หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลเดมิ บางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ก
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช (วัดท่าชา้ ง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๒
คำนำ
โรงเรียนอนบุ าลเดมิ บางนางบวช(วดั ท่าชา้ ง) ได้ดำเนนิ การจดั ทำหลกั สตู รสถานศกึ ษาในกลุม่ สาระ
การเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ เพือ่ ใหส้ ถานศึกษาใช้เป็นแนวทางในการจดั การเรยี นการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้
คณติ ศาสตร์ โดยการวเิ คราะห์สาระ และมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง จัดทำ
คำอธบิ ายรายวิชา หนว่ ยการเรยี นรู้ เพ่อื ให้สถานศึกษาไดน้ ำไปปรบั ปรุงหลกั สูตรสถานศกึ ษาของโรงเรียน
ไดต้ ามความเหมาะสม
โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) ขอขอบคุณกลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการ
จัดการศึกษา คณะทำงานปรับปรุงหลักสูตร และผู้เกี่ยวข้องที่ได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จนสำเร็จ ซึ่งสถานศึกษาสามารถนำไปจัดการเรียนการสอน ในแต่ละ
ระดบั ชน้ั เพื่อพฒั นาผ้เู รียนใหม้ คี ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชว้ี ัดทีก่ ำหนดไว้
คณะทำงาน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ กข
สารบญั หนา้
เรื่อง ๒
๔
สว่ นท่ี ๑ ส่วนนำ ๔
ความนำ ๔
วิสยั ทศั น์ ๕
เปา้ ประสงค์ ๕
พันธกจิ ๕
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๗
จุดมงุ่ หมายของหลกั สูตร ๘
๘
ส่วนท่ี ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ๙
ทำไมต้องเรียนคณิตศาสตร์ ๑๐
เรยี นร้อู ะไรในคณติ ศาสตร์ ๑๑
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ๒๖
คณุ ภาพผู้เรยี น ๒๗
ตัวชี้วดั และสาระการเรยี นรู้ ๒๘
โครงสร้างหลักสูตรแกนกลาง
โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศกึ ษา ๒๙
โครงสรา้ งหลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์
๓๗
ส่วนท่ี ๓ คำอธบิ ายรายวชิ า
๑๑๒
สว่ นที่ ๔ หน่วยการเรยี นรู้ ๑๑๓
๑๑๖
ส่วนที่ ๕ การจัดการเรยี นรู้ และการวัดและการประเมนิ ผล
แนวทางการจัดการเรียนรู้ ๑๒๑
แนวทางการวัดและการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑๒๘
ภาคผนวก
อภิธานศัพท์
คณะผู้จัดทำ
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดท่าช้าง) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๑
ส่วนที่ 1 ส่วนหนา้
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๑)
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๒
ความนำ
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ให้
เป็นหลกั สตู รแกนกลางของประเทศ เมื่อวันท่ี ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑ เร่ิมใชใ้ นโรงเรยี นต้นแบบการใช้หลักสูตร
และโรงเรียนที่มีความพร้อม ในปีการศึกษา 2552 และเริ่มใช้ในโรงเรียนทั่วไปในปีการศึกษา 2553
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน โดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ไดด้ ำเนินการติดตาม
ผลการนำหลกั สูตรไปสู่การปฏิบัติอยา่ งต่อเนื่องในหลายรูปแบบ ท้งั การประชุมรับฟังความคิดเห็น การนิเทศ
ติดตามผลการใช้หลักสูตรของโรงเรียน การรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซด์ของสำนักวิชาการและมาตรฐาน
การศกึ ษา รายงานผลการวจิ ัยของหน่วยงานและองคก์ รทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั หลักสูตรและการใช้หลักสตู รแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ผลการศึกษาพบว่า หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 มีข้อดีในหลายประการ เช่น กำหนดเป้าหมายการพัฒนาไว้ชัดเจน มีความยืดหยุ่น
เพียงพอให้สถานศึกษาบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาได้ สำหรับปัญหาที่พบส่วนใหญ่เกิดจากการนำ
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สกู่ ารปฏิบัติในสถานศกึ ษาและในห้องเรยี น
นอกจากนี้ การศกึ ษาข้อมูล เกยี่ วกับ ทิศทาง กรอบยุทธศาสตร์ แผนแม่บท และกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง
กบั การพัฒนาประเทศ พบวา่ ประเด็นสำคญั เพ่ือแปลงแผนไปสู่การปฏบิ ตั ใิ ห้เกิดผลสมั ฤทธไิ์ ดอ้ ยา่ งแท้จริง คือ
การเตรียมพร้อมด้านกำลังคน และการเสริมสร้างศักยภาพของประชากรในทุกช่วงวัย มุ่งเน้นการยกระดบั
คุณภาพทุนมนุษย์ของประเทศ โดยพัฒนาคนให้เหมาะสมตามช่วงวยั เพ่อื ให้เตบิ โตอยา่ งมีคณุ ภาพ การพฒั นา
ทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการในตลาดแรงงานและทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21
ของคนในแต่ละช่วงวัยตามความเหมาะสม การเตรียมความพร้อมของกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคต ตลอดจนการยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศ ดังนั้นการ
ขับเคลื่อนยทุ ธศาสตร์ชาติเพ่อื เตรียมความพรอ้ มคนให้สามารถปรับตัวรองรบั ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลง
ได้อย่างเหมาะสม กระทรวงศกึ ษาธิการจึงกำหนดเปน็ นโยบายสำคัญและเรง่ ด่วนให้มกี ารปรับปรุงหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ
สาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รวมทั้งสาระเทคโนโลยี โดย
มอบหมายใหส้ ถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) ดำเนนิ การปรบั ปรงุ กลุ่มสาระการ
เรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และสาระเทคโนโลยีและมอบหมายให้สำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานดำเนินการปรับปรุงสาร ะภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
การปรับปรุงหลักสูตรครั้งนี้ ยังคงหลักการและโครงสร้างเดิมของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 คอื ประกอบด้วย 8 กลุม่ สาระการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ
การงานอาชีพ และภาษาต่างประเทศ แต่มุ่งเน้นการปรบั ปรุงเนื้อหาให้มีความทันสมัยทันต่อการเปลี่ยนแปลง
และความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการต่าง ๆ คำนงึ ถึงการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเปน็ สำหรับการเรียนรู้
ในศตวรรษที่ 21 เปน็ สำคัญ เตรียมผเู้ รียนให้มีความพร้อมท่ีจะเรียนรู้สิ่งตา่ ง ๆพร้อมท่ีจะประกอบอาชีพเมื่อจบ
การศึกษา หรือจบการศึกษา หรือสามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น สามารถแข่งขันและอยู่ร่วมกับประชาคม
โลกได้
กรอบในการปรบั ปรุง คือ ให้มีองค์ความรู้ที่เป็นสากลเทียบเท่านานาชาติ ปรับมาตรฐานการเรียนรู้
และตัวชี้วัดให้มีความชัดเจน ลดความซ้ำซ้อน สอดคล้องและเชื่อมโยงกันภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้และ
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ๓
ระหวา่ งกล่มุ สาระการเรียนรู้ ตลอดจนเช่อื มโยงองค์ความรทู้ างวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีเข้า
ด้วยกัน จัดเรียงลำดับความยากง่ายของเนื้อหาในแต่ละระดับชั้นตามพัฒนาการแต่ละช่วงวัยให้มีความ
เชื่อมโยงความรู้และกระบวนการเรียนรู้ โดยให้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด
สาระสำคญั ของการปรับปรุงหลักสูตร มดี ังนี้
1. กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตรแ์ ละวิทยาศาสตร์
1.1 จดั กล่มุ ความรูใ้ หม่ และนำทักษะกระบวนการไปบรู ณาการกับตัวชี้วัด เน้นใหผ้ ูเ้ รียนเกิด
การคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปญั หา และมีทักษะในศตวรรษที่ 21
1.2 กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดสำหรับผูเ้ รียนทุกคนที่เป็นพ้ืนฐานที่เกี่ยวข้อง
กับชวี ิตประจำวัน และเปน็ พ้ืนฐานสำคัญในการศกึ ษาตอ่ ระดบั ที่สงู ข้ึน
1.3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 กำหนดตัวชี้วัด เป็นรายปี เพื่อเป็นแนวทางให้
สถานศึกษาจัดตามลำดับการเรียนรู้ อย่างไรก็ตามสถานศึกษาสามารถพจิ ารณาปรับเลื่อนไหลระหว่างปีได้
ตามความเหมาะสม
2. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ได้เพิ่มสาระเทคโนโลยี ซึ่งประกอบด้วยการออกแบบและ
เทคโนโลยี และวิทยาการคำนวณ ทั้งนี้เพื่อเอื้อต่อการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทางคณิ ตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กับกระบวนการเชิงวิศวกรรม ตามแนวคดิ สะเตม็ ศกึ ษา
3. สาระภมู ิศาสตร์ ซงึ่ เป็นสาระหน่งึ ในกล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรมได้
ปรับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี่วัดให้มีความชัดเจน สอดคล้องกับพัฒนาการตามช่วงวัย มีองค์ความรู้ที่
เปน็ สากล เพ่ิมความสามารถ ทกั ษะ และกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ที่ชดั เจนขึ้น
โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าช้าง) จึงได้ทำการปรับปรุงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตร์ในกล่มุ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของ
สถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ให้มีกระบวนการนำ
หลักสตู รไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกำหนดวิสยั ทัศน์ จดุ หมาย สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลักษณะอัน
พึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การวัดประเมินผลให้มี
ความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้ เปิดโอกาสให้โรงเรียนสามารถกำหนดทิศทางในการจัดทำหลักสูตร
การเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเน้น โดยมีกรอบแกนกลางเปน็ แนวทางที่ชัดเจนเพื่อ
ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคมคุณภาพ มีความรู้อย่างแท้จริง และมี
ทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑
มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ช้วี ัดทีก่ ำหนดไว้ในเอกสารน้ี ช่วยทำให้หน่วยงานทเ่ี กี่ยวข้อง ในทุกระดับ
เห็นผลคาดหวังที่ต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ชัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถช่วยให้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างม่ันใจ ทำให้การจัดทำ
หลักสูตรในระดับสถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพยิ่งข้ึน อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความชัดเจนเรื่อง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังนั้นในการพัฒนา
หลกั สตู รในทุกระดบั ตงั้ แต่ระดบั ชาตจิ นกระทัง่ ถงึ สถานศกึ ษา จะต้องสะทอ้ นคณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลเดมิ บางนางบวช(วัดทา่ ชา้ ง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๔
และตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมทั้งเป็นกรอบทิศทางในการจัด
การศกึ ษาทุกรปู แบบ และครอบคลุมผู้เรยี นทุกกลมุ่ เปา้ หมายในระดับการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน
การจัดหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่คาดหวังได้ ทุกฝ่าย ท่ี
เกี่ยวข้องทั้งระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันทำงานอย่างเป็นระบบ
และต่อเนื่อง ในการวางแผน ดำเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนา
เยาวชนของชาติไปสคู่ ณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนรูท้ ่กี ำหนดไว้
วสิ ัยทัศน์
วิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ เปา้ หมาย อตั ลกั ษณ์ และเอกลักษณ์ของสถานศกึ ษา
เปา้ ประสงค์ (Corporate objective)
นกั เรยี นมีนิสยั ใฝ่รู้ รกั การอ่านและการคน้ ควา้ สามารถแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองเป็นคนดมี คี ุณธรรม
รู้จกั คิดวิเคราะหม์ ที กั ษะการดำลงชวี ิตในสังคมยุคใหม่ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่ือสารเพือ่ เป็น
พน้ื ฐานการเรียนรู้สรา้ งงาน สรา้ งอาชพี สามารถนำเสนอผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ สบื สานวิถวี ฒั นธรรมไทย
อยา่ งมนั่ ใจในตนเอง
พันธกิจ (Mission) โรงเรยี นอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง)
๑. พัฒนาโรงเรียนใหไ้ ด้มาตรฐาน รองรบั นักเรยี นอยา่ งทั่วถึงและมคี ณุ ภาพ
๒. สง่ เสริมคณุ ธรรมจริยธรรมคุณลักษณะอันพงึ ประสงคแ์ ละค่านยิ มหลกั ของคนไทย ๑๒ ประการ
๓. พัฒนาครใู หท้ ันตอ่ การเปล่ยี นแปลง
๔. พฒั นาระบบบรหิ ารโดยการมสี ่วนร่วมและใชโ้ รงเรยี นเปน็ ฐาน(SBM)
๕. สง่ เสริมความเปน็ ไทยในทกุ ดา้ น
สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าช้าง)
พทุ ธศกั ราช ๒๕6๔ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้
มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด ซงึ่ จะชว่ ยให้ผู้เรยี นเกดิ สมรรถนะสำคญั และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ดงั น้ี
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
หลักสูตรโรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าช้าง) พุทธศักราช ๒๕6๔ ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ม่งุ ให้ผู้เรยี นเกดิ สมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดงั น้ี
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร เปน็ ความสามารถในการรบั และส่งสาร มวี ฒั นธรรม
ในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคดิ ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมลู
ข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูล
ข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึง
ผลกระทบทีม่ ตี ่อตนเองและสงั คม
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลเดมิ บางนางบวช(วัดทา่ ชา้ ง) กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๕
๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง
สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคดิ เปน็ ระบบ เพือ่ นำไปสูก่ ารสรา้ งองคค์ วามร้หู รอื สารสนเทศ
เพอ่ื การตัดสนิ ใจเก่ยี วกบั ตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้
อย่างถกู ต้องเหมาะสมบนพืน้ ฐานของหลักเหตุผล คณุ ธรรมและข้อมลู สารสนเทศ เข้าใจความสมั พนั ธ์และการ
เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกัน และแก้ไข
ปญั หา และมกี ารตัดสนิ ใจทีม่ ีประสิทธิภาพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบท่ีเกดิ ข้ึนตอ่ ตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ
ดำเนินชีวติ ประจำวนั การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การเรยี นรอู้ ย่างต่อเนอ่ื ง การทำงาน และการอยูร่ ่วมกัน ในสังคม
ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าเหมาะสม
การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง
ประสงคท์ ่ีสง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยี ด้านต่าง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การ
ทำงาน การแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม
คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์
หลักสูตรโรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าช้าง) พุทธศักราช ๒๕63 ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เพื่อให้
สามารถอยูร่ ่วมกบั ผอู้ ืน่ ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ในฐานะพลเมอื งไทยและพลโลก ดงั นี้
1. รักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
2. ซื่อสัตยส์ ุจรติ
3. มีวินัย
4. ใฝเ่ รียนรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
7. รักความเปน็ ไทย
8. มีจติ เปน็ สาธารณะ
จดุ มงุ่ หมายของหลักสตู ร
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าลเดมิ บางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) พุทธศักราช 256๔ ตามหลกั สตู ร
แกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ม่งุ พัฒนาผู้เรยี นให้เปน็ คนดี มปี ญั ญา มีความสุข มี
ศักยภาพในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชพี จงึ กำหนดเป็นจดุ หมายเพอ่ื ให้เกดิ กับผ้เู รยี น เมือ่ จบการศกึ ษา
ตามหลกั สตู ร ดังน้ี
1. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมท่ีพึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม
หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทตี่ นนบั ถอื ยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลเดมิ บางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๖
2. มคี วามรู้ ความสามารถในการสอ่ื สาร การคดิ การแก้ปญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี และมีทักษะชีวิต
3. มีสขุ ภาพกาย และสุขภาพจิตทด่ี ี มีสขุ นสิ ัย และรักการออกกำลงั กาย
4. มีความรักชาติ มีจติ สำนกึ ในความเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ยึดมนั่ ในวถิ ีชวี ิต และการปกครอง
ตามระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมุข
5. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิต
สาธารณะท่ีมงุ่ ทำประโยชน์ สรา้ งสงิ่ ที่ดีงามในสังคม และอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมอย่างมคี วามสุข
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๗
ส่วนท่ี 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๘
ทำไมต้องเรียนคณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งตอ่ ความสำเร็จในการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ เนื่องจากคณิตศาสตร์
ช่วยให้มนษุ ยม์ คี วามคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ คดิ อย่างมเี หตผุ ล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือ
สถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหา ได้อย่างถูกต้อง
เหมาะสม และสามารถนำไปใชใ้ นชีวิตจรงิ ได้อย่างมีประสิทธภิ าพ นอกจากนี้ คณิตศาสตร์ยังเปน็ เคร่ืองมือใน
การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อืน่ ๆ อันเป็นรากฐานในการพฒั นาทรพั ยากรบุคคลของ
ชาติให้มีคุณภาพและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ทัดเทียมกับนานาชาติ การศึกษาคณิตศาสตร์จึง
จำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และความรู้
ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยที เ่ี จรญิ กา้ วหนา้ อย่างรวดเรว็ ในยคุ โลกาภวิ ตั น์
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช ๒๕๖๐)
กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยคำนึงถงึ การส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นมีทักษะที่จำเป็นสำหรับ
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ เป็นสำคัญ น่นั คอื การเตรียมผู้เรยี นใหม้ ที กั ษะด้านการคดิ วิเคราะห์ การคิดอย่าง
มีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยี การสื่อสารและการร่วมมอื ซึ่งจะส่งผลให้
ผู้เรียนรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อม สามารถแข่งขัน
และอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้ ทั้งนี้ การจัดการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ทีป่ ระสบความสำเร็จนัน้ จะต้องเตรียม
ผู้เรยี นใหม้ ีความพรอ้ มที่จะเรยี นรู้ส่ิงตา่ ง ๆ พร้อมท่ีจะประกอบอาชีพเมอ่ื จบการศกึ ษา หรือสามารถศึกษาต่อ
ในระดบั ทส่ี ูงขึน้ ดังน้นั สถานศึกษาควรจดั การเรียนรู้ให้เหมาะสมตามศักยภาพของผูเ้ รียน
เรียนรู้อะไรในคณติ ศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์จัดเป็น ๔ สาระ ได้แก่ จำนวนและพีชคณิต การวัดและเรขาคณติ
สถติ ิและความนา่ จะเปน็ แคลคลู สั
จำนวนและพชี คณติ ระบบจำนวนจรงิ สมบัติเกยี่ วกับจำนวนจรงิ อตั ราสว่ น ร้อยละ การประมาณค่า
การแก้ปัญหาเกี่ยวกับจำนวน การใช้จำนวนในชีวิตจริง แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน เซต ตรรกศาสตร์
นิพจน์ เอกนาม พหุนาม สมการ ระบบสมการ อสมการ กราฟ ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน เมทริกซ์ จำนวน
เชงิ ซ้อน ลำดับและอนุกรม และการนำความรู้เกยี่ วกบั จำนวนและพีชคณิตไปใช้ในสถานการณต์ ่าง ๆ
การวัดและเรขาคณิต ความยาว ระยะทาง น้ำหนัก พื้นที่ ปริมาตรและความจุ เงินและเวลา
หน่วยวัดระบบต่าง ๆ การคาดคะเนเกี่ยวกับการวัด อัตราส่วนตรีโกณมิติ รูปเรขาคณิตและสมบัติของ
รูปเรขาคณิต การนึกภาพ แบบจำลองทางเรขาคณิต ทฤษฎีบททางเรขาคณิต การแปลงทางเรขาคณิต
ในเรื่องการเลื่อนขนาน การสะท้อน การหมุน เรขาคณิตวิเคราะห์ เวกเตอร์ในสามมิติ และการนำความรู้
เกีย่ วกบั การวัดและเรขาคณิตไปใชใ้ นสถานการณต์ ่าง ๆ
สถิติและความน่าจะเป็น การตั้งคำถามทางสถิติ การเก็บรวบรวมข้อมูล การคำนวณค่าสถิติ
การนำเสนอและแปลผลสำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ หลักการนับเบื้องต้น ความน่าจะเป็น
การแจกแจงของตัวแปรสมุ่ การใช้ความร้เู ก่ียวกับสถติ ิและความน่าจะเป็นในการอธิบายเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ และ
ช่วยในการตดั สินใจ
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดท่าช้าง) กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๙
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ ๑ จำนวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การ
ของจำนวน ผลท่เี กิดข้ึนจากการดำเนินการ สมบตั ิของการดำเนนิ การ
และนำไปใช้
มาตรฐาน ค ๑.๒ เข้าใจและวเิ คราะห์แบบรูป ความสมั พันธ์ ฟงั ก์ชัน ลำดับและอนุกรม และนำไปใช้
มาตรฐาน ค ๑.๓ ใช้นพิ จน์ สมการ อสมการ และเมทรกิ ซ์ อธิบายความสมั พันธห์ รือช่วยแก้ปญั หา
ที่กำหนดให้
สาระที่ ๒ การวดั และเรขาคณิต
มาตรฐาน ค ๒.๑ เขา้ ใจพื้นฐานเกีย่ วกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ตอ้ งการวดั
และนำไปใช้
มาตรฐาน ค ๒.๒ เข้าใจและวเิ คราะหร์ ปู เรขาคณิต สมบตั ิของรูปเรขาคณติ ความสมั พันธ์ระหว่าง
รูปเรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และนำไปใช้
สาระที่ ๓ สถิตแิ ละความน่าจะเป็น
มาตรฐาน ค ๓.๑ เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรู้ทางสถิตใิ นการแก้ปญั หา
มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลักการนับเบื้องตน้ ความน่าจะเป็น และนำไปใช้
ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์
ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรเ์ ปน็ ความสามารถท่ีจะนำความรไู้ ปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้
สิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะและ
กระบวนการทางคณิตศาสตร์ในที่นี้ เน้นที่ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็น และต้องการ
พัฒนาใหเ้ กดิ ขน้ึ กบั ผ้เู รียน ไดแ้ ก่ความสามารถต่อไปน้ี
๑. การแก้ปญั หา เปน็ ความสามารถในการทำความเขา้ ใจปญั หา คิดวเิ คราะห์ วางแผนแก้ปญั หา
และเลือกใชว้ ิธีการทเี่ หมาะสม โดยคำนึงถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบพร้อมท้งั ตรวจสอบ
ความถกู ต้อง
๒. การสอ่ื สารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ เป็นความสามารถในการใชร้ ปู ภาษาและ
สัญลักษณท์ างคณติ ศาสตรใ์ นการส่อื สาร ส่ือความหมาย สรุปผล และนำเสนอได้อย่างถกู ต้อง
ชดั เจน
๓. การเชอื่ มโยง เป็นความสามารถในการใช้ความรูท้ างคณติ ศาสตร์เปน็ เคร่อื งมอื ในการเรียนรู้
คณิตศาสตร์เนื้อหาตา่ ง ๆ หรือศาสตร์อ่ืน ๆ และนำไปใชใ้ นชวี ิตจริง
๔. การใหเ้ หตผุ ล เปน็ ความสามารถในการให้เหตผุ ล รบั ฟังและให้เหตุผลสนบั สนุนหรอื โตแ้ ย้งเพ่ือ
นำไปสกู่ ารสรุป โดยมีขอ้ เท็จจรงิ ทางคณิตศาสตร์รองรบั
๕. การคิดสร้างสรรค์ เป็นความสามารถในการขยายแนวคิดทมี่ อี ย่เู ดิม หรอื สรา้ งแนวคดิ ใหม่
เพือ่ ปรบั ปรุง พฒั นาองค์ความรู้
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๑๐
คุณภาพผเู้ รียน
จบช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
- อ่าน เขียนตัวเลข ตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ มีความรู้สึกเชิงจำนวน
มที ักษะการบวก การลบ การคณู การ หาร และนำไปใชใ้ นสถานการณต์ า่ ง ๆ
- มีความรู้สึกเชิงจำนวนเกี่ยวกับเศษส่วนที่ไม่เกิน ๑ มีทักษะการบวก การลบ เศษส่วนที่ตัวส่วน
เทา่ กนั และนำไปใช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ
- คาดคะเนและวัดความยาว น้ำหนัก ปริมาตร ความจุ เลือกใช้เครื่องมือและหน่วยที่เหมาะสม
บอกเวลา บอกจำนวนเงนิ และนำไปใช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ
- จำแนกและบอกลักษณะของรูปหลายเหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม
ทรงกระบอกและกรวย เขียนรูปหลายเหลี่ยม วงกลมและวงรีโดยใช้แบบของรูป ระบุรูป
เรขาคณติ ทมี่ ีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร และนำไปใชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ
- อา่ นและเขยี นแผนภมู ิรปู ภาพ ตารางทางเดียว และนำไปใช้ในสถานการณต์ ่าง ๆ
จบชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖
- อ่าน เขียนตัวเลข ตัวหนังสือแสดงจำนวนนับ เศษส่วน ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง อัตราส่วน
และรอ้ ยละ มคี วามรู้สกึ เชิงจำนวน มที ักษะการบวก การลบ การคณู การหาร ประมาณผลลัพธ์
และนำไปใช้ในสถานการณต์ า่ ง ๆ
- อธิบายลักษณะและสมบัติของรูปเรขาคณิต หาความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปเรขาคณิต
สร้างรูปสามเหลย่ี ม รูปสเี่ หลยี่ มและวงกลม หาปริมาตรและความจขุ องทรงสเ่ี หลย่ี มมุมฉาก และ
นำไปใชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ
- นำเสนอข้อมูลในรูปแผนภูมิแท่ง ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง แผนภูมิรูปวงกลม ตารางสองทาง
และกราฟเส้นในการอธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ และตัดสินใจ
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๑๑
ตัวชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้
สาระท่ี ๑ จำนวนและพชี คณติ
มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวนผลทีเ่ กดิ ขึน้ จากการดำเนนิ การ สมบัตขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้
ชั้น ตวั ชว้ี ัด / ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
ป.๑ จำนวนนบั ๑ ถงึ ๑๐๐ และ ๐
๑. บอกจำนวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ แสดงสง่ิ ต่าง ๆ - การนับทลี ะ ๑ และทีละ ๑๐
ตามจำนวนทก่ี ำหนด อ่านและเขยี น - การอา่ นและการเขยี นตวั เลขฮินดอู ารบกิ
ตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทยแสดงจำนวน ตัวเลขไทยแสดงจำนวน
นับไม่เกนิ ๑๐๐ และ ๐ - การแสดงจำนวนนับไม่เกิน ๒๐ ในรปู
๒. เปรียบเทียบจำนวนนับไม่เกนิ ๑๐๐ และ ๐ ความสัมพันธข์ องจำนวนแบบสว่ นย่อย
ส่วนรวม (Part – Whole Relationship)
โดยใช้เคร่ืองหมาย = > <
- การบอกอนั ดบั ท่ี
