรศิขรินทร ดร.สถิตย์พงษ์ มั่นหลำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ flêÐúôĀÖ úèĀÖùĆüċòĄñè..................................................................................................................................................................................... ÕÐ.- ĎéêòÿÐĀèÓćâïāíùĆēüÐāòċòĄñèòĈśÑüÖùĘāèĀÐíăðíŞċüÐÙè  úèĀÖùĆüċòĄñè òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄí ð ĝ ÙĀĔèðĀçñð÷ąÐøāêŒæĄē ĝ ÐôćŚðùāòÿÐāòċòĄñèòĈśÐāòÖāèüāÙĄí ċôŚðèĄĔ ×ĀãíăðíŞčãñ éòăøĀæ üĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞ ü׿ ×ĘāÐĀã ùĘāúòĀéĎÙśêòÿÐüéÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäòČÐèÐôāÖÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāè íćæç÷ĀÐòāÙ ĝĠĠĜčãñðĄčÓòÖùòśāÖċèĆĔüúāäāðæĄēéòăøĀæÐĘāúèãČôÿðĄëĈśċòĄñéċòĄñÖëĈśäòö× ČôÿéòòâāçăÐāò ãĀÖèĄĔ   ëĈśċòĄñéċòĄñÖ Ĝ ë÷ċíĒÜíò êòÿðöôùćÑ    ĝ èāÖöòò⥠öÖ÷ŞíāèăÙñŞ    Ğ èāñðèäòĄùðďòŚÑăÖ    ğ èāÖ÷ăòăòĀäèŞØĀäò÷ăÑòăèæò    Ġ ãòùåăäñŞíÖøŞðĀēèúôĘā   ëĈśäòö× Ĝ ò÷×üðÑöĀÜ ùćöòòâòĀÐøŞ    ĝ ë÷ ãòċéÜÜā ðÿčèÙĀñ    Ğ èāÖùćÙĄòā ċùāòŞèśüñ   éòòâāçăÐāò Ĝ èāñêŠÜÜā ùĀÖÑŞïăòðñŞ    ĝ èāñùðċÐĄñòäă ïĈŚòÿúÖøŞ éòăøĀæÑüòĀéòüÖöŚā ÓâÿëĈśäòö×ČôÿéòòâāçăÐāòãĀÖÐôŚāö ċêŢèëĈśðĄÓćâùðéĀäăċêŢèďê äāðúôĀÐċÐâàŞČôÿċÖĆēüèďÑæĄēùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèÐĘāúèã ÚąēÖďãś æĘāúèśāæĄēäòö×íă×āòâāÓćâïāíČôÿéòòâāçăÐāòúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔĎúśðĄÓöāðåĈÐäśüÖČôÿðĄÓćâïāí ĎèÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäò úāÐúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔðĄÑśüéÐíòŚüÖéòăøĀæ×ÿêòĀéêòćÖČÐśďÑČôÿùŚÖúèĀÖùĆüæĄēêòĀéêòćÖČôśö Ďúśùåāè÷ąÐøā ĎèÐòâĄðĄċèĆĔüúāďðŚåĈÐäśüÖ ďðŚċúðāÿùð ðĄëôċùĄñäŚüÐāòċòĄñèòĈś ÐŚüĎúśċÐăã ëôċùĄñúāñäŚüÐāò÷ąÐøā Óćâçòòð ×òăñçòòð ČôÿÓöāððĀēèÓÖÑüÖÙāäă éòăøĀæñăèãĄĎúś ùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèåüãåüèòāñÙĆēüüüÐ×āÐéĀÜÙĄêòÿÐā÷ÐĘāúèã úèĀÖùĆüċòĄñè Čôÿíòśüð×ÿċòĄñÐċÐĒéúèĀÖùĆüæĄē×ĘāúèŚāñæĀĔÖúðã ČôÿÙãĎÙśÓŚāċùĄñúāñĎúśÐĀé ùåāè÷ąÐøā èāñÙĀñâòÖÓŞ ôăðêřÐăääăùăè  ÐòòðÐāòëĈś×ĀãÐāòéòăøĀæüĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞü׿×ĘāÐĀã òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄíČôÿċæÓčèčôñĄ ðĝ คู่มือครู บร. วิทยาศาสตร์ ม.2 ล.1 300.- 8 858649 121349 สร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ระดับโลก คู่มือครู นร. การงานอาชีพ ม.2 300.- 8 858649 144126 ใช้ประกอบการสอนคู่กับหนังสือเรียน คู่มือครู อจท. เพิ่ม คำแนะนำการใช้ เพิ่ม คำอธิบายรายวิชา เพิ่ม Pedagogy เพิ่ม Teacher Guide Overview เพิ่ม Chapter Overview เพิ่ม ข้อสอบเน้นการคิด เพิ่ม กิจกรรม 21 Century Skills st ราคานี้เป็นของฉบับคู่มือครูเท่านั้น >> ราคาเล่มนักเรียนโปรดดูจากใบสั่งซื้อของ อจท. บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทร. 0 2622 2999 (อัตโนมัติ 20 คู่สาย) ID Line: @aksornkrumattayom www.aksorn.com อักษรเจริญทัศน์ อจท. ภาพปกนี้มีขนาดเท่ากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน ผู้เรียบเรียงคู่มือครู พรรณมณฑ์ นิลนฤนาท อัญชลี ฉายแสงจันทร์ แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน คู่มือครู ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹ ¡ÒçҹÍÒªÕ¾ Á. ๒


คำู่มือคำรู Teacher Script ผู้เรียบเรียงหนังสือเรียน ผศ.เพ็ญพร ประมวลสุข นางวรรณี วงศ์พานิชย์ นายมนตรี สมไร่ขิง นางศิริรัตน์ ฉัตรศิขรินทร ดร.สถิตย์พงษ์ มั่นหล�า ผู้เรียบเรียงคู่มือครู นางสาวพรรณมณฑ์ ันิลนฤนาท นางสาวอัญชลี ัฉายแสงจันทร์ ผู้ตรวจหนังสือเรียน รศ.จอมขวัญ สุวรรณรักษ์ ผศ. ดร.เบญญา มะโนชัย นางสุชีรา เสาร์น้อย บรรณาธิการหนังสือเรียน นายปัญญา สังข์ภิิรมย์ นายสมเกียรติ ภิู่ระหงษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำรงำนอำชีพ ม.2 พิมพครั้งที่ 5 สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ รหัสสินคา : 2247016


ปจจุบันมีเครื่องดื่มหลายชนิด ทั้งน�้าผักและผลไม้ น�้าสมุนไพร ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย ท�าให้ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณสดใส ผู้บริโภคจึงควรเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมและผลิตเครื่องดื่ม ไว้บริโภคเอง เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือท�าเป็นอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้ ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) ó หน่วยการเรียนรู้ที่ à¤Ã×èͧ´×èÁ áÅСÒúÃÔ¡Òà เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับเครื่องดื่มและการบริการใหนักเรียน ฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ เรื่องเครื่องดื่มและการบริการ ใชทักษะการ แสวงหาความรูและทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางานอยางเปนขั้นตอน ในการเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม ใชทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานไดอยางประหยัดและคุมคา โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิด ความรู ความเขาใจเกี่ยวกับทักษะตางๆ ที่มีความเกี่ยวของกับเครื่องดื่ม และการบริการ • ใหนักเรียนจําแนกประเภทของเครื่องดื่ม อธิบายประโยชนและโทษของ เครื่องดื่มแตละชนิดได • ใหนักเรียนฝกเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม ขั้นนํา (เนนทักษะกระบวนการเรียนความรู ความเขาใจ) 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนชอบเครื่องดื่มชนิดใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ชอบดื่มนมรสจืด เพราะ ชวยใหรางกายเจริญเติบโตและแข็งแรง ชวยซอมแซมสวนที่สึกหรอ ชอบดื่มนํ้าผลไม เพราะดื่มแลวใหความรูสึกสดชื่น ทั้งยังมี คุณคาทางโภชนาการสูงอีกดวย ชอบดื่ม นํ้าอัดลม เพราะดื่มแลวใหความรูสึกสดชื่น กระปรี้กระเปรา และมีรสชาติอรอย ชอบ ดื่มนํ้าเปลา เพราะมีประโยชนตอรางกาย และเปนสิ่งที่จําเปนตอรางกายเปนอยางยิ่ง) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เครื่องดื่มที่นักเรียน ชื่นชอบมีทั้งเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอรางกาย และเครื่องดื่มที่ใหโทษตอรางกาย หากดื่มใน ปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งในปจจุบันมีเครื่องดื่ม ที่ผลิตและจําหนายอยูหลายชนิด จึงควรเลือก ดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอรางกาย เพราะ จะชวยใหรางกายแข็งแรงและเจริญเติบโตได อยางสมบูรณ” 4. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • หากที่บานปลูกผักสวนครัวไวหลายชนิด นักเรียนจะนําผักเหลานั้นมาประกอบเปน เครื่องดื่มชนิดใดไดบาง และจะมีขั้นตอน ในการทําอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ทํานํ้าขิงมะนาว โดยมี ขั้นตอนการทํา คือ เตรียมนํ้าอุน 1 แกว ฝานเหงาขิงขนาด 1 2 นิ้ว นําไปแชนํ้าอุน นาน 3-5 นาที ฝานมะนาวเปนชิ้นบางๆ นํา ลงไปแช หากตองการใหมีรสชาติหวานให เติมนํ้าผึ้งลงไปตามตองการ) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T38 โซน 1 โซน 2 โซน 3 ค�ำแนะน�ำกำรใช้ โซน 2 โดยประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ส�าหรับ ครู เพื่อน�าไปประยุกต์ใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน ช่วยครูเตรียมสอน เกร็ดแนะครู ความรู้เสริมส�าหรับครู ข้อเสนอแนะ ข้อสังเกต แนวทางการจัด กิจกรรมและอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอน นักเรียนควรรู ความรู้เพิ่มเติมจากเนื้อหา ส�าหรับอธิบายเสริมเพิ่มเติมให้ กับนักเรียน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ครูผู้สอน โดยแนะน�าขั้นตอนการสอน และการจัดกิจกรรมอย่างละเอียด เพื่อให้นักเรียนบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามตัวชี้วัด ช่วยครูจัด กำรเรียนกำรสอน น�ำ สอน สรุป ประเมิน โซน 1 คู่มือครู รายวิชา การงานอาชีพ ม.2 จัดท�าขึ้นเพื่อให้ครูผู้สอน ใช้เป็นแนวทางวางแผนการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนและประกันคุณภาพผู้เรียน ตามนโยบายของส�านักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) คําแนะนําการใช ชวยสรางความเขาใจ เพื่อใชคูมือครูได อยางถูกตองและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด คําอธิบายรายวิชา แสดงขอบขายเนื้อหาสาระของรายวิชา ซึ่งครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดตามที่หลักสูตร กําหนด Pedagogy ชวยสรางความเขาใจในกระบวนการออกแบบ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ไดอยางมี ประสิทธิภาพ Teacher Guide Overview ชวยใหเห็นภาพรวมของการ จัดการเรียนการสอนทั้งหมดของรายวิชากอนที่จะลงมือ สอนจริง Chapter Overview ชวยสรางความเขาใจและเห็นภาพรวม ในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรูแตละหนวย ขอสอบเนนการคิด เพื่อเตรียมความพรอมของผูเรียน สูการสอบในระดับตาง ๆ กิจกรรม 21st Century Skills กิจกรรมที่จะชวยพัฒนา ผูเรียนใหมีทักษะที่จําเปนสําหรับการเรียนรูและการดํารงชีวิต ในโลกแหงศตวรรษที่ 21 เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม


ขอสอบเนน การคิด ๑ ชนิดของเครื่องดื่ม ปจจุบันเครื่องดื่มที่ผลิตและจ�าหน่ายอยู่ โดยทั่วไปมีมากมาย หลายชนิด ทั้งแบบที่มีประโยชน์และแบบที่อาจเป็นอันตราย ต่อร่างกาย ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ผู้ผลิตควรเลือกผลิตเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของ ผู้บริโภคให้มากที่สุด ในการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม ผู้บริโภคควรเลือกบริโภค เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ มีคุณค่าต่อร่างกาย และมีความเหมาะสม กับตนเอง เพราะเครื่องดื่มเหล่านั้นจะช่วยเสริมสร้างความ แข็งแรงของร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ช่วยพัฒนา การเจริญเติบโตของร่างกายให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เครื่องดื่ม โดยทั่วไป มีดังนี้ ¹Ñ¡àÃÕ¹ÁÕ¢Ñ鹵͹ ËÃ×ÍÇÔ¸Õ¡Òà »ÃСͺà¤Ã×èͧ´×èÁà¾×èÍÊØ¢ÀÒ¾ äÇŒºÃÔâÀ¤ã¹¤ÃÑÇàÃ×͹Í‹ҧäà สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สรางทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน - การเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม นํ้าดื่ม นํ้าหวานผสมสี นํ้าหวานอัดแกส นํ้าแร่ น�้าสะอาด ปราศจากเชื้อโรค พยาธิ และสารเคมีที่มีพิษต ่อ ร ่างกาย มีคุณภาพตรงตาม มาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก ได้ก�าหนดไว้ ไม่มีรสชาติ และไม่ อัดลม เครื่องดื่มที่ ไม่มีแอลกอฮอล์ ประกอบด้วยน�้าตาลละลายน�้า มีการแต่งสี กลิ่น รส และใส่สาร กันเสีย ก่อนดื่มต้องมีการเติมน�้า ให้เจือจางก่อน น�้าที่ ได้จากแหล ่งน�้าที่เกิด ขึ้นเองตามธรรมชาติมีแร ่ธาตุ บางชนิดผสมอยู ่ ในปริมาณที่ เหมาะสม แร่ธาตุที่ส�าคัญ เช่น แคลเซียม ฟลูออไรด์ แมกนีเซียม เครื่องดื่มที่ท�าจากน�้าหวาน มีการแต่งสี กลิ่น รส และเติม กรด เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ กรดจากผลส้ม เมื่อดื่มแล้วจะให้ ความรู้สึกสดชื่น เครื่องดื่ม และการบริการ 33 นํ้าดื่ม นํ้าแร่ กันเสีย ก่อนดื่มต้องมีการเติมน�้า มีการแต่งสี กลิ่น รส และใส่สาร 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • เครื่องดื่มแบงออกเปนกี่ชนิด และมีชนิดใด ที่นักเรียนเคยดื่ม (แนวตอบ เครื่องดื่มจะมีเกณฑในการแบง ชนิดหลายวิธี เชน แบงออกเปน 5 กลุมหลัก ไดแก กลุมนํ้าดื่มและนํ้าแร กลุมซอฟตดริงก เชน โซดา โคลา นํ้าผักและผลไม กลุม นํ้าหวาน เชน นํ้าหวานผสมสี นํ้าหวาน อัดแกส กลุมนม เชน นมปรุงแตง นมเปรี้ยว นํ้านมจากพืช และกลุมอื่นๆ เชน ชา กาแฟ โกโก ซึ่งเครื่องดื่มที่เคยดื่มมีหลายชนิด เชน นํ้าแร นํ้าผักและผลไม นมเปรี้ยว นํ้าอัดลม นํ้าหวานผสมสี โกโก) 2. ครูใหนักเรียนดูภาพเครื่องดื่มชนิดตางๆ และใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวา เครื่องดื่มชนิดใดมีประโยชนตอรางกายและ เครื่องดื่มชนิดใดหากบริโภคมากเกินไปจะเปน อันตรายตอรางกาย 3. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนจะมีวิธีในการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม เพื่อใหเกิดประโยชนตอรางกายไดอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน การเลือกเครื่องดื่มเพื่อใหเกิด ประโยชนตอรางกาย ควรเลือกดื่มนํ้าเปลา เพราะมีประโยชนตอรางกาย ชวยเผาผลาญ พลังงาน ชวยขับถายของเสียโดยเฉพาะ ไขมันที่ตองกําจัดออก ทําใหรางกายทํางาน ไดอยางมีประสิทธิภาพมากขึ้น) 4. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิด ของเครื่องดื่ม จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 3 นักเรียนควรรู 1 นํ้าดื่ม ในแตละวันควรดื่มนํ้าใหเพียงพอตอความตองการของรางกาย และดื่มใหถูกเวลา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใหแกรางกาย คือ ดื่มนํ้าใหไดวันละ 6-9 แกว ดื่มนํ้า 2 แกว เมื่อตื่นนอน ชวยกระตุนการทํางานของอวัยวะภายใน ดื่มนํ้า 1 แกว กอนมื้ออาหาร 30 นาที ชวยใหระบบการยอยอาหารดีขึ้น ดื่มนํ้า 1 แกว กอนอาบนํ้า ชวยลดความดันโลหิต ดื่มนํ้า 1 แกว กอนเขานอน ชวยหลีกเลี่ยงภาวะเสนเลือดในสมองแตก 2 นํ้าแร เปนแหลงนํ้าธรรมชาติที่อุดมไปดวยแรธาตุหลายชนิด โดยสิ่งที่ ทําใหนํ้าแรมีความแตกตางไปจากนํ้าดื่มก็คือปริมาณแรธาตุที่มีอยูนอยกวา ควรดื่มนํ้าแรในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากมีแรธาตุเขาไปสะสมอยูมาก จะทําใหรางกายเสียสมดุล 3 สารกันเสีย เรียกอีกอยางหนึ่งวา “สารกันบูด” หรือ “วัตถุกันเสีย” (Presevatives) เปนสารเคมีที่นิยมนํามาใชในการถนอมอาหาร ทําหนาที่ในการ ยับยั้ง หรือทําลายจุลินทรียที่ทําใหอาหารเกิดการเนาเสีย บุคคลในขอใดเลือกบริโภคเครื่องดื่มไดอยางเหมาะสม 1. นลินจะเลือกดื่มเฉพาะนํ้าแรเทานั้น 2. นาราดื่มนมรอนกอนนอนเปนประจําทุกคืน 3. นาธานซื้อกาแฟเย็นมาดื่มอยางนอยวันละ 4 แกว 4. นภัทรชอบชวนเพื่อนไปดื่มสุราหลังเลิกงานทุกวันศุกร (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการดื่มนมกอนนอนมี ประโยชนในหลายๆ ดาน เชน แกอาการนอนไมหลับ ทําใหนอนหลับ สบาย ชวยเสริมสรางความแข็งแรงใหกับกระดูก ปองกันอาการเปน ตะคริว ปองกันโรคหัวใจ แกปวดทองประจําเดือน แกปวดศีรษะ ชวยแซมแซมสวนที่สึกหรอของรางกาย ปรับสมดุลการทํางาน ของระบบลําไส ฯลฯ) นํา สอน สรุป ประเมิน T39 โซน 1 โซน 2 โซน 3 ประกอบด้วยแนวทางส�าหรับการจัดกิจกรรมและ เสนอแนะแนวข้อสอบ เพื่ออ�านวยความสะดวกให้แก่ครูผู้สอน โซน 3 ช่วยครูเตรียมนักเรียน แนวทางการวัดและประเมินผล เสนอแนะแนวทางการบรรลุผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่หลักสูตรก�าหนด บูรณาการอาเซียน ความรู้เสริมหรือการเชื่อมโยงในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาคม อาเซียน สื่อ Digital การแนะน�าแหล่งเรียนรู้และแหล่งค้นคว้าจากสื่อ Digital ต่าง ๆ โซน 3 ช่วยครูเตรียมนักเรียน กิจกรรม 21st Century Skills กิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ประยุกต์ใช้ความรู้มาสร้างชิ้นงาน หรือท�ากิจกรรมรวบยอดเพื่อให้เกิดคุณลักษณะที่ระบุในทักษะ แห่งศตวรรษที่ 21 ขอสอบเนนการคิด ตัวอย่างข้อสอบที่มุ่งเน้นการคิด มีทั้งปรนัย-อัตนัย พร้อม เฉลยอย่างละเอียด กิจกรรมเสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค กิจกรรมเสนอแนะแนวทางการเสริมสร้างคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ กิจกรรมทาทาย เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรม เพื่อต่อยอดส�าหรับนักเรียน ที่เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และต้องการท้าทายความสามารถใน ระดับที่สูงขึ้น กิจกรรมสรางเสริม เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมซ่อมเสริมส�าหรับนักเรียนที่ ควรได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ กิจกรรม Mini Project เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อให้สามารถน�าความรู้ที่ ได้รับมาออกแบบชิ้นงานตามความสนใจ 1 ชิ้น โดยใช้หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 และแบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู การงานอาชีพ ม.2 ของบริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จ�ากัด เป็นสื่อหลัก (Core Material) ประกอบการสอน และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้สอดคล้อง ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยคู่มือครูมีองค์ประกอบที่ง่ายต่อการใช้งาน ดังนี้


ค�ำอธิบายรายวิชา การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลาเรียน40 ชั่วโมง/ปี ศึกษา ค้นคว้า รวบรวม สังเกต ส�ำรวจ บันทึก และแสวงหาความรู้เพื่อใช้ในการพัฒนาการท�ำงาน การจัด และตกแต่งบ้าน การดูแลรักษาและตกแต่งสวน การจัดการผลผลิต ใช้ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�ำงาน การเตรียมประกอบจัดตกแต่งและบริการเครื่องดื่มการเลี้ยงสัตว์การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในโรงเรียน หรือท้องถิ่น การติดต่อสื่อสารและใช้บริการกับหน่วยงานต่างๆมีจิตส�ำนึกในการท�ำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติ งานอย่างประหยัดและคุ้มค่ามีการเสริมสร้างประสบการณ์อาชีพ การเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพ และมีทักษะพื้นฐานที่จ�ำเป็น ส�ำหรับการประกอบอาชีพที่สนใจ เพื่อให้เกิดความตระหนักและเห็นคุณค ่าของการท�ำงาน มีทักษะกระบวนการท�ำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการท�ำงานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้สามารถน�ำความรู้มาประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจ�ำวันได้มีความสามารถในการตัดสินใจมีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมที่เหมาะสมรวมถึงมีจิตส�ำนึก ในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมอย่างประหยัดและคุ้มค่า ตัวชี้วัด ง 1.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ง 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 รวม 6 ตัวชี้วัด


Pedagogy จัดท�ำขึ้นเพื่อให้ครูผู้สอนน�ำไปใช้เป็นแนวทางวางแผนพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของผู้เรียนโดยสามารถวางแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้หนังสือเรียนรายวิชาการงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 (ฉบับประกัน) ที่ทางบริษัท อักษรเจริญทัศน์อจท. จ�ำกัด จัดพิมพ์จ�ำหน่าย เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 โดยออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้(Instructional Design) เน้นกระบวนการปฏิบัติโดยใช้โครงการเป็นหลัก(Project-BasedInstruction) รูปแบบการสอนโดยใช้กระบวนการปฏิบัติ วิธีการสอน เทคนิคการสอน • การใช้คำถาม • การเล่นเกม • การใช้ตัวอย่างกระตุ้นความคิด • การใช้สื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจ ทักษะที่ใช้ • การท�ำงานร่วมกัน • การวิเคราะห์ • การมีความคิดสร้างสรรค์ • การคิดอย่างมีเหตุผล • การสังเกต • การสืบค้น • แบบบรรยาย • การสาธิต • การอภิปรายกลุ่มย่อย • การแสดงบทบาทสมมติ • การใช้กรณีตัวอย่าง • การใช้สถานการณ์จำลอง • การใช้ศูนย์การเรียนรู้ • การลงมือปฏิบัติ ด้วยจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนการงานอาชีพ เพื่อช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะพื้นฐานที่จ�ำเป็นต่อการด�ำรงชีวิต รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง น�ำความรู้เกี่ยวกับการด�ำรงชีวิต และการอาชีพ มาประยุกต์ใช้ในการท�ำงานได้อย่างสร้างสรรค์ เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการท�ำงาน มีเจตคติที่ดีต่อ การท�ำงาน สามารถด�ำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียงและมีความสุข ผู้จัดท�ำจึงเลือกใช้รูปแบบการสอนโดยใช้โครงการเป็นหลัก ซึ่งเป็นขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งให้ผู้เรียน แสวงหาประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีประโยชน์ต่อชีวิตประจ�ำวัน โดยใช้ศักยภาพที่ตนเองมีผู้เรียนจะมีส่วนร่วมในการ ก�ำหนดงานที่ท�ำ มุ่งให้ผู้เรียนได้ใช้ทักษะการสืบค้นและการปฏิบัติจริง เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่การปฏิบัติงานอื่นๆในการ ด�ำรงชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับธรรมชาติของวิชาการงานอาชีพ คู่มือครู การงานอาชีพ ม.2


การงานอาชีพ ม.2 หน่วย การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ทักษะที่ได้ เวลา ที่ใช้ การประเมิน สื่อที่ใช้ 1 ทักษะในการ ทำางานเพื่อการ ดำารงชีวิต 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 7 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่1.1.1 เรื่อง กระบวนการ ท�ำงาน 3. ตรวจใบงานที่1.3.1เรื่องการติดต่อสื่อสาร และการใช้บริการกับหน่วยงานต่างๆ 4. ตรวจแผนผังมโนทัศน์เรื่อง วิเคราะห์ผล ของการน�ำคุณธรรมจริยธรรมและการใช้ ทรัพยากรในการปฏิบัติงาน 5. การน�ำเสนอผลงาน 6. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นรายบุคคล 7. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นกลุ่ม 8. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 9. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 2 การจัดตกแต่ง บ้านและ บริเวณบ้าน 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 5 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่2.1.1 เรื่อง การจัดและ ตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ 3. ตรวจใบงานที่2.2.1 เรื่อง การจัดและ ตกแต่งสวน 4. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) เรื่อง บ้านและสวน 5. การน�ำเสนอผลงาน 6. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นรายบุคคล 7. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นกลุ่ม 8. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 9. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 3 เครื่องดื่ม และการบริการ 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 5 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่3.1.1 เรื่อง ชนิดและ หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม 3. ตรวจใบงานที่3.2.1 เรื่อง เครื่องดื่มที่ ฉันเลือก 4. ตรวจใบงานที่3.3.1 เรื่อง ออกแบบการ จัดและตกแต่งเครื่องดื่ม 5. ตรวจใบงานที่3.3.2 เรื่อง การบริการ เครื่องดื่ม 6. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) เรื่อง เครื่องดื่มและการบริการ 7. การน�ำเสนอผลงาน 8. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานรายบุคคล 9. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม 10. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 11. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint Teacher Guide Overview


หน่วย การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ทักษะที่ได้ เวลา ที่ใช้ การประเมิน สื่อที่ใช้ 4 งานช่างในบ้าน 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 5 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจป้ายนิเทศ เรื่อง การฝึกงานช่าง 3. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ซ่อมได้ 4. การน�ำเสนอผลงาน 5. สังเกตพฤติกรรมการทำ� งานเป็นรายบุคคล 6. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นกลุ่ม 7. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 5 การประดิษฐ์ ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 8 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่5.1.1 เรื่อง การวางแผน ประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่ง 3. ตรวจการประดิษฐ์แจกันจากขวดพลาสติก 4. ตรวจการสร้างบรรจุภัณฑ์ของงานประดิษฐ์ 5. ตรวจการจัดจ�ำหน่ายผลงานประดิษฐ์ 6. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) เรื่อง การจัดจ�ำหน่ายงานประดิษฐ์ 7. การน�ำเสนอผลงาน 8. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นรายบุคคล 9. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นกลุ่ม 10. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 11. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 6 การเลี้ยงสัตว์ ในบริเวณบ้าน 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 6 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่6.1.1 เรื่อง สัตว์เลี้ยงใน บริเวณบ้าน 3. ตรวจใบงานที่6.2.1 เรื่อง การเลี้ยงปลา สวยงาม 4. ตรวจใบงานที่6.3.1 เรื่อง การวางแผน เลี้ยงไก่ไข่ 5. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) เรื่องการวางแผนเลี้ยงสัตว์ในบริเวณบ้าน 6. การน�ำเสนอผลงาน 7. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นรายบุคคล 8. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นกลุ่ม 9. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 10. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 7 การเสริมสร้าง ประสบการณ์ เพื่อเข้าสู่อาชีพ 1. อธิบายการเสริมสร้าง ประสบการณ์อาชีพ 2. ระบุการเตรียมตัว เข้าสู่อาชีพ 3. มีทักษะพื้นฐานที่ จ�ำเป็นส�ำหรับการ ประกอบอาชีพที่ สนใจ 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 4 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่ 7.2.1 เรื่อง การเตรียม ความพร้อมก่อนการสมัครงาน 3. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพ 4. การน�ำเสนอผลงาน 5. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานรายบุคคล 6. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม 7. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint


สารบัญ Chapter Title Chapter Overview Teacher Script หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ทักษะในการทำงานเพื่อการ ดำรงชีวิต T2-T3 T4 • ทักษะเพื่อพัฒนาการท�ำงาน • คุณธรรมและจริยธรรมในการท�ำงาน • การใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงาน • การติดต่อสื่อสารและการใช้บริการกับหน่วยงานต่างๆ T5-T8 T8 T9 T10-T11 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การจัดตกแต่งบ้านและ บริเวณบ้าน T12-T13 T14 • ประเภทของบ้าน • ลักษณะของบ้านที่น่าอยู่ • หลักการจัดและตกแต่งบ้าน • เครื่องใช้และของประดับในการจัดและตกแต่งบ้าน • การจัดและตกแต่งบ้าน • การจัดและตกแต่งสวนในบริเวณบ้าน T15 T16 T17-T19 T20-T22 T23-T25 T26-T35 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เครื่องดื่มและการบริการ T36-T37 T38 • ชนิดของเครื่องดื่ม • หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม • การประกอบเครื่องดื่ม • ตัวอย่างการประกอบเครื่องดื่ม • การจัดและตกแต่งเครื่องดื่ม • การบริการเครื่องดื่ม T39-T41 T42 T43-T45 T46-T49 T50-T51 T52-T53 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 งานช่างในบ้าน T54-T55 T56 • ความส�ำคัญของงานช่างในบ้าน • ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติงานช่างในบ้าน • งานช่างในบ้านที่ส�ำคัญ • ขั้นตอนการปฏิบัติงานช่างในบ้าน • ตัวอย่างการปฏิบัติงานช่างในบ้าน T57 T57 T58 T58-T59 T60-T73


