The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เรื่องเล่าจากปลายด้ามขวาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

เรื่องเล่าจากปลายด้ามขวาน

เรื่องเล่าจากปลายด้ามขวาน

Keywords: ปลายด้ามขวาน,เรื่องเล่าจากปลายด้ามขวาน,ภาคใต้

Thai Tales from the Deep South 51

คือ ‘ไก่กอและ’ อันเล่ืองชื่อที่หากใครได้กล่ินและลิ้มรสอันเป็นเอกลักษณ์
แลว้ ยากทจ่ี ะหา้ มใจและลืมเลอื นได้
หลังเสร็จส้ินพิธีละหมาดมัฆริบ (ตะวันตกดิน) ประชาสัมพันธ์
ประจ�ำมัสยิดได้ประกาศให้ชาวบ้านที่มาร่วมละหมาดเดินออกมารวมตัวที่
ระเบียงมัสยิดเพ่ือร่วมละศีลอดหลังจากท่ีงดเว้นทั้งอาหารและเคร่ืองด่ืม
มาตง้ั แตร่ งุ่ อรณุ ทผ่ี า่ นมา - อาหารและเครอ่ื งดมื่ สสี นั สวยงามนา่ รบั ประทาน
ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบเพียบพร้อมโดย‘คณะคิดมัต’ (ผู้มีจิตอาสา)
-- อาเยาะของฉนั ในฐานะโตะ๊ อหิ มา่ มไดน้ ำ� อา่ นดอุ าอฺ(บทขอพร) แกช่ าวบา้ น
พรอ้ มท้ังประกาศว่า อีกประมาณ 1 ชั่วโมงขา้ งหน้าสญั ญาณโทรทัศน์ของ
รฐั บาลจะถา่ ยทอดสดการประกาศจากสำ� นกั จฬุ าราชมนตรเี รอื่ ง ‘ผลการดดู
วงจันทร์’เพ่ือทจ่ี ะกำ� หนด “วันอฎี ลิ้ ฟติ ริ” - การละศลี อด ในค�ำ่ คืนนนั้ เปน็
ความสขุ อยา่ งสงู สดุ สำ� หรบั ฉนั เพราะเปน็ หว้ งเวลาทฉี่ นั เหน็ อาเยาะยมิ้ กวา้ ง
อยา่ งทไี่ มเ่ คยเปน็ มากอ่ น และนนั่ คอื รอยยมิ้ ปรม่ิ สขุ ของทา่ นทยี่ งั ตรงึ ตราใน
สายตาของฉนั กระทั่งทุกวันนี้
ในทส่ี ดุ ชว่ งเวลาทท่ี กุ ๆ คนซง่ึ มารว่ มชมุ นมุ ทม่ี สั ยดิ รอคอยกม็ าถงึ
จอโทรศพั ทข์ นาดใหญข่ องมสั ยดิ ไดฉ้ ายภาพใบหนา้ ของทา่ นจฬุ าราชมนตรี
ซ่ึงท่านได้อ่านถ้อยค�ำประกาศโดยมีใจความส�ำคัญว่า “มีผู้พบเห็นฮีลาล
(จนั ทรเ์ สย้ี ว) จงึ ขอประกาศอยา่ งเปน็ ทางการใหช้ าวมสุ ลมิ ทว่ั ประเทศรบั ทราบ
วา่ วนั พร่งุ นคี้ อื วนั ตรุษ อฎี ้ลิ ฟิตร”ิ ส้นิ เสยี งประกาศดงั กลา่ ว ชาวบ้านตา่ ง
กม็ อี าการปลม้ื ปตี ิ บางคนถงึ กบั หลงั่ นำ้� ตาทว่ี นั สำ� คญั จะเกดิ ขนึ้ ในพรงุ่ นแ้ี ลว้
ฉันถึงกับกระโดดโลดเต้นไปกับเพื่อนๆ เม่ือได้รู้ข่าวส�ำคัญในรอบปี วันที่
มุสลมิ ทกุ ๆ คน ณ แผน่ ดินแหง่ น้ีเฝา้ รอคอย
อาเยาะไดเ้ รียกคณะกรรมการมสั ยดิ และผูห้ ลกั ผใู้ หญ่ในหมบู่ ้าน
เข้าประชุมเกี่ยวกับการสร้างบรรยากาศอันย่ิงใหญ่ จากน้ันฉันก็ได้เห็น
จิตอาสาทั้งหญิงชายหลายสิบคน (หนึ่งในบรรดาผู้มีจิตอาสาคือฉันด้วย)
ทเี่ สยี สละแรงกายแรงใจตระเตรยี มสถานที่ เครอ่ื งเสยี ง และอปุ กรณอ์ ำ� นวย
ความสะดวกต่างๆ (เคร่ืองมือเคร่ืองใช้หลายอย่างได้รับความอนุเคราะห์

ฮีดายะห์ เบญ็ โกบ

เรื่องเล่าจากปลายด้ามขวาน

มาจากพ่ีน้องต่างศาสนิกในท้องถ่ินด้วย) เพื่อให้กิจกรรมต่างๆ ด�ำเนินไป
ตามโปรแกรมทวี่ างไว้ หลายชวั่ โมงลว่ งเลย ทกุ ๆ อยา่ งกไ็ ดร้ บั การจดั ระบบ
จนเสรจ็ สนิ้ แมก้ ารรว่ มกจิ กรรมในครง้ั นนั้ จะเหนด็ เหนอื่ ยเมอ่ื ยลา้ สกั เพยี งไหน
แต่กลับท�ำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของฉันพองโต และย่ิงพองโตมากกว่าเดิม
เมื่อไดเ้ ห็นรอยย้มิ ของผเู้ ป็น บุพการีทงั้ สอง ตลอดจนผใู้ หญห่ ลายๆ คนท่ี
มอบถ้อยค�ำชื่นชมฉันก่อนกลับบ้านมันคือความรู้สึกดีๆ ของเด็กผู้หญิง
มุสลมิ ตวั น้อยๆ คนหน่งึ ท่ยี ากเกนิ กวา่ จะพรรณนาได้
เสียงอาซานละหมาดซุบฮิ (รุ่งอรุณ) ที่แว่วดังข้ึน ได้รังสรรค์
ท่วงท�ำนองแห่งวิถีชีวิตอันเรียบง่ายและงดงามของผู้คนในวันสุดส�ำคัญ
ดวงตะวนั ดเู หมอื นยงั หลบั ใหลตรงเวง้ิ จกั รราศี ทอ้ งฟา้ ยามนย้ี งั ดารดาษดว้ ย
แสงดาวระยิบระยับ สายลมหนาวได้พัดพากลิ่นหอมของขนมและอาหาร
พื้นเมืองลอยล่องไปท่ัวอาณาบริเวณ อีกไม่ก่ีช่ัวโมงนับจากน้ีสีสันแห่งวัน
อนั เปน็ ทร่ี อคอยกำ� ลงั แตง่ แตม้ ทกุ สรรพสง่ิ บนแผน่ ดนิ นใี้ หม้ แี ตค่ วามอภริ มย์
และสันตสิ ขุ
ชาวบ้านทุกช่วงวัยหล่ังไหลกันมาละหมาดที่มัสยิดตามนัยยะ
แหง่ เสยี งอาซาน อาเยาะทำ� หนา้ ทอี่ หิ มา่ มนำ� ละหมาดใหแ้ กช่ าวบา้ น นำ้� เสยี ง
อา่ นพระมหาคมั ภรี อ์ ลั -กรุ อานของอาเยาะทเ่ี ปลง่ มาจากรมิ ฝปี ากทง้ั สองของ
ทา่ นในครง้ั นนั้ เปย่ี มดว้ ยความเพราะพรง้ิ ทรงพลงั กระทงั่ นำ้� ตาของฉนั คอ่ ยๆ
ร่วงรินเม่ืออาเยาะอ่านโองการหน่ึง จากพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอาน (เป็น
ภาษาอาหรับ) ซึ่งท่านได้สอนให้ฉันอ่านทุกค่�ำคืนโดยมีใจความส�ำคัญว่า
“โอม้ นษุ ยชาตทิ ง้ั หลาย แทจ้ รงิ เราไดส้ รา้ งพวกเจา้ จากเพศชายและเพศหญงิ
และเราไดใ้ หพ้ วกเจา้ แยกออกเปน็ เผา่ พนั ธ์ุ (เชอื้ ชาต)ิ และตระกลู เพอื่ ทส่ี เู จา้
จะได้ท�ำความรู้จักกัน...” จากสารัตถะที่ปรากฏดังกล่าว ท�ำให้ฉันเรียนรู้
ทจี่ ะใชช้ ีวติ ท่ามกลางความแตกตา่ งหลากหลายอยา่ งเขา้ ใจและใชค้ วามรกั
อนั แทจ้ รงิ เชอื่ มชดิ มติ รภาพระหวา่ งกนั และกนั ผลจากการละหมาดในครานนั้
ทำ� ใหส้ องแกม้ นอ้ ยๆ ของฉนั เปยี กปอนไปดว้ ยหยาดนำ้� ตาแหง่ ความซาบซงึ้
ตรงึ ใจ

52 อฎี ้ิลฟิตริ : วันท่ีความรักผลิบาน ณ บ้านแหง่ เรา

Thai Tales from the Deep South

กระท่ังดวงตะวันได้เปล่งรัศมีสีทองเจิดจ้า
ทาบทวั่ แผน่ ฟา้ ตะวนั ออก หลงั เสรจ็ สน้ิ พธิ กี รรมละหมาด
ทุกคนต่างก็แยกย้ายกลับไปยังครอบครัวของตนเพ่ือ
ตระเตรียมความพร้อมท้ังเรื่องการแต่งกาย อาหารและ
เครอ่ื งดม่ื สำ� หรบั ตอ้ นรบั ญาตๆิ และแขกผมู้ าเยอื น รวมทงั้
ความสะอาดเรียบร้อยของอาคารบ้านเรือน - การงาน
ที่ดูเหมือนมากมายแต่กลับคลี่คลายและลงตัวอย่างน่า
อัศจรรย์ด้วยความร่วมมือร่วมใจของบรรดาชาวบ้าน
ผูเ้ สียสละเพอ่ื ส่วนรวม
ส�ำเนียงอันพร่ังพร้อมกึกก้องของผู้คนท่ีกล่าว
ตักบรี (ถ้อยคำ� สรรเสริญพระผเู้ ป็นเจา้ ) วันอีดหรอื ทที่ ุก
คนในสังคมไทยรู้จักกันในช่ือ “วันรายอ” ได้สร้าง
บรรยากาศทอ่ี บอวลไปดว้ ยความเปน็ หนง่ึ เดยี วในหมบู่ า้ น
ทกุ คนพรอ้ มใจแตง่ กายดว้ ยชดุ มสุ ลมิ พนื้ เมอื งหลากสสี นั
เดนิ ทางมามัสยิดตัง้ แต่เน่ินๆ เพ่อื จะไดพ้ บหนา้ ค่าตากนั
มอบรอยยม้ิ ละมนุ ละไมใหแ้ กก่ นั และกนั บอกเลา่ เรอื่ งราว
ดีๆ ซึง่ กันและกนั ขออภัยตอ่ กันในทกุ ความพลาดพลั้งที่
พน้ ผา่ นและรบั ฟงั คตุ บะฮ์(ธรรมกถา) จากอาเยาะของฉนั
ซ่ึงวันรายอในปีน้ันท่านได้อรรถาธิบายเกี่ยวกับหัวข้อ
“การสรา้ งความรกั ทา่ มกลางสงั คมพหวุ ฒั นธรรม” โดยมี
การกระจายเสยี งผา่ นระบบเสยี งตามสายในชมุ ชนดว้ ย--
จงึ มอิ าจปฏเิ สธไดว้ า่ คตุ บะฮข์ องอาเยาะคอื สว่ นหนงึ่ ของ
พลงั ทมี่ ผี ลตอ่ การรงั สรรคส์ งั คมพหวุ ฒั นธรรมในหมบู่ า้ น
ของฉนั ใหม้ คี วามเปน็ นำ�้ หนงึ่ ใจเดยี วกนั และยงั กอ่ ใหเ้ กดิ
การเรียนรู้และเคารพในอัตลักษณ์ของกันและกัน ส่ิงท่ี
ส�ำคัญอย่างย่ิงคือทุกๆ ความเคลื่อนไหวอันสร้างสรรค์

ฮีดายะห์ เบญ็ โกบ 53

เร่ืองเล่าจากปลายด้ามขวาน

ในหมู่บ้าน ล้วนเกิดจากพลังท่ีมาจากแรงกระเพ่ือมในหัวใจ
ของพวกเราทกุ ๆ คนทเ่ี ตน้ เปน็ จงั หวะเดยี วกนั มานานหลายป ี

และแลว้ ภาพความทรงจำ� อนั แสนประทบั ใจไดส้ นิ้ สดุ
ลงแตเ่ พียงนีเ้ ม่อื น้ำ� อุน่ ๆ จากดวงตาท้ังสองของฉันได้ไหลริน
ลงเปื้อนภาพถ่ายเก่าๆ ใบนั้นจนเปียกชุ่ม อันเป็นน�้ำตาท ี่
มาจากความคดิ ถงึ อาเยาะผใู้ หก้ ำ� เนดิ อยา่ งสดุ ขวั้ หวั ใจอาเยาะ
ได้พรากจากพวกเราไปตลอดกาลอย่างกะทันหันหลังจาก
วนั รายอในคราน้นั เพยี งไมก่ ีว่ ัน ณ เวลานี.้ ..ฉนั ทำ� ไดแ้ ตเ่ พียง
กอดภาพถ่ายใบนั้นไว้แนบอกด้วยสภาพร้องไห้สะอึกสะอื้น
ในห้องท�ำงานของทา่ นทย่ี ังทำ� ความสะอาดไม่เสรจ็ เรยี บร้อย

‘โอ้อาเยาะของหนู...ถึงแม้ภายในใจของหนูจะ
อ้างว้างและเจ็บปวดรวดร้าวเพียงใด แต่อยากให้อาเยาะ
ไดร้ บั รวู้ า่ หนรู สู้ กึ ภาคภมู ใิ จทส่ี ดุ ทไ่ี ดเ้ กดิ มาเปน็ ลกู สาวคนเลก็
ของอาเยาะทุกๆ ความเพียรพยายามท่ีอาเยาะท่มุ เท ทง้ั ชวี ิต
จติ ใจตราบจนวาระสดุ ทา้ ย เพอ่ื คอ่ ยๆ สรรคส์ รา้ งสงั คมแหง่
ความหลากหลายใหม้ คี วามอบอนุ่ และนา่ อยยู่ งั ไดร้ บั การสานตอ่
จากมะ พ่ีๆ ทั้ง 10 ชีวิต และตัวของลูกคนน้ี ตลอดจน
ชาวบา้ นทกุ ๆ คนทจี่ ะจดจารกึ ภาพความทรงจำ� ดๆี ไวเ้ คยี งคู่
หมบู่ ้านอนั ห่างไกลแหง่ นต้ี ราบนานเท่านาน...

