ซอลาฮุดดีน
วีรบุรุษแหงสงครามศักดิ์สิทธ ิ์
ภาสพันธ ปานสีดา: เขียน
ราคา 195 บาท
ขอมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแหงชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
ภาสพันธ ปานสีดา.
ซอลาฮุดดีน วีรบุรุษแหงสงครามศักดิ์สิทธิ์.-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุป, 2562.
180 หนา.
1. ซอลาฮุดดีน. 2. อียิปต--ประวัติศาสตร. I. ชื่อเรื่อง.
923.262
ISBN 978-616-301-686-7
© ขอความในหนังสือเลมนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกสวนใดๆ ในหนังสือเลมนี้ไปเผยแพรไมวาในรูปแบบใดตองไดรับอนุญาตจากเจาของลิขสิทธิ์กอน
ยกเวนเพื่อการอางอิง การวิจารณ และประชาสัมพันธ
บรรณาธิการอำนวยการ : คธาวุฒิ เกนุย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผูชวยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา ดารียา ครโสภา
นักศึกษาฝกงานกองบรรณาธิการ : วันวิสา เขตรดง ทีฆทัศน มณีฉาย
เลขากองบรรณาธิการ : อรทัย ดีสวัสดิ์
พิสูจนอักษร : วนัชพร เขียวชอุม สวภัทร เพ็ชรรัตน
รูปเลม : วีระวัฒน ปญญามัง
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ผูอำนวยการฝายการตลาด : นุชนันท ทักษิณาบัณฑิต
ผูจัดการฝายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผูจัดการทั่วไป : เวชพงษ รัตนมาลี
จัดพิมพโดย : บริษัท ยิปซี กรุป จำกัด เลขที่ 37/145 รามคำแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ตอ 108
www.gypsygroup.net
พิมพที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำกัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำหนาย : บริษัท ยิปซี กรุป จำกัด โทร. 0 2728 0939
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID : @gypzy
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำนวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำนักพิมพลดราคาพิเศษ ติดตอ โทร. 0 2728 0939
ซอลาฮุดดีน
วีรบุรุษแห่ง
ิ
ิ
ั
สงครามศกด์สทธ์ ิ
ภาสพันธ์ ปานสีดา เขียน
ค�าน�าสานักพมพ ์
�
ิ
ส�าหรับนามของ “ซอลาฮุดดีน” หรือ “ซาลาดิน” นั้น ไม่เพียงแต่
ู
ั
ั
ิ
ิ
ุ
ู
ุ
ู
จะเป็นนามของกษตรย์มสลมในฐานะจอมทพผ้กอบก้กรงเยรซาเลมมา
ุ
ุ
จากชาวครสต์ในช่วงสงครามครเสด จนกลายเป็นหนงในวรบรษตลอด
ู
ึ
่
ิ
ี
ื
ั
กาลของชาวมุสลิมเท่าน้น หากแต่ซอลาฮุดดีนยังมีช่อเสียงและกิตติศัพท์
�
ี
ในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของยุโรป ในฐานะผู้นาท่มีเมตตาธรรม
