The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

2217119TM-การงานอาชีพ-ม2-[221212]

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by กัลยกร ไชยมงคล, 2023-05-12 03:42:05

2217119TM-การงานอาชีพ-ม2-[221212]

2217119TM-การงานอาชีพ-ม2-[221212]

กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค ๒ หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม ร่างกายมีน�้าเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ ๗๐ ของน�้าหนักตัว น�้าจะอยู่ในเลือด น�้าดี และ ส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ดังนั้น การเลือกบริโภคเครื่องดื่ม ควรเลือกเครื่องดื่มที่เมื่อดื่มไปแล้วก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อร่างกาย ส่งผลให้มีสุขภาพดี เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บรรเทา และรักษาโรคบางชนิดได้ เช่น ผลที่ร่างกายได้รับ • ร่างกายเจริญเติบโตได้ดี • ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ • สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านทานโรค • เสริมสร้างกระดูกและฟนให้แข็งแรง • ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ผลที่ร่างกายได้รับ • รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า • ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น • ช่วยย่อยและดูดซับอาหาร • ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย • ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย • แคลเซียม • ธาตุเหล็ก สังกะสี • โพแทสเซียม • แมกนีเซียม ¹íéÒà»Å‹Ò • โปรตีน • ฟอสฟอรัส • แคลเซียม • วิตามินต่าง ๆ • โพแทสเซียม ¹Á • น�้า • ไฟเบอร์ • กรดอินทรีย์ • เกลือแร่ต่าง ๆ • วิตามินต่าง ๆ ¹íéҼѡáÅмÅäÁŒ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่เมื่อดื่มไปแล้วอาจก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย ส่งผลให้ สุขภาพทรุดโทรม และอาจก่อให้เกิดโรคบางชนิดได้ เช่น น�้าอัดลม เครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ ผลที่ร่างกายได้รับ • ต้านอนุมูลอิสระ • ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ • ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ • ชะลอความแก่ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง • ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง 36 ใหนักเรียนรวมกลุมกันทํากิจกรรม “ดื่มอยางไรกายและใจ จะแข็งแรง” โดยเลือกปฏิบัติกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งบนพื้นฐาน การมีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงาน อยางประหยัดและคุมคา ดังนี้ 1. จัดทําปายนิเทศ/แผนพับ/ใบปลิว นําเสนอความรูเกี่ยวกับ หลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม 2. จัดทําปายและเดินรณรงคเชิญชวนใหทุกคนเลือกบริโภค เครื่องดื่มที่มีประโยชนตอสุขภาพ (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงคดานใฝเรียนรู และมุงมั่นการทํางาน) ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง ชนิดของ เครื่องดื่มและหลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่มวา “ในปจจุบันมีเครื่องดื่มใหเลือกบริโภคหลากหลาย ชนิด ซึ่งแตละชนิดมีประโยชนที่แตกตางกัน ออกไป ดังนั้น ในการเลือกบริโภคเครื่องดื่มจึง ควรเลือกบริโภคเครื่องดื่มที่มีประโยชนตอรางกาย และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่อาจเปนอันตราย ตอสุขภาพได หากบริโภคเกินความตองการของ รางกาย” ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของ นักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง ชนิดของ เครื่องดื่มและหลักการเลือกบริโภคเครื่องดื่ม 3. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 4. ครูประเมินผลจากการเขียนสรุปความรูเกี่ยวกับ ชนิดของเครื่องดื่มและหลักการเลือกบริโภค เครื่องดื่ม 5. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T42


ขอสอบเนน การคิด ๓ การประกอบเครื่องดื่ม การประกอบเครื่องดื่มเองเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ ถูกสุขลักษณะ มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้ ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มมากขึ้น และช่วยท�าให้ร่างกาย สดชื่น มีสุขภาพที่แข็งแรง ขั้นตอนการประกอบเครื่องดื่ม มีดังนี้ ๓.๑ การเตรียมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช้ และวัตถุดิบ การประกอบเครื่องดื่มควรเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ และวัตถุดิบให้พร้อม เพื่อความ สะดวกรวดเร็วและเพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ ซึ่งควรปฏิบัติ ดังนี้ ๑) การเตรียมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ ในการประกอบเครื่องดื่มต้อง จัดเตรียมที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย ดังนี้ ๑. เตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ให้เพียงพอและเหมาะสมต่อการใช้งาน ๒. ท�าความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ให้สะอาด โดยล้างน�้า ๒-๓ ครั้ง คว�่าไว้ ให้แห้ง ไม่ต้องใช้ผ้าเช็ด ๓. ไม่ควรใช้เขียงที่หั่นเนื้อสัตว์มาหั่นผักและผลไม้ที่จะน�ามาประกอบเครื่องดื่ม เพราะจะท�าให้ผักและผลไม้มีกลิ่นเหม็นคาว แต่ถ้าจ�าเป็นต้องใช้ควรท�าความสะอาดก่อนเสมอ ๔. ควรใช้หม้อเคลือบ หรือหม้อสเตนเลสต้มเครื่องดื่ม ไม่ควรใช้หม้อทองเหลือง หรือหม้ออะลูมิเนียม เพราะผักและผลไม้บางชนิดมีฤทธิ์เป็นกรด อาจท�าปฏิกิริยากับภาชนะ ที่น�ามาต้ม ซึ่งจะท�าให้สีและรสชาติของเครื่องดื่มเปลี่ยนไป ในการประกอบเครื่องดื่ม ควรเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ให้พร้อมอยู่เสมอ และพึงใช้งานด้วยความระมัดระวัง เครื่องดื่ม และการบริการ 3๗ “การประกอบเครื่องดื่มดวยตนเองจะทําใหไดรับประโยชนจาก สารอาหารอยางเต็มที่” นักเรียนเห็นดวยหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ เห็นดวย เพราะผูบริโภคสามารถสรรหาวัตถุดิบมา ใชในการประกอบเครื่องดื่มไดดวยตนเอง ซึ่งผูบริโภคจะทราบ ความตองการของตนเอง แลวเลือกประกอบเครื่องดื่มตามความ เหมาะสม เชน หากตองการใหผิวพรรณสดใส มีความชุมชื่น ควรดื่มนํ้ามะเขือเทศ หากมีอาการทองอืด ทองเฟอ ควรดื่มนํ้า ผักกาดขาว หากตองการควบคุมนํ้าหนัก ควรดื่มนํ้าฝรั่ง) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทําความสะอาดเขียง เพื่อไมใหมีกลิ่นคาว ใหนักเรียนฟงวา การขจัดกลิ่นคาวบนเขียงทําไดหลายวิธี โดยควรเลือกปฏิบัติ ตามความสะดวกในการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณของตนเอง เชน • ลางเขียงดวยนํ้าสะอาด นําไปแชในนํ้ารอนผสมนํ้าสมสายชู ทิ้งไวสักพัก ใชผาซับนํ้าออก นําไปผึ่งแดดใหแหง • โรยเกลือปนบนหนาเขียง ผามะนาวครึ่งลูกขัดใหทั่ว ลางดวยนํ้ารอน ใชผาซับนํ้าออก นําไปผึ่งแดดใหแหง • ใชฟองนํ้าชุบเกลือปนขัดใหทั่วหนาเขียง ลางดวยนํ้าสะอาด ใชผา ซับนํ้าออก นําไปผึ่งแดดใหแหง • ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ชอนโตะ กับนํ้าสะอาด 800 ซีซี คนใหเขากัน เทลง บนเขียง ใชแปรงขัดใหทั่ว ลางดวยนํ้าสะอาด ใชผาซับนํ้าออก นําไปผึ่งแดด ใหแหง ขั้นนํา (5Es) 1. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • นักเรียนเคยสงสัยหรือไมวาเครื่องดื่มที่ชอบ มีสวนผสมของสิ่งใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 2. ครูสนทนากับนักเรียนวา “ในบางครั้งเราไม สามารถบอกไดวาสวนผสมที่อยูในเครื่องดื่ม มีสิ่งใดบาง มีประโยชน หรือมีโทษตอรางกาย อยางไร หากเราสามารถประกอบเครื่องดื่ม ขึ้นเองได ก็จะเปนวิธีหนึ่งที่จะชวยใหเครื่องดื่ม ของเรามีคุณภาพ มีความสะอาด ถูกหลักอนามัย และมีประโยชนตอรางกาย เพราะสามารถ ควบคุมและคัดเลือกวัตถุดิบที่จะนํามาประกอบ เครื่องดื่มเองไดตามความตองการ” 3. ครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ที่มีประสบการณ ในการประกอบเครื่องดื่มรับประทานเองใน ครอบครัวออกมาเลาประสบการณของตนเอง ในการประกอบเครื่องดื่มใหเพื่อนฟงหนา ชั้นเรียน โดยครูเปดโอกาสใหนักเรียนรวมกัน ซักถามหากเกิดขอสงสัย 4. ครูถามนักเรียนวา • จากการที่ไดฟงเพื่อนๆ ออกมาเลา ประสบการณในการประกอบเครื่องดื่ม รับประทานเองในครอบครัว นักเรียน คิดวาตนเองสามารถปฏิบัติไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T43


ขอสอบเนนการคิด ๒) การเตรียมวัตถุดิบ ในการประกอบเครื่องดื่มวัตถุดิบที่ต้องใช้ ได้แก่ ผัก ผลไม้ เกลือ น�้าเชื่อม น�้า และน�้าตาล ต้องจัดเตรียมวัตถุดิบ ดังนี้ ๑. การเตรียมผักและผลไม้ ผักและผลไม้แทบทุกชนิดสามารถน�ามาท�าเป็น เครื่องดื่มได้ การเตรียมวัตถุดิบประเภทนี้ควรเลือกซื้อตามฤดูกาลและปลอดสารพิษ มีขั้นตอน การเตรียม ดังนี้ • เลือกผักที่สดใหม่ ไม่เหี่ยวช�้า ส่วนผลไม้ควรเลือกที่สดใหม่และสุกพอดี ไม่สุก ปอกเปลือกผลไม้ เพื่อป้องกันยาฆ่าแมลง ลงไปผสมกับน�้าผลไม้ ล้างด้วยน�้าที่ ไหลจากก๊อกนาน ๒ นาที เพื่อล้างยาฆ่าแมลงและสิ่งตกค้าง แช่ลงในน�้าเกลือ หรือน�้าด่างทับทิม เป็นเวลา ๑๕-๒๐ นาที ล้างด้วยน�้าสะอาดอีกครั้ง เพื่อลดปริมาณ สารพิษตกค้าง น�าผลไม้ที่ล้างแล้วไปผึ่งให้สะเด็ดน�้าก่อน น�าไปใช้ เมื่อผลไม้สะเด็ดน�้าดีแล้ว จึงน�าไปประกอบ เป็นเครื่องดื่มได้ตามต้องการ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๒. การเตรียมน�้า ควรใช้น�้ากรองที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยการต้มสุกและทิ้งไว้ให้เย็น มาผสมลงในเครื่องดื่ม ไม่ควรใช้น�้าบาดาล เพราะมีรสฝาด และไม่ควรใช้น�้าประปา เพราะมีคลอรีน ผสมอยู่ งอมจนเกินไป • ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด เพื่อให้ปลอดจากสารพิษ ตัวอย่าง 38 1 หรือน�้าด่างทับทิม 2 มาผสมลงในเครื่องดื่ม ไม่ควรใช้น�้าบาดาล เพราะมีรสฝาด และไม่ควรใช้น�้ 3 นักเรียนควรรู 1 ลางผักและผลไมใหสะอาด เปนการชวยขจัดสารพิษในผักและผลไม สามารถทําไดหลายวิธี เชน แชดวยนํ้าซาวขาวนาน 10 นาที ลางดวยนํ้าสะอาด ชวยลดปริมาณสารพิษตกคางไดถึง 29-38% ใชผงฟู 1/2 ชอนโตะ ผสมกับ นํ้าอุน 10 ลิตร แชทิ้งไว 15 นาที ลางดวยนํ้าสะอาด ชวยลดปริมาณสารพิษตกคาง ไดมากกวา 90% ใชนํ้าสมสายชูเขมขน ผสมกับนํ้าในอัตราสวน 1:10 แชทิ้งไว 10-15 นาที ลางดวยนํ้าสะอาด ชวยลดปริมาณสารพิษตกคางไดถึง 60-84% ใชเกลือปน 1 ชอนโตะ ผสมกับนํ้า 4 ลิตร แชทิ้งไว 10 นาที ลางดวยนํ้าสะอาด ชวยลดปริมาณสารพิษตกคางไดถึง 27-38% 2 นํ้าดางทับทิม เมื่อตองการนําผักและผลไมมาลางทําความสะอาดดวย นํ้าดางทับทิม ควรใสดางทับทิมในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากใชมากเกินไป จะทําใหผักและผลไมเหี่ยว หรือเปลี่ยนเปนสีนํ้าตาลได 3 นํ้าบาดาล เปนนํ้าที่อยูใตดิน รสชาติของนํ้าจะแตกตางกันไปตามชั้นที่พบ เชน ในชั้นหินทรายที่มีเกลือหิน นํ้าจะมีคุณภาพกรอยและเค็ม ขั้นนํา ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 5. ครูอธิบายเพื่อเชื่อมโยงความรูเกี่ยวกับการ ประกอบเครื่องดื่มดวยตนเอง เพื่อใหเกิด ประโยชนตอรางกาย ชวยประหยัดคาใชจาย และมีความสะอาด ถูกหลักอนามัย จากนั้น ครูถามนักเรียนวา • หากตองการประกอบเครื่องดื่มดวยตนเอง ควรเลือกใชอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชชนิดใด และจะมีวิธีในการเลือกวัตถุดิบอยางไร (แนวตอบ อุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชในการ ประกอบเครื่องดื่ม เชน มีด เขียง หมอเคลือบ ทัพพี เครื่องปนอาหาร สวนวัตถุดิบที่นํามา ใชในการประกอบเครื่องดื่มมีวิธีการเลือก คือ ควรเลือกผลไมที่สุกพอดี ไมสุกงอมจนเกินไป หรือไมออนจนเกินไป เปนผลไมตามฤดูกาล ควรเลือกผักและผลไมที่สดใหม ไมเนาเสีย ไมเหี่ยว หรือชํ้า เพราะอาจทําใหเครื่องดื่ม เสียรสชาติได รวมถึงควรทําความสะอาดผัก และผลไมที่ซื้อมากอนนํามาประกอบเครื่องดื่ม เพราะอาจมีสารพิษตกคาง ซึ่งหากสารพิษ เขาสูรางกายในปริมาณมากจะสะสมไวและ กอใหเกิดอันตรายตอรางกายและชีวิตได) • นักเรียนมีวิธีการลางผักและผลไมอยางไรให สะอาดปลอดภัยจากสารพิษตกคาง (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน ลางดวยนํ้าปูนใส โดยผสม ปูนใสอิ่มตัวกับนํ้าเทาตัว แชทิ้งไว 10 นาที ลางดวยนํ้าสะอาด ชวยลดปริมาณสารพิษ ตกคางไดถึง 34-52%) 6. ครูกระตุนความสนใจของนักเรียนดวยการ ประกอบนํ้ามะนาวใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายเกี่ยวกับการเลือกอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช วัตถุดิบที่นํามาใชวา มีวิธีการเลือกและมีขั้นตอนการทําอยางไร “หมีพูหตองการทํานํ้าผักและผลไมเพื่อสุขภาพใหคุณแมดื่ม” หมีพูหควรเลือกผักและผลไมตามขอใดจึงจะเหมาะสมที่สุด 1. เลือกผักและผลไมที่มีราคาแพง 2. เลือกผักและผลไมที่มีความสดใหม 3. เลือกผักและผลไมที่ไมมีรอยของแมลงกัดแทะ 4. เลือกผักและผลไมที่มีขนาดและสีสันที่แตกตางกัน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะผักและผลไมที่มีความสดใหม จะใหคุณคาทางโภชนาการสูง เมื่อนํามาประกอบเปนเครื่องดื่ม ก็จะทําใหผูบริโภคไดรับสารอาหารที่มีประโยชนตอรางกาย) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T44


ขอสอบเนน การคิด à¤Ã×èͧ´×èÁÊÁعä¾Ã㹤ÃÑÇàÃ×͹ เครื่องดื่มสมุนไพรมีประโยชนตอรางกาย คนสมัยใหมที่ไมคอยมีเวลาดูแลรักษาสุขภาพทําให สุขภาพออนแอลง จึงควรหันมาดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชนอยางเครื่องดื่มสมุนไพรแทนการดื่มนํ้าอัดลม หรือเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ที่ ให โทษแกรางกาย ตัวอยางเครื่องดื่มสมุนไพรที่ทําเองได มีดังนี้ Know M ore ¹íéÒNjҹËÒ§¨ÃÐࢌ • เปนยาระบาย แกทองอืด ลดกรดไหลยอน • ลางสารพิษในรางกาย ลดน้ําตาลในเลือด ลดน้ําหนัก • กระตุนการทํางานของกลามเนื้อ ชวยลดคอเลสเตอรอล • ลดอาการอักเสบ ลดความเสี่ยงจากโรคเหงือกอักเสบ ¹íéÒµÐä¤ÃŒ • ชวยในการขับเหงื่อ แกอาการเบื่ออาหาร • บรรเทาอาการหวัด อาการไอ รักษาอาการไข • รักษาโรคความดันโลหิตสูง หอบหืด ปวดทอง ทองเสีย • ชวยยอยอาหาร แกอาการปสสาวะพิการ รักษาโรคนิ่ว ¹íéÒÁСÃÙ´ • ชวยแกอาการเปนลม หนามืด วิงเวียนศีรษะ • เสริมสรางการทํางานของอวัยวะ ขจัดสารพิษ • ขับลมในลําไส แกอาการจุกเสียด ทองอืด แนนทอง • เสริมสรางภูมิคุมกันใหแกรางกาย ชวยใหเจริญอาหาร ¹íéÒ¢Ô§ • ตอตานการเจริญเติบโตของเซลลมะเร็ง • ขจัดสารพิษในรางกาย บํารุงผิวพรรณ ลดน้ําหนัก • บรรเทาอาการเจ็บคอ อาการหวัด ชวยยอยอาหาร • ชะลอความเสื่อมของเซลล แกอาการคลื่นไส อาเจียน เครื่องดื่ม และการบริการ 3๙ ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา 1. ครูอธิบายความรูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียม อุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชในการประกอบ เครื่องดื่มและการเตรียมวัตถุดิบใหนักเรียน ฟงวา “กอนการประกอบเครื่องดื่มทุกชนิด จะตองมีการเตรียมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช ในการประกอบเครื่องดื่มและเตรียมวัตถุดิบ ใหพรอม เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการ ประกอบเครื่องดื่ม เชน • อุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชที่ตองเตรียม เชน มีด เขียง หมอเคลือบ เครื่องปนอาหาร รวมถึงศึกษาวิธีการใชงาน การเก็บรักษา และขอควรระวังในการใชอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใชแตละชนิด • วัตถุดิบที่ตองเตรียมขึ้นอยูกับความตองการ ของผูที่จะประกอบเครื่องดื่มวาตองการ ประกอบเครื่องดื่มชนิดใด เชน หากตองการ ประกอบเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ วัตถุดิบที่ใช คือ ผัก ผลไม เกลือ นํ้าเชื่อม นํ้าตมสุก และนํ้าตาล ซึ่งการจะทํานํ้าผักและผลไม ควรเลือกผักและผลไมที่มีความสดใหม ไมเหี่ยว ไมชํ้า กอนจะประกอบเครื่องดื่ม ควรนําผักและผลไมมาทําความสะอาดดวย การลาง หากผลไมมีเปลือกควรปอกเปลือก ออกกอน เพื่อปองกันสารเคมีตางๆ จากนั้น จึงนํามาลางดวยนํ้าที่ไหลจากกอก แชใน นํ้าเกลือประมาณ 15-20 นาที แลวลางนํ้า อีกครั้ง เมื่อผักและผลไมสะอาดจึงนําไป ประกอบเปนเครื่องดื่มตามความตองการ” “วศินมีอาการปวดศีรษะ เปนไข ไอ และเจ็บคอ” วศินควรดื่ม เครื่องดื่มชนิดใด เพื่อชวยลดอาการเจ็บปวยดังกลาว 1. นํ้าอัญชัน 2. นํ้าตะไคร 3. นํ้าฟกทอง 4. นํ้าลูกเดือย (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะตะไครเปนพืชที่มีวิตามิน และแรธาตุที่มีประโยชนตอรางกาย ทั้งยังเปนพืชสมุนไพรที่นิยมนํา มารับประทาน เพื่อใชในการรักษาโรคบางชนิด เชน บรรเทาอาการ หวัด อาการไอ อาการปวดศีรษะ เบื่ออาหาร รักษาโรคความดัน โลหิตสูง แกอาการเสียดแนนบริเวณหนาอก แกอาการปวดทองและ ทองเสีย รักษาอาการทองอืด ทองเฟอ ชวยในการขับปสสาวะ ฯลฯ) บูรณาการอาเซียน ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคเครื่องดื่มของประเทศ ในอาเซียนใหนักเรียนฟงวา ประเทศในอาเซียนมีวัฒนธรรมที่แตกตางกันออกไป ในหลายๆ ดาน รวมไปถึงการบริโภคเครื่องดื่ม ซึ่งแตละประเทศจะมีเครื่องดื่ม ที่นิยมรับประทานแตกตางกันออกไป โดยถือเปนเอกลักษณของประเทศ นั้นๆ เชน ประเทศมาเลเซีย นิยมดื่ม Teh Tarik หรือเตฮ ตาเระ หรือชาชัก ซึ่งเปนเครื่องดื่มที่นิยมรับประทานกันมาก พบเห็นไดทั่วไปแถบคาบสมุทรมลายู ความโดดเดนของเครื่องดื่มชนิดนี้อยูที่ความเขมขนและหอมหวานที่เกิดจากการ ผสมผสานกันระหวางชาสําเร็จรูปกับนมขนและนมสด หรือนมแพะ นอกจากนี้ ศิลปะในการชงชาที่มีรูปแบบเฉพาะตัว ยังทําใหเครื่องดื่มชนิดนี้ไดรับความสนใจ มากยิ่งขึ้น ดังนั้น เพื่อใหเกิดการเรียนรูในเรื่องวัฒนธรรมการบริโภคเครื่องดื่ม ของประเทศในอาเซียน นักเรียนจึงควรศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเครื่องดื่ม ที่แตละประเทศในอาเซียนนิยมรับประทาน แลวนําขอมูลที่ไดมาแลกเปลี่ยน เรียนรูซึ่งกันและกัน นํา สอน สรุป ประเมิน T45


ขอสอบเนนการคิด ๔ ตัวอย่างการประกอบเครื่องดื่ม ปจจุบันผู้คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น นอกจากการเลือกรับประทานอาหารที่มี ประโยชน์แล้ว ยังเลือกบริโภคเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย ตัวอย่างการประกอบเครื่องดื่มง่าย ๆ จากวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น หรือในครัวเรือน เช่น ดอกไม โดยการน�ากลีบดอกไมต่าง ๆ มาต้มแล้วกรองเอาเฉพาะน�้า เช่น อัญชัน เก๊กฮวย ผัก โดยการน�าผักมาคั้น มาปน เช ่น แคร์รอต มะเขือเทศ แตงกวา ขิง ต�าลึง ตะไคร้ ผลไม โดยการน�าผลไมมาปน เช่น มะม่วง ฝรั่ง แตงโม แอปเปล สตรอว์เบอร์รี แคนตาลูป ผลไม 4๐ เช่น อัญชัน เก๊กฮวย 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา 2. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ประชุมวางแผนรวมกันวาจะประกอบเครื่องดื่ม ชนิดใด พรอมทั้งอธิบายเหตุผลในการเลือก ประกอบเครื่องดื่มชนิดนั้น 3. ครูใหสมาชิกแตละกลุมแบงหนาที่ความ รับผิดชอบตามความถนัด ความสามารถ ของแตละบุคคล จากนั้นใหรวมกันศึกษา เรื่อง ตัวอยางการประกอบเครื่องดื่ม จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หนา 40-43 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 4. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยาง การประกอบเครื่องดื่ม จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 3 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําขอมูลที่ไดจาก การศึกษามาทําการวิเคราะหเกี่ยวกับอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช และวัตถุดิบที่ตองใชใน การประกอบเครื่องดื่ม 6. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • จากการศึกษาตัวอยางการประกอบเครื่องดื่ม มีเครื่องดื่มชนิดใดที่นักเรียนเคยดื่ม หรือมี เครื่องดื่มชนิดใดที่เคยประกอบดวยตนเอง (แนวตอบ นักเรียนสามารถตอบคําถามได อยางอิสระ เชน เคยดื่มนํ้าแครรอต นํ้าเกกฮวย และเคยประกอบนํ้าอัญชันดวยตนเอง) • เครื่องดื่มที่นักเรียนเลือกดื่ม หรือประกอบดวย ตนเองมีประโยชนอยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) หากตองการบํารุงสายตา ควรเลือกดื่มเครื่องดื่มที่ทําจาก วัตถุดิบในขอใด 1. ผักกาดขาว สับปะรด สมเขียวหวาน 2. กลวยหอม เผือก มันเทศ 3. ผักบุง แครรอต ฟกทอง 4. ตําลึง เงาะ มันแกว (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนผักและผลไมที่มีบีตาแคโรทีนและวิตามินเอสูง ซึ่งเปนสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการ ชวยบํารุงสายตา โดยบีตาแคโรทีนทําหนาที่ในการตานอนุมูล อิสระ และชวยในการมองเห็นในเวลากลางคืน สวนวิตามินเอ ชวยในการทํางานของจอประสาทตา ทําใหการมองเห็นในเวลา กลางคืนดียิ่งขึ้น) นักเรียนควรรู 1 เกกฮวย เรียกอีกชื่อหนึ่งวา “เบญจมาศสวน” หรือ “เบญจมาศหนู” เปนพืชสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคตางๆ และมีประโยชนหลาย ประการ เชน รักษาอาการรอนใน ปองกันโรคความดันโลหิตสูง ชวยใหระบบ การยอยอาหารดีขึ้น ชวยขจัดสารพิษชนิดตางๆ บํารุงโลหิต บํารุงและรักษา สายตา บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ รักษาฝเปนหนอง บวม และเปนพิษ ฯลฯ เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทํานํ้าผักไมใหเหม็นเขียวใหนักเรียนฟงวา ผักบางชนิดเมื่อนํามาปนอาจมีกลิ่นเหม็นเขียว ดังนั้น เพื่อลดกลิ่นเหม็นเขียวควร นําผักไปแชนํ้า จากนั้นจึงนํามาปนรวมกับนํ้าเย็น หรือนํ้าแข็ง ซึ่งความเย็นจะชวย ลดความเหม็นเขียวของผักลงได หรืออาจนําผักและผลไมชนิดอื่นมาปนรวมกัน เชน แตงกวา ผักกาดขาว แครรอต เลมอน ก็จะชวยลดกลิ่นไดเชนเดียวกัน นํา สอน สรุป ประเมิน T46


ขอสอบเนน การคิด ส่วนผสม ๑. แคร์รอต ๓ ช้อนโต๊ะ ๒. น�้าต้มสุก ๒ แก้ว ๓. น�้าเชื่อม ๘ ช้อนโต๊ะ ๔. น�้ามะนาว ๒ ช้อนโต๊ะ ๕. เกลือปน ๑ ช้อนชา นํ้าแครรอต แคร์รอตเป็นพืชที่นิยมรับประทานสด หรือน�ามาประกอบอาหาร มีสารเบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นสาร ตั้งต้นของวิตามินเอ ๑ บี ๒ แคลเซียม ฟอสฟอรัส กากใย และธาตุเหล็ก มีส่วนช่วยท�าให้ร่างกายแข็งแรง ๔.๑ การประกอบเครื่องดื่มจากผัก นํ้าตะไคร ตะไคร้เป็นพืชสมุนไพรท้องถิ่น เป็นยารักษาโรคบางชนิด ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี ซี โฟแลต แมกนีเซียม สังกะสี ทองแดง ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส ส่วนผสม ๑. ตะไคร้ ๓-๕ ต้น ๒. น�้าเปล่า ๔ ถ้วยตวง ๓. น�้ามะนาว ๒ ช้อนโต๊ะ ๔. น�้าตาลทราย ๑/๒ ถ้วยตวง ๕. เกลือปน ๑/๔ ช้อนชา ๖. ใบเตย ๒ ใบ วิธีทํา ๑. ล้างตะไคร้และใบเตยให้สะอาด หั่นเป็นท่อน ทุบตะไคร้ ให้แตก ๒. ตั้งน�้า ใส่ตะไคร้ ใบเตย เกลือ ต้มจนเดือดนาน ๑๐-๑๕ นาที ๓. ใส่น�้าตาล ตั้งไฟพอละลาย พักให้เย็น กรองน�้า ด้วยผ้าขาวบาง ๔. เติมมะนาว เสิร์ฟได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น สรรพคุณทางยา ลดแก๊สในล�าไส้ ลดคอเลสเตอรอล ล้างสารพิษในร่างกาย ป้องกันโรคมะเร็ง วิธีทํา ๑. ล้างแคร์รอตให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ๒. เทส่วนผสมลงในเครื่องปน แล้วปนส่วนผสม จนละเอียด ๓. น�าเข้าตู้เย็น หรือรินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้วยกเสิร์ฟ สรรพคุณทางยา ต้านทานโรคหวัด ป้องกันโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารและล�าไส้ โรคผิวหนัง รักษา สายตา แก้โรคตาฟาง โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง ขับปสสาวะ บ�ารุงหัวใจ ฯลฯ รักษาอาการลักปดลักเปด ขับเสมหะ ลดอาการไอ ช่วยฟอกและบ�ารุงโลหิต แก้ โรคเหน็บชา ฯลฯ เครื่องดื่ม และการบริการ 4๑ ๑. ตะไคร้ ๓-๕ ต้น ๒. น�้าเปล่า ๔ ถ้วยตวง แคร์รอตเป็นพืชที่นิยมรับประทานสด หรือน�ามาประกอบอาหาร มีสารเบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นสาร ๕. เกลือปน ๑/๔ ช้อนชา ๖. ใบเตย ๒ ใบ ๓. น�้ามะนาว ๒ ช้อนโต๊ะ ๔. น�้าตาลทราย ๑/๒ ถ้วยตวง 1 4 3 2 ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 10. ครูใหสมาชิกแตละกลุมชวยกันจัดวางอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช และวัตถุดิบที่นํามาใชใน การประกอบเครื่องดื่ม เพื่อใหเกิดความเปน ระเบียบเรียบรอยและเพื่อความสะดวกสบาย ในขณะปฏิบัติงาน 11. ครูใหสมาชิกแตละกลุมรวมกันประกอบ เครื่องดื่มตามที่กลุมของตนเองไดนําเสนอไป ในชั่วโมงที่ผานมา โดยมีครูเปนผูคอยให คําแนะนํา สิ่งใดคือความแตกตางที่เห็นไดอยางเดนชัดระหวางนํ้าผัก และผลไมแบบสดกับนํ้าผักและผลไมแบบพรอมดื่มบรรจุกลอง 1. สีสัน 2. ราคา 3. กลิ่นหอม 4. สารอาหาร (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะสารอาหารที่อยูในนํ้าผัก และผลไมแบบสดกับนํ้าผักและผลไมแบบพรอมดื่มจะมีคุณคา ทางสารอาหาร หรือคุณคาทางโภชนาการที่แตกตางกันเดนชัด ที่สุด เนื่องจากนํ้าผักและผลไมแบบสดจะใหสารอาหารที่ครบถวน สมบูรณมากกวานํ้าผักและผลไมแบบพรอมดื่ม ซึ่งผานกรรมวิธีการ ประกอบหลายขั้นตอน จนอาจทําใหสูญเสียคุณคาทางสารอาหาร ไปไดมากกวา) นักเรียนควรรู 1 ถวยตวง เปนหนวยวัดปริมาตรในการตวงวัตถุดิบในการปรุงอาหาร แบงเปน 2 ประเภท คือ ถวยตวงของแหงและถวยตวงของเหลว โดย 1 ถวยตวง มาตรฐานจะเทากับ 230 มิลลิลิตร 2 ชอนโตะ เปนชอนยาวที่ใชคูกับสอม มีเสนผานศูนยกลางประมาณ 4 เซนติเมตร โดยชอนโตะมาตรฐานจะมีปริมาตรเทากับ 15 ซีซี หรือ 15 มิลลิลิตร 3 ชอนชา หรือชอนกาแฟ มีเสนผานศูนยกลางประมาณ 2.5 เซนติเมตร ชอนชามาตรฐานจะมีปริมาตรเทากับ 5 ซีซี หรือ 5 มิลลิลิตร 4 เบตาแคโรทีน พบมากในผักและผลไมที่มีสีเขียวเขม สีสม สีเหลือง และสีแดง เชน ตําลึง ผักบุงจีน คะนา แครรอต ฟกทอง มะละกอสุก มะเขือเทศสุก แตงไทย ใหประโยชนหลายประการ เชน เปนสารตานอนุมูลอิสระ ชวยบํารุงผิวพรรณ ใหเปลงปลั่ง บํารุงสุขภาพของดวงตา ลดความเสื่อมของเซลลของลูกตา ลด ความเสี่ยงตอการเกิดตอกระจก กระตุนเซลลในรางกายที่เรียกวา “ทีเฮลเปอร” ใหทําหนาที่ในการตอตานสิ่งแปลกปลอมไดดีขึ้น ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 7. ครูใหสมาชิกแตละกลุมนําขอมูลที่ไดจากการ ศึกษา เรื่อง ตัวอยางการประกอบเครื่องดื่ม มาเลาสูกันฟง พรอมทั้งอภิปรายรวมกันจนเกิด ความเขาใจ โดยมีครูเปนผูคอยใหคําแนะนํา 8. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอเกี่ยวกับตัวอยางการ ประกอบเครื่องดื่ม ซึ่งแตละกลุมจะตองอธิบาย ในประเด็นที่กําหนดให ดังนี้ • การเตรียมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช • การเตรียมวัตถุดิบ • เหตุผลในการเลือกประกอบเครื่องดื่ม ชนิดนี้ • ประโยชนที่ไดรับจากการบริโภคเครื่องดื่ม ชนิดนี้ 9. ครูใหสมาชิกแตละกลุมจดบันทึกสิ่งที่ตอง จัดเตรียมมาในชั่วโมงถัดไป นํา สอน สรุป ประเมิน T47


