The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chanisr.ton, 2020-03-16 23:10:50

บันทึกประจำวันระหว่างการเดินทางของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

THE TRAVEL DIARIES OF Albert Einstein
บันทึกประจำวันระหวางการเดินทางของ อัลเบิรต ไอนสไตน
เซฟ โรเซนแครนซ: เรียบเรียง
ไอริสา ชั้นศิริ: แปล
ราคา 340 บาท

All rights reserved.
Copyright © 2010 Princeton University Press
Translation copyright © 2019, by Gypsy Publishing Co.,Ltd.
Thai Translation edition first published in Thailand in 2019 by Gypsy Group Co.,Ltd.
© ขอความและรูปภาพในหนังสือเลมนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกสวนใดๆ ในหนังสือเลมนี้ไปเผยแพรไมวาในรูปแบบใดตองไดรับอนุญาตจากเจาของลิขสิทธิ์กอน
ยกเวนเพื่อการอางอิง การวิจารณ และประชาสัมพันธ

ขอมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแหงชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data

โรเซนแครนซ, เซฟ.

The travel diaries of Albert Einstein
บันทึกประจำวันระหวางการเดินทางของ อัลเบิรต ไอนสไตน. -- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุป, 2562.
328 หนา.
1. ไอนสไตน, อัลเบิรต, ค.ศ. 1879-1955--บันทึกประจำวัน.
2. ไอนสไตน, อัลเบิรต, ค.ศ. 1879-1955--การทองเที่ยว. l. ไอริสา ชั้นศิริ, ผูแปล. II. ชื่อเรื่อง.
530.092
ISBN 978-616-301-696-6

บรรณาธิการอำนวยการ : คธาวุฒิ เกนุย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผูชวยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา ดารียา ครโสภา
เลขากองบรรณาธิการ : อรทัย ดีสวัสดิ์
พิสูจนอักษร : วนัชพร เขียวชอุม สวภัทร เพ็ชรรัตน
รูปเลม : Evolution Art
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ผูอำนวยการฝายการตลาด : นุชนันท ทักษิณาบัณฑิต
ผูจัดการฝายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผูจัดการทั่วไป : เวชพงษ รัตนมาลี
จัดพิมพโดย : บริษัท ยิปซี กรุป จำกัด เลขที่ 37/145 รามคำแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ตอ 108
www.gypsygroup.net
พิมพที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำกัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำหนาย : บริษัท ยิปซี กรุป จำกัด โทร. 0 2728 0939
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID : @gypzy
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำนวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำนักพิมพลดราคาพิเศษ ติดตอ โทร. 0 2728 0939

THE TRAVEL DIARIES OF
Albert Eins tein



บันทึกประจ�าวันระหว่างการเดินทางของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์




เรียบเรียงโดย เซฟ โรเซนแครนซ์



ตะวันออกไกล ปาเลสไตน์ และสเปน
1922-1923



ฤดูใบไม้ร่วงปี 1922 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์และภรรยาของเขา เอลซ่า

ไอน์สไตน์ เร่มต้นการเดินทางระยะเวลาห้าเดือนคร่งไปยังตะวันออกไกล



และตะวันออกกลาง ดินแดนท่นักฟิสิกส์ผ้โด่งดังไม่เคยได้ไปเยือนมาก่อน


แผนการเดินทางอันยาวเหยียดของไอน์สไตน์ประกอบไปด้วยการแวะท่ฮ่องกง
และสิงคโปร์ การพักเป็นระยะเวลาสั้นๆ สองครั้งที่ประเทศจีน การเดินสาย




บรรยายนานหกสัปดาห์ท่ประเทศญ่ป่น การเท่ยวชมดินแดนปาเลสไตน ์
สิบสองวัน และการเดินทางเยือนประเทศสเปนเป็นเวลาสามสัปดาห์ เป็น


คร้งแรกท่บันทึกฉบับสมบูรณ์ซ่งไอน์สไตน์เขียนข้นในระหว่างการเดินทาง


ครั้งสำาคัญนี้ถูกเปิดเผยออกมา
บันทึกประจาวันท่เขียนอย่างกระชับส้นด้วยถ้อยคาท่ประหลาด










ชดเจน และบางคร้งกแสดงถงการดูหม่นดแคลนเลมน ไดกกเกบข้อมูลการ







ขบคิดเกี่ยวกับเรื่องวิทยาศาสตร์ ปรัชญา ศิลปะ และการเมืองของไอน์สไตน์
เอาไว้ รวมไปถึงความรู้สึก ณ ห้วงเวลานั้นและความคิดต่างๆ ในมุมที่กว้าง









ออกไปเกยวกบเหตการณ์ทเขาไดขนบรรยายเพอเปดสถานท ซงจะกลาย







เป็นมหาวิทยาลัยฮีบรูแห่งเยรูซาเลมในอนาคต งานเล้ยงในสวนท่จัดโดย




จกรพรรดนแหงญปน การเขาเฝาพระราชาแหงสเปน และการพบปะกบ










เพ่อนร่วมงานและรัฐบุรุษผ้โดดเด่นคนอ่นๆ ในบันทึกยังมีส่วนท่เผยให้เห็น





ถึงความคิดแบบเหมารวมท่ไอน์สไตน์มีต่อสมาชิกของชนชาติต่างๆ และทาให ้


เกิดคาถามเก่ยวกับทัศนคติในเร่องเช้อชาติของเขา หนังสือเล่มสวยเล่มน้ยัง








มีภาพสาเนาบันทึกประจาวันแต่ละหน้าท่ถูกนามาจัดวางค่กับคาแปลภาษา




อังกฤษ มีส่วนบทนาเชิงประวัติศาสตร์ ภาพประกอบมากมาย และคาอธิบาย
เพิ่มเติม รวมไปถึงเอกสารเพิ่มเติมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจดหมาย ไปรษณียบัตร
คำากล่าว บทความ แผนที่การเดินทาง และลำาดับการเดินทาง
ไอน์สไตน์เขียนบันทึกระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศครั้งต่อๆ มา



ของเขาเอาไว้ท้งหมด และบันทึกประจาวันระหว่างการเดินทางเล่มแรกน้ได ้

เผยให้เราเห็นถึงบางแง่มุมของอัจฉริยะในยามท่เขาได้ปะทะสังสรรค์กับโลก
อันกว้างใหญ่ ในแบบที่ใกล้ชิดและเป็นครั้งแรกเริ่ม

การเดินทางช่วงสุดท้ายจากเมืองพอร์ตซาอิด
ไปยังเมืองตูลง บนเรือกลไฟ ออร์มุซ

การเดินทางขากลับจากเมืองโมจิ ประเทศญ่ป่น


ไปยังเมืองพอร์ตซาอิด บนเรือกลไฟ ฮารุนะ มารุ



การเดินทางขาไปจากเมืองมาร์แซย์ ไปยังเมืองโกเบ
ประเทศญี่ปุ่น บนเรือกลไฟ คิตะโนะ มารุ

แผนที่พร้อมเส้นทางการเดินทางทางเรือของไอน์สไตน์

แด่พ่อแม่ของผม
รูธ ฮันนาห์ โรเซนแครนซ์ (1928-2015)

