The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by siri.sp40, 2023-01-17 22:13:46

แผนการสอนวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ

แผนการสอนวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ

202 แบบประเมินกระบวนการท างานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง............................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การก าหนดเป้าหมายร่วมกัน 2 การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความ พร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การก าหนดเป้าหมายร่วมกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายการท างานอย่างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 2. การหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียม สถานที่ สื่อ/อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง 2 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีสื่อ/อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง แต่ขาดการจัดเตรียมสถานที่ 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทั่วถึงและมีสื่อ / อุปกรณ์ไม่เพียงพอ 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่ก าหนด 2 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย แต่ช้ากว่าเวลาที่ก าหนด 1 คะแนน = ท างานไม่ส าเร็จตามเป้าหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไม่ปรับปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมไม่มีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน


203 19. แบบฝึกหัด แบบฝึกหัดท้ายหน่วยที่ 8 วงจรขนานลัวงจรผสม RLC ค าสั่ง อธิบายให้ได้ใจความสมบูรณ์และแสดงวิธีท าให้ถูกต้องสมบูรณ


204 20. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง 20.1 สรุปผลการจัดการเรียนรู้ รายการ ระดับการปฏิบัติ 5 4 3 2 1 ด้านการเตรียมการสอน 1.จัดหน่วยการเรียนรู้ได้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ 2. ก าหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านจิตพิสัย 3. เตรียมวัสดุ-อุปกรณ์ สื่อ นวัตกรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ก่อนเข้า สอน ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4. มีวิธีการน าเข้าสู่บทเรียนที่น่าสนใจ 5. มีกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ 6. จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นคว้าเพื่อหาค าตอบด้วยตนเอง 7. นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 8. จัดกิจกรรมที่เน้นกระบวนการคิด ( คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ ) 9. กระตุ้นให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี 10. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงโดยน าภูมิปัญญา/บูรณาการเข้ามามี ส่วนร่วม 11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม 12. มีการเสริมแรงเมื่อนักเรียนปฏิบัติ หรือตอบถูกต้อง 13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน 14. เอาใจใส่ดูแลผู้เรียน อย่างทั่วถึง 15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาที่ก าหนด ด้านสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรียนรู้ 16. ใช้สื่อที่เหมาะสมกับกิจกรรมและศักยภาพของผู้เรียน 17. ใช้สื่อ แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น บุคคล สถานที่ ของจริง เอกสารสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ และอินเทอร์เน็ต เป็นต้น 13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน 14. เอาใจใส่ดูแลผู้เรียน อย่างทั่วถึง 15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาที่ก าหนด ด้านการวัดและประเมินผล 18. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการก าหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผล 19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบทั้งด้านความรู้ ทักษะ และจิตพิสัย


205 20. ครู ผู้เรียน ผู้ปกครอง หรือ ผู้ที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม ในการประเมิน หมายเหตุ ระดับการปฏิบัติ 5 = ปฏิบัติดีเยี่ยม 4 = ปฏิบัติดี 3 = ปฏิบัติ พอใช้2 = ควรปรับปรุง 1 = ไม่มีการปฏิบัติ รวม เฉลี่ย 20.2 ปัญหาที่พบ และแนวทางแก้ปัญหา ปัญหาที่พบ แนวทางแก้ปัญหา ด้านการเตรียมการสอน .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. ด้านสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรียนรู้ .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. ด้านการวัดประเมินผล .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. ด้านอื่น ๆ (โปรดระบุเป็นข้อ ๆ) .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. ลงชื่อ ........................................................................ ครูผู้สอน (นายวิชิต โม้เปาะ) ต าแหน่ง ครูพิเศษสอน ............../.................................../....................


206 21. บันทึกการนิเทศและติดตาม วัน-เดือน-ปี เวลา รายการนิเทศและติดตาม ชื่อ-สกุล ผู้นิเทศ ต าแหน่ง


207 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ และบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รหัสวิชา 20105-2003 วิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ หน่วยที่ 9 ชื่อหน่วย วงจรเรโซแนนซ์ ชื่อเรื่อง วงจรเรโซแนนซ์ จ านวน 6 ชั่วโมง 1. สาระส าคัญ วงจรไฟฟ้ากระแสสลับที่วงจรประกอบด้วยตัวต้านทาน (R) ตัวเก็บประจุ (C) และตัวเหนี่ยวน า (L) เมื่อน าไปใช้กับค่าความถี่ที่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ค่ารีแอกแตนซ์ตัวเก็บประจุ(XC) และรีแอกแตนซ์ตัว เหนี่ยวน า (XL) เกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ค่ารีแอกแตนซ์ทั้งสองจะเกิดการหักล้างกันตลอดเวลา จะ พบว่าที่ความถี่ค่าหนึ่งมีผลต่อวงจรท าให้ค่ารีแอกแตนซ์ XC เท่ากับ XL เกิดการหักล้างกันระหว่าง XC กับ XL ท าให้ค่ารีแอกแตนซ์หมดไป เหลือเพียงค่าความต้านทานอย่างเดียว สภาวะดังกล่าวนี้เรียกว่า เรโซแนนซ์ (Resonance) 2. สมรรถนะอาชีพประจ าหน่วย ด้านความรู้ 1. อธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร RLCได้ 2. บอกวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ ด้านทักษะและการประยุกต์ใช้ 1. หาค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 2. ประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์เป็นแบบอนุกรมได้ 3. ค านวณหาค่าแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 4. ค านวณวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 5. หาค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนานได้ 6. ชี้แจงตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน ด้านคุณธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์และบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง 1. สรุปวงจรเรโซแนนซ์ ให้ถูกต้องเหมาะสม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 จุดประสงค์ทั่วไป 1. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับอธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร RLC 2. เพื่อให้มีทักษะในการหาค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 3. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการชี้แจงตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน 4. เพื่อสรุป สรุปวงจรเรโซแนนซ์ ให้ถูกต้องเหมาะสม


