The Lost Executioner: A Story of the Khmer Rouge
เพชฌฆาตแหงตวลสเล็ง เรื่องราวการสังหารหมูของเขมรแดง
นิค ดันลอป: เขียน
กรกฎ พัลลภรักษา: แปล
ราคา 385 บาท
All rights reserved.
Copyright © 2005. 2010 by Nic Dunlop
Translation copyright © 2019, by Gypsy Publishing Co.,Ltd.
Thai Translation edition first published in Thailand in 2019 by Gypsy Group Co.,Ltd.
This book is published through an arrangement with Tuttle - Mori Agency Co.,Ltd.
c
ขอความและรูปภาพในหนังสือเลมนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558
การคัดลอกสวนใดๆ ในหนังสือเลมนี้ไปเผยแพรไมวาในรูปแบบใดตองไดรับอนุญาตจากเจาของลิขสิทธิ์กอน
ยกเวนเพื่อการอางอิง การวิจารณ และประชาสัมพันธ
ขอมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแหงชาติ
National Library of Thailand Cataloging in Publication Data
ดันลอป, นิค.
เพชฌฆาตแหงตวลสเล็ง เรื่องราวการสังหารหมูของเขมรแดง = The lost executioner a story of the khmer rouge.
-- กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุป, 2562.
384 หนา.
1. กัมพูชา--การเมืองและการปกครอง. l. กรกฎ พัลลภรักษา, ผูแปล. II. ชื่อเรื่อง.
959.6
ISBN 978-616-301-698-0
บรรณาธิการอำนวยการ : คธาวุฒิ เกนุย
บรรณาธิการบริหาร : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ผูชวยบรรณาธิการบริหาร : วาสนา ชูรัตน
บรรณาธิการเลม : ชัยจักร ทวยุทธานนท
กองบรรณาธิการ : คณิตา สุตราม พรรณิกา ครโสภา ดารียา ครโสภา
เลขากองบรรณาธิการ : อรทัย ดีสวัสดิ์
พิสูจนอักษร : สุณิสา เจริญนา
รูปเลม : Evolution Art
ออกแบบปก : Rabbithood Studio
ผูอำนวยการฝายการตลาด : นุชนันท ทักษิณาบัณฑิต
ผูจัดการฝายการตลาด : ชิตพล จันสด
ผูจัดการทั่วไป : เวชพงษ รัตนมาลี
จัดพิมพโดย : บริษัท ยิปซี กรุป จำกัด เลขที่ 37/145 รามคำแหง 98
แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0 2728 0939 โทรสาร. 0 2728 0939 ตอ 108
www.gypsygroup.net
พิมพที่ : บริษัท วิชั่น พรีเพรส จำกัด โทร. 0 2147 3175-6
จัดจำหนาย : บริษัท ยิปซี กรุป จำกัด โทร. 0 2728 0939
www.facebook.com/gypsygroup.co.ltd
LINE ID : @gypzy
สนใจสั่งซื้อหนังสือจำนวนมากเพื่อสนับสนุนทางการศึกษา สำนักพิมพลดราคาพิเศษ ติดตอ โทร. 0 2728 0939
The Lost Executioner
A Story of the Khmer Rouge
เพชฌฆาตแห่งตวลสเล็ง
ื
เร่องราวการสังหารหมู่ของเขมรแดง
นิค ดันลอป เขียน
กรกฎ พัลลภรักษา แปล
�
�
คานาสานักพิมพ์
�
ใครที่ได้เห็นภาพแผนที่หัวกะโหลก โครงเตียง โซ่ตรวน อุปกรณ์
ทรมาน หลุมศพ โครงกระดูกนับไม่ถ้วน รวมทั้งภาพถ่ายนักโทษจ�านวน
มากท่พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเล็ง หรือแม้เพียงนึกถึงก็ย่อม
ี
สะเทือนใจ เช่นเดียวกับนิค ดันลอป นับตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าไปในสถานที่
�
ั
น้น ความรู้สึกและคาถามมากมายถาโถมเข้าใส่ ราวกับเรียกร้องให้ช่วย
ตามหา ‘เพชฌฆาต’ ท่หายตัวไปนับแต่เขมรแดงสูญเสียอานาจในกรุง
ี
�
พนมเปญ เมื่อ พ.ศ. 2522
นิค ดันลอป พกภาพของ กัง เก็ก เอียว หรือ สหายดุจ ผู้บัญชาการ
หน่วยสอบสวนลับของเขมรแดง หรือ คุก เอส-21 ไว้ตลอดเวลา เขาตั้งใจ
ื
ตามหาชายผู้ได้ช่อว่ามีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อการสังหารหมู่ในช่วงท่เขมร
ี
แดงมีนโยบายก�าจัด ‘ศัตรู’ ซึ่งมีทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลสาธารณรัฐหรือ
รัฐบาลต่างชาติ ครูอาจารย์ คนมีการศึกษา นักดนตรี นักเขียน พระสงฆ์
ชนกลุ่มน้อย ไม่เว้นแม้แต่ ‘คนสวมแว่นตา’ ให้ได้
ี
ี
ื
ึ
ี
ตลอดหลายปีท่พากเพียรปะติดปะต่อเร่องราวท่เกิดข้นท่ เอส-21
อย่างไม่ลดละ เขาอ่านเอกสาร ดูภาพถ่าย สัมภาษณ์ผู้คน ทั้งสมาชิกใน
ครอบครัว เพื่อนเก่าและเพื่อนบ้านของดุจ อดีตเจ้าหน้าที่ในคุก นักโทษที่
รอดชีวิต รวมถึงไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อสร้างภาพที่สมบูรณ์ที่สุดของสิ่งที่
ี
�
เกิดข้นหลังกาแพงสังกะสีและลวดหนามไฟฟ้าท่เคยเป็นอาณาจักรท่ดุจใช้
ึ
ี
ท�าภารกิจอันน่าสยดสยอง คือ การสอบปากค�านักโทษด้วยวิธีการสารพัด
ที่เป็นไปเพื่อจุดประสงค์เดียว คือ เค้นค�าตอบจาก ‘เหยื่อ’ ให้ได้ ก่อนจะ
ก�าจัดทิ้งอย่างไร้ความปรานี
ี
ความเป็นไปในกัมพูชาในระยะไม่ก่สิบปีท่ผ่านมาเก่ยวข้องกับ
ี
ี
ประเทศไทยอย่างปฏิเสธไม่ได้ ภาพการปะทะกันดุเดือดตามแนวชายแดน
ั
ผู้คนหล่งไหลมาจนเกิดเป็นค่ายผู้อพยพ ทุกคนตกอยู่ในสภาพบ้านแตก
สาแหรกขาด ไร้ทิศทาง อดโซ ภาพศพถูกสะเก็ดระเบิดน่าสมเพช ภาพรถ
ี
ิ
บรรทุกท่มีส่งของและอาสาสมัครบรรเทาทุกข์ มีให้เห็นจนชินตา ท่ามกลาง
�
�
คาถามว่า “พวกตนทาผิดอะไรจึงต้องตกอยู่ในสภาพเช่นน้” หลายคนได้
ี
ย้ายไปอยู่ประเทศที่ 3 แต่มีอีกไม่น้อยที่พลาดโอกาส
ั
นค ดนลอปนาผ้อ่านไปสมผสกบมมมองต่างๆ อย่างน่าชนชมใน
ิ
�
ุ
ื
่
ั
ู
ั
ั
ึ
ความเป็นนักหนังสือพิมพ์และช่างภาพท่ใส่ใจรายละเอียดซ่งอาจถูกมองข้าม
ี
โดยเฉพาะ ‘สีหน้า’ ‘แววตา’ ‘ท่าทาง’ และ ‘ความหมาย’ ในภาพถ่ายที่
ยืนยันการมีตัวตนของคนในภาพ แต่ที่ตวลสเล็งสิ่งเหล่านั้นกลับว่างเปล่า
ภาพถ่ายกลายเป็นส่งยืนยันว่าตัวตนของนักโทษหายไปตลอดกาลหลังจาก
ิ
ช่างภาพกดชัตเตอร์
The Lost Executioner หรือ เพชฌฆาตแห่งตวลสเล็ง ถ่ายทอด
ความรู้สึกนึกคิดทั้งของนิค ดันลอป ผู้เขียน ตลอดจนบุคคลต่างๆ ที่เป็น
�
ั
้
ผ้ดาเนินเร่องตงแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสดท้ายได้ครบถ้วนเหมาะเจาะ
ุ
ู
ื
บอกเล่าเร่องราวของกัมพูชาและเขมรแดง รวมถึงบทบาทของสหรัฐอเมริกา
ื
เวียดนาม จีน ไทย และสหประชาชาติ เช่นเดียวกับการถ่ายทอดความเป็น
ี
ื
ี
“ท่ท่เม่อใครเข้าไปแล้ว ไม่ได้กลับออกมาอีก” ของตวลสเล็งได้ชัดเจน
ิ
ี
ึ
่
ั
เราหวงให้หนงสอเล่มนเป็นหนงในการเปิดเผยความจรงทแม้
ื
ั
่
ี
้
ื
โหดร้าย แต่ยังสร้างความเช่อม่นว่าการเรียนรู้ความจริงในอดีตจะช่วย
ั
ิ
ฉุดร้งมิให้เกิดส่งโหดร้ายเช่นน้น (หรือย่งกว่าน้น) ต่อมนุษยชาติข้นอีก
ั
ึ
ิ
ั
ั
ในอนาคต
�
สานักพิมพ์ยิปซี
�
ี
�
ี
ี
*หมายเหต ขณะเขยนคานาน้ มีรายงานว่า นวน เจีย ‘พ่ชาย
ุ
หมายเลข 2’ หรือ ‘พี่รอง’ ของเขมรแดง ซึ่งถูกจับตั้งแต่ พ.ศ. 2550 และ
ถูกตัดสินให้จ�าคุกตลอดชีวิตเมื่อ พ.ศ. 2561 บัดนี้เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 4
สิงหาคม พ.ศ. 2562 ด้วยวัย 93 ปี
คานิยม
�
แม้ว่านิค ดันลอปได้เขียนหนังสือ The Lost Executioner ด้วยสไตล์
นักหนังสือพิมพ์ อ่านง่าย สนุก ไม่มีอ้างอิงให้รกรุงรัง และประเด็นหลักของ
หนังสือคือการตามหาดุจ (Duch) หรือ กัง เก็ก เอียว (Kaing Guek Eau)
