รายงานผลการกำกบั ตดิ ตามและใหค้ ำปรกึ ษา
การขับเคล่ือนหลักสูตรต้านทจุ ริตศกึ ษา
กจิ กรรมศนู ยใ์ ห้คำปรึกษาหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
ภายใตโ้ ครงการสรา้ งและพัฒนาหลกั สตู รต้านทุจรติ ศกึ ษา พ.ศ. 2565
สำนักต้านทุจริตศกึ ษา สำนักงาน ป.ป.ช.
คำนำ
รายงานผลการกำกับติดตามและให้คำปรึกษาการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา จัดทำขึ้นโดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจในการนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปปรับใช้ การรับทราบถึงผลการ
ดำเนินการและปัญหาที่พบระหว่างดำเนินการ รวมถึงแนวทางในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิ ภาพ
การดำเนินการให้ประสบความสำเร็จ ดำเนินการโดยลงพื้นที่และประชุมผ่านระบบการประชุมออนไลน์
(Online Meeting Platform) ในแต่ละภูมิภาครวมทั้งกรุงเทพมหานคร โดยคัดเลือกจากหน่วยงานที่ยังไม่ได้
นำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้ หรือหน่วยงานที่นำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้แล้วแต่ยังไม่ได้รายงาน
ผลการขับเคล่ือนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษามายังสำนักงาน ป.ป.ช. โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้ทำการ
กำกับติดตามและให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รายวิชาเพิ่มเติม
การป้องกันการทุจริต) และหลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด “Youngster with good heart”)
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. มุ่งหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
โดยการนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายทเ่ี ก่ียวข้อง เพ่ือให้สอดคล้องและบรรลุตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
(21) ประเด็น การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ (พ.ศ. 2561 - 2580) ที่มุ่งเน้น “คน” ทุกกลุ่ม
ในสังคม โดยกลุ่มเด็กและเยาวชนเน้นการปลูกฝังและหล่อหลอมให้มีจิตสำนึกและพฤติกรรมยึดมั่น
ในความซื่อสัตย์สุจริตผ่านหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับ ท้ังทฤษฎีและปฏิบัติตั้งแต่ปฐมวัยไปจนถึง
ระดับอุดมศึกษา กลุ่มประชาชนท่ัวไปเน้นการสร้างวัฒนธรรมและพฤติกรรมสุจริตควบคู่กับการส่งเสริม
การมีส่วนร่วมต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเป้าหมายให้ประชาชนทุกคนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรม
ซ่อื สัตย์สจุ ริตและมสี ่วนร่วมในการต่อตา้ นการทุจรติ และประพฤตมิ ชิ อบ
คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานผลการกำกับติดตามและให้คำปรึกษาการขับเคลื่อนหลักสูตร
ต้านทุจริตศึกษา ฉบับนี้จะเป็นแนวทางและเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมสร้างวัฒนธรรมและ
พฤติกรรมซ่ือสตั ย์สจุ ริตในสังคมไทยตอ่ ไป
สำนกั ต้านทุจริตศึกษา
สำนกั งาน ป.ป.ช
สงิ หาคม 2565
| รายงานผลการกำกบั ติดตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขับเคลอื่ นหลักสตู รต้านทจุ ริตศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
สารบัญ
บทนำ หน้า
1
บทที่ ๑ 3
ความเป็นมาและวัตถุประสงค์
7
บทท่ี ๒
หลักสตู รตา้ นทุจรติ ศกึ ษา (Anti - Corruption Education) 23
บทท่ี ๓
ผลการกำกบั ตดิ ตามและให้คำปรกึ ษาหลกั สตู รต้านทจุ ริตศกึ ษา
ภาคผนวก
1. กจิ กรรมศนู ย์ใหค้ ำปรึกษาหลกั สตู รต้านทจุ ริตศึกษาประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
ภายใตโ้ ครงการสรา้ งและพฒั นาหลักสูตรตา้ นทุจริตศึกษา พ.ศ. 2565
2. กำหนดการประชมุ หารอื เพ่ือติดตามและใหค้ ำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจรติ ศึกษา
3. เนอ้ื หาชุดวชิ าประกอบหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา (Anti-Corruption Education)
| รายงานผลการกำกับติดตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขับเคล่อื นหลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
บทนำ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 948-19/2561 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ได้มี
มติเห็นชอบหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้ และสื่อประกอบการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต 5 หลักสูตร
ประกอบด้วย หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลักสูตรอุดมศึกษา หลักสูตรกลุ่มทหารและตำรวจ หลักสูตร
วิทยากร ป.ป.ช. /บุคลากรภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ และหลักสูตรโค้ช รวมทั้งเห็นชอบให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี
เพอื่ พจิ ารณาส่งั การให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหลักสูตรไปใช้กับกลมุ่ เป้าหมาย
โดยเมื่อวันท่ี 22 พฤษภาคม 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำ
หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) ไปพิจารณาปรับใช้กับกลุ่มเป้าหมายใน
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จึงได้มีการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาลงสู่สถานศึกษาและมหาวิทยาลัย
ทุกสังกัดทั่วประเทศ โดยกำหนดให้ทุกสถานศึกษานำหลักสูตรฯ ไปขับเคลื่อนตั้งแต่ปีการศึกษา 1/2562
(เดือนพฤษภาคม 2562) เป็นต้นไป รวมถึงหน่วยงานอ่ืนๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนหลักสูตร
ต้านทุจริตศึกษา ทั้ง 5 หลักสูตร และวันที่ 18 สิงหาคม 2563 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้นำไปปรับใช้ตาม
แนวทางที่สำนักงาน ป.ป.ช.เสนอ เพื่อให้การขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็น
รูปธรรม ตงั้ แตป่ ีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จนถงึ ปจั จุบัน สำนักงาน ป.ป.ช. ไดด้ ำเนนิ การติดตามการขับเคลื่อน
หลักสตู รฯ เพื่อผลักดนั และให้คำปรึกษาแก่สถานศึกษา และหน่วยงานที่เกย่ี วข้องในการนำหลักสตู รต้านทุจริตศึกษา
ไปใช้ รวมถึงการประเมินผลสัมฤทธิ์หลักสูตรต้านทุจริตศึกษาทั้ง 5 หลักสูตร เพื่อให้การขับเคลื่อนหลักสูตร
ต้านทจุ ริตศึกษาเกิดประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลสูงสุด และเกดิ ผลสมั ฤทธ์ิตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
(21) ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ (พ.ศ. 2561 – 2580) ในการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อ
การทุจริตและส่งเสริมให้ประชาชนมวี ฒั นธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สจุ รติ
วตั ถุประสงค์
1. เพื่อเผยแพร่ ผลักดันความร่วมมือ และให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาให้กับหน่วยงาน
ดา้ นการศกึ ษาหรือหน่วยงานทเ่ี ก่ียวข้อง นำไปพิจารณาปรับใช้ในการเรยี นการสอนในสถานศึกษาและในหนว่ ยงาน
๒. เพื่อให้รับทราบถึงผลการดำเนินการ ปัญหาที่พบระหว่างการดำเนินการ แนวทางในการปรับปรุง
และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการขับเคลื่อนหลักสูตรตา้ นทจุ ริตศึกษาใหป้ ระสบความสำเรจ็
3. เพื่อรายงานผลการกำกับ ติดตามและใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับการปรับปรุงหลักสูตรต้านทุจริต
ศึกษาส่กู ารสร้างสังคมท่ีไม่ทนต่อการทจุ ริต และยกระดับค่าดชั นีการรับร้ขู องประเทศตามเป้าหมาย
ประโยชน์ทีค่ าดวา่ จะไดร้ บั
1. เกิดการเผยแพร่ ผลักดันความร่วมมือ และให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาให้กับหน่วยงาน
ดา้ นการศึกษาหรือหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง นำไปพิจารณาปรับใช้ในการเรยี นการสอนในสถานศึกษาและในหนว่ ยงาน
2. มกี ารรายงานผลการดำเนนิ การเป็นระยะเพ่ือรบั ทราบผลการขับเคล่ือนหลกั สตู รต้านทุจริตศกึ ษา
3. มีการนำข้อมูลผลการดำเนินการ ปัญหาที่พบระหว่างการดำเนินการของการขับเคลื่อนหลักสูตร
ต้านทจุ รติ ศกึ ษา เพอ่ื เป็นแนวทางในการปรับปรุงและเพมิ่ ประสิทธภิ าพการดำเนนิ การใหด้ ยี ่ิงขึ้น
1 | รายงานผลการกำกบั ติดตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขบั เคลอ่ื นหลกั สูตรตา้ นทุจรติ ศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
กลมุ่ เป้าหมาย
1. หนว่ ยงาน/บุคลากรทเ่ี กีย่ วข้องในภาครฐั รฐั วสิ าหกิจ และภาคเอกชน
2. ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา
3. นักเรียน นิสิต นักศึกษา
4. ภาคประชาสงั คม/ประชาชนท่วั ไป
5. ผบู้ รหิ าร และเจา้ หนา้ ทีส่ ำนกั งาน ป.ป.ช.
การดำเนนิ การ
กจิ กรรมศนู ยใ์ หค้ ำปรกึ ษาหลักสตู รต้านทุจรติ ศกึ ษา
กจิ กรรมที่ 1 การเพมิ่ ประสิทธิภาพด้านการประชาสัมพนั ธ์และให้คำปรึกษาหลักสตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา
กจิ กรรมท่ี 2 การใหค้ ำปรกึ ษาเชงิ ลกึ ในการขบั เคลือ่ นหลกั สตู รต้านทุจริตศึกษา
กจิ กรรมท่ี 3 การจดั ทำรูปเล่มรายงานผลการใหค้ ำปรกึ ษาหลักสตู รตา้ นทุจริตศึกษา
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
ตวั ช้ีวดั ของผลผลติ /ผลลัพธก์ ารดำเนินโครงการ
๑. กจิ กรรมที่ ๑ การเพ่ิมประสิทธภิ าพด้านการประชาสัมพันธแ์ ละใหค้ ำปรึกษาหลกั สตู รต้านทุจริตศึกษา
ผลผลติ (Output) : การเพิม่ ประสิทธิภาพด้านการประชาสมั พันธ์ฯ
ตวั ชวี้ ดั : เอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ครบถ้วนถูกต้องจำนวน 2,000 ชุด
ผลลพั ธ์ (Outcome) : การขับเคลื่อนกิจกรรมศนู ย์ใหค้ ำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
ตัวชี้วัด : รายงาน/ข้อเสนอแนะการขบั เคลือ่ นกจิ กรรมศนู ย์ให้คำปรึกษา
หลกั สตู รต้านทุจริตศกึ ษา จำนวน 1 ฉบบั
๒. กิจกรรมท่ี ๒ การใหค้ ำปรึกษาเชิงลกึ ในการขับเคลือ่ นหลักสูตรต้านทจุ ริตศึกษา
ผลผลิต (Output) : การให้คำปรกึ ษาหลักสูตรต้านทจุ ริตศึกษา
ตวั ชว้ี ดั : จำนวนการให้คำปรึกษา ไม่นอ้ ยกวา่ 10 หน่วยงาน
ผลลัพธ์ (Outcome) : การขับเคล่ือนกิจกรรมศูนย์ใหค้ ำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
ตวั ช้ีวดั : รายงาน/ขอ้ เสนอแนะการขับเคลื่อนกิจกรรมศูนย์ให้คำปรึกษา
หลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศึกษา จำนวน 1 ฉบับ
3. กจิ กรรมท่ี 3 การจดั ทำรปู เล่มรายงานผลการให้คำปรึกษาหลักสตู รต้านทจุ ริตศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
ผลผลิต (Output) : การจัดทำรูปเล่มรายงานผลการให้คำปรกึ ษาหลักสูตรต้านทจุ รติ ศึกษา
ตัวชว้ี ดั : การจัดทำเอกสารเผยแพร่ จำนวน 480 เล่ม
ผลลัพธ์ (Outcome) : การขับเคลื่อนกิจกรรมศูนย์ใหค้ ำปรึกษาหลกั สูตรต้านทุจริตศึกษา
ตวั ชีว้ ัด : รายงาน/ขอ้ เสนอแนะการขบั เคลื่อนกิจกรรมศูนย์ใหค้ ำปรกึ ษา
หลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา จำนวน 1 ฉบบั
ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ
สำนกั ต้านทุจริตศึกษา สำนักงาน ป.ป.ช.
การติดตามและประเมนิ ผล
เอกสารสรุปการดำเนนิ การกิจกรรมศูนยใ์ ห้คำปรึกษาหลักสูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา
๒ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและให้คำปรึกษาการขับเคลอ่ื นหลกั สูตรต้านทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
บทที่ ๑
ความเป็นมาและวตั ถุประสงค์
ความเป็นมาของหลกั สตู รต้านทุจริตศึกษา
ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564)
ยุทธศาสตรท์ ่ี 1 “สร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจริต” มงุ่ เน้นให้ความสำคญั ในกระบวนการปรับสภาพสังคมให้เกิด
ภาวะที่ “ไม่ทนต่อการทุจริต” โดยเริ่มตั้งแตก่ ระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมในทุกระดบั ช่วงวยั ต้ังแต่ปฐมวยั
เพื่อสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริต และปลูกฝังความพอเพียง มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต ดำเนินการผ่านสถาบัน
หรือกลุ่มตัวแทนที่ทำหน้าท่ีในการกล่อมเกลาทางสังคม และได้กำหนดกลยุทธ์ 4 กลยุทธ์ คือ กลยุทธ์ที่ 1
ปรับฐานความคดิ ทกุ ช่วงวัยตง้ั แต่ปฐมวัย ให้สามารถแยกระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม
กลยุทธ์ที่ 2 ส่งเสริมให้มีระบบและกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมเพื่อต้านทุจริต กลยุทธ์ที่ 3 ประยุกต์
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องมือต้านทุจริต และกลยุทธ์ที่ 4 เสริมพลังการมีส่วนร่วมของชุมชน
(Community) และบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อต่อต้านการทุจริต โดยกำหนดให้ต้องดำเนินการจัดทำหลักสูตร
บทเรียน การเรียนการสอน การนำเสนอ และรูปแบบการป้องกนั การทุจริต รวมทง้ั การพัฒนานวตั กรรมและสื่อ
การเรยี นรสู้ ำหรบั ทกุ ชว่ งวยั
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งที่ 646/2560 ลงวันท่ี วันที่ 26 เมษายน 2560 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ
จัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริต เพื่อดำเนินการสร้าง
หลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริต สำหรับใช้เป็นมาตรฐานกลางเพื่อให้สถานศึกษาหรือ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านการศึกษา นำไปปรับใช้ในการเรียนการสอนใหก้ ับนักเรยี นนักศึกษาในทุกระดับช้นั เรียน
ตั้งแต่ระดับปฐมวัย ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งหลักสูตรสำหรับ
ฝึกอบรมให้กับบุคลากรภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ และหลักสูตรโค้ช (สร้างโค้ชสำหรับโครงการต้านทจุ ริต) โดยมี
คณะอนกุ รรมการร่วมจัดทำหลักสูตร ประกอบด้วย ที่ปรึกษาและผู้บรหิ ารสำนักงาน ป.ป.ช. ผูท้ รงคุณวุฒิ และ
ผ้แู ทนหนว่ ยงานที่เกีย่ วข้องกบั การศกึ ษา ได้แก่
1) สำนกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
2) สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน
3) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา
4) สำนักงานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา
5) สำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา
6) สำนกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
7) สำนักงานลูกเสอื แห่งชาติ
8) ทป่ี ระชมุ อธกิ ารบดีแหง่ ประเทศไทย
9) ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภฏั
10) คณะกรรมการอธกิ ารบดมี หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล
11) สถาบนั วชิ าการป้องกนั ประเทศ
12) กรมยทุ ธศึกษาทหารบก
13) กรมยุทธศกึ ษาทหารเรือ
14) กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ
15) กองบญั ชาการศึกษา สำนกั งานตำรวจแห่งชาติ
๓ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและใหค้ ำปรึกษาการขบั เคลือ่ นหลกั สูตรต้านทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
โดยคณะอนุกรรมการจัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ด้านการป้องกัน
การทจุ รติ มอี ำนาจหน้าทด่ี งั น้ี
1. ศึกษา วิเคราะห์ และรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อ
ประกอบการเรยี นรู้ ด้านการปอ้ งกันการทุจรติ
2. กำหนดแนวทางและขอบเขตในการจัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้
ด้านการป้องกันการทุจริต ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3
(พ.ศ. 2560 – 2564) ยุทธศาสตรท์ ่ี 1 “สรา้ งสังคมไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ”
3. พิจารณายกร่างและจัดทำเน้ือหาหลักสูตรหรือชดุ การเรยี นรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ ดา้ นการป้องกัน
การทุจริต โดยกำหนดโครงสร้างหลักสูตร วัตถุประสงค์ของหลักสูตร จุดประสงค์ของรายวิชา เนื้อหาสาระ
จดั ระเบยี บลำดับของเนื้อหาสาระ วิธกี ารประเมินผลการเรียนรู้ รวมท้งั อื่น ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง
4. พิจารณาให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการ
เรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริต เพื่อให้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมและสมบูรณ์ พร้อมทั้งนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.
พจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบ ทง้ั น้ี ให้ดำเนินการแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2560
5. กำหนดแผนหรือแนวทางการนำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และส่ือประกอบการเรียนรู้ ดา้ นการป้องกัน
การทจุ รติ ไปใช้ในหนว่ ยงานที่เกย่ี วข้อง
6. ดำเนินการอื่น ๆ ตามท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมาย
โดยจากการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 1-1/2560 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2560
เพื่อหารือเกี่ยวกับกรอบการจัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกัน
การทุจริต โดยที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันในการจัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้
ด้านการปอ้ งกนั การทุจริต หวั ขอ้ วิชา 4 วิชา ประกอบด้วย
1) การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม
2) ความอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
3) STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทุจรติ
4) พลเมืองและความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม
และนำหลักสตู รต้านทุจรติ ศกึ ษา เสนอตอ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อเสนอตอ่ คณะรฐั มนตรใี ห้ความเห็นชอบ โดยเม่ือ
วันท่ี 22 พฤษภาคม 2561 คณะรัฐมนตรมี มี ตเิ ห็นชอบตามทค่ี ณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ ดังน้ี
1. เห็นชอบหลักการเกี่ยวกับหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti – Corruption Education) และให้
หนว่ ยงานที่เกยี่ วข้องนำหลกั สูตรดังกล่าวไปพจิ ารณาปรบั ใช้กับกลุ่มเป้าหมาย
2. ใหก้ ระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ. สำนกั งานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อพิจารณานำหลักสูตรน้ี ไปปรับใช้ในโครงการฝึกอบรม
หลักสูตรขา้ ราชการ บุคลากรภาครัฐ หรือพนกั งานรฐั วสิ าหกจิ ทบ่ี รรจใุ หม่
3. ให้กระทรวงศึกษาธิการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น ตำราเรียน ครู อาจารย์ รายละเอียด
หลักสูตร เพื่อนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti – Corruption Education) หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
และหลักสูตรอุดมศึกษา) ไปปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา ทั้งน้ี มุ่งเน้นการสร้างความรู้
ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความหมายและขอบเขตของการกระทำทุจริตในลักษณะต่างๆ ทั้งทางตรงและ
ทางออ้ มความเสยี หายทีเ่ กิดจากการทุจริต ความสำคัญของการต่อต้านการทจุ ริต รวมทั้งจดั ให้มีการประเมินผล
สัมฤทธ์ิของการจัดการเรียนรตู้ ามหลักสูตรในแตล่ ะช่วงวยั ของผ้เู รียนด้วย
๔ | รายงานผลการกำกบั ตดิ ตามและให้คำปรึกษาการขับเคลอ่ื นหลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
นอกจากน้สี ืบเน่ืองจากการจัดทำหลกั สูตรต้านทุจรติ ศึกษา (Anti-Corruption Education) เป็นกลไก
สำคัญที่ถูกกำหนดเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนแผนงานระดับประเทศ เช่น ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการ
ป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริต ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ทมี่ ุ่งการพัฒนาคน เน้นการปรับกระบวน
คดิ และพฤตกิ รรมคนทุกกลุ่มในสังคม โดยกล่มุ เด็กและเยาวชนเน้นการปลูกฝังและหล่อหลอมให้มีจติ สำนึกและ
พฤติกรรมยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตผ่านหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติตั้งแต่ปฐมวัย
จนถงึ อดุ มศกึ ษา สำหรับกลมุ่ ขา้ ราชการและเจ้าหนา้ ท่รี ัฐ และกลุ่มประชาชนทัว่ ไป เน้นการสรา้ งวฒั นธรรมและ
พฤตกิ รรมสจุ ริต ให้สามารถคิดแยกแยะประโยชนส์ ว่ นตนและประโยชน์สว่ นรวม มจี ติ พอเพยี ง มีพฤตกิ รรมท่ีไม่
ยอมรับและไม่ทนต่อการทุจริต ควบคู่กับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ
รวมถึงเปน็ เครื่องมือในการขับเคลื่อนแผนงานบรู ณาการป้องกัน ปราบปรามการทจุ รติ และประพฤติมิชอบ และ
แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 21 การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ (พ.ศ. 2561 – 2580)
ซึ่งกำหนดเป้าหมายคือ “ประชาชนมีวัฒนธรรม และพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต” กำหนดค่าเป้าหมายตัวชี้วัดที่ 1
ร้อยละของเด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 80 ในปี พ.ศ. 2576 – 2580 และ
ตวั ชี้วดั ที่ 2 ร้อยละของประชาชนทีม่ วี ฒั นธรรมค่านยิ มสุจรติ มที ัศนคติและพฤติกรรมในการต่อตา้ นการทุจริตและประ
พฤตมิชอบ ร้อยละ 80 ในปี พ.ศ. 2576 – 2580 ทั้งนี้ในระยะแรก ปี พ.ศ. 2561 – 2565 ได้กำหนดค่า
เป้าหมายให้เด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 50 และให้ประชาชนมีวัฒนธรรม
คา่ นยิ มสจุ ริต มีทัศนคติและพฤติกรรมในการต่อต้านการทุจรติ และประพฤตมชิ อบ ร้อยละ 50
ดังนั้น สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้รายงานผลการดำเนินการขับเคลื่อนหลักสูตร ต้านทุจริตศึกษา
ให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งระบบเร่งดำเนินการผลักดันการใช้
หลักสตู รต้านทุจรติ ศึกษา และเพื่อใหบ้ รรลุผลตามท่ีกำหนดไว้ใน แผนแม่บทภายใตย้ ุทธศาสตรช์ าตฯิ ต่อไป
ในการนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไดม้ มี ตเิ ห็นชอบข้อเสนอฯ ในการประชุมครั้งที่ 56/2563 เม่อื วันท่ี 21
พฤษภาคม 2563 ให้เสนอคณะรัฐมนตรี ดังนี้
1) รายงานผลการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) ประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2562 ใหค้ ณะรัฐมนตรที ราบ
2) ให้สถานศกึ ษาของหนว่ ยงานในสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร สถานศกึ ษาในสังกัดกรมส่งเสรมิ การปกครอง
ทอ้ งถิน่ และหนว่ ยงานอ่ืนท่ีเกีย่ วข้อง พิจารณานำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (หลักสูตรการศึกษาข้นั พื้นฐาน) ไปปรับ
ใช้ โดยเหน็ ควรใชร้ ูปแบบเปิดรายวชิ าเพ่ิมเติม เพอ่ื ไมเ่ ปน็ การเพ่ิมภาระและความยุ่งยากใหแ้ ก่ครผู สู้ อน
3) ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และกรุงเทพมหานคร เร่งรัดดำเนินการให้
สถานศึกษาในสังกัดนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ไปปรับใช้ในรูปแบบเปิด
รายวชิ าเพ่มิ เตมิ
4) ใหก้ ระทรวงการอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม พจิ ารณานำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้
ในการจดั การเรียนการสอนของสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยจัดทำเป็น 1 รายวชิ า จำนวน 3 หน่วยกติ
5) ให้ทุกกระทรวงท่เี สนอของบประมาณตามแผนงานบูรณาการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ
เพื่อจัดโครงการ/กิจกรรมที่มีลักษณะเป็นการฝกึ อบรม สมั มนา ขา้ ราชการ บคุ ลากรของหน่วยงาน นำหลกั สูตร
ตา้ นทุจริตศกึ ษาไปใช้ดำเนินการด้วย
๕ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและให้คำปรกึ ษาการขบั เคลอ่ื นหลกั สูตรต้านทจุ รติ ศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
6) ให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดำเนินการ
รายงานผลสัมฤทธิ์ของการนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้ต่อคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา
และแจง้ ให้สำนกั งาน ป.ป.ช. ทราบดว้ ย
7) ให้กระทรวง/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 5 หลักสูตร มอบหมายผู้รับผิดชอบในการประสานงานกับ
สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อกำหนดกลไกในการบริหารจัดการ ติดตาม และรายงานผลการนำหลักสูตรต้านทุจริต
ศึกษาไปปรบั ใช้เปน็ การเฉพาะ
อนึ่ง สืบเนื่องจากวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผล
กระทบต่อทุกภาคส่วน รวมถึงภาคสว่ นทางการศึกษา ดงั นน้ั คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงอยรู่ ะหว่างทบทวนปรบั ปรุง
หลกั สตู รต้านทจุ ริตศกึ ษา เพือ่ ใหส้ อดคลอ้ งกับการเปล่ยี นแปลงวิถีชีวติ ใหม่ (New Normal)
ในการน้ี คณะรฐั มนตรีไดม้ ีมตเิ ม่อื วันที่ 18 สงิ หาคม 2563 ดังนี้
1) รับทราบรายงานผลการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education)
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ และให้สำนักงาน ป.ป.ช.ประสานใน
รายละเอียดกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการ
ปกครองท้องถิ่น) กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพ่ือนำหลักสูตรที่ได้ปรับปรงุ ใหม่ ไปปรบั ใชใ้ หบ้ รรลุวตั ถปุ ระสงคต์ อ่ ไป
2) ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและกระทรวงศึกษาธิการรายงาน
ผลสัมฤทธข์ิ องการนำหลกั สตู รต้านทุจรติ ศกึ ษาไปปรบั ใช้ ไปยงั สำนักงาน ป.ป.ช. ต่อไป
3) ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. และหนว่ ยงานที่เก่ียวข้องรับความเห็นของ สำนกั งบประมาณ สำนกั งานสภา
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนกั งาน ก.พ. ไปพิจารณาดำเนนิ การในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปดว้ ย
๖ | รายงานผลการกำกบั ตดิ ตามและให้คำปรึกษาการขบั เคลอื่ นหลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
บทที่ ๒
หลกั สูตรต้านทจุ รติ ศกึ ษาศกึ ษา (Anti-Corruption Education)
๒.๑ รายละเอียดหลกั สูตรตา้ นทุจรติ ศกึ ษา (Anti-Corruption Education)
สำนักงาน ป.ป.ช. ได้จัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกัน
การทุจริต สำหรับใช้เป็นเนื้อหามาตรฐานกลางให้สถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณา
ปรับใช้ในการเรียนการสอนให้กับกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทุกระดับชั้นเรียน เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการ
แยกแยะประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม จิตพอเพียง และสร้างพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับและไม่ทน
ตอ่ การทุจริต อนั เปน็ การดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาตวิ า่ ดว้ ยการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ ระยะที่ ๓
(พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๑) ยทุ ธศาสตร์ที่ ๑ "สร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจริต" กลยทุ ธท์ ่ี ๑ ปรบั ฐานความคิดทุกช่วงวัย
ให้สามารถแยกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม และกลยุทธ์ที่ ๓ ประยุกต์หลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องมือต่อต้านทุจริต ประกอบด้วย ๕ หลักสูตร ได้แก่ ๑) หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๒) หลักสูตรอุดมศึกษา ๓) หลักสูตรกลุ่มทหารและตำรวจ ๔) หลักสูตรวิทยากร ป.ป.ช./บคุ ลากรภาครัฐและ
รัฐวิสาหกจิ ๕) หลกั สูตรโค้ช โดยเน้ือหาในหลักสูตรประกอบดว้ ย ๔ ชดุ วิชา ได้แก่ 1) การคดิ แยกแยะระหว่าง
ผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม 2) ความอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 3) STRONG :
จติ พอเพยี งตา้ นทจุ ริต 4) พลเมอื งและความรับผิดชอบตอ่ สังคม
หลกั สูตรการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน
(๑) ชอ่ื หลกั สตู ร
“รายวิชาเพม่ิ เตมิ การปอ้ งกันการทุจริต”
(๒) จดุ มุ่งหมายของรายวชิ า เพ่ือให้นกั เรยี น
(๒.๑) มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม
(๒.2) มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ
(๒.3) มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ STRONG : จติ พอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ ริต
(๒.4) มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั พลเมอื งและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
(๒.5) สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชน์ส่วนรวมได้
(๒.6) ปฏิบัติตนเปน็ ผ้ลู ะอายและไมท่ นต่อการทุจริตทกุ รูปแบบ
(๒.7) ปฏิบัติตนเป็นผูท้ ี่ STRONG : จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ รติ
(๒.8) ปฏิบัติตนตามหน้าที่พลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
(๒.9) ตระหนกั และเห็นความสำคัญของการต่อต้านและป้องกนั การทุจริต
๓. คำอธิบายรายวชิ า
ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและ
ความไมท่ นตอ่ การทุจริต STRONG : จิตพอเพียงต่อต้านการทุจรติ รหู้ นา้ ที่ของพลเมืองและรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
ในการต่อต้านการทุจริต โดยใช้กระบวนการคิด วเิ คราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำโครงงาน
กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอ่านและการเขียน
เพอ่ื ใหม้ คี วามตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการต่อตา้ นและการป้องกันการทจุ รติ
๗ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและใหค้ ำปรึกษาการขบั เคลอื่ นหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
๔. ผลการเรียนรู้
(๔.1) มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนกบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวม
(๔.2) มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต
(๔.3) มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั STRONG : จติ พอเพยี งตอ่ ต้านการทุจรติ
(๔.4) มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับพลเมอื งและมีความรับผิดชอบต่อสงั คม
(๔.5) สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวมได้
(๔.6) ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผลู้ ะอายและไม่ทนตอ่ การทจุ ริตทุกรูปแบบ
(๔.7) ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ท่ี STRONG : จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ รติ
(๔.8) ปฏิบัตติ นตามหนา้ ท่ีพลเมืองและมคี วามรับผดิ ชอบต่อสงั คม
(๔.9) ตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของการต่อตา้ นและป้องกนั การทจุ รติ
(๕) ตารางชั่วโมงการจัดการเรียนการสอน
ประกอบด้วย 4 หน่วยการเรียนรู้ คือ 1) การคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม
2) ความไม่ทนและความอายต่อการทุจริต 3) STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต และ 4) พลเมืองกับความ
รบั ผิดชอบต่อสงั คม โดยกำหนดชั่วโมงการจัดการเรียนการสอนดังน้ี
ระดับการศกึ ษา
ที่ หน่วยการเรียนรู้ ปฐมวยั ประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษา
ตอนปลาย
ตอนตน้ ตอนปลาย ตอนตน้
10 ชัว่ โมง
๑ การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ 7 ชว่ั โมง
ส่วนตนและประโยชนส์ ่วนรวม ๑๔ ชวั่ โมง ๑๖ ชว่ั โมง 14 ช่วั โมง 12 ชัว่ โมง 8 ชว่ั โมง
10 ชั่วโมง 10 ชวั่ โมง 8 ช่วั โมง 15 ช่วั โมง
๒ ความไมท่ นและความละอาย 12 ช่ัวโมง
4 ช่วั โมง 6 ชั่วโมง 10 ชว่ั โมง ๔๐
ต่อการทุจรติ 10 ช่ัวโมง 10 ชว่ั โมง 10 ชว่ั โมง
๓ STRONG : จติ พอเพียงต่อต้านการทจุ รติ 9 ชั่วโมง ๔๐ ๔๐ ๔๐
๔ พลเมืองกบั ความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม 5 ชั่วโมง
รวม ๔๐
โดยหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต การศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดเป็น 1 หลักสูตร
และแยกเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ 13 ระดับช้ันปี ไดแ้ ก่ ระดบั ปฐมวัย ระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 1 - 6 และ
ระดับมัธยมศึกษาชัน้ ปีที่ 1 – 6
ท้งั นี้ ในแตล่ ะระดับช้นั ปี จะใช้เวลาเรยี นทงั้ ปี จำนวน 40 ชวั่ โมง ซงึ่ จะมเี นื้อหาและกจิ กรรมการเรียน
การสอนทแ่ี ตกต่างกัน ตามความเหมาะสมและการเรียนรูใ้ นแตล่ ะชว่ งวัย
(6) กิจกรรมการเรียนรู้
แนวคดิ และแนวการสอน
กจิ กรรมการเรียนรู้ท่ใี ชใ้ นการจัดการเรียนการสอน เน้นการใชท้ ฤษฎกี ารเรยี นรู้ การสรา้ งความรู้ ได้แก่
1) ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ (Construction Theory) 2) ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์เชิงสังคม (Social Constructivism
Theory) 3) ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์เชิงปัญญา (Cognitive Constructivism) 4) ทฤษฎีประมวลผลข้อมูล
(Information Processing Theory) 5) ทฤษฎีพหุปัญญา (Theory of Multiple Intelligences) 6) ทฤษฎี
การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning Theory) ในการจัดการเรียนการสอน โดยภาพรวมจะใช้กลยุทธ์
การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ คือจัดตามความแตกต่างของเด็กแต่ละคน ด้วยการสอนโดยใช้กระบวนการคิด
วิเคราะห์คิดสังเคราะห์การฝึกปฏิบัติจริงการทำโครงงานสืบสวนสอบสวน กระบวนการเรยี นรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs)
การอภปิ ราย การแกป้ ญั หาตลอดจนใชเ้ ทคนคิ การสอนท่ีหลากหลายเหมาะกบั ผเู้ รียนแต่ละวยั
๘ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและให้คำปรึกษาการขับเคลอ่ื นหลกั สตู รต้านทุจรติ ศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
