8. ชิ้นงานหรือภาระงาน - 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. นักเรียนจับคู่กันฝึกถามความหมายของป้ายต่าง ๆ จากภาพในหนังสือเรียนหน้า 52 – 53 ตัวอย่าง S1 : What does the sign 2 say? S2 : Don’t walk on the grass. S2 : What does the sign 12 say? S1 : Don’t touch the plug socket. 3 ครูทบทวน Good habits โดยให้นักเรียนแต่ละคนบอกสิ่งที่นักเรียนทำและเป็น Good habits ว่ามีอะไรบ้าง T : Tell me one good habit that you do. S1 : Eat a lot of fruit and vegetables. S2 : Do my own homework. S3 : Do exercise every day. 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูสอนความหมายของคำ should และ must โดยการยกตัวอย่าง เช่น เมื่อนักเรียนมา โรงเรียน ควรทำและไม่ควรทำอะไรบ้าง นักเรียนต้องทำอะไรและต้องไม่ทำอะไรบ้าง T : You should be quiet in the library. What else? S1 : We don’t eat in the library. T : That’s right. You should not eat in the library. Anything else? S2 : We don’t wear shoes in the library. T : Yes. You should take off your shoes before get in the library. S3 : We wear uniform. T : Right. You must wear uniform when go to school. S4 : We don’t smoke. T : Alright. You must not smoke.
2. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปความหมาย should, should not, must, must not ว่าการ ใช้ในภาษาไทยเหมือนหรือแตกต่างอย่างไร และมีความหมายอย่างไร 3.ขั้นฝึก (Practice) 1. ครูเขียนสถานการณ์บนกระดาน “A stranger gives you a candy or something.” - What should you do? - What shouldn’t you do? - What must you do? - What mustn’t you do? 2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ครูพูดประโยค พร้อม ๆ กับส่ง a candy ให้นักเรียนกลุ่มละ 1 เม็ด ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันคิดคำตอบ 3. ครูเฉลยคำตอบโดยเขียนบนกระดาน นักเรียนและครูแสดงความคิดเห็นและช่วยกันสรุปว่าควรทำ หรือไม่ควรทำอะไร T : When a stranger says “Hello” to you, you should give him a smile. When a stranger gives you a candy, you should not take it. When a stranger wants you to follow him, you must not do so. When you meet a stranger, you must be careful. 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือ หน้า 54 ให้นักเรียนอ่านและเรียนรู้สถานการณ์เจอคนแปลกหน้าอีก ครั้ง 5.ขั้นสรุป (Wrap up) นักเรียนบทเรียนลงในสมุด 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New Express ป.5 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์ในเรื่องความ ปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้คำแนะนำ ง่าย ๆ ได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน พูด อ่านออกเสียง สะกดคำ คำศัพท์ในเรื่องความ ปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้ คำแนะนำง่าย ๆ ได้
แผนการจัดการเรียนรู้25 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Safety first เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำง่ายๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ วาดภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและ ข้อความสั้นๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนาและนิทานง่ายๆ และเรื่องสั้นๆ ต 1.2 ป. 5/2 ใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาต และให้คำแนะนำง่ายๆ ต 1.2 ป. 5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/3 พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 2.1 ป. 5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์ในเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้คำแนะนำง่าย ๆ ได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) พูด อ่านออกเสียง สะกดคำคำศัพท์ในเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้ คำแนะนำง่าย ๆ ได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระสำคัญ นักเรียนรู้จักการรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานให้กับตัวเองและมีสุขปฏิบัติประจำตัว 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : Turn off the light. Save water and electricity. Don’t throw garbage on the ground. Don’t walk on the grass. I must eat fruit and vegetables for good health. He mustn’t tease animals. I should take exercise at least three times a week. Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ - คำศัพท์ทบทวน must, should, throw, garbage, grass, exercise, save, electricity 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน สรุปโครงสร้างประโยคที่ได้เรียนในวันนี้ลงในสมุด พร้อมยกตัวอย่างประกอบ 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. ครูทบทวนการใช้ should, should not, must, must not จากชั่วโมงที่แล้ว 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูทบทวนคำกริยา ครูเขียนคำศัพท์บนกระดาน ให้นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์และ ช่วยกันแปลความหมาย get burned get shock fall down take care turn off 2. ครูสอนประโยคคำสั่ง(Imperative) รูปประโยคจะขึ้นด้วยคำกริยา ตัวอย่าง Turn off the light. (ปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน) Save water and electricity. (ประหยัดน้ำและไฟฟ้า) 3. ครูสอนประโยคคำสั่งปฏิเสธ (Imperative negative) เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย รูปประโยค Don’t + (คำกริยา). ตัวอย่าง Don’t throw garbage on the ground. (ห้ามทิ้งขยะลง บนพื้น) Don’t walk on the grass. (ห้ามเดินลัดสนามหญ้า) 4. ครูสอนรูปประโยคที่ใช้ must/mustn’t เพื่อสื่อความหมายว่า ต้อง/ต้องไม่ รูปประโยค (ประธาน) + must/mustn’t + (คำกริยา). ตัวอย่าง I must eat fruit and vegetables for good health. (ฉันต้องรับประทานผักและผลไม้เพื่อสุขภาพที่ดี) He mustn’t tease animals. (เขาต้องไม่เย้าแย่สัตว์) 5. ครูสอนรูปประโยคที่ใช้ should/ shouldn’t เพื่อสื่อความหมายว่า ควร/ไม่ควร รูปประโยค (ประธาน) + should/shouldn’t + (คำกริยา).
