กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค ๒ หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม ร่างกายมีน�้าเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ ๗๐ ของน�้าหนักตัว น�้าจะอยู่ในเลือด น�้าดี และ ส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ดังนั้น การเลือกบริโภคเครื่องดื่ม ควรเลือกเครื่องดื่มที่เมื่อดื่มไปแล้วก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อร่างกาย ส่งผลให้มีสุขภาพดี เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บรรเทา และรักษาโรคบางชนิดได้ เช่น ผลที่ร่างกายได้รับ • ร่างกายเจริญเติบโตได้ดี • ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ • สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านทานโรค • เสริมสร้างกระดูกและฟนให้แข็งแรง • ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ผลที่ร่างกายได้รับ • รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า • ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น • ช่วยย่อยและดูดซับอาหาร • ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย • ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย • แคลเซียม • ธาตุเหล็ก สังกะสี • โพแทสเซียม • แมกนีเซียม ¹íéÒà»Å‹Ò • โปรตีน • ฟอสฟอรัส • แคลเซียม • วิตามินต่าง ๆ • โพแทสเซียม ¹Á • น�้า • ไฟเบอร์ • กรดอินทรีย์ • เกลือแร่ต่าง ๆ • วิตามินต่าง ๆ ¹íéҼѡáÅмÅäÁŒ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่เมื่อดื่มไปแล้วอาจก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย ส่งผลให้ สุขภาพทรุดโทรม และอาจก่อให้เกิดโรคบางชนิดได้ เช่น น�้าอัดลม เครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ ผลที่ร่างกายได้รับ • ต้านอนุมูลอิสระ • ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ • ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ • ชะลอความแก่ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง • ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง 36 ใหนักเรียนรวมกลุมกันทํากิจกรรม “ดื่มอยางไรกายและใจ จะแข็งแรง” โดยเลือกปฏิบัติกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งบนพื้นฐาน การมีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงาน อยางประหยัดและคุมคา ดังนี้ 1. จัดทําปายนิเทศ/แผนพับ/ใบปลิว นําเสนอความรูเกี่ยวกับ หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม 2. จัดทําปายและเดินรณรงคเชิญชวนใหทุกคนเลือกบริโภค เครื่องดื่มที่มีประโยชนตอสุขภาพ (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงคดานใฝเรียนรู และมุงมั่นการทํางาน) ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง ชนิดของ เครื่องดื่มและหลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่มวา “ในปจจุบันมีเครื่องดื่มใหเลือกบริโภคหลากหลาย ชนิด ซึ่งแตละชนิดมีประโยชนที่แตกตางกัน ออกไป ดังนั้น ในการเลือกบริโภคเครื่องดื่มจึง ควรเลือกบริโภคเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอรางกาย และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่อาจเปนอันตราย ตอสุขภาพได หากบริโภคเกินความตองการของ รางกาย” ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของ นักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง ชนิดของ เครื่องดื่มและหลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม 3. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 4. ครูประเมินผลจากการเขียนสรุปความรูเกี่ยวกับ ชนิดของเครื่องดื่มและหลักการเลือกบริโภค เครื่องดื่ม 5. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T42
ขอสอบเนน การคิด ๓ การประกอบเครื่องดื่ม การประกอบเครื่องดื่มเองเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ ถูกสุขลักษณะ มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้ ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มมากขึ้น และช่วยท�าให้ร่างกาย สดชื่น มีสุขภาพที่แข็งแรง ขั้นตอนการประกอบเครื่องดื่ม มีดังนี้ ๓.๑ การเตรียมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช้ และวัตถุดิบ การประกอบเครื่องดื่มควรเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ และวัตถุดิบให้พร้อม เพื่อความ สะดวกรวดเร็วและเพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ ซึ่งควรปฏิบัติ ดังนี้ ๑) การเตรียมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ ในการประกอบเครื่องดื่มต้อง จัดเตรียมที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย ดังนี้ ๑. เตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ให้เพียงพอและเหมาะสมต่อการใช้งาน ๒. ท�าความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ให้สะอาด โดยล้างน�้า ๒-๓ ครั้ง คว�่าไว้ ให้แห้ง ไม่ต้องใช้ผ้าเช็ด ๓. ไม่ควรใช้เขียงที่หั่นเนื้อสัตว์มาหั่นผักและผลไม้ที่จะน�ามาประกอบเครื่องดื่ม เพราะจะท�าให้ผักและผลไม้มีกลิ่นเหม็นคาว แต่ถ้าจ�าเป็นต้องใช้ควรท�าความสะอาดก่อนเสมอ ๔. ควรใช้หม้อเคลือบ หรือหม้อสเตนเลสต้มเครื่องดื่ม ไม่ควรใช้หม้อทองเหลือง หรือหม้ออะลูมิเนียม เพราะผักและผลไม้บางชนิดมีฤทธิ์เป็นกรด อาจท�าปฏิกิริยากับภาชนะ ที่น�ามาต้ม ซึ่งจะท�าให้สีและรสชาติของเครื่องดื่มเปลี่ยนไป ในการประกอบเครื่องดื่ม ควรเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ให้พร้อมอยู่เสมอ และพึงใช้งานด้วยความระมัดระวัง เครื่องดื่ม และการบริการ 3๗ “การประกอบเครื่องดื่มดวยตนเองจะทําใหไดรับประโยชนจาก สารอาหารอยางเต็มที่” นักเรียนเห็นดวยหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ เห็นดวย เพราะผูบริโภคสามารถสรรหาวัตถุดิบมา ใชในการประกอบเครื่องดื่มไดดวยตนเอง ซึ่งผูบริโภคจะทราบ ความตองการของตนเอง แลวเลือกประกอบเครื่องดื่มตามความ เหมาะสม เชน หากตองการใหผิวพรรณสดใส มีความชุมชื่น ควรดื่มนํ้ามะเขือเทศ หากมีอาการทองอืด ทองเฟอ ควรดื่มนํ้า ผักกาดขาว หากตองการควบคุมนํ้าหนัก ควรดื่มนํ้าฝรั่ง) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทําความสะอาดเขียง เพื่อไมใหมีกลิ่นคาว ใหนักเรียนฟงวา การขจัดกลิ่นคาวบนเขียงทําไดหลายวิธี โดยควรเลือกปฏิบัติ ตามความสะดวกในการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณของตนเอง เชน • ลางเขียงดวยนํ้าสะอาด นําไปแชในนํ้ารอนผสมนํ้าสมสายชู ทิ้งไวสักพัก ใชผาซับนํ้าออก นําไปผึ่งแดดใหแหง • โรยเกลือปนบนหนาเขียง ผามะนาวครึ่งลูกขัดใหทั่ว ลางดวยนํ้ารอน ใชผาซับนํ้าออก นําไปผึ่งแดดใหแหง • ใชฟองนํ้าชุบเกลือปนขัดใหทั่วหนาเขียง ลางดวยนํ้าสะอาด ใชผา ซับนํ้าออก นําไปผึ่งแดดใหแหง • ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ชอนโตะ กับนํ้าสะอาด 800 ซีซี คนใหเขากัน เทลง บนเขียง ใชแปรงขัดใหทั่ว ลางดวยนํ้าสะอาด ใชผาซับนํ้าออก นําไปผึ่งแดด ใหแหง ขั้นนํา (5Es) 1. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนเคยสงสัยหรือไมวาเครื่องดื่มที่ชอบ มีสวนผสมของสิ่งใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 2. ครูสนทนากับนักเรียนวา “ในบางครั้งเราไม สามารถบอกไดวาสวนผสมที่อยูในเครื่องดื่ม มีสิ่งใดบาง มีประโยชน หรือมีโทษตอรางกาย อยางไร หากเราสามารถประกอบเครื่องดื่ม ขึ้นเองได ก็จะเปนวิธีหนึ่งที่จะชวยใหเครื่องดื่ม ของเรามีคุณภาพ มีความสะอาด ถูกหลักอนามัย และมีประโยชนตอรางกาย เพราะสามารถ ควบคุมและคัดเลือกวัตถุดิบที่จะนํามาประกอบ เครื่องดื่มเองไดตามความตองการ” 3. ครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ที่มีประสบการณ ในการประกอบเครื่องดื่มรับประทานเองใน ครอบครัวออกมาเลาประสบการณของตนเอง ในการประกอบเครื่องดื่มใหเพื่อนฟงหนา ชั้นเรียน โดยครูเปดโอกาสใหนักเรียนรวมกัน ซักถามหากเกิดขอสงสัย 4. ครูถามนักเรียนวา • จากการที่ไดฟงเพื่อนๆ ออกมาเลา ประสบการณในการประกอบเครื่องดื่ม รับประทานเองในครอบครัว นักเรียน คิดวาตนเองสามารถปฏิบัติไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T43
ขอสอบเนนการคิด ๒) การเตรียมวัตถุดิบ ในการประกอบเครื่องดื่มวัตถุดิบที่ต้องใช้ ได้แก่ ผัก ผลไม้ เกลือ น�้าเชื่อม น�้า และน�้าตาล ต้องจัดเตรียมวัตถุดิบ ดังนี้ ๑. การเตรียมผักและผลไม้ ผักและผลไม้แทบทุกชนิดสามารถน�ามาท�าเป็น เครื่องดื่มได้ การเตรียมวัตถุดิบประเภทนี้ควรเลือกซื้อตามฤดูกาลและปลอดสารพิษ มีขั้นตอน การเตรียม ดังนี้ • เลือกผักที่สดใหม่ ไม่เหี่ยวช�้า ส่วนผลไม้ควรเลือกที่สดใหม่และสุกพอดี ไม่สุก ปอกเปลือกผลไม้ เพื่อป้องกันยาฆ่าแมลง ลงไปผสมกับน�้าผลไม้ ล้างด้วยน�้าที่ ไหลจากก๊อกนาน ๒ นาที เพื่อล้างยาฆ่าแมลงและสิ่งตกค้าง แช่ลงในน�้าเกลือ หรือน�้าด่างทับทิม เป็นเวลา ๑๕-๒๐ นาที ล้างด้วยน�้าสะอาดอีกครั้ง เพื่อลดปริมาณ สารพิษตกค้าง น�าผลไม้ที่ล้างแล้วไปผึ่งให้สะเด็ดน�้าก่อน น�าไปใช้ เมื่อผลไม้สะเด็ดน�้าดีแล้ว จึงน�าไปประกอบ เป็นเครื่องดื่มได้ตามต้องการ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๒. การเตรียมน�้า ควรใช้น�้ากรองที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยการต้มสุกและทิ้งไว้ให้เย็น มาผสมลงในเครื่องดื่ม ไม่ควรใช้น�้าบาดาล เพราะมีรสฝาด และไม่ควรใช้น�้าประปา เพราะมีคลอรีน ผสมอยู่ งอมจนเกินไป • ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด เพื่อให้ปลอดจากสารพิษ ตัวอย่าง 38 1 หรือน�้าด่างทับทิม 2 มาผสมลงในเครื่องดื่ม ไม่ควรใช้น�้าบาดาล เพราะมีรสฝาด และไม่ควรใช้น�้ 3 นักเรียนควรรู 1 ลางผักและผลไมใหสะอาด เปนการชวยขจัดสารพิษในผักและผลไม สามารถทําไดหลายวิธี เชน แชดวยนํ้าซาวขาวนาน 10 นาที ลางดวยนํ้าสะอาด ชวยลดปริมาณสารพิษตกคางไดถึง 29-38% ใชผงฟู 1/2 ชอนโตะ ผสมกับ นํ้าอุน 10 ลิตร แชทิ้งไว 15 นาที ลางดวยนํ้าสะอาด ชวยลดปริมาณสารพิษตกคาง ไดมากกวา 90% ใชนํ้าสมสายชูเขมขน ผสมกับนํ้าในอัตราสวน 1:10 แชทิ้งไว 10-15 นาที ลางดวยนํ้าสะอาด ชวยลดปริมาณสารพิษตกคางไดถึง 60-84% ใชเกลือปน 1 ชอนโตะ ผสมกับนํ้า 4 ลิตร แชทิ้งไว 10 นาที ลางดวยนํ้าสะอาด ชวยลดปริมาณสารพิษตกคางไดถึง 27-38% 2 นํ้าดางทับทิม เมื่อตองการนําผักและผลไมมาลางทําความสะอาดดวย นํ้าดางทับทิม ควรใสดางทับทิมในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากใชมากเกินไป จะทําใหผักและผลไมเหี่ยว หรือเปลี่ยนเปนสีนํ้าตาลได 3 นํ้าบาดาล เปนนํ้าที่อยูใตดิน รสชาติของนํ้าจะแตกตางกันไปตามชั้นที่พบ เชน ในชั้นหินทรายที่มีเกลือหิน นํ้าจะมีคุณภาพกรอยและเค็ม ขั้นนํา ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 5. ครูอธิบายเพื่อเชื่อมโยงความรูเกี่ยวกับการ ประกอบเครื่องดื่มดวยตนเอง เพื่อใหเกิด ประโยชนตอรางกาย ชวยประหยัดคาใชจาย และมีความสะอาด ถูกหลักอนามัย จากนั้น ครูถามนักเรียนวา • หากตองการประกอบเครื่องดื่มดวยตนเอง ควรเลือกใชอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชชนิดใด และจะมีวิธีในการเลือกวัตถุดิบอยางไร (แนวตอบ อุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชในการ ประกอบเครื่องดื่ม เชน มีด เขียง หมอเคลือบ ทัพพี เครื่องปนอาหาร สวนวัตถุดิบที่นํามา ใชในการประกอบเครื่องดื่มมีวิธีการเลือก คือ ควรเลือกผลไมที่สุกพอดี ไมสุกงอมจนเกินไป หรือไมออนจนเกินไป เปนผลไมตามฤดูกาล ควรเลือกผักและผลไมที่สดใหม ไมเนาเสีย ไมเหี่ยว หรือชํ้า เพราะอาจทําใหเครื่องดื่ม เสียรสชาติได รวมถึงควรทําความสะอาดผัก และผลไมที่ซื้อมากอนนํามาประกอบเครื่องดื่ม เพราะอาจมีสารพิษตกคาง ซึ่งหากสารพิษ เขาสูรางกายในปริมาณมากจะสะสมไวและ กอใหเกิดอันตรายตอรางกายและชีวิตได) • นักเรียนมีวิธีการลางผักและผลไมอยางไรให สะอาดปลอดภัยจากสารพิษตกคาง (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ลางดวยนํ้าปูนใส โดยผสม ปูนใสอิ่มตัวกับนํ้าเทาตัว แชทิ้งไว 10 นาที ลางดวยนํ้าสะอาด ชวยลดปริมาณสารพิษ ตกคางไดถึง 34-52%) 6. ครูกระตุนความสนใจของนักเรียนดวยการ ประกอบนํ้ามะนาวใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายเกี่ยวกับการเลือกอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช วัตถุดิบที่นํามาใชวา มีวิธีการเลือกและมีขั้นตอนการทําอยางไร “หมีพูหตองการทํานํ้าผักและผลไมเพื่อสุขภาพใหคุณแมดื่ม” หมีพูหควรเลือกผักและผลไมตามขอใดจึงจะเหมาะสมที่สุด 1. เลือกผักและผลไมที่มีราคาแพง 2. เลือกผักและผลไมที่มีความสดใหม 3. เลือกผักและผลไมที่ไมมีรอยของแมลงกัดแทะ 4. เลือกผักและผลไมที่มีขนาดและสีสันที่แตกตางกัน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะผักและผลไมที่มีความสดใหม จะใหคุณคาทางโภชนาการสูง เมื่อนํามาประกอบเปนเครื่องดื่ม ก็จะทําใหผูบริโภคไดรับสารอาหารที่มีประโยชนตอรางกาย) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T44
ขอสอบเนน การคิด à¤Ã×èͧ´×èÁÊÁعä¾Ã㹤ÃÑÇàÃ×͹ เครื่องดื่มสมุนไพรมีประโยชนตอรางกาย คนสมัยใหมที่ไมคอยมีเวลาดูแลรักษาสุขภาพทําให สุขภาพออนแอลง จึงควรหันมาดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชนอยางเครื่องดื่มสมุนไพรแทนการดื่มนํ้าอัดลม หรือเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ที่ ให โทษแกรางกาย ตัวอยางเครื่องดื่มสมุนไพรที่ทําเองได มีดังนี้ Know M ore ¹íéÒNjҹËÒ§¨ÃÐࢌ • เปนยาระบาย แกทองอืด ลดกรดไหลยอน • ลางสารพิษในรางกาย ลดน้ําตาลในเลือด ลดน้ําหนัก • กระตุนการทํางานของกลามเนื้อ ชวยลดคอเลสเตอรอล • ลดอาการอักเสบ ลดความเสี่ยงจากโรคเหงือกอักเสบ ¹íéÒµÐä¤ÃŒ • ชวยในการขับเหงื่อ แกอาการเบื่ออาหาร • บรรเทาอาการหวัด อาการไอ รักษาอาการไข • รักษาโรคความดันโลหิตสูง หอบหืด ปวดทอง ทองเสีย • ชวยยอยอาหาร แกอาการปสสาวะพิการ รักษาโรคนิ่ว ¹íéÒÁСÃÙ´ • ชวยแกอาการเปนลม หนามืด วิงเวียนศีรษะ • เสริมสรางการทํางานของอวัยวะ ขจัดสารพิษ • ขับลมในลําไส แกอาการจุกเสียด ทองอืด แนนทอง • เสริมสรางภูมิคุมกันใหแกรางกาย ชวยใหเจริญอาหาร ¹íéÒ¢Ô§ • ตอตานการเจริญเติบโตของเซลลมะเร็ง • ขจัดสารพิษในรางกาย บํารุงผิวพรรณ ลดน้ําหนัก • บรรเทาอาการเจ็บคอ อาการหวัด ชวยยอยอาหาร • ชะลอความเสื่อมของเซลล แกอาการคลื่นไส อาเจียน เครื่องดื่ม และการบริการ 3๙ ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา 1. ครูอธิบายความรูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียม อุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชในการประกอบ เครื่องดื่มและการเตรียมวัตถุดิบใหนักเรียน ฟงวา “กอนการประกอบเครื่องดื่มทุกชนิด จะตองมีการเตรียมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช ในการประกอบเครื่องดื่มและเตรียมวัตถุดิบ ใหพรอม เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการ ประกอบเครื่องดื่ม เชน • อุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชที่ตองเตรียม เชน มีด เขียง หมอเคลือบ เครื่องปนอาหาร รวมถึงศึกษาวิธีการใชงาน การเก็บรักษา และขอควรระวังในการใชอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชแตละชนิด • วัตถุดิบที่ตองเตรียมขึ้นอยูกับความตองการ ของผูที่จะประกอบเครื่องดื่มวาตองการ ประกอบเครื่องดื่มชนิดใด เชน หากตองการ ประกอบเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ วัตถุดิบที่ใช คือ ผัก ผลไม เกลือ นํ้าเชื่อม นํ้าตมสุก และนํ้าตาล ซึ่งการจะทํานํ้าผักและผลไม ควรเลือกผักและผลไมที่มีความสดใหม ไมเหี่ยว ไมชํ้า กอนจะประกอบเครื่องดื่ม ควรนําผักและผลไมมาทําความสะอาดดวย การลาง หากผลไมมีเปลือกควรปอกเปลือก ออกกอน เพื่อปองกันสารเคมีตางๆ จากนั้น จึงนํามาลางดวยนํ้าที่ไหลจากกอก แชใน นํ้าเกลือประมาณ 15-20 นาที แลวลางนํ้า อีกครั้ง เมื่อผักและผลไมสะอาดจึงนําไป ประกอบเปนเครื่องดื่มตามความตองการ” “วศินมีอาการปวดศีรษะ เปนไข ไอ และเจ็บคอ” วศินควรดื่ม เครื่องดื่มชนิดใด เพื่อชวยลดอาการเจ็บปวยดังกลาว 1. นํ้าอัญชัน 2. นํ้าตะไคร 3. นํ้าฟกทอง 4. นํ้าลูกเดือย (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะตะไครเปนพืชที่มีวิตามิน และแรธาตุที่มีประโยชนตอรางกาย ทั้งยังเปนพืชสมุนไพรที่นิยมนํา มารับประทาน เพื่อใชในการรักษาโรคบางชนิด เชน บรรเทาอาการ หวัด อาการไอ อาการปวดศีรษะ เบื่ออาหาร รักษาโรคความดัน โลหิตสูง แกอาการเสียดแนนบริเวณหนาอก แกอาการปวดทองและ ทองเสีย รักษาอาการทองอืด ทองเฟอ ชวยในการขับปสสาวะ ฯลฯ) บูรณาการอาเซียน ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคเครื่องดื่มของประเทศ ในอาเซียนใหนักเรียนฟงวา ประเทศในอาเซียนมีวัฒนธรรมที่แตกตางกันออกไป ในหลายๆ ดาน รวมไปถึงการบริโภคเครื่องดื่ม ซึ่งแตละประเทศจะมีเครื่องดื่ม ที่นิยมรับประทานแตกตางกันออกไป โดยถือเปนเอกลักษณของประเทศ นั้นๆ เชน ประเทศมาเลเซีย นิยมดื่ม Teh Tarik หรือเตฮ ตาเระ หรือชาชัก ซึ่งเปนเครื่องดื่มที่นิยมรับประทานกันมาก พบเห็นไดทั่วไปแถบคาบสมุทรมลายู ความโดดเดนของเครื่องดื่มชนิดนี้อยูที่ความเขมขนและหอมหวานที่เกิดจากการ ผสมผสานกันระหวางชาสําเร็จรูปกับนมขนและนมสด หรือนมแพะ นอกจากนี้ ศิลปะในการชงชาที่มีรูปแบบเฉพาะตัว ยังทําใหเครื่องดื่มชนิดนี้ไดรับความสนใจ มากยิ่งขึ้น ดังนั้น เพื่อใหเกิดการเรียนรูในเรื่องวัฒนธรรมการบริโภคเครื่องดื่ม ของประเทศในอาเซียน นักเรียนจึงควรศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเครื่องดื่ม ที่แตละประเทศในอาเซียนนิยมรับประทาน แลวนําขอมูลที่ไดมาแลกเปลี่ยน เรียนรูซึ่งกันและกัน นํา สอน สรุป ประเมิน T45
ขอสอบเนนการคิด ๔ ตัวอย่างการประกอบเครื่องดื่ม ปจจุบันผู้คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น นอกจากการเลือกรับประทานอาหารที่มี ประโยชน์แล้ว ยังเลือกบริโภคเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย ตัวอย่างการประกอบเครื่องดื่มง่าย ๆ จากวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น หรือในครัวเรือน เช่น ดอกไม โดยการน�ากลีบดอกไมต่าง ๆ มาต้มแล้วกรองเอาเฉพาะน�้า เช่น อัญชัน เก๊กฮวย ผัก โดยการน�าผักมาคั้น มาปน เช ่น แคร์รอต มะเขือเทศ แตงกวา ขิง ต�าลึง ตะไคร้ ผลไม โดยการน�าผลไมมาปน เช่น มะม่วง ฝรั่ง แตงโม แอปเปล สตรอว์เบอร์รี แคนตาลูป ผลไม 4๐ เช่น อัญชัน เก๊กฮวย 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา 2. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ประชุมวางแผนรวมกันวาจะประกอบเครื่องดื่ม ชนิดใด พรอมทั้งอธิบายเหตุผลในการเลือก ประกอบเครื่องดื่มชนิดนั้น 3. ครูใหสมาชิกแตละกลุมแบงหนาที่ความ รับผิดชอบตามความถนัด ความสามารถ ของแตละบุคคล จากนั้นใหรวมกันศึกษา เรื่อง ตัวอยางการประกอบเครื่องดื่ม จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หนา 40-43 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 4. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยาง การประกอบเครื่องดื่ม จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 3 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําขอมูลที่ไดจาก การศึกษามาทําการวิเคราะหเกี่ยวกับอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช และวัตถุดิบที่ตองใชใน การประกอบเครื่องดื่ม 6. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • จากการศึกษาตัวอยางการประกอบเครื่องดื่ม มีเครื่องดื่มชนิดใดที่นักเรียนเคยดื่ม หรือมี เครื่องดื่มชนิดใดที่เคยประกอบดวยตนเอง (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน เคยดื่มนํ้าแครรอต นํ้าเกกฮวย และเคยประกอบนํ้าอัญชันดวยตนเอง) • เครื่องดื่มที่นักเรียนเลือกดื่ม หรือประกอบดวย ตนเองมีประโยชนอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) หากตองการบํารุงสายตา ควรเลือกดื่มเครื่องดื่มที่ทําจาก วัตถุดิบในขอใด 1. ผักกาดขาว สับปะรด สมเขียวหวาน 2. กลวยหอม เผือก มันเทศ 3. ผักบุง แครรอต ฟกทอง 4. ตําลึง เงาะ มันแกว (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนผักและผลไมที่มีบีตาแคโรทีนและวิตามินเอสูง ซึ่งเปนสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการ ชวยบํารุงสายตา โดยบีตาแคโรทีนทําหนาที่ในการตานอนุมูล อิสระ และชวยในการมองเห็นในเวลากลางคืน สวนวิตามินเอ ชวยในการทํางานของจอประสาทตา ทําใหการมองเห็นในเวลา กลางคืนดียิ่งขึ้น) นักเรียนควรรู 1 เกกฮวย เรียกอีกชื่อหนึ่งวา “เบญจมาศสวน” หรือ “เบญจมาศหนู” เปนพืชสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคตางๆ และมีประโยชนหลาย ประการ เชน รักษาอาการรอนใน ปองกันโรคความดันโลหิตสูง ชวยใหระบบ การยอยอาหารดีขึ้น ชวยขจัดสารพิษชนิดตางๆ บํารุงโลหิต บํารุงและรักษา สายตา บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ รักษาฝเปนหนอง บวม และเปนพิษ ฯลฯ เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทํานํ้าผักไมใหเหม็นเขียวใหนักเรียนฟงวา ผักบางชนิดเมื่อนํามาปนอาจมีกลิ่นเหม็นเขียว ดังนั้น เพื่อลดกลิ่นเหม็นเขียวควร นําผักไปแชนํ้า จากนั้นจึงนํามาปนรวมกับนํ้าเย็น หรือนํ้าแข็ง ซึ่งความเย็นจะชวย ลดความเหม็นเขียวของผักลงได หรืออาจนําผักและผลไมชนิดอื่นมาปนรวมกัน เชน แตงกวา ผักกาดขาว แครรอต เลมอน ก็จะชวยลดกลิ่นไดเชนเดียวกัน นํา สอน สรุป ประเมิน T46
ขอสอบเนน การคิด ส่วนผสม ๑. แคร์รอต ๓ ช้อนโต๊ะ ๒. น�้าต้มสุก ๒ แก้ว ๓. น�้าเชื่อม ๘ ช้อนโต๊ะ ๔. น�้ามะนาว ๒ ช้อนโต๊ะ ๕. เกลือปน ๑ ช้อนชา นํ้าแครรอต แคร์รอตเป็นพืชที่นิยมรับประทานสด หรือน�ามาประกอบอาหาร มีสารเบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นสาร ตั้งต้นของวิตามินเอ ๑ บี ๒ แคลเซียม ฟอสฟอรัส กากใย และธาตุเหล็ก มีส่วนช่วยท�าให้ร่างกายแข็งแรง ๔.๑ การประกอบเครื่องดื่มจากผัก นํ้าตะไคร ตะไคร้เป็นพืชสมุนไพรท้องถิ่น เป็นยารักษาโรคบางชนิด ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี ซี โฟแลต แมกนีเซียม สังกะสี ทองแดง ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส ส่วนผสม ๑. ตะไคร้ ๓-๕ ต้น ๒. น�้าเปล่า ๔ ถ้วยตวง ๓. น�้ามะนาว ๒ ช้อนโต๊ะ ๔. น�้าตาลทราย ๑/๒ ถ้วยตวง ๕. เกลือปน ๑/๔ ช้อนชา ๖. ใบเตย ๒ ใบ วิธีทํา ๑. ล้างตะไคร้และใบเตยให้สะอาด หั่นเป็นท่อน ทุบตะไคร้ ให้แตก ๒. ตั้งน�้า ใส่ตะไคร้ ใบเตย เกลือ ต้มจนเดือดนาน ๑๐-๑๕ นาที ๓. ใส่น�้าตาล ตั้งไฟพอละลาย พักให้เย็น กรองน�้า ด้วยผ้าขาวบาง ๔. เติมมะนาว เสิร์ฟได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น สรรพคุณทางยา ลดแก๊สในล�าไส้ ลดคอเลสเตอรอล ล้างสารพิษในร่างกาย ป้องกันโรคมะเร็ง วิธีทํา ๑. ล้างแคร์รอตให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ๒. เทส่วนผสมลงในเครื่องปน แล้วปนส่วนผสม จนละเอียด ๓. น�าเข้าตู้เย็น หรือรินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้วยกเสิร์ฟ สรรพคุณทางยา ต้านทานโรคหวัด ป้องกันโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารและล�าไส้ โรคผิวหนัง รักษา สายตา แก้โรคตาฟาง โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง ขับปสสาวะ บ�ารุงหัวใจ ฯลฯ รักษาอาการลักปดลักเปด ขับเสมหะ ลดอาการไอ ช่วยฟอกและบ�ารุงโลหิต แก้ โรคเหน็บชา ฯลฯ เครื่องดื่ม และการบริการ 4๑ ๑. ตะไคร้ ๓-๕ ต้น ๒. น�้าเปล่า ๔ ถ้วยตวง แคร์รอตเป็นพืชที่นิยมรับประทานสด หรือน�ามาประกอบอาหาร มีสารเบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นสาร ๕. เกลือปน ๑/๔ ช้อนชา ๖. ใบเตย ๒ ใบ ๓. น�้ามะนาว ๒ ช้อนโต๊ะ ๔. น�้าตาลทราย ๑/๒ ถ้วยตวง 1 4 3 2 ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 10. ครูใหสมาชิกแตละกลุมชวยกันจัดวางอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช และวัตถุดิบที่นํามาใชใน การประกอบเครื่องดื่ม เพื่อใหเกิดความเปน ระเบียบเรียบรอยและเพื่อความสะดวกสบาย ในขณะปฏิบัติงาน 11. ครูใหสมาชิกแตละกลุมรวมกันประกอบ เครื่องดื่มตามที่กลุมของตนเองไดนําเสนอไป ในชั่วโมงที่ผานมา โดยมีครูเปนผูคอยให คําแนะนํา สิ่งใดคือความแตกตางที่เห็นไดอยางเดนชัดระหวางนํ้าผัก และผลไมแบบสดกับนํ้าผักและผลไมแบบพรอมดื่มบรรจุกลอง 1. สีสัน 2. ราคา 3. กลิ่นหอม 4. สารอาหาร (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะสารอาหารที่อยูในนํ้าผัก และผลไมแบบสดกับนํ้าผักและผลไมแบบพรอมดื่มจะมีคุณคา ทางสารอาหาร หรือคุณคาทางโภชนาการที่แตกตางกันเดนชัด ที่สุด เนื่องจากนํ้าผักและผลไมแบบสดจะใหสารอาหารที่ครบถวน สมบูรณมากกวานํ้าผักและผลไมแบบพรอมดื่ม ซึ่งผานกรรมวิธีการ ประกอบหลายขั้นตอน จนอาจทําใหสูญเสียคุณคาทางสารอาหาร ไปไดมากกวา) นักเรียนควรรู 1 ถวยตวง เปนหนวยวัดปริมาตรในการตวงวัตถุดิบในการปรุงอาหาร แบงเปน 2 ประเภท คือ ถวยตวงของแหงและถวยตวงของเหลว โดย 1 ถวยตวง มาตรฐานจะเทากับ 230 มิลลิลิตร 2 ชอนโตะ เปนชอนยาวที่ใชคูกับสอม มีเสนผานศูนยกลางประมาณ 4 เซนติเมตร โดยชอนโตะมาตรฐานจะมีปริมาตรเทากับ 15 ซีซี หรือ 15 มิลลิลิตร 3 ชอนชา หรือชอนกาแฟ มีเสนผานศูนยกลางประมาณ 2.5 เซนติเมตร ชอนชามาตรฐานจะมีปริมาตรเทากับ 5 ซีซี หรือ 5 มิลลิลิตร 4 เบตาแคโรทีน พบมากในผักและผลไมที่มีสีเขียวเขม สีสม สีเหลือง และสีแดง เชน ตําลึง ผักบุงจีน คะนา แครรอต ฟกทอง มะละกอสุก มะเขือเทศสุก แตงไทย ใหประโยชนหลายประการ เชน เปนสารตานอนุมูลอิสระ ชวยบํารุงผิวพรรณ ใหเปลงปลั่ง บํารุงสุขภาพของดวงตา ลดความเสื่อมของเซลลของลูกตา ลด ความเสี่ยงตอการเกิดตอกระจก กระตุนเซลลในรางกายที่เรียกวา “ทีเฮลเปอร” ใหทําหนาที่ในการตอตานสิ่งแปลกปลอมไดดีขึ้น ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 7. ครูใหสมาชิกแตละกลุมนําขอมูลที่ไดจากการ ศึกษา เรื่อง ตัวอยางการประกอบเครื่องดื่ม มาเลาสูกันฟง พรอมทั้งอภิปรายรวมกันจนเกิด ความเขาใจ โดยมีครูเปนผูคอยใหคําแนะนํา 8. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอเกี่ยวกับตัวอยางการ ประกอบเครื่องดื่ม ซึ่งแตละกลุมจะตองอธิบาย ในประเด็นที่กําหนดให ดังนี้ • การเตรียมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช • การเตรียมวัตถุดิบ • เหตุผลในการเลือกประกอบเครื่องดื่ม ชนิดนี้ • ประโยชนที่ไดรับจากการบริโภคเครื่องดื่ม ชนิดนี้ 9. ครูใหสมาชิกแตละกลุมจดบันทึกสิ่งที่ตอง จัดเตรียมมาในชั่วโมงถัดไป นํา สอน สรุป ประเมิน T47
