ม.๒ การงานอาชีพ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เพ็ญพร ประมวลสุข วรรณี วงศ์พานิชย์ มนตรี สมไร่ขิง ศิริรัตน์ ฉัตรศิขรินทร ดร.สถิตย์พงษ์ มั่นหลำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ flêÐúôĀÖ úèĀÖùĆüċòĄñè..................................................................................................................................................................................... ÕÐ.- ĎéêòÿÐĀèÓćâïāíùĆēüÐāòċòĄñèòĈśÑüÖùĘāèĀÐíăðíŞċüÐÙè úèĀÖùĆüċòĄñè òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄí ð ĝ ÙĀĔèðĀçñð÷ąÐøāêŒæĄē ĝ ÐôćŚðùāòÿÐāòċòĄñèòĈśÐāòÖāèüāÙĄí ċôŚðèĄĔ ×ĀãíăðíŞčãñ éòăøĀæ üĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞ ü׿ ×ĘāÐĀã ùĘāúòĀéĎÙśêòÿÐüéÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäòČÐèÐôāÖÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāè íćæç÷ĀÐòāÙ ĝĠĠĜčãñðĄčÓòÖùòśāÖċèĆĔüúāäāðæĄēéòăøĀæÐĘāúèãČôÿðĄëĈśċòĄñéċòĄñÖëĈśäòö× ČôÿéòòâāçăÐāò ãĀÖèĄĔ ëĈśċòĄñéċòĄñÖ Ĝ ë÷ċíĒÜíò êòÿðöôùćÑ ĝ èāÖöòò⥠öÖ÷ŞíāèăÙñŞ Ğ èāñðèäòĄùðďòŚÑăÖ ğ èāÖ÷ăòăòĀäèŞØĀäò÷ăÑòăèæò Ġ ãòùåăäñŞíÖøŞðĀēèúôĘā ëĈśäòö× Ĝ ò÷×üðÑöĀÜ ùćöòòâòĀÐøŞ ĝ ë÷ ãòċéÜÜā ðÿčèÙĀñ Ğ èāÖùćÙĄòā ċùāòŞèśüñ éòòâāçăÐāò Ĝ èāñêŠÜÜā ùĀÖÑŞïăòðñŞ ĝ èāñùðċÐĄñòäă ïĈŚòÿúÖøŞ éòăøĀæÑüòĀéòüÖöŚā ÓâÿëĈśäòö×ČôÿéòòâāçăÐāòãĀÖÐôŚāö ċêŢèëĈśðĄÓćâùðéĀäăċêŢèďê äāðúôĀÐċÐâàŞČôÿċÖĆēüèďÑæĄēùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèÐĘāúèã ÚąēÖďãś æĘāúèśāæĄēäòö×íă×āòâāÓćâïāíČôÿéòòâāçăÐāòúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔĎúśðĄÓöāðåĈÐäśüÖČôÿðĄÓćâïāí ĎèÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäò úāÐúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔðĄÑśüéÐíòŚüÖéòăøĀæ×ÿêòĀéêòćÖČÐśďÑČôÿùŚÖúèĀÖùĆüæĄēêòĀéêòćÖČôśö Ďúśùåāè÷ąÐøā ĎèÐòâĄðĄċèĆĔüúāďðŚåĈÐäśüÖ ďðŚċúðāÿùð ðĄëôċùĄñäŚüÐāòċòĄñèòĈś ÐŚüĎúśċÐăã ëôċùĄñúāñäŚüÐāò÷ąÐøā Óćâçòòð ×òăñçòòð ČôÿÓöāððĀēèÓÖÑüÖÙāäă éòăøĀæñăèãĄĎúś ùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèåüãåüèòāñÙĆēüüüÐ×āÐéĀÜÙĄêòÿÐā÷ÐĘāúèã úèĀÖùĆüċòĄñè Čôÿíòśüð×ÿċòĄñÐċÐĒéúèĀÖùĆüæĄē×ĘāúèŚāñæĀĔÖúðã ČôÿÙãĎÙśÓŚāċùĄñúāñĎúśÐĀé ùåāè÷ąÐøā èāñÙĀñâòÖÓŞ ôăðêřÐăääăùăè ÐòòðÐāòëĈś×ĀãÐāòéòăøĀæüĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞü׿×ĘāÐĀã òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄíČôÿċæÓčèčôñĄ ðĝ คู่มือครู บร. วิทยาศาสตร์ ม.2 ล.1 300.- 8 858649 121349 สร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ระดับโลก คู่มือครู นร. การงานอาชีพ ม.2 300.- 8 858649 144126 ใช้ประกอบการสอนคู่กับหนังสือเรียน คู่มือครู อจท. เพิ่ม คำแนะนำการใช้ เพิ่ม คำอธิบายรายวิชา เพิ่ม Pedagogy เพิ่ม Teacher Guide Overview เพิ่ม Chapter Overview เพิ่ม ข้อสอบเน้นการคิด เพิ่ม กิจกรรม 21 Century Skills st ราคานี้เป็นของฉบับคู่มือครูเท่านั้น >> ราคาเล่มนักเรียนโปรดดูจากใบสั่งซื้อของ อจท. บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทร. 0 2622 2999 (อัตโนมัติ 20 คู่สาย) ID Line: @aksornkrumattayom www.aksorn.com อักษรเจริญทัศน์ อจท. ภาพปกนี้มีขนาดเท่ากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน ผู้เรียบเรียงคู่มือครู พรรณมณฑ์ นิลนฤนาท อัญชลี ฉายแสงจันทร์ แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน คู่มือครู ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹ ¡ÒçҹÍÒªÕ¾ Á. ๒ ม.๒ การงานอาชีพ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เพ็ญพร ประมวลสุข วรรณี วงศ์พานิชย์ มนตรี สมไร่ขิง ศิริรัตน์ ฉัตรศิขรินทร ดร.สถิตย์พงษ์ มั่นหลำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ flêÐúôĀÖ úèĀÖùĆüċòĄñè..................................................................................................................................................................................... ÕÐ.- ĎéêòÿÐĀèÓćâïāíùĆēüÐāòċòĄñèòĈśÑüÖùĘāèĀÐíăðíŞċüÐÙè úèĀÖùĆüċòĄñè òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄí ð ĝ ÙĀĔèðĀçñð÷ąÐøāêŒæĄē ĝ ÐôćŚðùāòÿÐāòċòĄñèòĈśÐāòÖāèüāÙĄí ċôŚðèĄĔ ×ĀãíăðíŞčãñ éòăøĀæ üĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞ ü׿ ×ĘāÐĀã ùĘāúòĀéĎÙśêòÿÐüéÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäòČÐèÐôāÖÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāè íćæç÷ĀÐòāÙ ĝĠĠĜčãñðĄčÓòÖùòśāÖċèĆĔüúāäāðæĄēéòăøĀæÐĘāúèãČôÿðĄëĈśċòĄñéċòĄñÖëĈśäòö× ČôÿéòòâāçăÐāò ãĀÖèĄĔ ëĈśċòĄñéċòĄñÖ Ĝ ë÷ċíĒÜíò êòÿðöôùćÑ ĝ èāÖöòò⥠öÖ÷ŞíāèăÙñŞ Ğ èāñðèäòĄùðďòŚÑăÖ ğ èāÖ÷ăòăòĀäèŞØĀäò÷ăÑòăèæò Ġ ãòùåăäñŞíÖøŞðĀēèúôĘā ëĈśäòö× Ĝ ò÷×üðÑöĀÜ ùćöòòâòĀÐøŞ ĝ ë÷ ãòċéÜÜā ðÿčèÙĀñ Ğ èāÖùćÙĄòā ċùāòŞèśüñ éòòâāçăÐāò Ĝ èāñêŠÜÜā ùĀÖÑŞïăòðñŞ ĝ èāñùðċÐĄñòäă ïĈŚòÿúÖøŞ éòăøĀæÑüòĀéòüÖöŚā ÓâÿëĈśäòö×ČôÿéòòâāçăÐāòãĀÖÐôŚāö ċêŢèëĈśðĄÓćâùðéĀäăċêŢèďê äāðúôĀÐċÐâàŞČôÿċÖĆēüèďÑæĄēùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèÐĘāúèã ÚąēÖďãś æĘāúèśāæĄēäòö×íă×āòâāÓćâïāíČôÿéòòâāçăÐāòúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔĎúśðĄÓöāðåĈÐäśüÖČôÿðĄÓćâïāí ĎèÐāò×ĀãÐāòċòĄñèòĈśäāðúôĀÐùĈäò úāÐúèĀÖùĆüċôŚðèĄĔðĄÑśüéÐíòŚüÖéòăøĀæ×ÿêòĀéêòćÖČÐśďÑČôÿùŚÖúèĀÖùĆüæĄēêòĀéêòćÖČôśö Ďúśùåāè÷ąÐøā ĎèÐòâĄðĄċèĆĔüúāďðŚåĈÐäśüÖ ďðŚċúðāÿùð ðĄëôċùĄñäŚüÐāòċòĄñèòĈś ÐŚüĎúśċÐăã ëôċùĄñúāñäŚüÐāò÷ąÐøā Óćâçòòð ×òăñçòòð ČôÿÓöāððĀēèÓÖÑüÖÙāäă éòăøĀæñăèãĄĎúś ùĘāèĀÐÖāèÓâÿÐòòðÐāòÐāò÷ąÐøāÑĀĔèíĆĔèßāèåüãåüèòāñÙĆēüüüÐ×āÐéĀÜÙĄêòÿÐā÷ÐĘāúèã úèĀÖùĆüċòĄñè Čôÿíòśüð×ÿċòĄñÐċÐĒéúèĀÖùĆüæĄē×ĘāúèŚāñæĀĔÖúðã ČôÿÙãĎÙśÓŚāċùĄñúāñĎúśÐĀé ùåāè÷ąÐøā èāñÙĀñâòÖÓŞ ôăðêřÐăääăùăè ÐòòðÐāòëĈś×ĀãÐāòéòăøĀæüĀÐøòċ×òăÜæĀ÷èŞü׿×ĘāÐĀã òāñöăÙāíĆĔèßāè ÐāòÖāèüāÙĄíČôÿċæÓčèčôñĄ ðĝ คู่มือครู บร. วิทยาศาสตร์ ม.2 ล.1 300.- 8 858649 121349 สร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ระดับโลก คู่มือครู นร. การงานอาชีพ ม.2 300.- 8 858649 144126 ใช้ประกอบการสอนคู่กับหนังสือเรียน คู่มือครู อจท. เพิ่ม คำแนะนำการใช้ เพิ่ม คำอธิบายรายวิชา เพิ่ม Pedagogy เพิ่ม Teacher Guide Overview เพิ่ม Chapter Overview เพิ่ม ข้อสอบเน้นการคิด เพิ่ม กิจกรรม 21 Century Skills st ราคานี้เป็นของฉบับคู่มือครูเท่านั้น >> ราคาเล่มนักเรียนโปรดดูจากใบสั่งซื้อของ อจท. บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด 142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทร. 0 2622 2999 (อัตโนมัติ 20 คู่สาย) ID Line: @aksornkrumattayom www.aksorn.com อักษรเจริญทัศน์ อจท. ภาพปกนี้มีขนาดเท่ากับหนังสือเรียนฉบับจริงของนักเรียน ผู้เรียบเรียงคู่มือครู พรรณมณฑ์ นิลนฤนาท อัญชลี ฉายแสงจันทร์ แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน แจกฟรี เฉพาะครูผู้สอน คู่มือครู ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ÃÒÂÇÔªÒ¾×é¹°Ò¹ ¡ÒçҹÍÒªÕ¾ Á. ๒
คำู่มือคำรู Teacher Script ผู้เรียบเรียงหนังสือเรียน ผศ.เพ็ญพร ประมวลสุข นางวรรณี วงศ์พานิชย์ นายมนตรี สมไร่ขิง นางศิริรัตน์ ฉัตรศิขรินทร ดร.สถิตย์พงษ์ มั่นหล�า ผู้เรียบเรียงคู่มือครู นางสาวพรรณมณฑ์ ันิลนฤนาท นางสาวอัญชลี ัฉายแสงจันทร์ ผู้ตรวจหนังสือเรียน รศ.จอมขวัญ สุวรรณรักษ์ ผศ. ดร.เบญญา มะโนชัย นางสุชีรา เสาร์น้อย บรรณาธิการหนังสือเรียน นายปัญญา สังข์ภิิรมย์ นายสมเกียรติ ภิู่ระหงษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 2 ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำรงำนอำชีพ ม.2 พิมพครั้งที่ 5 สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ รหัสสินคา : 2247016
ปจจุบันมีเครื่องดื่มหลายชนิด ทั้งน�้าผักและผลไม้ น�้าสมุนไพร ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย ท�าให้ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณสดใส ผู้บริโภคจึงควรเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมและผลิตเครื่องดื่ม ไว้บริโภคเอง เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือท�าเป็นอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้ ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) ó หน่วยการเรียนรู้ที่ à¤Ã×èͧ´×èÁ áÅСÒúÃÔ¡Òà เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับเครื่องดื่มและการบริการใหนักเรียน ฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ เรื่องเครื่องดื่มและการบริการ ใชทักษะการ แสวงหาความรูและทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางานอยางเปนขั้นตอน ในการเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม ใชทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานไดอยางประหยัดและคุมคา โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิด ความรู ความเขาใจเกี่ยวกับทักษะตางๆ ที่มีความเกี่ยวของกับเครื่องดื่ม และการบริการ • ใหนักเรียนจําแนกประเภทของเครื่องดื่ม อธิบายประโยชนและโทษของ เครื่องดื่มแตละชนิดได • ใหนักเรียนฝกเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม ขั้นนํา (เนนทักษะกระบวนการเรียนความรู ความเขาใจ) 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนชอบเครื่องดื่มชนิดใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ชอบดื่มนมรสจืด เพราะ ชวยใหรางกายเจริญเติบโตและแข็งแรง ชวยซอมแซมสวนที่สึกหรอ ชอบดื่มนํ้าผลไม เพราะดื่มแลวใหความรูสึกสดชื่น ทั้งยังมี คุณคาทางโภชนาการสูงอีกดวย ชอบดื่ม นํ้าอัดลม เพราะดื่มแลวใหความรูสึกสดชื่น กระปรี้กระเปรา และมีรสชาติอรอย ชอบ ดื่มนํ้าเปลา เพราะมีประโยชนตอรางกาย และเปนสิ่งที่จําเปนตอรางกายเปนอยางยิ่ง) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เครื่องดื่มที่นักเรียน ชื่นชอบมีทั้งเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอรางกาย และเครื่องดื่มที่ใหโทษตอรางกาย หากดื่มใน ปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งในปจจุบันมีเครื่องดื่ม ที่ผลิตและจําหนายอยูหลายชนิด จึงควรเลือก ดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอรางกาย เพราะ จะชวยใหรางกายแข็งแรงและเจริญเติบโตได อยางสมบูรณ” 4. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • หากที่บานปลูกผักสวนครัวไวหลายชนิด นักเรียนจะนําผักเหลานั้นมาประกอบเปน เครื่องดื่มชนิดใดไดบาง และจะมีขั้นตอน ในการทําอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ทํานํ้าขิงมะนาว โดยมี ขั้นตอนการทํา คือ เตรียมนํ้าอุน 1 แกว ฝานเหงาขิงขนาด 1 2 นิ้ว นําไปแชนํ้าอุน นาน 3-5 นาที ฝานมะนาวเปนชิ้นบางๆ นํา ลงไปแช หากตองการใหมีรสชาติหวานให เติมนํ้าผึ้งลงไปตามตองการ) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T38 โซน 1 โซน 2 โซน 3 ค�ำแนะน�ำกำรใช้ โซน 2 โดยประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ส�าหรับ ครู เพื่อน�าไปประยุกต์ใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน ช่วยครูเตรียมสอน เกร็ดแนะครู ความรู้เสริมส�าหรับครู ข้อเสนอแนะ ข้อสังเกต แนวทางการจัด กิจกรรมและอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอน นักเรียนควรรู ความรู้เพิ่มเติมจากเนื้อหา ส�าหรับอธิบายเสริมเพิ่มเติมให้ กับนักเรียน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ครูผู้สอน โดยแนะน�าขั้นตอนการสอน และการจัดกิจกรรมอย่างละเอียด เพื่อให้นักเรียนบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามตัวชี้วัด ช่วยครูจัด กำรเรียนกำรสอน น�ำ สอน สรุป ประเมิน โซน 1 คู่มือครู รายวิชา การงานอาชีพ ม.2 จัดท�าขึ้นเพื่อให้ครูผู้สอน ใช้เป็นแนวทางวางแผนการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนและประกันคุณภาพผู้เรียน ตามนโยบายของส�านักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) คําแนะนําการใช ชวยสรางความเขาใจ เพื่อใชคูมือครูได อยางถูกตองและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด คําอธิบายรายวิชา แสดงขอบขายเนื้อหาสาระของรายวิชา ซึ่งครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดตามที่หลักสูตร กําหนด Pedagogy ชวยสรางความเขาใจในกระบวนการออกแบบ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ไดอยางมี ประสิทธิภาพ Teacher Guide Overview ชวยใหเห็นภาพรวมของการ จัดการเรียนการสอนทั้งหมดของรายวิชากอนที่จะลงมือ สอนจริง Chapter Overview ชวยสรางความเขาใจและเห็นภาพรวม ในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรูแตละหนวย ขอสอบเนนการคิด เพื่อเตรียมความพรอมของผูเรียน สูการสอบในระดับตาง ๆ กิจกรรม 21st Century Skills กิจกรรมที่จะชวยพัฒนา ผูเรียนใหมีทักษะที่จําเปนสําหรับการเรียนรูและการดํารงชีวิต ในโลกแหงศตวรรษที่ 21 เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม เพิ่ม
ขอสอบเนน การคิด ๑ ชนิดของเครื่องดื่ม ปจจุบันเครื่องดื่มที่ผลิตและจ�าหน่ายอยู่ โดยทั่วไปมีมากมาย หลายชนิด ทั้งแบบที่มีประโยชน์และแบบที่อาจเป็นอันตราย ต่อร่างกาย ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ผู้ผลิตควรเลือกผลิตเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของ ผู้บริโภคให้มากที่สุด ในการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม ผู้บริโภคควรเลือกบริโภค เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ มีคุณค่าต่อร่างกาย และมีความเหมาะสม กับตนเอง เพราะเครื่องดื่มเหล่านั้นจะช่วยเสริมสร้างความ แข็งแรงของร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ช่วยพัฒนา การเจริญเติบโตของร่างกายให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เครื่องดื่ม โดยทั่วไป มีดังนี้ ¹Ñ¡àÃÕ¹ÁÕ¢Ñ鹵͹ ËÃ×ÍÇÔ¸Õ¡Òà »ÃСͺà¤Ã×èͧ´×èÁà¾×èÍÊØ¢ÀÒ¾ äÇŒºÃÔâÀ¤ã¹¤ÃÑÇàÃ×͹Í‹ҧäà สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สรางทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน - การเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม นํ้าดื่ม นํ้าหวานผสมสี นํ้าหวานอัดแกส นํ้าแร่ น�้าสะอาด ปราศจากเชื้อโรค พยาธิ และสารเคมีที่มีพิษต ่อ ร ่างกาย มีคุณภาพตรงตาม มาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก ได้ก�าหนดไว้ ไม่มีรสชาติ และไม่ อัดลม เครื่องดื่มที่ ไม่มีแอลกอฮอล์ ประกอบด้วยน�้าตาลละลายน�้า มีการแต่งสี กลิ่น รส และใส่สาร กันเสีย ก่อนดื่มต้องมีการเติมน�้า ให้เจือจางก่อน น�้าที่ ได้จากแหล ่งน�้าที่เกิด ขึ้นเองตามธรรมชาติมีแร ่ธาตุ บางชนิดผสมอยู ่ ในปริมาณที่ เหมาะสม แร่ธาตุที่ส�าคัญ เช่น แคลเซียม ฟลูออไรด์ แมกนีเซียม เครื่องดื่มที่ท�าจากน�้าหวาน มีการแต่งสี กลิ่น รส และเติม กรด เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ กรดจากผลส้ม เมื่อดื่มแล้วจะให้ ความรู้สึกสดชื่น เครื่องดื่ม และการบริการ 33 นํ้าดื่ม นํ้าแร่ กันเสีย ก่อนดื่มต้องมีการเติมน�้า มีการแต่งสี กลิ่น รส และใส่สาร 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • เครื่องดื่มแบงออกเปนกี่ชนิด และมีชนิดใด ที่นักเรียนเคยดื่ม (แนวตอบ เครื่องดื่มจะมีเกณฑในการแบง ชนิดหลายวิธี เชน แบงออกเปน 5 กลุมหลัก ไดแก กลุมนํ้าดื่มและนํ้าแร กลุมซอฟตดริงก เชน โซดา โคลา นํ้าผักและผลไม กลุม นํ้าหวาน เชน นํ้าหวานผสมสี นํ้าหวาน อัดแกส กลุมนม เชน นมปรุงแตง นมเปรี้ยว นํ้านมจากพืช และกลุมอื่นๆ เชน ชา กาแฟ โกโก ซึ่งเครื่องดื่มที่เคยดื่มมีหลายชนิด เชน นํ้าแร นํ้าผักและผลไม นมเปรี้ยว นํ้าอัดลม นํ้าหวานผสมสี โกโก) 2. ครูใหนักเรียนดูภาพเครื่องดื่มชนิดตางๆ และใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวา เครื่องดื่มชนิดใดมีประโยชนตอรางกายและ เครื่องดื่มชนิดใดหากบริโภคมากเกินไปจะเปน อันตรายตอรางกาย 3. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนจะมีวิธีในการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม เพื่อใหเกิดประโยชนตอรางกายไดอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน การเลือกเครื่องดื่มเพื่อใหเกิด ประโยชนตอรางกาย ควรเลือกดื่มนํ้าเปลา เพราะมีประโยชนตอรางกาย ชวยเผาผลาญ พลังงาน ชวยขับถายของเสียโดยเฉพาะ ไขมันที่ตองกําจัดออก ทําใหรางกายทํางาน ไดอยางมีประสิทธิภาพมากขึ้น) 4. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิด ของเครื่องดื่ม จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 3 นักเรียนควรรู 1 นํ้าดื่ม ในแตละวันควรดื่มนํ้าใหเพียงพอตอความตองการของรางกาย และดื่มใหถูกเวลา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใหแกรางกาย คือ ดื่มนํ้าใหไดวันละ 6-9 แกว ดื่มนํ้า 2 แกว เมื่อตื่นนอน ชวยกระตุนการทํางานของอวัยวะภายใน ดื่มนํ้า 1 แกว กอนมื้ออาหาร 30 นาที ชวยใหระบบการยอยอาหารดีขึ้น ดื่มนํ้า 1 แกว กอนอาบนํ้า ชวยลดความดันโลหิต ดื่มนํ้า 1 แกว กอนเขานอน ชวยหลีกเลี่ยงภาวะเสนเลือดในสมองแตก 2 นํ้าแร เปนแหลงนํ้าธรรมชาติที่อุดมไปดวยแรธาตุหลายชนิด โดยสิ่งที่ ทําใหนํ้าแรมีความแตกตางไปจากนํ้าดื่มก็คือปริมาณแรธาตุที่มีอยูนอยกวา ควรดื่มนํ้าแรในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากมีแรธาตุเขาไปสะสมอยูมาก จะทําใหรางกายเสียสมดุล 3 สารกันเสีย เรียกอีกอยางหนึ่งวา “สารกันบูด” หรือ “วัตถุกันเสีย” (Presevatives) เปนสารเคมีที่นิยมนํามาใชในการถนอมอาหาร ทําหนาที่ในการ ยับยั้ง หรือทําลายจุลินทรียที่ทําใหอาหารเกิดการเนาเสีย บุคคลในขอใดเลือกบริโภคเครื่องดื่มไดอยางเหมาะสม 1. นลินจะเลือกดื่มเฉพาะนํ้าแรเทานั้น 2. นาราดื่มนมรอนกอนนอนเปนประจําทุกคืน 3. นาธานซื้อกาแฟเย็นมาดื่มอยางนอยวันละ 4 แกว 4. นภัทรชอบชวนเพื่อนไปดื่มสุราหลังเลิกงานทุกวันศุกร (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการดื่มนมกอนนอนมี ประโยชนในหลายๆ ดาน เชน แกอาการนอนไมหลับ ทําใหนอนหลับ สบาย ชวยเสริมสรางความแข็งแรงใหกับกระดูก ปองกันอาการเปน ตะคริว ปองกันโรคหัวใจ แกปวดทองประจําเดือน แกปวดศีรษะ ชวยแซมแซมสวนที่สึกหรอของรางกาย ปรับสมดุลการทํางาน ของระบบลําไส ฯลฯ) นํา สอน สรุป ประเมิน T39 โซน 1 โซน 2 โซน 3 ประกอบด้วยแนวทางส�าหรับการจัดกิจกรรมและ เสนอแนะแนวข้อสอบ เพื่ออ�านวยความสะดวกให้แก่ครูผู้สอน โซน 3 ช่วยครูเตรียมนักเรียน แนวทางการวัดและประเมินผล เสนอแนะแนวทางการบรรลุผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่หลักสูตรก�าหนด บูรณาการอาเซียน ความรู้เสริมหรือการเชื่อมโยงในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาคม อาเซียน สื่อ Digital การแนะน�าแหล่งเรียนรู้และแหล่งค้นคว้าจากสื่อ Digital ต่าง ๆ โซน 3 ช่วยครูเตรียมนักเรียน กิจกรรม 21st Century Skills กิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ประยุกต์ใช้ความรู้มาสร้างชิ้นงาน หรือท�ากิจกรรมรวบยอดเพื่อให้เกิดคุณลักษณะที่ระบุในทักษะ แห่งศตวรรษที่ 21 ขอสอบเนนการคิด ตัวอย่างข้อสอบที่มุ่งเน้นการคิด มีทั้งปรนัย-อัตนัย พร้อม เฉลยอย่างละเอียด กิจกรรมเสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค กิจกรรมเสนอแนะแนวทางการเสริมสร้างคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ กิจกรรมทาทาย เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรม เพื่อต่อยอดส�าหรับนักเรียน ที่เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และต้องการท้าทายความสามารถใน ระดับที่สูงขึ้น กิจกรรมสรางเสริม เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมซ่อมเสริมส�าหรับนักเรียนที่ ควรได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ กิจกรรม Mini Project เสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อให้สามารถน�าความรู้ที่ ได้รับมาออกแบบชิ้นงานตามความสนใจ 1 ชิ้น โดยใช้หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 และแบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู การงานอาชีพ ม.2 ของบริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จ�ากัด เป็นสื่อหลัก (Core Material) ประกอบการสอน และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้สอดคล้อง ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ของกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยคู่มือครูมีองค์ประกอบที่ง่ายต่อการใช้งาน ดังนี้
ค�ำอธิบายรายวิชา การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลาเรียน40 ชั่วโมง/ปี ศึกษา ค้นคว้า รวบรวม สังเกต ส�ำรวจ บันทึก และแสวงหาความรู้เพื่อใช้ในการพัฒนาการท�ำงาน การจัด และตกแต่งบ้าน การดูแลรักษาและตกแต่งสวน การจัดการผลผลิต ใช้ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�ำงาน การเตรียมประกอบจัดตกแต่งและบริการเครื่องดื่มการเลี้ยงสัตว์การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในโรงเรียน หรือท้องถิ่น การติดต่อสื่อสารและใช้บริการกับหน่วยงานต่างๆมีจิตส�ำนึกในการท�ำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติ งานอย่างประหยัดและคุ้มค่ามีการเสริมสร้างประสบการณ์อาชีพ การเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพ และมีทักษะพื้นฐานที่จ�ำเป็น ส�ำหรับการประกอบอาชีพที่สนใจ เพื่อให้เกิดความตระหนักและเห็นคุณค ่าของการท�ำงาน มีทักษะกระบวนการท�ำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการท�ำงานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้สามารถน�ำความรู้มาประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจ�ำวันได้มีความสามารถในการตัดสินใจมีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมที่เหมาะสมรวมถึงมีจิตส�ำนึก ในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมอย่างประหยัดและคุ้มค่า ตัวชี้วัด ง 1.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ง 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 รวม 6 ตัวชี้วัด
Pedagogy จัดท�ำขึ้นเพื่อให้ครูผู้สอนน�ำไปใช้เป็นแนวทางวางแผนพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของผู้เรียนโดยสามารถวางแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้หนังสือเรียนรายวิชาการงานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 (ฉบับประกัน) ที่ทางบริษัท อักษรเจริญทัศน์อจท. จ�ำกัด จัดพิมพ์จ�ำหน่าย เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 โดยออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้(Instructional Design) เน้นกระบวนการปฏิบัติโดยใช้โครงการเป็นหลัก(Project-BasedInstruction) รูปแบบการสอนโดยใช้กระบวนการปฏิบัติ วิธีการสอน เทคนิคการสอน • การใช้คำถาม • การเล่นเกม • การใช้ตัวอย่างกระตุ้นความคิด • การใช้สื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจ ทักษะที่ใช้ • การท�ำงานร่วมกัน • การวิเคราะห์ • การมีความคิดสร้างสรรค์ • การคิดอย่างมีเหตุผล • การสังเกต • การสืบค้น • แบบบรรยาย • การสาธิต • การอภิปรายกลุ่มย่อย • การแสดงบทบาทสมมติ • การใช้กรณีตัวอย่าง • การใช้สถานการณ์จำลอง • การใช้ศูนย์การเรียนรู้ • การลงมือปฏิบัติ ด้วยจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนการงานอาชีพ เพื่อช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะพื้นฐานที่จ�ำเป็นต่อการด�ำรงชีวิต รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง น�ำความรู้เกี่ยวกับการด�ำรงชีวิต และการอาชีพ มาประยุกต์ใช้ในการท�ำงานได้อย่างสร้างสรรค์ เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการท�ำงาน มีเจตคติที่ดีต่อ การท�ำงาน สามารถด�ำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียงและมีความสุข ผู้จัดท�ำจึงเลือกใช้รูปแบบการสอนโดยใช้โครงการเป็นหลัก ซึ่งเป็นขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งให้ผู้เรียน แสวงหาประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีประโยชน์ต่อชีวิตประจ�ำวัน โดยใช้ศักยภาพที่ตนเองมีผู้เรียนจะมีส่วนร่วมในการ ก�ำหนดงานที่ท�ำ มุ่งให้ผู้เรียนได้ใช้ทักษะการสืบค้นและการปฏิบัติจริง เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่การปฏิบัติงานอื่นๆในการ ด�ำรงชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับธรรมชาติของวิชาการงานอาชีพ คู่มือครู การงานอาชีพ ม.2