ตัวอย่าง I should take exercise at least three times a week. ฉันควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง 3.ขั้นฝึก (Practice) นักเรียนเปิดหนังสือหน้า 54 ให้นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคตามครูและช่วยกันแปลความหมาย 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนจับคู่เขียนและฝึกพูดประโยคใช้ should, shouldn’t, must, mustn’t ในหนังสือเรียน หน้า 55 เช่น S1: You should put the stamp on the envelope before sending it. S2: You must wear uniforms to school. 5.ขั้นสรุป (Wrap up) นักเรียนและครูช่วยกันสรุปโครงสร้างประโยคที่ได้เรียนในวันนี้ลงในสมุด พร้อมยกตัวอย่าง ประกอบ 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New Express ป.5 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์ในเรื่องความ ปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้คำแนะนำ ง่าย ๆ ได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน พูด อ่านออกเสียง สะกดคำ คำศัพท์ในเรื่องความ ปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้ คำแนะนำง่าย ๆ ได้
แผนการจัดการเรียนรู้26 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Safety first เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำง่ายๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ วาดภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและ ข้อความสั้นๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนาและนิทานง่ายๆ และเรื่องสั้นๆ ต 1.2 ป. 5/2 ใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาต และให้คำแนะนำง่ายๆ ต 1.2 ป. 5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/3 พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 2.1 ป. 5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา
3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์ในเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้คำแนะนำง่าย ๆ ได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) พูด อ่านออกเสียง สะกดคำคำศัพท์ในเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้ คำแนะนำง่าย ๆ ได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระสำคัญ นักเรียนรู้จักการรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานให้กับตัวเองและมีสุขปฏิบัติประจำตัว 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : Fire always happens easily. You must not play with matches. You may burn yourself. You must not play near the stove. You may have an accident. Be careful when you do a laundry. Your arm may get hurt. Don’t run up and down the stairs. You may fall down and get hurt. You must keep toys in a box. Don’t leave them on the floor. You may trip over them and fall over them. Before riding a motorcycle, you should put on a helmet. You should not play near a pond, you may fall into the water. When you fly a kite, don’t fly it near the electric cables. You should not tease or play with stray animals such as dogs and cats. They may hurt you and carry a disease. Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ a match, a cable, an accident, a disease, hurt, stairs, stamp on, fall over, stray, a helmet, do a laundry คำศัพท์ทบทวน must, should, throw, garbage, grass, exercise, save, electricity 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น -
6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงาน Write “True” or “False”. 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูสอนคำศัพท์ใหม่ ครูติดบัตรคำบนกระดาน ให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามครูคำละ 2 ครั้ง a match a cablean accident a disease hurt stairs stamp on fall over stray a helmet do a laundry 2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เล่นเกมแข่งขันหาคำศัพท์จาก Dictionary (นักเรียน ทุกคนเตรียมมา) ครูติดบัตรคำต่อไปนี้ทีละคำบนกระดาน ให้แต่ละกลุ่มแข่งกันค้นหาความหมายของ คำศัพท์ 3. นักเรียนเปิดหนังสือ หน้า 59 ครูอ่านข้อความให้นักเรียนฟัง ให้นักเรียนอ่านตามทีละ ประโยค Matt and his father are talking about safety. FIRE Fire always happens easily. You must not play with matches. You may burn yourself.
You must not play near the stove. You may have an accident. AT HOME Be careful when you do a laundry. Your arm may get hurt. Don’t run up and down the stairs. You may fall down and get hurt. You must keep toys in a box. Don’t leave them on the floor. You may trip over them and fall over them. PLAY Before riding a motorcycle, you should put on a helmet. You should not play near a pond, you may fall into the water. When you fly a kite, don’t fly it near the electric cables. You should not tease or play with stray animals such as dogs and cats. They may hurt you and carry a disease. 3.ขั้นฝึก (Practice) 1. แบ่งกลุ่มนักเรียนเป็น 3 กลุ่ม ให้นักเรียนอ่านข้อความกลุ่มละเรื่อง FIRE, AT HOME, PLAY 2. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาอ่านหน้าชั้นเรียน และแสดงท่าทางประกอบเนื้อเรื่อง 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนทำใบงาน Write “True” or “False”. 5.ขั้นสรุป (Wrap up) นักเรียนสรุปคำศัพท์จากข้อความที่ได้เรียนในวันนี้ลงในสมุด 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New Express ป.5 2. บัตรคำ 3. ใบงาน 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์ในเรื่องความ ปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้คำแนะนำ ง่าย ๆ ได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน พูด อ่านออกเสียง สะกดคำ คำศัพท์ในเรื่องความ ปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้ คำแนะนำง่าย ๆ ได้
แผนการจัดการเรียนรู้27 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Safety first เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำง่ายๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ วาดภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและ ข้อความสั้นๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนาและนิทานง่ายๆ และเรื่องสั้นๆ ต 1.2 ป. 5/2 ใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาต และให้คำแนะนำง่ายๆ ต 1.2 ป. 5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/3 พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 2.1 ป. 5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา
3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์ในเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้คำแนะนำง่าย ๆ ได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) พูด อ่านออกเสียง สะกดคำคำศัพท์ในเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้ คำแนะนำง่าย ๆ ได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระสำคัญ นักเรียนรู้จักการรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานให้กับตัวเองและมีสุขปฏิบัติประจำตัว 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : Running up and down the stairs. Throwing things to each other. Climbing up the trees. Walking on the wet floor. Meeting a stranger in school. Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ - คำศัพท์ทบทวน a match, a cable, an accident, a disease, hurt, stairs, stamp on, fall over, stray, a helmet, do a laundry 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน - 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. ครูทบทวนคำศัพท์ ครูติดบัตรคำบนกระดาน ให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามครูคำละ 2 ครั้ง a match a cablean accident a disease hurt stairs stamp on fall over stray a helmet do a laundry 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) นักเรียนเปิดหนังสือ หน้า 61 ให้นักเรียนอ่านข้อความทางด้านซ้ายมือ แล้วเลือกว่าจะใช้คำใด Key: 1. mustn’t 2. must 3. should 4. mustn’t 5. must 6. don’t 7. do 8. shouldn’t 9. don’t 10. Do 3.ขั้นฝึก (Practice) 1. นักเรียนทำ a big book เรื่อง Safety in School. หน้า 62 2. ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นกับเพื่อน ๆ ในเรื่องต่อไปนี้ - Running up and down the stairs. - Throwing things to each other. - Climbing up the trees. - Walking on the wet floor. - Meeting a stranger in school. 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 63 และให้นักเรียนเขียนกฎข้อปฏิบัติในห้องสมุด 3 ข้อ โดยทำลง ในใบงาน ตัวอย่างเช่น Library rules - Always walk, never run. - Be respectful of others. - Do not read and talk loudly.