Chapter Title Chapter Overview Teacher Script หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 กำรประดิษฐของใช้จำกวัสดุ ในท้องถิ่น T74-T75 T76 • ความส�าคัญของการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง • ประโยชน์ที่ได้รับจากการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง • หลักการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง • ตัวอย่างการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในโรงเรียน หรือท้องถิ่น • การจัดการกับผลงานประดิษฐ์ • การจัดจ�าหน่ายผลงานประดิษฐ์ T77 T77 T78-T79 T80-T87 T88-T92 T93-T99 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 กำรเลี้ยงสัตวในบริเวณบ้ำน T100-T101 T102 • ความส�าคัญของการเลี้ยงสัตว์ในบริเวณบ้าน • ปจจัยของการเลี้ยงสัตว์ในบริเวณบ้าน • ประเภทของสัตว์เลี้ยงในบริเวณบ้าน • ตัวอย่างการเลี้ยงสัตว์ในบริเวณบ้าน T103 T104 T104 T105-T121 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 กำรเสริมสร้ำงประสบกำรณ เพื่อเข้ำสู่อำชีพ T122-T123 T124 • การเสริมสร้างประสบการณ์อาชีพ • การเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพ T125-T131 T132-T138 บรรณำนุกรม T139-T140


Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ทักษะเพื่อการ ท�ำงาน 3 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายทักษะการ แสวงหาความรู้และ กระบวนการแก้ปัญหา ในการท�ำงานได้อย่าง ถูกต้องและเหมาะสม 2. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้และกระบวนการ แก้ปัญหาในการท�ำงาน ได้อย่างเหมาะสม 3. มีความกระตือรือร้น ที่จะแสวงหาความรู้ และแก้ปัญหาตาม กระบวนการในการ ท�ำงานได้อย่าง เหมาะสม แบบเน้น กระบวนการ อุปนัย - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 1.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 2 คุณธรรม จริยธรรม และ การใช้ทรัพยากร ในการปฏิบัติงาน 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. บอกคุณธรรมจริยธรรม และการใช้ทรัพยากรที่มี ความส�ำคัญในการ ปฏิบัติงานได้อย่าง เหมาะสม 2. วิเคราะห์ผลของการน�ำ คุณธรรม จริยธรรม และการใช้ทรัพยากร ในการปฏิบัติงานได้ อย่างถูกต้อง 3. ปฏิบัติงานโดยน�ำ คุณธรรม จริยธรรม และการใช้ทรัพยากร อย่างคุ้มค่ามาใช้ในการ ปฏิบัติงานได้อย่าง เหมาะสม 4. มีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับ คุณธรรม จริยธรรม และการใช้ทรัพยากร อย่างคุ้มค่าในการ ปฏิบัติงานที่จะน�ำไป ปรับใช้ในชีวิตประจ�ำวัน แบบเน้น กระบวนการ สร้างความ ตระหนัก - ตรวจแผนผังมโนทัศน์ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T2


แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 3 การติดต่อ สื่อสารและ การใช้บริการกับ หน่วยงานต่าง ๆ 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบหลังเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายความส�ำคัญ วิธีการติดต่อสื่อสาร และการใช้บริการกับ หน่วยงานต่างๆ ได้ อย่างถูกต้อง 2. ติดต่อสื่อสารและใช้ บริการกับหน่วยงาน ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม 3. เห็นความส�ำคัญ ของการติดต่อสื่อสาร และการใช้บริการกับ หน่วยงานต่างๆ และน�ำไปปฏิบัติ อย่างสม�่ำเสมอในการ ด�ำเนินชีวิตประจ�ำวัน แบบเน้น กระบวนการ อุปนัย - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจใบงานที่ 1.3.1 - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T3


ในการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต อาจมีปัญหาที่ต้องแก้ไข เพื่อให้งานส�าเร็จตามเป้าหมาย ซึ่งต้องใช้ทักษะหลากหลายทั้งทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการสื่อสาร และอื่น ๆ การเรียนรู้ และการท�าความเข้าใจทักษะต่าง ๆ จะช่วยให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยัง เป็นรากฐานในการท�างานต่อไปในอนาคต ช่วยสร้างจิตส�านึกในการท�างานและใช้ทรัพยากร ในการปฏิบัติงานอย่างประหยัด คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพสูงสุด ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) ñ หน่วยการเรียนรู้ที่ ·Ñ¡ÉÐ㹡Ò÷íÒ§Ò¹ à¾×èÍ¡ÒôíÒçªÕÇÔµ ขั้นนํา (เนนกระบวนการอุปนัย) 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • หากตองทํางานรวมกับผูอื่น ควรนําทักษะใด มาประยุกตใช เพื่อใหการทํางานสําเร็จลุลวง ตามที่ไดรับมอบหมายอยางมีประสิทธิภาพ (แนวตอบ ควรนําทักษะการทํางานรวมกัน มาประยุกตใชในการทํางานรวมกับผูอื่น ซึ่งทักษะนี้จะมีการเลือกหัวหนากลุมจาก สมาชิกภายในกลุม มีการกําหนดเปาหมาย และวางแผนการทํางานรวมกัน มีการแบง หนาที่การทํางานตามความถนัดและความ สามารถของแตละบุคคล มีการติดตามและ ประเมินผล เพื่อนําผลที่ไดรับมาปรับปรุง แกไขผลงานใหเกิดความสมบูรณและ มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การทํางานรวมกับผูอื่น จะกอใหเกิดทักษะตางๆ อยางหลากหลาย เชน การทําสิ่งประดิษฐเขาแขงขัน การขับรอง เพลงประสานเสียง การทํางานกลุมตามที่ได รับมอบหมาย” 4. ครูนําสิ่งประดิษฐที่เปนของใช ของตกแตงจาก วัสดุในทองถิ่นมาใหนักเรียนดู เพื่อใหนักเรียน ฝกการสังเกตและเรียนรูจากตัวอยาง จากนั้น ครูอธิบายเสริมวา “สิ่งประดิษฐชิ้นนี้คือสิ่งใด วิธีการประดิษฐและวัสดุในทองถิ่นที่นํามาใช คือสิ่งใด หาไดจากแหลงใด เพราะเหตุใดจึง เลือกใชวัสดุชนิดนี้ สิ่งประดิษฐนี้มีประโยชน ตอการดํารงชีวิตประจําวันอยางไร” เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับทักษะในการทํางานเพื่อการดํารงชีวิตใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเรื่องทักษะในการทํางาน ที่มากขึ้น ใชทักษะเพื่อพัฒนาการทํางานไดอยางถูกตองและเหมาะสม มีทักษะการแสวงหาความรู ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีคุณธรรม และจริยธรรมในการทํางาน ใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานไดอยางประหยัดและคุมคา สามารถติดตอสื่อสารและใชบริการกับหนวยงานตางๆ ได โดยสามารถ จัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับทักษะในการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต • ใหนักเรียนเขียนบันทึกเกี่ยวกับปญหาในการทํางานของนักเรียนที่ผานมา เพื่อวิเคราะหถึงปญหาในการทํางานและทําการแกปญหาไดอยางถูกตอง และถูกวิธี • ใหนักเรียนทําแผนพับนําเสนอวิธีการติดตอสื่อสารกับหนวยงานตางๆ เพื่อใหสามารถติดตอสื่อสารกับหนวยงานดังกลาวไดอยางถูกตองและเหมาะสม นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T4


ขอสอบเนน การคิด ๑ ทักษะเพื่อพัฒนาการทำางาน การน�าความรู้ ความสามารถ เทคนิค วิธีการต่าง ๆ มาใช้ ในวิชาการงานอาชีพฯ ผู้ปฏิบัติงานจะต้องมีความรู้ ความสามารถ ในการท�างาน มีทักษะการวิเคราะห์ วางแผนอย่างเป็นขั้นตอน สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาและบริหารจัดการได้ดี มีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักปรับตัวและท�างานร่วมกับเพื่อนและ ผู้อื่นได้ เพื่อให้การท�างานเกิดประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังต้อง เรียนรู้และพัฒนาการท�างานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทักษะเพื่อการ พัฒนาการท�างานที่ส�าคัญ มีดังนี้ ๑.๑ ทักษะการแสวงหาความรู้ การท�างานให้ประสบผลส�าเร็จ จะต้องพัฒนาตนเองอยู่ ตลอดเวลา เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง การแข่งขัน จึงต้อง แสวงหาความรู้ เพื่อน�าความรู้มาใช้และพัฒนาการท�างาน ๑) วิธีการแสวงหาความรู้ เป็นการศึกษาหาความรู้ การฝกฝน เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ น�าความรู้มาประยุกต์ใช้ใน การท�างานได้อย่างเหมาะสม โดยวิธีการแสวงหาความรู้ มีดังนี้ ËÒ¡µŒÍ§·Ó§Ò¹Ã‹ÇÁ¡Ñº¼ÙŒÍ×è¹ ¤ÇùӷѡÉÐã´ÁÒ㪌 à¾×èÍ ãËŒ·Ó§Ò¹ÅØÅ‹Ç§µÒÁ·Õèä´ŒÃѺ ÁͺËÁÒÂÍ‹ҧÁÕ»ÃÐÊÔ·¸ÔÀÒ¾ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกตและประเมินทางเลือก เชน - การติดตอสื่อสารและใชบริการกับหนวยงานตางๆ ■ การมีจิตสํานึกและใชทรัพยากรอยางประหยัดและคุมคา • พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้น หรือ สิ่งที่ได้พบอย่างใส่ใจ • วิเคราะห์หาความสัมพันธ์ ของสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งอื่น ๆ • เมื่อเกิดข้อสงสัยควร ซักถามทันที • ซักถามด้วยเหตุผล เพื่อ ให้เกิดความชัดเจนในเรื่อง นั้น ๆ • รับฟังผู้อื่นอย่างเปดใจ และ ไม่มีอคติ • จับประเด็นจากผู้พูด พร้อม ตั้งค�าถามจากสิ่งที่ได้ฟัง • ศึกษาหาความรู้จากเอกสาร ต�ารา สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ต่าง ๆ • น�าสิ่งที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้ ในการท�างาน การสังเกต การซักถาม การฟัง การอ่าน ทักษะในการท�างาน เพื่อการด�ารงชีวิต ๓ ในการท�างาน มีทักษะการวิเคราะห์ วางแผนอย่างเป็นขั้นตอน การท�างานให้ประสบผลส�าเร็จ จะต้องพัฒนาตนเองอยู่ ต�ารา สื่ออิเล็กทรอนิกส์ 1 2 3 ขั้นนํา 5. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนจะมีวิธีการอยางไร เพื่อใหทราบวา ในทองถิ่นของตนมีการนําวัสดุในทองถิ่น ชนิดใดมาประดิษฐของใช ของตกแตง (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) • ในปจจุบันมีชองทางในการแสวงหาความรู ที่หลากหลาย นักเรียนมีวิธีการอยางไร เพื่อใหไดมาซึ่งขอมูลที่ถูกตองและมีความ นาเชื่อถือ (แนวตอบ เมื่อไดขอมูลที่ตองการมาจะตอง ทําการคัดกรองขอมูลกอน เมื่อตองการนํา ขอมูลไปใชตองใชวิจารณญาณในการเลือก ใชขอมูลที่ถูกตอง เปนเหตุเปนผล โดยผาน ขั้นตอนการวิเคราะหและสังเคราะหขอมูล อยางเปนระบบ) ขั้นสอน 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษาเรื่อง ทักษะเพื่อพัฒนาการทํางาน จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับทักษะ เพื่อพัฒนาการทํางาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 1 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “กอนที่มนุษยจะคิด ทักษะการแสวงหาความรูไดนั้น เริ่มแรกเกิด จากพื้นฐานการแสวงหาความรูของมนุษย คือ การสอบถาม การศึกษาจากขนบธรรมเนียม ประเพณี การอนุมานและอุปมาน การใช ประสบการณ และวิธีการทางวิทยาศาสตร” สํานวนไทยในขอใดมีความหมายเกี่ยวของกับทักษะการ แสวงหาความรูจากการฟงที่ถูกวิธี 1. เอามะพราวหาวไปขายสวน 2. นํ้าทวมทุงผักบุงโหรงเหรง 3. พกหินดีกวาพกนุน 4. ตักนํ้ารดหัวตอ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนการสอนใหรูจักหนักแนน ไมควรเชื่อสิ่งใดโดยงาย ควรใชวิจารณญาณในการไตรตรองขอมูล ตางๆ อยางรอบคอบกอนวามีความเท็จจริงประการใด ไมควรเชื่อ โดยที่ยังไมไดรับการพิสูจน ซึ่งมีความเกี่ยวของกับการแสวงหา ความรูดวยการฟงที่ถูกวิธี) นักเรียนควรรู 1 ทักษะการวิเคราะห มีความสามารถในการพิจารณา การไตรตรอง การคิด ใครครวญ การจําแนกแยกแยะ การเปรียบเทียบขอมูล การตรวจสอบขอมูล อยางละเอียดรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องราวตางๆ อยางมีเหตุผล โดยมีหลักฐานที่มี ความสัมพันธเชื่อมโยง หรือมีขอมูลตางๆ ที่นาเชื่อถือมาสนับสนุน หรือยืนยัน เพื่อพิจารณาอยางรอบคอบกอนตัดสินใจเชื่อ 2 การทํางานใหประสบผลสําเร็จ ในการทํางานผูที่ปฏิบัติงานยอมตองการ ใหงานของตนสําเร็จอยางมีคุณภาพ การทํางานใหประสบผลสําเร็จสามารถ ปฏิบัติไดหลายวิธี เชน กําหนดเปาหมายความสําร็จ มีความตั้งใจในการ ปฏิบัติงาน จดบันทึกความคิดใหมๆ อยูเสมอ มีความอดทน ขยันหมั่นเพียร มีการพัฒนาตนเองอยางไมหยุดนิ่ง 3 สื่ออิเล็กทรอนิกส หรือ Electronic Media เปนสื่อที่บันทึกสารสนเทศ ดวยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส ตองใชคอมพิวเตอรในการบันทึกและอานขอมูล นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T5


ขอสอบเนนการคิด ๒) ขั้นตอนการแสวงหาความรู้ การแสวงหาความรู้มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ซึ่งจะขึ้นอยู่ กับองค์ประกอบหลายอย่างที่จะส่งผลให้การแสวงหาความรู้ของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน โดยขั้นตอนการแสวงหาความรู้ มีดังนี้ • หาข้อเท็จจริงจากข้อมูล ข่าวสาร ด้วยตนเอง หรือเอกสารวิชาการ • หาความรู้เพิ่มเติม เพื่อให้ได้รับความรู้ในเรื่อง นั้น ๆ • บันทึกอยู่ในรูปแบบที่ง่ายและสะดวกต่อการศึกษาค้นคว้า • ด�าเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการแสวงหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ • สนทนาอย่างมีจุดมุ่งหมาย เพื่อค้นหาความรู้ ตามวัตถุประสงค์ • น�าความรู้ไปใช้ประโยชน์หรือรวบรวม เผยแพร่ อย่างเหมาะสม การศึกษาค้นคว้า การรวบรวมและบันทึกข้อมูล การสัมภาษณ์ การพิจารณาองค์ประกอบ ความสัมพันธ์ จัดกลุ่ม และจัดล�าดับข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล น�าข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์แล้วจ�าแนกจัดกลุ่มข้อมูล ให้เป็นระบบ การสรุปและบันทึก เพื่อจัดเก็บข้อมูลที่ รวบรวมได้ในรูปแบบที่ง่ายต่อการค้นหา สรุปและบันทึกผล สรุปและบันทึกผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลและ รวบรวมไว้โดยใช้ภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย กระชับ รัดกุม การตั้งประเด็น ก�าหนดขอบเขต อธิบาย แสดง ความคิดเห็นต่อหัวข้อที่จะสืบค้น ก�าหนดปัญหา คิดประดิษฐ์ชั้นวางต้นไม้จากกระบอกไม้ไผ่ เพื่อน�า มาใช้ในการจัดและตกแต่งสวน หรือน�าไปใช้เป็น ของขวัญ เนื่องในโอกาสส�าคัญต่าง ๆ การก�าหนดว่าจะสืบค้นความรู้จากที่ใด สืบค้น อย่างไร เริ่มต้นเมื่อใด วางแผนสืบค้น วางแผนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับวิธีประดิษฐ์ชั้นวาง ต้นไม้จากแหล ่งสืบค้นต ่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ ผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนี้ การด�าเนินการสืบค้นความรู้ในหัวข้อที่ ต้องการตามแผนงานที่ก�าหนด ด�าเนินการสืบค้น ด�าเนินการสืบค้นข้อมูลจากผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับ การประดิษฐ์ในเรื่องนั้น ๆ และศึกษาค้นคว้าข้อมูล จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ตัวอย่าง การน�าวัสดุในท้องถิ่นมาสร้างเป็นผลงานประดิษฐ์ เพื่อเพิ่มมูลค่า 4 ขั้นสอน 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในการทํางานมักพบ กับปญหา ทําใหทักษะกระบวนการแกปญหา มีความจําเปนตอการทํางาน ไมวาจะเปนการ ทํางานกลุม หรือการทํางานเดี่ยว โดยประโยชน ของทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีหลายประการ เชน ฝกการคิดอยางเปนระบบ รูจักหาคําตอบในการแกปญหา มีหลักการและ มีเหตุผล” 5. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • ในการทํางานรวมกับผูอื่นจะตองใชทักษะ การแสวงหาความรูและทักษะกระบวนการ แกปญหาในการทํางานอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายความรู เรื่อง ทักษะเพื่อพัฒนาการทํางานตามหนาที่ ที่ตนเองไดรับมอบหมายใหเพื่อนในกลุมฟง และรวมกันสรุปขอมูล จากนั้นออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน 7. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําสิ่งประดิษฐที่มีอยู ในทองถิ่นมากลุมละ 1 ชิ้น ในชั่วโมงถัดไป เพื่อรวมกันวางแผนและตอยอดเปนผลงาน ในรูปแบบใหม พรอมทั้งเขียนอธิบายวิธีการทํา การนําไปใช วิธีการทํางานของกลุม ปญหาที่พบ และแนวทางแกไข โดยนําทักษะกระบวนการ ตางๆ มาใชในการทํางานอยางเหมาะสม จัดทําเปนรูปเลมรายงาน นําสงครูผูสอน ทักษะการแสวงหาความรูมีประโยชนตอการพัฒนาการทํางาน อยางไร (แนวตอบ การแสวงหาความรู เปนการสั่งสมประสบการณใน การทํางาน เพื่อนําไปใชประโยชนในการพัฒนาการทํางานของ ตนเอง เพื่อใหทันตอเหตุการณการเปลี่ยนแปลงตางๆ ที่เกิดขึ้นใน สังคม ซึ่งในการแขงขันกับบุคคลอื่นๆ การมีความรูที่หลากหลาย หรือมีประสบการณที่มากกวา ยอมทําใหไดเปรียบในการทํางาน และสงผลใหการทํางานประสบความสําเร็จ มีคุณภาพและ มีประสิทธิภาพ สามารถแขงขันกับบุคคลอื่นๆ ไดอยางทัดเทียม) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสวงหาความรูใหนักเรียนฟงวา การแสวงหา ความรูมีอยูดวยกันหลายวิธี เชน การวิจัย เปนการแสวงหาความรูที่ไดรับการ ยอมรับจากสังคมวาขอมูลมีความนาเชื่อถือ เนื่องจากผานกระบวนการทางการ วิจัยอยางเปนระบบ ซึ่งเปนกระบวนการที่ยอมรับในวิทยาการแตละสาขา ลักษณะของงานวิจัยจะเปนกระบวนการที่มีระบบ มีจุดมุงหมายที่ชัดเจน มีการ ดําเนินการศึกษาคนควาอยางเปนระบบและมีเหตุผล มีการบันทึกและรายงาน ผลที่ถูกตองแมนยํา สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการแสวงหาความรู ไดที่ https://home.kku. ac.th/sompo_pu/spweb/research/inquiry.ppt นํา สอน สรุป ประเมิน T6


น�าปัญหามาวิเคราะห์ เพื่อหารายละเอียด ปลีกย่อย แยกแยะ และจัดล�าดับความส�าคัญ การวิเคราะห์ปัญหา สร้างทางเลือกในการแก้ปัญหา อาจค้นคว้า ทดลอง ตรวจสอบ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบ การสร้างทางเลือก ค้นหาสาเหตุ ท�าความเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น และ ตระหนักในปัญหานั้น การส�ารวจปัญหา เปรียบเทียบทางเลือกของการแก้ปัญหาว ่า ทางเลือกใดสามารถน�าไปใช้แก้ปัญหาได้ดีที่สุด การประเมินทางเลือก ๑.๒ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�างาน กระบวนการของความพยายามในการท�างาน เพื่อให้ประสบความส�าเร็จ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น สามารถหาแนวทางแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ ๑) วิธีการแก้ปัญหา ในการท�างานใด ๆ ก็ตาม ย่อมพบเจอกับปัญหาอยู่เสมอ วิธีการ แก้ปัญหาที่ถูกต้องจะช่วยให้สามารถน�ามาปรับใช้ในการท�างานได้อย่างเหมาะสม ดังนี้ ๒) ขั้นตอนการแก้ปัญหา เมื่อพบกับปัญหาต้องมีการตัดสินใจและต้องมีการแก้ปัญหา เพื่อให้การท�างานเป็นไปอย่างราบรื่น ขั้นตอนการแก้ปัญหาการท�างานมีอยู่ด้วยกัน ๖ ขั้นตอน ดังนี้ สาเหตุที่ท�าให้ปลาตาย เช่น น�้าเน ่าเสียจากการ หมักหมมของอาหารบริเวณก้นตู้ ปลาติดโรค น�้าที่ใช้มีความเป็นกรด-ด่างสูง หาทางเลือกในการแก้ปัญหาอย ่างหลากหลาย เช่น ให้อาหารแต่ละครั้งทีละน้อย ล้างท�าความ สะอาดตู้ปลา สังเกตปลาที่มีอาการผิดปกติแล้ว จับแยกออก ใช้น�้ายาปรับสภาพน�้า ค้นหาสาเหตุว่าเพราะเหตุใดปลาสวยงามที่เลี้ยงไว้ จึงทยอยตายเป็นจ�านวนมาก What is the challenge? หาค�าตอบว่าสิ่งใดคือปัญหาจากการ สังเกต สอบถาม จะได้วางแผนในการ แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง What are the solutions? การแก้ปัญหาที่ดี คือ การวางแผน และเตรียมพร้อมที่ดี เพื่อน�าไปสู่การ แก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ What is the cause of the problem? หาสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร จากการ สอบถามผู้รู้หรือเห็นหลักฐาน เพื่อให้ได้ ข้อสรุปของปัญหานั้น Who has got the impact? ใครได้รับผลกระทบจากปัญหา ปัญหา นั้นส่งผลกระทบต่อใคร หรือองค์กร มากน้อยเพียงใด เลือกวิธีการล้างตู้ปลา เพราะพบว ่าก้นตู้ปลามี เศษอาหารตกค้างอยู ่ ส ่งผลให้เครื่องกรองน�้า มีการอุดตัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ท�าให้ปลาตายได้ ตัวอย่าง การเลี้ยงปลาสวยงาม ทักษะในการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต 5 ขั้นสอน 8. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน 9. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง กระบวนการการทํางาน 10. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง ทักษะ เพื่อพัฒนาการทํางานวา “มนุษยตองทํางาน หรือดําเนินกิจกรรมตางๆ เพื่อตอบสนองสิ่งที่ พึงปรารถนา ซึ่งในบางครั้งอาจขาดความรู ขาด ประสบการณ จึงตองใชทักษะการแสวงหาความรู ดวยวิธีการตางๆ และบางครั้งอาจพบเจอกับปญหา จึงตองใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการ ทํางานเขามาชวย เพื่อทําใหการทํางานเกิด ประสิทธิภาพและประสิทธิผล” ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง กระบวนการ การทํางาน 3. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทากันๆ กัน 2. ใหสมาชิกแตละกลุมรวมกันศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเรื่องราว ตางๆ ที่นาสนใจกลุมละ 1 เรื่อง โดยนําทักษะการแสวงหาความรู มาใช ไดแก การสังเกต การฟง การซักถาม การอาน การศึกษา คนควา การสัมภาษณ การรวบรวมขอมูล และบันทึกผล 3. สรุปความรูที่ไดรับจากการศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเรื่องราว ตางๆ จัดทําเปนรูปเลมรายงาน นําสงครูผูสอน 4. ใหแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงาน ใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งบอกเลาเรื่องราวเกี่ยวกับ ขั้นตอนการปฏิบัติงานที่กลุมของตนไดวางแผนไว ปญหาที่พบ และแนวทางแกปญหาในการทํางาน แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ที่ได้จากการน าเสนอ 5 วิธีการน าเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน .........../................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T7


ขอสอบเนนการคิด ตัวอย่าง การเลี้ยงปลาสวยงาม ๒ คุณธรรมและจริยธรรมในการทำางาน การมีคุณธรรมและจริยธรรมในการท�างาน เป็นการท�างานอย่างมีจิตส�านึก ถูกวิธี เป็นขั้นตอน มีประสิทธิภาพ และเป็นที่ยอมรับของผู้อื่นในสังคม ซึ่งมีองค์ประกอบส�าคัญ ดังนี้ ๑) มีความซื่อสัตย์ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และงานที่ได้รับมอบหมาย ปฏิบัติงาน ด้วยความจริงใจ ไม่คดโกง หรือหลอกลวงผู้อื่น ๒) มีความเสียสละ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน รู้จักให้และ แบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน เสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ๓) มีความยุติธรรม ไม่ล�าเอียง หรือยึดถือสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามที่เราเชื่อ ต้องมีความ เป็นกลาง ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก ไม่มีอคติกับเรื่องต่าง ๆ ที่ได้ยิน หรือได้รับฟังมา ๔) มีความประหยัดรู้จักอดออม ไม่ฟุ่มเฟือย ค�านึงถึงความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากร โดยน�าสิ่งที่เหลือใช้ หรือสิ่งที่ไม่มีประโยชน์มาดัดแปลง ซ่อมแซม หรือแก้ไข เพื่อใช้ในการท�างาน ๕) มีความขยันอดทน มุ่งมั่นต่องานที่ได้รับมอบหมาย เมื่อพบปัญหา หรืออุปสรรค ในการท�างาน ให้น�าปัญหา หรืออุปสรรคเหล่านั้นมาปรับปรุงและแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น ๖) มีความรับผิดชอบต้องรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงผู้ร่วมงาน ลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อม ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ไม่ท�าลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๗) มีความตรงต่อเวลา ต้องส่งงานตามเวลาที่ก�าหนด เพราะถ้าไม่ส่งงานตามเวลาที่ ก�าหนดจะท�าให้ผู้ที่ท�างานต่อจากเราได้รับผลกระทบ อาจสร้างความเสียหายต่อองค์กรได้ ๘) มีการประกอบอาชีพที่สุจริตเลือกประกอบอาชีพที่ไม่ท�าให้ผู้อื่นเดือดร้อน โดยสังคม ให้การยอมรับว่าอาชีพนั้นเป็นอาชีพที่สุจริต และคนทั่วไปเลือกที่จะประกอบอาชีพนั้น วางแผนเพื่อก�าหนดว ่าใครมีหน้าที่ใด หรือ กระบวนการท�างานใด ค่าใช้จ่ายเท่าไร การวางแผนปฏิบัติ วางแผนล้างตู้ปลา โดยให้คุณพ ่อช ่วยยกตู้ปลา คุณแม่ล้างเครื่องกรองน�้า พี่ช่วยถ่ายน�้าออกจาก ตู้ปลา ตนเองตักปลาออกจากตู้ปลา และล้างท�า ความสะอาดหิน กรวด อุปกรณ์ตกแต่งอื่น ๆ ติดตามผลที่เกิดขึ้นจากการด�าเนินการ เพื่อใช้ เป็นแนวทางแก้ปัญหาในครั้งต่อไป การประเมินผล สังเกตว่าปลาสวยงามที่เลี้ยงไว้ลดจ�านวนการตาย ลงหรือไม่ หลังจากท�าความสะอาดตู้ปลา หากพบว่า ยังมีการตายเกิดขึ้นอีกให้ด�าเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ต่อไป 6 ลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต 1. ครูใหนักเรียนอานใบความรู เรื่อง คุณธรรม และจริยธรรมตอการทํางาน จากนั้นใหนักเรียน รวมกันแสดงความคิดเห็น ขั้นนํา (เนนกระบวนการสรางความตระหนัก) 1. ครูสนทนาเกี่ยวกับสํานวนสุภาษิตไทย คือ ยอม แมวขาย จากนั้นครูถามนักเรียนวา • สํานวนสุภาษิตนี้มีความหมายวาอยางไร (แนวตอบ การนําสิ่งของที่ไมมีคุณคา หรือ มีคุณคานอย หรือมีตําหนิ นํามาตกแตง ปรับปรุงแกไขใหดูดี และนําไปหลอกลวง ผูอื่นวาเปนของที่มีคุณคา) 2. ครูกลาวเชื่อมโยงเกี่ยวกับคุณธรรมและ จริยธรรมที่ปรากฏในสํานวนสุภาษิต รวมถึง การใชทรัพยากรในการปฏิบัติงาน ขั้นที่ 2 วิจารณ 2. ครูใหนักเรียนศึกษา เรื่อง คุณธรรมและจริยธรรม ในการทํางานและการใชทรัพยากรในการ ปฏิบัติงาน จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 3. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณธรรม และจริยธรรมในการทํางานและการใชทรัพยากร ในการปฏิบัติงาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 1 4. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • การใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานมีความ สอดคลองกับคุณธรรมและจริยธรรมในการ ทํางานอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) เกร็ดแนะครู ครูอาจยกกรณีตัวอยาง หรือขาวที่เกิดจากการกระทําของบุคคลที่มีคุณธรรม และจริยธรรมใหนักเรียนรวมกันศึกษา จากนั้นอภิปรายแสดงความคิดเห็น และแนะนําใหนักเรียนไปศึกษาคนควาเพิ่มเติมจากแหลงการเรียนรูตางๆ ที่ หลากหลาย เชน หนังสือในหองสมุด นิตยสาร อินเทอรเน็ต เกี่ยวกับการประกอบ อาชีพสุจริต และคุณสมบัติของผูประกอบอาชีพสุจริต บุคคลในขอใดมีคุณธรรมและจริยธรรมในการทํางาน 1. วุนลอกเลียนแบบแนวคิดของเพื่อนมาทําเปนผลงานของตนเอง 2. วิวหยิบของจากรานเครื่องเขียนโดยไมจายเงินมาทํางานสงครู 3. แวนนํางานประดิษฐมาสงครูเลยเวลาที่กําหนด เพราะลืมทํา 4. แววใชเวลาวางในวันหยุดมาชวยเพื่อนๆ ทํารายงานกลุม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะแววมีความเสียสละใน การทํางาน กลาวคือ ในการทํางานรวมกับผูอื่นควรเห็นแก ประโยชนสวนรวมมากกวาประโยชนสวนตน ควรรูจักชวยเหลือ ผูอื่นโดยไมหวังสิ่งตอบแทน และควรเสียสละความสุขสวนตัว เพื่อประโยชนสวนรวม) นักเรียนควรรู 1 ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม การดูแลรักษาเอาใจใสในทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอม หรือที่เรียกวา “แนวทางสีเขียว” เปนกระแสที่มาแรง ในสังคม โดยผูคนตองตระหนักวาไมวาจะทําสิ่งใดก็ตาม สิ่งที่ควรคํานึงถึง คือ การไมทําลายทรัพยากรและสิ่งแวดลอม นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T8


