27/05/60
LIS3107 ดรรชนีและสาระสงั เขป: บทที่1
อาจารยพ์ ิมลอร ตนั หนั
ภาควชิ าบรรณารักษศาสตร์
คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลยั รามคาแหง
ดรรชนี / ดชั นี / index
• บัญชีคาเรียงตามลาดับอักษรไว้ส่วนท้ายของหนังสือเล่ม รวบรวมคา
สาคัญๆ ซ่ึงมีคากล่าวในหนังสือเล่มนัน้ โดยบอกเลขหน้าท่ีมีคานัน้ ๆ
ปรากฏอยู่ เพื่อความสะดวกแกก่ ารค้น
• บญั ชีคาท่ีปรากฏอย่ทู ้ายเล่มหนงั สือหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ ท่ีลกั ษณะเดียวกัน
ถ้ าหนังสือมีหลายเล่มจบก็มีดรรชนีอยู่ท้ ายของชุด เช่น ดรรชนีของ
สารานกุ รม
• เครื่องชีไ้ ปสเู่ นอื ้ หาของแฟ้ มข้อมลู เอกสาร หรือเพิ่มเอกสารอยา่ งเป็ นระบบ
ดรรชนีประกอบด้วย รายการคาหรือสญั ลกั ษณ์อื่นๆ ท่ีใช้แนบเนือ้ หาสาระ
และการอ้างอิงหมายเลขรหสั เอกสาร หมายเลขหน้าที่ปรากฏของช่ือเฉพาะ
หรือหวั ข้อเร่ืองทอ่ี ้างถงึ เอกสารหรือกลมุ่ ของเอกสาร
1
27/05/60
ดรรชนี / ดชั นี / index
• ดรรชนเี ป็ นรายการคาหรือวลที ี่สาคญั ทไี่ ด้มาจากเนอื ้ หาของหนงั สอื เอกสาร
บทความในวารสาร สอื่ อิเล็กทรอนิกส์หรือวสั ดสุ ารสนเทศอื่นๆ ที่ได้มีการ
จดั ทาขึน้ อย่างเป็ นระบบ เพ่ือนาไปสกู่ ารเข้าถึงสารสนเทศที่ปรากฏในส่ือ
วสั ดสุ ารสนเทศเหลา่ นี ้รายการคาและวลนี ีจ้ ดั เรียงตามลาดบั อกั ษร เพ่ือให้
ผ้ใู ช้สามารถค้นหาสารสนเทศทตี่ ้องการได้สะดวกรวดเร็ว
• Author index
• Name index
• Subject index
• Title index
• Subject location indicator
• Cross reference
2
27/05/60
จุดมุ่งหมายของดรรชนี
• เพ่ือดงึ ทกุ ส่ิงทกุ อยา่ งในหนงั สือที่จะเป็นประโยชน์แก่ผ้อู า่ นออกมา
จดั เรียงให้สามารถค้นหาได้ง่าย
• เป็นตวั บง่ ชีใ้ ห้ผ้อู า่ นค้นหาหวั ข้อเรื่องที่เก่ียวข้องในหนงั สือนนั้ ได้
ครบ โดยการใช้รายการโยง
• ชว่ ยการค้นหาหวั เรื่องที่ต้องการได้อยา่ งรวดเร็ว
• เพ่ือชว่ ยการค้นหาสารสนเทศสาหรับผ้อู า่ นในอนาคต
การทาดรรชนี (Indexing)
• เป็ นกระบวนการวิเคราะห์เนือ้ หาของความรู้ โดยนาเอาเนือ้ หาสาคญั และ
แนวคดิ ท่ไี ด้จากความรู้นนั้ มาจดั ทาเป็ นภาษาในระบบของการจดั ทาดรรชนี
และนามาจดั เรียงตามลาดบั อกั ษร เพื่อความสะดวกในการค้นหาหวั เรื่องท่ี
ต้องการ ดรรชนีจึงเป็ นเคร่ืองมือในระบบการจดั เก็บและการค้นคืนเอกสาร
(หรือสารสนเทศ) ที่สาคญั ประกอบด้วย
• คาสาคัญ (keyword/descriptor) คาที่ใช้แทนสาระของเอกสาร
• รายการทางบรรณานุกรม (bibliographic description)
รายละเอียดทางบรรณานกุ รมแสดงถงึ ลกั ษณะทางกายภาพของเอกสารพร้ อม
ด้วยรหสั ของเอกสาร
3
27/05/60
กระบวนการสาคญั ของการทาดรรชนี
• อา่ นเนอื ้ หาของเอกสารอยา่ งรวดเร็ว
• วเิ คราะห์เนอื ้ หาของเอกสาร
• ปรับเปลย่ี นคาจากเนอื ้ หาให้เป็ นคาที่เป็ นภาษาดรรชนี
• กาหนดตวั บง่ ชีต้ าแหนง่ ที่ปรากฏเนอื ้ หา
การรวบรวมรายการดรรชนีให้มีความสมั พนั ธ์และความคงทข่ี องการใช้คา
กาหนดหลกั เกณฑ์การคกั เลือกตวั บง่ ชีบ้ อกตาแหนง่ ที่ปรากฏสารสนเทศท่ีมี
ความสมั พนั ธ์กนั
ววิ ฒั นาการการจดั ทาดรรชนี
• ปลายศตวรรษที่ 12 : ได้พฒั นารูปแบบการทาดรรชนีที่ชดั เจน โดยจดั ทา
“citation” การอ้างถงึ ผลงานเขยี น เป็ นดรรชนที ่สี ามารถชว่ ยค้นและอ้าง
ถึงความรู้ท่เี กี่ยวข้องกนั ได้ รายการทลี่ งมกั เป็ นช่ือบคุ คลหรือคาทป่ี รากฏใน
