The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Jitrawee Wongdee, 2020-09-16 00:47:35

แนวการจัดการเรียนรู้ ทักษะชีวิต สพฐ.

ทักษะ ชีวิต

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชีวติ บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุม่ สาระการเรยี นร
ู้

3. สาระการเรียนร้แู กนกลาง

3.1 การเกดิ ดนิ

3.2 ชนิดและคณุ สมบตั ขิ องดิน



4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น

- ความสามารถในการคิด

ทักษะการสงั เกตส่วนประกอบของดิน

ทักษะการจำแนกประเภทของดนิ



5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : ความมเี หตผุ ล

องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ิต : การคดิ วเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจ และการแก้ไขปญั หาอยา่ งสร้างสรรค

- มจี ินตนาการและสามารถคิดไดอ้ ยา่ งเช่อื มโยง



6. ชิน้ งาน/ภาระงาน

6.1 ผังมโนทัศน์กำเนิดดิน และชนดิ ดนิ ทเี่ หมาะสมสำหรับการปลกู พืช

6.2 แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ



7. การวดั และประเมินผล

7.1 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนร
ู้
7.1.1 สงั เกตจากการตอบคำถามของนักเรยี น

7.1.2 สังเกตจากการรว่ มกิจกรรมกลมุ่

7.2 การประเมนิ เม่ือสิ้นสดุ กจิ กรรมการเรียนร
ู้
แบบฝกึ ปฏิบัติชนดิ เติมคำ 10 ข้อ




90

หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551


8. กิจกรรมการเรยี นร้

8.1 ครูนำตัวอยา่ งดนิ ทม่ี ีลักษณะและสีต่าง ๆ มาใหด้ ู

8.2 ครถู ามคำถามว่า ดินเกิดจากอะไร

8.3 นักเรยี นตอบคำถาม ครเู ขียนคำตอบบนกระดาน

8.4 นกั เรยี นเข้ากลุ่ม 4 คน ครูใหน้ ักเรียนดสู ่วนประกอบของดนิ จากตวั อย่าง กล่มุ ละ 1 - 2
ตัวอย่าง

8.5 นักเรียนในกลุ่มร่วมกันสังเกตอย่างละเอียด โดยใช้แว่นขยาย อภิปราย และบันทึก

สงิ่ ทีพ่ บในดนิ

8.6 ตวั แทนกลุ่มออกมาสรุปวา่ ในดนิ มีอะไรบ้าง

8.7 ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ วา่ ดนิ มสี ่วนประกอบยอ่ ย ๆ อะไรบา้ ง แลว้ สว่ นประกอบ
เหล่านน้ั เมอื่ มาแบ่งเป็นกลมุ่ ใหญ่ ๆ จะไดก้ ่ีกลมุ่ (สองกลุ่มคือ ซากพืชซากสตั วแ์ ละเศษหนิ แร่)

8.8 นกั เรียน ครู อภปิ รายและสรุปว่าดนิ เกดิ จากอะไร มีสว่ นประกอบอะไรบา้ ง

8.9 ครนู ำตวั อยา่ งดนิ ร่วน ดินทราย ดนิ เหนยี ว มาใหด้ แู ละถามวา่

- ดนิ แต่ละชนิดคอื ดินอะไร

- ดินชนิดใดมีอนภุ าคทรายปนอยู่มากทสี่ ุด ดนิ ชนดิ ใดมอี นุภาคทรายปนอยูน่ อ้ ยทส่ี ดุ

- ขนาดเม็ดดินแตกต่างกันหรือไม่ อยา่ งไร

8.10 นกั เรยี นเขยี นชอ่ื พชื ทเ่ี หมาะสมต่อการปลูกในดินชนดิ ต่าง ๆ โดยค้นคว้าเพ่ิมเตมิ จาก
เอกสาร หนงั สอื

8.11 นกั เรยี นเขียนสรุปเปน็ ผงั มโนทัศนก์ ำเนิดดนิ และชนดิ ดินทีเ่ หมาะสมสำหรบั การปลูกพชื

8.12 นกั เรยี นทำแบบฝึกปฏิบตั ิจำนวน 10 ขอ้




















91

แนวทางการพัฒนาทักษะชีวติ บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร
ู้


8.13 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพื่อพฒั นาทักษะชีวิต รจู้ ักเอาใจเขามา
ใส่ใจเรา (แสดงออกหรือสะท้อนความรู้สึกหรือการกระทำของตนเองท่ีแสดงว่า เข้าใจและ
ใสใ่ จผู้อื่น)

คำถามเพ่ือการสะทอ้ น (R)

- ในขณะที่นกั เรยี นรว่ มกันกับเพื่อน เชน่ วิเคราะหด์ ิน เขยี นแผนผงั เร่อื งกำเนดิ ดนิ

นกั เรียนรู้สึกว่ามีปญั หาระหวา่ งเพ่อื นหรอื ไม่

- ปัญหานัน้ เปน็ อย่างไรบา้ ง

คำถามเพอื่ การเชือ่ มโยง (C)

- นักเรียนเคยมีปัญหาระหว่างเพ่ือนในการพูดกันไม่รู้เรื่อง ไม่พอใจคำพูดของ

เพอื่ น หรอื โกรธกันบ้างหรอื ไม่ เปน็ เพราะอะไร

- นักเรียนเคยสังเกตไหมว่า ขณะทำงานพูดคุยแสดงความคิดเห็น เพื่อน ๆ


มีความรู้สึกอย่างไร เช่น เวลาพูดตำหนิ หรือไมฟ่ ังเพ่ือน เพอ่ื นเขามคี วามรู้สึก
อยา่ งไร เคยสังเกตไหม

- ถ้าเปน็ ตัวนกั เรียนเองจะรู้สกึ เหมือนทีเ่ พื่อนร้สู ึกหรือไม่

คำถามเพื่อการปรับใช้ (A)

- ในโอกาสต่อไปนักเรียนจะมีวิธีการอย่างไรจึงจะรู้ว่าเพ่ือนไม่พอใจหรือน้อยใจ
เสยี ใจ จากคำพูดหรือการกระทำของเรา

- ถ้ารู้ว่าเพื่อนน้อยใจ เสียใจ จากคำพูดหรือการกระทำของเรา นักเรียนจะ
ปฏบิ ตั ิตอ่ เพอ่ื นอย่างไรท่แี สดงวา่ เราเหน็ ใจเพอ่ื น

9. สอ่ื การเรยี น

9.1 ตัวอย่างดิน

9.2 แว่นขยาย

9.3 หนงั สอื เรียน/เอกสาร

9.4 คำถาม R - C - A


92

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551


แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้บรู ณาการทกั ษะชวี ิตในกลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร


รายวิชา วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5

เร่อื ง วัฏจกั รนำ้ เวลา 2 ชว่ั โมง



1. มาตรฐานการเรยี นร้

- ว 6.1 เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนบนผิวโลกและภายนอกโลก ความสัมพันธ์
ของกระบวนการต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และสัณฐานของโลก

มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูแ้ ละจิตวิทยาศาสตร์ สอื่ สารส่งิ ทเี่ รียนรู้และนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน

ตวั ช้วี ัด

- ทดลองและอธิบายการเกิดวฏั จักรนำ้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

- ทดลองและอธิบายการเกิดวฏั จกั รน้ำ

องค์ประกอบทักษะชวี ิต : ตระหนกั รู้และเหน็ คณุ คา่ ในตนเองและผ้อู ื่น

- แสดงความรู้สึก ช่ืนชมความสำเร็จของตนเอง และผู้อื่น ปฏิบัติตนเป็นประโยชน์ต่อ
ครอบครัวและสังคม



2. สาระเน้อื หา

- วฏั จกั รนำ้ เกดิ จากการหมุนเวียนอย่างตอ่ เนอื่ งระหวา่ งน้ำบริเวณผวิ โลกกับนำ้ ในบรรยากาศ



3. ชน้ิ งานท่คี วรปรากฏ

- เขียนแผนผังวัฏจักรของน้ำ



4. กิจกรรมการเรยี นร
ู้
4.1 ครูนำภาพท่ีเก่ียวกับแหล่งน้ำ แม่น้ำ ลำคลอง ทะเล ฝนตก คนรดน้ำต้นไม้ มาให้
นักเรยี นด

4.2 ครูถามนักเรยี นวา่ จากภาพทเี่ หน็ นั้นเก่ยี วกับอะไร

4.3 นกั เรยี นคิดว่าน้ำจากแหล่งตา่ ง ๆ มาจากไหน

4.4 นกั เรียนร่วมกันสนทนา


93

แนวทางการพฒั นาทักษะชีวิต บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้

4.5 นกั เรียนรวมกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 - 5 คน แลว้ รว่ มกนั คิดอภิปรายตามประเดน็ ต่อไปน้ี

4.5.1 นำ้ เกิดขน้ึ ไดอ้ ย่างไร

4.5.2 นำ้ มีความสัมพนั ธ์กบั สิ่งมีชีวิตอยา่ งไร

4.6 นักเรียนร่วมกันอภิปรายตามประเด็นแล้วร่วมกันสรุป จัดทำเป็นแผนผังมโนทัศน


รปู แบบท่ีนกั เรียนถนดั และกลมุ่ เห็นพอ้ งตอ้ งกันแล้วส่งตวั แทนมานำเสนอหนา้ ชั้นเรียน




4.7 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต การเห็นคุณค่า

ในตนเองและผอู้ ่นื

คำถามเพอื่ การสะท้อน (R)

- นักเรียนชอบแผนผังมโนทัศน์หรือวิธีการนำเสนองานของกลุ่มตนเอง และ

กล่มุ อ่ืน ๆ ทีม่ านำเสนองานอยา่ งไรบ้าง

- อยากพดู ชมผลงานหรอื ความสามารถของเพ่อื นวา่ อย่างไร

คำถามเพ่ือการเชอ่ื มโยง (C)

- ที่ผ่านมานักเรียนเคยได้รับคำชมจากใครเรื่องอะไรบ้าง และเคยชมเพ่ือนบ้างไหม

ชมว่าอย่างไร

- ขณะทีช่ มเพือ่ นนกั เรียนรสู้ ึกอยา่ งไร

คำถามเพ่อื การปรบั ใช้ (A)

ในโอกาสต่อไปหากได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น นักเรียนจะใช้คำพูดแสดงความช่ืนชม
ผ้อู ื่นว่าอย่างไรบา้ ง


94

หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551


5. สื่อ/วัสดุอุปกรณ

- ภาพแหลง่ นำ้ แม่นำ้ ลำคลอง ทะเล ภาพฝนตก ภาพคนรดน้ำตน้ ไม้



6. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้

6.1 ตรวจผลงานการเขยี นวัฏจกั รของนำ้

6.2 สังเกตพฤติกรรมการทำงานร่วมกัน การอภิปราย ตอบคำถาม สนทนาจากคำถาม

R - C - A การสร้างผลงานและการนำเสนอ

6.3 ทดสอบความรู้เรือ่ งวัฏจกั รของน้ำ



7. กิจกรรมเสนอแนะ

ให้นกั เรยี นไปสังเกตลักษณะของการเกิดวฏั จักรของนำ้ ในบรเิ วณตา่ ง ๆ ทพี่ บเห็น


95

แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ิต บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรบู้ รู ณาการทกั ษะชวี ติ ในกล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์


รายวชิ า วิทยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1

เร่อื ง ธรรมชาติผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง เวลา 3 ชั่วโมง



1. มาตรฐานการเรียนรู้

- ว 6.1 เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวโลกและภายนอกโลก ความสัมพันธ์
ของกระบวนการต่าง ๆ ท่ีมีผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และสัณฐานของโลก

มกี ระบวนการสืบเสาะหาความร้แู ละจติ วทิ ยาศาสตร์ สอ่ื สารสิ่งทีเ่ รียนรแู้ ละนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตวั ช้วี ดั

- ม.1/6 สืบค้น วิเคราะห์ และอธิบายปัจจัยทางธรรมชาติและการกระทำของมนุษย


ที่มผี ลตอ่ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของโลก รูโหว่โอโซน และฝนกรด

- ม.1/7 สืบค้น วิเคราะห์และอธิบายผลของภาวะโลกร้อน รูโหว่โอโซน และฝนกรด

ที่มตี อ่ ชีวติ และสิ่งแวดลอ้ ม



2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

2.1 ปจั จยั ทางธรรมชาติและการกระทำของมนษุ ย์ เชน่ ภูเขาไฟระเบดิ การตดั ไม้ทำลายปา่
การเผาไหม้ของเคร่ืองยนต์ และการปล่อยแก๊สเรือนกระจกมีผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อนรูโหว่ของ


ชนั้ โอโซนและฝนกรด

2.2 ภาวะโลกร้อนคือปรากฏการณท์ ่ีอณุ หภูมิเฉลีย่ ของโลกสูงขนึ้

2.3 ภาวะโลกร้อนทำให้เกิดการละลายของธารน้ำแข็ง ระดับน้ำทะเลสูงข้ึน การกัดเซาะ
ชายฝงั่ เพมิ่ ขนึ้ นำ้ ทว่ ม ไฟป่า ส่งผลให้ส่งิ มีชวี ติ บางชนิดสูญพนั ธ์แุ ละทำให้ส่งิ แวดล้อมเปลย่ี นแปลงไป