ขอสอบเนน การคิด ๓ การใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงาน การใช้ทรัพยากรในการสร้างงานต้องใช้อย่างประหยัดค�านึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก การเลือกใช้ ทรัพยากรที่ไม่ท�าลายสิ่งแวดล้อม ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติงาน และ ควรช่วยกันใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงานให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ดังนี้ ๑. เลือกใช้วัสดุที่ไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม หรือสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติมากเกินไป ๒. น�าวัสดุที่ใช้แล้ว หรือเหลือใช้น�ากลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น น�ากระดาษหนังสือพิมพ์มาประดิษฐ์ เป็นของใช้ ของตกแต่งบ้าน ๓. ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยน�าทรัพยากรมาใช้ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์ต่อคน จ�านวนมาก เช่น การสร้างงานจากไม้ ต้องไม่ตัดไม้ท�าลายป่า แต่ใช้จากเศษไม้ หรือจากสวนป่า ที่ปลูกขาย ควรใช้ให้คุ้มค่าและเป็นประโยชน์สูงสุด ๔. น�าของเก่าที่มีอยู่มาเสริมแต่ง ดัดแปลงให้สวยงามและใช้ประโยชน์ได้ เช่น เสื้อผ้าเก่า น�ามาตกแต่งด้วยวัสดุเหลือใช้ หรือวาดลวดลายให้สวยงาม ก็จะได้เสื้อตัวใหม่ที่มีลวดลายไม่ซ�้าใคร ๕. ถนอมรักษาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ใช้งานได้นานขึ้น เพราะจะได้ไม่ต้องน�าทรัพยากรมาผลิต สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น กระเป๋าสานจากผักตบชวา ควรทา หรือพ่นแล็กเกอร์ก่อนน�ามาใช้จะ ท�าให้กระเป๋ามีความทนทาน ไม่ช�ารุดเสียหายง่าย ดังนั้น การน�าทรัพยากรมาใช้สร้างชิ้นงานต้องใช้อย่างมีจิตส�านึก โดยใช้วัสดุที่มีในท้องถิ่น หรือวัสดุที่เหลือใช้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและไม่ท�าลายสิ่งแวดล้อม กระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วสามารถน�ามาประดิษฐ์เป็นของใช้ ของตกแต่งบ้าน เป็นการน�าวัสดุเหลือใช้มาสร้างประโยชน์ อย่างคุ้มค่า ทักษะในการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต 7 ขอใดตางจากพวก 1. ลดการใชถุงพลาสติก โดยใชถุงผาแทนในการบรรจุสิ่งของ 2. นําสิ่งของเหลือใชมาประดิษฐเปนของใช ของตกแตงภายในบาน 3. นําขวดสเปรยฆาแมลงที่ใชหมดแลวไปฝงดิน แทนการทิ้งใน ถังขยะ 4. ถอดปลั๊กเครื่องใชไฟฟาออก เมื่อไมมีความจําเปนในการ ใชงาน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนการกระทําที่ไมเหมาะสม เนื่องจากขวดสเปรยฆาแมลงเปนวัตถุที่มีพิษ หากนําไปฝงดินอาจ ทําใหเกิดการปนเปอนของสารพิษลงสูดินและแหลงนํ้าได ซึ่งอาจ กอใหเกิดอันตรายตอคน พืช และสัตว วิธีการกําจัดขวดสเปรย ฆาแมลงที่ถูกตอง คือ การนําไปใสในถุงดํา มัดปากถุงใหมิดชิด แลวนําไปทิ้งในถังขยะมีพิษ) แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 วิจารณ 5. ใหนักเรียนแบงกลุมเปน 5 กลุม กลุมละ เทาๆ กัน รวมกันวิเคราะหเรื่อง คุณธรรม และจริยธรรมกับอาชีพที่กําหนด คือ ครู แพทย ผูผลิตรถยนต นักเรียน ผูประกอบการราน อาหาร 6. ใหนักเรียนแตละกลุมสรุปความรูที่ไดรับจาก การวิเคราะหเรื่อง คุณธรรมและจริยธรรมกับ อาชีพ ลงในกระดาษ A4 นําสงครูผูสอน 7. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึก ผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นสรุป ขั้นที่ 3 สรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง คุณธรรมและจริยธรรมในการทํางาน และการใช ทรัพยากรในการปฏิบัติงานวา “ในการทํางานรวม กับผูอื่นจําเปนตองนําหลักคุณธรรมและจริยธรรม มาปรับใช เพื่อชวยใหสามารถทํางานรวมกับผูอื่น ไดอยางมีความสุขและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังตองมีจิตสํานึกที่ดีในการใชทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานรวมดวย” ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 2. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ที่ได้จากการน าเสนอ 5 วิธีการน าเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน .........../................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T9


๔ การติดต่อสื่อสารและการใช้บริการกับหน่วยงานต่างๆ การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมทั้งที่โรงเรียน ที่บ้าน ที่ท�างาน หรือสถานที่ต่างๆ ล้วนต้องมีการ ติดต่อสื่อสารกับบุคคล หรือหน่วยงาน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน และเพื่อให้สามารถด�าเนินการ ตามแผนงานที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๔.๑ การติดต่อสื่อสาร กระบวนการถ่ายทอดข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ความคิด ทัศนคติจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มบุคคล เพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน ชักจูง มุ่งให้ความรู้ หรือท�าให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในการกระท�าอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ประสงค์ ๑) ความส�าคัญของการติดต่อสื่อสารมีความส�าคัญกับบุคคลทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย และกับหน่วยงานต่างๆ ดังนี้ ๑. การติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล เป็นการช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดีให้เกิดขึ้น ๒. การติดต่อสื่อสารในหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ เป็นการแจ้งข้อมูลข่าวสารของ องค์กรต่อพนักงาน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ ในองค์กร สามารถใช้ตรวจสอบข้อบกพร่อง หรือ ความก้าวหน้าในการท�างาน และสามารถใช้ ในการวินิจฉัยสั่งการกับกลุ่มบุคคลในองค์กร ๓. การติดต่อสื่อสารส�าหรับนักเรียน เป็นการติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครูอาจารย์ ผู้ปกครอง และบุคคลต่าง ๆ ที่ต้องติดต่อประสานงานด้วย เช่น ติดต่อกับฝ่ายธุรการ ฝ่ายวัดผล และประเมินผล เพื่อนโรงเรียนอื่น หน่วยงานราชการ องค์กรเอกชนต่าง ๆ ๒) วิธีการติดต่อสื่อสารที่ดีเพื่อให้การติดต่อสื่อสารมีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ส่งสารควร ปฏิบัติตน ดังนี้ มีสัมมาคารวะ พูดจาสุภาพ ไพเราะ อ่อนโยน ควรใช้น�้าเสียงที่นุ่มนวล เพื่อที่ผู้อื่นจะได้อยาก สนทนาด้วย เมื่อต้องไปติดต ่อ หรือใช้บริการหน ่วยงาน ต่าง ๆ ควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย เพื่อเป็น การให้เกียรติแก่บุคคลและสถานที่ มีความรอบคอบเมื่อใช้ภาษาถิ่นในการสนทนา ควรพูดเฉพาะประเด็นส�าคัญ เพื่อที่ผู้สนทนาด้วย จะได้เข้าใจตรงกับสิ่งที่ต้องการ เมื่อสนทนากับผู้อื่นต้องควบคุมอารมณ์ให้ อยู่ในสภาพปกติไม่แสดงกิริยาเกรี้ยวกราดต่อ บุคคลที่ก�าลังสนทนาด้วย การสนทนา การแต่งกาย การใช้ภาษา การควบคุมอารมณ์ 8 ความก้าวหน้าในการท�างาน และสามารถใช้ ๒) วิธีการติดต่อสื่อสารที่ดี การใช้ภาษา 1 2 3 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน 1. ครูสนทนาเกี่ยวกับการติดตอสื่อสารและการ ใชบริการกับหนวยงานตางๆ และยกตัวอยาง สถานการณ เพื่อใหนักเรียนเขาใจไดงายขึ้น 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตอ สื่อสารและการใชบริการกับหนวยงานตางๆ จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 1 3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกัน ศึกษาตามหัวขอที่ครูกําหนด คือ ความสําคัญ และวิธีการติดตอสื่อสารที่ดี ความสําคัญและ วิธีการใชบริการหนวยงานตางๆ โดยศึกษา จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 หรือ ศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสรุปความรูที่ไดรับจาก การศึกษา เรื่อง การติดตอสื่อสารและการใช บริการกับหนวยงานตางๆ ลงในกระดาษ A4 นําสงครูผูสอน 5. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ทํากิจกรรม ที่ครูกําหนด คือ สมมติสถานการณ 1 สถานการณ ที่ทําใหการติดตอสื่อสารนั้นมีประสิทธิภาพ ขั้นนํา (เนนกระบวนการอุปนัย) 1. ครูสุมนักเรียนใหเลนเกมกระซิบสงสาร ซึ่งมีวิธี การเลน คือ แบงนักเรียนเปน 5 แถว แถวละ 6 คน คนแรกของแถวตองจําขอความที่ครู กําหนดให ใชเวลาจํา 1 นาที จากนั้นคนแรก ของแถวจะกระซิบบอกขอความใหคนถัดไป ซึ่งเปนคนที่ 2 คนที่ 2 กระซิบบอกคนที่ 3 4 5 6 ซึ่งเปนคนสุดทาย จากนั้นคนสุดทาย ของแตละแถวจะเปนผูบอกขอความที่ไดรับ ครูอานขอความของแตละแถว แถวใดบอก ขอความไดถูกตองจะเปนฝายชนะ นักเรียนควรรู 1 ความกาวหนาในการทํางาน วิธีการที่จะชวยใหผูปฏิบัติงานมีความกาวหนา ในการทํางาน สามารถปฏิบัติไดหลายวิธี เชน มีการตั้งเปาหมายในการทํางาน รักการเรียนรู เรียนรูไว ชางสังเกต ชางจดจํา และนํามาพัฒนาเพื่อตอยอด ความคิด ศึกษาหาความรูเพิ่มเติมอยูเสมอ 2 วิธีการติดตอสื่อสารที่ดี การใชชีวิตประจําวันตองมีการติดตอสื่อสารกับ บุคคลตางๆ และติดตอกับหนวยงานหลายๆ หนวยงาน ทั้งภาครัฐและภาค เอกชน ซึ่งมีความจําเปนที่จะตองสื่อสารกันใหเขาใจและถูกตอง เพื่อใหไดรับ ขอมูลที่ถูกตองและตรงกันทั้ง 2 ฝาย เพื่อไมใหฝายใดฝายหนึ่งเสียสิทธิประโยชน ตางๆ ซึ่งอาจสงผลเปนปญหาตามมาในภายหลัง หากไดรับขอมูลที่ผิดพลาด 3 ภาษา ถอยคําที่ใชในการพูด หรือการเขียน เพื่อสื่อความหมายไปยัง บุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพื่อใหเกิดความเขาใจสิ่งที่ตองการสื่อสารที่ถูกตองและ ตรงกัน ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตอสื่อสาร และใชบริการกับหนวยงานตางๆ พรอมทั้งสรุปความรูที่ไดจาก การศึกษาลงในกระดาษ A4 ในรูปแบบของแผนผังความคิด (Mind Mapping) นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนจับคูแสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกับการติดตอสื่อสาร และใชบริการกับหนวยงานตางๆ เชน ธนาคาร โรงพยาบาล ที่วาการอําเภอ โดยชวยกันเขียนบทสนทนาความยาวไมเกิน 1 หนา กระดาษ จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T10


ขอสอบเนน การคิด ๔.๒ การใช้บริการหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันหน่วยงานต่างๆ ได้เปิดให้บริการอย่างหลากหลาย ทั้งบริการทางด้านข้อมูลและให้ ความช่วยเหลือ เช่น โรงพยาบาล ให้บริการทางด้านสุขภาพและรักษาผู้ป่วย ธนาคารให้บริการ ทางด้านการเงินและเป็นที่ปรึกษาให้ค�าแนะน�าทางด้านการบริหารแก่บุคคลและหน่วยงานต่าง ๆ ๑) ความส�าคัญของการใช้บริการหน่วยงานต่าง ๆ ในชีวิตประจ�าวันเราต้องมีการ ติดต่อและใช้บริการกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน เช่น เมื่อนักเรียนมีอายุครบ ๗ ปี บริบูรณ์ จะต้องไปใช้บริการที่อ�าเภอ หรือส�านักงานเขต เพื่อขอท�าบัตรประจ�าตัวประชาชน ๒) วิธีการใช้บริการหน่วยงานต่าง ๆ ในการขอรับบริการ หรือไปใช้บริการของ หน่วยงานต่างๆ จะมีความแตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับโอกาสและความต้องการเลือกใช้บริการ ของหน่วยงานนั้น ๆ ซึ่งผู้ขอรับบริการควรปฏิบัติ ดังนี้ ในการท�างานต้องมีทักษะต่าง ๆ เช่น ทักษะการแสวงหาความรู้โดยการสังเกต การฟัง การซักถาม การอ่าน การศึกษาค้นคว้า การสัมภาษณ์การรวบรวม การบันทึกข้อมูล ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา โดยเริ่มจากส�ารวจปัญหา วิเคราะห์ปัญหา วางแผนปฏิบัติ และประเมินผลการแก้ปัญหา เพื่อให้การท�างานมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ในการท�างาน ยังต้องมีคุณธรรมและจริยธรรม การใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า รวมทั้งมีการ ติดต่อสื่อสารและการใช้บริการหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ท�างานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และส�าเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ศึกษาข้อมูลของหน่วยงานที่จะไปติดต่อ หรือ ใช้บริการให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไป หลายครั้ง เตรียมเอกสารให้พร้อม เช่น บัตรประจ�าตัว ประชาชน ทะเบียนบ้าน สูติบัตร หนังสือส�าคัญ แสดงการเปลี่ยนชื่อตัว แจ้งความประสงค์ล่วงหน้า หรือท�าจดหมายเป็น ทางการในกรณีที่ต้องการเจาะจงว่าจะต้องไปใช้ บริการของหน่วยงานนั้น ๆ มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี พูดจาสุภาพ กล่าวแสดงความขอบคุณ เพื่อให้ เป็นที่ประทับใจแก่ผู้ที่เราไปติดต่อ การศึกษาข้อมูล การเตรียมเอกสาร การนัดหมายวัน เวลา สถานที่ การแสดงบุคลิกท่าทาง ทักษะในการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต 9 ขั้นสอน 6. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 1.3.1 เรื่อง การติดตอสื่อสารและการใชบริการกับ หนวยงานตางๆ และทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ทักษะในการทํางาน 7. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึก ผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเรื่อง การ ติดตอสื่อสารและการใชบริการกับหนวยงาน ตางๆ วา “ในการทํางานตองนําทักษะตางๆ มาใช เพื่อใหการทํางานมีประสิทธิภาพ ทั้งยัง ตองมีคุณธรรมและจริยธรรมในการทํางาน รูจักใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางคุมคา มีทักษะในการสื่อสาร เพื่อใหสามารถใชบริการ กับหนวยงานตางๆ ไดอยางเหมาะสม” 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 1.3.1 เรื่อง การติดตอ สื่อสารและการใชบริการกับหนวยงานตางๆ 3. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ทักษะในการทํางาน 4. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 5. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอขอมูล โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 ขอใดไมใชประโยชนจากการศึกษาคนควาขอมูลของหนวยงาน ตางๆ ที่ตองการไปติดตอ 1. ชวยใหทราบถึงขั้นตอนการขอรับบริการจากหนวยงานตางๆ 2. ชวยใหทราบถึงขอมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง หรือเบอรติดตอ 3. ชวยใหทราบระยะเวลาปด-เปดการใหบริการ 4. ชวยฝกการมีมนุษยสัมพันธที่ดีตอผูอื่น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการมีมนุษยสัมพันธที่ดีเปน สิ่งที่ตองสรางขึ้นดวยตนเอง จึงไมใชประโยชนจากการศึกษา คนควาขอมูลของหนวยงานตางๆ ที่ตองการไปติดตอ) แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ที่ได้จากการน าเสนอ 5 วิธีการน าเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน .........../................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T11


Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 การจัดและ ตกแต่งบ้าน ให้น่าอยู่ 3 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายลักษณะและ หลักการของการจัด ตกแต่งบ้านและการเลือก เครื่องใช้ในการประดับ ตกแต่งบ้านได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม 2. จัดตกแต่งบ้านและเลือก เครื่องใช้ของประดับใน การจัดตกแต่งบ้านได้ อย่างเหมาะสม 3. เห็นความส�ำคัญในการ จัดตกแต่งบ้านและการ เลือกเครื่องใช้ของประดับ ในการจัดตกแต่งบ้าน ในชีวิตประจ�ำวันได้อย่าง เหมาะสม แบบเน้น การเรียนรู้ แบบร่วมมือ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 2.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T12


แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 2 การจัดและ ตกแต่งสวน ในบริเวณบ้าน 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบหลังเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายความส�ำคัญและ รูปแบบของการจัด ตกแต่งสวนในบริเวณ บ้านได้ถูกต้อง 2. ด�ำเนินการจัดตกแต่ง สวนในบริเวณบ้านได้ เหมาะสมสวยงามตาม หลักการ 3. เห็นความส�ำคัญในการ ดูแลรักษาและการตกแต่ง สวนในบริเวณบ้านและ น�ำไปปรับใช้กับบ้านของ ตนเองอยู่สม�่ำเสมอ แบบเน้น รูปแบบการ สืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจใบงานที่ 2.2.1 - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T13


บ้านเป็นศูนย์รวมของสมาชิกในครอบครัว ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข บ้านที่ น่าอยู่จะต้องสะอาด ถูกสุขอนามัย มีการจัดและตกแต่งให้น่าอยู่เสมอ ทั้งในบ้านและบริเวณ รอบ ๆ บ้าน การเรียนรู้หลักการจัดตกแต่งบ้านและบริเวณบ้านจะช่วยให้น�าความรู้ ไปประยุกต์ ใช้ ในชีวิตประจ�าวัน สามารถจัดและตกแต่งบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด สวยงาม สร้างบรรยากาศที่ดี และสร้างความสุขให้แก่สมาชิกในครอบครัว ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) ò หน่วยการเรียนรู้ที่ ¡ÒèѴµ¡áµ‹§ºŒÒ¹ áÅкÃÔàdzºŒÒ¹ ขั้นนํา (เนนการเรียนรูแบบรวมมือ) 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 2. ครูนําภาพบานในลักษณะตางๆ มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนวา • จากภาพบานที่ไดดูไปนั้น นักเรียนชอบบาน ที่มีลักษณะดังภาพหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ชอบ เพราะบานมีขนาด กะทัดรัด เหมาะสมสําหรับการอาศัยอยูแบบ ครอบครัวขนาดเล็ก มีพื้นที่ใชสอยบริเวณ หนาบาน ไมชอบ เพราะบานมีขนาดเล็ก ไม เหมาะสมสําหรับการอาศัยอยูแบบครอบครัว ขนาดใหญ พื้นที่ใชสอยมีนอย ไมเพียงพอ ตอการทํากิจกรรมตางๆ ภายในครอบครัว) • บานของนักเรียนมีลักษณะคลายบาน จากภาพตัวอยางที่ไดดูไปแลวบางหรือไม หากคลาย คลายกับบานหลังใด หากไมคลาย บานของนักเรียนมีลักษณะอยางไร และ นักเรียนอาศัยอยูรวมกับบุคคลใดภายใน บาน (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน มีลักษณะที่คลายคลึงกัน เนื่องจากบานที่อาศัยอยูมีลักษณะเปนบาน เดี่ยว 2 ชั้น แบบครึ่งไม ครึ่งปูน มีพื้นที่ใชสอย ในการทํากิจกรรมตางๆ รวมกับสมาชิก ในครอบครัว โดยอาศัยอยูรวมกับคุณตา คุณยาย คุณพอ คุณแม คุณปา พี่ชาย และ นองสาว รวมสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด 8 คน) • บานในฝนของนักเรียนมีลักษณะเปนอยางไร เพราะเหตุใดจึงชอบบานในลักษณะดังกลาว (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับการจัดตกแตงบานและบริเวณบานใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ เรื่อง การจัดตกแตงบานและ บริเวณบาน สามารถอธิบายประเภทของบาน ลักษณะของบานที่นาอยูอาศัย รูหลักการจัดและตกแตงบาน เลือกใชเครื่องใชและของประดับในการจัดและ ตกแตงบานไดอยางเหมาะสม สามารถแกปญหาในการจัดตกแตงบานและบริเวณบานไดอยางถูกตอง รวมถึงจัดตกแตงสวนในบริเวณบานไดอยางสวยงาม และดูแลรักษาไดอยางถูกวิธี พรอมทั้งใชทรัพยากรในการจัดตกแตงบานและบริเวณบานไดอยางคุมคาและยั่งยืน โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับการจัดตกแตงบานและบริเวณบาน • ใหนักเรียนเขียนแผนผังมโนทัศนเกี่ยวกับหลักการจัดและตกแตงบานใหนาอยูอาศัย • ใหนักเรียนจัดและตกแตงบานใหสวยงาม พรอมทั้งนําความรูเกี่ยวกับการเลือกเครื่องใชและของประดับในการจัดและตกแตงบานมาใชไดอยางเหมาะสม • ใหนักเรียนออกแบบสวนในบริเวณบานตามความคิดและจินตนาการ พรอมทั้งจัดและตกแตงสวนในบริเวณบานใหเกิดความสวยงาม นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T14


ขอสอบเนน การคิด ๑ ประเภทของบ้าน บ้านเป็นสถานที่ส�าหรับพักผ่อน นอนหลับ บังแดด ลม ฝน เป็นศูนย์รวมของสมาชิกในครอบครัวที่จะใช้ชีวิตอยู ่ร ่วมกัน อย่างมีความสุข มีความรัก ความอบอุ่น และความปลอดภัย ในการด�ารงชีวิต โดยประเภทของบ้านมีเกณฑ์การแบ่งหลาย รูปแบบ เช่น ÁÕËÅѡ㹡ÒèѴµ¡áµ‹§ºŒÒ¹ áÅкÃÔàdzºŒÒ¹Í‹ҧäÃãËŒ ÊÐÍÒ´ ÊǧÒÁ ¹‹ÒÍÂÙ‹ áÅÐ ÊÌҧ¤ÇÒÁÊØ¢ãËŒ¡ÑºÊÁÒªÔ¡ 㹤Ãͺ¤ÃÑÇä´Œ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะการแสวงหาความรู ประกอบดวยการศึกษา คนควา รวบรวม สังเกต สํารวจ และบันทึก เพื่อใช ในการพัฒนาการทํางาน เชน - การจัดและตกแตงบาน - การดูแลรักษาและตกแตงสวน • บ้านที่มีผนังติดกับบ้าน หลังอื่นทั้งสองด้าน มี บริเวณบ้านที่จ�ากัด • เหมาะส�าหรับการอาศัย อยู ่แบบคนเดียว หรือ ครอบครัวขนาดเล็ก ทาวน์เฮาส์ • ตั้งอยู่ริมถนน แหล่งชุมชน มีพื้นที่จ�ากัด สามารถต่อ ยอดท�าธุรกิจได้ • เหมาะส�าหรับผู้ที่วางแผน ประกอบธุรกิจขนาดเล็ก หรือธุรกิจขนาด ใหญ่ อาคารพาณิชย์ • มีพื้นที่บริเวณบ้านให้ความ เป็นส่วนตัว • เหมาะส�าหรับการอาศัยอยู่ เป็นครอบครัวขนาดเล็ก หรือใหญ่ • เป็นบ้านสองหลังที่มีฝา บ้านด้านหนึ่งติดกัน มีพื้นที่ น้อยกว่าบ้านเดี่ยว • เหมาะส�าหรับการอาศัย อยู่เป็นครอบครัวขนาดเล็ก หรือใหญ่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด • เป็นห้องชุดอาคารสูง ภายในห้องประกอบด้วยห้องต่าง ๆ • พื้นที่มีจ�ากัด มีพื้นที่ส่วนกลางให้บริการ เช่น สระว่ายน�้า สวน สถานที่ออกก�าลังกาย ร้านค้า ร้านอาหาร • ตั้งอยู่ ในท�าเลที่เดินทางสะดวก เช่น ใกล้รถไฟฟ้า • เหมาะกับการอาศัยอยู่แบบคนเดียว หรือครอบครัวขนาดเล็ก คอนโดมิเนียม การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 11 ทาวน์เฮาส์ 1 ขั้นสอน 1. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาพูดแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับประเภทของบานให เพื่อนฟงหนาชั้นเรียน จากนั้นใหนักเรียน รวมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเภท ของบาน โดยมีครูเปนผูคอยเสนอแนะเพิ่มเติม 2. ครูถามนักเรียนวา • บานในแตละภูมิภาคมีลักษณะที่แตกตางกัน หรือไม อยางไร (แนวตอบ มีลักษณะที่แตกตางกันไมมาก โดยการสรางบานจะขึ้นอยูกับลักษณะ ภูมิประเทศ วิถีชีวิตของผูคนเปนสวนใหญ เชน หากอยูใกลกับแมนํ้า ลําคลอง บานจะมี ลักษณะเปนแบบใตถุนสูง เพื่อปองกัน นํ้าทวม หากตั้งอยูในบริเวณที่มีฝนตกชุก บานจะมีหลังคาทรงสูงและจะมีความลาด เอียงมาก เพื่อชวยใหนํ้าฝนไหลผานไดอยาง สะดวก) • นักเรียนคิดวาเพราะเหตุใดคนในสังคม เมืองในยุคปจจุบันจึงนิยมอาศัยอยูใน คอนโดมิเนียมกันมากขึ้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน คอนโดมิเนียมจะมีทําเล ที่ตั้งที่ดี ทําใหสะดวกตอการเดินทาง เชน อยูใกลรถไฟฟา ชวยประหยัดเวลาและ คาใชจาย มีพื้นที่สวนกลางใหใชประโยชน อยางหลากหลาย มีระบบการรักษาความ ปลอดภัยใหแกผูที่พักอาศัยอยางเขมงวด) • หากครอบครัวตองการประกอบธุรกิจนักเรียน จะแนะนําใหคุณพอ คุณแม หรือผูปกครอง เลือกซื้อบานประเภทใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ เลือกซื้อประเภทอาคารพาณิชย เพราะสวนใหญสรางอยูในแหลงชุมชนที่มี การคมนาคมสะดวก สามารถตอยอดทํา ธุรกิจไดในอนาคต) บานมีความสําคัญอยางไร 1. เปนที่พักอาศัยของบุคคลที่สนิทสนม 2. เปนศูนยรวมของสมาชิกในครอบครัว 3. เปนอสังหาริมทรัพยที่มีความสวยงาม 4. เปนสิ่งที่แสดงใหเห็นถึงฐานะของตนเอง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะบานเปนสถานที่สําหรับ พักผอน นอนหลับ บังแดด ลม ฝน และถือไดวาเปนศูนยรวม ของสมาชิกในครอบครัวที่จะใชชีวิตอยูรวมกันอยางมีความสุข มีความรัก ความอบอุน และความปลอดภัยในการดํารงชีวิต) เกร็ดแนะครู ครูอาจนําภาพบานแตละประเภทมาใหนักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนไดเห็น ลักษณะของบานแตละประเภทวามีลักษณะอยางไร เหมาะสมตอการอยูอาศัย ของครอบครัวแบบใด จากนั้นใหนักเรียนเปรียบเทียบกับบานของตนเองวาเปน บานประเภทใด นักเรียนควรรู 1 ทาวนเฮาส หรือทาวนโฮมไดรับความนิยมเปนลําดับตนๆ มีสวนแบงทางการ ตลาดถึง 1 ใน 3 ของตลาดที่อยูอาศัยทั้งหมด เนื่องจากสามารถจับกลุมเปาหมาย ไดเปนวงกวาง ไมวาจะเปนกลุมเปาหมายที่มีรายไดตํ่าจนถึงกลุมเปาหมาย ที่มีรายไดสูงและกลุมเปาหมายที่มีครอบครัวขนาดเล็กถึงครอบครัวขนาดใหญ หรือกําลังเริ่มสรางครอบครัว นํา สอน สรุป ประเมิน T15