(7) สอื่ การเรยี นร้แู ละแหล่งเรียนรู้
จัดกิจกรรมด้วยสื่อการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เช่น วิดีโอ ข่าว VTR นิทาน
การ์ตูน ภาพยนตร์สั้น เอกสารแก้ทุจริตคิดฐานสอง สื่อสิงพิมพ์ต่างๆ ใบความรู้ ใบงาน วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจน
แหล่งเรียนรทู้ ่ีใช้คอมพิวเตอรใ์ นการสืบค้น
(8) การวัดและประเมินผล
(8.1) การประเมนิ การเรียนรู้ โดยใช้เครือ่ งมือประเมินการเรยี นรู้ในดา้ น
- ความรูค้ วามเข้าใจ
- การปฏบิ ตั ิ
- คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์
เคร่อื งมือทใ่ี ชป้ ระเมิน
- แบบสอบ
- แบบประเมนิ การปฏบิ ัติงาน
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ าน
(8.2) การประเมนิ ผล
นกั เรียนผ่านการประเมินทกุ กิจกรรม ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป จึงจะถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน
(9) การทดลองใช้
ทดลองนำร่องใชก้ ับโรงเรียนทเี่ ขา้ ร่วมโครงการเสรมิ สร้างคุณธรรม จรยิ ธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศึกษา
“ป้องกันการทุจริต” (โรงเรียนสุจริต) ในสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสรุปผลการ
ทดลองใชไ้ ดจ้ ากบนั ทึกหลงั การสอน
หลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา
ระดับปฐมวยั ระดับประถมศึกษา ระดบั มธั ยมศกึ ษา
หน่วยการเรียนรู้
๑. การคดิ แยกแยะระหว่าง ๒. ความละอาย ๓. STRONG : ๔. พลเมือง
ผลประโยชน์ส่วนตนและ และความไมท่ น จติ พอเพยี งตา้ นทุจรติ กับความรับผิดชอบ
ผลประโยชนส์ ่วนรวม ต่อการทุจรติ
ตอ่ สงั คม
การนำหลักสตู รไปใช้
เปิดรายวิชาเพม่ิ เตมิ บรู ณาการการเรียน บรู ณาการการเรยี น จดั ในกจิ กรรม จัดเปน็ กจิ กรรมเสรมิ
การสอนกบั กลุม่ สาระ การสอนกับกลมุ่ พัฒนาผู้เรียน หลักสตู รหรือบรู ณาการ
การเรยี นรสู้ งั คม ศึกษา สาระการเรยี นรู้อ่นื ๆ กับวิถีชวี ติ ในสถานศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม
ที่มา : หลกั สตู ร “ตา้ นทุจรติ ศึกษา (Anti-Corruption Education)” เว็บไซต์ www.nacc.go.th
๙ | รายงานผลการกำกบั ตดิ ตามและใหค้ ำปรึกษาการขับเคลอื่ นหลกั สูตรต้านทจุ รติ ศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
หลักสตู รอดุ มศกึ ษา
(๑) ชื่อหลักสตู ร
“วยั ใส ใจสะอาด Youngster with good heart”
(2) จุดมุ่งหมายของรายวชิ า
(2.1) เพื่อให้นักศึกษามีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายและประเภทของการทุจริต และ
ผลประโยชน์ทับซ้อน สถานการณ์ทเี่ ก่ียวข้องกับการทุจริต สามารถวิเคราะห์ถึงผลเสียท่ีเกิดจากการทุจริตต่อตนเอง
สังคม และประเทศชาติ
(2.2) เพื่อให้นักศกึ ษามีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ในเร่ืองการปลูกจิตสำนกึ มีทักษะชีวิตด้านการปลูกจิตสำนึก
ผา่ นการศกึ ษาดงู าน
(2.3) เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจในการนำจริยธรรมมาใช้ในชีวิตประจำวัน ประยุกต์ใช้หลกั
จรยิ ธรรมนำชีวิต และมีความรู้ความเข้าใจถึงคา่ นยิ ม จรรยาบรรณ และธรรมาภบิ าล
(2.4) เพื่อให้นักศึกษามีความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย กฎระเบียบ มาตรการทางสังคมทีเ่ กี่ยวกับการทุจริต
สามารถบอกแหลง่ แจง้ เบาะแสการทจุ ริตได้
(2.5) เพ่ือใหน้ ักศึกษาสามารถประยุกตใ์ ชห้ ลกั เศรษฐกจิ พอเพียงในฐานะเครื่องมือต้านการทจุ ริต
(3) คำอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและ
ความไม่ทนต่อการทจุ ริต รูห้ น้าทขี่ องพลเมืองและรับผดิ ชอบตอ่ สังคมในการต่อตา้ นการทจุ รติ และ STRONG :
จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย มุ่งเน้นให้ นักศึกษาเกิดความรู้
ความเขา้ ใจ ทกั ษะ เจตคติ ด้านการปอ้ งกันการทุจริต
(4) ตารางช่วั โมงการจดั การเรียนการสอน (รวม 45 ชว่ั โมง)
หวั ข้อวิชา ช่ัวโมง เนอื้ หา กระบวนการ
วิชาท่ี 1 ปรับฐาน
ความคดิ ตา้ นทุจรติ ๙ 1.1 ตน้ เหตุของการเกดิ ทุจรติ - บรรยาย
สว่ นตนและส่วนรวม
วิชาที่ 2 สร้างสงั คมท่ี 1.2 การปลูกจิตสำนึกให้มสี ่วนรว่ ม - กรณศี ึกษา
ไมท่ นต่อการทุจริต
- ศกึ ษาดงู าน
วิชาที่ 3 ยกระดับ
ดัชนี สร้างพลเมืองดี ๑๒ 2.1 การขดั เกลาทางสังคม - บรรยาย
ในสงั คม
2.2 การมสี ว่ นร่วมของชุมชน - อภิปราย
วิชาที่ 4 ปราบทจุ ริต
ด้วยจิตพอเพียง 2.3 ทักษะการปรบั กระบวนการคิด - ภาคสนาม
๖ 3.1 จรยิ ธรรมนำพลเมืองในสังคม - บรรยาย
3.2 การยับย้ังและปอ้ งกนั การทจุ ริต - กรณีศกึ ษา
3.3 ข้อมลู ขา่ วสารดา้ นการป้องกนั และ - ค้นคว้า
ปราบปรามทจุ รติ
๑๘ การประยุกตห์ ลกั เศรษฐกจิ พอเพียงเป็น - โครงงาน
เคร่อื งมอื ตา้ นทจุ รติ
๑๐ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและใหค้ ำปรึกษาการขบั เคล่อื นหลักสตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
(5) สอื่ การเรียนรแู้ ละแหลง่ เรยี นรู้
จัดกิจกรรมด้วยสื่อการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เช่น วีดิทัศน์ของ
สำนักงาน ป.ป.ช. สถานการณ์ปัจจุบัน/ข่าวห้องสมุด ฟลิปชาร์ต PowerPoint ตามความเหมาะสม การจัดกิจกรรม
แบบ Active Learning กรณศี ึกษา มาตรการทางกฎหมายที่เก่ยี วขอ้ ง
(6) การวัดและประเมนิ ผล
(6.1) แบบสังเกตพฤติกรรม
(6.2) การตอบคำถาม
(6.3) ประเมนิ ตามสภาพจริง
(6.4) การใหค้ ำปรกึ ษาเปน็ ระยะ
(7) การทดลองใช้
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ได้นำเนื้อหา
หลักสตู รฯ บางสว่ น ไปปรบั ประยกุ ต์ใชใ้ นรายวิชาทเ่ี กี่ยวข้อง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้นำเนื้อหา
หลกั สูตรฯ บางสว่ นไปปรับใชเ้ ป็นส่วนหน่ึงของรายวิชาศึกษาทว่ั ไป (General Education) จำนวน 1 หน่วยกติ
12 ช่ัวโมง
ทมี่ า : หลกั สูตร “ตา้ นทจุ ริตศึกษา (Anti-Corruption Education)” เว็บไซต์ www.nacc.go.th
๑๑ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและใหค้ ำปรึกษาการขบั เคลื่อนหลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
หลกั สูตรกลมุ่ ทหารและตำรวจ
(1) ชือ่ หลักสตู ร
“หลกั สูตรตามแนวทางรับราชการ กลุ่มทหารและตำรวจ”
(2) จดุ ม่งุ หมายของรายวชิ า
(2.1) เพอ่ื ให้มีความรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกบั การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์
ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต พลเมืองกับความรับผิดชอบ
ต่อการทจุ รติ ได้
(2.2) เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ แยกแยะ เกี่ยวกับการคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน
กับผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต พลเมืองกับ
ความรับผิดชอบตอ่ การทุจริตได้
(2.3) เพื่อให้สามารถประยุกต์เกี่ยวกับการคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์
ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต พลเมืองกับความรับผิดชอบ
ต่อการทุจริต เกดิ ประโยชน์ตอ่ หน่วยงาน สังคมและประเทศชาติได้
(2.4) เพื่อสร้างนวัตกรรมเกี่ยวกับการคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์
ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต จิตพอเพียงต่อต้านการทุจรติ พลเมืองกับความรับผิดชอบ
ตอ่ การทจุ ริตได้
(2.5) เพื่อใหม้ ีเจตคตทิ ี่ดีตอ่ การป้องกันการทุจริต
(3) คำอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาเกี่ยวกับการคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความอายและ
ความไม่ทนต่อการทุจริต จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต และพลเมืองกับความรับผิดชอบต่อการทุจริต โดยใช้
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ทักษะ เจตคติ ด้านการป้องกันการทุจริต
และเสรมิ พลังคนรุ่นใหม่และนำไปประยกุ ต์ให้เกิดประโยชน์ต่อหนว่ ยงาน สังคมและประเทศชาติ
(4) ตารางชัว่ โมงการจัดการเรยี นการสอน (รวม 12 ชั่วโมง)
หวั ข้อวิชา ช่วั โมง เนอื้ หา กระบวนการ
วชิ าที่ 1 การคดิ ๓ 1. ความหมาย ความสำคญั การขัดกนั 1.ผบู้ ังคบั บัญชาระดับสงู /บคุ คล
แยกแยะ
ผลประโยชน์ ระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ต้นแบบ ถา่ ยทอดประสบการณใ์ น
ส่วนตนกบั
ผลประโยชน์ ผลประโยชน์สว่ นรวม การทำงาน
ส่วนรวม
2. กฎ ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ 2.ศกึ ษากรณตี วั อยา่ งเกย่ี วกบั คดี
การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ ทจุ รติ อนั เนื่องมาจากการขดั กัน
ส่วนตนกับผลประโยชน์สว่ นรวม ระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั
ผลประโยชนส์ ว่ นรวม
3.การแบง่ กลมุ่ ฝึกปฏบิ ัติและการ
นำเสนอ
๑๒ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและให้คำปรึกษาการขบั เคลื่อนหลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
หัวข้อวิชา ชวั่ โมง เนือ้ หา กระบวนการ
วชิ าที่ 2
จติ พอเพยี ง ๓ 1. การประยุกตห์ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ ๑.วิทยากรบรรยายให้ความรู้
ต่อต้านการ
ทุจรติ พอเพยี งในการต่อตา้ นการทจุ รติ ๒.แบ่งกลุ่มฝึกปฏบิ ัตแิ ละ
วชิ าท่ี 3 ความ 2. การสรา้ งพน้ื ฐานความคดิ จากแนวคดิ จติ นำเสนอ
ละอายและ
ความไมท่ นตอ่ พอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริตและพัฒนา
การทจุ ริต
วฒั นธรรมการตอ่ ตา้ นการทจุ ริตให้แก่
วิชาท่ี 4
พลเมอื งกับ หน่วยงาน
ความรับผดิ ชอบ
ตอ่ สังคม ๓ 1. ความหมาย สาเหตุ รปู แบบและ ๑.การประเมินตนเอง ก่อน
ผลกระทบของการทจุ ริตตอ่ การพัฒนาสังคม และ
และประเทศ หลังการอบรม/เรียน
2. การวิเคราะหต์ นเองและการตระหนกั ถึง ๒.วิทยากรบรรยายให้ความรู้
ความละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ๓.ศึกษากรณีตัวอย่าง/
3. การส่งเสรมิ สนับสนุนใหผ้ อู้ ่นื เกิดความ กรณีศึกษา
ละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ ผลทเ่ี กิดจากการทจุ ริต
๓ 1. ความหมาย ความสำคญั ของพลเมอื งกับ 1.วทิ ยากรบรรยายใหค้ วามรู้
ความรบั ผดิ ชอบต่อการทุจรติ และบทบาท 2.กิจกรรมสร้างความเป็น
หน้าที่ของความเปน็ พลเมืองในการมีส่วนร่วม พลเมืองเพื่อเสริมสร้างความ
แกไ้ ขปัญหาการทุจรติ รบั ผิดชอบต่อการทุจรติ
2. การมสี ่วนรว่ มและบรู ณาการกับทุกภาค 3.แบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติและ
สว่ นของพลเมืองในการต่อตา้ นการทุจรติ นำเสนอผลงาน
3. แนวคดิ ความรบั ผดิ ชอบต่อการทจุ ริตของ
สงั คมและประเทศ
(5) ระยะเวลา
- ทหาร (สำหรบั หลกั สูตรตามแนวทางรับราชการและหลักสูตรเพิ่มพนู ความร)ู้ แบง่ หลกั สตู รออกเป็น 3 ระยะ
ระยะสนั้ มีการฝกึ อบรม ๒ - ๔ เดือน ใหม้ กี ารเรียนการสอนไมน่ ้อยกวา่ ๓ - ๔ ช่วั โมง
ระยะกลางมกี ารฝึกอบรม ๔ - ๖ เดอื น ให้มีการเรยี นการสอนไม่น้อยกวา่ ๖ - ๘ ชั่วโมง
ระยะยาวมีการฝกึ อบรม ๖ - ๑๒ เดือน ให้มกี ารเรยี นการสอนไม่น้อยกวา่ ๙ - ๑๒ ชัว่ โมง
สำหรับหลักสูตรที่มีระยะเวลาการอบรมน้อยกว่า ๒ เดือน ให้ใช้รูปแบบการบรรยายพิเศษ/หรือส่ือ
ประกอบการเรียนรใู้ นการเรียนการสอน
- ตำรวจ
หลักสตู รการฝึกอบรมท่ีเลอ่ื นตำแหนง่ สงู ข้นึ ใหม้ ีการเรยี นการสอนไม่น้อยกวา่ ๓ ชวั่ โมง
หลกั สูตรนักเรียนนายสิบตำรวจ ใหม้ ีการเรียนการสอนไม่นอ้ ยกวา่ ๑๖ ชว่ั โมง
สำหรับหลักสูตรอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมา ให้ใช้รูปแบบการบรรยายพิเศษ/หรือสื่อประกอบการ
เรียนรูใ้ นการเรยี นการสอน
(6) สอื่ การเรียนร้แู ละแหลง่ เรยี นรู้
จัดกิจกรรมด้วยสื่อการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น
โจทยส์ ัมมนา บ่งการ ฯลฯ สอ่ื อปุ กรณ์ สือ่ เทคโนโลยหี รือสือ่ อิเล็กทรอนกิ ส์ สื่อบุคคล แหล่งเรยี นรู้
๑๓ | รายงานผลการกำกับติดตามและให้คำปรึกษาการขบั เคลอ่ื นหลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
(7) การวัดและประเมินผล
(7.1) สังเกตพฤตกิ รรมในหอ้ งเรยี น
(7.2) สังเกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิกจิ กรรม
(7.3) ประเมินผลจากการทดสอบ
(7.4) ประเมินผลจากผลงานกลมุ่
(8) การทดลองใช้
สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ได้จัดอบรมการปฐมนิเทศนายทหารชั้นนายพลของกองทัพไทย
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 จำนวน 2 รนุ่ รวมจำนวน 421 คน โดยไดเ้ ชิญนายอุทิศ บวั ศรี ผชู้ ่วยเลขาธิการ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. (อนุกรรมการจัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ ด้านการ
ป้องกันการทุจริต) ไปบรรยายในหัวข้อวิชา “การป้องกันการทุจริต” ซึ่งได้สอดแทรกเนื้อหาการบรรยายวิชาการ
ขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบคุ คลและประโยชนส์ ่วนรวม การคดิ แยกแยะผลประโยชนส์ ่วนตนกบั ผลประโยชน์
ส่วนรวม จำนวนรุน่ ละ 1.30 ชั่วโมง
รุ่นที่ 1 วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ณ หอประชุมพิบูลสงคราม วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
สถาบันวิชาการปอ้ งกนั ประเทศ
ร่นุ ท่ี 2 วนั ที่ 18 ธนั วาคม 2560 ณ หอประชมุ พบิ ูลสงคราม วทิ ยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบัน
วิชาการปอ้ งกนั ประเทศ
ทีม่ า : หลักสตู ร “ตา้ นทจุ รติ ศึกษา (Anti-Corruption Education)” เวบ็ ไซต์ www.nacc.go.th
๑๔ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและให้คำปรกึ ษาการขับเคลอื่ นหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
หลกั สูตรวทิ ยากร ป.ป.ช./บคุ ลากรภาครัฐและรฐั วิสาหกิจ
(1) ชอื่ หลกั สูตร
“สรา้ งวิทยากรผู้นำการเปลยี่ นแปลงสู่สังคมท่ไี มท่ นต่อการทจุ ริต”
(2) จดุ มุ่งหมายของรายวชิ า
(2.1) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตน
กับผลประโยชน์ส่วนรวม ความไม่ทนและความอายต่อการทุจริต การประยุกต์หลักความพอเพียงด้วยโมเดล
STRONG : จติ พอเพยี งต้านทุจริต และการฝกึ ปฏบิ ัติการเปน็ วิทยากร
(2.2) เพ่อื สรา้ งวิทยากรท่ีมที ักษะและสามารถขยายผลองค์ความรู้ไปสู่กลมุ่ เปา้ หมายอ่นื ๆ เพื่อม่งุ สร้าง
สังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต
(3) คำอธิบายรายวชิ า
ศึกษาเกี่ยวกับการคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความอายและ
ความไม่ทนต่อการทุจริต STRONG : จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ทห่ี ลากหลายมุ่งเน้นให้ผเู้ รยี นเกิดความรู้ความเขา้ ใจ เจตคติ ดา้ นการป้องกันการทจุ ริต และเกิดทักษะการเป็น
วทิ ยากร
(4) ตารางชว่ั โมงการจดั การเรียนการสอน (รวม 18 ชัว่ โมง)
หัวข้อวิชา ชว่ั โมง เนอื้ หา กระบวนการ
วิชาท่ี 1 การคดิ
แยกแยะ ๖ 1. สาเหตุของการทจุ รติ ฯ การบรรยาย
ประโยชนส์ ่วน
ตนและ 2. ความหมาย รปู แบบ ของการขดั กัน การคดิ วิเคราะห์
ประโยชน์
สว่ นรวม ระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์ กรณศี ึกษา
วชิ าท่ี 2 ความ สว่ นรวม การทำกิจกรรมกลุ่ม
ไม่ทนและความ
อายตอ่ การ 3. กฎหมายที่เกยี่ วขอ้ งกับการขดั กนั ฯ การอภปิ รายกลุ่ม
ทจุ รติ
4. วิธีคดิ แบบ Analog thinking (ฐาน 10) /
Digital thinking (ฐาน 2)
5. บทบาทของรัฐ / เจ้าหนา้ ทขี่ องรฐั
6. กรณีตวั อย่างการคดิ แยกแยะระหวา่ ง
ประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม
๓ 1. ความไมท่ นต่อการทจุ ริต การบรรยาย
- ความเปน็ พลเมือง การคิดวเิ คราะห์
- แนวคิดเกย่ี วกับความไม่ทนตอ่ การทุจริต กรณีศึกษา
2. ความอายต่อการทจุ รติ การทำกจิ กรรมกลุม่
- แนวคิดเก่ยี วกบั ความอายต่อการทุจริต การอภปิ รายกลุ่ม
3. ตัวอย่างความไม่ทนและความอายต่อการ
ทจุ ริต การแสดงออกถงึ การไม่ทนต่อการทุจริต
4. ลงโทษทางสังคม
5. ช่องทางและวธิ กี ารร้องเรียนการทุจรติ
6. มาตรการคุม้ ครองชว่ ยเหลือพยานและการ
กนั บคุ คลไว้เปน็ พยานโดยไม่ดำเนนิ คดี
๑๕ | รายงานผลการกำกบั ตดิ ตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขับเคลื่อนหลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
หัวข้อวิชา ช่วั โมง เน้อื หา กระบวนการ
วชิ าท่ี 3 การ ๓ 1. ทม่ี า ความหมายของโมเดล STRONG : การอภปิ ราย
ประยุกตห์ ลัก
ความพอเพยี ง จติ พอเพยี งตา้ นทจุ รติ การศกึ ษากรณีโครงการ
ดว้ ยโมเดล
STRONG : 2. การนำโมเดล STRONG : จติ พอเพียงตา้ น STRONG
จิตพอเพียงต้าน
ทุจริต ทุจริต ไปประยุกต์ในบรบิ ทตา่ งๆ
วิชาท่ี 4 การฝึก ๖ การฝกึ ปฏบิ ตั ิถ่ายทอดความรู้ ตามทีก่ ำหนด - 3 ชว่ั โมงแรกใหผ้ เู้ ขา้ ร่วม
ปฏบิ ตั กิ ารเป็น
วิทยากร ไดอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ทกุ คนแบ่งกลุ่มฝึก
ปฏิบัตกิ ารเป็นวิทยากรโดย
สุ่มหวั ข้อจาก 3 วชิ า
- ๓ ชัว่ โมงหลงั วิทยากรให้
ขอ้ เสนอแนะ
(5) ระยะเวลา
3 วนั 2 คืน
(6) สอ่ื การเรียนรแู้ ละแหล่งเรยี นรู้
จัดกิจกรรมด้วยสื่อการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้แก่ PowerPoint
วดิ ีโอภาพยนตร์สัน้ ใบงาน หรอื สอ่ื อืน่ ๆ ทเี่ หมาะสม
(7) การวัดและประเมินผล
(7.1) การทดสอบความรู้ (60 คะแนน)
(7.2) การประเมนิ ฝกึ ปฏิบัติการเป็นวิทยากร (40 คะแนน)
โดยผผู้ ่านการอบรมจะตอ้ งได้คะแนนรวมจากคา่ คะแนนจากแบบทดสอบความรูแ้ ละคา่ คะแนนจากการ
ประเมินฝกึ ปฏิบตั ิการเปน็ วิทยากรรวมกนั อย่างนอ้ ยตงั้ แต่ 60 คะแนนข้ึนไป
(8) การทดลองใช้
(8.1) สำนักงาน ป.ป.ช. ได้นำไปใช้ในโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการวิทยากร ป.ป.ช. แกนนำ สร้างสังคม