54 อฎี ล้ิ ฟิตริ : วนั ทคี่ วามรักผลิบาน ณ บา้ นแห่งเรา

Thai Tales from the Deep South

โอ้มาตภุ ูมิอนั เป็นรักย่ิง...วันอฎี ้ลิ ฟิตริปีน.้ี .หนยู ังมีความหวังว่า...
มวลบุปผชาติแห่งความรักอันบริสุทธ์ิจะยังงอกงามและบานสะพรั่ง
ณ บ้านแหง่ เราไปชัว่ นิรนั ดร’์
.

ฮีดายะห์ เบ็ญโกบ 55



ครพู ลัดถิน่

พำซยี ะ อำแซ



Thai Tales from the Deep South

ครูพลดั ถนิ่

พาซียะ อาแซ

ฉนั เปน็ ครบู รรจใุ หมใ่ นตา่ งถนิ่
ครใู หญใ่ หป้ ระจำ� ชนั้ ปอหนง่ึ และเปน็ ครบู รรณารกั ษด์ แู ลหอ้ งสมดุ
กอ่ นเรยี นตอนบา่ ย
ครใู หญเ่ พม่ิ กจิ กรรมสวดมนตไ์ หวพ้ ระและละหมาด
นกั เรยี นคนหนงึ่ เปลง่ บอกฉนั วา่
ครขู า…หนไู หวพ้ ระไมไ่ ดห้ นเู ปน็ ครสิ ต์
ฉนั บอกนกั เรยี นใหไ้ ปหอ้ งสมดุ เพอื่ นงั่ สงบนงิ่ ดพู ๆ่ี ละหมาด
ไมว่ า่ จะเปน็ พทุ ธครสิ ตห์ รอื อสิ ลามเราตา่ งเปน็ พนี่ อ้ งกนั
ฉนั หวงั วา่ เมอ่ื โตขน้ึ นกั เรยี นจะเขา้ ใจสง่ิ ทฉี่ นั มงุ่ หมายมากขน้ึ
ทกุ วนั ศกุ รก์ อ่ นโรงเรยี นเลกิ
ฉนั มอบการบา้ นใหน้ กั เรยี นเสมอ
เดก็ หญงิ คนหนง่ึ เปลง่ บอกฉนั วา่
วนั อาทติ ยแ์ มจ่ ะพาไปทโ่ี บสถห์ นจู ะไปทำ� การบา้ นทโ่ี บสถ์
ทกุ เชา้ ของวนั จนั ทร์
เดก็ นอ้ ยสง่ การบา้ นพรอ้ มเลา่ สงิ่ ทร่ี ตู้ อนไปโบสถใ์ หฉ้ นั ฟงั
พระเยซคู รสิ ตจ์ ะมาไถบ่ าปใหพ้ วกเรา
แมบ่ อกวา่ พระเยซสู อนใหเ้ รารกั ทกุ คน

พาซียะ อาแซ 59

เร่ืองเลา่ จากปลายด้ามขวาน

ตอนบา่ ยวนั หนง่ึ
หลงั จากสวดมนตไ์ หวพ้ ระ
เดก็ หญงิ ปอหนงึ่ เดนิ มาหาฉนั พรอ้ มกบั เพอื่ นๆของเขา
มอื สองขา้ งถอื กระเปา๋ ผา้ ละหมาดของฉนั
ขณะฉนั สอนนกั เรยี นมสุ ลมิ ละหมาดในหอ้ งสมดุ
เดก็ หญงิ ยน่ื มาใหฉ้ นั พรอ้ มเปลง่ บอกฉนั วา่
“ครขู า หนเู อาผา้ ละหมาดมาใหค้ รคู ะ่ ”
ฉนั ยม้ิ รบั พรอ้ มถามวา่
“ใครใหล้ กู เอาผา้ ละหมาดมาใหค้ รคู ะ”
เดก็ หญงิ ตอบวา่
“ไมค่ ะ่ หนเู อามาเอง”
กอ่ นหนา้ นี้
ตอนพกั เทยี่ งขณะทฉี่ นั ละหมาดในหอ้ งปอหนงึ่
เดก็ ๆจะลอ้ มวงเรยี งตามผา้ ปลู ะหมาดของฉนั
คนหนงึ่ พดู เสยี งดงั อกี คนกท็ กั ใหเ้ งยี บ
“เงยี บๆพดู เบาๆ ครลู ะหมาดอย”ู่
พวกเขาสงั เกตดว้ ยสายตาทบ่ี รสิ ทุ ธิ์
แมฉ้ นั จะไมไ่ ดส้ บตาพวกเขา
ฉนั กส็ มั ผสั ถงึ ความบรสิ ทุ ธส์ิ ดใส
ดง่ั คำ� เปรยี บเปรยทว่ี า่ เดก็ เสมอื นผา้ ขาว

60 ครพู ลัดถนิ่

Thai Tales from the Deep South

เมอื่ ฉนั ละหมาดเสรจ็
เดก็ หญงิ คนหนงึ่ เปลง่ ถามดว้ ยความสงสยั วา่
“ทำ� ไมคณุ ครตู อ้ งละหมาดดว้ ยคะ”
ฉนั ตอบวา่ “ครลู ะหมาดเพอื่ เขา้ เฝา้ พระเจา้ จะ้ ”
เดก็ หญงิ ถามตอ่ อกี “ทำ� ไมคณุ ครตู อ้ งเขา้ เฝา้ พระเจา้ ดว้ ยคะ”
ฉนั ยม้ิ แลว้ ตอบวา่ “ครเู ขา้ เฝา้ พระเจา้ เพอ่ื ขอพรใหพ้ วกเราเรยี นเกง่
เขา้ ใจงา่ ย และเปน็ เดก็ ดี ไงคะ่ ”
เชา้ วนั หนง่ึ
ขนมซาลาเปาลกู กลมโตถกู วางบนโตะ๊ ทำ� งานของฉนั
ฉนั เปลง่ ถามนกั เรยี นวา่ เปน็ ขนมของใคร
เดก็ ชาย ยมิ้ สบตาฉนั แลว้ บอกวา่ เปน็ ของผมครบั ผมใหค้ รคู รบั
ฉนั ยม้ิ แลว้ แกลง้ ถามวา่ ขา้ งในใสไ่ สอ้ ะไรจะ้ ลกู ใหญจ่ งั
เดก็ ชายตอบทนั ควนั ไสไ้ กค่ รบั ผมรวู้ า่ อสิ ลามกนิ หมไู มไ่ ด้
ฉนั ยม้ิ กลา่ วขอบใจเดก็ ชายนอ้ ยความสขุ อม่ิ เอมประจกั ษข์ น้ึ ในใจฉนั
แทจ้ รงิ แลว้ สายธารแหง่ กำ� ลงั ใจนนั้ ไหลผา่ นอยา่ งไมม่ วี นั ขาดสาย
มนั ไหลมาพรอ้ มกบั การใหเ้ กยี รติ

พาซียะ อาแซ 61

เร่ืองเล่าจากปลายด้ามขวาน

แมค้ นสว่ นใหญจ่ ะนบั ถอื ศาสนาพทุ ธ
เดก็ หญงิ อกี คนนบั ถอื ศาสนาครสิ ต์
สว่ นฉนั เปน็ ครมู สุ ลมิ คนเดยี ว
เรากต็ า่ งเรยี นรแู้ ละใหเ้ กยี รตกิ นั
ขณะทฉ่ี นั สอนเขา เขากส็ อนฉนั

62 ครูพลดั ถิ่น

เร่ืองเล่ำจำกพ้นื ที่สีแดง

ศริ ิประภำ ช�ำนำญธรุ ะกจิ



Thai Tales from the Deep South

เร่ืองเลา่ จากพ้ืนทสี่ ีแดง

ศริ ปิ ระภา ช�ำนาญธุระกจิ

หากพูดถึงพ้ืนที่สีแดงในประเทศไทย...ใช่แล้ว
คุณรู้น่ันกค็ ือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และจะนะ เทพา
สะบ้าย้อย นาทวี สี่อ�ำเภอของจังหวัดสงขลาแน่นอน!
ภาพในหวั ของใครหลายคนคงไมต่ า่ งจาก...ระเบดิ ! โจรใต!้
ซง่ึ ภาพทห่ี ลายคนนกึ ถงึ อาจเปน็ แคส่ ว่ นหนง่ึ ทก่ี ำ� ลงั บดบงั
ภาพอนั สวยงามซอ่ นอยดู่ า้ นหลงั มโนภาพความนา่ กลวั นนั้
และฉนั เองกเ็ ปน็ คนหนง่ึ ทเ่ี คยนกึ ถงึ ภาพหนา้ กลวั เหลา่ นน้ั
จนฉันได้ย้ายกลับมาเรียนท่ีโรงเรียนแห่งหน่ึงในปัตตานี
การยา้ ยมาเรยี นในทใี่ หมค่ รงั้ น้ี ทำ� ใหฉ้ นั ไดร้ ซู้ ง้ึ ถงึ สภุ าษติ
โบราณเลยวา่ “สบิ ปากว่าไม่เทา่ ตาเหน็ สิบตาเห็นไมเ่ ทา่
มอื คลำ� ” ฉนั หลงใหลในวถิ ชี วี ติ ของการอยรู่ ว่ มกนั ภายใต้
พหุวัฒนธรรมอันงดงาม วิจิตรไปด้วยศิลปวัฒนธรรมที่
แสดงอัตลักษณ์ท้องถ่ินของผู้คนในพื้นที่ดังกล่าว….และ
คณุ เองกอ็ าจเปน็ เชน่ นนั้ หากคณุ ไดส้ มั ผสั บรรยากาศของ
“พ้ืนท่สี ีแดง พนื้ ทภี่ าพอนั น่ากลัวของใครหลายคน”
วนั น้เี ปน็ วันแรกทฉ่ี นั ไดเ้ รยี นโรงเรียนแหง่ ใหม่
ในจงั หวดั ปตั ตานี กอ่ นออกจากบา้ นฉนั รสู้ กึ กงั วลและรสู้ กึ
กลัวเปน็ อยา่ งมาก แต่แมก่ ็ปลอบใจฉนั แล้วบอกวา่ ฉันไม่
ตอ้ งคดิ มาก บางทที กุ สง่ิ อาจไมเ่ ปน็ อยา่ งทเ่ี ราคดิ เสมอไป
หรอื บางทีส่งิ ตา่ งๆอาจดกี วา่ ทีฉ่ นั คิดเสยี ดว้ ยซ้ำ� ฉนั รสู้ ึก
หายกลัวข้ึนมาบ้าง แล้วเดินทางมาโรงเรียนอย่างมีสติ
ระหวา่ งทางทฉี่ นั ขบั รถจกั รยานยนต์ มดี า่ นตง้ั หลายแหง่ มาก

ศิริประภา ช�ำนาญธรุ ะกิจ 65

เร่ืองเลา่ จากปลายด้ามขวาน

ฉนั รสู้ กึ ปลอดภยั ขน้ึ มาอกี ที เพราะอยา่ งนอ้ ยกม็ ที หาร ตำ� รวจ
ผเู้ สยี สละคอยตรวจสอบความปลอดภยั ในการเดนิ ทางใหแ้ ก่
ประชาชนอย่างไมข่ าดสาย
เมอ่ื ถงึ โรงเรียนส่ิงทฉ่ี ันเหน็ ถงึ ความแตกตา่ งเปน็
ลำ� ดบั แรกคือ การแต่งกายของที่น่ี ชัดเจนท่สี ดุ คือ นักเรยี น
ผหู้ ญิงเพราะพวกเขาใสผ่ า้ คลุมศรี ษะแตง่ กายมิดชดิ ใส่เสื้อ
แขนยาว กระโปรงยาว ส่วนนักเรียนผู้ชายใส่หมวกและ
กางเกงขายาว ฉนั เหน็ แลว้ ร้ไู ด้ทันทวี า่ พวกเขาคอื ผู้นับถอื
ศาสนาอิสลามและการแต่งตัวแบบน้ีคงเป็นเอกลักษณ์ของ
คนท่ีนี่ ซึ่งมองดูแล้วต่างจากนักเรียนท่ีนับถือศาสนาพุทธ
อย่างสิ้นเชิง
ฉันจอดจักรยานยนต์แล้วเดินเขา้ ไปท�ำความเคารพ
คุณครูที่หน้าประตูโรงเรียน โดยหากเป็นนักเรียนไทยพุทธ
ก็ยกมือไหว้คุณครูตามปกติ แต่ถ้าหากเป็นนักเรียน
นับถือศาสนาอิสลามท�ำความเคารพคุณครูจะกล่าวว่า
อัสสลามุอะลัยกุม พร้อมกับจับมือขวาและคุณครูจะตอบ
กลบั มาว่า วะอะลัยกุมุสสลาม แตม่ ีขอ้ แม้ในการจับมือคือ
ต้องเป็นเพศเดยี วกนั เทา่ นั้น
เขา้ สกู่ ารเรยี นในคาบเรยี นแรก หอ้ งของฉนั มนี กั เรยี น
ท้ังหมด 36 คน มีนักเรียนที่นับถือศาสนาพุทธเหมือนฉัน
12 คน และนบั ถอื ศาสนาอิสลาม 24 คน ฉนั นับโดยสงั เกต
จากการแต่งตัวของพวกเขา เพื่อนในห้องของฉันยิ้มแย้ม
แจม่ ใส และดเู ปน็ มติ รมากทง้ั ไทยพทุ ธและมสุ ลมิ (เพอ่ื นคนหนงึ่
บอกว่าถ้าเป็นผู้ท่ีนับถือศาสนาอิสลามเราต้องเรียกพวกเขา
วา่ มสุ ลมิ ) ทกุ คนตา่ งยมิ้ ใหฉ้ นั อยา่ งเปน็ มติ รพรอ้ มแนะนำ� ชอ่ื
ของพวกเขาใหฉ้ ันร้จู ัก เมื่อฟังชอ่ื พวกเขาแล้ว ฉันร้สู กึ วา่ ชื่อ
ของเพื่อนมุสลิมเรียกยากมาก เพราะชื่อของเพื่อนมุสลิม