หัวหน้าเพชฌฆาตของระบอบเขมรแดง แต่เขาสามารถทาให้ผู้อ่านเข้าใจ
�
สภาพเศรษฐกิจสังคมและการเมืองของกัมพูชา ตลอดจนความซับซ้อนและ
พลิกผันของการเมืองโลกในช่วงเวลาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ไม่มีข้อสงสัยว่า
เขาได้ทาการบ้านมาเป็นอย่างดี ประวัติศาสตร์กัมพูชายุคใหม่จึงถูกนาเสนอ
�
�
ี
ื
ู
ผ่านการบอกเล่าเร่องราวโศกนาฏกรรมและความผันแปรของชวิตผ้คนท่เขา
ี
ได้พบระหว่างการเดินทางในกัมพูชาและการตามหาดุจ
ดันลอปค้นพบดุจในปี พ.ศ. 2542 มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยส�าหรับคน
ต่างชาติหรือคนนอกที่จะตามเจออาชญากรที่พยายามหลบซ่อนและปกปิด
อัตลักษณ์ของตนเองตลอด 20 ปีท่พวกเขาหมดอานาจลง ซ่งแน่นอนว่าการ
ี
ึ
�
ั
ค้นพบดุจไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แต่เกิดจากความมุ่งม่นใจจดใจจ่อชนิด
ไม่เลิกราง่ายๆ ของดันลอป อาชญากรรมอันน่าสยดสยองขนาดมหึมาภาย
ื
�
ิ
ใต้ระบอบเขมรแดงได้ท้งเคร่องหมายคาถามขนาดใหญ่ไว้ในใจของดันลอป
ี
ี
ื
จนเขาไม่สามารถปล่อยให้เร่องน้ผ่านไปได้ง่ายๆ ในโลกน้จะมีคนสักกี่คนท ี ่
จะพกรูปถ่ายของอาชญากรไว้กับตัวตลอดเวลา นี่เป็นคุณลักษณะที่ส�าคัญ
ของการเป็นมืออาชีพ (Professional) ที่หายากในหมู่สื่อมวลชนไทย
ิ
ั
ื
ด้วยความเข้าใจต่อผลกระทบทางเศรษฐกจสงคมการเมองของ
ื
กมพชาและการเมองโลกท่มต่อชวตของชาวเขมร ทาให้ดนลอปเล่าเรอง
ั
่
ื
ี
ี
ั
�
ิ
ู
ี
ของผู้คนท่เขาพบพานด้วยความระมัดระวังและเห็นอกเห็นใจ แม้ว่าบาง
ี
ี
คนจะเคยเป็นสมาชิกเขมรแดงท่กลายมาเป็นนักสิทธิมนุษยชนในภายหลัง
�
้
่
ิ
็
็
ิ
้
่
็
ี
้
ุ
กตาม เขาชใหเหนวาจดเรมตนของการเปนคอมมวนสตมกมาจากเจตจานง
ิ
ั
์
ี
�
ี
ท่ต้องการเปล่ยนแปลงสังคมให้ดีข้นเพ่อมนุษยชาติ แต่เพราะต้องการชาระ
ื
ึ
ิ
�
ล้างระบอบเก่าให้ส้นซากในเวลาอันรวดเร็ว ได้ทาให้การปฏิวัติจบลงด้วย
โศกนาฏกรรม
�
แม้ว่าดันลอปพยายามทาให้ผู้อ่านเข้าใจเหตุปัจจัยแห่งความรุนแรง
ั
ท้งหลาย แต่เขาก็ไม่ได้พยายามแก้ต่างให้กับอาชญากรของระบอบเขมรแดง
แตประการใด ดนลอปมความเหนอกเหนใจตอพลพรรคเขมรแดงระดบลาง
่
่
ั
็
็
่
ี
ั
มากกว่าระดับน�า เขาเชื่อว่าการบีบคั้นและความกลัวมีผลต่อการตัดสินใจ
ของคนระดับล่างอยู่มาก ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าเขาจะชี้ให้เห็นถึงสภาพ
ึ
ี
�
ั
ี
ทางสังคมท่บีบค้นให้ผู้คนตัดสินใจจับอาวุธข้นสู้กับอานาจรัฐท่อยุติธรรม
ี
แต่เขาก็ช้ให้ผ้อ่านเห็นถึงการเลือก-การมีส่วนร่วมในอาชญากรรมอย่าง
ู
�
�
ั
จงใจ-คาส่งและการตัดสินใจใช้ความรุนแรงของบรรดาแกนนาเขมรแดง
ื
คนเหล่าน้จึงสมควรถูกลงโทษเพ่อคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนกัมพูชา
ี
ดุจเป็นหนึ่งในคนเหล่านี้
�
้
�
ั
ในหนังสือเล่มน้ ดันลอปตอกยาหลายคร้งว่าผู้นาเขมรแดงส่วนใหญ่
ี
ล้วนเป็นปัญญาชนมีการศึกษา ตั้งแต่พล พต เอียง ซารี นวน เจีย เคียว
ุ
ี
่
็
สอมพอน และดจ พวกเขาล้วนมบคลกทสภาพเยอกเยนน่านบถอ ไม่ใช่
ื
ั
ุ
ี
ื
ุ
ิ
ั
ี
ชาวบ้านชาวป่าท่ไร้การศึกษา พวกเขาเป็นผู้กาหนดท้งรูปแบบและวิธีการ
�
ไปสู่สังคมอุดมคติ โดยมชาวบ้านเป็นงัวงานแผ้วถางไปสู่สังคมอุดมคติ โดย
ี
เฉพาะเด็กหนุ่มวัยรุ่นท่ถูกระบอบปฏิวัติฝึกฝนให้อยู่กับการใช้ความรุนแรง
ี
และความเกลียดชัง
กระนั้นก็ตาม ดันลอปไม่ได้พยายามเสแสร้งว่าเขาเข้าใจจิตใจและ
การกระท�าทุกเรื่องราวของมนุษย์ ไม่ใช่การกระท�าทุกอย่างสามารถเข้าใจ
ุ
้
ุ
ไดดวยเหตผลหรือดวยปจจยทางเศรษฐกจการเมอง ในบรรดาความรนแรง
้
้
ิ
ื
ั
ั
ในยุคเขมรแดง ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในคุกตวลสเล็งหรือ เอส-21 ภายใต้
การควบคุมของดุจน่าจะเป็นสิ่งที่ไร้เหตุผลที่สุดก็ว่าได้ ณ ที่แห่งนี้มีคนถูก
สังหารกว่า 18,000 คน ภายในระยะเวลาแค่ 3 ปี 9 เดือน คนที่ถูกน�าเข้า
ี
ี
ี
ั
มาในท่แห่งน้ไม่ใช่ศัตรูทางชนช้น ไม่ใช่เจ้าหน้าท่รัฐของระบอบเก่า แต่
ี
พวกเขาคือสมาชิกของเขมรแดงและครอบครัว เป็นคนท่ร่วมต่อสู้เคียงบ่า
เคียงไหล่กับพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชาจนได้รับชัยชนะ แต่ความหวาดระแวง
�
�
ของผู้นาเขมรแดงทาให้คนทุกกลุ่มในกัมพูชาล้วนกลายเป็นศัตรูของระบอบ
ไปได้อย่างง่ายๆ ...พวกเขาถูกทรมานให้รับสารภาพเหมือนๆ กันเพราะนั่น
คือสิ่งที่ผู้น�าเชื่อและอยากได้ยิน การบังคับให้รับสารภาพไม่ใช่การสืบสวน
สอบสวนหาคนผิด ไม่ใช่เป็นส่วนหน่งของกระบวนการยุติธรรม เพราะหลัง
ึ
ิ
�
รับสารภาพ พวกเขาจะถูกนาไปสังหารท้งทันที การสารภาพจึงเป็นเพียง
การตอกย�้าความถูกต้องของตัวระบอบเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าดันลอปรังเกียจวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด (Impunity)
เขาเห็นว่าบรรดาประเทศมหาอานาจ และแม้แต่องค์กรระหว่างประเทศด้าน
�
มนุษยธรรมที่ท�างานอยู่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้อง
ไม่มากก็น้อยกับการปล่อยให้ผู้นาเขมรแดงลอยนวลพ้นผิดมาเป็นเวลา
�
�
นาน การนาหัวหน้าเพชฌฆาตของระบอบเขมรแดงมาข้นศาลอาญาระหว่าง
ึ
�
ิ
ั
ุ
ี
ึ
ั
ุ
ู
็
ประเทศได้สาเรจ จนดจถกตดสนจาคกตลอดชวต จงเท่ากบว่าดนลอป
�
ิ
ั
ไม่ได้เป็นแค่คนบอกเล่าประวัติศาสตร์ แต่เขาคือตัวแสดงโดยตรงในหน้า
ประวัติศาสตร์ความยุติธรรมของกัมพูชา เป็นสิ่งที่น่าทึ่งจริงๆ
รองศาสตราจารย์ ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์
ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
�
คานิยม
ี
ิ
ื
ื
ชายสูงวัยผมสีดอกเลาในเส้อเช้ตขาวท่สวมทับเส้อยืดสีเดียวกันไว้
ชายเส้อสอดไว้อย่างเรียบร้อยในกางเกงสแล็กสีเทาท่คาดร้อยด้วยเข็มขัด
ื
ี
�
ึ
ั
หนังสีดา ลุกข้นยืนกล่าวส้นๆ ต่อองค์คณะผู้พิพากษา ก่อนจะก้มหน้า
ที่สวมแว่นไว้ลงอ่านข้อความที่เตรียมมา
... ข้าฯ ยอมรับว่าข้าฯ ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย
ี
ในเร่องอาชญากรรมท้งหมดซ่งเกิดข้นท่ ส-21 ท่สาคัญ
ึ
ึ
ั
�
ื
ี
คือการกระทาทารุณกรรมและสังหารชีวิตมนุษย์ ตามท ี ่
�
ข้าฯ เคยกล่าวไปแล้วในเวลาท่อัยการนาข้าฯ ไปท่เจิง
ี
�
ี
แอกและพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเล็งเพ่อย้อนทวน
ื
ึ
ึ
ดูพฤติการณ์ซ่งเกิดข้น โดยข้าฯ ได้ขออนุญาตให้กล่าว
ขอโทษเหยื่อที่ยังมีชีวิตอยู่ และขอโทษครอบครัวของเหยื่อ
ที่ตายอย่างเจ็บปวดทรมานใน ส-21 เวลานี้ข้าฯ ขอให้ท่าน
เหล่าน้นโปรดได้ทราบว่าข้าฯ ต้องการขอโทษ ขอให้ท่านนา �
ั
ความต้องการของข้าฯ ไปพิจารณา ข้าฯ ไม่ได้ขอให้ท่านให้
อภัยในขณะน้ ข้าฯ รู้ว่าอาชญากรรมอันร้ายแรงของข้าฯ
ี
ต่อชีวิตมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิตของสตรีและเด็กเป็น
อาชญากรรมอันหนักที่ไม่อาจให้อภัยได้ ค�าขอร้องของข้าฯ
คือขอให้ท่านเมตตารับค�าขอโทษของข้าฯ ไว้...