ความสัตย์ซ่อและความยุติธรรมแม้แต่กับศัตรูผู้รุกราน จนได้รับการ
ื
ขนานนามว่า “สุภาพบุรุษนักรบ” จากเหล่าอัศวินครูเสดและอัศวินยุโรป
คริสเตียนในยุคหลัง
ี
หากแต่เบ้องหลังของวีรบุรุษผู้เกรียงไกรคนน้ หลายคนอาจยัง
ื
ไม่รู้ว่าในวัยท่ยังเป็นหนุ่มน้อยอยู่น้น ซอลาฮุดดีนมิได้คิดเอาดีจะมาเป็น
ั
ี
นักรบหรือทหารแต่แรก เพราะเขาได้รับการสั่งสอนจากเหล่านักปราชญ์
และบัณฑิตระดับหัวกะทิในสาขาวิชาต่างๆ ของโลกอิสลามมาตั้งแต่ยัง
เยาว์วัย จนทาให้ซอลาฮุดดีนได้เติบโตมาเป็นผู้คงแก่เรียนท่มีความสุภาพ
ี
�
นอบน้อม และคิดเอาดีในทางเป็นอุลามะห์ (ครูสอนศาสนา) หรือกอฎี
(ผู้พิพากษา)
ี
ึ
หากแต่ด้วยสงครามในดินแดนปาเลสไตน์ท่กาลังคุกรุ่นข้นมาอีก
�
ครั้ง กลับท�าให้โชคชะตาที่แท้จริงซอลาฮุดดีนได้ปรากฏ เพราะเขาได้ถูก
�
ื
เลือกตัวให้เข้าร่วมกองทัพเพ่อไปทาศึกชิงชัยกับพวกครูเสดในแผ่นดิน
ึ
ี
อียิปต์ ซ่งแม้ซอลาฮุดดีนไม่ได้มีความปรารถนาท่จะเข้าร่วมสงคราม
ในคราวนั้นเลยก็ตาม ดังที่เขาได้เขียนไว้ในบันทึกส่วนตัวถึงผู้เป็นลุงว่า
“ในนามแห่งอัลเลาะห์ แม้ว่าหลานจะได้สมบัติท้งแผ่นดินอียิปต์
ั
หลานก็จะไม่ยอมไปเด็ดขาด!”
แม้ซอลาฮุดดีนจะปฏิเสธและยืนยันเสียงแข็งเพียงใด เขาก็มิอาจ
�
�
จะฝืนต่อคาส่งแห่งกองทัพและโชคชะตา เพราะนับแต่เขาจาต้องตัดสินใจ
ั
ั
ร่วมกองทัพในวันน้น โชคชะตาของซอลาฮุดดีนและโลกมุสลิมก็เปล่ยนไป
ี
ตลอดกาล...
หนังสือ “ซอลาฮุดดีน วีรบุรุษแห่งสงครามศักดิ์สิทธิ์” ที่อยู่ในมือ
ี
ื
ท่านผู้อ่านเล่มน้ ด้วยฝีมือการถ่ายทอดเร่องราวของ “ภาสพันธ์ ปานสีดา”
�
ื
นอกจากจะนาเสนอเร่องราวพระประวัติของสุลต่านซอลาฮุดดีนแล้ว
เขายังได้บอกเล่าความเป็นมาของสงครามครูเสด และเหตุการณ์ต่างๆ
ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ยุคกลาง รวมไปถึงชีวประวัติของบุคคลส�าคัญ
ในห้วงเวลาเดียวกันทั้งฝ่ายยุโรปและตะวันออกกลาง เพื่อที่ผู้อ่านจะได้
ี
�
เข้าใจว่าอะไรคือปัจจัยท่ทาให้สุลต่านซอลาฮุดดีนได้ก้าวเข้ามามีบทบาท
ในสงครามครูเสด และทาไมเขาจึงเป็นท่ยกย่องสรรเสริญในหมู่มวล
ี
�
ชาวมุสลิมทั่วทั้งโลกตราบจนทุกวันนี้
หวังเป็นอย่างย่งว่าท่านผู้อ่านจะได้รับอรรถรส ความรู้ และความ
ิ
สนุกจากเร่องราวของ “ซอลาฮุดดีน” ผู้ปกครองท่เป็นนักรบอัจฉริยะและ
ื
ี
มีคุณธรรมในโลกมุสลิม
ส�ำนักพิมพ์ยิปซี
ค�าน�าผู้เขียน
่
ในบรรดายคสมยแหงประวตศาสตรทผคนนยมชมชอบมากทสด
ู
้
ี
์
ั
่
ุ
ิ
ุ
ิ
ั
่
ี
ผมคิดว่าคงไม่พ้นประวัติศาสตร์ช่วงยุคกลางนี่เอง เพราะนี่คือยุคสมัยที่
