แผนการจัดการเรยี นรู้
สมรรถนะอาชพี บรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
หลกั สตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พทุ ธศกั ราช 2562
รหสั วิชา 20102-2003
วิชา ทฤษฎเี ครือ่ งมอื กล
จัดทำโดย
นางสาวสุทธดิ า ศรกี รด
ครพู เิ ศษสอน
แผนกวิชาเทคนคิ พนื้ ฐาน
วิทยาลยั การอาชพี นครปฐม
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ
คำนำ
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาทฤษฎีเครื่องมือกล รหัสวิชา 20102-2003 เล่มนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็น
คมู่ ือประกอบการสอน หรือแนวทางการสอนในรายวิชาเพื่อพฒั นาผู้เรยี นเปน็ สำคญั ตามหลักสูตรประกาศนียบัตร
วิชาชพี (ปวช.) พุทธศกั ราช 2562 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร
แผนการจัดการเรียนรู้ ได้มีการพัฒนาเพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียน โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น
6 หน่วยการเรียน ประกอบด้วย เครอ่ื งมือขนาดเลก็ เครอื่ งเลอ่ื ย เคร่อื งเจาะ เครือ่ งกลงึ เครอื่ งกัด เครอื่ งเจีย
พร้อมท้งั ใบงานและแบบทดสอบหลังเรยี น เพ่อื ให้ผเู้ รียนได้ฝกึ ทกั ษะในสถานการณ์ ต่าง ๆ มที กั ษะการคิดและแก้ไข
ปัญหา และบูรณาการกับการทำงานตามสาขาอาชพี ต่าง ๆ ตอ่ ไป
ผู้จัดทำแผนการเรียนรู้ วิชาทฤษฎีเครื่องมือกล หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการเรียนรู้เล่มน้ี
จะสามารถให้ความรู้และเกิดประโยชน์แก่ผู้สอน ผู้เรียน ตลอดจนผู้สนใจศึกษาทั่วไปเป็นอย่างดี หากมีข้อผิดพลาด
ประการใดผู้จดั ทำขอนอ้ มรับไวเ้ พือ่ เปน็ ประโยชน์ในการปรบั ปรุงแก้ไขในครัง้ ต่อไป
ลงชือ่
(นางสาวสุทธิดา ศรกี รด)
สารบญั
หนา้
บทท่ี 1 เครื่องมือขนาดเลก็
บทท่ี 2 เครอื่ งเล่ือยกล
บทท่ี 3 เครอื่ งเจาะ
บทท่ี 4 เครื่องเจียระไน
บทท่ี 5 เครอ่ื งกลึง
บทท่ี 6 เครอ่ื งกดั
พส.1
การจดั ทำแผนการจัดการเรยี นรู้
รหสั วชิ า 20102-2003 วิชา ทฤษฎีเครอ่ื งมอื กล ท-ป-น. 2 - 0 - 2
หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ ประเภทวิชาช่างอตุ สาหกรรม สาขาวิชาชา่ งกลโรงงาน
จดุ ประสงคร์ ายวิชา
1. ร้จู กั ชนดิ ประเภท และส่วนประกอบของเครื่องมอื กล
2. เขา้ ใจหลักการทำงานของเคร่ืองมือกล
3. มีเจตคติและกิจนิสัยทดี่ ี รับผดิ ชอบ ตรงต่อเวลา
สมรรถนะรายวิชา
แสดงความรู้เก่ยี วกบั หลักการทำงานของเครื่องมือกลกระบวนการและการบำรงุ รกั ษาของเคร่อื งมอื กล
ขนาดเลก็ และเครื่องมือกล
คำอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาเกยี่ วกบั สว่ นประกอบและหลกั การทำงาน เครื่องมือขนาดเล็ก (Hand Tools) เครื่องเล่ือย เคร่ือง
เจาะ เครื่องกลึง เคร่ืองกัด เครือ่ งเจียระไน การบำรุงรกั ษาเครอ่ื งมือกล
พส.2
การวเิ คราะห์หน่วยการเรยี นรูแ้ ละสมรรถนะรายวชิ า
รหสั วิชา 20102-2003 วชิ า ทฤษฎีเครอ่ื งมอื กล ท-ป-น. 2 - 0 - 2
หนว่ ย ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ สมรรถนะประจำหนว่ ย
ท่ี (ด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นความสามารถในการ
1 เครอ่ื งมือขนาดเลก็ ประยุกต์ใชแ้ ละความรับผิดชอบ)
2 เครือ่ งเล่ือยกล แสดงความรู้เกี่ยวกับเคร่ืองมือขนาดเล็กได้อยา่ งถกู ต้อง
3 เครือ่ งเจาะ แสดงความรู้เกยี่ วกับเครื่องเลื่อยได้อยา่ งถูกต้อง
4 เครื่องเจยี ระไน แสดงความรู้เกยี่ วกับเครื่องเจาะได้อย่างถกู ต้อง
5 เครือ่ งกลงึ แสดงความรู้เกี่ยวกับเคร่ืองเจียระไนได้อยา่ งถูกต้อง
6 เครื่องกดั แสดงความรู้เกี่ยวกับเคร่ืองกลงึ ได้อย่างถกู ต้อง
แสดงความรู้เก่ยี วกบั เครื่องกัดไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
พส.3
ตารางวเิ คราะห์หลกั สตู รรายวิชา
รหสั วิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี คร่อื งมือกล ท-ป-น. 2 - 0 - 2
หน่วย ระดับพฤตกิ รรมทีพ่ ึงประสงค์
ท่ี
ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ พุทธิพสิ ยั ทกั ษ จติ เวลา
1 2 3 4 5 6 ะพสิ ยั พสิ ยั (ชม.)
1 เครอ่ื งมอื ขนาดเล็ก 112 424
2 เคร่อื งเลื่อย
3 เครื่องเจาะ 121 426
4 เคร่ืองเจยี ระไน
5 เคร่อื งกลงึ 212 444
6 เครื่องกดั
121 546
สอบปลายภาค
221 548
121 446
2
รวม 8 10 8 26 20
ความสำคัญ/สดั ส่วนคะแนน (ร้อยละ) 4 3 4 1 20 36
หมายเหตุ ระดบั พุทธิพิสยั 1 = ความจำ 2 = ความเข้าใจ 3 = การนำไปใช้
4 = วิเคราะห์ 5 = สงั เคราะห์ 6 = ประเมนิ ค่า
หมายเหตุ ทฤษฎี ทฤษฎ/ี ปฏบิ ัติ ปฏบิ ตั ิ
60 คะแนน 70 คะแนน 80 คะแนน
พุทธิพิสัย (กลางภาค/ทดสอบ/ภาระงาน) 20 คะแนน 10 คะแนน -
ทักษะพสิ ัย (ปลายภาค) 20 คะแนน 20 คะแนน 20 คะแนน
จติ พิสัย
รหสั วิชา 20102-2003 กำหนดการสอน พส.4
ท-ป-น. 2 - 0 - 2
วิชา ทฤษฎีเครื่องมอื กล
หนว่ ยการเรียนร/ู้ รายการสอน สมรรถนะประจำหนว่ ย เกณฑ์การปฏิบตั ิงาน ัสปดาห์ที่
่ัชวโมงที่
1. เคร่อื งมอื ขนาดเลก็ แสดงความร้เู กยี่ วกับเคร่ืองมือ ไดค้ ะแนนจากการ
2. เครอ่ื งเล่ือย
3. เคร่ืองเจาะ ขนาดเลก็ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ปฏบิ ตั ิงานไมต่ ำ่ กว่า 1-2 1-4
4. เคร่อื งเจยี 3-5 5-10
5. เครอื่ งกลึง รอ้ ยละ60 6-7 11-14
6. เครื่องกัด 8-10 15-20
แสดงความรู้เกีย่ วกับเคร่ืองเลื่อย ได้คะแนนจากการ 11-14 21-28
15-17 29-34
ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ปฏิบัตงิ านไมต่ ำ่ กวา่ 18 35-36
รอ้ ยละ60
แสดงความรู้เกี่ยวกบั เครื่องเจาะ ได้คะแนนจากการ
ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ปฏิบัติงานไม่ตำ่ กว่า
รอ้ ยละ60
แสดงความรู้เก่ยี วกบั เคร่ือง ไดค้ ะแนนจากการ
เจียระไนได้อยา่ งถูกต้อง ปฏบิ ัติงานไม่ตำ่ กว่า
ร้อยละ60
แสดงความรเู้ กย่ี วกบั เครื่องกลงึ ได้ ได้คะแนนจากการ
อย่างถูกต้อง ปฏบิ ัตงิ านไมต่ ำ่ กว่า
ร้อยละ60
แสดงความรเู้ กย่ี วกับเครื่องกัดได้ ได้คะแนนจากการ
อย่างถูกต้อง ปฏิบัติงานไม่ตำ่ กว่า
ร้อยละ60
สอบปลายภาค
พส.5
ตารางวเิ คราะหข์ อ้ สอบ
รหสั วิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี ครอ่ื งมือกล ท-ป-น. 2 - 0 - 2
รวม
พุทธิพิสยั (ข้อ)
หนว่ ยการเรียน รายการสอน ความจำ 44
(ประเด็นการประเมิน) ความเ ้ขาใจ
นำไปใ ้ช 44
ิวเคราะ ์ห
ัสงเคราะห์55
ประเ ิมนค่า
ปรนัย( ้ขอ)
ัอตนัย( ้ขอ)
1. เครอื่ งมอื ขนาดเลก็ 1.บอกชนดิ และสว่ นประกอบ 1 2 1
2. เคร่อื งเลื่อย ของเคร่ืองมอื ขนาดเล็กได้ 1 2
3. เครื่องเจาะ 2.อธิบายการใช้เครื่องมือ 2 2
ขนาดเล็กได้
3.บอกข้อควรระวงั และการ
บำรงุ รกั ษาเครือ่ งมอื ขนาด
เล็กได้
1.บอกชนิดของเคร่ืองเลือ่ ย 1
ได้
2.อธิบายขน้ั ตอนการใช้และ
ความปลอดภัยในการใช้
เคร่อื งเล่ือยได้
3.บอกการบำรุงรักษาเครอ่ื ง
เลือ่ ยได้
4. สามารถการคำนวณงาน
เล่อื ย
1.บอกชนดิ และส่วนประกอบ 1
ของเครื่องเจาะได้
2.บอกขน้ั ตอนการใช้เครื่อง
เจาะได้
3.บอกความปลอดภัยในการ
ใช้เครอื่ งเจาะและการ
บำรงุ รักษาเคร่อื งเจาะได้
5.จำแนกเครอื่ งมือสำหรับ
งานเจาะและอุปกรณ์
ประกอบเครื่องเจาะได้
6.สามารถคำนวณความเรว็
รอบ
4. เครื่องเจยี ระไน การปอ้ นเจาะ และใช้การ 44
5. เครอื่ งกลงึ หล่อเย็นได้ 55
6. เคร่ืองกัด 44
1.บอกชนิดเคร่อื งจักรกล 1 1 2 30 30
และสว่ นประกอบของเคร่ือง
เจียระไนได้
2.อธบิ ายขั้นตอนการใช้และ
การบำรุงรกั ษาเครื่อง
เจยี ระไนได้
3.บอกความปลอดภัยในการ
ใช้เคร่อื งเจยี ระไนได้
4.จำแนกอุปกรณข์ องเครื่อง
เจียระไนได้
5.บอกเคร่ืองมือวดั และ
ตรวจสอบการลบั คมตัดได้
1.บอกชนิดและสว่ นประกอบ 1 2 2
ของเครือ่ งกลงึ ได้
2.จำแนกเคร่ืองมอื และ
อุปกรณ์ท่ใี ช้กับเคร่ืองกลงึ ได้
3.สามารถคำนวณความเรว็
ตดั และความเรว็ รอบได้
4.บอกขน้ั ตอนในการใช้
เครอ่ื งกลงึ ได้
5.อธิบายความปลอดภยั
และการบำรุงรกั ษา
เครอื่ งกลงึ ได้
1.บอกชนดิ ของเคร่ืองกัด ได้ 1 1 2
2.จำแนกอุปกรณ์และ
เครื่องมอื ท่ีใช้สำหรบั งานกดั
ได้
3.บอกชนดิ ดอกกดั ได้
4.สามารถคำนวณความเร็ว
ตดั อตั ราป้อนและการป้อน
ลกึ ได้
รวม 7 11 12
พส.6
กำหนดการประเมินทกั ษะพิสัย
รหสั วิชา 20102-2003 วชิ า ทฤษฎเี คร่อื งมือกล ท-ป-น. 2 - 0 - 2
หน่วยการเรยี น/รายการสอน สมรรถนะรายหน่วย รปู แบบการประเมิน คะแนน
(Ratting Scale) รวม
1. เครอื่ งมือขนาดเลก็ แสดงความรเู้ ก่ยี วกับ 55
เครอื่ งมอื ขนาดเล็กได้อย่าง
2. เครอ่ื งเลือ่ ย ถกู ต้อง (Ratting Scale) 55
3. เครอ่ื งเจาะ แสดงความรู้เกยี่ วกบั เครื่อง (Ratting Scale) 55
4. เครอ่ื งเจียระไน เล่ือยได้อยา่ งถูกต้อง (Ratting Scale) 55
5. เครอ่ื งกลงึ (Ratting Scale) 55
6. เครอ่ื งกดั แสดงความรู้เกยี่ วกบั เคร่ือง (Ratting Scale) 55
เจาะได้อย่างถูกต้อง
30
แสดงความรเู้ กีย่ วกบั เคร่ือง