ขอสอบเนนการคิด ส่วนผสม ๑. ฝรั่งหั่นเป็นชิ้น ๑ ถ้วยตวง ๒. น�้าต้มสุก ๓ ถ้วยตวง ๓. น�้าตาลทราย ๑/๔ ถ้วยตวง ๔. เกลือปน ๑/๒ ช้อนชา ๔.๒ การประกอบเครื่องดื่มจากผลไม้ นํ้ามะม่วง มะม่วงเป็นผลไม้ที่น�ามารับประทานได้ทั้งดิบและสุก อุดมไปด้วยสารอาหารที่ส�าคัญ เช่น วิตามินเอ บี ซี เบตาแคโรทีน แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สังกะสี ธาตุเหล็ก นํ้าฝรั่ง ฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้ผลผลิตตลอดทั้งป อุดมไปด้วยวิตามีนเอ บี ๑ บี ๒ บี ๖ ซี ซึ่งมีมากกว่ามะนาว ถึง ๔ เท่า มีเส้นใยมาก จึงท�าให้การดูดซึมของน�้าตาลและไขมันในเส้นเลือดน้อย ส่วนผสม ๑. มะม่วงสุก ๑ ผล ๒. น�้าเชื่อมเข้มข้น ๒ ช้อนโต๊ะ ๓. น�้าต้มสุก ๓/๔ ถ้วย ๔. เกลือปน ๑/๔ ช้อนชา วิธีทํา ๑. ปอกเปลือกมะม่วง แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ๒. เทส่วนผสมลงในเครื่องปน แล้วปนส่วนผสม จนละเอียด ๓. น�าเข้าตู้เย็น หรือรินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้วยกเสิร์ฟ สรรพคุณทางยา ต้านอนุมูลอิสระ บ�ารุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ป้องกันและรักษาโรคเลือดออก ตามไรฟน ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง บ�ารุงกระเพาะอาหาร แก้อาการวิงเวียนศีรษะ ฯลฯ วิธีทํา ๑. ล้างฝรั่งให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปนกับน�้า ต้มสุก แล้วกรองกากทิ้ง ๒. น�าน�้าฝรั่งมาตั้งไฟจนเดือด เติมเกลือ น�้าตาล ให้ได้รสชาติตามต้องการ ทิ้งไว้ ให้เย็น ๓. น�าเข้าตู้เย็น หรือรินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้วยกเสิร์ฟ สรรพคุณทางยา ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟน ชะลอวัยและริ้วรอยต่าง ๆ บ�ารุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ลดไขมันในเลือด ลดสารพิษในร่างกาย รักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอหิวาตกโรค ฯลฯ 4๒ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 16. ครูและเพื่อนรวมชั้นเรียนรวมกันประเมินการ ประกอบเครื่องดื่มของเพื่อน (ชิมรสชาติ) พรอมทั้งเปดโอกาสใหรวมติชม แนะนํา หรือ แสดงความคิดเห็นอยางอิสระ 17. ครูใหคําแนะนําเพิ่มเติมจากการสังเกต พรอมทั้งตรวจสอบผลที่ไดระหวางการปฏิบัติ กิจกรรมของนักเรียน เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารตานอนุมูลอิสระใหนักเรียนฟงวา สารตาน อนุมูลอิสระ เปนสารที่ชวยตอตาน หรือกําจัดอนุมูลอิสระ ชวยลดความเสี่ยงตอการ เกิดโรค โดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่มีความสัมพันธกับรางกาย ชวยชะลอกระบวนการ บางขั้นตอนที่ทําใหเกิดความแก โดยปกติรางกายจะกําจัดอนุมูลอิสระได แตถา มีการสรางอนุมูลอิสระที่เร็ว หรือมากเกินกวาที่รางกายจะกําจัดทัน อนุมูลอิสระ ที่เกิดขึ้นจะสรางความเสียหายแกเซลลและเนื้อเยื่อ ซึ่งอาจสงผลกระทบตอ สุขภาพได สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารตานอนุมูลอิสระ ไดที่ http://www.scimath. org/article-biology/item/6903-2017-05-14-06-44-33 “นานาตองการลดนํ้าหนัก เธอจึงจํากัดการรับประทานอาหาร ประเภทแปง นํ้าตาล และไขมัน” นักเรียนควรแนะนําใหนานาเลือก ดื่มเครื่องดื่มในขอใดจึงจะเหมาะสมกับการลดนํ้าหนักมากที่สุด 1. นํ้าฝรั่ง 2. นํ้ามะมวง 3. นํ้าเกกฮวย 4. นํ้าตะไคร (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะเปนผลไมที่เหมาะสําหรับผูที่ ตองการลดนํ้าหนัก เนื่องจากใหพลังงานตํ่า นํ้าตาลนอย และอุดม ไปดวยกากใยอาหาร เมื่อรับประทานไปแลวจะรูสึกอิ่มทองไดนาน นอกจากนี้ กากใยอาหารยังชวยรักษาระดับนํ้าตาลในเลือดใหคงที่ ปรับระดับการใชอินซูลินของรางกาย ลางพิษในรางกายไดอีกดวย) ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 12. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานการประกอบ เครื่องดื่มของกลุมตนเองใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน ซึ่งจะตองอธิบายในประเด็นที่ กําหนดให ดังนี้ • ขั้นตอนการประกอบเครื่องดื่ม • ประโยชนที่ไดรับจากการบริโภคเครื่องดื่ม ชนิดนี้ • ความแตกตางจากเครื่องดื่มที่มีจําหนายอยู ตามทองตลาด • ปญหาที่พบและแนวทางแกไข 13. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําเครื่องดื่มที่กลุม ของตนเองไดประกอบขึ้นเทใสแกว เพื่อนํา มาใหครูและเพื่อนๆ ไดชิมรสชาติ 14. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง เครื่องดื่มที่ฉันเลือก 15. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 นํา สอน สรุป ประเมิน T48
ส่วนผสม ๑. ดอกเก๊กฮวยแห้ง ๕๐ กรัม ๒. ผลพุดจีน ๒-๓ ลูก ๓. น�้าตาลทราย ๑ ถ้วยตวง ๔. น�้าเปล่า ๕ ลิตร ส่วนผสม ๑. น�้าอัญชันสด ๑/๒ ถ้วย ๒. น�้าโซดา ๑ ขวด ๓. น�้าเชื่อมเข้มข้น ๖ ช้อนโต๊ะ ๔. น�้าผึ้ง ๔ ช้อนโต๊ะ ๕. น�้ามะนาว ๑/๒ ถ้วยตวง ๖. น�้าเปล่า ๕ ถ้วยตวง วิธีทํา ๑. การท�าน�้าอัญชัน ให้ต้มน�้าจนเดือดแล้วใส่ดอก อัญชันนาน ๓๐ วินาที แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง ๒. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดคนให้เข้ากัน ชิมให้ได้รสชาติ ตามต้องการ ๓. น�าเข้าตู้เย็น หรือรินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้วยกเสิร์ฟ สรรพคุณทางยา เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการไหลเวียนเลือด บ�ารุง สมอง ละลายลิ่มเลือด ป้องกันโรคเส้นเลือดสมองตีบ ลดระดับน�้าตาลในเลือด ล้างสารพิษในร่างกาย ฯลฯ วิธีทํา ๑. ลวกดอกเก๊กฮวย โดยต้มน�้าให้เดือด ใส่ดอกเก๊กฮวย ลงไป ลวก ๓๐ วินาที ใช้กระชอนตักขึ้น ราดด้วย น�้าเย็น ห่อด้วยผ้าขาวบางพร้อมผลพุดจีน ๒. ต้มน�้าให้เดือด ปดไฟ น�าห่อดอกเก๊กฮวยใส่ลงไปเติม น�้าตาล ปดฝาหม้อนาน ๕ นาที จึงน�าห่อดอกเก๊กฮวยออก ๓. น�าเข้าตู้เย็น หรือรินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้วยกเสิร์ฟ สรรพคุณทางยา ช่วยดับกระหาย ขับสารพิษออกจากร่างกาย ดูดซับสารก่อมะเร็งและจุลินทรีย์ ขยายหลอดเลือดแดง ป้องกันโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ขับลม บ�ารุงปอด ตับ และไต ฯลฯ ๔.๓ การประกอบเครื่องดื่มจากดอกไม้ นํ้าอัญชัน อัญชันเป็นไม้เลื้อยเนื้ออ่อน มีหลากสี ที่ดอกจะมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ท�าให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดีมากยิ่งขึ้น นํ้าเกกฮวย เกกฮวยป็นไม้ล้มลุก เจริญเติบโตได้ดี ในพื้นที่อากาศหนาว นิยมเก็บดอกมาตากแห้ง นึ่ง หรือ อบแห้ง มีสารฟลาโวนอยด์ กรดอะมิโน น�้ามันหอมระเหยที่ช่วยรักษาและปองกันโรคบางชนิดได้ เครื่องดื่ม และการบริการ 43 กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 6 กลุม กลุมละเทากันๆ กัน 2. ใหสมาชิกแตละกลุมรวมกันศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับ เครื่องดื่มที่มีสวนประกอบของผัก ผลไม และดอกไม ตามความ สนใจกลุมละ 2 ชนิด โดยกําหนดให • กลุมที่ 1-2 ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีสวนประกอบหลัก คือ ผัก • กลุมที่ 3-4 ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีสวนประกอบหลัก คือ ผลไม • กลุมที่ 5-6 ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีสวนประกอบหลัก คือ ดอกไม 3. ใหแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงาน การศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีสวนประกอบของ ผัก ผลไม และดอกไม ใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน ขั้นสรุป 1. ครูใหนักเรียนเขียนสรุปความรู ความเขาใจ เกี่ยวกับการประกอบเครื่องดื่มและแนวทาง การพัฒนาเครื่องดื่มของตนเอง เพื่อนําไป ประกอบอาชีพในอนาคต 2. ครูใหนักเรียนเตรียมนํ้าผัก หรือนํ้าผลไมตาม ความสนใจ 1 ชนิด ผัก หรือผลไมตางๆ รวมทั้ง อุปกรณในการจัดและตกแตงเครื่องดื่มมา เพื่อใชในการปฏิบัติกิจกรรมในชั่วโมงถัดไป ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง เครื่องดื่ม ที่ฉันเลือก 2. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 3. ครูประเมินผลจากการประกอบเครื่องดื่มของ นักเรียน 4. ครูประเมินผลจากการสรุปความรู ความเขาใจ เกี่ยวกับการประกอบเครื่องดื่มและแนวทาง การพัฒนาเครื่องดื่มของตนเอง เพื่อนําไป ประกอบอาชีพในอนาคต 5. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T49
ขอสอบเนนการคิด ๕ การจัดและตกแต่งเครื่องดื่ม การจัดและตกแต่งเครื่องดื่มเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แม้เครื่องดื่มจะมีรสชาติดีและอร่อยเพียงใด ถ้าใส่ภาชนะที่ไม่เหมาะสม ไม่มีการจัดและตกแต่งก็จะท�าให้ไม่น่าดื่ม ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มคุณค่า ให้แก่เครื่องดื่ม ควรเลือกภาชนะที่เหมาะสมและพิถีพิถันในการจัดและตกแต่งภาชนะเครื่องดื่ม ๕.๑ หลักการจัดและตกแต่งเครื่องดืี่ม การจัดและตกแต่งเครื่องดื่มให้มีความสวยงามและมีความเหมาะสมกับภาชนะเครื่องดื่ม แต่ละชนิด จะช่วยท�าให้เครื่องดื่มดูน่าดื่มยิ่งขึ้น โดยหลักการจัดและตกแต่งเครื่องดื่ม มีดังนี้ ๑. การน�าสิ่งที่รับประทานได้มาใช้ ในการตกแต่ง ๒. การน�าผักและผลไม้ที่มีรสชาติไม่ขัดกับเครื่องดื่มมาตกแต่ง ซึ่งผักที่นิยมน�ามาตกแต่ง เช่น มะเขือเทศ แตงกวา ขึ้นฉ่าย สะระแหน่ แคร์รอต ส่วนผลไม้ที่นิยมน�ามาตกแต่ง เช่น ส้ม สิ่งที่น�ามาใช้ ในการตกแต่ง เครื่องดื่มจะต้องรับประทานได้ และไม่ควรตกแต่งมากจนเกินไป เพราะอาจท�าให้ดูรกและไม่สวยงาม ผลไม้เมื่อน�ามาหั่นจะเปลี่ยนเป็นสีด�าคล�้า กลิ่นและรสชาติจะหายไปจากรอยหั่น จึงต้องน�า มาล้างให้สะอาดก่อนหั่น จากนั้นจึงน�าไปตกแต่ง แก้วเครื่องดื่มได้ Trick : การรักษาสี กลิ่น รสของผลไม้ สับปะรด แตงโม มะนาว กีวี แคนตาลูป เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี ๓. ไม่ควรน�าผักและผลไม้มาตกแต่ง แก้วเครื่องดื่มมากจนเกินไป เพราะจะท�าให้ ดูรกรุงรังและไม่สวยงาม 44 การจัดและตกแต่งเครื่องดื่มให้มีความสวยงามและมีความเหมาะสมกับภาชนะเครื่องดื่ม เช่น มะเขือเทศ แตงกวา ขึ้นฉ่าย สะระแหน่ แคร์รอต ส่วนผลไม้ที่นิยมน� สับปะรด แตงโม มะนาว กีวี แคนตาลูป เชอร์รี 1 2 3 4 นักเรียนควรรู 1 ภาชนะเครื่องดื่ม มีอยูดวยกันหลายชนิด การเลือกใชภาชนะเครื่องดื่ม ควรเลือกใหเหมาะสมกับประเภทของเครื่องดื่ม เชน แกวไฮบอล นิยมนํามาใส เครื่องดื่มทั่วๆ ไป 2 สะระแหน พืชสมุนไพรที่จัดอยูในวงศกะเพรา อุดมไปดวยวิตามินและ แรธาตุตางๆ มากมาย นิยมนํามาใชในการปรุงอาหาร หรือนํามาใชในการจัด และตกแตงอาหารใหมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น 3 กีวี เปนผลไมชนิดหนึ่ง มีลักษณะเปนรูปวงรีคลายไข มีขนเล็กๆ ขึ้นปกคลุม ทั่วทั้งผล เนื้อมีสีเขียว รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ใหประโยชนหลายประการ เชน ชวยชะลอการเกิดริ้วรอย ชวยเสริมสรางคอลลาเจน บํารุงผิวพรรณใหเปลงปลั่ง ชวยลดจุดดางดํา แกปญหาผิวหมองคลํ้า ฯลฯ 4 เชอรรี เปนผลไมที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน นิยมนํามารับประทานสด ให ประโยชนหลายประการ เชน บํารุงผิวพรรณใหสดใสเปลงปลั่ง ลดการผลิต เมลานิน ชวยตอตานอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ เพิ่มการ ไหลเวียนโลหิต ฯลฯ การจัดและตกแตงเครื่องดื่มใหมีความสวยงามและนา รับประทานมากยิ่งขึ้น ควรคํานึงถึงสิ่งใดเปนสําคัญ 1. ตองสามารถเพิ่มมูลคาใหกับเครื่องดื่มที่ตกแตงได 2. ตองมีขนาดใหญ สามารถมองเห็นไดอยางชัดเจน 3. ตองมีรสชาติไมขัดกันกับเครื่องดื่ม 4. ตองเปนผลไมสดเทานั้น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนหลักการสําคัญในการ จัดและตกแตงเครื่องดื่ม ซึ่งควรเลือกผักและผลไมที่นํามาตกแตง ใหมีรสชาติกลมกลืนไปกับเครื่องดื่ม ไมควรเลือกที่มีรสชาติขัดกัน เนื่องจากจะทําใหเครื่องดื่มมีรสชาติเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและ ขาดความอรอยได) ขั้นสอน ขั้นที่ 1 เตรียมการสาธิต 1. ครูใหนักเรียนดูภาพการจัดและตกแตงปากแกว เครื่องดื่ม เชน ภาพผลไมสําหรับการจัดและ ตกแตงปากแกว เพื่อความสวยงาม 2. ครูเตรียมอุปกรณที่ใชในการจัดและตกแตง เครื่องดื่ม เพื่อใชประกอบการสาธิตทั้งแบบที่ รับประทานไดและแบบที่รับประทานไมได 3. ครูใหนักเรียนศึกษา เรื่อง การจัดและตกแตง เครื่องดื่ม จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต ขั้นนํา (เนนการสาธิต) ครูทบทวนความรูเกี่ยวกับขั้นตอนการประกอบ เครื่องดื่ม จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เมื่อ ประกอบเครื่องดื่มเสร็จเรียบรอยแลว ควรนํามาจัด และตกแตงใหสวยงาม เพราะจะชวยใหเครื่องดื่ม ดูนารับประทานมากยิ่งขึ้น” ขั้นที่ 2 กอนการสาธิต 4. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัด และตกแตงเครื่องดื่ม จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 3 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเครื่องดื่ม ใหเหมาะสมกับรางกายของผูดื่มและการตกแตง ใหดูนารับประทานใหนักเรียนฟง พรอมทั้ง อธิบายและสาธิตวิธีการจัดและตกแตงเครื่องดื่ม ดวยวิธีการตางๆ ใหนักเรียนดู นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T50
ขอสอบเนน การคิด ๕.๒ วิธีการจัดและตกแต่งเครื่องดื่ม การจัดและตกแต่งเครื่องดื่ม จะช่วยให้เครื่องดื่มดูน่าดื่มมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการจัดและตกแต่ง ให้สวยงามมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี เช่น ใช้ผลไม้หั่นเปน ชิ้นเล็ก ๆ ใช้เปลือกมะนาว • เลือกผลไม้ที่มีขนาดเล็ก ๆ เช่น องุ่น ลิ้นจี่ • ใช้ไม้ค็อกเทล หรือไม้จิ้มฟน เสียบผลไม้ • ใส่ผลไม้ลงไปในแก้วเครื่องดื่ม • หั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้มี ขนาดพอเหมาะ • ใช้ไม้จิ้มฟนเสียบ หรือหั่นเป็น ร่องก็ได้ • เสียบผลไม้บนขอบแก้ว หรือ วางบนขอบแก้ว • ปอกเปลือกมะนาวเป็นเส้น ยาว ๆ • น�าเปลือกมะนาวที่ปอกแล้ว มาขดให้เป็นเกลียว • น�าไปใส่ลงในแก้วเครื่องดื่ม ใช้ผลไม้ทั้งผล เครื่องดื่ม และการบริการ 4๕ การจัดและตกแตงแกวดวยวิธีใดเมื่อจัดและตกแตงเสร็จ เรียบรอยแลว ควรรีบเสิรฟโดยทันที 1. การตกแตงขอบแกวดวยผลไมขนาดเล็ก 2. การตกแตงขอบแกวดวยเปลือกมะนาว 3. การตกแตงขอบแกวดวยเกลือปน 4. การตกแตงขอบแกวดวยนํ้าตาล (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะผิวของเปลือกมะนาวมีนํ้ามัน หอมระเหยเปนองคประกอบ การหั่นมะนาวออกเปนแวน เพื่อนํา มาตกแตงเครื่องดื่มทําใหนํ้ามันหอมระเหยที่อยูที่ผิวของเปลือก มะนาวปนออกมา จึงทําใหมีรสขม หากทิ้งไวนานอาจเปนการเพิ่ม รสขมใหแกเครื่องดื่มได) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดและตกแตงเครื่องดื่มใหนักเรียนฟงวา การจัดและตกแตงเครื่องดื่มถือเปนงานศิลปะรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากในการจัด และตกแตงนั้นตองอาศัยวิธีการทางศิลปะเขามาชวยในการตกแตงเครื่องดื่ม เชน การเลือกใชสีที่เขากัน ขนาดของวัตถุที่นํามาตกแตง ชนิดของวัตถุที่ใชตกแตง ความสมดุลที่เกิดขึ้นหลังจากการตกแตง การออกแบบผลงานการตกแตงในเชิง สรางสรรค และรูปแบบของภาชนะที่นํามาใสเครื่องดื่มที่มีหลากหลายรูปแบบ ที่แปลกและแตกตางกันออกไป สิ่งสําคัญที่จะตองคํานึงถึงในการจัดและตกแตง เครื่องดื่มก็คือ ตองการทําใหเครื่องดื่มมีรูปลักษณที่สวยงาม ชวนใหดื่มมากยิ่งขึ้น ขั้นสอน ขั้นที่ 3 การสาธิต 6. ครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ที่สนใจอยากทดลอง จัดและตกแตงเครื่องดื่มออกมาสาธิตใหเพื่อน ชมตามความคิดสรางสรรคของตนเอง 7. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) รวมกันจัด และตกแตงเครื่องดื่มดวยวิธีการตางๆ ตาม ความสนใจ โดยครูใหคําแนะนําและสังเกต การปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียนอยางใกลชิด ขั้นสรุป 1. ครูใหนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การจัด และตกแตงเครื่องดื่ม 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 3.3.1 เรื่อง ออกแบบการจัดและตกแตงเครื่องดื่ม 3. ครูใหนักเรียนจัดเตรียมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช และวัตถุดิบที่ใชในการบริการเครื่องดื่ม มา เพื่อปฏิบัติกิจกรรมในชั่วโมงถัดไป ขั้นที่ 4 การอภิปรายสรุปการเรียนรู 8. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • เพราะเหตุใดสิ่งที่นํามาจัดและตกแตง เครื่องดื่มจึงไมควรมีรสชาติ หรือกลิ่นที่ขัด กับเครื่องดื่ม (แนวตอบ เพราะเครื่องดื่มอาจมีรสชาติและ กลิ่นที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และไมอรอย) 9. ครูใหนักเรียนเขียนสรุปวิธีการจัดและตกแตง เครื่องดื่มในรูปแบบแผนผังมโนทัศน สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตกแตงขอบแกวดวยเปลือกมะนาว ไดที่ http://www.youtube.com/watch?v=KOk-6k1T2lc นํา สอน สรุป ประเมิน T51
กิจกรรม Mini Project ๖ การบริการเครื่องดื่ม การบริการเครื่องดื่มที่มีหลายประเภท ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะการบริการเครื่องดื่ม ในครอบครัวและในงานเลี้ยง ซึ่งผู้ให้บริการควรบริการด้วยความเต็มใจและยิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจให้แก่สมาชิกในครอบครัวและผู้มาร่วมงาน ๖.๑ การบริการเครื่องดื่มในครอบครัว การบริการเครื่องดื่มให้แก่สมาชิกในครอบครัว สามารถท�าได้หลายโอกาส ซึ่งผู้ให้บริการ ควรบริการด้วยความเต็มใจ เพื่อให้ผู้รับบริการเกิดความประทับใจ นอกจากนี้ยังท�าให้เกิด สัมพันธภาพที่ดีต่อกันในครอบครัว การบริการ เครื่องดื่มในครอบครัวควรปฏิบัติ ดังนี้ ๑. รินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้ว ยกเสิร์ฟ ๒. ถ้าเป็นน�้าผักและผลไม้ ควรมี การจัดและตกแต่งให้สวยงามก่อนเสิร์ฟ ๖.๒ การบริการเครื่องดื่มในงานเลี้ยง การบริการเครื่องดื่มให้แก่ผู้มาร่วมงาน มีความจ�าเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างความประทับใจ ร่างกายของคนเราต้องการน�้าไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ เราจึงควรดื่มน�้าให้เพียงพอ ต่อความต้องการของร่างกาย โดยเลือกดื่มเครื่องดื่มที่สะอาด มีประโยชน์ และไม่มีโทษ ต่อร่างกาย ต้องมีการจัดและตกแต่งเครื่องดื่มให้ดูสวยงาม เพื่อช่วยท�าให้เครื่องดื่มน่าดื่ม ยิ่งขึ้น และรู้จักการให้บริการเครื่องดื่มแก่สมาชิกในครอบครัวและผู้อื่นในงานเลี้ยง หรือน�า ความรู้เรื่องการประกอบเครื่องดื่มมาประกอบอาชีพ เพื่อเป็นการหารายได้เสริม และความสะดวกสบายให้แก่ผู้มาร่วมงาน ทั้งในด้านมารยาทและการให้บริการที่ดีซึ่งผู้ให้บริการ ต้องมีคุณสมบัติที่ดี ดังนี้ ๑. พูดจาสุภาพ เรียบร้อย บริการด้วยความเต็มใจ และมีรอยยิ้มในการให้บริการ ๒. มีความอดทน อดกลั้น ไม่แสดงกิริยาที่ไม่สุภาพ รู้จักขอโทษเมื่อท�าผิดพลาด ๓. ไม่พูดคุยเสียงดัง เสิร์ฟอย่างระมัดระวัง อย่าให้เครื่องดื่มหก หรือหยดรดผู้มาร่วมงาน ๔. ไม่เก็บภาชนะ สิ่งของ เครื่องใช้ ตลอดจนการเสิร์ฟอาหารต่างๆ ข้ามศีรษะ แขน หรือภาชนะของผู้มาร่วมงาน อย่าเก็บภาชนะเสียงดัง และต้องระมัดระวังภาชนะตกหล่น การตกแต่งเครื่องดื่มให้สวยงาม จะช่วยท�าให้เครื่องดื่มดูน่าดื่ม มากขึ้น และช่วยสร้างความประทับใจได้อีกทางหนึ่ง 46 รินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง เป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างความประทับใจ ไม่พูดคุยเสียงดัง เสิร์ฟอย่างระมัดระวัง อย่าให้เครื่องดื่มหก หรือหยดรดผู้มาร่วมงาน 1 2 3 นักเรียนควรรู 1 นํ้าแข็ง มีอยูดวยกันหลายชนิด หลายรูปราง การเลือกนํ้าแข็งควรเลือก ใหเหมาะสมกับเครื่องดื่มแตละชนิด เชน นํ้าแข็งกอน จะละลายชา มีความ ควบแนนสูง รักษาอุณหภูมิความเย็นไดดี เหมาะกับเครื่องดื่มที่ไมตองการให นํ้าแข็งทําลายรสชาติของเครื่องดื่มมากจนเกินไป เชน กาแฟเย็น 2 สรางความประทับใจ ในการบริการเครื่องดื่ม ผูใหบริการควรสรางความ ประทับใจใหแกผูที่มารวมงาน โดยกลาวคำสำคัญ เชน กอนจะรบกวนใคร ทําสิ่งใดควรพูดวา “ขอโทษ” หากสิ่งที่ผูรวมงานขอสามารถจัดหาไดควร พูดวา “ไดครับ/คะ” เมื่อทําผิดพลาดควรพูดวา “ขอโทษ” เมื่อมีใครทําสิ่งใดให ควรพูดวา “ขอบคุณ” เมื่อผูรวมงานกลาวคําขอบคุณควรพูดวา “ยินดีใหบริการ” 3 เสิรฟอยางระมัดระวัง ในการเสิรฟอาหาร หรือการเก็บภาชนะตางๆ ควร กลาวคําขอโทษแขกที่มารวมงานกอนทุกครั้ง และในกรณีที่เสิรฟของรอน ควรกลาวคําเตือนแขกที่มารวมงานกอน เพื่อปองกันการเกิดอุบัติเหตุได 1. ใหนักเรียนสํารวจสมุนไพรในครัวเรือน หรือผลไมตามฤดูกาล หรือผักและผลไมที่มีในทองถิ่น จากนั้นเลือกตามความสนใจ 1 ชนิด 2. คิดคนสูตรเครื่องดื่มจากสมุนไพร ผัก หรือผลไมที่เลือก โดยจดบันทึกเกี่ยวกับสวนผสมและวิธีการทําอยางละเอียด 3. ลงมือปฏิบัติการประกอบเครื่องดื่มจากสูตรที่คิดคนขึ้น รวมถึง จัดและตกแตงเครื่องดื่มใหมีความสวยงาม นารับประทาน 4. นําผลงานที่ไดมาตอยอดความคิด โดยวางแผนนําเครื่องดื่ม ที่ผลิตไปจําหนายเพื่อสรางรายได พรอมทั้งเขียนอธิบายแนวทาง การดําเนินงาน ขั้นตอนการทํางาน และผลที่คาดวาจะไดรับ จากการจัดจําหนายเครื่องดื่มของตนเองลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 1. ครูสาธิตการบริการเครื่องดื่มใหนักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนเกิดการเรียนรูจากประสบการณ จริง 2. ครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ออกมาสาธิตการ บริการเครื่องดื่มใหเพื่อนชม โดยครูอธิบาย ทีละขั้นตอน เพื่อใหเกิดความเขาใจที่ถูกตอง ขั้นนํา (เนนกระบวนการปฏิบัติ) ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • ควรบริการเครื่องดื่มอยางไรเพื่อใหเกิดความ ประทับใจแกผูรับบริการ (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน กลาววาจาสุภาพเรียบรอย บริการดวยความเต็มใจ มีรอยยิ้มในขณะ ใหบริการ) ขั้นที่ 2 ทําตามแบบ 3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ฝกการ บริการเครื่องดื่ม โดยใหนักเรียนแตละกลุม ผลัดกันเปนผูบริการและผูรับบริการ 4. ครูและนักเรียนกลุมอื่นรวมกันเสนอแนะเพิ่มเติม และปรับปรุงแกไขในสิ่งที่ผิดพลาด หรือปฏิบัติ ไมถูกตอง ขั้นที่ 3 ทําเองโดยไมมีแบบ 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมจําลองสถานการณ การบริการเครื่องดื่ม แลวใหสมาชิกภายในกลุม ผลัดกันเปนผูบริการในสถานการณตางๆ 6. ครูใหนักเรียนปฏิบัติการบริการเครื่องดื่มใหครู และเพื่อนในชั้นเรียนดูจนครบทุกกลุม นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T52