และ
อาร์โนลด์ โรเซนแครนซ์ (1923-1999)

ผู้ร่วมเดินทางครั้งแรกกับผม

ค�าน�าผู้แปล






เม่อเอ่ยช่ออัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ภาพท่หลายคนนึกถึงก็คงจะเป็นภาพ





ของนักวทยาศาสตร์คงแก่เรยนผู้คดค้นทฤษฎสัมพทธภาพอันสลับซบซ้อน






เข้าใจยาก ซ่งนำาไปสู่การถือกำาเนิดของพลังงานนิวเคลียร์ท่ถูกนำามาใช้ ท้งเพ่อ


หาห่นทำาลายล้างกันในสงครามและสร้างสรรค์พัฒนาในเวลาต่อมา ไอน์สไตน์





กลายเป็นสญลกษณ์แทนความเฉลยวฉลาดและสตปัญญา นอกจากนน





เร่องราวความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเรียบง่ายสมถะในการใช้ชีวิต ความ
หลงใหลในงานศิลปะและดนตรี และความไม่เห็นแก่ตัวของเขายังทำาให้อัจฉริยะ
ผู้นี้ยิ่งเป็นที่ชื่นชมและแรงบันดาลใจของใครหลายคน

บันทกประจำาวนระหว่างการเดินทางไปยังดินแดนตะวันออกไกล

ตะวันออกกลาง และสเปนของไอน์สไตน์ เผยให้คนท่วไปอย่างเราท่ไม่ใช่



นักวิทยาศาสตร์หรือนักประวัติศาสตร์ผู้ศึกษาเร่องราวของอัจฉริยะผู้น้ ได้เห็น



แง่มุมอ่นๆ ของไอน์สไตน์ท่อาจจะยังไม่มีใครเคยบอกเล่า ไม่ต่างจากคนท่วไป




เขาจดบันทึกเร่องงานท่กำาลังทำา ความคิดเก่ยวกับเหตุการณ์ความเป็นไปต่างๆ
ของโลก และสิ่งที่เขาได้พบเผชิญในแต่ละวันไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ผู้คน หรือ

ลมฟ้าอากาศลงในสมดบนทกส่วนตว เราได้ร้ว่าไอน์สไตน์ไม่ชอบออกงาน




สังคมซึ่งเป็นสิ่งที่เขาแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขามีเรื่องกระทบกระทั่งไม่พอใจ
กับภรรยาอยู่บ้างเหมือนกัน และเขายังหลงใหลในวัฒนธรรม บ้านเมือง และ

ความเป็นอยู่ของประเทศญ่ปุ่น จุดหมายปลายทางหลักของเขาในการเดินทาง
ข้ามนาข้ามทะเลคร้งน้ ไม่ต่างจากใครหลายคนท่เคยได้ไปเยือนดินแดน





อาทิตย์อุทัยเลย
นอกจากบันทึกจะทำาให้เราได้เข้าถึงไอน์สไตน์ในฐานะปุถุชนคนหน่ง

แล้ว บางช่วงบางตอนในบันทึกประจำาวันยังเปิดเผยถึงแง่มุมท่อาจทำาให้เรา



ในฐานะชาวเอเชยร้สกประหลาดใจ ไม่สบายใจ หรออาจถงขนไม่พอใจด้วย









เราทุกคนต่างทราบดีว่าไอน์สไตน์มีเช้อสายยิวและมีถ่นพำานักท่เขาเรียกว่า

“บ้าน” อยู่ท่ประเทศเยอรมนี ถึงแม้จะเป็นช่วงก่อนท่จะมีการฆ่าล้างเผ่าพันธ ุ์


โดยกองกำาลังนาซี แต่เขาก็สัมผัสและรับรู้ถึงความขัดแย้งท่เป็นผลมาจากการ

แบ่งแยกกีดกันทางเช้อชาติและความเกลียดชังท่ชาวยุโรปบางส่วนมีต่อคน















เชอสายยวเป็นอย่างด นนจงทำาให้บนทกส่วนทเผยให้เหนถงมมมองและ





ทัศนคติท่เขามีต่อคนเช้อชาติอ่นไม่ว่าจะเป็นชนพ้นเมืองชาวอียิปต์ท่เมือง



พอร์ตซาอิด ชาวสิงหลท่ศรีลังกา ชาวจีนท่สิงคโปร์ ฮ่องกง หรือเซ่ยงไฮ้
และแม้กระท่งชาวญ่ปุ่นท่เขาช่นชม อาจทำาให้ผู้อ่านรู้สึกแปลกใจหรือ




ไม่ชอบใจนัก เพราะคงอดคิดไม่ได้ว่าทำาไมบุคคลท่รับรู้และประสบกับความ

ทุกข์จากการแบ่งแยกเดียดฉันท์ทางเช้อชาติจึงมีความคิดในเชิงดูหม่นดูแคลน


ต่อคนเชื้อชาติอื่นได้

หากมองให้ลึกลงไป ไอน์สไตน์ไม่ผิดท่มีมุมมองเช่นน้น เพราะถึงจะ


เป็นยิว แต่ก็เป็นชาวยิวท่เติบโตอยู่ในยุโรปท่ามกลางมายาคติและภาพจำา

เหมารวมท่ยกย่องชาวอารยันแต่เหยยบยาชนเชอชาติอ่น โดยเฉพาะชาวเอเชีย






หรือชาวบูรพาทิศ บันทึกประจำาวันของเขาคือบันทึกความคิดความรู้สึกของ



มนุษย์คนหน่งซ่งรับรู้ส่งต่างๆ ผ่านกรอบวัฒนธรรม ค่านิยม และความเช่อของ

สังคมที่เขาดำารงชีวิตอยู่ ไม่ต่างจากพวกเรา ในบางครั้งเราเองก็เผลอมองคน


เช้อชาติอ่นในทางลบ รังเกียจเดียดฉันท์ชนชาติอ่นเพียงเพราะคนเหล่าน้น


“ไม่เหมือน” กับเรา บันทึกของไอน์สไตน์จึงทำาให้เราต้องย้อนกลับมาพิจารณา
ตัวเองว่าการท่เราในฐานะชนชาติหน่งท่ตกเป็นเหย่อของการเหมารวมในทาง




ลบจะไปเดียดฉันท์และเหยียบยำาคนเช้อชาติอ่นเป็นเร่องท่สมควรทำาหรือไม่






หากเราต้องการให้ชนชาติอ่นมองเราในฐานะผู้ท่เท่าเทียม ตัวเราเองก็ควรมอง

ชนเชื้อชาติอื่นในฐานะผู้ที่เท่าเทียมกับเราไม่ใช่หรือ
ไอริสา ชั้นศิริ

ค�าน�าส�านักพิมพ์








การเดินทางยอดเย่ยมมาก ผมหลงใหลในประเทศญ่ปุ่นและชาวญ่ปุ่น

และม่นใจว่าคุณจะต้องเป็นเช่นกัน นอกจากน้น การเดินทางทางเรือเป็น



ชีวิตท่ยอดเย่ยมย่งสำาหรับนักครุ่นคิดมันเป็นเหมือนกับอาราม ย่งไป




กว่านั้น ยังมีความร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตรอันปลอบประโลม นาอุ่นๆ หยด