เจยี ระไนไดอ้ ย่างถูกต้อง
แสดงความรู้เกย่ี วกับ
เคร่ืองกลงึ ได้อยา่ งถกู ต้อง
แสดงความรู้เกีย่ วกบั
เครื่องกดั ได้อย่างถกู ต้อง
แบบประเมินตามสภาพจริงสามารถเลอื กใชต้ ามความเหมาะสม
พส.7
แบบประเมนิ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (จติ พสิ ัย)
รายการประเมิน หน่วยที่ หมายเหตุ
1. ความมีมนษุ ย์สัมพันธ์ทด่ี ี 1,2,3,4,5,6
2. ความมวี ินัย 1,2,3,4,5,6
3. ความรับผิดชอบ 1,2,3,4,5,6
4. ความซ่อื สัตย์สุจริต 1,2,3,4,5,6
5. ความเชื่อม่ันในตนเอง 1,2,3,4,5,6
6. การประหยัด 1,2,3,4,5,6
7. ความสนใจใฝร่ ู้ 1,2,3,4,5,6
8. ความสามัคคี 1,2,3,4,5,6
9. ความกตัญญู 1,2,3,4,5,6
10. ละเวน้ สง่ิ เสพตดิ /การพนัน 1,2,3,4,5,6
11. ความคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ 1,2,3,4,5,6
12. การพึ่งตนเอง 1,2,3,4,5,6
13. ความปลอดภยั 1,2,3,4,5,6
14. ความอดทนอดกลนั้ 1,2,3,4,5,6
15. ความมีคุณธรรม/จรยิ ธรรม 1,2,3,4,5,6
16. การตรงต่อเวลา 1,2,3,4,5,6
หมายเหตุ ช่องหนว่ ยท่ี ใหร้ ะบหุ มายเลขหน่วยตามรายการประเมนิ
พส.8
กรอบการจัดการเรียนรแู้ บบบูรณาการเปน็ เร่อื ง/ชิน้ งาน/โครงการ
และบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
สมรรถนะด้านความมเี หตุผล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะดา้ นความมภี ูมิคมุ้ กัน
1. มีน้ำใจไมตรชี ่วยเหลอื ผ้อู ื่นตาม 1. ใช้งบประมาณในการจดั ทำ 1. มีการวางแผนงานทด่ี ี
อัตภาพของตนเองรูจ้ กั แบง่ ปนั อย่างประหยดุ ค้มุ ค่า 2. สามารถปฏิบัตงิ านตามแผนงานได้
2. สามารถวเิ คราะหเ์ ลือกประกอบ วางไว้
อาชพี ใหเ้ หมาะสม ทฤษฎี
เครือ่ งมือกล เงอ่ื นไขด้านคณุ ธรรม จริยธรรม
เงอ่ื นไขดา้ นความร้แู ละทกั ษะ คา่ นยิ ม คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์
1. ใช้ทกั ษะในการสืบเสาะขอ้ มลู เพ่ือ 1. มคี วามรบั ผดิ ชอบ ขยนั ซ่อื สตั ย์
รวมรวมองค์ความรู้ตามประเดน็ ท่ี และอดทน
ไดร้ ับมอบหมาย 2. รกั ษาสง่ิ แวดล้อมในกาปฏบิ ตั งิ าน
ผลกระทบเพ่ือความสมดุล พรอ้ มรับการเปล่ยี นแปลง
ด้านสงั คม ดา้ นเศรษฐกจิ ด้านวัฒนธรรม ดา้ นสงิ่ แวดล้อม
ผลงานท่จี ัดทำสำเร็จลุลว่ ง สามารถปฏิบัตงิ านที่ สรุปองคค์ วามร้ดู ้วยการ ดแู ลรักษาสงิ่ แวดล้อม
สืบเสาะของกลุ่มตนเอง ในขณะปฏบิ ตั ิงานอยา่ ง
ไดด้ ว้ ยการสรา้ งสัมพันธภาพ มอบหมายไดโ้ ดยใช้ ไม่คดั ลอกผลงานของ ต่อเน่ืองไม่ใหเ้ กิดมลพิษหรอื
กลุ่มอื่น มลภาวะใด ๆ
ท่ดี ดี า้ นสงั คม ทรัพยากรอยา่ งคุม้ ค่า
หมายเหตุ หากเปน็ การบูรณาการในหน่วยการเรียนรหู้ นว่ ยใดหนว่ ยหนึ่ง ให้นำแผนภมู ินไ้ี ปนำเสนอในหนว่ ยการเรยี นรนู้ น้ั
แผนการจดั การเรยี นรู้ พส.9
รหัสวิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี คร่อื งมอื กล หนว่ ยท่.ี ....1........
เวลารวม....36..ชม.
ชอ่ื หน่วย บทท่ี 1 เครื่องมือขนาดเลก็ สปั ดาห.์ .1-2..../18
เร่อื ง เคร่อื งมือขนาดเลก็ จำนวน.....2.......ชม.
1. สาระสำคัญ
การเลือกใช้เครื่องมือขนาดเล็กกับเครื่องจักรให้การทำงานได้ประสิทธิภาพดีที่สุด ต้องเลือกใช้เครื่องมือ
ให้ถูกต้อง และเหมาะสมกบั งาน เพอื่ ไม่ใหเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ เครือ่ งจักร และไมเ่ กดิ อบุ ตั เิ หตใุ นขณะปฏิบตั งิ าน
2. สมรรถนะประจำหน่วย
แสดงความร้เู กี่ยวกับเครอื่ งมือขนาดเล็ก
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเกยี่ วกบั เลอื กใชเ้ ครื่องมือขนาดเล็กกบั เคร่ืองจักรให้การทำงานได้ประสิทธภิ าพ
ดที ีส่ ุด
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. ด้านความรู้
1.1 บอกชนิดเครอื่ งมือขนาดเลก็ ได้
1.2 อธบิ ายการใช้เครอ่ื งมอื ขนาดเล็กได้
1.3 บอกขอ้ ควรระวงั และการบำรุงรักษาเครื่องมือขนาดเล็กได้
2. ด้านทักษะ
นักเรยี นมีความรู้และทักษะสามารถเลอื กใช้เคร่ืองมือขนาดเล็กไดถ้ ูกต้อง
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
3.1 เขา้ เรียนตรงตามเวลา
3.2 แตง่ กายตามระเบียบสถานศกึ ษา
3.3 ความมัน่ ใจในการทำงาน
3.4 ความกระตือรือรน้ ในการทำงาน
3.5 มีนำ้ ใจช่วยเหลือผูอ้ ื่น
4. สาระการเรยี นรู้
ในการปฏิบัติงานในโรงงานและการปฏิบัติงานทั่วไป เครื่องมือขนาดเล็กเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับ
การสร้างและซ่อมบำรุงเครื่องจักร ควรเลือกใช้เคร่ืองมือให้ถูกต้องและเหมาะสมกบั งานเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
ต่อเครื่องมอื และอุปกรณ์
5. การออกแบบการจดั การเรยี นรู้
5.1 การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนคิด
เกี่ยวกับประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-
5 นาที (Pair) และนำเสนอความคิดเหน็ ต่อผู้เรียนท้งั หมด (Share)
6. กิจกรรมการเรียนรู้
6.1 ขนั้ นำ
- ครูแจ้งการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน การวัดผลประเมนิ ผล ข้อตกลงในขณะเรียนและแจ้งจดุ ประสงค์
การเรยี นรู้ เรื่อง เครื่องมือขนาดเล็ก
- นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
- ครนู ำเขา้ สู่บทเรียนโดยครูนำเนื้อหาโดยรวมของวิชาทฤษฎเี ครอ่ื งกล การประเมนิ ผลและใชค้ ำถามนำให้
นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายถึง เร่ือง เครื่องมือขนาดเลก็ ตัวอยา่ งคำถาม เช่น
- ใครเคยใช้สว่านมอื ในการเจาะช้นิ งานบ้าง
- ใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ งเคร่ืองมือเคร่อื งมอื ขนาดเล็กที่ใชใ้ นโรงงานมอี ะไรบ้าง
- ครใู ห้นักเรียนอ่านทำความเขา้ ใจเนือ้ หา เร่ือง เคร่ืองมือขนาดเลก็
6.2 ขน้ั สอน
ครูอธิบายเนื้อหาโดยใช้สื่อ Power Point สื่อของจริง สื่อแผ่นภาพ สอนประกอบการบรรยายเพื่อให้
นักเรยี นเข้าใจเน้ือหาสาระของการเรยี นรู้ เรอื่ ง เครอ่ื งมอื ขนาดเลก็ และต้งั คำถามสลับการบรรยายเพื่อให้นักเรียนมี
สว่ นร่วมระหว่างปฏิบตั กิ ารสอน
6.3 ขัน้ สรปุ
ครูอธิบายสรุปเนอ้ื หา เรอ่ื ง เครอื่ งมอื ขนาดเล็ก
นักเรยี นอภิปรายตามทำใบมอบงาน เรื่อง เครอื่ งมือขนาดเล็ก จากนน้ั ครูและนกั เรียนรว่ มประเมนิ ผล
ตรวจประเมนิ ใบงาน สรปุ ผลการตรวจใหน้ กั เรยี นทราบและแนะนำการแกไ้ ขขอ้ บกพร่องการอภปิ ราย
7. บรรยากาศทีส่ ่งเสริมและพัฒนาผ้เู รียน
ผูเ้ รียนมีความสนใจในการเรยี น เนอ่ื งจากการสอนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ทำให้ผูเ้ รียนได้แสดงความคิดเหน็
และได้แลกเปลีย่ นความรู้ สง่ ผลให้เกิดผลการเรยี นรทู้ ่ีดี
8. คณุ ธรรม จริยธรรมประจำหน่วย
สามัคคี คือ ผู้เรยี นเปิดใจกว้าง รับฟังความคิดเห็นของผู้อ่นื รบู้ ทบาทของตน ทั้งในฐานะผู้นำ และผตู้ ามท่ดี ี
มีความมุง่ ม่นั ตอ่ การรวมพลงั ช่วยเหลือเก้อื กูลกัน เพื่อใหก้ ารทำงานสำเร็จลุล่วง สามารถแกป้ ัญหาและขจัดความ
ขดั แยง้ ได้ เปน็ ผู้มีเหตผุ ล
9. ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้
1. สอ่ื สง่ิ พิมพ์
1.1 เอกสารประกอบการสอน เรื่อง เคร่ืองมือขนาดเลก็
1.2 ใบมอบงาน
1.3 แบบประเมนิ ผล
2. สื่อโสตทศั น์
2.1 สื่อ Power Point ประกอบการสอน
2.2 ส่ือของจริง ได้แก่ สว่านมอื คมี และประแจชนิดตา่ ง ๆ เปน็ ต้น
10. การวัดผลและประเมินผล
1. คะแนนจากการอภปิ ราย เรอื่ ง เครือ่ งมือขนาดเล็ก
2. คะแนนจากแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยที่ 1 เรอ่ื ง เครื่องมือขนาด
3. คะแนนจากแบบสังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรยี น
4. คะแนนจากแบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
( หมายเหตุ แนบเอกสารประกอบ )
11. หลกั ฐานการเรียนรู้
1. เอกสารประกอบการสอนฯ บทที่1 เคร่อื งมือขนาดเล็ก
2. แบบฝกึ หัดที่ 1
3. เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี 1
4. แบบทดสอบ
5. เฉลยแบบทดสอบ
12. เอกสารอ้างอิง
หนงั สอื เรยี น ทฤษฎเี ครื่องมือกล สำนักพิมพบ์ ริษัท ศนู ยห์ นังสือ เมืองไทยจำกดั
พส.10
เครื่องมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมิน
รหัสวิชา 20102-2003 วชิ า ทฤษฎเี คร่ืองมือกล ท-ป-น. 2 - 0 - 2
แบบประเมินแบบประมาณค่า (Ratting scale) เกณฑก์ ารให้คะแนน
5 4 3 21
ประเดน็ การประเมนิ
1. บอกชนดิ และสว่ นประกอบของเครื่องมอื ขนาดเล็กได้
2. อธบิ ายการใช้เครอ่ื งมือขนาดเล็กได้
3. บอกขอ้ ควรระวังและการบำรงุ รกั ษาเครอ่ื งมือขนาดเล็กได้
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
รวม
รวมท้งั หมด (5 คะแนน+4 คะแนน+3 คะแนน+2 คะแนน+1 คะแนน)
คะแนนรวม (60%)
พส.11
บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้
รหัสวชิ า...........................ช่ือวิชา.........................................................................................ระดับชน้ั ปวช. ปวส.