๓. เรียงลำดับจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ - หลกั ค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั และ
ตั้งแต่ ๓ ถึง ๕ จำนวน
การเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย
- การเปรยี บเทียบจำนวนและการใช้
เคร่ืองหมาย = > <
- การเรียงลำดับจำนวน
๔. หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์ การบวก การลบ จำนวนนับ ๑ ถงึ ๑๐๐
แสดงการบวกและประโยคสญั ลักษณแ์ สดง และ ๐
การลบของจำนวนนับไมเ่ กนิ ๑๐๐ และ ๐ - ความหมายของการบวก ความหมายของ
๕. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การหาผลบวก การหาผลลบ และ
และ โจทยป์ ัญหาการลบของจำนวนนับ ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบ
- การแก้โจทยป์ ัญหาการบวก โจทยป์ ญั หา
ไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐
การลบ และการสรา้ งโจทย์ปัญหา พรอ้ มทัง้
หาคำตอบ
ป.๒ จำนวนนับไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐
๑. บอกจำนวนของส่ิงตา่ ง ๆ แสดงสงิ่ ตา่ ง ๆ - การนับทลี ะ ๒ ทีละ ๕ ทลี ะ ๑๐ และทีละ
ตามจำนวนทีก่ ำหนด อา่ นและเขยี นตวั เลข ๑๐๐
ฮนิ ดอู ารบกิ ตวั เลขไทย ตัวหนังสือแสดง - การอ่านและการเขยี นตัวเลขฮนิ ดอู ารบกิ
จำนวนนบั ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ตวั เลขไทย และตัวหนงั สอื แสดงจำนวน
๒. เปรียบเทยี บจำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ และ - จำนวนคู่ จำนวนค่ี
๐ โดยใชเ้ ครื่องหมาย = > < - หลกั ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และ
๓. เรียงลำดบั จำนวนนบั ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ การเขยี นตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย
ตั้งแต่ ๓ ถงึ ๕ จำนวนจากสถานการณ์ต่าง ๆ - การเปรยี บเทียบและเรียงลำดบั จำนวน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๑๒
ช้นั ตวั ช้วี ัด / ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
๔. หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยค การบวก การลบ การคูณ การหารจำนวนนับ
ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐
สัญลกั ษณ์ แสดงการบวกและประโยค - การบวกและการลบ
สัญลกั ษณแ์ สดงการลบของจำนวนนบั
- ความหมายของการคูณ ความหมายของ
ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ การหาร การหาผลคูณ การหาผลหารและ
๕. หาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยค
เศษ และความสัมพันธข์ องการคูณและ
สัญลักษณ์ แสดงการคณู ของจำนวน ๑ การหาร
- การบวก ลบ คูณ หารระคน
หลักกบั จำนวนไมเ่ กิน ๒ หลกั
๖. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยค - การแก้โจทยป์ ญั หาและการสรา้ งโจทย์
ปัญหา พร้อมท้ังหาคำตอบ
สญั ลกั ษณ์ แสดงการหารทต่ี ัวตงั้ ไม่เกิน ๒
หลกั ตัวหาร ๑ หลกั โดยท่ีผลหารมี ๑ หลัก
ทงั้ หารลงตัวและหารไม่ลงตัว
๗. หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนของ
จำนวนนบั ไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐
๘. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหา ๒
ข้นั ตอน ของจำนวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐
และ ๐
ป.๓ จำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐
๑. อ่านและเขยี น ตัวเลขฮินดอู ารบกิ ตวั เลข - การอ่าน การเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ
ไทย และตวั หนังสอื แสดงจำนวนนบั ไมเ่ กิน ตวั เลขไทยและตวั หนงั สอื แสดงจำนวน
๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ - หลกั ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และ
๒. เปรียบเทียบและเรยี งลำดบั จำนวนนบั การเขยี นตวั เลขแสดงจำนวนในรปู กระจาย
ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ - การเปรียบเทียบและเรียงลำดบั จำนวน
๓. บอก อา่ นและเขยี นเศษส่วนแสดงปริมาณ เศษสว่ น
- เศษสว่ นท่ีตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากบั
สง่ิ ต่าง ๆ และแสดงสง่ิ ตา่ ง ๆ ตามเศษสว่ น
ที่กำหนด ตัวสว่ น
๔. เปรยี บเทียบเศษส่วนทีต่ วั เศษเทา่ กนั - การเปรียบเทียบและเรียงลำดบั เศษส่วน
โดยท่ีตัวเศษนอ้ ยกวา่ หรอื เท่ากับตัวส่วน
การบวก การลบ การคูณ การหารจำนวนนับ
ป.๓ ไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ชา้ ง) กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ๑๓
ช้นั ตวั ชี้วัด / ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
(ตอ่ ) ๕. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยค - การบวกและการลบ
สัญลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยค - การคณู การหารยาวและการหารสั้น
สัญลกั ษณ์แสดงการลบ - การบวก ลบ คูณ หารระคน
ของจำนวนนับไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ - การแกโ้ จทย์ปัญหาและการสรา้ งโจทย์
๖. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค ปญั หาพร้อมท้ังหาคำตอบ
สญั ลักษณ์ แสดงการคณู ของจำนวน ๑
หลักกับจำนวนไมเ่ กิน ๔ หลักและ
จำนวน ๒ หลกั กับจำนวน ๒ หลัก
๗. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค
สญั ลักษณ์ แสดงการหารที่ตวั ตั้งไม่เกิน
๔ หลัก ตวั หาร ๑ หลัก
๘. หาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน ของ
จำนวนนบั ไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐
๙. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหา ๒
ข้ันตอน ของจำนวนนบั ไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐
และ ๐
การบวก การลบเศษส่วน
๑๐.หาผลบวกของเศษส่วนท่มี ีตัวส่วนเทา่ กัน - การบวกและการลบเศษสว่ น
และผลบวกไมเ่ กิน ๑ และหาผลลบของ - การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปญั หา
เศษสว่ นทมี่ ตี ัวส่วนเท่ากนั การลบเศษสว่ น
๑๑.แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก
เศษส่วนทีม่ ีตวั ส่วนเท่ากนั และผลบวกไมเ่ กนิ
๑ และโจทย์ปัญหาการลบเศษสว่ นทีม่ ีตัว
สว่ นเท่ากนั
ป.๔ จำนวนนบั ท่มี ากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐
๑. อ่านและเขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ - การอา่ น การเขยี นตัวเลขฮินดอู ารบกิ
ตัวเลขไทย และตัวหนงั สอื แสดงจำนวนนับท่ี ตวั เลขไทยและตัวหนงั สือแสดงจำนวน
มากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ - หลัก ค่าประจำหลักและค่าของเลขโดด
๒. เปรยี บเทียบและเรียงลำดับจำนวนนบั ที่ ในแตล่ ะหลัก และการเขยี นตวั เลขแสดง
มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์ จำนวนในรปู กระจาย
ตา่ ง ๆ - การเปรยี บเทียบและเรยี งลำดับจำนวน
- คา่ ประมาณของจำนวนนับและการใช้
เครือ่ งหมาย
ป.๔ เศษสว่ น
(ตอ่ ) - เศษส่วนแท้ เศษเกิน
- จำนวนคละ
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๑๔
ชัน้ ตวั ช้ีวัด / ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
๓. บอก อ่านและเขยี นเศษส่วน จำนวนคละ - ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งจำนวนคละและ
แสดงปรมิ าณสง่ิ ต่าง ๆ และแสดงส่ิงตา่ ง ๆ เศษเกนิ
ตามเศษสว่ นจำนวนคละทกี่ ำหนด - เศษส่วนที่เทา่ กัน เศษสว่ นอยา่ งตำ่
๔. เปรียบเทยี บเรยี งลำดับเศษส่วนและ และเศษสว่ นที่เท่ากับจำนวนนบั
จำนวนคละ ที่ตวั ส่วนตวั หน่งึ เปน็ พหคุ ูณของ - การเปรียบเทียบ เรียงลำดบั เศษสว่ นและ
อกี ตัวหนงึ่ จำนวนคละ
๕. อ่านและเขยี นทศนยิ มไมเ่ กิน ๓ ตำแหนง่ ทศนยิ ม
- การอ่านและการเขยี นทศนิยมไมเ่ กิ
แสดงปรมิ าณของสิง่ ตา่ ง ๆ และแสดง
๓ ตำแหน่งตามปริมาณที่กำหนด
สิ่งต่าง ๆ ตามทศนิยมทกี่ ำหนด - หลกั ค่าประจำหลัก ค่าของเลขโดดในแตล่ ะ
๖. เปรยี บเทยี บและเรียงลำดบั ทศนิยมไมเ่ กนิ
หลักของทศนิยม และการเขียนตัวเลขแสดง
๓ ตำแหนง่ จากสถานการณ์ต่าง ๆ
ทศนยิ มในรปู กระจาย
- ทศนยิ มท่เี ท่ากนั
- การเปรยี บเทยี บและเรียงลำดับทศนิยม
๗. ประมาณผลลัพธข์ องการบวก การลบ การบวก การลบ การคณู การหารจำนวนนับ
ทม่ี ากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐
การคณู การหารจากสถานการณต์ า่ ง ๆ
อยา่ งสมเหตสุ มผล - การประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ
การคูณ การหาร
๘. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยค
สญั ลักษณ์แสดงการบวกและประโยค - การบวกและการลบ
สัญลกั ษณ์แสดงการลบของจำนวนนบั ที่ - การคณู และการหาร
- การบวก ลบ คณู หารระคน
มากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐
๙. หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยค - การแก้โจทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย์
ปัญหาพร้อมท้ังหาคำตอบ
สญั ลักษณ์แสดงการคูณของจำนวน
หลายหลกั ๒ จำนวน ท่ีมผี ลคูณไม่เกนิ
๖ หลัก และประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการ
หารที่ตัวต้งั ไมเ่ กนิ ๖ หลัก ตวั หาร
ไมเ่ กนิ ๒ หลกั
๑๐.หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน
ของจำนวนนบั และ ๐
๑๑.แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา
ป.๔ ๒ ขนั้ ตอน ของจำนวนนบั ทมี่ ากกว่า
(ตอ่ ) ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐
๑๒.สร้างโจทย์ปญั หา ๒ ขนั้ ตอนของจำนวนนับ
และ ๐ พรอ้ มท้ังหาคำตอบ
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลเดมิ บางนางบวช(วัดทา่ ชา้ ง) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๑๕
ช้ัน ตวั ชวี้ ัด / ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
การบวก การลบเศษส่วน
๑๓.หาผลบวก ผลลบของเศษส่วนและจำนวน - การบวก การลบเศษสว่ นและจำนวนคละ
คละที่ตวั ส่วนตัวหนง่ึ เปน็ พหุคูณของอีกตัวหนงึ่ - การแก้โจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปญั หา
๑๔.แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบเศษส่วนและจำนวนคละ
และโจทย์ปญั หาการลบเศษสว่ น และ
จำนวนคละ ท่ตี วั ส่วนตวั หน่งึ เปน็ พหคุ ูณของ
อีกตวั หนงึ่
๑๕.หาผลบวก ผลลบของทศนยิ มไม่เกนิ การบวก การลบทศนิยม
๓ ตำแหนง่
- การบวก การลบทศนิยม
๑๖.แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก - การแก้โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ
การลบ ๒ ขั้นตอนของทศนิยมไมเ่ กนิ ทศนิยมไม่เกนิ ๒ ข้ันตอน
๓ ตำแหน่ง
ป.๕ ทศนยิ ม
๑. เขียนเศษสว่ นทีม่ ีตัวส่วนเป็นตวั ประกอบ - ความสัมพนั ธร์ ะหว่างเศษสว่ นและทศนิยม
ของ ๑๐ หรือ ๑๐๐ หรอื ๑,๐๐๐ ในรปู - คา่ ประมาณของทศนยิ มไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง
ทศนยิ ม
ทเ่ี ป็นจำนวนเต็ม ทศนยิ ม ๑ ตำแหน่ง
๒. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้
บัญญัตไิ ตรยางศ์ และ ๒ ตำแหน่ง การใชเ้ ครอ่ื งหมาย
จำนวนนับและ ๐ การบวก การลบ การคณู
และการหาร
- การแกโ้ จทยป์ ญั หาโดยใช้บัญญัติไตรยางศ์
เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การ
๓. หาผลบวก ผลลบของเศษส่วนและ หารเศษสว่ น
จำนวนคละ - การเปรยี บเทียบเศษส่วนและจำนวนคละ
๔. หาผลคณู ผลหารของเศษส่วนและ - การบวก การลบเศษส่วนและจำนวนคละ
จำนวนคละ - การคูณ การหารของเศษส่วนและ
๕. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก จำนวนคละ
การลบ การคูณ การหารเศษส่วน - การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษสว่ น
ป.๕ ๒ ข้ันตอน และจำนวนคละ
(ต่อ)
- การแก้โจทย์ปญั หาเศษส่วนและ
จำนวนคละ
การคูณ การหารทศนิยม
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๑๖
ชนั้ ตัวช้วี ัด / ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
๖. หาผลคูณของทศนิยมท่ีผลคูณเป็นทศนิยม - การประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ
ไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง การคูณ การหารทศนยิ ม
๗. หาผลหารที่ตวั ต้ังเปน็ จำนวนนับหรอื - การคณู ทศนยิ ม
ทศนยิ มไมเ่ กนิ ๓ ตำแหนง่ และตัวหารเปน็ - การหารทศนยิ ม
จำนวนนบั ผลหารเป็นทศนยิ มไมเ่ กิน - การแก้โจทยป์ ญั หาเก่ียวกับทศนิยม
๓ ตำแหน่ง
๘. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก
การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๒ ข้นั ตอน
๙. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาร้อยละ รอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ต์
ไม่เกนิ ๒ ข้นั ตอน - การอา่ นและการเขยี นรอ้ ยละหรือเปอรเ์ ซน็ ต์
- การแกโ้ จทย์ปญั หารอ้ ยละ
ป.๖ เศษส่วน
๑. เปรยี บเทยี บ เรยี งลำดบั เศษสว่ นและ - การเปรียบเทียบและเรยี งลำดบั เศษส่วน
จำนวนคละจากสถานการณต์ า่ ง ๆ
และจำนวนคละโดยใช้ความรู้เรอ่ื ง ค.ร.น.
๒. เขยี นอัตราส่วนแสดงการเปรยี บเทียบ อตั ราสว่ น
ปรมิ าณ ๒ ปรมิ าณ จากขอ้ ความหรือ - อัตราส่วน อัตราสว่ นท่ีเท่ากนั
สถานการณ์ โดยทีป่ รมิ าณแต่ละปรมิ าณ
และมาตราสว่ น
เปน็ จำนวนนับ
๓. หาอัตราส่วนท่ีเท่ากบั อัตราสว่ นทกี่ ำหนดให้
๔. หา ห.ร.ม. ของจำนวนนับไม่เกนิ จำนวนนับ และ ๐
๓ จำนวน
- ตวั ประกอบ จำนวนเฉพาะ ตวั ประกอบ
๕. หา ค.ร.น. ของจำนวนนบั ไมเ่ กิน ๓ จำนวน เฉพาะ และการแยกตวั ประกอบ
๖. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาโดยใช้
- ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
ความรู้เก่ยี วกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. - การแก้โจทย์ปญั หาเก่ยี วกับ ห.ร.ม. และ
ค.ร.น.
ป.๖ ๗. หาผลลพั ธข์ องการบวก ลบ คูณ หารระคน การบวก การลบ การคณู การหารเศษส่วน
(ตอ่ ) ของเศษส่วนและจำนวนคละ - การบวก การลบเศษส่วนและจำนวนคละ
โดยใชค้ วามร้เู รือ่ ง ค.ร.น.
