แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ิต บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรียนร
ู้
7. กิจกรรมการเรยี นร้
ู
7.1 ครูนำดอกตะขาบตัวอย่างให้นักเรียนดูและร่วมกันสนทนาถึงเรื่อง การประดิษฐ์ดอก
ตะขาบ ตามประสบการณท์ น่ี กั เรยี นเคยพบเหน็
7.2 นักเรียนสงั เกตการสาธิตการประดิษฐด์ อกตะขาบของครแู ละซกั ถามขอ้ สงสยั
7.3 นักเรยี นศกึ ษาใบความรเู้ ร่ือง การประดษิ ฐด์ อกตะขาบ
7.4 แบ่งนักเรยี นออกเปน็ กลมุ่ ๆ ละ 3 – 4 คน เลือกประธาน เลขานุการ และสมาชกิ
เพือ่ ดำเนนิ การวางแผนและปฏบิ ัตงิ านตามใบงานเร่ือง การถกั ลายคดกริช ทแ่ี จกให
้
7.5 นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำเสนอผลการอภิปรายตามใบงานเรื่อง การประดิษฐ์
ดอกตะขาบ
7.6 ร่วมกันสรุปองค์ความรู้ที่ได้รับในคร้ังนี้และสรุปผลการทำงาน ท้ังด้านพฤติกรรม
การทำงาน ลกั ษณะนสิ ัยและคณุ ธรรมในการทำงาน ขอ้ ดี เพอ่ื เป็นแนวทางในการทำงานครงั้ ตอ่ ไป
7.7 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพฒั นาทักษะชวี ติ การส่อื สารเชิงบวก
การพดู ใหก้ ำลังใจผอู้ ื่น
คำถามเพือ่ การสะท้อน (R)
- นกั เรยี นมีความร้สู กึ อยา่ งไรที่ประดิษฐด์ อกตะขาบไดส้ ำเร็จ
- สังเกตไหมวา่ ขณะกำลงั พับกกสานขน้ึ ดอกตะขาบทกุ คนเป็นอยา่ งไร
(นัง่ มีสมาธิ ช้า ๆ ต้ังใจ จดจ่อ...)
- ถ้ามเี พอ่ื น ๆ มาตวิ า่ ดอกตะขาบท่นี กั เรยี นประดิษฐว์ า่ ไม่สวยเลย ห่วยสุด
นกั เรียนจะมคี วามรู้สึกอยา่ งไร
คำถามเพอ่ื การเชือ่ มโยง (C)
- ท่ผี ่านมานกั เรยี นเคยถูกเพ่ือนติด้วยคำพดู แบบน้บี า้ งหรือไม่ นกั เรยี นจะทำ
อยา่ งไรตอ่ เพือ่ นคนท่ตี ินนั้
- ถ้าเป็นไปได้หากย้อนกลับเวลาได้ นกั เรยี นอยากเปลยี่ นคำพูดตินนั้ มาให้กำลังใจ
หรอื ให้เพื่อนมคี วามรสู้ ึกดี ๆ วา่ อย่างไร
คำถามเพอ่ื การปรับใช้ (A)
- ต่อไปจะพดู ถงึ ผลงานของเพือ่ นโดยการถนอมนำ้ ใจให้กำลงั ใจหรอื พูดวา่
อยา่ งไรบ้าง
190
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
8. สือ่ การเรยี นการสอน
8.1 ดอกตะขาบตัวอย่าง
8.2 เส้นกก กรรไกร
8.3 ใบงานเรื่องการประดิษฐ์ดอกตะขาบ
8.4 ใบความรเู้ ร่ือง การประดิษฐด์ อกตะขาบ
9. การวดั ผลและประเมนิ ผล
9.1 ตรวจผลงาน
9.2 สังเกตพฤติกรรม
เคร่อื งมือ
แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน
แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤติกรรม
เกณฑก์ ารวัดผล
4 = ดีมาก หรอื ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป
3 = ดี หรอื ไดค้ ะแนนร้อยละ 70 - 79
2 = ปานกลาง หรือ ได้คะแนนรอ้ ยละ 60 - 69
1 = นอ้ ย หรอื ได้คะแนนรอ้ ยละ 50 - 59
0 = ปรบั ปรุง หรือ ไดค้ ะแนนต่ำกวา่ รอ้ ยละ 50 ลงมา
เกณ์การตดั สนิ
จากการวัดผลนักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมโดยผ่านเกณฑ์ในระดับ 2 ข้ึนไป หรือ
ไดค้ ะแนนจากการวัดผลร้อยละ 60 ข้นึ ไป
10. ข้อเสนอแนะเพมิ่ เตมิ ในการจดั กิจกรรมการเรยี นร
ู้
10.1 รแู้ นะนำใหน้ ักเรียนใช้เวลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์
10.2 ใหป้ ระดษิ ฐด์ อกตะขาบจากวสั ดอุ ่นื ๆ เชน่ หลอดกาแฟ ใบตอง, เส้นกระดาษทีใ่ ช้บุ
ผลไม้กนั ช้ำ
191
แนวทางการพฒั นาทักษะชีวติ บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กล่มุ สาระการเรยี นร
ู้
แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้บูรณาการทกั ษะชวี ติ
ในกลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลย
ี
รายวชิ า การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6
เร่ือง การใช้อินเตอรเ์ น็ตอยา่ งไรให้ปลอดภัย เวลา ชว่ั โมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู
้
- ง 3.1 เข้าใจ เหน็ คณุ คา่ และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื คน้ ขอ้ มลู
การเรยี นรู้ การสือ่ สาร การแกป้ ญั หา การทำงาน และอาชีพอยา่ งมีประสิทธิภาพ ประสทิ ธิผล มคี ุณ
ธรรม
2. สาระ/ตัวชี้วดั
- เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร
บอกหลกั การเบือ้ งตน้ ของการแกป้ ัญหา
3. วัตถุประสงค์
- อภปิ รายปญั หาทเ่ี กดิ จากการใช้อนิ เทอร์เนต็ ทไ่ี ม่ปลอดภัย
4. องค์ประกอบทกั ษะชวี ิต
- รบั รู้ปัญหา หาทางเลอื กและตดั สินใจทางเลอื กในการแก้ปญั หา
5. สาระการเรียนรู
้
- ปัญหาท่ีเกิดจากการใช้อินเทอรท์ ี่ไมป่ ลอดภัย
6. ภาระงาน/ช้ินงาน
- การเขียนบทเรยี นในชวี ิตการใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ที่ปลอดภัยและไดป้ ระโยชน์สงู สุด
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
7.1 ครูและนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตว่า นักเรียนเคยใช้ประโยชน์จาก
อินเทอรเ์ น็ตอย่างไร
192
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551
7.2 นักเรียนแบง่ เปน็ กลมุ่ ๆ ละ 5 คน เลอื กประธาน เลขานกุ ารเพ่ือดำเนนิ การอภปิ ราย
7.3 ครูนำข่าวเก่ียวกับภัยจากการใช้อินเทอร์เน็ต การแชทกับคนแปลกหน้า การใช้
Face Book และอน่ื ๆ ให้นักเรยี นศึกษา ร่วมกนั อภปิ รายและแสดงความคดิ เห็นตามหวั ข้อตอ่ ไปนี้
- ขา่ วนี้ ใครทำอะไร ทีไ่ หน อยา่ งไร
- บคุ คลทสี่ ูญเสียหรอื ได้รับผลกระทบท้ังทางดา้ นทรัพยส์ นิ สุขภาพจติ ความปลอดภยั
และชื่อเสียงในสงั คม มใี ครบ้าง?
- สาเหตขุ องปญั หาตามขา่ วเกดิ จากอะไร
- การท่ีจะป้องกนั ไม่ใหเ้ กิดปญั หาน้ำนักเรียนควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรบา้ ง หรือหลกี ลยี่ งให้
ตนเองรอดปลอดภัยจากภัยอนิ เทอรเ์ นต็ ไดอ้ ย่างไร?
7.4 แต่ละกลุ่มนำเสนอความคิดเห็นจากการอภิปรายกลุ่ม ครูร่วมสรุปเติมเต็มความรู้
ความเข้าใจทนี่ กั เรียนขาดหายไป
7.5 สนทนาดว้ ยเทคนิคคำถาม R - C - A เพื่อพฒั นาทักษะชวี ิต เลือกรบั ขอ้ มลู ขา่ วสาร
อยา่ งไตรต่ รอง และรู้เทา่ ทนั สังคมทีเ่ ปล่ยี นแปลง
คำถามเพอ่ื การสะท้อน (R)
- นกั เรียนรสู้ กึ อยา่ งไร ตอ่ บุคคลทส่ี ูญเสยี หรือได้รับผลจากการใช้อินเตอรเ์ นต็
ทไ่ี ม่คิดรอบคอบ
- จากข่าวภยั อนิ เทอรเ์ น็ตเหล่านน้ั ทำให้นกั เรยี นได้ร้หู รอื คดิ อะไร?
คำถามเพือ่ การเช่ือมโยง (C)
- ท่ีผา่ นมานักเรียนเคยแชทอนิ เทอรเ์ น็ตกับคนแปลกหน้าหรือไม่ เพราะอะไร
- นกั เรยี นคิดวา่ นกั เรยี นจะมีโอกาสพลาดพลัง้ เชน่ เดียวกบั บุคคลในข่าวเหล่านน้ั
หรือไม่ เหมาะเหตผุ ลใด
- นกั เรยี นแนใ่ จอยา่ งไรวา่ ข้อมูลในอินเทอร์เนต็ น้ันเป็นความจริงและเปน็ ข้อมลู
ที่ถกู ตอ้ ง
คำถามเพอ่ื การปรับใช้ (A)
- นกั เรยี นใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอยา่ งไรใหไ้ ดป้ ระโยชนค์ ุม้ ค่าและปลอดภยั
8. สื่อการเรียนร้
ู
8.1 ข่าวเก่ยี วกับการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็
8.2 กระดาษปรฟุ๊ ปากกาเคมี
193
แนวทางการพฒั นาทกั ษะชีวติ บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร
ู้
9. การประเมินผล
9.1 ตรวจผลงานจากชน้ิ งานของนกั เรยี น
9.2 สงั เกตพฤตกิ รรมการอภิปรายแสดงความคิดเหน็
194
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551
แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรบู้ ูรณาการทกั ษะชีวิต
กล่มุ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี
สาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
เรือ่ ง ปฏบิ ตั กิ ารเก็บข้อมูลพื้นฐานของนกั เรยี น เวลา 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรียนรู้
- ง 3.1 เข้าใจ เห็นคณุ ค่า และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื คน้ ขอ้ มูล
การเรียนรู้ การสื่อสาร การแก้ปัญหา การทำงาน และอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและ
มคี ุณธรรม
2. สาระ/ตัวช้วี ัด
- เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร
ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศนำเสนองานในรปู แบบท่เี หมาะสมกบั ลกั ษณะงาน
3. วตั ถุประสงค
์
- ปฏบิ ตั ิการเก็บข้อมลู พน้ื ฐานของนักเรียนบันทึกลงในไฟล์ข้อมูล
4. องค์ประกอบทกั ษะชวี ติ
- มีทกั ษะในการแสวงหาและใชข้ ้อมลู
5. สาระการเรียนรู
้
- วธิ กี ารเก็บขอ้ มูลพื้นฐานของนกั เรียน
6. ภาระงาน/ชนิ้ งาน
- แผนการขน้ั ตอนการนำเสนอข้อมลู ด้วยโปรแกรม Microsoft Powerpoint ทีจ่ ะนำไป
ปฏิบัตจิ รงิ
7. กิจกรรมการเรียนรู้
7.1 นกั เรียนเล่าประสบการณเ์ กี่ยวกับการทำรายงานในแต่ละวิชา โดยครใู ชค้ ำถามดงั น้ี
- นักเรียนทำรายงานเป็นรปู เลม่ ด้วยวิธีการใด
195
แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ิต บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้
- คอมพวิ เตอรม์ ีโปรแกรมท่ีหลากหลายสามารถนำมาใช้ได้อย่างไร
- นกั เรียนใชโ้ ปรแกรมใดในการพมิ พง์ าน
- นกั เรียนใชโ้ ปรแกรมใดในการค้นขอ้ มูล
- นกั เรียนใชโ้ ปรแกรมใดในการนำเสนอขอ้ มูลต่าง ๆ ในรปู แบบของสไลด์
- นักเรียนเคยใชโ้ ปรแกรม Microsoft powerpoint หรือไม่
- นักเรยี นต้องใชอ้ ุปกรณ์ชนดิ ใดเมือ่ ต้องการทำงานดว้ ยโปรแกรม Microsoft
powerpoint
- ข้นั ตอนการนำเสนองานดว้ ยโปรแกรม Microsoft powerpoint เป็นอยา่ งไร
แตล่ ะข้ันตอนทำแล้วเกดิ ผลอยา่ งไร
7.2 ครูสนทนากับนักเรียนเก่ียวกับข้อมูลพื้นฐานของนักเรียนในหัวข้อต่อไปนี้ ช่ือ นามสกุล
ช่ือเล่น วันเดอื นปี อายุ ทอ่ี ยู่ อาหารทชี่ อบ ผลไม้ทีช่ อบ สที ชี่ อบ กีฬาที่ชอบ และงานอดิเรก ฯลฯ
ใหน้ ักเรยี นสำรวจตนเอง จากนนั้ บันทึกข้อมลู พื้นฐาน ลงในบัตรรายการ “ข้อมูลพื้นฐานของนกั เรยี น”
7.3 นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ และตอบคำถาม โดยครใู ชค้ ำถามดงั ต่อไปน้
ี
7.3.1 นกั เรียนจะเสนอขอ้ มูลพ้ืนฐานของตนเองจากบัตรรายการได้อย่างไร
7.3.2 ถ้าจะนำเสนอข้อมูลพ้ืนฐานของตนเองจากบัตรรายการด้วยโปรแกรม
Microsoft Powerpoint ควรทำอย่างไร
7.3.3 จากน้ันให้นักเรียนออกแบบการนำเสนอข้อมูลพื้นฐานของตนเองจาก
บัตรรายการด้วยโปรแกรม Microsoft powerpoint 2 แบบ จากน้ัน
ให้แต่ละคนอธิบายประกอบการนำเสนอ ผลงานและหน้าชั้น นักเรียน
ร่วมกันแสดงความคดิ เห็นและตอบคำถาม โดยครคู ำถามดงั ตอ่ ไปน
ี้
7.3.4 นักเรยี นชอบการนำเสนอขอ้ มลู ในแบบใดมากทีส่ ดุ เพราะเหตใุ ด
7.4 นักเรียนสงั เกตภาพข้ันตอนการนำแสนองานดว้ ยโปรแกรม Microsoft powerpoint
ร่วมกันแสดงความคดิ เห็นและตอบคำถาม ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุป
7.5 ให้นักเรียนศึกษาขั้นตอนการนำเสนองานด้วยโปรแกรม Microsoft powerpoint
จากแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
7.6 ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ร่วมกันวางแผนขั้นตอนการนำเสนอข้อมูลด้วย
โปรแกรม Microsoft powerpoint ท่ีจะนำไปปฏิบัติจริง โดยให้วาดภาพสำเร็จของงานและเขียน
อธิบายข้ันตอนการนำเสนอขอ้ มลู ดว้ ยโปรแกรม Microsoft powerpoint ลงในแผนภาพ
196
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551
7.7 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต การแก้ไขปัญหา
ในภาวะวิกฤต
คำถามเพื่อการสะท้อน (R)
- จากการเรียนรู้การสร้างขอ้ มูลจากโปรแกรม Microsoft PowerPoint แล้ว
นักเรยี นมคี วามรูส้ ึกตอ่ การเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างไร
- นกั เรยี นคิดว่าข้อมลู ของบคุ คลแตล่ ะคนมีความลับทแ่ี ตกตา่ งกันหรือไม่
เพราะอะไร
- ข้อมูลเหล่าน้ีผูอ้ ืน่ จะรู้ได้หรือไม่
คำถามเพอ่ื การเช่อื มโยง (C)
- นกั เรียนคดิ ว่าความลบั คอื อะไร
- ทผ่ี า่ นมานกั เรียนเคยมคี วามรสู้ ึกไมพ่ อใจหรอื ไดร้ ับความเดือดร้อน
จากการไม่รกั ษาความลบั ของเพอ่ื บา้ งหรือไม่ เพราะอะไร
- การนำความลับผู้อ่ืนไปเปิดเผยให้ผู้อ่ืนเสียหายเปน็ บุคคลท่ีควรคา่ ต่อคำว่าเพอ่ื น
หรอื ไม่อยา่ งไร
คำถามเพือ่ การปรบั ใช้ (A)
- นกั เรยี นจะรกั ษาความลับของเพือ่ นไดอ้ ย่างไร
- หากเพื่อนมีความลบั ทตี่ อ้ งการความช่วยเหลอื นกั เรียนจะทำอย่างไร เช่น
การลอกการบา้ นเพราะทำการบ้านไมไ่ ด้ การมเี พศสัมพนั ธ์ การมีความรกั ฯลฯ
8. สอ่ื การเรยี นรู้
8.1 ใบความร้เู รือ่ ง วธิ กี ารเกบ็ ขอ้ มูลลงในโปรแกรม Microsoft PowerPoint
8.2 ใบกิจกรรม
9. การประเมนิ ผล
9.1 ตรวจผลงานท่ีนำเสนอ
9.2 สงั เกตพฤติกรรมการแสดงความคดิ เห็นจากใบกิจกรรมและประเด็นคำถาม R - C - A
197
แนวทางการพฒั นาทกั ษะชวี ติ บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กล่มุ สาระการเรยี นร
ู้
แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรบู้ ูรณาการทกั ษะชวี ติ
ในกล่มุ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี
สาระที่ 4 การงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4