ขอสอบเนน การคิด ÊÃé Ò§ÊÃÃ¤ì ¾Ñ²¹Ò¡ÒÃàÃÕ¹ÃéÙใบมอบหมายงาน ¡Ô¨¡ÃÃÁ àÃ×èͧ ¡ÒÃàµÃÕÂÁ »ÃСͺ ¨Ñ´ áÅе¡áµ‹§à¤Ã×èͧ´×èÁ คําชี้แจง ๑. ให้นักเรียนปฏิบัติงานกลุ่ม ฝกประกอบเครื่องดื่มตามความสนใจ ๑ ชนิด โดยเลือกประกอบ เครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และวางแผนขั้นตอนการท�างาน ดังน�้ • เลือกเครื่องดื่มตามความสนใจกลุ่มละ ๑ ชนิด • ศึกษาวิธีการประกอบเครื่องดื่มจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ นิตยสาร • ศึกษาวิธีการจัดและตกแต่งภาชนะเครื่องดื่มจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ หรือใช้ความคิด สร้างสรรค์ ในการจัดและตกแต่งภาชนะเครื่องดื่ม ๒. จัดเตรียมส่วนผสมและอุปกรณ์ที่ใช้ ในการประกอบ จัด และตกแต่งเครื่องดื่ม เพื่อน�ามา ประกอบเครื่องดื่มในชั้นเรียน ๓. ให้นักเรียนใช้ทักษะกระบวนการท�างานและทักษะกระบวนการแก้ปญหาในการประกอบเครื่องดื่ม ๔. เมื่อประกอบ จัด และตกแต่งเครื่องดื่มที่เลือกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้แต่ละกลุ่มออกมาน�าเสนอ เครื่องดื่มที่กลุ่มของตนเองช่วยกันท�าหน้าชั้นเรียน ดังน�้ • เครื่องดื่มที่กลุ่มของตนเองเลือกมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างไร • ส่วนผสมและอุปกรณ์ที่ใช้ ในการประกอบ จัด และตกแต่งเครื่องดื่มมีสิ�งใดบ้าง • วิธีการประกอบเครื่องดื่มชนิดนั้น ๆ มีขั้นตอนและวิธีการท�าอย่างไร • ในการปฏิบัติงานกลุ่ม นักเรียนพบปญหา หรืออุปสรรคใด และสมาชิกในกลุ่มช่วยกัน แก้ปญหานั้นอย่างไร เครื่องดื่ม และการบริการ 4๗ ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ฝกใหชํานาญ 7. ครูใหนักเรียนนําความรูที่ไดรับไปปฏิบัติ เพื่อ ใหเกิดความชํานาญและติดเปนนิสัย 8. ครูจัดตารางการบริการเครื่องดื่มของแตละ กลุมในโอกาสที่โรงเรียนมีกิจกรรมตางๆ โดย ครูเปนผูดูแลและควบคุมการบริการของนักเรียน ขั้นสรุป 1. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 3.3.2 เรื่อง การบริการเครื่องดื่ม และทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง เครื่องดื่มและการบริการ 2. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึก ผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 3. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเกี่ยวกับการบริการ เครื่องดื่ม 4. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 3.3.2 เรื่อง การบริการ เครื่องดื่ม 3. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง เครื่องดื่มและการบริการ 4. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 5. ครูประเมินผลจากการสรุปความรูเกี่ยวกับ การบริการเครื่องดื่ม 6. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 เพราะเหตุใดการเสิรฟเครื่องดื่มที่ใสนํ้าแข็งจึงควรเสิรฟทันที ที่ปรุงเรียบรอยแลว 1. เครื่องดื่มจะเสียไดงาย 2. เครื่องดื่มอาจมีรสชาติจืด 3. ทําใหผูดื่มคลายรอนไดทันที 4. เครื่องดื่มจะตกตะกอนเร็ว สีสันไมสวยงาม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะเครื่องดื่มอาจมีรสชาติจืดชืด เนื่องจากหากไมเสิรฟทันทีที่ปรุงเครื่องดื่มที่มีนํ้าแข็ง อาจทําให นํ้าแข็งละลายเร็ว เมื่อนํ้าแข็งละลาย รสชาติของเครื่องดื่มที่ปรุงไว จะจืดมากขึ้นกวาเดิม) แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T53
Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 การฝึกงานช่าง ในบ้าน 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายความหมาย ความส�ำคัญ และ ประโยชน์ของการ ปฏิบัติงานช่างในบ้าน ได้อย่างถูกต้อง แบบเน้น การเรียนรู้ แบบร่วมมือ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T54
แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 การฝึกงานช่าง ในบ้าน 3 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบหลังเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. วางแผนกระบวนการ ปฏิบัติงานช่างในบ้าน ได้ถูกต้องตามขั้นตอน 2. มีจิตส�ำนึกการใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานช่างในบ้าน อย่างประหยัดและ คุ้มค่า แบบเน้น การเรียนรู้ แบบร่วมมือ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T55
การเรียนรู้งานช่างเป็นพื้นฐานในการด�ารงชีวิต ซึ่งเราสามารถน�าไปใช้ ในการซ่อมแซม บ�ารุง รักษา ตลอดจนสามารถสร้าง หรือประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ เพื่อใช้ ในการด�าเนินชีวิต หรือเพื่อ การประกอบอาชีพในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการท�างานที่มีขั้นตอนและมีกระบวนการท�างาน ที่จะต้องศึกษา เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และจะได้ลงมือปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) ô หน่วยการเรียนรู้ที่ §Ò¹ª‹Ò§ã¹ºŒÒ¹ ขั้นนํา (เนนการเรียนรูแบบรวมมือ) 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวย การเรียนรูที่ 4 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • ภายในบานของนักเรียนมีวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบานชนิดใดที่เกิดการชํารุด เสียหาย (แนวตอบ พัดลม เตารีด โทรทัศน) • หากพบวามีวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบาน ที่ชํารุดจะแกปญหานี้อยางไร เพื่อใหสามารถ ใชงานวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบาน ดังกลาวไดอยางคุมคา (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ทําการสํารวจความ เสียหายของวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบาน หากพบวาเสียหายไมมาก เมื่อพิจารณา แลวพบวาสามารถซอมแซมได ควรทําการ ซอมแซมใหเรียบรอยกอนใช เมื่อพิจารณา แลวไมสามารถซอมแซมได ควรใหชางที่ มีความเชี่ยวชาญมาทําการซอมแซมให หากวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบานไม สามารถซอมแซมได ควรทําการติดตั้งใหม โดยชางผูเชี่ยวชาญ หากเปนการซอมแซม ในเบื้องตนงายๆ สามารถทําไดดวยตนเอง ควรศึกษาวิธีการติดตั้งจากคูมือแนะนํา การใชงานใหละเอียดกอนลงมือปฏิบัติงาน และควรปฏิบัติงานดวยความระมัดระวัง) • หากนักเรียนยังขาดความรูเกี่ยวกับทักษะ การปฏิบัติงานชางในบาน นักเรียนจะแก ปญหาวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบาน ที่ชํารุดไดหรือไม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับงานชางในบานใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเรื่องงานชางในบาน สามารถใชทักษะในการแสวงหา ความรูเพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานชางในบานใหสําเร็จตามเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีจิตสํานึกในการทํางาน คํานึงถึงการใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับทักษะการปฏิบัติงานชางในบาน • ใหนักเรียนฝกปฏิบัติงานชางในบาน เพื่อใหสามารถนําไปปฏิบัติไดดวยตนเอง เชน การเปลี่ยนลูกบิดประตู การยาแนวกระเบื้อง การเปลี่ยนกอกนํ้า การซอมหลอดไฟ นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T56
ขอสอบเนน การคิด ËÒ¡¾ºÇ‹ÒÀÒÂ㹺ŒÒ¹ÁÕÇÑÊ´Ø ÍØ»¡Ã³ËÅÒÂÍ‹ҧªÓÃØ´ ¨Ðᡌ»˜ÞËÒ¹ÕéÍ‹ҧäà à¾×èÍãËŒ ÊÒÁÒö㪌§Ò¹ä´ŒÍ‹ҧ¤ØŒÁ¤‹Ò áÅлÅÍ´ÀÑ สาระการเรียนรูแกนกลาง ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สรางทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน - การปฏิบัติงานชางในบาน ■ การมีจิตสํานึกและใชทรัพยากรอยางประหยัดและคุมคาเปนคุณธรรมในการทํางาน ๑ ความสำาคัญของงานช่างในบ้าน งานช่างในบ้านเป็นการใช้ เลือก ดูแลรักษา ซ่อมแซม ดัดแปลง ปรับปรุง แก้ไข สร้าง หรือผลิตชิ้นงาน วัสดุสิ่งของ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ เพื่อด�าเนินกิจกรรมในชีวิตประจ�าวัน เช่น ซ่อมแซม องค์ประกอบของบ้านที่ช�ารุด เปลี่ยน หรือซ่อมกอกน�้า เปลี่ยน หลอดไฟ ซ่อมแซมโตะ เก้าอี้ ชั้นวางของ ฯลฯ ซึ่งเป็นทักษะ พื้นฐานที่จ�าเป็นในการด�ารงชีวิต เพื่อให้ก้าวตามทันเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงไป งานช่างในบ้านมีหลายสาขา และทุก ๆ สาขา ของงานจะใช้พื้นฐานการท�างาน ความรู้ ทักษะกระบวนการ ท�างานช่างเบื้องต้นที่สามารถปฏิบัติงานเหล่านั้นด้วยตนเองอย่าง ง่าย ๆ เพื่อยืดอายุการใช้งาน สิ่งส�าคัญที่ขาดไม่ได้ ในการปฏิบัติ งานช ่าง คือ ต้องยึดหลักความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน เพราะถ้าประมาทอาจท�าให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สิน ๒ ประโยชนที่ได้รับจากการปฏิบัติ งานช่างในบ้าน งานช่างในบ้าน เป็นงานที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะพบเจอได้ เพราะเป็นงานที่อยู่ใกล้ตัว มีความเกี่ยวข้องกับการด�าเนินชีวิต ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติงานช่างมีหลายประการ เช่น ๑. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ๒. ฝกฝนเพื่อก้าวไปสู่การเป็นช่างฝมือต่อไป ในอนาคต ๓. ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๔. ตรวจสอบ ซ่อมแซม ปรับปรุง แก้ไขเครื่องมือ เครื่องใช้ วัสดุ อุปกรณ์ ให้มีสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ๕. ใช้เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ในงานช่าง เพื่อสร้าง หรือผลิต ชิ้นงานในชีวิตประจ�าวัน หรือเพื่อการประกอบอาชีพ ๖. มีจิตส�านึกถึงความปลอดภัยในการท�างาน ฝกคิด วิเคราะห์ด้วยการแก้ปัญหา งานช่างในบ้าน 4๙ งานช ่าง คือ ต้องยึดหลักความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน 1 ขั้นนํา 3. ครูเปดวีดิทัศนเกี่ยวกับการซอมแซมวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบานใหนักเรียนดู เชน ขาโตะ คอมพิวเตอรชํารุด เบาะรองนั่งหลุดออกจาก เกาอี้ บานพับประตู หรือบานพับหนาตางหลุด พื้นกระเบื้องแตก สีประตูรั้วถลอก สายไฟขาด เตารีดไมรอน มอเตอรพัดลมเสียงดังผิดปกติ 4. ครูถามนักเรียนวา • จากการไดชมวีดิทัศนเกี่ยวกับการซอมแซม วัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบาน นักเรียน คิดวาตนเองสามารถปฏิบัติงานดังกลาว เหมือนที่ไดชมในวีดิทัศนไดหรือไม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน คิดวาตนเองสามารถ ปฏิบัติการซอมแซมวัสดุ อุปกรณ เครื่องใช ภายในบานที่ชํารุดบางประเภทได แตตอง เปนงานที่งายๆ เชน ขาโตะคอมพิวเตอร ชํารุด เบาะรองนั่งหลุดออกจากเกาอี้ สีประตู รั้วถลอก) • นักเรียนคิดวาผูที่ปฏิบัติงานชางในบานควร มีคุณสมบัติอยางไร (แนวตอบ ผูที่ปฏิบัติงานชางในบานควรมี คุณสมบัติที่สําคัญหลายประการ เชน มี ความรู ความเขาใจที่ถูกตองเกี่ยวกับวิธีการ ทํางาน หรือขั้นตอนการทํางาน สามารถ ปฏิบัติงานดวยความรอบคอบ มีความ ระมัดระวัง เพื่อใหเกิดความปลอดภัย ในขณะปฏิบัติงาน รูวิธีการใชและเลือก ใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางไดอยาง ถูกตองและถูกวิธี มีกระบวนการจัดการงาน และมีการวางแผนการทํางานอยางเปน ระบบ แกปญหาในการทํางานได มีการ บริหารเวลา เงินทุนไดอยางเหมาะสม และ มีประสิทธิภาพ) ขอใดกลาวถึงประโยชนของการปฏิบัติงานชางในบานไดอยาง ถูกตอง 1. ไมถูกชางเอารัดเอาเปรียบ 2. ลดคาใชจายภายในบาน ทําใหมีเงินออม 3. สามารถสรางสิ่งของเครื่องใชไดจํานวนมาก 4. สามารถซอมแซมสิ่งของเครื่องใชภายในบานไดทุกชนิด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการปฏิบัติงานชางในบานจะ ชวยลดคาใชจายภายในบานได ทําใหมีเงินออมเพิ่มขึ้น เนื่องจาก สามารถปฏิบัติงานซอมแซมบางอยางไดเอง โดยไมตองจางชาง ผูเชี่ยวชาญมาซอมแซม แตงานซอมแซมบางอยางที่ไมสามารถ ซอมแซมเองได ควรใหชางผูเชี่ยวชาญมาซอมแซม เพื่อใหเกิด ความปลอดภัยตอการใชงาน) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา นักเรียนควรมีความรูเบื้องตนเกี่ยวกับงานชางในบาน เพราะจะไดนําความรูไปใชประโยชนในการดูแลบํารุงรักษา ซอมแซม หรือ ดัดแปลงวัสดุตางๆ ใหเกิดประโยชน นอกจากนี้ ยังชวยประหยัดคาใชจาย โดย ไมจําเปนตองซื้อวัสดุ อุปกรณใหมหากเกิดการชํารุด หรือชวยประหยัดคาใชจาย ในการจางชางผูเชี่ยวชาญมาทําการซอมแซม นักเรียนควรรู 1 ความปลอดภัย การปฏิบัติงานชางควรคํานึงถึงความปลอดภัยอยูเสมอ ดังนั้น กอนการปฏิบัติงานจึงควรศึกษาวิธีการใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชาง ตางๆ ใหถูกตองและเหมาะสมกับลักษณะของงาน เพื่อใหสามารถปฏิบัติงาน ไดอยางปลอดภัย นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T57
ขอสอบเนนการคิด ๓ งานช่างในบ้านที่สำาคัญ งานช่างในบ้านนับเป็นงานที่มีความเกี่ยวข้องต่อการด�ารงชีวิตประจ�าวัน ซึ่งงานช่างประเภท ต่าง ๆ จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไป โดยทั่วไปการปฏิบัติงานช่างในบ้านที่ส�าคัญ มีดังนี้ ๔ ขั้นตอนการปฏิบั ติงานช่างในบ้าน ก่อนปฏิบัติงานช่าง ผู้ปฏิบัติงานควรศึกษาขั้นตอนการท�างานให้เข้าใจก่อนลงมือปฏิบัติ เพื่อให้การปฏิบัติงานช่างประสบความส�าเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ ๑. วิเคราะห์สภาพปัญหา หรือลักษณะของงาน โดยการส�ารวจและวิเคราะห์สภาพปัญหาจาก การใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น หลอดไฟไม่ติด พัดลมไม่หมุน ๒. วิเคราะห์งาน ตรวจสอบการท�างานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องการซ่อมแซม สรุปหาสาเหตุ ส�าคัญ และหาวิธีการซ่อมแซมอย่างเหมาะสม ๓. วางแผนการท�างาน ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดของงานซ่อม จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ รวมถึงศึกษาวิธีการซ่อมอย่างละเอียด ๔. ปฏิบัติตามขั้นตอน ท�าการซ่อมแซม บ�ารุง รักษา ติดตั้ง หรือประกอบชิ้นงานตามขั้นตอน ที่ได้ศึกษามาอย่างถูกต้องและปลอดภัย ๕. ประเมินผลจากการปฏิบัติ ตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ที่ท�าซ่อมแซม บ�ารุง รักษา ติดตั้ง หรือประกอบชิ้นงานว่าสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ งานซ่อมแซม งานบ�ารุงรักษา งานติดตั้ง หรืองานประกอบ งานที่ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับหลักการท�างาน อุปกรณ์ และเครื่องใช้ภายในบ้าน วิเคราะห์อาการเสีย อาการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ หาสาเหตุ เพื่อหาแนวทางซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เช่น การซ่อมแซมผนังบ้าน โต๊ะ เก้าอี้ ที่ช�ารุด งานที่ต้องอาศัยความรู้และค�าแนะน�าจากคู่มือการใช้งาน วิธีการท�างาน การบ�ารุงรักษาอุปกรณ์ และเครื่องใช้ภายในบ้าน โดยเฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งจะต้องให้ความส�าคัญมากกว่าอุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ เนื่องจากมีความอันตรายสูง เช่น การล้างท�าความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องท�าความเย็น งานที่ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับหลักการท�างานของอุปกรณ์และเครื่องใช้ภายในบ้าน ต้องศึกษาหลักการ ท�างาน ความเหมาะสมของอุปกรณ์ สถานที่ที่จะน�าไปติดตั้ง เพื่อท�าให้อุปกรณ์และเครื่องใช้ภายในบ้าน มีประสิทธิภาพ หรือใช้งานได้อย่างปลอดภัย เช่น การติดตั้งชั้นวางของในห้องครัว ห้องน�้า ห้องนั่งเล่น 50 จากคู่มือการใช้งาน1 ขั้นสอน 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา เรื่อง ความสําคัญของงานชางในบาน ประโยชน ที่ไดรับจากการปฏิบัติงานชางในบาน งานชาง ในบานที่สําคัญ และขั้นตอนการปฏิบัติงานชาง ในบาน จากหนังสือเรียน ม.2 หนวยการเรียนรู ที่ 4 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความ สําคัญของงานชางในบาน ประโยชนที่ไดรับ จากการปฏิบัติงานชางในบาน งานชางในบาน ที่สําคัญ และขั้นตอนการปฏิบัติงานชางในบาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 4 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “บานแตละหลังจะ ประกอบไปดวยสิ่งของเครื่องใชตางๆ มากมาย เมื่อเวลาผานไปสิ่งของเหลานั้นอาจเริ่มเสื่อม สภาพลง หรือเกิดปญหาบางอยางที่ตองได รับการดูแลและแกไข เพื่อใหสามารถกลับมา ใชงานไดตามปกติ สงผลใหทักษะในการ ปฏิบัติงานชางจึงเปนสิ่งสําคัญและจําเปนใน การดํารงชีวิตประจําวันของมนุษย เพราะชวย ใหสามารถซอมแซม ดูแล รักษา ดัดแปลง แกไข ปรับปรุง หรือสรางสรรคสิ่งของเครื่องใช ตางๆ เพื่ออํานวยความสะดวกภายในบาน สามารถฝกฝนจนเกิดความเชี่ยวชาญ เพื่อกาว ไปสูการเปนชางฝมือตอไปไดในอนาคต” 4. ครูถามนักเรียนวา • การปฏิบัติงานชางเปนแนวทางในการ สงเสริมการประกอบอาชีพไดอยางไร (แนวตอบ การปฏิบัติงานชางเปนการฝก ทักษะในการใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณใน การซอมแซมสิ่งของเครื่องใชตางๆ ซึ่งอาจ นําไปประกอบอาชีพเกี่ยวกับการซอมแซม เครื่องมือ เครื่องใชตางๆ ไดในอนาคต) เกร็ดแนะครู ครูอาจใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชาง แตละประเภท เชน งานชางไม งานชางไฟฟา งานชางคอนกรีต จากแหลงการ เรียนรูที่หลากหลาย เพื่อใหนักเรียนรูจักลักษณะ วิธีการใชงาน และการดูแล บํารุงรักษาที่ถูกตอง นักเรียนควรรู 1 คูมือการใชงาน สิ่งของเครื่องใชตางๆ มักจะมีคูมือการใชงานแนบมาให ซึ่งในคูมือจะอธิบายถึงวิธีการใชงาน การถอดประกอบ การดูแลบํารุงรักษา และ ศูนยบริการ จึงควรศึกษาคูมือที่แนบมากับสิ่งของเครื่องใชตางๆ ใหเขาใจกอน นํามาใชงาน กอนการปฏิบัติงานชาง ผูปฏิบัติงานควรปฏิบัติสิ่งใดกอนเปน ลําดับแรก 1. วิเคราะหงาน 2. ปฏิบัติตามขั้นตอน 3. วางแผนการทํางาน 4. วิเคราะหสภาพปญหา (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะผูปฏิบัติงานจะตองวิเคราะห สภาพปญหา หรือลักษณะของงานกอน โดยการสํารวจและ วิเคราะหสภาพปญหาจากการใชงานของอุปกรณตางๆ เชน หลอดไฟไมติด เตารีดไมรอน เพื่อนําไปสูการซอมแซมในขั้นตอน ตอไป) นํา สอน สรุป ประเมิน T58
ขอสอบเนน การคิด ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂ㹡Òû¯ÔºÑµÔ§Ò¹ª‹Ò§ã¹ºŒÒ¹ ในการปฏิบัติงานชางทุกประเภท ผูปฏิบัติงานจําเปนตองคํานึกถึงความปลอดภัยเปนหลัก เพราะหากปฏิบัติงานดวยความประมาทอาจสงผลใหเกิดความเสียหายตอชีวิตและทรัพยสินได ดังนั้น การปฏิบัติงานชางในบานเพื่อใหเกิดความปลอดภัยควรปฏิบัติ ดังนี้ Know M ore ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ·ҧ´ŒÒ¹Ã‹Ò§¡Ò • ไมโยนเครื่องมือ หรือวัสดุ อุปกรณ ใหแกเพื่อนรวมงาน • ใชกลามเนื้อขาและแขนยกของหนัก โดยหามใชหลัง • หามใชมือสัมผัสความคม ให ใช ไม หรือกระดาษเทานั้น • การใชของมีคม ตองหันดานคมออกจากตัวเสมอ ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ·ҧ´ŒÒ¹¡ÒÃÊÇÁãÊ‹à¤Ã×èͧᵋ§¡Ò • แตงกายดวยเสื้อผารัดกุม เพื่อใหเกิดความ กระฉับกระเฉง • ไมสวมเครื่องประดับตางๆ ในขณะปฏิบัติงาน • สวมใสอุปกรณปองกันอันตราย เชน หมวกนิรภัย • ไมสวมรองเทาแตะ หรือรองเทาฟองน้ําในขณะ ปฏิบัติงาน ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ·ҧ´ŒÒ¹¡ÒÃ㪌ÇÑÊ´Ø ËÃ×ͪÔé¹§Ò¹µ‹Ò§ æ • ยึดวัสดุ หรือชิ้นงานใหแนนเสมอ เพื่อความปลอดภัย • เศษวัสดุตางๆ ควรทิ้งลงในถังขยะใหเรียบรอย • วัสดุที่เปนเชื้อเพลิงตองเก็บในที่มิดชิดและปลอดภัย • เศษผาเปอนน้ํามันควรเก็บใหมิดชิดหลังใชงาน ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ·ҧ´ŒÒ¹¡ÒÃ㪌à¤Ã×èͧÁ×Í • ปฏิบัติตามคําแนะนําในการใชเครื่องมืออยางเครงครัด • ใชเครื่องมืออยางถูกตองและเหมาะสมกับชนิดของงาน • จัดเก็บและตรวจสภาพเครื่องมือใหพรอมใชงานอยูเสมอ • หลังปฏิบัติงานควรทําความสะอาดเครื่องมือทุกครั้ง งานช่างในบ้าน ๕๑ • สวมใสอุปกรณปองกันอันตราย เชน หมวกนิรภัย 1 ขั้นสอน 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันปฏิบัติกิจกรรม “ซอมไดไมยาก” โดยรวมกันกําหนดสถานการณ ปญหาที่เกิดขึ้นภายในบานเกี่ยวกับสิ่งของ เครื่องใช หรือสิ่งอํานวยความสะดวกภายในบาน ที่ชํารุดตามความสนใจ 1 ชนิด ซึ่งแตละกลุม ควรกําหนดสิ่งที่ชํารุดไมซํ้ากัน จากนั้นเขียน อธิบายกระบวนการการปฏิบัติงานในประเด็น ที่ครูกําหนดให ดังนี้ • ปญหาที่พบ • การวิเคราะหงาน • การวางแผนการปฏิบัติงาน • ขั้นตอนการปฏิบัติงาน • การประเมิน หรือการตรวจสอบผลการ ปฏิบัติงาน 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนา ชั้นเรียน เพื่อเปนการแลกเปลี่ยนเรียนรูจาก สิ่งที่ไดศึกษา โดยครูเปดโอกาสใหนักเรียน รวมกันซักถามหากเกิดขอสงสัย 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ทักษะการปฏิบัติงานชาง เปนทักษะที่ตองใชฝมือและความชํานาญเปน อยางมาก เพราะเปนการปฏิบัติงานที่เสี่ยงตอ การเกิดอันตราย เนื่องจากตองใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชาง เพื่อซอมแซม บํารุง ติดตั้ง หรือประกอบ ดังนั้น ผูที่จะปฏิบัติ งานชางจึงควรมีความรู ความเขาใจเกี่ยวกับ กระบวนการทํางาน วิธีการใชและเลือกใช เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางที่ถูกตอง มีการวางแผนการปฏิบัติงาน การบริหารเวลา และทรัพยากรอยางคุมคา และคํานึงถึงความ ปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานอยูเสมอ” การปฏิบัติงานชางอยางปลอดภัย มีลักษณะตรงตามขอใด 1. โยนเครื่องมือใหแกเพื่อนรวมงาน 2. สวมใสรองเทาแตะ เพื่อความสบาย 3. ถอดเครื่องประดับออกขณะปฏิบัติงาน 4. เก็บเครื่องมือหลังปฏิบัติงาน โดยไมตองทําความสะอาด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการปฏิบัติงานชางอยาง ปลอดภัย ผูปฏิบัติงานจะตองไมสวมเครื่องประดับตางๆ ไมสวมใส รองเทาแตะ หรือรองเทาฟองนํ้า และหลังปฏิบัติงานควรทําความ สะอาดเครื่องมือทุกครั้งกอนนําไปเก็บเขาที่ใหเรียบรอย) นักเรียนควรรู 1 หมวกนิรภัย แบงประเภทตามขอบเขตและการใชงาน ดังนี้ หมวกนิรภัย ที่สามารถปองกันการกระแทก หมวกนิรภัยที่ชวยในการปองกันไฟฟา และ หมวกนิรภัยที่ชวยปองกันอันตรายจากการเจาะ นอกจากนี้ สีของหมวก นิรภัยยังมีความหมายที่แตกตางกัน เชน สีขาว สําหรับวิศวกร ผูบริหาร หัวหนางาน ผูเยี่ยมชม สีนํ้าเงิน สําหรับชางไฟฟา ชางไม เจาหนาที่เท คนิคอื่นๆ สีเหลือง สําหรับพนักงานทั่วไป สีเขียว สําหรับเจาหนาที่ความ ปลอดภัย สีแดง หรือสีสม สําหรับเจาหนาที่ดับเพลิง ชางเชื่อม ผูที่ปฏิบัติงาน เกี่ยวกับความรอน สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการปฏิบัติงานชางในบาน ไดที่ https://devilcrafthazard.wordpress.com/งานชางพื้นฐาน/ความปลอดภัย ในงานชาง นํา สอน สรุป ประเมิน T59
