เรือเครื่องผูก
ประวัติศาสตรความสัมพันธนับพันป
เอิบเปรม และ ยุวดี วัชรางกูร: เขียน
ราคา 320 บาท
ขอมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแหงชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
เอิบเปรม วัชรางกูร.
เรือเครื่องผูก ประวัติศาสตรความสัมพันธนับพันป.-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุป, 2562.
384 หนา.
1. ความสัมพันธระหวางประเทศ. l. ยุวดี วัชรางกูร, ผูแตงรวม. II. ชื่อเรื่อง.
327
ISBN 978-616-301-692-8
©
ขอความในหนังสือเลมนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกสวนใดๆ ในหนังสือเลมนี้ไปเผยแพรไมวาในรูปแบบใดตองไดรับอนุญาตจากเจาของลิขสิทธิ์กอน
ยกเวนเพื่อการอางอิง การวิจารณ และประชาสัมพันธ
บรรณาธิการอำนวยการ : คธาวุฒิ เกนุย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผูชวยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา ดารียา ครโสภา
เลขากองบรรณาธิการ : อรทัย ดีสวัสดิ์
พิสูจนอักษร : บริิมาส ฐิติธรรม
รูปเลม : Evolution Art
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ผูอำนวยการฝายการตลาด : นุชนันท ทักษิณาบัณฑิต
ผูจัดการฝายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผูจัดการทั่วไป : เวชพงษ รัตนมาลี
จัดพิมพโดย : บริษัท ยิปซี กรุป จำกัด เลขที่ 37/145 รามคำแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ตอ 108
www.gypsygroup.net
พิมพที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำกัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำหนาย : บริษัท ยิปซี กรุป จำกัด โทร. 0 2728 0939
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID : @gypzy
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำนวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำนักพิมพลดราคาพิเศษ ติดตอ โทร. 0 2728 0939
่
เรือเครองผก
ู
ื
Sewn Ship
ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์นับพันปี
ของชาวทะเลอาหรับกับชาวทะเลจีนใต้...และชาวสยาม
แกะรอยการเดินทางติดต่อค้าขายของบรรพชนสองซีกโลก
เอิบเปรม และ ยุวดี วัชรางกูร
�
�
�
คานาสานักพิมพ์
้
�
แม่นาลาคลองเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ท่ไหลหล่อเล้ยงผู้คนมา
ี
ี
�
ั
�
ั
ต้งแต่โบราณกาล ถ้าไม่มีแม่นาลาคลอง การสัญจรในห้วงเวลาน้นอาจถึงกับ