2.4 รูโหว่โอโซน และฝนกรดมผี ลตอ่ การเปล่ยี นแปลงของส่งิ มีชวี ิตและสิง่ แวดลอ้ ม



3. สาระเนอื้ หาการเรยี นรู้

3.1 ปัจจัยทางธรรมชาติและการกระทำของมนุษย์ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของ
โลก รูโหว่โอโซน และฝนกรด

3.2 รโู หว่โอโซนและฝนกรดมีผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงของสิ่งมชี วี ติ และสิ่งแวดล้อม




96

หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551


4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการคดิ

4.1.1 ทักษะการใหเ้ หตุผล บอกเหตุและผลจากปัจจัยทางธรรมชาติและการกระทำ
ของมนุษย์ทม่ี ีผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงอุณหภูมขิ องโลก รูโหวโ่ อโซนและฝนกรด

4.1.2 ทักษะการแปลความ แปลข้อมลู จากสญั ลกั ษณ์แผนท่อี ากาศ

4.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา

4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ในการสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต เพื่อทำการ
วิเคราะห์รายงานผลจากปัจจัยทางธรรมชาติและการกระทำของมนุษย์ท่ีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง
อณุ หภูมขิ องโลก รูโหว่โอโซน และฝนกรด และการสบื ค้นแผนทอ่ี ากาศรายวนั รวมท้ังการแปลความ
สญั ลกั ษณ์จากแผนท่ี



5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

- การร่วมแสดงความคดิ เหน็ และยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผูอ้ ืน่

องค์ประกอบทักษะชีวิต : การตระหนกั รู้และเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผอู้ น่ื



6. ชิ้นงาน/ภาระงาน

6.1 แบบฝึกหัดการอ่านแผนทอ่ี ากาศภาพถ่ายจากดาวเทียม

6.2 แบบสรุปปัจจัยทางธรรมชาติและการกระทำของมนุษยท์ ี่มีผลทำให้เกิดภาวะโลกรอ้ น
รูโหว่ของชั้นโอโซนและฝนกรด และรูโหว่โอโซน และฝนกรดมีผลต่อการเปล่ียนแปลงของส่ิงมีชีวิต
และส่งิ แวดลอ้ ม



7. การวัดและประเมินผล

7.1 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรยี นร
ู้
7.1.1 ตรวจแบบสรุปปัจจัยทางธรรมชาติและการกระทำของมนุษย์ที่มีผลทำให้เกิด
ภาวะโลกร้อนรูโหว่ของชั้นโอโซนและฝนกรด และรูโหว่โอโซนและฝนกรดมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง
ของสง่ิ มชี ีวิตและสง่ิ แวดลอ้ ม

7.1.2 ประเมนิ การอ่านแผนท่อี ากาศกรมอตุ ุนยิ มวิทยาและภาพถา่ ยจากดาวเทียม


97

แนวทางการพฒั นาทกั ษะชีวิต บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุม่ สาระการเรียนร
ู้

7.2 การประเมนิ เมือ่ สิ้นสดุ กิจกรรมการเรียนร
ู้
7.2.1 แบบประเมนิ ผลหลังเรียนร้เู ป็นอตั นัย 10 ข้อ

7.2.2 การแปลขอ้ มลู แผนที่ลกั ษณะอากาศจากภาพถ่ายจากดาวเทยี ม



8. กิจกรรมการเรียนร
ู้
8.1 นักเรยี นเข้ากลมุ่ 3 - 4 คน ร่วมกันสบื ค้นขอ้ มลู จากแหลง่ ต่าง ๆ เชน่ อนิ เทอร์เนต็
เอกสาร หนังสือ ส่ิงพิมพ์ต่าง ๆ ร่วมกันอภิปราย สรุปปัจจัยทางธรรมชาติและการกระทำท่ีมีผล


ทำใหเ้ กิดภาวะโลกร้อนรโู หวข่ องชน้ั โอโซนและฝนกรดไดอ้ ย่างไร

8.2 กลุ่มร่วมกันอภิปรายต่อในประเด็นรูโหว่โอโซน และฝนกรดมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง
ของสิง่ มีชวี ติ และส่ิงแวดล้อมอย่างไรบา้ ง

8.3 ตวั แทนแตล่ ะกลุ่มรายงานผลการสบื ค้นหนา้ หอ้ งเรียน

8.4 นักเรียนแต่ละคนเขียนผังความคิด สรุปสาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน รูโหว่ของ

ชั้นโอโซน ฝนกรด และผลกระทบของการเกิดภาวะโลกร้อน รูโหว่ของช้ันโอโซน ฝนกรด ท่ีมีต่อ

ส่งิ แวดล้อม

8.5 นกั เรยี นฝกึ อา่ นสัญลักษณแ์ ผนทอ่ี ากาศจากภาพถา่ ยจากดาวเทียม

8.6 กลมุ่ ร่วมกนั คน้ หาขอ้ มูล แผนท่อี ากาศกรมอุตุนยิ มวิทยา และภาพถา่ ยจากดาวเทียม
ในวนั ทปี่ ัจจบุ ันจากอนิ เทอรเ์ นต ร่วมกันแปลข้อมูลและเขยี นรายละเอยี ดให้มากท่สี ดุ กล่มุ ละ 1 ชิน้ งาน
ตัวแทนกล่มุ สรุปหนา้ ห้องเรยี น และตดิ ไว้ที่บอรด์ หนา้ ห้องเรยี น

8.7 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการอ่านข้อมูล จากแผนที่อากาศกรมอุตุนิยมวิทยาจาก

อินเทอร์เนต็

8.8 นักเรียนทำแบบประเมนิ ผลหลังเรียนเปน็ อัตนยั 10 ขอ้



















98

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551



8.9 สนทนาดว้ ยเทคนคิ คำถาม R - C - A เพ่ือพฒั นาทักษะชวี ิต การเสาะแสวงหา
ข้อมลู และใช้ข้อมลู ให้เปน็ ประโยชน์

คำถามเพอื่ การสะท้อน (R)

- นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรที่ได้มีโอกาสสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ใช้เวลา

นานแค่ไหนจงึ จะสืบคน้ เจอข้อมลู ทีต่ อ้ งการ

- การสืบคน้ ข้อมูลครั้งนี้ ประสบความสำเรจ็ เพราะใคร

- มีสิ่งใดบ้างที่เป็นปัญหาหรือทำให้เกิดความรู้สึกท่ีไม่ดีต่อกัน หรือขัดขวาง


การทำงานใหล้ า่ ชา้ หรอื ทำให้ผลงานไม่นา่ พงึ พอใจมากเทา่ ที่ควรได้

คำถามเพอ่ื การเชอื่ มโยง (C)

- ในการทำงานสืบค้นข้อมูลทั้งท่ีผ่านมาจนถึงคร้ังนี้ นักเรียนคิดว่าคร้ังใด


ทป่ี ระสบความสำเรจ็ มากที่สดุ เพราะอะไร

คำถามเพอื่ การปรบั ใช้ (A)

- หากครูมอบหมายให้ทำการสืบค้นข้อมูลหรือการทำโครงงานร่วมกันอีก

นักเรียนคิดว่าจะปฏิบัติอย่างไรจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด (ประหยัดเวลา

ได้ความรู้และประโยชน์สูงสุด) หรือนักเรียนต้องการปรับปรุงในเรื่องใดบ้าง
ปรบั ปรงุ อยา่ งไร

9. สือ่ /วสั ดุอปุ กรณ์

9.1 เอกสาร หนงั สือ อปุ กรณช์ ุดคอมพวิ เตอร์และอนิ เทอร์เน็ต

9.2 เอกสารประกอบการเรยี นรู้ หนงั สอื สงิ่ พมิ พต์ ่าง ๆ

9.3 กระดาษบันทึกผล ปากกา เครอ่ื งพิมพ

9.4 ตวั อยา่ งแผนทอี่ ากาศกรมอุตุนยิ มวิทยา และภาพถ่ายดาวเทยี ม


99

แนวทางการพัฒนาทักษะชวี ิต บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้บรู ณาการทักษะชีวิตในกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร


รายวชิ า วิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3

เรอ่ื ง ความปกตแิ ละโรคทางพนั ธกุ รรม เวลา 3 ช่วั โมง



1. มาตรฐานการเรียนรู้

- ว 1.2 เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนบนผิวโลกและภายนอกโลก ความสัมพันธ์
ของกระบวนการต่าง ๆ ท่ีมีผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และสัณฐานของโลก

มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจติ วทิ ยาศาสตร์ สื่อสารสิง่ ที่เรียนรูแ้ ละนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชว้ี ัด

- อภิปรายโรคทางพันธุกรรมท่ีเกิดจากความผิดปกติของยีนและโครโมโซมและนำความร
ู้

ไปใช้ประโยชน์

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. สามารถจำแนกและอธิบายความผิดปกตทิ างพันธุกรรมทีเ่ กย่ี วข้องกับโครโมโซม

2. สบื ค้นข้อมูลและยกตัวอยา่ งความผดิ ปกตขิ องโรคทางพนั ธกุ รรมได

องค์ประกอบทกั ษะชีวติ : การคดิ วเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจและแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค

- มที ักษะในการแสวงหาและใชข้ ้อมูลใหเ้ ปน็ ประโยชนก์ บั ตนเอง



2. สาระเน้ือหา

2.1 ความผิดปกตทิ างพันธุกรรม

2.2 โรคทางพนั ธุกรรม



3. ชิ้นงานท่ีควรปรากฏ

- แฟม้ คน้ คว้าเก่ียวกบั โรคทางพนั ธกุ รรม



4. กจิ กรรมการเรียนร
ู้
4.1 ขั้นนำเข้าส่บู ทเรยี น

ครูและนักเรียนสนทนาเพื่อทบทวนบทเรียนเรื่องการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
และเชือ่ มโยงมาถงึ ความผดิ ปกติและโรคทางพนั ธกุ รรม


100

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551


4.2 ข้ันใหป้ ระสบการณ์

4.2.1 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 - 5 คน ให้แต่ละกลุ่มศึกษาเร่ืองความผิดปกติ
ทางพันธุกรรมและทำแบบฝึกกจิ กรรมท่ี 2.1 จากหนังสอื เรียน

4.2.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอข้อมูลที่ได้จากการทำกิจกรรมท่ี 2.1 หน้าชั้นเรียน

กลมุ่ ละ 3 นาท

4.2.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกโรคทางพันธุกรรมท่ีเกิดจากความผิดปกติของ
โครโมโซมแบบต่าง ๆ มา 1 โรค ต้องการสบื ค้นเกยี่ วกบั อาการโรค สาเหตุ การรักษา และวธิ กี ารท่จี ะ
ให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยสืบค้นจากสารานุกรม ตำราทางการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์

โรงพยาบาล หรืออนิ เทอร์เน็ต

4.2.4 นำขอ้ มลู ท่ไี ด้มาทำแฟ้มค้นควา้ เกี่ยวกับโรค

4.2.5 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอข้อมูลท่ีได้ในรูปแบบต่าง ๆ (บทบาทสมมติ
อภปิ ราย ซกั ถาม ฯลฯ) หนา้ ชัน้ เรียน

4.3 ขน้ั สรุป

4.3.1 ใหน้ กั เรยี นแต่ละคนทำแบบฝกึ ทักษะ พัฒนาการเรียนรจู้ ากหนังสือเรียน

4.3.2 นกั เรยี นแลกเปล่ยี นช้ินงานกบั เพอ่ื นเพ่อื ตรวจคำตอบ

4.3.3 ครูกลา่ วสรุปเนื้อหาโดยรวมเรื่องความผิดปกติทางพนั ธกุ รรม

4 .4 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต การรู้จักจัดการ


กบั อารมณ์และความเครียด

คำถามเพ่อื การสะทอ้ น (R)

- ในการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ นักเรียนรู้สึกกังวล เป็นทุกข์ หรือ

ทอ้ บ้างหรือไม่

- ถา้ หากเราปลอ่ ยใหเ้ กิดทกุ ขใ์ จบ่อย ๆ ทอ้ แท้บ่อย ๆ จะเกิดอะไรขึ้นกบั ตัวเรา

คำถามเพ่ือการเช่อื มโยง (C)

- ในสถานการณ์ที่ผ่าน ๆ มา เคยมีเหตุการณ์อะไรบ้างท่ีตนเองหรือบุคคลอื่น


มีความสุข

คำถามเพ่ือการปรับใช้ (A)

- ในโอกาสต่อไปถ้านักเรียนเป็นทุกข์หรือรู้สึกเครียด จะมีวิธีคลายเครียดให้กับ

ตนเองหรอื สร้างสขุ ใหก้ บั ตนเองและคนรอบขา้ งอย่างไรได้บ้าง


101

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชีวิต บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร
ู้