๘. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเศษสว่ น - การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน
และ จำนวนคละ ๒ - ๓ ขนั้ ตอน และ จำนวนคละ
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ๒๕๖๑)
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๑๗
ช้ัน ตวั ชว้ี ัด / ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
- การแกโ้ จทย์ปญั หาเศษส่วนและ
จำนวนคละ
๙. หาผลหารของทศนิยมทต่ี วั หารและผลหาร ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ
เป็นทศนยิ มไมเ่ กิน ๓ ตำแหนง่
การหาร
๑๐.แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา - ความสัมพันธร์ ะหวา่ งเศษส่วนและทศนิยม
การบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม
๓ ข้นั ตอน - การหารทศนิยม
- การแก้โจทยป์ ญั หาเกยี่ วกับทศนยิ ม
(รวมการแลกเงนิ ตา่ งประเทศ)
๑๑.แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหา อตั ราส่วนและร้อยละ
อตั ราส่วน - การแกโ้ จทย์ปญั หาอัตราสว่ น และ
๑๒.แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาร้อยละ มาตราส่วน
๒ - ๓ ขน้ั ตอน - การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ
สาระท่ี ๑ จำนวนและพีชคณติ
มาตรฐาน ค ๑.๒ เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟงั ก์ชนั ลำดับและอนกุ รม และนำไปใช้
ช้นั ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
ป.๑ แบบรปู
๑. ระบุจำนวนที่หายไปในแบบรปู ของจำนวน - แบบรปู ของจำนวนท่เี พมิ่ ขนึ้ หรือ
ท่ีเพ่มิ ขึ้นหรือลดลงทีละ ๑ และทีละ ๑๐ ลดลงทีละ ๑ และทีละ ๑๐
และระบุรูปท่ีหายไปในแบบรูปซ้ำของรูป - แบบรูปซ้ำของจำนวน รปู เรขาคณติ
เรขาคณิตและรูปอน่ื ๆ ท่ีสมาชิกในแต่ละชุด และรปู อื่น ๆ
ท่ซี ำ้ มี ๒ รูป
ป.๒ แบบรูป
- แบบรูปของจำนวนที่เพิ่มข้นึ หรือ
- ลดลงทีละ ๒ ทีละ ๕ และทีละ ๑๐๐
- แบบรูปซ้ำ
ป.๓ แบบรปู
๑. ระบจุ ำนวนท่ีหายไปในแบบรปู ของจำนวน - แบบรปู ของจำนวนท่เี พิ่มข้ึนหรือลดลงทีละ
ทเ่ี พ่ิมขึน้ หรอื ลดลงทีละเทา่ ๆ กนั เท่า ๆ กนั
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลเดมิ บางนางบวช(วัดท่าช้าง) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ๑๘
ชัน้ ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้
ป.๔ แบบรูป
- - แบบรปู ของจำนวนทเ่ี กดิ จากการคณู
การหาร ดว้ ยจำนวนเดยี วกนั
ป.๕ - -
ป.๖ แบบรปู
๑. แสดงวิธคี ิดและหาคำตอบของปญั หา - การแกป้ ญั หาเกี่ยวกบั แบบรูป
เกย่ี วกับแบบรูป
สาระที่ ๒ การวัดและเรขาคณติ
มาตรฐาน ค. ๒.๑ เขา้ ใจพน้ื ฐานเกีย่ วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทตี่ อ้ งการวัด และนำไปใช้
ชัน้ ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
ป.๑ ความยาว
๑. วดั และเปรียบเทียบความยาวเป็น - การวัดความยาวโดยใชห้ นว่ ยทไ่ี ม่ใชห่ นว่ ย
เซนตเิ มตร เป็นเมตร มาตรฐาน
- การวดั ความยาวเปน็ เซนติเมตร
เปน็ เมตร
- การเปรยี บเทยี บความยาวเปน็ เซนตเิ มตร
เปน็ เมตร
- การแก้โจทย์ปญั หาการบวก การลบ
เกย่ี วกบั ความยาวทม่ี หี น่วยเปน็ เซนตเิ มตร
เป็นเมตร
นำ้ หนกั
๒. วดั และเปรยี บเทียบน้ำหนักเปน็ กิโลกรมั - การวัดน้ำหนักโดยใช้หน่วยทไี่ มใ่ ช่หน่วย
เปน็ ขีด มาตรฐาน
- การวดั นำ้ หนกั เป็นกโิ ลกรมั เปน็ ขดี
- การเปรยี บเทียบน้ำหนักเปน็ กโิ ลกรมั
เปน็ ขดี
- การแก้โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ
เก่ยี วกับน้ำหนักท่ีมหี นว่ ยเป็นกิโลกรมั
เป็นขีด
ป.๒ เวลา
- การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที
(ชว่ ง ๕ นาที)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลเดมิ บางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๑๙
ชั้น ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
๑. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา - การบอกระยะเวลาเป็นชวั่ โมง เป็นนาที
เกยี่ วกบั เวลาทมี่ ีหน่วยเดย่ี วและเปน็ หนว่ ย - การเปรียบเทียบระยะเวลาเปน็ ชวั่ โมง
เดียวกัน เป็นนาที
- การอ่านปฏิทิน
- การแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ียวกับเวลา
ความยาว
๒. วดั และเปรียบเทยี บความยาวเป็นเมตรและ - การวัดความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร
เซนติเมตร - การคาดคะเนความยาวเป็นเมตร
๓. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา - การเปรียบเทียบความยาวโดยใช้
การบวก การลบเก่ียวกับความยาวท่มี ี ความสมั พันธร์ ะหวา่ งเมตรกับเซนติเมตร
หน่วยเปน็ เมตรและเซนติเมตร - การแก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับความยาวทม่ี ี
หน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร
ป.๒ นำ้ หนกั
(ตอ่ ) ๔. วัดและเปรียบเทียบน้ำหนกั เปน็ กิโลกรมั - การวดั น้ำหนกั เปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กโิ ลกรัม
และกรัม กโิ ลกรัมและขีด และขดี
๕. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหา - การคาดคะเนนำ้ หนกั เป็นกโิ ลกรมั
การบวก การลบเกี่ยวกบั น้ำหนกั ท่ีมี - การเปรียบเทียบนำ้ หนักโดยใช้
หน่วยเปน็ กิโลกรมั และกรัม กโิ ลกรัม ความสมั พนั ธ์ระหว่างกิโลกรัมกับกรมั
และขดี กโิ ลกรมั กับขีด
- การแก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับน้ำหนักทม่ี ี
หนว่ ยเป็นกโิ ลกรัมและกรมั กโิ ลกรมั และขีด
ปริมาตรและความจุ
๖. วดั และเปรียบเทยี บปรมิ าตรและความจุ - การวดั ปรมิ าตรและความจุโดยใช้หนว่ ยท่ี
เป็นลิตร ไมใ่ ช่หน่วยมาตรฐาน
- การวดั ปริมาตรและความจุเปน็ ช้อนชา
ช้อนโตะ๊ ถ้วยตวง ลติ ร
- การเปรียบเทยี บปรมิ าตรและความจุเปน็
ชอ้ นชา ช้อนโตะ๊ ถ้วยตวง ลิตร
- การแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ียวกบั ปริมาตรและ
ความจุ ทีม่ หี นว่ ยเป็นช้อนชา ช้อนโต๊ะ
ถ้วยตวง ลติ ร
ป.๓ เงิน
๑. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา - การบอกจำนวนเงนิ และเขยี นแสดงจำนวน
เก่ยี วกับเงนิ เงนิ แบบใชจ้ ุด
- การเปรียบเทยี บจำนวนเงนิ และการแลกเงิน
- การอ่านและเขียนบนั ทกึ รายรบั รายจา่ ย
- การแก้โจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั เงิน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ๒๕๖๑)
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลเดมิ บางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ๒๐
ชน้ั ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
เวลา
๒. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหา - การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที
เก่ยี วกับเวลาและระยะเวลา - การเขียนบอกเวลาโดยใชม้ หพั ภาค (.)
หรือทวิภาค (:) และการอา่ น
- การบอกระยะเวลาเป็นชวั่ โมงและนาที
- การเปรยี บเทียบระยะเวลาโดยใช้
ความสัมพนั ธ์ระหว่างช่ัวโมงกบั นาที
- การอ่านและการเขียนบนั ทกึ กจิ กรรมท่ี
ระบุเวลา
- การแก้โจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั เวลาและ
ระยะเวลา
ป.๓ ความยาว
(ต่อ) ๓. เลอื กใช้เคร่อื งวดั ความยาวท่ีเหมาะสม - การวดั ความยาวเป็นเซนตเิ มตรและ
วดั และบอก ความยาวของสิง่ ตา่ ง ๆ เป็น มิลลเิ มตร เมตรและเซนตเิ มตร กิโลเมตร
เซนตเิ มตรและมิลลิเมตร เมตรและ และเมตร
เซนติเมตร - การเลือกเครื่องวดั ความยาวท่ีเหมาะสม
๔. คาดคะเนความยาวเปน็ เมตรและเปน็ - การคาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็น
เซนตเิ มตร เซนตเิ มตร
๕. เปรียบเทยี บความยาวระหว่างเซนติเมตร - การเปรยี บเทยี บความยาวโดยใช้
กับมิลลิเมตร เมตรกบั เซนติเมตร ความสมั พันธ์ระหว่างหนว่ ยความยาว
กิโลเมตรกบั เมตร จากสถานการณ์ต่าง ๆ - กรแกโ้ จทย์ปัญหาเกย่ี วกับความยาว
๖. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา
เกยี่ วกับความยาว ทีม่ ีหน่วยเป็น
เซนติเมตรและมลิ ลิเมตร เมตรและ
เซนติเมตร กโิ ลเมตรและเมตร
นำ้ หนกั
๗. เลือกใช้เครือ่ งช่ังทีเ่ หมาะสม วัดและบอก - การเลอื กเคร่ืองช่งั ท่เี หมาะสม
น้ำหนักเปน็ กโิ ลกรัมและขีด กโิ ลกรัมและ - การคาดคะเนนำ้ หนักเป็นกิโลกรัม
กรมั และเปน็ ขีด
๘. คาดคะเนนำ้ หนกั เป็นกิโลกรัมและเปน็ ขีด - การเปรียบเทยี บน้ำหนักโดยใช้
๙. เปรียบเทยี บนำ้ หนกั ระหวา่ งกโิ ลกรัมกับ ความสัมพันธร์ ะหว่างกโิ ลกรัมกับกรัม
กรัม เมตรกิ ตนั กบั กโิ ลกรมั จาก เมตริกตันกับกโิ ลกรมั
สถานการณ์ต่าง ๆ - การแก้โจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั น้ำหนัก
๑๐.แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา
เก่ยี วกบั น้ำหนักท่มี ีหน่วยเปน็ กิโลกรมั กับ
กรัม เมตริกตันกบั กโิ ลกรมั
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ๒๑
ชัน้ ตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้
ปริมาตรและความจุ
๑๑.เลอื กใช้เคร่อื งตวงที่เหมาะสม วัดและ - การวัดปรมิ าตรและความจุเปน็ ลิตรและ
เปรียบเทียบปรมิ าตร ความจุเปน็ ลิตร มลิ ลิลิตร
และมลิ ลิลิตร - การเลอื กเครือ่ งตวงท่ีเหมาะสม
๑๒.คาดคะเนปริมาตรและความจุเป็นลิตร - การคาดคะเนปริมาตรและความจุเปน็ ลติ ร
๑๓. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา - การเปรยี บเทียบปรมิ าตรและความจุโดยใช้
เกีย่ วกบั ปรมิ าตรและความจุทม่ี หี น่วย ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งลิตรกับมิลลิลิตร
เปน็ ลติ รและมิลลิลิตร ช้อนชา ชอ้ นโต๊ะ ถ้วยตวงกบั มิลลลิ ติ ร
- การแกโ้ จทย์ปัญหาเกี่ยวกบั ปริมาตรและ
ความจุทีม่ ีหน่วยเปน็ ลิตรและมิลลลิ ติ ร
ป.๔ เวลา
๑. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา - การบอกระยะเวลาเปน็ วนิ าที นาที ชวั่ โมง
เก่ียวกบั เวลา วนั สัปดาห์ เดอื น ปี
- การเปรียบเทยี บระยะเวลาโดยใช้
ความสมั พันธ์ระหวา่ งหนว่ ยเวลา
- การอา่ นตารางเวลา
- การแก้โจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับเวลา
การวดั และสร้างมุม
๒. วัดและสรา้ งมุม โดยใช้โพรแทรกเตอร์ - การวดั ขนาดของมมุ โดยใช้โพรแทรกเตอร์
- การสร้างมมุ เม่ือกำหนดขนาดของมุม
รปู ส่เี หลย่ี มมุมฉาก
๓. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา - ความยาวรอบรูปของรปู สเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก
เก่ียวกับความยาวรอบรูปและพ้ืนที่ของ - พ้นื ที่ของรูปส่ีเหลี่ยมมมุ ฉาก
รูปสเี่ หลี่ยมมมุ ฉาก - การแก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับความยาว
รอบรปู และพน้ื ทขี่ องรูปสเ่ี หลีย่ มมมุ ฉาก
ป.๕ ความยาว
๑. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา - ความสมั พันธ์ระหว่างหนว่ ยความยาว
เกีย่ วกบั ความยาวท่มี ีการเปลยี่ นหน่วย เซนตเิ มตรกับมิลลิเมตร เมตรกบั
และเขียนในรูปทศนยิ ม เซนตเิ มตร กิโลเมตรกบั เมตร โดยใช้
ความรูเ้ รือ่ งทศนยิ ม
- การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกยี่ วกับความยาวโดย
ใช้ความรู้ เรือ่ งการเปลี่ยนหน่วยและ
ทศนยิ ม
นำ้ หนัก
- ความสัมพันธร์ ะหว่างหน่วยน้ำหนกั กิโลกรัม
กับกรัม โดยใช้ความรู้เร่ืองทศนิยม
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๒๒
ช้นั ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
๒. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา - การแก้โจทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั น้ำหนัก โดยใช้
เก่ียวกบั นำ้ หนักทม่ี กี ารเปลีย่ นหนว่ ยและ ความรู้ เรอ่ื งการเปลยี่ นหน่วยและทศนยิ ม
เขยี นในรูปทศนิยม
ปรมิ าตรและความจุ