สาขางาน..............................................................................................สัปดาหท์ .่ี .........วันทีส่ อน..............................................
หน่วยท่.ี ...........ช่ือหนว่ ย......................................................................................................................จำนวน................ชว่ั โมง
จำนวนผ้เู รยี น..........................คน มาเรียน........................คน ขาดเรียน.........คน ลาปว่ ย....-.....คน ลากิจ.....-.....คน
1. ผลการจดั การเรียนรู้
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………….…………
……………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. ปญั หาและอปุ สรรค
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
……………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………….…………
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
……………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
ลงช่อื .......................................................ครูผสู้ อน
(............................................................)
........../................/............
ความเห็น................................................................................. ความเหน็ .................................................................................
................................................................................................ ................................................................................................
ลงชอ่ื ...............................................หัวหน้าแผนกวิชา ลงชอื่ ............................................รองผู้อำนวยการฝ่ายวชิ าการ
(............................................................) (นางสาวนิศากร เจริญด)ี
............/................../............
............/................../............
ความเหน็ ผูอ้ ำนวยการ.................................................................................
....................................................................................................................
ลงช่อื ...........................................
(นางสาวสมุ นี า แดงใจ)
ผ้อู ำนวยการวทิ ยาลยั การอาชีพนครปฐม
............/................../............
พส.12
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวชิ า 20102-2003 วิชา ทฤษฎีเครอื่ งมอื กล
ชอ่ื หน่วย บทที่ 1 เคร่ืองมือขนาดเล็ก
เรือ่ ง เคร่อื งมือขนาดเลก็ จำนวนชั่วโมงสอน 4 ชว่ั โมง
จุดประสงค์การเรียนรู้ รายการเรียนรู้
- จดุ ประสงคท์ ่วั ไป
นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเลือกใช้ 1. ชนิดและส่วนประกอบของเครอื่ งมือขนาดเลก็
เครื่องมือขนาดเล็กกับเครื่องจักรให้การทำงานได้ 2. การใชเ้ คร่ืองมือขนาดเล็ก
ประสทิ ธิภาพดที สี่ ุด 3. ขอ้ ควรระวงั และการบำรุงรักษาเครื่องมือขนาดเลก็
- จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
บอกชนิดเคร่ืองมือขนาดเลก็ ได้
อธิบายการใชเ้ ครื่องมือขนาดเล็กได้
บอกขอ้ ควรระวังและการบำรุงรกั ษาเคร่อื งมือ
ขนาดเลก็ ได้
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหสั วชิ า 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี ครื่องมอื กล
ช่อื หน่วย บทที่ 1 เครือ่ งมือขนาดเลก็
เรอ่ื ง เครือ่ งมือขนาดเลก็ จำนวนช่ัวโมงสอน 4 ชว่ั โมง
เครื่องมือขนาดเล็ก (Hand Tools) เป็นเครื่องมือพื้นฐานอีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์มากใช้กันอย่าง
แพรห่ ลายในโรงงานอุตสาหกรรมทว่ั ๆ ไป
เครื่องมือขนาดเลก็
1.1 ค้อน (Hammer)
คอ้ น คือเครื่องมือสำหรับตอกหรือทบุ บนวัตถุอน่ื สำหรบั การใช้งานเช่น การตอกตะปู การจัดชน้ิ ส่วน
ใหเ้ ข้ารปู และการทบุ ทลายวตั ถุ ค้อนอาจได้รับการออกแบบมาใหใ้ ชง้ านเฉพาะทาง และมีรปู ร่างกบั โครงสร้าง
ทห่ี ลากหลาย แตม่ โี ครงสร้างพน้ื ฐานที่เหมือนกนั คอื ด้ามจับและหวั ค้อน
1.1.1 รปู รา่ งและสว่ นตา่ งๆ ของคอ้ น
รปู ท่ี 1.1 รูปร่างและส่วนตา่ งๆ ของค้อน
1.1.2 ชนิดของค้อนหวั แข็ง
คอ้ นหวั กลม เปน็ ค้อนที่มีหนา้ คอ้ นที่ใช้ตอกตี หน้าตดั จะมีลักษณะกลมผิวหน้าของค้อนจะนนู โคง้
เลก็ น้อยส่วนด้านบนหรอื หงอนค้อนจะมีลักษณะเปน็ ทรงกลม นยิ มนำมาใชใ้ นการตอกตที ั่วไป เชน่ ใช้กับสกดั
การนำศูนย์ การตัดงอเหล็กเส้นกลมหรือเสน้ แบน และเคาะขน้ึ รปู ทวั่ ไป
รปู ที่ 1.2 คอ้ นหวั กลม
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหสั วิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎีเครอ่ื งมอื กล
ชอื่ หน่วย บทที่ 1 เครอื่ งมือขนาดเล็ก
เร่อื ง เคร่อื งมอื ขนาดเล็ก จำนวนชั่วโมงสอน 4 ชว่ั โมง
คอ้ นหัวตรง เป็นคอ้ นทม่ี สี ว่ นหงอนของคอ้ นจะมีลกั ษณะแบนและอยู่ในตำแหนง่ ขนานไปกับด้าม
ค้อน ด้านหนา้ คอ้ นใชต้ อกตเี คาะ ดัด ชน้ิ งานท่ัวไป สว่ นหงอนทีม่ ีลกั ษณะแบบน้ันใชเ้ คาะขน้ึ รูปหรือตยี ดึ แผน่
โลหะมรี ูปรา่ งตา่ ง ๆ
รปู ท่ี 1.3 ค้อนหวั ตรง
ค้อนหวั ขวาง เป็นคอ้ นท่มี ลี กั ษณะการใช้งานคล้ายค้อนหัวกลมและคอ้ นหัวตรง แต่คอ้ นชนดิ นม้ี ี
หงอนดา้ นบนมีลกั ษณะแบนแต่อยู่ในตำแหน่งขวางกบั ด้าม
รูปที่ 1.4 ค้อนหัวขวาง
คอ้ นเดนิ สายไฟ เป็นคอ้ นท่มี ีลักษณะคล้ายกับคอ้ นย้ำหมุดทกุ ประการ เพยี งแต่ผิวหน้าของค้อนจะ
เรยี บ เพอ่ื ท่ีจะไดใ้ ชต้ อกตะปเู ดนิ สายไฟโดยไมล่ ืน่ คอ้ นเดินสายไฟนม้ี ขี นาดเลก็ ขนาดที่ใช้กันโดยท่ัวไป คือ
นำ้ หนัก 150 กรัม และ 200 กรัม
รูปที่ 1.5 คอ้ นเดนิ สายไฟ
คอ้ นปอนด์ เปน็ ค้อนท่ีใช้สำหรบั งานหนักทั่วไป หนา้ ตัดมีรูปรา่ งเปน็ แปดเหลีย่ ม ผิวหนา้ จะนนู และ
ลาดเอยี งไปทางขอบ มตี งั้ แตข่ นาดกลางถึงขนาดใหญ่ เหมาะสำหรบั งานทต่ี อ้ งการใช้แรงกระแทกสูง เชน่ ใช้
ทุบกำแพง ใชต้ ีเหล็ก และงานทุบตี ดดั งอท่ัวไป
รูปที่ 1.6 ค้อนปอนด์
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหสั วชิ า 20102-2003 วิชา ทฤษฎีเครอ่ื งมือกล
ช่ือหน่วย บทท่ี 1 เครอื่ งมือขนาดเล็ก
เรือ่ ง เคร่ืองมือขนาดเล็ก จำนวนชัว่ โมงสอน 4 ช่ัวโมง
ค้อนชา่ งไม้ หรอื ค้อนหัวแพะเปน็ คอ้ นสำหรับช่างไมซ้ ่งึ ใชส้ ำหรับตอกตะปู และถอนตะปู หน้าตดั ของ
ค้อนจะมลี กั ษณะกลม ผวิ หน้าเรยี บหรอื มีโค้งเล็กน้อยเท่าน้ัน เพ่อื ป้องกนั ไม่ให้ลน่ื ขณะทำการตอกตะปูส่วน
หางหรือหงอนค้อนจะมีลักษณะเป็นง่ามคลา้ ยเขาแพะซึ่งใชส้ ำหรบั ถอนตะปู ดา้ มค้อนอาจทำดว้ ยไม้ หรอื พลาสตกิ
แข็งก็ได้
รูปท่ี 1.7 คอ้ นช่างไม้
1.1.3 ชนิดของค้อนหัวออ่ น
เป็นค้อนท่ีทำจากวัสดอุ ่อนเหมาะสำหรบั ใชต้ ี เคาะ ดัดชนิ้ งานท่ีมีผวิ ออ่ น เพ่ือปอ้ งกันไมใ่ ห้ผวิ หน้า
ของโลหะหรือชิน้ งานเป็นรอย เพ่อื ป้องกันไม่ใหโ้ ลหะทเี่ คลือบอยหู่ ลุดล่อนหรือลอกออก และยังใช้ในการถอน
ประกอบชิ้นงานส่วนของเครอ่ื งมือเครอื่ งจักร อีกดว้ ย
ค้อนทองเหลอื ง หวั คอ้ นทำจากทองเหลือง ซึ่งมีส่วนผสมระหว่างทองแดงกับสังกะสี ผวิ หน้าของค้อน
มีลักษณะโคง้ เล็กนอ้ ย ใชส้ ำหรบั เคาะชิ้นงานหรือแผ่นโลหะที่ทำจากโลหะท่เี นอื้ อ่อน เชน่ ทองแดง อลูมเิ นยี ม
ตะกวั่ เป็นต้น
รูปที่ 1.8 ค้อนทองเหลอื ง
ค้อนพลาสตกิ หัวคอ้ นทำจากพลาสติกแขง็ หน้าตดั มลี ักษณะกลม ผวิ หน้านนู เล็กน้อย บริเวณขอบ
มน หัวพลาสตกิ ท้งั สองขา้ งเหมอื นกนั ขนั ตดิ อยู่กับแกนเกลยี วของอลูมเิ นียมหลอ่ เมอ่ื หวั คอ้ นเยนิ หรือแตก
สามารถถอดเปลีย่ นใหม่ได้
รูปที่ 1.9 คอ้ นพลาสติก
คอ้ นยาง หัวคอ้ นทำจากยางาพารา ซ่ึงผา่ นกรรมวิธีทางเคมีทำให้มีสีดำ คณุ สมบตั ิเหนียวนมุ่ เหมาะ
สำหรบั ใช้เคาะขึน้ รูปช้นิ งานทม่ี ีเนื้ออ่อน หรอื โลหะแผน่ เคลอื บทบี่ างมาก เพื่อช่วยในการรกั ษาผวิ งาน
รูปที่ 1.10 ค้อนยาง
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหสั วิชา 20102-2003 วชิ า ทฤษฎเี ครอ่ื งมอื กล
ชือ่ หน่วย บทท่ี 1 เครอื่ งมือขนาดเล็ก
เร่อื ง เครอ่ื งมือขนาดเล็ก จำนวนชัว่ โมงสอน 4 ชวั่ โมง
คอ้ นไม้ เปน็ ค้อนท่ีไม่ไดท้ ำจากโลหะ แตท่ ำจากไม้เน้อื แข็งซ่ึงอาจจะทำเป็นแท่งกลมตัน โดยลบคม
บริเวณของทัง้ สองขา้ ง หรืออาจทำเปน็ แทง่ ส่ีเหล่ียม โดยลบคมบรเิ วณมุมทก่ี ระทำกบั ผวิ หนา้ ท้ัง 4 ด้าน ใช้
สำหรบั เคาะ ดัด ตีวสั ดุหรอื โลหะที่มผี วิ อ่อน
รูปท่ี 1.11 ค้อนไม้
ค้อนหนัง ค้อนชนิดนห้ี ัวค้อนทำจากหนงั แขง็ ท่ยี ังไม่ได้ฟอกมว้ นเป็นแท่งกลม หน้าตัดเรียบ เหมาะ
สำหรบั เคาะ พับโลหะอ่อนทว่ั ไป
รูปท่ี 1.12 ค้อนหนัง
1.1.4 ข้อควรระวังในการใชค้ อ้ น
1. ตรวจสอบคอ้ นก่อนการใช้งาน ห้ามใชค้ ้อนท่ชี ำรดุ ดา้ มหลวม มรี อยแตกร้าว
2. เลือกใช้ชนิดและขนาดของค้อนให้ถูกต้องกับลักษณะงาน
3. การจบั ค้อนต้องจับทีส่ ่วนปลายของดา้ มค้อน
4. หลงั จากปฏบิ ัตงิ านเสร็จใหท้ ำความสะอาดคอ้ นและเก็บเขา้ ทท่ี เี่ หมาะสม
1.2 คมี (Pliers)
เป็นเครอ่ื งมอื ขนาดเล็กท่มี คี วามสำคญั ในการปฏิบตั ิงานเป็นอย่างมาก เปน็ เครื่องมือท่ีใชส้ ำหรบั จับ
บดิ บีบ ดึง พบั ชิ้นงานท่วั ไปคีมมสี ่วนประกอบทีส่ ำคญั 3 ส่วนดว้ ยกัน คอื ปากบน ปากกลาง และสลักเกลียว
คมี มหี ลายแบบและหลายขนาด แตล่ ะแบบได้รับการออกแบบใหใ้ ช้งานเฉพาะอย่าง ผ้ปู ฏบิ ัตงิ านตอ้ งเลือกใช้
คีมใหถ้ ูกต้องและเหมาะสมกับงาน
1.2.1 ชนิดของคมี (Type of Pliers)
คีมปากแหลม (Long-nose Pliers) บางครง้ั เรียกวา่ คีมปากจ้งิ จก ปากคีมมลี ักษณะแหลมยาว ปาก
จับมีลักษณะเรยี บและมีร่องฟัน ชว่ ยใหส้ ามารถจับถือช้ินงานไดม้ ่นั คงโดยไม่ลื่นสามารถตัดลวดขนาดเลก็ ได้
ดว้ ย
รูปท่ี 1.13 คีมปากแหลม (Long-nose Pliers)
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหสั วิชา 20102-2003 วชิ า ทฤษฎเี ครอ่ื งมือกล
ชอ่ื หน่วย บทท่ี 1 เครอื่ งมือขนาดเล็ก
เรอ่ื ง เคร่อื งมอื ขนาดเล็ก จำนวนชัว่ โมงสอน 4 ชวั่ โมง
คมี ปากแบน (Flat-nose Pliers) คมี ชนดิ น้ปี ากจะแบนมีร่องฟัน บริเวณปลายปากจะตรงและตัง้ ฉากกบั
ด้านขา้ ง ใช้สำหรบั จับพับช้นิ งานโลหะแผน่ ที่บางและขนาดเล็ก จงึ นิยมนำไปใช้งานโลหะแผ่น
รปู ท่ี 1.14 คีมปากแบน (Flat-nose Pliers)
คีมตัดด้านข้าง(Side Cutting Pliers) คีมชนิดนีเ้ ปน็ คีมขนาดเลก็ ดา้ นขา้ งจะถูกเจยี ระไนให้เป็นสนั
คมตัด ใช้ในการตัดลวดขนาดเลก็ ไดด้ ีโดยเฉพาะตดั สายไฟฟา้ คมี ชนิดนีเ้ ปน็ คมี ตัด ไมส่ ามารถจับชน้ิ งานได้
รูปท่ี 1.15 คมี ตัดด้านข้าง (Side Cutting Pliers)