5.ขั้นสรุป (Wrap up) ครูสุ่มนักเรียน 4 – 5 คน ออกมาอ่าน Library rules ที่เขียนขึ้น หน้าชั้นเรียน 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New Express ป.5 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์ในเรื่องความ ปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้คำแนะนำ ง่าย ๆ ได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน พูด อ่านออกเสียง สะกดคำ คำศัพท์ในเรื่องความ ปลอดภัย รวมทั้งสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ ใช้คำสั่ง และให้ คำแนะนำง่าย ๆ ได้
แผนการจัดการเรียนรู้28 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Safety first เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำง่ายๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ วาดภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและ ข้อความสั้นๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนาและนิทานง่ายๆ และเรื่องสั้นๆ ต 1.2 ป. 5/2 ใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาต และให้คำแนะนำง่ายๆ ต 1.2 ป. 5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/3 พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 2.1 ป. 5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา
3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์โครงสร้างของประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลืออย่างสุภาพได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) พูด อ่านออกเสียง สะกดคำคำศัพท์โครงสร้างของประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอความช่วยเหลือ ให้ คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลืออย่างสุภาพได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระสำคัญ นักเรียนรู้จักการรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานให้กับตัวเองและมีสุขปฏิบัติประจำตัว 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : Don’t touch the plug socket. Be careful. The floor is wet. Turn off the lights, please. Take care of the public property. Do your homework. Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ - คำศัพท์ทบทวน - 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
8. ชิ้นงานหรือภาระงาน แบบฝึกหัดหน้า 64 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. ให้นักเรียนดูภาพประกอบรูปทรงต่างๆ หน้า 68 และอ่านชื่อรูปทรงต่าง ๆ ตามครู รวมทั้ง สังเกตความเหมือนและความแตกต่าง ของรูปทรงต่าง ๆ จากนั้นให้นักเรียนสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัวนักเรียน หรือ สิ่งที่อยู่ในบริเวณโรงเรียนรวมทั้งที่บ้าน ว่าสิ่งเหล่านั้นมีรูปทรงอะไรบ้าง แล้วเขียนชื่อสิ่งที่นักเรียนสำรวจมาได้เป็น ภาษาอังกฤษ หากนักเรียนยังไม่รู้จักคำคำนั้นในภาษาอังกฤษ ให้นักเรียนใช้พจนานุกรมช่วยให้ได้เรียนรู้คำใหม่ ๆ 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 64 ข้อ A ครูอ่านออกเสียงประโยคให้นักเรียนฟัง จากนั้นให้ นักเรียนวงกลมข้อที่ถูกต้อง 1. Don’t touch the plug socket. 2. Be careful. The floor is wet. 3. Turn off the lights, please. 4. Take care of the public property. 5. Do your homework. Key: 1. b 2. c 3. b 4. a 5. b 3.ขั้นฝึก (Practice) 11. นักเรียนทำแบบฝึกหัดหน้า 64 ข้อ B ครูเฉลย Key:1. a 2. c 3. b 4. a 5. b 2. นักเรียนทำแบบฝึกหัดหน้า 65 ข้อ C 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนนำแบบฝึกหัดข้อ C มาเขียนเป็นประโยคหน้ากระดานทีละข้อ ครูเฉลย Key: 1. Turn off the lights before going out. 2. Don’t pick the flowers in the park. 3. Be careful, the floor is wet. 4. Do your homework now! 5. Don’t walk on the grass.