208 3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร RLCได้ 2. บอกวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 3. หาค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 4. ประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์เป็นแบบอนุกรมได้ 5. ค านวณหาค่าแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 6. ค านวณวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 7. หาค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนานได้ 8. ชี้แจงตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนานได้ 9. สรุปวงจรเรโซแนนซ์ ให้ถูกต้องเหมาะสม 4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ 1. สภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร RLC 2. วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 3. ค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 4. ตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 5. แบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 6. วงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน 7. ค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน 8. ตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน 9. บทสรุป 4.2 ด้านทักษะหรือปฏิบัติ 1. การทดลองที่ 9 วงจรเรโซแนนซ์ 2. แบบทดสอบบทที่ 9 4.3 ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. ใช้เครื่องมือในการทดสอบได้อย่างถูกต้องเหมาะสม


209 5. กิจกรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ขั้นตอนการเรียนหรือกิจกรรมของผู้เรียน ขั้นเตรียม(จ านวน 15 นาที) 1. ผู้สอนจัดเตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะน ารายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง วงจรเร โซแนนซ์ 2. ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของบทที่ 9 และ ขอให้ผู้เรียนร่วมกันท ากิจกรรมการเรียนการสอน ขั้นเตรียม(จ านวน 15 นาที) 1. ผู้เรียนเตรียมอุปกรณ์และ ฟังครูผู้สอนแนะน า รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง วงจรเรโซแนนซ์ 2. ผู้เรียนท าความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การ เรียนบทที่ 9 และการให้ความร่วมมือในการท า กิจกรรม ขั้นการสอน(จ านวน 180 นาที) 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิด PowerPoint บทที่ 9 เรื่อง วงจรเรโซแนนซ์และให้ผู้เรียนศึกษาเอกสาร ประกอบการสอน วิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ โดย ให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถสอบถาม ข้อสงสัยระหว่างเรียนจากผู้สอน 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนอธิบาย วงจรเรโซแนนซ์ได้ศึกษา จาก PowerPoint 3. ผู้สอนให้ผู้เรียนท าแบบฝึกหัดบทที่ 9 4. ผู้สอนให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ขั้นการสอน(จ านวน 180 นาที) 1. ผู้เรียนเปิด PowerPoint บทที่ 9 วงจรเร โซแนนซ์และผู้เรียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน วิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ ผู้เรียนเรียนรู้ด้วย ตนเอง และสามารถตอบข้อสงสัยระหว่างเรียนได้ 2. ผู้เรียนอธิบาย วงจรเรโซแนนซ์ ได้ศึกษาจาก PowerPoint 3. ผู้เรียนท าแบบฝึกหัดบทที่ 9 4. ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ขั้นสรุป(จ านวน 45 นาที) 1. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนให้มี ความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ด้วย PowerPoint ที่จัดท าขึ้น ขั้นสรุป(จ านวน 45 นาที) 1. ผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนให้มีความ เข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2 . ผู้เ รียนศึกษ าเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ด้วย PowerPoint ที่จัดท าขึ้น


210 6. สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ 6.1 สื่อสิ่งพิมพ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ 2. แบบฝึกหัดที่ 9 6.2 สื่อโสตทัศน์ 1. เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ 2. PowerPoint เรื่อง วงจรเรโซแนนซ์ 6.3 สื่อของจริง 1. วงจรเรโซแนนซ์ 7. แหล่งการเรียนการสอน/การเรียนรู้ 7.1 ภายในสถานศึกษา 1. ห้องสมุดวิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน 2. ห้องอินเตอร์เน็ตวิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน 7.2 ภายนอกสถานศึกษา 1. ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติอ าเภอสว่างแดนดิน 2. ห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารีอ าเภอสว่างแดนดิน 8. งานที่มอบหมาย 8.1 ก่อนเรียน 1. ผู้เรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน 8.2 ขณะเรียน 1. ศึกษาเนื้อหา ในบทที่ 9 เรื่อง วงจรเรโซแนนซ์ 2. รายงานผลหน้าชั้นเรียน 3. ปฏิบัติใบปฏิบัติงานที่ 9 เรื่อง วงจรเรโซแนนซ์ 4. สรุปผลการทดลอง 8.3 หลังเรียน 1. ท าแบบฝึกหัดบทที่ 9 9. ผลงาน/ชิ้นงาน ที่เกิดจากการเรียนรู้ของผู้เรียน 1. แบบฝึกหัดบทที่ 9 ใบปฏิบัติงานที่ 9 2. ตรวจผลงาน


211 10. เอกสารอ้างอิง 1. พันธ์ศักดิ์ พุฒิมานิตพงศ์. วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ. : ศูนย์ส่งเสริมอาชีวะ (ศสอ) 11. การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กับรายวิชาอื่น 1. บูรณาการกับวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรง 2. บูรณาการกับวิชาไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 3. บูรณาการกับวิชาไฟฟ้าเบื้องต้น 12. หลักการประเมินผลการเรียน 12.1 ก่อนเรียน 1. ความรู้เบื้องต้นก่อนการเรียนการสอน 12.2 ขณะเรียน 1. สังเกตการท างาน 12.3 หลังเรียน 1. ตรวจแบบฝึกหัดหน่วยที่ 9 2. ตรวจใบงานที่ 9 13. รายละเอียดการประเมินผลการเรียน จุดประสงค์ข้อที่ 1 อธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร RLCได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถอธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร RLCได้ 4. เกณฑ์การผ่าน : อธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร RLCได้จะได้ 1 คะแนน จุดประสงค์ข้อที่ 2 บอกวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถบอกวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 4. เกณฑ์การผ่าน : บอกวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้จะได้ 1 คะแนน จุดประสงค์ข้อที่ 3 หาค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถหาค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 4. เกณฑ์การผ่าน : หาค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้จะได้ 1 คะแนน


