ทักษะสมอง Executive Functions: EF กบั การพฒั นาเดก็ ปฐมวัยในประเทศไทย
Executive Functions of the Brain: EF with Developing Early Childhood in Thailand
สุภาวดี หาญเมธี
Suphawadee harymatee
Raklukg Learning group
บทคดั ยอ่
ทักษะสมอง Executive Function (EF) คือความสามารถของสมองในการกากับความคิด กากับ
ความรู้สึก และกากับการกระทาเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายทักษะ EF มีองค์ประกอบ กลุ่มทักษะ 3 ด้านจัดเป็น 9
ได้แก่1 กลุ่มทักษะพื้นฐาน 2 กลุ่มทักษะกากับตนเอง และ 3 กลุ่มทักษะปฏิบัติ จากผลการวิจัยและมีการ
สรุปความเหน็ ที่ตรงกันว่าทักษะทสี่ าคัญทส่ี ดุ และเป็นพนื้ ฐานของทกั ษะสมอง EF คอื ความจาท่ีนามาใช้งาน
(Working Memory( การยับยั้งชั่งใจ คิดไตร่ตรอง )Inhibitory Controlและความสามารถในการยืดหยนุ่ )
ความคิด (Shifting หรือ Cognitive Flexibility ทักษะ )EF ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เป็นสิ่งที่ต้อง
ฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและเป็นขั้นเป็นตอน การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ที่หลากหลาย การเปิดโอกาสให้เด็ก
ได้คิด ได้วางแผน ถูกท้าทาย และการทบทวน การส่งเสริมการพัฒนาทักษะทางสมอง EF อย่างเหมาะสม
ตงั้ แต่ปฐมวัย จะเปน็ หลักประกันว่าเดก็ ไทยมีโอกาสพฒั นาทักษะจาเป็นในศตวรรษที่ 21
คาสาคัญ: ทักษะการคดิ บริหารจัดการตน,ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21การพัฒนาเด็กเดก็ ปฐมวยั
Abstract
Executive Function (EF) is the ability of the brain to control thoughts, feeling and
actions in order to achieve the objectives. EF comprises of 9 elements organized into
3 skills groups: 1) Basic skills, 2) Self-control skills, and 3) Practical skills. According to
a number of studies and the acceptance of the educators, the most important skills
considered as the foundation of EF are Working Memory, Inhibitory Control and Shifting
or Cognitive Flexibility. EF does not develop naturally inchildren’s brains. To develop
children’s EF, having the children practice, step by step and continuously would be an
effective way. The children learn through various real life experiences that provide the
opportunity with thinking, planning, challenging and reviewing. Promoting the development
*Vผoู้ปl.ร1ะNสาoน.2งาJuนlหyล–กั D(Cecoerrmebspeor n20d1in9g Author) Executive Functions of the Brain: EF with Developing
E-mail: [email protected] Early Childhood in Thailand
76 วารสารการจัดการทางการศกึ ษาปฐมวยั
of EF appropriately from early childhood will ensure that Thai children have the opportunity
to develop 21st century skills.
Keywords: Executive Function (EF), 21st century skills, Developing Children, Early Childhood
บทนา
เด็ก ๆ ของเรากาลังเผชิญหน้ากับโลกสมัยใหม่ที่เรียกกันว่า โลก VUCA ที่มาจาก Volatility-
Uncertainty-Complexity และ Ambiguity หมายถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ไม่ได้ ซับซ้อน
พลิกผัน รวดเร็ว รุนแรงและเต็มไปด้วยความคลมุ เครือซึ่งเป็นสภาวะที่เด็ก ๆ ของเราจะต้องเติบโต เรียนรู้
และอยู่ในโลก VUCA เช่นนไี้ ปตลอดชวี ติ
เดก็ ของเราให้มีจะมีคณุ ลักษณะอยา่ งไร จงึ จะอยใู่ นโลกแบบนไี้ ด้โดยอยู่รอด ล้มแล้วลุกได้สามารถ
ประสบความสาเรจ็ ในชวี ติ และอยอู่ ย่างมคี วามสขุ
นักคิดระดับโลกจากองค์กร P21 Organization ได้ชี้ทางมาตั้งแต่ก่อนเริ่มสหัสวรรษใหม่แล้วว่า
คนที่จะอยู่รอดได้ดีในศตวรรษที่ 21 โลกดิจิตัลที่ต่างไปจากยุคอุตสาหกรรมอย่างพลิกฝ่ามือนั้นเด็กต้องมี
ทักษะทเี่ รยี กวา่ 21st Century Skills
ที่มา: https://www.rakluke.com
พวกเขาเชื่อว่า ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้มนุษย์รุ่นใหม่สามารถปรับตัวกับความพลิกผวนของโลก
สมัยใหม่ได้ คิดวิเคราะห์ในสิ่งที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนได้ สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์โลก
คลุมเครือแบบใหม่ได้ เมื่อเผชิญความแตกต่าง ความขัดแย้งก็สามารถที่จะจัดการสถานการณ์ได้อย่าง
เหมาะสม หรือเมอ่ื ล้มเหลวจากความพลิกผัน ก็สามารถท่ีจะลกุ ขึ้นสใู่ หม่ได้ไม่ท้อถอย
ความรู้และการเรียนรู้แบบเกา่ ท่ีเนน้ สาระความรู้กบั การจดจาตามตารา ทาใหถ้ ูกต้องตามสูตรหรือ
มคี าตอบท่ถี ูกต้องเพียงหน่ึงเดยี วน้ัน ไม่เพยี งพอทีจ่ ะใหเ้ ด็ก ๆ อย่ใู นโลกแบบใหม่นไ้ี ด้อกี ต่อไปแล้ว
ทักษะสมอง Executive Functions: EF กับการพัฒนาเด็กปฐมวยั ปีที่ 1 ฉบบั ที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2562
ในประเทศไทย
ในการพฒั นาความสามารถในการแกป้ ญั หาของเดก็ ปฐมวยั
Journal of Early Childhood Education Management 77
คาถามสาคัญที่สุดที่เผชิญหน้านักการศึกษาปัจจุบัน ก็คือ เราจะสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติ
แหง่ ทักษะศตวรรษที่ 21 ทว่ี า่ นี้ไดอ้ ยา่ งไร
ทักษะสมอง EF - Executive Functions
แม้โลกสมยั ใหมจ่ ะนามาซงึ่ ความหวาดหวั่นในภาวะที่คาดการณไ์ ม่ได้ แตเ่ ทคโนโลยีในโลกสมัยใหม่
ก็ชว่ ยใหม้ นุษยม์ ีความเขา้ ใจใหม่ ๆ และเกดิ โอกาสใหม่ ๆ ไมน่ อ้ ยทีจ่ ะชว่ ยให้มนุษยเ์ ราอยรู่ อดได้
รอบระยะเวลาร่วม 3 ทศวรรษทผี่ ่านมา นักวทิ ยาศาสตร์ดา้ น Neuroscience )ประสาทวทิ ยาศาสตร์(
ได้ใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพสมองขั้นสูง )fMRI- Functional Magnetic Resonance Imaging) ค้นพบว่า
มนุษยเ์ ราน้นั มที ักษะการคิดขนั้ สูงของสมอง ทเ่ี รยี กวา่ Executive Functions (EF) หรือมนี ิยามในภาษาไทย