66 เร่ืองเล่าจากพ้นื ท่ีสแี ดง

Thai Tales from the Deep South 67

ดูเหมือนไม่ใช่ชื่อท่ีมาจากภาษาไทย เพ่ือนของฉันบอกว่า
เปน็ ชอื่ ทไี่ ดม้ าจากภาษาอาหรบั บา้ ง ภาษามลายบู า้ ง เพราะ
ไดร้ บั อทิ ธพิ ลมาจากการนบั ถอื ศาสนาอสิ ลาม เชน่ อามเี นา๊ ะ
ยามลี ะ๊ เปน็ ชือ่ ผู้หญิง ส่วนชอ่ื ผชู้ าย เช่น อริ ฟาน ฮัมดาน
เป็นต้น ในห้องของเราไม่แบ่งแยกกันเลยว่าไทยพุทธต้อง
อยรู่ ว่ มกบั ไทยพทุ ธ มสุ ลมิ ตอ้ งอยรู่ ว่ มกบั มสุ ลมิ แตพ่ วกเรา
อยรู่ ว่ มกนั ทง้ั ไทยพทุ ธและมสุ ลมิ อยา่ งมคี วามสขุ ตา่ งหยอกลอ้
เล่นกนั บา้ ง ช่วยกนั ท�ำการบา้ นบา้ ง ทง้ั ๆฉันเพิ่งเข้ามาอยู่
เปน็ วนั แรก แตพ่ วกเขาทำ� ใหฉ้ นั รสู้ กึ วา่ ฉนั อยทู่ น่ี มี่ านานแลว้
ตอนพักรับประทานอาหารกลางวัน ฉันเดินไป
โรงอาหารพร้อมกับเพอื่ นอกี สองคน เพ่อื นของฉนั แนะนำ�
ว่าอาหารที่เป็นเอกลักษณ์หรือเป็นท่ีนิยมของคนที่นี่คือ
ไกก่ อและ แกงมสั ม่นั และโรตมี ะตะบะ ฉนั จงึ ซือ้ อาหาร
ตามทเ่ี พอื่ นแนะนำ� เพราะฉนั ไมเ่ คยรบั ประทานเลยสกั ครงั้
และอยากลองรับประทานดูบ้าง อย่างแรกคือไก่กอและ
ไก่กอและมีสีส้มแดงอีกทั้งมีความหอม รสชาติเข้มข้น
มีความเผ็ดนดิ ๆแตก่ ห็ วานดว้ ย อย่างทสี่ องคือ แกงมัสมัน่
แกงมสั มน่ั มรี สชาตไิ มเ่ ผด็ มาก กลมกลอ่ มอรอ่ ย ผสมผสาน
กับเคร่ืองเทศท่ีหอมจนลงตัวได้รสหวานมัน อย่างสุดท้าย
คอื โรตมี ะตะบะ โรตมี ะตะบะเปน็ แผน่ แปง้ ทใ่ี สไ่ สเ้ นอ้ื สตั ว์
ปรุงสกุ มรี สชาติเคม็ และหอมเครือ่ งเทศ
เม่ือฉันรับประทานอาหารเสร็จแล้วก็มาเข้าเรียน
จนกระทั่งถึงเวลากลับบ้าน จากหนึ่งวันที่ฉันได้สัมผัส
บรรยากาศหรือได้อยู่ร่วมกันกับคนท่ีน่ีด้วยตัวของฉันเอง
ฉันรู้ซึ้งถึงความมีน�้ำใจและความเป็นมิตรของเพ่ือนๆ ทั้ง
ไทยพุทธและมุสลมิ ทัง้ ๆ ที่พวกเรามอี ะไรหลายๆ อย่างที่
แตกตา่ งกันอยา่ งเชน่ วถิ ชี วี ติ ความเปน็ อยู่ ประเพณี และ

ศิริประภา ชำ� นาญธุระกิจ

เร่ืองเลา่ จากปลายดา้ มขวาน

วฒั นธรรม แตพ่ วกเขากพ็ ยายามบอกหรอื อธบิ ายถงึ สง่ิ ทฉี่ นั ไมร่ เู้ กยี่ วกบั พนื้ ท่ี
แห่งน้ี และวันเสารน์ ี้ เพ่ือนๆ ชวนฉนั ไปเท่ยี วในแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วที่นยิ มใน
สามจงั หวดั ชายแดนใต้ แตท่ ำ� ไมครง้ั น้ี ฉนั ไมร่ สู้ กึ กลวั เหมอื นกอ่ นแตค่ วามรสู้ กึ
กลับกลายเป็นอยากเหน็ สถานทด่ี ังกล่าวด้วยซำ้� ไป
ถงึ วนั เสารเ์ พอ่ื นของฉนั สองคนมารบั ฉนั ทบ่ี า้ นตงั้ แตเ่ ชา้ เนอื่ งจาก
ตอ้ งไปสถานทแี่ หง่ แรกคือ วัดช้างให้ เพื่อกราบสักการะหลวงปู่ทวด เพราะ
ฉนั และเพอ่ื นเชอื่ วา่ จะนำ� พาความเปน็ สริ มิ งคลมาใหแ้ กช่ วี ติ สว่ นเพอ่ื นอกี คน
ทเี่ ปน็ มสุ ลมิ ไดน้ งั่ รอทลี่ านหนา้ วดั ถงึ เวลาประมาณเทย่ี งกวา่ ๆ เพอ่ื นมสุ ลมิ
ของฉันเสนอว่าให้ไปเท่ียวต่อที่มัสยิดกลางปัตตานีเพราะเป็นมัสยิดที่สวย
ท่ีสุดในจังหวัดปัตตานีและเขาเองก็ต้องการละหมาดที่น่ันด้วยเช่นกัน
เมอ่ื มาถงึ มัสยิดกลางปตั ตานีแลว้ ฉนั ท่ึงกบั ภาพที่เหน็ เปน็ อย่างมาก เพราะ
มสั ยิดแห่งนี้เปน็ ตกึ คอนกรีตสองช้ัน ตรงกลางอาคารมียอดโดมขนาดใหญ่
และมโี ดมบรวิ ารสท่ี ศิ มีหอคอยสองขา้ งสงู เดน่ เป็นสงา่ ฉันไม่รอชา้ รีบหยบิ
โทรศัพท์ข้ึนมาถ่ายรูปทันที แล้วน่ังรอจนเพื่อนของฉันละหมาดเสร็จ และ
เวลากล็ ่วงมาจนถงึ บ่ายสองโมง พอ่ ของเพ่อื นฉันก�ำลงั จะมารับเพอ่ื นอกี คน
ไปท�ำธุระส่วนตัวท่ีนราธิวาส เขาถามฉันและเพื่อนอีกคนว่าต้องการไปน่ัง
เลน่ ตอนเย็นที่หาดนราทัศน์ไหม ฉันและเพ่อื นตอบตกลงทนั ที และพวกเรา

68 เรือ่ งเล่าจากพ้ืนที่สแี ดง

Thai Tales from the Deep South

กร็ อจนพอ่ ของเพอื่ นทำ� ธรุ ะสว่ นตวั ของเขาเสรจ็ จากนน้ั พวกเรากม็ าถงึ หาด
นราทัศน์ หาดนราทัศน์เป็นชายหาดที่มีความสวยงามไม่แพ้ชายหาดอื่นๆ
ในประเทศไทยเลย โค้งหาดยาวต่อเน่ืองประมาณ 5 กิโลเมตร นอกจาก
หาดทรายขาวสะอาด น้�ำทะเลใสแล้ว ริมหาดนี้ยังมีหมู่บ้านชาวประมง
ตั้งกระจายเป็นระยะๆ หนา้ หมบู่ า้ นมีเรอื ท่ีมกี ารวาดลวดลายสีสันสวยงาม
อยา่ งวจิ ติ ร เพอ่ื นของฉนั บอกวา่ นค่ี อื เรอื กอและ ซง่ึ เปน็ วฒั นธรรมของชาวใต้
ในการคิดสร้างสีสันลวดลายบนเรือ และริมหาดน้ียังมีร้านอาหารเรียงราย
อยหู่ ลายรา้ น ฉนั และเพอ่ื นไดร้ บั ประทานอาหารทน่ี นั่ จากนน้ั พวกเรากแ็ ยกยา้ ย
กนั กลบั บา้ น โดยพอ่ ของเพื่อนอีกคนอาสามาสง่ ทกี่ ลางเมืองปตั ตานี
หลงั จากทฉ่ี นั อยทู่ น่ี ไ่ี ดส้ องเดอื น ฉนั ไดเ้ รยี นรถู้ งึ การอยรู่ ว่ มกนั แบบ
พหุวัฒนธรรม เช่น ประเพณีกินข้าวเหนียวหรือคนที่นี่เรียกว่า ประเพณี
มาแกปโู ละ เปน็ ภาษามลายู ซง่ึ หมายถงึ การกนิ เลย้ี งในวนั แตง่ งาน งานเลย้ี ง
ฉลองความส�ำเรจ็ เปน็ ตน้ โดยมสี ถานที่จดั เล้ียงและเลี้ยงอาหารตา่ งๆ เช่น
มัสม่นั เนื้อ ซุปเนื้อ ผัดวุ้นเสน้ นอกจากนี้ ฉนั ยังไดบ้ ัตรเชิญไปงานการกุศล
หรอื งานกนิ นำ�้ ชา หรอื เรยี กวา่ ประเพณมี าแกแต ซง่ึ เปน็ งานเกย่ี วกบั การหาเงนิ
เพื่อขอความช่วยเหลือท่ีต้องใช้เงินเป็นจ�ำนวนมากแล้วไม่มีจ่าย อาหารที่
เลย้ี งไดแ้ ก่ ขา้ วยำ� นำ�้ ชาหรอื ขา้ วเหนยี วหนา้ กงุ้ และงานอน่ื ๆ อกี หลายงาน

ศริ ิประภา ชำ� นาญธุระกจิ 69

เร่ืองเล่าจากปลายดา้ มขวาน

จากท่ีกล่าวมาข้างต้นท�ำให้ฉันได้รู้ว่าในชีวิตของคนเรา
อย่ายึดติดอยู่กับส่ิงใดสิ่งหนึ่งโดยไม่ยอมรับสิ่งต่างๆ ที่ดีกว่าน้ัน
เข้ามาในชีวิต และไม่ควรรับฟังแต่ข้อเสียของสิ่งน้ันๆ โดยไม่ได้
ตรติ รองหรอื สมั ผสั ดว้ ยตวั ของเราเอง เชน่ เดยี วกบั ฉนั ทเ่ี คยรสู้ กึ กลวั
ต่อพ้ืนที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก แต่เมื่อได้เข้ามาอาศัยในพ้ืนที่แห่งนี้
แล้ว ฉันมีความสุขและความทรงจ�ำท่ีดีท่ีเกิดข้ึนจากการเปิดใจใน
การเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบพหุวัฒนธรรมท่ีแตกต่างท่ามกลาง
มิตรภาพของผู้คนท่ีนี่ จนกระท่ังถึงตอนนี้ฉันกลับหลงรักผู้คนใน
พื้นท่ีแห่งนี้ หลงใหลสถานที่ต่างๆในพ้ืนที่นี้ และต่อไปนี้ฉันเองก็
เปน็ คนในพื้นท่ีแหง่ นี้...พื้นท่ีสแี ดง

70 เรอื่ งเลา่ จากพ้ืนทสี่ ีแดง

หนรู กั ตำดกี ำ

นูรอลิ ฮัม ดำมหู ิ



Thai Tales from the Deep South

หนรู ัก “ตาดกี า”