ขอสอบเนนการคิด ส่วนผสม ๑. ฝรั่งหั่นเป็นชิ้น ๑ ถ้วยตวง ๒. น�้าต้มสุก ๓ ถ้วยตวง ๓. น�้าตาลทราย ๑/๔ ถ้วยตวง ๔. เกลือปน ๑/๒ ช้อนชา ๔.๒ การประกอบเครื่องดื่มจากผลไม้ นํ้ามะม่วง มะม่วงเป็นผลไม้ที่น�ามารับประทานได้ทั้งดิบและสุก อุดมไปด้วยสารอาหารที่ส�าคัญ เช่น วิตามินเอ บี ซี เบตาแคโรทีน แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สังกะสี ธาตุเหล็ก นํ้าฝรั่ง ฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้ผลผลิตตลอดทั้งป อุดมไปด้วยวิตามีนเอ บี ๑ บี ๒ บี ๖ ซี ซึ่งมีมากกว่ามะนาว ถึง ๔ เท่า มีเส้นใยมาก จึงท�าให้การดูดซึมของน�้าตาลและไขมันในเส้นเลือดน้อย ส่วนผสม ๑. มะม่วงสุก ๑ ผล ๒. น�้าเชื่อมเข้มข้น ๒ ช้อนโต๊ะ ๓. น�้าต้มสุก ๓/๔ ถ้วย ๔. เกลือปน ๑/๔ ช้อนชา วิธีทํา ๑. ปอกเปลือกมะม่วง แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ๒. เทส่วนผสมลงในเครื่องปน แล้วปนส่วนผสม จนละเอียด ๓. น�าเข้าตู้เย็น หรือรินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้วยกเสิร์ฟ สรรพคุณทางยา ต้านอนุมูลอิสระ บ�ารุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ป้องกันและรักษาโรคเลือดออก ตามไรฟน ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง บ�ารุงกระเพาะอาหาร แก้อาการวิงเวียนศีรษะ ฯลฯ วิธีทํา ๑. ล้างฝรั่งให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปนกับน�้า ต้มสุก แล้วกรองกากทิ้ง ๒. น�าน�้าฝรั่งมาตั้งไฟจนเดือด เติมเกลือ น�้าตาล ให้ได้รสชาติตามต้องการ ทิ้งไว้ ให้เย็น ๓. น�าเข้าตู้เย็น หรือรินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้วยกเสิร์ฟ สรรพคุณทางยา ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟน ชะลอวัยและริ้วรอยต่าง ๆ บ�ารุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ลดไขมันในเลือด ลดสารพิษในร่างกาย รักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอหิวาตกโรค ฯลฯ 4๒ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 16. ครูและเพื่อนรวมชั้นเรียนรวมกันประเมินการ ประกอบเครื่องดื่มของเพื่อน (ชิมรสชาติ) พรอมทั้งเปดโอกาสใหรวมติชม แนะนํา หรือ แสดงความคิดเห็นอยางอิสระ 17. ครูใหคําแนะนําเพิ่มเติมจากการสังเกต พรอมทั้งตรวจสอบผลที่ไดระหวางการปฏิบัติ กิจกรรมของนักเรียน เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารตานอนุมูลอิสระใหนักเรียนฟงวา สารตาน อนุมูลอิสระ เปนสารที่ชวยตอตาน หรือกําจัดอนุมูลอิสระ ชวยลดความเสี่ยงตอการ เกิดโรค โดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่มีความสัมพันธกับรางกาย ชวยชะลอกระบวนการ บางขั้นตอนที่ทําใหเกิดความแก โดยปกติรางกายจะกําจัดอนุมูลอิสระได แตถา มีการสรางอนุมูลอิสระที่เร็ว หรือมากเกินกวาที่รางกายจะกําจัดทัน อนุมูลอิสระ ที่เกิดขึ้นจะสรางความเสียหายแกเซลลและเนื้อเยื่อ ซึ่งอาจสงผลกระทบตอ สุขภาพได สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารตานอนุมูลอิสระ ไดที่ http://www.scimath. org/article-biology/item/6903-2017-05-14-06-44-33 “นานาตองการลดนํ้าหนัก เธอจึงจํากัดการรับประทานอาหาร ประเภทแปง นํ้าตาล และไขมัน” นักเรียนควรแนะนําใหนานาเลือก ดื่มเครื่องดื่มในขอใดจึงจะเหมาะสมกับการลดนํ้าหนักมากที่สุด 1. นํ้าฝรั่ง 2. นํ้ามะมวง 3. นํ้าเกกฮวย 4. นํ้าตะไคร (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะเปนผลไมที่เหมาะสําหรับผูที่ ตองการลดนํ้าหนัก เนื่องจากใหพลังงานตํ่า นํ้าตาลนอย และอุดม ไปดวยกากใยอาหาร เมื่อรับประทานไปแลวจะรูสึกอิ่มทองไดนาน นอกจากนี้ กากใยอาหารยังชวยรักษาระดับนํ้าตาลในเลือดใหคงที่ ปรับระดับการใชอินซูลินของรางกาย ลางพิษในรางกายไดอีกดวย) ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 12. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานการประกอบ เครื่องดื่มของกลุมตนเองใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน ซึ่งจะตองอธิบายในประเด็นที่ กําหนดให ดังนี้ • ขั้นตอนการประกอบเครื่องดื่ม • ประโยชนที่ไดรับจากการบริโภคเครื่องดื่ม ชนิดนี้ • ความแตกตางจากเครื่องดื่มที่มีจําหนายอยู ตามทองตลาด • ปญหาที่พบและแนวทางแกไข 13. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําเครื่องดื่มที่กลุม ของตนเองไดประกอบขึ้นเทใสแกว เพื่อนํา มาใหครูและเพื่อนๆ ไดชิมรสชาติ 14. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง เครื่องดื่มที่ฉันเลือก 15. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 นํา สอน สรุป ประเมิน T48


ส่วนผสม ๑. ดอกเก๊กฮวยแห้ง ๕๐ กรัม ๒. ผลพุดจีน ๒-๓ ลูก ๓. น�้าตาลทราย ๑ ถ้วยตวง ๔. น�้าเปล่า ๕ ลิตร ส่วนผสม ๑. น�้าอัญชันสด ๑/๒ ถ้วย ๒. น�้าโซดา ๑ ขวด ๓. น�้าเชื่อมเข้มข้น ๖ ช้อนโต๊ะ ๔. น�้าผึ้ง ๔ ช้อนโต๊ะ ๕. น�้ามะนาว ๑/๒ ถ้วยตวง ๖. น�้าเปล่า ๕ ถ้วยตวง วิธีทํา ๑. การท�าน�้าอัญชัน ให้ต้มน�้าจนเดือดแล้วใส่ดอก อัญชันนาน ๓๐ วินาที แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง ๒. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดคนให้เข้ากัน ชิมให้ได้รสชาติ ตามต้องการ ๓. น�าเข้าตู้เย็น หรือรินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้วยกเสิร์ฟ สรรพคุณทางยา เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการไหลเวียนเลือด บ�ารุง สมอง ละลายลิ่มเลือด ป้องกันโรคเส้นเลือดสมองตีบ ลดระดับน�้าตาลในเลือด ล้างสารพิษในร่างกาย ฯลฯ วิธีทํา ๑. ลวกดอกเก๊กฮวย โดยต้มน�้าให้เดือด ใส่ดอกเก๊กฮวย ลงไป ลวก ๓๐ วินาที ใช้กระชอนตักขึ้น ราดด้วย น�้าเย็น ห่อด้วยผ้าขาวบางพร้อมผลพุดจีน ๒. ต้มน�้าให้เดือด ปดไฟ น�าห่อดอกเก๊กฮวยใส่ลงไปเติม น�้าตาล ปดฝาหม้อนาน ๕ นาที จึงน�าห่อดอกเก๊กฮวยออก ๓. น�าเข้าตู้เย็น หรือรินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้วยกเสิร์ฟ สรรพคุณทางยา ช่วยดับกระหาย ขับสารพิษออกจากร่างกาย ดูดซับสารก่อมะเร็งและจุลินทรีย์ ขยายหลอดเลือดแดง ป้องกันโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ขับลม บ�ารุงปอด ตับ และไต ฯลฯ ๔.๓ การประกอบเครื่องดื่มจากดอกไม้ นํ้าอัญชัน อัญชันเป็นไม้เลื้อยเนื้ออ่อน มีหลากสี ที่ดอกจะมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ท�าให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดีมากยิ่งขึ้น นํ้าเกกฮวย เกกฮวยป็นไม้ล้มลุก เจริญเติบโตได้ดี ในพื้นที่อากาศหนาว นิยมเก็บดอกมาตากแห้ง นึ่ง หรือ อบแห้ง มีสารฟลาโวนอยด์ กรดอะมิโน น�้ามันหอมระเหยที่ช่วยรักษาและปองกันโรคบางชนิดได้ เครื่องดื่ม และการบริการ 43 กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 6 กลุม กลุมละเทากันๆ กัน 2. ใหสมาชิกแตละกลุมรวมกันศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับ เครื่องดื่มที่มีสวนประกอบของผัก ผลไม และดอกไม ตามความ สนใจกลุมละ 2 ชนิด โดยกําหนดให • กลุมที่ 1-2 ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีสวนประกอบหลัก คือ ผัก • กลุมที่ 3-4 ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีสวนประกอบหลัก คือ ผลไม • กลุมที่ 5-6 ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีสวนประกอบหลัก คือ ดอกไม 3. ใหแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงาน การศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีสวนประกอบของ ผัก ผลไม และดอกไม ใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน ขั้นสรุป 1. ครูใหนักเรียนเขียนสรุปความรู ความเขาใจ เกี่ยวกับการประกอบเครื่องดื่มและแนวทาง การพัฒนาเครื่องดื่มของตนเอง เพื่อนําไป ประกอบอาชีพในอนาคต 2. ครูใหนักเรียนเตรียมนํ้าผัก หรือนํ้าผลไมตาม ความสนใจ 1 ชนิด ผัก หรือผลไมตางๆ รวมทั้ง อุปกรณในการจัดและตกแตงเครื่องดื่มมา เพื่อใชในการปฏิบัติกิจกรรมในชั่วโมงถัดไป ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง เครื่องดื่ม ที่ฉันเลือก 2. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 3. ครูประเมินผลจากการประกอบเครื่องดื่มของ นักเรียน 4. ครูประเมินผลจากการสรุปความรู ความเขาใจ เกี่ยวกับการประกอบเครื่องดื่มและแนวทาง การพัฒนาเครื่องดื่มของตนเอง เพื่อนําไป ประกอบอาชีพในอนาคต 5. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T49


ขอสอบเนนการคิด ๕ การจัดและตกแต่งเครื่องดื่ม การจัดและตกแต่งเครื่องดื่มเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แม้เครื่องดื่มจะมีรสชาติดีและอร่อยเพียงใด ถ้าใส่ภาชนะที่ไม่เหมาะสม ไม่มีการจัดและตกแต่งก็จะท�าให้ไม่น่าดื่ม ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มคุณค่า ให้แก่เครื่องดื่ม ควรเลือกภาชนะที่เหมาะสมและพิถีพิถันในการจัดและตกแต่งภาชนะเครื่องดื่ม ๕.๑ หลักการจัดและตกแต่งเครื่องดืี่ม การจัดและตกแต่งเครื่องดื่มให้มีความสวยงามและมีความเหมาะสมกับภาชนะเครื่องดื่ม แต่ละชนิด จะช่วยท�าให้เครื่องดื่มดูน่าดื่มยิ่งขึ้น โดยหลักการจัดและตกแต่งเครื่องดื่ม มีดังนี้ ๑. การน�าสิ่งที่รับประทานได้มาใช้ ในการตกแต่ง ๒. การน�าผักและผลไม้ที่มีรสชาติไม่ขัดกับเครื่องดื่มมาตกแต่ง ซึ่งผักที่นิยมน�ามาตกแต่ง เช่น มะเขือเทศ แตงกวา ขึ้นฉ่าย สะระแหน่ แคร์รอต ส่วนผลไม้ที่นิยมน�ามาตกแต่ง เช่น ส้ม สิ่งที่น�ามาใช้ ในการตกแต่ง เครื่องดื่มจะต้องรับประทานได้ และไม่ควรตกแต่งมากจนเกินไป เพราะอาจท�าให้ดูรกและไม่สวยงาม ผลไม้เมื่อน�ามาหั่นจะเปลี่ยนเป็นสีด�าคล�้า กลิ่นและรสชาติจะหายไปจากรอยหั่น จึงต้องน�า มาล้างให้สะอาดก่อนหั่น จากนั้นจึงน�าไปตกแต่ง แก้วเครื่องดื่มได้ Trick : การรักษาสี กลิ่น รสของผลไม้ สับปะรด แตงโม มะนาว กีวี แคนตาลูป เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี ๓. ไม่ควรน�าผักและผลไม้มาตกแต่ง แก้วเครื่องดื่มมากจนเกินไป เพราะจะท�าให้ ดูรกรุงรังและไม่สวยงาม 44 การจัดและตกแต่งเครื่องดื่มให้มีความสวยงามและมีความเหมาะสมกับภาชนะเครื่องดื่ม เช่น มะเขือเทศ แตงกวา ขึ้นฉ่าย สะระแหน่ แคร์รอต ส่วนผลไม้ที่นิยมน� สับปะรด แตงโม มะนาว กีวี แคนตาลูป เชอร์รี 1 2 3 4 นักเรียนควรรู 1 ภาชนะเครื่องดื่ม มีอยูดวยกันหลายชนิด การเลือกใชภาชนะเครื่องดื่ม ควรเลือกใหเหมาะสมกับประเภทของเครื่องดื่ม เชน แกวไฮบอล นิยมนํามาใส เครื่องดื่มทั่วๆ ไป 2 สะระแหน พืชสมุนไพรที่จัดอยูในวงศกะเพรา อุดมไปดวยวิตามินและ แรธาตุตางๆ มากมาย นิยมนํามาใชในการปรุงอาหาร หรือนํามาใชในการจัด และตกแตงอาหารใหมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น 3 กีวี เปนผลไมชนิดหนึ่ง มีลักษณะเปนรูปวงรีคลายไข มีขนเล็กๆ ขึ้นปกคลุม ทั่วทั้งผล เนื้อมีสีเขียว รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ใหประโยชนหลายประการ เชน ชวยชะลอการเกิดริ้วรอย ชวยเสริมสรางคอลลาเจน บํารุงผิวพรรณใหเปลงปลั่ง ชวยลดจุดดางดํา แกปญหาผิวหมองคลํ้า ฯลฯ 4 เชอรรี เปนผลไมที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน นิยมนํามารับประทานสด ให ประโยชนหลายประการ เชน บํารุงผิวพรรณใหสดใสเปลงปลั่ง ลดการผลิต เมลานิน ชวยตอตานอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ เพิ่มการ ไหลเวียนโลหิต ฯลฯ การจัดและตกแตงเครื่องดื่มใหมีความสวยงามและนา รับประทานมากยิ่งขึ้น ควรคํานึงถึงสิ่งใดเปนสําคัญ 1. ตองสามารถเพิ่มมูลคาใหกับเครื่องดื่มที่ตกแตงได 2. ตองมีขนาดใหญ สามารถมองเห็นไดอยางชัดเจน 3. ตองมีรสชาติไมขัดกันกับเครื่องดื่ม 4. ตองเปนผลไมสดเทานั้น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเปนหลักการสําคัญในการ จัดและตกแตงเครื่องดื่ม ซึ่งควรเลือกผักและผลไมที่นํามาตกแตง ใหมีรสชาติกลมกลืนไปกับเครื่องดื่ม ไมควรเลือกที่มีรสชาติขัดกัน เนื่องจากจะทําใหเครื่องดื่มมีรสชาติเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและ ขาดความอรอยได) ขั้นสอน ขั้นที่ 1 เตรียมการสาธิต 1. ครูใหนักเรียนดูภาพการจัดและตกแตงปากแกว เครื่องดื่ม เชน ภาพผลไมสําหรับการจัดและ ตกแตงปากแกว เพื่อความสวยงาม 2. ครูเตรียมอุปกรณที่ใชในการจัดและตกแตง เครื่องดื่ม เพื่อใชประกอบการสาธิตทั้งแบบที่ รับประทานไดและแบบที่รับประทานไมได 3. ครูใหนักเรียนศึกษา เรื่อง การจัดและตกแตง เครื่องดื่ม จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต ขั้นนํา (เนนการสาธิต) ครูทบทวนความรูเกี่ยวกับขั้นตอนการประกอบ เครื่องดื่ม จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมวา “เมื่อ ประกอบเครื่องดื่มเสร็จเรียบรอยแลว ควรนํามาจัด และตกแตงใหสวยงาม เพราะจะชวยใหเครื่องดื่ม ดูนารับประทานมากยิ่งขึ้น” ขั้นที่ 2 กอนการสาธิต 4. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัด และตกแตงเครื่องดื่ม จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 3 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเครื่องดื่ม ใหเหมาะสมกับรางกายของผูดื่มและการตกแตง ใหดูนารับประทานใหนักเรียนฟง พรอมทั้ง อธิบายและสาธิตวิธีการจัดและตกแตงเครื่องดื่ม ดวยวิธีการตางๆ ใหนักเรียนดู นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T50


ขอสอบเนน การคิด ๕.๒ วิธีการจัดและตกแต่งเครื่องดื่ม การจัดและตกแต่งเครื่องดื่ม จะช่วยให้เครื่องดื่มดูน่าดื่มมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการจัดและตกแต่ง ให้สวยงามมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี เช่น ใช้ผลไม้หั่นเปน ชิ้นเล็ก ๆ ใช้เปลือกมะนาว • เลือกผลไม้ที่มีขนาดเล็ก ๆ เช่น องุ่น ลิ้นจี่ • ใช้ไม้ค็อกเทล หรือไม้จิ้มฟน เสียบผลไม้ • ใส่ผลไม้ลงไปในแก้วเครื่องดื่ม • หั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้มี ขนาดพอเหมาะ • ใช้ไม้จิ้มฟนเสียบ หรือหั่นเป็น ร่องก็ได้ • เสียบผลไม้บนขอบแก้ว หรือ วางบนขอบแก้ว • ปอกเปลือกมะนาวเป็นเส้น ยาว ๆ • น�าเปลือกมะนาวที่ปอกแล้ว มาขดให้เป็นเกลียว • น�าไปใส่ลงในแก้วเครื่องดื่ม ใช้ผลไม้ทั้งผล เครื่องดื่ม และการบริการ 4๕ การจัดและตกแตงแกวดวยวิธีใดเมื่อจัดและตกแตงเสร็จ เรียบรอยแลว ควรรีบเสิรฟโดยทันที 1. การตกแตงขอบแกวดวยผลไมขนาดเล็ก 2. การตกแตงขอบแกวดวยเปลือกมะนาว 3. การตกแตงขอบแกวดวยเกลือปน 4. การตกแตงขอบแกวดวยนํ้าตาล (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะผิวของเปลือกมะนาวมีนํ้ามัน หอมระเหยเปนองคประกอบ การหั่นมะนาวออกเปนแวน เพื่อนํา มาตกแตงเครื่องดื่มทําใหนํ้ามันหอมระเหยที่อยูที่ผิวของเปลือก มะนาวปนออกมา จึงทําใหมีรสขม หากทิ้งไวนานอาจเปนการเพิ่ม รสขมใหแกเครื่องดื่มได) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดและตกแตงเครื่องดื่มใหนักเรียนฟงวา การจัดและตกแตงเครื่องดื่มถือเปนงานศิลปะรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากในการจัด และตกแตงนั้นตองอาศัยวิธีการทางศิลปะเขามาชวยในการตกแตงเครื่องดื่ม เชน การเลือกใชสีที่เขากัน ขนาดของวัตถุที่นํามาตกแตง ชนิดของวัตถุที่ใชตกแตง ความสมดุลที่เกิดขึ้นหลังจากการตกแตง การออกแบบผลงานการตกแตงในเชิง สรางสรรค และรูปแบบของภาชนะที่นํามาใสเครื่องดื่มที่มีหลากหลายรูปแบบ ที่แปลกและแตกตางกันออกไป สิ่งสําคัญที่จะตองคํานึงถึงในการจัดและตกแตง เครื่องดื่มก็คือ ตองการทําใหเครื่องดื่มมีรูปลักษณที่สวยงาม ชวนใหดื่มมากยิ่งขึ้น ขั้นสอน ขั้นที่ 3 การสาธิต 6. ครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ที่สนใจอยากทดลอง จัดและตกแตงเครื่องดื่มออกมาสาธิตใหเพื่อน ชมตามความคิดสรางสรรคของตนเอง 7. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) รวมกันจัด และตกแตงเครื่องดื่มดวยวิธีการตางๆ ตาม ความสนใจ โดยครูใหคําแนะนําและสังเกต การปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียนอยางใกลชิด ขั้นสรุป 1. ครูใหนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง การจัด และตกแตงเครื่องดื่ม 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 3.3.1 เรื่อง ออกแบบการจัดและตกแตงเครื่องดื่ม 3. ครูใหนักเรียนจัดเตรียมอุปกรณ เครื่องมือ เครื่องใช และวัตถุดิบที่ใชในการบริการเครื่องดื่ม มา เพื่อปฏิบัติกิจกรรมในชั่วโมงถัดไป ขั้นที่ 4 การอภิปรายสรุปการเรียนรู 8. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • เพราะเหตุใดสิ่งที่นํามาจัดและตกแตง เครื่องดื่มจึงไมควรมีรสชาติ หรือกลิ่นที่ขัด กับเครื่องดื่ม (แนวตอบ เพราะเครื่องดื่มอาจมีรสชาติและ กลิ่นที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และไมอรอย) 9. ครูใหนักเรียนเขียนสรุปวิธีการจัดและตกแตง เครื่องดื่มในรูปแบบแผนผังมโนทัศน สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตกแตงขอบแกวดวยเปลือกมะนาว ไดที่ http://www.youtube.com/watch?v=KOk-6k1T2lc นํา สอน สรุป ประเมิน T51


กิจกรรม Mini Project ๖ การบริการเครื่องดื่ม การบริการเครื่องดื่มที่มีหลายประเภท ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะการบริการเครื่องดื่ม ในครอบครัวและในงานเลี้ยง ซึ่งผู้ให้บริการควรบริการด้วยความเต็มใจและยิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจให้แก่สมาชิกในครอบครัวและผู้มาร่วมงาน ๖.๑ การบริการเครื่องดื่มในครอบครัว การบริการเครื่องดื่มให้แก่สมาชิกในครอบครัว สามารถท�าได้หลายโอกาส ซึ่งผู้ให้บริการ ควรบริการด้วยความเต็มใจ เพื่อให้ผู้รับบริการเกิดความประทับใจ นอกจากนี้ยังท�าให้เกิด สัมพันธภาพที่ดีต่อกันในครอบครัว การบริการ เครื่องดื่มในครอบครัวควรปฏิบัติ ดังนี้ ๑. รินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง แล้ว ยกเสิร์ฟ ๒. ถ้าเป็นน�้าผักและผลไม้ ควรมี การจัดและตกแต่งให้สวยงามก่อนเสิร์ฟ ๖.๒ การบริการเครื่องดื่มในงานเลี้ยง การบริการเครื่องดื่มให้แก่ผู้มาร่วมงาน มีความจ�าเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างความประทับใจ ร่างกายของคนเราต้องการน�้าไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ เราจึงควรดื่มน�้าให้เพียงพอ ต่อความต้องการของร่างกาย โดยเลือกดื่มเครื่องดื่มที่สะอาด มีประโยชน์ และไม่มีโทษ ต่อร่างกาย ต้องมีการจัดและตกแต่งเครื่องดื่มให้ดูสวยงาม เพื่อช่วยท�าให้เครื่องดื่มน่าดื่ม ยิ่งขึ้น และรู้จักการให้บริการเครื่องดื่มแก่สมาชิกในครอบครัวและผู้อื่นในงานเลี้ยง หรือน�า ความรู้เรื่องการประกอบเครื่องดื่มมาประกอบอาชีพ เพื่อเป็นการหารายได้เสริม และความสะดวกสบายให้แก่ผู้มาร่วมงาน ทั้งในด้านมารยาทและการให้บริการที่ดีซึ่งผู้ให้บริการ ต้องมีคุณสมบัติที่ดี ดังนี้ ๑. พูดจาสุภาพ เรียบร้อย บริการด้วยความเต็มใจ และมีรอยยิ้มในการให้บริการ ๒. มีความอดทน อดกลั้น ไม่แสดงกิริยาที่ไม่สุภาพ รู้จักขอโทษเมื่อท�าผิดพลาด ๓. ไม่พูดคุยเสียงดัง เสิร์ฟอย่างระมัดระวัง อย่าให้เครื่องดื่มหก หรือหยดรดผู้มาร่วมงาน ๔. ไม่เก็บภาชนะ สิ่งของ เครื่องใช้ ตลอดจนการเสิร์ฟอาหารต่างๆ ข้ามศีรษะ แขน หรือภาชนะของผู้มาร่วมงาน อย่าเก็บภาชนะเสียงดัง และต้องระมัดระวังภาชนะตกหล่น การตกแต่งเครื่องดื่มให้สวยงาม จะช่วยท�าให้เครื่องดื่มดูน่าดื่ม มากขึ้น และช่วยสร้างความประทับใจได้อีกทางหนึ่ง 46 รินใส่แก้วพร้อมน�้าแข็ง เป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างความประทับใจ ไม่พูดคุยเสียงดัง เสิร์ฟอย่างระมัดระวัง อย่าให้เครื่องดื่มหก หรือหยดรดผู้มาร่วมงาน 1 2 3 นักเรียนควรรู 1 นํ้าแข็ง มีอยูดวยกันหลายชนิด หลายรูปราง การเลือกนํ้าแข็งควรเลือก ใหเหมาะสมกับเครื่องดื่มแตละชนิด เชน นํ้าแข็งกอน จะละลายชา มีความ ควบแนนสูง รักษาอุณหภูมิความเย็นไดดี เหมาะกับเครื่องดื่มที่ไมตองการให นํ้าแข็งทําลายรสชาติของเครื่องดื่มมากจนเกินไป เชน กาแฟเย็น 2 สรางความประทับใจ ในการบริการเครื่องดื่ม ผูใหบริการควรสรางความ ประทับใจใหแกผูที่มารวมงาน โดยกลาวคำสำคัญ เชน กอนจะรบกวนใคร ทําสิ่งใดควรพูดวา “ขอโทษ” หากสิ่งที่ผูรวมงานขอสามารถจัดหาไดควร พูดวา “ไดครับ/คะ” เมื่อทําผิดพลาดควรพูดวา “ขอโทษ” เมื่อมีใครทําสิ่งใดให ควรพูดวา “ขอบคุณ” เมื่อผูรวมงานกลาวคําขอบคุณควรพูดวา “ยินดีใหบริการ” 3 เสิรฟอยางระมัดระวัง ในการเสิรฟอาหาร หรือการเก็บภาชนะตางๆ ควร กลาวคําขอโทษแขกที่มารวมงานกอนทุกครั้ง และในกรณีที่เสิรฟของรอน ควรกลาวคําเตือนแขกที่มารวมงานกอน เพื่อปองกันการเกิดอุบัติเหตุได 1. ใหนักเรียนสํารวจสมุนไพรในครัวเรือน หรือผลไมตามฤดูกาล หรือผักและผลไมที่มีในทองถิ่น จากนั้นเลือกตามความสนใจ 1 ชนิด 2. คิดคนสูตรเครื่องดื่มจากสมุนไพร ผัก หรือผลไมที่เลือก โดยจดบันทึกเกี่ยวกับสวนผสมและวิธีการทําอยางละเอียด 3. ลงมือปฏิบัติการประกอบเครื่องดื่มจากสูตรที่คิดคนขึ้น รวมถึง จัดและตกแตงเครื่องดื่มใหมีความสวยงาม นารับประทาน 4. นําผลงานที่ไดมาตอยอดความคิด โดยวางแผนนําเครื่องดื่ม ที่ผลิตไปจําหนายเพื่อสรางรายได พรอมทั้งเขียนอธิบายแนวทาง การดําเนินงาน ขั้นตอนการทํางาน และผลที่คาดวาจะไดรับ จากการจัดจําหนายเครื่องดื่มของตนเองลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 1. ครูสาธิตการบริการเครื่องดื่มใหนักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนเกิดการเรียนรูจากประสบการณ จริง 2. ครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ออกมาสาธิตการ บริการเครื่องดื่มใหเพื่อนชม โดยครูอธิบาย ทีละขั้นตอน เพื่อใหเกิดความเขาใจที่ถูกตอง ขั้นนํา (เนนกระบวนการปฏิบัติ) ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • ควรบริการเครื่องดื่มอยางไรเพื่อใหเกิดความ ประทับใจแกผูรับบริการ (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน กลาววาจาสุภาพเรียบรอย บริการดวยความเต็มใจ มีรอยยิ้มในขณะ ใหบริการ) ขั้นที่ 2 ทําตามแบบ 3. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ฝกการ บริการเครื่องดื่ม โดยใหนักเรียนแตละกลุม ผลัดกันเปนผูบริการและผูรับบริการ 4. ครูและนักเรียนกลุมอื่นรวมกันเสนอแนะเพิ่มเติม และปรับปรุงแกไขในสิ่งที่ผิดพลาด หรือปฏิบัติ ไมถูกตอง ขั้นที่ 3 ทําเองโดยไมมีแบบ 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมจําลองสถานการณ การบริการเครื่องดื่ม แลวใหสมาชิกภายในกลุม ผลัดกันเปนผูบริการในสถานการณตางๆ 6. ครูใหนักเรียนปฏิบัติการบริการเครื่องดื่มใหครู และเพื่อนในชั้นเรียนดูจนครบทุกกลุม นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T52