การงานอาชีพ ม.2 หน่วย การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ทักษะที่ได้ เวลา ที่ใช้ การประเมิน สื่อที่ใช้ 1 ทักษะในการ ทำางานเพื่อการ ดำารงชีวิต 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 7 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่1.1.1 เรื่อง กระบวนการ ท�ำงาน 3. ตรวจใบงานที่1.3.1เรื่องการติดต่อสื่อสาร และการใช้บริการกับหน่วยงานต่างๆ 4. ตรวจแผนผังมโนทัศน์เรื่อง วิเคราะห์ผล ของการน�ำคุณธรรมจริยธรรมและการใช้ ทรัพยากรในการปฏิบัติงาน 5. การน�ำเสนอผลงาน 6. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นรายบุคคล 7. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นกลุ่ม 8. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 9. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 2 การจัดตกแต่ง บ้านและ บริเวณบ้าน 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 5 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่2.1.1 เรื่อง การจัดและ ตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ 3. ตรวจใบงานที่2.2.1 เรื่อง การจัดและ ตกแต่งสวน 4. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) เรื่อง บ้านและสวน 5. การน�ำเสนอผลงาน 6. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นรายบุคคล 7. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นกลุ่ม 8. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 9. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 3 เครื่องดื่ม และการบริการ 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 5 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่3.1.1 เรื่อง ชนิดและ หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม 3. ตรวจใบงานที่3.2.1 เรื่อง เครื่องดื่มที่ ฉันเลือก 4. ตรวจใบงานที่3.3.1 เรื่อง ออกแบบการ จัดและตกแต่งเครื่องดื่ม 5. ตรวจใบงานที่3.3.2 เรื่อง การบริการ เครื่องดื่ม 6. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) เรื่อง เครื่องดื่มและการบริการ 7. การน�ำเสนอผลงาน 8. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานรายบุคคล 9. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม 10. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 11. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint Teacher Guide Overview
หน่วย การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ทักษะที่ได้ เวลา ที่ใช้ การประเมิน สื่อที่ใช้ 4 งานช่างในบ้าน 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 5 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจป้ายนิเทศ เรื่อง การฝึกงานช่าง 3. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ซ่อมได้ 4. การน�ำเสนอผลงาน 5. สังเกตพฤติกรรมการทำ� งานเป็นรายบุคคล 6. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นกลุ่ม 7. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 5 การประดิษฐ์ ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 8 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่5.1.1 เรื่อง การวางแผน ประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่ง 3. ตรวจการประดิษฐ์แจกันจากขวดพลาสติก 4. ตรวจการสร้างบรรจุภัณฑ์ของงานประดิษฐ์ 5. ตรวจการจัดจ�ำหน่ายผลงานประดิษฐ์ 6. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) เรื่อง การจัดจ�ำหน่ายงานประดิษฐ์ 7. การน�ำเสนอผลงาน 8. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นรายบุคคล 9. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นกลุ่ม 10. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 11. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 6 การเลี้ยงสัตว์ ในบริเวณบ้าน 1. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้ เพื่อพัฒนา การท�ำงาน 2. ใช้ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหาในการ ท�ำงาน 3. มีจิตส�ำนึกในการ ท�ำงานและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 6 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่6.1.1 เรื่อง สัตว์เลี้ยงใน บริเวณบ้าน 3. ตรวจใบงานที่6.2.1 เรื่อง การเลี้ยงปลา สวยงาม 4. ตรวจใบงานที่6.3.1 เรื่อง การวางแผน เลี้ยงไก่ไข่ 5. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) เรื่องการวางแผนเลี้ยงสัตว์ในบริเวณบ้าน 6. การน�ำเสนอผลงาน 7. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นรายบุคคล 8. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานเป็นกลุ่ม 9. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 10. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint 7 การเสริมสร้าง ประสบการณ์ เพื่อเข้าสู่อาชีพ 1. อธิบายการเสริมสร้าง ประสบการณ์อาชีพ 2. ระบุการเตรียมตัว เข้าสู่อาชีพ 3. มีทักษะพื้นฐานที่ จ�ำเป็นส�ำหรับการ ประกอบอาชีพที่ สนใจ 1. ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น 2. ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา 3. ทักษะการให้เหตุผล 4 ชั่วโมง 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจใบงานที่ 7.2.1 เรื่อง การเตรียม ความพร้อมก่อนการสมัครงาน 3. ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพ 4. การน�ำเสนอผลงาน 5. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานรายบุคคล 6. สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม 7. สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - หนังสือเรียนการงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - PowerPoint
สารบัญ Chapter Title Chapter Overview Teacher Script หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ทักษะในการทำงานเพื่อการ ดำรงชีวิต T2-T3 T4 • ทักษะเพื่อพัฒนาการท�ำงาน • คุณธรรมและจริยธรรมในการท�ำงาน • การใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงาน • การติดต่อสื่อสารและการใช้บริการกับหน่วยงานต่างๆ T5-T8 T8 T9 T10-T11 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การจัดตกแต่งบ้านและ บริเวณบ้าน T12-T13 T14 • ประเภทของบ้าน • ลักษณะของบ้านที่น่าอยู่ • หลักการจัดและตกแต่งบ้าน • เครื่องใช้และของประดับในการจัดและตกแต่งบ้าน • การจัดและตกแต่งบ้าน • การจัดและตกแต่งสวนในบริเวณบ้าน T15 T16 T17-T19 T20-T22 T23-T25 T26-T35 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เครื่องดื่มและการบริการ T36-T37 T38 • ชนิดของเครื่องดื่ม • หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม • การประกอบเครื่องดื่ม • ตัวอย่างการประกอบเครื่องดื่ม • การจัดและตกแต่งเครื่องดื่ม • การบริการเครื่องดื่ม T39-T41 T42 T43-T45 T46-T49 T50-T51 T52-T53 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 งานช่างในบ้าน T54-T55 T56 • ความส�ำคัญของงานช่างในบ้าน • ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติงานช่างในบ้าน • งานช่างในบ้านที่ส�ำคัญ • ขั้นตอนการปฏิบัติงานช่างในบ้าน • ตัวอย่างการปฏิบัติงานช่างในบ้าน T57 T57 T58 T58-T59 T60-T73
Chapter Title Chapter Overview Teacher Script หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 กำรประดิษฐของใช้จำกวัสดุ ในท้องถิ่น T74-T75 T76 • ความส�าคัญของการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง • ประโยชน์ที่ได้รับจากการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง • หลักการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง • ตัวอย่างการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในโรงเรียน หรือท้องถิ่น • การจัดการกับผลงานประดิษฐ์ • การจัดจ�าหน่ายผลงานประดิษฐ์ T77 T77 T78-T79 T80-T87 T88-T92 T93-T99 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 กำรเลี้ยงสัตวในบริเวณบ้ำน T100-T101 T102 • ความส�าคัญของการเลี้ยงสัตว์ในบริเวณบ้าน • ปจจัยของการเลี้ยงสัตว์ในบริเวณบ้าน • ประเภทของสัตว์เลี้ยงในบริเวณบ้าน • ตัวอย่างการเลี้ยงสัตว์ในบริเวณบ้าน T103 T104 T104 T105-T121 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 กำรเสริมสร้ำงประสบกำรณ เพื่อเข้ำสู่อำชีพ T122-T123 T124 • การเสริมสร้างประสบการณ์อาชีพ • การเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพ T125-T131 T132-T138 บรรณำนุกรม T139-T140
Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ทักษะเพื่อการ ท�ำงาน 3 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายทักษะการ แสวงหาความรู้และ กระบวนการแก้ปัญหา ในการท�ำงานได้อย่าง ถูกต้องและเหมาะสม 2. ใช้ทักษะการแสวงหา ความรู้และกระบวนการ แก้ปัญหาในการท�ำงาน ได้อย่างเหมาะสม 3. มีความกระตือรือร้น ที่จะแสวงหาความรู้ และแก้ปัญหาตาม กระบวนการในการ ท�ำงานได้อย่าง เหมาะสม แบบเน้น กระบวนการ อุปนัย - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 1.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 2 คุณธรรม จริยธรรม และ การใช้ทรัพยากร ในการปฏิบัติงาน 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. บอกคุณธรรมจริยธรรม และการใช้ทรัพยากรที่มี ความส�ำคัญในการ ปฏิบัติงานได้อย่าง เหมาะสม 2. วิเคราะห์ผลของการน�ำ คุณธรรม จริยธรรม และการใช้ทรัพยากร ในการปฏิบัติงานได้ อย่างถูกต้อง 3. ปฏิบัติงานโดยน�ำ คุณธรรม จริยธรรม และการใช้ทรัพยากร อย่างคุ้มค่ามาใช้ในการ ปฏิบัติงานได้อย่าง เหมาะสม 4. มีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับ คุณธรรม จริยธรรม และการใช้ทรัพยากร อย่างคุ้มค่าในการ ปฏิบัติงานที่จะน�ำไป ปรับใช้ในชีวิตประจ�ำวัน แบบเน้น กระบวนการ สร้างความ ตระหนัก - ตรวจแผนผังมโนทัศน์ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T2
แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 3 การติดต่อ สื่อสารและ การใช้บริการกับ หน่วยงานต่าง ๆ 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบหลังเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายความส�ำคัญ วิธีการติดต่อสื่อสาร และการใช้บริการกับ หน่วยงานต่างๆ ได้ อย่างถูกต้อง 2. ติดต่อสื่อสารและใช้ บริการกับหน่วยงาน ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม 3. เห็นความส�ำคัญ ของการติดต่อสื่อสาร และการใช้บริการกับ หน่วยงานต่างๆ และน�ำไปปฏิบัติ อย่างสม�่ำเสมอในการ ด�ำเนินชีวิตประจ�ำวัน แบบเน้น กระบวนการ อุปนัย - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจใบงานที่ 1.3.1 - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T3
ในการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต อาจมีปัญหาที่ต้องแก้ไข เพื่อให้งานส�าเร็จตามเป้าหมาย ซึ่งต้องใช้ทักษะหลากหลายทั้งทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการสื่อสาร และอื่น ๆ การเรียนรู้ และการท�าความเข้าใจทักษะต่าง ๆ จะช่วยให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยัง เป็นรากฐานในการท�างานต่อไปในอนาคต ช่วยสร้างจิตส�านึกในการท�างานและใช้ทรัพยากร ในการปฏิบัติงานอย่างประหยัด คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพสูงสุด ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) ñ หน่วยการเรียนรู้ที่ ·Ñ¡ÉÐ㹡Ò÷íÒ§Ò¹ à¾×èÍ¡ÒôíÒçªÕÇÔµ ขั้นนํา (เนนกระบวนการอุปนัย) 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • หากตองทํางานรวมกับผูอื่น ควรนําทักษะใด มาประยุกตใช เพื่อใหการทํางานสําเร็จลุลวง ตามที่ไดรับมอบหมายอยางมีประสิทธิภาพ (แนวตอบ ควรนําทักษะการทํางานรวมกัน มาประยุกตใชในการทํางานรวมกับผูอื่น ซึ่งทักษะนี้จะมีการเลือกหัวหนากลุมจาก สมาชิกภายในกลุม มีการกําหนดเปาหมาย และวางแผนการทํางานรวมกัน มีการแบง หนาที่การทํางานตามความถนัดและความ สามารถของแตละบุคคล มีการติดตามและ ประเมินผล เพื่อนําผลที่ไดรับมาปรับปรุง แกไขผลงานใหเกิดความสมบูรณและ มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การทํางานรวมกับผูอื่น จะกอใหเกิดทักษะตางๆ อยางหลากหลาย เชน การทําสิ่งประดิษฐเขาแขงขัน การขับรอง เพลงประสานเสียง การทํางานกลุมตามที่ได รับมอบหมาย” 4. ครูนําสิ่งประดิษฐที่เปนของใช ของตกแตงจาก วัสดุในทองถิ่นมาใหนักเรียนดู เพื่อใหนักเรียน ฝกการสังเกตและเรียนรูจากตัวอยาง จากนั้น ครูอธิบายเสริมวา “สิ่งประดิษฐชิ้นนี้คือสิ่งใด วิธีการประดิษฐและวัสดุในทองถิ่นที่นํามาใช คือสิ่งใด หาไดจากแหลงใด เพราะเหตุใดจึง เลือกใชวัสดุชนิดนี้ สิ่งประดิษฐนี้มีประโยชน ตอการดํารงชีวิตประจําวันอยางไร” เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับทักษะในการทํางานเพื่อการดํารงชีวิตใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเรื่องทักษะในการทํางาน ที่มากขึ้น ใชทักษะเพื่อพัฒนาการทํางานไดอยางถูกตองและเหมาะสม มีทักษะการแสวงหาความรู ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีคุณธรรม และจริยธรรมในการทํางาน ใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานไดอยางประหยัดและคุมคา สามารถติดตอสื่อสารและใชบริการกับหนวยงานตางๆ ได โดยสามารถ จัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับทักษะในการทํางานเพื่อการดํารงชีวิต • ใหนักเรียนเขียนบันทึกเกี่ยวกับปญหาในการทํางานของนักเรียนที่ผานมา เพื่อวิเคราะหถึงปญหาในการทํางานและทําการแกปญหาไดอยางถูกตอง และถูกวิธี • ใหนักเรียนทําแผนพับนําเสนอวิธีการติดตอสื่อสารกับหนวยงานตางๆ เพื่อใหสามารถติดตอสื่อสารกับหนวยงานดังกลาวไดอยางถูกตองและเหมาะสม นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T4
ขอสอบเนน การคิด ๑ ทักษะเพื่อพัฒนาการทำางาน การน�าความรู้ ความสามารถ เทคนิค วิธีการต่าง ๆ มาใช้ ในวิชาการงานอาชีพฯ ผู้ปฏิบัติงานจะต้องมีความรู้ ความสามารถ ในการท�างาน มีทักษะการวิเคราะห์ วางแผนอย่างเป็นขั้นตอน สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาและบริหารจัดการได้ดี มีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักปรับตัวและท�างานร่วมกับเพื่อนและ ผู้อื่นได้ เพื่อให้การท�างานเกิดประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังต้อง เรียนรู้และพัฒนาการท�างานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทักษะเพื่อการ พัฒนาการท�างานที่ส�าคัญ มีดังนี้ ๑.๑ ทักษะการแสวงหาความรู้ การท�างานให้ประสบผลส�าเร็จ จะต้องพัฒนาตนเองอยู่ ตลอดเวลา เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง การแข่งขัน จึงต้อง แสวงหาความรู้ เพื่อน�าความรู้มาใช้และพัฒนาการท�างาน ๑) วิธีการแสวงหาความรู้ เป็นการศึกษาหาความรู้ การฝกฝน เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ น�าความรู้มาประยุกต์ใช้ใน การท�างานได้อย่างเหมาะสม โดยวิธีการแสวงหาความรู้ มีดังนี้ ËÒ¡µŒÍ§·Ó§Ò¹Ã‹ÇÁ¡Ñº¼ÙŒÍ×è¹ ¤ÇùӷѡÉÐã´ÁÒ㪌 à¾×èÍ ãËŒ·Ó§Ò¹ÅØÅ‹Ç§µÒÁ·Õèä´ŒÃѺ ÁͺËÁÒÂÍ‹ҧÁÕ»ÃÐÊÔ·¸ÔÀÒ¾ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกตและประเมินทางเลือก เชน - การติดตอสื่อสารและใชบริการกับหนวยงานตางๆ ■ การมีจิตสํานึกและใชทรัพยากรอยางประหยัดและคุมคา • พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้น หรือ สิ่งที่ได้พบอย่างใส่ใจ • วิเคราะห์หาความสัมพันธ์ ของสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งอื่น ๆ • เมื่อเกิดข้อสงสัยควร ซักถามทันที • ซักถามด้วยเหตุผล เพื่อ ให้เกิดความชัดเจนในเรื่อง นั้น ๆ • รับฟังผู้อื่นอย่างเปดใจ และ ไม่มีอคติ • จับประเด็นจากผู้พูด พร้อม ตั้งค�าถามจากสิ่งที่ได้ฟัง • ศึกษาหาความรู้จากเอกสาร ต�ารา สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ต่าง ๆ • น�าสิ่งที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้ ในการท�างาน การสังเกต การซักถาม การฟัง การอ่าน ทักษะในการท�างาน เพื่อการด�ารงชีวิต ๓ ในการท�างาน มีทักษะการวิเคราะห์ วางแผนอย่างเป็นขั้นตอน การท�างานให้ประสบผลส�าเร็จ จะต้องพัฒนาตนเองอยู่ ต�ารา สื่ออิเล็กทรอนิกส์ 1 2 3 ขั้นนํา 5. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนจะมีวิธีการอยางไร เพื่อใหทราบวา ในทองถิ่นของตนมีการนําวัสดุในทองถิ่น ชนิดใดมาประดิษฐของใช ของตกแตง (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) • ในปจจุบันมีชองทางในการแสวงหาความรู ที่หลากหลาย นักเรียนมีวิธีการอยางไร เพื่อใหไดมาซึ่งขอมูลที่ถูกตองและมีความ นาเชื่อถือ (แนวตอบ เมื่อไดขอมูลที่ตองการมาจะตอง ทําการคัดกรองขอมูลกอน เมื่อตองการนํา ขอมูลไปใชตองใชวิจารณญาณในการเลือก ใชขอมูลที่ถูกตอง เปนเหตุเปนผล โดยผาน ขั้นตอนการวิเคราะหและสังเคราะหขอมูล อยางเปนระบบ) ขั้นสอน 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษาเรื่อง ทักษะเพื่อพัฒนาการทํางาน จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับทักษะ เพื่อพัฒนาการทํางาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 1 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “กอนที่มนุษยจะคิด ทักษะการแสวงหาความรูไดนั้น เริ่มแรกเกิด จากพื้นฐานการแสวงหาความรูของมนุษย คือ การสอบถาม การศึกษาจากขนบธรรมเนียม ประเพณี การอนุมานและอุปมาน การใช ประสบการณ และวิธีการทางวิทยาศาสตร” สํานวนไทยในขอใดมีความหมายเกี่ยวของกับทักษะการ แสวงหาความรูจากการฟงที่ถูกวิธี 1. เอามะพราวหาวไปขายสวน 2. นํ้าทวมทุงผักบุงโหรงเหรง 3. พกหินดีกวาพกนุน 4. ตักนํ้ารดหัวตอ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนการสอนใหรูจักหนักแนน ไมควรเชื่อสิ่งใดโดยงาย ควรใชวิจารณญาณในการไตรตรองขอมูล ตางๆ อยางรอบคอบกอนวามีความเท็จจริงประการใด ไมควรเชื่อ โดยที่ยังไมไดรับการพิสูจน ซึ่งมีความเกี่ยวของกับการแสวงหา ความรูดวยการฟงที่ถูกวิธี) นักเรียนควรรู 1 ทักษะการวิเคราะห มีความสามารถในการพิจารณา การไตรตรอง การคิด ใครครวญ การจําแนกแยกแยะ การเปรียบเทียบขอมูล การตรวจสอบขอมูล อยางละเอียดรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องราวตางๆ อยางมีเหตุผล โดยมีหลักฐานที่มี ความสัมพันธเชื่อมโยง หรือมีขอมูลตางๆ ที่นาเชื่อถือมาสนับสนุน หรือยืนยัน เพื่อพิจารณาอยางรอบคอบกอนตัดสินใจเชื่อ 2 การทํางานใหประสบผลสําเร็จ ในการทํางานผูที่ปฏิบัติงานยอมตองการ ใหงานของตนสําเร็จอยางมีคุณภาพ การทํางานใหประสบผลสําเร็จสามารถ ปฏิบัติไดหลายวิธี เชน กําหนดเปาหมายความสําร็จ มีความตั้งใจในการ ปฏิบัติงาน จดบันทึกความคิดใหมๆ อยูเสมอ มีความอดทน ขยันหมั่นเพียร มีการพัฒนาตนเองอยางไมหยุดนิ่ง 3 สื่ออิเล็กทรอนิกส หรือ Electronic Media เปนสื่อที่บันทึกสารสนเทศ ดวยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส ตองใชคอมพิวเตอรในการบันทึกและอานขอมูล นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T5
ขอสอบเนนการคิด ๒) ขั้นตอนการแสวงหาความรู้ การแสวงหาความรู้มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ซึ่งจะขึ้นอยู่ กับองค์ประกอบหลายอย่างที่จะส่งผลให้การแสวงหาความรู้ของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน โดยขั้นตอนการแสวงหาความรู้ มีดังนี้ • หาข้อเท็จจริงจากข้อมูล ข่าวสาร ด้วยตนเอง หรือเอกสารวิชาการ • หาความรู้เพิ่มเติม เพื่อให้ได้รับความรู้ในเรื่อง นั้น ๆ • บันทึกอยู่ในรูปแบบที่ง่ายและสะดวกต่อการศึกษาค้นคว้า • ด�าเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการแสวงหาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ • สนทนาอย่างมีจุดมุ่งหมาย เพื่อค้นหาความรู้ ตามวัตถุประสงค์ • น�าความรู้ไปใช้ประโยชน์หรือรวบรวม เผยแพร่ อย่างเหมาะสม การศึกษาค้นคว้า การรวบรวมและบันทึกข้อมูล การสัมภาษณ์ การพิจารณาองค์ประกอบ ความสัมพันธ์ จัดกลุ่ม และจัดล�าดับข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล น�าข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์แล้วจ�าแนกจัดกลุ่มข้อมูล ให้เป็นระบบ การสรุปและบันทึก เพื่อจัดเก็บข้อมูลที่ รวบรวมได้ในรูปแบบที่ง่ายต่อการค้นหา สรุปและบันทึกผล สรุปและบันทึกผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลและ รวบรวมไว้โดยใช้ภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย กระชับ รัดกุม การตั้งประเด็น ก�าหนดขอบเขต อธิบาย แสดง ความคิดเห็นต่อหัวข้อที่จะสืบค้น ก�าหนดปัญหา คิดประดิษฐ์ชั้นวางต้นไม้จากกระบอกไม้ไผ่ เพื่อน�า มาใช้ในการจัดและตกแต่งสวน หรือน�าไปใช้เป็น ของขวัญ เนื่องในโอกาสส�าคัญต่าง ๆ การก�าหนดว่าจะสืบค้นความรู้จากที่ใด สืบค้น อย่างไร เริ่มต้นเมื่อใด วางแผนสืบค้น วางแผนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับวิธีประดิษฐ์ชั้นวาง ต้นไม้จากแหล ่งสืบค้นต ่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ ผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนี้ การด�าเนินการสืบค้นความรู้ในหัวข้อที่ ต้องการตามแผนงานที่ก�าหนด ด�าเนินการสืบค้น ด�าเนินการสืบค้นข้อมูลจากผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับ การประดิษฐ์ในเรื่องนั้น ๆ และศึกษาค้นคว้าข้อมูล จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ตัวอย่าง การน�าวัสดุในท้องถิ่นมาสร้างเป็นผลงานประดิษฐ์ เพื่อเพิ่มมูลค่า 4 ขั้นสอน 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในการทํางานมักพบ กับปญหา ทําใหทักษะกระบวนการแกปญหา มีความจําเปนตอการทํางาน ไมวาจะเปนการ ทํางานกลุม หรือการทํางานเดี่ยว โดยประโยชน ของทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีหลายประการ เชน ฝกการคิดอยางเปนระบบ รูจักหาคําตอบในการแกปญหา มีหลักการและ มีเหตุผล” 5. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • ในการทํางานรวมกับผูอื่นจะตองใชทักษะ การแสวงหาความรูและทักษะกระบวนการ แกปญหาในการทํางานอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายความรู เรื่อง ทักษะเพื่อพัฒนาการทํางานตามหนาที่ ที่ตนเองไดรับมอบหมายใหเพื่อนในกลุมฟง และรวมกันสรุปขอมูล จากนั้นออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน 7. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําสิ่งประดิษฐที่มีอยู ในทองถิ่นมากลุมละ 1 ชิ้น ในชั่วโมงถัดไป เพื่อรวมกันวางแผนและตอยอดเปนผลงาน ในรูปแบบใหม พรอมทั้งเขียนอธิบายวิธีการทํา การนําไปใช วิธีการทํางานของกลุม ปญหาที่พบ และแนวทางแกไข โดยนําทักษะกระบวนการ ตางๆ มาใชในการทํางานอยางเหมาะสม จัดทําเปนรูปเลมรายงาน นําสงครูผูสอน ทักษะการแสวงหาความรูมีประโยชนตอการพัฒนาการทํางาน อยางไร (แนวตอบ การแสวงหาความรู เปนการสั่งสมประสบการณใน การทํางาน เพื่อนําไปใชประโยชนในการพัฒนาการทํางานของ ตนเอง เพื่อใหทันตอเหตุการณการเปลี่ยนแปลงตางๆ ที่เกิดขึ้นใน สังคม ซึ่งในการแขงขันกับบุคคลอื่นๆ การมีความรูที่หลากหลาย หรือมีประสบการณที่มากกวา ยอมทําใหไดเปรียบในการทํางาน และสงผลใหการทํางานประสบความสําเร็จ มีคุณภาพและ มีประสิทธิภาพ สามารถแขงขันกับบุคคลอื่นๆ ไดอยางทัดเทียม) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสวงหาความรูใหนักเรียนฟงวา การแสวงหา ความรูมีอยูดวยกันหลายวิธี เชน การวิจัย เปนการแสวงหาความรูที่ไดรับการ ยอมรับจากสังคมวาขอมูลมีความนาเชื่อถือ เนื่องจากผานกระบวนการทางการ วิจัยอยางเปนระบบ ซึ่งเปนกระบวนการที่ยอมรับในวิทยาการแตละสาขา ลักษณะของงานวิจัยจะเปนกระบวนการที่มีระบบ มีจุดมุงหมายที่ชัดเจน มีการ ดําเนินการศึกษาคนควาอยางเปนระบบและมีเหตุผล มีการบันทึกและรายงาน ผลที่ถูกตองแมนยํา สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการแสวงหาความรู ไดที่ https://home.kku. ac.th/sompo_pu/spweb/research/inquiry.ppt นํา สอน สรุป ประเมิน T6