นรู อิลฮมั ดามหู ิ

อลั ลอฮ์ ฮอู คั บรั อลั ลอฮ์ ฮอู คั บรั อซั ฮาดอู ลั ลา อลี า
ฮาอลิ ลลั ลอฮ์ เสยี งอาซานปลกุ ทกุ คนทกี่ ำ� ลงั นอนหลบั ใหล
ให้ตื่นมาละหมาดยามเช้าตรู่ สักพักมีเสียงแทรกมาว่า
“นูนุ ก๊ะมี ตืน่ ละหมาดไดแ้ ล้ว” เสียงคุณแมป่ ลุกประจ�ำ
แบบนี้ทุกเช้า ด่ังนาฬิกาปลุกประจ�ำบ้าน หนูและพี่สาว
ตา่ งรบี ลกุ จากทน่ี อน เพราะกลวั คณุ แมจ่ ะเทศนาบรรยาย
ธรรมใหฟ้ งั จนหูชา พวกเราต่างกร็ บี เขา้ หอ้ งน้ำ� ไปเอาน้�ำ
ละหมาด หลังจากละหมาดซุบฮีเสรจ็ ก๊ะมเี ขา้ หอ้ งนอน
ไปนอนตอ่ เพราะวนั นเี้ ปน็ วนั เสาร์ เพราะวนั เสาร-์ อาทติ ย์
เป็นวันหยุดสดุ สัปดาหท์ ีแ่ สนสบายที่สดุ แต่สำ� หรบั ฉันวนั
เสาร์-อาทิตย์เป็นวันเรียนศาสนา ท่ีโรงเรียน “ตาดีกา”
ตาดกี ากค็ อื ศนู ยก์ ารศกึ ษาอสิ ลามตามหลกั ฟรั ฎอู นี ประจำ�
มสั ยิด ที่สอนเด็กๆอายุ 4-12 ปี
วนั นหี้ นเู หน็ คณุ แมร่ ดี เสอื้ นกั เรยี นประจำ� ตาดกี า
ของหนู และรีบอาบน�้ำแต่งตัวเพื่อจะไปสอนตาดีกา
เพราะวันน้ีเป็นเวรเปิดประตูของคุณแม่ คุณแม่จึงเร่งรีบ
เป็นพิเศษ คุณแม่หนูเป็นหนึ่งในครูผู้สอนตาดีกาประจ�ำ
โรงเรียนตาดกี าของเรา ตอนนี้เวลา 07.00 น. คุณแมก่ ็ได้
ไปทโ่ี รงเรยี นเพ่อื เปดิ ประตูรอนักเรยี นแลว้ สว่ นฉันยังอยู่
ในหอ้ งนำ�้ กำ� ลงั อาบนำ�้ ไปรอ้ งเพลงไป หนไู มต่ อ้ งรบี เพราะ
โรงเรียนตาดีกาอยู่ใกลบ้ ้านของหนมู าก แตย่ ังไงนกั เรียน
กต็ อ้ งไปถงึ โรงเรยี นกอ่ น 08.00 น. เพราะนักเรียนทกุ คน

นูรอิลฮัม ดามูหิ 73

เร่ืองเลา่ จากปลายดา้ มขวาน

ต้องท�ำความสะอาดในห้องเรียนของแต่ละคน และรอบๆ ของบริเวณ
โรงเรียนด้วย ทุกคนอาจสงสัยว่าท�ำไมผู้สอนต้องไปเปิดประตูเอง เด็กๆ
นกั เรียนต้องท�ำความสะอาดเอง เพราะโรงเรียนตาดกี าของเราไม่มภี ารโรง
ผู้สอนตาดีกาด�ำรงต�ำแหน่งได้หลายต�ำแหน่งเช่น นักการบัญชี นักธุรการ
นักการภารโรง เป็นจนถงึ แม่คา้ ผ้สู อนตาดีกาท�ำได้หมด หนูและเพื่อนๆ
จึงต้องไปเช้าๆ เพื่อจะต้องไปช่วยครูผู้สอนท�ำความสะอาดโรงเรียน
ทโี่ รงเรียนตาดีกาของเรามีเจะ๊ ฆทู ัง้ หมด 7 คน เจะ๊ ฆูคือครูผ้สู อน พวกเรา
เรยี กท่านวา่ เจ๊ะฆู มารจู้ ักเจะ๊ ฆแู ตล่ ะทา่ นก่อนค่ะ
คนที่ 1 มีชื่อว่า ซอลาฮูดีน แต่พวกเราจะเรียกกันว่า เปาะลง
เป็นเจ๊ะฆูที่ดุมากๆ แค่สายตาที่มองมาก็น่ากลัวสุดๆ เวลาสอนจะดุมาก
แตน่ อกเวลาเรยี นเปาะลงเป็นคนใจดี
คนที่ 2 มีชื่อว่า รสุ ลัน พวกเราจะเรยี กกนั วา่ เปาะจิ เป็นเจ๊ะฆู
ผูช้ ายทีท่ า่ นจะพดู อะไร เดก็ ๆนกั เรยี นไมค่ ่อยสนใจ เวลาสอนเดก็ ๆแทบจะ
กระโดดข่ีคอไดอ้ ยูแ่ ลว้ พวกนักเรยี นไม่ค่อยกลัวเปาะจิเลย
คนท่ี 3 มชี อ่ื ว่า มะรสุ ตัน พวกเราจะเรียกกันวา่ เปาะซู เป็นเจ๊ะฆู
ผชู้ ายคนสุดทา้ ยในโรงเรยี น เปาะซเู วลาสอนจะจริงจงั มาก และชอบมาเล่า
เรื่องตลกๆ ให้เดก็ นกั เรยี นฟงั และที่ส�ำคญั เปน็ เจะ๊ ฆูทห่ี ล่อทส่ี ดุ ในโรงเรยี น
ตาดีกาของเราเลย
คนที่ 4 มชี อ่ื วา่ ฮายาตี พวกเราจะเรยี กว่า ก๊ะตี เปน็ เจะ๊ ฆูผหู้ ญิง
ทดี่ มุ ากๆ เวลาสอนจะเครง่ ขรมึ สหี นา้ แววตาโหดรา้ ย(ฮา) และทสี่ ำ� คญั นอก
เวลาเรียนก็ไม่มีลักย้ิมให้เด็กนักเรียนเลย เจอหน้าคร้ังแรกในตอนเช้าก ็
“เอา้ ! ท�ำอะไรกนั อยู ่ ทำ� ไมไม่รีบท�ำความสะอาด แล้วทำ� ไมไม่เอากระเปา๋
ไวใ้ นหอ้ งเรยี นอีก”ชอบบ่นมากๆ นคี่ อื ก๊ะตขี องเรา(เบะปากมองบน แต่รกั
นะคะกะ๊ ตี อิอ)ิ
คนท่ี 5 มชี ือ่ วา่ นูรียะ พวกเราจะเรียกกนั ว่าก๊ะย๊ะกะ๊ ย๊ะเปน็ เจะ๊ ฆู
ผู้หญิงท่ีเรียบร้อยมาก ค�ำด่าไม่มีออกจากปากก๊ะย๊ะแน่ๆ เป็นเจ๊ะฆูท่ีมี
ลายมือสวยทส่ี ุดในโรงเรยี น

74 หนูรกั “ตาดีกา”

Thai Tales from the Deep South

คนท่ี 6 มชี ือ่ ว่า นูรยารตี า พวกเราจะเรียกวา่ ก๊ะยี ก๊ะยเี ปน็ เจะ๊ ฆู
ที่เวลาสอนจะจริงจังมาก วิชาการท่ีสุดแล้วในโรงเรียนตาดีกาของเรา คือ
สอนเน้นมาก ถ้ายังไม่ได้คือห้ามออก คือมีแอบสอนเข้าคาบผู้สอนคนอื่น
ดว้ ย(ฮา) จนมเี จะ๊ ฆคู นอน่ื ตอ้ งเคาะประตเู รยี กใหอ้ อก เพราะจะเขา้ สอนแทน
เพราะกินเวลาเพ่อื นไปไม่รู้ก่ีนาทีแล้ว
คนที่ 7 มีชื่อว่า ปาซีละห ์ พวกเราจะเรียกกันว่า ก๊ะล๊ะ เปน็ เจะ๊ ฆู
ผหู้ ญงิ คนสดุ ทา้ ยของตาดกี าเรา นนั่ กค็ อื คณุ แมข่ องหนเู อง คณุ แมเ่ วลาสอน
อย่าให้ใครได้มาท�ำให้อารมณ์เสียไม่อย่างนั้นคาบสอนคาบน้ัน เปล่ียนเป็น
คาบเทศนาบรรยายธรรมโดยปริยาย แต่คุณแม่เป็นเจ๊ะฆูท่ีจริงใจกับเด็ก
นักเรยี นทสี่ ุด จะเหน็ ไดจ้ ากถ้านักเรียนคนไหนมาเรียนแต่ไมเ่ ข้า คณุ แม่จะ
ออกตามหาลากเข้าเรียนจนได้ทุกคน แต่นอกเวลาเรียนคุณแม่เป็นเจ๊ะฆู
ที่เด็กๆ กล้าเข้าไปปรึกษาปัญหาต่างๆ ให้ฟัง เพราะคุณแม่จะแก้ปัญหา
จนสำ� เร็จทุกคน
เช้าวันเสารว์ ันน้ีกเ็ หมอื นกบั เช้าวันเสาร์ของทกุ ๆวนั พวกเราเสรจ็
จากการท�ำความสะอาดต่างๆ ก็ได้เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ อ่านดุอาอ์
และเปน็ เวรประจำ� หนา้ ทเี่ วรพดู หนา้ เสาธง กเ็ ปน็ หนา้ ทขี่ องเปาะลงกลา่ วเปน็
ประจ�ำทุกเช้า เสร็จจากเข้าแถวพวกเราก็แยกย้ายกันไปเอาละหมาด
เพื่อเตรียมอ่านอัลกุรอานโดยมีเจ๊ะฆูทุกคนเข้ามาร่วมอ่านอัลกุรอานด้วย
พวกเราอา่ นได้สักพกั ใหญ่ มเี สียงสายโทรศพั ทเ์ ขา้ เครอ่ื งของเจะ๊ ฆทู ่านหน่ึง
คุยแล้วได้เรื่องว่า มีทหารได้ควบคุมตัวเจ๊ะฆูตาดีกาของตาดีกาหนึ่ง
ซง่ึ ตาดีกาดังกลา่ วกไ็ ม่ได้อยไู่ กลจากหมบู่ า้ นเรามากนกั พวกเราเหน็ สหี นา้
ของเจะ๊ ฆดู เู ครง่ เครยี ดมาก หนไู ดย้ นิ คณุ แมพ่ ดู วา่ “มนั จะเกดิ อะไรขนึ้ กนั นะ
ต่อจากนี้ ดูสิเจ๊ะฆูฮาน้ันเงียบๆไม่พูดไม่จา เอาการเอางานขยันขันแข็ง
ดูท่าทางกอ็ อกจะตงุ้ ตงิ้ ด้วยซำ�้ นท่ี หารกย็ งั ควบคมุ ตวั ไป น่พี วกเราท�ำงาน
สอนเด็กๆ ตาดีกามันผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ “ช่วงนี้มีข่าวเจ๊ะฆ ู
ถูกควบคุมตัวไปหลายคนมาก เพียงแต่ข่าวนั้นมันไกลออกจากหมู่บ้านเรา

นรู อิลฮัม ดามหู ิ 75

เรื่องเล่าจากปลายด้ามขวาน

ที่มีมากหน่อยจะเป็นแถวจังหวัดปัตตานี ส่วน
นราธิวาสจะไม่บ่อยนักแต่ก็มีบ้าง แต่วันน้ีคือ
คนใกล้ตัวเพราะเป็นเจ๊ะฆูใกล้หมู่บ้านเรามาก
แตว่ นั นน้ั เจะ๊ ฆขู องพวกเรากส็ อนตามปกติ พอกลบั
จากโรงเรียนฉันก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณแม่เรื่อง
ทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั เจะ๊ ฆคู นนน้ั คณุ แมเ่ ลา่ วา่ พวกทหารไม่
ไวว้ างใจกบั บรรดาเจะ๊ ฆทู สี่ อนตาดกี า กลวั วา่ จะมี
การสอนอะไรท่ีเบียดเบียนกับหลักค�ำสอนของ
ศาสนา เพราะวา่ จะคอยยยุ งและส่งเสรมิ ให้เดก็ ๆ
เกลยี ดประเทศไทยและเกลยี ดพวกทหาร เม่ือฉัน
ได้ฟังที่แม่พูดฉันก็แอบงงกับความคิดของพวก
ทหาร ว่าท�ำไมถึงคิดอย่างน้ัน ท้ังๆที่หนูอยู่
ประเทศไทย เป็นคนไทยท�ำไมหนูจะไม่รัก
ประเทศไทยล่ะ
และอีกอย่างจากที่หนูได้เรียนตาดีกา
ตั้งแต่เด็กๆ จนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยมีเจ๊ะฆูคนไหน
สอนนอกเหนือจากหนังสือท่ีเรียนอยู่ประจ�ำๆ
กเ็ จ๊ะฆูที่คอยพดู ถึงให้ทำ� ตามหลักอลั กุรอาน และ
ยึดแบบอย่างของท่านนบีเป็นแบบอย่างในชีวิต
ประจ�ำวัน น่ีคือส่ิงที่คิดอยู่ในใจเพียงล�ำพังก่อน
ที่จะถามคุณแม่เพิ่มวา่ “เมื่อตอนสมัยแมย่ งั เดก็ ๆ
มเี หตกุ ารณแ์ บบนม้ี ยั้ คะ” แมก่ ต็ อบวา่ “ไมม่ หี รอก
สมัยแม่ยังเด็กๆ แม่ก็เรียนตาดีกาเหมือนลูกนี่
แหละแต่ตาดกี าท่แี ม่เรียนมเี จะ๊ ฆูแค่ 3 - 4 คนเอง

76 หนูรกั “ตาดกี า”