5. ส่อื /วสั ดอุ ปุ กรณ

5.1 ใบความรู้ 2.1 โรคทางพันธุกรรม

5.2 แบบฝกึ กจิ กรรม























































102

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551


แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้บรู ณาการทักษะชีวติ ในกลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร


รายวชิ า วิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

เร่ือง การอนุรกั ษ์และพัฒนาส่งิ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ เวลา 2 ชัว่ โมง



1. มาตรฐานการเรียนรู้

- ว 2.2 เข้าใจความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระดับท้องถ่ิน
ประเทศและโลก นำความรู้ไปใช้ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในท้องถ่ิน


อย่างยงั่ ยืน

ตัวช้วี ัด

- วางแผนและดำเนินการเฝ้าระวงั อนรุ ักษแ์ ละพฒั นาส่งิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาต

จดุ ประสงค์การเรยี นร
ู้
1. อธบิ ายและวางแผนเฝ้าระวังส่ิงแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาต

2. เขียนแผนดำเนินการเฝ้าระวัง อนรุ กั ษแ์ ละพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาต

3. ให้ความร่วมมือและทำงานร่วมกับผู้อ่ืนในการเฝ้าระวังและพัฒนาส่ิงแวดล้อมและ
ทรพั ยากรธรรมชาติ

องค์ประกอบทักษะชวี ิต : การสรา้ งสัมพนั ธภาพที่ดกี ับผู้อื่น

- วางตวั และกำหนดทา่ ทไี ดเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์



2. สาระเนือ้ หา

- สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของส่ิงมีชีวิต


แตป่ จั จุบันสงิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาตถิ กู ทำลายไปค่อนขา้ งมาก ดงั น้นั ทุกคนจงึ ควรชว่ ยกัน
เฝา้ ระวงั อนรุ กั ษแ์ ละพฒั นาสง่ิ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาต



3. ชิ้นงานท่ีควรปรากฏ

- แผนการดำเนนิ งาน การเฝา้ ระวงั อนรุ กั ษแ์ ละพัฒนาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม










103

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชีวิต บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้

4. กจิ กรรมการเรียนร้

4.1 ครูแจ้งเนื้อหาที่จะเรียน คือ การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาต ิ


และแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนร
ู้
4.2 นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน แบบปรนยั 4 ตัวเลือก

4.3 ครูทบทวนความร้เู ดิมของนกั เรียนโดยใช้แนวคำถาม ดงั น้

4.3.1 สงิ่ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาตเิ หมือนหรือแตกต่างกันอยา่ งไร

4.3.2 สงิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติมีความสำคญั ตอ่ สงิ่ มีชีวติ อยา่ งไร

4.4 นกั เรียนร่วมกันสนทนา

4.5 แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 4 - 5 คน โดยคละนักเรียน เก่ง ปานกลาง และ
นักเรียนออ่ นแลว้ อธิบายบทบาทการทำงานรว่ มกนั

4.6 ครูตงั้ ประเด็นคำถามเพอื่ ใหน้ กั เรยี นไปสืบคน้ ข้อมูล ดังน้

4.6.1 ปญั หาเก่ียวกบั สิง่ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติมีอะไรบ้าง

4.6.2 ในปัจจุบันน้ีหน่วยงานของรัฐทม่ี ีหนา้ ท่เี กยี่ วข้องกบั ส่ิงแวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาต

4.7 นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ไปสืบค้นข้อมูลและร่วมกนั อภปิ รายสรปุ ผลแนวคำถาม

4.8 ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการสืบคน้ ข้อมูล

4.9 นักเรียนซักถามปัญหา

4.10 ครูต้ังประเด็นคำถามว่า เม่ือนักเรียนทราบว่า สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
เกิดปัญหาข้ึนมากมาย ในฐานะท่ีนักเรียนเป็นบุคคลหนึ่งท่ีมีหน้าท่ีและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา
นกั เรยี นจะวางแผนและดำเนินการอย่างไร

4.11 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนและเขียนแผนการดำเนินการอนุรักษ์ทรพัยากร


ส่ิงแวดลอ้ ม

4.12 นักเรยี นทกุ กลมุ่ นำเสนอแผนการดำเนินการ

4. 13 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต การวางตัวและ
กำหนดทา่ ทีไดเ้ หมาะสมกับสถานการณ์

คำถามเพอ่ื การสะทอ้ น (R)

- นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรต่อการท่ีจะต้องมาเขียนแผนงานเพ่ือการอนุรักษ์

ทรพั ยากรธรรมชาต

- นักเรียนมีความรู้สึกว่าการทำแผนเพื่อนำเสนอครูมีประโยชน์ต่อการพัฒนา

ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มไดจ้ รงิ หรอื ไม่

104

หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551


คำถามเพื่อการเช่อื มโยง (C)

- นักเรียนเคยไปเท่ียวสวนสาธารณะ เที่ยวน้ำตก สนามเด็กเล่นบ้างไหม

เคยสงั เกตเห็นความเส่ือมโทรมของสภาพแวดลอ้ มที่เปน็ ปญั หาหรอื ไม

- ปัญหาเหล่านเี้ กิดจากใคร และใครจะเปน็ คนแกไ้ ขปญั หานี้

คำถามเพ่ือการปรบั ใช้ (A)

- ในฐานะท่ีนักเรียนเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพเป็นคนไทย หากพบเห็นคนในสังคม
ทำลายสง่ิ แวดล้อม เชน่ ใช้น้ำ ใช้ไฟ เด็ดดอกไม้ ท้ิงขยะ เศษแก้วในท่ีสาธารณะ
นักเรียนกำหนดทา่ ทีของตนเองตอ่ เรือ่ งนี้อยา่ งไร จึงจะเกดิ ผลทแ่ี ท้จรงิ


5. สอ่ื /วัสดุอปุ กรณ

5.1 อินเทอร์เน็ต

5.2 หนงั สือพิมพ์



6. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้

6.1 สิ่งท่ีตอ้ งวดั และประเมนิ ผล

6.1.1 ดา้ นความรู้ (K)

- สืบค้นข้อมลู เกีย่ วกบั ปัญหาสง่ิ แวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ

- อภิปรายวิธกี ารหาคำตอบจากถามได

6.1.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)

- มวี ิธกี ารคดิ หาคำตอบจากแนวคำถามได

- สบื คน้ ข้อมลู ทกี่ ำหนดใหไ้ ด้ตามข้นั ตอน

- สามารถสรปุ องคค์ วามรูเ้ ก่ียวกบั ปญั หาสงิ่ แวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ

6.1.3 ดา้ นเจตคติ (A)

- ทำงานรว่ มกบั ผอู้ ืน่ ได้อยา่ งมีความสุข


105

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชีวิต บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุม่ สาระการเรียนร
ู้

6.2 เครอ่ื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการวดั และประเมินผล

6.2.1 แบบประเมนิ ความรู้ (แบบทดสอบ)

6.2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน

6.3 วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล

6.3.1 สังเกตการทำงาน

6.3.2 ตรวจผลงาน

6.4 เกณฑก์ ารประเมินผล

6.4.1 นักเรยี นทำกจิ กรรม และแบบทดสอบหลงั เรียนได้รอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป

6.4.1 ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบคุ คลในการร่วมกจิ กรรมไดค้ ะแนนในระดบั ดีข้ึนไป



7. กจิ กรรมเสนอแนะ

ใหน้ กั เรียนไปเขยี นแผนเฝา้ ระวัง อนุรกั ษ์สิ่งแวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาตใิ นทอ้ งถ่ิน














106

ตัวอย่าง



การพัฒนาทักษะชีวิตบรู ณาการการเรียนการสอน

กลุ่มสาระการเรยี นรู้


สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ติ บรู ณาการการเรยี นการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรียนร
ู้

พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ิตที่สอดคลอ้ งกบั ตัวชว้ี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม


หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551


(สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม สาระท่ี 2 หนา้ ที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม

สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ สาระที่ 4 ประวตั ิศาสตร์ สาระที่ 5 ภมู ศิ าสตร)์


องคป์ ระกอบ
รายละเอียดองค์ประกอบทักษะชวี ิต

ทสี่ อดคลอ้ ง
ทสี่ อดคลอ้ งกับตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นร
ู้

ชน้ั
1 2 3 4
1. ตระหนักรแู้ ละ 2. คดิ วิเคราะห์ 3. การจดั การกบั 4. การสร้าง
เหน็ คณุ ค่า
ตดั สินใจและ
อารมณแ์ ละ สัมพันธภาพทด่ี

ความเครยี ด

ในตนเองและผ้อู ่ืน
แกป้ ญั หาอย่าง กับผอู้ ื่น

สรา้ งสรรค


ป.1 ✓ ✓ ✓ -
1. รจู้ กั ความถนัด รู้จักสังเ
กต
รู้เท่าทนั อารมณ์
-


และความสามารถ ต้ังคำถา
ม และ
ของตนเอง



ของตนเอง
มีแนวท
างแสวงหา



2. มองตนเองและ

ำตอบ





ผู้อื่นในแง่บวก




3. เคารพสทิ ธขิ อง




ตนเองและผูอ้ ่นื





4. รักและเหน็ คณุ คา่




ในตนเองและ





ผอู้ ่นื




ป.2 ✓ ✓ - ✓
1. บอกจุดเด่น
รบั รู้ปัญหาและ -
ปฏบิ ัตติ ามกฎ กติกา
จุดดอ้ ยของ สาเหตขุ องปัญหา
ข้อตกลงของ

ห้องเรียน โรงเรยี น
และสังคม


ตนเอง
หาทางเลือกและ





2. มีความภาคภมู ิใจ ตัดสนิ ใจในการแก้
-



ในตนเองและ
ปญั หาได้อย่าง




ผอู้ ื่น
เหมาะสม



ป.3 ✓ ✓ ✓ -
มคี วามภาคภูมิใจ
1. ร้จู กั สงั เกต
-

ในตนเองและผอู้ ่นื
ตง้ั คำถามและ
แสวงหาคำตอบ

2. มีจนิ ตนาการและ
สามารถคิดได้
อยา่ งเชอ่ื มโยง


108

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551


องค์ประกอบ
รายละเอยี ดองคป์ ระกอบทกั ษะชวี ติ

ท่ีสอดคลอ้ ง
ทสี่ อดคลอ้ งกบั ตวั ชวี้ ัด มาตรฐานการเรยี นร้


ช้นั
1 2 3 4
1. ตระหนักรแู้ ละ 2. คดิ วิเคราะห์ 3. การจดั การกบั 4. การสรา้ ง
เห็นคณุ ค่า
ตัดสนิ ใจและ
อารมณ์และ สัมพันธภาพท่ดี ี

ความเครียด

ในตนเองและผอู้ ่นื
แก้ปญั หาอย่าง กบั ผู้อน่ื

สรา้ งสรรค์


ป.4 ✓ ✓ - ✓
รกั และเห็นคุณคา่
1. รจู้ ัก
สงั เกต
-
ให้ความรว่ มมือกบั

ในตนเองและผู้อื่น
ต้งั ค
ำถามและ
ผู้อ่นื อยา่ งสรา้ งสรรค์





แสว
งหาคำตอบ

และทำงานร่วมกับ




2. มสาจี มิน
าตรนถาคกดิ าไรดแ้ ละ
ผอู้ น่ื ได้









อยา่ งเชือ่ มโยง




ป.5 ✓ - - -
1. เคารพสทิ ธิของ -
-
-

ตนเองและผอู้ ่ืน








2. รกั และเห็นคณุ คา่





ในตนเองและ






ผู้อื่น





ป.6 ✓ - - -
มคี วามภูมใิ จ
-
-
-

ในตนเองและผู้อืน่







ม.1 ✓ ✓ ✓ ✓
1. ยอมรับความ
1. เลือกรับขอ้ มูล 1. ประเมินและรู้
1. กลา้ แสดงความ
แตกตา่ งระหว่าง ขา่ วสารอย่าง เทา่ ทนั อารมณ์
คดิ เหน็ อยา่ ง
ตนเองและผอู้ น่ื
ไตรต่ รองและรู้ 2. ยุตขิ ้อขัดแย้ง
สรา้ งสรรค

2. มองตนเองและ
เทา่ ทนั ชีวิตและ ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ ง 2. ทำงานร่วมกบั

ผอู้ ื่นในแง่บวก
สงั คมที่ เหมาะสม
ผูอ้ น่ื บนพื้นฐาน
3. รกั และเหน็ คุณค่า เปลี่ยนแปลง
3. รู้จักการสรา้ ง ความเปน็
ในตนเองและ
2. ตดั สินใจอยา่ ง
ความสขุ ใหก้ บั ประชาธิปไตย

ผ้อู ืน่
มเี หตผุ ลใน ตนเองและผอู้ นื่
3. สรา้ งสมั พันธภาพ
4. มีความภาคภมู ิใจ สถานการณ
์ ที่ดีกบั ผอู้ น่ื ด้วย
ในตนเองและ
ต่าง ๆ ท่ีเผชญิ
วธิ ีการสอ่ื สาร

