ลมใต้ปีก 2

แม่ฮ่องสอนวันนี้ไม่เหมือนวันวาน วันนี้แม่ฮ่องสอนเป็นที่รู้จัก
ของผู้คนทั้งโลกผ่านกาแฟที่มีคุณภาพจากดอยต่าง ๆ กาแฟที่ปลูกที่นี้
อยู่ในป่าที่เขียวชอุ่ม ป่าต้นน้ำ ป่าที่”พ่อหลวง” รักษาไว้ให้ลูกหลาน แต่
วันนี้แม่ฮ่องสอนมีมากกว่านั้น ผมได้มีโอกาสไปเยือน “กุงคุณลุง” ของ
“วีระเวช ศุภวัฒน์” ที่คนแม่ฮ่องสอนรู้จักเขาในนาม “คุณลุง” หรือ “ลุง
เวช” แล้วแต่ที่จะสะดวก

“ กุ ง คุ ณ ลุ ง ”
ตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบสิบไร่
ห่ า ง จ า ก ตั ว เ มื อ ง
แม่ฮ่องสอนประมาณสิบ
สามกิโลเมตร ที่แห่งนี้
เป็นที่ตั้งของความหลาก
หลายที่วางไว้อย่างลงตัว
ตั้งแต่แปลงเพาะปลูกพืชผักปลอดสารและบนแปลงเหล่านี้มีสะพานไม้
ให้เดินละเมียดกับพืชผักและข้าวที่เติบโตในแปลงเพาะด้านล่าง และมี
ซุ้มนั่งพักให้ผู้คนนั่งหย่อนใจและชมทิวเขาลิบ ๆ กลางทุ่งนา และสิ่ง
แรกที่เราเดินเข้ามาจะพบกุงหรือเนินเล็กๆ มีบันไดไต่ขึ้นไปที่จุดชมวิวที่
สวยที่สุด มีห้างนั่งหย่อนขาดูวิวล้อมต้นไม้ใหญ่ที่ลุงเวชบอกว่าต้องเก็บ
ไว้เพราะรักต้นไม้ ส่วนทางเข้ามีเฮือนรับรองที่ตั้งของร้านอาหารอร่อย
จากวัตถุดิบสดใหม่ของตนเองและในพื้นที่ และร้านขายผลิตภัณฑ์

แจ่มจ้า ในม่านหมอก หน้า 2

แ ป ร รู ป จ า ก กุ ง คุ ณ ลุ ง แ ล ะ ข อ ง
ชุ ม ช น ใ น พื้ น ที่ ใ ก ล้ เ คี ย ง ที่ ไ ม่ มี
หน้าร้าน รวมทั้งโรงงานแปรรูป
สิ น ค้ า เ ก ษ ต ร ที่ ทั น ส มั ย แ ล ะ ไ ด้
มาตรฐาน และที่ผมชอบคือ ร้านกาแฟสวย ๆ ที่วางตัวไว้ตอนท้ายขอ
งกุงคุณลุง ซ่อนตัวในความเขียวชะอุ่มของต้นไม้ สถานที่พักผ่อนสวย ๆ
วางตัวริมแม่น้ำเล็ก ๆ แม่น้ำ “สะงา”ที่ใสสะอาดไหลผ่านตลอดทั้งปี น้ำ
ที่ไหลจากป่าต้นน้ำ “ปางอุ๋ง” ของ “พ่อหลวง” ที่รักษาไว้ให้ลูกหลาน
และแน่นอนครับ … ทั้งหมดถูกมัดรวมและเติมแต่งให้เป็นจุดเช็คอิน
สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างลงตัว เหมาะนักสำหรับนักท่องเที่ยวยุค ‘แช๊ะ
ชิม ช้อป”

ลุงเวชเล่าให้ผมฟังว่ากุงคุณลุงถูกสร้างขึ้นมาเพราะความรัก
และความผูกพันที่เขามีต่อแม่ฮ่องสอนและผู้คนแห่งเมืองสายหมอก
เมืองที่ครั้งหนึ่งเขาเคยมาแค่พักฟื้นร่างกาย แต่พอมาใช้ชีวิตอยู่ พบปะ
ผู้คน เขาก็พบว่าตัวเองตกหลุ่มรักแม่ฮ่องสอนเข้าแล้ว และค้นพบ “บ้าน
หลังใหม่” ของเขา ลุงเวชบอกผมว่าผู้คนที่นี้น่ารัก เป็นมิตร จิตใจดี