น�าปัญหามาวิเคราะห์ เพื่อหารายละเอียด ปลีกย่อย แยกแยะ และจัดล�าดับความส�าคัญ การวิเคราะห์ปัญหา สร้างทางเลือกในการแก้ปัญหา อาจค้นคว้า ทดลอง ตรวจสอบ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบ การสร้างทางเลือก ค้นหาสาเหตุ ท�าความเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น และ ตระหนักในปัญหานั้น การส�ารวจปัญหา เปรียบเทียบทางเลือกของการแก้ปัญหาว ่า ทางเลือกใดสามารถน�าไปใช้แก้ปัญหาได้ดีที่สุด การประเมินทางเลือก ๑.๒ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการท�างาน กระบวนการของความพยายามในการท�างาน เพื่อให้ประสบความส�าเร็จ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น สามารถหาแนวทางแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ ๑) วิธีการแก้ปัญหา ในการท�างานใด ๆ ก็ตาม ย่อมพบเจอกับปัญหาอยู่เสมอ วิธีการ แก้ปัญหาที่ถูกต้องจะช่วยให้สามารถน�ามาปรับใช้ในการท�างานได้อย่างเหมาะสม ดังนี้ ๒) ขั้นตอนการแก้ปัญหา เมื่อพบกับปัญหาต้องมีการตัดสินใจและต้องมีการแก้ปัญหา เพื่อให้การท�างานเป็นไปอย่างราบรื่น ขั้นตอนการแก้ปัญหาการท�างานมีอยู่ด้วยกัน ๖ ขั้นตอน ดังนี้ สาเหตุที่ท�าให้ปลาตาย เช่น น�้าเน ่าเสียจากการ หมักหมมของอาหารบริเวณก้นตู้ ปลาติดโรค น�้าที่ใช้มีความเป็นกรด-ด่างสูง หาทางเลือกในการแก้ปัญหาอย ่างหลากหลาย เช่น ให้อาหารแต่ละครั้งทีละน้อย ล้างท�าความ สะอาดตู้ปลา สังเกตปลาที่มีอาการผิดปกติแล้ว จับแยกออก ใช้น�้ายาปรับสภาพน�้า ค้นหาสาเหตุว่าเพราะเหตุใดปลาสวยงามที่เลี้ยงไว้ จึงทยอยตายเป็นจ�านวนมาก What is the challenge? หาค�าตอบว่าสิ่งใดคือปัญหาจากการ สังเกต สอบถาม จะได้วางแผนในการ แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง What are the solutions? การแก้ปัญหาที่ดี คือ การวางแผน และเตรียมพร้อมที่ดี เพื่อน�าไปสู่การ แก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ What is the cause of the problem? หาสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร จากการ สอบถามผู้รู้หรือเห็นหลักฐาน เพื่อให้ได้ ข้อสรุปของปัญหานั้น Who has got the impact? ใครได้รับผลกระทบจากปัญหา ปัญหา นั้นส่งผลกระทบต่อใคร หรือองค์กร มากน้อยเพียงใด เลือกวิธีการล้างตู้ปลา เพราะพบว ่าก้นตู้ปลามี เศษอาหารตกค้างอยู ่ ส ่งผลให้เครื่องกรองน�้า มีการอุดตัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ท�าให้ปลาตายได้ ตัวอย่าง การเลี้ยงปลาสวยงาม ทักษะในการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต 5 ขั้นสอน 8. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน 9. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง กระบวนการการทํางาน 10. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง ทักษะ เพื่อพัฒนาการทํางานวา “มนุษยตองทํางาน หรือดําเนินกิจกรรมตางๆ เพื่อตอบสนองสิ่งที่ พึงปรารถนา ซึ่งในบางครั้งอาจขาดความรู ขาด ประสบการณ จึงตองใชทักษะการแสวงหาความรู ดวยวิธีการตางๆ และบางครั้งอาจพบเจอกับปญหา จึงตองใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการ ทํางานเขามาชวย เพื่อทําใหการทํางานเกิด ประสิทธิภาพและประสิทธิผล” ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 1.1.1 เรื่อง กระบวนการ การทํางาน 3. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทากันๆ กัน 2. ใหสมาชิกแตละกลุมรวมกันศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเรื่องราว ตางๆ ที่นาสนใจกลุมละ 1 เรื่อง โดยนําทักษะการแสวงหาความรู มาใช ไดแก การสังเกต การฟง การซักถาม การอาน การศึกษา คนควา การสัมภาษณ การรวบรวมขอมูล และบันทึกผล 3. สรุปความรูที่ไดรับจากการศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเรื่องราว ตางๆ จัดทําเปนรูปเลมรายงาน นําสงครูผูสอน 4. ใหแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงาน ใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งบอกเลาเรื่องราวเกี่ยวกับ ขั้นตอนการปฏิบัติงานที่กลุมของตนไดวางแผนไว ปญหาที่พบ และแนวทางแกปญหาในการทํางาน แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ที่ได้จากการน าเสนอ 5 วิธีการน าเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน .........../................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T7
ขอสอบเนนการคิด ตัวอย่าง การเลี้ยงปลาสวยงาม ๒ คุณธรรมและจริยธรรมในการทำางาน การมีคุณธรรมและจริยธรรมในการท�างาน เป็นการท�างานอย่างมีจิตส�านึก ถูกวิธี เป็นขั้นตอน มีประสิทธิภาพ และเป็นที่ยอมรับของผู้อื่นในสังคม ซึ่งมีองค์ประกอบส�าคัญ ดังนี้ ๑) มีความซื่อสัตย์ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และงานที่ได้รับมอบหมาย ปฏิบัติงาน ด้วยความจริงใจ ไม่คดโกง หรือหลอกลวงผู้อื่น ๒) มีความเสียสละ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน รู้จักให้และ แบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน เสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ๓) มีความยุติธรรม ไม่ล�าเอียง หรือยึดถือสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามที่เราเชื่อ ต้องมีความ เป็นกลาง ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก ไม่มีอคติกับเรื่องต่าง ๆ ที่ได้ยิน หรือได้รับฟังมา ๔) มีความประหยัดรู้จักอดออม ไม่ฟุ่มเฟือย ค�านึงถึงความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากร โดยน�าสิ่งที่เหลือใช้ หรือสิ่งที่ไม่มีประโยชน์มาดัดแปลง ซ่อมแซม หรือแก้ไข เพื่อใช้ในการท�างาน ๕) มีความขยันอดทน มุ่งมั่นต่องานที่ได้รับมอบหมาย เมื่อพบปัญหา หรืออุปสรรค ในการท�างาน ให้น�าปัญหา หรืออุปสรรคเหล่านั้นมาปรับปรุงและแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น ๖) มีความรับผิดชอบต้องรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงผู้ร่วมงาน ลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อม ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ไม่ท�าลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๗) มีความตรงต่อเวลา ต้องส่งงานตามเวลาที่ก�าหนด เพราะถ้าไม่ส่งงานตามเวลาที่ ก�าหนดจะท�าให้ผู้ที่ท�างานต่อจากเราได้รับผลกระทบ อาจสร้างความเสียหายต่อองค์กรได้ ๘) มีการประกอบอาชีพที่สุจริตเลือกประกอบอาชีพที่ไม่ท�าให้ผู้อื่นเดือดร้อน โดยสังคม ให้การยอมรับว่าอาชีพนั้นเป็นอาชีพที่สุจริต และคนทั่วไปเลือกที่จะประกอบอาชีพนั้น วางแผนเพื่อก�าหนดว ่าใครมีหน้าที่ใด หรือ กระบวนการท�างานใด ค่าใช้จ่ายเท่าไร การวางแผนปฏิบัติ วางแผนล้างตู้ปลา โดยให้คุณพ ่อช ่วยยกตู้ปลา คุณแม่ล้างเครื่องกรองน�้า พี่ช่วยถ่ายน�้าออกจาก ตู้ปลา ตนเองตักปลาออกจากตู้ปลา และล้างท�า ความสะอาดหิน กรวด อุปกรณ์ตกแต่งอื่น ๆ ติดตามผลที่เกิดขึ้นจากการด�าเนินการ เพื่อใช้ เป็นแนวทางแก้ปัญหาในครั้งต่อไป การประเมินผล สังเกตว่าปลาสวยงามที่เลี้ยงไว้ลดจ�านวนการตาย ลงหรือไม่ หลังจากท�าความสะอาดตู้ปลา หากพบว่า ยังมีการตายเกิดขึ้นอีกให้ด�าเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ต่อไป 6 ลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต 1. ครูใหนักเรียนอานใบความรู เรื่อง คุณธรรม และจริยธรรมตอการทํางาน จากนั้นใหนักเรียน รวมกันแสดงความคิดเห็น ขั้นนํา (เนนกระบวนการสรางความตระหนัก) 1. ครูสนทนาเกี่ยวกับสํานวนสุภาษิตไทย คือ ยอม แมวขาย จากนั้นครูถามนักเรียนวา • สํานวนสุภาษิตนี้มีความหมายวาอยางไร (แนวตอบ การนําสิ่งของที่ไมมีคุณคา หรือ มีคุณคานอย หรือมีตําหนิ นํามาตกแตง ปรับปรุงแกไขใหดูดี และนําไปหลอกลวง ผูอื่นวาเปนของที่มีคุณคา) 2. ครูกลาวเชื่อมโยงเกี่ยวกับคุณธรรมและ จริยธรรมที่ปรากฏในสํานวนสุภาษิต รวมถึง การใชทรัพยากรในการปฏิบัติงาน ขั้นที่ 2 วิจารณ 2. ครูใหนักเรียนศึกษา เรื่อง คุณธรรมและจริยธรรม ในการทํางานและการใชทรัพยากรในการ ปฏิบัติงาน จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 3. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณธรรม และจริยธรรมในการทํางานและการใชทรัพยากร ในการปฏิบัติงาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 1 4. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • การใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานมีความ สอดคลองกับคุณธรรมและจริยธรรมในการ ทํางานอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) เกร็ดแนะครู ครูอาจยกกรณีตัวอยาง หรือขาวที่เกิดจากการกระทําของบุคคลที่มีคุณธรรม และจริยธรรมใหนักเรียนรวมกันศึกษา จากนั้นอภิปรายแสดงความคิดเห็น และแนะนําใหนักเรียนไปศึกษาคนควาเพิ่มเติมจากแหลงการเรียนรูตางๆ ที่ หลากหลาย เชน หนังสือในหองสมุด นิตยสาร อินเทอรเน็ต เกี่ยวกับการประกอบ อาชีพสุจริต และคุณสมบัติของผูประกอบอาชีพสุจริต บุคคลในขอใดมีคุณธรรมและจริยธรรมในการทํางาน 1. วุนลอกเลียนแบบแนวคิดของเพื่อนมาทําเปนผลงานของตนเอง 2. วิวหยิบของจากรานเครื่องเขียนโดยไมจายเงินมาทํางานสงครู 3. แวนนํางานประดิษฐมาสงครูเลยเวลาที่กําหนด เพราะลืมทํา 4. แววใชเวลาวางในวันหยุดมาชวยเพื่อนๆ ทํารายงานกลุม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะแววมีความเสียสละใน การทํางาน กลาวคือ ในการทํางานรวมกับผูอื่นควรเห็นแก ประโยชนสวนรวมมากกวาประโยชนสวนตน ควรรูจักชวยเหลือ ผูอื่นโดยไมหวังสิ่งตอบแทน และควรเสียสละความสุขสวนตัว เพื่อประโยชนสวนรวม) นักเรียนควรรู 1 ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม การดูแลรักษาเอาใจใสในทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอม หรือที่เรียกวา “แนวทางสีเขียว” เปนกระแสที่มาแรง ในสังคม โดยผูคนตองตระหนักวาไมวาจะทําสิ่งใดก็ตาม สิ่งที่ควรคํานึงถึง คือ การไมทําลายทรัพยากรและสิ่งแวดลอม นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T8
ขอสอบเนน การคิด ๓ การใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงาน การใช้ทรัพยากรในการสร้างงานต้องใช้อย่างประหยัดค�านึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก การเลือกใช้ ทรัพยากรที่ไม่ท�าลายสิ่งแวดล้อม ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติงาน และ ควรช่วยกันใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงานให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ดังนี้ ๑. เลือกใช้วัสดุที่ไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม หรือสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติมากเกินไป ๒. น�าวัสดุที่ใช้แล้ว หรือเหลือใช้น�ากลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น น�ากระดาษหนังสือพิมพ์มาประดิษฐ์ เป็นของใช้ ของตกแต่งบ้าน ๓. ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยน�าทรัพยากรมาใช้ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์ต่อคน จ�านวนมาก เช่น การสร้างงานจากไม้ ต้องไม่ตัดไม้ท�าลายป่า แต่ใช้จากเศษไม้ หรือจากสวนป่า ที่ปลูกขาย ควรใช้ให้คุ้มค่าและเป็นประโยชน์สูงสุด ๔. น�าของเก่าที่มีอยู่มาเสริมแต่ง ดัดแปลงให้สวยงามและใช้ประโยชน์ได้ เช่น เสื้อผ้าเก่า น�ามาตกแต่งด้วยวัสดุเหลือใช้ หรือวาดลวดลายให้สวยงาม ก็จะได้เสื้อตัวใหม่ที่มีลวดลายไม่ซ�้าใคร ๕. ถนอมรักษาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ใช้งานได้นานขึ้น เพราะจะได้ไม่ต้องน�าทรัพยากรมาผลิต สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น กระเป๋าสานจากผักตบชวา ควรทา หรือพ่นแล็กเกอร์ก่อนน�ามาใช้จะ ท�าให้กระเป๋ามีความทนทาน ไม่ช�ารุดเสียหายง่าย ดังนั้น การน�าทรัพยากรมาใช้สร้างชิ้นงานต้องใช้อย่างมีจิตส�านึก โดยใช้วัสดุที่มีในท้องถิ่น หรือวัสดุที่เหลือใช้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและไม่ท�าลายสิ่งแวดล้อม กระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วสามารถน�ามาประดิษฐ์เป็นของใช้ ของตกแต่งบ้าน เป็นการน�าวัสดุเหลือใช้มาสร้างประโยชน์ อย่างคุ้มค่า ทักษะในการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต 7 ขอใดตางจากพวก 1. ลดการใชถุงพลาสติก โดยใชถุงผาแทนในการบรรจุสิ่งของ 2. นําสิ่งของเหลือใชมาประดิษฐเปนของใช ของตกแตงภายในบาน 3. นําขวดสเปรยฆาแมลงที่ใชหมดแลวไปฝงดิน แทนการทิ้งใน ถังขยะ 4. ถอดปลั๊กเครื่องใชไฟฟาออก เมื่อไมมีความจําเปนในการ ใชงาน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนการกระทําที่ไมเหมาะสม เนื่องจากขวดสเปรยฆาแมลงเปนวัตถุที่มีพิษ หากนําไปฝงดินอาจ ทําใหเกิดการปนเปอนของสารพิษลงสูดินและแหลงนํ้าได ซึ่งอาจ กอใหเกิดอันตรายตอคน พืช และสัตว วิธีการกําจัดขวดสเปรย ฆาแมลงที่ถูกตอง คือ การนําไปใสในถุงดํา มัดปากถุงใหมิดชิด แลวนําไปทิ้งในถังขยะมีพิษ) แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 วิจารณ 5. ใหนักเรียนแบงกลุมเปน 5 กลุม กลุมละ เทาๆ กัน รวมกันวิเคราะหเรื่อง คุณธรรม และจริยธรรมกับอาชีพที่กําหนด คือ ครู แพทย ผูผลิตรถยนต นักเรียน ผูประกอบการราน อาหาร 6. ใหนักเรียนแตละกลุมสรุปความรูที่ไดรับจาก การวิเคราะหเรื่อง คุณธรรมและจริยธรรมกับ อาชีพ ลงในกระดาษ A4 นําสงครูผูสอน 7. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึก ผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นสรุป ขั้นที่ 3 สรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง คุณธรรมและจริยธรรมในการทํางาน และการใช ทรัพยากรในการปฏิบัติงานวา “ในการทํางานรวม กับผูอื่นจําเปนตองนําหลักคุณธรรมและจริยธรรม มาปรับใช เพื่อชวยใหสามารถทํางานรวมกับผูอื่น ไดอยางมีความสุขและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังตองมีจิตสํานึกที่ดีในการใชทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานรวมดวย” ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 2. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ที่ได้จากการน าเสนอ 5 วิธีการน าเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน .........../................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T9
๔ การติดต่อสื่อสารและการใช้บริการกับหน่วยงานต่างๆ การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมทั้งที่โรงเรียน ที่บ้าน ที่ท�างาน หรือสถานที่ต่างๆ ล้วนต้องมีการ ติดต่อสื่อสารกับบุคคล หรือหน่วยงาน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน และเพื่อให้สามารถด�าเนินการ ตามแผนงานที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๔.๑ การติดต่อสื่อสาร กระบวนการถ่ายทอดข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ความคิด ทัศนคติจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มบุคคล เพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน ชักจูง มุ่งให้ความรู้ หรือท�าให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในการกระท�าอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ประสงค์ ๑) ความส�าคัญของการติดต่อสื่อสารมีความส�าคัญกับบุคคลทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย และกับหน่วยงานต่างๆ ดังนี้ ๑. การติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล เป็นการช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดีให้เกิดขึ้น ๒. การติดต่อสื่อสารในหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ เป็นการแจ้งข้อมูลข่าวสารของ องค์กรต่อพนักงาน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ ในองค์กร สามารถใช้ตรวจสอบข้อบกพร่อง หรือ ความก้าวหน้าในการท�างาน และสามารถใช้ ในการวินิจฉัยสั่งการกับกลุ่มบุคคลในองค์กร ๓. การติดต่อสื่อสารส�าหรับนักเรียน เป็นการติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครูอาจารย์ ผู้ปกครอง และบุคคลต่าง ๆ ที่ต้องติดต่อประสานงานด้วย เช่น ติดต่อกับฝ่ายธุรการ ฝ่ายวัดผล และประเมินผล เพื่อนโรงเรียนอื่น หน่วยงานราชการ องค์กรเอกชนต่าง ๆ ๒) วิธีการติดต่อสื่อสารที่ดีเพื่อให้การติดต่อสื่อสารมีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ส่งสารควร ปฏิบัติตน ดังนี้ มีสัมมาคารวะ พูดจาสุภาพ ไพเราะ อ่อนโยน ควรใช้น�้าเสียงที่นุ่มนวล เพื่อที่ผู้อื่นจะได้อยาก สนทนาด้วย เมื่อต้องไปติดต ่อ หรือใช้บริการหน ่วยงาน ต่าง ๆ ควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย เพื่อเป็น การให้เกียรติแก่บุคคลและสถานที่ มีความรอบคอบเมื่อใช้ภาษาถิ่นในการสนทนา ควรพูดเฉพาะประเด็นส�าคัญ เพื่อที่ผู้สนทนาด้วย จะได้เข้าใจตรงกับสิ่งที่ต้องการ เมื่อสนทนากับผู้อื่นต้องควบคุมอารมณ์ให้ อยู่ในสภาพปกติไม่แสดงกิริยาเกรี้ยวกราดต่อ บุคคลที่ก�าลังสนทนาด้วย การสนทนา การแต่งกาย การใช้ภาษา การควบคุมอารมณ์ 8 ความก้าวหน้าในการท�างาน และสามารถใช้ ๒) วิธีการติดต่อสื่อสารที่ดี การใช้ภาษา 1 2 3 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน 1. ครูสนทนาเกี่ยวกับการติดตอสื่อสารและการ ใชบริการกับหนวยงานตางๆ และยกตัวอยาง สถานการณ เพื่อใหนักเรียนเขาใจไดงายขึ้น 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตอ สื่อสารและการใชบริการกับหนวยงานตางๆ จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 1 3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกัน ศึกษาตามหัวขอที่ครูกําหนด คือ ความสําคัญ และวิธีการติดตอสื่อสารที่ดี ความสําคัญและ วิธีการใชบริการหนวยงานตางๆ โดยศึกษา จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 หรือ ศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสรุปความรูที่ไดรับจาก การศึกษา เรื่อง การติดตอสื่อสารและการใช บริการกับหนวยงานตางๆ ลงในกระดาษ A4 นําสงครูผูสอน 5. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ทํากิจกรรม ที่ครูกําหนด คือ สมมติสถานการณ 1 สถานการณ ที่ทําใหการติดตอสื่อสารนั้นมีประสิทธิภาพ ขั้นนํา (เนนกระบวนการอุปนัย) 1. ครูสุมนักเรียนใหเลนเกมกระซิบสงสาร ซึ่งมีวิธี การเลน คือ แบงนักเรียนเปน 5 แถว แถวละ 6 คน คนแรกของแถวตองจําขอความที่ครู กําหนดให ใชเวลาจํา 1 นาที จากนั้นคนแรก ของแถวจะกระซิบบอกขอความใหคนถัดไป ซึ่งเปนคนที่ 2 คนที่ 2 กระซิบบอกคนที่ 3 4 5 6 ซึ่งเปนคนสุดทาย จากนั้นคนสุดทาย ของแตละแถวจะเปนผูบอกขอความที่ไดรับ ครูอานขอความของแตละแถว แถวใดบอก ขอความไดถูกตองจะเปนฝายชนะ นักเรียนควรรู 1 ความกาวหนาในการทํางาน วิธีการที่จะชวยใหผูปฏิบัติงานมีความกาวหนา ในการทํางาน สามารถปฏิบัติไดหลายวิธี เชน มีการตั้งเปาหมายในการทํางาน รักการเรียนรู เรียนรูไว ชางสังเกต ชางจดจํา และนํามาพัฒนาเพื่อตอยอด ความคิด ศึกษาหาความรูเพิ่มเติมอยูเสมอ 2 วิธีการติดตอสื่อสารที่ดี การใชชีวิตประจําวันตองมีการติดตอสื่อสารกับ บุคคลตางๆ และติดตอกับหนวยงานหลายๆ หนวยงาน ทั้งภาครัฐและภาค เอกชน ซึ่งมีความจําเปนที่จะตองสื่อสารกันใหเขาใจและถูกตอง เพื่อใหไดรับ ขอมูลที่ถูกตองและตรงกันทั้ง 2 ฝาย เพื่อไมใหฝายใดฝายหนึ่งเสียสิทธิประโยชน ตางๆ ซึ่งอาจสงผลเปนปญหาตามมาในภายหลัง หากไดรับขอมูลที่ผิดพลาด 3 ภาษา ถอยคําที่ใชในการพูด หรือการเขียน เพื่อสื่อความหมายไปยัง บุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพื่อใหเกิดความเขาใจสิ่งที่ตองการสื่อสารที่ถูกตองและ ตรงกัน ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตอสื่อสาร และใชบริการกับหนวยงานตางๆ พรอมทั้งสรุปความรูที่ไดจาก การศึกษาลงในกระดาษ A4 ในรูปแบบของแผนผังความคิด (Mind Mapping) นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนจับคูแสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกับการติดตอสื่อสาร และใชบริการกับหนวยงานตางๆ เชน ธนาคาร โรงพยาบาล ที่วาการอําเภอ โดยชวยกันเขียนบทสนทนาความยาวไมเกิน 1 หนา กระดาษ จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T10
ขอสอบเนน การคิด ๔.๒ การใช้บริการหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันหน่วยงานต่างๆ ได้เปิดให้บริการอย่างหลากหลาย ทั้งบริการทางด้านข้อมูลและให้ ความช่วยเหลือ เช่น โรงพยาบาล ให้บริการทางด้านสุขภาพและรักษาผู้ป่วย ธนาคารให้บริการ ทางด้านการเงินและเป็นที่ปรึกษาให้ค�าแนะน�าทางด้านการบริหารแก่บุคคลและหน่วยงานต่าง ๆ ๑) ความส�าคัญของการใช้บริการหน่วยงานต่าง ๆ ในชีวิตประจ�าวันเราต้องมีการ ติดต่อและใช้บริการกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน เช่น เมื่อนักเรียนมีอายุครบ ๗ ปี บริบูรณ์ จะต้องไปใช้บริการที่อ�าเภอ หรือส�านักงานเขต เพื่อขอท�าบัตรประจ�าตัวประชาชน ๒) วิธีการใช้บริการหน่วยงานต่าง ๆ ในการขอรับบริการ หรือไปใช้บริการของ หน่วยงานต่างๆ จะมีความแตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับโอกาสและความต้องการเลือกใช้บริการ ของหน่วยงานนั้น ๆ ซึ่งผู้ขอรับบริการควรปฏิบัติ ดังนี้ ในการท�างานต้องมีทักษะต่าง ๆ เช่น ทักษะการแสวงหาความรู้โดยการสังเกต การฟัง การซักถาม การอ่าน การศึกษาค้นคว้า การสัมภาษณ์การรวบรวม การบันทึกข้อมูล ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา โดยเริ่มจากส�ารวจปัญหา วิเคราะห์ปัญหา วางแผนปฏิบัติ และประเมินผลการแก้ปัญหา เพื่อให้การท�างานมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ในการท�างาน ยังต้องมีคุณธรรมและจริยธรรม การใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า รวมทั้งมีการ ติดต่อสื่อสารและการใช้บริการหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ท�างานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และส�าเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ศึกษาข้อมูลของหน่วยงานที่จะไปติดต่อ หรือ ใช้บริการให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไป หลายครั้ง เตรียมเอกสารให้พร้อม เช่น บัตรประจ�าตัว ประชาชน ทะเบียนบ้าน สูติบัตร หนังสือส�าคัญ แสดงการเปลี่ยนชื่อตัว แจ้งความประสงค์ล่วงหน้า หรือท�าจดหมายเป็น ทางการในกรณีที่ต้องการเจาะจงว่าจะต้องไปใช้ บริการของหน่วยงานนั้น ๆ มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี พูดจาสุภาพ กล่าวแสดงความขอบคุณ เพื่อให้ เป็นที่ประทับใจแก่ผู้ที่เราไปติดต่อ การศึกษาข้อมูล การเตรียมเอกสาร การนัดหมายวัน เวลา สถานที่ การแสดงบุคลิกท่าทาง ทักษะในการท�างานเพื่อการด�ารงชีวิต 9 ขั้นสอน 6. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 1.3.1 เรื่อง การติดตอสื่อสารและการใชบริการกับ หนวยงานตางๆ และทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ทักษะในการทํางาน 7. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึก ผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเรื่อง การ ติดตอสื่อสารและการใชบริการกับหนวยงาน ตางๆ วา “ในการทํางานตองนําทักษะตางๆ มาใช เพื่อใหการทํางานมีประสิทธิภาพ ทั้งยัง ตองมีคุณธรรมและจริยธรรมในการทํางาน รูจักใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางคุมคา มีทักษะในการสื่อสาร เพื่อใหสามารถใชบริการ กับหนวยงานตางๆ ไดอยางเหมาะสม” 2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 1.3.1 เรื่อง การติดตอ สื่อสารและการใชบริการกับหนวยงานตางๆ 3. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ทักษะในการทํางาน 4. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 5. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการ เรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอขอมูล โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 1 ขอใดไมใชประโยชนจากการศึกษาคนควาขอมูลของหนวยงาน ตางๆ ที่ตองการไปติดตอ 1. ชวยใหทราบถึงขั้นตอนการขอรับบริการจากหนวยงานตางๆ 2. ชวยใหทราบถึงขอมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง หรือเบอรติดตอ 3. ชวยใหทราบระยะเวลาปด-เปดการใหบริการ 4. ชวยฝกการมีมนุษยสัมพันธที่ดีตอผูอื่น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการมีมนุษยสัมพันธที่ดีเปน สิ่งที่ตองสรางขึ้นดวยตนเอง จึงไมใชประโยชนจากการศึกษา คนควาขอมูลของหนวยงานตางๆ ที่ตองการไปติดตอ) แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ที่ได้จากการน าเสนอ 5 วิธีการน าเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน .........../................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T11
Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 การจัดและ ตกแต่งบ้าน ให้น่าอยู่ 3 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายลักษณะและ หลักการของการจัด ตกแต่งบ้านและการเลือก เครื่องใช้ในการประดับ ตกแต่งบ้านได้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม 2. จัดตกแต่งบ้านและเลือก เครื่องใช้ของประดับใน การจัดตกแต่งบ้านได้ อย่างเหมาะสม 3. เห็นความส�ำคัญในการ จัดตกแต่งบ้านและการ เลือกเครื่องใช้ของประดับ ในการจัดตกแต่งบ้าน ในชีวิตประจ�ำวันได้อย่าง เหมาะสม แบบเน้น การเรียนรู้ แบบร่วมมือ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 2.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T12
แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 2 การจัดและ ตกแต่งสวน ในบริเวณบ้าน 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบหลังเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายความส�ำคัญและ รูปแบบของการจัด ตกแต่งสวนในบริเวณ บ้านได้ถูกต้อง 2. ด�ำเนินการจัดตกแต่ง สวนในบริเวณบ้านได้ เหมาะสมสวยงามตาม หลักการ 3. เห็นความส�ำคัญในการ ดูแลรักษาและการตกแต่ง สวนในบริเวณบ้านและ น�ำไปปรับใช้กับบ้านของ ตนเองอยู่สม�่ำเสมอ แบบเน้น รูปแบบการ สืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจใบงานที่ 2.2.1 - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T13
บ้านเป็นศูนย์รวมของสมาชิกในครอบครัว ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข บ้านที่ น่าอยู่จะต้องสะอาด ถูกสุขอนามัย มีการจัดและตกแต่งให้น่าอยู่เสมอ ทั้งในบ้านและบริเวณ รอบ ๆ บ้าน การเรียนรู้หลักการจัดตกแต่งบ้านและบริเวณบ้านจะช่วยให้น�าความรู้ ไปประยุกต์ ใช้ ในชีวิตประจ�าวัน สามารถจัดและตกแต่งบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด สวยงาม สร้างบรรยากาศที่ดี และสร้างความสุขให้แก่สมาชิกในครอบครัว ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) ò หน่วยการเรียนรู้ที่ ¡ÒèѴµ¡áµ‹§ºŒÒ¹ áÅкÃÔàdzºŒÒ¹ ขั้นนํา (เนนการเรียนรูแบบรวมมือ) 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 2. ครูนําภาพบานในลักษณะตางๆ มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนวา • จากภาพบานที่ไดดูไปนั้น นักเรียนชอบบาน ที่มีลักษณะดังภาพหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ชอบ เพราะบานมีขนาด กะทัดรัด เหมาะสมสําหรับการอาศัยอยูแบบ ครอบครัวขนาดเล็ก มีพื้นที่ใชสอยบริเวณ หนาบาน ไมชอบ เพราะบานมีขนาดเล็ก ไม เหมาะสมสําหรับการอาศัยอยูแบบครอบครัว ขนาดใหญ พื้นที่ใชสอยมีนอย ไมเพียงพอ ตอการทํากิจกรรมตางๆ ภายในครอบครัว) • บานของนักเรียนมีลักษณะคลายบาน จากภาพตัวอยางที่ไดดูไปแลวบางหรือไม หากคลาย คลายกับบานหลังใด หากไมคลาย บานของนักเรียนมีลักษณะอยางไร และ นักเรียนอาศัยอยูรวมกับบุคคลใดภายใน บาน (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน มีลักษณะที่คลายคลึงกัน เนื่องจากบานที่อาศัยอยูมีลักษณะเปนบาน เดี่ยว 2 ชั้น แบบครึ่งไม ครึ่งปูน มีพื้นที่ใชสอย ในการทํากิจกรรมตางๆ รวมกับสมาชิก ในครอบครัว โดยอาศัยอยูรวมกับคุณตา คุณยาย คุณพอ คุณแม คุณปา พี่ชาย และ นองสาว รวมสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด 8 คน) • บานในฝนของนักเรียนมีลักษณะเปนอยางไร เพราะเหตุใดจึงชอบบานในลักษณะดังกลาว (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับการจัดตกแตงบานและบริเวณบานใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ เรื่อง การจัดตกแตงบานและ บริเวณบาน สามารถอธิบายประเภทของบาน ลักษณะของบานที่นาอยูอาศัย รูหลักการจัดและตกแตงบาน เลือกใชเครื่องใชและของประดับในการจัดและ ตกแตงบานไดอยางเหมาะสม สามารถแกปญหาในการจัดตกแตงบานและบริเวณบานไดอยางถูกตอง รวมถึงจัดตกแตงสวนในบริเวณบานไดอยางสวยงาม และดูแลรักษาไดอยางถูกวิธี พรอมทั้งใชทรัพยากรในการจัดตกแตงบานและบริเวณบานไดอยางคุมคาและยั่งยืน โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับการจัดตกแตงบานและบริเวณบาน • ใหนักเรียนเขียนแผนผังมโนทัศนเกี่ยวกับหลักการจัดและตกแตงบานใหนาอยูอาศัย • ใหนักเรียนจัดและตกแตงบานใหสวยงาม พรอมทั้งนําความรูเกี่ยวกับการเลือกเครื่องใชและของประดับในการจัดและตกแตงบานมาใชไดอยางเหมาะสม • ใหนักเรียนออกแบบสวนในบริเวณบานตามความคิดและจินตนาการ พรอมทั้งจัดและตกแตงสวนในบริเวณบานใหเกิดความสวยงาม นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T14
ขอสอบเนน การคิด ๑ ประเภทของบ้าน บ้านเป็นสถานที่ส�าหรับพักผ่อน นอนหลับ บังแดด ลม ฝน เป็นศูนย์รวมของสมาชิกในครอบครัวที่จะใช้ชีวิตอยู ่ร ่วมกัน อย่างมีความสุข มีความรัก ความอบอุ่น และความปลอดภัย ในการด�ารงชีวิต โดยประเภทของบ้านมีเกณฑ์การแบ่งหลาย รูปแบบ เช่น ÁÕËÅѡ㹡ÒèѴµ¡áµ‹§ºŒÒ¹ áÅкÃÔàdzºŒÒ¹Í‹ҧäÃãËŒ ÊÐÍÒ´ ÊǧÒÁ ¹‹ÒÍÂÙ‹ áÅÐ ÊÌҧ¤ÇÒÁÊØ¢ãËŒ¡ÑºÊÁÒªÔ¡ 㹤Ãͺ¤ÃÑÇä´Œ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะการแสวงหาความรู ประกอบดวยการศึกษา คนควา รวบรวม สังเกต สํารวจ และบันทึก เพื่อใช ในการพัฒนาการทํางาน เชน - การจัดและตกแตงบาน - การดูแลรักษาและตกแตงสวน • บ้านที่มีผนังติดกับบ้าน หลังอื่นทั้งสองด้าน มี บริเวณบ้านที่จ�ากัด • เหมาะส�าหรับการอาศัย อยู ่แบบคนเดียว หรือ ครอบครัวขนาดเล็ก ทาวน์เฮาส์ • ตั้งอยู่ริมถนน แหล่งชุมชน มีพื้นที่จ�ากัด สามารถต่อ ยอดท�าธุรกิจได้ • เหมาะส�าหรับผู้ที่วางแผน ประกอบธุรกิจขนาดเล็ก หรือธุรกิจขนาด ใหญ่ อาคารพาณิชย์ • มีพื้นที่บริเวณบ้านให้ความ เป็นส่วนตัว • เหมาะส�าหรับการอาศัยอยู่ เป็นครอบครัวขนาดเล็ก หรือใหญ่ • เป็นบ้านสองหลังที่มีฝา บ้านด้านหนึ่งติดกัน มีพื้นที่ น้อยกว่าบ้านเดี่ยว • เหมาะส�าหรับการอาศัย อยู่เป็นครอบครัวขนาดเล็ก หรือใหญ่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด • เป็นห้องชุดอาคารสูง ภายในห้องประกอบด้วยห้องต่าง ๆ • พื้นที่มีจ�ากัด มีพื้นที่ส่วนกลางให้บริการ เช่น สระว่ายน�้า สวน สถานที่ออกก�าลังกาย ร้านค้า ร้านอาหาร • ตั้งอยู่ ในท�าเลที่เดินทางสะดวก เช่น ใกล้รถไฟฟ้า • เหมาะกับการอาศัยอยู่แบบคนเดียว หรือครอบครัวขนาดเล็ก คอนโดมิเนียม การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 11 ทาวน์เฮาส์ 1 ขั้นสอน 1. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาพูดแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับประเภทของบานให เพื่อนฟงหนาชั้นเรียน จากนั้นใหนักเรียน รวมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเภท ของบาน โดยมีครูเปนผูคอยเสนอแนะเพิ่มเติม 2. ครูถามนักเรียนวา • บานในแตละภูมิภาคมีลักษณะที่แตกตางกัน หรือไม อยางไร (แนวตอบ มีลักษณะที่แตกตางกันไมมาก โดยการสรางบานจะขึ้นอยูกับลักษณะ ภูมิประเทศ วิถีชีวิตของผูคนเปนสวนใหญ เชน หากอยูใกลกับแมนํ้า ลําคลอง บานจะมี ลักษณะเปนแบบใตถุนสูง เพื่อปองกัน นํ้าทวม หากตั้งอยูในบริเวณที่มีฝนตกชุก บานจะมีหลังคาทรงสูงและจะมีความลาด เอียงมาก เพื่อชวยใหนํ้าฝนไหลผานไดอยาง สะดวก) • นักเรียนคิดวาเพราะเหตุใดคนในสังคม เมืองในยุคปจจุบันจึงนิยมอาศัยอยูใน คอนโดมิเนียมกันมากขึ้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน คอนโดมิเนียมจะมีทําเล ที่ตั้งที่ดี ทําใหสะดวกตอการเดินทาง เชน อยูใกลรถไฟฟา ชวยประหยัดเวลาและ คาใชจาย มีพื้นที่สวนกลางใหใชประโยชน อยางหลากหลาย มีระบบการรักษาความ ปลอดภัยใหแกผูที่พักอาศัยอยางเขมงวด) • หากครอบครัวตองการประกอบธุรกิจนักเรียน จะแนะนําใหคุณพอ คุณแม หรือผูปกครอง เลือกซื้อบานประเภทใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ เลือกซื้อประเภทอาคารพาณิชย เพราะสวนใหญสรางอยูในแหลงชุมชนที่มี การคมนาคมสะดวก สามารถตอยอดทํา ธุรกิจไดในอนาคต) บานมีความสําคัญอยางไร 1. เปนที่พักอาศัยของบุคคลที่สนิทสนม 2. เปนศูนยรวมของสมาชิกในครอบครัว 3. เปนอสังหาริมทรัพยที่มีความสวยงาม 4. เปนสิ่งที่แสดงใหเห็นถึงฐานะของตนเอง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะบานเปนสถานที่สําหรับ พักผอน นอนหลับ บังแดด ลม ฝน และถือไดวาเปนศูนยรวม ของสมาชิกในครอบครัวที่จะใชชีวิตอยูรวมกันอยางมีความสุข มีความรัก ความอบอุน และความปลอดภัยในการดํารงชีวิต) เกร็ดแนะครู ครูอาจนําภาพบานแตละประเภทมาใหนักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนไดเห็น ลักษณะของบานแตละประเภทวามีลักษณะอยางไร เหมาะสมตอการอยูอาศัย ของครอบครัวแบบใด จากนั้นใหนักเรียนเปรียบเทียบกับบานของตนเองวาเปน บานประเภทใด นักเรียนควรรู 1 ทาวนเฮาส หรือทาวนโฮมไดรับความนิยมเปนลําดับตนๆ มีสวนแบงทางการ ตลาดถึง 1 ใน 3 ของตลาดที่อยูอาศัยทั้งหมด เนื่องจากสามารถจับกลุมเปาหมาย ไดเปนวงกวาง ไมวาจะเปนกลุมเปาหมายที่มีรายไดตํ่าจนถึงกลุมเปาหมาย ที่มีรายไดสูงและกลุมเปาหมายที่มีครอบครัวขนาดเล็กถึงครอบครัวขนาดใหญ หรือกําลังเริ่มสรางครอบครัว นํา สอน สรุป ประเมิน T15
ขอสอบเนนการคิด ๒ ลักษณะของบ้านที่น่าอยู่ บ้านที่น่าอยู่ไม่จ�าเป็นต้องหลังใหญ่ อาจเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ที่มีความปลอดภัยต่อสมาชิก ในครอบครัว มีความรัก ความเข้าใจ และความเอื้ออาทรต่อกัน บ้านจึงจะเป็นบ้านที่น่าอยู่ มีบรรยากาศ อบอุ่น สมาชิกในครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ลักษณะของบ้านที่น่าอยู่ มีดังนี้ เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวมี โอกาสได้ท�ากิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพ อากาศ ประตู หน้าต ่าง ผนัง ใช้งานได้ดี มีความปลอดภัย มีความสะอาด มีเครื่องอ�านวยความสะดวกเพียงพอ มีอากาศถ่ายเทสะดวก มีความแข็งแรง ปราศจากฝุนละอองและ สิ่งสกปรกต่าง ๆ ต้องหมั่นดูแล รักษา ท�าความสะอาดอยู่เสมอ ห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ควรมีอากาศถ่ายเท ได้สะดวก เพื่อป้องกันกลิ่นอับชื้น อยู ่ ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ดี มีความ ปลอดภัย และเพียงพอต่อการใช้งาน มีพื้นที่ส�าหรับใช้สอย 12 อากาศ ประตู หน้าต ่าง ผนัง 1 ขั้นสอน 3. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ออกมาพูดแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะของบานที่นาอยู ตามความคิดของตนเองใหเพื่อนฟงหนา ชั้นเรียน 4. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ลักษณะของบานที่นาอยู โดยมีครูเปนผูคอย เสนอแนะเพิ่มเติม 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “บานที่นาอยูอาศัยไม จําเปนตองเปนบานหลังใหญ แตควรเปนบานที่ สมาชิกในครอบครัวอยูรวมกันอยางมีความสุข มีความรัก ความอบอุน ความเอื้ออาทรตอกัน มีความแข็งแรง คงทน ปลอดภัย จัดเก็บ สิ่งของตางๆ อยางเปนระเบียบ มีความสะอาด สะดวกสบาย และถูกสุขอนามัย นอกจากนี้ ยังตองมีสภาพแวดลอมที่เอื้ออํานวยตอการมี สุขภาพที่ดีทั้งรางกายและจิตใจอีกดวย” • ลักษณะของบานที่นาอยูตามความคิดของ นักเรียนเปนอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เปนบานที่เต็มไปดวย ความรัก ความหวงใยของสมาชิกทุกคนใน ครอบครัว บานมีขนาดที่เหมาะสมกับจํานวน ของสมาชิก มีความแข็งแรง สะอาด ปลอดภัย อากาศถายเทไดสะดวก มีพื้นที่ใชสอยสําหรับ การประกอบกิจกรรมตางๆ ของสมาชิกใน ครอบครัว) • นักเรียนมีแนวทางในการปฏิบัติตนอยางไร ที่จะชวยทําใหบานของตนเองนาอยูอาศัย มากยิ่งขึ้น (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็นได อยางอิสระ เชน ควรรักษาความสะอาดอยูเสมอ จัดวางสิ่งของเครื่องใชใหเปนระเบียบเรียบรอย) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคําวา “บาน” ใหนักเรียนฟงวา บานที่นาอยูไมได หมายถึงบานที่มีความสวยงาม ความสะอาด และมีความปลอดภัยเทานั้น แตยัง รวมถึงสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครัว ซึ่งหากสมาชิกทุกคนในครอบครัว มีสัมพันธภาพที่ดีตอกัน ยอมสงผลใหครอบครัวมีความรัก ความเขาใจซึ่งกัน และกัน และมีความสุขที่ไดอยูรวมกัน นักเรียนควรรู 1 ผนัง ผนังภายนอกบาน ควรใชผนังกออิฐฉาบปูน เพราะมีความแข็งแรง ทนทานตอแดด ลม ฝนไดดี โดยวัสดุที่นํามาใชในการกอผนังมีหลายชนิด เชน อิฐมอญ อิฐมวลเบา ซีเมนตบล็อก อิฐประสาน ขอใดคือลักษณะของบานที่นาอยูอยางแทจริง 1. สมาชิกในครอบครัวมีความเขาใจกัน 2. บานมีความสวยงามและนามอง 3. มีสมาชิกในบานจํานวนนอย 4. มีพื้นที่กวางขวาง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะบานที่นาอยูอยางแทจริง นอกจากจะมีความสวยงาม ความสะอาด มีพื้นที่สําหรับใชสอยแลว สมาชิกในครอบครัวจะตองมีความรัก มีความเขาใจซึ่งกันและกัน แสดงใหเห็นวาครอบครัวที่มีความอบอุน มีความสุข ยอมสงผลให บานมีความนาอยูมากยิ่งขึ้น) นํา สอน สรุป ประเมิน T16
๓ หลักการจัดและตกแต่งบ้าน การจัดและตกแต่งบ้านให้สวยงาม น่าอยู่ และเป็นที่พึงพอใจของสมาชิกในครอบครัว จะต้อง อาศัยหลักการและวิธีการ ตลอดจนต้องเรียนรู้ธรรมชาติ หรือความชอบของสมาชิกในครอบครัว โดยหลักการจัดและตกแต่งบ้านที่ควรค�านึงถึง มีดังนี้ ๓.๑ ความปลอดภัยในบ้าน บ้านที่น ่าอยู ่นอกจากจะเป็นบ้านที่ตอบสนองการใช้งานได้อย ่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังต้องมีความปลอดภัยให้แก่สมาชิกในครอบครัว เพราะชีวิตในบ้านอาจไร้ซึ่งความสุข หากบ้าน ที่อาศัยอยู่นั้นไม่มีความปลอดภัย ซึ่งความปลอดภัยในบ้าน มีดังนี้ • ไม ่วางสิ่งของกีดขวางบริเวณทางเดินและ บันได เพราะอาจเดินสะดุดหกล้มได้ • มีแสงสว่างเพียงพอ โดยติดตั้งสวิตช์ไฟใกล้ ประตูเข้า-ออก เพื่อความสะดวกในการใช้งาน • จัดวางสิ่งของเครื่องใช้ให้เหมาะสม เช่น จัดตู้ยาในที่สูงเพื่อไม่ให้ถูกแสงและพ้นมือเด็ก • ไม่ควรขัดมัน หรือลงแว็กซ์ที่พื้นและบันไดบ้าน เพราะอาจท�าให้ลื่นล้มได้ • หมั่นตรวจสอบสายไฟและหลอดไฟให้อยู่ใน สภาพดีอยู่เสมอ หากช�ารุดต้องเปลี่ยนทันที • ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสภาพดีหมั่นตรวจสอบ สภาพอยู่เสมอ หากช�ารุดห้ามน�ามาใช้ • ไม่ควรซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช�ารุดด้วยตนเอง หากไม่มีความรู้หรือความช�านาญในการซ่อม • ไม ่เสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมาก ร่วมสายไฟเดียวกัน • ใช้รั้วและประตูรั้วที่ท�าจากวัสดุที่มีความ แข็งแรง ทนทาน และมั่นคง • ติดตั้งเหล็กดัดที่ประตูและหน้าต่าง เพื่อเพิ่ม ความแข็งแรงและความปลอดภัย • ดูแลซ ่อมแซมกลอนและลูกบิดให้อยู ่ใน สภาพดี มั่นคง และแข็งแรงอยู่เสมอ • เมื่อไม ่อยู ่บ้านควรปิดประตู หน้าต่างให้ เรียบร้อยก่อนทุกครั้ง • ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อความปลอดภัย ไว้คอยตรวจสอบเหตุการณ์ต่าง ๆ และใช้เป็น หลักฐานทางกฎหมายได้ • ก ่อนใช้งานเครื่องมือ เครื่องใช้ ควรมีการ ตรวจสอบสภาพการใช้งานทุกครั้ง • จัดเก็บเครื่องมือ เครื่องใช้ให้เป็นระเบียบ เป็น หมวดหมู่ เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้งาน • เลือกใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ให้เหมาะสมกับ ชนิดของงาน • ก่อนจัดเก็บเครื่องมือ เครื่องใช้ควรบ�ารุงรักษา ให้คงสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ อุบัติเหตุในบ้าน การใช้ไฟฟ้าในบ้าน การถูกโจรกรรม เครื่องมือ เครื่องใช้ในบ้าน การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 13 จัดตู้ยาในที่สูง ให้ถูกแสงและพ้นมือเด็ก หรือลงแว็กซ์ที่พื้นและบันไดบ้าน หมั่นตรวจสอบสายไฟและหลอดไฟให้อยู่ 1 2 3 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน 6. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา เรื่อง หลักการจัดและตกแตงบาน ในประเด็น ที่ครูกําหนดให คือ ความปลอดภัยในบาน ความสะอาด ถูกสุขลักษณะ ความสวยงาม ความประหยัด จากหนังสือเรียน หนวยการ เรียนรูที่ 2 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 7. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการ จัดและตกแตงบาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 2 8. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปราย แลกเปลี่ยนความรูในเรื่องที่ไดศึกษามา จากนั้น ครูถามนักเรียนวา • ความปลอดภัยในบานมีความสําคัญอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ความปลอดภัยในบาน จะชวยทําใหสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู รวมกันไดอยางมีความสุข โดยสวนใหญ ความไมปลอดภัยในบานจะเกิดจากสาเหตุ หลักหลายประการ เชน การเกิดอุบัติเหตุ ในบาน การถูกโจรกรรม การใชไฟฟาในบาน เครื่องมือ เครื่องใช สิ่งอํานวยความสะดวก ตางๆ ภายในบาน) • กลองวงจรปดมีประโยชนในการชวยปองกัน การถูกโจรกรรมทรัพยสินในบานอยางไร (แนวตอบ กลองวงจรปดถูกนํามาติด เพื่อใช สังเกตการณความเคลื่อนไหว หรือสิ่งผิดปกติ ที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณบานและบริเวณที่ ตองการตรวจจับภาพ เพื่อชวยปองกัน การถูกโจรกรรมทรัพยสิน การเกิดเหตุ รายตางๆ สามารถนํามาใชเปนหลักฐาน หากเกิดเหตุการณที่เลวราย ทั้งยังชวย ในการติดตามหาคนรายไดอีกดวย) นักเรียนควรรู 1 ตูยา ควรมียาสามัญประจําบาน เพราะหากสมาชิกในครอบครัวคนใดคนหนึ่ง เกิดการเจ็บปวยเพียงเล็กนอยจะไดสามารถชวยเหลือในเบื้องตนไดอยางทันทวงที โดยยาสามัญประจําบานที่ควรมีไว เชน ยาบรรเทาปวด หรือลดไข ยาแกทองเสีย ยาแกปวดทอง ยาแกแพ ยาแกไอ ยาดม ยาใสแผล 2 แว็กซ การลงแว็กซ สามารถทําไดโดยใชผาชุบแว็กซ จากนั้นเริ่มขัดจากมุม ในสุดของพื้น ทิ้งใหแว็กซแหงประมาณ 20 นาที จึงลงซํ้าประมาณ 3-4 รอบ ซึ่งจะตองไมขัดใหมันจนเกินไป เพราะอาจกอใหเกิดอุบัติเหตุได 3 หลอดไฟ ที่นิยมใชภายในบานจะแบงออกเปน 2 ประเภท ไดแก หลอดไส ทังสเตน ใหแสงเหมือนธรรมชาติ ไมชวยในการประหยัดพลังงาน อายุการ ใชงานสั้น และหลอดฟลูออเรสเซนต มีประสิทธิภาพสูง อายุการใชงาน ยาวนาน ไมมีปญหาเรื่องหลอดขาดเมื่อเกิดกระแสไฟฟาตก ใหนักเรียนสํารวจบานของตนเองวามีการจัดและตกแตงเปน อยางไร นักเรียนคิดวาจะจัดและตกแตงบานใหสวยงามและเปน ระเบียบมากขึ้นหรือไม โดยใหนักเรียนถายภาพบานของตนเอง ในปจจุบัน เขียนสรุปลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนสํารวจบานของตนเองวามีการจัดและตกแตงเปน อยางไร นักเรียนคิดวาจะจัดและตกแตงบานใหสวยงามและเปน ระเบียบมากขึ้นหรือไม โดยใหนักเรียนออกแบบการจัดและตกแตง บานที่ตนเองตองการ และถายภาพบานของตนเองกอนตกแตงและ หลังตกแตง เพื่อเปรียบเทียบใหเห็นความแตกตางลงในกระดาษ รายงาน นําสงครูผูสอน นํา สอน สรุป ประเมิน T17
ขอสอบเนนการคิด ๓.๒ ความสะอาด ถูกสุขลักษณะ บ้านที่น่าอยู่ต้องมีความสะอาด มีระบบก�าจัดขยะและของเสียที่ถูกสุขลักษณะ เพื่อการมี สุขภาพที่ดีของสมาชิกในครอบครัว ตัวอย่างการจัดและตกแต่งบ้านให้ถูกสุขลักษณะ มีดังนี้ ห้องรับแขก ห้องนอน ห้องน�้า อากาศถ่ายเทได้สะดวก สะอาด จัดและตกแต่งให้สวยงาม เพื่อ เป็นการสร้างความประทับใจ ให้แก ่ผู้ที่มาเยือน และเพื่อ สุขภาพอนามัยที่ดีของสมาชิก ในครอบครัว อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น มีหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศ แสงแดดส ่องถึง ภายในห้อง ไม่ควรมีเครื่องเรือนมาก เพราะ จะท�าความสะอาดไม่ทั่วถึง เป็น ที่สะสมของฝุนละออง อากาศถ ่ายเทได้สะดวก ไม ่มี กลิ่นรบกวน พื้นไม่ลื่น มีการ ต ่อระบบท ่อน�้าที่ดีทั้งท ่อน�้า ประปาที่ ใช้ และท่อเพื่อระบาย น�้าเสีย วางต�าแหน่งอ่างล้างหน้า โถส้วม ฝกบัวได้อย่างเหมาะสม 1๔ ห้องนอน1 2 หองในขอใดควรจัดตกแตงใหมีเครื่องเรือนนอยที่สุด 1. หองครัว 2. หองนอน 3. หองนั่งเลน 4. หองรับแขก (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะหากมีเครื่องเรือนมากจะทํา ความสะอาดฝุนละอองไดยาก ทําใหมีฝุนละอองตกคางภายในหอง ซึ่งสงผลเสียตอสุขภาพ นอกจากนี้ หากมีเครื่องเรือนมากจะทําให หองดูคับแคบ เกิดความรูสึกอึดอัด และพักผอนไดไมเต็มที่) ขั้นสอน 9. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คนออกมาเลา ประสบการณเกี่ยวกับการดูแลรักษาความ สะอาดบานและหองตางๆ ภายในบานของ ตนเองใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน จากนั้นให นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การดูแลรักษาความสะอาดบานและหองตางๆ ภายในบาน โดยมีครูเปนผูคอยเสนอแนะ เพิ่มเติม 10. ครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใดหองนอนจึงควรเปนหองที่มี เครื่องใชและของประดับตกแตงนอยที่สุด (แนวตอบ หองนอนเปนหองสําหรับพักผอน การมีเครื่องใชและของประดับตกแตงมาก จนเกินไปจะทําใหหองดูคับแคบ เกิดความ รูสึกอึดอัด ทําใหพักผอนไดไมเต็มที่ ทั้งยัง เปนแหลงสะสมของฝุนละออง ซึ่งจะสง ผลเสียตอสุขภาพและรางกายของผูพัก อาศัยได) • การทําความสะอาดประเภทใดที่สามารถ ปฏิบัติไดเปนประจําทุกวัน (แนวตอบ การทําความสะอาดพื้นบาน สามารถทําไดทุกวัน เพื่อเปนการปองกัน การสะสมของฝุนละอองและเชื้อโรคตางๆ) 11. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “หมอนที่ใชงานมานาน อาจมีคราบสกปรกเกาะติดแนน จึงควรนํามา ทําความสะอาด เพื่อสุขอนามัยที่ดีของผูใช ซึ่งการทําความสะอาดสามารถทําไดหลายวิธี เชน ใชนํ้ายาลางจาน 1 ถวยตวง โซดาซักผา 3 4 ถวยตวง นํ้าสมสายชู 1 2 ½ ถวยตวง ผงซักฟอก 3 ชอนโตะ นํ้ารอน 3 ถวยตวง ผสมสวนผสม ทั้งหมดใหเปนเนื้อเดียวกัน นําหมอนใสลง ในถังซักผาตามดวยสวนผสมที่เตรียมไว เปดนํ้ารอนและซักตามปกติ จะชวยขจัดคราบ สกปรกออกได” เกร็ดแนะครู ครูควรแนะนํานักเรียนวา นักเรียนควรดูแลรักษาความสะอาดหองตางๆ ภายในบานใหสะอาดและถูกสุขลักษณะอยูเสมอ เพราะหากปลอยใหหองเกิด ความสกปรกจะเปนแหลงสะสมของเชื้อโรค และอาจนําไปสูการเกิดโรคตางๆ ได นักเรียนควรรู 1 หองนอน ในหองนอนมักมีตัวไรฝุน ซึ่งไมสามารถมองเห็นไดดวยตาเปลา มักพบอยูรวมกับฝุนที่มากับหมอน ผาหม ผาคลุมเตียง โดยตัวไรฝุนจะทําให เกิดอาการภูมิแพ อาการคัน จาม นํ้ามูกไหล ดังนั้น จึงควรปองกันโดยการนํา เครื่องนอนไปซักและผึ่งแดดบอยๆ รวมถึงเคาะเอาฝุนออกดวย 2 ฝกบัว การทําความสะอาดทําไดโดยผสมนํ้าสมสายชู 400 มิลลิลิตร กับ นํ้ามะนาว 1/3 ถวยตวง เทใสหยอดปม ถอดหัวฝกบัวออก หยดสวนผสมที่ หัวฝกบัว ทิ้งไว 24 ชั่วโมง ใชแปรงสีฟนขัดคราบสกปรกและใชนํ้าสะอาดลางออก นํา สอน สรุป ประเมิน T18
กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค ๓.๓ ความสวยงาม ควรน�าหลักการทางทัศนศิลป์มาประยุกต์ ใช้ เพื่อแสดงออกถึงความงดงามและแสดงถึง ความมีรสนิยมของเจ้าของบ้าน โดยมีหลักการจัดและตกแต่งบ้าน ดังนี้ ๑) ขนาดและสัดส่วนของเครื่องเรือน ต้องมีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอย เช่น เครื่องเรือนขนาดใหญ่ส�าหรับห้องที่มีขนาดกว้าง เครื่องเรือนขนาดเล็กส�าหรับห้องที่มีขนาดเล็ก ๒) การใช้สี สีช่วยให้บ้านเกิดความสวยงาม สีมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึก เช่น สีฟ้า ให้ความรู้สึกสดชื่น การใช้สีต้องค�านึงถึงระดับของสี เช่น หากต้องการให้ห้องดูกว้าง หรือ ใหญ่ขึ้น ให้ ใช้สีโทนอ่อน ๓.๔ ความประหยัด การจัดและตกแต่งบ้าน นอกจากต้องค�านึงถึงความปลอดภัย ความสะอาด ถูกสุขลักษณะ และความสวยงามแล้ว ยังต้องค�านึงถึงความประหยัดด้วย โดยมีข้อควรค�านึงถึง ดังนี้ ๑) ประหยัดเวลา วางแผนอย่างเป็นขั้นตอนและก�าหนดเวลาในการท�างาน เพื่อให้ จัดและตกแต่งบ้านส�าเร็จอย่างมีคุณภาพภายในเวลาที่ก�าหนด ๒) ประหยัดแรงงาน น�าอุปกรณ์เสริมมาช่วยในการท�างาน เพื่อประหยัดแรงงาน เช่น ต้องการตกแต่งผนังห้องให้สวยงามโดยการวาดภาพที่ผนัง สามารถใช้สติกเกอร์ติดผนัง ติดตกแต่งผนังแทนได้ ๓) ประหยัดค่าใช้จ่าย ควรค�านึงถึงความคุ้มค่าของการใช้งาน สมาชิกทุกคนในบ้าน ใช้ประโยชน์ได้ในระยะเวลานาน ไม่จ�าเป็นต้องมีราคาแพง แต่ควรค�านึงถึงประโยชน์การใช้งาน เป็นหลัก การทาสีห้องด้วยสีโทนสว่างจะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น การทาสีห้องด้วยสีโทนเข้มจะช่วยท�าให้ห้องดูเล็กลง การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 15 ใช้สีโทนอ่อน สามารถใช้สติกเกอร์ติดผนัง 1 2 ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันออกแบบการจัด และตกแตงหองตางๆ ภายในบานตามจินตนาการ โดยเลือกตาม ความสนใจ 1 หอง โดยวัสดุที่นํามาตกแตงนั้นควรเลือกใชวัสดุ ในทองถิ่น หรือวัสดุเหลือใช ซึ่งใหแตละกลุมออกแบบลงในกระดาษ ตกแตงใหสวยงาม พรอมทั้งระบุวัสดุตกแตงที่นํามาใช จากนั้น ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงคดานใฝเรียนรู อยูอยางพอเพียง และมุงมั่นในการทํางาน) นักเรียนควรรู 1 สีโทนออน สีที่นิยมนํามาใชทาบาน เชน สีฟาออน สีเขียวออน สีครีม สีไขไก เนื่องจากเปนโทนสีที่ดูแลวสบายตา ใหความรูสึกผอนคลาย 2 สติกเกอรติดผนัง กอนติดสติกเกอรควรทําความสะอาดพื้นผิวที่ตองการ ติดใหสะอาดกอน จากนั้นทิ้งใหผนังแหงสนิทกอนทําการติด ในกรณีที่ตองการ ติดผนังปูน พื้นผิวของผนังจะตองเรียบเนียน เพราะหากผิวของผนังขรุขระ หยาบ จะทําใหอายุการใชงานลดลง หรืออาจมีปญหาตั้งแตในขั้นการติดสติกเกอร ดังนั้น ควรทําการสํารวจผนังบานกอนทําการติดสติกเกอร ขั้นสอน 12. ครูนํากระดาษสีหลากสีมาใหนักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนวา • นักเรียนชื่นชอบสีใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความ คิดเห็นไดอยางอิสระ เชน ชอบสีเหลือง เพราะเปนสีที่สดใส ใหความรูสึกสวาง สดชื่น ชอบสีแดง เพราะเปนสีประจําวันเกิด ใหความรูสึกตื่นเตน ทาทาย) • สีที่นักเรียนชื่นชอบสามารถนํามาใชเพื่อ เพิ่มความสวยงามใหแกบานไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 13. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “สีแตละสีจะมีอิทธิพล ตอความรูสึกที่แตกตางกัน การใชสีเพื่อให บานเกิดความสวยงามนั้น จําเปนตองคํานึงถึง อิทธิพลของสีและระดับของสีเปนหลัก เชน หองรับแขก หองนี้ใชสีไดทุกระดับ ควรเลือกใช สีที่ดูโปรง โลง สบายตา เชน สีครีม สีเขียวออน สีชมพูออน หองรับประทานอาหาร ควรเลือก ใชสีที่ดูสะอาด ซึ่งจะชวยกระตุนใหรูสึกอยาก รับประทานอาหารและรับประทานอาหารได มากขึ้น เชน สีชมพู สีสมออนๆ” 14. ครูถามนักเรียนวา • หากบาน หรือหองตางๆ ภายในบานมี ขนาดเล็กจะมีแนวทางในการแกปญหา ดังกลาวอยางไร เพื่อใหบานดูกวางขึ้น (แนวตอบ ควรเลือกใชเครื่องใชที่มีขนาด และลักษณะเหมาะสมกับขนาดของบาน เพื่อใหบานดูกวาง โปรง โลง สบาย หากบาน มีขนาดเล็ก แตเลือกใชเครื่องใชขนาดใหญ หรือเครื่องเรือนที่มีลักษณะทึบตัน จะทําให บานดูคับแคบและอึดอัด นอกจากนี้ ควร ทาสีบานดวยสีโทนออน ซึ่งจะชวยใหบาน ดูกวางขวางมากยิ่งขึ้น) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการติดสติกเกอรที่ผนัง ไดที่ https://www. youtube.com/watch?v=8N1qEL6agrc หรือ https://www.youtube.com/ watch?v=8XdkIYKglu0 นํา สอน สรุป ประเมิน T19
ขอสอบเนนการคิด ๔ เครื่องใช้และของประดับในการจัดและตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ในบ้านเป็นสิ่งของอ�านวยความสะดวกต่าง ๆ ในบ้านส่วนของประดับบ้านเป็นสิ่งของ ที่ใช้ในการตกแต่งบ้านให้มีความสวยงาม การจัดและตกแต่งบ้านต้องมีการเลือกใช้เครื่องใช้ และของประดับให้เหมาะสมกับบ้าน ฐานะทางการเงิน และความต้องการของสมาชิกในครอบครัว ๔.๑ เครื่องใช้ ในการจัดและตกแต่งบ้าน ควรเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่มีความจ�าเป็นและสร้างความสะดวกสบายให้แก่สมาชิกในครอบครัว ดังนี้ • การเคลื่อนย้าย ปรับปรุง แก้ไขรูปแบบ และการซ่อมแซมท�าได้ยาก • ใช้ต้นทุนในการผลิตสูง เพราะต้องใช้ เครื่องมือและแรงงานจ�านวนมากในการผลิต • โครงสร้างของตัวอาคารจะได้รับความช�ารุด เสียหาย เมื่อมีการถอดอุปกรณ์ออก เครื่องใช้ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เช่นตู้ติดผนัง โต๊ะติดผนัง หากมีการเคลื่อนย้ายอาจท�าให้ ผนังหรืออุปกรณ์ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ ในบ้านเกิดความเสียหาย ข้อดี ข้อจ�ากัด • โครงสร้างของอุปกรณ์แข็งแรงและมีความ เหมาะสมกับพื้นที่ที่ ใช้ ในการติดตั้ง • ประหยัดพื้นที่ ในการจัดวางอุปกรณ์ ท�าให้ มีพื้นที่ในการใช้สอยเพิ่มมากขึ้น • ประหยัดวัสดุ เพราะโครงสร้างของอุปกรณ์ บางส่วนอาศัยโครงสร้างของตัวอาคารได้ เครื่องใช้และเครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร การขจัดรอยต่าง ๆ บนเครื่องเรือนที่ท�า จากไม้ ให้ใช้ผ้าสะอาดแตะน�้ายาขัดรองเท้า ถูบริเวณที่เกิดรอยรอยขีดข่วนจะค่อย ๆ หายไป Trick : การท�าความสะอาดเครื่องเรือน 16 เครื่องใช้และเครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร ตู้ติดผนัง ให้ใช้ผ้าสะอาดแตะน�้ายาขัดรองเท้า 1 2 3 ขั้นสอน 15. ครูนําภาพหองที่มีรูปแบบการใชเครื่องเรือน ที่แตกตางกันมาใหนักเรียนดู ซึ่งภาพที่ 1 จะ เปนภาพการใชเครื่องใชและเครื่องเรือนที่ติด กับอาคาร สวนภาพที่ 2 จะเปนภาพการใช เครื่องใชและเครื่องเรือนแบบลอยตัว จากนั้น ครูถามนักเรียนวา • ที่บานของนักเรียนจัดตกแตงหองดวย เครื่องใชและเครื่องเรือนแบบใด เพราะ เหตุใดจึงเลือกใชเครื่องใชและเครื่องเรือน ในลักษณะนี้ (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน เชน เนื่องจากบานที่อาศัยอยูเปน ทาวนเฮาส 2 ชั้น มีเนื้อที่ 16 ตารางวา ซึ่ง มีพื้นที่ในการใชสอยที่จํากัด จึงเลือกใช เครื่องใชและเครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร เปนหลัก เพราะชวยประหยัดพื้นที่ในการ จัดวางอุปกรณ ทําใหมีพื้นที่ในการใชสอย ที่เพิ่มมากขึ้น) 16. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา เรื่อง เครื่องใชในการจัดและตกแตงบาน ประเภท เครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร และเครื่องเรือน แบบลอยตัว จากหนังสือเรียน หนวยการเรียน รูที่ 2 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 17. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องใช ในการจัดและตกแตงบาน ประเภทเครื่องเรือน ที่ติดกับอาคาร และเครื่องเรือนแบบลอยตัว จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 2 18. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวิเคราะห ความแตกตางของเครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร และเครื่องเรือนแบบลอยตัว สรุปผลการ วิเคราะห จากนั้นใหแตละกลุมสงตัวแทน กลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลการ วิเคราะหหนาชั้นเรียน นักเรียนควรรู 1 เครื่องใชและเครื่องเรือนที่ติดกับอาคาร หรือ “Built-in” เหมาะกับบาน ที่มีพื้นที่จํากัด สามารถชวยอําพรางการจัดเก็บเครื่องใชที่ไมเปนระเบียบใหดู เรียบรอย สะอาดตา สวนมากนิยมใชกับคอนโดมิเนียม อพารตเมนต ซึ่งเครื่องใช ประเภทนี้มีขอจํากัดในการเคลื่อนยาย เพราะถาถอดออกแลวตองการประกอบ เขาไปใหมอาจทําใหผนังและตัวเครื่องใชเสียหายได 2 ตู มีอยูดวยกันหลายรูปแบบใหเลือกใช ควรเลือกใชใหเหมาะสมกับลักษณะ ของการใชงาน เชน ตูแบบทึบ เหมาะสําหรับหองที่มีขนาดใหญ เพราะความทึบ ของตูจะไมทําลายความสมดุลภายในหอง 3 นํ้ายาขัดรองเทา ควรเริ่มจากบริเวณปลายรองเทาดานบน ทําความสะอาด ฝุนออกโดยใชแปรงขัดรองเทา ใชคลีนเนอรชนิดเหลวลบสิ่งสกปรกออกจนหมด แลวใชผาพันปลายนิ้วเช็ดถูคราบสกปรกออก จากนั้นบํารุงผิวรองเทาโดยการทา ครีมเกลี่ยใหกระจายจนทั่วผิวรองเทา หากบานมีขนาดเล็กจะมีวิธีการตกแตงอยางไร เพื่อใหบานดู กวางขึ้น 1. เลือกทาสีบานเปนโทนสีเขม 2. ลดจํานวนสมาชิกในบานใหนอยลง 3. เลือกใชเครื่องเรือนใหเหมาะสมกับขนาดของบาน 4. ทําความสะอาดและเก็บสิ่งที่ไมจําเปนทิ้งอยางสมํ่าเสมอ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะบานที่มีขนาดเล็กควรเลือกใช เครื่องเรือนใหเหมาะสมกับขนาดของบาน ซึ่งจะชวยทําใหบานดู กวางขึ้น หากบานมีขนาดเล็กแตใชเครื่องเรือนที่มีขนาดใหญจะ ทําใหบานดูคับแคบ นอกจากนี้ การเลือกโทนสีออนทาบานจะชวย ใหบานดูกวางขึ้นไดเชนเดียวกัน) นํา สอน สรุป ประเมิน T20
ขอสอบเนน การคิด • ก ่อนซื้อควรวัดขนาดพื้นที่ที่ต้องการก ่อน เพราะอาจมีขนาดที่ ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ • ความแข็งแรงมีขีดจ�ากัด โครงสร้างอุปกรณ์ จะรองรับน�้าหนักด้วยตัวมันเองเท่านั้น • ชิ้นส่วนบางชิ้นอาจมีคุณภาพไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากใช้ระบบการผลิตครั้งละมาก ๆ การดูแลรักษาโซฟาประเภทหนัง โซฟา เป็นเครื่องเรือนที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมซื้อมาใช้ โดยจัดวางอยู่ในห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น การดูแลรักษาโซฟาประเภทหนัง สามารถปฏิบัติได้เองง่าย ๆ ดังนี้ ๑. ใช้ผ้าสะอาดชุบน�้าอุ่นพอหมาด ๆ เช็ดถูบริเวณที่เป็นคราบสกปรกออก ๒. หากเปอนเครื่องดื่มให้ใช้ผ้าสะอาด หรือฟองน�้าเช็ดให้แห้ง แล้วใช้ผ้าสะอาดชุบน�้า หมาด ๆ เช็ด T i p เครื่องใช้ที่หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเรือนทั่วไป เคลื่อนย้ายได้สะดวก มีขนาดมาตรฐาน จัดวางได้ตามความต้องการ นิยมผลิตเป็นชิ้น จะทิ้ง หรือเปลี่ยนเป็นชิ้นใหม่ก็ท�าได้ง่าย ข้อดี ข้อจ�ากัด • เคลื่อนย้ายได้สะดวก จัดวางที่ ใหม่ได้ง่าย • ราคาถูกกว่าประเภทที่ติดกับอาคาร มีรูปแบบ ให้เลือกหลากหลาย • ซ่อมแซมได้ง่าย เนื่องจากชิ้นส่วนบางชิ้นหา ซื้อมาซ่อมแซมเองได้ เครื่องใช้และเครื่องเรือนแบบลอยตัว ให้น�าขี้ผึ้งขัดรถมาทาเคลือบไว้ หากโดนน�้า หรือน�้าค้างจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสนิม Trick : การรักษาเครื่องเรือนที่ท�าจากโลหะ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 17 1 ขั้นสอน 19. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เครื่องเรือน หรือ เฟอรนิเจอร เปนเครื่องใชที่ชวยอํานวยความ สะดวกภายในบาน ชวยใหการจัดวางสิ่งของ ตางๆ ภายในบานเปนระเบียบเรียบรอย ทั้งยัง บงบอกถึงรสนิยมของผูเปนเจาของบานได เปนอยางดี ปจจุบันเครื่องเรือนมีอยูดวยกัน หลากหลายรูปแบบ ผลิตจากวัสดุที่แตกตางกัน ซึ่งสงผลใหราคาของเครื่องเรือนมีความ แตกตางกันออกไป ดังนั้น ในการเลือกซื้อ เครื่องเรือนจึงควรพิจารณาอยางละเอียดถี่ถวน กอนตัดสินใจเลือกซื้อ เชน • เสาะหาสถานที่จัดจําหนายเครื่องเรือนวา มีการจัดแสดงสินคาที่ใด มีโปรโมชันใดที่ นาสนใจ เพื่อใหมีโอกาสในการเลือกซื้อ เครื่องเรือนที่สวยงามในราคาที่เหมาะสม • ควรมีการเปรียบเทียบคุณภาพของสินคา แตละยี่หออยางละเอียด เพราะแตละบริษัท จะเลือกใชวัสดุที่แตกตางกัน ซึ่งจะสงผลให เครื่องเรือนมีคุณภาพที่แตกตางกันออกไป • เลือกรูปแบบ รูปทรง สี และขนาดของ เครื่องเรือนใหเหมาะสมกับหองที่ตองการ ใชงาน โดยรูปแบบและรูปทรงของเครื่องเรือน ควรมีลักษณะที่เปนไปในทิศทางเดียวกับ เครื่องเรือนที่ตองการใชทั้งหมด • พิจารณาวัสดุที่นํามาผลิต เนื่องจากวัสดุ แตละชนิดจะมีอายุการใชงานและสภาพที่ แตกตางกัน เชน หากตองการเครื่องเรือน ที่มีสีสันสวยงาม ใหความรูสึกสดชื่น ควร เลือกใชเครื่องเรือนที่บุดวยผาตางๆ หาก ตองการใหบาน หรือหองมีความกลมกลืน ไปกับธรรมชาติ ควรเลือกใชเครื่องเรือน ประเภทไม อาจเปนเครื่องเรือนที่ทําจากไม จริง หรือเครื่องเรือนที่ทาดวยสีเดียวกับไม” การจัดและตกแตงบริเวณบานควรคํานึงถึงสิ่งตอไปนี้ ยกเวนขอใด 1. รูปแบบบาน 2. พื้นที่ของบาน 3. จํานวนสมาชิกภายในบาน 4. ลักษณะของพรรณไมในบาน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะในการจัดและตกแตงบริเวณ บานควรคํานึงถึงรูปแบบบานวามีรูปแบบใด สีใด ควรคํานึงถึงพื้นที่ วามีขนาดเทาไร จะจัดสวนขนาดเทาใดจึงจะเหมาะสมและควร คํานึงถึงพรรณไมในบานวาควรเปนพรรณไมประเภทใด ดังนั้น ขอ 3. จํานวนสมาชิกภายในบานจึงไมใชสิ่งที่ควรคํานึงถึง) นักเรียนควรรู 1 สนิม วิธีการกําจัดสนิมมีหลายวิธี เชน • นํ้าสมสายชู โดยนําของที่เปนสนิมไปแชในนํ้าสมสายชู ทิ้งไวสักพัก แลวใชผาเช็ดออก • นํ้าอัดลม โดยนํานํ้าอัดลมราด หรือเทใสถาด จากนั้นนําของที่เปนสนิม ไปแชทิ้งไว นํ้าอัดลมจะทําการกัดกรอนจนสนิมหลุดออก ทิ้งไวสักพัก แลวใชผา เช็ดออก • หัวหอมแดง โดยนํากระดาษทรายมาขัดบริเวณที่เกิดสนิม เพื่อกําจัดเนื้อ สนิมออกกอน ใชหัวหอมแดงที่หั่นเตรียมไวมาถูทับรอยสนิม ลางดวยนํ้ารอน จากนั้นจึงใชผาสะอาดเช็ดใหแหง สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทําความสะอาดเครื่องเรือน หรือเฟอรนิเจอร ไดที่ https://www.baanlaesuan.com/45460/diy/cleaning-furniture นํา สอน สรุป ประเมิน T21
ขอสอบเนนการคิด ๔.๒ ของประดับที่ ใช้ ในการจัดและตกแต่งบ้าน ของตกแต่งบ้านเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยท�าให้บ้านสวยงาม การเลือกสิ่งของมาจัดตกแต่งบ้าน จะแตกต่างกันไปตามรสนิยม ฐานะทางการเงินของแต่ละครอบครัว โดยของประดับที่ใช้ ในการจัด และตกแต่งบ้านมีหลายชนิด เช่น กรอบรูป ใช้ในการตกแต่งบ้านให้สวยงามโดยติดเป็นกลุ่มคู่หรือเดี่ยว ก็ได้ การติดจะขึ้นอยู่กับพื้นที่และรูปแบบที่ต้องการตกแต่ง วิธีการติด • เลือกผนังที่ โล่ง เพื่อที่กรอบรูปจะได้มีความโดดเด่น • เลือกบริเวณที่มีแสงธรรมชาติส่องถึง เพื่อให้เห็นภาพชัด • เลือกรูปและกรอบรูปให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการจะติด • วัดระยะการวางให้แน่นอนก่อนติดกรอบรูปลงบนผนัง สติกเกอร์ติดผนัง อุปกรณ์ตกแต่งผนังให้สวยงาม ใช้ติดได้ทั้งผนังห้อง ประตู หน้าต่างที่เป็นผิวเรียบลอกออกได้ง่ายไม่ท�าลายพื้นผิวของผนัง วิธีการติด • ท�าความสะอาดบริเวณผนังที่ต้องการติดสติกเกอร์ • ลอกแผ่นสติกเกอร์ออกมาติดที่ผนังทีละชิ้น • ใช้ผ้ารีดฟองอากาศออกจากสติกเกอร์ ให้เรียบเนียน • กดทับสติกเกอร์ เพื่อให้ภาพติดแน่น ไม่หลุดลอกได้ง่าย ชั้นวางของ ใช้ในการวาง หรือเก็บสิ่งของ ทั้งเพื่อโชว์ เพื่อความเป็น ระเบียบเรียบร้อย หรือเพื่อให้หยิบใช้งานได้อย่างสะดวก วิธีการติด • เลือกผนังที่มีผิวเรียบและมีความแข็งแรงเพียงพอ • วัดต�าแหน่งบริเวณที่จะติดตั้ง โดยท�าเครื่องหมายก�ากับไว้ • เจาะผนังด้วยดอกสว่านที่มีขนาดเหมาะสมกับชุดยึด (พุก) • หลังการติดตั้งควรตรวจสอบความแข็งแรงของการยึดติด 18 ขั้นสอน 20. ครูถามนักเรียนวา • ของประดับที่ใชในการจัดและตกแตงบาน มีความสําคัญอยางไร (แนวตอบ เปนอุปกรณที่ชวยทําใหบานนาอยู อาศัยและมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น) • ในหองนอนของนักเรียนมีการเลือกใชของ ประดับใด และมีวิธีในการเลือกซื้ออยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 21. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “หากตองการติดภาพที่ ผนัง แตผนังมีคราบกาว หรือเทปกาวติดอยู ควรทําความสะอาดใหเรียบรอยกอนติดภาพ ซึ่งสามารถทําไดหลายวิธี เชน • ใชดรายเปาผม ความรอนระดับปานกลาง จอที่เทปกาว โดยถือหางจากผนัง 2-3 นิ้ว รอใหเทปกาวออนตัวแลวคอยๆ ดึงออก หรือใชปลายมีด หรือของปลายแหลมเขี่ยที่ ขอบเทปกาว คอยๆ ใชมือดึงออกอยางชาๆ เพื่อปองกันผนังลอก หากดึงออกแลวยังมี รองรอยคราบกาวติดอยู ใหใชผาชุบรับบิ้ง แอลกอฮอลเช็ดใหทั่ว คราบกาวจะหายไป • ใชนํ้ามันอเนกประสงค หรือนํ้ามันมะพราว หรือนํ้ามันพืช เทลงบนคราบเทปกาว ใช ฟองนํ้าถูเบาๆ จนคราบเทปกาวออกจนหมด • ใชนํ้ายาลางจาน นํ้าสมสายชู และนํ้ารอน คนใหเปนเนื้อเดียวกัน ใชผาเนื้อหยาบชุบ นํ้ายาที่ผสมไวทาบนเทปกาว โดยตองทาไป เรื่อยๆ จนเทปกาวหลุด • ใชนํ้ายาปรับผานุม 1 สวน ตอนํ้าเปลา 2 สวน เทใสภาชนะ คนใหเขากัน ทาลงบนเทปกาว หรือบริเวณที่มีคราบ ทิ้งไวสักพัก ใชผาชุบ นํ้าขัด เช็ดซํ้าดวยฟองนํ้าชุบนํ้า เพื่อลาง นํ้ายาปรับผานุมออก” ขอใดแสดงใหเห็นถึงลักษณะของเครื่องเรือนที่ดี 1. มีราคาสูง 2. ทําจากวัสดุในทองถิ่น 3. อายุการใชงานยาวนาน 4. นําเขาจากตางประเทศ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเครื่องเรือนที่ดีไมจําเปนตอง เปนเครื่องเรือนที่มีราคาสูง นําเขาจากตางประเทศ หรือใชวัสดุ เฉพาะแหลงในการผลิต แตสิ่งที่สําคัญก็คือ จะตองมีอายุการใชงาน ที่ยาวนาน มีความแข็งแรง ทนทาน และมีราคาที่เหมาะสม) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับของประดับที่ใชในการจัดและตกแตงบานให นักเรียนฟงวา ของประดับที่นํามาใชในการจัดและตกแตงบานนั้นมีอีกมากมาย ไมไดมีเพียงแคกรอบรูป สติกเกอรติดผนัง และชั้นวางของเทานั้น แตนักเรียน ยังสามารถเลือกวัสดุตกแตงชิ้นอื่นมาตกแตงบานได เชน ตูโชว โคมไฟ สวนใน ภาชนะ เพื่อเพิ่มความสวยงามใหกับบานได สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกกรอบรูปมาตกแตงบาน ไดที่ https://www.globalhouse.co.th/Educationhouse/educationpage/162 นํา สอน สรุป ประเมิน T22
๕ การจัดและตกแต่งบ้าน การจัดและตกแต่งบ้านเพื่อให้บ้านมีความสวยงาม ร่มรื่น มีบรรยากาศที่ดี จัดและตกแต่ง ได้อย่างสวยงามตามรสนิยมของสมาชิกในครอบครัว ทั้งในบ้านและบริเวณบ้าน เพื่อให้บ้าน มีความสวยงามครบทุกส่วน ๕.๑ การจัดและตกแต่งบ้านที่มีบริเวณ บริเวณบ้านเป็นพื้นที่รอบ ๆ บ้าน ควรจัดและตกแต่งให้เป็นพื้นที่ที่สมาชิกในครอบครัว ใช้ประโยชน์ได้ เช่น เป็นที่พักผ่อน หรือใช้ท�ากิจกรรมต่าง ๆ ของครอบครัว การจัดและตกแต่งบริเวณบ้านให้สวยงามสามารถปฏิบัติได้ ดังนี้ เป็นบริเวณที่จัดแบ่งไว้ ใช้เป็นพื้นที่ ในการพักผ่อน หรือท�ากิจกรรมต่าง ๆ ของสมาชิกในครอบครัว บริเวณด้านข้างของบ้าน บริเวณหน้าบ้าน เป็นบริเวณที่อาจอยู ่ติดกับเพื่อนบ้าน มีรั้วแบ่งเนื้อที่และบริเวณ บางบ้านอาจใช้ พื้นที่บริเวณนี้ปลูกต้นไม้ หรือจัดเป็นมุม พักผ่อนเล็ก ๆ เป ็นบริเวณที่มองเห็นได ้จาก ภายนอกบ้านประกอบด้วยรั้วบ้าน ประตูรั้ว และสนามหน้าบ้าน อาจปลูก ต้นไม้ไว้บริเวณนี้ก็ได้ ตกแต่งด้วยการจัดสวน • เป็นการจัดและตกแต่งบริเวณบ้าน โดยเลียนแบบธรรมชาติ เช่น การจ�าลองปา น�้าตก มาไว้ ในบริเวณบ้าน เป็นการเพิ่มความสวยงามให้แก่บ้าน ตกแต่งด้วยต้นไม้ • เป็นการจัดและตกแต่งบริเวณบ้านให้สวยงาม ร่มรื่น โดยใช้ต้นไม้นานาพรรณมาจัด รวมกันตามแปลนที่ได้ออกแบบไว้ ตกแต่งด้วยสิ่งประดิษฐ์ • เป็นการจัดและตกแต่งบริเวณบ้านด้วยสิ่งที่สร้างขึ้นไว้ ใช้ส�าหรับตกแต่ง เช่น รูปปน โคมไฟสนาม ตุกตาปน บริเวณหลังบ้าน การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 19 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ใหนักเรียนสํารวจบริเวณบานของตนเอง จากนั้นใหนักเรียน คิดวาจะจัดและตกแตงบริเวณบานของตนเองอยางไร จะใชวัสดุ อุปกรณชนิดใด หาซื้อจากแหลงใด มีคาใชจายเทาไร โดยเขียน รายละเอียดลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนสํารวจบริเวณบานของตนเอง จากนั้นใหนักเรียน คิดวาจะจัดและตกแตงบริเวณบานของตนเองอยางไร โดยให ออกแบบและตกแตงใหสวยงาม พรอมทั้งระบุรูปแบบการจัดและ วัสดุ อุปกรณที่ใช ลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน บูรณาการอาเซียน ครูสามารถอธิบายเพิ่มเติมวา การตกแตงบานที่มีบริเวณมักตกแตงดวย การจัดสวน ซึ่งสวนที่นิยมจัดนั้น คือ สวนสไตลบาหลี โดยการจําลองมาจาก เกาะบาหลีของประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากบาหลีมีลักษณะภูมิอากาศ และพรรณไมคลายคลึงกับประเทศไทย การตกแตงจึงเนนความเปนธรรมชาติ มีการใชรูปปน หรือรูปสลักที่สะทอนใหเห็นถึงวัฒนธรรมของเกาะชวา มีนํ้าตก เขามาชวยสรางบรรยากาศใหเหมือนธรรมชาติ พรอมกับประดับตกแตงดวย ดอกไมหลากหลายสายพันธุ ซึ่งจะสรางความรูสึกสดชื่นและไดใกลชิดกับ ธรรมชาติมากที่สุด โดยพรรณไมที่เปนเอกลักษณเฉพาะของการตกแตงสวนสไตลบาหลี คือ ลั่นทม หรือลีลาวดี นอกจากจะใหรมเงาแลว ยังเปนดอกไมที่ชาวบาหลีนิยม นํามาใชในพิธีกรรมบูชาเทพเจาอีกดวย สวนพรรณไมอื่นๆ ที่นิยมปลูก เชน ไมยืนตนขนาดใหญ จําพวกปาลม กลวย ไผ ไมในเขตรอนชื้นที่มีลักษณะเปน พุมเปนกอจําพวกกลวยไม พลับพลึง ขิงแดง ชบา ไมคลุมดิน จําพวกพลูดาง หญามาเลย เดหลี และไมตกแตงอื่นๆ จําพวกผักโขมสี โกสน ลิ้นมังกร หางจระเข หูปลาชอน ขั้นสอน 22. ครูเปดวีดิทัศนเกี่ยวกับการตกแตงบานและ การตกแตงหองตางๆ ภายในบานใหนักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนไดฝกการสังเกตการตกแตง บานและการตกแตงหองตางๆ ภายในบาน 23. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • หากตองการจัดและตกแตงบานใหสวยงาม ควรวางแผนการทํางานอยางไร เพื่อให เปนไปตามเปาหมายที่วางไว (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความ คิดเห็นไดอยางอิสระ เชน ควรมีการ กําหนดวัน เวลา ในการปฏิบัติงานที่ชัดเจน สํารวจปญหาภายในบานที่ตองการปรับปรุง แกไข ทําความสะอาดบานโดยการปดฝุน กวาด ถู และจัดหองตางๆ ใหระเบียบ เรียบรอย โดยประเมินสิ่งที่ตองการทํากับ ระยะเวลา แรงงาน หรือทรัพยากรตางๆ ใหเหมาะสม เพื่อใหสิ่งที่วางแผนไวเปนไป ตามเปาหมาย) 24. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การจัดและตกแตงบาน ใหสวยงามและนาอยูอาศัยนั้น เปนสิ่งที่ทุกๆ บานพึงปฏิบัติ เพราะการจัดและตกแตงบาน ใหมีความสะอาดและสวยงามอยูเสมอ จะ ทําใหบานนาอยูอาศัย สมาชิกในบานไดรับ บรรยากาศที่ดี และมีความสุขที่ไดอยูบาน ซึ่งบานของแตละครอบครัวจะมีลักษณะที่ แตกตางกันออกไป บางครอบครัวอาศัยอยูใน บานเดี่ยวที่มีพื้นที่บริเวณรอบบานใหสามารถ ปฏิบัติกิจกรรมตางๆ ได บางครอบครัวอาศัย อยูในคอนโดมิเนียม ซึ่งมีพื้นที่จํากัด ทําใหไม สามารถจัด หรือตกแตงบานไดตามตองการ ดังนั้น การจัดและตกแตงบาน หรือหองตางๆ จึงตองพิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่ และคาใชจายของแตละครอบครัวรวมดวย” นํา สอน สรุป ประเมิน T23