วา่ “ทักษะสมองเพื่อจดั การชวี ิตสคู่ วามสาเรจ็ ” )นวลจนั ทร์ จุฑาภกั ดกี ุล, 2560(
ทักษะนี้เองที่ทาให้มนุษย์เราสามารถใช้ความคิด กากับความรู้สึกและการกระทาต่าง ๆ ของเรา
พาเราไปสู่เปา้ หมายได้ ทักษะน้ีเองท่ีทาให้มนุษย์เราแตกต่างจากส่ิงมชี ีวติ อื่น ๆ ทั้งปวง และทักษะนี้เองคอื
พ้ืนฐานของการพฒั นาคณุ ลักษณะของทกั ษะศตวรรษท่ี 21
จากความรู้เรื่องทักษะสมอง EF ก่อให้เกิดความตื่นตัว และเชื่อมโยงความรู้ที่หลากหลายสาขา
วิทยาการเข้าหากนั อยา่ งใกลช้ ดิ นกั ประสาทวิทยาศาสตร์ นกั จิตวทิ ยา นักการศึกษา ฯลฯ จากท่วั ทุกมุมของ
โลก ได้ทาการศกึ ษาคน้ คว้าเร่อื งราวของ ทกั ษะสมอง EF อย่างกวา้ งขวาง จนเกิดมงี านวิจัยจานวนมากที่ทา
ใหโ้ ลกรู้จักสมองของมนษุ ย์ดขี ึน้ รู้ว่าสมองมนษุ ยเ์ รยี นร้อู ย่างไร และทางานอยา่ งไร รวมทง้ั มองเห็นแนวทาง
ท่ีจะพัฒนาสมองของมนุษยใ์ ห้ไปส่ศู ักยภาพสงู สุด เพอื่ เผชิญกบั โลกทที่ า้ ทายไดเ้ ข้มแขง็ ข้ึนสาหรับประเทศไทย
รองศาสตราจารย์ ดร.นวลจันทร์ จฑุ าภกั ดกี ลุ จากศนู ยว์ ิจัยระบบประสาทวิทยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหิดล
เป็นหนึ่งในนักวิชาการชั้นนา ที่ได้ทาการวิจัย ศึกษาค้นคว้าและนาความรู้เรื่องทักษะสมอง EF เข้ามา
เผยแพร่ในประเทศไทย )นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล, 2560(
สถาบัน RLG )รักลูกเลิร์นนิ่งกรุ๊ป( ได้ร่วมมือกับนักวิชาการจานวนมาก ทั้งจิตแพทย์ นักจิตวิทยา
นกั การศึกษา รวมท้งั ร่วมมือกบั ผ้ปู ฏบิ ตั ิท่ีมปี ระสบการณ์ครา่ หวอดในวงการพฒั นาเดก็ ทาการจดั การความรู้
เพื่อให้ความรู้ EF สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทย และแปลงให้เป็นความรู้ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเด็ก
สามารถเขา้ ถงึ ไดง้ า่ ย และนาไปใช้พัฒนาเด็กวัยตา่ ง ๆ ได้อยา่ งมีคุณภาพ
ทกั ษะ Executive Functions(EF) อยู่ในสมองของเราทกุ คน
เรามาทาความรจู้ กั Executive Functions กนั ก่อน
จากแผนภาพข้างล่างนี้จะเห็นว่า ความคิด ความรู้สึกและการกระทาต่าง ๆ จะเกิดขึ้นที่สมอง
ส่วนต่าง ๆ ของเรา โดยสมองส่วนหน้าที่อยู่ภายใต้กะโหลกหน้าผากของเรา เปรียบเสมือนผู้บริหารสูงสุด
)CEO) ขององค์กร ทคี่ วบคมุ ความคิด การตดั สนิ ใจ อารมณก์ ารแสดงออก และการกระทาของมนษุ ยเ์ ราหรือ
บางคนอาจอธิบายว่า เปรียบเสมือน วาทยกร )conductor) ที่ทาหน้าท่ีควบคุมวง ให้เครื่องดนตรีนานาชนดิ
Vol.1 No.2 July – December 2019 Executive Functions of the Brain: EF with Developing
Early Childhood in Thailand
78 วารสารการจดั การทางการศึกษาปฐมวยั
สามารถประสานสอดรอ้ ย ทางานร่วมกนั จนรังสรรค์เสียงเพลงอนั ไพเราะเรา้ ใจ
แตก่ ็ไม่ใชส่ มองส่วนหน้าควบคุมท้งั หมดเพยี งส่วนเดยี ว หากแตม่ นั จะทางานรว่ มกบั สมองส่วนอน่ื ๆ
ตามทฤษฎี Integrative Theory โดยมีวงจรเส้นใยประสาททีเ่ ชอ่ื มต่อถึงกัน
ทีม่ า: https://www.headway.org.uk
ทักษะสมอง Executive Functions(EF) คืออะไร
ปัจจุบัน ยอมรับกันว่า คานิยามของ EF ยังไม่ตกผลึก เนื่องจากมีการศึกษา EF จากหลากหลาย
มุมมอง ดังนั้นคานิยามอาจจะยังแตกต่างกันในแต่ละสานักวิชาการ แม้แต่ว่าคานิยามในรายละเอียดจะ
แตกต่างกันบ้าง แต่ทุกสานักยืนยันตรงกันในแก่นแกนสาคัญของสาระความรู้ อันได้แก่ ทักษะพื้นฐาน
3 ประการซง่ึ จะกล่าวตอ่ ไป
ในบทความนขี้ อหยิบยกนิยามท่เี หน็ วา่ จะทาใหเ้ ข้าใจไดง้ ่ายมานาเสนอพอสังเขป
“Executive Functions คือ ชุดกระบวนการทางความคิด )Mental Process) ที่ช่วยให้เรา
วางแผน มุ่งใจจดจ่อจดจาคาสั่ง และจัดการกับงานหลาย ๆ อย่างที่ประดังเข้ามา ให้ลุล่วงเรียบร้อยได้
สามารถจัดลาดับความสาคัญของงาน วางเป้าหมายและทาไปเป็นขั้นตอนจน สาเร็จ รวมทั้งควบคุมแรง
อยาก แรงกระตนุ้ ทัง้ หลาย ไมใ่ ห้สนใจไปนอกลู่นอกทาง เปรียบเสมอื น “ระบบควบคุมการบินในสนามบิน”
ทตี่ ้องจดั การกับเที่ยวบินเขา้ -ออกจานวนหลายสบิ เที่ยวในเวลาเดยี วกัน”
“Executive Functions ทาหน้าที่กากับพฤติกรรมที่มุ่งสู่เป้าหมายของบุคคล ชี้ให้เห็นถึงสิ่งท่ี
บุคคลพงึ กระทาใหเ้ หมาะสมกบั บริบท โดยคานึงถึงความรูแ้ ละประสบการณ์ท่ีผ่านมา คานงึ ถึงสถานการณ์ที่
ทกั ษะสมอง Executive Functions: EF กับการพฒั นาเด็กปฐมวยั ปที ่ี 1 ฉบบั ที่ 2 กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562
ในประเทศไทย
ในการพฒั นาความสามารถในการแกป้ ญั หาของเด็กปฐมวยั
Journal of Early Childhood Education Management 79
กาลังเกิดขึ้นตามมา คานึงถึงความคาดหวังในอนาคต รวมทั้งคานึงถึงคุณค่าและจุดมุ่งหมายในชีวิตของแต่
ละบุคคล EF จะช่วยให้บุคคลมีสานึกของการเตรียมพร้อม สานึกของภาระหน้าที่ มีการยืดหยุ่น และมีการ
ร่วมมอื ”
ผศ.ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร นักวิชาการปฐมวัยศึกษาจากสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและ
ครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ให้คานิยามว่า “EF คือ กระบวนการทางานของสมองระดับสูง ที่ประมวล
ประสบการณ์ในอดีต และสถานการณ์ในปัจจุบัน มาประเมิน วิเคราะห์ ตัดสินใจ วางแผน เริ่มลงมือทา
ตรวจสอบตนเอง และแก้ไขปัญหา ตลอดจนควบคุมอารมณ์ บริหารเวลา จัดความสาคญั กากับตนเอง และ
มุ่งมนั่ ทาจนบรรลุเป้าหมายท่ีต้ังใจไว้ )Goal-Directed Behaviors)”
กล่าวได้วา่ EF เป็นทักษะความสามารถทีม่ นษุ ย์เราทุกคน ไม่ว่าเด็ก ผูใ้ หญ่ ไมว่ ่าชนชาตชิ นชนั้ ใด ๆ
และไม่วา่ ในอดตี ปัจจุบัน หรอื แม้แต่ในอนาคต เมื่อเกิดเป็นมนษุ ยแ์ ล้วกจ็ ะต้องใช้สมองเหลา่ นี้ในการดาเนิน
ชีวิตทุก ๆ วัน ให้อยู่รอดปลอดภัย ทากิจการงานต่าง ๆ ให้สาเร็จเรียบร้อยอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ และเข้าใจ
ตนเอง
ธรรมชาติให้ทักษะสมอง EFนแี้ ก่มนุษยท์ กุ คนทาให้ มนุษย์เราเป็นสิง่ มชี วี ติ ที่แตกตา่ งจาก
สงิ่ มีชวี ติ อ่นื ท่มี ิไดม้ ีเพียงสญั ชาตญาณและอารมณ์