ขอสอบเนนการคิด ๒ ลักษณะของบ้านที่น่าอยู่ บ้านที่น่าอยู่ไม่จ�าเป็นต้องหลังใหญ่ อาจเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ที่มีความปลอดภัยต่อสมาชิก ในครอบครัว มีความรัก ความเข้าใจ และความเอื้ออาทรต่อกัน บ้านจึงจะเป็นบ้านที่น่าอยู่ มีบรรยากาศ อบอุ่น สมาชิกในครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ลักษณะของบ้านที่น่าอยู่ มีดังนี้ เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวมี โอกาสได้ท�ากิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพ อากาศ ประตู หน้าต ่าง ผนัง ใช้งานได้ดี มีความปลอดภัย มีความสะอาด มีเครื่องอ�านวยความสะดวกเพียงพอ มีอากาศถ่ายเทสะดวก มีความแข็งแรง ปราศจากฝุนละอองและ สิ่งสกปรกต่าง ๆ ต้องหมั่นดูแล รักษา ท�าความสะอาดอยู่เสมอ ห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ควรมีอากาศถ่ายเท ได้สะดวก เพื่อป้องกันกลิ่นอับชื้น อยู ่ ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ดี มีความ ปลอดภัย และเพียงพอต่อการใช้งาน มีพื้นที่ส�าหรับใช้สอย 12 อากาศ ประตู หน้าต ่าง ผนัง 1 ขั้นสอน 3. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาพูดแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะของบานที่นาอยู ตามความคิดของตนเองใหเพื่อนฟงหนา ชั้นเรียน 4. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ลักษณะของบานที่นาอยู โดยมีครูเปนผูคอย เสนอแนะเพิ่มเติม 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “บานที่นาอยูอาศัยไม จําเปนตองเปนบานหลังใหญ แตควรเปนบานที่ สมาชิกในครอบครัวอยูรวมกันอยางมีความสุข มีความรัก ความอบอุน ความเอื้ออาทรตอกัน มีความแข็งแรง คงทน ปลอดภัย จัดเก็บ สิ่งของตางๆ อยางเปนระเบียบ มีความสะอาด สะดวกสบาย และถูกสุขอนามัย นอกจากนี้ ยังตองมีสภาพแวดลอมที่เอื้ออํานวยตอการมี สุขภาพที่ดีทั้งรางกายและจิตใจอีกดวย” • ลักษณะของบานที่นาอยูตามความคิดของ นักเรียนเปนอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เปนบานที่เต็มไปดวย ความรัก ความหวงใยของสมาชิกทุกคนใน ครอบครัว บานมีขนาดที่เหมาะสมกับจํานวน ของสมาชิก มีความแข็งแรง สะอาด ปลอดภัย อากาศถายเทไดสะดวก มีพื้นที่ใชสอยสําหรับ การประกอบกิจกรรมตางๆ ของสมาชิกใน ครอบครัว) • นักเรียนมีแนวทางในการปฏิบัติตนอยางไร ที่จะชวยทําใหบานของตนเองนาอยูอาศัย มากยิ่งขึ้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็นได อยางอิสระ เชน ควรรักษาความสะอาดอยูเสมอ จัดวางสิ่งของเครื่องใชใหเปนระเบียบเรียบรอย) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคําวา “บาน” ใหนักเรียนฟงวา บานที่นาอยูไมได หมายถึงบานที่มีความสวยงาม ความสะอาด และมีความปลอดภัยเทานั้น แตยัง รวมถึงสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครัว ซึ่งหากสมาชิกทุกคนในครอบครัว มีสัมพันธภาพที่ดีตอกัน ยอมสงผลใหครอบครัวมีความรัก ความเขาใจซึ่งกัน และกัน และมีความสุขที่ไดอยูรวมกัน นักเรียนควรรู 1 ผนัง ผนังภายนอกบาน ควรใชผนังกออิฐฉาบปูน เพราะมีความแข็งแรง ทนทานตอแดด ลม ฝนไดดี โดยวัสดุที่นํามาใชในการกอผนังมีหลายชนิด เชน อิฐมอญ อิฐมวลเบา ซีเมนตบล็อก อิฐประสาน ขอใดคือลักษณะของบานที่นาอยูอยางแทจริง 1. สมาชิกในครอบครัวมีความเขาใจกัน 2. บานมีความสวยงามและนามอง 3. มีสมาชิกในบานจํานวนนอย 4. มีพื้นที่กวางขวาง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะบานที่นาอยูอยางแทจริง นอกจากจะมีความสวยงาม ความสะอาด มีพื้นที่สําหรับใชสอยแลว สมาชิกในครอบครัวจะตองมีความรัก มีความเขาใจซึ่งกันและกัน แสดงใหเห็นวาครอบครัวที่มีความอบอุน มีความสุข ยอมสงผลให บานมีความนาอยูมากยิ่งขึ้น) นํา สอน สรุป ประเมิน T16


๓ หลักการจัดและตกแต่งบ้าน การจัดและตกแต่งบ้านให้สวยงาม น่าอยู่ และเป็นที่พึงพอใจของสมาชิกในครอบครัว จะต้อง อาศัยหลักการและวิธีการ ตลอดจนต้องเรียนรู้ธรรมชาติ หรือความชอบของสมาชิกในครอบครัว โดยหลักการจัดและตกแต่งบ้านที่ควรค�านึงถึง มีดังนี้ ๓.๑ ความปลอดภัยในบ้าน บ้านที่น ่าอยู ่นอกจากจะเป็นบ้านที่ตอบสนองการใช้งานได้อย ่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังต้องมีความปลอดภัยให้แก่สมาชิกในครอบครัว เพราะชีวิตในบ้านอาจไร้ซึ่งความสุข หากบ้าน ที่อาศัยอยู่นั้นไม่มีความปลอดภัย ซึ่งความปลอดภัยในบ้าน มีดังนี้ • ไม ่วางสิ่งของกีดขวางบริเวณทางเดินและ บันได เพราะอาจเดินสะดุดหกล้มได้ • มีแสงสว่างเพียงพอ โดยติดตั้งสวิตช์ไฟใกล้ ประตูเข้า-ออก เพื่อความสะดวกในการใช้งาน • จัดวางสิ่งของเครื่องใช้ให้เหมาะสม เช่น จัดตู้ยาในที่สูงเพื่อไม่ให้ถูกแสงและพ้นมือเด็ก • ไม่ควรขัดมัน หรือลงแว็กซ์ที่พื้นและบันไดบ้าน เพราะอาจท�าให้ลื่นล้มได้ • หมั่นตรวจสอบสายไฟและหลอดไฟให้อยู่ใน สภาพดีอยู่เสมอ หากช�ารุดต้องเปลี่ยนทันที • ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสภาพดีหมั่นตรวจสอบ สภาพอยู่เสมอ หากช�ารุดห้ามน�ามาใช้ • ไม่ควรซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช�ารุดด้วยตนเอง หากไม่มีความรู้หรือความช�านาญในการซ่อม • ไม ่เสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมาก ร่วมสายไฟเดียวกัน • ใช้รั้วและประตูรั้วที่ท�าจากวัสดุที่มีความ แข็งแรง ทนทาน และมั่นคง • ติดตั้งเหล็กดัดที่ประตูและหน้าต่าง เพื่อเพิ่ม ความแข็งแรงและความปลอดภัย • ดูแลซ ่อมแซมกลอนและลูกบิดให้อยู ่ใน สภาพดี มั่นคง และแข็งแรงอยู่เสมอ • เมื่อไม ่อยู ่บ้านควรปิดประตู หน้าต่างให้ เรียบร้อยก่อนทุกครั้ง • ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อความปลอดภัย ไว้คอยตรวจสอบเหตุการณ์ต่าง ๆ และใช้เป็น หลักฐานทางกฎหมายได้ • ก ่อนใช้งานเครื่องมือ เครื่องใช้ ควรมีการ ตรวจสอบสภาพการใช้งานทุกครั้ง • จัดเก็บเครื่องมือ เครื่องใช้ให้เป็นระเบียบ เป็น หมวดหมู่ เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้งาน • เลือกใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ให้เหมาะสมกับ ชนิดของงาน • ก่อนจัดเก็บเครื่องมือ เครื่องใช้ควรบ�ารุงรักษา ให้คงสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ อุบัติเหตุในบ้าน การใช้ไฟฟ้าในบ้าน การถูกโจรกรรม เครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้าน การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 13 จัดตู้ยาในที่สูง ให้ถูกแสงและพ้นมือเด็ก หรือลงแว็กซ์ที่พื้นและบันไดบ้าน หมั่นตรวจสอบสายไฟและหลอดไฟให้อยู่ 1 2 3 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน 6. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา เรื่อง หลักการจัดและตกแตงบาน ในประเด็น ที่ครูกําหนดให คือ ความปลอดภัยในบาน ความสะอาด ถูกสุขลักษณะ ความสวยงาม ความประหยัด จากหนังสือเรียน หนวยการ เรียนรูที่ 2 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 7. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการ จัดและตกแตงบาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 2 8. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปราย แลกเปลี่ยนความรูในเรื่องที่ไดศึกษามา จากนั้น ครูถามนักเรียนวา • ความปลอดภัยในบานมีความสําคัญอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ความปลอดภัยในบาน จะชวยทําใหสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู รวมกันไดอยางมีความสุข โดยสวนใหญ ความไมปลอดภัยในบานจะเกิดจากสาเหตุ หลักหลายประการ เชน การเกิดอุบัติเหตุ ในบาน การถูกโจรกรรม การใชไฟฟาในบาน เครื่องมือ เครื่องใช สิ่งอํานวยความสะดวก ตางๆ ภายในบาน) • กลองวงจรปดมีประโยชนในการชวยปองกัน การถูกโจรกรรมทรัพยสินในบานอยางไร (แนวตอบ กลองวงจรปดถูกนํามาติด เพื่อใช สังเกตการณความเคลื่อนไหว หรือสิ่งผิดปกติ ที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณบานและบริเวณที่ ตองการตรวจจับภาพ เพื่อชวยปองกัน การถูกโจรกรรมทรัพยสิน การเกิดเหตุ รายตางๆ สามารถนํามาใชเปนหลักฐาน หากเกิดเหตุการณที่เลวราย ทั้งยังชวย ในการติดตามหาคนรายไดอีกดวย) นักเรียนควรรู 1 ตูยา ควรมียาสามัญประจําบาน เพราะหากสมาชิกในครอบครัวคนใดคนหนึ่ง เกิดการเจ็บปวยเพียงเล็กนอยจะไดสามารถชวยเหลือในเบื้องตนไดอยางทันทวงที โดยยาสามัญประจําบานที่ควรมีไว เชน ยาบรรเทาปวด หรือลดไข ยาแกทองเสีย ยาแกปวดทอง ยาแกแพ ยาแกไอ ยาดม ยาใสแผล 2 แว็กซ การลงแว็กซ สามารถทําไดโดยใชผาชุบแว็กซ จากนั้นเริ่มขัดจากมุม ในสุดของพื้น ทิ้งใหแว็กซแหงประมาณ 20 นาที จึงลงซํ้าประมาณ 3-4 รอบ ซึ่งจะตองไมขัดใหมันจนเกินไป เพราะอาจกอใหเกิดอุบัติเหตุได 3 หลอดไฟ ที่นิยมใชภายในบานจะแบงออกเปน 2 ประเภท ไดแก หลอดไส ทังสเตน ใหแสงเหมือนธรรมชาติ ไมชวยในการประหยัดพลังงาน อายุการ ใชงานสั้น และหลอดฟลูออเรสเซนต มีประสิทธิภาพสูง อายุการใชงาน ยาวนาน ไมมีปญหาเรื่องหลอดขาดเมื่อเกิดกระแสไฟฟาตก ใหนักเรียนสํารวจบานของตนเองวามีการจัดและตกแตงเปน อยางไร นักเรียนคิดวาจะจัดและตกแตงบานใหสวยงามและเปน ระเบียบมากขึ้นหรือไม โดยใหนักเรียนถายภาพบานของตนเอง ในปจจุบัน เขียนสรุปลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนสํารวจบานของตนเองวามีการจัดและตกแตงเปน อยางไร นักเรียนคิดวาจะจัดและตกแตงบานใหสวยงามและเปน ระเบียบมากขึ้นหรือไม โดยใหนักเรียนออกแบบการจัดและตกแตง บานที่ตนเองตองการ และถายภาพบานของตนเองกอนตกแตงและ หลังตกแตง เพื่อเปรียบเทียบใหเห็นความแตกตางลงในกระดาษ รายงาน นําสงครูผูสอน นํา สอน สรุป ประเมิน T17


ขอสอบเนนการคิด ๓.๒ ความสะอาด ถูกสุขลักษณะ บ้านที่น่าอยู่ต้องมีความสะอาด มีระบบก�าจัดขยะและของเสียที่ถูกสุขลักษณะ เพื่อการมี สุขภาพที่ดีของสมาชิกในครอบครัว ตัวอย่างการจัดและตกแต่งบ้านให้ถูกสุขลักษณะ มีดังนี้ ห้องรับแขก ห้องนอน ห้องน�้า อากาศถ่ายเทได้สะดวก สะอาด จัดและตกแต่งให้สวยงาม เพื่อ เป็นการสร้างความประทับใจ ให้แก ่ผู้ที่มาเยือน และเพื่อ สุขภาพอนามัยที่ดีของสมาชิก ในครอบครัว อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น มีหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศ แสงแดดส ่องถึง ภายในห้อง ไม่ควรมีเครื่องเรือนมาก เพราะ จะท�าความสะอาดไม่ทั่วถึง เป็น ที่สะสมของฝุนละออง อากาศถ ่ายเทได้สะดวก ไม ่มี กลิ่นรบกวน พื้นไม่ลื่น มีการ ต ่อระบบท ่อน�้าที่ดีทั้งท ่อน�้า ประปาที่ ใช้ และท่อเพื่อระบาย น�้าเสีย วางต�าแหน่งอ่างล้างหน้า โถส้วม ฝกบัวได้อย่างเหมาะสม 1๔ ห้องนอน1 2 หองในขอใดควรจัดตกแตงใหมีเครื่องเรือนนอยที่สุด 1. หองครัว 2. หองนอน 3. หองนั่งเลน 4. หองรับแขก (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะหากมีเครื่องเรือนมากจะทํา ความสะอาดฝุนละอองไดยาก ทําใหมีฝุนละอองตกคางภายในหอง ซึ่งสงผลเสียตอสุขภาพ นอกจากนี้ หากมีเครื่องเรือนมากจะทําให หองดูคับแคบ เกิดความรูสึกอึดอัด และพักผอนไดไมเต็มที่) ขั้นสอน 9. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คนออกมาเลา ประสบการณเกี่ยวกับการดูแลรักษาความ สะอาดบานและหองตางๆ ภายในบานของ ตนเองใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน จากนั้นให นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การดูแลรักษาความสะอาดบานและหองตางๆ ภายในบาน โดยมีครูเปนผูคอยเสนอแนะ เพิ่มเติม 10. ครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใดหองนอนจึงควรเปนหองที่มี เครื่องใชและของประดับตกแตงนอยที่สุด (แนวตอบ หองนอนเปนหองสําหรับพักผอน การมีเครื่องใชและของประดับตกแตงมาก จนเกินไปจะทําใหหองดูคับแคบ เกิดความ รูสึกอึดอัด ทําใหพักผอนไดไมเต็มที่ ทั้งยัง เปนแหลงสะสมของฝุนละออง ซึ่งจะสง ผลเสียตอสุขภาพและรางกายของผูพัก อาศัยได) • การทําความสะอาดประเภทใดที่สามารถ ปฏิบัติไดเปนประจําทุกวัน (แนวตอบ การทําความสะอาดพื้นบาน สามารถทําไดทุกวัน เพื่อเปนการปองกัน การสะสมของฝุนละอองและเชื้อโรคตางๆ) 11. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “หมอนที่ใชงานมานาน อาจมีคราบสกปรกเกาะติดแนน จึงควรนํามา ทําความสะอาด เพื่อสุขอนามัยที่ดีของผูใช ซึ่งการทําความสะอาดสามารถทําไดหลายวิธี เชน ใชนํ้ายาลางจาน 1 ถวยตวง โซดาซักผา 3 4 ถวยตวง นํ้าสมสายชู 1 2 ½ ถวยตวง ผงซักฟอก 3 ชอนโตะ นํ้ารอน 3 ถวยตวง ผสมสวนผสม ทั้งหมดใหเปนเนื้อเดียวกัน นําหมอนใสลง ในถังซักผาตามดวยสวนผสมที่เตรียมไว เปดนํ้ารอนและซักตามปกติ จะชวยขจัดคราบ สกปรกออกได” เกร็ดแนะครู ครูควรแนะนํานักเรียนวา นักเรียนควรดูแลรักษาความสะอาดหองตางๆ ภายในบานใหสะอาดและถูกสุขลักษณะอยูเสมอ เพราะหากปลอยใหหองเกิด ความสกปรกจะเปนแหลงสะสมของเชื้อโรค และอาจนําไปสูการเกิดโรคตางๆ ได นักเรียนควรรู 1 หองนอน ในหองนอนมักมีตัวไรฝุน ซึ่งไมสามารถมองเห็นไดดวยตาเปลา มักพบอยูรวมกับฝุนที่มากับหมอน ผาหม ผาคลุมเตียง โดยตัวไรฝุนจะทําให เกิดอาการภูมิแพ อาการคัน จาม นํ้ามูกไหล ดังนั้น จึงควรปองกันโดยการนํา เครื่องนอนไปซักและผึ่งแดดบอยๆ รวมถึงเคาะเอาฝุนออกดวย 2 ฝกบัว การทําความสะอาดทําไดโดยผสมนํ้าสมสายชู 400 มิลลิลิตร กับ นํ้ามะนาว 1/3 ถวยตวง เทใสหยอดปม ถอดหัวฝกบัวออก หยดสวนผสมที่ หัวฝกบัว ทิ้งไว 24 ชั่วโมง ใชแปรงสีฟนขัดคราบสกปรกและใชนํ้าสะอาดลางออก นํา สอน สรุป ประเมิน T18


กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค ๓.๓ ความสวยงาม ควรน�าหลักการทางทัศนศิลป์มาประยุกต์ ใช้ เพื่อแสดงออกถึงความงดงามและแสดงถึง ความมีรสนิยมของเจ้าของบ้าน โดยมีหลักการจัดและตกแต่งบ้าน ดังนี้ ๑) ขนาดและสัดส่วนของเครื่องเรือน ต้องมีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอย เช่น เครื่องเรือนขนาดใหญ่ส�าหรับห้องที่มีขนาดกว้าง เครื่องเรือนขนาดเล็กส�าหรับห้องที่มีขนาดเล็ก ๒) การใช้สี สีช่วยให้บ้านเกิดความสวยงาม สีมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึก เช่น สีฟ้า ให้ความรู้สึกสดชื่น การใช้สีต้องค�านึงถึงระดับของสี เช่น หากต้องการให้ห้องดูกว้าง หรือ ใหญ่ขึ้น ให้ ใช้สีโทนอ่อน ๓.๔ ความประหยัด การจัดและตกแต่งบ้าน นอกจากต้องค�านึงถึงความปลอดภัย ความสะอาด ถูกสุขลักษณะ และความสวยงามแล้ว ยังต้องค�านึงถึงความประหยัดด้วย โดยมีข้อควรค�านึงถึง ดังนี้ ๑) ประหยัดเวลา วางแผนอย่างเป็นขั้นตอนและก�าหนดเวลาในการท�างาน เพื่อให้ จัดและตกแต่งบ้านส�าเร็จอย่างมีคุณภาพภายในเวลาที่ก�าหนด ๒) ประหยัดแรงงาน น�าอุปกรณ์เสริมมาช่วยในการท�างาน เพื่อประหยัดแรงงาน เช่น ต้องการตกแต่งผนังห้องให้สวยงามโดยการวาดภาพที่ผนัง สามารถใช้สติกเกอร์ติดผนัง ติดตกแต่งผนังแทนได้ ๓) ประหยัดค่าใช้จ่าย ควรค�านึงถึงความคุ้มค่าของการใช้งาน สมาชิกทุกคนในบ้าน ใช้ประโยชน์ได้ในระยะเวลานาน ไม่จ�าเป็นต้องมีราคาแพง แต่ควรค�านึงถึงประโยชน์การใช้งาน เป็นหลัก การทาสีห้องด้วยสีโทนสว่างจะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น การทาสีห้องด้วยสีโทนเข้มจะช่วยท�าให้ห้องดูเล็กลง การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 15 ใช้สีโทนอ่อน สามารถใช้สติกเกอร์ติดผนัง 1 2 ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันออกแบบการจัด และตกแตงหองตางๆ ภายในบานตามจินตนาการ โดยเลือกตาม ความสนใจ 1 หอง โดยวัสดุที่นํามาตกแตงนั้นควรเลือกใชวัสดุ ในทองถิ่น หรือวัสดุเหลือใช ซึ่งใหแตละกลุมออกแบบลงในกระดาษ ตกแตงใหสวยงาม พรอมทั้งระบุวัสดุตกแตงที่นํามาใช จากนั้น ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงคดานใฝเรียนรู อยูอยางพอเพียง และมุงมั่นในการทํางาน) นักเรียนควรรู 1 สีโทนออน สีที่นิยมนํามาใชทาบาน เชน สีฟาออน สีเขียวออน สีครีม สีไขไก เนื่องจากเปนโทนสีที่ดูแลวสบายตา ใหความรูสึกผอนคลาย 2 สติกเกอรติดผนัง กอนติดสติกเกอรควรทําความสะอาดพื้นผิวที่ตองการ ติดใหสะอาดกอน จากนั้นทิ้งใหผนังแหงสนิทกอนทําการติด ในกรณีที่ตองการ ติดผนังปูน พื้นผิวของผนังจะตองเรียบเนียน เพราะหากผิวของผนังขรุขระ หยาบ จะทําใหอายุการใชงานลดลง หรืออาจมีปญหาตั้งแตในขั้นการติดสติกเกอร ดังนั้น ควรทําการสํารวจผนังบานกอนทําการติดสติกเกอร ขั้นสอน 12. ครูนํากระดาษสีหลากสีมาใหนักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนวา • นักเรียนชื่นชอบสีใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความ คิดเห็นไดอยางอิสระ เชน ชอบสีเหลือง เพราะเปนสีที่สดใส ใหความรูสึกสวาง สดชื่น ชอบสีแดง เพราะเปนสีประจําวันเกิด ใหความรูสึกตื่นเตน ทาทาย) • สีที่นักเรียนชื่นชอบสามารถนํามาใชเพื่อ เพิ่มความสวยงามใหแกบานไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 13. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “สีแตละสีจะมีอิทธิพล ตอความรูสึกที่แตกตางกัน การใชสีเพื่อให บานเกิดความสวยงามนั้น จําเปนตองคํานึงถึง อิทธิพลของสีและระดับของสีเปนหลัก เชน หองรับแขก หองนี้ใชสีไดทุกระดับ ควรเลือกใช สีที่ดูโปรง โลง สบายตา เชน สีครีม สีเขียวออน สีชมพูออน หองรับประทานอาหาร ควรเลือก ใชสีที่ดูสะอาด ซึ่งจะชวยกระตุนใหรูสึกอยาก รับประทานอาหารและรับประทานอาหารได มากขึ้น เชน สีชมพู สีสมออนๆ” 14. ครูถามนักเรียนวา • หากบาน หรือหองตางๆ ภายในบานมี ขนาดเล็กจะมีแนวทางในการแกปญหา ดังกลาวอยางไร เพื่อใหบานดูกวางขึ้น (แนวตอบ ควรเลือกใชเครื่องใชที่มีขนาด และลักษณะเหมาะสมกับขนาดของบาน เพื่อใหบานดูกวาง โปรง โลง สบาย หากบาน มีขนาดเล็ก แตเลือกใชเครื่องใชขนาดใหญ หรือเครื่องเรือนที่มีลักษณะทึบตัน จะทําให บานดูคับแคบและอึดอัด นอกจากนี้ ควร ทาสีบานดวยสีโทนออน ซึ่งจะชวยใหบาน ดูกวางขวางมากยิ่งขึ้น) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการติดสติกเกอรที่ผนัง ไดที่ https://www. youtube.com/watch?v=8N1qEL6agrc หรือ https://www.youtube.com/ watch?v=8XdkIYKglu0 นํา สอน สรุป ประเมิน T19


ขอสอบเนนการคิด ๔ เครื่องใช้และของประดับในการจัดและตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ในบ้านเป็นสิ่งของอ�านวยความสะดวกต่าง ๆ ในบ้านส่วนของประดับบ้านเป็นสิ่งของ ที่ใช้ในการตกแต่งบ้านให้มีความสวยงาม การจัดและตกแต่งบ้านต้องมีการเลือกใช้เครื่องใช้ และของประดับให้เหมาะสมกับบ้าน ฐานะทางการเงิน และความต้องการของสมาชิกในครอบครัว ๔.๑ เครื่องใช้ ในการจัดและตกแต่งบ้าน ควรเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่มีความจ�าเป็นและสร้างความสะดวกสบายให้แก่สมาชิกในครอบครัว ดังนี้ • การเคลื่อนย้าย ปรับปรุง แก้ไขรูปแบบ และการซ่อมแซมท�าได้ยาก • ใช้ต้นทุนในการผลิตสูง เพราะต้องใช้ เครื่องมือและแรงงานจ�านวนมากในการผลิต • โครงสร้างของตัวอาคารจะได้รับความช�ารุด เสียหาย เมื่อมีการถอดอุปกรณ์ออก เครื่องใช้ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เช่นตู้ติดผนัง โต๊ะติดผนัง หากมีการเคลื่อนย้ายอาจท�าให้ ผนังหรืออุปกรณ์ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ ในบ้านเกิดความเสียหาย ข้อดี ข้อจ�ากัด • โครงสร้างของอุปกรณ์แข็งแรงและมีความ เหมาะสมกับพื้นที่ที่ ใช้ ในการติดตั้ง • ประหยัดพื้นที่ ในการจัดวางอุปกรณ์ ท�าให้ มีพื้นที่ในการใช้สอยเพิ่มมากขึ้น • ประหยัดวัสดุ เพราะโครงสร้างของอุปกรณ์ บางส่วนอาศัยโครงสร้างของตัวอาคารได้ เครื่องใช้และเครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร การขจัดรอยต่าง ๆ บนเครื่องเรือนที่ท�า จากไม้ ให้ใช้ผ้าสะอาดแตะน�้ายาขัดรองเท้า ถูบริเวณที่เกิดรอยรอยขีดข่วนจะค่อย ๆ หายไป Trick : การท�าความสะอาดเครื่องเรือน 16 เครื่องใช้และเครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร ตู้ติดผนัง ให้ใช้ผ้าสะอาดแตะน�้ายาขัดรองเท้า 1 2 3 ขั้นสอน 15. ครูนําภาพหองที่มีรูปแบบการใชเครื่องเรือน ที่แตกตางกันมาใหนักเรียนดู ซึ่งภาพที่ 1 จะ เปนภาพการใชเครื่องใชและเครื่องเรือนที่ติด กับอาคาร สวนภาพที่ 2 จะเปนภาพการใช เครื่องใชและเครื่องเรือนแบบลอยตัว จากนั้น ครูถามนักเรียนวา • ที่บานของนักเรียนจัดตกแตงหองดวย เครื่องใชและเครื่องเรือนแบบใด เพราะ เหตุใดจึงเลือกใชเครื่องใชและเครื่องเรือน ในลักษณะนี้ (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน เนื่องจากบานที่อาศัยอยูเปน ทาวนเฮาส 2 ชั้น มีเนื้อที่ 16 ตารางวา ซึ่ง มีพื้นที่ในการใชสอยที่จํากัด จึงเลือกใช เครื่องใชและเครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร เปนหลัก เพราะชวยประหยัดพื้นที่ในการ จัดวางอุปกรณ ทําใหมีพื้นที่ในการใชสอย ที่เพิ่มมากขึ้น) 16. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา เรื่อง เครื่องใชในการจัดและตกแตงบาน ประเภท เครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร และเครื่องเรือน แบบลอยตัว จากหนังสือเรียน หนวยการเรียน รูที่ 2 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 17. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องใช ในการจัดและตกแตงบาน ประเภทเครื่องเรือน ที่ติดกับอาคาร และเครื่องเรือนแบบลอยตัว จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 2 18. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวิเคราะห ความแตกตางของเครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร และเครื่องเรือนแบบลอยตัว สรุปผลการ วิเคราะห จากนั้นใหแตละกลุมสงตัวแทน กลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลการ วิเคราะหหนาชั้นเรียน นักเรียนควรรู 1 เครื่องใชและเครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร หรือ “Built-in” เหมาะกับบาน ที่มีพื้นที่จํากัด สามารถชวยอําพรางการจัดเก็บเครื่องใชที่ไมเปนระเบียบใหดู เรียบรอย สะอาดตา สวนมากนิยมใชกับคอนโดมิเนียม อพารตเมนต ซึ่งเครื่องใช ประเภทนี้มีขอจํากัดในการเคลื่อนยาย เพราะถาถอดออกแลวตองการประกอบ เขาไปใหมอาจทําใหผนังและตัวเครื่องใชเสียหายได 2 ตู มีอยูดวยกันหลายรูปแบบใหเลือกใช ควรเลือกใชใหเหมาะสมกับลักษณะ ของการใชงาน เชน ตูแบบทึบ เหมาะสําหรับหองที่มีขนาดใหญ เพราะความทึบ ของตูจะไมทําลายความสมดุลภายในหอง 3 นํ้ายาขัดรองเทา ควรเริ่มจากบริเวณปลายรองเทาดานบน ทําความสะอาด ฝุนออกโดยใชแปรงขัดรองเทา ใชคลีนเนอรชนิดเหลวลบสิ่งสกปรกออกจนหมด แลวใชผาพันปลายนิ้วเช็ดถูคราบสกปรกออก จากนั้นบํารุงผิวรองเทาโดยการทา ครีมเกลี่ยใหกระจายจนทั่วผิวรองเทา หากบานมีขนาดเล็กจะมีวิธีการตกแตงอยางไร เพื่อใหบานดู กวางขึ้น 1. เลือกทาสีบานเปนโทนสีเขม 2. ลดจํานวนสมาชิกในบานใหนอยลง 3. เลือกใชเครื่องเรือนใหเหมาะสมกับขนาดของบาน 4. ทําความสะอาดและเก็บสิ่งที่ไมจําเปนทิ้งอยางสมํ่าเสมอ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะบานที่มีขนาดเล็กควรเลือกใช เครื่องเรือนใหเหมาะสมกับขนาดของบาน ซึ่งจะชวยทําใหบานดู กวางขึ้น หากบานมีขนาดเล็กแตใชเครื่องเรือนที่มีขนาดใหญจะ ทําใหบานดูคับแคบ นอกจากนี้ การเลือกโทนสีออนทาบานจะชวย ใหบานดูกวางขึ้นไดเชนเดียวกัน) นํา สอน สรุป ประเมิน T20