ขอสอบเนนการคิด ๕.๒ การจัดและตกแต่งบ้านที่ไม่มีบริเวณ บ้านที่ไม่มีบริเวณมักเป็นบ้านที่เป็นห้องติด ๆ กัน หันหน้าออกถนน หรือหันหน้าเข้าหากันโดยมี ทางเดินกั้นระหว่างกลาง หรือมีทางเดินร่วมกัน มีฝาผนังบ้านร่วมกัน เช่น ทาวน์เฮาส์ ทาวน์ โฮม ห้องเช่า ห้องแถว ห้องชุด อาคารพาณิชย์ สามารถจัดและตกแต่งให้มีความสวยงามได้ ดังนี้ การจัดและตกแต่งบ้านทาวน์เฮาส์ ห้องแถว • จัดพื้นที่ใช้สอยให้ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ เช่น พื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร • ตกแต่งให้ดูเรียบ โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่วางสิ่งของปิดประตู หน้าต่าง ช่องลม ไม่ควร กั้นผนังทึบ เพราะจะท�าให้ห้องดูแคบ • แบ่งที่ใช้สอยให้เหมาะสม ถ้าต้องการกั้นพื้นที่ ควรกั้นด้วยฉาก หรือม ่านที่เลื่อนเปิด-ปิดได้ เพื่อให้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ ใช้สอยได้อย่างสะดวก • เลือกใช้เครื่องเรือนที่ใช้งานได้หลายอย่างแทน การใช้หลายชิ้น มีขนาดเหมาะสม ผิวเรียบมัน สะท้อนแสง จะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น • ตกแต่งผนังห้อง พื้นห้องด้วยโทนสีสว่างและ สีอ่อน รวมถึงเครื่องเรือนและของตกแต่ง เช่น สีขาว เพื่อให้ห้องดูสบายตาและดูกว้างขึ้น ทาวน์เฮาส์และห้องแถวเป็นที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ในการใช้สอยค่อนข้างจ�ากัด จึงต้องวางแผน และออกแบบเพื่อให้ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์มากที่สุดโดยมีหลักในการจัดและตกแต่ง ดังนี้ การติดกระจกบานใหญ่ ๆ จะช่วยให้ห้อง ดูกว้างขึ้น แต่ควรเลือกต�าแหน่งในการวางให้ เหมาะสม เช่น ติดไว้สุดทางเดิน จะช่วยท�าให้ บ้านดูยาวขึ้น Trick : วิธีช่วยให้บ้านดูกว้างขึ้น 20 เลือกใช้เครื่องเรือนที่ใช้งานได้หลายอย่างแทน การติดกระจกบานใหญ่ 1 2 ขั้นสอน 25. ครูเปดวีดิทัศนเกี่ยวกับการทําโมเดลบานให นักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนไดฝกการสังเกต และเรียนรูเกี่ยวกับขั้นตอนการสรางโมเดล บานอยางงายๆ ดวยตนเอง 26. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษา เรื่อง การทํา โมเดลบาน จากแหลงเรียนรูที่หลากหลาย เชน หนังสือ นิตยสาร หองสมุด อินเทอรเน็ต พรอมทั้งรางภาพโมเดลบานตามความคิด และจินตนาการของสมาชิกในกลุม จากนั้น จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ และสิ่งของเหลือใช เพื่อนํามาใชเปนสวนประกอบในการทําโมเดล บานตามรูปแบบที่ไดออกแบบไว 27. ครูนําตัวอยางโมเดลบานในหลากหลายรูปแบบ มาใหนักเรียนดู พรอมทั้งอธิบายถึงหลักการ จัดและตกแตงบานใหนาอยูจากตัวอยาง โมเดลบาน เพื่อใหนักเรียนไดตระหนักเมื่อ ตองทําการสรางโมเดลบานของกลุมตนเอง 28. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสรางโมเดล บานจากวัสดุเหลือใชที่จัดเตรียมมา โดย นําวัสดุเหลานั้นมาประกอบเปนหองตางๆ ภายในบาน เชน หองนอน หองนํ้า หองรับแขก ทั้งยังตองจัดวางสิ่งของเครื่องใชและของ ประดับตกแตงบานใหเกิดความสวยงามและ ถูกตองเหมาะสม 29. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายแนวคิดในการ ออกแบบผลงาน เพื่อเปนการแลกเปลี่ยน เรียนรูและตอยอดความคิดสรางสรรคของ นักเรียนแตละกลุม 30. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง หลักการจัดและตกแตงบานใหนาอยู การจัดและตกแตงบานที่ไมมีบริเวณ มีหลักในการจัดอยางไร (แนวตอบ ควรแบงพื้นที่ภายในบานแตละสวนใหมีความ เหมาะสมตอการใชงาน เลือกใชเครื่องเรือน หรือเฟอรนิเจอรที่มี ขนาดเหมาะสม ไมใหญหรือเล็กจนเกินไป ใชโทนสีสวางและสีออน เพื่อใหหองดูกวางขึ้น เนนการตกแตงใหดูเรียบ โลง โปรงและ สบาย) นักเรียนควรรู 1 เครื่องเรือน หรือเฟอรนิเจอรที่เหมาะสมกับการจัดและตกแตงบานที่ ไมมีบริเวณนั้น ควรเปนเครื่องเรือนอเนกประสงคที่หนึ่งชิ้นสามารถใชงานได หลายอยาง เชน เตียง หรือโซฟาที่ดานลางมีลิ้นชักสําหรับเก็บของ โตะเครื่องแปง ที่สามารถปรับใชเปนโตะทํางานได โตะและเกาอี้ที่สามารถพับเก็บได นอกจากนี้ ขนาดของเครื่องเรือนจะตองมีขนาดไมใหญจนเกินไป ควรมีขนาดที่ เหมาะสมกับหอง หรือบาน และควรเลือกที่มีผิวเรียบมัน มีสีโทนสวางและสีออน เพราะจะชวยใหหองดูกวางขึ้น 2 กระจก การทําความสะอาดกระจกใหใส สามารถปฏิบัติไดหลายวิธี เชน • แอลกอฮอล โดยนํามาผสมกับนํ้าสะอาดในอัตราสวนที่เทากัน ขยุม กระดาษหนังสือพิมพเปนกอนจุมลงไปในแอลกอฮอล แลวนํามาเช็ดที่กระจก • นํ้าสบู โดยใชสบูผสมกับนํ้าเปลาใหเกิดฟอง ใชผาสะอาดจุมลงไปใน นํ้าสบู แลวนํามาเช็ดที่กระจก ใชผาสะอาดชุบนํ้าเปลาเช็ดคราบสบูออกจนหมด และใชผาแหงเช็ดตามอีกครั้ง นํา สอน สรุป ประเมิน T24
ขอสอบเนน การคิด เฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน (Built In Furniture) เครื่องเรือนที่ถูกออกแบบให้มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการจะติดตั้ง การติดตั้ง จะเป็นไปในลักษณะติดแล้วติดเลย ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ หากต้องการเปลี่ยนแปลง หรือ เคลื่อนย้ายต้องท�าการรื้อถอนใหม่ ข้อดีของเครื่องเรือนประเภทนี้ คือ ถูกออกแบบให้พอดี กับพื้นที่ ปกปดสิ่งที่ไม่ดีของอาคาร เช่น เสา แนวผนังที่ไม่เรียบ สามารถใช้พื้นที่ได้อย่าง เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย T i p ห้องชุดเป็นที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน อยู่ในเมืองมีความสะดวกสบาย เป็นส่วนตัวแต่มีพื้นที่ใช้สอยจ�ากัด การจัดและตกแต่งห้องชุดให้น่าอยู่ ต้องมีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอย ให้ ใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย โดยมีหลักในการจัดและตกแต่ง ดังนี้ การจัดและตกแต่งห้องชุด • เลือกพื้นผิวของผนัง ฝ้า เพดานที่เรียบ ไม่มี ลวดลาย จะช่วยท�าให้ห้องดูโล่ง โปร่ง และสบาย ตายิ่งขึ้น • ใช้โทนสีสว่างและสีอ่อน เช่น สีขาว สีครีม สีชมพู ทั้งผนัง พื้น และของตกแต่ง เพื่อช่วยให้ห้องมี ขนาดกว้างและสว่างมากขึ้น • ต้องพยายามเปิดช ่องแสง เพื่อเชื่อมต ่อพื้นที่ ภายนอก จะช่วยท�าให้ห้องดูกว้างและมีมิติมาก ยิ่งขึ้น • ใช้เครื่องเรือนที่มีขนาดเหมาะสม ใช้งานได้ อย ่างอเนกประสงค์ ท�าจากวัสดุผิวเรียบมัน สะท้อนแสง จะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น • เลือกใช้โคมไฟติดเพดาน หรือโคมไฟแบบติดผนัง แทนการใช้โคมไฟแบบตั้งพื้น จะช่วยประหยัด พื้นที่ ท�าให้มีความสว่างเพิ่มมากขึ้น • ติดม่านที่ห้องนั่งเล่น หรือห้องนอน เพื่อช่วยปิด กั้นแสง ม่านควรกว้างกว่าขอบหน้าต่างเพราะจะ ช่วยให้หน้าต่างดูกว้างขึ้น การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 21 ขั้นสอน 31. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 2 ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 2.1.1 เรื่อง หลักการ จัดและตกแตงบานใหนาอยู 3. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 2 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การจัด และตกแตงบานใหนาอยูวา “การจัดและตกแตง บานใหนาอยูควรคํานึงถึงหลักการสําคัญ คือ ความปลอดภัย ความสะอาด สุขลักษณะ อุปกรณเครื่องใชตางๆ สะดวกตอการใชงาน มีความเปนระเบียบเรียบรอย ของใช หรือของ ประดับตกแตงมีความสวยงาม ของประดับ บางอยางประดิษฐขึ้นเองได ซึ่งจะชวยประหยัด คาใชจายไดอีกวิธีหนึ่ง ทั้งยังตองคํานึงถึง การดูแลรักษา โดยตองประหยัดเวลา แรงงาน และคาใชจาย” 2. ครูตรวจสอบความรู ความเขาใจของนักเรียน จากการนําเสนอผลการวิเคราะห วิจารณ และ การสรุปความรู ขอใดเปนหลักการพิจารณาเลือกใชสิ่งของตกแตงบานที่ถูกตอง 1. สีควรกลมกลืนกับพื้น ผนัง และเพดาน 2. คํานึงถึงการใชประโยชนเพียงอยางเดียว 3. ตองมีรูปทรงขนาดใหญ เพื่อใหดูสะดุดตา 4. เลือกสิ่งของตกแตงที่แตกหักงายจะไดเปลี่ยนใหมไดบอยครั้ง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะสีของสิ่งของที่ตกแตงบาน ควรกลมกลืนกับพื้นบาน ผนัง และเพดาน ซึ่งเปนหลักการพิจารณา เลือกใชสิ่งของตกแตงบานที่ถูกตองที่สุด เนื่องจากการตกแตงบาน ควรยึดหลักการทางทัศนศิลป โดยจะตองมีความกลมกลืน ไมแปลก แยกกัน) แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 2 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T25
ขอสอบเนนการคิด ๖ การจัดและตกแต่งสวนในบริเวณบ้าน บริเวณบ้านสามารถจัดและตกแต่งให้สวยงามได้ โดยการจัดสวนที่น�าเอาองค์ประกอบทั้งที่ เป็นธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาผสมผสานกัน เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศ ที่ดีในบริเวณบ้าน และเป็นมุมพักผ่อนของสมาชิกในครอบครัว ๖.๑ ความส�าคัญของการจัดสวนในบริเวณบ้าน การจัดสวนในบริเวณบ้านมีความส�าคัญต่อสมาชิกในครอบครัว เพราะท�าให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ การน�าพรรณไม้ที่มีอยู่และการน�าวัสดุต่าง ๆ มาจัดรวมกันในสถานที่จ�ากัดการจัดสวนท�าให้บริเวณ บ้านสะอาด สวยงาม ช่วยลดมลพิษ โดยเฉพาะสนามหญ้า เพราะหญ้ากรองฝุ่นละอองได้ดี ทั้งยัง ท�าให้มีพื้นที่ที่เป็นสัดส่วน ท�าให้สมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข การจัดสวนในบริเวณบ้านให้น่าอยู่ สมาชิกในครอบครัวสามารถร่วมมือกันจัดสวนเองได้ เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ในการจัดสวนสามารถหาได้ ในท้องถิ่น และการออกแบบเพื่อจัดสวนควรน�าหลักการทางทัศนศิลป์เข้ามาช่วยเพื่อให้สวนดูสวยงามมีความ สมดุลและกลมกลืนกับตัวบ้านโดยอาศัยองค์ประกอบทางทัศนศิลป์หลักในการออกแบบและการ จัดองค์ประกอบในการออกแบบซึ่งประกอบด้วยส่วนประธานเป็นส่วนส�าคัญที่สุดในการออกแบบ และส่วนรองประธาน เป็นส่วนที่ช่วยเสริมให้ส่วนประธานดูโดดเด่นยิ่งขึ้น การจัดสวนในบริเวณบ้าน ช่วยสร้างความร่มรื่นและความสวยงามให้แก่บ้าน 22 พรรณไม้ที่มีอยู่และการน� โดยเฉพาะสนามหญ้า 1 2 ขั้นนํา (5Es) ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 1. ครูกลาวคําทักทายนักเรียน พรอมทั้งทบทวน ความรูตามที่ไดเรียนในชั่วโมงที่ผานมาเกี่ยวกับ หลักการจัดและตกแตงบาน จากนั้นครูกลาว เชื่อมโยงเพื่อเขาสูบทเรียนในหัวขอถัดไป เกี่ยวกับการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน 2. ครูเปดวีดิทัศนเกี่ยวกับการจัดสวนในบริเวณบาน ใหนักเรียนดู ซึ่งเปนการจัดสวนในหลากหลาย รูปแบบ เชน การจัดสวนประดิษฐ การจัดสวน ธรรมชาติ การจัดสวนขวด การจัดสวนจินตนาการ การจัดสวนนามธรรม 3. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนเคยเห็นการจัดสวนจากวีดิทัศน ที่ไดชมบางหรือไม หากเคย นักเรียนเคยเห็น การจัดสวนในรูปแบบใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) • จากวีดิทัศนที่ไดชมไปนั้น นักเรียนชื่นชอบ การจัดสวนในรูปแบบใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ชื่นชอบสวนธรรมชาติ เพราะมีความสวยงามและถูกออกแบบให มีความคลายคลึงกับความงดงามที่แทจริง ตามธรรมชาติ ชื่นชอบสวนนามธรรม เพราะ มีการตัดตกแตงกิ่งของตนไมใหมีรูปทรงที่ หลากหลายและสวยงาม ซึ่งเปนรูปทรงตาม จินตนาการของผูออกแบบเปนหลัก) • นักเรียนเคยจัดและตกแตงสวนในบริเวณ บานของตนเองหรือไม หากเคย นักเรียนจัด และตกแตงสวนในรูปแบบใด เพราะเหตุใด จึงเลือกจัดสวนในรูปแบบดังกลาว (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) นักเรียนควรรู 1 พรรณไม การเลือกพรรณไมมาปลูก ควรศึกษาหาขอมูลใหดีกอนนํามาปลูก เพราะพรรณไมแตละสายพันธุมีขอจํากัดในการปลูกและมีวิธีการดูแลรักษา ที่แตกตางกัน 2 สนามหญา การดูแลสนามหญาใหมีความสวยงามอยูเสมอ ควรรดนํ้าใน ตอนเชาตรู หลีกเลี่ยงการรดนํ้าในชวงที่มีแสงแดดจัด หากรดนํ้าชวงเย็นควร รดประมาณบาย 3 โมง เพื่อไมใหดินเกิดความชื้นอันเปนสาเหตุของการเกิดโรค ตางๆ ได หากเปนหญาที่ปลูกใหม ควรรดนํ้าวันละ 4-5 ครั้ง ประมาณ 7-10 วัน รอจนกวาหญาจะเริ่มแทงยอดลําตนขึ้น แลวจึงรดนํ้าตามปกติ สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกกรอบรูปมาตกแตงบาน ไดที่ https://www.globalhouse.co.th/Educationhouse/educationpage/162 การออกแบบบานใหประหยัดพลังงาน โดยการจัดและตกแตง บริเวณบานควรปฏิบัติอยางไร 1. ใชกระเบื้องหลังคาสีเขม 2. เลือกตนไมที่โตชา ลําตนไมสูง 3. ถมบริเวณบานใหสูงกวารอบบาน 4. ปลูกตนไมทรงสูง เพื่อบังแสงแดด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการปลูกตนไมทรงสูง เพื่อบังแสงแดด เปนการจัดและตกแตงบริเวณบานที่ชวยประหยัด พลังงาน เนื่องจากตนไมทรงสูงจะชวยบังแสงแดด ทําใหบาน มีรมเงา รมรื่น เย็นสบาย จึงไมจําเปนตองเปด พัดลม หรือเปด เครื่องปรับอากาศใหสิ้นเปลืองพลังงาน) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T26
๖.๒ รูปแบบของการจัดสวนในบริเวณบ้าน การจัดสวนควรค�านึงถึงความเหมาะสมของตัวบ้าน พื้นที่ในการจัดสวน และรูปแบบในการ จัดสวน ซึ่งจะต้องเลือกรูปแบบของการจัดสวนให้เหมาะสมกับบ้าน เพราะจะช่วยท�าให้บ้าน มีความสวยงามยิ่งขึ้น โดยรูปแบบของการจัดสวนในบ้านมีอยู่ด้วยกันหลายแบบ เช่น • ก า ร ว า ง รู ป แ บ บ แ ป ล น เลียนแบบความงามจาก ธรรมชาติ มีพื้นที่สูง-ต�่า สลับกัน • การวางต้นไม้และวัตถุต่าง ๆ ต้องสมดุลแบบธรรมชาติ • ชนิด รูปทรง และขนาด ของพรรณไม้ไม่จ�าเป็นต้อง เหมือนกันทั้งหมด • การวางรูปแบบแปลนเป็น รูปแบบ Free Style จัดต้นไม้ เป็นกลุ่มใหญ่ เน้นเรื่องการ ใช้สีและเส้นเป็นหลัก • ต้นไม้ที่นิยมน�ามาจัดส่วนมาก จะมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม • ต้นไม้ต้องจัดวางให้มีช่องว่าง ตามแบบศิลปะสมัยใหม่ • การวางแบบแปลนเป็นรูปทรง เรขาคณิตจัดสวนบนพื้นที่ ราบเรียบ ไม่มีระดับสูง-ต�่า • การวางต้นไม้และวัสดุต่าง ๆ ต้องมีความสมดุลกัน • ต้นไม้ หรือวัตถุต้องเป็นชนิด เดียวกัน มีขนาด จ�านวนเท่ากัน สวนธรรมชาติ สวนนามธรรม สวนประดิษฐ์ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 23 จะมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม 1 ขั้นนํา ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ • การจัดและตกแตงสวนประดิษฐมีความ แตกตางจากการจัดและตกแตงสวนธรรมชาติ หรือไม อยางไร (แนวตอบ มีความแตกตางกัน กลาวคือ การจัด และตกแตงสวนประดิษฐจะจัดวางตนไม และวัสดุที่ใชในการจัดและตกแตงใหมี ความสมดุลกัน มีการใชไมดอกหลากหลาย สายพันธุที่มีสีสันสดใส สวยงาม เพื่อใหตัด กับสนามหญาสีเขียวที่ตกแตงไวอยางเปน ระเบียบเรียบรอย และตัดแตงตนไมใหเปน รูปทรงเรขาคณิต สวนการจัดและตกแตง สวนธรรมชาติมักใชเสนโคงในการออกแบบ ทําใหเกิดรูปทรงอิสระ มีรูปแบบที่ดูนุมนวล สบายตา ซึ่งเลียนแบบมาจากธรรมชาติ เนนการใชตนไมที่ใหความรมรื่น ไมดอก มีกลิ่นหอม สีสันหลากหลาย และใชวัสดุ ธรรมชาติในการจัดและตกแตง เพื่อใหเกิด ความสวยงาม) 4. ครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ออกมาเลาประสบการณ ในการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบานของ ตนเองใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียนในประเด็นที่ครู กําหนดให ดังนี้ • ลักษณะของสวนในบริเวณบาน • ลักษณะของพื้นที่บริเวณที่จัดสวน • หลักการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน • แนวคิดในการจัดและตกแตงสวนในบริเวณ บาน 5. ครูถามนักเรียนวา • การจัดและตกแตงสวนในบริเวณบานชวย สรางสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวของ นักเรียนไดหรือไม อยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดสวนใหนักเรียนฟงวา การจัดสวนจะตอง เริ่มจากการสํารวจขอมูลของสถานที่ซึ่งประกอบไปดวยสภาพภูมิอากาศ สภาพดิน ขนาดของพื้นที่ บริเวณที่ตองการจัด จากนั้นสํารวจความชื่นชอบ ของตนเองและสมาชิกในครอบครัววา ตองการจัดสวนแบบใด จากนั้นลงมือ ออกแบบสวนตามจินตนาการใหตรงกับความตองการของตนเองและสมาชิก ในครอบครัว และควรออกแบบใหเหมาะสมกับพื้นที่บริเวณที่ตองการจัดสวนดวย กิจกรรม 21st Century Skills ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับรูปแบบของการจัดสวนแตละประเภท จากนั้นใหปฏิบัติ กิจกรรม ดังนี้ 1. สมาชิกในกลุมรวมกันระดมสมองวาตองการจัดสวน ประเภทใด โดยเลือกตามความสนใจ 1 ประเภท 2. สมาชิกในกลุมรวมกันออกแบบสวนที่กลุมของตนเองได เลือกไว โดยรางภาพลงในกระดาษ พรอมทั้งระบุวัสดุ อุปกรณที่นํา มาใชในการจัดสวน และวิธีการดูแลรักษาสวนที่ถูกตอง 3. นําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน นักเรียนควรรู 1 ไมพุม หรือ Shrub จัดเปนไมเนื้อแข็งที่มีขนาดเล็กกวาไมยืนตน โดยมี ลักษณะเปนพุมความสูงไมเกิน 5 เมตร เปนไมที่แตกกิ่งกานออกจากบริเวณ โคนตน ทําใหรูปทรงของตนไมมีลักษณะเปนทรงพุม แบงออกเปน 4 ประเภท ไดแก ไมพุมเตี้ย ไมพุมเล็ก ไมพุมกลาง และไมพุมสูง นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T27
ขอสอบเนนการคิด ๖.๓ การด�าเนินการจัดสวนในบริเวณบ้าน ก่อนการจัดสวนในบริเวณบ้าน ควรมีการออกแบบก่อนทุกครั้ง เพื่อให้สวนที่จัดมีลักษณะ ตรงกับความต้องการของสมาชิกในครอบครัว เมื่อออกแบบได้เป็นที่พึงพอใจแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ในการจัดสวน ประกอบไปด้วยสิ่งต่าง ๆ ดังนี้ วัสดุที่ ใช้ ในการปลูก เป็นวัสดุปลูกที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน มี ให้ เลือกใช้หลายประเภท เช่น • ดิน นิยมใช้ดินร ่วน เพราะดูดซับและ ระบายน�้าได้ดี มีธาตุอาหารครบถ้วน • ปุ๋ยมะพร้าว มีคุณสมบัติในการอุ้มน�้า ได้ดี และเก็บความชื้นได้นาน พรรณไม้ต่าง ๆ พรรณไม้ที่นิยมใช้ แบ่งเป็น ๔ ประเภท ได้แก่ • ไม้ต้น เป็นไม้เนื้อแข็ง มีความสูงไม่เกิน ๖ เมตร • ไม้พุ่ม เป็นไม้เนื้อแข็ง มีความสูงไม่มาก • พืชคลุมดิน เป็นพืชต้นเตี้ย ปลูกเป็นก้อนติด ๆ กัน • หญ้า เป็นพืชคลุมดินที่นิยมปลูกมากจะเป็น หญ้านวลน้อยและหญ้ามาเลเซีย วัสดุในการดูแลสวน มีหลายชนิด ควรเลือกใช้ตาม พรรณไม้ที่ปลูก เช่น • ปุ๋ย เป็นอาหารที่ช ่วยให้ ต้นไม้เจริญเติบโตอย ่าง สมบูรณ์ มีสารอาหารที่ ต้นไม้ต้องการครบถ้วน • บัวรดน�้า ใช้รดน�้าต้นไม้ น�้าที่ ออกจากฝกบัวจะเป็นฝอย กระจายทั่วต้นไม้ ท�าให้ ต้นไม้ได้รับน�้า อย่างทั่วถึง เครื่องมือในการจัดสวน มีหลายชนิด ควรเลือกใช้ตาม ความเหมาะสมกับสวน เช่น • ช้อนปลูก ใช้ขุดหลุมปลูก หรือย้ายต้นกล้าไปปลูกใน หลุมที่เตรียมไว้ พรวนดิน ให้ร่วนซุย • เสียม ใช้ขุดหลุมปลูก นิยม ขุดหลุมที่มีขนาดเล็ก หรือ บริเวณพื้นที่ที่ ไม่สามารถ น�าจอบมาขุดได้ วัสดุปูพื้น วัสดุที่ใช้ปูทางเดิน แบ่งเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ • แบบแข็ง เช่น กระเบื้อง หิน อิฐ เซรามิก เหมาะส�าหรับปูบริเวณ ที่นั่งเล่น ลานจอดรถ • แบบยืดหยุ่น เช่น บล็อกประดับพื้นรูปรวงผึ้ง อิฐมอญทรง สี่เหลี่ยม เหมาะส�าหรับปูพื้นบริเวณที่นั่งเล่น ทางเดิน วัสดุตกแต่งสวน วัสดุที่ ใช้ ในการตกแต่งสวน มีหลายประเภท เช่น • รูปปน ส่วนมากท�าจากดินเผา หิน เหล็ก ไม้ และวัสดุอื่น ๆ มีหลายรูปแบบ หลาย ขนาดให้เลือกใช้ • ม้านั่ง ส่วนมากท�าจากไม้ หินขัด อัลลอยด์ ผ้าใบ พลาสติก มีทั้งแบบเป็นชุดและ แบบตัวเดียว 2๔ จัดสวนสวย ๖ ขั้นตอน • พืชคลุมดิน เป็นพืชต้นเตี้ย ปลูกเป็นก้อนติด ๆ กัน • หญ้า เป็นพืชคลุมดินที่นิยมปลูกมากจะเป็น หญ้านวลน้อยและหญ้ามาเลเซีย 1 2 ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปราย แลกเปลี่ยนความรูในเรื่องที่ไดศึกษามา จากนั้น ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนจะมีแนวทางอยางไรเพื่อใหการ จัดการสวนในบริเวณบานของตนเองมีความ ประหยัดและคุมคาสูงสุด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน นําของที่มีอยูในบาน หรือของเหลือใชมาประดิษฐเปนสิ่งของ ตางๆ ใหเกิดความแปลกใหมและสวยงาม เชน การประดิษฐกระถางตนไมจากยางรถยนต การจัดสวนในขวดแกว) • การจัดและตกแตงสวนในบริเวณบานมีสวน ชวยใหในการประหยัดพลังงานไดหรือไม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจและคนหา 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา เรื่อง หลักการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน ในประเด็นที่ครูกําหนดให คือ ความสําคัญ ของการจัดสวนในบริเวณบาน รูปแบบของการ จัดสวนในบริเวณบาน การดําเนินการจัดสวน ในบริเวณบาน และการดูแลรักษาและตกแตง สวนในบริเวณบาน จากหนังสือเรียน หนวยการ เรียนรูที่ 2 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการ จัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 2 นักเรียนควรรู 1 พืชคลุมดิน เปนพืชที่มีลําตนเตี้ย เล็ก ขยายพันธุไดงาย แผขยายออก ดานขางเร็ว มีลักษณะเปนพุมคลุมดิน มีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร เหมาะสําหรับเปนไมคลุมโคนตน เพื่อรักษาความชุมชื้นของหนาดิน เมื่อรดนํ้า ตนไมดินจะไดไมกระเด็น เชน แววมยุรา เฟนมะขาม เดหลี กาบหอยแครงแคระ 2 หญานวลนอย นิยมปลูกมากตามลานหนาบาน แปลงจัดสวน สนามกีฬา สนามกอลฟ และอื่น ๆ เนื่องจากเปนหญาที่เจริญเติบโตไดดีในดินเกือบทุกชนิด ทั้งดินเหนียว ดินทราย ทนตอสภาพอากาศรอน หรืออากาศแหงแลงไดดี และ ทนตอสภาพนํ้าขังไดบาง รวมถึงเจริญเติบโตอยางรวดเร็ว และสามารถขยาย ไหลเปนแผนที่ครอบคลุมหนาดินไดเร็ว พรรณไมในขอใดนิยมปลูกเพื่อคลุมดินแทนหญา เพื่อชวยทําให สวนมีสีสันที่สวยงาม 1. เดหลี 2. พะยอม 3. บานบุรี 4. กุหลาบ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะเดหลี เปนพรรณไมคลุมดิน ที่มีขนาดไมสูงมาก ขยายพันธุไดงาย เจริญเติบโตไดอยางรวดเร็ว มีลักษณะเปนพุม สามารถคลุมดินแทนหญาได โดยจะมีสีสันของ ดอกไมสวยงามกวาการปลูกหญา อีกทั้งยังชวยเก็บรักษาความ ชุมชื้นของหนาดิน ควรปลูกไวคลุมโคนตนไม หรือปลูกแทนหญา จะทําใหสวนมีสีสันที่สวยงามมากยิ่งขึ้น) นํา สอน สรุป ประเมิน T28
ขอสอบเนน การคิด ขั้นตอนการจัดสวน มีดังนี้ ปรับหน้าดินให้เรียบ วางก้อนหินประดับ ปูทางเท้า น�าต้นไม้ลงปลูก ปูหญ้าสนาม ñ ó õ ò ô • ปรับหน้าดินให้เรียบตามต้องการ แต ่ควร ลาดเอียงเล็กน้อย เพื่อระบายน�้า • จุดใดต้องการเป็นเนิน ให้โรยปูนขาวแสดง ขอบเขต • รดน�้าและย�่าดิน • วางก้อนหินตามจุดที่ต้องการ หลีกเลี่ยงการใช้หินที่มีสีตัดกัน • จัดวางหินให้ มีความสมดุล และสวยงาม • เลือกวัสดุที่น�ามาปูให้เหมาะสมกับขนาดและ รูปแบบของสวน • โรยปูนขาวเป็นแนว • ปูวัสดุตามแนวปูนขาว • ก�าจัดวัชพืชออกให้หมด • ขุดหลุมเพื่อปลูกต้นไม้ • รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก คลุกเคล้ากับดินให้เข้ากัน • ปลูกไม้ยืนต้นก่อน ตามด้วยไม้พุ่ม ไม้เลื้อย และไม้คลุมดิน ตามล�าดับ • ปรับระดับดินให้เรียบอีกครั้ง • ปูหญ้ารอบสนามให้สวยงาม • รดน�้าให้ชุ่ม ๑. วัดขนาดพื้นที่ของสวน ๒. ศึกษาสภาพแวดล้อมบริเวณพื้นที่ดังกล่าวว่า มีร่มเงา หรือได้รับแสงแดดอย่างไร เพื่อน�า ไปสู่การวางต�าแหน่งต้นไม้ ๓. ก�าหนดทางเดินในสวนให้สอดคล้องกับตัวบ้าน เพื่อไม่ท�าให้สวนและบ้านถูกแบ่งออกจากกัน ๔. การวางต�าแหน่งไม้ยิืนต้น หากเป็นไม้ยืนต้น ขนาใหญ่ ควรปลูกตามแนวริมขอบก�าแพง ๕. ในการออกแบบสวนควรมีจุดเด่น จุดรอง และ จุดเชื่อมโยงระหว่างจุดเด่นกับจุดรอง Trick : ความรู้เบื้องต้นในการจัดสวน ให้แน่น ทิ้งไว้ ๑ คืน ใช้ลูกกลิ้งบดให้เรียบ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 25 • ก�าจัดวัชพืชออกให้หมด • โรยปูนขาวเป็นแนว มีร่มเงา หรือได้รับแสงแดดอย่างไร เพื่อน�า 1 3 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษา เรื่อง ขั้นตอนการ จัดสวน จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 5. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอน การจัดสวน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการ เรียนรูที่ 2 6. ครูถามนักเรียนวา • หลักการทางทัศนศิลปมีความเกี่ยวของ กับการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน อยางไร (แนวตอบ ชวยใหจัดวางองคประกอบตางๆ ไดอยางสวยงามและลงตัว ทั้งในเรื่องของ สีสัน เสน รูปราง รูปทรง สัดสวนของตนไม ดอกไม วัสดุที่นํามาใชในจัดและตกแตงสวน) • หากดินที่ใชในการจัดสวนมีสภาพเปนกรดดาง จะมีแนวทางในการแกปญหาอยางไร (แนวตอบ ใหนําปูนขาวมาใสลงในดิน ปูนขาว จะทําหนาที่ในการชวยปรับสภาพความเปน กรด-ดางของดิน โดยเฉพาะในดินที่มีคา ความเปนกรดสูง ปูนขาวจะชวยใหความ เปนกรดลดลงจากสภาพความเปนดางของ ปูนขาวที่แตกตัวในดิน และเนื่องจากสภาพ ความเปนดางของปูนขาว จึงมีผลตอการ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย ในดิน การนําปูนขาวมาใชควรใชในขณะ ที่ดินแหง หรือมีนํ้านอย เพื่อใหสภาพความ เปนดางเกิดขึ้นอยางสมบูรณ) • หากตองการปูหญาสนามจะเลือกพันธุหญา ชนิดใดมาปลูก เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) การจัดและตกแตงสนามหญาชวยใหเกิดประโยชนหลาย ประการ ยกเวนขอใด 1. รักษาความชุมชื้นตอโคนตนไม 2. ลดปญหาเรื่องแสงและเสียงสะทอน 3. บรรเทาการฟุงกระจายของฝุนละออง 4. กลิ่นของหญาชวยบรรเทาอาการปวดศีรษะได (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะกลิ่นของหญาชวยบรรเทา อาการปวดศีรษะได ไมใชประโยชนของการจัดและตกแตงสนามหญา แตสนามหญาชวยใหเกิดความชุมชื้นตอโคนตนไม เพราะมีนํ้าคาง อยูบนหญา ชวยแกปญหาเรื่องแสงและเสียงสะทอนไดเปนอยางดี และยังชวยบรรเทาการฟุงกระจายของฝุนละอองไดอีกดวย) นักเรียนควรรู 1 วัชพืช เปนพืชที่สามารถพบเห็นไดทั่วไป ทั้งในบริเวณบาน ทองทุงนา สวน แมนํ้าลําคลอง ทําใหสถานที่ขาดความสวยงามและแยงอาหารตนไมในสวน แต วัชพืชหลายๆ ชนิดก็เปนสมุนไพรใชรักษาโรคได หลายชนิดเปนอาหารสําหรับ มนุษยและสัตวเลี้ยง ใชเปนวัสดุในงานหัตถกรรม บางชนิดมีความสวยงาม สามารถนําไปใชประดับตกแตงสวนได และที่สําคัญวัชพืชยังชวยยึดดินไมให เกิดการกัดเซาะพังทลาย อีกทั้งยังชวยกรองมลพิษในอากาศไดอีกดวย 2 แสงแดด ชวงเวลาที่เหมาะสมของรางกายที่ควรไดรับวิตามินดีจากแสงแดด คือ ชวงเวลา 06.00-08.00 น. เพราะแสงแดดในชวงเวลาดังกลาวจะไมแรงมาก ทําใหไมเปนอันตรายตอผิวหนัง แตหากเลยชวงเวลาดังกลาวไปแลว แสงแดด จะแรงมาก ซึ่งอาจสงผลใหเกิดอันตรายตอผิวหนังได 3 ปูนขาว ในทางการเกษตรสามารถนํามาใชเพื่อปรับปรุงดิน เชน หนาดินเหนียว ดินเปนกรด ดินมีเชื้อโรค ซึ่งมักใชในแปลงนา แปลงผัก สวนผลไม เพื่อปรับปรุง ใหดินมีคุณภาพเหมาะแกการเพาะปลูก นํา สอน สรุป ประเมิน T29