้
�
เป็นอัมพาตขาดความคล่องตัวในการขนส่งสินค้าและการเดินทาง
เรอ เป็นหน่งปัจจัยท่ (ทุกบ้าน) ต้องมี ไม่ว่าจะเป็นเรือเล็กหรือเรือใหญ่
ื
ี
ึ
ี
�
ั
ท่มีไว้ใช้ในครัวเรือนยามจาเป็น กระท่งใช้เป็นพาหนะในการทามาหากินหรือ
�
ล่องเรือค้าขายสินค้าต่างๆ
ื
ี
�
ี
้
3 ใน 4 ของนาท่มีอยู่บนโลกจึงเป็นเส้นทางการเดินเรือท่เช่อมโยงโลก
ั
ตะวันออกกับโลกตะวันตกและท่วท้งโลกใบน้ ประวัติศาสตร์ของเส้นทางการ
ี
ั
ี
เดินเรือจึงมีท่มายาวนานกว่าจะมาสู่พัฒนาการของเรือในรูปแบบหลากหลาย
ในยุคปัจจุบัน
�
�
้
ี
ี
การนาพาของสายนาน่เองท่ผลักนาให้การเดินทางของ เรือเคร่องผูก
ื
�
ให้เคล่อนไหลผ่านกาลเวลามายาวนาน จากรูปลักษณ์หน่ง ค่อยๆ เปล่ยนไป
ี
ึ
ื
ั
ึ
ื
ี
สู่อีกรูปแบบหน่งตามวันเวลา สถานการณ์และภูมิประเทศของพ้นท่น้นๆ ตาม
แต่ความเหมาะสม
ี
กว่า 4,500 ปีท่นักโบราณคดีชาวอียิปต์ได้พบซากเรือบริเวณสุสาน
ื
�
ฟาโรห์คูฟู น่นอาจหมายความว่า เทคนิคการต่อเรือเคร่องผูกมีต้นกาเนิดมา
ั
ั
ื
้
จากแถบทะเลแดง ก่อนจะไหลเล่อนไปยังย่านน�าต่างๆ ท้งแถบอ่าวเปอร์เซีย
มหาสมทรอินเดย ทะเลเมดเตอร์เรเนียน ไปจนถงชายฝั่งตะวันออกของ
ิ
ุ
ึ
ี
แอฟริกา หมู่เกาะอินโดนีเซีย จนถึงหมู่เกาะฟิลิปปินส์ และมาถึงสยามประเทศ
้
�
ดังท่กองโบราณคดีใต้นา กรมศิลปากร ได้ขุดค้นพบในพ้นท่ท่เป็นบ่อกุ้งของ
ี
ี
ื
ี
ชาวบ้านในอาเภอพันท้ายนรสิงห์ จังหวัดสมุทรสาคร เม่อปลายปี พ.ศ. 2556
ื
�
ี
ื
เป็น “ซากเรือเคร่องผูก” อายุราว 1,300-1,200 ปี ท่มีสภาพเกือบสมบูรณ์
ี
ื
ท่สุดท่พบในภาคพ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว
ี
เรือท่ถูกขุดพบในบริเวณบ่อกุ้งลาน้ต้งช่อตามเจ้าของสถานท่ท่ขุดพบ
ี
ี
ั
ื
�
ี
ี
คือ นายสุรินทร์และนางพนม ศรีงามดี จึงได้ช่อว่า “แหล่งเรือโบราณพนม
ื
ั
ี
สุรินทร์” จากการขุดค้นคร้งน้ นักวิชาการหลายคนลงความเห็นตรงกันว่า
ี
แหล่งเรือโบราณอายุเกินพันปีแห่งน้ถือเป็นมรดกวัฒนธรรมทางโบราณคด ี
ท่ทรงคุณค่ามากท่สุดแห่งหน่งของโลก หรืออาจไม่ต่างกันมากจากยุคสมัย
ึ
ี
ี
ของกาหลิบฮารูน อัล รอชีด แห่งราชวงศ์อับบาสิยะฮ์ และจักรพรรดิถังเจ๋อ
ตง แห่งราชวงศ์ถัง ก็เป็นได้
แหล่งกาเนิด ท่มาท่ไป มีกลุ่มประเทศใดบ้างท่เก่ยวข้องเช่อมโยงกับ
ี
ี
ี
ี
ื
�
ี
้
ิ
�
ื
ิ
เรือเคร่องผูก และความจรงของเส้นทางการนาพาเรอพนมสุรนทร์ลานมาสู่
ื
�
สยามประเทศ รวมถึงพัฒนาการเรือเคร่องผูกของเหล่าอาณาอารยประเทศ
ื
จะเป็นเช่นไรน้น เชิญผู้อ่านเปิดหนังสือเล่มน้โดยพลัน
ั
ี
ด้วยปรารถนาด ี
�
สานักพิมพ์ยิปซ ี
คานาผู้เขียน
�
�
ในประเทศไทยมีนักวิชาการค้นคว้าวิจัยเก่ยวกับ ‘เรือ’ อย่างละเอียด
ี
ึ
ี
ลึกซ้งน้อยมาก คงมีเพียงการศึกษาเก่ยวกับรูปแบบลักษณะ การสะสม แยก
ั
ประเภท หมวดหมู่ไว้บ้างเท่าน้น มิได้ลงรายละเอียดไปถึงประวัติศาสตร์ความ
ี
สัมพันธ์ของชุมชนและกลุ่มคนท่ใช้เรือมาแต่อดีต อันส่งสะท้อนมาถึงลักษณะ
รูปแบบเรือ หน้าท่ใช้สอย เทคนิคและวัสดุท่ใช้ต่อเรือ รวมถึงเหตุและผลใน
ี
ี
การต่อเรือ ไม่ว่าจะเป็นขนาดและความสาคัญขององค์ประกอบต่างๆ
�
ประการส�าคัญคือ ยังไม่เคยมีใครศึกษาไปถึงวิวัฒนาการการต่อเรือ โดย
ื
เฉพาะอย่างย่งสายสัมพันธ์ของวิวัฒนาการในพ้นท่ต่างๆ ท่วโลก ท่ามกลาง
ั
ิ
ี
�
ลาดับเวลาทางประวัติศาสตร์
�
ึ
้
อาจเป็นเพราะในบ้านเรา เรือเป็นส่วนหน่งของวิถีชีวิตชาวนา ผู้คน
�
อาศัยอยู่ในบ้านเรือนริมทางนา มีโครงสร้างของชีวิตอยู่กับนาจนเกิดความ
�
้
้
คุ้นชิน เรือเป็นท้งพาหนะสาหรับเดินทาง ขนส่งข้าวของ สินค้า เป็นได้ถึง
�
ั
ที่อยู่อาศัยรอนแรมไปต่างถิ่น ตลอดถึงเป็นพาหนะพาสู่สรวงสวรรค์ในโลกหน้า
ตามคติความเช่อของชุมชนโบราณหลายแห่ง
ื
ผู้เขียนเร่มเรียนรู้และศึกษาค้นคว้าเก่ยวกับโบราณคดีใต้นา ต้งแต่
้
ั
ี
ิ
�
ื
ิ
่
ิ
ครงเป็นนกศึกษาคณะโบราณคด มหาวทยาลัยศลปากร เมอปี พ.ศ. 2517
ั
ี
ั
้
�
ึ
ระยะแรกขอบข่ายความสนใจจากัดเพียง ‘เคร่องสังคโลก’ ซ่งเป็นสินค้าท่พบ
ี
ื
ื
ั
เป็นจานวนมากในซากเรือสาเภาบริเวณอ่าวไทย สมัยน้นความรู้เร่องตัวเรือ
�
�
�
สาเภามีข้อจากัดอยู่เพียงเอกสารประวัติศาสตร์ท่กล่าวถึงบ้าง การขุดค้นทาง
�
ี
ื
ี
โบราณคดกับซากเรอมปรมาณน้อยจนกระทงเราไม่อาจประมาณได้ว่าขนาด
ี
่
ั
ิ
ของตัวเรือแต่ละลามีขนาด ระวาง ความจุเท่าไร
�
ื
�
เม่อแรกรับราชการ ผู้เขียนมีโอกาสทางานโบราณคดีในเขตจังหวัด
้
�
�
ั
�
สุโขทัย กาแพงเพชร พิษณุโลก จนกระท่งมาทางานโบราณคดีใต้นา สังกัด
ั
ั
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้ด่งใจรักและมุ่งม่นต่อเน่องเป็นเวลา 24
ื
ื
ปี ก่อนเกษียณอายุราชการเม่อเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2559
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนมีความสนใจใคร่รู้เก่ยวกับประวัติศาสตร์ของเรือ
ี
ึ