ที่ไม่ทนต่อการทุจริต ระหว่างวันที่ 25 – 27 ส.ค. ๒๕60 ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร
เพื่อสร้างวิทยากรที่มีทักษะและสามารถขยายผลองค์ความรู้ในเรื่องการคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับ
ผลประโยชนส์ ว่ นรวม ความไม่ทนและความอายต่อการทุจริต แนวคิด STRONG : จติ พอเพียงต้านทุจรติ อยา่ งเป็น
มาตรฐานและแนวทางเดียวกันไปขยายสู่กลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ เพื่อมุ่งสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต โดย
กลุ่มเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าท่ีจากสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด 76 จังหวัด ๆ ละ 1 คน เจ้าหน้าที่จาก
สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 9 ภาค ๆ ละ 1 คน และเจ้าหนา้ ท่ีจากสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง 20 คน จำนวน 105 คน
โดยเจ้าหนา้ ทขี่ องสำนักงาน ป.ป.ช. ที่เขา้ รบั การอบรมจะได้นำเน้ือหาวชิ าไปขยายผลในพื้นทจี่ งั หวดั
(8.2) สำนักงาน ป.ป.ช. ได้นำไปใช้ในโครงการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและ
ผลประโยชน์ส่วนรวม จิตพอเพียง ความอาย และไม่ทนต่อการทุจริต ประจำปี 2561 โดยเป็นการจัดอบรม
ให้ความรู้ในเรื่องการคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความไม่ทนและความอาย
ต่อการทุจริต แนวคิด STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต และเป็นการผลิตวิทยากรตัวคูณในการปลูกฝังวิธีคิด
แยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม จิตพอเพียง ความอาย และไม่ทนต่อการทุจริต ให้มี
๑๖ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและให้คำปรกึ ษาการขับเคลื่อนหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
ทักษะและสามารถขยายผลอย่างเป็นมาตรฐานและแนวทางเดียวกันไปสู่กลมุ่ เปา้ หมายอื่น ๆ เพ่อื มุ่งสร้างสังคม
ท่ไี ม่ทนตอ่ การทุจริต โดยมกี ลุ่มเปา้ หมายดงั นี้
- กลุ่มข้าราชการและพนกั งานรัฐวสิ าหกจิ จำนวน 2 รุ่น รวมจำนวน 297 คน
รุ่นที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 14 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุม อิมแพ็คฟอรัม เมืองทองธานี
จังหวดั นนทบรุ ี
รุ่นที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 15 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุม อิมแพ็คฟอรัม เมืองทองธานี
จังหวัดนนทบรุ ี
- กล่มุ อาจารย์และบคุ ลากรในระดับอุดมศึกษา จำนวน 2 รุน่ รวมจำนวน 143 คน
รุ่นที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 21 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุม อิมแพ็คฟอรัม เมืองทองธานี
จงั หวัดนนทบุรี
รุ่นที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 22 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุม อิมแพ็คฟอรัม เมืองทองธานี
จังหวดั นนทบุรี
และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการจัดอบรมและผลิตวิทยากรตัวคูณ
ในการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม จิตพอเพียง ความอาย และไม่ทน
ต่อการทุจริต ให้กับกลุ่มเป้าหมายครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในทุกภูมิภาค
รวมจำนวนประมาณ 1,579 คน และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ดำเนินการจัดอบรม
และผลิตวิทยากรตัวคูณในการปลูกฝังวิธคี ิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชนส์ ว่ นรวม จิตพอเพียง
ความอาย และไม่ทนต่อการทุจริต ให้กับศึกษานิเทศก์ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
จำนวน 225 คน
ท่ีมา : หลกั สูตร “ต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education)” เวบ็ ไซต์ www.nacc.go.th
๑๗ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและใหค้ ำปรึกษาการขับเคลื่อนหลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
หลักสตู รโค้ช
(1) ชื่อหลักสตู ร
“โค้ชเพ่ือการรคู้ ดิ ตา้ นทุจริต”
(2) จดุ มุ่งหมายของรายวิชา
(2.1) เพ่ือสรา้ งโค้ชดา้ นการรู้คดิ ตา้ นทุจริต
(2.2) เพือ่ พฒั นาศักยภาพของผ้สู อนเกีย่ วกับบทบาทในการเปน็ โค้ชให้กบั ผ้เู รียน โดยสามารถกระตุ้นการรู้คิด
อยา่ งต่อเนือ่ ง เพอื่ ดึงศกั ยภาพของผู้เรยี น
(2.3) เพื่อเพิ่มพูนทักษะของผูส้ อนให้สามารถนำนวตั กรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เป็นส่ือในการเรียน
การสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
(2.4) เพอ่ื ให้ผูเ้ ข้ารว่ มหลักสตู รเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ีในดา้ นการตา้ นทจุ ริต
(3) คำอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาเกี่ยวกับการสร้างโค้ชที่มีความสามารถและทักษะเพื่อเป็นแทนของสำนักงาน ป.ป.ช. ในการ
ถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับการคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม
ความไม่ทนและความอายต่อการทุจริต และหลักการจิตพอเพียงต้านทุจริตด้วยเทคนิคและวิธีการที่เหมาะสม
จะช่วยให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนักรู้ และเห็นความสำคัญของปัญหาการทุจริต อันจะนำไปสู่การ
เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและเกิดคา่ นิยมต้านทจุ รติ ให้เกิดขนึ้ ในสังคมไทยเกดิ ความรู้ความเข้าใจ เจตคติ ด้านการ
ปอ้ งกันการทจุ รติ และเกดิ ทกั ษะการเป็นวิทยากร
หวั ข้อวิชา ชว่ั โมง เนื้อหา กระบวนการ
วิชาท่ี 1 แนวคดิ ๓ 1.ความเป็นมาของการโคช้ เพ่อื การรู้คิด 1. การบรรยายให้ความรู้หลกั สูตรโค้ช
หลกั การโคช้ เพื่อ 2.ความหมายของการโค้ชเพอ่ื การรู้คดิ เพอื่ การรคู้ ิดต้านทจุ รติ
การรูค้ ดิ ตา้ นทุจริต 3.เป้าหมายของการโค้ชเพื่อการรู้คดิ 2.การยกตัวอย่างและวิเคราะหก์ รณีศึกษา
4.หลกั การโค้ชเพ่ือการรู้คิด 3.การทำกิจกรรมกลุ่ม
5.ทักษะเสริมการโคช้ ใหม้ ี 4.การอภิปรายกลุ่ม
ประสทิ ธภิ าพ 5.การฝกึ ทดลองปฏบิ ัติการภาคสนาม
วิชาที่ 2 กลไกและ ๓ 1.กลไกของการโคช้ 1.การบรรยายให้ความรหู้ ลักสตู รโค้ช
กระบวนการโค้ช 2.กระบวนการโค้ช เพอ่ื การรูค้ ิดต้านทุจริต
3.หลักการพัฒนาโค้ชและผู้เรียน 2.การยกตวั อยา่ งและวเิ คราะห์กรณศี กึ ษา
อย่างย่งั ยนื 3.การทำกิจกรรมกลมุ่
4.การอภปิ รายกลุ่ม
5.การฝึกทดลองปฏิบตั ิการภาคสนาม
วชิ าท่ี 3 เรียนรผู้ ้เู รยี น ๓ 1.เรยี นรู้ผ้เู รียนดว้ ยจรติ 6 วิชาท่ี 3 เรยี นรู้ผูเ้ รียน
2.เรยี นรผู้ ูเ้ รียนตาม Generation
วชิ าที่ 4 เทคนิค ๓ 1.การสอื่ สารเชิงบวก วิชาที่ 4 เทคนิคสำคัญในการโคช้
สำคัญในการโค้ช 2.คำถามท่ีทรงพลงั
3.การสะทอ้ นคิด
๑๘ | รายงานผลการกำกับติดตามและให้คำปรกึ ษาการขบั เคล่ือนหลักสตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
หวั ข้อวิชา ช่วั โมง เน้ือหา กระบวนการ
วชิ าท่ี 5 การ 4. การเรียนรยู้ คุ ใหมด่ ว้ ยการนำ วิชาที่ 5 การประเมินผลการเรยี นรูท้ ่ี
ประเมินผลการ นวตั กรรมมาใชใ้ นการโค้ช เสรมิ พลังตา้ นทจุ รติ
เรยี นรูท้ เี่ สริมพลงั 5. การถอดบทเรียน
ต้านทจุ รติ
๓ 1. การประเมนิ เพื่อการเรียนรู้
2. การประเมินขณะเรียนรู้
3. การประเมินผลการเรียนรู้
(5) ระยะเวลา
3 วนั 2 คนื
(6) สื่อการเรยี นรู้และแหล่งเรียนรู้
เอกสารประกอบการบรรยาย สื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและปราชญ์ชาวบ้าน
ผ้นู ำชมุ ชน ชดุ ฝกึ ทักษะการเรยี นรู้ บทเรียนสำเรจ็ รูปแบบสื่อผสม เกมส์การ์ตูน นทิ าน ฯลฯ
(7) การวดั และประเมนิ ผล
(7.1) ร้อยละผลการทดสอบและวัดประเมนิ ผลกอ่ นและหลงั การเรยี นรู้ก่อนและหลังบทเรียน (Pre & Post Test)
(7.2) รอ้ ยละของจำนวนชวั่ โมงท่เี ขา้ รับการอบรม
(7.3) การผา่ นการฝึกทดลองปฏบิ ัติการภาคสนาม
(8) การทดลองใช้
(8.1) สำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักป้องกันการทุจริตภาคประชาสังคมและการพัฒนาเครือข่ายได้นำไปใช้
ในโครงการ STRONG : จติ พอเพยี งต้านทุจริต ระหวา่ งวนั ที่ 13 - 15 พ.ย. ๒๕60 ณ โรงแรมเดอะ ทวินทาวเวอร์
กรุงเทพมหานคร โดยเป็นการอบรมให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด 27 จังหวัด
ที่ต้องดำเนินโครงการ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต ซึ่งจะต้องจัดตั้งชมรม STRONG ขึ้นมา และคัดเลือก
สมาชิกชมรมเพื่อเป็นตัวแทนของสำนักงาน ป.ป.ช. ในการจัดทำกิจกรรมป้องกันการทุจริตและขยายผลภายใน
จงั หวัดผเู้ ขา้ ร่วมจำนวน 72 คน
(8.2) สำนักงาน ป.ป.ช. ได้นำไปใช้ในการจัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำธรรมนูญชมรม
จติ พอเพียงต้านทจุ ริต แผนงานระยะยาว และแผนประจำปี ภายใตโ้ ครงการ STRONG : จติ พอเพียงต้านทุจริต
ระหว่าง วันที่ 14 - 17 มกราคม 2561 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อผลักดันการป้องกันการทุจริตเชิงรุกด้วยการสร้างเสริมให้บุคคลและชุมชนมีจิตพอเพียง
ต้านทุจริตด้วยกรอบแนวคิด STRONG จนสามารถพัฒนาเป็นวัฒนธรรมต้านทุจริต เพื่อปลูกฝัง STRONG :
จิตพอเพียงตา้ นทุจริตแกป่ ระชาชนในระดบั จังหวัด ปรับฐานคิดแยกแยะผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์
ส่วนรวม สร้างจิตสำนึกความอายในการกระทำการทุจรติ และไม่ทนต่อการทุจริตแก่ประชาชนในระดบั จังหวัด
เพื่อป้องกันการทุจริตเชิงรุกผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และยกระดับการรับรู้การทุจริตของชุมชน
สงั คม และประเทศชาติผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยกจิ กรรมดงั กลา่ วน้ีมีกลมุ่ เป้าหมายทั้งสิ้น
314 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำภาค 9 ภาค เจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช.
ประจำจงั หวดั 27 จงั หวัดทีต่ อ้ งดำเนนิ โครงการ STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทุจริต และโค้ช STRONG : จิตพอเพียง
ตา้ นทุจริต จาก 27 จังหวดั ๆ ละ 10 คน
ที่มา : หลักสูตร “ตา้ นทุจรติ ศึกษา (Anti-Corruption Education)” เว็บไซต์ www.nacc.go.th
๑๙ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและใหค้ ำปรึกษาการขับเคล่อื นหลักสตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
๒.๒ แนวทางการนำหลักสตู รต้านทจุ รติ ศึกษาไปใช้
หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) มีวัตถุประสงค์ในการปลูกฝังและสร้าง
วัฒนธรรมต่อต้านการทุจริตให้สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์ส่วนตนสิ่งใดเป็นประโยชน์ส่วนรวม
สามารถยึดถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน มีจิตพอเพียงต้านทุจริต ละอายและเกรงกลัวที่จะ
ไม่ทุจริตและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ โดยการสร้างความรู้ความเข้าใจและทักษะให้แก่ผู้เรียนหรือผู้ผ่าน
การอบรมในเรื่องการคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความอายและความไม่ทน
ต่อการทุจริต STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต และพลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อร่วมกันป้องกัน
หรอื ต่อตา้ นการทจุ ริต มิให้มกี ารทุจรติ เกิดขน้ึ ในสังคมไทยและรว่ มสรา้ งสงั คมไทยท่ีไม่ทนต่อการทุจรติ ต่อไป
โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหลักสูตรดังกล่าวไปพิจารณาปรับใช้กับกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับ
ปฐมวัย ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้ง อาชีวศึกษา การศึกษานอกระบบ การศึกษา
ตามอัธยาศัย และสถาบันการศึกษาอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันการศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
กรุงเทพมหานคร สถาบันการศึกษาในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันการศึกษาทางทหาร เป็นต้น
ตอ่ เน่อื งไปจนถึงระดับอุดมศกึ ษา เพอ่ื ให้ครอบคลุม ทั้งระบบการศกึ ษา นอกจากน้ี ยังรวมถงึ หลักสูตรฝึกอบรม
สำหรับบคุ ลากรของรฐั และพนักงานรัฐวสิ าหกจิ ในหนว่ ยงานภาครัฐ
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำหลักสูตรนี้ไปปรับใช้ในโครงการฝึกอบรมหลักสูตรข้าราชการ บุคลากรภาครัฐ
หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจที่บรรจุใหม่ โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายของหลักสูตรให้มีความชัดเจน และให้
หมายความรวมถึงบุคลากรทางการศึกษา เช่น ครู อาจารย์ หรือ ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ทั้งใน
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานและหลักสูตรอุดมศึกษาด้วย เพื่อให้บุคลากรทางการศึกษาที่เข้ารับการอบรม
หลักสูตรดังกล่าวสามารถนำไปใช้ในการถ่ายทอดความรู้หรือช่วยในการจัดการเรียนให้เป็นไปอย่างมี
ประสิทธภิ าพมากย่งิ ขึ้น
1. หลักสตู รการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน
๑. ช่อื หลักสูตร “รายวชิ าเพ่มิ เตมิ การป้องกนั การทุจริต”
๒. กลุ่มเปา้ หมายการนำไปใช้
๑) สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) จำนวน ๓๐,๑๑๒ แห่ง
๒) โรงเรยี นสาธิต จำนวน ๖๗ แหง่
๓) สำนกั งานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน ๓,๕๙๗ แห่ง
๔) สำนักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั (กศน.) จำนวน ๙๒๘ แห่ง
๖) โรงเรียนมหิดลวทิ ยานุสรณ์
๗) กรมสง่ เสรมิ การปกครองท้องถน่ิ (สถ.) จำนวน ๒๐,๖๓๔ แห่ง
๘) สำนกั การศกึ ษา กรงุ เทพมหานคร จำนวน ๔๓๗ แห่ง
๙) กองบญั ชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนกั งานตำรวจแห่งชาติ
๑๐) สำนกั การศกึ ษา เมอื งพทั ยา
๑๑) กรมกิจการเด็กและเยาวชน
๑๒) สถาบนั การบินพลเรอื น
๑๓) สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
๒๐ | รายงานผลการกำกบั ตดิ ตามและให้คำปรึกษาการขับเคลือ่ นหลักสตู รตา้ นทุจริตศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
๑๔) กองทพั บก กระทรวงกลาโหม
๑๕) กองทัพเรอื กระทรวงกลาโหม
๑๖) กองทัพอากาศ กระทรวงกลาโหม
๓. แนวทางการนำหลกั สูตรต้านทจุ รติ ศึกษาไปใช้
แนวทางที่ ๑ เปิดรายวชิ าเพิม่ เตมิ
แนวทางท่ี ๒ บรู ณาการการเรียนการสอนกบั กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
แนวทางท่ี ๓ บูรณาการการเรยี นการสอนกับกลมุ่ สาระอืน่ ๆ
แนวทางที่ ๔ จดั ในกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น
แนวทางที่ ๕ จัดเปน็ กจิ กรรมเสรมิ หลกั สูตร
แนวทางท่ี ๖ บูรณาการกับวิถชี วี ติ ในโรงเรียน
2. หลกั สูตรอดุ มศกึ ษา
๑. ชือ่ หลกั สตู ร “วยั ใส ใจสะอาด Youngster with Good Heart”
๒. กลุ่มเปา้ หมายการนำไปใช้
๑) สถาบันอุดมศึกษาภายใต้ภารกิจสำนักงานปลัดกระทรวงอดุ มศึกษา วทิ ยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม จำนวน 156 แห่ง
๒) มหาวิทยาลัยนวมนิ ทราธริ าช
๓) โรงเรยี นนายร้อยตำรวจ สำนกั งานตำรวจแห่งชาติ
๔) สถาบนั พระบรมราชชนก
๕) ศูนย์ฝึกพาณิชยน์ าวี
๖) สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สังกดั กระทรวงวฒั นธรรม)
๗) มหาวทิ ยาลยั การกีฬาแหง่ ชาติ (สงั กดั กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกีฬา)
๘) สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา (สอศ.) จำนวน ๙๑๔ แหง่
๓. แนวทางการนำไปใช้
๑) จัดทำเปน็ ๑ รายวชิ า จำนวน ๓ หนว่ ยกิต
๒) จัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้ โดยอาจารย์ผู้สอนสามารถนำเนื้อหาในหน่วยการเรียนรู้ต่าง ๆ ไปปรับใช้/
ประยุกตใ์ ช้ในรายวชิ าของตนเอง
๓) จัดทำเป็นวชิ าเลอื ก
3. หลักสตู รกลุ่มทหารและตำรวจ
๑. ช่อื หลกั สูตร “ตามแนวทางรบั ราชการ กลุ่มทหารและตำรวจ”
๒. กลมุ่ เป้าหมายการนำไปใช้
๑) กระทรวงกลาโหม
1.1 กระทรวงกลาโหม โดยสำนกั งานปลดั กระทรวงกลาโหม
1.2 สถาบนั วิชาการป้องกันประเทศ กองบญั ชาการกองทพั ไทย
1.3 กองทัพบก โดยกรมยุทธศกึ ษาทหารบก
1.4 กองทัพเรือ โดยกรมยุทธศกึ ษาทหารเรอื
๒๑ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและให้คำปรกึ ษาการขับเคล่อื นหลักสตู รตา้ นทุจรติ ศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
1.5 กองทพั อากาศ โดยกรมยทุ ธศกึ ษาทหารอากาศ
2) สำนักงานตำรวจแหง่ ชาติ โดยกองบัญชาการศกึ ษา
๓. แนวทางการนำไปใช้
ทหาร :
หลกั สูตรตามแนวทางการรับราชการและหลักสตู รเพิ่มพนู ความรู้ (๓ ระยะ)
- ระยะสน้ั ๒ - ๔ เดือน ให้มีการเรยี นการสอนไม่น้อยกวา่ ๓ - ๔ ชว่ั โมง
- ระยะกลาง ๔ – ๖ เดอื น ใหม้ ีการเรียนการสอนไม่น้อยกวา่ ๖ – ๘ ชั่วโมง
- ระยะยาว ๖ – ๑๒ เดือน ให้มกี ารเรียนการสอนไมน่ ้อยกวา่ ๙ – ๑๒ ชั่วโมง
สำหรับหลักสูตรที่มีระยะเวลาการอบรมน้อยกว่า ๒ เดือน ให้ใช้รูปแบบการบรรยายพิเศษ
หรอื ใช้สอ่ื ประกอบการเรยี นการสอน
ตำรวจ :
- หลกั สูตรการฝึกอบรมทีเ่ ลอื่ นตำแหนง่ สูงขึ้น ให้มีการเรยี นการสอนไม่น้อยกว่า ๓ ชั่วโมง
- หลักสูตรนักเรยี นนายสบิ ตำรวจ ใหม้ ีการเรยี นการสอนไม่น้อยกว่า ๑๖ ช่ัวโมง
สำหรับหลักสูตรอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมา ให้ใช้รูปแบบการบรรยายพิเศษหรือใช้ส่ือ
ประกอบการเรียนการสอน
4. หลกั สตู รวิทยากร ป.ป.ช./บุคลากรภาครัฐและรฐั วสิ าหกิจ
๑. ชอื่ หลกั สตู ร “สร้างวทิ ยากรผ้นู ำการเปล่ยี นแปลงสู่สังคมทีไ่ มท่ นต่อการทุจรติ ”
๒. กลมุ่ เปา้ หมายการนำไปใช้ :
1) หนว่ ยงานภาครฐั รวมจำนวน 20 กระทรวง
2) หน่วยงานภาครัฐวสิ าหกจิ รวมจำนวน 56 แหง่
๓. แนวทางการนำไปใช้ :
ประกอบด้วย ๓ แนวทาง
๑) ใชฝ้ กึ อบรมให้กบั เจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช.
