47
ส่ิงแรกเร่ิมของการหาแนวทางในการสร้างสรรค์ คือการเก็บ
รวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ที่เก่ียวข้องกับหนังใหญ่ ทัง้ ด้านประวัตคิ วามเป็นมา
กาำ เนิด รปู แบบทางศลิ ปะ และวธิ ิการสร้างตัวหนังในแบบดั้งเดมิ ตลอดจน
วรรณกรรมที่นำามาใช้ในการแสดงหนังใหญ่ จากนั้นลงพื้นที่สำารวจข้อมูล
การศกึ ษาจากภาพจากหนงั สอื จากสอ่ื ทางอนิ เตอรเ์ นต็ นนั้ อาจสะดวกรวดเรว็
และมีข้อมูลจำานวนมาก แต่ไม่อาจสร้างความปลาบปลื้มทางอารมณ์
ความรู้สึกได้เท่ากับการลงพ้ืนที่สำารวจ ท่ีผู้วิจัยจะได้เรียนรู้และซาบซ้ึงถึง
ความรสู้ กึ ทางใจ กระต้นุ ถึงวิญญาณแห่งคุณค่าทางวฒั นธรรมทอี่ ยู่ภายใน
48
แบบรา่ งผลงาน
ในดา้ นการสรา้ งสรรค์ ผวู้ จิ ยั อา้ งองิ จากรปู แบบดง้ั เดมิ ของตวั หนงั
และทา่ ทางการเชดิ ของผเู้ ชดิ นาำ มาออกแบบลดทอนลายละเอยี ดเพอื่ ใหด้ งู า่ ย
และมคี วามร่วมสมยั สามารถเขา้ ได้กับวตั ถแุ วดลอ้ มในสถานท่ี ท่ีจะนาำ ตวั
ผลงานไปติดตงั้ ผวู้ ิจยั เลือกใช้วสั ดุ 2 ประเภทในการทาำ ผลงาน 2 ช้ินงาน
โดยชน้ิ แรกเลอื กใชว้ สั ดไุ ม้ แกะสลกั ลายดว้ ยการเลเซอรแ์ ละลงสี ชน้ิ นจ้ี ะมลี กู เลน่
และเป็นสื่อการเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี โดยผลงานช้ินน้ี
เป็นแผ่นจ๊ิกซอว์ สามารถถอดและประกอบเป็นภาพใหม่ได้ วัตถุประสงค์
เพื่อให้เด็กหรือเยาวชนรู้จักและปลูกฝังความรักในมรดกทางวัฒนธรรม
แก่เยาวชนในอกี ทางหนง่ึ
ผลงานชิน้ ที่ 1
49
สว่ นผลงานชิ้นที่ 2 นน้ั ผู้วจิ ัยเลอื กใช้แผ่นอะครลิ ิกเป็นวสั ดหุ ลัก
นาำ มาแกะสลกั ลายดว้ ยเครอื่ งตดั เลเซอร์ ผลงานชนิ้ นจี้ ะเนน้ การใชส้ อยเปน็
ของประดับตกแต่ง และดว้ ยการเลือกใชว้ ัสดอุ ะครลิ กิ นนั้ จงึ ทาำ ให้สามารถ
อยูร่ ่วมกับวตั ถุสิ่งของตา่ ง ๆ และรปู แบบของการตกแต่งบ้าน อาคารทอี่ ยู่
อาศยั ได้งา่ ย และดรู ว่ มสมัยมากขึ้น
ผลงานช้ินที่ 2
50
“๘ นาง ๘ อตั ลักษณ์ ไทยวน ราชบรุ ี”
โดย รองศาสตราจารยป์ ระภากร สคุ นธมณี
จากลวดลายของผา้ จกคบู วั ทเี่ ปน็ หนงึ่ ในอตั ลกั ษณท์ างวฒั นธรรม
ที่บ่งบอกได้ถึงความเช่ือมโยงและความแตกต่างของชาติพันธุ์ไทยวน
ดว้ ยลกั ษณะการทอเปน็ ผนื ซนิ่ มสี ว่ นประกอบทงั้ หวั ซน่ิ ทอเปน็ แถบสขี าวตอ่ แดง