บรรดาประชาคมยุโรปและตะวันออกกลางเร่มมีพัฒนาการท่เป็นลักษณะ
ิ
ี
แห่งยุคสมัยของตนเองอย่างชัดเจน คือเป็นยุคสมัยท่บรรดารัฐใหญ่น้อย
ี
ี
ึ
ต่างๆ เร่มก่อร่างสร้างตัวเป็นรัฐอิสระท่ไม่ข้นตรงต่อกันดังเช่นในยุค
ิ
จักรวรรดิโรมัน จนกลายมาเป็นรากฐานให้กับประเทศต่างๆ ในทุกวันนี้
ี
ื
และผลพวงจากความเล่อมใสในศาสนาท่ผสมผสานกับศิลปวัฒนธรรม
ของชนชาติต่างๆ ที่เข้ามานั้นได้ท�าให้ทิศทางด้านสังคมในยุคสมัยกลาง
กลายเป็นยุคสมัยท่มีมนต์เสน่ห์ท่โดดเด่นย่งกว่ายุคสมัยก่อนๆ ท่เคยม ี
ี
ี
ี
ิ
มาไปโดยปริยายด้วยเช่นกัน
ี
แน่นอนทีเดียวว่าตลอดหน้าประวัติศาสตร์ยุคสมัยกลางน้ก็ย่อม
ั
มีเหตุการณ์สาคัญเกิดข้นอยู่หลายคร้ง แต่คงจะไม่มีเหตุการณ์คร้งไหนท ี ่
ั
�
ึ
�
จะทาให้ประชาคมยุโรปและเอเชียตะวันออกกลางมาบรรจบพบเจอกัน
ได้เท่ากับ “สงครามครูเสด” อีกแล้ว
เพราะสงครามครูเสดไม่เพียงแต่จะกินเวลายาวนานกว่า 200 ปี
จนกลายเป็น “สงครามศาสนา” อย่างเป็นทางการครั้งแรกใน
ประวัติศาสตร์โลก หากแต่ยังเป็นหนึ่งในสงครามที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุด
ในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วยเช่นกัน และตลอดห้วงเวลากว่า 200 ปีน ้ ี
ุ
ื
ึ
็
ี
่
นเองกได้ปรากฏเร่องราวของเหล่าวรบรุษผู้กล้ามากมาย ซ่งบรรดา
ี
ี
ื
�
ี
วีรบุรุษท่มีช่อเสียงและเป็นท่จดจาก็ล้วนแล้วแต่เป็นเร่องราวของวีรบุรุษ
ื
ของฝั่งคริสเตียนยุโรปเสียมากกว่า
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของโกเดอฟรัวแห่งบุยยง ขุนนางฝรั่งเศสผู้
กลายมาเป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรละตินเยรูซาเลม กษัตริย์ริชาร์ด
ี
ใจสิงห์แห่งอังกฤษ จักรพรรดิเฮนรีท่ 4 ผู้ทรงธรรมแห่งโรมันอันศักด์สิทธ ิ ์
ิ
ี
่
ิ
่
ึ
และโดยเฉพาะกษัตรย์หลุยส์ท 9 แห่งฝรงเศส ผ้ซงต่อมาจะกลายเป็น
่
ั
ู
นักบุญคนส�าคัญของคริสต์ศาสนาในนิกายโรมันคาทอลิก
ี
ในขณะท่กระแสสังคมในยุคปัจจุบันโดยมากให้การยกย่อง
ผู้เปิดฉากสงครามครูเสดอย่างฝ่ายกองทัพคริสเตียนจากฝั่งยุโรปมากกว่า
�
้
ื
�
แต่กลับมิได้ให้นาหนักในการนาเสนอเร่องราวหรือให้การยกย่องวีรบุรุษ
็
�
่
ุ
ั
ั
่
ของฝงมสลมเทาท่ควร ซงผมเกรงว่าจะเปนความลาเอยงเกนไปสกหนอย
ี
ิ
ิ
ี
่
ึ
่
ผมจึงหวังจะแสดงความเป็นธรรมให้กับฝั่งมุสลิมเขาเสียบ้าง ด้วยการ
�
เลือกนาเสนอเร่องราววีรบุรุษคนสาคัญอย่าง “ซอลาฮุดดีน” หรือ
ื
�
“ซาลาดิน” ผู้โด่งดังคนนี้
ื
ื
ผมเช่อว่าหลายท่านคงจะเพ่งมาได้ยินช่อเสียงของสุลต่าน
ิ
พระองค์นี้จากภาพยนตร์เรื่อง “Kingdom of Heaven” ที่ฉายในปี พ.ศ.