เรอ่ื ง โครงงานประดษิ ฐ์ทีใ่ ชใ้ นชีวิตประจำวนั เวลา 2 ชัว่ โมง (และนอกเวลา)
1. มาตรฐานการเรยี นร
ู้
- ง 4.1 เข้าใจ มที กั ษะทจ่ี ำเปน็ มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยี
เพือ่ พฒั นาอาชพี มคี ณุ ธรรม และมเี จตคติทด่ี ตี อ่ อาชีพ
2. สาระ/ตัวชว้ี ดั
- การงานอาชพี
คน้ หาขอ้ มูล และติดตอ่ สือ่ สารผ่านเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ อย่างมีคุณธรรมและจรยิ ธรรม
3. วตั ถุประสงค์
- อธิบายกระบวนการฝกึ ทกั ษะอาชพี ตามโครงงานประดษิ ฐท์ ใ่ี ช้ในชีวิตประจำวัน
4. องค์ประกอบทกั ษะชีวิต
- มีทักษะในการกำหนดเป้าหมายและทิศทางสู่ความสำเร็จวางแผนปฏิบัติตนตามแผน
และปรับปรุงใหม้ โี อกาสประสบความสำเรจ็ ตามเป้าหมาย
5. สาระการเรยี นรู้
- โครงงานประดิษฐส์ ิง่ ของเคร่ืองใช้ในชีวิตประจำวัน
6. ภาระงาน/ช้ินงานท่ีควรปรากฏ
6.1 รายงานโครงงานการประดษิ ฐ์
6.2 สิ่งประดษิ ฐ์ทไ่ี ด้จากโครงงาน
7. กิจกรรมการเรียนรู้
7.1 ครูสนทนาเกี่ยวกับงานที่ทุกคนต้องปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวัน ส่ิงของเคร่ืองใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั
198
หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
7.2 แบ่งกลุ่มให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับส่ิงของเคร่ืองใช้ในชีวิตประจำวัน และ
เปรียบเทียบส่ิงของที่ใช้และท่ีไม่ใช้พลังงาน ทรัพยากรอย่างประหยัด คุ้มค่า ยั่งยืนและอนุรักษ
์
ส่ิงแวดลอ้ มพร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ
7.3 นักเรยี นนำเสนอผลการรวบรวมข้อมูลตามใบงาน
7.4 ครใู ห้ความรู้เกย่ี วกบั การทำโครงงาน
7.5 แบ่งกลุ่มให้นักเรียนทำโครงงานประดิษฐ์ส่ิงของเคร่ืองใช้ในชีวิตประจำวันที่มี
ประโยชน์ ใชพ้ ลังงาน ทรัพยากรอย่างประหยัด คุ้มค่า ยั่งยืนและอนุรักษ์สง่ิ แวดล้อม
7.6 นักเรียนวางแผนการทำโครงงานอย่างเป็นข้ันตอนตามใบกิจกรรมและการเขียน
โครงรา่ งของโครงงาน
7.7 นกั เรียนนำเสนอโครงรา่ งโครงงานและวิพากษ์ความเปน็ ไปไดข้ องการดำเนนิ โครงงาน
7.8 นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ปฏบิ ัตกิ ารแผนการดำเนนิ ตามลำดบั ขัน้ ตอนโครงงาน
7.9 ครูจัดเวทใี หน้ ักเรียนมกี ารแลกเปลย่ี นเรียนร้กู ารทำโครงงาน
7.10 นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สรปุ ผลและรายงานผลการทำโครงงาน
7.11 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่อื พฒั นาทกั ษะชีวิต ความสามารถในการ
สรุปความสำเร็จจากประสบการณเ์ ป็นบทเรียนชีวติ ตนเอง
คำถามเพอื่ การสะทอ้ น (R)
- นกั เรียนมคี วามรู้สกึ อย่างไรเมอ่ื งานสำเร็จและมผี ลงานมานำเสนอ
- นกั เรียนคดิ ว่าสิ่งสำคญั ท่สี ดุ ท่ีทำให้นกั เรียนทำงานสำเร็จและมผี ลงานคดิ อะไร
- และคดิ วา่ อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดทีร่ บกวนการทำงานทเ่ี กอื บจะทำให้การทำงาน
ล้มเหลว
คำถามเพอ่ื การเชื่อมโยง (C)
- ที่ผ่านมานักเรยี นเคยวางแผนการทำงานหรอื ไม่
- หากเปรยี บเทยี บการดำเนินงานดว้ ยแผนงานครั้งนี้ มขี อ้ ดแี ละมีระบบแตกตา่ ง
กนั อยา่ งไรบ้าง ผลการทำงานรว่ มกันเปน็ อยา่ งไรบ้าง
- หากนกั เรียนจะสรุปวิธกี ารดำเนินงานสู่ความสำเร็จเพือ่ เปน็ บทเรยี นตวั เองและ
อาจเผยแพร่ผอู้ ืน่ จะสรปุ ไดอ้ ยา่ งไรมีหวั ข้ออะไรบ้างและจะตัง้ ช่ือวา่ อยา่ งไร
คำถามเพอ่ื การปรับใช้ (A)
- บทเรียนสำคญั ท่ีเป็นความทรงจำทดี่ ีท่ีนักเรียนจะนำไปเปน็ แนวทางการทำงาน
ต่อไปในอนาคตคืออะไร มขี อ้ ปฏิบตั อิ ยา่ งไรบา้ นใหบ้ ันทึกไว
้
199
แนวทางการพฒั นาทกั ษะชวี ติ บรู ณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร
ู้
8. สื่อการเรียนรู้
8.1 ตวั อยา่ งโครงงาน
8.2 ตวั อยา่ งส่งิ ของเครือ่ งใช้ในชวี ิตประจำวัน
9. การประเมนิ ผล
9.1 สงั เกตกระบวนการทำโครงงานการปรบั ปรุงงานของนักเรียนเปน็ กลุ่ม
9.2 สงั เกตการแสดงความคิดเห็น การนำเสนอโครงงานและการตอบคำถาม R - C - A
9.3 ตรวจสอบโครงงาน คณุ ค่า ประโยชน์ และความสมบูรณข์ องโครงงาน
200
ตวั อยา่ ง
การพัฒนาทกั ษะชวี ิตบูรณาการการเรยี นการสอน
กลมุ่ สาระการเรยี นร
ู้
ภาษาต่างประเทศ
แนวทางการพฒั นาทกั ษะชวี ิต บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้
พฤติกรรมทักษะชีวติ ที่สอดคลอ้ งกบั ตัวชวี้ ดั มาตรฐานการเรียนร
ู้
กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
(สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสือ่ สาร สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสมั พันธ์กับกลุ่มสาระ
การเรียนรู้อื่น สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ ับชมุ ชนและโลก)
องคป์ ระกอบ
รายละเอียดองค์ประกอบทกั ษะชีวติ
ที่สอดคล้อง
ทีส่ อดคล้องกบั ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้
ช้ัน
1 2 3 4
1. ตระหนกั รู้และ 2. คดิ วิเคราะห์ 3. การจัดการกับ 4. การสรา้ ง
เหน็ คุณค่า
ตดั สินใจและ
อารมณ์และ สมั พนั ธภาพท่ีดี
ความเครียด
ในตนเองและผ้อู ืน่
แกป้ ญั หาอยา่ ง กับผ้อู ่นื
สรา้ งสรรค์
ป.1 ✓ ✓ - ✓
1. แสดงความ 1. ตง้ั คำ
ถามท่ีนำไปสู่ -
ฟงั ผอู้ ื่นอยา่ งตั้งใจ
สามารถของ
คำตอ
บท่ีเปน็
และรับรคู้ วามร้สู กึ
ตนเองให้ผูอ้ ืน่ รบั รู้
แนว
ทางในการ
ของผ้พู ดู
2. บอกจดุ เด่นจุดด้อย แสกถาไ้ ขน
ปกญัารหณาใ์ตนา่ ง ๆ
ของตนเอง
และมีแนวทางหา
คำตอบ
2. วเิ คราะหค์ วาม
นา่ เช่อื ถอื ของ
ข้อมูลอยา่ งสมเหตุ
สมผล
ป.2 - ✓ - ✓
-
วิเคราะหค์ วาม
-
ใช้ภาษาและกริ ยิ า
น่าเชอื่ ถือของข้อมูล
ท่เี หมาะสม
อยา่ งสมเหตสุ มผล
ในการสื่อสาร
ป.3 ✓ ✓ ✓ ✓
1. ยอมรับความ
1. วเิ คราะหข์ อ้ มูล จัดการกับอารมณ์
1. แสดงออกหรือ
แตกต่างระหวา่ ง ข่าวสารจำแนก ของตนเองท่ีเกิดข้ึน
สะทอ้ นความรู้สกึ
ตนเองกับผ้อู ืน่
แยกแยะดว้ ย อยา่ งฉบั พลนั ด้วย
ของตนเองที่แสดง
2. แสดงความ เหตผุ ลทีน่ ่าเชื่อถือ วิธีการทีเ่ หมาะสม
ความเข้าใจใส่ใจ
สามารถของตนเอง ได
้
ผอู้ ืน่
ใหผ้ อู้ ่นื รบั รู
้ 2. คาดคะเน
2. ใชภ้ าษาและกิริยา
ความเสย่ี งจาก
ทเ่ี หมาะสมในการ
สถานการณท์ ี่
ส่ือสาร
เผชญิ ในชวี ิต
ประจำวนั
202
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
องค์ประกอบ
รายละเอยี ดองคป์ ระกอบทักษะชวี ิต
ท่สี อดคลอ้ ง
ท่สี อดคลอ้ งกบั ตัวชี้วดั มาตรฐานการเรยี นร
ู้
ชัน้
1 2 3 4
1. ตระหนักรแู้ ละ 2. คดิ วเิ คราะห์ 3. การจัดการกับ 4. การสรา้ ง
เห็นคุณคา่
ตดั สนิ ใจและ
อารมณ์และ สมั พนั ธภาพท่ีดี
ความเครยี ด
ในตนเองและผ้อู ื่น
แก้ปัญหาอย่าง กบั ผูอ้ น่ื
สรา้ งสรรค์
ป.4 ✓ - - -
1. ใชส้ ทิ ธขิ องตน
สรา้ งแล
ะแสดงผลงาน -
แสดงออกหรือ
ในโอกาสตา่ ง ๆ
ท่ีเกิดจา
กการคิด
สะท้อนความรูส้ ึกของ
2. ไมล่ ะเมดิ สทิ ธิผู้อื่น
เชื่อมโย
งและ
ตนเอง แสดงความ
3. แสดงความ
จนิ ตนา
การ
เขา้ ใจและใสใ่ จผูอ้ ่ืน
สามารถของ
ตนเองให้ผู้อืน่ รับร้
ู
ป.5 ✓ - - -
1. กล้าแสดงความคดิ 1. มที กั ษะการ -
พดู แสดงความ
ความรสู้ ึกและการ แสวงหาและใช้
ต้องการขอความ
กระทำของตนด้วย ข้อมูลจากแหล่ง
ชว่ ยเหลอื การปฏิเสธ
ความมั่นใจ
เรียนรตู้ ่าง ๆ
ในสถานการณต์ ่าง ๆ
2. ปฏบิ ัตติ นเปน็ 2. วเิ คราะหจ์ ำแนก
ประโยชนต์ ่อ แยกแยะขอ้ มลู
ครอบครวั และ ขา่ วสารและ
สังคม
สถานการณต์ า่ ง ๆ
รอบตัวดว้ ยเหตุผล
ทเ่ี ชือ่ ถอื ได
้
ป.6 ✓ ✓ - ✓
1. กล้าแสดงความคดิ วิเคราะห์จำแนก -
1. ปฏบิ ัติตามกฎ
ความร้สู ึกและ
แยกแยะข้อมลู ข่าวสาร
ขอ้ ตกลงของกลุ่ม
การกระทำของตน
และสถานการณ
์
ชั้นเรียนและสังคม
ดว้ ยความมั่นใจ
ตา่ ง ๆ รอบตัวด้วย
2. ใชภ้ าษาและกริ ิยา
2. ยอมรบั ความ
เหตผุ ลท่เี ชอ่ื ถือได
้
ทีเ่ หมาะสมในการ
แตกต่างทางกาย
ส่อื สาร (ใชภ้ าษา
ความคดิ ความรสู้ ึก
พูด ภาษากาย
ของตนเอง
ท่ที ำใหผ้ ู้อน่ื
และผอู้ ืน่
ผอ่ นคลายสบายใจ
3. แสดงความ
ไม่กอ่ ใหเ้ กิด
สามารถของตนเอง
ผลกระทบตามมา
ให้ผู้อ่นื รบั รู้
203
แนวทางการพัฒนาทักษะชวี ิต บรู ณาการการเรยี นการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นร
ู้
องคป์ ระกอบ
รายละเอยี ดองคป์ ระกอบทักษะชวี ิต
ทสี่ อดคล้อง
ท่สี อดคลอ้ งกับตัวช้วี ดั มาตรฐานการเรียนร้
ู
ชน้ั
1 2 3 4
1. ตระหนกั ร้แู ละ 2. คดิ วเิ คราะห์ 3. การจัดการกับ 4. การสร้าง
เหน็ คณุ ค่า
ตัดสนิ ใจและ
อารมณ์และ สัมพันธภาพทด่ี
ี
ความเครียด
ในตนเองและผอู้ ืน่
แกป้ ญั หาอย่าง กบั ผู้อื่น
สรา้ งสรรค
์
ม.1 ✓ ✓ - ✓
1. วเิ คราะหล์ กั ษณะ 1. ตดั ส
นิ ใจใน -
กลา้ แสดงความคิดเห็น
สว่ นตน อุปนิสัย สถาน
การณ์ตา่ ง ๆ
อยา่ งสร้างสรรค์
และค่านิยมของ ที่เผช
ิญด้วย
ตนเอง
เทหามงาเ
ละือสกมท
่ี
2. ยอมรับในความ
แตกต่างทาง
2. แสวงหาข้อมลู จาก
ความคิดความรูส้ ึก แหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ
และพฤติกรรมของ ดว้ ยและใช้
ตนเองและผู้อ่นื
ประโยชน์กบั
3. คน้ พบความถนดั ตนเองและผอู้ น่ื
ความสามารถของ
ตนเอง
ม.2 ✓ - - ✓
1. ยอมรับในความ -
-
1. ทำงานรว่ มกบั ผ้อู ่นื
แตกตา่ งทาง
บนพื้นฐานของ
ความคดิ ความรสู้ กึ
ความเป็น
และพฤติกรรมของ
ประชาธปิ ไตยได้
ตนเองและผูอ้ ่นื ได้
อยา่ งราบรน่ื
อย่างมเี หตุผล
2. กล้าแสดงความ
คิดเห็นของตนเอง
ตอ่ สถานการณ์
ต่าง ๆ อยา่ งมี
เหตุผลและหลกั
วชิ าการ
ท่ีเหมาะสม
3. อาสาชว่ ยเหลอื
ผู้อ่ืนด้วยความ
เตม็ ใจโดยไม่หวัง
ผลตอบแทน
204
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
องคป์ ระกอบ
รายละเอียดองคป์ ระกอบทกั ษะชวี ิต
ทสี่ อดคล้อง
ทีส่ อดคล้องกบั ตวั ชว้ี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้
ชัน้
1 2 3 4
1. ตระหนักรแู้ ละ 2. คดิ วิเคราะห์ 3. การจัดการกับ 4. การสรา้ ง
เห็นคณุ ค่า
ตดั สินใจและ
อารมณแ์ ละ สมั พนั ธภาพท่ดี
ี
ความเครยี ด
ในตนเองและผอู้ ืน่
แกป้ ญั หาอย่าง กับผูอ้ ่ืน
สร้างสรรค
์
ม.3 ✓ - - -
1. ปฏบิ ัติตามสทิ ธิ 1. มองโ
ลกในแง่ดี
-
1. มวี ิธีการส่อื สารกับ
ของตนเอง
มคี ว
ามยืดหยุ่น
ผู้อน่ื ทงั้ ดา้ นภาษา
2. แสดงออกทาง ทางค
วามคดิ
พูด ภาษากาย
แคลวาะมกคาิดรกครวะาทมำร้สู ึก
2. แแหสวลง
ง่ หเรายี ขน้อรมู้ตูลา่ ง ๆ
ดว้ ยความสภุ าพ
และเปน็ มิตร
ของตนเอง
และใช้ประโยชน์
2. อาสาช่วยเหลอื ผูอ้ ่ืน
ด้วยความมน่ั ใจ
กับตนเองและ
โดยไม่หวังผล
ผ้อู น่ื
ตอบแทน
ม.4-6 ✓ ✓ ✓ ✓
1. วางแผนกำหนด 1. สร้างสรรค์ผลงาน 1. มีวิธสี ร้างความสุข 1. กล้าแสดง
เป้าหมาย
และแสดงออกได้ ให้กับตนเองและ
ความคิดเหน็ ของ
การดำเนนิ ชีวิต
เปน็ ทย่ี อมรบั
ผู้อ่นื ไดเ้ หมาะสม ตนตอ่ สถานการณ์
2. ปฏิบตั ติ นตาม 2. แสวงหาขอ้ มูลจาก กับเหตกุ ารณ
์ ตา่ ง ๆ อย่างมี
แผนการดำเนนิ แหล่งเรยี นรตู้ ่าง ๆ 2. ปรบั ความคิดความ เหตุผลและ
ชวี ิตทีก่ ำหนดไว้ ดว้ ยวิธกี ารทมี่ ี รูส้ กึ และอารมณ์ หลักวชิ าการ
และปรับปรุงใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพและ ความเครยี ด
ที่เหมาะสม
โอกาสประสบ ใชป้ ระโยชนก์ ับ ดว้ ยวธิ กี ารท่ีถูกต้อง 2. ปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา
ความสำเร็จตาม ตนเองแลผอู้ น่ื
และสรา้ งสรรค์
ของสังคม
เปา้ หมายทว่ี างไว้
อย่างเต็มใจ
ทกุ สถานการณ
์
3. มีวธิ กี ารสื่อสารกับ
ผอู้ ื่นทง้ั ดา้ นภาษา
พดู ภาษากาย
ดว้ ยความสุภาพ
และเป็นมิตร
205
แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ิต บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร
ู้
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรบู้ ูรณาการทักษะชีวิตในกลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ
รายวิชา ภาษาต่างประเทศ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1
เร่อื ง การพูดเกี่ยวกบั ร่างกายของตนเอง เวลา 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรียนรู
้
- ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
2. สาระ/ตัวช้ีวัด
- พดู ให้ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเองและคนใกล้ตัว
3. วัตถุประสงค์
3.1 นักเรยี นบอกขอ้ มลู (ชื่อ อายุ รูปรา่ ง สว่ นสงู ของตนเองได)้
3.2 นักเรียนบอกสง่ิ ที่ดแี ละชื่นชอบในตัวของนักเรยี นได ้
4. องค์ประกอบทกั ษะชวี ติ
- รจู้ ักความถนดั และความสามารถของตนเอง
4.1 บอกสง่ิ ทต่ี นเองชืน่ ชอบ และภาคภมู ิใจ
4.2 แสดงความสามารถของตนเองใหค้ นอ่ืนรับร้
ู
5. สาระเนื้อหา
- สว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกาย
6. ภาระงาน/ชนิ้ งานทค่ี วรปรากฏ
- เรียกชื่ออวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายของตนเอง หรือของเพื่อนได้ถูกต้องตามคำศัพท์
ภาษาอังกฤษ
7. กิจกรรมการเรียนร
ู้
7.1 ครู แนะนำชื่อครู จากประโยค My name is…………..