212 จุดประสงค์ข้อที่ 4 ประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์เป็นแบบอนุกรมได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์เป็นแบบอนุกรมได้ 4. เกณฑ์การผ่าน : ประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์เป็นแบบอนุกรมได้จะได้ 1 คะแนน จุดประสงค์ข้อที่ 5 ค านวณหาค่าแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถค านวณหาค่าแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 4. เกณฑ์การผ่าน : ค านวณหาค่าแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้จะได้ 1 คะแนน จุดประสงค์ข้อที่ 6 ค านวณวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถค านวณวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 4. เกณฑ์การผ่าน : ค านวณวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้จะได้ 1 คะแนน จุดประสงค์ข้อที่ 7 หาค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนานได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถหาค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนานได้ 4. เกณฑ์การผ่าน : หาค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนานได้จะได้ 1 คะแนน จุดประสงค์ข้อที่ 8 ชี้แจงตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถชี้แจงตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน 4. เกณฑ์การผ่าน : ชี้แจงตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน จะได้ 1 คะแนน จุดประสงค์ข้อที่ 9 สรุปวงจรเรโซแนนซ์ ให้ถูกต้องเหมาะสม 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถสรุปวงจรเรโซแนนซ์ ให้ถูกต้องเหมาะสม 4. เกณฑ์การผ่าน : สรุปวงจรเรโซแนนซ์ ให้ถูกต้องเหมาะสม จะได้ 2 คะแนน


213 14. แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการสอนที่ 9 ชื่อหน่วยการสอน วงจรเรโซแนนซ์ วัตถุประสงค์ เพื่อ ประเมินความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรเรโซแนนซ์ ข้อค าถาม ตอนที่ 1 เขียนเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในข้อที่ถูกต้องที่สุด


214 ตอนที่2 อธิบายให้ได้ใจความสมบูรณ์และแสดงวิธีท าให้สมบูรณ์ถูกต้อง เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ข้อ1 ข้อ2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 ง. ก. ค. ข. ก. ง. ค. ค. ข. ง.


215 15. แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการสอนที่ 9 ชื่อหน่วยการสอน วงจรเรโซแนนซ์ วัตถุประสงค์ เพื่อ ประเมินความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรเรโซแนนซ์ ข้อค าถาม ตอนที่ 1 เขียนเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในข้อที่ถูกต้องที่สุด


216 ตอนที่2 อธิบายให้ได้ใจความสมบูรณ์และแสดงวิธีท าให้สมบูรณ์ถูกต้อง เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ข้อ1 ข้อ2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 ง. ก. ค. ข. ก. ง. ค. ค. ข. ง.


217 16. ใบความรู้ที่ 9 หน่วยการสอนที่ 9 ชื่อหน่วยการสอน วงจรเรโซแนนซ์ หัวข้อเรื่อง วงจรเรโซแนนซ์ 9.1 สภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร RLC วงจรไฟฟ้ากระแสสลับที่วงจรประกอบด้วยตัวต้านทาน (R) ตัวเก็บประจุ (C) และตัวเหนี่ยวน า (L) เมื่อน าไปใช้กับค่าความถี่ที่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ค่ารีแอกแตนซ์ตัวเก็บประจุ(XC) และรีแอกแตนซ์ตัว เหนี่ยวน า (XL) เกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ค่ารีแอกแตนซ์ทั้งสองจะเกิดการหักล้างกันตลอดเวลา จะ พบว่าที่ความถี่ค่าหนึ่งมีผลต่อวงจรท าให้ค่ารีแอกแตนซ์ XCเท่ากับ XL เกิดการหักล้างกันระหว่าง XC กับ XL ท าให้ค่ารีแอกแตนซ์หมดไป เหลือเพียงค่าความต้านทานอย่างเดียว สภาวะดังกล่าวนี้เรียกว่า เรโซแนนซ์ (Resonance) ความถี่ที่ท าให้เกิดสภาวะเรโซแนนซ์เรียกว่า ความถี่เรโซแนนซ์ (Resonance Frequency ; fr) ในสภาวะเกิดการเรโซแนนซ์ ท าให้เกิดก าลังไฟฟ้าสูงสุดในวงจร ค่าเรโซแนนซ์ที่เกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงไปตามค่ารี แอกแตนซ์ XC และ XL ที่ประกอบวงจร สภาวะเรโซแนนซ์ รูปที่ 9.1 แสดงกราฟสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร RLC ต่อวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ ที่ความถี่เรโซแนนซ์ (fr) กราฟจะมีความแรงสูงสุด แสดงสภาวะตอบสนองต่อความถี่สูงสุด ความถี่ที่ต่ ากว่าและสูงกว่าความถี่เร โซแนนซ์จะเกิดการตอบสนองที่ลดลง เป็นคุณสมบัติของวงจร RLC วงจรเรโซแนนซ์ จะต้องประกอบด้วยตัวเก็บประจุและตัวเหนี่ยวน าเป็นหลัก แต่ในการท างานวงจรจะ เกิดค่าความต้านทานขึ้นมา ซึ่งเกิดจากความไม่บริสุทธิ์ของตัวเก็บประจุและตัวเหนี่ยวน า หรือเกิดจากการเพมิ่ ความต้านทานเข้าในวงจร เพื่อควบคุมรูปร่าง และความแรงของรูปกราฟเรโซแนนซ์ การต่อวงจรเรโซแนนซ์ แบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม(Series Resonance Circuit) และวงจรเรโซแนนซ์แบบ ขนาน (Parallel Resonance Circuit)วงจรเรโซแนนซ์แต่ละแบบมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป


218 9.2 วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม เป็นวงจรที่ประกอบด้วยตัว LC ต่ออนุกรมในวงจร และมีตัว R ต่อ อนุกรมร่วมด้วย ซึ่งค่า R อาจเป็นค่าความต้านทานจากแหล่งจ่าย (RS) เป็นค่าความต้านทานที่ต่อเพิ่ม (RA) และค่าความต้านทานที่เกิดภายในตัวเหนี่ยวน า (RL) ค่าทั้งหมดถูกต่อในรูปวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม ลักษณะการต่อวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม แสดงดังรูปที่ 9.2 9.3 ค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม การต่อวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม บางครั้งมีความจ าเป็นต้องต่อวงจรเข้ากับความถี่ที่ถูกก าหนดค่า ไว้แล้ว การจะท าให้วงจรสามารถให้การตอบสนองต่อความถี่ที่ต้องการได้นั้น จ าเป็นต้องเลือกค่าความ เหนี่ยวน าหรือค่าความจุที่เหมาะสมมาใช้งาน การหาค่าท าได้จากการใช้สมการหาค่าความถี่เรโซแนนซ์ 9.4 ตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม ตัวประกอบคุณภาพ (Quality Factor) ของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม เป็นตัวแสดงถึงคุณสมบัติ ของวงจรอนุกรม RLC ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับขณะเรโซแนนซ์ เกิดก าลังไฟฟ้าในตัวเหนี่ยวน า และตัวเก็บ ประจุมากน้อยเพียงไร ซึ่งมีผลต่อค่าความต้านทานในวงจรเรโซแนนซ์และค่ากระแสที่เกิดขึ้นในวงจร ค่า R ใน วงจรต่ าเกิดกระแสไหลในวงจรสูงส่งผลให้ค่าตัวประกอบคุณภาพสูงด้วย และถ้าค่า R ในวงจรสูงเกิดกระแส ไหลในวงจรต่ าส่งผลให้ค่าตัวประกอบคุณภาพต่ าด้วย ตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม (QS) ที่จุดเรโซแนนซ์เป็นอัตราส่วนระหว่าง ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) หารด้วยก าลังไฟฟ้าจริง (P) 9.5 แบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม แบนด์วิดท์ (Bandwidth) ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม หรือย่านการตอบสนองความถี่เป็นช่วง ความกว้างของความถี่ที่วงจรเรโซแนนซ์ให้การตอบสนอง ส าหรับวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมเป็นกระแส ความถี่ที่ไหลผ่านวงจร โดยมีช่วงการลดลงของค่ากระแสที่สูงกว่าและต่ ากว่าความถี่เรโซแนนซ์ เป็นความกว้าง ค่าหนึ่งที่วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมตอบสนอง เรียกค่านี้ว่าแบนด์วิดท์ (BW) ค่าแบนด์วิดท์ของวงจรเร โซแนนซ์แบบอนุกรม


219 9.6 วงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน วงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน คือการต่อวงจร RLC ในแบบขนานน าไปใช้งานที่จุดเรโซแนนซ์มีคุณสมบัติ ในการท างานที่จุดเรโซแนนซ์เป็นตรงข้ามกับวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม ดังนี้ ที่จุดเรโซแนนซ์จะมีค่า อิมพีแดนซ์ในวงจรสูงสุด เกิดกระแสไหลในวงจรที่จุดเรโซแนนซ์ต่ าสุด วงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน 9.7 ค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน การหาค่าความเหนี่ยวน า และค่าความจุมาใช้งานในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน ให้ได้ความถี่ เรโซแนนซ์ตามต้องการ สามารถหาค่าได้โดยใช้สูตรเช่นเดียวกับวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 9.8 ตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน ตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน (QP) เป็นสิ่งที่แสดงถึงคุณสมบัติของวงจร RLC ต่อขนานในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ ที่สภาวะเรโซแนนซ์จะเกิดกระแสไหลผ่านตัวเหนี่ยวน าและตัวเก็บประจุได้ มากน้อยเพียงไร ซึ่งมีผลต่อความต้านทานในวงจรเรโซแนนซ์ตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบ ขนาน (QP) 9.9 บทสรุป ความถี่ค่าหนึ่งมีผลต่อวงจรท าให้ค่ารีแอกแตนซ์ XC เท่ากับ XL เกิดการหักล้างกัน ท าให้ค่ารีแอก แตนซ์หมดไป เหลือเพียงค่าความต้านทานอย่างเดียว สภาวะนี้เรียกว่า เรโซแนนซ์ความถี่ที่ท าให้เกิดสภาวะเร โซแนนซ์เรียกว่า ความถี่เรโซแนนซ์ (fr) ในสภาวะเกิดการเรโซแนนซ์ท าให้เกิดก าลังไฟฟ้าสูงสุดในวงจร วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม ที่ต าแหน่งเรโซแนนซ์ จะได้ค่าอิมพีแดนซ์ในวงจรต่ าสุดเกิดกระแสไหลใน วงจรสูงสุด ส่วนตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม เป็นตัวแสดงถึงคุณสมบัติของวงจร อนุกรม RLC ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับขณะเรโซแนนซ์ เกิดก าลังไฟฟ้าในตัวเหนี่ยวน า และตัวเก็บประจุมาก น้อยเพียงไร ซึ่งมีผลต่อค่าความต้านทานในวงจร และค่ากระแสที่เกิดขึ้นในวงจร ถ้าค่า R ในวงจรต่ าเกิด กระแสไหลในวงจรสูงส่งผลให้ค่าตัวประกอบคุณภาพสูงด้วย และถ้าค่า R ในวงจรสูงเกิดกระแสไหลในวงจรต่ า ส่งผลให้ค่าตัวประกอบคุณภาพต่ าด้วย สามารถค านวณค่าต่างๆ ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม


220


221


222


223


224


225


226 18. แบบประเมินผล แบบประเมินผลการน าเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง............................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหา ความถูกต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการน าเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลักษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้ าเสียง ซึ่งท าให้ผู้ฟังมีความ สนใจ รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจนถูกต้อง 3 คะแนน = มีสาระส าคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระส าคัญไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระส าคัญไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการน าเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการน าเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ น าเสนอที่น่าสนใจ น าวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและ ประหยัด 2 คะแนน = มีเทคนิคการน าเสนอที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการน าเสนอที่น่าสนใจ แต่ขาดการประยุกต์ใช้ วัสดุในท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการน าเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ


227 แบบประเมินกระบวนการท างานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง............................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การก าหนดเป้าหมายร่วมกัน 2 การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความ พร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การก าหนดเป้าหมายร่วมกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายการท างานอย่างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 2. การหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียม สถานที่ สื่อ/อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง 2 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีสื่อ/อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง แต่ขาดการจัดเตรียมสถานที่ 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทั่วถึงและมีสื่อ / อุปกรณ์ไม่เพียงพอ 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่ก าหนด 2 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย แต่ช้ากว่าเวลาที่ก าหนด 1 คะแนน = ท างานไม่ส าเร็จตามเป้าหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไม่ปรับปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมไม่มีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน


228 19. แบบฝึกหัด แบบฝึกหัดท้ายหน่วยที่ 9 วงจรเรโซแนนซ์ ค าสั่ง อธิบายให้ได้ใจความสมบูรณ์และแสดงวิธีท าให้ถูกต้องสมบูรณ์


229 20. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 20.1 สรุปผลการจัดการเรียนรู้ รายการ ระดับการปฏิบัติ 5 4 3 2 1 ด้านการเตรียมการสอน 1.จัดหน่วยการเรียนรู้ได้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ 2. ก าหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านจิตพิสัย 3. เตรียมวัสดุ-อุปกรณ์ สื่อ นวัตกรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ก่อนเข้า สอน ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4. มีวิธีการน าเข้าสู่บทเรียนที่น่าสนใจ 5. มีกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ 6. จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นคว้าเพื่อหาค าตอบด้วยตนเอง 7. นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 8. จัดกิจกรรมที่เน้นกระบวนการคิด ( คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ ) 9. กระตุ้นให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี 10. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงโดยน าภูมิปัญญา/บูรณาการเข้ามา มีส่วนร่วม 11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม 12. มีการเสริมแรงเมื่อนักเรียนปฏิบัติ หรือตอบถูกต้อง 13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน 14. เอาใจใส่ดูแลผู้เรียน อย่างทั่วถึง 15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาที่ก าหนด ด้านสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรียนรู้ 16. ใช้สื่อที่เหมาะสมกับกิจกรรมและศักยภาพของผู้เรียน 17. ใช้สื่อ แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น บุคคล สถานที่ ของจริง เอกสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และอินเทอร์เน็ต เป็นต้น 13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน 14. เอาใจใส่ดูแลผู้เรียน อย่างทั่วถึง 15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาที่ก าหนด ด้านการวัดและประเมินผล 18. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการก าหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผล 19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบทั้งด้านความรู้ ทักษะ และจิตพิสัย 20. ครู ผู้เรียน ผู้ปกครอง หรือ ผู้ที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม ในการประเมิน หมายเหตุ ระดับการปฏิบัติ 5 = ปฏิบัติดีเยี่ยม 4 = ปฏิบัติดี 3 = ปฏิบัติพอใช้2 = ควรปรับปรุง 1 = ไม่มีการปฏิบัติ รวม เฉลี่ย


230 20.2 ปัญหาที่พบ และแนวทางแก้ปัญหา ปัญหาที่พบ แนวทางแก้ปัญหา ด้านการเตรียมการสอน .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. ด้านสื่อ นวัตกรรม แหล่งการเรียนรู้ .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. ด้านการวัดประเมินผล .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. ด้านอื่น ๆ (โปรดระบุเป็นข้อ ๆ) .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. .................................................................................. ลงชื่อ ........................................................................ ครูผู้สอน (นายวิชิต โม้เปาะ) ต าแหน่ง ครูพิเศษสอน ............../.................................../....................


231 21. บันทึกการนิเทศและติดตาม วัน-เดือน-ปี เวลา รายการนิเทศและติดตาม ชื่อ-สกุล ผู้นิเทศ ต าแหน่ง


232 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ และบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รหัสวิชา 20105-2003 วิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ หน่วยที่ 10 ชื่อหน่วย แฟกเตอร์ก าลัง ชื่อเรื่อง แฟกเตอร์ก าลัง จ านวน 6 ชั่วโมง 1. สาระส าคัญ ตัวต้านทาน (Resistor) ถือเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่น าไปใช้งานในวงจรต่าง ๆ มากที่สุดรวมถึงใน วงจรไฟฟ้ากระแสสลับด้วย ตัวต้านทานแต่ละตัวจะมีค่าความต้านทาน (Resistance)ภายในตัวแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการก าหนดค่าจากการผลิต คุณสมบัติในการท างานกับไฟฟ้ากระแสสลับ โดยท าหน้าที่เปลี่ยนพลัง ไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน ท างานกับแรงดันไฟสลับและกระแสไฟสลับของสัญญาณคลื่นไซน์ จ่ายค่าเป็น RMS คุณสมบัติของแรงดันไฟสลับ E และกระแสไฟสลับ I เกิดขึ้นบนตัวต้านทาน R มีเฟสร่วมกัน วงจรและ สัญญาณ 2. สมรรถนะอาชีพประจ าหน่วย ด้านความรู้ 1. อธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับได้ ด้านทักษะและการประยุกต์ใช้ 1. เขียนสมการของแฟกเตอร์ก าลังได้ 2. ค านวณหาแฟกเตอร์ก าลังได้ 3. ชี้แจงการแก้แฟกเตอร์ก าลังได้ ด้านคุณธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์และบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง 1. สรุปแฟกเตอร์ก าลังได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 จุดประสงค์ทั่วไป 1. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับการอธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับ 2. เพื่อให้มีทักษะในเขียนสมการของแฟกเตอร์ก าลัง 3. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการชี้แจงการแก้แฟกเตอร์ก าลัง 4. เพื่อสรุปแฟกเตอร์ก าลังได้อย่างถูกต้องเหมาะสม