ขอสอบเนน การคิด ÊÃé Ò§ÊÃÃ¤ì ¾Ñ²¹Ò¡ÒÃàÃÕ¹ÃéÙใบมอบหมายงาน ¡Ô¨¡ÃÃÁ àÃ×èͧ ¡ÒÃàµÃÕÂÁ »ÃСͺ ¨Ñ´ áÅе¡áµ‹§à¤Ã×èͧ´×èÁ คําชี้แจง ๑. ให้นักเรียนปฏิบัติงานกลุ่ม ฝกประกอบเครื่องดื่มตามความสนใจ ๑ ชนิด โดยเลือกประกอบ เครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และวางแผนขั้นตอนการท�างาน ดังน�้ • เลือกเครื่องดื่มตามความสนใจกลุ่มละ ๑ ชนิด • ศึกษาวิธีการประกอบเครื่องดื่มจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ นิตยสาร • ศึกษาวิธีการจัดและตกแต่งภาชนะเครื่องดื่มจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ หรือใช้ความคิด สร้างสรรค์ ในการจัดและตกแต่งภาชนะเครื่องดื่ม ๒. จัดเตรียมส่วนผสมและอุปกรณ์ที่ใช้ ในการประกอบ จัด และตกแต่งเครื่องดื่ม เพื่อน�ามา ประกอบเครื่องดื่มในชั้นเรียน ๓. ให้นักเรียนใช้ทักษะกระบวนการท�างานและทักษะกระบวนการแก้ปญหาในการประกอบเครื่องดื่ม ๔. เมื่อประกอบ จัด และตกแต่งเครื่องดื่มที่เลือกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้แต่ละกลุ่มออกมาน�าเสนอ เครื่องดื่มที่กลุ่มของตนเองช่วยกันท�าหน้าชั้นเรียน ดังน�้ • เครื่องดื่มที่กลุ่มของตนเองเลือกมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างไร • ส่วนผสมและอุปกรณ์ที่ใช้ ในการประกอบ จัด และตกแต่งเครื่องดื่มมีสิ�งใดบ้าง • วิธีการประกอบเครื่องดื่มชนิดนั้น ๆ มีขั้นตอนและวิธีการท�าอย่างไร • ในการปฏิบัติงานกลุ่ม นักเรียนพบปญหา หรืออุปสรรคใด และสมาชิกในกลุ่มช่วยกัน แก้ปญหานั้นอย่างไร เครื่องดื่ม และการบริการ 4๗ ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ฝกใหชํานาญ 7. ครูใหนักเรียนนําความรูที่ไดรับไปปฏิบัติ เพื่อ ใหเกิดความชํานาญและติดเปนนิสัย 8. ครูจัดตารางการบริการเครื่องดื่มของแตละ กลุมในโอกาสที่โรงเรียนมีกิจกรรมตางๆ โดย ครูเปนผูดูแลและควบคุมการบริการของนักเรียน ขั้นสรุป 1. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําใบงานที่ 3.3.2 เรื่อง การบริการเครื่องดื่ม และทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง เครื่องดื่มและการบริการ 2. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึก ผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 3. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเกี่ยวกับการบริการ เครื่องดื่ม 4. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 3.3.2 เรื่อง การบริการ เครื่องดื่ม 3. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง เครื่องดื่มและการบริการ 4. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 5. ครูประเมินผลจากการสรุปความรูเกี่ยวกับ การบริการเครื่องดื่ม 6. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 3 เพราะเหตุใดการเสิรฟเครื่องดื่มที่ใสนํ้าแข็งจึงควรเสิรฟทันที ที่ปรุงเรียบรอยแลว 1. เครื่องดื่มจะเสียไดงาย 2. เครื่องดื่มอาจมีรสชาติจืด 3. ทําใหผูดื่มคลายรอนไดทันที 4. เครื่องดื่มจะตกตะกอนเร็ว สีสันไมสวยงาม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะเครื่องดื่มอาจมีรสชาติจืดชืด เนื่องจากหากไมเสิรฟทันทีที่ปรุงเครื่องดื่มที่มีนํ้าแข็ง อาจทําให นํ้าแข็งละลายเร็ว เมื่อนํ้าแข็งละลาย รสชาติของเครื่องดื่มที่ปรุงไว จะจืดมากขึ้นกวาเดิม) แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T53


Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 การฝึกงานช่าง ในบ้าน 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายความหมาย ความส�ำคัญ และ ประโยชน์ของการ ปฏิบัติงานช่างในบ้าน ได้อย่างถูกต้อง แบบเน้น การเรียนรู้ แบบร่วมมือ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T54


แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 การฝึกงานช่าง ในบ้าน 3 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบหลังเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. วางแผนกระบวนการ ปฏิบัติงานช่างในบ้าน ได้ถูกต้องตามขั้นตอน 2. มีจิตส�ำนึกการใช้ ทรัพยากรในการ ปฏิบัติงานช่างในบ้าน อย่างประหยัดและ คุ้มค่า แบบเน้น การเรียนรู้ แบบร่วมมือ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T55


การเรียนรู้งานช่างเป็นพื้นฐานในการด�ารงชีวิต ซึ่งเราสามารถน�าไปใช้ ในการซ่อมแซม บ�ารุง รักษา ตลอดจนสามารถสร้าง หรือประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ เพื่อใช้ ในการด�าเนินชีวิต หรือเพื่อ การประกอบอาชีพในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการท�างานที่มีขั้นตอนและมีกระบวนการท�างาน ที่จะต้องศึกษา เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และจะได้ลงมือปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) ô หน่วยการเรียนรู้ที่ §Ò¹ª‹Ò§ã¹ºŒÒ¹ ขั้นนํา (เนนการเรียนรูแบบรวมมือ) 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวย การเรียนรูที่ 4 2. ครูตั้งคําถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา • ภายในบานของนักเรียนมีวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบานชนิดใดที่เกิดการชํารุด เสียหาย (แนวตอบ พัดลม เตารีด โทรทัศน) • หากพบวามีวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบาน ที่ชํารุดจะแกปญหานี้อยางไร เพื่อใหสามารถ ใชงานวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบาน ดังกลาวไดอยางคุมคา (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน ทําการสํารวจความ เสียหายของวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบาน หากพบวาเสียหายไมมาก เมื่อพิจารณา แลวพบวาสามารถซอมแซมได ควรทําการ ซอมแซมใหเรียบรอยกอนใช เมื่อพิจารณา แลวไมสามารถซอมแซมได ควรใหชางที่ มีความเชี่ยวชาญมาทําการซอมแซมให หากวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบานไม สามารถซอมแซมได ควรทําการติดตั้งใหม โดยชางผูเชี่ยวชาญ หากเปนการซอมแซม ในเบื้องตนงายๆ สามารถทําไดดวยตนเอง ควรศึกษาวิธีการติดตั้งจากคูมือแนะนํา การใชงานใหละเอียดกอนลงมือปฏิบัติงาน และควรปฏิบัติงานดวยความระมัดระวัง) • หากนักเรียนยังขาดความรูเกี่ยวกับทักษะ การปฏิบัติงานชางในบาน นักเรียนจะแก ปญหาวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบาน ที่ชํารุดไดหรือไม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับงานชางในบานใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเรื่องงานชางในบาน สามารถใชทักษะในการแสวงหา ความรูเพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานชางในบานใหสําเร็จตามเปาหมายอยางมีประสิทธิภาพ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีจิตสํานึกในการทํางาน คํานึงถึงการใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหนักเรียนเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับทักษะการปฏิบัติงานชางในบาน • ใหนักเรียนฝกปฏิบัติงานชางในบาน เพื่อใหสามารถนําไปปฏิบัติไดดวยตนเอง เชน การเปลี่ยนลูกบิดประตู การยาแนวกระเบื้อง การเปลี่ยนกอกนํ้า การซอมหลอดไฟ นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T56


ขอสอบเนน การคิด ËÒ¡¾ºÇ‹ÒÀÒÂ㹺ŒÒ¹ÁÕÇÑÊ´Ø ÍØ»¡Ã³ËÅÒÂÍ‹ҧªÓÃØ´ ¨Ðᡌ»˜ÞËÒ¹ÕéÍ‹ҧäà à¾×èÍãËŒ ÊÒÁÒö㪌§Ò¹ä´ŒÍ‹ҧ¤ØŒÁ¤‹Ò áÅлÅÍ´ÀÑ สาระการเรียนรูแกนกลาง ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สรางทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน - การปฏิบัติงานชางในบาน ■ การมีจิตสํานึกและใชทรัพยากรอยางประหยัดและคุมคาเปนคุณธรรมในการทํางาน ๑ ความสำาคัญของงานช่างในบ้าน งานช่างในบ้านเป็นการใช้ เลือก ดูแลรักษา ซ่อมแซม ดัดแปลง ปรับปรุง แก้ไข สร้าง หรือผลิตชิ้นงาน วัสดุสิ่งของ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ เพื่อด�าเนินกิจกรรมในชีวิตประจ�าวัน เช่น ซ่อมแซม องค์ประกอบของบ้านที่ช�ารุด เปลี่ยน หรือซ่อมกอกน�้า เปลี่ยน หลอดไฟ ซ่อมแซมโตะ เก้าอี้ ชั้นวางของ ฯลฯ ซึ่งเป็นทักษะ พื้นฐานที่จ�าเป็นในการด�ารงชีวิต เพื่อให้ก้าวตามทันเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงไป งานช่างในบ้านมีหลายสาขา และทุก ๆ สาขา ของงานจะใช้พื้นฐานการท�างาน ความรู้ ทักษะกระบวนการ ท�างานช่างเบื้องต้นที่สามารถปฏิบัติงานเหล่านั้นด้วยตนเองอย่าง ง่าย ๆ เพื่อยืดอายุการใช้งาน สิ่งส�าคัญที่ขาดไม่ได้ ในการปฏิบัติ งานช ่าง คือ ต้องยึดหลักความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน เพราะถ้าประมาทอาจท�าให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สิน ๒ ประโยชนที่ได้รับจากการปฏิบัติ งานช่างในบ้าน งานช่างในบ้าน เป็นงานที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะพบเจอได้ เพราะเป็นงานที่อยู่ใกล้ตัว มีความเกี่ยวข้องกับการด�าเนินชีวิต ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติงานช่างมีหลายประการ เช่น ๑. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ๒. ฝกฝนเพื่อก้าวไปสู่การเป็นช่างฝมือต่อไป ในอนาคต ๓. ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๔. ตรวจสอบ ซ่อมแซม ปรับปรุง แก้ไขเครื่องมือ เครื่องใช้ วัสดุ อุปกรณ์ ให้มีสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ๕. ใช้เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ในงานช่าง เพื่อสร้าง หรือผลิต ชิ้นงานในชีวิตประจ�าวัน หรือเพื่อการประกอบอาชีพ ๖. มีจิตส�านึกถึงความปลอดภัยในการท�างาน ฝกคิด วิเคราะห์ด้วยการแก้ปัญหา งานช่างในบ้าน 4๙ งานช ่าง คือ ต้องยึดหลักความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน 1 ขั้นนํา 3. ครูเปดวีดิทัศนเกี่ยวกับการซอมแซมวัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบานใหนักเรียนดู เชน ขาโตะ คอมพิวเตอรชํารุด เบาะรองนั่งหลุดออกจาก เกาอี้ บานพับประตู หรือบานพับหนาตางหลุด พื้นกระเบื้องแตก สีประตูรั้วถลอก สายไฟขาด เตารีดไมรอน มอเตอรพัดลมเสียงดังผิดปกติ 4. ครูถามนักเรียนวา • จากการไดชมวีดิทัศนเกี่ยวกับการซอมแซม วัสดุ อุปกรณ เครื่องใชภายในบาน นักเรียน คิดวาตนเองสามารถปฏิบัติงานดังกลาว เหมือนที่ไดชมในวีดิทัศนไดหรือไม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน คิดวาตนเองสามารถ ปฏิบัติการซอมแซมวัสดุ อุปกรณ เครื่องใช ภายในบานที่ชํารุดบางประเภทได แตตอง เปนงานที่งายๆ เชน ขาโตะคอมพิวเตอร ชํารุด เบาะรองนั่งหลุดออกจากเกาอี้ สีประตู รั้วถลอก) • นักเรียนคิดวาผูที่ปฏิบัติงานชางในบานควร มีคุณสมบัติอยางไร (แนวตอบ ผูที่ปฏิบัติงานชางในบานควรมี คุณสมบัติที่สําคัญหลายประการ เชน มี ความรู ความเขาใจที่ถูกตองเกี่ยวกับวิธีการ ทํางาน หรือขั้นตอนการทํางาน สามารถ ปฏิบัติงานดวยความรอบคอบ มีความ ระมัดระวัง เพื่อใหเกิดความปลอดภัย ในขณะปฏิบัติงาน รูวิธีการใชและเลือก ใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางไดอยาง ถูกตองและถูกวิธี มีกระบวนการจัดการงาน และมีการวางแผนการทํางานอยางเปน ระบบ แกปญหาในการทํางานได มีการ บริหารเวลา เงินทุนไดอยางเหมาะสม และ มีประสิทธิภาพ) ขอใดกลาวถึงประโยชนของการปฏิบัติงานชางในบานไดอยาง ถูกตอง 1. ไมถูกชางเอารัดเอาเปรียบ 2. ลดคาใชจายภายในบาน ทําใหมีเงินออม 3. สามารถสรางสิ่งของเครื่องใชไดจํานวนมาก 4. สามารถซอมแซมสิ่งของเครื่องใชภายในบานไดทุกชนิด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการปฏิบัติงานชางในบานจะ ชวยลดคาใชจายภายในบานได ทําใหมีเงินออมเพิ่มขึ้น เนื่องจาก สามารถปฏิบัติงานซอมแซมบางอยางไดเอง โดยไมตองจางชาง ผูเชี่ยวชาญมาซอมแซม แตงานซอมแซมบางอยางที่ไมสามารถ ซอมแซมเองได ควรใหชางผูเชี่ยวชาญมาซอมแซม เพื่อใหเกิด ความปลอดภัยตอการใชงาน) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา นักเรียนควรมีความรูเบื้องตนเกี่ยวกับงานชางในบาน เพราะจะไดนําความรูไปใชประโยชนในการดูแลบํารุงรักษา ซอมแซม หรือ ดัดแปลงวัสดุตางๆ ใหเกิดประโยชน นอกจากนี้ ยังชวยประหยัดคาใชจาย โดย ไมจําเปนตองซื้อวัสดุ อุปกรณใหมหากเกิดการชํารุด หรือชวยประหยัดคาใชจาย ในการจางชางผูเชี่ยวชาญมาทําการซอมแซม นักเรียนควรรู 1 ความปลอดภัย การปฏิบัติงานชางควรคํานึงถึงความปลอดภัยอยูเสมอ ดังนั้น กอนการปฏิบัติงานจึงควรศึกษาวิธีการใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชาง ตางๆ ใหถูกตองและเหมาะสมกับลักษณะของงาน เพื่อใหสามารถปฏิบัติงาน ไดอยางปลอดภัย นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T57


ขอสอบเนนการคิด ๓ งานช่างในบ้านที่สำาคัญ งานช่างในบ้านนับเป็นงานที่มีความเกี่ยวข้องต่อการด�ารงชีวิตประจ�าวัน ซึ่งงานช่างประเภท ต่าง ๆ จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไป โดยทั่วไปการปฏิบัติงานช่างในบ้านที่ส�าคัญ มีดังนี้ ๔ ขั้นตอนการปฏิบั ติงานช่างในบ้าน ก่อนปฏิบัติงานช่าง ผู้ปฏิบัติงานควรศึกษาขั้นตอนการท�างานให้เข้าใจก่อนลงมือปฏิบัติ เพื่อให้การปฏิบัติงานช่างประสบความส�าเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ ๑. วิเคราะห์สภาพปัญหา หรือลักษณะของงาน โดยการส�ารวจและวิเคราะห์สภาพปัญหาจาก การใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น หลอดไฟไม่ติด พัดลมไม่หมุน ๒. วิเคราะห์งาน ตรวจสอบการท�างานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องการซ่อมแซม สรุปหาสาเหตุ ส�าคัญ และหาวิธีการซ่อมแซมอย่างเหมาะสม ๓. วางแผนการท�างาน ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดของงานซ่อม จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ รวมถึงศึกษาวิธีการซ่อมอย่างละเอียด ๔. ปฏิบัติตามขั้นตอน ท�าการซ่อมแซม บ�ารุง รักษา ติดตั้ง หรือประกอบชิ้นงานตามขั้นตอน ที่ได้ศึกษามาอย่างถูกต้องและปลอดภัย ๕. ประเมินผลจากการปฏิบัติ ตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ที่ท�าซ่อมแซม บ�ารุง รักษา ติดตั้ง หรือประกอบชิ้นงานว่าสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ งานซ่อมแซม งานบ�ารุงรักษา งานติดตั้ง หรืองานประกอบ งานที่ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับหลักการท�างาน อุปกรณ์ และเครื่องใช้ภายในบ้าน วิเคราะห์อาการเสีย อาการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ หาสาเหตุ เพื่อหาแนวทางซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เช่น การซ่อมแซมผนังบ้าน โต๊ะ เก้าอี้ ที่ช�ารุด งานที่ต้องอาศัยความรู้และค�าแนะน�าจากคู่มือการใช้งาน วิธีการท�างาน การบ�ารุงรักษาอุปกรณ์ และเครื่องใช้ภายในบ้าน โดยเฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งจะต้องให้ความส�าคัญมากกว่าอุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ เนื่องจากมีความอันตรายสูง เช่น การล้างท�าความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องท�าความเย็น งานที่ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับหลักการท�างานของอุปกรณ์และเครื่องใช้ภายในบ้าน ต้องศึกษาหลักการ ท�างาน ความเหมาะสมของอุปกรณ์ สถานที่ที่จะน�าไปติดตั้ง เพื่อท�าให้อุปกรณ์และเครื่องใช้ภายในบ้าน มีประสิทธิภาพ หรือใช้งานได้อย่างปลอดภัย เช่น การติดตั้งชั้นวางของในห้องครัว ห้องน�้า ห้องนั่งเล่น 50 จากคู่มือการใช้งาน1 ขั้นสอน 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา เรื่อง ความสําคัญของงานชางในบาน ประโยชน ที่ไดรับจากการปฏิบัติงานชางในบาน งานชาง ในบานที่สําคัญ และขั้นตอนการปฏิบัติงานชาง ในบาน จากหนังสือเรียน ม.2 หนวยการเรียนรู ที่ 4 หรือศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความ สําคัญของงานชางในบาน ประโยชนที่ไดรับ จากการปฏิบัติงานชางในบาน งานชางในบาน ที่สําคัญ และขั้นตอนการปฏิบัติงานชางในบาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 4 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “บานแตละหลังจะ ประกอบไปดวยสิ่งของเครื่องใชตางๆ มากมาย เมื่อเวลาผานไปสิ่งของเหลานั้นอาจเริ่มเสื่อม สภาพลง หรือเกิดปญหาบางอยางที่ตองได รับการดูแลและแกไข เพื่อใหสามารถกลับมา ใชงานไดตามปกติ สงผลใหทักษะในการ ปฏิบัติงานชางจึงเปนสิ่งสําคัญและจําเปนใน การดํารงชีวิตประจําวันของมนุษย เพราะชวย ใหสามารถซอมแซม ดูแล รักษา ดัดแปลง แกไข ปรับปรุง หรือสรางสรรคสิ่งของเครื่องใช ตางๆ เพื่ออํานวยความสะดวกภายในบาน สามารถฝกฝนจนเกิดความเชี่ยวชาญ เพื่อกาว ไปสูการเปนชางฝมือตอไปไดในอนาคต” 4. ครูถามนักเรียนวา • การปฏิบัติงานชางเปนแนวทางในการ สงเสริมการประกอบอาชีพไดอยางไร (แนวตอบ การปฏิบัติงานชางเปนการฝก ทักษะในการใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณใน การซอมแซมสิ่งของเครื่องใชตางๆ ซึ่งอาจ นําไปประกอบอาชีพเกี่ยวกับการซอมแซม เครื่องมือ เครื่องใชตางๆ ไดในอนาคต) เกร็ดแนะครู ครูอาจใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชาง แตละประเภท เชน งานชางไม งานชางไฟฟา งานชางคอนกรีต จากแหลงการ เรียนรูที่หลากหลาย เพื่อใหนักเรียนรูจักลักษณะ วิธีการใชงาน และการดูแล บํารุงรักษาที่ถูกตอง นักเรียนควรรู 1 คูมือการใชงาน สิ่งของเครื่องใชตางๆ มักจะมีคูมือการใชงานแนบมาให ซึ่งในคูมือจะอธิบายถึงวิธีการใชงาน การถอดประกอบ การดูแลบํารุงรักษา และ ศูนยบริการ จึงควรศึกษาคูมือที่แนบมากับสิ่งของเครื่องใชตางๆ ใหเขาใจกอน นํามาใชงาน กอนการปฏิบัติงานชาง ผูปฏิบัติงานควรปฏิบัติสิ่งใดกอนเปน ลําดับแรก 1. วิเคราะหงาน 2. ปฏิบัติตามขั้นตอน 3. วางแผนการทํางาน 4. วิเคราะหสภาพปญหา (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะผูปฏิบัติงานจะตองวิเคราะห สภาพปญหา หรือลักษณะของงานกอน โดยการสํารวจและ วิเคราะหสภาพปญหาจากการใชงานของอุปกรณตางๆ เชน หลอดไฟไมติด เตารีดไมรอน เพื่อนําไปสูการซอมแซมในขั้นตอน ตอไป) นํา สอน สรุป ประเมิน T58


ขอสอบเนน การคิด ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂ㹡Òû¯ÔºÑµÔ§Ò¹ª‹Ò§ã¹ºŒÒ¹ ในการปฏิบัติงานชางทุกประเภท ผูปฏิบัติงานจําเปนตองคํานึกถึงความปลอดภัยเปนหลัก เพราะหากปฏิบัติงานดวยความประมาทอาจสงผลใหเกิดความเสียหายตอชีวิตและทรัพยสินได ดังนั้น การปฏิบัติงานชางในบานเพื่อใหเกิดความปลอดภัยควรปฏิบัติ ดังนี้ Know M ore ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ·ҧ´ŒÒ¹Ã‹Ò§¡Ò • ไมโยนเครื่องมือ หรือวัสดุ อุปกรณ ใหแกเพื่อนรวมงาน • ใชกลามเนื้อขาและแขนยกของหนัก โดยหามใชหลัง • หามใชมือสัมผัสความคม ให ใช ไม หรือกระดาษเทานั้น • การใชของมีคม ตองหันดานคมออกจากตัวเสมอ ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ·ҧ´ŒÒ¹¡ÒÃÊÇÁãÊ‹à¤Ã×èͧᵋ§¡Ò • แตงกายดวยเสื้อผารัดกุม เพื่อใหเกิดความ กระฉับกระเฉง • ไมสวมเครื่องประดับตางๆ ในขณะปฏิบัติงาน • สวมใสอุปกรณปองกันอันตราย เชน หมวกนิรภัย • ไมสวมรองเทาแตะ หรือรองเทาฟองน้ําในขณะ ปฏิบัติงาน ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ·ҧ´ŒÒ¹¡ÒÃ㪌ÇÑÊ´Ø ËÃ×ͪÔé¹§Ò¹µ‹Ò§ æ • ยึดวัสดุ หรือชิ้นงานใหแนนเสมอ เพื่อความปลอดภัย • เศษวัสดุตางๆ ควรทิ้งลงในถังขยะใหเรียบรอย • วัสดุที่เปนเชื้อเพลิงตองเก็บในที่มิดชิดและปลอดภัย • เศษผาเปอนน้ํามันควรเก็บใหมิดชิดหลังใชงาน  ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ·ҧ´ŒÒ¹¡ÒÃ㪌à¤Ã×èͧÁ×Í • ปฏิบัติตามคําแนะนําในการใชเครื่องมืออยางเครงครัด • ใชเครื่องมืออยางถูกตองและเหมาะสมกับชนิดของงาน • จัดเก็บและตรวจสภาพเครื่องมือใหพรอมใชงานอยูเสมอ  • หลังปฏิบัติงานควรทําความสะอาดเครื่องมือทุกครั้ง งานช่างในบ้าน ๕๑ • สวมใสอุปกรณปองกันอันตราย เชน หมวกนิรภัย 1 ขั้นสอน 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันปฏิบัติกิจกรรม “ซอมไดไมยาก” โดยรวมกันกําหนดสถานการณ ปญหาที่เกิดขึ้นภายในบานเกี่ยวกับสิ่งของ เครื่องใช หรือสิ่งอํานวยความสะดวกภายในบาน ที่ชํารุดตามความสนใจ 1 ชนิด ซึ่งแตละกลุม ควรกําหนดสิ่งที่ชํารุดไมซํ้ากัน จากนั้นเขียน อธิบายกระบวนการการปฏิบัติงานในประเด็น ที่ครูกําหนดให ดังนี้ • ปญหาที่พบ • การวิเคราะหงาน • การวางแผนการปฏิบัติงาน • ขั้นตอนการปฏิบัติงาน • การประเมิน หรือการตรวจสอบผลการ ปฏิบัติงาน 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนา ชั้นเรียน เพื่อเปนการแลกเปลี่ยนเรียนรูจาก สิ่งที่ไดศึกษา โดยครูเปดโอกาสใหนักเรียน รวมกันซักถามหากเกิดขอสงสัย 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ทักษะการปฏิบัติงานชาง เปนทักษะที่ตองใชฝมือและความชํานาญเปน อยางมาก เพราะเปนการปฏิบัติงานที่เสี่ยงตอ การเกิดอันตราย เนื่องจากตองใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชาง เพื่อซอมแซม บํารุง ติดตั้ง หรือประกอบ ดังนั้น ผูที่จะปฏิบัติ งานชางจึงควรมีความรู ความเขาใจเกี่ยวกับ กระบวนการทํางาน วิธีการใชและเลือกใช เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางที่ถูกตอง มีการวางแผนการปฏิบัติงาน การบริหารเวลา และทรัพยากรอยางคุมคา และคํานึงถึงความ ปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานอยูเสมอ” การปฏิบัติงานชางอยางปลอดภัย มีลักษณะตรงตามขอใด 1. โยนเครื่องมือใหแกเพื่อนรวมงาน 2. สวมใสรองเทาแตะ เพื่อความสบาย 3. ถอดเครื่องประดับออกขณะปฏิบัติงาน 4. เก็บเครื่องมือหลังปฏิบัติงาน โดยไมตองทําความสะอาด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการปฏิบัติงานชางอยาง ปลอดภัย ผูปฏิบัติงานจะตองไมสวมเครื่องประดับตางๆ ไมสวมใส รองเทาแตะ หรือรองเทาฟองนํ้า และหลังปฏิบัติงานควรทําความ สะอาดเครื่องมือทุกครั้งกอนนําไปเก็บเขาที่ใหเรียบรอย) นักเรียนควรรู 1 หมวกนิรภัย แบงประเภทตามขอบเขตและการใชงาน ดังนี้ หมวกนิรภัย ที่สามารถปองกันการกระแทก หมวกนิรภัยที่ชวยในการปองกันไฟฟา และ หมวกนิรภัยที่ชวยปองกันอันตรายจากการเจาะ นอกจากนี้ สีของหมวก นิรภัยยังมีความหมายที่แตกตางกัน เชน สีขาว สําหรับวิศวกร ผูบริหาร หัวหนางาน ผูเยี่ยมชม สีนํ้าเงิน สําหรับชางไฟฟา ชางไม เจาหนาที่เท คนิคอื่นๆ สีเหลือง สําหรับพนักงานทั่วไป สีเขียว สําหรับเจาหนาที่ความ ปลอดภัย สีแดง หรือสีสม สําหรับเจาหนาที่ดับเพลิง ชางเชื่อม ผูที่ปฏิบัติงาน เกี่ยวกับความรอน สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการปฏิบัติงานชางในบาน ไดที่ https://devilcrafthazard.wordpress.com/งานชางพื้นฐาน/ความปลอดภัย ในงานชาง นํา สอน สรุป ประเมิน T59


ขอสอบเนนการคิด การวิเคราะห์งาน การวางแผนการท�างาน ๕ ตัวอย่างการปฏิบัติงานช่างในบ้าน การปฏิบัติงานช่างในบ้านด้วยตนเอง เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ ในการท�างาน เนื่องจากต้องเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ เพื่อให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ปลอดภัย ขอบข่ายของงานไม้ เป็นการปฏิบัติเกี่ยวกับไม้ โดยการน�าทักษะกระบวนการงานช่างไม้ ในเรื่อง การดูแลรักษา ซ่อมแซม ปรับปรุง แก้ไข สร้าง หรือผลิตชิ้นงานมาใช้ ในการออกแบบ เขียนแบบ วัด ตัด เจาะ ยึดตรึง พร้อมทั้งเคลือบผิวชิ้นงาน วัสดุ สิ่งของ เครื่องมือ เครื่องใช้ภายในและภายนอกบ้าน เช่น ตู้ โต๊ะ เตียง เก้าอี้ วงกบประตู หน้าต่าง ประโยชน์ที่ ได้รับ มีดังนี้ ๑. ใช้เครื่องมืองานช่างได้ถูกต้อง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. สร้าง หรือผลิตชิ้นงานเกี่ยวกับงานไม้ได้ด้วยตนเอง ๓. ซ่อมแซมเครื่องเรือน เครื่องมือ เครื่องใช้ที่ท�าจากไม้ ให้มีสภาพการใช้งานได้ตามปกติ ๔. ใช้เป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต 5.๑ การปฏิบัติงานไม้ ตัวอย่าง : เปลี่ยนลูกบิดประตู ปัญหา หรือความต้องการ ลูกบิดประตูหลุด ไม่สามารถล็อกได้ เพราะผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน ๑. ตรวจสอบการท�างานของบานประตู ได้แก่ การท�างานของบานพับ ความเที่ยงตรงของ บานประตู และสภาพของลูกบิดประตู ๒. สรุปสาเหตุ คือ ลูกบิดหมดสภาพการใช้งาน ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจเปลี่ยนลูกบิด ประตูด้วยตนเอง ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิด ราคา และเทคนิควิธีการเปลี่ยนลูกบิดประตู ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ที่ ใช้ ในการ เปลี่ยนลูกบิดประตู เช่น ตลับเมตร ไขควงปากแฉก ไขควงปากแบน ๓. ศึกษาวิธีการเปลี่ยนลูกบิดประตูจากคู่มือ 5๒ 1 3 2 ขั้นสอน 8. ครูเชิญวิทยากรผูที่มีความรู ความเชี่ยวชาญ ในการปฏิบัติงานชางมาสาธิตการใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางแตละประเภทให นักเรียนดู เพื่อใหนักเรียนไดฝกการไดสังเกต และเรียนรูเกี่ยวกับการใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางที่ถูกตอง โดยครูเปดโอกาส ใหนักเรียนรวมกันซักถามหากเกิดขอสงสัย 9. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมาจับสลาก เพื่อปฏิบัติงานชาง ภายในบานตามหัวขอที่จับสลากได 10. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางการ ปฏิบัติงานชางในบาน จากหนังสือเรียน ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 4 หรือศึกษาเพิ่มเติมจาก อินเทอรเน็ต 11. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยาง การปฏิบัติงานชางในบาน จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 4 12. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติงาน ชางในบาน : การปฏิบัติงานไม จากหนังสือ เรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 52-53 จากนั้น รวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการเปลี่ยนลูกบิด ประตูทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการเปลี่ยน ลูกบิดประตูใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 13. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ปฏิบัติงานไม : เปลี่ยนลูกบิดประตู มาให นักเรียนดู จากนั้นครูใหนักเรียนชวยกัน จําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออก เปนกลุมตามประเภทของการซอมแซม นักเรียนควรรู 1 ตลับเมตร ทําจากโลหะปม มีลักษณะเปนตลับเพื่อมวนเก็บ สายวัดมีสปริง อยูภายในตลับอยางมิดชิด ตรงสวนปลายสุดของสายวัดเปนขอเกี่ยว และดานหนา ของสายวัดมีหนวยการวัด คือ นิ้ว ฟุต และระบบเมตริก ตลับเมตรที่มีจําหนาย ทั่วไป มีขนาดตลับบรรจุสายวัดไดความยาวตั้งแต 1.00-5.00 เมตร ขนาดที่ชางไม และชางกอสรางนิยมใชมากที่สุด ไดแก ขนาดตลับที่บรรจุสายวัดไดความยาว 2.00 เมตร 2 ไขควงปากแฉก เปนเครื่องมือที่ใชสําหรับหมุน หรือขันตะปูเกลียวชนิดหัวแฉก 4 แฉก เพื่อยึดชิ้นงาน หรือวัสดุใหติดแนน 3 ไขควงปากแบน เปนเครื่องมือที่ใชสําหรับหมุน หรือขันตะปูเกลียวชนิดหัวผา ใชสําหรับยึดชิ้นงาน หรือวัสดุใหติดแนน หากประตูไมตกทําใหปดประตูไดไมสนิท จะมีวิธีการซอมแซม เพื่อใหประตูสามารถกลับมาใชงานไดตามปกติอยางไร 1. หยอดนํ้ามันสนทุกบานประตูตรงจุดหมุน 2. เปลี่ยนบานพับใหมใหมีขนาดเล็กกวาเดิม 3. ถาตกเล็กนอย อาจไส หรือถากสวนที่ทําใหปดไมสนิทออก 4. ปรับตําแหนงบานพับใหม ติดบานพับ 4 ตัว และเผื่อบานพับ ใหโตขึ้น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะถาประตูไมตกเล็กนอยอาจ ไส หรือถากสวนที่ปดไมสนิทออก โดยเริ่มตนจากการถอดบานพับ ประตูออก จากนั้นปรับตําแหนงติดบานพับประตูใหม โดยไมใหซํ้า กับตําแหนงเดิม) นํา สอน สรุป ประเมิน T60