อย่างเกียจคร้านจากท้องฟ้าและกระจายความสงบและการเคล้มหลับ

ราวกับพืช จดหมายน้อยฉบับนี้คือข้อพิสูจน์
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เขียนถึง นีลส์ บอร์ ขณะอยู่ใกล้กับประเทศสิงคโปร์
วันที่ 10 มกราคม 1923

สำานักพิมพ์ยิปซีมีความภูมิใจท่ได้แปลและนำาเสนอบันทึกประจำาวัน
ระหว่างการเดินทางของ ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เสนอทฤษฎ ี


สัมพัทธภาพอันลือล่น เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ ประจำาปี 1921
บันทึกประจำาวันระหว่างการเดินทางฉบับน้ถูกเขียนลงในสมุดจดเล่มหน่ง



ซ่งทำาให้เราได้เห็นแง่มุมความคิด อารมณ์ความรู้สึก และทัศนคติท่น่าสนใจ




ในการเดินทางของเขา ไอน์สไตน์เขยนบันทึกทกวน เขาบันทึกส่งทเกดขน












ส่งต่างๆ ท่ประสบพบเจอ ท้งผู้คนและสถานท่ท่ไปเยือน นอกจากน้ไอน์สไตน์
ยังบันทึกสิ่งที่เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ปรัชญา ศิลปะ และเหตุการณ์


ท่เกิดข้นในโลกในช่วงเวลานั้น บันทึกประจำาวันของไอน์สไตน์น้นละเอียด



แต่บางทีก็ประหลาด ท้งส้นกระชับ รวบรัด และตรงไปตรงมา ผู้อ่านจะได้เห็น

ถึงข้อสังเกตของเขาเก่ยวกับผู้คนท่ได้พบ มมมองท่เขามีต่อกลมชาติพนธ์และ




ุ่



เช้อชาติท่เขาได้พบในระหว่างการเดินทาง การเดินทางเปล่ยนแปลงมุมมอง

ที่เขามีต่อตัวเองในฐานะชาวยิว ชาวเยอรมัน และชาวยุโรปมากน้อยแค่ไหน

การไปเยือนของเขามีอิทธิพลต่อสังคมที่ต้อนรับเขาอย่างไร ผู้คนมีปฏิกิริยา
อย่างไรต่อการไปเยือนของเขา และตอบสนองต่อแนวคิดทฤษฎีสัมพัทธภาพ

ของเขาอย่างไร ฯลฯ








สดทาย การเดินทางมความหมายตอตัวไอนสไตนอยางไร ขอเชญทาน

ผู้อ่านร่วมเดินทางไปกบไอน์สไตน์ใน THE TRAVEL DIARIES OF

Albert Einstein หรือ ‘บันทึกประจำาวันระหว่างการเดินทางของ อัลเบิร์ต
ไอน์สไตน์’
ส�านักพิมพ์ยิปซี

สารบัญ






สารบัญภาพประกอบ 14

บทนำา 19
กิตติกรรมประกาศ 25



คำานำาเชิงประวัติศาสตร์ 31
บันทึกประจำาวันระหว่างการเดินทาง
ญี่ปุ่น ปาเลสไตน์ สเปน 6 ตุลาคม 1922 ถึง 12 มีนาคม 1923 127

เอกสารเพิ่มเติม 291
1. จดหมายจาก ยามาโมโตะ สะเนะฮิโกะ วันที่ 15 มกราคม 1922 291

2. รายงานการสนทนากับ ศจ.ไอน์สไตน์ ในวันที่เดินทาง
ไปยังประเทศญี่ปุ่น 29 กันยายน 1922
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 1922 โดย เคิร์ท บลูเมนเฟลด์ 292

3. คำากล่าวในงานต้อนรับที่ประเทศสิงคโปร์
วันที่ 2 พฤศจิกายน 1922 293

4. “การพูดคุยเรื่องความประทับใจที่ข้าพเจ้ามีต่อญี่ปุ่น”
ต้นฉบับแล้วเสร็จในหรือหลังจากวันที่ 7 ธันวาคม 1922 294
5. จดหมายถึง ยามาโมโตะ สะเนะฮิโกะ วันที่ 12 ธันวาคม 1922 301

6. จดหมายถึง ฮันส์ อัลเบิร์ต และเอดูอาร์ด ไอน์สไตน์
วันที่ 17 ธันวาคม 1922 302
7. จดหมายถึง วิลเฮล์ม ซอล์ฟ วันที่ 20 ธันวาคม 1922 303

8. จดหมายถึง อิชิวาระ จุน ระหว่างวันที่ 23
และ 29 ธันวาคม 1922 304

9. จดหมายถึง ทสึจิอิ (โดอิ) บันซุย วันที่ 30 ธันวาคม 1922 304
10. จดหมายถึง ทสึจิอิ (โดอิ) เออิอิจิ วันที่ 30 ธันวาคม 1922 306
11. จดหมายถึง ยามาโมโตะ โยชิ วันที่ 30 ธันวาคม 1922 306

12. คำากล่าวในงานต้อนรับของชาวยิวที่เซี่ยงไฮ้
วันที่ 1 มกราคม 1923 307

13. จดหมายถึง สวานเต อาร์เรเนียส วันที่ 10 มกราคม 1923 308
14. จดหมายถึง นีลส์ บอร์ วันที่ 10 มกราคม 1923 309
15. จดหมายถึง สหภาพแรงงานญี่ปุ่น วันที่ 22 มกราคม 1923 310

16. จดหมายถึง อาร์เธอร์ รัปปิน วันที่ 3 หรือ 5 กุมภาพันธ์ 1923 312
17. “ความประทับใจต่อปาเลสไตน์ โดย ศจ.ไอน์สไตน์”
วันที่ 24 เมษายน 1923 313



ลำาดับเวลาการเดินทาง 317

สารบัญภาพประกอบ







ภาพด้านหน้า แผนท่พร้อมรายละเอียดการเดินทางทางเรือของไอน์สไตน์
1. ไอน์สไตน์และเอลซ่า กับยามาโมโตะ สะเนะฮิโกะ
และยามาโมโตะ โยชิ อินางาคิ โมริคะทสึ และอินางาคิ โทนี
อิชิวาระ จุน และคนอื่นๆ น่าจะเป็นที่กรุงโตเกียว

วันที่ 22 พฤศจิกายน 1922 38
2. สถานที่เกิดเหตุการลอบสังหารวอลเธอร์ ราเธนัว ที่กรุเนเวลด์
กรุงเบอร์ลิน วันที่ 24 มิถุนายน 1922 47

3. ไอน์สไตน์และเอลซ่า ณ มหาวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์โตเกียว
วันที่ 28 พฤศจิกายน 1922 62

4. ไอน์สไตน์และเอลซ่าขณะอยู่ในงานเลี้ยงสาเกกับเหล่าเกอิชา
กรุงโตเกียว น่าจะเป็นวันที่ 25 พฤศจิกายน 1922 68
5. ไอน์สไตน์และเอลซ่าขณะอยู่บนเรือกลไฟ คิตะโนะ มารุ

มุ่งหน้าสู่ประเทศญี่ปุ่น ตุลาคม 1922 109
6. ประกาศนียบัตรรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์