Thai Tales from the Deep South

แต่ก็สอนเด็กๆ ตาดีกาให้อ่านออกเขียนได้จนได้
เป็นเจ๊ะฆูมาสอนลูกและเพื่อนๆ ลูกทุกวันน้ีไง”
แมย่ งั บอกอกี วา่ เนอ้ื หาบทเรยี นในหนงั สอื จากอดตี
จนถงึ ปจั จบุ นั ไมม่ อี ะไรเปลยี่ นแปลงเลย เนอื้ หาใน
หนังสือก็สอนให้ท�ำความดีละเว้นความชั่ว และ
สอนหลกั ปฏบิ ตั แิ ละหลกั ศรทั ธาของศาสนาอสิ ลาม
ซ่ึงมันไม่ได้บิดเบือนค�ำสอนแต่อย่างใด กลับกัน
จะมเี นอ้ื หาบางเนอื้ หาใหพ้ วกเราอยกู่ นั แบบรกั ใคร่
ไม่ว่าจะศาสนาไหนชาติไหนๆ อัลลอฮ์จะให้
มนุษยชาติอยอู่ ย่างพึ่งพาอาศยั กนั แม่ยงั พดู ต่อว่า
“สงสัยพวกทหารคงระแวงมากไปหน่อย ไม่ก็คง
รังเกยี จพวกเราที่เปน็ อสิ ลาม” แม่พดู ด้วยน้ำ� เสยี ง
ตดั พอ้ และนอ้ ยใจ ในเยน็ วนั นนั้ พวกเราพดู คยุ นาน
พอสมควรจนทำ� ใหห้ นไู ดค้ ดิ อะไรหลายๆ อยา่ งคดิ วา่
ถ้าคนทถี่ ูกจบั คนนน้ั เป็นแม่หนู หนูจะเป็นอย่างไร
ตาดีกาเราจะเป็นอย่างไรขนาดแค่คนท่ีเรารู้จัก
ไม่ใช่คนในครอบครัวของเรา เรายังรู้สึกเสียใจ
ท้งั หดหู่และกลวั ในเวลาเดียวกัน ทุกวันน้ีทกุ เดอื น
จะมีพี่ๆทหารเข้ามาเยี่ยมเยียนตาดีกาเป็นประจ�ำ
จากทพี่ วกเรายม้ิ จากใจใหก้ บั พๆี่ ทหารตอ้ งเปลยี่ น
เป็นความหวาดระแวงและหวาดกลัวแทน เพราะ
ความไม่ไว้วางใจทหารกลัวจะมาท�ำร้ายจับตัว
เจะ๊ ฆขู องพวกเราไป สรปุ วา่ ตา่ งฝา่ ยตา่ งไมไ่ วว้ างใจ
กันหรือ

นูรอลิ ฮัม ดามหู ิ 77

เร่ืองเลา่ จากปลายดา้ มขวาน

สุดท้ายน้ีหนูเพียงอยากบอกว่าหนูรักตาดีกาของหนู หนูรักเจ๊ะฆู
ของหนู หนรู กั บา้ นเกดิ ของหนู หนรู กั ประเทศไทยของหนู หนไู มร่ สู้ ง่ิ ทเี่ กดิ ขน้ึ
มนั คอื อะไร หนไู มร่ ู้มันเกิดขึน้ ได้อย่างไร มันเกิดขึน้ ในตอนไหน หนูเพียง
แคอ่ ยากบอกว่าหนูไม่มีทางจะเกลียดคนชาตเิ ดียวกัน แม้แตจ่ ะตา่ งศาสนา
แตส่ งิ่ ทห่ี นรู คู้ อื เมอื่ มนั เกดิ ขน้ึ แลว้ มนั ยอ่ มสง่ ผลกระทบกบั คนในพนื้ ทใ่ี นการ
ดำ� รงชวี ติ ประจำ� วนั ของคนแตล่ ะอาชพี และผทู้ เี่ สยี หายหรอื ผสู้ ญู เสยี โดยตรง
ตอ้ งตกอยใู่ นสภาพความหวาดกลวั หวาดระแวง เหมอื นหนแู ละคนในตาดกี า
ของหนู ตอนนี้หนูจะไม่ยอมให้ตาดีกาท่ีหนูรักไร้ครูผู้สอนเป็นแบบนั้น
หนจู ะไม่ยอมเห็นเพ่อื นๆหนูไมไ่ ดเ้ รียนตาดกี าเสาร์-อาทติ ย์ หนูจะไม่ยอม
ให้แมห่ นเู ป็นแบบเจะ๊ ฆคู นนนั้ เดด็ ขาด

78 หนรู กั “ตาดกี า”

บำ้ นที่ไม่เคยสรำ้ งเสร็จ

สรุ ัชดำ จฑุ ำนนั ท์



Thai Tales from the Deep South

บ้านท่ีไม่เคยสรา้ งเสร็จ

สุรัชดา จฑุ านนั ท์

แสงแดดอ่อนคอ่ ยๆ ทอดแสงจากระเบียงบา้ น
มายังปลายเท้าของฟารุก เมื่อไอร้อนลอดบานประตูมา
สมั ผสั แกม้ ของเขาเผยใหเ้ หน็ ภาพเดก็ หนมุ่ ทรงผมสน้ั เกรยี น
รูปร่างสูงโปร่งสมส่วนตามมาตรฐานชายไทยยุคน้ี ผิวสี
น�้ำผึ้งและใบหน้าคมเข้ม ท�ำให้เขาถูกจัดล�ำดับให้เป็น
หน่มุ หนา้ ตาดีคนหนงึ่ ของหมู่บา้ น
เสยี งดงั จากตลาดหนา้ ปากซอยปลกุ ใหเ้ ขาลมื ตา
ต่นื หลังจากเผลอหลบั ขณะน่งั เฝ้าโต๊ะจูผู้ซึง่ เปน็ ยายยาม
ใกลร้ งุ่ แววตากลมโตมองหาทม่ี าของเสียง จนเดก็ หน่มุ
นกึ ครมึ้ ใจอยากไปตลาด เชา้ นเี้ ขาจงึ ลกุ ขนึ้ อาบนำ�้ แตง่ ตวั
อยา่ งรวดเรว็
“โตะ๊ จู อยากกนิ อะไรครับ ผมจะออกไปซ้ือให”้
ผมหนั ไปถามยาย
“ไมต่ อ้ งหรอก ยายทำ� กนิ เองแลว้ เอง็ รบี ออกไป
ทำ� งานเถอะ”
“ครบั ผมไปท�ำงานกอ่ น วนั นีจ้ ะแวะตลาดด้วย
ผมไม่อยากเข้างานสาย” ผมตอบยายทันทีท่ีเครื่องยนต์
สตาร์ทติด ก่อนจะขับรถมอเตอร์ไซค์สีแดงคันเก่าออก
จากบา้ น
กลนิ่ หอมของอาหารลอยโชยเตะจมกู ผมตลอดทาง
กอ่ นขับถงึ ปากซอย จนผมตอ้ งแวะจอดรถตรงมมุ ตึกท่ีมี
ลักษณะเป็นลานจอดรถแคบๆ ข้างทาง ซ่ึงเช่ือมไปสู่

สุรชั ดา จฑุ านันท์ 81

เร่ืองเล่าจากปลายดา้ มขวาน

ตรอกเลก็ ๆ อนั เป็นทีต่ ้ังของร้านข้าวตม้ ไกร่ ้านโปรด ผมเดินตามกลน่ิ หอม
ไปเรื่อย ๆ จนสดุ ซอย
“ของผมเหมอื นเดมิ นะกะ๊ พเิ ศษใสท่ กุ อยา่ งหนงึ่ ถงุ ” ผมบอกแมค่ า้
เธอพยกั หน้าขานรับ รีบตักใหผ้ มอย่างคลอ่ งมือ วนั นีค้ นแนน่ ร้าน
กวา่ ทกุ วัน อาจเพราะกล่ินหอมจากผักชี ในน�้ำซปุ รสดง้ั เดิม จงึ เป็นที่ถูกอก
ถกู ใจของใครต่อใครในย่านนโี้ ดยเฉพาะผม กินแล้วซดนำ�้ ซุปหมดชามทกุ ที
ผมถือโอกาสเดนิ ส�ำรวจตลาดเพราะตน่ื เช้ากวา่ ทุกวัน ผมชอบวธิ ี
การจัดแผงลอยของตลาดนัดบางปู การแบ่งโซนแยกประเภทอาหารท�ำให้
ร้านค้าจัดวางสนิ คา้ เป็นระเบยี บขึ้นมาก ผมเลือกเดนิ จากท้ายซอยไปจนถงึ
ตน้ ซอย บา้ นบางปเู ปน็ พน้ื ทต่ี ดิ ทะเล อาหารทะเลของตลาดทน่ี จี่ งึ ขนึ้ ชอ่ื เรอ่ื ง
ความสด กุ้ง หอย ปู และปลาตาใสๆ เหงือกแดงก่�ำ หาซอ้ื ง่ายมาก เพราะ
ชาวประมงจับมาขายเองไม่ผ่านมือพ่อค้าคนกลาง ผักสด ผลไม้สด
ชาวบา้ นเขาก็ปลกู เองขายเอง ผมภูมใิ จท่บี างปบู ้านผมมีแตข่ องอร่อย
ผมเดินลัดเลาะตามซอยต่างๆ มาเร่ือยๆ จนถึงโซนอาหารและ
ขนมพ้ืนบ้าน แผงลอยขายขนมตั้งอยู่หนา้ สดุ ตรงต้นซอย ผมชอบเดินโซนนี้
เป็นพิเศษ โต๊ะจูยายของผมชอบกินขนมอาเก๊าะ ผมแวะมาซ้ือขนมร้านน้ี
บ่อย อาเก๊าะเป็นขนมอบเตาถ่าน แม่พิมพ์ขนมมักเป็นทรงกลีบดอกไม้
วงกลม วงรี แล้วแตร่ ้าน ยายเคยบอกวา่ ติดใจขนมชนิดนีต้ ั้งแตส่ มัยยังสาว
รสชาตหิ วานออ่ นๆ และกลน่ิ หอมทไี่ ดจ้ ากการอบแบบโบราณดว้ ยวธิ กี ารสมุ่ ไฟ
ช่างชว่ ยใหค้ นมีอายุอยา่ งยายของผมเจริญอาหารไดด้ ีทเี ดียว
ตลาดนดั บางปทู ำ� ใหผ้ มนกึ ยอ้ นถงึ วยั เดก็ ผมเกดิ และโตทน่ี ่ี ผมรกั
บางปู ผมพูดได้อย่างเต็มปากหากมใี ครถามผม ทน่ี มี่ ีมัสยิดโบราณ 300 ปี
แหลง่ มรดกทางวฒั นธรรมทเี่ พง่ิ สำ� รวจพบ เมอ่ื เรมิ่ มนี กั เดนิ ทางเขา้ มาทอ่ งเทย่ี ว
มากขนึ้ การทอ่ งเทย่ี วเชงิ นเิ วศยคุ บกุ เบกิ จงึ เกดิ ขน้ึ จากการรว่ มมอื ของชมุ ชน
ครง้ั หนง่ึ ผมได้มีโอกาสล่องเรอื ลอดอุโมงคโ์ กงกาง ชมนก หิ่งห้อย และแวะ
ตกปลาในอ่าวปัตตานี แม้เวลาจะผ่านมาราวเดือนเศษแล้ว แต่ภาพ
พระอาทติ ยต์ ก ณ จดุ ชมวิวบ้านบางปยู ังคงตราตรึงใจผม

82 บา้ นทไ่ี มเ่ คยสร้างเสร็จ

Thai Tales from the Deep South 83

ทา่ มกลางความเรยี บงา่ ยของสถานทแ่ี ละรอยยมิ้ ทสี่ ะทอ้ นความจรงิ ใจ
และใสซ่ือของคนบางปูคงสร้างความประทับใจให้นักท่องเท่ียวต่างแดนได้
ไมย่ าก ผมเช่อื อย่างน้นั
“อีกสิบห้านาทีแปดโมง งานเข้าแล้วกู” ผมบ่นพึมพ�ำขณะก้มดู
นาฬกิ าขอ้ มอื ผลพวงจากการเดนิ ชมตลาดเชา้ น้ี ทำ� ผมเพลนิ จนเกอื บลมื เวลา
ผมรบี เดนิ จ้ำ� เอาๆ กลับมายังลานจอดรถกอ่ นจะขับรถมุ่งหนา้ เขา้ โรงงาน
เรอ่ื งราวมนั เรม่ิ ต้นตั้งแตผ่ มมาสมัครงานท่นี แี่ ลว้
ตอนแรกทมี่ าหางานทำ� ผมคดิ แคว่ า่ ระยะนร้ี า้ นขายของชำ� ของโตะ๊ จู
ค้าขายไม่ดนี กั รายจา่ ยเรมิ่ ไมพ่ อกับรายรับ หลังคาทร่ี ่วั อยกู่ ต็ อ้ งซอ่ มใหท้ ัน
ก่อนเข้าฤดูฝน เมื่อเงินทองฝืดเคืองผมจึงตัดสินใจหางานท�ำจริงจังตั้งแต่
อายุสบิ เจ็ด
ผมเรมิ่ ตน้ อาชพี แรกดว้ ยการท�ำงานเป็นคนเกบ็ รงั นก ครคู นแรกท่ี
ชว่ ยสอนทกั ษะการเกบ็ รงั นกคอื เพอื่ นรว่ มงานรนุ่ พอ่ ทอ่ี ายหุ า่ งกบั ผมราวยส่ี บิ
กว่าปี คนท่ีนเี่ รียกเขาว่าแบเลาะ ผมก็ด้วย
แบเลาะ หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบแปดกะรัต ร่างกายก�ำย�ำสูงใหญ่แต ่
ไม่อ้วนลงพุง เส้นผมสีด�ำมีผมหงอกขึ้นแซมสลับ ต้ังช้ีโด่เพียงไม่กี่เส้น
ถา้ ผมไมร่ อู้ ายจุ รงิ แกมากอ่ นกค็ งเดาอายแุ กไมถ่ กู เหมอื นกนั แบเลาะเปน็ คน
ใจดที ม่ี ใี บหนา้ เปอ้ื นยม้ิ ทกุ ครงั้ ทพ่ี บเจอ แถมยงั เปน็ คนรกั สตั วส์ งั เกตไดจ้ าก
ขนแมวท่ีติดมากับเส้ือและเน้ือตัวแก ผมแอบเห็นแกให้อาหารแมวสองตัว
ท่ีท�ำงานบ่อยๆ จนตอนน้ีตัวอว้ นกลมเป็นท่ีเรียบรอ้ ย
ครั้งแรกทเ่ี ราคยุ กนั คือตอนท่แี กโนม้ นา้ วผมให้รับงานนี้
“งานดๆี แบบน้ีหายาก ถ้าเอง็ อยากเก็บเงนิ ใหไ้ ดม้ ากๆ อย่าเพง่ิ
ถอดใจลาออกไปซะกอ่ น”
“ถ้าสัปดาห์ไหนเก็บได้หลายกิโล หัวหน้าเขามีโบนัสจ่ายหนักให้
แน่ อยา่ คดิ วา่ เปน็ แคง่ านกระจอก งานนไ้ี มใ่ ชใ่ ครกท็ ำ� ได้ มนั ตอ้ งมฝี มี อื และ
จติ สำ� นกึ ดว้ ย อาจมลี ำ� บากใจบา้ งกต็ อนท.ี่ ..” แบเลาะพดู ไมท่ นั จบประโยค
ก็เงยี บไป