ผู้อื่น
3. แกป้ ญั หาใน เชงิ บวก

5. เคารพสทิ ธติ นเอง สถานการณ์วิกฤต 4. เคารพกติกา

และผอู้ ืน่
ไดอ้ ย่างเป็นลำดับ ขอ้ ตกลงของ
ข้นั ตอน
สงั คมส่วนรวม


109

แนวทางการพัฒนาทักษะชีวิต บรู ณาการการเรยี นการสอน 8 กล่มุ สาระการเรยี นร
ู้

องคป์ ระกอบ
รายละเอียดองค์ประกอบทกั ษะชีวติ

ท่ีสอดคลอ้ ง
ที่สอดคลอ้ งกบั ตวั ชวี้ ัด มาตรฐานการเรยี นรู้


ชน้ั
1 2 3 4
1. ตระหนกั รแู้ ละ 2. คิดวเิ คราะห์ 3. การจดั การกับ 4. การสรา้ ง
เห็นคุณค่า
ตัดสินใจและ
อารมณแ์ ละ สัมพันธภาพท่ดี ี

ความเครยี ด

ในตนเองและผู้อ่นื
แก้ปัญหาอย่าง กบั ผูอ้ ่นื

สรา้ งสรรค์




4. วเิ คร
าะห





ผลก
ระทบและ






หาท
างปอ้ งกนั หรอื





แจากกป้
พัญฤหตากิ ทรเี่ รกมดิ ท่ี









ไมพ่ ึงประสงค





5. มองโลกในแงด่ ี





6. แกป้ ัญหาอยา่ ง




สรา้ งสรรค





7. มีทกั ษะในการ




แสวงหาและใช้




ขอ้ มลู ใหเ้ ป็น




ประโยชนต์ อ่




ตนเองและผู้อ่นื



ม.2 ✓ ✓ - ✓
เคารพสทิ ธติ นเอง 1. วิเคราะห
์ -
เคารพกฎกติกา


และผอู้ ่นื
ผลกระทบและ
ข้อตกลงและ
หาทางปอ้ งกัน ระเบียบของสงั คม
หรอื แก้ปญั หา
สว่ นรวม

ในสถานการณ

ตา่ ง ๆ

2. มองโลกในแง่ด

3. แก้ปญั หาอย่าง
สรา้ งสรรค

4. มที กั ษะในการ
แสวงหาและใช้
ขอ้ มลู ให้เปน็
ประโยชน์ต่อ
ตนเองและผอู้ ื่น


110

หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551


องคป์ ระกอบ
รายละเอียดองค์ประกอบทกั ษะชวี ติ

ทีส่ อดคล้อง
ท่ีสอดคล้องกบั ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้


ชนั้
1 2 3 4
1. ตระหนักร้แู ละ 2. คิดวเิ คราะห์ 3. การจดั การกับ 4. การสรา้ ง
เหน็ คุณค่า
ตดั สินใจและ
อารมณแ์ ละ สมั พนั ธภาพท่ดี

ความเครียด

ในตนเองและผอู้ ืน่
แกป้ ญั หาอยา่ ง กับผู้อน่ื

สรา้ งสรรค์


ม.3 ✓ ✓ ✓ ✓
1. ค้นพบจดุ เด่น
1. เลือก
รบั ข้อมูล รูจ้ ักการสร้างความสขุ 1. กล้าแสดง

จดุ ด้อยของ ข่าว
สารอยา่ ง ใหก้ บั ตนเองและ
ความคดิ เหน็
ตนเอง
ไตรต่
รอง
ผูอ้ ืน่
อย่างสร้างสรรค์

2. ยอมรบั ความ
2. รสเู้งั ทค่า
มททนั ี่ ชีวติ และ 2. มีจติ อาสา

แตกตา่ งระหวา่ ง ช่วยเหลือผู้อนื่

ตนเองและผอู้ นื่
เปลี่ยนแปลง

3. มองตนเองและ
3. ตดั สนิ ใจใน
ผ้อู ื่นในแง่บวก
สถานการณ

4. รักและเหน็ คุณค่า ต่าง ๆ ทเ่ี ผชิญ
ในตนเองและ
อยา่ งมเี หตุผล

ผ้อู ื่น
4. วิเคราะห์

5. มีความเชอื่ ม่ันใน ผลกระทบและ

ตนเองและผ้อู น่ื
หาทางป้องกนั
6. มที กั ษะในการ ตนเองใน
กำหนดเปา้ หมาย สถานการณ

สู่ความสำเรจ็
ต่าง ๆ

5. มองโลกในแงด่ ี

6. แก้ปัญหาอย่าง
สรา้ งสรรค์

7. มีทักษะในการ
แสวงหาและใช้
ขอ้ มูล


111

แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ติ บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้

องคป์ ระกอบ
รายละเอียดองคป์ ระกอบทักษะชีวิต

ทีส่ อดคล้อง
ท่ีสอดคลอ้ งกับตัวชี้ วัดมาตรฐานการเรียนรู


ชั้น
1 2 3 4
1. ตระหนักรู้และ 2. คดิ วิเคราะห์ 3. การจดั การกับ 4. การสร้าง
เห็นคณุ คา่
ตัดสินใจและ
อารมณแ์ ละ สมั พันธภาพท่ดี

ความเครยี ด

ในตนเองและผู้อนื่
แกป้ ัญหาอยา่ ง กับผู้อืน่

สรา้ งสรรค


ม.4- ✓ ✓ ✓ ✓
1. คน้ พบจุดเด่น
1. ตดั ส
ินใจอยา่ ง
1. ประเมินและร
ู้ 1. กลา้ แสดงความ
ม.6
จดุ ด้อยของ มเี ห
ตุผลใน เทา่ ทนั อารมณ์ คดิ เหน็ อย่าง
ตนเอง
สถา
นการณ์
ตนเอง
สรา้ งสรรค์

2. ยอมรบั ความ
2 . แตกา่ งป้
ัญๆหทาเ่ี ใผนชญิ
2. จัดการกับความ 2. ทำงานร่วมกับ

แตกตา่ งระหวา่ ง ขดั แยง้ ตา่ ง ๆ ผอู้ ่ืนบนพ้นื ฐาน
ตนเองและผ้อู ื่น
สถานการณ์วิกฤต ดว้ ยวิธที เี่ หมาะสม
ความเปน็
3. รักและเหน็ คุณค่า ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. รจู้ กั คลายเครยี ด ประชาธิปไตย

ในตนเองและ
3. วเิ คราะห

ด้วยวธิ ีการที่ 3. สรา้ งสัมพันธภาพ
ผอู้ น่ื
ผลกระทบและ

สร้างสรรค์
ท่ีดกี บั ผูอ้ ่นื ดว้ ย
4. มคี วามภาคภมู ิใจ หาทางป้องกนั 4. รู้จักสรา้ งความสุข การสอ่ื สาร

ในตนเองและ
ตนเอง
ให้กบั ตนเองและ เชิงบวก

ผ้อู น่ื
ในสถานการณ
์ ผอู้ นื่
4. เคารพกติกา

5. มีความเชอื่ มนั่
ตา่ ง ๆ
ของสังคม

ในตนเองและ
4. มีจนิ ตนาการและ
ผอู้ นื่
ความคิดริเร่ิม
6. เคารพสิทธิของ สร้างสรรค

ตนเองและผ้อู นื่
5. มองโลกในแง่ด

6. มที ักษะในการ
แสวงหาและใช้
ข้อมลู

7. ประเมนิ และสรา้ ง
ขอ้ สรุปบทเรียน
ชีวติ ตนเอง


112

หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551


แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้บรู ณาการทักษะชวี ติ


ในกลุม่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม


รายวชิ า สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1

เร่ือง ฟังให้รู้/ดใู ห้จำ เวลา 3 ชั่วโมง



1. มาตรฐานการเรยี นรู้

- ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือ
ศาสนาทตี่ นนับถือ และศาสนาอ่นื มีศรทั ธาที่ถูกตอ้ ง ยดึ ม่ัน และปฏิบตั ิตามหลกั ธรรมเพอ่ื การอยรู่ ว่ มกนั
อยา่ งสันตสิ ขุ



2. สาระ/ตัวชว้ี ดั

- ส 1.1/4 เห็นคุณค่าและสวดมนต์แผ่เมตตา มีสติที่เป็นพ้ืนฐานของสมาธิในพระพุทธ
ศาสนาหรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาทีต่ นนบั ถือตามท่กี ำหนด



3. วตั ถปุ ระสงค์

- บอกความหมายและประโยชน์ของการมสี ต



4. องค์ประกอบทักษะชวี ิต : การจดั การกับอารมณ์และความเครยี ด

- การรจู้ กั ควบคุมตนเอง



5. สาระเนื้อหา

5.1 ความหมายและประโยชนข์ องสต

5.2 การฟังเพลงและร้องเพลงอยา่ งมสี ติ

5.3 การเล่นและทำงานอย่างมีสต

5.4 การฝกึ ให้มีสติในการฟัง การอา่ น การคดิ การถามและการเขยี น



6. กิจกรรมการเรียนร
ู้
6.1 ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรียน

6.1.1 ครูเปิดเพลง (ที่เก่ียวกับสัตว์หลาย ๆ ชนิดในเพลงเดียวกัน, หรือผลไม้/
ดอกไม้ หลาย ๆ ชนิดในเพลงเดยี วกนั ) 1 คร้ัง


113

แนวทางการพัฒนาทักษะชีวติ บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้

6.1.2 ครูถามนักเรียนว่า ในเพลงดังกล่าวมีสัตว์ (หรือผลไม้/ดอกไม้) กี่ชนิด อะไร
บา้ ง โดยให้นักเรยี นทยี่ กมอื ตอบ/ตอบมา 4-5 คน

6.1.3 ครถู ามนักเรยี นว่าใครที่จำไม่ไดเ้ ลยว่ามสี ตั ว์อะไรบา้ ง ทำไมถงึ จำไม่ได

6.1.4 ครูสรปุ ว่าคนที่จำช่ือสัตว/์ ผลไม้/ดอกไม้ ไมไ่ ด้เลยแสดงวา่ ไมต่ ้ังใจฟัง

6.1.5 ครูบอกจดุ ประสงค

6.2 ขัน้ กิจกรรม

6.2.1 ครูสนทนากับนักเรียนว่าการต้ังใจฟัง คือ การมีสติน่ันเอง และสอนเรื่อง
ความหมายและประโยชนข์ องสติ

6.2.2 ครูบอกให้นักเรียนตั้งใจฟังเพลงจาก CD แล้วบอกครูว่ามีช่ือสัตว์/ผลไม้/
ดอกไม้ ก่ชี นิดอะไรบา้ ง (หรอื ครอู าจมีภาพดงั กล่าวมาประกอบดว้ ย)

6.2.3 ครูสร้างสถานการณ์รบกวนการฟังของนักเรียนด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ขณะ
นกั เรยี นฟังเพลง ครอู าจจะหยิบสงิ่ ของทนี่ กั เรยี นสนใจมาดู หรือให้บุคคลภายนอกเดนิ เข้ามาในหอ้ ง

6.2.4 ครูซักถามนักเรียนว่าเพลงที่ฟังมีสัตว์/ผลไม้/ดอกไม้อะไรบ้าง นักเรียนคนใด
ท่บี อกได้นอ้ ยทส่ี ุด หรือไดน้ ้อย ครถู ามสาเหตุที่นักเรียนจำได้นอ้ ย เพราะอะไร

6.2.5 ครูสรุปการฟัง/การทำงานต่าง ๆ ที่จะให้เกิดผลสำเร็จจะต้องมีความตั้งใจ
(สต)ิ ไม่หนั เหความสนใจไปกับส่งิ อ่นื

6.2.6 ครมู อบหมายงานใหน้ กั เรียนวาดภาพสัตว/์ ผลไม/้ ดอกไม้ จากเพลงท่นี กั เรยี น
ชอบ 1 ภาพ

6.3 ขัน้ สรปุ

6.3.1 ครูสรุปความหมาย/ประโยชนข์ องสติ

6.3.2 ครใู ห้นักเรยี นฟงั เพลงซ้ำอีก 1 ครง้ั แล้วสรุปชื่อสัตว์/ผลไม้/ดอกไม้ ท้งั หมด


ทถ่ี ูกตอ้ ง

6.3.3 ครูช่ืนชมนักเรียนท่ีสามารถตอบได้ถูกต้องหรือมากที่สุด พร้อมท้ังให้กำลังใจ
กบั นักเรียนทตี่ อบไดน้ ้อย













114

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551


6 .4 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต การรู้จักควบคุม
ตนเอง

คำถามเพ่อื การสะท้อน (R)

- นักเรยี นร้สู ึกอย่างไรทถี่ กู รบกวนในขณะท่ที ำงานหรือฟงั เพลง

คำถามเพื่อการเชื่อมโยง (C)

- ท่ีผา่ น ๆ มานักเรยี นเคยทำงานไมส่ ำเร็จเพราะสิง่ อื่นมารบกวนบา้ งหรือไม

- ทผี่ า่ น ๆ มานักเรียนเคยพบเหน็ เพ่อื น/คนใกล้ชดิ ถกู รบกวนขณะทที่ ำงานหรือไม่
และเพ่ือนเหลา่ นั้นมีวิธีการจดั การกบั สิ่งรบกวนนน้ั อยา่ งไร