ประเมินผลการทํางาน ทดสอบการเปด-ปดประตู หาก ลูกบิดติดแนนกับประตู กดล็อก ลูกบิดเปด-ปด หากเปด-ปดได แสดงวาใชงานได ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ñ ถอดลูกบิดออกดวยแทงโลหะ ปลายแหลม กดเขาไปในรู แลวดึงตัวล็อกลูกบิดออก ถอดฝาครอบลูกบิด ใชไขควง ขันสกรูลูกบิดออก ทําความ สะอาดบริเวณที่ถอดลูกบิด ออกใหเรียบรอย ò ถอดลูกบิดออกโดยดึงจาก อีกดานหนึ่ง ใสลูกบิดประตู อันใหมเขาไปแทนที่ ใชไขควง ขันสกรู ๒ ตัว เพื่อยึดลูกบิด ใหแนนกับบานประตู ó ใสฝาครอบและลูกบิดใหครบสมบูรณ ทดสอบการใชงาน จัดเก็บ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ และทําความสะอาดสถานที่ปฏิบัติงานให เรียบรอย ใชผาสะอาดชุบนํ้ายาลางจานเช็ดใหทั่ว แลวใชผาสะอาดชุบนํ้าเช็ดซํ้าอีกครั้ง ไมควรใชสกอตชไบรต เพราะจะทําใหสีผิวของลูกบิดประตูชํารุด Trick : การทําความสะอาดลูกบิดประตูที่ทําจากทองเหลือง งานช่างในบ้าน ๕๓ ถอดลูกบิดออกดวยแทงโลหะ 1 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน 14. ครูสาธิตการเปลี่ยนลูกบิดประตูใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 15. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิตการ เปลี่ยนลูกบิดประตูใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของ นักเรียนอยางใกลชิดและคอยใหความ ชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนักถึงความ ปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย 16. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงานไม : เปลี่ยนลูกบิดประตูที่เพื่อนออกมาสาธิตใหชม พรอมทั้งจดบันทึกประเด็นสําคัญตางๆ ไว 17. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานไม : เปลี่ยนลูกบิดประตู โดยครูเปนผู ตรวจสอบความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมใน สวนที่ยังขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 18. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทําความ สะอาดลูกบิดประตูใหนักเรียนฟงวา “การทํา ความสะอาดลูกบิดประตูจะมีวิธีการปฏิบัติที่ แตกตางกัน ซึ่งจะขึ้นอยูกับวัสดุที่นํามาผลิต เชน ลูกบิดที่ผลิตจากเหล็กกลาไรสนิม (Stainless Steel) ใหใชผา หรือฟองนํ้าชุบนํ้ายาลางจาน นํามาขัดเช็ด ลางดวยนํ้าสะอาด ใชผาสะอาด เช็ดใหแหง หากที่พักอาศัยอยูติดกับทะเลและ ลูกบิดอยูภายในหอง ควรทําความสะอาดทุก 3-6 เดือนตอครั้ง หากที่พักอาศัยอยูติดกับ ทะเลและลูกบิดอยูภายนอกหอง ควรทําความ สะอาด 3-4 สัปดาหตอครั้ง” ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการซอมแซม งานไมภายในบานตามความสนใจ 2 งาน จากนั้นเขียนสรุปขั้นตอน การปฏิบัติงานลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการซอมแซม งานไมภายในบานมาตามความสนใจ 1 งาน โดยเขียนสรุป ในประเด็นที่กําหนดให คือ ปญหาที่เกิดขึ้น การวิเคราะหงาน การวางแผนการทํางาน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ลงในกระดาษ รายงาน นําสงครูผูสอน เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใชงานลูกบิดใหนักเรียนฟงวา ในกรณี ที่สกรูลูกบิดติดแนนมาก ควรใชนํ้ามันขจัดความชื้นฉีดพนเหนือบริเวณสกรู จากนั้นทิ้งไวสักครู แลวจึงใชไขควงขันสกรูออก นักเรียนควรรู 1 ลูกบิด มีหลายประเภท เชน ลูกบิดทั่วไป นิยมใชกับประตูบาน ล็อกไดจาก ดานในและปลดล็อกไดจากกุญแจดานนอก ลูกบิดทางผาน เหมาะกับประตู ทางผานที่ไมไดตองการล็อกแนนหนามาก ลูกบิดหองนํ้า ล็อกจากดานใน สวนดานนอกเปดไดจากกุญแจ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัย หากมี เหตุฉุกเฉินจะไดชวยเหลือไดอยางทันทวงที ลูกบิดโรงแรม ดานนอกปลดล็อก ไดจากกุญแจเทานั้น สวนดานในสามารถเปดไดตลอดเวลา นํา สอน สรุป ประเมิน T61


ขอสอบเนน การคิด ปัญหา หรือความต้องการ ปูนยาแนวกระเบื้องหลุดร่อน เพราะใช้งานมานานและ โดนน�้ายาล้างห้องน�้ากัดเซาะ ท�าให้แผ่นกระเบื้องหลุด หรือแตก การวิเคราะห์งาน ๑. ตรวจสอบสภาพรอยปูนยาแนวที่พื้นและผนัง ได้แก่ ปูนยาแนวหลุดร่อน สกปรก และรอยต่อมุม กระเบื้องสึกกร่อนมาก ๒. สรุปสาเหตุ คือ ห้องน�้าที่ ใช้ปูนยาแนวกระเบื้องมาเป็นเวลานาน เกิดการหลุดร่อนของปูน ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจซ่อมแซมปูนยาแนวกระเบื้องของห้องน�้าที่พื้นและผนัง ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานปูกระเบื้อง วัสดุยาแนว และเทคนิควิธีการยาแนวกระเบื้อง ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เช่น ปูนยาแนว เกรียงยาแนว แปรงลวด เหล็กขูดยาแนว น�้ายาท�าความสะอาด ผ้า ถุงมือ ๓. ศึกษาวิธีการซ่อมปูนยาแนวกระเบื้องจากคู่มือ การวางแผนการท�างาน ขอบข่ายของงานปูนและงานคอนกรีต เป็นการน�าทักษะกระบวนการมาใช้ผสมปูนก่อปูนฉาบ โดยผสมคอนกรีตในอัตราส ่วนต ่าง ๆ ที่เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากนี้ ยังใช้ซ ่อมแซม ความบกพร่องในงานปูนและงานคอนกรีตที่ช�ารุดให้มีสภาพการใช้งานได้เป็นอย่างดี ประโยชน์ที่ ได้รับ มีดังนี้ ๑. ใช้เครื่องมือช่างในงานปูนและงานคอนกรีตได้ถูกต้อง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. สร้าง หรือผลิตชิ้นงานเกี่ยวกับงานปูนและงานคอนกรีตได้ด้วยตนเอง ๓. ซ่อมแซมพื้น หรือผนังกระเบื้องให้มีสภาพสมบูรณ์ดังเดิม ๔. ลดการใช้ไม้ ในการสร้างบ้าน เป็นการช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ ๕. ใช้เป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต 5.๒ การปฏิบัติงานปูนและงานคอนกรีต ตัวอย่าง : ยาแนวกระเบื้อง 54 ปูนยาแนวกระเบื้องหลุดร่อน วัสดุยาแนว เกรียงยาแนว 1 2 ขั้นสอน 19. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติงานชาง ในบาน : การปฏิบัติงานปูนและงานคอนกรีต จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 54-55 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การยาแนวกระเบื้องทีละขั้นตอน โดยครูขอ อาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การยาแนวกระเบื้องใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 20. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการปฏิบัติ งานปูนและงานคอนกรีต : ยาแนวกระเบื้อง มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูใหนักเรียนชวยกัน จําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออก เปนกลุมตามประเภทของการซอมแซม 21. ครูสาธิตการยาแนวกระเบื้องใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 22. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิตการ ยาแนวกระเบื้องใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของ นักเรียนอยางใกลชิดและคอยใหความ ชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนักถึงความ ปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย 23. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ปูนและงานคอนกรีต : ยาแนวกระเบื้องที่ เพื่อนออกมาสาธิตใหชม พรอมทั้งจดบันทึก ประเด็นสําคัญตางๆ ไว นักเรียนควรรู 1 ปูนยาแนวกระเบื้อง วิธีการทํา คือ ผสมปูนยาแนว 1 สวน กับนํ้า 1 สวน แลวฉาบยาแนวลงในสวนของรองรอยตอของกระเบื้องใหเต็ม ทิ้งไวใหพอหมาด แลวเช็ดออกดวยฟองนํ้าชุบนํ้าหมาดๆ จนรองยาแนวเรียบสนิท 2 เกรียงยาแนว มีหลายชนิดและมีวิธีการใชงานที่แตกตางกัน เชน เกรียงไม ใชสําหรับปาดผิวหนาปูนและฉาบปูนที่ผนังกําแพง เกรียงเหล็ก ใชสําหรับงาน กออิฐและปูกระเบื้อง หากเลือกใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางกับงานปูนและ งานคอนกรีตไมเหมาะสมกับชนิดของงาน จะสงผลตองานที่ปฏิบัติ อยางไร (แนวตอบ อาจทําใหเสียเวลา เสียคาใชจายในการปฏิบัติงาน ทําใหการทํางานมีประสิทธิภาพนอยลง หรือขาดคุณภาพ รวมถึง อาจกอใหเกิดอันตรายตอผูใชงาน หรือทําใหเกิดการบาดเจ็บได) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกซื้อปูนสําเร็จรูปใหถูกกับการใชงาน ไดที่ https://www.baanlaesuan.com/80903/maintenance/ready-mademortar นํา สอน สรุป ประเมิน T62


การคิด ขอสอบเนน การคิด ประเมินผลการท�างาน ตรวจสอบความเรียบร้อยของการยาแนว กระเบื้องเรียบ เต็มช่อง และไม่มีฟองอากาศ รวมถึงความสะอาดของคราบปูน หากมีตกค้าง และแห้งจะท�าความสะอาดได้ยาก สามารถปฏิบัติได้หลายวิธี เช่น ใช้กรดจากน�้าส้มสายชู โดยใช้แปรงสีฟันแข็งชุบน�้าส้มสายชูให้ชุ่ม ขัดบริเวณคราบสกปรก ล้างด้วยน�้าสะอาด ใช้เบกกิงโซดา โดยน�าผงเบกกิงโซดาโรยตามร่องยาแนว ราดน�้าตาม จากนั้นพรมน�้าส้มสายชูลงไป ใช้แปรงขนแข็งขัดให้ทั่ว ล้างด้วยน�้าสะอาด Trick : การทําความสะอาดยาแนว เซาะร่องขูดปูนยาแนวเดิมออก ผสมกาวยาแนวกระเบื้องกับ น�้าสะอาดในอัตราส ่วนตาม ค�าแนะน�าที่ระบุอยู่ที่ถุง น�าปูนมายาแนวร่องกระเบื้อง ด้วยเกรียงยาแนว รูดเกรียง ยาแนวในลักษณะตามแนว กระเบื้อง อัดให้แน่นจนครบ ทุกร ่องที่ต ้องการยาแนว ทิ้งไว้ประมาณ ๑-๑.๕ ชั่วโมง ใช้ฟองน�้าสะอาดลูบเบา ๆ เช็ดรอยปูนที่ไม่ต้องการนอก ร่องแนวกระเบื้องออกให้หมด ทิ้งปูนยาแนวให้แห้งสนิทประมาณ ๑๒-๒๔ ชั่วโมง แล้วจึงล้างท�าความสะอาด จากนั้น ใช้งานได้ตามปกติ จัดเก็บเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ และท�าความสะอาดสถานที่ปฏิบัติ งานให้เรียบร้อย ñ ò ó ขั้นตอนการปฏิบัติงาน งานช่างในบ้าน 55 ผสมกาวยาแนวกระเบื้องกับ 1 ขั้นสอน 24. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานปูนและงานคอนกรีต : ยาแนวกระเบื้อง โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตอง และ อธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน 25. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการยาแนว กระเบื้องใหนักเรียนฟงวา “หากนักเรียน ไมถนัด หรือไมสามารถผสมปูน เพื่อยาแนว กระเบื้องดวยตนเองได นักเรียนสามารถเลือก ใชซิลิโคนยาแนวแทนได ซึ่งมีขั้นตอนในการ ปฏิบัติ คือ ใหใชเครื่องมือขูดรองกระเบื้องขูด ยาแนวเดิมออกจนหมด จากนั้นใหผสมนํ้ายา ฟอกขาว 1 4 ถวยตวง นํ้าสะอาด 2 ถวยตวง ผงซักฟอก 1 3 ถวยตวง เขาดวยกัน แลวราด ลงบนพื้น เพื่อทําความสะอาดรองกระเบื้อง และคราบสิ่งสกปรก เช็ดรองกระเบื้องดวย ผาสะอาดใหแหง สวมซิลิโคนยาแนวกับปนยิง และยิงซิลิโคนยาแนวตามแนวรองกระเบื้อง หลังจากยาแนวเสร็จเรียบรอยแลว ปลอยให ซิลิโคนยาแนวแหง และเมื่อซิลิโคนยาแนวแหง ดีแลว จึงใชฟองนํ้าชุบนํ้าสะอาดบิดหมาดเช็ด เพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้ง” 25. ครูถามนักเรียนวา • หากตองการยาแนวพื้นกระเบื้องหองนํ้า นักเรียนจะมีแนวทางในการเลือกใชงาน ยาแนวอยางไร (แนวตอบ เนื่องจากพื้นกระเบื้องหองนํ้า สวนใหญจะเปนแบบเซรามิก เปนกระเบื้อง ที่เปยกอยูเสมอและมีความชื้นสูง อีกทั้ง ยังมีคราบสิ่งสกปรกที่เกิดจากสบู แชมพู สระผม ยาสีฟน นํ้ายาทําความสะอาด หองนํ้า จึงควรเลือกใชยาแนวที่มีคุณสมบัติ เหมาะสมกับพื้นที่เปยกและควรมีคุณสมบัติ ในการปองกันเชื้อรารวมดวย) หากใชนํ้ายาทําความสะอาดหองนํ้าในงานปูนจะสงผลอยางไร 1. ปูนมีรอยขีดขวน 2. ปูนมีสีแตกตางไปจากเดิม 3. ปูนกัดกรอน หรือมีรอยราว 4. ปูนมีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะนํ้ายาทําความสะอาดหองนํ้า มีฤทธิ์เปนกรดสูง ซึ่งจะไปกัดกรอนและทําลายปูนอยางรุนแรง ทําใหปูนเกิดความเสียหายได) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยาแนวกระเบื้องใหนักเรียนฟงวา กอนที่จะ ยาแนวกระเบื้อง ควรทําความสะอาดพื้นเพื่อฆาเชื้อโรคกอนดวยนํ้ายาทําความ สะอาดพื้น พรอมทั้งใชแปรงขัด หรือใชผาเนื้อหยาบขัดทุกซอกทุกมุมของ กระเบื้อง โดยเฉพาะตามพื้นที่เปนมุมและซอกหลืบที่มองไมคอยเห็น ในการผสม ยาแนวใหผสมตามอัตราสวนที่กําหนดไวดานหลังของถุง จากนั้นเทยาแนวลงไป ในนํ้า คนใหเขากัน แลวจึงนําไปใชงานได หามเทนํ้าลงไปในยาแนวโดยเด็ดขาด เพราะจะไมสามารถคนใหเปนเนื้อเดียวกันได นักเรียนควรรู 1 ยาแนว ชนิดสําเร็จรูปจะไมทนนํ้า เนื่องจากมีสวนประกอบของอะคริลิก เมื่อนําไปใชในพื้นที่ที่มีความชื้นเปนประจํา หรือมีนํ้าขัง จะทําใหวัสดุปดผิว ยาแนวมีโอกาสหลุดลอนไดสูง นํา สอน สรุป ประเมิน T63


กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค ปัญหา หรือความต้องการ ก๊อกน�้าช�ารุด เมื่อปดก๊อกน�้า น�้าไหลไม่หยุด และเมื่อเปดก๊อกน�้า น�้าไหลไม่แรง การวิเคราะห์งาน ๑. ตรวจสอบระบบน�้าดีทั้งระบบ รวมทั้งก๊อกน�้าที่มีปญหา ได้แก่ ตรวจสอบประตูปด-เปดน�้า ตรวจสอบ ระบบปด-เปดก๊อกน�้าและตะแกรงปลายก๊อกน�้า และตรวจสอบระบบท่อที่น�าน�้ามาสู่ก๊อกน�้าว่า มีการช�ารุดเสียหายหรือไม่ ๒. สรุปสาเหตุ คือ เกิดจากการช�ารุดภายในก๊อกน�้า ระบบการหมุนของลิ้นอัดลงบนบ่าลิ้นของตัวก๊อกน�้า ไม่แนบสนิท ท�าให้น�้ารั่วซึม ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจเปลี่ยนก๊อกน�้าด้วยตนเอง ขอบข่ายของงานประปา เป็นการน�าทักษะกระบวนการงานประปามาใช้ ในการเดินท่อประปา น�้าดี-น�้าเสีย แก้ไขท่อน�้า ติดตั้ง หรือปรับเปลี่ยนอุปกรณ์งานประปาชนิดต่าง ๆ และอุปกรณ์ที่ ใช้ ร่วมกับสุขภัณฑ์ ในห้องน�้า ห้องครัว และบริเวณอื่น ๆ ของบ้าน ประโยชน์ที่ ได้รับ มีดังนี้ ๑. ใช้เครื่องมืองานช่างประปาได้ถูกต้อง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. ซ่อมแซมระบบประปา น�้าดี-น�้าเสียที่มีปญหาให้กลับมามีสภาพการใช้งานได้ ๓. ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ช�ารุดและติดตั้งสุขภัณฑ์ ใหม่ อุปกรณ์ ใหม่ ให้กลับมาใช้งานได้ปกติ ๔. ยกระดับมาตรฐานการใช้น�้าได้อย่างถูกสุขลักษณะ ส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี ๕. ใช้เป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต 5.๓ การปฏิบัติงานประปา ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบน�้าดีที่ใช้บริโภค ชนิด ราคา และเทคนิควิธีการเปลี่ยนก๊อกน�้า ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เช่น ก๊อกน�้า เทปพันเกลียว คีมล็อก ๓. ศึกษาวิธีการเปลี่ยนก๊อกน�้าจากคู่มือ การวางแผนการท�างาน ตัวอย่าง : เปลี่ยนกอกน�้า 5๖ ๒. สรุปสาเหตุ คือ เกิดจากการช�ารุดภายในก๊อกน�้า ระบบการหมุนของลิ้นอัดลงบนบ่าลิ้นของตัวก๊อกน�้า 1 ขั้นสอน 27. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติงาน ชางในบาน : การปฏิบัติงานประปา จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 56-57 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการเปลี่ยน กอกนํ้าทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการเปลี่ยน กอกนํ้าใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 28. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการปฏิบัติ งานประปา : เปลี่ยนกอกนํ้า มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูใหนักเรียนชวยกันจําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออกเปนกลุมตาม ประเภทของการซอมแซม 29. ครูสาธิตการเปลี่ยนกอกนํ้าใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 30. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิตการ เปลี่ยนกอกนํ้าใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หาก นักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือ ตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดย ครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 31. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ประปา : เปลี่ยนกอกนํ้าที่เพื่อนออกมาสาธิตให ชม พรอมทั้งจดบันทึกประเด็นสําคัญตางๆ ไว เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานประปาใหนักเรียนฟงวา งานประปาเปนงาน ที่เกี่ยวของกับระบบนํ้าดี-นํ้าเสียของบานที่ใชอยูเปนประจําทุกวัน โดยระบบนํ้าดี เปนระบบนํ้าที่ใชบริโภคเพื่อสุขภาพและอนามัย สวนระบบนํ้าเสีย หรือระบบ นํ้าทิ้งเปนระบบระบายนํ้าเสียออกจากบาน ดังนั้น จึงควรใชงานประปาในการ จัดระบบนํ้าดี-นํ้าเสียใหถูกตองและเหมาะสมกับการอุปโภคบริโภคภายในและ ภายนอกที่พักอาศัย ทั้งยังเปนการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติไดอีกดวย นักเรียนควรรู 1 ลิ้น ใชสําหรับปดกั้น หรือควบคุมการไหลของนํ้าที่ไหลผานทอใหไดตาม ที่ตองการ ลิ้นที่มีขนาดตั้งแต 2 นิ้วขึ้นไป จะทําดวยบรอนซ สวนลิ้นที่มีขนาด ตั้งแตครึ่งนิ้วถึง 2 นิ้ว จะทําดวยเหล็กหลอ ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน รวมกันดูภาพทอนํ้าประปา ที่รั่วซึม จากนั้นใหสมาชิกภายในกลุมรวมกันระดมสมองหาวิธีการ ซอมแซมทอนํ้าประปาใหกลับมาใชงานไดตามปกติ โดยใหแตละ กลุมเสนอแนะวิธีการซอมแซมดวยการนําปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช จากนั้นใหแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมา นําเสนอผลงานใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงคดานอยูอยาง พอเพียงและมุงมั่นในการทํางาน) นํา สอน สรุป ประเมิน T64


ขอสอบเนน การคิด การพันเกลียวต้องพันเทปเกลียวให้แน่น โดยให้เห็นซี่ของเกลียว ต้องพันให้ตึงและพันในแนวเดียว กับตัวของผู้พัน ควรพันให้มากรอบเข้าไว้ เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน�้า และเมื่อพันเสร็จให้ใช้แรงดึง เทปพันเกลียวให้ขาด เพื่อให้เทปพันเกลียวยึดติดกันให้แน่น Trick : วิธีการใชเทปพันเกลียวที่ถูกตอง ปดประตูน�้าไม่ให้น�้าไหลมาสู่ก๊อกน�้าที่จะเปลี่ยน ถอดก๊อกน�้าด้วยคีมล็อก โดยหมุนทวนเข็มนาฬกา ให้ออกจากท่อน�้าดี ท�าความสะอาดเกลียวในท่อน�้าดี พันเทปพันเกลียวเข้าที่เกลียวนอกของก๊อกน�้าให้แน่น และหนา ระวังอย่าพันแน่นมาก เพราะอาจท�าให้ท่อน�้าดีแตกได้ ñ น�าก๊อกน�้าตัวใหม่ที่พันเทปพันเกลียวแล้วใส่เข้าที่ เกลียวในท่อน�้าดี ใช้มือหมุนก๊อกน�้าตามเข็มนาฬกา ให้แน่นและอยู่ในต�าแหน่งที่เหมาะสมกับการใช้งาน ตรวจสอบความเรียบร้อยและสภาพการใช้งาน จัดเก็บเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ และท�าความ สะอาดสถานที่ปฏิบัติงานให้เรียบร้อย ò ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ประเมินผลการท�างาน เปดประตูน�้าให้น�้าเข้าสู่ระบบ สังเกตดูการรั่วซึมว่ามีน�้าหยดหรือไม่ หากยังมีน�้าหยดให้ใช้เทปพันเกลียวพันเพิ่มเข้าไป จากนั้นเปดก๊อกน�้าว่า สามารถใช้งานได้หรือไม่ หากไม่มีน�้าหยดแสดงว่าใช้งานได้ตามปกติ งานช่างในบ้าน 5๗ ปดประตูน�้าไม่ให้น�้าไหลมาสู่ก๊อกน�้าที่จะเปลี่ยน ถอดก๊อกน�้าด้วยคีมล็อก โดยหมุนทวนเข็มนาฬกา 1 2 ขั้นสอน 32. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานประปา : เปลี่ยนกอกนํ้า โดยครูเปน ผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติม ในสวนที่ยังขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 33. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบ รอยรั่วซึมของนํ้าประปาใหนักเรียนฟงวา “หากนักเรียนตองการตรวจสอบรอยรั่วซึม ของนํ้าประปา สามารถปฏิบัติได ดังนี้ • ใหปดกอกนํ้าทุกจุดในบริเวณที่อยูอาศัย สังเกตหนาปดมาตรวัดนํ้า (ตัวเลข 4 หลัก แถวบนในกรอบสี่เหลี่ยมจะบอกคาปริมาตร นํ้าเปนจํานวนเต็ม มีหนวยเปนลูกบาศกเมตร หรือคิว สวนเข็มชี้ตัวเลขในวงกลม 3 วง จะบอกคาปริมาตรนํ้าเปนหนวยทศนิยม ของลูกบาศกเมตร) หากตัวเลขบนหนาปด มาตรวัดนํ้ามีการเคลื่อนไหว แสดงใหเห็นวา มีการรั่วซึมของทอประปาเกิดขึ้น • ตรวจสอบกอกนํ้า ฝกบัว เครื่องซักผา และอุปกรณที่เกี่ยวของตางๆ ทุกประเภท หากพบวาเมื่อปดสนิทโดยไมมีการใชนํ้า แตยังคงมีนํ้ารั่วซึมออกมา ควรรีบดําเนินการ ซอมแซมโดยทันที • หากใชสุขภัณฑประเภทชักโครก ใหใสสาร ยอมผาลงในถังพักนํ้าของโถชักโครก แลว จึงสังเกต หากพบวามีนํ้าสียอมผาไหลลงสู โถชักโครก แสดงใหเห็นวาชักโครกมีปญหา เรื่องการรั่วไหลของตัวปด-เปดนํ้าชักโครก ควรรีบดําเนินการซอมแซมโดยทันที • หากพบวามีนํ้าเปยกนองที่บริเวณพื้นบาน หรือพื้นขางบานอยูตลอดเวลา หรือมีนํ้าผุด ใหเห็นเปนระยะ แสดงใหเห็นวามีการรั่วซึม ของทอประปาในบริเวณนั้น ควรรีบดําเนิน การซอมแซมโดยทันที” เพราะเหตุใดจึงนิยมนําทอพีวีซีมาใชในงานประปา 1. แข็งแรง ทนทาน 2. ทนแรงกระแทกไดดี 3. ราคาถูก ติดตั้งงาย มีนํ้าหนักเบา 4. ใชอุดปลายทอเมื่อทางเดินทอสิ้นสุดลง (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะทอพีวีซีมีราคาถูก ติดตั้งงาย และมีนํ้าหนักเบา มีความตานทานกรดและดาง และทนตอการ กัดกรอนไดดี แตไมมีความยืดหยุน ไมทนตอความรอนและ แรงกระแทก) นักเรียนควรรู 1 กอกนํ้า ควรเลือกซื้อกอกนํ้าที่ไดมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม (มอก.) สามารถทําความสะอาดไดงาย พื้นผิวคงทน ไมลอก หรือเกิดสนิมเขียวจากนํ้ายา ทําความสะอาดหองนํ้า และควรเลือกกอกนํ้าที่มีความเหมาะสมกับวัสดุที่ตองการ จะติดตั้ง เชน กอกนํ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับอางลางหนา ปลายกอกนํ้าควรยื่น ลงไปในอางลางหนาอยางนอย 5 เซนติเมตร เพื่อการใชงานที่สะดวกสบาย และลดการกระเด็นของนํ้า 2 คีมล็อก ใชจับนอต หรือจับชิ้นงานที่แนนมาก เพื่อปองกันการหมุน หรือเลื่อน โดยปากคีมสามารถปรับขยายใหกวางได และล็อกใหแนน ปลายดามมีสกรูปรับ มีทั้งแบบธรรมดา แบบปากแหลม และแบบใชงานเชื่อม การจับคีมควรจับให ดามคีมอยูที่ปลายนิ้วทั้งสี่ ใชอุงมือและนิ้วหัวแมมือกดดามคีมอีกดาน จะชวย ทําใหมีกําลังในการจับ หรือตัดที่ดีมากขึ้น นํา สอน สรุป ประเมิน T65