เสมอมา โดยเฉพาะการค้นคว้าวิจัยเก่ยวกับ ‘เรือเคร่องผูก’ ซ่งเป็นองค์ความ
ี
ื
�
�
รู้ใหม่สาหรับประเทศไทย จาเป็นต้องผลักดันและสร้างนักวิชาการรุ่นใหม่ๆ
มาศึกษาต่อยอดเก่ยวกับเรือเคร่องผูกอีกมาก
ี
ื
�
ั
คร้นผู้เขียนดาริว่าน่าจะถอดบทเรียนความรู้จากประสบการณ์การ
�
ี
ทางานเก่ยวกับเรือโบราณมาโดยตลอดออกมาเป็นหนังสืออีกสักเล่ม ผู้เขียน
ี
จึงปักธงว่าจะต้องเขียนเก่ยวกับ ‘เรือเครื่องผูก’ ภายใต้ข้อจากัดของชุดความ
�
ี
รู้เท่าท่เสาะแสวงหาได้ในปัจจุบัน โดยบูรณาการแขนงวิชาสาขาต่างๆ เข้าไว้
ด้วยกัน ได้แก่ โบราณคดี ประวัติศาสตร์ ธรณีวิทยา สังคมวิทยา มานุษยวิทยา
และวรรณกรรม เป็นต้น
การเก็บข้อมูลนอกจากรวบรวมเอกสารและงานวิจัยท่เก่ยวข้องแล้ว
ี
ี
ผู้เขียนยังได้ชักชวนภรรยา คือ คุณยุวดี วัชรางกูร นักเขียนสารคดีและ
บรรณาธิการสารคดีด้านวัฒนธรรมโดยวิชาชีพ ร่วมเขียนหนังสือเล่มน้ด้วย
ี
กัน โดยเธอรับผิดชอบเน้อหาเก่ยวกับการลงพ้นท่เก็บข้อมูลภาคสนาม ท้ง
ื
ี
ี
ั
ื
ั
ในประเทศไทยและต่างประเทศ จากการส่งสมประสบการณ์เดินทางค้นคว้า
�
ข้อมูลสาหรับงานเขียนสารคดีมาตลอด 25 ปีของเธอ โดยเฉพาะอย่างย่งการ
ิ
เดินทางสารวจและค้นคว้าข้อมูลพร้อมกันของเรา
�
ี
ี
�
พ้นท่สารวจเก่ยวกับเรือเคร่องผูกท่ปรากฏในหนังสือเล่มน้ นอกจาก
ื
ื
ี
ี
ในประเทศไทยแล้ว ผู้เขียนได้พาท่านผู้อ่านร่วมเดินทางไปยังประเทศ
ต่างๆ ได้แก่ โอมาน จอร์แดน อียิปต์ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย จีน และ
โปรตุเกส เพ่อฉายภาพความสัมพันธ์อันเก่ยวโยงกันของผู้คนสองซีกโลกผ่าน
ี
ื
ประวัติศาสตร์ของเรือ
ผู้เขียนขอขอบคุณชุดความรู้ด้านโบราณคดีจากสายงานด้งเดิมคือ กอง
ั
้
�
ี
�
โบราณคดีใต้นา ข้อมูลจากสานักศิลปากรท่ 1 ราชบุรี ข้อมูลเอกสารจากกอง
ี
ื
โบราณคดี และหน่วยงานอ่นๆ ท่เก่ยวข้องในสังกัดกรมศิลปากร กระทรวง
ี
วัฒนธรรม
ิ
หวังเป็นอย่างย่งว่าประสบการณ์ในฐานะนักโบราณคดี และนักเขียน
ี
ู
ั
�
ู
ู
ู
ี
สารคดีของผ้เขยนทงสองคนจะนาพาท่านผ้อ่านเข้าส่โลกแห่งการเรยนร้เก่ยว
้
ี
กับประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ของผู้คนในสมัยโบราณผ่านพาหนะเก่าแก่คือ
เรือ ตามพ้นฐานความสนใจของแต่ละท่าน
ื
ื
เราเช่อว่าท่านผู้อ่านจะเพลิดเพลินไปกับการท่องนาวาประวัติศาสตร์
ต้งแต่เร่มกางใบเรือกระท่งม้วนใบเรือ ก่อนส่งท่านกลับข้นฝั่งโดยสวัสดิภาพ
ั
ิ
ั
ึ
ขอความสวัสดีจงมีแก่ทุกท่าน...