ี
ี
2548 ท้งท่ในความเป็นจริงแล้วพระองค์ทรงเป็นพระประมุขมุสลิมท่ม ี
ั
ื
ื
ช่อเสียงเล่องลืออยู่ในประวัติศาสตร์โลกยุโรปยุคกลางมาอย่างช้านาน
ี
่
ุ
เพราะไม่เพียงแต่พระองค์จะทรงเป็นพระประมขมุสลิมทสามารถแย่งชง
ิ
ื
ั
กรุงเยรูซาเลมกลับมาได้เป็นพระองค์แรกเท่าน้น หากแต่ช่อเสียงและ
กิตติศัพท์ท่แท้จริงของพระองค์น้นคือความสัตย์ซ่อและความยุติธรรม
ั
ี
ื
�
แม้แต่กับศัตรูผู้รุกราน จนทาให้เหล่าอัศวินครูเสดและอัศวินยุโรป
ี
คริสเตียนในยุคหลังต่างก็ให้การขนานนามสุลต่านมุสลิมผู้น้ว่า “สุภาพ
บุรุษนักรบ” เลยทีเดียว
ั
เพราะฉะน้นผมจึงตัดสินใจนาเร่องราวท่แท้จริงของสุลต่าน
�
ี
ื
ซอลาฮุดดีนท่อยู่นอกเหนือบทบาทในภาพยนตร์มาแบ่งปันให้ทุกท่าน
ี
ึ
ได้ติดตามรับชมกันในเพจ “ประวัติศาสตร์ฮาเฮ” ซ่งก็แน่นอนว่ามีเสียง
ื
เรียกร้องจากเพ่อนๆ สมาชิกบางส่วนท่ต้องการให้มีการรวมเล่มบทความ
ี
นี้เป็นรูปเล่มอย่างเช่นบทความเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมาอีกเช่นเคย
จนกระท่งกลายมาเป็น “ซอลาฮุดดีน วีรบุรุษแห่งศรัทธา” เล่มน ้ ี
ั
�
ี
ท่เกิดจากการรวบรวมบทความและชาระเน้อหาจากบทความด้งเดิมใหม่
ั
ื
ท้งหมดอีกคร้ง เพ่อทุกท่านจะได้รับอรรถรส ความรู้ ความสนุกสนาน และ
ั
ั
ื
ี
ั
ี
ความถูกต้องท่แม่นยาย่งกว่าฉบับเดิม ท่ไม่เพียงท่านท้งหลายจะได้
�
ิ
ติดตามเรื่องราวความเป็นมาของสุลต่านซอลาฮุดดีนเท่านั้น หากแต่ยัง
จะได้รับรู้ถึงความเป็นมาของศาสนาอิสลามและสงครามครูเสดในเบ้อง
ื
ี
ต้น เพ่อท่ท่านท้งหลายจะได้เข้าใจว่าอะไรคือปัจจัยท่ทาให้สุลต่าน
�
ั
ี
ื
ซอลาฮุดดีนเข้ามามีบทบาทในสงครามครูเสด และทาไมพระองค์จึงเป็น
�
ที่ยกย่องสรรเสริญในหมู่มวลชาวมุสลิมทั่วทั้งโลกตราบจนทุกวันนี้
ขอให้พระเจ้าทรงอวยพรท่านทั้งหลาย
ภาสพันธ์ ปานสีดา
ค�าน�าผู้เขียน
(วาระที่สอง)
หลังจากท่ผมได้จัดพิมพ์ “วีรบุรุษแห่งศรัทธา: ซอลาฮุดดีน”
ี
ี
ื
ั
ด้วยตนเองไปเม่อปีกลายน้นก็ได้รับผลตอบรับท่ดีเกินคาดเป็นอย่างมาก
ั
�
จนทาให้บรรดาผู้อ่านในเพจของผมเรียกร้องให้มีการจัดพิมพ์ใหม่อีกคร้ง
หนึ่ง แต่ผมก็มาพิจารณาดูแล้ว ด้วยก�าลังของผมเองก็คงจะจัดจ�าหน่าย
ได้ไม่ท่วถึงเป็นแน่ ผมจึงได้ลอง ‘วัดดวง’ เสนอส่งกับทางสานักพิมพ์ยิปซ ี