คมี ปากนกแก้ว(Pincers) ปากของคีมมลี กั ษณะคลา้ ยกบั ปากนกแกว้ ส่วนปลายของปากจะมี
ลักษณะเป็นคมตัดโดยหนั ขวางกบั ดา้ นคมใชส้ ำหรบั ตดั เหล็ก เส้นลวด คมี ชนิดนไี้ ม่สามารถจับช้ินงานได้
รูปที่ 1.16 คมี ปากนกแกว้ (Pincers)
คมี ปากผสม (Combination Pliers) เป็นคมี ทอ่ี อกแบบมาใหใ้ ช้งานทั้งจบั ชน้ิ งานขนาดเลก็
รูปท่ี 1.17 คีมปากผสม (Combination Pliers)
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี ครอื่ งมอื กล
ชือ่ หน่วย บทที่ 1 เครอื่ งมือขนาดเล็ก
เรือ่ ง เครอ่ื งมือขนาดเลก็ จำนวนชัว่ โมงสอน 4 ช่วั โมง
คีมปากขยายแบบปรับระยะขยับจดุ หมุน (Ship Joint Pliers) และคมี ปากขยายแบบปรบั ระยะ
เลือ่ นตามแนวร่อง (Goove Joint Pliers) เปน็ คีมท่อี อกแบบมาเปน็ ลักษณะคมี ปากผสมที่ปากปรบั ขยายได้
ใชก้ บั ช้ินงานกลม งานทอ่ เป็นตน้
รปู ท่ี 1.18 คีมปากขยายแบบปรับระยะขยับจุดหมนุ (Ship Joint Pliers)
รปู ที่ 1.19 คมี ปากขยายแบบปรับระยะเล่อื นตามแนวร่อง (Goove Joint Pliers)
คมี ลอ็ ก (Vise Grip Pliers) ปากของคีมชนดิ น้ี ไมส่ ามารถตัดงานได้ แตส่ ามารถจบั ชิน้ งานได้ดี
ปากจะบีบให้แนน่ ด้วยกลไกลทด่ี ้ามบรเิ วณปากสามารถปรับใหแ้ คบใชจ้ บั งานบางหรอื จะปรบั ให้กวา้ งสำหรบั
งานหนา นยิ มใช้กนั มากในงานทัว่ ๆไป
รูปที่ 1.20 คีมลอ็ ก (Vise Grip Pliers)
1.2.2 ข้อควรระวังและการบำรุงรกั ษาในการใชค้ ีม
1. ตรวจสอบคมี ก่อนการใช้งาน หา้ มใชค้ ีมท่ชี ำรุด
2. เลอื กใช้ชนดิ และขนาดคมี ให้ถกู ต้องกับลักษณะงาน
3. หา้ มใช้ดา้ มต่อคีม ห้ามใชค้ ้อนตอกบนคีม
4. หลงั จากปฏบิ ัติงานเสร็จใหท้ ำความสะอาดคมี และเก็บเขา้ ที่ทเ่ี หมาะสม
1.3 ประแจ (Wrench)
ในการผลิตประแจทม่ี คี ุณภาพ สว่ นใหญ่จะทำมาจากเหล็กกล้าและขน้ึ รูปด้วยวิธกี ารตีขึ้นรูป แต่
ประแจทนี่ ำมาใชง้ านที่ดีทส่ี ุดนั้น จะทำมาจากเหลก็ กลา้ ผสมโครเมียมและวานาเนียมและจะขน้ึ รูปด้วยวิธีการ
ตขี ้นึ รูปเช่นเดยี วกับแบบแรก
1.3.1 ชนดิ ของประแจ (Type of Wrench)
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวชิ า 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี ครื่องมือกล
ช่อื หน่วย บทท่ี 1 เครื่องมือขนาดเลก็
เร่อื ง เครอื่ งมอื ขนาดเล็ก จำนวนช่วั โมงสอน 4 ช่ัวโมง
ประแจปากตาย (Fixed Wrench) เปน็ ประแจท่ใี ช้กันมาก พบเหน็ โดยท่วั ไป ใช้ถอดประกอบ
ช้นิ ส่วนต่างๆ โดยปากประแจทำมุมกบั ด้านประมาณ 15-30 องศา จะมีแบบประแจปากตายด้านเดียว
(Single Ended Wrench) ปัจจบุ นั ไมน่ ิยมใช้ และแบบประแจปากตายสองด้าน (Dou-ble Ended Wrench)
นิยมใช้มากในปัจจบุ นั ซ่ึงแต่ละดา้ นจะมขี นาดทแี่ ตกตา่ งกัน โดยทั่วไปจะมีเป็นอนั เดยี่ วและเปน็ ชุดท้ังขนาดทเี่ ปน็
มลิ ลิเมตรและชุดทเ่ี ป็นน้ิว ซ่งึ แต่ละชุดมีจำนวนต่างกัน
รปู ที่ 1.21 ประแจปากตายด้านเดียว (Single Ended Wrench)
รูปที่ 1.22 ประแจปากตายสองดา้ น (Dou-ble Ended Wrench)
ประแจแหวน (Box Wrench) ลกั ษณะเดน่ อยู่ที่ปลายทัง้ สองดา้ น มีลกั ษณะเป็นแหวนวงกลม
ภายในวงแหวนจะมีเข้ียวประมาณ 6-12 เขย้ี ว เพือ่ ใชใ้ นการจบั เหล่ยี มแปน้ เกลียวและสลกั เกลียวได้อยา่ ง
มัน่ คง
รปู ท่ี 1.23 ประแจแหวน (Box Wrench)
ประแจรวม (Combination Wrench) ประแจชนดิ นไ้ี ดร้ วมเอาประแจแหวนกบั ประแจปากตาย
ปากคเู่ ขา้ ไว้ดว้ ยกนั โดยท่ีด้านหน่ึงมลี ักษณะเหมอื นกบั ประแจแหวน สว่ นอกี ดา้ นจะเหมือนกับประแจปาก
ตายปากคู่ ทำใหส้ ามารถนำไปใชง้ านได้หลากหลาย ขนาดของหัวประแจจะมีขนาดท่ีเท่ากันทงั้ สองด้าน
รูปท่ี 1.24 ประแจรวม (Combination Wrench)
ประแจเล่อื น (Adjustable Wrenches) ประแจชนิดนเี้ ป็นประแจทีส่ ามารถปรับขนาดได้ เพ่ือให้
เหมาะสมกับขนาดของแปน้ เกลียว การปรบั ขนาดน้นั จะปรบั ตรงสว่ นท่ีเปน็ สลกั เกลยี ว ซ่งึ ถอื ได้ว่าได้ว่าเป็น
ข้อดีของประแจชนดิ น้ี ทำใหส้ ะดวกในการพกพาเพยี งตวั เดียวก็สามารถใชไ้ ดเ้ กือบทุกขนาดเมอ่ื เทยี บกบั
ประแจปากตายแลว้ ถือว่าสะดวกกว่ามาก
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหสั วชิ า 20102-2003 วชิ า ทฤษฎเี ครอ่ื งมอื กล
ช่อื หน่วย บทท่ี 1 เครอื่ งมือขนาดเล็ก
เรอ่ื ง เครื่องมือขนาดเลก็ จำนวนชั่วโมงสอน 4 ช่ัวโมง
แต่จุดดอ้ ยของประแจเลื่อนก็คือ มปี ากด้านหนง่ึ ท่สี ามารถปรับเข้าออกได้ เป็นผลให้ปากดา้ นน้ไี ม่แข็งแรงในการใช้
งานจึงต้องให้ปากประแจดา้ นที่ไม่เคลอื่ นเป็นด้านท่ีรับแรงมากและปรบั ขนาดของปากให้แนบสนิทกบั แปน้ เกลียว
ทกุ ครัง้
รูปท่ี 1.25 ประแจเล่อื น (Adjustable Wrenches)
ประแจบลอ็ ก (Socket Wrench) เป็นประแจท่ใี ชข้ นั ในที่แคบๆจะมีเปน็ ชดุ แตกตา่ งกันไป จะมดี ้าม
ตอ่ เปน็ ลักษณะต่างๆหลายแบบ นิยมใช้ในงานชา่ งยนต์
รูปท่ี 1.26 ประแจบล็อก (Socket Wrench)
ประแจจับทอ่ (Pipe Wrench) เป็นประแจท่ีออกแบบมาเพอ่ื ใช้ในการจบั ท่อ เช่น ทอ่ ประปา ท่อลม
ทอ่ ข้อต่อนวิ เมติกส์และไฮดรอลกิ ส์ เป็นต้น มีแบบจบั ท่อขนาดเลก็ ๆ และแบบจบั ท่อขนาดใหญ่ได้
รปู ที่ 1.27 ประแจจบั ทอ่ (Pipe Wrench)
ประแจขอ หรือประแจคอมา้ (Hook Spanner Wrench) เป็นประแจท่ีส่วนปลายจะมีขอเกยี่ ว
เพอ่ื ขนั ยดึ แป้นเกลียวฝาครอบต่างๆ ใช้ขดั หัวจับของเคร่ืองกดั เพ่ือจับยดึ ดอกกัด มีแบบปรับไดแ้ ละแบบปรบั
ไม่ได้
รปู ที่ 1.28 ประแจขอหรอื ประแจคอมา้ (Hook Spanner Wrench)
ประแจแอล (Allen Wrench) หรือ (Socket Head Cap Screw) เป็นเครื่องมือท่ีใช้ถอดประกอบ
ชิน้ สว่ นเครอ่ื งจักรทีเ่ ป็นสกรชู นิดทีม่ ีหัวหกเหลีย่ มหวั ฝัง
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎีเครอื่ งมือกล
ชื่อหน่วย บทท่ี 1 เคร่อื งมือขนาดเลก็
เรอ่ื ง เครือ่ งมอื ขนาดเลก็ จำนวนชวั่ โมงสอน 4 ชั่วโมง
รูปที่ 1.29 ประแจแอล (Allen Wrench) หรอื (Socket Head Cap Screw)
1.3.2 ข้อควรระวังและการบำรงุ รักษาในการใช้ประแจ
1. ตรวจสอบประแจกอ่ นการใชง้ าน หา้ มใชป้ ระแจทชี่ ำรุด ไมแ่ ขง็ แรง
2. เลือกใชช้ นดิ และขนาดประแจใหถ้ ูกต้องกับลักษณะงาน
3. หา้ มใช้ดา้ มตอ่ ประแจ ห้ามใช้คอ้ นตอกบนประแจ
4. หลงั จากปฏิบัตงิ านเสร็จให้ทำความสะอาดประแจ และเก็บเขา้ ที่ทเี่ หมาะสม
1.4 ไขควง (Screwdriver)
ไขควง คือ อปุ กรณช์ นิดหนึง่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อขันสกรใู หแ้ น่นหรอื คลายสกรูออก ไขควงทั่วไป
ประกอบด้วยแทง่ โลหะ ส่วนปลายใชส้ ำหรับยดึ กับสกรู ซง่ึ มีรูปร่างแตกตา่ งกันเพื่อใหใ้ ชไ้ ดก้ ับสกรชู นิดตา่ งๆ
และมีแทง่ สำหรบั จบั คลา้ ยทรงกระบอกอยู่อีกดา้ นหนึ่งสำหรับการไขด้วยมอื หรือไขควงบางชนิดอาจจะหมนุ
ดว้ ยมอเตอร์กไ็ ด้ ไขควงทำงานโดยการสง่ ทอร์ก (torque) จากการหมุนไปทปี่ ลาย ทำให้สกรูหมุนตามเกลยี ว
เขา้ หรือออกจากวสั ดุอน่ื
รูปที่ 1.30 สว่ นประกอบของไขควง
1.4.1 ชนดิ ของไขควง
ไขควงปากแบนหรือไขควงธรรมดา (Common Screwdriver) ปากไขควงจะมีลักษณะแบนลาดเอยี งไป
ยังปลายสุดของไขควงทุกแบบสาํ หรับขันหรอื คายสกรหู รอื ตะปคู วงชนิดตา่ งๆ
รูปท่ี 1.31 ไขควงปากแบนหรอื ไขควงธรรมดา (Common Screwdriver)
ไขควงปากแฉก (Cross - Reset Head Screwdriver) ไขควงชนิดนส้ี ่วนที่ปลายของไขควงปากแฉก
หรือลักษณะปากจบี จะผ่าหัวเปน็ สแี่ ฉกเวลาบดิ จะต้องใช้แรงกดท่ดี า้ มมากกว่าไขควงธรรมดาเพ่ือไมใ่ ห้เหล่ยี มของ
ไขควงหลดุ จากร่อง
รปู ท่ี 1.32 ไขควงปากแฉก (Cross - Reset Head Screwdriver)
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี ครื่องมือกล
ชื่อหน่วย บทที่ 1 เครอื่ งมือขนาดเล็ก
เรื่อง เครอื่ งมอื ขนาดเล็ก จำนวนช่ัวโมงสอน 4 ช่วั โมง
ไขควงออฟเซต (Offset Screwdriver) ไขควงออฟเซตใชง้ านทอี่ ยู่ในท่ีแคบๆ ยากทีจ่ ะใชไ้ ขควง
ธรรมดาเขา้ ไปขนั ไดส้ ามารถขันสกรูได้อย่างรวดเร็ว แตต่ ้องระวังเพราะไขควงหลุดจากร่องสกรู
รูปที่ 1.33 ไขควงออฟเซต (Offset Screwdriver)
1.4.2 ข้อควรระวังและการบำรงุ รกั ษาในการใชไ้ ขควง
1. ตรวจสอบไขควงก่อนการใช้งาน ห้ามใช้ไขควงทชี่ ำรดุ
2. เลอื กใช้ชนิดและขนาดไขควงใหถ้ กู ต้องกบั ลักษณะงาน
3. ห้ามใช้ดา้ มคมี จับขันไขควง
4. ห้ามใชไ้ ขควงงดั หรือ ตอกแทนสกดั
5. หลงั จากปฏบิ ตั งิ านเสรจ็ ใหท้ ำความสะอาดไขควง และเก็บเข้าทีท่ ่ีเหมาะสม
1.5 ปากกาจับชนิ้ งาน (Bench Vise)
ในงานเคร่ืองมือกล ปากกาจับชิ้นงานมคี วามจำเป็นในเครื่องมือกลหลายเคร่ืองจำเป็นต้องมีการจับ
ชิน้ งาน เชน่ เครอ่ื งเจาะ เคร่ืองไส เครอื่ งกดั เปน็ ต้น
การบอกขนาดของปากกาจะมกี ารบอกขนาดตามความยาวของปากกา เชน่ 100 มิลลิเมตร (4นิ้ว)
125 มลิ ลิเมตร (5นิว้ ) เป็นตน้
1.5.1 ส่วนตา่ งๆของปากกา
- ฐานจบั ยดึ ปากกา (Base Fixed to Bench)
- ปากอยู่กบั ท่ี (Fixed Jaw)
- ปากกาเลื่อนที่หรอื ปากกาเล่ือน (Movable Jaw)
- เกลยี ว (Screw)
- แขนหมนุ (Operating Handle)
รูปท1่ี .34 สว่ นต่างๆ ของปากกา
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวชิ า 20102-2003 วิชา ทฤษฎีเครือ่ งมือกล
ชื่อหน่วย บทท่ี 1 เครือ่ งมือขนาดเลก็
เร่ือง เครื่องมอื ขนาดเล็ก จำนวนช่ัวโมงสอน 4 ช่วั โมง
1.5.2 ชนิดของปากกา
ปากกาท่ีใช้กบั โต๊ะปากกา เป็นปากกาท่ีใชต้ ิดตง้ั บนโต๊ะปากกา เพ่ือใชใ้ นงานตะไบขึ้นรปู ชิ้นงาน
ตกแต่งช้ินงาน ใชใ้ นการจบั ยึดชนิ้ งานเพื่อเล่ือยตัดชิ้นงาน ตาปเกลียว ดายเกลียว เป็นต้น
รปู ท1ี่ .35 ปากกาบนโต๊ะปากกา
ปากกาทีใ่ ช้กับเครื่องกล เป็นปากกาทใี่ ช้ติดต้ังบนเคร่อื งมือกล เช่น เครือ่ งเจาะ เคร่อื งไส เครอื่ งกัด
เปน็ ต้น เพอื่ ใช้จับช้ินงาน เพ่อื ทำการเจาะ ไส กดั เป็นตน้
รูปท่ี1.36 ปากกาท่ใี ชก้ บั เคร่อื งมอื กลแบบธรรมดาฐานหมุนไมไ่ ด้
1.5.3 ขอ้ ควรระวังและการบำรงุ รักษาในการใชป้ ากกาจบั ชน้ิ งาน
1. ในการยก หรอื เคลื่อนย้ายปากกาจบั ชนิ้ งานทีม่ ขี นาดใหญ่ ควรชว่ ยกันยก หรอื มีเครื่องมือช่วยยกขึน้
วางงานบนเครื่องมือกล
2. ในการขนั เกลยี วจับช้นิ งานและคลายเกลียวออกหา้ มใช้ค้อนตอกแขนหมนุ
3. ทำความสะอาดต่างๆ หลังจากเลกิ ใช้งาน
4. หยอกน้ำมันในส่วนท่ีเป็นเกลียว
5. หมุนปากกาเขา้ ตำแหน่งเดิม กรณไี มไ่ ด้ใชเ้ ปน็ เวลานานควรมพี ลาสตกิ คลุม
พส.13
ใบงาน (Job Sheets)
รหสั วิชา………..………….วิชา…………………………………………..…………………………………………
ช่อื หน่วย..............................................................................................................................
เรอื่ ง...............................................................................................................จำนวนชวั่ โมงสอน.......................
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ รายการเรียนรู้
- จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เคร่ืองมอื /วัสดุ-อุปกรณ์