คำถามเพอ่ื การปรบั ใช้ (A)

- ถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวกับนักเรียน ๆ จะมีวิธีการจัดการแก้ไขปัญหาการ

ถูกเพ่ือนรบกวนน้ันอยา่ งไร

- นักเรียนคิดว่าจะควบคุมตนเองไม่ให้รบกวนเพ่ือนให้เสียสมาธิในการทำงาน
วนั ตอ่ ๆ ไปไดอ้ ยา่ งไร


7. สื่อการเรียนร
ู้
7.1 เพลง

7.2 ภาพ



8. ประเมนิ ผล

8.1 สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก การพูด การตอบ การแสดงความคดิ ขณะรว่ มกิจกรรม

8.2 สงั เกตการสะทอ้ นการคิดเชอ่ื มโยงและประยุกต์ใช้
















115

แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ิต บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรบู้ ูรณาการทักษะชีวติ


ในกลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม


รายวชิ า สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ัน ประถมศกึ ษาปีที่ 4

เรื่อง การเปน็ ผู้นำและผูต้ ามทดี่ ี เวลา 2 ชัว่ โมง



1. มาตรฐานการเรยี นรู้

- ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดีมีค่านิยมที่ดีงาม ธำรง
รกั ษาประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยูร่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสังคมโลกอย่างสนั ตสิ ขุ



2. สาระ/ตวั ชีว้ ัด

- ส 2.1/2 ปฏบิ ัตติ นในการเปน็ ผนู้ ำและผู้ตามท่ีด



3. วัตถุประสงค์

3.1 บอกบทบาทและความรับผดิ ชอบของผ้นู ำและผตู้ าม

3.2 บอกประโยชนข์ องการทำงานกล่มุ ท่ีมปี ระสิทธภิ าพและประสิทธผิ ล



4. องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ติ

ใหค้ วามรว่ มมอื กบั ผอู้ ื่นอยา่ งสร้างสรรค์และทำงานรว่ มกับผู้อ่นื ได



5. สาระเน้ือหา

5.1 บทบาทและความรับผดิ ชอบของผนู้ ำ

5.2 บทบาทและความรับผดิ ชอบของผูต้ ามหรือสมาชิก

5.3 การทำงานกล่มุ ให้มปี ระสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ลและประโยชนข์ องการทำงานกลุ่ม



6. กจิ กรรมการเรยี นร
ู้
6.1 ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น

6.1.1 ครูให้นักเรียนดูภาพการเลือกตั้ง (อาจจะเป็นระดับท้องถ่ิน/ระดับประเทศ
เชน่ เลือก ส.ส/ ส.ว/อบต.) และสนทนากับนักเรยี นวา่ ในภาพเป็นกจิ กรรมใด ใครทำอะไร โดยสุ่มให้
นักเรียนตอบ 2-3 คน

6.1.2 ครูสรุปว่าเป็นกิจกรรมการเลือกต้ัง หรือการเลือกตัวแทนเพ่ือให้ไปทำหน้าท
่ี

อย่างใดอยา่ งหน่งึ แทนตนเอง/แทนประชาชนจำนวนมาก ๆ หรือเป็นการเลอื ก “ผ้นู ำ”


116

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551


6.2 ข้ันกจิ กรรมการเรยี นรู้

6.2.1 ครูแบง่ กลุม่ นักเรียนออกเป็น 4 กลมุ่ ๆ ละ 5 คน โดยการใหน้ ักเรียนยืนเป็น
วงกลมแล้วนับเลข 1-2-3-4 แล้วใหน้ กั เรียนทน่ี บั เลขเดยี วกนั ไปอยู่กลุ่มเดียวกนั

6.2.2 ครูแจกซองท่ีบรรจุใบกิจกรรมให้แต่ละกลุ่มโดยมอบหมายให้แต่ละกลุ่ม
ปฏิบัติตามกจิ กรรมในซองให้ครบ ดงั น
้ี
(1) เลือกประธานและเลขาของกลุม่

(2) แบ่งหนา้ ทร่ี ับผดิ ชอบให้กับสมาชกิ 3 คน เพ่อื ทำใบกจิ กรรมท่ี 1-2-3 ดังน
้ี
ศึกษาความร้เู รอ่ื งคุณสมบัติของผู้นำท่ดี จี ากแบบเรียน/ครนู ำมาใช้

ทำแบบฝกึ หดั เรื่องผนู้ ำทีด่ ีและไมด่ ี

เขยี นแผนผังความคดิ เร่ือง “ผนู้ ำ” โดยมีหลักเกณฑ์ คอื

- หัวขอ้ หลัก “ผนู้ ำ-ผู้ตาม”

- หัวข้อรอง ผู้นำท่ีดี ผู้ตามที่ดี, ผลที่เกิดจากการมีผู้นำท่ีดีและการมี


ผูน้ ำทไ่ี ม่ด

- หัวขอ้ ยอ่ ย บอกรายละเอียดของหวั ข้อรอง

- มีลูกศรบอกทิศทางท่ชี ดั เจน

- มีรูปแบบแปลกใหม่น่าสนใจ สวยงาม (ครูควรเตรียมไว้ล่วงหน้า
เชน่ กระดาษ/ปากกาสีตา่ ง ๆ)

นำเสนอผลงานกลุ่มละ 10 นาที

(3) ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ลงมอื ปฏบิ ตั งิ านโดยกำหนดเวลาให้ประมาณ 30 นาท

(4) ให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงาน (โดยนำแผนผังความคิดมาแสดง
พร้อม ๆ การรายงานดว้ ย

6.3 ข้นั สรุป

- เมื่อทุกกลุ่มนำเสนอผลงานครบแล้ว ครูสรุปลักษณะของผู้นำและผู้ตามหรือ
สมาชกิ ทีด่ ี (ตามสาระในแบบเรยี น/หรอื ครูอาจพิมพ์เป็นใบความรู้มาใสไ่ วใ้ นซอง)

6 .4 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต เห็นคุณค่าของ

ตนเองและผู้อ่ืน

คำถามเพ่ือการสะท้อน (R)

- ในกลมุ่ ของนักเรียนเลอื กประธาน/ผ้นู ำกลุ่มอย่างไร หรอื

- ใช้วธิ กี ารในการเลอื กประธาน/ผู้นำกลุม่


117

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ติ บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้

คำถามเพ่ือการเช่อื มโยง (C)

- ทีผ่ ่าน ๆ มานกั เรยี นเคยมีโอกาสในการเลอื กประธานหรือผู้นำหรือไม่

- มีวิธีการใดอีกหรือไม่ในการเลือกประธานกลุ่มที่ผ่าน ๆ มา เคยพบเห็นผู้อื่น
หรือคนใกล้ชิดไปใช้สิทธิเลือกผู้นำหรือไม่ และเขามีวิธีการเลือกประธานกลุ่ม
อย่างไร

คำถามเพ่ือการปรบั ใช้ (A)

- ถ้านักเรยี นต้องการเปน็ ผู้นำ/เป็นประธาน นักเรียนจะได้รบั ประโยชน์หรอื ผลดี
อย่างไร

- ถ้านักเรียนได้มีโอกาสเป็นประธานหรือผู้นำ นักเรียนจะมีวิธีการทำงาน หรือ
การปฏบิ ตั ติ นอย่างไร

- ถ้านกั เรยี นเป็นผนู้ ำทีด่ ีหรอื ไมด่ ีจะส่งผลต่อสมาชิกอย่างไร

- นักเรียนคิดว่าการเป็นผู้ตามที่ดีควรจะมีลักษณะอย่างไร และมีผลต่อการ

อยูร่ ่วมกันในสังคมอยา่ งไร


7. สอื่ การเรียนรู

ใบกจิ กรรมในซอง 3 ใบกิจกรรม คอื

7.1 ใบความรเู้ ร่อื งคุณสมบัติของผู้นำทีด่

7.2 แบบฝกึ หดั เรอ่ื ง ผู้นำท่ดี ีและไมด่

7.3 แบบเขียนแผนผงั ความคดิ เรือ่ งผู้นำ (A4)

7.4 สีไม้ ปากกาสี

7.5 แบบทดสอบ



8. การประเมนิ ผล

8.1 ความรู้ ใชแ้ บบทดสอบ

8.2 กระบวนการใชแ้ บบประเมินพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

8.3 เจตคติ ตรวจประเด็นคำถามประยุกตใ์ ช



9. ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติมในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

9.1 ครูอาจจัดกจิ กรรมแบบศูนยก์ ารเรยี น

9.2 ครูอาจจำลองสถานการณก์ ารเลอื กประธาน/หัวหนา้ ห้องแล้วนำมาปรับเข้ากับบทเรียน



118

หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551


แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้บรู ณาการทักษะชวี ติ


ในกล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม


รายวชิ า สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้น มธั ยมศึกษาปีท่ี 1

เรื่อง ศาสนิกชนทีด่ ี เวลา 2 ช่วั โมง



1. มาตรฐานการเรียนรู้

- ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือ
ศาสนาท่ีตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่นและปฏิบัติตามหลักธรรมเพื่ออยู่ร่วมกัน
อย่างสันตสิ ขุ



2. สาระ/ตวั ช้วี ดั

- ส 1.1/10 ปฏิบตั ิตนต่อศาสนิกชนอื่นในสถานการณต์ ่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม



3. วตั ถปุ ระสงค

3.1 มคี วามรคู้ วามเข้าใจขอ้ ห้ามในศาสนาพทุ ธ ครสิ ต์ อสิ ลาม

3.2 ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ธรรมของศาสนาทตี่ นนบั ถอื ตามหลกั ความพอเพียง



4. องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ิต : การตระหนกั รแู้ ละเห็นคณุ คา่ ในตนเองและผู้อน่ื

- ยอมรับความแตกต่างทางความคิด ความรู้สึกและพฤติกรรมของตนเองและผู้อื่นได้
อยา่ งเหมาะสม



5. สาระเน้ือหา

การปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อศาสนิกชนอืน่ ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ

5.1 ความจำเปน็ ท่ตี ้องเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ศาสนาอ่ืนในสงั คม

5.2 ขอ้ ห้ามในศาสนาพทุ ธ ครสิ ต์ อสิ ลาม

5.3 การปฏบิ ัตติ นตามหลักธรรมในศาสนาท่ีตนนบั ถอื ตามหลกั ความพอเพยี ง




119

แนวทางการพฒั นาทกั ษะชีวิต บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้

6. กจิ กรรมการเรียนร้

6.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน

สนทนาซกั ถามความรเู้ ดิมพรอ้ มท้ังใหน้ ักเรียนดภู าพประกอบ ดังน
ี้
- ภาพละหมาด

- ภาพไม้กางเขน

- ภาพการตกั บาตร

พร้อมซักถามวา่ ภาพดงั กลา่ วเก่ียวข้องกับศาสนาใด โดยสมุ่ ให้นักเรยี น ตอบ 3-5 คน

6.2 ขั้นกิจกรรมการเรยี นรู

6.2.1 สนทนาถึงความจำเป็นทีต่ ้องเรยี นรูเ้ กยี่ วกบั ศาสนาอนื่ ในสงั คม พรอ้ มยกตวั อย่าง

6.2.2 ร่วมสรุปประเด็นสำคัญในหัวข้อความจำเป็นท่ีต้องเรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาอื่น


ในสังคม

6.2.3 นักเรยี นยกตวั อย่างข้อห้ามในศาสนาพทุ ธ คริสต์ อสิ ลาม และการปฏบิ ัตติ น
ตามหลักธรรมในศาสนาที่ตนนับถือตามหลักความพอเพียงจากประสบการณ์หรือจากการศึกษาใน

บทเรียน

6.2.4 แบง่ กลุ่มนักเรียนออกเปน็ 3 กลุ่ม ๆ ละ เทา่ ๆ กนั โดยคละกันตามความ
สามารถ มที ง้ั เก่ง, ปานกลาง, อ่อน ตวั แทนกลุม่ ออกมาจับสลาก ซ่ึงมีประเด็นดงั ต่อไปนี้

- กลุ่มที่ 1 แสดงบทบาทสมมติในหัวข้อ ข้อห้ามและการปฏิบัติตนตาม
หลกั ธรรมของศาสนาพุทธ

- กลุ่มที่ 2 แสดงบทบาทสมมติในหัวข้อ ข้อห้ามและการปฏิบัติตนตาม
หลักธรรมของศาสนาครสิ ต

- กลุ่มท่ี 3 แสดงบทบาทสมมติในหัวข้อ ข้อห้ามและการปฏิบัติตนตาม
หลกั ธรรมของศาสนาอสิ ลาม

6.2.5 แต่ละกลุ่มระดมความคิดเห็น และแบ่งงานกันรับผิดชอบ เตรียมออกมา
แสดงบทบาทสมมติในชั่วโมงตอ่ ไป พรอ้ มบันทกึ ข้ันตอนลงในใบกจิ กรรมที่ครกู ำหนด