แจ่มจ้า ในม่านหมอก หน้า 3

และเอื้อเฟื้อ ลุงเวชมองดูว่าเขาจะ
ว า ง ชี วิ ต ไ ว้ ที่ นี้ อ ย่ า ง ไ ร เ พื่ อ ใ ห้ มี
ป ร ะ โ ย ช น์ กั บ เ มื อ ง แ ล ะ ผู้ ค น แ ห่ ง นี้
เขาดูว่าคนที่นี้ส่วนมากดำรงชีวิตจาก
การเกษตร ราคาพืชผลถูกกำหนด
จากพ่อค้าจังหวัดอื่น ขนไปขายก็
แข่งขันกับเขาอื่นไม่ได้เพราะหนทาง
ไกล ลำบาก ทำให้ต้นทุนขนส่งสูง
และก็รู้ ๆ ว่าพืชผลเหล่านี้มีอายุสั้น
“ลุงเวช” ตัดสินใจใช้ที่ดินเกือบสิบไร่
ที่เขาซื้อทิ้งไว้ยี่สิบสามสิบปีก่อนที่ฝัน
ไว้เพื่อการลงทุนสร้างกำไรให้กับตัว
เอง วันนี้เขาเอามาเพื่อสร้างฝันใหม่
ของเขา แต่คราวนี้ฝันของเขา เป็น
ฝันเพื่อแผ่นดินแม่ฮ่องสอนและผู้คนที่
เขารัก

ลุ ง เ ว ช อ อ ก แ บ บ กิ จ ก ร ร ม แ ล ะ
แบบสถานที่นี้เพื่อวัตถุประสงค์หลักคือ
การสร้างช่องทางการตลาดและเพิ่ม
มูลค่าพืชผลการเกษตรในพื้นที่ให้สูง
ขึ้น ดังนั้น จึงเริ่มตั้งโรงงานแปรรูป
สินค้าเกษตรที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน
ทุกอย่างที่พึงมีตั้งแต่ HACCP GMP
และอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ถูก
อ อ ก แ บ บ ผ่ า น แ น ว คิ ด ก า ร ต ล า ด ที่
ลงตัวว่าจะขายที่ไหน แบรนด์ การ
ตลาด และที่สำคัญสร้างงานและเพิ่ม
รายได้ให้ชุมชนอย่างไร ดังนั้น เราจึง
เ ห็ น ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ สิ น ค้ า แ ป ร รู ป จ า ก

แจ่มจ้า ในม่านหมอก หน้า 4

ผลผลิตในท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ ไม่ว่าถั่วลายเสือ กระเทียม และงา แต่โจทย์
ใหม่ที่มีคนให้ว่าน่าจะผสมผสานที่ของเขาให้เข้ากับการท่องเที่ยวเพราะ
ตั้งอยู่ใกล้กับสะพาน “ซูตองเป้” ภาษาไทยใหญ่ที่แปลว่า “อธิษฐาน
สำเร็จ” สะพานไม้ไผ่แห่งศรัทธาที่ยาว 600 เมตร กว้าง 2 เมตร ทำให้
เขาคิดถึงการสร้างพื้นที่นี้ให้เป็นจุดเช็คอินอีกหนึ่งจุดให้กับแม่ฮ่องสอน
เขาจึงออกแบบพื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปในตัวที่มีทุกอย่าง
ผสมกลมกลืนไม่ว่าโรงงานผลิตที่สะอาดและกำแพงเปิดเป็นกระจกที่
ทำให้มองเห็นกระบวนการผลิตจากข้างนอกเป็นระยะ ร้านอาหาร ร้าน

ขายของฝาก ร้านขายของโดยเฉพาะ
ผลผลิตจากโรงงานแห่งนี้ และที่
สำคัญห้องน้ำสะอาดมากและแถมยัง
ติดแอร์เย็นช่ำอีกต่างหาก ลุงเวชให้
เหตุผลง่าย ๆ อยากให้คนมาเที่ยวที่
กุงคุณลุง “ถ่ายทุกข์อย่างมีความ
สุข”

ผมชอบไอเดียของลุงเวช
ที่นำเอาความต้องการของลูกค้ามา
เป็นตัวตั้งกำหนดตัวสินค้า ถั่วลาย
เสือที่คั่วเกลือ กรอบอร่อย เค็มนิด ๆ
แพ็คเก็จมีทั้งกระป๋องใสที่มีฝาเปิด
ปิด ตอนบรรจุจะขจัดออกซิเจนเพื่อ
ขจัดพวกเชื้อรา ทำให้เก็บได้นาน
ปลอดภัย นอกจากนี้ ยังใช้วัสดุที่
ขอบกระป๋องไม่บาดมือคนกินเด็ด
ขาด ลุงเวชบอกว่าเวลานั่งเอามือ
ห ยิ บ ถั่ ว ขึ้ น ม า ท า น ห รื อ ลู ก เ ล็ ก เ ด็ ก
แดงอาจเผลอเลอ หากขอบปาก
กระป๋องคมก็อาจบาดมือได้ ยิ่งทาน
เพลิน ๆ ทำให้เสียอารมณ์ได้ง่าย ๆ
ต้นทุนที่ใช้อาจแพงขึ้นนิดหน่อยแต่

แจ่มจ้า ในม่านหมอก หน้า 5

คุ้มที่จะดูแลลูกค้า ส่วนลูกค้าที่ขี้เกียจใช้
มือ เขาก็มีถั่วคั่วใส่ซองยาวเล็ก ๆ ขนาด
200 กรัม แกะปากซองเทใส่ปากได้สบาย
ๆ ….. ลุงเวชบอกว่าขายดีมาก ซองเล็ก ๆ
เรียว ๆ แบบนี้เปิดทีเดียวทานหมดถุง
กำลังพอดี นอกจากนี้ บนซองก็มีข้อมูล