เนอื ้ หาเทา่ นนั้
• ศตวรรษท่ี 14 : “อภิธานดรรชนี” เป็ นมากกวา่ ดรรชนชี ่อื เรื่องโดยพฒั นามา
จากดรรชนขี องเอกสารเร่ืองใดเรื่องหนงึ่ ไปสกู่ ารรวมดรรชนี
• ศตวรรษท่ี 18 : มกี ารทาดรรชนีมากขนึ ้ จากการทาโดยผ้เู ขียนเอกสารไปสู่
การรวบรวมดรรชนที คี่ รอบคลมุ ความรู้ในสาขาวิชาตา่ งๆ มีดรรชนีวารสาร
เป็ นครัง้ แรก “An Alphabetical Index to Subjects Treated in
the Reviews and Other Periodicals to Which No Indexes
Have Been Published” เปลย่ี นช่ือเป็ น People’s Index to
Periodical Literature
4
27/05/60
ววิ ฒั นาการการจดั ทาดรรชนี
• ศตวรรษที่ 19 การทาดรรชนไี ด้รับการปรับปรุงทงั้ ปริมาณและคณุ ภาพ มีการ
จัดทาดรรชนีในทุกาสาขาวิชา รวมทงั้ บทความที่พิมพ์ในวารสารวิชาการ
เนื่องจาก “ดรรชน”ี เป็ นเครื่องมือชว่ ยค้นหาสารสนเทศได้สะดวกและรวดเร็ว
• Index to Periodical Literature เป็ นดรรชนีเลม่ แรกๆ ที่ทาโดย
บรรณารักษ์
• Paul Otlet และ Henri La Fontaine เปล่ยี นการเข้าถึงสารสนเทศ
จากการจัดหมวดหมู่ มาเป็ นการจัดทาดรรชนีจากช่ือเรื่อง คาสาคัญ และ
ดรรชนีแบบคาศพั ท์อิสระ หรือคาที่ปรากฏในเนือ้ หาของเอกสารมาเป็ นศพั ท์
ดรรชนี
ววิ ฒั นาการการจดั ทาดรรชนี
• บริษัท เอช.ดบั บริว.วิลสัน (H.W. Wilson) จดั ทา Readers’
Guide to Periodical Literature เป็ นดรรชนีที่เน้นการเข้าถึง
เนือ้ หาด้วยวิธีดรรชนีเร่ือง (subject index) และระบบรายการโยง
ที่ดี (cross reference)
• ศตวรรษท่ี 20 ดรรชนีเรื่อง (subject index) เป็ นดรรชนีที่จดั เนือ้ หา
ความรู้เป็ นกลมุ่ เป็ นหมวดหมู่ แล้วจดั เรียงความรู้ตามลาดบั ชนั้ ของความรู้ท่ี
เก่ียวข้องกนั ตามลาดบั ชนั้ มีระดบั ชนั้ 2-3 ระดบั โดยกาหนดเป็ นหวั เร่ือง
ใหญ่ หวั เรื่องยอ่ ย และหวั เรื่องย่อยย่อย ทกุ ลาดบั ชนั้ จะจดั เรียงตามลาดบั
ตวั อกั ษร
5
27/05/60
6
27/05/60
วิวฒั นาการการจดั ทาดรรชนี
• การนาคอมพิวเตอร์มาจดั ทาดรรชนีเพ่ือความสะดวกรวมเร็ว โดยการนาคาสาคญั จาก
ชือ่ เรื่องของเอกสารมาจดั ทาดรรชนี (title-word indexing) ลกั ษณะของดรรชนี
ประเภทที่รู้จกั กนั คือ ดรรชนีแบบ KWIC (Keyword – in – Context)
ภาพจาก: http://www.jostrans.org/issue10/art_maher.php
ววิ ฒั นาการการจดั ทาดรรชนี
• ในประเทศไทย ได้มกี ารจดั ทา “ดรรชนีวารสารไทย” และดรรชนี
หนงั สอื พิมพ์ไทย โดยสถาบนั บณั ฑติ พฒั นบริหารศาสตร์
• “ดรรชนรี าชกิจจานเุ บกษา” โดย สานกั หอสมดุ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์
7
วงจรสารสนเทศ วิเคราะห์และประเมนิ 27/05/60
คณุ ค่าของสารสนเทศ 8
การสร้ างองค์ความร้ ู
ใหมแ่ ล้วทาการบนั ทึก จดั พมิ พเ์ ผยแพร่ใน
รูปสอ่ื ตา่ งๆ
อ่าน วเิ คราะห์ เกิด
ความคิดใหมแ่ ละ ควบคมุ บรรณานกุ รม
นามาประยกุ ต์ใช้ โดยการสร้ างเครื่องมือ
สืบค้น
สารสนเทศ
ผ้ใู ช้มีความ จดั เก็บใน
ต้องการ แฟ้ มข้อมลู
สารสนเทศ ฐานข้อมลู
ความสัมพนั ธ์ระหว่างการจดั ทาดรรชนี
กบั การจดั ทาสาระสังเขปและการค้นคว้า
เอกสาร
ดรรชนี คมู่ ือการ สาระสงั เขป
จดั ทา
ดรรชนี
ผ้ใู ช้
27/05/60
เอกสารอ้างองิ
เพชราภรณ์ จนั ทรสตู ร์. (2547). ความรู้เบือ้ งต้นเก่ียวกบั การทาดรรชนี
และสาระสังเขป. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลยั รามคาแหง.
9