๒) ใช้ฝึกอบรมใหก้ ับโค้ช STRONG : จติ พอเพยี งต้านทจุ ริต
๓) ใชฝ้ กึ อบรมใหก้ บั บคุ ลากรภาครฐั
5. หลักสูตรโคช้
๑. ช่อื หลกั สูตร “โคช้ เพอ่ื การรู้คิดตา้ นทุจรติ ”
๒. กลมุ่ เปา้ หมายการนำไปใช้
โค้ชภาคประชาสังคมในพื้นที่ระดับจังหวัด จำนวน ๗๖ จังหวัด และ ๑ เขตปกครองท้องถิ่นรูปแบบ
พเิ ศษ (กรุงเทพมหานคร)
๓. แนวทางการนำไปใช้ :
๑) ใชฝ้ กึ อบรมใหก้ บั เจา้ หนา้ ท่ีของสำนักงาน ป.ป.ช.
๒) ใชฝ้ กึ อบรมใหก้ บั โค้ช STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทจุ ริต
๓) ใชฝ้ กึ อบรมให้กับบุคลากรภาครฐั
๒๒ | รายงานผลการกำกบั ตดิ ตามและให้คำปรกึ ษาการขับเคลอ่ื นหลักสตู รตา้ นทุจรติ ศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
บทที่ ๓
ผลการกำกับตดิ ตามและให้คำปรึกษาหลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา
สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการกำกับติดตามและให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษามาอย่าง
ต่อเนื่องตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สำนักงาน ป.ป.ช. กำหนดการ
กำกับติดตามการนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด และเกิด
ผลสมั ฤทธติ์ ามเป้าหมายและตัวช้วี ดั ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ (21) ประเดน็ การตอ่ ต้านการทุจริต
และประพฤติมิชอบ (พ.ศ. 2561 – 2580) โดยมุ่งเนน้ กลมุ่ เปา้ หมายหน่วยงานที่นำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
ไปใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน ไดแ้ ก่ หลกั สตู รการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน (รายวิชาเพิม่ เติม การปอ้ งกันการทุจริต)
และหลักสตู รอุดมศกึ ษา (วยั ใส ใจสะอาด “Youngster with good heart”)
หลกั สูตรต้านทจุ ริตศกึ ษา
การจัดทำหลักสูตรต้านทจุ ริตศึกษา เป็นการดำเนินการทีต่ อบสนองต่อแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ประเด็นท่ี 21 การตอ่ ตา้ นการทจุ ริตและประพฤตมิ ิชอบ (พ.ศ. 2561 - 2580) รวมถงึ ยุทธศาสตร์ชาติวา่ ด้วย
การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) โดยสำนกั งาน ป.ป.ช. เป็นหน่วยงาน
รับผิดชอบหลัก ซึ่งมีความสอดคล้องตามพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 มาตรา 5 การจัดการ
อุดมศึกษาต้องเป็นไปเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ (3) ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติและแผนด้านการอุดมศึกษา และต้องเชื่อมโยงกับ
การศึกษาในระดบั ทตี่ ่ำกว่า เพอ่ื เตรียมความพร้อมใหก้ ับทรัพยากรบุคคลของประเทศในการเขา้ รับการศึกษาใน
ระดับอุดมศึกษา รวมทั้งสง่ เสริมให้มกี ารศึกษาอบรมเพื่อเสริมสร้างทักษะในการประกอบอาชีพของบุคคลและ
การศกึ ษาตลอดชีวิต
โดยในปี พ.ศ. 2559 สำนักงาน ป.ป.ช. ได้สร้างและผลักดันยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) โดยกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินงานหลักออกเป็น
6 ยุทธศาสตร์ ไดแ้ ก่ ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 สรา้ งสงั คมทไ่ี มท่ นตอ่ การทุจริต
ยุทธศาสตร์ที่ 2 ยกระดบั เจตจำนงทางการเมอื งในการต่อตา้ นการทุจรติ
ยทุ ธศาสตร์ท่ี 3 สกัดกนั้ การทจุ ริตเชงิ นโยบาย
ยุทธศาสตรท์ ่ี 4 พัฒนาระบบป้องกนั การทุจรติ เชิงรกุ
ยทุ ธศาสตร์ที่ 5 ปฏิรูปกลไกและกระบวนการการปราบปรามการทุจรติ
ยทุ ธศาสตร์ท่ี 6 ยกระดบั คะแนนดัชนีการรับรู้การทจุ รติ (Corruption Perceptions
Index: CPI)ของประเทศไทย
ยุทธศาสตร์ที่ 1 “สร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจริต” มุ่งเน้นให้ความสำคัญในกระบวนการปรับสภาพ
สังคมให้เกิดภาวะที่ “ไม่ทนตอ่ การทุจริต” เรมิ่ ตัง้ แตก่ ระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมในทุกระดับช่วงวัยตั้งแต่
ปฐมวัย เพื่อสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริต และปลูกฝังความพอเพียง มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต ดำเนินการผ่าน
สถาบันหรอื กลุ่มตัวแทนทีท่ ำหนา้ ท่ีในการกลอ่ มเกลาทางสงั คม และไดก้ ำหนดกลยทุ ธ์ดำเนินการ 4 กลยุทธ์ คอื
กลยุทธ์ที่ 1 ปรับฐานความคิดทุกช่วงวัยตั้งแต่ปฐมวัย ให้สามารถแยกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและ
ผลประโยชน์ส่วนรวม กลยุทธ์ที่ 2 ส่งเสริมให้มีระบบและกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมเพื่อต้านทุจริต
กลยุทธ์ที่ 3 ประยุกต์หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องมือต้านทุจริต และกลยุทธ์ที่ 4 เสริมพลังการ
มีสว่ นร่วมของชุมชน (Community) และบรู ณาการทุกภาคส่วนเพอ่ื ตอ่ ต้านการทุจรติ ซงึ่ กลยุทธท์ ี่ 1 – 3 นำสู่
การจดั ทำหลักสตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา
๒๓ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและให้คำปรึกษาการขบั เคลอื่ นหลกั สตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
ในปี พ.ศ. 2560 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำหลักสูตรหรือชุดการ
เรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริตขึ้น เพื่อดำเนินการสร้างหลักสูตรฯ โดยใช้ชื่อว่า
“หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา” (Anti - Corruption Education) โดยนำประเดน็ สำคญั ในยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วย
การป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาเชื่อมโยงในหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และได้ประกาศใช้ในปี พ.ศ.
2561 เป็นตน้ มา อนั ประกอบดว้ ย 5 หลักสตู ร 1) หลักสตู รการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน (รายวิชาเพิ่มเติมการป้องกัน
การทุจริต) 2) หลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด “Youngster with Good Heart”) 3) หลักสูตรกลุ่ม
ทหารและตำรวจ (หลักสูตรตามแนวทางรับราชการกลุ่มทหารและตำรวจ) 4) หลักสูตรวิทยากร ป.ป.ช./
บุคลากรภาครฐั และรัฐวิสาหกิจ (สร้างวิทยากรผู้นำการเปลีย่ นแปลงสูส่ ังคมทีไ่ ม่ทนตอ่ การทุจริต) 5) หลักสูตร
โค้ช (โค้ชเพื่อการรู้คิดต้านทุจริต) โดยแต่ละหลักสูตรประกอบด้วยเนื้อหา 4 ชุดวิชา ดังน้ี 1) การคิดแยกแยะ
ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งเป็นปัญหาหลักในการพัฒนาประเทศที่จะต้อง
ปรับฐานความคิดทุกช่วงวัยเพ่ือเป็นกลไกนำไปสู่ความพอเพียง 2) ความอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
3) STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทุจรติ ไดน้ ำหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาประกอบหลักการต่อตา้ นการทุจริต
โดยประยุกต์หลักบูรณาการ STRONG Model อันประกอบด้วย (Sufficient : S) พอเพียง (Transparent : T)
โปรง่ ใส (Realise : R) ตนื่ รู้ (Onward : O) มุ่งไปข้างหนา้ (Knowledge : N) ความรู้ และ (Generosity : G) เอ้ืออาทร
4) พลเมอื งและความรับผดิ ชอบต่อสังคม
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 สำนกั งาน ป.ป.ช. ไดด้ ำเนินการสร้างและพฒั นาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
พ.ศ. 2564 จำนวน 3 เรื่อง/ชุดการเรียนรู้ คือ 1) การต้านทุจริตในสถานการณ์การเปลี่ยนฉับพลันทาง
เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Disruption) 2) การพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางธรณี และ3) การพิทักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติน้ำและน้ำบาดาล
ปี พ.ศ. 2565 สำนกั งาน ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการดำเนนิ การสร้างและพฒั นาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
พ.ศ. 2565 เพือ่ ใหค้ รอบคลุมกับสถานการณ์ทุจริตในปจั จุบัน จำนวน 2 เรอ่ื ง/ชุดการเรียน คือ 1) การพิทักษ์
ทรัพยากรธรรมชาตปิ า่ ไม้ และ 2) การพิทักษท์ รพั ยากรธรรมชาตทิ างทะเลและชายฝัง่
นอกจากนี้เพ่อื ใหค้ รอบคลุมทุกมิติของความรว่ มมือนอกเหนือจากหลักสูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา สำนักงาน
ป.ป.ช. ได้เสนอแนวทางความร่วมมือพัฒนาความโปร่งใสในสถาบันการศึกษา ได้แก่ แนวทางที่ 1) การจัดตั้ง
STRONG องคก์ ร ซ่ึงจะสะท้อนคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงาน
ภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ออกมาตามที่คาดหวังไว้และเป็นประโยชน์
แก่ประเทศด้วย เนื่องจากจะแสดงถึงค่าความโปร่งใสที่สูงเมื่อนำไปประเมินดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชัน
(Corruption Perceptions Index : CPI) ของประเทศไทยต่อไป และแนวทางที่ 2) การจดั ต้ังชมรม STRONG
ของนักศึกษาในการร่วมมือช่วยจับตามองและแจ้งเบาะเเสการทุจริต (watch & voice) โดยทั้ง 2 แนวทาง
สามารถเขียนเป็นโครงการแล้วเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงาน ป.ป.ช. ทั้งในส่วนของ
กองทนุ ป.ป.ช. และงบประมาณตามแผนบรู ณาการต่อตา้ นการทุจรติ และประพฤติมชิ อบ
๒๔ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขบั เคลื่อนหลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
ความสำคัญ / ความจำเป็นของหลักสตู รต้านทจุ ริตศกึ ษา
คณะรัฐมนตรีมมี ติเห็นชอบให้สำนักงาน ป.ป.ช. เปน็ หนว่ ยงานหลักในการขับเคล่ือนแผนแม่บทภายใต้
ยุทธศาสตร์ชาติ (21) ประเดน็ การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมชิ อบ (พ.ศ. 2561 – 2580) ซงึ่ ได้กำหนด
เป้าหมายและตัวช้วี ดั ของแผนแม่บทภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ ประเดน็ การตอ่ ต้านการทุจริตและประพฤตมิ ชิ อบ ดงั นี้
เป้าหมาย ตัวชว้ี ัด คา่ เปา้ หมาย
ประเทศไทยปลอด ดัชนกี ารรับรู้ ปี 2561 - 2565 ปี 2566 - 2570 ปี 2571 - 2575 ปี 2576 - 2580
การทุจรติ และ การทุจรติ ของ
ประพฤติมชิ อบ ประเทศไทย อยู่ในอนั ดับ 1 ใน อย่ใู นอันดบั 1 ใน อยู่ในอันดบั 1 ใน อยู่ในอนั ดบั 1 ใน
(อันดับ/คะแนน) 54 และ/หรือได้ 43 และ/หรือได้ 32 และ/หรือได้ 20 และ/หรือได้
คะแนนไม่ต่ำกว่า คะแนนไม่ต่ำกว่า คะแนนไม่ต่ำกว่า คะแนนไม่ต่ำกว่า
50 คะแนน 57 คะแนน 62 คะแนน 73 คะแนน
เปา้ หมายและตวั ชีว้ ดั
เป้าหมาย ตัวชวี้ ัด ปี 2561 - ค่าเป้าหมาย ปี 2576 -
2565 ปี 2566 - ปี 2571 - 2580
1.ประชาชนมี ร้อยละของเดก็ และเยาวชนไทยมี
วฒั นธรรม พฤติกรรมทย่ี ดึ มั่นความซ่อื สตั ยส์ จุ ริต ร้อยละ 50 2570 2575 ร้อยละ 80
และ รอ้ ยละ 60 รอ้ ยละ 70
พฤตกิ รรม รอ้ ยละของประชาชนที่มีวฒั นธรรม ร้อยละ 50 ร้อยละ 80
ซอื่ สตั ยส์ ุจรติ คา่ นิยมสจุ ริต มีทศั นคติและพฤติกรรม รอ้ ยละ 60 ร้อยละ 70
ในการตอ่ ตา้ นการทจุ รติ และประพฤติ รอ้ ยละ 80 ร้อยละ 100
มชิ อบ (85 คะแนน ร้อยละ 100 รอ้ ยละ 80 (90 คะแนน
(85 คะแนน (90 คะแนน
รอ้ ยละของหน่วยงานทีผ่ า่ นเกณฑก์ าร ขน้ึ ไป) ข้ึนไป)
ประเมนิ ITA รอ้ ยละ 10 ข้ึนไป) ขน้ึ ไป) รอ้ ยละ 80
ร้อยละ 10 ร้อยละ 80
2.คดที ุจริต จำนวนคดีทุจรติ ในภาพรวม รอ้ ยละ 50 ร้อยละ 70
และประพฤติมิ รอ้ ยละ 10 รอ้ ยละ 80
ชอบลดลง จำนวนคดีทจุ ริตรายหน่วยงาน ร้อยละ 50 ร้อยละ 70
- จำนวนข้อร้องเรียนเจ้าหนา้ ท่ภี าครฐั ที่ ร้อยละ 25 ร้อยละ 90
ถกู ชมี้ ูลเรอื่ งวนิ ยั (ทุจรติ ) ร้อยละ 50 ร้อยละ 70
ร้อยละ 50 ร้อยละ 80
- จำนวนขอ้ รอ้ งเรียนเจา้ หน้าทภี่ าครฐั
ที่ถกู ช้มี ูลว่ากระทำการทุจริต
จำนวนคดที ุจรติ ทเี่ ก่ยี วข้องกับผดู้ ำรง
ตำแหน่งทางการเมอื ง
โดยเป้าหมายท่ี 1. ประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต มีตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องโดยตรง
กับสถาบันการศึกษา คือเด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งกำหนดค่าเป้าหมาย
ในปี พ.ศ. 2565 อยู่ที่ร้อยละ 50 โดยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ
ให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องนำ หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) ไปพิจารณาปรับใช้
กับกลุ่มเป้าหมาย และวันที่ 18 สิงหาคม 2563 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้นำไปปรับใช้ตามแนวทางที่
สำนกั งาน ป.ป.ช. เสนอ ในการน้ีเพ่ือให้การขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาเกิดผลสัมฤทธ์ิอย่างเป็นรูปธรรม
สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้ประสานไปยังกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และ
ทางกระทรวงฯ ได้มีหนังสือลงวันที่ 19 มีนาคม 2564 แจ้งไปยังมหาวิทยาลัยในสังกัดและกำกับให้นำ
หลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด “Youngster with Good Heart”) ไปดำเนินการใช้ในการจัดการเรียน
การสอน โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จะเรม่ิ ประเมนิ ผลสมั ฤทธิ์ของการนำหลกั สูตรฯ ไปใช้
๒๕ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและให้คำปรกึ ษาการขบั เคล่ือนหลักสตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
การดำเนินการกำกบั ติดตามและให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทจุ รติ ศึกษา
สำนักงาน ป.ป.ช. กำหนดดำเนินการกิจกรรมศูนย์ให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ซึ่งมี
ศูนย์ให้คำปรึกษาฯ อยู่ที่สำนักต้านทุจริตศึกษา และกำหนดการลงพื้นที่เพื่อกำกับติดตามและให้คำปรึกษา
หลกั สูตรต้านทุจรติ ศึกษา โดยไดค้ ดั เลอื กกลุ่มเป้าหมายจากหน่วยงานที่ยังไม่ไดน้ ำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้
หรือหน่วยงานที่นำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้แล้วแต่ยังไม่ได้รายงานผลการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริต
ศึกษามายังสำนักงาน ป.ป.ช. ในการจัดเก็บข้อมลู กลุ่มตัวอย่างที่เกี่ยวข้อง เป็นการประชุมหารือการขับเคล่อื น
หลักสูตรต้านทุจริตศึกษากับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในรูปแบบการลงพื้นที่และผ่านระบบ Online Platform
ผา่ นระบบ Zoom Meeting โดยในปงี บประมาณ พ.ศ.2565 ดำเนินการ 10 แห่ง ประกอบดว้ ย
หลกั สตู รการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน (รายวชิ าเพมิ่ เติม การป้องกนั การทุจริต)
1) สำนกั งานคณะกรรมการส่งเสริมการศกึ ษาเอกชน
2) สำนกั งานศกึ ษาธกิ ารภาค 8 (ฉะเชงิ เทรา ชลบรุ ี ระยอง จันทบรุ ี ตราด สระแกว้ ปราจีนบรุ ี นครนายก)
3) สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน (สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาภาคกลาง และภาคตะวนั ออก)
และหลักสูตรอุดมศึกษา (วยั ใส ใจสะอาด “Youngster with good heart”)
4) มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนสนุ นั ทา
5) มหาวิทยาลยั พะเยา
6) มหาวทิ ยาลัยนครพนม
7) มหาวิทยาลยั กรุงเทพธนบุรี
8) มหาวทิ ยาลัยคริสเตยี น
9) มหาวทิ ยาลัยปทุมธานี
10) มหาวิทยาลัยภาคกลาง
ซึ่งสามารถสรุปผลการดำเนินการกำกับติดตามและให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ทั้งใน
สว่ นกลางและส่วนภูมภิ าค โดยมีรายละเอียดดังน้ี
๒๖ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและใหค้ ำปรึกษาการขบั เคลอื่ นหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
1. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศกึ ษาเอกชน
การประชุมหารือเพื่อกำกับติดตามและให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2565 กำหนดดำเนินการวันที่ 3 มีนาคม 2565 ณ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
ถนนราชดำเนนิ นอก แขวงดุสิต เขตดุสติ กรุงเทพมหานคร ผู้เข้าร่วมประชมุ ประกอบด้วย
ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษาเอกชน :
1. นายณรงค์ศักดิ์ บุณยมาลกิ ผู้เช่ียวชาญเฉพาะด้านสง่ เสริมมาตรฐานการศกึ ษา
2. นางอุไรวรรณ ซลั ตัล นกั วชิ าการศึกษาชำนาญการพิเศษ
3. นางภทั รพรรณ เลง็ วัฒนากิจ นกั วชิ าการศึกษาชำนาญการพิเศษ
4. นางสาวนภลภัส รัตนกจิ นักวิชาการศึกษาชำนาญการ
5. นางสาวพจมาน สีพล นกั วชิ าการศกึ ษาชำนาญการ
6. นางสาวพรพรหม คชพนั ธ์ นักวชิ าการศกึ ษาปฏบิ ตั กิ าร
7. นางสาวสดุ ารกั ษ์ วงษ์อนุสรณ์ นกั วชิ าการศกึ ษาปฏิบตั กิ าร
ผูแ้ ทนจากสำนกั งาน ป.ป.ช. :
1. นายอุทิศ บัวศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
2. นางสวรรยา รัตนราช ผู้อำนวยการสำนักต้านทจุ รติ ศึกษา
3. นางสปุ รยี า บญุ สนิท ผู้อำนวยการกลมุ่ ส่งเสรมิ และติดตาม
ตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา 1
4. คณะเจ้าหน้าที่สำนกั ต้านทุจรติ ศึกษา สำนักงาน ป.ป.ช.