หากสามารถกากับความคิด ความร้สู กึ และพฤตกิ รรมของตนเองได้
และมนษุ ยชาติกไ็ ดใ้ ช้ทกั ษะความสามารถของสมองเรานเ้ี อง
ในการสรา้ งและพัฒนาโลกที่แตกตา่ งไปจากสตั วท์ ้งั ปวง มาตลอดทกุ ยคุ ทุกสมยั
สถาบัน RLG ร่วมกับนักวิชาการ ให้คานิยามอย่างกระชับว่า “EF คือความสามารถของสมอง
ในการกากับความคิด กากบั ความรู้สึก และกากับการกระทา เพือ่ มงุ่ สู่เป้าหมาย”
องค์ประกอบของ EF
เพื่อให้ง่ายต่อการทาความเข้าใจสถาบัน RLG ได้จัดการความรู้ร่วมกับนักวิชาการที่ศึกษาค้นคว้า
เรื่อง EF และได้จัดเป็น 3 กลุ่มทักษะ ได้แก่ กลุ่มทักษะพื้นฐาน กลุ่มทักษะกากับตนเอง และกลุ่มทักษะ
ปฏิบตั ิ โดยแยกออกเปน็ ทักษะย่อย 9 ดา้ น )domain) หรือบางนักวิชาการบางสานกั อาจแยกละเอียดถงึ 30
ด้านขณะที่บางสานักแยกเป็นเพียง 7 ด้าน อย่างไรก็ตาม ดังที่กล่าวมาแล้วว่า ไม่ว่าจะแยกแยะใน
รายละเอียดออกไปมากน้อยเพียงไร แต่ทุกสานักมีความเห็นและงานวิจัยที่ตรงกันว่า ทักษะที่สาคัญที่สุด
และเป็นพื้นฐานของทักษะสมอง EF ก็คือ Working Memory, Inhibitory Control, และ Cognitive
Flexibility
สถาบนั RLG จึงออกแบบจดั วางภาพให้เห็นชัดเจน ดงั น้ี
Vol.1 No.2 July – December 2019 Executive Functions of the Brain: EF with Developing
Early Childhood in Thailand
80 วารสารการจดั การทางการศกึ ษาปฐมวยั
ทม่ี า: https://www.rakluke.com
ทกั ษะพืน้ ฐาน 3 ด้านทีอ่ ย่กู ลางของภาพ ประกอบดว้ ยทกั ษะจาเพอื่ ใชง้ าน ทกั ษะ ยืดหย่นุ ความคดิ
ยั้งคิดไตรตรอง เป็นทักษะที่สาคัญอย่างยิ่งและถือว่าเป็น “ฐาน” ของการพัฒนา EF ส่วนทักษะที่อยู่รอบ
นอกเปน็ ทกั ษะกากับตนเอง โดยจะอธบิ ายรายละเอียดของทักษะทั้ง 2 กลุ่มดังต่อไปน้ี
กลมุ่ ทักษะพน้ื ฐาน
1. Working memory ประกอบด้วย“ความจาที่นามาใช้งาน”คือ ความสามารถในการเก็บ
ประมวล และดงึ ข้อมลู ท่ีได้มาจากประสบการณ์เดิมในชีวิต และเกบ็ ไวใ้ นคลงั สมองของเรานาออกมาใช้ตาม
สถานการณ์ทตี่ ้องการ ยิ่งมากประสบการณ์ ความจาท่นี ามาใช้งานก็ยิ่งมาก
2. Inhibitory Control ประกอบด้วยการยับยั้งชั่งใจ คิดไตร่ตรอง คือ ความสามารถในการ
ควบคุมแรงปรารถนา ของตนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จนหยุดยั้งพฤติกรรมได้ในเวลาทีส่ มควร เด็กที่ขาด
ความยับยั้งชั่งใจ จะเหมือน “รถที่ขาดเบรก” อาจทาโดยไม่คิด หรือมีปฏิกิริยาตอบโต้แบบไม่ไตร่ตรอง
นามาซง่ึ ปัญหาแกต่ นเองต่อไป
3. Shiftingหรือ Cognitive Flexibility ประกอบด้วย คือ ความสามารถในการยืดหยุ่น
ความคิด เปลี่ยนจุดสนใจ เปลี่ยนโฟกัสหรือทิศทางให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เด็กที่มีปัญหา
ในเรื่องการปรับตัว มักจะติดตันอยูก่ ับส่ิงเดิม ๆ ไม่สามารถยืดหยุ่นพลิกแพลงได้ มองไม่เหน็ ทางออกใหม่ ๆ
ไมส่ ามารถคดิ สงิ่ ใหม่ ๆ นอกกรอบไดส้ ว่ นคนท่ปี รับตัวงา่ ย กินงา่ ย อยู่ง่าย ก็จะดาเนนิ ชวี ิตไปไดง้ ่ายกว่า
กลมุ่ ทักษะกากบั ตนเอง
4. Focus Attention ประกอบด้วยความสามารถในการใส่ใจจดจ่อ มุ่งความสนใจอยู่กับสิ่งที่
ทาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยไม่วอกแวกไปตามปัจจัยไม่ว่าภายนอกหรือภายในตนเองที่เข้ามา
ทักษะสมอง Executive Functions: EF กบั การพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ปที ่ี 1 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562
ในประเทศไทย
ในการพฒั นาความสามารถในการแก้ปญั หาของเด็กปฐมวยั
Journal of Early Childhood Education Management 81
รบกวนเดก็ ที่มใี จจดจอ่ กบั สิ่งท่ีทากจ็ ะเรียนไดด้ ี ทางานสาเรจ็ ได้ง่าย
5. Emotional Control ประกอบด้วยการควบคุมอารมณ์ คือ ความสามารถในการควบคุม
อารมณ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จัดการกับความเครียด หรืออารมณ์หงุดหงดิ ไม่พอใจ และแสดงออกแบบ
ที่ไม่รบกวนผู้อืน่ เด็กที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้มักโกรธเกร้ียวฉุนเฉียว ขี้หงุดหงิดเกินเหตุ หรือขี้กังวล อารมณ์
แปรปรวน และอาจซึมเศร้าได้ การควบคุมอารมณ์ได้ดีเป็นทักษะชีวิตที่สาคัญอย่างยิ่งทักษะหนึ่งที่มนุษย์
ทุกคนพงึ มี
6. Self-Monitoring ประกอบด้วยคือ การตรวจสอบตนเองรู้จักจุดแข็งจุดอ่อนของตนเอง
ตั้งแต่การรู้อารมณ์ตนเอง รู้จักตนเอง รวมถึงการตรวจสอบการงานเพื่อหาจุดดีจุดบกพร่อง ประเมิน
การบรรลุเปา้ หมาย ติดตามปฏกิ ริ ิยาของตนเองและดผู ลจากพฤติกรรมของตนเองที่ไปกระทบต่อผู้อื่น
กล่มุ ทกั ษะปฏิบัติ
7. Initiating ประกอบด้วยความสามารถในการริเริ่มและลงมือทางานตามที่คิดมีทักษะในการ
ริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ และเมื่อคิดแล้วก็ลงมือทาให้ความคิดของตนปรากฏขึ้นจริงไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
หรือโอ้เอศ้ าลาราย
8. Planning and Organizing ประกอบดว้ ยการวางแผนและการจัดระบบดาเนินการเรม่ิ ต้ังแต่
การตั้งเป้าหมาย การเห็นภาพรวม จัดลาดับความสาคัญ จัดระบบโครงสร้าง จนถึงการดาเนินการคือการ
แตกเป้าหมายใหเ้ ป็น ขน้ั ตอนกระบวนการ และมีการประเมนิ ผล คนที่มีทักษะกลมุ่ น้จี ะเป็นคนทว่ี างแผนเกง่
ทางานเปน็
9. Goal-Directed Persistence ประกอบด้วยความพากเพียรมุ่งสู่เป้าหมาย เมื่อตั้งใจและลง
มือทาส่งิ ใดแล้ว ก็มีความมุ่งมนั่ อตุ สาหะ เพือ่ ให้บรรลุเป้าหมาย ไม่วา่ จะมีอปุ สรรคใด ๆ กพ็ ร้อมฝ่าฟันจนถึง
ความสาเร็จ คนทล่ี ้มแล้วลกุ ได้ก็จะมีฐานคิดของความมุ่งมัน่ พากเพียรนเ่ี อง
จากลักษณะของ EF ทั้ง 9 ด้าน คงจะทาให้เห็นได้ชัดเจนว่า มนุษย์เราทุกคนใช้ทักษะสมอง EF
ในชวี ติ อย่ตู ลอดเวลา เปน็ ทักษะในการดาเนินชวี ติ ให้เป็นปกติ เปน็ ทักษะท่ีเราใชใ้ นการจัดการกับการเรียนรู้
ใช้ในการตัดสินใจ เพื่อจัดการกับปัญหาต่าง ๆ และใช้ในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าแก่ตนเองและต่อ
สงั คม