206
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551
ต้งั คำถามนักเรยี น What’ your name ?
ใหน้ ักเรยี นตอบตามแบบครู (ฝึกพดู จนคล่อง)
7.2 ครนู ำเสนอ คำศพั ทเ์ ก่ยี วกับสว่ นต่างๆ ของรา่ งกาย (โดยชตี้ ามรา่ งกาย)
What’s this ?
It’s a nose .
It’s a hand ….
ฯลฯ
7.3 นกั เรยี นฝึก พดู ตาม พร้อมทัง้ ใชส้ ่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย
7.4 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต รักและเห็นคุณค่า
ในตนเอง
คำถามเพอื่ การสะท้อน (R)
1. หนมู ีความร้สู ึกอย่างไรที่เห็นคนไมม่ แี ขน/ขา/พิการ
2. ร่างกายของหนูสว่ นไหนสำคญั ที่สุด เพราะเหตุใด ชอบสว่ นไหนของ
ร่างกายหนู
คำถามเพ่ือการเชือ่ มโยง (C)
1. นักเรยี นเคยเหน็ คนพิการ (แขน, ขา ฯลฯ) หรือไม่ เขาดำเนนิ ชีวิตไดอ้ ย่างไร
2. ถา้ หนูเปน็ คนพิการ หนูอยากให้คนอน่ื ปฏบิ ตั ิตอ่ หนอู ยา่ งไร
คำถามเพือ่ การปรับใช้ (A)
1. ในอนาคตหนเู หน็ คนพกิ ารหนูจะทำอย่างไร
2. ถา้ หนูไม่อยากให้ตนเองพกิ าร หนูจะดแู ลตนเองใหป้ ลอดภัยอยา่ งไรบา้ ง
8. สอื่ การเรยี นรู้
8.1 ภาพส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย, ภาพคน, ตัวคร,ู ตวั นักเรยี น
8.2 คำศพั ท์ สว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย
9. การประเมนิ ผล
9.1 การบอกส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย
9.2 ความตระหนกั และภาคภมู ิใจในคณุ คา่ ของตนเอง
10. ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- ใหน้ ักเรียนออกมานำเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น เพอ่ื อธิบายร่างกายตนเอง สิ่งทภี่ าคภูมใิ จ
207
แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ิต บรู ณาการการเรยี นการสอน 8 กลุม่ สาระการเรียนร
ู้
แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนร้บู รู ณาการทักษะชวี ติ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
รายวชิ า ภาษาต่างประเทศ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
เรือ่ ง การปฏิบัตติ ามคำสั่ง คำแนะนำ เวลา 1 ช่วั โมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
- ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่อื งที่ฟัง และอ่านจากส่อื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
2. สาระ/ตวั ช้ีวัด
- ปฏิบัติตามคำส่ังและคำแนะนำ (instructions) งา่ ย ๆ ทฟ่ี งั หรืออ่าน
3. วตั ถปุ ระสงค
์
3.1 นกั เรยี นสามารถปฏิบัตติ นตามคำส่งั คำแนะนำ อย่างง่าย ที่ฟงั หรอื อ่านได้
3.2 นักเรยี นสามารถปฏบิ ัติตาม คำสัง่ คำแนะนำ โดยไม่ละเมิดสทิ ธขิ องผ้อู ื่น
4. องคป์ ระกอบทักษะชวี ิต
- เคารพสิทธิของตนเองและผอู้ ่นื : ไม่ละเมิดสิทธิผอู้ นื่
5. สาระเนอ้ื หา
- คำส่งั , คำแนะนำ
6. ภาระงาน/ชนิ้ งานท่คี วรปรากฏ
- ผลงานการเขยี นประโยคตามคำส่งั หรอื คำแนะนำ
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7.1 ครูและนกั เรยี นร่วมสนทนาเกีย่ วกับคำส่งั , คำแนะนำ
7.2 ครูใชค้ ำสงั่ คำแนะนำ ระดับช้ันเรียนแกน่ ักเรยี น
7.3 นักเรียนฝึกออกคำสง่ั และให้คำแนะนำกบั เพื่อนจนคล่อง
7.4 นักเรยี นฝึกปฏิบตั ิตามคำสัง่ , คำแนะนำ โดยรจู้ ักรับฟงั คำสง่ั และคำแนะนำของผู้อื่น
7.5 นักเรียนรวมกลุ่ม 5 คน สร้างประโยคคำสัง่ , คำแนะนำ
208
หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551
7.6 สนทนาด้วยเทคนคิ คำถาม R - C - A เพ่อื พฒั นาทักษะชวี ติ การรู้จกั เอาใจเขามา
ใสใ่ จเราและกล้ายืนยนั ความคิดตนเอง
คำถามเพอ่ื การสะท้อน (R)
- นกั เรียนรู้สึกอย่างไร ถา้ มใี ครมาออกคำสั่งใหเ้ ราทำบางอย่างโดยไมเ่ กรงใจเรา
คำถามเพ่ือการเชอื่ มโยง (C)
- นักเรียนเคยเหน็ คนทไ่ี มเ่ กรงใจผ้อู ่ืน และใช้คำสั่งกับผู้อื่นโดยไม่คำนึงถงึ สิทธ
ิ
ส่วนบคุ คลหรือไม่
- นักเรียนเคยออกคำสัง่ กับคนอ่ืนด้วยคำพดู /กิริยาทแ่ี สดงว่าเปน็ ผ้มู อี ำนาจ
หรอื ตำแหนง่ ทส่ี งู กวา่
คำถามเพอื่ การปรับใช้ (A)
- จากประสบการณท์ ่นี กั เรียนเห็นการกระทำเหลา่ น้ัน ในการดำเนินชีวติ
ของนักเรยี น ต่อไปจะทำตนอย่างไรในสถานการณท์ ่ไี มเ่ หมาะสมนน้ั
- หากมผี ู้มาออกคำสัง่ ให้นักเรียนกระทำ (บังคับ) ในสิ่งทไี่ ม่ถูกตอ้ ง นกั เรียน
จะตัดสนิ ใจทำอยา่ งไร
8. ส่อื การเรียนรู้
- แถบประโยคคำสั่ง, คำแนะนำ
9. การประเมนิ ผล
9.1 ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติตามคำสงั่ คำแนะนำ
9.2 ผลงานการเขียนประโยค คำส่ัง คำแนะนำ
9.3 พฤตกิ รรมการปฏิบัติตนตามสิทธิของตนเอง
10. ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติมในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
- กจิ กรรมสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในการสอนรายวชิ าอ่นื ได้
209
แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ติ บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร
ู้
แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรบู้ รู ณาการทกั ษะชวี ติ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
รายวชิ า ภาษาต่างประเทศ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2
เรือ่ ง การอา่ นข่าว เวลา 1 ชัว่ โมง
1. มาตรฐานการเรียนร
ู้
- ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งทีฟ่ งั และอ่านจากส่อื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมีเหตุผล
2. สาระ/ตวั ชี้วดั
- อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองส้ัน ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น
3. วตั ถุประสงค
์
3.1 เพอ่ื อ่านออกเสียง ขา่ ว ทีถ่ กู ตอ้ งตามหลักการอ่าน
3.2 เพื่อใหส้ ามารถวิเคราะห์ข่าวได้อย่างสร้างสรรค ์
4. องคป์ ระกอบทักษะชีวิต
- ทำงานรว่ มกบั ผูอ้ นื่ บนพนื้ ฐานความเปน็ ประชาธปิ ไตยและมจี ติ อาสาชว่ ยเหลือสังคม
5. สาระเน้ือหา
- การอ่านขา่ วหนังสือพิมพ์
6. ภาระงาน/ชน้ิ งานทีค่ วรปรากฏ
- ผลงานการสรปุ ข่าวของนกั เรยี น
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
7.1 แบ่งกลุม่ นกั เรียน ศกึ ษาข่าว หนังสอื พิมพ์ กลมุ่ ละ 5 คน
7.2 ตวั แทนกลมุ่ อ่านออกเสียงขา่ วใหเ้ พ่อื นฟังในกลุ่ม
7.3 นกั เรียนในกลุ่มช่วยปรบั ปรุงแกไ้ ขการอา่ นให้ถูกต้อง
210
หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551
7.4 นักเรยี นในกลุ่มชว่ ยกนั สรปุ ข่าว
7.5 ตัวแทนกลมุ่ นำเสนอการอ่านข่าว และสรุปข่าว
7.6 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต การตัดสินใจ
ในสถานการณอ์ ย่างมีเหตผุ ลและรอบคอบ
คำถามเพ่อื การสะทอ้ น (R)
1. นกั เรียนฟงั ขา่ วนี้แล้วร้สู ึกอย่างไร
คำถามเพ่ือการเชื่อมโยง (C)
1. ทผ่ี า่ นมานักเรยี นสามารถหาขา่ วจากแหลง่ ขา่ วใดบ้าง
2. ข่าวนั้นเชอื่ ถือไดห้ รอื ไม่ ? เพราะเหตุใด
3. นักเรยี นมีวธิ ีการใดทจี่ ะตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชอ่ื ข่าวนัน้
คำถามเพือ่ การปรับใช้ (A)
1. ในโอกาสต่อไปถ้านักเรียนรับข่าวสารแล้วจะมีวิธีการนำไปสู่การเลือกคิดตัดสินใจ
ในข่าวอยา่ งไร
8. สอ่ื การเรยี นรู้
- ข่าวสารประจำวันจากหนงั สอื พมิ พ์ วิทยหุ รืออนิ เทอรเ์ น็ต
9. การประเมินผล
9.1 ตรวจผลงาน
9.2 การทำงานรว่ มกับผอู้ น่ื ตามวิถีประชาธิปไตย
10. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการจดั กจิ กรรมการเรยี นร
ู้
10.1 นำไปจัดกิจกรรม ซ้ำ ๆ เพื่อให้นักเรียนได้คิดริเริ่ม ไตร่ตรอง การนำไปใช้ในชีวิต
ประจำวัน
10.2 มอบหมายใหน้ ักเรยี นศกึ ษาข่าวสารเป็นประจำ (โครงการรักการอา่ น)
211
แนวทางการพัฒนาทักษะชีวติ บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นร
ู้
แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรบู้ ูรณาการทักษะชีวติ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
รายวิชา ภาษาต่างประเทศ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6
เรือ่ ง พูดและเขียนแสดงความร้สู ึก เวลา 1 ชวั่ โมง
1. มาตรฐานการเรยี นร
ู้
- ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารแสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็น อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
2. สาระ/ตัวช้วี ดั
- พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกับเร่ืองต่าง ๆ
กจิ กรรม ประสบการณ์และขา่ วเหตุการณอ์ ย่างมเี หตุผล
3. วตั ถุประสงค์
3.1 นักเรียนพูดและเขยี น บรรยายความรู้สกึ จากข่าวเหตกุ ารณ์ได
้
3.2 นักเรียนสามารถสร้างความสุขให้กบั ตนเองและผ้อู ่ืนได
้
4. องค์ประกอบทักษะชีวติ
ร้จู กั สร้างความสขุ ให้กับตนเองและผอู้ น่ื
ใช้วิธีสร้างความสุขให้กับตนเองและผ้อู ืน่ ไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค
์
5. สาระเนอ้ื หา
- การพดู และเขยี นแสดงความรูส้ ึก (ภาษาท่ใี ชใ้ นการแสดงความรสู้ กึ )
6. ภาระงาน/ช้ินงาน
- ผลงานกลุม่ การเขยี นแสดงความร้สู กึ จากการอา่ นข่าวทีก่ ำหนดให้
7. กจิ กรรมการเรียนร
ู้
7.1 แบ่งกลมุ่ นักเรียนกลุ่มละ 5 คน
7.1.1 นกั เรยี นศกึ ษาใบงาน “ข่าวเหตกุ ารณ์ พดู คุยแลกเปลี่ยนความคดิ เห็น”
212
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
7.1.2 นกั เรยี นเขยี นแสดงความรูส้ ึกของตนเองทม่ี ตี อ่ ขา่ ว
7.1.3 ตัวแทนกลุ่มนำเสนอการเขียนแสดงความรู้สึกและแนวทางการปรับตัวเม่ือ
เผชิญกบั ขา่ ว ใหเ้ กิดความสุข
7.1.4 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต การผ่อยคลาย
ความเครียด
คำถามเพ่อื การสะทอ้ น (R)
1. นกั เรยี นมคี วามรสู้ ึกอยา่ งไรต่อขา่ วและเหตุการณ์ทอี่ ่าน
2. ความรูส้ กึ ส่งผลตอ่ ปฏิกิรยิ าทางกายอย่างไรเมือ่ มีอาการ เช่น เศร้า เสียใจ
คำถามเพอ่ื การเชอ่ื มโยง (C)
1. นักเรียนเคยมีความรู้สึกเครียดบ้างหรือไม่ ถ้าเคยเครียดนักเรียนจัดการกับ
ความเครียดได้อยา่ งไร
2. นักเรียนมีวิธีใดที่ทำตนเองผ่อนคลายความเครียดหรือสร้างความสุขให้กับตนเอง
และผ้อู นื่
คำถามเพอื่ การปรับใช้ (A)
ถ้านักเรียนมีความเศร้าเสียใจ จะมีวิธีการสร้างสุข ลดความเครียดให้กับตัวเองได้
อย่างไรบ้าง
8. สอื่ การเรยี นร้
ู
- ขา่ ว เหตุการณ์ปจั จุบัน
9. การประเมินผล
9.1 ผลงานการเขียนแสดงความรู้สึก
9.2 แบบประเมินความพงึ พอใจจากการอา่ น
10. ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติมในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู
้
- ใหน้ กั เรยี นไดฝ้ ึกการขจัดความเครียดจากการอ่านข่าวเปน็ ประจำ
213
แนวทางการพัฒนาทักษะชีวิต บรู ณาการการเรยี นการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นร
ู้
4
ประเดน็ คำถาม R - C - A
คำถาม R - C - A ทนี่ ำไปสูก่ ารพฒั นาทกั ษะชีวติ องค์ประกอบการตระหนกั รู้และเหน็ คณุ คา่
ในตนเองและผู้อื่น การคิดวิเคราะห์ตัดสินใจและแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ การจัดการกับอารมณ์และ
ความเครียด และการสร้างสัมพันธ์ภาพที่ดีกับผู้อ่ืน สำหรับการบูรณาการในการเรียนการสอน