233 3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับได้ 2. เขียนสมการของแฟกเตอร์ก าลังได้ 3. ค านวณหาแฟกเตอร์ก าลังได้ 4. ชี้แจงการแก้แฟกเตอร์ก าลังได้ 5. สรุปแฟกเตอร์ก าลังได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ 1. ก าลังไฟฟ้ากระแสสลับ 2. แฟกเตอร์ก าลัง 3. การค านวณหาค่าแฟกเตอร์ก าลัง 4. การแก้แฟกเตอร์ก าลัง 5. บทสรุป 4.2 ด้านทักษะหรือปฏิบัติ 1. การทดลองที่ 10 แฟกเตอร์ก าลัง 2. แบบทดสอบบทที่ 10 4.3 ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. ใช้เครื่องมือในการทดสอบได้อย่างถูกต้องเหมาะสม


234 5. กิจกรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ขั้นตอนการเรียนหรือกิจกรรมของผู้เรียน ขั้นเตรียม(จ านวน 15 นาที) 1. ผู้สอนจัดเตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะน ารายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง แฟกเตอร์ ก าลัง 2. ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของบทที่ 10 และ ขอให้ผู้เรียนร่วมกันท ากิจกรรมการเรียนการสอน ขั้นเตรียม(จ านวน 15 นาที) 1. ผู้เรียนเตรียมอุปกรณ์และ ฟังครูผู้สอนแนะน า รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง แฟกเตอร์ก าลัง 2. ผู้เรียนท าความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การ เรียนบทที่ 10 และการให้ความร่วมมือในการท า กิจกรรม ขั้นการสอน(จ านวน 180 นาที) 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิด PowerPoint บทที่ 10 เรื่อง แฟกเตอร์ก าลัง และให้ผู้เรียนศึกษาเอกสาร ประกอบการสอน วิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ โดย ให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถสอบถาม ข้อสงสัยระหว่างเรียนจากผู้สอน 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนอธิบาย แฟกเตอร์ก าลัง ได้ศึกษา จาก PowerPoint 3. ผู้สอนให้ผู้เรียนท าแบบฝึกหัดบทที่ 10 4. ผู้สอนให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ขั้นการสอน(จ านวน 180 นาที) 1. ผู้เรียนเปิด PowerPoint บทที่ 10 แฟกเตอร์ ก าลัง และผู้เรียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน วิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ ผู้เรียนเรียนรู้ด้วย ตนเอง และสามารถตอบข้อสงสัยระหว่างเรียนได้ 2. ผู้เรียนอธิบาย แฟกเตอร์ก าลัง ได้ศึกษาจาก PowerPoint 3. ผู้เรียนท าแบบฝึกหัดบทที่ 10 4. ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ขั้นสรุป(จ านวน 45 นาที) 1. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนให้มี ความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ด้วย PowerPoint ที่จัดท าขึ้น ขั้นสรุป(จ านวน 45 นาที) 1. ผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนให้มีความ เข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2 . ผู้เ รียนศึกษ าเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ด้วย PowerPoint ที่จัดท าขึ้น


235 6. สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ 6.1 สื่อสิ่งพิมพ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ 2. แบบฝึกหัดที่ 10 6.2 สื่อโสตทัศน์ 1. เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ 2. PowerPoint เรื่อง แฟกเตอร์ก าลัง 6.3 สื่อของจริง 1. แฟกเตอร์ก าลัง 7. แหล่งการเรียนการสอน/การเรียนรู้ 7.1 ภายในสถานศึกษา 1. ห้องสมุดวิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน 2. ห้องอินเตอร์เน็ตวิทยาลัยการอาชีพสว่างแดนดิน 7.2 ภายนอกสถานศึกษา 1. ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติอ าเภอสว่างแดนดิน 2. ห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารีอ าเภอสว่างแดนดิน 8. งานที่มอบหมาย 8.1 ก่อนเรียน 1. ผู้เรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน 8.2 ขณะเรียน 1. ศึกษาเนื้อหา ในบทที่ 10 เรื่อง แฟกเตอร์ก าลัง 2. รายงานผลหน้าชั้นเรียน 3. ปฏิบัติใบปฏิบัติงานที่ 10 เรื่อง แฟกเตอร์ก าลัง 4. สรุปผลการทดลอง 8.3 หลังเรียน 1. ท าแบบฝึกหัดบทที่ 10 9. ผลงาน/ชิ้นงาน ที่เกิดจากการเรียนรู้ของผู้เรียน 1. แบบฝึกหัดบทที่ 10 ใบปฏิบัติงานที่ 10 2. ตรวจผลงาน


236 10. เอกสารอ้างอิง 1. พันธ์ศักดิ์ พุฒิมานิตพงศ์. วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ. : ศูนย์ส่งเสริมอาชีวะ (ศสอ) 11. การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กับรายวิชาอื่น 1. บูรณาการกับวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรง 2. บูรณาการกับวิชาไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 3. บูรณาการกับวิชาไฟฟ้าเบื้องต้น 12. หลักการประเมินผลการเรียน 12.1 ก่อนเรียน 1. ความรู้เบื้องต้นก่อนการเรียนการสอน 12.2 ขณะเรียน 1. สังเกตการท างาน 12.3 หลังเรียน 1. ตรวจแบบฝึกหัดหน่วยที่ 10 2. ตรวจใบงานที่ 10 13. รายละเอียดการประเมินผลการเรียน จุดประสงค์ข้อที่ 1 อธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถอธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับได้ 4. เกณฑ์การผ่าน : อธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับได้ จะได้ 2 คะแนน จุดประสงค์ข้อที่ 2 เขียนสมการของแฟกเตอร์ก าลังได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถเขียนสมการของแฟกเตอร์ก าลังได้ 4. เกณฑ์การผ่าน : เขียนสมการของแฟกเตอร์ก าลังได้จะได้ 2 คะแนน จุดประสงค์ข้อที่ 3 ค านวณหาแฟกเตอร์ก าลังได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถค านวณหาแฟกเตอร์ก าลังได้ 4. เกณฑ์การผ่าน : ค านวณหาแฟกเตอร์ก าลังได้จะได้ 2 คะแนน