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
- ลำดับขั้นการทำงาน ขอ้ ควรระวัง
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
.......................................................................................
....................................................................................... มอบงาน
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
.......................................................................................
....................................................................................... วดั ผล/ประเมนิ ผล
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
....................................................................................... .......................................................................................
.......................................................................................
.......................................................................................
พส.14
ใบปฏบิ ตั ิงาน (Operation Sheets)
รหสั วชิ า………..………….วชิ า…………………………………………..…………………………………………
ชื่อหน่วย..............................................................................................................................
เรื่อง...............................................................................................................จำนวนชั่วโมงสอน.......................
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................... ........................................................................................................ .
เคร่อื งมือ-อปุ กรณ-์ วสั ดุ
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ลำดับขั้นการปฏบิ ตั ิงาน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................... ............................................................................................................ .
ขอ้ ควรระวัง
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ขอ้ เสนอแนะ
.............................................................................................................................................. ......................................
............................................................................................ ....................................................................................... .
การประเมินผล
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
เอกสารอ้างองิ
............................................................................................................................................................... .....................
............................................................................................................. ...................................................................... .
หมายเหตุ ควรมีภาพประกอบแสดงการปฏิบัตงิ านในแตล่ ะข้ัน
พส.15
ใบมอบหมายงาน (Assignment Sheets)
รหสั วชิ า………..………….วชิ า…………………………………………..…………………………………………
ชอ่ื หน่วย..............................................................................................................................
เรือ่ ง...............................................................................................................จำนวนชวั่ โมงสอน.......................
จดุ ประสงค์การมอบงาน
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................... ........................................................................................................ .
............................................................................................................................. ......................................................
............................................................................................................................. ......................................................
แนวทางการปฏบิ ตั งิ าน
....................................................................................................................................................... .............................
..................................................................................................... .............................................................................. .
............................................................................................................................. ......................................................
แหล่งค้นควา้
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................... .
............................................................................................................................. ......................................................
............................................................................................................................. ......................................................
คำถาม/ปัญหา
.............................................................................................................................................. ......................................
............................................................................................ ....................................................................................... .
............................................................................................................................. ......................................................
............................................................................................................................. ......................................................
กำหนดเวลาทำงาน
............................................................. ...................................................................................................................... .
............................................................................................................................. ......................................................
หมายเหตุ ควรมภี าพประกอบแสดงการปฏบิ ตั งิ านในแตล่ ะข้ัน
พส.16
ใบกจิ กรรมท.่ี ...............
รหัสวิชา………….….วิชา…………………………………………..…….……ท-ป-น……………สอนครัง้ ท่ี........
หน่วยท.ี่ .................ชือ่ หนว่ ย.........................................................................เวลา.................ชม.
ช่ือกิจกรรม.................................................................................................... เวลา.................ชม.
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................... ........................................................................................................ .
............................................................................................................................. ......................................................
............................................................................................................................. ......................................................
........................................................................................................................................................................... .........
วสั ด/ุ อุปกรณ์
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................... ........................................................................................................ .
............................................................................................................................. ......................................................
............................................................................................................................. ......................................................
........................................................................................................................................................................... .........
คำสง่ั
1. ..................................................................................................................................................................
2. ..................................................................................................................................................................
3. ............................................................................................................................................................ ......
การประเมนิ ผล
.............................................................................................................. ......................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................. ..................................................
...................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ พส.9
รหสั วชิ า 20102-2003 วชิ า ทฤษฎีเครอ่ื งมือกล หนว่ ยท.ี่ ....2........
เวลารวม..36....ชม.
ชื่อหนว่ ย บทท่ี 2 เครื่องเลอื่ ยกล สัปดาห์...3-5.../18
เร่ือง เคร่ืองเล่ือยกล จำนวน.....2.......ชม.