ผ่านกิจกรรมการเรียนรแู้ ละการสนทนา อภปิ รายในสาระการเรียนรู้ตา่ ง ๆ มีตัวอย่าง ดังน
้ี
1. คำถาม R - C - A
สำหรับนกั เรียนระดับประถมศึกษา
องค์ประกอบพฤติกรรม คำถามเพอ่ื การสะทอ้ น
คำถามเพ่ือการเชอื่ มโยง คำถามเพ่อื การปรับใช้
ทกั ษะชีวติ
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
1. องค์ประกอบที่ 1 ขณะทำกิจกรรมเราคน้ พบ
เราตอ้ งใชท้ ักษะอะไรบ้าง
นกั เรยี นคิดวา่ ความสามารถ
ตระหนักรแู้ ละเห็นคุณค่า วิธใี ดทจี่ ะรู้วา่ ตนเอง
เพ่ือให้เหน็ คุณค่าในตนเอง
เฉพาะด้านนำไปใช
้
ในตนเองและผอู้ ่ืน (รู้จกั มีความสามารถ ยกตัวอย่าง มคี ร้งั ไหนบ้างในชีวิตทเ่ี ราใช้ ในเหตกุ ารณ์ประจำวัน
ตนเอง)
ความสามารถของตนเอง
ความสามารถของตนเอง
ได้อย่างไร เราจะทำอยา่ งไร
1.1 รจู้ ักความถนัดและ ท่ีสังเกตเหน็ ในระหว่าง ให้เกดิ ประสิทธภิ าพ
ใหแ้ นใ่ จว่าความสามรถของ
ความสามารถของตนเอง
กจิ กรรม
ตนเองนำไปใช้ใหเ้ กิด
ประสิทธิภาพ
1.2 มีความภาคภมู ิใจ
1. นกั เรียนมีความรสู้ ึก นักเรยี นเคยทำกจิ กรรม
เม่อื โตข้นึ นักเรยี นอยากมี
ในตนเองและผูอ้ ่ืน
อยา่ งไร เมอ่ื ทำงาน
ใดบา้ งทปี่ ระสบความสำเร็จ อาชีพอะไร และจะทำ
ไดส้ ำเรจ็
และเกดิ ความภาคภูมิใจ
อย่างไรจึงจะประสบ
2. ขณะทำกจิ กรรมนักเรียน
ความสำเร็จ
ใช้วิธีการใดถึงประสบ
ความสำเรจ็
ในการเรียนวนั น้ีเรา
คร้ังหน่ึงในชีวติ เราเคยทำ
ถ้ามีโอกาสเป็นผูน้ ำ เราจะทำ
มีความภาคภมู ใิ จในตนเอง ส่ิงใดให้เราภาคภูมใิ จบา้ ง อะไรอย่างไร เพื่อใหเ้ กดิ
เรือ่ งอะไรบา้ ง
และมีประโยชน์กับตนเอง ความภาคภมู ิใจ แก่ตนเอง
และผอู้ ืน่ อย่างไร
และผ้อู ่นื
214
หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551
องคป์ ระกอบพฤติกรรม คำถามเพอื่ การสะทอ้ น
คำถามเพอื่ การเชื่อมโยง คำถามเพื่อการปรบั ใช้
ทักษะชีวติ
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
- ขณะทน่ี กั เรียนปฏิบัติ
- นกั เรียนเคยทำกิจกรรม
- ในอนาคตหากนกั เรียน
กจิ กรรม นกั เรียนมีความ
ใดบา้ งทปี่ ระสบความสำเร็จ เข้าร่วมกลมุ่ นกั เรียนจะทำ
ร้สู กึ อย่างไรที่นักเรยี น และเกดิ ความภาคภูมใิ จ
อยา่ งไรให้เราเปน็ สมาชกิ
ทำไดส้ ำเรจ็
- ทีผ่ ่านมานักเรยี นไดร้ ับ ทด่ี ีของกล่มุ
- อะไรทน่ี กั เรยี นทำไดด้ ี มอบหมายหนา้ ทอี่ ะไรบ้าง - บทบาทใดท่นี กั เรียน
ขณะที่ทำกิจกรรม
จากเพ่ือนในกลมุ่ และ ชน่ื ชอบ และมปี ระโยชน์
- เราทำให้กิจกรรมน้งี า่ ย บทบาท่ไี ดร้ ับเราชอบหรอื กบั กลมุ่ มากทส่ี ดุ
หรือยากขึน้ อย่างไร
ไม่อย่างไร
- หากนกั เรียนมคี วามภูมิใจ
- นักเรยี นคิดวา่ สมาชกิ
ในตนเองและยอมรบั
คนใดเปน็ สมาชกิ ที่ดีท่สี ุด ความคิดเห็นของคนอื่น
ในกลุ่ม เพราะเหตุใด
นักเรยี นคิดว่าจะเปน็
(มคี ณุ สมบัตอิ ย่างไรบ้าง)
ประโยชนต์ อ่ ตนเองและ
สงั คมอย่างไร
นกั เรียนรู้สึกอย่างไรกับ นกั เรียนเคยศกึ ษาเหตุการณ์ นกั เรยี นมวี ิธกี ารอย่างไร
กจิ กรรมประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
ในอดีตทสี่ รา้ งความ
ท่ีจะทำใหผ้ อู้ ่นื เกิดความ
ทีไ่ ด้เรียนมาแลว้
ภาคภูมิใจในลักษณะอย่างน้ี ภาคภูมิใจในความเป็น
นกั เรยี นภาคภูมิใจในความ หรือไมอ่ ยา่ งไร
ชาติไทยของเรา
เปน็ คนไทยอยา่ งไร
ในระหว่างเรยี น กิจกรรมใด ในอดีตนักเรยี นเคยทำ ในอนาคตเราจะสามารถทำ
บา้ งท่ีทำให้เราร้วู า่ เรา
กิจกรรมใดบา้ งทีแ่ สดงถงึ สิ่งต่าง ๆ ใหป้ ระสบความ
มีความสำคัญทส่ี ดุ
ความสามารถ และไดร้ ับ
สำเร็จ และมผี ลดตี ่อตนเอง
คำชมว่าเราเปน็ คนสำคญั และผูอ้ น่ื
ทสี่ ดุ
1.3 รักและเหน็ คุณคา่
ขณะทำกิจกรรม ใชค้ ำพูด เราจะใช้คำพดู อย่างไร เพ่อื เราจะช่วยให้ทกุ คนรสู้ กึ วา่
ในตนเองและผอู้ ่นื
อย่างไรท่ที ำใหท้ กุ คนมีความ ใหท้ ุกคนไดท้ ำงานรว่ มกัน ตนเองมคี ณุ ค่าตอ่ การทำงาน
รสู้ ึกวา่ มคี วามสำคัญต่อกล่มุ
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ในระบบกลุ่มได้อยา่ งไร
นักเรยี นมีความรสู้ ึกอย่างไร 1. นักเรยี นอยากเกดิ มาเปน็ - ถ้าอยากเปน็ หญงิ เกง่
ได้เห็นผู้หญงิ เกง่ ได้รบั รางวัล
ผู้ชายหรือเป็นผู้หญิง นักเรยี นจะทำอย่างไร
เพราะอะไร
- ถา้ อยากเป็นชายเก่งทำ
2. คนเก่งในความคิดของ อยา่ งไร
นักเรยี นเปน็ อยา่ งไร
215
แนวทางการพัฒนาทักษะชวี ติ บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรียนร
ู้
องคป์ ระกอบพฤตกิ รรม คำถามเพอ่ื การสะทอ้ น
คำถามเพ่ือการเชอ่ื มโยง คำถามเพ่ือการปรับใช้
ทกั ษะชวี ติ
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
1.4 รู้จุดเด่นจดุ ด้อยของ 1. นักเรียนได้ขอ้ คดิ อะไรบา้ ง
ทผ่ี า่ นมานักเรียนมีขอ้ ดแี ละ หากนักเรยี นเป็นตัวละครนั้น
ตนเอง
จากนิทานทีเ่ รยี น
ข้อเสียในตนเองอะไรบา้ ง นักเรยี นจะปรบั ปรงุ ตัวเอง
2. นกั เรียนอยากเป็น
(เปรียบเทียบกับตัวละคร)
อย่างไรไมใ่ หม้ ขี ้อเสียและ
ตวั ละครตัวไหน
จะทำใหข้ อ้ ดนี ้ันดขี ้ึน
เพราะอะไร
อยา่ งไรบา้ ง
3. บอกขอ้ ดีและข้อเสยี ของ
ตัวละครในเร่อื งที่นักเรียน
ชอบ
หลงั จากที่เรยี นแล้ว นกั เรยี น ที่ผ่านมา นักเรยี นเคยเลน่
ถ้านกั เรยี นมโี อกาส ได้รับ
ชอบกีฬาประเภทใด
กีฬาประเภทใดบา้ ง
การคัดเลอื กเปน็ ตัวแทน
แข่งกฬี าทตี่ นเองถนัด
จะทำอย่างไรใหป้ ระสบ
ความสำเรจ็
1.5 มคี วามเชอ่ื ม่ัน
- ให้นกั เรียนยกตัวอย่าง
- นักเรียนนึกถงึ เวลาท่เี รา - นักเรยี นทำอยา่ งไรท่จี ะ
ในตนเองและผ้อู ่ืน
สงิ่ ท่นี ักเรียนทำระหวา่ ง
รูส้ กึ วา่ ตนเองมีความม่ันใจ ทำใหต้ นเองเกิดความ
เลน่ เกมท่แี สดงถงึ การมี ทส่ี ดุ ว่าขณะนนั้ นกั เรยี น
เช่ือมัน่ ในตนเองมากขนึ้
ความเชอ่ื ม่ันในตนเอง
ทำอะไรและเพอ่ื น ๆ
- ในอนาคตถา้ นักเรียน
- นกั เรียนสังเกตพฤติกรรม มปี ฏิกิริยาตอ่ นักเรียน อยากแสดงออกถงึ ความ
ของเพือ่ นในระหวา่ ง
อยา่ งไร
เช่ือมนั่ มอี ะไรบา้ งท่ี
เลน่ เกมวา่ มพี ฤตกิ รรม - คนท่มี ีความเชอ่ื ม่ัน
นกั เรียนสามารถทำไดเ้ พือ่
อยา่ งไร
ในตนเองมลี กั ษณะอย่างไร
ให้เกดิ ความเชอ่ื มน่ั ใน
- ระหว่างเล่นเกม
- อะไรคือลกั ษณะของคน
สถานการณน์ นั้ ๆ
นักเรียนสงั เกตเหน็ ใครบ้าง ท่ีมคี วามเชอื่ ม่นั ในตนเอง - ในชมุ ชนของเราบุคคลใด
ทีเ่ ล่นด้วยความสนกุ สนาน ความเช่ือมัน่ ในตนเอง
คือคนทคี่ วรจะมีความเชื่อ
และมีความเชือ่ มั่น
มผี ลดใี นดา้ นลบและบวก มั่นในตนเองสูงเพราะ
ในตนเอง
อย่างไร
อะไร
2. องคป์ ระกอบท่ี 2 นักเรยี นไดร้ บั ความรู้อะไร ท่ีผ่านมานักเรยี นเคยหา
ถ้านักเรยี นต้องการทจ่ี ะ
วิเคราะหต์ ัดสนิ ใจและ บา้ งจากการเรียน
ความรดู้ ว้ ยวิธกี ารใดบา้ ง
ชว่ ยเพอ่ื นในการค้นควา้
แก้ไขปญั หาอย่าง
หาความรจู้ ะแนะนำอยา่ งไร
สร้างสรรค
์ ระหวา่ งการเรียนได้สงั เกต ปัญหาอะไรบ้างท่ีเรามักจะ ถา้ ในโอกาสหนา้ พบปญั หา
2.1 รู้จกั สังเกตตั้งคำถาม ปัญหา นกั เรยี นทำอยา่ งไรจึง พบอยบู่ อ่ ย ๆ และสามารถ ท่ีเราไม่สามารถแกไ้ ขได้
และแสวงหาคำตอบ
สามารถแก้ปัญหาน้ันได้
จัดการกบั ปญั หาเหล่านี้ เราจะมีวธิ กี ารอย่างไรที่จะ
อยา่ งไร
ขจดั ปญั หานน้ั ให้หมดไป
216
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551
องคป์ ระกอบพฤตกิ รรม คำถามเพ่ือการสะท้อน
คำถามเพอ่ื การเชื่อมโยง คำถามเพือ่ การปรบั ใช้
ทกั ษะชีวติ
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
2.2 มที ักษะในการ - นักเรียนหาขอ้ มลู จากทีใ่ ด
- ข้อมูลทน่ี กั เรียนหาไดน้ ้นั - วิธกี ารแสวงหาข้อมูล
แสวงหาและใชข้ อ้ มูล
มาประกอบการทำกิจกรรม
สามารถไดจ้ ากแหลง่ ข้อมูล เพ่ือนำมาปฏบิ ัติกจิ กรรม
- นักเรยี นสามารถใชท้ กั ษะใด
อน่ื ๆ อกี หรอื ไมอ่ ย่างไร
เราสามารถใช้กบั กิจกรรม
ในการเลอื กรบั ข้อมลู
- นกั เรยี นแสวงหาขอ้ มูล/ใช้ ในเทศกาลสำคัญ ๆ อยา่ งไร
ข้อมูลกับชวี ิตได้อยา่ งไร
- ในอนาคตนกั เรียนมแี ผน
ในการใช้ขอ้ มลู ทแี่ สวงหามา
ด้วยความเชยี่ วชาญอย่างไร
2.3 จำแนกขา่ วสารได้ ถ้านกั เรียนจะต้องอ่านขา่ ว
ถา้ ต้องการอา่ นข่าวสัก
ครงั้ ต่อไปถ้าตอ้ งอา่ นข่าว
อยา่ งเป็นระบบ
ในวนั นี้ให้คนอน่ื ฟงั นกั เรียน 1 ขา่ ว เราจะตดั สนิ ใจเลอื ก มอี ะไรบ้างท่ีสามารถทำได้
จะเลอื กขา่ วประเภทไหน ข้อมูลทเ่ี กย่ี วข้องมากทส่ี ุด
เพ่อื ใหแ้ นใ่ จวา่ ขอ้ มูลนน้ั
อย่างไร
มาอา่ นได้อย่างไร
เกี่ยวข้องจรงิ
2.4 วิพากษ์วจิ ารณ์
นักเรียนมีความรสู้ ึกอยา่ งไร
ในชีวิตจรงิ นักเรียนเคย ถา้ นกั เรียนจะข้ามถนน
บนพ้นื ฐานของข้อมูล
เก่ยี วกับขา่ วที่ฟงั ในเร่อื งน้ี
พบเห็น คนที่ประสบกบั ภยั นักเรยี นจะทำอยา่ งไร
ที่ถกู ตอ้ ง
อนั ตรายเหมือนในข่าวทีฟ่ ัง เพือ่ ไม่ให้เกดิ อนั ตราย
หรอื ไม่ สาเหตุเกดิ จากอะไร
และถา้ เป็นนกั เรยี นจะทำ
อย่างไร
ขณะทน่ี ักเรยี นอ่านข่าวจาก นักเรียนเคยถามคำถาม
ถ้านกั เรียนจะตอ้ งเขียน
หนงั สือพิมพ.์ ..แลว้ รสู้ กึ เพือ่ น ๆ หรอื ไม่วา่ เหตใุ ด
สรุปข่าว เพ่ือนำเสนอหน้า
อยา่ งไร
จงึ สามารถเลา่ ขา่ วใหผ้ ูอ้ น่ื ชน้ั เรยี น นกั เรียนจะมวี ิธี
ฟังไดอ้ ย่างชดั เจน
การนำเสนออยา่ งไร ใหผ้ ูฟ้ งั
เขา้ ใจเน้ือหาข่าวได้ถูกต้องว่า
ใคร ทำอะไร เมือ่ ไร ทีไ่ หน
อย่างไร
2.5 เลือกรบั ขอ้ มูล
นกั เรียนรูส้ กึ อย่างไรทีข่ ่าว - ท่ผี ่านมามขี ่าวลือมากมาย หากต่อไปที่ขา่ วลอื หรอื การ
ขา่ วสารอยา่ งไตรต่ รอง หนงั สอื พิมพเ์ น้อื หาไม่ตรงกนั นกั เรียนเช่อื ข่าวลือหรือไม่ โฆษณาชวนเชือ่ นักเรียนจะมี
และรู้เท่าทนั ชีวติ และ ท้งั ๆ ทเี่ ปน็ เรื่องเดียวกัน
เพราะเหตุใด
วธิ ีการอย่างไรจึงจะรู้วา่ ขา่ วนน้ั
สงั คมทเ่ี ปล่ียนแปลง
- ถ้าเราเชือ่ ขา่ วลอื โดยไม่รู้ เป็นประโยชนห์ รอื เปน็ จริง
ขอ้ เท็จจรงิ จะเกดิ ผลตาม มากนอ้ ยอย่างไร
มาอย่างไรบ้าง
2.6 รบั รปู้ ัญหาและ
ในระหวา่ งทำกิจกรรม นักเรียนเคยพบปญั หา
นักเรียนใชว้ ธิ ีการใดในการ
สาเหตขุ องปัญหา
นักเรยี นพบปญั หาใดบ้าง
ในลักษณะนห้ี รอื ไม่
แกป้ ญั หา
หาทางเลอื กและตดั สินใจ
ในการแกป้ ัญหา
217
แนวทางการพฒั นาทักษะชีวติ บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุม่ สาระการเรยี นร
ู้
องค์ประกอบพฤตกิ รรม คำถามเพ่อื การสะท้อน
คำถามเพือ่ การเชอื่ มโยง คำถามเพือ่ การปรบั ใช้
ทักษะชีวติ
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
ในระหวา่ งทำกจิ กรรมเราใช้
ทำไมเราถึงคิดวา่ สามารถ
เราจะพัฒนาตวั เองใหม้ ี
วิธใี ดในการเกบ็ ขอ้ มูลจาก
ในการเก็บขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งมี ทักษะในการเก็บขอ้ มลู และ
กล่มุ
ประสทิ ธภิ าพเป็นทักษะที่ ตดั สินใจในการแกไ้ ขปัญหา
สำคญั ในการทำงาน
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ไดอ้ ย่างไร
ขณะฟงั ครอู ่านเรื่อง เคยมีครั้งใดหรอื ไมท่ ่นี ักเรยี น นกั เรยี นคิดวา่ ถา้ นักเรยี น
สร้างสรรค์แล้วนกั เรียนรู้สึก รูส้ กึ วา่ เรื่องท่ไี ด้ฟังที่เกดิ ขึ้น จะต้องเขยี นนทิ าน เพือ่ ให้
อย่างไรบา้ ง
กบั ตวั เอง หรอื เหมือนกบั ข้อคดิ เร่ืองความซือ่ สัตย์
บคุ คลใดท่นี กั เรยี นรจู้ ัก
จะตอ้ งเขยี นอยา่ งไร ให้ผอู้ ื่น
คลอ้ ยตาม