6. Put the garbage in the bin. 7. Save water and electricity. 5.ขั้นสรุป (Wrap up) ครูและนักเรียนช่วยกันทบทวนประโยค Imperative และ Imperative negative 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New Express ป.5 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์โครงสร้างของ ประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอ ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการ ให้ความช่วยเหลืออย่างสุภาพได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน พูด อ่านออกเสียง สะกดคำ คำศัพท์โครงสร้างของ ประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอความช่วยเหลือ ให้ คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการให้ความ ช่วยเหลืออย่างสุภาพ
แผนการจัดการเรียนรู้29 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Safety first เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำง่ายๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ วาดภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและ ข้อความสั้นๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนาและนิทานง่ายๆ และเรื่องสั้นๆ ต 1.2 ป. 5/2 ใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาต และให้คำแนะนำง่ายๆ ต 1.2 ป. 5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/3 พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 2.1 ป. 5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา
3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์โครงสร้างของประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลืออย่างสุภาพได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) พูด อ่านออกเสียง สะกดคำคำศัพท์โครงสร้างของประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอความช่วยเหลือ ให้ คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลืออย่างสุภาพได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระสำคัญ นักเรียนรู้จักการรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานให้กับตัวเองและมีสุขปฏิบัติประจำตัว 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : - Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ - คำศัพท์ทบทวน must, should 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงาน Complete the sentences with should or should not. 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up)
1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. ให้นักเรียนฝึกอ่านคำศัพท์ Say the words ในหนังสือเรียนหน้า 56 3. ครูทดสอบคำศัพท์หน้า 56 โดยให้นักเรียนเขียนคำศัพท์และคำแปลลงในสมุด 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูเปิดคลิปเรื่อง Library rules ให้นักเรียนดูและฟัง จาก https://youtu.be/UjNS_FYDqrM 2. หลังจากดูจบ ครูถามนักเรียนว่า มีกฎหรือระเบียบอะไรบ้างในห้องสมุดที่นักเรียนได้ดู และฟัง 3.ขั้นฝึก (Practice) 1. ครูเปิดคลิปเรื่อง Library rules อีกครั้ง ให้นักเรียนจดโน้ตไว้ด้วยในการฟังครั้งนี้ 2. ครูสุ่มให้นักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้น โดยเขียนบนกระดาน 3. ครูและนักเรียน สรุปร่วมกันจากสิ่งที่ได้ดูและได้ฟัง 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนทำใบงาน Complete the sentences with must or must not. 5.ขั้นสรุป (Wrap up) นักเรียนทำใบงาน Complete the sentences with should or should not. 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New Express ป.5 2. ใบงาน 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์โครงสร้างของ ประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอ ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการ ให้ความช่วยเหลืออย่างสุภาพได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน พูด อ่านออกเสียง สะกดคำ คำศัพท์โครงสร้างของ ประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอความช่วยเหลือ ให้ คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการให้ความ ช่วยเหลืออย่างสุภาพ
แผนการจัดการเรียนรู้30 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Safety first เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำง่ายๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ วาดภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและ ข้อความสั้นๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนาและนิทานง่ายๆ และเรื่องสั้นๆ ต 1.2 ป. 5/2 ใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาต และให้คำแนะนำง่ายๆ ต 1.2 ป. 5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/3 พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 2.1 ป. 5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา
3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์โครงสร้างของประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลืออย่างสุภาพได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) พูด อ่านออกเสียง สะกดคำคำศัพท์โครงสร้างของประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอความช่วยเหลือ ให้ คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลืออย่างสุภาพได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระสำคัญ นักเรียนรู้จักการรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานให้กับตัวเองและมีสุขปฏิบัติประจำตัว 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : Could you help me, please? Be careful! – The floor is wet. Turn off the lights before going out. – It’ll save electricity. Don’t play near the stove. – You will get burned. Don’t play with a knife. – You will cut yourself. Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ - คำศัพท์ทบทวน must, should 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
8. ชิ้นงานหรือภาระงาน แบบทดสอบท้ายหน่วย 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. ครูให้นักเรียนเขียนคำศัพท์ตามรูปแบบคำที่กำหนดในหนังสือเรียน 67 ข้อ F 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) นักเรียนเปิดหนังสือ หน้า 67 ข้อ G ให้นักเรียนดูภาพ อ่าน แล้วฝึกขอความช่วยเหลืออย่างสุภาพ รวมทั้งบอกขอบคุณ S1 : Could you help me, please? S2 : Sure. S1 : Thank you very much. S2 : You’re welcome. แต่ถ้านักเรียนไม่สะดวกที่จะช่วย ให้ตอบปฏิเสธแบบสุภาพ S1 : Could you help me, please? S2 : I’m sorry. I can’t help you now. S1 : It’s nothing. (No problem!, No big deal!) 3.ขั้นฝึก (Practice) 1. นักเรียนทำ Test 3 หน้า 69 ข้อ 1 – 4 Key:1. Be careful! – The floor is wet. 2. Turn off the lights before going out. – It’ll save electricity. 3. Don’t play near the stove. – You will get burned. 4. Don’t play with a knife. – You will cut yourself. 2. นักเรียนอ่านประโยคข้อ 1 – 4 พร้อม ๆ กันอีกครั้ง 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนทำ Test 3 ในข้อที่เหลือ แล้วครูเฉลย Key: 5. Good habits. 6. No. 7. Good habits.