๓. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหา - ปรมิ าตรของทรงสี่เหล่ยี มมุมฉากและความ
เกยี่ วกบั ปริมาตรของทรงสี่เหลย่ี มมมุ ฉาก จุของภาชนะทรงสีเ่ หลยี่ มมมุ ฉาก
และความจุของภาชนะ - ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง มิลลิลิตร ลิตร
ทรงสเ่ี หลย่ี มมุมฉาก ลกู บาศก์เซนติเมตร และลกู บาศกเ์ มตร
- การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั ปริมาตรของ
ทรงสีเ่ หลย่ี มมุมฉากและความจุของ
ป.๕ ภาชนะทรงสี่เหลีย่ มมมุ ฉาก
(ตอ่ )
รปู เรขาคณิตสองมิติ
๔. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หา - ความยาวรอบรูปของรปู สี่เหล่ยี ม
เก่ียวกบั ความยาวรอบรูปของ - พนื้ ทีข่ องรูปสี่เหลย่ี มดา้ นขนาน
รปู สี่เหลีย่ มและพ้นื ที่ของรูปส่ีเหลีย่ มดา้ น และรปู ส่เี หล่ียมขนมเปียกปูน
ขนานและรูปส่เี หลย่ี มขนมเปียกปูน - การแก้โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั ความยาวรอบ
รูปของรูปสเี่ หล่ียมและพ้นื ท่ีของรปู สเ่ี หลีย่ ม
ดา้ นขนานและรูปสเี่ หลย่ี มขนมเปียกปนู
ป.๖ ปริมาตรและความจุ
๑. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา - ปรมิ าตรของรูปเรขาคณิตสามมิตทิ ่ี
เกีย่ วกบั ปริมาตรของรูปเรขาคณิต ประกอบดว้ ยทรงส่เี หล่ยี มมุมฉาก
สามมติ ิท่ีประกอบดว้ ยทรงสีเ่ หลี่ยมมมุ - การแกโ้ จทย์ปญั หาเก่ียวกับปรมิ าตรของรูป
ฉาก เรขาคณิตสามมิติทปี่ ระกอบดว้ ย
ทรงสเ่ี หล่ยี มมุมฉาก
๒. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หา รูปเรขาคณิตสองมิติ
เก่ยี วกบั ความยาวรอบรูปและพ้ืนท่ขี อง - ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรปู สามเหล่ยี ม
- มุมภายในของรปู หลายเหลย่ี ม
รูปหลายเหลย่ี ม
๓. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา - ความยาวรอบรูปและพ้นื ท่ขี องรปู หลายเหล่ยี ม
- การแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ยี วกับความยาว
เก่ยี วกับความยาวรอบรูปและพ้นื ทขี่ อง
วงกลม รอบรปู และพ้นื ท่ขี องรปู หลายเหลีย่ ม
- ความยาวรอบรปู และพนื้ ท่ีของวงกลม
- การแก้โจทยป์ ัญหาเกีย่ วกบั ความยาว
รอบรปู และพ้ืนที่ของวงกลม
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าช้าง) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๒๓
สาระท่ี ๒ การวดั และเรขาคณิต
มาตรฐาน ค. ๒.๒ เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ปู เรขาคณิต สมบตั ิของรปู เรขาคณิต
ความสมั พันธร์ ะหว่างรูปเรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และนำไปใช้
ชั้น ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
ป.๑
รปู เรขาคณติ สองมิติและรูปเรขาคณิตสามมิติ
๑. จำแนกรปู สามเหลย่ี ม รปู สีเ่ หลยี่ ม - ลกั ษณะของทรงสเี่ หล่ยี มมมุ ฉาก ทรงกลม
วงกลม วงรี ทรงส่เี หลยี่ มมมุ ฉาก
ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย ทรงกระบอก กรวย
- ลกั ษณะของรปู สามเหลี่ยม รูปส่ีเหลี่ยม วงกลม
ป.๒
๑. จำแนกและบอกลกั ษณะของ และวงรี
รูปหลายเหลี่ยมและวงกลม
รปู เรขาคณิตสองมติ ิ
- ลักษณะของรปู หลายเหล่ยี ม วงกลม และ
วงรี และการเขยี นรปู เรขาคณติ สองมิตโิ ดย
ใช้แบบของรปู
ป.๓ รูปเรขาคณิตสองมติ ิ
๑. ระบรุ ูปเรขาคณติ สองมติ ทิ ี่มี - รปู ท่ีมีแกนสมมาตร
แกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร
ป.๔ รปู เรขาคณิต
๑. จำแนกชนดิ ของมมุ บอกชื่อมุม - ระนาบ จุด เส้นตรง รงั สี สว่ นของเสน้ ตรง
สว่ นประกอบของมุมและเขยี น และสญั ลักษณแ์ สดงเสน้ ตรง รังสี สว่ นของ
สญั ลักษณ์แสดงมมุ เส้นตรง
- มมุ
๒. สร้างรูปสเี่ หล่ียมมุมฉากเมื่อกำหนด
ความยาวของดา้ น ➢ สว่ นประกอบของมุม
➢ การเรียกช่ือมมุ
➢ สัญลกั ษณ์แสดงมมุ
➢ ชนดิ ของมุม
- ชนิดและสมบัติของรูปสเ่ี หลยี่ มมุมฉาก
- การสรา้ งรปู ส่เี หลย่ี มมุมฉาก
ป.๕ รปู เรขาคณิต
๑. สร้างเสน้ ตรงหรือส่วนของเส้นตรงให้ - เส้นตงั้ ฉากและสญั ลกั ษณ์แสดงการต้งั ฉาก
ขนานกบั เส้นตรงหรอื ส่วนของเส้นตรง - เสน้ ขนานและสญั ลกั ษณ์แสดงการขนาน
ทกี่ ำหนดให้ - การสร้างเสน้ ขนาน
- มุมแย้ง มมุ ภายในและมุมภายนอกท่ีอย่บู น
ข้างเดยี วกนั ของเสน้ ตดั ขวาง (Transversal)
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ๒๕๖๑)
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ชา้ ง) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๒๔
ช้นั ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
ป.๕
(ตอ่ ) ๒. จำแนกรปู สีเ่ หลีย่ มโดยพจิ ารณาจาก รปู เรขาคณิตสองมติ ิ
สมบัติของรปู - ชนดิ และสมบัติของรปู สเ่ี หลย่ี ม
๓. สรา้ งรูปส่ีเหล่ยี มชนดิ ตา่ ง ๆ เมอื่ - การสร้างรูปส่เี หล่ียม
กำหนดความยาวของด้านและขนาด
ของมุมหรือเมอ่ื กำหนดความยาวของ
เสน้ ทแยงมุม
๔. บอกลกั ษณะของปริซมึ รูปเรขาคณติ สามมิติ
- ลักษณะและส่วนต่าง ๆ ของปริซมึ
ป.๖ รูปเรขาคณติ สองมติ ิ
๑. จำแนกรปู สามเหล่ยี มโดยพจิ ารณาจาก - ชนิดและสมบตั ิของรูปสามเหล่ยี ม
สมบัตขิ องรูป - การสรา้ งรูปสามเหลี่ยม
๒. สร้างรปู สามเหล่ยี มเมอ่ื กำหนด - สว่ นต่าง ๆ ของวงกลม
ความยาวของด้านและขนาดของมุม - การสรา้ งวงกลม
รูปเรขาคณติ สามมิติ
๓. บอกลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมติ ิ - ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย พีระมดิ
ชนิดตา่ ง ๆ - รปู คลี่ของทรงกระบอก กรวย ปรซิ มึ
๔. ระบรุ ปู เรขาคณติ สามมิติที่ประกอบจาก พีระมิด
รูปคลแี่ ละระบุรปู คล่ขี องรปู เรขาคณิต
สามมติ ิ
สาระที่ ๓ สถติ แิ ละความนา่ จะเปน็
มาตรฐาน ค. ๓.๑ เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรูท้ างสถิตใิ นการแก้ปัญหา
ชัน้ ตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
ป.๑ การนำเสนอขอ้ มลู
๑. ใชข้ อ้ มูลจากแผนภูมริ ูปภาพในการหาคำตอบ - การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพ
ของโจทยป์ ญั หา เม่ือกำหนดรปู ๑ รูป
แทน ๑ หนว่ ย
ป.๒ การนำเสนอขอ้ มลู
๑. ใช้ขอ้ มลู จากแผนภมู ริ ปู ภาพในการหาคำตอบ - การอ่านแผนภมู ริ ปู ภาพ
ของโจทย์ปญั หาเมอ่ื กำหนดรูป ๑ รปู
แทน ๒ หน่วย ๕ หนว่ ย หรือ ๑๐ หน่วย
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๑)
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลเดมิ บางนางบวช(วัดทา่ ชา้ ง) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๒๕
ช้นั ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
ป.๓ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และการนำเสนอ
ขอ้ มลู
๑. เขียนแผนภมู ริ ูปภาพ และใช้ข้อมูลจากแผนภมู ิ - การเก็บรวบรวมข้อมลู และจำแนก
รูปภาพในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา ขอ้ มูล
๒. เขยี นตารางทางเดยี วจากข้อมูลท่ีเปน็ - การอ่านและการเขียนแผนภมู ริ ปู ภาพ
จำนวนนบั และใช้ข้อมูลจากตารางทางเดียว - การอ่านและการเขียนตารางทางเดียว
ในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา (One-Way Table)
ป.๔ การนำเสนอขอ้ มลู
๑. ใชข้ ้อมลู จากแผนภูมิแทง่ ตารางสองทาง - การอ่านและการเขียนแผนภมู แิ ท่ง
ในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา (ไม่รวมการยน่ ระยะ)
- การอ่านตารางสองทาง
(Two-Way Table)
ป.๕ การนำเสนอขอ้ มูล
๑. ใชข้ ้อมูลจากกราฟเสน้ ในการหาคำตอบ - การอา่ นและการเขยี นแผนภูมแิ ท่ง
ของโจทย์ปัญหา - การอา่ นกราฟเส้น
๒. เขยี นแผนภมู ิแทง่ จากขอ้ มูลท่ีเป็นจำนวนนับ
ป.๖ การนำเสนอขอ้ มูล
๑. ใช้ขอ้ มลู จากแผนภมู ริ ูปวงกลมในการหา - การอา่ นแผนภูมิรปู วงกลม
คำตอบของโจทยป์ ญั หา
สาระที่ ๓ สถติ แิ ละความนา่ จะเปน็
มาตรฐาน ค. ๓.๒ เขา้ ใจหลักการนับเบ้ืองต้น ความน่าจะเป็น และนำไปใช้
ชน้ั ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
ป.๑ - -
ป.๒ - -
ป.๓ - -
ป.๔ - -
ป.๕ - -
ป.๖ - -
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ชา้ ง) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๒๖
โครงสรา้ งเวลาเรียน
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดังน้ี
โครงสร้างเวลาเรียนโรงเรียน..............
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ๒๗
โครงสร้างเวลาเรยี นตามหลักสตู รสถานศกึ ษา
โครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) พุทธศกั ราช ๒๕๖๔
กลุ่มสาระการเรียนรู/้ กจิ กรรม เวลาเรยี น(ชัว่ โมง/ป)ี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
รายวชิ าพื้นฐาน
ภาษาไทย 200 200 200 ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
คณิตศาสตร์ 200 200 200 ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 120 120 120 12๐ 120 120
สังคมศกึ ษา ศาสนา ๘๐ ๘๐ ๘๐ 12๐ 12๐ 12๐
และวัฒนธรรม 40 40 40 40 40 40
- ประวัติศาสตร์ 40 40 40 80 80 80
- ศาสนา ศีลธรรม 40 40 40 80 80 80
จริยธรรม
- เศรษฐศาสตร์
- ภูมศิ าสตร์
สขุ ศึกษาและพลศึกษา
ศลิ ปะ 40 40 40 8๐ 8๐ 8๐
การงานอาชพี ๔๐ ๔๐ ๔๐ 4๐ 4๐ 4๐
ภาษาตา่ งประเทศ 120 120 120 80 80 80
รวมเวลาเรยี น (พืน้ ฐาน) 84๐ 84๐ 84๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐
รายวิชาเพ่มิ เติม
ภาษาองั กฤษ 80 80 80 80 80 80
คอมพวิ เตอร์ //////// //////// //////// ๔๐ ๔๐ ๔๐
หนา้ ที่พลเมอื ง
เวลาเรยี น (เพม่ิ เติม) ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
กจิ กรรมแนะแนว ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
กิจกรรมลกู เสือ/เนตรนารี
ชมุ นุม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กิจกรรมสาธารณประโยชน์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
30 30 30 30 30 30
๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
รวมเวลาเรียนทงั้ หมด 1,๐๘๐ ชัว่ โมง/ปี 1,๑๒๐ ช่วั โมง/ปี
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๒๘
โครงสรา้ งหลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
โรงเรยี นอนุบาลเดิมบางนางบวช(วดั ท่าช้าง)
สาระพนื้ ฐาน
ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑-๖
ลำดบั ที่ ชั้น รหัสวชิ า ช่อื วิชา จำนวนหน่วย/ จำนวน
ปี ชว่ั โมง/ปี
๑ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕.๐ ๕(๒๐๐)
๒ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕.๐ ๕(๒๐๐)
๓ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕.๐ ๕(๒๐๐)
๑๕(๖๐๐)
รวม ป.๑ – ป.๓ ๑๕.๐ ๔(๑๖๐)
๔ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔.๐ ๔(๑๖๐)
๕ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔.๐ ๔(๑๖๐)
๖ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔.๐ ๑๒(๔๘๐)
๑๒.๐ ๒๗(๑,๐๘๐)
รวม ป.๔ – ป.๖ ๒๗.๐
รวม ป.๑ – ป.๖
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๒๙
ส่วนท่ี 3 คำอธบิ ายรายวิชา
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดท่าช้าง) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๓๐
คำอธิบายรายวิชา
รายวิชา คณิตศาสตร์ ค๑๑๑๐๑ กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลาเรยี น ๒๐๐ ช่วั โมง/ปี
บอก จำนวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่งต่าง ๆ ตามจำนวนที่กำหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดู อารบิก
ตัวเลขไทย แสดงจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ โดยใช้
เครื่องหมาย = เรียงลำดับจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ตั้งแต่ ๓-๕ จำนวน หาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน
ประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบจำนวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ แสดง
วิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก และโจทย์ปัญหาการลบของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ระบุ
จำนวนทหี่ ายไปในแบบรปู ของจำนวนท่ีเพิ่มขนึ้ หรือลดลงทีละ ๑ และ ทีละ ๑๐ ระบุรปู ท่หี ายไปในแบบรูปซ้ำ
ของรปู เรขาคณิตและรูปอื่นๆ ในแต่ละชดุ ท่ซี ้ำมี ๒ รูป วัดและเปรยี บเทยี บความยาวเป็นเซนติเมตรเป็นเมตร
น้ำหนักเป็นกิโลกรัมเป็นขีด จำแนกรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม
ทรงกระบอก และกรวย ใชข้ อ้ มูลจากแผนภูมริ ปู ภาพ ในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา เมือ่ กำหนดรูปหนงึ่ รูป
แทนหนงึ่ หน่วย
เพอื่ ใหผ้ ้เู รียนไดศ้ ึกษา พัฒนาทักษะกระบวนการในการคดิ คำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตผุ ล การ
สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อ
คณิตศาสตร์ สามารถทำงานอยา่ งเป็นระบบระเบยี บ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และเช่ือมั่น
ในตนเอง
รหัสตัวช้ีวดั
ค ๑.๑ ป๑/๑, ป๑/๒, ป๑/๓, ป๑/๔, ป๑/๕
ค ๑.๒ ป๑/๑
ค ๒.๑ ป๑/๑, ป๑/๒
ค ๒.๒ ป๑/๑
ค ๓.๑ ป๑/๑
รวมทง้ั หมด ๑๐ ตัวชีว้ ัด
คำอธิบายรายวชิ า
รายวชิ า คณิตศาสตร์ ค ๑๒๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลาเรียน ๒๐๐ ช่วั โมง/ปี
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๑)
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ๓๑
ศึกษาการอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกนิ
๑,๐๐๐ และ ๐ การนับทีละ ๒ ทีละ ๕ ทีละ ๑๐ ทีละ ๑๐๐ จำนวนคู่ จานวนค่ี หลกั คา่ ประจำหลกั ของเลข
โดดในแต่ละหลกั การเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจำนวน การเรยี งลำดับจำนวน
การบวกจำนวนที่มผี ลบวกไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ การลบจำนวนที่มีตัวตั้งไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ ความสัมพันธ์ของการบวก
และการลบ การหาตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบ โจทย์ปัญหาการบวก โจทย์
ปญั หาการลบ การสร้างโจทยป์ ัญหา ความหมายของการคูณ ความหมายของการหาร การคณู จำนวนท่ีมีหนึ่ง
หลกั กบั จำนวนไมเ่ กนิ สองหลัก ความสัมพนั ธ์ของการคณู และการหาร การหารทตี่ วั หารและผลหารมีหนึ่งหลัก
การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณและการหาร การแก้โจทย์ปัญหาการคูณและโจทย์
ปัญหาการหาร การบวก ลบ คูณ หารระคน การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน แบบรูปของ
จำนวนที่เพิ่มขน้ึ หรือลดลงทลี ะ ๒ ทลี ะ ๕ และทีละ ๑๐๐ แบบรูปซ้ำ การจำแนกลกั ษณะของรูปหลายเหล่ียม
วงกลม และวงรี และการเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติโดยใช้แบบของรูป การวัดความยาวเป็นเมตรและ
เซนติเมตร การคาดคะเนความยาวเป็นเมตร การเปรยี บเทยี บความยาวโดยใช้ความสมั พนั ธ์ระหว่างเมตรและ
เซนติเมตร การแก้โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับความยาวทม่ี ีหน่วยเปน็ เมตรและเซนติเมตร การบอกเวลาเป็นนาฬิกา
และนาที การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมง เป็นนาที การเปรียบเทียบระยะเวลาเป็นชั่วโมง เป็นนาที การอ่าน
ปฏิทิน การแก้โจทย์ปญั หาเกี่ยวกับเวลา การวัดน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด การคาดคะเน
นำ้ หนกั เปน็ กโิ ลกรมั การเปรียบเทยี บน้ำหนกั โดยใช้ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งกิโลกรัมกับกรัม กโิ ลกรัมกบั ขีด การ
แก้โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั น้ำหนกั ท่มี ีหน่วยเป็นกโิ ลกรัมและกรมั กิโลกรัมและขีด การวดั ปรมิ าตรและความจโุ ดย
ใช้หน่วยที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐานและหน่วยมาตรฐานเป็นช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง ลิตร การเปรียบเทียบ
ปริมาตรและความจุเป็นช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง ลิตร การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปรมิ าตรและความจุที่มี
หนว่ ยเป็นช้อนชา ช้อนโตะ๊ ถ้วยตวง ลติ ร การอา่ นแผนภูมริ ปู ภาพ และการใช้ขอ้ มลู จากแผนภมู ริ ปู ภาพในการ
หาคำตอบของโจทย์ปญั หา
โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ
ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้
เหตุผล การส่อื สาร การสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และหาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและ
กระบวนการทไ่ี ดไ้ ปใชใ้ นการเรียนรู้ส่งิ ต่าง ๆ และใชใ้ นชวี ิตประจำวันอยา่ งสรา้ งสรรค์
เพื่อให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ
รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวจิ ารณญาณมคี วามคิดรเิ ริ่มสร้างสรรคแ์ ละมีความเช่ือม่ันในตนเอง
รหัสตัวช้ีวัด
ค ๑.๑ ป๒/๑, ป๒/๒, ป๒/๓, ป๒/๔, ป๒/๕, ป๒/๖, ป๒/๗, ป๒/๘
ค ๒.๑ ป๒/๑, ป๒/๒, ป๒/๓, ป๒/๔, ป๒/๕, ป๒/๖
ค ๒.๒ ป๒/๑
ค ๓.๑ ป๒/๑
รวมทง้ั หมด ๑๖ ตัวชีว้ ดั
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าช้าง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๓๒
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๓๓
คำอธบิ ายรายวชิ า
รายวิชา คณิตศาสตร์ ค๑๓๑๐๑ กล่มุ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลาเรยี น ๒๐๐ ชวั่ โมง/ปี
ฝกึ ทักษะการคิดคำนวณ และฝกึ การแก้ปัญหาในเร่อื ง จำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ การเขยี นและ
การอ่านตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวน การนับเพิ่ม การนับลด หลักและคู่
ของเลขโดดในแต่ละหลกั การเขยี นในรูปกระจาย การเปรยี บเทยี บ การใชเ้ คร่ืองหมาย = > < และ
การเรียงลำดบั การบวก การลบ การคณู จำนวนหน่ึงหลกั กับจำนวนไม่เกนิ สีห่ ลัก การคูณจำนวนสองหลัก
กับจำนวนสองหลัก การหารตัวตั้งไม่เกินสี่หลักและตัวหารมีหนึ่งหลัก การบวก การคูณ การหารระคน
โจทย์ปัญหา การบวก ลบ คูณ หารระคน และการสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคณู การหาร
การวัดความยาว (เมตร เซนติเมตร มลิ ลเิ มตร) การเลอื กเคร่ืองมือวดั ท่ีเหมาะสม การช่งั (กิโลกรัม กรัม
ขดี ) การเลือกเครอ่ื งชง่ั การเปรยี บเทียบ การคาดคะเน ความสัมพันธข์ องหนว่ ยการชัง่ แก้ปัญหาการช่ัง
การตวง (ลิตร มิลลิลิตร) การเลือกเครื่องตวงการเปรียบเทียบปริมาตรและความจุ การคาดคะเน
แก้ปัญหาการตวง เวลา การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที การเขียนบอกเวลาโดยใช้จุดและการอ่าน
ความสัมพันธ์ของหน่วยเวลา แก้ปัญหาเวลา อ่านและเขียนบันทึกกิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่ระบุเวลา เงนิ
การเขียนและอ่านจำนวนเงนิ โดยใช้จุด บันทึกรายรับ รายจ่าย แก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับเงิน รูปเรขาคณติ
การบอกชนิดรูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ การเขียนรู้เรขาคณิต และบอกรูปเรขาคณิตต่าง ๆ ที่อยู่ใน
สง่ิ แวดล้อมรอบตัวรปู ท่ีมแี กนสมมาตร แบบรูปและความสัมพนั ธ์ของเรขาคณิต จุด เสน้ ตรง รังสี ส่วนของ
เสน้ ตรง มุม เขยี นช่ือจุด เส้นตรง รงั สี ส่วนของเสน้ ตรง มมุ และสญั ลกั ษณ์ แผนภูมริ ูปภาพและแผนภูมิ
แท่ง การรวบรวมจำแนกข้อมลู เก่ียวกบั ตนเองส่งิ แวดลอ้ ม การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพและแผนภมู ิแท่ง
ใช้ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เพื่อให้มีความสามารถในการสื่อสาร การคิดการ
แกป้ ญั หา การใชท้ ักษะชวี ิตและเทคโนโลยี มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มน่ั การทำงาน อยูอ่ ย่างพอเพียง รักความ
เป็นไทย รกั ชาติ ศาสตรก์ ษตั รยิ ์ ซ่อื สัตยส์ ุจรติ มีจติ สาธารณะ พร้อมทัง้ ตระหนกั ในคุณคา่ และมีเจตคติท่ีที่
ดีตอ่ คณิตศาสตร์
รหัสตัวชี้วดั
ค๑.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖,ป.๓/๗,ป.๓/๘,ป.๓/๙,ป.๓/๑๐,ป๓/๑๑
ค๑.๒ ป.๓/๑
ค๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕ , ป.๓/๖, ป.๓/๗ , ป.๓/๘,ป.๓/๙ , ป.๓/๑๐
ป.ป๓/๑๑, ป๓/๑๒,ป๓/๑๓
ค๒.๒ ป.๓/๑
ค๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
รวมท้งั หมด ๒๘ ตวั ช้วี ดั
คำอธบิ ายรายวชิ า
รายวิชา คณิตศาสตร์ ค๑๔๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลาเรยี น ๑๖๐ ชัว่ โมง/ปี
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลเดมิ บางนางบวช(วัดท่าช้าง) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๓๔
อ่าน เขยี น เปรยี บเทียบและเรยี งลำดับตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยและตัวหนังสือ แสดงจำนวนนับ
ที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่าน เขียน เปรียบเทียบ เรยี งลำดับ เศษสว่ น จำนวนคละ
แสดงปริมาณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามเศษส่วน จำนวนคละที่กำหนดและจำนวนคละที่ตัวส่วนตัว
หนึ่งเป็นพหุคูณของอีกตัวหนึ่ง อ่าน เขียน เปรียบเทียบและเรียงลำดับทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง แสดง
ปริมาณของสิง่ ต่าง ๆ และแสดงตำแหน่งจากสถานการณ์ต่าง ๆ ตามทศนิยมทีก่ ำหนด ประมาณผลลัพธ์ของ
การบวก การลบ การคูณ การหาร จากสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างสมเหตุสมผล หาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน
ประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกและแสดงการลบของจำนวนนบั ท่ีมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัว
ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวนหลายหลกั ๒ จำนวน ทม่ี ีผลคูณไม่เกนิ ๖ หลกั และ
ประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๖ หลัก ตัวหารไม่เกิน ๒ หลัก หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ
หารระคน ของจำนวนนับและ ๐ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจำนวนนับที่มากกว่า
๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ สรา้ งโจทยป์ ญั หา ๒ ขนั้ ตอนของจำนวนนบั และ ๐ พรอ้ มทัง้ หาคำตอบ หาผลบวก ผลลบ
ของเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของอีกตัวหนึ่ง แสดงวิธีหาหาคำตอบของโจทย์
ปัญหา การบวกและโจทย์ปัญหา การลบเศษส่วนและจำนวนคละทีต่ ัวส่วนตวั หนึ่งเป็นพหุคณู ของอีกตัวหนง่ึ
หาผลบวก ผลบของทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ ๒
ขั้นตอน ของทศนิยมไมเ่ กิน ๓ ตำแหน่ง แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกบั เวลา วัดและสรา้ งมุม โดย
ใช้ไม่โพรแทรกเตอร์ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับ ความยาวรอบรปู และพ้ืนที่ของรูปสี่เหล่ยี ม
มุมฉาก จำแนกชนิดของมมุ บอกชื่อมุม ส่วนประกอบของมมุ และเขยี นสัญลักษณ์แสดงมุม สร้างรูปสี่เหล่ยี ม
มุมฉากเมื่อกำหนดความยาวของด้าน ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง ตารางสองทางในการหาคำตอบของโจทย์
ปัญหา เพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษา พัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปญั หา การให้เหตุผล การ
สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อ
