มือสังหารของสตาลิน
ลุดมีลา ปัฟลีเชนโค เขียน
สรศักดิ์ สุบงกช แปล
เดวิด ฟอร์แมน แปลจากภาษารัสเซียเป็นภาษาอังกฤษ
คำานำาสำานักพิมพ์
ไม่บ่อยนักท่เราจะได้ยินเร่องราวของพลแม่นปืนหญิง โดยเฉพาะ
ื
ี
เม่อพลแม่นปืนหญิงคนน้นเป็นถึงทหารท่ได้รับความไว้วางใจ
ื
ี
ั
ุ
ำ
จาก โจเซฟ สตาลิน ผ้นาของสหภาพโซเวียต พลซ่มยิงหญิง ลุดมีลา
ู
ื
ปัฟลีเชนโค หรือช่อเต็มของเธอคือ ลุดมีลา มีคาอีลอฟนา
ปัฟลีเชนโค ได้ชื่อว่าเป็นวีรสตรีแห่งสหภาพโซเวียต เธอผู้นี้คือ
ุ
่
ี
ำ
่
ิ
ี
ั
่
หนงในพลซมยงทประสบความสาเรจและนาหวาดหวนมากทสด
ุ
่
ึ
่
็
่
่
็
ี
ั
้
ิ
้
้
ู
ั
ั
ั
์
ในประวตศาสตร เธอยงเปนทรจกทงในและนอกประเทศบานเกด
ิ
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ึ
ี
ั
ุ
อตชวประวตเลมนเรยบเรยงจากบนทกสวนตวของลดมลา
ี
ั
่
ั
้
ิ
่
ี
ี
ี
ั
ปัฟลีเชนโค ซึ่งรวบรวมเรื่องราวในชีวิตของเธอตั้งแต่เด็กจนเข้า
เรียนระดับมหาวิทยาลัย กระท่งตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพแดง
ั
ุ
ู
ึ
ุ
และกลายเป็นหน่งในกล่มพลซ่มยิงหญิงของโซเวียตรัสเซีย ผ้คน
ำ
ื
ในประเทศต่างช่นชมและยกย่องให้เธอเป็นวีรสตรีจากความสาเร็จ
ในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ด้วยฝีมือ ไหวพริบ และ
ึ
ั
ำ
ุ
ความม่งม่น ทาให้เธอทาสถิติสังหารข้าศึกได้ถึง 309 ศพ ซ่ง 29 ศพ
ำ
ในจำานวนนั้นเป็นพลซุ่มยิงของฝ่ายศัตรู นอกจากภารกิจภายใน
สนามรบแล้ว เธอยังร่วมเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศทาง
แถบตะวันตก ได้แก่ แคนาดา อังกฤษ และสหรัฐฯ ในฐานะผ้แทน
ู
ื
ั
ำ
ของโซเวียตตามคาส่งโดยตรงจากสตาลิน เพ่อเรียกร้องให้ประเทศ
เหล่านี้สนับสนุนโซเวียตรัสเซีย
ื
ำ
หนังสือเล่มน้นาเสนอในรูปแบบเร่องเล่าอันล่นไหล ผ้อ่าน
ู
ื
ี
ำ
ู
ู
ำ
จะได้ทาความร้จักลุดมีลา ปัฟลีเชนโค ดังเช่นทาความร้จักตัวละคร
ในนิยายเรื่องหนึ่ง หากแต่ตัวละครซึ่งเป็นเธอคนนี้ ครั้งหนึ่งเคย
มีชีวิต มีลมหายใจ และเป็นผู้หญิงที่อันตรายที่สุดในโลก
ื
หวังว่าเร่องราวของพลแม่นปืนหญิง ลุดมีลา ปัฟลีเชนโค จะนา
ำ
็
ความเพลิดเพลิน ความร และแรงบันดาลใจมาส่ผ้อ่านไม่มากกน้อย
ู
้
ู
ู
สำ�นักพิมพ์ยิปซี
คำานิยม
ี
ื
ในบรรด�ของเร่องร�วเก่ยวกับก�รซ่มยิง บันทึกคว�มทรงจำ�
ุ
ี
ึ
ี
เล่มน้คือหน่งในผลง�นท่โดดเด่น เพราะเป็นบันทึกเล่มแรก
ที่เขียนขึ้นโดยพลซุ่มยิงหญิง ลุดมีลา มีคาอีลอฟนา ปัฟลีเชนโค
ไม่ใช่พลซุ่มยิงธรรมดา แต่เป็นพลซุ่มยิงหญิงผู้ทำาคะแนนสูงสุด
309 ศพอย่างเป็นทางการ อย่างเป็นทางการหมายถึง การสังหาร
้
ทเกดขนต่อหนาบคคลอ่น เช่นเดยวกบพลซมยงท่วไป เหย่อจานวน
ุ
ิ
ุ
ั
ี
่
ื
ึ
่
ี
ำ
ื
ิ
ั
้
มากของปัฟลีเชนโคถูกสังหารระหว่างการสู้รบ ซึ่งการหยุดเพื่อ
บันทึกว่าสังหารข้าศึกไปมากแค่ไหนเป็นการกระทาท่ไม่ฉลาด
ี
ำ
และไม่ควรกระทำา จำานวนที่เธอสังหารไปทั้งหมดไม่เป็นที่ทราบ
แน่ชัด แต่ตัวเลขประมาณ 500 ศพก็ไม่น่าจะเกินจริง
ำ
ี
นอกเหนือจากท่กล่าวมา บันทึกความทรงจาอันโดดเด่น
ี
ฉบับน้ยังลบล้างข้อกล่าวหาท่ไม่เป็นธรรมและไม่เป็นความจริง
ี
ึ
ซ่งพ่งเป้ามาโจมตีเธอ โดยเฉพาะข้อสันนิษฐานท่ว่า ปัฟลีเชนโค
ี
ุ
ี
ื
ุ
ไม่ใช่พลซ่มยิง แต่เป็นคนท่กองทัพแดงนามาโฆษณาชวนเช่อ
ำ
ำ
ี
ี
ี
เป็นแค่คนท่ถูกนามายกย่องโดยสหภาพโซเวียตท่เช่ยวชาญ
ื
ุ
ำ
ั
ด้านการสร้างตานานอย่แล้ว แต่ท้งปัฟลีเชนโคและเพ่อนพลซ่มยิง
ู
วาซีลี กริกอรีเยวิช ซาอิเซฟ คือตัวจริง น่าตลกท่ชื่อเสียงซ่งท้งค ่ ู
ั
ึ
ี
ั
ไมตองการ ไมไดถอดทงสองออกจากแนวหนา จึงแทบไมตอง
้
่
้
่
้
้
้
่
ั
ู
ื
สงสัยเลยว่าท้งปัฟลีเชนโคและซาอิเซฟจะมีช่อปรากฏอย่บน
่
ี
อนุสาวรย์สงคราม ชวงชวิตของพลซ่มยงโซเวียตตามปกติจะสน
ี
ั
ุ
ิ
้
ู
ั
ี
ิ
ิ
ุ
พลซ่มยงมือใหม่ท่สตาลินกราดจะมชีวตอย่ได้ไม่เกินสองสปดาห ์
ี
ู
ิ
ึ
ิ
ึ
ย่งอย่นานก็ย่งเก่งข้นและมีโอกาสรอดสูงในระดับหน่ง แต่ใน
ี
สงครามมีกฎแห่งการลดน้อยถอยลงท่ทหารแนวหน้าเป็นกังวล
น่นคือความอ่อนล้าจากการส้รบ ความเหน็ดเหน่อยอย่างท่สุด
ื
ั
ี
ู
ำ