ขอสอบเนนการคิด การวิเคราะห์งาน การวางแผนการท�างาน ๕ ตัวอย่างการปฏิบัติงานช่างในบ้าน การปฏิบัติงานช่างในบ้านด้วยตนเอง เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ ในการท�างาน เนื่องจากต้องเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ เพื่อให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ปลอดภัย ขอบข่ายของงานไม้ เป็นการปฏิบัติเกี่ยวกับไม้ โดยการน�าทักษะกระบวนการงานช่างไม้ ในเรื่อง การดูแลรักษา ซ่อมแซม ปรับปรุง แก้ไข สร้าง หรือผลิตชิ้นงานมาใช้ ในการออกแบบ เขียนแบบ วัด ตัด เจาะ ยึดตรึง พร้อมทั้งเคลือบผิวชิ้นงาน วัสดุ สิ่งของ เครื่องมือ เครื่องใช้ภายในและภายนอกบ้าน เช่น ตู้ โต๊ะ เตียง เก้าอี้ วงกบประตู หน้าต่าง ประโยชน์ที่ ได้รับ มีดังนี้ ๑. ใช้เครื่องมืองานช่างได้ถูกต้อง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. สร้าง หรือผลิตชิ้นงานเกี่ยวกับงานไม้ได้ด้วยตนเอง ๓. ซ่อมแซมเครื่องเรือน เครื่องมือ เครื่องใช้ที่ท�าจากไม้ ให้มีสภาพการใช้งานได้ตามปกติ ๔. ใช้เป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต 5.๑ การปฏิบัติงานไม้ ตัวอย่าง : เปลี่ยนลูกบิดประตู ปัญหา หรือความต้องการ ลูกบิดประตูหลุด ไม่สามารถล็อกได้ เพราะผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน ๑. ตรวจสอบการท�างานของบานประตู ได้แก่ การท�างานของบานพับ ความเที่ยงตรงของ บานประตู และสภาพของลูกบิดประตู ๒. สรุปสาเหตุ คือ ลูกบิดหมดสภาพการใช้งาน ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจเปลี่ยนลูกบิด ประตูด้วยตนเอง ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิด ราคา และเทคนิควิธีการเปลี่ยนลูกบิดประตู ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ที่ ใช้ ในการ เปลี่ยนลูกบิดประตู เช่น ตลับเมตร ไขควงปากแฉก ไขควงปากแบน ๓. ศึกษาวิธีการเปลี่ยนลูกบิดประตูจากคู่มือ 5๒ 1 3 2 ขั้นสอน 8. ครูเชิญวิทยากรผูที่มีความรู ความเชี่ยวชาญ ในการปฏิบัติงานชางมาสาธิตการใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางแตละประเภทให นักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนไดฝกการไดสังเกต และเรียนรูเกี่ยวกับการใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางที่ถูกตอง โดยครูเปดโอกาส ใหนักเรียนรวมกันซักถามหากเกิดขอสงสัย 9. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมาจับสลาก เพื่อปฏิบัติงานชาง ภายในบานตามหัวขอที่จับสลากได 10. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางการ ปฏิบัติงานชางในบาน จากหนังสือเรียน ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 4 หรือศึกษาเพิ่มเติมจาก อินเทอรเน็ต 11. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยาง การปฏิบัติงานชางในบาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 4 12. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติงาน ชางในบาน : การปฏิบัติงานไม จากหนังสือ เรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 52-53 จากนั้น รวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการเปลี่ยนลูกบิด ประตูทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการเปลี่ยน ลูกบิดประตูใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 13. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ปฏิบัติงานไม : เปลี่ยนลูกบิดประตู มาให นักเรียนดู จากนั้นครูใหนักเรียนชวยกัน จําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออก เปนกลุมตามประเภทของการซอมแซม นักเรียนควรรู 1 ตลับเมตร ทําจากโลหะปม มีลักษณะเปนตลับเพื่อมวนเก็บ สายวัดมีสปริง อยูภายในตลับอยางมิดชิด ตรงสวนปลายสุดของสายวัดเปนขอเกี่ยว และดานหนา ของสายวัดมีหนวยการวัด คือ นิ้ว ฟุต และระบบเมตริก ตลับเมตรที่มีจําหนาย ทั่วไป มีขนาดตลับบรรจุสายวัดไดความยาวตั้งแต 1.00-5.00 เมตร ขนาดที่ชางไม และชางกอสรางนิยมใชมากที่สุด ไดแก ขนาดตลับที่บรรจุสายวัดไดความยาว 2.00 เมตร 2 ไขควงปากแฉก เปนเครื่องมือที่ใชสําหรับหมุน หรือขันตะปูเกลียวชนิดหัวแฉก 4 แฉก เพื่อยึดชิ้นงาน หรือวัสดุใหติดแนน 3 ไขควงปากแบน เปนเครื่องมือที่ใชสําหรับหมุน หรือขันตะปูเกลียวชนิดหัวผา ใชสําหรับยึดชิ้นงาน หรือวัสดุใหติดแนน หากประตูไมตกทําใหปดประตูไดไมสนิท จะมีวิธีการซอมแซม เพื่อใหประตูสามารถกลับมาใชงานไดตามปกติอยางไร 1. หยอดนํ้ามันสนทุกบานประตูตรงจุดหมุน 2. เปลี่ยนบานพับใหมใหมีขนาดเล็กกวาเดิม 3. ถาตกเล็กนอย อาจไส หรือถากสวนที่ทําใหปดไมสนิทออก 4. ปรับตําแหนงบานพับใหม ติดบานพับ 4 ตัว และเผื่อบานพับ ใหโตขึ้น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะถาประตูไมตกเล็กนอยอาจ ไส หรือถากสวนที่ปดไมสนิทออก โดยเริ่มตนจากการถอดบานพับ ประตูออก จากนั้นปรับตําแหนงติดบานพับประตูใหม โดยไมใหซํ้า กับตําแหนงเดิม) นํา สอน สรุป ประเมิน T60
ประเมินผลการทํางาน ทดสอบการเปด-ปดประตู หาก ลูกบิดติดแนนกับประตู กดล็อก ลูกบิดเปด-ปด หากเปด-ปดได แสดงวาใชงานได ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ñ ถอดลูกบิดออกดวยแทงโลหะ ปลายแหลม กดเขาไปในรู แลวดึงตัวล็อกลูกบิดออก ถอดฝาครอบลูกบิด ใชไขควง ขันสกรูลูกบิดออก ทําความ สะอาดบริเวณที่ถอดลูกบิด ออกใหเรียบรอย ò ถอดลูกบิดออกโดยดึงจาก อีกดานหนึ่ง ใสลูกบิดประตู อันใหมเขาไปแทนที่ ใชไขควง ขันสกรู ๒ ตัว เพื่อยึดลูกบิด ใหแนนกับบานประตู ó ใสฝาครอบและลูกบิดใหครบสมบูรณ ทดสอบการใชงาน จัดเก็บ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ และทําความสะอาดสถานที่ปฏิบัติงานให เรียบรอย ใชผาสะอาดชุบนํ้ายาลางจานเช็ดใหทั่ว แลวใชผาสะอาดชุบนํ้าเช็ดซํ้าอีกครั้ง ไมควรใชสกอตชไบรต เพราะจะทําใหสีผิวของลูกบิดประตูชํารุด Trick : การทําความสะอาดลูกบิดประตูที่ทําจากทองเหลือง งานช่างในบ้าน ๕๓ ถอดลูกบิดออกดวยแทงโลหะ 1 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน 14. ครูสาธิตการเปลี่ยนลูกบิดประตูใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 15. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิตการ เปลี่ยนลูกบิดประตูใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของ นักเรียนอยางใกลชิดและคอยใหความ ชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนักถึงความ ปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย 16. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงานไม : เปลี่ยนลูกบิดประตูที่เพื่อนออกมาสาธิตใหชม พรอมทั้งจดบันทึกประเด็นสําคัญตางๆ ไว 17. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานไม : เปลี่ยนลูกบิดประตู โดยครูเปนผู ตรวจสอบความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมใน สวนที่ยังขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 18. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทําความ สะอาดลูกบิดประตูใหนักเรียนฟงวา “การทํา ความสะอาดลูกบิดประตูจะมีวิธีการปฏิบัติที่ แตกตางกัน ซึ่งจะขึ้นอยูกับวัสดุที่นํามาผลิต เชน ลูกบิดที่ผลิตจากเหล็กกลาไรสนิม (Stainless Steel) ใหใชผา หรือฟองนํ้าชุบนํ้ายาลางจาน นํามาขัดเช็ด ลางดวยนํ้าสะอาด ใชผาสะอาด เช็ดใหแหง หากที่พักอาศัยอยูติดกับทะเลและ ลูกบิดอยูภายในหอง ควรทําความสะอาดทุก 3-6 เดือนตอครั้ง หากที่พักอาศัยอยูติดกับ ทะเลและลูกบิดอยูภายนอกหอง ควรทําความ สะอาด 3-4 สัปดาหตอครั้ง” ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการซอมแซม งานไมภายในบานตามความสนใจ 2 งาน จากนั้นเขียนสรุปขั้นตอน การปฏิบัติงานลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการซอมแซม งานไมภายในบานมาตามความสนใจ 1 งาน โดยเขียนสรุป ในประเด็นที่กําหนดให คือ ปญหาที่เกิดขึ้น การวิเคราะหงาน การวางแผนการทํางาน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ลงในกระดาษ รายงาน นําสงครูผูสอน เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใชงานลูกบิดใหนักเรียนฟงวา ในกรณี ที่สกรูลูกบิดติดแนนมาก ควรใชนํ้ามันขจัดความชื้นฉีดพนเหนือบริเวณสกรู จากนั้นทิ้งไวสักครู แลวจึงใชไขควงขันสกรูออก นักเรียนควรรู 1 ลูกบิด มีหลายประเภท เชน ลูกบิดทั่วไป นิยมใชกับประตูบาน ล็อกไดจาก ดานในและปลดล็อกไดจากกุญแจดานนอก ลูกบิดทางผาน เหมาะกับประตู ทางผานที่ไมไดตองการล็อกแนนหนามาก ลูกบิดหองนํ้า ล็อกจากดานใน สวนดานนอกเปดไดจากกุญแจ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัย หากมี เหตุฉุกเฉินจะไดชวยเหลือไดอยางทันทวงที ลูกบิดโรงแรม ดานนอกปลดล็อก ไดจากกุญแจเทานั้น สวนดานในสามารถเปดไดตลอดเวลา นํา สอน สรุป ประเมิน T61
ขอสอบเนน การคิด ปัญหา หรือความต้องการ ปูนยาแนวกระเบื้องหลุดร่อน เพราะใช้งานมานานและ โดนน�้ายาล้างห้องน�้ากัดเซาะ ท�าให้แผ่นกระเบื้องหลุด หรือแตก การวิเคราะห์งาน ๑. ตรวจสอบสภาพรอยปูนยาแนวที่พื้นและผนัง ได้แก่ ปูนยาแนวหลุดร่อน สกปรก และรอยต่อมุม กระเบื้องสึกกร่อนมาก ๒. สรุปสาเหตุ คือ ห้องน�้าที่ ใช้ปูนยาแนวกระเบื้องมาเป็นเวลานาน เกิดการหลุดร่อนของปูน ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจซ่อมแซมปูนยาแนวกระเบื้องของห้องน�้าที่พื้นและผนัง ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง วัสดุยาแนว และเทคนิควิธีการยาแนวกระเบื้อง ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เช่น ปูนยาแนว เกรียงยาแนว แปรงลวด เหล็กขูดยาแนว น�้ายาท�าความสะอาด ผ้า ถุงมือ ๓. ศึกษาวิธีการซ่อมปูนยาแนวกระเบื้องจากคู่มือ การวางแผนการท�างาน ขอบข่ายของงานปูนและงานคอนกรีต เป็นการน�าทักษะกระบวนการมาใช้ผสมปูนก่อปูนฉาบ โดยผสมคอนกรีตในอัตราส ่วนต ่าง ๆ ที่เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากนี้ ยังใช้ซ ่อมแซม ความบกพร่องในงานปูนและงานคอนกรีตที่ช�ารุดให้มีสภาพการใช้งานได้เป็นอย่างดี ประโยชน์ที่ ได้รับ มีดังนี้ ๑. ใช้เครื่องมือช่างในงานปูนและงานคอนกรีตได้ถูกต้อง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. สร้าง หรือผลิตชิ้นงานเกี่ยวกับงานปูนและงานคอนกรีตได้ด้วยตนเอง ๓. ซ่อมแซมพื้น หรือผนังกระเบื้องให้มีสภาพสมบูรณ์ดังเดิม ๔. ลดการใช้ไม้ ในการสร้างบ้าน เป็นการช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ ๕. ใช้เป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต 5.๒ การปฏิบัติงานปูนและงานคอนกรีต ตัวอย่าง : ยาแนวกระเบื้อง 54 ปูนยาแนวกระเบื้องหลุดร่อน วัสดุยาแนว เกรียงยาแนว 1 2 ขั้นสอน 19. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติงานชาง ในบาน : การปฏิบัติงานปูนและงานคอนกรีต จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 54-55 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การยาแนวกระเบื้องทีละขั้นตอน โดยครูขอ อาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การยาแนวกระเบื้องใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 20. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการปฏิบัติ งานปูนและงานคอนกรีต : ยาแนวกระเบื้อง มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูใหนักเรียนชวยกัน จําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออก เปนกลุมตามประเภทของการซอมแซม 21. ครูสาธิตการยาแนวกระเบื้องใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 22. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิตการ ยาแนวกระเบื้องใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของ นักเรียนอยางใกลชิดและคอยใหความ ชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนักถึงความ ปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย 23. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ปูนและงานคอนกรีต : ยาแนวกระเบื้องที่ เพื่อนออกมาสาธิตใหชม พรอมทั้งจดบันทึก ประเด็นสําคัญตางๆ ไว นักเรียนควรรู 1 ปูนยาแนวกระเบื้อง วิธีการทํา คือ ผสมปูนยาแนว 1 สวน กับนํ้า 1 สวน แลวฉาบยาแนวลงในสวนของรองรอยตอของกระเบื้องใหเต็ม ทิ้งไวใหพอหมาด แลวเช็ดออกดวยฟองนํ้าชุบนํ้าหมาดๆ จนรองยาแนวเรียบสนิท 2 เกรียงยาแนว มีหลายชนิดและมีวิธีการใชงานที่แตกตางกัน เชน เกรียงไม ใชสําหรับปาดผิวหนาปูนและฉาบปูนที่ผนังกําแพง เกรียงเหล็ก ใชสําหรับงาน กออิฐและปูกระเบื้อง หากเลือกใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางกับงานปูนและ งานคอนกรีตไมเหมาะสมกับชนิดของงาน จะสงผลตองานที่ปฏิบัติ อยางไร (แนวตอบ อาจทําใหเสียเวลา เสียคาใชจายในการปฏิบัติงาน ทําใหการทํางานมีประสิทธิภาพนอยลง หรือขาดคุณภาพ รวมถึง อาจกอใหเกิดอันตรายตอผูใชงาน หรือทําใหเกิดการบาดเจ็บได) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกซื้อปูนสําเร็จรูปใหถูกกับการใชงาน ไดที่ https://www.baanlaesuan.com/80903/maintenance/ready-mademortar นํา สอน สรุป ประเมิน T62
การคิด ขอสอบเนน การคิด ประเมินผลการท�างาน ตรวจสอบความเรียบร้อยของการยาแนว กระเบื้องเรียบ เต็มช่อง และไม่มีฟองอากาศ รวมถึงความสะอาดของคราบปูน หากมีตกค้าง และแห้งจะท�าความสะอาดได้ยาก สามารถปฏิบัติได้หลายวิธี เช่น ใช้กรดจากน�้าส้มสายชู โดยใช้แปรงสีฟันแข็งชุบน�้าส้มสายชูให้ชุ่ม ขัดบริเวณคราบสกปรก ล้างด้วยน�้าสะอาด ใช้เบกกิงโซดา โดยน�าผงเบกกิงโซดาโรยตามร่องยาแนว ราดน�้าตาม จากนั้นพรมน�้าส้มสายชูลงไป ใช้แปรงขนแข็งขัดให้ทั่ว ล้างด้วยน�้าสะอาด Trick : การทําความสะอาดยาแนว เซาะร่องขูดปูนยาแนวเดิมออก ผสมกาวยาแนวกระเบื้องกับ น�้าสะอาดในอัตราส ่วนตาม ค�าแนะน�าที่ระบุอยู่ที่ถุง น�าปูนมายาแนวร่องกระเบื้อง ด้วยเกรียงยาแนว รูดเกรียง ยาแนวในลักษณะตามแนว กระเบื้อง อัดให้แน่นจนครบ ทุกร ่องที่ต ้องการยาแนว ทิ้งไว้ประมาณ ๑-๑.๕ ชั่วโมง ใช้ฟองน�้าสะอาดลูบเบา ๆ เช็ดรอยปูนที่ไม่ต้องการนอก ร่องแนวกระเบื้องออกให้หมด ทิ้งปูนยาแนวให้แห้งสนิทประมาณ ๑๒-๒๔ ชั่วโมง แล้วจึงล้างท�าความสะอาด จากนั้น ใช้งานได้ตามปกติ จัดเก็บเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ และท�าความสะอาดสถานที่ปฏิบัติ งานให้เรียบร้อย ñ ò ó ขั้นตอนการปฏิบัติงาน งานช่างในบ้าน 55 ผสมกาวยาแนวกระเบื้องกับ 1 ขั้นสอน 24. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานปูนและงานคอนกรีต : ยาแนวกระเบื้อง โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และ อธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 25. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการยาแนว กระเบื้องใหนักเรียนฟงวา “หากนักเรียน ไมถนัด หรือไมสามารถผสมปูน เพื่อยาแนว กระเบื้องดวยตนเองได นักเรียนสามารถเลือก ใชซิลิโคนยาแนวแทนได ซึ่งมีขั้นตอนในการ ปฏิบัติ คือ ใหใชเครื่องมือขูดรองกระเบื้องขูด ยาแนวเดิมออกจนหมด จากนั้นใหผสมนํ้ายา ฟอกขาว 1 4 ถวยตวง นํ้าสะอาด 2 ถวยตวง ผงซักฟอก 1 3 ถวยตวง เขาดวยกัน แลวราด ลงบนพื้น เพื่อทําความสะอาดรองกระเบื้อง และคราบสิ่งสกปรก เช็ดรองกระเบื้องดวย ผาสะอาดใหแหง สวมซิลิโคนยาแนวกับปนยิง และยิงซิลิโคนยาแนวตามแนวรองกระเบื้อง หลังจากยาแนวเสร็จเรียบรอยแลว ปลอยให ซิลิโคนยาแนวแหง และเมื่อซิลิโคนยาแนวแหง ดีแลว จึงใชฟองนํ้าชุบนํ้าสะอาดบิดหมาดเช็ด เพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้ง” 25. ครูถามนักเรียนวา • หากตองการยาแนวพื้นกระเบื้องหองนํ้า นักเรียนจะมีแนวทางในการเลือกใชงาน ยาแนวอยางไร (แนวตอบ เนื่องจากพื้นกระเบื้องหองนํ้า สวนใหญจะเปนแบบเซรามิก เปนกระเบื้อง ที่เปยกอยูเสมอและมีความชื้นสูง อีกทั้ง ยังมีคราบสิ่งสกปรกที่เกิดจากสบู แชมพู สระผม ยาสีฟน นํ้ายาทําความสะอาด หองนํ้า จึงควรเลือกใชยาแนวที่มีคุณสมบัติ เหมาะสมกับพื้นที่เปยกและควรมีคุณสมบัติ ในการปองกันเชื้อรารวมดวย) หากใชนํ้ายาทําความสะอาดหองนํ้าในงานปูนจะสงผลอยางไร 1. ปูนมีรอยขีดขวน 2. ปูนมีสีแตกตางไปจากเดิม 3. ปูนกัดกรอน หรือมีรอยราว 4. ปูนมีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะนํ้ายาทําความสะอาดหองนํ้า มีฤทธิ์เปนกรดสูง ซึ่งจะไปกัดกรอนและทําลายปูนอยางรุนแรง ทําใหปูนเกิดความเสียหายได) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยาแนวกระเบื้องใหนักเรียนฟงวา กอนที่จะ ยาแนวกระเบื้อง ควรทําความสะอาดพื้นเพื่อฆาเชื้อโรคกอนดวยนํ้ายาทําความ สะอาดพื้น พรอมทั้งใชแปรงขัด หรือใชผาเนื้อหยาบขัดทุกซอกทุกมุมของ กระเบื้อง โดยเฉพาะตามพื้นที่เปนมุมและซอกหลืบที่มองไมคอยเห็น ในการผสม ยาแนวใหผสมตามอัตราสวนที่กําหนดไวดานหลังของถุง จากนั้นเทยาแนวลงไป ในนํ้า คนใหเขากัน แลวจึงนําไปใชงานได หามเทนํ้าลงไปในยาแนวโดยเด็ดขาด เพราะจะไมสามารถคนใหเปนเนื้อเดียวกันได นักเรียนควรรู 1 ยาแนว ชนิดสําเร็จรูปจะไมทนนํ้า เนื่องจากมีสวนประกอบของอะคริลิก เมื่อนําไปใชในพื้นที่ที่มีความชื้นเปนประจํา หรือมีนํ้าขัง จะทําใหวัสดุปดผิว ยาแนวมีโอกาสหลุดลอนไดสูง นํา สอน สรุป ประเมิน T63
กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค ปัญหา หรือความต้องการ ก๊อกน�้าช�ารุด เมื่อปดก๊อกน�้า น�้าไหลไม่หยุด และเมื่อเปดก๊อกน�้า น�้าไหลไม่แรง การวิเคราะห์งาน ๑. ตรวจสอบระบบน�้าดีทั้งระบบ รวมทั้งก๊อกน�้าที่มีปญหา ได้แก่ ตรวจสอบประตูปด-เปดน�้า ตรวจสอบ ระบบปด-เปดก๊อกน�้าและตะแกรงปลายก๊อกน�้า และตรวจสอบระบบท่อที่น�าน�้ามาสู่ก๊อกน�้าว่า มีการช�ารุดเสียหายหรือไม่ ๒. สรุปสาเหตุ คือ เกิดจากการช�ารุดภายในก๊อกน�้า ระบบการหมุนของลิ้นอัดลงบนบ่าลิ้นของตัวก๊อกน�้า ไม่แนบสนิท ท�าให้น�้ารั่วซึม ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจเปลี่ยนก๊อกน�้าด้วยตนเอง ขอบข่ายของงานประปา เป็นการน�าทักษะกระบวนการงานประปามาใช้ ในการเดินท่อประปา น�้าดี-น�้าเสีย แก้ไขท่อน�้า ติดตั้ง หรือปรับเปลี่ยนอุปกรณ์งานประปาชนิดต่าง ๆ และอุปกรณ์ที่ ใช้ ร่วมกับสุขภัณฑ์ ในห้องน�้า ห้องครัว และบริเวณอื่น ๆ ของบ้าน ประโยชน์ที่ ได้รับ มีดังนี้ ๑. ใช้เครื่องมืองานช่างประปาได้ถูกต้อง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. ซ่อมแซมระบบประปา น�้าดี-น�้าเสียที่มีปญหาให้กลับมามีสภาพการใช้งานได้ ๓. ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ช�ารุดและติดตั้งสุขภัณฑ์ ใหม่ อุปกรณ์ ใหม่ ให้กลับมาใช้งานได้ปกติ ๔. ยกระดับมาตรฐานการใช้น�้าได้อย่างถูกสุขลักษณะ ส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี ๕. ใช้เป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต 5.๓ การปฏิบัติงานประปา ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบน�้าดีที่ใช้บริโภค ชนิด ราคา และเทคนิควิธีการเปลี่ยนก๊อกน�้า ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เช่น ก๊อกน�้า เทปพันเกลียว คีมล็อก ๓. ศึกษาวิธีการเปลี่ยนก๊อกน�้าจากคู่มือ การวางแผนการท�างาน ตัวอย่าง : เปลี่ยนกอกน�้า 5๖ ๒. สรุปสาเหตุ คือ เกิดจากการช�ารุดภายในก๊อกน�้า ระบบการหมุนของลิ้นอัดลงบนบ่าลิ้นของตัวก๊อกน�้า 1 ขั้นสอน 27. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติงาน ชางในบาน : การปฏิบัติงานประปา จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 56-57 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการเปลี่ยน กอกนํ้าทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการเปลี่ยน กอกนํ้าใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 28. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการปฏิบัติ งานประปา : เปลี่ยนกอกนํ้า มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูใหนักเรียนชวยกันจําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออกเปนกลุมตาม ประเภทของการซอมแซม 29. ครูสาธิตการเปลี่ยนกอกนํ้าใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 30. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิตการ เปลี่ยนกอกนํ้าใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หาก นักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือ ตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดย ครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 31. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ประปา : เปลี่ยนกอกนํ้าที่เพื่อนออกมาสาธิตให ชม พรอมทั้งจดบันทึกประเด็นสําคัญตางๆ ไว เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานประปาใหนักเรียนฟงวา งานประปาเปนงาน ที่เกี่ยวของกับระบบนํ้าดี-นํ้าเสียของบานที่ใชอยูเปนประจําทุกวัน โดยระบบนํ้าดี เปนระบบนํ้าที่ใชบริโภคเพื่อสุขภาพและอนามัย สวนระบบนํ้าเสีย หรือระบบ นํ้าทิ้งเปนระบบระบายนํ้าเสียออกจากบาน ดังนั้น จึงควรใชงานประปาในการ จัดระบบนํ้าดี-นํ้าเสียใหถูกตองและเหมาะสมกับการอุปโภคบริโภคภายในและ ภายนอกที่พักอาศัย ทั้งยังเปนการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติไดอีกดวย นักเรียนควรรู 1 ลิ้น ใชสําหรับปดกั้น หรือควบคุมการไหลของนํ้าที่ไหลผานทอใหไดตาม ที่ตองการ ลิ้นที่มีขนาดตั้งแต 2 นิ้วขึ้นไป จะทําดวยบรอนซ สวนลิ้นที่มีขนาด ตั้งแตครึ่งนิ้วถึง 2 นิ้ว จะทําดวยเหล็กหลอ ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันดูภาพทอนํ้าประปา ที่รั่วซึม จากนั้นใหสมาชิกภายในกลุมรวมกันระดมสมองหาวิธีการ ซอมแซมทอนํ้าประปาใหกลับมาใชงานไดตามปกติ โดยใหแตละ กลุมเสนอแนะวิธีการซอมแซมดวยการนําปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช จากนั้นใหแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมา นําเสนอผลงานใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงคดานอยูอยาง พอเพียงและมุงมั่นในการทํางาน) นํา สอน สรุป ประเมิน T64
ขอสอบเนน การคิด การพันเกลียวต้องพันเทปเกลียวให้แน่น โดยให้เห็นซี่ของเกลียว ต้องพันให้ตึงและพันในแนวเดียว กับตัวของผู้พัน ควรพันให้มากรอบเข้าไว้ เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน�้า และเมื่อพันเสร็จให้ใช้แรงดึง เทปพันเกลียวให้ขาด เพื่อให้เทปพันเกลียวยึดติดกันให้แน่น Trick : วิธีการใชเทปพันเกลียวที่ถูกตอง ปดประตูน�้าไม่ให้น�้าไหลมาสู่ก๊อกน�้าที่จะเปลี่ยน ถอดก๊อกน�้าด้วยคีมล็อก โดยหมุนทวนเข็มนาฬกา ให้ออกจากท่อน�้าดี ท�าความสะอาดเกลียวในท่อน�้าดี พันเทปพันเกลียวเข้าที่เกลียวนอกของก๊อกน�้าให้แน่น และหนา ระวังอย่าพันแน่นมาก เพราะอาจท�าให้ท่อน�้าดีแตกได้ ñ น�าก๊อกน�้าตัวใหม่ที่พันเทปพันเกลียวแล้วใส่เข้าที่ เกลียวในท่อน�้าดี ใช้มือหมุนก๊อกน�้าตามเข็มนาฬกา ให้แน่นและอยู่ในต�าแหน่งที่เหมาะสมกับการใช้งาน ตรวจสอบความเรียบร้อยและสภาพการใช้งาน จัดเก็บเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ และท�าความ สะอาดสถานที่ปฏิบัติงานให้เรียบร้อย ò ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ประเมินผลการท�างาน เปดประตูน�้าให้น�้าเข้าสู่ระบบ สังเกตดูการรั่วซึมว่ามีน�้าหยดหรือไม่ หากยังมีน�้าหยดให้ใช้เทปพันเกลียวพันเพิ่มเข้าไป จากนั้นเปดก๊อกน�้าว่า สามารถใช้งานได้หรือไม่ หากไม่มีน�้าหยดแสดงว่าใช้งานได้ตามปกติ งานช่างในบ้าน 5๗ ปดประตูน�้าไม่ให้น�้าไหลมาสู่ก๊อกน�้าที่จะเปลี่ยน ถอดก๊อกน�้าด้วยคีมล็อก โดยหมุนทวนเข็มนาฬกา 1 2 ขั้นสอน 32. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานประปา : เปลี่ยนกอกนํ้า โดยครูเปน ผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติม ในสวนที่ยังขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 33. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบ รอยรั่วซึมของนํ้าประปาใหนักเรียนฟงวา “หากนักเรียนตองการตรวจสอบรอยรั่วซึม ของนํ้าประปา สามารถปฏิบัติได ดังนี้ • ใหปดกอกนํ้าทุกจุดในบริเวณที่อยูอาศัย สังเกตหนาปดมาตรวัดนํ้า (ตัวเลข 4 หลัก แถวบนในกรอบสี่เหลี่ยมจะบอกคาปริมาตร นํ้าเปนจํานวนเต็ม มีหนวยเปนลูกบาศกเมตร หรือคิว สวนเข็มชี้ตัวเลขในวงกลม 3 วง จะบอกคาปริมาตรนํ้าเปนหนวยทศนิยม ของลูกบาศกเมตร) หากตัวเลขบนหนาปด มาตรวัดนํ้ามีการเคลื่อนไหว แสดงใหเห็นวา มีการรั่วซึมของทอประปาเกิดขึ้น • ตรวจสอบกอกนํ้า ฝกบัว เครื่องซักผา และอุปกรณที่เกี่ยวของตางๆ ทุกประเภท หากพบวาเมื่อปดสนิทโดยไมมีการใชนํ้า แตยังคงมีนํ้ารั่วซึมออกมา ควรรีบดําเนินการ ซอมแซมโดยทันที • หากใชสุขภัณฑประเภทชักโครก ใหใสสาร ยอมผาลงในถังพักนํ้าของโถชักโครก แลว จึงสังเกต หากพบวามีนํ้าสียอมผาไหลลงสู โถชักโครก แสดงใหเห็นวาชักโครกมีปญหา เรื่องการรั่วไหลของตัวปด-เปดนํ้าชักโครก ควรรีบดําเนินการซอมแซมโดยทันที • หากพบวามีนํ้าเปยกนองที่บริเวณพื้นบาน หรือพื้นขางบานอยูตลอดเวลา หรือมีนํ้าผุด ใหเห็นเปนระยะ แสดงใหเห็นวามีการรั่วซึม ของทอประปาในบริเวณนั้น ควรรีบดําเนิน การซอมแซมโดยทันที” เพราะเหตุใดจึงนิยมนําทอพีวีซีมาใชในงานประปา 1. แข็งแรง ทนทาน 2. ทนแรงกระแทกไดดี 3. ราคาถูก ติดตั้งงาย มีนํ้าหนักเบา 4. ใชอุดปลายทอเมื่อทางเดินทอสิ้นสุดลง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะทอพีวีซีมีราคาถูก ติดตั้งงาย และมีนํ้าหนักเบา มีความตานทานกรดและดาง และทนตอการ กัดกรอนไดดี แตไมมีความยืดหยุน ไมทนตอความรอนและ แรงกระแทก) นักเรียนควรรู 1 กอกนํ้า ควรเลือกซื้อกอกนํ้าที่ไดมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม (มอก.) สามารถทําความสะอาดไดงาย พื้นผิวคงทน ไมลอก หรือเกิดสนิมเขียวจากนํ้ายา ทําความสะอาดหองนํ้า และควรเลือกกอกนํ้าที่มีความเหมาะสมกับวัสดุที่ตองการ จะติดตั้ง เชน กอกนํ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับอางลางหนา ปลายกอกนํ้าควรยื่น ลงไปในอางลางหนาอยางนอย 5 เซนติเมตร เพื่อการใชงานที่สะดวกสบาย และลดการกระเด็นของนํ้า 2 คีมล็อก ใชจับนอต หรือจับชิ้นงานที่แนนมาก เพื่อปองกันการหมุน หรือเลื่อน โดยปากคีมสามารถปรับขยายใหกวางได และล็อกใหแนน ปลายดามมีสกรูปรับ มีทั้งแบบธรรมดา แบบปากแหลม และแบบใชงานเชื่อม การจับคีมควรจับให ดามคีมอยูที่ปลายนิ้วทั้งสี่ ใชอุงมือและนิ้วหัวแมมือกดดามคีมอีกดาน จะชวย ทําใหมีกําลังในการจับ หรือตัดที่ดีมากขึ้น นํา สอน สรุป ประเมิน T65