วันที่ 10 ธันวาคม 1922 112
7. เรือกลไฟ คิตะโนะ มารุ 131
8. เมนูอาหารมื้อกลางวันในงานฉลองวันประสูติ

สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น บนเรือกลไฟ คิตะโนะ มารุ
วันที่ 31 ตุลาคม 1922 155
9. สามีภรรยาไอน์สไตน์และสมาชิกสมาคมชาวยิวประเทศสิงคโปร์

ณ บ้านพักของมาเนสเสห์ เมเยอร์ คหบดีผู้ใจบุญ
วันที่ 2 พฤศจิกายน 1922 163


10. ไอน์สไตน์และเอลซ่า ขณะร่วมงานเลี้ยงอาหารคำา ณ บ้านพัก
ของหวังอี้ถิง จิตรกรและพ่อค้าคนดังชาวเซี่ยงไฮ้

วันที่ 13 พฤศจิกายน 1922 185
11. ไอน์สไตน์และเอลซ่า ณ สวนพฤกษศาสตร์โคอิชิคาวะพร้อมด้วย
บรรดาสมาชิกราชวิทยาลัยแห่งญี่ปุ่น กรุงโตเกียว

วันที่ 20 พฤศจิกายน 1922 193
12. ไอน์สไตน์และเอลซ่า ณ บ้านพักของ ยามาโมโตะ สะเนะฮิโกะ

เจ้าของสำานักพิมพ์ ไคโซะ กรุงโตเกียว
วันที่ 22 พฤศจิกายน 1922 199
13. เมนูอาหารกลางวันที่บ้านพักของ นางาโอกะ ฮันทาโร

นักฟิสิกส์ กรุงโตเกียว วันที่ 27 พฤศจิกายน 1922 205
14. ไอน์สไตน์ขณะบรรยายที่มหาวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์
โตเกียว วันที่ 28 พฤศจิกายน 1922 207

15. ไอน์สไตน์และชิโอซาวา มาซาสะดะ อธิการบดี
ที่มหาวิทยาลัยวาเสดะ กรุงโตเกียว วันที่ 29 พฤศจิกายน 1922 209
16. ไอน์สไตน์ขณะบรรยายเรื่องสัมพัทธภาพในชั้นเรียน โดยการใช้

แคลคูลัสของการแปรผัน ณ ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยหลวง
โตเกียว ต้นเดือนธันวาคม 1922 211

17. ไอน์สไตน์และเอลซ่า ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีโตเกียว
วันที่ 2 ธันวาคม 1922 213
18. ภาพสเกตช์โดย โอคาโมโตะ อิปเป ประกอบบทความ

เรื่อง “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หรือจมูกคือเขื่อนกักเก็บความคิด”
วันที่ 4 ธันวาคม 1922 215

19. ไอน์สไตน์ขณะมาถึงสถานีรถไฟนาโกยา
วันที่ 7 ธันวาคม 1922 219

20. ไอน์สไตน์ ณ ขั้นบันไดวัดจิออนอิน เมืองเกียวโต
วันที่ 15 ธันวาคม 1922 227

21. สามีภรรยาไอน์สไตน์ในงานเลี้ยงวันคริสต์มาส
ณ สมาคมวายเอ็มซีเอ โมจิ วันที่ 25 ธันวาคม 1922 237
22. สามีภรรยาไอน์สไตน์ ณ ทำาเนียบรัฐบาล กรุงเยรูซาเลม

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1923 259
23. ไอน์สไตน์และเอลซ่าถูกจารึกชื่อลงใน “หนังสือทองคำา”

ของกองทุนแห่งชาติยิว วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1923 267
24. งานต้อนรับไอน์สไตน์ที่ศาลาว่าการกรุงเทลอาวีฟ
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1923 269

25. งานต้อนรับสามีภรรยาไอน์สไตน์ที่เมืองอาณานิคมริชอนเลซิออน
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 1923 271
26. สามีภรรยาไอน์สไตน์ที่เมืองพอร์ตซาอิดพร้อมด้วยแม็กซ์ เมาช์ลี

และซีเลีย เมาช์ลี-เทอร์เคิล วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1923 279
27. ไอน์สไตน์และเด็กๆ ในท้องถิ่น ที่เมืองเอสพลูกาเดฟรานคอลย์
แคว้นกาตาลุญญา ประเทศสเปน วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1923 281

28. งานต้อนรับไอน์สไตน์ที่ราชวิทยาลัยสเปน กรุงมาดริด
วันที่ 4 มีนาคม 1923 283

29. คำาเชิญให้เข้าเฝ้าพระนางมาเรีย คริสตินา แห่งออสเตรีย
พระราชชนนีแห่งสเปน กรุงมาดริด วันที่ 6 มีนาคม 1923 285
30. ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยมาดริด

วันที่ 8 มีนาคม 1923 287
31. ไอน์สไตน์และคณาจารย์แห่งมหาวิทยาลัยมาดริด

วันที่ 8 มีนาคม 1923 289

32. ประกาศนียบัตรจากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ เคมีฟิสิกส์
และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งซาราโกซา

วันที่ 12 มีนาคม 1923 290
33. เหรียญรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ วันที่ 10 ธันวาคม 1922 308
34. ไปรษณียบัตรถึงอาร์เธอร์ รัปปิน กรุงเยรูซาเลม

วันที่ 3 หรือ 5 กุมภาพันธ์ 1923 311



บทน�า







ผมเกิดในบ้านท่อย่ห่างจากชายหาดโดยใช้เวลาเดินเพียงแค่ห้านาที

ในย่านชานเมืองทางฝั่งอ่าวซึ่งมีชื่อว่า เซนต์คิลดา ในกรุงเมลเบิร์น ประเทศ
ออสเตรเลีย ตอนน้นเป็นช่วงยุคหกศูนย์เข้าต้นเจ็ดศูนย์ เซนต์คิลดายังคง




ไกลปืนเท่ยงอย่นิดหน่อย จากนั้นบางส่วนของเมืองก็ได้รับการพัฒนาให้ดีข้น


ชาวยิวท่อพยพมาจากยุโรปจะลงหลักปักฐานกันท่ถนนแอคแลนด์และพูด

คุยกันด้วยภาษาท่ผมฟังไม่เข้าใจ คุณตาชาวยิวเช้อสายอังกฤษ-ดัตช์ของผม




ผ้ซ่งอพยพจากกรุงลอนดอนมายังออสเตรเลีย เน่องมาจากผลของสงคราม




โลกคร้งท่ 1 จะเรียกผู้อพยพท่มาทีหลังเหล่าน้ว่า “พวกล ” ซ่งเป็นช่อ

1



เรียกผู้ลี้ภัยในทำานองดูหมิ่น
ทุกสัปดาห์พ่อชาวเวียนนาของผมชอบพาออกเดินไปตามถนนบีคอนส์
ฟิลด์พาเหรดเป็นระยะทางสามไมล์โดยใช้เวลากันเป็นช่วโมง เพ่อไปยังท่าเรือ