ของแหล่งท่องเที่ยวของแม่ฮ่องสอน
เช่น ทุ่งดอกบัวตอง กระเหรี่ยงคอ
ยาว ฯลฯ ใช้เครื่องอ่านคิวอาร์โค้ด
ก็จะมีข้อมูลของแหล่งท่องเที่ยวนั้น
ขึ้นมา รวมทั้งข้อมูล วิดิทัศน์ และ

อื่น ๆ รวมทั้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้น
ๆ มาให้ดูด้วย แล้วจะรู้ว่าถั่วลาย
เสือคั่วที่เค็มนั้นไม่ได้ใส่เกลือแต่คั่วด้วยเกลือ
ถามหา ถั่วคุณลุง (Uncle’s Bean) ได้ร้าน TOPS และหลายๆ แห่ง
ได้ครับ

กระเทียมที่แห่งนี้ ถูกแปรรูปทุกระดับตามจริตของผู้บริโภค
แต่ละกลุ่ม มีตั้งแต่ขายสดมัด สานเป็น
รูปตระกร้า หรือแกะสดเป็นกลีบ ๆ ที่
ทุกกลีบนั้นไม่มีฝ่อ และประเภทที่สด
แกะเป็นกลีบและแกะเปลือก คัดอย่าง
ดีครับทุกกลีบที่แกะสวย สะอาด และมี
ต้นอ่อนงอกนิด ๆ ลุงเวชบอกว่ามีสาร
ต้านอนุมูลอิสระสูงมาก กระเทียมเหล่า
นี้มีบาร์โค้ดที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบ
ย้อนกลับได้ว่ากระเทียมนี้ใครเป็นคน
ปลูก ที่ไหน ได้มาตรฐานอะไร มีรูปคน
ปลูกขึ้นมาเลยครับ …. ลุงเวชคิดวิธีนี้
ขึ้นมาเพราะต้องการตอบจริตลูกค้าใน
เมืองที่ต้องการทานง่าย ๆ สะดวก

แจ่มจ้า ในม่านหมอก หน้า 6

และบางคนก็ขี้เกียจปอกเปลือกเอง รวม
ทั้งสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัย
ของสินค้าว่ามีที่มาที่ไป และที่สำคัญ คือ
สร้างงานให้ชาวบ้านรอบ ๆ บริเวณนั้น
มาเป็นคนแกะกลีบกระเทียม ปอกเปลือก
และทำในโรงงานที่จัดระเบียบและสะอาด
น่ะครับ และวางขายในชื่อ “GARLIKO”
หรือ “กาลิโก้” และที่ผมชอบมากที่สุดคือ
กระเทียมเจียวที่ใส่ซองเรียบร้อย หลาย
รส บางรสผสมกากหมูด้วย ผมลองแล้ว
ครับ โรยข้าวสวย ๆ ร้อน ๆ … เวลาทาน
ต้องตั้งปนิฐานก่อนเลยครับว่าวันนี้ขอลืม
อ้วนสักวัน อร่อยจริงครับ

ลุงเวชมองดูว่า
เขาจะวางชีวิตไว้ที่นี้อย่างไร
เพื่อให้มีประโยชน์กับเมือง

และผู้คนแห่งนี้ ...
ตัดสินใช้ที่ดินเกือบสิบไร่
ที่เขาซื้อทิ้งไว้ยี่สิบสามสิบปีก่อน..
เอามาเพื่อสร้างฝันใหม่ของเขา ...
เป็นฝันเพื่อแผ่นดินแม่ฮ่องสอน

และผู้คนที่เขารัก

แจ่มจ้า ในม่านหมอก หน้า 7

วันนี้ “กุงคุณลุง” กลายเป็น
จุ ด เ ช็ ค อิ น แ ห่ ง ใ ห ม่ ข อ ง แ ม่ ฮ่ อ ง ส อ น
ผู้คนที่มาเยือนที่นี่บางคนบอกว่าเจอ
ที่พักผ่อน หย่อนกายใจแห่งใหม่ บาง
คนบอกว่าเจอที่เรียนรู้งานและสร้างแรง
บันดาลใจ บางคนบอกว่าเจอร้าน
อาหารอร่อย และบางคนบอกว่าเจอที่ที่
จ ะ ม า นั่ ง ดู แ ส ง สุ ด ท้ า ย แ ห่ ง วั น ข อ ง
พระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขา … แต่สำหรับ
“วีระเวช ศุภวัฒน์” คนที่ทำให้ที่แห่งนี้
แจ่มจ้าในม่านหมอก บอกกับผมว่า เขา
วางทุกอย่างในชีวิตไว้ที่แห่งนี้เพื่อบอก
รักกับ “แม่ฮ่องสอน”

ขอบคุณภาพจาก
http://www.wheregugo.com/
https://m.mgronline.com/

https://www.provincialchamp.com/

http://www.mrbadboygo.com

http://maehongsonprovince.blogspot.com/


แจ่มจ้า ในม่านหมอก หน้า 8