EF จงึ เปน็ ทกั ษะทมี่ คี วามสาคัญยง่ิ ยวด นามาซง่ึ ความสาเรจ็ ท้งั ในการเรยี น การทางานอาชีพ และ
การสร้างความสัมพันธ์กับคนอน่ื ๆ น่ันเอง
ถ้าพัฒนาได้ดีเต็มศักยภาพ EF ก็จะทาให้เราเป็นคนที่ “คิดเป็น ทาเป็น เรียนรู้เป็น แก้ปัญหา
เปน็ อยู่กับคนอื่นเปน็ และหาความสุขเป็น”
ในทางตรงข้าม ถ้า EF ทั้ง 9 ด้านนี้ไม่ได้รับการพัฒนา หรือพัฒนามาอย่างกะพร่องกะแพร่ง ก็พอ
จะคาดเดาได้ว่า ชีวิตบคุ คลนน้ั ๆ ก็จะเตม็ ไปด้วยปัญหาเพียงใด
Vol.1 No.2 July – December 2019 Executive Functions of the Brain: EF with Developing
Early Childhood in Thailand
82 วารสารการจดั การทางการศกึ ษาปฐมวยั
EF 3 ด้านที่ได้รับการยอมรับและให้ความสาคัญ จากนักวิทยาศาสตร์มากที่สุด ได้แก่ working
memory inhibitory control และcognitive flexibility (shift) ซึ่งจัดให้อยู่ในกลุ่มทักษะพื้นฐานนน้ั
ด้วยเหตทุ ่ีเป็น EF ทเ่ี ป็นฐานสาคัญ จะส่งผลต่อEF ด้านอนื่ ๆ ได้พัฒนาต่อยอดละเอยี ดยงิ่ ขึ้น
ด้วยการทางานเชื่อมโยงสัมพันธ์กันของ EF เหล่านี้ จึงทาให้เกิดการควบคุมพฤติกรรม นาไปสู่
การจัดการเพื่อบรรลุเป้าหมาย มีความมุ่งมั่นที่จะทาให้ถึงเป้าหมายให้ได้ มีการจัดวางการงาน แก้ไขสิ่งที่
ผดิ พลาดเสียหาย ใสใ่ จตอ่ เสียงสะทอ้ นจาก และมคี วามยืดหยนุ่ ทงั้ ทางความคิดและพฤติกรรม
EF สาคัญอยา่ งไรตอ่ การพัฒนาเด็ก
เมื่อเด็กได้รับโอกาสพัฒนา EF ทั้งตัวเด็กเองและสังคมจะได้รับประโยชน์ เพราะจะช่วยสร้าง
พฤติกรรมเชงิ บวกและ ช่วยในการตัดสนิ ใจในทางท่ีสร้างสรรค์ต่อตัวเอง และต่อคนอ่ืน ๆ หากเด็กมีทักษะ
EF เขาจะมคี วามสามารถในการคิด การรสู้ กึ และการจัดการตนเองที่ดี เช่น
1. มีความจาดี มีสมาธิจดจอ่ สามารถทางานตอ่ เน่อื งไดจ้ นเสร็จ
2. รจู้ กั วิเคราะห์ วางแผนงานเปน็ ระบบ ลงมอื ทางานได้ และจัดการงาน จนเสรจ็ ตามกาหนด
3. นาสง่ิ ทีเ่ คยเรยี นรมู้ าก่อนในประสบการณ์มาใช้ในการทางานหรอื กจิ กรรมใหมไ่ ด้
4. ปรับเปลี่ยนความคิดได้เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ไม่ยึดติดตายตัว และอาจพัฒนาไปถึงขั้น
ความคิดสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบได้
5. รู้จักประเมินตนเอง นาจดุ บกพร่องมาปรับปรุงการทางานใหด้ ีขึน้ ได้ รจู้ กั แกป้ ัญหา
6. รจู้ ักยับย้ังควบคมุ ตนเองไมใ่ ห้ทาในส่งิ ทไี่ มถ่ กู ต้อง แม้จะมีส่ิงยว่ั ยวน
7. รู้จักแสดงออกกับเพื่อนหรือในสังคมอย่างเหมาะสม นาไปสู่การรู้จัก เคารพผู้อื่น อยู่กับคนอื่น
ไดด้ ี ไม่มีปญั หา
8. เปน็ คนทีอ่ ดทนได้ รอคอยเปน็
9. มีความอตุ สาหะพากเพียร ล้มและลกุ ข้ึนสู้ใหม่ได้ม่งุ มัน่ ท่ีจะไปส่คู วามสาเรจ็
เด็กแบบนี้คือเด็กที่เราทุกคนต้องการ และเมื่อเติบโตขึ้นเขาก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพที่จะดูแล
รบั ผดิ ชอบสงั คมไทยตอ่ ไปได้แต่ถ้าเด็กขาดคุณลกั ษณะ EF ในด้านใดด้านหนง่ึ หรอื หลายดา้ น ก็จะกระทบต่อ
การพัฒนาของเดก็ คนนั้น ๆ เช่น เดก็ ท่ีขาดทักษะสมองในด้านจดจอ่ ใสใ่ จอยา่ งรนุ แรง กอ็ าจจะเป็นเด็กสมาธิ
สั้น เด็กที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ ก็อาจกลายเป็นเด็กที่หุนหันพลันแล่น ก้าวร้าว
ขาดวิจารณญาณ เสพติดสิ่งต่าง ๆ ง่ายเด็กที่ไม่มีทักษะวางแผนจัดการงาน ก็อาจจะทางานที่ครูหรือพ่อแม่
มอบหมายไม่สาเร็จ เป็นต้นการขาดทักษะเหล่านี้ ยังอาจนาไปสู่การไม่เห็นคุณค่าในตนเอง การอดกลั้นต่อ
สิ่งเร้ารอบตัวไม่ได้ อาจนาไปสู่การ “ติด” ต่าง ๆ ในอนาคต เช่น ติดเกม ติดเพื่อน ติดสุรา ติดบุหรี่และยา
เสพตดิ เปน็ ตน้ แลว้ เขาจะเป็นพลเมืองคุณภาพในอนาคตไดอ้ ย่างไร
ทักษะสมอง Executive Functions: EF กบั การพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ปที ี่ 1 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562
ในประเทศไทย
ในการพัฒนาความสามารถในการแก้ปญั หาของเด็กปฐมวยั
Journal of Early Childhood Education Management 83
EF พฒั นาขนึ้ อยา่ งไรและเมือ่ ไร
มนุษย์เราไมไ่ ดเ้ กิดมาพร้อมกบั ทกั ษะ EF ในทันที แต่เราเกิดมาพร้อมกบั “ศักยภาพ” ที่จะพัฒนา
ทักษะเหลา่ นี้
ส่วนจะพัฒนาไดแ้ ค่ไหน อย่างไร ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงวัยทารก
จนถงึ วัยเดก็ และต่อไปยังวัยรนุ่
เราจาเป็นตอ้ งเขา้ ใจธรรมชาติทีส่ าคัญของทักษะสมอง EF บางประการดงั ต่อไปน้ี
▪ EF ใช้เวลาพฒั นายาวนาน ต้งั แต่ขวบปแี รกจนถงึ วยั ผใู้ หญ่
การวิจัยจานวนไม่น้อยชี้ว่า EF เริ่มพัฒนาขึ้นในเวลาไม่นานหลังปฏิสนธิ โดยในช่วงวัย 3- 6 ปี
จะเป็นช่วงวัยท่ีเรียกว่าเป็น “หน้าต่างแห่งโอกาส” ที่สาคญั ที่สุด เพราะเป็นช่วงทีม่ อี ัตราการเตบิ โตของทักษะ
EF สูงมาก
อย่างไรก็ตาม ทักษะนี้ยังมีอัตราการพัฒนาต่อเนื่องไปจนถึง วัยเรียน วัยรุ่น และถึงวัยผู้ใหญ่
ตอนตน้ )ประมาณ 25-30 ปี( ซึ่งเป็นชว่ งเวลาท่สี มองส่วนหน้าพฒั นาเต็มท่ี แต่ท้ังนี้ อัตราการพัฒนาของ EF
ในช่วงวัยเรียน วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ตอนต้น จะพัฒนาในอัตราที่ไม่สูงมากเท่ากับอัตราการพัฒนา EF ในช่วง
3-6 ปี และหลังจากนั้นเมอ่ื สมองส่วนหนา้ พัฒนาเต็มที่แล้วอตั ราการพฒั นา EF ก็จะลดลงเลก็ น้อย กอ่ นท่ีจะ
คอ่ นข้างคงท่ีไปจนถึงวยั สูงอายุ )ตามแผนภาพ(
ที่มา: https://www.developingchild.harvard.edu
Vol.1 No.2 July – December 2019 Executive Functions of the Brain: EF with Developing
Early Childhood in Thailand
84 วารสารการจัดการทางการศกึ ษาปฐมวยั
▪ ทักษะ EF ไม่ได้เกดิ ข้ึนเองตามธรรมชาติ เป็นสงิ่ ท่ีตอ้ งฝกึ ฝนต่อเนื่องเป็นข้นั ตอน เรยี นร้ผู า่ น
ประสบการณ์จริงทีห่ ลากหลาย
ช่วงวัย 3-6 ปี ถ้าเด็กไม่ได้รับการฝึกฝนตามที่ควรได้ ขาดสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ใหญ่ อยู่ใน
สภาพแวดล้อมทีไ่ มเ่ ออื้ อานวย หรอื ไม่มีโอกาสไดเ้ รยี นรจู้ ากประสบการณ์จริงท่ีหลากหลาย เชน่ ถกู เร่งเรียน