Know M ore ¾ÃóäÁŒÁ§¤Å·Õè 㪌 㹡ÒèѴÊǹ พรรณไมที่นิยมนํามาจัดสวนในบริเวณบาน นอกจากจะใหความรมรื่นแลว ยังสามารถบงบอก ถึงลักษณะนิสัยของเจาของบานได ทั้งยังมีความเชื่อวาเมื่อนําตนไมที่มีชื่อเปนมงคลมาปลูก บานนั้น จะมีแตเรื่องที่เปนมงคล ตัวอยางพรรณไมมงคลที่นิยมนํามาใช ในการจัดสวน มีดังนี้ NjҹÊÕè·ÔÈ • เปนไมดอก มีลําตนเปนหัวอยูใตดิน ออกดอกเปนชอ • มีสรรพคุณเปนยารักษาโรค เชน ฝมะมวง • ควรปลูกทางทิศเหนือ • ชวยใหแคลวคลาดปลอดภัยในการเดินทาง มีโชคลาภ ÃÒª¾Ä¡É • เปนไมยืนตนขนาดกลาง ออกดอกเปนชอยาว • ดอกมีกลิ่นฉุน และมีฝกที่มีเมล็ดที่เปนพิษ • ควรปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงใต • มีความเจริญรุงเรือง เสริมศักดิ์ศรี บารมี มีผูอุปภัมถ á¡ŒÇ • เปนไมยืนตนขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ออกดอกเปนชอ • นิยมปลูกบริเวณรั้วบาน ในกระถาง เพื่อความสวยงาม • ควรปลูกทางทิศตะวันออก • มีจิตใจบริสุทธิ์ เบิกบานใจ มีคนรักดั่งแกวตาดวงใจ ⻈Âà«Õ¹ • เปนไมที่มีลําตนขนาดเล็ก ออกดอกเปนชอขนาดใหญ • ออกดอกนอยในฤดูฝน และออกดอกมากในฤดูหนาว • ควรปลูกทางทิศตะวันออกเฉียงใต • นําโชคลาภมาใหแกผูปลูก ชวยใหอยูเย็นเปนสุข 26 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย เกร็ดแนะครู ครูแนะนําเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรรณไมใหนักเรียนฟงวา นอกจากจะมีพรรณไม มงคล แลวยังมีพรรณไมที่เชื่อวาไมเปนมงคลอีกดวย ซึ่งเปนความเชื่อ สวนบุคคล เชน • ชบา ในประเทศอินเดียตอนใต ใชดอกชบารอยเปนพวงมาลัยสวมคอ นักโทษที่กําลังจะถูกประหาร • เพกา ฝกมีปลายแหลมเหมือนคมหอก คมดาบ • ลั่นทม ออกเสียงคลายคําวา “ระทม” แปลวา ความเจ็บชํ้าระกําใจ • รัก ทําใหความรักยุงยากขึ้น หรือกลายเปนคนมากรัก • สน ขัดสนไปตลอดชีวิต ไมมีความเจริญกาวหนา ใหนักเรียนยกตัวอยางพรรณไมมงคลที่นักเรียนรูจักมา อยางนอย 2 ชนิด พรอมติดภาพและอธิบายความหมายประกอบ นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนสืบคนพรรณไมมงคลและพรรณไมที่ไมเปนมงคล มาอยางละ 2 ชนิด พรอมติดภาพและอธิบายความหมายประกอบ รวมถึงวิธีการเพาะปลูกและการดูแลรักษามาพอสังเขป นําสงครู ผูสอน ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “พรรณไมที่นิยมนํามา จัดและตกแตงสวนในบริเวณบานมีอยูดวยกัน หลายสายพันธุ ในการเลือกพรรณไมมาปลูกจึง ควรเลือกใหเหมาะสมกับลักษณะและรูปแบบ ของสวนที่ตองการจัด จึงจะทําใหสวนมีความ สวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งพรรณไมที่นิยมนํามาจัด และตกแตงสวน เชน • โกสน มีลักษณะเปนทรงพุมใบเรียว ใบจะมี สีสันที่สวยงามแตกตางกันออกไป ชอบ แสงแดดจัด มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษ • เฟน มีอยูดวยกันหลายสายพันธุ นิยมปลูก ทั้งในกระถางและในดิน ชอบแสงแดดรําไร และมีความชื้นสูงเล็กนอย • หมากผูหมากเมีย มีลักษณะเปนทรงพุม ใบเรียวใบจะมีสีสันที่สวยงามแตกตางกัน ออกไป สงกลิ่นหอมในตอนกลางคืน • บอนสี มีอยูดวยกันหลายสายพันธุ ใบมี ลักษณะแผกวางและยาว มีสีสันและลวดลาย ที่สวยงาม ชอบแสงแดดรําไร • จั๋ง เปนพืชตระกูลปาลมจําพวกปาลมแตกกอ ดูแลงาย ชอบแสงแดดรําไร มีคุณสมบัติใน การดูดซับสารพิษ • สับปะรดสี ใบจะมีสีสันที่สวยงามแตกตางกัน ออกไป ควรปลูกในทิศที่แสงแดดสองถึงเพียง เล็กนอย เพื่อใหใบออกสีสันไดอยางสวยงาม • เตยหอม มีลักษณะเปนทรงพุมใบเรียว มีรอง อยูกลางใบ ใบมีกลิ่นหอม ชอบแสงแดดรําไร และชอบความชื้น • เล็บครุฑ ใบมีลักษณะกลม มีรอยหยักคลาย ขนของนก มีหนามคลายเล็บครุฑ ขอบใบมี สีครีม ควรปลูกในที่ที่แสงแดดสองถึงและ แดดไมจัดเกินไป” สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรรณไมมงคล ไดที่ https://www.baanlaesuan. com/29629/plant-scoop/sacred-plants นํา สอน สรุป ประเมิน T30
ขอสอบเนน การคิด ๖.๔ การดูแลรักษาและตกแต่งสวนในบริเวณบ้าน สวนในบ้านจะสวยงามได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการออกแบบแปลนสวนและการปลูกต้นไม้เท่านั้น แต่การดูแลรักษาและตกแต่งสวนก็นับเป็นสิ่งส�าคัญ เพราะสวนจะสวยงามตามความต้องการของ ผู้ออกแบบ หรือเจ้าของบ้าน ย่อมขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและตกแต่งสวนให้มีสภาพดีอยู่เสมอ การดูแลรักษาและตกแต่งสวนในบ้านเป็นกระบวนการรักษาสภาพของสวนให้มีความสวยงามตาม รูปแบบที่จัดและตกแต่งไว้ ซึ่งการดูแลรักษาและตกแต่งสวนประกอบด้วยสิ่งส�าคัญต่าง ๆ ดังนี้ ๑) การตัดแต่งรูปทรงของต้นไม้เป็นการตัดส่วนที่ไม่ต้องการของต้นไม้ออกเพื่อให้ ต้นไม้เกิดรูปทรงใหม่ตามต้องการ ก่อนตัดควรศึกษาขั้นตอนต่าง ๆ ให้เข้าใจก่อน ดังนี้ วิธีการตัดแต่งรูปทรงของต้นไม้ ๔. การตัดแต่งผิวของพุ่มใบให้ได้รูปทรงตามต้องการ โดยไม่ค�านึงถึงการตัดกิ่งที่จะต้องอยู่เหนือตา หรือข้อตา เพราะเป็นการตัดแต่งผิวของพุ่มใบให้ได้รูปทรงต่าง ๆ 1. การตัดแต่งกิ่งขั้นต้น ใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้เด็ดยอด อ่อน จะช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของต้นไม้ เช่น เด็ด ยอดอ่อนด้านข้าง เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของกิ่งข้าง 2. การตัดกิ่งออกจากล�าต้นใหญ่ทั้งกิ่ง เพื่อ ท�าให้ทรงพุ่มไม้ดูโปร่งขึ้น แสง ลม และความชื้น พัดผ่านในพุ่มของต้นไม้ได้ ท�าให้ต้นไม้ดูสดชื่น 3. การตัดกิ่งให้สั้นด้วยการตัดตาด้านข้าง การตัดให้ถึงส่วนต่อของกิ่ง หรือตา จะท�าให้เกิด กิ่งเล็ก ๆ อีกมากมาย วิธีการตัดแต่ง รูปทรงของ ต้นไม้ ศึกษา ลักษณะธรรมชาติที่แท้จริงของต้นไม้และสร้างมโนภาพลักษณะของต้นไม้หลังตัด ตัด หรือซอย ตัดกิ่งที่ตาย เป็นโรค กิ่งที่แตกกิ่งก้านหนาแน่นเกินไป ตัดแต่ง ตัดเป็นรูปทรงต่าง ๆ ตามความต้องการ เรียนรู้ การเจริญเติบโตตามธรรมชาติของพรรณไม้ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 27 การตัดแต่งกิ่งขั้นต้น เป็นโรค 2 1 การตัดแตงกิ่งตนไมใหสั้นดวยการตัดตาดานขางแบบเดียว จะสงผลอยางไร (แนวตอบ จะทําใหพุมใบมีความหนาเกินไป เนื่องจากการตัดแตง กิ่งดวยวิธีการนี้เปนการตัดกิ่งใหสั้นดวยการตัดตาดานขางออก โดยตัดใหถึงสวนตอของกิ่ง หรือตา ซึ่งจะทําใหเกิดกิ่งเล็กๆ ขึ้น อีกมากมาย สงผลทําใหมีพุมใบหนา) นักเรียนควรรู 1 โรค โรคที่เกิดขึ้นกับตนไมมีอยูดวยกันหลายโรค เชน โรคใบไหม ลักษณะ อาการที่พบ คือ ยอดออนของตนจะเหี่ยวเฉา ขอบใบและปลายใบไหม แตดินจะ มีความชื้นสูง โรคใบจุด ลักษณะอาการที่พบ คือ ตรงกลางใบมีจุดสีดํา ดานบน ของใบมีจุดสีนํ้าตาลกระจายทั่วทั้งใบ จะระบาดมากในชวงฤดูฝนและฤดูหนาว 2 การตัดแตงกิ่ง มีหลักการ ดังนี้ • ตัดกิ่งที่แหงตายออก ซึ่งเปนกิ่งที่มีสีดํา หรือสีนํ้าตาล • ตัดกิ่งที่เปนโรค หรือกิ่งที่แมลงกัด หรือมีเพลี้ย • ตัดกิ่งลมเอน กิ่งที่ไมเปนระเบียบ ยากตอการดูแลรักษา • การตัดควรทํามุม 45 องศา ควรตัดเหนือตาเล็กนอยและใหตาอยูทาง ดานสวนสูงของรอยเฉียง • ทาขอบแผลรอยตัดกิ่งที่มีขนาดโตกวาดินสอดวยสีนํ้ามัน หรือปูนแดง เพื่อปองกันการแหงตายของปลายกิ่งที่เกิดจากการทําลายของหนอนเจาะตน และเชื้อรา ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 8. ครูเปดวีดิทัศนเกี่ยวกับการตัดแตงรูปทรงของ ตนไมใหนักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใดจึงตองตัดแตงรูปทรงของกิ่งไม (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน เพื่อใหตนไมมีรูปทรง ที่สวยงาม เพื่อใหตนไมมีการเจริญเติบโต ที่ดีขึ้น เพื่อลดความหนาของพุมใบ เพื่อให ทรงพุมของตนไมโลง และโปรงมากขึ้น เพื่อ เพิ่มผลผลิต เพื่อใหสะดวกตอการขนยาย) 9. ครูพานักเรียนออกไปเรียนรูเกี่ยวกับการตัดแตง รูปทรงของตนไมที่สวนหยอมภายในโรงเรียน พรอมทั้งสาธิตวิธีการตัดแตงรูปทรงของตนไม ใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง จากนั้นครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ออกมาสาธิตวิธีการตัดแตง รูปทรงของตนไมใหเพื่อนชม โดยมีครูเปน ผูคอยเสนอแนะเพิ่มเติม 10. ครูใหนักเรียนแตละกลุมเลือกตนไมที่ตองการ ตัดตกแตงตามความสนใจกลุมละ 1 ตน จากนั้นใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันตัดแตง รูปทรงของตนไมใหสวยงาม 11. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานการตัดแตงรูปทรง ของตนไม พรอมทั้งอธิบายขั้นตอนการทํางาน ปญหาที่พบและแนวทางในการแกปญหา 12. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การตัดแตงรูปทรงของ ตนไมที่มีขนาดใหญ จะมีชวงเวลาที่เหมาะสม ที่สุด คือ ชวงฤดูหนาว ประมาณกลางเดือน ตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ ซึ่งจะเปน ระยะที่ตนไมพักตัวและเก็บสะสมอาหาร เตรียมสําหรับการแตกยอดใบใหมในฤดูกาล ถัดไป” นํา สอน สรุป ประเมิน T31
ขอสอบเนน การคิด การตัดแต่งรูปทรงของต้นไม้ควรตัดแต่งหลาย ๆ แบบในต้นเดียวกันเพราะถ้าตัดแต่ง แบบใดแบบหนึ่งมากเกินไปจะท�าให้ต้นไม้มีรูปทรงไม่สวยงามเช่นการตัดกิ่งให้สั้นด้วยการตัดตา ด้านข้างเพียงอย่างเดียว จะท�าให้พุ่มหนาเกินไป การตัดกิ่งออกจากล�าต้นใหญ่ทั้งกิ่งอย่างเดียว จะท�าให้รูปทรงยืดยาว ไม่สวยงามดังนั้นการตัดแต่งต้นไม้ในรูปทรงใดนั้นขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมาย ดังนี้ ๑. ตัดแต่งเพื่อให้พุ่มใบบางลง ท�าให้พุ่มโปร่งขึ้น ให้แสง ลม และความชื้นพัดผ่าน เป็นการป้องกันกิ่งหัก เมื่อมีลมและฝนแรง หรือท�าให้ลักษณะของต้นไม้ดูสดชื่นอยู่ตลอดเวลา ๒. ช่วยซ่อมแซมลักษณะทรงพุ่ม เช่น เมื่อกิ่งหักคาต้นหลังจากถูกพายุ ควรตัดกิ่ง ที่หักทิ้ง เพื่อป้องกันโรคที่จะลุกลาม ๓. เพื่อเพิ่มผลผลิต โดยท�าให้ต้นไม้ออกดอกและผลมากขึ้น เป็นการช่วยกระตุ้นให้ เกิดกิ่งใหม่ หรือตาใหม่ ทั้งตาใบและตาดอก ๔. เพื่อควบคุมและส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นไม้เมื่อตัดกิ่งที่เสียออกต้นไม้จะ เจริญเติบโตขึ้น โดยสามารถควบคุมรูปทรงของต้นไม้ ให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ ๕. เพื่อให้ได้รูปทรงพิเศษ หรือรูปทรงต่าง ๆ ตามต้องการ เช่น สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม ซึ่งเหมาะส�าหรับใช้จัดและตกแต่งสถานที่ การตัดแต่งกิ่งพุ่มไม้อยู่เสมอเป็นการควบคุมการเจริญเติบโต ท�าให้เกิดกิ่งใหม่และต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี หากน�ากรรไกรตัดกิ่งไปตัดกิ่งไม้ที่มีโรค ควรน�ามาล้างให้สะอาดเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ก่อน น�าไปตัดกิ่งไม้ต้นอื่น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ของโรค Trick : การป้องกันโรคในต้นไม้ ๖. ช่วยในการขนย้ายต้นไม้ที่โต เต็มที่ใบจะเป็นพุ่มหนา รากหนาแน่น ยากต่อ การโยกย้าย จึงต้องตัดราก กิ่ง ใบบางส่วนออก เพื่อให้เกิดความสมดุลและขนย้ายได้สะดวก 28 การตัดแต่งรูปทรงของต้นไม้ การตัดกิ่งให้สั้นด้วยการตัดตา กรรไกรตัดกิ่งไปตัดกิ่งไม้ที่มีโรค 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 13. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เมื่อเราจัดสวนในบริเวณ บานเสร็จเปนที่เรียบรอยแลว ในขั้นตอน ตอไปก็คือ ตองมีการดูแลรักษาสวนในบริเวณ บานใหคงความสวยงามอยูเสมอ ซึ่งวิธีในการ ดูแลรักษาสวนในบริเวณบานสามารถปฏิบัติ ไดหลายวิธี เชน • หมั่นพรวนดินใหกับตนไมอยูเสมอ เนื่องจาก ดินเปนสารอาหารสําคัญของตนไม ทําหนาที่ ในการพยุงตนไมใหมีความแข็งแรงมั่นคง หากปลอยใหดินแหงและแข็ง รากของตนไม จะหาอาหารมาหลอเลี้ยงสวนตางๆ ไดยากขึ้น จึงควรพรวนดินอยางสมํ่าเสมอ เพื่อใหราก ของตนไมชอนไชหาอาหารไดงาย ทั้งยังมี สวนชวยในการระบายความชื้น และชวยให ดินคายความรอนไดรวดเร็วขึ้น • ควรรดนํ้าตนไมในตอนเชา เพราะจะชวยลด การระเหยของนํ้าได หากตอนเชาไมสะดวก สามารถรดนํ้าตนไมในตอนเย็นแทนได สวนเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงในการรดนํ้าตนไม คือ ตอนกลางวัน หรือชวงเวลาที่มีแดดจัด เพราะจะเกิดการเปลี่ยนของอุณหภูมิอยาง กะทันหัน ซึ่งอาจสงผลใหตนไมตายได และควรงดการรดนํ้าตนไมในตอนกลางคืน เนื่องจากในชวงนี้ทําใหเกิดความชื้นและ เกิดโรคตาง ๆ ตามมาไดงาย” 14. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันปฏิบัติ กิจกรรมสวนจําลอง โดยใหสมาชิกในกลุม รวมกันวางแผนและออกแบบการจัดสวนใน บริเวณบาน (โมเดลบาน) ตามความสนใจ 1 รูปแบบ ซึ่งแตละกลุมจะตองนําโมเดลบาน ของกลุมตนเองที่ไดปฏิบัติในชั่วโมงที่ผานมา มาใชประกอบการจัดและตกแตงสวนจําลอง นักเรียนควรรู 1 การตัดแตง ตนไมแตละชนิดจะมีธรรมชาติการเจริญเติบโตที่ไมเหมือนกัน ดังนั้น การตัดแตงกิ่งจึงควรศึกษาธรรมชาติของตนไมนั้นๆ ใหดีกอนดําเนินการ เชน ชวงเวลาที่เหมาะสมที่จะตัด การดูแลบํารุงรักษา โดยเทคนิคการตัดแตงกิ่ง คือ ใหเล็มทีละนอย แตทําบอยครั้ง เพราะถาตัดแตงครั้งเดียวมากเกินไป อาจทําใหเสียทรง แกไขกลับคืนไดยาก และตองใชเครื่องมือตัดแตงอยาง ถูกตอง เหมาะสม 2 การตัดกิ่ง ควรเลือกกิ่งที่แหงตาย กิ่งที่ออนแอ กิ่งที่เปนโรค กิ่งที่ฉีกขาด กิ่งที่เจริญผิดปกติ และกิ่งที่แทงเขาไปในภายในพุม 3 กรรไกรตัดกิ่ง กอนเลือกซื้อควรทดลองจับและตัดวัตถุวาถนัดมือหรือไม ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพดีหรือไม มีการรับประกันสินคาหรือไม ควรเลือกใชให ถูกประเภทและมีความเหมาะกับการใชงาน ไมควรนํากรรไกรที่มีขนาดเล็กที่ใช สําหรับงานเบาๆ ไปใชตัดกิ่งไมที่มีขนาดใหญ เพราะจะทําใหกรรไกรเสียหายได เพราะเหตุใดการตัดแตงรูปทรงของตนไมจึงควรตัดแตงหลายๆ แบบในตนเดียวกัน (แนวตอบ เพราะถาหากตัดแตงแบบใดแบบหนึ่งมากเกินไป หรือตัดแบบเดียว จะทําใหตนไมมีรูปทรงที่ไมสวยงาม ไมเปน ธรรมชาติ เชน การตัดกิ่งใหสั้นดวยการตัดตาดานขางเพียง อยางเดียว จะทําใหพุมหนาเกินไป) นํา สอน สรุป ประเมิน T32
การคิด ขอสอบเนน การคิด ต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะปลูกในกระถางควรน�ามาปลูก ลงดิน เพื่อให้ต้นไม้มีการเจริญเติบโตที่ดีขึ้น แข็งแรงเช่น หญ้ามาเลเซีย หรืออาจรื้อหญ้าออก แล้วปูอิฐเป็นลานพักผ่อนแทน ๔. องค์ประกอบอื่น ๆ เช่น รั้ว ทางเท้าเก้าอี้สนามสิ่งตกแต่งอื่น ๆ ต้องตรวจสอบ สภาพการใช้งานอยู่เสมอ หากมีส่วนใดช�ารุด เสียหาย ควรเปลี่ยนใหม่ทันที ๒) การบ�ารุงรักษาสนามหญ้า การที่สนามหญ้าจะเขียวขจี มีความสวยงามอยู่ตลอด เวลา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธีการปลูกเท่านั้น การบ�ารุงรักษาสนามหญ้าที่ถูกวิธีมีรายละเอียด ดังนี้ ๑. การตัดหญ้า ควรตัดประมาณ ๑๐-๑๕ วัน ต่อครั้ง มิฉะนั้น หญ้าจะสูงเกินไป ไม่ควรตัดหญ้าในขณะที่สนามก�าลังเปียก เพราะจะท�าให้เครื่องตัดหญ้าช�ารุดได้ ๒. การรดน�้า ควรรดน�้าทุกวันวันละ ๑ ครั้งแต่ถ้าเป็นหญ้าที่เพิ่งปลูกใหม่ควรรดน�้า วันละ ๒-๓ ครั้ง และรดน�้าให้ชุ่ม แต่อย่าปล่อยให้น�้าขังแฉะสนาม ๓. การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยสูตร ๔๕-๐-๐ เดือนละครั้ง หรือใช้สูตร ๓๐-๑๐-๒๐ หรืออาจใส่ปุ๋ยชีวภาพ หรือปุ๋ยอินทรีย์ และรดน�้าทันทีที่ใส่ปุ๋ยทุกครั้ง ๔. การป้องกันและก�าจัดศัตรูของหญ้า โดยการตัดหญ้าบ่อย ๆ เพื่อเป็นการท�าลาย แหล่งอาหารของโรคและแมลง ๕. การท�าความสะอาดควรเก็บเศษหญ้าออกทุกครั้งหลังจากตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแมลง ๓) การปรับปรุงสวน สวนที่จัดไว้อย่างสวยงาม เมื่อเวลาผ่านไปความสวยงามอาจ ลดลง จึงต้องมีการปรับปรุง แก้ ไข เพื่อให้กลับมาสวยงามดังเดิม ซึ่งการปรับปรุง มีดังนี้ ๑. ดินในกระถางควรหมั่นพรวนดินแต่หากพบว่าดินในกระถางเหลือน้อยให้เติมดิน ให้เต็มกระถาง ถ้าต้นไม้ โตเกินกว่าจะอยู่ในกระถางให้เปลี่ยนกระถาง หรือย้ายต้นไม้ ไปปลูกลงดิน ๒. พรรณไม้ต่าง ๆ หากต้นไม้เจริญเติบโตจนเบียดกันต้องแยกบางต้นออก หรือตัดแต่ง ให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ หากพบว่าต้นไม้ตายควรรีบหาต้นใหม่มาปลูกทดแทน ๓. สนามหญ้าถ้าหญ้าตายให้น�าหญ้าใหม่มาปลูกแต่ให้เลือกหญ้าที่มีความทนทาน ดินร่วน ๒ ส่วน อินทรียวัตถุ ๑ ส่วน และ ปุ๋ยคอก ๑ ส่วน หรือดินร่วน ๑ ส่วน ทรายหยาบ ๑ ส่วน ใบไม้ผุ ๑ ส่วน และปุ๋ยคอก ๑/๔ ส่วน Trick : ส่วนผสมของดินปลูกต้นไม้ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 29 รุงรักษาสนามหญ้า หญ้ามาเลเซีย หรืออาจใส่ปุ๋ยชีวภาพ 1 3 2 ขอใดคือวิธีการบํารุงรักษาสนามหญาไดอยางถูกตอง 1. ควรตัดหญาบอยๆ เพื่อปองกันศัตรูของหญา 2. หลังจากตัดหญาเสร็จแลวไมควรนําเศษหญาออก 3. ควรตัดหญาเดือนละ 1 ครั้ง เพราะหญาเจริญเติบโตชา 4. ควรรดนํ้าสัปดาหละ 1 ครั้ง เพราะหญาไมชอบความชื้น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะการตัดหญาบอยๆ จะเปน การทําลายแหลงอาหารของโรคและแมลง เพื่อเปนการชวยปองกัน และกําจัดศัตรูของหญา) นักเรียนควรรู 1 หญา หญาที่นิยมปลูกบนสนามกลางแจง คือ หญานวลนอย เพราะเปนหญา ที่ทนตอการเหยียบยํ่า ทนตอความแหงแลง หรือนํ้าขัง ตลอดจนทนตออุณหภูมิ สูงไดดี แตในฤดูรอนควรหมั่นรดนํ้าอยูเสมอ มิฉะนั้นใบจะเหลือง นอกจากนี้ ยังทนตอดินเค็ม ทั้งยังตานทานโรคแมลงไดดี และควรตัดหญาเมื่อเจริญเติบโต ได 0.75-1.5 นิ้ว โดยทําการตัดทุกๆ 2 สัปดาห 2 ปุยชีวภาพ เปนปุยที่มีสีดําคลํ้า มีลักษณะเปนผงเนื้อละเอียด เหมาะสําหรับ การปรับปรุงดินและใหธาตุอาหารแกพืช 3 หญามาเลเซีย เปนหญาที่ใชทําสนามหญาและจัดสวนหยอม โดยเฉพาะ ในพื้นที่รม มีแสงแดดรําไร สามารถเจริญเติบโตไดดีในที่ที่มีความอุดมสมบูรณนอย สามารถปองกันการพังทลายของดินในที่มีความลาดชันไดดี ทนตอดินที่เปนกรด ชอบความชื้นสูง ปลูกไดในดินแทบทุกชนิด และควรตัดหญาเมื่อเจริญเติบโตได 1-2 นิ้ว โดยทําการตัดทุกๆ 10-15 วัน ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 15. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสรางสวน จําลองตามการออกแบบของกลุมตนเอง โดยนําวัสดุ อุปกรณ และสิ่งของเหลือใชมา สรางสรรคผลงานตามหลักการจัดและตกแตง สวนในบริเวณบาน 16. ครูกําหนดใหนักเรียนแตละกลุมนําโมเดลบาน มาใชเปนองคประกอบหลักในการปฏิบัติงาน เพื่อใหการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน มีลักษณะที่เหมาะสมกับรูปแบบของบานใน ลักษณะตางๆ 17. ในระหวางการปฏิบัติกิจกรรมการสรางสวน จําลองของนักเรียน ครูจะเปนผูทําหนาที่ ในการตรวจสอบและวิเคราะหผลงานของ นักเรียนเกี่ยวกับรูปแบบของสวน ลักษณะ ของการจัดสวน วิธีการจัดสวน การเลือกใช วัสดุ อุปกรณ และสิ่งของเหลือใชในการ สรางสรรคผลงานการจัดสวนจําลอง โดย เนนที่กระบวนการวางแผนในการปฏิบัติงาน เปนหลัก 18. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายถึงวิธีการดูแล รักษาสวนในรูปแบบของตนเอง โดยอางอิง จากสวนจําลองที่สรางขึ้น 19. ครูใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรูเกี่ยวกับหลักการจัดสวนในบริเวณบาน จากการปฏิบัติกิจกรรมสรางสวนจําลอง โดยมีครูเปนผูคอยเสนอแนะเพิ่มเติม 20. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําโมเดลบานและ สวนจําลองที่สรางเสร็จแลวมาจัดแสดงเปน มุมนิทรรศการบานและสวนภายในชั้นเรียน พรอมทั้งรวมกันจัดบริเวณสถานที่ที่ใชในการ จัดนิทรรศการใหมีความสวยงาม นํา สอน สรุป ประเมิน T33
ขอสอบเนน การคิด นอกจากการปรับปรุงสวนตามที่กล่าวมาแล้วในข้างต้นการเปลี่ยนแปลงสภาพสวน ทั้งหมดอาจเกิดขึ้นได้โดยที่เจ้าของบ้านอาจเบื่อหน่ายความจ�าเจ หรือมีความจ�าเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ให้เหมาะกับสภาวะนั้น ๆ เช่นการจัดสวนครั้งแรกเมื่อมีครอบครัวใหม่ ๆ ต่อมาเมื่อมีสมาชิกเพิ่มขึ้น จ�าเป็นต้องมีสถานที่ส�าหรับเด็ก อาจต้องการบ่อทราย ชิงช้า บ้านตุ๊กตา จึงต้องมีการปรับเปลี่ยน การจัดสวนใหม่ ๔) การป้องกันและก�าจัดศัตรูของต้นไม้การเจริญเติบโตของต้นไม้ในธรรมชาติ จะมีศัตรูพืชคอยรบกวน เช่น แมลง ด้วง หนอน เพลี้ย โรคต่าง ๆ ที่เกิดจากเชื้อรา แบคทีเรีย ดังนั้น จึงต้องมีการฉีดพ่นน�้าหมักจุลินทรีย์ เพื่อก�าจัดหนอน แมลง หรือศัตรูพืชอื่น ๆ ๕) การใส่ปุ๋ยต้นไม้ ปุ๋ยเป็นปัจจัยส�าคัญต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ เป็นแหล่งธาตุ อาหารส�าคัญที่ต้นไม้ต้องการ เพื่อน�าไปสร้างใบ กิ่ง ดอก และผล หรือเสริมสร้างให้ต้นไม้ เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ ในการใส่ปุ๋ยต้นไม้ควรเลือกใช้ให้ถูกต้องกับชนิดของต้นไม้และระยะ เวลาของการเจริญเติบโต โดยปุ๋ยใส่ต้นไม้มี ๒ ประเภท ได้แก่ การจัดและตกแต่งบ้าน ต้องค�านึงถึงหลักความปลอดภัย ความสะอาด ถูกสุขลักษณะ ความสวยงาม และความประหยัด ต้องเลือกเครื่องใช้และของประดับให้เหมาะสมกับรูปแบบ ของบ้านและความต้องการของสมาชิกในครอบครัว โดยอาศัยการวางแผนที่ดี และการน�า หลักการทางทัศนศิลป์เข้ามาประยุกต์ ใช้ ในการจัดและตกแต่ง นอกจากนี้ บริเวณบ้าน ยังเป็นส่วนที่ต้องให้ความส�าคัญในการจัดและตกแต่งเช่นเดียวกัน ดังนั้น สมาชิกในครอบครัว จึงควรช่วยดูแลรักษา จัดและตกแต่งบ้านให้สวยงามน่าอยู่ เพื่อสร้างบรรยากาศและ ความรู้สึกที่ดี ในครอบครัว ปุ๋ยอินทรีย์ • เป็นปุ๋ยที่ได้จากสิ่งมีชีวิต เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยประเภทนี้จะ สลายตัวค่อนข้างช้าและมีคุณสมบัติในการปรับปรุงคุณภาพของดิน • ปุ๋ยอินทรีย์ที่ดีจะต้องมีแร่ธาตุครบทั้ง ๑๓ ชนิด ตามที่พืชที่ต้องการ ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ก�ามะถัน เหล็ก แมงกานีส โบรอน โมลิบดีนัม ทองแดง สังกะสี และคลอรีน ปุ๋ยอนินทรีย์ • เป็นปุ๋ยเคมีที่สังเคราะห์ขึ้น มีธาตุอาหารต่าง ๆ ตามที่โรงงานผู้ผลิตก�าหนด มีขายทั่วไป ตามท้องตลาด แบ่งเป็น ๒ ชนิด คือ ปุ๋ยเดี่ยวและปุ๋ยผสม • ปุ๋ยอนินทรีย์มีธาตุอาหารที่มากกว่าปุ๋ยอินทรีย์ และอยู่ในรูปที่สามารถละลายน�้าได้อย่าง รวดเร็ว พืชดูดซับไปใช้งานได้ทันที 30 ปุ๋ยอนินทรีย์ 2 เพลี้ย1 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 21. ครูใหนักเรียนแตละคนรวมกันใหคะแนน โมเดลบานและสวนจําลองที่ตนเองชื่นชอบ มากที่สุด โดยครูกําหนดกติกาการใหคะแนน ดังนี้ • ใหนักเรียนมีคะแนนคนละ 1 คะแนน และครูมีคะแนน 10 คะแนน • ไมสามารถลงคะแนนใหกลุมของตนเองได • กลุมที่ไดคะแนนมากที่สุดจะไดคะแนนเต็ม • กลุมอื่นจะไดคะแนนลดหลั่นกันลงมาตาม ลําดับ 22. ครูสุมนักเรียน 3-4 คน ออกมาอธิบายเหตุผลใน การลงคะแนนวา ตนเองเลือกลงคะแนนใหกับ กลุมใด เพราะเหตุใดจึงลงคะแนนใหกับกลุมนี้ 23. ครูและนักเรียนรวมกันวิเคราะหความแตกตาง ของโมเดลบานและสวนจําลองของกลุมที่ได คะแนนมากที่สุดและกลุมที่ไดคะแนนนอย ที่สุด 24. ครูใหตัวแทนกลุมที่ไดคะแนนมากที่สุด ออกมา อธิบายถึงแนวคิดในการทํางานอยางไรให ประสบความสําเร็จ และใหตัวแทนกลุมที่ได คะแนนนอยที่สุดออกมาอธิบายถึงแนวทาง ในการแกไขและพัฒนาวิธีการทํางานใหมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีครูเปนผูคอย เสนอแนะเพิ่มเติม 25. ครูมอบหมายใหนักเรียนทํากิจกรรมสรางสรรค พัฒนาการเรียนรู จากหนังสือเรียน หนวยการ เรียนรูที่ 2 26. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 2.2.1 เรื่อง การจัดและตกแตงสวน และทําชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง บานและสวน 27. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 นักเรียนควรรู 1 เพลี้ย เปนแมลงศัตรูพืชที่มีขนาดเล็ก มีปากชนิดเจาะดูดคลายเข็มติดอยู บริเวณสวนหัวใกลกับอก และปากชนิดเขี่ยดูดติดอยูบริเวณสวนปลายหัว สวนใหญ จะไมมีปก มีขนขึ้นปกคลุม การเรียกชื่อจะเรียกตามรูปรางของลําตัว หรือนิสัย ของเพลี้ย 2 ปุยอนินทรีย หรือปุยเคมี มีสวนชวยใหตนไมเจริญเติบโต ออกดอกเร็ว แตมีราคาสูง และเมื่อใชมากๆ จะทําใหดินแข็ง มีแมลงศัตรูพืชมารบกวน และเปนการทําลายสิ่งแวดลอม จึงควรใชเฉพาะที่จําเปนเทานั้น การกําจัดศัตรูของตนไมมีความสําคัญอยางไร (แนวตอบ เพราะการเจริญเติบโตของพืชในธรรมชาติมักมีศัตรู ตางๆ มาคอยรบกวน ซึ่งศัตรูเหลานั้นอาจจะเปนโรคที่อาจทําให ตนไมในสวนติดโรคตางๆ ได ทั้งยังทําใหตนไมไมเจริญเติบโต และไมสวยงาม) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปองกันและกําจัดศัตรูของไมผล ไดที่ http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=5&chap= 2&page=t5-2-infodetail15.html นํา สอน สรุป ประเมิน T34