�
ั
�
ี
ั
ด้วยว่าหนงสือเล่มน้จะได้รับการตีพิมพ์และจัดจาหน่ายในวงกว้างย่งกว่า
ิ
ื
ี
ึ
ี
เดิม ซ่งก็เป็นเร่องน่ายินดีท่หนังสือเล่มน้ได้รับการพิจารณาให้ตีพิมพ์
ใหม่อีกครั้งในที่สุด
ั
ึ
แน่นอนว่าในการจัดพิมพ์หนังสือเล่มน้ข้นมาใหม่อีกคร้งน้น
ี
ั
ี
�
นอกจากหนังสือเล่มน้จะได้รับการเปล่ยนช่อใหม่จากทางสานักพิมพ์สัก
ื
ี
ื
เล็กน้อยแล้ว ผมก็ได้มีการปรับปรุงแก้ไขเน้อหาภายในหนังสือเสียใหม่
ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อผมได้มาตรวจทานอีกรอบหนึ่งแล้ว นอกจากจะ
ื
ั
�
ื
ี
ิ
มปัญหาเร่องคาผดอย่บ้างแล้ว หากแต่ผมยงพบว่าเน้อหาบางส่วนม ี
ู
เนื้อความก�ากวม ซ�้าซ้อน และแม้แต่วกไปวนมาอยู่บ้าง ผมจึงได้ท�าการ
ชาระเน้อหาส่วนน้นออกไป และพร้อมกันน้นก็ได้มีการเพ่มเติมเน้อหา
ื
ิ
ั
ั
ื
�
ใหม่ๆ เข้าไปเพื่อให้เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้มีความสมบูรณ์ยิ่งกว่าเดิม
และเพื่อที่จะให้สมกับที่ได้รับการตีพิมพ์ใหม่อีกครั้ง
ผมจึงต้องขอขอบพระคุณสานักพิมพ์ยิปซีท่ได้ให้โอกาสในการ
�
ี
ตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ใหม่อีกครั้ง และหวังว่าท่านผู้อ่าน (ทั้งหน้าใหม่และ
ี
ิ
หน้าเดิม) ท่เลือกหยิบหนังสือเล่มน้ไปอ่านคงจะได้รับสาระความรู้เพ่ม
ี
เติมไม่มากก็น้อย
ขอให้พระเจ้าทรงอวยพร
ภาสพันธ์ ปานสีดา
สารบัญ
14 ❘ บทที่ 1 จุดเริ่มต้น
ั
34 ❘ บทที่ 2 สงครามศกดิ์สทธิ์
ิ
48 ❘ บทที่ 3 วีรบุรุษผู้กอบกู้
60 ❘ บทที่ 4 วีรบุรุษแห่งซีเรีย
ิ
76 ❘ บทที่ 5 พชิตแผ่นดินอียิปต์
98 ❘ บทที่ 6 สลต่านผู้ยิ่งใหญ่
ุ
120 ❘ บทที่ 7 พชิตดินแดนศกดิ์สทธิ์
ิ
ิ
ั
140 ❘ บทที่ 8 สงครามครั้งใหม่
ิ
ุ
160 ❘ บทที่ 9 จุดส้นสด
172 ❘ ภาคผนวก
177 ❘ บรรณานุกรม
บทที่ 1
จุดเริ่มต้น
ในเม่อจะเล่าเร่องของซอลาฮุดดีนกันแล้วก็ต้องขอเท้าความ
ื
ื
ถึงประวัติความเป็นมาของดินแดนปาเลสไตน์และศาสนาอิสลามอัน
ื
่
ื
ี
เป็นพ้นท่แห่งความขัดแย้งของสงครามครูเสดกันสักนิด เพอท่เราท้ง
ั
ี
ื
หลายจะได้เข้าใจสถานการณ์และเร่องราวของสงครามครูเสดในยุคของ
ซอลาฮุดดีนกันมากขึ้น
ี
�
สาหรับดินแดนท่เป็นประเทศอิสราเอลและปาเลสไตน์ในทุก