6.2.6 ครูตรวจสอบความพร้อมของกลุ่มและให้แสดงบทบาทสมมติโดยใช้เวลา


ไม่เกนิ กลุ่มละ 15 นาที ตามลำดบั กลุ่ม









120

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551


7 .1 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตในด้านการเห็น
คณุ คา่ ในตนเองและผ้อู นื่ (ยอมรบั ความแตกตา่ งทางความคิด ความรู้สกึ ของตนเองและผอู้ ืน่ )

คำถามเพอ่ื การสะท้อน (R)

- จากการเห็นเพอื่ น ๆ แสดงบทบาทสมมติ นักเรยี นมีความรูส้ กึ อยา่ งไรบ้าง

- นักเรียนคิดว่าตนเองมีความสามารถทางด้านใด และประทับใจการแสดงของ
เพื่อนกล่มุ ไหนบ้าง

คำถามเพอื่ การเช่อื มโยง (C)

- นกั เรียนมีความคิดเหน็ อย่างไรกับคำสำนวนไทยท่วี า่ “ดูหนัง ดลู ะครแล้วยอ้ น
ดูตัว”

- ชีวิตบทบาทของเราในสงั คม เป็นเหมอื นผู้แสดงละครหรือไม่

- นักเรียนคิดว่าเพ่ือน ๆ ในห้องของเราควรแสดงบทบาทเหมือนกันทุกคนได้
หรือไม่ เพราะอะไร (เป็นพระเอก นางเอกทุกคน)

คำถามเพ่อื การปรบั ใช้ (A)

- ในการดำเนินชีวิตประจำวันของนักเรียนที่ต้องพบปะกับผู้คนที่แตกต่างจากเรา
เราจะปฏิบัติต่อเขาและวางท่าทีของเราอย่างไรบ้างต่อบุคคลเหล่านั้น เช่น

คนพกิ าร กระเทย ทอม เพ่ือนท่เี รียนไมเ่ ก่ง


121

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ติ บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร
ู้

8. ชนิ้ งานท่คี วรปรากฏ

8.1 แผนโครงงานการแสดงละคร

8.2 ภาพถา่ ยการแสดงละคร



9. ส่อื

9.1 ภาพการละหมาด/ภาพไมก้ างเขน/ภาพการตกั บาตร

9.2 หนงั สอื เรียนพระพทุ ธศาสนา

9.3 ใบกิจกรรมแสดงขนั้ ตอนบทบาทสมมต

9.4 แบบทดสอบหลงั เรียน



10. การประเมนิ ผล

ทดสอบความรู้หลังเรียน

สงั เกต

10.1 พฤตกิ รรมและการแสดงออกบทบาทสมมติและการทำงานรวมกนั เป็นกลมุ่

10.2 การตอบคำถาม R - C - A ทน่ี ำไปสกู่ ารยอมรบั ความแตกต่างระหวา่ งตนเองและผูอ้ น่ื




122

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551


แผนการจดั กิจกรรมการเรียนร้บู รู ณาการทักษะชีวติ


ในกลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม


รายวิชา สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้น มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4

เรอ่ื ง สิทธิมนุษยชน เวลา 3 ชว่ั โมง



1. มาตรฐานการเรียนร
ู้
- ส.2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดีมีค่านิยมที่ดีงามและธำรง
รักษาประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยรู่ ่วมกนั ในสังคมไทยและสังคมโลกอยา่ งสันติสุข



2. สาระ/ตัวช้วี ดั

- ส 2.1/4 ประเมินสถานการณส์ ทิ ธิมนษุ ยชนในประเทศไทยและเสนอแนวทางพัฒนา



3. วตั ถุประสงค

3.1 อธิบายและยกตวั อย่างปญั หาการละเมิดสิทธมิ นุษยชนในสงั คมไทยปัจจุบนั

3.2 เสนอแนวทางแก้ไขและป้องกันปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยปัจจุบัน


ไดอ้ ย่างมีเหตผุ ล



4. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิต : การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค

- เลือกตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาในสถานการณ์ทเ่ี ผชญิ อยา่ งมเี หตผุ ล



5. สาระเนือ้ หา

5.1 ความหมาย ความสำคัญ แนวคิดและหลักการของสิทธิมนษุ ยชน

5.2 บทบาทขององค์กรระหวา่ งประเทศในเวทีโลกทีม่ ีผลต่อประเทศไทย

5.3 สาระสำคญั ของปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธมิ นษุ ยชน

5.4 บทบัญญตั ขิ องรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยฉบับปจั จบุ ันเก่ียวกับสทิ ธมิ นุษยชน

5.5 ปญั หาสิทธมิ นษุ ยชนในประเทศและแนวทางการแกป้ ัญหาและพัฒนา










123

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชีวติ บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรียนร
ู้

6. กิจกรรมการเรียนร
ู้
6.1 ครูนำภาพข่าวต่าง ๆ ทีแ่ สดงถงึ การละเมดิ สิทธิมนุษยชนมาให้นักเรยี นดู เช่น

- เด็ก ๆ ทถ่ี ูกลงโทษโดยการใชเ้ ตารดี บุหรจ่ี ต้ี ามตวั

- เด็ก (ในวัยเรยี น) ทีต่ อ้ งขายพวงมาลัยอยตู่ ามทางแยก

- เดก็ ทข่ี อทานตามขา้ งถนน

- การคา้ ประเวณเี ดก็ (เท่าท่สี ถานการณ์ขณะนั้น ๆ เกดิ ขึ้นในสังคม)

- หญิงท่ถี ูกสามที ำร้ายร่างกาย

สนทนาในประเด็น ถ้านักเรียนเป็นผู้ท่ีอยู่ในเหตุการณ์นั้น นักเรียนจะแก้ไขปัญหา
หรือหาทางออกให้กับตนเองไดอ้ ย่างไร

6.2 ครูสรปุ ลกั ษณะการละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชนในสงั คมไทยปจั จุบนั 4 ลักษณะ

6.3 แบ่งกลุ่มนกั เรยี นออกเป็น 4 กลุม่ ๆ ละ 5-7 คน

แต่ละกลุ่มศึกษา/เรียนรู้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนใน 3 หัวข้อจากแบบเรียน/

ขา่ วทีน่ ำเสนอในตอนต้น ดังนี

6.3.1 สาเหตุของปัญหา

6.3.2 ผลกระทบตอ่ ตนเอง/สงั คม

6.3.3 การแกไ้ ขปญั หา

6.3.4 เสนอแนะแนวทางการป้องกนั ปญั หา

6.4 แต่ละกลุ่มดำเนินการเลือกประธาน/เลขา และออกมาจับสลากเลือกเรื่อง ประเด็น
ปญั หา ดงั นี

6.4.1 ปัญหาเด็กเรร่ ่อน/ขอทาน/ขายพวงมาลัย (สทิ ธิท่จี ะไดร้ ับการดแู ล)

6.4.2 ปัญหาการทารุณกรรม (สิทธทิ ี่จะมชี วี ติ รอด)

6.4.3 ปัญหาการล่วงละเมดิ ทางเพศ (สิทธิในร่างกาย)

6.4.4 ปัญหาการใช้แรงงานเด็ก (สิทธิในการได้รับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ตาม


พระราชบัญญัตแิ ห่งชาติ พ.ศ. 2542 และทีแ่ กไ้ ขเพมิ่ เติม

6.5 แตล่ ะกลมุ่ ลงมอื ปฏิบัตงิ านตามทไี่ ดร้ ับมอบหมาย โดยครูเดินดใู หก้ ำลังใจ เพ่ือสังเกต
และให้คำแนะนำ

6.6 แต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอ ความคิดเห็นของกล่มุ กลมุ่ ละ 10 นาท ี

6.7 ครูสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหา และกฎหมายเก่ียวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้าน
การใช้แรงงาน เรื่องเพศ ความรุนแรงต่อเด็ก เป็นต้น และสรุปหลักการตัดสินใจเลือกแก้ไขปัญหา


ที่นักเรยี นนำเสนอว่า การแกไ้ ขปัญหาต่าง ๆ จะต้องแกไ้ ขทส่ี าเหตุ และบางปญั หาทแ่ี กไ้ ขไม่ไดต้ นเอง
จะต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น (บุคคล/และหน่วยงานต่าง ๆ เช่น มลู นิธเิ ดก็ )

124

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551


6.8 ครูมอบหมายงานใหน้ กั เรียนเขยี นแผนผงั ความคิด (Mind Mapping) เรือ่ งสิทธิมนุษยชน
โดยทอี่ งค์ประกอบหลกั ๆ คือ

6.8.1 หวั ขอ้ หลัก “ปัญหาการละเมดิ สทิ ธิมนุษยชน..........” (ตามท่กี ลมุ่ ได้รบั มอบหมาย)

6.8.2 หวั ขอ้ รอง เชน่ สาเหตขุ องปัญหา, ผลกระทบ, การป้องกนั , การแก้ไข ฯ

6.8.3 หัวขอ้ ย่อย ๆ ทข่ี ยายความ หวั ข้อรองทถ่ี ูกตอ้ ง

6.8.4 มีลกู ศรแสดงการเชื่อมโยงความคิดทช่ี ดั เจน

6.8.5 มรี ปู แบบแปลกใหม่ น่าสนใจ มสี ีสนั สวยงาม



6 .9 สน ทนาดว้ ยเทคนคิ คำถาม R - C - A เพอ่ื พัฒนาทักษะชีวติ ประเมินสถานการณ์


ตา่ ง ๆ ทเ่ี ผชิญดว้ ยขอ้ มลู และเหตผุ ลท่ถี ูกตอ้ ง

คำถามเพ่ือการสะท้อน (R)

- นักเรียนมีความรสู้ ึกอยา่ งไรตอ่ ภาพข่าวเหตุการณต์ ่าง ๆ ทไี่ ด้เหน็

- ถา้ นักเรียนหรอื ญาติพีน่ อ้ งของเรา เปน็ บคุ คลในภาพนกั เรยี นจะร้สู กึ อยา่ งไร

- นักเรียนมีความรูส้ กึ ที่อยากช่วยเหลอื เขาเหล่านน้ั บา้ งหรอื ไม่

คำถามเพื่อการเชือ่ มโยง (C)

- ทำไมเขาเหลา่ นัน้ ต้องเผชญิ เหตุการณ์ดังในภาพหรอื ในข่าว

- ถ้าเราไม่อยากเป็นดังบุคคลในภาพข่าว เราจะต้องป้องกันหรือปฏิบัติตน

อยา่ งไร

- หากต้องการช่วยเหลือเขาเหล่าน้ัน นักเรียนจะต้องมีข้อมูลเก่ียวกับเร่ืองใดบ้าง

จะขอความชว่ ยเหลือจากใคร ทำอย่างไรจึงจะปลอดภยั ท่สี ดุ

คำถามเพื่อการปรบั ใช้ (A)

- ในโอกาสต่อไป ถ้านักเรียนพบเห็นการละเมิดสิทธิเด็ก คนในครอบครัว


ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน นักเรียนจะมีแนวทางการช่วยเหลือหรือการรอดพ้น
จากสถานการณ์นน้ั ได้อยา่ งไร


125

แนวทางการพฒั นาทกั ษะชีวติ บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร
ู้

7. ชิน้ งานทคี่ วรปรากฏ

- แผนผังความคดิ (Mind Mapping) เรอ่ื งสิทธิมนษุ ยชน



8. ส่อื การเรียนร้

8.1 ภาพข่าวการละเมิดสิทธมิ นุษยชน/ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน

8.2 แบบเรยี นหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ม.4-6

8.3 ใบกจิ กรรม แผนผังความคดิ (A4)

8.4 แบบทดสอบ

9. การประเมนิ ผล

9.1 ทดสอบความรู้

9.2 สงั เกตกระบวนการทำงานจากการนำ/อภปิ รายกลมุ่

9.3 สังเกตสาระจากการคดิ วเิ คราะห์ติดสินใจและแก้ไขปญั หาจากแผนผังความคดิ

9.4 สงั เกตการตอบคำถามการพัฒนาความคดิ จากการสะท้อนคดิ เชอื่ มโยงและปรบั ใช้



10. ข้อเสนอแนะเพิม่ เตมิ ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ประเด็นคำถามประยกุ ต์

10.1 ถ้านกั เรียนพบเหน็ สถานการณ์ปัญหาเหล่านั้น นกั เรยี นจะเขา้ ไปช่วยเหลอื อย่างไร

10.2 การเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาดังกล่าวจะทำอย่างไรให้ตัวนักเรียนปลอดภัย

ไม่ไดร้ บั อันตรายจากการให้ความชว่ ยเหลือผู้อื่น




















126

ตัวอยา่ ง



การพัฒนาทกั ษะชีวติ บรู ณาการการเรยี นการสอน

กลุม่ สาระการเรยี นร
ู้

สุขศึกษาและพลศกึ ษา

แนวทางการพฒั นาทักษะชีวิต บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร
ู้

พฤติกรรมทักษะชีวิตท่ีสอดคลอ้ งกบั ตวั ชีว้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา


หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551


(สาระที่ 1 การเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ สาระที่ 2 ชวี ิตและครอบครวั

สาระที่ 3 การเคลอื่ นไหว ออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทยและกฬี าสากล