สเตชั่นเพียร์ที่ย่านพอร์ตเมลเบิร์น ดูเรือเดินสมุทรที่เทียบท่าอยู่ ทะเลดึงดูด



พ่ออยู่เสมอ พ่อเกิดท่กรุงเวียนนาซ่งห่างไกลจากทะเล ก่อนท่ช่วงปลายปี

1938 จะหนีไปเซ่ยงไฮ้และใช้ชีวิตอยู่น่นถึงสิบปีท่ย่านสลัมยิวในสภาพน่าหดห ู่




ซ่งรวมถึงช่วงเวลาเกือบส่ปีท่ญ่ปุ่นเข้ายึดครองด้วย หลังจากส้นสุดสงครามโลก








คร้งท่ 2 พ่อกผูกมิตรกับเพ่อนทหารเรืออเมริกันทแวะเวียนไปทน่นได้อย่าง





ง่ายดาย ถึงปี 1948 ในฐานะไซออนิสต์ ผู้ภักดี พ่อได้ลงเรือลำาท่สองจากเมือง
2










เซยงไฮ้พร้อมผ้อพยพชาวยวเพอไปยงรฐอสราเอลทเพงจะก่อตงขนใหม่ แต่







ประเทศน้นก็ไม่อาจจะเหน่ยวร้งพ่อของผม (ผู้ซ่งเป็นตัวแทนของ “ชาวยิว




1 ภาษาอังกฤษใช้คำาว่า “The Refs” ซึ่งน่าจะย่อมาจากคำาว่า Refugee
2 ไซออนิสต์ (Zionist) คือ กลุ่มชาวยิวที่รวมตัวกัน โดยมีเป้าหมายที่จะคืนสู่ดินแดนมาตุภูมิตามประวัติศาสตร์
ซึ่งก็คือดินแดนปาเลสไตน์นั่นเอง
บันทึกประจ�ำวันระหว่ำงกำรเดินทำงของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 19










ผูรอนเร”) ไวไดนานนัก ในป 1950 พอหวนคืนสูเวียนนาดวยความคิดถึงบาน

แต่หกปีต่อจากนั้น พ่อก็ออกเดินทางล่องทะเลอีกครั้ง คราวนี้จุดหมายปลาย

ทางคือ ประเทศออสเตรเลีย พ่อมุ่งหวังจะปักหลักเร่มต้นชีวิตใหม่ ซ่งเป็นเวลา


พอดิบพอดีกับท่ได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกท่เมลเบิร์น ไม่ก่ปีหลังจาก


นั้น พ่อก็ได้พบกับแม่ของผมผู้มีถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น แต่ความ
กระหายที่จะเดินทางยังคงอยู่และเมื่อผมอายุได้เกือบ 11 ขวบ เราก็ไปที่ท่า
เรือสเตชั่นเพียร์อีกครั้ง แต่คราวนี้ไปในฐานะผู้โดยสาร

การเดินทางนานส่สัปดาห์บนเรือสัญชาติอิตาลีได้พาช่างตัดเส้อท่กำาลัง



อพยพอีกคร้งและครอบครัวของเขากลับคืนสู่ยุโรปผ่านทางแหลมกู๊ดโฮป (ช่อง
3
ทางคลองสุเอซยังคงถูกปิดกั้นอยู่หลังจากสงครามหกวัน ) ผมรู้สึกว่าชีวิตบน
เรือเดินสมุทรนั้นน่าเบื่อ ผมโตเกินกว่าจะเข้าไปใน “ห้องเด็ก” และเด็กเกิน

กว่าจะทำากิจกรรมแบบผู้ใหญ่ แต่ผมก็ได้พบเพ่อนดีๆ บนเรือบ้างและน่นช่วย




ฆ่าเวลาได้ ความทรงจำาท่ชัดเจนท่สุดของผมจากการเดินทางคร้งน้นก็คือ เสียง

ประกาศท่ดังข้นบ่อยๆ บนเรือซี เฮรัลด์ แจ้งให้ปรับนาฬิกาย้อนหลังไป


ครึ่งชั่วโมง เพราะเราเดินทางข้ามโลกและเปลี่ยนเขตเวลา หลายครั้งผมแอบ


เข้าไปในโรงภาพยนตร์เล็กๆ บนเรือ เพ่อดูภาพยนตร์ไซ-ไฟของญ่ปุ่น เร่อง



4
เดอะ กรีน สไลม์ ผมชอบเร่องน้มากจนเข้าไปดูท้งแบบเสียงภาษาอังกฤษ

และอิตาเลียน
สามปีต่อจากนั้น เราได้เดินทางข้ามมหาสมุทรอีกสองครั้ง เพราะพ่อ








ของผมไม่สามารถตดสนใจได้ว่าจะอย่ทไหน ซงนนกไม่ใช่รปแบบการใช้ชวต






ท่ม่นคงสำาหรับลูกชายวัยใกล้แตกเน้อหนุ่มของเขาเลย แต่การเติบโตเป็น


ผู้ใหญ่ในท้งออสเตรเลียและออสเตรียเป็นหนทางท่ดีในการเรียนรู้ภาษาและ


มีทัศนคติแบบสากล การเป็นยิวที่เติบโตในกรุงเวียนนาช่วงทศวรรษที่ 1970
3 สงครามหกวัน (Six Day War) คือ สงครามระหว่างอิสราเอลและอียิปต์ในระหว่างวันที่ 5 - 10 มิถุนายน 1967
4 ภาพยนตร์ปี 1968 กำากับโดยคินจิ ฟุคะสะคุ
20 The Travel Diaries Of Albert Einstein



ย่อมต้องมีความท้าทาย ซ่งหน่งในน้นคือการรับมือกับคำาพูดต่อต้านชาวยิว




ท่ได้ยินเป็นคร้งคราวจากครูประจำาช้นของเราในโรงเรียนมัธยมใกล้บ้าน

หน่งในคำาคมสุดโปรดของเขาคือ การพูดถึง “ตุรกีของพวกลิง” ในตอนน้น


ผมไม่เข้าใจว่าน่นคือคำาพูดเหยียดยิว ท้งยังเป็นคำาพูดเหยียดเช้อชาติในทาง


อ่นๆ ด้วย “มุขตลก” เหยียดเช้อชาติในเวียนนาเวลาน้นมาจากความเช่อ






ท่ว่า อาณาเขตของดินแดนบูรพาเร่มต้นต้งแต่ทางด้านตะวันออกของคลอง






5


ดานบ เป็นต้นไป ซงก่อนทจะเกิดการสงหารหมู่ชาวยวส่วนใหญ่รวมถง

พ่อของผมอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น แต่นอกจากนั้น บริเวณดังกล่าวยังเป็นบ้าน
ของสมาชิกกลุ่มชนชาติอ่นๆ จากทางตะวันออกด้วย อย่างเช่น พวกจักรวรรด ิ

ออสเตรีย-ฮังการีในสมัยโบราณ ซ่งหลักๆ ก็คือชาวเช็กและสโลวัก ในทศวรรษ

ที่ 1970 ดินแดนบริเวณนั้นยังคงเป็นที่อยู่อาศัยของชนกลุ่มน้อยชาวยิวกลุ่ม
เล็กๆ แต่ก็มีผู้ที่เพิ่งอพยพมาได้ไม่นานจากยูโกสลาเวียและตุรกีด้วย