เอิบเปรม วัชรางกูร
สารบัญ
�
บทนา (กางใบเรือ) 13
ื
ความหมายและพัฒนาการของเรือเคร่องผูก 15
หลักฐานเก่าแก่ว่าด้วยเรือเคร่องผูก 16
ื
ส่วนประกอบท่วไปของเรือ 22
ั
ี
บทท่ 1 แคมป์ข้างเมรุ กับ ซากเรือใต้บ่อกุ้ง 29
ี
ื
้
�
โบราณ (วิบาก) คดี...ในพ้นท่ชุ่มนา 30
ข้าวของเก่าแก่ เบาะแสปูมเรือ 37
อักษรปริศนาบนปากไห 50
�
ผลสารวจธรณีฟิสิกส์รอบแหล่งเรือจม 52
ขอบเขตทะเลสมัยทวารวด ี 54
ื
ี
บทท่ 2 ตามรอย...ต้นทางเรือเคร่องผูก 61
ื
ื
ี
การประชุมวิชาการนานาชาติเร่องเรือเคร่องผูกท่โอมาน 64
ื
ช่างต่อเรือเคร่องผูก เมืองอลัปปูจา รัฐเกรละ อินเดีย 70
เรือเคร่องผูก–เรือสาเภา 88
ื
�
บทท่ 3 เรือพันปี เช่อมอดีตสองซีกโลก 95
ี
ื
ราชวงศ์อับบาสิยะฮ์–ราชวงศ์ถัง 97
เมืองท่าในสุวรรณภูมิและทวารวด ี 109
อาหรับ–อินเดีย–อุษาคเนย์ 119
อาณาจักรศรีวิชัย ไศเลนทร์วงศ์ และเรือท่บุโรพุทโธ 135
ี
แขกมักกะสัน: จากเกาะเซลีเบสสู่กรุงศรีอยุธยา 153
ี
บทท่ 4 บรรพชนแห่งดินแดนพระจันทร์เส้ยว 175
ี
ชาวเบดูอิน เดดซีและแหลมซีนาย 178
เรือเคร่องผูก 4,500 ปี ณ สุสานฟาโรห์ 187
ื
้
�
บทท่ 5 บรรพชนแห่งลุ่มนาฮวงโหถึงลุ่มนาแยงซ ี 201
ี
้
�
ย้อนไปสมัย ‘พระเจ้าเหา’ 202
เค้าอดีตชนผู้อพยพแห่งนครปา–นครลุง 209
ไหก้นแหลม: เส้นทางสายดินเผาของผู้อพยพ 235
บทท่ 6 เส้นทางสายแพรไหมทางทะเล 243
ี
ิ
�
สาเภาจีนกับประวัติศาสตร์กองเรือเจ้งเหอ 245
ิ
�
ี
ี
มรดกความทรงจาเก่ยวกับเจ้งเหอ ท่รัฐเกรละ อินเดีย 253
สินค้าของป่าสมัยกรุงศรีอยุธยา 260
�
�
ลมมรสุมประจาฤดู ปัจจัยกาหนด ‘เวลา’ ทางการค้า 265
การค้าทางทะเลระหว่างโลกตะวันตกกับโลกตะวันออก 267
ี
บทท่ 7 เส้นทางสายเคร่องเทศของชาวยุโรป 281
ื
จาก ‘ลิสบัว’ ถึง ‘กาลิกูฏ’ 282
ค้าทาส: ประวัติศาสตร์ด้านมืดของโปรตุเกส 308
เม่อโปรตุเกสมาถึงกรุงศรีอยุธยา 313
ื
ี
�
มรดกความทรงจาสยามท่โปรตุเกส 334
บทส่งท้าย (ม้วนใบเรือ) 345
ภาคผนวก 357
ี
ื
แหล่งเรือเคร่องผูกท่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 358
ี
ื
ตารางเปรียบเทียบอายุเรือเคร่องผูกท่พบใน
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 366
บรรณานุกรม 371
บทน�ำ
กางใบเรือ
ื
�
คาว่า ‘เรือเคร่องผูก’ เป็นการผูกคาข้นใหม่เพ่อใช้เรียกรูปแบบการ
ื
ึ
�
ึ
ต่อเรือประเภทหน่ง นิยมสร้างในกลุ่มประเทศชายฝั่งทะเลอาหรับและชายฝั่ง
มะละบาร์ อินเดียตะวันตกเฉียงใต้ โดยผู้เขียนเจตนาล้อคาว่า ‘เรือนเคร่องผูก’
�
ื
ึ
ิ
อันเป็นรูปแบบการสร้างเรือนไทยท้องถ่นประเภทหน่ง
รองศาสตราจารย์เสนอ นิลเดช อธิบายในหนังสือช่อ “เรือนเคร่อง
ื
ื
ิ
ผูก” เผยแพร่ปี พ.ศ. 2547 ว่าการสร้างเรือนไทยท้องถ่นแบ่งเป็น 3 รูปแบบ
ื
ื
ื
ั
ื
ได้แก่ เรือนเคร่องผูก เรือนเคร่องสับ และเรือนเคร่องก่อ เรือนเคร่องผูกน้น
ั
ิ
ิ
สร้างจากวัสดุท้องถ่นโดยจะผูกรัดช้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน มีลักษณะช่วคราว
ึ
หรือก่งถาวร ต่างจากเรือนเคร่องสับซ่งใช้ไม้เน้อแข็งและตะปูหรือสลัก ส่วน
ึ
ื
ื
เรือนเคร่องก่อจะมีโครงสร้างเป็นหิน อิฐ และซีเมนต์
ื
การต่อเรือก็มีความเป็นมาใกล้เคียงกัน...