สรุ ัชดา จฑุ านนั ท์

เร่ืองเล่าจากปลายดา้ มขวาน

ผมนง่ิ ฟงั และพยายามคดิ ตามถงึ ประโยคสดุ ทา้ ยทแี่ กเอย่ ไมท่ นั จบ
เมอื่ ลองคำ� นวณคา่ ตอบแทนตามคำ� แนะนำ� สำ� หรบั คนฐานะยากจน
ทมี่ ีวุฒกิ ารศกึ ษาจบเพียงม.3 อย่างผม รายได้มนั ชา่ งน่าเยา้ ยวนใจ ผมจึง
ตอบรับเข้าท�ำงานทีน่ ีอ่ ย่างงา่ ยดาย
ครงั้ แรกทผ่ี มเหน็ โรงงาน ภาพตกึ หลงั ใหญส่ เี ขยี วพาสเทลดกู ลมกลนื
กบั ปา่ โปรง่ สเี ขยี วออ่ นรอบตกึ แบเลาะเลา่ วา่ คณุ อำ� นวยหวั หนา้ ของพวกเรา
เลือกสีน้ีเพราะได้แรงบันดาลใจจากภาพวาดสีน้�ำของลูกสาว ตึกแห่งน้ี
ตั้งอยู่ชานเมืองบริเวณต�ำบลบางปูรอยต่อระหว่างอ�ำเภอยะหร่ิงกับพ้ืนท ี่
อ�ำเภอเมืองในจังหวัดปัตตานี ตึกถูกสร้างด้วยก�ำแพงอิฐบล็อกสูงเจ็ดช้ัน
แตล่ ะชน้ั มหี นา้ ตา่ งบานเลก็ ๆ เปดิ รบั ลมและแสงแดดเพยี งเลก็ นอ้ ยสอ่ งเขา้ ส ู่
ตัวอาคาร
ผมเดนิ ขนึ้ บนั ไดสำ� รวจสถานทท่ี ำ� งานทลี ะชนั้ สองตาของผมสงั เกต
เห็นกล้องวงจรปิดและระบบเตอื นภัยจ�ำนวนมากตดิ ตัง้ ไว้แทบทุกท่ี ภายใน
ตึกค่อนข้างมืด ผมจึงเปล่ียนมาใช้หูฟังเสียงร้องและเสียงกระพือปีกของ
นกบ้าง มันดังระงมไปท่ัวตึก ท�ำให้บางขณะก็มีจังหวะท่ีขนแขนของผม
ลกุ ชชู นั ขน้ึ มาอย่างไร้เหตุผล
ยิ่งสงู ยิง่ หนาว ผมเหน็ ด้วยทสี่ ุด ผมเดินขึ้นบนั ไดมาเรอื่ ยๆ จนมา
หยดุ ทชี่ นั้ หก ทน่ี อี่ ณุ หภมู แิ ตกตา่ งกบั ภายนอกตกึ ชดั เจน ผมคดิ เดาไปตา่ งๆ
นานาวา่ อากาศทเ่ี ยน็ จดั นา่ จะสมั พนั ธก์ บั ปรมิ าณความชนื้ ภายในตกึ จนแอบ
คิดในใจว่าถ้ามีอะไรจู่โจมผมระหว่างท�ำงาน กล้องวงจรปิดพวกน้ีคงช่วย
เกบ็ ภาพเป็นหลักฐานให้ผมไดบ้ า้ ง
และแลว้ กเ็ ดนิ มาถงึ ชน้ั บนสดุ ของตกึ ผมหยดุ ชะงกั ตรงมมุ หนา้ ตา่ ง
บานหนง่ึ ของชนั้ เจด็ ในตำ� แหนง่ ทส่ี งู เชน่ นี้ มองออกไปเหน็ รวั้ ลวดหนามกนั้
รอบตกึ ตลอดแนว ดา้ นหลงั ของตกึ มสี วนกวา้ ง เมอ่ื เทยี บกบั บา้ นสองชนั้ สอง
หลงั ทอ่ี ยหู่ า่ งออกไปจากตกึ ราวสามรอ้ ยเมตร ทำ� ใหบ้ า้ นแตล่ ะหลงั นน้ั ดเู ลก็
กะทัดรัดไปถนัดตา ซ้�ำบ้านสองหลังนี้ยังโดดเด่ียวจากกลุ่มบ้านหลังอ่ืน
เหมอื นครู่ ักทีค่ บกนั แล้วแยกตวั ออกจากเพอื่ นกลุ่มใหญ่

84 บ้านทไ่ี มเ่ คยสร้างเสรจ็

Thai Tales from the Deep South 85

จากความมุ่งม่ันที่จะเก็บเงินให้โต๊ะจูซ่อมหลังคาบ้าน ผมท�ำงาน
หนักเก็บรังนกแทบทุกวนั โตะ๊ จูและใครๆ เรียกตกึ ที่ผมทำ� งานวา่ บา้ นใหญ่
ท่านมกั พูดตดั พ้อวา่ ผมชอบอยบู่ ้านใหญม่ ากกวา่ บา้ นตัวเอง
นอกจากผมกับแบเลาะกม็ ีเพอื่ นร่วมงานคนอื่นๆ อีกสีค่ น แต่ผม
สนิทกบั แบเลาะท่ีสดุ เพราะเราเกบ็ รังนกโซนเดยี วกนั เขาช่วยเหลอื ผมเสมอ
ผมจงึ รกั และเคารพแบเลาะทง้ั ในฐานะเพอื่ นรว่ มงานและญาตผิ ใู้ หญค่ นหนง่ึ
ของผม
“เชา้ นีใ้ ครมาบา้ นใหญเ่ หรอแบ คนเยอะแยะ”
ฟารกุ ถามแบเลาะ พลางกวาดตาดจู ำ� นวนรถทแ่ี นน่ ขนดั เตม็ ลานจอด
“เมอื่ คนื มหี วั ขโมยขนึ้ บา้ นใหญ่ หวั หนา้ พาตำ� รวจมาเกบ็ หลกั ฐาน
เผอื่ หวั ขโมยมนั ทง้ิ รอ่ งรอยอะไรไวบ้ า้ งหลงั จากแจง้ ความเมอื่ เชา้ น”ี้ แบเลาะ
ตอบ
ผมองึ้ ตกใจชวั่ ครู่ ผมคงตกขา่ วจรงิ ๆ เพราะหลายเดอื นทผ่ี า่ นมา
แทบไม่มีวี่แววข่าวเรื่องขโมยมาก่อนหรือช่วงน้ีข้าวยากหมากแพงเศรษฐกิจ
ตกต่�ำ ใครอยากได้เงินทางลดั เลยต้องผนั ตัวมาเป็นขโมย
“แต่มันนา่ แปลกนะครบั ” ผมเผลออทุ านออกไป
“แปลกอะไรของเอง็ ” แบเลาะพูดพร้อมหลดุ ข�ำ
“ขโมยขึน้ บ้านมันแปลกตรงไหน หวั ขโมยมันมีทุกที่อย่ทู ีว่ า่ มันจะ
ออกขโมยเมือ่ ไหร”่
“มันก็จริง” ผมย้มิ เจื่อนๆ ตอบเห็นด้วยกบั แกไป
ความแปลกทผ่ี มคดิ สงสยั ในใจคอื คนทจ่ี ะขโมยรงั นกได้ อนั ดบั แรก
ต้องรวู้ ธิ ีเก็บรงั นก ร้วู า่ ตอ้ งท�ำความสะอาดรังนกอย่างไรและควรนำ� ไปขาย
ทไ่ี หน เหน็ วา่ หวั ขโมยเลอื กเกบ็ รงั นกเฉพาะตรงมมุ อบั เพราะเปน็ บรเิ วณทมี่ ดื
กล้องวงจรปิด จงึ จับภาพไดย้ ากหรอื ไม่ก็ใช้วิธที ำ� ลายกล้อง ซงึ่ ถ้าเปน็ โจร
ทั่วไปผมเช่ือว่าคงไม่มีทางรู้แน่ว่ากล้องซ่อนไว้บริเวณใดบ้าง ย่ิงเป็นตอน
กลางคนื ยงิ่ แลว้ ใหญ่ ภายในตกึ มหี ลอดไฟนอ้ ยมากเพราะหวั หนา้ ไมต่ อ้ งการ
ใหม้ แี สงไฟรบกวนนกเวลาพวกมนั สรา้ งรงั มเี พยี งแสงจนั ทรเ์ ทา่ นนั้ ทส่ี อ่ งผา่ น

สรุ ัชดา จฑุ านนั ท์

เร่ืองเลา่ จากปลายด้ามขวาน

หน้าต่างบานเล็กๆ ในยามค่�ำคืน หากคืนไหนมีเมฆมาบดบังแสงจันทร์
ตึกจะมืดสนิท ถ้าไม่ช�ำนาญจรงิ อาจหกลม้ กล้งิ ตกบันไดไดง้ า่ ยๆ
หวั ขโมยคนน้ีคงไมใ่ ช่โจรกระจอกอยา่ งทใี่ ครๆ สงสัยกนั แต่กลับ
เป็นโจรฝีมือดีท่ีเช่ียวชาญการเก็บรังนก อย่างน้อยถ้าสมมติฐานของผมมี
แนวโนม้ ทจ่ี ะเปน็ ไปได้ ผมคดิ วา่ โจรทขี่ น้ึ บา้ นใหญ่ นา่ จะเปน็ คนในและอาจ
ท�ำงานประเภทเดยี วกันกบั ผม
หนง่ึ ในหา้ คนทท่ี ำ� งานดว้ ยกนั ใครคอื หวั ขโมยตวั จรงิ จๆู่ ความคดิ น้ี
ก็แลน่ เข้ามาในหวั ผม
“แบเลาะ ฟารกุ มาหาผมหนอ่ ย” หวั หนา้ อำ� นวยเรยี กผมกบั แบเลาะ
ไปพบ
“รขู้ า่ วขโมยขน้ึ บา้ นใหญ่แล้วใชม่ ย้ั ” หวั หน้าถาม
“ผมคยุ กับผกู้ องแล้ว ช่วงนี้คงตอ้ งขอความร่วมมือพวกเราทกุ คน
ช่วยกวดขันเดินตรวจตราสถานที่แห่งนี้ทุกคืนตลอดหนึ่งสัปดาห์นับจากนี้
ส่วนเรื่องเงินผมมีโอทีเป็นค่าแรงเพ่ิมให้ทุกคนท่ีช่วยผลัดเวรกันเฝ้ายาม
โรงงานเรา”
“ครับหวั หน้า” พวกเราตอบรับหัวหน้าอย่างแข็งขนั
“คดนี โี้ จรมนั ทงิ้ รอ่ งรอยอะไรไวบ้ า้ งมยั้ ครบั ผกู้ อง” แบเลาะยอ้ นถาม
ด้วยท่าทกี ระตอื รือรน้ ถงึ สถานการณ์ความเสียหายทเ่ี กิดข้ึน
ผู้กองส่ายหน้า “โจรแทบไมท่ ง้ิ ร่องรอยอะไรไวเ้ ลย เหมือนมันรูจ้ กั
เส้นทางและพ้ืนที่แห่งนี้เป็นอย่างดี เหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นถ้าไม่ใช่โจรกรรม
ธรรมดา กอ็ าจเปน็ ผลพวงจากความขัดแยง้ ของคคู่ า้ ทางธุรกิจ แต่เทา่ ท่ีคยุ
กับคุณอ�ำนวย เขายนื ยันวา่ ไมเ่ คยมศี ตั รูทีไ่ หน”
“คดีนค้ี งตอ้ งสืบกันพักใหญก่ ว่าจะได้หลกั ฐานเพิ่ม”
ผมแอบเหน็ แบเลาะถอนหายใจ หลงั ฟงั คำ� ตอบของผกู้ องกอ่ นเดนิ
จากไป