8. No. 9. must 10. should not 5.ขั้นสรุป (Wrap up) นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายหน่วย 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New Express ป.5 2. แบบทดสอบ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์โครงสร้างของ ประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอ ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการ ให้ความช่วยเหลืออย่างสุภาพได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน พูด อ่านออกเสียง สะกดคำ คำศัพท์โครงสร้างของ ประโยคที่ใช้ในการออกคำสั่ง ขอความช่วยเหลือ ให้ คำแนะนำ รับปากว่าจะช่วย และปฏิเสธการให้ความ ช่วยเหลืออย่างสุภาพ
แผนการจัดการเรียนรู้31 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Adverb of Frequency เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ วาดภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและ ข้อความสั้นๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนาและนิทานง่ายๆ และเรื่องสั้นๆ ต 1.2 ป. 5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับ Adverb of frequency ได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) พูด อ่านออกเสียง สะกดคำคำศัพท์เกี่ยวกับ Adverb of frequency ได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน
4. สาระสำคัญ ทุก ๆ คนต่างมีกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมและวัย 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : I usually go to school early. She sometime drinks milk. Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ always, usually, often, sometimes, never คำศัพท์ทบทวน - 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงาน Write always, usually, often, sometimes, or never in the blank. 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. ครูสนทนากับนักเรียนว่าหลังโรงเรียนเลิกเรียนแล้ว นักเรียนทำอะไรกันบ้าง ครูเขียน กิจกรรมที่นักเรียนทำบนกระดาน เช่น do homework, play with friends, read books, watch TV.
2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูสอนคำศัพท์ใหม่เกี่ยวกับ Adverb of Frequency ครูเขียนคำศัพท์กระดาน ให้นักเรียนอ่านออก เสียงคำศัพท์คำละ 2 ครั้ง ดังนี้ always usually often sometimes never 2. ครูสอนวิธีการใช้ Adverb of Frequency ครูอธิบายวิธีการใช้ครูเขียนวิธีการลงบนกระดาน จากนั้นให้นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมจากใบความรู้ Adverb of Frequency คือ กริยาวิเศษณ์บอกความถี่ชัดเจน จะบอกว่าเหตุการณ์หรือการกระทำ นั้นมีความถี่ความบ่อยแค่ไหน Always Usually Often Sometimes Never 3.ขั้นฝึก (Practice) ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ให้ช่วยกันแต่งประโยคโดยใช้คำเหล่านี้ คำละ 1 ประโยค เช่น I usually go to school early. She sometime drinks milk. 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนนำเสนอประโยคที่กลุ่มตัวเองแต่งหน้าชั้นเรียน 5.ขั้นสรุป (Wrap up) 1. นักเรียนใบงาน Write always, usually, often, sometimes, or never in the blank. 2. นักเรียนช่วยกันสรุปการใช้ Adverbs of frequency ลงในสมุด 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับ Adverb of frequency ได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน พูด อ่านออกเสียง สะกดคำ คำศัพท์เกี่ยวกับ Adverb of frequency ได้ 100% 50% 0%
แผนการจัดการเรียนรู้32 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง What is he doing? เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ วาดภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและ ข้อความสั้นๆ ที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนาและนิทานง่ายๆ และเรื่องสั้นๆ ต 1.2 ป. 5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับ Adverb of frequency ได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) พูด อ่านออกเสียง สะกดคำคำศัพท์เกี่ยวกับ Adverb of frequency ได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระสำคัญ
ทุก ๆ คนต่างมีกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมและวัย 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : What is he doing? He is going bike riding. He is going bike riding. Who go bike riding every day? You always go bike riding. Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ go bike riding, go jogging, go horseback riding, practice the piano, take a dog for a walk คำศัพท์ทบทวน always, usually, often, sometimes, never 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน สรุปคำศัพท์และการใช้ Adverbs of frequency ลงในสมุด 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. ครูทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับ Adverb of Frequency ครูติดบัตรคำศัพท์กระดาน ให้ นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์คำละ 2 ครั้ง ดังนี้
always usually often sometimes never 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูสอนคำศัพท์ ครูเขียนคำศัพท์บนกระดาน ให้นักเรียนอ่านออกเสียงตามครู ดังนี้ go bike riding go jogging go horseback riding practice the piano take a dog for a walk 2. ครูชูภาพเด็กขี่จักรยานให้นักเรียนดู ถามคำถามและตอบคำถามเป็นตัวอย่าง T : What is he doing? T : He is going bike riding. ครูให้นักเรียนพูดตาม Ss : He is going bike riding. 3.ขั้นฝึก (Practice) ครูติดแถบประโยคบนกระดานให้นักเรียนอ่าน และสะกดคำศัพท์ จากนั้นครูถามนักเรียนว่า ใครขี่ จักรยานทุกวันบ้าง T : Who go bike riding every day? นักเรียนที่ขี่จักรยานทุกวันยกมือ ครูบอกนักเรียนเหล่านั้นว่า T : You always go bike riding. 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) ครูให้นักเรียนเล่นเกมทำท่าทางประกอบ โดยครูบอกคำ Adverbs of frequency และคำกริยา นักเรียนทำกริยานั้น ๆ ลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าทางประกอบ พร้อมกับพูดประโยคนั้นด้วย T : always, go jogging S1 : I always go jogging every day. (พร้อมทำท่า) 5.ขั้นสรุป (Wrap up) ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปคำศัพท์และการใช้ Adverbs of frequency 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. แถบประโยค 2. บัตรคำ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับ Adverb of frequency ได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน พูด อ่านออกเสียง สะกดคำ คำศัพท์เกี่ยวกับ Adverb of frequency ได้
แผนการจัดการเรียนรู้33 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ ร หัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง Present Simple Tense เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนาและนิทานง่ายๆ และเรื่องสั้นๆ ต 1.2 ป. 5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับการใช้ Present Simple Tense ได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) พูด อ่านออกเสียง สะกดคำคำศัพท์เกี่ยวกับการใช้ Present Simple Tense ได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน
4. สาระสำคัญ ทุก ๆ คนต่างมีกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมและวัย 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : She plays tennis every Sunday. She does not play tennis every Sunday. Does she play tennis every Sunday? They play tennis every Sunday. They do not play tennis every Sunday. Do they play tennis every Sunday? Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ - คำศัพท์ทบทวน go bike riding, go jogging, go horseback riding, practice the piano, take a dog for a walk 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงาน Write the correct verb in the blank. 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you?