ี
ั
ี
ึ
ั
การแถลงน้นเกิดข้น ณ ศาลคดีเขมรแดงซ่งต้งอยู่ท่ชานกรุง
พนมเปญ วันนั้นคือวันที่ 31 มีนาคม 2009 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ที่การพิจารณา
ื
ั
คดีท่ชายสูงวัยผู้น้นอยู่ในฐานะจาเลย ช่อของเขาคือ กัง เก็ก เอียว หรือ ดุจ
ี
�
ดุจเป็นหน่งในผู้นาระดับสูงของเขมรแดงท่ถูกนาตัวข้นพิจารณาคด ี
�
ึ
ึ
ี
�
ในศาลคดีเขมรแดงซึ่งตั้งขึ้นในปี 2006 เขาเป็นคนเดียวที่กล่าวค�าขอโทษ
้
้
็
ึ
ู
ื
่
่
ี
ั
และรบสารภาพในอาชญากรรมทตนกอขน ผลกคอผคนมากกวา 12,273 คน
่
ต้องจบชีวิตลง
�
�
หลายคนท่ได้ฟังคาขอโทษของดุจบอกตรงกันว่า ไม่เช่อว่าคาขอ
ี
ื
โทษนั้นจะออกมาจากใจ
จริงของประธาน “ซอนติบาล 21 (ส-21 หรือ S-21)” ซึ่งไม่เป็น
เพียงแต่ผู้ควบคุมการสังหาร แต่หลายครั้งที่เขาลงมือฆ่าด้วยตนเอง
The Lost Executioner เล่าเรื่องของดุจ (ไปพร้อมๆ กับการเล่าเรื่อง
ชีวิตของอีกหลายคน รวมถึงชีวิตและชะตากรรมของกัมพูชา) คนหนุ่มผู้
ึ
ุ
ั
่
ี
เป็นทรกของพ่อแม่และพน้อง คนหน่มผ้อุตสาหะและม่งม่นในการศกษา
่
ุ
ั
ี
ู
คนหนุ่มผู้เป็นที่ชื่นชมของผองเพื่อน คนหนุ่มผู้อุทิศตนให้แก่การปฏิวัติซึ่ง
่
ู
ี
ั
ุ
ู
่
ี
�
ี
ู
จะนาอนาคตทดกว่ามาส่กมพชา คนหน่มทกลายเป็นผ้หวร่อได้ในยามท ่ ี
ั
ุ
ี
ุ
็
่
ิ
่
ื
เหนมนษย์ทมเลอดเนอถกทรมานและสงหาร คนแก่ทอทศตวเพอเพอน
่
ื
ั
ื
ั
ี
ู
้
ื
่
ี
มนุษย์
บทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ The Lost Executioner นิค ดันลอป
ี
ื
ข้นต้นด้วยเร่องของฆาตกรท่เรารู้จักกันดีผู้มีนามว่า องคุลีมาล ผู้ท่จะ
ึ
ี
กลายมาเป็น “พระภิกษุที่มั่นคงในพระพุทธศาสนาที่สุดองค์หนึ่ง” ในเรื่อง
ี
ื
องคุลีมาล เพ่อนข้อิจฉา ครูหูเบา และความอ่อนแอขององคุลีมาลเอง
ื
�
�
ิ
ทาให้มือเขาเปื้อนเลือด ในเร่องของดุจ ไม่มีคาตอบอะไรแบบนัน ส่งท ่ ี
้
ิ
เกิดข้นคือ ช่วพลิกกระดาษ คนก็กลายเป็นปีศาจ แล้วเราก็ถูกลากให้จมด่ง
ึ
ั
ลงสู่ห้วงทรมาน พรั่นพรึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต หวาดหวั่นว่าเราก็อาจจะ
เป็นคนหนึ่งที่กลายเป็นปีศาจได้ในอนาคต
26 กรกฎาคม 2010 ศาลคดีเขมรแดงพิพากษาว่าดุจมีความผิดใน
ข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและละเมิดอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949
ดุจถูกตัดสินจ�าคุก 35 ปี แต่ได้ลดโทษ 5 ปี เนื่องจากถูกคุมขังอยู่ก่อนที่
จะมีค�าพิพากษา
ธิบดี บัวค�าศรี
สามย่าน
21 พฤศจิกายน 2018
�
�
คานาผู้แปล
ครั้งแรกที่ผู้แปลได้มีโอกาสรู้จัก Nic Dunlop คือคืนที่กลุ่มเพื่อนนัก
ข่าวและช่างภาพต่างชาติในกรุงเทพฯ มาเจอกันท่บ้านของคุณ Yvan Cohen
ี
คืนนั้นก่อนที่หนังสือเรื่อง The Lost Executioner จะถูกร่างส�าเร็จออกมา
ื
ั
เป็นเล่ม เพ่อนทุกคนท่บ้านในคืนน้นน่งอยู่ในความเงียบ เพราะตะลึงถึง
ั
ี
่
ื
ี
ุ
ั
เรองการเดินทางในกัมพูชาของนิคตลอดหลายปีท่ผ่านมา เขาเล่าสรปส้นๆ
ถึงการได้เผชิญหน้ากับผู้บัญชาการคุกตวลสเล็งหรือ เอส-21 ‘สหายดุจ’
ี
�
ี
ั
ผู้ท่ใช้ปลายปากกาเป็นอาวุธในการลงคาส่งสังหารเจ้าหน้าท่เขมรแดงช้นสูง
ั
ท่ถูกจับมาเข้าคุกท่น่เพราะต้องสงสัยว่าเป็นสายลับให้กับประเทศอ่นเป็น
ี
ี
ี
ื
�
จานวนนับไม่ถ้วน และสหายดุจได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจาก
ั
ิ
สงครามเขมรแดงส้นสุดลง ในคืนน้นนิคไม่ได้แสดงความรู้สึกต่นเต้นถึงการ
ื
้
พบคนท่ปลายทางตามความมุ่งม่นและต้องการตามหา แต่นาเสียงและ
ั
ี
�
ท่าทางของเขากลับเต็มไปด้วยความวิตกและกังวลว่าแสงสว่างเล็กๆ ท่ส่อง
ี
ี
จุดมืดของหน้าประวัติศาสตร์ท่หายไปจะให้แสงสว่างกระจ่างจ้าให้โลกได้เห็น
หรือท�าความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เอส-21 ได้อย่างไร
หลายปีผ่านไปจากคืนน้น ดิฉันเดินทางไปทางานท่พนมเปญกับ
ั
ี
�
เพื่อนนักข่าวต่างชาติชาวชิลีในหัวข้อเรื่องอาหารและผู้คน แต่เราไม่พลาด
ี
่
ื
่
ั
้
ู
้
ู
ั
�
ั
ั
ในการไปทาความรจกกบอดตอนปวดราวและขมขนของกมพชา แทนทเรา
ี
ื
ี
จะมุ่งไปท่เน้อหาท่เราต้องการรู้ เราตกลงกันว่าเราควรเข้าใจอดีตของ
ี
ี
กัมพูชาก่อนท่จะรู้จักกัมพูชาวันน้ด้วยการเข้าพิพิธภัณฑ์ท่เป็นอดีตคุก
ี
ี
ตวลสเล็งหรือ เอส-21 ในวันนั้นเราเดินเข้าไปด้วยหัวใจว่างเปล่า ราวกับ
ี
จะเตรียมพ้นท่ให้กับวิญญาณของคนเขมรท่ไม่มีโอกาสเลือกชีวิตของตัวเอง
ื
ี
ั
ั
่
ได้เข้ามาน่งและเล่าเรองราวอนไม่คาดฝันของเขาผ่านทางภาพถ่ายหน้าตรง
ื
ี
ี
ี
ตาจ้องเขม็งมาท่เราท่แขวนอยู่ในพิพิธภัณฑ์ คราบเลือดแห้งบนเตียงท่ใช้
ื
ี
�
ี
ิ
เป็นท่ทรมาน หรือผนังปูนว่างเปล่าเว้งว้างแต่เต็มไปด้วยเร่องราวท่เก็บงา
ี
ไว้แต่เราไม่เห็น มันยากเหลือเกินท่เราจะทาความเข้าใจถึงการสังหารหมู่
�
ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่โหดร้ายทารุณที่สุดของศตวรรษที่ 20 ในกัมพูชา ดิฉัน
เดินออกมาจากคุก เอส-21 ขังวิญญาณ หรือพิพิธภัณฑ์ตวลสเล็ง ด้วย
อาการแน่นหน้าอก และทกสงทกอย่างรอบตวทตาเหนกลายเป็นสขาวข่น
่
็
ี
ุ
ุ
่
ั
ี
ิ
ุ
ื
ึ
ื
เหมือนกับจะเป็นลม จนเม่อได้ข้นรถตุ๊กตุ๊กพร้อมเพ่อนนักข่าวอีกสองคน
�
ื
�
้
เราถึงอ้าปากพูดออกมาเป็นคาได้ แต่ต่างก็นาตานองหน้า สะอึกสะอ้นแบบ
ไม่อายใคร ว่าเกิดอะไรขึ้น ท�าไมคนคนหนึ่งถึงสั่งฆ่าคนมากมายด้วยวิธีอัน
แสนโหดร้ายเหมือนไม่ใช่คนได้
ั
ุ
่
์
ึ
ั
่
ั
ุ
เราใชหวใจของมนษยสมผสเหตการณนาสะพรงกลวมากกวาจะต้ง
ั
์
ั
้
ค�าถามด้วยสายตาแบบนักข่าว
เมื่อดิฉันกลับมากรุงเทพฯ ก็รีบไปซื้อหนังสือ The Lost Executioner
ที่เขียนโดย Nic Dunlop เพื่ออ่านทันที มันเหมือนเป็นการไปหาหมอบ�าบัด
ิ
อาการไร้คาตอบของตัวเอง ขณะท่เร่มอ่านเร่องคร้งแรกน้น ดิฉันก็เร่มนึกถึง
ั
ั
�
ี
ื
ิ
ั
หน้าของนิคในคืนน้นท่เขาเล่าความกังวลของการประจันหน้ากับสหายดุจ
ี
ี
ท่หายไป และมีภาพของสหายดุจผู้บัญชาการคุก เอส-21 ท่นิคแอบถ่ายภาพ
ี
ไว้เม่อพบกันคร้งแรกยามเผลอปรากฏข้นมา พร้อมกับภาพซ้อนของผู้บัญชาการ
ั
ึ
ื
ตวลสเล็งในคราบเพชฌฆาต และหลุดลึกลงไปกับการเดินทางของนิค
ด้วยใจระทึก ท้งเข้าใจและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรข้นในสมองของคนท่สามารถ
ี
ั
ึ
่
่
กระท�าการสุดโต่งได้ขนาดนี้ หลายตอนของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ไมวา
้
จะเป็นการปลุกปั่นความคิดรักชาติสุดโต่ง การสร้างความเหล่อมลาของ
ื
�
มนุษย์ การถูกเอารัดเอาเปรียบของคนในสังคม การใช้ความเกลียดเดียด
�
ฉันท์ในประเทศ จนมีช่องว่างของการแทรกแซงอานาจ และใช้ประชาชน
เป็นข้อต่อรองและข้ออ้าง จนน�าพาให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในที่สุด
การอ่านหนังสือเล่มนี้ท้าทายความรู้สึกมาก เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว
ู
ั
ิ
่
ั
ู
ี
ทดเหมอนไม่ได้รบการถ่ายทอดให้ร้จกและเข้าใจอย่างจรงจงในระบบการ