237 จุดประสงค์ข้อที่ 4 ชี้แจงการแก้แฟกเตอร์ก าลังได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถชี้แจงการแก้แฟกเตอร์ก าลังได้ 4. เกณฑ์การผ่าน : ชี้แจงการแก้แฟกเตอร์ก าลังได้จะได้ 4 คะแนน จุดประสงค์ข้อที่ 5 สรุปแฟกเตอร์ก าลังได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องการประเมิน : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การประเมิน : สามารถสรุปแฟกเตอร์ก าลังได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 4. เกณฑ์การผ่าน : สรุปแฟกเตอร์ก าลังได้อย่างถูกต้องเหมาะสม จะได้ 2 คะแนน 14. แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการสอนที่ 10 ชื่อหน่วยการสอน แฟกเตอร์ก าลัง วัตถุประสงค์ เพื่อ ประเมินความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแฟกเตอร์ก าลัง ข้อค าถาม ตอนที่ 1 เขียนเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในข้อที่ถูกต้องที่สุด


238 ตอนที่2 อธิบายให้ได้ใจความสมบูรณ์และแสดงวิธีท าให้สมบูรณ์ถูกต้อง


239 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ข้อ1 ข้อ2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 ก. ข. ค. ง. ง. ค. ก. ค. ข. ข. 15. แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการสอนที่ 10 ชื่อหน่วยการสอน แฟกเตอร์ก าลัง วัตถุประสงค์ เพื่อ ประเมินความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแฟกเตอร์ก าลัง ข้อค าถาม ตอนที่ 1 เขียนเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในข้อที่ถูกต้องที่สุด


240 ตอนที่2 อธิบายให้ได้ใจความสมบูรณ์และแสดงวิธีท าให้สมบูรณ์ถูกต้อง


241 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ข้อ1 ข้อ2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 ก. ข. ค. ง. ง. ค. ก. ค. ข. ข. 16. ใบความรู้ที่ 10 หน่วยการสอนที่ 10 ชื่อหน่วยการสอน แฟกเตอร์ก าลัง หัวข้อเรื่อง แฟกเตอร์ก าลัง 10.1 ก าลังไฟฟ้ากระแสสลับ ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ ระดับสัญญาณไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงเฟสสัญญาณก็ เกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเช่นเดียวกัน ผลการเปลี่ยนแปลงท าให้ก าลังไฟฟ้าที่เกิดขึ้นมีการเปลี่ยนแปลง และแตกต่างกัน แบ่งออกได้ 3 ส่วน เขียนในรูปสามเหลี่ยมก าลังไฟฟ้า(Power Triangle) ประกอบด้วย ก าลังไฟฟ้าจริง (P) ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) และก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) ก าลังไฟฟ้าทั้ง 3 ส่วนมีความแตกต่าง กันในค่าที่ค านวณออกมาได้ 10.1.1 ก าลังไฟฟ้าจริง (P) ก าลังไฟฟ้าจริง (P) หรืออาจเรียกว่าก าลังไฟฟ้าเฉลี่ย เป็นก าลังไฟฟ้าที่วงจรได้รับจริง เกิดก าลังไฟฟ้า ที่ถูกน าไปใช้งานจริง อาจเกิดได้กับอุปกรณ์จ าพวกตัวต้านทานบริสุทธิ์แรงดันและกระแสมีเฟสเหมือนกัน ใน กรณีที่แรงดันและกระแสมีเฟสไม่เหมือนกัน จะต้องจัดเฟสกระแสให้อยู่ในต าแหน่งเฟสร่วมกับแรงดันในรูป Icosq เขียนสมการก าลังไฟฟ้าจริงได้ดังนี้


242 10.1.2 ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) เป็นก าลังไฟฟ้าที่เกิดกับอุปกรณ์จ าพวกตัวเหนี่ยวน าและตัวเก็บประจุ โดย เกิดจากแรงดันและกระแสในตัวเหนี่ยวน าและตัวเก็บประจุ กระแสในตัวเหนี่ยวน าจะล้าหลังแรงดันเป็นมุม q (ค่า q มีค่าระหว่าง 1o ถึง 90o) และกระแสในตัวเก็บประจุจะน าหน้าแรงดันเป็นมุม q (ค่า q มีค่าระหว่าง 1o ถึง 90o) กระแสที่น าหน้าและล้าหลังนี้ สามารถแตกค่ากระแสให้อยู่ในต าแหน่งเฟสร่วม และต่างเฟส 90o กับแรงดัน 10.1.3 ก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) ก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) เป็นก าลังไฟฟ้าที่แหล่งจ่ายก าลังไฟฟ้าต้องจ่ายให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ โดย เกิดจากการคูณกันของแรงดันที่วัดได้จาก AC โวลต์มิเตอร์ กับกระแสวัดได้จาก AC แอมมิเตอร์ วัดค่าออกมา ได้เป็นค่า RMS หรือค่าประสิทธิผล 10.2 แฟกเตอร์ก าลัง แฟกเตอร์ก าลัง (pf) หรือประสิทธิภาพ (Efficiency) ของวงจร บอกให้ทราบว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้อยู่มี ประสิทธิภาพในการท างานมากน้อยเพียงไร แสดงออกมาในรูปเลขทศนิยม หาค่าได้จากอัตราส่วนของ ก าลังไฟฟ้าจริง (P) หารด้วยก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) หรือมีค่าเท่ากับ cosqเขียนเป็นสมการได้ดังนี้