ขอสอบเนน การคิด • ก ่อนซื้อควรวัดขนาดพื้นที่ที่ต้องการก ่อน เพราะอาจมีขนาดที่ ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ • ความแข็งแรงมีขีดจ�ากัด โครงสร้างอุปกรณ์ จะรองรับน�้าหนักด้วยตัวมันเองเท่านั้น • ชิ้นส่วนบางชิ้นอาจมีคุณภาพไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากใช้ระบบการผลิตครั้งละมาก ๆ การดูแลรักษาโซฟาประเภทหนัง โซฟา เป็นเครื่องเรือนที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมซื้อมาใช้ โดยจัดวางอยู่ในห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น การดูแลรักษาโซฟาประเภทหนัง สามารถปฏิบัติได้เองง่าย ๆ ดังนี้ ๑. ใช้ผ้าสะอาดชุบน�้าอุ่นพอหมาด ๆ เช็ดถูบริเวณที่เป็นคราบสกปรกออก ๒. หากเปอนเครื่องดื่มให้ใช้ผ้าสะอาด หรือฟองน�้าเช็ดให้แห้ง แล้วใช้ผ้าสะอาดชุบน�้า หมาด ๆ เช็ด T i p เครื่องใช้ที่หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเรือนทั่วไป เคลื่อนย้ายได้สะดวก มีขนาดมาตรฐาน จัดวางได้ตามความต้องการ นิยมผลิตเป็นชิ้น จะทิ้ง หรือเปลี่ยนเป็นชิ้นใหม่ก็ท�าได้ง่าย ข้อดี ข้อจ�ากัด • เคลื่อนย้ายได้สะดวก จัดวางที่ ใหม่ได้ง่าย • ราคาถูกกว่าประเภทที่ติดกับอาคาร มีรูปแบบ ให้เลือกหลากหลาย • ซ่อมแซมได้ง่าย เนื่องจากชิ้นส่วนบางชิ้นหา ซื้อมาซ่อมแซมเองได้ เครื่องใช้และเครื่องเรือนแบบลอยตัว ให้น�าขี้ผึ้งขัดรถมาทาเคลือบไว้ หากโดนน�้า หรือน�้าค้างจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสนิม Trick : การรักษาเครื่องเรือนที่ท�าจากโลหะ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 17 1 ขั้นสอน 19. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เครื่องเรือน หรือ เฟอรนิเจอร เปนเครื่องใชที่ชวยอํานวยความ สะดวกภายในบาน ชวยใหการจัดวางสิ่งของ ตางๆ ภายในบานเปนระเบียบเรียบรอย ทั้งยัง บงบอกถึงรสนิยมของผูเปนเจาของบานได เปนอยางดี ปจจุบันเครื่องเรือนมีอยูดวยกัน หลากหลายรูปแบบ ผลิตจากวัสดุที่แตกตางกัน ซึ่งสงผลใหราคาของเครื่องเรือนมีความ แตกตางกันออกไป ดังนั้น ในการเลือกซื้อ เครื่องเรือนจึงควรพิจารณาอยางละเอียดถี่ถวน กอนตัดสินใจเลือกซื้อ เชน • เสาะหาสถานที่จัดจําหนายเครื่องเรือนวา มีการจัดแสดงสินคาที่ใด มีโปรโมชันใดที่ นาสนใจ เพื่อใหมีโอกาสในการเลือกซื้อ เครื่องเรือนที่สวยงามในราคาที่เหมาะสม • ควรมีการเปรียบเทียบคุณภาพของสินคา แตละยี่หออยางละเอียด เพราะแตละบริษัท จะเลือกใชวัสดุที่แตกตางกัน ซึ่งจะสงผลให เครื่องเรือนมีคุณภาพที่แตกตางกันออกไป • เลือกรูปแบบ รูปทรง สี และขนาดของ เครื่องเรือนใหเหมาะสมกับหองที่ตองการ ใชงาน โดยรูปแบบและรูปทรงของเครื่องเรือน ควรมีลักษณะที่เปนไปในทิศทางเดียวกับ เครื่องเรือนที่ตองการใชทั้งหมด • พิจารณาวัสดุที่นํามาผลิต เนื่องจากวัสดุ แตละชนิดจะมีอายุการใชงานและสภาพที่ แตกตางกัน เชน หากตองการเครื่องเรือน ที่มีสีสันสวยงาม ใหความรูสึกสดชื่น ควร เลือกใชเครื่องเรือนที่บุดวยผาตางๆ หาก ตองการใหบาน หรือหองมีความกลมกลืน ไปกับธรรมชาติ ควรเลือกใชเครื่องเรือน ประเภทไม อาจเปนเครื่องเรือนที่ทําจากไม จริง หรือเครื่องเรือนที่ทาดวยสีเดียวกับไม” การจัดและตกแตงบริเวณบานควรคํานึงถึงสิ่งตอไปนี้ ยกเวนขอใด 1. รูปแบบบาน 2. พื้นที่ของบาน 3. จํานวนสมาชิกภายในบาน 4. ลักษณะของพรรณไมในบาน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะในการจัดและตกแตงบริเวณ บานควรคํานึงถึงรูปแบบบานวามีรูปแบบใด สีใด ควรคํานึงถึงพื้นที่ วามีขนาดเทาไร จะจัดสวนขนาดเทาใดจึงจะเหมาะสมและควร คํานึงถึงพรรณไมในบานวาควรเปนพรรณไมประเภทใด ดังนั้น ขอ 3. จํานวนสมาชิกภายในบานจึงไมใชสิ่งที่ควรคํานึงถึง) นักเรียนควรรู 1 สนิม วิธีการกําจัดสนิมมีหลายวิธี เชน • นํ้าสมสายชู โดยนําของที่เปนสนิมไปแชในนํ้าสมสายชู ทิ้งไวสักพัก แลวใชผาเช็ดออก • นํ้าอัดลม โดยนํานํ้าอัดลมราด หรือเทใสถาด จากนั้นนําของที่เปนสนิม ไปแชทิ้งไว นํ้าอัดลมจะทําการกัดกรอนจนสนิมหลุดออก ทิ้งไวสักพัก แลวใชผา เช็ดออก • หัวหอมแดง โดยนํากระดาษทรายมาขัดบริเวณที่เกิดสนิม เพื่อกําจัดเนื้อ สนิมออกกอน ใชหัวหอมแดงที่หั่นเตรียมไวมาถูทับรอยสนิม ลางดวยนํ้ารอน จากนั้นจึงใชผาสะอาดเช็ดใหแหง สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทําความสะอาดเครื่องเรือน หรือเฟอรนิเจอร ไดที่ https://www.baanlaesuan.com/45460/diy/cleaning-furniture นํา สอน สรุป ประเมิน T21


ขอสอบเนนการคิด ๔.๒ ของประดับที่ ใช้ ในการจัดและตกแต่งบ้าน ของตกแต่งบ้านเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยท�าให้บ้านสวยงาม การเลือกสิ่งของมาจัดตกแต่งบ้าน จะแตกต่างกันไปตามรสนิยม ฐานะทางการเงินของแต่ละครอบครัว โดยของประดับที่ใช้ ในการจัด และตกแต่งบ้านมีหลายชนิด เช่น กรอบรูป ใช้ในการตกแต่งบ้านให้สวยงามโดยติดเป็นกลุ่มคู่หรือเดี่ยว ก็ได้ การติดจะขึ้นอยู่กับพื้นที่และรูปแบบที่ต้องการตกแต่ง วิธีการติด • เลือกผนังที่ โล่ง เพื่อที่กรอบรูปจะได้มีความโดดเด่น • เลือกบริเวณที่มีแสงธรรมชาติส่องถึง เพื่อให้เห็นภาพชัด • เลือกรูปและกรอบรูปให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการจะติด • วัดระยะการวางให้แน่นอนก่อนติดกรอบรูปลงบนผนัง สติกเกอร์ติดผนัง อุปกรณ์ตกแต่งผนังให้สวยงาม ใช้ติดได้ทั้งผนังห้อง ประตู หน้าต่างที่เป็นผิวเรียบลอกออกได้ง่ายไม่ท�าลายพื้นผิวของผนัง วิธีการติด • ท�าความสะอาดบริเวณผนังที่ต้องการติดสติกเกอร์ • ลอกแผ่นสติกเกอร์ออกมาติดที่ผนังทีละชิ้น • ใช้ผ้ารีดฟองอากาศออกจากสติกเกอร์ ให้เรียบเนียน • กดทับสติกเกอร์ เพื่อให้ภาพติดแน่น ไม่หลุดลอกได้ง่าย ชั้นวางของ ใช้ในการวาง หรือเก็บสิ่งของ ทั้งเพื่อโชว์ เพื่อความเป็น ระเบียบเรียบร้อย หรือเพื่อให้หยิบใช้งานได้อย่างสะดวก วิธีการติด • เลือกผนังที่มีผิวเรียบและมีความแข็งแรงเพียงพอ • วัดต�าแหน่งบริเวณที่จะติดตั้ง โดยท�าเครื่องหมายก�ากับไว้ • เจาะผนังด้วยดอกสว่านที่มีขนาดเหมาะสมกับชุดยึด (พุก) • หลังการติดตั้งควรตรวจสอบความแข็งแรงของการยึดติด 18 ขั้นสอน 20. ครูถามนักเรียนวา • ของประดับที่ใชในการจัดและตกแตงบาน มีความสําคัญอยางไร (แนวตอบ เปนอุปกรณที่ชวยทําใหบานนาอยู อาศัยและมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น) • ในหองนอนของนักเรียนมีการเลือกใชของ ประดับใด และมีวิธีในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 21. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “หากตองการติดภาพที่ ผนัง แตผนังมีคราบกาว หรือเทปกาวติดอยู ควรทําความสะอาดใหเรียบรอยกอนติดภาพ ซึ่งสามารถทําไดหลายวิธี เชน • ใชดรายเปาผม ความรอนระดับปานกลาง จอที่เทปกาว โดยถือหางจากผนัง 2-3 นิ้ว รอใหเทปกาวออนตัวแลวคอยๆ ดึงออก หรือใชปลายมีด หรือของปลายแหลมเขี่ยที่ ขอบเทปกาว คอยๆ ใชมือดึงออกอยางชาๆ เพื่อปองกันผนังลอก หากดึงออกแลวยังมี รองรอยคราบกาวติดอยู ใหใชผาชุบรับบิ้ง แอลกอฮอลเช็ดใหทั่ว คราบกาวจะหายไป • ใชนํ้ามันอเนกประสงค หรือนํ้ามันมะพราว หรือนํ้ามันพืช เทลงบนคราบเทปกาว ใช ฟองนํ้าถูเบาๆ จนคราบเทปกาวออกจนหมด • ใชนํ้ายาลางจาน นํ้าสมสายชู และนํ้ารอน คนใหเปนเนื้อเดียวกัน ใชผาเนื้อหยาบชุบ นํ้ายาที่ผสมไวทาบนเทปกาว โดยตองทาไป เรื่อยๆ จนเทปกาวหลุด • ใชนํ้ายาปรับผานุม 1 สวน ตอนํ้าเปลา 2 สวน เทใสภาชนะ คนใหเขากัน ทาลงบนเทปกาว หรือบริเวณที่มีคราบ ทิ้งไวสักพัก ใชผาชุบ นํ้าขัด เช็ดซํ้าดวยฟองนํ้าชุบนํ้า เพื่อลาง นํ้ายาปรับผานุมออก” ขอใดแสดงใหเห็นถึงลักษณะของเครื่องเรือนที่ดี 1. มีราคาสูง 2. ทําจากวัสดุในทองถิ่น 3. อายุการใชงานยาวนาน 4. นําเขาจากตางประเทศ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเครื่องเรือนที่ดีไมจําเปนตอง เปนเครื่องเรือนที่มีราคาสูง นําเขาจากตางประเทศ หรือใชวัสดุ เฉพาะแหลงในการผลิต แตสิ่งที่สําคัญก็คือ จะตองมีอายุการใชงาน ที่ยาวนาน มีความแข็งแรง ทนทาน และมีราคาที่เหมาะสม) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับของประดับที่ใชในการจัดและตกแตงบานให นักเรียนฟงวา ของประดับที่นํามาใชในการจัดและตกแตงบานนั้นมีอีกมากมาย ไมไดมีเพียงแคกรอบรูป สติกเกอรติดผนัง และชั้นวางของเทานั้น แตนักเรียน ยังสามารถเลือกวัสดุตกแตงชิ้นอื่นมาตกแตงบานได เชน ตูโชว โคมไฟ สวนใน ภาชนะ เพื่อเพิ่มความสวยงามใหกับบานได สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกกรอบรูปมาตกแตงบาน ไดที่ https://www.globalhouse.co.th/Educationhouse/educationpage/162 นํา สอน สรุป ประเมิน T22


๕ การจัดและตกแต่งบ้าน การจัดและตกแต่งบ้านเพื่อให้บ้านมีความสวยงาม ร่มรื่น มีบรรยากาศที่ดี จัดและตกแต่ง ได้อย่างสวยงามตามรสนิยมของสมาชิกในครอบครัว ทั้งในบ้านและบริเวณบ้าน เพื่อให้บ้าน มีความสวยงามครบทุกส่วน ๕.๑ การจัดและตกแต่งบ้านที่มีบริเวณ บริเวณบ้านเป็นพื้นที่รอบ ๆ บ้าน ควรจัดและตกแต่งให้เป็นพื้นที่ที่สมาชิกในครอบครัว ใช้ประโยชน์ได้ เช่น เป็นที่พักผ่อน หรือใช้ท�ากิจกรรมต่าง ๆ ของครอบครัว การจัดและตกแต่งบริเวณบ้านให้สวยงามสามารถปฏิบัติได้ ดังนี้ เป็นบริเวณที่จัดแบ่งไว้ ใช้เป็นพื้นที่ ในการพักผ่อน หรือท�ากิจกรรมต่าง ๆ ของสมาชิกในครอบครัว บริเวณด้านข้างของบ้าน บริเวณหน้าบ้าน เป็นบริเวณที่อาจอยู ่ติดกับเพื่อนบ้าน มีรั้วแบ่งเนื้อที่และบริเวณ บางบ้านอาจใช้ พื้นที่บริเวณนี้ปลูกต้นไม้ หรือจัดเป็นมุม พักผ่อนเล็ก ๆ เป ็นบริเวณที่มองเห็นได ้จาก ภายนอกบ้านประกอบด้วยรั้วบ้าน ประตูรั้ว และสนามหน้าบ้าน อาจปลูก ต้นไม้ไว้บริเวณนี้ก็ได้ ตกแต่งด้วยการจัดสวน • เป็นการจัดและตกแต่งบริเวณบ้าน โดยเลียนแบบธรรมชาติ เช่น การจ�าลองปา น�้าตก มาไว้ ในบริเวณบ้าน เป็นการเพิ่มความสวยงามให้แก่บ้าน ตกแต่งด้วยต้นไม้ • เป็นการจัดและตกแต่งบริเวณบ้านให้สวยงาม ร่มรื่น โดยใช้ต้นไม้นานาพรรณมาจัด รวมกันตามแปลนที่ได้ออกแบบไว้ ตกแต่งด้วยสิ่งประดิษฐ์ • เป็นการจัดและตกแต่งบริเวณบ้านด้วยสิ่งที่สร้างขึ้นไว้ ใช้ส�าหรับตกแต่ง เช่น รูปปน โคมไฟสนาม ตุกตาปน บริเวณหลังบ้าน การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 19 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ใหนักเรียนสํารวจบริเวณบานของตนเอง จากนั้นใหนักเรียน คิดวาจะจัดและตกแตงบริเวณบานของตนเองอยางไร จะใชวัสดุ อุปกรณชนิดใด หาซื้อจากแหลงใด มีคาใชจายเทาไร โดยเขียน รายละเอียดลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนสํารวจบริเวณบานของตนเอง จากนั้นใหนักเรียน คิดวาจะจัดและตกแตงบริเวณบานของตนเองอยางไร โดยให ออกแบบและตกแตงใหสวยงาม พรอมทั้งระบุรูปแบบการจัดและ วัสดุ อุปกรณที่ใช ลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน บูรณาการอาเซียน ครูสามารถอธิบายเพิ่มเติมวา การตกแตงบานที่มีบริเวณมักตกแตงดวย การจัดสวน ซึ่งสวนที่นิยมจัดนั้น คือ สวนสไตลบาหลี โดยการจําลองมาจาก เกาะบาหลีของประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากบาหลีมีลักษณะภูมิอากาศ และพรรณไมคลายคลึงกับประเทศไทย การตกแตงจึงเนนความเปนธรรมชาติ มีการใชรูปปน หรือรูปสลักที่สะทอนใหเห็นถึงวัฒนธรรมของเกาะชวา มีนํ้าตก เขามาชวยสรางบรรยากาศใหเหมือนธรรมชาติ พรอมกับประดับตกแตงดวย ดอกไมหลากหลายสายพันธุ ซึ่งจะสรางความรูสึกสดชื่นและไดใกลชิดกับ ธรรมชาติมากที่สุด โดยพรรณไมที่เปนเอกลักษณเฉพาะของการตกแตงสวนสไตลบาหลี คือ ลั่นทม หรือลีลาวดี นอกจากจะใหรมเงาแลว ยังเปนดอกไมที่ชาวบาหลีนิยม นํามาใชในพิธีกรรมบูชาเทพเจาอีกดวย สวนพรรณไมอื่นๆ ที่นิยมปลูก เชน ไมยืนตนขนาดใหญ จําพวกปาลม กลวย ไผ ไมในเขตรอนชื้นที่มีลักษณะเปน พุมเปนกอจําพวกกลวยไม พลับพลึง ขิงแดง ชบา ไมคลุมดิน จําพวกพลูดาง หญามาเลย เดหลี และไมตกแตงอื่นๆ จําพวกผักโขมสี โกสน ลิ้นมังกร หางจระเข หูปลาชอน ขั้นสอน 22. ครูเปดวีดิทัศนเกี่ยวกับการตกแตงบานและ การตกแตงหองตางๆ ภายในบานใหนักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนไดฝกการสังเกตการตกแตง บานและการตกแตงหองตางๆ ภายในบาน 23. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • หากตองการจัดและตกแตงบานใหสวยงาม ควรวางแผนการทํางานอยางไร เพื่อให เปนไปตามเปาหมายที่วางไว (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความ คิดเห็นไดอยางอิสระ เชน ควรมีการ กําหนดวัน เวลา ในการปฏิบัติงานที่ชัดเจน สํารวจปญหาภายในบานที่ตองการปรับปรุง แกไข ทําความสะอาดบานโดยการปดฝุน กวาด ถู และจัดหองตางๆ ใหระเบียบ เรียบรอย โดยประเมินสิ่งที่ตองการทํากับ ระยะเวลา แรงงาน หรือทรัพยากรตางๆ ใหเหมาะสม เพื่อใหสิ่งที่วางแผนไวเปนไป ตามเปาหมาย) 24. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การจัดและตกแตงบาน ใหสวยงามและนาอยูอาศัยนั้น เปนสิ่งที่ทุกๆ บานพึงปฏิบัติ เพราะการจัดและตกแตงบาน ใหมีความสะอาดและสวยงามอยูเสมอ จะ ทําใหบานนาอยูอาศัย สมาชิกในบานไดรับ บรรยากาศที่ดี และมีความสุขที่ไดอยูบาน ซึ่งบานของแตละครอบครัวจะมีลักษณะที่ แตกตางกันออกไป บางครอบครัวอาศัยอยูใน บานเดี่ยวที่มีพื้นที่บริเวณรอบบานใหสามารถ ปฏิบัติกิจกรรมตางๆ ได บางครอบครัวอาศัย อยูในคอนโดมิเนียม ซึ่งมีพื้นที่จํากัด ทําใหไม สามารถจัด หรือตกแตงบานไดตามตองการ ดังนั้น การจัดและตกแตงบาน หรือหองตางๆ จึงตองพิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่ และคาใชจายของแตละครอบครัวรวมดวย” นํา สอน สรุป ประเมิน T23


ขอสอบเนนการคิด ๕.๒ การจัดและตกแต่งบ้านที่ไม่มีบริเวณ บ้านที่ไม่มีบริเวณมักเป็นบ้านที่เป็นห้องติด ๆ กัน หันหน้าออกถนน หรือหันหน้าเข้าหากันโดยมี ทางเดินกั้นระหว่างกลาง หรือมีทางเดินร่วมกัน มีฝาผนังบ้านร่วมกัน เช่น ทาวน์เฮาส์ ทาวน์ โฮม ห้องเช่า ห้องแถว ห้องชุด อาคารพาณิชย์ สามารถจัดและตกแต่งให้มีความสวยงามได้ ดังนี้ การจัดและตกแต่งบ้านทาวน์เฮาส์ ห้องแถว • จัดพื้นที่ใช้สอยให้ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ เช่น พื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร • ตกแต่งให้ดูเรียบ โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่วางสิ่งของปิดประตู หน้าต่าง ช่องลม ไม่ควร กั้นผนังทึบ เพราะจะท�าให้ห้องดูแคบ • แบ่งที่ใช้สอยให้เหมาะสม ถ้าต้องการกั้นพื้นที่ ควรกั้นด้วยฉาก หรือม ่านที่เลื่อนเปิด-ปิดได้ เพื่อให้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ ใช้สอยได้อย่างสะดวก • เลือกใช้เครื่องเรือนที่ใช้งานได้หลายอย่างแทน การใช้หลายชิ้น มีขนาดเหมาะสม ผิวเรียบมัน สะท้อนแสง จะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น • ตกแต่งผนังห้อง พื้นห้องด้วยโทนสีสว่างและ สีอ่อน รวมถึงเครื่องเรือนและของตกแต่ง เช่น สีขาว เพื่อให้ห้องดูสบายตาและดูกว้างขึ้น ทาวน์เฮาส์และห้องแถวเป็นที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ในการใช้สอยค่อนข้างจ�ากัด จึงต้องวางแผน และออกแบบเพื่อให้ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์มากที่สุดโดยมีหลักในการจัดและตกแต่ง ดังนี้ การติดกระจกบานใหญ่ ๆ จะช่วยให้ห้อง ดูกว้างขึ้น แต่ควรเลือกต�าแหน่งในการวางให้ เหมาะสม เช่น ติดไว้สุดทางเดิน จะช่วยท�าให้ บ้านดูยาวขึ้น Trick : วิธีช่วยให้บ้านดูกว้างขึ้น 20 เลือกใช้เครื่องเรือนที่ใช้งานได้หลายอย่างแทน การติดกระจกบานใหญ่ 1 2 ขั้นสอน 25. ครูเปดวีดิทัศนเกี่ยวกับการทําโมเดลบานให นักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนไดฝกการสังเกต และเรียนรูเกี่ยวกับขั้นตอนการสรางโมเดล บานอยางงายๆ ดวยตนเอง 26. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษา เรื่อง การทํา โมเดลบาน จากแหลงเรียนรูที่หลากหลาย เชน หนังสือ นิตยสาร หองสมุด อินเทอรเน็ต พรอมทั้งรางภาพโมเดลบานตามความคิด และจินตนาการของสมาชิกในกลุม จากนั้น จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ และสิ่งของเหลือใช เพื่อนํามาใชเปนสวนประกอบในการทําโมเดล บานตามรูปแบบที่ไดออกแบบไว 27. ครูนําตัวอยางโมเดลบานในหลากหลายรูปแบบ มาใหนักเรียนดู พรอมทั้งอธิบายถึงหลักการ จัดและตกแตงบานใหนาอยูจากตัวอยาง โมเดลบาน เพื่อใหนักเรียนไดตระหนักเมื่อ ตองทําการสรางโมเดลบานของกลุมตนเอง 28. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสรางโมเดล บานจากวัสดุเหลือใชที่จัดเตรียมมา โดย นําวัสดุเหลานั้นมาประกอบเปนหองตางๆ ภายในบาน เชน หองนอน หองนํ้า หองรับแขก ทั้งยังตองจัดวางสิ่งของเครื่องใชและของ ประดับตกแตงบานใหเกิดความสวยงามและ ถูกตองเหมาะสม 29. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายแนวคิดในการ ออกแบบผลงาน เพื่อเปนการแลกเปลี่ยน เรียนรูและตอยอดความคิดสรางสรรคของ นักเรียนแตละกลุม 30. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง หลักการจัดและตกแตงบานใหนาอยู การจัดและตกแตงบานที่ไมมีบริเวณ มีหลักในการจัดอยางไร (แนวตอบ ควรแบงพื้นที่ภายในบานแตละสวนใหมีความ เหมาะสมตอการใชงาน เลือกใชเครื่องเรือน หรือเฟอรนิเจอรที่มี ขนาดเหมาะสม ไมใหญหรือเล็กจนเกินไป ใชโทนสีสวางและสีออน เพื่อใหหองดูกวางขึ้น เนนการตกแตงใหดูเรียบ โลง โปรงและ สบาย) นักเรียนควรรู 1 เครื่องเรือน หรือเฟอรนิเจอรที่เหมาะสมกับการจัดและตกแตงบานที่ ไมมีบริเวณนั้น ควรเปนเครื่องเรือนอเนกประสงคที่หนึ่งชิ้นสามารถใชงานได หลายอยาง เชน เตียง หรือโซฟาที่ดานลางมีลิ้นชักสําหรับเก็บของ โตะเครื่องแปง ที่สามารถปรับใชเปนโตะทํางานได โตะและเกาอี้ที่สามารถพับเก็บได นอกจากนี้ ขนาดของเครื่องเรือนจะตองมีขนาดไมใหญจนเกินไป ควรมีขนาดที่ เหมาะสมกับหอง หรือบาน และควรเลือกที่มีผิวเรียบมัน มีสีโทนสวางและสีออน เพราะจะชวยใหหองดูกวางขึ้น 2 กระจก การทําความสะอาดกระจกใหใส สามารถปฏิบัติไดหลายวิธี เชน • แอลกอฮอล โดยนํามาผสมกับนํ้าสะอาดในอัตราสวนที่เทากัน ขยุม กระดาษหนังสือพิมพเปนกอนจุมลงไปในแอลกอฮอล แลวนํามาเช็ดที่กระจก • นํ้าสบู โดยใชสบูผสมกับนํ้าเปลาใหเกิดฟอง ใชผาสะอาดจุมลงไปใน นํ้าสบู แลวนํามาเช็ดที่กระจก ใชผาสะอาดชุบนํ้าเปลาเช็ดคราบสบูออกจนหมด และใชผาแหงเช็ดตามอีกครั้ง นํา สอน สรุป ประเมิน T24


ขอสอบเนน การคิด เฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน (Built In Furniture) เครื่องเรือนที่ถูกออกแบบให้มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการจะติดตั้ง การติดตั้ง จะเป็นไปในลักษณะติดแล้วติดเลย ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ หากต้องการเปลี่ยนแปลง หรือ เคลื่อนย้ายต้องท�าการรื้อถอนใหม่ ข้อดีของเครื่องเรือนประเภทนี้ คือ ถูกออกแบบให้พอดี กับพื้นที่ ปกปดสิ่งที่ไม่ดีของอาคาร เช่น เสา แนวผนังที่ไม่เรียบ สามารถใช้พื้นที่ได้อย่าง เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย T i p ห้องชุดเป็นที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน อยู่ในเมืองมีความสะดวกสบาย เป็นส่วนตัวแต่มีพื้นที่ใช้สอยจ�ากัด การจัดและตกแต่งห้องชุดให้น่าอยู่ ต้องมีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอย ให้ ใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย โดยมีหลักในการจัดและตกแต่ง ดังนี้ การจัดและตกแต่งห้องชุด • เลือกพื้นผิวของผนัง ฝ้า เพดานที่เรียบ ไม่มี ลวดลาย จะช่วยท�าให้ห้องดูโล่ง โปร่ง และสบาย ตายิ่งขึ้น • ใช้โทนสีสว่างและสีอ่อน เช่น สีขาว สีครีม สีชมพู ทั้งผนัง พื้น และของตกแต่ง เพื่อช่วยให้ห้องมี ขนาดกว้างและสว่างมากขึ้น • ต้องพยายามเปิดช ่องแสง เพื่อเชื่อมต ่อพื้นที่ ภายนอก จะช่วยท�าให้ห้องดูกว้างและมีมิติมาก ยิ่งขึ้น • ใช้เครื่องเรือนที่มีขนาดเหมาะสม ใช้งานได้ อย ่างอเนกประสงค์ ท�าจากวัสดุผิวเรียบมัน สะท้อนแสง จะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น • เลือกใช้โคมไฟติดเพดาน หรือโคมไฟแบบติดผนัง แทนการใช้โคมไฟแบบตั้งพื้น จะช่วยประหยัด พื้นที่ ท�าให้มีความสว่างเพิ่มมากขึ้น • ติดม่านที่ห้องนั่งเล่น หรือห้องนอน เพื่อช่วยปิด กั้นแสง ม่านควรกว้างกว่าขอบหน้าต่างเพราะจะ ช่วยให้หน้าต่างดูกว้างขึ้น การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 21 ขั้นสอน 31. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 2 ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง หลักการ จัดและตกแตงบานใหนาอยู 3. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 2 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การจัด และตกแตงบานใหนาอยูวา “การจัดและตกแตง บานใหนาอยูควรคํานึงถึงหลักการสําคัญ คือ ความปลอดภัย ความสะอาด สุขลักษณะ อุปกรณเครื่องใชตางๆ สะดวกตอการใชงาน มีความเปนระเบียบเรียบรอย ของใช หรือของ ประดับตกแตงมีความสวยงาม ของประดับ บางอยางประดิษฐขึ้นเองได ซึ่งจะชวยประหยัด คาใชจายไดอีกวิธีหนึ่ง ทั้งยังตองคํานึงถึง การดูแลรักษา โดยตองประหยัดเวลา แรงงาน และคาใชจาย” 2. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน จากการนําเสนอผลการวิเคราะห วิจารณ และ การสรุปความรู ขอใดเปนหลักการพิจารณาเลือกใชสิ่งของตกแตงบานที่ถูกตอง 1. สีควรกลมกลืนกับพื้น ผนัง และเพดาน 2. คํานึงถึงการใชประโยชนเพียงอยางเดียว 3. ตองมีรูปทรงขนาดใหญ เพื่อใหดูสะดุดตา 4. เลือกสิ่งของตกแตงที่แตกหักงายจะไดเปลี่ยนใหมไดบอยครั้ง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะสีของสิ่งของที่ตกแตงบาน ควรกลมกลืนกับพื้นบาน ผนัง และเพดาน ซึ่งเปนหลักการพิจารณา เลือกใชสิ่งของตกแตงบานที่ถูกตองที่สุด เนื่องจากการตกแตงบาน ควรยึดหลักการทางทัศนศิลป โดยจะตองมีความกลมกลืน ไมแปลก แยกกัน) แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 2 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T25