และกาลังใจท่หมดไปทาให้เกิดความผิดพลาดข้น ช่วงชีวิตของ
ำ
ึ
ี
ั
ุ
พลซ่มยิงน้นไม่ต่างจากนักบินรบเลย เพราะมันอาจจบลงได ้
เพราะความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว และแทบไม่มีโอกาสแก้ตัว
่
ี
ี
ปฟลเชนโคไม่ได้มเพยงไหวพรบท่ทาให้เธอไดสมญานามวา
ั
ี
ำ
้
ิ
ี
ั
‘มัจจุราชหญิง’ จนได้รับเหรียญกล้าหาญช้นสูงสุดของสหภาพ
โซเวียต ได้พบสตาลินและได้เดินทางไปยังสหรัฐฯ แคนาดา
ุ
ุ
และยโรปเท่าน้น เช่นเดียวกับคนหน่มสาวชาวรัสเซียอีกนับหม่น
ั
ื
ในช่วงก่อนสงคราม เธอวาดหวังไว้ว่าจะทางานให้แก่พรรค
ำ
ิ
ิ
ำ
์
คอมมวนสต การเป็นหญิงฉลาดอาจทาให้เธอได้เป็นเจ้าหน้าท ี ่
ี
ระดับล่าง และไต่เต้าข้นส่เจ้าหน้าท่ระดับสูงในพรรคได้ แต่การท ี ่
ึ
ู
เธอได้สัมผัสปืนเล็กยาว ทีโอแซด-8 ขนาดลากล้อง .22 เปล่ยนชีวิต
ำ
ี
ของปัฟลีเชนโคไป ชาวรัสเซียในวงนอกส่วนใหญ่ไม่เคยทราบว่า
ื
ปืนเล็กยาวบรรจุยิงทีละนัดแบบนี้ถูกผลิตออกมานับหม่นๆ
ั
กระบอก ใช้ท้งในการแข่งขันและล่าสัตว์เล็ก มันราคาถูก ประกอบ
ึ
ี
ข้นอย่างแน่นหนา ยิงแม่น และเป็นปืนกระบอกแรกท่คนส่วนใหญ ่
ึ
ใช้เรียนร้การยิง ปัฟลีเชนโคมีความถนัดในการเรียนร้เป็นหน่งใน
ู
ู
ำ
ข้อได้เปรียบ เม่อมนุษย์มีมือและสายตาท่ทางานร่วมกันอย่างลงตัว
ี
ื
มีกล้ามเนื้อแข็งแรงกับสายตาที่ดี และใจเย็น แต่ยังมีคุณสมบัติ
ั
อันหลากหลายกว่าน้น ซ่งใช่ว่าจะยิงได้แม่นเช่นกันทุกนัด และเป็น
ึ
สิ่งที่ทำาให้พลซุ่มยิงแตกต่างจากทหารราบธรรมดา
ู
ส่งน้ยังถูกนามาถกเถียงกันอย่ตลอด บ้างก็ระบุว่ามาจาก
ี
ิ
ำ
สัญชาตญาณการล่าที่สืบทอดกันมา ไม่ได้ปรากฏในชายทุกคน
และยิ่งมีน้อยมากในหญิง บ้างก็บอกว่าเกิดจากความมุ่งมั่นจาก
จิตใจเด็ดเดี่ยวเกินปกติ ซึ่งแน่นอนว่าความเชื่อมั่นที่ปัฟลีเชนโค
มีต่อประเทศชาติ ต่อการเมือง และความยุติธรรมตามแนวทาง
ี
ของโซเวียตน้นเหนียวแน่น และส่งน้เองท่ทาให้เธอมีจิตใจท่ม่งม่น
ำ
ั
ุ
ี
ิ
ี
ั
ี
เหนือธรรมชาติในหลายคร้งท่เผชิญกับข้าศึกท่มีกาลังพล
ั
ี
ำ
ื
ู
มากกว่า เช่นเดียวกับทหารอ่นๆ ในกองทัพโซเวียต ผ้ถือว่าการตาย
ื
ี
เพ่อมาตุภูมิคือการเสียสละอันสูงส่ง และอาจจะด้วยเหตุผลน้เอง
ั
้
้
ื
่
ี
ท่ทาให้เธอไม่ล่าถอยแม้บาดเจ็บคร้งแลวครงเล่า ขณะท่ทหารอน
ี
ั
ำ
อาจจะแหยง ย่งกว่าน้นความพยาบาทแก้แค้นให้สามีก็เป็น
ั
ิ
แรงผลักดันให้ปัฟลีเชนโค
ั
ี
จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ปัฟลีเชนโคก็ไม่ใช่วีรบุรุษจัดต้งท่นัก
โฆษณาชวนเช่อต้องการ จริงท่เธอไม่ใช่คนสวยแต่ก็มีคุณสมบัต ิ
ื
ี
สาคัญของพลซุ่มยิงอย่ครบถ้วน เธอพูดน้อย ค่อนข้างเก็บตัว
ำ
ู
ไม่ชอบการออกงานสังคม และมุ่งจะปฏิบัติหน้าที่หรือ ‘ฆ่าพวก
ฟาสซิสต์’ เพียงอย่างเดียว ตามท่ปัฟลีเชนโคบอก มีพวกพลซ่มยิง
ุ
ี
ที่ชอบเข้าสังคมอยู่บ้าง แต่ก็มีน้อยมากและแทบจะรอดอยู่ไม่ได้
ื
นานในสนามรบ เม่อมีผ้ให้ความสนใจกับบทบาทของเธอมากข้น
ึ
ู
ปัฟลีเชนโคจึงต้องกล่าวว่า “พลซุ่มยิงไม่ควรทำาตัวเป็นจุดสนใจ
ี
องค์ประกอบอันสาคัญท่สุดในการปฏิบัติภารกิจให้สาเร็จคือต้อง
ำ
ำ
ู
อย่อย่างหลบซ่อน” เธอไม่ได้ซ่อนตัวเฉพาะในสนามรบเท่าน้น
ั
ุ
ี
แต่ยังเกลียดการเข้าสังคมด้วย พลซ่มยิงต้องใจเย็นเย่ยงแมว ฉลาด
หลักแหลมแต่กำาเนิด และมีทัศนคติต่ออาชีพที่เรียกได้ว่าทุ่มเท
ื
ตัวอย่างเช่นเม่อปัฟลีเชนโคต้องพยายามอย่างหนักในการ
ค้นหาและสังหารพลซุ่มยิงเยอรมันผู้พรางตนบนสะพาน ต้องใช้
เวลาเฝ้าดูอย่างระมัดระวังอย่หลายช่วโมง ต้องคิดให้ได้เหมือนท ี ่
ั
ู
ั
พลซ่มยิงเยอรมันคิด ต้องกลับไปยังจุดน้นคร้งแล้วคร้งเล่าเพ่อซ่ม
ุ
ื
ั
ั
ุ
เตรียมโดยไม่มีทางร้ว่าผลลัพธ์จะออกมารูปไหน น่ไม่ใช่ความ
ี
ู
มุ่งมั่นอุตสาหะที่ทหารทั่วไปจะมี
ี
ี
ึ
ู
น่อาจจะดูเหมือนความอดทนท่ผ้หญิงคนหน่งต้องแบกรับไว ้
ื
เม่อออกเดินทางไปรอบโลก ได้พบกับประธานาธิบดีและนักการเมือง
ชาติต่างๆ แต่ปัฟลีเชนโคก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ท ่ ี
ั
้
่
ี
้
่
่
้
่
เผชญอย โดยตองไมลมวาเธอเคยบาดเจบมาแลวสครง โดยแตละ