ั
ื
ิ
ศึกษา มีเพียงไม่ก่บรรทัดเท่าน้นท่เคยรู้มาตามบทเรียน การแปลย่งท้าทาย
ี
ี
ั
ื
ี
มากกว่า เพราะเป็นเร่องประวัติศาสตร์ท่มีศัพท์เฉพาะทางการทหาร การ
ื
ปกครอง สถานท่และผู้คน แต่อย่างไรก็ตาม ดิฉันคิดว่าควรแปลเร่องน้ออก
ี
ี
ี
ึ
ื
มาเป็นฉบับภาษาไทย เพ่อเร่องราวท่เคยเกิดข้นใกล้เพียงแค่ปลายจมูกของ
ื
ั
ิ
ี
�
ื
่
่
ี
ประเทศเพอนบ้านจะทาให้เราได้เรยนรู้ประวติศาสตร์บนดนแดนททบซ้อน
ั
ั
ของท้งความจริงและความเท็จ ตามความคิดเห็นในสายตาของนักข่าวภาค
ี
สนามอย่างนิค ท่ไม่ใช่เป็นการรายงานข่าวตามการนาเสนอขององค์กรใดๆ
�
้
ั
ั
แตเปนการแสวงหาคาตอบดวยการพาตวเองเขาไปทาความเขาใจกบความ
้
้
�
็
�
่
คิดของลัทธิสุดโต่ง ตั้งค�าถาม เผชิญหน้ากับความปวดร้าวของอดีตเขมร
แดงท่รอดชีวิตและท่เก่ยวข้องกับเหตุการณ์การสังหารหมู่ หรือเป็นส่วนหน่ง
ี
ี
ึ
ี
ื
ของลัทธิความเช่อ นอกจากน้ยังรวมถึงผู้ท่ไม่เก่ยวข้องท่ไม่ใช่เขมรแดง แต่
ี
ี
ี
ี
�
ี
ต้องได้รับผลกระทบจากการท่มนุษย์กระทาต่อมนุษย์ด้วยกันอย่างโหดร้าย
การเดินทางแสวงหาความจริงของนิคเป็นการหาความยุติธรรมท ี ่
ไม่มีใครเคยได้รับรู้ การตามหาสหายดุจ และอดีตสมาชิกเขมรแดงส�าคัญ
ื
ี
คนอ่นๆ คือกุญแจท่จะเปิดประตูปริศนา เพ่อให้มีแสงส่องประวัติศาสตร์
ื
กัมพูชาในช่วงมืดนั้น เขาไม่ได้สรุปความเลวความดี แต่เขามีความสงสัย
เหมือนเรา ท่อยากรู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรข้นในความคิดของคนคนหน่ง จน
ี
ึ
ึ
ั
สามารถกลายเป็นผู้ตัดสินความตายของคนร่วมประเทศ ท่ท้งเคยเป็นเพ่อน
ื
ี
เป็นคนชอบพอ และเป็นครูได้
ิ
ุ
ี
ี
่
ทกการเดนทางจะมีรายละเอยดระหว่างทางท่เราไมอาจมองข้ามเสมอ
ี
ี
้
หนังสือเล่มน้มีเร่องระหว่างทางท่สะเทือนใจ โหดร้าย น่าขัน และน่าชัง ดวย
ื
�
สายตาของความเป็นช่างภาพและนักข่าวของนิค เขานาภาพของความรุ่งเรือง
ของอาณาจักรนครวัด ต้นตาลสูงเสียดฟ้าสีฟ้า รถถังวันเขมรแดงแตก หลัก
่
้
ุ
ิ
ุ
้
่
ี
ั
กลางนาทมดนกโทษกลางแจง ถนนขรขระ กลนอายทงนาเคลากลนซากศพ
่
่
ิ
ั
ั
จากอดีต มาให้เราได้รู้สึกร่วม รวมท้งเสียงเฮลิคอปเตอร์ เสียงระเบิด เสียง
ร้องขอชีวิต และเสียงกระซิบสารภาพของเพชฌฆาตที่ตามหาจนพบ
ความท้าทายน้จะเกิดเป็นหนังสือ เพชฌฆาตแห่งตวลสเล็ง ไม่ได้
ี
ถ้าไม่ได้แรงสนับสนุนและเห็นประโยชน์จากสานักพิมพ์ยิปซี ในการนาเสนอ
�
�
เร่องราวท่เกิดข้นจริงของประเทศเพ่อนบ้าน ขอขอบคุณอาจารย์ธิบด ี
ี
ึ
ื
ื
ี
ิ
ี
ื
ื
บัวคาศรี ท่เล่าเร่องราวประวัติศาสตร์ ช้แนะหนังสือเพ่มเติมเพ่ออ่าน
�
�
ประกอบการแปล และช่วยตรวจลาดับเร่องประวัติศาสตร์ และต้งคาถาม
ั
ื
�
กลับมาเป็นการบ้านเพ่ม ขอบคุณ Noyel Ry จาก Legal Professional
ิ
ี
และ Former Senior Legal Consultant ท่ Extraordinary Chambers in
the Court of Cambodia (ECCC) ท่ช่วยอธิบายเหตุการณ์บางอย่างให้
ี
ึ
ชัดข้น ช่วยให้ดิฉันรู้จักบุคคลท่เอ่ยถึงในหนังสือมากข้น และรวมถึงการ
ี
ึ
ื
ี
ื
ออกเสียงช่อคนกัมพูชา Yvan Cohen เพ่อนนักข่าวท่มีประสบการณ์
ในการท�างานในประเทศไทย ช่วยให้ความเข้าใจถึงเรื่องราวของเขมรแดง
เป็นภาษาไทย และอดทนฟังการทบทวนจากภาษาไทยกลับเป็นภาษา
อังกฤษ แบบบรรทัดต่อบรรทัด รวมทั้งแนะน�าให้รู้จักผู้เขียน Nic Dunlop
ี
ี
�
ท่ทาให้เกิดแรงบันดาลใจในการแปลหนังสือเล่มน้ และขอบคุณคุณสุรชัย
พิงชัยภูมิ บรรณาธิการบริหารสานักพิมพ์ยิปซี และคุณชัยจักร ทวยุทธานนท์
�
�
บรรณาธิการต้นฉบับ ท่ขัดเกลาสานวนภาษา การใช้คาศัพท์ทางการทหาร
ี
�
และการเมืองท่ถูกต้องตามประวัติศาสตร์ จนกระท่งหนังสือ เพชฌฆาตแห่ง
ี
ั
ิ
ตวลสเล็ง เสร็จส้นออกมาเป็นรูปเล่มสมบูรณ์และสวยงามปรากฏอยู่ในมือ
ท่านผู้อ่านเล่มนี้
กรกฎ พัลลภรักษา
มีนาคม 2561-สิงหาคม 2562
The Lost Executioner
เพชฌฆาตแห่งตวลสเล็ง
เรื่องราวการสังหารหมู่ของเขมรแดง
คาช่นชมเพ่มเติม สาหรับหนังสือเร่อง The Lost Executioner
�
�
ิ
ื
ื
โดย นิค ดันลอป (Nic Dunlop)
“น่าพิศวงมาก เป็นผลงานที่ไม่ธรรมดาเลย”
-ฟาร์ อีสเทิร์น อีโคโนมิก รีวิว
(Far Eastern Economic Review)-
�
�
ี
�
ี
“นิค ดันลอปแสวงหาคาอธิบายท่จะเป็นคาตอบ ท่ทาให้คนอ่าน
ี
�
เข้าใจว่ามันเกิดข้นได้อย่างไร แทนท่จะถามว่า ทาไมคนถึงกลายเป็นปีศาจ
ึ
ึ
ี
�
ื
ซ่งน่นทาให้เร่องในหนังสือน้ทรมานลึกลงไปในใจ ความจริงของเหตุการณ์
ั
ี
น้ถ่ายทอดจากสายตาและมุมมองของช่างภาพ ไม่ใช่สายตาของนักเขียน
ถึงเรื่องราวอันน่าสยดสยองของสงคราม 30 ปีของกัมพูชา เรื่องที่น่าตกใจ
ในเรือนจา การทรมานท่ช่วร้าย และการมีส่วนร่วมท่ไร้ความปรานีของ
ี
�
ี
ั
อเมริกา”
-กิตตา เซเรนี (Gitta Sereny),
ผู้เขียน เรื่อง Albert Speer: His Battle with Truth-
“หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ส�าคัญมาก ที่เข้มข้น สะเทือนใจ”
-ลอนดอน เมโทร แมกกาซีน-
“เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย ...เรียกได้ว่าดันลอปเป็นส่วนหนึ่ง
ของประวัติศาสตร์กัมพูชา”
-เอเชีย ไทมส์-
“การเดินทางที่มหัศจรรย์ของนิค ดันลอปนี้ เข้าไปถึงจุดมืดมิดของ
ความทุกข์ทรมานแห่งหัวใจกัมพูชา”
-จอห์น พิลเจอร์-
“ในหนังสือท่หลอนลึกแต่สละสลวยน้ นิค ดันลอปได้พาเราไป
ี
ี
สู่หุบเหวแห่งยาพิษของห้วงเวลา และในโลกของความสุดโต่งของนัก
ั
ื
ุ
ู
ิ
ุ
่
คณิตศาสตร์ ทเช่อว่าสงคมจะบริสทธ์ได้ด้วยการฆ่าศัตรทุกคนให้ตาย
ี
ท้งหมด มันคือบทเรียนท่น่าสะพรึงกลัว ท่เราได้ร่วมเรียนรู้ไปตามตัวหนังสือ
ั
ี
ี
ในแต่ละแผ่น”
-เดวิด แชนด์เลอร์ ผู้เขียน เรื่อง Brother Number One:
A Political Biography of Pol Pot-
ี
ี
ื
“คนท่สนใจเร่องเก่ยวกับประเทศกัมพูชาและความพยายามท่จะ
ี
หาความยุติธรรมให้เกิดการสังหารหมู่ควรต้องอ่านหนังสือเล่มนี้”
-เบน เคียร์นัน จากมหาวิทยาลัยเยล
ผู้เขียน เรื่อง How Pol Pot Came to Power-
กิตติกรรมประกาศ
ี
�
หนังสือเล่มน้คือผลของการทางานในประเทศกัมพูชาในช่วงเวลา
หลายปีที่ผ่านมา จากความช่วยเหลือของทุกๆ คนตลอดทาง แม้ผมจะไม่
ิ
สามารถขอบคุณทุกคนได้หมด แต่ก็ต้องขอกล่าวไว้บ้าง โดยเฉพาะอย่างย่ง
แอนดรูว์ มาร์แชลล์ ที่ใช้เวลาหลายสัปดาห์อย่างไม่ย่อท้อในการช่วยอ่าน
ต้นฉบับพร้อมวิเคราะห์ ให้ค�าวิจารณ์ และให้ข้อแนะน�า เช่นกันกับ ซาราห์
รูนีย์ และเบน เดวิส ผมเป็นหนี้บุญคุณทุกท่าน ที่ทั้งให้ก�าลังใจสนับสนุน
และอดทนช่วยช่างภาพอย่างผมให้เขียนเรื่องออกมาเป็นตัวหนังสือ
ผมใคร่ขอบคุณ บ็อบ แมต เดวิด แชนด์เลอร์ เบน เคียร์นัน ที่อ่าน
ต้นฉบับ และช่วยแก้ไขรวมถึงชี้แนะถึงสิ่งที่ควรปรับปรุง ขอบคุณ สตีเฟน
เฮเดอร์ ที่แบ่งสาระส�าคัญที่ขาดไม่ได้ให้ และอเล็กซ์ ลิงก์เลเทอร์ ในความ
ี
ี
�
กระตือรือร้นและอดทน ท่ช่วยทาให้เกิดเป็นหนังสือเล่มน้ ในช่วงหลายๆ ปีท ่ ี
ี