2.7 มีจนิ ตนาการและ นักเรยี นร้สู กึ อย่างไรทไี่ ดเ้ ห็น มคี ร้ังใดหรือไมท่ ีน่ กั เรียน
ถ้านกั เรยี นจะต้องบอกเพ่ือน
ความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค
์ การโฆษณาโทรทศั น์รนุ่ ใหม่ รู้สึกวา่ ตนเองมคี วามคิด
ให้ร้จู กั วางแผนชีวติ มีความ
จากในทวี หี รอื การแสดงของ เป็นตวั ของตัวเองหรอื คิดทด่ี ใี หเ้ พื่อนคล้อยตาม
ดาราในการโฆษณาสินคา้
สามารถพูดแสดงความคดิ
นกั เรยี นจะมีวธิ กี ารอย่างไร
ได้ดีไม่เหมอื นใครหรอื เคย
พดู ใหผ้ อู้ ่นื เหน็ ดว้ ยหรอื ไม่
ในขณะทีด่ ูทีวี นักเรียนคดิ ว่า นกั เรยี นเคยนำความรู้จาก นักเรยี นจะทำอยา่ งไร
รายการใดทใ่ี ห้ความรสู้ ึก
การดทู ีวมี าใช้กบั ตนเอง
ถ้าต้องการคดิ พิจารณาข่าว
มากทีส่ ุด เพราะอะไร
หรอื ไม่ มีผลอย่างไร
หรือความรทู้ ่ีไดร้ บั วา่ เป็นจริง
ถกู ตอ้ งหรือไม่
ในขณะท่กี ำหนดช่ือเรื่อง จากประสบการณท์ ี่ผ่านมา นักเรยี นท่ีมจี นิ ตนาการความ
“ประเทศไทยของเรา” ให้ นักเรียนคิดวา่ การมี คดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรคใ์ นเชิงบวก
เขียนเรยี งความ เพอ่ื นคนใด จนิ ตนาการความคิดรเิ ร่ิม จะชว่ ยใหเ้ กดิ ผลดตี อ่ สงั คม
บา้ งทีม่ จี นิ ตนาการ ความคดิ สร้างสรรคต์ ่างจากผูอ้ น่ื
ในอนาคตได้อยา่ งไรบ้าง
ริเรม่ิ สร้างสรรคใ์ นการเขยี น มีผลดตี อ่ ตนเอง อย่างไรบ้าง
ไดแ้ ตกตา่ งจากผอู้ ื่น
- นักเรียนถ่ายทอด - วธิ ีการทางทัศนศลิ ป์ที่ จนิ ตนาการและความคิด
จินตนาการเป็นผลงาน นักเรยี นเลอื กใช้ในการ ริเริ่มสร้างสรรค์ จากการ
ด้วยวธิ ีการทางศิลปะ ถ่ายทอดจินตนาการนนั้ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมทางศลิ ปะ
อยา่ งไร
สามารถนำไปใชก้ ับการ สามารถนำไปใชก้ ับงาน หรือ
- นักเรียนร้ถู ึงขน้ั ตอน สร้างสรรค์งานอน่ื ๆ
กจิ กรรมอน่ื ๆ ในการดำรง
กระบวนการพฒั นาความ ไดอ้ กี หรอื ไม
่ ชีวติ ไดห้ รอื ไม่ มากนอ้ ย
คิดสรา้ งสรรคค์ อื อย่างไร
เพยี งใด
218
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
องคป์ ระกอบพฤติกรรม คำถามเพ่ือการสะท้อน
คำถามเพ่ือการเช่ือมโยง คำถามเพือ่ การปรับใช้
ทักษะชีวติ
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
ในขณะทำกิจกรรม นกั เรยี น
ที่ผา่ นมางานไม่บรรล
ุ ในวนั ขา้ งหน้า การตั้ง
ทำอย่างไรใหง้ านบรรล
ุ
เปา้ หมาย อะไรเป็นสาเหตุ
เป้าหมาย การจินตนาการ
เป้าหมายอยา่ งมคี ุณภาพ
ใหง้ านไมป่ ระสบความสำเร็จ
เพ่ือให้งานสำเรจ็ มคี วาม
สำคัญอยา่ งไร
3. องค์ประกอบท่ี 3
ในขณะท่เี ราเรียน เรามี
นักเรียนเคยสังเกตตนเอง ถ้านกั เรียนเหน็ เพอื่ นไมม่ ี
การจดั การอารมณแ์ ละ ความรสู้ กึ สนกุ และมีความสุข และเพ่อื นว่าเวลามีความสุข ความสุข นกั เรียนจะรสู้ ึก
ความเครยี ด
ในช่วงใดบา้ ง เพราะอะไร
จะแสดงพฤติกรรมอยา่ งไร
อยา่ งไร และใช้วธิ ีการใดให้
3.1 รู้จกั สรา้ งความสขุ
เพือ่ นมคี วามสุข
ให้กบั ตนเอง
- ระหวา่ งทน่ี กั เรยี นเลน่ เกม - ใหน้ กั เรยี นนกึ ถงึ - หากมเี หตกุ ารณท์ ี่ทำให้
นักเรยี นมีความสขุ หรอื ไม่
เหตุการณท์ ีท่ ำใหน้ กั เรยี น นกั เรียนรสู้ ึกเครียดหรือ
- ใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ ง
มคี วามสขุ
โกรธนักเรียนจะทำอย่างไร
ส่งิ ดี ๆ ท่ีเกิดขน้ึ ในขณะ
- ทผ่ี า่ นมานกั เรยี นเคยทำ - นกั เรียนมีวธิ กี ารผ่อนคลาย
ที่เลน่ เกม
อะไรบ้างทีท่ ำใหต้ วั เอง อย่างไรทีท่ ำให้ตนเอง
- ให้นกั เรียนยกตัวอย่าง ผอ่ นคลายหรือสงบลง รู้สกึ ดขี ้ึน
ความคิดเชงิ ลบทปี่ รากฏ ขณะท่ีร้สู ึกหงดุ หงดิ
- ในชีวิตของนกั เรียน
ออกมาขณะเล่นเกมและ - นกั เรียนรูไ้ ด้อย่างไรว่า นกั เรยี นมวี ธิ สี ร้างความสุข
นกั เรียนคดิ ว่าดหี รือไม่ บุคคลนนั้ กำลงั โกรธ
ใหก้ บั ตนได้อย่างไร
อยา่ งไร
ผดิ หวัง หงุดหงดิ
3.2 มีวธิ ีผ่อนคลาย เราคิดวา่ ขณะทำกจิ กรรม มสี ิ่งใดบา้ งท่ีทำใหเ้ รารูส้ กึ ในอนาคตเราจะใช้วธิ ีใด
อารมณแ์ ละความเครียด
ช่วงใดวิตกกังวลมากทสี่ ุด โกรธขึ้นมาได้งา่ ย ๆ และ
เพอ่ื ผอ่ นคลายอารมณ
์
แล้วเราทำอยา่ งไรจึงไม่ให้ ควรทำอยา่ งไรเพ่ือให้ตัวเอง ในการเผชญิ กบั เหตุการณ
์
รูส้ กึ เครียด
สงบลง
ในชวี ิตประจำวนั
- นกั เรียนมคี วามคิด ร้สู กึ ในชวี ิตจริงของนักเรียนคิดวา่ ในอนาคตเราจะทำอย่างไร
อยา่ งไรเกีย่ วกับเร่อื งท่อี ่าน
อะไรบ้างที่ทำให้นักเรียนรสู้ กึ เพือ่ ไมใ่ หร้ ้สู กึ เครยี ดหรอื
- นักเรยี นคิดว่าส่วนไหน
โกรธข้ึนมาไดง้ า่ ย ๆ แล้วเรา หงดุ หงดิ ขึน้ มาได้ง่าย
ของเร่อื งท่ีอ่านแล้วสร้าง ทำอยา่ งไร เพ่อื ใหน้ กั เรียน
ความกดดันมากท่สี ดุ แล้ว สงบลง
เราทำอย่างไรไมใ่ ห้รู้สึก
เครียด
3.3 การควบคุมอารมณ์ นักเรยี นรสู้ กึ อยา่ งไรบา้ งท่ี เราจะต้องทำอยา่ งที่จะอ่าน เราจะทำอย่างไรถ้าตอ้ งอา่ น
ตนเอง
เพ่อื น ๆ ส่งเสยี งดงั รบกวน หนังสอื ได้อย่างมสี มาธิแม้ หนังสอื อย่างมสี มาธิ
ขณะทเ่ี ราตอ้ งการความเงยี บ เพ่ือนสง่ เสยี งดงั
ในการทำงานหรอื อา่ น
หนงั สอื
219
แนวทางการพฒั นาทกั ษะชีวิต บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นร
ู้
องคป์ ระกอบพฤตกิ รรม คำถามเพอื่ การสะท้อน
คำถามเพือ่ การเชอื่ มโยง คำถามเพือ่ การปรบั ใช้
ทักษะชีวติ
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
3.4 ร้เู ท่าทนั อารมณ์ - ระหวา่ งเล่นเกมนักเรยี น
- ทีผ่ า่ นมามีเหตกุ ารณใ์ ด - ให้นักเรยี นเล่าถงึ คนท่ี
ตนเอง
มอี ารมณ์ความรู้สกึ
บา้ งทที่ ำใหน้ ักเรียนโกรธ สามารถจดั การกับอารมณ์
ในดา้ นใดบ้าง
และนกั เรยี นจดั การกับ ของตนเองวา่ เขาทำ
- ระหว่างเล่นเกม นกั เรียน ความโกรธน้ันอยา่ งไร
อย่างไร แลว้ เปรียบเทียบ
ร้สู ึกโกรธคนอืน่ บา้ ง
- เมื่อเราเกดิ อารมณโ์ กรธ กับวิธกี ารขจัดความโกรธ
หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
รา่ งกายของเราจะตอบ ของนักเรียนเองวา่ เหมือน
- ระหวา่ งการทำกจิ กรรม สนองต่ออารมณ
์ หรือตา่ งกันอย่างไร
นกั เรียนสงั เกตหรือไม่วา่
ความรสู้ ึกนั้นอย่างไร
- วธิ ใี ดทีน่ ักเรยี นคดิ วา่ ดี
มใี ครแสดงท่าทาง - นักเรียนเคยเหน็ ผอู้ น่ื แสดง ที่สดุ และปลอดภยั ทีส่ ดุ
สนุกสนาน มคี วามสขุ อารมณโ์ กรธอยา่ งไรบ้าง ในการจัดการกับอารมณ์
เศร้าโศก หรือโกรธ และ แลว้ ความโกรธเหล่าน้นั ของตนเอง
นกั เรยี นรู้ไดอ้ ยา่ งไร
สง่ ผลกระทบต่อตวั เอง - หากนกั เรยี นมคี วามร้สู กึ
ว่าเขามอี ารมณอ์ ย่างนั้น
และคนรอบข้างอยา่ งไร
เครียด นักเรยี นจะมวี ิธี
ขจดั ความเครียดนน้ั
อยา่ งไร โดยไมส่ ่งผล
กระทบต่อตนเองและ
คนรอบขา้ ง
4. องค์ประกอบที่ 4
เธอรู้สึกอยา่ งไรในขณะที่ ทีผ่ า่ นมาเธอเคยทำอย่างนี้ - ในอนาคตจะเปน็ อยา่ งไร
การสร้างสัมพันธภาพท่ดี ี กำลงั เขา้ แถวซ้ืออาหารแลว้
หรือไม่ แลว้ เกดิ อะไรขึ้น
ถ้าเกิดเหตกุ ารณอ์ ยา่ งน้ี
กับผู้อ่ืน
มคี นมาแซงคิว
และรูส้ ึกอย่างไร
อีก
4.1 ร้จู ักเอาใจเขามาใสใ่ จ
- ถา้ เราไมต่ ้องการใหเ้ กดิ
เรา
เหตุการณ์เช่นนี้อกี เราควร
จะทำอย่างไรหรอื จะ
แนะนำกบั เพอ่ื นอย่างไร
4.2 ปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกา นกั เรยี นรูส้ กึ อยา่ งไร
ทีผ่ ่านมานกั เรยี นเคยปฏิบัติ นกั เรยี นจะทำอยา่ งไรจงึ จะ
และระเบยี บของสงั คม
เมื่อทำงานท่คี รูกำหนด
กิจกรรมใดบ้างทต่ี ้องจำกดั เป็นคนตรงตอ่ เวลา ทัง้ การ
ไมท่ นั เวลา
เรื่องเวลา
เรียน และการนัดหมาย
กบั ครหู รือเพ่ือน ๆ
220
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551
องคป์ ระกอบพฤติกรรม คำถามเพอ่ื การสะทอ้ น
คำถามเพ่อื การเชือ่ มโยง คำถามเพ่ือการปรับใช้
ทักษะชีวติ
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
- ขณะท่นี กั เรยี นเล่นเกม
- นกั เรยี นเคยรว่ มกัน - ถ้านกั เรียนเหน็ เพื่อน
หากนักเรียนตอ้ งการท่จี ะ
กำหนดขอ้ ตกลง
ไมป่ ฏบิ ัตติ ามกฎ นกั เรียน
ชนะ นักเรยี นจะทำอย่างไร
ในหอ้ งเรียนหรือไม่ อย่างไร
จะทำอย่างไร
- ทมี ของนกั เรยี นมีการ
- นกั เรยี นไดป้ ฏิบตั ิตาม
- ใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ ง
ตงั้ กฎเกณฑข์ นึ้ ในระหว่าง ขอ้ ตกลงท่วี างไว้หรือไม
่ กฎระเบียบทนี่ ักเรยี น
เล่นเกมอย่างไร
- เพอื่ น ๆ จะมีความร้สู กึ เชื่อวา่ ดี และไม่ดี และ
- ถา้ นกั เรยี นอยากใหร้ างวัล อยา่ งไร ถ้านกั เรียน
นักเรยี นใช้เกณฑ์อะไร
กบั เพ่ือนทเี่ สียสละในทมี ไม่ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงของ ตัดสนิ วา่ ดีหรอื ไมด่
ี
ขณะเล่นเกม เราจะใช้ หอ้ งเรยี น
- ในสงั คมปจั จบุ นั หากมคี น
อะไรตัดสินเขา เราเห็น
ปฏิบัตติ ามกฎ ระเบียบ
คุณค่าอะไรบา้ งในตัวเขา
สงั คมของเรา จะเปน็
มากทส่ี ุด
อย่างไร
4.3 ใหค้ วามรว่ มมอื และ นกั เรยี นรสู้ ึกอย่างไร
นกั เรยี นเคยเห็นเพ่อื นหรอื นกั เรยี นจะทำอยา่ งไร ทีจ่ ะ
ทำงานรว่ มกับผอู้ ื่นอยา่ ง เมื่อนง่ั เรยี นในหอ้ งเรยี น
คนใกล้ชดิ ท้ิงขยะตอ่ หนา้ ชกั ชวนใหค้ นอ่นื รกั ษาความ
สร้างสรรค์
ท่ีสกปรก
หรอื ไม่ และแนะนำเพื่อน สะอาด
อยา่ งไร
ทีมของเรามกี ารใหค้ วาม
การทำงานทีผ่ ่านมา มหี รอื ไม่ มีอะไรบา้ งท่เี ราสามารถ
รว่ มมอื และทำงานร่วมกัน ท่ีเราเป็นตน้ เหตใุ ห้การ ทำงานร่วมกันเปน็ กลมุ่ ได้
อยา่ งไรบา้ งในระหวา่ ง
ทำงานไม่ประสบความสำเรจ็
เพอื่ พัฒนาทักษะการทำงาน
การเลน่ เกม
รว่ มกนั ใหด้ ีข้นึ
นักเรยี นรสู้ ึกหรือคดิ อยา่ งไร นักเรยี นเคยพูดให้ผู้อ่ืน
ถ้านักเรยี นและเพ่ือนได้รับ
เก่ยี วกับเร่อื งที่ฟงั
รว่ มมือกันทำงานได้สำเรจ็ มอบหมายใหท้ ำความสะอาด
อยา่ งไร
ห้องเรยี น นักเรียนคิดว่า
จะแบง่ หนา้ ท่ีกันอย่างไร
จงึ จะทำไดส้ ะอาดและ
ได้รับคำชมจากคร
ู
นกั เรียนรสู้ กึ อย่างไรกับ นกั เรยี นเคยรว่ มกิจกรรม ถา้ ไมม่ ีนักเรียนเขา้ ร่วม
กิจกรรมการเลือกต้ัง
ลกั ษณะแบบน้ี
กจิ กรรมนเี้ ลย จะสง่ ผลต่อ
หัวหน้าห้อง ชอบหรอื ไมช่ อบ หรอื ไม่ อยา่ งไร
ตนเองและส่วนรวมอยา่ งไร
เพราะอะไร
ในขณะทำกิจกรรม
ในอดตี นักเรียนเคยแกลง้ ในอนาคตเราจะทำอยา่ งไร
เหน็ เพือ่ นแกล้งคนอ่นื ในกลมุ่ เพ่ือนบ้างไหม ผลทเี่ กิดขน้ึ เพ่ือใหเ้ ราอย่รู ว่ มในสงั คม
นักเรยี นมคี วามรู้สึกอย่างไร
กบั นักเรยี นเป็นอย่างไร
ได้อย่างมคี วามสขุ
221
แนวทางการพัฒนาทกั ษะชีวิต บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กล่มุ สาระการเรียนร
ู้
องคป์ ระกอบพฤติกรรม คำถามเพ่ือการสะทอ้ น
คำถามเพื่อการเช่ือมโยง คำถามเพือ่ การปรับใช้
ทกั ษะชวี ติ
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
- เวลาทำกจิ กรรมรว่ มกับ
- จงยกตัวอย่างการทำงาน - เราจะใชห้ ลักในการทำงาน
ผูอ้ ่ืน นักเรียนมีแนวคิด
รว่ มกับผูอ้ ื่น ตำแหนง่ รว่ มกบั ผอู้ ื่นในแนวใด
ในการทำงานร่วมกนั อย่างไร
หน้าท่ที ่ีนักเรยี นได้รบั
ที่จะสามารถทำงานกับ
- นกั เรียนจะใช้หลกั การ มอบหมายใหร้ บั ผิดชอบ
ผู้อนื่ อย่างราบรน่ื
ทำงานร่วมกนั อย่างไร
- เรามกั ใชก้ ฎเกณฑ์งา่ ย ๆ บนพน้ื ฐานความเปน็
ให้อยู่บนพน้ื ฐาน
อย่างไรในการทำงาน
ประชาธิปไตย
ความเปน็ ประชาธปิ ไตย
ร่วมกบั ผ้อู ืน่
- เราจะช่วยผู้อืน่ อย่างไร