Teacher : I’m great. 2. ครูทบทวนคำศัพท์ที่ได้เรียนในชั่วโมงที่แล้ว ครูติดบัตรคำบนกระดาน ให้นักเรียนอ่าน ออกเสียงคำศัพท์ดังนี้ go bike riding go jogging go horseback riding practice the piano take a dog for a walk 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูสอนประโยค Present Simple Tense ครูเขียนโครงสร้างลงบนกระดาน พร้อมอธิบายวิธีการใช้ ดังนี้ โครงสร้าง Subject + Verb1(s,es) + Object. Subject + do/does + not + Verb1 + Object. Do/Does + subject + Verb1 + Object? ตัวอย่าง She plays tennis every Sunday. She does not play tennis every Sunday. Does she play tennis every Sunday? They play tennis every Sunday. They do not play tennis every Sunday. Do they play tennis every Sunday? 2. ครูสอนหลักการเติม s,es ท้ายคำกริยา ดังนี้ กฎในการเติม s,es หลังกริยาช่อง 1 1. เติม s ได้ทันที่หลังคำกริยาปกติทั่วๆ ไป เช่น draw - draws cook - cooks 2. เติม es หลังคำกริยาที่ลงท้ายด้วย s , ss , sh , ch , x , z และ o เช่น dress - dresses kiss - kisses 3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น study - studies cry - cries 4. ยกเว้น ถ้าหน้า y เป็นสระ ( a , e , i , o , u ) ให้เติม s ได้เลย เช่น play - plays buy - buys 3.ขั้นฝึก (Practice) นักเรียนทำใบงาน Underline the correct verb. 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนทำใบงาน Write the correct verb in the blank. 5.ขั้นสรุป (Wrap up) นักเรียนสรุปการ Present Simple Tense พร้อมยกตัวอย่างประกอบลงในสมุด
9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. ใบงาน 2. บัตรคำ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับการใช้ Present Simple Tense ได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน พูด อ่านออกเสียง สะกดคำ คำศัพท์เกี่ยวกับการใช้ Present Simple Tense ได้
แผนการจัดการเรียนรู้34 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง Do you go jogging? เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ต 2.1 ป. 5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับความหมายของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำบอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และ ชื่อของกิจกรรมได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) อ่านออกเสียง สะกดคำศัพท์ และรู้ความหมายของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำบอกความถี่ของกิจกรรมที่ ทำ และชื่อของกิจกรรมได้
3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระสำคัญ ทุก ๆ คนต่างมีกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมและวัย 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : Do you/ they go jogging? Yes, I always/ usually/ often/ sometimes/ go jogging. No, I never go jogging. Do you go jogging? Yes, I always/ usually/ often/ sometimes go jogging. No, he/ she never go jogging? Does he/ she go jogging? Yes, he/ she always/ usually/ often/ sometimes goes jogging. No, he/ she never goes jogging. Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ clean bedroom, do housework, go shopping, go ride a bike, study English, practice violin คำศัพท์ทบทวน - 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
8. ชิ้นงานหรือภาระงาน - 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. ครูทบทวนการใช้ Present Simple Tense ให้นักเรียนจับคู่ฝึกแต่งประโยคคู่ละ 1 ประโยค จากนั้นให้นักเรียนอ่านประโยคที่แต่งพร้อมแปลความหมาย 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูสุ่มถามนักเรียน 4 – 5 คน โดยใช้คำถาม Do you … กับคำกริยาที่สอนไป เขียนและถามคำถาม ตอบคำถามเป็นตัวอย่างบนกระดานให้นักเรียนพูดตาม และอ่านคำถามคำตอบบนกระดาน T: Do you/ they go jogging? Yes, I always/ usually/ often/ sometimes/ go jogging. No, I never go jogging. Ss: Do you go jogging? Yes, I always/ usually/ often/ sometimes go jogging. No, he/ she never go jogging? T: Does he/ she go jogging? Yes, he/ she always/ usually/ often/ sometimes goes jogging. No, he/ she never goes jogging. 2. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 5 – 6 คน ตอบคำถาม แก้ไขให้คำแนะนำถ้านักเรียนตอบผิด เช่น การเติม s, es ที่คำกริยา เมื่อประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ 3.ขั้นฝึก (Practice) นักเรียนจับคู่ ครูติดบัตรคำบนกระดาน ให้นักเรียนช่วยกันแต่งบทสนทนาโดยใช้กิจกรรมเหล่านี้ เขียน ลงกระดาษ คู่ละ 2 กิจกรรม ดังนี้ clean bedroom, do housework, go shopping, go ride a bike, study English, practice violin 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนแต่ละคู่ออกมาพูดบทสนทนาที่แต่ง ครูคอยช่วยเหลือ แก้ไขให้ถูกต้องเมื่อนักเรียนใช้ คำศัพท์ผิด หรือผิดพลาดตรงไหน 5.ขั้นสรุป (Wrap up) ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปประโยคถามตอบเรื่องกิจกรรมอีกครั้ง
9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. บัตรคำ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับความหมาย ของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำ บอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และ ชื่อของกิจกรรมได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน อ่านออกเสียง สะกดคำศัพท์ และรู้ความหมายของ คำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำ บอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และชื่อของกิจกรรมได้
แผนการจัดการเรียนรู้35 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง Does Lisa drink coffee? เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ต 2.1 ป. 5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับความหมายของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำบอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และ ชื่อของกิจกรรมได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) อ่านออกเสียง สะกดคำศัพท์ และรู้ความหมายของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำบอกความถี่ของกิจกรรมที่ ทำ และชื่อของกิจกรรมได้