ี
เรือขุด แบบเสริมกราบท่เมืองอัลเลปปี รัฐเกรละ
14 เรือเครื่องผูก
ื
ความหมายและพัฒนาการของเรือเคร่องผูก
ิ
�
เรือเป็นส่งประดิษฐ์ของมนุษยชาติสาหรับเป็นพาหนะในการเดินทาง
ิ
ั
ขนส่งต้งแต่ยุคแรกเร่ม บางชุมชนใช้เรือเป็นสัญลักษณ์ในพิธีกรรมของชีวิต
ี
ด้วย มีหลักฐานว่าเรือเป็นประดิษฐกรรมการเดินทางท่เก่าแก่กว่าพาหนะ
แบบล้อเล่อน
ื
ิ
พัฒนาการของเรือดั้งเดิมเร่มจากแบบเรียบง่าย ขนาดเรือเป็นแบบเรือ
�
เล็ก ปรับปรุงไปเป็นแบบซับซ้อน มีขนาดใหญ่สาหรับเดินทางข้ามมหาสมุทร
้
การเลือกใช้วัสดุสร้างเรือ เร่มจากหาเคร่องมือท่มีน�าหนักเบา ลอยนา
ิ
�
้
ื
ี
ิ
ิ
ได้ ช่วยพยุงตัวเรือและส่งของภายในเรือ แล้วดัดแปลงเพ่มเติมมาเป็นเรือขุด
�
หรือแพตามลาดับ
ี
ั
จากวัสดุท่สามารถใช้ได้เพียงช่วคราว พัฒนาไปเป็นวัสดุทนทานถาวร
ื
ึ
มีรูปแบบ วิธีการสร้าง และเคร่องประกอบซับซ้อนมากข้น
ื
เรือเคร่องผูกมีพัฒนาการผสมผสานระหว่าง เรือขุด (dugout
ึ
ื
boat) กับ แพ (raft) ซ่งถูกแก้ไขดัดแปลงไปตามสภาพแวดล้อมแต่ละพ้นท ี ่
ภูมิศาสตร์ อาจกล่าวได้ว่าเรือเคร่องผูกมีกาเนิดและพัฒนาการเบ้องต้นด้วย
ื
ื
�
ื
ตัวเองได้ในแต่ละพ้นท่ ส่วนเทคโนโลยีการต่อเรือให้มีความแข็งแรงทนทาน ม ี
ี
ิ
ขนาดและโครงสร้างซับซ้อน อาจได้รับอิทธิพลมาจากต่างถ่นต่างวัฒนธรรม...
หรือไม่ก็ได้
การต่อเรือเคร่องผูกเป็นการข้นรูปทรงเรือด้วยการผูกกระทงเรือเป็น
ื
ึ
ี
ิ
ทรงท่ต้องการ แล้วจึงเสริมโครงสร้างเพ่มความแข็งแรง เรียกว่า plank first
ั
แตกต่างจากพฒนาการการต่อเรอในสมยต่อมาทท�าโครงสร้างเพ่อความแข็ง
ื
ี
ั
ื
่
แรงก่อนแล้วจึงประกอบกระทงเรือเข้าไป เรียกว่า frame first จากน้นจึง
ั
ี
อุด ชันยากันนาเข้าตัวเรือด้วยส่วนผสมยางไม้เค่ยวในนามัน และส่วนผสม
�
้
้
�
ิ
ี
จากวัตถุดิบท่หาได้ในท้องถ่นน้นๆ
ั
Sewn Ship 15
ึ
ื
โครงสร้างสาคัญของการต่อเรือข้นกับเง่อนไขสภาพแวดล้อม ท้งเร่อง
�
ั
ื
�
้
การรับและส่งถ่ายกระจายนาหนัก การต่อต้านแรงท่กระทาต่อตัวเรือฯ
�
ี
�
เรือจึงมีลักษณะพ้นฐานคล้ายกันท่วโลกโดยไม่จาเป็นต้องมีกาเนิดจาก
�
ั
ื
ี
ั
ท่เดียวกัน หากแต่ความสลับซับซ้อนท่เกิดภายหลัง ท้งจากการเรียนรู้ด้วยตัว