นาำ มาเยบ็ ตดิ กบั สว่ นตวั ซน่ิ บา้ งเปน็ พนื้ ดาำ คาดลายนาำ้ เงนิ บา้ งเปน็ ตวั แดง
บา้ งเปน็ ผา้ พน้ื ธรรมดา และสว่ นสดุ ทา้ ยคอื สว่ นตนี ซนิ่ จะเปน็ สว่ นทใ่ี ชเ้ ทคนคิ
การทอจกเป็นส่วนสำาคัญ ซึ่งแต่ละส่วนมีการทอท่ีแตกต่างกัน แต่เมื่อนำา
ทง้ั สามสว่ นมาเยบ็ ประกอบกนั กลายเปน็ ผนื ผา้ ซน่ิ ตนี จก ทอมอื ทสี่ วยงาม
51
วัฒนธรรมการทอผ้าที่ยังคงสืบทอดและต่อยอดมาถึงปัจจุบัน
ท้ังที่ยังคงเทคนิคการทอจกแบบด้ังเดิม กล่าวคือ ทอบนพ้ืนดำา จกแดง
แซมด้วย เหลือง เขียว ขาว 5 สที ี่ปรากฏบนผนื ผา้ มีการจกเสน้ ดา้ ยพุ่ง
พเิ ศษดว้ ยขนเมน่ จากภมู ปิ ญั ญาดง้ั เดมิ ทส่ี บื ทอดกนั มาแตเ่ ชยี งแสน สผู่ า้ ซนิ่
ตนี จกราชบรุ ี ผนื ผา้ ปรบั เปลย่ี นไปตามวถิ ชี วี ติ ความเปน็ อยขู่ องผคู้ นในแตล่ ะ
ยุคสมัย แต่ลูกหลานยังคงไว้ซ่ึงเอกลักษณ์และความงามของลวดลาย
ท่ีสะท้อนและบ่งบอกความเป็นรากเหง้าและตัวจนได้อย่างชัดเจน
ดว้ ยเอกลักษณ์และลวดลายที่คงอยู่ จก 8 ลาย ได้แก่ ลายกาบดอกแก้ว
ลายกาบซ้อนหัก ลายโก้งเกง้ ลายดอกเซยี ลายกาบ ลายโก้งเก้งซอ้ นเซีย
ลายหกั นกคู่ และลายหนา้ หมอน ทง้ั 8 ลายเอกลักษณ์ เปน็ ลายจกทอี่ ยใู่ น
สว่ นของลายหลกั เปน็ แถบลายขนาดใหญอ่ ยตู่ รงกลางของผนื ผา้ สว่ นตนี ซนิ่
สามารถพลกิ แพลง ปรบั เปลย่ี นหรอื ผสมผสานลายหลกั ทงั้ 8 ใหอ้ ยรู่ ว่ มกนั
ไดต้ ามแตจ่ นิ ตนาการของชา่ งทอทจ่ี ะประยกุ ตใ์ หล้ ายใดอยรู่ ว่ มกบั ลายใดได้
อย่างสวยงามลงตัว อีกส่วนประกอบหน่ึงของผืนผ้าจก คือลายประกอบ
ซึ่งเป็นแถบลายเล็ก ๆ ท่ีขนาบอยู่ทั้งบนและล่างของลายหลัก นิยมนำา
ลวดลายจากธรรมชาตริ อบตวั มาพลกิ แพลงจดั สรรใหเ้ ปน็ ลายทอทส่ี วยงาม
เช่น ลายนก ลายนกคู่ ลายมะลิเล้ือย ลายดอกแก้ว ลายขอผักกูด
ลายหนามเตย เป็นต้น
52
53
คณุ ป้าพมิ พ์ ชมพเู ทศ
สาธิตการนุ่งผา้ ซนิ่ ตีนจก
เกดิ เปน็ แรงบนั ดาลใจในการออกแบบผลงานสรา้ งสรรคน์ ้ี โดยผวู้ จิ ยั
ตอ้ งการนาำ เสนอ ๘ ลายเอกลกั ษณ์ ใหเ้ กดิ เปน็ ผลงานศลิ ปะทม่ี คี วามรว่ มสมยั
มากข้ึน ผ่านการนำาเสนอด้วยผลงานการฉลุแผ่นอะคริลิคเป็นลวดลายผ้า
ทง้ั 8 ลาย นำาเสนอดว้ ยต๊กุ ตาหญงิ สาวในอริ ยิ าบถตา่ ง ๆ เป็นตวั แทนของ
ผ้หู ญงิ ไทยวน ทยี่ ังคงนุ่งซ่นิ คาดผา้ เคยี นอกบ่งบอกถงึ ลวดลายท่สี วยงาม