สาระท่ี 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค สาระท่ี 5 ความปลอดภยั ในชวี ิต)


องค์ประกอบ
รายละเอยี ดองคป์ ระกอบทกั ษะชวี ติ

ที่สอดคลอ้ ง
ทีส่ อดคลอ้ งกับตวั ชวี้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้


ชน้ั
1 2 3 4
1. ตระหนักรแู้ ละ 2. คิดวิเคราะห์ 3. การจดั การกับ 4. การสรา้ ง
เห็นคณุ คา่
ตัดสนิ ใจและ
อารมณแ์ ละ สัมพันธภาพท่ดี ี

ความเครียด

ในตนเองและผู้อื่น
แก้ปญั หาอย่าง กบั ผอู้ ่ืน

สร้างสรรค์


ป.1 ✓ - ✓ ✓
1. บอกเล่าความดี
-
1. แสดงอารมณ
์ 1. ขอความชว่ ยเหลอื

หรือความภาคภูมใิ จ


ความรูส้ กึ นกึ คดิ เม่อื อยู่ในภาวะ

ของตนเองใหผ้ ้อู นื่



รบั ร
ู้

ของตนเองไดอ้ ยา่ ง
วิกฤต


2. ยอมรบั ความ

เหมาะสมกับ 2. หลกี เลีย่ ง

แตกตา่ งทางกาย


ทางความคิดและ
สถานการณต์ า่ ง ๆ
สถานการณ


พฤตกิ รรมของ

ท่ีเสี่ยงต่อความ

ตนเองและผูอ้ ื่น


ปลอดภัยของ

3. บอกส่ิงทีต่ นเอง


ตนเอง


ชืน่ ชอบ


3. ปฏบิ ัตติ ามกฎ


4. กล้าแสดงออกทาง

ขอ้ ตกลงกลุม่ และ

ความคิดความรูส้ กึ

ชั้นเรียน


และการกระทำ




ของตนดว้ ยความ




มนั่ ใจ











128

หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551


องคป์ ระกอบ
รายละเอยี ดองคป์ ระกอบทกั ษะชวี ิต

ท่ีสอดคลอ้ ง
ท่ีสอดคล้องกับตัวชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู


ชน้ั
1 2 3 4
1. ตระหนกั รู้และ 2. คดิ วเิ คราะห์ 3. การจัดการกับ 4. การสรา้ ง
เหน็ คณุ ค่า
ตดั สินใจและ
อารมณแ์ ละ สมั พันธภาพทีด่ ี

ความเครยี ด

ในตนเองและผอู้ ื่น
แกป้ ัญหาอยา่ ง กบั ผอู้ ื่น

สรา้ งสรรค


ป.2 ✓ ✓ ✓ ✓
1. บอกเลา่ ความดี - วเิ คร
าะหส์ าเหตุ - รูจ้ ักควบคุม 1. หลกี เล่ยี ง

หรอื ความภาคภูมใิ จ
ของป
ญั หาและ อารมณ์ทเ่ี กดิ ข้นึ สถานการณ์ทีเ่ ส่ียง

ของตนเองให้ผอู้ ื่น เลือก
วิธแี ก้ปัญหา กบั ตนเอง
ต่อความปลอดภัย

รับรู้

ทีเ่ หม
าะสม

ของตนเอง


2. ยอมรบั ความ

2. ปฏบิ ตั ิตามกตกิ า

แตกต่างทางกาย

ขอ้ ตกลงของกลุ่ม

ทางความคดิ และ

และชั้นเรยี น


พฤตกิ รรมของ




ตนเองและผูอ้ ่นื





3. บอกส่งิ ที่ตนเอง





ชื่นชอบ





4. กล้าแสดงออกทาง




ความคดิ ความรสู้ กึ




และการกระทำ




ของตนด้วยความ




มัน่ ใจ





129

แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ติ บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กล่มุ สาระการเรียนร
ู้

องค์ประกอบ
รายละเอยี ดองค์ประกอบทกั ษะชวี ติ

ทส่ี อดคล้อง
ทีส่ อดคลอ้ งกบั ตัวชว้ี ดั มาตรฐานการเรยี นร
ู้

ช้นั
1 2 3 4
1. ตระหนกั รู้และ 2. คดิ วิเคราะห์ 3. การจดั การกบั 4. การสรา้ ง
เห็นคุณค่า
ตัดสนิ ใจและ
อารมณแ์ ละ สัมพนั ธภาพทด่ี ี

ความเครียด

ในตนเองและผ้อู ่นื
แก้ปญั หาอย่าง กบั ผอู้ ื่น

สร้างสรรค์


ป.3 ✓ ✓ ✓ ✓
1. บอกเลา่ ความดี 1. แสด
งความ -
1. ขอความช่วยเหลอื

หรือความภาคภมู ใิ จ
สามา
รถในการ
เมอื่ อย่ใู นภาวะ

ของตนเอง
สังเก
ตไดเ้ ปน็

วกิ ฤต


ใหผ้ อู้ นื่ รบั ร้
ู 2. วขเิ้นั คตร
อาะนห
ค์ วาม

2. หลกี เล่ยี ง

2. ยอมรบั ความ

สถานการณ์เส่ียง

แตกตา่ งทางกาย น่าเชอ่ื ถือของ
ต่อความปลอดภัย

ทางความคิดและ ข้อมูลขา่ วสาร

ของตนเอง


พฤติกรรมของ 3. วิเคราะห์สาเหตุ
3. ปฏบิ ัติตามกติกา

ตนเองและผอู้ ่นื
ของปัญหาและ
ขอ้ ตกลงของกลุ่ม

3. บอกส่ิงทีต่ นเอง
เลือกแก้ไขปญั หา
และชนั้ เรยี น


ช่นื ชอบ
ได้เหมาะสม




4. กล้าแสดงออกทาง




ความคดิ ความรู้สึก




และการกระทำ




ของตนด้วยความ




มัน่ ใจ





130

หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551


องค์ประกอบ
รายละเอียดองคป์ ระกอบทกั ษะชีวิต

ที่สอดคลอ้ ง
ที่สอดคลอ้ งกับตวั ชีว้ ดั มาตรฐานการเรียนร้


ชนั้
1 2 3 4
1. ตระหนกั รแู้ ละ 2. คิดวเิ คราะห์ 3. การจัดการกับ 4. การสรา้ ง
เห็นคณุ คา่
ตดั สนิ ใจและ
อารมณ์และ สัมพันธภาพที่ดี

ความเครียด

ในตนเองและผอู้ ื่น
แก้ปญั หาอยา่ ง กับผู้อนื่

สรา้ งสรรค์


ป.4 ✓ ✓ ✓ ✓
1. บอกเล่าความดี 1. วเิ คร
าะหค์ วาม
มวี ธิ ีการผอ่ นคลาย 1. รู้จกั แสดงความคิด

หรอื ความภาคภูมิใจ
นา่ เช
อ่ื ถือของ อารมณแ์ ละ ความรูส้ ึก


ของตนเอง
ขอ้ ม
ูลขา่ วสารได้ ความเครียดใหก้ ับ ความชน่ื ชมและ

ใหผ้ ู้อ่นื รับรู้
2. สวิพมเาหก
ตษุสว์ มิจผารลณ

์ ตนเอง
การกระทำทดี่ ีงาม

2. ยอมรับความ

ใหผ้ ู้อน่ื รับรู้


แตกต่างทางกาย บนพื้นฐานของ
2. ปฏบิ ัตติ ามกตกิ า

ทางความคิดและ ขอ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง

ข้อตกลงของกลุม่

พฤตกิ รรมของ

และชั้นเรียน


ตนเองและผอู้ ่ืน





3. บอกสงิ่ ท่ตี นเอง





ชน่ื ชอบ





4. กล้าแสดงออกทาง




ความคิดความรสู้ กึ




และการกระทำ




ของตนด้วย





ความมนั่ ใจ





131

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ติ บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กล่มุ สาระการเรยี นร
ู้

องคป์ ระกอบ
รายละเอยี ดองค์ประกอบทักษะชีวติ

ทสี่ อดคล้อง
ที่สอดคลอ้ งกับตวั ชีว้ ัด มาตรฐานการเรียนร
ู้

ช้ัน
1 2 3 4
1. ตระหนักรแู้ ละ 2. คิดวเิ คราะห์ 3. การจัดการกับ 4. การสร้าง
เหน็ คณุ คา่
ตดั สินใจและ
อารมณแ์ ละ สัมพนั ธภาพทีด่

ความเครียด

ในตนเองและผูอ้ ืน่
แก้ปญั หาอยา่ ง กบั ผู้อื่น

สร้างสรรค


ป.5 ✓ ✓ ✓ ✓
1. แสดงออกในสิ่งท่ี 1. วิเคร
าะหค์ วาม
แสดงอารมณ์ความ 1. หลีกเล่ยี ง

ตนเองภาคภมู ิใจ นา่ เช
่ือถือของ รู้สึกนกึ คิดของตนเอง สถานการณ์ที่เสย่ี ง
อยา่ งเหมาะสม
ขอ้ ม
ูลขา่ วสารได้ ได้เหมาะสม
ต่อความปลอดภยั




2. แสดงความรู้สึกที่ดี 2. อคยาดา่ งค
มะีเเหนต
ผุ ล

ของตนเอง


ตอ่ ตนเองและผู้อืน่

2. ปฏิบตั ิตาม



3. กลา้ แสดงออก
ความเส่ียงจาก
ข้อตกลง กฎ กตกิ า


ทางความคิด สถานการณ์ท่ี
ของโรงเรียนและ


ความรู้สกึ และการ เผชิญในชวี ิต
สังคม



กระทำของตนเอง ประจำวัน





ด้วยความมนั่ ใจ




ป.6 ✓ ✓ ✓ ✓
1. แสดงออกในส่ิงท่ี 1. วเิ คราะหค์ วาม
แสดงอารมณ์ความ 1. ปฏิบัตติ ามกฎ

ตนเองภาคภมู ใิ จ น่าเช่อื ถอื ของ รสู้ ึกนกึ คิดของตนเอง กติกา ประเพณี

อยา่ งเหมาะสม
ข้อมูลขา่ วสารได้ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ของสงั คม


2. แสดงความรสู้ กึ ทด่ี ี อยา่ งมีเหตุผล
อย่างเหมาะสม
2. ทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืน

ต่อตนเองและผู้อืน่
2. คาดคะเน

บนพืน้ ฐานความ

3. กล้าแสดงออกทาง ความเส่ียงจาก
เป็นประชาธิปไตย


ความคดิ
สถานการณ์ท่ี



ความรูส้ กึ และ
เผชิญในชีวติ



การกระทำ
ประจำวนั




ของตนเอง
3. วพิ ากษ์วิจารณบ์ น



ด้วยความมัน่ ใจ
พน้ื ฐานของขอ้ มลู




ท่ีถกู ต้อง




132

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551


องคป์ ระกอบ
รายละเอียดองคป์ ระกอบทกั ษะชวี ติ

ทสี่ อดคลอ้ ง
ท่สี อดคล้องกบั ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรยี นร้


ชั้น
1 2 3 4
1. ตระหนกั รู้และ 2. คดิ วิเคราะห์ 3. การจดั การกับ 4. การสรา้ ง
เหน็ คุณคา่
ตัดสนิ ใจและ
อารมณ์และ สัมพนั ธภาพทด่ี ี

ความเครียด

ในตนเองและผอู้ ื่น
แก้ปญั หาอยา่ ง กบั ผูอ้ น่ื

สร้างสรรค


ม.1 ✓ ✓ - ✓
1. วิเคราะหค์ วาม 1. วเิ คร
าะหผ์ ล -
1. กลา้ แสดงความ


ถนดั ความสามารถ กระท
บและหา

คิดเหน็ ของตนเอง

ของตนเอง
ทางป
้องกันหรือ
และยอมรบั ความ

2. สะท้อนมุมมองทดี่ ี แสกถาป้ น
ัญกหาารใณนต์ ่าง ๆ

คดิ เห็นของผู้อืน่

ของตนเองท่มี ีต่อ

อย่างมเี หตุผล


ผู้อืน่ มองบวก
2. เลอื กรบั ข้อมลู

2. ทำงานรว่ มกับผอู้ ่นื

3. ยอมรับความ
ข่าวสารอย่าง
บนพน้ื ฐานของ

แตกต่างทางความ ไตร่ตรอง

ความเปน็

คิดความรสู้ กึ และ 3. รู้เท่าทันชีวิต

ประชาธปิ ไตยได้

พฤตกิ รรมของ และสังคมท่ี
อย่างราบรน่ื


ตนเองและผู้อนื่ ได้ เปลีย่ นแปลง

3. ปฏิเสธเพอื่ นใน

อย่างมีเหตผุ ล
4. มีทักษะในการ
สถานการณ์เส่ียง


แสวงหาและใช้
และร้จู ักเตอื น


ข้อมูลจากแหลง่
เพ่ือนใหห้ ลีกเลี่ยง


เรียนรู้ต่าง ๆ ให้
พฤติกรรม



เปน็ ประโยชน์กับ
ท่ไี ม่ถูกตอ้ ง



ตนเองและผ้อู ่ืน




133

แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ติ บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุม่ สาระการเรยี นร
ู้