เขยี นอ่านจนไม่ได้ทากิจกรรมอื่นใด หรือสภาพแวดล้อมกลบั กลายเป็นตัวสร้างปญั หา เปน็ พิษตอ่ เด็ก เช่น มี
การละเลยต่อเด็กหรือใช้ความรุนแรง การพัฒนาทักษะ EF ของเด็กคนนั้นก็อาจจะช้าหรือบกพร่องเสีย
หายไป กระทบต่อโครงสร้างการทางานของสมอง และการพัฒนา EF ในสมองตอ่ ไปด้วย
▪ ทักษะ EF เมื่อได้รับการฝึกฝนต่อเนื่องจนเป็นทักษะเสน้ ใยประสาทกจ็ ะแตกขยายต่อเชื่อม
เก่ียวพนั กนั (wiring) และเจริญงอกงาม
งานวิจัยทางประสาทวิทยาศาสตรท์ แี่ สดงด้วยเทคนิคภาพถา่ ยสมองที่เรียกว่า fMRI ชใี้ หเ้ ห็นชัดเจน
ว่า การพัฒนาทักษะ EF ในช่วงปฐมวัยอย่างต่อเนื่อง จะก่อรูปเป็นโครงสร้างค่อนข้างถาวรอยู่ในสมอง
)hardware) จนอาจเปรียบได้กับการ “ฝังชิป” ของคอมพิวเตอร์ ที่กาหนดแบบแผน หรือโครงสร้างการ
ทางานของสมองของแตล่ ะคน กลายเป็น “วิธีคิด” ของบุคคลนั้น ๆ ไปตลอดชีวิต )แม้ว่าในบางช่วงวัย เช่น
4 ขวบหรือ 13-14 ปี ธรรมชาติของสมองจะมีการเล็ม )pruning) ของเส้นใยประสาทที่ไม่ได้ใช้หรือฝึกฝน
ตอ่ เน่ืองออกไปบา้ ง
สาหรบั คนไทยเราทีค่ ุ้นเคยกบั คาพงั เพยว่า “สนั ดอนขดุ ได้ สนั ดานขดุ ไม่ได้” นั้น กอ็ าจนิยามคาว่า
EF ใหเ้ ขา้ ใจได้ง่ายว่า “EF กค็ ือสันดานดีทสี่ ร้างสรรค์ ซึง่ หากปลูกฝงั ไว้ในตวั เดก็ ตัง้ แต่เยาว์วัยแล้ว ก็จะเป็น
อปุ นิสยั หรือสนั ดานทีด่ ีของเดก็ คนน้นั ตลอดไปนนั่ เอง”
EF คือสนั ดานดีที่สรา้ งสรรค์
อาจกล่าวได้ว่า ช่วงเวลา 3-6 ปีนี้มีความสาคัญมากต่อการฝึกฝนทักษะด้าน EF เรียกว่า เป็นช่วง
เวลาทอง หรือ เป็นหน้าต่างแห่งโอกาส )window of opportunity) ของการสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มี
คุณค่ายิ่งทั้งต่อครอบครัวและสังคม เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ายิ่งกว่าลงทุนในวัยอื่นใด และหากไม่ได้ลงทุน
พัฒนาตั้งแต่ปฐมวัยแล้ว จะมาตามแก้ไขปัญหาในภายหลังก็ต้องใช้ทรัพยากรมากกว่าทั้งเวลา เงินทุน
แรงกาย-ใจ ยงิ่ กวา่ การพฒั นาใหด้ ีเสยี ตั้งแต่ต้น
อย่างไรกต็ าม แมจ้ ะไดผ้ ลไม่ดเี ท่าการพัฒนา EF ในช่วงปฐมวยั แตใ่ นชว่ งวยั เรียน วัยรุ่น หรือก่อน
เข้าวัยผู้ใหญ่ตอนต้นมนุษย์เรากย็ ังสามารถส่งเสริมพฒั นาทกั ษะสมอง EF ได้โดยเฉพาะในชว่ งวัยรุน่ จะเปน็
ช่วงทอ่ี ตั ราการพฒั นา EF จะพ่งุ สูงข้ึนอกี คร้งั หนงึ่
ทักษะสมอง Executive Functions: EF กับการพฒั นาเด็กปฐมวยั ปีท่ี 1 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562
ในประเทศไทย
ในการพัฒนาความสามารถในการแกป้ ญั หาของเดก็ ปฐมวยั
Journal of Early Childhood Education Management 85
ถา้ EF อ่อนแอ....เมือ่ โตขึน้ จะเปน็ อยา่ งไร
เด็กที่ไม่ได้รับการส่งเสริม EF ในวัยเด็กมาอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลทั้งใน “วงกว้าง” และ “ระยะ
ยาว”
“วงกว้าง” คือกระทบไปหลายด้าน เช่น ด้านร่างกาย เด็กที่ยับยั้งกินไม่ได้อาจโตขึ้นเป็นโรคอ้วน
เบาหวาน ไขมันสงู ดา้ นจิตใจอาจเป็นคนทคี่ วบคุมอารมณ์ไม่อยู่ อ่อนแอหรอื กา้ วรา้ ว ดา้ นสงั คมอาจรว่ มงาน
กับคนอ่นื ได้ยาก ทางานไม่สมั ฤทธิผ์ ล หรอื ด้านสตปิ ัญญา กอ็ าจขาดความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ แกป้ ญั หา
เป็นต้น
ส่วนผลกระทบใน “ระยะยาว” นั้น ก็คือผลเสียจะเกิดขึ้นทั้งในวัยเด็ก ต่อเนื่องไปจนถึงวัยเรียน
วยั รุ่น วัยผู้ใหญ่หรอื แมแ้ ตใ่ นวัยกลางคน หรือสงู อายไุ ด้
ลกั ษณะของบุคลกิ ภาพเมื่อทกั ษะสมองEF ออ่ นแอ เช่น
▪ กากบั ควบคมุ ตนเองไมไ่ ด้
▪ ขาดวจิ ารณญาณ ยบั ยง้ั ชง่ั ใจไม่ได้ “เสพตดิ ” สง่ิ ต่าง ๆ ได้ง่าย
▪ ขาดความสามารถในการคิด คาดการณ์ไปข้างหนา้
▪ ขาดความสามารถในการจดั ระบบ และจัดการสิง่ ตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม
▪ ไมส่ ามารถจดั การกับความเครยี ด อารมณ์
▪ ขาดการวางแผนโครงการในระยะยาว
▪ ไมส่ ามารถจดั การกบั เวลา
▪ ขาดความมุ่งมน่ั ทางานให้สาเรจ็ โดยเฉพาะงานทีใ่ ชเ้ วลายาวนาน
▪ ขาดการรเิ รมิ่ และลงมอื ทางานให้สาเรจ็
กล่าวกันว่า เราพบเจอคนแบบนม้ี ากขนึ้ ทกุ วนั ในสังคมปัจจบุ ัน
แนวทางการสง่ เสริม EF ในเดก็
ฐานของทกั ษะ EF ท่ีแขง็ แกรง่ มีความสาคญั ยง่ิ กว่าการร้จู ักตวั เลขหรอื ตัวหนังสือ
Lewitt, E. M. & Baker, L. S. (1995). School
readiness. TL. S. (1995).School readiness. The
Future of Children, 5(2), 128-139¬
ระหวา่ งท่ีสมองสว่ นหน้าและทักษะ EF ของเด็กยงั ไมแ่ ขง็ แรงตามธรรมชาติของวัย ย่อมเป็นหน้าที่
ของผู้ใหญ่ที่ดูแล จะต้องช่วยนาทางพฤติกรรม พร้อมไปกับการฝึกฝนทักษะ EF อย่างต่อเนื่องสม่าเสมอ
จนทักษะนี้ฝังตัวก่อรูปเป็นโครงสร้างของเซลประสาทในสมองที่แข็งแรง ที่จะทาให้เด็กสามารถใช้ทักษะ
เหล่านใี้ นการดาเนินชีวติ ของเขาได้ดว้ ยตนเองเม่อื เติบโตข้ึน และใชไ้ ด้ไปตลอดชวี ติ
Vol.1 No.2 July – December 2019 Executive Functions of the Brain: EF with Developing
Early Childhood in Thailand
86 วารสารการจดั การทางการศึกษาปฐมวยั
นั่นหมายความว่า ผู้ใหญ่จะต้องเป็น “นั่งร้าน” (Scaffold) ที่ดีให้เสียก่อน ต่อเมื่ออาคารหรือ
สิ่งก่อสร้างนั้นขึ้นรูปแข็งแรง ยืนอยู่ได้ด้วยตนเองดีแล้ว ช่างก่อสร้างก็ย่อมจะสามารถรื้อถอนน่ั งร้านน้ัน
ออกไปเสียได้
ที่มา: https://www.raklukesociallearning.com
แนวทางสาคัญทผี่ ใู้ หญท่ กุ คนสามารถ เปน็ “น่งั ร้าน”ใหแ้ กเ่ ดก็ ได้ คือ
1) การสร้างความผูกพันและไว้วางใจให้เกิดขึ้นในใจเด็ก เป็นพื้นฐานแรกที่สาคัญที่สุดเพื่อให้
เด็กได้พัฒนาให้เกิด SELF–ความมีตัวตนขึ้นในตน เพราะถ้าเด็กไว้วางใจได้ว่า เขามีตัวตนในสายตาของ
คนอื่น เช่น เป็นที่รัก หรือเขาจะปลอดภัยในความดูแลของผู้ใหญ่คนนี้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ผู้ปกครอง หรือ
ครู ผู้ใหญ่เหล่านี้ฟังเขา ให้โอกาสเขา หรือมีความเสมอต้นเสมอปลายกบั เขาก็จะทาให้เขามีสภาวะที่พรอ้ ม