ขอสอบเนนการคิด ๖ การจัดและตกแต่งสวนในบริเวณบ้าน บริเวณบ้านสามารถจัดและตกแต่งให้สวยงามได้ โดยการจัดสวนที่น�าเอาองค์ประกอบทั้งที่ เป็นธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาผสมผสานกัน เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศ ที่ดีในบริเวณบ้าน และเป็นมุมพักผ่อนของสมาชิกในครอบครัว ๖.๑ ความส�าคัญของการจัดสวนในบริเวณบ้าน การจัดสวนในบริเวณบ้านมีความส�าคัญต่อสมาชิกในครอบครัว เพราะท�าให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ การน�าพรรณไม้ที่มีอยู่และการน�าวัสดุต่าง ๆ มาจัดรวมกันในสถานที่จ�ากัดการจัดสวนท�าให้บริเวณ บ้านสะอาด สวยงาม ช่วยลดมลพิษ โดยเฉพาะสนามหญ้า เพราะหญ้ากรองฝุ่นละอองได้ดี ทั้งยัง ท�าให้มีพื้นที่ที่เป็นสัดส่วน ท�าให้สมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข การจัดสวนในบริเวณบ้านให้น่าอยู่ สมาชิกในครอบครัวสามารถร่วมมือกันจัดสวนเองได้ เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ในการจัดสวนสามารถหาได้ ในท้องถิ่น และการออกแบบเพื่อจัดสวนควรน�าหลักการทางทัศนศิลป์เข้ามาช่วยเพื่อให้สวนดูสวยงามมีความ สมดุลและกลมกลืนกับตัวบ้านโดยอาศัยองค์ประกอบทางทัศนศิลป์หลักในการออกแบบและการ จัดองค์ประกอบในการออกแบบซึ่งประกอบด้วยส่วนประธานเป็นส่วนส�าคัญที่สุดในการออกแบบ และส่วนรองประธาน เป็นส่วนที่ช่วยเสริมให้ส่วนประธานดูโดดเด่นยิ่งขึ้น การจัดสวนในบริเวณบ้าน ช่วยสร้างความร่มรื่นและความสวยงามให้แก่บ้าน 22 พรรณไม้ที่มีอยู่และการน� โดยเฉพาะสนามหญ้า 1 2 ขั้นนํา (5Es) ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 1. ครูกลาวคําทักทายนักเรียน พรอมทั้งทบทวน ความรูตามที่ไดเรียนในชั่วโมงที่ผานมาเกี่ยวกับ หลักการจัดและตกแตงบาน จากนั้นครูกลาว เชื่อมโยงเพื่อเขาสูบทเรียนในหัวขอถัดไป เกี่ยวกับการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน 2. ครูเปดวีดิทัศนเกี่ยวกับการจัดสวนในบริเวณบาน ใหนักเรียนดู ซึ่งเปนการจัดสวนในหลากหลาย รูปแบบ เชน การจัดสวนประดิษฐ การจัดสวน ธรรมชาติ การจัดสวนขวด การจัดสวนจินตนาการ การจัดสวนนามธรรม 3. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนเคยเห็นการจัดสวนจากวีดิทัศน ที่ไดชมบางหรือไม หากเคย นักเรียนเคยเห็น การจัดสวนในรูปแบบใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) • จากวีดิทัศนที่ไดชมไปนั้น นักเรียนชื่นชอบ การจัดสวนในรูปแบบใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ชื่นชอบสวนธรรมชาติ เพราะมีความสวยงามและถูกออกแบบให มีความคลายคลึงกับความงดงามที่แทจริง ตามธรรมชาติ ชื่นชอบสวนนามธรรม เพราะ มีการตัดตกแตงกิ่งของตนไมใหมีรูปทรงที่ หลากหลายและสวยงาม ซึ่งเปนรูปทรงตาม จินตนาการของผูออกแบบเปนหลัก) • นักเรียนเคยจัดและตกแตงสวนในบริเวณ บานของตนเองหรือไม หากเคย นักเรียนจัด และตกแตงสวนในรูปแบบใด เพราะเหตุใด จึงเลือกจัดสวนในรูปแบบดังกลาว (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) นักเรียนควรรู 1 พรรณไม การเลือกพรรณไมมาปลูก ควรศึกษาหาขอมูลใหดีกอนนํามาปลูก เพราะพรรณไมแตละสายพันธุมีขอจํากัดในการปลูกและมีวิธีการดูแลรักษา ที่แตกตางกัน 2 สนามหญา การดูแลสนามหญาใหมีความสวยงามอยูเสมอ ควรรดนํ้าใน ตอนเชาตรู หลีกเลี่ยงการรดนํ้าในชวงที่มีแสงแดดจัด หากรดนํ้าชวงเย็นควร รดประมาณบาย 3 โมง เพื่อไมใหดินเกิดความชื้นอันเปนสาเหตุของการเกิดโรค ตางๆ ได หากเปนหญาที่ปลูกใหม ควรรดนํ้าวันละ 4-5 ครั้ง ประมาณ 7-10 วัน รอจนกวาหญาจะเริ่มแทงยอดลําตนขึ้น แลวจึงรดนํ้าตามปกติ สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกกรอบรูปมาตกแตงบาน ไดที่ https://www.globalhouse.co.th/Educationhouse/educationpage/162 การออกแบบบานใหประหยัดพลังงาน โดยการจัดและตกแตง บริเวณบานควรปฏิบัติอยางไร 1. ใชกระเบื้องหลังคาสีเขม 2. เลือกตนไมที่โตชา ลําตนไมสูง 3. ถมบริเวณบานใหสูงกวารอบบาน 4. ปลูกตนไมทรงสูง เพื่อบังแสงแดด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการปลูกตนไมทรงสูง เพื่อบังแสงแดด เปนการจัดและตกแตงบริเวณบานที่ชวยประหยัด พลังงาน เนื่องจากตนไมทรงสูงจะชวยบังแสงแดด ทําใหบาน มีรมเงา รมรื่น เย็นสบาย จึงไมจําเปนตองเปด พัดลม หรือเปด เครื่องปรับอากาศใหสิ้นเปลืองพลังงาน) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T26


๖.๒ รูปแบบของการจัดสวนในบริเวณบ้าน การจัดสวนควรค�านึงถึงความเหมาะสมของตัวบ้าน พื้นที่ในการจัดสวน และรูปแบบในการ จัดสวน ซึ่งจะต้องเลือกรูปแบบของการจัดสวนให้เหมาะสมกับบ้าน เพราะจะช่วยท�าให้บ้าน มีความสวยงามยิ่งขึ้น โดยรูปแบบของการจัดสวนในบ้านมีอยู่ด้วยกันหลายแบบ เช่น • ก า ร ว า ง รู ป แ บ บ แ ป ล น เลียนแบบความงามจาก ธรรมชาติ มีพื้นที่สูง-ต�่า สลับกัน • การวางต้นไม้และวัตถุต่าง ๆ ต้องสมดุลแบบธรรมชาติ • ชนิด รูปทรง และขนาด ของพรรณไม้ไม่จ�าเป็นต้อง เหมือนกันทั้งหมด • การวางรูปแบบแปลนเป็น รูปแบบ Free Style จัดต้นไม้ เป็นกลุ่มใหญ่ เน้นเรื่องการ ใช้สีและเส้นเป็นหลัก • ต้นไม้ที่นิยมน�ามาจัดส่วนมาก จะมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม • ต้นไม้ต้องจัดวางให้มีช่องว่าง ตามแบบศิลปะสมัยใหม่ • การวางแบบแปลนเป็นรูปทรง เรขาคณิตจัดสวนบนพื้นที่ ราบเรียบ ไม่มีระดับสูง-ต�่า • การวางต้นไม้และวัสดุต่าง ๆ ต้องมีความสมดุลกัน • ต้นไม้ หรือวัตถุต้องเป็นชนิด เดียวกัน มีขนาด จ�านวนเท่ากัน สวนธรรมชาติ สวนนามธรรม สวนประดิษฐ์ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 23 จะมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม 1 ขั้นนํา ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ • การจัดและตกแตงสวนประดิษฐมีความ แตกตางจากการจัดและตกแตงสวนธรรมชาติ หรือไม อยางไร (แนวตอบ มีความแตกตางกัน กลาวคือ การจัด และตกแตงสวนประดิษฐจะจัดวางตนไม และวัสดุที่ใชในการจัดและตกแตงใหมี ความสมดุลกัน มีการใชไมดอกหลากหลาย สายพันธุที่มีสีสันสดใส สวยงาม เพื่อใหตัด กับสนามหญาสีเขียวที่ตกแตงไวอยางเปน ระเบียบเรียบรอย และตัดแตงตนไมใหเปน รูปทรงเรขาคณิต สวนการจัดและตกแตง สวนธรรมชาติมักใชเสนโคงในการออกแบบ ทําใหเกิดรูปทรงอิสระ มีรูปแบบที่ดูนุมนวล สบายตา ซึ่งเลียนแบบมาจากธรรมชาติ เนนการใชตนไมที่ใหความรมรื่น ไมดอก มีกลิ่นหอม สีสันหลากหลาย และใชวัสดุ ธรรมชาติในการจัดและตกแตง เพื่อใหเกิด ความสวยงาม) 4. ครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ออกมาเลาประสบการณ ในการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบานของ ตนเองใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียนในประเด็นที่ครู กําหนดให ดังนี้ • ลักษณะของสวนในบริเวณบาน • ลักษณะของพื้นที่บริเวณที่จัดสวน • หลักการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน • แนวคิดในการจัดและตกแตงสวนในบริเวณ บาน 5. ครูถามนักเรียนวา • การจัดและตกแตงสวนในบริเวณบานชวย สรางสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวของ นักเรียนไดหรือไม อยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดสวนใหนักเรียนฟงวา การจัดสวนจะตอง เริ่มจากการสํารวจขอมูลของสถานที่ซึ่งประกอบไปดวยสภาพภูมิอากาศ สภาพดิน ขนาดของพื้นที่ บริเวณที่ตองการจัด จากนั้นสํารวจความชื่นชอบ ของตนเองและสมาชิกในครอบครัววา ตองการจัดสวนแบบใด จากนั้นลงมือ ออกแบบสวนตามจินตนาการใหตรงกับความตองการของตนเองและสมาชิก ในครอบครัว และควรออกแบบใหเหมาะสมกับพื้นที่บริเวณที่ตองการจัดสวนดวย กิจกรรม 21st Century Skills ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับรูปแบบของการจัดสวนแตละประเภท จากนั้นใหปฏิบัติ กิจกรรม ดังนี้ 1. สมาชิกในกลุมรวมกันระดมสมองวาตองการจัดสวน ประเภทใด โดยเลือกตามความสนใจ 1 ประเภท 2. สมาชิกในกลุมรวมกันออกแบบสวนที่กลุมของตนเองได เลือกไว โดยรางภาพลงในกระดาษ พรอมทั้งระบุวัสดุ อุปกรณที่นํา มาใชในการจัดสวน และวิธีการดูแลรักษาสวนที่ถูกตอง 3. นําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน นักเรียนควรรู 1 ไมพุม หรือ Shrub จัดเปนไมเนื้อแข็งที่มีขนาดเล็กกวาไมยืนตน โดยมี ลักษณะเปนพุมความสูงไมเกิน 5 เมตร เปนไมที่แตกกิ่งกานออกจากบริเวณ โคนตน ทําใหรูปทรงของตนไมมีลักษณะเปนทรงพุม แบงออกเปน 4 ประเภท ไดแก ไมพุมเตี้ย ไมพุมเล็ก ไมพุมกลาง และไมพุมสูง นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T27


ขอสอบเนนการคิด ๖.๓ การด�าเนินการจัดสวนในบริเวณบ้าน ก่อนการจัดสวนในบริเวณบ้าน ควรมีการออกแบบก่อนทุกครั้ง เพื่อให้สวนที่จัดมีลักษณะ ตรงกับความต้องการของสมาชิกในครอบครัว เมื่อออกแบบได้เป็นที่พึงพอใจแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ในการจัดสวน ประกอบไปด้วยสิ่งต่าง ๆ ดังนี้ วัสดุที่ ใช้ ในการปลูก เป็นวัสดุปลูกที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน มี ให้ เลือกใช้หลายประเภท เช่น • ดิน นิยมใช้ดินร ่วน เพราะดูดซับและ ระบายน�้าได้ดี มีธาตุอาหารครบถ้วน • ปุ๋ยมะพร้าว มีคุณสมบัติในการอุ้มน�้า ได้ดี และเก็บความชื้นได้นาน พรรณไม้ต่าง ๆ พรรณไม้ที่นิยมใช้ แบ่งเป็น ๔ ประเภท ได้แก่ • ไม้ต้น เป็นไม้เนื้อแข็ง มีความสูงไม่เกิน ๖ เมตร • ไม้พุ่ม เป็นไม้เนื้อแข็ง มีความสูงไม่มาก • พืชคลุมดิน เป็นพืชต้นเตี้ย ปลูกเป็นก้อนติด ๆ กัน • หญ้า เป็นพืชคลุมดินที่นิยมปลูกมากจะเป็น หญ้านวลน้อยและหญ้ามาเลเซีย วัสดุในการดูแลสวน มีหลายชนิด ควรเลือกใช้ตาม พรรณไม้ที่ปลูก เช่น • ปุ๋ย เป็นอาหารที่ช ่วยให้ ต้นไม้เจริญเติบโตอย ่าง สมบูรณ์ มีสารอาหารที่ ต้นไม้ต้องการครบถ้วน • บัวรดน�้า ใช้รดน�้าต้นไม้ น�้าที่ ออกจากฝกบัวจะเป็นฝอย กระจายทั่วต้นไม้ ท�าให้ ต้นไม้ได้รับน�้า อย่างทั่วถึง เครื่องมือในการจัดสวน มีหลายชนิด ควรเลือกใช้ตาม ความเหมาะสมกับสวน เช่น • ช้อนปลูก ใช้ขุดหลุมปลูก หรือย้ายต้นกล้าไปปลูกใน หลุมที่เตรียมไว้ พรวนดิน ให้ร่วนซุย • เสียม ใช้ขุดหลุมปลูก นิยม ขุดหลุมที่มีขนาดเล็ก หรือ บริเวณพื้นที่ที่ ไม่สามารถ น�าจอบมาขุดได้ วัสดุปูพื้น วัสดุที่ใช้ปูทางเดิน แบ่งเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ • แบบแข็ง เช่น กระเบื้อง หิน อิฐ เซรามิก เหมาะส�าหรับปูบริเวณ ที่นั่งเล่น ลานจอดรถ • แบบยืดหยุ่น เช่น บล็อกประดับพื้นรูปรวงผึ้ง อิฐมอญทรง สี่เหลี่ยม เหมาะส�าหรับปูพื้นบริเวณที่นั่งเล่น ทางเดิน วัสดุตกแต่งสวน วัสดุที่ ใช้ ในการตกแต่งสวน มีหลายประเภท เช่น • รูปปน ส่วนมากท�าจากดินเผา หิน เหล็ก ไม้ และวัสดุอื่น ๆ มีหลายรูปแบบ หลาย ขนาดให้เลือกใช้ • ม้านั่ง ส่วนมากท�าจากไม้ หินขัด อัลลอยด์ ผ้าใบ พลาสติก มีทั้งแบบเป็นชุดและ แบบตัวเดียว 2๔ จัดสวนสวย ๖ ขั้นตอน • พืชคลุมดิน เป็นพืชต้นเตี้ย ปลูกเป็นก้อนติด ๆ กัน • หญ้า เป็นพืชคลุมดินที่นิยมปลูกมากจะเป็น หญ้านวลน้อยและหญ้ามาเลเซีย 1 2 ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปราย แลกเปลี่ยนความรูในเรื่องที่ไดศึกษามา จากนั้น ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนจะมีแนวทางอยางไรเพื่อใหการ จัดการสวนในบริเวณบานของตนเองมีความ ประหยัดและคุมคาสูงสุด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน นําของที่มีอยูในบาน หรือของเหลือใชมาประดิษฐเปนสิ่งของ ตางๆ ใหเกิดความแปลกใหมและสวยงาม เชน การประดิษฐกระถางตนไมจากยางรถยนต การจัดสวนในขวดแกว) • การจัดและตกแตงสวนในบริเวณบานมีสวน ชวยใหในการประหยัดพลังงานไดหรือไม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจและคนหา 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา เรื่อง หลักการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน ในประเด็นที่ครูกําหนดให คือ ความสําคัญ ของการจัดสวนในบริเวณบาน รูปแบบของการ จัดสวนในบริเวณบาน การดําเนินการจัดสวน ในบริเวณบาน และการดูแลรักษาและตกแตง สวนในบริเวณบาน จากหนังสือเรียน หนวยการ เรียนรูที่ 2 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการ จัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 2 นักเรียนควรรู 1 พืชคลุมดิน เปนพืชที่มีลําตนเตี้ย เล็ก ขยายพันธุไดงาย แผขยายออก ดานขางเร็ว มีลักษณะเปนพุมคลุมดิน มีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร เหมาะสําหรับเปนไมคลุมโคนตน เพื่อรักษาความชุมชื้นของหนาดิน เมื่อรดนํ้า ตนไมดินจะไดไมกระเด็น เชน แววมยุรา เฟนมะขาม เดหลี กาบหอยแครงแคระ 2 หญานวลนอย นิยมปลูกมากตามลานหนาบาน แปลงจัดสวน สนามกีฬา สนามกอลฟ และอื่น ๆ เนื่องจากเปนหญาที่เจริญเติบโตไดดีในดินเกือบทุกชนิด ทั้งดินเหนียว ดินทราย ทนตอสภาพอากาศรอน หรืออากาศแหงแลงไดดี และ ทนตอสภาพนํ้าขังไดบาง รวมถึงเจริญเติบโตอยางรวดเร็ว และสามารถขยาย ไหลเปนแผนที่ครอบคลุมหนาดินไดเร็ว พรรณไมในขอใดนิยมปลูกเพื่อคลุมดินแทนหญา เพื่อชวยทําให สวนมีสีสันที่สวยงาม 1. เดหลี 2. พะยอม 3. บานบุรี 4. กุหลาบ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะเดหลี เปนพรรณไมคลุมดิน ที่มีขนาดไมสูงมาก ขยายพันธุไดงาย เจริญเติบโตไดอยางรวดเร็ว มีลักษณะเปนพุม สามารถคลุมดินแทนหญาได โดยจะมีสีสันของ ดอกไมสวยงามกวาการปลูกหญา อีกทั้งยังชวยเก็บรักษาความ ชุมชื้นของหนาดิน ควรปลูกไวคลุมโคนตนไม หรือปลูกแทนหญา จะทําใหสวนมีสีสันที่สวยงามมากยิ่งขึ้น) นํา สอน สรุป ประเมิน T28


ขอสอบเนน การคิด ขั้นตอนการจัดสวน มีดังนี้ ปรับหน้าดินให้เรียบ วางก้อนหินประดับ ปูทางเท้า น�าต้นไม้ลงปลูก ปูหญ้าสนาม ñ ó õ ò ô • ปรับหน้าดินให้เรียบตามต้องการ แต ่ควร ลาดเอียงเล็กน้อย เพื่อระบายน�้า • จุดใดต้องการเป็นเนิน ให้โรยปูนขาวแสดง ขอบเขต • รดน�้าและย�่าดิน • วางก้อนหินตามจุดที่ต้องการ หลีกเลี่ยงการใช้หินที่มีสีตัดกัน • จัดวางหินให้ มีความสมดุล และสวยงาม • เลือกวัสดุที่น�ามาปูให้เหมาะสมกับขนาดและ รูปแบบของสวน • โรยปูนขาวเป็นแนว • ปูวัสดุตามแนวปูนขาว • ก�าจัดวัชพืชออกให้หมด • ขุดหลุมเพื่อปลูกต้นไม้ • รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก คลุกเคล้ากับดินให้เข้ากัน • ปลูกไม้ยืนต้นก่อน ตามด้วยไม้พุ่ม ไม้เลื้อย และไม้คลุมดิน ตามล�าดับ • ปรับระดับดินให้เรียบอีกครั้ง • ปูหญ้ารอบสนามให้สวยงาม • รดน�้าให้ชุ่ม ๑. วัดขนาดพื้นที่ของสวน ๒. ศึกษาสภาพแวดล้อมบริเวณพื้นที่ดังกล่าวว่า มีร่มเงา หรือได้รับแสงแดดอย่างไร เพื่อน�า ไปสู่การวางต�าแหน่งต้นไม้ ๓. ก�าหนดทางเดินในสวนให้สอดคล้องกับตัวบ้าน เพื่อไม่ท�าให้สวนและบ้านถูกแบ่งออกจากกัน ๔. การวางต�าแหน่งไม้ยิืนต้น หากเป็นไม้ยืนต้น ขนาใหญ่ ควรปลูกตามแนวริมขอบก�าแพง ๕. ในการออกแบบสวนควรมีจุดเด่น จุดรอง และ จุดเชื่อมโยงระหว่างจุดเด่นกับจุดรอง Trick : ความรู้เบื้องต้นในการจัดสวน ให้แน่น ทิ้งไว้ ๑ คืน ใช้ลูกกลิ้งบดให้เรียบ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 25 • ก�าจัดวัชพืชออกให้หมด • โรยปูนขาวเป็นแนว มีร่มเงา หรือได้รับแสงแดดอย่างไร เพื่อน�า 1 3 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษา เรื่อง ขั้นตอนการ จัดสวน จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 5. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอน การจัดสวน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการ เรียนรูที่ 2 6. ครูถามนักเรียนวา • หลักการทางทัศนศิลปมีความเกี่ยวของ กับการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน อยางไร (แนวตอบ ชวยใหจัดวางองคประกอบตางๆ ไดอยางสวยงามและลงตัว ทั้งในเรื่องของ สีสัน เสน รูปราง รูปทรง สัดสวนของตนไม ดอกไม วัสดุที่นํามาใชในจัดและตกแตงสวน) • หากดินที่ใชในการจัดสวนมีสภาพเปนกรดดาง จะมีแนวทางในการแกปญหาอยางไร (แนวตอบ ใหนําปูนขาวมาใสลงในดิน ปูนขาว จะทําหนาที่ในการชวยปรับสภาพความเปน กรด-ดางของดิน โดยเฉพาะในดินที่มีคา ความเปนกรดสูง ปูนขาวจะชวยใหความ เปนกรดลดลงจากสภาพความเปนดางของ ปูนขาวที่แตกตัวในดิน และเนื่องจากสภาพ ความเปนดางของปูนขาว จึงมีผลตอการ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย ในดิน การนําปูนขาวมาใชควรใชในขณะ ที่ดินแหง หรือมีนํ้านอย เพื่อใหสภาพความ เปนดางเกิดขึ้นอยางสมบูรณ) • หากตองการปูหญาสนามจะเลือกพันธุหญา ชนิดใดมาปลูก เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) การจัดและตกแตงสนามหญาชวยใหเกิดประโยชนหลาย ประการ ยกเวนขอใด 1. รักษาความชุมชื้นตอโคนตนไม 2. ลดปญหาเรื่องแสงและเสียงสะทอน 3. บรรเทาการฟุงกระจายของฝุนละออง 4. กลิ่นของหญาชวยบรรเทาอาการปวดศีรษะได (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะกลิ่นของหญาชวยบรรเทา อาการปวดศีรษะได ไมใชประโยชนของการจัดและตกแตงสนามหญา แตสนามหญาชวยใหเกิดความชุมชื้นตอโคนตนไม เพราะมีนํ้าคาง อยูบนหญา ชวยแกปญหาเรื่องแสงและเสียงสะทอนไดเปนอยางดี และยังชวยบรรเทาการฟุงกระจายของฝุนละอองไดอีกดวย) นักเรียนควรรู 1 วัชพืช เปนพืชที่สามารถพบเห็นไดทั่วไป ทั้งในบริเวณบาน ทองทุงนา สวน แมนํ้าลําคลอง ทําใหสถานที่ขาดความสวยงามและแยงอาหารตนไมในสวน แต วัชพืชหลายๆ ชนิดก็เปนสมุนไพรใชรักษาโรคได หลายชนิดเปนอาหารสําหรับ มนุษยและสัตวเลี้ยง ใชเปนวัสดุในงานหัตถกรรม บางชนิดมีความสวยงาม สามารถนําไปใชประดับตกแตงสวนได และที่สําคัญวัชพืชยังชวยยึดดินไมให เกิดการกัดเซาะพังทลาย อีกทั้งยังชวยกรองมลพิษในอากาศไดอีกดวย 2 แสงแดด ชวงเวลาที่เหมาะสมของรางกายที่ควรไดรับวิตามินดีจากแสงแดด คือ ชวงเวลา 06.00-08.00 น. เพราะแสงแดดในชวงเวลาดังกลาวจะไมแรงมาก ทําใหไมเปนอันตรายตอผิวหนัง แตหากเลยชวงเวลาดังกลาวไปแลว แสงแดด จะแรงมาก ซึ่งอาจสงผลใหเกิดอันตรายตอผิวหนังได 3 ปูนขาว ในทางการเกษตรสามารถนํามาใชเพื่อปรับปรุงดิน เชน หนาดินเหนียว ดินเปนกรด ดินมีเชื้อโรค ซึ่งมักใชในแปลงนา แปลงผัก สวนผลไม เพื่อปรับปรุง ใหดินมีคุณภาพเหมาะแกการเพาะปลูก นํา สอน สรุป ประเมิน T29


Know M ore ¾ÃóäÁŒÁ§¤Å·Õè 㪌 㹡ÒèѴÊǹ พรรณไมที่นิยมนํามาจัดสวนในบริเวณบาน นอกจากจะใหความรมรื่นแลว ยังสามารถบงบอก ถึงลักษณะนิสัยของเจาของบานได ทั้งยังมีความเชื่อวาเมื่อนําตนไมที่มีชื่อเปนมงคลมาปลูก บานนั้น จะมีแตเรื่องที่เปนมงคล ตัวอยางพรรณไมมงคลที่นิยมนํามาใช ในการจัดสวน มีดังนี้ NjҹÊÕè·ÔÈ • เปนไมดอก มีลําตนเปนหัวอยูใตดิน ออกดอกเปนชอ • มีสรรพคุณเปนยารักษาโรค เชน ฝมะมวง • ควรปลูกทางทิศเหนือ • ชวยใหแคลวคลาดปลอดภัยในการเดินทาง มีโชคลาภ ÃÒª¾Ä¡É • เปนไมยืนตนขนาดกลาง ออกดอกเปนชอยาว • ดอกมีกลิ่นฉุน และมีฝกที่มีเมล็ดที่เปนพิษ • ควรปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงใต • มีความเจริญรุงเรือง เสริมศักดิ์ศรี บารมี มีผูอุปภัมถ á¡ŒÇ • เปนไมยืนตนขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ออกดอกเปนชอ • นิยมปลูกบริเวณรั้วบาน ในกระถาง เพื่อความสวยงาม • ควรปลูกทางทิศตะวันออก • มีจิตใจบริสุทธิ์ เบิกบานใจ มีคนรักดั่งแกวตาดวงใจ ⻈Âà«Õ¹ • เปนไมที่มีลําตนขนาดเล็ก ออกดอกเปนชอขนาดใหญ • ออกดอกนอยในฤดูฝน และออกดอกมากในฤดูหนาว • ควรปลูกทางทิศตะวันออกเฉียงใต • นําโชคลาภมาใหแกผูปลูก ชวยใหอยูเย็นเปนสุข 26 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย เกร็ดแนะครู ครูแนะนําเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรรณไมใหนักเรียนฟงวา นอกจากจะมีพรรณไม มงคล แลวยังมีพรรณไมที่เชื่อวาไมเปนมงคลอีกดวย ซึ่งเปนความเชื่อ สวนบุคคล เชน • ชบา ในประเทศอินเดียตอนใต ใชดอกชบารอยเปนพวงมาลัยสวมคอ นักโทษที่กําลังจะถูกประหาร • เพกา ฝกมีปลายแหลมเหมือนคมหอก คมดาบ • ลั่นทม ออกเสียงคลายคําวา “ระทม” แปลวา ความเจ็บชํ้าระกําใจ • รัก ทําใหความรักยุงยากขึ้น หรือกลายเปนคนมากรัก • สน ขัดสนไปตลอดชีวิต ไมมีความเจริญกาวหนา ใหนักเรียนยกตัวอยางพรรณไมมงคลที่นักเรียนรูจักมา อยางนอย 2 ชนิด พรอมติดภาพและอธิบายความหมายประกอบ นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนสืบคนพรรณไมมงคลและพรรณไมที่ไมเปนมงคล มาอยางละ 2 ชนิด พรอมติดภาพและอธิบายความหมายประกอบ รวมถึงวิธีการเพาะปลูกและการดูแลรักษามาพอสังเขป นําสงครู ผูสอน ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “พรรณไมที่นิยมนํามา จัดและตกแตงสวนในบริเวณบานมีอยูดวยกัน หลายสายพันธุ ในการเลือกพรรณไมมาปลูกจึง ควรเลือกใหเหมาะสมกับลักษณะและรูปแบบ ของสวนที่ตองการจัด จึงจะทําใหสวนมีความ สวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งพรรณไมที่นิยมนํามาจัด และตกแตงสวน เชน • โกสน มีลักษณะเปนทรงพุมใบเรียว ใบจะมี สีสันที่สวยงามแตกตางกันออกไป ชอบ แสงแดดจัด มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษ • เฟน มีอยูดวยกันหลายสายพันธุ นิยมปลูก ทั้งในกระถางและในดิน ชอบแสงแดดรําไร และมีความชื้นสูงเล็กนอย • หมากผูหมากเมีย มีลักษณะเปนทรงพุม ใบเรียวใบจะมีสีสันที่สวยงามแตกตางกัน ออกไป สงกลิ่นหอมในตอนกลางคืน • บอนสี มีอยูดวยกันหลายสายพันธุ ใบมี ลักษณะแผกวางและยาว มีสีสันและลวดลาย ที่สวยงาม ชอบแสงแดดรําไร • จั๋ง เปนพืชตระกูลปาลมจําพวกปาลมแตกกอ ดูแลงาย ชอบแสงแดดรําไร มีคุณสมบัติใน การดูดซับสารพิษ • สับปะรดสี ใบจะมีสีสันที่สวยงามแตกตางกัน ออกไป ควรปลูกในทิศที่แสงแดดสองถึงเพียง เล็กนอย เพื่อใหใบออกสีสันไดอยางสวยงาม • เตยหอม มีลักษณะเปนทรงพุมใบเรียว มีรอง อยูกลางใบ ใบมีกลิ่นหอม ชอบแสงแดดรําไร และชอบความชื้น • เล็บครุฑ ใบมีลักษณะกลม มีรอยหยักคลาย ขนของนก มีหนามคลายเล็บครุฑ ขอบใบมี สีครีม ควรปลูกในที่ที่แสงแดดสองถึงและ แดดไมจัดเกินไป” สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรรณไมมงคล ไดที่ https://www.baanlaesuan. com/29629/plant-scoop/sacred-plants นํา สอน สรุป ประเมิน T30