ขอสอบเนนการคิด การวิเคราะหงาน ๑. ตรวจสอบระบบไฟฟาทั้งระบบ ไดแก แผงเมนสวิตช สวิตชเปด-ปด ระบบสายไฟ และองคประกอบ ของหลอดไฟ ๒. สรุปสาเหตุ คือ หลอดไฟไมสวาง เพราะในระบบใดระบบหนึ่งเกิดการบกพรอง ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจซอมหลอดไฟดวยตนเอง ขอบขายของงานไฟฟา เปนการนําทักษะกระบวนการทํางานไฟฟามาปฏิบัติเกี่ยวกับ การเดินสายไฟฟา การตอวงจรไฟฟา สวิตชปลั๊ก การซอมแซมเครื่องมือ เครื่องใชไฟฟา การเลือกซื้อเครื่องมือ เครื่องใชไฟฟาไดอยางปลอดภัย ประโยชนที่ ไดรับ มีดังนี้ ๑. ใชเครื่องมืองานชางไฟฟาไดถูกตอง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. ชวยเหลือตนเองได เมื่อประสบกับปญหาเกี่ยวกับงานไฟฟาภายในและภายนอกบาน ๓. สราง หรือผลิต ซอมแซม ปรับปรุง แกไข เครื่องมือ เครื่องใชไฟฟาไดถูกตอง ๔. สงเสริมการเรียนรูเรื่องเทคโนโลยี การใชไฟฟาอยางประหยัดและมีประสิทธิภาพ ๕. ใชเปนพื้นฐานในการศึกษาตอ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต ๕.๔ การปฏิบัติงานไฟฟา ตัวอยาง : ซอมหลอดไฟ การวางแผนการทํางาน ๑. ศึกษาหาความรูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซอมหลอดไฟ ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ เชน ไขควงลองไฟฟา ไขควงปากแฉก ไขควงปากแบน มีดคัตเตอร คีมปอกสายไฟฟา ๓. ศึกษาวิธีการซอมหลอดไฟจากคูมือ ปญหา หรือความตองการ เปดสวิตช ไฟแลวหลอดไฟไมสองสวาง ๕๘ การเดินสายไฟฟา การตอวงจรไฟฟา สวิตชปลั๊ก การซอมแซมเครื่องมือ เครื่องใชไฟฟา ๑. ศึกษาหาความรูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซอมหลอดไฟ ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ เชน ไขควงลองไฟฟา ไขควงปากแฉก ไขควงปากแบน มีดคัตเตอร คีมปอกสายไฟฟา 1 2 3 ขั้นสอน 34. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติ งานชางในบาน : การปฏิบัติงานไฟฟา จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 58-59 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการซอม หลอดไฟทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการซอม หลอดไฟใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 35. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการปฏิบัติ งานไฟฟา : ซอมหลอดไฟ มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูใหนักเรียนชวยกันจําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออกเปนกลุมตามประเภท ของการซอมแซม 36. ครูสาธิตการซอมหลอดไฟใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 37. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิตการ ซอมหลอดไฟใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หาก นักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือ ตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดย ครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 38. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ไฟฟา : ซอมหลอดไฟที่เพื่อนออกมาสาธิตใหชม พรอมทั้งจดบันทึกประเด็นสําคัญตางๆ ไว นักเรียนควรรู 1 สวิตช ควรติดตั้งใหอยูหางจากพื้นขึ้นไปอยางนอย 1 เมตร และควรเลือก ขนาดของสวิตชใหเหมาะสมกับอุปกรณไฟฟาที่ใช ตองเปนฉนวนไฟฟา ไมใช วัตถุติดไฟ ทนตอสภาวะที่มีความชื้นและความรอนไดดี 2 ไขควงลองไฟ ใชสําหรับตรวจกระแสไฟฟาในวงจร หากมีกระแสไฟฟา คงอยู หลอดไฟเรืองแสงจะปรากฏแสงสวางขึ้น ในขณะใชงานผูปฏิบัติงาน ควรสวมถุงมือ เพื่อปองกันไฟฟารั่วดวย 3 คีมปอกสายไฟฟา ใชสําหรับปอกฉนวนสายไฟฟา มี 2 แบบ คือ แบบที่ใช กับสายไฟเสนใหญและแบบที่ใชกับสายไฟเสนเล็ก ไมควรนําไปใชงานในที่ ที่ตองไดรับความรอนสูง เชน ใชจับเหล็กรอนในเตาเผา จับชิ้นงานเชื่อมแกส หรือเชื่อมไฟฟา เพราะจะทําใหคุณภาพของเหล็กเสียได บุคคลในขอใดปฏิบัติตนในการปฏิบัติงานชางไฟฟาไมปลอดภัย 1. ตนใชคีมเหล็กจับสายไฟเปลือยแทนมือ เพื่อปองกันไฟดูด 2. นํ้าสวมถุงมือหนังกอนการซอมแซมอุปกรณเครื่องใชไฟฟา 3. นิดสวมรองเทายางกอนการซอมแซมอุปกรณเครื่องใชไฟฟา 4. ตาลสับสะพานไฟลงกอนที่จะทําการซอมแซมไฟฟาภายในบาน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะการใชโลหะ หรือเหล็กจับสาย ไฟเปลือย หรือสายไฟที่ไมมีฉนวนจะทําใหไฟดูดได เนื่องจากโลหะ เปนตัวนําไฟฟา ดังนั้น จึงไมควรใชโลหะในการจับสายไฟเปลือย) นํา สอน สรุป ประเมิน T66
ควรเลือกจากอายุการใชงานที่ยาวนาน เลือกจากคาความถูกตองของสี เลือกระดับความสวาง ใหเหมาะสมกับพื้นที่ และรูปแบบการดําเนินชีวิต เลือกที่รูปทรงเหมาะสมตอการตกแตง เลือกแบบที่ หรี่ไฟได และเลือกจากโทนสีที่ปรับตามอารมณ ได Trick : เทคนิคการเลือกหลอดไฟใหประหยัดและคุมคา ตรวจสอบแผงเมนสวิตชสายไฟเขา-ออก ตรวจสอบสวิตชเปด-ปดของหลอดไฟดวยไขควงทดลองไฟฟา ปรากฏวามีกระแสไฟฟาไหลผาน ตรวจสอบบัลลาสต สตารตเตอร และตัวหลอดไฟ ปรากฏวาสตารตเตอรเสีย ใหถอดสตารตเตอรออก โดยการหมุนทวนเข็มนาฬกา นําสตารตเตอรตัวใหม ใสเขาไปแทนที่ โดยหมุนตามเข็มนาฬกา ñ ò ทดลองเปดสวิตชไฟฟาของหลอดไฟ จัดเก็บ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ และทําความสะอาด สถานที่ปฏิบัติงานใหเรียบรอย ó ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ประเมินผลการทํางาน เปดสวิตช ไฟฟา หากมีแสงสวางแสดงวาใชงานไดตามปกติ รวมถึงควรสังเกตตัวอุปกรณ โดยรวม หากมี อุปกรณที่เกา แตก วัสดุเปลี่ยนสี ควรจัดเปลี่ยนทันที เพราะอาจทําใหเกิดการลัดวงจรในระบบ งานช่างในบ้าน ๕๙ ตรวจสอบบัลลาสต สตารตเตอร และตัวหลอดไฟ ปรากฏวาสตารตเตอรเสีย ใหถอดสตารตเตอรออก 1 2 ขั้นสอน 39. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานไฟฟา : ซอมหลอดไฟ โดยครูเปนผูตรวจ สอบความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวน ที่ยังขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 40. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะอาการ ชํารุดของหลอดไฟใหนักเรียนฟงวา “การชํารุด ของหลอดไฟเกิดขึ้นไดจากหลายสาเหตุ เชน ไสหลอดมีความเปนปกติทุกอยาง แตไม สามารถเปด-ปดหลอดได สาเหตุของอาการ ชํารุดยังไมทราบแนชัดวาเกิดขึ้นจากสิ่งใด แตคาดวาอาจเกิดจากแรงดันที่สูงมากเกินไป ไสหลอดขาด สาเหตุของอาการชํารุดเกิดจาก แรงดันไฟฟาที่แรงเกินไป สงผลใหไสหลอด มีความรอนสูง ตัวหลอดมีลักษณะโปงพอง และการเกิดเขมาดําภายในหลอด สาเหตุ ของอาการชํารุดเกิดจากการเปลี่ยนหลอด ดวยมือเปลา” 41. ครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใดงานไฟฟาในบานจึงมีความ สําคัญตอการดํารงชีวิตของมนุษยในยุค ปจจุบัน (แนวตอบ มนุษยไดมีการนําเอาพลังงาน ไฟฟามาใชในรูปแบบตางๆ ไมวาจะเปน พลังงานกล พลังงานความรอน พลังงาน แสงสวาง พลังงานเสียง สงผลใหมนุษยมี ความสะดวกสบายในการประกอบกิจกรรม และการดํารงชีวิตประจําวัน) • นักเรียนไดรับประโยชนอยางไรจากการฝก ปฏิบัติงานชางไฟฟา (แนวตอบ สามารถใชเครื่องมืองานชางไฟฟา ไดอยางถูกตอง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย สามารถซอมแซมอุปกรณเกี่ยวกับไฟฟาได ดวยตนเอง) กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน 2. สมาชิกแตละกลุมรวมกันสํารวจหลอดไฟตามอาคารเรียน หรือ สถานที่ตางๆ ภายในโรงเรียนวามีหลอดไฟชํารุดหรือไม หากมี ใหทําการจดบันทึกไว โดยมีรายละเอียด เชน สถานที่ที่พบวามี หลอดไฟชํารุด ลักษณะอาการ 3. สมาชิกแตละกลุมจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ซอมแซมใหพรอมและเหมาะสมกับลักษณะอาการที่เกิดขึ้น 4. สมาชิกในกลุมรวมกันปฏิบัติงานซอมแซม โดยมีครูเปนผูคอยให คําแนะนําและใหความชวยเหลือ 5. ครูและนักเรียนรวมกันประเมินผลการปฏิบัติงานซอมแซม หลอดไฟ นักเรียนควรรู 1 บัลลาสต เปนอุปกรณในวงจรแสงสวาง ชวยใหการทํางานมีความสมบูรณ มีผลตอปริมาณแสงสวาง อายุการใชงาน และพลังงานไฟฟาในวงจร ทําหนาที่ สรางแรงดันไฟฟา ในขณะที่หลอดเริ่มทํางานจะทําหนาที่ลดแรงดันไฟฟาใหตํ่าลง นอกจากนี้ ยังทําหนาที่จํากัดกระแสไฟฟาไมใหไหลผานหลอดมากจนเกินไป 2 สตารตเตอร วิธีการสังเกตวาสตารตเตอรเสียหรือไม มี 2 วิธี ดังนี้ • หากสตารตเตอรขาด เมื่อใสเขาไปแลวจะเหมือนกับวายังไมไดใส ซึ่งจะ แสดงอาการหลอดไมกระพริบ หรือไมมีอาการใดๆ ปรากฏใหเห็น • หากสตารตเตอรช็อต เมื่อใสเขาไปแลวหลอดจะติดเปนแสงสีสม ที่สวนหัวและสวนทาย และจะคางอยูอยางเชนนั้น ซึ่งจะไมสวางเหมือนในตอน ที่ใชงานไดตามปกติ นํา สอน สรุป ประเมิน T67
ขอสอบเนนการคิด ปัญหา หรือความต้องการ เก้าอี้นั่ง ลูกล้อหมุนรองรับน�้าหนักช�ารุด แตก และหลวม ท�าให้หลุดออกได้ง่าย การวิเคราะห์งาน ๑. ตรวจสภาพการใช้งานของเก้าอี้ ได้แก่ เกลียวในที่ ใส่ล้อหมุน ลูกล้อหมุนที่เหลืออยู่ และสภาพโดยรวมของเก้าอี้ ๒. สรุปสาเหตุ คือ ลูกล้อหมุนรับน�้าหนักรองรับเก้าอี้ช�ารุด ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจเปลี่ยนลูกล้อหมุนเก้าอี้ด้วยตนเอง ขอบข่ายของงานโลหะ เป็นการน�าทักษะกระบวนการงานโลหะมาใช้ ในการเขียนแบบ ออกแบบ เพื่อการวัด ตัด เจาะ หล่อ เคาะ พับ ประกอบขึ้นรูป แปลงรูป และเชื่อมโลหะ สร้าง หรือผลิต ซ่อมแซม ปรับปรุง แก้ไข เพื่อการพัฒนาคุณภาพในการด�ารงชีวิตประจ�าวันได้เป็นอย่างดี ประโยชน์ที่ ได้รับ มีดังนี้ ๑. ใช้เครื่องมืองานช่างโลหะได้ถูกต้อง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. สร้าง หรือผลิตชิ้นงานเกี่ยวกับงานโลหะได้ด้วยตนเอง ๓. ซ่อมแซม ปรับปรุง แก้ไขงานโลหะให้กลับมาใช้งานได้ ๔. ลดการใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก โดยเลือกใช้ โลหะเป็นวัสดุแทน ๕. ใช้เป็นพื้นฐานการศึกษาต่อ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต การวางแผนการท�างาน ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดลูกล้อหมุนเก้าอี้ ราคา และเทคนิควิธีการเปลี่ยนลูกล้อหมุน เก้าอี้ ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ในการเปลี่ยนลูกล้อหมุนเก้าอี้ เช่น เทปพันเกลียว ประแจขัน หรือประแจปากตาย ๓. ศึกษาวิธีการเปลี่ยนลูกล้อหมุนเก้าอี้จากคู่มือ 5.5 การปฏิบัติงานโลหะ ตัวอย่าง : ซ่อมเก้าอี้ ๖0 หรือประแจปากตาย ๓. ศึกษาวิธีการเปลี่ยนลูกล้อหมุนเก้าอี้จากคู่มือ 1 ขั้นสอน 42. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติ งานชางในบาน : การปฏิบัติงานโลหะ จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 60-61 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการซอม เกาอี้ทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการซอมเกาอี้ใหเพื่อน ฟงหนาชั้นเรียน 43. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการปฏิบัติ งานโลหะ : ซอมเกาอี้ มาใหนักเรียนดู จากนั้น ครูใหนักเรียนชวยกันจําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออกเปนกลุมตามประเภท ของการซอมแซม 44. ครูสาธิตการซอมเกาอี้ใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 45. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิต การซอมเกาอี้ใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หาก นักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือ ตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดย ครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 46. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน โลหะ : ซอมเกาอี้ที่เพื่อนออกมาสาธิตใหชม พรอมทั้งจดบันทึกประเด็นสําคัญตางๆ ไว นักเรียนควรรู 1 ประแจปากตาย เปนอุปกรณที่ใชในการขันเกลียวนอต ทํามาจากเหล็ก แบงเปนหลายชนิดตามการใชงาน เชน • ประแจแหวน มีลักษณะเปนแหวนวงกลม ภายในวงแหวนจะมีเขี้ยว ใชในการจับเหลี่ยมแปนเกลียวและสลักเกลียว • ประแจปากตายปากคู ปลายทั้งสองดานมีลักษณะเปนรูปตัวยู มีขนาดที่ ไมเทากัน เหมาะกับการใชงานในที่แคบ และไมควรขันแนนจนเกินไป เพราะจะ ทําใหสลักเกลียวชํารุดได • ประแจหกเหลี่ยม หรือประแจแอล มีลักษณะเปนตัวแอล ลําตัวมีลักษณะ เปนหกเหลี่ยม ใชในการขันนอตที่มีหัวเปนหลุมหกเหลี่ยม หรือสลักเกลียวที่เปน หัวกลม สวนกลางเปนรูหกเหลี่ยม ใชสําหรับงานที่มีความพิเศษ เชน สลักเกลียว ปรับชิ้นงาน ขอใดเปนการปฏิบัติงานโลหะ 1. เปลี่ยนลูกลอเกาอี้ 2. เคลือบสีผิวเกาอี้ไม 3. เปลี่ยนกอกนํ้าอางลางมือ 4. เปลี่ยนหลอดไฟฟลูออเรสเซนต (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะเปนงานโลหะที่มีการซอมแซม ปรับปรุง แกไข หรือเชื่อมโลหะใหสามารถกลับมาใชงานไดตาม ปกติ สวนเคลือบสีผิวเกาอี้ไม เปนงานเคลือบผิว เปลี่ยนกอกนํ้า อางลางมือ เปนงานประปา และเปลี่ยนหลอดไฟฟลูออเรสเซนต เปนงานไฟฟา) นํา สอน สรุป ประเมิน T68
ขอสอบเนน การคิด ควรเลือกใช้ประแจที่มีขนาดของปากและความยาวของด้ามเหมาะสมกับลักษณะของงานที่ปฏิบัติ เมื่อสวมประแจเข้ากับหัวนอต หรือหัวสกรู ปากของประแจต้องพอดี การขันจะใช้วิธีการดึงเข้าหาตัวเสมอ Trick : วิธีการใชประแจที่ถูกตอง ถอดลูกล้อหมุนเก้าอี้ ท�าความสะอาดเกลียวในให้เรียบร้อย พันเทปพันเกลียวเข้าที่เกลียวพันขาล้อหมุน ให้แน่น ñ น�าล้อหมุนใส่ขาเก้าอี้ ใช้ค้อนตอกล้อหมุนเข้ากับขาเก้าอี้ ให้แน่น จัดเก็บเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ และท�าความสะอาด สถานที่ปฏิบัติงานให้เรียบร้อย ò ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ประเมินผลการท�างาน ตรวจสอบความหนาแน่นของล้อหมุน หากล้อหมุนแน่นแล้ว แสดงว ่าใช้งานได้ตามปกติ หากล้อหมุนยังไม ่แน ่นให้ใช้ เทปพันเกลียวพันซ�้าอีกครั้ง งานช่างในบ้าน ๖๑ ถอดลูกล้อหมุนเก้าอี้ ท�าความสะอาดเกลียวในให้เรียบร้อย พันเทปพันเกลียวเข้าที่เกลียวพันขาล้อหมุน 1 ขั้นสอน 47. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานโลหะ : ซอมเกาอี้ โดยครูเปนผูตรวจสอบ ความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยัง ขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 48. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลหะใหนักเรียนฟง วา “โลหะ หรือ Metal เปนวัสดุประเภทหนึ่ง ที่นิยมนํามาใชประโยชนกันอยางกวางขวาง เพราะมีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ เชน เปนตัวนําไฟฟาและตัวนําความรอนที่ดี มีความแข็งแรง ทนทาน ในปจจุบันไดมี การนําโลหะมาใชเปนสวนประกอบอยางหนึ่ง ในการผลิตสิ่งของเครื่องใช เครื่องเรือน หรือ เฟอรนิเจอร เพื่ออํานวยความสะดวกในการ ดํารงชีวิตประจําวันของมนุษยมากขึ้น โดย สิ่งของเครื่องใช เครื่องเรือนที่ผลิตจากโลหะ แบงเปน 4 ประเภท ไดแก • เหล็ก คุณสมบัติที่สําคัญ คือ มีความ ทนทานตอการกัดกรอน สามารถนํามาขึ้น เปนรูปทรงตางๆ ได มีความยืดหยุนที่ดี และนําความรอนไดดี • เครื่องเงิน คุณสมบัติที่สําคัญ คือ สามารถ นํามาขึ้นเปนรูปทรงตางๆ ได เนื้อจะออน และเหนียว ตีแผเปนเสนบางๆ ไดงาย • อะลูมิเนียม คุณสมบัติที่สําคัญ คือ มีความ ทนทานตอการกัดกรอน ทนทานตอสารเคมี ในสภาวะสิ่งแวดลอมตางๆ ไดดี มีนํ้าหนัก เบา และมีความหนาแนนตํ่า • สเตนเลส คุณสมบัติที่สําคัญ คือ มีความ ทนทานตอการกัดกรอน สามารถนํามาขึ้น เปนรูปทรงตางๆ ได มีความตานทานตอ อุณหภูมิสูงและตํ่า ปลอดภัยสูงและถูก สุขลักษณะ ชวยอนุรักษสิ่งแวดลอม สามารถนํากลับมาใชงานใหมได” คอนชนิดใดเหมาะสําหรับใชเคาะโลหะ เพื่อขึ้นรูปแผนโลหะ 1. คอนยาง 2. คอนหงอน 3. คอนปอนด 4. คอนหัวกลม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะเปนคอนที่เหมาะสําหรับใช เคาะโลหะ เพื่อขึ้นรูปแผนโลหะ ซึ่งเปนคอนที่นิยมใชกันมากที่สุด มีลักษณะหนาเรียบ สามารถใชงานไดทั้งสองหนา) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปฏิบัติงานโลหะใหนักเรียนฟงวา ในขณะ ปฏิบัติงานโลหะ ผูปฏิบัติงานควรคํานึงถึงความปลอดภัยเปนสําคัญ ไมวาจะเปน การใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชาง เชน คอน ประแจ เครื่องมือเชื่อมโลหะ ควรใชอยางระมัดระวัง และในขณะปฏิบัติงาน ไมควรเลน หรือหยอกกัน เพราะ อาจทําใหเกิดอันตรายได ดังนั้น จึงควรปฏิบัติงานดวยความตั้งใจ มีสมาธิ เพื่อใหเกิดความปลอดภัยตอตนเองและบุคคลรอบขาง นักเรียนควรรู 1 เทปพันเกลียว ปจจุบันมีอยู 4 สี ไดแก สีเขียว มีความบาง สั้น ขาดงาย และราคาถูก สีฟา มีความบาง ยาว และขาดงาย สีดําและสีแดง มีความหนา ขาดยากกวา และมีราคาสูง นํา สอน สรุป ประเมิน T69
ขอสอบเนนการคิด ปัญหา หรือความต้องการ ชั้นวางของมีสภาพทรุดโทรม บริเวณขาโต๊ะ บางส่วนเริ่มมีสนิมขึ้น การวิเคราะห์งาน ๑. ตรวจสอบสภาพทั่ว ๆ ไป ถึงความสามารถในการใช้งาน เช่น ความแข็งแรงของโครงสร้างชั้นวางของ ๒. สรุปสาเหตุ คือ สามารถซ่อมสีชั้นวางของได้ เพราะพื้นผิวเดิมไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนโครงสร้าง ของชั้นวางของมีความแข็งแรงดี ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจซ่อมสีชั้นวางของ โดยการใช้สีเดิม หรือเปลี่ยนสี ใหม่ ให้ดูสะอาดตา การวางแผนการท�างาน ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานไม้และการเคลือบผิว ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เช่น สีสเปรย์ สเปรย์แล็กเกอร์ ไขควงปากแฉก กระดาษทราย ๓. ศึกษาวิธีการซ่อมสีชั้นวางของจากคู่มือ ขอบข่ายของงานเคลือบผิว ผู้ปฏิบัติงานต้องศึกษาและท�าความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิควิธีการ เคลือบผิวชิ้นงานของวัสดุแต่ละประเภทที่มีความแตกต่างกัน และเลือกใช้ให้เหมาะสมมากที่สุด ประโยชน์ที่ ได้รับ มีดังนี้ ๑. ใช้เครื่องมืองานเคลือบผิวได้ถูกต้อง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. สร้าง หรือผลิตชิ้นงานเกี่ยวกับงานเคลือบผิวได้ด้วยตนเอง ๓. ซ่อมแซม ปรับปรุง แก้ไขชิ้นงานเคลือบผิวที่มีปญหาให้กลับมาใช้งานได้ ๔. ช่วยเพิ่มมูลค่าของชิ้นงานให้มีมูลค่าสูงขึ้น ๕. ใช้เป็นพื้นฐานการศึกษาต่อ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต 5 .๖ การปฏิบัติงานเคลือบผิว ตัวอย่าง : การซ่อมสีชั้นวางของ เปลี่ยนเกาอี้ตัวเกาใหเปนตัวโปรด ๖๒ ขอบข่ายของงานเคลือบผิว ผู้ปฏิบัติงานต้องศึกษาและท�าความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิควิธีการ ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานไม้และการเคลือบผิว ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เช่น สีสเปรย์ สเปรย์แล็กเกอร์ ไขควงปากแฉก กระดาษทราย ชั้นวางของมีสภาพทรุดโทรม บริเวณขาโต๊ะ บางส่วนเริ่มมีสนิมขึ้น 1 3 2 ขั้นสอน 49. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติ งานชางในบาน : การปฏิบัติงานเคลือบผิว จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 62-63 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การซอมสีชั้นวางของทีละขั้นตอน โดยครูขอ อาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การซอมสีชั้นวางของใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 50. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ปฏิบัติงานเคลือบผิว : ซอมสีชั้นวางของ มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูใหนักเรียนชวยกัน จําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออก เปนกลุมตามประเภทของการซอมแซม 51. ครูสาธิตการซอมสีชั้นวางของใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 52. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิตการ ซอมสีชั้นวางของใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 53. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน เคลือบผิว : ซอมสีชั้นวางของที่เพื่อนออกมา สาธิตใหชม พรอมทั้งจดบันทึกประเด็นสําคัญ ตางๆ ไว นักเรียนควรรู 1 งานเคลือบผิว เปนการเคลือบผิววัสดุชนิดตางๆ ซึ่งอาจทําไดโดยวิธีการ ชุบ การพน หรือการทาลงบนพื้นผิวของชิ้นงาน ซึ่งงานเคลือบผิวจัดเปนขั้นตอน สุดทายของการสราง หรือการผลิตชิ้นงาน 2 สนิม เปนการผุกรอนที่เกิดขึ้นกับโลหะจําพวกเหล็ก โดยมีนํ้าและออกซิเจน เปนปจจัยสําคัญที่ทําใหเกิดการผุกรอนขึ้น 3 แล็กเกอร การเคลือบผิวไมนิยมเคลือบดวยแล็กเกอร เนื่องจากมีความมัน สามารถทนนํ้า ทนความรอน ทนความชื้น ทนสารเคมี และทนตอความเปนกรดดางไดดี โดยถูกออกแบบมาสําหรับการทํางานแบบพนมากกวา เพราะแหงเร็ว ชวยใหงานออกมาเรียบเนียน สวยงาม สะดวก และรวดเร็ว กอนพนแล็กเกอรควร เช็ดผิวงานกอน เพื่อปองกันไมใหสิ่งสกปรก หรือฝุนละอองติดอยูบนผิวชิ้นงาน ซึ่งจะทําใหเมื่อพนแล็กเกอรไปแลวจะทับลงไปเห็นรองรอย ทําใหดูไมสวยงาม คุณลักษณะสําคัญขอใดของแล็กเกอรที่ทําใหปจจุบันนิยมนํามา ใชในการเคลือบผิววัสดุที่เปนไม 1. วิธีการทา ชวยใหแหงชาขึ้น 2. วิธีการพน ชวยใหแหงเร็วขึ้น 3. วิธีการชุบ ชวยใหผิวเรียบเนียนขึ้น 4. ไมมีกลิ่น ไมกอใหเกิดอันตรายตอสุขภาพ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการใชแล็กเกอรเคลือบผิว วัสดุที่เปนไมดวยวิธีการพน จะชวยใหแหงเร็วขึ้น ซึ่งใน 1 วัน สามารถพนไดหลายรอบ จึงทําใหชิ้นงานมีความเรียบเนียนและ สวยงามมากยิ่งขึ้น) นํา สอน สรุป ประเมิน T70
ขอสอบเนน การคิด แบ่งการพ่นเป็น ๓ ระยะ ห่างกัน ๑๐-๑๕ นาที ครั้งแรกให้พ่นห่าง ๆ ในลักษณะที่สีตกลงไป ที่ชิ้นงานเอง ครั้งที่ ๒ พ่นใกล้ชิ้นงานให้ทั่ว ห้ามพ่นอัดสีชิ้นงาน ครั้งที่ ๓ พ่นใกล้ชิ้นงานให้สีอัดเข้ากับ ชิ้นงาน ห้ามพ่นจุดเดียวและให้พ่นครั้งเดียวให้เสร็จ Trick : เทคนิคการพนสีสเปรยแบบไมมีเม็ด (สีทั่ว ๆ ไป) น�าแผ่นกระจกและจุกยางทั้ง ๔ ชิ้น ออกจากชั้นวางของ ใช้ไขควงไขนอตออกจากชั้นวางของ ขัดพื้นผิว ด้วยกระดาษทรายหยาบ ใช้ผ้าสะอาดเช็ดท�าความสะอาดพื้นผิวชั้นวางของให้เรียบร้อย ñ เคลือบผิวชั้นวางของด้วยสีสเปรย์สีขาว ควรพ่นสีบาง ๆ ไม่หนา จนเกินไป เพราะจะท�าให้สีเยิ้ม ควรพ่น ๒-๓ ครั้ง ทิ้งไว้ ให้แห้ง เคลือบผิวทับผิวหน้าสีด้วยสเปรย์แล็กเกอร์อีก ๑-๒ ครั้ง ทิ้งไว้ ๑-๒ ชั่วโมง จัดเก็บเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ท�าความสะอาด สถานที่ปฏิบัติงานให้เรียบร้อย ò ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ประเมินผลการท�างาน ทดสอบความแข็งแรงและตรวจสอบความสม�่าเสมอของสี และในขั้นตอนการพ่นด้วยสีสเปรย์ หรือสเปรย์ แล็กเกอร์ หากพบว่าหนาให้ ใช้กระดาษทรายละเอียดลูบออก งานช่างในบ้าน ๖๓ 1 ขั้นสอน 54. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานเคลือบผิว : ซอมสีชั้นวางของ โดยครู เปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบาย เพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรองจากการ ปฏิบัติงาน 55. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการพนสี สเปรยใหนักเรียนฟงวา “สถานที่ที่ใชในการ พนสีสเปรยควรมีอากาศถายเทไดสะดวก ปราศจากฝุนละออง วัสดุที่ตองการนํามา พนตองมีผิวเรียบเนียน ปราศจากสิ่งสกปรก ตางๆ เชน คราบแวกซ คราบนํ้ามัน คราบ ไขมัน กอนพนควรทดสอบพนสีสเปรยลงบน พื้นที่ขนาดเล็ก ๆ กอน เพื่อความปลอดภัย” 56. ครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใดจึงตองมีการซอมสีชั้นวางของ (แนวตอบ เหตุผลที่ตองซอมแซมสีชั้นวางของ เนื่องจากพื้นผิวเดิมของชั้นวางของมีความ เสียหายเพียงเล็กนอย สามารถซอมแซม เรื่องสีไดดวยตนเอง) • เพราะเหตุใดจึงไมควรพนสีวัสดุชนิดตางๆ ในชวงที่อากาศชื้น หรือมีฝนตก (แนวตอบ สาเหตุที่ไมควรพนสีวัสดุชนิด ตางๆ ในชวงที่อากาศชื้น หรือมีฝนตก เนื่องจากจะทําใหสีแหงชา ไมเงางาม และ อาจทําใหพื้นผิวของวัสดุขรุขระ หรือไม เรียบเนียนได) • เพราะเหตุใดงานชางในบานเกือบทุกสาขา จึงจําเปนตองใชงานเคลือบผิวเปนตัวชวย ในขั้นตอนสุดทายของการปฏิบัติงาน (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความ คิดเห็นไดอยางอิสระ เชน เพื่อใหชิ้นงาน ออกมามีคุณภาพ มีความสวยงาม คงทน และมีคุณคาที่เหมาะตอการใชงาน) ขอใดเปนการปฏิบัติงานชางที่ไมปลอดภัย 1. สับสะพานไฟลงกอนจะทําการเปลี่ยนหลอดไฟ 2. เมื่อปฏิบัติงานเสร็จแลวจัดเก็บอุปกรณตางๆ ใหเขาที่ 3. สวมใสกางเกงขาสั้นและเสื้อแขนกุดเมื่อตองการพนสีชิ้นงาน 4. เมื่อไสขอบประตูเรียบรอยแลว ใหปดกวาดเช็ดถูฝุนละอองออก (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะอาจทําใหละอองของสี ติดตามผิวหนัง ซึ่งอาจทําใหเกิดอาการแพ หรือผิวหนังอักเสบ สงผลใหเกิดอันตรายตอสุขภาพรางกายของตนเองได) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพนสีสเปรยใหนักเรียนฟงวา การพนสีส เปรยควรพนสีขาวเพื่อรองพื้น ซึ่งจะชวยใหสีเรียบเนียนกอนเปนลําดับแรก ทิ้งไวประมาณ 30 นาที แลวจึงพนซํ้าประมาณ 2-3 ครั้ง ทั้งนี้ ไมควรพนในชวง ที่มีอากาศชื้น หรือฝนตก เพราะจะทําใหสีแหงชาและไมเงางามได นักเรียนควรรู 1 สเปรยแล็กเกอร ควรพนในที่โลง ที่มีอากาศถายเทไดสะดวก และสวมผา ปดจมูกทุกครั้ง เพราะสเปรยแล็กเกอรมีสวนผสมของสารเคมีที่เปนอันตราย ตอสุขภาพ สําหรับกระปองสเปรยที่ใชงานหมดแลว ควรนําไปทิ้งในถังขยะ มีพิษ ไมควรนําไปเผาไฟ หรือทิ้งในที่สาธารณะ เพราะสารเคมีที่หลงเหลือ อยูในกระปองจะกอใหเกิดมลพิษตอสิ่งแวดลอมได นํา สอน สรุป ประเมิน T71