โดยสามารถสรุปรายละเอียดการประชมุ หารือประเด็นการขบั เคลื่อนหลักสตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา
หลักสตู รการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน ได้ดงั น้ี
การดำเนินการนำหลกั สตู รตา้ นทุจริตศกึ ษาไปใช้
โรงเรียนเอกชนในประเทศไทยมีจำนวนประมาณ 3,579 โรงเรียน จากข้อมูลการรายงานกำกับ
ติดตามตั้งแต่ปีพ.ศ. 2562 ถึง พ.ศ. 2564 พบว่ามีเพียงประมาณ 1,041 แห่งที่ได้นำหลักสูตรต้านทุจริต
ศึกษาไปใช้ โดยจัดทำเป็นรายวิชาเพิ่มเติมของโรงเรียน จำนวน 76 โรงเรียน นำไปบูรณาการกับการจัดการ
เรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ หรือนำไปบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น จำนวน
584 โรงเรียน และนำไปบูรณาการเรียนรู้กับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือกิจกรรม/โครงการ/โครงการหรือวิถี
ชีวิตประจำวันในโรงเรยี น จำนวน 403 โรงเรยี น
ปัญหาที่พบระหว่างดำเนินการ
โรงเรียนเอกชนนั้นมีความหลากหลายทั้งในส่วนของโรงเรียนที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการ โรงเรียน
สอนศาสนา โรงเรยี นปอเนาะ โรงเรยี นนานาชาติ รวมถงึ สถานศึกษาสงเคราะห์ ท่ีอาจจะยังไมไ่ ด้ให้ความสำคัญ
เรื่องน้ี
แนวทางในการปรบั ปรงุ และเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการดำเนนิ การใหป้ ระสบความสำเรจ็
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนจะดำเนินการกระตุ้นการขับเคลื่อนการนำไปใช้
ในส่วนของโรงเรียนเอกชนส่วนนี้จะดำเนินการขับเคลื่อนต่อไป ส่วนเอกสารที่ยังค้างอยู่ที่สำนักงาน ป.ป.ช.
ในการดำเนินการเผยแพร่หลักสูตร โดยปกติทั่วไปโรงเรียนเอกชนในจังหวัดจะอยู่ในการดูแลของ ปสกช.
โดยจะดำเนินการส่งหนังสือให้กับทางโรงเรียนให้ครบถ้วน แต่เนื่องจากงบประมาณและบุคลากรที่จะใชใ้ นการ
จดั ส่งหนงั สือค่อนข้างสูงและไมไ่ ดม้ กี ารต้งั งบประมาณไวร้ องรบั ตรงส่วนนี้ ซงึ่ ถือเป็นขอ้ จำกัด
๒๗ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขับเคลอ่ื นหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
และในเรื่องการอบรมครูก็เป็นส่วนสำคัญที่จะดำเนินการจัดทำ และจะขอความอนุเคราะห์ไปทาง
สำนักงาน ป.ป.ช. ในเร่ืองขอวิทยากรในการอบรมครู โดยปกตถิ ้าไม่ใชใ่ นกรณีเร่งดว่ นจะไม่ไดม้ ีการเรียกครูหรือ
โรงเรยี นมาอรบรม แตใ่ นกรณีนที้ างผู้บริการและครูของโรเรียนเอกชนจำเป็นต้องทราบเน้ือหา และความสำคัญ
ของหลักสตู รต้านทุจรติ ศกึ ษากอ่ น
ข้อคดิ เห็น / ข้อเสนอแนะ
- ไม่มี -
การประชมุ หารือเพือ่ กำกบั ติดตามและให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจรติ ศกึ ษา
หลักสตู รการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน เมอ่ื วันพฤหัสบดีที่ 3 มนี าคม 2565
ณ สำนกั งานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน
ถนนราชดำเนนิ นอก แขวงดุสติ เขตดสุ ติ กรุงเทพมหานคร
๒๘ | รายงานผลการกำกับติดตามและใหค้ ำปรึกษาการขับเคลื่อนหลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
2. สำนักงานศึกษาธิการภาค 8
การประชุมหารือเพื่อกำกับติดตามและให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2565 กำหนดดำเนนิ การวนั ที่ 7 มนี าคม 2565 ณ ห้องประชุมสำนักต้านทุจริตศึกษา สำนักงาน ป.ป.ช. อำเภอ
เมืองนนทบรุ ี จงั หวดั นนทบุรี ในรูปแบบ Online Platform (ผ่านระบบ Zoom Meeting) ผูเ้ ขา้ รว่ มประชุมประกอบดว้ ย
ผู้แทนจากสำนกั งานศกึ ษาธกิ ารภาค 8 : ผู้อำนวยการกลุม่ ตรวจราชการและติดตาม
1. นายเจษฎา เทพศร ประเมินผล
ผอู้ ำนวยการกลมุ่ พัฒนาการศึกษา
2. นายเชิดชาย ยอดนอ้ ย ผอู้ ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานบุคคล
3. นางกัญญาภคั พลู สวสั ด์ิ นักวิชาการศกึ ษาชำนาญการพเิ ศษ
4. นางอารีย์พร งามกนก รก.นิตกิ รชำนาญการพิเศษ
5. นางเสาวคนธ์ มัน่ ดี นักวชิ าการศึกษาชำนาญการ
6. นางกนษิ ฐา บวรเกียรตกิ ลุ นักวชิ าการศกึ ษาปฏบิ ตั ิการ
7. นายพรพรหม เทพเรืองชยั นักวชิ าการศึกษาปฏิบตั กิ าร
8. นางสาวศรณั ชณา จินตนากลู นักวิชาการศกึ ษาปฏิบัตกิ าร
9. นางสาวอณั ณ์จริ ภา ธนาชัยกลุ วัฒน์ นักวชิ าการศึกษาปฏบิ ตั ิการ
10. นางสาวนนั ทชั พร บญุ มี นติ ิกรปฏิบัตกิ าร
11. นางสาวสนุ ษิ า อกั ษรสวุ รรณ
ผู้แทนจากสำนักงาน ป.ป.ช. :
1. นายอุทศิ บัวศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
2. นางสวรรยา รัตนราช ผูอ้ ำนวยการสำนักตา้ นทุจรติ ศกึ ษา
3. นางสปุ รียา บญุ สนทิ ผ้อู ำนวยการกลมุ่ ส่งเสริมและติดตามตา้ นทุจริตศึกษา 1
4. คณะเจ้าหนา้ ท่ีสำนกั ต้านทจุ รติ ศกึ ษา สำนักงาน ป.ป.ช.
โดยสามารถสรุปรายละเอียดการประชุมหารือประเด็นการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
หลกั สตู รการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน ไดด้ ังนี้
การดำเนินการนำหลักสูตรตา้ นทจุ รติ ศกึ ษาไปใช้
สำนักงานศึกษาธิการภาค 8 มีโรงเรียน 2,265 แห่ง จากหน่วยงานทางการศึกษาต่างๆ เช่น สพฐ.
สช. กศน. และอาชีวศึกษา เป็นต้น โดยการดำเนินการในตอนนี้จะเน้นไปที่ 2 ส่วนงาน คือส่าวของการศึกษา
เอกชน และกศน. โดยแนวทางในการขับเคลื่อนและติดตามของภาคตะวันออกใน 2 ไตรมาสที่ผ่านมา
สำนักงานปลัดกระทรวงมีการแต่งตั้งคำสั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณโครงการด้านการ
ป้องกันและปราบปรามการทุจริตสำหรับศึกษานิเทศก์ภาค และศึกษานิเทศก์จังหวัด โดยจัดสรรงบประมาณ
มาให้แต่ละภาคตามภูมิภาค โดยภาค 8 นี้ต้ังอยู่จ.ชลบุรี เมื่อทางกระทรวงต้ังคำส่ังมอบศน.ภาค
เป็นผูข้ ับเคล่ือนงาน ทางภาคกม็ าต้งั คณะทำงานของศน.ภาคตะวันออกขึ้น โดยองค์ประกอบจะมีศึกษานิเทศก์
ภาคตะวันออกเป็นประธาน ภายใต้โครงการขับเคลื่อนการสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริตด้วยหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงของหน่วยงานทางการศึกษาสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิ การภาคตะวันออก
รับผิดชอบแนวทางท่ี ๑ : ปลูกฝังวิธีคิด ปลุกจิตสำนกึ ให้มีวัฒนธรรมและพฤตกิ รรมช่ือสัตย์สุจรติ โดยมีตัวชี้วดั
ดงั นี้
๒๙ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและใหค้ ำปรึกษาการขับเคลื่อนหลกั สตู รตา้ นทุจริตศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
ตวั ชี้วดั ที่ ๑ : ร้อยละ ๖๕ ของบุคลากรในสถานศึกษาเอกชนหรือสถานศึกษา กศน. และบุคลากรใน
พื้นทสี่ ำนกั งานศึกษาธกิ ารภาคภมู ศิ าสตร์ มคี วามรู้ ความเข้าใจในหลักสูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา
ตวั ชว้ี ัดท่ี ๒ : รอ้ ยละ ๗0 ของสถานศกึ ษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาเอกชน และ
สำนกั งาน กศน. ในพนื้ ที่สำนักงานศึกษาธกิ ารภาคภูมิศาสตร์ทน่ี ำหลักสูตรต้านทจุ ริตไปบูรณาการในการจัดการ
เรยี นการสอน
ตวั ชี้วดั ท่ี ๓ : จำนวนผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมตอ่ ต้านการทุจริตและสง่ เสรมิ คณุ ธรรม จำนวน ๓๕o คน
และได้รับข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามการทุจริตจากสำนักงานปลัดกระทรวงว่าทางสำนักงาน ป.ป.ช.
ไดท้ ำการกำกับตดิ ตามการนำหลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศึกษาไปใช้ทุกปี โดยสังกัด สช. นำไปใช้คิดเป็น 19.04% และ
กศน.นำไปใช้ค่อนข้างครบแล้วโดยจะเป็นการนำไปจัดทำเปน็ วชิ าใหน้ กั ศึกษาเลอื กเรียน
ปัญหาที่พบระหวา่ งดำเนินการ
- ไม่มี -
แนวทางในการปรบั ปรงุ และเพ่ิมประสิทธภิ าพการดำเนนิ การให้ประสบความสำเรจ็
ดำเนินการจัดทำโครงการขับเคลื่อนการสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริตด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพียงของหน่วยงานทางการศึกษาสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการภาคตะวันออก โดยมีแผนการ
จดั กิจกรรมดังนี้
กิจกรรมที่ 1 ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบสำนักงาน
ศึกษาธิการภาคตะวันออก ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
กิจกรรมที่ 2 ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและประสานการดำเนินงาน ในคณะกรรมการป้องกัน
และปราบปรามการทุจรติ และประพฤตมิ ิชอบสำนักงานศึกษาธิการภาคตะวันออก ประจำปีงบประมาณพ.ศ. ๒๕๖๕
กิจกรรมที่ 3 ประชุมสร้างการรับรู้วัฒนธรรมต่อต้านการทุจริตด้วย "หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา"
ผ่านระบบการประชมุ ออนไลน์ Zoom Meeting
โดยมกี ลมุ่ เป้าหมายคอื ผู้บรหิ ารหน่วยงานทางการศึกษา/ผู้บรหิ ารสถานศึกษาในพนื้ ที่ภาคตะวนั ออก ๘ จงั หวัด
กิจกรรมที่ 4 จัดประชุมสร้างการรับรู้ "หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา" ไปบูรณาการในการจัดการเรียน
การสอน ผา่ นระบบการประชมุ ออนไลน์ Zoom Meeting
กลุ่มเป้าหมาย : ศึกษานิเทศก์ ครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
สำนักงาน กศน. และ สช. ในพน้ื ท่ภี าคตะวันออก ๘ จังหวัด
กิจกรรมที่ 5 ประชุมเชิงปฏิบัติการนำ "หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา" ไปบูรณาการในการจัดการเรียน
การสอน ผ่านระบบการประชมุ ออนไลน์ Zoom Meeting
กลุ่มเป้าหมาย : ศึกษานิเทศก์ หัวหน้าฝ่ายวิชาการ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สถานศึกษา
สำนกั งาน กศน. และ สช. ในพื้นทีภ่ าคตะวันออก ๘ จงั หวดั
กิจกรรมที่ 6 ประชุมสร้างการรับรู้วัฒนธรรมต่อต้านการทุจริตด้วย "หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา"
ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ Zo๐m Meeting และ ถ่ายทอดสดทาง Facebook Live
กล่มุ เปา้ หมาย : นักเรียน นักศึกษา สงั กัด สำนกั งาน กศน. และ สช. ในพื้นที่ภาคตะวนั ออก ๘ จังหวดั
กิจกรรมที่ 7 ติดตามประเมินผลการนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปบูรณาการในการจัดการเรียน
การสอน ของสถานศกึ ษาสังกัด สำนักงาน กศน. และ สช. ในพ้ืนท่ีภาคตะวันออก ๘ จงั หวดั
กิจกรรมที่ 8 ประชุมทางวิชาการ "การนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปบูรณาการในการจัดการเรียน
การสอน" ในพืน้ ทีภ่ าคตะวันออก ๘ จังหวัด ผา่ นระบบการประชมุ ออนไลน์ Zoom Meeting และ ถา่ ยทอดสด
ทาง Facebook Live
๓๐ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและให้คำปรกึ ษาการขบั เคลอ่ื นหลักสตู รตา้ นทุจรติ ศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
กลมุ่ เป้าหมาย
- ผู้บริหารหนว่ ยงานทางการศึกษา/ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา
- ศกึ ษานเิ ทศก์ ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา นกั เรยี น นกั ศกึ ษา สงั กัดสำนักงาน กศน. และ สช.