ิ
ู
ื
็
่
ั
ั
ิ
คร้งส่งผลในด้านลบต่อจิตใจและร่างกายท้งส้น ท่แย่กว่าน้นคือ
ั
ี
ต้องฝังศพสามี ร้อยโทอะเลกเซย์ อาร์คาเดียวิช คิตเซนโค ท่เพ่ง
ี
ิ
ี
ี
แต่งงานกันได้ไม่ก่สัปดาห์ ในเมืองเซวัสโตปอลช่วงไม่ก่เดือน
ี
ก่อนถูกส่งออกแนวหน้า ขณะท่มีวัตถุดิบให้ทดลองด้านการแพทย ์
ึ
ำ
้
ู
่
ถงผลกระทบระยะยาวจากการสรบสาหรบทหารชาย แตแทบไม่ม ี
ั
ิ
ี
ำ
ิ
ี
้
การวจัยใดๆ เลยเก่ยวกบสตร เพราะมีผหญงจานวนน้อยมาก
ั
ู
ในหน่วยรบ ดังน้นจึงคาดการณ์ถึงสภาพของปัฟลีเชนโคไม่ได้เลย
ั
ื
เม่อเธอจากรัสเซียไป จากการถูกคาดหวังให้แสดงความโดดเด่น
ของกองทัพโซเวียตต่อบรรดาพันธมิตร ด้วยความไร้ประสบการณ ์
ื
ู
ด้านการพูดต่อสาธารณชน การเผชิญหน้ากับผ้ส่อข่าวหนังสือพิมพ ์
และวิทยุ หรือแม้แต่การต้องออกมาจากประเทศรัสเซีย ดังที่เธอ
เคยกล่าวไว้ว่า แค่การต้องมาอยู่ในกรุงมอสโกก็เหมือนมาอยู่ใน
ดนแดนท่ไม่คนเคยแล้ว ดังน้นความท้าทายทหญิงสาวผ้น้ตองเผชญ
้
ุ
่
ี
ั
ี
ิ
ู
ิ
ี
้
และความกดดันจากการถูกส่งไปยังยุโรปและสหรัฐฯ จึงมีมหาศาล
ี
ปัฟลีเชนโคต้องระมัดระวังขณะมีเจ้าหน้าท่ของพรรคตาม
ี
ำ
ิ
ู
ประกบ ควบคุมทุกคาพูดท่เปล่งออกไป ย่งกว่านั้นคือเธอร้สึก
ื
ื
เหยียดหยามส่อต่างๆ ท่พยายามล้วงลึก โดยเฉพาะเม่อเธอ
ี
ไม่เข้าใจว่าอเมริกาไม่เข้าใจความเป็นจริงของสงคราม ผู้สื่อข่าว
ื
ื
ถามถึงเคร่องสาอางท่เธอใช้แต่งหน้าเม่อออกรบ และซักถาม
ี
ำ
ั
ื
ื
ื
อย่างละเอียดเร่องเน้อผ้าของเคร่องแบบทหารบก มีบางคร้งท ี ่
ู
ปัฟลีเชนโคแดกดันต่อหน้าฝูงชนว่าคนกล่มน้แอบอย่หลังกองทัพ
ี
ุ
มานานเกินไป และไม่สนุกเลยเม่อถูกขอให้สาธิตวิธีการยิงปืน
ื
ี
้
ึ
ู
ิ
เธอไม่ชอบทำาเช่นน้แม้อย่ในรัสเซีย และย่งเกลียดมากขนในการ
ตระเวนรอบโลก จนต้องปฏิเสธบ่อยคร้ง ทาให้เป็นท่กล่าวขานกัน
ั
ำ
ี
หนาหูว่าปัฟลีเชนโคยิงปืนไม่เป็น ซึ่งจริงๆ แล้วผู้หญิงคนนี้เป็น
ู
ุ
นักซ่มยิงผ้มีพรสวรรค์แต่ไม่ชอบแสดงตนโอ้อวด และไม่คิดว่า
บทบาทของเธอรวมเอาการยิงแบบแปลกๆ เข้าไว้ด้วย โดยเฉพาะ
กับปืนเล็กยาวติดกล้องเล็งที่ไม่เคยใช้มาก่อน
ี
อาจถือเป็นประโยชน์หากจะแสดงความคิดเห็นไว้ในท่น้ ี
ปืนเล็กยาวที่ปัฟลีเชนโคชอบกล่าวถึงบ่อยๆ คือ โมซิน นากันต์
โมเดล 1891/30 ติดกล้องเล็งพีอี (ต่อมาจึงใช้กล้องดัดแปลงรุ่น
ึ
พีอีเอ็ม) และปืนเล็กยาวก่งอัตโนมัติ เอสวีที-40 โมซินคือปืน
ำ
ุ
ี
เล็กยาวใช้งานในกองทัพร่นเก่าท่ออกแบบในปี 1891 ลากล้องยาว
73 เซนติเมตร ใช้แมกกาซีนกล่องบรรจุกระสุนห้านัด และหนัก
4 กิโลกรัม ยิงกระสุนชนวนริมขนาด 7.62x54 มม. เป็นปืนท ี ่
ออกแบบไว้นานแล้ว ประเทศส่วนใหญ่ท่ใช้งานจึงต้องปรับเปล่ยน
ี
ี
ี
ั
ี
ุ
มาใช้กระสุนชนวนริมในสงครามโลกคร้งท่ 2 ร่นท่แตกออกไปของ
โมซินใช้กล้องเล็ง 4x พีอีท่ถอดแบบมาจากกล้องไซส์ของเยอรมัน
ี
ยิงได้แม่นท่ระยะมากกว่า 1,000 หลา แต่ต้องยิงในสภาพอากาศ
ี
ที่เหมาะสม และพลซุ่มยิงคนนั้นต้องมีประสบการณ์ มันเป็นปืน
ำ
โปรดของปัฟลีเชนโค ทนทาน ซ่อมบารุงได้ง่ายในสนามและม ี
้
ี
กลองเล็งประสิทธิภาพสูง ปืนแบบน้ยังผลิตจนถึงต้นทศวรรษ 1940
ี
ุ
ก่อนท่ผลิตปืนร่นใหม่ติดศูนย์พียูพร้อมกล้องกาลังขยาย 3.5x
ำ
ที่เล็กและเบากว่า
ึ
เม่อเปรียบเทียบกัน ปืนก่งอัตโนมัติ เอสวีที-40 คือ
ื
ี
ื
เทคโนโลยีใหม่เม่อเทียบกับ เอสวีที-38 เดิมท่ด้อยกว่า มันใช ้
กระสุนแบบเดียวกันคือขนาด 7.62x54 อาร์ มม. แต่การบริหาร
ำ
ื
้
ลูกเล่อนด้วยแก๊สทาให้ยิงซาได้เร็ว มีประโยชน์อย่างสูงในการรบ
ำ
ระยะประชิด เป็นปืนอีกแบบท่ใช้ศูนย์พียูใหม่ท่ไม่มีกาลังขยาย
ี
ี
ำ
ำ
เหมือนกล้องเล็งพีอี เพราะระบบการทางานด้วยแก๊สอันสลับ
ซับซ้อนน้เอง เอสวีทีจึงยิงได้ไม่ไกลและไม่แม่นยาเท่าโมซิน
ี
ำ
ี
ี
่
ี
้
ำ
และระยะ 600 เมตรนคือระยะหวังผลทเป็นไปได้ท่สุดแล้วสาหรับ
ื
ำ
การซ่มยิง ปืนของปัฟลีเชนโคน้นแน่นอนว่าเป็นปืนเพ่อการนา
ุ
ั
ออกแสดง แต่เธออาจไม่ได้เลือกปืนด้วยตัวเอง กระน้นเธอก็กล่าว
ั
ำ
ุ
ำ
ว่าอานาจการยิงของมันมีประโยชน์มากในการท่มกาลังทหาร