กิจกรรม Mini Project การซ่อมแซม ดัดแปลง แก้ ไข บ�ารุงรักษา และติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ภายในบ้าน ให้มีสภาพการใช้งานที่ดีนับเป็นสิ่งส�าคัญ เพราะเป็นการยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ต ่าง ๆ ตลอดจนสร้างและผลิตชิ้นงานมาใช้ ในบ้านได้เอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ทักษะกระบวนการทางช่าง ทั้งสิ้น เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ในการปฏิบัติงานจะต้องค�านึงถึงความปลอดภัยเป็นส�าคัญ การเรียนรู้งานช่างในบ้านของนักเรียนก็เพื่อให้รู้จักสังเกต ตรวจสอบว่าส่วนใดของบ้าน เครื่องมือ เครื่องใช้ที่จะต้องมีการซ่อมแซม ดัดแปลง แก้ไข โดยวิเคราะห์งาน วางแผนการปฏิบัติงาน ประเมินผลการท�างานในเบื้องต้นก่อนที่จะให้ช่างมืออาชีพมาท�าการซ่อมแซมให้หากซ่อมแซมเอง ไม่ได้ และเพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ ฝกฝนจนเกิดความช�านาญ และพัฒนาตนเองไปสู่การเป็น ช่างมืออาชีพในอนาคต การปฏิบัติงานช่างในบ้าน ล้วนมีความส�าคัญต่อการด�าเนินชีวิต ซึ่งงานช่างเหล่านี้สามารถ ปฏิบัติได้ด้วยตนเอง เพราะเป็นงานช่างระดับพื้นฐาน มีหลักการปฏิบัติที่ไม่ซับซ้อน ช่วยประหยัด ค่าใช้จ่ายของครอบครัว ซึ่งเราควรตระหนักอยู่เสมอว่า สิ่งที่ส�าคัญในการปฏิบัติงานช่างในบ้าน ทุกประเภท คือ ความปลอดภัย จึงไม่ควรประมาทและมีสติอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อตนเองและ ผู้อื่น การปฏิบัติงานช่างให้เกิดความปลอดภัย ถ้าปฏิบัติด้วยความถูกต้องจะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้ การปฏิบัติตามหลัก ๕ ส เป็นวิธีการหนึ่งที่สร้างความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน ซึ่งประกอบด้วย มา 5 ส กันเถอะ ๑ส ๓ส 5ส ๒ส 4ส สะสาง ขจัดสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่จ�าเป็น ต่อการปฏิบัติงานออก สะอาด รักษาความสะอาดของสถานที่ ปฏิบัติงานและอุปกรณ์ต ่าง ๆ อยู่เสมอ สร้างนิสัย สร้างทัศนคติที่ดี ในการท�างาน ตระหนักถึงความปลอดภัย อยู่เสมอ สะดวก จัดวางของที่จ�าเป็นต้องใช้ ให้ เป็นระเบียบ สามารถหยิบใช้ งานได้ทันที สุขลักษณะ จัดสถานที่ปฏิบัติงานให้ถูก สุขลักษณะ เพื่อสุขภาพอนามัย ที่ดี ๖4 ขั้นสอน 57. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันหากรณีศึกษา เกี่ยวกับการปฏิบัติงานชางภายในบานตาม หัวขอที่กลุมของตนเองจับสลากได โดยศึกษา จากแหลงการเรียนรูที่หลากหลาย และนํา กรณีศึกษาดังกลาวมาปรึกษากับครูผูสอนถึง ความเหมาะสมในการปฏิบัติงาน 58. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสมมติกรณีศึกษาของ กลุมตนเอง จากนั้นทําการฝกฝนการปฏิบัติ งานชางจากกรณีศึกษาดังกลาว ในระหวาง การฝกฝนใหนักเรียนบันทึกภาพขั้นตอนการ ปฏิบัติงาน เพื่อนําไปจัดทําปายนิเทศ เพื่อแสดง ขั้นตอนตางๆ ในการปฏิบัติงานชางภายในบาน 59. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานขั้นตอนการ ปฏิบัติงานชางจากกรณีศึกษาตามหัวขอที่ได รับมอบหมาย พรอมทั้งนําปายนิเทศการแสดง ที่กลุมของตนเองไดทําการฝกฝนมาจัดแสดง เปนนิทรรศการ เพื่อเปนแหลงเรียนรูใหเพื่อน รวมชั้นเรียนไดศึกษากันอยางทั่วถึง 60. ครูมอบหมายใหนักเรียนทํากิจกรรมสรางสรรค พัฒนาการเรียนรู จากหนังสือเรียน หนวย การเรียนรูที่ 4 61. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ซอมได โดยใหนักเรียน ออกแบบขั้นตอนการปฏิบัติงานชางภายในบาน ในรูปแบบของอินโฟกราฟก หรือรูปแบบอื่นๆ ตามความสนใจ 62. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 4 63. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวย การเรียนรูที่ 4 เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติงานชางในบานใหนักเรียน ฟงวา การปฏิบัติงานชางในบาน เพื่อใหเกิดความปลอดภัย สามารถปฏิบัติได หลายวิธีได ดังนี้ • ควรตรวจสอบความพรอมของเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางทุกครั้ง กอนการใชงาน • ควรสวมอุปกรณปองกันอันตรายทุกครั้งในขณะปฏิบัติงาน เชน ถุงมือ รองเทายาง • การปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟาตองตัดวงจรไฟฟากอนเสมอ • การใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางที่มีความคม ตองใชอยาง ระมัดระวัง • ควรศึกษาวิธีการใชงานเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางกอนเสมอ • ควรเก็บและแยกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางเปนประเภทไว เพื่อ สะดวกตอการใชงาน 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน 2. สมาชิกภายในกลุมรวมกันสํารวจภายในโรงเรียนวามีสิ่งใดที่ ชํารุดเสียหาย โดยเลือกตามความสนใจ 1 ชิ้น 3. สมาชิกภายในกลุมรวมกันวิเคราะหปญหาและวางแผนการ ทํางาน พรอมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ซอมแซมใหพรอม 4. สมาชิกภายในกลุมรวมกันปฏิบัติงานซอมแซมตามที่กลุมได เลือกมา โดยปฏิบัติตามแผนการทํางานที่ไดวางไว และปฏิบัติตาม ขั้นตอนการซอมแซมอยางถูกตอง 5. สมาชิกภายในกลุมรวมกันประเมินผลการปฏิบัติงาน พรอมทั้ง อธิบายปญหา หรืออุปสรรคที่พบระหวางการปฏิบัติงาน และ นําเสนอแนวทางการแกปญหาอยางเหมาะสม นํา สอน สรุป ประเมิน T72
ขอสอบเนน การคิด ÊÃé Ò§ÊÃÃ¤ì ¾Ñ²¹Ò¡ÒÃàÃÕ¹ÃéÙใบมอบหมายงาน ¡Ô¨¡ÃÃÁ àÃ×èͧ »¯ÔºÑµÔ§Ò¹ª‹Ò§ã¹ºŒÒ¹ ค�าชี้แจง ๑. ให้นักเรียนปฏิบัติงานเป็นรายบุคคล ๒. การปฏิบัติงานน�้เป็นการฝกทักษะการแก้ปัญหาในการท�างาน ๓. บันทึกภาพ หรือบันทึกการท�างานทุกขั้นตอน ๔. ให้นักเรียนวิเคราะห์ขั้นตอนการปฏิบัติงานช่างในบ้านตามกระบวนการท�างานและปฏิบัติ กิจกรรมตามขั้นตอนที่ก�าหนดให้ ดังน�้ ๔.๑ ส�ารวจส่วนต่าง ๆ ของบ้าน อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ภายในบ้าน เพื่อท�าการดูแลรักษา ซ่อมแซม ดัดแปลง ปรับปรุง และแก้ ไข ๔.๒ ปฏิบัติการซ่อมแซม ดัดแปลง ปรับปรุง แก้ไข เครื่องมือ เครื่องใช้ ในบ้าน ๑ ชนิด ตามขั้นตอนที่ก�าหนดให้ ดังน�้ • ปัญหา หรือความต้องการ • การวิเคราะห์งาน • การวางแผนการท�างาน • การปฏิบัติตามขั้นตอนการท�างาน • การประเมินผลการท�างาน ๕. น�าผลการปฏิบัติงานมาน�าเสนอหน้าชั้นเรียน งานช่างในบ้าน ๖5 ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ซอมได 3. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 4 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง งานชาง ในบานวา “การปฏิบัติงานชางในบานสิ่งที่ควร คํานึงถึงมากที่สุด คือ ความปลอดภัยของรางกาย เราควรปองกันตนเองดวยการสวมใสเครื่อง แตงกาย หรืออุปกรณปองกัน ควรระมัดระวังและ ศึกษาวิธีการใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชาง กอนใชงานทุกครั้ง และควรตรวจสอบเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางทุกครั้งวาเกิดการชํารุด เสียหายหรือไมกอนการใชงาน การซอมแซม ดัดแปลง แกไข บํารุงรักษา สิ่งของเครื่องใช สิ่งอํานวยความสะดวกภายในบานใหมีสภาพ การใชงานที่ดีขึ้น ถือเปนการใชทรัพยากรอยาง คุมคาและยังชวยประหยัดคาใชจายของครอบครัว ในการปฏิบัติงานชางที่ดี ควรตรวจสอบและ พิจารณาสภาพการใชงานของสิ่งของเครื่องใช นั้นๆ วาสามารถซอมแซมไดหรือไม หากไมสามารถ ที่จะซอมแซมใหมีสภาพที่ดีขึ้นได ควรทําการ เปลี่ยน หรือติดตั้งใหม เพื่อใหเกิดความปลอดภัย ในการใชงาน โดยชางที่มีความเชี่ยวชาญทางดาน นั้นๆ โดยเฉพาะ” แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 4 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม เพราะเหตุใด Safety First จึงเปนสิ่งที่ผูปฏิบัติงานชางทุกคน จะตองคํานึงถึงเปนลําดับแรก (แนวตอบ ในการปฏิบัติงานชางทุกประเภทจะตองยึดหลักความ ปลอดภัยมากอน เพื่อหลีกเลี่ยงและปองกันการเกิดอันตรายใน ขณะปฏิบัติงาน หากผูปฏิบัติงานชางสามารถปฏิบัติไดถูกตองและ เปนระบบจะสามารถชวยลดอุบัติเหตุลงได) แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T73
Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ความส�ำคัญ ประโยชน์ และหลักการ ประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายหลักการประดิษฐ์ ของใช้ของตกแต่งจาก วัสดุในโรงเรียน หรือ ท้องถิ่นได้ 2. สืบค้นข้อมูลทาง อินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับ งานประดิษฐ์ได้ 3. วางแผนการประดิษฐ์ ของใช้ของตกแต่งจาก วัสดุในโรงเรียน หรือ ท้องถิ่นได้ 4. ออกแบบงานประดิษฐ์ ของใช้ของตกแต่งจาก วัสดุในโรงเรียน หรือ ท้องถิ่นได้ 5. เห็นประโยชน์ของการ ประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุใน โรงเรียน หรือท้องถิ่น แบบเน้น รูปแบบการ สืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 5.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 2 การฝึกประดิษฐ์ ของใช้ ของ ตกแต่งจากวัสดุ ในโรงเรียน หรือ ท้องถิ่น 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. บอกขั้นตอนการประดิษฐ์ แจกันขวดพลาสติกได้ 2. ประดิษฐ์แจกันขวด พลาสติกตามขั้นตอนได้ อย่างถูกต้อง 3. สร้างชิ้นงานจากขวด พลาสติกได้อย่าง สร้างสรรค์ 4. เห็นประโยชน์ของการ ประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุใน โรงเรียน หรือท้องถิ่น แบบเน้น กระบวนการ ปฏิบัติ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T74
แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 3 การจัดการกับ ผลงานประดิษฐ์ 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายหลักการจัดการ กับผลงานประดิษฐ์ได้ ถูกต้อง 2. ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ของตนเอง โดยค�ำนึงถึง หลักเกณฑ์ต่างๆ ได้ 3. เห็นประโยชน์ของการ จัดการกับผลงานประดิษฐ์ แบบเน้น รูปแบบการ สืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 4 การจัดจ�ำหน่าย ผลงานประดิษฐ์ 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบหลังเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายหลักการจัด จ�ำหน่ายผลงาน ประดิษฐ์ได้ถูกต้อง 2. วางแผนการจัดจ�ำหน่าย ผลงานประดิษฐ์ได้ถูกต้อง 3. เขียนบันทึกรายรับ- รายจ่ายในการจ�ำหน่าย ผลงานประดิษฐ์ได้ถูกต้อง 4. เห็นประโยชน์จากการจัด จ�ำหน่ายผลงานประดิษฐ์ แบบเน้นการ จัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจบัญชีรายรับ-รายจ่าย - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T75
การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง เป็นการประดิษฐ์ที่แสดงให้เห็นถึงการมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งน�ามาใช้เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพได้ และวัสดุที่ใช้ในการประดิษฐ์หาได้จากใน โรงเรียนและท้องถิ่น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดทักษะกระบวนการแก้ปญหาในการท�างานอย่างมีขั้นตอน พัฒนาการท�างาน มีจิตส�านึกในการใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) õ หน่วยการเรียนรู้ที่ ¡ÒûÃдÔɰ¢Í§ãªŒ ¨Ò¡ÇÑÊ´Øã¹·ŒÍ§¶Ôè¹ ขั้นนํา (5Es) ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวย การเรียนรูที่ 5 2. ครูนําภาพงานประดิษฐของใช ของตกแตงจาก วัสดุในทองถิ่นมาใหนักเรียนดู จากนั้นครูถาม นักเรียนวา • จากภาพเปนงานประดิษฐประเภทใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • นักเรียนคิดวางานประดิษฐชิ้นดังกลาวผลิต ขึ้นจากวัสดุชนิดใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • หากพบวาในโรงเรียน หรือในทองถิ่นมีวัสดุ เหลือใชอยูเปนจํานวนมาก นักเรียนควร ปฎิบัติอยางไร เพื่อใหสิ่งของเหลานั้นเกิด ประโยชนสูงสุด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน นําวัสดุเหลือใชเหลานั้น มาประดิษฐเปนของใช ของตกแตง เพื่อเพิ่ม ความสวยงามใหกับบาน นํามาใชประโยชน หรืออํานวยความสะดวกตางๆ สรางรายได ใหกับตนเองและครอบครัว เปนของขวัญ เนื่องในโอกาสสําคัญตางๆ) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมโยงความรูกอน เขาสูบทเรียนวา “วัสดุที่มีอยูในโรงเรียน หรือ ในทองถิ่น สามารถนํามาประดิษฐเปนของใช ของตกแตง เพื่อสรางรายไดใหกับตนเองและ ครอบครัว ใชเปนของขวัญเนื่องในโอกาสสําคัญ ตางๆ เปนการใชเวลาวางใหเกิดประโยชน กอใหเกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ชวย พัฒนาความคิดสรางสรรค และสรางความ ภาคภูมิใจใหกับตนเองได” เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับการประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่นใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ เรื่องความสําคัญของการประดิษฐของใช ของตกแตง ประโยชนที่ไดรับจากการประดิษฐของใช ของตกแตง หลักการประดิษฐของใช ของตกแตง และขั้นตอน การประดิษฐของใช ของตกแตงประเภทตางๆ พรอมทั้งนําสื่อประกอบการเรียนการสอนที่แสดงใหเห็นถึงขั้นตอนในการปฏิบัติงานมาเปดใหนักเรียนดูประกอบ เพื่อใหนักเรียนสามารถลงมือประดิษฐชิ้นงานไดอยางสรางสรรค รวมถึงสามารถจัดการกับผลงานประดิษฐ และจัดจําหนายผลงานประดิษฐไดอยางเหมาะสม โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับการประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น • ใหนักเรียนฝกประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น ไดแก กลองดินสอจากแกนกระดาษชําระ ที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไม มานจากเชือกตนกก และโคมไฟจากชอนพลาสติก • ใหนักเรียนฝกออกแบบบรรจุภัณฑ เพื่อนํามาใชบรรจุผลงานประดิษฐ เพื่อการจัดจําหนาย • ใหนักเรียนฝกทําบัญชีรายรับ-รายจายในงานประดิษฐ นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T76
ขอสอบเนน การคิด ËÒ¡¾ºÇ ‹ÒÁÕàÈÉÇÑÊ´ØàËÅ×Í ãªŒÍÂً໚¹¨Ó¹Ç¹ÁÒ¡ ¤Çà »¯ÔºÑµÔÍ‹ҧäÃà¾×èÍãËŒÊÔ觢ͧ àËŋҹÑé¹à¡Ô´»ÃÐ⪹ÊÙ§ÊØ´ ๑ ความสำาคัญของการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง เป็นแนวคิดอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ต้องอาศัยความรู้ ทักษะความช�านาญ และการฝึกปฏิบัติอย่าง สม�่าเสมอ รวมถึงการมีใจรักในการสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่ พึงพอใจ การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง มีความส�าคัญ ดังนี้ ๑. สร้างความสนุกสนานเพลิดเพลิน ๒. เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ๓. สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ๔. เปลี่ยนสภาพของเหลือใช้ให้เป็นของใช้ที่มีประโยชน์ ๕. มีคุณค่าต่อผู้รับ เมื่อน�าไปใช้เป็นของขวัญในโอกาสส�าคัญ ๖. ได้ผลงานตรงตามความต้องการ มีรูปแบบที่แปลกใหม่ ๗. รักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่สืบทอดมาจากอดีต ๒ ประโยชน์ที่ได้รับจากการประดิษฐ์ ของใช้ ของตกแต่ง ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจในการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต ่งด้วยฝมือของตนเองกันมากขึ้น ท�าให้ได้ชิ้นงาน ที่มีรูปแบบแปลกใหม ่ ไม ่ซ�้าแบบใคร โดยประโยชน์ที่ได้รับ จากการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง เช่น ได้ใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์ น�ามาจ�าหน่ายเพื่อเป็นรายได้ของครอบครัว ฝึกความ คิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เป็น ของขวัญในโอกาสส�าคัญต่าง ๆ น�ามา ประดับร่างกาย หรือตกแต่งบ้านให้สวยงาม สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะการแสวงหาความรู ประกอบดวยการศึกษา คนควา รวบรวม สังเกต สํารวจ และบันทึก เพื่อใชในการพัฒนาการทํางาน เชน - การประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สรางทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน - การจัดการผลผลิต การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 67 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา เรื่อง ความสําคัญ ประโยชนที่ไดรับ และหลัก การประดิษฐของใช ของตกแตง จากหนังสือ เรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 หรือศึกษาเพิ่มเติม จากอินเทอรเน็ต 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความ สําคัญ ประโยชนที่ไดรับ และหลักการประดิษฐ ของใช ของตกแตง จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 5 จากนั้นใหแตละกลุม รวมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความรูในเรื่องที่ ไดศึกษามา 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมทําการสํารวจวัสดุตางๆ ที่มีอยูในโรงเรียน หรือในทองถิ่น ที่สามารถ นํามาประดิษฐเปนของใช ของตกแตงได จากนั้นสืบคนขอมูลเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต เกี่ยวกับงานประดิษฐของใช ของตกแตงที่พบ ในทองถิ่นของตน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมาอภิปรายเกี่ยวกับงานประดิษฐ ของใช ของตกแตงที่พบในทองถิ่นของตนให เพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในปจจุบันผูคนสวนใหญ หันมาสนใจในการประดิษฐของใช ของตกแตง ดวยฝมือของตนเองกันมากขึ้น สงผลใหได ชิ้นงานที่มีรูปแบบแปลกใหม ไมซํ้ากับของผูอื่น อีกทั้งยังเปนการใชเวลาวางใหเกิดประโยชน สามารถนําผลงานมาจําหนายเพื่อสรางรายได ใหกับตนเองและครอบครัว ชวยพัฒนาความคิด สรางสรรคและตอยอดจินตนาการของผูประดิษฐ ไดเปนอยางดี” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา วัสดุที่นํามาประดิษฐเปนของใช ของตกแตงนั้น อาจเปนวัสดุจากธรรมชาติที่หาไดในทองถิ่น เชน ใบตอง กาบมะพราว เปลือกหอย หรืออาจนําวัสดุเหลือใชมาประดิษฐเปนชิ้นงานได เพื่อชวยประหยัดคาใชจาย และยังไดของใช ของตกแตงที่มีความสวยงาม แปลกใหม เนื่องจากเปนการ ประดิษฐชิ้นงานที่เกิดจากความคิดสรางสรรคของตนเอง และหากประดิษฐ ชิ้นงานไดสวยงาม ยังสามารถนําไปใชเปนของขวัญใหกับผูอื่นได ซึ่งจะทําให ของชิ้นนั้นมีคุณคาและมีความหมายตอผูรับมากกวาของที่ไดจากการซื้อ อีกทั้ง ยังสามารถนําไปจําหนาย เพื่อสรางรายไดใหกับตนเองและครอบครัว ในการประดิษฐของใช ของตกแตง ควรคํานึงถึงสิ่งใดมากที่สุด 1. การจัดจําหนายสินคา 2. คาใชจายในการประดิษฐ 3. ประโยชนและความคุมคา 4. ความทนทานและความสวยงาม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการประดิษฐของใช ของตกแตง ควรคํานึงถึงประโยชนในการใชสอยและความคุมคาในการใชงาน มากที่สุด เนนการประดิษฐขึ้นเพื่อนํามาใชเอง โดยนําวัสดุ ในโรงเรียน หรือในทองถิ่นมาประดิษฐเปนชิ้นงานในรูปแบบที่ หลากหลาย) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 10 AWESOME IDEAS with PVC PIPES ไดที่ https://www.youtube.com/watch?v=3lbeAqHP-OY นํา สอน สรุป ประเมิน T77
ขอสอบเนนการคิด ๓ หลักการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง ในการประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในโรงเรียน หรือท้องถิ่น เพื่อให้เกิดประโยชน์ และคุ้มค่ามากที่สุด ผู้ประดิษฐ์ควรยึดหลักในการปฏิบัติงาน ดังนี้ วัสดุธรรมชาติหลายชนิดที่หาได้ทั่วไปในท้องถิ่น สามารถน�ามาดัดแปลงประดิษฐ์เป็นของใช้ ของตกแต่งบ้านได้ ความปลอดภัยในการท�างาน ประดิษฐ์ เช่น เมื่อจ�าเป็นต้อง เลื่อยไม้หรือพ่นสีควรอยู่เหนือลม ใช้ผ้าปิดจมูกและปากเพื่อป้องกัน สารเคมี หรือฝุ ่นละอองเข้าสู ่ ร่างกายและเมื่ออุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้ชิ้นใดช�ารุดให้รีบ ด�าเนินการซ ่อมแซม เมื่อใช้ เสร็จเรียบร้อยแล้วควรเก็บเข้าที่ ให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย และเพื่อความสะดวกในการ ใช้งานครั้งต่อไป Be careful ๑. ควรศึกษาหลักการและวิธีการประดิษฐ์ชิ้นงานที่ต้องการ ประดิษฐ์อย่างละเอียด และใช้เศษวัสดุ หรือวัสดุเหลือใช้ที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ๒. ควรพิจารณาถึงประโยชน์ใช้สอย หรือความคุ้มค ่า กรณีที่ต้องการประดิษฐ์เพื่อจ�าหน่าย ควรส�ารวจความต้องการ ความนิยมของผู้ซื้อ ราคาของงานประดิษฐ์ เพื่อลดความเสี่ยง ในการขาดทุน ๓. ควรค�านึงถึงความทนทานและควรหาแนวทาง หรือ วิธีการที่จะช่วยให้งานประดิษฐ์ชิ้นนั้น ๆ มีความทนทานต่อการ ใช้งานมากขึ้น ๔. ควรค�านึงถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานเนื่องจาก มีโอกาสเสี่ยงต ่ออันตรายจากการสัมผัสกับวัสดุต ่าง ๆ เช่น สารเคมี สีพ่น ทินเนอร์ 68 DIY ของใช้จากวัสดุในโรงเรียน ทินเนอร์ เลื่อยไม้ วัสดุธรรมชาติหลายชนิดที่หาได้ทั่วไปในท้องถิ่น 2 1 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมเลือกวัสดุที่มีใน โรงเรียน หรือในทองถิ่นของตนตามความ สนใจ 1 ชนิด จากนั้นวางแผนการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น ลงในใบงานที่ 5.1.1 เรื่อง การวางแผนประดิษฐของใช ของตกแตง 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “สิ่งที่ควรคํานึงถึงใน ขณะปฏิบัติงานก็คือความปลอดภัย ผูที่ปฏิบัติ งานควรระมัดระวังตนเองในขณะใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในการประดิษฐผลงานดวย” ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 8. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในการทํางานประดิษฐ จะตองลงมือปฏิบัติดวยความมุงมั่น ตั้งใจ มีความประณีต พิถีพิถัน และละเอียดลออ เพื่อใหผลงานประสบผลสําเร็จตามที่ไดวางแผน ไว หากเกิดขอผิดพลาดในขณะปฏิบัติงาน ผูประดิษฐควรใชสติ เพื่อหาแนวทางในการ แกปญหา เพื่อใหการประดิษฐประสบความ สําเร็จอยางมีคุณภาพ” 9. ครูใหนักเรียนแตละกลุมลงมือประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น ตามขั้นตอนที่ไดวางแผนไวอยางอิสระ 10. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน โดยครูทําหนาที่ในการให คําแนะนําตามความเหมาะสม จากนั้นครู ถามนักเรียนวา • งานประดิษฐของนักเรียนเปนไปตาม เปาหมายที่วางแผนไวหรือไม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความ คิดเห็นไดอยางอิสระ) นักเรียนควรรู 1 เลื่อย ในขณะเลื่อยหากใบเลื่อยเกิดหักใหเปลี่ยนใบเลื่อยใหม แลวเลื่อยใน ตําแหนงใหม โดยเลื่อยไปจนถึงตําแหนงเดิมที่คางไว ไมควรเลื่อยตอจากตําแหนง เดิมที่ใบเลื่อยหัก เพื่อหลีกเลี่ยงปญหาที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณที่ใบเลื่อยหัก 2 ทินเนอร เปนสินคาควบคุมฉลาก เนื่องจากอยูในกฎหมายวาดวยการปองกัน การใชสารระเหยและเครื่องสําอาง ที่สําคัญตองเก็บใหพนมือเด็ก หามนํามา สูดดมและหามใหถูกผิวหนัง ซึ่งในการใชทินเนอรควรใชในพื้นที่โลง สามารถ ระบายอากาศไดดี และไมควรใชในที่ที่เสี่ยงตอการเกิดไฟไหม เนื่องจากเปน วัตถุไวไฟ 3 วัสดุธรรมชาติ สามารถนํามาประดิษฐเปนของใช ของตกแตงไดอยาง สวยงาม เชน กาบมะพราว กาบหมาก กาบกลวย เกล็ดปลา ใบลาน เปลือกหอย รังไหม นอกจากนี้ การใชวัสดุที่ไดจากธรรมชาติยังเปนการชวยดูแลรักษา สิ่งแวดลอมใหดีอีกดวย แตตองใชอยางถูกวิธีจึงจะเปนผลดีตอสิ่งแวดลอม ขอใดแสดงใหเห็นวาผูประดิษฐมีหลักในการประดิษฐชิ้นงาน 1. เนนความสวยงามและมูลคาของชิ้นงาน 2. ปฏิบัติงานตามความพึงพอใจของตนเอง 3. ศึกษาวิธีการประดิษฐชิ้นงานกอนลงมือปฏิบัติ 4. เลือกวัสดุที่มีราคาแพง เพื่อนํามาประดิษฐชิ้นงาน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการที่จะประดิษฐชิ้นงานใด ก็ตาม จําเปนที่จะตองศึกษาวิธีการประดิษฐชิ้นงานที่ตองการอยาง ละเอียดกอน เพื่อจะไดสามารถปฏิบัติไดอยางถูกตอง และไม เสียเวลาในการปฏิบัติงาน) นํา สอน สรุป ประเมิน T78