ผ่านมา งานช้นน้ได้การสนับสนุนและให้กาลังใจตลอดจาก จอห์น พิลเจอร์
ิ
�
และเดวิด มันโร มากพอๆ กับงานภาพถ่ายของ ฟิลิป โจนส์ กริฟฟิธส์ ที่
เป็นแรงบันดาลใจให้ผมได้เดินสู่เส้นทางช่างภาพ
ขอบคุณ เนต เทเยอร์ ที่เดินทางกลับไปเป็นเพื่อนที่ซ็อมลวดและ
สจวต ไอเซตต์ ด้วย ขอบคุณ เจนนิเฟอร์ อาดัมส์ กับงานชิ้นก่อนหน้านี้
ขอบคุณที่สุด คริสทีน โชโม อาร์โนลด์ ดูบุส โบพารา ทอง ดักลาส นีเวน
เจย โสพีรา เจย เพียรุม กัลยาน สานน์ และทีมงานทุกคนที่พิพิธภัณฑ์
ตวลสเล็ง โดมินิก โฟลเดอร์ เชียน นาริด เมือน จาย ซี จัน เฮนรี โลการ์ด
โบ โจ ดอน และแคทลีน โอ’คีฟ สเตฟาน สมิธ ดานา ลองกลัวส์ สก สิน
(ผู้ล่วงลับ) เทต สมบัท กี ลก โอก ลี ชาง ยุก แมน กิมเส็ง ปัน ริธี แมรี
ดันบาร์ จอห์น แจ็กสัน วิกตอเรีย ลูเคินส์ ไพรวัลย์ ลิมพานบุญ สมหญิง
สุนทรวงศ์ เทอเรส โควเวตต์ โรบิน แมคโดเวิลล์ นีกอลา เรวีซ จอห์น
ไรล์ โรเบิร์ต ไวน์เดอร์ ปีเตอร์ แครี เจฟ เซเยอร์ เดวิดและโซฟี แอปเปิล
ตัน พอลและเฮเลน เดวิส จัสตินและมิชกา บายเวิร์ท เดวิด แมคเคจ และ
ไมเคิล เฮส จาก พนมเปญโพสต์ บรรณาธิการของผมที่บลูมสเบอรี ไมค์
โจนส์และแคเทอรีน กรีนวูด ตัวแทนของผม โรเบิร์ต เคอร์บี จอห์น ไฮด์
และกองทุนข่าวเชิงสืบสวน (Fund for Investigative Journalism) ที่เชื่อและ
สนับสนุนโครงการงานชิ้นนี้เสมอ
ขอบคุณอย่างพิเศษให้กับคนกัมพูชา ท่พาผมกลับเข้าไปในการเดิน
ี
ี
�
ี
ทางท่เจ็บปวดในแต่ละชีวิต แล้วอนุญาตให้ผมปลุกความทรงจาท่อยากลืม
็
ี
ึ
ใหตนขนมาอกครง ผมหวงวาการปลกความเจบปวดนจะเปนการคนหาความ
ุ
่
ั
ั
ี
้
้
้
็
้
้
ื
่
ยุติธรรม ที่ไม่ได้ท�าร้ายใครไปมากกว่านี้ อดีตผู้ร่วมฝ่ายเขมรแดงที่บางคน
่
ี
ได้เปิดใจให้ผมมากกว่าอีกหลายคน แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจท
ให้เวลาและพูดคุยด้วย โดยเฉพาะ เอิน โสเพียบ
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ผมยังเป็นหนี้บุญคุณเพื่อนคนนี้ เฮ็ง แฮม
�
ี
เค็ง และครอบครัวของเขา ท่ให้คาแนะนาท่เป็นไปด้วยสติและปัญญา ตลอด
�
ี
ความโกลาหลในประวัติศาสตร์กัมพูชาช่วงล่าสุด
ี
ช่อและลักษณะของบางคนในหนังสือ ต้องเปล่ยนหรือปรับ เพ่อ
ื
ื
ปกป้องเร่องใดๆ ท่จะกระทบชีวิตจริงของพวกเขา บางคนก็เอ่ยช่อไม่ได้
ื
ื
ี
แต่รู้ว่าเป็นใครส�าหรับพวกเขา ผมขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย ผมรับผิดชอบ
ี
ต่อความคิดเห็นและบทสรุปในหน้าน้เอง สุดท้ายผมอยากขอบคุณ พัชรินทร์
สินลาวัน ในความรัก สนับสนุน และอดทนตลอดช่วงเวลาในการท�างาน
ตั้งแต่เริ่มสืบค้นหาข้อมูล จนกระทั่งเขียนออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้
อุทิศให้พ่อและแม่
และ
�
ความทรงจาของ เดวิด มันโร
ความดามืดจะปกคลุมชาวกัมพูชา บ้านเรือนจะร้างไร้คนอาศัย ถนน
�
ื
หนทางจะไม่มีแม้แต่เงาคนเดิน ผืนดินจะตกเป็นของพวกป่าเถ่อนไร้ศาสนา
เลือดจะนองท่วมสูงถึงท้องช้าง มีเพียงคนหูหนวกและเป็นใบ้ที่รอดชีวิต
ค�าพยากรณ์กัมพูชาโบราณ
ลาดับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์
�
ช่วงศตวรรษที่ 9-15 ความรุ่งเรืองและการล่มสลาย
ของจักรวรรดิเขมรที่มีเมืองพระนครเป็นศูนย์กลาง
1864 กัมพูชาอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส
1953 สมเด็จพระนโรดม สีหนุ เจรจาต่อรอง ได้รับเอกราชและเป็น
อิสระจากฝรั่งเศสส�าเร็จ
ี
1965 สีหนุอนุญาตให้เวียดนามเหนือเข้ามาต้งฐานท่ม่นในกัมพูชาท ่ ี
ั
ั
เป็นรอยต่อกับเวียดนามใต้ และต่อมาก็อนุญาตให้คอมมิวนิสต์
ขนของผ่านดินแดนกัมพูชาได้อีกด้วย
1967 การลุกฮือที่ซ็อมลวด
1969 ปฏิบัติการทิ้งระเบิดลับจากสหรัฐเริ่มต้น
1970 วันที่ 18 มีนาคม ล็อน น็อลท�ารัฐประหาร ขณะสีหนุอยู่ต่าง
ประเทศ
ิ
ั
ึ
วันท่ 23 มีนาคม สีหนุซ่งขณะน้นอยู่ท่ปักก่ง เรียกร้องให้
ี
ี
ึ
ประชาชนลุกข้นมาต่อต้าน สงครามระหว่างเขมรแดงและ
ฝ่ายรัฐบาลล็อน น็อลเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง
�
เดือนเมษายน สหรัฐ และกองกาลังเวียดนามใต้บุกกัมพูชา
ี
ั
ื
�
จากด้านเวียดนาม เพ่อทาลายท่ม่นของคอมมิวนิสต์ แต่ต่อ
มาก็ถอนก�าลังออกไป
ิ
1973 การท้งระเบิดของสหรัฐ กลายเป็นส่งผิดกฎหมายและถูกระงับ
ิ
โดยรัฐสภาอเมริกัน
1975 วันที่ 17 เมษายน สาธารณรัฐภายใต้การน�าของล็อน น็อล
ล่มสลาย และกัมพูชาตกอยู่ใต้การปกครองของเขมรแดง
�
1979 เวียดนามบุกกัมพูชาขับไล่เขมรแดงและคุมอานาจเกือบทุก
ี
ื
ั
พ้นท่ในประเทศ มีการจัดต้งสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาเป็น
ั
รัฐบริวารข้นในพนมเปญ ค่ายผู้อพยพและผู้ต่อต้านต้งข้นท ่ ี
ึ
ึ
ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้รับความสนับสนุนจากประเทศ
จีน ไทย และประเทศตะวันตก เขมรแดงได้รับการติดอาวุธและ
ความช่วยเหลือจากตะวันตก
1982 สีหนุประกาศจัดต้งรัฐบาลผสมกัมพูชาประชาธิปไตยกับกลุ่ม
ั
กษัตริย์นิยม สาธารณรัฐ ของล็อน น็อลที่ัเหลืออยู่เล็กน้อย
และเขมรแดง ซึ่งเป็นกลุ่มที่คุมอ�านาจหลัก
�
ื
ั
1984- 5 เวียดนามเปิดฉากโจมตีคร้งใหญ่เพ่อกาจัดการต่อต้านและผลัก
ดันคนให้เข้าไปอยู่ในประเทศไทย สงครามยังด�าเนินต่อไป
1989 เวียดนามถอนกาลังออกจากกัมพูชา กลุ่มเขมรแดงเข้ายึดเมือง
�
ไพลินซึ่งเป็นที่ตั้งของเหมืองพลอย
1991 ข้อตกลงสันติภาพปารีส เปิดทางให้สหประชาชาติเข้ามาปฏิบัต ิ
ภารกิจ
1992 ปฏิบัติการรักษาสันติภาพเริ่มต้น
ี
1993 กลุ่มเขมรแดงถอนตัวออกจากกระบวนการท่ตกลงไว้ และ
สาบานจะขัดขวางการเลือกต้ง พรรคกษัตริย์นิยมได้รับชัยชนะ
ั
ถล่มทลายในการเลือกตั้งที่มีสหประชาชาติสนับสนุน ระบอบ
การปกครองพนมเปญภายใต้การน�าของ ฮุน เซ็น บังคับให้มี
�
ั
การใช้อานาจร่วมกันในรัฐบาลใหม่ องค์การบริหารช่วคราว
แห่งสหประชาชาติในกัมพูชา (UNTAC) ถอนตัว สงครามกับ
กลุ่มเขมรแดงยังคงด�าเนินต่อไป
1994 เขมรแดงกลายเป็นกลุ่มนอกกฎหมาย
1996 เอียง ซารี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแยกตัวออกจาก
เขมรแดง เพื่อแลกกับการนิรโทษกรรม และดึงเขตเขมรแดง
ตะวันตกมาอยู่กับตน
1997 พล พต ถูกขบวนการของตนสอบสวนในที่มั่นกองโจรในอัน
ลองเวง นายกรัฐมนตรีร่วม ฮุน เซ็น ขับไล่พรรคร่วมกษัตริย์
นิยมในการรัฐประหาร และมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มกษัตริย์
นิยมและรัฐบาล
1998 พล พต เสียชีวิต อันลองเวงพ่ายให้แก่กองก�าลังรัฐบาล
1999 ตาม็อก เขมรแดงคนสุดท้ายมอบตัว และถูกจ�าคุกเพื่อรอการ
พิจารณาคดี
สารบัญ
อารัมภบท 30
ภาค 1 : กัง เก็ก เอียว 41
บทที่ 1 : “ฆ่าคนบริสุทธิ์สิบคน
ดีกว่าปล่อยศัตรูคนเดียวให้รอด” 42
บทที่ 2 : ภาระของเมืองพระนคร 56
บทที่ 3 : เขมรแดงที่ดี 70
บทที่ 4 : ปลูกต้นไม้ในชนบท
แต่พืชผลทั้งหมดส่งให้คนเมือง 88
บทที่ 5 : “พี่น้องทั้งหลาย
จงเข้าป่าไปร่วมรบกับเขมรแดง” 102