บนผนื ผา้ ซน่ิ ทส่ี วมใสใ่ นยคุ สมยั ทเี่ ปลย่ี นแปลงไป ซงึ่ ผลงานนส้ี ามารถพฒั นา
เปน็ ผลติ ภณั ฑ์ ของทร่ี ะลกึ ตง้ั แสดงใหค้ วามรู้ หรอื ประดบั สถานทกี่ ส็ วยงาม
ทง้ั สิ้น
54
๘ นาง ๘ อัตลกั ษณ์ ไทยวน ราชบรุ ี
55
56
“ตอ่ ติด-จกขาวม้า”
โดย อาจารย์วรษุ า อุตระ
ผ้าขาวม้า หรือ ผ้าเคียนเอว เป็นผ้าที่นิยมใช้กันท่ัวทุกภาค
เปน็ ผา้ เอนกประสงคท์ สี่ ามารถใชส้ อยไดห้ ลากหลายมากมาย ไมว่ า่ จะใชผ้ กู
ทำาเปลเด็กหรือเปลญวน ใช้นุ่งอาบนำ้า เช็ดตัว ปูนอน ห่อของ ฯลฯ
เป็นผ้าอเนกประสงค์ท่ีผูกพันกับวิถีชีวิตของผู้คนควบคู่กับสังคมไทยมา
ยาวนาน ซงึ่ ลกั ษณะผา้ ขาวมา้ แตล่ ะจงั หวดั มลี กั ษณะทเี่ ปน็ เอกลกั ษณเ์ ฉพาะตน
ผ้าขาวมา้ จังหวัดราชบุรี ทน่ี ยิ มทอสว่ นใหญ่มดี ้วยกัน 2 ลวดลาย
คือ ลายหมากรุกและลายตาปลา สีด้ังเดิมนิยม สีแดง น้ำาเงิน ขาว ดำา
แตใ่ นจงั วดั ราชบรุ นี นั้ ยงั มผี า้ ขาวมา้ ของชาวไทยวน 2 ชนดิ คอื ผา้ ขาวมา้ จก
และ ผา้ ขาวมา้ แดง ทมี่ คี วามงามทีเ่ ปน็ เอกลกั ษณโ์ ดดเด่นด้วยสแี ละลายจก
โดยเฉพาะผ้าขาวม้าจก บริเวณหัวผา้ สองขา้ งของชายผา้ จะจกลายไว้ เชน่
ลายชา้ ง ลายมา้ ลายคน ซงึ่ เปน็ ลายจกทม่ี เี ฉพาะบนหวั ผา้ ขาวมา้ จกแตไ่ มม่ ี
อยู่ในลายจกผ้าซ่ินของชาวไทยวน ซ่ึงกำาลังถูกลืมเลือนไป ผู้วิจัยจึงได้นำา
ผ้าขาวม้าจก ผ้าขาวม้าแดง และผ้าขาวม้า มาใช้ในการออกแบบกระเป๋า
ผ้าขาวม้าสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดการเรียนรู้การสร้างลวดลายจกและคำานึง
ถึงคุณค่าผสมผสานกับประโยชน์ใช้สอยของลายจกอัตลักษณ์ผ้าขาวม้าจก
ผา้ ขาวมา้ แดง และผ้าขาวมา้ ของไทยวน ราชบรุ ี
57
ผ้าขาวม้า ผา้ ขาวม้าแดง ผา้ ขาวมา้ จก
แนวทางในการออกแบบนำาเอาอัตลักษณ์ของผ้าขาวม้าจก
ผ้าขาวม้าแดง และผ้าขาวม้า มาใช้ออกแบบนั้น ผู้วิจัยนำาเสนอรูปแบบ
กระเป๋าท่ีคนจับต้องและเข้าถึงได้ง่าย ซ่ึงสมัยก่อนคนไทยก็ใช้ผ้าขาวม้าใน
การห่อหมุ้ ของหรือเอามาผกู เปน็ ผ้าอมุ้ ลูกตดิ ตวั เวลาเข้าสวนเขา้ นา ทผ่ี สม
ผสานกับการเรียนรู้รูปแบบการเกิดลวดลายจกบนผ้าขาวม้าจกท่ีเป็นลาย
เฉพาะของผชู้ ายทไ่ี มป่ รากฏบนผา้ ซน่ิ ไทยวน ผวู้ จิ ยั ใชแ้ มเ่ หลก็ เยบ็ เขา้ กบั ตวั