เข้าโจมตี โดยท่วไปแล้ว ปืนเอสวีทีในฐานะปืนซ่มยิงกลับม ี
ั
ุ
ประสิทธิภาพต่ำากว่าที่คิด ในปี 1942 ปืนเล็กยาวโมซินจึงถูกนำา
กลับมาผลิตใหม่
ำ
ุ
ถึงแม้บันทึกความทรงจาของปัฟลีเชนโคจะเล่าเร่องการซ่ม
ื
ิ
่
ิ
ั
ิ
่
ุ
่
ยงหลายคร้ง ความจรงคือการซมยงสวนใหญ่ของเธอระหวาง
ั
การปดลอมเมองโอเดสซาและเซวสโตปอลเปนการยงระยะใกล ้
้
ิ
ื
ิ
็
่
้
้
่
็
สวนหนงเปนเพราะข้าศกอยใกลจงตกเปนเหยอไดงาย แตเธอได ้
ึ
่
ื
็
่
ึ
ู
่
่
ึ
แสดงความคิดเห็นต่อกลยุทธ์ใหม่อันน่ากลัว น่นคือการยิงทหาร
ั
เยอรมันที่ท้อง ส่วนใหญ่เพื่อหวังผลด้านจิตวิทยามากกว่าอื่นใด
ู
ี
ี
วิธีน้คือมาตรการอันโหดร้ายในการส้ศึกท่แนวรบด้านตะวันออก
ื
และไม่ถือว่าเกินจริงเลยเม่อปัฟลีเชนโคกล่าวว่าต้องเก็บกระสุน
ี
ื
ี
ปืนพกนัดสุดท้ายไว้ยิงตัวเอง เป็นเร่องปกตท่พลซ่มยงท่ถูกจับจะ
ิ
ิ
ุ
ำ
ถูกทรมานจนตาย อีกส่งหน่งท่น่าสนใจคือในบันทึกความทรงจาน ้ ี
ิ
ึ
ี
แสดงให้เห็นว่ากองทัพรัสเซียค่อยๆ เห็นประโยชน์ของพลซ่มยิง
ุ
ี
ระหว่างท่สงครามดาเนินไป พลซ่มยิงได้เปล่ยนสถานะจากผ ู ้
ี
ุ
ำ
เชี่ยวชาญการใช้ไรเฟิลซึ่งต้องบุกตะลุยไปพร้อมทหารราบ ไปสู่
ู
ี
ู
ผ้ได้รับการยอมรับในฐานะทหารแนวหน้าผ้เป่ยมด้วยเกียรติภูมิ
ุ
จริงๆ แล้วพลซ่มยิงได้รับการใส่ใจเป็นอย่างดีด้วยการมอบวันหยุด
ให้ทุกสัปดาห์ เป็นความยินยอมท่ร้กันและเป็นมาตรการอันสาคัญ
ำ
ี
ู
ื
ุ
ท่กองทัพมอบให้พลซ่มยิง เหตุผลเดียวก็เพ่อความแม่นยาของ
ี
ำ
ี
ำ
ี
พวกเขา เป็นไปไม่ได้ท่จะระบุจานวนทหารเยอรมันท่ตายเพราะ
ั
ุ
พลซ่มยิงรัสเซียระหว่างสงครามคร้งน้น แต่ก็มีการประมาณไว้คร่าวๆ
ั
จากข้อมูลจริงที่ระบุว่าพลซุ่มยิงสตรี 2,000 นายที่สำาเร็จการฝึก
จากโรงเรียนพลซุ่มยิงระหว่างสงคราม สังหารทหารเยอรมันไป
12,000 นาย และพลซ่มยิงชายท่ได้คะแนนสูงสุดสิบอันดับสังหาร
ี
ุ
ึ
ได้ 4,300 ศพ และจะมากข้นทบทวีสาหรับกองทัพโซเวียต
ำ
ท้งหมดโดยตัวเลขไต่ข้นไปถึงแสนศพ เม่อเปรียบเทียบกับตัวเลข
ึ
ั
ื
ู
ี
ุ
ท่เราค้นเคยกันดีในการส้รบท่วภาคพ้นยุโรปหลังจากปี 1944
ื
ั
ึ
ี
ุ
ซ่งพลซ่มยิงอังกฤษท่มีคะแนนสูงสุดสังหารได้ 119 ศพ ตัวเลข
ี
ี
เช่นน้เป็นไปไม่ได้เลยท่จะเปรียบเทียบกัน จึงไม่น่าแปลกใจ
ี
ื
ท่หน่วยงานโฆษณาชวนเช่อของรัสเซียจะเข้ามามองหาวีรบุรุษ
พันธุ์ใหม่ที่นี่ โดยเฉพาะในหมู่สตรี ยิ่งกว่านั้นรัสเซียคือประเทศ
ั
เดียวในสงครามโลกคร้งท่ 2 ท่ใช้สตรีส้รบในแนวหน้า และรัฐบาล
ี
ู
ี
ำ
ต้องหันเหความคิดของประชาชนออกจากกาลังทหารของฝ่าย
อักษะที่รุกไล่ไม่หยุดตลอดปี 1941-1943
ู
ปัฟลีเชนโคจึงกลายเป็นสตรีผ้ได้รับการเชิดชูเกียรติอย่าง
ั
สูงสุดในกองทัพแดง เธอได้รับเหรียญกล้าหาญเลนินสองคร้งซ้อน
และได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีแห่งสหภาพโซเวียต หลังสงคราม
ู
สงบ เธอยังอย่ในกองทัพ เป็นนักประวัติศาสตร์ในสถาบันวิจัยแห่ง
กองทัพเรือโซเวียต และปลดประจาการในปี 1953 ด้วยยศพันตรี
ำ
รวมท้งสถานภาพท่ไม่เคยลดความโดดเด่นลงเลย ขณะท่ความสนใจ
ั
ี
ี
เรื่องการซุ่มยิงทวีขึ้นหลังสงคราม เช่นที่หนังสือของปัฟลีเชนโค
ี
ได้เผยไว้คือ การวิพากษ์ท้งปวงท่มีต่อเธอน้นปราศจากความจริง
ั
ั
ู
ส้นเชิง แต่ก็เช่นเดียวกับทหารผ่านศึกอีกหลายคน การอย่รอดของ
ิ
เธอใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ ความเสียหายเกิดแก่กายและใจ หลังสงคราม
ู
ปัฟลีเชนโคต้องต่อส้อย่างยาวนานกับการติดเหล้า และทนทรมาน
ั
จากผลพวงของบาดแผลมากมายท่ศีรษะ รวมท้งอาการหูหนวก
ี
เธอไม่ได้แต่งงานอีกคร้ง ปัฟลีเชนโคเสียชีวิตในวัย 58 ปี เม่อเดือน
ื
ั
ตุลาคม ปี 1974 กองทัพจัดพิธีฝังศพให้เธออย่างสมเกียรติท่สุสาน
ี
โนโวเดวิชเย ในกรุงมอสโก ห่างจากท่พานักช่วนิรันดร์ของอะเลกเซย ์
ี
ั
ำ
ผู้เป็นที่รักของเธอ 1,500 กิโลเมตร
ม�ร์ติน เพ็กเลอร์
คำานำาผู้แปล
พลซ่มยง (sniper) คือ ทหารผ้ทาหน้าท่พเศษซ่งจะส่งผลอยางมาก
ู
ุ
ิ
ำ
ึ
่
ี
ิ
ึ
ั
ี
ำ
ต่อกาลังพลของศัตรู เป็นหน้าท่ซ่งสามารถหยุดย้งหรือเปล่ยน
ี
ำ