�
�
ี
ี
ี
วันน้ นอกจากจะเป็นจุดกาเนิดศาสนาท่สาคัญท่สุดของโลกคือศาสนา
ิ
ู
ั
ยดาห์และครสต์ศาสนาแล้ว ยงเป็นดนแดนทอย่ในเขตรอยต่อระหว่าง
ู
ี
่
ิ
ั
ึ
ภูมิภาคเอเชียตะวนออกกลางกับภูมิภาคแอฟริกาเหนืออีกด้วย ซ่งถือว่า
�
ี
เป็นดินแดนท่มีความสาคัญทางยุทธศาสตร์การทหารและเศรษฐกิจ
ระหว่างสองทวีปมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาลแล้ว
ี
เพราะเหตุน้เหล่าชาติมหาอานาจต่างๆ จึงหมายมุ่งเข้าครอบ
�
ั
ครองมาต้งแต่ยุคบรรพกาล ไม่ว่าจะเป็นพวกเปอร์เซีย กรีก และเรื่อยมา
ึ
จนถึงยุคสาธารณรัฐโรมัน และคร้นเม่อสาธารณรัฐโรมันได้ยกระดับข้น
ั
ื
�
เป็นจักรวรรดิอย่างเป็นทางการแล้ว กองทัพโรมันกลับทาลายล้างกรุง
14
จุดเร่มต้น
ิ
ภาพจิตรกรรม “ต�าหนักแห่งภูมิปัญญา” อันเป็นหอสมุดในกรุงแบกแดด วาดขึ้นใน
ศตวรรษที่ 13 โดยยะยาห์ อัล-วาสิติ
15
ซอลาฮุดดีน
เยรูซาเลมในปี ค.ศ. 71 จนท�าให้ดินแดนอิสราเอลกลายเป็นเพียงเขต
การปกครองส่วนหนึ่งของจักรวรรดิและไม่อาจหวนกลับมาเป็นรัฐอิสระ
ได้อีกเลยนับตั้งแต่นั้น
ื
อย่างไรก็ตาม คร้นเม่อจักรวรรดิโรมันหันมายอมรับคริสต์ศาสนา
ั
ในรัชสมัยจักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราชแล้ว ดินแดนแห่งนี้จึงได้กลับ
�
ั
ิ
ิ
มามีความสาคัญอีกคร้งในฐานะ “แผ่นดินศักด์สิทธ์” ของคริสต์ศาสนา
และผลพวงจากการท่ราชสานักโรมันได้สถาปนาเมืองหลวงใหม่ข้นท่ฝั่ง
ี
ึ
ี
�
ตะวันออก ณ กรุงคอนสแตนติโนเปิลด้วยแล้ว นอกจากจะทาให้จักรวรรด ิ
�
โรมันฝั่งตะวันออกกลายเป็นดินแดนท่มีความม่งค่งทางเศรษฐกิจมาก
ี
ั
ั
กว่าจักรวรรดิฝั่งตะวันตกแล้ว ยังส่งผลให้จักรวรรดิตะวันออกกลายเป็น
ดินแดนมีความส�าคัญทางศาสนามากกว่าฝั่งตะวันตกด้วยเช่นกัน
�
เพราะว่าบรรดานครสาคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเยรูซาเลม
อันติโอค ดามัสกัส หรือแม้แต่นครอเล็กซานเดรียในอียิปต์ ที่เป็นเมือง
�
ต้นกาเนิดและเมืองสาคัญของคริสต์ศาสนาก็ล้วนแต่อยู่ในฝั่งตะวันออก
�
ทั้งหมด
ิ
ี
เพราะเหตุน้สถานะของจักรวรรดิฝั่งตะวันออกจึงเร่มมีความ
ส�าคัญเหนือกว่าจักรวรรดิฝั่งตะวันตก ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การเมือง และ