ตอ่ การพัฒนา EF และฝึกฝนเรยี นรู้
ในขณะเดียวกัน เมื่อใดที่เด็กมีความเครียด กังวล ไม่มีความสุข รู้สึกไม่เป็นที่รัก หรือคาดการณ์
ไม่ไดว้ ่าผู้ใหญ่จะเอาอย่างไรกบั เขา self ท่ไี มแ่ ข็งแรงกจ็ ะสง่ ผลต่อทกั ษะสมอง EF ที่ไม่แขง็ แรงไปด้วยได้
2) การดแู ลสขุ ภาพทางกายภาพของสมองให้แข็งแรง การกนิ อมิ่ นอนหลับเพียงพอ การได้ออก
กาลังกายสม่าเสมอ การได้รับอากาศบริสุทธิ์ ล้วนมีส่วนในการสร้างความแข็งแรงทางกายภาพให้กับสมอง
ก็เช่นเดียวกับร่างกายที่แข็งแรงทีจ่ ะเป็นฐานของการดาเนินชีวิต สมองที่แข็งแรง สมบูรณ์ ไม่เป็นโรค ก็จะ
เป็นฐานที่ดีในการทางานของความคิด ความรู้สึกหรือการกระทาของเด็กต่อไปมีงานวิจัยชัดเจนว่า เด็กท่ี
นอนไม่พอ EF จะอ่อนแอ เด็กที่ได้ออกกาลังกายกลางแจ้งสม่าเสมอ จะมี EF ในด้านการจดจ่อใส่ใจดีขึ้น
เปน็ ต้น
ทักษะสมอง Executive Functions: EF กบั การพฒั นาเด็กปฐมวยั ปีที่ 1 ฉบบั ที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2562
ในประเทศไทย
ในการพัฒนาความสามารถในการแกป้ ญั หาของเดก็ ปฐมวยั
Journal of Early Childhood Education Management 87
3) การสร้างสภาพแวดลอ้ มที่เกอื้ กูล เหมาะสมซงึ่ รวมความทัง้
(1) สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพเปน็ สภาพแวดล้อม ที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและน่าอยู่
ของสถานที่ทง้ั ทบ่ี า้ นและโรงเรียน การมีกจิ วัตรประจาวนั ทสี่ มา่ เสมอ
(2) สภาพแวดล้อมทางอารมณ์จิตใจและสังคม เช่น การสร้างบรรยากาศที่ร่มเย็น รื่นรมย์ให้
ความสุข หรือสนุกสนาน หรือบรรยากาศที่เด็กรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่บรรยากาศที่มีความคงที่สม่าเสมอใน
ระเบียบ กฎกตกิ าการเปดิ โอกาสให้เด็กมสี ่วนรว่ มและทุกคน ปฏิบัตกิ นั อยา่ งเสมอต้นเสมอปลาย
(3) สภาพแวดล้อมทางความคิดเป็นสภาพแวดล้อม ที่กระตุ้นให้เกิดความสนใจใคร่รู้ กระตุ้น
พลงั จนิ ตนาการสง่ เสริมให้กลา้ คดิ กล้าทาในสิง่ ทคี่ วร
4) การได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลาย โดยเฉพาะเน้นที่การได้ลงมือทาด้วยตนเอง
หรือ การเข้าไปมีประสบการณ์ตรงกับสิ่งรอบตัว สาหรับเด็กปฐมวัย คือ การเรียนรู้ผ่านการเล่น (Play-Based
Learning) เพราะการเล่นคือการเรียนรู้แบบ active learningของเด็ก การเรียนรู้ด้วยประสบการณ์จริงจะ
ทาให้เด็กมโี อกาสได้ฝึกคิดด้วยตนเอง ฝึกสังเกต ได้คิดค้นวางแผนและทดลองหรอื ลงมือทา ระหว่างทาก็ได้
เหน็ อปุ สรรคปญั หา แล้วหาทางแก้ไข และสรุปบทเรียนด้วยตนเอง
5) การเรียนรู้ทักษะทางสังคม-อารมณ์เป็นองค์ประกอบสาคัญอีกข้อหนึ่ง เน้นที่การให้เด็กได้มี
ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่น ได้เล่นกับเพื่อน ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้รู้จักอารมณ์ตนเอง และกากับ
อารมณ์ตนเองให้เป็นปกติได้ รู้จักเข้าใจคนอื่น อยู่กับคนอื่นได้ มีสัมพันธภาพที่ดีกับคนอื่น ๆ และสามารถ
จัดการสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม โดยคานึงถึงผลที่จะเกิดข้ึนกับทัง้ ตนเองและผู้อื่น ไม่ว่าจะเปน็
เรอ่ื งความปลอดภยั การมีคา่ นิยมทส่ี อดคลอ้ งกบั บรรทดั ฐานของสังคม เปน็ ตน้
“ใหโ้ อกาสเด็ก” คือคาสาคัญ ในการพฒั นาทักษะ EF
ไม่ว่าในวัยใด ๆ “การให้โอกาส” แก่เด็กในการพัฒนาฝึกฝนทักษะ EF คือ เรื่องสาคัญอย่างยิ่ง แม้
โดยธรรมชาติเด็กจะสามารถสร้างโอกาสพัฒนา EF ให้ตนเองได้ เช่น เล่นกับเพื่อนแล้วคิดค้นวางแผน
กาหนดกตกิ าในการเล่นร่วมกนั ฯลฯ แต่ในชีวิตจริง วยั เด็กยงั เปน็ วยั ทีเ่ ด็กจะตอ้ งพ่งึ พาผู้ใหญ่ ให้ผใู้ หญ่ไม่ว่า
จะเปน็ พ่อแม่ ปู่ยา่ ตายาย หรอื ครู ผู้ดูแลเด็ก ได้ชว่ ยเปน็ “นั่งร้าน” ประคับประคองและให้โอกาสพวกเขาได้
เรียนรู้ แล้วค่อย ๆ พัฒนาทักษะสมองของเขา ให้แข็งแรงขึ้น จนกว่าจะถึงเวลาที่เขาจะสามารถคิดและ
จดั การชวี ิตไดด้ ้วยตนเองอยา่ งเตม็ ท่ี
นักวิชาการปฐมวัยศึกษาที่ร่วมจัดการความรู้กับสถาบัน RLG )Rakluke Learning Group) จึงได้
สรปุ เปน็ แนวปฏิบัติไว้ ดังน้ี
Vol.1 No.2 July – December 2019 Executive Functions of the Brain: EF with Developing
Early Childhood in Thailand
88 วารสารการจัดการทางการศกึ ษาปฐมวยั
ทมี่ า: https://www..rakluke.com
พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในครอบครัว ครูในโรงเรียนทุกระดับ โดยเฉพาะครูอนุบาลที่ดูแลเด็กวัย 3-6 ปี
มีความสาคัญมากต่อการ “ให้โอกาส” พัฒนาทักษะ EF ให้แก่เด็กในทุก ๆ วันของพวกเขา โดยเราสามารถ
ฝึกฝนคุณลักษณะทั้ง 9 ด้านน้ีไดใ้ นชวี ิตประจาวนั เชน่
1) สรา้ งวนิ ยั ในชวี ิตประจาวนั ให้รจู้ ักรอ รูจ้ กั ดูแลตนเอง เก็บขา้ วของ
2) ให้รู้จกั ยับยงั้ ใจ ควบคมุ อารมณต์ นเอง และแสดงออกถึงความต้องการของตนอย่างเหมาะสม
3) ฝกึ ฟงั เข้าใจ ความรสู้ ึกของตนเอง และของคนอืน่ ๆ
4( ชวนลูกให้คิด ให้พดู คุยโต้ตอบในเรอื่ งท่ีเกดิ ขึ้นใกล้ตัว; มันเปน็ อย่างไร ทาไมจึงเปน็ เช่นนนั้
5) ช่วยเหลอื ตนเองตามวยั เช่น การสวมใส่เส้อื ผ้า การเก็บของเลน่ การทาการบา้ น ฯลฯ
6) ชว่ ยทางานบ้านตามที่วัยของเขาทาได้ เช่น จัดชอ้ นจาน การช่วยเหลือผ้ใู หญ่ เป็นตน้
การใช้หลักสูตร และการจัดประสบการเรียนรู้ของเด็กที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หรือโรงเรียนอนุบาล
ก็ให้มีกิจกรรมที่ได้ลงมือทา )Learning by Doing) เพื่อฝึกการวางเป้าหมาย การจัดลาดับก่อนหลัง
การบริหารเวลา การอดทนพากเพยี ร การสงั เกตเรียนร้ขู น้ั ตอนการทางาน
เด็กได้มีโอกาสออกไปเผชิญสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ พบคนใหม่ ๆ เพื่อนใหม่ ๆ ได้แก้ปัญหาต่าง ๆ )ที่
เหมาะสมกับวัย( ด้วยตนเอง รวมทงั้ เมอ่ื เสรจ็ แลว้ มโี อกาสฝึกการประเมินผลอย่างง่าย ๆ ว่างานที่ไปแล้วนน้ั ดี
หรือไมด่ ีอยา่ งไร และมกี ารใหก้ าลงั ใจเม่อื เด็กทาสาเร็จ