เส้นทางการเคล่อนท่ของกองกาลังขนาดใหญ่ได้ด้วยกระสุนเพียง
ื
ี
์
็
ั
้
ื
่
้
ึ
ี
ี
ิ
ไมกนด การซมยงนนเปนทง ‘ศาสตร’ คอสงทตองเลาเรยนฝกฝน
่
่
่
ุ
ิ
ั
่
่
ี
ั
้
ี
และเป็นท้ง ‘ศิลป์’ ท่ผ้ปฏิบัติต้องมีความสามารถพิเศษอันหา
ู
ั
ได้ยากในบุคคลธรรมดาภายใต้ความกดดัน ผู้ที่จะเป็นพลซุ่มยิง
ได้จึงต้องฝึกเพ่อเสริมทักษะการยิงและการกะระยะให้แม่นยา
ำ
ื
ำ
ิ
ี
แต่ขณะเดียวกันต้องมีนิสัยท่ติดตัวมาแต่กาเนิดด้วยคือ ความน่ง
ู
ร้จักประมาณตน และประเมินสถานการณ์ ต้องตัดสินใจให้เร็ว
ภายใต้ความกดดันและสถานการณ์อันเร่งรีบ
ั
แม้ว่าในประเทศตะวันตกช่วงก่อนสงครามโลกคร้งท่ 2 จะถือ
ี
ว่าภารกิจซ่มยิงน้เป็นเร่องของผ้ชาย แต่กองทัพแดงของสหภาพ
ู
ี
ื
ุ
โซเวียตนั้นกลับคิดต่างไป ด้วยหลักคิดที่ว่าผู้หญิงมีความอดทน
ละเอียดรอบคอบ และใจเย็นมากกว่าผ้ชาย รัสเซียจึงมีทหารหญิง
ู
ื
่
่
็
ำ
ในแนวรบเปนจานวนมากเมอเรมสงครามกบฝายเยอรมน
ั
่
ิ
ั
ุ
ำ
ู
ี
พลซ่มยิงเป็นตาแหน่งท่ผ้หญิงรัสเซียต้องการเป็นมากเท่าๆ กับ
ผู้ชาย และลุดมีลา ปัฟลีเชนโค คือหนึ่งในนั้น ด้วยคุณลักษณะ
ั
ำ
อันถูกต้องตามข้อกาหนดของกองทัพ ท้งความแม่นยาในการยิง
ำ
และความอดทนเหนือธรรมดา เหนือกว่าหญิง และบางคร้งยัง
ั
เหนือกว่าชายที่ร่วมรบ
ำ
่
ี
เธอเร่มชีวิตทหารจากยศตาสุด แล้วใช้ความสามารถ (ท่ต้อง
ิ
ู
ู
ู
ึ
ื
มากกว่าชาย) เพ่อไต่เต้าข้นมาจนเป็นผ้บังคับหม่ และผ้บังคับ
ำ
ำ
กองร้อยตามลาดับ แต่น่าเสียดายท่ต้องถูกย้ายไปทาภารกิจ
ี
ทางการทูตเป็นเวลานาน จนพลาดโอกาสท่จะเพ่มตัวเลขสังหาร
ิ
ี
ข้าศึกในช่วงเวลาอันหักเหของการส้รบเพ่อปกป้องมาตุภูมิ แต่ก ็
ู
ื
ี
ี
รอดจากสงครามใหญ่น้มาพร้อมบาดแผลท้งกายและใจท่ติดตัว
ั
เธอไปจนตาย
ำ
ี
หนังสือเล่มน้คือคาบอกเล่าจากประสบการณ์ตรงของพลซุ่ม
ื
ยิงสาว ลุดมีลา ปัฟลีเชนโค เป็นเร่องราวต้งแต่ก่อนจะมาเป็น
ั
ิ
่
ู
ั
ิ
้
ู
ี
ื
ุ
ั
พลซมยงนามกระเดอง ผไดรบเหรียญเชดชเกยรตขนสงสุด
ิ
่
ู
้
้
ึ
ี
หน่งในไม่ก่คนของกองทัพแดง รายละเอียดจากปัฟลีเชนโค
่
ี
ี
ี
่
ื
่
ั
่
้
่
็
ไมไดมแคเรองการรบราฆาฟนเพยงอยางเดยว เพราะเธอเคยเปน
นักศึกษาสาขาประวัติศาสตร์มาก่อนจะสมัครเข้าเป็นทหาร
ปัฟลีเชนโคจึงมีมุมมองท่ละเอียดลึกซ้ง ท้งเร่องการใช้ปืน เทคนิค
ี
ั
ื
ึ
การซุ่มยิง ตลอดไปจนถึงความรู้สึกนึกคิดต่อสงครามโหดที่เธอ
ี
ี
ไม่ต้องการ นอกจากน้ยังมีรายละเอียดเก่ยวกับการแบ่งแยกเพศ
ี
และเหยียดเพศในกองทัพโซเวียตรัสเซีย ท่คนส่วนใหญ่ไม่เคย
ทราบมาก่อนด้วย
ำ
นอกจากจะทาให้ทราบประวัติศาสตร์ในมุมมองของทหาร
ระดับปฏิบัติการของกองทัพแดงแล้ว เร่องราวของปัฟลีเชนโค
ื
ี
ยังมีท้งความรักชาติ ความรักระหว่างรบของเธอกับคนรักท่พบกัน
ั
ในสงคราม เรื่องของการพลัดพรากอันเป็นธรรมดาของสงคราม
รวมไปถึงการตระเวนสร้างสัมพันธไมตรีและชวนเชิญให้คน
ำ
อเมริกันเข้าใจและช่วยเหลือชาวรัสเซียท่กาลังลาบากแสนสาหัส
ี
ำ
จากการรุกรานของเยอรมัน เร่องความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่าง
ื
ู
ปัฟลีเชนโคกับท่านผ้หญิงเอเลนอร์ รูสเวลต์ ภริยาประธานาธิบด ี
แฟรงกลิน ดี. รูสเวลต์ ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ
ั
หากสงครามโลกคร้งท่ 1 เป็นสงครามล้างผลาญ สงครามโลก
ี
ำ
ี
ู
คร้งท่ 2 ก็คือความหายนะท่โลกต้องจดจา ผ้คนต้องล้มตาย
ั
ี
มากมายจากอาวุธเทคโนโลยีสูง ท้งการระดมท้งระเบิดในเมือง
ั
ิ
ั
ตางๆ ซ่งเหตุการณ์คร้งท่ร้ายแรงท่สุดคือ ระเบิดปรมาณูท้งสองลูก
ี
ึ
ั
ี
่
ุ
ึ
ี
ในญ่ป่น ลุดมีลา ปัฟลีเชนโค คือหน่งในชาวรัสเซียนับหลายล้านคน
ที่ถูกลากเข้าไปพบกับชะตากรรมอันโศกสลดของสงครามครั้งนี้
ี
ำ
ทุกคนท่ต้องเผชิญกับความยากลาบาก ความวิปโยคจาก
สงครามโลกครั้งที่ 2 จะมีบาดแผลติดในใจและกายไปจนตาย
ถ้าคุณสนใจประวัติศาสตร์สงครามโลกเก่ยวกับแนวรบ
ี
ึ
ด้านรัสเซีย ซ่งเขียนข้นโดยทหารในแนวหน้าของรัสเซียเอง
ึ
ื
ี
ี
น่คือหนังสือท่ไม่ควรพลาด ปัฟลีเชนโคเล่าเร่องได้อย่างเห็นภาพ
สมกับศึกษาด้านประวัติศาสตร์มา มีรายละเอียดหลายอย่างท่เรา
ี