ภาค 2 : สหายดุจ 119
บทที่ 6 : จินตนาการถึงโลกที่ดีกว่า 120
บทที่ 7 : กัมพูชาประชาธิปไตย 140
บทที่ 8 : สถาบันที่สมบูรณ์แบบ 148
บทที่ 9 : คู่มือการสอบสวน 164
บทที่ 10 : เมืองที่ไร้ผู้คน 180
บทที่ 11 : ช่างภาพ 192
บทที่ 12 : แผนร่วมสุดท้าย 212
บทที่ 13 : เลี้ยงดูผู้ท�าผิด 222
บทที่ 14 : ศัตรูของศัตรูคือมิตร 242
ภาค 3 : ฮอง เป็น 261
บทที่ 15 : การกลับมาของเขมรแดง 262
บทที่ 16 : นโยบายและแนวปฏิบัติของอดีตร่วมสมัย 278
บทที่ 17 : พ้นบาป 292
บทที่ 18 : ผู้มีมนุษยธรรม 304
บทที่ 19 : ค�าสารภาพ 318
บทที่ 20 : ค้นหาความยุติธรรม 332
บทที่ 21 : อยู่กับอดีต 352
บทที่ 22 : บทเรียนจากโรงเรียนที่ว่างเปล่า 368
บรรณานุกรม 376
ุ
ี
ู
ภาพถ่ายของสหายดจ ในขณะเป็นผู้บัญชาการของ เอส-21 ท่ผ้เขียนพกติดตัวไว้ตลอด
เวลาในกระเป๋าหลัง ภาพน้ทาให้ได้พบสหายดุจในปี 1999 (ขอบคุณภาพจากพิพิธภัณฑ์
�
ี
ตวลสเล็ง)
อารัมภบท
The Lost Executioner
ั
ภาพถ่ายท่แขวนไว้บนผนังของตึกร้าง ในภาพน้นมีผู้ชายน่งอยู่หลัง
ั
ี
ิ
ั
โต๊ะ สายตาน่งมุ่งม่น เขาอาจย้มก็ได้ แต่ก็บอกได้ไม่ชัด เขาพูดผ่าน
ิ
ไมโครโฟน กล่าวต้อนรับการประชุมของกลุ่มคนเขมรแดง ซ่งไม่ได้ปรากฏ
ึ
ให้เห็นในภาพ เขาถือไมโครโฟนด้วยนิ้วเรียวยาว ผมยังคงจ้องภาพนี้และ
ื
�
�
ยังสงสัยว่าเขากาลังพูดอะไร หรือว่าเขากาลังสอนเร่องของความบริสุทธ ิ ์
ของการปฏิวัติ หรืออาจให้ค�าแนะน�าเกี่ยวกับวิธีการเค้นเอาค�ารับสารภาพ
ี
ี
มันไม่ใช่ภาพท่อัดมาจากฟิล์มเนกาทีฟ แต่เป็นภาพท่อัดจากภาพ
ั
�
้
ถ่ายซาๆ ท้งคุณภาพแย่ และถูกขยายเสียจนภาพไม่มีโทนสีเหลือให้เห็น
คราบเปื้อนข้ามปี เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวในอดีตที่ถูกลืม ฟิล์ม
เนกาทีฟต้นฉบับไม่รู้หายไปไหน มีเหลือเพียงแค่ภาพถ่ายภาพนี้ภาพเดียว
ื
ั
บางคร้งผมตัวส่นเม่อมองภาพน้น แต่แล้วผมก็เร่มพกภาพถ่ายน้ติดตัวไว้
ิ
ั
ั
ี
ตลอดเวลาที่เดินทางในกัมพูชา
มันคือภาพถ่ายของสหายดุจ (Comrade Duch) ผู้บัญชาการคุก
ตวลสเล็ง ในฐานะท่เป็นหัวหน้าหน่วยตารวจลับของเขมรแดง ดุจจึงเป็น
�
ี
�
ี
ผู้รับผิดชอบโดยตรงต่อการฆ่าผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กท่มีจานวนมากถึง
20,000 คน เขาเป็นตัวเชื่อมส�าคัญระหว่างยุทธศาสตร์เขมรแดงกับกลไก
ทางปฏิบัติของการสังหารหมู่ เขาเป็นอดีตหัวหน้าเพชฌฆาตของพล พต
�
ี
ี
ในวันท่ 17 เมษายน ค.ศ. 1975 กองกาลังเขมรแดงท่ปิดล้อมเมือง
หลวงอยู่หลายเดือน ได้เข้ายึดพนมเปญ และได้ประกาศลบประวัติศาสตร์
เริ่มต้นศักราชใหม่ให้กัมพูชา ในเวลาเพียงข้ามคืน กลุ่มเขมรแดงก่อการ
ี
ปฏิวัติท่รุนแรงสุดโต่งท่สุดให้โลกเห็น พวกน้นผลักดันผู้คนให้ออกจากเมือง
ั
ี
ไปอยู่ในชนบท และบังคับให้พลเมืองทั้งหมดต้องร่วมมือกันสร้างประเทศ
กมพชาให้เป็นสงคมชนบทท่เท่าเทยมไร้ชนชน กล่มเขมรแดงก็ปดพรมแดน
ี
ี
ิ
ั
ั
ุ
้
ู
ั
ทุกด้านของประเทศ และกัมพูชาก็หายไป
31
เพชฌฆาตแห่งตวลสเล็ง
ค�าว่า ‘เลส์ ขแมร์ ฮูชส์’ (Les Khmers Rouges) หรือ ‘เขมรแดง’
นั้น สมเด็จพระนโรดม สีหนุเป็นผู้บัญญัติขึ้นเพื่อเรียกคอมมิวนิสต์เขมร
ี
ี
็
ุ
ี
ู
ั
้
ั
ั
ี
ิ
่
กล่มเลกๆ ท่ไปเรยนในปารส ผ้ท่เรมจดตงกระบวนการต่อต้านรฐบาลใน
ั
ั
ช่วงทศวรรษ 1960 ซงในช่วงนนสหรฐอเมรกาเรมทาการทงระเบดแบบ
ึ
่
้
ิ
ิ
�
้
ิ
ิ
่
�
ลับๆ ทางอากาศเพ่อทาลายฐานท่ม่นของเวียดนามเหนือและเส้นทางส่ง
ั
ี
ื
ิ
กาลังบารุงในกัมพูชา กว่าสหรัฐอเมริกาจะหยุดท้งระเบิดก็มีคนกัมพูชาเสีย
�
�
ชีวิตและบาดเจ็บมากกว่าล้านคน และอีกกว่าครึ่งของประชากรที่เหลืออยู่
ี
ในสภาพของผู้อพยพ ความหายนะท่เกิดข้นในชนบทน้เป็นช่องทางให้เขมร
ึ
ี
ี
แดงฉวยโอกาสยึดอานาจจากฝ่ายรัฐบาลท่สหรัฐอเมริกาสนับสนุน ในปี
�
ค.ศ. 1975
อีก 4 ปีต่อมา ในปี ค.ศ. 1979 โลกต่นข้นมาเผชิญกับความหฤโหด
ึ
ื
ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งที่ 2 ภาพของหัวกะโหลกและเด็กๆ ที่ผ่ายผอม
ี
ั
จนเห็นโครงกระดูกฉายออกหน้าจอโทรทัศน์ในห้องน่งเล่นท่บ้าน เตือนคน
เป็นล้านถึงความเจ็บปวดทรมานของคนกัมพูชา ประชากรทั้งหมดเหมือน
ี
�
้
หายจากโลกไปเกือบส่ปี แล้วกลับมาในสภาพบอบชา ทรมาน หิวโหย และ
ั
ึ
จนเกือบไม่เหลืออะไร หน่งในสามของประชากรท้งหมดตาย และคนนับ
แสนถูกฆ่า วันนี้ 25 ปีผ่านมา และ 7 ปีหลังจากการเสียชีวิตของพล พต
และการล่มสลายของเขมรแดง ยังไม่มีใครรับผิดชอบถึงหายนะที่เกิดขึ้น
ี
ี
ผมเ ร่มสนใจเร่องเก่ยวกับกัมพูชาจากเร่องท่ได้เห็นในนิตยสาร
ิ
ื
ื
เนชันแนล จีโอกราฟฟิก (National Geographic) ในช่วงต้นทศวรรษ 1980
พร้อมกับภาพถ่ายของปราสาทและซากโบราณสถานในป่ารก ท่แท้จริง
ี
เป็นทุ่งหลุมศพหมู่ที่เพิ่งขุดขึ้นมา สิ่งที่ผมสะดุดตามากที่สุดคือ ความเขียว
ื
สมบูรณ์ของพ้นท่ชนบท ภายในวงล้อมเขียวสดมรกตน้มีซากเส้อผ้า กระดูก
ี
ื
ี
ื
แ ละหัวกะโหลกมนุษย์ปนอยู่ในพ้นดินสีช็อกโกแลต ราวกับว่าชนบทน ี ้
32
The Lost Executioner
ถูกเผาละลายในแสงอาทิตย์แผดร้อนของเที่ยงวันที่เผยให้เห็นความลับอัน
น่าหฤโหด ตอนที่ภาพยนตร์เรื่อง เดอะ คิลลิง ฟิลด์ส (The Killing Fields)
�
้
ั
�
้
ออกฉายน้น ผมคิดว่าผมดูซาไปซามาไม่น้อยกว่า 15 ครั้ง จากโรงภาพยนตร์
ั
หลายแห่งในลอนดอน หลายคร้งผมต้องแอบไปดูคนเดียวเหมือนกลัวว่าจะ
มีใครจับได้ ตลกไหมล่ะ ที่ผมต้องหลบๆ ซ่อนๆ เหมือนกับย่องไปดูหนังโป๊
ิ
ในโซโห ในช่วงเวลาเดียวกัน ผมเร่มสนใจการถ่ายภาพและหนังสารคด ี
ื
ี
ท่เก่ยวกับเร่องความขัดแย้ง ผมอ่านทุกอย่างท่ขวางหน้า กวาดหนังสือ
ี
ี
ุ
ั
ท กเล่มจากช้นหนังสือในลอนดอน กับความหวังว่าจะเข้าใจกัมพูชาได้
มากขน ผมอยากเห็นพนมเปญในชวงกอน ระหวาง และหลงจากทเขมรแดง
ึ
ั
่
่
้
่
่
ี
ั
่
จะเขามา ผมหาหลกฐานเร่องราวภาพถายอะไรไม่เจอเลย ราวกับว่าประเทศ
้
ื
ทา งตะวันตกเองน้น ร่วมมือกับเขมรแดง เพ่อลบความทรงจาเก่ยวกับ
ั
�
ื
ี
กัมพูชาไปจากสมองเราด้วย
ส�าหรับผม กัมพูชาเป็นเหมือนชวเลขของสิ่งแย่ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้
ี
ึ
ผมอยากเข้าใจว่าความอยากท่อ้างว่า จะเปล่ยนโลกให้ดีข้นเป็นโลกใหม่
ี
นั้น ท�าไมถึงได้ท�าให้มนุษย์ หื่นกระหายกลายเป็นปีศาจ สร้างการปฏิวัติที่
เหี้ยมโหดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เหตุการณ์การสังหารหมู่ที่ผมได้ยินมาใน
ชีวิต การท้งระเบิดทาลายกัมพูชาในปีท่ผมเกิด (ผมจาได้ว่าผมเห็น
ี
�
ิ
�
เฮลิคอปเตอร์ในโทรทัศน์) ในช่วงเวลาที่เขมรแดงอยู่ในอ�านาจ ขับไล่ฝ่าย
ตรงข้ามออกไป ผมโตมากพอที่จะเป็นหนึ่งในเหยื่อนั้นด้วย
ผู้กระท�าที่เราไม่เห็นหน้าเป็นใครกัน เหมือนค�าว่า ผู้ก่อการร้าย ค�า
ที่เขมรแดงใช้บ่อยจนเฟ้อ จนไม่มีความหมายอะไรส�าหรับผม เหมือนกับ
ื
เกิดจากระเบิดพวงจากทหารอเมริกันท่ท้งไว้ ในท่สุดเม่อฤดูร้อนของปี ค.ศ.