ขอสอบเนน การคิด ๖.๔ การดูแลรักษาและตกแต่งสวนในบริเวณบ้าน สวนในบ้านจะสวยงามได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการออกแบบแปลนสวนและการปลูกต้นไม้เท่านั้น แต่การดูแลรักษาและตกแต่งสวนก็นับเป็นสิ่งส�าคัญ เพราะสวนจะสวยงามตามความต้องการของ ผู้ออกแบบ หรือเจ้าของบ้าน ย่อมขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและตกแต่งสวนให้มีสภาพดีอยู่เสมอ การดูแลรักษาและตกแต่งสวนในบ้านเป็นกระบวนการรักษาสภาพของสวนให้มีความสวยงามตาม รูปแบบที่จัดและตกแต่งไว้ ซึ่งการดูแลรักษาและตกแต่งสวนประกอบด้วยสิ่งส�าคัญต่าง ๆ ดังนี้ ๑) การตัดแต่งรูปทรงของต้นไม้เป็นการตัดส่วนที่ไม่ต้องการของต้นไม้ออกเพื่อให้ ต้นไม้เกิดรูปทรงใหม่ตามต้องการ ก่อนตัดควรศึกษาขั้นตอนต่าง ๆ ให้เข้าใจก่อน ดังนี้ วิธีการตัดแต่งรูปทรงของต้นไม้ ๔. การตัดแต่งผิวของพุ่มใบให้ได้รูปทรงตามต้องการ โดยไม่ค�านึงถึงการตัดกิ่งที่จะต้องอยู่เหนือตา หรือข้อตา เพราะเป็นการตัดแต่งผิวของพุ่มใบให้ได้รูปทรงต่าง ๆ 1. การตัดแต่งกิ่งขั้นต้น ใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้เด็ดยอด อ่อน จะช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของต้นไม้ เช่น เด็ด ยอดอ่อนด้านข้าง เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของกิ่งข้าง 2. การตัดกิ่งออกจากล�าต้นใหญ่ทั้งกิ่ง เพื่อ ท�าให้ทรงพุ่มไม้ดูโปร่งขึ้น แสง ลม และความชื้น พัดผ่านในพุ่มของต้นไม้ได้ ท�าให้ต้นไม้ดูสดชื่น 3. การตัดกิ่งให้สั้นด้วยการตัดตาด้านข้าง การตัดให้ถึงส่วนต่อของกิ่ง หรือตา จะท�าให้เกิด กิ่งเล็ก ๆ อีกมากมาย วิธีการตัดแต่ง รูปทรงของ ต้นไม้ ศึกษา ลักษณะธรรมชาติที่แท้จริงของต้นไม้และสร้างมโนภาพลักษณะของต้นไม้หลังตัด ตัด หรือซอย ตัดกิ่งที่ตาย เป็นโรค กิ่งที่แตกกิ่งก้านหนาแน่นเกินไป ตัดแต่ง ตัดเป็นรูปทรงต่าง ๆ ตามความต้องการ เรียนรู้ การเจริญเติบโตตามธรรมชาติของพรรณไม้ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 27 การตัดแต่งกิ่งขั้นต้น เป็นโรค 2 1 การตัดแตงกิ่งตนไมใหสั้นดวยการตัดตาดานขางแบบเดียว จะสงผลอยางไร (แนวตอบ จะทําใหพุมใบมีความหนาเกินไป เนื่องจากการตัดแตง กิ่งดวยวิธีการนี้เปนการตัดกิ่งใหสั้นดวยการตัดตาดานขางออก โดยตัดใหถึงสวนตอของกิ่ง หรือตา ซึ่งจะทําใหเกิดกิ่งเล็กๆ ขึ้น อีกมากมาย สงผลทําใหมีพุมใบหนา) นักเรียนควรรู 1 โรค โรคที่เกิดขึ้นกับตนไมมีอยูดวยกันหลายโรค เชน โรคใบไหม ลักษณะ อาการที่พบ คือ ยอดออนของตนจะเหี่ยวเฉา ขอบใบและปลายใบไหม แตดินจะ มีความชื้นสูง โรคใบจุด ลักษณะอาการที่พบ คือ ตรงกลางใบมีจุดสีดํา ดานบน ของใบมีจุดสีนํ้าตาลกระจายทั่วทั้งใบ จะระบาดมากในชวงฤดูฝนและฤดูหนาว 2 การตัดแตงกิ่ง มีหลักการ ดังนี้ • ตัดกิ่งที่แหงตายออก ซึ่งเปนกิ่งที่มีสีดํา หรือสีนํ้าตาล • ตัดกิ่งที่เปนโรค หรือกิ่งที่แมลงกัด หรือมีเพลี้ย • ตัดกิ่งลมเอน กิ่งที่ไมเปนระเบียบ ยากตอการดูแลรักษา • การตัดควรทํามุม 45 องศา ควรตัดเหนือตาเล็กนอยและใหตาอยูทาง ดานสวนสูงของรอยเฉียง • ทาขอบแผลรอยตัดกิ่งที่มีขนาดโตกวาดินสอดวยสีนํ้ามัน หรือปูนแดง เพื่อปองกันการแหงตายของปลายกิ่งที่เกิดจากการทําลายของหนอนเจาะตน และเชื้อรา ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 8. ครูเปดวีดิทัศนเกี่ยวกับการตัดแตงรูปทรงของ ตนไมใหนักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใดจึงตองตัดแตงรูปทรงของกิ่งไม (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เพื่อใหตนไมมีรูปทรง ที่สวยงาม เพื่อใหตนไมมีการเจริญเติบโต ที่ดีขึ้น เพื่อลดความหนาของพุมใบ เพื่อให ทรงพุมของตนไมโลง และโปรงมากขึ้น เพื่อ เพิ่มผลผลิต เพื่อใหสะดวกตอการขนยาย) 9. ครูพานักเรียนออกไปเรียนรูเกี่ยวกับการตัดแตง รูปทรงของตนไมที่สวนหยอมภายในโรงเรียน พรอมทั้งสาธิตวิธีการตัดแตงรูปทรงของตนไม ใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง จากนั้นครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ออกมาสาธิตวิธีการตัดแตง รูปทรงของตนไมใหเพื่อนชม โดยมีครูเปน ผูคอยเสนอแนะเพิ่มเติม 10. ครูใหนักเรียนแตละกลุมเลือกตนไมที่ตองการ ตัดตกแตงตามความสนใจกลุมละ 1 ตน จากนั้นใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันตัดแตง รูปทรงของตนไมใหสวยงาม 11. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานการตัดแตงรูปทรง ของตนไม พรอมทั้งอธิบายขั้นตอนการทํางาน ปญหาที่พบและแนวทางในการแกปญหา 12. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การตัดแตงรูปทรงของ ตนไมที่มีขนาดใหญ จะมีชวงเวลาที่เหมาะสม ที่สุด คือ ชวงฤดูหนาว ประมาณกลางเดือน ตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ ซึ่งจะเปน ระยะที่ตนไมพักตัวและเก็บสะสมอาหาร เตรียมสําหรับการแตกยอดใบใหมในฤดูกาล ถัดไป” นํา สอน สรุป ประเมิน T31


ขอสอบเนน การคิด การตัดแต่งรูปทรงของต้นไม้ควรตัดแต่งหลาย ๆ แบบในต้นเดียวกันเพราะถ้าตัดแต่ง แบบใดแบบหนึ่งมากเกินไปจะท�าให้ต้นไม้มีรูปทรงไม่สวยงามเช่นการตัดกิ่งให้สั้นด้วยการตัดตา ด้านข้างเพียงอย่างเดียว จะท�าให้พุ่มหนาเกินไป การตัดกิ่งออกจากล�าต้นใหญ่ทั้งกิ่งอย่างเดียว จะท�าให้รูปทรงยืดยาว ไม่สวยงามดังนั้นการตัดแต่งต้นไม้ในรูปทรงใดนั้นขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมาย ดังนี้ ๑. ตัดแต่งเพื่อให้พุ่มใบบางลง ท�าให้พุ่มโปร่งขึ้น ให้แสง ลม และความชื้นพัดผ่าน เป็นการป้องกันกิ่งหัก เมื่อมีลมและฝนแรง หรือท�าให้ลักษณะของต้นไม้ดูสดชื่นอยู่ตลอดเวลา ๒. ช่วยซ่อมแซมลักษณะทรงพุ่ม เช่น เมื่อกิ่งหักคาต้นหลังจากถูกพายุ ควรตัดกิ่ง ที่หักทิ้ง เพื่อป้องกันโรคที่จะลุกลาม ๓. เพื่อเพิ่มผลผลิต โดยท�าให้ต้นไม้ออกดอกและผลมากขึ้น เป็นการช่วยกระตุ้นให้ เกิดกิ่งใหม่ หรือตาใหม่ ทั้งตาใบและตาดอก ๔. เพื่อควบคุมและส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นไม้เมื่อตัดกิ่งที่เสียออกต้นไม้จะ เจริญเติบโตขึ้น โดยสามารถควบคุมรูปทรงของต้นไม้ ให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ ๕. เพื่อให้ได้รูปทรงพิเศษ หรือรูปทรงต่าง ๆ ตามต้องการ เช่น สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม ซึ่งเหมาะส�าหรับใช้จัดและตกแต่งสถานที่ การตัดแต่งกิ่งพุ่มไม้อยู่เสมอเป็นการควบคุมการเจริญเติบโต ท�าให้เกิดกิ่งใหม่และต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี หากน�ากรรไกรตัดกิ่งไปตัดกิ่งไม้ที่มีโรค ควรน�ามาล้างให้สะอาดเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ก่อน น�าไปตัดกิ่งไม้ต้นอื่น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ของโรค Trick : การป้องกันโรคในต้นไม้ ๖. ช่วยในการขนย้ายต้นไม้ที่โต เต็มที่ใบจะเป็นพุ่มหนา รากหนาแน่น ยากต่อ การโยกย้าย จึงต้องตัดราก กิ่ง ใบบางส่วนออก เพื่อให้เกิดความสมดุลและขนย้ายได้สะดวก 28 การตัดแต่งรูปทรงของต้นไม้ การตัดกิ่งให้สั้นด้วยการตัดตา กรรไกรตัดกิ่งไปตัดกิ่งไม้ที่มีโรค 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 13. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เมื่อเราจัดสวนในบริเวณ บานเสร็จเปนที่เรียบรอยแลว ในขั้นตอน ตอไปก็คือ ตองมีการดูแลรักษาสวนในบริเวณ บานใหคงความสวยงามอยูเสมอ ซึ่งวิธีในการ ดูแลรักษาสวนในบริเวณบานสามารถปฏิบัติ ไดหลายวิธี เชน • หมั่นพรวนดินใหกับตนไมอยูเสมอ เนื่องจาก ดินเปนสารอาหารสําคัญของตนไม ทําหนาที่ ในการพยุงตนไมใหมีความแข็งแรงมั่นคง หากปลอยใหดินแหงและแข็ง รากของตนไม จะหาอาหารมาหลอเลี้ยงสวนตางๆ ไดยากขึ้น จึงควรพรวนดินอยางสมํ่าเสมอ เพื่อใหราก ของตนไมชอนไชหาอาหารไดงาย ทั้งยังมี สวนชวยในการระบายความชื้น และชวยให ดินคายความรอนไดรวดเร็วขึ้น • ควรรดนํ้าตนไมในตอนเชา เพราะจะชวยลด การระเหยของนํ้าได หากตอนเชาไมสะดวก สามารถรดนํ้าตนไมในตอนเย็นแทนได สวนเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงในการรดนํ้าตนไม คือ ตอนกลางวัน หรือชวงเวลาที่มีแดดจัด เพราะจะเกิดการเปลี่ยนของอุณหภูมิอยาง กะทันหัน ซึ่งอาจสงผลใหตนไมตายได และควรงดการรดนํ้าตนไมในตอนกลางคืน เนื่องจากในชวงนี้ทําใหเกิดความชื้นและ เกิดโรคตาง ๆ ตามมาไดงาย” 14. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันปฏิบัติ กิจกรรมสวนจําลอง โดยใหสมาชิกในกลุม รวมกันวางแผนและออกแบบการจัดสวนใน บริเวณบาน (โมเดลบาน) ตามความสนใจ 1 รูปแบบ ซึ่งแตละกลุมจะตองนําโมเดลบาน ของกลุมตนเองที่ไดปฏิบัติในชั่วโมงที่ผานมา มาใชประกอบการจัดและตกแตงสวนจําลอง นักเรียนควรรู 1 การตัดแตง ตนไมแตละชนิดจะมีธรรมชาติการเจริญเติบโตที่ไมเหมือนกัน ดังนั้น การตัดแตงกิ่งจึงควรศึกษาธรรมชาติของตนไมนั้นๆ ใหดีกอนดําเนินการ เชน ชวงเวลาที่เหมาะสมที่จะตัด การดูแลบํารุงรักษา โดยเทคนิคการตัดแตงกิ่ง คือ ใหเล็มทีละนอย แตทําบอยครั้ง เพราะถาตัดแตงครั้งเดียวมากเกินไป อาจทําใหเสียทรง แกไขกลับคืนไดยาก และตองใชเครื่องมือตัดแตงอยาง ถูกตอง เหมาะสม 2 การตัดกิ่ง ควรเลือกกิ่งที่แหงตาย กิ่งที่ออนแอ กิ่งที่เปนโรค กิ่งที่ฉีกขาด กิ่งที่เจริญผิดปกติ และกิ่งที่แทงเขาไปในภายในพุม 3 กรรไกรตัดกิ่ง กอนเลือกซื้อควรทดลองจับและตัดวัตถุวาถนัดมือหรือไม ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพดีหรือไม มีการรับประกันสินคาหรือไม ควรเลือกใชให ถูกประเภทและมีความเหมาะกับการใชงาน ไมควรนํากรรไกรที่มีขนาดเล็กที่ใช สําหรับงานเบาๆ ไปใชตัดกิ่งไมที่มีขนาดใหญ เพราะจะทําใหกรรไกรเสียหายได เพราะเหตุใดการตัดแตงรูปทรงของตนไมจึงควรตัดแตงหลายๆ แบบในตนเดียวกัน (แนวตอบ เพราะถาหากตัดแตงแบบใดแบบหนึ่งมากเกินไป หรือตัดแบบเดียว จะทําใหตนไมมีรูปทรงที่ไมสวยงาม ไมเปน ธรรมชาติ เชน การตัดกิ่งใหสั้นดวยการตัดตาดานขางเพียง อยางเดียว จะทําใหพุมหนาเกินไป) นํา สอน สรุป ประเมิน T32


การคิด ขอสอบเนน การคิด ต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะปลูกในกระถางควรน�ามาปลูก ลงดิน เพื่อให้ต้นไม้มีการเจริญเติบโตที่ดีขึ้น แข็งแรงเช่น หญ้ามาเลเซีย หรืออาจรื้อหญ้าออก แล้วปูอิฐเป็นลานพักผ่อนแทน ๔. องค์ประกอบอื่น ๆ เช่น รั้ว ทางเท้าเก้าอี้สนามสิ่งตกแต่งอื่น ๆ ต้องตรวจสอบ สภาพการใช้งานอยู่เสมอ หากมีส่วนใดช�ารุด เสียหาย ควรเปลี่ยนใหม่ทันที ๒) การบ�ารุงรักษาสนามหญ้า การที่สนามหญ้าจะเขียวขจี มีความสวยงามอยู่ตลอด เวลา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธีการปลูกเท่านั้น การบ�ารุงรักษาสนามหญ้าที่ถูกวิธีมีรายละเอียด ดังนี้ ๑. การตัดหญ้า ควรตัดประมาณ ๑๐-๑๕ วัน ต่อครั้ง มิฉะนั้น หญ้าจะสูงเกินไป ไม่ควรตัดหญ้าในขณะที่สนามก�าลังเปียก เพราะจะท�าให้เครื่องตัดหญ้าช�ารุดได้ ๒. การรดน�้า ควรรดน�้าทุกวันวันละ ๑ ครั้งแต่ถ้าเป็นหญ้าที่เพิ่งปลูกใหม่ควรรดน�้า วันละ ๒-๓ ครั้ง และรดน�้าให้ชุ่ม แต่อย่าปล่อยให้น�้าขังแฉะสนาม ๓. การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยสูตร ๔๕-๐-๐ เดือนละครั้ง หรือใช้สูตร ๓๐-๑๐-๒๐ หรืออาจใส่ปุ๋ยชีวภาพ หรือปุ๋ยอินทรีย์ และรดน�้าทันทีที่ใส่ปุ๋ยทุกครั้ง ๔. การป้องกันและก�าจัดศัตรูของหญ้า โดยการตัดหญ้าบ่อย ๆ เพื่อเป็นการท�าลาย แหล่งอาหารของโรคและแมลง ๕. การท�าความสะอาดควรเก็บเศษหญ้าออกทุกครั้งหลังจากตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแมลง ๓) การปรับปรุงสวน สวนที่จัดไว้อย่างสวยงาม เมื่อเวลาผ่านไปความสวยงามอาจ ลดลง จึงต้องมีการปรับปรุง แก้ ไข เพื่อให้กลับมาสวยงามดังเดิม ซึ่งการปรับปรุง มีดังนี้ ๑. ดินในกระถางควรหมั่นพรวนดินแต่หากพบว่าดินในกระถางเหลือน้อยให้เติมดิน ให้เต็มกระถาง ถ้าต้นไม้ โตเกินกว่าจะอยู่ในกระถางให้เปลี่ยนกระถาง หรือย้ายต้นไม้ ไปปลูกลงดิน ๒. พรรณไม้ต่าง ๆ หากต้นไม้เจริญเติบโตจนเบียดกันต้องแยกบางต้นออก หรือตัดแต่ง ให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ หากพบว่าต้นไม้ตายควรรีบหาต้นใหม่มาปลูกทดแทน ๓. สนามหญ้าถ้าหญ้าตายให้น�าหญ้าใหม่มาปลูกแต่ให้เลือกหญ้าที่มีความทนทาน ดินร่วน ๒ ส่วน อินทรียวัตถุ ๑ ส่วน และ ปุ๋ยคอก ๑ ส่วน หรือดินร่วน ๑ ส่วน ทรายหยาบ ๑ ส่วน ใบไม้ผุ ๑ ส่วน และปุ๋ยคอก ๑/๔ ส่วน Trick : ส่วนผสมของดินปลูกต้นไม้ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 29 รุงรักษาสนามหญ้า หญ้ามาเลเซีย หรืออาจใส่ปุ๋ยชีวภาพ 1 3 2 ขอใดคือวิธีการบํารุงรักษาสนามหญาไดอยางถูกตอง 1. ควรตัดหญาบอยๆ เพื่อปองกันศัตรูของหญา 2. หลังจากตัดหญาเสร็จแลวไมควรนําเศษหญาออก 3. ควรตัดหญาเดือนละ 1 ครั้ง เพราะหญาเจริญเติบโตชา 4. ควรรดนํ้าสัปดาหละ 1 ครั้ง เพราะหญาไมชอบความชื้น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะการตัดหญาบอยๆ จะเปน การทําลายแหลงอาหารของโรคและแมลง เพื่อเปนการชวยปองกัน และกําจัดศัตรูของหญา) นักเรียนควรรู 1 หญา หญาที่นิยมปลูกบนสนามกลางแจง คือ หญานวลนอย เพราะเปนหญา ที่ทนตอการเหยียบยํ่า ทนตอความแหงแลง หรือนํ้าขัง ตลอดจนทนตออุณหภูมิ สูงไดดี แตในฤดูรอนควรหมั่นรดนํ้าอยูเสมอ มิฉะนั้นใบจะเหลือง นอกจากนี้ ยังทนตอดินเค็ม ทั้งยังตานทานโรคแมลงไดดี และควรตัดหญาเมื่อเจริญเติบโต ได 0.75-1.5 นิ้ว โดยทําการตัดทุกๆ 2 สัปดาห 2 ปุยชีวภาพ เปนปุยที่มีสีดําคลํ้า มีลักษณะเปนผงเนื้อละเอียด เหมาะสําหรับ การปรับปรุงดินและใหธาตุอาหารแกพืช 3 หญามาเลเซีย เปนหญาที่ใชทําสนามหญาและจัดสวนหยอม โดยเฉพาะ ในพื้นที่รม มีแสงแดดรําไร สามารถเจริญเติบโตไดดีในที่ที่มีความอุดมสมบูรณนอย สามารถปองกันการพังทลายของดินในที่มีความลาดชันไดดี ทนตอดินที่เปนกรด ชอบความชื้นสูง ปลูกไดในดินแทบทุกชนิด และควรตัดหญาเมื่อเจริญเติบโตได 1-2 นิ้ว โดยทําการตัดทุกๆ 10-15 วัน ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 15. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสรางสวน จําลองตามการออกแบบของกลุมตนเอง โดยนําวัสดุ อุปกรณ และสิ่งของเหลือใชมา สรางสรรคผลงานตามหลักการจัดและตกแตง สวนในบริเวณบาน 16. ครูกําหนดใหนักเรียนแตละกลุมนําโมเดลบาน มาใชเปนองคประกอบหลักในการปฏิบัติงาน เพื่อใหการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน มีลักษณะที่เหมาะสมกับรูปแบบของบานใน ลักษณะตางๆ 17. ในระหวางการปฏิบัติกิจกรรมการสรางสวน จําลองของนักเรียน ครูจะเปนผูทําหนาที่ ในการตรวจสอบและวิเคราะหผลงานของ นักเรียนเกี่ยวกับรูปแบบของสวน ลักษณะ ของการจัดสวน วิธีการจัดสวน การเลือกใช วัสดุ อุปกรณ และสิ่งของเหลือใชในการ สรางสรรคผลงานการจัดสวนจําลอง โดย เนนที่กระบวนการวางแผนในการปฏิบัติงาน เปนหลัก 18. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายถึงวิธีการดูแล รักษาสวนในรูปแบบของตนเอง โดยอางอิง จากสวนจําลองที่สรางขึ้น 19. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรูเกี่ยวกับหลักการจัดสวนในบริเวณบาน จากการปฏิบัติกิจกรรมสรางสวนจําลอง โดยมีครูเปนผูคอยเสนอแนะเพิ่มเติม 20. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําโมเดลบานและ สวนจําลองที่สรางเสร็จแลวมาจัดแสดงเปน มุมนิทรรศการบานและสวนภายในชั้นเรียน พรอมทั้งรวมกันจัดบริเวณสถานที่ที่ใชในการ จัดนิทรรศการใหมีความสวยงาม นํา สอน สรุป ประเมิน T33


ขอสอบเนน การคิด นอกจากการปรับปรุงสวนตามที่กล่าวมาแล้วในข้างต้นการเปลี่ยนแปลงสภาพสวน ทั้งหมดอาจเกิดขึ้นได้โดยที่เจ้าของบ้านอาจเบื่อหน่ายความจ�าเจ หรือมีความจ�าเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ให้เหมาะกับสภาวะนั้น ๆ เช่นการจัดสวนครั้งแรกเมื่อมีครอบครัวใหม่ ๆ ต่อมาเมื่อมีสมาชิกเพิ่มขึ้น จ�าเป็นต้องมีสถานที่ส�าหรับเด็ก อาจต้องการบ่อทราย ชิงช้า บ้านตุ๊กตา จึงต้องมีการปรับเปลี่ยน การจัดสวนใหม่ ๔) การป้องกันและก�าจัดศัตรูของต้นไม้การเจริญเติบโตของต้นไม้ในธรรมชาติ จะมีศัตรูพืชคอยรบกวน เช่น แมลง ด้วง หนอน เพลี้ย โรคต่าง ๆ ที่เกิดจากเชื้อรา แบคทีเรีย ดังนั้น จึงต้องมีการฉีดพ่นน�้าหมักจุลินทรีย์ เพื่อก�าจัดหนอน แมลง หรือศัตรูพืชอื่น ๆ ๕) การใส่ปุ๋ยต้นไม้ ปุ๋ยเป็นปัจจัยส�าคัญต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ เป็นแหล่งธาตุ อาหารส�าคัญที่ต้นไม้ต้องการ เพื่อน�าไปสร้างใบ กิ่ง ดอก และผล หรือเสริมสร้างให้ต้นไม้ เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ ในการใส่ปุ๋ยต้นไม้ควรเลือกใช้ให้ถูกต้องกับชนิดของต้นไม้และระยะ เวลาของการเจริญเติบโต โดยปุ๋ยใส่ต้นไม้มี ๒ ประเภท ได้แก่ การจัดและตกแต่งบ้าน ต้องค�านึงถึงหลักความปลอดภัย ความสะอาด ถูกสุขลักษณะ ความสวยงาม และความประหยัด ต้องเลือกเครื่องใช้และของประดับให้เหมาะสมกับรูปแบบ ของบ้านและความต้องการของสมาชิกในครอบครัว โดยอาศัยการวางแผนที่ดี และการน�า หลักการทางทัศนศิลป์เข้ามาประยุกต์ ใช้ ในการจัดและตกแต่ง นอกจากนี้ บริเวณบ้าน ยังเป็นส่วนที่ต้องให้ความส�าคัญในการจัดและตกแต่งเช่นเดียวกัน ดังนั้น สมาชิกในครอบครัว จึงควรช่วยดูแลรักษา จัดและตกแต่งบ้านให้สวยงามน่าอยู่ เพื่อสร้างบรรยากาศและ ความรู้สึกที่ดี ในครอบครัว ปุ๋ยอินทรีย์ • เป็นปุ๋ยที่ได้จากสิ่งมีชีวิต เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยประเภทนี้จะ สลายตัวค่อนข้างช้าและมีคุณสมบัติในการปรับปรุงคุณภาพของดิน • ปุ๋ยอินทรีย์ที่ดีจะต้องมีแร่ธาตุครบทั้ง ๑๓ ชนิด ตามที่พืชที่ต้องการ ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ก�ามะถัน เหล็ก แมงกานีส โบรอน โมลิบดีนัม ทองแดง สังกะสี และคลอรีน ปุ๋ยอนินทรีย์ • เป็นปุ๋ยเคมีที่สังเคราะห์ขึ้น มีธาตุอาหารต่าง ๆ ตามที่โรงงานผู้ผลิตก�าหนด มีขายทั่วไป ตามท้องตลาด แบ่งเป็น ๒ ชนิด คือ ปุ๋ยเดี่ยวและปุ๋ยผสม • ปุ๋ยอนินทรีย์มีธาตุอาหารที่มากกว่าปุ๋ยอินทรีย์ และอยู่ในรูปที่สามารถละลายน�้าได้อย่าง รวดเร็ว พืชดูดซับไปใช้งานได้ทันที 30 ปุ๋ยอนินทรีย์ 2 เพลี้ย1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 21. ครูใหนักเรียนแตละคนรวมกันใหคะแนน โมเดลบานและสวนจําลองที่ตนเองชื่นชอบ มากที่สุด โดยครูกําหนดกติกาการใหคะแนน ดังนี้ • ใหนักเรียนมีคะแนนคนละ 1 คะแนน และครูมีคะแนน 10 คะแนน • ไมสามารถลงคะแนนใหกลุมของตนเองได • กลุมที่ไดคะแนนมากที่สุดจะไดคะแนนเต็ม • กลุมอื่นจะไดคะแนนลดหลั่นกันลงมาตาม ลําดับ 22. ครูสุมนักเรียน 3-4 คน ออกมาอธิบายเหตุผลใน การลงคะแนนวา ตนเองเลือกลงคะแนนใหกับ กลุมใด เพราะเหตุใดจึงลงคะแนนใหกับกลุมนี้ 23. ครูและนักเรียนรวมกันวิเคราะหความแตกตาง ของโมเดลบานและสวนจําลองของกลุมที่ได คะแนนมากที่สุดและกลุมที่ไดคะแนนนอย ที่สุด 24. ครูใหตัวแทนกลุมที่ไดคะแนนมากที่สุด ออกมา อธิบายถึงแนวคิดในการทํางานอยางไรให ประสบความสําเร็จ และใหตัวแทนกลุมที่ได คะแนนนอยที่สุดออกมาอธิบายถึงแนวทาง ในการแกไขและพัฒนาวิธีการทํางานใหมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีครูเปนผูคอย เสนอแนะเพิ่มเติม 25. ครูมอบหมายใหนักเรียนทํากิจกรรมสรางสรรค พัฒนาการเรียนรู จากหนังสือเรียน หนวยการ เรียนรูที่ 2 26. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 2.2.1 เรื่อง การจัดและตกแตงสวน และทําชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง บานและสวน 27. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 นักเรียนควรรู 1 เพลี้ย เปนแมลงศัตรูพืชที่มีขนาดเล็ก มีปากชนิดเจาะดูดคลายเข็มติดอยู บริเวณสวนหัวใกลกับอก และปากชนิดเขี่ยดูดติดอยูบริเวณสวนปลายหัว สวนใหญ จะไมมีปก มีขนขึ้นปกคลุม การเรียกชื่อจะเรียกตามรูปรางของลําตัว หรือนิสัย ของเพลี้ย 2 ปุยอนินทรีย หรือปุยเคมี มีสวนชวยใหตนไมเจริญเติบโต ออกดอกเร็ว แตมีราคาสูง และเมื่อใชมากๆ จะทําใหดินแข็ง มีแมลงศัตรูพืชมารบกวน และเปนการทําลายสิ่งแวดลอม จึงควรใชเฉพาะที่จําเปนเทานั้น การกําจัดศัตรูของตนไมมีความสําคัญอยางไร (แนวตอบ เพราะการเจริญเติบโตของพืชในธรรมชาติมักมีศัตรู ตางๆ มาคอยรบกวน ซึ่งศัตรูเหลานั้นอาจจะเปนโรคที่อาจทําให ตนไมในสวนติดโรคตางๆ ได ทั้งยังทําใหตนไมไมเจริญเติบโต และไมสวยงาม) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปองกันและกําจัดศัตรูของไมผล ไดที่ http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=5&chap= 2&page=t5-2-infodetail15.html นํา สอน สรุป ประเมิน T34