ผา้ เปน็ ชน้ิ สเ่ี หลย่ี มจตั รุ สั นาำ มาเรยี งตอ่ กนั บนกระเปา๋ ผา้ ทอี่ อกแบบใหค้ ลา้ ย
กระดาษกราฟ โดยใช้แผ่นเหล็กหรือแม่เหล็กติดไว้ตามลักษณะการเกิด
ลวดลายทเ่ี รยี งตวั ตดั กนั ของจดุ ตดั กนั ของเสน้ ดา้ ย 2 กลมุ่ เกดิ เปน็ จดุ เลก็ ๆ
ชอ่ งเหมอื นสเ่ี หลยี่ มจตรุ สั เรียงตัวต่อกันจนเปน็ ลายจกนน่ั เอง
58
“เวลา”
โดย ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ชานนท์ ไกรรส
“เวลา” เป็นผลงงานการออกแบบผลิตภณั ฑน์ าฬกิ าติดผนงั โดยมี
แนวความคดิ มาจากการจนิ ตนาการถงึ แผน่ ดนิ ราชบรุ ที ผ่ี า่ นการเวลาหลอ่ หลอม
เอาศิลปวัฒนธรรมจากที่ต่าง ๆ ผสมผสานมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
ผวู้ จิ ยั ขนึ้ รปู ตวั นาฬกิ าดว้ ยดนิ พอรช์ เลนเพอื่ แทนแผน่ ดนิ ราชบรุ ี ตกแตง่ พนื้ ผวิ
เปน็ ลายผา้ ทอราชบรุ ดี ว้ ยเทคนคิ สบี นเคลอื บ ผสานกบั เทคนคิ ประตมิ ากรรม
นนู สงู และนนู ตาำ่ จากนน้ั ลงสดี ว้ ยสโี ทนรอ้ นเปน็ หลกั ตดั ดว้ ยสโี ทนเยน็ เพมิ่
ความสบายตา โดยผลงานสรา้ งสรรค์ “เวลา” สามารถใชป้ ระโยชนเ์ พอื่ ดเู วลา
ประดบั ตกแตง่ สถานที่ เปน็ ผลติ ภณั ฑข์ องทร่ี ะลกึ และเปน็ ผลงานทถ่ี า่ ยทอด
ศลิ ปะดา้ นลวดลายผา้ ทโ่ี ดดเดน่ ของจงั หวดั ราชบรุ ลี งบนชน้ิ งานรปู แบบใหม่
ให้ร่วมสมยั มากย่ิงข้ึน
59
60
เครอื่ งป้ันดินเผาตกแต่งผนงั
แรงบนั ดาลใจจากลวดลายผา้ ทอของกลมุ่ ชาตพิ นั ธุใ์ นจงั หวดั ราชบุรี
โดย ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ธาตรี เมืองแกว้
ผู้วิจัยมีความสนใจในการนำาลวดลายผ้าทอลายต่างๆ ที่เป็น
ภมู ปิ ญั ญาการสรา้ งสรรคข์ อง กลมุ่ ชาตพิ นั ธต์ุ า่ งๆ ในจงั หวดั ราชบรุ ี นาำ มา
เปน็ แรงบนั ดาลใจในการออกแบบสรา้ งสรรคผ์ ลงานเครอื่ งปน้ั ดนิ เผาราชบรุ ี
ให้อยู่ในรูปแบบผลงานศิลปะเครื่องปั้นดินเผาเพ่ือใช้ในการตกแต่งผนังโดย
จะติดต้ังให้อยู่ในพ้ืนท่ีสาธารณะเพ่ือสะท้อนภูมิปัญญาการสร้างสรรค์
ลวดลายผ้าทอแบบต่าง ๆ เป็นการส่งเสริมการ เรียนรู้ผ่านผลงานศิลปะ
ทีต่ ดิ ตง้ั อยู่ในพื้นท่ีสาธารณะ
61
เทคนิควิธีการมีการผสานภูมิปัญญากระบวนการการสร้างสรรค์
เครอื่ งปน้ั ดนิ เผาในการใชน้ า้ำ ดนิ ของดนิ ตา่ งชนดิ มาใชใ้ นการตกแตง่ บนพน้ื ผวิ