ทักษะสมอง Executive Functions: EF กับการพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ปีท่ี 1 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2562
ในประเทศไทย
ในการพัฒนาความสามารถในการแก้ปญั หาของเดก็ ปฐมวยั
Journal of Early Childhood Education Management 89
หลักสูตรการจัดการศึกษาในโรงเรียนของประเทศเราก็จะต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลงไม่น้อย
การท่องจาไม่ช่วยให้ทักษะสมอง EF ของเด็กมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นแต่การได้พบประสบการณ์จริงจะช่วยให้
เด็กมีการจดจา และสามารถนามาใช้งานในชีวิตจรงิ ในปัจจุบนั และอนาคตที่ดกี ว่า การกะเกณฑ์ให้เร่งเรียน
เขียนคัด ท่องจาเป็นนกแก้วนกขุนทองเพื่อเอาคะแนนสอบตั้งแต่ปฐมวัย โดยไม่ได้สัมผัสประสบการณ์
การเรียนรู้จากชีวิตจริงเลย ดังนั้นการเรียนเพื่ออยู่รอดได้ในศตวรรษที่ 21 จะต้องเน้นฝึกทักษะมากกว่า
เนือ้ หา และไมใ่ ชเ่ นน้ บังคับ
กล่าวว่าได้ว่า การให้โอกาสเด็กได้เรียนรู้ แบบ Active Learning จะช่วยส่งเสริม EF ตลอด
ทางทั้งสิ้น ในทางตรงข้าม การจัดการเรียนรู้แบบ Passive Learning ก็จะทาลายสมองเด็กอย่างน่า
เสียดายทสี่ ดุ
ความเครียดเรอื้ รงั ทาลายสมองเดก็
จากการวิจัยด้วยการถ่ายภาพทางสมอง )FMRI( ของศูนย์พัฒนาเด็ก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
สหรัฐอเมรกิ า ท่ศี กึ ษาสภาวะการแตกแขนงของเสน้ ใยสมองในสว่ นของสมองส่วนหนา้ กับสว่ นฮปิ โปแคมปัส
พบว่า หากสมองตกอยใู่ นภาวะเครียดเรื้อรังยาวนาน สารเคมีและปฏกิ ิริยาในสมองจะทาให้เครือข่ายเส้นใย
สมองไม่สามารถแตกแขนงงอกงามอย่างกว้างขวางตามปกติได้ รวมทั้งเส้นใยแต่ละเส้นก็จะอยู่ในสภาพที่
ไมส่ มบูรณ์ )ดังภาพ(
ทีม่ า: https://www.delopingchild.harvard.edu
จากภาพถ่ายของงานวิจัยนี้ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า หากเราปล่อยให้เด็ก ๆ ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมท่ี
นามาซึ่งความเครียด กังวล เศร้าใจ เสียใจ ท้อแท้ ซึมเศร้า อย่างยาวนาน ซ้าแล้วซ้าอีก จนเกิดเป็นการรบั
Vol.1 No.2 July – December 2019 Executive Functions of the Brain: EF with Developing
Early Childhood in Thailand
90 วารสารการจดั การทางการศกึ ษาปฐมวยั
พิษเรื้อรังแล้ว ก็จะส่งผลต่อสถาปัตยกรรมหรือโครงสร้างของสมองทั้งสิ้น ดังนั้น การที่เด็กอนุบาลไทย
จานวนมากถูกเร่งเรียนเขียนอ่าน ต้องเตรียมตัวกับการสอบเข้าชั้น ป.1 ต้องอ่านออก เขียนได้ ต้องคิดเลข
หลายหลกั ได้ ไม่ไดเ้ รียนร้ผู า่ นการเล่น กลับต้องน่งั อยู่กับโต๊ะเพอ่ื กวดวชิ าความรู้ ทง้ั ที่พฒั นาการตามวัยยงั ไม่
พร้อม ไม่สามารถทาไดเ้ ช่นน้ัน เด็กอนุบาลจึงมักเกิดความเครียด ไม่มีความสุข จานวนไม่นอ้ ยจึงไม่ชอบไป
โรงเรยี น
ซ่งึ หากการณเ์ ปน็ เชน่ นี้ตอ่ ไปเรือ่ ย ๆ ก็ย่อมคาดหมายไดว้ า่ สมองของเด็กไทยรุ่นแลว้ รุ่นเล่าก็จะถูก
ทาลายไปโดยความไม่รไู้ ม่เขา้ ใจหรือความละเลยเพกิ เฉยของผ้ใู หญ่ไทยเราน่ีเอง
EF กับ IQ, EQ
อย่างไรกต็ าม เนอ่ื งจากคนสว่ นใหญค่ ้นุ เคยกับเรอ่ื งของ IQ EQ หรอื Q ต่าง ๆ
คาถามที่พ่อแมแ่ ละครจู านวนมากใหค้ วามสนใจเป็นอย่างมาก กค็ อื
“EF กบั IQ หรือ EQ เกี่ยวข้องกนั อยา่ งไร”
EF สมั พันธ์กับความพรอ้ มทางการเรียนของเดก็ มากกว่า IQ, การอา่ น และการคานวณ
EF สาคัญต่อความสาเร็จด้านการเรียนโดยเฉพาะการอ่าน การคานวณ ผลการเรียน
ทุกระดบั จนถงึ มหาวทิ ยาลัย
Diamond, 2012; 2014;
Nora & Volkowa, 2011;
Goldstien & Volkowa, 2011
นักวิทยาศาสตร์อธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า “คนมักคิดว่า คนที่มีปัญญาดี )intelligence) มักจะมี EF ดี
โดยปรยิ าย แล้วเรากม็ ักจะคาดหวงั วา่ เดก็ ที่เรยี นดจี ะมีนิสัยการทางานท่ดี ี จดั การกบั การงานท้ังที่บ้านและ
ที่โรงเรียนได้ดี แต่ในความเป็นจริง IQ กับ EF ไปด้วยกันได้ในบางระดับเท่านั้น เด็กที่มีปัญญาเลิศอาจจะ
ยับยั้งแรงกระตุ้นไม่ได้ วางแผนหรือจัดการชีวิตประจาวันได้ไม่ดี การมีปัญญาวิเคราะห์และเข้าใจการงาน
กไ็ มไ่ ดห้ มายความว่าเด็กจะลงมอื ทางานได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ และมุ่งม่ันทาจนสาเรจ็ ”
นอกจากนี้ ยังมีนักวิจัยที่ชี้อีกว่า “การทดสอบ IQ แบบดั้งเดิมนั้นเป็นการวัดสิ่งที่เรียกว่า
“ความสามารถทางปัญญาที่ตกผลึกแล้ว” (crystallized intelligence) เป็นการเรียกข้อมูลในสิ่งที่เรียนไป
เรียบร้อยแล้ว เช่น คานี้หมายความว่าอย่างไร เมืองหลวงของประเทศนี้ช่ืออะไรแต่ Executive Functions
คือ ความสามารถในการใชส้ ่ิงทีเ่ รารู้แล้วนามาสร้างสรรค์ใหม่ หรือนามาแกป้ ัญหาในปจั จุบันซึ่งจะเกี่ยวขอ้ ง
กบั ความสามารถทาง
ทกั ษะสมอง Executive Functions: EF กบั การพัฒนาเด็กปฐมวยั ปีท่ี 1 ฉบบั ที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2562
ในประเทศไทย
ในการพัฒนาความสามารถในการแก้ปญั หาของเดก็ ปฐมวยั
Journal of Early Childhood Education Management 91
ปัญญาที่เลื่อนไหล )fluid intelligence) มีหลักฐานมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ชี้ชัดว่า ความจาที่ใช้งาน )working
memory) กบั การยัง้ คดิ ไตรต่ รอง )inhibition) เป็นสง่ิ ทบ่ี อกถึงความสาเรจ็ ของเดก็ หลังจบจากโรงเรียนแล้ว
ไดด้ ยี ิ่งกวา่ การทดสอบ IQ”
นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้ที่ให้ความใส่ใจอย่างยิ่งต่อ
การพัฒนาเดก็ ปฐมวยั และพฒั นาทักษะสมอง EF ได้เคยอธบิ ายให้เขา้ ใจง่ายและชดั เจนมากว่า
“IQ คอื What you know
สว่ น EF คือ The ability to use what you know”
Executive functioning กับ self-regulation เปน็ เคร่อื งทานายที่แข็งแรงมากถงึ
ความสาเรจ็ ในการเรียน แข็งแรงยิง่ กว่า IQ เสียอกี
Blair, C. (2002). Nadine Gaab, Laboratories of Cognitive
Neuroscienceat Boston Children‘s Hospital.