1. สาระสำคัญ
เครื่องเลื่อยเป็นเครือ่ งจักรกลพื้นฐานท่ีใช้กันมากในโรงงานอุตสาหกรรม เครื่องเลื่อยชักสามารถตดั วสั ดไุ ด้
อย่างรวดเรว็ สะดวกและประหยัดเวลา เปน็ เคร่ืองจกั รกลทใี่ ช้กำลงั กลในการขบั เคลอื่ น ตดั เฉือนชิ้นงานด้วยใบเลื่อย
2. สมรรถนะประจำหน่วย
แสดงความรู้เกย่ี วกบั เครอื่ งเล่อื ย
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
เพื่อให้นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับชนิดของเครื่องเลื่อยชัก ส่วนประกอบของเครื่องเลื่อยชัก การคำนวณ
งานเลื่อย เขา้ ใจขนั้ ตอนการใช้การบำรงุ รกั ษาเครือ่ งเลื่อยชักและปฏิบตั ิงานเลื่อยช้ินงานอย่างปลอดภยั
จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม
1. ด้านความรู้
1.1 นักเรยี นบอกส่วนประกอบของเครอื่ งเลอื่ ยชกั ได้
1.2 นกั เรยี นอธบิ ายข้ันตอนการใชแ้ ละความปลอดภยั ในการใชเ้ ครอื่ งเล่ือยชักได้
1.3 นักเรยี นบอกวธิ ีการบำรุงรกั ษาเครื่องเล่ือยชักได้
1.4 นักเรยี นสามารถคำนวณงานเลอ่ื ยได้
2. ด้านทกั ษะ
นกั เรยี นมีทักษะใช้เคร่ืองเลือ่ ยชักด้วยความปลอดภัย บำรงุ รกั ษาเคร่ืองเล่ือยชกั ได้อย่างถูกต้อง
และสามารถคำนวณงานเลื่อยได้
3. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
3.1 เขา้ เรยี นตรงตามเวลา
3.2 แต่งกายตามระเบียบสถานศึกษา
3.3 ความมนั่ ใจในการทำงาน
3.4 ความกระตือรือร้นในการทำงาน
3.5 มนี ้ำใจชว่ ยเหลอื ผู้อ่ืน
4. สาระการเรียนรู้
เครื่องเลื่อย เป็นเครื่องจักที่ใช้งานในโรงงานทั่วไป โดยพัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วและเที่ยงตรงมาก
การส่งกำลงั ของเคร่อื งเล่ือยใช้มอเตอรไ์ ฟฟา้ ส่งกำลงั ในการขับใบเล่ือย
5. การออกแบบการจดั การเรยี นรู้
5.1 การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning group) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ ผู้เรียน
ไดท้ างานรว่ มกับผูอ้ ืน่ โดยจดั เป็นกลุ่มๆ ละ 3-6 คน
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
6.1 ข้ันนำ
- ครนู ำเข้าสูบ่ ทเรียนโดยใชค้ ำถามนำใหน้ ักเรียนร่วมกนั อภิปรายถงึ เคร่ืองเลื่อยชัก ตัวอยา่ งคำถาม
เชน่ การตัดเหลก็ เพลาขาวขนาดเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง 2 นิ้ว ควรเลอื กใช้เครอ่ื งเลื่อยชนิดใดในการตัด เครอื่ งเลอื่ ย
ชกั ท่นี กั เรยี นพบเหน็ ในโรงงานใช้อะไรเป็นตน้ กำลัง
6.2 ขั้นสอน
ครอู ธิบายเนือ้ หาโดยใช้สอื่ Power Point ส่อื ของจริง สือ่ แผ่นภาพสอนประกอบการบรรยายเพ่อื ให้
นักเรียนเข้าใจเน้ือหาสาระของการเรยี นรู้ เร่ือง เคร่อื งเล่ือยชกั
- เครือ่ งเลือ่ ยชัก
- ขัน้ ตอนการใชแ้ ละความปลอดภยั ในการใชเ้ ครอื่ งเล่ือยชกั
- การบำรุงรกั ษาเครื่องเลอื่ ยชัก
- การคำนวณงานเลื่อย
6.3 ข้นั สรุป
ครูอธบิ ายสรุปเนอื้ หา เรื่อง เคร่อื งเลือ่ ยชัก
7. บรรยากาศทสี่ ่งเสรมิ และพัฒนาผู้เรยี น
ผู้เรยี นมคี วามสนใจในการเรียน เน่ืองจากการสอนแบบเพ่ือนชว่ ยเพอื่ น ทำให้ผู้เรยี นไดแ้ สดงความคิดเหน็
และได้แลกเปลย่ี นความรู้ ส่งผลใหเ้ กดิ ผลการเรียนรู้ท่ีดี
8. คณุ ธรรม จริยธรรมประจำหนว่ ย
มนี ้ำใจ คือ ผู้เรยี นและเพื่อน ร้จู กั แบง่ ปัน เห็นอกเห็นใจ และเห็นคุณคา่ ในเพอื่ นมนุษย์ หรือรว่ มสรา้ งสรรค์
สิง่ ทีด่ ีงามใหเ้ กิดขึ้นในชั้นเรียน
9. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. ส่อื สงิ่ พมิ พ์
1.1 เอกสารประกอบการสอน เรอื่ ง เครื่องเลอื่ ย
1.2 ใบมอบงาน
1.3 แบบประเมนิ ผล
2. สอ่ื โสตทศั น์
2.1 ส่อื Power Point ประกอบการสอน
2.2 สื่อของจรงิ ได้แก่ ใบเลื่อย ตลบั เมตร เหล็กกล่อง เหลก็ ฉาก เหลก็ กลม เปน็ ตน้
10. การวดั ผลและประเมินผล
1. คะแนนจากการอภปิ ราย เร่ือง เคร่ืองเลือ่ ยชกั
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยท่ี 2 เรือ่ ง เครอ่ื งเลื่อย
3. คะแนนจากแบบสังเกตพฤติกรรมระหว่างการเรยี น
4. คะแนนจากแบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
( หมายเหตุ แนบเอกสารประกอบ )
11. หลกั ฐานการเรยี นรู้
1. เอกสารประกอบการสอนฯ บทที่ 2 เครอ่ื งเลื่อย
2. แบบฝกึ หัดที่
3. เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี
4.แบบทดสอบ
5. เฉลยแบบทดสอบ
12. เอกสารอ้างอิง
หนงั สือเรยี น ทฤษฎเี ครือ่ งมอื กล สำนกั พิมพบ์ รษิ ัท ศนู ย์หนังสอื เมืองไทยจำกดั
พส.10
เครอ่ื งมือทใ่ี ชใ้ นการประเมิน
รหสั วิชา 20102-2003 วชิ า ทฤษฎีเครอ่ื งมือกล ท-ป-น. 2 - 0 - 2
แบบประเมนิ แบบประมาณค่า (Ratting scale) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
5 4 3 21
ประเดน็ การประเมิน
1. บอกชนิดของเครือ่ งเลือ่ ยได้
2. อธบิ ายข้ันตอนการใช้และความปลอดภัยในการใช้เครื่องเลื่อยได้
3. บอกการบำรุงรักษาเคร่ืองเลือ่ ยได้
4. สามารถการคำนวณงานเล่ือย
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
รวม
รวมทั้งหมด (5 คะแนน+4 คะแนน+3 คะแนน+2 คะแนน+1 คะแนน)
คะแนนรวม (60%)
พส.11
บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้
รหัสวชิ า...........................ช่ือวิชา.........................................................................................ระดับชน้ั ปวช. ปวส.
สาขางาน..............................................................................................สัปดาห์ท่.ี .........วนั ท่ีสอน..............................................
หน่วยท่.ี ...........ช่ือหนว่ ย......................................................................................................................จำนวน................ชวั่ โมง
จำนวนผ้เู รยี น..........................คน มาเรยี น........................คน ขาดเรยี น.........คน ลาป่วย....-.....คน ลากิจ.....-.....คน
1. ผลการจดั การเรียนรู้
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………….…………
……………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. ปญั หาและอปุ สรรค
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
……………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………….…………
3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
……………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
……………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
ลงชอ่ื .......................................................ครผู ู้สอน
(............................................................)
........../................/............
ความเห็น................................................................................. ความเห็น.................................................................................
................................................................................................ ................................................................................................
ลงชอ่ื ...............................................หัวหน้าแผนกวิชา ลงชือ่ ............................................รองผู้อำนวยการฝ่ายวชิ าการ
(............................................................) (นางสาวนศิ ากร เจรญิ ด)ี
............/................../............
............/................../............
ความเหน็ ผูอ้ ำนวยการ.................................................................................
....................................................................................................................
ลงชือ่ ...........................................
(นางสาวสุมนี า แดงใจ)
ผ้อู ำนวยการวทิ ยาลยั การอาชีพนครปฐม
............/................../............
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวิชา 20102-2003 วชิ า ทฤษฎีเครื่องมอื กล
ช่ือหน่วย บทท่ี 2 เครื่องเลื่อยกล
เรอ่ื ง เคร่ืองเล่ือยกล จำนวนชวั่ โมงสอน 6 ช่วั โมง
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ รายการเรียนรู้
- จดุ ประสงคท์ ่ัวไป 1. ชนิดของเครื่องเลอ่ื ย
เพื่อใหน้ กั เรยี นมีความรเู้ กี่ยวกับชนิดของเคร่ือง 2. ขั้นตอนการใชแ้ ละความปลอดภัยในการใช้เครื่อง
เลอ่ื ยชกั สว่ นประกอบของเครอ่ื งเลอื่ ยชัก เลือ่ ย
การคำนวณงานเล่ือย เขา้ ใจขน้ั ตอนการใช้การ 3. การบำรุงรกั ษาเครอื่ งเลื่อย
บำรงุ รกั ษาเคร่ืองเลอ่ื ยชกั และปฏิบตั ิงานเล่ือยชิ้นงาน 4. การคำนวณงานเล่อื ย
อยา่ งปลอดภัย
- จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
นกั เรียนบอกสว่ นประกอบของเครือ่ งเลื่อยชักได้
นักเรียนอธิบายขั้นตอนการใช้และความปลอดภยั