แมวาผมจะสนกกบการเดนเปนระยะทางไกลๆ เพอไปพอรตเมลเบรน


แต่ผมกลับเลือกใช้ชีวิตอยู่ในเมอง “ไกลทะเล” เม่อเตบโตเป็นผู้ใหญ่ จาก





กรุงเวียนนา ผมย้ายไปท่เยรูซาเลมและจากน้นก็ไปท่เมืองแพซาดีนา















รฐแคลฟอร์เนย ซงจากทงสองเมองต้องใช้เวลาเดนทางหนงชวโมงจงจะถง


ชายหาดท่ใกล้ท่สุด บันทึกประจำาวันระหว่างการเดินทางของ อัลเบิร์ต


ไอน์สไตน์ คืองานเขียนของเขาท่ผมชอบท่สุด ผมชอบรูปแบบการเขียน
ประหลาดๆ ของเขา คำาบอกเล่าอย่างตรงไปตรงมาเก่ยวกับบุคคลท่เขาได้


พบเจอ และคำาอธิบายที่มีสีสันเกี่ยวกับความเร่งรีบวุ่นวายของท่าต่างๆ ที่เรือ
ของเขาไปเทียบ มาช่วงหลังๆ น่เองท่ผมเร่มสังเกตเห็นส่วนท่ชวนให้รู้สึก




ไม่สบายใจในบันทึกประจำาวันของเขา ก็คือตรงที่บางครั้งเขาแสดงความเห็น

ในเชงเหยยดเชอชาตต่อผ้คนทเขาได้พบเจอ ผมจงเรมถามตวเองว่า ผ้ทเป็น














เหมือนตัวแทนแห่งมนุษยธรรมคนนี้เขียนข้อความแบบนั้นออกมาได้อย่างไร



5 แม่นาสาขาของแม่นาดานูบ ซึ่งถูกทำาให้เป็นเส้นทางนาในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย



บันทึกประจ�ำวันระหว่ำงกำรเดินทำงของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 21





ดเหมอนว่าคาตอบสาหรบคาถามขอนจะเกยวของอยางมากกับโลกใน









ปัจจุบันที่ซึ่งความเกลียดชังต่อ “ผู้อื่น” แพร่กระจายอยู่หลายที่ทั่วโลก เป็น
อีกคร้งท่มีผู้ล้ภัยยากไร้พยายามจะหนีจากการข่มเหงและความขัดแย้งรุนแรง




เบียดเสียดกันในเรือลำาน้อยท่ไม่เหมาะกับการออกทะเล บางคร้งก็จมนำาตาย



และหากรอดชีวิตก็ถูกจับขังอยู่ในสภาพท่แทบจะไร้มนุษยธรรมภายในค่าย
ผู้ลี้ภัย เป็นอีกครั้งที่พ่อแม่พยายามอย่างลนลานที่จะส่งลูกๆ ของตนไปยังที่
ปลอดภัย แต่พวกเขากลับต้องเผชิญกับการเดินทางท่บีบค้นจิตใจและเส่ยง



ชีวิต เป็นอีกคร้งท่คนต่างชาติตกเป็นแพะรับบาปให้กับความเจ็บป่วยทาง


สังคมที่เกิดขึ้น แล้วกำาแพงซีเมนต์ รั้วลวดหนาม และอคติก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อ
กันคนเหล่านั้นออกไป
ในความเป็นจริงเช่นน้ การตระหนักว่าแม้กระท่งสัญลักษณ์เพ่อการ







รณรงค์เร่องมนุษยธรรมก็ยังส่อสารความเช่อแบบอคติและเหมารวมท่ม ี






ต่อชนชาติอ่นได้ ถือว่าเป็นส่งท่สำาคัญย่ง มีอยู่คร้งหน่งข้าหลวงใหญ่ผู้ล้ภัย

แห่งสหประชาชาติได้จัดทำาป้ายภาพไอน์สไตน์พร้อมสโลแกนอันเฉียบคมว่า

“ผู้ล้ภัยไม่ได้ขนแค่ข้าวของมาสู่ประเทศใหม่ของตนเพียงอย่างเดียว ไอน์สไตน์
ก็เคยเป็นผู้ลี้ภัย” ดูเหมือนว่าบางครั้งแม้แต่ไอน์สไตน์ก็ประสบกับความยาก
ลำาบากในการจะรับรู้ว่าตนเองและคนอื่นไม่ได้แตกต่างกัน
แพซาดีนา แคลิฟอร์เนีย ตุลาคม 2017




22 The Travel Diaries Of Albert Einstein





กิตติกรรมประกาศ






ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซ้งต่อ อัล เบอร์แทรนด์ รองประธาน






ฝ่ายส่งพิมพ์ สานักพิมพ์มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน สาหรับคาช้แนะอันหลักแหลม

และคาแนะนาอันชาญฉลาดตลอดกระบวนการตีพิมพ์ ขอบคุณไดอาน่า บุชวาลด ์

ผ้อานวยการโครงการเอกสารของไอน สไตน์ (the Einstein Papers Project)







สาหรับความเห็นท่รอบร้และความช่วยเหลืออย่างเอ้อเฟ้อและงดงาม

สำาหรับโครงการนี้ ขอขอบคุณปีเตอร์ โดเฮอร์ตี้ อดีตผู้อำานวยการสำานักพิมพ์
มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และเยอร์เกน เรนน์ ผู้ช่วยผู้อำานวยการสถาบันมักซ์





พลังค เพ่อประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ท่กรุงเบอร์ลิน สาหรับกาลังใจและ
6

คาปรึกษา หากไม่ได้รับความร่วมมืออย่างเป็นมิตรในช่วงหลายปีจากคริสติน
เนลสัน ภัณฑารักษ์ผ้ดูแลหนังสือและต้นฉบับทางประวัติศาสตร์ท่ห้องสมุดและ


พิพิธภัณฑ์มอร์แกน กรุงนิวยอร์ก ผมก็คงไม่อาจตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ได้

ผมรู้สึกยินดีท่จะกล่าวคำาขอบคุณเพ่อนร่วมงานท่รักของผมใน


โครงการเอกสารของไอน์สไตน์ ขอบคุณบาร์บาร่า วอล์ฟฟ์ และนูริท ลิฟชิทซ์
สำาหรับความช่วยเหลืออย่างใจดีในระหว่างการค้นคว้าคลังข้อมูลและหนังสือ

ในห้องสมุด รวมไปถึงคำาแนะนำาท่เป็นประโยชน์ย่งด้วย ขอบคุณเดนนิส

เลห์มคุห์ล สำาหรับความช่วยเหลืออย่างร่าเริงและการระวังไม่ให้ผมผิดพลาด




ในเร่องท่เก่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ ขอบคุณเอมิล่ จี อาราอูฌู และเจนน่ เจมส์

สำาหรับความร่วมมืออันดีเย่ยม และขอขอบคุณเจเรม่ ชไนเดอร์ สำาหรับความ


ช่วยเหลือ นับเป็นความสุขอย่างย่งท่ได้ทำางานร่วมกับทีมผู้ผลิตท่มีความ




สามารถโดดเด่นจากสำานักพิมพ์มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ซ่งประกอบไปด้วย
6 นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ผู้บุกเบิกการศึกษาทฤษฎีควอนตัม
บันทึกประจ�ำวันระหว่ำงกำรเดินทำงของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 25