ไม่เคยร้ และเกร็ดประวัติศาสตร์ท่น่าติดตามอย่มากในทุกตัว
ี
ู
ู
ี
อักษร ผมเองร้สึกสนุกท่ได้ถอดความมาให้แฟนหนังสือของยิปซ ี
ู
่
ุ
ู
้
้
็
่
ได้อาน และใช่ ผมกคิดวาคณต้องสนุกพร้อมกบไดความร้ คมคา
่
ั
ุ
ที่จ่ายแลกกับหนังสือเล่มนี้เช่นกัน
สรศักดิ์ สุบงกช
ภาพประกอบ
1. พลซุ่มยิง ลุดมีลา ปัฟลีเชนโค แห่งกรมอาวุธเบาสเตปาน ราซิน ที่ 54
ี
2. จ่าสิบเอกลุดมีลา ปัฟลีเชนโค ถ่ายท่เซวัสโตปอล เดือนมีนาคม 1942
ถือปืนโมซิน นากันต์ โมเดล 1891/30 ติดกล้องเล็งพีอีเอ็ม
3. ปืนโมซิน โมเดล 1891/30 ปืนเล็กยาวซุ่มยิงติดกล้องเล็งพียู (เอื้อเฟื้อโดย
จอห์น วอลเตอร์)
4. ปืนอัตโนมัติ เอสวีที-40 ติดกล้องเล็งพียู (บริษัทเจมส์ ดี. จูเลีย ผู้ประมูล
แฟร์ฟิลด์ รัฐเมน สหรัฐอเมริกา)
้
่
ั
ี
ิ
ี
ุ
5. ประกาศนยบตรจากโรงเรียนพลซมยง มอบใหแกลุดมีลา ปฟลเชนโค
ั
่
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 1942 ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์กลางกองทัพ
สาธารณรัฐรัสเซีย
6. ซากอาคารและรถโดยสารสาธารณะที่โดนระเบิดในเซวัสโตปอล ปี 1942
7. ซากอาคารที่โดนระเบิดในเซวัสโตปอล ปี 1942
8. จ่าสิบเอกอะเลกเซย์ คิตเชนโค และร้อยตรีลุดมีลา ปัฟลีเชนโค ถ่ายท่เซวัสโตปอล
ี
เดือนมกราคม 1942 (ภาพจากแฟ้มส่วนตัวของลุดมีลา ปัฟลีเชนโค)
ื
9. จุลสาร ปลิดชีวิตข้าศึก และอย่าพลาด! (พิพิธภัณฑ์แห่งรัฐเพ่อวีรกรรม
การป้องกันและปลดปล่อยเซวัสโตปอล)
10. ลุดมีลา ปัฟลีเชนโค ขณะสะพายปืนอัตโนมัติ เอสวีที-40 ถ่ายท่เซวัสโตปอล
ี
ราวๆ เดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ 1942 (พิพิธภัณฑ์แห่งรัฐเพื่อวีรกรรม
การป้องกันและปลดปล่อยเซวัสโตปอล)
11. 12. 13. ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 1942 สื่อถ่ายภาพของปัฟลีเชนโค
พร้อมด้วยปืนอัตโนมัติ เอสวีที-40 ในมือ (เครดิต Histoire & Collection)
14. ปัฟลีเชนโค ช่วงฤดูร้อนปี 1942 น่าจะถ่ายหลังวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อเธอ
ได้เล่อนข้นเป็นจ่าสิบเอก และได้รับเคร่องอิสริยาภรณ์เลนิน (เครดิต
ั
ื
ื
Histoire & Collection)
15. ภาพถ่ายโดยส่อ น่าจะเป็นช่วงฤดูร้อน ปี 1942 (เครดิต Histoire & Collection)
ื
ื
ำ
ั
16. พลทหารและนายทหารประจากองทัพรักษาฝ่ง แต่งกายประดับเคร่องหมาย
ั
ยศและเหรียญ แถวหน้าสุดตรงกลางคือ พลตรีโทรฟิม โคโลมีเยตส์ ผบญชาการ
้
ู
กองพลอาวุธเบาชาปาเยฟที่ 25 ร้อยตรีลุดมีลา ปัฟลีเชนโค แห่งกรมที่ 54
ั
ู
และพลโทตรีอีวาน เปทรอฟ ผ้บัญชาการกองทัพรักษาฝ่ง เซวัสโตปอล
เดือนเมษายน 1942
17. จ่าสิบเอกและผู้บังคับหมวดซุ่มยิงลุดมีลา ปัฟลีเชนโค และกองพลของเธอ
่
ี
ื
ิ
่
ิ
์
(กองพลรมการดท 32) มณฑลทหารบกมอสโก เดอนสงหาคม 1942 (เครดต
Histoire & Collection)
ี
ู
ู
18. ปัฟลีเชนโคยืนอย่หน้าภาพถ่ายของผ้บัญชาการสูงสุด ไม่นานก่อนท่เธอ
จะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา (เครดิต Histoire & Collection)
19. ลุดมีลา ปัฟลีเชนโค น่าจะเป็นช่วงเวลาระหว่างท่เธออย่ในสหรัฐอเมริกา
ู
ี
(เครดิต Histoire & Collection)
ี
20. อีกภาพท่ถ่ายในช่วงเวลาเดียวกัน มองเห็นเคร่องหมายยศชัดเจน (จากซ้าย):
ื
ตราสัญลักษณ์พลซ่มยิงฝีมือโดดเด่น ตราสัญลักษณ์กองพลร่มการ์ด
ุ
เครื่องอิสริยาภรณ์เลนิน และเหรียญแบตเทิล เมอริต (เครดิต Histoire &
Collection)
ำ
ู
21. คณะผ้แทนจากโซเวียตเดินทางไปร่วมการประชุมนักศึกษานานาชาติประจาป ี
1942 ได้แก่ นิโคไล คราซัฟเชนโค, วลาดีมีร์ เชลินท์เซฟ และ ลุดมีลา
ปัฟลีเชนโค (เครดิต Histoire & Collection)
ู
22. คณะผ้แทนจากสหพันธ์ยุวชนคอมมิวนิสต์ ภายนอกสถานทูตโซเวียต
ในวอชิงตัน ดีซี (เครดิต Histoire & Collection)
ู
23. ปัฟลีเชนโค, เอเลนอร์ รูสเวลต์ และผ้พิพากษาโรเบิร์ต แจ็กสัน (เครดิต
Histoire & Collection)
24. จากซ้ายไปขวา: ลุดมีลา ปัฟลีเชนโค, โดนัลด์ บราวน์ เจ้าของโรงงานผลิตชา
และนักเคล่อนไหวในองค์กรการกุศลบรรเทาทุกข์ชาวรัสเซียจากสงคราม