ของชิ้นงานที่ทำามาจากดินราชบุรีและการใช้นำ้าเคลือบข้ีเถ้ามาใช้ตกแต่ง
บนผิวช้ินงานก่อนทำาการเผาด้วยเตามังกรซ่ึงเป็นกระบวนการผลิตแบบ
ดั้งเดิมของการสร้างสรรค์ เครื่องปั้นดินเผาราชบุรี ในส่วนของการ
สร้างสรรค์ลวดลายได้มีการศึกษาของลวดลายผ้าทอของชาติพันธุ์ต่าง ๆ
ในจงั หวดั ราชบรุ ที มี่ เี อกลกั ษณใ์ นการประกอบลวดลายมาจากรปู รา่ งเลขาคณติ
โดยมกี ารตดั ทอนใหเ้ หมาะสมกบั การสรา้ งสรรคด์ ว้ ยเครอื่ งเคลอื บดนิ เผาใช้
สาำ หรบั ตกแตง่ ผนงั เพอ่ื สะทอ้ นภมู ปิ ญั ญาการสรา้ งสรรค์ ลวดลายผา้ ทอของ
ชาตพิ นั ธุต์ า่ ง ๆ ในจังหวดั ราชบุรี
ภาพผู้วจิ ยั นำานักศึกษาลงพ้ืนท่ี
เข้าศกึ ษาเกบ็ ข้อมลู การสรา้ งสรรคเ์ ครือ่ งปัน้ ดนิ เผาราชบรุ ี
ณ พิพธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาตริ าชบรุ ี
62
การทำาลวดลายบนผลิตภัณฑ์โอ่งจะมีลักษณะเฉพาะไม่เหมือน
การเขยี นลวดลายเครือ่ งเคลอื บดินเผา ประเภทอน่ื วัสดุทีใ่ ชเ้ ขยี นลวดลาย
บนโอ่งจะเป็นดินเหนียวดำาที่ผสมกับดินขาวจนดินเน้ือนิ่ม เนื้อดินจะต้อง
กรองเป็นพิเศษให้มีเน้ือละเอียดมาก เรียกว่า “ดินติดดอก” นอกจากน้ี
ผลิตภัณฑ์บางชิ้นอาจใช้วิธีการขูดแกะลวดลาย ดินติดดอกเป็นดินสำาหรับ
ติดลวดลายบนโอ่ง ดินนี้ภายหลังการเผาจะขับให้เคลือบออกเป็นสีเหลือง
ในขณะที่พ้ืนเดิมเป็นสีนำ้าตาล ลายท่ีนิยมติดผสมกับลายมังกรจะมีลายนก
ลายเครอื เถา กรรมวธิ กี ารตกแตง่ นใ้ี นทางทางทฤษฎเี รยี กกนั วา่ การทานา้ำ ดนิ
ภาพช่างตกแตง่ ลวดลายบนโอง่ ด้วยนาำ้ ดนิ ติดดอก
ถา่ ยท่ีโรงงานรงุ่ ศิลป์ผลิตภัณฑ์ดินเผา จ.ราชบุรี
ภาพสโี อ่งมงั กรทีต่ กแต่งด้วยวธิ กี ารทาน้ำาดนิ
หลงั จากผ่านกระบวนการเผาแล้ว
ถ่ายภาพท่ีโรงงานรุง่ ศลิ ป์ผลิตภณั ฑด์ ินเผา จ.ราชบุรี
63
ภาพซนิ่ ตีนจก ถา่ ยภาพทพี่ ิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ราชบุรี
ลายหักนกคู่ ลายกาบดอกแกว้
ลายหนา้ หมอน ลายโกง้ เก้ง
64
ผู้วิจัยตัดดินให้เป็นรูปร่างเลขาคณิตที่มีขนาดแตกต่างกันจากนั้น
ทาำ การประกอบเปน็ ลวดลายทไ่ี ดม้ กี ารศกึ ษาจากโครงของลายกาบดอกแกว้
ทาำ การจดั วางใหม้ คี วามเรยี บงา่ ยมากขนึ้ แตย่ งั ใหเ้ หน็ เปน็ เคา้ โครงของลายผา้
ก่อนนำาชิ้นงานไปเข้าเตาเผา ผู้วิจัยนำานำ้าดินและเคลือบทาลงบนช้ินงาน