การคิด กิจกรรม Mini Project àÃ×èͧ ¡ÒèѴÊǹ ค�าชี้แจง ๑. ให้นักเรียนปฏิบัติงานกลุ่ม โดยฝกปฏิบัติการจัดสวนในบริเวณโรงเรียน ดังน�้ • แต่ละกลุ่มออกแบบและเขียนแบบสวนในบริเวณโรงเรียน • ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับรูปแบบการจัดสวนจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต สถานที่ จัดสวนจริง ๆ เช่น บ้านเรือน สถานที่ต่าง ๆ • แต่ละกลุ่มจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ ์ในการจัดสวนให้พร้อม • ด�าเนินการจัดสวนในบริเวณโรงเรียนตามที่ได้ออกแบบไว้ • ดูแลรักษาสวนในบริเวณโรงเรียน • เขียนบันทึกการปฏิบัติงาน • การประเมินผลการปฏิบัติงาน ๒. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มน�าเสนอบันทึกการปฏิบัติงานหน้าชั้นเรียนในประเด็นที่ก�าหนดให้ ดังน�้ • การจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ • การด�าเนินการจัดสวน • การดูแลบ�ารุงรักษาสวน • การประเมินผลการปฏิบัติงาน ÊÃé Ò§ÊÃÃ¤ì ¾Ñ²¹Ò¡ÒÃàÃÕ¹ÃéÙใบมอบหมายงาน ¡Ô¨¡ÃÃÁ การจัดตกแต่งบ้าน และบริเวณบ้าน 31 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันออกแบบบาน ในฝนตามความคิดและจินตนาการ 2. ศึกษาการจัดตกแตงบานและบริเวณบานจากแหลงการเรียนรูที่ หลากหลาย เชน หนังสือนิตยสาร อินเทอรเน็ต 3. สมาชิกในกลุมรวมกันจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณสําหรับการจัด ตกแตงใหพรอม 4. สมาชิกในกลุมรวมกันประดิษฐโมเดลจําลองบานในฝน พรอมทั้ง ตกแตงใหสวยงาม 5. ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน พรอมทั้งอธิบายวิธีการจัด ตกแตงบานและบริเวณบานในฝนของกลุมตนเอง 6. ประเมินผลการปฏิบัติงาน แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 2 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 2.2.1 เรื่อง การจัดและ ตกแตงสวน 3. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง บานและสวน 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การจัด และตกแตงสวนในบริเวณบานวา “บานของ นักเรียนแตละคนจะมีรูปแบบและลักษณะที่ แตกตางกันออกไปตามความเหมาะสมของบริเวณ พื้นที่ที่ใชในการสรางบาน ซึ่งพื้นที่ดังกลาวจะ สงผลทําใหการจัดและตกแตงสวนในบริเวณบาน มีรูปแบบและลักษณะที่แตกตางกัน ในการจัด และตกแตงสวนในบริเวณบาน ผูจัดควรคํานึงถึง หลักความปลอดภัย ความประหยัด ทั้งพลังงาน ทรัพยากร เวลา และแรงงาน เนื่องจากการจัดและ ตกแตงสวนในบริเวณบานจําเปนตองใชหลักใน การออกแบบ โดยมีการนําหลักการทางทัศนศิลป มาใช อีกทั้งยังตองใชระยะเวลาในการทํางาน และ งบประมาณในการสรางสรรคขึ้น รวมถึงยังตอง ดูแลรักษาสวนในบริเวณบานใหคงความสวยงาม อยูเสมอ เพื่อใหบรรยากาศของบานนาอยูอาศัย มากขึ้นและสมาชิกในครอบครัวอยูรวมกันอยาง มีความสุข” แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T35
Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ชนิดและหลักใน การเลือกบริโภค เครื่องดื่ม 1 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายหลักการเลือก บริโภคเครื่องดื่มได้ อย่างถูกต้อง 2. จ�ำแนกเครื่องดื่มชนิด ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง 3. เลือกบริโภคเครื่องดื่ม ที่มีประโยชน์ต่อ ร่างกายได้ 4. เอาใจใส่ดูแลสุขภาพ ของตนเองโดยการเลือก บริโภคเครื่องดื่มที่มี ประโยชน์ต่อร่างกาย 5. มีจิตส�ำนึกในการท�ำงาน ร่วมกันกับผู้อื่นและใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า แบบเน้น ทักษะ กระบวนการ เรียนความรู้ ความเข้าใจ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 3.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 2 การเตรียม การประกอบ เครื่องดื่มและ การประกอบ เครื่องดื่ม 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. บอกอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้และวัตถุดิบใน การประกอบเครื่องดื่ม ได้อย่างถูกต้อง 2. อธิบายขั้นตอน การเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ และวัตถุดิบในการ ประกอบเครื่องดื่มได้ อย่างถูกต้อง 3. สามารถประกอบ เครื่องดื่มได้อย่างถูกวิธี 4. เอาใจใส่ รับผิดชอบ ในการท�ำงาน และใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่างประหยัด และคุ้มค่า แบบเน้น รูปแบบการ สืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจใบงานที่ 3.2.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T36
แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 3 การจัดตกแต่ง เครื่องดื่ม และ การบริการ เครื่องดื่ม 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบหลังเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายวิธีการใช้วัสดุ อุปกรณ์และวัตถุดิบ ที่เหมาะสมในการจัด ตกแต่งแก้วเครื่องดื่ม ได้ 2. อธิบายเทคนิคและวิธี ในการจัดตกแต่งแก้ว เครื่องดื่ม 3. รู้และเข้าใจวิธีการสร้าง ความประทับใจในการ บริการเครื่องดื่มใน ครอบครัวและการ บริการเครื่องดื่ม ในงานเลี้ยง 4. เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ และวัตถุดิบที่เหมาะสม ในการจัดตกแต่งแก้ว เครื่องดื่มแต่ละชนิดได้ 5. สามารถจัดตกแต่งแก้ว เครื่องดื่มได้ 6. มีความตั้งใจ เอาใจใส่ มีความประณีตในการ ปฏิบัติงาน และใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานอย่าง ประหยัดและคุ้มค่า แบบเน้น การสาธิต และแบบเน้น กระบวนการ ปฏิบัติ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจใบงานที่ 3.3.1 - ตรวจใบงานที่ 3.3.2 - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่นในการ ท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T37
ปจจุบันมีเครื่องดื่มหลายชนิด ทั้งน�้าผักและผลไม้ น�้าสมุนไพร ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย ท�าให้ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณสดใส ผู้บริโภคจึงควรเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมและผลิตเครื่องดื่ม ไว้บริโภคเอง เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือท�าเป็นอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้ ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) ó หน่วยการเรียนรู้ที่ à¤Ã×èͧ´×èÁ áÅСÒúÃÔ¡Òà เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับเครื่องดื่มและการบริการใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ เรื่องเครื่องดื่มและการบริการ ใชทักษะ การแสวงหาความรูและทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางานอยางเปนขั้นตอน ในการเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม ใชทรัพยากร ในการปฏิบัติงานไดอยางประหยัดและคุมคา โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับทักษะตางๆ ที่มีความเกี่ยวของกับเครื่องดื่ม และการบริการ • ใหนักเรียนจําแนกประเภทของเครื่องดื่ม อธิบายประโยชนและโทษของเครื่องดื่มแตละชนิดได • ใหนักเรียนฝกเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม ขั้นนํา (เนนทักษะกระบวนการเรียนความรู ความเขาใจ) 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนชอบเครื่องดื่มชนิดใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ชอบดื่มนมรสจืด เพราะ ชวยใหรางกายเจริญเติบโตและแข็งแรง ชวยซอมแซมสวนที่สึกหรอ ชอบดื่มนํ้าผลไม เพราะดื่มแลวใหความรูสึกสดชื่น ทั้งยังมี คุณคาทางโภชนาการสูงอีกดวย ชอบดื่ม นํ้าอัดลม เพราะดื่มแลวใหความรูสึกสดชื่น กระปรี้กระเปรา และมีรสชาติอรอย ชอบ ดื่มนํ้าเปลา เพราะมีประโยชนตอรางกาย และเปนสิ่งที่จําเปนตอรางกายเปนอยางยิ่ง) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เครื่องดื่มที่นักเรียน ชื่นชอบมีทั้งเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอรางกาย และเครื่องดื่มที่ใหโทษตอรางกาย หากดื่มใน ปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งในปจจุบันมีเครื่องดื่ม ที่ผลิตและจําหนายอยูหลายชนิด จึงควรเลือก ดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอรางกาย เพราะ จะชวยใหรางกายแข็งแรงและเจริญเติบโตได อยางสมบูรณ” 4. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • หากที่บานปลูกผักสวนครัวไวหลายชนิด นักเรียนจะนําผักเหลานั้นมาประกอบเปน เครื่องดื่มชนิดใดไดบาง และจะมีขั้นตอน ในการทําอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ทํานํ้าขิงมะนาว โดยมี ขั้นตอนการทํา คือ เตรียมนํ้าอุน 1 แกว ฝานเหงาขิงขนาด 1 2 นิ้ว นําไปแชนํ้าอุน นาน 3-5 นาที ฝานมะนาวเปนชิ้นบางๆ นํา ลงไปแช หากตองการใหมีรสชาติหวานให เติมนํ้าผึ้งลงไปตามตองการ) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T38
ขอสอบเนน การคิด ๑ ชนิดของเครื่องดื่ม ปจจุบันเครื่องดื่มที่ผลิตและจ�าหน่ายอยู่ โดยทั่วไปมีมากมาย หลายชนิด ทั้งแบบที่มีประโยชน์และแบบที่อาจเป็นอันตราย ต่อร่างกาย ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ผู้ผลิตควรเลือกผลิตเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของ ผู้บริโภคให้มากที่สุด ในการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม ผู้บริโภคควรเลือกบริโภค เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ มีคุณค่าต่อร่างกาย และมีความเหมาะสม กับตนเอง เพราะเครื่องดื่มเหล่านั้นจะช่วยเสริมสร้างความ แข็งแรงของร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ช่วยพัฒนา การเจริญเติบโตของร่างกายให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เครื่องดื่ม โดยทั่วไป มีดังนี้ ¹Ñ¡àÃÕ¹ÁÕ¢Ñ鹵͹ ËÃ×ÍÇÔ¸Õ¡Òà »ÃСͺà¤Ã×èͧ´×èÁà¾×èÍÊØ¢ÀÒ¾ äÇŒºÃÔâÀ¤ã¹¤ÃÑÇàÃ×͹Í‹ҧäà สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สรางทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน - การเตรียม ประกอบ จัด ตกแตง และบริการเครื่องดื่ม นํ้าดื่ม นํ้าหวานผสมสี นํ้าหวานอัดแกส นํ้าแร่ น�้าสะอาด ปราศจากเชื้อโรค พยาธิ และสารเคมีที่มีพิษต ่อ ร ่างกาย มีคุณภาพตรงตาม มาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก ได้ก�าหนดไว้ ไม่มีรสชาติ และไม่ อัดลม เครื่องดื่มที่ ไม่มีแอลกอฮอล์ ประกอบด้วยน�้าตาลละลายน�้า มีการแต่งสี กลิ่น รส และใส่สาร กันเสีย ก่อนดื่มต้องมีการเติมน�้า ให้เจือจางก่อน น�้าที่ ได้จากแหล ่งน�้าที่เกิด ขึ้นเองตามธรรมชาติมีแร ่ธาตุ บางชนิดผสมอยู ่ ในปริมาณที่ เหมาะสม แร่ธาตุที่ส�าคัญ เช่น แคลเซียม ฟลูออไรด์ แมกนีเซียม เครื่องดื่มที่ท�าจากน�้าหวาน มีการแต่งสี กลิ่น รส และเติม กรด เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ กรดจากผลส้ม เมื่อดื่มแล้วจะให้ ความรู้สึกสดชื่น เครื่องดื่ม และการบริการ 33 นํ้าดื่ม นํ้าแร่ กันเสีย ก่อนดื่มต้องมีการเติมน�้า มีการแต่งสี กลิ่น รส และใส่สาร 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • เครื่องดื่มแบงออกเปนกี่ชนิด และมีชนิดใด ที่นักเรียนเคยดื่ม (แนวตอบ เครื่องดื่มจะมีเกณฑในการแบง ชนิดหลายวิธี เชน แบงออกเปน 5 กลุมหลัก ไดแก กลุมนํ้าดื่มและนํ้าแร กลุมซอฟตดริงก เชน โซดา โคลา นํ้าผักและผลไม กลุม นํ้าหวาน เชน นํ้าหวานผสมสี นํ้าหวาน อัดแกส กลุมนม เชน นมปรุงแตง นมเปรี้ยว นํ้านมจากพืช และกลุมอื่นๆ เชน ชา กาแฟ โกโก ซึ่งเครื่องดื่มที่เคยดื่มมีหลายชนิด เชน นํ้าแร นํ้าผักและผลไม นมเปรี้ยว นํ้าอัดลม นํ้าหวานผสมสี โกโก) 2. ครูใหนักเรียนดูภาพเครื่องดื่มชนิดตางๆ และใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวา เครื่องดื่มชนิดใดมีประโยชนตอรางกายและ เครื่องดื่มชนิดใดหากบริโภคมากเกินไปจะเปน อันตรายตอรางกาย 3. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนจะมีวิธีในการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม เพื่อใหเกิดประโยชนตอรางกายไดอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน การเลือกเครื่องดื่มเพื่อใหเกิด ประโยชนตอรางกาย ควรเลือกดื่มนํ้าเปลา เพราะมีประโยชนตอรางกาย ชวยเผาผลาญ พลังงาน ชวยขับถายของเสียโดยเฉพาะ ไขมันที่ตองกําจัดออก ทําใหรางกายทํางาน ไดอยางมีประสิทธิภาพมากขึ้น) 4. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิด ของเครื่องดื่ม จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 3 นักเรียนควรรู 1 นํ้าดื่ม ในแตละวันควรดื่มนํ้าใหเพียงพอตอความตองการของรางกาย และดื่มใหถูกเวลา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใหแกรางกาย คือ ดื่มนํ้าใหไดวันละ 6-9 แกว ดื่มนํ้า 2 แกว เมื่อตื่นนอน ชวยกระตุนการทํางานของอวัยวะภายใน ดื่มนํ้า 1 แกว กอนมื้ออาหาร 30 นาที ชวยใหระบบการยอยอาหารดีขึ้น ดื่มนํ้า 1 แกว กอนอาบนํ้า ชวยลดความดันโลหิต ดื่มนํ้า 1 แกว กอนเขานอน ชวยหลีกเลี่ยงภาวะเสนเลือดในสมองแตก 2 นํ้าแร เปนแหลงนํ้าธรรมชาติที่อุดมไปดวยแรธาตุหลายชนิด โดยสิ่งที่ ทําใหนํ้าแรมีความแตกตางไปจากนํ้าดื่มก็คือปริมาณแรธาตุที่มีอยูนอยกวา ควรดื่มนํ้าแรในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากมีแรธาตุเขาไปสะสมอยูมาก จะทําใหรางกายเสียสมดุล 3 สารกันเสีย เรียกอีกอยางหนึ่งวา “สารกันบูด” หรือ “วัตถุกันเสีย” (Presevatives) เปนสารเคมีที่นิยมนํามาใชในการถนอมอาหาร ทําหนาที่ในการ ยับยั้ง หรือทําลายจุลินทรียที่ทําใหอาหารเกิดการเนาเสีย บุคคลในขอใดเลือกบริโภคเครื่องดื่มไดอยางเหมาะสม 1. นลินจะเลือกดื่มเฉพาะนํ้าแรเทานั้น 2. นาราดื่มนมรอนกอนนอนเปนประจําทุกคืน 3. นาธานซื้อกาแฟเย็นมาดื่มอยางนอยวันละ 4 แกว 4. นภัทรชอบชวนเพื่อนไปดื่มสุราหลังเลิกงานทุกวันศุกร (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการดื่มนมกอนนอนมี ประโยชนในหลายๆ ดาน เชน แกอาการนอนไมหลับ ทําใหนอนหลับ สบาย ชวยเสริมสรางความแข็งแรงใหกับกระดูก ปองกันอาการเปน ตะคริว ปองกันโรคหัวใจ แกปวดทองประจําเดือน แกปวดศีรษะ ชวยแซมแซมสวนที่สึกหรอของรางกาย ปรับสมดุลการทํางาน ของระบบลําไส ฯลฯ) นํา สอน สรุป ประเมิน T39
ขอสอบเนนการคิด นํ้าสมุนไพร ดื่มนํ้าอยางไรใหสุขภาพดี นมพาสเจอไรซ ผลิตภัณฑนมที่ผานการฆาเชื้อดวยความรอน นมที่ผานการฆาเชื้อดวยวิธีนี้จะมีคุณคาทางอาหาร เทียบเทากับนมปกติที่ยังไมผานการฆาเชื้อ แตจะ มีอายุนอยกวานมชนิดอื่น ๓-๗ วัน นมที่นํามาหมักดวยจุลินทรียที่ไมเปนอันตราย ตอรางกาย มักปรุงแตงรสแลวเติมดวยนํ้าตาล ซูโครส มี ๒ ลักษณะ คือ เปนนํ้าและเหลวขน ที่เรียกวา “โยเกิรต” โคลา นํ้าอัดลมรสหวานที่ดื่มแลวใหความรูสึก กระปรี้กระเปรา ปราศจากวัตถุกันเสียและสาร แตงกลิ่นสังเคราะห โดยจะมีฤทธิ์เปนกรดเทียบ เทากับนํ้าสม คือ มี pH เทากับ ๒.๕-๓ เครื่องดื่มที่ไดจากการนําสวนประกอบตาง ๆ ของผักและผลไมมาแปรรูป ใหคุณคาทางอาหาร ทั้งยังมีสรรพคุณในการชวยปองกันและรักษาโรค บางชนิดได นํ้าผักและผลไม เครื่องดื่มที่มีกลิ่นและรสชาติของผักและ ผลไม จัดเปนเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอสุขภาพ เนื่องจากอุดมไปดวยแรธาตุและวิตามินตาง ๆ มากมาย พันช นํ้าผลไมปรุงแตงที่ทํามาจากผลไมหลายชนิด ผสมกัน เพื่อใหมีกลิ่น สี และรสชาติที่แตกตางกัน ออกไป อาจมีชิ้นผลไมผสมอยู สามารถเติมโซดา เพื่อใหมีรสซาบซาได นมปรุงแตง ผลิตภัณฑที่ ไดจากการนํานํ้านมโค หรือ นมโคชนิดนมผงมาผานกรรมวิธีการผลิตตาง ๆ แลวปรุงแตงดวยกลิ่น หรือรส มี ๒ ชนิด ไดแก ชนิดเหลวและชนิดแหง นมเปรี้ยว นมจากพืช นมที่สกัดมาจากเมล็ดพืช มีสารอาหารที่มี ประโยชนตอรางกาย คือ แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินที่จําเปน ๑๓ ชนิด และโปรตีน สวนใหญ จะมีปริมาณนํ้าตาลสูง เพื่อเพิ่มความหวาน ๓๔ เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมในประเด็นที่วา “การดื่มนํ้าแรควรดื่มในปริมาณที่ เหมาะสม” เนื่องจากปริมาณแรธาตุที่รางกายควรไดรับอยางเหมาะสม คือ ธาตุเหล็ก ไมเกิน 0.5 มิลลิกรัม/ลิตร แมงกานีส ไมเกิน 0.3 มิลลิกรัม/ลิตร ทองแดง ไมเกิน 1.0 มิลลิกรัม/ลิตร สังกะสี ไมเกิน 5.0 มิลลิกรัม/ลิตร ซัลเฟต ไมเกิน 200 มิลลิกรัม/ลิตร ฟลูออไรด ไมเกิน 1.0 มิลลิกรัม/ลิตร ไนเตรต ไมเกิน 45 มิลลิกรัม/ลิตร และคลอไรด ไมเกิน 200 มิลลิกรัม/ลิตร หากนํ้าแร หาดื่มไดยากใหดื่มนํ้าสะอาดแทน แลวรับประทานผักและผลไมที่มีแรธาตุ ผสมอยู เพื่อเปนการเพิ่มแรธาตุใหเพียงพอตอความตองการของรางกาย เชน ธาตุเหล็ก (ตับ เนื้อสัตว ธัญพืช) แมงกานีส (อาหารทะเล ถั่วลิสง) ทองแดง (ขนมปงโฮลวีต ผักใบเขียว) สังกะสี (ขาวกลอง เมล็ดทานตะวัน) ฟลูออไรด (กุยชาย แครรอต มะละกอ) การดื่มนํ้าเปลามีประโยชนอยางไร (แนวตอบ การดื่มนํ้าเปลาจะชวยใหกลามเนื้อมีความชุมชื้น ผิวหนังไมเหี่ยวยน เปลงปลั่ง และสดใส ทั้งนี้ นํ้ายังมีสวนชวย ในการกําจัดของเสีย โดยเฉพาะไขมันที่ตองกําจัดออก ซึ่งหาก รางกายมีนํ้าเพียงพอก็จะสามารถกําจัดของเสียและทําใหรางกาย ทํางานไดอยางมีประสิทธิภาพ) ขั้นสอน ขั้นที่ 2 วางแผนปฏิบัติ 5. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันวางแผนการปฏิบัติงานและแบงหนาที่ ความรับผิดชอบตามความถนัด ความสามารถ ของแตละบุคคล เพื่อสืบคนขอมูลภายใน สถานศึกษาของตนเองเกี่ยวกับชนิดของ เครื่องดื่มและหลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูล จากการสํารวจเครื่องดื่มภายในสถานศึกษา ของตนเองเกี่ยวกับชนิดของเครื่องดื่มและ หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม 7. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายขอมูล ที่ไดรับจากการสํารวจเครื่องดื่มภายในสถาน ศึกษาของตนเองเกี่ยวกับชนิดของเครื่องดื่ม และหลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่มจนได ขอสรุปของกลุม 8. ครูถามนักเรียนวา • จากการสํารวจเครื่องดื่มภายในสถานศึกษา นักเรียนพบเครื่องดื่มชนิดใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน เครื่องดื่มที่พบมากจะเปนนม นํ้าผักและผลไม นํ้าสมุนไพร) • เครื่องดื่มภายในสถานศึกษาที่นักเรียนชอบ ดื่มเปนประจําคือเครื่องดื่มชนิดใด เพราะ เหตุใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 9. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันตอบคําถาม ลงในใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง ชนิดของเครื่องดื่ม และหลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม นํา สอน สรุป ประเมิน T40
กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ชา ดื่มนมเวลาใดให้มีสุขภาพที่ดี นมเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วย แร่ธาตุอาหาร ช่วยเสริมสร้างแคลเซียมให้แก่ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี ควรเลือก ดื่มนมตามเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ T i p ๐๕.๐๐-๐๗.๐๐ น. กระตุ้นล�าไส้ ใหญ่ ๐๗.๐๐-๐๙.๐๐ น. กระตุ้นการท�างาน ของกระเพาะอาหาร ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. กระตุ้นการท�างาน ของสมอง ๑๒.๐๐-๑๕.๐๐ น. กระตุ้นการท�างาน ของล�าไส้เล็ก ๑๗.๐๐-๒๑.๐๐ น. กระตุ้นระบบหัวใจ ๒๑.๐๐-๒๓.๐๐ น. ช่วยให้หลับสบาย กาแฟ เครื่องดื่มที่ท�าจากเมล็ดกาแฟ มีส่วนประกอบส�าคัญ คือ กาเฟอีน นิยมดื่มพร้อมน�้าตาลและครีม สามารถปรุงรสชาติได้ ตามต้องการ เครื่องดื่มที่มีทั้งแบบผงและแบบใบแห้งบรรจุซอง ดื่มได้ทั้งแบบ เติมน�้าตาล ไม่เติมน�้าตาล และปรุงรสชาติด้วยการเติมนมข้นหวาน หรือครีม โกโก เครื่องดื่มที่ท�าจากเมล็ดโกโก้ สามารถผสมด้วยน�้าตาล ครีม และนมข้นหวาน หรืออาจมีการปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติด้วยผลไม้ มีสารกาเฟอีนอ่อน ๆ จึงท�าให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า โซดา เครื่องดื่มอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อเปดฝาขวดแก๊สจะสลายออกมาเป็นฟอง ใช้ส�าหรับดื่ม ในบางโอกาส บางครั้งอาจน�ามาปรุงผสมกับเครื่องดื่มชนิดอื่นเพื่อให้มีรสซาบซ่า เครื่องดื่ม และการบริการ 3๕ เติมน�้าตาล ไม่เติมน�้าตาล และปรุงรสชาติด้วยการเติมนมข้นหวาน แร่ธาตุอาหาร ช่วยเสริมสร้างแคลเซียมให้แก่ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี ควรเลือก มีสารกาเฟอีนอ่อน ๆ จึงท�าให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า 1 3 2 นักเรียนควรรู 1 นมขนหวาน เปนนมที่ระเหยนํ้าออกบางสวน แลวเติมนํ้าตาลลงไป เพื่อรักษา ไมใหนมบูดเนา แบงเปน 4 ชนิด ไดแก นมขนหวานที่ทําจากนมสด นมขน ขาดมันเนยหวาน นมขนคืนรูปหวาน และนมขนแปลงไขมันหวาน ทั้งนี้ นมขนหวานไมเหมาะสมกับการนํามาใชเลี้ยงทารก เพราะขาดสารอาหารที่ชวย ในเรื่องพัฒนาการการเจริญเติบโต 2 สารกาเฟอีน พบในอาหารหลายชนิด เชน กาแฟ ชา โคลา การบริโภคกาเฟอีน ในปริมาณที่ตางกันจะสงผลตอรางกายแตกตางกันออกไป เชน 50-200 มก. กระตุนใหรางกายตื่นตัว กระปรี้กระเปรา 200-500 มก. อาจทําใหปวดศีรษะ กระวนกระวาย นอนไมหลับ 1,000 มก. กระสับกระสาย หัวใจเตนเร็ว มีอาการ คลื่นไส เบื่ออาหาร ปสสาวะบอยผิดปกติ 3 แคลเซียม แรธาตุที่มีมากที่สุดในรางกายมนุษย ชวยในการรักษากระดูก และฟน การเพิ่มแคลเซียมใหกับรางกายสามารถทําไดจากการรับประทานอาหาร เชน สม เมล็ดงา คะนา บรอกโคลี ถั่วแระ นมถั่วเหลือง เตาหู ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของ เครื่องดื่ม พรอมทั้งสรุปความรูที่ไดจากการศึกษาลงในกระดาษ A4 ในรูปแบบของแผนผังความคิด (Mind Mapping) นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนเลือกเครื่องดื่มตามความสนใจ 1 ชนิด ทําการ วิเคราะหวา เครื่องดื่มที่เลือกมามีคุณคาทางโภชนาการอยางไร กอใหเกิดประโยชนตอรางกายในดานใด จากนั้นออกมานําเสนอ ผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน ขั้นสอน ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู ความเขาใจ 10. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานการตอบคําถาม ในใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง ชนิดของเครื่องดื่มและ หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม 11. ครูใหนักเรียนกลุมอื่นๆ รวมกันอภิปรายเพิ่มเติม และตรวจสอบความถูกตองจากการนําเสนอ ผลงาน 12. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนคิดวา ในสถานศึกษาของเรา ควรมีการจําหนายเครื่องดื่มชนิดใดจึงจะมี ความเหมาะสมมากที่สุด (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ควรจําหนายเครื่องดื่มที่มี ประโยชนตอรางกาย เชน นํ้าดื่ม นํ้าแร นม นํ้าผักและผลไม นํ้าสมุนไพร) 13. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 ขั้นที่ 5 สรุป 14. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันเขียนสรุป ความรู เรื่อง ชนิดของเครื่องดื่มและหลักการ เลือกบริโภคเครื่องดื่ม ลงในกระดาษ A4 นําสงครูผูสอน นํา สอน สรุป ประเมิน T41