ศาสนาไปโดยปริยาย และเมื่อจักรวรรดิโรมันฝั่งตะวันตกถึงกาลล่มสลาย
1
ลงในปี ค.ศ. 480 แล้ว จักรวรรดิโรมันตะวันออก ก็ยังด�ารงความเกรียง
ไกรของจักรวรรดิโรมันสืบต่อมาได้อีกนับพันปี โดยที่ดินแดนปาเลสไตน์
ื
ยังคงเป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาของคริสต์ศาสนาและศาสนายูดาห์เร่อย
1 ต่อมาจะถูกเรียกในชื่อว่า “จักรวรรดิไบแซนไทน์” (Byzantine Empire) เพื่อเป็นการ
แยกแยะออกจากจักรวรรดิโรมันเดิมในฝั่งตะวันตกนั่นเอง
16
ิ
จุดเร่มต้น
ึ
มา จนกระท่งโลกจะได้พบกับความเช่อใหม่ท่กาลังจะถือกาเนิดข้นใน
ื
ั
�
ี
�
ศตวรรษถัดไป...
ยุคแห่งความเชื่อใหม่
ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษท่ 7 มูฮัมหมัดแห่งเผ่ากุรอยซ์ได้
ี
2
ประกาศว่าตนได้รับโองการจากเทวทูตญิบรีล ให้น�าโองการแห่งสวรรค์
ั
ไปประกาศแก่มวลมนุษย์ มูฮัมหมัดจึงได้ต้งตนเป็นศาสดาหรือ “นบี” และ
ได้สถาปนาศาสนาใหม่ขึ้นมา อันมีนามว่า “อิสลาม” โดยได้อ้างสิทธิ์ที่
ึ
่
ู
ิ
ู
ื
สบเนองจากเหล่าผ้เผยพระวจนะในศาสนายดาห์จนถงพระเยซูครสต์
ื
�
ื
ั
ู
แห่งคริสต์ศาสนา เพ่อนาหลักค�าสอนใหม่ไปประกาศส่งสอนแก่ผ้คน จน
น�าไปสู่สงครามในการรวบรวมชนเผ่ากลุ่มต่างๆ ในคาบสมุทรอาระเบีย
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันในที่สุด
ั
ู
้
ื
้
�
ั
คร้นเมอนบมฮมหมดไดจากไปแลว เหล่าผ้สบทอดตาแหนงผ้นา
ู
่
ื
�
ู
ั
่
ี
ทางศาสนาหรือที่เรียกว่า “คอลิฟะห์” (Khalifah) หรือคอลิฟทั้งสี่ท่านคือ
อะบูบักร์ (Abu Bakr), อุมัร (Umar), อุสมาน (Uthman) และอาลี (Ali) 3
�
ล้วนต่างสืบทอดเจตนารมณ์ของนบีมูฮัมหมัดด้วยการทา
ึ
สงครามเผยแผ่ศาสนาออกไปพิชิตดินแดนต่างๆ ซ่งภายในยุคสมัยการ
ี
ั
ปกครองของคอลิฟท้งส่ท่านน้ กองทัพมุสลิมได้ครอบครองดินแดนใน
ี
2 นับเป็นเทพองค์เดียวกับทูตสวรรค์กาเบรียลในคติยิวและคริสต์
3 ในช่วงเวลาการปกครองคอลิฟท้งสี่น้ได้รับการยกย่องในภายหลังว่า “อัลลุคะ
ี
ั
ฟาอ์ อัรรอชิดูน” อันแปลว่า “ยุคแห่งความเที่ยงธรรม” เพราะนี่คือยุคที่คอลิฟทั้ง
ส่พระองค์ทรงเป็นพระประมุขผู้ทรงธรรมและเคร่งครัดในหลักศาสนา และยังให้
ี
เกียรติกับเสรีภาพต่อศาสนิกชนอื่นๆ อีกด้วย
17
ซอลาฮุดดีน