86 บา้ นทไ่ี ม่เคยสร้างเสร็จ

Thai Tales from the Deep South

ภาพทเ่ี หน็ เมอ่ื ครทู่ ำ� ใหผ้ มอดนกึ สงสยั ในตวั แบเลาะไมไ่ ด้ ผมสบั สน
จนเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจคนใกล้ตัว ผมต้องสืบเรื่องนี้ เพื่อรู้ความจริงก่อนความ
หวาดระแวงจะครอบง�ำตัวผม
ผลพวงจากความโลภของหวั ขโมยรายนนั้ ทำ� ใหร้ งั นกนางแอน่ ในตกึ
ดพู รอ่ งไปเห็นได้ชัด เช้านที้ กุ คนง่วนอยูก่ บั การประเมินมลู ค่าความเสยี หาย
ท้ังหมดทเ่ี กดิ ข้นึ กับโรงงาน
คนงานทกุ คนเดนิ สำ� รวจรงั นกทกุ ทใ่ี นทกุ โซน พบวา่ มรี งั นกหายไป
กว่า 2 กโิ ลกรัม
“รังนกในโรงงานเรามที ้ังเกรดเอ บี และซี คละกันไป ปกติรงั นก
ช้ันดีหากถอนขนจากรังและท�ำความสะอาด จนพร้อมปรุง ราคาตกอยู่ท่ี
กิโลกรัมละส่ีหม่ืนบาท ตอนนี้รังนกถูกขโมยไปเกือบสองกิโล ก็เท่ากับว่า
โรงงานขาดทุนไปกว่าแปดหม่ืนบาท” หัวหน้าอธิบายภาพรวมให้ทุกคนใน
ทีมฟัง
“โอโ้ ฮ! เงินหายเกือบแสน”
“ต้องใช้รังนกมากเท่าไรครับถึงจะช่ังครบหนึ่งกิโลกรัม” ผมหลุด
ปากถามดว้ ยความสงสัย
“รังนกประมาณ 100 รังรวมกันถึงจะชั่งได้ครบหนึ่งกิโลกรัม
ข้ึนอยู่กับขนาดของรังนกด้วย ส่วนใหญ่เราจะคัดเกรดก่อนช่ังขาย ครั้งน ี้
ถกู ขโมยไปสองกโิ ล คดิ เปน็ จำ� นวนรงั นกกต็ กอยทู่ ส่ี องรอ้ ยกวา่ รงั รงั นกหาย
ไปมากขนาดน้ี นกนางแอน่ คงบินว่อนสรา้ งรังใหม่ทง้ั วนั ท้ังคืนแนๆ่ ” พี่เก๋
เลขาหัวหน้าอำ� นวยกลา่ วเสรมิ
“วา้ …น่าสงสาร นกมันคงเหนื่อยแยต่ อ้ งสำ� รอกน้�ำลายสร้างรงั อกี
ครงั้ แล้วครง้ั เลา่ รอบนี้ผมว่ามนั คงหมดนำ�้ ลายไปเป็นลิตร” ผมกระซบิ ชวน
แบเลาะคยุ

สุรชั ดา จุฑานนั ท์ 87

เรื่องเล่าจากปลายดา้ มขวาน

“เอ็งรูอ้ ะไรมย้ั ฟารุก วา่ ตกึ นี้มีพื้นทีเ่ ท่าไร” แบเลาะถามกลับด้วย
สีหนา้ เป็นกังวล
“ไมร่ คู้ รบั รแู้ คว่ า่ มี7 ชน้ั ” ผมตอบพรอ้ มกบั นงั่ ตวั ตรงฟงั อยา่ งตง้ั ใจ
“พื้นที่ทุกๆ หนึ่งตารางเมตร โดยเฉล่ียนกจะสามารถสร้างรังได้
10 รัง ถา้ แตล่ ะช้นั มีพ้นื ที่ 200 ตารางเมตร นน่ั หมายถึงในชน้ั หนงึ่ ๆ จะมี
รังนกกว่า 2,000 รัง และถ้าน�ำจ�ำนวนท้ัง 7 ช้ันของตึกนี้มาคูณเข้าไป
เอ็งคิดออกมั้ยว่าจะได้จ�ำนวนเทา่ ไร”
ฟารกุ รบี กดเครื่องคดิ เลขจากโทรศพั ท์ในมืออยา่ งรวดเรว็
“เจง๋ ไปเลย หมนื่ กวา่ รงั นมี่ นั อาณาจกั รนกนางแอน่ ชดั ๆ” ผมตอบ
เสียงดงั
คำ� พูดขาดสตขิ องผม ลกึ ๆ มนั ทำ� ใหใ้ จผมร้สู กึ ผดิ ที่บงั อาจไปแยง่
รงั รักจากเจ้าของตวั จรงิ มาอย่างด้ือๆ
การส�ำรวจคราวนี้ท�ำให้รู้ว่าหัวขโมยมันเก็บรังนกไปแบบไม่ยั้งมือ
แถมยังเก็บไม่เลือก บางรังที่ยังมีลูกนกตัวแดงอาศัยอยู่ข้างในก็ถูกมันเก็บ
ไปด้วย คนงานทุกคนจ�ำได้ดีว่าโซนท่ีดูแลอยู่มีรังท่ีมีลูกนกตรงจุดไหนบ้าง
ดูเหมอื นคราบความสลดหดหูใ่ จจะเป็นเพียงสง่ิ เดียวท่หี ัวขโมยจงใจท้ิงไว้
สงสารก็แต่แม่นก เวลาน้ีมันยังคงบินว่อนวนเวียนหาการหายตัว
ไปของลูกนกตัวน้อยอันเป็นท่ีรัก ส่วนฝั่งลูกนกคงมีชะตากรรมไม่ต่างกัน
โศกนาฏกรรมทเี่ กดิ จากการพลดั พรากมกั สรา้ งความเจบ็ ปวดใจใหผ้ พู้ บเหน็
เสมอ ยังโชคดีที่โรงงานเรามีนโยบายไม่เก็บรังนกนางแอ่นท่ีมีลูกนกอาศัย
อยู่ไปขาย ท�ำให้ตอนนี้โรงงานมีจ�ำนวนนกนางแอ่นเพ่ิมขึ้นจากเดิมมาก
หวังวา่ หัวหน้าจะคลายความกงั วลเรื่องสง่ ของให้ลกู ค้ารายใหญจ่ ากจนี และ
ไตห้ วนั ได้ในเรว็ วัน
หลงั หวั ขโมยขน้ึ บา้ นใหญค่ ราวนนั้ คนงานชายทกุ คนยงั คงรบั หนา้ ท่ี
เฝา้ เวรยามกนั ทกุ คนื แมค้ นื นน้ี บั เปน็ คนื ทส่ี บิ แลว้ แตก่ ย็ งั ไมม่ วี แี่ ววของหวั ขโมย
รายเดมิ ผมจงึ ปรกึ ษาหวั หนา้ เพอื่ ออกอบุ ายดกั จบั เจา้ หวั ขโมยตนี ผี ดว้ ยการ
หลอกให้มนั ตายใจว่าจะไม่มีการผลัดกนั เขา้ เวรเฝ้ายามใดๆ กันอกี ตอ่ ไป

88 บา้ นทไี่ ม่เคยสรา้ งเสรจ็

Thai Tales from the Deep South 89

“เอาละ่ ทกุ คน เหนอ่ื ยกนั มามากแลว้ คนื นกี้ ลบั ไปนอนเอาแรงบา้ น
ตัวเองได้ ผมคดิ ว่าหวั ขโมยคนนนั้ คงไม่กล้าขึน้ บ้านใหญห่ รอก ตำ� รวจเขาก็
คมุ เขม้ ” หวั หนา้ อ�ำนวยบอกพวกเรา
ทุกคนแยกย้ายกันกลบั บา้ นใครบ้านมัน ยกเวน้ ผมกบั หวั หน้า
ผมรบเร้าหัวหน้าขออยู่เฝ้ายามต่ออีกสักพักในฐานะคนเฝ้า
สงั เกตการณอ์ ยหู่ า่ งๆ อยา่ งหว่ งๆ รออกี สกั สองหรอื สามคนื ผมเชอ่ื วา่ หวั ขโมย
รายเดมิ มันตอ้ งย้อนกลบั มาอีกหน รังนกราคาดขี นาดนี้ ถา้ ผมเดาไมผ่ ดิ มัน
ต้องกลับมาขโมยซ�้ำอีกเป็นคร้ังที่สองแน่ และเม่ือถึงเวลาน้ันผมจะเป็นคน
จบั หัวขโมยรายน้ีให้ได้ด้วยมอื ผมเอง เหมือนลางสงั หรณ์ บอกผมวา่ จะได้
เจอกับมันอีกครั้ง ผมอดทนรอด้วยใจท่ีแน่วแน่เพราะมันเป็นวิธีเดียวท่ีจะ
พสิ จู น์ความจริง และชว่ ยลดความหวาดระแวงคนกนั เองในยามนี้
“คอยดูเถอะ กูจะกระชากหน้ากากไอ้หัวขโมยให้ใจได้หายสงสัย
ก่อนใครเพ่ือน”
บางทีการบ่นพึมพ�ำก็ทำ� ให้ผมหายเหงาไดบ้ า้ งเวลาอยูค่ นเดียว
นบั เปน็ คนื ทส่ี ามของการแอบซมุ่ เฝา้ สงั เกตการณข์ องผม ไมม่ อี ะไร
คืบหน้าเหมือนเคย ยังดีท่ีบ้านหัวหน้าและโรงพักอยู่ห่างไปไม่ไกลจากที่นี่
มันชว่ ยให้ผมอุ่นใจหากเกดิ เหตุฉกุ เฉนิ
ต้บุ ! ตบุ้ ! เสียงดังมาทางหลงั บา้ น
หรือจะใช่… ลางสงั หรณส์ ะกิดใจผม
ดเู หมอื นหวั ขโมยจะกำ� ลงั เหวยี่ งตะขอเชอื กพาดไปบนหลงั คาบา้ น
ใหญแ่ ลว้ ปนี กำ� แพงเพอื่ ขนึ้ ไปยงั ชนั้ เจด็ ของตกึ อาจเปน็ เพราะหนา้ ตา่ งชนั้ ลา่ ง
บานเลก็ เกนิ ไปหวั ขโมยจงึ เลอื กใชว้ ธิ นี ี้ จากนนั้ เดาไดไ้ มย่ ากวา่ มนั คงพงั กญุ แจ
หรอื ทุบกระจกหนา้ ต่างเพือ่ เขา้ ไปในตึกตามระเบยี บ
เหน็ ทา่ ไมด่ ี ผมรบี โทรหาหวั หนา้ และตดิ ตอ่ ผกู้ องทนั ที ทา่ นตอบรบั
และสง่ กำ� ลงั เสรมิ รุดหนา้ มายังที่เกิดเหตหุ ลงั จากนั้นไม่นาน ผมยม้ิ ฟนั ขาว
ท่ามกลางความมืด พร้อมพดู ปลกุ ใจตัวเองเบาๆ
“ถงึ เวลาจับขโมยแลว้ ฉนั เช่อื ฟารุก… นายท�ำได้ ลยุ !”

สรุ ชั ดา จฑุ านนั ท์

เร่ืองเลา่ จากปลายด้ามขวาน

โอ้ย! โคตรเท่ ผมนกึ หลงตัวเอง นี่แหละโมเมนตท์ ี่ผมใฝ่ฝนั อยาก
ท�ำมาตัง้ แต่เดก็
ผมวิ่งตัดสนามไปยังสวนหลังบ้านมุ่งไปทางประตูใหญ่ด้านหน้า
เพราะผมมกี ญุ แจ ส่วนต�ำรวจก็เคลอ่ื นพลไล่หลังตามผมมาติดๆ
ผมเลือกข้ึนบันไดหนีไฟด้วยท่าทางที่ก่ึงวิ่งก่ึงเดินเร่ือยมา จนมา
หยดุ ตรงมมุ ตกึ ชน้ั 7 ผมพยายามเรน้ กายภายใต้เงามดื แหงนหน้าข้นึ มอง
กล้องวงจรปิด ปรากฏว่าหลอดไฟจ๋ิวซึ่งแสดงการท�ำงานของเคร่ืองดับอยู่
หวั ขโมยคงตง้ั ใจท�ำลายมนั ไปก่อนหนา้ น้ี ผมค่อยๆ ยอ่ งเบาเลยี นแบบทา่ ที
โจร หวังจะถ่ายภาพหัวขโมยขณะเก็บรังนกเพ่ือเป็นหลักฐานประกอบการ
สอบสวนให้มันดน้ิ ไม่หลุด
“หมวดวา่ ไงครับ พรอ้ มจับมันเลยม้ัย”
ดเู หมอื นหวั ขโมยจะตะบตี้ ะบนั เกบ็ รงั นกใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ นนั่ กเ็ กอื บ
เตม็ ถงุ แลว้ มดื สนทิ อยา่ งนหี้ ว่ งเหลอื เกนิ วา่ มนั จะหยบิ เอารงั นกทมี่ ลี กู นกเพงิ่
ฟกั ไปด้วย
“หยุดนะ! น่ีเจ้าหน้าที่ต�ำรวจ” เสียงประโยคคลาสสิกดังมาจาก
ต�ำรวจทา่ นหนึ่ง
หวั ขโมยรตู้ วั มนั รบี ควา้ ถงุ ใสร่ งั นกแลว้ วง่ิ ไปยงั หนา้ ตา่ งบานทใี่ กล้
ทส่ี ุดเพ่อื เตรียมหนี
“ซวยจรงิ งานเขา้ แลว้ ก”ู ผมไดย้ นิ เสยี งหวั ขโมยบน่ พมึ พำ� ขณะทว่ี ง่ิ
ไปดักทางดา้ นหน้า
“แกหนไี มร่ อดหรอก เราวางกำ� ลงั สกดั ไวห้ มดทกุ จดุ แลว้ มอบตวั ซะ”
ต�ำรวจพดู ย�้ำ
โจรชุดด�ำชักมีดข้ึนมา รอบนี้มีทีท่าเตรียมต่อสู้มากกว่าจะว่ิงหนี
ทันทที ี่ผู้กองเห็นมดี กเ็ บ่ยี งตัวใชศ้ อกงัดประชดิ ตวั หัวขโมยเพอื่ ชงิ มีด มวยคู่
น้ดี ูยังไงกไ็ ม่สูสสี ัดส่วนของโจรน้ันซบู ผอมผดิ กบั หุ่นบึกบึนของตำ� รวจ ทง้ั คู่
ตอ่ สลู้ ม้ ลกุ คลกุ คลานกนั พลั วนั คลา้ ยฉากในละครบสู๊ กั เรอื่ งแตไ่ มส่ มจรงิ เทา่
ตอนน้ี ตอนท่ผี มได้เหน็ กับตาตวั เอง