ในการใชเ้ คร่ืองเล่ือยชักได้
นกั เรียนบอกวิธกี ารบำรุงรักษาเครอ่ื งเล่ือยชกั ได้
นกั เรียนสามารถคำนวณงานเลอ่ื ยได้
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี ครื่องมือกล
ชื่อหน่วย บทท่ี 2 เคร่อื งเลอ่ื ยกล
เร่ือง เครือ่ งเล่ือยกล จำนวนชั่วโมงสอน 6 ช่ัวโมง
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี ครื่องมือกล
ชื่อหน่วย บทท่ี 2 เคร่อื งเลอ่ื ยกล
เร่ือง เครือ่ งเล่ือยกล จำนวนชั่วโมงสอน 6 ช่ัวโมง
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี ครื่องมือกล
ชื่อหน่วย บทท่ี 2 เคร่อื งเลอ่ื ยกล
เร่ือง เครือ่ งเล่ือยกล จำนวนชั่วโมงสอน 6 ช่ัวโมง
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหสั วิชา 20102-2003 วชิ า ทฤษฎีเครือ่ งมือกล
ช่ือหน่วย บทท่ี 2 เคร่อื งเลอื่ ยกล
เร่ือง เครื่องเล่ือยกล จำนวนช่วั โมงสอน 6 ชั่วโมง
เครื่องเลื่อยกลเป็นเครื่องจักรพื้นฐานอีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์มาก มีใช้กันอย่างแพร่หลายในโรงงาน
อุตสาหกรรมทั่วๆไป การจะนำวัสดุต่างๆ มาทำการขึ้นรูปจะต้องนำมาตัดให้ได้ขนาดก่อน ในกรณีที่มีขนาดใหญ่
จะตอ้ งตัดดว้ ยเครื่องเลื่อยกล เพอ่ื เป็นการประหยัดเวลาและวัสดุ การตัดดว้ ยเล่ือยกลจะได้ขนาดที่ตรงกว่าการตัด
ดว้ ยเลอื่ ยมือ เพราะการตดั ด้วยเลอ่ื ยมือทำให้เสียวสั ดมุ ากกวา่ เสียเวลาในการข้นึ รูปมากข้ึน
2.1 เครื่องเลอื่ ยวงเดอื น (Circular Saw Radius Saw)
เปน็ เคร่อื งเลื่อยท่ีมใี บเลอ่ื ยเป็นวงกลม มฟี ันรอบๆ สามารถตดั ชิ้นงานได้อยา่ งต่อเนื่อง มักเป็นงานบางๆ
หรอื เป็นโลหะอ่อน เช่น อลูมิเนียม เปน็ ตน้
รปู ท่ี 2.1 แสดงเครอื่ งเล่อื ยวงเดือน
2.1.1 หลกั การทำงานของเครือ่ งเล่ือยวงเดือน
ลักษณะการทำงานใบเลื่อยเป็นวงกลมที่เป็นโลหะมีฟันอยู่โดยรอบเส้นรอบวง หมุนตัดชิ้นงานอย่าง
ต่อเนื่อง ชิ้นงานที่นำมาตัดจะจับยึดด้วยอุปกรณ์จับยึดสามารถตัดตรงและตัดเอียงเป็นมุมได้ โดยการเอียงมุมที่
อุปกรณ์จบั ยึด เคร่ืองเลื่อยวงเดือนมแี บบฐานเคร่อื งเพ่ือความสะดวกในการเคล่ือนทีน่ ำไปตัดบนชิ้นงาน
2.1.2 ส่วนประกอบของเครอ่ื งเลือ่ ยวงเดอื น
รปู ท่ี 2.2 ส่วนประกอบต่างๆ ของเครื่องเลอ่ื ยวงเดือน
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวิชา 20102-2003 วชิ า ทฤษฎเี คร่ืองมอื กล
ช่อื หน่วย บทท่ี 2 เคร่อื งเลอื่ ยกล
เร่อื ง เคร่อื งเล่ือยกล จำนวนชวั่ โมงสอน 6 ช่ัวโมง
1. ฐานเคร่อื ง (Base) เป็นสว่ นทร่ี องรับนำ้ หนกั ของเครือ่ ง
2. อุปกรณ์จับยึดชิ้นงาน (Vise) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้จับยึดชิ้นงานเพื่อตัด มีแบบสามารถเอียงมุมได้เพื่อตัด
เปน็ องศา
3. มอเตอร์ (Motor) เป็นระบบส่งกำลังเพื่อให้ใบเลื่อยหมนุ ตดั ชิ้นงาน
4. แขนจับตดั ชน้ิ งาน (Handle) เป็นอปุ กรณใ์ ช้ในการจบกดใบเล่ือยตดั ช้นิ งาน
5. ฝาครอบใบเลอ่ื ย (Circular Saw Cover) เป็นอปุ กรณ์ครอบใบเลอื่ ยวงเดือน เพอื่ ปอ้ งกนั อบุ ตั ิเหตุ
6. ใบเล่อื ยวงเดอื น (Circular Saw) เป็นอุปกรณ์ทใ่ี ช้ตดั ชิ้นงาน โดยทว่ั ๆไปทำด้วยเหล็กรอบสงู
2.1.3 เครอ่ื งมอื และอปุ กรณท์ ่ใี ชก้ บั เคร่ืองเล่อื ยวงเดือน
1. เคร่ืองมอื วดั ช้ินงาน เช่น ตลบั เมตร หรือบรรทัดเหล็ก เป็นต้น เพ่อื ใชว้ ัดความยาวชนิ้ งานท่จี ะตดั
2. อุปกรณ์ลบคมชิ้นงาน เช่น หนิ เจียระไน ตะไบ เปน็ ตน้
3. แปรงปดั เศษโลหะ เพื่อใช้ทำความสะอาดเครื่อง
2.1.4 ขนั้ ตอนการใชเ้ ครอื่ งเลือ่ ยวงเดอื น
1. ตรวจสอบความพร้อมเคร่ืองเล่อื ยวงเดอื นกอ่ นใช้งาน เช่น ตรวจสอบระบบไฟฟา้ ตรวจสอบฝา
ครอบใบเล่อื ย ตรวจสอบใบเล่ือย เป็นตน้
2. นำช้นิ งานท่จี ะตดั ข้นึ จบั ยึดด้วยอุปกรณ์จับยึด ปรบั ระยะความยาวของชิ้นงานทจ่ี ะตัดให้ได้ความยาวที่
ถูกต้องด้วยการใช้เครื่องมือวัดต่างๆ เช่น บรรทัดเหล็ก ตลับเมตร เป็นต้น เมื่อได้ความยาวตามที่ต้องการแล้วท ำ
การจับยึดชน้ิ งานใหแ้ นน่
3. กรณีต้องการตัดชิ้นงานที่มีความยาวเท่าๆ กันจำนวนหลายๆ ชิ้น ควรใช้แขนตั้งระยะให้เท่ากับความ
ยาวของชิ้นงาน เมื่อตัดชิ้นงานแรกเสร็จถ้าต้องการตัดชิ้นถัดไปให้เลื่อนชิ้นงานมาชนตำแหน่งแขนตั้งระยะก็จะได้
ความยาวของงานทเ่ี ทา่ ๆ กัน
4. เปดิ สวติ ซ์ให้ใบเล่ือยหมนุ จบั แขนปอ้ นตัดชิ้นงานอย่างระมัดระวงั จนชน้ิ งานขาด
5. เมอื่ ชนิ้ งานถูกเลื่อยจนขาด ยกโครงเล่อื ยข้ึนเพื่อทำการตัดชิน้ งานต่อไปจนงานท่ตี ัดขาดแล้วควรลบคม
ด้วยตะไบ หรือหนิ เจียระไนให้เรยี บรอยก่อนนำไปใชง้ าน
2.1.5 การบำรงุ รักษาเครอ่ื งเล่ือยวงเดอื น
1. ตรวจสอบสภาพความพร้อมของเครื่องเลื่อยทั้งก่อนใช้และหลังใช้ทุกครั้ง เช่น ตรวจสอบปลั๊กไฟ
สายไฟฟ้า ฝาครอบใบเลื่อย ใบเลื่อย เป็นต้น ถ้าอุปกรณ์ต่างๆ เกิดการำรุดเสียหายจะต้องทำการซ่อมแซมทันที
เพ่ือให้พร้อมใชง้ านไดต้ ลอดเวลา
2. หลงั จากเลกิ ใช้งานแล้วใหท้ ำความสะอาดทกุ ครัง้ แล้วนำเก็บเขา้ ทีท่ เี่ หมาะสม
2.1.6 ความปลอดภยั ในการใชเ้ คร่ืองเลือ่ ยวงเดือน
1. ตรวจสอบเคร่ืองเล่ือยวงเดอื น ท้ังก่อนใช้และขณะใชต้ ลอดเวลา
2. ในขณะตดั ชิน้ งานใบเล่อื ยต้องใสฝ่ าครอบอยตู่ ลอดเวลา
3. ตรวจสอบรอยร้าว และฟังเสยี งของใบเลื่อยตลอดเวลา กรณีมีเสยี งดงั ผิดปกตติ ้องหยุดตรวจสอบ
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวิชา 20102-2003 วชิ า ทฤษฎเี คร่ืองมือกล
ช่อื หน่วย บทท่ี 2 เครอื่ งเลอ่ื ยกล
เรอื่ ง เครื่องเล่ือยกล จำนวนชว่ั โมงสอน 6 ชว่ั โมง
2.2 เคร่อื งเล่อื ยกลแบบชัก (Power Hack Saw)
เครื่องเลื่อยกลแบบชัก เป็นที่นยิ มใชก้ นั อยา่ งแพรห่ ลายในการเลือ่ ยตัดวัสดุงานใหไ้ ด้ขนาดและความยาว
ตามความต้องการ ระบบการขับเคล่ือนใบเลอื่ ย ใช้สง่ กำลงั ดว้ ยมอเตอร์ แล้วใชเ้ ฟอื งเป็นตวั กลับทศิ ทางและใช้
หลักการของข้อเหว่ียงเป็นตวั ขบั เคลือ่ นใหใ้ บเลื่อยเคลอ่ื นท่ีกลับไปกลบั มาในแนวเส้นตรงอย่างต่อเนอื่ งทำให้ใบ
เลอื่ ยสามารถตัดงานได้
2.2.1 หลักการทำงานของเครื่องเลอ่ื ยแบบชกั
ลกั ษณะการทำงานจะทำงานแบบเดินชักหน้าและถอยหลังกลบั ลักษณะงานจะได้งานจังหวะเดียวอาจจะ
เป็นอาจจะเป็นจังหวะเดินหน้าหรือถอยหลังกลับขึน้ อยู่กับการออกแบบของเครื่องเลื่อยนั้นๆ จะสังเกตได้จากการ
ชักของเครื่องเลื่อย ถ้าจังหวะใดเป็นจังหวะยกแสดงว่าไม่ใช่จังหวะงานเพราะใบเลื่อยไม่ได้ตัดงานจังหวะงานเป็น
จังหวะที่ไม่ได้ยก ในการใส่ใบเลื่อยจะต้องใส่ฟันใบเลื่อยเฉไปตามจังหวะงาน เช่น เครื่องเลื่อยมีจังหวะงานใน
จังหวะเดินหน้าก็ใส่ใบเลื่อยเฉไปข้างหน้า โดยทั่วๆไปจังหวะงานจะเป็นจังหวะเดินหน้า จังหวะยกจะเป็นจังหวะ
โครงเลือ่ ยถอยหลังกลบั
รปู ท่ี 2.3 เครือ่ งเลอ่ื ยกลแบบชกั
2.2.2 ส่วนประกอบทสี่ ำคัญของเครอื่ งเล่ือยกลแบบชัก
รูปที่ 2.4 สว่ นประกอบท่สี ำคัญของเคร่ืองเลื่อยกลแบบชกั
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวชิ า 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี ครือ่ งมอื กล
ชือ่ หน่วย บทท่ี 2 เคร่ืองเล่อื ยกล
เรอ่ื ง เครื่องเล่ือยกล จำนวนช่วั โมงสอน 6 ชั่วโมง
1. ฐานเคร่ือง (Base) เป็นส่วนท่ีรองรบั น้ำหนักของเคร่ืองส่วนใหญ่ทำดว้ ยเหล็กหลอ่ มีความแข็งแรง
2. โครงเลื่อย (Flame) สว่ นใหญท่ ำด้วยเหลก็ หลอ่ เป็นท่สี ำหรับจบั ยดึ ใบเลอ่ื ย ทำงานโดยการชกั เดินหนา้
และถอยหลังเพื่อนำใบเลื่อยเลอ่ื ยตดชิน้ งาน จังหวะงานมีจังหวะเดียวในจงั หวะยกจะไมใ่ ช่จงั หวะงานในการ
เดินหนา้ และถอยหลังกลบั หนึ่งครงั้ เราเรียกว่า “คู่จังหวะชกั ”
3. ปากกาจบั ยดึ งาน (Vise) ส่วนใหญ่ทำด้วยเหล็กหล่อใชส้ ำหรับจับชนิ้ งานทจี่ ะนำมาเล่อื ย โดยทว่ั ๆไปจะ
ทำมุมไดป้ ระมาณ 45 องศา ใชเ้ อยี งชิ้นงานเพ่ือตดั งานเป็นมมุ
4. แขนต้ังระยะตดั ชิ้นงาน (Cut off Gage) ทำหนา้ ทีเ่ ป็นตัวตั้งตำแหนง่ ความยาวงานเพื่อใช้ตั้งระยะความ
ยาวตัดชิ้นงาน
5. สวิตซ์เปิด – ปิด, ป่มุ ฉกุ เฉนิ (On-Off Switch, Emergency Button) เปน็ ปมุ่ เปดิ ปดิ เครือ่ งเล่ือยและ
ปุ่มฉุกเฉินใชป้ ิดเครื่องกรณีเกิดอุบัตเิ หตุ
2.2.3 กลไกการทำงานของเครอื่ งเล่ือยชัก
กลไกการทำงานของเครื่องเล่ือยชัก สง่ กำลงั ด้วยมอเตอร์ผา่ นเฟอื งขบั ซงึ่ เปน็ เฟืองทดเพ่ือทดความเรว็
รอบของมอเตอร์ ทีข่ ้างเฟืองขับจะมีก้านหมุนอยู่คนละศูนยใ์ หช้ กั โครงเล่ือยเดินหนา้ และถอยหลงั
รปู ที่ 2.5 แสดงกลไกการทำงานของเครื่องเลือ่ ยชกั
2.2.4 เคร่อื งมือและอุปกรณ์ท่ีใชก้ ับเคร่ืองเลือ่ ยแบบชัก
1. ฐานรองรบั ช้นิ งาน (Floor Stand) เป็นอุปกรณ์ทีใ่ ชส้ ำหรบั รองรบั ชิน้ งานท่ยี าวๆ เพ่ือป้องกนั ชิ้นงานงดั
ใบเล่อื ย อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบเลอ่ื ยหัก
2. ใบเลื่อยกลแบบชกั (Saw Blade) ใบเลอ่ื ยเคร่อื งเลือ่ ยแบบน้ี จะทำด้วยเหล็กรอบสูง (High Speed
Steel)
- ความยาวไปเลอื่ ยจะวัดจากระยะระหว่างศูนย์กลางของรใู บเล่อื ย จะมีขนาด 350 มม.