ถ้าเป็นผูน้ ำในการทำงาน
4.4 ใชภ้ าษาและกริ ิยา
นักเรียนมีความรสู้ ึก และ
ในชวี ิตจริงนักเรียน
ในอนาคตถา้ นกั เรียนตอ้ งการ
ทีเ่ หมาะสมในการส่อื สาร คดิ อยา่ งไรกับคำและประโยค เคยพบเหน็ หรือได้ยินคำ
ขอความชว่ ยเหลือจากผอู้ น่ื
(การสอื่ สารเชิงบวก)
ทพ่ี บจากหัวข้อข่าว
และประโยคเหล่านี้หรอื ไม่ นักเรยี นจะพูดอยา่ งไรจึงจะ
อย่างไร
ไดร้ บั ความช่วยเหลือ
นักเรียนรสู้ ึกอย่างไรเมอ่ื
นกั เรยี นเคยเหน็ เพอื่ นหรอื นักเรยี นจะทำอยา่ งไร
นงั่ เรยี นในหอ้ งเรียนที่สกปรก
คนใกล้ชิดท้งิ ขยะตอ่ หน้า ทีจ่ ะชกั ชวนให้คนอนื่ รกั ษา
หรอื ไม่ และแนะนำเพ่อื น ความสะอาด
อยา่ งไร
ในระหว่างทำกิจกรรม
ลองนกึ ถึงอดตี ทผี่ ่านมา
มีคำพดู /ท่าทางใดบา้ งทีเ่ รา
เราได้ยนิ คำพูด/ท่าทางใดบ้าง
ใครบ้างทพี่ ดู /แสดงทา่ ทาง
สามารถใช้ในห้องเรยี น
ทเี่ ปน็ การสรา้ งสมั พันธภาพ
ให้เรารู้สกึ ด
ี เพอ่ื ให้กำลงั ใจเพื่อน ๆ
ทีด่
ี
4.5 ฟังผูอ้ ่นื อยา่ งตั้งใจ นกั เรยี นรสู้ ึกอยา่ งไร
ลองนกึ ดูซวิ ่า ผลงานของ นักเรยี นจะปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร
และรับรคู้ วามรสู้ ึก
ในขณะท่ฟี ังครูสอนในวชิ า
นักเรยี นดหี รือไม่ อยา่ งไร ถา้ ต้องการฟงั การบรรยาย
ของผพู้ ดู
ที่นักเรียนชอบ/ไมช่ อบ
หลังจากไดฟ้ งั ครูสอน
ครั้งตอ่ ไป
เรอื่ งราวทชี่ อบ/ไม่ชอบ
4.6 กลา้ แสดงความ
นักเรียนรสู้ ึกอยา่ งไรบ้าง
จงยกตัวอยา่ งบคุ คลหรือ
นักเรียนคดิ วา่ ในอนาคต
คิดเหน็ อย่างสรา้ งสรรค์
ตัวละครใดที่มคี วามกล้า ผนู้ ำในห้องเรยี นหรอื ท่ี หากเรามคี นกล้าแสดง
แสดงความคดิ เหน็ อยา่ ง นกั เรียนรู้จกั ในสงั คมที่กล้า ความคิดเห็นอย่างสรา้ งสรรค์
สร้างสรรค์
แสดงความคดิ เหน็ อย่าง เพ่ิมขน้ึ ในสงั คมมากจะทำให้
สรา้ งสรรค์ เปน็ ตวั อยา่ งท่ีดี สังคมเราเปน็ อยา่ งไร
เป็นที่ยอมรับได้
เพราะเหตุใด
222
หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551
องคป์ ระกอบพฤตกิ รรม คำถามเพ่ือการสะท้อน
คำถามเพ่อื การเชื่อมโยง คำถามเพือ่ การปรับใช้
ทกั ษะชวี ิต
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
4.7 รู้จกั ปฏิเสธตอ่ รอง - ยกตวั อย่างไม่เหน็ ดว้ ย
- ยกตัวอย่างการขัดแยง้
- นักเรยี นใช้วธิ กี ารอย่างไร
ร้องขอความชว่ ยเหลอื ได้ และความขดั แยง้ ในขณะ
ทพี่ บในอดตี และมผี ล เพือ่ จัดการและแก้ปญั หา
อย่างถกู ต้องเหมาะสมใน ทีป่ ฏบิ ัตกิ ิจกรรม
กระทบในดา้ นลบกบั คน
ความขัดแย้ง อย่างมี
แตล่ ะสถานการณ์
- หลังจากเกิดความขดั แยง้ ที่เก่ยี วข้อง
ประสทิ ธภิ าพในอนาคต
ข้นึ เราคดิ ว่าทกุ คนที่ - มีวิธกี ารใดบา้ งที่เราทำ
- หากเพอ่ื นในหอ้ งเรยี นมี
เกี่ยวขอ้ งมีความรู้สึก เพ่อื จัดการกบั ความ
ความขดั แยง้ กนั นักเรียน
อยา่ งไร
ขัดแยง้ ในอดีตและนำไปสู่ จะช่วยลดความขดั แย้ง
- เมอ่ื เกิดความขัดแย้ง ผลในด้านดี
ไดอ้ ย่างไรเพ่อื ให้ไดผ้ ลท่ีด
ี
นกั เรียนมีวิธีการแกป้ ญั หา - มีอะไรบา้ งทีน่ กั เรยี น
- หากนกั เรียนไมเ่ หน็ ดว้ ย
อยา่ งไร
ทำแลว้ เกิดความขดั แย้ง
กับเพ่ือน นกั เรียนอยากให้
แลว้ กลับกลายเป็นดีข้ึน คนอ่ืนมาชว่ ยแก้ไขอยา่ งไร
และความขัดแย้งลดลง
223
แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ิต บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้
2. คำถาม R - C - A
สำหรบั นักเรยี นระดบั มธั ยมศึกษา
องคป์ ระกอบพฤติกรรม คำถามเพื่อการสะทอ้ น
คำถามเพ่อื การเชอ่ื มโยง คำถามเพือ่ การปรับใช้
ทักษะชวี ิต
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
องคป์ ระกอบท่ี 1
ในระหวา่ งเรยี น เพ่อื นคนหนึ่ง
นกั เรยี นเคยเป็นคนท่ที ำ ถ้านักเรียนเป็นผู้นำในกลมุ่
ตระหนกั รูแ้ ละเห็นคุณคา่
ในกลุ่มทำงานชา้ ทำให้
กิจกรรมในกลมุ่ เสร็จล่าชา้ และมสี มาชิกท่ีม
ี
ในตนเองและผู้อ่ืนยอมรบั กลุม่ เสียคะแนน นกั เรียนมี บา้ งไหม ถ้าเปน็ นักเรียนมวี ธิ ี ความแตกต่างกัน
ความแตกต่างระหวา่ งตนเอง ความรู้สกึ อยา่ งไร
แกป้ ัญหาอยา่ งไร
ในแต่ละดา้ น นักเรยี น
และผูอ้ ่นื
จะมวี ิธกี ารจดั การอย่างไร
ในขณะทีแ่ บ่งกลมุ่ ทำ ที่ผา่ นมานกั เรียนเคย
ในโอกาสต่อไปถา้ ตอ้ งทำงาน
กจิ กรรม มีนักเรียนบางคน
ประสบเหตุการณอ์ ย่างนีไ้ หม รว่ มกนั กบั คนหลายกลมุ่
ที่เพอ่ื นไมย่ อมให้เข้า
และได้แก้ปัญหาอยา่ งไร
นักเรียนจะคำนึงถึงเรอื่ งใด
รว่ มกลุ่ม เปน็ เพราะเหตุใด
บา้ ง
คน้ พบจดุ ดี จุดดอ้ ยของ นักเรยี นรสู้ กึ อยา่ งไรกบั นกั เรยี นเคยมปี ระสบการณ์ นกั เรียนจะใชท้ กั ษะใด
ตนเอง
กิจกรรมเกมผนู้ ำ ผ้ตู าม การเป็นผ้นู ำ ผตู้ ามบา้ ง
ในการทำงานใหป้ ระสบ
นกั เรยี นอยากจะเป็น ผู้นำ หรอื ไมอ่ ย่างไร
ความสำเร็จ
หรือผู้ตาม
จากการเลือกประธานห้องมี ท่ผี า่ นมานกั เรยี นรู้ไหมว่า
ในโอกาสต่อไปนักเรยี นได้รับ
อะไรทีเ่ ปน็ สงิ่ ทด่ี ี และไม่ดี
สิง่ ใดทที่ ำได้ดีแลว้ สิ่งใดต้อง เลือกเปน็ ประธานห้องเรียน
ได้แกป้ ัญหาอยา่ งไร
ปรบั ปรุงตนเอง
นกั เรียนคิดวา่ จะนำขอ้ ดขี อง
ตนเองไปใชอ้ ยา่ งไรและ
ปรับปรงุ สิ่งท่ีไม่ดีอย่างไร
มีความภาคภมู ิใจในตนเอง - เรยี นอยา่ งไรทีท่ ำให
้ นักเรียนมีกจิ กรรมหรืองาน ถา้ นกั เรยี นโตข้ึน อยากจะ
และผอู้ ่ืน
ในระหวา่ งเรียน นกั เรียนมี ชนิ้ ไหน ทส่ี ร้างความ
ทำงานใหเ้ ปน็ ที่ยอมรบั แก่
ความสุข
ภาคภมู ิใจท้งั ตนเอง
ตนเองและผ้อู ืน่ นักเรยี นมี
- นกั เรียนมีความสุขในการ และคนรอบขา้ งบา้ ง
แนวทางสำหรบั ตนเอง
เรียนวชิ าใดหรือเรื่องใด
อยา่ งไร
รักและเหน็ คุณค่าในตนเอง นักเรยี นประทบั ใจตนเอง
นกั เรยี นเคยเหน็ คนทีร่ กั
เราจะทำใหเ้ พ่ือนรัก
และผู้อนื่
ในช่วงไหนของการเรยี น
และเหน็ คุณคา่ ของตนเอง และเห็นคณุ ค่าในตนเอง
และเพ่อื น ๆ แสดงอาการ และผอู้ น่ื บ้างไหม เขามี ได้อย่างไร
อยา่ งไรต่อเราบา้ ง
ลักษณะอย่างไร
224
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
องค์ประกอบพฤติกรรม คำถามเพอ่ื การสะท้อน
คำถามเพอ่ื การเชื่อมโยง คำถามเพ่อื การปรบั ใช้
ทักษะชวี ติ
Reflex (R)
Connect (C)
Apply (A)
มีความเชื่อมัน่ ในตนเอง
จากเร่อื งท่ีฟัง นักเรียนคิดว่า
นักเรียนประสบความสำเรจ็ นักเรยี นมวี ิธีการปฏบิ ตั ติ น
และผอู้ ่ืน
อะไรท่ีสรา้ งความเช่อื ม่นั
ในเรอื่ งใดบา้ งที่เกดิ จาก
และผอู้ ื่นอยา่ งไร จึงจะทำให้
ใหก้ บั ตนเอง
ความเช่ือมัน่ ในตนเอง
เกดิ ความเช่ือมนั่
จากเรือ่ งทฟ่ี งั นักเรียนคิดวา่ นักเรยี นเคยรว่ มกจิ กรรม นักเรียนจะใช้แนวปฏิบัตใิ ด
บคุ คลใดมคี วามเชื่อมนั่
ประเภทใดที่แสดงถึงความ ในการที่จะทำงานด้วยความ
ในตนเองทแ่ี ตกต่างจากพวก เชือ่ มน่ั แลว้ เกดิ ความสำเร็จ เชอื่ มน่ั
และเกิดผลดีผลเสยี อย่างไร
สงู สุดอย่างไร
เคารพสิทธิตนเองและผู้อืน่
ในระหวา่ งเรียน กล้าพูด
นกั เรยี นมีประสบการณ์
ถา้ นักเรยี นเปน็ ผู้กระทำ
เสียงดงั ส่งผลตอ่ การเรียน
เกีย่ วกบั การรบกวน สมาธ
ิ เหตุการณ์น้ีนักเรยี นคดิ ว่ามี
ในหอ้ งเรียนอยา่ งไร
ในการเรียนของเพอ่ื น
ผลต่อตนเองและผอู้ ่ืนอย่างไร
บา้ งไหมและแก้ปัญหา และมแี นวทางแก้ปญั หา
อยา่ งไร
อยา่ งไร
นักเรียนคดิ วา่ กฎหมายใด นักเรยี นเคยมีประสบการณ์ นักเรียนมแี นวทาง
เกี่ยวข้องกับตนเองและ ในดา้ นกฎหมายทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ในการประยกุ ตใ์ ชก้ ฎหมาย
ครอบครวั มากทส่ี ุด
กับตนเองหรือไมอ่ ยา่ งไร
ทเี่ กย่ี วข้องกับตนเองอยา่ งไร
เพราะเหตใุ ด
ที่ทำให้เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ
นกั เรยี นรู้สกึ อยา่ งไร
นักเรยี นเคยเข้ารว่ มกิจกรรม นกั เรียนคิดวา่ จะเกดิ อะไรขนึ้
กบั บทบาทสมมติที่ไดร้ บั
ในลกั ษณะแบบน้ี หรือไม่ ถา้ เราไม่เคารพสทิ ธแิ ละ
มอบหมายให้แสดงเร่ือง
อย่างไร
หน้าที่ซ่ึงกนั และกัน
การเลือกต้งั
มีทักษะในการกำหนด
ในระหว่างทำกจิ กรรม
นักเรียนเคยมีประสบการณ์ ถา้ มีโอกาสทำงานใหญ
่
เป้าหมายและทิศทาง
ทุกคนทำไม่ถูกต้องเกิดจาก ในการทำงานแล้วงานไม่ สักอย่าง นักเรียนมีแนวทาง
สคู่ วามสำเรจ็
สาเหตุใด
ประสบความสำเร็จบ้างไหม ทจ่ี ะดำเนนิ การอยา่ งไร
และไดแ้ กป้ ัญหาอย่างไร
ให้งานประสบความสำเรจ็
องคป์ ระกอบท่ี 2
ในขณะฟงั ข่าว นกั เรียนเชอื่ นกั เรียนเคยรับรขู้ า่ วสาร
นกั เรียนมแี นวทางในการ
คดิ วเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจและ ทนั ทีหรือไมเ่ พราะเหตุใด
ทเ่ี ปน็ ปญั หาต่อสงั คมและ รบั ข้อมลู ข่าวสารอย่างไร
แก้ไขปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์
รู้สึกอยา่ งไร
ทช่ี ่วยให้รเู้ ท่าทัน สงั คม
เลอื กรบั ขอ้ มลู อย่างไตร่ตรอง
ทเ่ี ปล่ยี นแปลงไป
และรเู้ ทา่ ทันชวี ิตและสังคม
นักเรียนได้รับความรู้อะไร ท่ผี ่านมานกั เรยี นเคยมี นกั เรยี นมแี นวคิดใด
ที่เปล่ียนแปลง
บ้างจากเร่อื งทไี่ ด้เรียนรู
้ ประสบการณใ์ ดทีม่ ีกฎหมาย ทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั กฎหมาย
เกยี่ วกับกฎหมายต่าง ๆ
มาเกย่ี วขอ้ ง หรอื ไม่อย่างไร
บ้านเมอื งในปัจจุบัน
225
แนวทางการพฒั นาทกั ษะชวี ิต บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร
ู้
องคป์ ระกอบพฤตกิ รรม คำถามเพอ่ื การสะทอ้ น
คำถามเพ่ือการเชือ่ มโยง คำถามเพอื่ การปรับใช้
ทกั ษะชีวิต
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
มที ักษะในการแสวงหา
จากการศึกษากรณศี ึกษา
ที่ผา่ นมานักเรยี นเคยพบ นกั เรียนมแี นวทางอยา่ งไร
และใชข้ อ้ มูล
หรอื ขา่ ว นักเรียนมีความ
ประสบการณ์แบบนี้ บุคคล
ในการทจี่ ะทำใหบ้ คุ คลแบบน
ี้
คิดเหน็ อย่างไร ร้สู ึกอยา่ งไร ที่ปฏบิ ตั ติ นในลักษณะ
หมดไปจากศาสนาของเรา
กบั ขา่ วหรอื กรณีศกึ ษา
แบบน้หี รือไม่ อยา่ งไร
เร่ือง “มารศาสนา”
จากขา่ ว นักเรยี นมีความ
ทผี่ า่ นมานกั เรียนเคยพบ นกั เรยี นมแี นวทางอยา่ งไรในการ
คดิ เห็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร ประสบการณ์แบบนี้ บุคคล
ท่จี ะทำให้บุคคลแบบน
ี้
กบั ขา่ วหรอื กรณีศึกษาเร่อื ง ทป่ี ฏบิ ัติตนในลักษณะ
หมดไปจากศาสนาของเรา
“มารศาสนา”
แบบน้ีหรอื ไม่ อยา่ งไร
ในระหวา่ งเรยี น นกั เรียน
การเก็บข้อมูลท่ีเป็นระบบ ถา้ นกั เรยี นเป็นผูท้ แ่ี สวง
ใช้วิธีใดในการเก็บข้อมลู
และนกั เรียนเห็นว่าดีที่สดุ ข้อมูล และใช้ข้อมูลด้วย
และผลเปน็ อยา่ งไร
คอื ทำอยา่ งไร
ตนเอง นักเรยี นมีวิธกี ารใด
ทจ่ี ะจดั เก็บและใชไ้ ดท้ นั
เหตุการณ์
จดั การความขัดแย้งตา่ ง ๆ ในระหวา่ งเลอื กประธาน ในอดีตท่ผี ่านมาเคยพบ
ในอนาคตนักเรยี น
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
นักเรยี น มเี หตุการณใ์ ดบ้าง
ความขดั แยง้ บ้างหรอื ไม่
พบเหตุการณค์ วามขัดแย้ง
ทีท่ ำให้เกิดการทะเลาะกัน และไดจ้ ดั การแกป้ ญั หา ทไ่ี ม่สามารถตกลงกนั ได้
ได้แก้ปญั หาอยา่ งไร
อย่างไร
นกั เรยี นจะมวี ธิ ีการแกป้ ญั หา
เหลา่ นีไ้ ดอ้ ยา่ งไร
ตัดสนิ ใจอยา่ งมเี หตผุ ลต่อ ในระหวา่ งแสดงบทบาท
นักเรยี นเจอพบเหตกุ ารณ
์ ถ้านักเรียนไปพบเหตุการณ์
สถานการณต์ ่าง ๆ ที่เผชญิ
สมมติเกย่ี วกบั เหตกุ ารณ์ ในลกั ษณะนีแ้ ลว้ ไดแ้ ก้ เพื่อนกำลงั ทะเลาะกันอยู่