ื
และ วลาดีมีร์ เชลินท์เซฟ ในบัลติมอร์ สหรัฐอเมริกา เดือนตุลาคม 1942
(จากแฟ้มส่วนตัวของลุดมีลา ปัฟลีเชนโค)
25. ลุดมีลา ปัฟลีเชนโค พบโจเซฟ เดวิส อดีตทูตของสหรัฐฯ ก่อนหน้าที่เขาจะ
ไปมอสโก (เครดิต Histoire & Collection)
ี
26. ภาพถ่ายท่เอเลนอร์ รูสเวลต์ มอบให้แก่ลุดมีลา ปัฟลีเชนโค ตัวหนังสือ
ุ
บนภาพเขียนว่า: “แด่ร้อยโทปัฟลีเชนโค ด้วยความหวังดีอันอบอ่นจาก
เอเลนอร์ รูสเวลต์” (ภาพจากแฟ้มส่วนตัวของปัฟลีเชนโค)
27. ภาพถ่ายในชุดไปรเวทอันหาดูได้ยากของลุดมีลา ปัฟลีเชนโค ช่วงท่เธอ
ี
เดินทางไปสหรัฐอเมริกา (ห้องสมุดรัฐสภา)
ี
28. ภาพถ่ายระหว่างท่ปัฟลีเชนโคกล่าวสุนทรพจน์ท่การประชุมนักศึกษา
ี
นานาชาติ เดือนกันยายน 1942 ภายในหอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัย
อเมริกัน รัฐวอชิงตัน ดีซี (ห้องสมุดรัฐสภา)
29. ลอร์ดเทศมนตรีแห่งเบอร์มิงแฮม วอลเตอร์ เลวิส กับปัฟลีเชนโคและ
เชลินท์เซฟ ผู้มาเยือนจากโซเวียตกำาลังตรวจดูปืนเล็กยาว ยูเอส เอ็ม 1917
ี
เอ็นฟิลด์ ปืนชนิดน้แจกจ่ายภายใต้นโยบายให้ยืม-เช่าของสหรัฐฯ ใช้กันเป็น
ำ
จานวนมากในหม่โฮมการ์ด มีเส้นสีแดงพาดรอบพานท้ายปืนเพ่อเป็นจุดสังเกต
ื
ู
สำาหรับผู้ใช้ว่ามันบรรจุกระสุนยูเอส .30-06 ไม่ใช่บริติช .303
ื
ำ
30. ปัฟลีเชนโคและเจ้าหน้าท่ของกองทัพอากาศอังกฤษกาลังดูเคร่องบินของ
ี
พันธมิตรที่ ราฟ ฮีธฟีลด์ ในไอเยอร์ เดือนพฤศจิกายน 1942 (ภาพจาก
แฟ้มส่วนตัวของปัฟลีเชนโค)
31. ปัฟลีเชนโคและคนงานในโรงงานทอผ้า แมนเชสเตอร์ เดือนพฤศจิกายน 1942
(เครดิต Histoire & Collection)
32. ปัฟลีเชนโคและอักเนีย ไมสกายา ภรรยาของท่านทูตโซเวียตประจาบริเตน
ำ
ี
ี
ท่งานเล้ยงฉลองครบรอบ 25 ปีของการปฏิวัติเดือนตุลาคม (เครดิต
Histoire & Collection)
ึ
33. นายพลลุดมีลา ปัฟลีเชนโค แห่งกองทัพรักษาฝ่ง ปี 1964 ส่วนหน่งของ
ั
เคร่องหมายยศของเธอ ได้แก่ เหรียญวีรสตรีแห่งสหภาพโซเวียต เหรียญจาก
ื
การปกป้องโอเดสซา เหรียญจากการป้องกันเซวัสโตปอลและเหรียญแห่ง
ชัยชนะของเยอรมนี
34. เหล่าทหารกล้าแห่งเขตป้องกันท่สองของเซวัสโตปอล ในงานฉลองครบรอบ
ี
25 ปีของการปลดปล่อยเมืองแห่งนี้ (พฤษภาคม 1964)
สารบัญ
คำานำาสำานักพิมพ์ 4
คำานิยม 6
คำานำาผู้แปล 14
ภาพประกอบ 18
1 กำาแพงโรงงาน 27
2 หากวันพรุ่งนี้มีสงคราม... 41
3 จากแม่น้ำาปรุตสู่นีสเตอร์ 55
4 แนวรบระอุไฟ 75
5 ศึกทาทาร์คา 111
6 ถอยทัพข้ามทะเล 127
7 หลั่งเลือดในเซวัสโตปอล 143
8 รุกไล่ไปในป่า 165
9 การเข้าตีครั้งที่สอง 193
10 วันดวลเดือด 231
11 บนเนินนิรนาม 255
12 ศึกฤดูใบไม้ผลิปี 1942 269
13 คำาสั่งท่านนายพล 295
14 ดวงดาราแห่งมอสโก 309
15 เยือนวอชิงตัน 335
16 สุดที่รัก 361
17 สู่อังกฤษ 391
18 คำาสั่งจากสหายสตาลิน... 413
19 ในห้วงแห่งความทรงจำา! 429
บรรณานุกรม 450
วีรสตรีแห่งสหภาพโซเวียต ร้อยโทลุดมีลา ปัฟลีเชนโค
มอสโก ปี 1944 (พิพิธภัณฑ์แห่งรัฐเพื่อวีรกรรมการป้องกัน
และปลดปล่อยเซวัสโตปอล)
1
กำาแพงโรงงาน
ฤดูร้อนปี 1932 คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำาคัญของครอบครัวเรา
เราย้ายจากย่านชนบทของโบกูสลาฟทางตอนใต้ของมณฑลเคียฟ
มาสู่เมืองหลวงของยูเครน แล้วปักหลักอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่พ่อ
ของฉัน มีคาอิล อีวาโนวิช เบลอฟ ได้สิทธ์อาศัยในฐานะเจ้าหน้าท ่ ี
ิ
ของเอ็นเควีดี (นาร็อดนี คอมมิซาเรียต วนูเทรนนิคฮ์ เดล หรือ
‘พลาธิการกิจการภายในประชาชน’) พ่อได้รับการแต่งต้งให ้
ั
ำ
ำ
ื
ำ
ี
ี
ประจาตาแหน่งในสานักงานกลางเน่องจากปฏิบัติหน้าท่ได้ดีเย่ยม
พ่อเป็นคนซื่อตรงและเจ้าระเบียบ อุทิศตัวต่อหน้าที่ ตอนยัง
หน่มท่านเร่มจากการเป็นช่างยนต์ในโรงงานใหญ่แห่งหน่ง
ิ
ึ
ุ
เคยร่วมรบช่วงสั้นๆ ในสงครามโลกครั้งที่ 1 เข้าร่วมกิจกรรมกับ
่
ื
ิ
่
ิ
ิ
พรรคคอมมวนสต (ในขณะนันมชอวา พรรคแรงงานประชาธปไตย
์
ี
้
รัสเซีย หรือ บอลเชวิก) เคยร่วมกิจกรรมปฏิวัติหลายคร้งใน
ั
เมืองเปโตรกราด แล้วมารับหน้าท่ผ้ตรวจการกรมทหารประจา