เพ่ือให้เกิดความน่าสนใจในความต่างของสีเมื่อนำาช้ินงานมาจัดวางสร้าง
องค์ประกอบเป็นลวดลายท่ีได้มีการศึกษาจากโครงของลายกาบดอกแก้ว
ทาำ การจดั วางใหม้ คี วามเรยี บงา่ ยมากขน้ึ แตย่ งั ใหเ้ หน็ เปน็ เคา้ โครงของลายผา้
กอ่ นนำาช้ินงานไปเข้าเตาเผา
65
การตดิ ตงั้ ผลงานใหก้ บั ชมุ ชนคนตลาดเกา่ โคยก๊ี เมอื งราชบรุ ี โดย
ไดร้ บั การสนบั สนนุ และชว่ ยเหลอื เปน็ อยา่ งดใี นการตดิ ตง้ั ผลงานจาก ผแู้ ทน
ชุมชนและผู้ประกอบการเจา้ ของโรงงานรุ่งศลิ ป์ผลติ ภัณฑด์ นิ เผา จ.ราชบุรี
ภาพผลงานชดุ แรกเมอ่ื ตดิ ตง้ั เสรจ็ แลว้ ไดร้ บั ความสนใจจากสมาชกิ
สภาผู้แทนจงั หวดั ราชบุรี คนในชุมชน เด็กๆ และผู้คนที่เดนิ ผ่านไปมาให้
ความสนใจ ทำาให้ผู้วิจัยมีกำาลังใจที่จะทำางานชุดใหม่เพ่ือใช้ในการตกแต่ง
ผนงั เพอื่ สะทอ้ นภมู ปิ ญั ญาการสรา้ งสรรค์ ลวดลายผา้ ทอของชาตพิ นั ธต์ุ า่ งๆ
ในจงั หวัดราชบรุ ีเพอื่ ส่งเสรมิ การเป็นแหล่งเรียนรู้ในพ้นื ทส่ี าธารณะต่อไป
66
ผลงานดงั กลา่ วไดผ้ า่ นการศกึ ษา คน้ ควา้ หาแรงบนั ดาลใจในดา้ น
ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ประวัติศาสตร์
ประตมิ ากรรม สถาปตั ยกรรม สถานทสี่ ำาคญั และอ่นื ๆ ในจงั หวดั ราชบรุ ี
รังสรรค์ออกมาเปน็ ผลงานท้งั 9 ชดุ ไม่ว่าจะเป็นชดุ สื่อการเรียนรู้ประเภท
เกมกระดานหรือบอร์ดเกม ท่องเที่ยว เรียนรู้ ราชบุรี ที่สร้างความ
สนุกสนานและได้ความรู้ในเร่ืองราวต่าง ๆ ภายในจังหวัด เชื่อมโยงสู่
การเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ (Lifelong Learning) โดยภายในเรอื่ งราวหรอื เนอ้ื หา
ท่ปี รากฏในบอร์ดเกมน้ัน เร่ิมต้นด้วยตวั หมากเดนิ เกม สวัสดรี าชบุรี ท่ีได้
แรงบนั ดาลใจมาจากโอง่ มงั กร ผลติ ภณั ฑด์ นิ เผาเลอื่ งชอื่ ของจงั หวดั ราชบรุ ี
นำามาออกแบบใหม่ให้เข้าถึงง่าย ให้ภาพลักษณ์สนุกสนานเป็นมิตร
สรา้ งบรรยากาศในการเลน่ เกมกระดานใหเ้ กดิ ความสนกุ สนานและไดเ้ รยี นรู้
จดจำาสญั ลกั ษณด์ งั กลา่ ว เช่อื มโยงไปสกู่ ารเดนิ เกมในตารางเพื่อเขา้ ถงึ เกม
และส่ือเรียนรู้อื่น ๆ ที่ทางคณะผู้วิจัยสร้างสรรค์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
โคมไฟซมุ้ ประตจู นี ทถี่ า่ ยถอดลกั ษณะสาำ คญั ของซมุ้ ประตจู นี ใหอ้ ยใู่ นขนาด