Know M ore ¡ÃÐ້ÒÊÒ¹¨Ò¡ä¼‹ • วัสดุมีความแข็งแรง เหนียว ยืดหด ดัด โคงงอไดงาย • หาวัสดุไดงายในทุกทองถิ่น ที่นิยมมากจะเปนไผสีสุก • ออกแบบไดหลากหลาย เพื่อเพิ่มมูลคาของสินคา • อนุรักษภูมิปญญาทองถิ่น สรางรายไดใหแกชุมชน ·Õè¨Ø´à·Õ¹ËÍÁ¨Ò¡à»Å×Í¡ËÍ • นําวัสดุที่มีอยูในธรรมชาติมาเพิ่มมูลคา • สรางรายไดใหแกชุมชน สงไปขายยังตางประเทศได • ใชประดับตกแตงภายในบาน เพื่อเพิ่มความสวยงาม • เปนสัญลักษณใหระลึกถึงบรรยากาศของทองทะเล ¡ÃжҧµŒ¹äÁŒ¨Ò¡¡Ãл‰Í§âÅËÐ • มีความแข็งแรง ปองกันการซึมผานของกาซ ไอน้ํา และแสง • วัสดุหาไดงายในทุกครัวเรือน นํามาหลอมเพื่อใชงานใหมได • มีหลายขนาด หลายรูปทรง เลือกใชไดตามความเหมาะสม • นํามาใชตกแตงบาน ตกแตงสวน ใหมีความนาสนใจยิ่งขึ้น µØ¡µÒµÑé§âµÐ¨Ò¡¡ÃдÒÉ • นํากระดาษมาผสมกับกาวแลวขึ้นรูปตามตองการ • ใชความคิดสรางสรรคในการออกแบบชิ้นงาน • ใชทรัพยากรอยางคุมคา ชวยลดภาวะโลกรอนได • ใชเปนของตกแตง หรือของขวัญในโอกาสสําคัญตางๆ DIY §‹ÒÂ æ ´ŒÇµ¹àͧ DIY หรือ Do it yourself เปนการนําสิ่งของเหลือใชที่มีอยูในบาน โรงเรียน หรือทองถิ่นมาสรางสรรค เปนผลงานชิ้นใหมจากความคิดและจินตนาการของตนเอง ซึ่งปจจุบันงาน DIY มีใหเห็นอยูเปน จํานวนมาก ตัวอยางงาน DIY งายๆ มีดังนี้ การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 6๙ กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 11. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึก ผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเรื่อง การ ประดิษฐของใช ของตกแตงวา “เพื่อใหการ ประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่นเกิดประโยชนและมีความคุมคามาก ที่สุด ผูประดิษฐควรศึกษาหลักการประดิษฐของใช ของตกแตงอยางละเอียด โดยพิจารณาถึงความ คุมคาและควรคํานึงถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย เนื่องจากในขณะปฏิบัติงาน อาจมีโอกาสเสี่ยงที่จะไดรับอันตรายจากการ สัมผัสวัสดุตาง ๆ เชน สารเคมี สีสเปรย ทินเนอร รวมถึงเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานประดิษฐ อีกดวย” ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของ นักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 5.1.1 เรื่อง การวางแผน ประดิษฐของใช ของตกแตง 3. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ใหนักเรียนสืบคนผลงานประดิษฐจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ในทองถิ่นของตนวา มีชิ้นงานประดิษฐชนิดใดโดยใหถายภาพ พรอมอธิบายเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณที่นํามาใช และขั้นตอน การประดิษฐ ลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนคนหาวัสดุในโรงเรียน หรือในทองถิ่นของตน จากนั้นนํามาสรางสรรคเปนชิ้นงานประดิษฐตามความสนใจ 1 ชิ้น พรอมอธิบายเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณที่นํามาใชและขั้นตอน การประดิษฐ จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนา ชั้นเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T79
ขอสอบเนนการคิด กล่องดินสอจำกแกนกระดำษช�ำระ ๔ ตัวอย่างการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในโรงเรียน หรือท้องถิ่น วัสดุที่หาได้ในโรงเรียน หรือท้องถิ่นที่สามารถน�ามาประดิษฐ์เป็นของใช้และของตกแต่งได้ ตัวอย่างการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในโรงเรียน หรือท้องถิ่น ดังนี้ ๑. แกนกระดาษช�าระ ๒. กระดาษลูกฟูกสีต่าง ๆ ๓. กรรไกร ๔. คัตเตอร์ ๕. ปนกาว/แท่งกาว ๖. ดินสอ กล่องดินสอจากแกนกระดาษช�าระ เป็นงานประดิษฐ์โดยการน�าแกนกระดาษช�าระที่ ใช้งานหมดแล้ว มาตกแต่งเป็นตัวการ์ตูนในลักษณะต่าง ๆ ตามความชอบและความสนใจ เพื่อให้เกิดความสวยงาม สามารถน�าไปใส่ดินสอหรือปากกาตามความต้องการ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ วิธีกำรประดิษฐ์ น�าแกนกระดาษช�าระมาตัดแบ่งเป็น ๒ ส่วน โดยกะระยะความสูงตามต้องการ น�ากระดาษลูกฟูกสีเหลืองมาตัดเป็นเส้น เพื่อติด รอบแกนกระดาษช�าระ ñ ò 7๐ กล่องดินสอจากแกนกระดาษช�าระ เป็นงานประดิษฐ์โดยการน�าแกนกระดาษช�าระที่ ใช้งานหมดแล้ว 1 นักเรียนควรรู 1 กระดาษชําระ ควรเลือกที่มีเนื้อกระดาษบริสุทธิ์ ไมมีสารเรืองแสง (สารที่ทําใหกระดาษมีสีขาวสะอาด ซึ่งอาจกอใหเกิดโรคมะเร็ง) เนื้อกระดาษ มีความเหนียวนุม ยอยสลายไดดี และมีราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพของ กระดาษชําระ ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา ตัวอยางการประดิษฐของใช ของตกแตงจาก วัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยาง การประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุใน โรงเรียน หรือทองถิ่น จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 5 จากนั้นใหแตละกลุม รวมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความรูในเรื่องที่ ไดศึกษามา ขั้นนํา (เนนกระบวนการปฏิบัติ) 1. ครูกลาวคําทักทายนักเรียน พรอมทั้งทบทวน ความรูตามที่ไดเรียนในชั่วโมงที่ผานมา เกี่ยวกับความสําคัญ ประโยชนที่ไดรับ และ หลักการประดิษฐของใช ของตกแตง จากนั้น ครูกลาวเชื่อมโยงเพื่อเขาสูบทเรียนในหัวขอ ถัดไปเกี่ยวกับตัวอยางการประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมโยงความรูกอนเขา สูบทเรียนวา “วัสดุที่นํามาใชในการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจะมีความแตกตางกัน กลาวคือ วัสดุในโรงเรียนที่นิยมนํามาประดิษฐ เปนชิ้นงานสวนมากจะเปนกระดาษ ขวดนํ้า ถุงพลาสติก สวนวัสดุในทองถิ่นที่นิยมนํามา ประดิษฐเปนชิ้นงานสวนมากจะเปนวัสดุที่มีอยู ในภูมิภาคนั้นๆ กลาวคือ ภาคเหนือ เชน ปอสา ภาคกลาง เชน ผักตบชวา กก โสน ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ เชน ไหม ไผ เชือกกลวย ภาคใต เชน เปลือกหอย ยางพารา ยานลิเภา” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา ในขั้นตอนที่ตองนําแกนกระดาษชําระมาตัดแบงออก เปน 2 สวนนั้น นักเรียนจะตองใชมีดคัตเตอรดวยความระมัดระวัง เนื่องจาก แกนกระดาษชําระเปนทรงกระบอก จึงสามารถกลิ้งไปมาได ดังนั้น ขณะตัดควร จับแกนกระดาษชําระใหแนน และใชมีดคัตเตอรกรีดลงไปใหลึก และที่สําคัญ ไมควรหลอกลอ หรือเลนกันในขณะปฏิบัติงาน เพราะอาจทําใหเกิดอันตรายขึ้นได แกนกระดาษชําระนอกจากจะนํามาประดิษฐเปนกลองดินสอแลว ยังสามารถนํามาประดิษฐสิ่งใดไดอีก (แนวตอบ สามารถนํามาประดิษฐเปนสิ่งของไดหลายอยาง เชน นํามาประดิษฐเปนกลองของขวัญชิ้นเล็กๆ เปนที่เก็บถุงเทา ที่พันไหมพรม หรือดายไมใหพันกัน กระถางเพาะตนกลา ชั้นวางของ ตกแตงผนังบาน ที่วางโทรศัพทมือถือ ของเลนสําหรับ เด็กๆ) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T80
กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค วาดวงกลมขนาดเท่ากับก้นของแกนกระดาษ ช�าระ จากนั้นติดกระดาษลูกฟูกตรงช่องว่าง เพื่อปดก้นของแกนกระดาษช�าระทั้ง ๒ ส่วน ó ตัดกระดาษลูกฟูกสีน�้าเงินตามภาพ โดย ให้ความยาวพันรอบแกนกระดาษช�าระ เพื่อท�าเป็นชุดของตุกตา พร้อมตกแต่งให้ สวยงาม ô น�าชุดตุกตาที่ตกแต่งแล้วมาติดทับบน กระดาษลูกฟูกสีเหลืองบริเวณส่วนตัว ของตุกตา õ ตัดกระดาษลูกฟูกสีด�า สีเทา และสีขาว ตามภาพ แล้วน�าไปติดบนกระดาษลูกฟูก สีเหลืองบริเวณส่วนหัวของตุกตา จากนั้น น�าไปต่อกันเป็นตัวตุกตา ö การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 7๑ ติดกระดาษลูกฟูกตรงช่องว่าง เพื่อปดก้นของแกนกระดาษช�าระทั้ง ๒ ส่วน 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 3. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น : กลองดินสอจากแกนกระดาษชําระ จากหนังสือ เรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 หนา 70-71 จากนั้น รวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการประดิษฐกลอง ดินสอจากแกนกระดาษชําระทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบาย ขั้นตอนการประดิษฐกลองดินสอจากแกน กระดาษชําระใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 4. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ประดิษฐกลองดินสอจากแกนกระดาษชําระ มาใหนักเรียนดู 5. ครูสาธิตการประดิษฐกลองดินสอจากแกน กระดาษชําระใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง พรอมทั้ง อธิบายประกอบทีละขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อให นักเรียนไดสังเกตและติดตามแตละขั้นตอน ไดทัน 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประดิษฐกลอง ดินสอจากแกนกระดาษชําระ หากนักเรียนเกิด ขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความ ชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกต การปฏิบัติงานของนักเรียนอยางใกลชิดและ คอยใหความชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนัก ถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย 7. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น : กลองดินสอจากแกนกระดาษชําระ โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตองและ อธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน ใหนักเรียนนําแกนกระดาษชําระมาประดิษฐเปนชิ้นงานที่เปน ของใช ของตกแตงตามความสนใจ 1 ชิ้น โดยจะตองเปนชิ้นงาน ประดิษฐที่แตกตางไปจากในหนังสือเรียน ซึ่งนักเรียนสามารถสืบคน วิธีการประดิษฐชิ้นงานจากแกนกระดาษชําระไดจากแหลงการ เรียนรูที่หลากหลาย จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงคดานใฝเรียนรู อยูอยางพอเพียง และมุงมั่นในการทํางาน) นักเรียนควรรู 1 กระดาษลูกฟูก นิยมนํามาผลิตบรรจุภัณฑ เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถใชประโยชนไดอยางหลากหลาย มีนํ้าหนักเบา เปนมิตรตอสิ่งแวดลอม มีความทันสมัย ชวยปองกันสินคาระหวางการจัดสงได กระดาษลูกฟูกแบงเปน 3 ชนิด ตามจํานวนชั้นของกระดาษ ดังนี้ • กระดาษลูกฟูกสองชั้น (Single Face) ประกอบดวยกระดาษแผนเรียบ 1 แผน ประกบกับลอนลูกฟูก 1 แผน ใชสําหรับกันกระแทกสินคา • กระดาษลูกฟูกสามชั้น (Single Wall) ประกอบดวยกระดาษแผนเรียบ 2 แผน ประกบกับลอนลูกฟูก 1 แผน ใชสําหรับสินคาที่มีนํ้าหนักปานกลาง • กระดาษลูกฟูกหาชั้น (Double Wall) ประกอบดวยกระดาษแผนเรียบ 3 แผน ประกบกับลอนลูกฟูก 2 แผน ใชสําหรับสินคาที่ตองการการปองกันสูง หรือมีนํ้าหนักมาก นํา สอน สรุป ประเมิน T81
ขอสอบเนนการคิด ที่แขวนพวงกุญแจจำกแผ่นไม้ ๑. แผ่นไม้ ๒. กระดาษทราย ๓. ก้อนหิน ๔. สีอะคริลิก/พู่กัน ๕. ปากกาเมจิกสีด�า ๖. ปนกาว/แท่งกาว ๗. ลวดเสียบกระดาษ ๘. ดินสอ วิธีกำรประดิษฐ์ น�ากระดาษทรายมาขัดแผ่นไม้ให้เรียบ ñ ò ใช้ดินสอร่างภาพที่ต้องการลงบนแผ่นไม้ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ที่แขวนพวงกุญแจจากแผ่นไม้ เป็นงานประดิษฐ์ โดยการน�าแผ่นไม้ที่มีรูปทรงในลักษณะต่าง ๆ มาวาดภาพ พร้อมตกแต่งลวดลายให้สวยงาม จากนั้นจึงน�าไปติดตะขอ เพื่อให้สามารถน�าพวงกุญแจ ไปแขวนไว้ได้ 7๒ ๒. กระดาษทราย 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 8. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น : ที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไม จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 หนา 72-73 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การประดิษฐที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไม ทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการประดิษฐที่แขวน พวงกุญแจจากแผนไมใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 9. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ประดิษฐที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไมมาให นักเรียนดู 10. ครูสาธิตการประดิษฐที่แขวนพวงกุญแจจาก แผนไมใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง พรอมทั้ง อธิบายประกอบทีละขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อให นักเรียนไดสังเกตและติดตามแตละขั้นตอน ไดทัน 11. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประดิษฐที่ แขวนพวงกุญแจจากแผนไม หากนักเรียนเกิด ขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความ ชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกต การปฏิบัติงานของนักเรียนอยางใกลชิด และคอยใหความชวยเหลือ และเนนยํ้าให ตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน รวมดวย 12. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการ ประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุใน โรงเรียน หรือทองถิ่น : ที่แขวนพวงกุญแจ จากแผนไม โดยครูเปนผูตรวจสอบความ ถูกตองและอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาด ตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน นักเรียนควรรู 1 กระดาษทราย ใชสําหรับขัดพื้นผิวของวัสดุ เพื่อใหพื้นผิวของวัสดุชิ้นนั้นๆ เรียบเนียน หรือขัดใหชั้นพื้นผิวเกาหลุดออก มีอยูดวยกันหลายแบบ ในการใชงาน ควรเลือกใชใหเหมาะสมกับวัสดุที่จะนํามาขัด เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา การรางภาพลงบนแผนไม ควรใชดินสอเพื่อรางภาพ เนื่องจากสามารถลบสิ่งที่ไมตองการออกได หากผูประดิษฐไมมีทักษะในการ วาดภาพที่มากพอ ไมควรใชปากกาเมจิกในการรางภาพ เพราะหากเกิดความ ผิดพลาดขณะวาดภาพจะไมสามารถลบสิ่งที่ไมตองการออกได ทําใหตองเสีย แผนไมชิ้นนั้นไป และตองใชแผนไมชิ้นใหม ซึ่งจะทําใหเสียคาใชจายที่เพิ่มขึ้น และเสียเวลาในการปฏิบัติงาน หลังจากขัดแผนไมดวยกระดาษทรายแลว ควรปฏิบัติสิ่งใด เปนลําดับถัดไป 1. รางภาพดวยปากกาเมจิกสีดํา 2. ลงสีอะคริลิกตามที่รางภาพไว 3. กําจัดฝุนละอองที่ติดอยูบนแผนไม 4. นําลวดเสียบกระดาษมาทําเปนที่แขวน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเมื่อขัดแผนไมดวยกระดาษ ทรายเสร็จเรียบรอยแลว จะตองกําจัดฝุนละอองที่ติดอยูออกกอน โดยใชแปรงปด หรือใชผาเช็ดออก หรือใชลมเปา จากนั้นจึงใชดินสอ รางภาพ ตามดวยการลงสีอะคริลิก จากนั้นนําลวดเสียบกระดาษ มาดัดเปนตะขอสําหรับแขวนพวงกุญแจ) นํา สอน สรุป ประเมิน T82
ขอสอบเนน การคิด น�าก้อนหินสีขาวมาวาดรูปใบหน้าคน หรือวาด เป็นภาพอื่น ๆ ตามที่ได้ออกแบบไว้ น�าลวดเสียบกระดาษมาดัดให้เป็นตะขอ ส�าหรับแขวนพวงกุญแจ จากนั้นน�าไปติดบน แผ่นไม้ด้วยปนกาวให้แน่น ó ö ระบายสีอะคริลิกลงบนแผ่นไม้และก้อนหิน พร้อมตัดเส้นของภาพด้วยปากกาเมจิกสีด�า ติดก้อนหินที่ระบายสีเสร็จแล้วด้วยปนกาว ให้แน่น พร้อมตกแต่งให้สวยงาม ô õ การใช้ลวดเสียบกระดาษท�าเป็นที่แขวน พวงกุญแจนั้นควรใช้ ๒-๓ ตัวประกบกันเพื่อ ความแข็งแรง หรืออาจใช้ที่แขวนพวงกุญแจ ส�าเร็จรูปแทนก็ได้ Trick : การท�าที่แขวนพวงกุญแจให้แข็งแรง การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 73 ระบายสีอะคริลิกลงบนแผ่นไม้และก้อนหิน ติดก้อนหินที่ระบายสีเสร็จแล้วด้วยปนกาว 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 13. ครูถามนักเรียนวา • หลังจากที่ไดศึกษาตัวอยางการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น : ที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไม นักเรียนคิดวาอุปกรณที่สําคัญของชิ้นงานนี้ คือสิ่งใด และชิ้นงานมีขั้นตอนการปฏิบัติที่ ยุงยากซับซอนหรือไม อยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) • งานประดิษฐชิ้นนี้มีประโยชนตอการดํารง ชีวิตประจําวันของนักเรียนหรือไม อยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 14. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “กระดาษทรายแบงเปน 2 ประเภท คือ แบบขัดแหง ใชในงานขัดแหง ไมสามารถใชรวมกับนํ้า หรือขัดเปยกได เพราะ กระดาษจะเปอยยุยและผงขัดจะหลุดลอน เหมาะกับงานขัดไม งานขัดเครื่องเรือน งานขัดสี งานขัดผิวโลหะเคลือบ และแบบ ขัดเปยก ใชไดทั้งงานขัดเปยกและงานขัดแหง เพราะพื้นกระดาษมีความเหนียว ไมเปอยยุย เหมาะกับงานขัดสีรถยนต งานขัดโลหะ งานขัดไม งานขัดเครื่องเรือน ในการเลือก กระดาษทรายมาใชขัดแผนไม ควรเลือกให เหมาะสมกับลักษณะของงาน เนื่องจาก กระดาษทรายแตละเบอรจะมีคุณลักษณะใน การใชงาน รวมถึงความละเอียดที่แตกตางกัน ซึ่งกระดาษทรายที่ใชในการขัดไมมีเบอร ตั้งแต 0-5 กระดาษทรายที่มีเบอรนอยจะมี ความละเอียดมาก แตถามีเบอรที่เพิ่มมากขึ้น เนื้อของกระดาษทรายจะหยาบ” การประดิษฐที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไม สามารถนํามาแขวน สิ่งของอยางอื่นไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ ไมได เพราะแผนไมที่นํามาใชมีนํ้าหนักเบาและ ตะขอสําหรับแขวนนั้นทํามาจากลวดเสียบกระดาษ ซึ่งไมมี ความแข็งแรง ทนทานมากพอ จึงไมสามารถนํามาแขวนสิ่งของ ที่มีนํ้าหนักมากๆ ได จึงเหมาะสําหรับแขวนสิ่งของชิ้นเล็กๆ ที่เปน พวงกุญแจมากกวา) นักเรียนควรรู 1 สีอะคริลิก เปนสีที่มีสวนผสมของสารพลาสติกโพลีเมอรจําพวกอะคริลิก หรือไวนิล สามารถนําไปใชไดกับงานหลากหลายประเภท ไมวาจะเปนโลหะ ไม พลาสติก แกว ผา และกระดาษ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติที่แหงเร็ว ติดแนนกับ พื้นผิวไดดี และมีความทนทาน สําหรับผูที่เริ่มตน อาจใชพูกันลากสีตามเสนที่วาด ไวกอนที่จะระบายสีก็ได จากนั้นจึงคอยทําการระบายสีลงบนรูป โดยมีขอควร ระวัง คือ สีอะคริลิก เปนสีที่แหงเร็วมาก การระบายสีจึงตองมีความแมนยํา และ อุปกรณที่นํามาใชกับสีอะคริลิก เชน พูกัน จานรองสี เมื่อใชเสร็จแลวควรรีบลาง ออกโดยทันที เพราะหากสีแหง อุปกรณเหลานี้อาจจะนํากลับมาใชงานอีกไมได 2 ปนกาว ใชคูกับกาวที่มีลักษณะเปนแทง โดยจะทําหนาที่เปนตัวทํา ความรอนใหแทงกาวละลาย เพื่อนํากาวไปใชประโยชนในงานตางๆ นํา สอน สรุป ประเมิน T83
ม่ำนจำกเชือกต้นกก ม่านจากเชือกต้นกก เป็นงานประดิษฐ์ โดยการน�าเชือกต้นกกมาขดเป็นวงกลม แล้วขึ้นรูปเป็นกลีบดอกไม้ หลาย ๆ ดอก น�ามาเย็บติดกันเป็นแผง ตกแต่งให้สวยงาม จากนั้นจึงน�าไปแขวนไว้ที่หน้าต่างของห้อง ๑. เชือกต้นกก ๒. ปนกาว/แท่งกาว ๓. ไหมพรมสีชมพูและสีเหลือง ๔. กรรไกร ๕. เข็ม/ด้าย วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ วิธีกำรประดิษฐ์ น�าเชือกต้นกกที่ย้อมสีแล้วมาขดเป็นวงกลม เพื่อใช้เป็นเกสร โดยขดประมาณ ๓-๕ รอบ หรือตามขนาดที่ต้องการ ñ ตัดเชือกต้นกกเพื่อน�ามาขึ้นรูปเป็นกลีบดอก จ�านวน ๔ เส้น จากนั้นน�ามาโค้งเป็นกลีบดอก ติดด้วยปนกาวให้แน่น ò 7๔ ม่านจากเชือกต้นกก เป็นงานประดิษฐ์ โดยการน�าเชือกต้นกกมาขดเป็นวงกลม แล้วขึ้นรูปเป็นกลีบดอกไม้ ๒. ปนกาว/แท่งกาว 1 2 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 15. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น : มานจากเชือกตนกกและโคมไฟ จากชอนพลาสติก จากหนังสือเรียน หนวย การเรียนรูที่ 5 หนา 74-78 จากนั้นรวมกัน อภิปรายถึงขั้นตอนการประดิษฐมานจาก เชือกตนกกและโคมไฟจากชอนพลาสติก ทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการประดิษฐมานจาก เชือกตนกกและโคมไฟจากชอนพลาสติก ใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 16. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ประดิษฐมานจากเชือกตนกกและโคมไฟจาก ชอนพลาสติกมาใหนักเรียนดู 17. ครูสาธิตการประดิษฐมานจากเชือกตนกก และโคมไฟจากชอนพลาสติกใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 18. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประดิษฐ มานจากเชือกตนกกและโคมไฟจากชอน พลาสติก หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะ ปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือ ใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการ ปฏิบัติงานของนักเรียนอยางใกลชิดและคอย ใหความชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนัก ถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย ใหนักเรียนนําเชือกตนกกมาสรางสรรคชิ้นงานประดิษฐ เปนของใช ของตกแตงตามความสนใจ 1 ชิ้น โดยไมซํ้ากับใน หนังสือเรียน จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน ใหนักเรียนนําเชือกตนกกมาสรางสรรคชิ้นงานประดิษฐ เปนของใช ของตกแตงตามความสนใจอยางละ 1 ชิ้น โดยไมซํ้ากับ ในหนังสือเรียน พรอมทั้งอธิบายเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณที่นํามาใช ขั้นตอนการประดิษฐ และการนําไปใชประโยชน จากนั้นออกมา นําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน นักเรียนควรรู 1 ตนกก เปนวัชพืชที่ชอบขึ้นอยูในสภาพพื้นที่ที่มีนํ้าทวมขัง ลําตนเรียวยาว ไมแตกกิ่งกาน ใบเรียงตัวอัดแนน ในประเทศไทยจะเห็นตนกก 2 ชนิด คือ ตนกกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามริมคลอง หรือหนองนํ้า อีกชนิดหนึ่ง เปนตนกกที่นิยมนํามาตกแตงบาน ซึ่งเปนตนกกที่ปลูกและจําหนายอยูโดยทั่วไป ตามรานขายตนไม หรือแหลงจําหนายตนไม ปจจุบันไดมีการนําตนกกมาใชเปน ไมประดับตามสถานที่ตางๆ ไมวาจะบานเรือน สปา รีสอรต โรงแรม นอกจากนี้ ยังมีการนําตนกกมาตากแหง เพื่อทํางานฝมือ งานจักสาน เชน กลองใสกระดาษ ชําระ เสื่อ ตะกรา อีกทั้งยังเปนการสงเสริมอาชีพและสรางรายไดใหกับชุมชน อีกทางหนึ่ง 2 แทงกาว มีลักษณะเปนแทงกลมใส สีขาวขุน หรือขาวใส ผลิตขึ้นมาจาก สารเคมีชนิดตางๆ เชน พอลิเอไมด พอลิเอทิลีน อะซิเตต ในการใชงานตองใช รวมกับปนกาวที่เปนตัวชวยในการละลาย เหมาะสําหรับใชงานในที่ตองการยึด ติดอยางรวดเร็วและไมตองการความแข็งแรงมากนัก นํา สอน สรุป ประเมิน T84
ขอสอบเนน การคิด เมื่อติดกลีบดอกจนครบทั้ง ๔ กลีบ ให้น�าเกสร ดอกไม้ที่ขดไว้ ๑ อัน มาติดทับลงบนกลีบดอก เพื่อปดรอยกาว ó น�าดอกไม้ที่ประกอบเสร็จแล้วมาเย็บติดกัน เป็นแนวเส้นตรงตามขนาดของหน้าต่างที่ ต้องการน�าไปแขวน ô น�าพู่ที่ท�าจากไหมพรม หรือเส้นปานมาผูกติด กับปลายของม่านเชือกต้นกกให้แน่น õ ตกแต่งปลายม่านเชือกต้นกกให้ครบตาม ความยาวของม่านเพื่อเพิ่มความสวยงาม ö การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 7๕ ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 19. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น : มานจากเชือกตนกกและโคมไฟ จากชอนพลาสติก โดยครูเปนผูตรวจสอบ ความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยัง ขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 20. ครูถามนักเรียนวา • หลังจากที่ไดศึกษาตัวอยางการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น : มานจากเชือกตนกกและโคมไฟ จากชอนพลาสติก นักเรียนคิดวาอุปกรณ ที่สําคัญของชิ้นงานนี้คือสิ่งใด และชิ้นงาน มีขั้นตอนการปฏิบัติที่ยุงยากซับซอนหรือไม อยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) • งานประดิษฐทั้ง 2 ชิ้นนี้มีประโยชนตอการ ดํารงชีวิตประจําวันของนักเรียนหรือไม อยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 21. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ไหมพรมที่ใชงาน เปนเวลานานอาจมีฝุนเกาะจึงตองนํามาทํา ความสะอาด โดยนําไหมพรมมาแชลงใน นํ้าอุน ทิ้งไว 5 นาที ซักดวยนํ้าสบู หรือนํ้ายา ซักผาชนิดออน ไมควรขยี้ และไมควรใช แปรงขัด แตใหใชวิธีการบีบแบบเบาๆ เพื่อ ขจัดคราบสิ่งสกปรกออกจนหมด ใชนํ้าสะอาด ลางนํ้าสบู หรือนํ้ายาซักผา แลวบีบที่ไหม พรมเบาๆ หรือใชผาขนหนูซับนํ้าออกจนหมด นําไปผึ่งใหแหงในบริเวณที่มีลมพัดผาน หรือ มีอากาศถายเทไดสะดวก” หากไมมีเชือกตนกก สามารถใชวัสดุในทองถิ่นชนิดใดมาใช แทนที่ไดเมื่อตองการประดิษฐมาน 1. เชือกปาน 2. หลอดกาแฟ 3. ขวดพลาสติก 4. ฝาขวดนํ้าอัดลม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะเชือกปานเปนวัสดุที่ไดจาก ธรรมชาติและมีลักษณะคลายกับเชือกตนกก จึงสามารถนํามาใช แทนที่กันได แตสําหรับหลอดกาแฟ ขวดพลาสติก และฝาขวด นํ้าอัดลม เปนวัสดุที่ไมไดมาจากธรรมชาติ จึงไมเหมาะสมที่จะนํา มาประดิษฐเปนมาน) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา ในขั้นตอนการประดิษฐที่เปนการนําดอกไมที่ประกอบ เสร็จแลวมาเย็บติดกันนั้น นักเรียนตองใชเข็มเย็บผาอยางระมัดระวัง เนื่องจาก เข็มมีความแหลมคม เพราะหากยังไมชํานาญอาจเกิดความพลาดพลั้งทําใหเข็ม ตํามือได ดังนั้น ในระหวางการปฏิบัติงาน นักเรียนควรปฏิบัติงานดวยความตั้งใจ และระมัดระวังไมใหเกิดอันตรายตอตนเองและผูอื่นได สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทําพูหอยจากไหมพรม ไดที่ https://www. iurban.in.th/diy/hula-tassels/ นํา สอน สรุป ประเมิน T85