243 10.2.2 ภาระตัวเหนี่ยวน า เป็นภาระที่เกิดกระแสไหลผ่านมีเฟสล้าหลังแรงดันตกคร่อมวงจร เกิดมุมต่างเฟส qo เป็นแฟกเตอร์ ก าลังชนิดล้าหลัง (Lagging Power Factor) เขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรมได้ดังรูปที่ 10.3


244 10.3 การค านวณหาค่าแฟกเตอร์ก าลัง ประสิทธิภาพของวงจรไฟฟ้าแสดงออกมาได้ด้วยแฟกเตอร์ก าลัง (pf) การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ควร พิจารณาจากค่าแฟกเตอร์ก าลังที่มีค่าเข้าใกล้ 1 ยิ่งมีค่าเข้าใกล้ 1 มากขึ้นเท่าไร ยิ่งท าให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามี ประสิทธิภาพในการท างานมากขึ้นเท่านั้น การค านวณหาค่าแฟกเตอร์ก าลังและค่าก าลังไฟฟ้าต่างๆ เป็น สิ่งจ าเป็น 10.4 การแก้แฟกเตอร์ก าลัง ค่าแฟกเตอร์ก าลังที่บอกไว้เป็นค่าแสดงให้ทราบว่า อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้อยู่มีประสิทธิภาพในการท างาน มากน้อยเพียงไร ประสิทธิภาพสูงสุดของอุปกรณ์ไฟฟ้ามีค่าแฟกเตอร์ก าลัง (pf)เท่ากับ 1 โดยการท าให้มุม q ของสามเหลี่ยมก าลังลดลงเป็น 0 o ซึ่งเป็นค่าที่บอกให้ทราบว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าท างานได้ค่าสูงสุด เกิดก าลังไฟฟ้า ในการท างานมากที่สุด โดยไม่เกิดก าลังไฟฟ้าที่สูญเสียไปจากก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q)


245 โดยปกติแล้วอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ผลิตมาใช้งาน ส่วนมากเป็นประเภทที่มีตัวเหนี่ยวน าต่อร่วมในวงจรด้วย ซึ่งมีผลต่อเฟสของแรงดันและกระแสที่เกิดขึ้นในวงจรแตกต่างกันไป เฟสกระแสจะล้าหลังแรงดันเสมอ เกิด แฟกเตอร์ก าลังชนิดล้าหลังมีค่า pf น้อยกว่า 1 ท าให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานกินกระแสในการท างานมากขึ้น ประสิทธิภาพในการท างานลดลง และต้องจ่ายค่ากระแสมากขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ดังนั้นจึงมีความ จ าเป็นต้องปรับค่าแฟกเตอร์ก าลังใหม่ใหมี้ค่า pf เข้าใกล้ 1 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการท างานของอุปกรณ์ ไฟฟ้า และยังช่วยประหยัดค่าใช้ไฟฟ้าได้มากขึ้น การปรับแก้ค่าแฟกเตอร์ก าลังให้เข้าใกล้ 1 ในวงจรการท างานที่มีภาระเป็นประเภทตัวเหนี่ยวน า เช่น มอเตอร์ มีค่าแฟกเตอร์ก าลังล้าหลัง ท าได้โดยต่อเพิ่มตัวเก็บประจุขนานกับภาระของวงจร โดยใช้ค่าความจุที่ เหมาะสม ผลการแก้แฟกเตอร์ก าลังท าให้กระแสไหลในวงจรลดลง มุมต่างเฟสระหว่างแรงดันและกระแส น้อยลง ส่งผลให้ก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) และก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) มีค่าลดลง ช่วยให้ค่าแฟกเตอร์ก าลังมีค่า เข้าใกล้ 1 มากขึ้น กรณีที่ภาระเป็นตัวเก็บประจุก็สามารถปรับแก้ค่าแฟกเตอร์ก าลังท าได้เช่นเดียวกัน โดยต่อเพมิ่ ตัวเหนี่ยวน ามี ค่าพอเหมาะขนานกับภาระของวงจร เพื่อท าให้ค่าแฟกเตอร์ก าลังเข้าใกล้1 มากขึ้น การพิจารณาในการแก้แฟกเตอร์ก าลังพิจารณาดังนี้ 1. ก าลังไฟฟ้าจริง (P) ต้องคงที่ 2. กระแสในวงจร (I) ต้องลดลง 3. มุมต่างเฟส (q) ต้องลดลง 4. แฟกเตอร์ก าลัง (pf) ต้องเพิ่มขึ้น 5. ก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) ต้องลดลง 6. ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) ต้องลดลง 10.5 บทสรุป ก าลังไฟฟ้าแบ่งออกได้ 3 ส่วน ประกอบด้วย ก าลังไฟฟ้าจริง (P) ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ(Q) และ ก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) แต่ละส่วนหาค่าได้ดังนี้


246


247


248


249


250


251 18. แบบประเมินผล แบบประเมินผลการน าเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง............................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหา ความถูกต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการน าเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลักษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้ าเสียง ซึ่งท าให้ผู้ฟังมีความ สนใจ รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจนถูกต้อง 3 คะแนน = มีสาระส าคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระส าคัญไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระส าคัญไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการน าเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการน าเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ น าเสนอที่น่าสนใจ น าวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและ ประหยัด 2 คะแนน = มีเทคนิคการน าเสนอที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการน าเสนอที่น่าสนใจ แต่ขาดการประยุกต์ใช้ วัสดุในท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการน าเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ


Click to View FlipBook Version