ิ
ี
ี
1989 ตอนท่ผมอายุ 19 ปี ผมหันหลังออกจากโรงเรียนศิลปะเพ่อไป
ื
ี
กัมพูชา ไปตามหาในสิ่งที่ผมอยากค้นพบ จากนั้นผมย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ
ในอาชีพช่างภาพ และเดินทางไป-กลับกัมพูชาเป็นประจ�า ผมไม่เคยเชื่อ
33
เพชฌฆาตแห่งตวลสเล็ง
เลยว่าผมจะได้มีโอกาสเข้าใกล้กับค�าตอบที่ตามหา
ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1997 ผมเดินทางออกไปท่จังหวัดสวายเรียง
ี
ึ
(Svay Rieng) ท่เป็นส่วนหน่งของ ‘ภูมิภาคตะวันออก’ ภายใต้การปกครอง
ี
ของเขมรแดง ที่นี่คือทุ่งสังหารที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายอย่างยากที่จะหา
ี
ี
อะไรมาเปรียบได้ ชีวิตคนนับแสนถูกฝังเป็นศพไว้ท่น่ และทุกหย่อมหญ้า
ของชนบทก็เกลื่อนไปด้วยหลุมศพ
่
ยามโพล้เพล้ทอากาศเย็นลง ลมเยนอ่อนๆ พดโบกยอดตาลท่สง
ี
็
ั
ู
ี
เสียดฟ้า ผมเดินตามชาวนาชราไปบนคันนา ตะวันยอแสงลงหลังต้นไม้ที่
อยู่ไกลออกไปข้างหน้า อาบทุกส่งท่อยู่ในรัศมีให้เปล่งประกายสีทอง ชาวนา
ิ
ี
้
�
ั
คนน้นหยุดท่แยกคันนาแล้วหย่อนตัวน่งลงหน้าแอ่งนา ผมน่งลงตาม
ี
ั
ั
ท่ามกลางทะเลสีเขียวของยอดข้าว
ึ
ิ
ั
ี
ี
ชาวนาเร่มระลึกถึงเหตุการณ์ท่เกิดข้นตอนน้น หลังจากท่กองกาลัง
�
ี
ทหารเวียดนามขับไล่กลุ่มเขมรแดงออกไป เขาบรรยายถึงตอนท่ตัวเองและ
ี
คนอ่นๆ ช่วยกันดึงร่างไร้ลมหายใจข้นจากคูท่อยู่เบ้องหน้าเรา “ตอนน้นมัน
ื
ึ
ั
ื
ลึกกว่านี้อีก” เขาบอก ไกลออกไปก็ยังมีอีกมาก ทั้งชาย หญิง คนแก่และ
เด็ก “มีกลิ่นศพโชยออกมาจนเรารู้” เขาเล่า “นั่นแหละถึงท�าให้เราหาศพ
เจอ” เขาบอกผม เขมรแดงใช้วัดเป็นคุก แต่ท�าลายหลักฐานทุกอย่างก่อน
หลบหนีไป “พวกมันจะน�าคนที่ขังไว้มาฆ่าตรงนี้” เขาพูดแล้วชี้ไปที่เศษหิน
เศษปูน ที่อยู่อีกด้านของทุ่ง
ผมนั่งผงกหัวในความเงียบ นึกถึงความคิดที่มันท�าใหผมรูสึกชาจน
้
้
ไม่รู้สึกอะไร แต่ผมเห็นภาพหนังตามเรื่องเล่านั้นวิ่งอยู่ในสายตาของชาย
ชรา ที่เรียกความลับที่ฝังลึกในความทรงจ�าให้กลับมาและเผชิญหน้ากัน
อีกคร้ง เขายังย้อนไปถึงประสบการณ์ท่ว่า “เวลากลางคืน” เขาเล่าต่อ “ผม
ั
ี
ยังได้ยินเสียงร้องโหยหวนของพวกนั้นอยู่”
34
The Lost Executioner
ั
ี
ชาวนายังคงเห็นภาพน้นตรงหน้า ขณะท่เบ้องหน้าผมคือทุ่งนา
ื
สวยงาม ผมรู้สึกผิดที่รู้สึกแบบนั้น หลายปีที่ผมเดินทางในกัมพูชา ทุกครั้ง
ั
ผมจะหาเวลาไปเคารพสถานท่ท่เขมรแดงฆ่าคนบริสุทธ์เหล่าน้น ทุกคร้งการ
ิ
ั
ี
ี
ิ
ี
ย้อนกลับไปเย่ยมคือส่งเตือนใจผมว่า ถึงแม้เราจะอยู่ในโลกเดียวกัน แต่
เรามีชีวิตในมิติที่ต่างกัน ช่องว่างแห่งความเข้าใจยังกว้างมากเหมือนเดิม
็
ตวลสเลงเคยเป็นโรงเรยนมธยม (lycée) ตงอยู่กลางเมองหลวง
ื
ั
้
ั
ี
พนมเปญ หลังจากได้ชัยชนะแล้ว เขมรแดงเปลี่ยนอาคารเรียนของที่นี่ให้
เป็นกองบัญชาการลับ ใช้รหัสเรียกว่า ‘เอส-21’ (S-21) มีสหายดุจเป็น
ื
ื
ั
ผู้บัญชาการ และเพ่อตอบสนองความคล่งเร่องการเก็บความลับของเขมร
ั
ื
ู
แดง ส่วนใหญ่นกโทษจะถกส่งมาตอนมดในเมองหลวงร้างของกมพชา
ั
ื
ู
ที่นี่นักโทษจะถูกทรมานให้สารภาพ ‘ความผิด’ ของตัวเอง ทุกคนจะถูก
ี
กล่าวหาในข้อหาเดยวกนคอ เป็นสายลบให้กบพวกเคจบี พวกเวยดนาม
ี
ั
ั
ื
ี
ั
�
หรือพวกซีไอเอ และในบางกรณีก็ถูกยัดข้อหาว่าทางานเป็นสายลับให้กับ
ทั้งสามแหล่ง หลังจากนั้นพวกเขาจะถูกพาออกไปนอกเมืองและถูกสังหาร
จากคนที่เดินผ่านประตูตวลสเล็งเข้าไป 20,000 คน มีเพียง 7 คนเท่านั้น
ที่รอดชีวิต
ี
ี
ุ
ั
คกแห่งน้ปัจจุบนเป็นพพิธภณฑ์ทมภาพถ่ายนบพันภาพของผ้ ู
ั
ั
ิ
่
ี
บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อของสหายดุจแสดงไว้ในห้องเดียวกัน ห้องที่พวกเขา
ึ
็
ื
ู
ถกทรมาน พวกเขมรแดงเหมอนพวกนาซตรงท่มีการบันทกและเกบหลัก
ี
ี
ิ
ฐานทุกอย่าง และมีเอกสารกับฟิล์มเนกาทีฟของภาพถ่ายนับพันช้นหลง
เหลืออยู่ ชื่อ อายุ น�้าหนัก หรือส่วนสูงของนักโทษทุกคน ถูกบันทึกไว้ครบ
กว่า 16 ปีผ่านไป เกือบทุกครั้งที่ผมกลับไปที่กัมพูชา ผมจะกลับไป
ที่ตวลสเล็งด้วยความคิดที่ว่า จากหลักฐานเหล่านั้น ผมน่าจะหาค�าตอบที่
ิ
ั
ี
ั
ยังคงหลอกหลอนอยู่ในใจผมได้บ้าง ท่น่น ผมใช้เวลาท้งหมดดาด่งและ
�
35
เพชฌฆาตแห่งตวลสเล็ง
สืบค้นจากเอกสารและภาพถ่ายของเหยื่อบริสุทธิ์นับพันภาพ พยายามที่จะ
่
้
หาเหตุผลอธิบายใหไดวา เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ภาพถายแบกความเงียบ
้
่
งัน ความระทมทุกข์ของประชาชนชาวกัมพูชา ภาพถ่ายเหล่าน้คือภาพ
ี
ี
ื
�
หลอนท่ยังฝังอยู่ในใจผม สาหรับผมแล้วพวกเขาเป็นเคร่องเตือนความทรง
ี
จาแห่งความอ่อนแอของโลก และเป็นความรู้สึกผิดร่วมกันท่เราไม่สามารถ
�
หยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้
ในฐานะท่เป็นผู้บัญชาการตวลสเล็ง สหายดุจเป็นผู้กาหนดวิธีการ
ี
�
สังหารหมู่ของเขมรแดง และเป็นพยานปากสาคัญในอาชญากรรมน้ เขา
ี
�
ี
ปรากฏตัวในกระบวนการสอบปากคาท่ตวลสเล็งท่พร้อมไปด้วยอุปกรณ์
�
ี
เครื่องมือทรมาน ตั้งแต่อุปกรณ์ช็อตไฟฟ้า และเครื่องถอดเล็บจากนิ้วเท้า
ไปจนถึงการกระหน�่าเฆี่ยน และกดน�้าให้หายใจไม่ออก ค�ายืนยันฐานะของ
�
�
ิ
�
ึ
ี
ี
เขาท่เป็นหน่งในผู้นาอดีตเขมรแดง เป็นหลักฐานช้นสาคัญท่จะนาไปสู่
ี
ึ
ี
เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ท่เกิดข้น เอกสารต่างๆ ท่เก็บอยู่ในอดีตคุก
ตวลสเล็ง บ่งชัดเจนถึงความผิดท่เขาบงการ ท้งลายมือท่เขาเขียนคาส่ง ั
ี
�
ั
ี
ี
สังหาร และรายละเอยดอนน่าสะพรึงกลวถึงการทรมานเพอเค้นคาสารภาพ
�
ั
ื
ั
่
ึ
ึ
หน่งในรายงานบันทึก ผู้คุมคนหน่งถามสหายดุจว่า จะใช้วิธีการเค้นจาก
ี
เด็กชายหญิง 9 คนท่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทรยศอย่างไร สหายดุจเขียนหวัดๆ
ทับไปว่า “ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือสักคน”
ยังมีข่าวลือมากมายถึงการหายตัวไปของสหายดุจ บ้างก็ว่าเขาถูก
ฆ่าในช่วงเขมรแดงถูกกวาดล้าง บ้างก็ว่าเขาทางานลับให้กับองค์กรช่วย
�
เหลือในตอนเหนือของกัมพูชา เขาไม่เคยถูกถ่ายรูปมากว่า 20 ปี และไม่
ิ
ั
เคยพูดถึงบทบาทของตนในการส่งสังหารหมู่คนบริสุทธ์เลย เหมือนกับว่า
ื
สหายดุจและสหายคนอ่นของเขมรแดงท่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ฆ่าล้าง
ี
เผ่าพันธุ์นี้หายไปจากโลกเฉยๆ เมื่อสงครามกลางเมืองสงบลง ในปลายปี
36
The Lost Executioner
ึ
ค.ศ. 1998 ส่วนต่างๆ ของประเทศค่อยเปิดตัวเผยตนมากข้นในแต่ละเดือน
ี
ู
ั
ิ
ู
ู
ั
ู
ผมมีความคดว่า อยากจะเอารปถ่ายของเขาให้คนกมพชาดว่ามใครร้จก
หน้าเขาได้บ้าง ก็ไม่แน่เหมือนกัน ถึงจะบังเอิญมีใครรู้จักหน้าเขา แต่ผมว่า
�
คงไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงเขาอยู่ดี เขาเป็นบุคคลท่ทาให้ทุกคนผวา รวมท้งพวก
ี
ั
�
ี
่
ั
่
้
ิ
ี
เขมรแดงเอง แม้วาจะไมมกองกาลงเขมรแดงแลวก็ตาม แต่ยงมอดตสมาชก
ั
ี
เขมรแดงอยู่ทุกแห่งทั่วประเทศ พวกเขาท�างานอยู่ในรัฐบาล อยู่ในกองทัพ
เป็นผู้นาหมู่บ้าน เป็นคนคนหน่งในคนกัมพูชา เหมือนอย่างท่คนหน่งพูด
ี
�
ึ
ึ
ว่า “พวกเขายังอยู่รอบๆ ตัวเรา เหมือนเราตกอยู่กลางฝูงเสือ”
�
ิ
ี