ขอสอบเนนการคิด โคมไฟจำกช้อนพลำสติก โคมไฟจากช้อนพลาสติก เป็นงานประดิษฐ์ โดยการน�าช้อนพลาสติกที่ ใช้งานแล้ว น�ามาล้างท�าความ สะอาด พร้อมพ่นสี ให้เรียบเนียน จากนั้นน�ามาตัดด้ามช้อนออก แล้วน�ามาวางเรียงซ้อนกันบนขวดน�้า ตกแต่งให้สวยงาม วางครอบลงบนหลอดไฟ เพื่อน�าไปใช้ประดับตกแต่งห้อง ๑. ช้อนพลาสติก ๒. ขวดพลาสติก ๓. สีสเปรย์ ๔. กรรไกร ๕. หลอดไฟ ๖. กระดาษสี ๗. ขาตั้งหลอดไฟ ๘. ปนกาว/แท่งกาว วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ วิธีกำรประดิษฐ์ น�าช้อนพลาสติกมาล้างท�าความสะอาด ผึ่งให้ แห้ง น�าไปพ่นด้วยสีสเปรย์ ผึ่งให้แห้ง จากนั้น ตัดส่วนด้ามช้อนออก ñ น�าช้อนพลาสติกที่พ่นสีเหลืองแล้วมาติดบริเวณ ด้านล่างของขวดน�้าที่ตัดขนาดความยาวเป็น ชั้นที่ ๑ ò 76 โคมไฟจากช้อนพลาสติก เป็นงานประดิษฐ์ โดยการน�าช้อนพลาสติกที่ ใช้งานแล้ว น�ามาล้างท�าความ ตกแต่งให้สวยงาม วางครอบลงบนหลอดไฟ เพื่อน�าไปใช้ประดับตกแต่งห้อง 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 22. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐจาก ขวดพลาสติกใหนักเรียนดู พรอมทั้งแจงให ทราบวา ครูจะสาธิตการประดิษฐแจกันขวด พลาสติกใหนักเรียนดูเปนตัวอยางและให นักเรียนไดลงมือประดิษฐตามแบบที่ครูสาธิต ขั้นที่ 2 ทําตามแบบ 23. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ประดิษฐแจกันขวดพลาสติกมาใหนักเรียนดู 24. ครูสาธิตการประดิษฐแจกันขวดพลาสติก ใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบาย ประกอบทีละขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อให นักเรียนไดสังเกตและติดตามแตละขั้นตอน ไดทัน ขั้นที่ 3 ทําเองโดยไมมีแบบ 25. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประดิษฐ แจกันขวดพลาสติก หากนักเรียนเกิดขอสงสัย ในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือ ใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการ ปฏิบัติงานของนักเรียนอยางใกลชิดและคอย ใหความชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนัก ถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย 26. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวางแผนประดิษฐ แจกันขวดพลาสติกตามความคิดสรางสรรค ของกลุมตนเอง โดยแบงหนาที่ตามความ ถนัดและความความสามารถของแตละบุคคล พรอมทั้งจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ทํางานใหพรอมในชั่วโมงถัดไป 27. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประดิษฐ แจกันขวดพลาสติกตามความคิดสรางสรรค ของกลุมตนเอง นักเรียนควรรู 1 ชอนพลาสติก นอกจากจะสามารถนํามาประดิษฐเปนโคมไฟไดแลว ยัง สามารถนํามาประดิษฐเปนของใช ของตกแตงอื่นๆ ไดอีกหลายชนิด เชน กระถางตนไม เชิงเทียน แจกันดอกไม นาฬกาติดผนัง 2 หลอดไฟ สีของแสงที่ไดจากหลอดไฟมีอยู 3 โทนสี คือ สีวอรมไวต (Warm White) ใหแสงสีแดงออกโทนสม สีคูลไวต (Cool White) ใหแสงสีจะเริ่มออกมา ทางสีขาว และสีเดยไลต (Day Light) ใหแสงสีโทนขาวอมฟา คลายแสงธรรมชาติ ในเวลากลางวัน เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา ขั้นตอนในการพนสีชอนพลาสติกนั้น นักเรียนควร สวมอุปกรณปองกัน เชน ผาปดจมูก ถุงมือ เพื่อปองกันละอองจากสีสเปรย เขาสูรางกาย เนื่องจากสีสเปรยมีสวนผสมของสารเคมีที่เปนอันตรายตอรางกาย หากนําสีโปสเตอรมาระบายชอนพลาสติก เพื่อประดิษฐเปน โคมไฟ นักเรียนคิดวาสีจะติดทนหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ สีจะไมติดทน เพราะชอนพลาสติกมีความมันเงา และลื่น ซึ่งไมเหมาะกับการนํามาทาดวยสีโปสเตอร หากตองการให ชอนมีสีติดทนนาน ควรเลือกใชสีสเปรยฉีดพนจึงจะเหมาะสมกวา หากตองการใหสีมีความเขม ควรพนซํ้าหลายๆ ครั้ง แตถาตองการ นํามาทําเปนโคมไฟ ควรพนเพียงครั้งเดียว เพื่อใหแสงสวางของ หลอดไฟสามารถสองผานชอนออกมาได) นํา สอน สรุป ประเมิน T86
ขอสอบเนน การคิด น�าช้อนพลาสติกที่พ่นสีเขียวอ่อนและสีเขียว เข้ม น�าไปติดบริเวณชั้นสุดท้ายของขวดน�้า ô ติดช้อนพลาสติกชั้นที่ ๒ โดยติดสับหว่าง กับชั้นที่ ๑ และติดชั้นต่อไปโดยติดสับหว่าง กันไปเรื่อย ๆ เช่นนี้จนถึงชั้นสุดท้าย ó น�าผลงานที่เสร็จเรียบร้อยแล้วไปวางครอบ บนหลอดไฟ ö น�าด้ามช้อนพลาสติกที่พ่นสีเขียวเข้มที่ตัด ทิ้งมาติดเป็นแฉกประมาณ ๕-๖ แฉก แล้ว น�ามาตกแต่งบริเวณด้านบนของขวด õ ในการพ่นสีสเปรย์ที่ช้อนพลาสติก ควรพ่น แค่รอบเดียวและพ่นเฉพาะด้านนอกของช้อน เพื่อให้แสงสว่างของหลอดไฟสามารถส่องผ่าน ช้อนออกมาได้ Trick : การพ่นสีสเปรย์ * หมายเหตุ ในการใช้งานควรเลือกใช้หลอด LED เนื่องจากมีค่าความร้อนต�่า จะช่วยป้องกันไม่ให้พลาสติกละลาย หรือเกิดการเผาไหม้ได้ การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 77 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ฝกใหชํานาญ 28. ครูมอบหมายใหนักเรียนแตละคนประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากขวดพลาสติก เพื่อ เปนการฝกฝนจนเกิดความชํานาญ จากนั้น คัดเลือกผลงานที่ดีที่สุดเพียง 1 ชิ้น นํามา ปฏิบัติกิจกรรมในชั่วโมงถัดไป 29. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึก ผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง ตัวอยาง การประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุใน โรงเรียน หรือทองถิ่นวา “วัสดุในโรงเรียน หรือ ในทองถิ่นเปนวัสดุที่สามารถพบเห็นไดงาย และเปนวัสดุที่ผูคนสวนมากไมนิยมนํามาใชงาน เพื่อใหเกิดประโยชน ดังนั้น การประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น จึง เปนสิ่งที่ชวยทําใหวัสดุเหลานั้นสามารถนํามาใช ประโยชนไดอยางคุมคา โดยผานกระบวนการคิด วิเคราะหและการมีความคิดริเริ่มสรางสรรค เพื่อ ใหผลงานออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด” ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการประดิษฐของใช ของตกแตง จากขวดพลาสติก 2. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 3. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค เพราะเหตุใดการประดิษฐโคมไฟจากชอนพลาสติก จึงควรใช หลอดไฟแบบ LED (แนวตอบ หลอดไฟแบบ LED มีคาความรอนคอนขางตํ่า ซึ่งเมื่อนําไปไวในโคมไฟจะไมทําใหพลาสติกละลาย หรือเกิดการ เผาไหมได หากเปดไฟอยางตอเนื่องกันหลายชั่วโมง) แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม นํา สอน สรุป ประเมิน T87
ขอสอบเนนการคิด SHOP ๕ การจัดการกับผลงานประดิษฐ์ กระบวนการจัดการเกี่ยวกับวิธีการด�าเนินการให้ผลผลิตที่ได้จากงานประดิษฐ์ไปสู่เป้าหมาย ตามที่วางแผนไว้ โดยผลผลิตถึงมือผู้บริโภคอย่างคงสภาพเดิม ไม่ช�ารุดเสียหาย ซึ่งผู้บริโภค อาจเป็นตัวเรา เพื่อน ญาติ หรือผู้ซื้อคนอื่น ๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราวางแผนประดิษฐ์ชิ้นงาน เพื่อเป้าหมายใด ๕.๑ หลักการจัดการกับผลงานประดิษฐ์ หลักการจัดการนับเป็นสิ่งส�าคัญที่ควรค�านึงถึง เพราะเมื่อผลิตชิ้นงานเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่รู้ วิธีการจัดการกับผลงาน ผลผลิต หรืองานชิ้นนั้นจะไม่มีคุณค่า ขาดความน่าสนใจ อาจเสื่อมสภาพ และเกิดการช�ารุดเสียหายได้ เพื่อให้ผลงานดังกล่าวมีคุณค่า มีความน่าสนใจ ดังนั้น เมื่อประดิษฐ์ ชิ้นงานเสร็จแล้ว ผู้ประดิษฐ์ควรด�าเนินการให้ผลผลิตไปสู ่เป้าหมายตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ สิ่งส�าคัญในการจัดการกับผลงานที่ประดิษฐ์ก็คือผู้ประดิษฐ์ต้องทราบว่าผลงานดังกล่าวประดิษฐ์ขึ้น เพื่อสิ่งใด โดยแบ่งผลงานประดิษฐ์ออกเป็น ๒ ประเภท ดังนี้ ผลงานที่ท�าขึ้นเพื่อใช้เอง เป็นผลงานที่มีหลากหลายรูปแบบและ ผลิตได้ด้วยตนเอง เป็นผลงานที่ท�าขึ้นเพื่อใช้เอง ไม่ได้เป็นไป ในลักษณะของการแข่งขัน เป็นผลงานที่สามารถมอบให้ผู้รับได้ทันที อาจมีบรรจุภัณฑ์ หรือไม่มีก็ได้ เป็นผลงานที่ต้องวางแผนการท�างาน อย่างเป็นขั้นตอน เพื่อให้ท�างานได้อย่าง ราบรื่น ผลงานที่ท�าขึ้นเพื่อจ�ำหน่ำย เป็นผลงานที่มีหลากหลายรูปแบบ และผู้ผลิตหลายรายผลิตผลงานที่มี ลักษณะเหมือนกัน เป็นผลงานที่ท�าขึ้นเพื่อจ�าหน่าย จะมีการ แข่งขันทางการตลาดสูง เป็นผลงานที่ต้องออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ สวยงาม เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อ เป็นผลงานที่ต้องมีการวางแผนอย่าง รัดกุมและเป็นขั้นตอน เพราะต้องท�างาน กับคนจ�านวนมาก 78 โดยผลผลิตถึงมือผู้บริโภคอย่างคงสภาพเดิม แข่งขันทางการตลาดสูง หน่าย จะมีการ 1 2 ขั้นนํา (5Es) ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 1. ครูกลาวคําทักทายนักเรียน พรอมทั้งซักถาม ถึงผลงานที่ไดรับมอบหมายใหปฏิบัติจาก ชั่วโมงที่ผานมาวา นักเรียนไดนําขวดพลาสติก ไปประดิษฐเปนของใช ของตกแตงประเภทใด จากนั้นครูถามนักเรียนวา • ผลงานที่นักเรียนสรางสรรคขึ้นจัดเปนงาน ประดิษฐประเภทใด เพราะเหตุใดจึงเลือก ประดิษฐผลงานในลักษณะเชนนี้ (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) • ผลงานที่ทําขึ้นเพื่อใชเองและผลงานที่ทําขึ้น เพื่อจําหนายมีลักษณะที่แตกตางกันอยางไร (แนวตอบ ผลงานที่ทําขึ้นเพื่อใชเอง ไมตอง คํานึงถึงเรื่องบรรจุภัณฑมากนัก สามารถ ทําไดงาย มีขั้นตอนที่ไมยุงยากซับซอน สวน ผลงานที่ทําขึ้นเพื่อจําหนายจะคํานึงถึงเรื่อง ของบรรจุภัณฑเปนหลัก ซึ่งบรรจุภัณฑตอง มีความนาสนใจ มีขั้นตอนในการออกแบบ ที่คอนขางซับซอน มีรูปแบบและรูปทรง ที่นาสนใจ หรือมีความแปลกใหมมากกวา) 2. ครูใหนักเรียนสังเกตและเปรียบเทียบความ แตกตางของผลงานประดิษฐ โดยงานชิ้นที่ 1 เปนงานประดิษฐที่ไมมีบรรจุภัณฑ สวนชิ้นที่ 2 เปนงานประดิษฐที่มีบรรจุภัณฑ จากนั้นครู ถามนักเรียนวา • หากตองการซื้อสิ่งของ 1 ชิ้น นักเรียนจะ เลือกซื้อชิ้นใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ เลือกซื้อชิ้นที่ 2 เพราะบรรจุภัณฑ ชวยดึงดูดความสนใจและสรางแรงจูงใจใน การเลือกซื้อ ซึ่งบรรจุภัณฑจะทําหนาที่ในการ ปองกันการกระแทก แตกหัก เพื่อไมใหเกิด การชํารุดเสียหายของสิ่งของชิ้นดังกลาว) นักเรียนควรรู 1 ผูบริโภค ผูซื้อ หรือผูที่ไดรับบริการจากผูประกอบธุรกิจ ซึ่งกฎหมายคุมครอง ผูบริโภคไดบัญญัติสิทธิของผูบริโภคไว 5 ประการ ดังนี้ • สิทธิที่จะไดรับขาวสาร รวมถึงคําพรรณนาคุณภาพที่ถูกตองและเพียงพอ เกี่ยวกับสินคา หรือบริการ • สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินคา หรือบริการ • สิทธิที่จะไดรับความปลอดภัยจากการใชสินคา หรือบริการ • สิทธิที่จะไดรับความเปนธรรมในการทําสัญญา • สิทธิที่จะไดรับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย 2 การแขงขันทางการตลาด เปนกระบวนการวางแผนและดําเนินการในการ กําหนดรูปแบบสินคาและบริการ การตั้งราคา การสงเสริมการตลาด และการจัด จําหนาย เพื่อกอใหเกิดการแลกเปลี่ยนที่สามารถตอบสนองความตองการของ บุคคล และบรรลุวัตถุประสงคขององคกรได ขอใดจัดเปนผลงานประดิษฐที่ทําขึ้นเพื่อใชเอง 1. สรางผลงานประดิษฐใหแตกตางจากคูแขง 2. นําแกนกระดาษชําระมาประดิษฐเปนที่ใสเครื่องเขียน 3. ประดิษฐบรรจุภัณฑ เพื่อนํามาใสขนมไปจําหนายในชุมชน 4. วางแผนการประดิษฐของตกแตง เพื่อนําไปจําหนายในทองตลาด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการนําแกนกระดาษชําระ ที่ไมใชแลวมาประดิษฐเปนที่ใสเครื่องเขียน เปนผลงานประดิษฐ ที่ทําขึ้นเพื่อใชเอง โดยผูประดิษฐไมจําเปนตองมีการวางแผน การทํางานอยางเปนขั้นตอน หรือตองไปแขงขันกับผูอื่น แตมี จุดประสงค เพื่อประดิษฐไวใชเอง) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T88
ขอสอบเนน การคิด ปองกันผลผลิตไม่ให้ เสื่อมสลายจากสภาพแวดล้อม ช่วยในการจัดเก็บและ การขนส่งผลผลิต ช่วยให้ผู้บริโภคมองเห็น คุณค่าของผลผลิต ช่วยสื่อความหมาย ของผลผลิต ช่วยดึงดูดความสนใจ และเป็นแรงจูงใจในการซื้อ รองรับผลผลิตให้ คงอยู่ในสภาพเดิม ไม่เสียรูปทรง ปองกันการกระแทก สะดวกต่อการขนย้าย ช่วยให้ผลผลิตไม่ช�ารุด ไม่บุบสลาย ไม่แตกหัก ควำมส�ำคัญของ บรรจุภัณฑ์ ๕.๒ การบรรจุภัณฑ์ วิธีการห่อหุ้มผลผลิต หรือการบรรจุผลผลิตจากแหล่งผลิตไปยังผู้บริโภค โดยน�าวัสดุต่าง ๆ เช่น กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ ไม้ โฟม มาประกอบกันในรูปแบบต่าง ๆ โดยอาศัยความคิด สร้างสรรค์ เทคนิค วิธีการต่าง ๆ เพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีรูปร่างและรูปทรงที่สวยงาม ดึงดูด ความสนใจจากผู้ซื้อ สร้างความสะดวกสบายในการใช้สอยและการเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์ ๑) ความส�าคัญของการบรรจุภัณฑ์ เป็นขั้นตอนที่มีความส�าคัญมาก ผลผลิตจะมี คุณค่า มีความสวยงาม หรือน่าสนใจมากน้อยเพียงใด ผู้ซื้อรู้สึกได้จากการมองเห็นรูปลักษณ์ ภายนอกเป็นอันดับแรก ดังนั้น บรรจุภัณฑ์ที่สะดุดตาและมีความน่าสนใจจึงมีส่วนช่วยในการ ส่งเสริมผลผลิตให้มีคุณค่ายิ่งขึ้น โดยเฉพาะการบรรจุภัณฑ์ หรือการห่อหุ้มผลผลิตเพื่อการจ�าหน่าย ซึ่งมีการแข่งขันและพัฒนารูปแบบของบรรจุภัณฑ์ให้มีความแปลกใหม่และหลากหลายอยู่เสมอ เพราะบรรจุภัณฑ์ส่งผลถึงความน่าสนใจของผลผลิต การบรรจุภัณฑ์จึงมีความส�าคัญ ดังนี้ การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 7๙ ขั้นนํา ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมโยงความรูกอน เขาสูบทเรียนวา “การบรรจุภัณฑเปนการ จัดการกับผลผลิต ซึ่งชวยใหผลผลิตมีคุณคา มีความนาสนใจ มีความสวยงาม และเปนการ เพิ่มมูลคาใหแกงานประดิษฐ” ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจและคนหา 1. ครูใหนักเรียนศึกษาหลักการจัดการกับผลงาน ประดิษฐและการบรรจุภัณฑ จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวหลักการ จัดการกับผลงานประดิษฐและการบรรจุภัณฑ จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 5 จากนั้นใหนักเรียนรวมกันอภิปรายแลกเปลี่ยน ความรูในเรื่องที่ไดศึกษามา 3. ครูถามนักเรียนวา • บรรจุภัณฑมีความสําคัญและมีประโยชน อยางไร (แนวตอบ เปนสิ่งที่ชวยทําใหผลงานมีคุณคา มีความสวยงาม รวมถึงมีความนาสนใจ มากยิ่งขึ้น ทั้งยังชวยสรางมูลคาเพิ่มใหกับ ผลิตภัณฑ และชวยรักษาผลงานใหดูใหม ไมเสียรูปทรงไดงาย) • เพราะเหตุใดการประดิษฐผลงานขึ้นเพื่อ จําหนายจึงตองใสใจเรื่องบรรจุภัณฑเปน พิเศษ (แนวตอบ สินคาบางชนิดมีการแขงขันกันสูง จึงทําใหสินคาที่มีบรรจุภัณฑดูนาสนใจ ได เปรียบในเชิงพาณิชย และสงผลใหผูบริโภค เกิดความพึงพอใจในสินคาไดมากกวา) การเลือกใชบรรจุภัณฑของผูผลิต ควรคํานึงถึงปจจัยในขอใด มากที่สุด 1. เลือกบรรจุภัณฑที่มีความหรูหรา 2. เลือกบรรจุภัณฑที่มีความสวยงาม 3. เลือกบรรจุภัณฑที่มีความแข็งแรง ทนทาน 4. เลือกบรรจุภัณฑที่ผลกระทบตอราคานอยที่สุด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะเปนปจจัยสําคัญที่ผูผลิต ควรคํานึงถึงมากที่สุด หากเลือกใชบรรจุภัณฑที่มีราคาสูงอาจ ทําใหตนทุนการผลิตสูงขึ้น เมื่อตั้งราคาจําหนายจึงตองเพิ่มขึ้น ตามไปดวย เมื่อราคาสินคาสูงเกินไป อาจทําใหยอดจําหนาย ลดนอยลง) เกร็ดแนะครู ครูสามารถนําตัวอยางบรรจุภัณฑในรูปแบบตางๆ มาใหนักเรียนดู แลวใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับรูปแบบ ความสวยงาม และประโยชน ของบรรจุภัณฑ บูรณาการอาเซียน ครูอาจใหนักเรียนสืบคนตัวอยางผลงานประดิษฐและบรรจุภัณฑของ ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ โดยใหนักเรียนรวมกันวิจารณ การออกแบบผลงานประดิษฐและบรรจุภัณฑดังกลาวในประเด็นที่เกี่ยวของ กับการใชความคิดสรางสรรค ประโยชนใชสอย ราคา คุณภาพ และความยาก-งาย ในการประดิษฐ นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T89
ขอสอบเนนการคิด ๒) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ เป็นการก�าหนดลักษณะ รูปร่าง ขนาด และปริมาณ เพื่อน�ามาประกอบเป็นภาชนะบรรจุผลผลิต ซึ่งการออกแบบบรรจุภัณฑ์ต้องอาศัยหลักเกณฑ์ ดังนี้ ๑. มุ่งเน้นประโยชน์ในการบรรจุสินค้า หรือการบรรจุผลผลิต ดังนั้น บรรจุภัณฑ์ควร มีโครงสร้างที่แข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเสียรูปทรง ๒. มุ่งเน้นประโยชน์ในการสื่อความหมาย เพื่อสร้างความเข้าใจในผลผลิต ดังนั้น ตัวอักษรที่ใช้สื่อความหมายต้องมองเห็นเด่นชัด มีรายละเอียดของสินค้าชัดเจน ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ๓. การเลือกแบบบรรจุภัณฑ์ต้องค�านึงถึงความน่าสนใจ เพื่อเป็นการสร้างแรงดึงดูด แก่ผู้บริโภค เช่น รูปทรงแปลกตา สีสันสวยงาม มองดูหรูหรา ๔. การพิจารณาถึงลักษณะของผลผลิต หรือผลิตภัณฑ์ เช่น ผลผลิตจะเสื่อมคุณภาพ เมื่อถูกแสงแดด ผลผลิตจะเกิดการแตกหักเมื่อมีของหนักทับ ๓) ชนิดของบรรจุภัณฑ์ มีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับผลผลิต หรือชิ้นงาน ดังนี้ กระดำษ พลำสติก • ไม่สามารถปองกันความชื้น น�้า กลิ่น และแกสได้ • พับ ตัด ได้ง่าย มีความหนา ให้เลือกหลายแกรม • มีความคงรูป น�ามาออกแบบ ได้อย่างหลากหลาย • มีหลายสี ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย น�้าหนักเบา • ทนทานต่อความชื้นและ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง • น�้าหนักเบา ราคาไม่แพง ได้รับความนิยมมาก • ดัดแปลงรูปทรงได้อย่าง อิสระและหลากหลาย • มีให้เลือกใช้หลายชนิดตาม ความเหมาะสม 8๐ ๒) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ พลำสติก 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การบรรจุภัณฑเปน ขั้นตอนที่มีความสําคัญมาก เพราะเปนขั้นตอน ที่มีสวนชวยในการสงเสริมผลผลิตใหมีคุณคา มากยิ่งขึ้น และสงผลถึงความนาสนใจของ ผลผลิต นอกจากนี้ การบรรจุภัณฑยังชวย รักษาสภาพของผลผลิตใหอยูในสภาพคงเดิม โดยบรรจุภัณฑจะทําหนาที่ในการปองกัน การกระแทก เพื่อไมใหสินคาเกิดการชํารุด บุบสลาย แตกหัก” 5. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนมีวิธีในการเลือกใชบรรจุภัณฑอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน บรรจุภัณฑที่ดีตองมี ความแข็งแรง ทนทาน ชวยรักษาผลผลิต ไดดี นอกจากนี้ ยังตองมีความสวยงามและ มีความนาสนใจอีกดวย) • บรรจุภัณฑที่สวยงามมีประโยชนตอการ จําหนายสินคาหรือไม อยางไร (แนวตอบ มี เนื่องจากบรรจุภัณฑที่สวยงาม จะชวยดึงดูดความสนใจและเปนแรงจูงใจ ในการซื้อสินคาของผูบริโภค) 6. ครูใหนักเรียนออกแบบบรรจุภัณฑของงาน ประดิษฐตามที่ไดจัดเตรียมมา โดยกําหนด ลักษณะ รูปราง รูปทรง ขนาด และปริมาณ เพื่อนํามาประกอบเปนภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ โดยคํานึงถึงหลักเกณฑ ดังนี้ • มุงเนนประโยชนในการบรรจุสินคา • มุงเนนประโยชนในการสื่อความหมาย • การเลือกบรรจุภัณฑตองคํานึงถึงความ นาสนใจ • พิจารณาถึงลักษณะของผลผลิต หรือ ผลิตภัณฑ หากไมตองการใหความชื้นและนํ้าซึมผานได ควรเลือกใช บรรจุภัณฑที่ผลิตจากวัสดุประเภทใด 1. ลังไม 2. กระสอบปาน 3. กลองกระดาษ 4. ซองอะลูมิเนียม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะซองอะลูมิเนียมมีความแข็งแรง ทนทาน มีคุณสมบัติที่ทําใหความชื้น ไอนํ้า หรือแกส ไมสามารถ ซึมผานเขาไปได ซึ่งแตกตางจากคุณสมบัติของกระดาษและ ไมที่มีความชื้น หรือนํ้าสามารถซึมผานเขาไปได) นักเรียนควรรู 1 บรรจุภัณฑ ปจจุบันมีการรณรงคใหผูผลิตสรางบรรจุภัณฑที่เปนมิตรกับ สิ่งแวดลอม เพื่อลดปญหาโลกรอน โดยเฉพาะสหภาพยุโรป ญี่ปุน มีการออก กฎหมายหามใชบรรจุภัณฑที่ทําลายสิ่งแวดลอมแลว 2 พลาสติก ควรมีความรอบคอบและระมัดระวังในการเลือกใชบรรจุภัณฑ ประเภทพลาสติก เพราะเปนวัสดุที่ทําลายสิ่งแวดลอม หากหลีกเลี่ยงไมได ควรเลือกใชพลาสติกชนิดที่ยอยสลายไดงาย เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา บรรจุภัณฑที่ทํามาจากกระดาษไมสามารถปองกันนํ้า ความชื้น กลิ่น และแกสได แตก็มีขอดี คือ สามารถพับ ตัด ไดงาย มีนํ้าหนักเบา ราคาไมสูง และสามารถออกแบบ หรือดัดแปลงไดอยางหลากหลาย นํา สอน สรุป ประเมิน T90
ขอสอบเนน การคิด • มีความใสและท�าเป็นสีต่าง ๆ ได้ง่าย • เปราะบาง แตกหักง่าย แต่ทน แรงกดสูง • ใช้งานซ�้าได้หลายครั้งตลอด อายุการใช้งาน • น�ามาหลอมเพื่อใช้งานใหม่ ได้ • แข็งแรง ทนทาน ไอน�้า และ แกสซึมผ่านไม่ได้ • ก่อนใช้ต้องมีการตรวจสอบ การรั่วซึมที่ตะเข็บ • ไวต่อการเกิดปฏิกิริยาที่จะ ท�าให้เกิดการผุกร่อน • ราคาสูง ทนร้อนและเย็น ได้ดี • ไม่ค่อยนิยม เพราะท�าลาย ธรรมชาติ • น�้าหนักมาก นิยมน�ามาใช้กับ ผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ • อาจเกิดเชื้อรา หากอยู่ในที่ ที่มีความชื้นสูง • มีความแข็งแรง เปยกน�้าได้ • ราคาไม่แพง หาได้ง่าย • ลดปญหาสิ่งแวดล้อม ลด สารก่อมะเร็ง • อายุการใช้งานสั้น ไม่เหมาะ แก่การบรรจุของหนัก • ย่อยสลายง่าย ใช้บรรจุอาหาร แก้ว โลหะ ไม้ ใบไม้ การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 8๑ แก้ว ไม้ • ลดปญหาสิ่งแวดล้อม ลด สารก่อมะเร็ง • อายุการใช้งานสั้น ไม่เหมาะ 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “บรรจุภัณฑมีอยูดวยกัน หลายชนิด ผูออกแบบควรเลือกใชใหเหมาะสม กับผลผลิต เชน พลาสติก มีความทนทานตอ ความชื้น นํ้าหนักเบา ราคาไมสูง ดัดแปลง รูปทรงไดงาย” 8. ครูมอบหมายใหนักเรียนสรางบรรจุภัณฑให แกงานประดิษฐของตนเอง นํามาสงในชั่วโมง ถัดไป ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 9. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) รวมกันปฏิบัติ กิจกรรม Choose the best โดยใหแตละ กลุมคัดเลือกบรรจุภัณฑที่มีภายในกลุม 1 ชิ้น และใหเจาของผลงานออกมานําเสนอแนวคิด ในการสรางผลิตภัณฑใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 10. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การเลือกบรรจุภัณฑ ควรคํานึงถึงหลักการสําคัญตางๆ ไมวาจะเปน วิธีการจําหนาย คูแขงขัน วิธีการขนสง วิธีการ เก็บรักษา ตนทุนของบรรจุภัณฑ กฎระเบียบ หรือขอบังคับของกฎหมาย” 11. ครูมอบไมไอศกรีมใหกับนักเรียนคนละ 1 อัน เพื่อใหนักเรียนปฏิบัติกิจกรรม โดยมีกฎกติกา คือ ใหนักเรียนแตละคนโหวตผลิตภัณฑที่ ถูกใจ 1 ชิ้น จากนั้นนําไมไอศกรีมไปวางใน กลองขางผลิตภัณฑ โดยมีขอหามไมใหโหวต ผลิตภัณฑภายในกลุมของตนเอง 12. ครูดําเนินการนับคะแนนโหวต พรอมทั้ง อธิบายเหตุผลกับนักเรียนวา เพราะเหตุใด ผลิตภัณฑชิ้นนี้จึงไดรับคะแนนโหวตมาก ที่สุด หรือไดรับคะแนนโหวตนอยที่สุด และให คําแนะนําเพิ่มเติม เพื่อใหนําคําติชมไปใชใน การพัฒนาผลงานของตนเองตอไป บรรจุภัณฑจากใบตองมีขอดีอยางไร 1. ฉีกขาดยาก คงทน 2. ใชหอสิ่งของตางๆ ได 3. ความชื้นและเชื้อโรคซึมผานยาก 4. ยอยสลายไดเอง ไมทําลายสิ่งแวดลอม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะใบตองเปนวัสดุที่หาไดงายใน ทองถิ่น ราคาถูก ยอยสลายไดเอง ไมทําลายสิ่งแวดลอม ไมเปน อันตรายตอรางกาย สามารถนํามาใชหออาหาร เชน ทําเปนหอหมก ขาวตมมัด ขนมสอดไส) นักเรียนควรรู 1 แกว มีแบบชนิดปากกวาง เชน ขวดนํ้าสลัด ขวดแยม และแบบชนิด ปากแคบ เชน ขวดนํ้าอัดลม ขวดนํ้าผลไม สวนฝาขวดมีใหเลือกหลายแบบ เชน ฝาจีบ ฝาเกลียว ฝาสุญญากาศ 2 ไม บรรจุภัณฑประเภทไมมีหลายแบบ เชน กลองไมขนาดเล็กใชบรรจุสินคา หัตถกรรม ผักและผลไมสด เพื่อการขายปลีก กลองไมขนาดใหญใชในการ ขนสงสินคาอุตสาหกรรม ลังไม ใชบรรจุผักและผลไมสด และเครื่องจักรที่มี นํ้าหนักมาก ซึ่งอาจทํามาจากไมอัด หรือไมซุงผาเปนแผน ไมยางพารา หรือ ไมเนื้อออน เขง ทําจากไมไผสาน มีหลายแบบ หลายขนาด เชน เขงผัก เขงผลไม เขงปลาทู 3 สารกอมะเร็ง หรือ Carcinogen พบมากในอาหารประเภทปง ยาง และ รมควัน จากสถิติของสถาบันวิจัยมะเร็งแหงโลก พบวา มากกวารอยละ 50 ของผูปวยที่เปนมะเร็งเกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไมถูกตอง นํา สอน สรุป ประเมิน T91