องคป์ ระกอบ
รายละเอียดองคป์ ระกอบทักษะชีวิต

ทีส่ อดคล้อง
ทีส่ อดคล้องกับตวั ชีว้ ัด มาตรฐานการเรยี นรู้


ชัน้
1 2 3 4
1. ตระหนักรู้และ 2. คิดวเิ คราะห์ 3. การจดั การกับ 4. การสรา้ ง
เห็นคุณคา่
ตัดสินใจและ
อารมณ์และ สมั พนั ธภาพท่ีด

ความเครยี ด

ในตนเองและผอู้ ่ืน
แกป้ ญั หาอย่าง กับผอู้ ืน่

สรา้ งสรรค


ม.2 ✓ ✓ ✓ -
1. ยอมรับความ
1. แกป้
ญั หาใน สร้างความสุขใหก้ ับ -


แตกต่างทางความ สถาน
การณว์ กิ ฤต ตนเองและผู้อ่ืนได้


คดิ ความร้สู ึกและ ได้อย
า่ งเปน็ ระบบ
อย่างสรา้ งสรรค



พฤตกิ รรมของ 2. วกเิรคะรท
าบะแหล์ผะลหาทาง



ตนเองและผู้อนื่ ได้



อย่างมีเหตุผล
ปอ้ งกันหรอื แก้



2. รู้จักความถนัด ปัญหาใน



ความสามารถและ สถานการณ์ตา่ ง ๆ




บุคลกิ ภาพของ 3. มีทักษะในการ



ตนเอง
แสวงหาและใช้



3. เคารพในสิทธขิ อง ขอ้ มูล




ตนเองและผ้อู น่ื 4. ตัดสนิ ใจเลือก




ตามวถิ ี วธิ ีการแก้ปัญหา




ประชาธปิ ไตย
ในสถานการณ์




4. ปฏิบัติตามสิทธิ ทีเ่ ผชิญอย่างมี



ของตนเอง
เหตผุ ล





5. เลือกรบั ข้อมูล





ข่าวสารอย่าง




ไตรต่ รองและรู





เทา่ ทนั ชวี ติ และ




สงั คมที่




เปล่ียนแปลง




134

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551


องค์ประกอบ
รายละเอยี ดองค์ประกอบทักษะชวี ติ

ทส่ี อดคล้อง
ทสี่ อดคล้องกบั ตัวช้วี ดั มาตรฐานการเรียนรู้


ช้นั
1 2 3 4
1. ตระหนกั รแู้ ละ 2. คิดวเิ คราะห์ 3. การจัดการกบั 4. การสร้าง
เหน็ คณุ ค่า
ตดั สินใจและ
อารมณแ์ ละ สมั พนั ธภาพท่ีดี

ความเครยี ด

ในตนเองและผู้อืน่
แกป้ ัญหาอย่าง กบั ผอู้ ่ืน

สรา้ งสรรค


ม.3 ✓ ✓ ✓ ✓
1. สะท้อนมุมมองที่ดี 1. วิเคร
าะห
์ สรา้ งความสขุ ให้กับ 1. เคารพและ


ของตนเองและ
ผลก
ระทบและหา ตนเองและผอู้ นื่ อยา่ ง ปฏบิ ตั ติ นตามกฎ

ผู้อืน่ ได้
ทางป
อ้ งกันหรอื
สรา้ งสรรค์
กติกาของสงั คม


2. แสดงออกทาง
สแกถา้ปน
ญั กหาารใณน์ต่าง
2. ใชก้ ารสอ่ื สาร


ความคดิ ความรู้สึก ๆ

เชงิ บวกสร้าง

และการกระทำ 2. มีทกั ษะในการ
สมั พนั ธภาพทีด่ ี


ของตนเองด้วย แสวงหาและใช้
3. ทำงานรว่ มกับผู้อนื่

ความมั่นใจ
ขอ้ มลู

บนพนื้ ฐานของ

3. วางแผนการเรียน 3. ตดั สินใจเลือก

ความเป็น

อาชีพและ
แกป้ ัญหาใน
ประชาธปิ ไตยได้

การดำเนนิ ชวี ติ
สถานการณ์ที่
อย่างราบร่ืน



เผชญิ อย่างมี




เหตผุ ล





4. ประเมินผล





การกระทำ




ประสบการณข์ อง




ตนเองเพื่อเป็น





บทเรียนชีวติ




135

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ิต บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นร
ู้


องค์ประกอบ
รายละเอียดองคป์ ระกอบทักษะชีวิต

ท่ีสอดคลอ้ ง
ที่สอดคล้องกบั ตวั ช้วี ัด มาตรฐานการเรยี นร้


ชน้ั
1 2 3 4
1. ตระหนกั รู้และ 2. คดิ วิเคราะห์ 3. การจดั การกบั 4. การสรา้ ง
เห็นคุณค่า
ตัดสนิ ใจและ
อารมณแ์ ละ สัมพนั ธภาพที่ดี

ความเครยี ด

ในตนเองและผอู้ ่นื
แก้ปัญหาอยา่ ง กบั ผ้อู ่ืน

สรา้ งสรรค์


ม.4 ✓ ✓ ✓ ✓
1. มที ักษะการ 1. วิเคร
าะห์ 1. มีวธิ สี ร้างความสุข 1. กลา้ แสดง

- ม.6
กำหนดเปา้ หมาย ประ
โยชนแ์ ละ ให้กับตนเองและ
ความคิดเหน็ ต่อ
และทิศทางการ คุณค
่าของข้อมลู ผูอ้ ่ืนไดเ้ หมาะสม ตนเองและ
ดำเนินชีวิตไปสู่ ขข่้าอวมส
ลู าขร่าเวพสือ่ าใรชเ้ พ่อื กับเหตกุ ารณ
์ สถานการณต์ า่ ง ๆ
ความสำเรจ็
2. ปรบั ความคดิ
อย่างมเี หตผุ ลและ
2. ปฏบิ ัตติ นตาม สรา้ งภมู คิ วามรูใ้ น ความร้สู ึก อารมณ์ หลักวชิ าทถี่ ูกต้อง

ทิศทางที่กำหนด การตดั สนิ ใจเมอ่ื ท่ีเกดิ ขนึ้
2. มีวิธกี ารสอ่ื สารกบั
และปรับปรุงให้มี เผชิญสถานการณ์ ในสถานการณ์
ผ้อู น่ื ทงั้ ภาษาพดู
โอกาสประสบ รอบตัว
ตา่ ง ๆ ทกี่ อ่ ให้เกดิ ภาษากาย

ความสำเร็จ
2. ตัดสนิ ใจใน ความไม่พอใจหรอื ด้วยความสภุ าพ
สถานการณต์ า่ ง ๆ เครยี ดด้วยวธิ ีการ และเป็นมิตร

ท่ีเผชญิ ดว้ ย
ทถี่ กู ตอ้ งและ 3. ทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืน
ทางเลือกท่
ี สรา้ งสรรค
์ บนพื้นฐานความ
เหมาะสมและ
เป็นประชาธิปไตย

ไม่เกดิ ผลกระทบ 4. ปฏเิ สธในส่ิงท่คี วร
ตอ่ ตนเองและผูอ้ นื่
ปฏเิ สธ

3. สรา้ งสรรค์ผลงาน
และแสดง
พฤตกิ รรมไดเ้ ป็นท่ี
ยอมรับ


136

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551


แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้บูรณาการทักษะชวี ิตในกล่มุ สาระการเรียนร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา


รายวชิ า สุขศึกษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1

เร่อื ง สุขภาพช่องปากดีมคี วามสขุ เวลาจดั กจิ กรรม 1 ช่วั โมง



1. มาตรฐานการเรียนรู

- พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจริญโตและพฒั นาการของมนษุ ย์



2. สาระ/ตวั ชี้วดั

- ความสำคัญของการมีสขุ ภาพช่องปากดกี บั การเจริญเติบโต



3. วัตถปุ ระสงค์

3.1 นักเรยี นเห็นคณุ ค่าของการมสี ุขภาพช่องปาก

3.2 นกั เรยี นบอกประโยชน์ของการมสี ุขภาพในชอ่ งปากดีได



4. องค์ประกอบทักษะชวี ติ : การตระหนักรูแ้ ละเหน็ คณุ ค่าในตนเองและผู้อื่น

4.1 บอก/บรรยาย/เล่าความดี

4.2 บอก/บรรยาย/เล่าความดีหรอื ความภาคภูมิใจของเพ่อื นให้ผอู้ ่นื รบั รู้



5. สาระเนือ้ หา

- การมีสุขภาพช่องปากด



6. ภาระงาน/ช้ินงาน

- ภาพวาดระบายสีฟนั สวยของนักเรียน



7. กจิ กรรมการเรียนร
ู้
7.1 นักเรียนฟังครูเลา่ นทิ าน เรื่อง “บทเรียนของหนอ่ ย”

7.2 ครแู ละนกั เรียนร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนความคดิ โดยการตั้งคำถาม

7.2.1 ฟนั ของหน่อยหายไปไหน

7.2.2 ทำไมหน่อยจึงปวดฟัน

7.2.3 ถา้ นักเรยี นเป็นหน่อย จะแกป้ ัญหาการปวดฟันอย่างไร

7.2.4 นกั เรยี นได้ข้อคดิ อะไรจากนทิ านเรอ่ื ง บทเรยี นของหน่อย


137

แนวทางการพฒั นาทกั ษะชวี ติ บรู ณาการการเรยี นการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นร
ู้

7.3 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปสาระสำคัญ และข้อคิดจากนิทานในเร่ืองความสำคัญ

ของการรกั ษาสุขภาพชอ่ งปาก




7.4 สนทนาด้วยเทคนคิ คำถาม R - C - A เพอ่ื พัฒนาทกั ษะชวี ติ การรักและเหน็ คณุ ค่า
ในตนเอง

คำถามเพอื่ การสะทอ้ น (R)

- นักเรยี นมคี วามรสู้ กึ อยา่ งไร เม่อื เห็นหนอ่ ยปวดฟนั

คำถามเพอ่ื การเชอ่ื มโยง (C)

- นกั เรยี นเคยฟันผุและปวดฟนั บา้ งหรือเปล่า?

คำถามเพือ่ การปรบั ใช้ (A)

- นกั เรยี นจะทำตัวอยา่ งไรไม่ให้ฟนั ผุ และรกั ษาสขุ ภาพฟันอยา่ งไร?



8. สอ่ื การเรยี นร
ู้
- นิทาน



9. การประเมนิ ผล

9.1 การบอกวิธกี ารแปรงฟันและดูแลรกั ษาฟนั

9.2 บอกประโยชนข์ องการมสี ุขภาพในช่องปาก



10. ข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

- ให้นักเรียนออกมานำเสนอหนา้ ช้นั เรียน เพอ่ื อธิบายการแปรงฟันท่ถี ูกต้อง




138

หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551


แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้บู ูรณาการทักษะชีวติ ในกลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา


รายวิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5

เรือ่ ง วัยใสวยั รุน่ เวลาจัดกจิ กรรม 1 ชวั่ โมง



1. มาตรฐานการเรยี นรู

- พ 2.1 เขา้ ใจและเหน็ คณุ คา่ ตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา และมที กั ษะในการดำเนนิ ชีวิต



2. สาระ/ตวั ชว้ี ัด

- อธบิ ายการเปลยี่ นแปลงทางเพศ และปฏิบตั ติ นได้เหมาะสม



3. วัตถุประสงค

3.1 อธบิ ายการเปล่ยี นแปลงทางเพศในวัยรุน่ ได้

3.2 การตระหนกั ร้ใู นการวางตัวทเี่ หมาะสมกับวัย



4. องคป์ ระกอบทักษะชีวิต : การตระหนักรแู้ ละเห็นคุณคา่ ในตนเองและผ้อู น่ื

- แสดงออกในส่ิงทีต่ นเองภาคภมู ิใจอยา่ งเหมาะสม



5. สาระเนื้อหา

- เพศศกึ ษากบั วัยร่นุ



6. ภาระงาน/ช้นิ งาน

- Mind Mapping ทผ่ี เู้ รียนสร้างสรรค์ขึน้



7. กิจกรรมการเรยี นร้

7.1 ครูและนักเรียนร่วมสนทนาเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงด้านสรีระของนักเรียนชายและ
นกั เรียนหญงิ ในระยะเวลาย่างเข้าสู่วัยรนุ่

7.2 ครูต้ังคำถามเก่ยี วกบั การประพฤติ ปฏิบตั ติ นอย่างไรตอ่ เพศตรงข้าม

7.3 แบ่งกลุ่มนักเรียนชาย หญิง กลุ่มละ 5 คน เขียน Mind Mapping การป้องกัน

การมเี พศสมั พนั ธ์ในวัยเรยี น

7.4 ครูและนักเรียนร่วมสรุป และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางตัวและเห็นคุณค่า
ในตนเองเพอ่ื ปอ้ งกันการมีเพศสมั พนั ธ์ในวัยเรยี น




139


Click to View FlipBook Version