ขอสอบเนนการคิด การวิเคราะหงาน ๑. ตรวจสอบระบบไฟฟาทั้งระบบ ไดแก แผงเมนสวิตช สวิตชเปด-ปด ระบบสายไฟ และองคประกอบ ของหลอดไฟ ๒. สรุปสาเหตุ คือ หลอดไฟไมสวาง เพราะในระบบใดระบบหนึ่งเกิดการบกพรอง ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจซอมหลอดไฟดวยตนเอง ขอบขายของงานไฟฟา เปนการนําทักษะกระบวนการทํางานไฟฟามาปฏิบัติเกี่ยวกับ การเดินสายไฟฟา การตอวงจรไฟฟา สวิตชปลั๊ก การซอมแซมเครื่องมือ เครื่องใชไฟฟา การเลือกซื้อเครื่องมือ เครื่องใชไฟฟาไดอยางปลอดภัย ประโยชนที่ ไดรับ มีดังนี้ ๑. ใชเครื่องมืองานชางไฟฟาไดถูกตอง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. ชวยเหลือตนเองได เมื่อประสบกับปญหาเกี่ยวกับงานไฟฟาภายในและภายนอกบาน ๓. สราง หรือผลิต ซอมแซม ปรับปรุง แกไข เครื่องมือ เครื่องใชไฟฟาไดถูกตอง ๔. สงเสริมการเรียนรูเรื่องเทคโนโลยี การใชไฟฟาอยางประหยัดและมีประสิทธิภาพ ๕. ใชเปนพื้นฐานในการศึกษาตอ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต ๕.๔ การปฏิบัติงานไฟฟา ตัวอยาง : ซอมหลอดไฟ การวางแผนการทํางาน ๑. ศึกษาหาความรูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซอมหลอดไฟ ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ เชน ไขควงลองไฟฟา ไขควงปากแฉก ไขควงปากแบน มีดคัตเตอร คีมปอกสายไฟฟา ๓. ศึกษาวิธีการซอมหลอดไฟจากคูมือ ปญหา หรือความตองการ เปดสวิตช ไฟแลวหลอดไฟไมสองสวาง ๕๘ การเดินสายไฟฟา การตอวงจรไฟฟา สวิตชปลั๊ก การซอมแซมเครื่องมือ เครื่องใชไฟฟา ๑. ศึกษาหาความรูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซอมหลอดไฟ ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ เชน ไขควงลองไฟฟา ไขควงปากแฉก ไขควงปากแบน มีดคัตเตอร คีมปอกสายไฟฟา 1 2 3 ขั้นสอน 34. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติ งานชางในบาน : การปฏิบัติงานไฟฟา จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 58-59 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการซอม หลอดไฟทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการซอม หลอดไฟใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 35. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการปฏิบัติ งานไฟฟา : ซอมหลอดไฟ มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูใหนักเรียนชวยกันจําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออกเปนกลุมตามประเภท ของการซอมแซม 36. ครูสาธิตการซอมหลอดไฟใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 37. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิตการ ซอมหลอดไฟใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หาก นักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือ ตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดย ครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 38. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ไฟฟา : ซอมหลอดไฟที่เพื่อนออกมาสาธิตใหชม พรอมทั้งจดบันทึกประเด็นสําคัญตางๆ ไว นักเรียนควรรู 1 สวิตช ควรติดตั้งใหอยูหางจากพื้นขึ้นไปอยางนอย 1 เมตร และควรเลือก ขนาดของสวิตชใหเหมาะสมกับอุปกรณไฟฟาที่ใช ตองเปนฉนวนไฟฟา ไมใช วัตถุติดไฟ ทนตอสภาวะที่มีความชื้นและความรอนไดดี 2 ไขควงลองไฟ ใชสําหรับตรวจกระแสไฟฟาในวงจร หากมีกระแสไฟฟา คงอยู หลอดไฟเรืองแสงจะปรากฏแสงสวางขึ้น ในขณะใชงานผูปฏิบัติงาน ควรสวมถุงมือ เพื่อปองกันไฟฟารั่วดวย 3 คีมปอกสายไฟฟา ใชสําหรับปอกฉนวนสายไฟฟา มี 2 แบบ คือ แบบที่ใช กับสายไฟเสนใหญและแบบที่ใชกับสายไฟเสนเล็ก ไมควรนําไปใชงานในที่ ที่ตองไดรับความรอนสูง เชน ใชจับเหล็กรอนในเตาเผา จับชิ้นงานเชื่อมแกส หรือเชื่อมไฟฟา เพราะจะทําใหคุณภาพของเหล็กเสียได บุคคลในขอใดปฏิบัติตนในการปฏิบัติงานชางไฟฟาไมปลอดภัย 1. ตนใชคีมเหล็กจับสายไฟเปลือยแทนมือ เพื่อปองกันไฟดูด 2. นํ้าสวมถุงมือหนังกอนการซอมแซมอุปกรณเครื่องใชไฟฟา 3. นิดสวมรองเทายางกอนการซอมแซมอุปกรณเครื่องใชไฟฟา 4. ตาลสับสะพานไฟลงกอนที่จะทําการซอมแซมไฟฟาภายในบาน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะการใชโลหะ หรือเหล็กจับสาย ไฟเปลือย หรือสายไฟที่ไมมีฉนวนจะทําใหไฟดูดได เนื่องจากโลหะ เปนตัวนําไฟฟา ดังนั้น จึงไมควรใชโลหะในการจับสายไฟเปลือย) นํา สอน สรุป ประเมิน T66


ควรเลือกจากอายุการใชงานที่ยาวนาน เลือกจากคาความถูกตองของสี เลือกระดับความสวาง ใหเหมาะสมกับพื้นที่ และรูปแบบการดําเนินชีวิต เลือกที่รูปทรงเหมาะสมตอการตกแตง เลือกแบบที่ หรี่ไฟได และเลือกจากโทนสีที่ปรับตามอารมณ ได Trick : เทคนิคการเลือกหลอดไฟใหประหยัดและคุมคา ตรวจสอบแผงเมนสวิตชสายไฟเขา-ออก ตรวจสอบสวิตชเปด-ปดของหลอดไฟดวยไขควงทดลองไฟฟา ปรากฏวามีกระแสไฟฟาไหลผาน ตรวจสอบบัลลาสต สตารตเตอร และตัวหลอดไฟ ปรากฏวาสตารตเตอรเสีย ใหถอดสตารตเตอรออก โดยการหมุนทวนเข็มนาฬกา นําสตารตเตอรตัวใหม ใสเขาไปแทนที่ โดยหมุนตามเข็มนาฬกา ñ ò ทดลองเปดสวิตชไฟฟาของหลอดไฟ จัดเก็บ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ และทําความสะอาด สถานที่ปฏิบัติงานใหเรียบรอย ó ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ประเมินผลการทํางาน เปดสวิตช ไฟฟา หากมีแสงสวางแสดงวาใชงานไดตามปกติ รวมถึงควรสังเกตตัวอุปกรณ โดยรวม หากมี อุปกรณที่เกา แตก วัสดุเปลี่ยนสี ควรจัดเปลี่ยนทันที เพราะอาจทําใหเกิดการลัดวงจรในระบบ งานช่างในบ้าน ๕๙ ตรวจสอบบัลลาสต สตารตเตอร และตัวหลอดไฟ ปรากฏวาสตารตเตอรเสีย ใหถอดสตารตเตอรออก 1 2 ขั้นสอน 39. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานไฟฟา : ซอมหลอดไฟ โดยครูเปนผูตรวจ สอบความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวน ที่ยังขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 40. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะอาการ ชํารุดของหลอดไฟใหนักเรียนฟงวา “การชํารุด ของหลอดไฟเกิดขึ้นไดจากหลายสาเหตุ เชน ไสหลอดมีความเปนปกติทุกอยาง แตไม สามารถเปด-ปดหลอดได สาเหตุของอาการ ชํารุดยังไมทราบแนชัดวาเกิดขึ้นจากสิ่งใด แตคาดวาอาจเกิดจากแรงดันที่สูงมากเกินไป ไสหลอดขาด สาเหตุของอาการชํารุดเกิดจาก แรงดันไฟฟาที่แรงเกินไป สงผลใหไสหลอด มีความรอนสูง ตัวหลอดมีลักษณะโปงพอง และการเกิดเขมาดําภายในหลอด สาเหตุ ของอาการชํารุดเกิดจากการเปลี่ยนหลอด ดวยมือเปลา” 41. ครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใดงานไฟฟาในบานจึงมีความ สําคัญตอการดํารงชีวิตของมนุษยในยุค ปจจุบัน (แนวตอบ มนุษยไดมีการนําเอาพลังงาน ไฟฟามาใชในรูปแบบตางๆ ไมวาจะเปน พลังงานกล พลังงานความรอน พลังงาน แสงสวาง พลังงานเสียง สงผลใหมนุษยมี ความสะดวกสบายในการประกอบกิจกรรม และการดํารงชีวิตประจําวัน) • นักเรียนไดรับประโยชนอยางไรจากการฝก ปฏิบัติงานชางไฟฟา (แนวตอบ สามารถใชเครื่องมืองานชางไฟฟา ไดอยางถูกตอง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย สามารถซอมแซมอุปกรณเกี่ยวกับไฟฟาได ดวยตนเอง) กิจกรรม 21st Century Skills 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน 2. สมาชิกแตละกลุมรวมกันสํารวจหลอดไฟตามอาคารเรียน หรือ สถานที่ตางๆ ภายในโรงเรียนวามีหลอดไฟชํารุดหรือไม หากมี ใหทําการจดบันทึกไว โดยมีรายละเอียด เชน สถานที่ที่พบวามี หลอดไฟชํารุด ลักษณะอาการ 3. สมาชิกแตละกลุมจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ซอมแซมใหพรอมและเหมาะสมกับลักษณะอาการที่เกิดขึ้น 4. สมาชิกในกลุมรวมกันปฏิบัติงานซอมแซม โดยมีครูเปนผูคอยให คําแนะนําและใหความชวยเหลือ 5. ครูและนักเรียนรวมกันประเมินผลการปฏิบัติงานซอมแซม หลอดไฟ นักเรียนควรรู 1 บัลลาสต เปนอุปกรณในวงจรแสงสวาง ชวยใหการทํางานมีความสมบูรณ มีผลตอปริมาณแสงสวาง อายุการใชงาน และพลังงานไฟฟาในวงจร ทําหนาที่ สรางแรงดันไฟฟา ในขณะที่หลอดเริ่มทํางานจะทําหนาที่ลดแรงดันไฟฟาใหตํ่าลง นอกจากนี้ ยังทําหนาที่จํากัดกระแสไฟฟาไมใหไหลผานหลอดมากจนเกินไป 2 สตารตเตอร วิธีการสังเกตวาสตารตเตอรเสียหรือไม มี 2 วิธี ดังนี้ • หากสตารตเตอรขาด เมื่อใสเขาไปแลวจะเหมือนกับวายังไมไดใส ซึ่งจะ แสดงอาการหลอดไมกระพริบ หรือไมมีอาการใดๆ ปรากฏใหเห็น • หากสตารตเตอรช็อต เมื่อใสเขาไปแลวหลอดจะติดเปนแสงสีสม ที่สวนหัวและสวนทาย และจะคางอยูอยางเชนนั้น ซึ่งจะไมสวางเหมือนในตอน ที่ใชงานไดตามปกติ นํา สอน สรุป ประเมิน T67


ขอสอบเนนการคิด ปัญหา หรือความต้องการ เก้าอี้นั่ง ลูกล้อหมุนรองรับน�้าหนักช�ารุด แตก และหลวม ท�าให้หลุดออกได้ง่าย การวิเคราะห์งาน ๑. ตรวจสภาพการใช้งานของเก้าอี้ ได้แก่ เกลียวในที่ ใส่ล้อหมุน ลูกล้อหมุนที่เหลืออยู่ และสภาพโดยรวมของเก้าอี้ ๒. สรุปสาเหตุ คือ ลูกล้อหมุนรับน�้าหนักรองรับเก้าอี้ช�ารุด ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจเปลี่ยนลูกล้อหมุนเก้าอี้ด้วยตนเอง ขอบข่ายของงานโลหะ เป็นการน�าทักษะกระบวนการงานโลหะมาใช้ ในการเขียนแบบ ออกแบบ เพื่อการวัด ตัด เจาะ หล่อ เคาะ พับ ประกอบขึ้นรูป แปลงรูป และเชื่อมโลหะ สร้าง หรือผลิต ซ่อมแซม ปรับปรุง แก้ไข เพื่อการพัฒนาคุณภาพในการด�ารงชีวิตประจ�าวันได้เป็นอย่างดี ประโยชน์ที่ ได้รับ มีดังนี้ ๑. ใช้เครื่องมืองานช่างโลหะได้ถูกต้อง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. สร้าง หรือผลิตชิ้นงานเกี่ยวกับงานโลหะได้ด้วยตนเอง ๓. ซ่อมแซม ปรับปรุง แก้ไขงานโลหะให้กลับมาใช้งานได้ ๔. ลดการใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก โดยเลือกใช้ โลหะเป็นวัสดุแทน ๕. ใช้เป็นพื้นฐานการศึกษาต่อ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต การวางแผนการท�างาน ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดลูกล้อหมุนเก้าอี้ ราคา และเทคนิควิธีการเปลี่ยนลูกล้อหมุน เก้าอี้ ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ในการเปลี่ยนลูกล้อหมุนเก้าอี้ เช่น เทปพันเกลียว ประแจขัน หรือประแจปากตาย ๓. ศึกษาวิธีการเปลี่ยนลูกล้อหมุนเก้าอี้จากคู่มือ 5.5 การปฏิบัติงานโลหะ ตัวอย่าง : ซ่อมเก้าอี้ ๖0 หรือประแจปากตาย ๓. ศึกษาวิธีการเปลี่ยนลูกล้อหมุนเก้าอี้จากคู่มือ 1 ขั้นสอน 42. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติ งานชางในบาน : การปฏิบัติงานโลหะ จาก หนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 60-61 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการซอม เกาอี้ทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการซอมเกาอี้ใหเพื่อน ฟงหนาชั้นเรียน 43. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการปฏิบัติ งานโลหะ : ซอมเกาอี้ มาใหนักเรียนดู จากนั้น ครูใหนักเรียนชวยกันจําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออกเปนกลุมตามประเภท ของการซอมแซม 44. ครูสาธิตการซอมเกาอี้ใหนักเรียนดูเปน ตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละขั้นตอน อยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกตและติดตาม แตละขั้นตอนไดทัน 45. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิต การซอมเกาอี้ใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หาก นักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือ ตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดย ครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 46. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน โลหะ : ซอมเกาอี้ที่เพื่อนออกมาสาธิตใหชม พรอมทั้งจดบันทึกประเด็นสําคัญตางๆ ไว นักเรียนควรรู 1 ประแจปากตาย เปนอุปกรณที่ใชในการขันเกลียวนอต ทํามาจากเหล็ก แบงเปนหลายชนิดตามการใชงาน เชน • ประแจแหวน มีลักษณะเปนแหวนวงกลม ภายในวงแหวนจะมีเขี้ยว ใชในการจับเหลี่ยมแปนเกลียวและสลักเกลียว • ประแจปากตายปากคู ปลายทั้งสองดานมีลักษณะเปนรูปตัวยู มีขนาดที่ ไมเทากัน เหมาะกับการใชงานในที่แคบ และไมควรขันแนนจนเกินไป เพราะจะ ทําใหสลักเกลียวชํารุดได • ประแจหกเหลี่ยม หรือประแจแอล มีลักษณะเปนตัวแอล ลําตัวมีลักษณะ เปนหกเหลี่ยม ใชในการขันนอตที่มีหัวเปนหลุมหกเหลี่ยม หรือสลักเกลียวที่เปน หัวกลม สวนกลางเปนรูหกเหลี่ยม ใชสําหรับงานที่มีความพิเศษ เชน สลักเกลียว ปรับชิ้นงาน ขอใดเปนการปฏิบัติงานโลหะ 1. เปลี่ยนลูกลอเกาอี้ 2. เคลือบสีผิวเกาอี้ไม 3. เปลี่ยนกอกนํ้าอางลางมือ 4. เปลี่ยนหลอดไฟฟลูออเรสเซนต (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะเปนงานโลหะที่มีการซอมแซม ปรับปรุง แกไข หรือเชื่อมโลหะใหสามารถกลับมาใชงานไดตาม ปกติ สวนเคลือบสีผิวเกาอี้ไม เปนงานเคลือบผิว เปลี่ยนกอกนํ้า อางลางมือ เปนงานประปา และเปลี่ยนหลอดไฟฟลูออเรสเซนต เปนงานไฟฟา) นํา สอน สรุป ประเมิน T68


ขอสอบเนน การคิด ควรเลือกใช้ประแจที่มีขนาดของปากและความยาวของด้ามเหมาะสมกับลักษณะของงานที่ปฏิบัติ เมื่อสวมประแจเข้ากับหัวนอต หรือหัวสกรู ปากของประแจต้องพอดี การขันจะใช้วิธีการดึงเข้าหาตัวเสมอ Trick : วิธีการใชประแจที่ถูกตอง ถอดลูกล้อหมุนเก้าอี้ ท�าความสะอาดเกลียวในให้เรียบร้อย พันเทปพันเกลียวเข้าที่เกลียวพันขาล้อหมุน ให้แน่น ñ น�าล้อหมุนใส่ขาเก้าอี้ ใช้ค้อนตอกล้อหมุนเข้ากับขาเก้าอี้ ให้แน่น จัดเก็บเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ และท�าความสะอาด สถานที่ปฏิบัติงานให้เรียบร้อย ò ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ประเมินผลการท�างาน ตรวจสอบความหนาแน่นของล้อหมุน หากล้อหมุนแน่นแล้ว แสดงว ่าใช้งานได้ตามปกติ หากล้อหมุนยังไม ่แน ่นให้ใช้ เทปพันเกลียวพันซ�้าอีกครั้ง งานช่างในบ้าน ๖๑ ถอดลูกล้อหมุนเก้าอี้ ท�าความสะอาดเกลียวในให้เรียบร้อย พันเทปพันเกลียวเข้าที่เกลียวพันขาล้อหมุน 1 ขั้นสอน 47. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานโลหะ : ซอมเกาอี้ โดยครูเปนผูตรวจสอบ ความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยัง ขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 48. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลหะใหนักเรียนฟง วา “โลหะ หรือ Metal เปนวัสดุประเภทหนึ่ง ที่นิยมนํามาใชประโยชนกันอยางกวางขวาง เพราะมีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ เชน เปนตัวนําไฟฟาและตัวนําความรอนที่ดี มีความแข็งแรง ทนทาน ในปจจุบันไดมี การนําโลหะมาใชเปนสวนประกอบอยางหนึ่ง ในการผลิตสิ่งของเครื่องใช เครื่องเรือน หรือ เฟอรนิเจอร เพื่ออํานวยความสะดวกในการ ดํารงชีวิตประจําวันของมนุษยมากขึ้น โดย สิ่งของเครื่องใช เครื่องเรือนที่ผลิตจากโลหะ แบงเปน 4 ประเภท ไดแก • เหล็ก คุณสมบัติที่สําคัญ คือ มีความ ทนทานตอการกัดกรอน สามารถนํามาขึ้น เปนรูปทรงตางๆ ได มีความยืดหยุนที่ดี และนําความรอนไดดี • เครื่องเงิน คุณสมบัติที่สําคัญ คือ สามารถ นํามาขึ้นเปนรูปทรงตางๆ ได เนื้อจะออน และเหนียว ตีแผเปนเสนบางๆ ไดงาย • อะลูมิเนียม คุณสมบัติที่สําคัญ คือ มีความ ทนทานตอการกัดกรอน ทนทานตอสารเคมี ในสภาวะสิ่งแวดลอมตางๆ ไดดี มีนํ้าหนัก เบา และมีความหนาแนนตํ่า • สเตนเลส คุณสมบัติที่สําคัญ คือ มีความ ทนทานตอการกัดกรอน สามารถนํามาขึ้น เปนรูปทรงตางๆ ได มีความตานทานตอ อุณหภูมิสูงและตํ่า ปลอดภัยสูงและถูก สุขลักษณะ ชวยอนุรักษสิ่งแวดลอม สามารถนํากลับมาใชงานใหมได” คอนชนิดใดเหมาะสําหรับใชเคาะโลหะ เพื่อขึ้นรูปแผนโลหะ 1. คอนยาง 2. คอนหงอน 3. คอนปอนด 4. คอนหัวกลม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะเปนคอนที่เหมาะสําหรับใช เคาะโลหะ เพื่อขึ้นรูปแผนโลหะ ซึ่งเปนคอนที่นิยมใชกันมากที่สุด มีลักษณะหนาเรียบ สามารถใชงานไดทั้งสองหนา) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปฏิบัติงานโลหะใหนักเรียนฟงวา ในขณะ ปฏิบัติงานโลหะ ผูปฏิบัติงานควรคํานึงถึงความปลอดภัยเปนสําคัญ ไมวาจะเปน การใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชาง เชน คอน ประแจ เครื่องมือเชื่อมโลหะ ควรใชอยางระมัดระวัง และในขณะปฏิบัติงาน ไมควรเลน หรือหยอกกัน เพราะ อาจทําใหเกิดอันตรายได ดังนั้น จึงควรปฏิบัติงานดวยความตั้งใจ มีสมาธิ เพื่อใหเกิดความปลอดภัยตอตนเองและบุคคลรอบขาง นักเรียนควรรู 1 เทปพันเกลียว ปจจุบันมีอยู 4 สี ไดแก สีเขียว มีความบาง สั้น ขาดงาย และราคาถูก สีฟา มีความบาง ยาว และขาดงาย สีดําและสีแดง มีความหนา ขาดยากกวา และมีราคาสูง นํา สอน สรุป ประเมิน T69


ขอสอบเนนการคิด ปัญหา หรือความต้องการ ชั้นวางของมีสภาพทรุดโทรม บริเวณขาโต๊ะ บางส่วนเริ่มมีสนิมขึ้น การวิเคราะห์งาน ๑. ตรวจสอบสภาพทั่ว ๆ ไป ถึงความสามารถในการใช้งาน เช่น ความแข็งแรงของโครงสร้างชั้นวางของ ๒. สรุปสาเหตุ คือ สามารถซ่อมสีชั้นวางของได้ เพราะพื้นผิวเดิมไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนโครงสร้าง ของชั้นวางของมีความแข็งแรงดี ๓. ประเมินทางเลือก คือ ตัดสินใจซ่อมสีชั้นวางของ โดยการใช้สีเดิม หรือเปลี่ยนสี ใหม่ ให้ดูสะอาดตา การวางแผนการท�างาน ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานไม้และการเคลือบผิว ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เช่น สีสเปรย์ สเปรย์แล็กเกอร์ ไขควงปากแฉก กระดาษทราย ๓. ศึกษาวิธีการซ่อมสีชั้นวางของจากคู่มือ ขอบข่ายของงานเคลือบผิว ผู้ปฏิบัติงานต้องศึกษาและท�าความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิควิธีการ เคลือบผิวชิ้นงานของวัสดุแต่ละประเภทที่มีความแตกต่างกัน และเลือกใช้ให้เหมาะสมมากที่สุด ประโยชน์ที่ ได้รับ มีดังนี้ ๑. ใช้เครื่องมืองานเคลือบผิวได้ถูกต้อง ถูกวิธี และมีความปลอดภัย ๒. สร้าง หรือผลิตชิ้นงานเกี่ยวกับงานเคลือบผิวได้ด้วยตนเอง ๓. ซ่อมแซม ปรับปรุง แก้ไขชิ้นงานเคลือบผิวที่มีปญหาให้กลับมาใช้งานได้ ๔. ช่วยเพิ่มมูลค่าของชิ้นงานให้มีมูลค่าสูงขึ้น ๕. ใช้เป็นพื้นฐานการศึกษาต่อ เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต 5 .๖ การปฏิบัติงานเคลือบผิว ตัวอย่าง : การซ่อมสีชั้นวางของ เปลี่ยนเกาอี้ตัวเกาใหเปนตัวโปรด ๖๒ ขอบข่ายของงานเคลือบผิว ผู้ปฏิบัติงานต้องศึกษาและท�าความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิควิธีการ ๑. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานไม้และการเคลือบผิว ๒. จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เช่น สีสเปรย์ สเปรย์แล็กเกอร์ ไขควงปากแฉก กระดาษทราย ชั้นวางของมีสภาพทรุดโทรม บริเวณขาโต๊ะ บางส่วนเริ่มมีสนิมขึ้น 1 3 2 ขั้นสอน 49. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการปฏิบัติ งานชางในบาน : การปฏิบัติงานเคลือบผิว จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 หนา 62-63 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การซอมสีชั้นวางของทีละขั้นตอน โดยครูขอ อาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอน การซอมสีชั้นวางของใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 50. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ปฏิบัติงานเคลือบผิว : ซอมสีชั้นวางของ มาใหนักเรียนดู จากนั้นครูใหนักเรียนชวยกัน จําแนกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณดังกลาวออก เปนกลุมตามประเภทของการซอมแซม 51. ครูสาธิตการซอมสีชั้นวางของใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 52. ครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาสาธิตการ ซอมสีชั้นวางของใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน อยางใกลชิดและคอยใหความชวยเหลือ และ เนนยํ้าใหตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย 53. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะห วิจารณ และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน เคลือบผิว : ซอมสีชั้นวางของที่เพื่อนออกมา สาธิตใหชม พรอมทั้งจดบันทึกประเด็นสําคัญ ตางๆ ไว นักเรียนควรรู 1 งานเคลือบผิว เปนการเคลือบผิววัสดุชนิดตางๆ ซึ่งอาจทําไดโดยวิธีการ ชุบ การพน หรือการทาลงบนพื้นผิวของชิ้นงาน ซึ่งงานเคลือบผิวจัดเปนขั้นตอน สุดทายของการสราง หรือการผลิตชิ้นงาน 2 สนิม เปนการผุกรอนที่เกิดขึ้นกับโลหะจําพวกเหล็ก โดยมีนํ้าและออกซิเจน เปนปจจัยสําคัญที่ทําใหเกิดการผุกรอนขึ้น 3 แล็กเกอร การเคลือบผิวไมนิยมเคลือบดวยแล็กเกอร เนื่องจากมีความมัน สามารถทนนํ้า ทนความรอน ทนความชื้น ทนสารเคมี และทนตอความเปนกรดดางไดดี โดยถูกออกแบบมาสําหรับการทํางานแบบพนมากกวา เพราะแหงเร็ว ชวยใหงานออกมาเรียบเนียน สวยงาม สะดวก และรวดเร็ว กอนพนแล็กเกอรควร เช็ดผิวงานกอน เพื่อปองกันไมใหสิ่งสกปรก หรือฝุนละอองติดอยูบนผิวชิ้นงาน ซึ่งจะทําใหเมื่อพนแล็กเกอรไปแลวจะทับลงไปเห็นรองรอย ทําใหดูไมสวยงาม คุณลักษณะสําคัญขอใดของแล็กเกอรที่ทําใหปจจุบันนิยมนํามา ใชในการเคลือบผิววัสดุที่เปนไม 1. วิธีการทา ชวยใหแหงชาขึ้น 2. วิธีการพน ชวยใหแหงเร็วขึ้น 3. วิธีการชุบ ชวยใหผิวเรียบเนียนขึ้น 4. ไมมีกลิ่น ไมกอใหเกิดอันตรายตอสุขภาพ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการใชแล็กเกอรเคลือบผิว วัสดุที่เปนไมดวยวิธีการพน จะชวยใหแหงเร็วขึ้น ซึ่งใน 1 วัน สามารถพนไดหลายรอบ จึงทําใหชิ้นงานมีความเรียบเนียนและ สวยงามมากยิ่งขึ้น) นํา สอน สรุป ประเมิน T70


ขอสอบเนน การคิด แบ่งการพ่นเป็น ๓ ระยะ ห่างกัน ๑๐-๑๕ นาที ครั้งแรกให้พ่นห่าง ๆ ในลักษณะที่สีตกลงไป ที่ชิ้นงานเอง ครั้งที่ ๒ พ่นใกล้ชิ้นงานให้ทั่ว ห้ามพ่นอัดสีชิ้นงาน ครั้งที่ ๓ พ่นใกล้ชิ้นงานให้สีอัดเข้ากับ ชิ้นงาน ห้ามพ่นจุดเดียวและให้พ่นครั้งเดียวให้เสร็จ Trick : เทคนิคการพนสีสเปรยแบบไมมีเม็ด (สีทั่ว ๆ ไป) น�าแผ่นกระจกและจุกยางทั้ง ๔ ชิ้น ออกจากชั้นวางของ ใช้ไขควงไขนอตออกจากชั้นวางของ ขัดพื้นผิว ด้วยกระดาษทรายหยาบ ใช้ผ้าสะอาดเช็ดท�าความสะอาดพื้นผิวชั้นวางของให้เรียบร้อย ñ เคลือบผิวชั้นวางของด้วยสีสเปรย์สีขาว ควรพ่นสีบาง ๆ ไม่หนา จนเกินไป เพราะจะท�าให้สีเยิ้ม ควรพ่น ๒-๓ ครั้ง ทิ้งไว้ ให้แห้ง เคลือบผิวทับผิวหน้าสีด้วยสเปรย์แล็กเกอร์อีก ๑-๒ ครั้ง ทิ้งไว้ ๑-๒ ชั่วโมง จัดเก็บเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ท�าความสะอาด สถานที่ปฏิบัติงานให้เรียบร้อย ò ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ประเมินผลการท�างาน ทดสอบความแข็งแรงและตรวจสอบความสม�่าเสมอของสี และในขั้นตอนการพ่นด้วยสีสเปรย์ หรือสเปรย์ แล็กเกอร์ หากพบว่าหนาให้ ใช้กระดาษทรายละเอียดลูบออก งานช่างในบ้าน ๖๓ 1 ขั้นสอน 54. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปฏิบัติ งานเคลือบผิว : ซอมสีชั้นวางของ โดยครู เปนผูตรวจสอบความถูกตอง และอธิบาย เพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรองจากการ ปฏิบัติงาน 55. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการพนสี สเปรยใหนักเรียนฟงวา “สถานที่ที่ใชในการ พนสีสเปรยควรมีอากาศถายเทไดสะดวก ปราศจากฝุนละออง วัสดุที่ตองการนํามา พนตองมีผิวเรียบเนียน ปราศจากสิ่งสกปรก ตางๆ เชน คราบแวกซ คราบนํ้ามัน คราบ ไขมัน กอนพนควรทดสอบพนสีสเปรยลงบน พื้นที่ขนาดเล็ก ๆ กอน เพื่อความปลอดภัย” 56. ครูถามนักเรียนวา • เพราะเหตุใดจึงตองมีการซอมสีชั้นวางของ (แนวตอบ เหตุผลที่ตองซอมแซมสีชั้นวางของ เนื่องจากพื้นผิวเดิมของชั้นวางของมีความ เสียหายเพียงเล็กนอย สามารถซอมแซม เรื่องสีไดดวยตนเอง) • เพราะเหตุใดจึงไมควรพนสีวัสดุชนิดตางๆ ในชวงที่อากาศชื้น หรือมีฝนตก (แนวตอบ สาเหตุที่ไมควรพนสีวัสดุชนิด ตางๆ ในชวงที่อากาศชื้น หรือมีฝนตก เนื่องจากจะทําใหสีแหงชา ไมเงางาม และ อาจทําใหพื้นผิวของวัสดุขรุขระ หรือไม เรียบเนียนได) • เพราะเหตุใดงานชางในบานเกือบทุกสาขา จึงจําเปนตองใชงานเคลือบผิวเปนตัวชวย ในขั้นตอนสุดทายของการปฏิบัติงาน (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความ คิดเห็นไดอยางอิสระ เชน เพื่อใหชิ้นงาน ออกมามีคุณภาพ มีความสวยงาม คงทน และมีคุณคาที่เหมาะตอการใชงาน) ขอใดเปนการปฏิบัติงานชางที่ไมปลอดภัย 1. สับสะพานไฟลงกอนจะทําการเปลี่ยนหลอดไฟ 2. เมื่อปฏิบัติงานเสร็จแลวจัดเก็บอุปกรณตางๆ ใหเขาที่ 3. สวมใสกางเกงขาสั้นและเสื้อแขนกุดเมื่อตองการพนสีชิ้นงาน 4. เมื่อไสขอบประตูเรียบรอยแลว ใหปดกวาดเช็ดถูฝุนละอองออก (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะอาจทําใหละอองของสี ติดตามผิวหนัง ซึ่งอาจทําใหเกิดอาการแพ หรือผิวหนังอักเสบ สงผลใหเกิดอันตรายตอสุขภาพรางกายของตนเองได) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพนสีสเปรยใหนักเรียนฟงวา การพนสีส เปรยควรพนสีขาวเพื่อรองพื้น ซึ่งจะชวยใหสีเรียบเนียนกอนเปนลําดับแรก ทิ้งไวประมาณ 30 นาที แลวจึงพนซํ้าประมาณ 2-3 ครั้ง ทั้งนี้ ไมควรพนในชวง ที่มีอากาศชื้น หรือฝนตก เพราะจะทําใหสีแหงชาและไมเงางามได นักเรียนควรรู 1 สเปรยแล็กเกอร ควรพนในที่โลง ที่มีอากาศถายเทไดสะดวก และสวมผา ปดจมูกทุกครั้ง เพราะสเปรยแล็กเกอรมีสวนผสมของสารเคมีที่เปนอันตราย ตอสุขภาพ สําหรับกระปองสเปรยที่ใชงานหมดแลว ควรนําไปทิ้งในถังขยะ มีพิษ ไมควรนําไปเผาไฟ หรือทิ้งในที่สาธารณะ เพราะสารเคมีที่หลงเหลือ อยูในกระปองจะกอใหเกิดมลพิษตอสิ่งแวดลอมได นํา สอน สรุป ประเมิน T71