นกั เรียนทะเลาะกนั นกั เรียน ปญั หาอยา่ งไร
นักเรียนจะตัดสินใจอยา่ งไร
ไดต้ ดั สนิ ใจทำอะไรบา้ ง
นกั เรยี นมคี วามรู้สกึ อยา่ งไร นักเรียนเคยประสบ นกั เรียนจะใช้วิธีการใด
จากการท่ีได้ศึกษาขา่ วจาก เหตุการณอ์ ยา่ งนี้หรอื ไม่ ในการแกป้ ญั หาในครง้ั น
้ี
หนังสือพมิ พร์ ายวนั
อยา่ งไร
จากการเรยี น ช่วงใดบา้ ง
เคยมีประสบการณ์ใดบา้ ง
ในโอกาสต่อไป ถ้าต้องเผชญิ
ทต่ี ้องมกี ารตัดสนิ ใจอย่างมี ทตี่ ้องเผชิญกับสถานการณ
์ กบั สถานการณค์ ับขนั และ
เหตุผล
ท่ตี ้องตดั สนิ ใจ และผลเปน็ ต้องตัดสนิ ใจนกั เรยี นจะทำ
อย่างไร
อยา่ งไร
226
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
องคป์ ระกอบพฤติกรรม คำถามเพอ่ื การสะทอ้ น
คำถามเพอ่ื การเชอ่ื มโยง คำถามเพอื่ การปรบั ใช้
ทักษะชวี ิต
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
แก้ไขปัญหาในสถานการณ์ ปัญหาที่เกดิ ขึน้ ในห้องเรยี น
ท่ผี ่านมานักเรียนเคยมี ถา้ นักเรียนอยใู่ นสถานการณ์
วิกฤต
วันน้ี เกิดจากสาเหตุใดมีการ
ประสบการณ์วิกฤตเกดิ ข้ึน ท่ีรุนแรง นักเรยี นจะแกไ้ ข
แกป้ ัญหาอย่างไร
กบั ตนเองบ้างไหม และ
ปัญหาเหล่าน้นั ไดอ้ ย่างไร
ได้แก้ปัญหาอยา่ งไร
วเิ คราะหผ์ ลกระทบท่ีตามมา จากการศึกษาขา่ ว “การเดิน นกั เรยี นเคยมีโอกาส
นักเรยี นคิดว่าจะใชห้ ลกั การใด
และหาทางปอ้ งกนั แก้ปัญหา ประทว้ ง” นักเรยี นรสู้ กึ ได้เข้าร่วมในเหตกุ ารณ
์ หรือแนวทางใดท่จี ะช่วย
ในสถานการณต์ ่าง ๆ ได ้
อยา่ งไร อยากให้เกิดขึน้
แบบนห้ี รอื ไม่ อยา่ งไร
ให้สถานการณ์แบบนีเ้ ปน็ ไป
หรอื ไม่ ทำไมจึงเปน็ เช่นน้นั
ในทางที่ดขี น้ึ
- นักเรียนคดิ วา่ พฤตกิ รรม นกั เรยี นเคยมีพฤตกิ รรม
ในอนาคตนกั เรยี นจะมวี ิธใี ด
การบริโภคของคนในเมือง ในการบรโิ ภคท่ไี มค่ ำนึงถงึ ทจ่ี ะแนะนำใหผ้ ู้อ่นื เปล่ียน
กบั คนชนบทเปน็ อย่างไร
ประโยชน์และคณุ คา่ ของ พฤตกิ รรมในการบรโิ ภคทดี่ ี
- นักเรียนมีพฤติกรรมในการ อาหารในดา้ นต่าง ๆ
บริโภคในแตล่ ะวัน
หรอื ไม่อย่างไร
เปน็ อยา่ งไร
ในระหวา่ งทำงานกลุม่ ในอดีตนักเรยี นเคยประสบ ถ้านักเรียนเปน็ หัวหนา้ กลมุ่
นักเรียนทะเลาะกัน สง่ ผล
ปญั หาการขดั แยง้ กนั อย่างไร และเกดิ ข้อขดั แย้งกนั
ต่อกลมุ่ อยา่ งไร และ
บา้ ง และไดแ้ กป้ ัญหา
นกั เรยี นจะมีวิธกี ารป้องกัน
แก้ปัญหาไดอ้ ย่างไร
อยา่ งไร
ไม่ใหเ้ กิดผลกระทบต่อกล่มุ
ได้อย่างไร
มีจนิ ตนาการและความคิด ในการประกวดผลงาน นกั เรียนเคยประสบความ ถา้ นกั เรยี นเป็นตัวแทนของ
ริเร่มิ สร้างสรรค
์ นกั เรียน ทำไมงานของเพอ่ื น สำเรจ็ กบั ผลงานอยา่ งน้ี
โรงเรยี น เขา้ ประกวดผลงาน
จงึ ไดร้ ับรางวัล และเปน็ ที่ บ้างไหม และมีความรูส้ ึก นกั เรยี นจะทำอย่างไร
ยอมรับของผู้อนื่
อยา่ งไร
ให้ผลงานออกมาไมเ่ หมือน
คนอืน่
มองโลกในแง่ดแี ละแก้ปัญหา คนที่มองโลกในแง่ดเี ป็น นักเรียนเคยมเี พื่อนทีม่ ี ถา้ มโี อกาสทำงานรว่ มกับ
อย่างสรา้ งสรรค
์ อยา่ งไรในความคดิ ของ คณุ ลักษณะแบบน้ีไหม และ บคุ คลหลายอาชพี จะมี
นักเรียน
การอยรู่ ่วมในสงั คมเป็น วธิ ีการปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไร
อยา่ งไรบา้ ง
ในชว่ งทำกิจกรรมกลมุ่
ในการอยูร่ ่วมกัน ทุกคน
ถา้ นกั เรยี นต้องทำงาน
ช่วงใดบา้ งที่ทกุ คนร่วมกนั ทำ มองโลกในแง่ดีและรว่ มกัน รว่ มกบั บคุ คลหลายคน
และงานประสบความสำเรจ็
แก้ปัญหา ผลเปน็ อย่างไรบา้ ง
ถา้ ต้องการให้งานประสบ
ความสำเรจ็ นักเรียนจะตอ้ ง
เปน็ คนทมี่ ีคุณลักษณะใด
227
แนวทางการพฒั นาทกั ษะชีวิต บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรียนร
ู้
องค์ประกอบพฤตกิ รรม คำถามเพื่อการสะท้อน
คำถามเพื่อการเชือ่ มโยง คำถามเพ่ือการปรบั ใช้
ทักษะชีวิต
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
จากการศกึ ษากรณีศกึ ษา
นกั เรียนหรอื คนใกล้ชดิ เคย ในอนาคตถา้ เราพบปัญหา
“นักเรียนยกพวกตกี นั ”
ประสบปญั หาแบบน้หี รือไม่ แบบนี้ เราจะใช้แนวทางใด
นกั เรียนมีความรสู้ ึกอย่างไร
คนในครอบครวั เปน็ อย่างไร ใชห้ ลักธรรมใดในการชว่ ยแก้
มีความคดิ เห็นอย่างไรบา้ ง
มีการนำหลักธรรมในศาสนา ปญั หาอยา่ งไร
มาปรับใชห้ รือไม่ อยา่ งไร
ประเมนิ และสร้างขอ้ สรปุ
ในระหว่างทำกจิ กรรม นกั เรียนเคยประเมินตนเอง ในอนาคตจะมีวธิ กี ารดำเนนิ
บทเรยี นชวี ติ ของตนเอง
นักเรยี นรไู้ ดอ้ ย่างไรวา่
ในการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ว่า
ชีวิตของตนเองอยา่ งไร
รว่ มกจิ กรรมแล้วได้อะไรบา้ ง
มีผลต่อชวี ิตตนเองบา้ ง
หรือไม่ ผลเปน็ อย่างไร
ในช่วงการเรยี น นักเรยี น
นกั เรยี นเคยประเมนิ ตนเอง ถ้านักเรยี นจะเขียนเรอ่ื ง
รู้ไดอ้ ยา่ งไรว่าตนเองเขา้ ใจ วา่ มีความเขา้ ใจบทเรยี น
เกยี่ วกับปัญหาการใช้ชีวติ
และสรปุ บทเรยี นไดเ้ พยี งพอ
ด้วยวธิ ีการใดบ้าง ผลเปน็ ทจี่ ะเปน็ อทุ าหรณใ์ ห้แกผ่ ู้อนื่
อย่างไร
นกั เรียนจะเขียนในแนวใด
อย่างไร
องคป์ ระกอบท่ี 3
ในช่วงทำกิจกรรม มชี ว่ งใด
ในอดีตมีบ้างไหมท่ีคนอ่นื
ในอนาคต ถา้ ตอ้ งการทจ่ี ะ
การจดั การกบั อารมณ
์ ที่ทำใหร้ ู้สึกไม่มน่ั ใจ ทำไม
พูดแล้วเรารสู้ ึกม่นั ใจ หรอื ทำใหต้ นเองมีความสุข และ
และความเครียด ประเมนิ จงึ รู้สึกเชน่ นั้น
สบายใจ
ทำอะไรดว้ ยความม่นั ใจ
และรเู้ ท่าทนั อารมณ์
มากขึ้น จะทำไดอ้ ยา่ งไร
คลายเครยี ดด้วยวธิ ี
ในระหวา่ งทำกิจกรรม
เคยมีประสบการณ
์ ถ้านกั เรียนเป็นผดู้ ำเนิน
ท่ีสร้างสรรค์
ใครบา้ งท่แี สดงอาการเครยี ด การเครยี ดจากการทำงาน กิจกรรม สมาชกิ ไม่ร่วม
และได้แก้ความเครยี ด บา้ งไหม และคลายเครียด
กจิ กรรมหลายคน จะมวี ธิ ี
อยา่ งไร
ไดอ้ ย่างไร
การอย่างไร ใหส้ มาชิก
ได้รว่ มกิจกรรมอย่างเต็มใจ
รู้จักสร้างความสุขให้กบั วิธกี ารสร้างความสุขใหก้ ับ นกั เรยี นเคยทำกจิ กรรมใดบา้ ง ถ้านกั เรียนได้เปน็ ผูน้ ำในการ
ตนเองและผูอ้ ่นื
ตนเองมอี ะไรบา้ ง
ทที่ ำให้ตนเองและผู้อน่ื
ไปทศั นศึกษา นักเรยี นจะ
มีความสุขสงั เกตได้อยา่ งไร
สร้างความสขุ ให้ตนเอง
และผ้อู ืน่ ไดอ้ ย่างไรบา้ ง
องคป์ ระกอบที่ 4
ในระหว่างทำกิจกรรมกลุม่ นักเรยี นเคยรว่ มแสดง
จงยกตัวอย่างในกรณีให้
สรา้ งสมั พนั ธภาพท่ีดกี ับ
งานสำเร็จได้ดเี พราะเหตใุ ด ความคิดเหน็ กจิ กรรมของ นกั เรยี นแสดงความคิดเห็น
ผู้อ่ืน กลา้ แสดงความคิดเหน็ ผลเป็นอยา่ งไร
กลุ่มบา้ งไหม ผลเปน็ อยา่ งไร
ในเร่อื งการกำจัดยาเสพตดิ
อยา่ งสร้างสรรค
์
ในโรงเรยี น
228
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
องค์ประกอบพฤตกิ รรม คำถามเพือ่ การสะทอ้ น
คำถามเพอ่ื การเชอ่ื มโยง คำถามเพ่อื การปรับใช้
ทักษะชวี ติ
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
ในช่วงทำงานกลุม่ นักเรยี น
นกั เรยี นเคยเข้าร่วมประชมุ ถา้ มโี อกาสแสดงความคดิ เหน็
ไดแ้ สดงความคิดเหน็
หรอื แสดงความคิดเห็น
เพอ่ื พัฒนาชมุ ชนให้เปน็
บา้ งไหม ในเรอ่ื งใด
เพ่อื พัฒนาอะไรมาบา้ ง
ชมุ ชนตัวอยา่ ง นักเรียนจะพดู
ยกตวั อยา่ ง ข้อความ
ในประเด็นใดบ้าง
การแสดงความคดิ เหน็
ทำงานรว่ มกบั ผ้อู ื่นบน
ในช่วงทำกิจกรรมกล่มุ
ท่ผี ่านมานักเรยี นเคยทำงาน ถ้ามีโอกาสเปน็ ผู้นำหรือ
พน้ื ฐานความเปน็ ใครทำผดิ กติกาบ้าง
รว่ มกบั ผูอ้ น่ื แล้วมีปัญหา
ผู้ตามในการทำกิจกรรม
ประชาธิปไตย
ในเรือ่ งใด
บา้ งหรือไม่ และไดแ้ ก้ปญั หา รว่ มกบั ผ้อู ื่น นักเรียนจะ
อย่างไร
ปฏิบตั ติ นอยา่ งไร
มจี ติ อาสาช่วยเหลอื ผ้อู ืน่
ในระหว่างทำกิจกรรม นกั เรยี นเคยช่วยใครในเรื่อง ถา้ นกั เรียนตอ้ งการพฒั นา
นกั เรียนเคยอาสาทำอะไร ใดบ้างผลเป็นอยา่ งไร
โรงเรียน นกั เรียนจะพดู
บา้ ง และมคี วามรสู้ ึกอยา่ งไร
อย่างไรใหเ้ พอื่ นเข้าร่วม
กจิ กรรมดว้ ยความเต็มใจ
ร้จู กั สร้างความสขุ
ในระหวา่ งทำกิจกรรม ทีผ่ ่านมานกั เรยี นเคยมคี วาม ถ้านักเรียนเป็นผู้หน่งึ
ให้กบั ตนเองและผูอ้ ่ืน
นักเรยี นมีความสนกุ และ สุขในเร่อื งใดบา้ ง นักเรยี น ในการดำเนนิ กิจกรรมวันเดก็
อยากทำกิจกรรมนัน้ ซำ้ อีก สรา้ งความสุขไดอ้ ย่างไร
นักเรียนมีแนวการจัดอยา่ งไร
แสดงว่านักเรยี นอย่ใู น
ท่จี ะทำใหท้ ุกคนไดร้ บั
อารมณใ์ ด และผูด้ ำเนิน
ความสุข สนุกสนาน
กิจกรรมดำเนนิ การอยา่ งไร
สร้างสมั พันธภาพท่ดี ีกบั ผ้อู ่ืน จากการเล่นเกม นักเรยี น
- ทีผ่ า่ นมานักเรียนเคยใช้
ในอนาคตนักเรียนจะปรับ
ดว้ ยการส่อื สารเชงิ บวก
รู้สึกอยา่ งไร และนกั เรียน
คำพูดท่ใี หก้ ำลังใจเพือ่ น
แนวทางการส่อื สารหรือใช้
ใช้คำพดู ใดในการให้กำลงั ใจ ในโอกาสใดบา้ ง อย่างไร
คำพดู ในเชงิ บวกอยา่ งไร
เพือ่ น
- นกั เรยี นเคยพูดสือ่ สาร
กบั เพอ่ื นในโอกาสใดบ้าง
ทท่ี ำให้เพ่อื นเศร้าใจ
อยา่ งไร
ในระหวา่ งทำกิจกรรม
นกั เรยี นเคยพูดกบั เพอ่ื น
การสร้างสมั พันธภาพทีด่ ี
คำพดู ใดบ้างที่ฟังแลว้ รู้สกึ ดว้ ยคำพดู อยา่ งไรบ้าง
กบั เพื่อน มีแนวทางการ
สบายใจ ทำไมจึงรสู้ ึก
และผลเปน็ อยา่ งไร
สอ่ื สารอยา่ งไรบา้ ง
อยา่ งนนั้
229
แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ติ บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นร
ู้
องค์ประกอบพฤติกรรม คำถามเพื่อการสะทอ้ น
คำถามเพ่ือการเชอ่ื มโยง คำถามเพอ่ื การปรบั ใช้
ทกั ษะชวี ติ
Reflect (R)
Connect (C)
Apply (A)
เคารพกฎ กติกาของสังคม
จากการรว่ มกจิ กรรม
ท่ผี า่ นมานกั เรียนเคยรว่ มทำ นักเรยี นมวี ิธีการใดบา้ งที่จะ
นกั เรยี นมคี วามรสู้ ึกอย่างไร
กิจกรรมใดแล้วไม่ปฏบิ ตั
ิ ใหต้ นเองและผอู้ น่ื เคารพ
นกั เรยี นคิดอย่างไรกบั
ตามกฎกติกาของสว่ นรวม
กฎ กติกาของสงั คม
กฎกติกาที่ไดใ้ ช้ในการจัด ผลเปน็ อย่างไร
กิจกรรม
ในระหวา่ งเรยี นคอมพิวเตอร์ นักเรยี นเคยเจอเหตุการณ
์ ถ้านกั เรยี นเข้าร่วมกิจกรรม
มเี พอ่ื เปิดเพลงเสยี งดัง ในลักษณะนีบ้ ้างหรอื ไม่
กับบุคคลท่ีหลากหลาย
นักเรียนรสู้ ึกอย่างไร
และไดแ้ กป้ ัญหาอย่างไร
นกั เรียนไมเ่ คารพกฎ กติกา
และได้แกป้ ญั หาอยา่ งไร
ของสังคมผลจะเป็นอย่างไร
ใหค้ ำปรึกษาแก้ผู้อน่ื ได
้ ในระหวา่ งเรียน นักเรยี น
นกั เรยี นเคยให้คำปรึกษา
ถา้ นักเรียนได้มีโอกาส
ไมเ่ ขา้ ใจบทเรียน นักเรยี น
ใครบา้ งในเรอื่ งใด ผลเปน็ เปน็ ท่ปี รึกษาเกีย่ วกับ
ทำอย่างไร และมีใครบา้ ง
อย่างไร
การร่างนโยบายการสรา้ ง
ท่ีช่วยได้
จติ สำนึกความเป็นไทย
นกั เรียนมีแนวคดิ อย่างไร
ในระหวา่ งเรยี นคณติ ศาสตร์ นักเรยี นเคยพบหรอื มเี พ่ือน
ถา้ นักเรียนเป็นครู ลูกศษิ ย
์
นักเรียนไม่เขา้ ใจ นกั เรียน ที่ใหค้ ำปรกึ ษาผ้อู ่นื บา้ ง
มาปรึกษาเรือ่ งเรยี นทำอย่างไร
ปรึกษาใครได้บ้าง
หรอื ไม่ ผลเป็นอย่างไร
จึงจะเรียนแลว้ ประสบ
ผลเป็นอยา่ งไร
ความสำเรจ็ นกั เรียนจะม
ี
วิธกี ารใหค้ ำปรึกษาอยา่ งไร
230
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551
บรรณานกุ รม
กรมสขุ ภาพจติ . กระทรวงสาธารณสุข. ความรูเ้ ร่ืองการเสริมสรา้ งความฉลาดทางอารมณ์ เดก็ อาย
ุ
3-11 ปี สำหรับฝกึ วิชาการ. โรงพมิ พอ์ งคก์ ารสงเคราะหท์ หารผา่ นศึก. 2547.
กรมสุขภาพจิต. กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการจัดกิจกรรม “ฝึกคิดแก้ปัญหาพัฒนา EQ”