3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระสำคัญ ทุก ๆ คนต่างมีกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมและวัย 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : Does Lisa drink coffee? No, she never drinks coffee. Do Lisa and Alex have English class? Yes, they always have English class. Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ - คำศัพท์ทบทวน always, usually, often, sometimes, never 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน - 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. ครูทบทวน Adverb of frequency ให้นักเรียนบอกวิธีการใช้คนละ 1 คำ
2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูสอนการใช้คำคุณศัพท์บอกความถี่ของการทำกิจกรรมต่อไปนี้ always = ตลอดเวลา สม่ำเสมอทำโดยไม่มีข้อยกเว้น usually = ปกติ ธรรมดา ทำเป็นประจำ often = บ่อยๆหลายครั้ง(แต่ไม่ทำเป็นประจำ) sometimes = บางเวลา บางครั้งบางคราว(นานๆทำ) never = ไม่เคย 2. นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 71 นักเรียนอ่านข้อความพร้อมกัน จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันแปล ความหมายของเนื้อเรื่อง 3.ขั้นฝึก (Practice) นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 73 นักเรียนดูข้อสังเกต Notice เกี่ยวกับคำคุณศัพท์บอกความถี่ จากนั้น นักเรียนจับคู่กันฝึกถามคำถามและตอบคำถามจากตาราง S1 : Does Lisa drink coffee? S2 : No, she never drinks coffee. S2 : Do Lisa and Alex have English class? S1 : Yes, they always have English class. 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนเขียนเรียงความคนละ 1 ย่อหน้า โดยใช้คำว่า always, usually, often, sometimes, never โดยให้นักเรียนทำลงในกระดาษ A4 พร้อมตกแต่งใบงานให้สวยงาม 5.ขั้นสรุป (Wrap up) ครูขออาสาสมัครนักเรียนออกมานำเสนอเรียงความของตนเองหน้าชั้นเรียน 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New Express ป.5 2. กระดาษ A4 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับความหมาย ของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำ บอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และ ชื่อของกิจกรรมได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน อ่านออกเสียง สะกดคำศัพท์ และรู้ความหมายของ คำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำ บอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และชื่อของกิจกรรมได้
แผนการจัดการเรียนรู้36 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง Adverb of frequency เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ต 2.1 ป. 5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับความหมายของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำบอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และ ชื่อของกิจกรรมได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) อ่านออกเสียง สะกดคำศัพท์ และรู้ความหมายของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำบอกความถี่ของกิจกรรมที่ ทำ และชื่อของกิจกรรมได้
3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระสำคัญ ทุก ๆ คนต่างมีกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมและวัย 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : I go for a walk once a week. I play badminton twice a week. I go bike riding three times a month. Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ once, twice, times คำศัพท์ทบทวน go for a walk, play badminton, go bike riding 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน จับกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แต่งประโยคโดยใช้ once, twice, times กลุ่มละ 3 ประโยค 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. ครูทบทวนคำศัพท์ที่ได้เรียนไปและรูปแบบการใช้ ประโยคการใช้Adverbs of frequency
3. แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ใช้เวลากลุ่มละ 1 นาที ให้นักเรียนเล่าว่าสัปดาห์ที่ ผ่านมานักเรียนทำกิจกรรมอะไรบ้าง โดยให้ใช้ Adverbs of frequency อยู่ในเรื่องที่เล่าด้วย 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูสอนคำศัพท์ once, twice, three times 2. ครูติดบัตรคำกริยา เช่น go for a walk, play badminton, go bike riding ครูพูดและเขียนประโยค บนกระดานเป็นตัวอย่าง และทำท่าทางประกอบและชูนิ้วตามจำนวนครั้งที่ทำใน 1 สัปดาห์/เดือน T : I go for a walk once a week. I play badminton twice a week. I go bike riding three times a month. 3. ครูให้นักเรียนสะกดคำศัพท์ once, twice และ times 3.ขั้นฝึก (Practice) 1. ครูชูภาพเด็กชายกำลังขี่จักรยานให้นักเรียนพูดประโยคและทำท่าทางประกอบ ครูแก้ไข ข้อผิดพลาด Ss : He go for a walk once a week. T : He goes for a walk once a week. 2. ครูใช้ภาพคำกริยาต่าง ๆ ที่ได้สอนมา ให้นักเรียนฝึกแต่งประโยค 3. ให้นักเรียนอ่านประโยคบนกระดาน 4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แต่งประโยคโดยใช้ once, twice, times กลุ่มละ 3 ประโยค 5.ขั้นสรุป (Wrap up) นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอประโยคการใช้ once, twice, times 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New Express ป.5 2. บัตรคำ 3. บัตรภาพ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับความหมาย ของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำ บอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และ ชื่อของกิจกรรมได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน อ่านออกเสียง สะกดคำศัพท์ และรู้ ความหมายของคำกริยาที่ทำในแต่ ละวัน คำบอกความถี่ของกิจกรรม ที่ทำ และชื่อของกิจกรรมได้