ทกั ษะสมอง EF คือรากฐานสาคญั ของทกั ษะศตวรรษท่ี 21 น่ันเอง
ในชีวิตจริง พวกเราล้วนเคยมีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าคนที่ประสบความสาเร็จมักจะมีคุณลักษณะ
เหล่านี้
▪ คิดวิเคราะห์ได้ เมื่อต้องตัดสินใจก็มีหลักคิด มีการพินิจพิจารณา รู้จักคิดหน้าคิดหลัง
ไมบ่ มุ่ บ่ามหนุ หันพลันแลน่ รจู้ ักยั้งคดิ ไตรต่ รอง
▪ คดิ สรา้ งสรรค์ได้ กล้าคิดกลา้ ลองทาส่ิงใหม่ ๆ มกี ารยดื หยุ่นเปลี่ยนแปลง ไมย่ ึดตดิ ตายตวั กับวธิ ี
เดมิ ๆ
▪ ทางานเป็นทีมได้ จัดสัมพันธภาพได้ดี เพราะรู้จักควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมตนเอง
จนเป็นทย่ี อมรับของคนอืน่ ๆ
▪ ส่อื สารได้ดี ร้วู ่าอะไรควรพูดไมค่ วรพดู รู้จกั ลาดับเร่อื งราวเป็นเหตเุ ปน็ ผล
▪ ทางานเป็น รูจ้ กั วางแผนก่อนลงมือทา ครัน้ เมือ่ ลงมือก็ทาไดเ้ ป็นข้นั เปน็ ตอน ไม่มว่ั ซว่ั สบั สน
▪ เมอื่ เกิดอุปสรรคกร็ จู้ กั แก้ไข อดทน อดึ ฮึดสู้ หรือหาทางออกใหม่ ๆ ไมต่ ดิ อยู่กบั ความคดิ ความ
เคยชินเดมิ ๆ
ซึ่งเมื่อพิจารณาลงไปในทักษะที่สาคัญของทักษะศตวรรษที่ 21 คือ 4Cs = Critical thinking
)คิดวิเคราะห์( Creativity )คิดสร้างสรรค์( Collaboration )ร่วมมือกับผู้อื่น( และ Communication
)การสือ่ สาร( กจ็ ะเหน็ ชัดเจนว่า ทั้ง 4Cs นน้ั ตอ้ งมีทกั ษะสมอง EF ท่ีฝึกฝนมาดแี ล้วเปน็ พ้ืนฐานท้งั สน้ิ
รวมไปถึงทักษะชีวิตอื่น ๆ เช่น การปรับตัวเข้ากับคน ยอมรับความแตกต่าง การกากับตนเอง ฯลฯ
ดว้ ย
Vol.1 No.2 July – December 2019 Executive Functions of the Brain: EF with Developing
Early Childhood in Thailand
92 วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวยั
ดังนั้น การส่งเสริมการพัฒนาทักษะสมอง EF อย่างเหมาะสมตั้งแต่ปฐมวัย จึงเป็นหลักประกันวา่
เด็กไทยจะมีโอกาสพัฒนาทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ได้อยา่ งแน่นอน ด้วยทักษะพืน้ ฐานที่สาคัญได้วางเป็นฐานไว้
เรียบรอ้ ยแลว้ รอการต่อยอดนั่นเอง
ประเทศไทยรอไม่ได้แล้ว
หลายทศวรรษที่ผ่านมา การจัดการศึกษาในประเทศไทยเราให้ความสนใจกับการเรียนรู้แบบ
passive learning เน้นการสอบแข่งขัน การสอบเข้า และการกวดวิชากันอย่างเอาเป็นเอาตาย เด็กไทย
หลายต่อหลายรนุ่ โดยเฉพาะเดก็ ปฐมวัยขาดโอกาสพฒั นาทักษะสมอง EF ไปอยา่ งน่าเสียดาย
สมองเด็กถูกใช้ไปในด้านเดียวคือการเลียนแบบ ท่องจา เพื่อไปใช้ในการสอบ “จดแล้วท่อง ท่อง
แล้วจา จาแล้วสอบ สอบแล้วลืม” และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็ได้ประจักษ์แก่สายตาของผู้ใหญ่เราทุกคน นั่นคอื
เดก็ ไทยวัยต่าง ๆ ถึง เกอื บ 1 ใน 3 ตกอยใู่ นภาวะเส่ยี ง
เดก็ ปฐมวยั พฒั นาการลา่ ชา้ ถงึ 30% เป็นเวลานานกวา่ 15 ปี สถติ นิ ไ้ี มเ่ ปล่ียนแปลงเลย
เด็กประถมศกึ ษา มีไอคิว และอีคิวตา่ กวา่ เกณฑม์ าตรฐานเกอื บ 30%
เด็กมัธยมและวัยรนุ่ มปี ัญหาพฤตกิ รรมมากมาย ต้งั แต่การเสพติด การมเี พศสัมพันธใ์ นวัยท่ีน้อยลง
เร่ือย ๆ ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นทีต่ กต่าลงเรอื่ ย ๆ ไมว่ ่าจะวดั ผลในประเทศหรอื วัดกบั นานาชาติ
คนหนุ่มสาวที่จบการศึกษาขาดทักษะความสามารถในการทางานเมื่อเรยี นจบ ขาด passion ที่จะ
เดนิ หนา้ ชวี ิต ฯลฯ
ทั้งหมดนี้ กล่าวได้ว่า สาเหตุสาคัญหนึ่งมาจากการจัดการศึกษาที่ไม่เข้าใจธรรมชาติสมองของ
มนษุ ย์ และไมใ่ หโ้ อกาสสมองของเด็กไดพ้ ฒั นาใหเ้ ตม็ ศักยภาพของสมอง จนเสน้ ใยในสมองไมม่ โี อกาสพฒั นา
โครงสรา้ งทีเ่ หมาะสม
ความรู้เรื่องทักษะสมอง EF ที่สถาบัน RLG และคณะนักวิชาการที่ร่วมมือกันดาเนินการจัดการ
ความรแู้ ละขับเคลื่อน )2557-ปัจจบุ ัน( นี้ หาใช่แนวทางหรอื ทฤษฎีที่พัฒนาขึน้ เพื่อใชใ้ นการพัฒนาเด็กไปใน
ทศิ ทางใดทศิ ทางหนึ่งไม่ หากแต่เปน็ การคลี่ธรรมชาติการทางานของสมองให้เป็นที่เขา้ ใจ ให้รู้ว่ามนุษย์นั้นมี
การเรียนร้อู ย่างไร และเราควรยดึ หลักการอยา่ งไร จงึ จะทาให้สมองของเด็กที่เข้าสู่ระบบการศึกษาน้ันได้รับ
การสง่ เสรมิ พฒั นาอย่างเหมาะสม
ถึงวันนี้ เมื่อเราเข้าใจกระบวนการทางานของสมองมนุษย์ชัดเจนยิ่งขึ้น รู้จัก EF ยิ่งขึ้น ก็เท่ากับมี
แสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์ เพื่อให้เราร่วมกันแก้ไขปัญหาการพัฒนาเด็กไทย ให้เขามีโอกาสเติบโตเป็น
พลเมอื งคณุ ภาพของประเทศ
สดุ ทา้ ยกอ็ ยู่ทผ่ี ้ใู หญ่เราทุกคนว่า จะเดินไปในทิศทางของแสงสวา่ งนน้ั หรือจะงมอยู่กบั เส้นทางเดิม ๆ
ท่ีล้มเหลวและทาลายเด็ก
เด็ก ๆ ไมอ่ าจรอได้ ประเทศไทยก็รอไมไ่ ด้เชน่ กัน
ทักษะสมอง Executive Functions: EF กบั การพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ปที ี่ 1 ฉบบั ที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม 2562
ในประเทศไทย
ในการพัฒนาความสามารถในการแก้ปญั หาของเดก็ ปฐมวยั
Journal of Early Childhood Education Management 93
ทมี่ า: https://www.baanmaha.com
Reference
นวลจนั ทร์ จฑุ าภกั ดกี ุล. )2560(. สืบค้นเมอ่ื 25 ตลุ าคม 2560. สบื คน้ จาก https://www.OECD.org.
นวลจนั ทร์ จุฑาภักดีกุล. )2560(. สบื ค้นเมื่อ 18 กนั ยายน 2560. สบื คน้ จาก
http://rajanukul.go.th/new/_admin/download/20-6116-1498452993.pdf
ปนัดดา ธนเศรษฐกร. )2558(. เอกสารการบรรยาย “การคิดเชงิ บริหาร EXECUTIVE FUNCTIONs (EFs)”.
Translated Thai Reference
Barkley R., (2012). Executive Functions: What They Are, How They Work, and Why They
Evolved, The Guilford Press, N.Y. p 5-7.
Building the Brain’s “Air Traffic Control” System. Retrieved October 27, 2017 from
www.developingchild.harvard.edu
Chutapakdeekul, N. )2017(. Retrieved October 25, 2017 from https://www.OECD.org.
. ) 2017( . Retrieved September 18, 2017 from http://rajanukul.go.th/new/_admin/
download/20-6116-1498452993.pdf
Flook L., et al, )2010(. “Effects of Mindful Awareness Practices on Executive Functions
in Elementary School Children”, Journal of Applied School Psychology, 26:70–95.
Vol.1 No.2 July – December 2019 Executive Functions of the Brain: EF with Developing
Early Childhood in Thailand
94 วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวยั
Griffin, J.A., Mc Cardle P., & Freund L.S. ) 2016( . Executive Functions in Preschool – Age
Children. AmericanPsychological Association, Washington D.C. nBrief: Executive
Function, Developing Child Center, Harvard University. Retrieved June 16, 2017 from
www.developingchild.harvard.edu
Kahn, J.C., Dietzel. L., (2008). Late, Lost, and Unprepared: A Parents’ Guide to Helping
Children with Executive Functioning. Woodbine House, MD p.17
Meltzer and Kalyani Krishnan. ) 2008( . Improving Executive Function Skills A Innovative
Strategy that May Enhance Learning for All Child. CEC Today, August.
Miller EK1 & Cohen, JD. )2001(. An integrative theory of prefrontal cortex function. Retrieved
May 22, 2018 from www.headway.org.uk
Seana Moran & Howard Gardner. Hill, Skill, and Will: Executive Function from a Multiple-
Intelligences Perspective, Executive Functionin Education: From Theory to Practice,
The Guilford Press, N.Y. p. 19.
Thanasetkorn, P. )2012(. Handout: “EXECUTIVE FUNCTIONs (EFs)”
Woodward, M. )2017(. How to thrive in A VUCA World. Retrieved May 21, 2017 from
https://www.psychologytoday.com
ทกั ษะสมอง Executive Functions: EF กับการพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ปีที่ 1 ฉบบั ที่ 2 กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562
ในประเทศไทย
ในการพฒั นาความสามารถในการแกป้ ญั หาของเด็กปฐมวยั