กิจกรรม Mini Project การซ่อมแซม ดัดแปลง แก้ ไข บ�ารุงรักษา และติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ภายในบ้าน ให้มีสภาพการใช้งานที่ดีนับเป็นสิ่งส�าคัญ เพราะเป็นการยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ต ่าง ๆ ตลอดจนสร้างและผลิตชิ้นงานมาใช้ ในบ้านได้เอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ทักษะกระบวนการทางช่าง ทั้งสิ้น เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ในการปฏิบัติงานจะต้องค�านึงถึงความปลอดภัยเป็นส�าคัญ การเรียนรู้งานช่างในบ้านของนักเรียนก็เพื่อให้รู้จักสังเกต ตรวจสอบว่าส่วนใดของบ้าน เครื่องมือ เครื่องใช้ที่จะต้องมีการซ่อมแซม ดัดแปลง แก้ไข โดยวิเคราะห์งาน วางแผนการปฏิบัติงาน ประเมินผลการท�างานในเบื้องต้นก่อนที่จะให้ช่างมืออาชีพมาท�าการซ่อมแซมให้หากซ่อมแซมเอง ไม่ได้ และเพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ ฝกฝนจนเกิดความช�านาญ และพัฒนาตนเองไปสู่การเป็น ช่างมืออาชีพในอนาคต การปฏิบัติงานช่างในบ้าน ล้วนมีความส�าคัญต่อการด�าเนินชีวิต ซึ่งงานช่างเหล่านี้สามารถ ปฏิบัติได้ด้วยตนเอง เพราะเป็นงานช่างระดับพื้นฐาน มีหลักการปฏิบัติที่ไม่ซับซ้อน ช่วยประหยัด ค่าใช้จ่ายของครอบครัว ซึ่งเราควรตระหนักอยู่เสมอว่า สิ่งที่ส�าคัญในการปฏิบัติงานช่างในบ้าน ทุกประเภท คือ ความปลอดภัย จึงไม่ควรประมาทและมีสติอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อตนเองและ ผู้อื่น การปฏิบัติงานช่างให้เกิดความปลอดภัย ถ้าปฏิบัติด้วยความถูกต้องจะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้ การปฏิบัติตามหลัก ๕ ส เป็นวิธีการหนึ่งที่สร้างความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน ซึ่งประกอบด้วย มา 5 ส กันเถอะ ๑ส ๓ส 5ส ๒ส 4ส สะสาง ขจัดสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่จ�าเป็น ต่อการปฏิบัติงานออก สะอาด รักษาความสะอาดของสถานที่ ปฏิบัติงานและอุปกรณ์ต ่าง ๆ อยู่เสมอ สร้างนิสัย สร้างทัศนคติที่ดี ในการท�างาน ตระหนักถึงความปลอดภัย อยู่เสมอ สะดวก จัดวางของที่จ�าเป็นต้องใช้ ให้ เป็นระเบียบ สามารถหยิบใช้ งานได้ทันที สุขลักษณะ จัดสถานที่ปฏิบัติงานให้ถูก สุขลักษณะ เพื่อสุขภาพอนามัย ที่ดี ๖4 ขั้นสอน 57. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันหากรณีศึกษา เกี่ยวกับการปฏิบัติงานชางภายในบานตาม หัวขอที่กลุมของตนเองจับสลากได โดยศึกษา จากแหลงการเรียนรูที่หลากหลาย และนํา กรณีศึกษาดังกลาวมาปรึกษากับครูผูสอนถึง ความเหมาะสมในการปฏิบัติงาน 58. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสมมติกรณีศึกษาของ กลุมตนเอง จากนั้นทําการฝกฝนการปฏิบัติ งานชางจากกรณีศึกษาดังกลาว ในระหวาง การฝกฝนใหนักเรียนบันทึกภาพขั้นตอนการ ปฏิบัติงาน เพื่อนําไปจัดทําปายนิเทศ เพื่อแสดง ขั้นตอนตางๆ ในการปฏิบัติงานชางภายในบาน 59. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานขั้นตอนการ ปฏิบัติงานชางจากกรณีศึกษาตามหัวขอที่ได รับมอบหมาย พรอมทั้งนําปายนิเทศการแสดง ที่กลุมของตนเองไดทําการฝกฝนมาจัดแสดง เปนนิทรรศการ เพื่อเปนแหลงเรียนรูใหเพื่อน รวมชั้นเรียนไดศึกษากันอยางทั่วถึง 60. ครูมอบหมายใหนักเรียนทํากิจกรรมสรางสรรค พัฒนาการเรียนรู จากหนังสือเรียน หนวย การเรียนรูที่ 4 61. ครูมอบหมายใหนักเรียนทําชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ซอมได โดยใหนักเรียน ออกแบบขั้นตอนการปฏิบัติงานชางภายในบาน ในรูปแบบของอินโฟกราฟก หรือรูปแบบอื่นๆ ตามความสนใจ 62. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 4 63. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวย การเรียนรูที่ 4 เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติงานชางในบานใหนักเรียน ฟงวา การปฏิบัติงานชางในบาน เพื่อใหเกิดความปลอดภัย สามารถปฏิบัติได หลายวิธีได ดังนี้ • ควรตรวจสอบความพรอมของเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางทุกครั้ง กอนการใชงาน • ควรสวมอุปกรณปองกันอันตรายทุกครั้งในขณะปฏิบัติงาน เชน ถุงมือ รองเทายาง • การปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟาตองตัดวงจรไฟฟากอนเสมอ • การใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางที่มีความคม ตองใชอยาง ระมัดระวัง • ควรศึกษาวิธีการใชงานเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางกอนเสมอ • ควรเก็บและแยกเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางเปนประเภทไว เพื่อ สะดวกตอการใชงาน 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน 2. สมาชิกภายในกลุมรวมกันสํารวจภายในโรงเรียนวามีสิ่งใดที่ ชํารุดเสียหาย โดยเลือกตามความสนใจ 1 ชิ้น 3. สมาชิกภายในกลุมรวมกันวิเคราะหปญหาและวางแผนการ ทํางาน พรอมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ซอมแซมใหพรอม 4. สมาชิกภายในกลุมรวมกันปฏิบัติงานซอมแซมตามที่กลุมได เลือกมา โดยปฏิบัติตามแผนการทํางานที่ไดวางไว และปฏิบัติตาม ขั้นตอนการซอมแซมอยางถูกตอง 5. สมาชิกภายในกลุมรวมกันประเมินผลการปฏิบัติงาน พรอมทั้ง อธิบายปญหา หรืออุปสรรคที่พบระหวางการปฏิบัติงาน และ นําเสนอแนวทางการแกปญหาอยางเหมาะสม นํา สอน สรุป ประเมิน T72


ขอสอบเนน การคิด ÊÃé Ò§ÊÃÃ¤ì ¾Ñ²¹Ò¡ÒÃàÃÕ¹ÃéÙใบมอบหมายงาน ¡Ô¨¡ÃÃÁ àÃ×èͧ »¯ÔºÑµÔ§Ò¹ª‹Ò§ã¹ºŒÒ¹ ค�าชี้แจง ๑. ให้นักเรียนปฏิบัติงานเป็นรายบุคคล ๒. การปฏิบัติงานน�้เป็นการฝกทักษะการแก้ปัญหาในการท�างาน ๓. บันทึกภาพ หรือบันทึกการท�างานทุกขั้นตอน ๔. ให้นักเรียนวิเคราะห์ขั้นตอนการปฏิบัติงานช่างในบ้านตามกระบวนการท�างานและปฏิบัติ กิจกรรมตามขั้นตอนที่ก�าหนดให้ ดังน�้ ๔.๑ ส�ารวจส่วนต่าง ๆ ของบ้าน อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ภายในบ้าน เพื่อท�าการดูแลรักษา ซ่อมแซม ดัดแปลง ปรับปรุง และแก้ ไข ๔.๒ ปฏิบัติการซ่อมแซม ดัดแปลง ปรับปรุง แก้ไข เครื่องมือ เครื่องใช้ ในบ้าน ๑ ชนิด ตามขั้นตอนที่ก�าหนดให้ ดังน�้ • ปัญหา หรือความต้องการ • การวิเคราะห์งาน • การวางแผนการท�างาน • การปฏิบัติตามขั้นตอนการท�างาน • การประเมินผลการท�างาน ๕. น�าผลการปฏิบัติงานมาน�าเสนอหน้าชั้นเรียน งานช่างในบ้าน ๖5 ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจหลังเรียนของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ซอมได 3. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 4 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง งานชาง ในบานวา “การปฏิบัติงานชางในบานสิ่งที่ควร คํานึงถึงมากที่สุด คือ ความปลอดภัยของรางกาย เราควรปองกันตนเองดวยการสวมใสเครื่อง แตงกาย หรืออุปกรณปองกัน ควรระมัดระวังและ ศึกษาวิธีการใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชาง กอนใชงานทุกครั้ง และควรตรวจสอบเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานชางทุกครั้งวาเกิดการชํารุด เสียหายหรือไมกอนการใชงาน การซอมแซม ดัดแปลง แกไข บํารุงรักษา สิ่งของเครื่องใช สิ่งอํานวยความสะดวกภายในบานใหมีสภาพ การใชงานที่ดีขึ้น ถือเปนการใชทรัพยากรอยาง คุมคาและยังชวยประหยัดคาใชจายของครอบครัว ในการปฏิบัติงานชางที่ดี ควรตรวจสอบและ พิจารณาสภาพการใชงานของสิ่งของเครื่องใช นั้นๆ วาสามารถซอมแซมไดหรือไม หากไมสามารถ ที่จะซอมแซมใหมีสภาพที่ดีขึ้นได ควรทําการ เปลี่ยน หรือติดตั้งใหม เพื่อใหเกิดความปลอดภัย ในการใชงาน โดยชางที่มีความเชี่ยวชาญทางดาน นั้นๆ โดยเฉพาะ” แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษาเกณฑ การวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 4 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม เพราะเหตุใด Safety First จึงเปนสิ่งที่ผูปฏิบัติงานชางทุกคน จะตองคํานึงถึงเปนลําดับแรก (แนวตอบ ในการปฏิบัติงานชางทุกประเภทจะตองยึดหลักความ ปลอดภัยมากอน เพื่อหลีกเลี่ยงและปองกันการเกิดอันตรายใน ขณะปฏิบัติงาน หากผูปฏิบัติงานชางสามารถปฏิบัติไดถูกตองและ เปนระบบจะสามารถชวยลดอุบัติเหตุลงได) แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T73


Chapter Overview แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 ความส�ำคัญ ประโยชน์ และหลักการ ประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายหลักการประดิษฐ์ ของใช้ของตกแต่งจาก วัสดุในโรงเรียน หรือ ท้องถิ่นได้ 2. สืบค้นข้อมูลทาง อินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับ งานประดิษฐ์ได้ 3. วางแผนการประดิษฐ์ ของใช้ของตกแต่งจาก วัสดุในโรงเรียน หรือ ท้องถิ่นได้ 4. ออกแบบงานประดิษฐ์ ของใช้ของตกแต่งจาก วัสดุในโรงเรียน หรือ ท้องถิ่นได้ 5. เห็นประโยชน์ของการ ประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุใน โรงเรียน หรือท้องถิ่น แบบเน้น รูปแบบการ สืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 5.1.1 - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 2 การฝึกประดิษฐ์ ของใช้ ของ ตกแต่งจากวัสดุ ในโรงเรียน หรือ ท้องถิ่น 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. บอกขั้นตอนการประดิษฐ์ แจกันขวดพลาสติกได้ 2. ประดิษฐ์แจกันขวด พลาสติกตามขั้นตอนได้ อย่างถูกต้อง 3. สร้างชิ้นงานจากขวด พลาสติกได้อย่าง สร้างสรรค์ 4. เห็นประโยชน์ของการ ประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุใน โรงเรียน หรือท้องถิ่น แบบเน้น กระบวนการ ปฏิบัติ - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T74


แผนการจัด การเรียนรู้ สื่อที่ใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 3 การจัดการกับ ผลงานประดิษฐ์ 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายหลักการจัดการ กับผลงานประดิษฐ์ได้ ถูกต้อง 2. ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ของตนเอง โดยค�ำนึงถึง หลักเกณฑ์ต่างๆ ได้ 3. เห็นประโยชน์ของการ จัดการกับผลงานประดิษฐ์ แบบเน้น รูปแบบการ สืบเสาะ หาความรู้ (5Es Instructional Model) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ แผนฯ ที่ 4 การจัดจ�ำหน่าย ผลงานประดิษฐ์ 2 ชั่วโมง - หนังสือเรียน การงานอาชีพ ม.2 - แบบทดสอบหลังเรียน - แบบวัดและบันทึกผล การเรียนรู้ การงานอาชีพ ม.2 - PowerPoint 1. อธิบายหลักการจัด จ�ำหน่ายผลงาน ประดิษฐ์ได้ถูกต้อง 2. วางแผนการจัดจ�ำหน่าย ผลงานประดิษฐ์ได้ถูกต้อง 3. เขียนบันทึกรายรับ- รายจ่ายในการจ�ำหน่าย ผลงานประดิษฐ์ได้ถูกต้อง 4. เห็นประโยชน์จากการจัด จ�ำหน่ายผลงานประดิษฐ์ แบบเน้นการ จัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจบัญชีรายรับ-รายจ่าย - ตรวจชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การท�ำงานกลุ่ม - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ทักษะการสรุป ลงความคิดเห็น - ทักษะกระบวนการ แก้ปัญหา - ทักษะการให้ เหตุผล - รักชาติศาสน์ กษัตริย์ - ซื่อสัตย์สุจริต - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - อยู่อย่าง พอเพียง - มุ่งมั่น ในการท�ำงาน - รักความ เป็นไทย - มีจิตสาธารณะ T75


การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง เป็นการประดิษฐ์ที่แสดงให้เห็นถึงการมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งน�ามาใช้เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพได้ และวัสดุที่ใช้ในการประดิษฐ์หาได้จากใน โรงเรียนและท้องถิ่น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดทักษะกระบวนการแก้ปญหาในการท�างานอย่างมีขั้นตอน พัฒนาการท�างาน มีจิตส�านึกในการใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า ตัวชี้วัด ■ ใชทักษะการแสวงหาความรู เพื่อพัฒนาการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๑) ■ ใชทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน (ง ๑.๑ ม.๒/๒) ■ มีจิตสํานึกในการทํางานและใชทรัพยากรในการปฏิบัติงานอยางประหยัดและคุมคา (ง ๑.๑ ม.๒/๓) õ หน่วยการเรียนรู้ที่ ¡ÒûÃдÔɰ¢Í§ãªŒ ¨Ò¡ÇÑÊ´Øã¹·ŒÍ§¶Ôè¹ ขั้นนํา (5Es) ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวย การเรียนรูที่ 5 2. ครูนําภาพงานประดิษฐของใช ของตกแตงจาก วัสดุในทองถิ่นมาใหนักเรียนดู จากนั้นครูถาม นักเรียนวา • จากภาพเปนงานประดิษฐประเภทใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • นักเรียนคิดวางานประดิษฐชิ้นดังกลาวผลิต ขึ้นจากวัสดุชนิดใด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ) • หากพบวาในโรงเรียน หรือในทองถิ่นมีวัสดุ เหลือใชอยูเปนจํานวนมาก นักเรียนควร ปฎิบัติอยางไร เพื่อใหสิ่งของเหลานั้นเกิด ประโยชนสูงสุด (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน นําวัสดุเหลือใชเหลานั้น มาประดิษฐเปนของใช ของตกแตง เพื่อเพิ่ม ความสวยงามใหกับบาน นํามาใชประโยชน หรืออํานวยความสะดวกตางๆ สรางรายได ใหกับตนเองและครอบครัว เปนของขวัญ เนื่องในโอกาสสําคัญตางๆ) 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมโยงความรูกอน เขาสูบทเรียนวา “วัสดุที่มีอยูในโรงเรียน หรือ ในทองถิ่น สามารถนํามาประดิษฐเปนของใช ของตกแตง เพื่อสรางรายไดใหกับตนเองและ ครอบครัว ใชเปนของขวัญเนื่องในโอกาสสําคัญ ตางๆ เปนการใชเวลาวางใหเกิดประโยชน กอใหเกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ชวย พัฒนาความคิดสรางสรรค และสรางความ ภาคภูมิใจใหกับตนเองได” เกร็ดแนะครู ครูควรจัดการเรียนรู โดยอธิบายเกี่ยวกับการประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่นใหนักเรียนฟง เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ เรื่องความสําคัญของการประดิษฐของใช ของตกแตง ประโยชนที่ไดรับจากการประดิษฐของใช ของตกแตง หลักการประดิษฐของใช ของตกแตง และขั้นตอน การประดิษฐของใช ของตกแตงประเภทตางๆ พรอมทั้งนําสื่อประกอบการเรียนการสอนที่แสดงใหเห็นถึงขั้นตอนในการปฏิบัติงานมาเปดใหนักเรียนดูประกอบ เพื่อใหนักเรียนสามารถลงมือประดิษฐชิ้นงานไดอยางสรางสรรค รวมถึงสามารถจัดการกับผลงานประดิษฐ และจัดจําหนายผลงานประดิษฐไดอยางเหมาะสม โดยสามารถจัดกิจกรรมได ดังนี้ • ใหนักเรียนตอบคําถามและรวมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจเกี่ยวกับการประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น • ใหนักเรียนฝกประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น ไดแก กลองดินสอจากแกนกระดาษชําระ ที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไม มานจากเชือกตนกก และโคมไฟจากชอนพลาสติก • ใหนักเรียนฝกออกแบบบรรจุภัณฑ เพื่อนํามาใชบรรจุผลงานประดิษฐ เพื่อการจัดจําหนาย • ใหนักเรียนฝกทําบัญชีรายรับ-รายจายในงานประดิษฐ นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T76


ขอสอบเนน การคิด ËÒ¡¾ºÇ ‹ÒÁÕàÈÉÇÑÊ´ØàËÅ×Í ãªŒÍÂً໚¹¨Ó¹Ç¹ÁÒ¡ ¤Çà »¯ÔºÑµÔÍ‹ҧäÃà¾×èÍãËŒÊÔ觢ͧ àËŋҹÑé¹à¡Ô´»ÃÐ⪹ÊÙ§ÊØ´ ๑ ความสำาคัญของการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง เป็นแนวคิดอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ต้องอาศัยความรู้ ทักษะความช�านาญ และการฝึกปฏิบัติอย่าง สม�่าเสมอ รวมถึงการมีใจรักในการสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่ พึงพอใจ การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง มีความส�าคัญ ดังนี้ ๑. สร้างความสนุกสนานเพลิดเพลิน ๒. เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ๓. สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ๔. เปลี่ยนสภาพของเหลือใช้ให้เป็นของใช้ที่มีประโยชน์ ๕. มีคุณค่าต่อผู้รับ เมื่อน�าไปใช้เป็นของขวัญในโอกาสส�าคัญ ๖. ได้ผลงานตรงตามความต้องการ มีรูปแบบที่แปลกใหม่ ๗. รักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่สืบทอดมาจากอดีต ๒ ประโยชน์ที่ได้รับจากการประดิษฐ์ ของใช้ ของตกแต่ง ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจในการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต ่งด้วยฝมือของตนเองกันมากขึ้น ท�าให้ได้ชิ้นงาน ที่มีรูปแบบแปลกใหม ่ ไม ่ซ�้าแบบใคร โดยประโยชน์ที่ได้รับ จากการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง เช่น ได้ใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์ น�ามาจ�าหน่ายเพื่อเป็นรายได้ของครอบครัว ฝึกความ คิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เป็น ของขวัญในโอกาสส�าคัญต่าง ๆ น�ามา ประดับร่างกาย หรือตกแต่งบ้านให้สวยงาม สาระการเรียนรู้แกนกลาง ■ ทักษะการแสวงหาความรู ประกอบดวยการศึกษา คนควา รวบรวม สังเกต สํารวจ และบันทึก เพื่อใชในการพัฒนาการทํางาน เชน - การประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น ■ ทักษะกระบวนการแกปญหาในการทํางาน มีขั้นตอน คือ การสังเกต วิเคราะห สรางทางเลือก และประเมินทางเลือก เชน - การจัดการผลผลิต การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 67 ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจคนหา 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทาๆ กัน ศึกษา เรื่อง ความสําคัญ ประโยชนที่ไดรับ และหลัก การประดิษฐของใช ของตกแตง จากหนังสือ เรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 หรือศึกษาเพิ่มเติม จากอินเทอรเน็ต 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความ สําคัญ ประโยชนที่ไดรับ และหลักการประดิษฐ ของใช ของตกแตง จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 5 จากนั้นใหแตละกลุม รวมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความรูในเรื่องที่ ไดศึกษามา 3. ครูใหนักเรียนแตละกลุมทําการสํารวจวัสดุตางๆ ที่มีอยูในโรงเรียน หรือในทองถิ่น ที่สามารถ นํามาประดิษฐเปนของใช ของตกแตงได จากนั้นสืบคนขอมูลเพิ่มเติมจากอินเทอรเน็ต เกี่ยวกับงานประดิษฐของใช ของตกแตงที่พบ ในทองถิ่นของตน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 4. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมาอภิปรายเกี่ยวกับงานประดิษฐ ของใช ของตกแตงที่พบในทองถิ่นของตนให เพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในปจจุบันผูคนสวนใหญ หันมาสนใจในการประดิษฐของใช ของตกแตง ดวยฝมือของตนเองกันมากขึ้น สงผลใหได ชิ้นงานที่มีรูปแบบแปลกใหม ไมซํ้ากับของผูอื่น อีกทั้งยังเปนการใชเวลาวางใหเกิดประโยชน สามารถนําผลงานมาจําหนายเพื่อสรางรายได ใหกับตนเองและครอบครัว ชวยพัฒนาความคิด สรางสรรคและตอยอดจินตนาการของผูประดิษฐ ไดเปนอยางดี” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา วัสดุที่นํามาประดิษฐเปนของใช ของตกแตงนั้น อาจเปนวัสดุจากธรรมชาติที่หาไดในทองถิ่น เชน ใบตอง กาบมะพราว เปลือกหอย หรืออาจนําวัสดุเหลือใชมาประดิษฐเปนชิ้นงานได เพื่อชวยประหยัดคาใชจาย และยังไดของใช ของตกแตงที่มีความสวยงาม แปลกใหม เนื่องจากเปนการ ประดิษฐชิ้นงานที่เกิดจากความคิดสรางสรรคของตนเอง และหากประดิษฐ ชิ้นงานไดสวยงาม ยังสามารถนําไปใชเปนของขวัญใหกับผูอื่นได ซึ่งจะทําให ของชิ้นนั้นมีคุณคาและมีความหมายตอผูรับมากกวาของที่ไดจากการซื้อ อีกทั้ง ยังสามารถนําไปจําหนาย เพื่อสรางรายไดใหกับตนเองและครอบครัว ในการประดิษฐของใช ของตกแตง ควรคํานึงถึงสิ่งใดมากที่สุด 1. การจัดจําหนายสินคา 2. คาใชจายในการประดิษฐ 3. ประโยชนและความคุมคา 4. ความทนทานและความสวยงาม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการประดิษฐของใช ของตกแตง ควรคํานึงถึงประโยชนในการใชสอยและความคุมคาในการใชงาน มากที่สุด เนนการประดิษฐขึ้นเพื่อนํามาใชเอง โดยนําวัสดุ ในโรงเรียน หรือในทองถิ่นมาประดิษฐเปนชิ้นงานในรูปแบบที่ หลากหลาย) สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 10 AWESOME IDEAS with PVC PIPES ไดที่ https://www.youtube.com/watch?v=3lbeAqHP-OY นํา สอน สรุป ประเมิน T77


ขอสอบเนนการคิด ๓ หลักการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง ในการประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในโรงเรียน หรือท้องถิ่น เพื่อให้เกิดประโยชน์ และคุ้มค่ามากที่สุด ผู้ประดิษฐ์ควรยึดหลักในการปฏิบัติงาน ดังนี้ วัสดุธรรมชาติหลายชนิดที่หาได้ทั่วไปในท้องถิ่น สามารถน�ามาดัดแปลงประดิษฐ์เป็นของใช้ ของตกแต่งบ้านได้ ความปลอดภัยในการท�างาน ประดิษฐ์ เช่น เมื่อจ�าเป็นต้อง เลื่อยไม้หรือพ่นสีควรอยู่เหนือลม ใช้ผ้าปิดจมูกและปากเพื่อป้องกัน สารเคมี หรือฝุ ่นละอองเข้าสู ่ ร่างกายและเมื่ออุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้ชิ้นใดช�ารุดให้รีบ ด�าเนินการซ ่อมแซม เมื่อใช้ เสร็จเรียบร้อยแล้วควรเก็บเข้าที่ ให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย และเพื่อความสะดวกในการ ใช้งานครั้งต่อไป Be careful ๑. ควรศึกษาหลักการและวิธีการประดิษฐ์ชิ้นงานที่ต้องการ ประดิษฐ์อย่างละเอียด และใช้เศษวัสดุ หรือวัสดุเหลือใช้ที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ๒. ควรพิจารณาถึงประโยชน์ใช้สอย หรือความคุ้มค ่า กรณีที่ต้องการประดิษฐ์เพื่อจ�าหน่าย ควรส�ารวจความต้องการ ความนิยมของผู้ซื้อ ราคาของงานประดิษฐ์ เพื่อลดความเสี่ยง ในการขาดทุน ๓. ควรค�านึงถึงความทนทานและควรหาแนวทาง หรือ วิธีการที่จะช่วยให้งานประดิษฐ์ชิ้นนั้น ๆ มีความทนทานต่อการ ใช้งานมากขึ้น ๔. ควรค�านึงถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานเนื่องจาก มีโอกาสเสี่ยงต ่ออันตรายจากการสัมผัสกับวัสดุต ่าง ๆ เช่น สารเคมี สีพ่น ทินเนอร์ 68 DIY ของใช้จากวัสดุในโรงเรียน ทินเนอร์ เลื่อยไม้ วัสดุธรรมชาติหลายชนิดที่หาได้ทั่วไปในท้องถิ่น 2 1 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมเลือกวัสดุที่มีใน โรงเรียน หรือในทองถิ่นของตนตามความ สนใจ 1 ชนิด จากนั้นวางแผนการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น ลงในใบงานที่ 5.1.1 เรื่อง การวางแผนประดิษฐของใช ของตกแตง 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “สิ่งที่ควรคํานึงถึงใน ขณะปฏิบัติงานก็คือความปลอดภัย ผูที่ปฏิบัติ งานควรระมัดระวังตนเองในขณะใชเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในการประดิษฐผลงานดวย” ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 8. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ในการทํางานประดิษฐ จะตองลงมือปฏิบัติดวยความมุงมั่น ตั้งใจ มีความประณีต พิถีพิถัน และละเอียดลออ เพื่อใหผลงานประสบผลสําเร็จตามที่ไดวางแผน ไว หากเกิดขอผิดพลาดในขณะปฏิบัติงาน ผูประดิษฐควรใชสติ เพื่อหาแนวทางในการ แกปญหา เพื่อใหการประดิษฐประสบความ สําเร็จอยางมีคุณภาพ” 9. ครูใหนักเรียนแตละกลุมลงมือประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น ตามขั้นตอนที่ไดวางแผนไวอยางอิสระ 10. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมละ 1 คน ออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน โดยครูทําหนาที่ในการให คําแนะนําตามความเหมาะสม จากนั้นครู ถามนักเรียนวา • งานประดิษฐของนักเรียนเปนไปตาม เปาหมายที่วางแผนไวหรือไม อยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความ คิดเห็นไดอยางอิสระ) นักเรียนควรรู 1 เลื่อย ในขณะเลื่อยหากใบเลื่อยเกิดหักใหเปลี่ยนใบเลื่อยใหม แลวเลื่อยใน ตําแหนงใหม โดยเลื่อยไปจนถึงตําแหนงเดิมที่คางไว ไมควรเลื่อยตอจากตําแหนง เดิมที่ใบเลื่อยหัก เพื่อหลีกเลี่ยงปญหาที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณที่ใบเลื่อยหัก 2 ทินเนอร เปนสินคาควบคุมฉลาก เนื่องจากอยูในกฎหมายวาดวยการปองกัน การใชสารระเหยและเครื่องสําอาง ที่สําคัญตองเก็บใหพนมือเด็ก หามนํามา สูดดมและหามใหถูกผิวหนัง ซึ่งในการใชทินเนอรควรใชในพื้นที่โลง สามารถ ระบายอากาศไดดี และไมควรใชในที่ที่เสี่ยงตอการเกิดไฟไหม เนื่องจากเปน วัตถุไวไฟ 3 วัสดุธรรมชาติ สามารถนํามาประดิษฐเปนของใช ของตกแตงไดอยาง สวยงาม เชน กาบมะพราว กาบหมาก กาบกลวย เกล็ดปลา ใบลาน เปลือกหอย รังไหม นอกจากนี้ การใชวัสดุที่ไดจากธรรมชาติยังเปนการชวยดูแลรักษา สิ่งแวดลอมใหดีอีกดวย แตตองใชอยางถูกวิธีจึงจะเปนผลดีตอสิ่งแวดลอม ขอใดแสดงใหเห็นวาผูประดิษฐมีหลักในการประดิษฐชิ้นงาน 1. เนนความสวยงามและมูลคาของชิ้นงาน 2. ปฏิบัติงานตามความพึงพอใจของตนเอง 3. ศึกษาวิธีการประดิษฐชิ้นงานกอนลงมือปฏิบัติ 4. เลือกวัสดุที่มีราคาแพง เพื่อนํามาประดิษฐชิ้นงาน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะการที่จะประดิษฐชิ้นงานใด ก็ตาม จําเปนที่จะตองศึกษาวิธีการประดิษฐชิ้นงานที่ตองการอยาง ละเอียดกอน เพื่อจะไดสามารถปฏิบัติไดอยางถูกตอง และไม เสียเวลาในการปฏิบัติงาน) นํา สอน สรุป ประเมิน T78


Know M ore ¡ÃÐ້ÒÊÒ¹¨Ò¡ä¼‹ • วัสดุมีความแข็งแรง เหนียว ยืดหด ดัด โคงงอไดงาย • หาวัสดุไดงายในทุกทองถิ่น ที่นิยมมากจะเปนไผสีสุก • ออกแบบไดหลากหลาย เพื่อเพิ่มมูลคาของสินคา • อนุรักษภูมิปญญาทองถิ่น สรางรายไดใหแกชุมชน ·Õè¨Ø´à·Õ¹ËÍÁ¨Ò¡à»Å×Í¡ËÍ • นําวัสดุที่มีอยูในธรรมชาติมาเพิ่มมูลคา • สรางรายไดใหแกชุมชน สงไปขายยังตางประเทศได • ใชประดับตกแตงภายในบาน เพื่อเพิ่มความสวยงาม • เปนสัญลักษณใหระลึกถึงบรรยากาศของทองทะเล  ¡ÃжҧµŒ¹äÁŒ¨Ò¡¡Ãл‰Í§âÅËÐ •  มีความแข็งแรง ปองกันการซึมผานของกาซ ไอน้ํา และแสง • วัสดุหาไดงายในทุกครัวเรือน นํามาหลอมเพื่อใชงานใหมได • มีหลายขนาด หลายรูปทรง เลือกใชไดตามความเหมาะสม • นํามาใชตกแตงบาน ตกแตงสวน ใหมีความนาสนใจยิ่งขึ้น µØ¡µÒµÑé§âµÐ¨Ò¡¡ÃдÒÉ • นํากระดาษมาผสมกับกาวแลวขึ้นรูปตามตองการ • ใชความคิดสรางสรรคในการออกแบบชิ้นงาน • ใชทรัพยากรอยางคุมคา ชวยลดภาวะโลกรอนได • ใชเปนของตกแตง หรือของขวัญในโอกาสสําคัญตางๆ DIY §‹ÒÂ æ ´ŒÇµ¹àͧ DIY หรือ Do it yourself เปนการนําสิ่งของเหลือใชที่มีอยูในบาน โรงเรียน หรือทองถิ่นมาสรางสรรค เปนผลงานชิ้นใหมจากความคิดและจินตนาการของตนเอง ซึ่งปจจุบันงาน DIY มีใหเห็นอยูเปน จํานวนมาก ตัวอยางงาน DIY งายๆ มีดังนี้ การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 6๙ กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 11. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึก ผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 ขั้นสรุป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเรื่อง การ ประดิษฐของใช ของตกแตงวา “เพื่อใหการ ประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่นเกิดประโยชนและมีความคุมคามาก ที่สุด ผูประดิษฐควรศึกษาหลักการประดิษฐของใช ของตกแตงอยางละเอียด โดยพิจารณาถึงความ คุมคาและควรคํานึงถึงความปลอดภัยในขณะ ปฏิบัติงานรวมดวย เนื่องจากในขณะปฏิบัติงาน อาจมีโอกาสเสี่ยงที่จะไดรับอันตรายจากการ สัมผัสวัสดุตาง ๆ เชน สารเคมี สีสเปรย ทินเนอร รวมถึงเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณในงานประดิษฐ อีกดวย” ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อตรวจสอบความเขาใจกอนเรียนของ นักเรียน 2. ครูตรวจสอบใบงานที่ 5.1.1 เรื่อง การวางแผน ประดิษฐของใช ของตกแตง 3. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 4. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ใหนักเรียนสืบคนผลงานประดิษฐจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ในทองถิ่นของตนวา มีชิ้นงานประดิษฐชนิดใดโดยใหถายภาพ พรอมอธิบายเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณที่นํามาใช และขั้นตอน การประดิษฐ ลงในกระดาษรายงาน นําสงครูผูสอน ใหนักเรียนคนหาวัสดุในโรงเรียน หรือในทองถิ่นของตน จากนั้นนํามาสรางสรรคเปนชิ้นงานประดิษฐตามความสนใจ 1 ชิ้น พรอมอธิบายเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณที่นํามาใชและขั้นตอน การประดิษฐ จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนา ชั้นเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง นํา สอน สรุป ประเมิน T79