(สำหรับศนู ย์เพื่อนใจวัยร่นุ ). โรงพิมพช์ ุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย 2547.
กรมสุขภาพจิต. กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการจัดกิจกรรมเพ่ือเสริมสร้างพลังสุขภาพจิตใน
สถานศกึ ษา. บริษัทปยิ อนดพ์ บั ลิชชง่ิ จำกัด. 2553.
กรมสุขภาพจิต. กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการเสริมสร้างพลังสุขภาพจิตสำหรับสถานศึกษา.
บรษิ ัทปยิ อนด์พบั ลิชชิง่ จำกัด. 2553.
กรมสุขภาพจิต. กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการให้การปรึกษาเพื่อเสริมสร้างพลังสุขภาพจิต.
บรษิ ัทปยิ อนด์พับลิชชง่ิ จำกดั . 2553.
กรมสุขภาพจิต. กระทรวงสาธารณสุข. อคี ิวการพฒั นาความฉลาดทางอารมณ.์ มปท. 2544.
กระทรวงศกึ ษาธิการ. หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชมุ ชน
สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย, 2551.
ทีมงานไร้ท์ทูเพลย์ประเทศไทย. แนวทางการจัดการอภิปรายสำหรับครูผู้สอนชาวไทย.ไร้ท์ทูเพลย์.
กรุงเทพฯ 2552.
วนิดา ขาวมงคลเอกแสงศรี. หลักการสอนการพัฒนาทักษะชีวิต. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ
์
มหาวิทยาลยั . 2546.
สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย. คู่มือการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญท่ีเน้นทักษะชีวิต.
www.thaiheath.or.th, 2553.
สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย. คู่มือการจัดกิจกรรมลูกเสือสำรองท่ีเน้นทักษะชีวิต.
www.thaiheath.or.th, 2553.
สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย. คู่มือฝึกอบรมการจัดกิจกรรมลูกเสือท่ีเน้นทักษะชีวิต.
มปท. 2553.
สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์. การสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง, ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพวัยรุ่น
คณะแพทยศ์ าสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ดี. www.teenrama.com.Hotline.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน. แนวทางการพัฒนาการวัดและประเมินคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551.
โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย. 2552.
231
แนวทางการพฒั นาทักษะชีวติ บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน. การพัฒนาทักษะชีวิตในระบบการศึกษา
ขน้ั พื้นฐาน. มปท. 2554.
องค์กรไร้ท์ทูเพลย์. คู่มือทักษะชีวิต เคร่ืองมือช่วยเหลือและสนับสนุนครู เอกสารประกอบการฝึก
อบรม. มปท. 2553.
อุบลวรรณ แสนมหายักษ์. การสร้างความร่วมมือระหว่างโรงเรียนกับชุมชนด้วยกระบวนการ
มสี ่วนรว่ ม. กรมสุขภาพจติ . 2545.
อบุ ลวรรณ แสนมหายักษ.์ พูดดี คดิ ดี ปฏบิ ตั ิดี ชีวเี ป็นสขุ . Lily Print Shop. 2550.
อุบลวรรณ แสนมหายักษ.์ อารมณ์ความรสู้ ึกของมนุษย์ Lily Print Shop, 2550.
232
หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
คณะที่ปรึกษา
รายช่ือคณะผจู้ ัดทำเอกสาร
1. นายชินภทั ร ภูมิรัตน เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน
2. นายชยั พฤกษ์ เสรีรกั ษ์ รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน
3. นางสาววีณา อัครธรรม ผอู้ ำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
4. นางอบุ ลวรรณ แสนมหายักษ์ ขา้ ราชการบำนาญ
5. นางธนมิ า เจริญสขุ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื และการแนะแนว
สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
คณะทำงานยกรา่ งแนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ิตบูรณาการ
การเรียนการสอน 8 กล่มุ สาระการเรยี นรู้
1. นางอบุ ลวรรณ แสนมหายกั ษ์ ขา้ ราชการบำนาญ
2. นายอดลุ ย์ เตาวะโต ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านอุไร
สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสตูล
3. นางศริ ิรัตน์ บุญตานนท์ ศกึ ษานเิ ทศน์เชีย่ วชาญ สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษา
ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1
4. นางเครอื มาศ เจะสาเมาะ ศกึ ษานิเทศชำนาญการพิเศษ
สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาปัตตานี เขต 1
5. นางเกยรู ปุริยพฤทธ์ ิ นกั วิชาการศกึ ษาชำนาญการพิเศษ
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
6. นางสาวพรนภิ า ศลิ ปป์ ระคอง นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ
สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
7. นายธำรงศกั ด์ิ ธำรงเลิศฤทธ์ิ นกั วิชาการศกึ ษาชำนาญการพเิ ศษ
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
8. นางสุขเกษม เทพสทิ ธ์ ิ นกั วชิ าการศึกษาชำนาญการพิเศษ
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
9. นางประไพ ปิน่ สุวรรณ์ จข้าราชการบำนาญ
10. นางสาวมยรุ ี ดว้ งศร ี ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนสนั ปา่ ยางวิทยาคม
สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษามธั ยมศกึ ษาเชียงใหม่ เขต 34
233
แนวทางการพัฒนาทกั ษะชีวติ บรู ณาการการเรยี นการสอน 8 กล่มุ สาระการเรียนร
ู้
11. นางสพุ รรณี ณรงค์กลู ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนบอ่ เกดวจิ ิตรวทิ ยา
สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาสงขลา เขต 3
12. นางตตยิ า ทองรุ่งโรจน์ ครชู ำนาญการพิเศษ
โรงเรยี นพระยาประเสรฐิ โสนทราศรัย (กระจา่ ง สงิ หเสนี)
สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร
13. น.ส.มาลี มโนหาญ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรยี นบ้านแม่ขา้ วตม้ ท่าสดุ
สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเชยี งราย เขต 1
14. นางจันทนา หนอ่ สุวรรณ ครชู ำนาญการพิเศษ โรงเรยี นบ้านแม่ข้าวตม้ ท่าสดุ
สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต 1
15. นางนิตยา ไพสิษฐเฟอ่ื งฟ ู ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนบา้ นแมข่ ้าวตม้ ทา่ สุด
สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1
16. นายสนุ ทร พิลาลัย ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรยี นบ้านหว้ ยไคร้
สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเชยี งราย เขต 3
17. นางอนงค์ พิลาลยั ครชู ำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านหว้ ยไคร้
สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเชยี งราย เขต 3
18. นางอทิตญา นอ้ ยนำ้ ใส ครชู ำนาญการพิเศษ โรงเรยี นบางระกำวทิ ยศึกษา
สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 39
19. นางภาวนา มกี ลิ่นหอม ครชู ำนาญการพิเศษ โรงเรียนคลองบางกะสี
สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2
20. น.ส.รัตตกิ าล สระทองช่วง ครชู ำนาญการพเิ ศษ โรงเรยี นคลองบางแกว้
สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาสมทุ รปราการ เขต 2
21. นางจำเรยี ง ประดบั เวทย์ ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรยี นประถมศกึ ษาธรรมศาสตร์
สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1
22. นางทรงศรี นารินทร ์ ครชู ำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม
สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษา เขต 36
23. นางประคอง กลิ่นจันทร ์ ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนธารทองวิทยา
สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเชยี งราย เขต 2
24. นางสาวปฑิตตา จำรัส ครูชำนาญการ โรงเรยี นบ้านรอ่ งส้าน
สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษาพะเยา เขต 2
25. นางสาวสมพสิ สวัสดี ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวดั พชื นิมติ ร
234
หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551
26. นางสุวรรณี จนั ทรแ์ จ่มแจ้ง ครชู ำนาญการ โรงเรยี นบางระกำวิทยศกึ ษา
27. นางสาวอฌั ชา ฝงู ชมเชย ครชู ำนาญการ โรงเรยี นพญาเม็งราย อ.พญาเม็งราย
28. นางนิภา สนุ วงค ์ นกั วชิ าการศึกษาชำนาญการ
สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาอุดรธาน
ี
29. นางกรรณิการ์ ม่วงมติ ร นักวิชาการศึกษาชำนาญการ
สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 20
30. นายบุญเลิศ ทองชล รองผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมพชั รกิตตยิ าภา ๓ สุราษฎร์ธานี
31. นางสาวสภุ าวดี คงทองสงั ข ์ ครูโรงเรยี นมธั ยมพชั รกติ ติยาภา ๓ สรุ าษฎร์ธานี
32. นางอจั ฉรา ขจรศกั ดสิ์ ิริกุล ครชู ำนาญการพิเศษ
โรงเรยี นมธั ยมพัชรกิตตยิ าภา ๓ สรุ าษฎร์ธานี
33. นางจุฑาทิพย์ จงสำราญ ครชู ำนาญการโรงเรียนบา้ นแมข่ ้าวต้มทา่ สุด
สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต 1
34. นางนิราชา แสงหล้า ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนนำ้ ทองพัฒนศึกษารัชมังคลาภิเษก
สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 25
35. จฑุ าทิพย์ เกตรัตน์ เจา้ หน้าท่จี ดั อบรมมูลนธิ ิไร้ท์ทเู พลย
์
36. นายองั กรู เศรษฐวนกลุ เจา้ หน้าท่ีประสานงานมูลนธิ ไิ ร้ทท์ ูเพลย
์
นกั วชิ าการศกึ ษาชำนาญการพิเศษ
37. นางสายพันธุ์ ศรพี งษ์พันธุก์ ลุ กลุ่มพฒั นาระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรียนและการแนะแนว
สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
คณะบรรณาธกิ ารกิจ และจดั ทำเอกสาร
1. นางธนิมา เจริญสุข หวั หนา้ กลุ่มพฒั นาระบบการดูแลชว่ ยเหลอื และการแนะแนว
สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
2. นางอบุ ลวรรณ แสนมหายกั ษ์ ข้าราชการบำนาญ
3. นางกรแกว้ ถนอมกลาง นกั วิชาการชำนาญการพิเศษ
กลุ่มพัฒนาระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียนและการแนะแนว
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
4. นางสาวจรี ะวรรณ ปักกดั ตงั นกั วิชาการชำนาญการพเิ ศษ
กลมุ่ พัฒนาระบบดแู ลช่วยเหลอื นักเรียนและการแนะแนว
สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
235
5. นางสาวสรอ้ ย ทรพั ย์ประสม นกั วชิ าการชำนาญการพเิ ศษ
กลุ่มพฒั นาระบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรยี นและการแนะแนว
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
6. นางสายพันธุ์ ศรพี งษพ์ ันธกุ์ ลุ นกั วิชาการชำนาญการพิเศษ
กลมุ่ พฒั นาระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรียนและการแนะแนว
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
พมิ พ์ท ี่ โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั
79 ถนนงามวงศว์ าน แขวงลาดยาว เขตจตจุ ักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร. 0-2561-4567 โทรสาร 0-2579-5101
นายโชคดี ออสวุ รรณ ผู้พมิ พ์ผ้โู ฆษณา พ.ศ. 2554