ี
ู
ำ
‘กองพลเหล็ก’ ซามารา-ซิมเบียร์สค์ที่ 24 เข้าต่อสู้กับกองกำาลัง
ไวท์การ์ดของโคลชัคในย่านโวลกากลางและตอนใต้ของเทือกเขา
27
กำ�แพงโรงง�น
ำ
อูราล พ่อถูกปลดประจาการจากกองทัพแดงหลังส้นสงครามในป ี
ิ
ื
ื
1923 เม่ออายุได้ย่สิบแปดปี แต่ท่านก็ยังสวมเคร่องแบบอย ู ่
ี
ื
จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต เรามักจะเห็นท่านในเคร่องแบบ
ื
ื
เส้อแจ็กเก็ตคอแบะตัดเย็บจากผ้ากาบาร์ดีนสีกากี ประดับเคร่อง
อิสริยาภรณ์ธงแดงที่หน้าอก สวมกางเกงขายาวสีกรมท่าที่พอง
ี
ำ
ตรงต้นขาเหมือนกางเกงข่ม้า และรองเท้าบูทยาวทาจากหนัง
ลูกวัวแบบที่นายทหารใช้
ตามปกติพ่อจะเป็นคนสุดท้ายท่พูดเม่อบ้านเราทะเลาะกัน
ี
ื
ถ้าทะเลาะน่ะ แม่ผู้น่ารักของฉัน เยเลนา โทรฟีมอฟนา เบโลวา
จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมหญิงล้วนในเมืองวลาดีมีร์ และร ้ ู
วิธีจัดการกับอารมณ์เครียดๆ ของพ่อเป็นอย่างดี แม่เป็นผู้หญิง
ำ
้
ี
สวย รูปร่างเพรียวท่ดูดีทีเดียว ผมของท่านเป็นสีนาตาลเข้ม
ี
ำ
้
ู
ำ
เงางามรับกับดวงตาสีนาตาลท่ทาให้ใบหน้าสว่างไสว ร้ภาษา
ต่างประเทศหลายภาษาและสอนภาษาเหล่าน้นในโรงเรียน
ั
ี
ี
ลูกศิษย์ต่างรักแม่กันทุกคน การท่แม่เปล่ยนบทเรียนเป็นเกม
ุ
ี
ำ
ทาให้ลูกศิษย์ของท่านออกเสียงภาษาต่างๆ ในยุโรปท่ไม่ค้นห ู
ำ
ั
ชาวรัสเซียได้ง่ายข้น การสอนของท่านทาให้เด็กๆ จึงท้งอ่าน
ึ
ภาษาเหล่านั้นออกและพูดได้ดี
แม่ต้องอุทิศตัวอย่างมากเพ่อเล้ยงดูพวกเรา ท้งวาเลนตีนา
ื
ี
ั
ี
ำ
พ่สาวฉันและตัวฉัน แม่ทาให้เราได้ร้จักวรรณกรรมคลาสสิกของ
ู
รัสเซีย อย่างงานเขียนของ ปุชกิน, เลมอนทอฟ, โกกอล, ลีโอ
ตอลสตอย, เชคอฟ, มักซิม กอร์กี และคูปริน ทั้งหมดนี้มีอยู่ใน
ห้องสมุดที่บ้านเรา พี่สาวฉันมีบุคลิกอ่อนโยน ช่างฝัน ชอบอ่าน
ท้งวรรณคดีและนิยาย ส่วนตัวฉันชอบประวัติศาสตร์ หรือพูด
ั
ให้ถูกคือประวัติศาสตร์ด้านการทหารของชาติอันย่งใหญ่ของเรา
ิ
ู
ก่อนจะย้ายมาโบกูสลาฟ เราอาศัยอย่ในเมืองเบลายาท
เซียร์คอฟ มณฑลเคียฟอย่หลายปี ท่น่นฉันได้เข้าโรงเรียนประถม
ู
ั
ี
28
มือสังหาร ของสตาลิน
หมายเลข 3 และได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างสบายอยู่นาน พวกเราจับ
ำ
ุ
ั
้
กล่มกันบนถนนสเตช่น เล่น ‘ทหารคอสส์แซ็คส์กับโจร’ กระโดดนา
จากเรือท้องแบนในแม่นารอสช่วงฤดูร้อน เดินเตร็ดเตร่ในสวน
ำ
้
ื
ี
สาธารณะอเล็กซานเดรียท่งดงาม และพากันว่งลุยสวนเพ่อนบ้าน
ิ
ในฤดูใบไม้ร่วง ฉันเป็นหัวโจกของแก๊งวัยรุ่นชายนี้เพราะยิง
ิ
่
ั
๊
ิ
ุ
้
ำ
่
็
่
หนงสตกแมน วงก็เรวกว่าทุกคนในกลม ว่ายนาก็เก่งกว่า และไม่เคย
กลัวเรื่องชกต่อย เป็นคนแรกที่ควงกำาปั้นชกหน้าคนเสมอ
การเล่นสนุกอย่างเด็กๆ จบลงเมื่อฉันอายุย่างสิบห้า ความ
ื
เปล่ยนแปลงน้เกิดข้นฉับพลันในวันเดยว เม่อคิดย้อนกลับไป
ี
ึ
ี
ี
ิ
ั
ั
้
ั
่
ฉนเปรียบเทยบมันกบวนสนโลกไดเลย ท้งความสมครใจอยาง
้
ั
ี
ั
ั
ไม่ลืมหูลืมตา ความไร้เหตุผล น่นแหละคือรักแรกของเด็กสาว
อย่างฉัน ความทรงจาน้นติดตัวฉันไปตลอดชีวิตในรูปแบบของ
ั
ำ
นามสกุลเขา ปัฟลีเชนโค 1
นับว่าโชคดีท่รอสติสลาฟ ลูกชายฉันไม่เหมือนพ่อเขาเลย
ี
สักนิดเดียว เขาเป็นคนใจดี รักสงบ และมีลักษณะสาคัญของ
ำ
ี
ื
ำ
ำ
้
้
ี
ตระกูลเรา นนคอดวงตาสนาตาล ผมดกหนาสนาตาล ตัวสูง
ั
่
มีมัดกล้าม มีลักษณะแบบชาวเบลอฟแท้ๆ และเป็นทหารเหมือน
ั
ำ
คนในตระกูลเรา สลาวาสาเร็จการศึกษาข้นเกียรตินิยมจาก
ิ
คณะนติศาสตร์ และวิชาการระดับสูงของเคจีบีจากมหาวิทยาลัย
ึ
มอสโก เขาเป็นนายทหารโซเวียตอย่างภาคภูมิ ซ่งฉันเองก็ภูมิใจ
ในตัวลูกมาก
ี
ิ
ุ
ท่บ้านใหม่ของเราในเคียฟ เราปรับตัวได้เร็วและเร่มค้นเคยกับ
ี
เมืองใหญ่อันอึกทึกครึกโครมแห่งน้ เราไม่ค่อยได้พบพ่อมากนัก
ำ
ึ
่
เพราะท่านทางานจนคา การพูดคุยกันแบบเปิดใจกับพ่อจะเกิดข้น
ำ
ในครัวหลังมื้อเย็น แม่ฉันจะวางกาน้ำาชาโลหะไว้บนโต๊ะ แล้วเรา
ก็พูดคุยกันในเร่องต่างๆ พลางจิบนาชากับพ่อแม่ ถามน่นถามน่ ี
ั
ื
้
ำ
ไม่นานคำาถามสำาคัญก็เกิดขึ้น
29