รปู ท่ี 2.6 แสดงความยาวใบเล่ือย
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวชิ า 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี ครอ่ื งมือกล
ชื่อหน่วย บทท่ี 2 เคร่ืองเล่ือยกล
เรอื่ ง เคร่อื งเล่ือยกล จำนวนช่วั โมงสอน 6 ช่ัวโมง
- การบอกระยะห่างของฟันใบเล่อื ยจะมีการบอกลกั ษณะเดียวกับเกลียว ดังนี้
1) ใบเลื่อยที่บอกเป็นระยะพิตช์ คือ การบอกระยะระหว่างฟัน ถ้ามีระยะพิตช์ห่างกันมาก คือใบเลื่อย
ชนิดหยาบ ถา้ มีระยะพิตชห์ ่างน้อย คือ ใบเลอื่ ยชนดิ ละเอยี ด
รูปท่ี 2.7 การบอกระยะพิตชข์ องใบเล่อื ย
2) ใบเลื่อยท่ีบอกเปน็ จำนวนฟนั ตอ่ น้ิว คือการบอกจำนวนฟันตอ่ ความยาว 1 นิ้ว ถา้ ใน 1 น้วิ มีจำนวนฟัน
มากจะเปน็ ชนิดละเอยี ดถ้ามีจำนวนฟนั นอ้ ยจะเป็นชนดิ หยาบ
2. เครอ่ื งมอื วดั ช้ินงาน เช่น ตลบั เมตร หรือบรรทดั เหลก็ ฯลฯ เพอ่ื ใช้วดั ความยาวช้นิ งาน
3. อุปกรณ์ลบคมชิน้ งาน เช่น ตะไบ ฯลฯ
4. แปรงปดั เศษโลหะ เพื่อใช้ทำความสะอาดเครื่องเลือ่ ย
5. กาหยอดน้ำมัน เพ่ือใชห้ ยอดบำรุงรกั ษาเครือ่ งเล่ือย
2.2.5 ข้ันตอนการใชเ้ ครื่องเล่ือยกลแบบชกั
1. ตรวจสอบความพร้อมเครอ่ื งเลื่อยกลแบบชกั ก่อนใชง้ าน เช่น ตรวจสอบระบบไฟฟา้ ตรวจสอบความตงึ
ของใบเล่ือย เปน็ ตน้
2. ยกโครงเลอ่ื ยขนึ้
3. นำชิ้นงานที่จะตัดขึ้นบนเครื่องเลื่อย ปรับระยะความยาวของชิ้นงานที่จะตัดให้ได้ความยาวที่ถูกต้อง
ด้วยการใช้เครื่องมือวัดต่างๆ เช่น บรรทัดเหล็ก ตลับเมตร ฯลฯ เมื่อได้ความยาวตามที่ต้องการแล้วทำการจั บยึด
ช้ินงานให้แน่น
4. กรณตี ้องการตัดชิ้นงานที่มีความยาวเท่าๆกัน จำนวนหลายชน้ิ ควรใช้แขนต้ังระยะให้เท่ากับความยาว
ของช้นิ งาน
5. เปิดสวิตซ์ให้เครื่องเลื่อยทำงาน นำโครงเลื่อยตดชิ้นงานโดยค่อยๆ ลงอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันใบเลื่อย
กระแทกช้นิ งานอาจจะทำให้ใบเล่ือยหักได้
2.2.6 การบำรุงรักษาเคร่อื งเลือ่ ยกลแบบชกั
1. ตรวจสอบสภาพความพร้อมของเครื่องเลื่อยทั้งก่อนใช้และหลังใช้ทุกครั้ง ถ้าอุปกรณ์ต่างๆ เกิดการ
ชำรดุ เสยี หายจะตอ้ งทำการซอ่ มแซมทันทีเพอื่ ให้พร้อมทจ่ี ะใชง้ านได้ตลอดเวลา
2. หยอดน้ำมันหล่อลื่น ในส่วนทีเ่ คลื่อนที่ทุกครัง้ ก่อนใช้งาน เพื่อช่วยลดการเสียดสีทำใหส้ ว่ นดงั กลา่ วสึก
หรอช้าลง
3. หลังเลกิ ใชง้ านแลว้ ใหท้ ำความสะอาดทุกครัง้ แล้วทำการชโลมนำ้ มัน
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหสั วิชา 20102-2003 วชิ า ทฤษฎเี ครอ่ื งมือกล
ช่ือหน่วย บทที่ 2 เคร่ืองเลื่อยกล
เรอื่ ง เคร่ืองเล่ือยกล จำนวนชัว่ โมงสอน 6 ชั่วโมง
2.2.7 ความปลอดภัยในการใช้เครื่องเล่อื ยกลแบบชกั
1. ก่อนใช้เครื่องทุกครั้งจะต้องตรวจสอบความพร้อมของเครื่องก่อน เช่น ตรวจสอบปลั๊กไฟฟ้าสายไฟฟา้
วา่ ชำรุดหรือไม่
2. จบั ชิ้นงานใหแ้ นน่ กอ่ นทำการเล่ือย
3. ตรวจสอบความตงึ ของใบเลอ่ื ยให้มีความตงึ ทเ่ี หมาะสม
4. การเลอื่ ยชนิ้ งานที่ยาวๆจะตอ้ งมีแท่นรองรบั ชิ้นงานที่แขง็ แรง
5. ในการจับชิ้นงานทีไ่ ด้จากการเลื่อยจะมรี อยเยินคม ควรสวมถุงมือ
2.3 เครอ่ื งเล่ือยสายพานแนวนอน (Horizontal Band Saw)
เปน็ เครื่องเลอ่ื ยที่มีใบเลื่อยติดกนั เปน็ วงกลม การเคลอ่ื นที่ของใบเล่ือยมีลักษณะการส่งกำลังด้วยสายพาน
คอื มีล้อขับและล้อตาม ทำให้คมตัดของใบเลื่อยสามารถเลื่อยตดั งานได้ตลอดทง้ั ใบ การปอ้ นตัดงานใช้ระบบไฮดรอ
ลกิ ส์ ควบคุมความตึงด้วยมอื หรอื ใช้ไฮดรอลิกส์ ปรบั ระยะหา่ งของล้อ ใชต้ ดั ช้ินงานให้ไดค้ วามยาวตามตอ้ งการ
รูปที่ 2.8 แสดงเคร่ืองเลอ่ื ยสายพานแนวนอน
2.3.1 หลกั การทำงานของเคร่อื งเลอื่ ยสายพานแนวนอน
เครื่องเลื่อยสายพานแนวนอนจะมีการทำงานที่แตกต่างจากเครื่องเลื่อยกลแบบชัก โดยมีการทำงานที่
ตอ่ เนอ่ื งเพราะใบเลื่อยจะหมุนวนตัดชิ้นงานเหมือนลักษณะการหมนุ ของสายพาน ดังนน้ั ใบเล่ือยจึงหมุนตัดงานทุก
ฟนั เครือ่ งเล่อื ยสายพานแนวนอนจะมีลักษณะการทำงานในแนวนอน สามารถปรบั ความเรว็ ของสายพานได้เพื่อให้
เหมาะสมกับชิ้นงาน การป้อนตัดชิ้นงานสามารถป้อนตัดด้วยระบบไฮดรอลิกส์ ก่อนนำใบเลื่อยมาใช้จึงต้องนำมา
ตัดใหไ้ ดค้ วามยาวที่พอดกี บั เครอ่ื งเลื่อยนน้ั ๆ แลว้ ทำการเชื่อมตอ่ ให้เป็นวง
2.3.2 สว่ นประกอบของเครือ่ งเลอ่ื ยสายพานแนวนอน
รปู ท่ี 2.9 สว่ นประกอบตา่ งๆ ของเครื่องเลอ่ื ยสายพานแนวนอน
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหสั วิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี คร่อื งมอื กล
ชื่อหน่วย บทท่ี 2 เครื่องเลอ่ื ยกล
เร่อื ง เคร่ืองเลื่อยกล จำนวนชัว่ โมงสอน 6 ช่ัวโมง
1. ฐานเครอื่ ง (Base) เป็นสว่ นที่รองรบั นำ้ หนักของเคร่ือง
2. แขนต้งั ระยะงาน (Manual Work Stop) เป็นอปุ กรณ์ต้ังระยะความยาวตัดชิ้นงานเท่าๆ กันจำนวน
หลายชน้ิ
3. ฝาครอบล้อขับ (Drive-wheel Guard) เป็นฝาครอบป้องกนั อนั ตรายล้อขับ
4. ฝาครอบลอ้ ตาม (Idler-wheel Guard) เป็นฝาครอบปอ้ งกนั อนั ตรายตาม
5. แขนประคองใบเล่ือย (Saw-guide Arms) เปน็ อุปกรณ์บังคับใบเลื่อยให้ตัดช้นิ งานเป็นแนวตรง
6. ถาดรองเศษโลหะ (Catch Pan) ใชเ้ ปน็ ชิ้นส่วนรองรับเศษโลหะและชิ้นงาน
7. สวิตชเ์ ปิด-ปดิ (On-Off Switch) เปน็ สวติ ช์เปิด-ปดิ การทำงานของเครื่องเลื่อย
8. มอเตอร์ (Motor) เปน็ ต้นกำลงั ของเคร่ืองเลื่อยสายพาน
2.3.3 เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ทีใ่ ชก้ ับเครื่องเลือ่ ยสายพานแนวนอน
1. เครอื่ งมอื วัดชน้ิ งาน เชน่ ตลับเมตร หรอื บรรทดั เหลก็ เป็นต้น เพ่ือใชว้ ดั ความยาวชน้ิ งานท่จี ะตดั
2. อปุ กรณล์ บคมช้นิ งาน เช่น หินเจียระไน ตะไบ เปน็ ต้น
3. แปรงปดั เศษโลหะ เพื่อใช้ทำความสะอาดเครอ่ื ง
2.3.4 ขั้นตอนการใช้เคร่อื งเลอ่ื ยสายพานแนวนอน
1. ตรวจสอบความพรอ้ มเคร่ืองเลอื่ ยสายพานแนวนอนก่อนใชง้ าน เช่น ตรวจสอบระบบไฟฟ้าตรวจสอบ
ฝาครอบใบเล่ือย ตรวจสอบใบเล่อื ย เปน็ ต้น
2. นำชน้ิ งานทีจ่ ะตดั ขึ้นจับยึดด้วยอุปกรณจ์ บั ยึด ปรบั ระยะความยาวของช้นิ งานทจ่ี ะตัดให้ไดค้ วามยาวท่ี
ถูกต้องด้วยการใชเ้ ครอ่ื งมือวัดตา่ งๆ เช่น บรรทัดเหลก็ ตลับเมตร เปน็ ตน้ เมอื่ ได้ความยาวตามทตี่ ้องการแลว้ ทำ
การจบั ยึดช้ินงานให้แน่น
3. กรณตี อ้ งการตดั ช้นิ งานท่ีมีความยาวเทา่ ๆ กนั จำนวนหลายๆ ชนิ้ ควรใชแ้ ขนต้ังระยะใหเ้ ท่ากบั ความ
ยาวของชิน้ งาน เม่ือตัดชิ้นงานแรกเสร็จถ้าต้องการตัดช้ินถัดไปให้เลอื่ นชน้ิ งานมาชนตำแหนง่ แขนตงั้ ระยะก็จะได้
ความยาวของงานทเ่ี ท่าๆ กนั
4. เปิดสวติ ซ์ให้ใบเล่ือยหมนุ จบั แขนปอ้ นตัดชนิ้ งานอย่างระมดั ระวงั จนช้นิ งานขาด
5. เมอ่ื ชน้ิ งานถูกเลื่อยจนขาด ยกโครงเลื่อยขน้ึ เพื่อทำการตัดชิ้นงานต่อไปจนงานทต่ี ดั ขาดแลว้ ควร
ลบคมดว้ ยตะไบ หรือหินเจยี ระไนใหเ้ รียบรอยก่อนนำไปใชง้ าน
ใบความรู้ (Information Sheets)
รหัสวิชา 20102-2003 วิชา ทฤษฎเี ครื่องมือกล
ชือ่ หน่วย บทที่ 2 เครือ่ งเลอ่ื ยกล
เรื่อง เครือ่ งเล่ือยกล จำนวนชัว่ โมงสอน 6 ชั่วโมง
2.3.4 การบำรุงรกั ษาเครือ่ งเล่ือยสายพานแนวนอน
1. ตรวจสอบสภาพความพร้อมของเครอ่ื งเลื่อยสายพานแนวนอนท้งั ก่อนใชแ้ ละหลังใชท้ กุ คร้ัง เชน่
ตรวจสอบปลก๊ั ไฟ สายไฟฟ้า ฝาครอบใบเลอ่ื ย ใบเลอ่ื ย เปน็ ตน้ ถ้าอุปกรณต์ า่ งๆ เกิดการำรดุ เสียหายจะตอ้ ง
ทำการซ่อมแซมทนั ทีเพอ่ื ให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา
2. หลงั จากเลกิ ใช้งานแลว้ ใหท้ ำความสะอาดทุกครงั้ แลว้ นำเกบ็ เข้าทท่ี ่เี หมาะสม
2.3.5 ความปลอดภัยในการใช้เคร่ืองเล่อื ยสายพานแนวนอน
1. ตรวจสอบเครอื่ งเลือ่ ยสายพานแนวนอน ทง้ั กอ่ นใชแ้ ละขณะใชต้ ลอดเวลา
2. ในขณะตัดชนิ้ งานใบเลอื่ ยต้องใส่ฝาครอบอยูต่ ลอดเวลา
3. ขณะชิ้นงานใกล้ขาดต้องระวังชิ้นงานกระดก ตกกระแทกผู้ปฏิบัติงาน กรณีชิ้นงานยาวควรมีอุปกรณ์
รองรับ
2.4 เครอื่ งเลื่อยสายพานแนวตั้ง (Vertical Band Saw)
เป็นเครื่องเลื่อยท่ีมีใบเลื่อยติดกันเป็นวงกลม มีใบเลื่อยเป็นสายพานในแนวตั้ง ซึ่งจะหมุนตัดชิน้ งานอย่าง
ต่อเน่อื ง ใช้ตัดงานเบาไดท้ กุ ลกั ษณะเช่น ตดั เหล็กแบน หรอื เหล็กบาง หรือตดั เปน็ รูปทรงต่างๆ
รปู ท่ี 2.10 เครื่องเลอื่ ยสายพานแนวต้ัง
2.4.1 หลักการทำงานของเคร่อื งเลอ่ื ยสายพานแนวต้งั
เครื่องเล่ือยสายพานแนวต้ังจะมตี วั เครือ่ งเป็นลกั ษณะในแนวตั้ง การทำงานของใบเลอ่ื ยจะหมนุ วนตดั
ชิ้นงานเหมอื นเครอื่ งเลือ่ ยสายพานแนวนอน สามารถตั้งความเร็วของใบเลอ่ื ยเชน่ กัน การป้อนตัดจะปอ้ นตัด
ดว้ ยมอื โดยการป้อนช้ินงานเขา้ หาใบเล่อื ย ใบเลอ่ื ยจะมีขนาดให้เลอื กใชห้ ลายขนาดขึน้ อยกู่ ับลักษณะงาน
เช่น งานตอ้ งการเล่ือยเป็นแนวโคง้ ก็ต้องใชใ้ บเลอ่ื ยที่มขี นาดเล็ก การเลือกใชข้ นาดใบเล่อื ยขน้ึ อยกู่ ับรัศมีงานท่ี
จะเล่ือยว่ามีรศั มคี วามโค้งมากนอ้ ยเพียงใด