การคิด กิจกรรม Mini Project àÃ×èͧ ¡ÒèѴÊǹ ค�าชี้แจง ๑. ให้นักเรียนปฏิบัติงานกลุ่ม โดยฝกปฏิบัติการจัดสวนในบริเวณโรงเรียน ดังน�้ • แต่ละกลุ่มออกแบบและเขียนแบบสวนในบริเวณโรงเรียน • ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับรูปแบบการจัดสวนจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต สถานที่ จัดสวนจริง ๆ เช่น บ้านเรือน สถานที่ต่าง ๆ • แต่ละกลุ่มจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ ์ในการจัดสวนให้พร้อม • ด�าเนินการจัดสวนในบริเวณโรงเรียนตามที่ได้ออกแบบไว้ • ดูแลรักษาสวนในบริเวณโรงเรียน • เขียนบันทึกการปฏิบัติงาน • การประเมินผลการปฏิบัติงาน ๒. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มน�าเสนอบันทึกการปฏิบัติงานหน้าชั้นเรียนในประเด็นที่ก�าหนดให้ ดังน�้ • การจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ • การด�าเนินการจัดสวน • การดูแลบ�ารุงรักษาสวน • การประเมินผลการปฏิบัติงาน ÊÃé Ò§ÊÃÃ¤ì ¾Ñ²¹Ò¡ÒÃàÃÕ¹ÃéÙใบมอบหมายงาน ¡Ô¨¡ÃÃÁ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 31 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันออกแบบบาน ในฝนตามความคิดและจินตนาการ 2. ศึกษาการจัดตกแตงบานและบริเวณบานจากแหลงการเรียนรูที่ หลากหลาย เชน หนังสือนิตยสาร อินเทอรเน็ต 3. สมาชิกในกลุมรวมกันจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณสําหรับการจัด ตกแตงใหพรอม 4. สมาชิกในกลุมรวมกันประดิษฐโมเดลจําลองบานในฝน พรอมทั้ง ตกแตงใหสวยงาม 5. ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายวิธีการจัด ตกแตงบานและบริเวณบานในฝนของกลุมตนเอง 6. ประเมินผลการปฏิบัติงาน แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 2 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 2.2.1 เรื่อง การจัดและ ตกแตงสวน 3. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง บานและสวน 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การจัด และตกแตงสวนในบริเวณบานวา “บานของ นักเรียนแตละคนจะมีรูปแบบและลักษณะที่ แตกตางกันออกไปตามความเหมาะสมของบริเวณ พื้นที่ที่ใชในการสรางบาน ซึ่งพื้นที่ดังกลาวจะ สงผลทําใหการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน มีรูปแบบและลักษณะที่แตกตางกัน ในการจัด และตกแตงสวนในบริเวณบาน ผูจัดควรคํานึงถึง หลักความปลอดภัย ความประหยัด ทั้งพลังงาน ทรัพยากร เวลา และแรงงาน เนื่องจากการจัดและ ตกแตงสวนในบริเวณบานจําเปนตองใชหลักใน การออกแบบ โดยมีการนําหลักการทางทัศนศิลป มาใช อีกทั้งยังตองใชระยะเวลาในการทํางาน และ งบประมาณในการสรางสรรคขึ้น รวมถึงยังตอง ดูแลรักษาสวนในบริเวณบานใหคงความสวยงาม อยูเสมอ เพื่อใหบรรยากาศของบานนาอยูอาศัย มากขึ้นและสมาชิกในครอบครัวอยูรวมกันอยาง มีความสุข” แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T35


Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ชนิดและหลักใน การเลือกบริโภค เครื่องดื่ม 1 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายหลักการเลือก บริโภคเครื่องดื่มได้ อย่างถูกต้อง 2. จ�ำแนกเครื่องดื่มชนิด ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง 3. เลือกบริโภคเครื่องดื่ม ที่มีประโยชน์ต่อ ร่างกายได้ 4. เอาใจใส่ดูแลสุขภาพ ของตนเองโดยการเลือก บริโภคเครื่องดื่มที่มี ประโยชน์ต่อร่างกาย 5. มีจิตส�ำนึกในการท�ำงาน ร่วมกันกับผู้อื่นและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า แบบเน้น ทักษะ กระบวนการ เรียนความรู้ ความเข้าใจ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 3.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 2 การเตรียม การประกอบ เครื่องดื่มและ การประกอบ เครื่องดื่ม 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. บอกอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้และวัตถุดิบใน การประกอบเครื่องดื่ม ได้อย่างถูกต้อง 2. อธิบายขั้นตอน การเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ และวัตถุดิบในการ ประกอบเครื่องดื่มได้ อย่างถูกต้อง 3. สามารถประกอบ เครื่องดื่มได้อย่างถูกวิธี 4. เอาใจใส่ รับผิดชอบ ในการท�ำงาน และใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่างประหยัด และคุ้มค่า แบบเน้น รูปแบบการ สืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจใบงานที่ 3.2.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T36


แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 3 การจัดตกแต่ง เครื่องดื่ม และ การบริการ เครื่องดื่ม 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบหลังเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายวิธีการใช้วัสดุ อุปกรณ์และวัตถุดิบ ที่เหมาะสมในการจัด ตกแต่งแก้วเครื่องดื่ม ได้ 2. อธิบายเทคนิคและวิธี ในการจัดตกแต่งแก้ว เครื่องดื่ม 3. รู้และเข้าใจวิธีการสร้าง ความประทับใจในการ บริการเครื่องดื่มใน ครอบครัวและการ บริการเครื่องดื่ม ในงานเลี้ยง 4. เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ และวัตถุดิบที่เหมาะสม ในการจัดตกแต่งแก้ว เครื่องดื่มแต่ละชนิดได้ 5. สามารถจัดตกแต่งแก้ว เครื่องดื่มได้ 6. มีความตั้งใจ เอาใจใส่ มีความประณีตในการ ปฏิบัติงาน และใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า แบบเน้น การสาธิต และแบบเน้น กระบวนการ ปฏิบัติ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจใบงานที่ 3.3.1 - ตรวจใบงานที่ 3.3.2 - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T37


ปจจุบันมีเครื่องดื่มหลายชนิด ทั้งน�้าผักและผลไม้ น�้าสมุนไพร ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย ท�าให้ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณสดใส ผู้บริโภคจึงควรเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมและผลิตเครื่องดื่ม ไว้บริโภคเอง เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือท�าเป็นอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้ ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) ó หน่วยการเรียนรู้ที่ à¤Ã×èͧ´×èÁ áÅСÒúÃÔ¡Òà เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับเครื่องดื่มและการบริการใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ เรื่องเครื่องดื่มและการบริการ ใชทักษะ การแสวงหาความรูและทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางานอยางเปนขั้นตอน ในการเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม ใชทรัพยากร ในการปฏิบัติงานไดอยางประหยัดและคุมคา โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับทักษะตางๆ ที่มีความเกี่ยวของกับเครื่องดื่ม และการบริการ • ใหนักเรียนจําแนกประเภทของเครื่องดื่ม อธิบายประโยชนและโทษของเครื่องดื่มแตละชนิดได • ใหนักเรียนฝกเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม ขั้นนํา (เนนทักษะกระบวนการเรียนความรู ความเขาใจ) 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนชอบเครื่องดื่มชนิดใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ชอบดื่มนมรสจืด เพราะ ชวยใหรางกายเจริญเติบโตและแข็งแรง ชวยซอมแซมสวนที่สึกหรอ ชอบดื่มนํ้าผลไม เพราะดื่มแลวใหความรูสึกสดชื่น ทั้งยังมี คุณคาทางโภชนาการสูงอีกดวย ชอบดื่ม นํ้าอัดลม เพราะดื่มแลวใหความรูสึกสดชื่น กระปรี้กระเปรา และมีรสชาติอรอย ชอบ ดื่มนํ้าเปลา เพราะมีประโยชนตอรางกาย และเปนสิ่งที่จําเปนตอรางกายเปนอยางยิ่ง) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เครื่องดื่มที่นักเรียน ชื่นชอบมีทั้งเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอรางกาย และเครื่องดื่มที่ใหโทษตอรางกาย หากดื่มใน ปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งในปจจุบันมีเครื่องดื่ม ที่ผลิตและจําหนายอยูหลายชนิด จึงควรเลือก ดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอรางกาย เพราะ จะชวยใหรางกายแข็งแรงและเจริญเติบโตได อยางสมบูรณ” 4. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • หากที่บานปลูกผักสวนครัวไวหลายชนิด นักเรียนจะนําผักเหลานั้นมาประกอบเปน เครื่องดื่มชนิดใดไดบาง และจะมีขั้นตอน ในการทําอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ทํานํ้าขิงมะนาว โดยมี ขั้นตอนการทํา คือ เตรียมนํ้าอุน 1 แกว ฝานเหงาขิงขนาด 1 2 นิ้ว นําไปแชนํ้าอุน นาน 3-5 นาที ฝานมะนาวเปนชิ้นบางๆ นํา ลงไปแช หากตองการใหมีรสชาติหวานให เติมนํ้าผึ้งลงไปตามตองการ) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T38


ขอสอบเนน การคิด ๑ ชนิดของเครื่องดื่ม ปจจุบันเครื่องดื่มที่ผลิตและจ�าหน่ายอยู่ โดยทั่วไปมีมากมาย หลายชนิด ทั้งแบบที่มีประโยชน์และแบบที่อาจเป็นอันตราย ต่อร่างกาย ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ผู้ผลิตควรเลือกผลิตเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของ ผู้บริโภคให้มากที่สุด ในการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม ผู้บริโภคควรเลือกบริโภค เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ มีคุณค่าต่อร่างกาย และมีความเหมาะสม กับตนเอง เพราะเครื่องดื่มเหล่านั้นจะช่วยเสริมสร้างความ แข็งแรงของร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ช่วยพัฒนา การเจริญเติบโตของร่างกายให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เครื่องดื่ม โดยทั่วไป มีดังนี้ ¹Ñ¡àÃÕ¹ÁÕ¢Ñ鹵͹ ËÃ×ÍÇÔ¸Õ¡Òà »ÃСͺà¤Ã×èͧ´×èÁà¾×èÍÊØ¢ÀÒ¾ äÇŒºÃÔâÀ¤ã¹¤ÃÑÇàÃ×͹Í‹ҧäà สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สรางทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน - การเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม นํ้าดื่ม นํ้าหวานผสมสี นํ้าหวานอัดแกส นํ้าแร่ น�้าสะอาด ปราศจากเชื้อโรค พยาธิ และสารเคมีที่มีพิษต ่อ ร ่างกาย มีคุณภาพตรงตาม มาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก ได้ก�าหนดไว้ ไม่มีรสชาติ และไม่ อัดลม เครื่องดื่มที่ ไม่มีแอลกอฮอล์ ประกอบด้วยน�้าตาลละลายน�้า มีการแต่งสี กลิ่น รส และใส่สาร กันเสีย ก่อนดื่มต้องมีการเติมน�้า ให้เจือจางก่อน น�้าที่ ได้จากแหล ่งน�้าที่เกิด ขึ้นเองตามธรรมชาติมีแร ่ธาตุ บางชนิดผสมอยู ่ ในปริมาณที่ เหมาะสม แร่ธาตุที่ส�าคัญ เช่น แคลเซียม ฟลูออไรด์ แมกนีเซียม เครื่องดื่มที่ท�าจากน�้าหวาน มีการแต่งสี กลิ่น รส และเติม กรด เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ กรดจากผลส้ม เมื่อดื่มแล้วจะให้ ความรู้สึกสดชื่น เครื่องดื่ม และการบริการ 33 นํ้าดื่ม นํ้าแร่ กันเสีย ก่อนดื่มต้องมีการเติมน�้า มีการแต่งสี กลิ่น รส และใส่สาร 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • เครื่องดื่มแบงออกเปนกี่ชนิด และมีชนิดใด ที่นักเรียนเคยดื่ม (แนวตอบ เครื่องดื่มจะมีเกณฑในการแบง ชนิดหลายวิธี เชน แบงออกเปน 5 กลุมหลัก ไดแก กลุมนํ้าดื่มและนํ้าแร กลุมซอฟตดริงก เชน โซดา โคลา นํ้าผักและผลไม กลุม นํ้าหวาน เชน นํ้าหวานผสมสี นํ้าหวาน อัดแกส กลุมนม เชน นมปรุงแตง นมเปรี้ยว นํ้านมจากพืช และกลุมอื่นๆ เชน ชา กาแฟ โกโก ซึ่งเครื่องดื่มที่เคยดื่มมีหลายชนิด เชน นํ้าแร นํ้าผักและผลไม นมเปรี้ยว นํ้าอัดลม นํ้าหวานผสมสี โกโก) 2. ครูใหนักเรียนดูภาพเครื่องดื่มชนิดตางๆ และใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวา เครื่องดื่มชนิดใดมีประโยชนตอรางกายและ เครื่องดื่มชนิดใดหากบริโภคมากเกินไปจะเปน อันตรายตอรางกาย 3. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนจะมีวิธีในการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม เพื่อใหเกิดประโยชนตอรางกายไดอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน การเลือกเครื่องดื่มเพื่อใหเกิด ประโยชนตอรางกาย ควรเลือกดื่มนํ้าเปลา เพราะมีประโยชนตอรางกาย ชวยเผาผลาญ พลังงาน ชวยขับถายของเสียโดยเฉพาะ ไขมันที่ตองกําจัดออก ทําใหรางกายทํางาน ไดอยางมีประสิทธิภาพมากขึ้น) 4. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิด ของเครื่องดื่ม จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 3 นักเรียนควรรู 1 นํ้าดื่ม ในแตละวันควรดื่มนํ้าใหเพียงพอตอความตองการของรางกาย และดื่มใหถูกเวลา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใหแกรางกาย คือ ดื่มนํ้าใหไดวันละ 6-9 แกว ดื่มนํ้า 2 แกว เมื่อตื่นนอน ชวยกระตุนการทํางานของอวัยวะภายใน ดื่มนํ้า 1 แกว กอนมื้ออาหาร 30 นาที ชวยใหระบบการยอยอาหารดีขึ้น ดื่มนํ้า 1 แกว กอนอาบนํ้า ชวยลดความดันโลหิต ดื่มนํ้า 1 แกว กอนเขานอน ชวยหลีกเลี่ยงภาวะเสนเลือดในสมองแตก 2 นํ้าแร เปนแหลงนํ้าธรรมชาติที่อุดมไปดวยแรธาตุหลายชนิด โดยสิ่งที่ ทําใหนํ้าแรมีความแตกตางไปจากนํ้าดื่มก็คือปริมาณแรธาตุที่มีอยูนอยกวา ควรดื่มนํ้าแรในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากมีแรธาตุเขาไปสะสมอยูมาก จะทําใหรางกายเสียสมดุล 3 สารกันเสีย เรียกอีกอยางหนึ่งวา “สารกันบูด” หรือ “วัตถุกันเสีย” (Presevatives) เปนสารเคมีที่นิยมนํามาใชในการถนอมอาหาร ทําหนาที่ในการ ยับยั้ง หรือทําลายจุลินทรียที่ทําใหอาหารเกิดการเนาเสีย บุคคลในขอใดเลือกบริโภคเครื่องดื่มไดอยางเหมาะสม 1. นลินจะเลือกดื่มเฉพาะนํ้าแรเทานั้น 2. นาราดื่มนมรอนกอนนอนเปนประจําทุกคืน 3. นาธานซื้อกาแฟเย็นมาดื่มอยางนอยวันละ 4 แกว 4. นภัทรชอบชวนเพื่อนไปดื่มสุราหลังเลิกงานทุกวันศุกร (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการดื่มนมกอนนอนมี ประโยชนในหลายๆ ดาน เชน แกอาการนอนไมหลับ ทําใหนอนหลับ สบาย ชวยเสริมสรางความแข็งแรงใหกับกระดูก ปองกันอาการเปน ตะคริว ปองกันโรคหัวใจ แกปวดทองประจําเดือน แกปวดศีรษะ ชวยแซมแซมสวนที่สึกหรอของรางกาย ปรับสมดุลการทํางาน ของระบบลําไส ฯลฯ) นํา สอน สรุป ประเมิน T39


ขอสอบเนนการคิด นํ้าสมุนไพร ดื่มนํ้าอยางไรใหสุขภาพดี นมพาสเจอไรซ ผลิตภัณฑนมที่ผานการฆาเชื้อดวยความรอน นมที่ผานการฆาเชื้อดวยวิธีนี้จะมีคุณคาทางอาหาร เทียบเทากับนมปกติที่ยังไมผานการฆาเชื้อ แตจะ มีอายุนอยกวานมชนิดอื่น ๓-๗ วัน นมที่นํามาหมักดวยจุลินทรียที่ไมเปนอันตราย ตอรางกาย มักปรุงแตงรสแลวเติมดวยนํ้าตาล ซูโครส มี ๒ ลักษณะ คือ เปนนํ้าและเหลวขน ที่เรียกวา “โยเกิรต” โคลา นํ้าอัดลมรสหวานที่ดื่มแลวใหความรูสึก กระปรี้กระเปรา ปราศจากวัตถุกันเสียและสาร แตงกลิ่นสังเคราะห โดยจะมีฤทธิ์เปนกรดเทียบ เทากับนํ้าสม คือ มี pH เทากับ ๒.๕-๓ เครื่องดื่มที่ไดจากการนําสวนประกอบตาง ๆ ของผักและผลไมมาแปรรูป ใหคุณคาทางอาหาร ทั้งยังมีสรรพคุณในการชวยปองกันและรักษาโรค บางชนิดได นํ้าผักและผลไม เครื่องดื่มที่มีกลิ่นและรสชาติของผักและ ผลไม จัดเปนเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอสุขภาพ เนื่องจากอุดมไปดวยแรธาตุและวิตามินตาง ๆ มากมาย พันช นํ้าผลไมปรุงแตงที่ทํามาจากผลไมหลายชนิด ผสมกัน เพื่อใหมีกลิ่น สี และรสชาติที่แตกตางกัน ออกไป อาจมีชิ้นผลไมผสมอยู สามารถเติมโซดา เพื่อใหมีรสซาบซาได นมปรุงแตง ผลิตภัณฑที่ ไดจากการนํานํ้านมโค หรือ นมโคชนิดนมผงมาผานกรรมวิธีการผลิตตาง ๆ แลวปรุงแตงดวยกลิ่น หรือรส มี ๒ ชนิด ไดแก ชนิดเหลวและชนิดแหง นมเปรี้ยว นมจากพืช นมที่สกัดมาจากเมล็ดพืช มีสารอาหารที่มี ประโยชนตอรางกาย คือ แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินที่จําเปน ๑๓ ชนิด และโปรตีน สวนใหญ จะมีปริมาณนํ้าตาลสูง เพื่อเพิ่มความหวาน ๓๔ เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมในประเด็นที่วา “การดื่มนํ้าแรควรดื่มในปริมาณที่ เหมาะสม” เนื่องจากปริมาณแรธาตุที่รางกายควรไดรับอยางเหมาะสม คือ ธาตุเหล็ก ไมเกิน 0.5 มิลลิกรัม/ลิตร แมงกานีส ไมเกิน 0.3 มิลลิกรัม/ลิตร ทองแดง ไมเกิน 1.0 มิลลิกรัม/ลิตร สังกะสี ไมเกิน 5.0 มิลลิกรัม/ลิตร ซัลเฟต ไมเกิน 200 มิลลิกรัม/ลิตร ฟลูออไรด ไมเกิน 1.0 มิลลิกรัม/ลิตร ไนเตรต ไมเกิน 45 มิลลิกรัม/ลิตร และคลอไรด ไมเกิน 200 มิลลิกรัม/ลิตร หากนํ้าแร หาดื่มไดยากใหดื่มนํ้าสะอาดแทน แลวรับประทานผักและผลไมที่มีแรธาตุ ผสมอยู เพื่อเปนการเพิ่มแรธาตุใหเพียงพอตอความตองการของรางกาย เชน ธาตุเหล็ก (ตับ เนื้อสัตว ธัญพืช) แมงกานีส (อาหารทะเล ถั่วลิสง) ทองแดง (ขนมปงโฮลวีต ผักใบเขียว) สังกะสี (ขาวกลอง เมล็ดทานตะวัน) ฟลูออไรด (กุยชาย แครรอต มะละกอ) การดื่มนํ้าเปลามีประโยชนอยางไร (แนวตอบ การดื่มนํ้าเปลาจะชวยใหกลามเนื้อมีความชุมชื้น ผิวหนังไมเหี่ยวยน เปลงปลั่ง และสดใส ทั้งนี้ นํ้ายังมีสวนชวย ในการกําจัดของเสีย โดยเฉพาะไขมันที่ตองกําจัดออก ซึ่งหาก รางกายมีนํ้าเพียงพอก็จะสามารถกําจัดของเสียและทําใหรางกาย ทํางานไดอยางมีประสิทธิภาพ) ขั้นสอน ขั้นที่ 2 วางแผนปฏิบัติ 5. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันวางแผนการปฏิบัติงานและแบงหนาที่ ความรับผิดชอบตามความถนัด ความสามารถ ของแตละบุคคล เพื่อสืบคนขอมูลภายใน สถานศึกษาของตนเองเกี่ยวกับชนิดของ เครื่องดื่มและหลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูล จากการสํารวจเครื่องดื่มภายในสถานศึกษา ของตนเองเกี่ยวกับชนิดของเครื่องดื่มและ หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม 7. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายขอมูล ที่ไดรับจากการสํารวจเครื่องดื่มภายในสถาน ศึกษาของตนเองเกี่ยวกับชนิดของเครื่องดื่ม และหลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่มจนได ขอสรุปของกลุม 8. ครูถามนักเรียนวา • จากการสํารวจเครื่องดื่มภายในสถานศึกษา นักเรียนพบเครื่องดื่มชนิดใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน เครื่องดื่มที่พบมากจะเปนนม นํ้าผักและผลไม นํ้าสมุนไพร) • เครื่องดื่มภายในสถานศึกษาที่นักเรียนชอบ ดื่มเปนประจําคือเครื่องดื่มชนิดใด เพราะ เหตุใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 9. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันตอบคําถาม ลงในใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง ชนิดของเครื่องดื่ม และหลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม นํา สอน สรุป ประเมิน T40


กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ชา ดื่มนมเวลาใดให้มีสุขภาพที่ดี นมเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วย แร่ธาตุอาหาร ช่วยเสริมสร้างแคลเซียมให้แก่ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี ควรเลือก ดื่มนมตามเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ T i p ๐๕.๐๐-๐๗.๐๐ น. กระตุ้นล�าไส้ ใหญ่ ๐๗.๐๐-๐๙.๐๐ น. กระตุ้นการท�างาน ของกระเพาะอาหาร ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. กระตุ้นการท�างาน ของสมอง ๑๒.๐๐-๑๕.๐๐ น. กระตุ้นการท�างาน ของล�าไส้เล็ก ๑๗.๐๐-๒๑.๐๐ น. กระตุ้นระบบหัวใจ ๒๑.๐๐-๒๓.๐๐ น. ช่วยให้หลับสบาย กาแฟ เครื่องดื่มที่ท�าจากเมล็ดกาแฟ มีส่วนประกอบส�าคัญ คือ กาเฟอีน นิยมดื่มพร้อมน�้าตาลและครีม สามารถปรุงรสชาติได้ ตามต้องการ เครื่องดื่มที่มีทั้งแบบผงและแบบใบแห้งบรรจุซอง ดื่มได้ทั้งแบบ เติมน�้าตาล ไม่เติมน�้าตาล และปรุงรสชาติด้วยการเติมนมข้นหวาน หรือครีม โกโก เครื่องดื่มที่ท�าจากเมล็ดโกโก้ สามารถผสมด้วยน�้าตาล ครีม และนมข้นหวาน หรืออาจมีการปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติด้วยผลไม้ มีสารกาเฟอีนอ่อน ๆ จึงท�าให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า โซดา เครื่องดื่มอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อเปดฝาขวดแก๊สจะสลายออกมาเป็นฟอง ใช้ส�าหรับดื่ม ในบางโอกาส บางครั้งอาจน�ามาปรุงผสมกับเครื่องดื่มชนิดอื่นเพื่อให้มีรสซาบซ่า เครื่องดื่ม และการบริการ 3๕ เติมน�้าตาล ไม่เติมน�้าตาล และปรุงรสชาติด้วยการเติมนมข้นหวาน แร่ธาตุอาหาร ช่วยเสริมสร้างแคลเซียมให้แก่ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี ควรเลือก มีสารกาเฟอีนอ่อน ๆ จึงท�าให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า 1 3 2 นักเรียนควรรู 1 นมขนหวาน เปนนมที่ระเหยนํ้าออกบางสวน แลวเติมนํ้าตาลลงไป เพื่อรักษา ไมใหนมบูดเนา แบงเปน 4 ชนิด ไดแก นมขนหวานที่ทําจากนมสด นมขน ขาดมันเนยหวาน นมขนคืนรูปหวาน และนมขนแปลงไขมันหวาน ทั้งนี้ นมขนหวานไมเหมาะสมกับการนํามาใชเลี้ยงทารก เพราะขาดสารอาหารที่ชวย ในเรื่องพัฒนาการการเจริญเติบโต 2 สารกาเฟอีน พบในอาหารหลายชนิด เชน กาแฟ ชา โคลา การบริโภคกาเฟอีน ในปริมาณที่ตางกันจะสงผลตอรางกายแตกตางกันออกไป เชน 50-200 มก. กระตุนใหรางกายตื่นตัว กระปรี้กระเปรา 200-500 มก. อาจทําใหปวดศีรษะ กระวนกระวาย นอนไมหลับ 1,000 มก. กระสับกระสาย หัวใจเตนเร็ว มีอาการ คลื่นไส เบื่ออาหาร ปสสาวะบอยผิดปกติ 3 แคลเซียม แรธาตุที่มีมากที่สุดในรางกายมนุษย ชวยในการรักษากระดูก และฟน การเพิ่มแคลเซียมใหกับรางกายสามารถทําไดจากการรับประทานอาหาร เชน สม เมล็ดงา คะนา บรอกโคลี ถั่วแระ นมถั่วเหลือง เตาหู ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของ เครื่องดื่ม พรอมทั้งสรุปความรูที่ไดจากการศึกษาลงในกระดาษ A4 ในรูปแบบของแผนผังความคิด (Mind Mapping) นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนเลือกเครื่องดื่มตามความสนใจ 1 ชนิด ทําการ วิเคราะหวา เครื่องดื่มที่เลือกมามีคุณคาทางโภชนาการอยางไร กอใหเกิดประโยชนตอรางกายในดานใด จากนั้นออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน ขั้นสอน ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู ความเขาใจ 10. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานการตอบคําถาม ในใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง ชนิดของเครื่องดื่มและ หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม 11. ครูใหนักเรียนกลุมอื่นๆ รวมกันอภิปรายเพิ่มเติม และตรวจสอบความถูกตองจากการนําเสนอ ผลงาน 12. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนคิดวา ในสถานศึกษาของเรา ควรมีการจําหนายเครื่องดื่มชนิดใดจึงจะมี ความเหมาะสมมากที่สุด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ควรจําหนายเครื่องดื่มที่มี ประโยชนตอรางกาย เชน นํ้าดื่ม นํ้าแร นม นํ้าผักและผลไม นํ้าสมุนไพร) 13. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 ขั้นที่ 5 สรุป 14. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันเขียนสรุป ความรู เรื่อง ชนิดของเครื่องดื่มและหลักการ เลือกบริโภคเครื่องดื่ม ลงในกระดาษ A4 นําสงครูผูสอน นํา สอน สรุป ประเมิน T41


Click to View FlipBook Version