คณติ ศาสตร์ สามารถทำงานอยา่ งเปน็ ระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณ และเช่ือม่ัน
ในตนเอง
รหัสตัวชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙, ป.๔/๑๐,
ป.๔/๑๑, ป.๔/๑๒, ป.๔/๑๓, ป.๔/๑๔, ป.๔/๑๕, ป.๔/๑๖
ค ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ค ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒
ค ๓.๑ ป.๔/๑
รวมทงั้ หมด ๒๒ ตัวช้ีวัด
รายวชิ า คณิตศาสตร์ ค๑๕๑๐๑ คำอธิบายรายวชิ า
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕
กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์
เวลาเรียน ๑๖๐ ชว่ั โมง/ปี
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดท่าช้าง) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๓๕
เขียนเศษส่วนท่ีมีตัวสว่ นเป็นตวั ประกอบของ ๑๐ หรือ ๑๐๐ หรือ ๑,๐๐๐ ในรปู ทศนิยม แสดงวิธีหา
คำตอบของโจทยป์ ัญหาโดยใชบ้ ญั ญัติไตรยางศ์ หาผลบวก ผลลบ ผลคณู ผลหารของเศษส่วนและจำนวนคละ
แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ๒ ขั้นตอน หาผลคูณของ
ทศนิยม ที่ผลคูณเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง หาผลหารที่ตัวตั้งเป็นจำนวนนับหรือทศนิยมไม่เกิน ๓
ตำแหน่ง และตัวหารเป็นจำนวนนับ ผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์
ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๒ ข้นั ตอน และแสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หารอ้ ยละไม่
เกนิ ๒ ข้ันตอน แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกยี่ วกับความยาว น้ำหนกั ทมี่ ีกรเปลยี่ นหน่วยและเขียน
ในรูปทศนิยม แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุของ
ภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมและพ้ืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและรูป
ส่ีเหลี่ยมขนมเปียกปนู สรา้ งเส้นตรงหรือสว่ นของเส้นตรงให้ขนานกับเส้นตรงหรอื สว่ นของเส้นตรงท่ีกำหนดให้
จำแนกรปู สีเ่ หลยี่ มโดยพิจารณาจากสมบัติของรูป สร้างรปู ส่ีเหลย่ี มต่าง ๆ เมือ่ กำหนดความยาวของด้านและ
ขนาดของมุมหรือเม่ือกำหนดความยาวของเสน้ ทแยงมุม และบอกลักษณะของปริซึม ใช้ข้อมูลจากกราฟเส้น
ในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา และเขยี นแผนภูมแิ ทง่ จากข้อมูลทเี่ ป็นจำนวนนับ
ในการจดั การเรียนรู้ได้กำหนดสถานการณ์เพ่ือให้ผู้เรยี นได้ศึกษา ค้นควา้ ฝกึ ทกั ษะโดยการปฏบิ ัติจริง
สรุปเนื้อหา มีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทาง
คณติ ศาสตรข์ องผเู้ รยี น และนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้
รหสั ตวั ช้ีวัด
ค ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕.๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙
ค ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
รวมท้งั สิ้น ๑๙ ขอ้
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ๓๖
คำอธบิ ายรายวชิ า
รายวชิ า คณิตศาสตร์ ค๑๖๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ เวลาเรยี น ๑๖๐ ช่วั โมง/ปี
เปรียบเทียบ เรียงลำดับ เศษส่วนและจำนวนคละจากสถานการณ์ต่าง ๆ เขียนอัตราส่วนแสดงการ
เปรียบเทียบปริมาณ ๒ ปริมาณ จากข้อความหรือสถานการณ์ โดยที่ปริมาณแต่ละปริมาณเป็นจำนวนนับ
หาอัตราสว่ นท่เี ทา่ กับอัตราสว่ นที่กำหนดให้ หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น.ของจำนวนับไม่เกิน ๓ จำนวน แสดงวิธีหา
คำตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับห.ร.ม.และค.ร.น. หาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คูณ หารระคน
ของเศษส่วนและจำนวนคละ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ ๒-๓ ขั้นตอน หา
ผลหารของทศนิยมที่ตัวหารและผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา
การบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๓ ข้ันตอน แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาอัตราสว่ นและโจทย์
ปัญหาร้อยละ ๒-๓ ขั้นตอน แสดงวิธีคิดและหาคำตอบของปัญหาเกี่ยวกับแบบรูป แสดงวิธีหาคำตอบของ
โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับปรมิ าตรของรูปเรขาคณิตสามมิติทป่ี ระกอบดว้ ยทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก แสดงวิธีหาคำตอบ
ของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับความยาวรอบรปู และพน้ื ท่ขี องรปู หลายเหลยี่ ม ความยาวรอบรูปและพื้นทข่ี องวงกลม
จำแนกรูปสามเหลี่ยมโดยพิจารณาจากสมบัติของรูป สร้างรูปสามเหลี่ยมเมื่อกำหนดความยาวของด้านและ
ขนาดของมุม บอกลักษณะของรูปเรขาคณติ สามมิติชนิดตา่ ง ๆ ระบุรปู เรขาคณิตสามมติ ิทีป่ ระกอบจากรูปคลี่
และระบุรูปคลี่ของรูปเรขาคณิตสามมติ ิ ใช้ขอ้ มลู จากแผนภมู ริ ปู วงกลมในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา
ในการจัดการเรียนร้ไู ดก้ ำหนดสถานการณเ์ พ่อื ใหผ้ ู้เรียนได้ศกึ ษา ค้นควา้ ฝึกทักษะโดยการปฏบิ ัติจริง
สรุปเนื้อหา มีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทาง
คณิตศาสตร์ของผเู้ รยี น และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้
รหัสตวั ชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙,
ป.๖/๑๐, ป.๖/๑๑, ป.๖/๑๒
ค ๑.๒ ป.๖/๑
ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ค ๓.๑ ป.๖/๑
รวมทั้งส้ิน ๒๑ ตัวชี้วดั
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๓๗
สว่ นท่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลเดมิ บางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๓๘
โครงสรา้ งรายวชิ าคณติ ศาสตร์
รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ค๑๑๑๐๑ กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง/ปี
หนว่ ยที่ ช่ือหนว่ ยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก
เรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน
๑ จำนวนนบั ๑ ถงึ ค ๑.๑ ป.๑/๑ - เราสามารถบอกจำนวนของส่ิงต่างๆ ได้ (๑๘) ๖
๑๐ และ ๐ ป.๑/๒ ป๑/๓ จากการนับ หน่งึ สอง สาม ส่ี ห้า เป็น
จำนวนนับที่เพมิ่ ขนึ้ ทีละหนึ่ง ถา้ ไมม่ สี ิง่ ของ
อยู่เลย ถือวา่ มีจำนวนเป็นศนู ย์
- เราสามารถบอกจำนวนของสิ่งต่าง ๆ ได้
จากการนับ หก เจ็ด แปด เก้า สิบ หก เจ็ด
แปด เก้า สิบ เป็นจำนวนนับที่เพิ่มขึ้นทีละ
หนง่ึ
- ตัวเลขฮินดูอารบิก 1 2
ตวั เลขไทย ๑ ๒
ตัวหนงั สือ หนง่ึ สอง
เปน็ สัญลักษณใ์ ชเ้ ขียนแสดงจำนวน
- ตัวเลขฮนิ ดูอารบิก 3 4
ตวั เลขไทย ๓ ๔
ตวั หนังสอื สาม ส่ี
เป็นสญั ลักษณ์ใช้เขียนแสดงจำนวน
- ตัวเลขฮินดูอารบกิ 5 6
ตวั เลขไทย ๕ 6
ตัวหนงั สือ ห้าหก
เป็นสัญลกั ษณ์ใชเ้ ขยี นแสดงจำนวน
- ตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก 6 7
ตวั เลขไทย ๖ ๗
ตัวหนังสือหก เจด็
เปน็ สญั ลักษณ์ใช้เขยี นแสดงจำนวน
- ตัวเลขฮินดูอารบกิ 8 9
ตวั เลขไทย ๘ ๙
ตัวหนังสือ แปด เกา้
เป็นสัญลักษณใ์ ช้เขียนแสดงจำนวน
ตัวเลขฮินดอู ารบกิ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
10
ตัวเลขไทย ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลเดมิ บางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๓๙
หน่วยที่ ชือ่ หน่วยการเรียน มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนัก
เรยี นรู/้ ตัวชวี้ ัด (ช่ัวโมง) คะแนน
ตัวหนงั สอื ศนู ย์ หนึ่ง สอง สาม ส่ี ห้า หก (๑๖) ๖
เจด็ แปด เก้า สิบ
เปน็ สัญลกั ษณใ์ ชเ้ ขยี นแสดงจำนวน
การเปรียบเทยี บจำนวนนบั โดยการจบั คู่
สงิ่ ของสองกลมุ่
ถ้าจับคูก่ ันได้พอดีแสดงว่าทั้งสองกลมุ่ มี
จำนวนเทา่ กนั หรือจำนวนในกลมุ่ ท่ีหนึง่
เทา่ กบั จำนวนในกลุ่มทีส่ อง
ถา้ จับคูไ่ มพ่ อดีแสดงวา่ จำนวนในสอง
กลุม่ ไมเ่ ท่ากนั หรือจำนวนในกลมุ่ ที่หนึ่งไม่
เทา่ กับจำนวนในกลุ่มที่สองกล่มุ ทม่ี ขี อง
เหลอื อยูจ่ ะมีจำนวนมากกว่าอกี กลุ่มมี
จำนวนน้อยกว่า
- เท่ากับ ไมเ่ ทา่ กับ มากกว่า นอ้ ยกวา่ เป็น
คำทีใ่ ช้ในการเปรียบเทียบจำนวน
- การเรียงลำดบั จำนวนอาจเรียงจากมากไป
น้อยหรือจากนอ้ ยไปมากโดยพิจารณา
จำนวนทมี่ ากท่ีสุดและจำนวนที่น้อยทส่ี ุด
กอ่ นแล้วนำจำนวนทเ่ี หลือมาเปรียบเทยี บ
- ความสมั พนั ธ์ของจำนวนแบบสว่ นยอ่ ย –
ส่วนรวมเปน็ การเขียนแสดงจำนวนในรูป
ของจำนวนสองจำนวนข้นึ ไป เช่น 5 อาจ
เขยี นเป็น 1 กบั 4 หรอื 2 กบั 3 หรอื 0
กับ 5
- ความสมั พนั ธ์ของจำนวนแบบสว่ นยอ่ ย –
ส่วนรวมเป็นการเขยี นแสดงจำนวนในรูป
ของจำนวนสองจำนวนขึน้ ไป เชน่ 6 อาจ
เขยี นเป็น 1 กบั 5 หรือ 2 กับ 4 หรือ 3
กบั 3 หรือ 0 กบั 6
- การสังเกตลกั ษณะการวางส่ิงต่าง ๆ ช่วย
บอกจำนวน ไดอ้ ยา่ งรวดเร็วโดยไม่ต้องนบั
๒ การบวกจำนวน ค ๑.๑ - การบวกประโยคสัญลกั ษณ์ การบวก
สองจำนวนที่มี ป.๑/๔ ป.๑/๕ ผลบวกของจำนวนเดยี วกนั การสลบั ท่ีของ
ผลบวกไม่เกนิ ๑๐ การบวก สถานการณ์ การบวก การ
แก้ปัญหา โจทยป์ ัญหา
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๔๐
หน่วยที่ ชอ่ื หนว่ ยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั
เรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด (ชั่วโมง) คะแนน
- จำนวนสองจำนวนรวมกนั หาจำนวน
ทัง้ หมดไดโ้ ดยการนับ
- จำนวนสองจำนวนรวมกัน แล้วได้ผลรวม
ของสองจำนวนนั้นเขียนเป็นประโยค
สญั ลกั ษณ์การบวกได้ เชน่ 1+2 = 3
- สามารถหาผลบวกได้โดยการวาดรปู
- จำนวนใดบวกกบั 0 หรือ 0 บวกกบั
จำนวนใด ผลบวกจะเทา่ กับจำนวนนัน้
จำนวนเดียวกันทบี่ วกกนั และมีผลบวกไม่
เกนิ 10 ได้แก่
1+1=2
2+2=4
3+3=6
4+4=8
5 + 5 = 10
- จำนวนสองจำนวนท่ีบวกกันได้ 10 ไดแ้ ก่
1 กับ 9,9 กบั 1
2 กบั 8, 8 กบั 2
3 กับ 7, 7 กับ 3
4 กับ 6, 6 กับ 4
10 กบั 0, 0 กับ 10
- จำนวนสองจำนวนทบี่ วกกันและผลบวก
เทา่ กันมไี ดห้ ลายคู่ เช่น
4=0+4
4=1+3
4=2+2
4=3+1
4=4+0
- จำนวนสองจำนวนบวกกัน เม่ือสลบั ท่ีกนั
ผลบวกยังคงเท่าเดิม
- สถานการณก์ ารบวกเป็นเร่ืองราวท่แี สดง
ให้เห็นการนำจำนวนมารวมกัน
- การแก้โจทย์ปัญหาทำ ได้โดยอ่านทำ
ความเข้าใจปัญหา วางแผนวธิ คี ิดซงึ่ อาจใช้
การวาดรูป หาคำตอบ และตรวจสอบความ
สมเหตุสมผล
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลเดมิ บางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๔๑
หนว่ ยท่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนัก
เรียนรู้/ตัวชว้ี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน
- โจทยป์ ญั หามีส่วนท่โี จทยบ์ อกและส่วนท่ี
โจทยถ์ าม
๓ การลบจานวน ค ๑.๑ ป.๑/๔ - การลบ ตัวต้งั ตวั ลบ ผลลบประโยค (๑๗) ๖
สองจานวนที่ตวั ป.๑/๕ สญั ลักษณ์การลบการเอาออกกรอบสิบเสน้
ตงั้ ไมเ่ กิน 10
จำนวนความสัมพนั ธข์ องการบวกและการ
ลบความสมเหตุสมผลของคำตอบ
- จำนวนของสิ่งต่าง ๆ ท้ังหมดเมือ่ เอา
ออกไปจำนวนหนง่ึ สามารถหาจำนวนท่เี หลือ
ได้ด้วยการลบ
- การเปรียบเทยี บจำนวนสองจำนวนว่า
มากกว่ากนั หรือนอ้ ยกว่ากนั เทา่ ไร ทำไดด้ ้วย
การลบโดยจำนวนทม่ี ากกว่าเป็นตัวตงั้
จำนวนทน่ี อ้ ยกวา่ เป็นตัวลบ
- จำนวนทง้ั หมดท่เี ปน็ การรวมของจำนวน
สองจำนวนเมื่อรู้จำนวนหนงึ่ ในสองจำนวน
นน้ั สามารถหาอีกจำนวนหน่งึ ได้ด้วยการลบ
โดยจำนวนทั้งหมดเป็นตวั ตัง้
- จำนวนใดลบดว้ ยศนู ย์ ไดผ้ ลลบเทา่ กับ
จำนวนนน้ั
- จำนวนที่เขยี นในรูปความสัมพนั ธ์ของ
จำนวนแบบสว่ นย่อย-สว่ นรวม เมอื่ รจู้ ำนวน
ที่เปน็ ส่วนรวมและจำนวนท่ีเป็นสว่ นย่อย
หนงึ่ จำนวนสามารถหาจำนวนทเี่ ป็น
สว่ นย่อยอีกจำนวนได้ดว้ ยการลบ
- สามารถใช้กรอบสิบในการหาผลลบ
- สามารถใช้เสน้ จำนวนในการหาผลลบ
- สามารถใช้ความสัมพันธข์ องการบวกและ