90 บ้านทีไ่ ม่เคยสรา้ งเสร็จ

Thai Tales from the Deep South 91

ฉวบ! เสยี งมีดเฉือนเฉียดแขนผกู้ องไปนิดเดยี ว คนร้ายพลาดทา่
เสยี ทีถกู ต�ำรวจจบั กุมตัวไดใ้ นท่สี ุด
ถึงเวลาสอบสวน คนร้ายถูกจับให้นั่งคุกเข่าในมุมหนึ่งของสวน
หลงั ตกึ หัวขโมยรายนส้ี วมเส้อื และกางเกงรัดรูปสดี �ำบนศรี ษะโพกด้วยผ้าสี
น้ำ� ตาลเข้มปิดหน้าปดิ ตา ทนั ทีทีผ่ ้าปิดหน้าถกู ต�ำรวจกระชากออก
เมื่อผ้าสีน�้ำตาลเข้มผืนยาวหลุดลอยลงไปกองกับพื้น เผยให้เห็น
ใบหนา้ ผ้รู า้ ยตวั จรงิ ผมถึงกับอา้ งปากคา้ ง
“นี่ น่ี น่ี มัน… ฮาซนั ทำ� ไมแกทำ� อยา่ งน”ี้
นถ่ี อื เปน็ เรอ่ื งประหลาดหนงึ่ ทท่ี ำ� ใหผ้ มลมื การเอาผดิ กบั คนรา้ ยตาม
ท่คี ิดไวแ้ ตแ่ รก
คนรา้ ยตวั จรงิ คอื ฮาซนั ลกู ชายคนเดยี วของแบเลาะ เขาอายรุ นุ่ ราว
คราวเดยี วกบั ผม ระยะหลงั เขาเรม่ิ ตดิ เพอ่ื นสว่ นใหญเ่ ปน็ เดก็ เสเพล ออกไป
ม่ัวสุ่มรวมกลุ่มเด็กแว๊นมอเตอร์ไซด์เป็นประจ�ำทุกคืน จนร่างกายเริ่ม
ผ่ายผอมผิดสังเกตแม้ผู้เป็นพ่อจะคอยตักเตือนเขาบ่อยครั้ง แต่ด้วยวัยคึก
คะนองเขาจงึ ไม่เคยสนใจฟงั ไม่หางานทำ� ขอเงินพ่อแม่ใชจ้ ่ายอยู่รำ�่ ไป
สงสารกแ็ ตแ่ บเลาะทหี่ ลดุ ปากปรบั ทกุ ขเ์ รอื่ งลกู ชายกบั ผม บอ่ ยครงั้
ที่เขาดุอาอ์ขอพรจากพระเจ้าให้ลูกชายเลิกข้องเกี่ยวกับยาเสพติด กลับมา
เปน็ คนดีคนเดมิ ที่ช่วยเหลอื งานพ่อแม่
แต่คงสายไป… เมอื่ เดือนทแี่ ลว้ จูๆ่ ร่างกายฮาซันดูทรดุ โทรมกว่า
ทเี่ คย แถมยังมเี งนิ ซ้อื ของฟ่มุ เฟือยเขา้ บา้ น ผมคิดวา่ แบเลาะคงเรมิ่ สงสัย
ลกู ชายตวั เองตงั้ แตน่ น้ั เขาจงึ มีทา่ ทพี ริ ุธเหมอื นปิดบังอะไรบางอย่าง ใคร
จะรู้จักลูกตวั เอง ดเี ท่ากบั คนเป็นพ่อ สว่ นทกั ษะการเก็บรังนกเขาเองทเี่ ป็น
คนสอนใหล้ กู เรยี นรู้ เพอื่ หวงั ใหม้ สี กั วนั ทล่ี กู คดิ ไดก้ ลบั ตวั กลบั ใจมาชว่ ยงาน
พอ่ กบั แม่ ภายหลังการจบั กมุ ฮาซนั ยอมรับสารภาพทุกขอ้ กล่าวหา
“ทางเราคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของต�ำรวจด�ำเนินคดีกับคน
ทำ� ผดิ ต่อไป”

สุรชั ดา จุฑานันท์

เรื่องเล่าจากปลายดา้ มขวาน

“เสียใจด้วยนะแบเลาะ” ประโยคสุดท้ายท่ีหัวหน้าอ�ำนวยพูดกับ
เขาในวันนัน้
ฟังแล้วจุกในอก เหมือนความเศร้า เสียใจ และคับข้องใจ มัน
ประเดประดงั เขา้ มาในใจแบเลาะพร้อม ๆ กัน
วันน้ีเขาเข้าใจแล้วว่าการพยายามปกป้องส่ิงท่ีรักแต่รักษาเอาไว้
ไม่ไดม้ นั เปน็ อยา่ งไร
ความลำ� บากใจเกดิ ขน้ึ ทกุ ครงั้ เมอ่ื เหน็ รงั นกสแี ดง แบเลาะยอมรบั
วา่ เรยี นมานอ้ ยจงึ ไมแ่ นใ่ จวา่ สงิ่ นน้ั คอื เลอื ด ทอ่ี อกมาพรอ้ มนำ้� ลายนกหรอื ไม่
ยิ่งหากรู้ว่ามีการเก็บรังนกที่มีลูกนกอาศัยอยู่ย่ิงรู้สึกสะเทือนใจ ภาพท่ีนก
นางแอน่ สำ� รอกนำ้� ลายเพอื่ สรา้ งรงั ซำ้� แลว้ ซำ�้ เลา่ มนั สะทอ้ นวา่ นกคงแปลกใจ
วา่ ท�ำไมฉันขยันสร้างรงั ไปเท่าไร สกั ก่รี อ้ ยกี่พนั ครั้ง บา้ นเดิมก็พลันหายไป
อย่างไร้ร่องรอยทกุ ที
“กูมันก็ไมต่ า่ งจากลูกชายหรอก ทำ� อาชีพนกี้ เ็ หมอื นขโมยเขากิน”
“ลูกขโมยของคนอ่ืน ส่วนพ่อมันก็หน้าทนขโมยของของนกมาได้
เปน็ ปี ๆ น่ถี า้ นกมันพูดได้ มันกค็ งอยากแจ้งความจบั กูเหมือนกนั ท�ำไมกู
เป็นคนแบบนี”้
แบเลาะนำ้� ตาซมึ เขาเรมิ่ พดู จาไมเ่ ปน็ ภาษา และพยายามโทษตวั เอง
วา่ นคี่ งเปน็ ผลจากการกระทำ� ของเขา หลายปที ท่ี ำ� งานในโรงงานแหง่ นที้ ำ� ให้
เขาคอยเฝา้ สงั เกตพฤตกิ รรมของนกทกุ ตวั การสรา้ งรงั ใหมข่ องนกในทกุ ๆ วนั
สรา้ งบาดแผลเล็กๆ แตบ่ าดลึกในใจเขาเรอื่ ยมา
เขาไมอ่ ยากรสู้ กึ ผดิ ไปมากกวา่ น้ี จงึ ขอหวั หนา้ ลาออกในเยน็ วนั นนั้
โลกสีเทาดวงน้ียังคงหมุนอยู่ ธุรกิจสีเทายังคงด�ำเนินต่อไปอย่าง
หลากหลาย
ผมตอ้ งขอบคณุ แบเลาะทส่ี อนใหเ้ ขา้ ใจความหมายของบา้ นในรปู แบบ
ใหม่ บ้านที่พร้อมจะถูกท�ำลายอยู่ร่�ำไป แม้จะถูกสร้างเพิ่มข้ึนนับพันหลัง
สุดท้ายก็เป็นเพียงหมู่บ้านท่ีเจ้าบ้านต้องยอมจ�ำนนว่าต่อให้พยายามสร้าง
รากฐาน ให้ม่ันคงแข็งแรงเพียงใด อย่างไรก็ไม่สามารถสร้างมันให้ส�ำเร็จ
เสรจ็ ได้

92 บา้ นที่ไมเ่ คยสรา้ งเสร็จ

Thai Tales from the Deep South

ตราบใดทม่ี นษุ ยไ์ มพ่ ยายามเปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม และยงั มคี วาม
ต้องการมากมายไมม่ ีทส่ี ิน้ สุด
ตราบนั้นเจ้านกนางแอ่นน้อยก็คงยังไม่มีหนทางคิดจะปกป้อง
การสรา้ งรังของมนั ใหเ้ สร็จสมบรู ณไ์ ดเ้ ชน่ กัน
ฉนั ใดกฉ็ ันน้นั

สรุ ชั ดา จุฑานันท์ 93



บรรทุกบุญ

สกล ผดงุ วงศ์



Thai Tales from the Deep South

“บรรทกุ บญุ ”

สกล ผดุงวงศ์

รงั สีรุ่งปรงุ ปรายประกายฟา้ ฉาบทาบทาเมฆทวิ เปน็ ริว้ ร่อง
สลบั สลวั มวั มุมตะคมุ่ มอง ไอละอองแสงสางสวา่ งเรือง
ตกึ รามเหย้าเงาทบึ ทมึ ในคร้ึมหมอก แจ้วกระจอกจิก๊ จัก๊ ทักฟา้ เฟอ่ื ง
พิราบหมพู่ รูพรายบนิ ยา้ ยเย้ือง เกาะคขู นั กลอ่ มเมอื งละมนุ ละไม

เกิดภาพงามนยิ ามบญุ อรุณเร่มิ จำ� รัสเจิมโลกลออลอ้ ไถง
พระชราบนสามล้อเลือ่ นครรไล บิณฑบาตมาดม่งุ ไปประจำ� วัน
จวี รเหลืองเรืองทองผอ่ งถนน กะปเิ ยาะห์ขาวหมน่ หมวกคนปั่น
บนความตา่ งทางศรัทธามาผกู พัน บนความตา่ งทส่ี ร้างสรรคธ์ รรมครรลอง

คนสามล้อจติ สะอาดละหมาดเช้า เสรจ็ งานเหยา้ เบาตัวหวั ใจผ่อง
ออกรถไมเ่ รง่ รบี ถบี ประคอง ถงึ อารามยามแสงทองทาบฟา้ พราย
คอยรับรองประคองขนื พระขึน้ นั่ง ดึงเบาะจัดระมดั ระวังวบู เอนหงาย
จัดจีวรซ้อนปรบั ทบทับชาย จึงเคล่อื นกรายรถมาจากอาราม

สกล ผดุงวงศ์ 97

เร่ืองเลา่ จากปลายด้ามขวาน

ป่นั พาพระลัดลอ่ งทอ้ งตลาด ของตักบาตรจากผ้คู นมากลน้ หลาม
ข้าวขนมสม้ สกู ลูกงามงาม น�้ำมะขามนำ�้ ส้มกล่องกองพะเนิน
ชว่ ยจับจดั มดั วางบา้ งแขวนคล้อง สหี นา้ ผ่องแววตาใสไรข้ ัดเขิน
ผคู้ นรักทักถามยามผา่ นเดนิ ไม่มองเมนิ แต่นอ้ ยตอบมอบยิม้ เยน็

เกนิ แรงน่องทอ่ งบกุ บรรทุกหนัก จ�ำแยย่ กั ลงยนั ดันคู้เข็น
แขนตึงลา้ ขาเขยง่ เกร็งเส้นเอน็ นอ่ งปูดเปน็ เส้นขอดขดไม่ทดทอ้
เข้าสู่วัยใกลเ้ จ็ดสบิ แรงรบิ หร ี่ ไม่คอ่ ยดมี เี จบ็ เรา้ ตามเข่าข้อ
เอย้ี วเอวบดิ มีติดรั้งร้าวหลงั คอ พึง่ มดหมอบบี เคล้นเป็นครัง้ คราว

รถเอย๊ี ดอา๊ ดแอดออดเสียงลอดร้อง คู่เจ้าของกร�ำงานผ่านรอ้ นหนาว
อายุค่อนศตวรรษหยดั ยืนยาว เหลก็ กรอ่ นรา้ วครา่ วโครงโคง้ แอน่ เอยี ง
โคมไฟไรห้ ลอดดวงหน้ากลวงโบ๋ หวายพนักหักโหวแ่ กนโยเ้ บ่ยี ง
ยงั ขืนขับขยับยา่ งอยขู่ า้ งเคียง แตส่ ุ่มเส่ียงทรดุ หนักพกั สญั จร

98 บรรทุกบุญ

Thai Tales from the Deep South

คนตกั บาตรบา้ งชว่ ยยดุ ฉดุ รถเคลอื่ น พอลอ้ เลอ่ื นหนกั บรรเทาเบาแรงผอ่ น
ตระเวนรบั สิ่งบญุ ริมทางจร จวบสายแดดแผดร้อนเรก่ ลบั มา
ถึงกุฏชิ ่วยขนถ่ายย้ายข้าวของ เปน็ กลุ่มกองวางเรยี งระเบียงหน้า
เสรจ็ ภาระอันคุ้นเคยเอ่ยอำ� ลา เร่มิ อกี คราอรณุ พรงุ่ จรงุ เมอื ง

ตา่ งเพศต่างศาสนาชราภาพ แต่หน้าอาบอิ่มบญุ หนนุ น�ำเนอ่ื ง
การก่อเก้อื เออ้ื น้�ำใจใช่เปล่าเปลือง เปรียบฟนั เฟืองขบดึงพง่ึ พากัน
มิตรจิตมติ รใจใหฉ้ นั ทม์ ิตร เอกสิทธบิ์ นทศิ ทางท่ีสร้างสรรค์
สงิ่ เลอเลศิ เจดิ จรัสอัศจรรย์ อาจแปรฝันอันเลวร้ายคลายพริบตา

เป็นภาพผุดสะดดุ ตายามฟา้ รุ่ง เหนือขอบคุ้งแม่ตานีศรีสง่า
งามระยบั จบั ใจใสศรทั ธา ส่งิ ประเสริฐบรรเจดิ จ้ารบั ฟา้ เรอื ง

สกล ผดุงวงศ์ 99


Click to View FlipBook Version