ขอสอบเนนการคิด กล่องดินสอจำกแกนกระดำษช�ำระ ๔ ตัวอย่างการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในโรงเรียน หรือท้องถิ่น วัสดุที่หาได้ในโรงเรียน หรือท้องถิ่นที่สามารถน�ามาประดิษฐ์เป็นของใช้และของตกแต่งได้ ตัวอย่างการประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในโรงเรียน หรือท้องถิ่น ดังนี้ ๑. แกนกระดาษช�าระ ๒. กระดาษลูกฟูกสีต่าง ๆ ๓. กรรไกร ๔. คัตเตอร์ ๕. ปนกาว/แท่งกาว ๖. ดินสอ กล่องดินสอจากแกนกระดาษช�าระ เป็นงานประดิษฐ์โดยการน�าแกนกระดาษช�าระที่ ใช้งานหมดแล้ว มาตกแต่งเป็นตัวการ์ตูนในลักษณะต่าง ๆ ตามความชอบและความสนใจ เพื่อให้เกิดความสวยงาม สามารถน�าไปใส่ดินสอหรือปากกาตามความต้องการ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ วิธีกำรประดิษฐ์ น�าแกนกระดาษช�าระมาตัดแบ่งเป็น ๒ ส่วน โดยกะระยะความสูงตามต้องการ น�ากระดาษลูกฟูกสีเหลืองมาตัดเป็นเส้น เพื่อติด รอบแกนกระดาษช�าระ ñ ò 7๐ กล่องดินสอจากแกนกระดาษช�าระ เป็นงานประดิษฐ์โดยการน�าแกนกระดาษช�าระที่ ใช้งานหมดแล้ว 1 นักเรียนควรรู 1 กระดาษชําระ ควรเลือกที่มีเนื้อกระดาษบริสุทธิ์ ไมมีสารเรืองแสง (สารที่ทําใหกระดาษมีสีขาวสะอาด ซึ่งอาจกอใหเกิดโรคมะเร็ง) เนื้อกระดาษ มีความเหนียวนุม ยอยสลายไดดี และมีราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพของ กระดาษชําระ ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) ศึกษา ตัวอยางการประดิษฐของใช ของตกแตงจาก วัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอยาง การประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุใน โรงเรียน หรือทองถิ่น จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 5 จากนั้นใหแตละกลุม รวมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความรูในเรื่องที่ ไดศึกษามา ขั้นนํา (เนนกระบวนการปฏิบัติ) 1. ครูกลาวคําทักทายนักเรียน พรอมทั้งทบทวน ความรูตามที่ไดเรียนในชั่วโมงที่ผานมา เกี่ยวกับความสําคัญ ประโยชนที่ไดรับ และ หลักการประดิษฐของใช ของตกแตง จากนั้น ครูกลาวเชื่อมโยงเพื่อเขาสูบทเรียนในหัวขอ ถัดไปเกี่ยวกับตัวอยางการประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมโยงความรูกอนเขา สูบทเรียนวา “วัสดุที่นํามาใชในการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจะมีความแตกตางกัน กลาวคือ วัสดุในโรงเรียนที่นิยมนํามาประดิษฐ เปนชิ้นงานสวนมากจะเปนกระดาษ ขวดนํ้า ถุงพลาสติก สวนวัสดุในทองถิ่นที่นิยมนํามา ประดิษฐเปนชิ้นงานสวนมากจะเปนวัสดุที่มีอยู ในภูมิภาคนั้นๆ กลาวคือ ภาคเหนือ เชน ปอสา ภาคกลาง เชน ผักตบชวา กก โสน ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ เชน ไหม ไผ เชือกกลวย ภาคใต เชน เปลือกหอย ยางพารา ยานลิเภา” เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา ในขั้นตอนที่ตองนําแกนกระดาษชําระมาตัดแบงออก เปน 2 สวนนั้น นักเรียนจะตองใชมีดคัตเตอรดวยความระมัดระวัง เนื่องจาก แกนกระดาษชําระเปนทรงกระบอก จึงสามารถกลิ้งไปมาได ดังนั้น ขณะตัดควร จับแกนกระดาษชําระใหแนน และใชมีดคัตเตอรกรีดลงไปใหลึก และที่สําคัญ ไมควรหลอกลอ หรือเลนกันในขณะปฏิบัติงาน เพราะอาจทําใหเกิดอันตรายขึ้นได แกนกระดาษชําระนอกจากจะนํามาประดิษฐเปนกลองดินสอแลว ยังสามารถนํามาประดิษฐสิ่งใดไดอีก (แนวตอบ สามารถนํามาประดิษฐเปนสิ่งของไดหลายอยาง เชน นํามาประดิษฐเปนกลองของขวัญชิ้นเล็กๆ เปนที่เก็บถุงเทา ที่พันไหมพรม หรือดายไมใหพันกัน กระถางเพาะตนกลา ชั้นวางของ ตกแตงผนังบาน ที่วางโทรศัพทมือถือ ของเลนสําหรับ เด็กๆ) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T80


กิจกรรม เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงค วาดวงกลมขนาดเท่ากับก้นของแกนกระดาษ ช�าระ จากนั้นติดกระดาษลูกฟูกตรงช่องว่าง เพื่อปดก้นของแกนกระดาษช�าระทั้ง ๒ ส่วน ó ตัดกระดาษลูกฟูกสีน�้าเงินตามภาพ โดย ให้ความยาวพันรอบแกนกระดาษช�าระ เพื่อท�าเป็นชุดของตุกตา พร้อมตกแต่งให้ สวยงาม ô น�าชุดตุกตาที่ตกแต่งแล้วมาติดทับบน กระดาษลูกฟูกสีเหลืองบริเวณส่วนตัว ของตุกตา õ ตัดกระดาษลูกฟูกสีด�า สีเทา และสีขาว ตามภาพ แล้วน�าไปติดบนกระดาษลูกฟูก สีเหลืองบริเวณส่วนหัวของตุกตา จากนั้น น�าไปต่อกันเป็นตัวตุกตา ö การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 7๑ ติดกระดาษลูกฟูกตรงช่องว่าง เพื่อปดก้นของแกนกระดาษช�าระทั้ง ๒ ส่วน 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 3. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น : กลองดินสอจากแกนกระดาษชําระ จากหนังสือ เรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 หนา 70-71 จากนั้น รวมกันอภิปรายถึงขั้นตอนการประดิษฐกลอง ดินสอจากแกนกระดาษชําระทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบาย ขั้นตอนการประดิษฐกลองดินสอจากแกน กระดาษชําระใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 4. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ประดิษฐกลองดินสอจากแกนกระดาษชําระ มาใหนักเรียนดู 5. ครูสาธิตการประดิษฐกลองดินสอจากแกน กระดาษชําระใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง พรอมทั้ง อธิบายประกอบทีละขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อให นักเรียนไดสังเกตและติดตามแตละขั้นตอน ไดทัน 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประดิษฐกลอง ดินสอจากแกนกระดาษชําระ หากนักเรียนเกิด ขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความ ชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกต การปฏิบัติงานของนักเรียนอยางใกลชิดและ คอยใหความชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนัก ถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย 7. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น : กลองดินสอจากแกนกระดาษชําระ โดยครูเปนผูตรวจสอบความถูกตองและ อธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาดตกบกพรอง จากการปฏิบัติงาน ใหนักเรียนนําแกนกระดาษชําระมาประดิษฐเปนชิ้นงานที่เปน ของใช ของตกแตงตามความสนใจ 1 ชิ้น โดยจะตองเปนชิ้นงาน ประดิษฐที่แตกตางไปจากในหนังสือเรียน ซึ่งนักเรียนสามารถสืบคน วิธีการประดิษฐชิ้นงานจากแกนกระดาษชําระไดจากแหลงการ เรียนรูที่หลากหลาย จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชม หนาชั้นเรียน (กิจกรรมนี้เสริมสรางคุณลักษณะอันพึงประสงคดานใฝเรียนรู อยูอยางพอเพียง และมุงมั่นในการทํางาน) นักเรียนควรรู 1 กระดาษลูกฟูก นิยมนํามาผลิตบรรจุภัณฑ เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถใชประโยชนไดอยางหลากหลาย มีนํ้าหนักเบา เปนมิตรตอสิ่งแวดลอม มีความทันสมัย ชวยปองกันสินคาระหวางการจัดสงได กระดาษลูกฟูกแบงเปน 3 ชนิด ตามจํานวนชั้นของกระดาษ ดังนี้ • กระดาษลูกฟูกสองชั้น (Single Face) ประกอบดวยกระดาษแผนเรียบ 1 แผน ประกบกับลอนลูกฟูก 1 แผน ใชสําหรับกันกระแทกสินคา • กระดาษลูกฟูกสามชั้น (Single Wall) ประกอบดวยกระดาษแผนเรียบ 2 แผน ประกบกับลอนลูกฟูก 1 แผน ใชสําหรับสินคาที่มีนํ้าหนักปานกลาง • กระดาษลูกฟูกหาชั้น (Double Wall) ประกอบดวยกระดาษแผนเรียบ 3 แผน ประกบกับลอนลูกฟูก 2 แผน ใชสําหรับสินคาที่ตองการการปองกันสูง หรือมีนํ้าหนักมาก นํา สอน สรุป ประเมิน T81


ขอสอบเนนการคิด ที่แขวนพวงกุญแจจำกแผ่นไม้ ๑. แผ่นไม้ ๒. กระดาษทราย ๓. ก้อนหิน ๔. สีอะคริลิก/พู่กัน ๕. ปากกาเมจิกสีด�า ๖. ปนกาว/แท่งกาว ๗. ลวดเสียบกระดาษ ๘. ดินสอ วิธีกำรประดิษฐ์ น�ากระดาษทรายมาขัดแผ่นไม้ให้เรียบ ñ ò ใช้ดินสอร่างภาพที่ต้องการลงบนแผ่นไม้ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ ที่แขวนพวงกุญแจจากแผ่นไม้ เป็นงานประดิษฐ์ โดยการน�าแผ่นไม้ที่มีรูปทรงในลักษณะต่าง ๆ มาวาดภาพ พร้อมตกแต่งลวดลายให้สวยงาม จากนั้นจึงน�าไปติดตะขอ เพื่อให้สามารถน�าพวงกุญแจ ไปแขวนไว้ได้ 7๒ ๒. กระดาษทราย 1 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 8. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น : ที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไม จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 หนา 72-73 จากนั้นรวมกันอภิปรายถึงขั้นตอน การประดิษฐที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไม ทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 1-2 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการประดิษฐที่แขวน พวงกุญแจจากแผนไมใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 9. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ประดิษฐที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไมมาให นักเรียนดู 10. ครูสาธิตการประดิษฐที่แขวนพวงกุญแจจาก แผนไมใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง พรอมทั้ง อธิบายประกอบทีละขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อให นักเรียนไดสังเกตและติดตามแตละขั้นตอน ไดทัน 11. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประดิษฐที่ แขวนพวงกุญแจจากแผนไม หากนักเรียนเกิด ขอสงสัยในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความ ชวยเหลือใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกต การปฏิบัติงานของนักเรียนอยางใกลชิด และคอยใหความชวยเหลือ และเนนยํ้าให ตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงาน รวมดวย 12. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการ ประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุใน โรงเรียน หรือทองถิ่น : ที่แขวนพวงกุญแจ จากแผนไม โดยครูเปนผูตรวจสอบความ ถูกตองและอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยังขาด ตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน นักเรียนควรรู 1 กระดาษทราย ใชสําหรับขัดพื้นผิวของวัสดุ เพื่อใหพื้นผิวของวัสดุชิ้นนั้นๆ เรียบเนียน หรือขัดใหชั้นพื้นผิวเกาหลุดออก มีอยูดวยกันหลายแบบ ในการใชงาน ควรเลือกใชใหเหมาะสมกับวัสดุที่จะนํามาขัด เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา การรางภาพลงบนแผนไม ควรใชดินสอเพื่อรางภาพ เนื่องจากสามารถลบสิ่งที่ไมตองการออกได หากผูประดิษฐไมมีทักษะในการ วาดภาพที่มากพอ ไมควรใชปากกาเมจิกในการรางภาพ เพราะหากเกิดความ ผิดพลาดขณะวาดภาพจะไมสามารถลบสิ่งที่ไมตองการออกได ทําใหตองเสีย แผนไมชิ้นนั้นไป และตองใชแผนไมชิ้นใหม ซึ่งจะทําใหเสียคาใชจายที่เพิ่มขึ้น และเสียเวลาในการปฏิบัติงาน หลังจากขัดแผนไมดวยกระดาษทรายแลว ควรปฏิบัติสิ่งใด เปนลําดับถัดไป 1. รางภาพดวยปากกาเมจิกสีดํา 2. ลงสีอะคริลิกตามที่รางภาพไว 3. กําจัดฝุนละอองที่ติดอยูบนแผนไม 4. นําลวดเสียบกระดาษมาทําเปนที่แขวน (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะเมื่อขัดแผนไมดวยกระดาษ ทรายเสร็จเรียบรอยแลว จะตองกําจัดฝุนละอองที่ติดอยูออกกอน โดยใชแปรงปด หรือใชผาเช็ดออก หรือใชลมเปา จากนั้นจึงใชดินสอ รางภาพ ตามดวยการลงสีอะคริลิก จากนั้นนําลวดเสียบกระดาษ มาดัดเปนตะขอสําหรับแขวนพวงกุญแจ) นํา สอน สรุป ประเมิน T82


ขอสอบเนน การคิด น�าก้อนหินสีขาวมาวาดรูปใบหน้าคน หรือวาด เป็นภาพอื่น ๆ ตามที่ได้ออกแบบไว้ น�าลวดเสียบกระดาษมาดัดให้เป็นตะขอ ส�าหรับแขวนพวงกุญแจ จากนั้นน�าไปติดบน แผ่นไม้ด้วยปนกาวให้แน่น ó ö ระบายสีอะคริลิกลงบนแผ่นไม้และก้อนหิน พร้อมตัดเส้นของภาพด้วยปากกาเมจิกสีด�า ติดก้อนหินที่ระบายสีเสร็จแล้วด้วยปนกาว ให้แน่น พร้อมตกแต่งให้สวยงาม ô õ การใช้ลวดเสียบกระดาษท�าเป็นที่แขวน พวงกุญแจนั้นควรใช้ ๒-๓ ตัวประกบกันเพื่อ ความแข็งแรง หรืออาจใช้ที่แขวนพวงกุญแจ ส�าเร็จรูปแทนก็ได้ Trick : การท�าที่แขวนพวงกุญแจให้แข็งแรง การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 73 ระบายสีอะคริลิกลงบนแผ่นไม้และก้อนหิน ติดก้อนหินที่ระบายสีเสร็จแล้วด้วยปนกาว 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 13. ครูถามนักเรียนวา • หลังจากที่ไดศึกษาตัวอยางการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น : ที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไม นักเรียนคิดวาอุปกรณที่สําคัญของชิ้นงานนี้ คือสิ่งใด และชิ้นงานมีขั้นตอนการปฏิบัติที่ ยุงยากซับซอนหรือไม อยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) • งานประดิษฐชิ้นนี้มีประโยชนตอการดํารง ชีวิตประจําวันของนักเรียนหรือไม อยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 14. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “กระดาษทรายแบงเปน 2 ประเภท คือ แบบขัดแหง ใชในงานขัดแหง ไมสามารถใชรวมกับนํ้า หรือขัดเปยกได เพราะ กระดาษจะเปอยยุยและผงขัดจะหลุดลอน เหมาะกับงานขัดไม งานขัดเครื่องเรือน งานขัดสี งานขัดผิวโลหะเคลือบ และแบบ ขัดเปยก ใชไดทั้งงานขัดเปยกและงานขัดแหง เพราะพื้นกระดาษมีความเหนียว ไมเปอยยุย เหมาะกับงานขัดสีรถยนต งานขัดโลหะ งานขัดไม งานขัดเครื่องเรือน ในการเลือก กระดาษทรายมาใชขัดแผนไม ควรเลือกให เหมาะสมกับลักษณะของงาน เนื่องจาก กระดาษทรายแตละเบอรจะมีคุณลักษณะใน การใชงาน รวมถึงความละเอียดที่แตกตางกัน ซึ่งกระดาษทรายที่ใชในการขัดไมมีเบอร ตั้งแต 0-5 กระดาษทรายที่มีเบอรนอยจะมี ความละเอียดมาก แตถามีเบอรที่เพิ่มมากขึ้น เนื้อของกระดาษทรายจะหยาบ” การประดิษฐที่แขวนพวงกุญแจจากแผนไม สามารถนํามาแขวน สิ่งของอยางอื่นไดหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ ไมได เพราะแผนไมที่นํามาใชมีนํ้าหนักเบาและ ตะขอสําหรับแขวนนั้นทํามาจากลวดเสียบกระดาษ ซึ่งไมมี ความแข็งแรง ทนทานมากพอ จึงไมสามารถนํามาแขวนสิ่งของ ที่มีนํ้าหนักมากๆ ได จึงเหมาะสําหรับแขวนสิ่งของชิ้นเล็กๆ ที่เปน พวงกุญแจมากกวา) นักเรียนควรรู 1 สีอะคริลิก เปนสีที่มีสวนผสมของสารพลาสติกโพลีเมอรจําพวกอะคริลิก หรือไวนิล สามารถนําไปใชไดกับงานหลากหลายประเภท ไมวาจะเปนโลหะ ไม พลาสติก แกว ผา และกระดาษ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติที่แหงเร็ว ติดแนนกับ พื้นผิวไดดี และมีความทนทาน สําหรับผูที่เริ่มตน อาจใชพูกันลากสีตามเสนที่วาด ไวกอนที่จะระบายสีก็ได จากนั้นจึงคอยทําการระบายสีลงบนรูป โดยมีขอควร ระวัง คือ สีอะคริลิก เปนสีที่แหงเร็วมาก การระบายสีจึงตองมีความแมนยํา และ อุปกรณที่นํามาใชกับสีอะคริลิก เชน พูกัน จานรองสี เมื่อใชเสร็จแลวควรรีบลาง ออกโดยทันที เพราะหากสีแหง อุปกรณเหลานี้อาจจะนํากลับมาใชงานอีกไมได 2 ปนกาว ใชคูกับกาวที่มีลักษณะเปนแทง โดยจะทําหนาที่เปนตัวทํา ความรอนใหแทงกาวละลาย เพื่อนํากาวไปใชประโยชนในงานตางๆ นํา สอน สรุป ประเมิน T83


ม่ำนจำกเชือกต้นกก ม่านจากเชือกต้นกก เป็นงานประดิษฐ์ โดยการน�าเชือกต้นกกมาขดเป็นวงกลม แล้วขึ้นรูปเป็นกลีบดอกไม้ หลาย ๆ ดอก น�ามาเย็บติดกันเป็นแผง ตกแต่งให้สวยงาม จากนั้นจึงน�าไปแขวนไว้ที่หน้าต่างของห้อง ๑. เชือกต้นกก ๒. ปนกาว/แท่งกาว ๓. ไหมพรมสีชมพูและสีเหลือง ๔. กรรไกร ๕. เข็ม/ด้าย วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ วิธีกำรประดิษฐ์ น�าเชือกต้นกกที่ย้อมสีแล้วมาขดเป็นวงกลม เพื่อใช้เป็นเกสร โดยขดประมาณ ๓-๕ รอบ หรือตามขนาดที่ต้องการ ñ ตัดเชือกต้นกกเพื่อน�ามาขึ้นรูปเป็นกลีบดอก จ�านวน ๔ เส้น จากนั้นน�ามาโค้งเป็นกลีบดอก ติดด้วยปนกาวให้แน่น ò 7๔ ม่านจากเชือกต้นกก เป็นงานประดิษฐ์ โดยการน�าเชือกต้นกกมาขดเป็นวงกลม แล้วขึ้นรูปเป็นกลีบดอกไม้ ๒. ปนกาว/แท่งกาว 1 2 กิจกรรม สรางเสริม กิจกรรม ทาทาย ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 15. ครูใหนักเรียนศึกษาตัวอยางการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น : มานจากเชือกตนกกและโคมไฟ จากชอนพลาสติก จากหนังสือเรียน หนวย การเรียนรูที่ 5 หนา 74-78 จากนั้นรวมกัน อภิปรายถึงขั้นตอนการประดิษฐมานจาก เชือกตนกกและโคมไฟจากชอนพลาสติก ทีละขั้นตอน โดยครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ออกมาอธิบายขั้นตอนการประดิษฐมานจาก เชือกตนกกและโคมไฟจากชอนพลาสติก ใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 16. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ประดิษฐมานจากเชือกตนกกและโคมไฟจาก ชอนพลาสติกมาใหนักเรียนดู 17. ครูสาธิตการประดิษฐมานจากเชือกตนกก และโคมไฟจากชอนพลาสติกใหนักเรียนดู เปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบายประกอบทีละ ขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อใหนักเรียนไดสังเกต และติดตามแตละขั้นตอนไดทัน 18. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประดิษฐ มานจากเชือกตนกกและโคมไฟจากชอน พลาสติก หากนักเรียนเกิดขอสงสัยในขณะ ปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือ ใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการ ปฏิบัติงานของนักเรียนอยางใกลชิดและคอย ใหความชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนัก ถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย ใหนักเรียนนําเชือกตนกกมาสรางสรรคชิ้นงานประดิษฐ เปนของใช ของตกแตงตามความสนใจ 1 ชิ้น โดยไมซํ้ากับใน หนังสือเรียน จากนั้นออกมานําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน ใหนักเรียนนําเชือกตนกกมาสรางสรรคชิ้นงานประดิษฐ เปนของใช ของตกแตงตามความสนใจอยางละ 1 ชิ้น โดยไมซํ้ากับ ในหนังสือเรียน พรอมทั้งอธิบายเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณที่นํามาใช ขั้นตอนการประดิษฐ และการนําไปใชประโยชน จากนั้นออกมา นําเสนอผลงานใหเพื่อนชมหนาชั้นเรียน นักเรียนควรรู 1 ตนกก เปนวัชพืชที่ชอบขึ้นอยูในสภาพพื้นที่ที่มีนํ้าทวมขัง ลําตนเรียวยาว ไมแตกกิ่งกาน ใบเรียงตัวอัดแนน ในประเทศไทยจะเห็นตนกก 2 ชนิด คือ ตนกกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามริมคลอง หรือหนองนํ้า อีกชนิดหนึ่ง เปนตนกกที่นิยมนํามาตกแตงบาน ซึ่งเปนตนกกที่ปลูกและจําหนายอยูโดยทั่วไป ตามรานขายตนไม หรือแหลงจําหนายตนไม ปจจุบันไดมีการนําตนกกมาใชเปน ไมประดับตามสถานที่ตางๆ ไมวาจะบานเรือน สปา รีสอรต โรงแรม นอกจากนี้ ยังมีการนําตนกกมาตากแหง เพื่อทํางานฝมือ งานจักสาน เชน กลองใสกระดาษ ชําระ เสื่อ ตะกรา อีกทั้งยังเปนการสงเสริมอาชีพและสรางรายไดใหกับชุมชน อีกทางหนึ่ง 2 แทงกาว มีลักษณะเปนแทงกลมใส สีขาวขุน หรือขาวใส ผลิตขึ้นมาจาก สารเคมีชนิดตางๆ เชน พอลิเอไมด พอลิเอทิลีน อะซิเตต ในการใชงานตองใช รวมกับปนกาวที่เปนตัวชวยในการละลาย เหมาะสําหรับใชงานในที่ตองการยึด ติดอยางรวดเร็วและไมตองการความแข็งแรงมากนัก นํา สอน สรุป ประเมิน T84


ขอสอบเนน การคิด เมื่อติดกลีบดอกจนครบทั้ง ๔ กลีบ ให้น�าเกสร ดอกไม้ที่ขดไว้ ๑ อัน มาติดทับลงบนกลีบดอก เพื่อปดรอยกาว ó น�าดอกไม้ที่ประกอบเสร็จแล้วมาเย็บติดกัน เป็นแนวเส้นตรงตามขนาดของหน้าต่างที่ ต้องการน�าไปแขวน ô น�าพู่ที่ท�าจากไหมพรม หรือเส้นปานมาผูกติด กับปลายของม่านเชือกต้นกกให้แน่น õ ตกแต่งปลายม่านเชือกต้นกกให้ครบตาม ความยาวของม่านเพื่อเพิ่มความสวยงาม ö การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 7๕ ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 19. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น : มานจากเชือกตนกกและโคมไฟ จากชอนพลาสติก โดยครูเปนผูตรวจสอบ ความถูกตอง และอธิบายเพิ่มเติมในสวนที่ยัง ขาดตกบกพรองจากการปฏิบัติงาน 20. ครูถามนักเรียนวา • หลังจากที่ไดศึกษาตัวอยางการประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือ ทองถิ่น : มานจากเชือกตนกกและโคมไฟ จากชอนพลาสติก นักเรียนคิดวาอุปกรณ ที่สําคัญของชิ้นงานนี้คือสิ่งใด และชิ้นงาน มีขั้นตอนการปฏิบัติที่ยุงยากซับซอนหรือไม อยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) • งานประดิษฐทั้ง 2 ชิ้นนี้มีประโยชนตอการ ดํารงชีวิตประจําวันของนักเรียนหรือไม อยางไร (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) 21. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “ไหมพรมที่ใชงาน เปนเวลานานอาจมีฝุนเกาะจึงตองนํามาทํา ความสะอาด โดยนําไหมพรมมาแชลงใน นํ้าอุน ทิ้งไว 5 นาที ซักดวยนํ้าสบู หรือนํ้ายา ซักผาชนิดออน ไมควรขยี้ และไมควรใช แปรงขัด แตใหใชวิธีการบีบแบบเบาๆ เพื่อ ขจัดคราบสิ่งสกปรกออกจนหมด ใชนํ้าสะอาด ลางนํ้าสบู หรือนํ้ายาซักผา แลวบีบที่ไหม พรมเบาๆ หรือใชผาขนหนูซับนํ้าออกจนหมด นําไปผึ่งใหแหงในบริเวณที่มีลมพัดผาน หรือ มีอากาศถายเทไดสะดวก” หากไมมีเชือกตนกก สามารถใชวัสดุในทองถิ่นชนิดใดมาใช แทนที่ไดเมื่อตองการประดิษฐมาน 1. เชือกปาน 2. หลอดกาแฟ 3. ขวดพลาสติก 4. ฝาขวดนํ้าอัดลม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะเชือกปานเปนวัสดุที่ไดจาก ธรรมชาติและมีลักษณะคลายกับเชือกตนกก จึงสามารถนํามาใช แทนที่กันได แตสําหรับหลอดกาแฟ ขวดพลาสติก และฝาขวด นํ้าอัดลม เปนวัสดุที่ไมไดมาจากธรรมชาติ จึงไมเหมาะสมที่จะนํา มาประดิษฐเปนมาน) เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา ในขั้นตอนการประดิษฐที่เปนการนําดอกไมที่ประกอบ เสร็จแลวมาเย็บติดกันนั้น นักเรียนตองใชเข็มเย็บผาอยางระมัดระวัง เนื่องจาก เข็มมีความแหลมคม เพราะหากยังไมชํานาญอาจเกิดความพลาดพลั้งทําใหเข็ม ตํามือได ดังนั้น ในระหวางการปฏิบัติงาน นักเรียนควรปฏิบัติงานดวยความตั้งใจ และระมัดระวังไมใหเกิดอันตรายตอตนเองและผูอื่นได สื่อ Digital ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทําพูหอยจากไหมพรม ไดที่ https://www. iurban.in.th/diy/hula-tassels/ นํา สอน สรุป ประเมิน T85


ขอสอบเนนการคิด โคมไฟจำกช้อนพลำสติก โคมไฟจากช้อนพลาสติก เป็นงานประดิษฐ์ โดยการน�าช้อนพลาสติกที่ ใช้งานแล้ว น�ามาล้างท�าความ สะอาด พร้อมพ่นสี ให้เรียบเนียน จากนั้นน�ามาตัดด้ามช้อนออก แล้วน�ามาวางเรียงซ้อนกันบนขวดน�้า ตกแต่งให้สวยงาม วางครอบลงบนหลอดไฟ เพื่อน�าไปใช้ประดับตกแต่งห้อง ๑. ช้อนพลาสติก ๒. ขวดพลาสติก ๓. สีสเปรย์ ๔. กรรไกร ๕. หลอดไฟ ๖. กระดาษสี ๗. ขาตั้งหลอดไฟ ๘. ปนกาว/แท่งกาว วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ วิธีกำรประดิษฐ์ น�าช้อนพลาสติกมาล้างท�าความสะอาด ผึ่งให้ แห้ง น�าไปพ่นด้วยสีสเปรย์ ผึ่งให้แห้ง จากนั้น ตัดส่วนด้ามช้อนออก ñ น�าช้อนพลาสติกที่พ่นสีเหลืองแล้วมาติดบริเวณ ด้านล่างของขวดน�้าที่ตัดขนาดความยาวเป็น ชั้นที่ ๑ ò 76 โคมไฟจากช้อนพลาสติก เป็นงานประดิษฐ์ โดยการน�าช้อนพลาสติกที่ ใช้งานแล้ว น�ามาล้างท�าความ ตกแต่งให้สวยงาม วางครอบลงบนหลอดไฟ เพื่อน�าไปใช้ประดับตกแต่งห้อง 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู 22. ครูเปดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐจาก ขวดพลาสติกใหนักเรียนดู พรอมทั้งแจงให ทราบวา ครูจะสาธิตการประดิษฐแจกันขวด พลาสติกใหนักเรียนดูเปนตัวอยางและให นักเรียนไดลงมือประดิษฐตามแบบที่ครูสาธิต ขั้นที่ 2 ทําตามแบบ 23. ครูนําเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ประดิษฐแจกันขวดพลาสติกมาใหนักเรียนดู 24. ครูสาธิตการประดิษฐแจกันขวดพลาสติก ใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง พรอมทั้งอธิบาย ประกอบทีละขั้นตอนอยางชาๆ เพื่อให นักเรียนไดสังเกตและติดตามแตละขั้นตอน ไดทัน ขั้นที่ 3 ทําเองโดยไมมีแบบ 25. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประดิษฐ แจกันขวดพลาสติก หากนักเรียนเกิดขอสงสัย ในขณะปฏิบัติงาน หรือตองการความชวยเหลือ ใหสอบถามครู โดยครูจะคอยสังเกตการ ปฏิบัติงานของนักเรียนอยางใกลชิดและคอย ใหความชวยเหลือ และเนนยํ้าใหตระหนัก ถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานรวมดวย 26. ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวางแผนประดิษฐ แจกันขวดพลาสติกตามความคิดสรางสรรค ของกลุมตนเอง โดยแบงหนาที่ตามความ ถนัดและความความสามารถของแตละบุคคล พรอมทั้งจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณที่ใชในการ ทํางานใหพรอมในชั่วโมงถัดไป 27. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประดิษฐ แจกันขวดพลาสติกตามความคิดสรางสรรค ของกลุมตนเอง นักเรียนควรรู 1 ชอนพลาสติก นอกจากจะสามารถนํามาประดิษฐเปนโคมไฟไดแลว ยัง สามารถนํามาประดิษฐเปนของใช ของตกแตงอื่นๆ ไดอีกหลายชนิด เชน กระถางตนไม เชิงเทียน แจกันดอกไม นาฬกาติดผนัง 2 หลอดไฟ สีของแสงที่ไดจากหลอดไฟมีอยู 3 โทนสี คือ สีวอรมไวต (Warm White) ใหแสงสีแดงออกโทนสม สีคูลไวต (Cool White) ใหแสงสีจะเริ่มออกมา ทางสีขาว และสีเดยไลต (Day Light) ใหแสงสีโทนขาวอมฟา คลายแสงธรรมชาติ ในเวลากลางวัน เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา ขั้นตอนในการพนสีชอนพลาสติกนั้น นักเรียนควร สวมอุปกรณปองกัน เชน ผาปดจมูก ถุงมือ เพื่อปองกันละอองจากสีสเปรย เขาสูรางกาย เนื่องจากสีสเปรยมีสวนผสมของสารเคมีที่เปนอันตรายตอรางกาย หากนําสีโปสเตอรมาระบายชอนพลาสติก เพื่อประดิษฐเปน โคมไฟ นักเรียนคิดวาสีจะติดทนหรือไม เพราะเหตุใด (แนวตอบ สีจะไมติดทน เพราะชอนพลาสติกมีความมันเงา และลื่น ซึ่งไมเหมาะกับการนํามาทาดวยสีโปสเตอร หากตองการให ชอนมีสีติดทนนาน ควรเลือกใชสีสเปรยฉีดพนจึงจะเหมาะสมกวา หากตองการใหสีมีความเขม ควรพนซํ้าหลายๆ ครั้ง แตถาตองการ นํามาทําเปนโคมไฟ ควรพนเพียงครั้งเดียว เพื่อใหแสงสวางของ หลอดไฟสามารถสองผานชอนออกมาได) นํา สอน สรุป ประเมิน T86