การลบ ในการหาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าใน
ประโยคสัญลกั ษณ์การบวก และประโยค
สัญลกั ษณก์ ารลบ
- สามารถใช้ความสมั พันธ์ของการบวกและ
การลบ ในการหาค่าของตัวไมท่ ราบค่าใน
ประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวก และประโยค
สญั ลักษณ์การลบ
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๑)
หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลเดมิ บางนางบวช(วัดท่าชา้ ง) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๔๒
หน่วยท่ี ชื่อหนว่ ยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก
เรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด (ชัว่ โมง) คะแนน
- สถานการณต์ อ่ ไปนเ้ี ป็นสถานการณก์ าร
ลบสถานการณ์ทีแ่ สดงการเอาออกเพ่ือหา
จำนวนทีเ่ หลอื สถานการณท์ ี่แสดงการ
เปรียบเทียบเพ่อื หาวา่ มากกว่าหรือนอ้ ยกวา่
กนั อย่เู ทา่ ไร สถานการณ์ที่แสดงการหาจำ
นวนหนง่ึ เมือ่ รู้ อีกจำนวนหนง่ึ และจำนวน
ทงั้ หมด
- การแก้โจทยป์ ญั หาทำไดโ้ ดย อ่านทำ
ความเข้าใจปญั หาวางแผนวธิ ีคิดซึ่งอาจใช้
การวาดรูป หาคำตอบและตรวจสอบความ
สมเหตุสมผล
- โจทยป์ ญั หามีสว่ นทีโ่ จทยบ์ อกและส่วนที่
โจทยถ์ าม
๔ จำนวนนบั ๑๑ ค ๑.๑ ป.๑/๑ - สบิ เอด็ สบิ สอง สิบสาม สบิ สี่ สิบห้า สิบ (๑๑) ๔
ถึง ๒๐ ป.๑/๒ ป๑/๓ หก สิบเจด็ สิบแปด สิบเก้า ย่ีสบิ เป็นจำนวน
นับทเ่ี พมิ่ ข้นึ ทีละหนง่ึ ตามลำดับ โดยนบั ตอ่
จากสิบ
- สามารถแสดงและบอกจำนวนโดยใชก้ รอบ
สบิ
- ตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย
ตวั หนงั สอื เปน็ สัญลกั ษณ์ท่ีใช้เขยี นแสดง
จำนวน
- 11 = 10 + 1, 12 = 10 + 2, 13 =
10 + 3, 14 = 10 + 4, 15 = 10 + 5,
16 = 10 + 6, 17 = 10 + 7, 18 = 10
+ 8, 19 = 10 + 9, 20 = 20 + 0
การเขยี นจำนวนในลักษณะน้เี รยี กว่าการ
เขียนจำนวนในรปู กระจาย
- การเปรียบเทยี บจำนวนโดยใช้เสน้ จำนวน
จำนวนท่ีอยู่ทางซ้ายจะนอ้ ยกวา่ จำนวนทีอ่ ยู่
ทางขวา หรอื จำนวนที่อยทู่ างขวาจะ
มากกวา่ จำนวนที่อย่ทู างซา้ ย
- เคร่อื งหมาย = แทน เท่ากบั
เครื่องหมาย > แทน มากกวา่
เคร่อื งหมาย < แทน นอ้ ยกวา่
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดทา่ ชา้ ง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ๔๓
หน่วยที่ ชอ่ื หนว่ ยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก
เรยี นร้/ู ตัวชวี้ ัด (ชว่ั โมง) คะแนน
ใช้เครื่องหมายเหล่านี้ในการแสดงการ
เปรียบเทียบจำนวน
- การเรยี งลำดบั จำนวน ทำได้โดยหาจำนวน
ท่ีมากทสี่ ุด และจำนวนทีน่ ้อยทีส่ ดุ โดยอาจ
ใชเ้ ส้นจำนวน แล้วเรยี งลำดับจำนวนจาก
นอ้ ยไปมากหรือจากมากไปนอ้ ย
- ความสมั พันธข์ องจำนวนแบบส่วนยอ่ ย –
ส่วนรวมเป็นการเขยี นแสดงจำนวนในรูป
ของจำนวน 2 จำนวนขึ้นไป เชน่ 11 อาจ
เขียนเป็น 1 กับ 10 , 2 กับ 9 , 3 กบั 8 ,
4 กบั 7 , 5 กบั 6 หรอื 0 กบั 11
๕ การบวก การลบ ค ๑.๑ - การบวกจำนวนสองจำนวนสามารถหา (๑๘) ๖
จำนวนนบั ไม่เกิน ป.๑/๔ ป.๑/๕ ผลบวกโดยใช้การนับตอ่
๒๐ การหาผลบวกโดยใช้การนับต่อถ้านับตอ่ จาก
จำนวนท่ีมากกว่าจะทำให้หาผลบวกไดเ้ ร็ว
กว่า
- การบวกจำนวนสองจำนวนสามารถหา
ผลบวกโดยใช้เส้นจำนวน
- การหาผลบวกของจำนวนสองจำนวน ใช้
ผลบวกของจำนวนเดียวกันสองจำนวนชว่ ย
ในการหาผลบวก เชน่ ถา้ รู้ 5 + 5 = 10
สามารถหา 5 + 6 = 11 และ 5 + 7 =
12
- การหาผลบวกของจำนวนสองจำนวนอาจ
ใชก้ ารทำใหค้ รบสิบ ทำใหห้ าผลบวกได้
รวดเรว็
- การบวกจำนวนสามจำนวนจะบวกสอง
จำนวนใดก่อนกไ็ ด้ แลว้ บวกจำนวนท่ีเหลอื
ผลบวกเทา่ กนั
ถ้ามีสองจำนวนใดทบี่ วกครบสิบ ใหบ้ วกสอง
จำนวนนั้นกอ่ น แล้วบวกจำนวนท่เี หลือ
- สามารถหาผลลบโดยใชก้ ารวาดรปู
- การหาผลลบโดยใช้เส้นจำนวน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลเดมิ บางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๔๔
หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก
เรยี นรู้/ตัวช้ีวัด (ชว่ั โมง) คะแนน
- สามารถหาผลลบโดยใช้การนบั ต่อ โดยนบั
ตอ่ จากตัวลบไปถึงตัวตั้งจำนวนคร้ังในการ
นับต่อเป็นผลลบ
- การลบจำนวนสามจำนวนสามารถนำตวั ตงั้
ลบดว้ ยตัวลบ 1 หรอื ตัวลบ 2 ก่อน แลว้ ลบ
ดว้ ยตัวลบที่เหลอื
ไดผ้ ลลบเทา่ กัน
- สามารถใชก้ ารนบั ตอ่ เสน้ จำนวน หรือ
ความสมั พันธข์ องการบวกและการลบช่วยใน
การหาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยค
สญั ลักษณ์การบวกและประโยคสัญลักษณ์
การลบ
- การแกโ้ จทยป์ ญั หาทำได้โดย อ่านทำความ
เขา้ ใจปญั หาวางแผนวธิ ีคิด ซง่ึ อาจใช้การ
วาดรูป หาคำตอบ
และตรวจสอบความสมเหตุสมผล
- การสรา้ งโจทยป์ ัญหาตอ้ งมีทง้ั ส่วนท่ีโจทย์
บอกและส่วนที่โจทย์
๖ แผนภมู ริ ูปภาพ ค ๓.๑ ป.๑/๑ - แผนภูมริ ูปภาพเปน็ แผนภมู ิที่ใชร้ ูปภาพ (๙) ๓
แสดงจำนวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ ชื่อแผนภูมบิ อก
ใหร้ ูว้ ่าแผนภมู ิรปู ภาพน้ันแสดงอะไร
- การอ่านแผนภมู ริ ปู ภาพ เรมิ่ จากอา่ นชื่อ
แผนภมู ิ จากนั้นพิจารณาขอ้ กำหนดแลว้ อ่าน
ข้อมลู แต่ละรายการ
- เราใชร้ อยขีด บนั ทกึ ขอ้ มูล แลว้ นำขอ้ มลู
มาแสดงเป็นแผนภมู ริ ปู ภาพโดยรูปภาพ 1
รูปแทนรอยขดี 1 ขดี
๗ การวัดนำ้ หนัก ค ๒.๑ ป.๑/๒ - สง่ิ ของสองส่ิงที่อยบู่ นเคร่อื งชง่ั สองแขน (๑๓) ๕
อย่างง่ายสิ่งใดอยใู่ นระดบั ต่ำกว่าสิง่ น้ันจะ
หนักกว่า สง่ิ ใดอย่ใู นระดับสงู กวา่ สิ่งนนั้ จะ
เบากวา่ ส่ิงของสองส่ิงใดนน้ั อยใู่ นระดับ
เดียวกันสง่ิ ของสองสง่ิ นน้ั จะหนกั เท่ากัน
- การบอกนำ้ หนักของส่งิ ของ อาจทำได้โดย
การชั่งด้วยเครือ่ งช่งั สองแขนอยา่ งงา่ ย เรา
สามารถนำวัตถุท่มี นี ้ำหนักเทา่ ๆ กัน เชน่
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๑)
หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลเดิมบางนางบวช(วัดท่าช้าง) กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๔๕
หน่วยท่ี ชือ่ หนว่ ยการเรียน มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนัก
เรียนรู้/ตัวชีว้ ัด (ชัว่ โมง) คะแนน
ลกู แกว้ ฝาขวดนำ้ บล็อกไม้มาเป็นหนว่ ยใน
การบอกน้ำหนกั
- การใช้เครอ่ื งชั่งสปรงิ กอ่ นชั่งสิง่ ของเข็มชี้
น้ำหนักอยทู่ ่ีตวั เลข 0 เม่ือชง่ั สง่ิ ของจะอา่ น
นำ้ หนักโดยดตู ัวเลขที่เขม็ ชี้- การคาดคะเน
น้ำหนักของส่งิ ของต่าง ๆ เป็นการบอก
นำ้ หนักโดยไมใ่ ช้เคร่อื งชั่ง แต่อาจบอก
น้ำหนักได้โดยเทยี บกบั น้ำหนัก 1 กิโลกรัม
หรือ 2 กโิ ลกรมั
- การเปรียบเทยี บนำ้ หนักของสิ่ง 2 สิ่ง เปน็
การบอกวา่ ส่งิ ใดหนักเท่ากนั หนักกวา่ กนั หรอื
เบากว่ากันอยเู่ ทา่ ไร อาจมีหน่วยเป็น
กิโลกรัม
- นำ้ หนกั 1 กิโลกรัม เทา่ กับนำ้ หนัก 10 ขีด
การบอกน้ำหนักของสิ่งของต่าง ๆ อาจบอก
เป็นขีดหรือเปน็ กโิ ลกรมั
- การเปรยี บเทยี บนำ้ หนักของสิง่ 2 สิง่ เปน็
การบอกวา่ สิ่งใดหนกั เท่ากัน หนกั กวา่ กัน
หรือเบากวา่ กนั อยเู่ ทา่ ไร อาจมหี น่วยเปน็ ขดี
- การแก้โจทยป์ ัญหาทำไดโ้ ดย อ่านทำความ
เข้าใจปัญหาวางแผนแก้ปัญหาซึง่ อาจใช้การ
วาดรปู หาคำตอบ และตรวจสอบความ
สมเหตุสมผลของคำตอบ
- การแกโ้ จทย์ปัญหาทำได้โดย อ่านทำความ
เขา้ ใจปญั หาวางแผนแกป้ ญั หาซง่ึ อาจใชก้ าร
วาดรปู หาคำตอบ และตรวจสอบความ
สมเหตุสมผลของคำตอบ
สอบกลางภาคเรียนที่ ๑ ๑ ๑๕
๘ การบอกตำแหน่ง ค ๑.๒ ป.๑/๑ - การบอกตำแหน่งของสง่ิ ต่าง ๆ อาจใช้คำ (๑๑) ๔
และอันดับท่ี ข้างซ้าย ข้างขวา ตรงกลาง ขา้ งบน ข้างล่าง
ขา้ งหน้า ข้างหลัง ถดั จาก ระหว่าง.....กับ.....
ตง้ั แต่.....ถึง.....
- การบอกอันดับทีข่ องส่ิงตา่ ง ๆ อาจใชค้ ำ
อนั ดับที่ คนที่ ชน้ั ที่
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๑)
หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลเดมิ บางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๔๖
หน่วยที่ ช่ือหน่วยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนัก
เรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด (ชั่วโมง) คะแนน
- การบอกตำแหน่งและอันดบั ท่ขี องส่งิ ต่าง
ๆ ทำให้ เข้าใจตรงกันวา่ อยทู่ ใ่ี ด หรือ
กล่าวถงึ สิ่งใด
๙ รปู เรขาคณติ ค ๑.๒ ป.๑/๑ รูปเรขาคณิตสองมิติ เป็นรูปทอ่ี ยบู่ นพื้นท่ี (๑๕) ๕
ค ๒.๒ ป.๑/๑ แบนราบมีความกว้าง ความยาว แต่ไมม่ ี
ความหนา เช่น
- รปู สามเหลีย่ ม รปู สเี่ หลยี่ ม รูปวงกลม และ
รปู วงรี ซงึ่ แต่ละรปู จะมีลักษณะเฉพาะ
แตกตา่ งกนั ออกไป
- จำแนกทรงสี่เหลีย่ มมมุ ฉาก ทรงกลม
ทรงกระบอก และกรวย สิง่ ของรอบตวั เราท่ี
มีลกั ษณะคล้ายทรงส่เี หล่ยี มมมุ ฉาก ทรง
กลม ทรงกระบอก และกรวย
- จำแนกรูปสามเหลีย่ ม รปู สเ่ี หลี่ยม วงกลม
และวงรี
- ลักษณะของรปู สามเหลี่ยม มี 3 ด้าน 3
มมุ รปู สเ่ี หลยี่ ม มี 4 ดา้ น 4 มุม วงกลมและ
วงรี ไม่มีดา้ น ไม่มมี มุ
- การเขียนรปู สามเหล่ยี ม รูปส่ีเหลีย่ ม
วงกลม และวงรี โดยใช้แบบของรปู มาเป็น
แบบแบบ
- รปู ซำ้ ของรปู เรขาคณติ และรปู อืน่ ๆ
๑๐ จำนวนนับ ๒๑ ค ๑.๑ ป.๑/๑ - จำนวน 21 ถงึ 100 สามารถอา่ นและ (๑๖) ๖
ถงึ ๑๐๐ ป.๑/๒ ป๑/๓ เขยี นแสดงด้วยตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลข
ไทย และตัวหนังสือได้
- 10 20 30 40 50 60 70 80
90 และ 100 เปน็ จำนวนนบั ท่นี ับเพ่ิมข้นึ ที
ละ 10 ตามลำดับ
- จำนวน 21 ถึง 100 สามารถอา่ นและ
เขียนแสดงดว้ ยตัวเลขฮินดอู ารบิก ตัวเลข
ไทย และตัวหนงั สือได้
- จำนวน 51 ถงึ 100 สามารถอ่านและ
เขียนแสดงดว้ ยตวั เลขฮินดูอารบิก ตัวเลข
ไทย และตัวหนงั สอื ได้
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๑)
หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลเดมิ บางนางบวช(วัดทา่ ช้าง) กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๔๗
หน่วยที่ ช่ือหน่วยการเรียน มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั
เรียนรู้/ตัวชี้วัด (ช่ัวโมง) คะแนน
- ถ้าเลขโดด 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 อยู่
ในหลกั หนว่ ย มคี ่าเป็น 0 1 2 3 4 5 6 7
8 9 ตามลำดับ และถ้าเลขโดด 1 2 3 4 5
6 7 8 9 อยู่ ในหลักสบิ มีคา่ เป็น 10 20
30 40 50 60 70 80 90 ตามลำดับ
100 เปน็ จำนวนสามหลกั เลขโดด 1 อยู่ใน
หลกั รอ้ ย มีคา่ เปน็ 100
- การเขยี นตวั เลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย
เปน็ การเขียนในรปู การบวกค่าของเลขโดด
ในหลกั ต่าง ๆ ของจำนวนน้นั
- การเรียงลำดบั จำนวนจากมากไปน้อย
หรอื จากนอ้ ยไปมาก อาจทำได้โดยพิจารณา
จำนวนท่มี ากท่ีสุดและน้อยท่สี ดุ กอ่ น
จากนั้นนำจำนวนทีเ่ หลือมาเปรียบเทียบกัน
แลว้ นำจำนวนมาเรียงตามลำดับ
- แบบรูปของจำนวนทีเ่ พิ่มขึน้ -ลดลงทีละ 1
ท ี ล ะ 10 เ ป ็ น ช ุ ด ข อ ง จ ำ น ว น ท ี ่ มี
ความสัมพันธ์กันแบบเพิ่มขึ้น-ลดลงทีละ 1
หรือทีละ 10 ซึ่งสามารถบอกจำนวนต่อไป
หรอื จำนวนที่หายไปได้
- แบบรูปของจำนวนที่เพิ่มขึ้น-ลดลง เป็น
ชุดของจำนวนที่มีความสัมพันธ์กันแบบ
เพิ่มขึ้น-ลดลง ซึ่งสามารถบอกจำนวนตอ่ ไป
หรือจำนวนที่หายไปได้
- จากตารางรอ้ ย จำนวนจากซา้ ยไปขวา
เปน็ จำนวนที่เพมิ่ ข้ึนทลี ะ 1จำนวนจากขวา
ไปซา้ ย เป็นจำนวนท่ีลดลงทีละ 1 จำนวน
จากบนลงล่าง เป็นจำนวนทเ่ี พ่ิมขน้ึ ทีละ 10
จำนวนจากล่างข้ึนบน เปน็ จำนวนท่ลี ดลงที
ละ 10
๑๑ ความยาว ค ๒.๑ ป.๑/๑ - ยาวกว่า ส้นั กว่า สูงกวา่ เตี้ยกวา่ เทา่ กนั (๑๔) ๕
ยาวที่สดุ ส้ันทีส่ ุดสูงท่ีสุด เต้ยี ที่สุด เป็นคำที่
ใชใ้ นการเปรยี บเทียบความยาวของส่ิงตา่ งๆ
การเปรยี บเทยี บความยาวตอ้ งวางใหป้ ลาย
ขา้ งหนึ่งเสมอกนั แล้วดทู ปี่ ลายอกี ขา้ งหนงึ่
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๑)