ี
เอง หรือผสมผสานวิธีการต่อเรือจากคนต่างถ่นต่างวัฒนธรรม ทาให้การศึกษา
�
ิ
�
ื
เร่องเรือจาต้องอาศัยมิติทางวัฒนธรรมมาพิจารณาด้วย
หลักฐานเก่าแก่ว่าด้วยเรือเครื่องผูก
ื
หลักฐานซากเรือเคร่องผูกเก่าแก่ท่สุด พบทีมหาพีระมิดแห่งกีเซ
่
ี
ประเทศอียิปต์
ื
ั
นักโบราณคดีชาวอียิปต์พบซากเรอท้งภายในและภายนอกสุสาน
ื
ฟาโรห์คูฟู อายุราว 4,500 ปีมาแล้ว แสดงให้เห็นว่าเทคนิคการต่อเรือเคร่อง
ผูกอาจมีต้นกาเนิดในแถบทะเลแดง ก่อนแพร่กระจายไปยังอ่าวเปอร์เซีย
�
ิ
ี
ึ
ุ
มหาสมทรอินเดย ทะเลเมดเตอร์เรเนียน ไปจนถงชายฝั่งตะวันออกของ
ิ
ื
ู
ู
ี
ิ
ู
แอฟรกา หม่เกาะอนโดนเซย และหม่เกาะฟิลปปินส์ โดยรปทรงของเรอม ี
ิ
ี
รูปร่างแตกต่างไปตามความนิยมของแต่ละท้องถ่น
ิ
ข้อมูลจากหนังสือ “Guide to the Pyramids of Egypt” เขียน
ี
โดย Alberto Siliotti จัดพิมพ์ปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ท่ประเทศอียิปต์
ี
อธิบายเก่ยวกับซากเรือโบราณภายในมหาพีระมิดแห่งกีเซ เอาไว้ว่า เรือในแง่
�
วัฒนธรรมไม่ได้มีหน้าท่เฉพาะเป็นพาหนะสาหรับขนส่ง หรือใช้ในการประมง
ี
เท่าน้น หากมีนัยสาคัญเก่ยวกับคติความเช่อ น่นคือ...เป็นพาหนะของเทพเจ้า!
ั
ื
ั
�
ี
16 เรือเครื่องผูก
เรือเคร่องผูกอายุ 4,500 ปี จากพีระมิดคูฟูท่ผ่านการอนุรักษ์แล้ว
ื
ี
“...เทพเอเมนท่องไปบนเรือศักด์สิทธ์ระหว่างเผยแผ่ศาสนา เทพรา
ิ
ิ
ื
ั
หรือองค์สุริยเทพท่องไปท่วแดนสวรรค์ทุกวันด้วยเรือ เพ่อสร้างสมดุลของ
ื
ฤดกาลและกลางวนกลางคนแก่มวลมนษย์ ในแง่นฟาโรห์ซงเป็นบตรแห่ง
ั
ึ
ุ
่
ี
้
ุ
ู
�
�
�
เทพราย่อมดาเนินตามรอยทางดังกล่าว พระองค์จาเป็นต้องมีเรือสาหรับท่อง
แดนสวรรค์...”
“...เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1954 (พ.ศ. 2497) สถาปนิกและนัก
โบราณคดีชาวอียิปต์ นาม Kamal el-Mallakh กับผู้ตรวจการณ์ Zaki Nur
พบร่องดินทรงสามเหล่ยมถูกปิดอย่างมิดชิดแลดูลึกลับ อยู่ใกล้กับท่อน
ี
หินยักษ์ 40 ก้อน แต่ละก้อนมีน�าหนักราว 17-20 ตัน ก้อนหินด้านเหนือสุด
้
ึ
�
ถูกเปิดออก เผยให้เห็นซากช้นเล็กช้นน้อยของเรือไม้ขนาดใหญ่ลาหน่ง นับ
ิ
ิ
�
ได้จานวน 1,224 ช้น...”
ิ
Sewn Ship 17