ขอสอบเนน การคิด น�าช้อนพลาสติกที่พ่นสีเขียวอ่อนและสีเขียว เข้ม น�าไปติดบริเวณชั้นสุดท้ายของขวดน�้า ô ติดช้อนพลาสติกชั้นที่ ๒ โดยติดสับหว่าง กับชั้นที่ ๑ และติดชั้นต่อไปโดยติดสับหว่าง กันไปเรื่อย ๆ เช่นนี้จนถึงชั้นสุดท้าย ó น�าผลงานที่เสร็จเรียบร้อยแล้วไปวางครอบ บนหลอดไฟ ö น�าด้ามช้อนพลาสติกที่พ่นสีเขียวเข้มที่ตัด ทิ้งมาติดเป็นแฉกประมาณ ๕-๖ แฉก แล้ว น�ามาตกแต่งบริเวณด้านบนของขวด õ ในการพ่นสีสเปรย์ที่ช้อนพลาสติก ควรพ่น แค่รอบเดียวและพ่นเฉพาะด้านนอกของช้อน เพื่อให้แสงสว่างของหลอดไฟสามารถส่องผ่าน ช้อนออกมาได้ Trick : การพ่นสีสเปรย์ * หมายเหตุ ในการใช้งานควรเลือกใช้หลอด LED เนื่องจากมีค่าความร้อนต�่า จะช่วยป้องกันไม่ให้พลาสติกละลาย หรือเกิดการเผาไหม้ได้ การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 77 ขั้นสอน ขั้นที่ 4 ฝกใหชํานาญ 28. ครูมอบหมายใหนักเรียนแตละคนประดิษฐ ของใช ของตกแตงจากขวดพลาสติก เพื่อ เปนการฝกฝนจนเกิดความชํานาญ จากนั้น คัดเลือกผลงานที่ดีที่สุดเพียง 1 ชิ้น นํามา ปฏิบัติกิจกรรมในชั่วโมงถัดไป 29. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมในแบบวัดและบันทึก ผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู เรื่อง ตัวอยาง การประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุใน โรงเรียน หรือทองถิ่นวา “วัสดุในโรงเรียน หรือ ในทองถิ่นเปนวัสดุที่สามารถพบเห็นไดงาย และเปนวัสดุที่ผูคนสวนมากไมนิยมนํามาใชงาน เพื่อใหเกิดประโยชน ดังนั้น การประดิษฐของใช ของตกแตงจากวัสดุในโรงเรียน หรือทองถิ่น จึง เปนสิ่งที่ชวยทําใหวัสดุเหลานั้นสามารถนํามาใช ประโยชนไดอยางคุมคา โดยผานกระบวนการคิด วิเคราะหและการมีความคิดริเริ่มสรางสรรค เพื่อ ใหผลงานออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด” ขั้นประเมิน 1. ครูตรวจสอบผลการประดิษฐของใช ของตกแตง จากขวดพลาสติก 2. ครูตรวจสอบการทํากิจกรรมในแบบวัดและ บันทึกผลการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 3. ครูประเมินผลระหวางการจัดกิจกรรมการเรียนรู จากการสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน และการสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค เพราะเหตุใดการประดิษฐโคมไฟจากชอนพลาสติก จึงควรใช หลอดไฟแบบ LED (แนวตอบ หลอดไฟแบบ LED มีคาความรอนคอนขางตํ่า ซึ่งเมื่อนําไปไวในโคมไฟจะไมทําใหพลาสติกละลาย หรือเกิดการ เผาไหมได หากเปดไฟอยางตอเนื่องกันหลายชั่วโมง) แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุม การนําเสนอผลงาน โดยศึกษา เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรูที่ 5 แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ – สกุล ของนักเรียน การแสดง ความคิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมีน้ าใจ การมี ส่วนร่วมใน การปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่่ากว่า 8 ปรับปรุง แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการน าเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ ากว่า 8 ปรับปรุง ล าดับที่ รายการประเมินระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การล าดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการน าเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการน าเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม นํา สอน สรุป ประเมิน T87


ขอสอบเนนการคิด SHOP ๕ การจัดการกับผลงานประดิษฐ์ กระบวนการจัดการเกี่ยวกับวิธีการด�าเนินการให้ผลผลิตที่ได้จากงานประดิษฐ์ไปสู่เป้าหมาย ตามที่วางแผนไว้ โดยผลผลิตถึงมือผู้บริโภคอย่างคงสภาพเดิม ไม่ช�ารุดเสียหาย ซึ่งผู้บริโภค อาจเป็นตัวเรา เพื่อน ญาติ หรือผู้ซื้อคนอื่น ๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราวางแผนประดิษฐ์ชิ้นงาน เพื่อเป้าหมายใด ๕.๑ หลักการจัดการกับผลงานประดิษฐ์ หลักการจัดการนับเป็นสิ่งส�าคัญที่ควรค�านึงถึง เพราะเมื่อผลิตชิ้นงานเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่รู้ วิธีการจัดการกับผลงาน ผลผลิต หรืองานชิ้นนั้นจะไม่มีคุณค่า ขาดความน่าสนใจ อาจเสื่อมสภาพ และเกิดการช�ารุดเสียหายได้ เพื่อให้ผลงานดังกล่าวมีคุณค่า มีความน่าสนใจ ดังนั้น เมื่อประดิษฐ์ ชิ้นงานเสร็จแล้ว ผู้ประดิษฐ์ควรด�าเนินการให้ผลผลิตไปสู ่เป้าหมายตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ สิ่งส�าคัญในการจัดการกับผลงานที่ประดิษฐ์ก็คือผู้ประดิษฐ์ต้องทราบว่าผลงานดังกล่าวประดิษฐ์ขึ้น เพื่อสิ่งใด โดยแบ่งผลงานประดิษฐ์ออกเป็น ๒ ประเภท ดังนี้ ผลงานที่ท�าขึ้นเพื่อใช้เอง เป็นผลงานที่มีหลากหลายรูปแบบและ ผลิตได้ด้วยตนเอง เป็นผลงานที่ท�าขึ้นเพื่อใช้เอง ไม่ได้เป็นไป ในลักษณะของการแข่งขัน เป็นผลงานที่สามารถมอบให้ผู้รับได้ทันที อาจมีบรรจุภัณฑ์ หรือไม่มีก็ได้ เป็นผลงานที่ต้องวางแผนการท�างาน อย่างเป็นขั้นตอน เพื่อให้ท�างานได้อย่าง ราบรื่น ผลงานที่ท�าขึ้นเพื่อจ�ำหน่ำย เป็นผลงานที่มีหลากหลายรูปแบบ และผู้ผลิตหลายรายผลิตผลงานที่มี ลักษณะเหมือนกัน เป็นผลงานที่ท�าขึ้นเพื่อจ�าหน่าย จะมีการ แข่งขันทางการตลาดสูง เป็นผลงานที่ต้องออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ สวยงาม เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อ เป็นผลงานที่ต้องมีการวางแผนอย่าง รัดกุมและเป็นขั้นตอน เพราะต้องท�างาน กับคนจ�านวนมาก 78 โดยผลผลิตถึงมือผู้บริโภคอย่างคงสภาพเดิม แข่งขันทางการตลาดสูง หน่าย จะมีการ 1 2 ขั้นนํา (5Es) ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 1. ครูกลาวคําทักทายนักเรียน พรอมทั้งซักถาม ถึงผลงานที่ไดรับมอบหมายใหปฏิบัติจาก ชั่วโมงที่ผานมาวา นักเรียนไดนําขวดพลาสติก ไปประดิษฐเปนของใช ของตกแตงประเภทใด จากนั้นครูถามนักเรียนวา • ผลงานที่นักเรียนสรางสรรคขึ้นจัดเปนงาน ประดิษฐประเภทใด เพราะเหตุใดจึงเลือก ประดิษฐผลงานในลักษณะเชนนี้ (แนวตอบ คําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของ นักเรียน) • ผลงานที่ทําขึ้นเพื่อใชเองและผลงานที่ทําขึ้น เพื่อจําหนายมีลักษณะที่แตกตางกันอยางไร (แนวตอบ ผลงานที่ทําขึ้นเพื่อใชเอง ไมตอง คํานึงถึงเรื่องบรรจุภัณฑมากนัก สามารถ ทําไดงาย มีขั้นตอนที่ไมยุงยากซับซอน สวน ผลงานที่ทําขึ้นเพื่อจําหนายจะคํานึงถึงเรื่อง ของบรรจุภัณฑเปนหลัก ซึ่งบรรจุภัณฑตอง มีความนาสนใจ มีขั้นตอนในการออกแบบ ที่คอนขางซับซอน มีรูปแบบและรูปทรง ที่นาสนใจ หรือมีความแปลกใหมมากกวา) 2. ครูใหนักเรียนสังเกตและเปรียบเทียบความ แตกตางของผลงานประดิษฐ โดยงานชิ้นที่ 1 เปนงานประดิษฐที่ไมมีบรรจุภัณฑ สวนชิ้นที่ 2 เปนงานประดิษฐที่มีบรรจุภัณฑ จากนั้นครู ถามนักเรียนวา • หากตองการซื้อสิ่งของ 1 ชิ้น นักเรียนจะ เลือกซื้อชิ้นใด เพราะเหตุใด (แนวตอบ เลือกซื้อชิ้นที่ 2 เพราะบรรจุภัณฑ ชวยดึงดูดความสนใจและสรางแรงจูงใจใน การเลือกซื้อ ซึ่งบรรจุภัณฑจะทําหนาที่ในการ ปองกันการกระแทก แตกหัก เพื่อไมใหเกิด การชํารุดเสียหายของสิ่งของชิ้นดังกลาว) นักเรียนควรรู 1 ผูบริโภค ผูซื้อ หรือผูที่ไดรับบริการจากผูประกอบธุรกิจ ซึ่งกฎหมายคุมครอง ผูบริโภคไดบัญญัติสิทธิของผูบริโภคไว 5 ประการ ดังนี้ • สิทธิที่จะไดรับขาวสาร รวมถึงคําพรรณนาคุณภาพที่ถูกตองและเพียงพอ เกี่ยวกับสินคา หรือบริการ • สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินคา หรือบริการ • สิทธิที่จะไดรับความปลอดภัยจากการใชสินคา หรือบริการ • สิทธิที่จะไดรับความเปนธรรมในการทําสัญญา • สิทธิที่จะไดรับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย 2 การแขงขันทางการตลาด เปนกระบวนการวางแผนและดําเนินการในการ กําหนดรูปแบบสินคาและบริการ การตั้งราคา การสงเสริมการตลาด และการจัด จําหนาย เพื่อกอใหเกิดการแลกเปลี่ยนที่สามารถตอบสนองความตองการของ บุคคล และบรรลุวัตถุประสงคขององคกรได ขอใดจัดเปนผลงานประดิษฐที่ทําขึ้นเพื่อใชเอง 1. สรางผลงานประดิษฐใหแตกตางจากคูแขง 2. นําแกนกระดาษชําระมาประดิษฐเปนที่ใสเครื่องเขียน 3. ประดิษฐบรรจุภัณฑ เพื่อนํามาใสขนมไปจําหนายในชุมชน 4. วางแผนการประดิษฐของตกแตง เพื่อนําไปจําหนายในทองตลาด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะการนําแกนกระดาษชําระ ที่ไมใชแลวมาประดิษฐเปนที่ใสเครื่องเขียน เปนผลงานประดิษฐ ที่ทําขึ้นเพื่อใชเอง โดยผูประดิษฐไมจําเปนตองมีการวางแผน การทํางานอยางเปนขั้นตอน หรือตองไปแขงขันกับผูอื่น แตมี จุดประสงค เพื่อประดิษฐไวใชเอง) นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T88


ขอสอบเนน การคิด ปองกันผลผลิตไม่ให้ เสื่อมสลายจากสภาพแวดล้อม ช่วยในการจัดเก็บและ การขนส่งผลผลิต ช่วยให้ผู้บริโภคมองเห็น คุณค่าของผลผลิต ช่วยสื่อความหมาย ของผลผลิต ช่วยดึงดูดความสนใจ และเป็นแรงจูงใจในการซื้อ รองรับผลผลิตให้ คงอยู่ในสภาพเดิม ไม่เสียรูปทรง ปองกันการกระแทก สะดวกต่อการขนย้าย ช่วยให้ผลผลิตไม่ช�ารุด ไม่บุบสลาย ไม่แตกหัก ควำมส�ำคัญของ บรรจุภัณฑ์ ๕.๒ การบรรจุภัณฑ์ วิธีการห่อหุ้มผลผลิต หรือการบรรจุผลผลิตจากแหล่งผลิตไปยังผู้บริโภค โดยน�าวัสดุต่าง ๆ เช่น กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ ไม้ โฟม มาประกอบกันในรูปแบบต่าง ๆ โดยอาศัยความคิด สร้างสรรค์ เทคนิค วิธีการต่าง ๆ เพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีรูปร่างและรูปทรงที่สวยงาม ดึงดูด ความสนใจจากผู้ซื้อ สร้างความสะดวกสบายในการใช้สอยและการเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์ ๑) ความส�าคัญของการบรรจุภัณฑ์ เป็นขั้นตอนที่มีความส�าคัญมาก ผลผลิตจะมี คุณค่า มีความสวยงาม หรือน่าสนใจมากน้อยเพียงใด ผู้ซื้อรู้สึกได้จากการมองเห็นรูปลักษณ์ ภายนอกเป็นอันดับแรก ดังนั้น บรรจุภัณฑ์ที่สะดุดตาและมีความน่าสนใจจึงมีส่วนช่วยในการ ส่งเสริมผลผลิตให้มีคุณค่ายิ่งขึ้น โดยเฉพาะการบรรจุภัณฑ์ หรือการห่อหุ้มผลผลิตเพื่อการจ�าหน่าย ซึ่งมีการแข่งขันและพัฒนารูปแบบของบรรจุภัณฑ์ให้มีความแปลกใหม่และหลากหลายอยู่เสมอ เพราะบรรจุภัณฑ์ส่งผลถึงความน่าสนใจของผลผลิต การบรรจุภัณฑ์จึงมีความส�าคัญ ดังนี้ การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 7๙ ขั้นนํา ขั้นที่ 1 กระตุนความสนใจ 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมโยงความรูกอน เขาสูบทเรียนวา “การบรรจุภัณฑเปนการ จัดการกับผลผลิต ซึ่งชวยใหผลผลิตมีคุณคา มีความนาสนใจ มีความสวยงาม และเปนการ เพิ่มมูลคาใหแกงานประดิษฐ” ขั้นสอน ขั้นที่ 2 สํารวจและคนหา 1. ครูใหนักเรียนศึกษาหลักการจัดการกับผลงาน ประดิษฐและการบรรจุภัณฑ จากหนังสือเรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 2. ครูใหนักเรียนศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวหลักการ จัดการกับผลงานประดิษฐและการบรรจุภัณฑ จาก PowerPoint ม.2 หนวยการเรียนรูที่ 5 จากนั้นใหนักเรียนรวมกันอภิปรายแลกเปลี่ยน ความรูในเรื่องที่ไดศึกษามา 3. ครูถามนักเรียนวา • บรรจุภัณฑมีความสําคัญและมีประโยชน อยางไร (แนวตอบ เปนสิ่งที่ชวยทําใหผลงานมีคุณคา มีความสวยงาม รวมถึงมีความนาสนใจ มากยิ่งขึ้น ทั้งยังชวยสรางมูลคาเพิ่มใหกับ ผลิตภัณฑ และชวยรักษาผลงานใหดูใหม ไมเสียรูปทรงไดงาย) • เพราะเหตุใดการประดิษฐผลงานขึ้นเพื่อ จําหนายจึงตองใสใจเรื่องบรรจุภัณฑเปน พิเศษ (แนวตอบ สินคาบางชนิดมีการแขงขันกันสูง จึงทําใหสินคาที่มีบรรจุภัณฑดูนาสนใจ ได เปรียบในเชิงพาณิชย และสงผลใหผูบริโภค เกิดความพึงพอใจในสินคาไดมากกวา) การเลือกใชบรรจุภัณฑของผูผลิต ควรคํานึงถึงปจจัยในขอใด มากที่สุด 1. เลือกบรรจุภัณฑที่มีความหรูหรา 2. เลือกบรรจุภัณฑที่มีความสวยงาม 3. เลือกบรรจุภัณฑที่มีความแข็งแรง ทนทาน 4. เลือกบรรจุภัณฑที่ผลกระทบตอราคานอยที่สุด (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะเปนปจจัยสําคัญที่ผูผลิต ควรคํานึงถึงมากที่สุด หากเลือกใชบรรจุภัณฑที่มีราคาสูงอาจ ทําใหตนทุนการผลิตสูงขึ้น เมื่อตั้งราคาจําหนายจึงตองเพิ่มขึ้น ตามไปดวย เมื่อราคาสินคาสูงเกินไป อาจทําใหยอดจําหนาย ลดนอยลง) เกร็ดแนะครู ครูสามารถนําตัวอยางบรรจุภัณฑในรูปแบบตางๆ มาใหนักเรียนดู แลวใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับรูปแบบ ความสวยงาม และประโยชน ของบรรจุภัณฑ บูรณาการอาเซียน ครูอาจใหนักเรียนสืบคนตัวอยางผลงานประดิษฐและบรรจุภัณฑของ ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ โดยใหนักเรียนรวมกันวิจารณ การออกแบบผลงานประดิษฐและบรรจุภัณฑดังกลาวในประเด็นที่เกี่ยวของ กับการใชความคิดสรางสรรค ประโยชนใชสอย ราคา คุณภาพ และความยาก-งาย ในการประดิษฐ นํา นํา สอน สรุป ประเมิน T89


ขอสอบเนนการคิด ๒) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ เป็นการก�าหนดลักษณะ รูปร่าง ขนาด และปริมาณ เพื่อน�ามาประกอบเป็นภาชนะบรรจุผลผลิต ซึ่งการออกแบบบรรจุภัณฑ์ต้องอาศัยหลักเกณฑ์ ดังนี้ ๑. มุ่งเน้นประโยชน์ในการบรรจุสินค้า หรือการบรรจุผลผลิต ดังนั้น บรรจุภัณฑ์ควร มีโครงสร้างที่แข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเสียรูปทรง ๒. มุ่งเน้นประโยชน์ในการสื่อความหมาย เพื่อสร้างความเข้าใจในผลผลิต ดังนั้น ตัวอักษรที่ใช้สื่อความหมายต้องมองเห็นเด่นชัด มีรายละเอียดของสินค้าชัดเจน ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ๓. การเลือกแบบบรรจุภัณฑ์ต้องค�านึงถึงความน่าสนใจ เพื่อเป็นการสร้างแรงดึงดูด แก่ผู้บริโภค เช่น รูปทรงแปลกตา สีสันสวยงาม มองดูหรูหรา ๔. การพิจารณาถึงลักษณะของผลผลิต หรือผลิตภัณฑ์ เช่น ผลผลิตจะเสื่อมคุณภาพ เมื่อถูกแสงแดด ผลผลิตจะเกิดการแตกหักเมื่อมีของหนักทับ ๓) ชนิดของบรรจุภัณฑ์ มีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับผลผลิต หรือชิ้นงาน ดังนี้ กระดำษ พลำสติก • ไม่สามารถปองกันความชื้น น�้า กลิ่น และแกสได้ • พับ ตัด ได้ง่าย มีความหนา ให้เลือกหลายแกรม • มีความคงรูป น�ามาออกแบบ ได้อย่างหลากหลาย • มีหลายสี ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย น�้าหนักเบา • ทนทานต่อความชื้นและ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง • น�้าหนักเบา ราคาไม่แพง ได้รับความนิยมมาก • ดัดแปลงรูปทรงได้อย่าง อิสระและหลากหลาย • มีให้เลือกใช้หลายชนิดตาม ความเหมาะสม 8๐ ๒) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ พลำสติก 1 2 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การบรรจุภัณฑเปน ขั้นตอนที่มีความสําคัญมาก เพราะเปนขั้นตอน ที่มีสวนชวยในการสงเสริมผลผลิตใหมีคุณคา มากยิ่งขึ้น และสงผลถึงความนาสนใจของ ผลผลิต นอกจากนี้ การบรรจุภัณฑยังชวย รักษาสภาพของผลผลิตใหอยูในสภาพคงเดิม โดยบรรจุภัณฑจะทําหนาที่ในการปองกัน การกระแทก เพื่อไมใหสินคาเกิดการชํารุด บุบสลาย แตกหัก” 5. ครูถามนักเรียนวา • นักเรียนมีวิธีในการเลือกใชบรรจุภัณฑอยางไร (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ไดอยางอิสระ เชน บรรจุภัณฑที่ดีตองมี ความแข็งแรง ทนทาน ชวยรักษาผลผลิต ไดดี นอกจากนี้ ยังตองมีความสวยงามและ มีความนาสนใจอีกดวย) • บรรจุภัณฑที่สวยงามมีประโยชนตอการ จําหนายสินคาหรือไม อยางไร (แนวตอบ มี เนื่องจากบรรจุภัณฑที่สวยงาม จะชวยดึงดูดความสนใจและเปนแรงจูงใจ ในการซื้อสินคาของผูบริโภค) 6. ครูใหนักเรียนออกแบบบรรจุภัณฑของงาน ประดิษฐตามที่ไดจัดเตรียมมา โดยกําหนด ลักษณะ รูปราง รูปทรง ขนาด และปริมาณ เพื่อนํามาประกอบเปนภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ โดยคํานึงถึงหลักเกณฑ ดังนี้ • มุงเนนประโยชนในการบรรจุสินคา • มุงเนนประโยชนในการสื่อความหมาย • การเลือกบรรจุภัณฑตองคํานึงถึงความ นาสนใจ • พิจารณาถึงลักษณะของผลผลิต หรือ ผลิตภัณฑ หากไมตองการใหความชื้นและนํ้าซึมผานได ควรเลือกใช บรรจุภัณฑที่ผลิตจากวัสดุประเภทใด 1. ลังไม 2. กระสอบปาน 3. กลองกระดาษ 4. ซองอะลูมิเนียม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะซองอะลูมิเนียมมีความแข็งแรง ทนทาน มีคุณสมบัติที่ทําใหความชื้น ไอนํ้า หรือแกส ไมสามารถ ซึมผานเขาไปได ซึ่งแตกตางจากคุณสมบัติของกระดาษและ ไมที่มีความชื้น หรือนํ้าสามารถซึมผานเขาไปได) นักเรียนควรรู 1 บรรจุภัณฑ ปจจุบันมีการรณรงคใหผูผลิตสรางบรรจุภัณฑที่เปนมิตรกับ สิ่งแวดลอม เพื่อลดปญหาโลกรอน โดยเฉพาะสหภาพยุโรป ญี่ปุน มีการออก กฎหมายหามใชบรรจุภัณฑที่ทําลายสิ่งแวดลอมแลว 2 พลาสติก ควรมีความรอบคอบและระมัดระวังในการเลือกใชบรรจุภัณฑ ประเภทพลาสติก เพราะเปนวัสดุที่ทําลายสิ่งแวดลอม หากหลีกเลี่ยงไมได ควรเลือกใชพลาสติกชนิดที่ยอยสลายไดงาย เกร็ดแนะครู ครูอธิบายเพิ่มเติมวา บรรจุภัณฑที่ทํามาจากกระดาษไมสามารถปองกันนํ้า ความชื้น กลิ่น และแกสได แตก็มีขอดี คือ สามารถพับ ตัด ไดงาย มีนํ้าหนักเบา ราคาไมสูง และสามารถออกแบบ หรือดัดแปลงไดอยางหลากหลาย นํา สอน สรุป ประเมิน T90


ขอสอบเนน การคิด • มีความใสและท�าเป็นสีต่าง ๆ ได้ง่าย • เปราะบาง แตกหักง่าย แต่ทน แรงกดสูง • ใช้งานซ�้าได้หลายครั้งตลอด อายุการใช้งาน • น�ามาหลอมเพื่อใช้งานใหม่ ได้ • แข็งแรง ทนทาน ไอน�้า และ แกสซึมผ่านไม่ได้ • ก่อนใช้ต้องมีการตรวจสอบ การรั่วซึมที่ตะเข็บ • ไวต่อการเกิดปฏิกิริยาที่จะ ท�าให้เกิดการผุกร่อน • ราคาสูง ทนร้อนและเย็น ได้ดี • ไม่ค่อยนิยม เพราะท�าลาย ธรรมชาติ • น�้าหนักมาก นิยมน�ามาใช้กับ ผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ • อาจเกิดเชื้อรา หากอยู่ในที่ ที่มีความชื้นสูง • มีความแข็งแรง เปยกน�้าได้ • ราคาไม่แพง หาได้ง่าย • ลดปญหาสิ่งแวดล้อม ลด สารก่อมะเร็ง • อายุการใช้งานสั้น ไม่เหมาะ แก่การบรรจุของหนัก • ย่อยสลายง่าย ใช้บรรจุอาหาร แก้ว โลหะ ไม้ ใบไม้ การประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุ ในท้องถิ่น 8๑ แก้ว ไม้ • ลดปญหาสิ่งแวดล้อม ลด สารก่อมะเร็ง • อายุการใช้งานสั้น ไม่เหมาะ 1 2 3 ขั้นสอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “บรรจุภัณฑมีอยูดวยกัน หลายชนิด ผูออกแบบควรเลือกใชใหเหมาะสม กับผลผลิต เชน พลาสติก มีความทนทานตอ ความชื้น นํ้าหนักเบา ราคาไมสูง ดัดแปลง รูปทรงไดงาย” 8. ครูมอบหมายใหนักเรียนสรางบรรจุภัณฑให แกงานประดิษฐของตนเอง นํามาสงในชั่วโมง ถัดไป ขั้นที่ 4 ขยายความเขาใจ 9. ครูใหนักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) รวมกันปฏิบัติ กิจกรรม Choose the best โดยใหแตละ กลุมคัดเลือกบรรจุภัณฑที่มีภายในกลุม 1 ชิ้น และใหเจาของผลงานออกมานําเสนอแนวคิด ในการสรางผลิตภัณฑใหเพื่อนฟงหนาชั้นเรียน 10. ครูอธิบายเพิ่มเติมวา “การเลือกบรรจุภัณฑ ควรคํานึงถึงหลักการสําคัญตางๆ ไมวาจะเปน วิธีการจําหนาย คูแขงขัน วิธีการขนสง วิธีการ เก็บรักษา ตนทุนของบรรจุภัณฑ กฎระเบียบ หรือขอบังคับของกฎหมาย” 11. ครูมอบไมไอศกรีมใหกับนักเรียนคนละ 1 อัน เพื่อใหนักเรียนปฏิบัติกิจกรรม โดยมีกฎกติกา คือ ใหนักเรียนแตละคนโหวตผลิตภัณฑที่ ถูกใจ 1 ชิ้น จากนั้นนําไมไอศกรีมไปวางใน กลองขางผลิตภัณฑ โดยมีขอหามไมใหโหวต ผลิตภัณฑภายในกลุมของตนเอง 12. ครูดําเนินการนับคะแนนโหวต พรอมทั้ง อธิบายเหตุผลกับนักเรียนวา เพราะเหตุใด ผลิตภัณฑชิ้นนี้จึงไดรับคะแนนโหวตมาก ที่สุด หรือไดรับคะแนนโหวตนอยที่สุด และให คําแนะนําเพิ่มเติม เพื่อใหนําคําติชมไปใชใน การพัฒนาผลงานของตนเองตอไป บรรจุภัณฑจากใบตองมีขอดีอยางไร 1. ฉีกขาดยาก คงทน 2. ใชหอสิ่งของตางๆ ได 3. ความชื้นและเชื้อโรคซึมผานยาก 4. ยอยสลายไดเอง ไมทําลายสิ่งแวดลอม (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะใบตองเปนวัสดุที่หาไดงายใน ทองถิ่น ราคาถูก ยอยสลายไดเอง ไมทําลายสิ่งแวดลอม ไมเปน อันตรายตอรางกาย สามารถนํามาใชหออาหาร เชน ทําเปนหอหมก ขาวตมมัด ขนมสอดไส) นักเรียนควรรู 1 แกว มีแบบชนิดปากกวาง เชน ขวดนํ้าสลัด ขวดแยม และแบบชนิด ปากแคบ เชน ขวดนํ้าอัดลม ขวดนํ้าผลไม สวนฝาขวดมีใหเลือกหลายแบบ เชน ฝาจีบ ฝาเกลียว ฝาสุญญากาศ 2 ไม บรรจุภัณฑประเภทไมมีหลายแบบ เชน กลองไมขนาดเล็กใชบรรจุสินคา หัตถกรรม ผักและผลไมสด เพื่อการขายปลีก กลองไมขนาดใหญใชในการ ขนสงสินคาอุตสาหกรรม ลังไม ใชบรรจุผักและผลไมสด และเครื่องจักรที่มี นํ้าหนักมาก ซึ่งอาจทํามาจากไมอัด หรือไมซุงผาเปนแผน ไมยางพารา หรือ ไมเนื้อออน เขง ทําจากไมไผสาน มีหลายแบบ หลายขนาด เชน เขงผัก เขงผลไม เขงปลาทู 3 สารกอมะเร็ง หรือ Carcinogen พบมากในอาหารประเภทปง ยาง และ รมควัน จากสถิติของสถาบันวิจัยมะเร็งแหงโลก พบวา มากกวารอยละ 50 ของผูปวยที่เปนมะเร็งเกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไมถูกตอง นํา สอน สรุป ประเมิน T91


Click to View FlipBook Version