ในพ้ืนทภ่ี าคตะวันออก ๘ จังหวัด
กจิ กรรมท่ี 9 ประชุมสรปุ ผลการดำเนนิ งานรายงนศนู ยป์ ฏิบตั ิการต่อต้านการทุจริตกระทรวงศกึ ษาธิการ
ขอ้ คิดเหน็ / ขอ้ เสนอแนะ
- ไมม่ ี -
การประชมุ หารอื เพอ่ื กำกับติดตามและใหค้ ำปรึกษาหลักสูตรตา้ นทุจรติ ศกึ ษา
หลกั สตู รการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน เม่อื วันจันทร์ท่ี 7 มนี าคม 2565
ในรูปแบบ Online Platform (ผา่ นระบบ Zoom Meeting)
๓๑ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและให้คำปรึกษาการขับเคล่อื นหลักสตู รตา้ นทุจรติ ศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
3. สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน
(สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาภาคกลาง และภาคตะวันออก)
การประชุมหารือเพื่อกำกับติดตามและให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2565 กำหนดดำเนินการวันที่ 16 มีนาคม 2565 ณ 2565 ณ โรงแรมเอสดี อเวนิว กรุงเทพมหานคร
ผู้เขา้ รว่ มประชมุ ประกอบด้วย
ผ้แู ทนจากสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน :
ผู้รับผิดชอบการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจาก
สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาภาคกลาง และภาคตะวนั ออก
ผู้แทนจากสำนกั งาน ป.ป.ช. :
1. นายอทุ ศิ บัวศรี รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการ ป.ป.ช.
2. นางสวรรยา รตั นราช ผู้อำนวยการสำนักต้านทจุ รติ ศกึ ษา
3. นางสุปรียา บุญสนทิ ผู้อำนวยการกลุ่มสง่ เสรมิ และตดิ ตาม
ต้านทุจริตศกึ ษา 1
4. คณะเจา้ หนา้ ท่ี สำนกั งาน ป.ป.ช.
โดยสามารถสรุปรายละเอียดการประชุมหารือประเด็นการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
หลักสูตรการศึกษาข้นั พนื้ ฐานได้ ดังนี้
การดำเนนิ การนำหลกั สตู รต้านทุจรติ ศึกษาไปใช้
สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน (สพฐ.) ไดด้ ำเนินการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
มาตั้งแต่ พ.ศ. 2562 ถึง ปัจจุบัน โดยมีจำนวนโณงเรียน 29,871 โรงเรียน นำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้
ทั้งสิ้น 29,871 โรงเรียนคิดเป็น 100% โดยจัดเปิดการเรียนการสอนเป็นรายวิชาเพิ่มเติม 14,812 โรงเรียน
กิจกรรมการพัฒนาผู้เรียน 5,044 โรงเรียน บูรณาการการเรียนการสอนกับกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
4,780 โรงเรียน บูรณาการการเรียนการสอนกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ 2,800 โรงเรียน บูรณาการกับวิถี
ชีวติ มในโรงเรยี น 1,483 โรงเรียน และจัดเป็นกจิ กรรมเสริมหลกั สตู ร 952 โรงเรยี น
โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 นี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ดำเนินการจัด
กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการการบรู ณาการความร่วมมือในการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบระดบั
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยมีผู้รับผิดชอบการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทจุ ริตศึกษา ของสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจำนวน 245 เขตทั่วประเทศ และบุคลากรจากสำนักงาน ป.ป.ช.
ภาค และสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดทัว่ ประเทศเปน็ ผู้เข้ารว่ ม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑.ชี้แจงแนวทางการดำเนนิ
โครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้กับ
ผู้รับผิดชอบโครงการในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในการขับเคลื่อนโครงการ /กิจกรรมที่มุ่งเน้นการ
ปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อลดปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบตามแนว
ทางการดำเนินโครงการท่ีได้กำหนดไว้ ๒. บรู ณาการความร่วมมือในการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบใน
ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค และสำนักงาน
ป.ป.ช. ประจำจงั หวัด ๓. ชี้แจง ทบทวนความเขา้ ใจ และสรา้ งการรบั รใู้ นการขับเคล่ือนการใชห้ ลักสตู รต้านทุจริต
ศึกษา ของสถานศึกษา
ปญั หาท่ีพบระหว่างดำเนินการ
- ไม่มี -
๓๒ | รายงานผลการกำกับติดตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขบั เคล่ือนหลกั สตู รตา้ นทุจริตศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
แนวทางในการปรับปรุงและเพ่มิ ประสิทธิภาพการดำเนินการให้ประสบความสำเรจ็
จัดทำเกณฑ์การประเมินการนำหลักสูตรต้านทุจิตศึกษาไปใช้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน “รายวิชา
เพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต” เพื่อประเมินการนำหลักสูตรต้านทุจริตไปใช้ ประกอบด้วยรายการพิจารณา
การนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้ จำนวน ๖ แนวทาง ได้แก่ ๑) จัดทำเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ๒) บูรณาการ
การเรียนการสอนกับกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๓) บูรณาการการเรียนการสอน
กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ๔) จัดในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๕) จัดเป็นกิจกรรมเสริมหลักสูตร ๖ บูรณาการ
กบั วถิ ชี ีวิตในสถานศึกษาโดยแต่ละแนวทางมีการประเมนิ แนวทางละ ๘ รายการ ดงั น้ี
๑) การบรหิ ารจัดการหลกั สูตรต้านทจุ ริตศกึ ษา
2) การนำหลกั สูตรตา้ นทุจริตศกึ ษาไปใช้
๓) การนเิ ทศ ตดิ ตามผลการนำหลักสูตรต้านทุจรติ ศึกษาไปใช้
4) ผลท่ีเกดิ จากการนำหลกั สูตรตา้ นทุจริตศึกษาไปใช้
5) การประเมนิ ผลการใช้หลักสตู รตา้ นทจุ ริตศึกษาของสถานศึกษา
๖) ปจั จัยความสำเรจ็
๗) ประโยชนท์ ไ่ี ด้รับจากการนำหลกั สูตรต้านทจุ ริตศึกษาไปใช้
8) ปัญหา/อุปสรรค และข้อเสนอแนะ
2. จัดกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การนำเสนอผลงาน การประกวดแข่งขันกิจกรรมการเรียนรู้ ภายใต้
โครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (โครงการ
โรงเรียนสุจรติ ) ระดับภมู ิภาค และระดบั ประเทศ "กจิ กรรมนวัตกรรมการจัดการใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา"
ข้อคดิ เหน็ / ข้อเสนอแนะ
- ไม่มี -
๓๓ | รายงานผลการกำกับติดตามและใหค้ ำปรึกษาการขบั เคลอ่ื นหลักสตู รตา้ นทุจริตศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
การประชุมหารือเพอื่ กำกบั ติดตามและใหค้ ำปรึกษาหลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา
หลักสตู รการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน เมอ่ื วันพุธที่ 16 มนี าคม 2565
ณ โรงแรมเอสดี อเวนิว กรงุ เทพมหานคร
๓๔ | รายงานผลการกำกับติดตามและให้คำปรกึ ษาการขบั เคลื่อนหลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
4. มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสุนันทา
การประชุมหารือเพื่อกำกับติดตามและให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2565 กำหนดดำเนินการวันท่ี 20 ตุลาคม 2564 ณ ห้องเกียรติยศ สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนนนทบุรี
อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวดั นนทบรุ ี โดยมผี ู้เข้ารว่ มประชุมประกอบดว้ ย
คณะผู้บรหิ าร และบคุ ลากรมหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนสนุ นั ทา :
1. หม่อมหลวง อาภาวดี เทวกุล ประธานฝา่ ยพฒั นาหลกั สูตร
๒. นายคณุ ธวัช เหล่าปยิ ะสกุล รองประธานฝา่ ยพฒั นาหลกั สูตร
๓. นายพลกฤติ วฒั นสิริธรากลุ ผู้ชว่ ยพัฒนาหลักสูตร
๔. นางสาวสโรชา เบญ็ เราะมาน ผู้ช่วยพฒั นาหลกั สูตร
คณะผ้บู ริหาร และบคุ ลากรสำนกั งาน ป.ป.ช. :
1. รองศาสตราจารย์ ดร. มาณี ไชยธีรานุวฒั ศิริ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ ป.ป.ช.
2. นางสวรรยา รัตนราช ผอู้ ำนวยการสำนกั ต้านทจุ รติ ศกึ ษา
3. นางแกว้ ตา ชยั มะโน ผู้อำนวยการสำนกั ส่งเสรมิ
และบรู ณาการการมสี ว่ นรว่ มตา้ นทจุ รติ
4. นางสุปรยี า บุญสนทิ ผ้อู ำนวยการกลมุ่ ส่งเสริมและติดตาม
ตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา 1
5. คณะเจา้ หนา้ ที่ สำนักงาน ป.ป.ช.
โดยสามารถสรุปรายละเอียดการประชุมหารือเพื่อติดตามและให้คำปรึกษาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา
หลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด “Youngster with Good Heart”) ไดด้ ังนี้
การดำเนินการนำหลกั สูตรตา้ นทจุ ริตศกึ ษาไปใช้
มหาวิทยาลัยราชภฏั สวนสนุ ันทา ไดน้ ำหลักสตู รตา้ นทุจริตศึกษา หลักสตู รอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด
“Youngster with Good Heart”) ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาศึกษาทั่วไป รหัสวิชา GEN0118 รายวิชา
วัยใส ใจสะอาด จำนวน 3 หน่วยกิต เพื่อใช้ในการเรียนการสอนรายวิชาศึกษาทั่วไป โดยมีคำอธิบายรายวิชา
คือแนวคิดเกี่ยวกับการต่อต้านการฉ้อโกงและการทุจริต การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับ
ผลประโยชน์ส่วนรวม ความไม่ทนและความละอายต่อการทุจริต หน้าที่ของพลเมืองและความรับผิดชอบต่อ
สังคมในการต่อต้านการฉ้อโกงและการทุจริต การป้องกันการฉ้อโกงและการทุจริต โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้
ความรแู้ ก่นักศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรีทล่ี งทะเบียนเรยี นกับสำนักวิชาการศึกษาท่ัวไปฯ
ปัญหาท่พี บระหวา่ งดำเนินการ
- ไม่มี –
แนวทางในการปรับปรงุ และเพ่มิ ประสทิ ธิภาพการดำเนนิ การให้ประสบความสำเรจ็
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ได้ขอความอนุเคราะห์บุคลากรจากสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นวิทยากร
บรรยายร่วมประจำรายวิชา เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ และบุคลากรในการวางแผนการเรียนและการวัด
ประเมินผลการจัดการเรยี นรู้ในรายวชิ าศึกษาทวั่ ไป รหัสวิชา GEN0118 รายวิชา วัยใส ใจสะอาด
๓๕ | รายงานผลการกำกับติดตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขบั เคลอื่ นหลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
ขอ้ คิดเหน็ / ข้อเสนอแนะ
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสุนันทา อยใู่ นชว่ งการเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นมหาวิทยาลัยต้นแบบในการ
จัดการเรียนการสอนหลกั สูตรต้านทุจริตศึกษา หลกั สูตรอุดมศึกษา (วยั ใส ใจสะอาด “Youngster with Good Heart”)
ให้กับมหาวิทยาลัยราชภฎั อื่นทว่ั ประเทศ
การประชมุ หารอื เพ่ือกำกบั ติดตามและให้คำปรึกษาหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศึกษา
หลักสตู รอดุ มศกึ ษา (วัยใส ใจสะอาด “Youngster with Good Heart”)
วนั พธุ ท่ี 20 ตลุ าคม 2564
ณ ห้องเกียรติยศ ชัน้ 2 อาคาร 1 สำนักงาน ป.ป.ช.
ถนนนนทบุรี อำเภอเมอื งนนทบรุ ี จงั หวัดนนทบุรี
๓๖ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและให้คำปรึกษาการขับเคลอื่ นหลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
เคา้ โครงเอกสารประกอบการสอน
ประจำรายวิชา GEN0118 (ชอ่ื วชิ า) วัยใสใจสะอาด (Youngster with Integrity)
ประจำปกี ารศึกษา 2564
สำนักวิชาการศึกษาทว่ั ไปและนวตั กรรมการเรยี นรู้อเิ ลก็ ทรอนิกส์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสนุ ันทา
แผนบริหารการสอนประจำวิชา
รหสั วชิ า GEN0118
ชื่อรายวิชา วัยใสใจสะอาด
Youngster with Integrity
คำอธบิ ายรายวิชา
แนวคิดเกี่ยวกับการต่อต้านการฉ้อโกงและการทุจริต การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับ
ผลประโยชน์ส่วนรวม ความไม่ทนและความละอายต่อการทุจริต หน้าที่ของพลเมืองและความรับผิดชอบต่อ
สงั คมในการตอ่ ตา้ นการฉ้อโกงและการทุจริต การปอ้ งกนั การฉอ้ โกงและการทจุ ริต
Concepts of anti-fraud and anti-corruption, distinction between private and public
interests, intolerance and shame to corruption, civic duties and social responsibilities in anti-
fraud and anti-corruption, prevention of fraud and corruption
วตั ถปุ ระสงค์ทัว่ ไป
1. ผูเ้ รยี นมีความรู้ เขา้ ใจความหมาย แยกประเภทของการทจุ ริต
2. ผู้เรียนสามารถวเิ คราะห์และแยกแยะผลประโยชน์ทับซอ้ น
3. ผู้เรียนสามารถประยุกต์ความรู้ด้านจริยธรรม คุณธรรม และธรรมภิบาล เพื่อนำมาใช้ใน
ชวี ติ ประจำวัน
4. ผู้เรียนสามารถรว่ มสร้างสรรค์สังคมการต่อตา้ นทุจรติ
5. ผู้เรียนเข้าใจและสามารถประยุกต์หลักเศษฐกิจพอเพียงเพือ่ สร้างจิตสำนึกในการป้องกันการทุจริต
อยา่ งยัง่ ยนื
6. ผเู้ รียนมีทกั ษะในกระบวนความคิดทมี่ ปี ระสิทธภิ าพ
7. ผู้เรียนสามารถลงมือทำส่ิงต่าง ๆ โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงทงั้ 3 ตืน่ รู้ รู้จักตน ร้จู กั ผอู้ ่ืน
๓๗ | รายงานผลการกำกบั ตดิ ตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขบั เคลือ่ นหลักสตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
เนือ้ หา การทจุ ริต (Corruption)
บทท่ี 1 1.1 ความหมายของการทุจรติ
1.2 การจำแนกการทจุ ริต
บทท่ี 2 1.3 ปญั หาของการทจุ ริต
1.4 สาเหตุของการทจุ ริต
บทที่ 3 สรุป
บทที่ 4 แนวคดิ การต่อตา้ นการฉอ้ โกงและการทจุ ริต (Concepts of anti-fraud and anti-
บทที่ 5 corruption)
2.1 ทักษะปรับความคดิ และ การมีสว่ นร่วมกบั ชุมชนในการตอ่ ต้านการฉอ้ โกงและการทุจรติ
2.2 กรณศี ึกษาที่เกีย่ วข้องกบั การตอ่ ต้านการฉ้อโกงและการทุจริต
2.3 การฉอ้ โกงและทจุ ริตทีเ่ กิดขึ้นในสงั คมปจั จุบัน
2.4 มุมมองต่อสถานการณก์ ารฉ้อโกงและทุจริตในสงั คมโลก
สรุป
ผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม (Private and Public interests)
3.1 การคดิ แยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชนส์ ว่ นรวม
3.2 ความหมายของสังคม ฐาน 10 และ สงั คมฐาน 2
สรปุ
ความไม่ทนและความละอายตอ่ การทจุ รติ (Intolerance and shame to corruption)
4.1 การสร้างสงั คมไม่ทนตอ่ การทุจรติ “หริ ิโอตัปปะ”
สรุป
หน้าที่ของพลเมืองและความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คมในการตอ่ ต้านการฉ้อโกงและการทุจริต
(Civic duties and social responsibilities in anti-fraud and anti-corruption)
๓๘ | รายงานผลการกำกบั ตดิ ตามและให้คำปรกึ ษาการขับเคลือ่ นหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศึกษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
5.1 หนา้ ทข่ี องพลเมืองและชุมชนต่อการต้านการทจุ รติ
5.2 แนวความคิดของพลเมืองและชุมชมตอ่ การตา้ นการทจุ รติ
5.3 การแก้ไขปัญหาทุจริตในตา่ งประเทศ
5.4 ผลกระทบของการทุจริตท่สี ่งผลตอ่ การพฒั นาประเทศ
5.5 ชอ่ งทางของพลเมืองทจี่ ะเข้าไปร่วมกบั ภาครัฐหรือเอกชนในการต่อต้านทจุ รติ
สรุป
บทท่ี 6 การปอ้ งกนั การฉ้อโกงและการทจุ รติ (Prevention of fraud and corruption)