แผนการจัดการเรียนรู้37 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง How often ……? เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ต 2.1 ป. 5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับความหมายของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำบอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และ ชื่อของกิจกรรมได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) อ่านออกเสียง สะกดคำศัพท์ และรู้ความหมายของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำบอกความถี่ของกิจกรรมที่ ทำ และชื่อของกิจกรรมได้
3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระสำคัญ ทุก ๆ คนต่างมีกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมและวัย 5. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง Structure : May I have a cup of tea? Teacher, may I go out please? How often do you /they go swimming? I/They go swimming once a day. How often does he/she go swimming? He/She goes swimming three times a month. How often does Lucy go bike riding? She goes bike riding 3 times a week. Vocabulary : คำศัพท์ใหม่ How often คำศัพท์ทบทวน watch TV, go bike riding 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์ สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 9) อื่นๆ.............................. 7. สมรรถนะสำคัญที่เกิดกับผู้เรียน (ตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน สรุปคำศัพท์ที่ได้เรียนไป และการใช้ May เพื่อขออนุญาต และการถามความถี่ How often…? ลงในสมุด
9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขั้นนำ (Warm up) 1. ครูพูดทักทายกับนักเรียนในชั้นเรียน Teacher : Good morning. How are you today? Students : I’m fine, thank you. And you? Teacher : I’m great. 2. ครูให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน ป.5 หน้า 74 ครูให้นักเรียนฝึกพูดพร้อมกัน 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูอธิบายเรื่องการใช้ May เพื่อขออนุญาต พร้อมยกตัวอย่างที่นักเรียนได้ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น T : May I have a cup of tea? Ss : Teacher, may I go out please? 2. ครูสอนประโยคคำถามและคำตอบเมื่อต้องการทราบว่าทำสิ่งนั้นๆกี่ครั้งใน 1 สัปดาห์/เดือน จะขึ้นต้น ประโยคด้วย How often…………………. How often เป็นคำแสดงคำนามที่ใช้ถามเรื่องความถี่ รูปประโยคที่เป็น you/they รูปประโยคคำถาม How often + do + you/they + (คำกริยา)? ตัวอย่าง How often do you /they go swimming? (คุณ/พวกเขาไปว่ายน้ำบ่อยแค่ไหน) รูปประโยคคำตอบ I/They + (กริยา) + (คำวิเศษณ์บอกความถี่ของเหตุการณ์). ตัวอย่าง I/They go swimming once a day. (ฉัน/พวกเขาไปว่ายน้ำวันละ 1 ครั้ง) รูปประโยคที่เป็น he/she รูปประโยคคำถาม How often + does + he/she + (คำกริยา)? ตัวอย่าง How often does he/she go swimming? (เขา/เขาผู้หญิงไปว่ายน้ำบ่อยแค่ไหน) รูปประโยคคำตอบ He/She + (กริยาเติม s, es) + (คำวิเศษณ์บอกความถี่ของเหตุการณ์) ตัวอย่าง He/She goes swimming three times a month. (เขา/เขาผู้หญิงไปว่ายน้ำเดือนละ 3 ครั้ง) 3.ขั้นฝึก (Practice) 1. นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 74 – 75 ให้นักเรียนฟังครูอ่านออกเสียง จากนั้นให้นักเรียนพูดตาม ครู 2. ครูให้นักเรียนจับคู่กันฝึกถามและตอบคำถามการพูดขออนุญาตโดยใช้ May จากบทสนทนา ในหน้า 74 3. นักเรียนสลับคู่ ฝึกถามและตอบคำถาม How often…?
4.ขั้นนำไปใช้ (Production) นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียนหน้า 76 จากนั้นให้นักเรียนจับคู่ฝึกสนทนา โดยใช้ตารางในหนังสือ เช่น How often does Lucy go bike riding? She goes bike riding 3 times a week. 5.ขั้นสรุป (Wrap up) ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปคำศัพท์ที่ได้เรียนไป และการใช้ May เพื่อขออนุญาต และการถาม ความถี่ How often…? 9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน New Express ป.5 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - 10. การวัดและประเมินผล (K-P-A) ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ จิตวิทยาศาสตร์(A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับความหมาย ของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำ บอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และ ชื่อของกิจกรรมได้ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการ ทำงาน อ่านออกเสียง สะกดคำศัพท์ และรู้ความหมายของ คำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำ บอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และชื่อของกิจกรรมได้
แผนการจัดการเรียนรู้38 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ15101 ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2567 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง Present Simple Tense เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวกัลปังหา ชาวเกาะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ตัวชี้วัดชั้นปี ตัวชี้วัดระหว่างทาง ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ตัวชี้วัดปลายทาง ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ต 2.1 ป. 5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ให้ข้อมูลคำศัพท์เกี่ยวกับความหมายของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำบอกความถี่ของกิจกรรมที่ทำ และ ชื่อของกิจกรรมได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) อ่านออกเสียง สะกดคำศัพท์ และรู้ความหมายของคำกริยาที่ทำในแต่ละวัน คำบอกความถี่ของกิจกรรมที่ ทำ และชื่อของกิจกรรมได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A)