เล็กลง ใช้เพ่ือประดับตกแต่งก็ดีหรือเพื่อเป็นส่ือในการศึกษาหาความรู้
ด้านสถาปัตยกรรมโบราณก็ดี หุ่นจ�าลองกระดาษเพ่ือการเรียนรู้
ทางวฒั นธรรม ทจ่ี ำาลองสถาปตั ยกรรมต่าง ๆ ในจังหวดั ราชบรุ ี สามารถ
ฝกึ สมาธิ พฒั นาทกั ษะ และกระตนุ้ การรบั รเู้ รอื่ งราวสถาปตั ยกรรมทส่ี าำ คญั
ผ่านหนุ่ จาำ ลองกระดาษเหล่าน้ไี ด้ หากกล่าวถงึ วัดขนอน กจ็ ะต้องกลา่ วถึง
หนังใหญ่ ศิลปกรรมท่มี ีเอกลกั ษณแ์ ละทรงคณุ คา่ ทผ่ี ู้วจิ ยั ไดน้ ำาเสนอผา่ น
ผลงาน เชิดช-ู ชเู ชดิ ถอดเอาเอกลกั ษณข์ องผูเ้ ชดิ และตัวหนงั มาออกแบบ
ใหม่ ลดทอนรายละเอยี ดบางประการ เพม่ิ ความรว่ มสมยั ให้อยู่ในรปู แบบ
จกิ๊ ซอว์ ทก่ี ลายเปน็ สอื่ การเรยี นรดู้ า้ นศลิ ปวฒั นธรรมไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ในเรอ่ื ง
ผา้ ทอราชบรุ ที ีโ่ ด่งดังนัน้ ถูกถ่ายทอดผ่านผลงาน ๘ นาง ๘ อตั ลกั ษณ์
ไทยวน ราชบรุ ี โมเดลหญงิ สาว 8 นาง นงุ่ ผา้ ซน่ิ ตนี จก 8 ลาย ในอริ ยิ าบถ
ต่าง ๆ เปน็ ตวั แทนของผหู้ ญงิ ไทยวน ทย่ี งั คงนงุ่ ซนิ่ คาดผา้ เคยี นอกบง่ บอกถงึ
ลวดลายที่สวยงามบนผืนผ้าซิ่นท่ีสวมใส่ในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป
ตอ่ ติด-จกขาวมา้ การนำาผ้าขาวมา้ จก ผา้ ขาวมา้ แดง และผ้าขาวม้า มาใช้
ในการออกแบบกระเป๋าผ้าขาวม้าสร้างสรรค์และเกิดการเรียนรู้จาก
67
การสร้างลวดลายจกด้วยแถบผ้าติดแม่เหล็กที่สามารถถอด แกะ เปลี่ยน
ลวดลายได้ และท้ายท่ีสุด สิ่งที่จะขาดไม่ได้หากกล่าวถึงจังหวัดราชบุรี
น่ันคือเซรามกิ และเครื่องดนิ เผา ดว้ ยผลงาน เวลา ผลงานนาฬิกาติดผนัง
จากวัสดุเซรามิกท่ีเป็นตัวแทนแผ่นดินราชบุรีท่ีได้ผ่านกาลเวลาผสมผสาน
ศิลปวัฒนธรรมหลากหลายจนกลายเป็นราชบุรีในปัจจุบัน และสุดท้าย
เครื่องปั้นดินเผาตกแต่งผนังแรงบันดาลใจจากลวดลายผ้าทอของกลุ่ม
ชาติพันธุ์ในจังหวัดราชบุรี การนำาลวดลายผ้าทอลายต่าง ๆ ที่เป็น
ภมู ปิ ญั ญาการสรา้ งสรรคข์ องกลมุ่ ชาตพิ นั ธต์ุ า่ ง ๆ ในจงั หวดั ราชบรุ ี นาำ มา
เ ป ็ น แ ร ง บั น ด า ล ใ จ ใ น ก า ร อ อ ก แ บ บ ใ ห ้ อ ยู ่ ใ น รู ป แ บ บ ผ ล ง า น ศิ ล ป ะ
เครื่องปั้นดินเผาเพ่ือใช้ในการประดับตกแต่งผนัง โดยเฉพาะในพ้ืนที่
สาธารณะ
68