จากประสบการณ์หลายปีท่ผมทางานเป็นช่างภาพในกัมพูชา ส่งท ่ ี
ผมเห็นชัดข้นคือ ถ้าเราจะเข้าใจการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ท่เกิดข้น และถ้าจะม ี
ี
ึ
ึ
ี
ความยุติธรรมท่แท้จริง การตามหาสหายดุจและอดีตสมาชิกสาคัญคนอ่นๆ
ื
�
ี
ิ
เป็นภารกจทสาคญมาก สหายดจคอพยานปากสาคญทจะสร้างความ
่
ี
่
ุ
�
ื
ั
ั
�
กระจ่างให้แก่ช่วงมืดมนของประวัติศาสตร์กัมพูชาในช่วงปีน้นและทาให้ช่วง
�
ั
ึ
ี
ิ
เวลาท่เป็นปริศนาย่งในประวัติศาสตร์ของประเทศเขาเองชัดเจนข้น ผมก ็
อยากรู้จริงๆ ว่า อะไรท่ทาให้คนเดินดินธรรมดาท่มาจากพ้นท่ท่ลาบากท่สุด
�
ี
ี
ี
ื
ี
�
ี
ของประเทศ กลายเป็นหน่งในผู้บงการการสังหารหมู่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ท่โหด
ี
ึ
ร้ายทารุณที่สุดของศตวรรษที่ 20
37
เพชฌฆาตแห่งตวลสเล็ง
ื
กัง เก็ก เอียว (Kaing Guek Eav) หรือสหายดุจ อายุประมาณ 17 ปี (ไม่ทราบช่อช่างภาพ)
38
ภาค 1
กัง เก็ก เอียว
บทท่ 1
ี
ิ
“ฆ่าคนบริสุทธ์สิบคน
ดีกว่าปล่อยศัตรูคนเดียวให้รอด”
The Lost Executioner
ในเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 1999 ผมติดรถไปกับองค์กรปฏิบัติการ
เก็บกู้ทุ่นระเบิด เข้าไปในอดีตเขตเขมรแดง
เราออกจากเมืองพระตะบองแต่เช้าตรู่ เร่มต้นการเดินทางไปบนถนน
ิ
หมายเลข 10 เส้นทางยุทธศาสตร์ท่ทอดยาวในกัมพูชา หลังจาก 1 ช่วโมง
ั
ี
บนถนนขรุขระท่กระดูกหลังแทบแตกเป็นเส่ยงๆ ผ่านเทือกเขารูปร่างเหมือน
ี
ี
ี
ื
ี
ั
ี
มหาวิหารกลางทุ่งนา ทันทีท่เราเล้ยวซ้ายท่แยกน้น เราก็เข้าสู่พ้นท่ท่ว่าง
ี
ี
เปล่า ราวกับไม่เคยมีอะไรมาก่อน ไม่มีบ้านสักหลัง ไม่มีเงาของคนสักคน
ไม่มีทุ่งนา แต่ถนนนั้นสร้างใหม่
ถนนเส้นน้ยาวเป็นสายด่งลึกเข้าไปในภูเขาคร้มใกล้ชายแดน
ี
ึ
ิ
ประเทศไทย ที่ซึ่งเป็นปลายทางของพวกเรา อดีตที่ตั้งกองก�าลังเขมรแดง
แห่งซ็อมลวด ที่แห่งนี้เคยเป็นที่มั่นสุดท้ายที่ยุติการสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา
หลังจากที่มีการสู้รบกันมาอย่างต่อเนื่องเกือบตลอดเวลากว่า 30 ปี ซ็อม
ี
ึ
ั
ี
ลวดเคยเป็นฐานท่ต้งแห่งแรกท่ลุกข้นมาแข็งขืนและต่อต้านรัฐบาลในช่วง
ปลายทศวรรษ 1960 กระทั่งเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 1998 เขมรแดงที่นั่น
ก็วางอาวุธ วงจรความขัดแย้งวนมาบรรจบ และเปิดช่องทางให้กับคนนอก
ได้เข้าไป ถึงแม้สงครามจะสิ้นสุดลงและไม่มีกองทัพเขมรแดง ผู้น�าท้องถิ่น
ิ
ู
ี
ี
ั
เดมกลบมาอย่ในอานาจ แต่ปีศาจหลอนแห่งอดตยงมีชวตอย่อย่างยากท ี ่
ู
ิ
ั
�
จะลบเลือน
รถจี๊ปกระตุกก่อนจะหยุดที่จุดตรวจของทหาร เครื่องหมายของจุด
ี
เร่มต้นเข้าสู่อาณาเขตเขมรแดง ท่พักของกลุ่มผู้ล้ภัยท่ถูกส่งกลับมาเม่อ
ี
ื
ี
ิ
ื
เร็วๆ น้ ถูกจับซ้อนกันไว้ตามต้นไม้ข้างถนน ทหารหนุ่มในเคร่องแบบรัฐบาล
ี
ถือปืน เอเค-47 จ้องถมึงทึงมาที่พวกเรา แม้พวกเราจะยิ้มให้ก็ไม่สามารถ
ท�าให้เขาคลายความขึงขังลง แต่เขาก็ปล่อยให้เราผ่านไป
ื
ี
ั
ี
ซ็อมลวดเป็นพ้นท่ท่เกิดความขัดแย้งมาต้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960
ี
ี
ี
ื
ี
เม่อชาวนาท่ลุกฮือถูกบดขย้อย่างทารุณ อาจพูดได้ว่าเป็นท่ท่เกิดการปฏิวัต ิ
43
เพชฌฆาตแห่งตวลสเล็ง
ี
ู
้
ู
ี
ของเขมรแดง ในตอนนเข้าส่ความสงบ อดตทหารเขมรแดงอย่ร่วมกบ
ั
ั
่
ี
ิ
ื
่
้
ี
ประชาชนพลเรอนทเดนทางกลบมาจากคายผลภยในประเทศไทย พวกเขา
ั
ู
้
เริ่มต้นสร้างบ้านเรือนเพื่ออยู่อาศัย และเริ่มต้นชีวิตใหม่กันในพื้นที่นี้ที่เต็ม
ไปด้วยทุ่นระเบิด นี่เป็นส่วนที่เปล่าเปลี่ยวของประเทศ ป่าเสื่อมโทรมและ
พื้นที่เพาะปลูกที่ถูกทอดทิ้งเป็นสักขีพยานให้กับช่วงเวลาแห่งสงคราม
ทีมเก็บกู้ทุ่นระเบิดท่ผมเดินทางมาด้วยได้เตรียมการประชุมล่วงหน้า
ี
ี
ี
ื
ื
กับหัวหน้าของแต่ละพ้นท่ไว้แล้ว ในเร่องเก่ยวกับระเบียบการเก็บกู้และ
ี
ิ
ี
ทุ่นระเบิดไม่น้อยกว่า 200,000 ลูกท่นอนน่งอยู่ใต้ผืนดินท่อุดมสมบูรณ์
ี
�
ระหว่างการประชุมผมเดินออกไปหากลุ่มคนท่นอนเล่นบนเปลข้างๆ ท่ทาการ
ี
และเริ่มคุยกับคนเขมรแดงที่แขนขาขาด ชายร่างเล็กผอมบางแต่ดูแข็งแรง
สวมเสื้อยืดสีขาวมีตัวหนังสือเป็นชื่อย่อ เออาร์ซี เขาจับมือทักทายผมและ
แนะนาตัวเองเป็นภาษาอังกฤษอย่างสุภาพว่าช่อ ฮอง เป็น (Hang Pin) เขา
ื
�
บอกผมว่าเขาเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ แต่มาจากพนมเปญ และเพ่งมา
ิ
ทางานในค่ายผู้อพยพท่ชายแดนไทย เขาทางานกับองค์กรช่วยเหลือผู้อพยพ
�
�
ี
อเมริกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 เขาดูจะสนใจกล้องไลก้าของผมที่ใช้ถ่าย
ภาพคนในกลุ่มนี้ ผมเห็นหน้าเขาผ่านเฟรม ใบหูสองข้างที่กางกว้าง ฟันเก
ผมเกรียน-ดูแก่ลงเล็กน้อย แต่ไม่ผิดไปจากภาพถ่ายที่ผมพกไว้ในกระเป๋า
หลังกางเกง ผู้ชายคนนี้ ฮอง เป็น เขาคือ สหายดุจ
กว่า 20 ปีมาแล้วที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับสหายดุจ เขาหนี
�
ี
ออกจากพนมเปญไปพร้อมกับพวกเขมรแดง ตอนท่ถูกกองกาลังเวียดนาม
เข้ายึดเมืองในปี ค.ศ. 1979 ในวันเดียวกันนั้น คือวันที่ 7 มกราคม ช่าง
ภาพชาวเวียดนามข้ามสะพานมุนีวงศ์และก้าวเข้าไปในซากปรักหักพังของ
เมืองพนมเปญ โฮ วัน เท (Ho Van Tay) ติดตามกองพลยานเกราะที่ 7
ี
ของเวียดนาม ท่เข้าประชิดกัมพูชาในวันคริสต์มาส ปี ค.ศ. 1978
44
The Lost Executioner
่
ั
�
โฮ วัน เท เป็นนกข่าวผู้ชาชอง เขาบันทกข่าวสงครามต่อต้านกองทัพ
ึ
ั
อเมริกัน ท้งในฐานะช่างภาพ นักต่อสู้ และตากล้องภาพยนตร์ ด้วยการเดิน
ตลอดเส้นทางโฮจิมินห์ท่หฤโหดนานถึง 3 เดือน เขาได้รับบาดเจ็บท่ขา
ี
ี
ระหว่างการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ และถ่ายทาเหตุการณ์การปลดปล่อย
�
ไซ่ง่อนเมื่อปี ค.ศ. 1975
ั
เพราะการต้านทานไม่แข็งแรง แนวต้งรับของเขมรแดงแตกจากการ
ี
ั
โจมตีท่หนักหน่วงของเวียดนาม ในคืนก่อนหน้าน้นผู้บัญชาการกองพลถาม
วัน เท ว่า เขาอยากไปพนมเปญพร้อมกันกับกองทหารหรือไม่ เวลานั้น
พวกเขายังอยู่ไกลจากเมืองหลวงประมาณ 100 กิโลเมตร และวัน เทคาด
ั
ว่าการต่อสู้น้นจะต้องหนักและยืดเย้อแน่ เขารู้กิตติศัพท์เขมรแดงมาก่อน
ื
และเหมือนเพื่อนร่วมชาติหลายๆ คนของเขาที่ชื่นชมว่าเขมรแดงเป็นนักสู้
ที่ยากจะเอาชนะ
“ล้อเล่นหรือเปล่า” น�้าเสียงของเขาเหมือนไม่เชื่อ
กองทหารเวียดนามท่เข้มแข็งดุดันไม่เคยคิดว่าเขมรแดงจะยอมให้
ี
ิ
ี
ตีแตกได้ง่ายๆ หลายคนคาดว่าส่งท่แย่ท่สุดท่ยังมาไม่ถึงก็คือ พนมเปญกลาย
ี
ี
เป็นฐานที่เขมรแดงยึดเป็นที่มั่น
“ไม่ได้พูดเล่น” ผู้บัญชาการกองพลตอบ “ผมพูดจริง เราจะบุกเข้า
ตีพนมเปญ”
ั
เขาน่งลงในกลุ่มทหาร 16 นาย อาวุธครบมือบนหลังคารถหุ้มเกราะ
ล�าเลียงพลของอเมริกันคันเก่า ขบวนรถเคลื่อนฝ่าไปในความมืดจนมาถึง
ชานเมืองเมื่อรุ่งสาง หน่วยสอดแนมร่วมกัมพูชาและเวียดนามล่วงหน้าไป
ั
ก่อนแล้ว พวกเขารอได้ยินเสียงปืนเล็กกับเสียงปืนใหญ่ดังมาเป็นคร้งคราว
ี
ื
ั
เสียงสะท้อนน้นดังก้องไปตามถนนจนถึงท่ท่ทหารกลุ่มน้น่งอยู่ และเม่อม ี
ี
ั
ี
ื
ข่าวมาทางวิทยุว่าเมืองได้ถูกปลดปล่อยแล้ว กองทัพเวียดนามจึงเคล่อน
เข้าไป สิ่งที่ได้เห็นนั้นท�าเอาทหารถึงกับตกตะลึง
45