6.1 การป้องกันการฉ้อโกงและการทจุ รติ ส่วนบุคคล
6.2 การปอ้ งกนั การฉ้อโกงและการทจุ ริตในชมุ ชน
6.3 นวัตกรรมเพื่อการป้องกนั การทจุ รติ
สรปุ
บทที่ 7 กรอบแนวคิดจติ พอเพยี ง (STRONG)
7.1 ที่มาของกรอบแนวคิด STRONG
7.2 ที่มาของคำว่า STRONG
7.3 ตวั อยา่ งบุคคล หรือ หน่วยงานท่ปี ฏบิ ตั ิตามกรอบแนวคิด STRONG
สรุป
บทท่ี 8 หลักเศรษฐกิจพอเพยี งต้านทุจริต (Sufficiency-economy and anti-corruption)
8.1 ความหมายของหลักเศรษฐกจิ พอเพียง (Sufficiency-economy)
8.2 คณุ ลักษณะทส่ี ำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
8.3 การปรับประยุกตห์ ลักการเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชป้ ระกอบกบั หลักการต่อต้านการทุจรติ
สรปุ
๓๙ | รายงานผลการกำกับติดตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขับเคลอ่ื นหลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
วิธีการสอนและกจิ กรรม
1. การบรรยาย
2. การบรรยายผ่านวดี ีทศั น์
3. ใชก้ ารวิเคราะห์
4. ยกตวั อย่างสถานการณ์จำลอง
5. แลกเปลี่ยนเรยี นรจู้ ากประสบการณข์ องวิทยากรและอาจารยท์ ี่มีช่อื เสียง
สื่อการเรยี นการสอน
1. สอ่ื ประกอบการสอน Power Point
2. วิดที ศั น์
3. บทเรียนออนไลน์
4. แบบฝึกหัดระหว่างบทและแบบทดสอบทา้ ยบทออนไลน์
5. วิทยากร
6. Courseware
7. บันทึกการเรียนการสอน
8. แบบคำถามท้ายบท
การวัดและประเมินผล
การวดั
1. กจิ กรรมระหวา่ งเรียน 40%
2. โครงงานกล่มุ (กล่มุ ละ 10 คน) 30%
3. สอบประมวลความรู้ปลายภาค 30%
การประเมนิ ผล ไดร้ ะดบั A
คะแนนระหวา่ ง 86-100 ไดร้ ะดบั A-
คะแนนระหวา่ ง 82-85 ไดร้ ะดบั B+
คะแนนระหวา่ ง 78-81 ได้ระดับ B
คะแนนระหวา่ ง 74-77 ได้ระดบั B-
คะแนนระหวา่ ง 70-73 ไดร้ ะดับ C+
คะแนนระหวา่ ง 66-69 ได้ระดบั C
คะแนนระหวา่ ง 62-65 ไดร้ ะดบั C-
คะแนนระหว่าง 58-61 ได้ระดบั D+
คะแนนระหว่าง 54-57 ได้ระดับ D
คะแนนระหว่าง 50-53 ได้ระดับ D-
คะแนนระหว่าง 46-49 ได้ระดับ F
คะแนนระหวา่ ง 0-45
๔๐ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขับเคลอ่ื นหลักสตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
แผนบรหิ ารการสอนประจำบทที่ 1
หวั ข้อเนอ้ื หาประจำบท
1.1 ความหมายของการทุจรติ
1.2 ประเภทของการทจุ ริต
1.3 กรณศี กึ ษาจำลองการสุ่มเสย่ี งต่อการโดนทุจรติ เพื่อวิเคราะหว์ ิธกี ารแก้ไขปัญหาการทจุ ริตในสงั คม
1.4 สาเหตุของการทจุ รติ
วตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
เมอื่ เรยี นจบบทน้ี นักศึกษาสามารถทำสิ่งต่อไปน้ไี ด้
1. สามารถอธิบายความหมายของการทุจริตไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. สามารถแยกและจำแนกประเภทของการทจุ รติ
3. สามารถเข้าใจถงึ สาเหตุของการทุจรติ ไดอ้ ยา่ งชดั เจนมากขน้ึ
4. สามารถเขา้ ใจถึงการทจุ รติ ในรูปแบบทีห่ ลากหลายผา่ นการศึกษากรณีศกึ ษา
วธิ กี ารสอนและกจิ กรรมการเรียนการสอนประจำบท
1. การบรรยาย อธิบาย และ ยกกรณีศึกษา
2. ถาม-ตอบและตัวแทนนำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะความเป็นวัยใสใจสะอาด สังคม
สาระสำคญั ของวัยใสใจสะอาด
3. อภิปรายร่วมกันในชัน้ เรยี น
4. ศึกษาเอกสารประกอบการสอนประจำบท
5. อธบิ ายสรุปเพิม่ เตมิ ในประเดน็ สำคัญเกีย่ วกบั วยั ใสใจสะอาด ตอบข้อสงสยั และ Coaching
6. ทดสอบแบบทดสอบยอ่ ยประจำบทเรียน
ส่อื การเรยี นการสอน
1. เอกสารประกอบการสอบประจำบท
2. เอกสารประกอบการบรรยาย (Power point presentation)
3. ภาพกิจกรรมของวยั ใสใจสะอาด และภาพส่ือสารที่เก่ยี วกบั วัยใสใจสะอาดในสื่อตา่ ง ๆ
4. แบบคำถามท้ายบท
5. Courseware
การวดั ผลและการประเมินผล
1. สังเกตพฤตกิ รรมระหวา่ งการบรรยาย
2. สงั เกตจากการแสดงความคดิ เหน็ ในชน้ั เรียนและการนำเสนองาน
3. สงั เกตการร่วมทำกจิ กรรมในชนั้ เรยี น
4. ถามตอบเพอื่ ทบทวนความรู้ในช้นั เรยี น
5. ตรวจแบบคำถามท้ายบท
6. วดั เจตคติจากพฤติกรรมการเรยี น การกระตอื รอื รน้ ในการทำกิจกรรม
7. สอบเก็บคะแนนประจำบทเรียน
๔๑ | รายงานผลการกำกบั ตดิ ตามและให้คำปรึกษาการขบั เคลือ่ นหลักสตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 2
หัวขอ้ เน้อื หาประจำบท
1. แนวความคิดของการตา้ นการฉอ้ โกงและการทจุ ริต
2. การฉอ้ โกงและทจุ รติ ท่ีเกิดขนึ้ ในสังคมปัจจบุ ัน
3. มงคลสตู ร
วัตถปุ ระสงค์เชิงพฤตกิ รรม
เมอ่ื เรยี นจบบทนี้ นักศกึ ษาสามารถทำสงิ่ ต่อไปน้ีได้
1. สามารถเข้าใจและอธิบายการต้านการฉ้อโกงและการทุจรติ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2. สามารถเขา้ ใจและอธบิ ายการฉ้อโกงและทุจริตทเี่ กดิ ขนึ้ ในสังคมปจั จบุ ัน ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
3. สามารถเขา้ ใจและอธบิ ายมงคลสูตรตามหลกั ศาสนาพทุ ธได้อย่างถกู ต้อง
วธิ ีการสอนและกจิ กรรมการเรียนการสอนประจำบท
1. ผูส้ อนทำการบรรยายเน้ือหาวชิ าประกอบสื่อประเภทต่าง ๆ
2. กำหนดให้ผู้เรียนออกแบบเครื่องมือสำหรับการพัฒนาชุมชนโดยสอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจ
สังคม
3. วิเคราะห์ และอภิปรายกรณีศึกษาร่วมกันในประเด็นการใช้เครื่องมือและทักษะของวิศวกรสังคม
เพอ่ื การพัฒนาสังคมบรบิ ทเมืองและชมุ ชนท้องถน่ิ ไทย
4. ผู้สอนสรุปบทเรยี นเพอ่ื ให้ผเู้ รียนมีความเขา้ ใจท่ีถูกตอ้ งและตรงตามวตั ถุประสงค์
5. กำหนดให้ผูเ้ รียนศกึ ษาเอกสารประกอบการสอนประจำบท
6. ทดสอบความร้ขู องผู้เรยี นดว้ ยแบบทดสอบยอ่ ยประจำบท
ส่อื การเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอนประจำบท
2. การสอนแบบบรรยายประกอบส่อื
3. เอกสารประกอบการบรรยาย (Power point presentation)
4. แบบคำถามทบทวนทา้ ยบท
การวัดผลและการประเมนิ ผล
1. สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนระหว่างที่ผู้สอนทำการบรรยาย เพื่อประเมินความตั้งใจ ความ
กระตือรอื ร้น ขณะเรยี น
2. ประเมินความรคู้ วามเข้าใจของผูเ้ รียนผา่ นการออกแบบเครื่องมือสำหรบั การพฒั นาชมุ ชน
3. ประเมินความรคู้ วามเข้าใจของผู้เรยี นจากการรว่ มวเิ คราะห์ การร่วมอภิปรายในช้นั เรียน
4. ตรวจแบบคำถามท้ายบท
5. สอบเกบ็ คะแนนประจำบทเรยี น
6. Courseware
๔๒ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและให้คำปรึกษาการขับเคลอื่ นหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
แผนบรหิ ารการสอนประจำบทที่ 3
หัวขอ้ เน้ือหาประจำบท
1. ระบบคิดการแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตวั และผลประโยชนส์ ว่ นรวม
2. ผลประโยชน์ทับซอ้ น (conflict of interest)
3. ความหมายของสงั คม ฐาน ๑๐ และ สังคมฐาน ๒
วัตถุประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
เม่ือเรียนจบบทนี้ นักศึกษาสามารถทำสิ่งต่อไปนไี้ ด้
1. สามารถเขา้ ใจและแยกแยะความแตกต่างของผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม
2. สามารถเข้าใจถงึ สาเหตขุ องผลประโยชน์ทบั ซอ้ นได้
3. สามารถอธิบายความหมาย และ ยกตวั อยา่ งของสงั คม ฐาน ๑๐ และ สังคมฐาน ๒ ได้
4. สามารถอธิบายความแตกตา่ งระหว่างคำว่า “สินน้ำใจ” และ “สินบน”
วิธีการสอนและกจิ กรรมการเรยี นการสอนประจำบท
1. การบรรยาย อธิบาย ยกกรณีศึกษา เลา่ ประสบการณ์การลงพน้ื ทวี่ จิ ัยในพ้ืนท่ีต่าง ๆ กบั ความเข้าใจ
การปฏิบตั จิ รงิ ในพ้ืนที่เมืองและต่างจงั หวัด
2. ถาม-ตอบและตวั แทนนำเสนอความคดิ เห็นเก่ียวกับ “เล่าสู่กันฟังในการใชเ้ คร่อื งมือ” [ตงั้ คำถาม]
3. ลงมือปฏิบัติในการคิด เขียน วาด เชื่อมโยงแต่ละเครื่องมือในการออกแบบและสร้างนวัตกรรมของ
วิศวกรสงั คม และอภปิ รายร่วมกนั ในช้นั เรยี น
4. ศึกษาเอกสารประกอบการสอนประจำบท
5. อธิบายสรปุ เพม่ิ เติมในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับเครื่องมือท่ีเหมาะสมกับการใช้ในชุมชนท้องถ่ินจริงทั้ง
ชุมชนเมอื งและชมุ ชนชนบท
6. ทดสอบแบบทดสอบย่อยประจำบทเรียน
ส่ือการเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอบประจำบท
2. เอกสารประกอบการบรรยาย (Power point presentation)
3. ภาพแบบฟอรม์ การเขยี นออกแบบและสรา้ งนวัตกรรมสงั คม
4. ผลการวจิ ัยวธิ กี ารเขียนรอ้ ยเรียงแบบการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking)
5. แบบคำถามท้ายบท
6. Courseware
การวัดผลและการประเมินผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งการบรรยาย
2. สังเกตจากการแสดงความคิดเห็นในช้ันเรียนและการนำเสนองาน
3. สังเกตการร่วมทำกิจกรรมในชนั้ เรียน
4. ถามตอบเพอื่ ทบทวนความรู้ในชั้นเรยี น
๔๓ | รายงานผลการกำกบั ติดตามและให้คำปรกึ ษาการขับเคล่อื นหลักสตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
5. ตรวจสอบความเข้าใจโดยการสมั ภาษณต์ รง [กรณตี วั อย่าง]
6. วดั เจตคติจากพฤตกิ รรมการเรียน การกระตอื รือรน้ ในการทำกจิ กรรม
7. สอบเกบ็ คะแนนประจำบทเรยี น
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4
หัวข้อเนอื้ หาประจำบท
1. หลกั การสร้างสงั คมไม่ทนต่อการทจุ ริต “หริ โิ อตปั ปะ”
2. หลักการ “ลงโทษ” และ การ “ยบั ย้งั ” เพ่ือลดการทจุ รติ
3. หลักการสังคมปอ้ งกันการทุจริต
4. ตวั อย่างสังคมทธ่ี ำรงความสุจริตอย่างย่ังยืน
วัตถปุ ระสงค์เชิงพฤตกิ รรม
เมอ่ื เรยี นจบบทนี้ นกั ศกึ ษาสามารถทำส่งิ ต่อไปน้ไี ด้
1.สามารถเขา้ ใจหลกั การสร้างสงั คมไม่ทนต่อการทุจริต (หริ โิ อตัปปะ)
2. สามารถเขา้ ใจถึงการลงโทษ ผลจากการทจุ ริต และ วธิ กี ารยับยั้งการทจุ รติ
3. สามารถเข้าใจและอธบิ ายหลกั การสงั คมป้องกนั ทจุ รติ ได้
4. สามารถยกตัวอยา่ งสังคมทปี่ ลอดการทจุ รติ อย่างยงั่ ยนื ได้
วิธกี ารสอนและกจิ กรรมการเรียนการสอนประจำบท
1. การบรรยาย อธิบาย ยกกรณศี กึ ษา เลา่ ประสบการณ์การลงพ้ืนทวี่ ิจัยในพื้นท่ีตา่ ง ๆ กบั ความเข้าใจ
การปฏิบตั จิ ริงในพ้ืนทเ่ี มืองและตา่ งจังหวัดในการใช้จรยิ ธรรมต่อคน ชมุ ชนท้องถิ่น
2. ถาม-ตอบและตัวแทนนำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับ “เล่าสู่กันฟังในบทบาทหน้าที่ จริยธรรมของ
วศิ วกรสงั คม” [ต้ังคำถาม]
3. ศึกษาเอกสารประกอบการสอนประจำบท
4. อธิบายสรุปเพิ่มเติมในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ และจริยธรรมของวิศวกรสังคมท่ี
เหมาะสมกับการพฒั นาชุมชนเมอื งและชุมชนชนบท
5. ทดสอบแบบทดสอบย่อยประจำบทเรยี น
สอื่ การเรยี นการสอน
1. เอกสารประกอบการสอบประจำบท
2. เอกสารประกอบการบรรยาย (Power point presentation)
3. ภาพสื่อความหมายลกั ษณะตัวอยา่ งของคนทลี่ งพ้ืนทต่ี ้องปฏิบัติเชน่ ไร
4. เอกสารประกอบอ่ืนเกย่ี วกับวิชาชพี ท่ีสะทอ้ นบทบาทหน้าท่ีและจริยธรรม
5. แบบคำถามทา้ ยบท
6. Courseware
๔๔ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและใหค้ ำปรกึ ษาการขบั เคล่ือนหลักสตู รตา้ นทุจริตศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
การวัดผลและการประเมนิ ผล
1. สังเกตพฤตกิ รรมระหวา่ งการบรรยาย การกระตอื รอื ร้นในการทำกิจกรรมเพื่อวดั เจตคติ
2. สงั เกตจากการแสดงความคดิ เห็นในชนั้ เรียนและการนำเสนองาน
3. สังเกตการร่วมทำกิจกรรมในชั้นเรยี น
4. ถามตอบเพอ่ื ทบทวนความร้ใู นชั้นเรยี น
5. ตรวจสอบความเข้าใจโดยการสัมภาษณต์ รง [กรณตี ัวอย่าง]
6. สอบเก็บคะแนนประจำบทเรียน
แผนบริหารการสอนประจำบทท่ี 5
หัวขอ้ เน้อื หาประจำบท
1. หนา้ ทพ่ี ลเมืองและชุมชนต่อการต้านการทุจรติ
2. แนวความคดิ ของพลเมืองและชุมชนตอ่ การต้านการทจุ ริต
3. การแกไ้ ขการทจุ รติ ในตา่ งประเทศ
4. ผลกระทบของการทุจรติ ที่สง่ ผลต่อการพัฒนาประเทศ
วัตถปุ ระสงค์เชงิ พฤติกรรม
เมื่อเรียนจบบทนี้ นกั ศกึ ษาสามารถทำสง่ิ ตอ่ ไปนไ้ี ด้
1. สามารถเข้าใจถงึ หน้าท่ีของพลเมอื งในการต่อตา้ นทจุ รติ
2. สามารถอธบิ ายแนวคดิ ของพลเมือง หรือ ชุมชน ในการตอ่ ตา้ นการทุจรติ ได้
3. สามารถเขา้ ใจวธิ ีการแกไ้ ขปญั หาดา้ นการทุจรติ ในตา่ งประเทศ
4. สามารถเข้าใจถึงความเชอ่ื มโยงของการทจุ รติ และการพฒั นาประเทศ
วธิ กี ารสอนและกิจกรรมการเรียนการสอนประจำบท
1. การบรรยาย อธบิ าย ยกกรณศี กึ ษา เลา่ ประสบการณก์ ารลงพื้นทว่ี จิ ัยในพื้นท่ีตา่ ง ๆ กับความเข้าใจ
การปฏบิ ัติจริงในพน้ื ทเ่ี มอื งและต่างจังหวัด
2. ถาม-ตอบและตัวแทนนำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับ “ศาสตร์พระราชา” [ตง้ั คำถาม]
3. อภิปรายรว่ มกนั ในชนั้ เรยี น
4. ศึกษาเอกสารประกอบการสอนประจำบท
5. อธิบายสรุปเพิ่มเติมในประเด็นสำคัญเกีย่ วกับศาสตร์พระราชา ตอบข้อสงสัยกับคำว่า “โคก หนอง
นา โมเดล”
6. ทดสอบแบบทดสอบย่อยประจำบทเรียน
7. Courseware
ส่ือการเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอบประจำบท
2. เอกสารประกอบการบรรยาย (Power point presentation)
๔๕ | รายงานผลการกำกับติดตามและให้คำปรกึ ษาการขบั เคลื่อนหลกั สตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
3. ภาพกิจกรรมของสื่อความหมาย “ศาสตร์พระราชา” และภาพสื่อสารที่เกี่ยวกับ 2 วิถีศาสตร์ของ
พระราชา
4. แบบคำถามท้ายบท
การวัดผลและการประเมินผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมระหว่างการบรรยาย
2. สงั เกตจากการแสดงความคิดเหน็ ในชั้นเรียนและการนำเสนองาน
3. สงั เกตการร่วมทำกจิ กรรมในชนั้ เรียน
4. ถามตอบเพ่ือทบทวนความรู้ในชั้นเรยี น
5. ตรวจสอบความเขา้ ใจโดยการสัมภาษณต์ รง [กรณีตวั อย่าง]
6. วดั เจตคติจากพฤตกิ รรมการเรยี น การกระตือรอื รน้ ในการทำกจิ กรรม
7. สอบเกบ็ คะแนนประจำบทเรียน
แผนบริหารการสอนประจำบทท่ี 6
หวั ข้อเนอื้ หาประจำบท
1. การปอ้ งกันการฉ้อโกงและการทุจรติ ส่วนบุคคล
2. จริยธรรมนำพลเมอื งดีในสงั คม
3. ปลกุ จติ สำนกึ ในการสรา้ งความกล้าหาญทางดา้ นจรยิ ธรรมและมจี ติ สาธารณะ
วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
เม่ือเรยี นจบบทน้ี นักศึกษาสามารถทำส่งิ ตอ่ ไปนีไ้ ด้
1. สามารถเข้าใจถึงวิธีการป้องกันการฉ้อโกงและการทุจริตสว่ นบคุ คล
2. สามารถเข้าใจถงึ มมุ องของแต่ละศาสนาเก่ียวกบั การทุจรติ
3. สามารถเข้าใจและอธิบายหลกั การของการมีจิตสาธารณะ
4. สามารถอธิบายและเขา้ ใจนวตั กรรมเพ่อื การปอ้ งกันการทุจรติ
วธิ กี ารสอนและกิจกรรมการเรยี นการสอนประจำบท
1. ผู้สอนทำการบรรยายเนอ้ื หาวชิ าประกอบสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ
2. กำหนดให้ผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับประเด็นการพัฒนาสังคมบริบทเมืองและชุมชนท้องถ่ิน
ไทยท่สี งั คมกำลงั ให้ความสนใจ
3. อภปิ รายกรณศี กึ ษาร่วมกนั ในประเด็นการพัฒนาสังคมบรบิ ทเมืองและชมุ ชนทอ้ งถิน่ ไทย
4. ผู้สอนสรปุ บทเรียนเพ่ือใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามเขา้ ใจท่ีถกู ต้องและตรงตามวตั ถุประสงค์
5. กำหนดใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาเอกสารประกอบการสอนประจำบท
6. ทดสอบความรขู้ องผเู้ รียนดว้ ยแบบทดสอบย่อยประจำบท
7. Courseware
๔๖ | รายงานผลการกำกับตดิ ตามและให้คำปรึกษาการขบั เคล่อื นหลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565