เทอร์รี่ โอเพรย์ ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร คริส เฟอร์รันเต นักออกแบบ และ
ดิมิทรี คาเรทนิคอฟ ผู้จัดการฝ่ายภาพประกอบ และซิด เวสต์มอร์แลนด์


บรรณาธิการต้นฉบับของผม ผู้มีความละเอียดถ่ถ้วนอย่างมาก ยังต้องขอบคุณ
โรนี กรอสส์ และชาย่า เบคเกอร์ ผู้ดูแลคลังเอกสารของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

สำาหรับความช่วยเหลืออย่างใจดีในการค้นคว้าและเร่องลิขสิทธ์ ขอบคุณ


ธอมัส เอฟ. กลิก สำาหรับความเห็นท่มีค่าย่ง ขอบคุณอาคากิ มายูโกะ

จากมหาวิทยาลัยฮิโตะทสึบาชิ เอแน็ท บานิน ผู้ดูแลคลังข้อมูลกลางองค์กร
ไซออนิสต์ โจแอน บีเดอร์ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเมืองเบิร์กลีย์ บริอันนา
ครีเกิล จากห้องสมุดมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ชิมอน ดิแอส จากราชวิทยาลัย



ญ่ปุ่น ลิซ่า กินส์เบิร์ก จากลอสแอนเจลิส เจ้าหน้าท่บริษัทโคดันชะ ท่กรุง
โตเกียว โองาวะ ยูกิ จากพิพิธภัณฑ์การเดินเรือบริษัทเอ็นวายเค โอเอะ เอช.
จากมหาวิทยาลัยวาเสดะ มาริลิน พาลเมอรี จากห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์
มอร์แกน พนักงานผู้ดูแลชุดแผนที่ของเดวิด รัมเซย์ เอลเลน แซนเบิร์ก ผู้ดูแล

บันทึกภาพประวัติศาสตร์ของเกรนเจอร์ ไมเคิล ซิมอนสัน จากสถาบนลีโอ

เบค สุกิโมโตะ ฮิเดะกิ จากมหาวิทยาลัยโอซากา ฌอง-มิเชล เดอ ทาร์รากอน
จากวิทยาลัยเอโคล์บิบลิค และฮวน โชเซ บียาร์ ลิจาร์ซิโอ จากคลังเอกสารที่








ประเทศสเปนสาหรบความช่วยเหลอเร่องลขสทธของสาเนาเอกสารและภาพ


ประกอบ ขอบคุณฮัลลี่ เชฟเฟอร์ และคริสติน โซโดรว จากสำานักพิมพ์มหา
วิทยาลัยพรินซ์ตัน สำาหรับความร่วมมืออย่างกระตือรือร้นในการจัดทำาหนังสือ
เล่มนี้ และขอบคุณจอห์น เวด แดน อะกูลคา เบียงกา ไรออส และเบน เปเรซ
จากแผนกยืมหนังสือระหว่างห้องสมุดท่ห้องสมุดคาลเทค สำาหรับความ



พยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหน่อยเพ่อตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวใน
การจัดส่งเอกสารของผม
ขอขอบคุณบุคคลท้งหลายท่มีส่วนในการตีพิมพ์บันทึกประจำาวัน



ระหว่างการเดินทางของไอน์สไตน์เป็นคร้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ปาเลสไตน์
26 The Travel Diaries Of Albert Einstein

และสเปน ในหนังสือ รวมเอกสารของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เล่มที่ 13 ขอบคุณ



ทิลแมน ซาวเออร์ สำาหรับการทำางานท่เย่ยมยอดในส่วนเน้อหาด้าน

วิทยาศาสตร์ของบันทึกประจำาวันน้ ขอบคุณอาบิโกะ เซโยะ สำาหรับการ




ค้นคว้าเอกสารประวัติศาสตร์ญ่ปุ่นท่ดีเย่ยม ขอบคุณหม่า อ้เหวิน สำาหรับ
ความช่วยเหลือด้านแหล่งข้อมูลภาษาจีน และขอบคุณโอนุกิ มาซาโกะ สำาหรับ

ความช่วยเหลือด้านแหล่งข้อมูลภาษาญ่ปุ่น ท้งน้การตีพิมพ์บันทึกยังได้รับ


ความช่วยเหลือจาก ลุยส์ เจ. โบย่า ดาเนียน ฮู เฮอร์เบิร์ต คาร์แบช
เอดัน ซุส และวิคเตอร์ เหวย

สุดท้าย แต่ไม่ได้หมายความว่าสำาคัญน้อยท่สุด ผมขอขอบคุณคนรัก
ของผม คิมเบอร์ลี่ อาดี้ สำาหรับความเห็นที่เฉียบแหลม อีกทั้งการสนับสนุน
และกำาลังใจที่แสนน่ารัก





































บันทึกประจ�ำวันระหว่ำงกำรเดินทำงของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 27



THE TRAVEL DIARIES OF ALBERT EINSTEIN



ค�าน�าเชิงประวัติศาสตร์






การเดินทางยอดเย่ยมมาก ผมหลงใหลในประเทศญ่ปุ่นและชาวญ่ปุ่น





และม่นใจว่าคุณจะต้องเป็นเช่นกัน นอกจากน้น การเดินทางทางเรือ
เป็นชีวิตท่ยอดเย่ยมย่งสำาหรับนักครุ่นคิดมันเป็นเหมือนกับอาราม




ย่งไปกว่าน้น ยังมีความร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตรอันปลอบประโลม นำาอุ่นๆ หยด


อย่างเกียจคร้านจากท้องฟ้าและกระจายความสงบและการเคล้มหลับ

ราวกับพืช จดหมายน้อยฉบับนี้คือข้อพิสูจน์
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เขียนถึง นีลส์ บอร์ ขณะอยู่ใกล้กับประเทศสิงคโปร์
7
วันที่ 10 มกราคม 1923
ฉบับพิมพ์ครั้งนี้





ฉบับพิมพ์ใหม่น้นาเสนอบันทึกประจาวันระหว่างการเดินทางของ
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในการเดินทางระยะยาวท่กินเวลาคร่งปีไปยังตะวันออกไกล


ปาเลสไตน์ และสเปน ต้งแต่เดือนตุลาคม 1922 ถึงมีนาคม 1923 อย่าง

สมบูรณ์ ส่วนของคาอธิบายประกอบจะเป็นการระบุตัวบุคคล องค์กร และ


สถานท่ท่ถูกกล่าวถึงในบันทึกประจาวัน รวมถึงทาให้ส่งท่ถูกอ้างอิงถึงมีความ








ชัดเจน ให้ข้อมูลเพ่มเติมเก่ยวกับเหตุการณ์ท่ถูกบันทึกไว้ และบอกรายละเอียด


กาหนดการเดินทางท่ไอน์สไตน์ไม่ได้กล่าวถึงในบันทึก แม้ว่าบันทึกประจาวันน ี ้

จะเป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ซึ่งไอน์สไตน์ได้บันทึกความ





ร้สึกท่เกิดข้น ณ ขณะน้นเอาไว้ แต่โดยธรรมชาติของมันแล้ว บันทึกน้เป็นเพียง
ชิ้นส่วนหนึ่งในการประกอบภาพการเดินทางครั้งนั้นขึ้นมาใหม่ ดังนั้น เพื่อที่
7 นีลส์ บอร์ นักฟิสิกส์ชาวเดนมาร์กผู้ศึกษาเรื่องโครงสร้างอะตอม มีชีวิตอยู่ในยุคเดียวกับไอน์สไตน์
บันทึกประจ�ำวันระหว่ำงกำรเดินทำงของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 31


จะให้เห็นภาพการเดินทางอย่างละเอียด ข้อมูลในส่วนของคาอธิบายประกอบ
จึงมาจากรายงานข่าวท้องถิ่นของประเทศต่างๆ ที่ไอน์สไตน์ได้ไปเยี่ยมเยือน


ในเวลาน้น แหล่งข้อมูลเพ่มเติมจากเอกสารส่วนตัวของไอน์สไตน์เอง รายงาน





ทางการทูตในช่วงเวลาท่เดินทาง และบทความท่ถูกเขียนข้นในช่วงเวลาน้น

รวมถึงบันทึกความทรงจาและความจาของผ้ท่อย่ร่วมในเหตุการณ์ด้วย บันทึก








ฉบับพิมพ์คร้งน้ยังประกอบไปด้วยเอกสารเพ่มเติมท่ไอน์สไตน์เป็นผ้เขียน




ซ่งจะทาให้เห็นบริบทเพ่มเติมของบันทึกระหว่างการเดินทางน้ ท้งในรูปแบบ










จดหมายและไปรษณยบตร ซ่งเขาไดสงออกไปในระหวางการเดนทาง คากลาว

ขณะที่ไปเยี่ยมเยือนจุดหมายต่างๆ ระหว่างการเดินทาง และบทความที่เขา
เขียนเก่ยวกับความประทับใจท่มีต่อประเทศท่ไปเย่ยมเยือน ท้งท่เขียนตอน






ระหว่างการเดินทางและหลังจากนั้น


บันทึกน้ถูกตีพิมพ์เป็นฉบับสมบูรณ์คร้งแรกในหนังสือ รวมเอกสาร
ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เล่มที่ 13 เมื่อปี 2012 สำาหรับฉบับตีพิมพ์ครั้งนี้ ได้มี
การนำาคำาแปลภาษาอังกฤษในหนังสือเล่มดังกล่าวมาปรับปรุงใหม่

ก่อนหน้าน้มีบางส่วนของบันทึกประจำาวันระหว่างการเดินทางได้ถูก
นำาไปตีพิมพ์เป็นฉบับแปล อาทิ ส่วนของบันทึกที่ว่าด้วยการเดินทางไปเยือน
ญ่ปุ่นของไอน์สไตน์ถูกนำาไปแปลเป็นภาษาญ่ปุ่นในปี 2001 บันทึกเก่ยวกับ



ปาเลสไตน์ถูกนำาไปตีพิมพ์เป็นภาษาฮีบรูในปี 1999 และบันทึกเกี่ยวกับการ

เดินทางไปยังสเปนถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษในปี 1988 อีกท้งยังมีการตีพิมพ์
บางส่วนของบันทึกอย่างย่อๆ ในปี 1975 ด้วย
บันทึกประจ�าวันระหว่างการเดินทาง

บันทึกน้เป็นหน่งในหกบันทึกประจำาวันท่ไอน์สไตน์เป็นผ้เขียน ด ู




เหมือนว่าไอน์สไตน์จะไม่ได้เขียนบันทึกประจาวันระหว่างการเดินทางข้าม
32 The Travel Diaries Of Albert Einstein




ทะเลคร้งแรกเพ่อไปส่ประเทศสหรัฐอเมริกาในฤดูใบไม้ผลิของปี 1921



อันท่จริงแล้ว เราไม่ร้เลยว่าเขาเขียนบันทึกประจาวันระหว่างการเดินทางคร้งน้น


หรือไม่ ส่วนบันทึกอื่นๆ ที่ปรากฏออกมาถูกเขียนขึ้นระหว่างการเดินทางไป
ยังอเมริกาใต้ ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม 1925 และการเดินทาง


ไปยังสหรัฐอเมริกาอีกสามคร้ง ซ่งก็คือตอนท่เขาไปเยือนสถาบันเทคโนโลย ี

แคลิฟอร์เนียที่เมืองแพซาดีนา ในช่วงเปิดเทอมภาคฤดูหนาวปี 1930-1931,
1931-1932 และ 1932-1933 ตามลำาดับ ถึงแม้ว่าจะเดินทางข้ามทะเลรวม
แล้วเพียงห้าครั้ง แต่ในความจริงกลับมีบันทึกประจำาวันจำานวนหกฉบับ นั่นก็
เพราะไอน์สไตน์ใช้สมุดบันทึกสองเล่มในการเดินทางหนสุดท้ายของเขา

บันทึกประจำาวันระหว่างการเดินทางฉบับน้ท่เรากำาลังจะได้อ่านถูก

เขียนลงในสมุดจดเล่มหนึ่งที่มีหน้าแบบมีเส้นบรรทัดทั้งหมด 182 หน้า โดย
บันทึกประจำาวันกินความยาว 81 หน้าบรรทัด ตามมาด้วยหน้าว่าง 82 หน้า


และยังมี 19 หน้าบรรทัดกับอีกหน่งหน้าท่ไม่มีเส้นบรรทดซ่งไอน์สไตน์



ใช้ในการคำานวณ การคำานวณเหล่าน้ถูกเขียนเอาไว้ท่ด้านหลังของเอกสารฉบับ

นี้ (หรือก็คือ เริ่มเขียนจากหน้าหลังสุดของบันทึกระหว่างการเดินทาง) และ
เขียนแบบหันหัวไปคนละด้านกับบันทึก ฉบับตีพิมพ์คร้งน้ไม่ได้นำาเอาการ


คำานวณดังกล่าวมารวมไว้ด้วย
บันทึกประจำาวันน้ทำาให้เราได้เห็นแง่มุมท่น่าสนใจในประสบการณ์การ


เดินทางของไอน์สไตน์เป็นครั้งแรก เขาเขียนบันทึกทุกวันโดยที่บางครั้งก็วาด
ภาพสิ่งที่น่าสนใจประกอบด้วย อย่างเช่น ภูเขาไฟ เรือ และปลา เขาบันทึก
ทั้งความรู้สึกที่เกิดขึ้น ณ ขณะที่ประสบพบเจอสิ่งต่างๆ ในการเดินทางและ




ความคิดไตร่ตรองท่ยาวนานกว่าเก่ยวกับส่งท่ได้อ่าน ผู้คนท่ได้พบเจอ และ


สถานที่ที่ได้ไปเยือน ไอน์สไตน์ยังบันทึกสิ่งที่เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
ปรัชญา ศิลปะ และในบางคร้งยังมีเหตุการณ์ท่เกิดข้นในโลกในช่วงเวลาน้นด้วย




รูปแบบการเขียนบันทึกประจำาวันของเขามักจะละเอียด แต่ก็ประหลาดและ
บันทึกประจ�ำวันระหว่ำงกำรเดินทำงของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 33


Click to View FlipBook Version